สาวน้อยคาเฟ่ ตอนที่ 2
คนขับแท็กซี่เตะสหรัฐอีก 2-3 ที จนเห็นว่าเขาสลบไปแล้วจริงๆ ก็ถุยใส่อย่างดูถูก
“เสียเวลา ฉันจะได้เล่นสนุกกับนังคนสวยคนนั้นจริงๆ”
คนขับแท็กซี่หันกลับไปมองตรงที่วางร่างของขวัญใจทิ้งไว้ แต่กลับว่างเปล่า
“อ้าว เฮ้ย นังคนสวยมันหายไปไหนแล้วล่ะ”
ทันใดนั้น คนขับแท็กซี่เงยหน้าขึ้นจะเหลียวมอง ก็เจอท่อนไม้ฟาดเข้าที่หน้าเข้าเต็มๆ ร้องลั่น ขวัญใจกระหน่ำตีซ้ำอีกไม่ยั้งมือ คนขับแท็กซี่ร้องโอดโอย ยกมือขึ้นปัดป้องแล้ววิ่งเตลิดหนีไป ขวัญใจเบ้ปากอย่างชิงชัง
“โธ่เอ๊ย นึกว่าจะแน่สักแค่ไหน”
ขวัญใจโยนท่อนไม้ทิ้ง หันไปมองสหรัฐ เห็นเขายังนอนแน่นิ่งอยู่ เธอวิ่งเข้าไปดูใกล้ๆ เอาหน้าแนบลงกับอกชายหนุ่ม
“หัวใจยังเต้นอยู่ คุณ คุณ”
สหรัฐเริ่มรู้สึกตัว สะดุ้งพรวดพราดจะลุกขึ้นแล้วทำท่าต่อยตีไปรอบๆ มั่วๆ ขวัญใจหลบหมัดของเขาได้อย่างหวุดหวิด แล้วเอาท่อนไม้ที่ใช้ตีหัวคนขับแท็กซี่ยันกลางอกสหรัฐเอาไว้
“หยุดได้แล้วคุณ ฉันไม่ใช่คนร้าย”
สหรัฐชะงักค้างไป เขายื่นเข้าไปมองหน้าหญิงสาวใกล้ๆ ชอบทันที
“คุณนั่นเอง คุณปลอดภัยดีมั้ย”
“ฉันปลอดภัยแล้ว แต่ถ้าไม่ได้คุณเข้ามาช่วย ก็คงแย่เหมือนกันละ ขอบใจนะ”
สหรัฐยิ้ม แล้วมองท่อนไม้ในมือขวัญใจ ปะติดปะต่อเรื่องได้ทันที
“แต่ถ้าผมไม่ได้คุณช่วย ผมก็คงแย่เหมือนกันแหละ เอาเป็นว่า เราไม่มีหนี้ต่อกันนะ”
ขวัญใจพยักหน้าเห็นด้วย สหรัฐยื่นมือให้ขวัญใจจับ ขวัญใจนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมยื่นมือไปจับด้วย
“แล้วนี่ บ้านคุณอยู่ไหนอ้ะ มา ผมไปส่ง”
“บ้านฉัน หายไปไหนเนี่ย”
ขวัญใจล้วงหาแผนที่ที่ฤดีให้ไว้
“อะไร”
“แผนที่ คือว่า ฉันเพิ่งมาจากต่างจังหวัดน่ะ กำลังจะไปหาคนรู้จัก แต่ว่าแผนที่ที่ฉันจะไปมันหายไปไหนแล้วไม่รู้อ้ะดิ สงสัยจะหล่นหายตอนที่วิ่งหนีน่ะ”
“อ้าว แล้วใครให้แผนที่คุณมาล่ะ คุณโทรไปบอกให้เขาส่งมาให้ใหม่สิ ถ่ายรูปส่งเข้ามือถือมาก็ได้”
“แต่นี่มันก็ดึกแล้ว ฉันโทรไปตอนนี้มีหวัง น้าฉันคงตกใจแย่”
“แสดงว่า คุณก็ไม่รู้ใช่มั้ยว่าคืนนี้คุณจะไปนอนที่ไหน”
ขวัญใจมองหน้าสหรัฐ
ขวัญตานอนกับฤดีที่บ้าน โดยมีหยิกนอนหน้าเตียง หยิกหลับไปแล้ว แต่ฤดีกับขวัญตายังไม่หลับ ต่างนอนลืมตาโพลง
“นอนไม่หลับเหรอตา”
“จ้ะน้า ตาเป็นห่วงพี่ขวัญ แล้วก็โมโหพ่อด้วย คืนนี้ตาถึงได้มาขอนอนที่บ้านน้านี่ยังไงล่ะ น้าว่าพี่ขวัญไปถึงกรุงเทพฯ แล้วยัง”
“ป่านนี้คงถึงเรียบร้อยแล้วล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ขวัญมันคงโทรกลับมารายงานล่ะ”
“เฮ้อ แทนที่พี่ขวัญจะได้กลับมาอยู่บ้านดีๆ กลับต้องเตลิดหนีไปกรุงเทพตามลำพังอย่างนี้ ก็เพราะพ่อคนเดียวแท้ๆ เลย พ่อน่ะ ไม่น่าคิดบังคับพี่ขวัญแต่งงานเลย นี่ถ้าพ่อรู้ว่าพี่ขวัญหนีไปแล้ว พ่อจะว่ายังไงบ้างนะ”
ขวัญตาถอนใจใหญ่ ฤดีเองก็ถอนใจกลุ้มไปด้วย
สุเทพกำลังนอนหลับอยู่ แต่เกิดอาการกระสับกระส่ายมาก
“เอ็งต้องแต่งงานตามที่พ่อสั่ง นังขวัญ”
สุเทพส่ายหน้าไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วจู่ๆ ก็จะสะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นมานั่ง
“นังลูกหัวดื้อ รู้งี้ไม่ส่งให้ไปเรียนเมืองนอกเมืองนาซะก็ดีหรอก ให้มันเรียนแค่โรงเรียนวัดแถวบ้านนี่แหละ”
สุเทพเห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ข้างเตียงจากทางหางตา เขาหันขวับไปมอง แล้วก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นขวัญจิตยืนมองมาด้วยสีหน้าเป็นทุกข์อย่างยิ่ง เศร้าที่เห็นพ่อลูกผิดใจกัน
“ขวัญจิต”
สักพักสุเทพหายตกใจก็ออกอาการเคียดแค้น ตะคอกใส่
“คิดจะมาหลอกหลอนข้าเรอะ ข้าไม่กลัวเอ็งหรอก นังเมียชั่ว ริอ่านคบชู้ ข้าเกลียดเอ็ง ได้ยินมั้ยว่าข้าเกลียดเอ็ง”
สุเทพสะดุ้งตื่นแล้วพรวดพราดลุกขึ้นนั่ง ที่เห็นขวัญจิตคือฝันไป เขานั่งหายใจหอบอยู่สักพักก็เริ่มตั้งสติได้
“ไม่ว่าตอนที่เอ็งยังมีชีวิตอยู่ หรือว่าตายไปแล้ว ข้าก็ยังช้ำใจเพราะเอ็งอยู่ดี นังขวัญจิต”
สุเทพเครียด เศร้า และเจ็บปวด
สหรัฐพาขวัญใจเข้ามาในบ้านริมน้ำของเขา ขวัญใจหยุดยืนหน้าประตู ระแวดระวังไม่ไว้ใจ สหรัฐหันไปมองแล้วเข้าใจ
“เข้ามาเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก คุณสบายใจได้”
“แล้วพ่อแม่คุณไม่มีเหรอ”
สหรัฐนึกถึงพ่อแม่แล้วถอนใจกลุ้ม
“มี แต่เขาอยู่อีกบ้านหนึ่ง ผมไม่ค่อยอยากอยู่กับพ่อแม่ แยกมาอยู่อย่างนี้ อิสระกว่า”
ขวัญใจมองหน้าสหรัฐเต็มตา รู้สึกว่าเขามีความหนักใจบางอย่าง แล้วเธอก็ชะงัก เห็นปากของสหรัฐมีรอยลิปสติกสีแดงของแอปเปิ้ลเปื้อนอยู่ ขวัญใจหัวเราะ
“ฉันเข้าใจ เรื่องแบบนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เข้าใจหรอก”
สหรัฐพยักหน้าเห็นด้วย
“ตามมาสิ ผมจะพาคุณไปห้อง”
สหรัฐเปิดห้องให้ขวัญใจห้องหนึ่ง
“คุณอยู่ห้องนี้นะ ห้องผมอยู่ตรงข้ามโน่น”
ขวัญใจพยักหน้า แล้วเดินเข้าห้อง รออยู่สักครู่ก็เปิดประตูออกไปดูสหรัฐใหม่ เห็นชายหนุ่มกำลังเดินไปที่ห้องของเขา
“เอ่อ เดี๋ยวสิ คุณชื่ออะไรนะ”
สหรัฐขำๆ เพิ่งนึกได้เหมือนกันว่ายังไม่รู้ชื่อกันเลย
“ผมชื่อ รัฐ คุณล่ะ”
“ฉันชื่อขวัญ”
สหรัฐพยักหน้ารับ ขวัญใจผลุบหน้ากลับเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู ยิ้ม พึมพำ
“โชคดีนะเรา ที่มาเจอตุ๊ดเข้า ไม่งั้นคงไม่กล้ามานอนบ้านเขาหรอก เป็นตุ๊ด แต่ก็อุตส่าห์วิ่งเข้าไปช่วยเรา สงสัยจะเป็นตุ๊ดถึก ว่าแต่ เขาชื่อรัด รัดอะไรนะ รัตนา หรือว่า ใจรัตน์ หรือสิริรัตน์”
ขวัญใจยืนคิดชื่อสหรัฐอย่างขำๆ อยู่คนเดียว สักครู่ก็ได้ยินเสียงสหรัฐร้องขึ้น เธอตกใจรีบวิ่งไปที่ห้องสหรัฐทันที เปิดประตูเข้าไป ก็เห็นสหรัฐถอดเสื้อแล้ว แต่นั่งหน้าเหยเกอยู่ที่เตียง ท่าทางเจ็บ
“คุณ เป็นไรน่ะ”
สหรัฐไม่ตอบ ขวัญใจเลยวิ่งเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นแผลที่สหรัฐได้มาจากคารามายน์คาเฟ่ และร่องรอยตามตัวที่ถูกคนขับแท็กซี่ทำร้ายเอา
“โห แผลเต็มตัวเลยนี่คุณ ไอ้แท็กซี่คันนั้นมันเล่นคุณหนักขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
สหรัฐนึกถึงตอนที่โดนของหนักหล่นใส่ แล้วตัดสินใจไม่บอกขวัญใจดีกว่าว่าได้แผลมาจากที่อื่นด้วย
“ฮื่อ ไอ้แท็กซี่คันนั้นมันร้ายเอาเรื่องเลยล่ะ”
ขวัญใจซาบซึ้งใจที่สหรัฐช่วยเธอ
“คุณต้องมาเจ็บตัวเพราะฉันแท้ๆ เลย เอางี้ ฉันทำแผลให้นะ ตู้ยาอยู่ไหนอ้ะ”
“ในห้องน้ำ”
ขวัญใจวิ่งไปหยิบมา แล้วเริ่มเปิดเสื้อสหรัฐออกเพื่อทำแผลให้อย่างตั้งใจ สหรัฐได้โอกาสแอบมองหน้าหญิงสาวใกล้ๆ โดยที่ขวัญใจไม่ทันระวังตัว เขาแอบยิ้มพอใจ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเฮียศาสตร์
“ไอ้รัฐ ไอ้รัฐ”
“เฮ้ย ป๊ามา”
สหรัฐวิ่งไปชะโงกหน้าดูที่หน้าห้อง เห็นเฮียศาสตร์เดินเข้ามาในบ้าน และกำลังจะเดินขึ้นมาที่ห้องของเขา สหรัฐรีบถอยกลับเข้ามาในห้อง หน้าเครียด
“มีอะไรเหรอคุณ”
“ป๊าผมมา”
“แล้วไง”
สหรัฐไม่ตอบ มองขวัญใจแล้วนิ่งคิดอยู่สักครู่ สหรัฐคิดในใจ
“ให้ป๊าเห็นคุณขวัญนี่ไม่ได้ เดี๋ยวป๊าต้องคิดว่าเราพาผู้หญิงเข้ามานอนในบ้านแล้วต้องเป็นเรื่องแน่”
สหรัฐตัดสินใจลากตัวขวัญใจเข้าไปแอบในตู้เสื้อผ้า ขวัญใจโวยวาย
“โอ๊ย เอาฉันมายัดในตู้ทำไมเนี่ย”
สหรัฐไม่ตอบ แต่ทำท่าว่าห้ามไม่ให้ขวัญใจพูด ขวัญใจงง เลยเงียบไป และทันทีที่สหรัฐปิดประตูตู้ เขาก็เห็นเงาสะท้อนจากกระจกที่หน้าตู้ว่าปากตัวเองยังเปื้อนลิปสติกสีแดงอยู่ก็ตกใจ
“เฮ้ย”
สหรัฐรีบเอามือเช็ดๆ ที่ปากจนหมด เฮียศาสตร์ก็เดินเปิดประตูเข้ามาทันที
“เฮ้ย ไอ้รัฐ ป๊าตะโกนเรียกแกอยู่ตั้งนาน ไม่ได้ยินหรือไงวะ”
สหรัฐอึกอัก ขวัญใจถูกขังอยู่ในตู้ เอาหูแนบประตูตู้เพื่อแอบฟัง
“เอ้า ว่าไง”
“ผมอยู่ในห้องน้ำน่ะป๊า กำลังจะอาบน้ำ ป๊ามาหาผมถึงที่นี่ มีอะไรรึเปล่าครับ”
“ก็จะมาด่าแกน่ะสิ”
สหรัฐตัดบท
“ป๊ามีอะไรออกไปพูดกันข้างนอกดีกว่าครับ ในนี้อึดอัดจะตาย”
“อึดอัดตรงไหน สบายดีออก เอ๊ะ หรือว่า แกมีอะไร”
“เอ๊ย ผมจะมีอะไร ผมก็แค่อยากให้ป๊าไปนั่งคุยสบายๆ ก็เท่านั้น”
เฮียศาสตร์หรี่ตามองสหรัฐอย่างจับผิด
“แน่นะ”
“แน่สิครับป๊า”
ขวัญใจคิด
“อีตาตุ๊ดนี่ กลัวพ่อจริง”
เฮียศาสตร์เห็นแผลตามตัวลูกชาย
“อ้าว แล้วนั่นเป็นอะไร”
“เอ่อ อ๋อ เล่นกับไอ้เหินฟ้ามันแรงไปหน่อยน่ะครับป๊า ว่าแต่ป๊ามาถึงนี่มีอะไรครับ ไป ไปคุยกับข้างล่างดีกว่า เดี๋ยวผมเอาเบียร์เย็นๆ ให้ป๊าด้วย”
สหรัฐจะลากเฮียศาสตร์ออกไป ขวัญใจแอบฟังสหรัฐกับเฮียศาสตร์พูดกันจนประตูตู้เปิดผัวะออกมา เธอกลิ้งโค่โร่ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง สหรัฐหันไปมองตกใจ ขวัญใจหัวไว รีบคลานไปแอบหลังผ้าม่าน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เฮียศาสตร์เดินกลับมาดู
“เสียงอะไรวะ”
“เสียงกระเป๋าเดินทางมันหล่นออกมาจากในตู้น่ะป๊า”
สหรัฐเดินไปเก็บกระเป๋าเดินทางกลับเข้าไปในตู้ ปิดประตูตู้อย่างเรียบร้อย
“ผมเพิ่งรื้อของออกจากกระเป๋าเสร็จน่ะป๊า แต่ยังเก็บของไม่เข้าที่เลย”
“แกเอาใครมาแอบไว้ในบ้านนี้รึเปล่าวะไอ้รัฐ”
“ไม่มี้ ป๊า เชื่อผมดิ”
เฮียศาสตร์ไม่เชื่อ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า กระชากเปิดออก กระเป๋าเสื้อผ้าหล่นออกมาอีก เขาเอามือกวาดดูให้ทั่วตู้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนอยู่ในตู้ แต่พอไม่เจอใคร ก็ปิดประตูตู้ดังเดิม สหรัฐแอบยิ้ม นึกในใจว่าพ่อไม่มีวันหาขวัญใจเจอแน่ แต่แล้วสหรัฐก็ต้องหุบยิ้มลงทันควัน เมื่อเฮียศาสตร์เดินไปกวาดตาดูรอบๆ ห้อง รวมทั้งที่หลังม่านด้วย สหรัฐหลับตาปี๋ มั่นใจว่าเฮียศาสตร์ต้องเจอขวัญใจที่นั่นแน่ แต่พอเฮียศาสตร์เลิกผ้าม่านดู ปรากฏว่าไม่มีขวัญใจอยู่ที่นั่น สหรัฐสีแปลกใจ ไม่รู้ขวัญใจหายไปไหน
“ผมบอกป๊าแล้วไงว่าไม่มีใคร ป๊าก็ไม่เชื่อ”
“ก็ฉันกลัวว่าแกจะคว้าเอาเมียแหม่มกลับมาจากนอกด้วยน่ะสิวะ ไม่งั้นแกจะคิดอยากแยกตัวมาอยู่บ้านนี้ตามลำพังคนเดียวทำไม นี่ดีนะที่แม่แกเขาบอกว่าอย่ายุ่งกับแกให้มากนัก ฉันก็เลยยอมให้แกมาอยู่บ้านนี้ได้”
“ไร้สาระน่าป๊า ไป ไป ไปกินเบียร์กัน”
สหรัฐลากเฮียศาสตร์ออกไปข้างนอก แต่ไม่วายแอบเหลียวกลับไปมองตรงหลังม่านอีกครั้งอย่างสงสัยไม่หายว่าขวัญใจหายไปไหน
อ่านต่อหน้า 2
สาวน้อยคาเฟ่ ตอนที่ 2 (ต่อ)
สหรัฐกับเฮียศาสตร์นั่งจิบเบียร์คุยกัน แต่ชายหนุ่มเหม่อคิดว่าขวัญใจหายไปไหนอยู่ตลอดเวลา
“เมื่อกี้แกรีบกลับบ้านมาทำไม ทำไมไม่อยู่จนคาเฟ่เลิก จะเรียนรู้ธุรกิจอะไรมันก็ต้องทุ่มเทใส่ใจสิโว้ย”
“ครับป๊า”
“จะทำเป็นดูโน่นนิด นี่หน่อย แล้วคิดว่าแกเป็นลูกฉัน ไม่ต้องทำงานหนักอย่างคนอื่น ไม่ได้นะโว้ย”
“ครับป๊า”
“ฉันขอบอกก่อนนะว่า กว่าที่คารามายน์คาเฟ่ของเราจะเติบโตได้ถึงขนาดนี้ ฉันลงทุนลงแรงเหนื่อยยากไปกับมันไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว รู้มั้ย”
“ครับป๊า”
“เฮ้ย นี่แกฟังฉันพูดมั่งรึเปล่าวะเนี่ย”
“ฟังสิครับป๊า”
“ไอ้รัฐแกรู้มั้ย แกเป็นลูกชายคนเดียวของฉัน แกคือความหวังของฉัน ทุกอย่างที่ฉันสร้างมา สุดท้ายมันก็จะต้องเป็นของแก เพราะฉะนั้นฉันจึงต้องสร้างธุรกิจของเราให้มันมั่นคง เราต้องชนะคู่แข่งของเราให้ได้ทุกประตู”
“ป๊ากำลังจะพูดถึงอาสวยอีกแล้ว”
“ใช่”
เวลาเดียวกันนั้น เจ๊สวยนั่งจิบไวน์อยู่ตามลำพังคนเดียวที่บ้าน กำลังพลิกเปิดอัลบั้มรูปเก่าๆ เล่มโตเล่มหนึ่งอยู่ ภาพในอัลบั้มรูปนั้น เป็นรูปเจ๊สวยที่ยังเป็นผู้ชายอยู่กับเฮียศาสตร์ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ที่เล่นอยู่ด้วยกัน ท่าทางร่าเริงมีความสุขมาก รูปเซ็ทต่อมาเจ๊สวยออกอาการเป็นสาวแล้ว เฮียศาสตร์ไม่ยอมถ่ายรูปด้วย ยืนห่างๆ มีคนอื่นๆ ในครอบครัวยืนคั่นกลาง รูปต่อมาเป็นรูปงานแต่งงานเฮียศาสตร์กับเจ๊สีฟ้า เจ๊สวยได้แต่มาร่วมงานแต่งและยืนอยู่ห่างๆ รูปต่อมา เฮียศาสตร์กับเจ๊สีฟ้าอยู่กับเด็กทารก ซึ่งก็คือสหรัฐ เจ๊สวยก็ได้แต่ดูอยู่ห่างๆ
เฮียศาสตร์ยังคงคุยกับสหรัฐถึงเจ๊สวย
“และฉันจะต้องเตือนแกว่า ถึงมันจะเป็นอาแท้ๆ ของแก แต่มันก็เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของเราด้วย เพราะฉะนั้น อย่าเผลอเปิดปากพูดกับมันถึงเรื่องธุรกิจของเราเป็นอันขาด เพราะมันอาจเป็นกลลวงหลอกถามความลับของธุรกิจเราก็ได้”
“ป๊าก็มองอาในแง่ร้ายเกินไป”
เจ๊สวยปิดอัลบั้มรูปนั้นลง น้ำตาไหล ร้องไห้ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องที่บาดหมางใจกับพี่ชายแท้ๆ ของตน เจ๊สวยปาดน้ำตา กระดกไวน์ที่เหลือทีเดียวหมดแก้ว ช้ำใจมาก
สหรัฐมายืนส่งเฮียศาสตร์ที่รถ เฮียศาสตร์เปิดกระจกลงมาพูดต่อ
“ฉันไปละนะ เจอกันที่คารามายน์พรุ่งนี้นะ”
“ครับป๊า”
เฮียศาสตร์ขับรถออกไป สหรัฐถอนใจ แล้วมองท้องฟ้า
“ผมต้องทำยังไงครับ ป๊ากับอาถึงจะคืนดีกันได้น่ะ”
ไม่มีคำตอบจากฟ้า สหรัฐถอนใจอีก แล้วนึกถึงขวัญใจขึ้นมาได้ เขาวิ่งพรวดกลับเข้าไปในบ้านทันที ไปเปิดหลังผ้าม่านดู ไม่มีขวัญใจซ่อนตัวอยู่ที่นั่นจริงๆ
“หายไปไหนวะ”
สหรัฐเดินหาไปทุกที่ แต่ก็หาขวัญใจไม่เจอ
“คนนะ ไม่ใช่ผี จะได้หายตัวได้”
สหรัฐนึกอะไรได้ รีบวิ่งไปที่ระเบียง เห็นขวัญใจนั่งซุกตัวคุดคู้อยู่ในมุมเล็กๆ ของระเบียง หลับอยู่ เขาถอนใจโล่งอก ดีใจที่เจอขวัญใจสักที
“มาอยู่นี่เองแม่ตัวดี”
สหรัฐเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าใกล้ๆ ทีแรกจะเขย่าปลุก แต่เปลี่ยนใจ ถือโอกาสมองหน้าขวัญใจที่หลับใหลไม่รู้ตัว แล้วยิ้มเอ็นดู
“เหมือนเด็กจริงๆ”
สหรัฐเปลี่ยนใจไม่ปลุกขวัญใจให้ตื่น แต่ตัดสินใจช้อนร่างหญิงสาวอุ้มขึ้นไปวางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด ขวัญใจยังคงหลับไม่รู้เรื่อง สหรัฐยืนมองแล้วอดยิ้มไม่ได้ เขารู้สึกเวทนาและเอ็นดูอย่างมาก
ตอนเช้า ขวัญใจรู้สึกตัวตื่นขึ้น ลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ อย่างงงๆ จำไม่ได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วพอรู้ว่าไม่ใช่ที่ที่คุ้นเคยก็ลุกพรวดขึ้น รีบก้มลงมองสำรวจตัวเอง เห็นยังอยู่ในชุดเดิมในสภาพที่ยังเรียบร้อยอยู่ก็ถอนใจโล่งอก เริ่มคิดได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ก็ยิ้ม
“งานนี้ต้องขอบคุณ ยาย รัตนา สักหน่อย ถ้าไม่ได้หล่อน เราคงแย่”
ขวัญใจไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ ถือกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยพร้อมจะออกจากบ้าน เธอจะเคาะประตูห้องเรียกสหรัฐ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เขียนโน้ตไว้แผ่นหนึ่งเอาเหน็บไว้ที่ประตูหน้าห้องชายหนุ่ม แล้วก็ออกไป ขวัญใจเดินหิ้วกระเป๋าเดินมาตามทาง ครุ่นคิดถึงแผนที่ที่หายไป
“แต่ถึงจะโทรไปตอนนี้ น้าฤดีก็ต้องตกใจอยู่ดี ไม่ เราต้องคิดสิ ว่าน้าฤดีบอกให้เราไปพบใคร ที่ไหน อ้ะ คิดออกแล้ว น้าฤดีให้ไปหาเจ๊สวย ที่ ที่ อ้ะฮ้า ที่ทอร์นาโดคาเฟ่ เอ๊ะ แต่จะไปยังไงถูกล่ะ นังขวัญใจเอ๊ย อุตส่าห์จบมาจากเมืองนอกเมืองนาซะเปล่าๆ ทำไมไม่ถามพี่กูเกิลล่ะ”
ขวัญใจเอามือถือออกมากดเข้ากูเกิลถามหาแผนที่ทอร์นาโดคาเฟ่
สหรัฐตื่นขึ้นมานึกถึงขวัญใจทันที รีบลงจากเตียงจะไปดูหญิงสาว แต่พอเปิดประตูหน้าห้องออกมา กระดาษโน้ตที่ขวัญใจเหน็บไว้ที่ประตูก็ร่วงลงพื้น เขามองอย่างแปลกใจ หยิบมาดู
“ฉันขอบคุณ คุณมาก ที่ช่วยเหลือ และให้ที่พัก ขวัญ”
สหรัฐเซ็งสุดๆ ที่ขวัญใจจากไปโดยไม่ลา มีเสียงบีบแตรรถที่หน้าบ้าน เขารีบวิ่งไปชะโงกหน้าดู แล้วก็ผิดหวังอีกที่คนมาหาเขาไม่ใช่ขวัญใจ สหรัฐกดรีโมทเปิดประตูบ้านให้รถเข้ามา แล้วยืนรับเหินฟ้าเข้ามาในบ้าน เหินฟ้าเดินหาวเข้ามา
“ง่วงฉิบ ฉันเห็นจะต้องหัดไปทำมาหากินอย่างอื่นบ้างแล้วโว้ย ชักเบื่อไอ้ธุรกิจอาบอบนวดที่ทำอยู่นี่เต็มทีแล้ว”
“อยากทำคาเฟ่บ้างมั้ยล่ะ”
“ไม่อ้ะ ขี้เกียจเป็นคู่แข่งแก แล้วนี่มีอะไรกินมั่ง”
“แกก็รู้ฉันเพิ่งกลับมาจากนอก ยังไม่ได้ซื้อของอะไรเข้าบ้านเลย แกรอเดี๋ยวดิ ขอฉันอาบน้ำแป๊บ เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินด้วยกัน”
สหรัฐถอดเสื้อจะเดินกลับเข้าห้องไปอาบน้ำ เหินฟ้ามองตาม
“แหมๆๆๆ ไอ้หุ่นอย่างแกนี่ อย่าว่าแต่ผู้หญิงเห็นแล้วจะหลงเลยว่ะ ฉันเองก็ชักอยากจะเป็นตุ๊ดแต๋วกะเขามั่งแล้วสิ”
“ไอ้บ้า”
“แล้วนั่นแกไปโดนใครยำตีนมาล่ะนั่น เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเหรอวะไอ้รัฐ”
สหรัฐเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เหินฟ้าตบเข่าฉาด
“แหม เสียดายจริง ฉันเลยอดเห็นหน้าแม่ไก่กระทงหลงทางคนนั้นเลย”
“แล้วนี่หล่อนก็ออกจากบ้านไปแต่เช้า ไม่ร่ำไม่ลา ทิ้งโน้ตไว้แผ่นเดียว”
“แล้วแกจะไปเอาอะไรนักหนากะอีแค่ผู้หญิงดวงซวยคนหนึ่งละวะ แกช่วยไม่ให้เขาถูกแท็กซี่มันลากไปปู้ยี้ปู้ยำก็ถือว่าทำบุญครั้งใหญ่แล้ว ผู้หญิงคนนั้น ก็แค่คนๆ หนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปจากชีวิตเรา นี่แกอย่าบอกนะว่าแกเผลอใจไปหลงรักแม่ไก่กระทงหลงทางนั่นเข้าให้แล้ว”
สหรัฐนิ่งไป เหินฟ้าเอามือตบหน้าผากตัวเอง กลุ้มใจ
“หลงรักใครไม่หลง ไปหลงรักไก่กระทงหลงทาง เลิกคิดเถอะวะไอ้รัฐเอ๊ย เพราะชาตินี้แกกับเขาคงไม่มีวันหากันเจออีกหรอก”
สหรัฐหน้าสลดไป
อ่านต่อหน้า 3
สาวน้อยคาเฟ่ ตอนที่ 2 (ต่อ)
สุเทพท่าทางกระสับกระส่าย จะเดินลงจากบ้าน แล้วชะงัก พูดกับตัวเอง
“ไม่ ข้าต้องไม่ไปตามมัน เดี๋ยวมันจะได้ใจ แต่ถ้าไม่ไปตามมัน เกิดมันไม่ยอมกลับมาบ้านนี้อีกเลยล่ะ”
สุเทพจะลงจากบ้านไปตามขวัญใจอีก แต่พอเห็นขวัญตากับหยิกเดินมา เขารีบโดดไปนั่งที่เก้าอี้คว้าหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน เหมือนไม่ทุกข์ร้อนใจอะไร ขวัญตากับหยิกขึ้นบ้านมา
“เมื่อกี้ตาเห็นพ่อจะลงจากบ้าน พ่อจะไปไหนเหรอ แน่ะๆๆๆ แน้ พ่อจะไปตามพี่ขวัญให้กลับบ้านล่ะสิ”
“ใครว่า ข้าไม่เคยคิดจะไปตามมันกลับบ้านสักหน่อย เมื่อมันไปเองได้ มันก็ควรจะกลับมาเองได้ ทำไมข้าจะต้องไปง้อมัน”
“แต่ตอนนี้ ถึงพ่อกำนันจะอยากไปง้อพี่ขวัญ พี่ขวัญเขาก็ไม่อยู่ให้พ่อกำนันง้อแล้ว”
ขวัญตารีบโดดเข้าปิดปากหยิกทันควัน หยิกหน้าจ๋อย รู้ตัวว่าหลุดปากไปแล้ว สุเทพจ้องหยิกเขม็ง
“เอ็งพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงวะไอ้หยิก”
หยิกรีบส่ายหน้าไม่ยอมพูด สุเทพจ้องหน้าขวัญตา ขวัญตาส่ายหน้าไม่ยอมพูดอีกคน สุเทพเดินเข้าไปจ้องหน้าขวัญตา ขวัญตาตาโต
ฤดีจ้องหน้าสุเทพกลับอย่างไม่เกรงกลัว
“ทำไมพี่กำนันถึงคิดว่าฉันจะรู้ล่ะว่าขวัญมันหนีไปไหน”
“ก็นังขวัญมันมาอยู่ที่บ้านแม่ฤดี ถ้าแม่ฤดีไม่รู้ แล้วใครจะรู้ บอกมา นังขวัญมันหนีไปไหน”ฤดีส่ายหน้าไม่บอก
“ความจริง นังขวัญมันคงจะไม่ต้องหนีเตลิดไปอย่างนี้หรอก ถ้าพี่กำนันไม่คิดจะจับมัน
คลุมถุงชน”
“แม่ฤดีรู้ได้ยังไง”
ฤดีจ้องหน้าสุเทพนิ่ง สุเทพเสหันไปจ้องหน้าขวัญตากับหยิก
“พวกเอ็งแอบฟังข้าคุยกับกำนันอุดมเรอะ”
ขวัญตากับหยิกทำเมินหน้าหนี ไม่ยอมตอบสุเทพ ฤดีย้ำถาม
“แล้วมันจริงรึเปล่าล่ะ”
“จริง”
“นั่นไง” ขวัญตากับหยิกร้องออกมาพร้อมกัน
“ก็ถ้านังขวัญมันแต่งงานแต่งการไปซะ มันก็คงจะเลิกความคิดบ้าๆ ที่จะเปิดคาเฟ่ที่บ้านเราน่ะสิ ข้าเกลียดคาเฟ่ เกลียดค่าเฟ่ ได้ยินมั้ยว่าข้าเกลียดคาเฟ่”
ขวัญใจกำลังยืนมองป้ายทอร์นาโดคาเฟ่อยู่ด้วยความดีใจที่หาเจอสักที เธอเดินเข้าไปข้างในร้านที่ยังไม่เปิดบริการ ภายในมืดๆ ทึมๆ
“มีใครอยู่มั้ยคะ”
เงียบ ขวัญใจเดินลึกเข้าไปข้างในอีกหน่อย
“มีใครอยู่มั้ยคะ ฉันมาหาเจ๊สวยค่ะ”
เงียบอีก ขวัญใจเลยเดินไปเปิดไฟ แล้วกวาดตามองไปรอบๆ เห็นสภาพทอร์นาโดคาเฟ่ในเวลาที่ยังไม่เปิด ไม่มีใคร ก็เลยเดินไปดูรอบๆ แล้วกดโน่นกดนี่เล่น มีเสียงเพลงคาราโอเกะดังขึ้น ขวัญใจตกใจ รีบกดปิด แล้วมองไปรอบๆ กลัวว่าใครจะมาว่า แต่พอไม่เห็นมีใคร เธอก็นึกสนุก เลือกเพลงคาราโอเกะเปิด แล้วก็โดดขึ้นไปบนเวที คว้าไมค์มาร้องเพลงคาราโอเกะอย่างเมามัน ขณะนั้น เจ๊สวยแหวกม่านในห้องมองลงมาที่เวที เธอไม่พูดอะไรสักคำ นอกจากฟังขวัญใจร้องเพลงอย่างประหลาดใจแกมทึ่ง
ที่ทางเข้าคาเฟ่ ครูปิ๋ม มะม่วงหาว มะนาวโห่ เดินเปิดประตูเข้ามา แล้วชะงักค้างไปตามๆกันเมื่อเห็นขวัญใจกำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีอย่างเมามันจนไม่เห็นว่ามีคนเดินเข้ามาในคาเฟ่
“อ้าว นั่นใครล่ะนั่น”
มะม่วงหาวแปลกใจ มะนาวโห่ทำท่าจะเดินไปเรียกขวัญใจ แต่ครูปิ๋มดึงแขนให้รอก่อน ทั้งสามยืนฟังขวัญใจร้องเพลงต่อไป รวมทั้งเจ๊สวยที่ยืนดูจากในห้องทำงานเงียบๆ คนเดียวด้วย จนเพลงเกือบจบ ดวงดาวจึงเดินเข้ามาในคาเฟ่อีกคน พอเห็นขวัญใจร้องเพลงอยู่บนเวที ไม่ทันได้ฟังอะไร ก็โวยวายลั่นขึ้นมาทันที
“แกเป็นใครเนี่ย กล้าดียังไงมาเปิดเพลงร้องบนเวทีอย่างนี้ หา”
ขวัญใจชะงักค้าง ดวงดาวเดินไปปิดคาราโอเกะ
“พวกบ้าอยากดังใช่มั้ย แล้วนี่แกเข้ามาในนี้ได้ยังไง งัดเข้ามาเหรอ ดีล่ะ ฉันจะลากแกไปส่งตำรวจ”
ดวงดาวพุ่งเข้าไปลากแขนขวัญใจ
“ฉันไม่ได้งัดเข้ามานะ ประตูมันเปิดอยู่ ฉันก็เดินเข้ามาเฉยๆ ปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บนะ”
“ฉันไม่เชื่อ”
ดวงดาวกับขวัญใจยื้อยุดกันไปมา ครูปิ๋ม มะม่วงหาว มะนาวโห่ วิ่งเข้ามาแยก
“ใจเย็นๆ ก่อนสิจ๊ะดาว ถามไถ่กันให้ดีก่อน”
“ทำไมต้องถาม เห็นๆ อยู่ว่ามันงัดประตูเข้ามา นี่มันขโมยอะไรไปแล้วบ้างก็ไม่รู้”
“ฉันไม่ได้ขโมยอะไรนะ”
ดวงดาวไม่ฟัง จะลากขวัญใจไปหาตำรวจให้ได้ ครูปิ๋ม มะม่วงหาว มะนาวโห่ พยายามแยก
“เอ๊ะ อีมะนาวนี่ แกกล้ากระชากแขนฉันเลยเหรอ”
ดวงดาวถีบมะนาวโห่ออกไป มะม่วงหาวโกรธ
“ทำไมต้องถีบนังมะนาวมันด้วย อย่าคิดนะว่าเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งของที่นี่แล้วจะถูกตบไม่ได้น่ะ”
มะม่วงหาวพุ่งเข้าไปจะตบดวงดาว ครูปิ๋มโดดเข้าคว้าเอวมะม่วงหาวไว้ก่อน มะนาวโห่เลยได้จังหวะพุ่งเข้าตบดวงดาวแทน ดวงดาวกับมะนาวโห่ตบกันอุตลุด ขวัญใจยืนงงอยู่สักพัก ก็วิ่งเข้าไปแยกทั้งสองคนบ้าง เลยกลายเป็นตบกันชุลมุนไปหมด แต่แล้วทุกคนก็ชะงักค้างไปตามๆ กัน เมื่อจู่ๆ ก็มีน้ำถังใหญ่สาดใส่ทุกคนโครม เปียกปอนไปตามๆ กัน ทุกคนหันไปมองที่มาของน้ำ
“เจ๊สวย”
มะม่วงหาว มะนาวโห่อุทาน ขวัญใจมองเจ๊สวยอย่างดีใจ จากนั้นเจ๊สวยพาขวัญใจมาที่ห้องทำงานของเธอ มองหน้าขวัญใจอย่างแปลกใจ ครูปิ๋ม ดวงดาว มะม่วงหาว มะนาวโห่แอบฟังเจ๊สวยเจรจากับขวัญใจอยู่ที่หน้าห้อง
“เธอเป็นหลานฤดีเหรอเนี่ย”
“ค่ะ น้าฤดีเป็นน้าแท้ๆ ของขวัญค่ะเจ๊สวย”
“แล้วฤดีส่งเธอมาหาฉันทำไม”
“ขวัญอยากเป็นนักร้องค่ะ”
มะม่วงหาว มะนาวโห่ ร้องอุทาน
“นักร้อง”
ดวงดาวนึกดูถูก “หึ หน้าอย่างงั้น คงร้องเพลงได้หรอกนะ”
“ทำไมจะไม่ได้” มะม่วงหาวแย้ง
“ร้องเพราะด้วย” มะนาวโห่ย้ำบอก
“อ๋อ แล้วพวกแกอยากให้เจ๊รับมันเข้ามาร้องเพลงแทนพวกแกมั้ยล่ะ”
ดวงดาวย้อนถาม มะม่วงหาว มะนาวโห่นิ่งเงียบไปทันที ครูปิ๋มรีบพูดขึ้น
“เด็กคนนั้น จะได้ร้องเพลงหรือไม่ได้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร นอกจากเจ๊สวยคนเดียว”
ทุกคนเงียบ หันไปแอบฟังต่อ
“ขวัญร้องให้เจ๊สวยฟังมั้ยคะ”
ขวัญใจลุกขึ้นยืน ทำท่าเตรียมจะร้องเพลง แต่แล้วก็ต้องชะงักกึก
“ไม่ต้อง”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ เจ๊จะได้รู้ว่าขวัญร้องเพลงได้จริงๆ”
“เธออยากเป็นนักร้องในคาเฟ่จริงๆ เหรอ”
“ไม่ใช่อยากจะแต่เป็นนักร้องเท่านั้นนะคะ ขวัญฝันว่าสักวัน ขวัญจะเปิดคาเฟ่แห่งแรกที่หมู่บ้านของขวัญด้วย”
“เธอออกไปก่อน อีก 10 นาที เจอกันที่เวทีข้างล่างโน่น”
ขวัญใจยิ้มร่า คิดว่าเจ๊สวยคงจะให้เธอลองร้องให้ฟังพร้อมดนตรีที่เวที จะเดินออกไป
“เดี๋ยว”
ขวัญใจชะงัก หันกลับไปมองเจ๊สวย
“ถ้าเธอเป็นหลานของฤดีจริง เธอคงมีเบอร์ติดต่อกับฤดีใช่มั้ย”
ขวัญใจพยักหน้า
อ่านต่อหน้า 4
สาวน้อยคาเฟ่ ตอนที่ 2 (ต่อ)
ขวัญใจเดินเปิดประตูออกมาจากข้างในห้องทำงานของเจ๊สวย พวกที่แอบฟังอยู่หน้าห้องรีบกระจายตัวไปกันคนละทิศละทาง ยกเว้นดวงดาวที่ยืนขวางทางอยู่หน้าห้อง
“ขอโทษนะ ขอทางฉันหน่อย”
ดวงดาวยังยืนปักหลักนิ่ง จ้องหน้าขวัญใจอย่างชิงชัง ขวัญใจไม่อยากมีเรื่อง เลยเดินเลี่ยงไปเอง ดวงดาวโกรธ เดินปึงปังเข้าไปในห้องเจ๊สวยทันที ครูปิ๋ม มะม่วงหาว มะนาวโห่ กรูกันกลับมาแอบฟังที่หน้าห้องด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามเดิม เจ๊สวยกำลังกดโทรศัพท์โทรออกอยู่ แต่ยังไม่ทันจะกดเสร็จ ดวงดาวก็เข้ามา
“เจ๊จะให้นังเด็กนั่นมาร้องเพลงที่นี่รึคะ แต่ดาวก็เป็นนักร้องของที่นี่อยู่แล้วนะคะ แล้วก็ยังมีนังมะม่วงหาว มะนาวโห่อีก 2 คน เจ๊จะเอานักร้องหน้าใหม่มาทำไมอีกคะ”
“ฉันหรือเธอกันแน่หึ เป็นเจ้าของที่นี่น่ะ”
“เจ๊คะ”
“งั้นเรื่องจะรับใครเข้ามาทำงานที่นี่ มันก็ต้องเป็นเรื่องของฉันสินะ”
“ค่ะ”
“งั้นเธอก็ออกไปเตรียมตัวทำงานคืนนี้ได้แล้ว”
“แต่”
เจ๊สวยจ้องหน้าดวงดาวเขม็ง ดวงดาวจ๋อย ยอมเดิมออกไปแต่โดยดี เจ๊สวยถอนใจ อย่างเหนื่อยใจ แล้วกดโทรศัพท์หาฤดี ฤดีพูดโทรศัพท์กับเจ๊สวย
“ใช่จ้ะสวย ขวัญใจเป็นหลานของฉันจริงๆ”
“เป็นลูกสาวพี่ขวัญจิตเหรอ”
“ใช่ ลูกสาวคนโต เพิ่งเรียนจบกลับมาจากนอก”
“จบจากนอก แต่อยากเป็นนักร้องคาเฟ่”
“ทำไงได้ล่ะสวย ก็คนมันชอบของมันอย่างนั้น ฉันขอโทษนะที่ส่งหลานไปหาโดยไม่ได้บอกเธอล่วงหน้า แต่เราไม่ได้ติดต่อกันนาน และฉันก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์เธอด้วย ถ้ายังไงฝากหลานฉันด้วยนะสวยนะ”
“หลานเธอก็เหมือนหลานฉัน อย่าห่วงเลย ฉันจะดูแลหลานเธอให้อย่างดีนะ แต่ว่า”
สหรัฐกับเหินฟ้ามากินข้าวกันที่ร้านอาหาร แต่สหรัฐกินอะไรไม่ค่อยลง เหินฟ้าสังเกตเห็น
“เป็นไรไปวะไอ้รัฐ อย่าบอกนะว่าแกยังคิดถึงแม่ไก่กระทงหลงทางคนนั้นอยู่อีก เลิกคิดได้แล้ว ชาตินี้ไม่มีทางเจอกันได้อีกหรอก นี่ ตกลงแกจะไปช่วยป๊าแกทำงานที่คาเฟ่ใช่มั้ย”
สหรัฐพยักหน้า จริงจัง “ไม่ใช่แค่ช่วยงานป๊า แต่ฉันตั้งใจว่าจะหาทางทำให้ป๊ากับอาสวยคืนดีกันให้ได้”
“ยากว่ะ ข้อพิพาทระหว่างป๊ากับอาแก มันหยั่งรากลึกไปแล้ว”
“ยากแค่ไหนฉันก็ไม่กลัว แต่ป๊าจะต้องได้คิดบ้างว่า ไม่ว่าอาสวยจะเป็นเพศอะไร แต่อาก็เป็นคนในครอบครัวคนหนึ่งเหมือนกัน”
มะม่วงหาว มะนาวโห่ และครูปิ๋ม กำลังยืนรุมซักถามขวัญใจอยู่ ดวงดาวยืนมองอยู่ห่างๆ เบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้
“เจ๊สวยคงยอมให้เธอเป็นนักร้องที่นี่ล่ะ”
“เธอออกจะเสียงดี หน้าตาก็ดีนะ แต่”
มะนาวโห่หันไปมองมะม่วงหาว แล้วพูดพร้อมกัน
“น้อยกว่าเราสองคนนีสนึง”
“ถ้ายังไง ฉันขอฝากเนื้อฝากตัวกับพวกพี่ๆ ทุกคนด้วยนะจ๊ะ”
ขวัญใจยกมือไหว้ทุกคน มะม่วงหาว มะนาวโห่รีบตะปบมือขวัญใจเอาไว้
“ว้ายๆ อย่าไหว้ เดี๋ยวเราอายุสั้นหมด”
“เห็นหน้าตาเรายังงี้อ้ะนะ แต่เราสองคนเนี่ย เพิ่งจะอายุ 19 เอ๊ง ไม่เชื่อ ดูทะเบียนบ้านเราเอามั้ยล่ะ”
ครูปิ๋มอดรนทนไม่ไหวเดินเข้าแทรก
“ที่อายุ 19 น่ะ ก็เพราะพ่อแม่มันไปแจ้งเกิดที่อำเภอช้าไป 10 ปีน่ะ”
มะม่วงหาว มะนาวโห่หน้าคว่ำทันที
“ครูอ้ะ”
“ครูชื่อ ครูปิ๋มจ้ะ”
“ฉันชื่อมะม่วงหาว”
“ฉันชื่อมะนาวโห่จ้ะ ส่วนคนโน้น เขาชื่อดวงดาว”
ขวัญใจหันไปมองดวงดาว แต่ดวงดาวเมินหน้าหนี
“ครูเป็นครูสอนเต้น แล้วก็ช่วยแต่งหน้า ทำผม แต่งตัวให้ด้วย ที่นี่ เราก็มีกันอยู่แค่นี้แหละ มีงานอะไรก็ช่วยๆ กันไป คนละไม้คนละมือ”
“งั้นต่อไป ขวัญจะช่วยงานครูด้วยอีกคนนะคะ”
“ดี”
เสียงเจ๊สวยดังขึ้น ทุกคนหันไปมอง เจ๊สวยเดินเข้ามาพร้อมไม้ถูพื้น แล้วเอาไม้ถูพื้นนั้นโยนให้ขวัญใจ ขวัญใจหน้าเหวอ
“เพราะฉันจะให้เธอช่วยดูแลความเรียบร้อยของที่นี่ด้วย”
“อ้าว เจ๊ไม่ได้จะให้หนูขวัญร้องเพลงหรือคะ” ครูปิ๋มแปลกใจ
“ร้านเรามีนักร้องอยู่แล้วถึง 3 คน”
ดวงดาวยิ้มสะใจมองขวัญใจอย่างเย้ยหยัน ขวัญใจเม้มปากสะกดอารมณ์
“อีกอย่าง ถ้าเธออยากจะอยู่ที่นี่ เธอก็จงตั้งใจทำงานทุกอย่างตามที่ฉันสั่ง ได้มั้ย ถ้าทำไม่ได้ ก็กลับบ้านนอกไป”
“ได้ค่ะ”
เจ๊สวยเดินหันหลังกลับ แอบยิ้มพอใจที่ขวัญใจเป็นคนหนักเอาเบาสู้ แต่ไม่ให้ใครเห็น ดวงดาวสะใจมาก ในขณะที่ครูปิ๋ม มะม่วงหาว มะนาวโห่ เห็นใจ แต่ขวัญใจเอาจริงเอาจังมาก
เจ๊สวยกลับมานั่งทำงานในห้อง ครูปิ๋มเคาะประตูหน้าห้องแล้วเดินตามเข้ามา
“ทำไมเจ๊ถึงให้เด็กใหม่นั่นทำงานดูแลร้านล่ะคะ เราก็มีคนทำหน้าที่นี้อยู่แล้วนี่คะเจ๊ แล้วเด็กนั่นก็ร้องเพลงได้”
“ครูไม่รู้อะไร ฉันกำลังจะช่วยให้เด็กนั่นทำความฝันให้เป็นความจริงต่างหาก”
ครูปิ๋มงง
“เด็กนั่นคิดอยากจะเปิดคาเฟ่ที่หมู่บ้านของตัวเอง”
“เจ๊ก็เลยจะให้เด็กนั่นหัดทำงานทุกอย่างของที่นี่ตั้งแต่งานระดับล่างขึ้นไป เขาจะได้รู้จักความเป็นคาเฟ่ดีพอ ก่อนที่จะกลับไปเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเอง”
“ครูรู้ใจฉันอีกแล้ว เด็กนั่นเป็นหลานเพื่อนฉันเอง ฉันฝากครูช่วยดูแลที่อยู่ที่กินให้ทีนะ แล้วถ้ามีปัญหาอะไร ครูมาบอกฉันทันที”
“ค่ะเจ๊”
เฮียศาสตร์เพิ่งอ่านรายงานผลประกอบการของคาเฟ่ที่อาฮุยเอามาส่งให้ แล้วเฮียศาสตร์ก็เขวี้ยงรายงานอย่างอารมณ์เสีย โบกมือไล่อาฮุยออกไป
“แกจะไปไหนก็ไปไป๊”
อาฮุยรีบออกไป สหรัฐกับเหินฟ้าเดินสวนเข้ามาพอดี สหรัฐก้มลงเก็บรายงานขึ้นมาดู
“นี่มันอะไรกันครับป๊า”
“ฉันไม่เข้าใจเลย ทำไม ฉันอุตส่าห์ลงทุนทำโปรโมชั่นให้กับคารามายน์คาเฟ่ของเราต่างๆนานา แต่ทำไมคนก็ยังเข้าไปเที่ยวที่ทอร์นาโดคาเฟ่มากกว่ามาเที่ยวที่คาเฟ่ของเราก็ไม่รู้”
สหรัฐแอบสบตากับเหินฟ้า เป็นเชิงว่าเป็นเรื่องที่พ่อคิดจะเอาชนะอาอีกแล้ว
“ฉันจะแพ้นังคนลักเพศนั่นไม่ได้ แพ้ไม่ได้”
“ป๊า คนที่ป๊ากำลังพูดถึงนั่น น้องสายเลือดเดียวกันกับป๊านะครับ”
“ไม่ ฉันไม่นับมันเป็นญาติ และฉันจะต้องเอาชนะมันให้ได้”
“แต่โบราณเขาว่าไว้ว่า แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมารนะ ครับป๊า” เหินฟ้าช่วยพูด
“แต่ฉันอยากเป็นมาร”
เฮียศาสตร์หันขวับมาจ้องหน้าสหรัฐ
“ไอ้รัฐ ฉันมีงานชิ้นแรกให้แกทำ”
สหรัฐหน้าเหวอ
ครูปิ๋มพาขวัญใจมาที่ห้องพัก มะม่วงหาว มะนาวโห่ตามมาด้วย
“หนูขวัญพักห้องนี้แหละ อยู่ได้มั้ย”
“ได้ค่ะครู”
“ห้องเราสองคนอยู่ข้างๆ นี่เอง”
“ถ้ามีอะไรก็ไปเรียกได้เสมอ”
“หรือจะย้ายไปอยู่รวมกันก็ได้นะ”
“จะได้ตั้งวง”
ครูปิ๋มกระแอมเตือนทันที
“วงส้มตำน่ะจ้ะ แหะ แหะ”
“อ้ะ หนูขวัญอาบน้ำอาบท่า แล้วเดี๋ยวกลับไปเจอกันที่คาเฟ่ แล้วครูจะบอกให้ว่าจะให้หนูทำอะไร”
“ค่ะ”
สหรัฐคุยกับเหินฟ้าอย่างกลัดกลุ้ม
“จะทำได้ยังไงกันวะ”
สหรัฐนึกถึงเรื่องที่คุยกับพ่อก่อนหน้านี้
“ฉันจะให้แกเข้าไปสืบที่ทอร์นาโดคาเฟ่ดูทีสิว่าทำไมคนมันไปเที่ยวที่นั่นมากกว่ามาเที่ยวที่คาเฟ่ของเรา”
“นักร้องเขาเด็ดกว่าของเรารึเปล่าครับป๊า” เหินฟ้าท้วง
“ไม่ ฉันเชื่อว่ายายลูซี่ เชอรี่ แอปเปิ้ล ของเราน่ะ สวยเซ็กซี่ เรียกแขกได้ ในขณะที่นักร้องที่นั่น มีดีแค่นังดวงดาวคนเดียว ส่วนนังมะม่วงหาว มะนาวโห่”
“ชื่อคนเรอะนั่น” เหินฟ้าพึมพำ
“มันเป็นแค่นักร้องสำรอง”
“อ้าว แล้วทำไมเราสู้เขาไม่ได้ล่ะครับป๊า”
“ถ้าฉันรู้แล้วฉันจะให้แกไปสืบมั้ยล่ะไอ้รัฐ”
สหรัฐและเหินฟ้าคุยกันต่อ
“ป๊าให้แกไปสืบ แกก็เข้าไปสืบสิวะ ดีซะอีก ได้ไปเที่ยวคาเฟ่คนอื่นฟรีๆ ป๊าเป็นสปอนเซอร์ให้”
“แต่อาสวยเจ้าของทอร์นาโด เป็นอาแท้ๆ ของฉันนะ ไอ้เหิน แกจำไม่ได้เรอะ”
“จำได้ดิ แล้วไง”
“ก็ถ้าฉันเหยียบย่างเข้าไปที่นั่น อาสวยก็ต้องรู้ทันทีว่าฉันเข้าไปสืบให้ป๊า ฉันไม่อยากผิดใจกับอาว่ะ ถึงอาจะเป็นพวกเพศที่สาม แต่อาก็คืออา เป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับฉันอยู่ดี”
“แต่ถ้าแกไม่ไปสืบ แกก็ต้องผิดใจกับป๊าเหมือนกัน”
“อ้ะ ไปสืบก็ไปสืบ เผื่อบางที ฉันจะเห็นช่องทางที่ทำให้ป๊ากับอาคืนดีกันได้บ้าง แต่ฉันจะทำยังไงดีวะไอ้เหิน อาสวยถึงจะไม่รู้น่ะว่าฉันเข้าไปสืบที่นั่นน่ะ”
เหินฟ้านิ่งคิด
ขวัญใจอาบน้ำแต่งตัวใหม่ กำลังพูดโทรศัพท์กับฤดีอยู่
“น้าจ๋า ขวัญเจอกับเจ๊สวยเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ”
ฤดีกำลังพูดโทรศัพท์กับขวัญใจ จังหวะนั้นขวัญตากับหยิกก็เดินเข้ามาเพื่อถามข่าวคราวขวัญใจ ก็เลยรีบโบกมือเรียกให้ขวัญตากับหยิกมาฟังขวัญใจพูดโทรศัพท์ไปด้วยกัน โดยฤดีเปลี่ยนมาเปิดสปีกเกอร์โฟนพูดแทน ทั้งสามรุมฟังเสียงขวัญใจ
“เจ๊สวยให้ขวัญพักอยู่ที่หอพักหลังคาเฟ่น่ะจ้ะ จะได้ไปทำงานที่คาเฟ่ได้สะดวก”
“รู้ว่าขวัญเจอกับยายสวย มีที่อยู่ ที่กิน ที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว น้าก็ค่อยเบาใจหน่อย”
ขวัญตายื่นหน้าเข้าไปพูดผ่านสปีกเกอร์โฟน
“งั้นอย่างนี้พี่ขวัญก็ได้เป็นนักร้องแล้วดิ”
ขวัญใจหน้าสลดลง “ยังหรอกตา เจ๊สวยเขาให้พี่ทำงานอย่างอื่นน่ะ”
“อ้าว”
“ไหงงั้นล่ะพี่ขวัญ แล้วเจ๊สวยให้พี่ขวัญทำงานอะไรล่ะ”
“ทำงานดูแลทั่วไป”
“อ้าว”
“แต่พี่ไม่สนหรอกนะว่าเจ๊สวยจะให้พี่ทำงานอะไร เพราะยังไงๆ ตอนนี้พี่ก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว และพี่คงจะมีโอกาสได้แสดงความสามารถทางการร้องเพลงให้เจ๊สวยได้เห็นเข้าสักวัน อีกอย่าง อย่างน้อยพี่ก็ไม่ต้องถูกพ่อจับคลุมถุงชนให้แต่งงานกับผู้ชายหน้าปลาบู่คนนั้น”
สมบูรณ์นั่งอยู่กับสุเทพ และอุดม สำลักน้ำพรวด ไอจนหน้าแดงเหมือนจะขาดใจ อุดมรีบเข้าไปตบหลังตบไหล่ลูกชายอย่างเป็นห่วง
“เป็นไงมั่งลูก”
สมบูรณ์ค่อยอาการดีขึ้น
“ตกลงน้องขวัญหนีไปแล้วหรือฮะคุณพ่อ”
สุเทพพยักหน้า เครียดจัด
“แล้วหนีไปไหน” อุดมซัก
“ข้าคาดว่ามันคงจะหนีเข้ากรุงเทพฯไปน่ะ”
“แล้วกำนันจะไม่ไปตามลูกสาวกลับมาเรอะ”
“ไม่ เมื่อมันไปเองได้ มันก็ต้องกลับมาเองได้ แต่ถ้ามันจะไม่รักดี ข้าก็จะตัดใจว่าไม่เคยมีลูกที่ชื่อขวัญใจมาก่อน”
สุเทพแค้นใจ
ขวัญตาเดินครุ่นคิดมากับหยิก
“พี่ตาเป็นอะไรไปรึเปล่าอ้ะ ฉันเห็นพี่ตาเงียบๆ ไม่พูดไม่จาอะไรเลยตั้งแต่ออกมาจากบ้านน้าฤดีแล้ว คิดถึงพี่ขวัญใจอ้ะดิ”
ขวัญตาพยักหน้า แล้วนิ่งไปอีกครู่ก่อนจะโพล่งออกมา
“ไอ้หยิก พี่จะไปกรุงเทพฯ”
“ฮ้า พี่ตาจะไปกรุงเทพฯทำไม ไปหาพี่ขวัญเรอะ”
“ก็พี่ขวัญไปอยู่กรุงเทพฯคนเดียวตามลำพังท่ามกลางคนแปลกหน้าทั้งนั้น พี่เป็นห่วงอ้ะ”
“แต่เจ๊สวยอะไรนั่น เป็นเพื่อนกับน้าฤดีนะ คงช่วยดูแลพี่ขวัญได้หรอก”
“ไม่รู้ดิไอ้หยิก แต่พี่ได้ยินพ่อพูดกรอกหูมาตั้งแต่พี่เด็กๆ แล้วว่าวงการคาเฟ่น่ะมีแต่คนไม่ดี ไอ้หยิก พี่ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะไปหาพี่ขวัญที่กรุงเทพฯ”
“พ่อกำนันกับน้าฤดีคงจะยอมหรอก”
“พี่ก็รู้ว่าพ่อกับน้าฤดีคงไม่ยอมให้พี่ไปอีกคนหรอก เพราะฉะนั้น”
ขวัญตาไม่พูดต่อ แต่สีหน้ามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวมาก
ใกล้ค่ำ ขวัญใจช่วยคนงานคนอื่นจัดโต๊ะในคาเฟ่ เตรียมพร้อมที่จะต้อนรับลูกค้า ครูปิ๋มวิ่งออกมาจากห้องแต่งตัว
“เดี๋ยวขวัญจัดโต๊ะเสร็จแล้ว เข้าไปช่วยครูแต่งตัวให้พวกนักร้องด้วยนะ”
“ค่ะครู”
ครูปิ๋มวิ่งกลับเข้าไปหลังเวที ขวัญใจจัดโต๊ะต่อ
สหรัฐและเหินฟ้าปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สหรัฐมองดูสภาพตัวเองจากในกระจกอย่างไม่มั่นใจ
“แกว่าเราทำอย่างนี้จะดีรึวะไอ้เหิน”
“อ๊ะ ก็ถ้าเราไม่ปลอมตัว แต่เดินเทิ่งๆ เข้าไปในทอร์นาโดคาเฟ่ ในฐานะคุณสหรัฐ ลูกชายเฮียศาสตร์ แกคิดว่ามันจะดีกว่ามั้ยล่ะ”
สหรัฐส่ายหน้า
“งั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ตัดสินใจแล้วก็ลุยต่อไป”
เหินฟ้าลากแขนสหรัฐออกมาจากห้องแต่งตัวข้างหลัง เจอกับเจ๊แต๋ว ลูซี่ เชอรี่ แอปเปิ้ล ที่แต่งตัวเตรียมทำงานตามปกติ ทั้งสองฝ่ายชนกันเปรี้ยง สาวๆ ร้องวี้ดว้าย ลูซี่โดนชนกระเด็นโวยวายเสียงดังลั่น
“ต๊าย อะไรกันเนี่ย”
พอเห็นสองหนุ่ม ลูซี่ก็เปลี่ยนเป็นเสียงอ่อนเสียงหวานขึ้นมาทันควัน
“เข้ามาในนี้กันได้ยังไงคะ”
สหรัฐหันไปมองหน้าเหินฟ้าเป็นเชิงถามว่าทำอย่างไรดี เหินฟ้ารีบแก้สถานการณ์ โดยทำทีเป็นพูดภาษาต่างชาติออกมา
“โอ๊ย พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย”
สหรัฐรีบช่วยเหินฟ้าพูดภาษาต่างชาติ คนอื่นๆ ฟังไม่รู้เรื่อง เหินฟ้าเห็นหน้าทุกคนกำลังงง ก็รีบลากแขนสหรัฐจะออกประตูไป แต่ครูแต๋วโดดเข้าจับแขนสหรัฐหมับ
“อุ๊ย เดี๋ยวสิคะ ถ้าจะมาเที่ยวล่ะก็ ที่นี่มีทีเด็ดนะค้า”
เหินฟ้าไม่สน ดึงแขนสหรัฐไว้อีกข้าง เกิดการยื้อกัน สาวๆ คนอื่นเข้ารุมไม่ยอมให้ชายต่างชาติทั้งสองออกไป สองหนุ่มทำท่าจะเสียที สหรัฐคิดอะไรออก รีบชี้ขึ้นไปบนฟ้าทันที
“โอ้ว ยูเอฟโอ”
สาวๆ หลงกล แหงนมองหายูเอฟโอบนฟ้าบ้าง สหรัฐกับเหินฟ้าได้ที รีบวิ่งหนีไปทันที สาวๆ รู้ตัวว่าถูกหลอก ต่างพากันกระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจ แอปเปิ้ลมองตามสองหนุ่มไปด้วยความสงสัยเป็นอย่างยิ่ง
สหรัฐกับเหินฟ้าวิ่งหนีสาวๆ ชาวคารามายน์คาเฟ่ แล้วตรงดิ่งมาที่ทอร์นาโดคาเฟ่ทันที พูดกันไปเดินกันไป
“โฮ้ย สาวๆ พวกนี้ น่ากลัวชะมัด”
เหินฟ้าหัวเราะ “แต่ป๊าแก นอกจากจะไม่กลัวแล้ว ยังกล้ากิ๊กกันอีกด้วย นี่ขนาดแม่แกดุยังกับเสือแล้วนะเนี่ย ป๊าแกยังกล้าทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดซะได้ ว่าแต่แกไม่สนใจสาวๆ พวกนั้นคนไหนมั่งเลยเหรอวะ ถ้าแกทาบ ฉันรับรองว่าไม่มีใครกล้าปฏิเสธ”
“บอกแล้วว่านักร้องคาเฟ่ไม่ใช่สเป๊กฉัน”
ขาดคำ สหรัฐก็เดินชนกับขวัญใจ ซึ่งกำลังเดินหิ้วเสื้อผ้านักร้องหลายชุดรีบร้อนจะเข้าไปที่ห้องแต่งตัว ทั้งคู่ล้มลง ชุดนักร้องหล่นจากไม้แขวนลงคลุมหัวสหรัฐและขวัญใจ สหรัฐตะกายออกมาได้ก่อน แต่หนวดหลุด และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ขวัญใจกำลังตะกายออกมาจากกองเสื้อผ้าเช่นกัน ขวัญใจโวยวายลั่น แต่ยังไม่ทันมองหน้าสหรัฐ
“โอ๊ย เดินประสาอะไรกันเนี่ย ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย หมดกันๆๆ ชุดนักร้องของฉัน”
สหรัฐเห็นหน้าขวัญใจเต็มตา ตะลึงดีใจ
“ขวัญ”
จังหวะนั้นเจ๊สวยเดินมาพอดี
“มีอะไรกัน”
อ่านต่อตอนที่ 3