เรื่องย่อ “อตีตา”ตอน 8-10
กำกับการแสดง วินัย ปฐมบูรณ์
บทประพันธ์ ทมยันตี
บทโทรทัศน์ อักษราวุธ
ผลิตโดย บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด
สถานีโทรทัศน์ช่อง 7
วัน เวลา ศุกร์ เวลา 20.10 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ประจำวันที่5-7 กุมภาพันธ์ 2559
ที่บางระจัน ศิโรตม์ช่วยคิดหาหนทางโจมตีข้าศึกด้วยวิธีการใหม่ ที่ชาวระจันคาดไม่ถึง นั่นคือการใช้ว่าวกับหม้อคะนนเข้าไปทำลายแหล่งเก็บดินปืน ซึ่งลุงมั่นได้ช่วยทำว่าวให้่จนสำเร็จ แต่ปรากฏว่าเมื่อแขวนหม้อคะนนเข้าไปกลับทำให้ว่าวร่วงหล่นลงมา ทำให้กำลังใจของชาวค่ายระจันเสียไป ขณะเดียวกันนายแท่นซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับข้าศึกได้ขอถอนตัวจากการเป็นผู้นำค่าย ให้นายจันหนวดเขี้ยวขึ้นนำแทน
ที่ห้องประชุมบริษัทศิวะกรุ๊ป ปรางทอง อรรถ และอรรถวิทย์ เชิญคุณปานทิพย์มาประชุม เพื่อให้ชี้แจงถึงเรื่องที่ศิโรตม์หายตัวไป ซึ่งทุกคนสงสัยว่าอาจจะตายแล้ว แต่ปานทิพย์ยืนยันว่า ศิโรตม์ยังไม่ตาย และกำลังทำหน้าที่ที่สำคัญมากเพื่อทุกคนส่วนลติกา ยังตื๊อให้หมอนันทเดชช่วยสะกดจิตอีก เพื่อไปรู้เรื่องราวในอดีต แต่หมอนันทเดชไม่ตกลงเพราะเกรงว่าจะทำให้ลติกาไม่ฟื้นกลับมาอีก ลติกาไม่ยอมและขอจนหมอนันทเดชยอมสะกดจิตให้อีกครั้ง
ที่บางระจันทุกคนในค่ายร่วมใจกันเพื่อทำว่าวตัวใหม่ แต่ปรากฏว่าต้องไปหาไม้ไผ่ถึงพื้นที่ใกล้ข้าศึก จึงเกิดการต่อสู้กัน ในที่สุดชาวระจันก็สามารถทำว่าวและแขวนหม้อคะนนได้ดังที่ตั้งใจไว้ ทำให้สามารถทำลายที่เก็บดินปืนของข้าศึกได้โดยไม่เสียกำลังคน ทำให้ขวัญและกำลังใจของคนในค่ายกลับมา ทางฝ่ายข้าศึก หลังจากที่ต้องเสียแม่ทัพไปจากการใช้ว่าวและหม้อคะนน นายกองมินอาว(กฤช บูรณะหิรัญ) และนายกองเย่ยิ๊ (ภูริวัชร์ งามทรัพย์มณี) เคียดแค้นใจยิ่งนัก จึงสั่งทัพให้เร่งหล่อปืนใหญ่เพิ่มเติม และแจ้งไปยังทัพใหญ่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมถึงปรับแผนโดยส่งไส้ศึกคือ ลุงสุก (รอง เค้ามูลคดี) เข้ามาในค่ายระจันแทน
หมอนันทเดช มีธุระต้องเดินทางไปต่างประเทศ ลติกาจึงตัดสินใจนั่งสมาธิเพื่อย้อนกลับไปอดีตด้วยตัวเองซึ่งเธอสามารถทำได้จนเห็นเหตุการณ์ในค่ายบางระจัน แต่เกิดจิตหลุดและสลบไป ลัดดา(วาสนา พูนผล)แม่ของลติกาจึงรีบพาส่งโรงพยาบาล และขอความช่วยเหลือจากปานทิพย์ โดยตามตัวหมอนันทเดชกลับมา ซึ่งหมอนันทเดชช่วยให้ลติกาฟื้นคืนสติกลับมาได้ส่วนอรรถวิทย์และยศสันต์ ได้รู้ข่าวก็รีบตามมาเยี่ยม ทำให้ทั้งสามหนุ่มได้พบกัน และต่างหึงหวงกัน
ที่ห้องประชุมศิวะกรุ๊ป อรรถวิทย์เรียกประชุมหุ้นส่วนและกรรมการทุกท่าน โดยไม่แจ้งปานทิพย์ เพื่อจะให้ทุกคนพิจารณาเรื่องผู้นำบริษัทฯ ที่สมควรจะเป็นตัวเอง เพราะศิโรตม์หายตัวไป และลติกาก็ไม่สามารถดูแลได้ แต่ปรากฏว่าคุณปานทิพย์เข้ามาในตอนท้าย และแจ้งว่ามีเรื่องสำคัญจะแจ้งในการประชุมครั้งต่อไป ทำให้อรรถวิทย์มีความหวังขึ้นอีกครั้ง
ศิโรตม์กับจันกะพ้อต่างเริ่มมีใจให้กัน เมืองใจก็รู้สึกได้ แต่ต้องเก็บความรู้สึกอึดอัดนี้ไว้ ส่วนกาหลง ก็แอบเห็นเมืองใจแสดงกิริยาไม่พอใจเมื่อมองเห็นจันกะพ้อกับศิโรตม์มีใจให้กัน ช่างเป็นดั่งรักสี่เส้าไขว้กันไปมาเมื่อลุงสุกเข้ามาอยู่ในค่ายระจันได้ช่วยงานไปทั่ว ทำให้คนในค่ายได้แบ่งแยกเป็น 2 กลุ่มที่คิดต่างกัน กลุ่มหนึ่งมีนายทองเหม็นและจันกะพ้อที่สงสัยในตัวลุงสุกส่วนอีกกลุ่มหนึ่งมีนายจันหนวดเขี้ยว เมืองใจ และศิโรตม์ ทำให้จันกะพ้อหมายมั่นที่จะสืบหาความจริงกับเรื่องนี้มาให้ได้
