xs
xsm
sm
md
lg

เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 16

ทอมนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง ไอ้คมยืนเฝ้าอยู่ ครู่หนึ่งลายเสือก็เข้ามา พยายามเรียกสติ แต่มันก็ยัง ไม่รู้สึกตัว มีเพียงลมหายใจที่ได้ยินมาอย่างแผ่วเบา
“ถ้าเราต้องเสียมันไป ก็คงน่าเสียดายนะครับนาย”
ไอ้คมพูดอย่างเป็นกังวล
“ที่มันได้ชื่อว่าเป็นปีศาจอสรพิษ เพราะแม้แต่อาวุธชีวภาพ สารพิษที่คร่าชีวิตคนตายเป็นเบือในสงคราม ยังทำอะไรมันไม่ได้ ครั้งนี้มันก็ต้องรอดเหมือนกัน คนอย่างไอ้ทอมเป็นพวกหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ยิ่งมันโดนพิษเข้า ร่างกายมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น”
ไอ้คมพยักหน้า
“มันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง บางทีมันอาจจะเป็นยิ่งกว่าปีศาจอสรพิษตัวเดิม”

ครูประสิทธิ์ในสภาพอิดโรย ยังถูกจับมัดอยู่ในบ้าน ครู่หนึ่งลูกน้องกำนันปราบ ก็เปิดประตูให้เนื้อทองเอาอาหารเข้ามาให้กิน
“เนื้อทองเป็นยังไงบ้าง ได้ยินพวกมันคุยกันว่าไอ้ปราบจับได้ว่าเนื้อทองหักหลังพวกมัน”
เนื้อทองพยักหน้าเศร้าๆ
“จ้ะครู ฉันพยายามช่วยเชนให้หนีรอดออกไปได้ ก็เลยถูกพวกมันจับได้แล้วก็….”
เนื้อทองมองที่แขนตัวเองซึ่งยังเจ็บอยู่จากแผลถูกยิง
“ดวงฉันยังแข็งจ้ะครู เจ็บนิดหน่อยแต่อย่างน้อยก็ช่วยรักษาชีวิตเชนเอาไว้ได้”
เนื้อทองรีบบอกให้ครุประสิทธิ์กินข้าว แต่ครุประสิทธิ์บอกว่ากินไม่ลง พลางถามเนื้อทองต่อว่าพวกกำนันปราบวางแผนอะไรกัน
“พวกมันปิดตายผาปืนแตกเพื่อจับชาวบ้านไปเป็นแรงงานทาส ทำเหมืองทองคำจ้ะครู”
ครูประสิทธิ์ถอนใจ
“ใช่ ทีนี้แหละ ผาปืนแตกจะกลายเป็นนรกบนดินจริงๆ และก็เป็นนรกขุมที่น่ากลัวสำหรับคนเป็น”
กำนันปราบเดินเข้ามาได้ยินพอดี ก็ถึงกับหัวเราะขำ
“ครูก็พูดให้มันน่ากลัวเกินไป มันไม่ใช่นรกอะไรขนาดนั้นหรอก”
ครุประสิทธิ์กับเนื้อทองชะงัก กำนันปราบยิ้มร้าย แบบหน้าเนื้อใจเสือ มองจานข้าวในมือ ก่อนจะปัดจนกระเด็นหกเลอะเทอะเต็มพื้น
“พอได้แล้วเนื้อทอง หมดหน้าที่ของเธอแล้ว กลับไปอยู่เงียบๆ”
กำนันปราบตวาด พร้อมๆ กับที่ลูกน้องเข้ามาจับเนื้อทองพาออกไป
กำนันปราบเข้ามาจับหน้าครูประสิทธิ์แล้วบีบอย่างแรง
“ได้เวลาที่แกต้องไปทำหน้าที่ผู้นำชาวบ้าน ไปทำความเข้าใจกับพวกมันว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกมันต้อง รู้ตัวว่าหน้าที่พลเมืองของผาปืนแตกคืออะไร”
ครูประสิทธิ์สะบัดหน้า แววตาเกรี้ยวกราดไม่ยอม กำนันปราบหัวเราะสะใจ

วัลภา แสน น้อย ติ๋ม และจ่า ที่ช่วยกันดูแลพวกชาวบ้านที่บาดเจ็บที่สุขศาลา ก็กำลังเป็นกังวล เพราะยาเริ่มร่อยหรอลงไปทุกวัน แสนรีบบอกให้วัลภาไปบอกเชนให้จัดการ

วัลภาเปิดประตูที่เรือนหอเข้ามา แต่ไม่เห็นเชนก็นึกแปลกใจ ครู่หนึ่งน้อยก็ตามเข้ามา วัลภารีบแบ่งยาที่มีอยู่ที่บ้านให้น้อย ส่วนตัวเองจะออกไปตามหาเชน

เชนในชุดของจอมโจรไอ้เสือ เดินเข้ามาหยิบปืนเขี้ยวไอ้เสือขึ้นมาบรรจุกระสุนอย่างเต็มพิกัด ด้วยแววตาที่มุ่งมั่น จิกยืนมองด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ไอ้เชน น้าว่าเอ็งอย่าทำบ้าๆแบบนี้เลย น้าไม่เห็นด้วยเลยจริงๆ”
“ถ้าไม่เสี่ยงแล้วมันจะได้ผลอย่างที่อยากได้เหรอน้า”
พูดจบ เชนก็เดินไปที่มอเตอร์ไซค์ไอ้เสือคำราม แล้วบิดพุ่งตัวออกไปทันที จิกมองตามด้วยสีหน้า เคร่งเครียดเป็นกังวล คล้อยหลังเชนออกไปได้ครู่วัลภาก็รีบเข้ามาจากอีกทาง
“วัลภา มาได้ไงเนี่ย”
“น้าไม่ต้องมาถามฉันเลย ฉันได้ยินเสียงเครื่องไอ้เสือคำรามเพิ่งจะออกไป เชนขี่มันออกไปใช่มั้ย”
จิกอึกอัก “ใช่ จอมโจรไอ้เสือเพิ่งจะออกไปทำภารกิจเมื่อกี้นี้เอง”
“ภารกิจอะไร สถานการณ์ที่พวกมันอยู่เต็มไปหมดแบบนี้ จอมโจรไอ้เสือยังจะมีภารกิจอะไรต้องไป จัดการอีก”
จิกสีหน้าอึดอัดไม่อยากบอก

“เชนเป็นผัวฉันนะน้า ถ้าน้าไม่บอกฉันมาล่ะก็ น้ามีปัญหากับฉันแน่”

เพลิงรู้สึกตัวขึ้นมาในกระท่อมท้ายวัด ยังรู้สึกระบมและเจ็บตามแผล พร้อมกับพยายามยันตัวลุกขึ้น มองไปรอบๆหาเอื้อมเดือน จนมาเห็นเอื้อมเดือน ที่สวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ๆของเขาเอาไว้หลวมๆ กำลังเก็บเสื้อผ้าของเธอ ที่ซักตากจนแห้งดีแล้ว
เอื้อมเดือนหันมาเห็นเพลิง ก็รีบบอกว่าเพลิงยังไม่หายดีน่าจะพักอยู่ก่อน เพลิงรีบบอกว่าตื่นมาแล้วไม่เห็นเอื้อมเดือน ก็กลัวจะเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นอีก
เพลิงจะเดินเข้าไปใกล้แต่ยังรู้สึกเจ็บระบมอยู่เลยมีอาการเซ เอื้อมเดือนรีบเข้าไปประคอง ใบหน้าของ ทั้งคู่ใกล้ชิดกัน เพลิงสบตาเอื้อมเดือน
“ผมขอโทษครับคุณหมอ”
พูดพลางรีบผละออกจากกัน
“ไม่เป็นไรจ้ะเพลิง ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บตัวมากไปกว่านี้ เพราะเท่าที่เธอต้องทนให้พวก มันเล่นงาน เพื่อปกป้องฉัน ฉันก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไง”
“คุณหมอไม่ต้องคิดตอบแทนอะไรผมเลยครับ สิ่งที่ผมทำมันเป็นหน้าที่”
“หน้าที่ ?”
เอื้อมเดือนมองหน้าเพลิงอย่างค้นหาคำตอบ

เพลิงยืนรออยู่ที่หน้ากระท่อม พอเอื้อมเดือนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินออกมา เพลิงพยายามไม่สบตาเธอรีบบอกให้เอื้อมเดือนกลับไปดูแลผู้กองสมาน
เอื้อมเดือนมองหน้าเพลิง แต่เพลิงพยายามหลบตา
“เพลิง เวลาพูดช่วยมองหน้าฉันได้มั้ย ฉันรู้นะ เธออึดอัดใช่มั้ยที่ฉันมาอยู่ดูแลเธอที่นี่ เพราะเธอเป็นคน พูดเองว่าระหว่างเธอกับฉันมันจบลงแล้ว”
เพลิงหน้าเศร้า “ครับ ใช่ เราไม่ควรอยู่ใกล้กันแบบนี้”
“แล้วเมื่อคืนนี้ล่ะ ที่เธอพยายามปกป้องฉันด้วยชีวิตของเธอ ที่เธอบอกว่าเธอจะไม่ปล่อยให้ฉันเจ็บ มันหมายความว่ายังไง”
เอื้อมเดือนน้ำตาคลอ เพลิงถึงกับอึ้งไป
“พูดมาสิเพลิง อย่าอ้างว่าเป็นหน้าที่นะ”
“ใช่ครับ มันเป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายที่จะปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า”
“ไม่ใช่หน้าที่ของคนรักกัน”
เพลิงพยายามพูดอย่างตัดใจ
“ครับ ไม่ใช่หน้าที่ของคนรักกัน”
เอื้อมเดือนเสียใจจนน้ำตารื้น แต่พยายามกลั้น
“งั้นฉันก็เข้าใจแล้ว เมื่อคืนนี้ที่ฉันดูแลเธอก็ คือหน้าที่ของหมอคนนึงที่ช่วยดูแลคนเจ็บเท่านั้น”
เอื้อมเดือนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมาแล้วหันขวับเดินจากไปทันที เพลิงได้แต่ยืนนิ่ง ชำเลืองมองตาม แล้วกัดฟันเจ็บใจตัวเอง

ผู้กองสมานรู้สึกตัวพยายามลุกขึ้นนั่งแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บแผลที่ถูกแทงมา จ่ารีบเข้ามาดู
“นี่ผมรอดมาได้ยังไงจ่า ผมนึกว่าผมจะไม่ได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วด้วยซ้ำ”
“แผลถูกแทงไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่อาการเสียเลือดมากนี่แหละที่ทำเอาพวกเราลุ้นตัวโก่ง จนไอ้เพลิง นี่แหละครับ ที่โผล่มาเป็นพระเอกตอนเส้นยาแดงผ่าแปดพอดี”
ผู้กองสมานถึงกับอึ้ง “จ่าอย่าบอกนะว่าไอ้เพลิง...”
“นั่นแหละครับผู้กอง ถ้าไม่ได้มันช่วยถ่ายเลือดให้ ป่านนี้พวกผมคงนั่งร้องไห้หน้าศพ เอ้ย ขอโทษทีครับ ปากเสียไปหน่อย”
ผู้กองสมานนิ่งไปมองที่แผลตัวเองซึ่งได้รับการดูแลอย่างดีจากฝีมือเอื้อมเดือน และการเสียสละ ของไอ้เพลิง

จังหวะนั้นเอื้อมเดือนก็เดินเข้ามาพอดี จ่ารีบชิ่งออกไป ส่วนผู้กองสมานมองเห็นสีหน้าน้องสาวก็รู้สึกสงสัย

ผู้กองสมานพยายามถามเอื้อมเดือนเรื่องเพลิง แต่เอื้อมเดือนก็ตอบเลี่ยงไปเรื่องอื่น จนผู้กองสมานเอะใจ
“เลิกปิดบังพี่ซะทีเถอะเดือน ถึงไอ้เพลิงมันจะมีบุญคุณกับชีวิตพี่ แต่ระหว่างเดือนกับมัน”
เอื้อมเดือนรีบบอกทันที
“พี่ไม่ต้องมาย้ำเดือน สิ่งที่พี่กำลังกังวล มันไม่ได้เกิดขึ้น สบายใจได้แล้วใช่มั้ย งั้นเดือนขอตัว”
เอื้อมเดือนเดินไป น้ำตาคลอๆอย่างเจ็บปวด ผู้กองสมานได้แต่มองตามน้องสาวไปอดสงสารไม่ได้

ที่บริเวณลานตลาด น้ำค้างพยายามฉุดกระชากลากสำรวย ให้เดินตามเธอมาร่วมกับพวกชาวบ้าน ที่มาตั้งแถวจับกลุ่มรออยู่ก่อนหน้า โดยพวกชาวบ้านทั้งหมดพากันผูกแขนข้างหนึ่งด้วยผ้าแถบสีดำเป็นสัญลักษณ์ สำรวยโวยวาย ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกฟ้าลั่น น้ำค้างรำคาญเลยท้าให้สำร;ยแกะผ้าสีดำที่ผูกแขน ระหว่างนั้นเสียงพวกชาวบ้านโฮ่ร้องต้อนรับเสียงดัง เมื่อเห็นกำนันปราบกับลายเสือ ที่นั่งรถจิ๊ปแยกกันนั่งมาคนละคัน พร้อมพวกตัวเองกำลังเคลื่อนพลเข้ามา
สำรวยเห็นชาวบ้าน ที่เป็นพวกเดียวกับพวกกำนันปราบ ยืนโบกธงต้อนรับก็ถึงกับทนไม่ไหว รีบดึงผ้า แถบสีดำออกจากแขนแล้วปาลงพื้น น้ำค้างตกใจ เพราะลายเสือกับไอ้คมหันมาเห็นพอดี
น้ำค้างรีบแล้วเก็บผ้าแถบสีดำขึ้นมาแล้วฉีกยิ้มให้ลายเสือกับไอ้คม พลางยิ้มกลบเกลื่อนแล้วพยายาม ดันพ่อให้ไปหลบข้างหลัง
ครู่หนึ่งรถจี๊ปลายเสือที่นำมาคันแรก ก็เคลื่อนตัวออกไปช้าๆ ตามหลังด้วยรถจี๊ปของกำนันปราบ ที่นั่งมากับชาติ และที่ท้ายรถ ครูประสิทธิ์ถูกจับมัดมือด้วยเชือกให้เดินตามรถที่ขับไปตามถนนอย่างช้าๆ
ชาวบ้านสองข้างทางปาเศษผักผลไม้ใส่ครูประสิทธิ์อย่างน่าเวทนาตลอดทางที่ถูกรถลากจูงไป
สำรวยมองอย่างสงสาร
ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังสนั่นขึ้น พวกชาวบ้านตกใจ พากันกระโจนหลบกันจ้าละหวั่น เสียงบิดมอเตอร์ไซค์ไอ้เสือคำรามดังต่อเนื่องเข้ามา พร้อมกับสาดปืนกลชุดที่ติดอยู่หน้ารถกราดยิง ใส่พวกมัน จนเสียขบวนเพราะไม่ทันตั้งตัว
ไอ้เสือเชนเล็งปืนไปที่เชือกซึ่งผูกข้อมือของครูประสิทธิ์ กระสุนหนึ่งนัดจากลูกปืนคู่ตัดเชือกขาดกระจุย ส่วนอีกนัดที่พุ่งออกมาพร้อมกันก็โดนลูกน้องของกำนันปราบกระเด็นล้มลง ไอ้เสือเชนรีบสั่งให้ครุประสิทธิ์วิ่งหนีไป ส่วนตัวเองก็ก็บิดมอเตอร์ไซค์หนีไปอีกทาง

ชาติกับไอ้เชิดรีบขับรถจี๊ปไล่ตามไป ส่วนกำนันปราบเดินเข้ามาที่ลายเสือ
“ลูกชายฉันจะจัดการกับมันเอง ส่วนแกกับคนของแก อย่าปล่อยให้ไอ้ประสิทธิ์หนีไปได้”
“งั้นเดี๋ยวชั้นจัดการให้”
ฟ้าลั่นยิ้มร้ายแล้วพาพวกออกไปตามล่าครูประสิทธิ์

หลวงพ่อสิน ที่อยู่บนกุฏิ ยังคงไอไม่หยุดและมีเลือดปนออกมา เพลิงรีบยกถ้วยยาหม้อเข้ามาให้
หลวงพ่อสินเห็นหน้าตาเพลิงมีบาดแผลก็ถามด้วยความเป็นห่วง เพลิงรีบบอกว่าไม่มีอะไรมาก แค่ปกป้องเอื้อมเดือนไม่ให้ถูกพวกมันทำร้าย
หลวงพ่อสินยิ้มอย่างมีเมตตา
“อดทนไว้นะไอ้เพลิง ฝนมันไม่ได้ตกตลอดทั้งวันหรอก มันก็ต้องมีวันที่ฝนหยุดแล้วฟ้าสว่างบ้าง”

เพลิงกับจ่า ช่วยกันตักแบ่งยาหม้อใส่ถ้วยยาไปให้ชาวบ้านได้กินบรรเทาอาการเจ็บปวด เพลิงหันไป ที่ผู้กองสมานซึ่งยังพักรักษาตัวอยู่ที่เตียงสนามไม่ไกลจากเขาเท่าไหร่ ก็รีบถือถ้วยยาเข้าไปให้ ผู้กองสมานรับมายกขึ้นดื่มจนหมด พลางพุดขอบคุณที่เพลิงช่วยชีวิตเขาไว้
“ไม่ต้องพูดถึงมันหรอกครับผู้กอง สถานการณ์แบบนี้ถ้าเกิดขึ้นกับผม ผมก็เชื่อว่าผู้กอง ต้องต้องสินใจ ทำอย่างผม”
ผู้กองสมานพยักหน้า“ใช่ ไอ้เรื่องช่วยชีวิตคนของแกกับฉันยังไงก็คิดเหมือนกัน แต่เรื่องแกกับน้องสาวฉันต่างหากที่ฉันอยาก พูดกับแก”
เพลิงพยายามจะอธิบายเรื่องราว ผู้กองสมาน ที่เริ่มใจอ่อน กำลังจะพูดยกโทษให้ แต่ยังไม่ทันพูดออก มา ยอดก็รีบเข้ามา
“จอมโจรไอ้เสือพยายามบุกเดี่ยวช่วยชีวิตครู”

เพลิงกับผู้กองสมานมองหน้ากันอย่างตกใจ

ไอ้เชิดกับพวกลูกน้องระดมยิงใสไม่หยุดตามคำสั่ง ไอ้เสือเชนบิดมอเตอร์ไซค์เข้ามา แล้วเบรคเอี๊ยด
พวกไอ้ชาติขับรถมาจอดเห็นแต่ควันรถก็ระดมยิงใส่ไม่หยุด. จนกระทั่งมั่นใจว่าไอ้เสือเชนต้องตายแน่ๆ
แต่พอฝุ่นที่ตลบเริ่มจางลง ก็เผยให้เห็นว่า ที่แท้จอมโจรไอ้เสือไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว แต่กลับมีลูกระเบิด กลิ้งมาจากทางที่จอมโจรไอ้เสือไปหลบอยู่ ไอ้ชาติกับพวกลูกน้องตกใจ รีบกระโจน
เสียงระเบิดดังสนั่น ฝุ่นตลบ จอมโจรไอ้เสือบิดไอ้เสือคำรามไปต่อ ชาติค่อยๆลุกขึ้นมาพร้อมกับไอ้เชิด พลางมองตามอย่างเจ็บใจ
“ไอ้เสือ งานนี้เอ็งยั่วข้าเกินไปแล้ว ไอ้เชิด เอาของดีของข้ามา”

ไอ้เชิดรีบไปที่ท้ายรถแล้วเอาปืนอาร์พีจีออกมา ชาติรับมาแล้วยิ้มร้าย

ไอ้เสือเชนขี่ไอ้เสือคำรามมาตามถนนลูกรังที่จะขึ้นไปบนหน้าผา ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังไล่หลังจาก ไอ้ชาติและ ไอ้เชิดที่ขับจี๊ปไล่บี้ตามหลัง ไอ้เสือเชนบิดไอ้เสือคำรามฉวัดเฉวียนซ้ายขวาหลบวิถีกระสุน
ชาติยิ้มร้ายแล้วยืนขึ้นบนรถจี๊ป ให้ไอ้เชิดขับไล่ตามต่อ พร้อมกับที่ประทับปืนอาร์พีจีขึ้นบ่าแล้วเล็ง
ลูกปืนอาร์พีจีพุ่งไปที่ไอ้เสือ เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวแต่อาร์พีจีลูกแรกพลาดเป้าไม่โดน ไอ้เสือเชนบิดมอเตอร์ไซค์หนีต่อ ไปสุดทางที่บนหน้าผา ก่อนจะเบรคมอเตอร์ไซค์เอี๊ยดสีหน้าเคร่งเครียด

วัลภาวิ่งเข้ามาที่ทุ่งหิน จิกรีบวิ่งตามห้าม
“สถานการณ์ตอนนี้มันไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้หรอกวัลภา ถ้าเอ็งรักไอ้เชน เอ็งก็ต้องเชื่อมั่นในตัวมัน”
“แล้วถ้าเขาพลาดล่ะน้า” วัลภาน้ำตารื้น “ฉันต้องเสียเชนไปใช่มั้ย ใช่มั้ยน้า”
จิกนิ่งไปมองวัลภาอย่างครุ่นคิดถึงคำพูดของไอ้เชน ขณะที่เดินเข้ามาที่อู่ร้างโดยมีจิกตามหลัง
“ไอ้เชน ถ้าน้าห้ามเอ็งไม่ได้ งั้นมันก็ต้องเป็นไงเป็นกัน แต่สำหรับวัลภาล่ะ น้าว่าเอ็งไม่มีทางปิดเรื่องนี้ ได้หรอก”
เชนพยักหน้า “ฉันรู้ ยังไงวัลภาก็ต้องรู้ว่าฉันกำลังทำอะไร น้าช่วยกันเธอเอาไว้ก็พอ แล้วถ้าวัลภา ยังไม่เข้าใจก็ ให้บอกเธอไปว่า ....ความพ่ายแพ้ที่ไม่มีน้ำตา คือการรอเวลาเรียนรู้เพื่อกลับมาชนะ…. ”

ชาติเดินกระหยิ่มยิ้มเข้าไปใกล้แล้วเล็งปากกระบอกปืนอาร์พีจีในมือไปที่จอมโจรไอ้เสือ
“หนีอีกสิวะไอ้เสือ ความผยองของเอ็งมันมาไกลสุดก็ได้เท่านี้”
ไอ้เสือเชนพูดอย่างไม่กลัวเกรง
“ถึงนี่จะเป็นทางตัน เป็นทางเลือกตายสุดท้ายที่ข้าต้องเลือก แต่ก็อย่าคิดว่าคามตาย จะ ทำให้ไอ้เสือ กลัว”
“ปากดีไปเถอะวะไอ้เสือ ถึงเวลาที่ข้านับถึง 3 เมื่อไหร่ โอกาสที่เอ็งจะกลายเป็นเสือร้องไห้อ้อนวอนขอ ชีวิตข้าก็หมดลงเมื่อนั้น”
ชาติเริ่มนับ หนึ่ง....สอง
“ว่าไงไอ้เสือ..เวลานี้เอ็งคงอยากคิดติดปีกให้ตัวเองแล้วใช่มั้ย เห็นมั้ยไอ้เชิด สุดท้ายจอมโจรไอ้เสือที่ หยิ่งผยอง พอเจอทางตัน มันก็เป็นได้แค่เสือร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิตข้าจนได้”
ไอ้เสือเชนส่ายหน้า
“ข้าไม่คิดจะร้องขอชีวิตจากเอ็งหรอก แต่ข้าจะให้จำคำพูดของข้าไว้ให้ดี…..ความพ่ายแพ้ที่ไม่มีน้ำตา คือการรอเวลาเรียนรู้เพื่อกลับมาชนะ ”
พูดเสร็จไอ้เสือเชนก็ชักปืนเขี้ยวไอ้เสือออกมา ชาติจ้องหน้าอย่างเจ็บใจ
“งั้นเอ็งก็ไปเรียนรู้วิธีหาทางชนะพวกข้าในนรกเถอะ ไอ้เสือ”

นิ้วชาติแตะไกปืนอาร์พีจี ลูกปืนพุ่งเข้าหาจอมโจรไอ้เสือ


เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 16 (ต่อ)

“ไอ้เชนมันขอให้น้าพูดกับวัลภาแบบนี้และหวังว่าวัลภาจะเข้าใจ”
วัลภาได้ฟังแล้วก็อึ้งไป
ทันใดนั้นเสียงระเบิดตูมใหญ่ก็ดังกึกก้อง วัลภากับจิกหันขวับไปทางต้นเสียง เห็นกลุ่มควันจากระเบิด พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้ามาจากทางหน้าผา วัลภารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นจึงร้องตะโกนสุดเสียง
“เชน”
พลางจะวิ่งไปแต่จิกจับมือรั้งเอาไว้ วัลภานิ่งงันไป เรี่ยวแรงเธอแทบไม่เหลือ ก่อนที่จะทรุดเข่าลงกับพื้นน้ำตาไหลอาบนองสองแก้มอย่างเจ็บปวดรวดร้าว

ไอ้เสือคำรามโดนระเบิดพังแยกเป็นชิ้นๆ ล้อรถกระเด็นไปคนละทาง ปืนกลชุดที่ติดหน้ารถถหลุดเป็นชิ้น กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
“เท่านี้ก็เรียบร้อย สิ้นชื่อเอ็งซะทีนะจอมโจรไอ้เสือ”
“แต่ก็ยังเหลือนางสิงห์อีกคนนะพี่” ไอ้เชิดท้วง
“ผัวมันตายไม่เหลือซากแบบนี้ ถ้ามันอยากมาแก้แค้นให้ผัวมัน ก็ขอให้มาเถอะ ข้าอยากลองขี่เสือ ตัวเมียดู ท่าทางจะมันถูกใจ”
ชาติหัวเราะสะใจแล้วเดินขึ้นรถจี๊ปพร้อมกับไอ้เชิดขับออกไป เศษซากล้อรถไอ้เสือคำรามที่ยังหมุนอยู่กลางควันที่คละคลุ้ง จอมโจรไอ้เสือสิ้นชื่อแล้วจริงล่ะหรือ !?

เพลิงกับยอดพากันเดินออกมาที่หน้าศาลาวัด กำลังจะไปช่วยครุประสิทธิ์ ผู้กองสมานพยุงตัวเอง จะตามไปด้วย แต่เพลิงกับยอดห้ามไว้
ผู้กองสมานนิ่งไปครู่ ก่อนจะยอมพยักหน้า
“ก็ได้ แต่เอ็งห้ามเป็นอะไรนะไอ้เพลิง เพราะเอ็งมีเรื่องน้องสาวข้าที่ยังติดค้างข้าอยู่”
เพลิงพยักหน้ารับก่อนจะออกไปกับยอด ผู้กองสมานมองตามสีหน้าเป็นห่วง

วัลภากับจิกพากันเดินขึ้นมาบนหน้าผาที่เหลือเศษซากของไอ้เสือคำรามเป็นชิ้นๆกระจัดกระจาย ควันไฟยังกรุ่นๆ รอบๆบริเวณ
วัลภาเดินน้ำตาคลอยิ่งเจ็บปวดเมื่อเห็นสภาพบริเวณนั้น พลันเหลือบไปเจอผ้าคาดหน้าสีแดง ของจอมโจรไอ้เสือตกอยู่ที่พื้น จึงหยิบขึ้นมาเอามาแนบอก แล้วร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนาสงสาร จิกเห็นแล้ว ก็สงสารพาลน้ำตาคลอไปด้วย
แต่ระหว่างนั้นเสียงครางเบาๆ ของเชนก็ดังแว่วเข้ามา
“ยัง ฉันยังไม่ ไม่ตาย ช่วย ช่วยด้วย เอาฉันขึ้นไปที”
วัลภารีบปาดน้ำตา
“เสียงเชนจริงๆ เขายังไม่ตาย เขาอยู่แถวๆนี้”
วัลภาหันซ้ายหันขวา ก่อนรีบเดินไปดูที่บริเวณเชิงผา เห็นเชนห้อยต่องแต่งโหนโขดหินอยู่ในสภาพจะ ตกร่วงลงไปรอมร่อ
“เชนจริงๆด้วย เชนยังไม่ตาย”
“หยุด หยุดดีใจกันก่อน แล้วรีบเอาฉันขึ้นไป ไม่งั้นฉันได้ตายจริงๆแน่”
วัลภากับจกรีบช่วยกันยื่นมือไปจับมือเชนเพื่อลากขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย สภาพของเชนมีบาด เจ็บตามตัวบ้างนิดๆหน่อยๆ มีคราบเขม่าเปรอะตามหน้าตามตัว วัลภาสวมกอดอย่างดีใจ
“เชน เธอยังไม่ตาย ฉันดีใจที่สุดเลย”
“เบาๆหน่อยวัลภา รักฉันค่อยๆ รักฉันเบาๆ จะได้รักฉันนานๆ เพราะถึงจะรอดตายมาได้ แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าฉันจะไม่เจ็บ อู้ยยย ฉันก็ดีใจที่รอดมาได้ เพราะถ้าไม่ได้เจอเธออีก อยู่อีกภพหนึ่ง ฉันคงเหงาไม่มีใคร ให้กอด”
วัลภาตีแขนเชนจนร้องเจ็บสะดุ้งลั่น จิกเองก็ยิ้มอย่างดีใจ
“ว่าแต่เอ็งก็ทำเอาพวกข้าใจหายใจคว่ำ นึกว่าจะหลบไม่พ้นระเบิดของมันแล้วซะอีก”
“ฉันก็เสี่ยงอยู่เหมือนกันแหละน้า ถึงได้เลือกที่นี่เป็นชัยภูมิไว้รับมือไง ไม่งั้นฉันคงกลายเป็นชิ้นๆ เหมือนไอ้เสือคำรามแน่”

“ถึงไอ้เสือคำรามจะเหลือแค่ซาก แต่ข้าก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ แต่ชีวิตเอ็งนี่แหละ ที่จะเหลือแต่ ซากไม่ได้”

จิกพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“พูดถูกแล้วน้า ที่ฉันต้องหลอกพวกมันว่าจอมโจรไอ้เสือได้ถูกฆ่าตายไปจนสิ้นชื่อ ก็หวังว่าพวกมัน จะตายใจ เพราะจากนี้ไป ฉันจะทำทีเป็นยอมพวกมันเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ แล้วเริ่มซ่องสุมกำลังคนขึ้นมาอีกครั้ง”
“ความประมาทคือบ่อนทำลายความแข็งแกร่ง ปล่อยให้พวกมันมั่นใจว่าไม่มีใครทำอะไรแล้ว มันจะพ่ายแพ้ความมั่นใจตัวเอง”
เชนยิ้มรับคำพูดของวัลภา

ครูประสิทธิ์กระเสือกกระสนหนีเข้ามาในโรงนาทั้งๆที่มือยังมีเชือกผูกติดอยู่ จากนั้นก็ค่อยๆ ใช้สังกะสี ข้างๆ ผนังตัดเชือกที่มัดมือออก ระหว่างนั้นมีใครบางคนตามเข้ามาข้างหลัง ครูประสิทธิ์รีบคว้าท่อนไม้หันไปจะเล่นงาน แต่คนที่โผล่มากลับเป็นเพลิงกับยอด
“ครูปลอดภัยใช่มั้ย”
ครูประสิทธิ์พยักหน้า
“ข้าพยายามหนีพวกมัน แต่พวกมันไม่ยอมปล่อยข้าไปง่ายๆ มันยังตามล่าข้าอยู่”
“ครูมากับผม ทางนี้ไอ้เพลิงจะอยู่รับมือเอง”
ยอดบอกกับครุประสิทธิ์ ที่หันมามามองเพลิงอย่างเป็นห่วง
เพลิงพยักหน้าให้ไอ้ยอดพาครูประสิทธิ์ออกไป ครู่หนึ่งรถจี๊ปของลายเสือที่นั่งมากับฟ้าลั่นและไอ้คม ก็เข้ามา เพลิงชักปืนออกมาแล้วยิงใส่รถพวกมันทันที
ฟ้าลั่นเห็นไอ้เพลิงเป็นคนยิงแล้ววิ่งหนีออกไปอีกทาง ก็จะตามไป แต่ลายเสือรู้ว่าเพลิงกำลังล่อให้พวกมันตามไป แต่แท้ที่จริงครูประสิทธิ์ไมได้อยู่กับเพลิงด้วย จากนั้นก็หันไปสั่งการให้ไอ้คมตามไปแทน
ลายเสือหันมายิ้มกับฟ้าลั่นแล้วขับรถจี๊ปออกทางที่ยอดพาครูประสิทธิ์ออกไป

เพลิงจัดการกับลูกน้องไอ้คมไปได้ 1ศพ แต่กลับพลาดท่าถูกไอ้คมชี้ปากกระบอกปืนเอ็ม 16 จ่อที่หน้า แล้วขู่ให้โยนปืนทิ้ง ก่อนจะหัวเราะใส่หน้าอย่างรู้ทัน
“อย่าคิดว่าเอ็งจะหลอกล่อพวกข้าให้มาหลงกลเอ็ง ตอนนี้นายข้าไล่ตามไอ้แก่นั่นไปแล้ว อีกเดี๋ยวเอ็ง กับพรรคพวกก็จะได้เห็นศพมันถูกลากไปรอบๆหมู่บ้าน เพื่อเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านรู้ว่า อย่าคิดสู้กับพวกข้า ชีวิตของ พวกเอ็ง ถูกกำหนดเอาไว้แล้วเว้ย ว่าเอ็งต้องเป็นทาสของพวกข้า”
เพลิงจ้องหน้าไอ้คมเขม็ง
“งั้นเอ็งควรจะฆ่าข้าให้ตายดีกว่า เอาเลย”

ไอ้คมลดปากกระบอกปืนลงไปเล็งที่เข่าแล้วจะยิง แต่พอลั่นไกปืนกลับขัดลำกล้อง เพลิงอาศัยจังหวะลุกพรวดแล้วจับมือไอ้คมมาบิดจนปืนตกพื้น ก่อนจะเตะปืนมันกระเด็น แล้วเปิดฉากประเคนทั้งหมัดเข่าศอก

ยอดพาครูประสิทธิ์หนีออกมาอีกด้านของโรงงาน จนเจอกับรั้วเหล็กที่กั้นขวางเอาไว้ ยอดจะพาหลบออกไปอีกทาง แต่ก็ต้องชะงักเพราะปืนเอ็ม 16 จากมือไอ้ฟ้าลั่นกราดยิงเข้ามาดักทางเอาไว้
ยอดรีบก้าวออกมาดันให้ครูประสิทธิ์หลบไปอยู่ข้างหลัง ลายเสือมองยอดอย่างเหยียดๆ
“ไอ้ยอด ดีเซล น้ำหน้าอย่างเอ็งเนี่ยนะจะกล้าหาญพอรับมือข้า”“คนอย่างไอ้ยอด ต่อให้มีหินผาขวางทางอยู่ตรงหน้า ถ้ามือตีนยังมี มันก็จะทะลวงออกไปให้ได้”
ฟ้าลั่นหมั่นไส้ ยกปืนจะยิงแต่ลายเสือยกมือห้าม
“ใจเย็นๆฟ้าลั่น..ตอนนี้ทุกชีวิตในผาปืนแตกต้องเป็นแรงงานทาสของพวกเรา ฆ่าพวกมันไปก็เสียทั้ง ลูกปืนเสียทั้งแรงงานดีๆ เอาแค่สั่งสอนให้หอมปากหอมคอก็พอ”
ฟ้าลั่นพยักหน้า รีบลงจากรถจี๊ป แล้วเดินลงมายิ้มร้ายและยั่วยวนท้าทายยอด
“ถอยไปครู หาที่หลบให้ดี ถ้ามันอยากเจ็บตัว ฉันก็จะจัดให้มันเอง”

แล้วยอดกับฟ้าลั่น ก็กระโจนเข้ามาปะทะชั้นเชิงกัน

แสนเดินไปเดินมาอยู่ในบริเวณวัด ด้วยท่าทางกังวล เชนกับวัลภาและจิกก็เดินเรียงกันเข้ามา
“ไอ้เชน นี่พวกเอ็งหายหัวไปไหนกันมาวะ”
จิกรีบตอบแทน
“ไปปฏิบัติภารกิจสำคัญครั้งสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของจอมโจรไอ้เสือน่ะสิวะ”
แสนส่ายหน้างงๆ แล้วรีบบอกว่าเพลิงกับยอดไปช่วยครูประสิทธิ์ ป่านนี้ยังไม่กลับมา เชนมองวัลภาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ในที่สุดเพลิงก็สามารถจัดการกับไอ้คมจนหมอบลงไปได้ พลางรีบหันไปทางยอดกับครูประสิทธิ์อย่าง เป็นห่วง
ส่วนยอดที่ปะทะกับฟ้าลั่น กลับเสียทีถูกฟ้าลั่นฟันดาบไปที่แขนจนเลือดซิบ ก่อนที่มันจะตวัดดาบ เกี่ยวขวานในมือจนกระเด็น ยอดจึงเหลือแค่มือเปล่า ฟ้าลั่นชี้ปลายดาบไปที่คอ
“เอ็งมีเชิงอะไรจะอวดก็งัดเอาออกมา ข้าจะได้ปราบให้อยู่หมัดหมดทุกเชิง”
ยอดจ้องหน้าฟ้าลั่นอย่างไม่เกรงกลัว
“ความดีไงที่เอ็งไม่มีทางมีสูงกว่าข้า เพราะสันดานอย่างเอ็งมันเก่งก็แต่ทำเรื่องชั่ว”
ฟ้าลั่นเจ็บใจยกเท้าถีบยอดอกจนยอดเซถลา แล้วจะตามไปจะเล่นงานอีก แต่กลับโดนยอดกำทรายที่ พื้นขึ้นมาสาดเข้าหน้าจนมันผงะตาพร่า จากนั้นก็เข้าไปปลดมีดออกจากมือ แล้วใช้มีดนั่นแหละจ่อคอมัน พร้อมกับข่มขู่ลายเสือที่กำลังจะชักปืนเล็ง
“วางปืนเอ็งไปซะไอ้ลายเสือ ถ้าไม่เชื่อ เอ็งได้ไร้ผู้สืบทอดเชื้อชั่วแน่ เร็ว”
“คิดจะขู่ข้าเหรอ ไม่กลัวหรอกเว้ย”
ลายเสือจะชักปืนออกมา แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อปากกระบอกปืนจากมือของเพลิงเข้ามาจ่อที่ ท้ายทอย
“คนของเอ็งโดนข้าเล่นงานจนลุกไม่ไหวแล้ว ถ้าข้าเป็นเอ็ง ข้าจะไม่คิดทำอะไรตุกติก”
ลายเสือยิ้มหยัน
“ข้าคือราชาค้ายาเสพติด 3 แผ่นดิน คิดเหรอว่าข้าจะกลัวคำขู่ของพวกเอ็ง”
“กลัวไม่กลัวก็ดูกันตรงนี้แหละไอ้ลายเสือ”
ยอดกระแทกปลายมีดเข้าที่ท้ายทอดไอ้ฟ้าลั่นจนมันทรุดฮวบแล้วกระหน่ำเตะเล่นงานจนจุกตัวงอ ลายเสือยอมจำนนปลดปืนโยนลงพื้น ยอดรีหันไปทางครูประสิทธิ์
“ไม่ต้องห่วงนะครู จัดการกับพวกมันเสร็จแล้วจะพากลับไปหาไอ้เชน”
แต่ทันใดนั้นเสียงรถจี๊ปก็ดังเข้ามาจอดเอี๊ยด พร้อมกับที่ปากกระบอกปืนในมือของกำนันปราบ ตวัดเล็งมาที่ครูประสิทธิ์ ตามด้วยเสียงปืนดังติดกันหลายนัด กระสุนเจาะเข้าจุดสำคัญบนตัว ครูประสิทธิ์ต่อหน้า ต่อตาทุกคน ครูประสิทธิ์ทรุดฮวบ

เพลิงและยอดตกใจกับภาพตรงหน้า ฟ้าลั่นกับลายเสือได้โอกาส แย่งมีดแย่งปืนจากมือยอดกับเพลิง แล้วซัดทั้งคู่ด้วยหมัดจนทั้งคู่กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที

ฟ้าลั่นกับลายเสือลากคอเพลิงกับยอดแล้วผลักให้ไปหาครูประสิทธิ์ที่นอนเลือดท่วมตัว เพลิงจะปรี่ เข้าใส่ลายเสือด้วยความโกรธ แต่ก็เจอถีบยอดอกจนล้มลงไป แล้วโดนปืนจ่อ ส่วนยอดก็โดนฟ้าลั่นเอามีดจ่อคอ เหมือนกัน
กำนันปราบเข้ามา พร้อมกับพยักหน้าให้ลายเสือกับฟ้าลั่นลดอาวุธของตัวเองลง เพลิงจ้องหน้ากำนันปราบอย่างเจ็บใจ แล้วรีบเข้าไปประคองร่างครูประสิทธิ์ขึ้นมา
“อดทนไว้นะครู ฉันจะพาครูไปจากที่นี่ให้ได้”
ครูประสิทธิ์ระล่ำระลักบอก“ไอ้เพลิง เอ็งไม่ต้องห่วงข้า หาทางกลับไปช่วยคนอื่นเถอะ”
เพลิงส่ายหน้า น้ำตารื้น
“ไม่ พวกเราเคารพและรักครูเหมือนครูเป็นพ่อของพวกเราทุกคน ฉันจะไม่ยอมให้ครูต้องมาตายแบบนี้ เด็ดขาด ไอ้ปราบ ข้าขอแลกชีวิตข้า แล้วให้ไอ้ยอดพาครูไปหาหมอ แล้วเอ็งจะเอาข้าไปฆ่าไปแกงยังไงก็ได้ ข้ายอม”
ยอดตกใจ
“ไอ้เพลิง เอ็งทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าจะมีคนต้องเสียสละ คนนั้นขอเป็นข้าเอง”
“ไม่ได้ เอ็งต้องรีบพาครูกลับไป”
กำนันปราบรำคาญเลยตวาดลั่น
“พวกเอ็งสองคนไม่ต้องเถียงกัน เดี๋ยวไอ้ประสิทธิ์มันจะตายซะก่อน เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะเป็นคน ตัดสินให้เองว่าจะเลือกอะไร”
กำนันปราบยิ้มอย่างร้ายกาจ แล้วเดินเข้าไปยืนดูร่างของครุประสิทธิ์ที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดจากกระสุน ปืน แล้วยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
“ข้ามันก็ไม่ใช่คนใจร้ายไส้ระกำอะไรนักหนา เอาอย่างนี้แล้วกัน ไหนๆไอ้ประสิทธิ์มันก็เป็นเสาหลัก ของพวกเอ็ง ครั้งนี้ข้าจะยอมให้เอ็งทั้งสองคนพามันกลับไปรักษา”
ยอดมองกำนันปราบแบบเหยียดๆ
“ปล่อยให้พวกข้าพาครูกลับไปรักษา ? แกคิดเหรอว่าฉันจะเชื่อว่าคนอย่างแกมีคุณธรรม ทั้งๆ ที่แก เพิ่งจะยิงครูจนเป็นแบบนี้”
กำนันปราบยิ้มเจ้าเล่ห์ พร้อมกับตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าพาครูประสิทธิ์ไปรักษาแล้วรอดตาย ก็จะยอมปล่อยทุกคน แต่ถ้าครูประสิทธิ์ไม่รอด เพลิงกับยอด จะต้องมาคุกเข่าต่อหน้าพวกมัน และยอมเป็นทาสทำงานที่เหมืองทองเพลงฮึดฮัด ยอดรีบแตะไหล่ แล้วพยักหน้าให้ดูอาการของครูประสิทธิ์ที่ดูไม่ดีเลย เพลิงกับยอดเลย จำเป็นต้องเข้าไปประคองครูประสิทธิ์ให้ลุกขึ้นอย่างระวัง แล้วเดินออกไป ขณะที่เลือดไหลหยดเป็นทาง
กำนันปราบมองตามแล้วหัวเราะชอบใจเสียงดัง

เชนบิดมอเตอร์ไซค์ โดยมีวัลภาซ้อนท้ายอย่างรีบร้อน ก่อนจะมองไปเห็นเพลิงกับยอด ช่วยประคองพาครูประสิทธิ์มาตามทาง
“เกิดอะไรขึ้นกับพ่อ ทำไมพ่อเป็นแบบนี้”
“ไอ้ปราบมันยิงครู”
เพลิงรีบบอก เชนโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
“ไอ้สารเลว ฝากพ่อฉันด้วยนะพี่เพลิง ฉันจะไปฆ่ามัน”
เชนจะไปเอาเรื่อง แต่เพลิงรีบร้องห้าม
“อย่าไปนะไอ้เชน ตอนนี้เราต้องพยายามรักษาชีวิตครูเอาไว้ให้ได้ เพราะมันให้โอกาสเรา ถ้าครูรอด ตาย พวกมันก็จะปล่อยพวกเราทุกคน”

เชนนิ่งไปมองอาการของพ่อที่ย่ำแย่เต็มที

เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 16 (ต่อ)

จากนั้นทั้งหมดก็รีบพาครูประสิทธิ์มาหาเอื้อมเดือนที่ศาลาวัด เอื้อมเดือนกับผู้กองสมานและคนอื่นๆ เห็นสภาพของครูประสิทธิ์ก็ตกใจแทบช็อก
เอื้อมเดือนรีบเข้าไปเปิดเปลือกตาครูประสิทธิ์ขึ้นดูแล้วใช้ไฟฉายส่องดูม่านตา ก่อนจะหันมาบอกทุกคนว่าอาการของครูประสิทธิ์ไม่ดีเลย ต้องรีบผ่าเอากระสุนออกแล้วห้ามเลือดให้เร็วที่สุด
ทุกคนกังวลกับชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของครูประสิทธิ์ เชนมองตามพ่อเข้าไปข้างใน ด้วยแววตา กลัดกลุ้ม วัลภาต้องเข้ามาช่วยบีบมือเชนให้กำลังใจ
“ที่เมื่อกี้แกบอกว่าไอ้ปราบมันให้โอกาสเรารักษาชีวิตครู มันหมายความว่ายังไง”
ผู้กองสมานหันมาถามเพลิง

ทางด้านกำนันปราบ ชาติ ลายเสือ ฟ้าลั่นกำลังจิบบรั่นดีฉลองความสำเร็จ ที่คิดว่าจัดการกับจอมโจรไอ้เสือได้แล้ว แต่ชาติกับฟ้าลั่นไม่วายพูดเขม่นกันตามเคย จนกำนันปราบกับลายเสือต้องให้ทั้งคู่หันมาจับมือกัน เพื่อจะได้ครองความเป็นใหญ่ร่วมกัน หลังจากเป็นเจ้าของเหมืองทองที่ผาปืนแตก
“แต่ฉันยังไม่หายข้องใจนะพ่อ พ่อไปให้โอกาสพวกมันแบบนั้น เกิดถ้ามันช่วยชีวิตไอ้แก่นั่นได้ขึ้นมาล่ะ“
ชาติยังไม่หายข้องใจ กำนันปราบหัวเราะเบาๆ แล้วพูดอย่างมั่นใจว่า อย่างไรเสียครูประสิทธิ์ก็ไม่รอดแน่ ไอ้เชิดที่เฝ้าอยู่ใกล้ๆหันไปเห็นเนื้อทองมาทำลับๆล่อๆ แอบฟังอยู่ ก็รีบเดินเข้ามาคว้าตัวไว้ด้วยความไม่พอใจ
“นายครับ เนื้อทองมาแอบฟังที่นายคุยกับครับ”
เนื้อทองพยายามแกะมือไอ้เชิดแต่ทำอะไรไม่ได้ ชาติปราดเข้ามาบีบปากจนหน้าโย้ “ยังกล้าออกมาเสนอหน้าอีกเหรอนังทรยศ”
กำนันปราบอารมณ์สะดุดรีบไล่ทั้งคู่เข้าไปทะเลาะกันด้านใน ฟ้าลั่นได้จังหวะรีบเปิดประเด็นทันที“กำนันครับ ผมมีเรื่องอยากคุยด้วยเกี่ยวกับธุรกิจผีเสื้อราตรี”
กำนันปราบพยักหน้ารับรู้
“เรื่องนั้นลายเสือบอกฉันแล้ว ฉันเห็นด้วย จัดการเดินหน้าไปได้เลย เพราะพอเหมืองทองของเราเปิด เราต้องมีสาวๆ ผีเสื้อราตรีไว้ต้อนรับพวกใหญ่ๆ โตๆ อำนาจ เงินทองและ ผู้หญิง สามอย่างนี้มันต้องมีอยู่คู่กัน ไอ้หลานชาย”
ฟ้าลั่นยิ้มอย่างพอใจ

หลังจากที่เสพสมกับเนื้อทองจนเสร็จกิจ ชาติก็ลุกขึ้นมาแต่งตัว ส่วนเนื้อทองเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ พลางอ้อนวอนให้ชาติเลิกยุ่งเกี่ยวกับครูประสิทธิ์ และพวกเชน จนชาติรำคาญ เลยขู่ว่าถ้ายังเซ้าซี้ไม่เลิกจะส่งให้ฟ้าลั่นตีตราเป็นผีเสื้อราตรี พลางพูดใส่หน้าเนื้อทองด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“เธอรู้มั้ยอะไรมั้ยเนื้อทอง ความเกลียดชังมันจะกลายเป็นยาพิษที่เติมลงไปในใจตัวเอง เมื่อเวลาที่เธอ เห็นคนที่เธอเกลียดแสนเกลียดมีชีวิตสุขสบาย ไม่มีใครมาทำอะไรได้ เวลานี้ฉันกำลังจะยิ่งใหญ่ ฉันกำลังจะเป็น เจ้าชีวิตของไอ้เชนและพวกมัน เพราะฉะนั้น ยิ่งเธอเกลียดฉันมากเท่าไหร่ นั่นก็เท่ากับเธอได้เติมยาพิษลงไปในใจของ เธอมากเท่านั้น”
เนื้อทองเจ็บใจจนน้ำตาคลอ ชาติยังทับถมไม่เลิก

“วิธีการแก้แค้นที่เธอทรยศหักหลังฉัน ก็คือเธอจะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับยาพิษที่เธอ หยดลงในใจ ตัวเองไปเรื่อยๆ มันสะใจฉันจริงๆ เนื้อทอง”

น้ำค้างตักกับข้าวอย่างดีใใส่จานให้สำรวย แต่กลับถุกสำรวยพุดใส่หน้าว่า
“ข้ากระเดือกไม่ลงหรอกเว้ย ไอ้ของที่มาจากความชั่วของพวกมัน เอาไปให้หมากินเถอะ”
สำรวยปัดจานข้าวอย่างไม่สนใจ น้ำค้างเลยโมโหกระแทกจานข้าวลงกับโต๊ะ
“อย่าให้มันมากไปนะพ่อ สถานการณ์ตอนนี้ ลองออกไปเดินข้างนอกดู จะมีกี่คนที่มีกินมี ใช้อย่าง ปกติได้ ถ้าไม่ใช่พวกเรา”
สำรวยมองหน้าลูกสาวอย่างผิดหวัง
“เอ็งอย่าเหมารวมข้าไปกับเอ็งด้วยนังน้ำค้าง ข้าไม่ใช่พวกยกยอคนชั่ว สรรเสริญคนเลว”
พูดพลางจะหันไปคว้ากระบวยตักน้ำร้อนชงกาแฟที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาเงื้อ ระหว่างนั้น ประตูร้านก็ถูกผลักเข้ามาแรงๆ ฟ้าลั่นเดินเข้ามาเอาปืนจ่อสำรวย
“จะลงมือลงไม้อะไรกับน้ำค้างคนสวยล่ะก็ คิดให้ดีก่อนนะไอ้แก่”
สำรวยตวาดกลับ
“เอ็งเข้ามาทำอะไร ที่นี่มันบ้านข้า ไสหัวออกไป”
ฟ้าลั่นยิ้มร้ายแล้วเข้าไปใช้ปืนตบหน้าสำรวยเบาๆ
“บ้านของเอ็งมันไม่มีแล้วโว้ยไอ้แก่ ตอนนี้ทุกตารางนิ้วในผาปืนแตกเป็นของพวกข้าหมดแล้ว”
ฟ้าลั่นหัวเราะอย่างสะใจ น้ำค้างรีบบอกให้สำรวยเข้าไปหลบอยู่ในห้อง

ผู้กองสมานกับเพลิงที่รออยู่ข้างนอก พอเห็นเอื้อมเดือนเดินออกมาก็รีบเข้าไปถามอาการของครูประสิทธิ์ เอื้อมเดือนบอกว่าผ่าเอากระสุนออกหมดเรียบร้อยแล้ว แต่ว่า…
เอื้อมเดือนยังพูดไม่ทันจบประโยค ผู้กองสมานก็ให้เพลิงบอกถึงเงื่อนไขที่ได้รับจากพวกกำนับปราบ
เอื้อมเดือนได้ยินก้ถึงกับตกใจหน้าเสีย ทำท่าจะเป็นลม จนเพลิงต้องรีบเข้าประคอง
“เดือน สิ่งที่ทำให้เดือนเครียดจนเป็นแบบนี้ มันคงไม่ใช่….”
ผู้กองสมานหันมาถาม แต่กลับโดนเอื้อมเดือนย้อนถามกลับ
“พี่สมานจ้ะ นายเชนอยู่ไหน”
ผู้กองสมาน กับเพลิงและไอ้ยอดชะงักหน้าเครียดกันหมด

เชน วัลภา น้อย จิก แสน เข้ามานั่งในโบสถ์ขอพรต่อหน้าพระประธาน แต่ละคนสีหน้าเครียด ด้วยความเป็นห่วงครูประสิทธิ์ วัลภาต้องแตะบ่าเชนอย่างปลอบใจ
“ครูเขารักเธอมากนะเชน ถึงแม้บางครั้งเธอกับครูจะมีปากเสียงกันด้วยเรื่องที่ดูเล็กน้อยเหลือเกิน แต่สิ่งเล็กๆ ที่ครูทำพูด และนึกถึง ก็ล้วนแล้วแต่มาจากความห่วงใยที่พ่อมีให้ลูกเสมอ”
เชนเริ่มกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ระหว่างนั้นเพลิง ก็เข้ามาตามที่หน้าประตูโบสถ์
“ไอ้เชน คุณหมอเขาให้ข้ามาตามเอ็ง ครูรู้สึกตัวแล้ว”
เชนสีหน้าดีขึ้น “จริงเหรอพี่เพลิง”
“เออ ครูเขาถามหาเอ็งกับวัลภาอยู่ เอ็งรีบไปหาครูเถอะ”
เชนกับวัลภารีบเดินออกไป เพลิงมองตามสีหน้าดูกังวลจนคนอื่นแปลกใจ
“ครูรู้สึกตัวแล้วก็ต้องเป็นข่าวดีสิวะไอ้เพลิง แล้วทำไมเอ็งถึงได้ทำหน้าเครียดคิ้วชนกันขนาดนั้นวะ”
เพลิงถอนหายใจ หน้าเศร้า
“ฉันไม่ได้เอาข่าวดีมาบอกนะพี่น้อย”

น้อย แสน และจิก ได้ยินเข้าก็ชะงักอึ้ง

เชนกับวัลภาถึงกับอึ้งเมื่อรู้จากปากของเอื้อมเดือน

“ผมไม่เชื่อ หมอต้องช่วยพ่อผมได้สิครับ”
เอื้อมเดือนน้ำตาซึม “ฉันสาบานเลยเชน ในชีวิตของฉัน นี่คือการทุ่มเทความสามารถที่ฉันมีทุกอย่างเพื่อช่วยครูแล้ว..แต่ว่า” “เพราะเราไม่มีทั้งยาและอุปกรณ์การแพทย์ที่พร้อมสำหรับการช่วยเหลือใช่มั้ยคะ”
วัลภาเองก็เศร้าใจไม่แพ้กัน
“ฉันขอโทษนะวัลภา เชน ฉันตอบไม่ได้จริงๆ ว่าครูจะมีชีวิตไปได้อีกนานเท่าไหร่ ฉันถึงต้องการให้เธอ กับวัลภา เข้าไปอยู่กับครู เพราะคนที่จะพูดได้ก็คงมีแค่เธอสองคน”
เชนกำหมัดแน่นเจ็บใจ วัลภาจับมือเชนมาบีบ
“คุณหมอทำดีที่สุดแล้วเชน ถึงเวลาที่เธอต้องไปทำหน้าที่ลูกชายของครูแล้ว”
เชนมองวัลภาแล้วพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน เอื้อมเดือนมองตามแล้วน้ำตาคลอ

เชนกับวัลภาเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เตียงสนามที่ให้ครูประสิทธิ์นอนพักในสภาพอ่อนแรง
“ไอ้ ไอ้เชน เอ็งกับวัลภาเข้ามาใกล้ๆพ่อ”
“พ่อจ๊ะ พ่อต้องเข้มแข็งนะ พวกเราทุกคนจะพยายามหาทางช่วยพ่อให้ได้”
วัลภาน้ำตาซึม
“ใช่แล้วพ่อ ที่ผ่านมาพ่อสอนให้ฉันเป็นไอ้เชน พนัญเชิงมาได้ทุกวันนี้ พ่อก็ต้องอยู่ดูฉันต่อไป ห้ามหมดความอดทนเด็ดขาด”
เชนมองพ่อด้วยความสงสาร และเป็นห่วงอย่างสุดซึ้ง
ครูประสิทธิ์มีอาการเจ็บแผลและอาการปวดร้าวภายในร่างกายผลจากการถูกยิงจนเริ่มทนไม่ไหว
เอื้อมเดือนที่สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ เข้ามาดูอาการ เชนรีบหันมาถามทันที
“มียาอะไรช่วยให้พ่อผมหายเจ็บบ้างมั้ยหมอ”
เอื้อมเดือนส่ายหน้า
“เราไม่มียาอะไรเหลืออยู่เลยจ้ะเชน ครูต้องใช้ความอดทนของตัวเอง”
วัลภาถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ปล่อยโฮออกมา ครูประสิทธิ์ค่อยๆ ยกมือขึ้นมาขอมือลูกชายมาจับ เชนมือพ่อมาบีบไว้แน่น
“พ่อ พ่อทนได้ว่ะไอ้เชน แต่พ่อห่วงอย่างเดียว ห่วงว่าจะกลายเป็นภาระให้พวกเอ็ง”
เชนส่ายหน้า
“การรักษาชีวิตพ่อไม่ใช่ภาระ แต่เป็นความรับผิดชอบที่ฉันกับทุกคนตั้งใจทำ เหมือนที่พ่อพยายามใช้ เสียงเพลง ทำให้ทุกคนในผาปืนแตกพ้นจากความทุกข์”
“ขอบใจพวกเอ็งมาก” ครุประสิทธิ์พยายามฝืนเจ็บและยิ้ม “ถ้าวันพรุ่งนี้พ่อเป็นอะไรไป พ่อก็ไปได้อย่าง สบายใจ”
เอื้อมเดือนเห็นอาการครูประสิทธิ์ไม่ค่อยดี จึงรีบตัดบท
“ครูจ๊ะ ฉันว่าครูควรจะพักดีกว่านะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไม่อย่างนั้นครูจะเจ็บมากกว่าเดิม”
เอื้อมเดือนหันไปมองหน้าเชน ที่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“พักเยอะๆนะพ่อ เราจะสู้ไปด้วยกัน”

ครูประสิทธิ์ฝืนเจ็บแล้วยิ้มให้ลูกชายก่อนจะค่อยๆหลับตาลงพัก เชนกับวัลภาพากันออกไป

เชนเดินมาหยุดที่ใต้ต้นไม้ในบริเวณวัด มือกำหมัดแน่นแล้วชกเข้าที่ต้นไม้อย่างแรงเป็นการระบาย ความรู้สึกสงสารพ่อออกมา ครู่หนึ่งวัลภาก็เดินเข้ามา พลางมองเชนด้วยความสงสารจนน้ำตาคลอ
“เธอทำดีที่สุดแล้วเชน”
วัลภาจับมือเชนที่ชกต้นไม้จนเลือดซิบๆ มากุมแล้วค่อยๆ ดึงเชนมาโอบกอดปลอบใจ
“พรุ่งนี้มันจะต้องดีกว่าวันนี้นะเชน. เชื่อฉันเถอะ”
วัลภากอดเชนเอาไว้ พร้อมกับน้ำตาที่คลอ แววตาครุ่นคิด

ไอ้เชิดให้ลูกน้องเอาลังไม้ใส่สินค้า 2-3 ลัง เข้ามาวาง ตรงหน้าน้ำค้าง ก่อนจะงัดฝาลังออก ภายใน มีข้าวของเครื่องใช้หลายอย่าง รวมทั้งขวดแอลกอฮอล์ กล่องยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่น้ำค้างขอให้ชาติเอา ผ่านด่านเข้ามา น้ำค้างตั้งใจจะใช้ของพวกนี้หากินกับพวกชาวบ้าน ก่อนที่จะไล่ไอ้เชิดออกไป
ครู่หนึ่งฟ้าลั่นก็เดินติดกระดุมเสื้อออกมาจากหลังร้านมองตามพวกไอ้เชิดที่ออกไป ที่แท้น้ำค้างกับ ฟ้าลั่นลักลอบได้เสียกัน แลกกับการที่ฟ้าลั่นจะให้น้ำค้างเป็นแม่เล้าดูแลบาร์ผีเสื้อราตรี น้ำค้างกอดอก แล้วพูดอย่างมั่นใจ
“ตอนนี้ที่ผาปืนแตกไม่ต่างอะไรกับเมืองในสงคราม และในสถานการณ์แบบนี้ คนฉลาดคือคนที่อยู่รอด ฉันนี่แหละ แม่ค้าสงคราม”
น้ำค้างยิ้มอย่างพอใจในความคิดของตัวเอง

เอื้อมเดือนเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้ครูประสิทธิ์ที่ยังดูอาการน่าเป็นห่วง ก่อนที่จะมานั่งคุยกับเชนถึงเรื่องอาการ
“ฉันคิดว่าที่ครูพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดทั้งที่แทบจะทนฝืนไม่ไหวอยู่แล้ว เพราะครูอยาก ให้พวกเรามีชีวิตรอดตามข้อเสนอของกำนันปราบ”
“โธ่ พ่อ”
เชนหันไปมองพ่อ ที่นอนทรมาน ด้วยความสงสาร วัลภาซึ่งแอบดูอยู่ได้ยินแบบนั้น ก็ยิ่งตัดสินใจ ทำในสิ่งที่คิดไว้

วัลภาเดินไปเดินมาอยู่ในโรงไม้ ด้วยสีหน้ากังวลร้อนใจ ครู่หนึ่งลำดวนก็เดินเข้ามา
“นึกอยู่แล้วเชียวว่าแกต้องให้คนไปส่งข่าวขอให้ฉันนออกมาเจอ แล้วก็รอไม่นานจริงๆ”
“แม่ แม่รู้ว่าชั้นต้องการอะไร”
ลำดวนยิ้มเยาะ
“ทำไมฉันจะไม่รู้ พี่กำนันเป็นผัวฉัน และทุกอย่างในผาปืนแตกตอนนี้ก็อยู่ในกำมือของเขาหมดแล้ว ใครจะเป็น ใครจะตายมันอยู่ที่เขาชี้นิ้วสั่ง”
“แต่ถ้าฉันขอร้องแม่ล่ะ”
“แกขอให้ฉันช่วยเรื่องพวกมันมากี่ครั้งแล้ววัลภา แล้วกี่ครั้งแล้วที่ฉันขอให้แกทำตามที่ ฉันต้องการ แล้วไม่ได้ มันก็เหมือนกันทุกครั้งนั้นแหละ นังลูกไม่รักดี”
ลำดวนเชิดหน้าใส่ลูกสาวอย่างหมั่นไส้แล้วเดินผ่านไป วัลภารีบหันมารั้งแขนแล้ว คุกเข่าตรงหน้า น้ำตาไหลพราก
“เอาเป็นว่าที่ผ่านมาฉันขอโทษ แม่อยากจะด่าว่าซ้ำเติมฉันขนาดไหน แม่ก็ด่ามาเลย ฉันยอมรับ หมดแล้ว ขออย่างเดียวให้ฉันได้ช่วยให้ครูรอดตาย”

“วัลภา ครั้งสุดท้ายที่เจอกันแกกับฉันตัดแม่ตัดลูกกัน แต่มาวันนี้แกยอมคุกเข่าขอขมาฉัน เพื่อให้ หาทางช่วยพ่อผัวแก ไอ้คนที่มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสายเลือดแกเนี่ยนะ”

เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 16 (ต่อ)

วัลภาสะอื้นไห้
“ครูเขาเป็นคนดี เขาไม่สมควรตายนะจ๊ะแม่”
ลำดวนสะบัดหน้า
“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ ฉันกับแกเราตัดขาดกันไปแล้ว”
วัลภาร้องไห้เข้าไปกอดขา
“แม่จ๋า ฉันขอโทษ แม่ยกโทษให้ฉันนะ ฉันขอร้องล่ะ ยกโทษให้ฉัน”
ลำดวนนิ่งมองวัลภาซึ่งกอดขาเธอสะอึกสะอื้นร้องไห้อย่างน่าสงสาร ด้วยแววตาที่อ่อนลง แต่แล้วเสียง ของกำนันปราบก็แทรกเข้ามา
“ว่าไงลำดวน เธอคงไม่คิดจะใจอ่อนให้มันใช่มั้ย”
ลำดวนหันไปตอบกำนันปราบ ที่มาด้วยกันตั้งแต่แรก “พี่กำนัน ไม่หรอกจ้ะ ฉันรับปากพี่ไปแล้วว่าฉันจะพาพี่มา ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนั้น พี่ก็ได้ยิน แล้วใช่มั้ยจ๊ะ”
ลำดวนดันวัลภาออกไปจากตัวแล้วเดินมาที่กำนันปราบ ทีหั่วเราะในลำคอ
“ลำดวนบอกกับฉันว่าตัดแม่ตัดลูกกับแกไปแล้ว ฉันถึงอยากมาดูให้เห็นกับตานี่ไง สิ่งที่ฉันพยายาม บอกพวกแกมาตลอด ทุกชีวิตในผาปืนแตกอยู่ที่ฉันจะชี้เป็นชี้ตาย”
“กลับไปเถอะวัลภา กลับไปบอกพวกแกให้คลานมาคุกเข่ายอมแพ้ แล้วพวกมันจะได้มีชีวิตต่อไป แต่ในฐานะทาส”
ลำดวนกับกำนันปราบพากันเดินออกไปอย่างสะใจ วัลภาได้แต่ทรุดเข่าลงน้ำตานองหน้า

เชนเฝ้าอยู่ข้างๆพ่อ น้อยเข้ามาแตะไหล่เชน พลางบอกให้เชนไปพักบ้าง แต่แล้วจู่ๆ ครูประสิทธิ์ก็มี อาการตัวเกร็ง สีหน้าแสดงความเจ็บปวดขึ้นมา
“เชน พ่อ พ่อเจ็บเหลือเกิน”
เพลิง เอื้อมเดือน และหลวงพ่อสิน เดินข้ามาดูอาการของครูประสิทธิ์
“ครูเป็นอะไรเหรอเชน”
เอื้อมเดือนหันมาถามเชน
“พ่อร้องว่าเจ็บครับหมอ”
“ขอฉันดูหน่อยนะ”
หลวงพ่อประสินหันไปสั่งให้น้อยพาเชนออกไปก่อน เพราะมีเรื่องจะต้องคุยกับครูประสิทธิ์

วัลภาเดินมาตามทางเดินด้วยความเศร้าเสียใจ ระหว่างทางเธอเดินผ่านทหารของลูกน้องลายเสือ ที่เดินเข้ามาข่มเหงรังแกชาวบ้านข้างทาง พวกมันทำร้ายชาวบ้านที่ทำให้พวกมันไม่พอใจ ผลักผู้ชายจนล้ม แล้วช่วยกัน ลากขึ้นมารุมอัด ยิ่งมองก็ยิ่งไม่พอใจ พลางจะเข้าไปช่วย แต่น้ำค้างกลับมาดึงแขนห้ามไว้
“อย่ามายุ่งกับฉัน ก็เพราะไอ้ความเห็นแก่ตัวอย่างเธอ ถึงทำให้พวกมันข่มเหงใครก็ได้แบบนี้ไง”
น้ำค้างหน้าตึง
“งั้นถ้าเธออยากไปหาเรื่องให้พวกมันเล่นงานเธอด้วย ก็เชิญเลย ฉันไม่ยุ่งด้วยก็ได้ แต่ก็คิดดูเอา แล้วกันนะว่า จะปล่อยพวกนั้นหรือจะตามไปเอายาที่ช่วยรักษาชีวิตครูกับฉัน”
น้ำค้างพูดทิ้งทุ่นเอาไว้ให้วัลภาชะงักอึ้ง ก่อนจะเดินยิ้มร้ายๆออกไป

วัลภายืนอึ้งกับคำพูดนั้นแล้วมองไปที่ชาวบ้านที่ถูกข่มเหงรังแก เธอชั่งใจไม่ถูกว่าจะทำยังไง จนกระทั่ง ชาวบ้านพวกนั้นยอมก้มลงกราบพวกทหารลายเสือและยอมให้มันยึดเอาสมบัติมีค่าในตัวไป และเอาผ้าแถบสีดำมาผูก แขนแสดงตัวตนว่ายอมเป็นพวกเดียวกับมัน

เชนเดินไปเดินมากับน้อยอย่างร้อนรน ด้วยความเป็นห่วงพ่อ ระหว่างนั้นหลวงพ่อสินกับเพลิง ก็เดินออกมา เชนรีบปราดเข้าไปถามอาการของครูประสิทธิ์ทันที
“พี่เพลิง พ่อผมเป็นยังไง”
เพลิงหน้าครียด “ข้าอาสามาพูดกับเอ็งแทนหมอ เพราะหมอเขาต้องเตรียมจัดการย้ายครูออกไป จากที่นี่ตามคำสั่งเสีย ครูเขาทนไม่ไหวอีกแล้วล่ะไอ้เชน เขาจะอยู่กับเราได้แค่ไม่กี่อึดใจนี้เท่านั้น”
เชนได้ฟังก็ถึงกับอึ้ง
“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ มันต้องมีทางช่วยให้พ่อฉันอยู่รอดต่อไปสิ. ฉันจะไปห้ามหมอ“
เชนจะเดินเข้าไปเมื่อหลวงพ่อสินยื่นมือมาแตะแขนเป็นเชิงห้าม พลางบอกให้เชื่อการตัดสินใจของหมอ
“พ่อเอ็งกำลังทรมานจนเกินความอดทนที่มันจะแบกรับไว้ได้อีกแล้วนะไอ้เชน”
น้อยน้ำตาคลอ
“เชน น้าว่าที่หลวงพ่อพูดมาก็จริงนะ ยิ่งทำแบบนี้ ครูก็จะยิ่งเจ็บปวด”
“แล้วพ่อต้องการให้หมอย้ายพ่อไปไหนครับ”
หลวงพ่อสินมองเชนด้วยความสงสาร
“พ่อเอ็งต้องการกลับไปที่บ้าน มันอยากอยู่ท่ามกลางวงดนตรีที่เคยใช้สร้างความสุขให้ผาปืนแตก”
“พี่เห็นด้วยกับครูนะไอ้เชน เวลาแบบนี้เราควรช่วยกันทำตามความตั้งใจของครู”
พูดพลางเพลิงก็เดินเข้าไปบีบไหล่เชนทั้งสองข้าง แล้วมองด้วยสายตาที่จริงจัง เชนนิ่งมองทั้งเพลิง และหลวงพ่อสินอย่างตัดสินใจ

วัลภารีบเดินตามน้ำค้างเข้ามาที่ร้าน พร้อมกับถามว่าเรื่องยา ที่จะช่วยครูประสิทธิ์ น้ำค้างเดินไป ที่ลังสินค้าที่ไอ้เชิดเอามาให้ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเปิดลังออกแล้วยิ้มอย่างเป็นต่อ พร้อมกับบอกให้วัลภาดูว่ามีของพอที่เอาไปช่วยต่อชีวิตครูประสิทธิ์ได้มั้ย
วัลภารีบเข้าไปดูในลังพบว่ามียา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นหลายอย่าง
“ของพวกนี้ฉันเอาไปช่วยครูได้ทั้งนั้นเลย”
น้ำค้างยิ้มเยาะ“ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่ให้”
น้ำค้างเลื่อนฝาลังมาปิดแล้วผลักไหล่วัลภาอย่างแรงจนเซ พลางกอดอกเชิดหน้าอย่างสะใจ

วัลภากับเพลิงช่วยกันประครองครูประสิทธิ์เข้ามาในห้องเก็บเครื่องดนตรีเก่าๆ พลางให้นั่งหน้าแท่นพ่อแก่ที่ครูประสิทธิ์เคารพบูชา
เชนหันไปจุดธูปเสร็จก็หันมายื่นให้พ่อ
“เอ็งมาไหว้ครูกับพ่อด้วยสิไอ้เชน”
เชนขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ พลางมองพ่อด้วยความสงสาร
“หลังจากนี้ไปเอ็งต้องรับหน้าที่บูชาครูบาอาจารย์แทนพ่อแล้วไอ้เชน”
เชนน้ำตาซึม “อย่าพูดอย่างนี้สิพ่อ”
“รับปากข้า”
เชนพยักหน้า “ฉันรับปาก”
“ความรู้ที่ครูบาอาจารย์มีให้ข้า ข้าก็ถ่ายทอดให้เอ็งไปหมดแล้ว ต่อไปข้าก็ขอให้เอ็งใช้วิชาความรู้ สร้างสรรค์เสียงเพลงขับกล่อมให้ชาวบ้านผาปืนแตกได้พ้นทุกข์พ้นโศก”
ครูประสิทธิ์เริ่มมีอาการเจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก เอื้อมเดือนรีบเข้าไปดู แล้วก็พบว่าเลือดซึมออกมาจาก แผลที่พันผ้าไว้
“ไม่เป็นไร ฉันยังทนได้อยู่”
ครูประสิทธิ์บอกแล้วค่อยๆ ยกมือขึ้นพนม สายตามองไปที่เศียรพ่อแก่ด้วยแววตามุ่งมั่น เชนยกมือขึ้น พนมไหว้ตาม

เชนเดินออกมาหาพวกน้าๆ ที่มารวมตัวกันที่ลานซ้อมดนตรี แสนรีบพูดขึ้นมาทั้งที่น้ำตาซึม
“ข้าไปตามทุกคนมาแล้ว พวกเราพร้อมจะทำตามที่ครูต้องการ การเล่นดนตรีครั้งสุดท้ายที่ครูอยากฟัง จะเป็นการเล่นที่ดีที่สุดของพวกเรา”
เชนเองก็ถึงกับน้ำตาคลอ
“ขอบใจนะน้า ขอบใจนะทุกคน”
น้อยหันมาถึงวัลภา จิกจึงอาสาจะไปตามให้ แต่เชนรั้งไว้
“ไม่ต้องหรอกน้า เดี๋ยววัลภาก็คงตามมา ฉันว่าเรามาช่วยกันทำตามความต้องการของพ่อดีกว่า ช่วยกันหน่อยนะทุกคน พ่อสร้างวงพราวฟ้าขึ้นมา ก็เพราะอยากให้เสียงเพลง คือความสุขที่ส่งไปถึงคนที่ต้องการ กำลังใจ และเวลานี้ผาปืนแตกของเราก็ต้องการมันมากที่สุด”

ทุกคนในวงพยักหน้าด้วยแววตามุ่งมั่น

วัลภาพยายามเดินเข้ามาในร้าน ทั้งๆที่น้ำค้างพยายามดันไม่ให้เธอเข้า
“เธอทำอย่างนี้ทำไมน้ำค้าง แค่ต้องการความสะใจแค่นั้นเองเหรอ”
น้ำค้างยิ้มเหยียด
“ใช่ ฉันอยากสะใจ เพราะตอนที่ฉันเป็นสาวเชียร์รำวงอยู่ที่นั่น พวกมันชอบดูถูกฉัน พยายามกีดกัน ไม่ให้ฉันเข้าใกล้พี่เชน มันเห็นว่าฉันเป็นแค่สาวเชียร์รำวงไม่คู่ควรกับพี่เชน แต่ตอนนี้พวกมันนั่นแหละที่เป็นได้แค่ ไอ้กระจอก”
วัลภาพยายามพูดให้น้ำค้างนึกถึงบุญคุณครูประสิทธิ์ แต่น้ำค้างไม่สนใจ“งั้นถ้าฉันจะเป็นคนขอซื้อของพวกนั้นทั้งหมดล่ะ เธอจะคิดเท่าไหร่”
น้ำค้างเบ้ปาก
“อย่างเธอเนี่ยนะจะเอาทรัพย์สมบัติอะไรมาซื้อ เวลานี้ผาปืนแตกอยู่ในมือของพวกนั้น ทุกบาท
ทุกสตางค์ ที่พวกแกจะควักออกมาจากกระเป๋ามันต้องมาจากพวกกำนันเท่านั้น”
“งั้นชีวิตชั้นก็ได้ ฉันขอแลก แกจะเอาชีวิตฉันไปทำอะไร ฉันยอมทั้งนั้น ขอเพียงแค่แลกกับการ ได้ต่อชีวิตให้ครู”
น้ำค้างจ้องหน้าวัลภาอย่างคาดคั้น
“แน่ใจนะวัลภาว่ากล้าสัญญากับฉัน”
“ฉันสัญญา” วัลภาพูดอย่างหนักแน่น
“ถ้าถึงเวลาที่ฉันจะต้องไปทวงบุญคุณเธอ แล้วเธอเกิดทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ล่ะ”
“ข้อแตกต่างระหว่างพวกฉันกับพวกเธอคืออะไรรู้มั้ย พวกฉันมีกฏเกณฑ์ มีความรับผิดชอบให้เดิน ตาม ส่วนพวกเธออยากจะทำเรื่องเลวๆ แค่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องมีกฏเกณฑ์”
น้ำค้างนิ่วหน้า มองวัลภาอย่างครุ่นคิด
“ก็ได้ นี่คือคำสัญญาของเธอกับฉันนะวัลภา เมื่อถึงเวลาที่ฉันจะทวงสัญญา ชีวิตเธอก็คือของฉัน
จำไว้”

แสน จิก น้อย และลูกวงพราวฟ้าทุกคนรออยู่ที่ลานซ้อม เชนกับเพลิงค่อยๆ ประคองครูประสิทธิ์ ที่เรี่ยวแรงแทบจะเดินไม่ไหวเข้ามา ทุกคนมองสภาพด้วยความเป็นห่วง แต่ครูประสิทธิ์ก็ยังใจแข็งฝืนความเจ็บ ต่อหน้าทุกคน
ครูประสิทธิ์ถามย้ำกับเอื้อมเดือนเรื่องแจ้งทุกคนว่าไม่ต้องเป็นเรื่องความเจ็บปวดหรือยัง เอื้อมเดือนพยักหน้ารับอย่างเศร้าๆ บอกว่าแจ้งกับทุกคนเรียบร้อยแล้ว ครูประสิทธิ์จึงหันไปถามหาวัลภากับเชน
“เมื่อคืนผมเห็นวัลภาแอบนอนร้องไห้ครับพ่อ วันนี้ผมก็เลยปล่อยให้นอนพัก แต่คิดว่าคงกำลังมา”
“พ่อเข้าใจ ดูภายนอกวัลภาอาจจะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง แต่ผู้หญิงก็คือผู้หญิงนั่นแหละ เอ็งต้อง รักเมียมากๆนะไอ้เชน”
เชนพยักหน้ารับ ครูประสิทธิ์หันไปบอกทุกคน “เอาล่ะทุกคน อย่าคิดว่านี่คือการร้องรำทำเพลงครั้งสุดท้ายที่พวกเอ็งจะโชว์ให้ข้าดู แต่ให้คิดว่า นี่คือการซ้อมใหญ่ที่พวกเอ็งจะต้อง...”
ครูประสิทธิ์พูดได้แค่นั้น ความเจ็บปวดก็ทวีความรุนแรงขึ้น แม้จะพยายามฝืน แต่ทุกคนก็รับรู้ได้ แต่ก็ต้องฝืนยิ้ม ครูประสิทธิ์แข็งใจพูดต่อ
“ครั้งนี้คือการซ้อมใหญ่ครั้งสำคัญที่พวกเอ็งทุกคนจะต้องสานต่อความตั้งใจของข้า เสียงเพลงคือ อาวุธสำคัญที่จะช่วยสร้างสันติสุขและความสงบสุขให้กลับคืนสู่ผาปืนแตก”
เพลิงฝืนยิ้ม แล้วรีบรับคำ“จ้ะครู ได้ยินแล้วใช่มั้ยพวกเรา ประจำที่แล้วจัดเพลงที่สนุกที่สุดทำให้ครูมีความสุข”
ทุกคนเข้าไปประจำที่เครื่องดนตรีของตัวเอง น้อยกับสาวเชียร์รำวงไปประจำตามจุดที่เคยซ้อมวง

เชนเดินมายืนหลังไมค์คู่กับเพลิงแล้วหันไปพยักหน้ารับให้เริ่มเลย ขณะที่สีหน้าทุกคนยังมีความกังวลอยู่

วัลภาพยายามวิ่งมาตามทางด้วยความรีบร้อน มือถือกระเป๋ายาที่ได้มาจากน้ำค้าง
“ครูจ๊ะ อดทนก่อนนะ ฉันจะกลับไปช่วยครูเดี๋ยวนี้แหละ”

แค่เชนกับเพลิงเริ่มต้นร้องท่อนแรก ครูประสิทธิ์ก็ตะโกนสั่งให้หยุดทันที พลางพยายามยันตัวลุก ขึ้น พร้อมกับตำหนิว่าทุกคนเล่นเหมือพวกหัดเล่น
จิกหน้าเศร้า“โธ่ครู ครูจะให้พวกเราเล่นดนตรีสนุกสนานให้ความสุขกับใครได้ยังไงในเมื่อสภาพครูตอนนี้ มัน มัน....”
ครูประสิทธิ์รีบแย้งว่า คนที่จะเป็นนักดนตรีที่ดี สร้างความสุขให้คนอื่นต้องไม่คิดอะไร นอกจาก หน้าที่บนเวทีเท่านั้น ทุกคนหันมามองหน้ากันทั้งๆ ที่น้ำตายังคลอๆ เชนหันไปพยักหน้ารับกับเพลิง พร้อมปาด น้ำตา แล้วเริ่มต้นร้องใหม่ อย่างเข้าขากันสุดๆ

ขณะที่หลวงพ่อสินกับผู้กองสมานกำลังนั่งทำสมาธิอุทิศกุศลให้ครูประสิทธิ์ วัลภาก็วิ่งเข้ามาที่ โบสถ์ พร้อมกับบอกว่าได้ยาที่จะมารักษาครูประสิทธิ์แล้ว
“เอ็งไปเอามาจากไหน” หลวงพ่อสินอดสงสัยไม่ได้
“ได้มายังไงมันไม่ใช่เรื่องสำคัญค่ะหลวงพ่อ หนูต้องรีบเอาไปให้ครูตอนนี้เลย”
“ทุกคนไปรวมกันอยู่ที่บ้าน เพื่อไปทำตามความต้องการครั้งสุดท้ายของไอ้ประสิทธ์มัน”
วัลภาชะงักอึ้ง

ครูประสิทธิ์ยืนดูลูกวงทุกคนร้องรำทำเพลงก็มีรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ แม้จะเจ็บปวดมากมายแค่ไหน ก็ยังรู้สึกดีใจจนน้ำตาเอ่อออกมาอย่างซาบซึ้ง
“นี่ถ้าวัลภาได้มาอยู่ตรงนี้ด้วย ทุกอย่างมันจะสมบูรณ์ที่สุด อย่างที่ผมอยากเห็นเป็นครั้งสุดท้าย”
น้ำเสียงลงท้ายประโยคของครูประสิทธิ์เริ่มทอดยาวและเบาไร้เรี่ยวแรงจนเอื้อมเดือนกังวล แล้วในที่สุดก็ทรุดฮวบลงไป เอื้อมเดือนปรี่เข้าไปประคองเอาไว้ แล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้ เชน เพลิงและทุกคนในวง มองมาเห็นก็ตกใจ หยุดร้อง หยุดเล่นทันที

หลวงพ่อสินที่กำลังนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ลืมตาขึ้น สมานเองก็รู้สึกเหมือนกับหลวงพ่อ
“ตอนนี้ไอ้ประสิทธิ์มันคงจะไปดีแล้ว แต่การจากไปของมันไม่ใช่จุดจบ ความมานะ อุตสาหะและ อดทน เพื่อความสุขของผาปืนแตกกำลังจะเริ่มขึ้น”
หลวงพ่อสินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผู้กองสมานหันมาคุกเข่าพนมมือตอ่หน้าองค์พระประธาน “ผมขอสาบานต่อหน้าหลวงพ่อผู้ปกปักษ์รักษาผาปืนแตกมาแสนนาน ไอ้เชน พนัญเชิง ไอ้เพลิง พญาไฟ และพวกผมทุกคน จะอดทนต่อความยากลำบากที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ เพื่อทำให้ผาปืนแตกกลับมาเป็น สวรรค์บนดินให้ได้”

ที่บริเวณเหมืองทองคำ ไอ้เชิดลากสายชนวนระเบิดยาวมาหยุดที่กลุ่มของกำนันปราบกับ ลายเสือที่ยืนรออยู่ ชาติยิ้มอย่างสะใจ
“งั้นก็จัดการระเบิดเปิดเหมืองเลยพ่อ เอาให้สนั่นลั่นไปทั้งผาปืนแตก”
กำนันปราบหัวเราะชอบใจ แล้วเตรียมจุดชนวนระเบิด แต่กลับถูกลายเสือห้ามไว้“เดี๋ยวสิวะไอ้ปราบ เอ็งลืมอะไรไปรึเปล่า เหมืองทองนี่ไม่ใช่ของเอ็งคนเดียวนะเว้ย”
“ข้าจะลืมได้ไงวะไอ้ลายเสือ นี่มันธุรกิจของเอ็งกับข้า”
พูดพร้อมกับขยับเปิดทางให้ลายเสือ ฟ้าลั่น และชาติเข้ามาช่วยกันจับที่ชนวนกดระเบิดแล้ว กดลงพร้อมกัน

ผาหินตรงหน้าถูกระเบิดที่วางเอาไว้ระเบิดเสียงดังกัมนาท ฝุ่นคละคลุ้งกระจาย ท่ามกลาง เสียงหัวเราะและเสียงปืนที่ไอ้คม ไอ้เชิด และพวกลูกน้องชักออกมายิงขึ้นฟ้า พร้อมกับโห่ฮากันอย่างผยอง
 
จบตอนที่ 16
กำลังโหลดความคิดเห็น