เพลิงพ่าย ตอนที่ 3
มณไฑพาเวฬุรีย์มาที่รถ เธอพยายามมองว่าไม่มีใครตามมา
"ไม่มีใครตามมาใช่ไหมคะ"
"ไม่มี"
แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนเดินฮัมเพลงมา
"นายผ่อนศักดิ์"
เวฬุรีย์หน้าเสียมองหาที่หลบ มณไฑดันตัวเธอเข้าไปที่ประตูรถ
"เข้าไปในรถ แล้วก้มลงไปเลยนะ ไม่ต้องเงยขึ้นมา"
เวฬุรีย์ทำตาม เข้าไปหลบในรถนิ่งๆกลัวคนเห็น
สักพักผ่อนศักดิ์เดินผ่านตรงรถของมณไฑ
"อ้าว คุณหมอนี่เอง นึกว่าใคร จะกลับแล้วเหรอครับ"
"ครับ"
"กลับดีๆครับ"
ผ่อนศักดิ์เดินออกไป พอพ้นสายตา มณไฑมองขำๆ เมื่อเปิดประตูรถเห็นเวฬุรีย์ขดตัวอยู่
"ไปแล้ว"
เวฬุรีย์เงยหน้าขึ้นมา โล่งใจ
"อยากไปเที่ยวข้างนอกไหม จะพาไป"
มณไฑพูดยิ้มๆ เวฬุรีย์มองอย่างงงๆ
มณไฑขับรถพาเวฬุรีย์ออกมาข้างนอก เธอมองข้างทางอย่างตื่นตาตื่นใจ
"โอ้โห...เดี๋ยวนี้รถเยอะจัง ตึกสูงๆ ก็ขึ้นเต็มไปหมด"
มณไฑเหลือบมองถามยิ้มๆ
"ตื่นเต้นเป็นเด็กเลยเรา ไม่ได้ออกมานานแล้วเหรอ"
เวฬุรีย์ยิ้มเศร้าๆ
"หลายปีแล้วเหมือนกันค่ะ"
"อยากไปเที่ยวทำไมไม่ขอคุณพ่อออกมาล่ะ"
"อยากอยู่หรอกค่ะ แต่เวลาออกมาทีก็มีแต่คนมอง เหมือนฬุรีย์เป็นตัวประหลาด ฬุรีย์ไม่ชอบ"
"แล้วพี่นั่งจ้องแบบนี้ฬุรีย์ชอบไหมเนี่ย"
"ไม่หรอกค่ะ พี่ไทไม่เหมือนคนพวกนั้น แล้วนี่พี่ไทจะพาฬุรีย์ไปไหนเหรอคะ"
มณไฑยิ้ม
"เดี๋ยวก็รู้"
มณไฑขับรถต่อไป เวฬุรีย์หันกลับไปมองข้างทาง
ฝ่ายนวลนภาเข้ามาคุยกับมฆวันอย่างร้อนใจเรื่องเวฬุรีย์หายไป
"ยัยฬุรีย์หายไปค่ะฉันให้คนหาทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอ"
"ใจเย็นๆ ภา คุณไม่ต้องห่วงหรอก"
"ไม่ห่วงได้ยังไงคะ ลูกหายไปทั้งคน ทำไมคุณยังใจเย็นอยู่ได้"
"แล้วทำไมผมต้องร้อนใจด้วย ยัยฬุรีย์โตแล้วนะ"
"แต่แกไม่เคยออกไปไหนคนเดียวมาหลายปีแล้ว ถ้าเป็นอะไรไปจะทำยังไง เกิดมีคนทำร้ายฬุรีย์ล่ะ คุณเป็นอะไรไป ลูกหายไปทั้งคนไม่ห่วงหรือไง ฉันจะออกไปตามหาลูก"
นวลนภาทำท่าจะออกไป แต่มฆวันไปกันไว้
"เดี๋ยวก่อนสิภา ฟังก่อน"
"ไม่ค่ะ ฉันไม่เสียเวลาฟังใครทั้งนั้น"
"ผมรู้แล้วว่าฬุรีย์ไปไหน"
นวลนภาชะงัก
"ไปไหนคะ"
มฆวันหยิบโทรศัพท์มาเปิดหน้าจอไลน์ให้ดู
"นี่ไง มณไฑเขาไลน์มาบอกแล้วว่า เขาพาฬุรีย์ออกไปเอง"
"มณไฑ? พาไปตั้งแต่ตอนไหนคะเนี่ย"
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ยังดีที่เป็นมณไฑ คุณเลิกเป็นห่วงได้แล้วล่ะ"
"พอเป็นมณไฑก็โล่งอยู่หรอกค่ะ แต่ฉันก็อยากให้ลูกกลับมาเร็วๆ แกกำลังน้อยใจหลายเรื่อง ถ้าเกิดคิดสั้นขึ้นมา บางทีมณไฑอาจจะเอาไม่อยู่ก็ได้"
"ให้แกได้ออกไปข้างนอกบ้างเถอะ เมื่อก่อนเราพยายามจะพาฬุรีย์ออกไปก็ไม่ยอมไป คราวนี้ฬุรีย์ยอมไปเองก็ดี ผมเชื่อใจมณไฑว่าจะดูแลยัยฬุรีย์ได้"
นวลนภายังดูกลุ้มใจอยู่
มณไฑพาเวฬุรีย์มาที่สะพานริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง เธอมองออกไปที่แม่น้ำหลับตาสูดอากาศสดชื่นเข้าไป รู้สึกดีขึ้น
"เฮ้อ...สดชื่นจัง"
"รู้สึกดีขึ้นไหมฬุรีย์"
เวฬุรีย์ลืมตาหันมาคุยกับวุฒิ
"ดีค่ะขอบคุณมากนะคะพี่ไท"
"ดีแล้ว"
ทั้งคู่หันไปมองที่แม่น้ำ มณไฑถามขึ้น
"เล่าให้พี่ฟังได้ไหมว่าหนีออกมาทำไม"
เวฬุรีย์หน้าเศร้าลง แต่ก็ยอมตอบ
"ฬุรีย์แค่…อาจจะคิดไปเองก็ได้นะคะ แต่ฬุรีย์รู้สึกว่าพ่อไม่รักฬุรีย์เลย"
"ทำไมคิดแบบนั้น"
"เราเจอกันน้อยมากอยู่แล้ว ทุกครั้งที่เจอ หรือได้ยินเรื่องพ่อก็จะมีแต่พ่อกำลังยุ่ง พ่อทำงานอยู่ พ่อไม่เคยมีเวลามาอยู่กับฬุรีย์ด้วยซ้ำ ฬุรีย์อยากให้พ่อผ่าตัดให้เร็วๆ แต่ก็เหมือนพ่อไม่สนใจ บอกปัดไปเรื่อยๆ ทุกครั้งว่ายังไม่ถึงเวลา ยังไม่ถึงเวลา"
"ฬุรีย์ก็เลยคิดว่าพ่อไม่รัก"
เวฬุรีย์พยักหน้า มณไฑดึงเธอให้หันมาคุยกับเขา
"ฬุรีย์รู้ไหมว่างานที่คุณพ่อฬุรีย์ทำอยู่คืออะไร"
"พ่อก็ดูแลคนไข้ของพ่อไงคะ ทำให้คนอื่นสวยขึ้นดูดีขึ้น แต่ปล่อยให้ลูกของตัวเองน่าเกลียดอยู่คนเดียว"
"ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้สิ"
"ก็มันจริงนี่คะ"
"พี่จะบอกให้ว่าคุณพ่อทำอะไรเพื่อฬุรีย์บ้าง"
เวฬุรีย์มองอย่างสงสัย
"ทำอะไรเหรอคะ"
"รู้รึเปล่าว่าตลอดเวลาที่ฬุรีย์เอาแต่น้อยใจคุณพ่อ ท่านกำลังทุ่มเทวิจัยยาสมุนไพรอยู่ตัวหนึ่ง"
"ยา"
"ยาตัวนั้นอาจารย์ใช้เวลาร่วมสิบปีในการวิจัย แล้วตอนนี้ก็ใกล้จะสำเร็จแล้ว ฬุรีย์รู้ไหมว่ายาตัวนี้ถูกวิจัยขึ้นเพื่อใคร"
"ใครคะ"
"เพื่อฬุรีย์ไง ยาตัวนี้จะทำให้เนื้องอกที่หน้าของฬุรีย์หยุดเจริญเติบโต แต่กว่าที่ยาจะใช้ได้ผลก็ต้องใช้เวลา ตอนนี้ใกล้จะสำเร็จแล้ว ทีนี้ฬุรีย์ยังคิดว่าพ่อไม่รักอยู่รึเปล่า"
เวฬุรีย์มองมณไฑอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
"ไม่รู้…ฬุรีย์ไม่รู้ ฬุรีย์กลัว กลัวทุกคนที่เอาแต่พูดให้ความหวัง แต่ไม่เคยมีอะไรดีขึ้นเลย"
"นี่ไม่ใช่การให้ความหวังนะ แต่พี่พูดเรื่องจริง ว่านสมุนไพรที่ใช้วิจัยก็มีอยู่จริง มันเป็นยาวิเศษ แต่อันตรายมากด้วย เรากำลังหาทางใช้ประโยชน์จากมันอยู่"
"พี่ไทอย่ามาให้ความหวังฬุรีย์เลย ฬุรีย์ไม่เชื่อนิทานหลอกเด็กแบบนี้หรอก"
"มันมีอยู่จริงนะ แล้วก็อยู่ใกล้ฬุรีย์กว่าที่คิดด้วย"
มณไฑพูดสีหน้าจริงจัง แต่สีหน้าเวฬุรีย์ไม่ค่อยเชื่อนัก
"งั้นพาฬุรีย์ไปดูหน่อยสิคะ"
อุ๋มอิ๋มนั่งทำงานอยู่ที่คลินิก มีเสียงคนเปิดประตูเข้ามาในคลินิกเงยหน้าขึ้นดู วุฒิตรงเข้ามาทัก"สวัสดีครับ ผมมา"
"หาคุณลดาใช่ไหมคะ"
วุฒิยิ้ม
"โห รู้ทันทีเลย"
"อุ๋มอิ๋มรู้ค่ะ คุณวุฒิมาทีไรไม่เคยเห็นถามถึงคนอื่น"
"เดี๋ยวนี้มีแซวกันนะครับ ผมแสดงออกมากไปเหรอ"
"ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ เอ…หรือว่าคุณวุฒิอยากมาหาคุณหมอคะ จะได้ลงคิวไว้ให้"
"โอ้ย ยังล่ะครับ ไม่มีอะไรต้องผ่าต้องเสริม"
อุ๋มอิ๋มหัวเราะ
"คุณลดาคุยกับลูกค้าอยู่ เดี๋ยวอิ๋มโทร.บอกให้ รอสักครู่นะคะ"
"ขอบคุณครับอุ๋มอิ๋ม"
อุ๋มอิ๋มต่อสายโทรศัพท์หาไอลดา วุฒิไปนั่งรอ
ในห้องรับรองลูกค้า มฆวันคลินิก วุฒินั่งอ่านข่าวในมือถือรอ ไอลดาเดินออกมาหา
"รอนานไหมคะพี่วุฒิ"
"นานมากครับ"
"แหม...พี่วุฒิก็ แค่สิบนาทีเองเนี่ยนะคะ"
"พี่รู้สึกว่านานนี่ครับ เพราะพี่อยากเจอลดาเร็วๆ"
เสียงอุ๋มอิ๋มกระแอมไอ วุฒิหันไปทางอุ๋มอิ๋ม
"คุณอุ๋มอิ๋มช่วยแจ้งคุณหมอมฆวันว่า ขออนุญาตพาพนักงานออกไปหาข้าวกินแป๊บนึงนะครับ รับรองดูแลอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง"
อุ๋มอิ๋มขำ
"ได้เลยค่ะ เดี๋ยวอิ๋มบอกให้"
"พี่วุฒิ พูดอะไรไม่รู้"
ไอลดาตีแขนวุฒิเบาๆ วุฒิหัวเราะ เดินพาไอลดาออกไปข้างนอก อุ๋มอิ๋มมองตามคนทั้งคู่ เห็นภาพของวุฒิกับไอลดาเป็นภาพตัวเองกับมณไฑ
"ถ้าเป็นอย่างนี้บ้างก็ดีสิ"
อุ๋มอิ๋มมองตามอย่างเหม่อๆ
วุฒิพาไอลดามาทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ระหว่างกินข้าว วุฒิก็ถามขึ้น
"ช่วงนี้ฬุรีย์เป็นยังไงบ้างครับ"
"ก็…ยังเก็บตัวเหมือนเดิมค่ะ ไม่ยอมออกไปไหนเลย"
"ที่จริงเราพาฬุรีย์ออกมาเจอโลกภายนอกบ้างก็น่าจะดีนะ อยู่แต่ในบ้าน ไม่เจอใครจะคิดมากก็ไม่แปลก"
"ทุกคนรู้ค่ะ แต่จะทำยังไงฬุรีย์ก็ไม่ยอม ต้องค่อยๆพูด ดูแลจิตใจกันไป เราก็พยายามทุกทางแล้ว"
"การดูแลไม่ใช่การตามใจนะลดา ถ้าทุกคนต้องพยายามเข้าใจเขา แล้วตัวเขาไม่พยายามเข้าใจใคร ยังไงก็ไม่ดีขึ้นหรอก"
ไอลดาหน้าเสียนิดหน่อย
"พี่วุฒิพูดแบบนี้ลำบากใจเรื่องฬุรีย์ใช่ไหมคะ"
วุฒิถอนใจ
"ลดาเข้าใจค่ะ พี่วุฒิไม่ต้องฝืนใจตัวเองเพราะลดา ฬุรีย์หรือใครเลยนะคะ"
"แต่พี่อยากช่วย มันต้องมีวิธีสิ วิธีที่จะทำให้ฬุรีย์ดีขึ้นได้"
วุฒิสีหน้าลำบากใจนั่งครุ่นคิดเรื่องเวฬุรีย์
อ่านต่อหน้าที่ 2
เพลิงพ่าย ตอนที่ 3 (ต่อ)
มณไฑพาเวฬุรีย์กลับมาที่บ้าน เดินนำเวฬุรีย์มาหยุดที่หน้าเรือนต้นไม้
"เรือนต้นไม้ของคุณพ่อนี่คะ คุณพ่อไม่ยอมให้ใครเข้าไปเลย"
"เพราะที่นี่เก็บรักษาว่านชนิดหนึ่งไว้ ที่พี่บอกว่าเรากำลังทำวิจัยเรื่องการทำยารักษาฬุรีย์ไง"
"พี่ไทมีกุญแจเหรอคะ"
"ไม่มีหรอก"
"แล้วฬุรีย์จะดูไอ้ว่านนั่นได้ยังไง"
"พี่จำได้ว่าตอนออกมาประตูยังไม่ได้ล็อค"
มณไฑเดินไปที่ประตู เห็นว่ายังไม่ได้ล็อคจริงๆ กำลังจะเปิดเข้าไป
"มณไฑ หยุด!"
มณไฑชะงัก มฆวันเดินมา รีบเข้าไปขวางทางเข้าไว้
"จะทำอะไร"
"ผมแค่จะเข้าไปข้างใน"
"ออกไป ออกไปทั้งคู่นั่นแหละ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเธอควรเข้ามา โดยเฉพาะลูกเวฬุรีย์"
"ทำไมล่ะคะ ในนั้นมันมีอะไรงั้นเหรอ"
มฆวันไม่ตอบ หันไปพูดกับมณไฑ
"ไท พาฬุรีย์ออกไป"
มณไฑอึกอัก
"พาฬุรีย์ออกไป"
มณไฑพยักหน้า ดึงแขนเวฬุรีย์จะให้ออกไป เธอขืนไว้
"ทำไมพ่อต้องคอยขวางฬุรีย์ทุกอย่างด้วย มันมีความลับนักเหรอ ถึงบอกไม่ได้"
"มันแค่ยังไม่ถึงเวลา"
"ไม่ถึงเวลา หรือไม่อยากให้หนูหายกันแน่! ตอบมาสิ ตอบมา"
มณไฑรีบดึงเวฬุรีย์ออกไป มฆวันยืนหน้าเครียด ฬุรีย์ไม่พอใจมาก
วุฒิมาส่งไอลดาที่บ้าน เวฬุรีย์กับมณไฑเดินกลับมาพอดี เวฬุรีย์เห็นวุฒิก็ดีใจ
"พี่วุฒิ"
แต่พอเหลือบไปเห็นว่ามากับไอลดาก็ชะงัก รีบเข้าไปควงแขนมณไฑ ไม่มองหน้าวุฒิ
มณไฑทักทายวุฒิ
"อ้าว คุณวุฒิ สวัสดีครับ ออกไปข้างนอกกับลดามาเหรอ"
"สวัสดีครับหมอไท ไปทานข้าวกันมาครับ แล้วก็เลยมาส่งลดาเขา หมอไทกลับมาเมื่อไหร่ครับเนี่ย"
"สองสามวันแล้วล่ะครับ"
"พี่ไทพาฬุรีย์ไปไหนมาคะ"
เวฬุรีย์แกล้งกอดแขนมณไฑ พูดเสียงหวาน
"พี่ไทพาฉันไปเที่ยวข้างนอกมา สนุกมากเลยวันหลังพาฬุรีย์ไปบ่อยๆ นะคะ"
"ได้สิจ๊ะ ถ้าฬุรีย์ชอบพี่ก็ดีใจ"
"พี่ไทใจดี ทำไมฬุรีย์จะไม่ชอบล่ะคะ ฬุรีย์ก็ต้องชอบคนที่ดีกับฬุรีย์อยู่แล้ว"
มณไฑยิ้มเขินๆ เวฬุรีย์ทำเป็นไม่สนใจวุฒิ
"ดีแล้วล่ะ แต่ถ้าวันหลังฬุรีย์อยากไปข้างนอกอีก บอกพี่วุฒิหรือเราก็ได้นะถ้าพี่ไทไม่ว่าง"
"ไม่เป็นไร ถ้าพี่ไทไม่ว่างฉันก็ไม่ไป ไม่อยากฝืนใจใคร"
วุฒิรู้สึกอึดอัดขึ้นมานิดหน่อยกับคำเน้น เวฬุรีย์หันไปพูดกับมณไฑ
"พี่ไทไปส่งฬุรีย์หน่อยนะคะ นะคะ"
"ครับๆ" แล้วหันไปบอกกับวุฒิ/ไอลดา "ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"ตามสบายเลยครับ"
มณไฑเดินไปกับเวฬุรีย์ วุฒิกับไอดามองตาม รู้สึกแปลกๆ
มณไฑพาเวฬุรีย์มาส่งที่หน้าห้อง เธอเดินเงียบมาตลอดทาง มณไฑเองก็รู้สึกแปลกๆ
"ฬุรีย์ ฬุรีย์"
เวฬุรีย์ยืนเหม่อนึกถึงวุฒิ ไม่สนใจมณไฑ จนมณไทต้องเขย่าตัว
"ฬุรีย์ ฬุรีย์เป็นอะไรไป"
เวฬุรีย์สะดุ้ง มองหน้ามณไฑ แล้วรีบสะบัดตัวออก
"เปล่า ฬุรีย์ไม่ได้เป็นอะไร"
"งั้นเหรอ ตั้งแต่เดินขึ้นมา พี่ว่าเราดูแปลกๆนะ"
"ฬุรีย์บอกว่าไม่เป็นก็ไม่เป็นไง พี่ไทกลับไปได้แล้ว"
"ฬุรีย์"
"กลับไปก่อนฬุรีย์อยากพัก อยากอยู่คนเดียว"
เวฬุรีย์เดินหนีเข้าห้องปิดประตูใส่มณไฑเสียงดัง มณไฑงง
ไอลดากับวุฒิออกมานั่งคุยกันในสวนของบ้าน วุฒิสงสัยเรื่องเวฬุรีย์
"ลดา ลดาว่าฬุรีย์เขา…จะเปลี่ยนท่าทีได้เร็วขนาดนี้จริงๆเหรอ"
"ทำไมพี่วุฒิถามแบบนั้นล่ะคะ"
"พี่ว่ามันแปลกๆ คนอย่างฬุรีย์เขาไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนอะไรง่ายๆ"
"แต่พี่วุฒิก็เห็นว่าฬุรีย์เขาดีขึ้นแล้ว สงสัยเพราะพี่ไทมั้งคะ"
"กะทันหันไปหน่อยไหม แต่ก็...ดีแล้วล่ะ ถ้าฬุรีย์ดีขึ้นพี่ก็ดีใจนะ"
"ลดาก็ดีใจ แต่ลดากลัว"
"กลัวอะไร"
"ลดากลัวว่าฬุรีย์เขาจะดีกับพี่ไทเพื่อประชดใครบางคน"
วุฒิเงียบไป รู้ว่าอาจจะหมายถึงตัวเอง
บนหน้าต่างห้องของเวฬุรีย์ เธอมองลงมาที่คนทั้งคู่ สีหน้าเคียดแค้น
มณไฑมาลามฆวันกับนวลนภาที่ห้องนั่งเล่น
"วันนี้ขอโทษด้วยนะครับที่ผมพาฬุรีย์ออกไปแล้วไม่ได้บอกก่อน"
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ถ้าฬุรีย์ไปกับหมอไท ฉันก็ไม่ห่วงอะไรหรอก แล้ววันนี้ฬุรีย์เป็นยังไงบ้าง"
"เขาดูตื่นเต้นที่ได้ออกไปข้างนอกนะครับ แต่บางที ผมก็เดาอารมณ์เขาไม่ถูก"
"ฬุรีย์เขาเป็นแบบนี้แหละจ้ะ เขาทำอะไรให้เธอรำคาญใจรึเปล่า"
"ไม่หรอกครับ แค่ผมสงสารฬุรีย์ ถ้าทำได้ผมก็อยากช่วยให้เขาหายไวๆ"
"ขอบคุณที่หวังดีกับลูกสาวฉัน แต่ฉันมีเรื่องจะขอ" มฆวันว่า
"เรื่องอะไรครับอาจารย์"
"อย่าพาฬุรีย์ไปที่เรือนต้นไม้อีกเด็ดขาด"
"ทำไมล่ะครับ"
"ว่านอสรพิษอันตรายเกินไป ไม่ใช่แค่ฬุรีย์ แต่ใครก็ไม่ควรเข้าใกล้ทั้งนั้นนอกจากฉันกับภา ฉันขอแค่นี้ได้ไหม"
"ครับอาจารย์ ผมก็ต้องขอโทษด้วยที่วันนี้ถือวิสาสะพาฬุรีย์เข้าไป"
มณไฑพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
ภายในห้อง เวฬุรีย์นั่งสางผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มีตุ๊กตาลู่ซี่วางอยู่ข้างหน้า เธอระบายความรู้สึกกับตุ๊กตาลูซี่เสียงเศร้า
"ลูซี่…พี่วุฒิเขาลืมฉันแล้วล่ะ เขาไม่สนใจฉันแล้ว เขาแคร์แต่นังไอลดา ทำไมล่ะ ทำไมมีแต่คนรักมัน มีแต่คนสนใจมัน อะไรๆที่ฉันควรได้ ถึงต้องเป็นของมัน…แม้แต่พี่วุฒิ"
เวฬุรีย์สางผมไปเรื่อยๆตาเริ่มแดง เหมือนจะร้องไห้
"เพราะมันสวยกว่าฉันน่ะสิ ใครๆ ก็ชอบคนสวยทั้งนั้น ถ้าไม่มีไอลดา ถ้ามีแค่ฉัน เขาจะสนใจฉันใช่ไหม…ใช่ไหม…แกตอบฉันสิ ใช่ไหมลูซี่"
เวฬุรีย์มองเหม่อไปที่ตุ๊กตาลูซี่พลางนึกถึงอดีต
ในอดีต สมัยเด็ก เวฬุรีย์ยืนร้องไห้ท่ามกลางกลุ่มเด็กที่เข้ามาแกล้งปาก้อนหิน ตะโกนล้อ
"ยัยหน้าผี…น่าเกลียด…หน้าเละ แหวะๆ ๆ ไปให้พ้น"
เวฬุรีย์ร้องไห้ นั่งลงเอามือกอดเข่า คนอื่นยิ่งสนุกล้อเลียนเสียงดัง
" ทำอะไรกันน่ะ"
วุฒิวิ่งเข้ามาทางเด็กกลุ่มนั้น คนหนึ่งในกลุ่มชี้ไปที่เวฬุรีย์
เด็ก1บอก "พี่วุฒิ ไล่ผีกัน ไล่ผี"
"อะไร? ผีอะไร"
เด็ก2 บอก "คนนี้ไง ยัยหน้าผี เขามาขอเล่นด้วย"
เด็ก3 บอก "เราไม่เล่นด้วยหรอกน่ากลัวจะตาย ยัยหน้าผีๆๆ"
คนอื่นเริ่มพูดตาม ปาหินใส่เวฬุรีย์อีก วุฒิมองไปที่เวฬุรีย์ ตัดสินใจวิ่งเข้าไปกลางวงนั้น
"หยุดนะ!"
เด็กคนอื่นมองวุฒิงงๆ
"ถ้าพี่เห็นว่าใครรังแกเขาอีก พี่จะเอาไปฟ้องพ่อแม่ทุกคนให้หมดเลยว่าพวกเธอเป็นเด็กไม่ดี พี่จะให้เขาตีพวกเธอ"
เด็กๆที่เหลือเริ่มกลัวแล้วก็วิ่งหนี วุฒิวิ่งไล่จนกระจัดกระจายกันไปคนละทาง
พอทุกคนไปหมดแล้ว วุฒิก็กลับมาหาเวฬุรีย์ สะกิดให้เงยหน้าขึ้นมา
"ไปหมดแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ"
เวฬุรีย์เงยหน้าขึ้นมาเห็นวุฒิยิ้มให้ เวฬุรีย์ยิ้มตาม ประทับใจในตัววุฒิมาก
บริเวณสนามเด็กเล่น ตอนเย็น วุฒิเดินถือไอศกรีมมาให้ เวฬุรีย์งงๆ
"พี่ให้ฬุรีย์ จะได้อารมณ์ดี"
เวฬุรีย์เขินรับไอศกรีมจากวุฒิ เด็กกลุ่มเดิมเดินผ่านมาเห็นวุฒิ ตะโกนล้อ
"พี่วุฒิเป็นเพื่อนนังหน้าผี พี่วุฒิอยู่กับนังหน้าผี…เดี๋ยวพี่วุฒิก็หน้าผีตามหรอก"
วุฒิมองเวฬุรีย์เห็นหน้าเศร้าลงอีก เลยรีบลุกไปไล่
"ไม่เห็นหน้าผีเลย เขาก็สวยออก ไปเลยนะ ไปเลย พวกเธอน่ะน่าเกลียดกว่าเขาอีก ไป"
วุฒิวิ่งไล่เด็กพวกนั้นจนแตกกระเจิงอีกครั้ง จนไอศกรีมของเขาร่วงตกพื้นกินไม่ได้ วุฒิกลับมานั่งข้างฬุรีย์
"ไปหมดแล้ว คงไม่มาแล้วล่ะ"
เวฬุรีย์มองไปที่ไอศกรีมของวุฒิ
"แต่ว่า"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวซื้อใหม่ก็ได้"
"ขอบคุณค่ะ"
"บอกแล้วไม่เป็นไรไง"
"เมื่อกี้…พูดจริงเหรอคะ"
"เรื่อง"
"ที่พี่บอกว่าฉันสวย ฉันสวยจริงๆเหรอ"
"สวยสิ ทำไมจะไม่สวยล่ะ สวยมากๆๆๆ เลย"
"มีแต่คนบอกว่าฉันน่าเกลียด ก็เลยไม่มีคนเล่นด้วย"
"ตอนนี้มีแล้ว ไม่เห็นต้องเศร้าเลย ถ้าใครรังแกอีกบอกพี่นะ คนสวย"
เวฬุรีย์พยักหน้า ดีใจมาก
"สวยจริงๆนะ สวยแค่ไหน"
"อืม…เดี๋ยวมาเฉลยให้ฟัง"
วุฒิยิ้ม เวฬุรีย์มองอย่างสงสัย
เวฬุรีย์เศร้าๆนั่งอยู่คนเดียวมองเด็กในสนามเล่นกัน วุฒิเดินมาข้างหลัง เอามือสะกิดไหล่
"หวัดดี คนสวย"
"พี่วุฒิ"
วุฒิเดินมาตรงหน้าเวฬุรีย์ แต่ซ่อนของไว้ข้างหลัง
"จำเรื่องเมื่อวานได้ไหม"
"เมื่อวาน"
"ที่เธอถามพี่ว่าเธอสวยแค่ไหนไง"
"คะ"
"วันนี้เลยมาเฉลย นี่ไง"
วุฒิหยิบกล่องของขวัญยื่นให้ เป็นกล่องตุ๊กตาบาร์บี้
"สวยไหม"
"สวยค่ะ"
"โตขึ้นฬุรีย์ต้องสวยเหมือนตุ๊กตาตัวนี้แน่ๆ"
"จริงเหรอคะ"
"จริงสิ…นี่พี่ตั้งชื่อให้เขาว่าลูซี่"
"ทำไมถึงชื่อลูซี่"
"ลูซี่ก็มาจากฬุรีย์ไง ทำความรู้จักกันไว้นะนี่ฬุรีย์" วุฒิชี้ไปที่ฬุรีย์ "ส่วนนี่ ลูซี่" พูดพลางชี้ไปที่ตุ๊กตา
เวฬุรีย์รับตุ๊กตาของวุฒิไปกอดแน่น ดีใจมาก วุฒิลูบหัวเวฬุรีย์อย่างเอ็นดู
"ลูซี่…ลูซี่…ฉันจะสวยเหมือนเธอให้ได้เลย ลูซี่"
อ่านต่อหน้าที่ 3
เพลิงพ่าย ตอนที่ 3 (ต่อ)
เวฬุรีย์ยังนั่งคุยกับลูซี่อยู่ในห้อง
"ลูซี่"
เวฬุรีย์หยิบลูซี่ขึ้นมากอด
"ถ้าฉันสวยเหมือนเธอ พี่วุฒิก็จะรักฉันใช่ไหม มันยังมีทางใช่ไหม"
เวฬุรีย์นึกถึงตอนที่มณไฑเล่าเรื่องสมุนไพรให้ฟังที่ริมน้ำ
"ว่านนั่น"
เวฬุรีย์นึกอะไรออกลุกพรวดขึ้น
"เรือนต้นไม้…ใช่…เรือนต้นไม้"
มฆวันคลินิก ตอนสายวันใหม่ นายแพทย์มฆวันเตรียมอุปกรณ์เพื่อจะทดลองการผสมสารเคมีกับว่านอสรพิษ มณไฑเดินเข้ามาพร้อมใส่ชุดป้องกันอย่างดี มฆวันพยักหน้าให้มณไฑกับนวลนภาเพื่อบอกว่าพร้อมแล้ว
การทดลองเริ่มขึ้น มณไฑช่วยมฆวันผสมสารเคมีเข้ากับตัวว่านอสรพิษ นวลนภามองการทดลองตรงหน้าอย่างตื่นเต้น มีความหวัง
มณไฑช่วยผสมสารเคมีทั้งหมดอย่างตั้งใจ รอดูผลอย่างใจจดใจจ่อ
เวฬุรีย์แอบเดินเข้ามาที่เรือนต้นไม้ มองรอบๆบริเวณเพราะกลัวคนเห็น พอถึงหน้าประตูก็มองเข้าไปอย่างสงสัยอยากรู้อยากเห็น พยายามเขย่าประตูก็เปิดไม่ออก จึงตัดสินใจจะปีนเข้าไป แต่ก็ตกใจชะงัก เมื่อผ่อนศักดิ์เข้ามาจากทางด้านหลัง
"คุณหนูครับ"
เวฬุรีย์ตกใจนร่วงลงมา
"ทำไมมาเงียบๆแบบนี้ล่ะ ตกใจหมดเลย"
"ขอโทษนะครับที่ทำให้ตกใจ แต่คุณหนูจะปีนขึ้นไปทำไมครับ"
เวฬุรีย์ไม่รู้จะตอบยังไง
"พอดีฉันลืมของไว้ข้างใน นายผ่อนมีกุญแจเปิดเข้าไปได้ไหม"
"ผมไม่มีหรอกครับ"
"และใครมีบ้างล่ะ"
"จะมีก็คุณหมอกับป้าปลูกเท่านั้นครับ"
เวฬุรีย์ขยับจะไป
"เดี๋ยวครับ คุณหนูไปเอากุญแจที่ป้าปลูก ป้าปลูกก็ต้องถามคุณหมออยู่ดีแหละครับ"
"แล้วฉันจะเข้าไปเอาของของฉันได้ยังไง"
"ผมว่าคุณหนูก็ไปขอกุญแจกับท่านสิครับ แต่ปกติแล้วในนี้ท่านหวงมาก ขนาดผมจะเข้าไปปัดกวาดท่านยังไม่ยอมเลยครับ"
เวฬุรีย์อารมณ์เสีย
"พอแล้ว ฉันไม่อยากรู้เรื่องของแก จะไปไหนก็ไป"
เวฬุรีย์หงุดหงิด พยายามหาทางเข้าไปให้ได้
มฆวันลองใช้สารสกัดที่ได้ทาที่หนูทดลองก่อนหันไปบอกกับมณไฑ
"หลังลองใช้สารสกัดตัวนี้แล้วต้องรอผลอีกหนึ่งสัปดาห์ ถ้าใช้ได้ผลดีเราก็น่าจะใกล้ความจริงแล้วล่ะนะ"
"ทำไมเราทดลองกับคนจริงๆเลยล่ะครับอาจารย์"
"มันอันตรายเกินไป ยาบางตัวใช้กับสัตว์ได้แต่ก็อาจจะใช้กับคนไม่ได้ วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ"
มณไฑพยักหน้า เดินเอาของไปเก็บ
ขณะที่เก็บน้ำว่านเข้าที่ มณไฑเหลือบไปมองทางมฆวันกับนวลนภาเห็นว่าไม่ได้มองมาทางเขา
มณไฑแกล้งเอามือปัดขวดน้ำว่านให้หกใส่มือ น้ำว่านๆค่อยกัดมือมณไฑ จนเขาร้องอย่างเจ็บปวด
"โอ๊ย"
นวลนภาตกใจมากวิ่งเข้ามาดูอาการม
"มณไท โอ๊ยตายแล้ว"
นวลนภาวิ่งไปหยิบยาจะมาทาให้ แต่มณไฑเอามือออก
"อยู่นิ่งๆสิมณไฑ เธอต้องรีบทายานะ ว่านนี่มันอันตรายมากรู้ไหม"
"ผมรู้ครับแต่…"
มณไฑมองไปที่มฆวัน
"อาจารย์ครับ ช่วยเอาสารสกัดตัวใหม่นั่นทดลองกับแผลผมได้ไหมครับ"
มณไฑพูดเสียงเรียบๆไม่มีท่าทีตกใจกับมฆวัน
"ทายาที่อาจารย์ภาเขาให้ซะ"
"อาจารย์ครับ ผมขอร้องล่ะครับ"
"เธอไม่จำเป็นต้องลงทุนเอาตัวเองมาเสี่ยงขนาดนั้น"
"ถ้าไม่ลองกับคนจริงๆซักที แล้วเมื่อไหร่เราจะรู้ว่ามันจะได้ผลล่ะครับ อาจารย์ไม่อยากให้ฬุรีย์หายเหรอครับ หนึ่งอาทิตย์มันนาน"
"ทายาของอาจารย์ภาซะ"
มณไฑนิ่งลงรู้ว่ามฆวันคงไม่ยอม นวลนภาจับมือมณไฑมารีบทายาให้
"หมอไท…ทำไมถึงทำอย่างนี้นะ ดูสิ…แผลมัน เฮ้อ"
มฆวันเดินมาหามณไฑ
"แผลที่เกิดตอนนี้เป็นแผลสด ต่างกับเนื้องอกของฬุรีย์ ฉันไม่รู้ว่ามันจะได้ผลเหมือนกันหรือเปล่าแล้วอีกอย่าง จำไว้ว่าต่อให้มีแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ดี ฉันก็จะไม่เสี่ยงอะไรทั้งนั้น เพราะนั่นมันหมายถึงฬุรีย์ด้วย จะทำอะไรคิดให้มาก"
มณไฑดูซึมลงไปในทันที ยอมแพ้ในสิ่งที่มฆวันพูด
มุมหนึ่งในบ้าน เวฬุรีย์สั่งลอร่า
"แกไปเอากุญแจที่ป้าปลูกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้"
"ป้าปลูกแกไม่ให้ลอร่าหรอกค่ะ หน้าแกยังไม่อยากจะมองเลย"
"ฉันไม่ได้ให้แกไปขอ"
"คุณฬุรีย์จะให้ลอร่าไปขโมยมาเหรอคะ"
"ใช่"
"ไม่กล้าหรอกค่ะ"
เวฬุรีย์หยิบเงินมาล่อตรงหน้า
"ทำยังไงก็ได้ เอากุญแจมาให้ฉัน"
ลอร่ารีบตะครุบเงินกำแน่น ยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์
มณไฑออกมาจากห้องทดลอง อุ๋มอิ๋มเห็นรีบเข้าไปหา
"คุณหมอ การทดลองวันนี้เป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า"
มณไฑยิ้มแต่ก็ดูอ่อนแรงเต็มที
"ผมไม่เหนื่อยหรอก แค่เพลียๆนะอิ๋ม"
มณไฑยกมือขึ้นมานวดขมับ อุ๋มอิ๋มเห็นแผลที่มือก็ตกใจ
"คุณหมอ มือ…"
"อ๋อ พลาดตอนทำแล็บนิดหน่อยน่ะครับ ไม่เป็นไร"
"ไปทำแผลดีไหมคะหมอ ดูน่ากลัวจังค่ะ"
"แผลสดก็แบบนี้แหละ ผมทายามาแล้วล่ะ เดี๋ยวก็หาย"
"เหรอคะ แต่มันเหวอะหวะ"
"ไม่เป็นไรจริงๆ เดี๋ยวก็คงดีขึ้น ไปนะครับ"
มณไฑเดินออกไปอุ๋มอิ๋มมองตามอย่างเป็นห่วง
ภายในครัว บุญปลูกกำลังง่วนทำกับข้าวอยู่คนเดียว ลอร่าแอบย่องเข้ามาลับๆล่อๆ พร้อมกับยกถุงโอเลี้ยง 2 ถุงขึ้นมามองและมองไปรอบๆว่ามีใครเห็นไหม
ลอร่าตัดสินใจจะเดินเข้าไปหาบุญปลูก แต่ก็ต้องตกใจเมื่อผ่อนศักดิ์เข้ามาทักจากทางด้านหลัง
"นังลอร่า"
ลอร่าหันขวับใจตกไปที่ตาตุ่ม แต่แล้วก็ปรับอารมณ์เหมือนไม่มีอะไร
"เอ็งมาทำอะไรลับๆล่ออยู่ตรงนี้"
"พี่ผ่อน ทำไมถึงชอบเข้าแต่ด้านหลัง ฉันตกใจหมดเลย"
"ทำไมต้องตกใจด้วย อ่อ…ฉันรู้แล้ว แกจะมาแอบฟังนังออมกับป้าปลูกนินทาคุณฬุรีย์ แล้วแกจะเอาไปฟ้องใช่ไหม"
"ไม่ใช่.....คือฉัน"
ลลร่าชูถุงโอเลี้ยง2ถุงขึ้นมา ผ่อนศักดิ์มองอย่างงงๆ
"โอเลี้ยง"
"ก็โอเลี้ยงนะสิ ป้าปลูกแกชอบโอเลี้ยงฉันก็ซื้อมาฝาก"
"เอ็งนะเหรอ ซื้อโอเลี้ยงมาให้ป้าปลูก เอ็งเพี้ยน หรือมีอะไรหรือเปล่า"
"อย่ามองฉันแบบนั้น คือฉันจะเอาโอเลี้ยงมาขอโทษแก ฉันรู้ตัวนะว่าฉันปากไม่ค่อยดี แต่จริงๆแล้วฉันไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ แหม……ป้าปลูกอุตส่าห์ทำกับข้าวให้กินทุกวัน ฉันก็อยากมาขอโทษบ้างอะไรบ้าง"
"เออ….รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่อย่างนี้ก็ดีน่ะสิ งั้นเอ็งเอาไปให้แกสิ แต่ทำไมซื้อมา2ถุง"
"กะจะเอามาให้นังออมมันด้วยไง แล้วมันไปไหนล่ะ"
"มันไปซื้อของให้ป้าปลูก ไปๆเอ็งรีบเข้าไป"
ผ่อนศักดิ์จะเดินออกไป
"เดี๋ยวพี่ผ่อน ฉันวานเอาไปทีเถอะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเขินๆกระดากๆยังไงก็ไม่รู้ พี่ผ่อนช่วยเอาไปให้ป้าปลูกที บอกฉันซื้อมาฝาก อีกถุงพี่ผ่อนก็เอาไปเลยนะ"
"โอ้โหอีนังนี่ ลีลาเยอะเหลือเกิน เดี๋ยวไอ้นั่นเดี๋ยวไอ้นี่"
"ขอบใจนะพี่ผ่อน"
ลอร่ามองตามแอบลุ้น
เวลาต่อเนื่องมา จวนจะมืดแล้ว เวฬุรีย์รอลอร่าอย่างร้อนรน ลอร่าเข้ามาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
"อีลอร่า ไหนล่ะกุญแจ อย่าบอกนะว่าเอามาไม่ได้"
"ต้องรอเวลาสักนิดค่ะ"
"ทำไมต้องรอ ฉันเบื่อเหลือเกินกับคำว่ารอ ตกลงแกเอากุญแจมาให้ฉันได้หรือไม่ได้"
"ได้ค้า.......ใจเย็นสักนิดนะคะ มือขั้นนี้แล้ว คุณฬุรีย์มีลอร่าก็เหมือนมีแก้วสารพัดนึก ไม่ต้องห่วงนะคะ"
"ถ้าแกทำไม่ได้อย่างที่คุย ฉันเฉดหัวแกออกแน่! ไป...เอา...กุญ…แจ….มา"
"งั้นลอร่า กลับไปดูผลงานก่อนนะคะ"
ลอร่าวิ่งกลับไปเกือบชนกับไอลดาที่เดินเข้ามาพอดี
"ลอร่าจะไปไหนเหรอ"
ลอร่าอ้ำอึ้ง นึกมุกไม่ทัน มองไอลดาทีมองเวฬุรีย์ที ยังนึกไม่ออกว่าจะแก้ตัวยังไง
"มันจะไปไหนก็เรื่องของมัน แกไม่ต้องแส่ซักเรื่องได้ไหม แล้วจะยืนซื่อบื้ออยู่ทำไมล่ะ รีบไปสินังลอร่า"
ลอร่ารีบวิ่งไปทันที
"ฬุรีย์...มีอะไรอยากให้พี่ช่วยบอกพี่ได้นะ"
เวฬุรีย์เดินจ้องหน้าเข้ามาอย่างช้าๆ
"ช่วยทำให้ไอ้แผลที่อยู่บนหน้าของฉันหายไปได้ไหม ฉันถามว่าได้ไหม!"
อ่านต่อหน้าที่ 4
เพลิงพ่าย ตอนที่ 3 (ต่อ)
ไอลดาอึ้งไม่รู้จะตอบเวฬุรีย์ยังไง
"ไม่ต้องมาทำตัวเป็นนางฟ้าหรือนางเอกเลยนะ ยิ่งแกทำดีกับฉันมากเท่าไร มันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกสมเพชความอัปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เลิกเสแสร้งแกล้งเป็นห่วงเป็นใยฉันเพื่อทำคะแนนกับพี่วุฒิได้แล้ว"
"พี่ไม่เคยคิด ไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นเลยนะฬุรีย์"
"โกหก! วันไหนที่แกเป็นแบบฉัน ฉันอยากจะรู้นักว่าแกจะเป็นยังไง"
เวฬุรีย์ด่าเสร็จแล้วเดินออกไป ปล่อยให้ลดายืนตัวชาเสียใจกับคำพูดของน้องสาวแท้ๆของตัวเอง
ลอร่าโผล่เข้ามาในครัวมองผลงานของตัวเอง และก็เป็นไปตามคาด บุญปลูกนอนคว่ำหลับสนิทอยู่ข้างถุงโอเลี้ยงหน้าหม้อต้มกับข้าว
ลอร่ายิ้มกริ่มแล้วเดินอ้อมไปทางประตูครัว เปิดประตูเพื่อจะเข้าไป แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเจอผ่อนศักดิ์ที่หลับใหลด้วยฤทธิ์ยานอนหลับที่อยู่ในโอเลี้ยง ร่างของผ่อนศักดิ์พิงประตูอยู่และล้มลงไปกอดขาของลอร่า พร้อมกับละเมอกอดจูบไปที่หัวเข่าของลอร่า
ลอร่าทั้งตกใจทั้งจั๊กจี้ ไม่กล้าส่งเสียงดัง พยายามจะแกะเท่าไร ผ่อนศักดิ์ก็ไม่ยอมปล่อย ยังพร่ำเพ้อว่าได้กอดผู้หญิงอยู่ สุดท้ายลอร่าตบบ้องหูผ่อนศักดิ์ดังโป๊ะ ผ่อนศักดิ์ถึงได้ยอมปล่อยและร่วงลงไปหลับต่อ
ล่อร่ารีบเดินเข้าไปหาบุญปลูก สะกิดร่างที่คว่ำหน้าอยู่ ทุกอย่างนิ่ง ลอร่าจึงจับบุญปลูกให้หงายขึ้น แล้วคลำหากุญแจจนเจอ
ลอร่ายิ้มดีใจ หันหลังจะไปแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเจอเวฬุรีย์ยืนแบมือรออยู่ ลอร่ารีบส่งกุญแจให้
เวฬุรีย์รีบเดินออกไป ลอร่าตามออกไป
ไอลดาเสียใจกับคำพูดของเวฬุรีย์ ได้แต่หวังว่า วันใดที่เวฬุรีย์หน้าหายอัปลักษณ์แล้ว สภาพจิตใจคงจะดีขึ้น
นวลนภากับมฆวันกลับเข้ามาบ้าน
"เวฬุรีย์หายไปไหนลูก แล้วทำไมดูหน้าตาเหมือนไม่ค่อยสบายเลย"
"คิดอะไรอยู่เหรอลูก" มฆวันถาม
ไอลดาเฉไฉ
"กำลังคิดเรื่องมณไฑอยู่น่ะค่ะ ขยันซะจนพลาดจนได้รับบาดเจ็บ"
"นั่นน่ะสิ ปกติแล้วมนไฑจะระวังและรอบคอบมากกับสารเคมีในห้องทดลอง และยิ่งเป็นว่านอสรพิษแล้ว ไม่น่าเลย" นวลนภาบอก
"ใช่…ไม่น่าเลย มนไฑประเมินพิษของมันน้อยเกินไป"
ทั้งนวลนภาและไอลดาหันมามองหน้าพ่อที่แฝงคำพูดแบบมีนัยยะ
"คุณพ่อคะ พอจะเป็นไปได้ไหมว่าผลการทดลองจะเร็วกว่าหนึ่งอาทิตย์"
"หนึ่งอาทิตย์ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า"
"แล้วจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรล่ะคะ ถึงจะได้ผลร้อยเปอร์เซ็น ฉันไม่อยากให้พลาดอีกแล้วนะคะ ฉันอยากเห็นฬุรีย์มีความสุขเหมือนคนอื่นๆเค้าซะที ลูกรอไม่ไหวแล้วนะคะ"
"รอไม่ไหวก็ไม่ต้องรอ ฬุรีย์ต้องรู้จักอดทนบ้าง ยาวิเศษที่สวรรค์ประทานให้บนโลกนี้ไม่มีหรอก ถ้าสุดท้ายแล้วมันไม่ได้ผล ฬุรีย์ต้องยอมรับมันให้ได้"
ไอลดากับนวลนภาหวาดหวั่นใจเหลือเกิน
เวฬุรีย์เดินอย่างระมัดระวังกลัวคนเห็น ลอร่าตามหลัง ทั้งคู่เดินมาถึงประตูที่มีกุญแจล็อคอยู่ เวฬุรีย์มองเข้าไปข้างในใจเต้นแรง อยากเข้าไปเห็นว่านวิเศษที่มนไฑเคยบอกไว้ เธอยกพวงกุญแจขึ้นมามอง
ลูกกุญแจถูกไขที่ละดอก ลอร่าไขกุญแจอย่างรีบเร่งมือไม้สั่น ยิ่งถูกเวฬุรีย์เร่งยิ่งทำให้ลอร่าลนลานจน ทำให้ลูกกุญแจดอกหนึ่งร่วงลงพื้นโดยที่ทั้งคู่ไม่ทันเห็น กุญแจทุกดอกถูกไขหมดแล้วแต่ก็ไม่ออก !?
เวฬุรีย์ลองไขบ้าง แต่ก็ไม่ออกเช่นกัน
"โธ่เว้ย...อีลอร่า แกไปเอากุญแจอะไรมา ไขไม่ได้สักดอก แกหยิบพวงผิดมารึเปล่า"
"โถ…คุณฬุรีย์คะ ลอร่าคลำหาทั้งตัวป้าปลูกแล้ว มันก็มีอยู่แค่พวงเดียวนะคะ"
"และทีนี้จะทำยังไง ฉันจะต้องเข้าไปข้างในให้ได้"
"ในนั้นมันมีอะไรเหรอคะ ถึงได้อยากเข้าไปนัก"
"อย่ามาสาระแนอยากจะรู้เลย ช่วยกันคิดดีกว่าว่าฉันจะเข้าไปได้ยังไง"
"งั้นรอเดี๋ยวนะคะ ลอร่าจะไปเอาชะแลงมางัด"
ลอร่ารีบวิ่งออกไป เวฬุรีย์มองประตูเข้าเรือนต้นไม้ด้วยความโมโหปนน้อยใจ
"ทำไม..ทำไมต้องมีอุปสรรคไปซะทุกอย่าง โชคไม่เคยเข้าข้างฉันบ้างเลย ฉันเบื่อหน้าอัปลักษณ์ของฉันเต็มทนแล้ว"
เวฬุรีย์ทรุดลงกับพื้น น้อยใจกับความอาภัพ จังหวะที่ทรุดลงร้องไห้กับพื้นอยู่นั้น สายตาของเวฬุรีย์ เห็นใบไม้ใบนึงที่ปิดอะไรบางอย่างไว้ปลิวออกไป เปิดให้เห็นกุญแจดอกที่ตกลงกับพื้น มันดูวาววับ โดดเด่นกว่ากุญแจดอกอื่นๆ
เวฬุรีย์นิ่งมอง เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมา แล้วหันไปมองแม่กุญแจที่ประตู หัวใจของเวฬุรีย์เต้นแรง เดินเข้าไปเพื่อจะไข ลูกกุญแจถูกเสียบเข้าไปจนมิด เธอกลั้นใจ บิดลูกกุญแจ แม่กุญแจเด้งออกดังแชะ ตาเธอเป็นประกายเจิดจรัส
"คุณพ่อหวงนักใช่ไหม คราวนี้ก็จะได้รู้ว่าว่านที่คุยนักคุยหนา มันจะวิเศษจริงรึเปล่า"
เวฬุรีย์เดิเข้าไป
บนโต๊ะอาหาร ทุกคนหงุดหงิดรออาหารค่ำ ออมเข้ามา
นวลนภาบอก
"ป่านนี้แล้ว ทำไมยังไม่ขึ้นโต๊ะอีก คุณหมอหิวแล้วนะ"
"กับข้าวยังไม่เสร็จดีค่ะ"
"นี่มันเลยเวลามาตั้งนานแล้ว ป้าปลูกไม่เคยผิดเวลานะ"
"ป้าปลูกหลับคาเตาอยู่ในครัวค่ะ ปลุกเท่าไรก็ไม่ตื่น"
"ไม่สบายหรือเปล่า"
"ออมไม่แน่ใจนะคะ ปกติแกก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ เอ่อ…นายผ่อนอีกคนก็หลับอยู่ในนั้น ปลุกไม่ตื่นเหมือนกันค่ะ"
"นี่มันอะไรกัน"
"เดี๋ยวออมจะรีบไปทำให้เสร็จ รอหน่อยนะคะ"
ออมวิ่งออกไป มฆวันและนวลนภามองตามด้วยความแปลกใจ ไอลดาเดินลงมาจากชั้นบน
"ฬุรีย์ล่ะลูก จะลงมาทานข้าวข้างล่างหรือจะให้ยกขึ้นไปข้างบน"
"ลดาเรียกตั้งนานแต่ก็เงียบ ลอร่าก็ไม่รู้อยู่ไหนค่ะ"
ทั้งหมดยิ่งสงสัยและแปลกใจมากขึ้นไปอีก
เวฬุรีย์เดินวนเวียนอยู่ในเรือนต้นไม้ มองสังเกตต้นไม้ทุกต้น แต่ก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ต้นไม้ต้นไหนคือต้นว่านอสรพิษ แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากจะหายจากความอัปลักษณ์ จึงทำให้เดินมาถึงต้นไม้ที่แปลกและสะดุดตากว่าทุกๆต้น มีเครื่องป้องกันต้นไม้อย่างเช่นที่กันแมลง มีไฟส่องให้อุณหภูมิสม่ำเสมอ แถมกิ่งที่ถูกตัดไปแล้วยังมีน้ำยางสีขาวไหลซึมออกมา ลักษณะเช่นนี้น่าจะใช่ต้นว่านอสรพิษ แต่เพื่อความแน่นอน เวฬุรีย์จึงโทรถามมณไฑว่า ลักษณะของต้นว่านอสรพิษตรงตามที่ตัวเองเห็นหรือไม่
มณไฑกำลังจะเดินเข้าบ้าน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
"ฮัลโหล ว่าไงจ๊ะฬุรีย์"
เวฬุรีย์โทร.มือถือขณะมองต้นว่านข้างหน้า
"พี่ไฑคะ ฬุรีย์มีอะไรจะถาม"
"อะไรเหรอ"
"หน้าตาของว่านที่พี่เล่าให้ฬุรีย์ฟังมันเป็นยังไงคะ"
มณไฑแปลกใจ
"ทำไมฬุรีย์ถามเรื่องนี้ล่ะ"
"บอกฬุรีย์มาเถอะ ฬุรีย์อยากรู้"
มณไฑรู้สึกได้ว่า น้ำเสียงของเวฬุรีย์ดูแปลกๆ แต่ก็ยอมบอก
"มัน…จะหน้าตาประหลาดๆหน่อยนะ หงิกๆงอๆ เหมือนงูพิษ"
เวฬุรีย์มองว่านตรงหน้า มันเหมือนที่มณไฑบอกทุกอย่าง
"แล้วยังไงอีก แค่นี้เหรอคะพี่ไท"
"ฬุรีย์ยังไม่ตอบพี่เลย อยากรู้ไปทำไม"
"มันเป็นความหวังสุดท้ายของฬุรีย์ ฬุรีย์แค่อยากรู้มันผิดด้วยเหรอพี่ไท"
"เปล่า พี่ไม่ได้จะว่าเรานะ แต่ฬุรีย์อย่ารู้อะไรมากกว่านี้เลย รออีกหน่อยเถอะ"
"ถ้าพี่ไทไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก แต่ฬุรีย์จะไม่รออะไรอีกแล้ว"
เวฬุรีย์ตัดสายไป มณไฑรู้สึกเป็นกังวลบอกไม่ถูก กดมือถือหาไอลดา
"ฮัลโหล...ลดาเหรอ เมื่อกี้ฬุรีย์โทรมาหาผม ถามอะไรแปลก"
เวฬุรีย์มองต้นว่านอสรพิษตรงหน้า ยิ้มดีใจ
"แกใช่ไหมที่จะช่วยฉั"
เวฬุรีย์ค่อยเอื้อมเอื้อมมือเข้าไปจับ แต่ทันใดนั้นเวฬุรีย์ก็กรีดร้องดังลั่น
พิษของว่านค่อยๆกัดมือเวฬุรีย์ ทำให้รู้สึกแสบร้อนทรมาน เธอมองมือตัวเอง ส่งเสียงร้องอย่างทรมาน
"โอ๊ย...แสบ ทำไมถึงแสบอย่างนี้...ช่วยด้วย"
ไอลดาเดินมาที่หน้าห้องเวฬุรีย์ เคาะประตูเรียก
"ฬุรีย์... ฬุรีย์"
ไม่มีเสียงตอบ ไอลดาแปลกใจ เรียกอีก
หลับแล้วเหรอฬุรีย์ อยู่ไหมตอบพี่หน่อย"
ในห้องยังเงียบ ไอลดารู้สึกแปลก ลองบิดลูกบิดห้อง ปรากฏว่าไม่ได้ล็อค เมื่อเปิดเข้าไป ในห้องไม่มีใครอยู่เลย
"ฬุรีย์."
เสียงกรีดร้องของเวฬุรีย์ก็ดังขึ้น ไอลดาตกใจ รู้ทันทีว่าเป็นเสียงน้องสาว
"ฬุรีย์"
ไอลดารีบวิ่งออกไปทันที
อ่านต่อตอนที่ 4