xs
xsm
sm
md
lg

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 10

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แหวนทองเหลือง ตอนที่ 10

บรรยากาศคุ้มลำดวนที่ดูเงียบเหงา ดวงใจนั่งอยู่หน้ารูปกฤษดา น้ำตาไหลตลอดเวลา ท่าทางดวงใจดูโทรมผิดตา

"คุณกฤษดาเจ้า คุณสัญญาจะมาหาดวง" ดวงใจสะอื้นไห้ "แต่คุณไม่มา คุณไม่รักษาสัญญา คุณทิ้งดวงไปจริงๆ หรือเจ้า แล้วดวงจะอยู่ยังไง คุณกฤษดา....ดวงอยากตาย"
ดวงใจร้องไห้สะอึก สะอื้น สายคำถือชามข้าวเดินขึ้นบ้านมาหาดวงใจ พอสายคำเห็นสภาพดวงใจก็ทำหน้าเศร้าไปด้วย
"นึกแล้วว่าเอ็งต้องอยู่นี้"
สายคำลงนั่งใกล้ๆ เอาชามข้าววางใกล้ ๆ ดวงใจหันมาเห็นสายคำก็ร้องไห้มากขึ้น
"พี่สายคำ ฉันอยากตาย พี่สายคำ ฉันอยากตาย"
"ทำไมดวง เอ็งจะอยากตายทำไม บอกพี่ซิ"
"คุณกฤษดา....คุณกฤษดาเค้าทิ้งฉันไปแล้ว เค้าไม่รักฉันแล้ว"
สายคำงง
"ทำไมเอ็งพูดอย่างนี้ไอ้ดวง...คุณกฤษดาเค้าจะมารักเอ็งได้จะได"
ดวงใจสะอื้น
"ฉันจะอกแตกตายซะให้ได้แล้วพี่สาย"
"นี่แน่ะ ข้าเอาข้าวมาให้เอ็งกิน เมื่อวานเอ็งก็ไม่ยอมกิน นี่ข้าวกับปลาเกลือ ของชอบเอ็งไง..กินซะนะ แล้วค่อยๆ เล่าให้พี่ฟังว่ามันเรื่องอะไร"
สายคำเอาถ้วยที่ใส่ข้าวกับปลาเค็มยื่นมาให้ พอดวงใจได้กลิ่นก็วิ่งไปอาเจียน สายคำตกใจ รีบวิ่งไปลูบหลัง
"พี่ว่าเอ็งต้องถึงมือหมอแล้วละไอ้ดวงเอ้ย...เป็นโรคอะไรก็ไม่รู้"
ดวงใจนิ่งคิดตัดสินใจ อึกอักก่อนพูด
"ฉันท้อง"
สายใจแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
"อะไรนะ"
"ฉันท้องพี่สายคำ เลือดไม่มาสามเดือนแล้ว"
สายคำร้อนรน
"พูดดีๆ นะไอ้ดวง เอ็งท้อง ท้องอย่างที่มีเด็กอยู่ข้างในน่ะนะ"
ดวงใจพยักหน้า
"ท้องกับใคร"
ดวงใจมองไปที่รูปกฤษดา สายคำมองตาม
"เอ็งท้องกับคุณกฤษดาหรือ ใช่ไหมเล่าไอ้ดวง ข้านึกแล้ว"
ดวงใจร้องไห้สะอึกสะอื้น
"ฉันจะทำยังไงดีพี่สายคำ ฉันจะทำยังไงดี"
"โธ่ไอ้ดวงเอ้ย...เอ็งไม่น่าไปหลงคำพูดเค้าเลย"
"แต่เค้าสัญญานะพี่สายคำ...เค้าบอกว่าจะมารับฉันไปแต่งงาน จะพาฉันไปอยู่กรุงเทพกับเค้า"

ดวงใจร้องไห้ สายคำพยายามปลอบโยน

ดวงใจร้องไห้ สายคำพยายามปลอบโยน

"คนเราลงได้ไปแล้ว...จะกลับมาน่ะยาก...เรื่องอย่างนี้ โดนกันมานักต่อนักแล้ว"
ดวงใจพูดอย่างบ้าคลั่ง
"แต่เค้าต้องมา มาหาฉัน ได้ยินไหมพี่สายคำ เค้าต้องมาหาฉัน ได้ยินไหมพี่สายคำ"
สายคำจุ๊ปาก แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง
"เบาๆ หน่อยไอ้ดวง...เดี๋ยวพ่อแกได้ยินเข้ามันจะยุ่ง จะยิ่งลำบากกว่านี้ ข้าว่าเอ็งควรตัดสินใจคิดเอาเด็กออกเสียดีกว่า....ข้าจะไปหายามาให้ มันไม่ยากหรอก"
ดวงใจร้องอย่างตกใจ
"ไม่นะ....ไม่ เด็กในท้องเป็นลูกของเขา ลูกของเรา ลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน ฉันรักยิ่งกว่าชีวิตของฉันเอง ถึงพ่อจะฆ่าฉัน ฉันก็ยอม พี่สายคำ เค้าจะต้องกลับมาหาลูกของเขา เขาจะต้องกลับมาพี่ คำ เค้าต้องกลับมา"
สายคำสงสารดวงใจ
"เออ...เออ ตามใจเอ็ง เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ อีกหน่อยท้องของเอ็งมันก็ต้องโตขึ้นเรื่อยๆ ใครๆ ก็ต้องรู้ ต้องเห็น จะปิดเค้าไปได้ยังไง"
ดวงใจท้อแท้
"แล้วแต่บุญแต่กรรมเถอะพี่สายคำ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง"
"ต้องหาทางให้ได้ ลุงกำนันเอาเอ็งตายแน่ๆ"
ดวงใจทุกข์หนัก

มุมเงียบๆบ้านกำนันปาน บัวแก้วตบเข่าฉาดใหญ่ จ้องหน้าดวงใจที่นั่งน้ำตาไหลตรงหน้า มีสายคำยืนลุ้นใกล้ๆ
บัวแก้วชี้หน้า
"ข้านึกแล้ว... เอ็งละสายคำ ทำเป็นออกรับแทนมัน งามหน้าละทีนี้ไอ้ดวง นะไอ้ดวง สมแล้วที่คุณปิ่นเค้าด่าเอ็งน่ะแล้วจะทำยังไงกันล่ะ ถ้าพ่อเอ็งรู้ เอ็งตายแน่ๆ เอ็งรู้ไม๊หลานยายเบ็ญน่ะโดนผู้ชายหลอกทิ้งไปเหมือนเอ็งน่ะ มันไปโดดน้ำตาย เอ็งมันโง่จริงๆ ที่ไปหลงเชื่อเค้าได้ เค้าสูงส่งขนาดนั้ จะมาดูดำดูดีเอ็งได้ไง"
ดวงใจร้องไห้สะอื้น
"อย่าซ้ำเติมมันเลยพี่บัวแก้ว ยังไงมันก็น้อง" สายคำบอก
"ก็เพราะน้องน่ะซิ ข้าละอยากตีมันนักละ"
บัวแก้วโมโหจนหอบ แต่ก็ไม่วายมองดวงใจอย่างเวทนา
"ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีพี่บัวแก้ว"
บัวแก้วค้อน
"ข้าไม่แนะให้เอ็งเอาเด็กออกหรอกวะ มันบาปกรรม"
บัวแก้วพยายามคิด
"เอางี้ดีกว่า...เอ็งไปอยู่กับแม่แก้วในเมืองดีกว่า บอกพ่อเอ็งว่าไปรักษาตัวกับหมอฝรั่ง...เอ็งก็อยู่จนกว่าจะคลอด แล้วค่อยอุ้มลูกกลับมาน่ะ พ่อเอ็งเห็นหน้าหลานก็ทำอะไรเอ็งกับลูกไม่ลงหรอก"
ดวงใจยิ้มดีใจมีความหวัง
"ดีจ้ะพี่บัวแก้ว....ความคิดพี่นี่ดีจริงๆ"
"ก็บอกแล้วว่าเรื่องสำคัญขนาดนี้ต้องพึ่งหัวพี่บัวแก้ว"
บัวแก้วค้อน
"คราวหน้าคราวหลังเอ็งสองคนก็เอาเรื่องดีๆ มาให้ข้าบ้างนะ ตอนนี้น่ะ พ่อเอ็งกำลังยุ่งเรื่องในไร่...พรุ่งนี้ข้ากับสายคำ จะพาเอ็งไปส่งในเมืองเอง"
"ไปพรุ่งนี้เลยเหรอพี่บัวแก้ว"
"ดีแล้วดวงใจ...ยิ่งรีบไปเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น"

ดวงใจมองหน้าบัวแก้ว กับ สายคำอย่างมีกำลังใจ
 
อ่านต่อหน้า 2

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 10 (ต่อ)

ดวงใจสีหน้าเศร้ากำลังเก็บของใส่หีบหวาย เธอเอาล็อกเก็ตที่กฤษดาให้ออกมาดู น้ำตาไหล แล้วรีบเก็บเพราะได้ยินเสียงประตูห้องเปิด กำนันปานเดินเข้ามา ดวงใจเงยหน้าเห็นกำนันปานก็พยายามทำสีหน้ายิ้มๆ

"บัวแก้วมันว่าเอ็งไม่สบายมากหรือดวงใจ"
ดวงใจยิ้มเศร้า
"ไปให้หมอในเมืองเค้าดูสักหน่อยก็ดีนะพ่อ"
"พ่อก็ว่าดี...เงินทองเราท่านให้ไว้ก็พอมี ท่าทางเอ็งก็ดูซูบซีดจริงๆ เฮ้อ...เป็นโรคอะไรก็ไม่รู้"
กำนันปานมองดวงใจด้วยความเป็นห่วง ดวงใจยิ่งรู้สึกผิด
"พ่อไม่ต้องห่วงฉันหรอกจ้ะ"
"ไม่ห่วงได้ไง พ่อมีเอ็งคนเดีย ไม่ห่วงเอ็งแล้วพ่อจะห่วงใครล่ะ...พรุ่งนี้ พ่อก็ต้องช่วยกันในไร่ ลำไยกำลังติดดอก...ไม่งั้นพ่อก็จะไปส่งเอ็งเอง จะได้คุยกับหมอด้วย"
"ฉันไปกับพี่บัวแก้ว พี่สายคำก็พอแล้วจ้ะ...พอหายฉันจะรีบกลับบ้าน"
"ขอให้เอ็งหายเร็วๆ เถอะ อาแก้ว เค้าก็รักเอ็งเหมือนลูกน่ะแหล่ะ เอ็งอยู่กับเค้าก็สบายละ...นี่เอ็งเอาเสื้อผ้าไปเยอะอย่างนี้ กะจะไปอยู่นานเลยหรือไง"
"ฉันก็เอาไปเผื่อๆ อย่างงั้นแหล่ะจ้ะ"
"ก็ดี...เหลือดีกว่าขาด..พอพ่อว่างจะไปเยี่ยมแกนะ"
"พ่อไม่ต้องไปก็ได้ งานทางนี้กำลังยุ่ง ฉันไปรักษาตัวไม่รู้ต้องอยู่กับหมอหรือเปล่า"
กำนันปานถอนใจ มองดวงใจอย่างห่วงใย แต่ดวงใจไม่กล้าสู้หน้าพ่อ....

บ้านแก้วในเมืองเป็นบ้านเล็ก ๆ ชั้นเดียว ด้านหน้าแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ รับตัดเสื้อ มีช่างตัดเสื้อสองคน ด้านหลังเป็นห้องรับแขก มีโต๊ะทานข้าวเล็กๆ และมีห้องนอนสองห้อง ห้องของแก้วห้องหนึ่ง และมีห้องนอนเล็ก ๆ อีกห้องหนึ่ง ในห้องรับแขกบ้านแก้ว แก้วนั่งอยู่ที่ชุดรับแขกดวงใจนั่งคุกเข่าไหว้แก้วที่ตัก สายคำนั่งใกล้ๆ แก้ว บัวแก้วกำลังรินน้ำกินอีกมุมหนึ่ง แก้วยิ้มใจดี
"ลุกขึ้นเถอะดวงเอ้ย...อย่างที่บัวแก้วเค้าพูดน่ะถูกแล้ว...เอ็งต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะคลอด ค่อยพาลูกไปขมาพ่อเอ็ง"
แก้วดึงดวงใจให้ลุกขึ้น
"ฉันกลัวจะปิดลุงกำนันไม่ได้ตลอดละซิแม่" บัวแก้วบอก
"ก็ค่อยๆ หาหนทางกันไป แล้วคืนนี้เอ็งสองคนจะค้างกับแม่ไหม"
สายคำบอก
"ค้างสิแม่...ฉันจะได้ซื้อของด้วย"
"ดีเหมือนกัน แม่จะพาไปซื้อเอง ดวงใจล่ะไปด้วยกันไหม"
"ไม่ละจ้ะอาแก้ว...ฉันอยากนอนมากกว่า"
"คนท้องคนไส้ก็อย่างนี้ละ...มาอยู่กับอาน่ะดีแล้ว อาจะดูแลเอ็งเองนะ"

ดวงใจโผเข้ากอดแก้วน้ำตาไหล

โตชิโร่ยืนมองแผนที่ หันหลังให้ฮารุที่ยืนอยู่ห่างออกมา รายงาน มีลิ้นจี่ใส่ถาดวางบนโต๊ะด้วย

"สายของเราสืบจนเจอไร่ของพระยาดำรงที่แม่ริม ชื่อคุ้มลำดวน"
โตชิโร่หันมาถาม
"คุ้มลำดวน....แปลว่าอะไร"
"ลำดวนเป็นชื่อดอกไม้ไทย มีกลิ่นหอม เป็นชื่อภรรยาของพระยาดำรง คุ้มเป็นภาษาไทยทางภาคเหนือ หมายถึงบ้าน"
"เพราะดี....แล้วร้อยเอกกฤษดาล่ะ เจอเขาไหม"
"ไม่พบครับ"
โตชิโร่นิ่งไป
"ที่ไร่ผลไม้ของเขา เขาอยู่ที่นั่นไหม"
"ไม่มีครับ...คนไทยที่เราจ้างไว้ ทำทีไปซื้อผลไม้ที่ไร่ของคุณกฤษดา บอกว่าไม่มีแล้วครับ"
"คุณหาเค้าไม่เจอ ทั้งๆ ที่คุณมาอยู่เมืองไทยจนคุ้นเคย คุณหาไม่เจอ"
โตชิโร่มองฮารุนิ่ง
"ผมรู้ว่า ในฐานะหมอ คุณอาจจะเป็นห่วงคนไข้ พระยาดำรงของคุณ แต่ในฐานะทหารของสมเด็จพระจักรพรรดิ คุณต้องซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เหนือสิ่งอื่นใด"
หมอฮารุก้มหัวให้โตชิโร่
"ผมรู้หน้าที่ของผมครับ ผมไม่เคยให้ความสำคัญกับใครมากกว่าหน้าที่แต่คนคนเดียว...จะมีผลกับสงครามหรือครับ"
"คนคนเดียว ย่อมมีผลกับสงคราม เพราะคนคนเดียว อาจจะพาเราไปพบกับผู้บงการของขบวนการที่ต่อต้านเรา หาโอกาสไปเยี่ยมคนไข้คุณ เผื่อว่าจะได้เบาะแสอะไรบ้าง อย่าให้ผมต้องผิดหวังอีกนะ"
"ครับ"

มิ่งประคองพระยาดำรงพิรมย์เดินเข้ามาในห้องรับแขก สมรตามมาด้วย ฮารุ นั่งรออยู่ในห้องรับแขก มีข้าวของหลายอย่างวางอยู่ด้วย พอเจ้าคุณเดินเข้ามา ฮารุก็ลุกขึ้นยืนก้มหัวให้
"ตามสบายเถอะหมอ เราคนกันเอง"
พระยาดำรงนั่งตรงข้ามฮารุ
"แหม คุณหมอฮารุ หายหน้าหายตาไปเลยนะคะ ตอนนี้เลยไม่มีคนสอนภาษาญี่ปุ่นฉันเลย" สมรว่า
"งานที่ บก. ยุ่งมากครับ วันนี้พอจะว่าง เลยมีโอกาสมาพบท่าน โปรดรับของฝากด้วยครับ"
ฮารุยกกล่องใส่ของกล่องใหญ่ให้ สมรเปิดดูด้วยความดีใจ
"โอ้โห...ของหายากทั้งนั้นเลยค่ะท่าน น้ำตาลทราย ข้าว กาแฟ นม โอ้... ขอบคุณมากค่ะหมอ...ของพวกนี้หายากยิ่งกว่าหาทองซะอีกค่ะตอนนี้"
ฮารุเอาห่อยามายื่นให้พระยาดำรงด้วยท่าทางนอบน้อม
"นี่ยาของท่านครับ"
เจ้าคุณมองฮารุอย่างไม่ไว้ใจ แล้วรับห่อยาไว้
"สมรขึ้นไปหยิบเงินมาซิ"
"มิได้ครับท่าน ของพวกนี้เป็นของกำนัลจากผู้พันของผมครับ"
"ฝากไปบอกผู้พันของคุณว่าขอบคุณมาก แต่ผมยังไม่ขัดสนถึงกับต้องขอรับการช่วยเหลือจากใคร"
"ขอให้ท่านคิดเสียว่าเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากหมอที่ยังต้องการดูแลท่านได้ไหมครับ"
พระยาดำรงพิรมย์ยิ้ม
"สมรเธอเอาของไปเก็บก่อนไป ให้มิ่งช่วยขนไปก็ได้"
สมรค้อนพระยาดำรง มิ่งช่วยสมรถือของออกไป
"หมออยากถามอะไร ยังไงก็ตาม ฉันคิดว่าของพวกนี้ไม่ได้มาจากน้ำใจอันดีของหมออย่างเดียวหรอกใช่ไหม"
หมอฮารุถอนใจ
"ทางกองทัพญี่ปุ่น สงสัยว่าคุณกฤษดาจะเข้าร่วมขบวนการเสรีไทย"
"แล้วไง...ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่ากฤษดาอยู่ที่ไหนเหมือนกัน...ถึงรู้ หมอหวังจะให้ผมบอกอะไร"
"ผมไม่ได้คิดเช่นนั้นเลยครับ....ใจจริง ผมอยากให้คุณกฤษดาไปทำไร่อย่างที่ท่านเคยบอก...แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมได้คำตอบแล้ว"
"ทุกคนย่อมมีหน้าที่ของตัวเอง...ผมขอให้หมอโชคดีกับหน้าที่ของหมอ"
"ถ้าเป็นหน้าที่ของหมอต่อคนไข้...ผมยินดีที่จะดูแลท่าน แต่ถ้าเป็นหน้าที่ทหารผมไม่แน่ใจว่าผมจะทำได้ดีหรือเปล่า"

ฮารุก้มหัวคำนับพระยาดำรงพิรมย์แล้วเดินออกไป เจ้าคุณเซไปลงนั่ง สีหน้าทุกข์ร้อน
 
อ่านต่อหน้า 3

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 10 (ต่อ)

ณ ห้องทำงาน โตชิโร่ยืนสีหน้าใช้ความคิด

"นับว่าพระยาดำรงมีศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย หายากที่ข้าราชการไทยจะเป็นแบบนี้"
ฮารุก้มหน้านิ่ง โตชิโร่หยิบรูปกฤษดาออกมาจากแฟ้ม
"ร้อยเอกกฤษดา ได้เข้าร่วมกับขบวนการเสรีไทยแน่นนอน...เอารูปของเค้าแจกจ่ายเพิ่มไปอีกตามหน่วยของเรา ถ้าใครพบเค้า ให้จับเป็น"

มุมหนึ่งในที่ทริงโคมาลี ประเทศศรีลังกา กฤษดานั่งพักอยู่ในห้องพักคนเดียว หน้าเศร้า ลูบแหวนทองเหลืองในมือไปมา พลางนึกถึงอดีต
"คอยฉันนะดวงใจ"

ดวงใจท้องโตขึ้นยืนพิงหน้าต่างห้อง มองพระจันทร์สวย ร้องไห้น้ำตาไหลเงียบๆ เมื่อนึกถึงคำพูดของกฤษดาที่สัญญาว่าจะกลับมาหาเธอ
เธอนึกถึง พลางเอามือลูบท้องยิ้มเศร้าๆ
"เราจะคอยพ่อกันนะลูกจ๋า"
มีเสียงเคาะประตู ดวงใจเดินไปเปิดประตู แก้วเดินเข้ามา
"ยังไม่นอนอีกหรือ ต้องพักผ่อนให้มากๆ นะดวง"
ดวงใจพยายามยิ้มแย้ม
"กำลังจะนอนจ้ะอาแก้ว"
แก้วลูบหัวอย่างห่วงใย
"ดวงใจเอ้ย อย่าคิดมากนะ พรุ่งนี้อาจะต้มไก่ให้กิน ลูกจะได้แข็งแรง"
"อาแก้ว...อารู้ไหมว่าบ้านนายท่านอยู่กรุงเทพตรงไหน"
แก้วทำท่านึก
"พ่อเอ็งน่ะ...เค้าเคยไป....เห็นว่าอยู่..ทุ่ง..เอ้อ...ทุ่งมหาเมฆ...แต่ไอ้ทุ่งมหาเมฆ นี่มันจะอยู่ตรงไหนของกรุงเทพก็ไม่รู้นะ อาก็ไม่เคยไป"
"แต่ถ้าถามคนแถวๆ นั้นเค้าคงรู้นะอา"
"คนกรุงเทพน่ะ เค้าไม่เหมือนบ้านนอกอย่างเรานะ เค้าต่างคนต่างอยู่ ไปถามสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้หรอก อันตราย นี่เอ็งอย่าบอกนะว่าเอ็งจะไปหาคุณกฤษดาที่กรุงเทพน่ะ"
"ฉันตั้งใจว่า พอฉันคลอดลูกแล้วฉันจะไปตามหาคุณกฤษดาจ้ะ"
แก้วมองหน้าดวงใจ
"เอ็งแน่ใจเหรอว่าคุณกฤษดาเค้าจะยอมรับเอ็งกับลูก"
ดวงใจเอาสายสร้อย กับ ล็อกเก็ตที่กฤษดาให้ไว้ ให้แก้วดู
"อาแก้วดูนี่ซิเจ้า...ของคุณกฤษดาให้ฉันไว้...เค้าบอกว่าเป็นของนายท่านให้เป็นของหมั้นนายหญิงที่จะแต่งงานกัน... คุณกฤษดาใส่ติดตัวแต่เด็ก ถ้าเค้าไม่คิดจริงจังกับฉัน เค้าจะให้ของนี่ฉันทำไม"
แก้วมองสายสร้อยอย่างพิจารณา
"ก็จริงของเอ็ง เก็บเอาไว้ให้ดีนะ ต่อไปภายหน้าสายสร้อยเส้นนี้จะช่วย เอ็งกับลูกได้นะ"

ดวงใจยิ้มกับล็อกเก็ต

วันใหม่ ยายเหม็นนั่งหน้าบูดที่ระเบียงบ้านหนานอุย มีหนานอุยคอยเอาเรื่อง

"ว่าไงยายเหม็น....เงินค่าแม่สื่อน่ะเอาไปก่อนตั้งเยอะแล้วนะ...เมื่อไหร่ฉันจะได้แต่งงานกับดวงใจซะที"
"ข้าละอ่อนใจกับนังดวงเต็มทน...เอ็งเอาคนอื่นได้ไหมล่ะ ลูกสาวตาเทศกะยายปรุงที่สวนลูกท้อน่ะ....งามหลายเหมือนกัน"
ทิดอ่วม กับ เมีย เดินมานั่งฟัง หนานอุยขัดใจ
"ยายเหม็นนี่พูดไม่รู้เรื่อง ข้าไม่เอาใครทั้งนั้น นอกจากดวงใจคนเดียว ถ้าเป็นแม่สื่อให้ข้ากับดวงใจไม่ได้ก็เอาเงินคืนมา"
ยายเหม็นหน้าเสีย
"มีที่ไหนล่ะ...ใช้หมดแล้ว"
แม่หนานอุยหัวเราะ
แม่หนานอุยบอก
"อย่าไปบ่นแกเลยหนานอุย ของอย่างนี้ถ้าเป็นคู่กันก็ไม่พ้นกันหรอกลูก"
"ถูกของแม่เอ็งนะหนานอุย....พ่อว่าลูกสาวตำบลเราก็หลายเน้อ ลองมองสาวคนอื่นบ้างก็ดี" ทิดอ่วมบอก หนานอุยสีหน้าหนักแน่น
"ฉันไม่เปลี่ยนใจ....ฉันรักดวงใจคนเดียวเท่านั้น...ถ้ายายเหม็นหมดปัญญาที่จะเป็นแม่สื่อให้ฉันฉันก็จะไปหาลุงกำนันเอง"
หนานอุยจ้องหน้ายายเหม็น จนยายเหม็นต้องแกล้งเมินหนี

ยายเหม็นนั่งกินหมากคุยกับกำนันปานที่หน้าบึ้งไม่พอใจ บัวแก้วกับสายคำนั่งทำงานห่างๆ
"แกจะมาเร่งรัดอะไรยายเหม็น ไอ้ดวงมันยังไม่สบาย นี่ก็ไปอยู่กับอาในเมืองหลายเดือนแล้ว"
"หมอในเมืองมันไม่ได้เรื่องหรอกกำนัน นี่แน่ะ...เอาหมอผูกไปรักษามันดีกว่า...แกน่ะมีวิชาอาคมด้วยนา ให้หมอผูกเอามารักษาที่บ้านเราดีกว่าสายคำ กับ บัวแก้วมองหน้ากัน สายคำกระซิบกับบัวแก้ว"
"ยายเหม็นนี่หาเรื่องให้เราแล้วซิพี่บัวแก้ว"
ยายเหม็นเห็นกำนันเฉยก็เร่งรัดเต็มที่
"ฉันว่าให้เขาลองรักษาสักพักเดียวก็หาย หายแล้วจะได้ตบแต่งมีเหย้ามีเรือน...พ่อหนานอุยน่ะ เตรียมยกขันหมากมาได้ทันทีที่กำนันรับปาก สินสอดเท่าไหร่ กำนันเรียกได้เลย"
กำนันปานทำหน้าเบื่อ
"หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้วยายเหม็น ฉันเบื่อฟังเต็มทน ฉันบอกแล้วว่าฉันต้องถามไอ้ดวงมันก่อนฉันไม่ยอมบังคับลูกฉันหรอก ถึงมันไม่มีผัวฉันก็เลี้ยงลูกฉันได้"
ยายเหม็นหน้าจ๋อยเห็นกำนันปานไม่พอใจก็เสียงอ่อน
"โธ่ พ่อกำนัน ฉันน่ะเห็นไอ้ดวงตั้งแต่อยู่ในท้องแม่มัน ที่พูดนี่ก็หวังดี เอ้อ...ตอนนี้หมอผูกน่ะอยู่ที่อำเภอพอดี ให้แกไปดูไอ้ดวงเสียหน่อยนะ"
กำนันปานพยักหน้าเห็นด้วย
"ก็ดีเหมือนกัน ฉันไม่เห็นหน้าไอ้ดวงมันหลายเดือนแล้ว หมอผูกก็ชอบๆ กัน ฉันจะรับให้ไปลองดูไอ้ดวงมันหน่อย ถ้ามันไม่เป็นไรมากจะได้รับมันกลับบ้านซะที"
บัวแก้วกับสายคำ หน้าเครียด
"สายคำ...เอ็งรีบไปเตือนไอ้ดวงก่อนนะ ข้าว่าลุงกำนันต้องไปหาไอ้ดวงพรุ่งนี้แน่ ๆ เอ็งรีบไปกับรถขนข้าวแต่เช้ามืดเลยนะ"

"ยายเหม็นนี่มันยุ่งจริงๆ หาเรื่องให้จนได้"
 
อ่านต่อหน้า 4

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 10 (ต่อ)

เช้าวันใหม่ สายคำรีบเข้ามาที่บ้านแก้วด้วยสีหน้าร้อนรน มองหาแก้วไม่เห็น

"แม่...แม่ ไอ้ดวง ไอ้ดวง"
สายคำเดินเข้าไปด้านใน ดวงใจกำลังตากผ้า ดวงใจดีใจวิ่งมาหาสายคำ
"พี่สายคำ"
"เกิดเรื่องแล้วดวงใจ"
สายคำสีหน้าร้อนรน ดวงใจพลอยใจไม่ดี
"เรื่องอะไรพี่สายคำ"
"ก็พ่อเอ็งน่ะซิ...จะไปเอาหมอผูกมาตรวจเอ็งน่ะ"
ดวงใจตกใจ
"จะมาเมื่อไหร่...พ่อจะมาเมื่อไหร่พี่สายคำ"
"อาจจะวันนี้ก็ได้...เอ็งเตรียมตัวให้ดีเถอะ"
ดวงใจสติแตก
"แล้วฉันต้องทำยังไงดีพี่สายคำ....ต้องทำให้พ่อเชื่อว่าฉันยังไม่หายป่วย"
สายคำมองดวงใจแล้วทำหน้าหมดหวัง
"มันไม่ง่ายแล้วนะ ดูหน้าเอ็งซิ อิ่มเอิบอมเลือดอมฝาดอย่างนี้ ใครเขาจะไปเชื่อว่าเจ็บ แล้วท้องยังป่องยังกะอึ่งอ่างด้วย"
ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงกำนันปานเดินพูดมากับแก้วที่บ้านด้านหน้าแล้ว สายคำ กับ ดวงใจ ตกใจมาก

กำนันยืนคุยกับแก้วหน้าบ้าน แก้วมีตะกร้าไปจ่ายตลาดมา กำนันมีชะลอมผัก ผลไม้ และห่อของฝากอีกหลายห่อ
"ไม่น่าเอาของมาเยอะอย่างนี้น่ะพี่ปาน ฉันกับไอ้ดวงกินกันไม่เท่าไหร่หรอก"
กำนันปานยิ้มแย้มกับน้องสาว
"ก็ไม่ได้มากมายอะไร...นานๆ ข้าจะมาหาเอ็งก็เอาของที่ไร่นั่นแหล่ะมาฝาก...ผักมันกำลังงามดี บัวแก้วมันก็ฝากเนื้อหมูป่า กับ เนื้อเก้งมาให้"
แก้วรับของจากกำนันปานวางไว้บนโต๊ะ มองดูหมอผูกที่เดินตามมาด้วย
"แล้วนี่หมอผูกตามมาเที่ยวตลาดด้วยเหรอ"
"ข้าให้แกมาช่วยตรวจอาการไอ้ดวงมันน่ะ เผื่อมันดีขึ้นจะได้เอากลับไปรักษาที่บ้านต่อ....มาอยู่กับเอ็งหลายเดือนแล้ว"
แก้วใจคอไม่ดี พยายามหน่วงเหนี่ยว
"เอ้อ...ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันก็รักไอ้ดวงเหมือนลูก มันจะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้...นี่มันก็สบายมากแล้ว ไม่ช้าก็คงหาย"
แก้วพยายามตั้งสติ
"ให้มันพักอยู่ที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน"
"ไม่หรอก...ฉันเกรงใจแกแก้ว หากมันพอจะสบายบ้างแล้วก็จะรับมันกลับบ้านเลย ขอให้ฉันเข้าไปดูมันหน่อย จะได้ให้หมอเค้าดูอาการ"
กำนันปานไม่ฟังเสียง เดินเข้าไปในบ้านด้านใน แก้วทำอะไรไม่ได้ ได้แต่อึกอัก
"เอ้อ..จ้ะ..จ้ะ"

กำนันปาน กับ หมอผูกเดินเข้าไป แก้วรีบตามเข้าไปด้วย...

กำนันปานเปิดประตูห้องนอนดวงใจเข้าไป สายคำนั่งอยู่ใกล้ๆ เตียงดวงใจ ดวงใจนอนอยู่บนเตียง นอนตะแคงหันหลัง ห่มผ้าถึงคอเพื่อให้บังท้องเอาไว้ กำนันปานหันไปเห็นสายคำก็แปลกใจ

"อ้าวสายคำ...เอ็งมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่"
สายคำพยายามใจดีสู้เสือ
"ฉันมาเมื่อกี้นี้เองจ้ะลุง...คิดถึงไอ้ดวงมัน"
กำนันปานเดินเข้าไปดูดวงใจใกล้ๆ ดวงใจทำแกล้งหลับ
"อาการมันเป็นยังไงบ้าง"
"ถ้าจะแย่ อาการมันไม่ดีขึ้นเลย ยังซมอยู่เลย ลุงอย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า"
กำนันปานสีหน้าเป็นห่วง
"แต่ไม่เป็นไรหรอก ข้าพาหมอผูกเขามารักษา เขาเก่งทุกอย่าง ไม่กี่วันก็คงหาย"
กำนันปานลงนั่งข้างๆ ดวงใจ เอามือลูบหัวอย่างห่วงใย
"เป็นไงบ้างลูก เคราะห์ร้ายอะไรยังงี้ก็ไม่รู้...เอ็งเป็นคนแข็งแรง มาเจ็บครั้งนี้ซะหลายเดือนก็ยังไม่หาย"
ดวงใจลืมตาหันหน้าไปพูดกับกำนันปาน
"เกือบหายแล้วจ้ะพ่อ พ่ออย่าห่วงเลย ไม่ต้องเปลี่ยนหมอหรอกพ่อ หมอคนเก่าก็ดีแล้ว ให้ฉันอยู่กับอาแก้วอีกสักพักก็คงหาย"
สายคำเดินเข้ามาดึงแขนกำนันปานให้ห่างออกมา
"นั่นซิ...ปล่อยมันไว้ที่นี่สักพักก็หายเอง ลุงอย่าไปยุ่งกับมันเลย เดี๋ยวจะพลอยติดโรค ลุงออกห่างๆ ดีกว่า"
กำนันปานสะบัดแขนออกจากสายคำ หันไปดุ
"อีสายคำนี่ยุ่งแท้ๆ เชียว...เอ็งน่ะแหล่ะออกไปห่างๆ"
แก้วพยักหน้าเรียกสายคำให้ออกมา สายคำเดินไปจับแขนแก้วไว้ ทั้งสองคนใจไม่ดี กำนันปานหันไปพูดกับดวงใจ
"ให้หมอผูกเค้าดูเสียหน่อย พ่อว่าให้ช่วยกันหลายๆ หมอน่ะดีแล้ว"
กำนันปานหันไปเรียกหมอผูก
"พ่อหมอช่วยดูมันหน่อยซิ"
กำนันปานถอยออกมา หมอผูกเข้าไปก้มดูดวงใจ ดวงใจทำหน้าหวาดหวั่น หมอผูกจะดึงผ้าห่มดวงใจออก แต่ดวงใจจับผ้าห่มไว้แน่น หมอผูกเอามือจะจับตัวดวงใจแต่ไปโดนที่ท้อง หมอผูกสะดุ้งรีบหดมือกลับแล้วหัวเราะหึ หึ กำนันเห็นท่าทางหมอผูกก็แปลกใจ
"ทำไมหมอ...ไอ้ดวงมันเป็นอะไร"
หมอผูกมองแก้ว กับ สายคำที่ทำหน้าจะร้องไห้
"มันจะเป็นอะไร...นี่พ่อปานไม่รู้หรือว่าไอ้ดวงมันท้อง"
กำนันปานตกใจ นึกไม่ถึง
"ท้อง"
"ไม่ต้องไปรักษาอะไรมันหรอก อีกไม่นานก็ได้หลานไว้อุ้มแล้วนะ พ่อปาน ฉันไปละนะ"
หมอผูกเดินออกไป กำนันปานยังช็อก เดินตามหมอผูกออกมาด้วย แก้ว กับ สายคำรีบเข้าไปหาดวงใจ
"ดวง...รีบออกไปกราบพ่อเอ็งเร็วๆ" แก้วบอก

ดวงใจน้ำตาไหล
 
อ่านต่อตอนที่ 11
กำลังโหลดความคิดเห็น