เจ้าสาวของอานนท์ ตอนที่ 10
โกศลเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้อานนท์ฟัง
ในร้านรพี วนิดาลองชุดแต่งงานยืนดูตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ สีหน้าเรียบเฉย ประภากับแม่โกศลพากันปลาบปลื้ม โกศลนั่งอ่านหนังสือ
"สวยเหลือเกินลูก หนูดา คุณพี่ว่าชุดเจ้าสาวชุดนี้เหมาะกับหนูดานะคะ" ประภาบอก
แม่โกศลยิ้มๆ
"พี่คิดไว้ว่าเจ้าสาวของโกศลจะใส่ชุดไทยห่มสไบ...แต่ถ้าหนูดาชอบแบบฝรั่งก็..."
วนิดาหันมาทันที
"ดาชอบชุดฝรั่งแบบนี้ค่ะ...ชุดไทยเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครใส่แล้วนะคะ...มันดูเชย"
"เชยที่ไหนกันล่ะหนูดา ป้าว่าชุดไทยน่ะโก้กว่าชุดฝรั่งฟูๆอย่างนี้ตั้งเยอะ...โกศลว่าไงล่ะลูก”
โกศลเงยหน้าขั้นมองวนิดายิ้มๆ
"ตามใจเจ้าสาวเค้าสิครับ...แบบไหนก็เป็นเจ้าสาว"
โกศลอ่านหนังสือต่อ วนิดามองตัวเองอย่างไม่มีความสุข สองแม่ยังเห็นไม่ตรงกัน โกศลเงยหน้าขึ้นมามองเห็นสีหน้าที่ไม่มีความสุขนั้น...
ในมุมนั่งเล่นบ้านวนิดา คนใช้เดินเอาของว่างมาเสิร์ฟ โกศลกับวนิดาที่นั่งอยู่ที่มุมสวยๆ โกศลเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยของวนิดา
"คุณต้องการซื้ออะไรเพิ่มเติม...สำหรับงานแต่งงานของเราอีกมั้ยครับ"
วนิดาเหม่อมองไม่ได้ยินที่โกศลพูด จนต้องเรียกซ้ำ
"วนิดา"
วนิดาสะดุ้งน้อยๆหันมามองโกศล
"คะ...เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะคะ"
โกศลยิ้มๆจิบน้ำชา
"ใจลอยไปถึงใคร"
วนิดาทำเป็นกลบเกลื้อน
"ก็กำลังคิดเรื่องงานแต่งงานไงคะ"
โกศลพูดเรื่อยๆไม่มองวนิดา
"คิดว่าอยากแต่งงานกับคนอื่น ไม่ใช่ผมใช่ไหม"
วนิดาสะดุ้ง จ้องหน้าโกศลพูดไม่ออก..
"คุณเคยบอกเค้าหรือเปล่าว่าคุณชอบเขา"
วนิดาทำอะไรไม่ถูกที่โดนจับได้ น้ำตาร่วง โกศลมองแล้วก็หัวเราะน้อยๆ
"แปลว่าผมดูไม่ผิดซินะ"
วนิดาป้ายน้ำตาทิ้ง
"ฉันขอโทษค่ะ"
"ไม่เห็นต้องขอโทษเลย...คุณไม่ได้ทำผิดอะไรนี่"
"ผิดสิคะ ผิดที่ฉันไม่ลืมเค้า ผิดที่ฉันไม่รักคุณ"
โกศลยิ้มเอามือเคาะโต๊ะเบาๆ
"คุณจะรู้สึกผิดน้อยลงไหม...ถ้าผมจะบอกว่าผมก็ล้มเหลวที่ทำใจรักคุณไม่ได้เหมือนกัน"
วนิดาหัวเราะทั้งน้ำตา...
"ขอบคุณค่ะ...ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลย"
"คุณควรจะบอกอานนท์นะ"
วนิดาสีหน้าเศร้า
"ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ คุณนนท์ไม่เคยรักฉัน มีแต่ฉันที่หลงรักเขามาตลอด น่าอายไหมคะ มีผู้ชายมา
ติดพันฉันหลายคนแต่ฉันกลับรักคนที่ไม่เคยรักฉัน... แล้วก็ทำใจให้ลืมเขาไม่ได้"
วนิดาร้องไห้ โกศลมองอย่างสงสาร
แม้ว่าผ่านเวลาจากวันที่โกศลเล่าให้ฟังมาหลายวัน แต่อานนท์ยังนั่งสีหน้าเป็นทุกข์อยู่หน้าโต๊ะทำงานในห้องนอน ถอนใจอย่างหนัก เอามือกุมขมับ แล้วนึกถึงภาพที่โกศลเล่าให้ฟังที่สโมสร
โต๊ะนั่งข้างสนามเทนนิส อานนท์ที่ตกใจกับคำพูดของโกศล
"ผมสังเกตุวนิดาเวลาที่เค้าอยู่กับคุณอานนท์หลายครั้งแล้ว ผมถึงแน่ใจที่จะพูดกับเขาอย่างนั้น"
อานนท์สีหน้าเป็นทุกข์
"โธ่...วนิดา ถ้าเมื่อก่อนผมคงจะดีใจที่สุดที่รู้ว่า วนิดาชอบผม คงให้คุณพ่อคุณแม่รีบไปสู่ขอเธอทันที แต่ตอนนี้..."
"คุณมีคนอื่นแล้ว"
อานนท์มองหน้าโกศลแล้วพยักหน้าช้าๆ แต่แน่ใจ
"ผมแน่ใจว่าผมรักสุ รักอย่างที่ไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน ถึงผมจะสงสารวนิดาแค่ไหน แต่ผมจะตัดใจจากสุเพื่อไปแต่งงานกับวนิดา ผมทำไม่ได้...ผมต้องขอโทษคุณโกศลมากนะครับ ที่ทำให้คุณโกศลต้องผิดหวังเรื่องความรักอีก"
โกศลหัวเราะแจ่มใส
"อันที่จริงผมโล่งใจมากกว่า"
อานนท์มองหน้าโกศล
"คุณโกศลไม่ได้รักวนิดาเหรอครับ"
โกศลสีหน้าครุ่นคิดส่ายหน้าช้าๆ
"ผมคิดว่าเรามีหลายอย่างที่เข้ากันไม่ได้ พรุ่งนี้ผมจะพูดกับผู้ใหญ่ของเราให้เข้า"
"ผมควรจะทำอย่างไรดี...ผมอยากช่วยวนิดา...แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร"
โกศลยิ้ม
"คุณทำได้คือทำใจ คุณจะไปแก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้ ผมก็หวังไว้ว่าสัก วันวนิดาจะได้พบกับผู้ชายที่รักเธอและเธอก็รักเขา แต่ตอนนี้ วนิดาก็ต้องยอมรับว่าความรักของเธอกับคุณ มันเป็นไปไม่ได้"
อานนท์ถอนใจ
"ผมเคยทำให้ผู้หญิงผิดหวังมาก่อน...แต่สำหรับวนิดา...ผมรู้สึกสงสารมาก ผมยอมรับว่าผมเคยคิดชอบเธอ จนเธออาจจะเข้าใจได้ว่าผมเคยรักเธอ"
"อย่าโทษตัวเองเลย...ผมคิดว่าคุณยังลังเลที่จะรักวนิดา ใช่ไหม"
"วนิดามีผู้ชายมาชอบหลายคน...มักจะมีผู้ชายห้อมล้อมเธอเสมอ แล้วเธอก็ไม่เคยทำให้ผมรู้ว่าเธอชอบผมมากกว่าคนอื่น"
"คุณก็เลยคิดว่าวนิดาชอบคุณในฐานะเพื่อนเหมือนผู้ชายคนอื่นๆเหมือนกัน"
อานนท์พยักหน้า
"ใช่...เรื่องมันไม่น่าเป็นอย่างนี้"
อานนท์ยังนั่งกลุ้มอยู่ในห้อง นงลักษณ์เปิดประตูห้องเข้ามาเบาๆ
"คุณนนท์"
อานนท์ยังนั่งเฉย นงลักษณ์มองอย่างเป็นห่วง
"ไม่สบายหรือเปล่าคะ"
อานนท์ถอนใจตอบเบาๆ
"เปล่า"
"เป็นอะไรคะ...ทำไมมานั่งหน้าเครียดคนเดียวอย่างนี้"
"ก็จะให้นั่งกับใครล่ะ"
นงลักษณ์ยังพยายามยิ้ม
"ลงไปทานข้าวกันเถอะค่ะ...วันนี้น้องทำแกงมัสหมั่นของโปรดคุณนนท์"
อานนท์เริ่มรำคาญ
"น้องทานไปก่อนเถอะ...พี่ยังไม่หิวหรอก"
นงลักษณ์หัวเราะเบาๆ
"นี่มันค่ำแล้วนะคะ...ยังไม่หิวได้ไง ทุกทีเคยแต่เรียกให้ตั้งสำรับตั้งแต่เย็น"
อานนท์หงุดหงิด
"คนกำลังกลุ้มใจนะนงลักษณ์...พี่กินไม่ลงหรอก"
นงลักษณ์ถามอย่างเป็นห่วง
"นี่เป็นครั้งแรกที่น้องเห็นคุณนนท์กลุ้ม...บอกได้ไหมคะว่ากลุ้มใจเรื่องอะไร"
อานนท์รำคาญมากแล้วพูดเสียงแข็ง
"อย่ามาซักได้ไหม...พี่อยากอยู่คนเดียว"
นงลักษณ์รู้สึกน้อยใจหน่อยๆ หันหลังเดินออกไปจากห้องแล้วปิดประตูห้องไว้ตามเดิม อานนท์กลุ้ม....
ในกระท่อมโสภณ สุชาดาทำกับข้าวเสร็จ กำลังตักอาหารใส่จานด้วยสีหน้าพอใจ สนมดูอย่างสนใจ
"น่ากินนะคุณ...ทำครั้งแรกได้อย่างนี้ต่อไปมีหวังเก่งแน่ๆ"
"ต้องชิมก่อนว่าเป็นยังไง...หนมลองชิมสิ"
สนมทำท่าหวาดๆ
"ทำไมคุณไม่ชิมเองล่ะ คุณชอบกินหวานหน่อยๆ ฉันไม่กินหวาน มันชอบไม่เหมือนกันนี่"
"ลองหน่อยน่า...ถ้าอร่อยก็คืออร่อยน่ะแหล่ะ"
สนมเอาช้อนเล็กๆมาตักชิมนิดหนึ่งแล้วมองหน้าสุชาดา
"อร่อยนะคุณ"
สุชาดาดีใจ
"จริงๆเหรอ"
สนมเอาช้อนคันใหม่ส่งให้ สุชาดาตักอาหารชิมนิดหนึ่ง สีหน้าดีใจและภูมิใจ
"มีฝีมือเหมือนกันนา"
"วันนี้คุณนนท์จะมามั้ย" สนมถาม
สุชาดาหวั่นไหว
"มาหรือไม่มาก็ช่างเค้าสิ...จะไปสนใจทำไม.."
"หายไปสามสี่วันแล้ว...วันนี้น่าจะมานะ"
สุชาดายิ้ม
"เค้าคงมาไม่ถูกหรอกหนม"
"คุณอยากให้เค้ามาหรือเปล่าล่ะ"
สุชาดาเขิน
"ฉันไม่สนใจ"
สนมยิ้มล้อ
"คุณน่ะปากแข็ง...ระวังนะคุณนนท์เค้าจะท้อใจคิดว่าคุณไม่สนใจ"
สุชาดาทำท่าถือดี
"ก็ช่างเค้าสิ...มากินข้าวกันเถอะ...อย่าไปสนใจคนอื่นเลย"
"รออีกสักหน่อยสิคุณ...เผื่อคุณนนท์กำลังมา"
สุชาดาคิดนิดหนึ่ง
"ตามใจนะหนม...อยากรอก็รอ...แต่ฉันไม่รอแล้ว"
สุชาดาเดินเอาอาหารไปวางที่โต๊ะที่จัดไว้น่ารัก มองอาหารอย่างพอใจ...
สายใจกำลังเก็บโต๊ะอาหารที่นงลักษณ์นั่งทานอยู่คนเดียว
"คุณตระกลหายไปสองวันแล้วนะคะคุณ"
"เค้าคงยุ่งๆละมังสายใจ"
"คุณตระกลคงเห็นว่าคุณนนท์กลับบ้านแล้วละมังคะ...เลยไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว."
นงลักษณ์หน้าเสีย
"เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมกับข้าวทำใส่บาตรนะ"
"ค่ะ"
อานนท์เดินลงมาด้วยสีหน้าหมองคล้ำ นงลักษณ์ยังน้อยใจอยู่
"คุณนนท์จะทานข้าวไหมคะ...จะได้ตั้งสำรับให้"
"ไม่ละ...พี่ไม่หิว."
"น้องจะเข้าไปในครัวดีกว่า...คุณนนท์จะได้ไม่ต้องมีคนคอยกวน"
อานนท์รู้สึกผิดเดินมาหานงลักษณ์
"น้องจ๋า พี่ขอโทษ พี่กลุ้มใจ พี่ไม่อยากกินข้าวหรอกจะลงมาเดินให้หัวมันโล่งซะหน่อย"
"ถ้างั้นดื่มโกโก้สักถ้วยไหมคะ...น้องจะไปเอามาให้"
อานนท์คิดนิดหนึ่งแต่รู้สึกเกรงใจนงลักษณ์
"ดีเหมือนกัน ขอบใจจ้ะ พี่มีน้องที่ดีที่สุดในโลก"
อานนท์กอดนงลักษณ์เบาๆ
สุชาดานั่งทานอาหารคนเดียวช้าๆมองเก้าอี้ข้างๆที่อานนท์เคยนั่ง พลัน... เธอเห็นภาพอดีตซ้อนเข้ามาที่เก้าอี้ตัวนั้นอานนท์เคยมานั่งทานอาหารกับเธอที่นี่ ตรงนี้ แล้วเธอก็รวบช้อนเลิกทานอาหาร สนมเดินเข้ามาดู
"ทำตั้งนาน...ทานไปนิดเดียว"
"อิ่มแล้วละ หนม"
สุชาดาลุกขึ้น ทำท่าจะช่วยเก็บ สนมรีบห้าม
"ฉันเก็บเอง...คุณนั่งคิดถึงคุณนนท์ไปเถอะ"
สุชาดามองค้อน
"เพ้อเจ้อน่าหนม...ฉันไม่ได้คิดถึงเค้าซะหน่อย"
"ถ้าคุณชอบเค้า...คุณก็ต้องให้เค้ารู้"
สุชาดาอาย
"จะบ้าเหรอ...ผู้หญิงดีที่ไหนเค้าจะไปบอกผู้ชายก่อนว่าชอบ"
สนมยิ้มๆ
"จะเป็นผู้หญิงดี...หรือจะเป็นผู้หญิงที่สมหวังล่ะ"
สุชาดาสีหน้าหม่นลง
"แล้วถ้าเค้าไม่ได้ชอบฉันล่"
"นายช่างใหญ่น่ะชอบคุณแน่นอน...ใครๆเค้าก็รู้"
"ไม่จริงหรอก ถ้าเค้าชอบฉัน เค้าก็ต้องมาหาฉันสิ"
สนมยิ้มล้อ
"นั่นแน่ ไหนว่าไม่ได้รอ วันนี้ไม่มาพรุ่งนี้ต้องมาแน่ๆ"
สุชาดาอาย...
พระยาสุทธาเทพวิสุทธิ์หน้าเศร้านั่งฟังเพลงI Adore You มีเสียงเคาะประตู เฉยเดินไปเปิด ตระกลเดินเข้ามา เจ้าคุณหันไปเห็นดีใจ
"ตระกล...แหม..พี่กำลังนึกถึงอยู่เชียว"
ตระกลเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ
"ไม่เห็นเธอสองสามวัน"
"งานเยอะครับ...ผมอาจจะต้องไปดูงานทางใต้"
"อาจจะเป็นอาทิตย์หน้าครับ"
"เสร็จงานแล้วก็รีบกลับมาล่ะ...อย่าไปอยู่ที่นั่นเลยนะ"
ตระกลยิ้ม
"ไม่หรอกครับ...ตอนนี้ผมไม่อยากไปอยู่ทางใต้แล้ว"
เจ้าคุณมองหน้าตระกลแล้วก็ยิ้มด้วย
"จริงๆนะเหรอ...แปลว่าที่นี่ต้องมีอะไรดีๆทำให้ตระกลไม่คิดจะหนีไปทางใต้น่ะซิ"
ตระกลยิ้มอายๆ
"ไปติดใจสาวแน่ๆ"
"ผมก็ว่าจะมาเรียนปรึกษาคุณพี่นี่ละครับ"
"ผู้หญิงที่ไหนกันล่ะ...ลูกเต้าเหล่าใคร"
ตระกลอายๆ
"เอ้อ...น้องสาวอานนท์ไงครับ"
เจ้าคุณสุทธายิ้มดีใจ
"คนที่พบกันที่โรงละครใช่ไหม...น่าเอ็นดูดีนะ"
"ผมจะทำยังไงดีครับ"
"ลูกสาวเจ้าคุณพลราม พี่จะไปขอให้เลยดีไหม"
ตระกลยิ้มอายตกใจรีบห้าม
"อย่าเพิ่งถึงขั้นนั้นเลยครับคุณพี่...ถ้าคุณนงลักษณ์ปฎิเสธ คุณพี่จะเสียหน้า"
"อ้าว...แล้วยังไม่รู้หรอกเหรอว่าเค้าชอบเราหรือเปล่า"
"ไม่ค่อยแน่ใจครับ"
สุทธามองตระกลยิ้มๆ
"เรามันก็อายไม่เข้าเรื่อง...ถ้ามัวแต่ลังเลเดี๋ยวจะเสียใจนะ"
"ผมคิดว่าจะให้อานนท์ช่วย คุณพี่ว่าดีไหมครับ"
เจ้าคุณสีหน้าใช้ความคิดนิดหนึ่ง
"ก็ดีนะ...เป็นการฟังเสียงพี่ชายเค้าด้วย ถ้าอานนท์เห็นด้วย เค้าก็ไปเชียร์เรากับน้องสาวเค้าเอง ถ้าเค้าจะปฎิเสธเราก็ไม่ต้องเสียหน้า ยังคบหากันต่อไปได้ ดี ไปบอกกับอานนท์ให้ช่วยเลยก็ดี พี่ว่าอานนท์ต้องดีใจมากที่น้องสาวเค้ามีคนดีๆอย่างตระกลมาชอบ"
ตระกลยิ้มอายๆอย่างสุขใจ
อ่านต่อหน้า 2
เจ้าสาวของอานนท์ ตอนที่ 10 (ต่อ)
วันใหม่ นงลักษณ์กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน โกศลขับรถเข้ามาจอด นงลักษณ์มองอย่างไม่รู้จัก
โกศลลงมาจากรถยิ้มให้
"บ้านคุณอานนท์ใช่ไหมครับ"
"ใช่ค่ะ"
"ผมชื่อโกศลครับ...เคยรู้จักกับอานนท์ตั้งแต่เค้าเรียนที่อเมริกา"
"เชิญเข้ามาก่อนสิคะ คุณนนท์ยังไม่กลับจากที่ทำงานเลยค่ะ"
โกศลเดินเข้ามาในบ้าน
"ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขออนุญาติเข้ามานั่งรอนะครับ"
"ตามสบายค่ะ...แต่ฉันไม่รู้ว่าคุณนนท์จะกลับมาเมื่อไหร่"
"ไม่เป็นไรครับ...ผมไม่ได้มีธุระอะไร...พอดีมีเรื่องอยากจะคุยกับอานนท์...คุณคงเป็นน้องสาวของอานนท์ใช่ไหมครับ"
นงลักษณ์ยิ้ม
"ใช่ค่ะ...ฉันชื่อนงลักษณ์...เป็นน้องสาวของคุณนนท์ เชิญคุณโกศลนั่งรอด้านในดีกว่าค่ะ"
โกศลยิ้ม
"รอตรงนี้ก็ได้ครับ...เย็นสบายดี"
โกศลลงนั่งที่โต๊ะนั่งเล่นสนามหน้าบ้าน
"สายใจไปเอาน้ำกับขนมมาที่นี่นะ...ฉันทำสลิ่มไว้ค่ะ ระหว่างรอคุณนนท์จะได้ทานขนมไปพลางๆ"
"ขอบคุณครับ"
นงลักษณ์ลงนั่งคุยกับโกศลที่โต๊ะนั่งเล่นสนามหน้า
ตระกลขับรถจะมาบ้านอานนท์ด้วยสีหน้ามีความสุข แต่พอเห็นนงลักษณ์นั่งคุยกับโกศลด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก็แปลกใจ เมื่อจอดรถ เดินเข้ามาในบ้าน โกศลกำลังนั่งทานขนมที่นงลักษณ์ทำด้วยสีหน้เบิกบาน นงลักษณ์หันไปเห็นตระกลเดินมาจากบ้านสมรก็ดีใจ
"คุณตระกล...หายไปไหนซะหลายวันคะ"
ตระกลยิ้มให้ แต่ก็มองโกศลอย่างสำรวจ
"ช่วงนี้พอดีงานยุ่งมากครับ นายนนท์ยังไม่กลับเหรอครับ"
"อาจจะกำลังมาค่ะ นี่คุณโกศลค่ เพื่อนคุณนนท์ที่อเมริกาแล้วก็...นี่คุณตระกลค่ะ เป็นเพื่อนคุณนนท์ตั้งแต่เด็กๆเลยค่ะ"
โกศลหัวเราะอย่างมารยาทดีเยี่ยมเมื่อนงลักษณ์แนะนำ
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
"ยินดีเช่นกันครับ...พอดีผมมีเรื่องจะมาปรึกษานายนนท์หน่อย"
ตระกลหันไปยิ้มกับนงลักษณ์อย่างมีความหมาย นงลักษอายๆ
"ผมก็จะมาคุยกับอานนท์เหมือนกัน...พอดีได้รับเลี้ยงขนมจากคุณนงลักษณ์...สงสัยคงต้องมาบ่อยๆ..ได้ไหมครับ คุณนงลักษณ์"
นงลักษณ์ยิ้มมารยาทดี
"เชิญสิคะ...ดิฉันทำขนมทานเองทุกวัน ถ้าว่างตอนเย็นๆก็เชิญค่ะ...คุณตระกลทานขนมหน่อยไหมคะ"
"ทานหน่อยนะครับ...สลิ่มคุณนงลักษณ์หอมชื่นใจกลิ่นดอกไม้"
ตลอดเวลาตระกลมองโกศลที่พูดคุยกับนงลักษณ์อย่างรู้สึกหึงหน่อยๆ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดไม่ค่อยดีกับโกศล
"ผมทานบ่อยแล้วครับ...คุณนงลักษณ์ทำขนมเก่งใครทานก็ต้องติดใจ"
โกศลยิ้มมองนงลักษณ์
"ถ้าผมเป็นอานนท์มีน้องทำอาหารเก่งอย่างนี้...ผมไม่ออกไปทานข้าวนอกบ้านหรอกครับ"
นงลักษณ์เขิน ตระกลเริ่มหึง
"ผมมาทานเป็นเพื่อนคุณนงลักษณ์แทบทุกวันละครับ ผมว่าวันนี้ นายนนท์น่าจะกลับมาค่ำๆ คุณโกศลอาจเสียเวลาคอยนานนะครับ"
โกศลยิ้มขำๆนึกรู้ว่าตระกลกันท่า ก็เลยแกล้ง
"ไม่เสียเวลาเลย...ดีเสียอีก..ผมจะได้ขอข้าวเย็นคุณนงลักษณ์ทานเป็นเพื่อน ระหว่างรออานนท์หวังว่าคุณนงลักษณ์คงไม่รังเกียจนะครับ"
"ด้วยความยินดีค่ะ...ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวไปดูเรื่องอาหารก่อนนะคะ... คุณโกศลคุยกับคุณตระกลไปก่อนนะคะ"
นงลักษณ์ลุกเดินเข้าไปในบ้าน ตระกลเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจโกศลมากขึ้น โกศลยิ้มมอง
"คุณตระกลมาที่นี่บ่อยเหรอครับ"
ตระกลมองหน้าโกศลไม่ค่อยพอใจขึ้นมาแล้ว
"อานนท์ต้องไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆ...คุณนงลักษณ์อยู่บ้านกับสายใจสองคนเท่านั้น อานนท์เค้าก็เลยฝากให้ผมช่วยดูแลบ้าง"
โกศลพูดยิ้มๆ
"ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้ ผมก็ขอมาด้วยอีกคนก็แล้วกันครับ หวังว่าคุณคงไม่ว่าอะไรนะครับ เราจะได้มานั่งคุยเป็นเพื่อนคุณนงลักษณ์ด้วยกัน"
ตระกลหน้าตึง โกศลแอบขำ
"ที่นี่ไม่ใช่บ้านผม...คุณอยากจะมาอยากจะไปก็ต้องถามเจ้าของบ้านดีกว่า"
ผ่านเวลา....ไปสักพักใหญ่ จนกระทั่งอานนท์ขับรถมาถึงพอดี
"คุณอานนท์มาแล้ว..." โกศลบอก
อานนท์เดินลงมาจากรถเดินมาหาตระกลกับโกศลด้วยสีหน้าดีใจ
"คุณโกศล...ตระกล...แหมดีใจจริงๆที่คุณสองคนมาmเดี๋ยวอยู่ทานข้าวกันนะ"
ตระกลรีบลุกขึ้นยืนทันที
"พอดีกันมีธุระอยู่ไม่ได้หรอก จะมาหานายพรุ่งนี้ก็แล้วกัน"
อานนท์ทำหน้างงๆ ตระกลเดินไปทางบ้านสมร โกศลอดขำท่าทางตระกลไม่ได้...
หลังบ้านอานนท์ที่จัดไว้อย่างสวยงาม อานนท์นั่งดื่มอยู่กับโกศล
"คุณโกศลได้เจอวนิดาอีกไหมครับ"
"ยังไม่เจอกันเลยครับ...ป่านนี้คงโดนน้าประภาบ่นหูบวมไปแล้ว"
โกศลหัวเราะ แต่อานนท์ทำหน้าคิดมาก
"คุณยังคิดมากเรื่องวนิดาอยู่อีก"
"ผมสงสารเค้า...ถ้าวนิดาได้พบกับผู้ชายดีๆผมจะได้สบายใจ"
"สบายใจ...สบายใจว่ามีคนมาดูแลคุณวนิดา...มันหาไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ แต่ไม่แน่นะ วนิดามีเพื่อนผู้ชายหลายคน"
"ถ้าเค้าจะเลือกเพื่อนพวกนั้นคงเลือกไปแล้วละครับ"
โกศลถอนใจนั่งสบายๆมองไปรอบๆ
"บ้านคุณนี่สบายดีนะ...บรรยากาศดี"
"น้องสาวผมเค้าดูแลบ้านเก่ง...นี่ขนาดต้องออกไปร้านเสื้อแทบทุกวันนะ ยังมีเวลาทำกับข้าวดูแลพี่ชาย"
"ถ้าเกิดว่ามีคนมาเอาตัวน้องคุณไปคุณก็อดอยากแย่ละซิ"
อานนท์หัวเราะ
"ขอให้มีคนมาเอาไปเถอะครับ...ผมน่ะกลัวเค้าจะหงอยอยู่บ้านเพราะไม่ค่อยได้ออกไปเจอใคร"
"เคยได้ยินคำว่าเพชรในตมมั้ย...อยู่ลึกแค่ไหนก็ต้องมีคนหาเจอ"
ภายในห้องครัว ระหว่างที่นงลักษณ์กำลังเตรียมของว่าง สิรีถือขนมเดินเข้ามา นงลักษณ์หันไปเห็น
"อ้าว..สิรี เอาอะไรมาอีกละจ๊ะ"
"ปริศนาส่งขนมเค้กมาให้เยอะแยะเลยแบ่งมาฝาก วันนี้อาตระกลเป็นอะไร เห็นเดินหน้าเครียดออกไป
ชวนกินเค้กก็ไม่กิน"
นงลักษณ์ชะงักนิดหนึ่ง
"จู่ๆก็กลับไปซะเฉยๆไม่รู้ทำไม"
"คงจะมีธุระละมัง"
"ไม่รู้สิ...ฉันเข้ามาทำกับข้าวปล่อยให้คุยกับคุณโกศล... พอคุณนนท์มาคุณตระกลก็กลับไปเลย"
"คุณนนท์มีแขกมาหาหรือไง"
"ใช่จ๊ะ...เห็นบอกเป็นเพื่อนกันตอนอยู่อเมริกา ชื่อคุณโกศล"
สิรีสีหน้าครุ่นคิด
"คุณโกศล....ชื่อเหมือนคนที่อาวิรัชเขียนจดหมายมาบอกปริศนาเลยนะ"
"คนชื่อเหมือนกันมีออกเยอะแยไป ไปทานขนมกัน"
สิรีกับนงลักษณ์เดินถือของทานเล่นมาด้วยกัน อานนท์เห็นสิรีก็ยิ้มทัก โกศลมองดูสิรีแบบคนถูกชะตา
"สิรี...นี้เพื่อนผมชื่อโกศลครับ ... คุณโกศล นี้สิรีเป็นเพื่อนนงลักษณ์ บ้านอยู่ข้างๆกันครับ"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
สิรีหันไปยิ้มพร้อมยกมือไหว้ ยิ้มนั้นเหมือนทำให้โลกของโกศลหยุดหมุน..
"สวัสดีค่ะ...ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ"
อานนท์ชวนทุกคนนั่งลง
"สิรีเอาเค้กมาฝากคะ....เค้กฝีมือปริศนาเลยนะค่ะ"
อานนท์ตักเค้กกิน
"อร่อยมาก...ไม่น่าเชื่อว่าปริศนาจะทำเค้กอร่อยอย่างนี้"
โกศลตั้งใจฟังเมื่อได้ยินชื่อปริศนา นงลักษณ์ลองตักทานบ้าง
"ฝากไปขอบคุณปริศนาด้วยนะสิรี...ขนมเค้กอร่อยมาก"
"ขอโทษเถอะครับ...ปริศนาที่คุณพูดถึงนี้ใช่หม่อมปริศนาชายาของท่านชายพจน์ปรีชาใช่ไหมครับ"
"ใช่ครับ...คุณโกศลรู้จักปริศนาหรือครับ"
"ครับ...ผมรู้จักกับปริศนาที่อเมริกา รู้จักกันดีด้วยครับ"
สิรีมองโกศลอย่างแน่ใจแล้ว
"ถ้าอย่างนั้นคุณก็คือคุณโกศลข้าราชการสถานทูตที่เคยทำงานกับหลวงวิรัชราชกิตใช่ไหมคะ"
โกศลแปลกใจมาก....มองสิรี
"ใช่ครับ...คุณสิรีรู้จักคุณหลวงวิรัชเหรอครับ"
อานนท์หัวเราะ
"โอ...ไม่น่าเชื่อ...สิรีเป็นพี่สาวของปริศนาครับ...เป็นหลานสาวคุณหลวงวิรัชแหม..โลกมันกลมจริงๆ"
โกศลยิ้มดีใจ
"นั่นสิครับ ผมกำลังคิดอยู่ว่าคุณสิรีหน้าตาละม้ายคล้ายใคร คล้ายปริศนานี่เอง แต่ว่าสวยคมกว่า"
สิรีอาย...โกศลมองสิรีอย่างชอบมาก...
เวลาต่อมา ที่ท่าน้ำมุมนั่งเล่นสบายๆในวังศิลาขาว ปริศนาดีใจมาก
"Yes! ในที่สุดคุณโกศลก็ได้พบกับสิรี"
อานนท์หัวเราะ
"ใจเย็นๆปริศนา เดี๋ยวหลานผมในท้องจะตกใจ"
ปริศนาหันไปค้อนอานนท์ โกศลนั่งยิ้มสบายใจ
"แล้วคุณโกศลว่าพี่สาวปริศนาเป็นไงบ้างคะ"
"คุณโกศลบอกว่าสิรีสวยกว่าปริศนา"
ปริศนาแกล้งทำหน้าเหย
"ได้ไงล่ะ...อย่างนี้ก็หมดกัน"
อานนท์กับโกศลหัวเราะ
"สวยพอๆกันละครับ...แต่คนละแบบ" โกศลบอก
"อ้าว...เมื่อวันก่อนไม่ได้พูดแบบนี้นี่...ปริศนา...อย่างนี้เค้าเรียกว่าบุพเพสันนิวาสใช่ไหม"
ปริศนาดีดนิ้ว
"คุณนนท์พูดถูก...แล้วคุณโกศลจะทำยังไงต่อคะ"
"ไม่รู้สิครับ...ตอนนี้น่ะผมอยากเจอสิรีทุกวันจะแย่...ทำไงดีล่ะ อานนท์"
อานนท์สะดุ้ง
"คิดไม่ออก...ปริศนาช่วยคิดหน่อยสิ"
ปริศนาทำท่าคิด
"เราก็ต้องหาทางนัดให้สองคนนี่เค้ามาเจอกัน...แต่ก็ต้องไม่จงใจมากเกินไป ไม่อย่างนั้นสิรีเค้าอาจจะอายไม่ยอมไป"
โกศลทำท่าคิดหนัก
"ถ้าอย่างนั้นชวนเค้าไปสโมสรดีไหม...สิรีก็ชอบตีเทนนิสนี่ ชวนนงลักษณ์ไปด้วย จะได้ไปเปิดหูเปิดตาซะบ้าง เผื่อจะโชคดีมีผู้ชายดีๆมาสะดุดกับเขา"
"ผมว่าอาจจะมีมาสะดุดแล้วก็ได้...คุณไม่รู้เอง"
อานนท์โบกมือ
"ไม่มีทาง...ผมอยู่กับน้องตลอด...มีที่ไหน"
โกศลยิ้มๆ
"แล้วคุณวนิดาเป็นยังไงบ้างคะคุณโกศล"ปริศนาถาม
อานนท์ที่หน้าสลดทันที
"เรื่องของผมกับวนิดาไม่ยากหรอกครับ...เราทั้งสองคนยุติกันได้ด้วยดี เพราะเราไม่มีใจให้กัน เป็นความต้องการของผู้ใหญ่เท่านั้น ที่วนิดาเค้าไม่อยากแต่งงานกับผมก็เพราะมีผู้ชายคนอื่นในใจเค้าแล้ว"
โกศลมองไปทางอานนท์ที่สีหน้าไม่สบายใจ ปริศนามองตามสายตาโกศล ขมวดคิ้วยุ่งยาก
"อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนั้นคือคุณนนท์..."
โกศลยิ้มๆอานนท์พูดไม่ออก
"คุณนนท์นี่เสน่ห์แรงจริงๆจะ...ดีนะที่ปริศนาไม่ตัดสินใจแต่งงานกับคุณนนท์น่ะ...ไม่งั้นน้ำตาเช็ดข้อศอก"
อานนท์สะดุ้ง
"มีด้วยเหรอน้ำตาเช็ดข้อศอก...เคยได้ยินแต่น้ำตาเช็ดหัวเข่า"
"ก็นั่นแหล่ะเหมือนกัน คุณนนท์ก็ไปแต่งงานกับเขาซิ"
"โธ่..ปริศน มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอ"
ปริศนาหรี่ตามองอานนท์
"อย่าบอกนะว่ามีคนอื่นอีก"
โกศลหัวเราะ "ถูกเผง"
"ใครที่ไหนอีกละคุณนนท์"
"แล้วจะเล่าให้ฟังทีหลังน่าปริศนา ตอนนี้ช่วยคิดหน่อยซิว่าจะช่วยวนิดายังไงดี"
"ก็บอกกับเค้าไปเลยว่าคุณนนท์แต่งงานกับเขาไม่ได้"
"ผมก็แนะนำอย่างนั้น แต่อานนท์เค้าว่าฟังดูใจร้ายมากไป"
ปริศนายักไหล่
"ความจริงมันก็ใจร้ายเหมือนกัน...ถ้าอย่างนั้นก็แนะนำผู้ชายดีๆให้เค้าสิ"
อานนท์ถอนใจ
"ไม่รู้จะแนะนำใครดี...ปริศนาช่วยคิดหน่อยซิ"
ปริศนาหัวเราะ
"ปริศนาไม่ค่อยรู้จักผู้ชายที่ไหนซักเท่าไหร่...ประวิชก็แต่งงานแล้ว นพก็อยู่เมืองนอก นึกออกแล้ว...อาตระกลไง..อาตระกลยังโสด"
อานนท์ดีใจมาก
"จริงด้วย...ถ้าตระกลเป็นแฟนกับวนิดานะ ตระกลสบายไปเลย"
โกศลทำท่าไม่เห็นด้วย อานนท์พูดต่อ
"ขอบใจมากนะปริศนา...แหม...มองข้ามตระกลไปได้ไง."
"แต่ผมว่าลองถามคุณตระกลดูก่อนดีกว่าครับ...เค้าอาจจะมีผู้หญิงที่ชอบแล้วก็ได้"
อานนท์โบกมือ
"ไม่มี...รับรองว่าไม่มี ตระกลมากินข้าวบ้านผมแทบทุกวันไม่เคยพูดซักคำว่าไปชอบผู้หญิงที่ไหน ถ้ามีเค้าต้องบอกผมแน่ๆ...ผมรีบไปหาตระกลเลยดีกว่า จะได้จัดการเรื่องวนิดาไม่ให้มันคาใจ"
อานนท์รีบลุกขึ้นผลุนผลันออกไป ปริศนาหันไปยิ้มกับโกศลที่มีสีหน้าใช้ความคิด
นิศากำลังนั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นใต้ต้นไม้ที่สนามหน้าบ้าน อานนท์ขับรถเข้ามาจอดพอนิศาเห็นก็ตาโตด้วยความตื่นเต้นดีใจ อานนท์เดินเข้ามาหา นิศายกมือไหว้อย่างเรียบร้อย อานนท์ยิ้มแย้มทักทายนิศา
"เพื่อนของยายนาใช่ไหม"
นิศายิ้ม"ใช่ค่ะ"
"จำได้ละ เธอเป็นเพื่อนยายนาน้องสาวพี่ ชื่ออะไรน้า เดี๋ยว..อย่าบอกอย่าบอก...ฉันรู้"
นิศายิ้มสนุก อานนท์คิดออกดีดนิ้วมือ
"เธอชื่อนิศา...แล้วก็ชอบกินไอศครีมด้วย"
นิศายิ้มแป้น "ใช่"
อานนท์ยิ้มพอใจ
"เห็นไหมว่าจำได้ คราวหน้าถ้าไม่ลืมฉันจะซื้อไอศครีมใส่กระติกมาฝาก ว่าแต่อาตระกลอยู่ไหม"
"ยังไม่กลับจากข้างนอกเลยค่ะ...แต่เดี๋ยวก็คงจะมา"
"ฉันจะรอสักครู่...ขอนั่งด้วยได้ไหมล่ะนิศา"
"ได้สิคะ"
นิศาขยับที่ให้อานนท์นั่งด้วย อานนท์ลงนั่งมองไปรอบๆ
"เงียบดีจริงๆ คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่เหรอจ้ะ"
"คุณพ่ออยู่ค่ะ....แต่คุณแม่ไม่อยู่คงไปเล่นไพ่เหมือนเคย"
อานนท์กลั้นหัวเราะ
"แม่ของพี่บางทีก็ชอบเล่นไพ่เหมือนกัน...แต่ตอนนี้เกรงใจคุณพ่อไม่ได้ไปแล้ว คุณแม่นิศาไปบ่อยไหม"
"ตุ๊ไม่ทราบค่ะ...ตุ๊กลับจากโรงเรียนไม่ค่อยพบคุณแม่ ไม่ไปเล่นไพ่ ก็อยู่ที่ตึกคุณย่า"
"แล้วนี่กำลังทำการบ้านเหรอจ้ะ"
"ค่ะ...ทำการบ้านเสร็จแล้วก็ต้องเอาหนังสือมาทบทวนอีก"
เสาวนิตเดินมาไกลๆเห็นอานนท์นั่งคุยกับนิศาหยุดยืนมองแบบนึกไม่ถึง
"คุณอานนท์...ใช่จริงๆด้วย"
เสาวนิตรีบวิ่งอ้อมไปเข้าตึกที่ประตูด้านหลัง...อานนท์มองนิศาอย่างชื่นชม
"ขยันจริงๆ...เหมือนยายนาน้องสาวพี่เลย"
นิศายิ้มภูมิใจ
"สอบคราวนี้ตุ๊ได้ที่หนึ่ง รจนาได้ที่สองคราวที่แล้ว รจนาได้ที่หนึ่ง ตุ๊ได้ที่สอง"
"โอ้โฮ....เป็นทั้งเพื่อนรักทั้งคู่แข่งกันเลยเหรอนี่"
นิศายิ้มไม่หุบ
"สอบคราวหน้าเราสัญญาว่าจะพยายามสอบให้ได้ที่หนึ่งเท่ากันค่ะ"
อานนท์หัวเราะ..
อ่านต่อหน้า 3
เจ้าสาวของอานนท์ ตอนที่ 10 (ต่อ)
เสาวนิตแต่งชุดใหม่สวยหรูเปิดไหล่กำลังทาปากอยู่หน้ากระจก เจียมรีบเปิดประตูเข้ามา
"คุณนิตขา คุณนิต คุณอ อานนท์มาค่ะ"
เสาวนิตหันมา
"ฉันรู้แล้ว...ยายตุ๊รีบเสนอหน้าอยู่ด้วย"
"แหม..คุณนิตใส่ชุดนี้สวยจริงๆค่ะ"
เสาวนิตมองตัวเองในกระจกด้วยสีหน้าพอใจ
"ก็ใช่น่ะสิ..เดี๋ยวแกไปหาของกินมาให้เรานะ...คุณนนท์จะได้นั่งอยู่นานๆ"
เสาวนิตรีบเดินออกไป เจียมรีบตามไปอย่างตื่นเต้น...
เสาวนิตเดินลงมาจากตึกใหญ่ด้านหน้าด้วยท่าทางสง่าราวเจ้าหญิง อานนท์กำลังคุยกับนิศา เห็นท่าทางสวยหรูก็อดมองไม่ได้ เสาวนิตทำเป็นเพิ่งหันมาเห็น ยิ้มหวานรีบเดินมาหา อานนท์ลุกขึ้นยืนรับหน้านิศาเซ็งสุดสุด เสาวนิตเดินมาถึงก็ยกมือไหว้อานนท์อย่างชดช้อย
"สวัสดีค่ะคุณอานนท์"
"สวัสดีครับ"
เสาวนิตพยายามทำท่าเป็นหญิงสาวทรงเสน่ห์คอยเอามือจับผม
"คุณอานนท์มานานแล้วเหรอคะ...ตายจริงยายตุ๊ ทำไมไม่พาคุณอานนท์ไปนั่งที่ห้องรับแขก นั่งที่นี่สกปรกหมดกัน"
นิศาค้อน อานนท์ยิ้ม
"เอ้อ..ผมอยากนั่งที่นี่เองครับ เอ...อันที่จริงทั้งสองคนนี่น่าจะเรียกผมว่าอา...เหมือนตระกลนะ"
"ก็ดีนะคะ แต่ก็เป็นอานนท์เหมือนเรียกชื่อเฉยๆ"
เสาวนิตยิ้มน้อยๆอย่างมีเสน่ห์ลงนั่งใกล้ๆ อานนท์เลยถูกขนาบสองด้าน
"อย่าเลยค่ะ เรียกอาแล้วรู้สึกว่าแก่ เรียกพี่ได้ไหมคะ จะได้เหมือนรจนา...พี่นนท์" เสาวนิตบอก
อานนท์มองท่าทางประดิษฐ์สาวของเสาวนิตเพลิน มุมหนึ่งเฉยมายืนมองแล้วเดินกลับขึ้นไปบนตึก
"เอ้อ...จะเรียกอย่างไรก็ได้จ้ะ"
เจียมยกของว่างมาเสิร์ฟหันไปยิ้มกับเสาวนิตอย่างรู้กัน
"พี่นนท์เค้าจะรออาตระกล...พี่นิตจะไปหาใครก็ไปเถอะ" นิศาบอก
เสาวนิตไม่พอใจนิศาอแต่พยายามที่จะไม่โมโหต่อหน้าอานนท์ จึงยิ้มหวานกับนิศา
"พี่จะไปหาใครที่ไหน...พี่ก็จะมาหาตุ๊น่ะแหล่ะ..เผื่อจะให้พี่ช่วยสอนการบ้าน"
นิศาอ้าปากค้าง
"พี่นิตน่ะเหรอจะสอนการบ้านตุ๊"
เสาวนิตไม่สนใจหันไปปรนนิบัตอานนท์
"พี่นนท์ลองชิมขนมทองเอกนี่สิคะ..นิตทำเองนะคะ"
เสาวนิตจิ้มขนมป้อน อานนท์จะจับส้อมกินเองแต่ไปโดนมือเสาวนิต
"ขอบคุณครับ..ผมทานเองได้จ้ะ"
ไกลออกไป เทอดที่เพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยยืนแอบมองเสาวนิตที่ปรนนิบัติเอาใจอานนท์สารพัดเสาวนิตทำเป็นหัวเราะมีความสุข ทำท่าแบบสาวที่ช่ำชองเอาใจผู้ชาย เทอดกำกิ่งไม้ไว้แน่นจนกิ่งไม้หักคามือเทอดรู้สึกตัวรีบเดินหนีไป เฉยเดินออกมาจากบนตึกมาหาอานนท์
"คุณอานนท์ครับ...ท่านเจ้าคุณให้เชิญคุณอานนท์ไปพบท่านครับ"
อานนท์รีบลุกขึ้นทันที
"แหม...ผมกำลังอยากเข้าไปกราบท่านพอดี"
อานนท์หันมาพูดกับนิศาและเสาวนิต
"แล้วเจอกันนะนิศา...ขอบใจสำหรับขนมนะ เสาวนิต"
อานนท์รีบเดินตามเฉยไป นิศารีบหันมาเล่นงานเสาวนิตทันที
"พี่นิตทำอะไรน่ะ...น่าเกลียด"
"เรื่องของฉัน...แกไม่เกี่ยว"
นิศายิ้มเยาะ
"อ้อ...วิญญานกลับเข้าร่างเดิมแล้วเหรอ...เมื่อกี้น่ะ...ตัวอะไรมันเข้าสิง...ตัวบ้าผู้ชายหรือไง"
เสาวนิตโกรธตาลุก ชี้หน้านิศา
"ถ้าแกพูดจาว่าฉันอีก ฉันจะฟ้องคุณแม่กับคุณย่า ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ"
"อยากฟ้องก็ฟ้องไป...ตุ๊อาย...พี่นิตทำท่าจีบปากจีบคอทำหูทำตากับพี่นนท์จนตุ๊อายจนจะแทรกแผ่นดินหนี...ทำเข้าไปได้ยังไงแล้ว ดูแต่งตัวเข้าไปสิ...ทำตัวเหมือนผู้หญิงราคาถูกW
นิศาพูดแล้วก็หอบหนังสือวิ่งหนีไป เสาวนิตกระทืบเท้าไม่พอใจ
"นังตุ๊...มาว่าฉันดีนัก...คอยดูนะแก"
เสาวนิตบูดบึ้งไม่พอใจ....
ตรงบริเวณนั่งเล่นในห้องพักของพระยาสุทธาเทพวิสุทธิ์ เจ้าคุณรินเหล้าส่งให้อานนท์ เฉยนำเอากับแกล้มจานเล็กๆมาวางแล้วออกไป เจ้าคุณสีหน้าแจ่มใส มีเสียงเพลงI Adore You เปิดเบาๆ อานนท์ยกมือไหว้แล้วรับแก้วมา
"ขอบพระคุณครับคุณพี่"
"มาหาตระกลเหรอ เอาแน่กับเขาไม่ได้ ส่วนใหญ่กว่าจะกลับก็ค่ำไปแล้ว"
อานนท์ยิ้ม
"ไม่เป็นไรครับ...วันนี้ผมมีเรื่องจะปรึกษากับตระกลครับ"
เจ้าคุณสุทธายิ้ม
"เอ้อ...ไม่รู้จะเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ตระกลอยากปรึกษากับคุณหรือเปล่า"
อานนท์แปลกใจ
"อานนท์มีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา...บอกพี่ได้ไหม"
อานนท์ตัดสินใจเพราะความอึดอัดเลยเล่าฟัง
"คือ..ผมเห็นตระกลอายุก็ไม่น้อยแล้ว น่าจะคบหากับใครได้แล้ว"
สุทธายิ้ม
"อานนท์อยากให้ตระกลมีแฟนกับเขาใช่ไหม...แหม เหมือนใจพี่เลย พี่ก็อยากให้ตระกลมีคู่รักซะทีอานนท์คิดว่าผู้หญิงคนไหนที่จะเหมาะสมกับตระกลล่ะ"
"ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงครับ สวยน่ารัก..อยากให้ตระกลได้รู้จัก"
เจ้าคุณสุทธาขมวดคิ้วสงสัย
"เพื่อน...เป็นเพื่อนของอานนท์"
"ใช่ครับ...เป็นเพื่อนของผมเอง...ผมแน่ใจว่าตระกลต้องชอบแน่ๆ เค้าสวย แล้่วก็มีหน้ามีตาในสังคม"
เจ้าคุณสุทธาผิดหวังที่อานนท์ไม่ได้พูดถึงน้องสาว...ได้แต่นั่งถอนใจ
"อานนท์เป็นเพื่อนกับตระกลมานาน...คิดว่าตระกลจะชอบผู้หญิงแบบนั้นเหรอ"
อานนท์นิ่งคิด...
"ผมคิดว่า...บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าไม่เหมาะกับเรา กลับดีกับเรามากกว่าสิ่งที่เราตั้งใจไว้ก็ได้นะครับ"
"พูดอย่างนี้...หมายถึงตัวเองด้วยหรือเปล่า"
อานนท์ยิ้ม
"ก็ทำนองนั้นครับ...ผมได้เจอผู้หญิงที่ผมไม่คิดว่าจะชอบเลย พูดจาโผงผาง ช่างหงุดหงิดเอางานเอาการอย่างผู้ชาย มีความสุขกับการทำงาน ไม่อ่อนหวาน"
สุทธาคิดตามที่อานนท์พูด
"ไม่ชอบเข้าสังคม...มารู้ตัวอีกที ผมรักเธอหมดใจอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน"
เจ้าคุณสุทธายิ้มเศร้าๆ
"เหมือนคนคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก."
อานนท์ยิ้มดีใจ
"เหรอครับ...ผมคิดว่าผู้หญิงอย่างสุจะไม่มีใครเหมือนซะอีก"
สุทธายิ้มสุขใจ
"มีซิ...ผู้หญิงอย่างนี้หายาก ถ้าเจอแล้วอย่าปล่อยให้หลุดมือไปซะล่ะ...ชื่อสุเหรอ"
"ครับ...ผมไม่มีวันยอมที่จะเสียเธอแน่ๆครับ"
อานนท์ได้ยินเสียงเพลงนิ่งฟัง
"เอ...เพลงนี้คุ้นๆนะครับ...เหมือนเคยได้ยินที่ไหน"
สุทธายิ้มเศร้าๆ
"ก็ที่นี่ละมัง...เธอยังเคยชมว่าเพลงเพราะดี."
อานนท์ยิ้ม
"คงจะใช่ครับ"
"แล้วจะแต่งงานเมื่อไหร่"
อานนท์ตกใจ
"ผมเหรอครับ...โอ้...ยังหรอกครับ"
"ทำไมล่ะ...ในเมื่อพบผู้หญิงที่แน่ใจอย่างนี้จะรออะไร"
"ผมยังไม่เคยบอกเค้าเลยว่าผมรักเค้" อานนท์หัวเรา " นี่ผมจะมาคุยเรื่องตระกล แต่ไหงมาพูดเรื่องตัวเองไปได้"
อานนท์หัวเราะแจ่มใส เจ้าคุณสุทธาก็พลอยหัวเราะสนุก...
ตระกลเดินขึ้นมาบนตึกด้วยท่าทางหมดแรง สีหน้าบึ้ง เฉยรีบเดินมาหา
"คุณตระกลครับ ท่านรอคุณอยู่ครับ"
ตระกลถอนใจ
ตระกลเดินมาลงนั่งในห้องด้วยสีหน้าไม่สบายใจ เจ้าคุณสุทธายิ้มๆ
"วันนี้อานนท์มารอตระกลอยู่เป็นนาน"
ตระกลทำท่าแปลกใจ
"เหรอครับ"
"อานนท์เค้าก็รีบร้อนมาหา เพราะมีเรื่องจะปรึกษาตระกล"
"เรื่องอะไรเขาเรียนคุณพี่หรือเปล่าครับ"
สุทธาพยักหน้า
"เขาบอกว่าเขาอยากแนะนำตระกลให้รู้จักกับเพื่อนของเขา"
ตระกลหงุดหงิด
"เพื่อนที่ไหนอีก...นายนนท์นี่มีเพื่อนเยอะจริงๆ"
"แต่คนนี้เป็นเพื่อนผู้หญิง...เค้าอยากจะแนะนำให้ตระกลคบหากับเพื่อนเค้าคนนี้"
"ผมไม่ใช่ตุ๊กตานะครับ ที่นายนนท์จะได้เที่ยวจับไปวางตรงโน้นตรงนี้ ให้คบหากับใครตามใจเขา"
เจ้าคุณมองตระกลอย่างพิจารณา
"พี่ว่าเค้าหวังดีมากกว่า"
"หวังดีของเค้าทำให้ผมปวดหัวมาหลายหนแล้วครับ."
"แล้ววันนี้ได้เจอน้องสาวเขาหรือเปล่า."
ตระกลเม้มปากอย่างเครียด
"ผมไปหาเค้า...แต่เค้ามีแขกผมก็เลยไม่ได้เข้าไป"
"แขกผู้ชายใช่ไหม"
ตระกลพูดสะบัดๆ
"ก็เพื่อนรุ่นพี่นายนนท์น่ะแหล่ะครับ...รู้สึกจะทำงานกระทรวงต่างประเทศ ผมไม่ค่อยชอบหน้านายคนนี้เลย"
"ทำไมล่ะ...เพราะเค้ามาชอบน้องสาวอานนท์หรือไง"
ตระกลเม้มปากก้มหน้านิ่ง
"เค้าอาจจะแค่มาเยี่ยมเยียนกันเฉยๆ ก็ได้"
"แต่ผมคิดว่าเค้าสนใจคุณนงลักษณ์มาก"
"แล้วคุณนงลักษณ์ของเธอเค้ามีท่าทีสนใจผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า"
"ไม่รู้ครับ...นงลักษณ์เค้าก็ดีกับเพื่อนอานนท์ทุกคน"
"แล้วตระกลคิดว่าน้องสาวอานนท์ชอบตระกลหรือเปล่า"
ตระกลลังเล
"ผมไม่แน่ใจ บางทีก็ดูว่าเค้าจะชอบผม บางทีก็เหมือนเฉยๆ"
เจ้าคุณทำเป็นหัวเราะ เพื่อให้คลายความเครียด เดินมาตบบ่าตระกลเบาๆ
"ผู้หญิงดีเค้าก็อย่างนี้แหล่ะ...อย่าเพิ่งคิดมาก ถ้าเค้าชอบเรา ต่อให้คนอื่นดีแค่ไหนเค้าก็ไม่สนใจ"
"แล้วถ้าเค้าไปชอบคนอื่นล่ะครับ"
"เราก็มองคนอื่นไว้บ้างซิ...ใครจะรู้ ตระกลอาจจะชอบเพื่อนของอานนท์ที่เค้าอยากให้ไปคบหาด้วยมากกว่านงลักษณ์ก็ได้นะ"
"มันคงทำใจไม่ง่ายหรอกครับคุณพี่"
"แล้วนี่กินข้าวกินปลาหรือยัง...พี่ให้เฉยไปซื้อเกี๊ยวนี้จากราชวงศ์ กินด้วยกันไหมล่ะ"
"ทำไมวันนี้คุณพี่ทานค่ำนักล่ะครับ"
"แม่เจริญ กับแม่นิตเค้าไปกินที่ตึกคุณแม่ ยายตุ๊ก็ไปช่วยแม่แววทำขนม...คงกินที่นั่นกันแล้ว พี่ไม่อยากกินข้าว อยากกินอะไรร้อนๆ เลยให้เฉยมันไปซื้อเกี๊ยวน้ำมา ไปทานกับพี่"
ตระกลสีหน้าเศร้าๆ
"ไม่ละครับ...ผมขอไปพักผ่อนเลยดีกว่า"
ตระกลลุกขึ้นเดินออกไป เจ้าคุณสุทธามองตาม...
ตอนค่ำ นงลักษณ์นั่งคนเดียวด้วยท่าทางเหงาๆ อานนท์เดินเข้ามา นงลักษณ์ยิ้มให้
"คุณนนท์"
อานนท์เดินมานั่ง
"วันนี้ตระกลมาหรือเปล่า"
"ไม่ได้มาค่ะ"
นงลักษณ์สีหน้าหม่นลง แต่อานนท์ไม่ได้สนใจ
"หายไปไหนของมัน...ที่บ้านก็ไม่อยู่"
"คุณนนท์มีธุระอะไรกับคุณตระกลเหรอคะ"
อานนท์ยิ้มๆ
"มีมากเลยละ...ถ้าตระกลมาบอกเค้าด้วยนะว่าให้อยู่รอเจอพี่ให้ได้ มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา"
"ถ้าคุณตระกลรู้ว่าคุณนนท์มีธุระสำคัญ....คงรีบมาหาคุณนนท์ค่ะ"
"นั่นน่ะซิ...ธุระสำคัญของพี่จะทำให้ตระกลมีความสุขมากเลยละ"
อานนท์ยิ้มพอใจกับแผนการณ์ของตัวเอง นงลักษณ์ยิ้มเศร้าๆ
ค่ำวันเดียวกัน วนิดานั่งหน้าเศร้าอยู่ที่มุมสวนในบ้าน ประภากับหลวงยศลือชาแอบมองอย่างหนักใจ
"เธอไปคุยกับยายดาให้รู้เรื่องหน่อยซิ...เค้าจะเอายังไง พิธีแต่งงานก็ยกเลิกไปจนอายเค้าไปทั่วแล้ว...ยังจะมานั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ได้ทุกวัน" หลวงยศลือชาบอก
ประภาหนักใจจนต้องถอนหายใจ
"ดิฉันก็หนักใจกับยายดาจริงๆ นะคะ ไปปักใจกับคนที่เค้าไม่ได้รักตัวอย่างนายอานนท์"
"ลูกเจ้าคุณพลรามน่ะเหรอ...ไปตามมาคุยกันให้รู้เรื่องหน่อยซิ"
"คุณคะ...ฝ่ายเขาน่ะไม่รู้อะไรด้วยนะคะ"
"จะบอกว่าไม่รู้ได้ไง...นายอานนท์นั่นน่ะมันมาทำอีท่าไหนล่ะหนูดาถึงได้ปักใจกับมันขนาดนั้น ถ้านายอานนท์ไม่มาทำให้หนูดามีความหวังน่ะ จะไปปักใจชอบมันอย่างนี้ได้ไง"
"คุณใจเย็นๆ ก่อนดีกว่าค่ะ...ดิฉันน่ะเคยเห็นอานนท์มาที่นี่หลายครั้ง...แต่ก็ไม่เห็นเค้าจะทำท่าเกี้ยวพาหนูดานะคะ"
"ไม่รู้ละ...ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะพูดเอง...หรืออาจจะไปคุยกับเจ้าคุณพลรามเลยก็ได้"
ญาติไม่พอใจเดินหนีไป ประภาหนักใจ
วนิดานั่งแปรงผมอยู่หน้ากระจก ประภาเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามา วนิดายิ้มๆ
"คุณป้า"
ประภาเดินมานั่งใกล้ๆ
"หมู่นี้หนูไม่ค่อยได้ออกไปไหนนะลูก"
"ขี้เกียจออกไปค่ะ...เจอคนรู้จักก็ได้แต่มาทำท่าเห็นอกเห็นใจที่ยกเลิกงานแต่งงาน...ทำยังกับหนูเป็นฝ่ายโดนทิ้ง"
"ผู้หญิงน่ะเสียหายวันยังค่ำละลูก....ยิ่งพวกปากไม่ดีเอาไปต่อเติมเรื่องเอง แล้วเอาไปเที่ยวพูดสนุกปากให้เรายิ่งเสีย"
วนิดายักไหล่
"ใครจะพูดยังไงก็ช่างสิคะ...หนูไม่แคร์"
"หนูต้องนึกถึงหน้าตาตระกูลเราบ้างนะจ้ะ...ความจริง เพื่อนชายดีๆที่มาหาหนูน่ะ...ป้าว่าก็มีดีๆ ตั้งหลายคน หนูน่าจะลองมองๆดูบ้างนะลูก"
วนิดาแบะปาก
"ผู้ชายพวกนั้นก็เป็นแค่เพื่อนค่ะ...ถ้าจะให้ตัดสินใจไปแต่งงานด้วยคงไม่ไหว"
ประภาพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ
"แปลว่าไม่มีใครดีเท่านายอานนท์เลยเชียวนะ"
วนิดานิ่งไป ถอนใจเบาๆ
"หนูก็หวังว่าจะมีค่ะ"
"คุณลุงเอ่ยปากแล้วนะ...บอกว่าจะไปคุยกับเจ้าคุณพลรามพ่อของอานนท์"
วนิดาตกใจ
"อย่านะคะคุณป้า ต้องห้ามอย่าให้คุณลุงทำอย่างนั้นนะคะ"
"ถ้าอย่างนั้นหนูก็ต้องไปคุยกับนายอานนท์ให้รู้เรื่อง...ถ้าเค้ายังคิดว่าหนูเป็นแค่เพื่อน...หนูก็ต้องจัดการตัวเองไม่ให้อยู่ในสภาพนี้...เพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนจะทนมองลูกตัวเองจมอยู่กับความทุกข์ ปิดหูปิดตาไม่สนใจคนอื่นอย่างนี้ไปได้นานหรอกนะ หนูดา"
วนิดานิ่งคิด
อ่านต่อหน้า 4
เจ้าสาวของอานนท์ ตอนที่ 10 (ต่อ)
วันต่อมา วนิดาเดินเข้ามาในที่ทำงานอานนท์ด้วยท่าทางที่ไม่มั่นใจเลย พนักงานพากันมอง วนิดาเดินมาชนกับแพทริคที่หันหลังคุยกับลูกน้องอยู่
"อุ๊ย...ขอโทษค่ะ"
แพทริคหันมา พอเห็นวนิดาก็จำได้
"โอ้...สวัสดีครับ...คุณคงมาหาอานนท์"
"ใช่ค่ะ...ฉันมาหาคุณนนท์"
"คงต้องมาใหม่วันจันทร์แล้วละครับ"
วนิดาทำหน้าผิดหวัง
"อ้าว....งานที่เมืองนนท์ยังไม่เสร็จเหรอคะ"
"เสร็จแล้วครับ...เค้าบอกผมว่าวันนี้เค้าลาครึ่งวัน เพราะจะไปขับเรือ"
"ขับเรือ"
วนิดาผิดหวัง...
อานนท์ขับเรือมีสุชาดานั่งอยู่ด้วย เห็นวิวสวยๆ ริมคลองน้ำวน สีหน้าทั้งคู่มีความสุขมาก ต่างผลัดกันขับเรือ สุชาดาขับเรือออกไปอย่างเร็วจนอานนท์เซไปหาส ทั้งสองคนแกล้งกันสนุก
บ่ายเกือบเย็น อานนท์นอนเอนๆ สบายๆ ดูแม่น้ำด้วยสีหน้าสงบมีความสุข สุชาดาจัดของกินเล่นจากตะกร้าปิคนิคใบใหญ่ที่วางอยู่ เธอรินน้ำชาใส่ถ้วยส่งให้
"มีชามะลิที่คุณชอบด้วยนะ"
อานนท์ลุกขึ้นนั่ง รับถ้วยชามาจากสุชาดา
"ขอบคุณครับ"
"ถ้าฉันรู้ล่วงหน้าว่าคุณจะมารับอย่างนี้ ฉันจะเตรียมอาหารกับ...อีกหลายๆ อย่างไว้รอคุณ"
อานนท์ยิ้มแจ่มใส
"มีแค่คุณ ผมก็มีความสุขมากแล้ว...ไม่ต้องมีอย่างอื่นหรอก"
"แต่ฉันหิว...คุณไม่ทานก็อย่าทานซิ"
อานนท์ขยับเข้าไปใกล้ๆ สุชาดา
"แต่ไหนๆ คุณก็เตรียมมาแล้ว...ไม่กินจะว่าขัดศรัทธา"
อานนท์อ้าปาก สุชาดาใช้ส้อมเล็กๆ จิ้มขนมใส่ปากป้อน อานนท์ยิ้มดีใจ
"คนขี้เกียจ"
"ไม่ขี้เกียจหรอก...แต่ทานขนมที่คุณป้อนแล้วมันอร่อยกว่าเดิม"
อานนท์ค่อยๆ จับมือ
"รู้ไหม ผมคิดถึงคุณมากแค่ไหน"
"คิดถึงภาษาอะไรหายไปตั้งหลายวัน"
อานนท์ทิ้งตัวลงนอนใกล้ๆ ด้วยท่าทางหมดแรง
"ผมไปเจอเรื่องยุ่งๆ กำลังพยายามหาทางแก้อยู่ แต่ถึงยุ่งแค่ไหนผมก็คิดถึงคุณ"
"งานคุณมากเหรอ"
"ไม่ใช่เรื่องงานหรอก...เรื่องเพื่อนของผมน่ะซิ"
"ก็คุณอยากมีเพื่อนเยอะเองนี่...คนเยอะก็เรื่องแยะ"
อานนท์พยักหน้า....
"นั่นสินะ"
สุชาดากินขนมไป ชวนอานนท์คุยด้วยท่าทางมีความสุข
"แล้วคุณโกศล กับ คุณวนิดาเค้าจะแต่งงานกันเมื่อไหร่"
อานนท์สีหน้าครุ่นคิด
"ก็เพราะเรื่องของสองคนนี่แหล่ะ"
"ทำไมล่ะ"
"เค้าตัดสินใจยกเลิกการแต่งงาน"
สุชาดาสีหน้าแปลกใจ
"อ้าว...ยกเลิกกันง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ ทำไมเค้าถึงยกเลิกการแต่งงานซะล่ะ...แหม...ฉันกะจะแต่งตัวสวยๆ ไปงานแต่งงานเค้าเชียว"
อานนท์หันมายิ้มเอาใจ
"คุณก็แต่งตัวสวยๆ ไปเที่ยวกับผมแทนก็ได้"
สุชาดาค้อน
"คุณเล่าให้ฉันฟังหน่อยซิว่าทำไมเค้าไม่อยากแต่งงานกันแล้ว"
อานนท์นั่งตัวตรงอย่างใช้ความคิด วนิดาเค้ามาสารภาพกับคุณโกศลว่าเค้า....รักคนอื่น"
สุชาดาฟังนิ่ง มองหน้าอานนท์
"ฉันนึกอยู่แล้ว...เค้ารักคุณ...ดูก็รู้"
"คุณดูรู้เหรอ"
"รู้ซิ...ก็ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าที่เค้ามาตามคุณถึงที่นี่ ไม่ใช่เพราะจะมาถามความเห็นคุณเรื่องคุณโกศลหรอก เค้ามาเพราะเค้าจะดูใจคุณว่าคุณจะรู้สึกยังไง"
อานนท์ยกมือสาบาน
"ผมสาบานว่าผมเห็นเค้าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น...ยิ่งตอนนี้ผมเจอคุณแล้วผมแน่ใจที่สุดว่าผมคบวนิดาได้แค่เพื่อนเท่านั้น"
สุชาดามองอานนท์นิ่ง
"แปลว่าก่อนที่คุณจะพบกับฉัน....คุณอาจจะชอบกับเค้าก็ได้..ใช่ไหม"
อานนท์นิ่งคิดไม่กล้าตอบ
"เมื่อก่อนก็เมื่อก่อน...ตอนนี้ผู้หญิงที่ผมรัก"
สุชาดาไม่เขิน แต่มองอานนท์อย่างพิจารณา
"คุณเคยบอกคุณวนิดาหรือเปล่าว่าชอบเค้า...อย่าโกหกฉันนะ"
อานนท์ปฎิเสธเสียงสูง
"ไม่เค้ย...ผมไม่เคยบอกชอบวนิดาเลย"
"แต่ท่าทางคุณคงทำให้เขาคิดอย่างนั้น...แล้วคุณจะทำยังไง"
"ผมก็...ผมจะหาแฟนให้วนิดา"
"มันคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก...แม่ฉันเคยบอกว่าผู้หญิงน่ะลงว่าปักใจรักใครแล้ว...ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"
อานนท์จับมือสุมากุมไว้
"สุ...ผมแน่ใจว่า วนิดาไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น นี่ผมไม่ได้ว่าเค้าไม่ดีนะ ผมเป็นเพื่อนกับเค้ามานาน เค้ามีผู้ชายมาชอบเค้าเยอะมาก แล้วเค้าก็คบหาทุกคนเป็นเพื่อนเหมือนกันหมด ผมก็คิดว่าเค้าก็คบผมเป็นเพื่อนอย่างนั้นเหมือนกัน พอมารู้ว่าเค้ารักผมจนตัดใจไม่ได้ ผมก็ตกใจมาก คุณช่วยผมคิดหน่อยซิว่าผมควรจะทำยังไงดี"
สุชาดาดึงมือออกมา
"ถ้าคุณสงสารเค้า คุณก็ไปขอเค้าแต่งงานซิ"
"ทำไมคุณพูดอย่างนี้ล่ะ....ผมไม่มีความหมายกับคุณเลยเหรอ"
สุชาดายิ้ม
"ฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจใคร แล้วก็ไม่อยากให้คนที่ฉันจะคบยังมีใจอาลัยอาวรณ์เป็นห่วงคนอื่น...คุณไม่จำเป็นต้องมาถามฉันหรอกว่า คุณจะทำยังไงดี ถามตัวคุณเองดีกว่า สำหรับฉัน ฉันยังไม่ได้รักคุณ ถ้าจะต้องทำใจว่าคุณจะไปกับคนอื่ สบายมา"
"ใจร้าย"
"ใจร้ายตอนนี้ดีกว่าต้องมาช้ำใจทีหลั คุณวนิดาเค้าฉลาดเค้ารู้ว่าถ้าเค้าไม่ทำอย่างนี้ ก็คงเรียกความสนใจจากคุณไม่ได้ เค้าอยากให้คุณภูมิใจที่เค้าหลงรักคุณมาก ฉันเห็นใจเค้านะ แล้วก็จะดีใจด้วยจริงๆ ถ้าคุณจะแต่งงานกับคุณวนิดา"
อานนท์มองสุชาดาทำตาปริบๆ
"นี่คุณประชดผมเหรอ"
สุชาดาหัวเราะ
"ฉันจะไปประชดคุณทำไ ฉันเห็นใจคุณน่ะซิ"
"แต่ผมไม่ได้รักวนิดา ผมรักคุณ"
สุชาดาล้อเลียน
"จริงเหรอ คุณยังไม่รู้จักฉันดีเท่าไหร่ จะมารักฉันได้ไง"
"สุ...อย่าพูดอย่างนี้เลย ระหว่างผมกับคุณ ไม่มีวนิดาเข้ามาเกี่ยวเลยนะ ผมมีความสุขมากที่ได้อยู่กับคุณ คุณทำให้ผมเปลี่ยนไปนะสุ ชีวิตนี้ผมขาดคุณไม่ได้เด็ดขาด...ผมรู้ดี"
"ถ้าคุณรักฉันจริง...คุณก็ต้องทำให้ฉันเห็นว่าคุณจะไม่หวั่นไหวกับคำพูด หรือการกระทำของผู้หญิงคนอื่น คุณจะต้องไม่ไปสนใจคำพูดของผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น เพราะต่อไปถ้าคุณยังให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีก...คุณจะไม่มีฉัน"
"ผมสัญญา สุ...ขอให้คุณมั่นใจได้เลยว่าคุณคือผู้หญิงที่สำคัญที่สุดคนเดียวของผม เรื่องวนิดา ผมแค่รู้สึกผิดเท่านั้นที่ทำให้เค้าเข้าใจผิด ผมขอแค่พาเพื่อนผมไปแนะนำให้เขารู้จักเท่านั้นแค่นั้น...แล้วผมจะไม่ไปเจอกับเค้าอีกเลย"
"เพื่อนคุณคนนั้นเป็นใคร"
"ตระกลไง...คุณเคยพบเค้าที่สโมสรจำได้ไหม"
"คนที่ไม่ได้มาเล่นสกีกับเรา"
"ใช่ .คนนั้นแหล่ะ ตระกลยังไม่มีแฟน ผมก็เลยจะพาเค้าไปแนะนำให้วนิดารู้จัก อย่าคิดมากนะ ผมดีใจที่เราสองคนคุยกันได้ทุกเรื่อง ผมไม่เคยปิดบังอะไรกับคุณเลยนะ สุ"
สุชาดามองอานนท์ยิ้มๆ
ในเวลาเย็น นงลักษณ์กำลังรดน้ำต้นไม้ คอยชะเง้อมองหาว่า ตระกลจะมาหามั้ย ท่าทางเหม่อลอยหน่อยๆ สายใจเดินออกมาถาม
"คุณคะ...มัสหมั่นเคี่ยวนานพอหรือยังคะ"
"เออจริงซิ...ฉันลืมไปเลย ยกลงจากเตาเลยสายใจ เนื้อน่าจะเปื่อยพอแล้ว"
สายใจยิ้มแย้ม
"มัสหมั่นเนื้อของชอบคุณตระกล ชอบให้เนื้อเปื่อยๆ วันนี้คุณตระกลน่าจะมานะคะ ไม่มาตั้งหลายวันแล้ว"
นงลักษณ์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
"ไม่รู้เค้าซิ....สายใจอยากให้คุณตระกลมาเหรอ"
"แหม...คนเคยมาแทบทุกวัน คุณตระกลไม่มาหลายวันแล้วนะคะ ชักจะคิดถึงแล้วค่ะ แต่วันนี้คงมาแน่ๆ จะได้ทานมัสหมั่นฝีมือคุณ"
สายใจเดินกลับไป นงลักษณ์ถอนใจอย่างเหงาๆ มีเสียงรถแล่นเข้ามา นงลักษณ์สีหน้าดีใจหันไปมอง แต่แล้วก็สีหน้าผิดหวัง โกศลขับรถเข้ามาจอด นงลักษณ์พยายามยิ้มแย้มเดินมาหา โกศลเดินลงมาจากรถ
"วันนี้มาเร็วนะคะ"
โกศลยิ้มอายๆ
"วันนี้ผมเลิกงานเร็วครับ นี่ขนาดแวะไปซื้อขนมแล้วยังมาเร็วเลยนะครับ นี่ครับ ผมไปแวะราชวงศ์ซื้อหอยจ้อมาฝากคุณนงลักษณ์ กับ คุณสิรี"
นงลักษณ์ยิ้มรู้ทัน
"สิรีน่าจะกลับมาแล้วค่ะ หมู่นี้เค้าก็กลับบ้านเร็วเหมือนกัน เชิญสิคะ ดิฉันจะพาไปบ้านน้าสมร"
บริเวณหน้าบ้าน ตระกลขับรถเข้ามา เห็นโกศลกำลังยื่นของให้นงลักษณ์ ทั้งสองคนพูดกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตระกลผิดหวัง และ หึงหวง...
"ดิฉันจะพาคุณโกศลไปให้ของฝากกับสิรีเอง"
โกศลเขิน
"ขอบคุณมากครับ...ผมเลยมารบกวนคุณนงลักษณ์อยู่เรื่อย"
นงลักษณ์ยิ้ม
"ด้วยความยินดีค่ะ...สิรีเป็นเพื่อนรักของดิฉัน แต่ว่าอีกหน่อยคุณโกศลก็ไปบ้านน้าสมรได้เองแล้วค่ะ"
โกศลเขินไม่เลิก
"แต่....ผมว่าผมขอรบกวนให้คุณนงลักษณ์พาไปก่อนดีกว่าครับ"
นงลักษณ์ กับ โกศลหัวเราะอย่างรู้กัน ตระกลแอบมองอยู่ เห็นทั้งคู่พากันเดินเข้าไปในบ้าน ตระกลหึงมาก....
นงลักษณ์ พาโกศล เดินเข้ามาในบ้านสมร สมรเดินออกมาจากในครัวพอดี นงลักษณ์กับโกศลรีบยกมือไหว้
"สวัสดีค่ะน้าสมร....คุณโกศลซื้อหอยจ้อมาฝากค่ะ"
โกศลยิ้มเอาใจ ส่งกล่องหอยจ้อให้สมร
"วันนี้ผมผ่านไปราชวงศ์ครับ เลยซื้อหอยจ้อมาฝากคุณน้ากับคุณสิรี"
สมรรับกล่องของไว้ยิ้มๆ
"ขอบคุณมากนะคะ...คราวหน้าไม่ต้องซื้อหาอะไรมาก็ได้ มาทานข้าวด้วยกันที่นี่กับข้าวก็เยอะแยะแล้ว"
โกศลยิ้มเขินๆ
"สิรีล่ะคะ"
"ทำกับข้าวอยู่ในครัวจ้ะ"
นงลักษณ์ทำหน้าแปลกใจ
"สิรีน่ะเหรอคะทำกับข้าว"
สมรยิ้มๆไม่ตอบว่าอะไร
"ถ้างั้นหนูเข้าไปช่วยเขาดีกว่า...คุณโกศลนั่งคุยกับน้าสมรไปก่อนนะคะ"
สมรส่งกล่องของฝากให้นงลักษณ์
"น้าฝากไปไว้ในครัวด้วยนะจ้ะ"
"ค่ะ"
นงลักษณ์รับกล่องแล้วเดินเข้าไปในครัว สมรมองยิ้ม โกศลเขินแต่ก็พยายามรวบรวมสติด้วยท่าทางที่ดี...
นงลักษณ์เดินเข้ามาในครัว เห็นสิรีกำลังหั่นผักกำกับข้าวดูวุ่นวาย ก็อดขำไม่ได้
"ทำอะไรจ้ะแม่ครัว"
"จะทำปลาดุกฟูผัดพริกขิง....มาก็ดีแล้ว..ผัดพริกขิงนี่ใส่ถั่วฝักยาวใช่ไหม"
"ใช่...แต่เธอต้องลวกถั่วฝักยาวก่อนผัดนะ ไม่อย่างนั้นปลาดุกฟูจะไม่กรอบ"
"อ้าวเหรอ...ดีนะที่เธอบอกไม่งั้นฉันผัดไปกับเครื่องแล้ว"
นงลักษณ์เห็นท่าทางสิรีเก้งก้างเลยเดินมา
"มา...ฉันจะหั่นถั่วแล้วลวกให้...เธอไปเตรียมเครื่องผัด"
สิรีหันมายิ้ม
"ขอบใจจ้า"
"คุณโกศลนั่งคุยกับน้าสมรอยู่ข้างนอก...ซื้อหอยจ้อมาฝาก"
สิรียิ้มหวาน
"แหมดีจริง...ของชอบของฉันเลยละนะ"
นงลักษณ์หั่นผัก มองหน้าสิรีที่มีความสุข
"เธอมีแขกประจำมาทานข้าวด้วยทุกวันแล้วนะสิรี...ดีแล้วที่ฝึกทำกับข้าว...จะได้ทำให้คุณโกศลทานทุกวัน"
สิรีมองหน้านงลักษณ์ ยิ้มมีความสุข
"จริงเหรอนงลักษณ์....เธอว่าคุณโกศลเค้าอยากมาทานข้าวบ้านฉันทุกวันจริงเหรอ"
"เขาอยากเจอเธอต่างหาก"
"เธอว่าคุณโกศลเป็นยังไง...เค้าจะเป็นคนดีอย่างที่อาวิรัชบอกจริงๆ ไหม"
นงลักษณ์ยิ้ม
"ทั้งคุณหลวง คุณนนท์ แล้วยังจะปริศนา...ทุกคนบอกว่าคุณโกศลเป็นคนดี เธอยังจะกลัวอะไรอีก"
สิรีนิ่งคิด
"ฉันยอมรับว่าฉันกลัวจริงๆ...กลัวต่อไปเค้าจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น"
"ถ้าอย่างนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ แต่ฉันว่าถ้าเธอไม่เปลี่ยน เค้าก็คงไม่เปลี่ยน"
"ฉันจะเปลี่ยนอะไร...ฉันก็เป็นฉันอย่างนี้"
"เคยมีคนบอกฉันว่า ผู้หญิงเราบางคนพอแต่งงานไป ก็ละเลยตัวเอง ปล่อยเนื้อปล่อยตั บางคนก็เอาแต่ใจ ถ้าเธอเป็นอย่างนั้น...ไม่ว่าคนดีแค่ไหนเค้าก็คงเปลี่ยนแน่ๆ"
สิรียิ้มล้อ
"แหม...รู้ดีอย่างกับเคยแต่งงานแล้วยังงั้นแหล่ะ...เออ..หมู่นี้ไม่ค่อยเห็นอาตระกล"
สีหน้านงลักษณ์หม่นลง
"เค้าคงเห็นว่าคุณนนท์กลับมาแล้ว...หมู่นี้คุณตระกลก็เลยไม่ค่อยมาแล้ว"
สิรีรู้สึกได้ว่านงลักษณ์สีหน้านิ่งไป
"ฉันว่าอาตระกลไม่ได้มาเพราะจะมาดูแลเธอแค่ตอนที่คุณนนท์ไม่อยู่หรอก...เค้าอยากมาหาเธอมากกว่า"
นงลักษณ์มือสั่นเพราะโดนใจ รีบแก้เก้อ
"ไม่หรอก...เค้าจะอยากมาหาฉันทำไม...ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจอย่างเธอหรอก"
สิรีวางมือ เดินมาหานงลักษณ์
"ไม่จริงเลยนงลักษณ์....อาตระกลคงติดธุระน่ะถึงได้ไม่"
"อย่าไปพูดถึงเขาเลย...รีบๆ ทำกับข้าวดีกว่า..เดี๋ยวคุณโกศลจะหิว"
นงลักษณ์พยายามทำยิ้มแย้ม สิรีแอบมองนงลักษณ์อย่างเป็นห่วง...
สมรนั่งคุยกับโกศลที่ห้องรับแขก
"เห็นปริศนาว่าคุณโกศลจะต้องไปประจำที่ต่างประเทศอีกใช่ไหมคะ"
"ครับผม....ผมต้องเตรียมตัวไปโตเกียวเร็วๆ นี้ครับ...แต่ตอนนี้ก็...อาจจะไม่แน่แล้วครับ"
"ทำไมล่ะจ้ะ"
"ผู้ใหญ่มีความเห็นว่า ผมควรจะมีภรรยาไปช่วยด้วยครับถ้าผมไม่แต่งงานก็ควรจะสละสิทธิ์"
"คุณโกศลก็ถอนหมั้นกับวนิดาไปแล้ว"
โกศลยิ้ม
"ผมกับวนิดาจากกันด้วยดีครับ เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คนอย่างผมถ้าจะแต่งงานกับใคร ผมต้องแต่งด้วยความรักครับ"
"แล้วคุณโกศลจะแน่ใจได้อย่างไรคะว่าคนที่คุณจะแต่งงานเพราะความรัก....เป็นคนที่เหมาะสมกับคุณ"
"มันอธิบายไม่ได้ครับ...ผมเองอายุไม่น้อยแล้ว...เห็นอะไรมามาก ผมขอเรียนคุณน้าตรงๆ ว่าผมชอบสิรี...ยิ่งผมได้มาเห็นที่นี่ได้มาพบคุณน้า...ทำให้ผมยิ่งแน่ใจว่าผมมองคนไม่ผิด...แต่ผมไม่รู้ว่าสิรี จะถูกใจผมหรือเปล่า"
"ในเมื่อคุณโกศลพูดตรงๆ ....น้าก็จะบอกว่าคบหาดูใจกันก่อน"
"ครับ...ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมขออนุญาตพาคุณสิรีออกไปทานอาหารเย็นนะครับ"
สมรยิ้ม
"คุณโกศลคุยกับสิรีนะคะ เค้าโตแล้ว น้าให้เค้าตัดสินใจเอง"
โกศลใช้ความคิด กลัวสิรีไม่ชอบ
อ่านต่อตอนที่ 11