รัตนาวดี ตอนที่ 14
วันรุ่งขึ้น รัตนาวดีนั่งทานอาหารเช้ากับป้าสร้อย เก็จกำง๋งนั่งกับวีระสิงห์ สะอาดศรีนั่งกับท่านดนัย
สะอาดศรีพยายามชวนท่านดนัยพูด แต่ท่านดนัยมองไปที่รัตนาวดีที่ทานอาหารอย่างเงียบเฉย ป้าสร้อยมองท่านหญิงที่เงียบผิดปกติ หันไปมองทางท่านดนัย....ท่านดนัยหลบสายตา
ทั้งหมดเดินมายืนดูปราสาทนอยชวานสไตล์ อันยิ่งใหญ่อลังการ รัตนาวดีสีหน้าเรียบเฉย ยืนอยู่ห่างๆ จากคนอื่น ป้าสร้อยเดินเข้าไปหาอย่างไม่สบายใจ สะอาดศรียืนติดท่านดนัยตลอดเวลา
"ใช่กษัตริย์องค์เดียวกับที่เค้าเรียกท่านว่า Fairytale King หรือเปล่าครับ" วีระสิงห์ถาม
"ใช่ครับ...เพราะปราสาทนี้สร้างจากแรงบันดาลใจของพระองค์ที่หลงใหลในบทกวีของ ริชาร์ด วากเนอร์ เรื่อง Swan Knight Lohengrin ปราสาทนี้จึงมีชื่อเรียกว่า Swan Castle ด้วยครับ"
เก็จกำง๋งหัวเราะเสียงดัง
"เชิด...เก่งเหมือนกันนี่"
รัตนาวดียังเฉย ท่านดนัยอดไม่ได้หันไปถาม
"เอ้อ...ท่านหญิงจะเสด็จเข้าไปดูในปราสาทหรือยัง กระหม่อม"
รัตนาวดีนิ่งนิดหนึ่ง ท่านดนัยหน้าเสีย ป้าสร้อยก็มองอย่างไม่เข้าใจ สะอาดศรีเริ่มรู้สึกผิดปกติ ท่านหญิงมองไปรอบๆ รู้สึกจะเสียกิริยาก็พยักหน้าหน่อยๆ
บริเวณทางเดินไปปราสาทบริเวณสะพานแมรี่ รัตนาวดี กับ ป้าสร้อยเดินนำหน้า ท่านดนัยเดินตาม สะอาดศรีเดินมากับเก็จกำง๋ง และ วีระสิงห์ สะอาดศรีพูดกับพ่อกระซิบกระซาบ
"นาย...นายสังเกตอะไรไหม"
"อะไร...แถวนี้ไม่มีร้านขายเบียร์เลย"
สะอาดศรีขัดใจ
"ไม่ใช่....โน่นน่ะ...คุณเล็กกับ ท่านหญิงน่ะ"
"ทำไม"
"หนูไม่เห็นเค้าพูดกันเลย....วันนี้เค้าไม่พูดกันเลย"
วีระสิงห์บอก
"ไม่เห็นแปลก...เค้าไม่พูดมากเหมือนหนูอาดไง"
สะอาดศรีหันไปตาเขียวใส่พี่ชาย
"ไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะพี่เชิด...หนูจะพูดก็เรื่องของหนู"
"เราก็ไปจ้องจับผิดเค้า....เค้าจะพูดหรือไม่พูดมันก็เรื่องของเค้า เราอย่าไปยุ่งกับเค้าได้ไหม"
รัตนาวดีที่ยืนดูวิวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ท่านดนัยไม่กล้าเข้าใกล้
เก็จกำง๋งเห็นด้วย "เออ...แต่พ่อว่าเช้านี้ท่านหญิงดูเงียบๆ เหมือนกันนะ"
"หนูสงสัยทะเลาะกัน"
"ไม่ใช่มั้ง...คุณเล็กจะกล้าทะเลาะกับท่านหญิงได้ยังไง ท่านหญิงเป็นนายนะหนูอาด"
ท่านดนัยจะเดินเข้าไปหารัตนาวดี ท่านหญิงเดินหนี ป้าสร้อยงง สะอาดศรียักไหล่
"ท่าทางไม่เห็นจะเหมือนนาย กับลูกน้องซะหน่อย"
วีระสิงห์พยักหน้าเห็นด้วย
"อือ...ท่าทางเหมือนคนรักงอนกันมากกว่า"
สะอาดศรีหันขวับไปมองหน้าวีระสิงห์อย่างไม่พอใจ
บริเวณทางเดินไปปราสาทอีกมุมหนึ่ง ป้าสร้อยอดรนทนไม่ได้ เดินมาใกล้ๆ
"เอ้อ...ท่านหญิงเพคะ ทรงไม่สบายหรือเปล่าเพคะ"
รัตนาวดีหันมาพยายามยิ้มกับป้าสร้อย
"หญิงสบายดีค่ะ...ป้าไม่ต้องห่วง"
"แล้วทำไมวันนี้ทูนหัวจึงดูทรงเงียบนักเพคะ ถ้าไม่ประชวร..แล้วมีใครขัดทัยหรือเปล่าเพคะ"
ป้าสร้อยชำเลืองตาไปมองท่านดนัยที่สีหน้าไม่ค่อยดี รัตนาวดีตอบยิ้มๆ
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...หญิงอยากเดินดูเงียบๆ เท่านั้น"
ป้าสร้อยเดินคุยกับท่านดนัย ตามหลัง รัตนาวดีเดินคุยกับหสะอาดศรี
"นี่นายเล็ก...เมื่อคืนเธอพาท่านหญิงไปไหน."
ท่านดนัยแอบถอนใจ
"ท่านหญิงมีรับสั่งอยากเสวยอาหารท้องถิ่นของเยอรมันแท้ๆ ผมก็เลยพาท่านไปครับ"
"แล้วทำไมไม่ชวนคุณเก็จกับลูกๆไปด้วย"
ท่านดนัยคิดหาทางพูด
"แล้วเธอไปทำอะไรให้ท่านกริ้วหรือเปล่า"
"ไม่นี่ครับ...ทรงเสวยเสร็จก็กลับมาโรงแรม"
"แต่ป้าว่าเธอต้องพูด หรือทำอะไรบางอย่างให้ท่านไม่พอทัยแน่ๆ ท่านเงียบผิดปรกติ...แล้วก็ไม่ยอมตรัสอะไรกับเธอซักคำ...ฉันเลี้ยงของฉันมา...อย่ามาหลอกกันดีกว่า"
ท่านดนัยไม่สบายใจ...
รัตนาวดีนั่งพักอยู่ที่ม้านั่งในมุมสวยๆ สีหน้าครุ่นคิด ป้าสร้อยเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ มองรัตนาวดีอย่างเป็นห่วง
"ทูนหัว...ทรงบอกหม่อมฉันนะเพคะ...ว่านายเล็กทำอะไรให้ทรงกริ้ว...หม่อมฉันจะจัดการนายเล็ก"
"เค้าไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ"
"ไม่จริง...นายเล็กต้องทำอะไรสักอย่างเป็นแน่...ทูนหัวของหม่อมฉันไม่เคยทรงเงียบอย่างนี้เลย"
รัตนาวดีถอนใจ หน้าเศร้า มองป้าสร้อยและตัดสินใจ
"หญิงคิดว่าหญิงอยากกลับไปโลซานน์....แล้วก็ส่งรถกับนายเล็กคืนท่านดนัย"
ป้าสร้อยจับมือท่านหญิงรัตนาวดีมาจับไว้อย่างปลอบโยน
"ถ้าทรงส่งนายเล็กกลับ...พวกเก็จกำง๋งคงดีใจแย่...ตอนนี้ท่านดนัยทรงพักร้อนเสียด้วย...นายเล็กไม่ไปกับเราเค้าก็คงไปกับพวกหนูอาด"
รัตนาวดีนิ่งฟัง ท่านดนัยเอาเครื่องดื่มที่เตรียมมา ให้ป้าสร้อย กับ รัตนาวดี
"น้ำชากระหม่อม...ถ้าทรงพักหายเหนื่อยแล้วกระหม่อมจะพาไปดูปราสาทด้านบน"
รัตนาวดีรับถ้วยน้ำชามา
"ขอบใจนะ...แต่ฉันไม่อยากขึ้นไปแล้ว...ฉันจะกลับไปพักดีกว่า"
"ถ้าอย่างนั้นกระหม่อมจะไปส่งเสด็จ"
"ไม่ต้องหรอก...ฉันไปกับป้าสร้อยได้...เธอไปดูแลพวกนายเก็จกำง๋งเถอะนะW
ท่านดนัยไม่สบายใจ
รัตนาวดียืนอยู่ที่ระเบียงห้องพัก ท่ามกลางวิวสวยงามแต่สีหน้าหม่นหมอง ป้าสร้อยนั่งอ่านหนังสือไกลบ้าน คอยมองรัตนาวดีบ่อยๆ อย่างเป็นห่วง มีเสียงเคาะประตู ป้าสร้อยเดินไปเปิด สะอาดศรียืนยิ้มอยู่ ส่งตะกร้าผลไม้เล็กๆ ให้
"นายซื้อมาฝากท่านหญิง แต่หนูอาสาขอเอามาให้เอง"
ป้าสร้อยยิ้มๆ รับตะกร้าผลไม้มา
"ขอบใจมากจ้ะ"
"คุณเล็กบอกว่าจะพาไปทานอาหารที่ริมทะเลสาบตอนสองทุ่มนะคt"
ป้าสร้อยหันไปมองรัตนาวดีที่ยืนเฉยไม่สนใจ
"เอ้อ...วันนี้พวกหนู กับ นายเล็กไปทานกันเถอะนะ...ท่านหญิงกับป้ารู้สึกเพลีย...คงหาทานง่ายๆ แถวๆ นี้ละ"
สะอาดศรีทำหน้าผิดหวังนิดหน่อย
"อ้าว...เหรอคะ...แต่...ไม่เป็นไรค่ะ...ขอให้หายเหนื่อยเร็วๆ นะคะ หนูจะไปบอกคุณเล็กให้ค่ะ"
สะอาดศรีรีบเดินกลับไป ป้าสร้อยปิดประตูห้องแล้วเอาตะกร้าผลไม้มาวางไว้ มองรัตนาวดีอย่างเป็นห่วง
เก็จกำง๋ง วีระสิงห์ สะอาดศรี รับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ท่าทางเก็จกำง๋งจะเมาเบียร์ที่ดื่มแบบไม่ยั้ง ในโต๊ะท่านดนัยจะทานแบบเงียบที่สุด สีหน้ากังวล สะอาดศรีพยายามเอาใจเต็มที่ เก็จกำง๋งก็ให้ท้ายลูกสาว
ท่านดนัยสีหน้ากลุ้มใจอยู่ในห้องพัก นั่งเขียนจดหมายถึงท่านชายพจน์
"ทูลท่านพี่เพื่อนรัก...หม่อมกำลังจะเป็นบ้าๆ"
ท่านดนัยหยุดเขียนสีหน้าทุกข์ร้อน
"อยู่ๆ น้องหญิงก็ทำเย็นชา"
ท่านพจน์นั่งอ่านจดหมายท่านดนัยอยู่ในห้องทำงาน
"เหมือนไม่มีหม่อมอยู่ในโลก...ไม่ยอมพูดจาหรือแม้แต่หันมามองหม่อมด้วยซ้ำ...หม่อมจะทำอย่างไรดี ท่านพจน์ ... หม่อมแน่ใจตัวเองเสียเหลือเกินว่ารักน้องสาวท่านหมดหัวใจ ทรงประทานให้หม่อมด้วยเถิด หม่อมไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากปราศจากน้องหญิงรัตนาวดี หม่อมได้มีจดหมายไปทูลเสด็จพ่อ กับ เสด็จแม่ของหม่อมแล้ว..."
ท่านพจน์อ่านจดหมายมาถึงตรงนี้ปริศนาก็เคาะประตูเดินเข้ามา ท่านพจน์เงยหน้ามองยิ้มๆ ปริศนายิ้มหวาน
"ท่านชายจะทรงไปเฝ้าเสด็จอาเมื่อไหร่เพคะ"
ท่านชายพจน์ ปรีชาปิดหนังสือสีหน้าใช้ความคิด
"ฉันอยากให้แน่ใจอีกสักหน่อย..ว่าหญิงรัตน์ชอบท่านดนัยจริง"
ปริศนาทำหน้าล้อเลียน
"อย่าทรงบอกนะเพคะว่าทรงหวงน้องสาว...แม้แต่กับท่านดนัย"
ท่านพจน์ยิ้มๆ
"ฉันยอมรับว่าฉันคิดอย่างนั้นเหมือนกัน...ท่านดนัยทรงเป็นคนดี...ฉันยอมรับ"
ปริศนาเข้ามานั่งใกล้ๆ อย่างประจบ
"แล้วจะทรงไม่แน่ทัยเรื่องไหนอีกเพคะ...หม่อมฉันสงสารท่านหญิง ถ้าทรงรู้ว่านายเล็กที่ทรงโปรดคือท่านดนัยจะได้ทรงดีพระทัย"
"ก็เรื่องนี่ละที่ฉันเป็นห่วง...ปริศนา อย่าลืมนะว่าหญิงรัตน์เกลียดคนโกหกที่สุด"
ท่านพจน์ กับปริศนายุ่งยากใจ
อ่านต่อหน้า 2
รัตนาวดี ตอนที่ 14 (ต่อ)
ที่ Alpsee จากอาคารเห็นวิวทะเลสาบยามพระอาทิตย์ขึ้น รัตนาวดีเดินเข้ามา ฉายความอ้างว้าง ความเหงา ท่านดนัยเดินออกมาที่ระเบียงมองเห็น....
รัตนาวดียืนมองวิวที่สวยงาม แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับรู้ความสวยงามของวิวนั่นเลย ท่านดนัยค่อยๆ เดินมาหา ยืนอยู่ห่างๆ มองรัตนาวดีอย่างไม่สบายใจ คิดนิดหนึ่งก่อนพูดขึ้นเบาๆ
"ท่านหญิงกระหม่อม"
รัตนาวดีหันไปมองหน้าท่านดนัย สีหน้ายิ่งครุ่นคิดมากกว่าเดิม แล้วจึงหันกลับมามองวิวตรงหน้า เหมือนไม่สนใจท่านดนัยอีก ท่านดนัยสีหน้าร้อนรน
"ท่านหญิงกระหม่อม....กระหม่อมมีเรื่องอยากทูล"
รัตนาวดีนิ่งไม่ตอบ ไม่หันมา
"กระหม่อมกลัวว่าถ้าทรงรับฟังเรื่องนี้...อาจจะทรงกริ้ว"
รัตนาวดีหันขวับมาอย่างอารมณ์ไม่ดีที่ไม่อยากรับรู้อะไร
"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมาบอก....ฟังนะ...ฉันก็มีเรื่องอยากจะ..พูดอะไรด้วยสักหน่อย"
ท่านดนัยมองรัตนาวดีอย่างสงสัย รัตนาวดีเดินไปพูดไป ท่านดนัยก็เดินตาม
"อย่าคิดว่าฉันเสียกิริยา หรือถามซอกแซกเลยนะ...นายเล็กก็ดูเป็นคนเฉลียวฉลาดมีความรู้ดี ทำไมไม่คิดหางานที่จะทำให้ก้าวหน้าใจชีวิตดีกว่ามาเป็นมหาดเล็กท่านดนัยอยู่อย่างนี้"
ท่านดนัยอึ้งไป สีหน้าอยากยิ้มแต่ไม่กล้า
"หม่อมพอใจในฐานะเช่นนี้ของกระหม่อมแล้ว ยังไม่มีความประสงค์จะก้าวหน้าไปไหน"
รัตนาวดีพยายามซ่อนสีหน้าผิดหวัง
"ไม่น่าเลย...เป็นเพราะนายเล็กถอนตัวจากท่านดนัยไม่ได้อย่างนั้นหรือ"
"เป็นเช่นนั้น"
"แน่ละ...จะไปหาใครมาเหมือนนายเล็กได้อย่างไร...แต่ก็น่าจะพอหามหาดเล็กมาให้ใช้แทน ท่านดนัยคงมีใจสปอร์ตไม่เห็นแก่องค์ที่จะเก็บนายเล็กไว้ให้ต่ำต้อยอย่างนี้จนตลอดชีวิตเป็นแน่..ถ้าท่านรู้ว่านายเล็กน่าจะก้าวหน้าในชีวิตท่านก็น่าจะสนับสนุน"
ท่านดนัยอึกอักตอบไม่ถูก
"เอ้อ"
รัตนาวดีไม่พอใจ หยุดเดินหันมาจ้องหน้าท่านดนัย
"หรือนายเล็กแน่ใจว่าท่านดนัยจะไม่ทรงยอมปล่อยนายเล็กให้ไปก้าวหน้าที่อื่น...จริงสินะ..ถ้าท่านคิดอยากให้นายเล็กก้าวหน้าก็คงหางานดีๆ ให้นายเล็กไปแล้ว... เพราะความรู้อย่างนายเล็กถ้าได้ทำงานดีๆ
หรือเป็นครู อาจารย์ก็ได้อยู่แล้ว จะได้เป็นตัวของตัวเองเสียที ได้มีหลักฐาน และแต่งงานกับผู้หญิงที่มีฐานะดีๆ อย่างหนูอาดเขาก็คงยินดีแต่งงานกับนายเล็ก"
ท่านดนัยตกใจ
"รับสั่งอะไรอย่างนั้น คุณสะอาดศรีเขาเป็นถึงลูกเศรษฐี จะมาสนใจอะไรกับคนต่ำต้อยอย่างกระหม่อม"
รัตนาวดีหันมาตาวาว
"ทำไมจะไม่สนใจ...ฉันรู้ว่าหนูอาดสนใจนายเล็กมาก ถ้านายเล็กแต่งงานกับเขา นายเล็กก็จะก้าวหน้าเร็วที่สุด"
ท่านดนัยสีหน้าเรียบเฉยมองหน้ารัตนาวดี
"กระหม่อมไม่ต้องการจะแต่งงานกับใครเพราะหวังพึ่งฐานะของผู้หญิง...คนอย่างหม่อมถ้าจะแต่งงานกับใครก็เพราะรักเท่านั้น...คนที่กระหม่อมอยากแต่งงานด้วยต้องเป็นคนที่กระหม่อมรักหมดหัวใจ"
ท่านดนัยย้ำเสียงหนักแน่น จ้องรัตนาวดีเขม็ง รัตนาวดีเขินหันข้างให้ท่านดนัย หันไปเก็บดอกไม้ป่า หันมาพูดกับท่านดนัยอีก
"ฉันหวังดีต่อนายเล็กนะ...พูดอะไรให้ฟัง นายเล็กก็ควรจะฟัง"
ท่านดนัยเดินตาม
"หม่อมยินดีที่จะฟังฝ่าบาทเสมอ...แต่ที่จะให้กระหม่อมทำตามรับสั่งนั้น บางทีก็เป็นเหตุสุดวิสัย"
"ยังไม่ได้ลองดู...จะรู้ได้ยังไง"
"หม่อมรู้จักตัวหม่อมดี"
รัตนาวดีหันมา
"ไม่ดีจริงกระมัง...นายเล็กทำไมไม่ลองรักหนูอาดดูบ้างเล่า ดูเค้าก็น่ารักดี แล้วเค้าก็ชอบนายเล็กมากด้วย"
ท่านดนัยเริ่มหงุดหงิด
"เอ๊ะ...ทำไมฝ่าบาทถึงทรงแนะนำให้กระหม่อมทำอะไรแปลกๆ อย่างนั้น"
รัตนาวดีหันมาตัดสินใจพูด
"ก็ฉันอยากให้นายเล็กชอบกับหนูอาด"
ท่านดนัยมองรัตนาวดีนิ่ง รู้สึกน้อยใจ
"ไม่ใช่เรื่องที่จะลองเล่นๆ เลยกระหม่อม...เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะเล่นสนุก"
รัตนาวดีเม้มปาก ตัดสินใจเด็ดขาด พยายามที่จะไม่มองท่านดนัยอย่างปวดร้าว
"ฉันไม่ได้เล่นสนุก...ฉันต้องการให้นายเล็กชอบหนูอาด นายเล็กต้องทำ ได้ยินไหม นายเล็กต้องทำ"
ท่านดนัยน้อยใจจนมีทิฐิ มองรัตนาวดีอย่างสีหน้าเรียบเฉย
"หนูอาดจะตามเรากับอินเตอร์ลาเคนด้วย...นายเล็กต้องทำตามที่ฉันต้องการ"
"ถ้าเช่นนั้น... หม่อมก็จะพยายามเต็มกำลังที่จะทำตามประสงค์ของฝ่าบาท ซึ่งเป็นนายของกระหม่อมขณะนี้"
ท่านดนัยพูดแล้วก็ก้มหัวให้รัตนาวดีนิดหนึ่ง รัตนาวดีน้ำตาจะไหล แกล้งเอาดอกไม้ป่าในมือขึ้นดมแล้วรีบเดินไป ท่านดนัยมองตามอย่างน้อยใจ...
ถนนสวยๆ ระหว่างทาง Schwangau - Interlaken รถทั้งสองคันขับตามกันห่างๆ บรรยากาศในรถเป็นไปอย่างเงียบเหงา รัตนาวดีนั่งมองวิวเฉย ท่านดนัยขับรถนิ่งเงียบ
ป้าสร้อยรู้สึกถึงความผิดปกติของทั้งสองคน...
ส่วนบรรยากาศในรถเก็จกำง๋ง เป็นไปด้วยความครื้นเครง เก็จกำง๋งร้องเพลงจีนดังลั่นรถ สะอาดศรีนั่งเคี้ยวขนมอย่างอร่อย วีระสิงห์เป็นลูกคู่ทำเสียงดนตรีให้พ่อ ....นายทวีจะรำคาญมาก แต่ทำอะไรไม่ได้
ต่อมา สะอาดศรีมานั่งหน้ากับท่านดนัย เอาใจท่านดนัยเต็มที่ คอยป้อนน้ำ ป้อนขนมให้ตลอดเวลา แรกๆท่านดนัยก็ปฏิเสธ แต่เมื่อมองรัตนาวดีที่ยังทรงนิ่งเฉย ท่านดนัยก็เปลี่ยนเป็นทำดีกับสะอาดศรี
รถสองคันวิ่งเข้ามาจอดที่ Beau Rivage Hotel ท่านดนัยลงมาเปิดประตูรถให้รัตนาวดี ที่ยังเงียบขรึมสะอาดศรีนั่งหลับอยู่เบาะหน้า...รัตนาวดีกับป้าสร้อยเดินเข้าไปในโรงแรม
เก็จกำง๋งและวีระสิงห์ลงจากรถมา แล้วพาสะอาดศรีเข้าไปในโรงแรมที่พัก
ท่านดนัยกำลังเช็คห้องที่เคาเตอร์ รัตนาวดี ป้าสร้อย เก็จกำง๋ง วีระสิงห์ สะอาดศรีนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขกของโรงแรม ยังง่วงนอนอยู่ เก็จกำง๋งมองดูสภาพของโรงแรม
"นึกว่าคุณเล็กจะพาไปนอนอีกโรงแรมซะอีก"
"โรงแรมอะไรกันคุณเก็จ" สร้อยถาม
"โรงแรมชั้นหนึ่งของเมืองนี้สิครับ...เค้าบอกว่าสวยมาก เห็นวิวภูเขาน้ำแข็งด้วย"
"โรงแรมวิคตอเรียครับ ผมเปิดหนังสือให้นายดูตั้งแต่ตอนอยู่ที่ลูเซริน์แล้ว" วีระสิงห์บอก
"ครั้งที่แล้วนายเล็กก็พาท่านหญิงกับป้าไปนอนมาแล้ว นายเล็กคงอยากให้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง"
"เสียดายจริงๆ"
ทั้งหมดเข้าพักที่ Stock shot Beau Rivage Hotel
ตอนเช้า ในร้านขายของที่ระลึก ซึ่งเป็นร้านไม้แกะสวยๆ รัตนาวดี กับ ป้าสร้อย เดินมาดูของ
"หม่อมฉันยังไม่ได้ของฝากหม่อมเลยเพคะ"
"หญิงก็เหมือนกันค่ะ...ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะซื้ออะไรฝากคุณปริศนาดี"
"ผ้าลูกไม้ที่ท่านหญิงซื้อมาไงเพคะ...มีตั้งหลายชิ้น"
รัตนาวดีทำท่าคิด
"คุณปริศนาเค้าก็มีเสื้อผ้าเยอะแล้วนะคะ"
รัตนาวดีหยิบของขึ้นมาดูชิ้นหนึ่ง ทำหน้าท้อๆ ท่านดนัยเดินมาหารัตนาวดี สะอาดศรีตามมาติดๆ
"แหม...อันไหนสวยก็ราคาแพงไปนิด"
ป้าสร้อยทำหน้าเห็นด้วย
"นั่นสิเพคะ"
รัตนาวดีวางของนั้นลง สะอาดศรีหยิบมาดูทันที หันไปถามท่านดนัย
"คุณว่าสวยไหมคะ"
ท่านดนัยยิ้มๆ
"สวยดีครับ"
สะอาดศรียิ้มหวาน
"ถ้าคุณว่าสวย หนูก็จะซื้อ...คุณช่วยพูดกับคนขายให้หนูหน่อยนะ"
สะอาดศรีดึงท่านดนัยเดินกลับไป ท่านดนัยตกใจหน่อยๆ หันมามองรัตนาวดีที่ยืนหน้าเหรอคิดไม่ถึง ป้าสร้อยค้อนตามท่านดนัยไป
"แหม...แม่ลูกเศรษฐี"
รัตนาวดีรู้สึกไม่สนุก...
อ่านต่อหน้า 3
รัตนาวดี ตอนที่ 14 (ต่อ)
Brienz ที่จอดรถริมทะเลสาบ ป้าสร้อยถือถุงของเดินตามรัตนาวดีสีหน้าไม่พอใจ
"แหม...หม่อมฉันชักจะเริ่มรำคาญแม่หนูอาดแล้วเพคะ... ฝ่าบาทจะทรงซื้ออะไรต้องคอยตามซื้อไปหมดทุกอย่าง มันเรื่องอะไรกัน...นายเล็กก็แปลกไม่ยักห้าม กลับตามใจอยู่ได้...เดินเกาะกันแจ"
รัตนาวดีสีหน้านิ่งเฉย
"ก็ป้าอยากให้เค้าชอบกันไม่ใช่เหรอคะ...หญิงว่าป้าก็สมใจแล้วนี่คะ"
"ทูนหัว...นี่นายเล็กไปชอบกับหนูอาดแน่แล้วเหรอเพคะ"
"หญิงสั่งให้นายเล็กชอบหนูอาดเองค่ะ"
ป้าสร้อยตกใจ
"อ้าว...ที่แท้ทรงสั่งให้เขาไปชอบหนูอาด...เออ...แล้วนายเล็กก็ทำตามซะ"
"นายเล็กก็คงชอบด้วยละมัง...ท่าทางอี๋อ๋อกันขนาดนี้..ทีแรกเค้าไม่กล้า...แต่พอหญิงออกปากเค้าก็คงอยากจะทำอย่างนี้อยู่แล้ว"
น้ำเสียงรัตนาวดีเหมือนจะสั่นๆ หน่อยๆ ป้าสร้อยมองหน้ารัตนาวดีอย่างพิจารณา
"แล้วท่านจะปล่อยให้เค้าสองคนชอบพอกันไหมเพคะ"
"หญิงไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามใครนี่คะ...ถ้านายเล็กเค้าจะรักจะชอบใคร...มันก็เรื่องของเค้า"
"มิน่า...หมู่นี้แม่หนูอาดหน้าบานทั้งวัน"
เก็จกำง๋งกับวีระสิงห์ยืนคอยลูกสาวอยู่ที่รถ
"ท่านหญิงกลับมาแล้ว ...หนูอาดหายไปไหนกับคุณเล็ก"
วีระสิงห์ทำหน้าเบื่อๆ
"นายน่าจะเตือนหนูอาดบ้างนะ...ทำเป็นตามคุณเล็กติดมากไป น่าเกลียด...แม่รู้ละด่าเปิง"
เก็จกำง๋งครุ่นคิด
"ดูท่าทางหนูอาดมันจะชอบคุณเล็ก"
"ผมกลัวคุณเล็กเค้าจะอึดอัด...หนูอาดติดเค้าเป็นตังเม"
"แต่ถ้าหนูอาดชอบกับคุณเล็กก็ดีนะ...ลูกคนอื่นเค้ามีผัวกันไปหมดแล้ว...ถ้าคุณเล็กชอบหนูอาดก็ดี...ถึงเป็นคนรถแต่ก็เป็นนักเรียนนอก"
"แต่ผมว่าคุณเล็กชอบคนอื่นนะนาย"
"ใครล่ะ..ท่านหญิงน่ะเหรอ...เป็นไปไม่ได้...ท่านเป็นเจ้าจะลดตัวมาชอบคนขับรถได้ไง"
"มันก็บ่แน่ดอกนาย"
เก็จกำง๋งทำท่าครุ่นคิด
"เชิด...แกช่วยพ่อหน่อยซิ"
"เรื่องอะไรนาย...จะให้ผมไปพูดกับคุณเล็กไม่เอานะ"
"ม่ายช่าย...แกลองไปถามท่านหญิงดูซิ...ว่าคุณเล็กเป็นไง ถ้าหากจะชอบพอถึงกับตบแต่งกับหนูอาดท่านจะว่าไง...จะได้หยั่งเสียงดูด้วย....ว่าท่านคิดยังไงกับคุณเล็ก"
วีระสิงห์รีรอ
"ทำไมนายไม่ถามท่านเองล่ะ"
"ก็ถ้าท่านด่ากลับมาพ่อก็หงายเก๋งน่ะซิ"
"อ้าว...แล้วถ้าท่านด่าผมล่ะ...ผมก็เสียหน้าเหมือนกัน"
"ไม่เห็นเป็นไรนี่...หรือแกก็สนใจท่านหญิง...ถึงไม่อยากเสียหน้า"
วีระสิงห์รีบปัด
"เปล่านะ...แหม...ใครจะกล้า"
เก็จกำง๋งหัวเราะเสียงดัง
"ก็แกติดอ่างทุกทีเวลาพูดกับท่าน...อย่านะ...พ่อเห็นนะ แกนะชอบแอบมองท่านหญิงW
วีระสิงห์อาย
"แหม...ก็ท่านสวย...ใครๆ ก็อยากมองละนาย"
เก็จกำง๋งเอามือตบบ่าวีระสิงห์
"แกไปหาทางถามท่านหญิงให้ได้...ถ้าแกทำได้พ่อจะมีรางวัล"
วีระสิงห์ยิ้มพอใจ
"จริงนะนาย"
"เออซิวะ...พ่อเคยหลอกแกซะที่ไหน"
สองคนพ่อลูกหัวเราะชอบใจ...
ณ โรงทำเนยแข็งแบบชนบท คณะทั้งหมดพากันเดินดูเนยแข็งมากมายวางเรียงราย
สะอาดศรีคอยถามท่านดนัยตลอดเวลา รัตนาวดีเดินห่างๆ แต่ก็อดคอยชำเลืองมองสะอาดศรีกับท่านดนัยไม่ได้ ท่านดนัยทำเป็นหยิบเนยแข็งให้สะอาดศรีชิม สะอาดศรีชิมแล้วก็ทำหน้าประทับใจ แต่ก็แอบคาpทิ้ง ป้าสร้อยมองสะอาดศรี กับท่านดนัยด้วยสายตาพิจารณา แล้วก็แอบมองหน้ารัตนาวดีที่ทำสีหน้าเรียบเฉย
ตอนค่ำ ทุกคนนั่งรับประทานอาหารใน Beau Rivage Hotel เก็จกำง๋งท่าทางจะเมาได้เต็มที่ สะอาดศรีเอาอกเอาใจท่าน ดนัย ป้าสร้อยมองแบบขวางหูขวางตา วีระสิงห์พยายามแอบมองรัตนาวดีที่ทานอย่างเงียบๆ
รัตนาวดีรวมช้อน...ป้าสร้อยมองอย่างแปลกใจ
"ป้าค่ะหญิงขอขึ้นบนห้องก่อนนะค่ะ"
"ท่านหญิงเป็นอะไรเพคะ...ไม่สบายหรือเปล่า"
"แค่รู้สึกเพลียนิดหน่อยค่ะ...ป้าสร้อยอยู่ทานเถอะค่ะ"
ท่านดนัยจะขยับไปหา แต่ไม่กล้าลุกขึ้น...รัตนาวดีพูดกับทุกคน
"หญิงขอตัวก่อนนะค่ะ...พรุ่งนี้เช้าเจอกันค่ะ"
รัตนาวดีลุกขึ้นเดินออกไป วีระสิงห์รีบลุกขึ้นตามไป
"ผมไปส่งท่านหญิงเองครับ"
ป้าสร้อยทักไว้ไม่ทัน
รัตนาวดีเดินมาตามทางในโรงแรม เพื่อกลับไปห้องพัก วีระสิงห์เดินตามมาส่ง วีระสิงห์พยายามพูดกับรัตนาวดี แต่ก็ไม่ค่อยกล้า
"ง่า...ท่านหญิงครับ...เอ๊ย.หม่อม"
รัตนาวดีหยุดเดินหันมามอง
"นายใช้...เอ๊ย..น..น..นายใช้..เอ๊ย..ง่า..นายใช้หม่อม ผม...ม.ม..ให้ถาม...ท่าน..ท่านหญิง"
รัตนาวดีหมดความอดทน พูดเสียงเข้ม
"คุณวีระสิงห์...ถ้าคุณจะพูดอะไรกับฉัน ก็จงพยายามอย่าพูดติดอ่างให้มากนัก ฉันฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ถ้าไม่อย่างนั้นก็อย่าเพิ่งพูด..มีเรื่องอะไรจะบอกกับฉันก็บอกนายเล็กไว้ก็ได้ ฉันยินดีจะฟังเรื่องของคุณเสมอ"
วีระสิงห์หายติดอ่างทันที
"ไม่ได้...ไม่ได้....เรื่องนี้หม่อมบอกคุณเล็กไม่ได้...ต้องพูดกับท่านหญิง"
"เรื่องอะไร"
"เอ้อ...นายขอให้ผมถามอะไรเกี่ยวกับคุณเล็กสักสองสามข้อ ท่านหญิงจะบอกผมได้หรือไม่"
"ได้ซิ..ถ้าถามอะไรที่ฉันรู้ก็คงพอบอกได้"
"นาย...อยากรู้ว่าคุณเล็กเป็นคนอย่างไร"
"ฉันก็เห็นเขาเป็นคนดีนี่"
"เอ้อ...ท่านหญิงรู้จักกับเขานานหรือยัง"
"ไม่นานหรอก...แต่ญาติของฉันรู้จักเขาดีมานานแล้ว"
"ท่านหญิงทรงทราบไหมว่าเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใคร"
รัตนาวดีคิดนิดหนึ่ง
"เค้าเป็นลูกของคนรู้จักกับญาติฉัน"
"เขาทำอะไรอยู่ที่อังกฤษ"
รัตนาวดีนิ่งคิดอีก
"เขาทำงานเกี่ยวกับข้าราชการในสถานทูต...ส่งแค่นี้พอแล้ว คุณจะกลับไปทานอาหารดีกว่า"
วีระสิงห์ยิ้มดีใจ
"ผมจะกลับไปเรียนให้นายทราบเรื่องที่ท่านหญิง บอกเกี่ยวกับคุณเล็ก...ขอบพระคุณมากครับ"
ท่านหญิงรัตนาวดีพยายามยิ้ม
"ดีใจที่คุณหายติดอ่างกับฉัน ราตรีสวัสดิ์"
รัตนาวดีรีบเดินไป วีระสิงห์ดีใจรีบเดินกลับไป...
ท่านหญิงรัตนาวดีเดินเข้ามาในห้อง สีหน้าเหนื่อยหน่าย...รัตนาวดีเดินออกไปยืนที่ระเบียงห้อง พยายามที่จะไม่เศร้า
สวนสาธารณะที่ลอนดอน วิมลกำลังนั่งอ่านจดหมายท่านหญิงด้วยสีหน้าเป็นห่วง วิ เมื่ออ่านจดหมายจบแล้วก็พับเก็บด้วยสีหน้าเป็นทุกข์ นพมองมาแบบอยากรู้อยากเห็น
"ทำหน้าอย่างนี้แปลว่า ท่านหญิงทรงมีปัญหาแน่ๆ... มีเรื่องอะไรหรือ"
วิมลถอนใจ
"นั่น...มีถอนใจด้วย...บอกมาเร็วๆ ว่ามีอะไร"
วิมลเริ่มร้อนใจ
"จู่ๆ ท่านหญิงก็ไม่ทรงโปรดที่จะเที่ยวคอนติเน็นอีก...ท่านอยากส่งรถท่านดนัยกลับ"
"อ้าว...ทำไมล่ะ...เสด็จได้ไม่กี่ประเทศเองไม่ใช่เหรอ"
"ก็นั่นสิคะ...จดหมายของท่านหลังๆ นี่....เหมือนท่านเศร้า"
"ใครทำให้ท่านเศร้า"
"ฉันก็อยากรู้ ฉันอยากไปอยู่กับท่านจังเลยคุณนพ..ฉันเป็นห่วงท่าน"
"สอบเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ...ลองขอลาเค้าดูซิ"
วิมลถอนใจ
"ไม่รู้เค้าจะยอมให้ลาหรือเปล่า...ช่วงนี้งานยุ่งด้วย"
นพยิ้มให้กำลังใจ
"เอาน่า...วิมลเก่งอยู่แล้ว..พูดกับเค้าดีๆ...ถ้าคุณลาได้ ผมจะได้ลองไปขอลาดูบ้าง...เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน"
วิมลยิ้มกับนพอย่างมีความสุข...
ที่ Intrelaken ท่านหญิงรัตนาวดีเดินเข้ามาในร้านนาฬิกา เห็นนาฬิกาที่โชว์ไว้มากมาย รัตนาวดีเดินดูนาฬิกาในตู้โชว์ มีพนักงานขายมาต้อนรับอย่างดี รัตนาวดีชี้ขอดูนาฬิกา พนักงานขายหยิบมาให้ดูหลายเรือน มีเรือนหนึ่งที่รัตนาวดีสนใจ รัตนาวดีถามราคา พอคนขายบอกก็คิดนิดหนึ่ง เพราะราคาแพง ท่านดนัย กับหนูอาดเดินมาทางด้านหลัง รัตนาวดีมองไม่เห็น หนูอาดสนใจนาฬิกาที่รัตนาวดีถืออยู่ รัตนาวดีวางนาฬิกาเรือนนั้นลง หันไปหยิบอีกเรือนหนึ่งขึ้นมาดู แต่ก็วางจะหันกลับมาหยิบเรือนที่ชอบแต่ท่านดนัยหยิบขึ้นมาดูเสียก่อน ท่านดนัยมองนาฬิกาเรือนนั้นอย่างพอใจ แล้ววางไว้ตรงหน้ารัตนาวดี
"เป็นนาฬิกาที่สวยมากกระหม่อม"
สะอาดศรีรีบคว้านาฬิกานั้นไปทันที
"ถ้าคุณว่าสวยหนูก็จะซื้อ...คุณไปช่วยบอกคนขายให้หนูหน่อยนะคะ ว่าหนูจะซื้อเรือนนี้"
ท่านดนัยตกใจ รัตนาวดีหน้าเสีย สะอาดศรีดึงท่านดนัยไปจ่ายสตางค์ค่านาฬิกาเรือนที่รัตนาวดีชอบ รัตนาวดีอยากร้องไห้ รีบเดินหนีออกไปจากร้าน ท่านดนัยมองตามอย่างเป็นห่วง..
อ่านต่อหน้า 4
รัตนาวดี ตอนที่ 14 (ต่อ)
รัตนาวดีเดินออกมาจากร้านขายนาฬิกา แบบไม่สบายใจ เห็นป้าสร้อยนั่งรออยู่
"ท่านหญิงเพคะ...ทำไมหมู่นี้ชอบไปไหนมาไหนองค์เดียวอยู่เรื่อย...ป้าเผลอหน่อยเดียวหันมาก็ไม่เห็นแล้ว"
รัตนาวดีหันหน้าหนี สีหน้าไม่ดี ป้าสร้อยเห็นผิดปกติ
"ทูนหัว...เป็นอะไรเพคะ"
รัตนาวดีพยายามฝืนเป็นปกติ
"เปล่าค่ะ"
ป้าสร้อยไม่เชื่อ
"ต้องมีอะไรแน่ๆ"
ท่านดนัยรีบเดินออกมามีสะอาดศรีตามมาติดๆ พอสะอาดศรีเห็นรัตนาวดีก็รีบเดินมาหา ยกมือที่ใส่นาฬิกาเรือนที่รัตนาวดีอยากได้เอามายื่นอวดตรงหน้า
"ท่านหญิง...ท่านหญิงว่าสวยไหม"
ป้าสร้อยมองสะอาดศรีอย่างหมั่นใส้ รัตนาวดีเชิดหน้าพยายามยิ้มๆ
"สวยมาก"
"ไปซื้อมาจากไหนล่ะ" ป้าสร้อยถาม
สะอาดศรีพูดอย่างปลื้ม
"ซื้อมาเมื่อกี้เองค่ะคุณป้า...ท่านหญิงเลือกดูแล้วคุณเล็กบอกว่าสวยมาก หนูก็เลยรีบซื้อเลย"
ป้าสร้อยหันไปมองท่านดนัยที่ทำหน้าสำนึกผิด
"อ้อ...นายเล็กเป็นคนแนะนำอีกละซิ"
"ค่ะ...หนูดูของไม่ค่อยเก่ง...ต้องให้คุณเล็กช่วยเลือก"
รัตนาวดีน้อยใจ พยายามพูดเป็นปกติ
"ฉันจะไปดูที่ร้านทางโน้นกับป้าสร้อย...นายเล็กไม่ต้องตามมาหรอกนะ...พาหนูอาดไปเที่ยวเถิด...ไปค่ะป้า"
ป้าสร้อยหันมาค้อนท่านดนัยแล้วเดินไปกับรัตนาวดี ท่านดนัยอึดอัดพูดไม่ออก สะอาดศรีดึงแขนท่านดนัย
"ถ้างั้นเราไปทางโน้นกันดีกว่าค่ะคุณเล็ก...คุณเล็กว่าหนูซื้อนาฬิกาไปฝากม้าด้วยดีไหมคะ"
ท่านดนัยยังหันมามองรัตนาวดีที่เดินไปกับป้าสร้อย ตอบอย่างอึดอัด
"ตามใจคุณซิ"
สะอาดศรียิ้มแป้น ชวนท่านดนัยที่มีสีหน้าไม่สบายใจคุยไปเรื่อย
การแสดงโชว์บนเวทีที่ร้านอาหารในตอนค่ำ เป็นการร้องเพลงสวิสโบราณ โต๊ะของรัตนาวดีจะตั้งอยู่กลางร้าน ทุกคนกำลังรับประทานอาหารกันอยู่ รัตนาวดีไม่ได้สนใจอาหาร ตาจ้องอยู่กับการแสดงบนเวที่ การแสดงบนเวทีเปลี่ยนเป็นการสั่นกระดิ่งเป็นเสียงเพลง เป่าแตรยาว
พอถึงการแสดงเต้นรำแบบโบราณ พิธีกรบนเวทีมาเชิญสะอาดศรีกับท่านดนัยขึ้นไปเต้นรำบนเวที ....จากท่านดนัยเต้นรำกับสะอาดศรีอยู่บนฟลอร์ สะอาดศรีทำท่าหวานซึ้ง เก็จกำง๋งมองลูกสาวกับท่านดนัยอย่างพอใจ รัตนาวดีนั่งจิบไวน์ไม่อยากมองท่านดนัย วีระสิงห์ก็มองอย่างอยากรู้ว่าท่านหญิงสนใจท่านดนัยในฐานะนายเล็กไหม
"แหม...ดูท่าทางนายเล็ก กับ หนูอาดนี่สนิทสนมกันจริงนะ"
เก็จกำง๋งหัวเราะเสียงดัง
"หนุ่มสาวสมัยนี้...คบหาชอบพอกันเร็วเหลือเกินนะครับ"
รัตนาวดีมองหน้าเก็จกำง๋ง ป้าสร้อยแปลกใจ
"นี่...คุณพอใจให้หนูอาด ...เอ้อ..คบหากับนายเล็กเหรอจ้ะ"
เก็จกำง๋งหัวเราะอีก
"คุณสร้อยคิดว่าเป็นไงครับ...ผมไม่ได้รังเกียจคุณเล็ก ถึงเค้าจะไม่ได้ร่ำรวยเลิศเลอ...แต่ก็ดูเค้าเป็นคนดี...จริงมั้ยท่านหญิง...เป็นนักเรียนนอกแค่นี้ที่บ้านผมก็เห่อทั้งหมู่บ้านแล้ว"
เก็จกำง๋งหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจ รัตนาวดีฝืนใจยิ้ม
"นายเล็กเป็นคนดีจริง...ความรู้ก็ดี"
"นั่นสิครับ...ผมว่าหนูอาดก็พอจะชอบพอคุณเล็กบ้าง"
ป้าสร้อยบอก "คงไม่บ้างหรอก"
เก็จกำง๋งหัวเราะอีก
"แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าคุณเล็กจะคิดยังไงกับหนูอาด"
"คุณเล็กเค้าอาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้นะนาย."
"นั่นสินะ...เค้าถึงทำท่าระวังตัวอยู่เรื่อย...คุณสร้อยพอจะทราบไหมครับว่าคุณเล็กชอบพอกับใครหรือเปล่า"
"โอ้ย...ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ...ก็คุยถามเค้าตรงๆ สิคะ"
"ท่านหญิง...ถ้าผมถามคุณเล็กตรงๆ จะดีไหม"
รัตนาวดีไม่อยากออกความเห็น
"คุณกลัวนายเล็กไม่ชอบหนูอาดเหรอ แต่ฉันว่าเค้าก็ น่าจะมีใจให้หนูอาดนะ"
"คุณเล็กเป็นสุภาพบุรุษ มารยาทดีเค้าคอยดูแลพวกเราอย่างดีมากกว่า"
ท่านดนัยพาสะอาดศรีเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ
"หนูเต้นรำคล่องนะหนูอาด"
สะอาดศรีหันไปตาหวานกับท่านดนัย
เวลาต่อมา ทั้งหมดเดินจะกลับโรงแรม ท่านดนัยเดินออกมาจากห้องอาหารด้วยท่าทางซึมๆ
เก็กกำง๋งเดินตามหลังสุดตะโกนเรียก
"คุณเล็ก...คุณเล็ก"
ท่านดนัยหยุดเดินหันมา ปล่อยให้คนอื่นเดินผ่านไปก่อน
"เอ้อ...ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย"
"เรื่องอะไรครับ."
เก็จกำง๋งทำท่าเกรงใจ
"เอ้อ...คือ...อย่าหาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะ...ผมอยากจะถามคุณเล็กว่า...คุณชอบพอกับใครหรือยัง"
ท่านดนัยอึ้งไป
"ก็พอมี"
เก็จกำง๋งผิดหวัง
"อ้าว...เหรอ...ขอรบกวนถามอีกหน่อยนะ...แล้วคุณคิดจะแต่งงานกับคนนั้นหรือเปล่า"
"ผมก็คิดอยู่เหมือนกัน"
เก็จกำง๋งหน้าเสียอีก
"เหรอ...แต่ถ้าคุณพบ...เอ้อ...คนที่คุณถูกใจมากกว่าแล้ว...รวยกว่า...คุณจะเปลี่ยนใจมาชอบคนใหม่ได้ไหม"
ท่านดนัยยิ้มๆ
"ผมยังไม่พบคนที่ผมถูกใจกว่าเลยครับ...เลยยังไม่ได้คิด"
"คุณน่าจะลองคิดนะ...ถ้าคุณแต่งงานกับคนที่เค้ารักคุณมากกว่าที่คุณรักเค้า...คุณจะมีความสุขมากเลย"
"คนอย่างผมคงไม่มีใครมาสนใจหรอกครับ"
"ไม่จริงเลย...อย่างผมนี่นะ ถ้าคุณอยากเป็นลูกเขยผมละก็ผมยินดีเลย"
ท่านดนัยมองเก็จกำง๋งอย่างรู้สึกดีที่เก็จกำง๋งชอบเขาอย่างจริงใจ ถึงเป็นแค่นายเล็ก
"ขอบคุณครับ...หนูอาดเป็นเด็กน่ารัก...ผมแน่ใจว่าเค้าจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี"
เก็จกำง๋งยิ้ม
"แล้วผู้ชายคนนั้นคือคุณหรือเปล่าล่ะ"
ท่านดนัยหัวเราะเขินตอบไม่ถูกเพราะไม่อยากให้เก็จกำง๋งเสียหน้า เก็จกำง๋งก็เลยพลอยหัวเราะไปด้วย...
"แหม...ผมอยากรู้จังว่าผู้หญิงที่คุณชอบเป็นยังไง"
ท่านดนัยยิ้มๆ
คืนนั้น รัตนาวดีแต่งชุดนอนมีเสื้อคลุมสวยๆ ปล่อยผมยาวสลวย นั่งเขียนจดหมายอยู่ ป้าสร้อยก็ใส่ชุดนอนที่เสื้อคลุมนั่งอ่านหนังสือไกลบ้าน
"แหม...หมู่นี้เราไม่ค่อยได้ผ่านเมืองที่ตามรอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวงเลยนะเพคะ...นายเล็กก็มัวแต่สนใจเรื่องอื่น"
"ป้าอยากไปที่ไหนล่ะคะ"
"ที่ไหนก็ได้ค่ะที่ท่านทรงนิพนธ์ไว้ แต่พวกนายเก็จกำง๋งเค้าจะอยากไปด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้สิเพคะ"
"ถ้าเค้าไม่อยากไป...เราก็ไปกันเองก็ได้นี่คะ"
"แหม...แม่หนูอาดคงได้ขาดใจตายน่ะซิเพคะ...ติดนายเล็กซะยิ่งกว่าตังเม...ตาพ่อก็แปลก..เหมือนจะส่งเสริมให้ลูกสาวมีแฟน...ลูกสาวเดินกระแซะผู้ชายทั้งวันไม่เตือนซักคำ"
ท่านหญิงรัตนาวดีหยุดแปรงผมหันมามองป้าสร้อย
"หญิงคิดว่าป้าจะชอบเสียอีก...ป้าเป็นคนพูดเองว่าอยากให้หนูอาด กับ นายเล็กชอบกัน"
ป้าสร้อยวางหนังสือท่าทางเบื่อๆ
"แหม...ก็หม่อมฉันไม่รู้ว่าจะติดกันขนาดนี้มังคะ...บางทีดูแล้วก็ขวางเหมือนก้น...แต่พอมาคิดว่าถ้านายเล็กได้เป็นลูกเขยนายเก็จกำง๋งละก็ถือว่าโชคดีมาก"
"หญิงก็รู้สึกเบื่อๆ สองคนนี่เหมือนกัน...หญิงอยากคืนรถท่านดนัยแล้วไปอยู่ที่โลซานน์...หญิงอยากเรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติมอีก แล้วก็อยากเรียนเปียโน"
"ถ้าทรงตั้งพระทัยอย่างนั้น หม่อมฉันก็แล้วแต่ท่าน...ดี เหมือนกันจะได้ไม่ต้องเห็นให้รกตารกสมอง"
รัตนาวดีตัดสินใจ
"ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้นะคะ"
"เพคะ...ว่าไงว่าตามกัน"
รัตนาวดีหันกลับไปมองตัวเองในกระจก ก็เห็นว่าสีหน้าที่อมทุกข์ของตัวเอง
ท่านดนัยกำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่โต๊ะด้วยสีหน้าใช้ความคิด มีเสียงเคาะประตู ท่านดนัยขมวดคิ้วไม่สนใจ แต่ก็พูดออกไป
"Herein (ภาษาเยอรมัน “แฮไรน์” แปลว่าเข้ามา)"
ไม่มีใครเปิดประตูเข้ามา ท่านดนัยหันไปมองที่ประตู ไม่มีใครเข้ามา ท่านดนัยก็เขียนหนังสือต่อก็มีเสียงเคาะประตูอีก ท่านดนัยเริ่มอารมณ์ไม่ดี พูดเสียงดัง
"Herein"
ไม่มีใครเข้ามาอีก ท่านดนัยลุกขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ คว้าเสื้อคลุมใส่ทับชุดนอน แล้วเดินไปเปิดประตู สะอาดศรียืนอยู่ที่ประตูใส่ชุดนอนเซ็กซี่ ท่าทาง กระสับกระส่าย ท่านดนัยแปลกใจ
"คุณสะอาดศรี...มีอะไรหรือเปล่าครับ"
สะอาดศรีหลบตาแล้วพยักหน้า
"คุณต้องการอะไร"
สะอาดศรีอึกอัก
"เอ้อ...แว่นตาดำของหนูอยู่ในกระเป๋าของคุณหรือเปล่า..หนูหาไม่เจอ...นายบอกว่าคุณอาจจะเก็บไว้"
ท่านดนัยทำท่าคิด
"ดูเหมือนอยู่...คุณทำตกไว้ในรถ รอสักครู่"
ท่านดนัยเดินกลับเข้าไปหยิบแว่นกันแดดสะอาดศรีในห้อง สะอาดศรีเดินตามเข้ามาในห้องแล้วก็ปิดประตูห้องเสียด้วย.. ท่านดนัยหยิบแว่นแล้วหันมาเห็นสะอาดศรียืนอยู่ในห้องก็ตกใจ ส่งแว่นให้แล้วพูดอย่างตำหนิ
"คุณไม่ควรเข้ามาในห้องผมเวลานี้...ใครเห็นเข้าจะไม่ดี."
สะอาดศรียิ้มหวาน
"เป็นอะไรไปคะ...ก็หนูมาเอาแว่นตาของหนูนี่"
ท่านดนัยไม่พอใจ
"ถ้าคุณต้องการจริงๆ ก็ควรให้พี่ชายคุณมาเอา หรือไม่ก็โทรศัพท์ให้ผมส่งขึ้นไปให้ก็ได้"
สะอาดศรีอาย แต่ก็พยายามให้ท่าอีก
"เอ้อ...หนูจะบอกความจริง..หนูมีเรื่องอยากพูดกับคุณเล็กน่ะซิถึงต้องมาตอนนี้"
"ไม่จำเป็นต้องมาเลย...คุณโทรศัพท์จากห้องคุณมาถึงผมก็ได้"
สะอาดศรีอ้อน
"ก็หนูไม่อยากให้พี่เชิด กับนายได้ยินเรื่องที่หนูจะพูดกับคุณนะสิคะ"
สะอาดศรีเดินเข้าไปใกล้ ท่านดนัยรีบเดินไปเปิดประตู
"เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้...ตอนนี้คุณกลับไปดีกว่า"
สะอาดศรีรีบวิ่งมากั้นประตู ไม่ยอมให้ท่านดนัยออกไป
"ไม่ได้ค่ะ...ถ้ารอถึงพรุ่งนี้เราคงไม่มีโอกาสได้พูดกันสองต่อสอง"
ท่านดนัยเบี่ยงตัวออกไปจากห้องจนได้ ออกไปยืนพูดหน้าห้อง
"มันไม่ถูกที่คุณจะมาคุยกับผมสองต่อสองในห้องผมอย่างนี้...คุณกลับไปห้องของคุณดีกว่า...พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน"
สะอาดศรีจำใจเดินออกมาจากห้อง รัตนาวดีเดินออกมาจากห้องอีกด้านหนึ่ง ถือจดหมายออกมาด้วยเห็นสะอาดศรีเดินออกมาจากห้องท่านดนัยพอดี พอเห็นท่านดนัย กับหสะอาดศรีก็ตกใจ รีบหันหลังให้...สีหน้าปวดร้าวเม้มปากแน่น เดินกลับไปในห้อง...ท่านดนัยก็ตกใจ สะอาดศรีทำเป็นตกใจ แต่ก็แอบทำหน้าพอใจ...รีบอ้อนท่านดนัย
"ตายจริงคุณเล็ก...ทำไงดีคะ..ท่านหญิงออกมาเห็นเราพอดี...หนูแย่แล้ว เดี๋ยวท่านไปฟ้องนาย"
ท่านดนัยสีหน้าไม่ดี
"ท่านไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก...คุณรีบไปดีกว่า"
สะอาดศรีรีบวิ่งไปด้วยสีหน้าพอใจ ท่านดนัยเป็นทุกข์เดินกลับเข้าไปในห้อง..
รัตนาวดีเดินกลับเข้ามาในห้อง สีหน้าปวดร้าว เอาจดหมายกลับไปวางที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วเดินไปยืนนิ่งที่หน้าต่าง พยายามจะไม่ร้องไห้ แต่ก็สะอื้นออกมา... ป้าสร้อยนอนหลับอยู่บนเตียง
ฝ่ายท่านดนัยยืนงงอยู่กลางห้อง สีหน้าทุกข์ร้อน เดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ พยายามจะเขียนหนังสือต่อแต่ก็วางปากกา เอากำปั้นทุบโต๊ะอย่างกลุ้มใจ...
อ่านต่อตอนที่ 15