เสือ ตอนที่ 9
ปักษะเดินเข้าไปในบ้าน ข้าวของของณจันทร์ยังอยู่ เขาหยิบรูปของณจันทร์ขึ้นมาดูด้วยความคิดถึง
"คุณอยู่ไหนนะณจันทร์"
คำสูรย์แอบมองปักษะอยู่อีกมุมหนึ่ง รอให้ออกไป
เวลาผ่านไป ปักษะเดินจะออกไป คำสูรย์ออกมาจากมุมห้อง ไปเปิดที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง
ปักษะออกมาจากบ้าน รู้สึกเหมือนนึกอะไรได้บางอย่าง กลับเข้าไปข้างใน เข้ามาที่โต๊ะ หยิบรูปของณจันทร์ออกไปด้วย ทันใดนั้นคำสูรย์ก็ออกมาจากห้อง พร้อมกับชุดของณจันทร์ในมือ
ปักษะเห็นคำสูรย์ในที่สุด
"อาคำสูรย์!"
คำสูรย์ตกใจ ปักษะมองหาณจันทร์
"ณจันทร์มาที่นี่ด้วยหรือเปล่า"
คำสูรย์จะเดินหนีไป ปักษะคว้าแขนไว้ เห็นชุดผู้หญิงในมือคำสูรย์
"เดี๋ยว! ณจันทร์อยู่กับอาใช่ไหม เขาอยู่ไหนครับ"
"ปล่อยนะ ปล่อยกู!"
คำสูรย์สะบัดตัวออกจากปักษะ
"อาบอกผมมาก่อนสิว่าณจันทร์อยู่ที่ไหน"
"มันเรื่องอะไรของคุณด้วยวะ รู้ไว้ซะ คุณหนูไม่อยากเจอคุณอีกแล้ว"
"แต่ผมอยากช่วยเขานะครับ"
"ช่วยอะไร คุณก็เห็นแล้ว รู้อยู่แล้วว่าคุณหนูเป็นอะไร คนอย่างคุณจะช่วยอะไรเธอได้"
"อย่างน้อย ผมก็อยากเจอเขาอีกครั้ง ให้ผมพบณจันทร์เถอะ"
คำสูรย์นิ่งไป แล้วก็ปฏิเสธ
"อย่าดีกว่า ที่ผ่านมาคุณยังทำให้คุณหนูเสียใจไม่พออีกเหรอไง"
ปักษะอึ้ง
"งั้นอาบอกผมมาสิว่าให้ผมทำยังไง"
"ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่อย่ามาตามหาเธออีก ได้ยินไหม เลิกยุ่งกับคุณหนูซะ!"
คำสูรย์หันหลัง รีบวิ่งออกไป
"เดี๋ยวก่อน"
นอกบ้านเช่า ปักษะตามออกมา แต่คำสูรย์หายไปแล้ว ปักษะหงุดหงิดมากที่ไม่เจอคำสูรย์ เดินย้อนกลับมา ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นภาพที่คำสูรย์ทำตกไว้ ปักษะหยิบขึ้นมา เป็นภาพคัมภีร์โบราณ ปักษะมองดูแล้วครุ่นคิด
คืนนั้น จ่ายุทธยื่นแฟ้มคดีให้อาชา
"นี่ข้อมูลคดีเรื่องเสือทั้งหมดครับหมวด ผมก็อปปี้มาจากแฟ้มคดีให้"
"ขอบคุณมากจ่า ผมจะเช็คดู เผื่อว่ามันมีอะไรที่มันผ่านตาไป"
จ่ายุทธสงสัย
"หมวดกำลังมองหาอะไรอยู่เหรอครับ"
"ก็ร่องรอย ข้อสังเกต หรืออะไรก็ได้…ที่จะทำให้เรารู้ว่าฆาตกรมันคือเสือตัวไหนกันแน่ผมจะต้องหาให้เจอให้ได้"
อาชาท่าทางมุ่งมั่นมาก
วันต่อมา ภายในร้านขายของเก่า ปักษะเปิดประตูเข้าไป มองดูรอบๆร้าน บรรยากาศดูทึมๆ น่ากลัว
"สวัสดี มีอะไรให้ช่วยไหมครับ"
"คือ…ผมมาหาของชิ้นหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณพอจะรู้ข้อมูลบางไหม"
ปักษะยื่นภาพคัมภีร์ให้กับคนขาย คนชายดูแล้วส่ายหน้า
"ผมดูไม่คุ้นเลย ร้านเราก็ไม่เคยมี แต่เดี๋ยวผมจะลองถามเถ้าแก่ดูให้…เถ้าแก่ครับ"
ชายเจ้าของร้านหันหน้า ก่อนที่จะเดินเข้ามา สังเกตได้ชัดว่า ขาข้างหนึ่งกระเผลก
"เคยเห็นนี่ไหมครับ"
ชายคนนั้นชะงัก เมื่อเห็นภาพคัมภีร์ เครียดขึ้นมาทันที
"คุณเอารูปนี้มาจากไหน"
"มีคนให้ผมมา คุณรู้จักมันใช่ไหมครับ"
แล้วปักษะรู้ความเป็นมาของคัมภีร์จากเจ้าของร้าน
"ผมนี่แหละเป็นคนแรกที่ขนคัมภีร์กับหีบใบนั้นออกมา ก่อนที่ไอ้สิงหลจะขโมยเอาไป คุณเห็นไหม ขาผมนี่แหละเป็นราคาค่าโง่ที่ไว้ใจไอ้เพื่อนชั่วอย่างมัน"
เจ้าของร้านพูดด้วยความแค้น
"แล้วคุณพอรู้ไหมว่ามันเป็นคัมภีร์อะไร มันเขียนบอกอะไรไว้บ้าง"
"ก็ได้ยินมาเหมือนกัน รู้แค่ว่ามันเป็นจารึกบอกเรื่องราวเกี่ยวกับคืนวันเพ็ญ ตำนานของ…"
ปักษะพูดสวน
"เสือสมิง"
เจ้าของร้านแปลกใจ
"ใช่ คุณรู้ได้ยังไง"
ปักษะนิ่งอึ้ง รู้แน่แล้วว่า ณจันทร์ต้องการอะไร
"บอกผมได้ไหมครับว่าตอนนี้คัมภีร์นั่นอยู่ที่ไหน"
"คุณคงเป็นคนหนึ่งที่อยากได้มันละสิ ผมขอเตือนคุณนะ ไอ้ของชิ้นนี้มันมีอาถรรพ์ ใครได้มาไม่พ้นหายนะทุกราย"
"ผมไม่ได้อยากเป็นเจ้าของมันหรอก แต่ผมรู้ว่ามันสำคัญกับเพื่อนของผมคนหนึ่งมาก ช่วยบอกผมทีเถอะครับ ขอร้อง"
เจ้าของร้านนิ่งไปสักพัก ก่อนหยิบของบางอย่างยื่นให้ปักษะ
"ถ้าคุณอยากตามหามันละก็ ลองไปดูที่นี่…แล้วคุณก็จะพบมัน"
ปักษะรับโบร์ชัวร์งานประมูลจากเจ้าของร้าน
"งานประมูล"
คืนนั้น ลายเมฆรู้จากพรหมพยัคฆ์
"ตกลง นายท่านจะไปงานประมูลนั่นหรือครับ"
"ใช่" ลายเมฆท่าทางฮึดฮัด "ฉันรู้ว่าแกคิดอะไร ฉันก็อยากกำจัดไอ้มนุษย์โลภมากคนนั้นไม่แพ้แก แต่ตอนนี้มันยังมีประโยชน์กับฉันอยู่ รอให้ผ่านงานนี้ไป ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่ อีกอย่าง…ฉันก็อยากไปเห็นด้วยตาของตัวเองให้หายสงสัย"
ลายเมฆชะงัก พรหมพยัคฆ์ครุ่นคิด
"ฉันอยากรู้ว่าของในลังนั้นคืออะไร และที่สำคัญ…ฉันอยากรู้ว่าใครจะเป็นคนได้มันไป"
ป้ายประมูลหน้างานติดข้อความ “งานประมูลเพื่อมูลนิธิเด็ก” ผู้คนสวมชุดสูทกับแดรส
เดินไปเดินมาในงาน
ณจันทร์และคำสูรย์เข้ามาปะปนกับแขกในงาน ณจันทร์สวมชุดแซก ขณะที่คำสูรย์สวมชุดม่อฮ่อมอย่างศิลปินชาวเหนือ
คำสูรย์ดูท่าทางตื่นเต้นจนเดินชนโต๊ะ ณจันทร์หันมาเตือน
"อา อย่าตื่นเต้นนักสิ เดี๋ยวคนอื่นก็หันมามองหรอก"
คำสูรย์มองชุดตัวเอง
"ก็อาไม่เคยมางานแบบนี้เลยนี่คุณหนู เห็นมีแต่คนใส่ชุดสูททั้งนั้น แล้วชุดนี้มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอคุณหนู"
"ดีแล้วละ พวกศิลปินเขาก็ต้องใส่ชุดอย่างนี้แหละ รับรองว่าไม่มีใครสงสัยหรอก"
ที่หน้างานประมูลmujโต๊ะลงทะเบียนของงาน ชายคนหนึ่งหันหลังกำลังลงชื่ออยู่ที่โต๊ะลงทะเบียน
" ขอโทษนะครับ ไม่รู้ว่าเพื่อนผมมาหรือยัง ผมขอดูรายชื่อของแขกที่มาได้ไหมครับ"
"เชิญคะ"
เขาไล่ดูรายชื่อของแขกเห็นชื่อณจันทร์ที่เซ็นไว้ ปักษะเงยหน้าขึ้นมา มั่นใจว่าณจันทร์อยู่ที่นี่แน่ เขาเข้าไปในงาน พยายามจะมองหาว่าณจันทร์อยู่ไหน
ณจันทร์เดินเข้าไปในงาน คำสูรย์มาสะกิด
"มีอะไรอา"
"คือ…อาอยากเข้าห้องน้ำนะคุณหนู"
"งั้นรีบไป แล้วรีบกลับมาละ"
"ครับๆ"
คำสูรย์รีบเดินออกไป ณจันทร์เดินสำรวจในงานต่อ
มุมหนึ่งห่างออกไปไม่มากนัก ปักษะยืนอยู่ เกือบจะหันมาเจอณจันทร์ แต่มีแขกคนหนึ่งเข้าไปทักก่อน
แขก1บอก
"สวัสดีคะ คุณปักษะ"
"สวัสดีครับ"
"นี่คุณพ่อไม่ได้มาด้วยเหรอคะ"
"เปล่าครับ พอดีติดธุระ"
"นี่คุณปักษะ ลูกของคุณปฏิมาไง"
แขก2บอก
"อ๋อ แหม ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะคะ"
แขกทั้งสองขวางปักษะไว้ ณจันทร์เดินออกไปจากมุมนั้น โดยที่ปักษะยังไม่เห็นอีกครั้ง
มุมหนึ่งในห้องประมูล ณจันทร์หยิบแคตตาล็อกในงานที่มีรูปหีบทองที่ใส่คัมภีร์ไว้อยู่ ถามเจ้าหน้าที่หน้างาน
"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าหีบทองใบนี้จะเริ่มประมูลเมื่อไรคะ"
เจ้าหน้าที่บอก
"อ้อ หีบใบนี้เป็นของคุณสิงหล ประธานจัดงาน เป็นไฮไลท์ของงานที่จะอยู่ช่วงท้ายสุดเลยคะ"
ณจันทร์แล้วมีเอาออกมาโชว์ก่อนไหมคะ
"ไม่คะ ของมีราคาสูงมาก ทางเราจะเปิดให้เข้าชมได้เฉพาะช่วงประมูลเท่านั้นคะ"
"แล้ว…"
ณจันทร์กำลังถามอยู่ สิงหลพร้อมลูกน้อง ก็เดินเข้ามาอย่างหงุดหงิด
"ใช้ไม่ได้จริงๆ แขกเข้ามาจะเต็มห้องแล้ว ที่นั่งยังไม่พร้อมอีกเรอะ"
"ขอโทษนะคะท่าน พอดีจำนวนแขกมีเพิ่มจากที่แจ้งนะคะ แต่อีกเดี๋ยวจะจัดเสร็จแล้วนะคะ"
"อีกเดี๋ยวนะเมื่อไร! ไม่ถึงชั่วโมงก็จะได้เวลาเปิดงานแล้ว เอาสมองมาทำงานบ้างหรือเปล่าเฮอะ"
ณจันทร์เห็นท่าไม่ดี เลยขอตัวออกไป
"ขอบคุณนะคะ"
สิงหลหันมามองเห็นณจันทร์ สวย ถูกใจ เธอเดินออกไป สิงหลมองตาม
"ขอโทษจริงๆคะท่าน เราจะรีบทำ…"
สิงหลไม่สนใจแล้ว เดินตามณจันทร์ไป ลูกน้องรู้นิสัยนายดี เลยอยู่ห่างๆ
"มาประมูลของเหรอครับ"
ณจันทร์ชะงัก
"คะ"
"ขอโทษจริงๆนะครับที่ผมทำให้คุณตกใจ หวังว่าคุณคงไม่โกรธ"
"ไม่เป็นไรหรอกคะ"
"ไม่ทราบว่าสนใจของชิ้นไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ ผมจะได้แนะนำให้"
ณจันทร์มองสิงหล เริ่มมองเห็นช่องทางที่จะเข้าไปเอาคัมภีร์
มุมหนึ่งในงานประมูลลูกปลา สมชัย เข้ามาในงาน
"แกนี่ชักช้าจริงๆ จะโบ๊ะอะไรนานนักหนายะ" ลูกปลาถาม
"อะ ไม่ได้ ออกงานทั้งที ฉันก็ต้องขอให้สวยหน่อยสิ แกลากฉันมา ดูสิ ฉันยังทามาสคาร่าไม่เสร็จเลยนะยะ" สมชัยบอก
สมชัยเปิดกระจก จะส่องดูหน้าตัวเอง หันมาเจอกับวิฬาร์ ที่ปรายตามองอย่างดูถูก
"ฉันว่าไม่ต้องเสียเวลาหรอก ของพวกนี้คงช่วยอะไรเธอไม่ได้ ถ้าอยากจะสวยขึ้น ฉันขอแนะนำ ไปเกิดใหม่ซะ"
แล้ววิฬาร์เดินเฉิดฉายไป สมชัยโกรธจนด่าไม่ออก ได้แต่ขมุบขมิบปากไปมา อยากร้องกรี๊ด
สิงหลยังคุยกับณจันทร์อยู่
"อ๋อ หีบทองล้านนาที่เป็นของประมูลชิ้นสุดท้าย"
"คะ ดิฉันสนใจมากเลย ทราบว่าเป็นของคุณสิงหลใช่ไหมคะ มันสวยมากเลยนะคะ"
"ครับ โดยปกติผมก็เป็นคนชอบเอาของสวยๆงามๆมาอยู่ใกล้ตัวอยู่แล้ว"
สิงหลมองตาเยิ้ม ณจันทร์ตัดบท
"เอ่อ ฉันเคยเห็นแต่ในรูปเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าถ้าเข้าไปดูใกล้ๆ มันจะสวยแค่ไหน"
สิงหลรู้ทัน
"ปกติในงานจะเปิดให้ดูเฉพาะตอนประมูลเท่านั้น แต่สำหรับคุณ ผมยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ มาทางนี้สิครับ ผมจะพาไป"
ณจันทร์ดีใจที่สิงหลทำตามจนได้
ปักษะกำลังพยายามปลีกตัวจากแขกทั้งสองคนอยู่
"ขอตัวสักครู่นะครับ"
พนักงานถือถาดเครื่องดื่มคนหนึ่งเดินมา ปักษะเอื้อมมือจะหยิบเลือกแก้วเครื่องดื่ม แต่แล้วก็ชะงัก
ห่างออกไปอีกมุมห้อง ปักษะเห็นณจันทร์กำลังเดินอยู่กับสิงหล
"ณจันทร์!"
ปักษะพรวดพราดจะเข้าไปหา แต่เขาชนกับพนักงานถือถาดเครื่องดื่ม จนแก้วตกลงมาแตก
"ขอโทษครับ"
ณจันทร์และสิงหลเดินออกจากห้องประมูลไปด้วยกัน ปักษะรีบตามไป
ปักษะเห็นณจันทร์และสิงหลเข้าไปด้วยกันในห้องๆหนึ่ง
"ณจันทร์!"
ปักษะจะเข้าไปหา แต่แล้วก็มีลูกน้องสิงหลมาขวางไว้
"ห้ามเข้านะครับ พื้นที่นี้เป็นเขตส่วนตัว"
"แต่ผมเห็นเขาเข้าไปในนั้น ณจันทร์…คุณปล่อยผมนะ"
ปักษะหงุดหงิดพยายามจะเข้าไปให้ได้ ขณะที่ลูกน้องก็กั้นไว้
สิงหลกดรหัสหน้าประตูห้อง ก่อนที่ประตูจะเปิดออก
"เชิญครับ"
ณจันทร์เข้าไปในห้อง ตื่นเต้นที่จะได้พบคัมภีร์แล้ว
ลูกน้องลากปักษะไปให้ห่างจากห้องนั้น
"ปล่อยผมนะ ณจันทร์"
ปักษะยังพยายามจะเข้าไปในห้องนั้น ลูกน้องขวางไว้
"อย่าดีกว่า ผมขอเตือน ไม่งั้นผมจะให้ยามลากคุณออกไปจากงานแน่"
แล้วลูกน้องเดินไปคุมอยู่หน้าห้องเหมือนเดิม ปักษะหงุดหงิดมาก ที่ไม่สามารถเข้าไปหาณจันทร์ได้
ภายในห้องน้ำ สมชัยอยู่หน้ากระจกห้องน้ำ กำลังแต่งหน้าเพิ่มอยู่ ประตูห้องน้ำห้องหนึ่งเปิดออกมา เป็นคำสูรย์ สมชัยกำลังก้มหน้า มองไม่เห็นคำสูรย์
คำสูรย์เดินไปที่เครื่องเป่ามือ แต่ใช้ไม่เป็น เอามือไปเฉียดๆ แล้วก็มีเสียงลมดังออกมา คำสูรย์ตกใจ
สมชัยชะงักหันมามอง เห็นคำสูรย์ในที่สุด จำได้ว่าเป็นคนบ้าที่มาอาละวาดที่ร้านป้าแอน ตกใจรีบเก็บของ แล้วเดินออกไป
อ่านต่อหน้าที่ 2
เสือ ตอนที่ 9 (ต่อ)
ลูกปลายืนอยู่หน้าห้องน้ำรอสมชัย สมชัยมาสะกิดลูกปลา
"แก ฉันเจอมันอีกแล้ว"
"ใคร"
"ก็ไอ้คนบ้าที่เราไปเจอที่ร้านป้าแอนต่างหาก ที่มันมาขู่แม่หมอเทพนิมิตใหญ่นะ มันมาที่นี่ด้วย"
"อะไรนะ"
คำสูรย์เดินออกมาจากห้องน้ำ สมชัยหลบ ลูกปลาเห็นคำสูรย์เดินไปอีกทาง
"นี่มันมานี่ได้ยังไง"
ในห้องเก็บของประมูลสิงหลไขกุญแจตู้เซฟ และค่อยๆเปิดออก หยิบของออกมาจากเซฟ เป็นหีบทองที่แกะลวดลายล้านนา ณจันทร์มองอย่างตื่นเต้น
"นี่ไงครับ หีบทองล้านนา สวยอย่างที่คุณว่าจริงๆ"
"ขอฉันดูของข้างในหน่อยได้ไหมคะ"
สิงหลทำท่าแปลกใจ ณจันทร์แก้ตัว
"คือฉันสงสัยนะคะ ข้างในมีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่ามีแต่หีบเปล่าๆ"
"มาสิครับ ผมจะเปิดให้คุณดู"
สิงหลกำลังค่อยๆเปิดหีบทองออก ณจันทร์ลุ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงมือถือดังขึ้นก่อน สิงหลชะงัก
"สักครู่นะครับ"
สิงหลเดินเลี่ยงออกมา ไปรับมือถืออีกทางหนึ่ง
"ฮัลโหล…อะไรอีก ไอ้เรื่องเงินนะฉันไม่ลืมหรอกน่า…ก็ตามที่ตกลงกันไว้ยังไง"
ณจันทร์มองไปที่หีบทอง กระวนกระวาย ตัดสินใจเอื้อมมือจะไปเปิด
บริเวณหน้าสถานที่จัดงาน รถคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอด ลายเมฆเดินลงมา อ้อมไปเปิดประตูให้ พรหมพยัคฆ์ที่ลงมาจากรถ
ในห้องเก็บของประมูล ณจันทร์กำลังเปิดหีบทอง ทันใดนั้นสิงหลก็หันกลับมาพอดี ณจันทร์รีบถอยมือออก
"ขอโทษด้วยนะครับ"
ในที่สุดสิงหลก็มาเปิดหีบออก ก่อนค่อยๆหยิบเอาของข้างในออกมา ณจันทร์ตื่นเต้นคัมภีร์ใบลาน มีอักษรล้านนาโบราณสลักอยู่ บรรยากาศดูขลังมาก
ณจันทร์มองอย่างตะลึงไปชั่วครู่ แน่ใจแล้วว่าคือสิ่งที่เธอตามหาอยู่
พรหมพยัคฆ์กำลังเดินเข้ามาในงาน รู้สึกขึ้นมาวูบหนึ่งทันที
"มีอะไรเหรอครับ นายท่าน"
"ฉันได้กลิ่นของเธอ"
ภายในห้องเก็บของประมูล ณจันทร์หยิบคัมภีร์เข้ามาลูบ
"คุณคงชอบมันมากนะครับ"
"ค่ะ"
"ดีเลยครับ ผมก็อยากให้คนที่ชอบของชิ้นนี้ ได้เป็นคนครอบครองมันต่อจากผม"
ณจันทร์เริ่มมีความหวัง
"จริงเหรอคะ"
"ครับ ไม่แน่นะ ผมอาจจะเปลี่ยนใจไม่เอาออกประมูล มาเสนอมันให้คุณก็ได้"
ณจันทร์ถามจริงจัง
"คุณจะขายให้ฉันเท่าไรคะ"
สิงหลก้มหน้าลงมา แววตากรุ้มกริ่ม
"ถ้าผมไม่ขอเป็นเงิน…แต่ขอเป็นอย่างอื่นละครับ"
ณจันทร์ชะงัก เริ่มรู้แกวสิงหล
ภายในงานประมูล วิฬาร์เฉิดฉายเข้ามาในงาน ชะงัก เมื่อเห็นพรหมพยัคฆ์และลายเมฆเข้ามาอีกทาง รีบปราดเข้าไปหาอย่างดีใจ
"คุณพรหมพยัคฆ์"
พรหมพยัคฆ์ชะงักที่เห็นวิฬาร์
"แหม ดวงเรานี่สมพงษ์กันจริงๆนะคะ ขนาดไม่ได้นัดกันแท้ๆ ยังมาเจอกันในงานนี้ได้ จริงไหมคะ"
พรหมพยัคฆ์รำคาญวิฬาร์มาก จะเดินหนีออกไป
"เดี๋ยวก่อนสิคะ จะไปไหนละคะคุณพรหมพยัคฆ์"
"หลีกไป!"
พรหมพยัคฆ์ผลักวิฬาร์ออกไปจนเซ วิฬาร์อึ้ง แค้นใจมาก
ในห้องเก็บของประมูล ณจันทร์พยายามเบี่ยงตัวออกจากสิงหล
"คุณจะทำอะไรนะ!"
สิงหลหัวเราะเก้อๆ
"ผมก็หมายถึงดินเนอร์มื้อหนึ่งต่างหากละครับ คุณคิดว่าผมอยากได้อะไรละ"
สิงหลเดินเข้ามาใกล้อีก ณจันทร์เริ่มเห็นท่าไม่ดีที่มาอยู่เพียงลำพัง จะผละออกไป
"เดี๋ยว คุณจะไปไหนละครับ"
ทันใดจมูกก็เหมือนได้กลิ่นบางอย่างที่ใกล้เข้ามา
"กลิ่นนี้…หรือว่า"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น สิงหลหงุดหงิด
"มีอะไร"
"ท่านครับ พรหมพยัคฆ์มาถึงแล้วครับ"
ณจันทร์ตกใจมากเมื่อได้ยินชื่อนั้น
"พรหมพยัคฆ์"
พรหมพยัคฆ์กำลังเดินเข้ามา ใกล้ห้องเก็บของประมูลทุกที
ในห้องเก็บของประมูล
"บอกให้เขาเข้ามาในห้องนี้ได้เลย"
ณจันทร์ตกใจ มองไปที่คัมภีร์ จะเอื้อมมือไปหยิบแล้วรีบหนี แต่สิงหลมาขวางไว้
"คุณจะทำอะไรน่ะ"
ณจันทร์เห็นท่าจะไม่ทันแล้ว จะเดินออกไป สิงหลดึงไว้
"เดี๋ยวก่อนสิครับ"
"ฉัน…ฉันต้องไปแล้วคะ"
"จะไปไหนละ ผมยังพาคุณดูของโบราณไม่ทั่วเลยนะ หือ คุณใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรเหรอ หอมแปลก ไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้เลย"
"ปล่อยฉันเถอะคะ ปล่อย!"
ณจันทร์ผลักสิงหลออกไปแรง แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้อง
สิงหลออกมาจากห้อง
"ผู้หญิงคนนั้นไปไหนแล้ว"
"ทางโน้นครับท่าน"
"แล้วทำไมไม่หยุดเธอไว้วะ"
สิงหลหงุดหงิด เดินตามณจันทร์ออกไป
สิงหลเดินมาจนถึงมุมหนึ่ง ทันใดนั้นก็เหมือนได้กลิ่นของณจันทร์ลอยมา เขาชะงัก มองไปที่มุม คิดว่าณจันทร์จะต้องอยู่แน่ๆ
"อยู่นี่เอง"
แต่ทว่า คนที่ยืนอยู่กลับเป็นพรหมพยัคฆ์ สิงหลเซ็ง
"นึกว่าใคร…คุณเอง"
"ทำไม คุณนึกว่าผมเป็นใคร"
"ผมตามผู้หญิงคนหนึ่งมา เขาหนี เอ้ย ไม่ใช่ เขาเดินมาทางนี้ แต่น่าแปลกนะ ผมได้กลิ่นจากตัวของเขา เหมือนกับคุณอย่างนั้นแหละ"
พรหมพยัคฆ์ชะงัก หน้าเครียด
"ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน"
ณจันทร์เดินหนี เห็นลูกน้องของสิงหลเดินตามหา เลยเปิดประตูเข้าไปหลบที่ระเบียง
ผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ก่อน เขาหันหน้ามามอง ชะงัก
"ณจันทร์!"
ณจันทร์ชะงัก ปักษะยืนอึ้งที่เจอเธอ
คำสูรย์กำลังมองหาณจันทร์ในงานอยู่ ไม่รู้เธอไปไหน
"คุณหนูอยู่ไหนนะ"
ด้านหนึ่ง ลูกปลาและสมชัยซุบซิบ ดูคำสูรย์อยู่
"ฉันว่าเราอย่ายุ่งกับมันดีกว่า"
"ได้ไง เดี๋ยวมันบ้าอาละวาดขึ้นมาอีก ก็แย่สิ"
"งั้นเอาไงดีละ"
บริเวณระเบียง ณจันทร์จะเดินออกไป ปักษะมาขวางไว้
"เดี๋ยวก่อน"
"ปล่อยนะคุณปักษะ"
"ทำไมคุณต้องหนีผมด้วย"
ปักษะจับให้ณจันทร์ให้เผชิญหน้า
"ตอบผมสิณจันทร์ ทำไม"
"ถึงตอนนี้…คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอคะ"
ณจันทร์ระบายอย่างอัดอั้น
"คุณยังไม่เข้าใจเหรอว่าฉันไม่เหมือนคุณ ฉันไม่ใช่คน ฉันเป็นฆาตกร! ทำไมคุณยังตามฉันอยู่ได้ ฉันบอกแล้วไงว่าไปให้พ้น ทำไมคุณไม่เชื่อฉัน! คุณอยากจะตายนักหรือไง"
"ผมแค่อยากช่วยคุณ"
ณจันทร์ชะงัก
พรหมพยัคฆ์กระชากคอสิงหล เข้ามาในห้องเก็บของประมูล
"ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน แกทำอะไรเธอ"
"โอ้ย! ก็บอกว่าผมไม่รู้ ผมแค่พาเธอมาดูของแค่นั้นเอง"
"ของอะไร"
สิงหลชี้ไปที่บนโต๊ะ พรหมพยัคฆ์ชะงัก เข้าไปดู เห็นคัมภีร์ล้านนาโบราณ
พรหมพยัคฆ์อึ้ง รู้แน่ชัดว่าไอ้ความรู้สึกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเขาคืออะไร
"คัมภีร์ล้างคำสาปเสือ"
ปักษะยังพูดกับณจันทร์ต่อที่ระเบียง
"ให้ผมช่วยคุณเถอะณจันทร์ ผมรู้ว่าจริงๆคุณไม่ได้เป็นแบบนี้ คนอย่างคุณไม่มีทางจะทำร้ายใครได้"
"มันสายไป มือฉันเปื้อนเลือดแล้ว ฉันฆ่าคน"
"ไม่ใช่คุณ แต่เป็นไอ้วิญญาณร้ายในร่างคุณต่างหาก! เชื่อผมสิ เราจะไปเอาคัมภีร์นั่นมา ผมจะช่วยหาวิธีปลดปล่อยคุณจากมันให้ได้"
"แล้วถ้าไม่ได้ละ ถ้าฉันจะต้องเป็นอย่างนี้ไปตลอด คุณจะทำยังไง… คุณคิดว่าจะเปลี่ยนอะไรได้ง่ายๆเหรอ ดูมือฉันสิ ตอนนี้มันยังปกติ แต่พอพระจันทร์เต็มดวงเมื่อไร ก็จะมีเล็บงอกยาวออกมา หน้าฉันก็จะไม่เป็นแบบนี้ ฉันจะไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น นอกจากอยากจะล่าเหยื่อ ฉันเป็นเสือ นี่แหละความจริง"
ปักษะนิ่งไป ณจันทร์น้ำตาคลอ
"ให้ฉันไปตามทางของฉัน ฉันขอร้องคุณ ปล่อยฉันไปเถอะ"
ณจันทร์ถอยหนี แต่ปักษะยังรั้งไว้อีก
"ไม่ ณจันทร์ ฟังผมก่อน"
ณจันทร์พยายามหนี
"คุณนั่นแหละฟัง เลิกคิด เลิกหวังอะไรบ้าๆซักทีเถอะ ไปให้พ้นจากชีวิตฉันได้แล้ว! ปล่อย"
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังยื้อยุดกันอยู่ คำสูรย์ก็เข้ามาชกโครมจนปักษะล้มลง ณจันทร์ชะงัก
"อาคำสูรย์"
คำสูรย์ลากปักษะที่ถูกต่อยจนมึนเข้าไปในห้องเก็บของ และมัดไว้ด้วยเชือก
"ไปเถอะครับคุณหนู"
ณจันทร์จะเดินออกไป ปักษะพยายามขอร้อง
"ณจันทร์อย่าทำแบบนี้กับผม ผมขอร้อง ผมอยากช่วยคุณนะ"
ณจันทร์สับสน คำสูรย์เตือน
"ไม่มีเวลาแล้วนะคุณหนู"
ณจันทร์นิ่งไป ตัดใจ และเดินออกไป คำสูรย์ล็อกห้อง ปักษะพยายามไปดันประตู แต่ก็ไม่ออก
พรหมพยัคฆ์เดินมากับลายเมฆ
"คัมภีร์ล้างคำสาปเสือหรือครับ"
"ใช่มันแน่ๆ ฉันรู้สึกแปลกๆตั้งแต่วันนั้นแล้ว…ณจันทร์มาที่นี่ ก็เพราะต้องการมัน"
"เราไปทำลายมันเลยไหมครับท่าน"
"ยังก่อน…คัมภีร์จะถูกประมูลช่วงสุดท้ายของงาน ถึงตอนนั้นณจันทร์จะต้องออกมาแน่ๆ รอให้เหยื่อมาติดเบ็ดก่อน แล้วฉันก็จะได้ทั้งตัวณจันทร์…กับคัมภีร์นั่น"
พรหมพยัคฆ์ยิ้มเหี้ยมกับแผนการชั่ว
บนเวทีงานประมูล พิธีกรกำลังประกาศเริ่มงานอยู่
"สวัสดีครับท่านมีเกียรติและแขกทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าการประมูลการกุศลเพื่อมูลนิธิเด็กนะครับ ลำดับแรก ผมขอเชิญประธานของงานนี้มากล่าวเปิดงาน คุณสิงหล จงรัชตะไวย์ครับ"
เสียงคนตบมือ สิงหลเดินเข้ามาที่ไมค์
"สวัสดีครับ งานประมูลการกุศลครั้งนี้ก็จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำของมาประมูลและนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิเด็ก ผมในฐานะประธาน ได้เข้ามาสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่ เพราะการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนผู้ที่ด้อยโอกาสก็เป็นอุดมการณ์หนึ่งที่พรรค“พิทักษ์ธรรม”ของเรายึดถือมาโดยตลอด"
สิงหลเริ่มพูดจาหาเสียง คนในงานรวมทั้งเจ้าหน้าที่ต่างๆพุ่งความสนใจไปที่สิงหลบนเวที
มุมหนึ่งในงานประมูล คำสูรย์กังวลรู้เรื่องพรหมพยัคฆ์มางานนี้
"ไอ้เสือผีมันรู้แล้ว คุณหนูเราอยู่ไม่ได้แล้ว รีบออกไปจากที่นี่เถอะครับ"
ณจันทร์ครุ่นคิด ในที่สุดก็ตัดสินใจ
"ไม่ คราวนี้ฉันจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว เราต้องเปลี่ยนแผนกัน…เราต้องขโมยคัมภีร์ออกมา ตอนที่กำลังอยู่บนเวทีเลย"
"หา คนมีอยู่ทั้งห้องนะคุณหนู แล้วไอ้พรหมพยัคฆ์มันต้องคอยดักอยู่แน่ๆ"
"ฟังแผนฉันก่อน…ประมูลของชิ้นสุดท้าย เวลาห้าโมงเย็นพอดี ฉันจะไปดับไฟให้ทั่วทั้งห้องประมูล แล้วลุงรีบขึ้นไปบนเวทีเอาคัมภีร์มา ระหว่างที่ฉันจะล่อพรหมพยัคฆ์ไปอีกทาง"
"ไม่ได้! อาไม่ยอมให้คุณหนูเอาตัวไปเสี่ยงกับไอ้เสือผีนั่น"
"แล้วอาคิดหาทางอะไรอื่นนอกจากนี้ไหมล่ะ"
คำสูรย์นิ่งไป ณจันทร์สรุป
"ก็เหมือนที่ฉันเคยบอก…ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอีกแล้ว"
พิธีกรกำลังจะเริ่มงานประมูลอยู่
"ของประมูลชิ้นแรกของเราในวันนี้ เป็นเครื่องสังคโลกซึ่ง เป็นศิลปะชั้นเยี่ยมที่ยังสมบูรณ์อยู่ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หนึ่งแสนบาทครับ"
ณจันทร์บอกแผนการต่างๆให้คำสูรย์รู้ทั้งหมดแล้ว
"งั้นเราแยกกันตรงนี้ อาอย่าลืมทำตามที่ฉันบอกนะ"
คำสูรย์ไปที่ในงาน ส่วนณจันทร์ไปอีกทาง
อ่านต่อตอนที่ 10