xs
xsm
sm
md
lg

รัตนาวดี ตอนที่ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รัตนาวดี ตอนที่ 1

ในห้องนั่งเล่นในวังศิลาขาว เมื่อเวลาใกล้ค่ำ หม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดีแต่งตัวสวยเดินลงบันไดมาจากชั้นบน ป้าสร้อยออกมาจากห้องเล็กรีบวิ่งตามลงมา

"ท่านหญิง...ท่านหญิงเพคะ"
รัตนาวดีหันมายิ้มหวาน
"จะเด็จไหนเพคะ...แต่งองค์ซะสวยเชียว" สร้อยถาม
"อ้าว…หญิงยังไม่ได้บอกป้าสร้อยหรอกเหรอ...หญิงจะไปงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่จ้ะ"
"รุ่นพี่...ใครกันเพคะ หม่อมฉันรู้จักหรือเปล่า..แล้ว..ผู้หญิงหรือผู้ชายกันเพคะ เค้าจัดงานที่ไหนกัน ค่ำๆ มืดๆ จะเด็จไปองค์เดียวได้ยังไงกันเพคะ"
ท่านหญิงรัตนาวดีหัวเราะ
"ถามอย่างกับยิงสลุด...หญิงโตแล้วนะ หญิงไปคนเดียวได้ เค้าเลี้ยงที่สโมสร แล้วก็เป็นผู้ชายจ้ะ"
ท่านหญิงรัตนาวดีตอบอย่างล้อเลียน ป้าสร้อยตาเขียว
"ผู้ชาย…ตายจริงท่านหญิง ไม่งามนะเพคะ เอางี้ หม่อมฉันไปด้วยเพคะ รอแป๊ปเดียว หม่อมฉันขอ
เปลี่ยนเสื้อก่อน"
ป้าสร้อยทำท่าจะรีบหันไป ท่านหญิงรีบจับตัวไว้
"ไม่ต้อง...ป้าจะไปทำไม งานเค้ามีแต่หนุ่มๆ สาวๆ เดี๋ยวป้าจะเบื่อซะเปล่าๆ"
"ไม่เบื่อเพคะ...หม่อมฉันไม่ยอมให้ท่านหญิงเด็จคนเดียวแน่ เพื่อนผู้ชาย ใครก็ไม่รู้ ค่ำๆ มืดๆ จะไว้ใจได้หรือ"
ท่านหญิงรัตนาวดีพยายามอธิบายสีหน้ายิ้มๆ
"เค้าไว้ใจได้...แล้วก็ไปกันหลายคน เค้าเป็นรุ่นพี่ที่ดังที่สุดในมหาลัยนะจ้ะ...ชื่อประพัทธ์ หญิงต้องไปเพราะเค้าช่วยงานกิจกรรมที่คณะหญิงหลายครั้งมาก"
"ประพัทธ์ ไหนไม่เห็นรู้จัก หม่อมฉันรู้จักสหายท่านหญิงทุกคน ไม่เห็นเคยตรัสถึงตานี่ซักหน เอาเป็นว่าถ้าจะเด็จหม่อมฉันไปด้วย"
"คุยอะไรกัน"
หม่อมเจ้าพจน์ ปรีชากับปริศนาเดินเข้ามา รัตนาวดีรีบฟ้อง
"เจ้าพี่...หญิงจะจะไปงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ที่มหาลัย..แต่.. ป้าสร้อยจะไปด้วยให้ได้ รับสั่งห้ามหน่อยซิเพคะ
ถ้าป้าสร้อยไปหญิงก็ครึแย่"
สร้อยค้อน
"ต้องรับสั่งห้ามท่านหญิงต่างหากเพคะ..หม่อมฉันว่าเสด็จองค์เดียวดึกๆ ดื่นๆ มันไม่งามเพคะ"
ท่านหญิงตาเขียว
"เดี๋ยวก็ค่ำๆ มืด ๆ เดี๋ยวก็ดึกๆ ดื่นๆ หญิงบอกแล้วไงว่า มีคนไปเยอะแยะ เพื่อนของหญิงก็ไปหลายคน"

ท่านชายพจน์ยกมือห้ามทัพทั้งสองคน ปริศนากลั้นหัวเราะ
"เอาอย่างนี้...ให้สนขับรถไปกับหญิง แล้วก็กลับไม่เกินสี่ทุ่ม...อย่างนี้พอใจไหม"
สร้อยทำท่าจะเถียงไม่เห็นด้วยอีก แต่เห็นสายตาท่าชายก็ต้องยอมจำนนอย่างเสียไม่ได้
บ่นอุบอิบ
"สามทุ่มก็ดีนะเพคะ สี่ทุ่มดึกไป"
ท่านหญิงรัตนาวดีแอบหันไปทำหน้าเซ็งกับปริศนา
"หญิงรัตน์โตแล้วนะป้าสร้อย...เค้าดูแลตัวเองได้ แล้วถ้าเกิดหญิงรัตน์ต้องไปยุโรปเป็นเดือนๆ ป้าสร้อยมิแย่หรือ"
ท่านหญิงรัตนาวดีหันขวับมามองพี่ชาย ป้าสร้อยก็จ้องท่านพจน์เขม็ง ปริศนายิ้มๆ
"เจ้าพี่"
ท่านพจน์ยิ้มให้น้องสาว ท่านหญิงรัตนาวดี ดีใจโผเข้ากอดท่านชายพจน์
"จริงๆ นะเพคะ"
"ให้รางวัลคนเรียนเก่งไงเพคะ" ปริศนาบอก
ป้าสร้อยดีใจมาก แต่พยายามรักษาฟอร์ม
"ก็เตรียมตัวให้ดี เดือนหน้าค่อยเดินทาง อากาศยังไม่หนาวเกินไป เหมาะที่จะเที่ยว"
รัตนาวดีไหว้ที่อกท่านชายพจน์
"ขอบพระทัยที่สุดเพคะ...หญิงฝันอยากไปยุโรปนานแล้ว เดี๋ยวจะต้องไปโอ่ให้เพื่อนๆ ฟังซะหน่อย"
"ไปเถอะ...อย่าลืมล่ะ...สี่ทุ่มนะ"
รัตนาวดีรีบวิ่งไป
"ไม่ลืมเพคะ...ไม่ลืม"
ป้าสร้อยรีบตามรัตนาวดีไป

สนเปิดประตูรถให้ท่านหญิงรัตนาวดีขึ้นไปนั่งด้านหลัง ป้าสร้อยรีบเดินไปกำชับ หยิบเงินให้สน
"เอ้า...ไปหาข้าวกิน แล้วอย่าไปเผลอหลับที่ไหนล่ะ สามทุ่มกว่าๆ ถ้าท่านหญิงไม่เด็จออกมาจากงาน
แกเข้าไปตามนะ"
สนยกมือไหว้รับเงินใส่กระเป๋า
"จะดีเหรอป้า"
"รับสั่งท่านชาย...ท่านหญิงต้องกลับสี่ทุ่ม ถ้าสี่ทุ่มยังไม่มาถึง...ฉันจะเล่นงานแก"

สนทำหน้าสยดสยอง รีบเปิดประตูรถขึ้นไปแล้วรีบขับออกไป ป้าสร้อยมองตามอย่างเป็นห่วง

ในเวลาเดียวกับประเทศไทย เวลากลางวัน ที่บ้านพักของหม่อมเจ้าดนัยวัฒนา ข้าราชการในสถานทูตไทย ท่านชายขับรถเข้ามาจอดที่บ้านพัก ในกรุงลอนดอน หิ้วกระเป๋าเอกสารเดินเข้าบ้านพักที่กว้างขวาง
 
นายเล็กทำอาหารอยู่ในครัว ท่านชายเดินเข้ามาในบ้าน มาเรียรีบมารับกระเป๋าเอกสารไปไว้ที่ห้องทำงาน ท่านดนัยเดินเข้าห้องนอน

ปริศนาแต่งชุดนอนมีเสื้อคลุมสวยๆ เดินลงมา ป้าสร้อยนั่งอ่านหนังสืออย่างขมักเขม้น รอรัตนาวดีอยู่
ปริศนาเดินเข้าไปหา
"ป้าสร้อย"
สร้อยสะดุ้ง หันมายิ้มหวาน
"หม่อม…มาเงียบๆ อีฉันตกใจหมด..จะรับอะไรหรือเปล่าคะ"
"ไม่ค่ะ...กำลังอ่านหนังสืออะไรค่ะ"
"นั่งคอยท่านหญิงก็เลยหาหนังสือมาอ่านค่ะ ..เล่มนี้น่ะ ไม่ใช่หนังสือธรรมดานะคะ...เป็นพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เรื่อง ไกลบ้าน ค่ะ"
"ไกลบ้าน"
"ใช่ค่ะ...ทรงนิพนธ์เมื่อตอนเสด็จประพาสยุโรป"
ปริศนายิ้มอย่างรู้ทัน แต่แกล้งถาม
"ทำไมถึงอยากจะอ่านหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาล่ะคะ"
"แหม..หม่อม…อิฉันก็ต้องเตรียมตัวสิคะ...จะตามเสด็จตั้งหลายเดือน...ต้องหาความรู้ไว้ล่วงหน้า"
ปริศนากลั้นหัวเราะ
"เอ…แต่ฉันยังไม่ได้ยินท่านชายตรัสว่าจะให้ใครตามเสด็จไปกับท่านหญิงนะจ้ะ"
สร้อยชะงัก
"แล้ว…จะปล่อยให้ท่านหญิงไปองค์เดียวได้ไงคะ ต่างบ้านต่างเมือง จะไปรอนแรมยังไงคนเดียว
ตั้งหลายเดือน...ใครจะถวายงานรับใช้ พูดก็พูดนะคะ หม่อม…ท่านหญิงถ้าไม่มีอิฉันคอยเตือนน่ะ ท่านก็ซน
จะแย่...เอ้อ...ตายจริง...ป่านนี้น่าจะมาได้แล้วนะ เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ไอ้สนนี่มันไม่ได้เรื่องเลย เดี๋ยวเถอะกลับมาละก็ต้องเฉ่งกันบ้างแล้ว"
ปริศนารีบหนีไป ขณะที่ป้าสร้อยบ่นยืดยาว

ท่านชายดนัยวัฒนาในชุดอยู่บ้านนั่งทานอาหารเย็น นายเล็กเข้ามาเก็บอาหารที่ทานเสร็จแล้ว พร้อมเสิร์ฟของหวาน

ท่านชายพจน์กำลังเขียนจดหมายอยู่ที่มุมโต๊ะทำงานในห้องนอนที่ตบแต่งสวยงามหรูหรา ปริศนาเดินเข้ามา ถือถาดใส่ชุดน้ำชาสองที่เข้ามา พร้อมจานขนมเล็กๆ เข้ามาวางที่โต๊ะน้ำชา ซึ่งเป็นอีกมุมที่สบายๆ ในห้องทำงาน ปริศนาดูช่วยจัดวางอย่างสวยงาม ปริศนารินน้ำชาจากกาใส่ถ้วย ใช้ที่บีบมะนาว บีบมะนาวใส่ในถ้วยนิดหน่อย และใช้ไม้คนน้ำผึ้งจากโถเล็กๆ ใส่ในถ้วยชานิดหน่อยเหมือนกัน คนให้ดีแล้วก็ยกมาให้ท่านพจน์ ท่านชายรับถ้วยชามาดื่ม ทำสีหน้าพอใจ
"ขอบคุณค่ะ"
ปริศนามองจดหมายที่ท่านพจน์กำลังเขียน
"ทรงเขียนจดหมายถึงใครเพคะ"
"ญาติของฉัน....หม่อมเจ้าดนัยวัฒนา"
"อย่างนี้จะให้ท่านหญิงประทับอยู่แต่ที่อังกฤษ หรือว่าจะไปประเทศอื่นด้วยเพคะ"
"ใจจริงฉันก็อยากให้น้องหญิงได้ไปทั่วยุโรป แต่ก็ต้องดูตามความเหมาะสม...ท่านดนัยต้องทำงานจะไปกวนเขามากนักฉันก็เกรงใจ....ถ้าจะต้องหาคณะเที่ยวที่พอใจ วางใจได้ให้น้องหญิงไปร่วมคณะกับเขา"
"แต่ถ้าไปจอยกับคณะเที่ยวที่เข้ากันไม่ได้ ท่านหญิงจะไม่สนุกเลยนะเพคะ"
"ก็นั่นน่ะสิ....ฉันจะลองปรึกษาท่านดนัยดูให้ดีก่อน"
ปริศนาเดินไปหยิบจานคุ้กกี้มาวางให้ท่านชายพจน์
"ท่านชายจะให้ท่านหญิงเสด็จเมื่อไหร่เพคะ"
"ต้องจัดการหลายเรื่องให้เรียบร้อยก่อน"
ท่านชายพจน์ทำท่าจะเขียนจดหมายต่อ ปริศนานึกขำ
"แล้วจะให้ใครตามเสด็จด้วยไหมเพคะ"
ท่านพจน์หันมามองปริศนา
"ฉันขอบอกตามตรงว่ายังไม่ได้คิดเรื่องนี้"
ปริศนายิ้ม
"ทรงต้องคิดด้วยนะเพคะ...เพราะป้าสร้อยน่ะตั้งใจตามเสด็จเต็มที่แล้ว"
ท่านพจน์หัวเราะ
"อย่างนั้นเชียวหรือ"
ปริศนายิ้มๆ ทำท่าใช้ความคิด หยิบคุ้กกี้ในจานทาน ท่านชายมองตาม
"ระวังจะอ้วนนะคะหม่อม....ทานขนมตอนค่ำๆ"

ท่านชายมองปริศนาล้อ ๆ ปริศนายิ้มหวาน เลิกทาน...
 
อ่านต่อหน้า 2

รัตนาวดี ตอนที่ 1 (ต่อ)

ตอนเช้าบรรยากาศสดใส สนกำลังช่วยสมบูรณ์เช็ดรถอยู่ในโรงรถ สร้อยเดินหน้างอเข้ามาหา ในมือก็ถือหนังสือไกลบ้าน

"ไอ้สน...ไอ้สน"
สร้อยเดินมา สนแอบทำหน้าเซ็ง
"ไอ้สน...เอ็งนะเอ็ง...เมื่อคืนกลับมากี่โมง"
"ประมาณสี่ทุ่มกว่าเท่านั้นละป้า"
"ก็ข้าบอกแล้วไงว่าห้ามเกินสี่ทุ่มน่ะ...ท่านหญิงไม่เด็จออกมาหรือไง"
"ทำไมป้าไม่ไปทูลถามท่านหญิงเองล่ะ"
สร้อยทำท่าจะเอาหนังสือฟาด สนหลบ
"เอ็งไม่ต้องมาทำโยกโย้...แค่นี้ทำไม่ได้ นับประสาอะไร ข้าจะไว้ใจให้เอ็งทำเรื่องอื่น...สู้สมบูรณ์มันก็ไม่ได้"
สมบูรณ์รีบโบกมือบอก "อย่าเอาฉันไปเกี่ยวเลยจ้ะ"
"เอ็งแอบไปกินเหล้าในงานเค้าหรือเปล่า...อย่าโกหกนะ"
"เปล่า…ฉันแค่ไปขอน้ำเค้ากิน...เลยได้เห็นของดี"
"เอ็งอย่ามานอกเรื่อง...บอกมาทำไมกลับช้า"
สนถอนใจ
"ท่านหญิงน่ะไม่ได้เด็จออกมาช้าหรอกป้า...มันมาช้าก็เพราะเจ้าของงานน่ะ วิ่งตามมาถึงรถ จะขอให้ท่านเสด็จต่อที่ไนท์คลับให้ได้"
สร้อยตาเหลือก
"อะไรนะ...ไปต่อที่คลับ"
สนยกมือห้าม
"อย่าเพิ่งโวยวายซิ ท่านหญิงไม่ไป ท่านยืนกรานจะกลับวังเพราะรับปากท่านชายแล้ว...ไอ้หมอนั่นก็ตื้อ
ไม่เลิก"
"ไอ้นี่มันวอนซะแล้ว"
"แหม…ยืนตื้ออยู่นาน...ท่าทางจะเมา...แล้วท่าทางก็ดูเหมือนจะติดใจท่านหญิงเอามากด้วย"
"ลูกเต้าเหล่าใคร....ทำไมถึงทะลึ่งขนาดนี้"
"โอ้…พ่อเค้าใหญ่โตไม่เบานา...ฉันแอบเข้าไปสืบดูในงาน ตามคำสั่งป้าไง เห็นแม่เค้ายังกะตู้
เครื่องเพชรแน่ะ"
สร้อยค้อนลมประหลับประเหลือก
"ก็ไม่แน่ว่าจะดีพอสำหรับท่านหญิงของฉัน"
สนทำท่าหมดแรง
"ฐานะเขาก็ดูร่ำรวยดีนะป้า....แต่ถ้าผู้หญิงคนไหนเป็นลูกสะใภ้บ้านนี้ท่าจะจ๋อง"
"ทำไม"
"ฉันดูท่าทางคุณนายแม่น่ะ...อื๋อ...น่ากลัว...มองคนงี้ หางตา...ทำวางท่าซะยิ่งกว่าเสด็จอีก...ไม่ไหว...
ฉันเข้าเฝ้าเจ้ามาตั้งหลายองค์แล้ว ยังไม่เห็นทำท่าเจ้ายศเจ้าอย่างอย่างแม่คุณประพัทธ์เลย"
"คนเค้ามีดีเค้าไม่ต้อยยกหางตัวเองหรอก...ผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ"
"ชื่อประพัทธ์...เขาจะไปเรียนต่ออังกฤษเชียวนา"
สร้อยกระซิบ
"แล้วเอ็งว่าท่านหญิงเราโปรดเขาไหม"
"ไม่เลย...ถ้าฉันดูไม่ผิดนะ...ท่านหญิงดูจะทรงเบื่อๆ ซะด้วยซ้ำ"
สร้อยยิ้มกระหยิ่มดีใจ หยิบเงินจากกระเป็าเสื้ออย่างยากเย็นส่งให้สน
"เอ็งทำดีมาก...เอ้านี่รางวัล...แล้วเอ็งว่าไปเห็นของดีอะไร"
"นายประพัทธ์น่ะซิ กลัวแม่หงอเลย...ท่าทางลูกแหง่ยังกะอะไร"
"เค้าเชื่อฟังพ่อแม่เค้าก็ดีแล้วนี่...นี่ยังมีข้อดี..ดีกว่าไอ้พวกห่าม ดื้อด้านพ่อแม่สอนไม่ฟัง"

ท่านชายพจน์กำลังคุยกับน้องสาวในห้องทำงาน วังศิลาขาว
"รอให้ท่านดนัยติดต่อที่ลอนดอนให้เรียบร้อยก่อน ค่อยกำหนดวันเดินทาง"
"หญิงอยากจะไปหลายๆ ประเทศ แต่ก็เกรงทัยเจ้าพี่จะหมดเปลืองเกินไป"
ท่านหญิงรัตนาวดีพยายามทำท่าสงบเสงี่ยม ท่านพจน์มองหน้าน้องแล้วก็ยิ้มๆ
"เกรงใจจริงๆ หรือเปล่าคะ"
รัตนาวดียิ้มหวาน
"แต่หญิงก็อยากเที่ยวยุโรปเหลือเกินเพคะ"
"หญิงไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหน...พี่ก็อยากให้ไปเที่ยวให้สนุกนะคะ....ไอ้เรื่องหมดเปลืองอะไรน่ะ
พี่ก็มีน้องอยู่คนเดียว จะเท่าไหร่ก็เท่ากัน"
สร้อยเดินยกอาหารว่างเข้ามา ทำไม่รู้ไม่ชี้ รัตนาวดีลงไปนั่งคุกเข่าไหว้ท่านพจน์ที่ตัก
"หญิงขอบพระทัยเจ้าพี่เป็นที่สุดเพคะ"
"เอ้อ…ท่านชายจะให้ท่านหญิงเสด็จไปกับใครดีเพคะ"
ท่านพจน์หันไปยิ้ม
"นั่นสินะ...หญิงอยากให้ใครตามเด็จด้วยคะ"
"หญิงไปคนเดียวก็ได้เพคะ...วิมลอยู่ที่ลอนดอน ไหนจะคุณนพอีก...หญิงมีเพื่อนแล้วเพคะ."
สร้อยรีบเสนอ
"แต่ท่านหญิงเพคะ...หม่อมฉันเป็นห่วงท่านหญิง วิมล กับ ตานพนะ เค้าต้องเรียนหนังสือกัน
จะมีเวลามาตามเด็จ มาดูแลท่านหญิงได้แค่ไหนกันเชียว"
"นั่นสินะ...จะให้ป้าสร้อยไปด้วยก็กลัวจะไปหนาวสั่นตาย ไหนจะต้องเดินทางไปโน่นไปนี่...คงจะไม่ไหว"
ป้าสร้อยเสียงสูง
"ไหวมังคะ...หม่อมฉันแข็งแรงจะตาย วิ่งขึ้นวิ่งลงตำหนักทั้งวัน หม่อมฉันยังไม่เหนื่อยเลยเพคะ"
รัตนาวดีค้อน
"แล้วใครชอบมาโอดโอยกับหญิงว่าเมื่อยจะแย่ ลุกไม่ขึ้น"
"นิดๆ หน่อยๆ มังคะ...แหม..ท่านหญิงก็..."
"เรื่องนั้นค่อยมาตัดสินใจกันอีกครั้ง"
ท่านชายพจน์นึกขึ้นมาได้
"แล้วพรุ่งนี้หญิงต้องไปเฝ้าเสด็จอานะ...ตั้งแต่เรียนจบยังไม่ได้ไปเฝ้าท่านเลย"
"ดีเหมือนกันเพคะ....หญิงตั้งใจจะไปเฝ้าเสด็จอานานแล้ว"
"หม่อมฉันขอตามเสด็จด้วยนะเพคะ คิดถึงท่าน ไม่ได้เข้าเฝ้านานแล้วเพคะ"
"ดีเหมือนกัน...พี่ฝากกราบทูลด้วยว่าจะพาหลานๆ ไปกราบวีคเอนท์หน้า"
รัตนาวดียิ้มหวาน

"ได้เพคะ"

วันใหม่ วังเสด็จพระองค์เจ้า รัตนาวดีก้มกราบเสด็จอา รับประทานรางวัลจากเสด็จอา เป็นซองใส่เงินหนา รัตนาวดีรับมาแล้วก็ก้มกราบที่เท้า

"หลานขอกราบขอบพระทัยเสด็จอาเพคะ"
เสด็จยิ้มแย้มชื่นชม
"หลานรัก...อาดีใจมากที่หลานได้รับเกียรตินิยม นี่เป็นรางวัลเรียนดีของหลาน....แล้วนี่..."
เสด็จหยิบกล่องเครื่องประดับเล็กๆ ส่งให้รัตนาวดี ป้าสร้อยนั่งพับเพียบห่างๆ มองอย่างซาบซึ้ง
"นี่เป็นของขวัญจากอา...เป็นเข็มกลัดของทูลหม่อมย่า"
รัตนาวดีรับมาเป็นเข็มกลัดเพชรรูปเกือกม้าอันเล็กๆ รัตนาวดีมองอย่างดีใจ
"ทำโดยช่างอิตาลี...ชอบไหมลูก"
"สวยเหลือเกินเพคะ"
"เป็นสาวแล้ว...หัดใช้เครื่องประดับได้แล้ว...แล้วท่านพี่ประทานรางวัลอะไรให้น้องหญิงล่ะ"
"ทรงประทานให้หลานไปเที่ยวยุโรปเพคะ"
"ดีจริง...ไปอังกฤษด้วยซิหลาน....ท่านดนัยอยู่ที่นั่น หญิงยังไม่เคยพบกับท่านดนัยซินะ..ท่านมีศักด์เป็น
ท่านพี่หลานนะลูก"
"ยังไม่เคยพบเพคะ"
"แล้วจะเดินทางเมื่อไหร่ลูก"
"คงเร็วๆ นี้เพคะ ยังไม่ได้กำหนดแน่นอน หญิงกะว่าคงไปอยู่หลายเดือน เลยต้องเตรียมหลายอย่างเพคะ"
"อาว่าหลานน่าจะมีผู้ติดตามไปด้วยสักคนนะ"
สร้อยนั่งบิดไปบิดมา พยายามยิ้มเกินเหตุ จนเสด็จอาขำ
"ไงล่ะสร้อย....อยากไปกับท่านหญิงละซิ เอาไปด้วยก็ดี นะลูก จะได้ไปคอยรับใช้ ถือว่าให้รางวัลที่ช่วยอาเลี้ยงหลานมา"
สร้อยรีบก้มกราบ
"เป็นพระกรุณาแก่หม่อมฉันเหลือที่สุดเพคะ"
เสด็จค้อนขำๆ
"รีบรับเชียวนะหล่อน"
เสด็จหันไปขำกับรัตนาวดี

กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษบรรยากาศสวยในยามเช้า อากาศยังหนาว หม่อมเจ้าดนัยวัฒนานั่งอ่านจดหมายท่านชายพจน์
"ทูลท่านน้อง...ท่านคงยังไม่เคยทอดเนตรน้องหญิงของหม่อมฉัน...เพราะเมื่อประสูติ เราสองคนยัง
อยู่ที่ Oxford แต่ตอนนี้ได้เรียนจบปริญญาตรีด้านการบัญชี ดีขนาดที่ว่าได้เกียรตินิยมมาให้พี่ได้ชื่นใจ แทนท่านพ่อท่านแม่ของเราสองคน"
ดนัยวัฒนามีสีหน้ายิ้มเมื่ออ่านถึงตรงนี้ ในห้องนั้นมีรูปถ่ายที่ท่านชายทั้งสองได้เคยถ่ายไว้ด้วยกันเมื่อตอนยังวัยรุ่น
"หม่อมฉันจึงอยากให้รางวัลน้องหญิงด้วยการมาท่องเที่ยวที่ยุโรปสักพัก...โดยมิได้กำหนดเวลาตายตัว
ในการเดินทางกลับ ดังนั้นคงจะต้องขอรบกวนท่านน้องให้ช่วยเป็นธุระในการหาที่พัก และ หาหนทางให้
น้องหญิงได้เสด็จในที่ที่พอพระทัย ซึ่งหม่อมฉันแน่ใจว่า ท่านน้องคือผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวดังที่เคยพา
หม่อมฉันท่องเที่ยวไปกับท่านเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่หากท่านน้องติดภาระการงาน...ก็คงเป็นธุระหา
หนทางร่วมคณะที่ท่านน้องวางใจด้วยเถิด...ด้วยน้องหญิงก็พอมีเพื่อนที่เรียนอยู่ลอนดอน หากได้ข้อมูล
จากท่านน้องก็พอจะไปเที่ยวเองได้อยู่"
ท่านชายดนัยวัฒนายังอ่านจดหมายไม่จบ มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จึงวางจดหมายไว้ไปรับสาย
จดหมายท่านชายพจน์วางอยู่ หม่อมเจ้าดนัยวัฒนาพูดโทรศัพท์อยู่ด้านหลัง....

นายเล็กกำลังทำอาหารง่ายๆ อยู่ที่แพนทรี ท่านชายดนัยวัฒนาเดินมาหา
"ทำอะไรนะเล็ก"
"หม่อมยำซาดีนสำหรับเสวยกับขนมปังกระเทียมหม่อมเป็นของว่าง"
"เร็วๆ นี้เราจะมีแขกมาจากเมืองไทยนะ"
"ใครกันหม่อม"
"ญาติของฉัน"
"คงไม่ได้มาตอนท่านฮอลิเดย์ที่ สก็อตแลนด์นะหม่อม เพราะหม่อมเองก็จองตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยไปแล้วหม่อม"

นายเล็กทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย
"เธอจะกลับเมืองไทย"
"เอ้อ…พอท่านชายตรัสว่าจะเสด็จฮอลิเดย์ หม่อมก็เลยคิดจะทูลลากลับเมื่องไทย หม่อมไม่เจอแม่มาสองปีแล้ว...แล้วหม่อมจะได้ซื้อของกิน กับเครื่องปรุงกลับมาด้วยหม่อม"
"ไม่เห็นเธอบอกฉันล่ะ"
นายเล็กพยายามยิ้มเอาใจ
"หม่อมว่าจะทูลท่านชายอยู่หม่อม"
"ท่านพจน์ยังไม่ได้ระบุวันที่ท่านหญิงจะเสด็จ...อาจจะไม่ตรงกับวันฮอลิเดย์ของเราก็ได้....จะอย่างไรก็ตามฉันอยากจะรับรองท่านหญิงอย่างเต็มที่"
"ไม่ทราบว่าท่านหญิงกี่ชันษาแล้วหม่อม...ถ้ายังเล็กก็ต้องหาคนคอยถวายงานตลอด"
"ฉันก็ไม่รู้ ท่านเพิ่งเรียนจบ ก็ยังทรงเด็กๆ น่ะแหล่ะ"
มาเรียเดินออกมาจากด้านหลังบ้านด้วยท่าทางร้อนรน เสียงค่อนข้างดังโวยวาย
"Where is my key I cannot find it…."
"ทำอะไรหายอีกล่ะ...โวยวายประจำ"
"My key….did you see it?"
เล็กโบกมือทำทีไม่เห็น มาเรียค้นหาหาตามตู้ไปทั่ว
"อะไรๆ ไม่รู้ key อะไร What key ?"
ท่านชายดนัยมองไปรอบๆ ทางโต๊ะวางของหน้าบ้าน เดินไปหยิบพวงกุญแจที่หล่นอยู่มุมโต๊ะ ที่ขาเก้าอี้บังไว้
"Here it is? You’re always lost everything Maria"
มาเรียยิ้มอายเดินมารับพวงกุญแจไปจากท่านชาย
"Oh yes…thank you sir…I’m always lost many thing but I’ve never lost you sir"
"Actually , you’re should not get anything on this table, except my display because you will forget it."
มาเรียยิ้มเอาใจ
"Yes sir, I will relate sir."
มาเรียเดินกลับไปทำงาน นายเล็กมองตามอย่างเบื่อๆ
"ไม่เคยหาอะไรเจอเลย...ซุ่มซ่ามก็เท่านั้น"
"ช่างแกเถอะ...แกเริ่มจะแก่แล้ว...อยู่ด้วยกันมานาน พูดมากหน่อยแต่ไว้ใจได้"

ท่านชายดนัยวัฒนาหัวเราะกับเล็ก อย่างคนจิตใจดี....
 
อ่านต่อหน้า 3

รัตนาวดี ตอนที่ 1 (ต่อ)

รัตนาวดีกำลังเลือกเสื้อที่แขวนอยู่ มีป้าสร้อยช่วยดูอยู่ด้วย ผู้ช่วยนงลักษณ์เปิดแบบภาพในหนังสือให้ดูหลายๆเล่ม ผู้ช่วยนงลักษณ์วัดตัวรัตนาวดี และวัดตัวป้าสร้อย

ผ่านเวลา.....
รัตนาวดีลองเสื้อแบบต่างๆหลายชุด ทุกคนมองด้วยสายตาชื่นชม บางชุดเอาหมวกที่เข้าชุดมาใส่ให้ บางชุดก็เอาสายสร้อยเก๋ๆ มาสวมให้เข้ากัน
"ท่านหญิงฉลององค์ชุดพวกนี้แล้วยิ่งงามมากเพคะ" ผู้ช่วยบอก
"หญิงอยากได้ชุดที่ใส่สบายๆ ระหว่างเดินทางนะคะ"
"ถึงจะสบายๆ แต่ก็ต้องสวยด้วยเพคะ" สร้อยบอก
"รับรองว่าสวยทุกชุดค่ะคุณสร้อย"
"ขอบคุณค่ะ"

ปริศนา ประวิช ทั้งสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ศาลากลางสวน วังศิลาขาว ประวิชครุ่นคิด สาวใช้ยกถาดของกินมาวาง จัดอย่างสวยงาม ปริศนารินน้ำชาใส่ถ้วย
"ทำไมวันนี้ท่าทางแบกโลกอย่างนั้นล่ะประวิช"
ประวิชเดินมาลงนั่ง
"แต่งงานแล้วต้องปรับตัวมากไหมปริศนา"
"อย่าบอกนะว่ามีปัญหา"
"ยังไม่มีปัญหาอะไรหรอก....มันก็แค่แปลกๆ ชีวิตมันไม่เหมือนเดิม"
"ตอนแรกๆ ปริศนาก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน...ดีแต่ท่านชายทัยเย็น...พอมาถึงวันนี้ยิ่งมีลูกด้วย...ปริศนาจำไม่ได้แล้วว่า ก่อนแต่งงานใช้ชีวิตยังไง"
ประวิชหัวเราะ
"จริงเหรอ...แต่ผมยังจำได้นะ ผ่านมาปีกว่าๆ เท่านั้น"
"ยังเสียดายหรือเปล่า"
"ไม่เสียดายหรอก แต่ยอมรับว่าเวลานึกถึงตอนเป็นโสด บางทีก็ใจหายนิดๆ เพราะจะทำอะไรตามใจชอบไม่ได้แล้ว"
"ประวิชต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้นได้แล้ว ต้องเป็นผู้นำครอบครัว พื้นฐานความรักของเรา …จะเป็นกำลังใจให้เราอดทนได้ทุกอย่าง"
"ต้องใช้คำว่าอดทนด้วยเหรอ"
"ใช่ซิ...ปริศนาเชื่อเสมอว่ารักแท้จะชนะอุปสรรคทุกอย่าง"
ประวิชมองปริศนาล้อๆ
"ใครจะคิดว่าปริศนาจะกลายเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ได้ขนาดนี้"
"เมื่อไหร่ที่ประวิชมีลูก...เธอจะรู้เลยว่าชีวิตนี้ต้องทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกเราเติบโตอย่างมีความสุข"
ประวิชใช้ความคิด
"ท่านหญิงเด็จกลับมาแล้ว"

สนขับรถเข้ามาจอดหน้าตึก สมใจยืนรออยู่ สร้อย กับท่านหญิงรัตนาวดีเปิดประตูรถลงมา สร้อย
บิดตัวอย่างเมื่อย
"แหม…วันนี้ไปซะทั้งวัน...สนมาขนของเอาขึ้นไป"
สนช่วยขนถุงใส่เสื้อผ้าลงมา รัตนาวดีมองไปที่ศาลา เห็นปริศนานั่งอยู่กับประวิช ประวิชโบกมือให้ รัตนาวดีเดินไปหา

รัตนาวดีเดินมาที่ศาลาท่าน้ำ ประวิชลุกขึ้นยืนโค้งให้ด้วยท่าทางอย่างเท่
"สวัสดีค่ะประวิช"
"ท่านหญิงหม่อม ไม่เห็นไม่กี่วัน ท่านหญิงทรงเป็นสาวเต็มตัวแล้วหม่อม...เหมือนกระหม่อมเห็นท่านหญิงถักผมเปียอยู่ไม่กี่วันนี่เอง"
รัตนาวดีไม่เขิน แต่หัวเราะเสียงใส
"ไม่กี่วันที่ไหนกัน...หญิงไม่พบประวิชมานานแล้วนะคะ"
ประวิชหันไปมองหน้าปริศนา
"นานจริงหรือปริศนา"
"นานซิคะ...ท่านชายยังทรงล้อว่าประวิชหายหน้าไปเลยเพราะแต่งงานมีความสุขมากจนลืมญาติๆ"
ประวิชยิ้ม
"จริงด้วยปริศนา...แล้วนี่เด็จไปไหนมาหม่อม"
"ไปลองเสื้อผ้าค่ะ...ท่านพี่ให้รางวัลเรียนจบไปเที่ยวยุโรป"
"โอ้โฮ…หม่อมดีใจด้วย...วิมลทราบหรือยังหม่อม"
"หญิงส่งจดหมายไปบอกแล้วค่ะ"
"ว่าแต่จะเสด็จไปประทับยุโรปนานไหมหม่อม"
"ไหนๆ ไปแล้ว หญิงอยากเที่ยวให้ทั่ว คงประมาณสามเดือนค่ะ"
"หม่อมเห็นด้วย...ไหนๆ เด็จแล้วน่าจะทอดเนตรหลายๆ ประเทศเลย...ปริศนา...อย่างนี้เราต้องเลี้ยงส่งก่อนเสด็จ"
"ปริศนาก็กะอยู่แล้วละประวิช"
"ไม่ต้องหรอกกระมังคะ...หญิงว่าไม่ค่อยจำเป็น"
"หม่อมว่าจำเป็นมาก...เพราะหากว่าท่านหญิงไปถูกพระทัยที่โน่นแล้วเลื่อนกำหนดกลับ...กว่าพวกเราก็จะได้เห็นท่านหญิงอีกหลายเดือนหม่อม"
"หญิงจะไปติดใจอะไรคะ...ไปเที่ยวสนุกยังไงก็คงคิดถึงบ้าน อยากกลับบ้าน"
"ยกเว้นจะถูกพระทัยบางสิ่งบางอย่างหรือบางคนหม่อม"
รัตนาวดีหัวเราะ
"ประวิชชอบพูดเล่นอยู่เรื่อย แต่ถ้าหญิงไปเจออย่างนั้นจริง หญิงจะรีบเขียนมาบอกค่ะ"
"จริงซิ...ท่านหญิงทรงเขียนจดหมายมาเล่าถวายท่านพี่กับเล่าให้หม่อมฉันฟังบ้างนะเพคะ"
ท่านหญิงรัตนาวดียิ้มหวาน
"ได้ค่ะ...หญิงตั้งใจจะเขียนจดหมายส่งมาแทบทุกวัน"

รัตนาวดียิ้ม กับ ปริศนา และ ประวิช อย่างอารมณ์ดี....

ผ่านเวลา... ภายในห้องนอนท่านหญิงรัตนาวดี สร้อยแยกเสื้อผ้าของรัตนาวดีออกวางอย่างเป็นระเบียบ เตรียมจัดวางใส่กระเป๋า สร้อยทำด้วยสีหน้ามีความสุข ร้องเพลงไทยเดิมเบาๆ ไปด้วย
 
รัตนาวดีออกมาจากห้องน้ำ ใส่เสื้อคลุมสวยเดินออกมา มองเสื้อผ้าที่วางไว้เต็มไปหมด
"ป้าจะทำอะไรจ้ะ"

สร้อยหันไปยิ้มให้รัตนาวดี
"ก็เตรียมเสื้อผ้าลงกระเป๋าไงเพคะ"
รัตนาวดีหัวเราะ
"จะรีบจัดไปทำไม...ยังมีเวลาอีกตั้งหลายวัน"
"ท่านหญิงเพคะ...เราจะได้รู้ว่าควรจะจัดยังไง ที่จะสะดวกเวลาหยิบใช้...ไหนกระเป๋าจะใช้ซักกี่ใบ
หม่อมฉันจะจัดเอาไว้แต่ละใบ ชั้นในใบหนึ่งเครื่องนอนใบหนึ่ง...นี่ใบนี้จะใส่ชุดลำลอง อีกใบจะใส่เครื่องหนาว"
ท่านหญิงรัตนาวดีมองยิ้มๆ
"แล้วป้าจะจำได้หรือเปล่าจ้ะ..ว่าอะไรอยู่กระเป๋าไหน"
สร้อยมองเสื้อผ้าอย่างงงๆ
"นั่นสิเพคะ"
รัตนาวดีแอบยิ้ม เดินไปนั่งแปรงผมที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มีเสียงเคาะประตู
"เข้ามาได้"
สมใจเปิดประตูเข้ามา เดินมาลงนั่งห่างๆ
"ท่านชายรับสั่งหาท่านหญิงเพคะ"
"เจ้าพี่อยู่ที่ไหน"
"ประทับอยู่ที่ห้องหนังสือเพคะ"
"ป้าจะให้สมใจช่วยจัดไหมคะ...ทำคนเดียวเดี๋ยวปวดหลังนา"
สร้อยรีบโบมมือห้าม
"โอ้ย...ไม่ต้องเลยเพคะ หม่อมฉันขอทำเอง ไม่อย่างนั้นอะไรอยู่ที่ไหนเราไปหากันตาย หล่อนไป
คอยดูแลถวายงานให้ดีก็แล้วกัน"
"ค่ะ..คุณสร้อย"
สมใจเดินออกไป รัตนาวดีมองป้าสร้อยที่คร่ำเคร่งกับการจัดกระเป๋าอย่างขำๆ และเดินออกไป

รัตนาวดีเดินเข้ามาในห้องหนังสือ ท่านชายพจน์กำลังนั่งเขียนจดหมายถึงท่านชายดนัย
"เจ้าพี่รับสั่งหาหญิงเหรอเพคะ"
ท่านชายพจน์เงยหน้าขึ้นมายิ้ม รัตนาวดีเดินไปหาใกล้ๆ โต๊ะทำงาน
"พี่กำลังเขียนจดหมายถึงท่านดนัย"
"ท่านดนัย.....เมื่อวันที่หญิงไปเฝ้าเสด็จอา ท่านก็ตรัสถึงท่านดนัยเพคะ"
"หม่อมเจ้าดนัยวัฒนา...ท่านเป็นพระญาติเราตอนนี้ทรงงานอยู่สถานทูตไทยที่ลอนดอน"
"หญิงเพิ่งรู้ว่าเรามีพระญาติอยู่ต่างประเทศ"
"เสด็จปู่ท่านดนัย เป็นอนุชาเสด็จปู่ของเรา พี่กับท่านดนัยเรียนที่อังกฤษด้วยกัน....ท่านเป็นรุ่นน้องสองปี แต่เราก็สนิทกันมาก...หญิงไม่เคยเห็นท่านเพราะโดยมากจะประทับเมืองนอก"
รัตนาวดียิ้มดีใจ
"แหม..ดีจริงเพคะ...อย่างนี้หญิงก็มีที่พึ่งแล้ว"
"พี่กำลังเขียนจดหมายไปทูลท่านดนัยว่าหญิงจะไปถึงลอนดอนวันไหนแน่…หญิงไปตั้งต้นที่นั่นก่อนแล้ว
ค่อยวางแผนกันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน....ท่านดนัยจะทรงช่วยได้มาก"
"แล้วก็ยังมีวิมล ก้บคุณนพอีก...โอ ท่านพี่เพคะ หญิงชักจะตื่นเต้นมากขึ้นทุกที"
ท่านชายพจน์หัวเราะ
"พี่แน่ใจว่าหญิงจะสนุกแน่ๆ ปริศนาบอกว่าเสื้อผ้าหญิงยังไม่เรียบร้อยใช่ไหม.เตรียมเท่าที่มีไปก่อน.จะได้ไม่ต้องขนกระเป๋าไปหลายใบ แล้วค่อยไปหาซื้อที่โน่นจะได้มีของนอกดีๆ ไว้ใช้ด้วย ดีไหมคะ"
รัตนาวดีหัวเราะดีใจ
"ดีเพคะ...ตั้งแต่นี้หญิงคงนอนไม่หลับแน่"
ท่านชายปิดผนึกจดหมาย
"พรุ่งนี้จะให้สนไปส่งที่ไปรษณีย์..พอท่านดนัยทรงรู้วันที่หญิงไปถึงลอนดอน ท่านจะได้ไปทรงรอรับหญิงกับป้าสร้อยที่สนามบิน"
รัตนาวดีวิ่งไปลงนั่งกอดท่านชายพจน์ไว้แน่น
"ขอบพระทัยเจ้าพี่เหลือเกินเพคะ หญิงรักเจ้าพี่มากที่สุดในโลก"
จดหมายวางพิงอย่างสวยอยู่บนโต๊ะทำงานท่านชายพจน์...

บุรุษไปรษณีย์มากดกริ่งหน้าบ้านหม่อมเจ้าดนัยวัฒนา ประตูเปิดออก มาเรียออกมารับจดหมาย
ท่าทางรีบเร่ง เมื่อรับจดหมายเสร็จจะรีบเข้าบ้าน บุรุษไปรษณีย์เรียกไว้ให้มาเรียกลับมาเซ็นต์ชื่อรับจดหมาย มาเรียรีบเซ็นต์ชื่อโดยเร็วด้วยท่าทางไม่พอใจ แล้วรีบเข้าบ้านไปปิดประตูดังปัง....จนบุรุษไปรษณีย์สะดุ้ง

ในบ้านดูยุ่งเหยิง ท่านชายดนัยกำลังนั่งคุยกับนักเรียนไทยด้วยท่าทางเคร่งเครียด นายเล็กกำลังจะเอาชุดน้ำชาใส่รถไปเสิร์ฟ มาเรียถือจดหมายเดินกลับเข้ามา แต่โดนนายเล็กต่อว่า
"มาเรีย...เค้กอยู่ไหน"
มาเรียทำหน้าเหรอหราไม่ค่อยพอใจ
"What?"
เล็กไม่พอใจ
"ปัทโธ่...ทำหน้าเป็นหมูหันอีกแล้ว...Where is the cake….บอกตั้งหลายหน cake น่ะ cake !"
มาเรียไม่พอใจ กระแทกจดหมายวางไว้หมิ่นๆ บนโต๊ะแถวนั้น โต๊ะนั้น ไม่ใช่โต๊ะสำหรับวาง
เอกสารใด ๆ เป็นโต๊ะมุมห้อง สำหรับวางของโชว์สวยๆ มาเรียไม่พอใจ จึงลืมที่ท่านดนัยเคยสั่งห้ามวางเอกสาร มาเรียวางจดหมายไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ
"I know….I know"
มาเรียเดินเข้าไปในครัว เล็กกำลังจะเข็นรถเครื่องน้ำชาไปในห้องรับแขก นักเรียนไทย1เดินสวนออกมาจากในห้อง
"ห้องน้ำไปทางไหนครับ"
เล็กหันมาบอกอย่างสุภาพ
"ประตูที่สองด้านขวาครับ"
"ขอบคุณครับ"

เล็กเข็นรถเครื่องน้ำชาเข้าไปในห้องรับแขก นักเรียนไทย1 เดินสวนจะไปเข้าห้องน้ำ เห็นชายเสื้อโดนจดหมายที่มาเรียวางไว้หมิ่นๆ ตกลงมาจากโต๊ะ ปลิวเข้าไปด้านใต้โต๊ะที่มีผ้าคลุม โต๊ะบังจดหมายไว้จนเกือบมิด
 
มาเรียอยู่ด้านหลังถือกระเช้าเค้กเข้าไปในห้องรับแขก โดยที่ไม่ได้สนใจจดหมายนั้นอีกเลย.....
 
อ่านต่อหน้า 4

รัตนาวดี ตอนที่ 1 (ต่อ)

วันใหม่ หม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดีในชุดเดินทางสวย เดินลงมาจากตำหนัก สร้อยตามมา คนอื่นๆ ยืนรอส่งอยู่หน้าตำหนัก

"ขอให้เสด็จด้วยความสนุกและปลอดภัยหม่อม" ประวิชบอก
"ขอบคุณค่ะ....ถ้าอยากได้อะไรเขียนไปบอกวิมลนะคะ"
ประวิชส่งจดหมายที่จะฝากไปให้วิมลกับสร้อย
"คุณสร้อย...รบกวนฝากให้วิมลด้วยนะครับ"

สร้อยรับจดหมายมาใส่กระเป๋าทันที
"ได้จ้ะ...ไปถึงที่โน่นคงต้องอาศัยเค้าล่ะ"
"วิมลจดหมายมาเล่าว่าทั้งเรียน ทั้งฝึกงานหนัก แต่คงมีเวลามาหาท่านหญิง กับ คุณสร้อยแน่นอนครับ"
ท่านชายพจน์กับปริศนาเดินออกมา
"ทรงเขียนจดหมายมาบ่อยๆ นะเพคะ"
"ค่ะ…เมื่อกี้หญิงแอบไปจูบลาหลานสองคนแล้ว...ป้าสร้อยไปกับหญิง คุณปริศนาเลยขาดผู้ช่วยมือหนึ่งที่ดูแลหลานไปเลย"
ปริศนายิ้ม
"หม่อมฉันทูลลาตรงนี้เลยเพคะ....หม่อมฉันแน่ใจว่าท่านหญิงจะต้องสนุกมากแน่ๆ"
ท่านชายพจน์เดินมาโอบไหล่รัตนาวดี
"ไปกันได้แล้วค่ะ"
สร้อยหันไปกำชับสมใจ
"ดูแลบ้านให้ดีนะสมใจ อย่าให้ฉันต้องโมโหตอนที่กลับมาเห็นบ้านล่ะ แล้วนี่หล่อนมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม...ขึ้นไปดูคุณชายคุณหญิงซิจ้ะ ทำไมต้องให้คอยจี้อยู่เรื่อย กลัวฉันจะไม่ไปหรือยังไง"
"ป้าสร้อย"
ท่านชายพจน์เรียกสร้อยเบาๆ สร้อยรู้ตัว รีบหันไปหาปริศนา
"ลาค่ะหม่อม...หม่อมคงเหนื่อยหน่อยนะคะ"
ปริศนายิ้ม
"ไม่ต้องห่วงค่ะ...ปริศนาจะดูแลวังไว้รอป้าสร้อยอย่างดี"
ท่านชายพจน์พารัตนาวดีขึ้นรถ มีสนขับออกไป สร้อยขึ้นด้านหน้า รถแล่นออกไป คนอื่นๆ มองตามโบกมือให้ รัตนาวดีหันมายิ้มโบกมือไห้

หม่อมเจ้าดนัยวัฒนากำลังเซ็นต์เอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน แสวงยืนรออยู่ นายเล็กเอาจดหมายมาวางให้ ท่านดนัยรีบรับมาดู เล็กจะเดินออกไป ท่านดนัยเรียกไว้
"นายเล็ก...มีจดหมายเท่านี้หรือ"
"มีเท่านี้หม่อม"
"คุณแสวง มีจดหมายมาถึงผมที่สถานทูตบ้างไหม"
"ไม่มีนี่หม่อม....เอกสารของฝ่าบาทมีเท่าที่กระหม่อมนำมาวันนี้"
ท่านชายดนัยทำท่าคิด
"เอ…หรือว่าจะเปลี่ยนใจไม่มา"
"ท่านชายทรงรอจดหมายใครหม่อม"
"จดหมายญาติของฉัน กำหนดจะมาเที่ยวที่นี่ แต่ยังไม่ได้ confirm เวลาที่แน่นอน"
"อาจจะทรงเปลี่ยนพระทัยไม่มา...หรืออาจจะเลื่อนออกไปก่อนก็ได้กระหม่อม"
"คุณแสวง...ถ้ามีข่าวหรือมีเอกสารใดๆ จากหม่อมเจ้าพจน์ ปรีชา คุณรีบส่งข่าวให้ผมรู้โดยเร็วเลยนะ"คุณมีที่อยู่ผมที่สก็อตแลนด์แล้วนะ"
แสวงก้มหัวรับ
"รถที่จะส่งท่านชายไปสนามบินรออยู่ด้านหน้าแล้วกระหม่อม"
เล็กขนกระเป๋าออกไป มาเรียมายืนส่ง ท่านชายดนัยกับแสวงเดินออกมาจากห้องทำงานเอากระดาษซึ่งเขียนที่อยู่ไว้ไปแปะไว้บนบอร์ด แล้วเรียกมาเรียมาดู
"Maria…this is my address in Scotland…If there’s the letter or any massage tome you have to tell me immediately…"
"yea sir….I understand"
"อย่าลืมล่ะมาเรีย...don’t forget นะมาเรีย"
"I see Lek….don’t worry have a good trip…"
"นายเล็กจะไปสนามบินเลยหรือ...เครื่องออกตั้งห้าทุ่ม"
"เอ้อ…กระหม่อมเห็นมีรถมารับท่านชาย ก็เลยอาศ้ยไปด้วยดีกว่ากระหม่อม...จะได้มีเวลาไปหาซื้อของฝากด้วย"
ท่านชายดนัยเดินออกไป นายเล็กหันมาโบกมือกับมาเรีย
"Bye bye Maria see you อีกเดือนหน้านะ... see you next month….."
ท่านชายดนัยวัฒนาเดินออกไป เล็กเดินตามออกไป มาเรียเดินออกไปส่ง จดหมายท่านชายพจน์ยังหล่นอยู่ใต้โต๊ะ เห็นมุมซองจดหมายโผล่ออกมานิดเดียว
 
มาเรียเดินกลับเข้ามาลงนั่งอ่านหนังสือ กินขนม ร้องเพลงดัง ไม่ได้เห็นจดหมายท่านชายพจน์ ปรีชาที่ตกอยู่ 

บริเวณสวนสาธารณะในอังกฤษ นพนั่งอ่านหนังสืออยู่ในสวนสาธารณะด้วยท่าทางสบายๆ วิมลเดินมามือถือตะกร้าเล็กๆ ใส่ของกินมาด้วย

"คุณนพ"
นพเงยหน้าขึ้นมาเห็นวิมลก็ยิ้มดีใจ วิมลเดินมานั่งใกล้ๆ
"ฉันอยู่นานไม่ได้นะคะ ตอนบ่ายต้องลงวอร์ด"
"ตั้งแต่มาเรียนที่นี่ผมไม่เห็นคุณจะว่างเลย"
"ก็นั่นน่ะสิคะ...ฉันไม่อยากจะบ่น แต่บอกได้เลยว่า เหนื่อยมาก"
"ดีแล้ว…เหนื่อยแล้วจะได้เก่งๆ"
วิมลค้อน
"กลัวจะเป็นลมก่อนจะเก่งค่ะ นี่ฉันเตรียมของกินมาด้วยนะ"
นพหัวเราะ
"จะประหยัดไปถึงไหนกัน..ผมว่าจะพาคุณไปทานข้าวที่โซโห"
"ทานอย่างนี้ละค่ะดีแล้ว"
วิมลหยิบห่อแซนวิช กับ กระติกน้ำชาที่มีฝาเป็นถ้วยออกมา
"เราสองคนใช้ทุนผู้มีพระคุณ...ไม่ควรฟุ่มเฟือยให้ท่านหมดเปลืองมากเกินไป"
นพรับแซนวิช
"คร้าบผม...แต่แซนวิชนี่น่ากินกว่าร้านทีโซโหอีกนะ คุณนี่ทำอาหารเก่งจริงๆ ผมติดใจแล้วนะ เรียนยุ่ง
ขนาดนี้ยังมีเวลาทำของกินมาให้ผมอีก"

นพมองหน้าจนวิมลเขิน แต่ก็ทำเสียงดังกลบเกลื่อน
"พรุ่งนี้ท่านหญิงจะมาถึงแล้วนี่คะ"
นพรู้ว่าวิมลเขินก็ยิ้มขำๆ
"ก็ใช่น่ะสิ..แล้วใครจะไปรับท่านที่สนามบิน"
"หม่อมเคยเขียนจดหมายมาบอกฉันแล้วว่ามีคนที่สถานทูตจะไปรับท่านหญิงกับคุณสร้อยที่สนามบิน"
"คุณสร้อยมาด้วยเหรอ"
"ใช่แล้ว...พอท่านมาถึงท่านจะติดต่อมาหาพวกเราเอง ดีใจจังเลยจะได้พบท่านหญิงที่นี่"
"เรื่องนี้แหล่ะที่ผมหนักใจ อีกสองอาทิตย์ผมจะมีเทสต์ ช่วงนี้ก็ต้องเตรียมตัวดูหนังสือแล้วก็ต้องเข้าเรียนทุกวิชา แล้วคุณล่ะ"
นพมองหน้าวิมล ทำหน้าเศร้า ส่ายหน้า
"นอกจากมาไม่ได้แล้ว ฉันยังไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่ามีอะไรที่ไหนบ้างในลอนดอน...ออกจากหอพัก ก็เข้าเรียนแทบทุกวัน"
"ยังไงก็ต้องหาทางจนได้ละน่า"
นพตักข้าวคำใหญ่กิน วิมลมองอย่างปลื้ม

สนามบิน Heathrow พศ. 2505 ท่านหญิงรัตนาวดีกับสร้อยเดินมาตามทางเดิน สร้อยท่าทางกลัวๆ แต่รัตนาวดีท่าทางมั่นใจ
"ยังไม่เห็นท่านดนัยเลยเพคะ"
"ท่านคงยืนคอยอยู่ด้านหน้าค่ะป้า...ป้าคะ..หญิงดูดีหรือเปล่า"
สร้อยมองรัตนาวดีอย่างชื่นชม
"ทรงงามมากเพคะ"
"อย่าพูดเล่นสิคะป้า หญิงอยากให้ดูดี ไม่อยากให้ท่านดนัยเห็นว่า หญิงดูโทรมเพราะหญิงนอนไม่ค่อยหลับบนเครื่องเลย"
"ไม่ต้องห่วงเพคะ...หม่อมฉันขอทูลว่าท่านหญิงทรงดูดีและ งามมากเพคะ"
รัตนาวดียิ้ม พาป้าสร้อยเดินไป

ท่านหญิงรัตนาวดี กับสร้อยเดินมาจนถึงบริเวณที่จะออกจากสนามบิน คนอื่นๆ สีหน้าดีใจ มีคนมารับ
บางคนก็สวมกอดกัน รัตนาวดียิ้มหวานมองไป รอบๆ ป้าสร้อยก็เหมือนกัน แต่ไม่เห็นคนเอเซียแม้แต่คนเดียว
"หม่อมฉันยังไม่เห็นท่านดนัยเลยเพคะ"
"คงอยู่แถวๆ นี้ละค่ะป้า"
สร้อยทำท่าหวาดๆ
"มีเราหัวดำอยู่สองคนนะท่านหญิง...หม่อมฉันไม่เห็นพวกตัวดำๆ อย่างเราซักคน...มีแต่ฝรั่งหัวทองเต็มไปหมด"
รัตนาวดียิ้มหวาน สีหน้าเจื่อนลงเพราะไม่มีวี่แววของท่านชายดนัย .
เวลาผ่านไป ทั้งรัตนาวดีกับสร้อยยังยืนคอย
"ท่านอาจจะมาช้าหน่อยก็ได้...อาจจะติดธุระสำคัญ"
เรามานั่งคอยท่านก่อนดีกว่าเพคะ...

รัตนาวดียิ้มพยักหน้า เดินตามสร้อยไปนั่งณ มุมนั่งรอมุมหนึ่งของสนามบิน Heathrow
เวลาที่เปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มหายไปมากแล้ว รัตนาวดีเริ่มเป็นทุกข์
"ป้าคะ...หรือท่านจะลืมว่าเรามาวันนี้"
"นั่นสิเพคะ...เอ...ไม่น่าลืมนะเพคะ ถ้าท่านมาเองไม่ได้ก็น่าจะให้คนมารับเราแทน"
"หญิงว่าต้องมีอะไรผิดปรกติแน่ๆ ค่ะป้า"
รัตนาวดีลุกขึ้นยืน มองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าเป็นทุกข์ แต่เดินไป ป้าสร้อยรีบวิ่งตาม
"ท่านหญิง...จะเด็จที่ไหนเพคะ"
ท่านหญิงรัตนาวดีเริ่มไม่พอใจแล้ว
"หญิงจะไม่นั่งรอโดยไม่มีหวังหรอกค่ะป้า...เรารอมาสามชั่วโมงแล้ว"

"นั่นสิเพคะ...เอ...หรือท่านจะไปรออีกที่ก็ได้ ท่านคงไม่ผิดนัดหรอกเพคะ"
 
อ่านต่อตอนที่ 2
กำลังโหลดความคิดเห็น