เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 2
รามนรีเดินไปเดินมาภายในห้องทำงานของไผท ก่อนนั่งลงเอามือกุมท้อง หน้าตาเหยเก
“โอ๊ย ให้รออยู่ได้ ฉันปวดฉี่จะตาย ไม่ไหวแล้ว”
รามนรีลุกพรวดเปิดประตูออกไป จังหวะเดียวกับที่ไผทเปิดประตูเข้ามา หัวของหญิงสาวจึงโหม่งกับคางของชายหนุ่มอย่างจัง
“โอ๊ย”
ไผทเอามือกุมคางเจ็บ รามนรียกมือไหว้
“ขอโทษทีนะคะ ตอนนี้ไม่มีเวลาเคลียร์ เดี๋ยวกลับมาค่ะ”
รามนรีวิ่งปรู๊ดออกไป ไม่ได้มองอะไร ก่อนผลักประตูผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำชาย
“เฮ้อ รอดตายได้อย่างหวุดหวิด”
รามนรีทำมือกรีดกราย ไปกดชักโครก เดินสบายอารมณ์ออก ในขณะที่ภูมิ ปฏิบัติภารกิจเสร็จ ยืนรูดซิบกางเกงหน้าโถปัสสาวะ รามนรีเดินฮัมเพลงออกมาอย่างอารมณ์ดี เห็นผู้ชายยืนฉี่ก็ร้องลั่น
“อ๊าย”
ภูมิหันมองมา
“เฮ้ย นี่มันยัยป้าหน้าแก่ สิบแปดมงกุฎนี่ แล้วเข้ามาในนี้ได้ยังไง”
“ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถามนาย ว่าเข้ามาทำไมไอ้บ้ากาม”
“ก็นี่มันเป็นห้องน้ำชาย ทำไมฉันจะเข้ามาไม่ได้”
“โห รู้ทั้งรู้ว่าเป็นห้องน้ำหญิง ยังจะมีหน้ากล้ามาโกหกอีก คนเลวๆ อย่างนายต้องตีให้ตายสถานเดียว”
รามนรีกวาดสายตาหาอาวุธ เห็นไม้กวาดโดดไปคว้าแล้วพุ่งเข้าหาภูมิ กระหน่ำตีไม่ยั้ง ภูมิพยายามปัดป้อง ร้องโอดโอย แย่งไม้
“หยุด ฉันบอกให้หยุด”
“ไม่หยุด”
ภูมิรวบรวมกำลัง ล็อคแขนหญิงสาวไว้ได้
“กรุณาเลิกบ้า แล้วแหกตาดูว่าห้องน้ำผู้หญิงมันจะมีโถฉี่อยู่ได้ยังไง ตกลงใครโกหกใครกันแน่”
รามนรีหยุด กวาดตามองไปเห็นโถฉี่ อึ้ง ก่อนมองอย่างสงบ
“เป็นไง หายบ้ารึยัง”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ”
“ไม่รู้น่ะไม่แปลก แต่ไม่ฟังชาวบ้านเขาเลยนี่สิแปลก เธอนี่มันหมาบ้าชัดๆ และฉันหวังว่าเราคงจะไม่ได้เจอกันอีกนะ ยัยตัวซวย”
“แหม ทำยังกับฉันอยากจะเจอนายนักนี่ ไอ้เฮงซวย”
ภูมิเอามือปัดรังควานที่เสื้อ ปรายตามองรามนรี แล้วเดินออกไป หญิงสาวเอามือจับอก หน้าจ๋อย ก่อนเห็นผู้ชายเดินเข้ามา รีบเผ่นออกไปเข้าห้องน้ำผู้หญิง ยืนมองสภาพตัวเองที่หน้ากระจก
“ทำไปได้ยังไง เข้าห้องน้ำชาย มันทำฉันขายหน้าที่สุด”
รามนรีสูดลมหายใจเข้า เรียกกำลังใจ
“เราต้องลืมมันไป ต้องคิดถึงอนาคตเข้าไว้ ฉันจะต้องได้งานนี้ ต้องทำให้ได้”
รามนรีถอดแว่นมาเช็ด ก่อนควักเครื่องสำอางในกระเป๋ามาแต่งหน้าทางปาก พอแต่งหน้าเสร็จ ยืนมองกระจก ยิ้มหวาน จุ๊บปากอวยพรให้กับตัวเอง
“คนอะไรสวยมาก ขอให้เธอโชคดี นะจ๊ะยาย”
ไผทเดินมาตามทาง เห็นรามนรีก็เดินเข้าไปหา
“หายไปไหนมาตั้งนานครับ ผมตามหาแทบแย่ นึกว่าเปลี่ยนใจกลับไปเสียแล้ว”
“ขอโทษทีนะคะ พอดีไปทำธุระส่วนตัว แล้วบังเอิญมีเรื่องให้ปวดหัวนิดหน่อยน่ะค่ะ”
“แล้วมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
“ไม่เป็นไร ดิฉันจัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“งั้น เดี๋ยวเราไปพบผู้บริหารกันเลยดีกว่านะครับ เขามารอนานแล้ว”
“ดีค่ะดี วันนี้เจอแต่คนแย่ๆ ขอเจอคนดีๆ บ้างก็น่าจะดี”
“หวังว่าคนแย่ๆ คนนั้น คงจะไม่ใช่ผมนะครับ”
“ไม่ใช่แน่นอนค่ะ”
“เชิญครับ”
รามนรียิ้มให้
ภูมินั่งพิงพนักเก้าอี้ กางหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษอ่าน บังหน้าไว้ ไผทพารามนรีเดินเข้ายืนที่หน้าโต๊ะ รีบเข้ามาแนะนำ
“คุณยายครับ นี่คุณภูมิ รัตนบดินทร์”
รามนรียิ้มสดใส ยกมือไหว้ประหนึ่งนางสาวไทย
“สวัสดีค่ะ คุณภูมิ”
ภูมิวางหนังสือพิมพ์ที่บังหน้า หันมามองหน้าไผท
“อ้าว ไท คุณยายแกมา ทำไมไม่บอก ให้ผู้ใหญ่มาหาเด็กมันดูไม่ดี สวัสดีครับคุณยาย”
“เขาชื่อคุณยาย นามสกุล ม่านแก้ว คนที่จะมาทำงานให้เรา ไม่ใช่คุณยายแก่ๆ แม่ของแม่ฉัน อย่างที่แกเข้าใจ”
ทั้งสองต่างมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างชี้หน้า พูดพร้อมกัน
“เฮ้ย นี่เธออีกแล้วเหรอ ยัยตัวซวย”
“ไอ้เฮงซวย”
สองคนจ้องหน้าแบบไม่มีใครกลัวใคร ไผทตกใจ มองอึ้ง ก่อนส่ายหน้าเรียกสติ
“เดี๋ยวก่อนครับ ผมไม่เข้าใจ ว่าคุณสองคนทำท่าทางยังกับเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาแต่ชาติปางไหน”“ใช่”
ทั้งสองรับคำพร้อมกัน
“ไอ้หมอนี่ มันเคยลวนลามฉัน”
“ยัยนี่เคยชกหน้าฉัน แถมเมื่อกี้ ยังเอาไม้กวาดไล่ตีฉันในห้องน้ำอีก”
ไผทมองสองคนไปมา เหนื่อยใจ
“เอาล่ะๆ จะเคยมีเรื่องอะไรกันมาก็ลืมๆ มันไปซะเถอะ หลังจากนี้คุณยาย ต้องอยู่กับเจ้านายคนนี้อีกตั้ง 10 เดือน”
ภูมิหัวเราะก๊ากออกมาทันที
“ฮ่าๆๆ คนบ้าอะไรชื่อยาย”
รามนรีหันมองหน้าหงิก กัดฟันกรอด
“คนบ้าน่ะคือนาย แต่คนดีๆ อย่างฉันนี่แหละชื่อยาย มีอะไรป๊ะ”
“อ๋อ รู้ละ ที่เขาให้ชื่อยาย ก็เพราะพ่อแม่เห็นหน้าแก่มาตั้งแต่เกิดน่ะสิ”
“อึ๋ย ไอ้บ้า ฉันหน้าแก่แล้วยังไง มันหนักส่วนไหนของนาย หะ”
ไผทรีบเข้าไปเป็นกรรมการห้ามไว้
รามนรีเปิดประตู เดินหน้าตึงออกมาจากห้อง ไผทเดินตาม
“เดี๋ยวครับคุณยาย”
“ต้องขอโทษทีนะคะ ฉันทำงานกับคนแบบนี้ไม่ได้”
ภูมิเดินตามออกมา ยิ้มเยาะ
“โอ๊ย ไม่ต้องเสียเวลามาสาธยาย เพราะฉันจะมาไล่เธอออกพอดี เชิญ”
รามนรีชี้หน้าอาฆาต
“จำไว้ก็แล้วกัน ว่านายเคยทำอะไรกับฉันไว้”
ภูมิชี้หน้าหญิงสาว
“เธอก็เหมือนกัน จำฉันไว้ให้ดี ว่าเคยมีคดีอะไรกับฉันไว้บ้าง”
ต่างฝ่ายต่างชี้หน้ากัน ไผทเห็นท่าไม่ดี โดดเข้ามาขวางตรงกลาง
“หยูด”
“นี่ถามจริง แกคิดยังไง ถึงจะเอายัยนี่มาเป็นเมียฉัน แค่คิดก็ผิดแล้วนะไอ้ไท”
“หา อะไร ใครเป็นเมียคุณ ฉันมาสมัครดูแลคนป่วยนะ ไม่ใช่เมีย”
“ใจเย็นๆ ผมจะอธิบายให้คุณฟัง”
“ไม่ฟัง เพราะไม่ว่าจะยังไง ฉันจะไม่มีวันทำงานนี้”
“ไม่ทำก็อย่าทำสิ ไปเลยไป ไปให้ไกลเลย”
รามนรีเดินกระแทกเท้าออกไป ไผทถอนใจมองตาม ก่อนหันไปหาภูมิ ที่ยืนหน้าเหี้ยมใส่หญิงสาว
“แก กลับไปรอฉันที่ห้อง เสร็จธุระเดี๋ยวฉันจะตามไป”
ไผทวิ่งออกไป รามนรีเดินบ่นงึมงัมไปตามทางอย่างโมโห
“ไอ้พวกบ้าอำนาจ เป็นเจ้าของบริษัทแล้วไง คิดว่าฉันจะง้อรึไง ไม่มีทาง”
ไผทวิ่งตามมา
“เดี๋ยวก่อนครับคุณยาย ผมว่า เราน่าจะมาเคลียร์กันให้เข้าใจสักนิดจะดีไหม”
“ไม่คงไม่เคลียร์อะไรแล้ว เพราะฉันคงจะอยู่ร่วมโลกกับไอ้หมาบ้านั่นไม่ได้แน่ เจอมันทีไร ฉันกรดไหลย้อนทุกที”
ไผทยิ้มเจื่อน เอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“ผมเข้าใจ ว่าคุณกำลังโมโห แต่คุณคงไม่ลืมนะ ว่าบ้านคุณถูกไฟไหม้ ตอนนี้คุณมีแต่ตัวและหัวใจ คุณกำลังลำบาก และไม่มีที่ไปไม่ใช่เหรอ”
“เออ จริงแฮะ”
เสียงท้องรามนรีร้องดัง
“และผมก็รู้ดีว่าตอนนี้คุณหิว”
รามนรีพยักหน้า
“งั้นเรากลับเข้าไปกินข้าวในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ที่ผมจัดไว้ให้ แล้วผมจะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้คุณฟัง เผื่อว่าคุณจะเปลี่ยนใจ โอเคไหม”
รามนรีทำเป็นวางฟอร์มหยิ่ง นิ่งคิด
“ก็ได้ แล้วที่ฉันยอมกลับไป ก็เพราะคุณขอร้องฉันหรอกนะ”
“ด้วยความยินดี เชิญครับ”
รามนรียืนหน้าเชิด ก่อนเดินสง่ากลับเข้าไป
ภูมินั่งที่เก้าอี้ เอาขาเหยียดยาว ไว้บนโต๊ะ ไผทเปิดประตูเข้ามา
“ไอ้ไท แกตามยัยนั่นไปทำไม ไปง้อมันทำไมให้เสียฟอร์มวะ”
“ตกลงแกจะเอายังไง แกยังอยากจะพาเดือนฉายไปพบคุณย่าอยู่ไหม”
ภูมิเครียด
“ฉันเคยบอกแกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าไร้สติ เดี๋ยวจะเสียงานใหญ่”
“ก็ฉันเหม็นชี้หน้ายัยนั่น มันไม่ถูกชะตาเลยจริงๆ นี่นา”
“ไม่ถูกชะตา กับชะตาชาด แกจะเลือกอะไร”
“เออ เออ งั้นฉันจะทนเพื่อแกก็แล้วกัน”
“พูดผิดพูดใหม่ แกต้องทนเพื่อตัวแก เพื่อคุณเดือน ไม่ใช่เพื่อฉัน อย่ามามั่ว ทำใจให้ร่มๆ แล้วเราจะไปคุยกับเขาด้วยกัน โอเคไหม”
ภูมิถอนใจเหนื่อยหน่ายที่สุดในชีวิต ก่อนจำใจพยักหน้า
รามนรีนั่งกินอาหารอีสาน รสแซ่บ ที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างอร่อย
“เริ่ดมาก อาหารอร่อยทุกอย่างเลยนะคะ คุณเหมียว”
“คุณไผท สั่งให้เหมียวจัดการสั่งอาหารที่อร่อยที่สุดมาเพื่อคุณยายค่ะ”
รามนรีชูนิ้วโป้งคู่ ยิ้มให้เหมียว ที่แอบกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ
“มาค่ะ มาทานด้วยกันนะคะ”
“ไม่ได้ค่ะ คุณเป็นแขกของเจ้านาย เหมียวทำอย่างนั้นไม่ได้ค่ะ”
“หือ อย่าคิดเยอะ ตำปูปลาร้าของแซ่บๆ อย่างนี้ กินคนเดียวมันไม่อร่อย แต่ถ้ากลัวใครมาเห็นก็ไปล็อคห้อง แล้วค่อยมากินด้วยกันดีไหม”
เหมียว ยิ้มดีใจ ยกนิ้วให้รามนรี สองสาวกินอาหารไป คุยกันไปอย่างเมามัน
ภูมินั่งวางมาดขรึมที่หัวโต๊ะ ไผทเดินนำรามนรีเข้ามานั่ง ต่างฝ่ายต่างเชิดใส่กัน ไม่มองหน้ากัน ไผทหนักใจ
“คืออย่างนี้นะครับ งานที่คุณยายจะต้องทำมันก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่คอยรับใช้ใกล้ชิด คุณหญิงรัตนบดินทร์ คุณย่าของคุณภูมิ ในฐานะ”
“พยาบาล ใช่ไหมคะ”
“ในฐานะหลานสะใภ้ของท่านครับ”
“หา หลานสะใภ้ มันหมายความว่ายังไง แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับฉันคะ”
“คุณต้องมารับจ้างเป็นเมียผมไง”
รามนรีทุบโต๊ะเปรี้ยง
“อย่าพูดอะไรพล่อยๆ นะไอ้บ้า ทุเรศที่สุดเลย”
ไผทเหนื่อยใจ
“คุณยาย ใจเย็นๆ แล้วฟังผมอธิบายก่อน”
“ไม่ฟัง พวกคุณเห็นฉันเป็นคนยังไง ถึงได้รวมหัวมาหลอกฉัน มาดูถูกกัน”
“เฮ้ย ไม่ใช่ เราไม่เคยคิดอย่างนั้นกับคุณเลย”
“ถ้าฉันคิดจะเป็นเมียรับจ้าง ฉันไม่ต้องเสียเวลามาถึงที่นี่ ที่อื่นมีถมไป”
ภูมิสบถเบาๆ ข้างหูไผท
“ทำยังกับสวยตาย พูดอะไร ไม่เจียมบอดี้”
“นายพูดอะไร แน่จริงก็พูดดังๆ ให้ฉันได้ยินสิ”
ไผทหันไปมองปรามภูมิให้หุบปาก ภูมิยักไหล่เบ้ปากใส่ ปรายตามองไปกวนๆ ไม่โต้ตอบอะไร
“ขอบคุณมากนะคะคุณไผท สำหรับอาหารมื้อนี้ คุณเป็นคนจิตใจดีและมีน้ำใจ ต่างจากอีกคน ที่ฉันมองยังไง ก็ไม่น่าจะใช่คน ฉันขอตัวค่ะ”
รามนรีเดินหน้าเชิดปรี่เข้าไปหาภูมิ แล้วสะบัดผมใส่ ก่อนเดินออกไป ภูมิกำมือแน่น ไผทกุมขมับ ก่อนตามรามนรีไปที่หน้าลิฟต์ แต่ภูมิเข้ามาขวางไว้ รามนรีกดลิฟท์ลงไปแล้ว
“ไม่ต้องตาม ยังไงฉันไม่เอายัยนี่มาอยู่ใกล้ ให้มันเป็นอัปมงคลกับชีวิตฉันหรอก”
“ถ้าแกไม่เอาเขาแล้วจะเอาใคร จะเอายังไง ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกอื่นเลย”
“ฉันว่ายัยป้าหน้าแก่นี่ ไม่มีทางทำให้ใครรักได้หรอก แม้แต่ฉันยังเหม็นขี้หน้าตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรกเลย พอได้แล้วไท ฉันไม่ไหวจะเคลียร์”
“แต่ฉันกลับรู้สึกมั่นใจ ว่าคุณยายนี่แหละ ที่จะเข้ากับคุณย่าของแกได้ดีที่สุด เพราะเขาสองคนเหมือน มาจากโลกเดียวกัน”
“แต่ยัยนั่น มันคนละสายพันธ์กับฉัน เราเข้ากันไม่ได้ แล้วจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง ถึงฉันกำลังเดือดร้อน แต่ก็เลือกนะเว้ย”
“โห ไอ้หล่อเลือกได้ ถ้าเอาคนที่เข้ากับแกได้ ก็ได้เสร็จแกน่ะสิ”
“แกเห็นฉันเป็นอะไรวะ”
“เสือผู้หญิง เพลย์บอย คาสโนว่า พ่อปลาไหล หลายใจ หรือไม่ก็ไม้เลื้อย”
“พอๆๆ นี่แกจะขุดคำด่ามาหมดเมมโมรี่เลยหรือไงวะ เห็นใจกันบ้างดิ ว่าฉันจะอยู่กับคนที่ไม่ใช่สเป็คอย่างยัยป้านั่นได้ยังไง ตั้งเกือบปีเลยนะ”
“จะซีเรียสทำไม เรากำลังหาคนที่จะมาเปลี่ยนใจแม่กับย่าแก ไม่ใช่หาคนมาเป็นแม่ของลูกแก แล้วฉันก็เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้เชามีดีกว่าที่แกคิด เขาเหมาะที่จะเป็นเมียกำมะลอของแกมากที่สุด และที่สำคัญ ฉันไม่ต้องมานั่งระแวงว่าสมภารจะกินไก่วัดเหมือนที่ผ่านมา”
“ถ้ายัยคนนี้เป็นไก่วัด ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย ให้อดอยากตาย ฉันก็ไม่เอา”
“แต่ฉันเอา เพราะเขาจะต้องทำหน้าที่นี้ และนายต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉัน”
ไผทรีบลงบันไดตามรามนรีไปหน้าตึก มองหา แต่ไม่เห็น
“หายไปไหนแล้ว ไวยิ่งกว่าเน็ตไฮสปีด”
รามนรีเดินเซ็งอยู่หลังเสาที่บังสายตาไผทไว้
“เฮ้อ น่าเสียดาย เราคงไม่มีวาสนา ที่จะได้ทำงานด้วยกัน”
ไผทคอตกกลับเข้าไปในตึก
รามนรีเดินหน้าหงิก เข้ามานั่งพักที่ป้ายรถเมล์
“โอ๊ย เอาไงดีล่ะทีนี้ คืนนี้จะนอนที่ไหนเนี่ย”
ใครบางคนมาจับบ่ารามนรีไว้
“ก็กลับไปนอนปักษ์ใต้บ้านเราสิครับ หนูเล็ก”
รามนรีชะงักกับเสียงนั้น หันไปมองหน้าเหวอ ผสานยิ้มดีใจ รวบมือยืนจ้องหน้าส่งสายตาวิงวอน
“เจอตัวซะทีนะที่รัก รู้ไหมว่าผม ตามหาคุณแทบแย่”
รามนรีหน้าเหยเก พยายามปัดมือผสานออก แต่เขาจับตัวเธอไว้แน่น
“อย่าหนีผมไปอีกเลย เรากลับไปแต่งงานกัน หรือถ้าคุณไม่อยากแต่งก็ไม่เป็นไร เราจดทะเบียนแล้วอยู่ด้วยกันไปเลยก็ได้ ผมจะตามใจคุณทุกอย่าง”
ผู้คนหันมามองเป็นตาเดียว รามนรีเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“คุณใจเย็นๆ แล้วปล่อยฉันก่อน เรามาคุยกันดีๆ นะ”
“ก็ได้ครับ”
“คุณผสาน ฉันรู้และเช้าใจ ว่าคุณคิดยังไง และขอบคุณมากที่มีความรู้สึกดีๆ ให้ฉันมาตลอด”
“ผมก็ขอบคุณที่หนูเล็กเข้าใจ และรู้ว่าผมรักและรอมานานแค่ไหน”
“ฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันทำ”
“ไม่เป็นไร ผมจะไม่ติดใจอะไร ขอแค่ให้คุณกลับไปกับผม”
“ขอบคุณมากนะคะ แต่”
“ความรักต้องไม่มีแต่ ต้องไม่มีข้อแม้”
“แต่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ฉันแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก”
“ไม่รักผมไม่เป็นไร อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ก็บอกแล้วไง ว่าผมรักคุณ ไปนะ กลับไปกับผม”
รามนรีตกใจ พยายามสะบัดมือออก
“คุณผสาน ปล่อยฉันนะ ปล่อย”
“ในเมื่อผมรู้แล้วว่าคุณคิดยังไง เรื่องอะไรจะปล่อย คุณต้องกลับไปกับผม”
“ไม่ ฉันไม่ได้รักคุณ ฉันไม่แต่ง”
“แต่พ่อคุณยกคุณให้ผมแล้ว ผมหมดกับคุณไปเยอะแล้ว กลับไปเดี๋ยวนี้”
รามนรีดิ้นพราด
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
คนหันมามองงงๆ ผสานรีบแก้ตัว
“ไม่มีอะไร แค่เมียผมชอบหนีเที่ยว ก็เลยต้องทำอย่างนี้ ไม่มีอะไรครับ”
“ไม่จริง ฉันไม่ใช่”
ผสานปิดปากรามนรีไว้ จอส รีบเข้ามาช่วยผสานล็อคแขนหญิงสาวไว้ แล้วดึงตัวออกไปที่จอดรถ จอสปล่อยมือที่จับรามนรี ผละไปเปิดประตูรถ เธออาศัยจังหวะนั้น ถองเข้าที่ท้อง ผสานเจ็บและจุกจนตัวงอ แล้ววิ่งหนี
“ช่วยด้วยค่ะ ฉันไม่ใช่เมียมัน มันจะจับตัวฉันไป ช่วยด้วย”
ผสานยังจุก
“ไอ้จอส ตามไปเอาตัวมันมาให้กู เดี๋ยวนี้”
“ไม่มีปัญหาครับนายหัว”
จอสวิ่งตามไป
แถวป้ายรถเมล์ เด็กช่าง เดินเรียงหน้ากระดาน เข้ามา รามนรีวิ่งเข้าไปอยู่หลังเด็กเหล่านั้น ยกมือไหว้
“ขอบคุณมากนะคะเด็กอาชีวะใจดี คุณเป็นคนดีจริงๆ ค่ะ”
เด็กช่างยิ้มปลื้มให้กัน ก่อนทำหน้าเหี้ยม มองจอส จอสวิ่งเข้ามา เบรคทันที
“เฮ้ย หยุด อย่ารังแกผู้หญิง”
“บ้านเมืองมีขือมีแป จะมาทำอย่างนี้ได้ยังไง”
“ใช่ คุกเขามีไว้ขังคนเลว ไม่ใช่ขังหมายนะโว๊ย”
ชาวบ้านที่มายืนดู เป่าปาก ยกนิ้วโป้งคู่ ชื่นชม
“ใช่ค่ะ จัดการมันเลยค่ะ”
“ดีเลย กำลังเปรี้ยวปาก อยากจะปล่อยของอยู่พอดี เฮ๊ย พวกเราจัดไป”
เด็กช่างลงไปเตะต่อยจอส ที่ล้มลงไปนอนตัวงอ เอามือปิดหน้าไว้ ผสานวิ่งตามมา ยิงปืนขึ้นฟ้า เด็กช่างหยุดกระทืบจอส ในทันที
“เฮ๊ย ใส่ตีนหมา แล้ววิ่งไปข้างหน้าเดี๋ยวนี้เร็ว”
เด็กช่างกับรามนรี และผู้คนในป้ายรถเมล์ วิ่งแตกกระจายกันไปคนละทิศละทาง
“ไอ้จอส ไปรอที่รถ เดี๋ยวกูมา”
ผสานไม่ละความพยายาม วิ่งตามหารามนรี
รามนรีวิ่งหนีมาจนถึงทางเลี้ยว หันมองไปข้างหลัง
เห็นผสานวิ่งตามมาถึงทางแยก ผสานมาถึงมองหารามนรีไม่เห็น
“หายไปไหน เร็วจัง”
ผสานเดินมาหยุดตรงเสาและเอามือค้ำเสาไว้ รามนรีหลบอยู่ต้องทำตัวลีบ ผสานเดินวนไปรอบๆ รามนรีก็วนหนีไปรอบๆ ผสานทุบเสาอย่างเจ็บใจ
“อยากจะลองของกับฉันนักใช่ไหม ยัยหนูเล็ก”
รามนรีหลบวูบเกือบโดนจับได้ ผสานเจ็บมือ สะบัดไปมาหน้าเหยเก ก่อนจำใจเดินกลับไปอีกทาง รามนรีหัวเราะคิก ผสานเดินหมดสภาพ โซซัดโซเซ ไปตามทาง
รามนรีจำใจ วิ่งกลับเข้ามาในตึก เห็นภูมิกับไผท กำลังเดินออกมา เธอรีบหยุด มองซ้ายมองขวา วิ่งไปหาที่หลบ ภูมิกับไผท ยืนคุยกัน รามนรีหลบอยู่เลยได้ยินโดยบังเอิญ
“เห็นทีงานนี้เราคงต้องหาคนใหม่ เพราะคุณยาย เขาคงไม่เอาแล้ว เขาไปแล้ว”
“ก็ไม่เห็นเป็นไร เราก็หาใหม่สิ คนต้องการเงินมีตั้งเยอะแยะ”
“ก็ใช่ แต่เขาจะทำงานให้เราได้ไหม”
“ไม่ว่าจะยังไง เราก็ต้องหาคนมาทำงานนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะเสียอะไร เสียเท่าไหร่ฉันก็ยอม เพื่อเดือนฉาย ฉัตรากร ผู้หญิงคนเดียวที่ฉันรัก แกต้องช่วยฉัน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อเขานะไอ้ไท”
ไผท พยักหน้า โอบปลอบ รามนรีตาโต เอามือปิดปาก กลอกตาไปมา เมื่อได้ยินชื่อ เดือนฉาย ฉัตรากร
ภูมิกับไผท ยืนที่หน้าบริษัท ถวิลขับรถหรูเข้ามาจอดเทียบ ก่อนลงมาเปิดประตูรถให้
“ฉันไปก่อนนะไท ขอบใจสำหรับทุกอย่าง ฉันรู้ว่าแกเหนื่อยเพราะฉัน”
“ไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อนกัน แกกลับไปพักเถอะ”
ภูมิกำลังจะก้าวเข้าไปในรถ เสียงรามนรีดังขึ้น
"เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป"
ทุกคนหันไปมอง เห็นรามนรีเดินอาดๆ เข้ามา
“ฉันเปลี่ยนใจ ฉันจะรับจ้างทำงานนี้ให้เอง”
ภูมิกับไผทตกใจ
วิรัชกับกองแก้ว นั่งดูทีวีอยู่ เสียงโทรศัพท์ดัง กองแก้วรับสาย ผสานในสภาพหน้าแดงช้ำ คุยโทรศัพท์กับวิรัช และกองแก้ว ผ่านวิดิโอคอล กองแก้วเห็นสภาพผสานก็ตกใจ
“อุ้ยตาย ใครมันบังอาจ มาทำให้นายหัว สะบักสะบอมขนาดนี้คะ”
“ก็หนูเล็กน่ะสิครับ”
“หนูเล็ก”
วิรัชดีใจหน้าตื่น
“นี่คุณเจอหนูเล็กแล้วเหรอ ทำยังไง ทำไมเก่ง แล้วจะพาเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะคุณผสาน”
“ผมตามเขาจากจีพีเอส แต่ตอนนี้เขาปิด แล้วก็หนีไปผมไปได้”
วิรัชเครียด
“แล้วใครทำกับคุณผสานขนาดนี้คะ ยัยหนูเล็กเหรอ”
“เขาไม่ได้ทำ แต่ให้คนอื่นทำ”
“คุณเป็นคนดีมาก ผมต้องขอโทษแทนลูกสาวผมด้วยนะ เขาอาจจะทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์”
“ค่ะใช่ค่ะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ค่ะ”
“เอาอย่างนี้ดีไหมครับ เรายกเลิกการแต่งงานนี้ไป ผมยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้ จะได้จบๆ กันไป คุณก็จะได้ไม่เหนื่อย”
“คุณพ่อพูดอย่างนี้ผมเสียใจนะครับ มันเหมือนจะผลักไสกัน ไม่ว่าจะเป็นยังไง เขาจะทำกับผมแค่ไหน ผมก็จะรอ จนกว่าจะได้ตัวเขากลับมา คุณพ่อต้องช่วยผมนะครับ”
“เฮ้อ ผมก็หนักใจกับลูกคนนี้ มันทั้งดื้อทั้งรั้นจริงๆ เห็นทีผมคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”
“ขอบคุณมากนะครับคุณพ่อ ยังไง ช่วยผมด้วยนะครับ”
ผสานยิ้มเจ้าเล่ห์ หน้าเหี้ยม
ภูมิกับไผท ยังงงไม่หาย นั่งมองหน้ารามนรี
“ฉันอยากรู้ สิ่งที่ฉันต้องทำมันคืออะไร เพื่ออะไร และเพราะอะไร”
“เราคงจะได้ทนาย เพิ่มอีกคนแล้วมั้ง ซักซะยิบเชียว”
รามนรีมองภูมิตาขวาง ไผทมองปรามภูมิ
“คืออย่างนี้ เราต้องการให้คุณปลอมตัวเป็นคุณเดือนฉาย ฉัตรากร เขาเป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลใหญ่ เป็นแฟนของคุณภูมิ ที่ตอนนี้กำลังมีปัญหา เพราะไม่เข้าใจกัน แล้วตอนนี้คุณเดือนก็เพิ่งบินไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ”
“รักกันมากขนาดนี้ แล้วยังหนีไปเรียนได้ ผู้ชายคงจะแย่มากใช่ไหมคะW
ไผทแอบขำที่รามนรีรู้จริง
“นี่เธอ มีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ฉัน ถ้าไม่รู้จริงก็อย่าเจ๋อ”
“งั้นก็แสดงว่าจริง”
ภูมิมองหน้าหายใจแรง ระงับอารมณ์
“และที่หนักกว่า คุณภูมิ เขากำลังจะถูกแม่จับให้แต่งงานกับคนอื่น ที่ไม่ใช่คุณเดือนฉาย เราถึงต้องจ้างให้คุณจัดการเรื่องนี้ คุณมีหน้าที่ทำให้แม่กับย่าคุณภูมิเปลี่ยนใจ แล้วเรื่องทุกอย่างจะจบลง เมื่อเดือนฉายตัวจริงกลับมา”
“คุณทำได้ไหม ต้องการค่าจ้างเท่าไร ผมยินดีจ่ายไม่อั้น”
“ฉันไม่ซีเรียสเรื่องเงิน เอาแค่พอให้ฉันอยู่ได้ก็พอ”
“ขอบคุณมากนะครับคุณยาย ที่เข้าใจพวกเรา”
“งั้นคืนนี้ คุณไปพักที่คอนโดผมชั่วคราวก่อน ว่าแต่อยู่คนเดียวได้นะ”
รามนรีพยักหน้าให้ ภูมิหันไปสบตาไผท ถอนใจโล่งอก
ห้องพักระพีที่ต่างประเทศ เสียงโทรศัพท์ดัง ระพีใส่ผ้าขนหนู เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ กดรับโทรศัพท์จากวิรัช
“สวัสดีครับพ่อ อุตส่าห์โทรมาหาผมทั้งที มีอะไรเซอร์ไพรส์”
“ก็ไอ้น้องสาวตัวดีของแก ไปก่อเรื่องอีกแล้วน่ะสิ หนีงานแต่ง แล้วแถมยังหนีออกจากบ้าน”
“หา หนูเล็กหนีออกจากบ้าน แล้วเขาไปอยู่ที่ไหนกับใครครับพ่อ”
“พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน ถึงได้ร้อนใจโทรมาหาแก ว่าจะเอายังไงกันดี พ่อเครียดจนจะบ้าอยู่แล้วเนี่ย”
“พ่อไม่สบายอยู่ พ่อไม่ต้องคิดอะไรมากเพราะผมกำลังจะกลับเมืองไทยพอดี เดี๋ยวผมจะไปจัดการเรื่องนี้เอ”
“ดีมากเลยลูก”
ระพีกดวางสายจากพ่อ ก่อนกดต่อไปหารามนรี แต่ติดต่อไม่ได้ ระพี ร้อนใจ
วิรัชนั่งเครียด กองแก้ว เดินเข้ามา
“เห็นคุยกับลูกชาย เป็นไงคะคุณ”
“เราคงจะต้องเข้ากรุงเทพ ไปตามหาหนูเล็ก”
“วันไหน เมื่อไหร่คะ”
“คงต้องรอให้ระพีกลับมา แล้วจะหารือกันอีกที”
“ก็ดีนะคะ ไปตาม ถ้าเจอตัวเราก็ส่งให้นายหัวผสานไปเลย เพราะยัยหนูเล็กแท้ๆ ที่ทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากขนาดนี้”
“จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะคุณ ยัยหนูเขาก็อยู่ของเขาดีๆ คุณต่างหากที่อยากให้เขาแต่งงาน แล้วเราก็บังคับเขา”
“คุณก็ด้วย แต่ฉันบริสุทธิ์ใจ ฉันอยากให้เขาได้ดี มีชีวิตที่สุขสบายนี่”
“ทีแรก ผมก็คิดเหมือนคุณ แต่ตอนนี้ ผมชักไม่แน่ใจ ไม่อยากให้คนดีอย่างคุณผสาน ต้องมาเสียใจ”
“โอ๊ย ในเมื่อเขารักยัยหนูเล็กซะขนาดนั้น เราจะไปห้ามเขาทำไม มันหาไม่ได้ง่ายนะผู้ชายดีๆ อย่างนี้ เรารีบไปตามตัวยัยหนูเล็กกลับมาให้เขาน่ะดีแล้ว”
“แต่ผมเห็นลูกผมต้องหนี เห็นเขาไม่มีความสุขอย่างนี้ผมไม่สบายใจเลย”
กองแก้วเบ้ปากใส่ ฝืนใจ เข้าไปโอบ
“โธๆๆ อย่าคิดมากนะคะ ตามเขากลับมาอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวก็ผูกพันก็รักกันไปเอง ก็เหมือนฉันกับคุณไง”
“ผมยังโชคดี ที่มีคุณคอยอยู่เคียงข้าง”
วิรัชกอดตอบกองแก้ว
รามนรียืนเหม่อมองไปบนท้องฟ้าภายในคอนโด ครุ่นคิด ภาพในอดีต วาบเข้ามาในความทรงจำของเธอ วันนั้นเธอว่ายน้ำเล่นอยู่คนเดียวในสระ เดือนฉายเข้ามาเรียก
“ขึ้นมาได้แล้วจ้ะยาย เดี๋ยวก็หมดแรงก่อนสอบหรอก”
“อีกแป๊บนะคะพี่เดือน เดี๋ยวตามขึ้นไป”
“งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ”
“ตามสบายค่ะ”
ระหว่างนั้นรามนรีนิ่วหน้า รู้สึกเจ็บแปลบที่เท้า เป็นตะคริวว่ายต่อไม่ไหว เธอมองเดือนฉายที่เดินห่างออกไป พยายามตะโกนเรียก
“พี่เดือน พี่เดือน ช่วยด้วย”
เดือนฉายไม่ได้ยิน รามนรีหมดแรงค่อยๆ จมหายลงไปในน้ำ เดือนฉายเข้ามาในห้องจะอาบน้ำ แต่มองหาผ้าเช็ดตัว
“ว้า ลืมอีกจนได้เรา”
เดือนฉายเดินกลับออกไป หยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่บนเก้าอี้
“อ้าว หายไปไหนแล้วล่ะ หรือว่า หนูเล็ก”
เดือนฉายวิ่งไปที่ขอบสระ เห็นรามนรีกำลังจมลงไปก้นสระ
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย มีคนจมน้ำ”
เดือนฉาย รีบกระโดดไปช่วย คนอื่นโดดตามลงไป เดือนฉายดึงรามนรีขึ้น
ทุกคนตามไปช่วยดึงจากสระ รามนรีนอนหมดสติ ที่ขอบสระ เดือนฉายจับรามนรีเขย่าไปมาด้วยความห่วงใย
“หนูเล็กๆ เป็นยังไง ลืมตาขึ้นมามองพี่สิ”
รามนรีนอนแน่นิ่ง เดือนฉายร้องไห้
“หนูเล็กอย่าทำอย่างนี้ พูดกับพี่สิพูด”
ผู้ดูแลสระวิ่งเข้ามา
“ต้องผายปอดครับ”
“ฉันทำได้ค่ะ”
เดือนฉายช่วยผายปอดและปั๊มหัวใจให้รามนรีจนฟื้น
“พี่เดือน”.
เดือนยิ้มทั้งน้ำตา โผกอดรามนรี
“ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม หนูเล็ก”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่เดือน"
“นี่ถ้าไม่ได้คุณเดือนช่วยไว้ คุณต้องแย่แน่ๆ”
รามนรีจับมือเดือนด้วยความซาบซึ้ง
“ชั่วชีวิตนี้ หนูจะไม่ลืมว่าพี่คือผู้มีพระคุณ”
เดือนฉาย สบตารามนรี ยิ้มปลื้ม
หลายเดือนต่อมา รามนรีใส่ชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยซบหน้ากับตักตัวเอง เดือนฉายซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษาเช่นกัน ถามอย่างห่วงใย
“หนูเล็กเป็นอะไร ไม่สบายเหรอจ๊ะ”
รามนรีร้องไห้อย่างหนัก จนเดือนฉายมองตกใจ
“พ่อหนูเล็กไม่สบายมาก”
“พ่อไม่สบายเป็นอะไรจ๊ะ”
“โรคหัวใจกำเริบค่ะพี่เดือน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล อาการหนักมาก แม่หนูเล็กก็ไม่อยู่แล้ว หนูเล็กไม่อยากเสียพ่อไปอีกคน ฮือๆ”
เดือนฉายเข้าไปกอดรามนรีไว้ ลูบหลังปลอบ
“ไม่ต้องห่วงนะหนูเล็ก คุณพ่อพี่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ พี่จะคุยกับท่านให้เอง”
“ขอบคุณมากนะคะพี่เดือน พี่ดีกับหนูเสมอ”
“ไม่เป็นไร ก็เราเป็นพี่น้องกัน”
รามนรีมองเดือนฉายอย่างสุดรัก
1 เดือนต่อมา รามนรีเข็นรถพาวิรัชออกมาเดินเล่น เธอชะงัก ยิ้มแย้มดีใจเมื่อเห็นใครบางคน
“พี่เดือน”
เดือนฉายเดินเข้ามา พร้อมกับตะกร้าของเยี่ยมคนไข้
“หนูเล็ก”
เดือนฉายยกมือไหว้วิรัช
“สวัสดีค่ะคุณอา วันนี้ดูสดชื่นขึ้นมากเลยนะคะ”
“ใช่ ก็ได้หนูกับคุณพ่อ ที่ช่วยอาไว้ ทำให้อาแข็งแรงขึ้น คุณหมอบอกว่าอาทิตย์หน้าก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้”
“จริงเหรอ ดีใจด้วยนะหนูเล็ก”
“ขอบคุณพี่เดือนมากนะคะ ถ้าไม่ได้คุณลุงหมอช่วย อาการคุณพ่อคงไม่ฟื้นเร็วขนาดนี้”
“เหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ เพราะที่ผ่านมาคิดว่าไม่รอด ต้องไปอยู่กับแม่ของหนูเล็กแล้วแน่ๆ แต่ก็รอดมาได้เพราะหนูจริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณอา หนูเล็กเป็นรุ่นน้องที่น่ารักของเดือน เรื่องนี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่เดือนจะช่วยได้ค่ะ”
“แต่หมอใหญ่อย่างพ่อของหนูมีคิวผ่าตัดยาวข้ามปี ถ้าไม่ได้หนูช่วยพูด อาก็คงไม่ได้ผ่าตัดเร็วขนาดนี้ จำไว้นะลูก หมอพิพัฒน์ ฉัตรากร กับ หนูเดือนฉาย ฉัตรากร มีบุญคุณกับเราล้นฟ้า ถ้ามีโอกาส เราต้องตอบแทนบุญคุณพวกเขาให้สมกับที่เขาช่วยเหลือเรา”
“ค่ะพ่อ สำหรับพี่เดือน แม้ชีวิตหนูก็ให้ได้”
รามนรีมองเดือนฉายด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง
รามนรียังยืนอยู่ในคอนโดฯ
“บุณคุณของพี่เดือน ชดใช้ชาตินี้ก็ไม่มีวันหมด อะไรที่ทำเพื่อพี่ได้ หนูจะทำ”
รามนรีมองไกลไปในท้องฟ้า
เช้าวันใหม่ รามนรีนอนสลบไสลอยู่บนเตียง เสียงกริ่งดัง เธองัวเงีย เดินงงๆ ไปมองตาแมวที่หน้าประตู เห็นกระเทยอวบอ้วนมองมา
“เฮ้ย ผีขนุน มาได้ไง”
เสียงโทรศัพท์ดัง รามนรีวิ่งไปกดรับ
“ค่ะคุณไผท”
“คุณภูมิ เขาส่งคนไปดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้คุณ ป่านนี้คงถึงแล้ว”
“อ๋อ ค่ะ”
“แล้วอีกสักครู่ ผมจะส่งรถไปรับ เราจะได้เริ่มงานกัน”
“ค่ะ”
รามนรีกดวางสาย ก่อนวิ่งไปเปิดประตู
ภูมิกับไผท นั่งคุยกันในห้องทำงาน เหมียวยกกาแฟเข้ามาเสิร์ฟ
“กาแฟ ร้อนๆ มาแล้วค่ะเจ้านาย”
“ขอบใจนะเหมียว”
“ค่า ขอให้มีความสุขกับกาแฟถ้วยโปรดนะคะ”
เหมียวเดินออกไป ภูมิหันมาคุยกับไผท
“แกรู้ไหม ว่าฉันพยายามหาคนที่มีฝีมือ และมีรสนิยมดี ไปจัดการเมคโอเวอร์ ยัยป้าหน้าแก่นั่น จะได้เป็นการซ้อมไว้ก่อนจะไปพบคุณย่า ถ้าไม่เนียน มีหวังโดนจับได้ก่อนกำหนด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพัฒนาหนังหน้ายัยนั่นได้แค่ไหน”
“เขาอาจจะสวยมาก จนทำให้แกตะลึงไปเลยก็ได้”
“นายน่ะฝันไป ส่วนฉันแค่หวังเบาๆ ขอแค่ให้พอไปวัดไปวาได้จะได้ไม่อายใคร”
“แล้วถ้าแต่งออกมาแล้วสวยมาก แกก็อย่าหลงรักเขาก็แล้วกัน”
ภูมิขำกลิ้ง
“ฝันไปเถอะ ใส่แว่นหนา หน้าตาบ้านๆ ยิ่งได้เห็นบีฟอร์กับอาฟเตอร์ ให้สวยแค่ไหน ก็ไม่ไหววะ กลัวหลอน แค่ไม่ให้ทุเรศลูกกะตา ฉันก็โอแล้ว เรื่องจะให้ไปปิ๊งยัยนั่นฝันไปเถอะ ฝันเพราะแค่เจอหน้าหมาก็เห่า ฉันก็ตื่นทันที ว่าแต่แกอย่าฝันไปไกลเลยไอ้ไท ตื่นได้แล้วตื่น”
“ก็ใช่สิ แกมันเจอแต่คนสวยๆ จนชินนี่”
“แต่จะว่าไป ฉันยังแปลกใจไม่หาย ว่าทำไมยัยนั่นถึงได้ยอมทำงานให้เรา ทั้งที่ก่อนหน้า ทั้งวิงวอนอ้อนสุดฤทธิ์ก็ไม่ยอม”
“เขาคงเพิ่งคิดได้ หรือไม่ก็ต้องมีเหตุผลของเขา ที่เราไม่ต้องรู้ก็ได้”
“นี่แกหาว่าฉันเสือกเหรอ”
“ก็แล้วแต่จะคิด”
ภูมิกับไผท จิบกาแฟ ยิ้มให้กันอย่างอารมณ์ดี
ถวิล ขับรถเข้ามาจอดหน้าตึก แล้ววิ่งเข้ามาเปิดประตูรถให้ รามนรีใส่รองเท้าส้นสูง ก้าวออกมาจากตัวรถ ใส่แว่นดำปิดบังใบหน้า ผมถูกเกล้าเก็บ เข้ากับชุดสุดหรูดูงามสง่า เธอถอดแว่น ยืนมองหน้ามั่นเข้าไปด้านในบอกกับตัวเอง
“ต่อไปนี้ฉันไม่ใช่ยาย แต่ฉันคือเดือนฉาย ฉัตรากร”
รามนรียืนเชิดหน้ามั่น ก่อนเดินออกไป
ภูมิ กับ ไผท ยืนคุยกับแพตตี้ อยู่มุมหนึ่ง
“คืนนี้เราจะไปปาร์ตี้เบาๆ กันที่ไหนดีคะ ภูมิ”
ภูมิมองรามนรีที่กำลังเดินเข้ามาตาเยิ้ม เพราะจำไม่ได้ สะกิดไผท กระซิบกระซาบ
“ไอ้ไท ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่ฉันจอง เขาสวยมากฎ
“เออ สวยมาก ว่าแต่เขาเป็นใคร แล้วมาทำไมวะ”
“ภูมิ เป็นอะไร ทำไมไม่สนใจแพตตี้เลยว่าไงเย็นนี้เราจะไปไหนกันดีคะ”
รามนรีเดินมาหยุดตรงหน้าภูมิ
“เธอไม่มีสิทธิ์ควงแฟนคนอื่นไปไหน”
“เธอเป็นใคร มาเกี่ยวอะไรด้วย”
“ฉันชื่อเดือนฉาย ฉัตรากร เป็นแฟนของคุณภูมิ”
ภูมิกับไผท หันไปมองรามนรี หน้าเหวอ อึ้งมอง ไม่อยากจะเชื่อ
“เธอมันเป็นแค่อดีต แต่ฉันเป็นปัจจุบัน กรุณาเลิกยุ่งกับเขาได้แล้ว”
ภูมิยังอึ้งไม่หาย รามนรีหันไปเกาะแขนซบชายหนุ่ม
“บอกเขาไปสิคะภูมิ ว่าอีกไม่นาน เราจะแต่งงานกัน”
ภูมิอึ้งๆ รามนรีแอบหยิกแขนเขา แล้วกระซิบ
“ถ้าอยากให้ฉันช่วยก็บอกไปเดี๋ยวนี้”
“ไม่จริงใช่ไหมคะภูมิ”
ภูมิดึงรามนรีเข้ามากอด
“จริงครับ เรากำลังจะแต่งกัน”
แพตตี้ อึ้งไป รามนรีตกใจ พยายามจะดันตัวภูมิออก
“นี่นายทำบ้าอะไร”
“ก็ทำให้สมบทบาทไง ไม่งั้นใครเขาจะไปเชื่อ หรืออยากจะให้ทำมากกว่านี้”
รามนรีจำต้องนิ่ง ปล่อยให้ภูมินัวเนีย แพตตี้ทนดูไม่ได้ กระชากภูมิออกมา แล้วตบหน้าเขาฉาดใหญ่
“คนหลอกลวง วันก่อนนอนอยู่กับฉันบอกฉันว่าโสด แต่มาวันนี้บอกจะมีเมียซะงั้น คุณมันเป็นเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้จริงๆ”
ภูมิจับแก้มตัวเองรู้สึกเจ็บ แพตตี้สะบัดหน้าออกไป รามนรีตะโกนไล่หลัง
“ขอบคุณนะ แล้วฉันจะรักษาเขาไว้อย่างดี ไม่ให้แร้งที่ไหนมาทึ้งเขาได้อีก”
ไผทเดินออกมาพร้อมกับตบมือชื่นชม ยิ้มกริ่ม
“แค่ฉากแรกก็แสดงได้สมบทบาททั้งคู่ สุดยอด”
รามนรีผลักภูมิออก ภูมิก็รีบปล่อย หญิงสาวปัดเนื้อปัดตัวอย่างรังเกียจ ภูมิเห็นไผทมองมา รู้สึกเสียฟอร์ม แสร้งทำท่าขนลุกขยะแขยงเหมือนกัน จากนั้นไผทก็พารามนรีมาอ่านสัญญา เธอนิ่วหน้า
“มีอะไรสงสัยหรือเปล่าครับ”
“มีค่ะ คือ ฉันอยากจะเพิ่มเงื่อนไขในสัญญาอีก 5 ข้อ”
“ว่ามาเลยครับ”
“ข้อหนึ่ง ห้ามเขาลวนลามหรือคิดมิดีมิร้ายกับฉันเด็ดขาด”
ภูมิกลัวเสียฟอร์มกับไผท เลยกลบเกลื่อน
“สาธุ ใครพิศวาสลงก็ต้องไปเช็คประสาท”
“ไอ้ภูมิ แกไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ ต่อเลยครับ”
“ข้อสอง เราจะแยกกันนอนคนละห้อง”
“เฮ้อ รอดแล้วเรา”
รามนรีถลึงตาใส่ภูมิ ภูมิทำเป็นก้มหัวให้นิดๆ แบบกวนๆ
“ข้อสาม ทันทีที่คุณเดือนฉายกลับมา หน้าที่ของฉันก็จบลง”
“ถ้าอยากอยู่ต่อคุณนั่นแหละต้องจ้างผม”
“ข้อสี่ ในฐานะที่ฉันเป็นฝ่ายเสียหาย ฉันขอเงินเดือนเดือนละห้าหมื่น”
“ไม่มีปัญหา ผมให้เพิ่มเป็นแสนนึง แต่ขอให้ทำตามสัญญาและเต็มที่ ก็แล้วกัน” ภูมิบอก
“และข้อสุดท้าย ฉันขอเบิกเงินล่วงหน้าหนึ่งเดือน”
“ผมให้ไปสามเดือน เดี๋ยวให้เลขาโอนให้วันนี้ ผมรับได้กับห้าข้อ แต่ขอผมบ้าง”
“ก็ว่ามาสิ”
“ถ้าคุณเอาชนะใจคุณย่าผมไม่ได้ ผมมีสิทธิ์จะไล่คุณออกได้ทุกเมื่อ”
“ได้ ฉันจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด จะเอาชนะใจคุณย่า และแม่คุณ ให้ได้ คุณภูมิจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับคุณฟ้าแลบ”
“เขาชื่อประกายฟ้า ไม่ใช่ฟ้าแลบ”
“ก็เหมือนกันแหละค่ะ ถ้าฟ้าไม่แลบจะมีประกายฟ้าได้ยังไงคะ”
“อืม ก็จริง”
“และฉันยังมีของแถม”
“แถมอะไร”
“แถม คำสัญญา ว่าฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณได้แต่งงานกับคุณเดือนค่ะ”
ภูมิยิ้มปลื้ม ยกนิ้วโป้งคู่ให้
“ตั้งแต่เจอเธอมาวันนี้พูดได้ดีที่สุด เริ่มเป็นคนละ จ้างตั้งเดือนละแสน อย่ามาหือ เธอต้องเชื่อฟังฉัน อย่าดื้อ โอเคไหม”
“โอเค้ ก็ได้”
“งั้นเดี๋ยวฉันโทรบอกเลขา โอนเงินให้ แล้วพรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย”
รามนรีกับภูมิ เอากำปั้นชนกันยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร ไผทมองทั้งสอง โล่งใจ
ตอนเย็นรามนรีนั่งชะเง้อมองรถเมล์อยู่ที่ป้าย เสียงโทรศัพท์ดัง เห็นเบอร์แปลก ก่อนกดรับ
“รึว่าเป็นเบอร์ออฟฟิศ สวัสดีค่ะ”
“ว่าไงจ๊ะที่รัก”
“นายผสาน”
“ชื่อนี้ จำให้ขึ้นใจ และจะต้องจดจำไปตลอดชีวิต”
“แก เอาเบอร์ ฉันมาจากไหน จากน้าแก้วล่ะสิ”
“ก็รู้นิ ฉลาดไม่เบานะเราเนี่ย”
“ฉันรู้มาตั้งนานแล้ว ว่าแกกับน้าแก้วต้องรู้กัน”
“ฮ่าๆๆ รู้แล้วไง เธอจะทำอะไรฉันได้ ในเมื่อพ่อเธอ ก็หลงเมีย หลงฉันเสียสนิทใจ.เธอหนีฉันไปไม่รอดแน่ จะข้าหรือเร็วก็ต้องกลับมา”
“ไม่มีวัน แล้วฉันก็จะทำให้พ่อรู้ว่าแก มันคนดีจอมปลอม”
“ก็เอาซี่ ฉันก็อยากจะรู้ ว่าพ่อเธอจะเชื่อใคร ระหว่างลูกเขยผู้แสนดี กับลูกทรพีอย่างเธอ ถ้าอยากจะเปลี่ยนใจก็ยังทัน ฉันพร้อมจะให้อภัยเธอ”
“ฝันไปเถอะ”
“งั้นก็เตรียมรับชะตากรรม ได้เลย เพราะฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่”
“ไปตายซะ ไอ้บ้า”
รามนรีกดสายทิ้ง
จบตอนที่ 2
โปรดติดตามอ่านต่อตอนที่ 3