xs
xsm
sm
md
lg

สามใบไม่เถา ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สามใบไม่เถา ตอนที่ 2

อินทุอรแต่งตัวสวยจะไปข้างนอก แวะมาหาแม่ที่ห้องเขียนรูปก่อน เห็นแม่กำลังห่อกระดาษแพ็กรูปเขียน อินทุอรไปช่วยแม่

"ขายให้นักสะสมที่ไหนคะคุณแม่"
"เปล่าจ้ะ เพื่อนแม่ขอเอาไปประมูลหาเงินช่วยการกุศล"
"งั้นคุณพ่อต้องไปประมูล เอากลับมาบ้านแน่ๆ"
บราลีหัวเราะเบา ๆ จริงอย่างอินทุอรว่า อัษฎาต้องไปแข่งประมูลเอารูปกลับมาเหมือนทุกครั้ง เพราะรักภรรยามาก เลยรักรูปเขียนของภรรยาด้วย
"คุณแม่พูดกับคุณพ่อเรื่องอินจะไปเรียนบัลเล่ต์ที่อเมริการึยังคะ"
"ช่วงนี้คุณพ่องานยุ่ง เลยยังไม่ได้พูดจ้ะ อีกหลายเดือนกว่าหนูอินจะไป เอาไว้ แม่ค่อยหาโอกาสพูดกับคุณพ่อเค้านะจ๊ะ"
"ค่ะคุณแม่"
บราลีเห็นลูกแต่งตัวสวย
"จะออกไปไหนจ๊ะ"
"นัดป้าอัปสรไว้ค่ะ"
อินทุอรช่วยแม่แพ็กรูปเขียนอย่างคล่องแคล่ว เพราะช่วยแม่แพ็กบ่อย

ในพิพิธภัณฑ์ ชรินทร์ นันทนาคร ป้าแต๋วเดินเอามือปิดตาอินทุอรพาเดินเข้ามา เธอท่าทางงง สงสัย พอป๋าแต๋วเอามือออก อินทุอรเห็นเปียโนตั้งกลางห้อง อัปสรกับป้าต้อยยืนยิ้มข้างเปียโน
"พิพิธภัณฑ์เราจะเป็นที่รู้จัก ต้องจัดงานบ่อย ๆ ป้าจองตัวหนูอินเดี่ยวเปียโนโชว์นะจ๊ะ"
"อินเล่นให้ฟรีเลยค่ะ"
"โชว์ซักเพลงซีจ๊ะหนูอิน"
อินทุอรยิ้มรับนั่งลง

บริเวณทางเดินหน้าพิพิธภัณฑ์ ภิสิตเดินเข้ามา เหลียวซ้ายมองขวาเพื่อหาอัปสร แต่ไม่เห็นใคร
ในพิพิธภัณฑ์ อินทุอรเริ่มเล่นเปียโนเพลงหยาดเพชร ภิสิตชะงักเมื่อได้ยินเสียงเปียโน เขาเหลียวมองหาที่มาของเสียง แล้วจึงตัดสินใจเดินตามเสียงเข้าไป
ภิสิตเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ ยืนมองเห็นอินทุอรกำลังเล่นเปียโนอย่างอินไปกับเสียงเพลง
"หนูอิน"
ภิสิตยิ้มและแปลกใจมากที่เห็นอินทุอรอยู่ที่นี่ อินทุอรเล่นไปพักหนึ่งแล้วรู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ เธอจึงหันมามอง พอเห็นเป็นภิสิตจึงหยุดเล่นเปียโน
ทั้งสองคนมองกัน แปลกใจที่มาพบกันที่นี่

อินทุอรช่วยป้า ๆ ทำกับข้าว ภิสิตอารมณ์ดีคุยกับอินทุอร
"หนูอินนึกยังไง ถึงเข้าแก๊งส์สว.สูงวัย"
ภิสิตหัวเราะ แต่ยังไม่วายโดนอัปสรหยิกไปที
"สนุกดีค่ะ อินคิดไม่ถึงเลยว่า “ตาสิต” หลานป้าอัปสร...คืออาสิต"
"พอภิสิตไปนอก ป้าก็เก็บรูปใส่ตู้หมด เห็นแล้วคิดถึงจ้ะ"
แต๋วจะเอาปลาลงกระทะทอด น้ำมันเดือดร้อนจี๋
ทันใดนั้น...จิ้งจกตกใส่บ่าแต๋ว เกาะอยู่อย่างนั้น ตาแป๋วบ้องแบ๊ว
ต้อยตัวนิ่งด้วยความกลัว
"ว้าย...!"
"อะไรยะแม่ต้อย ร้องซะลั่นเชียว" แต๋วถาม
ต้อยตัวสั่นถาม
"แต๋ว... เราสองคนกลัวสัตว์อะไรที่สุด"
"ถามทำไมยะ"
ต้อยชี้ไปที่จิ้งจกบนบ่าแต๋ว แต๋วหันมองเผชิญหน้ากับจิ้งจก แล้วแหกปากร้องลั่นกว่า
"อ๊าย!"
แต๋วตกใจจัด โยนปลาใส่กระทะน้ำมันกระเด็น ฉ่า !
ตังหวะนั้น ภิสิตหันไปพอดี โดนน้ำมันกระเด็นเข้าตา
"โอ๊ย !"
ภิสิตเอามือปิดตา แสบมาก

ภิสิตนั่งแหงนหน้าให้อินทุอรหยอดตาข้างที่โดนน้ำมันกระเด็นใส่ เธอจับไหล่เขาไว้ ชะโงกไปจ้องหน้า ทั้งสองได้อยู่ใกล้ชิดกันมากโดยไม่ได้ตั้งใจ
"นั่งนิ่งๆ นะคะอาสิต"
" นิ่งที่สุดเลยจ้ะ พยาบาลอินรีบหยอดยาได้เลย ฮึๆ คนไข้กลัวตาบอดจะแย่แล้ว"
"ยังมีอารมณ์หัวเราะอีกนะคะ"
มุมไกลออกมา บรรดาป้าๆ ต่างจับกลุ่มมองทั้งคู่ แต๋วหน้าเจื่อน
"ตาแดงแจ๋เลย จะบอดมั้ยเนี่ย"
อัปสรตีเพี้ยะ
"นี่หล่อน... ปากหนอปาก มาแช่งหลานฉัน"
ภิสิตหันมาคุยกับป้าๆ
"อย่างมากก็อักเสบครับ ป้าแต๋ว"
อินทุอรเอาผ้าก๊อชปิดตาภิสิต
"อินพับผ้าก็อชให้ไปปิดที่บ้านด้วยนะคะ"
"แหม... เหมือนอามีพยาบาลส่วนตัวเลย"
ภิสิตยิ้มเอ็นดู อินทุอรส่งยิ้มหวานกลับ
อัปสรเห็นอินทุอรดูแลเอาใจใส่ภิสิตแล้วนึกอยากให้หลานชายได้เมียน่ารักแสนดีแบบนี้
อัปสรเปรยเบาๆ แบบคุยกันแค่สามคน ไม่ให้อีกสองคนได้ยิน
"เสียดาย"
"เสียดายอะไร" ต้อยถาม
"หนูอินเกิดช้าไป"
"พล่ามอะไรของเธอ"
อัปสรแสนเสียดาย คิดว่า ถ้าอินทุอรเกิดเร็วกว่านี้ จะจับคู่กับภิสิตซะเลย

อินทุอรกำลังขับรถไปส่งภิสิต สายตามองไปเบื้องหน้า ในขณะที่ภิสิตมองเธอ
"เลยทำให้หนูอินลำบากต้องมาส่งอาเลย"
"อาสิตเป็นเพื่อนรักของคุณพ่อถ้าไม่มาส่ง..อินต้องรู้สึกผิดแน่ๆ"
"ไม่น่าเชื่อว่าเด็กตัวเล็กๆ จะโตขนาดมาขับรถให้อานั่งได้แล้ว"
อินทุอรยิ้มๆ
"ผ่านมาจะสิบปีแล้ว .. ถ้าอินยังตัวเล็กเท่าเดิม อาสิตคงต้องแปลกใจมากกว่านี้นะคะ"
ทั้งสองคนยิ้มแย้มเป็นกันเอง แต่ไม่มีแววตาผิดศีลธรรมแต่อย่างใด
รถมาจอดติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยก ซึ่งไม่ค่อยมีคน รถสปอร์ตเปิดประทุนคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดเทียบ บุษบาบัณนั่งอยู่กับหนุ่มฝรั่งคนหนึ่ง กอดเกยกันอยู่แบบไม่อายใคร
ภิสิตบังเอิญหันมามองที่รถสปอร์ตคันนั้น แล้วชะงัก หน้าเสีย บุษบาบัณเมามายกำลังกอดกับฝรั่งที่ขับรถ ทั้งคู่ถึงเนื้อถึงตัวกัน บ่งบอกความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ทั้งคู่ต่างหอมแก้มตอบกัน
อินทุอรเห็นภิสิตจ้องไปที่รถด้านข้าง เธอจึงหันไปมอง แล้วตกใจไม่น้อยไปกว่ากัน
"นั่น...อาบุษ" เธอเผลอพูดออกมา
ภิสิตเครียดขึ้นทันที พยายามเมินหน้าออกมาจากภาพที่เห็น
สัญญาณไฟเขียว รถสปอร์ตพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เขาถอนหายใจยาวเหมือนต้องการระบายความเครียดที่บังเกิดขึ้นในใจ

อินทุอรกระอักกระอ่วนพูดอะไรไม่ออก ตัดสินใจขับรถออกไป

บนรถที่แล่นมาตามทาง ภิสิตนั่งนิ่งไม่พูดจา แววตาเต็มไปด้วยความเครียดและเจ็บช้ำกับภาพที่ตัวเองเห็น

อินทุอรรู้สึกเห็นใจมาก แต่พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร

รถของอินทุอรแล่นมาจอดที่หน้าบ้านภิสิต บรรยากาศในรถยังอึมครึม ภิสิตฝืนยิ้ม
"ขอบใจมากนะหนูอิน อุตส่าห์มาส่งอา...ขับรถกลับดีๆ นะ ถึงบ้านแล้วแมสเสจมาบอกอาด้วย"
"ค่ะคุณอาสิต"
ภิสิตเดินลงจากรถไปอย่างเศร้าๆ เหงาๆ อินทุอรมองภิสิตที่เดินจากออกไปด้วยแววตาเห็นใจ
อัษฎากำลังเดินอยู่มุมๆ หนึ่ง คิดถึงลูกสาวคนโต ในมือถือถุงขนม, ผลไม้จากซุปเปอร์มาเก็ต
อีกมือโทร.หาอุรวสา
"คุณวสา .. วันนี้ไม่กลับมานอนบ้านใช่มั้ยลูก"

อุรวสานอนซมบนโซฟาเป็นหวัดแดด ข้างตัวมีกะลังมังชุบน้ำเตรียมไว้เช็ดหน้าเช็ดตา
ส่วนแสงฉานกำลังล้างจานชาม กระทะ มีด เขียง
อุรวสาคุยโทร.กับพ่อ เสียงอู้อี้
"วสาไม่สบายค่ะคุณพ่อ"
"เป็นอะไรลูก"
"อยู่เมืองหนาวมานาน... มาเจออากาศร้อนจัดเมืองไทย ไข้ขึ้นค่ะ"
อัษฎาสีหน้าเป็นห่วงลูกสาวมาก
"ทานยารึยัง"
"เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวกะว่าจะเข้านอนแล้ว"
เสียงเคาะประตูหน้าดังขึ้น อุรวสาหันไปมอง
"แป๊บนึงนะคะคุณพ่อ... เดี๋ยววสาโทรกลับนะคะ"
เธอวางหู แล้วเดินสะโหลสะเหลลุกขึ้นไปที่ประตูหน้าห้อง

แสงฉานเช็ดจามชาม กระทะ เขียง มีด ที่เพิ่งล้างเสร็จ เธอเดินไปดูผ่านช่องตาแมวที่ประตู เห็นพ่อยืนหน้าประตูห้อง พร้อมด้วยข้าวของเต็มไม้เต็มมือ
เธออุทานเสียงเบา
"คุณพ่อ"
เธอรีบเดินเข้ามาหาแสงฉาน แสงฉานยังงงๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรีบผลักแสงฉานออกไปที่ระเบียงด้านข้าง เอานิ้วจุ๊ๆ ที่ปาก แล้วรีบรูดผ้าม่านบังปิดระเบียงไว้
อุรวสามาเปิดประตูให้พ่อ อัษฎารีบเดินเข้าห้องมา...แตะหน้าผากลูกสาวทันทีด้วยความเป็นห่วง
"มาเร็วจังค่ะคุณพ่อ"
"พ่อจะแวะเอาผลไม้กับขนมมาให้พอดี คุณวสาจะได้ทานตอนทำงานดึกๆ ...คุณวสาตัวร้อน"
อัษฎาเอาถุงใส่ของมาวางไว้ที่เคานเตอร์ มองที่ซิงค์ล้างจานเห็น กระทะ เขียง มีด ล้างคว่ำอยู่ก็แปลกใจมาก
"คุณวสาทำกับข้าว"
อุรวสาอึกอัก
"เอ้อค่ะ.. ไม่ค่อยสบายเลยไม่อยากลงไปซื้อเค้าทาน"
อัษฎามองจับผิด ไม่เชื่อ เพราะลูกคนนี้ไม่ใช่แม่บ้านแม่เรือน แต่เป็นผู้หญิงทำงาน
บริเวณระเบียง แสงฉานแอบดูอยู่หลังม่าน เห็นรูปแต่งงานบนตู้โชว์ ก็ตาลุกวาวด้วยความตกใจ เขารีบโผล่ออกมาจากผ้าม่าน ชี้ให้อุรวสาดูรูปแต่งงาน เธอตกใจเหมือนกัน ทั้งคู่ดูโกลาหล เธอรีบแก้สถานการณ์
"เอ้อ... คุณพ่อคะ วสาหายาลดไข้ไม่เจอ คุณพ่อช่วยหาทีสิคะ"
"เก็บไว้ที่ไหนล่ะ"
"น่าจะเก็บไว้ที่ตู้โน้นนะคะ"
อุรวสาดึงพ่อเดินไปตู้ใบหนึ่งทำเป็นให้ช่วยกันหายาลดไข้ ทันทีที่อัษฎาหันหลังให้ระเบียง
แสงฉานก็ย่องจากระเบียง หยิบรูปแต่งงานบนตู้โชว์ทันที อุรวสาแอบเหลือบมอง
อัษฎาซึ่งหายาไม่เจอ บอกว่า
"กลับไปกินยาที่บ้านก็แล้วกันลูก"
อัษฎากำลังจะหันมา แสงฉานวิ่งหลบเข้าห้องนอนทันอย่างหวุดหวิด เธอลอบเป่าปากอย่างโล่งอก พ่อเดินมาที่โถงกลางห้อง เห็นรองเท้าใส่ในบ้าน คู่ใหญ่ไซส์ผู้ชาย
"รองเท้าใคร"
เธอโกหกทันที
"ของวสาค่ะ"
"ใหญ่ขนาดนี้...รองเท้าผู้ชายแน่ๆ"
"โธ่คุณพ่อ รองเท้าใส่ในบ้าน มันจะมีสักกี่ไซส์กันคะ"
"แต่คุณวสาไม่ใส่รองเท้าแบบนี้"
"ใส่สิคะ...นี่ไง" เธอใส่รองเท้าแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "นี่...พอดีเลย"
อัษฎามองอย่างจับผิด...เสียงดุ
"คุณวสาอยู่กับใคร"
"อยู่คนเดียวค่ะ"
"พ่อไม่เชื่อ"
อุรวสาอ่อนใจ กำลังจะหาทางแก้ตัวเอาตัวรอด แต่แล้วจู่ๆ เสียงของหล่นในห้องนอนก็ดังขึ้น
อัษฎาหันขวับไปมอง

"เสียงอะไร"

แสงฉานซ่อนในตู้เสื้อผ้า ดันทำไม้แขวนเสื้อหล่น เขาหน้าเสีย กลัวโดนพ่อตาจับได้

อัษฎาเข้ามาในห้องนอนทันที ขณะที่อุรวสาดึงแขนพ่อไม่ให้เข้าไป
"เสียงข้างห้องน่ะค่ะคุณพ่อ"
อัษฎามองซ้ายมองขวา เดินไปทั่วห้องนอนเหมือนต้องการหาที่มาของเสียง
"เป็นไปได้ยังไง...คอนโดระดับนี้ ผนังหนาแถมยังบุแผ่นกันเสียงอีกต่างหาก"
อัษฎาเปิดตู้เสื้อผ้า อุรวสาหน้าเสีย ความลับใกล้แตกแล้ว ทันทีที่ประตูเปิดอออก ไม่มีแสงฉานอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้ว! เขาย้ายไปหลบใต้เตียง
"ไม้แขวนเสื้อหล่นนี่เอง" เธอเก็บไม้แขวนเสื้อ ส่งให้พ่อดู
"คืนนี้กลับไปนอนบ้านดีกว่า คุณวสาไม่สบายไม่ควรอยู่คนเดียว"
"วสาจะกลับไปนอนที่บ้านก็ได้...แต่มีข้อแม้ว่าคุณพ่อต้องเชื่อว่าวสาไม่ได้ซุกใครไว้"
อัษฎาจ้องหน้าลูกสาวนิดหนึ่ง
"พ่อเชื่อก็ได้... กลับบ้านกันลูก"
อัษฎาเดินโอบลูกสาวออกไป แสงฉานรอจนได้ยินเสียงปิดประตูห้องถึงออกจากใต้เตียง
"เป็นชู้กับเมียตัวเองเหรอวะเรา"
แสงฉานออกอาการเซ็ง

อัษฎาเดินถือถาดที่ใส่ยาไว้ในถ้วยเล็ก ๆ พร้อมกับแก้วน้ำทานยา เอาเข้ามาให้อุรวสาที่นั่งอยู่บนเตียงนอน
"ทานยาแล้วทานน้ำเยอะๆ พักผ่อนมากๆ อาการจะได้ดีขึ้น"
"ขอบคุณค่ะคุณพ่อ"
อุรวสาหยิบยามาทาน อัษฎาสายตาจับผิด ยังติดใจเรื่องที่คอนโดฯไม่หาย
"พ่อไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณวสาทำกับข้าวเป็น"
"อยู่ซานฟรานคนเดียวมาเจ็ดแปดปีนะคะ ต้องทำอะไรทานเองบ่อยไป"
"จริงเหรอ"
"จริงสิคะ คุณพ่อคะ ยังมีเรื่องอื่นอีกเยอะแยะนะคะ ที่คุณพ่อไม่รู้เกี่ยวกับวสา อย่าเพิ่งตกใจเพราะเรื่องแค่นี้เลยค่ะ"
"หมายความว่าไง"
อุรวสาเริ่มอึกอัก
"ไม่มีอะไรค่ะ วสาขอตัวนอนก่อนนะคะ เริ่มปวดหัวแล้วค่ะ"
เธอทิ้งตัวลงนอนเลย เพื่อจะได้ไม่ต้องตอบคำถามอัษฎา พ่อจ้องมองลูกสาวอย่างสงสัย
"ปิดไฟให้ด้วยนะคะคุณพ่อ"
"จ้ะๆ นอนหลับฝันดีนะลูก"
อัษฎาเดินไปปิดไฟแล้วปิดประตูห้องอุรวสา สีหน้าครุ่นคิด อยากรู้เรื่องของอุรวสาที่คอนโดฯ ให้มากกว่านี้

คืนเดียวกัน อัษฎากับบราลีกำลังจะเข้านอน เขายังหงุดหงิดเรื่องลูกสาวย้ายอยู่ไปคอนโดฯเขาบ่นกับเมีย
"นี่ถ้าผมไม่โทรไป ก็ไม่รู้คุณวสาไม่สบาย บ้านช่องมีไม่อยู่ ออกไปข้างนอกอยู่คนเดียว"
"ลูกโตแล้ว ก็ต้องอยากมีชีวิตของตัวเองค่ะ" บราลีสบโอกาสพูดเรื่องอินทุอร "อัษค่ะ หนูอินเรียนจบแล้ว เราน่าจะส่งหนูอินไปเรียนต่อเมืองนอกนะคะ"
ไดยินเมียพูดอย่างนั้น ของขึ้นทันที
"ส่งไปเพื่อปีกกล้าขาแข็งเหมือนคุณวสาน่ะเหรอ ผมไม่เอาหรอก อยากเรียนต่อ ก็เรียนที่เมืองไทย ได้อยู่ใกล้หูใกล้ตา"
บราลีพยายามหว่านล้อมสามี
"แต่หนูอินไม่ทำตัวเหลวไหลหรอกค่ะ คุณวสายังไปประสบความสำเร็จที่เมืองนอกเลย"
"หนูอินเหมือนคุณวสาซะที่ไหน หัวอ่อนไม่ทันคน ไปอยู่เมืองนอกคนเดียว มีหวังโดนคนไม่ดีหลอก ผมไม่ปล่อยให้หนูอินห่างตัวเป็นอันขาด หนูอินต้องอยู่กับผม วันหน้าแต่งงานก็ให้สามีเข้าบ้าน ถ้ามันทำตัวไม่ดีผมก็ไล่ตะเพิดมันออกไป ผมทะนุถนอมอุ้มชูของผมมา ผมต้องเก็บรักษานางฟ้าตัวน้อยของผมไว้เอง"
อัษฎาร่ายยาวด้วยความห่วงหวงอินทุอร ลูกสาวคนเล็ก ที่เขาถือว่าเป็นสมบัติของตนเอง มองลูกอย่างเด็กเล็ก ๆ และจะมองอย่างนี้ตลอดไป
บราลีหงุดหงิด เลยไม่อยากขัดสามีตอนนี้ เลยเลิกพูดเรื่องส่งอินทุอรไปเรียนต่อเมืองนอก

วันใหม่ ภายในโถงบ้าน อัปสรเดินเข้ามาพร้อมกับปิ่นโตที่เตรียมอาหารเช้ามาให้ภิสิต เธอส่งปิ่นโตให้คนรับใช้
"เอาไปอุ่นในครัว คุณสิตตื่นหรือยัง"
"ตื่นแล้วค่ะ ทำงานอยู่ข้างบน"
ภิสิตเดินลงมาจากโถง ยิ้มแย้มให้อัปสร
"มาแต่เช้าเลยนะครับคุณป้า"
"ให้คนขับรถมาส่งให้สิตน่ะ กลัวว่าวันนี้สิตจะใช้รถ เดี๋ยวทานข้าวต้มหมูซะหน่อยนะ ป้าทำมาให้..."
"ขอบคุณครับป้า"
อัปสรมองหา
"แล้วนี่แม่บุษเค้าไปไหนล่ะ อย่าบอกนะว่ายังไม่ตื่น"
ภิสิตอึกอักไม่กล้าตอบอัปสร เพราะความจริงแล้วบุษบาบัณยังไม่กลับบ้าน หลังจากเมื่อคืนที่ภิสิตเห็นกำลังกอดอยู่กับฝรั่งหนุ่มบนรถเปิดประทุน
เสียงรถแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็วจากหน้าบ้าน แล้วเสียงเบรคเอี๊ยดลั่น!!! พร้อมๆ กับเสียงกระถางแตกกระจาย..
ภิสิตกับอัปสรตกใจหันไปทางเสียง

อัปสรแปลกใจ เดินนำภิสิตออกไปทางหน้าบ้าน

รถสปอร์ตคันเมื่อคืนนี้เสยเข้ากับกระถางต้นไม้ใบใหญ่ของบ้าน แตกกระจายกองอยู่ที่พื้น

บุษบาบัณหัวเราะร่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฝรั่งคู่ขาหัวเราะตามแบบสนุกสนาน
"ว้าว อเมซซิ่ง"
อัปสรแทบช็อก เพราะบุษบาบัณเสื้อผ้าหลุดลุ่ยบ่งบอกได้ชัดเจนว่าไปทำอะไรมา บุษบาบัณคว้าคอฝรั่งมาหอมแก้มซ้ายขวา กอดรัดกันแน่น หันไปโน้มคอเข้ามาหาจนแทบจะจูบปาก
"ซียูทูไนท์...มายสวีทฮาร์ท"
บุษบาบัณกับฝรั่งแยกจากกัน บุษบาไม่แคร์ ไม่รู้สึกที่อัปสรจ้องอยู่
" บ๊ายบาย... ยูอาร์มายเลิฟ"
ฝรั่งกับบุษบาบัณส่งจูบให้กัน แล้วฝรั่งขับรถสปอร์ตแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว
บุษบาบัณเดินก๋าเข้ามาหาอัปสร
"ป้าอัปสร... สวัสดีค่ะ มานานแล้วเหรอคะ"
อัปสรพูดไม่ออก เธอชี้หน้าบุษบาบัณ
"เธอมีชู้"
บุษบาบัณลอยหน้า
"ไม่ใช่ชู้ค่ะ เค้าเรียก คู่นอนบุษหิ้วมาจากผับเมื่อคืน"
ภิสิตปราม
"บุษ... พอเถอะ"
"ทำไมคะสิต ป้าอัปสรสงสัย บุษต้องตอบให้เข้าใจแจ่มแจ้งสิคะ แหม.. นึกว่าคุณจะเล่าเรื่อง ธรรมดาสามัญในชีวิตคู่ของเราสองคน ให้คุณป้ารู้แล้วซะอีก"
"ผู้หญิงอะไร..ชาติตระกูลก็ดี แต่ทำตัวเหมือนผู้หญิงชั้นต่ำ"
"จะต่ำจะสูง...มีใครหนีความต้องการได้เหรอคะ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์นะคะ"
อัปสรโกรธจนแทบทนไม่ได้ บุษบายังไม่วายส่งสายตาเหยียดๆ อัปสร แล้วพูดเน้นย้ำต่อ
"เออ... บุษลืมไป ป้าอัปสรเป็นสาวแก่ ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยรู้ว่ารสชาติชีวิตโลดโผนของหนุ่มสาวมันเป็นยังไง น่าสนุก..น่าเร้าใจแค่ไหน"
อัปสรอ้าปากค้าง บุษบาบัณพูดจาลามกน่าเกลียดมาก
"ว่าแต่...ป้าอัปสรอยากลองซักครั้งมั้ยล่ะคะ"
"หยุดนะบุษ"
อัปสรโกรธจนมือไม้สั่น
"ไว้บุษจะแนะนำให้นะคะแต่ถึงเวลา..อย่ามองข้ามความปลอดภัย"
บุษบาบัณเปิดกระเป๋าหยิบของยื่นให้อัปสร อัปสรรับไว้ก้มดูบนฝ่ามือ เป็น...กล่องถุงยางอนามัย
"ฮะๆๆ"
"เธอ"
อัปสรเป็นลม
"ป้าครับ"
"สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณสามีแค่ในทะเบียนสมรส"
บุษบาบัณเหยียดยิ้มไม่แยแสอัปสร เดินผ่านภิสิตเข้าบ้านไปอย่างไม่แคร์ ภิสิตปราดเข้าไปประคองร่างอัปสรด้วยความเป็นห่วง

ภายในห้องพักในโรงพยาบาล ภิสิตเล่าพฤติกรรมทั้งหมดของบุษบาบัณให้ป้าฟังแล้ว อัปสรหน้าเศร้ามาก สงสารหลานชายจับใจ
"แม่บุษทำตัวอย่างนี้มานานแล้วเหรอ ทำไมภิตไม่บอกป้า"
"ไม่มีผู้ชายคนไหน อยากเอาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของตัวเองไปขว้างทิ้งหรอกครับ"
"หย่าเถอะสิต ถ้าห่วงเรื่องที่ญาติจะไม่พอใจ ป้าจะคุยให้ ทุกคนต้องเข้าใจ"
"ป้าอย่าเล่าเรื่องบุษให้ใครฟังนะครับ"
เสียงเคาะประตูหน้าดังขึ้น ทั้งสองหยุดคุย อินทุอรเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับป้าแต๋วและป้าต้อย ทั้งสามคนตั้งใจมาเยี่ยมอัปสร มีของติดมือมาบ้างเล็กน้อย
"เป็นยังไงบ้างแม่อัปสร แก่แล้วไม่เจียมนะ" แต๋วบอก
"แหม...มาเร็วเคลมเร็วจังนะยะพวกหล่อน"
"พอพ่อสิตโทร.บอกพวกเราก็รีบมาทันที ทำไมเธอถึงเป็นลมล่ะ อัปสร"
ภิสิตชะงักไป อินทุอรเห็นอาการของภิสิตแล้วพอจะนึกเข้าใจได้ไม่ยาก
"เมื่อคืนฉันอดนอนเลยหน้ามืดความดันขึ้นอีก...หมอเลยให้นอนดูอาการ"
"ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้วค่ะ...อินเป็นห่วงแทบแย่"
อินทุอรมองสงสารภิสิต ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องพูดให้เขาคลายเครียดจากเรื่องที่เจอ
"ตาอาสิตหายแล้วเหรอคะ ทำไมไม่ปิดผ้าก็อช"
"ปิดแล้วอ่านหนังสือไม่ถนัดจ้ะ แต่ตอนหยอดตาเมื่อเช้าก็ยังเคือง ๆ อยู่นะ"
"ลงไปให้หมอตรวจเถอะค่ะ"
"อาไม่เป็นไรมากหรอก เดี๋ยวก็หาย"
"ดวงตาบอบบางติดเชื้อง่าย รักษาแต่เนิ่น ๆ จะเป็นการป้องกันไว้ก่อนนะคะ"
อัปสร สะเทือนใจ ทำไมภิสิตไม่ได้ภรรยาแสนดีเอาใจใส่อย่างนี้นะ
"แหม.. หนูอินนี่น่าเป็นนักการทูตโน้มน้าวใจคนเก่งจริงๆ ... ไปหาหมอหน่อยเถอะสิต ...หนูอิน...คุมอาสิตไปหาหมอเลยไป ไม่งั้นไม่ยอมไปหรอก"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวอินมานะคะป้า"
ภิสิตกับอินทุอรออกไป
อัปสรตัดสินใจเด็ดขาด ต้องทำเพื่อหลานชายสุดที่รัก
"ฉันยอมโดนด่าว่าพรากผัวพรากเมีย ก็เมียมันไม่ดี ทำแต่เรื่องบัดสีบัดเถลิง"
ต้อยถาม
"เพ้อเจ้ออะไร นับอายุตัวเองเหรอ"
"แม่แต๋ว แม่ต้อย ฉันจะจับคู่ตาสิตกับหนูอิน" อัปสรบอก
ทั้งสองร้อง "หา"

อัปสรหน้าตาหมายมาด จะจับคู่ให้สำเร็จ ต้อยกับแต๋วทำหน้าเหรอหรา

อ่านต่อหน้า 2

สามใบไม่เถา ตอนที่ 2 (ต่อ)

ที่หน้าห้องจ่ายยาแผนกจักษุ ในโรงพยาบาล อินทุอรกับภิสิตมานั่งรอรับยาอยู่ด้วยกัน

"เห็นไหมคะ หมอยังบอกเลยว่า ถ้าทิ้งไว้อาจจะติดเชื้อได้"
เธอทำเสียงจริงจังใส่ เขายิ้มเอ็นดูกลับมา
"โดนหนูอินดุซะแล้วสิอา"
อินทุอรยิ้มหวาน
"หนูอินเปล่าดุซะหน่อย หนูอินแค่เป็นห่วงอาสิต"
อินทุอรมองภิสิตแบบห่วงจริง ๆ ภิสิตดูอึ้งไปนิดกับความน่ารักของเธอ เสียงเรียกให้รับยา ภิสิตลุกยืน แต่อินทุอรจับแขนดึงเขาเอาไว้
"อาสิตนั่งเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูอินไปจัดการให้เอง"
เธอเดินไปรับยา ภิสิตนั่งมองตามด้วยความรู้สึกดี เมื่อเธอเดินกลับมา เขานั่งที่เดิมเกิดอาการเหมือนเคืองตาขึ้นมา ยกมือขึ้นทำท่าเหมือนจะขยี้ เธอรีบจับมือไว้แบบตกใจ
"ไม่ได้นะคะอาสิต อย่าขยี้ตาสิคะ"
"มันเคืองน่ะหนูอิน"
ทั้งคู่ยังจับมือกันไว้ ภิสิตมองอินทุอรแบบขอความเห็นใจ

อินทุอรยืนบรรจงหยอดตาให้ภิสิตที่นั่งอยู่ ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันแล้ว

อุรวสาเพิ่งตื่นนอน บราลีส่งเสื้อคลุมให้ลูกสาวสวม แล้วแตะหน้าผาก
"ได้นอนเต็มอิ่ม ตัวหายร้อนแล้ว"
อุรวสาหยิบโทรศัพท์มือถือ ขึ้นเช็คข้อความ แต่ไม่เห็นกุญแจคอนโด ก็มองหา
"กุญแจคอนโดวสาหายไปไหนคะคุณแม่"
"ไม่รู้ซีลูก คุณวสาทำหล่นไว้ตรงไหนหรือเปล่า"
เธอคิดนิดหนึ่ง
"ที่ห้องนั่งเล่น"
อุรวสารีบเดินลงไปหากุญแจทันที บราลีมองตาม

บริเวณครัวในคอนโด แสงฉานกำลังคนข้าวต้มในหม้อที่ตั้งอยู่บนเตาไฟ เขาชิมข้าวต้มเตรียมจะเอาไปให้อุรวสาทานเป็นอาหารเช้า เขาฮัมเพลงแบบอารมณ์ดี ทำอาหารแบบคล่องแคล่วสมเป็นเชฟ
เสียงไขประตูห้องประตูเปิดออก แสงฉานทำกับข้าวไปโดยไม่ได้หันมามอง เพราะนึกว่าเป็นอุรวสา
"วสามาแล้วเหรอ... ดีเลย ผมกำลังหาทางเอาข้าวต้มไปให้ที่บ้านอยู่พอดี"
แสงฉานตักข้าวต้มแล้วหันกลับไป จะเดินไปหาเมียที่โถงคอนโด
"ที่รักจ๋า"
แสงฉานกลับต้องชะงักไปทันที ไม่ใช่อุรวสา แต่กลับเป็นอัษฎาที่หน้าถมึงทึง... ไอ้ผู้ชายคนนี้เป็นใคร ! แสงฉานทำตัวไม่ถูก ไปไม่เป็น ได้แต่ยิ้มหน้าเป็นใส่พ่อตา

ห้องนั่งเล่นบ้านอัษฎาอุรวสากับบราลีกำลังช่วยกันหากุญแจคอนโดฯที่วางไว้ แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ น้อย สาวใช้กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ด้านหนึ่ง
"เมื่อคืนวสาวางกุญแจไว้ตรงนี้ ... เห็นกุญแจมั้ยจ๊ะ"
"คุณท่านหยิบไปเมื่อตอนเช้าค่ะ"
"คุณพ่อเอาไปทำอะไร"
เธอแปลกใจ นึกหาเหตุผล แล้วย้อนคิด ... พ่อไม่เชื่อว่า เธอทำกับข้าวกินเอง เธอนึกรู้ทันทีว่าอัษฎาต้องไปที่คอนโดฯแน่นอน
อุรวสาร้อนรน
"วสาขอยืมรถหน่อยค่ะ กุญแจรถคุณแม่อยู่ไหนคะ"
"บนหลังตู้ จะไปข้างนอกก็เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิลูก"
"ไปแค่ปากซอยนี้เองค่ะ"
เธอรีบออกไป บราลีงง ลูกรีบร้อนไปทำอะไร

แสงฉานราดน้ำเกรวี่ลงบนสเต็กเนื้อ อัษฎานั่งหน้าบึ้งตึงที่โต๊ะอาหาร
"ตั้งแต่มาถึง...เธอยังไม่ยอมพูดคุยอะไรกับฉันเลยนะ"
แสงฉานยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารต่อไป จัดผักเรียงในจานอีกจานหนึ่ง
อัษฎาดุเสียงดัง
"จะทำอีกนานมั้ย"
แสงฉานสะดุ้งโหยง ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไง
"เอ้อ.. อีกนิดเดียวครับ นี๊ดเดียวจริงๆ ขอทำให้เสร็จก่อนนะครับ"
"หยุดทำ !มานั่งคุยกัน"
แสงฉานตักมันบด จัดผักใส่จานเป็นอันเรียบร้อย ยกสเต็กไปเสิร์ฟพ่อตา
แสงฉานยิ้มประจบ
"ทานอาหารอร่อย ๆ แล้วค่อยคุยนะครับ"
"เธอใช่มั้ย ทำเป็ดอบไปให้ฉัน"
แสงฉานอึกอักนิดหนึ่งก่อนตอบ
"ครับคุณพ่อ"
"ฉันไม่เคยมีลูกชาย"
แสงฉานใจดีสู้เสือ ยิ้มลูกเดียว
"ผมขออนุญาตครับ"
แสงฉานบริการหั่นสเต็กให้ แถมยังจิ้มเอามาป้อนให้ถึงปาก
"ลองทานสเต็กเนื้อนุ่ม...สักชิ้นนะครับ"
อัษฎาจำต้องกินสเต็ก แล้วเผลอไปเพราะมันอร่อย
" อืม.. เนื้อสุกกำลังดี"
"ผมทำแบบ Medium ครับ"
"เนื้อวัวต้องทำแบบ Medium ทำแบบสุกไม่อร่อย"
"คุณพ่อรู้เรื่องอาหารด้วยเหรอครับ"
อัษฎายังลืมตัว
"พ่อเป็นนักชิมน่ะ ที่ไหนเค้าว่าอร่อยพ่อไปทุกที่" ... แล้วนึกได้ "เฮ้ย! อย่ามาหลอกล่อชวนคุยเรื่องอื่น ... มาทำอะไรที่คอนโดลูกสาวฉัน"
อัษฎาจ้องหน้าเขม็ง รอคำตอบ แสงฉานยืนประสานมือ สงบเสงี่ยม

ใจอยากสารภาพเรื่องแต่งงาน

อุรวสาสวมเสื้อคลุมชุดนอนยืนกระสับกระส่ายรอเข้าคอนโด เธอเข้าไม่ได้เพราะไม่มีการ์ด คนในคอนโดแปะการ์ดออกมาพอดี

อุรวสารีบแทรกตัวสวนเข้าไป วิ่งมาหน้าลิฟต์ คนรอลิฟต์มองที่เธอที่มาทั้งชุดนอน สาวมั่นอย่างเธอไม่แคร์ พอลิฟต์เปิด คนในลิฟต์กำลังจะย้ายออกจากคอนโด ของเต็มลิฟต์ต้องใช้เวลาขน เธอรีบช่วยขนของออกจากลิฟต์จนหมด
อุรวสาบอกกับคนรอลิฟต์
"รออีกตัวนะคะ ดิฉันรีบ"
อุรวสากดลิฟต์ขึ้นไปห้องพัก

แสงฉานกำลังสารภาพความจริงกับอัษฎา
"ผมไม่เคยสบายใจในเรื่องนี้เลยนะครับ ผมเป็นลูกผู้ชายควรทำให้ถูกต้อง แต่กลับทำผิดประเพณีดีงามของไทย ผิดต่อผู้ใหญ่...ผิดต่อทุกๆ คน คุณพ่อครับ.. ผมกับวสา.. เรา..."
อุรวสาเปิดประตูผัวะ ! เข้ามา
"แสง... คุยอะไรกับคุณพ่ออยู่คะ"
"แสงฉาน...เธออยู่กับลูกสาวฉันแล้วใช่มั้ย"
แสงฉานกำลังจะยอมรับ
"ค่ะ วสาอยู่กับแสง"
แสงฉานยิ้มดีใจ เมียยอมบอกพ่อซะที อัษฎาฮึ่ม !โกรธเลือดขึ้นหน้า
"แสงเค้าเป็น...เกย์ค่ะ"
แสงฉานกับอัษฎาหันขวับมองอุรวสาพร้อมกัน
"ที่วสาไม่บอกคุณพ่อเพราะแสงขอให้ปิดเอ้อ..คือ คือทางบ้านแสงเค้าก็ไม่รู้
แสงเป็นรูมเมทวสาตอนอยู่ซานฟราน เราเป็น...เพื่อนสาวกันค่ะ !"
แสงฉานตาโตใส่อุรวสา เป็นทำนองว่าจะเอาอย่างนี้จริงเหรอ แต่อุรวสาทำเป็นไม่สนใจ
"อย่าโกรธวสานะแสง..วสาจำเป็นต้องบอกความจริงทั้งหมดกับคุณพ่อ ไม่อย่างงั้นคุณพ่อจะเข้าใจเราสองคนผิด"
อัษฎาแววตาคาดคั้น
"เมื่อกี้ที่เธอพูดว่า ทำผิดประเพณี ผิดต่อผู้ใหญ่หมายความว่ายังไง"
แสงฉานไม่อยากโกหกพ่อตาอีก เลยไม่ตอบ เมินสายตามองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากพูด
"แสงเค้ารู้สึกผิดที่เกิดมาผิดเพศน่ะค่ะ"
แสงฉานหันขวับมาทำตาโตใส่อุรวสา
"สังคมไทยมองเพศที่ 3 เป็นพวกแปลกแยก ทางบ้านแสงก็ไม่ยอมรับ คุณพ่อคะ...แสงฉานเป็นคนดี คุณพ่ออย่าเอาอคติทางเพศมาตั้งแง่รังเกียจเค้าเลยนะคะ"
อัษฎามองแสงฉานอย่างพินิจพิเคราะห์
"เราเป็นเกย์แน่เหรอ"
แสงฉานได้แต่ยิ้ม ไม่ยอมรับไม่ปฏิเสธ

วันเดียวกัน อันตราเอารูปเวศม์ที่ตัวเองแอบถ่ายหลายรูปมาวางไว้บนโต๊ะ ศศิพิมลดูทีละรูปๆ เป็นรูปในอริยาบถต่างๆ แต่ไม่ได้มีสาวอยู่ด้วย
"แรกๆ ดิฉันก็คิดว่าเค้ามีชีวิตปกติ จนกระทั่งเมื่อวันอังคารที่แล้ว"
เธอวางรูปสุดท้ายลงบนโต๊ะ เลื่อนให้ศศิพิมลดู เป็นภาพของเวศม์กับสาวที่ซื้อรถให้
"เวศม์มีผู้หญิงอื่น"
"ผู้หญิงคนนั้นซื้อสามีคุณด้วยรถป้ายแดงคันนี้"
เธอแตะที่มือศศิพิมลเหมือนต้องการปลอบใจ
"ต้องการให้ฉันทำยังไงต่อไปคะ"
"ตามเวศม์ต่อไป...ฉันอยากรู้ว่าเค้าคบกับใครอีกรึเปล่า ถ้าเงินซื้อเค้าได้จริงๆ ฉันจะได้ทำใจว่าตัวเองคงถูกสามีทิ้ง"
ศศิพิมลทำหน้าขอร้องเหมือนเป็นทุกข์สาหัส อันตรามีสีหน้าเบื่อหน่ายที่ต้องตามชายโฉดคนนี้
ผ่านเวลามาเป็นกลางคืน อันตราเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้ว นั่งอยู่บนเตียงโดยพิงหัวเตียงอยู่ภายในห้อง เธอหยิบรูปของเวศน์ขึ้นมาดูทีละรูปๆ นึกชิงชังในพฤติกรรมเวศน์
"กระจั๊ว ! ทุเรศ"

ผ่านเวลา แต่เธอยังนำสืบเรื่องของเขาเหมือนเดิม
ในร้านกาแฟหรูทันสมัย เธอนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งเอาตัวพิงเก้าอี้คล้ายกำลังตั้งใจฟังอะไรบางอย่าง
ด้านหลัง เธอนั่งหันหลังติดกับโซฟาตัวหนึ่ง บนโซฟาตัวนั้น... เวศม์กำลังนั่งกอดกับสาวสวยคนหนึ่งแบบไม่อายท่าทางเหมือนเป็นคนรัก
"วันนี้ไม่ดื่มกาแฟได้มั้ย...พี่อยากกินอย่างอื่น"
"จะทานอะไรคะ"
เวศน์กอดสาวดึงเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบที่ข้างหูราวกับเป็นคนรัก สาวหัวเราะคิกๆ ระริกระรี้
สาวเรียกบริกร
"น้อง...เช็คบิลจ้ะ"
สาวหยิบกระเป๋าหยิบแบงค์พันมาวาง แล้วเดินกอดออกไปกับเวศม์ เธอหน้าเข้ม ไม่พอใจกับพฤติกรรมเจ้าชู้ให้ผู้หญิงเลี้ยงเป็นอย่างมาก

หน้าบ้านเวศน์ตอนกลางคืน สาวสวยอีกคนขับรถมาส่งเวศม์ ทั้งสองลงมาจากรถ เขากอดสาวคนที่ลงมาส่งที่ประตูบ้าน สาวส่งเงินให้เวศม์เป็นแบงค์พันปึกใหญ่มาก
อันตราจ้องพฤติกรรมนี้ของเวศม์ ตาลุกวาวด้วยความไม่พอใจ

ภายในผับหรูหรา เวศน์กอดกับสาวอีกคนพร้อมๆ กับเต้นรำสนุกสนาน แล้วจึงดึงตัวสาวเข้าไปในห้องน้ำ

เธอตาลุกวาวด้วยความตกใจ

ในฟิตเนส อันตราในชุดออกกำลังกายทะมัดทะแมง ยืนอยู่ที่หน้ากระสอบทราย ทั้งชก ทั้งเตะ กระสอบทรายโครมๆ เหมือนกำลังระบายอารมณ์

"ไอ้ทุเรศ... ไอ้แมงกระจั๊ว... หลอกผู้หญิง เห็นผู้หญิงเป็นทาส ไอ้เลว..."
เธอทั้งเตะทั้งต่อยจนตัวเองหอบโยน
"มัวแต่เตะกระสอบทรายมันจะได้เรื่องอะไร"
อันตราหันขวับมา เห็นเวศม์ในชุดออกกำลังกายเดินยิ้มหล่อเข้ามา เธอตกใจมาก
"วันนี้ไม่ตามผมแล้วเหรอ คุณอันตรา"
"คุณรู้"
"รู้สิ...คุณตามผมอยู่ตลอดเวลา ตามติดทุกเวลาแบบนี้ สนใจผมอยู่ใช่มั้ย"
"บ้ารึเปล่า...ใช้อะไรคิด"
"ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงละ ตามไปทั้งตลาดหลักทรัพย์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ผับ.. โอย ผมภูมิใจในตัวเองจัง หลงรักผมอยู่แน่ๆ ... ฮะๆๆ"
"ไอ้บ้า"
เธอทนไม่ไหว โกรธจัดตรงเข้าชกเวศม์ แต่เขาหลบพ้นอย่างมีชั้นเชิง เธอชกอีก เวศม์ก็หลบอีก ซ้ำยังหัวเราะเยาะชอบใจอีกต่างหาก
"อ๊ะ...ชอบความรุนแรง"
เวศม์หลบได้ทุกดอกจนอันตราเลยเสียหลักจะล้ม เวศม์ดึงเธอเข้ามาหาแล้วหอมแก้ม
"ชกหอม"
อันตราชกอีก เวศม์หลบได้แล้วหอมอีก
"ชกหอม"
อันตราชกอีก เวศม์หลบแล้วหอมอีกครั้ง
" กลิ่นอันตราหอมชื่นใจ กลิ่นอันตราหอมชื่นใจ ฮ่าๆๆ"
อันตราเอามือเช็ดที่แก้มทั้งสองข้าง รังเกียจมาก
"ฮ่าๆๆ ติดใจใช่มั้ย เอาอีกมั้ย"
"ไอ้บ้าๆๆ"
อันตราโกรธมาก ตรงเข้าไปกระหน่ำชกเวศม์แบบไม่ยั้ง คราวนี้โดนเต็มๆ เธอได้ที ชกๆๆ โดนเวศม์เต็มๆ ตัวโยนไปมา เลือดแทบกลบปาก แต่เวศม์ยังหัวเราะชอบใจอยู่อย่างนั้น

อันตราละเมอชกหมอนข้างไปมา ราวกับกำลังชกเวศม์ในฝัน
"ไอ้บ้าๆๆ"
เธอเตะหมอนข้างเต็มแรงจนหมอนข้างไปกระทบกับกรอบรูปหัวเตียงหล่นเพล้ง !!
เธอตกใจตื่นขึ้นมาหน้าตาเหรอหรา มองไปรอบๆ ตัว เห็นรูปถ่ายเวศม์ที่ตัวเองดูค้างไว้ วางอยู่ข้างหมอน
"ไอ้กระจั๊ว...ตามมาหลอนถึงในฝันฉันเลยเรอะ ไอ้คนเลว!"
อันตราจ้องไปที่รูปถ่ายโกรธๆ

สมศักดิ์ฟังอัษฎาเล่าเรื่องอุรวสากับแสงฉานแล้วตกใจ ร้องลั่น
"คุณวสาอยู่กับเกย์ในคอนโด"
"เออ... แต่ไอ้หมอนั่นดูเป็นผู้ชายมากๆ เลยนะไอ้สัก รึฉันดูเกย์ไม่ออกวะ"
"แกปรึกษาถูกคนแล้ว ฉันสแกนเก้งได้"
"เฮ้ย อย่าบอกนะเว้ย แกเป็น..."
"ใช่ !"
"หา !"
"เฮ้ย ไม่ใช่ ฉันมีญาติเป็นเกย์ ดูเกย์ออก"
อัษฎาคิดนิดหนึ่ง
"งั้นเหมาะเลย...แกต้องช่วยฉันพิสูจน์นายแสงฉาน...ว่ามันเป็นเก้งหรือแมนกันแน่"
"ด้วยวิธีไหนวะ"

ภายในคอนโดฯ แสงฉานนั่งเสิร์ชหาร้านอาหารเซ้งต่อในอินเตอร์เน็ต มีหลายทำเล ทั้งเล็กทั้งใหญ่ ท่าทางแสงฉานดูจริงจัง
อุรวสาเดินเข้ามาหยุดดูทางด้านหลัง กอดอกยิ้มตั้งใจจะยั่วสามี เธอเย้าสามีทำเสียงกระเทยจ๋า
"ว่าไงจ๊าหนูแสงฉาน ... หาร้านได้มั้ยฮ้าเพื่อนสาวของวสา"
แสงฉานเล่นด้วย
"กำลังหานะฮ้า .. มีทั้งหญ่าย ทั้งเล็ก แต่ไม่มีที่ไหน ถูกใจแสงสักที่เลยฮ่ะ"
อุรวสาหัวเราะชอบใจ เดินเข้ามากอดแสงฉานที่นั่งอยู่
"เล่นมากๆ ระวังติดใจนะคะแสง"
"ไม่ไหวนะฮ้า... เค้ายังรักยังหลงสุดที่รักอยู่นะฮ้า"
แสงฉานกอดเอวเธอด้วยความรัก ดึงมาหอมแก้ม ยิ้มแย้มรักใคร่
"ทีหลังจะโกหกอะไร ปรึกษาผมก่อนนะ ที่รักดูร้านนี้ซีจ๊ะ น่าเซ้งต่อจริงจริ๊ง"
แสงฉานทำเป็นเกย์กระดกนิ้วก้อย แล้วชี้นิ้วไปที่จอภาพ...อุรวสาหัวเราะ
"เล็กไปค่ะ...แสงต้องทำร้านใหญ่ๆ มีเป็นร้อยที่นั่ง พอธุรกิจเติบโตก็ขยายสาขาไปทั่วประเทศ"
"ฝันของคุณใหญ่กว่าฝันของผม ผมอยากเปิดร้านเล็ก ๆ บรรยากาศสบาย ๆ"
"ถ้าอยากให้คุณพ่อยอมรับ แสงต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ คิดใหญ่เข้าไว้"
แสงฉานไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดอุรวสาแต่ไม่เถียงให้ทะเลาะกัน แสงฉานเสิร์ชหาร้านในเน็ตต่อ
เธอค่อนข้างหงุดหงิดที่สามีไม่มีหัวธุรกิจ เสียงโทรศัพท์มือถืออุรวสาดังขึ้นก่อน
" มีอะไรคะคุณพ่อ" อุรวสาฟังพ่อแล้วเบิกตาโต "อะไรนะคะ...คุณพ่อจะชวนวสากับแสงฉานไปทานข้าวที่บ้าน .. เย็นนี้เหรอคะ"

แสงฉานเห็นอาการภรรยาก็เลิกเสิร์ชหาร้านอาหารทันที

เวลาเย็น แสงฉานกับอุรวสามาถึง อัษฎาออกมารับ แสงฉานยกไหว้นอบน้อม

"สวัสดีครับคุณพ่อ ขอบคุณนะครับที่ชวนผมมาทานข้าว"
"คุณพ่อรู้แล้ว... แสงเป็นเกย์ ไม่ต้องเก็บอาการหรอกจ้ะ"๒
แสงฉานไหว้ใหม่ กิริยาตุ้งติ้ง
"สวัสดีฮ่าคุณพ่อ"
อัษฎามองจับผิด สมศักดิ์พาเกย์มาด้วยหนึ่งคน ท่าทางทั้งคู่ตุ้งติ้งคล้ายผู้หญิง
อุรวสาอึ้ง สมศักดิ์มือไม้ออก
"อา..อาศักดิ์เป็นอะไรไปคะ"
"คืองี้จ้ะ พออารู้เรื่องเพื่อนของคุณวสาจากนายอัษ อาก็ได้คิด อาเป็นรุ่นใหญ่แล้ว ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนรุ่นหลัง"
"ศักดิ์ นี่ไงแสงฉานที่ฉันเล่าให้ฟัง"
"คนนี้เองหรอ" สมศักดิ์จับมือแสงฉาน "แสง..อย่ากลัวไปเลยจ้ะจงเป็นตัวของตัวเอง
Be myself อาก็จะไม่ปิดบังใครอีกแล้วว่าอาเป็น...เกย์"
"อาศักดิ์เป็นเกย์"
"เก็บกดมานาน พอกล้าเปิดตัว อาก็รู้สึกตัวเบาหวิว เหมือนเดินแก้ผ้ากลางอนุสาวรีย์ชัย ..นี่สมชายแฟนอาจ้ะ"
สมศักดิ์ควงแขนสมชาย ส่งสายตาหวานเยิ้มให้กัน
อัษฎาเม้มปากกลั้นหัวเราะ สองผัวเมียกระอักกระอ่วนกับภาพตรงหน้า

ทุกคนดูสมศักดิ์กรีดกรายหยิบจับเครื่องปรุง สมชายผูกผ้ากันเปื้อนให้สมศักดิ์
"แท้งค์กิ้วดาร์ลิ่ง"
"ปีก่อน อาศักดิ์ยังมีแฟนผู้หญิงอยู่เลยนี่คะ"
สมศักดิ์ยกแขนเบ่งกล้าม
"สร้างภาพแมน"
"สงสารผู้หญิง อย่าทำอีกนะคะคุณศักดิ์" บราลีบอก
"ฮ่ะ มาดาม"
"ไม่ว่าอาศักดิ์เป็นยังไง อินก็รัก เคารพอาศักดิ์เหมือนเดิมค่ะ" อินทุอรบอก
ภายในห้องครัว
"ขอบใจจ้ะ เรามาทำไก่อบสมุนไพรกันขั้นแรกต้องยัดไส้สมุนไพร"
สมศักดิ์เอามือล้วงตูดไก่ยัดสมุนไพร
"แหม.. ทวารไก่ตัวนี้ ลึ๊ก..ลึก"
สมศักดิ์ทะลวงตูดไก่ แสงฉานหวาดเสียว เอามือปิดก้นตัวเอง
หน้าห้อง อัษฎาแอบดูอยู่เสียวเหมือนกัน เอามือปิดก้นตัวเอง
สมศักดิ์ดึงมือออก
"อัษบอกว่าแสงเป็นเชฟ โชว์วิธีกระซวกตูดไก่ให้อาดูหน่อยซีจ๊ะ"
"โชว์ฝีมือเลยจ้ะแสง" อุรวสาบอก
"เอางั้นเหรอ"
แสงฉานเกร็งค่อย ๆ เอามือล้วงตูดไก่ ยัดสมุนไพรลงไป สมศักดิ์เล่นทีเผลอ ขยำก้นแสงฉาน หมับ !
"เฮ้ย"
แสงฉานตกใจ เหวี่ยงแขนข้างที่ล้วงตูดไก่ จนไก่กระเด็นหลุด ลอยฟื้บ... ไปตกใส่ตัวอัษฎา
"ขอโทษครับคุณพ่อ"
แสงฉานรีบไปเช็ดเสื้ออัษฎา
"ไม่ต้อง"
"แหมเจ้าอัษ แค่นี้ต้องโมโหโกรธาด้วย"
สมศักดิ์เดินก้นบิดไปเก็บไก่มา อันตรามองสมศักดิ์ยังไงก็ไม่เชื่อว่า สมศักดิ์เป็นเกย์

สมศักดิ์ อัษฎา และ สมชาย กำลังปรึกษาเรื่องแสงฉานอยู่ในโรงรถเก่า
"จากสายตาเอ็กซเรย์สแกนเก้งของฉัน แสงฉานไม่ได้เป็นเกย์" สมศักดิ์บอก
" สมชายว่าไง"
เกย์สมชายขยำก้นสมศักดิ์หมับ !
"อีตุ๊ด"
สมศักดิ์จะเตะเกย์
"อย่าฮ่ะ...อย่า ชายทำให้คุณอัษฎาเห็น ผู้ชายแท้ ๆ เวลาถูกเกย์ขยำก้น ต้องโกรธ ไม่ก็ตกใจกลัวฮ่ะ"
สมศักดิ์ชี้หน้าสมชาย
"ยอมแค่ตอนนี้นะ ถ้าเอ็งขยำก้นฉันอีก โดนเตะแน่"
"ตอนแสงฉานถูกขยำก้น มันตกใจจนสติแตก แสดงว่า.. มันเป็นผู้ชาย" อัษฎาบอก
สมชายสะกิดยิกๆ
"ก้นพี่ศักดิ์แน๊นแน่น"
"อีนี่ !!ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนน้องชายล่ะก็...พ่อเตะก้านคอหัก"
"เราต้องแฉแสงฉาน" อัษฎาบอก
"แกมีแผนอะไรอีก"
อันตราแอบตามมาที่โรงรถ เงี่ยหูฟังพ่อวางแผนแฉแสงฉาน พอดีกับที่อุรวสาเดินมาพอดี หันมามองอันตรา
"เจ้าอัน.. มาทำอะไรตรงนี้"

อันตราทำจุ๊ๆ ปาก ไม่ให้พี่สาวส่งเสียงพูด

สามใบไม่เถา ตอนที่ 2 (ต่อ)

ทั้งหมดทานอาหารเย็นร่วมกัน สมศักดิ์นั่งติดกับแสงฉาน อัษฎาลอบส่งซิกพยักหน้าบอกสมศักดิ์ให้เริ่มแผนได้
 
ใต้โต๊ะ สมศักดิ์แตะต้นขาแสงฉานที่นั่งอยู่ติดกัน แสงฉานสะดุ้งทำช้อนตก
อินทุอรบอก
"อินไปเอาช้อนให้ใหม่ค่ะ"
"ไม่ต้องจ้ะหนูอิน" แสงฉานบอก
แสงฉานก้มเก็บช้อน สมศักดิ์รีบก้มลงไปหาทันที
ใต้โต๊ะ สมศักดิ์ทำยิ้มหวาน ส่งจุ๊บให้ แสงฉานผงะหัวกระแทกโต๊ะ โครม!
"ลงไปทำอะไรกันใต้โต๊ะ" อัษฎาถาม
แสงฉานกับสมศักดิ์โงหัวจากใต้โต๊ะ สมศักดิ์ทำเช็ดปากทำเหมือนเมื่อกี้จูบปากกับแสงฉาน ทั้งโต๊ะอึ้ง
"ซาบซ่าน.... อึ๋ย"
"ไม่ๆๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ"
แสงฉานพัลวันก่อนเลื่อนเก้าอี้ไปใกล้อุรวสา ขอห่าง ๆ จากสมศักดิ์
"เพื่อนลูกนี่แปลกนะคุณวสา กลัวอาศักดิ์ พวกเดียวกันไม่น่ากลัวกันเอง"
"แสงเค้าไม่ได้กลัวค่ะ กระเถิบกลับไป… ไปสิคะ"
แสงฉานจำใจเลื่อนเก้าอี้ไปใกล้สมศักดิ์
ที่ใต้โต๊ะ... สมศักดิ์กางมือออก หมายจับเป้ากางเกงแสงฉาน เช่นเดียวกับสมชายที่ยื่นมือมาจับก้นสมศักดิ์หมับ !เต็มมือ
สมศักดิ์ลุกพรวด ถีบเกย์ตกเก้าอี้...โครม !
"โอ๊ย"
"อีเวร !"
อันตรายิ้มขัน...นึกถึงเมื่อกี้ที่แกล้งเปลี่ยนแผนเพื่อจับผิดอัษฎา

อัษฎายังนั่งกระหยิ่มยิ้มย่อง กะว่า... อีกเดี๋ยวจะแฉแสงฉานเป็นเกย์ปลอม อันตราหน้าตาตื่นมาหาพ่อ
"เป็นเรื่องแล้วค่ะคุณพ่อ ! แฟนอาศักดิ์ถามอัน คุณพ่อเป็นเสือไบรึเปล่า"
อัษฎาหันขวับมองสมชายที่กำลังเดินลั้ลล้าชมบ้าน สมชายยิ้มให้ อัษฎากลัวจนต้องรีบหลบตา
"แฟนอาศักดิ์ยังบอกด้วยว่า อยากขยำก้นคุณพ่อ"
"อึ๋ย...เอามันไกลๆ พ่อ"
"งั้นอันจะไปบอกเค้าว่าคุณพ่อเป็นผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนอันหันมาหา คุณพ่อยกนิ้วโป้งให้นะคะ เพื่อยืนยันที่อันพูด"
"ได้ลูกได้ "
อันตราเดินเข้าไปหาสมชาย
"อาสมชายคะ เราต้องเปลี่ยนแผนนิดหน่อยค่ะ"
อันตรากระซิบสมชาย พลางหันไปยิ้มกับอัษฎา อัษฎายกนิ้วโป้งให้ อันตราอมยิ้ม ทุกอย่างเป็นไปตามแผน

บนโต๊ะอาหารตัวเดิม สมชายเอามือจับสะโพกตัวเองที่โดนถีบ
"มาถีบชายทำไมฮะ ชายก็ทำตามแผนใหม่ของคุณอัษฎา"
"แผนบ้าอะไร"
"ก็แผนจับผิดเก้งต้องสงสัย ที่คุณอัษฎาสั่งมากับน้องอันตราไง"
อุรวสาทำหน้าเอาเรื่องอัษฎา
"วสาสั่งให้เจ้าอันไปหลอกคุณสมชายเอง วสารู้หมดแล้วว่าคุณพ่อกับอาศักดิ์วางแผนจับผิดแสงฉาน"
อัษฎาชี้หน้าลูกคนรอง
"เจ้าอันตัวแสบ"
"เรากลับกันค่ะแสง"
"พ่อไม่ให้ไป" อัษฎาชี้แสงฉาน "ไอ้หมอนี่หลอกว่าเป็นเกย์ มันไม่จริงใจกับเรา"
"แล้วคุณพ่อล่ะคะ จริงใจกับแสงรึเปล่า"
"พ่อทำเพื่อปกป้องลูก"
"ป่วยการจะเถียงกับคุณพ่อ วสาไปดีกว่า"
"ถ้าคุณวสาไป ไม่ต้องเรียกพ่อว่าพ่อ"
อุรวสาหันมาจ้องหน้าอัษฎา อัษฎาชะงักไปนิดหนึ่ง
"อืม.. 2 วันเต็ม ๆ"
"งั้นอีก 3 วัน วสาค่อยเรียกคุณพ่อนะคะ"
อุรวสาเดินออกไปทันที แสงฉานมองภาพเหล่านี้ด้วยความไม่สบายใจ
แสงฉานเรียกตามหลัง
"วสา..อย่าทะเลาะกับพ่อเพราะผมเลย ผมลานะครับ"
แสงฉานไหว้ลาผู้ใหญ่ รวมทั้งสมศักดิ์ ซึ่งละอายใจ ไม่กล้ามองหน้าแสงฉาน
บราลีตำหนิสามีกับสมศักดิ์
"อายุตั้งเท่าไหร่กันแล้ว ทำตัวเป็นเด็กมัธยม"
สมศักดิ์จ๋อย แต่อัษฎาไม่จ๋อย

คืนเดียวกัน แสงฉานที่เปลี่ยนชุดแล้วกำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงคอนโด มองภาพวิวเบื้องล่างเห็นไฟระยิบระยับ เขาไม่ค่อยสบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย อุรวสาเดินเข้ามาพร้อมเครื่องดื่มแก้วใหญ่ ส่งให้
"ขอบคุณครับ"
"โชคดีที่วสารู้เรื่องซะก่อน ไม่อย่างนั้นคุณพ่อต้องจับได้แน่ๆ ว่าแสงไม่ใช่เกย์"
เขาถอนหายใจเบาๆฃ
"เฮ้อ... แล้วเราต้องปิดบังไปอีกนานเท่าไหร่"
"ไม่นานหรอกค่ะแสง"
"ผมไม่สบายใจเลยนะ"
"ถ้าคุณไม่สบายใจ ก็ต้องรีบทำร้านอาหารให้สำเร็จสิคะ คุณพ่อจะยอมรับลูกเขยที่ประสบความสำเร็จเท่านั้นค่ะ"

แสงฉานสีหน้าไม่สบายใจเลย

เช้าวันใหม่ อัษฎาเดินตามอันตราออกมาหน้าบ้าน
 
"เราต้องไถ่โทษเรื่องเมื่อคืนที่ทำพ่อเสียแผน"
"อันทำตามคำสั่งคุณวสา"
"งั้นวันนี้ก็ต้องทำตามคำสั่งพ่อ ไปตามสืบเรื่องนายแสงฉานให้พ่อ พ่อต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นเกย์จริงๆ รึเปล่า"
อันตราเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซต์คันเท่
"วันนี้ไม่ขับรถไปเหรอ"
"ต้องเปลี่ยนค่ะ เพราะเป้าหมายเห็นรถอันแล้ว"
"ขี่ระวัง ๆ ล่ะ"
"อย่าห่วงค่ะคุณพ่อ อันไม่แว้น..."
อันตราอมยิ้ม กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบิ้ลเครื่อง...แล้วขี่ยกล้อออกไปอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ยๆๆ ไหนบอกไม่แว้น..."
อันตราขี่รถหายไปแล้ว อัษฎาเซ็ง ไม่รู้ลูกคนนี้จะช่วยสืบให้มั้ย

เช้าวันดียวกัน เวศม์ในชุดสูทหรูดูภูมิฐานกำลังเดินลงมาจากข้างบน ศศิพิมลรออยู่ท่าทางหงุดหงิดมาก
"พี่ศิเข้ามาได้ยังไง"
"พี่รู้ที่ซ่อนกุญแจหน้าบ้าน เวศม์...พี่สู้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ตรงไหน "
"พี่พูดถึงใคร"
"เวศม์ของพี่ไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน ไปเอารถของเค้าทำไม"
เวศม์แปลกใจมาก ศศิพิมลรู้เรื่องเวศม์ได้รถป้ายแดงจากลูกค้า
"เมื่อคืนผมอดนอน พี่ศิช่วยไปชงกาแฟมาให้ทีครับ"
"เดี๋ยวเราต้องคุยกันให้เคลียร์นะ พี่ไม่อยากให้เวศม์โดนไก่แก่แม่ปลาช่อนหลอก"
ศศิพิมลเข้าครัวไปเพื่อจะชงกาแฟให้
เวศม์สังหรณ์ใจ ค้นกระเป๋า เจอรูปถ่ายเวศม์หลายใบ รวมทั้งรูปเวศม์กับสาวใหญ่
"พี่ศิจ้างนักสืบ"
เขาโกรธที่ศศิพิมลจ้างนักสืบ
"ใส่น้ำตาลกี่ช้อนจ๊ะ"
"2 ช้อนครับ"
เวศม์เก็บรูปถ่ายใส่กระเป๋าตามเดิม

เวศม์ออกมาที่รถ ศศิพิมลตามจับผิดเวศม์เรื่องสาวใหญ่
"ถ้าวันนี้เวศม์นัดกับเพื่อนจริงก็พาพี่ไปด้วยสิ"
"พี่ศิครับ การที่ผมยอมให้พี่มาอยู่ที่นี่ก็เพราะผมสงสาร แต่ไม่ว่าพี่กำลังทำอะไร
อยู่...หยุดเถอะครับ ถ้าไม่อยากให้ความเป็นพี่น้องจบเพียงแค่นี้"
เวศม์ขึ้นรถแล้วขับออกไป ศศิพิมลเศร้า
อันตราจอดมอเตอร์ไซต์ซุ่มหน้าบ้าน ขี่ตามรถเวศม์ออกไปอย่างกระชั้นชิด

เวศม์มองกระจกหลัง เห็นมอเตอร์ไซต์ขี่ตาม
"ไอ้พวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน"
เวศม์เจ็บใจต้องเอาคืนนักสืบตัวดีเลยหักเลี้ยวเข้าซอยไปอย่างรวดเร็ว เธอขี่รถตามเข้าซอย แต่ไม่เห็นรถเวศม์ที่หายอย่างไร้ร่องรอย เธอกลับรถออกถนนใหญ่ เธอโดนรถเวศม์สะกดรอยตามไปห่าง ๆ จนถึงฟิตเนส

อันตราเลี้ยวมอเตอร์ไซต์เข้าไปจอดด้านใน แต่เวศม์จอดรถแอบมองจากข้างนอก พอเธอถอดหมวก เขาก็จำได้ ตัวป่วนที่ผับ นั่นเอง เวศม์เข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากเอาคืนสาวแสบคนนี้

ครู่ต่อมา เวศม์ด้อม ๆ มอง ๆ เดินหาอันตรา ได้ยินเสียงกระสอบทราย ปั้กๆๆ หันไปดู เห็นเธอที่กำลังต่อยกระสอบทราย แรงดีต่อยมวยเป็น เวศม์ยิ้มชอบใจที่เธอห้าวดี ถูกใจ
เธอกำลังสอนหญิง 1 ต่อยมวย
"เห็นมั้ย เวลาต่อย.. เราต้องใช้แรงเหวี่ยงจากหัวไหล่"
เวศม์สะดุดตากับรูปถ่ายหน้าห้อง อันตราขึ้นแท่นรับเหรียญเงินชกมวย
"ได้เหรียญเงินซะด้วย"
พนักงานมาหาเวศม์
"สนใจเรียนมวยหรอคะ"
อันตราได้ยินเสียงหน้าห้อง
"ไม่ครับ"
เวศม์รีบกลับก่อนโดนจับได้ อันตราออกมา ไม่ทันเห็นเวศม์แล้ว
"ใครจะเรียนมวย"
"ไปแล้วค่ะ ไม่คุ้นหน้า ไม่ใช่สมาชิก"
หญิง 1 ตามอันตรามาหน้าห้อง เห็นรูปที่หน้าห้องเช่นกัน
"ครูอันต่อยมวยเก่ง ทำไมถึงได้แค่เหรียญเงินคะ ในรูปน่ะค่ะ"
เธอมองรูปถ่ายตัวเองรับเหรียญเงินนึกถึงอดีตอันเจ็บปวด

อันตราลงนวมซ้อมมวยกับโค้ช ผู้ซึ่งเป็นแฟนด้วย
"อย่าการ์ดตก"
ไม่ทันขาดคำ อันตราการ์ดตก โดนแฟนหนุ่มต่อยเสยคางเบา ๆ
"ว้า… โดนอีกแล้วอันต้องแพ้แน่ ๆ พี่แมน"
"ได้มนต์จากพี่ ชนะแน่นอนครับ"
แฟนหนุ่มเป่ากระหม่อมอันตรา แล้วจุ๊บหน้าผาก 1 ที เชียร์ลีดเดอร์ซ้อมอยู่ใกล้ ๆ มองอันตราเป็นตาเดียว เธออายมาก
"พี่แมนน่ะ"
"ไม่เห็นต้องอายเลย เรารักกัน"
"ทำไมพี่แมนไม่ไปรักผู้หญิงหวานแหวว แบบเชียร์ลีดเดอร์พวกนั้นคะ"
"พี่รักอัน ที่อันเป็นแบบนี้ครับ"
อันตรามองเทิดทูนแฟนหนุ่ม รักมาก

วันแข่งมวยภายในมหาวิทยาลัย ยกสุดท้าย อันตราไล่ต่อยคู่ต่อสู้ กองเชียร์ร้องเฮ ตามจังหวะออกหมัด พ่อแม่พี่น้องยกพลมาเชียร์กันหมด
"อย่างนั้นลูก ต้องอย่างนั้น"
ระฆังหมดยก เธอเข้ามุม พี่เลี้ยงให้น้ำ
"พี่แมนล่ะ"
พี่เลี้ยงบอก
"ไม่เห็นเลย"
อัษฎามาหาลูกข้างเวที
"ยกสุดท้ายแล้ว ลูกชนะใส ไม่ต้องโหม"
"เห็นมั้ยคะคุณพ่อ อันไม่ผิดสัญญา กำลังจะคว้าเหรียญทองมาให้คุณพ่อ"
"พ่อจะเอาใส่กรอบฝังเพชรเลยลูก" อัษฎาปลื้มสุดๆ
ระฆังดัง อันตราสาวเท้าก้าวหาคู่ต่อสู้ก่อน รัวหมัดต่อย อยู่ ๆ เธอก็เห็นแฟนหนุ่มจูงมือเชียร์ลีดเดอร์เข้ามาอันตราการ์ดตก โดนคู่ต่อสู้ชกหน้าเต็ม ๆ เธอน็อกร่วง กรรมการนับ
อัษฎาไม่รอกรรมการนับถึง 10 ขึ้นเวทีไปดูอาการลูก

"เจ้าอัน เป็นอะไรมั้ยลูก"

กรรมการดูอาการอันตรา มึนตึ๊บ ชกต่อไม่ไหว ยกมือให้คู่ต่อสู้ชนะ กองเชียร์อีกฝั่งเฮ
 
อินทุอรที่เชียร์อยู่บนอัฒจรรย์กับบราลีและอุรวสา หันไปเห็นแฟนอันตรากับแฟนใหม่
"นั่นแฟนพี่อันนี่คะ มากับแฟนใหม่"
อุรวสาโมโหแทนน้อง เดินไปเอาเรื่อง
"นอกใจน้องฉันยังเลวไม่พอรึไง ต้องควงแฟนใหม่มาเย้ยวันสำคัญของน้องฉันอีก"
"อย่าไปยุ่งกับเค้าเลยคุณวสา ไปดูเจ้าอันเถอะ" บราลีบอก
แม่กับพี่น้องมาขอบเวที ด้วยความเป็นห่วง
อันตราโหนกแก้มเขียวปั๊ด ตัวก็เจ็บ ใจก็เจ็บ มองแฟนหนุ่มโอบเอวแฟนใหม่ออกไป
"ใครไม่รักลูกก็ช่างเค้า พ่อรักลูก รักที่สุดในโลก"
"คุณพ่อคะ...ถ้าอันไม่เจอผู้ชายดี ๆ อย่างคุณพ่อ อันจะไม่รักใครอีกเลย"
อันตราน้ำตาคลอด้วยความแค้นใจในอ้อมกอดพ่อ

อันตราจดจำวันอันเจ็บปวดฝังใจ
"ครูอันโกรธใครคะ"
"จำไว้นะ ถ้าถูกผู้ชายเจ้าชู้รังแกอัดมันเลย "
อันตราเดินฉับ ๆ ไปเตะต่อยกระสอบทรายป้าบๆๆ เหมือนเก็บกดมาจากไหน เธอเตะจนหมดแรง แววตาเศร้านึกถึงความหลัง

อันตรานั่งทอดอารมณ์อยู่คนเดียวในสวน ซึมผิดตา อีกมุมหนึ่งของสวน ทุกคนในครอบครัวพากันมาแอบดูเธอ
"เอายังไงดีคะคุณ เจ้าอันปากบอกไม่เป็นไร แต่ก็ซึมไปหลายวันล่ะ" บราลีบอก
"ไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่น อยากกลับไปตั้นหน้ามันนัก"
อัษฏาหงุดหงิดโมโหแทนลูกไม่หาย
อุรวสาบอก
"เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะค่ะคุณพ่อ ตอนนี้วสาว่าเรามาหาทางให้เจ้าอันดีขึ้นก่อนดีกว่า"
ทุกคนมองหน้ากัน นิ่งคิดว่าจะทำยังไงดี
"อินคิดออกแล้ว"
อินทุอรอมยิ้ม คิดอะไรดี ๆ ออก
อันตราถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนลุกยืน แต่พอหันหลังกลับ สิ่งที่เห็นคือ อุรวสา อินทุอร และอัษฏา ในมือมีพู่เชียร์ถืออยู่ อัษฏายิ้มแฉ่ง ก่อนเป็นต้นเสียง
"วี๊ด... บึม"
แล้วทั้งสามคนก็ร้องเพลงเชียร์ ฮูเล ๆ ฮูเล ฮา ฮา พร้อมออกท่าเชียร์ลีดเดอร์ มีบราลียืนยิ้มอยู่อีกทาง อันตราตาค้าง ก่อนหัวเราะคิกคักออกมา
คนที่เต้นอยู่หยุดเต้น หัวเราะตาม ๆ กัน ก่อนตรงเข้ามาหาอันตรา บราลีเดินเข้ามาร่วมวง
"พี่อันยิ้มแล้ว"
อัษฏากอดไหล่อันตราไว้
"ลูกสาวพ่อ หัวเราะได้แล้วนะลูก"
อุรวสาบอก
"พวกเราลงทุนขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่หัวเราะนี่ มีงอนนะ"
อันตราหัวเราะขำ เปลี่ยนเป็นสีหน้าซึ้งใจ
"ขอบคุณค่ะ"
"กลับมาเป็นเจ้าอันคนเดิมได้แล้ว ไอ้คนหลายใจคนนั้นมันไปมีความสุขอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่การที่อันมีความทุกข์ ซึมเศร้าเสียใจ ลูกรู้ไหมว่า ทุกคนในครอบครัวก็ร่วมทุกข์ไปกับลูกด้วย" บราลีบอก
"ลูกเจ็บพ่อก็เจ็บ ถ้าอยากให้พ่อมีความสุข ลูกทุกคนก็ต้องใช้ชีวิตให้มีความสุข เข้าใจไหมลูก"
อัษฏากวาดตามองลูกทุกคนด้วยความรัก สามสาวยิ้มให้พ่อ ก่อนพากันกอดกันกลมทั้งห้าคน
ครอบครัวที่คอยเป็นกำลังใจทำให้อันตราผ่านวันที่เจ็บปวดมาได้

วันเดียวกัน อินทุอรเลือกซีดีเพลง เตรียมเปิดสอนบัลเล่ต์ วันนี้เป็นคอร์สนักเรียนโต วัยรุ่นหญิงมากับพ่อ
"มาคนแรกเลย" เธอไหว้พ่อวัยรุ่นหญิง "สวัสดีค่ะคุณพ่อ ... ปิดเทอมนี้จะเรียนกับครูอินตัวต่อตัวเหมือนเทอมที่แล้วหรือเปล่าคะ"
"ปิดเทอมนี้จะไป Take course ภาษาอังกฤษที่อเมริกาค่ะครูอิน หนูไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ"
วัยรุ่นหญิงหิ้วกระเป๋าใส่ชุดบัลเล่ต์ไป
"ไม่ห่วงน้องเหรอคะ ไปเมืองนอกคนเดียว"
"อยู่บ้านก็เป็นลูกแหง่ครับ ไปอยู่เมืองนอก ได้ทำอะไรเองมั่ง โตแล้ว"
"ดีจังเลยค่ะ"

อินทุอรรู้สึกดีที่พ่อคนนี้ ยอมปล่อยลูกสาวให้ออกไปผจญโลกกว้าง ผิดกับพ่อของเธอ

เมื่อ 2 ปีก่อน อินทุอรกำลังจะไปสนามบิน เพื่อเดินทางไปอเมริกา พ่อแม่จะไปส่ง คนใช้ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ อัษฎาพร่ำสั่งด้วยความเป็นห่วง)
 
"ถึงโน่นแล้วโทร.มาหาพ่อนะลูก แล้วเพื่อนหนูอินจะมารับแน่รึเปล่า ไม่ใช่เบี้ยวไม่มาล่ะ เอาบัตรเครดิตที่พ่อให้ไป รูดซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยเลยนะลูก"
บราลีเอือมสามี ห่วงลูกอย่างกับลูกเป็นเด็กเล็กๆ
"หนูอินโตแล้ว เพื่อนไม่มารับ ก็นั่งรถไปหาคุณวสาที่ซานฟรานได้"
"ขอบคุณคุณพ่อมากนะคะที่อนุญาตให้อินไปหาเพื่อนที่อเมริกา"
อินทุอรกราบอกพ่อ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พ่อปล่อยให้เธอเดินทางไกลพียงลำพัง

ณ อพาร์ทเม้นท์ที่แอลเอ อเมริกา เมื่อ 2 ปีก่อน อินทุอรอาบน้ำเสร็จ ใส่เสื้อคลุมออกจากห้องน้ำ เห็นช่างกำลังซ่อม Heater เพื่อนตกใจที่อินทุอรอาบน้ำเสร็จเร็ว
"อะ..อ้าว.. ไม่สระผมเหรออิน"
"หนาว...Heater เสียอีกแล้วเหรอ"
อินทุอรมองด้านหลังช่างซ่อมHeater เอ๊ะ..! คุ้นตามาก เหมือนเคยเห็นมาก่อน อินทุอรไปดูใกล้ๆ ช่างหันหน้าหลบ อินทุอรเดินวนรอบช่าง จะมองหน้าให้ได้
"Who are U ? "
อัษฎาถูกต้อนเข้ามุมอับ จำต้องเปิดเผยตัวเอง ยิ้มแป้นให้ลูก อินทุอรหน้าเหวอ อึ้งสุดๆ "พ่อ..!"
"พ่อห่วงหนูอิน เลยตามมาดูแลหนูน่ะลูก พ่อให้เพื่อนหนูอินเช่าห้องติดกันให้"
อินทุอรพูดไม่ออก พ่อตามเธอมาถึงอเมริกา ไม่ยอมปล่อยเธอจริง ๆ

ที่โรงเรียนสอนบัลเล่ต์ อินทุอรหน้าเศร้า พ่อไม่เคยปล่อยให้เธอได้ใช้ชีวิตเรียนรู้โลกกว้างด้วยตัวเอง เธอเป็นตุ๊กตา ที่พ่อต้องอุ้มไปไหนมาไหน ไม่ยอมให้ตุ๊กตาตัวนี้มีชีวิต
เธอน้ำตาคลอเศร้าใจกับชีวิตในกรงของตัวเอง
เสียงโทรศัพท์ดัง อินทุอรกะพริบตาเร็ว ๆ ให้น้ำตาเหือดแห้ง ทำน้ำเสียงสดใส
"มีอะไรให้อินรับใช้คะป้าอัปสร"

ภิสิตมาหาอัปสร พอเข้าห้องโถงเห็นกระดาษโอริกามิพับเป็นนกกะเรียนแขวนทั่วห้อง
อินทุอรนั่งพับกระดาษอยู่กลางห้อง เงยหน้ามาเห็นภิสิต
"สวัสดีค่ะอาสิต"
"สวัสดี ทำอะไรอยู่"
ภิสิตเดินเข้ามาดู
"อินจำวิธีพับกบไม่ได้ อาสิตสอนอินได้มั้ยคะ"
อินทุอรยิ้มหวานให้ ภิสิตยิ้มตอบ นั่งลงข้างอินทุอร ภิสิตพับกระดาษช้า ๆ ให้อินทุอรพับตาม
"อาสิตคะชีวิตยังมีเรื่องดี ๆ อีกเยอะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกมองมุมไหนนะคะ"
เธอไม่พูดเรื่องบุษบาบัณ แต่เขารู้ว่าเธอปลอบใจเรื่องอะไร
"ขอบคุณนะหนูอิน"
อินทุอรมองภิสิตอย่างเห็นใจ
"หนูอินพับผิด"

ภิสิตแกะกระดาษออก สอนอินทุอรพับใหม่

สามใบไม่เถา ตอนที่ 2 (ต่อ)

พวกป้า ๆ แอบดูอยู่หน้าห้อง
 
"ต๊าย น่ารักจังเลยเธอ" แต๋วบอก
"อย่างน้อยหนูอินก็ช่วยให้ตาสิตหายเครียด สบายใจขึ้น"
"พ่อสิตไม่สบายใจเรื่องอะไรเหรอ" ต๋อยถาม
"เรื่องงานน่ะ"
อัปสรพูดพลางหันไปมองภายในห้อง เห็นทั้งคู่นั่งพับกระดาษข้างกัน ภิสิตมีความสุข ลืมปัญหาครอบครัวไปชั่วขณะ

คืนเดียวกัน ภิสิตเพิ่งถึงบ้าน เดินเข้ามานั่งพักบนโซฟา หยิบนกกระดาษจากกระเป๋าเสื้อขึ้นมาดู ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นึกถึงคนพับ
"กิ๊กให้มาเหรอ"
ภิสิตหันไปมอง บุษบาบัณแต่งตัวสวยเฉี่ยว กำลังจะออกไปเที่ยวกลางคืน เขาไม่ตอบ แต่ถาม "ไปไหนอีกแล้ว"
"สนใจทำไมบุษกับคุณต่างคนต่างอยู่.. ต่างคนต่างนอนมานานแล้ว"
"คืนนี้จะกลับกี่โมง"
"เช้า"
บุษบาบัณแย่งนกกระดาษมาจากมือภิสิต มองดูแล้วยิ้มๆ
"คิดจะเล่นชู้แข่งกับบุษเหรอ หน้าคุณตอนมองนกกระดาษเหมือนคนกำลังตก
อยู่ในความรัก"
ภิสิตตกใจ เค้ากำลังตกหลุมรักอินทุอรงั้นเหรอ !?
"อย่าพูดพล่อย ๆ"
ภิสิตแย่งนกกระดาษมาจากมือบุษบาบัณ
"งั้นทำไมต้องร้อนตัว เราอยู่กันมานานจนรู้จักกันทุกเรื่อง คุณทำหน้าอย่างนี้
กำลังคิดอะไร บุษรู้หมดแหละ"
"อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเองW
ภิสิตเดินออกไปทันที บุษบาบัณมองตามอย่างสงสัย
" จะเอาใครก็ให้มันเหมาะสมนะ บุษไม่อยากขายหน้า ฮึๆ"
บุษบาบัณออกแนวหึงหวงภิสิต ถึงไม่รัก แต่ถือว่า ภิสิตเป็นของ เธอ

ภิสิตเข้าห้อง ตกใจตัวเองไม่หาย... นี่เขาเผลอใจหลงรักอินทุอรหรือ
"ไม่...เราไม่ได้คิดอะไรกับหนูอิน"
ไล่เรียงความทรงจำตั้งแต่งานวันเกิดของอัษฎา... จนถึงพับกระดาษโอริกามิ ก็ยอมจำนน ว่าหลงรักอินทุอรเข้าให้แล้ว เขาถอนหายใจยาว ตัดสินใจเก็บนกกระดาษใส่ลิ้นชัก ไม่อยากเห็นอีก
นั่งจมอยู่กับความรู้สึกผิด ไปเผลอใจไปหลงรักเด็ก

ภายในห้องประชุม บริษัทพงษ์ชัยในวันใหม่ เขาเชิญอุรวสากับอัษฎามาพบที่บริษัท ทั้งคู่ต่างมองหน้าและไม่สบอารมณ์นัก เพราะยังคาใจเรื่องพ่อจับผิดแสงฉานเมื่อวันก่อน
"ผมตกลงให้คุณอุรวสารีโนเวทโรงแรมที่เกาะช้าง"
อุรวสายิ้มพอใจ ในขณะที่อัษฎามองหน้ากันกับสมศักดิ์ ท่าทางไม่ค่อยพอใจนัก พงษ์ชัยนึกรู้
"ส่วนคุณอัษฎา... ผมมีโปรเจ็กใหม่ สร้างโรงแรมที่พังงา"
"ก็ดีครับ วินวินทุกฝ่าย"
พงษ์ชัยบอกกับอุรวสา
"จองตัวคุณอุวรสาตกแต่งโรงแรมที่พังงานะครับ"
"ดิฉันไม่สะดวกใจร่วมงานกับบริษัทที่รับก่อสร้างค่ะ"
อุรวสาปรายตามองพ่อ
"แล้วจะมาคุยรายละเอียดกับคุณพงษ์ชัยวันหลังนะคะ สวัสดีค่ะ"
อุรวสายกมือไหว้ลากลับโดยไม่มองหน้าพ่อเลย อัษฎามองตามแล้วขุ่นใจหันไปบอกพงษ์ชัย
"ผมลานะครับ"
อัษฎาตามลูกไปติดๆ สมศักดิ์ยิ้มแหยๆ บอกกับพงษ์ชัย
"อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น จริง ๆ พ่อลูกคู่นี้เค้า รักกันมา"
สมศักดิ์กัดฟันพูดแล้วตามออกไปอีกคน

ที่จอดรถบริษัทพงษ์ชัยสองพ่อลูกกดรีโมทรถพร้อมกัน จอดรถคู่กัน
"คุณวสาขับรถตามพ่อกลับบ้าน"
"วสาจะกลับคอนโด"
อัษฎายืนขวางหลังรถอุรวสาไม่ให้ไปไหน อุรวสายืนจ้องไม่ยอมเช่นกัน
"เลือกเอานะคะ...จะให้กลับคอนโดหรือจะให้วสากลับไปทำงานที่อเมริกา"

ในห้องประชุมเดิม อนุวัติส่งไอแพดที่มีประวัติและรูปถ่ายของอุรวสาและอัษฎาให้พงษ์ชัยดู พงษ์ชัยวาดนิ้วดูประวัติไปมาด้วยความสนใจ
"คุณอุรวสาเป็นลูกแท้ๆ ของคุณอัษฎา มีสิทธิในสมบัติของพ่อทุกอย่าง"
พงษ์ชัยคิดนิดหนึ่ง
"ผู้หญิงคนนั้นมีค่าเป็นหมื่นล้าน"
พงษ์ชัยเจ้าเล่ห์ หมายมาดจะจีบอุรวสาเป็นแฟนให้ได้เพื่อเงิน

อุรวสาจอดรถหน้าคอนโดฯหอบงานลงจากรถ พอดีกับที่แสงฉานหิ้วของสดเต็มมือ กลับจากจ่ายตลาดพอดี
"ที่รักจ๋า"
"จะทำอาหารเลี้ยงทั้งกองทัพเหรอคะแสง"
"เลี้ยงต้อนรับที่รักกลับมาบ้านไงจ๊ะ ผมรู้ว่ายังไงวันนี้ที่รักก็ต้องหนีพ่อมานอนที่นี่แน่ๆ เพราะทนคิดถึงสามีสุดเลิฟไม่ไหว"
"คุณสามีก็คิดถึงคุณภรรยาไม่แพ้กันหรอกน่า"
ทังคู่กอดกันแสดงความรัก อันตราที่แอบอยู่ที่ด้านหนึ่งหน้าคอนโดถือกล้อง... ในวิวฟายเดอร์ แชะ..แชะ..
"คุณวสาโกหกคุณพ่อ พี่แสงฉานไม่ได้เป็นเกย์"

อันตราครุ่นคิด ยกกล้องถ่ายรูปทั้งสองคนอีกสองสามช็อต

บริเวณห้องนวดหน้าสปาหรู บุษบาบัณนอนให้พนักงานนวดหน้า
 
"แฟนเธอเป็นยังไงบ้าง ไม่เห็นพูดถึงเลย"
ศศิพิมลนอนนวดหน้าเตียงข้าง ๆ ทั้งสองสาวเป็นเพื่อนกัน
ศศิพิมลโกหก
"พงษ์ชัยเค้าก็แสนดี เป็นพ่อบุญทุ่มเหมือนเดิมแหละจ้ะ"
"คืนนี้ฉันต้องเด่นที่สุด นางพญากำลังจะกลับคืนสู่บัลลังก์"
ศศิพิมลพูดเอาใจบุษบาบัณ
"พอบุษไปเมืองนอก ก็ไม่มีสาวสังคมคนไหนโดดเด่นเท่าบุษซักคน"
"ยุคนี้ไฮโซเกิดใหม่เยอะ ก็แค่รวยไปโมหน้า…สวยศัลยกรรม ชาติตระกูลก็ไม่มี
ดีกรีเป็นแค่ลูกพ่อค้า"
"ใครจะเพียบพร้อมเหมือนบุษล่ะ ชาติตระกูลก็เลิศ รวยก็รวย เรื่องสวยก็เป็น
ที่หนึ่ง"
บุษบาบัณยิ้มรับ หลงตัวเองสุด ๆ

บุษบาบัณกับศศิพิมลนอนขัดผิว
"บุษไม่ได้ออกงานสังคมที่เมืองไทยตั้งหลายปี ฉันไปเป็นเพื่อนนะ เธอจะได้มีเพื่อนคุย"
"ฉันจะควงสิตไปด้วยกัน ต้องรักษาภาพลักษณ์ภรรยานักการทูตซะหน่อย แล้วอีกอย่าง...งานนี้เค้าให้เข้าได้เฉพาะแขกที่ได้รับบัตรเชิญ"
"โทรหาเจ้าของงานให้ทีสิ ฉันอยากไป"
"ให้แฟนเธอโทร.สิ คุณพงษ์ชัยออกจะกว้างขวาง เห็นออกงานสังคมบ่อย"
"ไม่อยากกวน เค้างานยุ่งมาก"
"คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ คุณพงษ์ไม่ได้จริงจังอะไรกับเธอนักหรอกถึงไม่เคยพาเธอออกงาน ศศิ...เธอควรจะหาคนใหม่ซะก่อนที่จะแก่ไปกว่านี้ ไม่อย่างนั้นก็โดนกินฟรีไปเรื่อยๆ จนหมดอายุการใช้งาน"
ศศิพิมลเจ็บจี๊ด หน้าบึ้ง ไม่ด่าบุษบาบัณ เกรงใจที่เป็นไฮโซ ขณะที่บุษบาบัณไม่แคร์ ไม่ใส่ใจความรู้สึกใครทั้งนั้น

อัษฎาดูรูปถ่าย ร้องจ๊าก !
อัษฎาถาม
"เฮ้ยๆๆ มันทำประเจิดประเจ้อขนาดนี้เลยหรอลูก" แ
"มีช็อตนึง จูบปากดังกันจ๊วบ โชคดีที่อันถ่ายไม่ทัน ไม่งั้นล่ะก็ ต้องเป็นภาพ
สยองแห่งปีเลยค่ะ"
รูปถ่ายในมืออัษฎาหลายใบ เป็นรูปแสงฉานจับมือขยำก้นผู้ชายคนหนึ่ง หอมแก้มกันบ้าง กอดกันบ้าง ถูกเนื้อต้องตัวกันบ้าง ... ราวกับเป็นคนรัก
อัษฎาที่มองภาพเหล่านั้นด้วยสายตากระอักกระอ่วนใจ พะอึดพะอม
"อ้วกก"

ย้อนไปก่อนหน้านี้ ยามที่คอนโดฯ ถูกนำมาชุบตัวจนหล่อ แสงฉานกับยามยืนจับมือกัน ให้อันตราถ่ายรูป
"ชิด ๆ หน่อยค่ะ พี่แสงจับก้นพี่ยามด้วย"
"เอาแค่สบตากันก็พอมั้งครับ"
"อยากให้คุณพ่อเชื่อ ก็ต้องทำให้สมจริงค่ะ"
อุรวสาบอก
"กลั้นใจทำ ๆ ไปเถอะค่ะแสง"
แสงฉานจับก้นยาม ทำตาหวานใส่กันปิ๊ง ๆ อันตราถ่ายรูป
"พี่ยามหอมแก้มพี่แสงค่ะ"
"บ่ไหวแล้วเด้อครับ"
"ให้ค่าจ้างเพิ่มอีก 5 ร้อย"
ยามหอมแก้มแสงฉาน แสงฉานแทบอ้วก
"สองคนทำหน้าเคลิ้ม"
แสงฉานฝืนทำหน้าเคลิบเคลิ้ม อันตรากำกับถ่ายรูป

อัษฎาวางรูป ทนดูไม่ไหว ท่าทางเหมือนจะคลื่นไส้
"ไม่ไหว...ทนดูไม่ไหวแล้ว"
"เลิกจับผิดคุณแสงได้แล้วนะคะ"
อัษฎาคิดนิดหนึ่ง
"ไม่... จับตามองไอ้แสงฉานต่อไปนะเจ้าอัน พ่อยังไม่ไว้ใจ"
"ทำไมล่ะคะ"
"หมอนั่นอาจเป็นเสือไบ ได้ทั้งผู้ชายทั้งผู้หญิง ยังไงพ่อจะจับตาดู พ่อไม่ปล่อยให้ลูกสาวคนโตต้องใช้ชีวิตกับผู้ชายที่น่าสงสัยแบบนั้นเป็นอันขาด"
อันตราส่ายหัวดิก ขนาดนี้แล้ว พ่อยังไม่ไว้ใจแสงฉาน

ย้อนกลับไป ในวันกำกับถ่ายภาพ อันตราดูรูปถ่ายแต่งงานอุรวสากับแสงฉานในห้อง แล้วชี้หน้า
"ถือโอกาสไม่บอกผู้ใหญ่เรื่องแต่งงาน ไม่คิดจริงจังกับพี่สาวฉันใช่มั้ย"
"พี่จะไปกราบเท้าขอขมาพ่อแม่เดี๋ยวนี้ ถ้าวสาอนุญาต"
อันตราจ้องลึกเข้าไปในดวงตาแสงฉาน จับพิรุธ
"ฉันเห็นผู้ชายโกหกมาเยอะ พี่แสงก็ดูจริงใจดี"
"พี่เลือกคนไม่ผิดหรอกเจ้าอัน แสงเป็นคนดีมาก"
"ยินดีด้วยนะคะคุณวสา ขอให้มีความสุขมาก ๆ มีหลานให้อันอุ้มเร็ว ๆ ด้วย ส่วนพี่แสง...ถ้าทำคุณวสาเสียใจล่ะก็ .. โดน"
"ถ้าพี่ทำร้ายวสา..ก็เท่ากับทำร้ายตัวเอง เพราะวสาคือหัวใจของพี่"
แสงฉานกุมมืออุรวสา อันตราดีใจ เห็นแสงฉานรักพี่มาก
"เจ้าอัน อย่าบอกคุณพ่อเรื่องที่พี่แต่งงานแล้วนะ"
"ถึงอันไม่บอก...คุณพ่อก็ต้องตามตอแยพี่สองคนไม่เลิก เราคงต้องหาทางทำให้คุณพ่อเชื่อว่าพี่แสงเป็นเก้งกวางจริง ๆ"

อันตราขบคิด จะทำอย่างไงให้พ่อเลิกวุ่นวายกับชีวิตคู่พี่สาว

โต๊ะหัวเตียง ภาพถ่ายแสงฉานกับยามที่แกล้งถ่ายมาหลอกอัษฎา ถูกโยนลงมากระจายที่โต๊ะ
 
เธอทิ้งตัวลงนอนที่เตียง สีหน้าไม่สบายใจนัก
"สร้างเรื่องขนาดนี้ ยังไม่เชื่ออีกรึว่าพี่แสงเป็นเกย์ เฮ้อ..."

บุษบาบัณควงภิสิตเข้างานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครีมจากฝรั่งเศส... Jeanne ( ฌองค์ แปลว่า เยาว์วัย)ในห้างหรู กลางกรุงเทพฯ เวลากลางคืน
หญิง 1บอก
"ขอบคุณนะคะที่ให้เกียรติมาร่วมงาน ท่านภิสิตยังภูมิฐานเหมือนเดิม ส่วนคุณบุษก็สวยสง่าไม่เปลี่ยนเลย"
บุษบาบัณเชิดหน้า ชูคอระหง มั่นใจสุด ๆ รู้สึกตัวเองเด่นกว่าใครๆ
ตากล้องรุมถ่ายรูปภิสิตกับบุษบาบัณ เธอวางท่วงท่าสง่า ยิ้มสวย...
บุษบาบัณกระซิบพูดกับภิสิต
"ยิ้มบ้างก็ได้นะคะ ทำให้คนอื่นเค้าเชื่อหน่อยว่า เราเป็นสามีภรรยาที่รักกันมาก"
อยู่ ๆ ตากล้องก็ยกขบวนไปรุมถ่ายรูปแขกเพิ่งมาถึง บุษบาบัณเหวอไปทันที หันมองไปเห็นอินทุอรมากับบราลี อินทุอรสวยโดดเด่นมากออร่ากระจาย
ตากล้องรุมถ่ายรูปแม่ลูกคนสวย บราลีหลบให้ตากล้องถ่ายรูปเดี่ยวของอินทุอร
ภิสิตเผลอมอง เผลอใจหลงรัก เขารีบดึงสติกลับมา
"เข้าไปในงานเถอะบุษ"
"ยังค่ะ"
บุษบาบัณจ้องอินทุอรเขม็งด้วยสายตาพิฆาต ที่เด็กคนนนี้แย่งความสนใจไปหมด

ภิสิตยืนหลบมุมมองอินทุอรคุยกับคน พยายามเก็บกดความรู้สึกเต็มที่ เธอจะมาหาภิสิต แต่เขารีบทำทีเป็นรับโทรศัพท์ ไม่อยากคุยด้วย อินทุอรเปลี่ยนใจไม่มาหา
"หนูอิน ไปสวัสดีเพื่อนแม่หน่อยสิจ๊ะ"
บราลีพาอินทุอรไปแนะนำกับเพื่อน
ภิสิตถอนหายใจโล่งอก ไม่ต้องใกล้ชิดให้ต้องห้ามใจตัวเองไปมากกว่านี้ บุษบาบัณหน้าบึ้งตึง เห็นรูปใบหน้าอินทุอรตั้งโชว์ใกล้ ๆ
"หนีเด็กนี่ไม่พ้น"
รอบงานเต็มไปด้วยรูปอินทุอร ภิสิตเห็นท่าทีของบุษบาบัณก็อ่านออก
"ธรรมดาบุษ คลื่นลูกใหม่ย่อมมาแทนคลื่นลูกเก่า"
"บุษยังไม่เก่า"
หญิง 1 ยืนเปิดงานตรงโต๊ะครีมตัวอย่าง
หญิง 1บอก
"ขอเชิญแบรนด์แอมบาสเดอร์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการค่ะ"
อินทุอรเดินยิ้มหวานไปยืนข้างหญิง 1
"ขอบคุณคุณบราลีมากนะคะ ที่อนุญาตให้ลูกสาวคนสวยมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ฌองค์"
บุษบาบัณสีหน้าและแววตาหมั่นไส้อินทุอร
หญิง 1ถาม
"คุณอินทุอรผิวพรรณสวยเปล่งปลั่งมากมีวิธีบำรุงผิวยังไงคะ"
"ดื่มน้ำเยอะ ๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ แล้วก็ใช้ครีมที่ถูกกับผิวค่ะ"
"ฮึ...ยายเด็กนั่น ดูใกล้ ๆ ผิวหน้ามีจุด"
บุษบาบัณอิจฉาอินทุอรสุด ๆ

เวลาต่อมา ภิสิตยืนดูรุปถ่ายอินทุอร ตาลอย หลงรักเจ้าของใบหน้าสดสวย อินทุอรเดินมาหา ภิสิตเลี่ยงไม่ทันแล้ว
"ได้คุยกับอาสิตซะทีนะคะ"
ภิสิตอึกอักนิดหนึ่ง
"จ้ะ"
"พักนี้ไม่ค่อยเห็นอาสิตที่พิพิธภัณฑ์เลย งานยุ่งมากเหรอคะ"
"ก็นิดหน่อยจ้ะ"
"อาการเจ็บตาเป็นไงบ้างคะ ต้องหมั่นหยอดตาบ่อยๆ นะคะ"
อินทุอรอยู่ใกล้แค่เอื้อม ภิสิตห้ามใจตัวเองไม่ไหวส่งสายตา แต่อินทุอรอ่านสายตาไม่ออก
แต่แป๊บเดียว ภิสิตก็ห้ามตัวเองได้ ปรับสายตาเป็นปรกติ
"อาต้องโทรศัพท์ ขอตัวนะคะ"
ภิสิตเลี่ยงไป บุษบาบัณมองอยู่ก็สร้างความสงสัยให้บุษบาบัณมาก

ภิสิตเดินเลี่ยงออกมามุมหนึ่ง บุษบาบัณตามมาเคลียร์ให้หายข้องใจ
"ทำไมคุณถึงเลี่ยงเด็กนั่นคะ พวกคุณสนิทกันมาก...แต่วันนี้คุยกันนับคำได้"
"ก็หนูอินยุ่ง"
"ไม่เห็นยุ่งตรงไหน เดินอวดโฉมไปมาอยู่ได้ น่ารำคาญ ปกติคุณเป็นคน Friendly ชอบพบปะผู้คน แต่วันนี้เอาแต่ยืนหลบมุมต้องมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นกับคุณ"
ภิสิตเสียงเย็นชา
"ไม่มี ผมออกไปโทรศัพท์เดี๋ยวนะ"
ภิสิตรีบออกไป ก่อนที่จะหลุดให้บุษบาบัณจับได้ บุษบาบัณเริ่มระแวง ภิสิตอาจนอกใจเธอ

บุษบาบัณมาร่วมวงคุยกับอินทุอร บราลี และหญิง 1
"ดิฉันลองทาครีมแล้วนะคะ ผิวนุ่มขึ้นทันตา"
หญิง 1บอก
"ถ้าผิวเริ่มมีริ้วรอย...ครีมตัวนี้ช่วยได้ค่ะ ทาแล้วผิวหน้าจะใส เนียนเรียบเหมือนหนูอินทุอร"
บุษบาบัณหน้าตึง เพราะถูกเปรียบเทียบกับอินทุอร
"เอ้อ ผิวหนูอินสวยสู้คุณบุษไม่ได้หรอกค่ะ" บราลีบอก
บุษบาบัณไม่หายเคือง
หญิง 1รีบซิ่ง
"ขอตัวนะคะ"
"คุณสิตอยู่ไหนคะ"
"ออกไปโทรศัพท์ค่ะ"
"อินเห็นอาสิตคุยโทรศัพท์ทั้งคืนเลย"
"หนูอินคะ หนูอินเป็นคนพับนกกระดาษให้คุณสิตหรือเปล่าคะ"
"ค่ะ"
บุษบาบัณหน้าบึ้งตึง รู้แล้ว ว่าภิสิตติดพันผู้หญิงที่ไหน อินทุอรกับบราลีมองหน้ากัน สงสัยบุษบาบัณไม่พอใจอะไรอีก

ภิสิตกลับเข้างาน เจอบุษบาบัณดักรอเอาเรื่องอยู่
"ท่านทูตไม่นึกละอายบ้างเหรอ..ไปหลงรักลูกสาวเพื่อน อายุอ่อนกว่ากันเกือบรอบ"
ภิสิตสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็หน้าเสียที่ดูเหมือนจะถูกบุษบาบัณจับอารมณ์ตัวเองได้
"ไปคุยกันที่บ้านเถอะบุษ"
"กลัวเด็กไหวตัวทันเหรอ อาสิตชายผู้แสนดีกำลังจะแปลงกายเป็นเฒ่าหัวงู"
ภิสิตเห็นอินทุอรกับบราลีมองมา
"กลับเถอะ"
"ไปลาหนูอินสุดที่รักก่อนสิคะ"
"ความอดทนของคนมีขีดจำกัดนะบุษ ถ้าอยากทำร้ายจิตใจผม ใช้วิธีอื่น...อย่าเอาคนที่ไม่รู้เรื่องมาเกี่ยวข้องด้วย"
ภิสิตไม่พอใจเดินออกไปทันที บุษบาบัณจำต้องเดินตามออกไป
บราลีเห็นอาการของทั้งคู่แล้วหันมาถามอินทุอร
"หนูอินรู้มั้ยลูก อาสิตกับอาบุษเค้าทะเลาะอะไรกัน"
อินทุอรนึกรู้ เห็นกับตาเรื่องบุษบาบัณกับชายอื่น แต่ไม่กล้าบอกแม่ตัวเอง
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณแม่"

อินทุอรมองภิสิตจนลับตา สงสารมาก

ภิสิตขับรถโดยมีบุษบาบัณนั่งอยู่ข้างๆ เขาหน้าเครียดไม่พูดไม่จายังคงไม่พอใจกับพฤติกรรมของบุษบาบัณที่จับผิดเขา
 
รถแล่นมาติดไฟแดงที่แยกๆ หนึ่งที่เป็นแหล่งสถานบันเทิงฯ
บุษบาบัณหันมามองภิสิต
"ไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเหรอคะ"
"เราต่างคนต่างอยู่มานานแล้ว คุณจะสร้างเรื่องให้ร้อนใจกันอีกทำไม วันนี้...คุณมีอิสระใช้ชีวิตได้เต็มที่โดยไม่สนใจว่าจะผิดศีลธรรมแค่ไหน ส่วนผมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่คิดจะทำพฤติกรรมชั่วๆ เลวๆแข่งกับใคร"
"ใครของคุณน่ะ หมายถึงใครล่ะคะ"
ภิสิตไม่ตอบ มองไปเบื้องหน้าต่อไป..สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียด
"ฮึๆ คุณอาสิตผู้แสนดี ร้อนตัวเร็วเกินไปรึเปล่า"
ภิสิตไม่พอใจ บุษบาบัณยิ้มเยาะแบบไม่แคร์
"บุษมีอิสระในการใช้ชีวิต..เพราะระหว่างเราไม่มีจิตพิศวาสกันเลย"
บุษบาบัณหยิบโทรศัพท์มือถืออกมา กดโทรออกไปทันที
"ฮัลโหล...คิดถึงจังเลย คืนนี้บุษว่าง" เธอมองไปรอบๆ สี่แยกที่เป็นสถานบันเทิง "กำลังจะไปแฮงค์เอ้าท์ที่เดิม สนใจจะมาแจมกันมั้ยคะ ที่รัก"
ภิสิตไม่พอใจ ขณะที่บุษบาบัณไม่แคร์ เขาหันไปกดปุ่มวิทยุในรถ เปิดเพลงบรรเลงเสียงดังลั่น บุษบาบัณยักไหล่เหมือนไม่แคร์ เปิดประตูลงไปจากรถเลย ก้าวตรงไปยังบาร์ที่อยู่ตรงกันข้าม พร้อมพูดโทรศัพท์
" บุษจะรอที่ร้านนะคะ คืนนี้สุดเหวี่ยงแน่นอน"
ภิสิตขับรถออกไปจากสี่แยกนั้นอย่างรวดเร็ว บุษบาบัณชำเลืองมองด้วยหางตา

วันใหม่ อุรวสาดูแบบรีโนเวทโรงแรมที่เกาะช้างที่โต๊ะทำงาน แสงฉานยกถาดอาหารว่างแบบง่ายๆ มาให้ทาน แต่พอเห็นอุรวสากำลังทำงานหนัก ก็เอาใจด้วยการตักของว่างป้อนใส่ปากให้อุรวสา
"อ้ำ"
"ขอบคุณค่ะ" อุรวสาจับมือแสงฉานมาจุ๊บทีนึง "น่ารักจัง"
แสงฉานเอาช้อนที่ตักป้อนอุรวสา ตักของว่างให้ตัวเองทานพลางชวนคุย
"ที่รักยังไม่กลับไปคืนดีกับคุณพ่ออีกเหรอ อย่าโกรธนานเลย ผมสงสารท่าน"
อุรวสาก้มหน้าก้มตาดูแบบโรงแรม ยิ้มๆ ยังไม่หันมาคุยกับแสงฉาน
"จะเอาใจพ่อตา ถามสักคำรึยังว่าท่านพร้อมจะมีลูกเขยมั้ย"
"ให้เวลาสักนิด...พ่อตาต้องรักลูกเขยคนนี้แน่นอน"
"ช่วงนี้วสางานยุ่ง ไม่พร้อมจะวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัว ปล่อยให้คุณพ่อเชื่อว่า คุณเป็นเกย์ไปก่อนดีกว่าค่ะ"
"มั่นใจได้ไงว่าท่านจะเชื่อ"
"ถ้าคุณพ่อไม่โทร.มาตามวสา แสดงว่าท่านเชื่อค่ะ"
เสียงโทรศัพท์มือถือ ดังขึ้นพอดี ทั้งสองสะดุ้งทันทีหันไปมองว่าโทร. มาจากไหน โทรศัพท์ปรากฏชื่อ “พงษ์ชัย” อุรวสาทำท่าโล่งใจหันไปบอกแสงฉาน
"ลูกค้าค่ะ ... อุรวสาพูดค่ะ"
แสงฉานพยักหน้ารับรู้ เดินออกไปเตรียมของกินต่อ โดยไม่สนใจการพูดโทรศัพท์ของเมียนัก

พงษ์ชัยคุยโทร.กับอุรวสาอยู่ที่โถงภายในบ้าน
"ผมโทรมารบกวนหรือเปล่าครับ"
"ไม่ค่ะ กำลังดูงานรีโนเวทโรงแรมของคุณพงษ์ชัยอยู่พอดี พรุ่งนี้ว่างมั้ยคะ อยากเข้าไปคุยรายละเอียด จะได้เริ่มงานกัน"
"ไม่ไปดูไซท์งานจริงที่เกาะช้างก่อนเหรอครับ"
"ไปสิคะ กะว่าจะไปวันหยุดนี้"
พงษ์ชัยยิ้มพอใจ เหมือนกำลังวางแผนและเป็นไปตามแผนที่วางไว้
"ผมจะไปเกาะช้างวันหยุดนี้พอดี ไปด้วยกันนะครับ มาขึ้นรถที่บริษัทฯ ไปคุยงานกันที่รีสอร์ตสักวันสองวัน"
อุรวสาคิดนิดหนึ่ง
"ได้ค่ะ"
"เยี่ยมเลย ผมจะโทร.ไปสั่งให้เค้าจัดที่พักไว้ให้ รับรองว่าคุณวสาจะต้องประทับใจแน่นอน"
"วสาง่ายๆ ไม่ต้องจัดเตรียมอะไรมากมายหรอกค่ะ"
"แล้วเจอกันวันเสาร์ครับ"
มุมหนึ่งศศิพิมลยืนฟังพงษ์ชัยคุยโทรศัพท์กับผู้หญิง เดินเข้ามาหาทันที
"จะไปเกาะช้างกับใคร ผู้หญิงใหม่ของคุณใช่มั้ย"
"ว่าที่ภรรยาในอนาคต"
ศศิพิมลชะงักตกใจ
"แต่ศิเป็นเมียคุณนะคะ"
"ถ้าอย่างคุณเรียกว่าเมีย ผมก็มีเมียเป็นร้อย คุณก็แค่ผู้หญิงที่ผมนอนด้วย ศศิพิมล...ผมแต่งงานเมื่อไหร่ คุณต้องไป"
พงษ์ชัยพูดจบก็เดินออกไปเลย ศศิพิมลหน้าเสียเพราะกำลังจะโดนเฉดหัวออกจากบ้าน

อุรวสาวางสายพงษ์ชัย ลุกไปหาสามีที่โต๊ะอาหารที่เตรียมอาหารไว้พร้อมสรรพแล้ว
"แสงคะ...สุดสัปดาห์นี้วสาต้องไปเกาะช้างกับลูกค้านะคะ"
"ได้ยินคุณคุยแล้วจ้ะ"
แสงฉานไม่ได้หึงหวงอุรวสา ไว้ใจร้อยเปอร์เซ็นต์
"แต่ลูกค้าวสาเป็นผู้ชาย"
แสงฉานอมยิ้มรับรู้ เดินมากอดอุรวสาทางด้านหลัง
"แล้วผมควรจะทำยังไงเหรอ อย่าลืมสิว่าผมเป็นแค่รูมเมทเพื่อนสาวของคุณ"
"คุณต้องทำหน้าที่เพื่อนสาวผู้แสนดีไงคะ"

แสงฉานชะงักมองหน้าอุรวสาเหมือนไม่เข้าใจ อุรวสายิ้มๆ ไม่พูดอะไรต่อ
 
จบตอนที่ 2 
กำลังโหลดความคิดเห็น