xs
xsm
sm
md
lg

รัตนาวดี ตอนที่ 18 จบบริบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รัตนาวดี ตอนที่ 18 อวสาน

เช้าวันใหม่ รัตนาวดีใส่เสื้อคลุมสบายๆ ยืนมองวิวที่หน้าต่างห้องนอน
 
ป้าสร้อยมาแอบมองรัตนาวดี สีหน้าป้าสร้อยเป็นทุกข์ เพราะรู้สึกสงสารที่รัตนาวดีชอบนายเล็ก แต่ไม่อาจสมหวังได้ ป้าสร้อยยืนคิดนิดหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปหาถามอย่างห่วงใย
"ทูนหัวของป้า....ทรงหิวไหมเพคะ"
รัตนาวดีหันมา จะเห็นว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มา
"ไม่ละค่ะ...ป้าล่ะคะ..ถ้าป้าหิวก็สั่งของขึ้นมาทานดีไหมคะ"
"ป้าก็ไม่ค่อยหิวหรอกเพคะ"
รัตนาวดีหันไปมองวิวแบบเดิม...สีหน้าป้าสร้อยยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น ...ป้าสร้อยตัดสินใจเดินเข้าไปหา
"วันนี้ถ้าท่านดนัยเสด็จมา ป้าอยากให้ท่านหญิงทัยเย็นๆ ค่อยๆพูดจากัน...ฟังเหตุผลของท่านพจน์ และเสด็จด้วยนะเพคะ"
รัตนาวดีหันมาสีหน้าน้อยใจเต็มที่
"ป้าไม่รักหญิงใช่ไหมคะ....ทำไมต้องบังคับให้หญิงทำในสิ่งที่หญิงไม่ชอบ...ป้าไม่เคยขัดใจหญิงอย่างนี้เลย...ทำไมต้องมาขัดใจหญิงเรื่องท่านดนัย...ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าหญิงเกลียดท่าน"
รัตนาวดีเสียงเข้ม ป้าสร้อยพยายามปลอบโยนพูดดีๆ
"ก็เพราะหม่อมฉันรักทูนหัวมากยิ่งกว่าชีวิตตัวเองน่ะสิ เพคะ…หม่อมฉันเลี้ยงของหม่อมฉันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เฝ้ามองท่านเจริญชันษาทุกปี...ทุกปีด้วยความภูมิใจ...คอยเฝ้าระวังทุกอย่างไม่ยอมให้ทูนหัวต้องเสียพระเกียรติ...อยากให้ทรงได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น"
รัตนาวดีมองป้าสร้อยด้วยสายตารักใคร่ กอดป้าสร้อยไว้
"หญิงรู้ค่ะ...หญิงไม่มีแม่...มีแต่ป้าที่เลี้ยงหญิงมาจนโต... ทำให้ทุกอย่างสารพัด...ทนฤทธิ์เดชหญิงไม่เคยบ่น"
ป้าสร้อยเช็ดน้ำตาทั้งๆ ที่ยิ้ม
"ทรงรู้เหมือนกันใช่ไหมเพคะว่าท่านน่ะฤทธิ์เดชขนาดไหน...แต่ครั้งนี้...ป้าขอร้องนะเพคะ...ป้าขอร้องให้ทูนหัวพบกับท่านพี่ ถ้าทรงยอมแต่งงานด้วย...ต่อไปภายหน้า...หม่อมฉันจะได้ตายตาหลับ...ไม่ต้องห่วงทูนหัวของหม่อมฉัน"
"หญิงไม่อยากแต่งงานกับท่านดนัย...ป้าไม่ต้องห่วงนะคะ ว่าหญิงจะตัดสินใจตามใจตัวเอง...หญิงรู้หน้าที่ดี...ถึงหญิงจะต้องทุกข์ทรมานใจแค่ไหน...หญิงก็จะไม่ทำผิดต่อวงศ์ตระกูลหรอกค่ะ...ถ้าหญิงไม่ได้แต่งงานกับคนที่หญิงรัก....หญิงก็จะอยู่ของหญิงอย่างนี้แหล่ะ...ป้าจะเบื่อหญิงหรือเปล่าล่ะคะ...ถ้าป้าเบื่อ...ไม่อยากอยู่กับผู้หญิงที่เป็นสาวทึนทึกที่ทำให้ป้าอายหญิงก็จะขอเจ้าพี่ให้ประทานเรือนเล็กๆ อยู่ของหญิงคนเดียว"
รัตนาวดีถอนสะอื้น ป้าสร้อยโผเข้ากอดไว้แน่น
"ทูนหัวของป้า....ไม่ว่าท่านหญิงจะทรงเป็นอย่างไร ป้าก็จะคอยรับใช้...จนกว่าจะตายจากไป...ถึงตอนนั้น...ท่านหญิงอาจจะทรงเบื่อหม่อมฉันเสียก่อนก็ได้เพคะ"

รัตนาวดียิ้มทั้งน้ำตา
"หญิงไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย....เอ....แต่ตอนป้าบ่นมากๆ ก็ไม่แน่เหมือนกันนะคะ"
ทั้งสองคนหัวเราะทั้งน้ำตา
"หม่อมฉันก็จะพยายามบ่นให้น้อยที่สุดเพคะ"
"แปลว่ายังไงๆ ก็ต้องบ่นอยู่ดี...เฮ้อ...ทำยังไงได้...ก็ป้าอยากมาเลี้ยงหญิง...หญิงก็ต้องทน....เฮ้อ"
รัตนาวดีกอดป้าสร้อยหัวเราะไปด้วยกัน...

ท่านดนัยยืนรอวิมลด้วยท่าทางร้อนใจ วิมลรีบเดินมาหา
"มีเรื่องด่วนอะไรวิมล"
วิมลยิ้มอายๆ ยกมือไหว้ขอโทษ ระบายอย่างอึดอัดใจเต็มแก่
"ขอประทานอภัยเพคะ...หม่อมฉันใจคอไม่สู้ดี...ไม่เคยมีความลับกับท่านหญิง....มันรู้สึกเหมือนอกจะแตก อยากจะทูลซะให้ได้...เมื่อวานหม่อมฉันก็ลุกลี้ลุกลนเกือบจะหลุดปากจนท่านหญิงเกือบจับได้ ก็เพราะไอ้ท่าทางของหม่อมฉันนี่แหล่ะเพคะ"
ท่านดนัยอยากหัวเราะแต่ก็ทำหน้าเข้ม
"อย่าเชียวนะวิมล...ถ้าน้องหญิงได้รับฟังความจริงจากคนอื่นที่ไม่ใช่ผม...จะทรงกริ้วมาก...อาจจะทรงตัดความสัมพันธ์กับผมไปเลยก็ได้"
"จริงเพคะ... หม่อมฉันก็อึดอัดเหลือเกิน ฝ่าบาทรีบหาโอกาสทูลความจริงเสียทีเพคะ หม่อมฉันสงสารท่านหญิงเหลือเกิน...หม่อมฉันกลัวว่าตัวเองจะหลุดปากทูลความจริงน่ะสิเพคะ"
ท่านดนัยร้อนใจ
"ฉันก็ร้อนใจมากกว่าเธอหลายเท่านะ...เอาอย่างนี้...คืนนี้หลังดินเนอร์ เธอพาท่านหญิงออกมาเดินเล่นตรงโน้นนะ"
วิมลดีใจ
"ได้เพคะ...หม่อมฉันจะชวนท่านหญิงมาให้ได้...เมื่อไหร่ที่ท่านชายปรับความเข้าใจกับท่านหญิงได้...หม่อมฉันจะดีใจมากเพคะ"
"ฉันจะบอกความจริงน้องหญิงคืนนี้ให้ได้"

ท่านดนัยมั่นใจ

เวลาที่เปลี่ยนไป ทุกคนกำลังทานอาหาร ทุกคนเป็นห่วงรัตนาวดี ที่ทานอาหารแบบหมดอาลัยตายอยาก

รัตนาวดีเดินมากับป้าสร้อย และวิมล วิมลท่าทางลุกลี้ลุกลน จนป้าสร้อยสังเกต
"เป็นอะไรน่ะวิมล...ทำท่าแปลกๆ"
วิมลหาทางที่จะแยกรัตนาวดีจากป้าสร้อย
"เอ้อ...หนูยังไม่อยากขึ้นไปนอนเลยค่ะคุณป้าสร้อย ท่านหญิงเพคะ...เราไปเดินเล่นกันสักหน่อยดีไหมเพคะ...ทางด้านโน้นสวยเหลือเกิน"
ป้าสร้อยบอก
"นี่มันค่ำแล้วนะจ้ะ"
"ยังหรอกค่ะ...โธ่ คุณป้าสร้อยคะ ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของหนูก็ได้ที่จะได้มาสถานที่หรูๆ อย่างนี้"
"แหม..พูดซะน่าสงสาร ก็นายเล็กไง...ไปชวนกันเข้าซิ"
"หญิงก็อยากไปเดินเล่นเหมือนกันค่ะ...ดีเหมือนกันวิมล วิวริมทะเลสาบนั่นน่าเดินเล่น…ป้าขึ้นไปพักก่อนก็ได้นะค่ะ"
"ท่านหญิง...อย่าทรงอยู่จนดึกนักนะเพคะ...แม่วิมล..เธอนี่มันใจแตกจริงๆ นะ อย่าพาท่านหญิงไปตากน้ำค้างล่ะ"
วิมลดีใจ
"รับรองค่ะคุณป้าสร้อย...ไปกันเถอะเพคะ"
พนักงานเดินมาหาท่านดนัยพูดภาษาฝรั่งเศส
"ขอโทษครับ...มีสุภาพบุรุษคนไทยมารอพวกคุณ"
รัตนาวดีหันขวับมาทันที วิมลหันมามองหน้าท่านดนัย
"เค้าอยู่ที่ไหน" รัตนาวดีถาม
"นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ครับ"
ป้าสร้อยดีใจ
"ต้องเป็นท่านดนัยแน่ๆเพคะ"
วิมลงงๆ มองหน้าท่านดนัยที่สงสัยเหมือนกัน รัตนาวดีรวมรวบความเด็ดขาด
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ...ทุกอย่างจะได้ยุติเสียที"
รัตนาวดีไม่รอใครเดินนำทุกคนไปยังล็อบบี้

นพยืนชมวิวหันหลังให้กับรัตนาวดีที่เดินนำหน้า วิมล ป้าสร้อย และท่านดนัยเข้ามา วิมลมองด้านหลังก็คุ้นๆ ....จนกระทั้งนพได้ยินเสียงจึงหันหน้ามา...วิมลเห็นก็ดีใจ รัตนาวดี กับ ป้าสร้อยก็เหมือนกัน
"คุณนพ" วิมลทัก
"ตานพ" ป้าสร้อยว่า
นพรีบเดินมายกมือไหว้ป้าสร้อย ท่านดนัยหน้าเสีย
"สวัสดีฝ่าบาท...ไปเที่ยวไหนกันมา...หม่อมมารอตั้งนาน"
นพหันมาเห็นท่านดนัยรีบยกมือไหว้
"อ้าว...ฝ่าบาท...เสด็จมาตั้งแต่เมื่อไหร่...มิน่าหม่อมไปหาถึงไม่พบ"
วิมลอยากจะตายซะให้ได้ ห้ามก็ห้ามไม่ทัน ท่านดนัยหน้าเสีย ป้าสร้อยอ้าปากหวอ รัตนาวดีมองท่านดนัยอย่างตกใจ
"อะไรตานพ...นี่นายเล็ก...มหาดเล็กท่านดนัย" ป้าสร้อยว่า
นพหัวเราะ
"คุณสร้อยจะล้อเล่นเหรอครับ...ทำไมผมจะไม่รู้จักหม่อมเจ้าดนัย วัฒนา....จริงไหมครับท่านชาย"

ท่านดนัยยืนหน้าซีด รัตนาวดีหันไปมองท่านดนัย เหมือนไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน น้ำตากลบตา รีบวิ่งหนีไป ทุกคนตกตะลึง วิมลเดินมาหานพด้วยสีหน้าอยากจะตาย นพงง
"อะไร...ผมพูดอะไรผิดหรือไง"

ท่านดนัยทุกข์ร้อน...
 
อ่านต่อหน้า 2

รัตนาวดี ตอนที่ 18 อวสาน (ต่อ)

ท่านดนัยประคองป้าสร้อยที่ก้มลงกราบที่เท้า ป้าสร้อยสีหน้าสำนึกผิดมาก

"ท่านชาย หม่อมฉันต้องขอประทานโทษอย่างสูงเพคะ"
"ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษคุณสร้อย"
ท่านดนัยประคองป้าสร้อยให้นั่งที่เก้าอี้ ป้าสร้อยมองท่านดนัยอย่างดีใจมาก นพยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"หม่อมฉันดีใจเหลือเกิน...ดีใจที่สุดในชีวิตของหม่อมฉันทีเดียว....ที่ฝ่าบาทคือท่านดนัย"
"นี่แปลว่าคุณสร้อยไม่ทราบเหรอครับว่าท่านคือท่านดนัย" นพว่า
ท่านดนัยหันไปยิ้มกับนพ
"เรื่องมันยาวนะนพ"
วิมลค้อนนพ
"คุณนพก็ไม่ได้ดูตาม้าตาเรืออะไรเล้ย...ทำเรื่องเค้าแตกหมด"
นพโอด
"โธ่คุณ...นี่มันเรื่องอะไรกัน"
ท่านดนัยสีหน้าวิตกกังวล ป้าสร้อยหันหารัตนาวดี
"ตายจริง...นี่ท่านหญิงคงจะกริ้วฝ่าบาทแย่เลยเพคะ. ท่านล่ะเกลียดนักคนโกหก"
"นี่แหล่ะคือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด"
"เดี๋ยวหม่อมฉันจะตามขึ้นไปดูบนห้องเองเพคะ...ไป..วิมลไปด้วยกัน"
วิมลทำท่าไม่ค่อยกล้า
"เอ้อ...หนูรออยู่ที่นี่ได้ไหมคะคุณป้าสร้อย"
ป้าสร้อยยุ่งยากใจ
"เอ้า...จะมาทิ้งกันได้ยังไงล่ะแม่วิมล...ไป...ไปช่วยกันพูดกับท่านหญิงไม่ให้ท่านกริ้ว"
ป้าสร้อยดึงมือวิมลเดินไป นพยังยืนงง หันไปมองท่านดนัยที่สีหน้าเป็นทุกข์...

ท่านหญิงรัตนาวดีเดินไปมาอยู่ในห้องด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ มีเสียงเคาะประตู รัตนาวดีหันไปมองอย่างไม่ไว้ใจ
"ท่านหญิง...ท่านหญิงเพคะ...เปิดประตูให้หม่อมฉันหน่อยเพคะ"
รัตนาวดีเดินไปที่ประตู แต่ยังไม่ยอมเปิด ถามให้แน่ใจ
"บอกหญิงก่อนว่าป้ามากับใคร"
"มากับวิมลสองคนเพคะ...ไม่มีคนอื่นอีก...เปิดประตูหน่อยเพคะ"
รัตนาวดีค่อยๆ เปิดประตู ป้าสร้อย กับวิมลรีบเข้ามา
"ไปรีบเก็บของเร็วๆ ....เราจะไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้."

ป้าสร้อยพยายามปลอบ
"โธ่...ท่านหญิง...อย่าทรงกริ้วเลยเพคะ...ท่านพี่น่ะทุกข์ทัยมากนะเพคะ"
รัตนาวดีหันมาตาเขียว
"ท่านทรงกำลังหัวเราะเยาะหญิงละไม่ว่า...คนอะไร..โกหกเราอยู่ได้ตั้งนาน"
รัตนาวดีจะร้องไห้ ป้าสร้อยร้อนรน วิมลก็ช่วยปลอบ
"ท่านหญิงเพคะ..ที่.ท่านดนัยทรงทำอย่างนั้นก็เพราะมีความจำเป็น..."
รัตนาวดีหันไปมองวิมลอย่างตกใจ น้ำตาไหล
"นี่วิมลรู้เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม"
วิมลก้มหน้านิ่ง
"หม่อมฉันรู้แต่ไม่นานนี้เพคะ"
รัตนาวดีถามอย่างน้อยใจ
"แล้วทำไมไม่บอกหญิง"
ป้าสร้อยหันมาเอาเรื่องด้วย
"นั่นสิ...รู้แล้วทำไมไม่รีบบอก...ปล่อยให้ป้าดุว่าจิกใช้ท่านอยู่ได้ บาปกรรมกินหัว"
"ท่านดนัยอยากทูลท่านหญิงด้วยองค์เอง...ท่านต้องการอธิบายเหตุผลให้ท่านหญิงฟังเองเพคะ...ท่านทรงขอร้องไม่ให้หม่อมฉันทูลท่านหญิง"
"แปลว่าวิมลเห็นท่านดนัยดีกว่าหญิง...วิมลนะวิมล...เสียแรงหญิงไว้ใจมากกว่าใครๆ"
รัตนาวดีเดินหนีเข้าห้องนอน ปิดประตูดังปัง ป้าสร้อยหันมาเล่นงานวิมลทันที
"เห็นไหม...ตอนนี้ทั้งกริ้ว ทั้งน้อยทัย...แล้วจะทำยังไงกันดี"

วิมลทุกข์ใจ

ในมุมสบายๆ นพนั่งหัวเราะเบาๆ เพาระไม่กล้าหัวเราะเสียงดัง ในขณะที่ท่านดนัยสีหน้าเครียด

"ฝ่าบาทถึงกับทรงลงทุนปลอมตัวเป็นนายเล็กเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดท่านหญิง...อันที่จริงถึงท่านหญิงจะทรงทราบว่า ฝ่าบาทคือท่านดนัยก็ไม่น่าจะเป็นไรกระหม่อม"
ท่านดนัยถอนใจ
"ฉันก็นึกสนุกบ้าบอไปได้นะซินพ...น้องหญิงตรัสทักว่า ฉันเป็นนายเล็กฉันไม่อยากให้น้องหญิงเก้อที่ทักคนผิด ก็เลยรับสมอ้างเป็นนายเล็กเรื่อยมา...แต่พอจะสารภาพก็รู้ว่าน้องหญิงโกรธที่ฉันไม่ได้ไปรอรับท่านที่สนามบิน มาก...ฉันเลยไม่กล้า"
"จริงด้วยหม่อม...ท่านหญิงทรงบ่นเรื่องนี้ให้หม่อมฟัง"
ท่านดนัยสีหน้าเป็นทุกข์
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้เกิดการผิดพลาดเรื่องนี้ ...กว่าที่แม่บ้านของฉันจะส่งข่าวไปให้รู้ ก็เลยกำหนดที่น้องหญิงมาอังกฤษแล้ว"
"แต่ฝ่าบาทก็ไม่ได้รีบเสด็จมาหาท่านหญิง"
"เอ้อ...ฉันต้องขอสารภาพว่าฉันนึกว่าน้องหญิงยังเป็นเด็กๆ ที่อยากมาเที่ยวกับพี่เลี้ยง...ฉันรู้ว่าทางสถานทูตดูแลแทนแล้วก็เลยยังไม่ได้รีบกลับมาเฝ้า...แต่พอได้เห็นพักตร์น้องหญิง"

นพพยายามทำท่าเรียบร้อย แต่ก็ยิ้มแจ่มใส
"อย่างนี้ก็แปลว่าฝ่าบาททรงติดทัยท่านหญิงตั้งแต่เห็นพักตร์ครั้งแรกใช่ไหมหม่อ"
ท่านดนัยหันมาพยักหน้ายิ้มเขิน นพอดไม่ได้หัวเราะเสียงดัง
"หม่อมว่าแล้ว...แต่ฝ่าบาทไม่ทรงทราบว่าท่านหญิงรัตน์นี่ทรงฤทธิ์มากขนาดไหน"
ท่านดนัยมองนพเหล่ๆ
"ก็เพราะคิดไม่ถึงนี่ละ....ถึงได้เกิดเรื่องขนาดนี้ได้ไงล่ะ... หวังว่าคุณสร้อย กับ วิมลจะพูดแก้ต่างให้ฉันได้บ้างนะ"
นพทำหน้าสยอง
"หม่อมว่ายาก...ท่านหญิงน่ะทัยแข็งเป็นที่หนึ่ง...ลงว่าได้ทรงทำฤทธิ์ละก็ไม่ว่าใครก็ถอยทั้งนั้น...สมัยเรียนหนังสือท่านก็เป็นหัวโจกทำฤทธิ์จนครูพากันขยาด"
"ไม่ให้กำลังใจกันเลยนะ...แล้วเธอคิดว่าฉันควรจะทำยังไงดี"
"ตอนนี้ต้องปล่อยท่านไปก่อนหม่อม....ภูเขาไฟกำลังระเบิด ปล่อยให้พ่นลาวาออกมาจนพอใจแล้วค่อยเข้าไปได้หม่อม"
ท่านดนัยหนักใจ

ในห้อง วิมล กับ ป้าสร้อยนั่งสีหน้าเป็นทุกข์ มีกระเป๋าเดินทางเตรียมพร้อม รัตนาวดีแต่งตัวเตรียมเดินทางออกมาจากห้องแต่งตัว ป้าสร้อย กับ วิมลเห็นก็ตกใจ
"เก็บของเสร็จหรือยังคะป้า"
ป้าสร้อยแกล้งไม่รู้เรื่องเพื่อถ่วงเวลา
"เก็บทำไมเพคะ"
รัตนาวดีโวย
"ป้าคะ...ก็หญิงบอกแล้วไงคะว่าเราจะไปจากที่นี่...หญิงคิดว่าป้ากับวิมลเก็บของกันเสร็จแล้ว"
วิมลทำหน้าเศร้า
"ท่านหญิง...ทรงทัยเย็นๆ ก่อนนะเพคะ"
"ไม่ต้องใจเย็นอะไรอีกแล้ววิมล....หญิงเกลียดคนโกหกที่สุด ทำเหมือนเราเป็นตัวตลกให้หลอกหัวปั่นไปวันๆ"
"ป้าก็ไม่เห็นว่าท่านดนัยจะทรงหลอกเรานี่เพคะ"
รัตนาวดีโมโห
"ป้า...ป้าพูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ...ก็ท่านหลอกเราว่าเป็นนายเล็กผู้ต่ำต้อยไงล่ะคะ...หลอกให้เรา"
ท่านหญิงอัดอั้นพูดไม่ออก
"โธ่...ท่านหญิง...ท่านดนัยทรงไม่ตั้งทัยที่จะหลอกฝ่าบาทหรอกเพคะ"
"ท่านชายต้องทรงมีเหตุผลแน่ๆ เพคะ...ท่านนะควรจะทรงฟังเหตุผลของท่านชายก่อน...แล้วค่อยตัดสินพระทัยว่าควรจะทรงกริ้วหรือเปล่า"
วิมลพยายามเอาใจ
"ท่านหญิงทรงมีเหตุผล....ทรงเคยสอนหม่อมฉันเองว่า คนเราต้องฟังเหตุผลคนอื่น"

รัตนาวดียังงอน
"จำไม่ได้ว่าเคยสอนซะที่ไหน"
"จริงๆ นะเพคะ...ไม่เชื่อทรงถามคุณสร้อยดูก็ได้...คุณสร้อยก็เคยได้ยินใช่ไหมคะ"
วิมลพยายามพยักเพยิดกับป้าสร้อย ป้าสร้อยรีบเออออ
"จริงเพคะ...หม่อมฉันก็เคยได้ยินท่านรับสั่ง."
รัตนาวดีค้อนป้าสร้อย
"แหม...พอรู้ว่าที่แท้นายเล็กคือท่านดนัย...ป้าก็รีบเข้าข้างเลยเหรอคะ."
"โธ่...อันที่จริงหม่อมฉันน่ะนึกชอบมาตั้งนานแล้วเพคะ คนอะไร...หล่อก็แสนจะหล่อ ดีก็แสนจะดี"
วิมลต่อ
"เก่งก็แสนจะเก่ง...ความรู้ก็แสนจะดี....เอาใจก็แสนจะเก่ง"
"ยิ่งพอรู้ว่าแท้จริงคือท่านดนัย...ป้างี้ดีใจที่สุดในโลก"
ป้าสร้อยทำท่าดีใจออกนอกหน้ากับวิมล รัตนาวดีมองอย่างหมั่นไส้
"จะดีแสนดียังไงก็ไม่ใช่เรื่องของหญิงค่ะ...หญิงให้เวลาป้ากับวิมลเก็บของ..ไม่อย่างนั้นหญิงก็จะไปคนเดียว"
รัตนาวดีเดินกลับเข้าห้องนอนไป ป้าสร้อยกับวิมลหมดแรงไม่รู้จะทำยังไงดี

ท่านดนัยนั่งเขียนจดหมายอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ สีหน้าเศร้าๆ เป็นทุกข์
 
อ่านต่อหน้า 3

รัตนาวดี ตอนที่ 18 อวสาน (ต่อ)

นพยืนมองวิวที่สวยงามอยู่ด้วยสีหน้ามีความสุข วิมลวิ่งมาหา

"คุณนพ"
นพหันไปเห็นวิมลก็ดีใจ
"มาอยู่ที่นี่เอง...ตามหาตั้งนาน"
"ผมก็นั่งรอคุณอยู่นาน...ไม่เห็นลงมาจากห้องซักทีก็เลยเดินเล่นมาเรื่อยๆ โรงแรมนี้สวยดีจริงๆ นะ....ท่านหญิงทรงเป็นอย่างไรบ้าง...ยังกริ้วท่านดนัยอยู่หรือเปล่า"
วิมลทำหน้าเหนื่อย
"ไม่ได้ทรงกริ้วอย่างเดียว...จะทรงไปจากที่นี่ด้วย"
นพทำหน้าผิดหวัง
"อ้าว...แปลว่าทรงกริ้วมากละซิ"
"ก็ใช่น่ะสิคะ"
นพไม่เข้าใจ
"ทำไมต้องทรงกริ้วมากขนาดนั้น...ผมก็พอจะเข้าใจที่ทรงถูกท่านดนัยหลอกว่าเป็นนายเล็ก...อาจจะทรงอายที่เคยทำหรือเคยไม่ให้เกียรติท่าน...แต่ก็ไม่น่าจะทรงกริ้วมากถึงกับจะทรงแยกองค์ไปที่อื่น...หรือว่า..."
วิมลทำท่าหมดแรง
"คุณยังไม่เข้าใจ....ท่านหญิงนะทรงหลงรักนายเล็กตัวปลอมนะสิคะ"
นพตกใจ
"อะไรนะ....ท่านหญิงทรงหลงรักท่านดนัย....เอ้อ...เพราะคิดว่าทรงเป็นนายเล็ก...เอ้อ...ท่านหลงรักนายเล็ก ....โอ้ย..ปวดหัว"
"ท่านหญิงนะทรงหลงรักนายเล็กที่ท่านดนัยปลอมองค์มา แต่เพราะท่านทรงคิดว่าคนที่ท่านหลงรักเป็นแค่นายเล็กผู้ต่ำต้อย...เป็นแค่มหาดเล็กท่านดนัย...จึงทรงพยายามห้ามทัยองค์เองเป็นอย่างมากที่จะไม่รัก...ที่จะหักห้ามทัยไม่ให้สนใจ…ถึงกับทรงเคยแนะนำให้นายเล็กตัวปลอมไปชอบกับผู้หญิงคนอื่น....แล้วก็ทรงเป็นทุกข์เอง...ฉันว่าเคยเห็นท่านแอบกันแสงด้วยซ้ำ"
นพตาลอย ลงนั่งอย่างก้นกระแทก
"อะไรกันล่ะนี่....ท่านดนัยก็ทรงหลงรักท่านหญิงเหมือนกัน"
"ใช่ค่ะ...ท่านก็เคยรับสั่งกับฉันอย่างนั้นเหมือนกัน"
"อ้าว...คุณรู้เรื่องแล้วหรือ...น่าจะบอกผมก่อน"
"ที่ฉันรู้ก็เพราะครั้งแรกที่ฉันเห็นท่าน ท่านหญิงทรงแนะนำว่านี่คือนายเล็ก คนของท่านดนัย...ฉันก็รู้เลยว่าไม่จริง เพราะฉันเคยเห็นนายเล็กคนของท่านดนัยแล้ว.ฉันก็เลยหาโอกาสจับโกหกนายเล็กตัวปลอม...ท่านถึงได้สารภาพกับฉันว่าคือท่านดนัย...เราหาทางที่จะบอกความจริงท่านหญิง...แต่ก็ไม่มีโอกาส ฉันถึงอยากให้คุณนพมาจะได้มาช่วยกันคิด"
วิมลหัวเราะ
"แต่ก็มาความแตกเพราะคุณนพที่พอเห็นท่านก็รีบทักทาย ยกมือไหว้ทันที"
"แล้วพอคุณรู้ความจริงก็ไม่ได้ทูลท่านหญิงหรอกหรือ"
"ก็ท่านดนัยทรงขอร้องว่าจะทูลท่านหญิงด้วยองค์เองนะสิคะ เพราะท่านก็คงคิดแล้วว่าถ้าท่านหญิงรู้จากคนอื่นก็จะกริ้วอย่างนี้"
นพเอามือลูบหน้าอย่างตั้งสติ
"เออ...ถ้าเราคุยกันก่อนสักหน่อก็คงไม่เป็นอย่างนี้นะ"
"ก็ฉันไม่คิดว่าคุณนพจะมาหานะสิคะ"
นพมองวิมลยิ้มๆ
"ผมก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เที่ยวด้วยกันกับท่านหญิง"
นพมองตาวิมลยิ้มๆ วิมลยิ้มดีใจเขินๆ แต่ก็ทำหน้าเศร้า
"คงเป็นไปไม่ได้แล้วละค่ะ ท่านหญิงคิดแต่จะทรงแยกไป ถ้าป้าสร้อยกับฉันไม่ไป ท่านก็จะไปองค์เดียว...ฉันคงทิ้งท่านไม่ได้แน่นอน....พยายามพูดหว่านล้อมให้ท่านไม่ไป...ท่านก็ทรงยืนยันว่าจะไปอย่างเดียว....ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว"
นพสีหน้าใช้ความคิด มองหน้าวิมล
"ผมไม่อยากเสียโอกาสที่จะได้เที่ยวกับคุณหรอกนะ...แต่ที่สำคัญมากกว่าคือผมอยากให้ท่านดนัย กับ ท่านหญิงสมหวังในความรัก"
วิมลร้อนรน
"คุณนพคิดหาทางออกเร็วๆ นะคะ"
นพพยายามใช้ความคิดอย่างหนัก....

ป้าสร้อยนั่งคุยกับรัตนาวดีที่เก้าอี้รับแขกในห้องพัก
"ทูนหัว...หม่อมฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องเพคะ"
รัตนาวดีถอนใจ
"หญิงไม่อยากได้ยินชื่อท่านดนัยแม้แต่คำเดียวนะคะ"
"เปล่าเพคะ...หม่อมฉันไม่ได้จะทูลเรื่องท่านดนัย...แต่จะทูลเรื่องตานพ กับ วิมล"
รัตนาวดีหันมามองอย่างสงสัย
"คุณนพ กับวิมลเป็นอะไรคะ"
"ตานพตามมาที่นี่ก็เพราะอยากมาพบวิมลเพคะ....ป้า...เอ้อ..ป้าสงสารเขา...อยากให้สองคนนั้นได้ไปเที่ยวกันสักหน่อย...ถ้าท่านหญิงจะไปพรุ่งนี้สองคนนี้ก็อดเที่ยวกันพอดี...พวกเค้าคงหาโอกาสอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้วนะเพคะ"
รัตนาวดีนิ่งคิด
"แล้วป้าอยากให้วิมลอยู่ที่นี่ก่อนไหมล่ะคะ...เราไปกันแค่สองคน…ป้าจะไหวไหมล่ะคะ"
"ถ้าเราไปวิมลก็ต้องตามเสด็จทูนหัวแน่ๆ เพคะ...คงไม่ยอมอยู่…ถึงจะอยากอยู่แค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเราสองคนไป..วิมลก็ต้องไปกับเราเพคะ"
รัตนาวดีพยักหน้าเห็นด้วย แต่สีหน้ายังดื้อดึง ป้าสร้อยรีบพูดต่อ
"ขอเวลาให้เขาสองคนสักสองสามวันได้ไหมเพคะ"
รัตนาวดีหันขวับมาทันที
"สองสามวันเชียวเหรอคะ"
"เพคะ...วันนี้ก็จะค่ำแล้ว...เราก็อยู่ของเรา...ไม่ต้องไปยุ่งกับท่านดนัยอีก"

รัตนาวดีนิ่งไม่พูด...

ป้าสร้อยเดินเข้ามาหา ท่านดนัย นพ และ วิมล ที่นั่งรออยู่อย่างกระวนกระวาย ทุกคนรีบเดินมาหาป้าสร้อย

"เป็นอย่างไรคะคุณป้าสร้อย"
"ท่านหญิงทรงทัยอ่อนหรือยังครับ"
ป้าสร้อยหอบ
"ใจเย็นๆ...ขอป้าหายใจหน่อย"
ท่านดนัยมองป้าสร้อยอย่างสงสาร
"ลำบากคุณสร้อยแท้ๆ นะครับ"
ป้าสร้อยหันมายิ้ม จับมือท่านดนัย
"ไม่ลำบากอะไรเลยเพคะ...หม่อมฉันอยากทำทุกอย่าง เพื่อเป็นการไถ่โทษตัวเองที่เคยทำไม่ดีกับฝ่าบาท"
ท่านดนัยหัวเราะเบาๆ
"อย่าคิดมากเลยครับ....ผมไม่เคยรู้สึกไม่พอใจอะไรคุณสร้อยเลย"
"เจ้าประคู้ณ...นี่อะไรกั้น เป็นเจ้านายแล้วลดองค์มารับใช้เราอยู่เป็นนานสองนาน หม่อมฉันก็มีตาเสียเปล่า แต่ไม่มีแวว นึกแล้วเชียวว่ามหาดเล็กท่านดนัยคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา ออกจะมีสง่าราศี งามก็แสนจะงาม ตายแล้วต๊าย ต้องกราบบาทสักสามหน ขอประทานโทษที่ใช้ท่านมาเรื่อย"
วิมลพูดล้อๆ
"แค่โดนใช้วิ่งไปวิ่งมาหยิบของให้คุณป้าสร้อย เป็นคนอื่นคงท้อไปแล้วละค่ะ"
ป้าสร้อยอาย ท่านดนัยหัวเราะ
"ไม่เป็นไรหรอกวิมล ผมเต็มใจด้วยนี่นา"
"แค่นั้นยังน้อยไป ยังประทานให้ป้าขี่พระขนองท่านอีก"
นพตาโต
"ขนาดนั้นเทียวหรือท่าน"
วิมลรีบซ้ำเติม
"ไม่ใช่แค่นั้นนะ...ทรงบีบนวดเท้าคุณสร้อย....แล้วก็อะไรนะคะ…ท่านหญิงทรงเล่าว่าเคยเช็ดอาเจียรคุณสร้อยด้วย"
ป้าสร้อยโบกมือ
"พอทีๆ ยิ่งพูดป้ายิ่งรู้สึกแย่"
ท่านดนัยยิ้ม
"แต่ผมกลับดีใจนะที่ได้ทำอะไรให้กับคุณสร้อย...คนที่เลี้ยงดูน้องหญิงมาอย่างดี...แล้วก็คอยดูแลทุกอย่างให้สมพระเกียรติ"
ป้าสร้อยยกมือไหว้ท่านดนัย
"โถ..ฝ่าบาท...น้ำพระทัยงามจริงๆ เพคะ...หม่อมฉันจะพยายามจนสุดความสามารถที่จะให้ฝ่าบาทสมหวังให้ได้เพคะ...แต่"
ทุกคนหน้าเสีย วิมลถามอย่างร้อนรน ป้าสร้อยก็ทำท่าอ่อนใจ
"ยังทรงตั้งทัยจะกลับให้ได้เหรอคะ"
ป้าสร้อยสีหน้าอ่อนใจ
"ป้าอ้างกับท่านเรื่องเรา กับตานพ...ท่านก็เลยยอมให้เราสองคนได้ไปเที่ยวกันบ้าง...แต่พรุ่งนี้ตอนบ่ายก็จะเสด็จกลับ"
นพยิ้มดีใจ
"อย่างน้อยเราก็ยังมีเวลา"
"แหม...ท่านให้เวลาเราแค่วันเดียวเท่านั้น" วิมลบอก
"วันเดียวก็ยังดี" ท่านดนัยว่า
"ฝ่าบาทต้องทรงหาทางให้ได้นะเพคะ"
ท่านดนัยใช้ความคิด

รัตนาวดีเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ นั่งอยู่ในห้อง เอาจดหมายท่านพจน์ออกมาอ่านอีก
"เสด็จอาทรงมีพระประสงค์จะมีลายพระหัตถ์มาถึงน้อง.... ขอให้อ่านด้วยใจเย็น....อย่าเพิ่งไม่พอใจ หรือใจร้อนใดๆทั้งนั้น...และก่อนที่จะให้คำตอบใดๆ ทูลเสด็จอา... ขอให้น้องได้พบกับท่านดนัยเสียก่อน...น้องก็จะได้คำตอบทุกอย่าง"
รัตนาวดีพับจดหมายเก็บ สีหน้ายังถือดี ป้าสร้อยเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา รัตนาวดียื่นจดหมายท่านพจน์ให้ป้าสร้อย
"เจ้าพี่ทรงมีจดหมายมาถึงหญิงแบบนี้...แปลว่าท่านทรงรู้เรื่องที่ท่านดนัยปลอมองค์มาเป็นนายเล็กใช่ไหมคะ"
ป้าสร้อยรับจดหมายมาดู
"ท่านดนัยคงมีจดหมายไปทูลท่านพจน์แน่เลยเพคะ.. ท่านพจน์จึงทรงแน่พระทัยว่าท่านดนัยรักฝ่าบาทอย่างแท้จริง...อย่างนี้นี่เอง...ท่านดนัยถึงได้ทรงขอให้ท่านพ่อ กับท่านแม่ไปสู่ขอฝ่าบาทกับเสด็จ...ที่ท่านพจน์
ทรงมีจดหมายมาก็เพราะหวังดีเห็นด้วยที่จะทรงแต่งงานกับท่านดนัย"
รัตนาวดีพูดอย่างโมโห
"นี่แปลว่าทุกคนรู้เรื่องกันหมด...มีแต่หญิงที่โง่อยู่คนเดียว"
"แน้...องค์เดียวที่ไหน...หม่อมฉันอีกคนที่โง่ไม่รู้ไม่เฉลียวใจซักนิด"
"แล้วป้าโกรธไหมล่ะคะที่โดนหลอกแบบนี้...ใช่ไหมล่ะคะ ป้าก็ต้องโกรธน่ะแหล่ะ"
ป้าสร้อยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"เอ...ไม่เห็นจะโกรธเลยสักนิด...กลับดีใจละไม่ว่า"
รัตนาวดีทำตาเขียว
"ป้าคะ...ไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ"
ป้าสร้อยเดินมาใกล้ๆ พูดอย่างปลอบโยน
"ทูนหัว...จดหมายนี่...ถ้าท่านพจน์ทรงรับทราบที่ท่านดนัยปลอมองค์มา...แต่ท่านชายก็รับสั่งอย่างระมัดระวัง"
"ระวังเรื่องอะไรคะ"
ป้าสร้อยพูดอย่างไม่เข้าข้างรัตนาวดี
"ก็ระวังเพราะกลัวทูนหัวจะทรงกริ้วเกินเหตุน่ะสิเพคะ... ท่านดนัยก็เหมือนกัน...ที่ไม่กล้ารับสั่งสารภาพความจริงกับทูนหัว...ก็เพราะทรงกลัว"
รัตนาวดีเชิดหน้าอย่างถือดี
"เรื่องอะไรท่านจะทรงมากลัวหญิง"
ป้าสร้อยปล่อยไม้เด็ด
"ก็เพราะทรงรักฝ่าบาทมากน่ะสิเพคะ...รักมาก กลัวมาก กลัวว่าฝ่าบาทจะกริ้วท่านมาก...ตอนนี้ก็ทรงเป็นทุกข์ร้อน ไม่มีความสุข...เมื่อครู่หม่อมฉันได้เฝ้าท่าน...เห็นพักตร์หม่นหมองน่าสงสาร"
รัตนาวดีหันหน้าหนี แอบดีใจ แต่ก็ยังดื้อ
"ป้าอยากสงสารก็สงสารไปเถอะค่ะ...แต่หญิงน่ะ...ไม่มีวัน"

รัตนาวดีเชิดหน้าถือดี
 
อ่านต่อหน้า 4

รัตนาวดี ตอนที่ 18 อวสาน (ต่อ)

บรรยากาศตอนเช้าสดใส เห็นความสวยงามของดอกไม้ ทะเลสาบติดโรงแรม พนักงานตัดแต่งต้นไม้

รัตนาวดีแต่งตัวอยู่ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง จึงเดินไปเปิด เห็นวิมล กับนพถือดอกกุหลาบช่อใหญ่ไว้
"โอ้โห..วิมล...คุณนพเอาดอกไม้มา Morning with love แต่เช้าเลยนะ."
"ดอกไม้ช่อนี้ไม่ใช่ของวิมลกระหม่อม"
รัตนาวดีหยุดยิ้มเพราะนึกรู้ นพเดินเข้ามาหารัตนาวดี
"เป็นของท่านดนัยที่ประทานสำหรับฝ่าบาทกระหม่อม"
นพยื่นดอกไม้ให้ รัตนาวดีมองนิ่ง นพหยิบจดหมายออกมาด้วย
"แล้วก็ทรงมีจดหมายมาอีกด้วย....ทรงใช้เวลานานกว่าจะเขียนจดหมายฉบับนี้"
รัตนาวดีที่ดูอ่อนโยนลง นพเดินเข้ามาในห้อง นพวางจดหมายและดอกไม้ไว้บนโต๊ะใกล้ๆ
"หม่อมวางจดหมายไว้ที่นี่ดีกว่า....จะได้ทรงมีเวลาตัดสินพระทัย"
นพหันไปพยักหน้าเรียกวิมล ทั้งสองคนเดินออกไปจากห้อง รัตนาวดียืนนิ่งอยู่คนเดียวในห้องพัก...

นพพาวิมลเดินออกมา เจอป้าสร้อยแอบมองอยู่อีกฟากหนึ่ง
"พวกเราทิ้งท่านหญิงไว้องค์เดียวอย่างนี้จะดีหรือคะ"
ป้าสร้อยพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
"ทำไมจะไม่ดี...ปล่อยให้ทรงคิดเองอย่างนี้แหล่ะ.. พวกเราอยู่ก็ยิ่งทำให้ทรงดื้อถือดี"
นพหัวเราะ
"เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินคุณสร้อยไม่สปอยด์ท่านหญิงนะครับ"
"ก็ป้าสงสารท่านดนัย...ทรงลดองค์ทำเพื่อท่านหญิงทุกอย่าง ท่านหญิงก็ทรงงอนไม่เข้าเรื่อง"
"แต่ผมว่าคราวนี้ท่านหญิงคงหายงอนแน่...คงจะไม่ปฏิเสธความรักของท่านดนัย...ในเมื่อท่านรักท่านหญิงออกอย่างนี้"
"ไม่แน่หรอกค่ะ...ท่านหญิงท่านทัยแข็งออก...ท่านอาจจะยังไม่แน่ทัยว่า ท่านดนัยรักท่านจริงหรือเปล่า...หรือแค่สนุกมาหลอกท่านเล่นๆ"
"หวังว่าจดหมายท่านดนัยจะทำให้ท่านหญิงเข้าพระทัยทุกอย่าง"
ป้าสร้อยพูดอย่างเป็นทุกข์...
"ป้ารู้ว่าท่านหญิงน่ะ....ทรงโปรดนายเล็กมานานแล้ว ท่านพยายามรักษาพระเกียรติ...เพราะคิดว่าทรงรักนายเล็กผู้ต่ำต้อย"
"ถึงได้ทรงไม่สบายพระทัย...ไม่มีความสุข"
"ใช่...แล้วป้าก็คอยคุมท่านอย่างเข้มงวด...ท่านหญิงก็ทรงรู้องค์ว่าเป็นขัตติยะ พยายามอย่างยิ่งที่จะห้ามใจ....ทั้งๆ ที่ทรงทุกข์นักหนา"
นพยิ้ม
"ถ้าอย่างนั้นตอนนี้...ท่านหญิงก็ไม่ต้องทรงระวังองค์อีกแล้ว..ทรงรักนายเล็กองค์ปลอมได้ดังพระทัยซะที"
"ขอให้เป็นอย่างนั้นด้วยเถิด" วิมลอก

ทั้งสามคนยิ้มอย่างมีความหวัง...

รัตนาวดีนั่งอ่านจดหมายท่านดนัยอยู่ตรงหน้าต่าง เห็นวิวสวยๆ
"น้องหญิงยอดรัก...พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง...จะไม่แก้ตัวเลยจนคำเดียว เธอจะโกรธ และ เกลียดพี่สักเพียงไหนพี่ก็ยอมทั้งสิ้น เธอจงด่าว่า และทำโทษพี่เสียให้สมกับความผิดเถิด เมื่อหายโกรธแล้ว ขอน้องหญิงจงยกโทษและให้โอกาสพี่ ถ้าคิดถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ก็จะเห็นว่าความผิดทั้งหลายที่พี่กระทำ ก็เพราะเหตุผลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ พี่อาจจะทำอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล อาจทำอะไรหลายอย่างที่น้องหญิงคงมองว่าบ้าๆ บอๆ...แต่มันก็มาจากเหตุผลเดียวเท่านั้น...น้องหญิงคงจำได้ว่า..พี่ไม่ได้เป็นคนตั้งต้นเรื่องนาย
เล็ก เธอเป็นคนคิดว่าพี่เป็นนายเล็กก่อน...พี่ไม่ได้ปฏิเสธเพราะไม่อยากให้เธอเปิ่น แต่แล้วก็ถลำตัวเป็นนายเล็กเข้าทุกทีจนถอนตัวไม่ขึ้น พี่ต้องปล่อยเลยตามเลยเพราะเห็นเป็นวิธีเดียวที่จะได้อยู่ใกล้ชิดน้อง...ได้คอยดูแลปกป้อง ถึงแม้พี่จะเป็นมหาดเล็กตัวปลอม แต่พี่ต้องการเป็นมหาดเล็กรับใช้ที่ดีของเธอ...ทำหน้าที่ไม่บกพร่องเลยไม่ใช่เหรอคะ ขอให้เห็นใจพี่บ้างได้ไหมคะ...ถ้าพี่ไม่รักน้องจนสุดหัวใจของพี่เช่นนี้แล้ว..คิดหรือว่าคนอย่างพี่จะยอมทนเป็นนายเล็กผู่ต่ำต้อยนานอย่างนี้"

ท่านดนัยรับใช้ป้าสร้อย กับ รัตนาวดีหลายอย่างตลอดการเดินทาง

"พี่ได้แต่กลุ้มใจอยู่ตลอดเวลาที่ต้องปลอมตัวเป็นนายเล็กมาหลอกเช่นนี้...พี่จึงขอให้หม่อมแม่ของพี่ไปสู่ขอเธอกับเสด็จป้าตามประเพณี...เพื่อแสดงให้เห็นว่า พี่ต้องการจะแต่งงานกับเธออย่างจริงใจ...พี่พยายามหาทางที่จะสารภาพความจริง...แต่ก็หาโอกาสได้ยากมาก เพราะคุณสร้อยไม่ยอมให้น้องคลาดสายตาเลย"

รัตนาวดีอ่านมาถึงตรงนี้ก็อดยิ้มไม่ได้

"ระหว่างที่เป็นนายเล็ก...น้องคงไม่รู้ว่าพี่ต้องหักห้ามความรู้สึกของพี่มากแค่ไหน...เพื่อไม่ให้แสดงออกว่าพี่รักเธอมากเพียงใด นายเล็กเองก็มีความรู้สึกเหมือนกันว่าเธอไม่ได้เกลียดเขา แต่ว่ากรุณาเขาไม่ได้...จึงไว้องค์ ถือองค์ และพยายามผลักไสเขาให้ไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้"

รัตนาวดีสีหน้าเขิน

"น้องหญิงคะ...ถึงเวลาแล้วที่เราจะยอมรับเปิดใจกันและกัน.. พี่รักเธอ..พี่ขอสัญญาว่าจะรัก และ ดูแลให้เธอมีความสุขที่สุด พี่ขอพาน้องหญิงไปดินเนอร์คืนนี้ได้ไหมคะ...จะมีแค่เราสองคนเท่านั้น...พี่อยากพบเธอ...อยากบอกเรื่องสำคัญกับเธอ คืนนี้พี่จะคอยอยู่ในล้อบบี้ของโฮเต็ลตั้งแต่สองทุ่ม ถ้าน้องไม่กรุณาพี่...ก็ขอให้รู้เถิดว่า มีคนๆ หนึ่งจะคอยอยู่ตลอดคืนด้วยความหวัง...ถ้าน้องปล่อยให้เขารอเก้อคืนนี้ คืนต่อไป เขาก็จะมาคอยอีก..และจะคอยอีกต่อไปทุกคืน...ดนัย"

รัตนาวดีอ่านจดหมายจบ ยังไม่ได้ยิ้มออกมา แต่แววตาเป็นประกาย

ท่านดนัยยืนสีหน้าร้อนรนอยู่ที่ล้อบบี้โรงแรม แต่งตัวหล่อมาก อีกมุมหนึ่งห่างออกไป ป้าสร้อย วิมล นพ คอยแอบมองด้วยสีหน้าลุ้นเต็มที่...

"ท่านดนัยเสด็จมายืนอยู่ที่นี่นานแล้ว" ป้าสร้อยบอก
"ท่านมายืนที่นี่ทำไมคุณนพ...หรือจะทรงรอท่านหญิง" วิมลถาม
"ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน..จดหมายท่านดนัยที่ผมส่งให้ท่านหญิง...คงจะเป็นการที่ท่านดนัยทรงขอนัดให้ท่านหญิงเสด็จมาพบกัน"
วิมลสีหน้าร้อนรน
"คุณป้าสร้อยว่าท่านหญิงจะยอมเสด็จลงมาพบท่านดนัยไหมคะ"
ป้าสร้อยสีหน้าครุ่นคิด
"ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"อ้าว...คุณสร้อยรู้ทัยท่านหญิงมากกว่าใคร...ยังไม่รู้เหรอครับว่าท่านหญิงจะทรงยอมให้อภัยท่านชายหรือเปล่า"
"อ้าว...ถึงป้าจะรู้ทัยท่านหญิงดีกว่าใคร...แต่เรื่องบางเรื่องที่เป็นส่วนองค์...ท่านก็จะตัดสินพระทัยเองจ้ะ"
วิมลมองท่านดนัยอย่าสงสาร
"โธ่...สงสารท่านดนัย...พระพักตร์หม่นหมองเชียวคุณนพ"
"ผู้ชายก็อย่างนี้แหล่ะ...ลงตัดสินใจแน่แล้วว่ารักใคร... ก็จะยอมทุ่มเททุกอย่างให้คนที่เรารัก"
นพยิ้มๆ มองหน้าวิมล วิมลเคลิ้ม ป้าสร้อยค้อนอย่างอดขำไม่ได้
"อย่าไปเชื่อ...ผู้ชายมันก็ปากหวานอย่างนี้ทุกคนละ"
นพโอด
"โธ่..คุณสร้อย...ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนหรอกนะครับ"

ทุกคนจะได้ยินเสียงเปียโนดังมาจากล็อบบี้ด้านใน ทุกคนดีใจ เพราะรับรู้ว่าเป็นเสียงเล่นเปียโนของรัตนาวดี ท่านดนัยเดินกลับเข้าไปยังห้องที่รัตนาวดีเล่นเปียโน

รัตนาวดีกำลังเล่นเปียโน สีหน้าไม่ได้แสดงออกว่ายินดีที่จะพบท่านดนัยหรือไม่ ท่านดนัยเดินเข้าไปยืนฟังอยู่ใกล้...ท่านดนัยจ้องมองรัตนาวดีด้วยสายตาและสีหน้าที่แสดงความรักอย่างเต็มที่....รัตนาวดีเงยหน้าขึ้นมองและจ้องท่านดนัยโดยปราศจากรอยยิ้ม...ท่านดนัยยิ้มค้าง...เริ่มไม่แน่ใจ....จนกระทัjงรัตนาวดีค่อยๆยิ้มให้ท่านดนัย

นพ วิมล ป้าสร้อยที่คอยลุ้นอยู่อีกด้าน…
เมื่อเพลงจบท่านดนัยเดินเข้าไปหารัตนาวดี รัตนาวดียืนขึ้น สีหน้าเขิน แต่ก็มีความสุข ทั้งสองสบตากัน รัตนาวดียกมือไหว้ท่านดนัยอย่างสวยงาม ท่านดนัยไม่ได้รับไหว้ แต่ใช้ทั้งสองมือจับมือของรัตนาวดีที่กำลังไหว้เอาไว้ ทั้งสองคนจึงดูเหมือนกำลังกุมมือกันและกัน ท่านดนัยยิ้มมองหน้ารัตนาวดีนิ่งนาน
"โปรดยกโทษให้พี่ได้ไหมคะ"
รัตนาวดีไม่ตอบ แต่ส่งยิ้มหวานให้ท่านดนัย
"น้องหญิงคะ...น้องหญิงหายโกรธ และยกโทษให้พี่แล้วใช่ไหมคะ"
รัตนาวดีเถียง แต่ก็ยิ้มๆ
"แน้...ใครว่าคะ...ทรงทราบได้ยังไงว่าหญิงหายโกรธ และและยกโทษถวายแล้ว"
ท่านดนัยยิ้มมีความสุข
"ก็ต้องยกให้แล้วสิคะ...ไม่งั้นจะยอมลงมาพบพี่หรือ"
"ที่ยอมมาก็เพราะกลัวเจ้าพี่จะรอทั้งคืน...ไม่ใช่เพราะหญิงหายโกรธ หรือยกโทษให้แล้วสักหน่อย"
รัตนาวดีค่อยๆ ดึงมือกลับอย่างช้าๆ
"น้องหญิงคงไม่รู้ว่าพี่ต้องอดทนเพียงไรตอนเป็นนายเล็ก ทั้งๆ ที่พี่รักเธอใจจะขาด...เส้นผมของน้องพี่ก็ไม่เคยแตะนิ้วของเธอสักนิ้วพี่ก็ไม่เคยโดน"
รัตนาวดีช้อนตามองท่านดนัย
"ใครว่าคะ...เจ้าพี่เคยโดนตัวหญิงหลายครั้ง"
ท่านดนัยยิ้ม ทำท่านึก
"อย่างนั้นไม่นับนี่คะ...พี่จำได้ว่าที่ต้องโดนองค์ก็เพราะ น้องหญิงเกือบตกบันไดบนปราสาทครั้งหนึ่ง"
"แล้วก็ที่เยอรมัน...ที่ร้านอาหารตอนที่หนามกุหลาบตำมือหญิง เจ้าพี่ก็ดึงมือหญิงไปจับไว้"
ท่านดนัยเงยหน้าหัวเราะเบาๆ
"อ๋อ..วันนั้นก็ไม่นับค่ะ...น้องหญิงถูกหนามตำหัตถ์ เลือดออก พี่ก็เลยทำหน้าที่บุรุษพยาบาลเท่านั้นเอง...พี่...อยากอยู่ใกล้ๆน้องหญิงอย่างนี้...แต่ก็ไม่กล้า"
ท่านดนัยเอื้อมมือไปจับทั้งสองมือของรัตนาวดีมากุมไว้ รัตนาวดีอยากปฏิเสธแต่ไม่อาจทำได้
"ก็เจ้าพี่อยากเป็นนายเล็กนี่คะ จะทำยังไงได้"
"โธ่..อยากเป็นเมื่อไหร่เล่า...ความจำเป็นบังคับพี่นี่คะ... เออ..น้องหญิง สมมุติว่านายเล็กอดใจไว้ไม่อยู่ วันหนึ่งเวลาที่ลับตาป้าสร้อย เกิดดึงหัตถ์น้องขึ้นมาจูบ เธอจะว่าอย่างไรบอกพี่ซิ"
รัตนาวดีค้อน
"ไม่ทูลค่ะ"
"บอกเถอะค่ะ...ซิคะ..น้องหญิงจะทำอย่างไร"
รัตนาวดีตอบเสียงอ่อยๆ
"หญิง...ไม่ทราบ"
ท่านดนัยยิ้ม
"จะตบหน้านายเล็กและไล่ออกจากงานไหม"
"ไม่ทราบนี่คะ...หญิงไม่เคยคิดว่านายเล็กจะกล้าทำอย่างนั้น รู้แต่ว่า...ถ้าทำ...คงจะโกรธมาก...จนร้องไห้"

ท่านดนัยหัวเราะ จับมือแน่นขึ้น
"ก็ดีน่ะซิคะ...พี่จะได้ปลอบ เช็ดน้ำเนตรให้ และสารภาพความจริงเสียเลย ชักจะเสียดายแล้วละซิที่ไม่ได้ลอง.. นึกๆ ก็อยากกลับไปเป็นนายเล็กอีก เอ้อ... ท่านหญิง...ท่านหญิงกระหม่อม" ท่านดนัยพูดพลางกระแอม
รัตนาวดีมองหน้าท่านดนัยยิ้มๆ อย่างงอนๆ
"เดี๋ยวเถอะนะนายเล็ก"
ท่านดนัยหัวเราะแจ่มใจ
"เจ้าพี่นี่ก้อ...อะไรก็ไม่รู้ ยังล้อหญิงอยู่ได้..หญิงอายนะคะ"
"อายทำไมคะ"
"ก็อายที่ไม่นึกเฉลียวใจนะซิคะ...แม้แต่ป้าสร้อยซึ่งเป็นคนขี้ระแวงที่สุด ก็นึกไม่ถึงว่าทำไมนายเล็กถึงได้เก่งนักหนามีความรู้ดี พูดได้ทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส...ดูแลหญิงกับป้าสร้อยอย่างดี ถ้าเป็นคนรถจริงๆ ก็คงไม่ทำได้ดีอย่างนั้นเป็นแน่...หญิงนี่โง่จริงๆ"
รัตนาวดีรู้สึกแย่จริงๆ ท่านดนัยหัวเราะขำ
"โธ่...น้องหญิง...อย่าตำหนิองค์เองอย่างนั้นเลยค่ะ"
"มิหนำซ้ำหญิงยังจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้เจ้าพี่ทีละ 10 ปอนด์บ้าง 20 ปอนด์บ้าง...แล้วก็ยังยุให้ไปหางานดีๆ หาแฟนรวยๆอย่างหนูอาด"
รัตนาวดีก้มหน้าด้วยความอาย ท่านดนัยก้มหน้าลงไปยิ้มด้วย
"น้องหญิงก็เลยอายจนไม่ยอมเจอหน้าพี่ใช่ไหมคะ"
รัตนาวดีเงยหน้าขึ้นมายิ้มอายๆ
"ก็ใช่น่ะสิคะ...รู้สึกว่าตัวเองโง่เหลือเกิน...ที่หลงเชื่อเจ้าพี่"
ทั้งสองคนหยุดเต้นรำ ยืนมองหน้ากันอย่างมีความสุข
"อาจเป็นเพราะบุพเพสันนิวาสของเรากระมังคะ..ที่ต้องเป็นอย่างนี้...น้องหญิงทราบไหมคะ...เพราะน้องหญิงวางองค์ดีไม่ยอมลดองค์มายอมรักนายเล็ก...ยิ่งทำให้พี่รักน้องหญิงมากยิ่งขึ้น....เฝ้ารอเวลาที่จะได้สารภาพความจริง"
รัตนาวดียิ้ม
"เทวดาจึงบังตาเรากระมัง...จำเพาะเจาะจงไม่ให้รู้จักกัน จนกว่าจะถึงเวลา"

ป้าสร้อย วิมล นพแอบมองอย่าสนใจ

ท่านดนัยพารัตนาวดีเดินมาที่มุมสวยๆ หยิบกล่องนาฬิกาในกระเป๋าสูทออกมาส่งให้รัตนาวดี
"พี่มีของขวัญสำหรับน้องหญิงค่ะ"
ท่านดนัยส่งให้รัตนาวดีด้วยแววตารักใคร่ รัตนาวดีรับมา
"ลองเปิดดูสิคะ"
รัตนาวดีเปิดกล่องดู เป็นนาฬิกาเรือนสวยที่เคยเห็นที่ร้านนาฬิกา รัตนาวดีดีใจ
"สวยจริงๆ ค่ะ...ขอบพระทัยนะคะ"
"นาฬิกาที่น้องหญิงยืนดูเมื่อวันก่อนไงคะ...นาฬิกายี่ห้อนี้เค้าทำอย่างละไม่กี่เรือนเรือนเท่านั้น"
รัตนาวดีหันไปมองหน้าท่านดนัยอย่างซึ้งใจที่ท่านดนัยจำได้
"โชคดีที่หญิงไม่ได้ซื้อเรือนที่เห็นครั้งแรก...ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้เรือนที่สวยถูกใจที่สุดอย่างนี้"
ท่านดนัยมองรัตนาวดีอย่างรักมาก
"พี่ดีใจที่น้องหญิงชอบ"
รัตนาวดียิ้มแจ่มใส
"หญิงรักเลยค่ะ"
ท่านดนัยลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง
"น้องหญิงคะ...แต่งงานกับพี่นะ...พี่สัญญาว่า..จะทำให้น้องหญิงมีความสุขมากที่สุด จะดูแลน้องหญิงจนเราแก่เฒ่าไปด้วยกัน"
รัตนาวดียิ้ม น้ำตาคลอ
"ค่ะ...หญิงจะแต่งงานกับเจ้าพี่"
ท่านดนัยลุกขึ้นยืนดีใจ คว้ามือรัตนาวดีขึ้นมาจูบ ท่านดนัยใส่นาฬิกาให้รัตนาวดี ทั้งคู่ท่าทางที่มีความสุข


"กราบทูลเสด็จอาที่เคารพยิ่ง ทรงทราบ...เสด็จอารับสั่งให้หญิงรีบทูลตอบเรื่องที่เจ้าพี่ดนัย เพื่อเสด็จอาจะได้รับสั่งตอบเสด็จพ่อและหม่อมแม่ของท่านดนัย หญิงขอทูลว่าสุดแล้วแต่เสด็จอาจะทรงพระกรุณาโปรด หญิงยินดีจะกระทำตามพระประสงค์ทุกประการ... รัตนาวดี"

ท่านดนัยกระซิบถามรัตนาวดี
"รักพี่สักนิดหรือเปล่าคะ"
รัตนาวดีอาย
"เห็นจะไม่นิดกระมังคะ"
ท่านดนัยดีใจ
"ถ้าไม่นิดก็มากซิคะน้องหญิง"
รัตนาวดีทำงอน
"ขี้ตู่"
"ไม่ได้ตู่สักหน่อย ถ้าไม่นิดก็มากใช่ไหมล่ะคะ"
รัตนาวดีหันหน้าหนีเพราะเขิน
"หญิงไม่ทราบนี่คะ"
"ทราบซีคะ...บอกพี่หน่อยสิคะน้องหญิง"
ท่านดนัยจับตัวรัตนาวดีหันมา รัตนาวดียิ้มอายๆ
"ใช่กระมังคะ"

ท่านดนัยดึงตัวรัตนาวดีเข้ามากอด ทั้งสองมองหน้ากันนิ่งนาน ท่านดนัยเชยคางรัตนาวดีอย่างรักใคร่ ทั้งสองคนยิ้มให้แก่กันอย่างมีความสุข.....
 
จบบริบูรณ์...
กำลังโหลดความคิดเห็น