เพลิงพ่าย ตอนที่ 4
ไอลดาวิ่งมาตามเสียงร้องของเวฬุรีย์และต้องตกใจเมื่อเห็นประตูเรือนต้นไม้เปิดออก พร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดที่ดังก้องอยู่ด้านใน
เธอไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไป เห็นน้องสาวทรุดลงอยู่กับพื้น เพ่งมองฝ่าความมืดถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นมือของเวฬุรีย์กำลังถูกน้ำยางว่านอสรพิษกัดทำลายเนื้อเยื่ออย่างรุนแรงจนมือสั่น
เวฬุรีย์ใช้อีกมือจับข้อมือนั้นไว้ด้วยความตื่นตระหนก ปากซีด เหงื่อไหลชุ่ม ไอลดารีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ
"ฬุรีย์...ว่านอสรพิษ!"
"โอ้ย... เจ็บเหลือเกินทั้งปวด ทั้งแสบ ต้นบ้าอะไรก็ไม่รู้"
ลอร่าวิ่งถือชะแลงเข้ามา เมื่อเห็นไอลดาก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
"ลอร่า ช่วยฉันพยุงฬุรีย์เข้าบ้านให้พ่อปฐมพยาบาลก่อนเร็ว"
"ค่ะๆๆ"
เวฬุรีย์รีบร้องห้าม
"ไม่ได้นะ อย่าให้ใครรู้ โดยเฉพาะพ่อ"
"ทำไมล่ะ เจ็บขนาดนี้จะไม่บอกพ่อได้ยังไง"
"คุณพ่อสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้ฉันเข้ามาในนี้ ถ้ารู้ว่าฉันแอบเข้ามานอกจากจะโกรธฉันแล้ว คงพาลหาเรื่องไม่ยอมผ่าตัดให้ฉันแน่ เธอก็รู้นี่... ว่าคุณพ่อลำเอียง!"
"ไม่จริง….คุณพ่อไม่ได้ลำเอียง ฬุรีย์คิดเองทั้งนั้น ยังไงพี่ว่าตอนนี้ไปทำแผลก่อนเถอะ"
"ถ้าแกไม่รับปาก ก็ปล่อยให้ฉันเจ็บตายอยู่ในนี้แหละ"
ไอลดาลังเลไม่รู้จะทำยังไง
"พี่รับปากก็ได้....ลอร่า ช่วยฉันพาคุณฬุรีย์ขึ้นไปทางบันไดหลังบ้านเร็ว"
"ค่ะๆ" ลอร่าช่วยพยุงเวฬุรีย์ให้ลุกขึ้นด้วยความกลัวความผิด "งานนี้จะโดนหางเลขด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้"
"อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวมีใครได้ยิน"
ทั้งคู่ช่วยกันพยุงเวฬุรีย์ที่กัดฟันเดินและกลั้นใจไม่ให้มีเสียงร้อง
ไอลดามองน้องด้วยความสงสารและเป็นกังวลเพราะรู้ดีว่าพิษของว่านอสรพิษนั้นรุนแรงมาก จากที่เห็นมาแล้วกับมณไฑที่คลินิก
ไอลดากับลอร่าช่วยกันพาเวฬุรีย์เข้ามาในห้อง ไอลดาพาน้องสาวไปที่เตียง หันไปบอกลอร่า
"เฝ้าไว้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา"
แต่ขณะที่ไอลดาจะออกไป นวลนภาก็เข้ามาในห้อง
ไอลดาตกใจ
"คุณแม่"
"อยู่นี่เอง ฬุรีย์"
ไอลดางง
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ"
"เมื่อกี้แม่ไปหาฬุรีย์แต่ไม่อยู่ห้อง ที่แท้ก็มาอยู่นี่เอง" นวลนภามองไอลดา "แล้วทำไมดูเหนื่อยๆ ไปไหนกันมางั้นเหรอ"
"ไป…ไปเดินเล่นในสวนกันมาค่ะ วันนี้อากาศร้อน เลยเหงื่อออกมั้งคะ"
"งั้นเหรอ แต่วันนี้มันก็ร้อนจริงๆนั่นแหละ" นวลนนภามองเวฬุรีย์ "ฬุรีย์ ดูหน้าซีดไปนะลูก เป็นไข้รึเปล่า แม่ดูหน่อย"
นวลนภาจะเข้าไปดู เวฬุรีย์รีบเอามือซ่อน ฝืนทำหน้าไม่เจ็บ แต่เสียงอ่อนระโหย ปัดมือนวลนภาออกเบาๆ
"ฬุรีย์ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ"
นวลนภางงๆ ไอลดามาขวางนวลนภาไว้
"ฬุรีย์ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ แค่ออกไปร้อนๆ เลยเข้ามาตากแอร์สักพัก เดี๋ยวก็กลับห้องแล้ว"
"แม่ดีใจนะที่เห็นลูกสองคนคุยกันแบบนี้"
"ค่ะ"
เวฬุรีย์แกล้งทำท่าหาว
"ฬุรีย์เริ่มง่วงแล้ว คงคุยอีกสักพัก เดี๋ยวจะกลับห้องแล้วค่ะ แม่ไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ"
"ก็ได้ลูก ... แม่ฝากดูน้องด้วยนะ"
ไอลดารับคำ แล้วเดินไปส่งแม่ นวลนภาออกจากห้องไป ทุกคนโล่งอก
ที่ชั้นบน ไอลดามองซ้ายมองขวาดูให้แน่ใจว่าไม่มีใคร จึงรีบวิ่งลงไปทางตู้ยา แล้วเปิดตู้ยาอย่างรีบร้อนลนลาน หาอุปกรณ์ทำแผลและยาบรรเทาปวดชนิดรุนแรง หยิบผิดหยิบถูกเพราะกลัวคนเห็นบวกกับความสงสารน้องที่กำลังทรมานอยู่
พฤติกรรมทั้งหมดของไอลดาอยู่ในสายตาของมฆวันที่แอบดูอยู่
ไอลดารีบวิ่งขึ้นบันไดไป มฆวันมองตามด้วยความเคลือบแคลงสงสัย
ไอลดากลับเข้ามาในห้องพร้อมยาและอุปกรณ์ทำแผล เวฬุรีย์ดิ้นพราดอยู่บนที่นอนด้วยความเจ็บปวด เธอพยายามจะทำแผลให้น้องสาว แต่เวฬุรีย์เอาแต่ดิ้นแล้วก็ร้อง
"ลอร่า ช่วยจับฬุรีย์หน่อย"
ลอร่าเข้าไปจับเวฬุรีย์
"คุณฬุรีย์อยู่เฉยๆ นะคะ"
"โอ๊ย.. อยู่เฉยไม่ไหวหรอก เจ็บจะตายอยู่แล้ว ปวดแสบปวดร้อนไปหมด"
ลอร่าสู้แรงไม่ได้ ไอลดาเข้าไปดูเวฬุรีย์
"ไม่เป็นไร…เดี๋ยวฉันเอง"
ไอลดาพยายามดึงมือออกมาจนสำเร็จ เวฬุรีย์ร้องลั่น ลอร่าพอเห็นแผลก็ตกใจทำหน้าสยอง
"คุณลดา แผลมัน…น่ากลัวมากเลยนะคะ"
"ช่างเถอะ มาช่วยฉันก่อน"
ไอลดาพยายามจับไม่ให้เวฬุรีย์ดิ้น ลอร่ามองแหยงๆ เวฬุรีย์มองลอร่าตาขวาง เริ่มโวยวาย
"รังเกียจนักก็ไม่ต้องยุ่ง!ไปให้พ้น"
เวฬุรีย์อาละวาดเริ่มเอามือตี ลอร่าร้องกรี๊ด ไอลดาหันไปบอกลอร่า
"ออกไปก่อนลอร่า ไป"
ลอร่าพยักหน้าแล้วรีบวิ่งออกไป เวฬุรีย์ยังคงนอนร้องอย่างเจ็บปวด
เช้าวันใหม่ วุฒิเดินเข้าออฟฟิศ กำลังจะไปที่ห้องทำงาน ประวัติซึ่งเป็นผู้ช่วยวุฒิ นั่งอยู่ที่โต๊ะ รีบพุ่งไปทัก
"คุณวุฒิครับ"
"อ้าว ว่าไงคุณประวัติ มาแต่เช้าเลย"
"มาเช้าสิครับ มาก่อนเจ้านาย เจ้านายจะได้ปลื้ม"
"อืม…พูดดี"
"แบบนี้ก็น่าจะมีอะไรตอบแทนใช่ไหมครับ"
"ไม่มี ทำดีก็ดีแล้ว ผมก็ยินดีด้วย ไปทำงานไป"
ประวัติเหวอไป วุฒิเดินหัวเราะจะเข้าห้อง ประวัติรีบเรียกไว้
"เดี๋ยวก่อนคร้าบ อย่าเพิ่งไป ผมมีธุระจะแจ้ง"
วุฒิหันมา
"ตกลงที่มาทักคือมีงาน"
"ครับ มีสิครับ โธ่ ผมก็ไม่ได้ไร้สาระไปวันๆซะหน่อย"
" ว่ามาครับ มีอะไร"
ประวัติวิ่งไปหยิบเอกสารมาให้
"คืองี้ครับ อาทิตย์หน้า เจ้านายจะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศนะครับ"
"ที่ไหน ทำไมรีบจัง"
"อ้าว อังกฤษครับ ผมแจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วไงครับ"
วุฒินึกได้
"เอ้อ จริงด้วย ลืมสนิทเลย เตรียมตัวทันไหมเนี่ย"
"พวกเอกสารผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับ สบายใจได้ แต่แหม่…ลืมวันลืมคืนแบบนี้เพราะมัวแต่ไปคิดถึงใครอยู่รึเปล่า"
"เห้ย มีแซว"
วุฒินึกถึงไอลดา เลยยิ้มเขินๆ ประวัติแอบขำ
"จู่ๆต้องไปดูงานไกลแบบนี้ คุณไอลดาคงเหงาแย่ แต่ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวผม ประวัติจัดให้ ดูแลชิดใกล้ทุกสถานการณ์เอง"
ประวัติทำเป็นแกล้งเขิน วุฒิหน้ากระตุก
"คุณประวัติ"
"ครับ"
"เมื่อกี้ก็มีความชอบอยู่หรอก แต่ผมเปลี่ยนใจแล้ว ไปทำงาน ก่อนผมจะพิจารณาตำแหน่งคุณใหม่"
ประวัติตกใจ วิ่งกลับโต๊ะแทบไม่ทัน วุฒิมองขำๆ
ไอลดาเปิดประตูคลินิกเข้ามาและตรงดิ่งไปที่ห้องมณไฑ เคาะประตูอยู่หลายครั้งแต่ก็เงียบ
ไอลดาเลยถือวิสาสะเปิดเข้าไป จึงเห็นมณไฑฟุบหลับอยู่คาโต๊ะทำงาน ด้วยความแปลกใจเลยเข้าไปปลุก พอมณไฑเงยหน้าขึ้นมา ไอลดาถึงกับอึ้ง
"หมอไท ทำไมหน้าซีดอย่างนี้ล่ะ ขอดูแผลหน่อยนะคะ"
มณไฑค่อยๆยกมือที่สั่นด้วยความปวดขึ้นมา ไอลดาเปิดผ้าออก ตกใจ
"ทำไมมันถึงแย่ขนาดนี้"
"พิษมันแรงมาก....ระบมไปหมดแล้ว พี่กินยาเท่าไรก็ไม่หาย"
ไอลดานึกถึงเวฬุรีย์ที่ต้องมีสภาพแบบเดียวกับมณไฑ
"ฬุรีย์"
ไอลดา คิดอะไรบางอย่างแล้วตัดสินใจ
ภายในบ้านวิเศษมฆวันที่เงียบงัน อึมครึม เวิ้งว้าง เสียงร้องที่อ่อนแรงด้วยความเจ็บปวดของเวฬุรีย์
ดังขึ้น ประตูห้องที่ถูกเปิดออกอย่างแรง ร่างเวฬุรีย์ทรุดฮวบลง ทำท่าจะอาละวาดแต่หมดแรงซะก่อน ลอร่ารีบปาดเข้ามาทำหน้าที่สอพลอตามความถนัด
"คุณฬุรีย์ของลอร่ายังเจ็บอยู่รึเปล่าคะ"
"ทั้งเจ็บทั้งปวด จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว"
"โถ…คุณฬุรีย์ขา อยากได้อะไรไหมคะ ลอร่าจะหามาให้"
"อีลดาไปไหน ฉันอยากรู้ว่ามันเอายาอะไรมาให้ฉัน ยาของมันไม่ได้ช่วยให้ฉันดีขึ้นเลย"
ลอร่าใส่ไฟทันที
"สงสัยจะหยิบยาผิด หรือว่า ยาปลอมแน่ๆเลยค่ะ"
"มันคงกะเอาฉันให้ตาย"
"จริงค่ะ ถ้าคุณฬุรีย์ตาย คุณลดาหน้าจืดก็จะหมดเสี้ยนหนาม" ลอร่าหัวเราะก๊าก "มันก็คว้าคุณวุฒิไปครองสบายใจเฉิบ"
เวฬุรีย์ถีบเปรี้ยงเข้ากลางอก ลอร่าจุกพูดไม่ออก
"อีลดา"
เวฬุรีย์คิดฟุ้งซ่านเลยเถิดด้วยพิษบาดแผลผสมกับคำพูดสอพลอของลอร่า ทำให้ยิ่งแค้นไอลดามากยิ่งขึ้น
อ่านต่อหน้าที่ 2
เพลิงพ่าย ตอนที่ 4 (ต่อ)
ไอลดาลากมณไฑเข้ามาในห้องของมฆวันกับนวลนภา
"คุณพ่อคะ ลดาอยากให้พ่อดูนี่"
ไอลดาเอามือของมณไฑที่แผลแย่ลงให้มฆวันดู มฆวันมองนิ่งๆ
"เกิดอะไรขึ้น"
"ดูสิคะว่าแผลหมอไทแย่ลงจากวันแรกแค่ไหน"
นวลนภาเข้าไปดูมือมณไฑ
"ยาที่ฉันให้วันนั้นเหมือนจะไม่ได้ผลเลยค่ะ ตอนนี้พิษกัดจนแผลเหวอะไปหมด นี่เริ่มลามแล้วด้วย"
"แสดงว่ายาธรรมดารักษาไม่ได้ ... งั้นเราก็ใช้สารสกัดที่พ่อกำลังทดลองอยู่สิคะ"
มณไฑมองไอลดาอึ้งๆ
"แต่อาจารย์จะไม่ทดลองกับมนุษย์"
"ในเมื่อเห็นแล้วว่ายาปกติใช้ไม่ได้ ทำไมเราไม่ลองดูก่อนล่ะคะ จะปล่อยให้มันแย่ลงอีกงั้นเหรอ"
มฆวันลุกขึ้น หน้าเครียด พูดกับไอลดาจริงจัง
"แล้วเรามั่นใจแค่ไหนว่าสารสกัดนั่นจะไม่ทำให้มณไฑแย่ลงไปอีก"
ไอลดาอึ้งเช่นกัน
"ไม่แน่ใจค่ะ"
"งั้นก็ต้องรอ ... อดทนหน่อยเถอะนะมณไฑ ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาจริงๆ"
มณไฑพยักหน้า ไอลดาเถียงไม่ออก ยิ่งห่วงเวฬุรีย์ขึ้นไปอีก
เวฬุรีย์ กำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ร่างกายสั่นเทิ้ม โงนเงนเหมือนคนบ้า ประตูห้องค่อยๆเปิดช้าๆ ไอลดาถือยากับน้ำเดินเข้ามา
"ฬุรีย์ พี่เอายามาให้ รีบกินซะ"
เวฬุรีย์หันกลับมาเอามือปัดยาทิ้งหกกระจายพร้อมกับระเบิดอารมณ์ใส่
"แกเอายาอะไรมาให้ฉันกิน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าแกคิดจะฆ่าฉัน"
ไอลดาตกใจ คิดไม่ถึงว่าเวฬุรีย์จะมองตนเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้
"โธ่…ฬุรีย์ พี่จะทำอย่างนั้นทำไม เราเป็นพี่น้องกัน พี่เห็นน้องเจ็บปวด พี่ก็เอายาที่คิดว่าดีที่สุดมาให้ พี่จะฆ่าน้องของตัวเองไปเพื่ออะไร"
"เพื่อพี่วุฒิไง ถ้าฉันตายไป แกก็จะได้ผู้ชายคนที่ฉันรักไปครอง นี่เหรอรักน้อง อีตอแหล! อีหน้าด้าน"
เวฬุรีย์เข้ามาทำร้ายไอลดาแบบคนไม่มีแรง ไอลดาได้แต่ปัดป้องเป็นพัลวัน จนทำให้ผ้าปิดแผลของเวฬุรีย์หลุดออก ทั้งคู่จึงเห็นแผลที่กำลังอักเสบอย่างรุนแรง
ไอลดาตกใจมาก ส่วนเวฬุรีย์เห็นแผลของตัวเองถึงกับเข่าอ่อนรับไม่ได้
"มือฉัน...ทำไมถึงเป็นขนาดนี้"
"หมอไทก็เป็นแบบเดียวกับเวฬุรีย์นี่แหละ"
เวฬุรีย์มองไอลดาด้วยความไม่เข้าใจ
"หมอไทพลาดไปโดนน้ำยางจากว่านอสรพิษ"
"ไม่จริง…ก็ไหนพี่มณไฑบอกว่า ไอ้ว่านอสรพิษอะไรเนี่ย มันเป็นว่านวิเศษสามารถเอามารักษาหน้าฉันได้"
"รักษาได้ก็จริง แต่มันต้องผ่านกรรมวิธีสกัดและทดลองก่อน"
"แกไม่ต้องมาหลอกฉัน! พี่มณไฑเค้าไม่เคยหลอกฉัน มีแต่แกที่จะแย่งพี่วุฒิไปจากฉัน ฉันไม่น่ามีพี่อย่างแกเลย"
เวฬุรีย์จะด่าต่อ แต่เหนื่อยหอบและเจ็บปวดด้วยพิษบาดแผล เริ่มซึมลงจนทรุดลงกับพื้น
ไอลดารีบเข้ามาประคองน้องไปที่เตียง เวฬุรีย์เริ่มหลับตาลงและเพ้อไม่เป็นศัพท์ ไอลดา
คิดไม่ตก กลุ้มใจไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี
วุฒินึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกไอลดาเรื่องจะไปดูงาน เลยหยิบโทรศัพท์มาโทร.หา
"ยังไม่ได้บอกลดาเลยนี่"
จอโทรศัพท์วุฒิกดเบอร์ไอลดา แต่โทร.ไปก็ไม่รับสาย
"ยุ่งอยู่เหรอ" วุฒิสีหน้าสงสัย
หน้าจอโทรศัพท์วุฒิเปลี่ยนมากดเบอร์คลินิกแล้วโทร.ออกแทน
ไอลดาออกมาที่สวน นั่งกลุ้มเรื่องเวฬุรีย์ ไม่รู้จะทำยังไง วุฒิเดินมาหยุดตรงหน้า ยิ้มให้
"ไง หน้าเครียดเชียว โทร.ไปก็ไม่รับ ต้องให้โทรไปคลินิกแน่ะ"
"พี่วุฒิ"
วุฒินั่งลงข้างๆไอลดา พูดต่อ
"ที่คลินิกเขาบอกว่าลดาลากลับบ้านก่อน พี่ก็เลยมาหาไม่สบาย เป็นอะไรรึเปล่า"
"ลดาไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แต่ฬุรีย์…"
"ฬุรีย์เป็นอะไร"
"ฬุรีย์ไม่สบายมากค่ะ แต่น้องไม่ให้บอกใคร ลดาเลยไม่รู้จะทำยังไง"
"ทำไมถึงบอกใครไม่ได้ล่ะ"
ไอลดาชั่งใจนิดหนึ่งก่อนจะเล่า
"ฬุรีย์โดนพิษจากว่านอสรพิษค่ะ อาการแย่ลงเรื่อยๆ"
"เรื่องขนาดนี้ลดาไม่ควรปิดคุณพ่อคุณแม่นะ ถ้าฬุรีย์อาการทรุดจะเป็นยังไง"
"ลดาไม่รู้ค่ะ แต่พี่วุฒิอย่าเพิ่งบอกใครเลยนะคะ ลดาขอร้อง"
วุฒิลำบากใจ ได้แต่จับมือไอลดาเป็นเชิงปลอบใจ สีหน้าครุ่นคิด
เวฬุรีย์แอบมองจากหน้าต่างลงมาท มองทั้งคู่อย่างโกรธแค้น
เวฬุรีย์ผละออกจากหน้าต่าง กลับมานั่งที่เตียง กัดฟันกรอด
"ทำยังไงแกถึงจะไปพ้นๆจากพี่วุฒินะ ไอลดา"
เสียงเคาะประตูห้องเวฬุรีย์ดังขึ้น เวฬุรีย์รีบนอนลง วุฒิกับไอลดาเข้ามา
"ฬุรีย์ พี่วุฒิมาเยี่ยมฬุรีย์แน่ะ"
เวฬุรีย์ทำเป็นนอนซมน่าสงสาร เรียกหาวุฒิ
"เธอบอกพี่วุฒิเรื่องแผลฉันเหรอ"
"พี่ขอโทษนะ"
" อย่าโกรธพี่ลดาเลยนะ พี่เขาหวังดีกับฬุรีย์ พี่เองก็อยากช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง" วุฒิบอก แล้วนั่งลงข้างเตียง พูดด้วยเสียงอ่อนโยน "ไหนพี่ขอดูแผลหน่อยซิ"
เวฬุรีย์ยื่นมือให้ดู ผ้าพันแผลมีเลือดซึมออกมา วุฒิดูแผลอย่างสงสาร เวฬุรีย์แอบถลึงตาให้พี่สาว ไอลดาค่อยๆ ออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ
"มันเจ็บมาก...จนไม่อยากอยู่แล้ว"
"อย่าพูดแบบนี้สิ"
"แต่ฬุรีย์ไม่อยากทรมานแล้วนี่คะ"
"ความอดทนจะทำให้เราเจอสิ่งดีๆได้ในที่สุดนะ ฬุรีย์ฬุรีย์ต้องอดทน อดทนเหมือนที่พี่บอกมาตลอดไง เข้าใจไหมคนสวย"
เวฬุรีย์ยิ้มกว้าง วุฒิลูบหัวปลอบ
"วันนี้พี่วุฒิกินข้าวกับฬุรีย์นะ นะ"
"ได้สิ เดี๋ยวเราลงไปกินพร้อมกับทุกคน ดีไหม"
เวฬุรีย์ส่ายหัว
"ฬุรีย์จะกินกับพี่วุฒิแค่สองคน"
วุฒิกลืนน้ำลาย ลำบากใจ แต่ก็ยังยิ้มให้
"กินกับทุกคนก็สนุกดีนี่"
"แต่ฬุรีย์อยากอยู่กับพี่วุฒิ ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องแผลของฬุรีย์"
วุฒิมองเวฬุรีย์เริ่มสงสาร
"ก็ได้ เห็นแก่คนป่วยนะ"
บุญปลูกกําลังทําอาหารกลางวันอย่างเซื่องซึมเพราะฤทธิ์ยานอนหลับยังตกค้างอยู่ ออมชึ่งเป็นลูกมือ มองบุญปลูกหาวเป็นระยะๆด้วยความสงสัย
"ป้า...ถามจริงๆเถอะ ป้าไปทําอะไรมา ดูง่วงซะจริง ตั้งแต่เช้าป้ายังหาวไม่หยุดเลย เมื่อเย็นวานก็หลับจนเกือบจะเป็นเรื่อง"
บุญปลูกวางของโครม
"ต้องใช่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ"
บุญปลูกท่าทางเอาเรื่อง
"อะ อะไรป้า ใช่อะไรแน่ๆ"
"โอเลี้ยง! นังลอร่าต้องใส่อะไรลงไปให้ข้ากิน ไม่งั้นข้าไม่มีทางหลับจนเสียงานหรอก ข้าจะไปเอาเรื่องมัน"
บุญปลูกขยับจะไป ลอร่าสวนเข้ามาพอดี แกล้งทำไขสือ
"ป้า จะมาเอาเรื่องเอาราวอะไรกับฉันตอนนี้ หยุดไว้ก่อนนะ มีงานสำคัญ"
"อะ เอ็งว่ามา เสร็จแล้วก็เอ็งกับข้า ตกลงงานอะไร"
ลอร่าท่าทางกวนประสาท
"จัดสํารับพิเศษหนึ่งชุดให้คุณวุฒิกับคุณฬุรีย์ขึ้นไปทานกันอย่างสวีทวี๊ดวิ้ววบนห้อง สองต่อสอง"
"ทึกทักเอาเองละมั้ง คุณวุฒิเธอสวีทกับคุณลดาคนเดียวเท่านั้น คนอื่นสวีทไม่ลงหร๊อก" ออมบอก
"ลงไม่ลงก็รอดูกันไปก็แล้วกัน อีกไม่นานคุณฬุรีย์นางเอกตัวจริงก็จะถอดรูป เมื่อนั้นคุณลดาน่าจืดก็จะกลายเป็นนางรอง เพราะไม่มีส่วนไหนเร้าใจเท่าคุณฬุรีย์สักนิด ฮ่าๆๆ"
"อย่างคุณวุฒิเค้ามีสมอง ไม่ได้มองกะอีแค่รูปกายภายนอก เค้าแยกแยะออกว่าอะไรคือปีศาจ อะไรคือนางฟ้า"
"อีนี่...มึงว่าเจ้านายกูเป็นปีศาจเหรอ เดี๋ยวแม่ตบหัวหลุดเลยนิ"
"เอาซี่ มึงลองซี่ อีละออๆ"
"แอร๊ย"
บุญปลูกทนฟังอยู่นานเลยต้องห้าม
"โอ้ย...หยุดซะที จะเถียงเอาโล่กันรึยังไง ออมไปจัดสํารับ ส่วนเอ็งมานี่"
บุญปลูกลากลอร่าไปหน้าครัว
"อะไรกันป้า ทํายังกะฉันไปเยี่ยวรดใส่ที่นอนป้ายังงั้นแหละ"
"มันยิ่งกว่าอีกนะโว้ย ข้าเป็นแม่บ้านคุณๆท่านมายันแก่ปูนนี้ ไม่ว่ามื้อไหนข้าไม่เคยขาดตกบกพร่อง เมื่อวานที่ข้าผล่อยหลับไป เอ็งใช่ไหมที่เอาอะไรใส่ลงในโอเลี้ยงให้ข้ากิน ใช่ไหมนังลอร่า"
"อะไรป้า โอเลี้ยงอะไร ใครใส่อะไรลงไป ฉันงงไปหมดแล้วว"
"ก็โอเลี้ยงที่เอ็งฝากไอ้ผ่อนมาให้ข้า กูว่าแล้ว นํ้าหน้ายังเอ็งรึจะมีแก่ใจสํานึกสําเหนียกอะไรใครได้ เอ็งวางยาข้าทําไม"
บุญปลูกจ้องตาเขม็ง
"โธ่ๆๆๆป้า เป็นคุ้งเป็นแคว ยังฉันนี่นะ ทําไมฉันต้องซื้อโอเลี้ยงให้ป้า วางยาอีก ตลกอ่า สํานงสํานึกไรไม่รู้"
"ตกลงเอ็งไม่ยอมรับใช่ไหม"
ออมยกสํารับเข้ามาพอดี ลอร่ารีบไปรับแล้วเลี่ยงหนี
"ใครเอามาให้กิน ก็ไปทําคนนั้น..ไป๊"
บุญปลูกเหนื่อยใจที่ยังไงก็ไล่ไม่จนมุมซะที ยังสงสัยว่าเกี่ยวกับกุญแจที่หายไปรึเปล่า ลอร่าเดินดูมีพิรุธ
ไอลดาลงมานั่งซึมอยู่ด้านล่างตาเหม่อมองขึ้นไปบนห้อง นึกถึงภาพที่เห็นวุฒิดูแลเวฬุรีย์ด้วยความอาทร ถึงแม้จะเป็นการทำเพื่อให้น้องมีความสุข แต่ตัวเองก็ไม่อาจหนีความจริงที่ต้องเจ็บเพราะความเสียสละไปได้
ขณะที่ไอลดาอยู่ในภวังค์นั้น เสียงของนวลนภาก็ดังเข้ามาจนไอลดาปรับอารมณ์ไม่ทัน รีบปาดน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นทิ้ง
"ลดา…แม่ว่าแล้วว่าต้องกลับมาบ้าน"
มฆวันเห็นไอลดาตาแดงๆจึงเดินเข้ามาหา
"เป็นอะไรไปลูก ไม่สบายรึเปล่า"
" จะมีอะไร ก็แค่ตาวุฒิจะไปต่างประเทศหลายวัน"
ไอลดายิ้มเก้อๆ เออออไปด้วย
" เมื่อสักพักตาวุฒิเค้าไปหาลดาที่คลินิก บอกว่าจะมาหาที่บ้าน แล้วไปไหนซะล่ะ"
"เจอแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ขึ้นไปหาฬุรีย์"
มฆวันสงสัย
"ขึ้นไปหาทำไม"
ไอลดาโกหก
"คือ….ลดาเห็นว่าพักนี้ฬุรีย์ไม่ค่อยทานอะไร เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง พี่วุฒิก็เลยอาสาขึ้นไปกล่อมให้ ฬุรีย์ก็เลยสั่งอาหารชุดใหญ่ขึ้นไปทานกับพี่วุฒิบนห้องค่ะ"
" เหรอ..ดีจังเลย คุณเห็นไหมคะ ยัยฬุรีย์แกแพ้ทางตาวุฒิ ตั้งแต่เล็กจนโต หายใจเข้าหายใจออกก็มีแต่ตาวุฒิ...อย่างนี้มาบ่อยๆก็ดีสิคะ"
นวลนภายิ้มปลื้มที่เวฬุรีย์มีความสุข ขณะที่ไอลดากลับเป็นทุกข์ที่ต้องโกหกทั้งพ่อแม่และตัวเอง
มฆวันมองไอลดารู้ว่าจะต้องมีเรื่องอะไรที่ลำบากใจอยู่แน่ๆ
อ่านต่อหน้าที่ 3
เพลิงพ่าย ตอนที่ 4 (ต่อ)
วุฒิตักอาหารป้อน เวฬุรีย์ใบหน้าสดชื่นมีความสุขลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ ออดอ้อนออเซาะ ล้มตัวลงนอนหนุนตักวุฒิ วุฒิคิดว่า เธอกำลังป่วยก็ดูแลด้วยความสงสาร บรรยากาศคล้ายกับเมื่อทั้งคู่ยังเป็นเด็กๆ เมื่อเวฬุรีย์มีความทุกข์ วุฒิก็จะเข้ามาปลอบโยนเหมือนพี่ปฏิบัติต่อน้อง แต่กลับทำให้เธอรู้สึกผูกพันหวงแหน และคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของวุฒิอย่างแท้จริง
"อร่อยจังเลยค่ะ"
"อร่อยก็ทานเยอะๆนะ เห็นว่าพักนี้ฬุรีย์ไม่ค่อยทานอะไรเลย"
"ฬุรีย์อยากให้พี่วุฒิป้อนข้าวอย่างนี้ทุกวัน ฬุรีย์จะได้ทานเยอะๆยังไงล่ะคะ"
"ฬุรีย์โตแล้วนะ จะให้พี่มาหาบ่อยๆเหมือนตอนเด็กๆได้ยังไง"
เวฬุรีย์เริ่มประชดเพราะไม่ได้ดั่งใจ
"แล้วทำไมพี่ถึงมาหาลดาบ่อยๆได้คะ"
วุฒิพูดไม่ออก เพราะพูดไปเวฬุรีย์ก็รับความจริงไม่ได้
"เอ่อ...เวลาที่พี่มา ฬุรีย์เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง แล้วเราจะเจอกันได้ยังไง"
"ก็เพราะถูกทิ้งยังไงล่ะคะ พี่วุฒิรู้ไหมคะ เวลาที่ฬุรีย์อยู่คนเดียว ฬุรีย์เหมือนโดนทิ้งขว้าง ในโลกนี้นอกจากคุณแม่แล้ว ก็มีแต่พี่วุฒิเท่านั้นที่ฬุรีย์อยู่ด้วยแล้วมีความสุข"
วุฒิเริ่มอึดอัด
"อยู่กับฬุรีย์นานๆนะคะพี่วุฒิ มาหาฬุรีย์ทุกวันได้ไหมคะ"
"ไม่ได้หรอก พี่ต้องทำงาน แล้วอาทิตย์หน้าพี่ก็จะต้องไปดูงานที่อังกฤษหลายวันด้วย"
"ห้ะ! พี่วุฒิจะไปอีกแล้วเหรอคะ พึ่งกลับมาได้ไม่กี่วันเอง"
เวฬุรีย์รู้สึกเจ็บปวดแผลขึ้นมาจริงๆอีกครั้ง ร้องโอดโอย
"ฬุรีย์เจ็บอยู่อย่างนี้ยังจะไปอีกเหรอคะ" เธออ้อนไม่อยากให้ไป "พี่วุฒิไม่ไปได้
"เลิกงอแงได้แล้ว ฬุรีย์โตแล้วนะ เดี๋ยวไว้พี่จะโทรหาก็แล้วกัน กินข้าวต่อเถอะ กินยาด้วยแผลจะได้หายไวๆ"
พอพูดถึงแผลเวฬุรีย์ก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา พร้อมกับเจ็บใจที่ตัวเองเจ็บขนาดนี้ก็ไม่สามารถรั้งวุฒิเอาไว้ได้ เวฬุรีย์ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดทั้งกายและใจ
วุฒิมองด้วยความสงสาร มองไปที่แผลซึ่งอักเสบขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่รีบรักษา อาการอาจจะน่าเป็นห่วง เธอคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
วุฒิลงมาจากชั้นบน แววตาวิตกกังวลกับแผลและความดื้อดึงไม่ยอมให้บอกใครของเวฬุรีย์ ถ้าขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ อาการก็จะมีแต่แย่ลง และถ้ามฆวันรู้ความจริง คนที่แย่ที่สุดก็คงไม่พ้นไอลดาที่เป็นคนช่วยปกปิดและปล่อยให้เวฬุรีย์ไปยุ่งเกี่ยวกับว่านอสรพิษ
ขณะที่กำลังเดินครุ่นคิดอยู่นั้น นวลนภาก็ปรี่เข้ามาหาวุฒิทันที
"ฬุรีย์เป็นยังไงบ้าง ทานได้เยอะไหมจ๊ะ"
"ครับ"
"ขอบใจวุฒิมากนะ ที่มีน้ำใจขึ้นไปดูแลน้อง"
"เอ่อ…ครับ"
"ฬุรีย์น่ะ นอกจากน้าแล้วก็ไม่มีใครเอาอยู่ นอกจากวุฒิคนเดียว มาหาน้องบ่อยๆนะจ๊ะ"
วุฒิตอบแบบเสียมิได้
"เอ่อ..ครับ"
"จะมาหาบ่อยๆได้ยังไงคุณ คนเค้าต้องทำงานนะ"
นวลนภาค้อนควับมฆวัน วุฒิเห็นท่าไม่ดี
"ครับคุณน้า ผมจะหาเวลามาหาฬุรีย์ครับ"
นวลนภายิ้มแป้น มฆวันไม่ชอบที่นวลนภาพยายามยัดเยียดเวฬุรีย์ให้วุฒิโดยไม่แคร์ความรู้สึกของไอลดาเลย มฆวันรีบเปลี่ยนเรื่อง
"แล้วนี่วุฒิมีงานต่อหรือจะเข้าบ้านเลย"
"คงเข้าบ้านเลยครับ"
วุฒิละล้าละลังหันมองไอลดา แต่ไอลดามองเชิงปรามไม่ให้พูด วุฒิจึงได้แต่เลียบๆเคียงๆ ถึงการรักษาเวฬุรีย์
"ดูท่าทางเหมือนวุฒิมีอะไรอยากจะพูดรึเปล่า"
"เอ่อ…ครับ คือผมอยากทราบว่า การผ่าตัดของฬุรีย์ใกล้สำเร็จหรือยังครับ"
มฆวันสงสัย ทำไมจู่ๆวุฒิถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา เวฬุรีย์เดินโซเซออกมาได้ยินสิ่งที่วุฒิถามพอดี รอฟังคำตอบจากพ่ออย่างใจจดใจจ่อจากด้านบน
"จะสำเร็จหรือไม่ มันเป็นเรื่องที่ตอบยาก ขึ้นอยู่กับสัตว์ที่เรานำมาทดลอง อีกเพียงไม่กี่วันเราก็จะรู้ผล"
"หากได้ผล ฬุรีย์ก็จะมีโอกาสหายใช่ไหมครับ"
เวฬุรีย์แอบฟังอย่างตื่นเต้น
"ใช่..ฬุรีย์ต้องหาย จะได้มีชีวิตเป็นปกติสุขเหมือนคนอื่นๆเค้า เวลาแห่งความสุขของฬุรีย์ใกล้เข้ามาแล้ว"
นวลนภาหวังอย่างเต็มเปี่ยม เวฬุรีย์ได้ยินแล้วดีใจสุดๆ
"งั้น...ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"
วุฒิลากลับ ไอลดาเดินออกไปส่ง มฆวันที่ไม่ค่อยแน่ใจในผลของยาเท่าไรนัก พูดกับนวลนภา
"คุณจะต้องเผื่อใจไว้ด้วยนะ หากผลการทดลองมันไม่ได้เป็นไปตามที่เราหวัง"
เวฬุรีย์ได้ยินถึงกับชะงัก
"ทำไมคะ เราจะต้องคิดอะไรเผื่ออีก ต้นว่านนั่น คุณบากบั่นปลูกมาเป็นสิบปีกว่าเราจะใช้การมันได้ และลูกของเราก็รอมาเกือบ 20ปีแล้ว คุณจะต้องให้ลูกรอไปอีกกี่ชาติคะ ที่ลูกเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ข้าวปลาไม่ยอมกินก็เพราะน้อยใจคุณ คุณไม่เคยเลยสักครั้งที่จะให้ความหวังลูก"
ไอลดาที่เพิ่งกลับเข้ามา ตกใจที่เห็นพ่อแม่เริ่มเสียงดัง เรื่องชักจะบานปลายไปกันใหญ่
เวฬุรีย์แอบฟังอยู่เริ่มใจเสีย
"ผมถึงบอกให้รอไง การผ่าตัดมันมีความเสี่ยงสูง ถ้าหากรีบร้อนเอาให้ได้อย่างใจฬุรีย์ อาจถึงขั้นไม่มีโอกาสหายเลยก็ได้ ว่านอสรพิษมันมีทั้งคุณและโทษ ถ้าสุ่มสี่สุ่มห้าหน้าอาจจะเละไปตลอดชีวิตเลยก็ได้"
"ไม่...ลูกต้องไม่เป็นอย่างนั้น ลูกต้องหาย ฉันจะไม่ยอมให้การรอคอยของลูกสูญเปล่าหรอกค่ะ"
"ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม ถ้าผลการทดลองไม่ถึง100%... ผมจะไม่มีทางผ่าตัดให้ลูกเด็ดขาด"
พอเวฬุรีย์ได้ฟังดังนั้น ก็เริ่มคลั่ง
"ถ้าผลการทดลองไม่ถึง 100% งั้นก็แสดงว่าชาตินี้ฬุรีย์จะไม่มีวันหายเลย...ใช่ไหมคะ" นวลนภาว่า
เวฬุรีย์เริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ หายใจแรงและเร็วขึ้นถี่ยิบ
"ถ้าเกิดมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ... ฬุรีย์ต้องทำใจ"
เวฬุรีย์ฟิวส์ขาดกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนหันไปมองตกใจไม่คิดว่าเวฬุรีย์จะแอบฟังอยู่ เวฬุรีย์วิ่งลงบันไดมาอย่างอ่อนแรงเหมือนหมาบ้า กุมข้อมือที่เป็นแผล ตัวสั่นปากซีด
"ฬุรีย์ทำใจไม่ได้ ได้ยินไหม ฬุรีย์ทำใจไม่ได้" เวฬุรีย์กรีดร้อง "ไม่จริง ไม่จริง"
นวลนภารีบวิ่งไปหาลูก
"ฬุรีย์..ลูก"
"คุณพ่อลำเอียง รักแต่อีลดา คุณพ่อบ่ายเบี่ยงไม่ยอมผ่าตัดให้เพราะจริงๆแล้ว คุณพ่อไม่เคยคิดจะทำด้วยซ้ำ"
นวลนภารีบเข้ามาประคองลูกไม่ให้คลั่งไปมากกว่านี้ จังหวะนั้นมฆวันก็เห็นแผลที่มือของลูกสาว
"แผลนั่น! มัน"
ไอลดาอึกอักมีพิรุธ เวฬุรีย์แสยะยิ้ม นึกอะไรบางอย่าง พูดประชด
"ใช่ค่ะ…แผลนี้เกิดจากว่านนรกที่พ่อปลูกอยู่ในเรือนต้นไม้ อยากให้ลูกน่าเกลียดอย่างนี้ไปตลอดชีวิตให้สมใจพ่อใช่ไหมคะ"
เวฬุรีย์สะบัดหลุดออกจากแม่และวิ่งออกไป ทุกคนตกใจไม่รู้ว่า เวฬุรีย์จะทำอะไรกันแน่ ไอลดาคว้าตัวไว้ ไม่ยอมปล่อย
"ปล่อยๆ ปล่อย...ปล่อยฉัน"
"จะไปไหน" มฆวันถาม
"ฬุรีย์จะไปเอาว่านมาทาหน้า ทาให้มันเละไปเลย เอาให้สมใจพ่อกับอีนังลดา อยากให้หน้าเหมือนผีนักใช่ไหม ได้ ได้เลย!"
ด้วยแรงริษยาบวกความต้องการเอาชนะอันเปี่ยมล้น เวฬุรีย์จึงดิ้นหลุดและวิ่งอย่างบ้าคลั่งไป
ทางเรือนต้นไม้ ทุกคนรีบตามไป
อีกด้านบุญปลูก ออม ลอร่า ช่วยกันยกสำรับกับข้าวเพื่อจะเอามาขึ้นโต๊ะตอนเย็น ก็ต้องตกใจที่เวฬุรีย์วิ่งมาชน ทั้งหมดล้มระเนระนาด
มฆวันสั่งให้ช่วยกันจับเวฬุรีย์อย่างโกลาหล เวฬุรีย์หมดแรงสิ้นฤทธิ์ เกิดภาวะช็อค ชักกระตุกด้วยความตื่นตระหนก มฆวันอุ้มร่างเวฬุรีย์ขึ้นมารีบพาไปที่คลินิก
นวลนภาเป็นลม บุญปลูกและออมช่วยกันประคองและปฐมพยาบาลโดยด่วน
เวฬุรีย์ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน บรรยากาศชุลมุน นวลนภาและไอลดาตกใจทำอะไรไม่ถูก นวลนภาร้องไห้ฟูมฟายรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ภายในห้อง มีการปั๊มหัวใจ เวฬุรีย์มีคราบน้ำตาขณะที่หมดสติอยู่ดูน่าสงสาร
สาวใช้ทั้งสามคนต่างยืนชะเง้อคอมองออกมาที่นอกรั้ว ร้อนใจเพราะเป็นห่วงเวฬุรีย์
ลอร่าเป็นห่วงออกนอกหน้า ออมถึงแม้จะไม่ค่อยปลื้มเวฬุรีย์เท่าไรนัก แต่เอาเข้าจริงก็อดสงสารและเป็นห่วงไม่ได้ ส่วนบุญปลูกนั้นเห็นเจ้านายคนเล็กมาแต่เล็กแต่น้อย จึงกังวลไปสารพัด
"ป่านนี้จะเป็นไงบ้าง คุณฬุรีย์อย่าเป็นอะไรไปนะ" ลอร่าว่า
"นังปากเสีย จะเป็นอะไรได้ยังไง ลืมไปรึไง พ่อก็เป็นหมอ แม่ก็พยาบาล แถมโรงพยาบาลก็ของตัวเอง คุณหนูต้องปลอดภัยสิ"
"เจ้าประคู้ณ คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองด้วยเถิด สาธุๆๆ"
ทั้งสามคนยังคงกังวล รอฟังข่าวเวฬุรีย์
วุฒิกำลังนั่งทำงานโทร.คุยกับไอลดา
"ลดา พี่รู้เรื่องฬุรีย์แล้วนะ…พี่กำลังจะไปเยี่ยมที่คลินิก ครับแล้วเจอกัน"
วุฒิวางสายไป ประวัติเดินเข้ามามองยิ้มๆ
"เป็นห่วงทั้งเขา ทั้งครอบครัวเขาเลยนะครับเนี่ย เจ้านายผมนี่เจ๋ง มีทำคะแนนก่อนไปหาด้วย"
"เฮ้ย ไม่ได้ทำคะแนน ผมรู้จักครอบครัวเขามานานแล้ว ทั้งไอลดาทั้งเวฬุรีย์น้องสาวเขานั่นล่ะ"
"น้องสาวสวยเหมือนพี่สาวหรือเปล่าครับ"
วุฒิส่ายหน้า
"คนน้องน่ะน่าสงสาร เขาเกิดมามีเนื้องอกที่หน้าตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเก็บตัวไม่ค่อยคุยกับใคร ลดาเขาเป็นห่วงมาก"
"โห แย่เลยนะครับ"
"แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าผมดูแลลดา ผมก็ต้องดูแลคนใกล้ตัวลดาได้ด้วยโดยเฉพาะน้องสาวเขา ถ้าเวฬุรีย์ยังไม่ดีขึ้น ลดาเขาคงไม่มีความสุข เรื่องอนาคตอื่นๆเลิกคิดได้เลย คงได้แต่ทำคะแนนไปอย่างที่คุณว่า"
วุฒิหัวเราะ แต่ดูซึมเศร้าบอกไม่ถูก ประวัติยิ้ม แต่ก็เห็นใจ
ผ่านเวลาจนเวฬุรีย์พ้นขีดอันตราย ทุกคนโล่งอก วุฒิเดินเข้ามา มฆวันมองแผลที่มือของลูกสาวอย่างกลัดกลุ้มว่าจะจัดการยังไงดี
เวฬุรีย์ยังคงหลับไม่ได้สติอยู่ บาดแผลที่มือเริ่มลึกและขยายเป็นวงกว้างขึ้น ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างกับแผล เธอตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง อาจถึงขั้นทนพิษบาดแผลไม่ไหวเลยได้
ทุกคนมองดูด้วยความห่วงใย โดยเฉพาะนวลนภานั้นมองลูกด้วยความสงสารอย่างจับใจ
"ฬุรีย์ หนูอย่าเป็นอะไรมากกว่านี้นะลูก แม่ไม่อยากเห็นลูกเจ็บอีกแล้ว"
"คุณพ่อคะ ฬุรีย์พ้นขีดอันตรายแล้ว แล้วแผลของฬุรีย์ล่ะคะ คุณพ่อจะทำยังไง"
"ใจเย็นๆลดา คุณอาหมอคงมีวิธีอยู่ในใจแล้ว"
"คุณจะมัวรอแต่ผลการทดลองของคุณอีกต่อไปไม่ได้แล้วนะคะ จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ ฉันสงสารลูก"
"ผมเป็นหมอ ไม่ว่าจะกับใคร ผมต้องรักษาให้ดีที่สุด ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะเอาสารสกัดจากว่านอสรพิษมารักษาให้ลูก ผมจำเป็นต้องเสี่ยง ถ้าขืนช้ากว่านี้คงต้องตัดมือฬุรีย์ทิ้ง เพราะมันจะลามไปถึงกระดูก"
อ่านต่อหน้าที่ 4
เพลิงพ่าย ตอนที่ 4 (ต่อ)
มฆวันจะเดินไปหยิบสารสกัด มณไฑเปิดประตูเข้ามาอย่างอ่อนแรงสภาพแย่มาก หยุดมองเวฬุรีย์แล้วพูดกับมฆวันด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
"อาจารย์หมอครับ สารสกัดนั่นใช้กับผมก่อนเถอะครับ"
"มันเสี่ยงมากนะมณไฑ"
"เสี่ยงแค่ไหนผมก็ยอมครับ หากเกิดอะไรขึ้น ผมขอรับผิดชอบด้วยตัวผมเองครับ"
ทุกคนนึกไม่ถึงกับความคิดของมณไฑว่าจริงๆแล้วทำไปเพื่ออะไร มีแต่ไอลดาและวุฒิเท่านั้นที่มองออก
วันใหม่ นวลนภานั่งเฝ้าเวฬุรีย์อยู่ สักพักเห็นเวฬุรีย์เริ่มขยับ จึงรีบลุกไปดู
"ฬุรีย์ เป็นไงบ้างลูก หิวน้ำไหม"
เวฬุรีย์หันไปมองทางอื่น พูดเสียงซังกะตาย
"ไม่…ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น…ไม่น่าฟื้นขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ"
"ทำไมพูดแบบนี้ละฬุรีย์"
เวฬุรีย์ไม่ยอมพูดกับนวลนภา นวลนภาเศร้าลง
มณไฑเปิดประตูเข้ามาในห้อง
"อาจารย์ครับ ฬุรีย์"
"ฟื้นได้สักพักแล้วจ้ะ เข้ามาดูน้องสิ"
มณไฑเดินข้างเตียงของเวฬุรีย์
"ไงเรา ไม่เป็นไรแล้วนะ เดี๋ยวเราก็ดีขึ้น"
เวฬุรีย์ก็ไม่ยอมพูดกับมณไฑ นวลนภายิ่งเศร้าลง มณไฑมองคิดอะไรบางอย่าง
"ฬุรีย์ พี่จะให้เราดูนี่"
เวฬุรีย์เหลือบมอง มณไฑค่อยๆแกะผ้าพันแผลที่มือออก พอแกะออกทั้งหมด เวฬุรีย์ก็อึ้งไป เพราะแผลที่มือมณไฑดีขึ้นมาก
"ตอนแรกมือนี้เป็นแผลที่เกิดจากว่านอสรพิษ แต่พอทายาที่สกัดจากว่านนี้ มันก็ดีขึ้นมาก"
เวฬุรีย์หันมาหามณไฑ
"ยา…จากว่านอสรพิษ"
"คุณพ่อลองใช้ยานี้กับหมอมณไฑก่อน แล้วค่อยเอามาใช้กับฬุรีย์จ๊ะ"
"ใช่ ตอนนี้มันยังไม่ครบอาทิตย์ ต้องรอดูผลอีกสองวัน แต่นี่ก็แสดงว่ายาได้ผล มันต้องช่วยฬุรีย์ได้แน่ ฬุรีย์รออีกหน่อยเถอะนะ"
เวฬุรีย์มองมือของมณไฑและมือของตัวเองตาวาว รู้สึกมีความหวังขึ้นมา
ไอลดายืนคุยกับพ่อหน้าเครียด
"ไอลดา รู้ไหมว่าเรากำลังทำอะไรลงไป ทำไมไม่บอกพ่อเรื่องฬุรีย์ ถ้าอาการฬุรีย์แย่ลงไปกว่านี้จะทำยังไง ลูกก็รู้ว่าว่านนั่นมันพิษร้ายแรงขนาดไหน"
"ลดาขอโทษค่ะ…ลดาก็ไม่รู้จะบอกยังไง"
"พ่อรู้ แต่ที่พ่อว่าเรา เพราะว่าเราไม่ยอมพูดเรื่องที่ควรพูด จนทุกอย่างมันเกือบสาย ฬุรีย์เองก็ผิด แต่พ่อจะจัดการทีหลัง เขาก็ผิดที่ยอมฟังที่พ่อห้าม"
ไอลดาได้ยินก็ตกใจ
"คุณพ่ออย่าลงโทษอะไรฬุรีย์นะคะ ถ้าพ่อจะว่าอะไรฬุรีย์ คุณพ่อว่าลดาเถอะนะคะ"
"ลดา แค่เรื่องของเรามันก็มากพอแล้ว จะมารับผิดแทนคนอื่นอีกทำไม"
"ลดาผิดสิคะที่ไม่ดูน้องให้ดี ปล่อยให้น้องเข้าไปในเรือนต้นไม้โดยพลการ ถ้าลดารู้มันจะต้องไม่เกิดขึ้น"
"เราแน่ใจเหรอว่าเป็นเราจะห้ามเขาได้"
ไอลดาอึ้งไป เถียงไม่ออก
"แต่ลดาก็ผิดอยู่ดี"
"ไม่ต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องปกป้องใครโดยไม่จำเป็น ใครผิดเราว่าไปตามผิด เราเองก็รู้แล้วว่าผิดอะไร จำไว้ แล้วอย่าให้มันเกิดขึ้นอีก"
ไอลดาพยักหน้า
"ค่ะ"
"การที่เราเอาแต่ปกป้องคนอื่น ทั้งที่เรายังพยุงตัวเองไม่ได้ เราจะยิ่งแย่ แถมคนนั้นเขาก็ไม่ได้ซาบซึ้งกับสิ่งที่เราทำ ตรงข้าม เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองผิดแล้วยิ่งจะทำซ้ำ เรากำลังทำแบบนั้นกับน้องอยู่นะลดา"
"ค่ะ คุณพ่อ"
"เข้าใจก็ดีแล้ว"
"แต่เรื่องฬุรีย์ลดาว่าเขาคงไม่กล้าเข้าใกล้เรือนต้นไม้อีกแล้วล่ะค่ะ"
มฆวันคิดอะไรบางอย่าง พึมพำออกมา
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงดี"
เวฬุรีย์นั่งบนเตียง มองแผลที่มืออย่างอยากรู้ว่า ผลจะเป็นอย่างไร
"ว่านนี่มันจะวิเศษแค่ไหนกันนะ แผลถึงได้หายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง"
เวฬุรีย์ทำท่าจะดึงผ้าพันแผลที่มือออก วุฒิเปิดประตูเข้ามาพอดี
"ทำอะไรน่ะฬุรีย์"
เวฬุรีย์หันไปเห็นวุฒิเข้ามา รีบเก็บมือลงไป หันไปยิ้มให้วุฒิ ดีใจที่มาเยี่ยม
"เปล่าค่ะ…พี่วุฒิ…ฬุรีย์ดีใจจังที่พี่วุฒิมา"
"เมื่อกี้พี่เห็นเหมือนเราจะแกะผ้าพันแผล"
"แค่อยากเห็นแผลค่ะ"
"อย่าเพิ่งไปแกะสิ มันจะยิ่งทำให้หายช้านะ"
"ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่วุฒิไม่ให้แกะ ฬุรีย์ก็ไม่แกะแล้ว"
"ไม่ใช่เพราะพี่สิ มันเพราะตัวเอง กำลังรักษาตัวไม่ใช่รึไง"
เวฬุรีย์ค้อนใส่วุฒิ แต่นึกอะไรขึ้นได้ หันมาพูดอย่างอารมณ์ดี
"จริงๆจะทำอะไรกับมันตอนนี้ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะเดี๋ยวฬุรีย์ก็จะได้ผ่าตัดแล้ว"
"ผ่าตัด"
"พี่ไทเพิ่งบอกฬุรีย์ ว่ายาที่เขาทดลองอยู่มันได้ผล"
วุฒิแปลกใจ
"จริงเหรอ งั้นแสดงว่าฬุรีย์ก็จะหายแล้วสิ"
"ใช่ มันจะต้องดีแน่ๆพี่วุฒิ"
"อย่าเพิ่งแน่ใจนักเลยฬุรีย์"
มฆวันเข้ามา เวฬุรีย์มองมฆวันโกรธๆ
"พ่อ"
"อย่ามองแบบนั้น พ่อไม่ได้อยากขัดขวางไม่ให้ลูกหายนะ"
"แล้วทำไมพ่อไม่ให้ความหวังฬุรีย์เลย"
"พ่อพูดตามจริง สารสกัดที่ใช้กับแผลว่านอาจจะได้ผลดี แต่มันก็ยังไม่แน่นอนว่าจะใช้กับเนื้องอกที่หน้าของลูกได้หรือเปล่า เรายังไม่เห็นผลข้างเคียงด้วยซ้ำ"
"ผลข้างเคียงอะไร พ่อก็เห็นว่ามันใช้ได้ ทำไมพ่อไม่ลองก่อน ลองกับหน้าฬุรีย์เลยก็ได้ มันคงไม่แย่ไปกว่านี้อีกแล้ว"
"นี่พ่อพูดไปไม่เข้าใจเลยรึไงฬุรีย์!"
เวฬุรีย์ชะงักไป มฆวันพูดต่อ
"พ่อจะไม่ลองอะไรกับฬุรีย์ทั้งนั้น ถ้ามันไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ หัดใจเย็น แล้วก็รู้จักรอซะบ้าง"
เวฬุรีย์ไม่ตอบ ได้แต่มองหน้ามฆวัน จิกที่นอนอย่างอัดอั้น วุฒิมองรู้สึกเห็นใจ
เวลาเย็น รถของวุฒิเข้ามาจอดที่หน้าบ้านวิเศษมฆวัน วุฒิกับไอลดาลงมาจากรถ เธอดูเครียด วุฒิเลยดึงแขนไอลดาไว้ตอนที่จะเดินเข้าบ้าน
"ลดา เดี๋ยวก่อน"
ไอลดาหันมา
"คะ"
วุฒิรีบปล่อยแขนไอลดาออก
"เอ่อ…พี่แค่อยากบอกเราว่า ไม่ต้องเครียดนะ"
ไอลดายิ้มออกมา
"เรื่องฬุรีย์ใช่ไหมคะพี่วุฒิรู้"
"รู้สิ รู้จักกันแค่วันสองวันซะเมื่อไหร่ พี่เห็นเราเครียดๆ เลยไม่สบายใจไปด้วย"
"ลดาแค่…เป็นห่วงฬุรีย์น่ะค่ะ"
วุฒิพยักหน้าเข้าใจ
"ไม่ต้องห่วงนะ คุณแม่ลดาเฝ้าอยู่ ฬุรีย์ไม่เป็นไรหรอก"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"
"ไม่เป็นไรครับ พักผ่อนเถอะ ฝันดีนะครับ"
"ค่ะ ฝันดีค่ะพี่วุฒิ"
ไอลดาเดินเข้าบ้านไป วุฒิยังเป็นห่วงไอลดาอยู่
นวลนภาเฝ้าเวฬุรีย์จนหลับไป เวฬุรีย์แกล้งทำเป็นหลับ สักพัก เธอพลิกตัวกลับมาดูแม่ว่าหลับแล้วแน่ๆ เธอลุกขึ้นชูมือข้างทีมีสายน้ำเกลือขึ้นมาแล้วกระชากสายน้ำเกลือออก นวลนภายังหลับอยู่ เธอค่อยๆย่องลงจากเตียง เดินไปที่ประตู แอบออกไปอย่างเงียบเชียบ
ประตูห้องทดลองค่อยๆเปิดออก เวฬุรีย์กำลังเดินเข้ามา ภายในห้องไม่มีใครอยู่ เวฬุรีย์เดินคลำหาสวิตซ์ไฟจนเจอ ไฟห้องทดลองเปิดขึ้น
เวฬุรีย์มองอุปกรณ์ในห้องทดลองอย่างตกตะลึง ก่อนจะเริ่มเดินหาบางอย่างไปตามส่วนต่างๆของห้องทดลอง
ขณะที่เดินอยู่ เวฬุรีย์เห็นขวดสารสกัดบางอย่างในห้อง ติดป้ายชื่อไว้ว่า “สารสกัดว่านอสรพิษ” เวฬุรีย์ยิ้มออกมา
"แกใช่ไหมที่จะช่วยฉัน"
เวฬุรีย์มองอย่างพึงพอใจ แต่แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นโกรธแค้น
"ถ้าพ่อไม่คิดจะผ่าตัดเอาไอ้เนื้องอกอัปลักษณ์นี่ออกไป ฉันก็จะรักษาตัวเอง…ฉันจะไม่รอ…ฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว"
เวฬุรีย์เทสารสกัดใส่มือ แล้วเริ่มเอามาละเลงที่หน้าตัวเอง ยิ้มสะใจ
อ่านต่อตอนที่ 5