ลุ้นรักข้ามรั้ว ตอนที่ 21
ตี๋ใหญ่ ตี๋เล็กและหมวยเล็ก กำลังง่วนอยู่กับหน้าจอมือถือของตัวเอง จางโผล่เข้ามาเห็น ก็พูดแซว
“สังคมก้มหน้ากันแต่เช้าเลยนะครับ”
ตี๋เล็กเงยหน้าเครียด “ก้มสิครับ เตี่ยหายไปทั้งคืนยังไม่กลับบ้านเลยเนี่ย”
จางตกใจ “เฮียหาย หายไปไหนครับ”
หมวยเล็กถอนใจ “ถ้ารู้จะมาก้มหน้ากันอยู่อย่างนี้เหรอ หมวยไลน์หาเตี่ยไปตั้งเยอะ เงียบกริบเลย
เฮีย อ่านก็ไม่อ่าน”
ตี๋ใหญ่หันมาบอกน้องสาว “จะอ่านยังไงล่ะ เฮียโทร. หาเตี่ยไม่ติดเลยเนี่ย สงสัยจะปิดเครื่อง”
“เสี่ยชาญล่ะเฮีย เมื่อคืนเตี่ยไปกับเสี่ยชาญไม่ใช่เหรอ”
ตี๋ใหญ่พูดเลียนเสียงเสี่ยชาญ “โทร. ไม่เตียด สงสัยจะเปียดเครื่อง”
จางส่ายหน้า “แหม ยังมีอารมณ์มาฮาอีกนะครับ”
“ก็เห็นเครียดกันอยู่ ผ่อนคลายกันนิดนึง”
ตี๋เล็กหันมาบอกบ้าง “อั๊วเช็คข่าวตามโซเชียลดูแล้ว ไม่มีข่าวเตี่ยเลย คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเตี่ยหรอก”
ทันใดนั้น เฮงก็เดินหน้าเครียดเข้ามาในบ้าน จงหันมาเห็นพอดี
“นี่ไง เฮียมาแล้วครับ”
ตี๋ใหญ่รีบถามอย่างเป็นห่วง “เตี่ยหายไปไหนมาเนี่ย พวกอั๊วเป็นห่วงแท่บแย่ ติดต่อก็ไม่ได้เลย”
“เตี่ยก็ไปกินเลี้ยงกับเสี่ยชาญมาไง”
“แหม กินยันเช้าเป็นวัยรุ่นเลยนะเตี่ย” ตี๋เล็กพูดล้อ
จางถามต่อ “ไปปล่อยโคกันมาชิมิ”
เฮงหันมาทำตาดุ “ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าแกเป็นใบ้นะ ออกไปทำงาน”
จางเดินหน้าจ๋อยออกไปนอกบ้าน หมวยเล็กหันมาถามต่อ
“เตี่ยดูเครียดๆ นะ เป็นอะไรรึเปล่า”
“เตี่ยมีเรื่องสำคัญจะบอกพวกลื้อน่ะ”
ตี๋ใหญ่ทำหน้าสงสัย “เรื่องอะไรเหรอเตี่ย”
จังหวะนั้น จางก็เดินนำมิลค์เข้ามาในบ้าน
“เฮียครับ น้องคนนี้เค้าบอกว่ามากับเฮียน่ะครับ”
ตี๋ใหญ่พยักหน้าหงึก “อ๋อ จะบอกว่าเตี่ยรับพนักงานมาใหม่ใช่มั้ยครับ”
หมวยเล็กถามต่อ “แม่ครัวใหม่เหรอเตี่ย”
เฮงส่ายหน้าช้าๆ “เปล่า นี่เมียเตี่ยเอง”
ตี๋ใหญ่ ตี๋เล็ก หมวยเล็ก จาง อุทานขึ้นพร้อมกัน “เมีย”
มิลค์ยิ้มทักทาย “สวัสดีค่ะทุกคน”
ตี๋ใหญ่ ตี๋เล็ก หมวยเล็ก และจางต่างก็อึ้งตามๆ กันไป
แล้วตี๋ใหญ่กับหมวยเล็กก็มานั่งคุยกับเสี่ยชาญที่หน้าบ้าน
“เมื่อคืนอั๊วกับอาเฮงเมามาก จำได้คับคล้ายคับคลาว่าโดนเพื่อนๆ ลากไปปล่อยโค”
หมวยเล็กทำหน้าสงสัย “กินเหล้าแล้วไปทำบุญเนี่ยนะเสี่ย”
ตี๋ใหญ่รีบพูดแทรก “โคโยตี้”
หมวยเล็กทำหน้าเอือม “บ้ากาม”
“อั๊วโดนเพื่อนลากไป แล้วก็ไม่อยากทิ้งเตี่ยลื้อด้วย ทำควนบูชาทวดแท้ๆ”
“แล้วเตี่ยอั๊วไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นได้ยังไงอ่ะเสี่ย”
เสี่ยชาญส่ายหน้ายิก “อํวจำอะไรไม่ได้จริงๆ ลื้อถามอาเฮงน่าจะได้เรื่องมากกว่าถามอั๊วนะ”
หมวยเล็กรีบบอก “เตี่ยก็ว่าจำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ถึงต้องมาถามเสี่ยนี่ไง”
“อั๊วแก่แล้ว ความจำไม่ค่อยดีหรอก ยิ่งกินเหล้า ยิ่งจำอะไรไม่ได้ใหญ่”
ตี๋ใหญ่รีบเสนอ “รู้ว่าความจำไม่ค่อยดีก็ต้องกินอาหารเสริมสิเสี่ย อั๊วนี่กินอยู่ทุกวัน เรื่องความจำนี่ช่วยได้เยอะ”
“ลื้อกินอะไรอยู่เหรอ”
ตี๋ใหญ่พยายามนึกๆ “เค้าเรียกอะไรน้า”
หมวยเล็กช่วยคิด “แปะก๊วยเหรอเฮีย”
“ไม่ใช่ เค้าเรียกอะไรน้า มันช่วยเรื่องความจำได้มากเลย อะไรวะ”
เสี่ยชาญทำหน้าเซ็ง “โห นึกนานขนาดนี้ อั๊วว่าไอ้ที่ลื้อกิน ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก”
จังหวะนั้นหญิงใหญ่ก็เดินมากับชายเล็ก เสี่ยชาญหันไปทัก
“ไงหนุ่มสาว เดินไปไหนกันเหรอ”
“ไปส่งชายเล็กที่โรงเรียนค่ะเสี่ย”
ตี๋ใหญ่รีบเสนอ “ไปด้วยกันสิคุณ ผมกำลังไปส่งหมวยเล็กอยู่พอดี”
หญิงใหญ่พยักหน้ายิ้มๆ “ขอบคุณค่ะ”
หมวยเล็กกับชายเล็กมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างอึดอัดใจ
ตี๋ใหญ่ขับรถมาจอดหน้าโรงเรียน ทั้ง 4 คนเปิดประตูออกมาจากรถ หมวยเล็กดูจะเครียดเรื่องเฮงมากเป็นพิเศษ
“ขอบคุณนะคะ”
หญิงใหญ่ยิ้มหวาน ชายเล็กรีบยกมือไหว้ตี๋ใหญ่ “ขอบคุณครับ”
ตี๋ใหญ่รับไหว้ ก่อนที่ทั้งหมดจะหันไปเห็นหมวยเล็กยืนนิ่ง เพราะกำลังเครียดเรื่องเตี่ย
“เป็นอะไรหมวย”
“นี่เราจะมีแม่ใหม่กันจริงๆ เหรอเฮีย”
“ไม่ต้องเครียดน่า เดี๋ยวเฮียหาข้อมูลเพิ่มเติมเอง ว่าเรื่องมันไปไงมาไง”
หมวยเล็กรีบบอก “ได้เรื่องยังไงบอกหมวยด้วยนะเฮีย”
“โอเค. ตั้งใจเรียนเถอะเรา”
หญิงใหญ่รีบบอกกับชายเล็ก “ดูแลกันหน่อยนะชายเล็ก
ชายเล็กอึ้งไปเล็กน้อย เพราะใจจริงก็อยากดูแล แต่ติดที่เฮงขอร้องไว้ไม่ให้ยุ่งกับหมวยเล็ก
“ครับพี่หญิงใหญ่”
“ไปหมวย เข้าไปเรียนได้แล้ว”
หมวยเล็กยกมือไหว้ตี๋ใหญ่กับหญิงใหญ่ “หวัดดีเฮีย หวัดดีค่ะพี่”
พอหมวยเล็กกับชายเล็กเดินเข้าโรงเรียนไป หญิงใหญ่ก็หันมาถาม
“คุณจะเอายังไงต่อคะ”
“ยังคิดไม่ออกเลย ขึ้นรถก่อนเถอะครับ”
ทั้งคู่รีบเปิดประตูเข้าไปในรถ แล้วขับแล่นออกไป
หมวยเล็กนั่งกลุ้มเรื่องเฮง ชายเล็กดูอยู่ห่างๆ อยากจะเดินเข้าไปคุยด้วย แต่ก็ติดที่คำขอร้องของเฮง จึงตัดใจเดินออกไป ทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งเครียดอยู่เพียงลำพัง
แก้วกัลยาสีหน้าตกใจ หลังจากรู้เรื่องเฮงมีเมียเด็ก
“คุณแพะ”
หญิงเล็ก ฮันนี่และเสี่ยชาญที่นั่งคุยอยู่ด้วยกันรีบพูดแก้ “คุณพระ”
“เออ ตกใจมาก พูดผิดพูดถูกเลยเนี่ย”
หญิงเล็กหันมาถาม “แล้วอยู่ๆ เถ้าแก่เฮงไปมีเมียเด็กขนาดนั้นได้ยังไงคะ”
“อั๊วกับอาเฮงไปกินเลี้ยงกันมา แล้วก็ไปต่อกันนิดหน่อย แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อาเฮงตื่นมาก็นอนแก้ผ้าอยู่กับนังหนูนั่น”
ฮันนี่ยกมือทาบอก “โอ้ มายก๊อด นี่เมาจนจำอะไรกันไม่ได้เลยเหรอเสี่ย”
เสี่ยชาญพยักหน้าหงึก “ จำอะไรไม่ได้เลย”
แก้วกัลยาสวมรอยทันที “แล้วหมื่นนึงที่ยืมฉันไป ลืมรึเปล่า วันนี้ต้องคืนแล้วนะ”
“ของฮันนี่อีกสองแสนห้านะเสี่ย ไม่ต้องรีบคืนก็ได้ เตือนเฉยๆ กลัวจะลืม”
เสี่ยชาญทำหน้ารู้ทัน “ไอ้หมื่นนึงนี่พอเนียนๆ ได้นะ แต่อีสองแสนห้านี่ไม่ใช่ละ”
“แหม จะได้อยู่แล้วเชียว นังฮันนี่ นังตัวขัดลาภ”
“ซออู้ค่ะ”
แก้วกัลยาช่วยแก้ “ ซอรี่”
หญิงเล็กหันมาเข้าเรื่อง “ เถ้าแก่เฮงเค้าโดนวางยารึเปล่าเสี่ย”
“อั๊วก็ไม่รู้เหมือนกัน อาเฮงก็ไม่ได้คิดจะไปตรวจร่างกายซะด้วยสิ”
แก้วกัลยาทำหน้ารังเกียจ “ก็คงอยากมีเมียเด็กจนตัวสั่นล่ะสิ พวกแก่ตัณหากลับ”
หญิงเล็กยี้ปาก “เฒ่าหัวงู”
ฮันนี่พลอยผสมโรง “ไม่รู้จักเจียมสังขาร”
เสี่ยชาญพูดตัดบท “เอาน่ะ ด่าอีลับหลังแบบนี้ ก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาหรอก”
แก้วกัลยารีบบอก “อ๋อ ฉันด่าเสี่ยนี่แหละ ก็ไปด้วยกันมาไม่ใช่เหรอ”
ฮันนี่พยักหน้าหงึก “yeah ใจแตกตอนแก่พอๆ กัน”
“โห่ อั๊วก็ไม่ได้มีผู้หญิงติดมาแบบอาเฮงซะหน่อย”
หญิงเล็กหันมาบอกแม่ “แม่คะ ถึงเสี่ยชาญจะใจแตกแบบเถ้าแก่เฮง แต่เสี่ยชาญก็อ้วน หัวล้าน หน้าตาไม่ดีนะคะ ไม่งั้นคงได้เมียเด็กมาอีกคนแล้วล่ะ”
“ขอบใจนะที่พยายามเข้าข้างอั๊ว แต่ไม่ต้องดีกว่า”
เสี่ยชาญเซ็งจัดที่โดนด่าทั้งขึ้นทั้งล่อง หญิงเล็กยิ้มขำ
เฮงนั่งคุยอยู่กับตี๋เล็กหน้าเครียด โดยมีจางเช็ดโต๊ะอยู่ใกล้ๆ
“เตี่ยตื่นขึ้นมาก็นอนอยู่กับเค้าแล้วน่ะ แต่ก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น เตี่ยจำไม่ได้จริงๆ”
“แล้วนี่เตี่ยจะจริงจังกับเค้าเหรอ” ตี๋เล็กถามต่อ
“เตี่ยเป็นลูกผู้ชาย ทำอะไรแล้วต้องรับผิดชอบ”
จางทำหน้าล้อ “แหม แซ่บขนาดนั้น ก็น่ารับผิดชอบอยู่นะครับ”
เฮงหันไปดุ “รับผิดชอบงานตัวเองไป ไม่ได้ขอความคิดเห็นลื้อ”
จางหน้าจ๋อย ตี๋เล็กรีบถามซ้ำ
“เตี่ยแน่ใจเหรอ ว่ามีอะไรกับเค้าจริงๆ”
“เตี่ยจำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่ตื่นมาเตี่ยกับเค้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้ากันเลยนะ”
จังหวะนั้น มิลค์ที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาได้ยินพอดี
“ทำไมเตี่ยไม่พาน้องเค้าไปตรวจร่างกายล่ะ”
“เฮ้ย ทำแบบนั้นมันไม่ให้เกียรติเค้ารึเปล่า”
มิลค์รีบบอก “ถ้าเฮียอยากจะให้มิลค์ไปตรวจร่างกาย ก็ไม่มีปัญหานะคะ”
เฮงกับตี๋เล็กหันไป ก็เห็นมิลค์เดินเข้ามาสีหน้านิ่งขรึม จริงจัง
“มิลค์มานี่ไม่ได้จะมาต้มตุ๋นหลอกลวงใครอยู่แล้ว อะไรที่ทำแล้วทุกคนสบายใจ มิลค์ก็ยินดีค่ะ”
ตี๋เล็กยิ้มรับ “ก็ดีครับ”
“แต่ถ้าตรวจแล้วพบว่ามิลค์กับเฮียมีอะไรกัน มิลค์ขอห้าแสนนะคะ”
มิ้ลค์พูดขู่ ทำเอาทุกคนอึ้ง
“มิลค์ไม่ใช่คนหน้าเงินอะไรหรอกนะ แต่ถ้าไม่เชื่อใจ และอยากจะซื้อความสบายใจล่ะก็ มิลค์ขายแพงค่ะ”
“เฮียเชื่อใจหนูนะ เอาเป็นว่าเฮียขอโทษแทนลูกเฮียด้วยแล้วกัน”
“เวลาจะพิสูจน์ตัวมิลค์ค่ะ เฮียยังไม่ต้องรีบเชื่อในตัวมิลค์หรอก”
ตี๋เล็กมองมิลค์อย่างพินิจพิเคราะห์ แต่ฝ่ายถูกมองไม่สนใจ หันไปช่วยจางจัดโต๊ะ
หญิงใหญ่ถือถุงใส่อาหารเข้ามา
“อาหารกลางวันมาแล้วจ้า”
อัครเดชรีบปรี่เข้าไปหาทันที “หิวฝุดๆ”
ภรณีสวนขวับ “นี่หิวหรือหื่น”
“หิวโว้ย”
“แหม ปรี่เข้าไปหา อย่างกับจะปล้ำ”
หญิงใหญ่แจกจ่ายอาหารให้พนักงานที่สั่ง อัครเดชรับเป็นคนสุดท้าย
“อ่ะ สุดท้าย”
อัครเดชพุดต่อทันที “แฟนสวย”
พลางมองหญิงใหญ่ด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ตี๋ใหญ่เดินออกมาเห็นก็แกล้งไอเสียงดังขัดจังหวะ
ภรณีหันไปถาม “ยาอมมั้ยคะผู้ช่วย”
หญิงใหญ่รีบพูดแทรก “โอ๊ย ไอขนาดนี้ อมลูกเหม็นมั้ย”
“เฮ้ย ก็ตายสิแก”
“ก็จะได้ไม่ต้องไอให้ทรมานไงแก”
ตี๋ใหญ่มองเคืองๆ หญิงใหญ่ยักคิ้วกวนใส่ ก่อนที่ภรณีจะหันมาถาม
“เอ่อ อาหารร้านผู้ช่วยถึงไหนแล้วคะเนี่ย”
“ยังไม่มาอีกเหรอ เดี๋ยวผมโทร. ตามให้”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังเข้ามา “มาแล้วค่า”
ทุกคนหันไปเจอมิลค์เดินถือถุงใส่อาหารเข้ามา ภรณีกับอัครเดชทำหน้างงว่าใคร
“โทษทีนะคะ พอดีมิลค์หลงทางไปนิดนึง”
ตี๋ใหญ่รีบบอก “ไม่เป็นไรครับ”
มิลค์รีบส่งถุงอาหารให้ตี๋ใหญ่ “นี่ค่ะ”
ภรณีหันมาถาม “พนักงานใหม่เหรอคะผู้ช่วย หน้าตานั่ลลั้กอ่ะ”
ตี๋ใหญ่รีบแนะนำ “นี่คุณมิลค์ครับ แฟนของเตี่ยผมเอง”
ภรณีกับอัครเดชตกใจ “แฟนเตี่ย”
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
มิลค์ยิ้มให้ทุกคน ภรณีกับอัครเดชยิ้มแบบอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าเฮงจะมีเมียเด็กขนาดนี้
ตี๋ใหญ่นั่งเครียดเรื่องมิลค์อยู่ ครู่หนึ่งเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เชิญครับ”
หญิงใหญ่เปิดประตูเข้ามา ตี๋ใหญ่คิดว่าจะเข้ามาเอาเอกสาร
“เอกสารผมยังไม่ได้เซ็นให้เลยครับ รอแป๊บนะ”
หญิงใหญ่นั่งลง “ฉันไม่ได้มาเอาเอกสารหรอกค่ะ จะมาคุยเรื่อง..เอ่อ จะให้เรียกแม่หรือเรียกคุณ
มิลค์ดีล่ะ”
“เรียกแม่ใจมันหวิวยังไงไม่รู้ เรียกมิลค์ดีกว่าครับ”
“โอเค.ฉันว่าเรื่องคุณมิลค์นี่ ไม่ชอบมาพากลสักเท่าไหร่นะ”
ตี๋ใหญ่พยักหน้ารับ “อืมม์ งั้นคุณช่วยผมวิเคราะห์ได้มั้ย ว่ามันไม่ชอบมาพากลยังไงบ้าง”
“ก็คุณแม่ เอ๊ย คุณมิลค์ทั้งสาวทั้งสวย ถ้าจะหาคนที่ดีกว่าเตี่ยคุณก็คงไม่ยาก คุณว่าจริงมั้ยล่ะ”
“ก็จริง”
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้จะว่าเตี่ยคุณดูไม่ดีหรอกนะ”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมอยากได้มุมมองของผู้หญิงที่มีต่อเตี่ยผมอยู่พอดี จะได้วิเคราะห์คุณมิลค์ว่าคิดอะไร ถึงได้มาชอบเตี่ยผม”
“มุมมองผู้หญิงที่มีต่อเตี่ยคุณเหรอ”
ตี๋ใหญ่พยักหน้า “ใช่ คุณคิดยังไงพูดมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”
“เอาจริงดิ”
“จริง คุณพูดมาเถอะ ผมยินดีรับฟัง”
หญิงใหญ่จัดชุดใหญ่ทันที
“ฉันว่าเตี่ยคุณ อ้วน พุงยื่น หน้าก็ยับยู่ยี่ ปากนี่ห้อย เป็นเปลญวน ส่วนมารยาทก็ไม่ดีอะไร
มาก แหกปากเสียงดังออกจะบ่อย”
ตี๋ใหญ่หน้าจ๋อย “เอ่อ พอดีกว่าครับ”
“ยังมีอีกหน่อยนะ”
ตี๋ใหญ่รีบห้าม “อีกนิดเตี่ยผมก็จะไม่ใช่คนละ พอก่อนดีกว่า”
“นั่นแหละ ฉันว่าเตี่ยคุณอาจจะดูมีเงินน่ะ ก็เลยล่อตาใจคุณมิลค์เข้า”
“ก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้เรื่องเดียวนี่แหละ”
ตี๋ใหญ่ครุ่นคิดว่าจะเอายังไงต่อดี
ทางด้านตี๋เล็กก็นำอาหารกล่องส่งให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่ง
“ค่อยๆ ไปนะพี่ ไม่ต้องรีบ”
มอเตอร์ไซค์ขี่ออกไป พร้อมกับที่หญิงเล็กเดินกลับจากไปส่งอาหาร
“อ้าว ไปเดินเตะฝุ่นที่ไหนมาเหรอครัช”
หญิงเล็กมองค้อน “ฉันไปส่งอาหารให้ลูกค้ามาย่ะ”
“อ่อ เดินไปส่งเองเลยเหรอ ดี๊ดีอ่ะ”
หญิงเล็กยักไหล่ “แน่นอน ลูกค้ามีคอมเม้นท์อะไร ฉันก็รู้ แล้วก็ปรับได้เลยทันที”
“เหรอ ที่ไม่จ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพราะกลัวผมจะเอาคืนรึเปล่า”
“ฉันคนจริง กล้าแกล้ง ก็ไม่เคยกลัวโดนเอาคืน”
ตี๋เล็กพุดสวนกลับ “ส่วนผมคนดี ไม่คิดจะแกล้งใครก่อนอยู่แล้ว”
“อ้าว หาว่าฉันเป็นคนไม่ดีเหรอเนี่ย”
หญิงเล็กจะเข้าไปมีเรื่องกับตี๋เล็ก แต่มิลค์เดินเข้ามาซะก่อน
“มีเรื่องอะไรกันคะ”
“ไม่มีอะไรครับ” ตี๋เล็กพูดปัด
“มิลค์ เอ้ยม้า เอ๊ะ หรือจะมิลค์ เอ่อ หรือจะแม่ อืม หรือจะมิลค์”
ตี๋เล็กรีบบอก “เรียกมิลค์แล้วกันครับ”
“โอเค. มิลค์เอาอาหารไปส่งที่ออฟฟิศให้เรียบร้อยแล้วนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
“มิลค์เข้าไปทำงานในร้านต่อนะคะ”
มิลค์ยิ้มให้หญิงเล็กแล้วเดินเข้าไปในบ้าน หญิงเล็กอึ้งๆ
“แม่นายดูแซ้บแซ่บเนอะ”
“ไม่ใช่แม่”
ตี๋เล็กเดินหน้าเครียดเข้าบ้านไป หญิงเล็กแอบรู้สึกเห็นใจ
ขณะที่ชายเล็กก็มานั่งคุยอยู่กับเสี่ยชาญ ด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
“ผมเป็นห่วงหมวยเล็กน่ะเสี่ย ท่าทางจะเครียดเรื่องเตี่ยมากเลย”
เสี่ยชาญที่จิบชาร้อนแก้แฮงค์ รีบเงยหน้ามาบอก
“อั๊วก็แฮงค์จนเคี้ยดอะไรไม่ออกเหมือนกัน ปวดหัวตึ๊บเลยเนี่ย”
“ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับหมวยเล็กด้วยก็ไม่รู้นะ”
หมวยเล็กที่เดินมาที่หน้าบ้าน เห็นชายเล็กคุยกับเสี่ยชาญอยู่ก็ซุ่มฟัง
“ลื้อเป็นห่วงอาหมวยเล็ก แล้วทำไมลื้อไม่คุยกับอีล่ะ”
หมวยเล็กซุ่มฟังอยู่ อย่างลุ้นๆว่าตี๋เล็กจะตอบยังไง
“ในสถานการณ์แบบนี้ อั๊วว่าอาหมวยเล็ก อีต้องการเพื่อนคุยนะ”
ชายเล็กหน้าสลด “เสี่ยก็รู้ ว่าเตี่ยหมวยเล็กขอผมไว้ ว่าไม่ให้คุยกับหมวยเล็ก”
หมวยเล็กอึ้งเมื่อรู้ความจริง “จริงเหรอ”
ชายเล็กกับเสี่ยชาญหันมาพร้อมกัน “หมวยเล็ก”
หมวยเล็กเดินเข้าไปในบ้านเสี่ยชาญ
“ไหนพูดมาซิ ว่าเตี่ยขออะไรนาย”
ชายเล็กอึกอัก “ เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกหมวยเล็ก”
“เราไม่เชื่อ พูดมา ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ชายเล็กหันไปหาตัวช่วย “เสี่ย”
เสี่ยชาญส่ายหน้ายิก “ มันเรื่องของลื้อ 2 คน อั๊วไม่เกี่ยว”
พูดจบก็รีบลุกหนีไป หมวยเล็กยืนปักหลักจ้องชายเล็ก ด้วยสายตาคาดคั้น
“ที่เตี่ยทำไป ก็เพราะรักลื้อนะหมวยเล็ก”
เฮงหน้าเครียด ขณะยืนประจันหน้ากับหมวยเล็ก ที่ทำหน้าจริงจัง
“รักหรือไม่ไว้ใจกันแน่เตี่ย”
“รักสิ ลื้อเป็นลูกเตี่ย ถ้าเตี่ยไม่รักลื้อแล้วจะให้เตี่ยไปรักเสาไฟฟ้ารึไง”
“ถ้าเตี่ยรักและเชื่อใจหมวย แล้วเตี่ยไปบอกให้ชายเล็กเลิกคุยกับหมวยทำไม”
หมวยเล็กย้อนถาม สีหน้าเอาเรื่อง โดยมีตี๋ใหญ่ยืนพัดอยู่ข้างๆ ส่วนตี๋เล็กก็ยืนพัดให้เฮง เพื่อให้ทั้งคู่ใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกัน
“ก็เตี่ยอยากให้ลื้อตั้งใจเรียน”
“เรื่องนี้เราคุยกันเข้าใจแล้วนี่เตี่ย เตี่ยบอกเองว่าให้คุยเป็นเพื่อนและให้อยู่ในสายตาได้ แล้วเตี่ยตุกติกไปบอกห้ามชายเล็กคุยกับหมวย แบบนี้มันถูกเหรอเตี่ย”
ตี๋ใหญ่รีบปราม “ใจเย็นน่าหมวย”
ตี๋เล็กรีบแทรกขึ้นมา “ลักษณะแค่พัดจะเอาไม่อยู่ อั๊วว่าไปเอาพัดลมมาดีกว่าเฮีย”
“ติดแอร์เลยดีกว่ามั้ง”
“หมวย เตี่ย รอแพ็พนะ เดี๋ยวโทร. ตามช่างแอร์มาติด แอร์ให้ ใจจะได้เย็นๆ”
หมวยเล็กไม่ขำด้วย “ต่อให้ไปคุยกันที่ขั้วโลกใต้ หมวยก็ไม่เย็นไปกว่านี้หรอกเฮีย”
มิลค์เดินเข้ามาจากนอกบ้าน เห็นบรรยากาศกำลังตึงเครียด
“มิลค์ช่วยจางเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้วนะเฮีย”
“หมวยง่วงล่ะ ไปนอนก่อนนะเฮีย”
หมวยเล็กเดินหน้าตาบึ้งตึงออกไป มิลค์ทำหน้างง
“มีอะไรกันรึเปล่าคะเฮีย”
“ไม่มีอะไรหรอก”
เฮงเดินออกไปแบบเซ็งๆ มิลค์หันไปเก็บข้าวของในบ้านให้เป็นระเบียบ ตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กแอบลอบมองดูพฤติกรรม
แก้วกัลยาทำหน้าอึ้งๆ หลังจากหญิงใหญ่กับหญิงเล็กเล่าเรื่องเมียเด็กของเฮงให้ฟัง
“หรือว่าไอ้งิ้วมันจะเล่นของ เพราะสภาพมันไม่น่าจะได้เมียเอ๊าะๆ แบบนั้นนะ”
หญิงเล็กรีบบอก “หนูว่าเงินนี่แหละค่ะ ขลังกว่าเครื่องรางเป็นไหนๆ”
ชายเล็กที่นั่งอยู่ด้วย พูดแย้งขึ้นมา “แต่เสี่ยชาญก็มีเงินเยอะกว่าเถ้าแก่เฮงอีกนะครับ”
หญิงใหญ่พูดแย้ง “ถ้าเทียบเสี่ยชาญกับเถ้าแก่เฮง พี่ว่าเถ้าแก่เฮงดูดีกว่านะ”
แก้วกัลยาไม่เห็นด้วย “ดูดีตรงไหน อ้วน ลงพุง ปากก็ห้อย แถมหมาอีกต่างหาก”
“หนูเทียบกับเสี่ยชาญน่ะค่ะแม่ เสี่ยทั้งลงพุง หัวล้าน พูดจาก็ ไม่ชักถ้อยชักคำ เกียนข้าวก็ตะกละ ตะกรามอีก”
ฮันนี่ที่เดินเข้ามาจากนอกบ้านเข้ามาร่วมวง รีบเสนอหน้า “ บอสคะ งานนี้บอสอย่าน้อยหน้าเค้านะคะ”
“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง”
“ก็หาหล่อล่ำก้ามปู มาประดับบารมีสักคนไงคะบอส”
หญิงเล็กสนับสนุนทันที “เอามั้ยคะแม่ เพื่อนที่มหาลัยหนูมีอยู่หลายคนเลยนะคะ เดี๋ยวหนูจัดให้”
หญิงใหญ่ส่ายหน้ายิก “เดี๋ยวก็มาออกสาวให้แม่ต้องขายหน้าเค้าอีก”
“พวกยังไม่แกรนด์โอเพนนิ่งก็พอมี แอ๊บเนียนอยู่ค่ะ”
“ไม่เอาหรอก แม่ไม่ได้แก่ตัณหากลับอย่างไอ้งิ้วนั่น”
ชายเล็กทำหน้าเซ็ง “โห่ ไม่หนุกเลยอ่ะคุณแม่”
“นี่ หายโกรธแม่แล้วใช่มั้ย ถึงอยากให้แม่เล่นสนุกด้วยเนี่ย”
ชายเล็กรีบพูดอ้อน “ก็ถ้าคุณแม่ไม่เล่นสนุกกับลูก ลูกก็อาจจะโกรธอีกนะครับ”
“โกรธไปเลยค่ะ แม่ไม่เล่นด้วยหรอก เสียภาพพจน์แม่หมด”
หญิงใหญ่ หญิงเล็ก ชายเล็กหัวเราะขำ
“เอ๊ะ วันนี้น้องพี่อารมณ์ดี มีอะไรรึเปล่าน้า” หญิงใหญ่หันมาแซวน้องชาย
ชายเล็กรีบปฏิเสธเสียงต่ำ “เปล่าซะหน่อย”
หญิงเล็กพูดล้อ “ เสียงต่ำไปมั้ย”
“เสียงสูงเดี๋ยวก็หาว่าโกหกอีก”
ชายเล็กรีบทำเนียนกลบเกลื่อนว่าไม่มีอะไร
เฮงชะโงกหน้าเข้ามา พอเห็นหมวยเล็กนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว ก็เดินเข้ามาพูดด้วยเนียนๆ
“หมวย ลื้อเห็นโอบ้างรึเปล่า”
หมวยเล็กตอบงอนๆ “โอไหน อั๊วไม่รู้จัก”
“ก็โอกาสที่เราจะดีกันไง”
เฮงพูดพร้อมกับยกนิ้วก้อยง้อขอคืนดี
“ไม่เห็นเลยนะเตี่ย ถ้าเห็นเมื่อไหร่จะบอกแล้วกัน”
หมวยเล็กยกนิ้วโป้งให้เฮง แล้วยกจานข้าวเดินออกไป
“เฮ้ย นี่เตี่ยหามุกในกูเกิ้ลตั้งนาน ไม่ใจอ่อนให้เตี่ยหน่อยเหรอ”
อ่านต่อหน้าที่ 2
ลุ้นรักข้ามรั้ว ตอนที่ 21 (ต่อ)
มิลค์เดินเข้ามาจากข้างนอกได้ยินพอดี “หมวยเล็กยังไม่หายงอนเหรอคะ”
“ช่างเถอะ เดี๋ยวสักพักก็คงหาย”
ตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กเดินเข้ามาสมทบ
“เตี่ย รถอั๊วเสียน่ะ ขอยืมเงินไปซ่อมก่อนได้มั้ยครับ”
เฮงหยิบเงินมาปึกนึง ประมาณสองหมื่น “เป็นอะไรอีกล่ะ”
ตี๋ใหญ่พูดเป็นชุด “ เบรคสะบัด คลัทช์เสีย เกียร์หลุด”
เฮงนับให้ห้าพัน “ห้าพันน่าจะอยู่”
ตี๋ใหญ่พูดต่อ “เครื่องสะดุด เพลาหัก สลักหาย”
เฮงนับให้เพิ่มอีก “เอาไปอีกห้าพันน่าจะพอ”
“หัวเทียนห่าง ยางแฟบ แหนบตาย”
ตี๋เล็กพูดต่อจากพี่ชาย “ ไดไม่จ่าย ไฟไม่ชาร์จ สตาร์ตพังด้วยมั้ยเฮีย”
“ด้วย”
เฮงกลืนน้ำลายเอื๊อก แล้วนับเพิ่มให้อีก “เอาไปอีกห้าพัน”
“แล้วเครื่องเสียงยังโอเค. อยู่มั้ยเฮีย” ตี๋เล็กถามต่อ
“เครื่องเสียงเงียบ เหยียบไม่ไป ไฟหน้าดับ”
เฮงตกใจ “หะ”
ตี๋ใหญ่จัดต่ออีกชุด “ดอกยางกลับ คลัทช์จม ลมเข้าถัง”
เฮงนับให้อีกห้าพัน “ห้าพันสุดท้ายละนะ มีอะไรพังอีกมั้ย”
“เหยียบเบรควืด คอมพ์แอร์น็อก แตรไม่ดัง พื้นมีน้ำขัง เบาะก็เหม็น ปะเก็นเยินครับเตี่ย”
เฮงรีบคว้าเงินที่นับให้ทั้งหมดคืน “เก็บเงินซื้อคันใหม่เหอะ”
ตี๋ใหญ่รีบแย่งคืนมา “อั๊วล้อเล่น แต่สองหมื่นเนี่ย อั้วยืมจริงๆ พอดีคอมแอร์พังน่ะเตี่ย ไว้โบนัสออก อั๊วจะคืนให้นะ”
“โห กว่าโบนัสจะออกอีกตั้งนาน”
“เตี่ย แล้วค่าเทอมอั๊วล่ะ” ตี๋เล็กถามบ้าง
“ค่าเทอมลื้อเหรอ ก็อยู่ที่เฮียลื้อนั่นไง”
“อ้าว แล้วอั๊วเอาที่ไหนไปลงทะเบียนล่ะเนี่ย”
เฮงทำหน้าตาย “จะไปรู้เหรอ เคลียร์กันเองแล้วกัน เตี่ยมีให้เท่านี้แหละ”
“เอาที่มิลค์ไปก่อนมั้ยล่ะคะ”
ตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กมองแบบงงๆ จนมิลค์สงสัย
“มองทำไมเหรอคะ”
ตี๋เล็กรีบปฏิเสธ “ป เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
“มิลค์พอจะมีเงินเก็บอยู่พอสมควร ถ้าใครจำเป็นต้องใช้อะไร ก็เอาที่มิลค์ไปก่อนได้ค่ะ”
มิลค์ยิ้มอย่างจริงใจ ตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กยิ้มปนอึ้งๆ ไม่คิดว่ามิลค์จะช่วย
หญิงใหญ่ทำหน้าครุ่นคิด หลังจากรู้เรื่องล่าสุดของมิลค์จากตี๋ใหญ่
“แล้วเตี่ยคุณได้เงินจากเค้ามารึเปล่า”
“ตอนแรกเค้าก็จะกดโอนทางมือถือให้เลยนะ แต่ว่า...”
“เตี่ยคุณห้ามไว้ซะก่อน” หญิงใหญ่เดา
“สัญญาณโทรศัพท์ไม่มี”
“โห่..คิดว่าจะแมนกัน”
ตี๋ใหญ่ทำหน้าทะเล้น “ผมล้อเล่น เตี่ยผมห้ามไว้ก่อนนั่นแหละ”
“ถ้าอย่างนั้น เราอาจจะมองผู้หญิงคนนี้ผิดไปก็ได้นะคะ”
“นั่นสิ คนเรานี่ตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้จริงๆ”
หญิงใหญ่พยักหน้าหงึก “ใช่ อย่างคุณ หน้าตาท่าทางดูดี ลึกๆ แล้วอาจจะตัวแสบเลยก็ได้”
“ผมเนี่ยดีเลิศประเสริฐศรี เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ”
หญิงใหญ่สวนทันที “ลูบแต่โคโยตี้น่ะสิ”
“ก็มีบ้างเวลาเปลี่ยว จะบ้าเหรอ ผมไม่เคย”
“ไม่เคยทีเดียวน่ะสิ”
ตี๋ใหญ่ฉุกคิดขึ้นมาได้ “เดี๋ยวนะ เมื่อกี๊คุณว่าผมหน้าตาท่าทางดูดี คิดอะไรกับผมป๊ะเนี่ย”
หญิงใหญ่รีบส่ายหน้า “ไม่เลยซักนิด”
“แสดงว่าคิดเยอะเลย”
หญิงใหญ่รีบคัดบท “นี่ หยุดเพ้อเรื่องของตัวเอง แล้วกลับมาโลกความเป็นจริงเหอะ ฉันว่าคุณเตรียมพวงมาลัยดอกมะลิ ไว้ไหว้แม่สุดแซ่บของคุณดีกว่า”
ตี๋ใหญ่ทำหน้าเซ็ง “นี่ผมจะได้แม่คราวน้องจริงๆ เหรอเนี่ย”
“ดูท่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”
ตี๋ใหญ่เริ่มคิดหนัก
ทางด้านตี๋เล็กก็กำลังนั่งลอกเล็กเชอร์ของเพื่อนอยู่ ครู่หนึ่งหญิงเล็กก็ย่องเข้ามาดู
“หวาย ลอกแล็กเชอร์คนอื่นเหรอคะ คุณนักศึกษาดีแตก เอ้ย..ดีเด่น”
“พูดอย่างกับเธอไม่ต้องลอกงั้นแหละ” ตี๋เล็กย้อนกลับ
“ฉันไม่ลอก ฉันซีร็อกซ์เลย ง่ายกว่านายเยอะ”
“ซีร็อกซ์แล้วความรู้มันจะผ่านสมองเท่ากับจดแบบนี้มั้ย”
หญิงเล็กเบะปากหมั่นไส้ ก่อนจะเปลี่ยนไปแซวเรื่องอื่น
“แล้วกับคุณแม่คนใหม่เป็นไงบ้างอ่ะ”
“เป็นไงคืออะไร”
หญิงเล็กทำหน้าเจ้าเล่ห์ “แหม แม่แซ่บซะขนาดนั้น ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย ฉันว่านาย ไม่เก้ง ก็กวางล่ะนะ”
ตี๋เล็กแกล้งทำท่าแต๋ว “บ้า อย่าเอะอะไป ตอนนี้เตี่ยให้กินยาหม้ออยู่ อีกนิดเดียวจะกลับมาแมนเต็มร้อยแล้ว”
“อีบ้า ถ้าเก้งกวางกินยาหม้อแล้วหาย ป่านนี้สาวๆ ดีใจกันทั้งประเทศ”
“ทำไม เคยจีบผู้ชาย แต่สุดท้ายกลายเป็นเกย์งั้นเหรอ” ตี๋เล็กย้อนถาม
“ทำไงได้ ก็เกย์สมัยนี้ หล่อกว่านายหลายขุม”
“เจ็บจนพูดไม่ออก”
หญิงเล็กหน้าเหวอ “อ้าว แล้วฉันจะรู้เรื่องแม่นายมั้ยเนี่ย”
“ถ้าเป็นแรกๆ ก็ยอมรับนะว่ามีอึ้ง มีหวั่นไหวบ้าง อาจเป็นเพราะเราคิดว่าเค้าเป็นผู้หญิงไม่ดีก็ได้แต่มาวันนี้ เรารู้สึกว่าเค้าก็เหมือนจะโอเค. นะ”
หญิงเล็กซักต่อ “โอเค. ยังไง ไหนเล่ามาซิ”
“จะอยากรู้ไปทำไมเนี่ย”
“ก็เราเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เผื่อจะช่วยวิเคราะห์ให้นายได้ไง ว่าเค้าน่ะโอเค. อย่างที่นายคิดจริงหรือเปล่า”
ตี๋เล็กครุ่นคิดว่าจะเล่าดีมั้ย ขณะที่หญิงเล็กก็ยิ้มให้อย่างจริงใจ
ขณะที่มิลค์ช่วยจางเก็บโต๊ะ และยกจานกองโตเตรียมเอาเข้าไปล้าง เสี่ยชาญเดินเข้ามาพอดี
“ฝากถือแพ็พค่ะเสี่ย”
เสี่ยชาญรับจานจากมิลค์มาถือ “มีอะไรเหรอ”
มิลค์ยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะเสี่ย มาค่ะ ขอจานคืนด้วย”
เสี่ยชาญทำหน้างง “ฝากอั๊วถือเพื่อที่จะไหว้อั๊วเนี่ยนะ”
“ค่ะ”
พอเสี่ยชาญส่งจานคืนให้ มิลค์ก็เดินเข้าบ้านไป ก่อนที่จางจะยกจานเดินมาหาเสี่ยชาญ พร้อมกับยื่นจานให้ถือ
“ฝากถือแพ็พครับเสี่ย”
เสี่ยชาญรับจานจากจางมาถือ “ได้เลย”
จางบิดขี้เกียจ เอี้ยวตัวแก้เมื่อยไปเรื่อย จนเสี่ยชาญเห็นว่านานเลยพูดทัก
“จะไหว้อั้วได้รึยัง อั๊วเริ่มเมื่อยแล้วนะ”
“ไหว้ทำไมเสี่ย คนเจอกันอยู่ทุกวัน”
เสี่ยชาญหน้าเหรอ “อ้าว อั๊วก็คิดว่าลื้อจะฝากอั๊วถือเพื่อยกมือไหว้เหมือนที่อามิลค์ทำ”
“อ๋อ ไม่ใช่ครับเสี่ย พอดีผมเมื่อย เลยฝากถือแพ็พ”
“งั้นเอาของลื้อคืนไปเลย ไอ้บ้าเอ๊ย”
จางรีบรับจานจากเสี่ยชาญกลับมา พร้อมกับที่เฮงเดินออกมาจากบ้าน
“มีอะไรกัน”
จางรีบบอก “ไม่มีอะไรครับเฮีย เสี่ย ผมเข้าไปล้างจานก่อนนะ โทษทีวันนี้ยุ่งๆ เลยไม่มีเวลาคุย
ด้วยเลย”
ว่าแล้วก็รีบเดินเข้าไปในบ้านทันที เสี่ยชาญส่ายหน้าเอือมๆ
“แหม มึงนี่เปลี่ยนสีไวกว่ากิ้งก่าอีกนะ”
“กินอะไรมั้ยเสี่ย” เฮงหันมาถาม
“นั่งพักสักแพ็พก่อน เดี๋ยวค่อยกิน”
เสี่ยชาญกับเฮงนั่งคุยกัน ก่อนที่ฝ่ายแรกจะพูดขึ้นมา
“อามิลค์อีดูขยันขันแข็งดีนะ”
“ใช่ วันนี้ตี๋เล็กไปมหาลัย อีก็ช่วยอั๊วได้หลายอย่างเลย”
“ก็แสดงว่าอีน่าจะเป็นคนดี เป็นแม่ให้กับลูกๆ ลื้อได้”
เฮงเริ่มคิด “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”
“นี่แหละนะ เค้าถึงว่าอย่าตัดสินใครที่รูปลักษณ์ภายนอก ลื้อนี่โชคดีจริงๆ เป็นขอนไม้ผุ้อับชื้นให้เขียดตะปาดเกาะอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็มีกล้วยไม้มาเกาะให้”
“นี่ชมเหรอ”
“จากหัวใจเลย”
เฮงทำหน้าเซ็ง เพราะไม่รู้สึกว่าโดนชมเท่าไหร่
ชายเล็กกับหมวยเล็กเดินคุยกันมาตามทาง
“แล้วนี่จะคุยกับเตี่ยเมื่อไหร่เนี่ย”
หมวยเล็กรีบบอก “ก็อีกสักพักน่ะ ขอเอาคืนเตี่ยนิดนึง”
“เดี๋ยวเตี่ยก็งอนหนักไปใหญ่หรอก”
“โอ๊ย ตอนนี้เตี่ยเค้ามีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าเราแล้ว ไม่ต้องห่วงเค้าหรอก”
ทั้งคู่เดินมาถึงโต๊ะม้าหิน
“เรายังไม่อยากเข้าบ้านน่ะ นั่งเล่นตรงนี้แป๊บนึงนะ”
ชายเล็กพยักหน้ารับ “เอาสิ”
แล้วทั้งคู่ก็นั่งคุยกันที่ม้าหิน
“ยังโกรธที่เราทำตัวห่างเหินอยู่รึเปล่าเนี่ย”
หมวยเล็กส่ายหน้า “ไม่แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเรากลับมาคุยกันเหมือนเดิมนะ”
“แล้วแม่นายล่ะ จะว่ายังไง” หมวยเล็กย้อนถาม
ชายเล็กหยุดคิดนิดหนึ่ง “ก็คุยแบบไม่ต้องเปิดเผยมากมั้ย แล้วก็อยู่ในกรอบ ไม่ทำอะไรที่
เสียหาย เราว่าคงไม่มีใครว่าอะไรเราได้หรอก”
“ก็จริงนะ งั้นตามนั้น”
หมวยเล็กกับชายเล็กมองหน้า แล้วยิ้มให้กัน
“ถ้าอย่างนั้นโปรโมชั่นเก่าเรายกเลิกกันไปเนอะ”
หมวยเล็กถามต่อ “แล้วมีโปรโมชั่นใหม่อะไรมานำเสนอบ้างล่ะ”
“ก็มีโปร Anniversary ครบรอบ 7วัน ครบรอบ1เดือน ครบรอบ1ปี หรือครบรอบอะไรก็ฉลองอ่ะ”
หมวยเล็กทำหน้าเมื่อย “ไม่ชอบอ่ะ”
“งั้นก็โปรคุยยันเช้า เม้าท์ยันแจ้งมะ”
หมวยเล็กส่ายหน้า “ไม่เอา เดี๋ยวตาดำเป็นหมีแพนด้า”
“งั้นก็โปรบอดี้การ์ดส่วนตัว ช้อปปิ้งช่วยถือกระเป๋า หมาเห่าช่วยเตะหมา”
หมวยเล็กรีบพยักหน้ารับ “เออๆ โปรนี้เด็ด เอาโปรนี้แหละ”
ทั้งคู่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
ภรณีทำหน้าจริงจัง หลังจากหญิงใหญ่เล่าเรื่องมิลค์ให้ฟัง
“ฉันว่าเรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ ว่ะ”
อัครเดชที่ร่วมวงเม้าท์อยู่อีกคน รีบถามต่อ
“ยาวยังไง ไหนเหลาอีกนิดซิ”
“ฉันว่าที่คุณแม่ เอ้ย คุณมิลค์ทำเป็นใจสปอร์ตให้ยืมเงิน อาจจะเป็นการอ่อยเหยื่อก็ได้”
อัครเดชรีบแย้ง “แหม บึ้มบั้มซะขนาดนั้น ไม่ต้องลงทุนให้เงินอ่อยเหยื่อ ผู้ชายก็ติดป๊ะ”
“ก็ถ้าผู้ชายโง่ แบบแก ก็น่าจะติดเหยื่อง่ายอยู่หรอก แต่นี่เป็นเตี่ยผู้ช่วยเว้ย ถ้าเตี่ยโง่ ลูกจะฉลาดแล้วก็เก่งแบบนี้เหรอ”
อัครเดชสวนกลับทันที “ปากดี ลืมไปแล้วเหรอ ว่าฉันเป็นหัวหน้าแกอยู่”
“ปวดขี้ก็ไปเข้าห้องน้ำ อย่ามาเบ่งแถวนี้” ภรณีตอกกลับแบบไม่เกรงใจ
“ไม่ได้เบ่งโว้ย พูดเรื่องจริง”
ภรณีกับอัครเดชหันมองหญิงใหญ่ที่หยิบขนมกินเพลินๆ พร้อมกับครุ่นคิด
“เฮ้ย กินเพลินเลยนะแก”
“ก็กินเพลินๆ เผื่อจะคิดอะไรออกไง”
“ไม่ต้องคิดเยอะหรอก ฉันเชื่อว่าอาจจะเป็นการซื้อใจกัน ประมาณว่ายอมเสียเงินหมื่นวันนี้ เพื่อเงินแสนในวันข้างหน้าอ่ะ”
อัครเดชหันไปทางภรณี “เลวมาก เลวไม่มีดีปนเลยสักนิด”
“นี่แกด่าเค้าหรือด่าฉัน” ภรณีย้อนถาม
“ด่าเค้าสิ”
“งั้นก็หันไปทางอื่นสิ”
หญิงใหญ่ครุ่นคิดหาวิธีช่วยตี๋ใหญ่
เฮงยืนคิดบัญชีอยู่ที่เคาน์เตอร์ ส่วนตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กช่วยกันเช็ดโต๊ะ
“หมวยเล็กล่ะเตี่ย” ตี๋ใหญ่หันมาถามเตี่ย
“ปิดห้องติสท์อยู่คนเดียวโน่น เรียกยังไงก็ไม่เปิด”
ตี๋เล็กพยายามพูดปลอบ “เอาน่ะเตี่ย ตอนเตี่ยงอนหมวย เตี่ยก็ปิดห้องติสท์แบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
“เออ ติสท์ไปเลย อยากติสท์ก็ติสท์ไป”
จังหวะนั้น มิลค์ที่เหงื่อแตกซก กำลังยกจานชามที่ยังไม่ล้างเข้ามาแล้วตรงเข้าไปในครัว ไม่ทักทายใคร
ตี๋ใหญ่มองตาม “ขยันเหมือนกันเนอะ”
ตี๋เล็กพูดต่อ “ วันนี้ทำงานหนักทั้งวัน นี่เตี่ยแอบผสมยาม้าให้เค้ากินรึเปล่าเนี่ย”
“ 2 ขา จะบ้าเหรอ ไม่ได้ใส่”
แล้วมิลค์ก็เดินออกมาจากครัว “มีจานชามอะไรที่ยังไม่ได้ล้างมั้ยเฮีย เดี๋ยวมิลค์จะได้ล้างทีเดียว”
“ไม่มีแล้วล่ะ ลื้อพักบ้างก็ได้นะ เดี๋ยวอั๊วจัดการต่อเอง”
“ไม่เป็นไรหรอกเฮีย งานหนักกว่านี้มิลค์ก็ผ่านมาแล้ว มิลค์ไปล้างจานต่อนะ”
ตี๋ใหญ่รีบเรียกไว้ “เดี๋ยวครับคุณมิลค์”
“มีอะไรคะคุณตี๋ใหญ่”
“บอกผมได้มั้ยครับ ว่าคุณชอบเตี่ยผมเพราะอะไร”
มิลค์มองงงๆ ตี๋เล็กรีบอธิบาย
“คือผมกับเฮียมองว่าคุณก็ยังเด็กอยู่น่ะครับ แถมหน้าตาก็โอเค. เลยอยากรู้ว่าชอบเตี่ยผมเพราะอะไร”
มิลค์หยิบหยิบรูปพ่อในกระเป๋าสตางค์ส่งให้ ตี๋ใหญ่เห็นรูปแล้วตกใจ
“เตี่ย”
“ไม่ใช่ค่ะ นี่รูปพ่อมิลค์เอง”
ตี๋เล็กทำหน้างง “เหมือนเตี่ยมากเลยอ่ะ”
เฮงรีบบอก “ เออ ไม่มีไฝนี่เตี่ยเลยนะเนี่ย”
มิลค์หันมองหน้าเฮง
“เฮียอาจจะแก่ หน้ายู่เหมือนหมาบลูด็อก ปากห้อยเป็นเปลญวน ผมก็ยุ่งเป็นฝอยขัดหม้อ กลิ่นตัวก็เหม็นเปรี้ยวเป็นสวนมะนาว แต่เฮียก็เหมือนพ่อมิลค์ เวลาที่มิลค์อยู่กับเฮีย มิลค์รู้สึกอบอุ่นค่ะ”
เฮงปาดน้ำตาป้อย ตี๋ใหญ่หันมาถาม “ซึ้งเหรอเตี่ย”
“ซึ้งบ้าอะไรล่ะ ทั้งหน้ายู่เป็นหมาบลูด็อก ปากห้อยเป็นเปลญวน เจ็บสุดก็กลิ่นตัวเหม็นเปรี้ยว
นี่แหละ”
“แต่ยังไงมิลค์ก็รักเฮียนะคะ มิลค์ตั้งสเป็กผู้ชายไว้แบบนี้ตั้งนานแล้ว พอมิลค์เห็นเฮีย มิลค์แทบไม่เชื่อเลยว่าจะมีใครเหมือนพ่อขนาดนี้”
เฮงมองอย่างเข้าใจ “จ้ะ เฮียก็สงสัยอยู่นะ ว่ามิลค์ชอบเฮียเพราะอะไร แต่ตอนนี้เฮียเข้าใจแล้วล่ะ”
“งั้นมิลค์ไปล้างจานต่อนะคะ เดี๋ยวจะดึก”
พอมิลค์เดินเข้าไปในครัว เฮงก็หันมาถาม 2 ตี๋
“หายข้องใจกันแล้วใช่มั้ย”
ตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กมองหน้ากัน รู้สึกเชื่อใจมิลค์มากขึ้นบ้าง
ชายเล็กฟังเพลงผ่านมือถืออย่างอารมณ์ดี หลังจากคืนดีกับหมวยเล็กแล้ว แก้วกัลยาเดินเข้ามา เห็นลูกชายอารมณ์ดีก็รู้สึกผิดสังเกต
“อารมณ์ดีจริงนะลูกชาย มีอะไรพิเศษรึเปล่าเนี่ย”
ชายเล็กตกใจ “เฮ้ย ใครเป็นเอดส์เหรอครับแม่”
แก้วกัลยารีบดึงหูฟังชายเล็กออก “แม่ถามว่ามีอะไรพิเศษรึเปล่า ไม่พูดว่าใครเป็นเอดส์”
“อ่อ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็ฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ”
หญิงใหญ่กับหญิงเล็กเดินเข้ามาสมทบ
“จริงรึ” หญิงเล็กถามล้อๆ
“จริงซิ”
หญิงใหญ่ถามต่อ “แน่นะ”
“แน่ซิ”
แก้วกัลยาเอาบ้าง “ไม่ยั่วนะ”
ชายเล็กลุกขึ้นทันที “งั้นพี่ไป”
แก้วกัลยา กับ 2 หญิงเรียกขึ้นมาพร้อมกัน “เดี๋ยว”
หญิงใหญ่ถามเหมือนรู้ทัน “แหม จะรีบไปไหนล่ะค้า”
“จะอยู่ให้โดนสอบปากคำทำไมล่ะครับ”
จังหวะนั้น ฮันนี่ก็เดินเข้ามาจากนอกบ้าน
“แหม เมียใหม่เถ้าแก่เฮงนี่นอกจากแซ่บแล้ว ท่าทางยังขยันขันแข็งอีกนะคะ”
แก้วกัลยาพูดเหน็บ “เก่งจัง เรื่องส่องชาวบ้านชาวช่องเนี่ย”
ฮันนี่ย้อนถามกลับ “แล้วอยากรู้เรื่องของเค้ามั้ยล่ะ”
“Yeah..เล่ามาโลด”
ชายเล็กหัวเราะขำ “แหม ว่าพี่ฮันนี่ชอบส่อง คิดว่าไม่อยากจะรู้”
“ไหนๆ ส่องมาแล้ว ก็อย่าให้เสียเปล่า เล่าสู่กันฟังซักนิดซิล่ะ”
“ก็อย่างที่เกริ่นล่ะค่ะ ฮันนี่เห็นเค้าขยันทำงานก็อดแปลกใจไม่ได้ ท่าทางน่าจะไปเป็นเด็กเสี่ยเด็กป๋ามากกว่า”
“ก็ไอ้งิ้วหลงโรงมันก็ป๋าอยู่นะ”
หญิงเล็กหันมองหน้าแม่งงๆ “เอ๊ะยังไง..ทำไมอยู่ๆ ไปชมเค้าว่าป๋าคะเนี่ย”
“แม่หมายถึงป๋าหมาก”
หญิงใหญ่ช่วยผวน “ ปากหมา”
ฮันนี่หอนรับ “บรู๋ววว์”
“เรียกคู่เหรอ”
“ค่ะ นี่ก็จะเข้าเดือนสิบสองละ..บ บ บ้าเหรอ ฮันนี่มิใช่หมาค่า เมื่อกี๊นี้หอนรับมุกบอส”
แก้วกัลยาวกเข้าเรื่อง ” แต่แม่ตะหงิดๆ ว่าไอ้งิ้วนั่นกำลังโดนหลอก ดีไม่ดี เดี๋ยวเราก็ต้องไปช่วยมันอีก”
“คุณแม่มีญาณเหรอครับ” ชาวยเล็กย้อนถาม
หญิงเล็กมองหน้าแม่ “ใต้คางก็เริ่มยานละนะ”
หญิงใหญ่ยกแขนแม่ขึ้นดู “ท้องแขนนี่ก็ยานเป็นเปลญวนละ”
แก้วกัลยามอง 2 หญิงตาขวาง หญิงใหญ่กับหญิงเล็กทำหน้าอ้อน
“รักหรอกนะ จึงหยอกเล่น”
หมวยเล็กนอนไม่หลับ เลยลงมานั่งเงียบๆ อยู่คนเดียว ครุ่นคิดทั้งเรื่องเมียใหม่ของเตี่ย แล้วก็เรื่องที่เตี่ยไปห้ามชายเล็กคุยกับตัวเอง
ครู่หนึ่งเฮงชะโงกหน้าเข้ามามอง ก่อนจะเดินเข้ามาหาอย่างหงิมๆ ติ๋มๆ
“ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเหรอ”
“นอนไม่หลับ มีเรื่องต้องให้คิดเยอะ..........ค่ะ”
เฮงพูดเหน็บ “แหม ไม่ค่ะซะพรุ่งนี้เลยล่ะคะ”
“ตอนแรกว่าจะค่ะซักอาทิตย์หน้า แต่เดี๋ยวจะดูเป็นเด็กไม่ดีเกินไป”
เฮงนิ่งไป อยากจะพูดเรื่องมิลค์แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่หมวยเล็กกลับพูดขึ้นมาก่อน
“แฟนเตี่ยเป็นไงบ้างล่ะ”
“ตอนนี้อีก็กลับไปเตรียมเก็บข้าวของที่ห้องอีน่ะ ลื้อพูดถึงเค้าก็ดีแล้ว เตี่ยว่าจะคุยเรื่องเค้ากับลื้ออยู่พอดี”
“เตี่ยจะจริงจังกับผู้หญิงคนนี้เหรอ”
“ก็ถ้าเค้าเป็นคนดีจริง เตี่ยก็อาจจะแต่งงานด้วยน่ะ ลื้อรับได้ใช่มั้ย”
หมวยเล็กรีบบอก “หมวยเคารพในการตัดสินใจของเตี่ย เตี่ยเป็นผู้ใหญ่แล้ว ย่อมรู้ว่าใครเป็นคนดี
หรือไม่ดี”
เฮงยิ้มอย่างสบายใจ “ ขอบใจนะที่เข้าใจเตี่ย”
“เรื่องเตี่ยจบแล้ว ทีนี้มาเรื่องหมวยบ้าง เตี่ยคิดว่าหมวยเป็นเด็กหรือว่าผู้ใหญ่”
เฮงอ้ำอึ้งไป “ก็ไม่เด็ก แต่ก็ไม่ผู้ใหญ่น่ะ”
“ก็แสดงว่าหมวย พอจะมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่บ้าง แล้วก็น่าจะดูออกว่าใครดีหรือไม่ดี คุยกับใครได้หรือไม่ได้ ใช่มั้ยเตี่ย”
เฮงรู้สึกผิด “เรื่องชายเล็กเตี่ยขอโทษนะ เตี่ยรู้ว่าเตี่ยทำเกินไป เอาเป็นว่าเตี่ยจะไม่ห้ามอีกแล้ว แต่ขออย่างเดียว ให้ลื้ออยู่ในสายตาเตี่ยตลอดเวลาได้มั้ย”
“อั๊วรักเตี่ย แล้วจะไม่มีวันทำให้เตี่ยต้องเสียใจแน่นอน”
“หมวยของเตี่ยฆ”
เฮงสวมกอด หมวยเล็กกอดตอบเตี่ยด้วยความรัก
ในเวลาเดียวกันตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กก็กำลังนั่งปรึกษากันหน้าดำคร่ำเครียด
“หรือว่าแผนชักหน้าไม่ถึงหลังของเราจะไม่เวิร์คครับเฮีย”
ตี๋ใหญ่คิดหนัก “มี 2 อย่าง แผนเราไม่ได้ผลกับน้องมิลค์นั่นเป็นคนดีจริงๆ”
“อั๊วคุยกับลูกสาวบ้านนั้นมา นางว่าที่น้องมิลค์จะให้เตี่ยยืมเงินน่ะ อาจจะเป็นการซื้อใจหรือหลอกให้เราตายใจก็ได้นะเฮีย”
“ลูกสาวบ้านนั้นก็ปรึกษาเรื่องนี้กับพวกเพื่อนๆ ที่ออฟฟิศอยู่เหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็ว่าไม่ชอบมาพากลสักเท่าไหร่”
ตี๋เล็กถามต่อ “ถ้าอย่างนั้นเราวางแผนพิสูจน์อีกสักรอบมั้ยเฮีย”
ตี๋ใหญ่พยักหน้าเห็นด้วย “แต่ครั้งนี้คงต้องเล่นแรงกว่าเดิมนะ เอาให้รู้ชัวร์ๆ กันไปเลยว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี”
“จัดไปเฮีย”
ตี๋ใหญ่ฉุกคิดขึ้นมาได้ “เดี๋ยวนะ เมื่อกี๊ได้ยินว่าไปคุยกับลูกสาวบ้านนั้นเหรอ”
ตี๋เล็กสะดุ้ง อึกอักขึ้นมาทันที “เอ่อ ก็เจอกันที่มหาลัยน่ะเฮีย ก็คุยกันทั่วไป”
ตี๋ใหญ่ทำหน้าง้อ “หรา”
“ทำเป็นมาแซว เฮียก็คุยกับลูกสาวบ้านนั้นอยู่เหมือนกันแหละ โด่ว”
“คุยธุระเสร็จแล้ว แยกย้ายกลับห้องนอน”
ตี๋เล็กรีบท้วง “โห่ อั๊วยังไม่ง่วงเลยอะเฮีย มาคุยเรื่องหญิงกันดีกว่า”
“ไม่คุย เฮียจะนอน”
ตี๋ใหญ่รีบขับใส ไล่ตี๋เล็กออกจากห้องไป พอคล้อยหลัง ก็แอบมองไปที่ห้องนอนหญิงใหญ่ แต่ม่านปิดอยู่
จู่ๆ ตี๋เล็กแง้มประตูมามอง
“คิดถึงก็ปีนไปหาเค้าเลยมั้ยเฮีย”
ตี๋ใหญ่เดินไปจะจิ้มตาตี๋เล็ก ตี๋เล็กรีบปิดประตูหนีไป
อ่านต่อตอนที่ 22