xs
xsm
sm
md
lg

กลกิโมโน ตอนที่ 8

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กลกิโมโน ตอนที่ 8

รินดาราเดินนำอาคิระมาหยุดยืนที่หน้าห้อง
 
เธอเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่ได้รู้ความรู้สึกที่อาคิระมีต่อเธอจึงมีความรู้สึกประหม่า ทำตัวไม่ถูก
"เอ่อ..ถึงห้องชั้นแล้ว ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง"
รินดาราไม่ค่อยกล้าสบตาหันหลังจะเข้าไปในห้อง แต่อาคิระคว้าข้อมือรินดาราไว้
"เดี๋ยว"
รินดาราชะงักหันมา อาคิระจับข้อมือเธออยู่ อาคิระเองก็ชะงักแล้วรีบปล่อยมือแล้วแก้เก้อ
"ฝันดีนะครับ"
อาคิระไม่รู้จะพูดอะไรดีไปกว่านั้น จึงพูดสั้นๆห้วนๆแล้วรีบเดินออกไป รินดารามองตามแล้วอมยิ้มเล็กๆ ดูยอมรับอาคิระมากขึ้นก่อนจะเข้าไปในห้อง ส่วนอาคิระหยุดอยู่กับที่แล้วหันกลับมามองรินดาราที่เข้าไปในห้องแล้ว
รอยยิ้มของอาคิระดูมีความสุขยิ้มกับตัวเองมากขึ้น..มากขึ้นกว่าทุกครั้งตั้งแต่รินดาราเข้ามาในคฤหาสน์นี้
ระหว่างนั้นเองเสียงโกโตะของท่านชายก็ดังแว่วเข้ามา..อาคิระหันไปมองตามเสียงที่หอคอย

โฮชิดีดสายโกโตะบรรเลงเพลงรักเศร้า ...มีความรู้สึกหึงหวงน้อยใจแทรกอยู่ในอารมณ์เพลง
โฮชิรู้เท่าทันความคิดตัวเองว่ารู้สึกอะไรอยู่ จึงพยายามนิ่ง ไม่ฟูมฟาย หวังจะช่วยให้เสียงเพลงจากโกโตะขับกล่อมจิตใจเขา แต่ทว่าความรู้สึกในใจก็ปิดซ่อนเอาไว้ไม่ได้ มันแสดงออกมาในรูปแบบของน้ำตา
น้ำตาของ โฮชิค่อยๆ ไหลคลอ หยดลงบนโกโตะ

อายูมิใช้ความพยายามเอื้อมมือไปจับรถเข็นแล้วขึ้นนั่งบนรถด้วยความร้อนใจเพราะเป็นห่วงฮิโตชิ
อายูมิที่อยู่บนรถเข็นแล้วกำลังจะเลื่อนล้อรถออกไปนอกห้อง แต่หันไปเห็นฮิโตชิยืนอยู่ตรงหน้า
"ฮิโตชิ ! เธอเป็นยังไงบ้าง ชั้นเป็นห่วงฮิโตชิมากนะ พวกโคสึกะทำร้ายฮิโตชิหรือเปล่า มานี่มา...เข้ามาหลบในห้องก่อน เผื่อพวกโคสึกะแอบตามมา"
อายูมิดึงมือฮิโตชิให้เข้าไปในห้องแล้วเลื่อนปิดประตู
ฮิโตชิยิ้มมีความสุข
"ไม่มีใครทำร้ายฮิโตชิได้อีกแล้วล่ะอายูมิ...เขาช่วยฮิโตชิไว้"
"เขา ใครเหรอ"
"ผู้ชายบนหอคอย"
"ท่านชายโฮชิน่ะเหรอ"
ฮิโตชิพยักหน้ารับ
"เขาพาฮิโตชิไปอยู่ที่ปลอดภัย แต่ฮิโตชิแอบมาหาอายูมิ มาบอกว่าไม่เป็น อะไรแล้ว อายูมิไม่ต้องเป็นห่วง"
"เหรอ..ดีจัง อายูมิอยากให้ฮิโตชิอยู่ที่นี่ เดี๋ยวอายูมิไปขออนุญาตคุณย่ากับคุณอาให้"
"ฮิโตชิบอกแล้วไงว่าไม่อยากให้ใครรู้ว่าฮิโตชิอยู่ที่นี่ ฮิโตชิกลัวเจ้านายตามฮิโตชิกลับไป"
"ไม่บอกก็ได้ แต่เราจะรู้กันสองคนนะ อ่อ...มีท่านชายอีกคน แต่ฮิโตชิต้องสัญญานะว่า จะมาเล่นกับอายูมิทุกวัน"
ฮิโตชิยิ้มและมองอายูมิอย่างสุขใจ แต่แล้วคำพูดของฮิเดโนริก็ทำให้ฮิโตชิใจฝ่อ
"แกเป็นผีนะฮิโตชิ..แกไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีใครเขาอยากคบแกเป็นเพื่อนหรอก ยิ่งนังเด็กอายูมินั่น..ถ้ามันรู้ว่าแกเป็นตัวอะไร แกคิดเหรอว่ามันจะไม่กลัวแก"
ฮิโตชิหุบยิ้มแล้วถามอายูมิ
"อายูมิ...ถ้าฮิโตชิตายไปแล้ว ฮิโตชิเป็นผี อายูมิจะกลัวฮิโตชิไหม"
"เป็นผีแบบนี้น่ะเหรอ" อายูมิแลบลิ้นปลิ้นตาอย่างทะเล้น... แบร่ ! แล้วหัวเราะคิกคัก
ฮิโตชิไม่ขำด้วย
"อายูมิตอบฮิโตชิมาก่อน อายูมิจะกลัวฮิโตชิมั้ย "
"ไม่กลัวหรอก ฮิโตชินิสัยดี ต่อให้ฮิโตชิเป็นอะไร อายูมิก็จะเป็นเพื่อนกับฮิโตชิ"
เด็กสองคนยิ้มให้กันด้วยมิตรภาพอันบริสุทธิ์งดงาม

ฮิเดโนริถอดเสื้อนั่งขัดสมาธิ หลับตาอยู่บนพื้น บนแขนมีบาดแผลสดๆ จากคมดาบที่ไปต่อสู้กับโฮชิมา
ฮิเดะหลับตา หัวคิ้วขมวด ปากขมุบขมิบท่องคาถา เขากำลังใช้พลังของปีศาจจิ้งจอกสมานแผลของตัวเอง จนกระทั่งดวงตาของสุนัขจิ้งจอกบนแผ่นหลังของเขาที่สะท้อนเป็นแสงสีส้มแล้วหายไป เลือดแห้งกรังบนบาด แผลที่แขนของเขาค่อยๆจางลง บาดแผลเล็กลง แต่ยังไม่หายไปทั้งหมด
ฮิเดโนริลืมตาขึ้นแล้วเหลียวหน้ามองบาดแผลบนท่อนแขนอย่างหงุดหงิด
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่อัตซุโอะจะเปิดประตูเข้ามาบอกเขา
"ผมพาคุณไอไปส่งที่หน้ามิยาคาวะเรียบร้อยแล้วครับ แต่เธอยังดูตกใจ ผมเกรงว่าเธอจะเผลอบอกความลับของเราให้คนอื่นรู้"
"ไม่ต้องห่วง เธอไม่กล้าทำอะไรให้ชั้นโกรธหรอก"
อัตซุโอะพยักหน้ารับแล้วมองไปที่บาดแผลบนท่อนแขนเขาอย่างเป็นห่วงมาก
"แขนของคุณฮิเดะ ไปโดนอะไรมาครับ"
"ฝีมือไอ้โฮชิ ผู้ชายที่อยู่บนหอคอยตระกูลมิคายาวะ ชั้นเข้าใจแล้วว่าทำไมที่ผ่านมาพวกเราถึงเล่นงานพวกมิยาคาวะไม่ได้ง่ายๆ เพราะพวกมันเลี้ยงคนประเภทเดียวกับชั้น....พวกคนไม่ใช่คน...ฝีมือของมันไม่ธรรมดา ขนาดแผลที่เกิดจากคมดาบของมัน พลังของชั้นยังรักษาไม่ได้ง่ายๆ"
"คุณฮิเดะบอกคุณท่านเรื่องนี้หรือยังครับ"
"ยัง..คุณปู่กำลังไม่สบาย แค่เรื่องนังปีศาจหิมะก็รบกวนจิตใจท่านมากพอแล้ว เรื่องไอ้ โฮชิปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชั้นจัดการมัน แกก็อย่าปากโป้งไปบอกคุณปู่ล่ะ"
"ไม่ต้องห่วงครับ อะไรที่ทำให้คุณฮิเดะไม่พอใจ ผมไม่มีวันทำ แต่ถ้ามีอะไรให้ผมช่วย คุณฮิเดะต้องบอกผมเลยนะครับ"
"แกยังไม่ต้องทำอะไร ตอนนี้ชั้นต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้โฮชิเป็นใครมาจากไหน แล้วเราค่อยคิดหาทางเล่นงานมัน"
ฮิเดะดวงตามุ่งมั่น


เช้าวันใหม่ ณ คฤหาสน์มิยาคาวะ เคโกะเพิ่งจะยกน้ำซุปเข้ามาเสิร์ฟเข้ามาเสิร์ฟให้ทุกคน นานะคอยช่วยอยู่ด้วย เปิดฝา ควันลอยกรุ่น
ทุกคนกำลังเตรียมทานอาหารเช้ากัน มิกินั่งที่หัวโต๊ะ รินดารากับอาคิระนั่งคู่กันและแอบมองกันเป็นระยะๆ ด้วยท่าทางขัดเขินเพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่อาคิระแสดงความรู้สึกพิเศษกับรินดารา ไอนั่งอยู่อีกฝั่ง
มิกิหันมาสังเกตเห็นสีหน้าของไอ
"ไอ..ทำไมหน้าซีดๆ ไม่สบายหรือเปล่า"

"ปะ..เปล่าค่ะ เมื่อคืนไอทำงานหนักมากไปก็เลยนอนไม่หลับค่ะ " ไอตัดสินใจถาม "คุณย่าเชื่อเรื่องผีมั้ยคะ"

ทุกคนหันมองไอเป็นตาเดียวด้วยความสนใจ
 
โดยเฉพาะนานะที่มีความสนใจมากกว่าทุกคน...นานะหันมามองไออย่างกะทันหันทำให้ผ้าในมือหล่นลงพื้น
"ถามทำไม เจอผีที่ไหนมาล่ะ "
"ที่... ในหนังค่ะ เมื่อคืนไอเปิดหนังผีดู เป็นผีเด็กผู้ชายใส่ชุดยูกาตะ มันน่ากลัวมาก..ไอก็เลยถามไปอย่างงั้นเอง"
"ไม่มีอะไร งั้นก็ทานอาหารกันได้แล้วจ้ะ"
ทุกคนกลับไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อเหมือนเดิม
อายูมินั่งอยู่ท้ายโต๊ะแล้วแอบหยิบก้อนขนมปังของตัวเองมาถือไว้..มองบรรดาผู้ใหญ่ให้แน่ใจว่าไม่มีใครมองมา แล้วแอบยื่นก้อนขนมปังลงไปใต้โต๊ะ มือขาวๆเล็กๆ ของฮิโตชิที่โผล่ขึ้นมารับจากใต้โต๊ะ
ส่วนนานะก้มเก็บผ้าที่ทำหล่น ทันใดนั้นสายตาของนานะก็เหลือบไปเห็น "เด็กชายฮิโตชิ" อยู่ใต้โต๊ะ !!
ฮิโตชิหันมามองนานะอย่างตกใจ ทำให้ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน
"ว้าย ! "
นานะถอยไปชนเคโกะที่ยกถาดน้ำซุปผ่านหลังรินดาราพอดี น้ำซุปร้อนๆกระฉอกไปใส่แถวต้นแขนรินดารา
"โอ๊ย"
"รินดารา !" อาคิระคว้าผ้าเช็ดปากเช็ดน้ำต้นแขนให้รินดารา
"เกิดอะไรขึ้นนานะ" มิกิถาม
"นานะเห็นเด็กผู้ชายอยู่ใต้โต๊ะค่ะ"
อายูมิหน้าตาตื่นตกใจ พร้อมกับที่อาคิระและไอก้มมองใต้โต๊ะ แต่ไม่เห็นใคร
"ไม่เห็นจะมีใคร"
อายูมิแปลกใจ
"นานะฟังที่ไอพูดเรื่องหนังผีก็เลยคิดภาพไปเอง คราวหลังระวังให้มากกว่านี้หน่อย ถ้าคราวหน้าน้ำซุปลวกแขนคุณรินดารามากกว่า ใครจะรับผิดชอบ"
นานะก้มหน้าจ๋อย รินดาราแตะแขนอาคิระ
"ใจเย็นค่ะคุณอาคิระ อย่าดุนานะเลย ชั้นไม่เป็นอะไร"
"ผมไม่ได้ดุ ผมแค่อยากพูดเตือนสติ" เขาจับมือรินดาราและมองด้วยสายตาอ่อนโยน "แล้วคุณล่ะ...เป็นยังไงบ้าง"
"ชั้นไม่เป็นอะไรเลยสักนิดค่ะ"
มิกิมองอาคิระและรินดารา แล้วฉุกคิดสงสัยอะไรขึ้นมา

อายูมิคุยกับฮิโตชิอยู่หลังพุ่มไม้ บริเวณสวนญี่ปุ่น
"ฮิโตชิ...ตอนที่คุณอาก้มลงไปมองฮิโตชิที่ใต้โต๊ะ ทำไมคุณอาถึงไม่เห็นฮิโตชิล่ะ"
"เอ่อ..ฮิโตชิแอบคลานออกไปตอนที่ทุกคนกำลังตกใจ ฮิโตชิไม่อยากให้ใครเห็นฮิโตชิ"
อายูมิตื่นเต้น
"ฮิโตชิแอบเก่งจัง ถ้าอายูมิกลับมาเดินได้เหมือนเดิม ฮิโตชิมาเล่นซ่อนแอบกับอายูมินะ"
"แล้วเมื่อไหร่อายูมิจะกลับมาเดินได้เหมือนเดิมล่ะ"
อายูมิตอบมั่นใจ
"ไม่นานนี้หรอก ที่จริงอายูมิก็เริ่มยืนได้แล้วนะ ต่อไปก็จะเริ่มหัดเดินต่อแล้ว แต่พี่รินดาราบอกว่าให้อายูมินั่งรถเข็นต่อไปก่อนจะปลอดภัยกว่า"
"ฮิโตชิจะรอเล่นซ่อนแอบกับอายูมินะ"
อายูมิยิ้มรับ
"อายูมิ...หนูอายูมิจ้ะ"
สองเด็กน้อยหันขวับไปทางเสียงของรินดาราอย่างตกใจ

รินดาราเดินหาอายูมิ
"อายูมิ...อายูมิ"
อายูมิเข็นรถออกมาจากหลังพุ่มไม้
"อายูมิทำอะไรอยู่คะ"
"เปล่าค่ะ อายูมิไม่ได้ทำอะไร" อายูมิเปลี่ยนเรื่อง เบนความสนใจ "พี่รินดาราไปเอาเข็มขัดมาแล้ว งั้นเรามาทำกายภาพกันเลยนะคะ อายูมิอยากอวด"
"อวดอะไรคะ"
"อวดให้พี่รินดาราดูว่าอายูมิเริ่มเดินได้แล้ว"
"งั้นก็...จัดไปค่ะ"
อายูมิกับรินดาราหัวเราะกัน
ที่พุ่มไม้ฮิโตชิโผล่หน้าแอบมองอายูมิกับรินดาราพร้อมกับรอยยิ้มสุขใจ

อาคิระมองออกไปที่สวนญี่ปุ่น เห็นรินดารากำลังประคองอายูมิให้หัดเดิน อายูมิเริ่มเดินได้บ้างแล้ว
แววตาของเขาเป็นประกาย สีหน้าระบายยิ้มไปตามประสาคนกำลังอยู่ในห้วงความรัก
มิกิเดินเข้ามาแล้วหยุดยืนมองตามสายตาของอาคิระ เมื่อเห็นว่าอาคิระมองรินดาราก็เริ่มแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เธอกำลังสงสัยไม่ผิดแน่ มิกิเข้าไปใกล้อาคิระแล้วพูด
"ตั้งแต่คุณรินดารามาอยู่กับเรา อายูมิดูสดใสขึ้น ย่าเองก็ชอบคุณรินดารานะ เธอสดใส น่ารัก มีน้ำใจสมเป็นคนไทย แล้วอาคิระล่ะ...คิดยังไงกับคุณรินดารา"
อาคิระพูดอย่างมั่นใจนัยน์ตาเป็นประกาย
"ถ้าผมจะรักใครใหม่อีกครั้ง ผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นคุณรินดาราเท่านั้นครับคุณย่า"
มิกิอึ้งเหวอไปเลย อาคิระสังเกตเห็นสีหน้าของมิกิ
"คุณย่าไม่เห็นด้วยเหรอครับ"
"เอ่อ..คือ...ย่าคิดว่ามันเร็วเกินไป อาคิระเพิ่งรู้จักคุณรินดาราได้ไม่นาน เธออาจจะมี" มิกินึกถึงโฮชิ "มีใครรอเธออยู่ก็ได้"
"แต่เธอเคยบอกว่ายังไม่มีคนรักครับ"
"ไม่มีคนรักแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเหมาะสมกับอาคิระ พอเธอทำงานให้เราเสร็จ เธอก็ต้องกลับไปมีชีวิตของเธอ แล้วระยะทางก็จะทำให้ความรักกลายเป็นทุกข์ ถ้ายังหักห้ามใจไม่ให้รักได้ก็หักห้ามซะก่อนเถอะนะ"
"ผมคงห้ามใจตัวเองไม่ทันแล้วครับคุณย่า ถ้ารักครั้งนี้จะไม่สมหวังอีก ผมก็พร้อมจะยอมเจ็บ " แล้วตัดบท "ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ"
อาคิระโค้งให้ย่าแล้วเดินออกไป มิกิถอนหายใจเฮือกใหญ่กลัดกลุ้มแล้วหันหลังจะเดินออกไป แต่ทว่า กลับเจอโฮชิยืนหน้าเศร้าอยู่
"ท่านชาย ท่านชายมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
"ไม่นานหรอก"
โฮชิพยายามจะยิ้มปกปิดความรู้สึกตัวเอง แต่น้ำตาของเขาดันไหลเองโดยที่เขาแทบจะไม่รู้ตัว มิกิตกใจ
"ท่านชายมีน้ำตา"

บนหอคอย มิกิคาดคั้นโฮชิ
"อย่ามาอ้างเลยค่ะว่าฝุ่นเข้าตา ดิชั้นอยู่กับท่านชายมาครึ่งค่อนชีวิต ยังไม่เคยเห็นท่านชายร้องไห้เลยสักครั้ง และเท่าที่จำได้เทพจะไม่ร้องไห้" มิกิจ้องหน้าโฮชิอย่างคาดคั้น "ยอมรับมาเดี๋ยวนี้นะคะ...ท่านชายเป็นอะไร"
"เป็นเทพเจ้านกกระเรียน"
"ไม่ตลกค่ะ ท่านชายยอมรับมาเถอะค่ะว่าได้ยินที่ดิชั้นกับอาคิระคุยกัน"
โฮชิเงียบแทนคำตอบ
"ท่านชายไม่ต้องห่วงนะคะ ดิชั้นจะหาทางห้ามอาคิระไม่ให้รักคุณรินดาราเอง"
"แล้วมิกิไม่สงสารอาคิระเหรอ"
มิกิชะงัก
"สงสารค่ะ...สงสารมาก เพราะดิชั้นมองออกว่าอาคิระจริงจังกับรักครั้งนี้มากแค่ไหน แต่ในเมื่อโชคชะตากำหนดมาให้คุณรินดาราเกิดมาเพื่อท่านชาย อาคิระก็ต้องยอมรับให้ได้"
"แต่โชคชะตาอาจจะกำหนดมาให้ร่างกายฮิคาริมีไว้เพื่อชั้น แต่หัวใจมีไว้เพื่ออาคิระก็ได้"
"แต่โชคชะตาก็กำหนดมาให้มิยาคาวะมีหน้าที่ดูแลท่านชาย เพราะฉะนั้นมิคายาวะทุกคนก็ไม่ควรจะทำให้ท่านชายเป็นทุกข์"
"แต่ถ้าทุกคนต้องทุกข์เพื่อแลกกับความสุขของชั้นคนเดียว ชั้นจะทุกข์ยิ่งกว่านะมิกิ"
มิกิเถียงไม่ออก
"ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นเถอะ แล้วเวลาจะให้คำตอบเองว่าเรา ควรทำอย่างไร"

มิกิมองโฮชิด้วยความสงสารจับใจ

บ้านมาโกโตะกลางคืนบรรยากาศวังเวง เสียงกรี๊ดร้องดังออกมาจากในบ้าน
 
ยูกินอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนเตียง มือจับที่ต้นคอตัวเองที่มีเชือกสีแดงพันรอบคอ..เชือกนั้นเกิดประกายไฟ ขึ้นรอบเส้น...สร้างความเจ็บปวดทรมานให้ยูกิมากขึ้นเป็นหลายเท่า ยูกิดิ้นพราดและหวีดร้องสุดเสียง
มาโกโตะเปิดประตูเข้ามา ปราดเข้าไปหา
"ยูกิ !"
ยูกินอนดิ้นทุรนทุราย แต่เขาไม่เห็นเชือกสีแดงรอบคอ
"พวกโคสึกะเล่นงานเธออีกแล้วเหรอ ให้ชั้นพาคนไปจัดการพวกโคสึกะเลยดีมั้ย"
"ไม่มีประโยชน์ อย่างพวกแกทำอะไรมันไม่ได้หรอก"
มาโกโตะตอแหลใส่
"แต่ชั้นอยากช่วยเธอ ชั้นไม่อยากให้เธอทนทรมานอยู่แบบนี้"
"ไม่มีใครช่วยชั้นได้ อย่างไอ้พวกโคสึกะมันต้องเจอกับชั้น"
ยูกิเหี้ยมเอาจริง

อัตซุโอะรินยาในกาลงในถ้วยกระเบื้องแล้วยื่นถ้วยให้ไดซุเกะที่นั่งครึ่งตัวอยู่บนฟูก สภาพอาการป่วยไม่ค่อยดี..ไอค่อกแค่กตลอดเวลา
"ยาครับคุณท่าน"
ไดซุเกะรับถ้วยไปกำลังจะก้มหน้าจิบน้ำยาต้มสีดำ แต่แล้วไดซุเกะก็ต้องชะงักมองลงไปในถ้วยยา..น้ำสีดำในถ้วยชาสั่นกระเพื่อม..ไดซุเกะขมวดคิ้วรับรู้ได้ถึงพลังอะไรบางอย่างที่คืบคลานเข้ามาใกล้
ส่วนอัตซุโอะยกถาดกาขึ้นจะเอาไปวางบนโต๊ะ เขายืนอยู่แถวประตู
น้ำในถ้วยกระเพื่อมแรงขึ้นจนแทบจะกระฉอกออกมานอกถ้วย ไดซุเกะเงยหน้าขึ้น..ร้องตะโกน
"ระวัง !"
สิ้นคำ..ประตูเปิดผ่าง ! อัตซุโอะถูกประตูกระแทกใส่จนร่างกระเด็นไปชิดติดกำแพงสีหน้าเจ็บปวด

ไดซุเกะมองตามอัตซุโอะด้วยความตกใจ แล้วหันกลับมามองที่ประตูจึงเห็นยูกิในชุดสีขาว ปล่อยผมยาวดำยืน สีหน้าโกรธขึงปนเจ็บปวดจากพลังของด้ายแดงบนลำคอ
ไดซุเกะจะหันไปคว้าดาบซามูไรที่วางอยู่ข้างฟูกขึ้นมา แต่ยูกิเร็วกว่าพุ่งเข้าไปบีบคอไดซุเกะ
"คุณท่าน"
อัตซุโอะจะลุกขึ้นไปช่วยไดซุเกะ แต่ยูกิหันขวับมามอง ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีฟ้าวาบ...ขาอัตซุโอะก้าวไม่ออก...ทั้งร่างเกร็งแข็งไปหมด ยูกิแสยะยิ้มสมใจ แล้วหันมาบีบคอไดซุเกะแน่น
ไดซุเกะพยายามดิ้นต่อสู้ แต่ก็ไม่มีแรงจากอาการป่วย...เขาส่งเสียงร้องอู้อี้ในลำคอ
"ไม่ต้องกลัว แกไม่ตายง่ายๆ หรอก เพราะแกจะต้องรู้ซะก่อนว่าบ่วงที่แกคิดจะใช้บังคับชั้น มันทำให้ชั้นรู้สึกยังไง"
ยูกิกระชับมือบีบคอไดซุเกะแน่นขึ้นอีก ไดซุเกะตาเหลือก หายใจไม่ออก
แต่คนอย่างไดซุเกะไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ มือของเขาไดซุเกะปัดป่ายไปมาควานหาดาบซามูไรที่อยู่บนโต๊ะ แต่มือดันปัดไปโดนดาบตกลงพื้น

ฮิเดโนรินอนหลับอยู่บนเตียง ได้ยินเสียงดาบหล่นกระทบพื้น จึงลืมตาขึ้นอย่างเร็ว !

ยูกิบีบคอไดซุเกะแน่นมาก ไดซุเกะตาเหลือกลมหายใจเฮือกสุดท้ายกำลังจะหมดไป ส่วนอัตซุโอะ สีหน้าเจ็บปวดเพราะร่างเกร็งไปทั่วทั้งตัว
ทันใดนั้นฮิเดโนริวิ่งเข้ามาเห็นภาพทั้งหมด
"คุณปู่ !"
ยูกิหันขวับไปมอง พร้อมๆกับที่แววตาฮิเดะเปลี่ยนเป็นสีส้มวาบ พลังจากฮิเดะทำให้ยูกิกระเด็นไปติดข้างฝา
ไดซุเกะรวบรวมแรงที่มีอยู่น้อยหลับตาแล้วทำปากขมุบขมิบ ทำให้ด้ายสีแดงบนลำคอของยูกิกลายเป็นเส้นใหญ่เท่าเส้นเชือก ยูกิกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด... แล้วสลบล้มลงกับพื้น
อัตซุโอะขยับร่างกายได้เป็นปกติ ฮิเดโนริปราดเข้าไปหาปู่
"คุณปู่ ! คุณปู่เป็นอะไรหรือเปล่า"
ไดซุเกะโบกมือปฎิเสธ หายใจอ่อนแรงและมองไปที่ยูกิ
"นังปีศาจหิมะมันร้ายกาจขึ้นมาก เห็นทีว่าชั้นจะกักขังวิญญาณมันไว้ในตุ๊กตาฮินะเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว"
"คุณปู่จะทำยังไงกับมันครับ"
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของปู่ ส่วนแกมีหน้าที่ไปจัดการนังผู้หญิงคนนั้นให้เรียบร้อยก็พอ"
ฮิเดโนริชะงัก...สีหน้าหนักใจ

เมืองสึกิ ตอนกลางวัน ในวันใหม่ แป้งร่ำรับห่อกล่องขนมมาจากมือรินดารา
"ฝากขอบคุณคุณย่ามิกิด้วยนะคะที่เป็นห่วงเรื่องงานศพคุณพ่อ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแล้วค่ะ แล้วก็ฝากขอบคุณที่อุตส่าห์ทำขนมฝากมาให้" แป้งร่ำว่า
เกียวบอก
"น้องดารามาก็ดีแล้ว... ตั้งแต่วันนั้นเรายังไม่ได้คุยกันเลย ตกลงว่าท่านชายโฮชิรู้จักคุณพ่อสามีของนังแป้งหรือเปล่า"
"นั่นสิคะ พี่สองคนอยากรู๊อยากรู้ ว่าจะโทร.ไปถามแต่ก็ไม่กล้า ว่ายังไง...ตกลงวันนั้นมีอะไรเด็ดๆเกิดขึ้นหรือเปล่า"
รินดารายังไม่ตอบ แต่คิดไปถึงเหตุการณ์วันที่โฮชิเจอกับคุณหมอเคนตะ
ช่วงที่เคนตะจำท่านชายได้ จับมือ
"คุณโฮชิ คุณจริงๆ ด้วย จำผมได้ไหม เราเคยเจอกันเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว"
รินดาราหนักใจ

ฮิเดะเดินมาหยุดหน้าร้าน...กระตุกยิ้มร้าย...แล้วเดินเข้าไปในร้าน แล้วได้ยินที่แป้งร่ำ เกียวกับรินดาราคุยกันพอดี
"ว่ายังไงคะ...ตกลงว่าท่านชายโฮชิกับคุณพ่อสามีพี่จำกันได้หรือเปล่า ถ้าเขาจำกันได้ แสดงว่าท่านชายโฮชิเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่อยู่ในรูปเมื่อห้าสิบปีก่อน"
ฮิเดโนริหยุดฟังอย่างสนใจ
เกียวกับแป้งร่ำคาดคั้นรินดารา
"บอกมาสักทีสิคะคุณน้อง ต่อมอยากรู้ของพี่คันจนจะระเบิดอยู่แล้ว"
รินดารามองแป้งร่ำที่จ้องเธออย่างกระเหี้ยนกระหือรืออยากรู้มากจึงตัดสินใจบอกไป ขณะที่ฮิเดโนริก็อยากรู้มากๆ
"จำไม่ได้ค่ะ เพราะคุณหมอเคนตะก็เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบไปซะก่อน"
"ว้า...น่าเสียดายจัง แล้วน้องดาราจะสืบอะไรต่อดีคะ"
"ชั้นคงไม่สืบอะไรต่อแล้วล่ะค่ะ เพราะคิดๆดูแล้ว เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะที่มนุษย์ธรรมดาจะมีอายุยืนยาวหลายร้อยปี ส่วนผู้ชายที่อยู่ในรูปของคุณหมอเคนตะ...น่าจะเป็นคนหน้าเหมือนมากกว่า อย่างพี่แป้งร่ำยังหน้าเหมือนหนูอิมดาราไทยชื่อดังเลย"
"ใช่ๆๆ คนนั้นสวยมากเลยนะคะ"
เกียวค้อนแป้งร่ำอย่างหมั่นไส้ แล้วหันไปเห็นฮิเดะยืนอยู่
"อ้าว...คุณฮิเดะ มานวดเหรอคคะ"
ฮิเดะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
"ครับ..คือผมได้ยินมาว่าที่นี่ใช้ศาสตร์ทางกายภาพบำบัดมาใช้ร่วมกับการนวดแผนไทยโบราณเลยอยากมาลองดู"
 
"แล้วจะยินดีมากด้วยถ้าคุณรินดารา จะช่วยนวดให้ผม...จะได้ไหมครับ"

รินดาราร้องบอก
 
"ไม่ได้ค่ะ ! ยังไงชั้นก็ไม่นวดให้คุณฮิเดะเองเด็ดขาด"
เกียวกับแป้งร่ำยืนอ้อนวอนรินดารา
"ไม่ต้องกลัวคนที่มิยาคาวะมาเห็นหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่สองคนดูต้นทางให้เอง" แป้งร่ำบอก
"ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณฮิเดะเป็นโคสึกะศัตรูของมิยาคาวะค่ะ แต่ที่ชั้นไม่นวด เพราะชั้น เคยนวดให้แต่คนไข้ที่ผ่านการวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว แต่นี่คุณฮิเดะไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ถ้าจะให้นวดผ่อนคลายสบายตัว ชั้นไม่ถนัดหรอกค่ะ"
เกียวบอก
"ไม่ถนัดก็ไม่ต้องลงมือนวดเยอะสิคะ ชวนคุยเรื่องกล้ามเนื้อ..กระดูก..เส้นเอ็น...หลังคด หลังงอไปให้ร้านของพี่ดูมีอะไรมากกว่าร้านนวดธรรมดาก็พอ"
"ใช่ค่ะ..คุณฮิเดะเป็นคนกว้างขวางเป็นคนดังประจำเมืองสึกิ ถ้าเขาพอใจร้านนวดของพวกพี่ เขานี่แหละค่ะจะเป็นตัวโฆษณาร้านของพี่ได้อย่างดีเลย"
"นะคะน้องดารา ถือซะว่าเห็นแก่ที่เราเป็นคนไทยเหมือนกัน"
แป้งร่ำกระพริบตาปริบๆร่วมกับเกียวที่ช่วยกันออดอ้อนจนรินดาราหนักใจ

รินดาราถือถาดวางผ้าขนหนูเข้ามาในห้องนวด เจอฮิเดะถอดเสื้อนั่งคอยอยู่ที่เตียงนวดแล้ว เธอชะงักเล็กน้อย... ไม่คิดว่าเขาจะถอดเสื้อ
"ไม่ต้องห่วงนะครับ...มิยาคาวะจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้"
"ชั้นไม่ได้ฆ่าใคร คนที่มิยาคาวะไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ คุณปวดเมื่อยตรงไหนบ้าง"
"บ่าครับ"
รินดาราเดินอ้อมมาข้างหลังของฮิเดะ จึงเห็นรอยสักลายจิ้งจอกบนแผ่นหลังของฮิเดะก็หยุดมองตกตะลึงกับ ความสวยของมัน
"สุนัขจิ้งจอก"
"กลัวหรือปล่าครับ"
"ทำไมต้องกลัวคะ ชั้นว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่น่าสงสารออก"
รินดาราเริ่มจับนวดคลึงบนบ่าให้ฮิเดะในขณะที่เธอพูดคุยกับฮิเดะ
ฮิเดะแปลกใจ
"น่าสงสาร"
"ค่ะ ในนิทานสุนัขจิ้งจอกมักจะถูกวางให้เป็นตัวร้าย ทั้งที่มันก็เป็นสัตว์น่ารักชนิดหนึ่งไม่ต่างจากแมว หรือนกกระเรียน แต่มันก็ถูกความเชื่อของมนุษย์ปั้นแต่งขึ้นมาให้มันมีชีวิตพิศวง น่าอันตราย....ชั้นเชื่อว่ามันไม่ได้อยากเป็นตัวร้ายในสายตาของใคร"
ฮิเดโนริแววตาเศร้า นึกถึงชีวิตตัวเอง)
"ใช่ครับ..ถ้ามันเลือกได้ มันจะขอมีชีวิตธรรมดา ไม่ต้องมีชีวิตให้เป็นตัวประหลาดในสายตาของใคร"
"คุณเป็นสุนัขจิ้งจอกหรือคะ"
ฮิเดโนริหันขวับมาหารินดาราอย่างคาดไม่ถึง
"ชั้นพูดเล่นค่ะ" รินดารายิ้มสดใส
เขาโล่งใจแล้วแกล้งถามรินดารา
"แล้วถ้าผมเป็นสุนัขจิ้งจอกขึ้นมาจริงๆ คุณคิดว่าอย่างผมจะเป็นตัวร้ายหรือเป็นตัวดี"
"อยู่ที่จิตใจของคุณค่ะ ถ้าคุณคิดดี..ทำดี..ต่อให้คุณอยู่ในร่างของปีศาจคุณก็จะยังเป็นคนดี แต่ถ้าใจคุณคิดไม่ดี...ต่อให้คุณอยู่ในร่างเทพบุตรสุดหล่อ คุณก็จะยังเป็นตัวร้ายอยู่ดี"
เขามองรินดาราอย่างรู้สึกดี รินดาราไม่สนใจสายตาของเขา...เธอนวดคลึงบนบ่าของเขาเสร็จ
ฮิเดโนริจับมือรินดารามาแตะบนหน้าอกของซ้ายของเขา ส่งสายตาวิบวับหว่านเสน่ห์
"รินดารา...ผมไม่เคยอยู่ใกล้ผู้หญิงคนไหนแล้วรู้สึกดีเท่าคุณมาก่อนเลย"
ฮิเดโนริโน้มหน้าจะจูบรินดารา เธอนิ่งอึ้ง เขายิ่งได้ใจคิดว่ารินดาราเล่นด้วยแล้วก็ยิ่งจู่โจม...วางมือบนแขนของหญิงสาวแล้วลูบไปมา พร้อมๆกับหน้า ของเขาเลื่อนเข้าไปใกล้รินดารา
"ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้สึกดีๆ แต่จะดีมากถ้าคุณรู้จักให้เกียรติผู้หญิงอย่างชั้น"
รินดาราคว้าเทียนใกล้มือสาดน้ำตาเทียนใส่ฮิเดโนริ
"โอ๊ย !" ฮิเดโนริดิ้นสะบัด
รินดาราหันหลังเดินออกไปจากห้องเลย
"รินดารา ผมขอโทษ"
เขามองตามเธอไปพลางเจ็บใจตัวเองที่เผลอไปทำเรื่องที่ไม่น่าสมควรแบบนั้นกับเธอ

รินดาราเดินมาจากทางร้านแป้งร่ำแล้วเจออาคิระกำลังเดินสวนมา...เขาก็กำลังจะไปหารินดาราที่ร้านแป้งร่ำ
รินดาราเห็นอาคิระก็อึ้ง..ไม่อยากให้อาคิระเจอกับฮิเดโนริ
"อาคิระ! คุณมาทำอะไรแถวนี้"
"ผมออกมาทำธุระแล้วโทร.ไปที่บ้าน คุณย่าบอกว่าคุณมาร้านคุณแป้งร่ำ ผมก็เลยจะมารับคุณกลับบ้านพร้อมกัน เดี๋ยวผมแวะไปแสดงความเสียใจกับคุณแป้งร่ำเรื่องคุณหมอเคนตะสักหน่อยดีกว่า"
อาคิระจะเดินไปที่ร้านแป้งร่ำ แต่รินดาราคว้าแขนอาคิระไว้...ไม่อยากให้อาคิระเจอกับฮิเดโนริ
"อย่าไปค่ะ"
อาคิระหันมามองรินดาราอย่างแปลกใจ รินดารารีบแก้ตัว

"เอ่อ...คือ ตอนนี้มีลูกค้าเต็มร้าน พี่แป้งกับพี่เกียวยุ่งกันน่าดู เอาไว้วันหลังคุณค่อยมา แสดงความเสียใจกับพี่แป้งใหม่ดีกว่านะคะ เรากลับกันเถอะค่ะ"
รินดาราฉุดมืออาคิระจะพาเดินออกไป แต่อาคิระเป็นฝ่ายดึงมือรินดารา ทำให้ร่างรินดาราถลาไปอยู่ในอ้อมกอดของอาคิระ อาคิระรวบกอดรินดาราไว้แล้วใช้สายตาชวนสะท้านคาดคั้นเธอ
"สารภาพมาดีๆ คุณไม่อยากให้ผมไปที่ร้านคุณแป้งร่ำ เพราะคุณไม่อยากให้ผมเจอใคร"
รินดาราหลบสายตาอาคิระเพราะเขินอาย
"เปล่านี่คะ"
อาคิระกระชับกอดรินดาราให้แน่นขึ้นแทนการคาดคั้น รินดารายิ่งวูบไหวและเขินอายมากจนต้องรีบบอก
"ชั้นไม่อยากให้คุณเจอคุณฮิเดะค่ะ"
อาคิระหน้าเครียดขึ้นมาทันที รินดารารีบพูดแก้
"ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ คุณฮิเดะแค่มาใช้บริการที่ร้าน เขาอยู่ในเมืองนี้ เขามีสิทธิจะไปไหน มาไหนก็ได้"
"มันมายุ่งอะไรกับคุณหรือเปล่า"
"ไม่ค่ะ ปล่อยชั้นเถอะค่ะ ใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีนะคะ"
อาคิระยอมคลายกอด รินดาราดันตัวออกจากอ้อมกอดของอาคิระ ทำให้ซองสีน้ำตาลขนาดเท่าซองจดหมายที่อยู่ในเสื้อของอาคิระร่วงหล่นลงพื้นมีภาพถ่ายเก่าๆโผล่ออกมาจากซอง
"รูปอะไรเหรอคะ"

รินดารากับอาคิระเดินคุยกัน รินดาราไล่ดูรูปถ่ายเก่าๆ ของเมืองสึกิ
"ผมให้นักสืบหารูปเก่าๆของเมืองสึกิ เผื่อว่าจะเจอผู้ชายหน้าเหมือนท่านชายโฮชิอยู่ในรูป เหมือนรูปของคุณหมอเคนตะ แล้วจะช่วยให้เราหาคำตอบเรื่องท่านชายได้มากขึ้น แต่ผมดูรูปหมดทุกใบแล้ว..ไม่มีอะไรเลย"
"ชั้นไม่แปลกใจหรอกค่ะ ถ้าจะไม่มีรูปท่านชายโฮชิอยู่ในรูปของเมืองสึกิ เพราะถ้าเขามีอายุอยู่มานานโดยไม่แก่ไม่เฒ่าจริง เขาคงไม่ออกไปพบเจอผู้คนให้เป็นที่น่าสงสัย"
"ก็จริงนะ ตั้งแต่เด็กจนโต...ผมแทบจะไม่เคยเจอท่านชายเลย แต่ผมรับรู้มาตั้งแต่จำความได้ว่าเขาอยู่บนหอคอย"
รินดาราใช้ความคิด
"ท่านชายอยู่แต่บนหอคอยที่มิยาคาวะ...ชั้นว่าถ้าเราจะหารูปของท่านชาย เราน่าจะหาจากรูปเก่าๆ ของตระกูลของคุณมากกว่า"

อาคิระพยักหน้าเห็นด้วย

กลกิโมโน ตอนที่ 8 (ต่อ)

โฮชิกำลังบรรเลงโกโตะด้วยอาการหม่นเศร้าอันเกิดจากภาพระหว่างอาคิระกับรินดารากอดกัน

อยู่ดีๆๆ มือเล็กของฮิโตชิโผล่ขึ้นมาจากใต้โต๊ะแล้วยื่นไปดีดสายโกโตะ..หยอกล้อเล่นกับโฮชิ
โฮชิหยุดดีดโกโตะแล้วอมยิ้ม
"ถ้าอยากเล่นโกโตะชั้นจะสอนให้เอามั้ย"
ฮิโตชิโผล่หน้าขึ้นมาที่ด้านหลังโกโตะ เด็กชายยืนยันเข่าอยู่บนพื้น..พยักหน้ารับถี่ๆ...สีหน้าและแววตาของเด็ก ชายสดใสมีความสุขขึ้นต่างจากฮิโตชิตนเดิม
"ชั้นจะสอนเธอ ถ้าเธอเป็นเด็กดี ไม่ลืมสัญญาของเราว่าระหว่างรอให้ถึงเวลาที่เธอควร จะไปตามทางของเธอ เธอจะอยู่ที่บ่อน้ำและจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนที่นี่"
ฮิโตชิหน้าเศร้า)
"ไม่อยากไป อยากอยู่กับอายูมิ"
โฮชิแปลกใจ
"รู้จักอายูมิด้วยเหรอ"
ฮิโตชิพยักหน้ารับหงึกหงักและยิ้มกว้างสดใส การได้เป็นเพื่อนกับอายูมิทำให้เขาภูมิใจ โฮชิเข้าใจได้จากอาการของฮิโตชิ
"เธอกับอายูมิเป็นเพื่อนกันเหรอ"
"ครับ..เป็นเพื่อนกัน"
แต่โฮชิเกิดความหนักใจขึ้นมา...เขาถอยตัวออกจากโต๊ะโกโตะและกวักมือเรียกฮิโตชิ
"มานี่มา"
ฮิโตชิลุกขึ้นไปนั่งตักของโฮชิ โฮชิกอดเด็กชายไว้หลวมๆ แล้วพูดกับเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมากที่สุด
"เจ้าหนู...ชั้นเข้าใจว่าการต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมันเหงามากแค่ไหน" เขาลูบหัวเด็กชายสงสารจับใจ " เด็กอายุอย่างเธอไม่ควรจะต้องมาอยู่สภาพนี้เลย เธอคงอยากมีเพื่อนเล่น แต่เธอรู้ใช่มั้ยว่าเธอกับอายูมิ...ไม่เหมือนกัน"
"แต่อายูมิบอกว่าไม่กลัวฮิโตชิ อายูมิยอมให้ฮิโตชิเป็นเพื่อน"
โฮชิจำใจยอม
" งั้นเอาเป็นว่าถ้าเธอจะเป็นเพื่อนกับอายูมิ เธอต้องช่วยดูแลปกป้องอายูมิตกลงไหม"
ฮิโตชิพยักหน้ารับ โฮชิยิ้มรับ แล้วจู่ๆ โฮชิรู้สึกได้ถึง "อะไรบางอย่าง" จึงหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง
ฮิโตชิมองตามสายตาของโฮชิอย่างสงสัย โฮชิหันกลับมาเห็นสีหน้าสงสัยของฮิโตชิ
"พวกเขากำลังหาคำตอบว่าชั้นเป็นใคร"
"ถ้าเขารู้ว่าท่านเป็นใคร...ท่านจะต้องไปจากที่นี่หรือเปล่า"
โฮชิพยักหน้ารับและอมยิ้มนิดๆ การหาคำตอบของรินดารากับอาคิระทำให้เขาได้กลับไปสวรรค์ต่างจากฮิโตชิที่มีสีหน้าไม่สบายใจขึ้นมาทันที

อาคิระพารินดาราเข้ามาในห้องเก็บของ บรรยากาศในห้องมืดสลัว..ห้องนี้เป็นห้องโล่งๆมีประตูเลื่อนตามสไตล์ของญี่ปุ่นอยู่ที่กำแพงทั้งสามด้าน สมมติว่าข้างในประตูเลื่อนเป็นชั้นเก็บของต่างๆ ที่ถูกซ่อนเอาไว้
"ของเก่าแก่ของมิยาคาวะที่ไม่ใช่กิโมโนจะเก็บเอาไว้ในห้องนี้ทั้งหมด"
รินดาราพยักหน้ารับ
อาคิระเลื่อนประตูด้านหนึ่งออก เผยให้เห็นว่าข้างในมีข้าวของเก่าแก่ถูกเก็บไว้และฝุ่นจับหนาเตอะ
รินดารากับอาคิระแยกย้ายกันค้นหาอัลบั้มรูปของตระกูลมิยาคาวะ

โฮชิมองที่ภาพวาดหญิงสาวในชุดกิโมโนใต้ซุ้มวิสทีเรีย จึงเห็นว่าภาพวาดของเมียวโจขยับเหมือนมีชีวิตจริง สายลมอ่อนๆพัดให้ชายชุดกิโมโนและพวงวิสทีเรียปลิวไสว...กลีบดอกวิสทีเรียสีม่วงอ่อนร่วงกราวลงพื้นห้อง... โฮชิมองอย่างแปลกใจ แล้วเดินไปย่อตัวหยิบกลีบดอกวิสทีเรียบนพื้นขึ้นมามองอย่างใช้ความคิด
มิกิยกถาดของว่างเข้ามา
"ท่านชายคะ ของว่างมาแล้วค่ะ"
มิกิเห็นโฮชิยืนจดจ้องอะไรบางอย่างในมืออยู่ตรงหน้ารูปวาดของเมียวโจ
"อะไรคะนั่น"
"เมียวโจส่งสัญญาณมาบอกชั้นว่า...ได้เวลาแล้ว"
"เวลาอะไรคะ"
"เวลาที่ฮิคาริจะรู้ความจริง"
มิกิอึ้งไปเลย

รินดารากับอาคิระก้มๆ เงยๆ ค้นหาของในตู้ แต่ก็ยังไม่เจออะไร รินดาราปาดเหงื่อป้อยๆ ส่วนอาคิระถอดเสื้อ ตัวนอกออกแล้ว แล้วพบแขนเสื้อตัวใน..เพื่อให้เห็นว่าทั้งสองหากันมานานแล้ว
"เราหาจนทั่วห้องแล้ว ไม่เห็นมีเลย"
บนตู้ชั้นบนสุด ฮิโตชินั่งแกว่งเท้า..มือโอบกอดกล่องหนึ่งเอาไว้...เห็นว่าในกล่องนั้นคืออัลบั้มรูป ฮิโตชิ บังตารินดารากับอาคิระไม่ให้มองเห็นกล่องใส่รูป
"ฮิโตชิไม่ให้ดูหรอก ฮิโตชิไม่อยากให้ท่านชายไปไหน"
รินดารามองหาไปรอบๆ ตู้ แล้วสายตาก็หยุดอยู่บนชั้นสูงสุด...ชั้นเดียวกับที่ฮิโตชินอนขวางกล่องอยู่
รินดารามองขึ้นไปบนชั้นตู้สูงสุด
"หรือว่าจะอยู่บนนั้น"
อาคิระมองขึ้นไป แต่ไม่เห็นฮิโตชิ ไม่เห็นกล่องอะไรวางอยู่เลย
"ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่"
"แต่หาจนทั่วแล้วเหลือบนนั้นที่เดียว"
รินดาราเขย่งเท้ายกมือเอื้อมสุดแขนไปบนตู้ แต่ตู้อยู่สูงเกินไป รินดาราเอื้อมไม่ถึง อาคิระย่อตัวให้รินดาราขี่หลัง
"ขึ้นมา"
รินดารายอมขึ้นขี่หลัง อาคิระใช้ความอดทนฝืนแรงต้านน้ำหนักของรินดารา ส่วนเธอก็ยื่นมือเข้าไปในชั้นตู้
มือรินดารากวาดหาของบนชั้น โดยไม่รู้ว่ามือของตัวเองอยู่ห่างจากตัวฮิโตชิไม่ถึงคืบ

ฮิโตชินอนนั่งกอดกล่องยิ้มชอบใจที่เขาสามารถบังกล่องไว้ได้

อาคิระใช้ความอดทนต่อน้ำหนักของรินดาราอย่างมาก รินดาราขยับตัวให้สูงขึ้นอีก...น้ำหนักตัวจึงไปทุ่ม อยู่ที่อาคิระมากขึ้นอีก
 
อาคิระขยับออกมาจะย่อตัวให้รินดาราลง แล้วมีจังหวะที่รินดาราหันหลังให้ฮิโตชิ
ปานรูปดาวสะท้อนออกมาจากในเสื้อของรินดาราใส่หน้าฮิโตชิจนแสบตาและเจ็บปวด
"โอ๊ย"
ฮิโตชิปล่อยกล่อง รินดาราหันขวับไปมองที่ตู้เพราะได้ยินเสียงร้องของฮิโตชิ รินดาราเห็นฮิโตชิเต็มตา !
แอร๊ย"
รินดาราตกใจสุดขีดจึงดิ้นอย่างแรง ทำให้อาคิระรับน้ำหนักไม่ไหว ทรุดล้มลง แต่ก่อนที่รินดาราจะร่วงลงพื้น.. มือของเธอคว้ากล่องรูป ทำให้รินดาราและกล่องรูปหล่นลงมาทับร่างอาคิระ !
รูปในกล่องกระเด็นกระจัดกระจายเต็มพื้น
อาคิระจุกมาก รินดารารีบลุกขึ้นมาแล้วหันกลับไปมองบนตู้แต่ไม่เห็นฮิโตชิแล้ว รินดาราจึงหันกลับมาดูอาคิระ อย่างห่วงใย
"คุณอาคิระ คุณเจ็บมากไหม"
อาคิระส่ายหน้าพร้อมกับลุกขึ้น
"คุณล่ะ เจ็บหรือเปล่า"
"ไม่ค่ะ"
"แล้วเมื่อกี้คุณตกใจกลัวอะไร"
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ชั้นคงตาฝาดไปเอง"
อาคิระพยักหน้ารับ แล้วสายตาของเขาก็หันไปเห็นรูปหนึ่งบนพื้น อาคิระหยิบขึ้นมา เป็นถ่ายคู่ของโฮชิกับเด็กญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งเป็นแม่ของมิกิ ทั้งสองอยู่ในชุดยูกาตะโบราณ
"ท่านชาย"
รินดาราเข้าไปดูรูปด้วย
"เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะ"
"คุณทวดของผม คุณแม่ของคุณย่ามิกิ"
"หา ! แสดงว่ารูปนี้มีอายุเกือบร้อยปี"
อาคิระพยักหน้ารับ ทั้งสองอึ้งไปเลย

ณ คฤหาสน์โคสึกะ ตอนกลางคืน ยูกิถูกมัดขึงไว้กับเสา คอพับสลบ ที่คอมีเชือกสีแดงพันธนาการเอาไว้ แล้วยูกิก็ค่อยๆขยับเปลือกตา ฟื้นตื่น ขึ้นมา มีอาการกระอักไอ แต่ก็พยายามทรงตัวลุกขึ้นมาถึงเห็นฮิเดโนริยืนอยู่ตรงหน้า ไล่สายตาพิจารณามองเรือน ร่างของยูกิ
"เข้าใจเลือกร่างสิงดีนี่นางปีศาจหิมะ คงคุ้มค่าที่ถูกกักขังมานานสี่ร้อยปีสินะ"
ยูกิมองหน้าฮิเดโนริอย่างใช้ความคิด แล้วจำได้ว่าเคยเห็นเขามาก่อน
"แก"
"จำชั้นได้แล้วใช่มั้ย คนที่เกือบจะตกเป็นเหยื่อของแก แต่ก็ต้องขอบใจแกมากนะ เพราะวันนั้นแกทำให้ชั้นได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งมากขึ้น"ฃ
ตาเขาเป็นประกายเพราะคิดถึงรินดารา
ประตูห้องเปิดออก อัตซุโอะประคองไดซุเกะเข้ามา
"ปู่ครับ มันฟื้นแล้วจัดการมันเลยดีไหมครับ"
ยูกิตกใจกลัวจึงบีบน้ำตาร้องไห้คร่ำครวญ
"อย่าทำอะไรชั้นเลย ชั้นยอมทุกอย่างแล้ว อย่ากักขังชั้นอีกเลยนะ"
"หึๆ ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่กักขังแกแล้ว"
ยูกิยิ้มดีใจ
"แต่ชั้นจะทำให้แกสูญสลายไปจากโลกนี้แทน เพราะฤทธิ์ของแกมันมากเกินไปแล้ว" ไดซุเอะหันไปสั่ง อัตซุโอะ
"ครับนายท่าน"
อัตซุโอะหยิบดาบซามูไรที่มีดาบฝักมีลวดลายแกะสลักวิจิตรมาส่งให้ไดซุเกะ
ไดซุเกะรับไปแล้วดึงดาบออกจากฝัก..คมดาบมันแปล่บ..ปากของเขาท่องคาถาขมุบขมิบ ดวงตาจ้องไปที่ยูกิ อย่างอาฆาตมาดร้าย
"เอาสิ...ทำให้ชั้นสูญสลายตามเทพเจ้าจิ้งจอกของพวกแกไปเลย ความลับว่าเทพเจ้านกกระเรียนอยู่ที่ไหนจะได้สูญสลายไปพร้อมกับชั้น"
ไดซุเกะชะงัก
"ว่าไงนะ..แกรู้เหรอว่าเทพเจ้านกกระเรียนอยู่ที่ไหน"
"หึๆๆ ยิ่งกว่ารู้ ชั้นเคยสบตากับเขามาแล้วด้วย"
ฮิเดโนริปราดเข้าไปบีบปากยูกิ
"มันอยู่ที่ไหน"
"ปล่อยชั้นก่อนสิ เรื่องนี้เราต้องคุยกันอีกยาว"
"ให้ชั้นปล่อยแกมาเล่นงานพวกชั้นเหรอ ! ชั้นไม่โง่หลงกลแกหรอก"
"ชั้นก็ไม่โง่หลงกลพวกแกเหมือนกัน นางปีศาจหิมะที่ยังต้องอาศัยร่างคนอื่นอยู่อย่างชั้น จะเอาอะไรไปต่อกรกับฝีมือของเวทมนต์ตระกูลโคสึกะกับลูกครึ่งปีศาจจิ้งจอกได้ แต่ถ้าชั้นมีข้อเสนอ แกให้อิสรภาพกับชั้น แล้วชั้นจะช่วยพวกแกแก้แค้นเทพเจ้านกกระเรียน"
ฮิเดะปล่อยมือจากปากยูกิเข้าไปถามไดซุเกะ
"เอายังไงดีครับคุณปู่"
"นังนี่มันมีมารยาทเป็นอาวุธ"
ไดซุเกะก้าวเข้าไปใกล้ยูกิ...ตาจ้องเขม็ง ยูกิลุ้นระทึกว่าไดซุเกะจะหลงกลเธอหรือไม่
ไดซุเกะยกดาบขึ้น แล้วไดซุเกะก็ฟาดดาบลงตรงหน้ายูกิ ยูกิเบี่ยงหน้าหลบหลับตาปี๋
เชือกแดงจากลำคอของยูกิขาดหล่นลงพื้น ก่อนที่มันจะเลือนหายไป
"จำเอาไว้...ถ้าแกใช้อาวุธของแกกับพวกชั้น แกจะต้องทรมานยิ่งกว่าโดนกักขังหลายร้อยเท่า"
ยูกิลอบยิ้มร้ายโดยที่พวกโคสึกะไม่เห็น

"บอกมาได้แล้ว ไอ้เทพเจ้านกกระเรียนอยู่ที่ไหน"

ฮิเดโนริตกใจ
 
"อยู่ที่มิยาคาวะ"
ยูกิพยักหน้ารับ
"ใช่..เขาอยู่บนหอคอยที่มิยาคาวะมาตลอด"
"ชายลึกลับบนหอคอย"
ฮิเดโนริคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยสู้กับโฮชิ และโฮชิเสกขนนกสีขาวให้รายล้อมฮิเดะ แล้วหนีไปกับฮิโตชิ
"ว่าแล้วเชียวว่าผู้ชายคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา ที่แท้มันก็เป็นเทพเจ้านกกระเรียน"
"แกรู้จักมันด้วยเหรอ"
"ผมเคยสู้กับมันครับ ผมประมาทไปหน่อยก็เลยแพ้มัน แต่ครั้งนี้ผมขอแก้ตัว ผมจะฆ่ามันแก้แค้นให้เทพเจ้าจิ้งจอกของเรา"
ยูกิโพล่ง
"ไม่ได้"
ทุกคนหันขวับมองยูกิ ไดซุเกะหรี่ตาใช้ความคิด
"ตามตำนานที่ว่านางปีศาจหิมะหลงรักเทพเจ้านกกระเรียน...ท่าจะเป็นเรื่องจริง"
"ใช่...ชั้นเคยรักเขา แต่ความรักของชั้นเปลี่ยนเป็นความแค้นตั้งแต่วันที่เขาปฎิเสธความรักของชั้นเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้ว ส่วนที่ชั้นห้ามพวกแกเพราะชั้นรู้ว่าไม่มีใครทำร้ายเขาได้ง่ายๆ ... ที่แกต่อสู้แพ้เขา..ไม่ใช่เพราะประมาทหรอก...แต่พลังของปีศาจไม่มีทางชนะพลังของเทพเจ้าได้"
"แกดูถูกชั้นเรอะ"
"เปล่า ชั้นพูดความจริง ชั้นเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ชั้นถึงต้องใช้วิธีอื่นที่ทำให้เขาตายช้ากว่า แต่เจ็บกว่าหลายเท่า"
อัตซุโอะบอก
"แต่เรารอช้าไม่ได้นะครับนายท่าน ตามคำทำนาย...ผู้หญิงคนนั้นจะมาสร้างหายนะให้โคสึกะ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ที่มิยาคาวะนานแล้ว พวกมันอาจจะกำลังวางแผนปลดปล่อยเทพเจ้านกกระเรียนกันอยู่ก็ได้นะครับ"
"แกหมายถึงผู้หญิงคนไหน"
"รินดารา"
"อ๋อ...รินดารา ชั้นเคยได้ยินชื่อของมัน แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อนังรินดาราเป็นแค่ผู้หญิงไทยธรรมดา"
ไดซุเกะบอก
"สิ่งที่บรรพบุรุษโคสึกะเขียนบอกเอาไว้ในตำราไม่เคยมีอะไรผิดพลาด"
ยูกิคิดทบทวน
"ผู้หญิงมาปลดปล่อยโฮชิกลับ" เธอนึกขึ้นได้..อึ้งปรี๊ด "หรือว่านังรินดาราคือเมียวโจ"

รินดาราเดินอยู่กับอาคิระ
"คุณจะถามคุณย่ามิกิเรื่องรูปที่เราเจอจริงๆ เหรอคะ"
"ผมมั่นใจว่าคุณย่าต้องรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้"
รินดาราพยักหน้ารับ แล้วจู่ๆ รินดาราก็ร้องขึ้นมาเพราะเจ็บแปลบที่ปานแดงรูปดาวที่หลัง
"โอ๊ย"
อาคิระประคองรินดารา
"คุณเป็นอะไร"
"ชั้นเจ็บที่ปาน"
"ไปหาหมอไหม..ผมพาไปเอง"
"หมอที่ไหนก็ช่วยชั้นไม่ได้"
"แต่ก็น่าจะลองตรวจดู ตอนนี้วิวัฒนาการการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก คุณหมอน่าจะมีวิธีช่วยคุณ"
"คุณไม่เชื่อชั้นใช่ไหมคะ"
"ผมเชื่อ แต่ผมคิดเผื่อว่าจะมีหนทางอื่นที่จะช่วยคุณได้ง่ายกว่านี้มั้ย"
อาคิระจับมือรินดารามาเกาะกุม...มองลึกเข้าไปในดวงตา ทำให้หัวใจของเธอเต้นตึกตัก
"ผมเป็นห่วงคุณมากนะรินดารา"
ระหว่างนานะเดินผ่านเข้ามาเห็นภาพอาคิระจับมือรินดาราอยู่ก็ดันอุทานเสียงดัง
"อุ้ย !"
อาคิระกับรินดาราหันขวับไปมองนานะ รินดาราชักมือออกจากมืออาคิระอย่างเขินอาย
"ขอโทษค่ะ นานะไม่น่าเดินผ่านมาขัดจังหวะเลย"
นานะยิ้มกรุ้มกริ่มมองรินดารากับอาคิระ รินดาราทำหน้าไม่ถูก...เขินอายมาก
"ชั้นขอตัวก่อนนะคะ"
รินดาราเดินก้มหน้าก้มตาเข้าไปข้างใน อาคิระมองตามรินดาราอย่างเสียดาย แล้วหันไปทำตาขุ่นใส่นานะที่ยังยืนยิ้มหัวเราะคิกคัก
"จะคิดจะพูดอะไร ระวังคุณรินดาราจะเสียหาย"
"เอ่อ..ค่ะ คุณอาคิระ"
"แล้วคุณย่าอยู่ที่ไหน"
"ทำงานอยู่ในห้องเก็บกิโมโนค่ะ"
อาคิระพยักหน้ารับและมองซองน้ำตาลในมือด้วยสีหน้าแน่วแน่

ไดซุเกะนั่งกึ่งนอนอยู่บนฟูก ฮิเดโนรินั่งคุยอย่างไม่สบายใจ
"ปู่คิดดีแล้วเหรอครับที่ช่วยทำพิธีให้พลังของนางปีศาจหิมะกลับคืนมาแล้วปล่อยมันไปอีก"
"ในเมื่อหลานชายคนเดียวของชั้นพึ่งไม่ได้ ชั้นก็จำเป็นต้องพึ่งมัน"
"ทำไมปู่ถึงคิดว่าผมพึ่งไม่ได้"
"ถ้าพึ่งได้..ป่านนี้แกจัดการนังรินดาราได้ไปนานแล้ว"
ฮิเดโนริหลบสายตา
"ผมกำลังพยายามหาทางจัดการอยู่"
"พยายามจัดการมัน หรือพยายามคิดหาทางช่วยมันกันแน่"
ฮิเดโนริอึ้งที่ปู่รู้ทัน
"ฮิเดะ..ชั้นเลี้ยงแกมากับมือ..ทำไมชั้นจะไม่รู้ว่าแกคิดอะไรอยู่ แกเริ่มชอบนังรินดาราเข้าแล้วใช่ไหม"
"เธอช่วยชีวิตผมแล้วเธอก็ยัง..." เขาอยากจะบอกว่า เข้าใจความรู้สึกของผมด้วย
"พอได้แล้ว !! ถ้านังรินดาราขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูของโคสึกะ ต่อให้มันช่วยชีวิตแกอีกกี่ร้อย ครั้ง มันก็ไม่สมควรมีชีวิตอยู่"
"แต่ว่า."
"ฮิเดะ ! อย่าให้ความใจอ่อนของแกมาทำให้ตระกูลของเราต้องพบกับหายนะ กลับไปหาความสุขจากบรรดาผู้หญิงของแกซะ แล้วรอฟังข่าวดีว่านังปีศาจหิมะจัดการกับนังรินดาราได้แล้ว"

ไดซุเกะยิ้มร้าย ฮิเดะหนักใจ

รินดาราเลื่อนประตูเข้ามาในห้อง...ไปนั่งหน้ากระจกแล้วปลดเสื้อดูปานที่หลังด้วยความสงสัย
 
ทันใดนั้น ยูกิ ในร่างผู้หญิงชุดขาวผมยาว ก็เคลื่อนผ่านหน้าต่างไปอย่างเร็ว...วูบ ! รินดาราเห็นจากหางตาจึงหันขวับไปมอง แต่ไม่เห็นอะไร
รินดารายังแปลกใจไม่หาย จึงใส่เสื้อแล้วลุกขึ้นไปที่หน้าต่าง
ยูกิมองรินดารามาจากสวนแล้วกำลังจะเคลื่อนเข้าไปใส่รินดารา
แต่เสียงเคาะประตูดังขึ้น รินดาราหันกลับไปเปิดประตู เห็นโฮชิยืนอยู่หน้าประตู
"ท่านชาย !? ท่านชายมีธุระอะไรกับชั้นหรือคะ"
"นานะบอกว่าเธอกลับมาแล้ว ชั้นอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าเธอสบายดีหรือเปล่า วันนี้ มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า ฮิคาริ"
จู่ๆ รินดาราก็เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนที่ปานอีก
"โอ๊ย"
โฮชิประคองร่างรินดารา
"เป็นอะไรฮิคาริ"
"ชั้น...ชั้นเจ็บปานค่ะ ชั้นทรมานจังเลยค่ะท่านชาย"
"ขอชั้นดูหน่อยได้ไหม เผื่อว่าชั้นจะช่วยอะไรเธอได้"
แววตาของโฮชินั้นอ่อนโยนมากจนรินดาราพยักหน้ายอม แล้วหันหลังให้โฮชิ...ปลดเสื้อลงให้โฮชิดูที่ปานรูปดาว
ยูกิยืนอยู่มุมมืดข้างนอกตัวคฤหาสน์ มองไปเห็นดาวบนแผ่นหลังของรินดารา....ยูกิอึ้ง !!
โฮชิจ้องมองปานบนแผ่นหลังของรินดาราด้วยแววตาอ่อนโยนและรักใคร่ ยูกิสีหน้าโกรธจัด...ดวงตากลายเป็นสีฟ้าเข้ม..มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด
"นังรินดารา..แกคือนังเมียวโจจริงๆ"
ยูกิอาฆาตร้าย

มิกิกำลังหยิบกิโมโนในกล่องออกมาเตรียมทำความสะอาด ทันใดนั้นร่างมิกิก็ชะงักแข็ง ยูกิกำลังเพ่งสะกดจิตไปให้มิกิ...ดวงตาเป็นสีฟ้าวาบ
มิกิ...ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีฟ้าวาบเช่นกัน
ยูกิยิ้มแสยะรับรู้ได้ว่าตอนนี้มิกิอยู่ในอำนาจของเธอแล้ว...จึงออกคำสั่งไปว่า
"ฆ่าริน"

อาคิระเข้ามาในห้องดิโมโน
"คุณย่าครับ...คุณย่า"
มิกิไม่อยู่ในห้อง มีเพียงกองชุดกิโมโนกับอุปกรณ์ทำความสะอาดวางกองทิ้งเอาไว้
"คุณย่า"
อาคิระแปลกใจ

รินดาราออกมาส่งโฮชิที่หน้าห้อง
"ขอโทษนะที่ชั้นช่วยเธอเรื่องปานไม่ได้"
"ถ้าช่วยได้สิคะถึงจะแปลก...ท่านชายคะ..."
"อยากรู้อะไรเกี่ยวกับชั้นก็ถามมาเถอะฮิคาริ ถ้าชั้นตอบได้ ชั้นก็จะตอบ"
"เอ่อคือ..เรื่องที่ชั้นจะถามท่านชายมันเป็นเรื่องที่...เอ่อ..." รินดาราสีหน้าหนักใจ
"ถ้าเรื่องที่เธอสงสัยทำให้เธอหนักใจ..ชั้นก็พอจะรู้แล้วว่าเธอสงสัยอะไร..เอาเป็นว่าชั้นจะ ตอบคำถามที่เธอไม่ต้องถามให้เอง"
โฮชิจับมือรินดาราขึ้นมาแล้ววางมือบนฝ่ามือของรินดาราก่อนจะแบออก ปรากฎว่ามีนกกระเรียนกระดาษวางอยู่บนมือรินดารา
"นี่คือคำตอบที่เธอกำลังสงสัย"
โฮชิเดินออกไป รินดารามองตามโฮชิแล้วหันมามองนกกระเรียนกระดาษในมือ แต่ทว่ามันได้กลายเป็นขนนกไป แล้ว รินดาราทนสงสัยไม่ได้ตัดสินใจตามโฮชิออกไป

รินดารารีบวิ่งออกมาจากห้อง แต่ทว่ากลับเจอมิกิเข้ามายืนขวางแทน เธอสะดุ้งโหยง
"คุณย่า ! คุณย่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ชั้นตกใจหมดเลย"
มิกิหน้านิ่ง เสียงเย็นดูเหมือนมิกิกำลังโกรธ
"รินดารา...ชั้นมีเรื่องจะคุยกับเธอ"

รินดาราชะงักแปลกใจ

กลกิโมโน ตอนที่ 8 (ต่อ)

รินดาราเดินตามมิกิไปตามทาง เธอเริ่มแปลกใจมากขึ้นจึงแตะแขนมิกิแล้วถาม
 
"คุณย่าคะ...คุณย่าจะพาชั้นไปไหนคะ"
"ไปหาที่คุยเงียบๆ"
"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณย่าจะคุยเรื่องอะไรกับดิชั้น"
"เรื่องท่านชายโฮชิ"
มิกิหันหลังเดินต่อไป รินดาราตามไป

ฮิโตชินั่งเล่นแกว่งขาอยู่บนต้นไม้ บริเวณทางเข้าป่าสน เขาก้มมองเห็นรินดาราเดินตามมิกิเข้ามา ฮิโตชิมองอย่างสนใจ รินดารายังเดินตามมิกิช้าๆด้วยสีหน้าสงสัย
มิกิแอบยิ้มร้าย...ดวงตาเป็นสีฟ้าวาบ...ก่อนจะเดินล่อรินดาราต่อไป
ฮิโตชิสะดุ้งตกใจกับดวงตาของมิกิ

อายูมินอนหลับอยู่บนเตียง ฮิโตชิเขย่าตัวอายูมิและเรียกด้วยความหวาดกลัวร้อนใจ
"อายูมิ..อายูมิ"
อายูมิงัวเงียตื่นขึ้น
"มีอะไรเหรอฮิโตชิ"
ฮิโตชิไม่ตอบ แต่มีสีหน้าหวาดกลัว

อาคิระเดินมาจากทางห้องเก็บกิโมโน แล้วพบอายูมิเข็นรถสวนเข้ามา..สีหน้าของเด็กน้อยร้อนรนหวาดกลัว พอเห็นอาคิระก็รีบเข็นรถเข้าไปหาเขา
"อ้าว...อายูมิ เข้านอนแล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ ออกมาทำไม"
"คุณอาขา...ช่วยพี่รินดาราด้วยค่ะ"
"รินดาราเป็นอะไร ?"

รินดาราเดินตามมิกิเข้ามายังทางเข้าป่าสน...สองข้างทางมืดและเป็นแนวต้นสนยาว...ดูน่าสะพรึง
รินดาราละสายตาจากมิกิ แล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างหวาดกลัว
"คุณย่าคะ ดิชั้นว่าเรากลับกันเถอะค่ะ"
รินดาราพูดพร้อมกับหันกลับมามองมิกิ แต่มิกิหายไปแล้ว เธอตะโกนเรียก
"คุณย่า ! คุณย่าอยู่ไหนคะ"
รินดารามองหามิกิไปรอบๆอย่างไม่สบายใจ
มิกิยืนอยู่ในมุมมืดด้านหลังรินดารา...ในมือถือมีดปลายแหลม ดวงตาเป็นสีฟ้าวาบมองไปที่รินดาราอย่างอาฆาตมาดร้าย !

อาคิระสีหน้ากังวลเลื่อนบานประตูเข้ามาที่ห้องรินดารา หลังรู้จากอายูมิว่ารินดาราตกอยู่ในอันตราย
"รินดา"
ในห้องเงียบกริบไร้วี่แววรินดารา อาคิระถอยออกมาครุ่นคิดจะตามหารินดาราที่ไหน

มิกิกำมีดในมือแน่น จ้องเขม็งไปที่รินดาราด้วยดวงตาสีฟ้าซึ่งถูกควบคุมโดยนางปีศาจหิมะ
"แกตาย"
มิกิถือมีดพุ่งเข้าหารินดาราพยายามจะจ้วงแทง แต่รินดาราหันมาเห็นเข้าพอดีเลยหลบไปได้อย่างหวุดหวิด เธอตกใจ
" คุณย่า !! คุณย่าทำชั้นทำไมคะ"
มิกิถูกควบคุมสติโดยนางปีศาจหิมะจนทำให้ไม่รู้ตัว จึงพยายามจะฆ่ารินดาราให้ได้ ใช้มีดวิ่งไล่แทงไม่หยุด รินดาราพยายามวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต แต่มิกิก็ตามไปแทงไม่หยุด
"หยุดนะคะคุณย่า..ชั้นบอกให้หยุด..หยุด"
รินดาราพยายามเรียกสติย่ามิกิ แต่ย่ามิกิก็ไม่รู้สึกตัวเลยและตวัดมีดจนรินดาราพลาดล้มลง
มิกิตามไปขึ้นคร่อมร่างของรินดาราแล้วง้างมีดจะจัดการ รินดารายกมือขึ้นจับมือมิกิเอาไว้
"อย่าค่ะคุณย่า..อย่า"
คมมีดกดลงใกล้หน้ารินดาราทุกที

อาคิระวิ่งเข้ามาหารินดารา ตะโกนเรียกอย่างเป็นห่วง
"รินดารา…รินดารา !"
ทุกอย่างเงียบเชียบไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา แล้วอาคิระก็รู้สึกแปลกๆเมื่อสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่ผิดฤดู
"ลมหนาว"
จังหวะนั้นเองยูกิโผล่มาข้างหลัง...ตึ่ง ! และกำลังจะเคลื่อนตัวเข้าหาพร้อมยื่นมือไปจัดการ
อาคิระยืนสงสัยในขณะที่ยูกกิใกล้จะถึงตัวอาคิระ แต่จังหวะนั้นเองเสียงร้องขอความช่วยเหลือของรินดาราก็แทรกเข้ามา
"ช่วยด้วย...ช่วยด้วย"
"รินดารา"
อาคิระหันขวับไปทางเสียงแล้วรีบวิ่งออกไปทางป่าสน ทิ้งให้ยูกิหยุดอยู่กับที่ลดมือลง มองตามด้วยสีหน้ายิ้มเยาะ

รินดารากำลังจะถูกย่มิกิแทงด้วยมีดลงกลางหน้า รินดาราพยายามออกแรงยื้อสุดฤทธิ์ปากก็ร้องส่ง เสียงดังขอความช่วยเหลือ
"ช่วยด้วย..ช่วยด้วย...คุณย่าคะ..อย่าค่ะ..อย่า..อย่า"
รินดาราใกล้จะหมดแรงยื้อคมมีดที่ใกล้จะแทงเข้าหน้าเธอ ทันใดนั้นเองโฮชิก็ปรากฏตัวขึ้นจับข้อมือมิกิกระชากออกอย่างแรง จนมิกิกระเด็นออกจากตัวรินดารา
"มิกิ..เธอทำร้ายฮิคาริทำไม"
มิกิไม่รู้เนื้อรู้ตัวดวงตายังคงเป็นสีฟ้า ใบหน้าไร้ความรู้สึกพร่ำพูดคำเดียว
"ฆ่ารินดารา"
โฮชิเห็นอาการของมิกิที่ดวงตาเป็นสีฟ้าก็รู้ว่าถูกควบคุมโดยนางปีศาจหิมะ
"ท่านชายคะ..คุณย่าเอาแต่พูดว่าจะฆ่าชั้น ชั้นห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เหมือนคุณย่าไม่รู้ตัว ว่ากำลังทำอะไร"
"ดวงตาแบบนั้น...มีคนเดียวที่ทำได้ มิกิกำลังถูกนางปีศาจหิมะเข้าควบคุม"
"นางปีศาจหิมะ"
จังหวะนั้นย่ามิกิปรี่เข้ามาจะจ้วงแทงอีก โฮชิใช้มือหนึ่งจับข้อมือมิกิเอาไว้ไม่ให้จ้วงแทงมีด
"มิกิ..เธอกำลังถูกนางปีศาจหิมะควบคุมอยู่..เธอต้องมีสติสิมิกิ..มิกิ"
มิกิกลับไม่รู้สึกตัวพยายามออกแรงสู้ โฮชิเลยจำเป็นต้องลงมือกับมิกิด้วยการใช้อีกมือทุบเข้าที่ต้นคอของมิกิจนทรุดฮวบลงไปหมอบกับพื้น จากนั้นโฮชิก็เข้าไปดูแลรินดาราอย่างเป็นห่วง
"ปลอดภัยแล้วนะฮิคาริ..เธอเจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า"
"ขอบคุณมากนะคะท่านชาย"
โฮชิกับรินดาราสบตากัน ระหว่างนั้นเองที่มิกิรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง ลืมตาโพล่งขึ้นมาอีก ดวงตาสีฟ้า ยังไม่ หลุดจากการควบคุมของนางปีศาจหิมะ
 
ย่ามิกิกำมีดขึ้นมาแล้วพุ่งตรงเข้ามาจะแทงรินดาราอีกครั้ง

รินดาราตกใจร้องเสียงดัง
 
"ระวังค่ะท่านชาย"
โฮชิหันขวับแล้วรีบดันรินดาราให้ไปหลบข้างหลัง แล้วใช้ตัวรับคมมีดแทน…ฉึก !!
มิกิแทงโฮชิจนมีดมิดด้าม รินดาราตกใจร้องกรี๊ดเสียงดังลั่น โฮชิสีหน้าเจ็บปวดแล้วมองมิกิด้วยแววตาเป็นห่วง
"มิ..มิกิ"
โฮชิค่อยๆใช้สองมือจับที่ศีรษะของมิกิแล้วบีบเบาๆ ทันใดนั้นดวงตาของมิกิก็เปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนเดิมก่อนจะ ร่วงผล่อยลงไปนั่งกับพื้นในสภาพมึนงง
มีดยังปักคาอยู่ที่ท้องของโฮชิต่อหน้าต่อตารินดาราที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก โฮชิซวนเซจนเกือบจะล้ม
รินดาราจะเข้าไปประคอง
"ท่านชาย...ท่านชายคะ"
"ชั้นไม่เป็นอะไรหรอกฮิคาริ"
โฮชิพูดไปพร้อมกับร่างที่ค่อยๆเปล่งรัศมีเรืองรองสีทอง ดวงตาของโฮชิเปลี่ยนเป็นสีเขียวของเทพเจ้านกกระเรียน แล้วมือของเขาก็ค่อยๆดึงมีดออกจากท้องในสภาพที่ไม่เป็นอะไรเลย รอบๆตัวของโฮชิโปรยปรายด้วยขนนกสีขาวที่ปลิวลงมาเหมือนหิมะ รินดาราเห็นภาพตรงหน้าก็อึ้งไป
"ท่านชาย...ท่านชายคือ...โอ๊ย"
รินดาราพูดไม่ทันจบปานที่หลังก็เปล่งประกายวาบสะดุ้งร้องเจ็บ แล้วทรุดลงหมดสติไปในอ้อมแขนของโฮชิที่ประคองเธอเอาไว้พอดี มิกิมึนงงลุกขึ้นมาสงสัย
"ท่านชายคะ..เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ดิชั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง..แล้วนั่นคุณรินดาราเป็นอะไรคะ"
"ความจริงถูกเปิดเผยแล้วมิกิ"
มิกิตกใจ
"จริงเหรอคะท่านชาย"
โฮชิพยักหน้ารับ ระหว่างนั้นเสียงของอาคิระดังเข้ามา
"รินดารา...รินดารา"
"ท่านชายพาคุณรินดาราไปก่อนเถอะค่ะไปเถอะค่ะท่านชาย"

อาคิระวิ่งเข้ามาในป่าสน ร้องเรียกหารินดาราอย่างเป็นห่วง
"รินดารา..รินดารา"
อาคิระเริ่มหน้าเครียดกังวลเพราะเสียงร้องขอความช่วยเหลือของรินดาราเงียบไปแล้ว ระหว่างนั้นมิกิเดินเซๆ เหนื่อยๆเข้ามา
"อาคิระ...ทางนี้จ้ะ"
"คุณย่า นี่คุณย่ามาทำอะไรที่นี่ครับ"
"ย่าได้ยินเสียงของรินดาราแถวนี้..ย่าก็เลยเข้ามาดู"
"ผมก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือแต่เสียงเงียบไปแล้ว อายูมิบอกว่ารินดารากำลังอยู่ในอันตรายด้วย"
"ไม่ต้องห่วงรินดาราแล้วล่ะอาคิระ ตอนนี้ท่านชายช่วยรินดาราเอาไว้แล้ว"
"ท่านชายมาช่วยไป..แล้วตอนนี้ท่านชายพารินดาราไปไหนครับ"
ย่ามิกิมองอาคิระสีหน้าอึกอักใจ

ในเวลาเดียวกัน ณ ห้องโถง คฤหาสน์มิยาคาวะ อายูมิเป็นห่วงกระวนกระวายอยู่บนรถเข็น
"ขออย่าให้พี่รินดาราเป็นอะไรไปเลย"
ระหว่างนั้นๆไอเดินเข้ามาเห็นก็แปลกใจ
"อายูมิ..มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ดึกแล้วทำไมไม่ไปนอน"
"เกิดอันตรายขึ้นกับพี่รินดาราค่ะคุณอา ตอนนี้คุณอาอาคิระกำลังตามไปช่วย"
ไอสีหน้าสงสัยยังไม่ทันจะถามต่อ อาคิระก็ช่วยประครงย่ามิกิเข้ามา
"คุณย่า..เกิดอะไรขึ้นเหรออาคิระ ทำไมคุณย่าเลอะไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ"
"ไว้ชั้นจะเล่าให้ฟังทีหลัง ฝากเธอช่วยดูแลคุณย่าพาไปพักที่ห้องด้วย"
"แล้วพี่รินดาราล่ะคะ"
"ปลอดภัยจ้ะ ตอนนี้อยู่กับท่านชายแล้ว ว่าแต่อายูมิรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับ รินดารา"
"เอ่อ..คือ..คือว่า..."
"ผมว่าตอนนี้อย่าเพิ่งถามอะไรกันเลย ผมเป็นห่วงรินดารา ไอพาคุณย่ากับอายูมิเข้าห้อง ชั้นจะขึ้นไปพบท่านชายบนหอคอย"
มิกิตกใจ
"ย่าว่าไม่ควรนะอาคิระ..ปล่อยให้ท่านชายดูแลรินดาราไปตามลำพังดีกว่า"
ไอยิ่งสงสัย
"ทำไมรินดาราถึงขึ้นไปบนหอคอยกับท่านชายได้คะคุณย่า..นี่มันอะไรกัน ไองงไปหมดแล้ว"
"ไม่มีอะไรที่ต้องสงสัยหรอก ย่าขอให้ทุกคนกลับไปนอนและ ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของลูกหลานมิยาคาวะที่ได้รับคำสั่งให้ทำเท่านั้น"
มิกิสั่งจริงจังจนอายูมิกับไอชะงักไป เหลือแต่อาคิระที่ตัดสินใจตรงกันข้าม ก้มตัวโค้งต่ำสุดให้คุณย่า
"ผมขอโทษครับคุณย่า..ที่ผ่านมาผมทำหน้าที่ของลูกหลานมิยาคาวะอย่างเคร่งครัดมาตลอด แต่เวลานี้นอกจากหน้าที่ของมิยาคาวะแล้ว ผมยังมีหน้าที่ต้องดูแลรินดาราด้วย"
อาคิระแสดงความเสียใจต่อคุณย่า แล้วรีบเดินไปที่หอคอย ย่ามิกิตกใจ
"ไอ..พาอายูมิกลับไปที่ห้องเดี๋ยวนี้"
"แต่ว่า..."
"ย่าสั่ง !"
มิกิสั่งเสียงเด็ดขาดแล้วรีบตามอาคิระไป ไอได้แต่มองตามด้วยสีหน้าสงสัยไม่ต่างจากอายูมิ

โฮชิอุ้มรินดารานอนลงที่ฟูกในห้องของตัวเองใกล้กับภาพวาดรูปเมียวโจโอจิน รินดารายังไม่รู้สึกตัว โฮชิสัมผัสใบหน้าของเธออย่างเป็นห่วง ระหว่างนั้นเองเสียงกระดานกลที่หน้าห้องของโฮชิ ดัง โฮชิหันขวับแล้วรีบเดินออกไป คล้อยหลังได้ไม่นานรินดาราเริ่มรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมา

โฮชิออกมาที่หน้าห้องก็เจอกับอาคิระที่บุ่มบ่ามขึ้นมามีย่ามิกิที่ตามมาห้าม
"หยุดเดี๋ยวนี้นะอาคิระ..ย่าสั่งให้หยุด ! อาคิระไม่ควรทำอย่างนี้ กล้าขัดคำสั่งย่าได้ยังไง"
"เพราะว่าผมเป็นห่วงรินดารา ย่ารู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับเธอ"
"แต่ว่า..."
โฮชิขัด
"ไม่ต้องห่วงรินดาราหรอกอาคิระ ตอนนี้เธอปลอดภัยดี"
"ท่านชายคะ..ดิชั้นขอโทษด้วยค่ะ" มิกิเข้าไปดึงแขนอาคิระ "ลงไปได้แล้วอาคิระ..ไปสิ"
อาคิระขืนตัว
"ไม่ครับคุณย่า..ผมจะไม่ไปไหนจนกว่าจะได้รู้ความจริงที่คุณย่าไม่ยอมบอกผม"
"ย่าไม่มีสิทธิ์บอกอาคิระจนกว่าท่านชายจะอนุญาต"
"งั้นผมก็จะไม่ไปไหนจนกว่าจะได้รู้ความจริง และได้เจอรินดารา" อาคิระหันไปถามท่านชายด้วยสีหน้าจริงจัง "รินดาราอยู่ไหนครับ ทำไมท่านชายต้องพาเธอขึ้นมาบนนี้ด้วย แล้วความลับที่ท่านชายปกปิดทุกคนมาตลอดคืออะไร ทำไมท่านชาย ถึงมีชีวิตอยู่ในสึกิมาได้เป็นร้อยๆปี ถ้าท่านชายไม่บอกความจริงมา ผมจะไม่ลงไปจากหอคอยนี้"
อาคิระกับโฮชิมองหน้ากันไปมาดูจริงจัง

รินดาราที่รู้สึกตัวแล้ว ลุกขึ้นมามองไปที่ภาพวาดหญิงสาวใต้ต้นวิสทีเรีย รินดารามองภาพวาดนั้นด้วยสีหน้านิ่ง ยื่นมือไปสัมผัสภาพนั้นด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดสงสัย
กลีบวิสทีเรียจากภาพค่อยๆปลิวออกมา ยิ่งทำให้เธอนิ่งงันท่ามกลางกลีบวิสทีเรียที่กระจายลอยละล่องรอบตัว
"รินดารา"
เสียงของเมียวโจโอจินเรียกชื่อเธอดังมาจากข้างหลัง ทำให้เธอชะงักกึกค่อยๆหันไปที่เจ้าของเสียงอันแสนอ่อนหวานนั้น ในขณะที่กลีบดอก
 
วิสทีเรียที่กำลังลอยละล่องอยู่รอบๆตัวก็เริ่มหยุดนิ่งค้างแข็งอยู่กลางอากาศอย่างน่าอัศจรรย์ เหมือนว่าเวลา ณ ตรงนั้นได้หยุดลง

ไอประคองอายูมินอนลงบนเตียง
 
"ท่าทางของคุณอาคงอยากจะขึ้นไปดูใช่มั้ยคะว่ามีอะไรข้างบนหอคอย"
"นอนได้แล้วนะเรา..ไม่ต้องยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่"
"แต่คุณย่าสั่งเด็ดเลยนะคะว่าห้ามขึ้นไป ถ้ามีใครขัดคำสั่งคุณย่า..คุณอาก็รู้ว่าคุณย่าจะโกรธมากแค่ไหน"
"อาต้องทำยังไงเราถึงจะยอมนอน"
"เล่านิทานให้อายูมิฟังไงคะ"
อายูมิยิ้มน่ารักอ้อนๆ ไอเลยหันไปหยิบหนังสือนิทานบนโต๊ะ แต่ระหว่างนั้นมือปัดโดนทำให้หนังสือตกลงจากโต๊ะ
หนังสือนิทานค้างอยู่กลางอากาศ ส่วนไอกับอายูมิก็ชะงักค้างอยู่ในท่าเดิม..เหมือนว่าเวลาในตอนนั้นได้หยุดลง

โฮชิ อาคิระและมิกิที่กำลังสนทนา ณ เวลา เดียวกันก็หยุดนิ่งไปเหมือนกัน อาคิระกับโฮชิมองหน้ากัน ส่วนมิกิก็จะพยายามเข้าไปห้ามอาคิระ ทุกคนต่างนิ่งงันไม่ขยับ เพราะเวลาได้หยุดลงเช่นกัน

รินดาราค่อยๆหันมาที่เมียวโจโอจิน เทพธิดาดาวเดือนเจ็ดในชุดกิโมโนสีทองสวยงาม อลังการ ท่ามกลางเวลาที่หยุดลง ใบหน้าของเมียวโจโอจินเหมือนกับใบหน้าของรินดาราราวเป็นใบหน้าเดียวกัน
"คุณ…คุณคือ…"
"ใช่แล้วจ้ะรินดารา..ชั้นคือเมียวโจ เทพธิดาดาวเดือนเจ็ด และเธอก็คือร่างอวตารบนโลกนี้ของชั้น"
รินดาราชะงัก
"ชั้นคือร่างอวตารของคุณ..ก็หมายความว่า"
รินดาราไม่ทันพูดต่อ ปานรูปดาวที่ด้านหลังก็เปล่งแสงระเรื่อออกมาให้เธอรู้สึก แต่ครั้งนี้ไม่รู้สึกแต่อย่างไร
"ใช่แล้วจ้ะ..ตั้งแต่วันที่เธอเกิดขึ้นมา ในวันที่เจ็ดเดือนเจ็ด ส่วนหนึ่งของชั้นก็อยู่กับเธอมาตลอด เหมือนกับว่าเราคือคนคนเดียวกัน เพียงแต่เธอยังไม่รู้ว่าเธอมีหน้าที่อะไร จนวันนี้มาถึง..วันที่โฮชิปกป้องเธอด้วยชีวิต"
"หน้าที่"
รินดารายังรู้สึกงุนงง เมียวโจจึงเดินเข้าไปใกล้รินดาราแล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
"ความทุกข์ทรมานของโฮชิ ทำให้ชั้นไม่สามารถทนรอให้เธอพร้อมไปกว่านี้ได้อีกแล้ว เราต้องช่วยเขานะรินดารา..โฮชิผู้แสนดี เทพเจ้าที่รักมนุษย์มากกว่าชีวิตตัวเอง"
"หน้าที่ของชั้นคือช่วยท่านชายเหรอคะ "
"ใช่แล้วจ้ะ..มาสิ..ชั้นจะทำให้เธอรู้ว่าโฮชิมีความรักที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน"
เมียวโจค่อยๆไปใกล้รินดารา แล้วยื่นสองมือออกไปแตะขมับของรินดารา ทั้งคู่ค่อยๆหลับตาเป็นการถ่ายทอด ความรู้สึกจากเมียวโจไปสู่รินดารา
บนโลกสวรรค์ก่อนที่โฮชิจะลงมาโลกมนุษย์ โฮชิมีความสุขและความรักล้นปรี่อยู่กับเมียวโจ
บนโลกมนุษย์ โฮชิเทพเจ้านกกระเรียนอยู่ท่ามกลางพายุหิมะและศพ ชาวบ้าน โฮชิช่วยฮานะไว้
โฮชิกรีดเลือดผสมน้ำให้ชาวบ้านดื่มแล้วประตูสวรรค์ปิด...
รินดาราค่อยๆลืมตาพร้อมเมียวโจที่ปล่อยมืออกจากขมับ น้ำตาของรินดาราไหลออกมาอย่างเศร้าโศรกเสียใจ
"โฮชิ...ฮือๆๆ"
"ใช่แล้วจ่ะรินดารา..ชั้นก็คือเธอ เธอก็คือชั้น..ความรู้สึกของชั้นที่มีต่อโฮชิอยู่ในตัวเธอแล้ว...เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยโฮชิ"
รินดาราพยักหน้ารับทั้งๆที่น้ำตายังอาบแก้ม เมียวโจยิ้มให้ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ

หนังสือนิทานกำลังตกพื้น แต่ไอคว้าหนังสือเอาไว้ได้ทัน
"ระวังหน่อยสิคะคุณอา..หนังสือนิทานเล่มโปรดของอายูมิเลยนะคะ"
ไอหยิกแก้มแบบหยอก
"น้อยหน่อยนะเรา..ดุอาเลยเหรอ เดี๋ยวก็ไม่เล่านิทานให้ฟังเลย"
อายูมิยิ้มแห้ง
"แหะๆๆ..อายูมิขอโทษค่ะ เล่าให้อายูมิฟังนะคะ..นะคะ"
ไอพยักหน้ารับ

โฮชิกับอาคิระและมิกิที่ชะงักค้างอยู่ ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ มิกิไม่พอใจที่อาคิระพูดจาไม่ดีกับท่านชาย...
"เกินไปแล้วนะอาคิระ ย่าจะไม่ปล่อยให้อาคิระทำเสียมารยาทกับท่านชายแบบนี้อีกเด็ดขาด ออกไปจากที่นี่กับย่าเดี๋ยวนี้"
"ไม่ครับ"
"ย่าสั่ง อาคิระต้องทำตาม"
"พอได้แล้วมิกิ..ถ้าอาคิระอยากรู้ความจริงชั้นก็จะเล่าความจริงให้อาคิระฟังเอง"
มิกิตกใจ
"ท่านชาย"
โฮชิมองอาคิระจริงจัง แต่ยังไม่ทันจะเริ่มพูดอะไร ระหว่างนั้นประตูบานเลื่อนห้องโฮชิเปิดออก ทุกคนหันไปมองที่รินดาราตรงประตู และโดยไม่มีใครคาดคิดรินดาราเดินเข้ามาหาโฮชิอย่างตั้งใจ สองมือของเธอจับมือโฮชิมากุม เอาไว้ด้วยน้ำตาของความตื้นตันพร้อมกับสวมกอดโฮชิแน่น
"ท่านชายคะ..ชั้นจำได้แล้วว่าชั้นคิดถึงท่านชายมากแค่ไหน มันช่างนานเหลือเกิน นานจนหัวใจแทบสลาย"
รินดารากอดโฮชิแน่น ทำเอาโฮชิอึ้งไปไม่ต่างจากอาคิระและมิกิ
"ฮิคาริ..นี่..นี่เธอ..เธอจำได้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร"
"ค่ะท่านชาย ชั้นจำได้แล้วว่าชั้นเกิดมาเพื่อใคร..และหน้าที่ของชั้นที่ถูกกำหนดเอาไว้ ตั้งแต่วันที่ชั้นเกิดมาคืออะไร"
"รินดารา..นี่มันอะไรกัน ? หน้าที่อะไรของเธอ" อาคิระถาม
รินดารานิ่ง มองหน้าอาคิระด้วยสีหน้าหนักใจ
"อาคิระ...คือว่า"
"เอาล่ะ...นี่คือความจริงที่เธออยากรู้ไงล่ะอาคิระ มากับชั้นสิอาคิระ ถึงเวลาแล้วที่เธอจะได้รู้ความลับของชั้นและกิโมโนโฮชิ ว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลมิยาคาวะ และ เกี่ยวอะไรกับฮิคาริ"

โฮชิบอกอาคิระแล้วเดินไปที่ห้องเก็บกิโมโนโฮชิ

อาคิระตามโฮชิกับมิกิเข้ามาที่ห้องเก็บกิโมโนโฮชิ กิโมโนโฮชิสีน้ำเงินเข้มที่แขวนอยู่ตรงหน้า ทำให้อาคิระนิ่งอึ้งไป
 
มิกิบอก
"นี่ไงล่ะ..กิโมโนโฮชิ กิโมโนผืนสำคัญที่ลูกหลานมิยาคาวะต้องปกป้องด้วยชีวิต"
"กิโมโนโฮชิ"
อาคิระเหมือนถูกต้องมนต์ เดินเข้าไปหยุดดูกิโมโนโฮชิตรงหน้า เห็นลวดลายนกกระเรียนปักด้วยไหมสีทองบนกิโมโนด้วยสีหน้าอดทึ่งไม่ได้ในความงาม
"กิโนโฮชิก็คือกิโมโนของเทพเจ้านกกระเรียนที่ถูกทอและปักลวดลายโดยเมียวโจ เทพธิดาดาวเดือนเจ็ดคนรักของเทพเจ้านกกระเรียน ก่อนที่เทพเจ้านกกระเรียนจะลงมาที่เมืองสึกิ แล้วถูกนางปีศาจหิมะเล่นงานจนทำให้ไม่สามารถกลับไปสวรรค์ได้" มิกิเล่า
"คุณย่าล้อผมเล่นรึเปล่า นั่นมันคือนิทานไม่ใช่เหรอครับ"
"ไม่ใช่นิทานหรอก..แต่เป็นเรื่องจริง ทุกวันชั้นจะบรรเลงเพลงโกโตะเพื่อให้คนรักของชั้นได้ยิน จนวันนี้เวลาที่ชั้นรอคอยก็มาถึง รินดาราคือส่วนหนึ่งของเมียวโจที่เกิดมาเพื่อช่วยให้ชั้นได้กลับสวรรค์"
โฮชิบอกแล้วขยับเข้าไปใกล้อาคิระ จ้องมองด้วยใบหน้านิ่งแล้วหลับตา เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งดวงตาของโฮชิ เปลี่ยนเป็นสีเขียวของเทพเจ้า อาคิระถึงกับผงะตกใจ
"ใช่แล้วล่ะอาคิระ..ชั้นเองก็เพิ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่าชั้นเกิดมาเพื่อหน้าที่อะไร ปานดาวที่หลังของชั้นคือสิ่งที่บอกว่าชั้นคือส่วนหนึ่งของเทพธิดาดาวเดือนเจ็ด ชั้นเกิดมาบนโลกนี้เพื่อช่วยทำให้โฮชิได้กลับสู่สวรรค์ ซึ่งนั่นก็คือการช่วยตามหาขนนกกระเรียนทองคำที่จะนำมาปักลวดลายบนกิโมโนโฮชิให้สำเร็จ"
รินดาราอธิบายให้อาคิระฟังแล้วหันไปจับมือโฮชิขึ้นมากุม
"ชั้นจะอยู่เคียงข้างท่านชาย และทำหน้าที่ของชั้นให้สำเร็จค่ะ"
โฮชิยิ้มรับด้วยความดีใจ
"ชั้นดีใจที่ได้อยู่ใกล้เธออีกครั้งนะเมียวโจ"
โฮชิลูบแก้มของรินดารา แล้วดึงเธอมาสวมกอดเอาไว้ต่อหน้าต่อตาอาคิระที่ได้เห็นภาพของความผูกพันธ์ของโฮชิกับรินดารา ทำให้เขามีแววตาเศร้าขึ้นมาทันที มิกิแอบสังเกตเห็นแววตาของหลานชาย

ยูกิดวงตาเป็นสีฟ้า ปากแดงจัด จิกหน้าไม่พอใจส่งเสียงกรีดร้องลั่น จนมาโกโตะกับริเอะ ต้องรีบเข้ามาด้วยความสงสัย
"ยูกิ !! เกิดอะไรขึ้น"
"ชั้นทำพลาด !! ชั้นใช้ให้นังมิกิจัดการกับนังรินดาราไม่ได้ แล้วยังไปช่วยให้ความจริงเปิดเผยจนนังรินดารารู้ตัวว่ามันคือเมียวโจที่อวตารลงมาช่วยให้โฮชิได้กลับสวรรค์"
"ว่าไงนะ..รินดาราคือร่างอวตารของเมียวโจ เทพธิดาดาวเดือนเจ็ดคนรักของเทพเจ้านกกระเรียนในนิทานของเมืองสึกิน่ะเหรอ" ริเอะว่า
"นังเมียวโจมันไม่มีหน้าที่ลงมาบนโลก มันถึงได้แบ่งภาคอวตารมาแฝงอยู่ในตัวมนุษย์ เจ้าเล่ห์จริงๆนังเมียวโจ"
ริเอะแอบเยาะเย้ย
"จะไปว่าเขาอย่างเดียวก็ไม่ถูกนักหรอกยูกิ ในเมื่อเธอทำพลาดช่วยให้คนรักเขาได้มาเจอกัน โธ่..น่าสงสาร แต่ก็ดีไปอย่าง ถ้ารู้อย่างนี้ชั้นก็สบายใจได้ว่านังรินดาราจะไม่มาแย่งอาคิระของชั้นไป"
ยูกิจิกหน้าไม่พอใจพุ่งตัวเข้าไปจ้องหน้าเขม็งบีบคอริเอะ
"กล้าดียังไงมาสมน้ำหน้าชั้น..นังมนุษย์ชั้นต่ำ !"
ยูกิออกแรงบีบจนริเอะหน้าดำหน้าแดง มาโกโตะตกใจ
"ยูกิ..อย่าทำลูกชั้นเลย ริเอะพูดอะไรไม่ทันคิด...ปล่อยริเอะเถอะ..ชั้นขอร้อง"
ยูกิค่อยๆปล่อยมือ ริเอะหน้าดำหน้าแดงสำลักไอไม่หยุด
"ขอโทษยูกิสิ ริเอะ..ขอโทษเธอ !"
"ชั้น..ชั้นขอโทษ"
"ไปซะ !"
ริเอะรีบวิ่งออกไป ยูกิหันมาที่มาโกโตะดวงตาร้ายกาจด้วยเช่นกัน
"แกก็ด้วย"
มาโกโตะรีบออกไป ยูกิจิกหน้าเจ็บใจอยู่คนเดียวดวงตาฉายแววอาฆาตแค้น
"พวกแกจะไม่มีทางได้สมหวังกันง่ายๆแน่ ถ้าไม่เจ็บก็อย่าหวังว่าจะได้จบ"

วันใหม่ ณ คฤหาสน์โคสึกะ ที่ศาลเทพเจ้าสุนัขจิ้งจอกไอมาพบกับฮิเดโนริ
"ตั้งแต่ชั้นเข้ามาอยู่กับพวกเขา เมื่อคืนนี้เป็นคืนที่มีแต่เรื่องแปลกที่สุดแล้วล่ะฮิเดะ อยู่ๆ ท่านชายก็พารินดาราหายขึ้นไปด้วยกันบนหอคอย แล้วท่าทางอาคิระก็ไม่พอใจมาก หุนหันขึ้นไปด้วยอีกคน ทั้งๆที่คุณย่าห้ามเด็ดขาด"
เขาฟังอยู่ตลอดอย่างสนใจ นิ่วหน้าครุ่นคิดจนเข้าใจพึมพำอยู่คนเดียว
"แสดงว่านางปีศาจหิมะทำพลาดฆ่ารินดาราไม่ได้"
ไอได้ยินไม่ถนัด
"เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะฮิเดะ"
"เปล่า..ไม่มีอะไร"
"แต่ชั้นว่าเธอกำลังปกปิดอะไรชั้นด้วยอีกคน เหมือนกับที่พวกบ้านมิยาคาวะพยายามปิดชั้นอยู่"
"ชั้นว่าเธอกลับไปได้แล้วล่ะ ไว้ว่างเมื่อไหร่ชั้นจะติดต่อไปเอง"
ฮิเดโนริบอกแล้วจะเดินเข้าบ้าน แต่ไอรีบตามไปขวางอย่างไม่พอใจ
"เดี๋ยวสิ ! ทำไมพูดเหมือนไล่ส่งชั้นแบบนี้ ชั้นอยากรู้อะไรก็ไม่ยอมบอก"
"ชั้นว่าเธออย่าทำตัวน่ารำคาญ ถ้าชั้นบอกให้กลับก็ต้องกลับ"
เขาพูดเน้นเสียงหนักและจ้องหน้าไอด้วยท่าทางไม่พอใจ วูบนั้นเองดวงตาของฮิเดะเป็นสีส้มของดวงตาสัตว์ ไอเผลอเห็นเข้าก็ตกใจผงะถอย
"ฮิเดะ..ตา..ตาของเธอ"
ฮิเดโนริหน้าตาขึงขังใส่ไม่พูดอะไรต่อแล้วเดินเข้าบ้านไป ไอได้แต่ยืนอึ้งๆมองตามสงสัยไม่หยุดความอยากรู้

ภายในสวนญี่ปุ่น ดาบไม้ซ้อมเคนโด้ในมืออาคิระฟาดลงกลางอากาศ อเขากำลังซ้อมเคนโด้ฟันดาบไม้อย่างรุนแรง หนักหน่วงด้วยสีหน้าครุ่นคิดเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่ประสบเมื่อคืนนี้
"ท่านชายคะ..ชั้นจำได้แล้วว่าชั้นคิดถึงท่านชายมากแค่ไหน มันช่างนานเหลือเกิน นานจนหัวใจแทบสลาย"
รินดารากอดโฮชิแน่น ทำเอาโฮชิอึ้งไปไม่ต่างจากอาคิระและมิกิ
"ฮิคาริ..นี่..นี่เธอ..เธอจำได้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร"
"ค่ะท่านชาย ชั้นจำได้แล้วว่าชั้นเกิดมาเพื่อใคร..และหน้าที่ของชั้นที่ถูกกำหนดเอาไว้ ตั้งแต่วันที่ชั้นเกิดมาคืออะไร"
อาคิระกำดาบเคนโด้แน่นแล้วพุ่งตัวเข้าไปฟันหุ่นไม้ตรงหน้า...ย๊าก...
ผั๊ว ! ดาบไม้เคนโด้ในมืออาคิระแตกเป็นเสี่ยงๆ อาคิระยืนนิ่งหายใจหอบถี่

ระหว่างนั้นมิกิเข้ามาเห็นอาการของหลานชายก็อดเป็นห่วงไม่ได้ อาคิระหันมาเห็นย่าก็นิ่งไปเช่นกัน

กลกิโมโน ตอนที่ 8 (ต่อ)

มิกิเดินตามอาคิระมาทันที่ทางเดิน
 
"อาคิระ..คุยกับย่าก่อน ย่าอยากคุยเรื่องเมื่อคืนนี้"
"ไว้ผมจะเข้าไปคุยกับคุณย่าที่ห้องดีกว่าครับ ตรงนี้คงไม่สะดวกที่จะคุยเรื่องสำคัญของตระกูลเรา"
"ย่าไม่ได้หมายความถึงเรื่องความลับ แต่ย่าเป็นห่วงความรู้สึกของอาคิระต่างหาก"
อาคิระชะงักไปครู่
"ย่าไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ความจริงเปิดเผยออกมาแบบนี้ก็ดี ผมจะได้หยุดความรู้สึกของผมไว้ก่อนที่จะปล่อยให้คิดไปไกลมากกว่านี้ เพราะยังไงหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของลูกหลานมิยาคาวะก็คือต้องตอบแทนบุญคุณของเทพเจ้านกกระเรียน"
แต่ระหว่างนั้นโฮชิเข้ามาพอดี ทั้งอาคิระกับมิกิชะงักกันไป
"ท่านชาย"
อาคิระโค้งให้ตามมารยาท
" จากเรื่องที่ทราบเมื่อคืน ผมมาคิดดูแล้วผมจะช่วยตามสืบหาว่านางปีศาจหิมะอยู่ที่ไหน เพราะถ้ามันใช้เวทย์มนต์สะกดให้คุณย่าทำร้ายรินดาราได้ ต่อไปมันก็คงไม่หยุดแค่นี้"
"ขอบใจมากนะอาคิระ แต่นางปีศาจหิมะเป็นปีศาจ ชั้นกลัวว่าเธอจะได้รับอันตราย"
โฮชิยื่นเซมาโมริรูปนกกระเรียนให้
"เซมาโมริจะช่วยปกป้องเธอจากอันตรายได้"
อาคิระนิ่งมองเหรียญเซมาโมริอยู่ครู่แล้วปฏิเสธ
"ขอบคุณครับท่านชาย แต่ผมคงไม่รับ เพราะฝีมือดาบของผมจะปกป้องผมและทุกคนในมิยาคาวะได้"
พูดแค่นั้นอาคิระก็เดินออกไป ย่ามิกิมองตามถอนใจ
"ดิชั้นต้องขอโทษท่านชายด้วยนะคะที่อาคิระแสดงกิริยาแบบนั้น"
"ไม่เป็นไร หรอกมิกิ..ชั้นเข้าใจว่าตอนนี้อาคิระกำลังรู้สึกยังไง"

ภายในห้องอายูมิ รินดารากำลังช่วยพยุงอายูมิให้เริ่มหัดเดินอย่างระมัดระวัง จนอายูมิเริ่มเดินได้สองสามก้าว ด้วยความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
อายูมินับก้าว
"หนึ่ง สอง สาม"
อายูมิเดินได้ 3 ก้าวก็เริ่มจะฝืน รินดาราสังเกตเห็นก็บอกให้พอ
"ได้ตั้ง 3 ก้าวแล้ว อายูมิเก่งมากจ้ะ พอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ"
"ก็ได้ค่ะพี่รินดารา..ในเมื่ออายูมิทำได้ดีแบบนี้ พี่รินดาราก็ต้องบอกอายูมิได้แล้วใช่มั้ยคะ ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนต้องขึ้นไปบนหอคอย แล้วบนนั้นมีอะไรทำไมย่าต้องห้ามไม่ให้ขึ้นไป"
"ข้างบนเป็นห้องของท่านชาย มีแค่โกโตะกับกิโมโนที่ตระกูลมิยาคาวะทอให้ท่านชายแค่นั้นเองจ้ะ"
"เหรอคะ..แล้วกิโมโนของท่านชายสวยมากมั้ยคะ อายูมิยังไม่เคยเห็นเลย เคยได้ยินแต่คุณย่าบอกว่า ถ้าอายูมิโตพอ อายูมิจะได้ขึ้นไปเห็นกับตา และจะได้รับหน้าที่ช่วยดูแลกิโมโนผืนนี้ต่อจากคุณย่าด้วย"
"สวยสิจ๊ะ..กิโมโนโฮชิของท่านชายเป็นกิโมโนที่สวยมากที่สุด แต่จะบอกว่าสวยยังไงบ้าง ก็คงต้องแลกกับที่อายูมิต้องบอกพี่มาก่อนว่า อายูมิรู้ได้ยังไงว่าเมื่อคืนนี้จะเกิดอันตรายกับพี่"
"เอ่อคือ..."
ระหว่างนั้นอาคิระเข้ามาขัดจังหวะพอดีเพราะได้ยินคุยกันจากข้างนอก
"นั่นสิ..อาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนมาเตือนอายูมิ"
"คุณอา"
"ว่าไงล่ะอายูมิ"
"อายูมิบอกไม่ได้ค่ะ เพื่อนหนูเขาไม่ให้บอก"
"เพื่อนเหรอ?..รู้สึกว่าเพื่อนคนนี้เขาช่วยเตือนเรามาหลายครั้งแล้ว งั้นอาต้องรู้จักเขาซะที"
"ไม่ได้จริงๆค่ะคุณอา..เขาไม่อยากให้ใครเจอเขา เพราะเดี๋ยวเขาจะโดนคนที่โคสึกะลงโทษ นะคะคุณอาอย่าบังคับอายูมิเลย อายูมิไม่อยากผิดสัญญากับเพื่อน"
"ทำไมอายูมิไม่ไว้ใจอาล่ะครับ บางทีอาอาจจะช่วยเพื่อนของอายูมิก็ได้นะ"
อายุมิมีสีหน้ากังวลและหนักใจ จนเอาแต่ก้มหน้า ไม่กล้าสบตาอาคิระ น้ำตาคลอ รินดาราจึงแตะแขนอาคิระ
"ชั้นว่าคุณอย่าเพิ่งไปคาดคั้นแกเลยค่ะ รอให้แกพร้อมกว่านี้ดีกว่า"
อาคิระปัดมือเธอออกเบาๆออกจากอายูมิแล้วเดินออกไปเลย รินดาราชะงักกับท่าทางของอาคิระ

อาคิระเดินหน้าตาจริงจังผ่านมาที่หน้าศาลเทพเจ้านกกระเรียน รินดาราตามอาคิระเข้ามาและเรียกให้หยุด
"เดี๋ยวสิคะคุณอาคิระ...คุณจะไปไหน"
"ผมรับปากท่านชายว่าจะไปสืบเรื่องนางปีศาจหิมะ"
"แล้วคุณจะเริ่มต้นสืบยังไง"
"เมื่อกี้นี้อายูมิพูดถึง พวกโคสึกะทำให้ผมคิดนึกถึงตำนานว่าพวกที่ปลุกนางปีศาจหิมะ ก็คือพวกโคสึกะ บางทีผมอาจจะได้เรื่องจากพวกนั้น"
"แต่ชั้นว่าคุณไม่ควรเข้าไปยุ่งกับพวกนั้น เพราะอาจจะเป็นอันตรายกับชีวิตคุณได้ ปล่อยให้ชั้นทำหน้าที่ของชั้นดีกว่า"
อาคิระยิ่งฟังแล้วก็ยิ่งเจ็บข้างในเลยถามแกมประชด
"ตกลงตอนนี้ผมกำลังคุยกับใครอยู่ รินดาราหรือว่าเทพธิดาดาวเดือนเจ็ด…ผมจะได้ทำตัวถูก"
รินดาราชะงัก
"คุยกับคนที่คุณรู้จักอยู่นั่นแหละ เคยคุยกันยังไงก็คุยกันแบบนั้น"
"จะเหมือนเดิมได้ยังไง ก็ในเมื่อตอนนี้คุณคือเมียวโจ คุณเกิดมาเพื่อท่านชาย"
รินดาราผงะไป
"ไปทำหน้าที่ของคุณเถอะ..ผมเองก็มีหน้าที่ของผมเหมือนกัน"

อาคิระเดินออกไป ทิ้งให้รินดาราวูบไหวกับคำพูดนั้น

การซ้อมเคนโด้ของพวกนักกีฬาแต่ละคนมีฝีมือดุดัน
 
อาคิระเข้ามาพยายามองหาฮิเดโนริ แต่ไม่เห็นตัว เจอแต่อัตสุโอะอยู่กับพวกนักกีฬาเคนโด้ที่เป็นพรรคพวกของฮิเดะโนริ พวกนั้นเห็นอาคิระก็หยุดซ้อม
อาคิระเข้าไปที่อัตสุโอะ
"เจ้านายแกอยู่ไหน"
"ทำไมชั้นต้องบอกแกด้วย"
"เพราะถ้าแกไม่บอกชั้นดีๆ ก็เท่ากับว่าแกอยากให้ชั้นออกแรงคุย"
อัตสุโอะยิ้มกวนๆ
"หึๆๆ..แกนี่มันกล้าจริงๆนะอาคิระ มาถึงถิ่นของพวกชั้นแล้วยังอวดเก่งได้อีก ได้...ถ้าอยากออกแรงคุย..ชั้นก็อยากออกแรงด้วยเหมือนกัน"
พูดเสร็จพวกนักกีฬาในโรงฝึกเคนโด้ก็ลุกยึ้นมายืนเป็นแผงข้างหลังอัตสุโอะไม่ต่ำกว่า 4 คน อัตสุโอะโยนดาบ ซามูไรให้อาคิระ
"เข้ามาเลยอาคิระ"
อาคิระหยิบดาบซามูไรขึ้นมาจ้องหน้าอัตสุโอะกับพรรคพวก

ในเวลาเดียวกัน ฮิเดโนริเดินเข้าไปในร้านนวดแป้งร่ำได้ครู่ ไอก็เดินตามหลังเข้ามาหยุดยืนมองด้วยความสงสัย
"ฮิเดะมาทำอะไรที่นี่"
ภายในร้านฮิเดะเข้ามาขณะที่แป้งร่ำกับเกียวเพิ่งนวดให้ลูกค้าเสร็จและมาส่งลูกค้า
"ขอบคุณมากนะคะ..ไว้แวะมาอีกนะคะ"
แป้งร่ำกับเกียวส่งลูกค้าแล้วหันมาที่ฮิเดโนริอย่างแปลกใจ
"สวัสดีค่ะคุณฮิเดะ " เกียวไหว้อย่างไทย "แหม..เกียวกำลังอยากเจออยู่คุณอยู่พอดี อยากรู้เรื่อง
วันก่อน เกิดอะไรขึ้นเหรอคะทำไมอยู่ๆน้องรินดาราถึงรีบออกไปจากร้าน พยายามถามน้องรินดาราก็ไม่ยอมบอก"
เขาโค้งขอโทษ
"ผมต้องขอโทษด้วยครับ..วันนั้นผมพูดจาไม่ดีกับเธอ เลยทำให้เธอเข้าใจผมผิด วันนี้ผมก็เลยอยากจะมาแก้ตัวและขอโทษ"
"ถ้าอยากจะขอโทษน้องรินดาราทำไมไม่ไปที่มิยาคาวะ" แป้งร่ำบอก
เกียวรีบสะกิด
"ไปให้มีเรื่องเหรอยะนังแป้ง"
แป้งร่ำกระซิบตอบ
"นั่นสิลืมไปว่าสองตระกูลไม่ถูกกัน"
"เป็นเพราะวัฒนธรรมของเราต่างกันเลยทำให้บางทีการพูดการจาของผมอาจไปทำให้คุณรินดาราไม่พอใจ ผมรู้สึกผิดมากกับเรื่องนี้เลยอยากจะขอร้องให้คุณแป้งกับคุณเกียวช่วยผมด้วย...รบกวนด้วยนะครับ"
ฮิเดะโนริยังก้มหัวต่ำไม่เงยขึ้น ทำให้เกียวกับแป้งร่ำมองหน้ากันเอาไงดี

ภายในห้องตรงหน้ากิโมโนโฮชิ มิกิสีหน้าสนใจเมื่อรินดาราเล่าให้ฟัง
"คุณรินดาราสามารถฟังสัตว์คุยกันรู้เรื่องเหรอคะ"
"ค่ะคุณย่า ชั้นสามารถได้ยินเสียงสัตว์พูดคุยกัน แล้วยังสื่อสารกับพวกเขาได้ มันเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวชั้นมาตั้งแต่จำความได้"
"แสดงว่านั่นอาจจะเป็นสิ่งที่เมียวโจต้องการให้ช่วยตามหาขนนกกระเรียนทองคำเพื่อมาปักลายบนกิโมโนโฮชิให้สำเร็จ"
"ค่ะคุณย่า..เพราะเท่าที่ได้ยินมา เป็นเวลานับร้อยๆปีแล้วที่ไม่มีใครเคยพบนกกระเรียนทองคำเลย"
"ใช่ค่ะ บรรพบุรุษของตระกูลเราพยายามส่งคนออกตามหาก็ยังไม่มีใครพบเลย ส่วนลายที่เห็นปักยังไม่เสร็จบนกิโมโน ก็เป็นเส้นไหมจากกิโมโนตัวเก่าของท่านชายที่เสียหาย แล้วทางเราได้เลาะเส้นไหมเดิมมาปักใหม่"
"ท่านชายคะ ชั้นจะพยายามตามหานกกระเรียนทองคำให้เจอให้เร็วที่สุด"
"ไม่ต้องรีบร้อนมากหรอกฮิคาริ ชั้นรอมาได้ถึงสี่ร้อยปี รออีกหน่อยก็คงไม่ต่างกันมาก"
"ต่างสิคะ เวลานี้ท่านชายไม่ได้รอเพียงเดียวดายอีกแล้ว แต่ท่านชายมีเธออยู่ด้วย"
คำพูดของย่ามิกิทำให้รินดารากับโฮชิสบตากัน
"ดิชั้นว่า..ดิชั้นขอตัวก่อนดีกว่า เวลานี้ท่านชายคงอยากอยู่กันตามลำพังมากกว่า เพราะ คงมีเรื่องให้คุยกันมากมายให้สมกับความคิดถึง"
มิกิค่อยๆลุกไปที่ประตู แต่ก่อนที่จะออกไปก็หันมาย้ำกับรินดารา
"คุณรินดาราคะ...คุณกับเมียวโจก็เหมือนคนเดียวกัน ถ้าดิชั้นบอกคุณก็เหมือนบอกผ่านไปถึงเมียวโจได้ใช่มั้ยคะ"
"ค่ะคุณย่า"
มิกิมองไปที่โฮชิ
"ท่านชายคิดถึงคุณมากเลยนะคะ ดิชั้นสงสารที่ท่านชายต้องเดียวดายมาตลอด ฝากท่านชายด้วยนะคะ"
บอกแล้วมิกิก็ออกไปทิ้งให้รินดาราอยู่กับโฮชิตามลำพัง โฮชิกับรินดาราสบตากันมีความรักความคิดถึงอยู่ในดวงตาของทั้งคู่

โรงฝึกเคนโด้ อาคิระใช้ดาบซามูไรปะทะกับพวกนักกีฬาเคนโด้อย่างดุเดือด
อาคิระโชว์ฝีมือสู้ได้อย่างหนักหน่วงดุดัน จนทำให้พวกนักกีฬาคนโด้ได้รับบาดเจ็บกันไปเกือบหมด สุดท้ายเหลือ แค่อัตสุโอะที่ก้าวออกมาชักดาบซามูไรคมกริบ
อัตสุโอะสมกับเป็นมือหนึ่งของมิยาคาวะ แต่ก็อย่างว่า..พวกมิยาคาวะเก่งแต่ทอผ้า มือหนึ่งก็เลย
เป็นได้แค่..ฝีมือพวกอ่อนหัด
อัตสุโอะชี้ปลายดาบคมกริบไปที่อาคิระอย่างท้าทาย แล้วร้องเสียงดังเข้าสู้กับอาคิระอย่างสูสี

โฮชิกับรินดารานั่งสบตากันอยู่ตามลำพังในห้องสองต่อสองภาพสวยงามหวานซึ้ง โฮชิเอื้อมมือสัมผัสใบหน้าของรินดาราที่ดูจะเขินๆและประหม่าเมื่อได้อยู่ใกล้โฮชิ
"ไม่ต้องใช้พลังของเทพเจ้าชั้นก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงมากเลยนะฮิคาริ"
"มันเป็นความรู้สึกข้างในใจของชั้นค่ะท่านชาย ตื่นเต้น ตื้นตัน ดีใจ"
"ชั้นเองก็ยังอดรู้สึกตื่นเต้นไม่หายเลยนะที่ได้เจอเธออีกครั้ง"
"ค่ะท่านชาย ตอนที่ชั้นรู้ความจริงว่าชั้นเกิดมาเพื่ออะไร ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นในหัวใจชั้นทันทีก็คือความคิดถึง"
"หนึ่งวันบนสวรรค์ แต่ก็กินเวลายาวนานเป็นร้อยปีบนโลก ความคิดถึงของชั้นต้องมีมากกว่าเธอนะ"
โฮชิพูดไปก็ดึงรินดารามากอดอย่างอบอุ่น อ้อมกอดของเขาแนบแน่นซะจนทำให้รินดาราชะงักไม่ทันตั้งตัว นั่นเลยทำให้โฮชิรู้สึกได้รีบปล่อยเธอออกจากก้อมกอด
"ชั้นขอโทษ..มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอนะฮิคาริ กับการที่ต้องอยู่ในสภาพนี้"
"ไม่หรอกค่ะท่านชาย ชีวิตชั้นถูกลิขิตให้เกิดมาเพื่อเป็นของท่านชายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ตอนนี้ชั้นยังไม่ชิน"
ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของรินดาราดังขึ้นขัดจังหวะพอดี
"ขอโทษนะคะท่านชาย" เธอเอาโทรศัพท์มาดูแล้วกดรับ) "ค่ะพี่แป้งร่ำ..เหรอคะ..ได้ค่ะ..ชั้นจะไปเดี๋ยวนี้เลย ท่านชายคะพี่แป้งร่ำมีเรื่องอยากปรึกษา ชั้นขอตัวไปที่ร้านนวดนะคะ"
"ได้สิ"
รินดารายิ้มให้โฮชิแล้วเดินออกไป โฮชิมองส่งรินดาราอยู่ครู่ก่อนจะหันมาคิ้วขมวดสีหน้าเป็นห่วงขึ้นมาเพราะลางสังหารณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นกับอาคิระ

"อาคิระ"

อาคิระฟาดฟันดาบซามูไรกับอัตสุโอะ
 
อาคิระมีชั้นเชิงเหนือกว่าเลยไล่รุกเล่นงานจนอัตสุโอะ เกือบจะพลาดท่าเสียที แต่อัตสุโอะเล่นสกปรกใช้หัวโขกอาคิระจนเซแล้วจะใช้ดาบซามูไรฟันอาคิระ
"เสร็จชั้นล่ะไอ้อาคิระ"
จังหวะนั้นเองที่โฮชิโผล่เข้ามาแล้วใช้ดาบไม้ตวัดทีเดียวดาบซามูไรในมือของอัตสุโอะกระเด็นออกไปไกล
อัตสุโอะตกใจเหวอที่อยู่ๆโฮชิก็มาปรากฏตัว โฮชิชี้ปลายดาบไปที่หน้าอัตสุโอะสีหน้าดุดัน
"ถอยไป..อย่ามายุ่งกับคนในตระกูลมิยาคาวะ"
พวกนักกีฬาเคนโด้ไม่รู้ว่าโฮชิเป็นใครจะเข้าไปเล่นงาน แต่อัตสุโอะสั่งห้าม
"หยุด !..เขาไม่ใช่คนที่พวกแกจะสู้ได้ "
พวกนักกีฬาเคนโด้พากันหยุดชะงัก อัตสุโอะก้มหัวให้โฮชิ จำใจต้องยอมให้โฮชิช่วยประคองอาคิระขึ้นมาแล้ว พาเดินออกไปจากโรงซ้อม อัตสุโอะมองตามกัดฟันเจ็บใจ

อาคิระกับโฮชิออกมาข้างนอก
"ชั้นเตือนเธอแล้วนะอาคิระว่าไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่าม พวกโคสึกะคงรู้ว่าเธอจะมาเลยเตรียมการต้อนรับเอาไว้"
"งั้นก็หมายความว่าพวกมันอยู่เบื้องหลังนางปีศาจหิมะจริง มันถึงใช้ให้นางปีศาจหิมะสะกดจิตคุณย่าให้ฆ่ารินดารา การบุกมาหาพวกมันถึงที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเสียเที่ยวหรอกครับ ท่านชาย"
"แต่ชั้นไม่อยากให้เธอเสี่ยงอันตรายแบบนี้อีก ไม่อยากเห็นคนในตระกูลมิยาคาวะต้องจบชีวิตลงเพราะชั้นอีกแม้แต่คนเดียว"
"แต่จะให้ผมอยู่เฉยๆรอให้รินดาราหาทางช่วยพาท่านชายกลับสวรรค์อย่างเดียว ผมคงทำไม่ได้"
"แต่ชั้นว่าที่เธออยู่เฉยไม่ได้ เพราะจิตใจเธอกำลังร้อนรุ่มเรื่องที่รินดาราเกิดมาเพื่อชั้นมากกว่านะ อาคิระ"
อาคิระชะงัก
"ชั้นเห็นแววตาของเธอที่มีต่อรินดารา ชั้นก็พอจะเดาออก"
อาคิระโค้งให้โฮชิอย่างสุภาพแต่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง)
"ตั้งแต่เล็กๆ คุณย่าเคยสอนผมว่า ความอิจฉาริษยาไม่เคยส่งผลดีกับใคร ใจที่อิจฉาริษยาจะเต็มไปด้วยความร้อนรุ่มหาความสุขไม่ได้ รินดาราจะรักใครก็เป็นสิทธิ์ของเธอ สิ่งเดียวที่ผมทำได้ก็คือทำหน้าที่ของผมตอนนี้ให้ดีที่สุดเพื่อท่านชายครับ"
อาคิระโค้งให้จนสุดตัวดูแล้วน่าสงสารสำหรับโฮชิ

รินดาราเข้ามาเจอแป้งร่ำกับเกียวรออยู่ เธอเห็นฮิเดะรออยู่ด้วย
"มาไวจังเลยนะคะคุณน้อง" เกียวบอก
"พอดีงานดูแลอายูมิวันนี้เรียบร้อยดีไม่มีอะไรต้องห่วงค่ะ"
"งั้นก็ดีเลยค่ะคุณน้อง คุณฮิเดะเขาอยากคุยกับคุณน้อง แต่ไม่กล้าไปที่มิยาคาวะเลยต้องรบกวนพวกพี่" แป้งร่ำบอก
เกียวสีหน้าอยากรู้มากเข้าไปกระซิบ
"คุณน้องบอกได้มั้ยคะว่า..วันนั้นคุณน้องกับคุณฮิเดะมีปัญหาอะไรกัน"
แป้งร่ำเข้าไปดึงติ่งหู)
"นังนี่..สาระแน"
รินดารานิ่งมองฮิเดโนริสีหน้าครุ่นคิดเหมือนรู้ทันความคิดของกันและกัน เป็นผลจากการที่รินดาราเองก็สงสัยพวก โคสึกะเหมือนกัน เรื่องที่อาคิระบอกว่า พวกโคสึกะเคยปลุกนางปีศาจหิมะ
"ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะพี่เกียวพี่แป้งร่ำ ขอน้องคุยกับคุณฮิเดะก่อนแล้วกันนะคะ"
"ตามสบายเลยจ้ะ"
"เราไปหาร้านนั่งคุยกันดีมั้ยครับ"
"ก็ดีค่ะ"
รินดาราตอบรับและมองสบตากับฮิเดะ

บริเวณถนนเมืองสึกิ รินดาราเดินออกมาตามทางเดินกับฮิเดโนริจนไกลจากร้านพอสมควร
"ชั้นว่าเราคุยกันตรงนี้เลยก็ได้ค่ะคุณฮิเดะ ตกลงคุณตามชั้นมาเพราะเรื่องอะไรกันแน่"
"คุณรู้ว่าว่าผมมีข้ออ้างเพื่อจะมาพบคุณ"
"ค่ะ และชั้นก็อยากให้คุณพูดเรื่องของคุณมาเลยดีกว่า"
ฮิเดโนริยังไม่ทันพูดอะไร ระหว่างนั้นไอก็โผล่หน้าเข้ามา สีหน้าไม่พอใจเพราะตามทั้งคู่มาตลอด ไอจิกหน้ามอง
"ผมตามคุณมาเพราะผมอยากเตือน คุณควรจะไปจากเมืองสึกิแล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก เพราะมันจะเป็นอันตรายกับชีวิตคุณ"
"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ แต่ชั้นจะไม่ไปไหน และคุณนั่นแหละที่ควรหยุดการลอบทำร้ายคนของตระกูลมิยาคาวะซะที เพราะต้นตอของความจงเกลียดจงชังระหว่าง มิยาคาวะและโคสึกะมันเป็นแค่เรื่องน้ำผึ้งหยดเดียว"
"แต่คุณต้องฟังผมนะรินดารา..ผมหวังดีกับคุณ"
เพื่อยืนยันความตั้งใจและเป็นห่วง ฮิเดะเข้าไปจับมือรินดารามาบีบย้ำ
"ยังไงผมให้คุณอยู่ที่นี่อีกไม่ได้ คุณต้องไป "
"ปล่อยชั้นนะคุณฮิเดะ"
"ไม่ จนกว่าคุณจะเชื่อใจผมแล้วไปจากที่นี่"
ฮิเดโนริไม่ยอมปล่อยมือยังยื้อยุดกับรินดารา จนอยู่ๆ เขาก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนฝ่ามือที่จับข้อมือรินดารา เพราะดวงตาของรินดาราเปลี่ยนเป็นสีเขียวออกมาวูบหนึ่ง ฮิเดะผงะตกใจรีบถอยห่างแล้วดวงตาของฮิเดะก็เปลี่ยนเป็นดวงตาของหมาจิ้งจอก
ไอที่แอบดูอยู่ถึงกับตกใจแทบไม่เชื่อสายตา
ฮิเดโนริยังเจ็บมือไม่หาย
"เมียวโจ ! เทพธิดาดาวเดือนเจ็ด"
ดวงตาสีส้มของสัตว์ป่าในตัวฮิเดะจ้องเขม็ง แล้วแยกเขี้ยวใส่ก่อนจำเป็นต้องล่าถอยเพราะสู้กับพลังของเทพเจ้าในตัวรินดาราไม่ได้ ในขณะที่ไอแต่ได้ยืนอึ้งตะลึง

ฮิเดโนริกลับมาที่บ้านมองมือตัวเองที่เป็นแผลผุพองไหม้จากอำนาจของเทพธิดาดาวเดือนเจ็ดในตัวรินดารา เขาใช้พลังของปีศาจจิ้งจอกในตัวรักษาให้แผลที่มือหายไปเอง ระหว่างนั้นไอเข้ามาหยุดที่หน้าประตู
เขาได้ยินเสียงฝีเท้าก็รู้ว่าเป็นใคร ส่งเสียงดุ
"เธอมาที่นี่ทำไมอีก ชั้นสั่งห้ามไว้แล้วไม่ใช่เหรอ"
ไอชะงักที่ประตู ท่าทางกล้าๆกลัวๆ
"เธอ..เธอรู้ได้ยังไงว่า..ว่าเป็นชั้น"
ฮิเดะเดินมาเลื่อนประตูเปิดออกจ้องหน้าไอเขม็ง
"ชั้นจะรู้ได้ยังไงมันไม่สำคัญเท่ากับเธอไม่ฟังคำสั่งของชั้น !"
"แต่ชั้นเป็นห่วงเธอ"
"ชั้นไม่มีอะไรให้เธอห่วงชั้นหรอกไอ"
"มีสิ...หลายเรื่องด้วย เพราะเธอพยายามขับไล่ไสส่งชั้น ชั้นก็เลยตามดูเธอ แล้วชั้นก็ได้เห็นว่าเธอกำลังมีใจให้นังรินดารา" ไอเข้าไปเขย่าตัว "ไหนคุณบอกว่ารักชั้นคนเดียวไง ฮิเดะ คุณโกหกชั้น..คุณมีใจให้นังนั่น"
"หยุดโวยวายวายซะที"
"ไม่ ! คุณมีความลับอะไรทำไมไม่บอกชั้น บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้นะฮิเดะ"
เขาหงุดหงิดจนหมดความอดทน สองมือบีบไหล่ไออย่างแรงแล้วจิกหน้าเอาเรื่อง
"อยากรู้ใช่มั้ย..งั้นเธออย่าหาว่าชั้นไม่เตือนก่อนก็แล้วกัน"

ดวงตาของฮิเดะเปลี่ยนเป็นสีส้มของสัตว์ป่าต่อหน้าต่อตาไอ..นั่นทำให้เธอตกใจเหวอ

ไอถูกฮิเดะเหวี่ยวเข้ามาในห้อง ไอยังไม่หายตกใจกลัว ฮิเดะเดินตามเข้ามา ประตูห้องเลื่อนปิด..ปัง !
 
นอกจากดวงตาที่เปลี่ยนสี เมื่อฮิเดะถอดเสื้อออกเผยให้เห็นรอยสักจิ้งจอก ดวงตาของสุนัขจิ้งจอกบนรอยสักก็ เปล่งแสงส่องกระกายจนน่ากลัว ใบหน้าของฮิเดะดูเปลี่ยนไปเป็นอย่างสัตว์ป่า
"ฮิเดะ..นี่..นี่เธอ..เธอเป็นตัวอะไรกันแน่"
"เธออยากรู้เองนะไอ..ที่ชั้นไม่บอกเธอเพราะความน่ากลัวมันอยู่ตรงนี้แหละ"
เล็บของเขายาวงอกออกมา แล้วยื่นมือไปบีบคอไอเอาไว้
"พ่อของชั้นไปพบรักกับแม่ของชั้นที่เป็นนางปีศาจจิ้งจอก ชั้นก็เลยเป็นลูกครึ่งปีศาจจิ้งจอกกับมนุษย์ แต่พ่อชั้นไม่อยากให้ชั้นเติบโตอยู่ในฝูงจิ้งจอก ก็เลยเอาชั้นมาให้ปู่เลี้ยง นี่ไง..ความลับของชั้นที่เธออยากรู้"
ฮิเดโนริออกแรงบีบคอจนไอ หน้าดำหน้าแดงหายใจไม่ออก
"ฮิ...ฮิ...เดะ...อย่า...อย่าฆ่าชั้นเลย ชั้น...ชั้นขอร้อง"
"ชั้นไม่เหมือนเธอ ชั้นไม่ใช่คนที่ควรอยู่ใกล้ ทั้งๆที่ชั้นเตือนเธอแล้ว แต่เธอก็ยังดื้อด้าน"
"ชั้น...ชั้นไม่ได้ ไม่ได้รังเกียจเธอเลยนะฮิเดะ ต่อ...ต่อให้เธอเป็นผีเป็นปีศาจแต่ชั้น ชั้นก็ยังรักเธอ"
ฮิเดโนริชะงัก
"ขอ…ขอร้องล่ะ นะฮิเดะ อย่า...อย่าฆ่าชั้นเลย ชั้นรักเธอจริงๆนะฮิเดะ"
ไอเริ่มหายใจรวยริน น้ำตาไหลแอบแก้ม นั่นเลยทำให้ดวงตาของฮิเดะเปลี่ยนกลับมาเป็นปกติ แล้วคลายมือออกจากคอไอ ปล่อยให้เธอทรุดลงมาสำลักอากาศ
"เธอเลือกรักคนผิดแล้วไอ"
"ไม่...ไม่ ไม่จริง...ชั้นรักเธอหมดทั้งหัวใจของชั้นจริงๆ"
เขากัดกรามแน่น
"ไปซะ...กลับไป"
"ฮิเดะ"
"ชั้นบอกให้กลับไป"
เขาขึ้นเสียงใส่ ไอสะดุ้งเฮือกแล้วรีบถอยออกไปทั้งๆน้ำตาคลอเบ้า

อายูมิกินขนมอาหารว่างอยู่ที่โต๊ะในห้องโถง มีนานะกับเคโกะช่วยดูแล อายูมิเผลอทำช้อนตกพื้น อายูมิจะก้ม เก็บแต่เคโกะสั่งให้นานะเก็บขึ้นมาแทน
"นานะ...ยืนเฉยทำไม เก็บให้คุณหนูสิ"
"เอ่อ...คือ ป้าเคโกะคะ คือว่า นานะยังสยองขวัญไม่หายเลยนะคะ ภาพเด็กผีอยู่ใต้โต๊ะยังติดตาอยู่เลย"
"นี่หล่อน...ไร้สาระ จะกลัวผีหรือจะกลัวตกงาน"
"คุณป้าก็ !!"
นานะยอมทำตามคำสั่ง ค่อยๆก้มตัวลงช้าลุ้นๆเก็บช้อนหรี่ตาดูใต้โต๊ะไม่เห็นมีอะไรก็โล่งอก
"เห็นมั้ย..มีอะไรซะที่ไหน"
"ค่ะ..สงสัยนานะจะตาฝาดไปจริงๆ"
"คุณป้าเคโกะ คะไดฟุกุไส้สตอร์เบอรี่สดนี่อร่อยจังเลย อายูมิอยากได้อีกค่ะ"
"มีอีกเยอะเลยค่ะ แต่คุณหนูทานเยอะมากจะอิ่มไปถึงมื้อเย็นนะคะ"
"วันนี้หิวกินได้เยอะค่ะ"
อายูมิยิ้มน่ารักจนเคโกะยอม
"ก็ได้ค่ะ...งั้นเดี๋ยวป้าเอามาให้อีก"
"ขอบคุณนะคะ"
อายูมิยิ้มน่ารักๆ แต่ดูมีเลศนัยร้ายบริสุทธิ์

เวลาต่อมา ณ บ่อน้ำร้าง อายูมิยื่นไดฟุกุไส้สตอร์เบอรี่ให้ฮิโตชิ
"กินเยอะๆเลยนะฮิโตชิ..อร่อยมากเลยล่ะ"
"แบ่งกันมั้ย"
"ไม่ต้องหรอก อายูมิกินมาเยอะแล้ว แล้วที่เอามาให้เนี่ยก็เพราะจะให้เป็นของรางวัลที่ฮิโตชิช่วยเตือนเรื่องที่พี่รินดาราจะถูกทำร้าย จนอายูมิไปบอกให้คุณอาไปช่วยไว้ได้ทัน"
"ไม่เป็นไรหรอก ฮิโตอยากช่วยเพราะคนที่นี่มีแต่คนนิสัยดี ไม่ดุฮิโตชิเหมือนที่บ้านโคสึกะ"
อายูมิหน้าเศร้าๆสงสาร
"น่าสงสารฮิโตชิจังเลย ถ้าฮิโตชิยอมให้อายูมิบอกคุณย่าว่า ฮิโตชิเป็นใคร บางทีฮิโตชิอาจจะได้อยู่ในบ้านด้วยกันกับอายูมิก็ได้"
"ไม่ได้นะอายูมิ...ห้ามบอกใครเด็ดขาดจริงๆ เพราะถ้าทุกคนเห็นฮิโตชิ เขาจะไม่ชอบ แล้วก็จะกลัวฮิโตชิกันหมด"
อายูมิไม่เข้าใจ
"ทำไมเขาต้องกลัวฮิโตชิกันด้วย ในเมื่อฮิโตชิหน้าตาน่ารัก ใครเห็นก็ต้องชอบฮิโตชิกันทั้งนั้น"
"จริงเหรออายูมิ"
"จริงสิ..เชื่ออายูมิเถอะ ไม่มีใครกลัว ฮิโตชิหรอก"
อายูมิยิ้มสดใสยืนยันกับฮิโตชิ ทำให้ฮิโตชิเริ่มสนใจ แต่ระหว่างนั้นเสียงเรียกของนานะดังแว่วเข้ามา
"คุณหนูคะ..คุณหนู"
"อายูมิต้องกลับแล้ว...ฮิโตชิว่าลองคิดดูนะ ถ้ายอมให้ทุกคนเห็นฮิโตชิ บางทีเราอาจจะได้อยู่ด้วยกัน"

อายูมิบอกแล้วออกไป ฮิโตชิครุ่นคิดบางอย่าง

จบตอนที่ 8
กำลังโหลดความคิดเห็น