ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 3
มุมต่างๆ ของวัด มีป้ายศาลาเขียนว่าวันนี้มีงานศพครอบครัวไซเรน เสียงระฆังเพลดัง ไซเรนนอนอยู่ซอกข้างศาลาสะดุ้งตื่น เหงื่อเต็มตัว สภาพของเขาโทรมมาก มีเสียงพัดลมครางหึ่ง ไซเรนมองไปเห็นหลวงพ่อตีระฆังเพล เขารู้สึกตัวว่าอยู่ที่วัด เสียงเคาะระฆังยังดังถี่ขึ้น
จักรเดินเข้ามาในศาลา เอาเงินให้คนดูแลศาลา ไซเรนเดินเหม่อเข้าไปในศาลามองรูปพ่อ แม่ และน้อง สามโลงเรียงกัน
“แม่ ผมไม่อยากมีลมหายใจอยู่ตรงนี้คนเดียว พ่อ บอกผม ใครเป็นคนทำครอบครัวเรา”
เนสซื้ออาหารกล่องมา
“ไซเรน ไปกินข้าวกันนะ เราซื้อข้าวมากินด้วยกัน”
เนสเดินเข้ามาจูงแขนไซเรน จักรเดินเข้ามา
“ท่านอัศวิน ให้ผมมาดูก่อนว่ามีอะไรขาดเหลือรึเปล่า แล้วก็ท่านฝากจดหมายมาด้วย”
เนสไหว้ขอบคุณ ไซเรนวางกล่องข้าว บัญชา จ่าแดง น้ำผึ้ง เข้ามาในศาลา บัญชาบอกกับไซเรน
“เสียใจด้วยนะ”
ไซเรนนิ่ง แล้วพยักหน้า
“ศพพ่อเรา ทางกรมตำรวจจะจัดการให้อย่างสมศักดิ์ศรี”
ไซเรนนิ่ง พยายามข่มอารมณ์โกรธ บัญชาเห็นซองจดหมายที่มีตราประทับบริษัทรักษาความปลอดภัย
“จากบริษัทของพลตรีอัศวิน ที่พ่อเราไปรับจ็อบนี่”
น้ำผึ้งหยิบซองมาดู ไซเรนดึงซองกลับมา
“จดหมายแสดงความเสียใจ”
“พ่อเธอทำงานกับเอสจีซิเคียวริตี้มานานเท่าไหร่แล้ว”
“ก็เคยมีคนมาถามผมก็ตอบไปหมดแล้วไง คุณก็ไปถามเอาจากตำรวจที่เขาสอบผมสิจับคนที่ฆ่าพ่อผมได้ยัง หะ ตอนนี้ควรจะไปไล่จับคนที่มันฆ่าพ่อผมมั้ย มัวแต่มาถามอะไรซ้ำๆ ซากๆ”
จ่าแดงเห็นใจ แต่พูดตักเตือน
“เราถึงต้องการข้อมูลไง แต่มันต้องใช้เวลา ไอ้หนู”
“เพื่อนหนูให้ข้อมูลไปหมดแล้ว อย่าถามอะไรอีกตอนนี้เลยนะคะ หนูขอร้อง”
“น้องไม่ค่อยให้ความร่วมมือเลยนี่” น้ำผึ้งท้วง
“โคตรผมตายยกบ้าน ยังต้องการอะไรจากผมอีก”
“พวกเดียวกัน ใจเย็นๆ” จ่าแดงปลอบ
“พนักงานสอบสวนบอก เราให้การว่าจำหน้าคนร้ายไม่ได้”
ไซเรนสบตาบัญชา
“ครับ”
ที่ตึกแถวโทรมๆ แห่งหนึ่ง จักรเดินมาแล้วรับโทรศัพท์จากอัศวิน
“ครับท่าน ข้อมูลจากท้องที่ เบื้องต้นพี่ยุทธเสียชีวิตจากการถูกรัดคอ ขาดอากาศหายใจ ที่เกิดเหตุมีคราบยาเสพติดกระจายอยู่ ผมกำลังเช็คอยู่ครับ ลูกแกไม่ได้บาดเจ็บอะไร ส่วนที่เงินโดนปล้นไปก็ยังไม่โผล่ที่ไหนเลย หมายเลขธนบัตรมันเรียงเพราะพึ่งไปเบิกมา ใช้เมื่อไหร่เราเจอแน่ครับ”
บัญชา จ่าแดง และน้ำผึ้ง ยังคงซักถามไซเรนที่ศาลาวัด
“จำไม่ได้หรือว่าอยากลืม ที่เธอเป็นคนให้การกับพนักงานสอบสวนไปว่า พ่อเธอถูกแขวนคออยู่กับอีกคน คนร้ายที่พวกมันเรียกกันว่าตี๋ใหญ่ โดยที่คนร้ายอีกคนที่ชื่อแฟรงค์กี้ เป็นคนแขวนคอทั้งคู่ มันสู้กันทำให้พ่อเธอโดนรัดคอตาย คนที่ชื่อตี๋ใหญ่ยิงแฟรงค์กี้ตาย เธออยู่กับพวกมันเกือบทั้งคืน จำหน้ามันไม่ได้เลยเหรอ”
“มันปิดตาผม พอเปิดตาหน้ามันมีแต่เลือด .. “
อัศวินเข้าห้องไปปลุกมิลค์ เคาะห้อง มิลค์สะดุ้งเอามือกวาดคราบผงทิ้ง อัศวินคุยโทรศัพท์กับจักรไปด้วย
“ตื่นได้แล้วลูก วันนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”
“ตี๋ใหญ่ แฟรงค์กี้”
“เด็กจำหน้าคนร้ายไม่ได้ และก็ไม่มีศพ”
“โอเค ตามต่อไป เย็นนี้ไปงานศพกัน เป็นไงไม่สบายรึเปล่าลูก”
ไซเรนยังคงถูกซักถามต่อ จากน้ำผึ้ง จ่าแดงและบัญชา
“แล้วทำไมยังไม่พบศพคนร้ายเลย มันหายไปเองได้เหรอ”
“นั่นมันหน้าที่พวกคุณที่ต้องไปสืบให้รู้ไม่ใช่เหรอ”
“เอาดีๆ มันต้องมีเค้าโครงมั่ง จะได้ให้คนมาสเก็ตซ์” จ่าแดงบอก
“ผมจำไม่ได้”
น้ำผึ้งเอากระบอกตรวจปัสสาวะเล็กๆ วางลงตรงหน้าไซเรน
“ขอส่งฉี่เธอไปตรวจ”
ไซเรนมองเคืองๆ จ่าแดงรีบบอก
“ทำตามหน้าที่น่ะไอ้หนู”
“สงสัยว่าผมเล่นยา”
“จะทำที่นี่ หรือจะไปทำที่กรม”
ไซเรนแค่นหัวเราะ ขำในชะตากรรม บัญชารีบอธิบาย
“มันจำเป็น เพราะคดีนี้ มันมียามาเกี่ยวข้องด้วย”
ไซเรนยังไม่ตอบว่าเขาจะยอมตรวจหรือไม่
พาสเวิร์ด เด็กหนุ่มในชุดกางเกงขาสั้นเก่าซีดแต่สะอาดสะอ้าน ท่าทางเกือบจะเป็นเด็กออทิสติค เวลาพูดมักจะไม่ค่อยมองหน้าคน มีความสามารถพิเศษในการจดจำ มีการจำเป็นแบบรูปภาพ และความสามารถในการคำนวน และทุกอย่างที่เป็นตัวเลข พาสเวิร์ดคิดเงินให้ลูกค้าสองคนพร้อมกัน โดยการชำเลืองมองขณะลูกค้าเก็บของใส่ถุง เจ้าของยื่นซองเงินเดือนให้ พาสเวิร์ดยิ้มรับไหว้ประหลกๆ
“429 บาท”
พาสเวิร์ดหันไปมองของลูกค้าคนที่สอง
“890 บาท”
ลูกค้าคนแรกจ่ายเงิน คนที่สองเพิ่มของพาสเวิร์ดเพิ่มตาม มีเจ้าของร้านท่าทางใจดียืนดูอยู่
“921 956”
ลูกค้าสนิทกัน แกล้งเอาของเข้าๆ ออกๆ จากถุง
“เธอทำได้ไง หะ พาสเวิร์ด”
“ก็ ก็บวกเลขเฉยๆ ไม่มีไรยาก 980 บาท”
“ติดกระดุมยากกว่าเนอะ”
ลูกค้าหัวเราะเขินๆ มองกระดุมเสื้อที่ติดสลับกันของพาสเวิร์ด เชนเข้ามา
“พอดีวันนี้ผ่านทางนี้ ไปกินข้าวกัน หิวแล้ว”
พาสเวิร์ดยิ้มดีใจ เชนเอื้อมมือมาปรับกระดุมให้เข้าที่
“บอกแล้วไง ว่าให้เริ่มติดเม็ดบนเม็ดแรกก่อนแล้วที่เหลือก็จะถูกเองไง”
“ไปๆ เอาเงินให้เฮียแปบนึง”
ระหว่างเดินถือสมุดตัวเลขขายของ พาสเวิร์ดเดินไปเอานิ้วไล่ตัวเลขแถวยาวไป พอเดินถึงเขียนยอดเสร็จพอดี
“ขอบใจนะพาสเวิร์ด”
พาสเวิร์ดเอาซองเงินออกมาเดินนับแล้วเดินกลับไปหาเจ้าของร้านใหม่ เชนเดินมามองห่างๆ
“เออ ผมไม่ได้วันละ 300 เหรอครับ”
“300 น่ะมันของคนปกติ แต่พาสเวิร์ดนี่ดีเป็นพิเศษเลยให้ร้อยหนึ่งไง”
พาสเวิร์ดยิ้มนึกว่าชมตัวเอง พยักหน้าเห็นด้วยแล้วจะเดินออก เชนมาพอดี
“พิเศษยังไง ต่างด้าวแม่งยังได้ค่าแรงเยอะกว่านี้อีก”
เจ้าของร้านค้าเริ่มแสดงธาตุแท้
“ก็มันปัญญาอ่อน”
“แล้วมันทำงานให้เฮียได้เหมือนๆ คนอื่น รึเปล่า”
พาสเวิร์ดพยายามห้ามเชน
“รับมันทำงานนี่ก็บุญแล้ว”
“ไอ้เวิร์ด มึงเลิกทำเลย ห่าวันละร้อย คิดเงิน ล้างส้วม ยกของ เช็คสต็อก เฮียแม่ง ใจทำด้วยอะไรวะ ตอนเด็กๆ แดกนมหมาปะเนี่ย ใจหมาจริงๆ”
เฮียตบหัวเชน พาสเวิร์ดขวางโดนถีบล้ม เชนจะสู้แต่เฮียชักมีด พาสเวิร์ดจะหยิบซองเงินที่หล่น เฮียวาดมีดมา พาสเวิร์ดสะดุ้งไม่กล้าเอา
“มึงออกไปเลย เนรคุณ
จักรเดินมาหยุดที่หน้าห้องเช่าซึ่งเป็นห้องพักของแม่พาสเวิร์ด ลูกน้องเคาะประตู เวลาเดียวกันนั้นที่ห้องพักเชน ซึ่งอยู่ชั้นบนของห้องพักแม่พาสเวิร์ด ตี๋ใหญ่นอนซุกอยู่มุมห้อง แผลเชือกรัดคอน่ากลัว ตี๋ใหญ่สะดุ้ง จักรเข้าไปในตึกแถว นั่งคุยกับแม่พาสเวิร์ดที่ซ่อมจักรยานไปด้วย
“มาก็จะแจ้งให้ทราบว่า ตอนนี้ยอดค้างจ่ายรวมเป็นสองแสนบาท ไม่ส่งดอกมาสองเดือน ผมคงต้องขอคำตอบว่าจะชำระกันยังไงดีครับ”
“ยืมมาสองหมื่นเองนี่”
“ก็ดอกก็ไม่ส่ง ก็ทบต้นทบดอก และก็ค่าติดตามหนี้ก็ตามนี้แหละ”
ตี๋ใหญ่แอบฟังอยู่ในห้องเชน
“ฉันจะไปหาดอกมาส่งวันนี้เลย แต่สองแสนมันไม่ไหวหรอก ลดให้หน่อยเถอะคนทำมาหากินเหมือนกัน”
พาสเวิร์ดกับเชนมาถึง พาสเวิร์ดไหว้สวัสดีจักร
“ผมไม่ได้มาต่อรอง ผมมาเก็บเงิน”
จักรหมุนล้อจักรยานทำให้มือแม่เข้าไปบดกับจานเกียร์เลือดทะลักออกมา แม่กรีดร้อง เชน พาสเวิร์ด ตกใจ พาสเวิร์ดเข้ากอดเอวจักร เชนจะต่อย จักรปล่อยมือซัดเชนลงไปกอง แล้วหันไปหาลูกน้องตัวเองที่ยืนงงอยู่
“นี่มึงจะยืนดูกูอีกนานมั้ย”
พาสเวิร์ดและเชนลุกขึ้นมา ลูกน้องจักรตามไปกระทืบพาสเวิร์ดและเชนต่อ จักรนั่งลงคุยกับแม่ต่อ
“นี่ถือเป็นการขัดดอกละกันนะ คราวหน้าวันที่สิบเจ็ด ถ้ายังไม่มี ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นขาข้างไหนของป้า ขอบคุณครับ”
จักรลุกออกไป พลางเดินคุยกับลูกน้อง
“เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าต้องทำงานยังไง”
ลูกน้องพยักหน้างึกๆ จักรตะโกนใส่หน้า
“นี่เป็นงาน เป็นอาชีพของมึง แล้วอย่าให้กูต้องมาทำงานโง่ๆ นี่อีก เข้าใจมั้ย”
ที่กองบัญชาการตำรวจ มีการฉายภาพนิ่งที่ถูกถ่ายมา เป็นร่างยุทธ และมีร่องรอยของยาเสพติดที่ปาก
“คงกลัวสุดๆ ถึงขั้นธาตุไฟแตกเลยนะ” น้ำผึ้งเปรย
“เคารพผู้ตายหน่อย” จ่าแดงเตือน
“ผลการตรวจฉี่ลูกชาย ไม่มีสารตกค้าง” บัญชาบอก
“ต่างกับพ่อ ผลตรวจเลือดพบว่า ใช้ยาเสพติดก่อนตายด้วย”
“พ่อดีเด่นในสายตาลูก”
บัญชามองดูซองจดหมายของบริษัทรักษาความปลอดภัยของอัศวิน ฉบับเดียวกันกับที่เจอตอนไปสอบสวนไซเรน จ่าแดงมองจดหมาย
“คงไม่คิดจะเรียกผู้บังคับบัญชามาสอบสวนหรอกนะครับ” จ่าแดงถามดักคอ
“บ้า ใครจะไปคิดสั้นอย่างงั้น”
จ่าแดงกับน้ำผึ้งโล่งอก
“แต่ถ้าเจอกันโดยบังเอิญก็อีกเรื่องหนึ่งนะ”
น้ำผึ้งกับจ่าแดงอ่อนใจ เป็นห่วงบัญชา
“แกว่งเท้าหาเสี้ยนทำไม ตกลงเราตามเรื่องโจรที่ปล้นรถขนเงิน หรือเจ้าของรถขนเงินกันแน่ แล้วเรื่องนี้ท้องที่ก็รับไปอยู่แล้ว ทำไมเราต้องมาตามดูอีกคะ”
บัญชาไม่พูดอะไร
ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 3 (ต่อ)
เชนเข้ามาในห้อง ลำคอตี๋ใหญ่เป็นรอยแดงเถือกพองอย่างน่ากลัว พาสเวิร์ด เชน อยู่ในสภาพที่โดนกระทืบมา เชนเดินมานั่งลง ดูคอตี๋ใหญ่
“หนักเลยนะพี่คราวนี้”
“แฟรงค์กี้”
พาสเวิร์ด ท่าทางซึมๆ ลงนั่งตาม
“ขอหลบที่นี่สักพัก แต่ดูเหมือนไม่ใช่พี่คนเดียวที่โดนหนักนะ มีอะไรกินบ้าง”
ทั้งตี๋ใหญ่กับเชนแค่นยิ้มให้กันในชะตากรรมของตัวเอง
บริเวณวัด อัศวินเดินคุยมากับไซเรน ท่าทางจริงจัง
“พ่อเราเป็นคนซื่อสัตย์มาก นอกเวลาราชการก็ทำงานกับอามานาน เสียใจด้วยนะ เรื่องพ่อ แม่ แล้วก็น้องด้วย”
ไซเรนพยักหน้า นึกถึงการตายของทุกคน
“พ่อก็บอกว่าคุณอามีบุญคุณ”
“รายงานว่าโดนแขวนคอ”
“พ่อเผชิญหน้ากับความตายอย่างสมศักดิ์ศรีครับ”
อัศวินพยักหน้าฟัง
“พ่อ ไม่กลัวความตายเลย”
ไซเรนช้ำใจ เนสมองไปทางไซเรน เห็นชายหนุ่มเดินแยกจากผู้คนไปสงบสติตามลำพัง อีกมุมหนึ่งของงานศพ บัญชา จ่าแดง น้ำผึ้ง ยืนคุยกันอยู่ จ่าแดงถามบัญชา
“อะไรทำให้ท่านคิดว่า ตี๋ใหญ่มันจะมา”
“เอาอีกและพี่แดงทั่นเทินอะไร”
“เอ่อ ครับๆ คุณหนูเล็ก”
“จ่า ชื่อนี้พ่อผมเรียกได้คนเดียวครับ เรียกหัวหน้าก็ได้ฮะ ไม่รู้สิครับ เผื่อฟลุ้คมั้ง”
“ซื้อหวย นั่นคือ เผื่อฟลุ้ค แต่หนูรู้ว่าหัวหน้าไม่ใช่คนเล่นหวยแน่ๆ”
“ไซเรนให้การว่า ตี๋ใหญ่เอายาพ่นขยายหลอดลมให้เขาตอนใกล้ขาดใจ มันน่าจะมีความรู้สึกอะไรอยู่มั่ง”
“สะใจ ทรมานให้ขมขื่น” น้ำผึ้งมองแง่ลบ
“คนอยู่กันเพียบขนาดนี้ มันไม่กล้ามาหรอก”
“ผมว่าไอ้นี่ ของจริง มันไม่กลัวหรอก”
บัญชามองไปรอบๆ อัศวินยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวหลายสำนักอยู่ จักรพาไซเรนมายืนข้างอัศวิน
“ท่านคะแล้วข่าวที่ท่านเป็นหุ้นหรือเจ้าของเอสจี ซิเคียวริตี้ จริงมั้ยคะ”
“น่าจะเป็นการเข้าใจผิดน่ะครับ ผมแค่เป็นที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยเท่านั้นครับ”
“แล้วกรณีนี้ทางตำรวจดูแลอย่างไรบ้างคะ”
“ในขั้นต้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ช่วยเหลือเงินสวัสดิการ และเงินฌาปนกิจศพครับ ส่วนผมในฐานะที่เป็นทั้งผู้บังคับบัญชาในสายงาน และก็รู้จักดาบยุทธมานาน ไซเรนลูกชายของดาบยุทธที่ดำเนินรอยตามพ่ออยู่แล้ว เพราะปีนี้เขาสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ ผมชื่นชมเขามาก ก็จะขออนุญาตรับอุปการะด้วยทุนส่วนตัวของผมเอง และก็คิดว่ากรมตำรวจจะได้ตำรวจหนุ่มที่เป็นสายเลือดของตำรวจแท้ๆ เพิ่มขึ้นอีกคนครับ”
นักข่าวถ่ายรูป แฟลชวูบวาบ ไซเรนมองช็อคไป
“สำหรับเรื่องการตามตัวคนผิดมาลงโทษนั้น ผมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในท้องที่เกิดเหตุ ตรวจสอบและติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษให้เร็วที่สุด เพราะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญประชาชนมาก ตำรวจยังอยู่ไม่ได้แล้วประชาชนจะอยู่กันอย่างไร”
หลังจากสวดศพเสร็จแล้ว แขกมาร่วมงานทยอยกลับเกือบหมด อัศวินหันมาบอกไซเรน
“อากลับก่อนนะ แล้วเรื่องที่กินที่อยู่ อาอยากให้เรามาอยู่ด้วยกันซะเลย จะได้ไม่ลำบาก”
ไซเรนชั่งใจ
“ไม่ต้องเกรงใจ”
“ผมขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน ขอบคุณครับ”
อัศวินกลับไป ไซเรนเดินไปหน้าโลง เนสมาจับไหล่
“วันนี้กลับไปนอนพักที่บ้านเถอะนะ พรุ่งนี้เราค่อยมาพร้อมกัน”
ไซเรนพยักหน้ารับ แล้วขึ้นรถแท็กซี่กลับไปที่แฟลตตำรวจพร้อมเนส เขาลงจากแท็กซี่ เนสมองด้วยความเป็นห่วง
ตี๋ใหญ่นั่งมองเชือกผูกคอที่ติดมา พาสเวิร์ดออกมาจากห้องน้ำ มีปัญหากับการติดกระดุมอีกแล้ว เชนไปติดให้ พาสเวิร์ดยิ้มให้
“บอกแม่มึงด้วยนะว่าเลิกซื้อกางเกงแบบกระดุมให้มึงได้แล้ว เพราะมันลำบากมาถึงกู”
ตี๋ใหญ่ยังคงมองเชือกแบบไม่สบายใจ ไม่สนใจลูกน้องเลย เชนกับพาสเวิร์ดมองหน้ากัน
“จัดการเรื่องที่บ้านเรียบร้อยมั้ย เชน”
“ครับ ตอนนี้ผมเคลียร์หนี้สินที่บ้านทุกอย่างแล้วพี่ ขอบคุณพี่มากๆ เลย ถ้าไม่ได้พี่ผมคงไม่รู้จะทำไง” เชนยกมือไหว้
“เฮ้ย มันก็ส่วนของแกด้วยนั่นแหละ แล้วนี่”
ตี๋ใหญ่มองพาสเวิร์ด
“พาสเวิร์ด ร้านจักรยานข้างล่างของแม่มัน ผมเช่าอยู่บนนี้เลย สนิทกัน มันช้าๆ หน่อยพี่ไม่มีไร แต่เรื่องตัวเลขกับความจำนี่สุดยอด เห็นทีเดียวมันจำได้หมด”
“เออ แต่ๆ ตกงานแล้วด้วย”
“แล้วมึงจะปล่อยให้ไอ้เถ้าแก่นั่นกดขี่มึงงั้นดิ”
“แม่ยังเล่นหวย แทงบอลอยู่ป่ะ” ตี๋ใหญ่ถามเชน
“เลิกแล้วพี่ กลับไปทำนาที่บ้านที่สุพรรณแล้ว พี่อ่ะ โอเคปะ”
“สภาพนี้คงต้องอยู่นิ่งๆ สักพัก”
กลางคืน ไซเรน นั่งร้องไห้เหงาๆ ตามลำพัง มองรูปเก่าๆ เขานั่งอยู่ในห้องที่เงียบเหงา เสียงแห่งความสุข เสียงพ่อ แม่ น้อง พูดคุยกันกับเขา ยังคงดังเเว่วอยู่ภายในห้องที่ไม่มีใครอยู่อีกต่อไปแล้ว นอกจากตัวเขาเอง
ภาพในความฝัน อดีตที่พ่อตี๋ใหญ่ตายผสมกับพ่อไซเรนตาย ภาพใต้น้ำ พรายผุดฟ่อง ผู้ชายโดนจับกดน้ำตะกุยตะกาย คนร้ายเอาหน้าพ่อตี๋ใหญ่กดใส่กะละมังน้ำตื้นๆ ตายกลางห้องรับแขก ภาพเท้าคนตะกุยตะกาย ดิ้นพล่านพรายน้ำเป็นฟอง พ่อของตี๋ใหญ่ถูกจับกดน้ำอยู่ สองมือถูกมัดไขว้หลังเอาไว้ ตี๋ใหญ่ในวัยหนุ่ม แอบดูอยู่ในเงามืด ทำอะไรไม่ถูกแทบเสียสติ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและความแค้น
ยุทธพ่อของไซเรนดิ้นขาดใจตาย และเสียงตี๋ใหญ่พร่ำขอโทษ ตี๋ใหญ่สะดุ้งตื่น พบพาสเวิร์ดนั่งมองเขาในระยะที่ใกล้มาก
“โจ๊ก เดินไปซื้อในตลาด ไปกลับ หกร้อยสี่สิบห้าเก้า ใช้เวลา ยี่สิบเก้านาที สิบวินาที ร้านเลขที่สิบสอง ทั้งตลาดมีหนึ่งร้อยห้าสิบแปดล็อก วันนี้เจ้กุ๊กล็อกสามแถวกลางไม่มาขาย แต่ไม่เป็นไร ร้านนี้อร่อยกว่านะ” พาสเวิร์ดจัดแจงใส่จานให้อย่างขะมักเขม้น ตี๋ใหญ่กำลังจะตักกิน
“พี่ๆ ขอยืมเงินได้มั้ยครับ”
ตี๋ใหญ่มองงงๆ
เนสเดินมาพร้อมถุงปาท่องโก๋ โจ๊ก แปลกใจที่ประตูห้องไซเรนไม่ได้ล็อค เนสหายเข้าไปในบ้าน ร้องเรียกไซเรน เธอเดินออกมาอย่างกังวล เริ่มเดินหา จนไปเจอไซเรนนอนอยู่แถวบันได
“เรน เรน อยู่ไหน เรน”
ไซเรนพูดอย่างยากลำบาก อัดอั้น
“เราอยู่ในบ้านไม่ได้แล้วจริงๆ”
เนสมองอย่างเข้าใจ
“กินอะไรซะหน่อยนะ นิดนึงก็ยังดี”
“ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ พ่อเป็นคนดีจะตาย แม่เป็นแม่ที่น่ารักที่สุด ตัวเล็กก็แค่หกขวบเอง”
เนสไม่รู้จะปลอบเพื่อนอย่างไร
“เรน เรนต้องมีสตินะ เรนต้องมีชีวิตต่อไป เหตุการณ์นั้น มันก็ผ่านไปแล้ว อย่าคิดมากเลยนะเรน”
“ผ่านไปโดยที่ยังไม่มีใครจับคนฆ่าพ่อได้เลย”
ไซเรนเห็นภาพหลอนเป็นภาพขาพ่อกระตุกอยู่ใกล้ๆ
“ยังไง พวกเขาทำผิดอะไร คนเราทำดีทำไมไม่ได้ดี ทำไมต้องเหลือเราคนเดียวด้วย ทำไมไม่ตายไปด้วยกันเลย อย่าคิดมากเหรอ โอเคเมื่อวานพ่อ แม่ น้องเราถูกไอ้โจรชั่วนั่นฆ่า วันนี้เราต้องบอกตัวเองว่าช่างมัน ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละ”
เนสน้อยใจน้ำตาคลอ
“เราก็แค่ห่วงเรนนะ เราไม่รู้จะพูดอะไรให้ไซเรนสบายใจ”
ที่กองบัญชาการตำรวจ บัญชานั่งรออยู่ ชะเง้อมองรอการมาของอัศวิน แล้วทำเป็นเดินผ่านมาโดยบังเอิญ
“เออ จ่าแดง ไม่ได้ยิงปืนมากี่ปีแล้ว”
“ไม่ได้ชักออกจากซองมาสิปปีแล้วมั้งครับ”
“สนิมเกาะ ลูกปืนด้านหมดแล้วมั้งลุง จุดสามแปด ลูกโม่หกนัด เฮ้อ จะเอาไรไปสู้กับโจรสมัยนี้ลุง นี่กล็อก18 นัด”
น้ำผึ้งชักปืนกล็อกด้ามสีชมพูออกมา
“นี่ปืนหรือของเล่นเนี่ย” จ่าแดงแซว
“งั้น เราหาเวลาไปซ้อมกันหน่อย” บัญชาชวน
“งานนี้ถึงกับต้องยิงกันด้วยเหรอครับ”
“มาแล้วค่ะ”
น้ำผึ้งหันมาบอกบัญชา อัศวินกำลังลงจากรถประจำตำแหน่งที่มีตำรวจชั้นผู้น้อยขับรถเข้ามาจอด บัญชาเดินสวนออกไป ทำความเคารพอัศวิน อัศวินพยักหน้าจะเดินผ่านไป แล้วหันมาทัก
“เมื่อวานเห็นน้องที่วัด น้องทำคดีเอสจีเหรอ”
“อ๋อ มิได้ครับท่าน ท้องที่รับไปครับ แต่ก็พอทราบเรื่องครับ ลูกน้องผมรู้จักผู้ตายครับ”
อัศวินสนใจ “รีบอยู่รึเปล่า”
“มิได้ครับ”
“รูปคดีเป็นยังไงมั่ง”
“เท่าที่ทราบ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าครับผม แต่”
“ว่ามา”
“ครับ”
“เมื่อกี๊ คุณบอกว่า แต่”
“อ๋อ”
“เเล้วเรื่องอะไร”
บัญชายิ้ม เช็คอาการอัศวิน
“มีร่องรอยยาเสพติดในที่เกิดเหตุ”
“คนร้ายมันพกยาไปที่เกิดเหตุด้วยเหรอ”
“น่าจะใช่นะครับ จะปล้นเงิน ก็เลยเอายาไปอัพซะหน่อย เพิ่มความกล้าบ้าบิ่น”
“งั้นเราก็เข้าใจตรงกัน ไปปฏิบัติหน้าที่เถอะ”
“ครับผม”
บัญชาทำความเคารพ แล้วเดินหันหลังจากไปยิ้มๆ อัศวินมีท่าทีปกติ ไม่ได้มีพิรุธอะไร
ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 3 (ต่อ)
ภายในที่พักเชน พาสเวิร์ดคุยกับตี๋ใหญ่
“ให้ผมทำไรก็ได้คับ มันทำมือแม่เลือดออด แม่เจ็บ เพราะแม่ไปขอเงินยืมเงินมันมาสองหมื่นตอนผมไม่สบาย ตอนๆ นี้ สองแสน ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาคิดยังไง ทำไรให้พี่ได้ทุกอย่าง ระ เริ่มวันนี้เลย ผมขอๆ วันละสามร้อย สองแสน เท่ากับ หกร้อยหกสิบหกวันครึ่ง ผมแถมให้นะเป็นหกร้อยหกสิบเจ็ดวันครับ ทุกอย่างจริงๆ นะ อยากรู้เบอร์โทรศัพท์ของใครก็ได้ทั้งประเทศนี้เลย”
ตี๋ใหญ่สงสัย
“ใครก็ได้ที่อยู่ในสมุดโทรศัพท์”
“ทุกคนจริงเหรอ นายสว่าง น้อมคำสอน”
“บ้านเลขที่ 55 ถนนสุขใจ หนองจอก”
ตี๋ใหญ่ตะลึง
“แต่ถูกไฟไหม้ตายหมดแล้วนิ”
“รู้ได้ยังไง”
ตี๋ใหญ่ถามเสียงดังจนพาสเวิร์ดตกใจ
“ก็อ่านหนังสือพิมพ์แล้วจำได้ อ่านอะไรแล้วไม่ลืม”
ตี๋ใหญ่อึ้ง
“เงินยืมได้มั้ย”
ตี๋ใหญ่มองเวทนา มองต่อไปที่ถุงเงินที่ซ่อนอยู่
จ่าแดง น้ำผึ้ง บัญชา ซ้อมยิงปืนไปคุยกันไป น้ำผึ้งแม่นที่สุด จ่าแดงยิงนัดแรกกระสุนด้าน
“ดินปืนชื้นหมดแล้วมั้งเนี่ย”
จ่ายิงแชะๆ อีกสองนัด เอาลูกปืนออกมาดู
“ตัวพ่อ ก็เคยเป็นตำรวจมือสะอาดมาก่อนนะ ไปเจออะไรเข้า ถึงเปลี่ยนไป” บัญชาเปรย
“เงินอย่างเดียว”
น้ำผึ้งยื่นปืนตัวเองให้จ่าแดงยืมยิง
“คนเราก็ต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย”
จ่าแดงบอก แต่น้ำผึ้งไม่เห็นด้วย
“อ้างได้ปะ ครอบครัวอื่นเขาก็มีลูกเมียนะ”
“อะไรมันก็พาเราเลวได้ทั้งนั้น เพื่อคนที่เรารัก หรือสำหรับคนที่เราเกลียด” บัญชาสรุป
จ่าแดงยิงปืนไม่โดนเป้า น้ำผึ้งแซว
“เป้าสะอาดมากจ่า”
จ่าแดงเอาแว่นสายตามาใส่ ยิงเข้าเป้าแม่นมาก ยิ้มเขินๆ
“ลืมใส่แว่น คนมันแก่แล้ว”
ตี๋ใหญ่เดินสวนกับหลินในตรอกแห่งหนึ่ง สิ่งที่ประหลาดใจคือหลินถือบางอย่างที่ทำเสียงแก๊กๆ ตลอดเวลา ซึ่งคือที่ทำเสียงสะท้อนสำหรับคนตาบอด ที่จะแปรเสียงสะท้อนมาสร้างเป็นภาพในสมอง ทำให้สามารถเดินได้โดยไม่ต้องมีไม้เท้า ขี่จักรยานก็ได้ และสามารถแยกแยะวัตถุได้ด้วยว่าเป็นต้นไม้ หรือปูน ระหว่างเดินสวนกันหลินเหมือนมองตี๋ใหญ่ตลอด ตี๋ใหญ่หลบตา
ภายนอกบ้านร้างหลังเล็ก ที่รกร้างต้นไม้ปกคลุมไปทั่ว ภายในแทบจะไม่เหลืออะไรเพราะถูกรื้อขโมยไปหมด ตี๋ใหญ่เดินเหงามาเจอเศษรูปครอบครัวตัวเองซึ่งไหม้ไฟโดนส่วนที่เป็นหน้าไปหมด แต่พอเดาได้ว่าเด็กคนนั้นคือตี๋ใหญ่ เขานึกถึงอดีตที่พ่อแม่โดนทรมาน ตี๋ใหญ่แค้นระคนเศร้า
ตี๋ใหญ่นั่งแท็กซี่ เหม่อมองไปนอกหน้าต่าง สักพักมีรถมาจอดติดไฟแดงเทียบข้าง และก็เป็นหลินที่มองมาทางตี๋ใหญ่อย่างไม่สะทกสะท้าน
มิลค์แอบสูบบุหรี่ กำลังโทรศัพท์ไปที่เบอร์แฟรงค์กี้แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ เธอเริ่มหงุดหงิดเพราะยาหมดแล้ว ตอนนี้เธอไม่ได้ใช้มันเพื่อลดความอ้วนอีกต่อไป มีสายเข้าสวนมา
“พ่ออยู่หน้าบ้านแล้วลูก เดี๋ยวพ่อขอแวะทำธุระแป๊บหนึ่ง แล้วเราเลยไปทานข้าวกัน”
มิลค์สำลักควัน สะดุ้ง รีบทิ้งบุหรี่
“ค่ะๆ พ่อ”
จักรขับรถตู้ให้อัศวิน มิลค์กระโดดขึ้นด้านหน้า
“ไม่มานั่งด้วยกันล่ะลูก”
“ไม่เอาค่ะ วันนี้อยากนั่งกับพี่จักร”
มิลค์เอาสเปรย์ดับกลิ่นปากมาฉีด เธอมีอาการอยากยา จักรลอบสังเกต
“หิวมั้ยลูก หาอะไรรองท้องก่อน”
เสียงแต๊กๆ ดังขึ้นในร้านชำเล็กๆ ใกล้บ้านเชน ตี๋ใหญ่สะดุด เปิดตูหยิบน้ำมาดื่ม ปิดประตูตู้เก็บน้ำ หลินมองมายังตี๋ใหญ่ เขาปิดตู้ เดินหนีไป
พาสเวิร์ดนั่งจ้องแท็บเล็ตอยู่ภายในห้องเชน เชนเข้ามา เห็นตี๋ใหญ่กำลังเปลี่ยนเป็นชุดตำรวจ
“ไหนว่าจะพักไงพี่”
“เด็กนั่นติดหนี้ใคร”
“แม่มันไปเอาเงินพวกปล่อยกู้นอกระบบอ่ะพี่”
“เขากวาดล้างกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เฮ่อ พูดเป็นเล่นน่ะพี่ ตัวผมเองยังเอาไม่รอด ไม่รู้จะช่วยมันยังไง แล้วพี่จะไปไหน”
“วัด”
“เฮ้ย เสี่ยงไปมั้ยพี่”
“ไม่มีไรหรอก ว่าจะรอให้คนกลับหมด ไปไหว้หน่อย พี่เป็นสาเหตุให้เขาต้อ
ตายทั้งสามคน ไปไหว้จากไกลๆ ก็ยังดี”
“ได้พี่ งั้น ผมไปด้วย”
ตี๋ใหญ่หันไปยิ้มเศร้าๆ คนเดียว เชนมองอย่างเข้าใจ
เนสนั่งจัดดอกไม้อยู่บนศาลา ไซเรนนั่งซึม อัศวินรับธูปจากเนสไหว้ศพ แล้วเดินมาหาไซเรนที่นั่งเหม่อข้างกระเป๋าเป้ใบหนึ่ง ไซเรนเห็นภาพหลอนของเจ้าหน้าที่วัดที่ขึ้นไปเปลี่ยนหลอดไฟ แต่เห็นเป็นขาพ่อชักขาดใจ เขารู้ว่าเป็นภาพหลอนแต่ก็น้ำตาคลอ จึงตัดสินใจบอกอัศวิน
“ผมเก็บของมาแล้วครับ”
“ดีๆ ไม่ต้องเกรงใจนะ มีเท่านี้เองเหรอ วันนี้ไปบ้านอาก่อน”
ไซเรนพยักหน้า
“เลยเวลารายงานตัวไปหลายวันแล้วใช่มั้ย พรุ่งนี้อาไปส่งเอง”
จักรยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างรถตู้ มิลค์เปิดประตูลงมาอย่างหงุดหงิด
“ทำไมไม่มีสัญญาณ”
จักรมอง ยื่นบุหรี่ มิลค์วางฟอร์มนิดหนึ่ง ก่อนหยิบ จักรจุดไฟให้
“ยังไม่เข้าไปหาคุณพ่ออีกเหรอ”
“ก็ชวนมากินข้าว ไม่ได้มางานศพ”
“ในงานมีข้าวต้มนะครับ”
มิลค์ยิ้มคนเดียว เหลือบไปเห็นเนส แปลกใจ เดินเข้าไปหา
ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 3 (ต่อ)
ตี๋ใหญ่ซ้อนมอเตอร์ไซค์เชน มาจอดแถวเจดีย์ โกศบรรจุอัฐิ
“จุดจบของเรื่องนี้มันจะเป็นไงอ่ะพี่ มันต้องไปถึงขนาดไหนพี่ถึงจะพอใจ”
ตี๋ใหญ่นิ่ง
จ่าแดงเดินไปที่เตรียมข้าวของศาลา บอกกับแม่ครัว
“ขอเบิ้ลหน่อยนะแม่ครัว”
แม่ครัวมองหน้า
“มางานนี้รึเปล่า”
“ปัดโธ่ ก็มางานสามคนพ่อแม่ลูกนี่แหละ”
แม่ครัวตักให้นิดเดียว บัญชา น้ำผึ้ง แอบหัวเราะจ่าแดง
“นี่เรามาทำไมกันทุกวันคะหัวหน้า ไม่เห็นจะมีประโยชน์เลย”
“มีสิ อิ่มจัง ตังค์ก็ไม่เสีย” จ่าแดงตอบแทน
“เอ้า ก็จ่าแดงรู้จักคนตายนี่”
บัญชาสังเกตภายในงานศพตลอดเวลา ไม่ได้ทำเป็นเล่นๆ เหมือนที่แสดงออก
ตี๋ใหญ่เศร้าๆ ยืนมองบรรยากาศงานสวดศพ มีคนเข้ามาไหว้กันประปราย มีตำรวจในและนอกเครื่องแบบคละกันไป แสงจากไฟแฟลชของนักข่าวดึงให้ตี๋ใหญ่มองตาม เห็นอัศวินโอบให้กำลังใจไซเรนอยู่
ตี๋ใหญ่ช็อค ใบหน้าไม่แสดงออกอะไรแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความแค้น ดุดัน เขาเดินออกไป เชนหันมอง งง
“พี่ เฮ้ยพี่ ไปไหน เป็นเรื่องแล้วไง”
เชนทำอะไรไม่ถูก จะตามหรือไม่ตามดี
เนสเอาน้ำมาให้อัศวิน ไซเรนเหวอๆ อยู่ มิลค์ถาม
“ญาติเนสหรอ”
“เอ่อ”
“ไซเรนที่จะย้ายไปอยู่กับเราที่บ้านน่ะลูก”
“สวัสดีค่ะคุณอา ไซเรนเป็นเพื่อนสนิทเราเอง”
มิลค์มองไซเรน ชอบ
“อ้อ ไปยังคะ”
บัญชา จ่าแดง น้ำผึ้งทำเป็นเดินผ่านจะไปไหว้ศพ แล้วเห็นอัศวินพอดี หันมาทำความเคารพ อัศวินรู้สึกได้ว่าไม่ปกตินักที่เจอบัญชาที่นี่
“เอ้ารู้จักยุทธด้วยเหรอ”
“พอดีมากับจ่าแดงน่ะครับ แกเคยทำงานกับยุทธ”
จ่าแดง น้ำผึ้ง ทำความเคารพ แล้วเดินไปทางศพ ไซเรนมองไปที่โลง เริ่มจะเก็บอารมณ์เศร้าที่ทะลักไม่อยู่ ตี๋ใหญ่เข้ามาในงานแล้ว กำลังจะเดินสวนกับจ่าแดง น้ำผึ้ง และไซเรนที่ตามมา จ่าแดงเห็นตำรวจในเครื่องแบบหลายคน ทำให้ตี๋ใหญ่กลมกลืนในกลุ่มตำรวจที่มาร่วมงาน ตี๋ใหญ่ใส่แว่นเดินก้มหน้าสวนมา
ตี๋ใหญ่จะหยิบปืนออกจากซองปืน กำลังจะเดินผ่านไซเรน เขาแอบมองไซเรนเศร้าๆ เนสเอาธูปให้ จ่าแดง น้ำผึ้งไหว้ศพ อัศวินคุยกับบัญชา กลุ่มตำรวจและภรรยาตำรวจที่มาร่วมงานศพคุยกันถึงครอบครัวไซเรน
“น่าสงสารนะ ตายกันยกครัวเลย น้องสาวคนเล็กนึกว่าจะรอด เพิ่งไปฉลองวันเกิดกันมาแท้ๆ เล้ย”
“อื่ม ดาบยุทธเอง ก็ขยันมาก งานนอกไหนมีทำหมด”
“คนดีต้องมาตายแท้ๆ เล้ย”
ไซเรนยืนโงนเงนเซไปเกาะตี๋ใหญ่ ร้องไห้ออกมา หลายคนเริ่มมองมารวมทั้งอัศวินและบัญชา ตี๋ใหญ่จำต้องก้มหน้า กอดไซเรน ไซเรนยิ่งกอดแน่นขึ้น ตี๋ใหญ่พยายามปลอบ
“เข้มแข็งนะ พ่อแม่น้อง เขาคงอยากให้น้อง เข้มแข็งนะ และมันก็จะผ่านไปได้ แต่อย่าลืมความเจ็บปวดนี้นะ ใจเย็นหายใจเข้าลึกๆ”
ตี๋ใหญ่เหลือบตามองอัศวินทั้งเศร้าทั้งแค้น ลูบหลังปลอบ ไซเรนพยายามฝืนไม่ร้อง เขาเห็นรอยเชือกที่คอของตี๋ใหญ่ ไซเรนปะติดปะต่อเรื่องรอยเชือก ตี๋ใหญ่ค่อยๆ หลบออกไปทางช่องด้านหลัง ไซเรนเดินไปที่โลงพ่อนึกได้ว่าเป็นรอยเดียวกับที่คอพ่อ เขาวิ่งไปอย่างคลั่งแค้น วิ่งไปตะโกนไป ชนสิ่งของพวงหรีดล้มระเนระนาด
“หยุด หยุด”
ทุกคนตกใจหันมอง จ่าแดง น้ำผึ้ง หันมองบัญชาที่ให้สัญญาณให้ตามไป บัญชาฉีกไปดักอีกทางหนึ่
จักรเข้ามาประกบอารักขาแล้วนำตัวอัศวินไปขึ้นรถ ไซเรนวิ่งลัดเลาะไปตามทางแคบหลังศาลา เจอทางแยก วิ่งเลี้ยวไป
จ่าแดงกับน้ำผึ้ง เลี้ยวไปอีกทาง ไซเรนเกือบคว้าตี๋ใหญ่ได้ แต่ถูกตี๋ใหญ่ใช้เหลี่ยมดันจนกระเด็นเข้าไปในกองพวงหรีดและขาตั้งเก่า แต่พลาดลื่นล้มเช่นกัน ทั้งคู่ฟัดกันอยู่ในดงพวงหรีด ไซเรนสู้แบบมวยวัดด้วยความคลั่งแค้น สุดท้ายตี๋ใหญ่จำต้องชกไซเรนเพื่อเอาตัวรอด
จ่าแดง น้ำผึ้ง ได้ยินเสียงต่อสู้ตามเสียงมา เห็นหลังตี๋ใหญ่ไวๆ ออกวิ่งตาม บัญชาถือปืน ลัดเลาะอยู่อีกมุมหนึ่ง จ่าแดงกับน้ำผึ้งวิ่งตามตี๋ใหญ่ไปตามซอกทางเดินระหว่างศาลา น้ำผึ้งวิ่งไปยิงไป จ่าแดงร้องห้าม
“อย่ายิงๆ”
จักรขับรถในวัดเพื่อพาอัศวินออกไปให้เร็วที่สุด เขาเอาปืนมาวางไว้ข้างๆ เตรียมพร้อม
“ช้าหน่อยก็ได้พี่จักร” มิลค์เตือน
น้ำผึ้ง วิ่งตัดถนนในวัดตัดหน้ารถจักรไป จ่าแดงตามมาช้ากว่า รถเบรคพอดีกระแทกจ่าแดงล้มลงไป น้ำผึ้งละล้าละลัง ตัดสินใจกลับมาดูจ่าแดง จ่าแดงเจ็บข้อมือ แต่ก็ดุน้ำผึ้ง
“ใครสอนให้ยิงคนที่ไม่มีอาวุธ จากด้านหลัง หะ”
“ก็มันวิ่งหนี”
“แล้วมันมีปืนเหรอ”
“ก็ไม่แน่”
“คนดีคนร้ายก็ยังไม่รู้ ไปยิงเขาได้ยังไง ปืนเขาเอาไว้คุ้มครองประชาชน ไม่ใช่ทำร้าย”
“เออๆ จ่าเป็นไงบ้าง”
ไซเรนเซออกมาจากกองพวงหรีด ตะโกนขึ้นฟ้าด้วยความคับแค้น ชกไปที่ผนัง เนสวิ่งมาห้ามไซเรน กอดเขาไว้ ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง
“ไซเรน อย่า”
“เรากอดมัน เรากอดไอ้คนที่มันฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าน้องเรา มันต้องการอะไร”
ตี๋ใหญ่เดินเลียบรั้ววัดด้านนอก บัญชาโผล่มาดักแต่อยู่ในรั้ว จ่อปืน
“หยุด เอามือไว้บนหัว หันหน้ามา”
ตี๋ใหญ่ทำตาม แต่ยังไม่ยอมหันหน้ามา
อ่านต่อตอนที่ 4