xs
xsm
sm
md
lg

เพลงรักผาปืนแตก ตอนที่ 15

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลวงพ่อสินกำลังนั่งทำสมาธิอยู่ในกุฏิ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินย่ำขึ้นมาบนกุฏิ
จึงรีบหันไปมอง ด้วยสีหน้าระแวงสงสัย ครูประสิทธิ์ค่อยๆ ก้าวเข้ามา
“ผมขอโทษครับหลวงพ่อ ไม่ได้อยากจะมารบกวนเวลาปฏิบัติสมาธิของหลวงพ่อเลย แต่ว่าผม...”
หลวงพ่อสินพูดอย่างรู้ใจ“ใจมันร้อนรุ่มกังวลเป็นห่วงเรื่องที่ฝากให้ผู้กองสมานไประเบิดถ้ำทองใช่มั้ย ข้าเองก็กังวล เลยต้องมานั่งทำสมาธิคิด แต่ว่าสิ่งที่เรากำลังทำคือการทำความดีเพื่อลูก เพื่อหลานในอนาคตของ ผาปืนแตก”
ครูประสิทธิ์ถอนหายใจ
“ผมเองก็พยายามคิดแบบนั้นครับ เพราะเห็นแก่อนาคตของลูกหลานในผาปืนแตก ไม่ อยากให้ต้องกลายเป็นแผ่นดินที่มีแต่โจรเข้ามาปกครอง แต่ยิ่งคิดแบบนี้ก็ยิ่งกังวล จนไม่อยากอยู่เฉยๆ อยากตามไปช่วยผู้กอง”
“ถ้าเอ็งไป เอ็งก็จะเกะกะคนหนุ่มเขาเปล่าๆ ผู้กองเขาก็รับปากว่าจะชวนไอ้เชน ไอ้เพลิง กับไอ้ยอดให้ร่วมมือด้วย กำลังคนหนุ่มอย่างพวกมันข้าว่าไว้ใจได้”
ครูประสิทธิ์นิ่งไปแล้วพยายามคิดอย่างที่หลวงพ่อสินบอก

แสนกำลังทำหน้าที่สัปเหร่อจัดการมัดตราสังข์ศพอยู่ จิกก็โผล่มาตบบ่า พลางออกปากเป็นห่วงพวกเชน ที่ยังไม่ติดต่อกลับมา
ขณะที่ทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่ ก็มีควันไฟจางๆโชยเข้ามา แสนมองไปทางโบสถ์ เห็นแสงไฟ วาบๆ ก็เริ่มใจคอไม่ดี
“เฮ้ย ควันไฟมาจากทางโบสถ์นี่หว่า หรือว่า”
แสนกับจิกชะงักมองหน้ากันสีหน้าไม่สู้ดี

แสนกับจิกรีบวิ่งเข้ามา เห็นไฟกำลังลุกไหม้จากรอบๆโบสถ์ ควันไฟคละคลุ้งไปทั่ว
ไอ้เชิดเอาผ้าคาดปากมือถือคบไฟโผล่เข้ามา แสนไม่ทันระวังตัวเลยโดน ทุบต้นคอทรุด ฮวบหมดสติ เชิดดึงผ้าคาดหน้าออกแล้วยิ้มร้าย

ส่วนหลวงพ่อสินกับครูประสิทธิ์ยังคงนั่งคุยกันอยู่ จนกระทั่งจิกวิ่งขึ้นมาบอก
“หลวงพ่อครับ หลวงพ่อ แย่แล้วครับ ไฟไหม้โบสถ์”

หลวงพ่อสิน ครูประสิทธิ์ และจิก ลงมาที่หน้าโบสถ์ ขณะที่กลุ่มควันไฟตลบหนาไปทั่ว บริเวณและเริ่มลามเข้าไปในโบสถ์ แต่กลับไม่เห็นแสนยืนอยู่ตรงนั้น
ครูประสิทธิ์หันไปเห็นคบเพลิงกับผ้าคาดหน้าตกอยู่ที่พื้น
“หลักฐานมีคนแอบมาวางเพลิงครับหลวงพ่อ”
จิกถึงกับทนไม่ไหว“วางเพลิงโบสถ์เนี่ยนะครู ไอ้พวกจัญไร ไม่กลัวนรกพวกไหนมันกล้าทำได้”
เสียงร้องขอความช่วยเหลือของแสนดังออกมาจากในโบสถ์
“ไอ้แสนถูกขังอยู่ในโบสถ์ ข้าจะไปช่วยมันออกมาเอง ส่วนพวกเอ็งรีบไปตามชาวบ้าน มาช่วยกันดับไฟ”
หลวพ่อสินสั่งเสร็จก็รีบไปที่โบสถ์ซึ่งกำลังมีไฟโหมรอบควันขโมง
ครูประสิทธิ์กัดฟันเจ็บใจ “ไอ้จิก เอ็งไปตามชาวบ้านมาช่วยกันดับไฟ”
“แล้วครูจะไปไหน”
“ไปลากคอไอ้สัตว์นรกที่มันเหยียบย่ำศาสนา”
ครูประสิทธิ์พูดด้วยท่าทีที่เอาจริงที่สุดในชีวิต แล้วเดินออกไปทันที

แสงไฟจากกองไฟ ที่ส่องกระทบกับสายแร่ทองคำในถ้ำ ยิ่งส่องแสงระยิบระยับ สวยงาม จนวัลภาอดที่จะทึ่งไม่ได้
“สายแร่ทองคำโดนแสงไฟแล้วส่องประกายออกมา แต่ความสวยงามของมันกลับจะนำ มาซึ่งอันตรายใหญ่หลวงต่อชีวิตทุกคนในผาปืนแตก”
วัลภามองแล้วก็ถอนหายใจ
“นั่นสินะ ถ้าพวกมันเป็นเจ้าของที่นี่ ก็เหมือนติดปีกให้เสือ ความมั่งคั่งจะทำให้อิทธิพล ของพวกมันแผ่ขยายอำนาจไปไม่สิ้นสุด”
“ พ่อฉันกับหลวงพ่อเลยพยายามจะปกปิดเรื่องนี้ไว้มาตลอด แต่กลิ่นของอำนาจก็ยังไป เตะจมูกพวกมันจนได้ ฉันถึงต้องอาสาวางระเบิดทำลายที่นี่ให้เป็นจุณ เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาที่นี่ได้อีก”
เชนพูดพร้อมกับหยิบแท่งระเบิดไดนาไมต์ที่อัดแน่นอยู่ในกระเป๋าเป้ออกมา

จ่าลูกน้องของผู้กองสมานรีบมาบอกเอื้อมเดือนว่าโบสถ์ถูกวางเพลิง
“คุณพระช่วย แล้วมีใครเป็นอะไรรึเปล่า”
ติ๋มรีบบอก
“มีค่ะ หลวงพ่อกับนายแสนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้พวกชาวบ้านพาไปที่สุขศาลาแล้ว”
เอื้อมเดือนรีบตามจ่ากับติ๋มออกไปด้วยอาการตื่นตระหนก

ยอดนั่งอยู่ข้างกองไฟกำลังเช็คกระสุนปืน พอเห็นเพลิงเดินกลับเข้ามา ก็พูดขึ้น
“เห็นพี่ชายเขามาเป็นพวกด้วยเลยเกิดเปลี่ยนใจอยากญาติดีกับเขาขึ้นมาแล้วเหรอวะ ไอ้เพลิง”
เพลิงส่ายหน้า “ข้าไม่ได้คิดอย่างนั้น”
“แล้วเอ็งเข้าไปคุยอะไรกับผู้กองเขาวะ อย่าบอกนะว่าเอ็งคิดจะทำตัวเป็นฮีโร่ไม่เข้าท่าอีก”
“มันไม่ใช่เรื่องของความเป็นฮีโร่อะไรหรอกไอ้ยอด แต่คนอย่างข้าไม่มีใครต้องคอยเป็น ห่วงอยู่ข้างหลัง ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ลุยหน้าได้ไม่ต้องห่วง ส่วนผู้กอง”
ยอดพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“พอเลยเอ็งพูดมาแบบนี้ข้าก็รู้แล้วว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผู้กอง เอ็งก็จะเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อให้ผู้กองได้รอดกลับไปหาคุณหมอ นี่ถ้าเอ็งไม่ใช่เพื่อนข้านะ ข้าคงเอาขวานจามหัวแหวกเอาสมองโง่ๆ เอ็งออกมาแล้วยัดเอาสมองฉลาดๆใส่เข้าไปแทน”
เพลิงถอนหายใจ แววตาเศร้า
“สิ่งที่ข้าทำไม่ได้เรียกว่าโง่ เรียกว่าสิ่งที่ถูกต้องต่างหาก”
เพลิงพูดแล้วเดินออกไปยอดมองตามแล้วส่ายหน้า

ครูประสิทธิ์ตามร่องรอยของมือเพลิงมาตามทางเดินในสวนจนแน่ใจว่ามันมาแถวนี้ พลางจับมีดพกสั้นที่เหน็บเอวเอาไว้อย่างระมัดระวัง ไอ้เชิดที่แอบซุ่มอยู่หลังต้นไม้ดักรอจังหวะอยู่ ยิ้มร้าย แล้ว ค่อยๆเข้ามาใกล้ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่หวังจะเล่นงาน แต่กลับถูกครูประสิทธิ์ชักมีดออกมาแล้วสะบัดทีเดียว โดนแขนจนได้เลือด
“ไอ้เชิด ไอ้สารเลว นึกแล้วว่าต้องเป็นฝีมือพวกแก”
ไอ้เชิดพุ่งเข้าใส่อีก พร้อมใช้ชั้นเชิงหลอกล่อจนครูประสิทธิ์เสียหลัก ก่อนที่จะจับมือบิดจน มีดร่วงหลุด แล้วเริ่มประเคนหมัดใส่ไม่ยั้ง
“ไอ้พวกสัตว์นรกมาเกิด หลวงพ่อไปทำอะไรให้พวกเอ็ง พวกเอ็งถึงต้องบุกมาเผาโบสถ์”
ครูประสิทธิ์กัดฟันอย่างเจ็บใจ จะเข้าซัดอีก แต่กลับถูกชาติ ที่โผล่เข้าจับข้อมือเอาไว้
“พวกฉันก็นับถือพุทธ แต่ที่ต้องบุกไปเผาโบสถ์เนี่ย เพราะจำเป็นต้องจัดที่จัดทางให้พระ อยู่ส่วนพระ ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องทางโลก ข้าใจมั้ยครู”
“นี่เอ็ง เอ็งรู้”
ชาติยิ้มร้าย แล้วใช้สันมือทุบที่ต้นคอครูประสิทธิ์ทีเดียวทรุดฮวบ หมดสติลงไปกอง แทบเท้า

เนื้อทองซึ่งถูกชาติใช้กุญแจมือล็อกไว้กับเตียงแต่เมื่อวาน อยู่ในสภาพอิดโรยน่าสงสาร
พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นกำนันปราบยืนอยู่ตรงหน้า
“พ่อกำนัน ช่วยฉันด้วย ฉันถูกชาติใส่กุญแจล็อกเอาไว้ที่นี่มาเป็นวันๆ แล้ว”
“ยังไงไอ้ชาติมันก็ลูกชายฉัน ถ้ามันทำอะไรลงไป สุดท้ายฉันก็ต้องเข้าข้างมันอยู่ดี”
เนื้อทองชะงัก “งั้นพ่อกำนันก็ไม่ได้คิดจะมาช่วยฉัน”
กำนันปราบยิ้มเหี้ยม
“ช่วยสิ จะให้เธอถูกมันล็อกกุญแจไปไหนไม่ได้เลยแบบนี้ได้ยังไง เพราะฉันเองก็มีเรื่อง อยากใช้เธออยู่เหมือนกัน งานไม่ได้หนักหนาอะไร แค่ส่งข่าวให้คนที่เธอรู้จักดี”
เนื้อทองมองอย่างระแวง กำนันปราบยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอาลูกกุญแจไป ช่วยไขปลดล็อกกุญแจมือ

พระอาทิตย์เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นจากขอบฟ้าช้าๆ แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้ามาในถ้ำจนเป็น ลำแสงสวยงาม เชนจูงมือวัลภาเข้ามา แล้วเอากระจกแผ่นหนึ่งเข้าไปวางใกล้ๆเพื่อให้แสงตกลงมากระทบ แล้วสะท้อนเป็นลำแสงอีกเส้นพุ่งตรงไปยังอีกด้านของถ้ำ
เชนรีบจูงมือพาวัลภาไปที่ผนังหินที่มีแสงส่องกระทบ ตรงบริเวณรอยแยกซึ่งเป็นช่องให้ แทรกตัวเข้าไปผ่านทางช่องหิน

เชนพาวัลภามาหยุดยืน พลางมองไปที่ทุ่งหินซึ่งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ก้อนหินที่เรียงราย ตามพื้นทุกก้อน ล้วนแล้วแต่เป็นก้อนหินที่เป็นแร่ทองคำสีเหลืองอร่าม
วัลภามองอย่างตะลึงลาน
“คุณพระช่วย เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”
พลางเดินมาหยิบก้อนหินทองคำขึ้นมาจากพื้นมาดูเหมือนเด็ก
“วัลภา ระวังตรงนั้น”
เชนรีบเดินเข้าชี้ให้วัลภาดูกองเครื่องมือขุดดินเก่าๆที่ทำจากสัมฤทธิ์ ใกล้ๆ กันมีเศษซาก โครงกระดูกที่นอนตายอยู่ วัลภาเผลอร้องออกมา
“ซากศพของคนโบราณน่ะวัลภา ดูจากเครื่องมือที่เขาใช้ยังเป็นพวกสัมฤทธิ์อยู่เลย อายุก็ น่าจะสองร้อยปีขึ้น ฉันว่าที่นี่น่าจะเป็นเหมืองทองโบราณ บรรพบุรุษของผาปืนแตกน่าจะค้นพบแล้วปกปิด เอาไว้ ศพที่เห็นนี่ก็คงเป็นของพวกที่แอบเข้ามาแล้วออกไปไม่ได้”
“เพราะอะไรเหรอ”
“ก็คงเหตุผลเดียวกับที่หลวงพ่อกับพ่อฉันต้องการให้ระเบิดถ้ำไม่ให้ใครเข้ามาอีกไง”
“ทองคำจะนำมาซึ่งอำนาจ ความโลภ และความตายของชาวบ้านผาปืนแตก”
เชนพนักหน้ารับกับวัลภาอย่างหนักแน่น

เอื้อมเดือนช่วยดูแลจนหลวงพ่อสินรู้สึกตัว ตามลำตัวมีผ้าพันแผลป้องกันแผลจากการ ถูกไฟลวกอยู่หลายแห่ง
แสนรีบเข้าไปยกมือไหว้อย่างซาบซึ้ง “ผมต้องขอบคุณหลวงพ่อมากเลยนะครับที่เสี่ยงชีวิตไปช่วย ถ้าไม่ได้หลวงพ่อ ผมอาจจะ นอนสำลักควันตายอยู่ข้างในโบสถ์ไปแล้ว”
หลวงพ่อสินยิ้มอย่างเมตตา พลางถามหาครูประสิทธิ์ ทุกคนก็มีสีหน้าอึกอัก“เกิดอะไรขึ้น”
น้อยจึงรีบเล่า
“คืออย่างนี้ค่ะหลวงพ่อ ตอนที่กำลังชุลมุนดับไฟ ไอ้จิกมันบอกว่าครูพยายามตามล่าตัว มือเพลิงที่มาเผาโบสถ์ แล้วครูก็หายตัวไปยังไม่มีใครเห็นเลยจ้ะ ตอนนี้ไอ้จิกกับพวกลูกวงกำลังตามหาแต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าครูหายไปไหน”

เนื้อทองถูกชาติดึงแขนฉุดกระชากเข้ามาในห้องเก็บของที่บ้านแล้วจับตัวให้ดูสภาพ ของครูประสิทธิ์ ซึ่งถูกจับมัดตัวเอาไว้ ในสภาพอิดโรย ใบหน้าฟกช้ำ
“ครู อย่าทำร้ายครูนะ ชาติ ปล่อยครูไปเถอะ ฉันขอร้อง จะให้ฉันทำอะไรฉันยอมทุกอย่าง แต่อย่าจับครูมาทรมานแบบนี้เลยนะ ฉันขอร้อง”
เนื้อทองกอดแขนอ้อนวอน แต่ชาติกลับไม่สนใจบีบแขนเนื้อทองขึ้นมาจิกหน้าเอาเรื่อง
“ต่อให้เธอลงไปดิ้นตายตรงนี้ ฉันก็ไม่มีวันปล่อยมันไปหรอก ยกเว้นก็แต่ว่าเธอจะไปบอก ให้พวกไอ้เชน ไอ้เพลิงแล้วก็ไอ้ผู้กองนั่น หยุดขัดขวางพวกฉัน วางอาวุธแล้วเดินเรียงตัวมา ไอ้แก่นี่ ถึงจะรอด”
ครูประสิทธิ์รีบร้องห้าม
“อย่านะเนื้อทอง ไม่ต้องไปทำตามที่มันสั่ง พวกมันจะไม่มีวันได้เป็นเจ้าของเหมืองแร่ ทองคำผาปืนแตกจะไม่ใช่แหล่งทำเงินแต่จะเป็นหลุมฝังศพของพวกมัน”
ชาติสั่งการให้ไอ้เชิดระดมหมัดอัดใส่หน้าและลำตัวของครูประสิทธิ์ไม่หยุด จนเลือดสาด กระเซ็นกระเด็นเปรอะหน้าเนื้อทอง
“พอเถอะชาติ หยุด ได้โปรด ฉันขอร้อง อย่าทำร้ายครูเลย”
ชาติไม่สนใจบีบหน้าเนื้อทองบังคับให้ดูครูประสิทธิ์ถูกซ้อมอย่างเลือดเย็น
“ถ้าพวกมันยังไม่ยอมหยุด ก็เท่ากับว่าพวกมันยื่นมีดให้ฉันฆ่าครูประสิทธิ์เอง”
ชาติหัวเราะชอบใจ

จิกพาเนื้อทองเข้ามาที่สุขศาลา ขณะที่แสนตั้งท่าจะไปตามหาครุประสิทธิ์
“ข้าไปเจอเนื้อทองในหมู่บ้าน ระหว่างที่ข้ากำลังตามหาครู แล้วเนื้อทองก็มาบอกข้า...”
จิกหน้าเครียด เนื้อทองน้ำตารื้น
“คุณหมอ ฉันรู้ว่าครูอยู่ไหน แต่ว่าฉันช่วยครูไม่ได้”
เนื้อทองโผเข้าไปกอดเอื้อมเดือน

เชน กำลังเอาแท่งระเบิดไดนาไมต์ในเป้มาเสียบตามช่องหินรอบๆ ถ้ำ พร้อมกับลากสายไฟ ต่อสายชนวนระเบิดมารวมกัน วัลภาจะเข้ามาช่วย แต่เกือบเผลอทำระบิดตกพื้น

เพลิงแอบซุ่มดักรอรับมืออยู่ ครู่หนึ่งผู้กองสมาน ก็เข้ามา
“ป่านนี้เชนน่าจะวางระเบิดรอเอาไว้เสร็จแล้ว เหลือก็แต่เราที่จะล่อพวกมันให้ไปตายหมู่ ในถ้ำทองเท่านั้น”

เชนเอาแท่งระเบิดไดนาไมต์ไปวางจุดสุดท้ายเสร็จ ก็ลากสายชนวนมารวมกัน เป็นที่ เรียบร้อย
“ป่านนี้พวกพี่บึ้กน่าจะล่อพวกมันเข้ามาใกล้แล้ว ฉันว่าเธอควรจะระวังตัวบ้างนะวัลภา”
วัลภารีบเดินไปหยิบปืนของเชนแล้วเดินออกไป

ไอ้เชิดพาตัวน้ำค้างเข้ามาในโรงไม้ ครู่หนึ่งชาติก็เดินเข้ามา พลางยิ้มอย่างมีลับลมคมนัย “เธอกับพ่อเธอคลุกคลีอยู่กับพวกชาวบ้านดีใช่มั้ย ฉันมีอะไรอยากให้เธอช่วยหน่อย”
“ช่วยอะไรจ๊ะ พี่ชาติบอกฉันมาได้เลย พี่ชาติแทบไม่ต้องขอร้องฉันด้วยซ้ำ เพราะฉันก็ ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นเมียพี่คนนึง”
ชาติยิ้มเจ้าเล่ห์
“น่ารักมากน้ำค้างคนสวย และจะน่ารักและทำให้ฉันภูมิใจมากกว่านี้ ถ้าเธอจะช่วยบอกฉันมาว่า ในกลุ่มพวกชาวบ้านมีใครบ้างที่ฝักใฝ่เห็นด้วยกับพวกไอ้เชน และคิดจะเป็นปฏิปักษ์กับพ่อฉัน”
“ฉันก็พอรู้อยู่หลายคน แต่พี่ชาติอยากจะรู้ทำไมเหรอ”
“เพราะตอนนี้ ได้เวลาที่ผาปืนแตกจะเป็นเมืองที่ถูกปิดตายแล้วน่ะสิ”
น้ำค้างชะงักกับท่าทางของชาติที่ดูน่ากลัว

ยอดแอบลอบเข้ามาในแคมป์ของลายเสืออย่างเงียบกริบ ก่อนที่จะซุ่มรอจังหวะ จนทหาร ลูกน้องที่ยืนเฝ้าอยู่เข้ามาใกล้จึงกระโจนออกไปเล่นงานทุบต้นคอมันจนสลบ พลางมองเข้าไปที่แคมป์ ด้วยสีหน้าสงสัย
“พวกมันหายไปไหนกันหมดวะ เหลือไว้เฝ้าแคมป์แค่คนเดียว ?”
ยอดสีหน้าแปลกใจ ก่อนจะรีบถอยออกไป

เพลิงกับผู้กองสมาน ที่รออยู่ เห็นยอดหายไปนานก็เริ่มร้อนใจ เพลิงกำลังจะออกไปตาม
แต่ผู้กองสมานได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา ทั้งคู่รีบยกปืนขึ้นแล้วเดินไปดู ที่แท้คนที่เข้ามา คือเอื้อมเดือน และเนื้อทอง
เพลิงและผู้กองสมานตกใจ เอื้อมเดือนรีบบอกว่าเนื้อทองมีเรื่องสำคัญจะบอก
เนื้อทองหน้าเศร้าๆ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร ยอดก็รีบวิ่งเข้ามารายงาน
“พวกมันไม่อยู่ที่แคมป์เลยสักคน ไม่มีวี่แววว่าจะสู้รบปรบมือกับพวกไอ้กำนันปราบด้วย”
เพลิงขมวดคิ้ว“แล้วพวกมันหายไปไหนกันหมด”
เนื้อทองรีบบอก
“ฉันรู้ว่าพวกมันอยู่ไหน และกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของชาวบ้านในผาปืนแตก”

ที่บริเวณตลาด ขณะที่พวกชาวบ้านหลายคนกำลังจับจ่ายซื้อของกันตามชีวิตปกติ รถจี๊ปทหารของฟ้าลั่น ก็ขับเข้ามาจอดพร้อมกับพวกทหาร
ฟ้าลั่นก็ลงจากรถแล้วยิงปืนเอ็ม 16 ขึ้นฟ้า เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว ชาวบ้านกรีดร้องเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ ต่างคนต่างรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ก็เจอไอ้คมกับพวกทหารลูกน้อง เอาปืนจ่อ ไม่ให้ใครหนี
“ไม่ต้องคิดหนี ตอนนี้ชีวิตพวกแกทุกคนอยู่ในมือไอ้ฟ้าลั่น คำรามศึกแล้ว” ฟ้าลั่นหัวเราะชอบใจ พลางหันไปสั่งไอ้คม
“ไอ้คมเอารายชื่อมา”
ไอ้คมเอากระดาษรายชื่อแผ่นหนึ่งมายื่นให้ฟ้าลั่น
“ตอนนี้พวกแกคงสงสัย อยากรู้ว่ารายชื่อในกระดาษนี่คืออะไร เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าข้า เรียกชื่อใครแล้ว ก็ให้มันลุกขึ้นมาแสดงตัว”
ฟ้าลั่นเรียกไป 3 ชื่อไม่มีใครยืนขึ้น แต่ฟ้าลั่น ก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะพวกชาวบ้านมองหน้า ชายหนุ่มทั้ง 3 คนที่นั่งปะปนอยู่ด้วยกัน
ฟ้าลั่นพยักหน้าให้ไอ้คมกับพวกทหารเข้าไปคุมตัวชาย 3 คนไว้
“เอาล่ะ ทีนี้ พวกแกก็คงอยากรู้แล้วใช่มั้ยว่ารายชื่อที่ข้าเรียกมันหมายถึงอะไร หึๆๆ..ฟัง ให้ดี จะได้เอาไปบอกคนอื่นๆที่พวกแกรู้จักว่ นี่คือรายชื่อของพวกหัวแข็งที่ไม่มีค่าพอ จะได้หายใจ ต่อในผาปืนแตก”
พูดจบ ฟ้าลั่นก็ยิงใส่หัวของชายคนแรกจนตายคาที่ ชายที่เหลืออีก 2 คนตกใจหน้าเสีย ฟ้าลั่นยิ้มร้ายแล้วพยักหน้าให้ไอ้คมเป็นคนจัดการต่อ จนกลายเป็นศพทั้ง 3 คน

พวกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายผ่านมาที่หน้าร้านกาแฟ ทำเอาสำรวย อดแปลกใจไม่ได้ น้ำค้างรีบเข้ามาแล้วบอกให้พ่อปิดร้าน
ยังไม่ทันขาดคำเสียงปืนเอ็ม 16 ก็ดังสนั่นเข้ามาแต่ไกล สำรวยตกใจรีบเดินออกไปดู
เห็นลายเสือกับทอมและพวกทหาร ถือปืนเดินตามไล่ยิงพวกผู้ชายในหมู่บ้านอย่างโหดเหี้ยม “เฮ้ย ชิบหายแล้ว ไอ้พวกนั้นมันเป็นใคร มันมาไล่ฆ่าชาวบ้านทำไม”
“นั่นมันพวกพ่อค้ายาเสพติด พวกมันไม่ได้มาไล่ฆ่าชาวบ้านอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยหรอกพ่อ แต่มันกำลังเก็บกวาดพวกที่อยู่คนละฝั่งกันอยู่”
สำรวยหันขวับมาทันที
“เอ็งหมายความว่ายังไววะนังน้ำค้าง”
“ฉันขี้เกียจอธิบายตอนนี้ เอาเป็นว่า..”
น้ำค้างรีบเอาผ้าแถบสีดำที่เตรียมมาติดอยู่กับมือผูกเข้ากับต้นแขนของสำรวยทันที
“ผูกให้ฉันด้วยพ่อ เร็วๆเข้า แล้วพอพวกนั้นมา พ่อก็ยิ้มให้พวกมันนะ”
สำรวยผูกผ้าแถบสีดำให้น้ำค้าง ลายเสือกับทอมตามมาลากตัวชายชาวบ้านคนหนึ่งตามรายชื่อมาทันที่หน้าร้าน ทอมคว้า ตัวมันมาได้ ก็จับมันมาบิดหักคอดังตายคาที่ต่อหน้าต่อตาสำรวยกับน้ำค้าง
ลายเสือหัวเราะชอบใจ ทอมหันไปมองสำรวยกับน้ำค้าง สำรวยตกใจกลัว น้ำค้างรีบฉีกยิ้ม ให้แล้วชี้ให้ดูแถบผ้าสีดำที่ผูกแขนอยู่ ลายเสือเห็นก็พยักหน้าให้ไอ้ทอม
“พวกนี้ไม่เกี่ยว ไปต่อได้แล้ว”
ลายเสือกับทอมและพวกทหารพากันเดินต่อไป สำรวยมองแล้วอดสงสัยน้ำค้างไม่ได้

เชนกับวัลภา ที่อยู่ในถ้ำทอง เริ่มเป็นกังวล เพราะพวกเพลิงยังไม่ล่อพวกลายเสือให้มา ติดกับระเบิด ระหว่างนั้นเสียงคนเดินเข้ามา เชนชักปืนออกมาแล้วดันวัลภาให้ถอยไปอยู่ข้างหลัง พลันเสียงของเพลิงก็ดังเข้ามา
“พวกมันไม่ได้มาติดกับเรา แต่เรานี่แหละที่กำลังจะติดกับพวกมัน”
เชนกับวัลภาชะงักไปแล้วหันไปเห็นเพลิงเข้ามาพร้อมกับเนื้อทอง
“พี่บึ้ก เนื้อทอง หมายความว่ายังไง”

ขณะที่พวกชาวบ้าน ก็อู้มลูกจูงหลาน หอบสัมภาระหนีออกจากหมู่บ้านกันจ้าละหวั่น พอเห็นชาติกับไอ้เชิดโผล่มา พวกชาวบ้านก็นึกว่าจะยึดชาติเป็นที่พึ่ง ที่ไหนได้ ชาติกลับเปิดเผยตัวตนว่าเป็นพวกเดียวกับพวกลายเสือ

เชนกับวัลภาอึ้งตกใจเมื่อรู้เรื่องจากเนื้อทอง
“บอกฉันมาเนื้อทอง พวกมันทำอะไรพ่อฉัน”
เชนเขย่าตัวเนื้อทองอย่างแรง เนื้อทองพูดไม่ออก
“เชน อย่าให้ฉันพูดเลย ฉันสงสารครู”
เพลิงเข้าไปดึงแขนเชนออก “เชน พอเถอะ”
แต่เชนไม่ฟังเสียง ผลุนผลันจะออกไปเอาคืน วัลภารีบตามไปห้าม“พวกมันทำแบบนี้เพราะต้องการล่อให้เธอไป และไม่ใช่แค่เธอที่ต้องเสียพ่อ แต่พวกเราทุกคน ก็กำลังจะเสียผาปืนแตกไปเหมือนกัน”
เพลิงพยักหน้า
“วัลภาพูดถูกนะเชน ตอนนี้เราต้องมีสติ พร้อมที่จะรับมือพวกมัน กอบกู้ผาปืนแตกจาก มือคนชั่ว”
เชนยังดูฮึดฮัดเป็นห่วงพ่อ ขณะที่วัลภาที่กอดเชนไว้แน่น แล้วมองด้วยแววตาวิงวอน

ครูประสิทธิ์ในสภาพอิดโรย ถูกลูกน้องกำนันปราบชกจนหน้าหัน กำนันปราบกับลายเสือเข้ามา พร้อมสั่งให้หยุด
“เป็นไงบ้างครู แข็งใจเอาไว้หน่อยนะ ตอนนี้ทุกอย่างกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อะไรๆมันก็เลยยังไม่เข้าที่เข้าทาง”
“บรรพบุรุษของผาปืนแตก หลั่งเลือดทุกหยดเพื่อรักษามันเอาไว้ให้ลูกให้หลาน เอ็งอย่าหวัง ว่า จะยึดไปได้เลย ไอ้สารเลว”
ครูประสิทธิ์ถ่มเลือดที่กลบปากอยู่ใส่เสื้อของกำนันปราบจนเลอะ กำนันปราบโมโห จิกหัวครูประสิทธิ์ขึ้นมา
“เห็นนี่มั้ยครู ฉันจะแนะนำให้รู้จักเอาไว้ นี่แหละ ลายเสือ คำลือ ราชาค้ายาเสพติด 3 แผ่นดิน สหายผู้ร่วมลงทุนของฉัน ลายเสือ แกบอกไอ้แก่นี่ทีสิว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับผาปืนแตก”
ลายเสือยิ้มร้าย เดินเข้าไปจ้องหน้าครูประสิทธิ์เขม็ง “ตอนนี้ทั้งทหารรับจ้างของข้าแล้วก็พวกลูกน้อง ไอ้ปราบเข้ายึดพื้นที่ทุกตารางนิ้วของผา ปืนแตกเอาไว้ได้แล้ว พวกชาวบ้านที่คิดจะตอบโต้ ก็โดนเก็บกวาดจนไม่มีใครกล้าโผล่หัวออกมาอีก เหลือก็แต่…”
ลายเสือหยุดยิ้มแล้วให้กำนันปราบพูดต่อ
“พวกกบฏหัวแข็งลูกชายแกกับพวกไอ้เพลิง ซึ่งมันก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะถ้ามันยังคิดระเบิด ถ้ำทองทิ้ง นั่นก็เท่ากับว่า มันยื่นลูกกระสุนมายัดใส่ปืนข้าให้เป่าหัวกะบาลเอ็งไง”
ลายเสือกับกำนันปราบหัวเราะสะใจ

ผู้กองสมานยืนอยู่ข้างเตียงหลวงพ่อสินในสุขศาลาโดยมีเอื้อมดือน จ่า แสนและน้อยอยู่ใกล้ๆ
พร้อมกับรีบบอกว่าเชนกำลังจุดระเบิดทำลายถ้ำทองทิ้ง แต่พวกนั้นกลับไหวตัวทัน จับครูประสิทธิ์ไปเป็นข้อ ต่อรอง
เอื้อมเดือนถอนหายใจ“หายนะครั้งใหญ่กำลังมาเยือนทุกคนในผาปืนแตก ถ้าเราหยุดไม่ได้ก็เท่ากับว่า..”
“หลวงพ่อรู้ว่าทุกคนกำลังกลัว แต่นี่แหละคือการทดสอบว่าเรายังเชื่อมั่นในความดี กันอยู่ หรือเปล่า จงอย่ากลัวที่จะทำความดี เพราะยิ่งกลัวก็เท่ากับยอมแพ้ที่จะทำดี”
หลวงพ่อสินพูดได้แค่นั้น ก็เริ่มมีอาการไอออกมา และมีอาการปวดข้างใน เพราะช้ำใน จนเลือด เปรอะมือ

ผู้กองสมานเดินไปเดินมาอยู่ข้างนอกสุขศาลา ครู่หนึ่งเอื้อมเดือนเดินออกมา พร้อมแจ้งอาการว่าหลวงพ่อสิน ได้รับการกระทบกระเทือนมาก ข้างในก็เลยช้ำกว่าที่คิด
จิกกับยอดรีบวิ่งเข้ามา
“ผู้กอง แย่แล้วครับ”

ผู้กองสมานกับเอื้อมเดือนรีบเข้ามาบอกหลวงพ่อสิน
“ผมคงต้องนิมนต์หลวงพ่อกลับไปอยู่ที่วัดก่อน เพราะพวกมันกำลังมาตรวจที่นี่ ผมกับไอ้ยอด จะอยู่เล่นงานพวกมันเอง ฝากพาน้องสาวผมไปอยู่ที่วัดก่อน แล้วพวกผมจะตามไปสมทบ”
พลางบีบไหล่ให้กำลังใจเอื้อมเดือน ที่มองมาอย่างกังวล
“อย่าห่วงพี่เลย เดี๋ยวไอ้เพลิงมันก็คงตามมาสมทบ รีบไปกันเถอะ”

ผู้กองสมานเดินออกมาสมทบกับยอดและจก ก่อนจะโยนปืนลูกซองให้ยอดรับไป ส่วนจิกใช้ปืนสั้นเป็นอาวุธ แต่แอบเป็นกังวลกับการเชิญหน้าครั้งนี้

กำนันปราบถามย้ำทันทีที่เนื้อทองเดินเข้ามา
“เรียบร้อยแล้วเหรอ ทุกคำพูดที่ฉันบอกไป เธอได้บอกไอ้เชนไปหมดแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะพ่อกำนัน”
“ดีมาก สมกับเป็นลูกสะใภ้ฉัน แล้วไอ้เชนมันว่าไงบ้าง”
เนื้อทองนิ่งมองหน้ากำนันปราบ พลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

เชนแอบซุ่มเข้ามาในบ้านกำนันปราบ พยายามหลบไม่ให้พวกลูกน้องกำนันที่เดินถือปืนเอ็ม 16 เดินผ่านมาเห็น จู่ๆ วัลภากับเพลิงก็โผล่เข้ามา ทำเอาเชนตกใจ
“ตามฉันมากันทำไม”
วัลภารีบโวย
“เพราะผัวฉันมันสันดานดื้อไง ชักแม่น้ำทั้ง 5 มาอธิบายแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ยังหาเรื่องมา เสี่ยงตายอีก”
“ฉันขอโทษวัลภา แต่พ่อฉันคงทนให้พวกมันทรมานนานไม่ได้หรอก ฉันถึงจำเป็น”
เพลิงรีบตัดบท
“เอาล่ะๆ ในเมื่อเชนตัดสินใจแล้ว พวกเราก็ต้องไม่ทิ้งกัน ทำตามที่เชนว่า หาทางช่วย ครูออกมาให้ได้”

“ว่าไงล่ะเนื้อทอง ไอ้เชนมันว่าไงบ้าง”
กำนันปราบถามย้ำ เนื้อทองจึงปดไปว่าพวกเชน ยอมวางมือไม่ระเบิดถ้ำทอง เพื่อขอแลกตัวกับครูประสิทธิ์ กำนันปราบยิ้มพอใจ พลางถามต่อว่าแล้วตอนนี้ไอ้เชนมันอยู่ที่ไหน
“ไปรออยู่ในหมู่บ้านแล้วจ้ะ”
กำนันปราบหันไปที่พวกลูกน้อง
“เฮ้ย ไปบอกพวกไอ้ฟ้าลั่นว่าให้ไปเก็บไอ้เชนกับพวกให้หมด อย่าให้เหลือ”
เนื้อทองทำหน้าตกใจ “พ่อกำนัน ไหนบอกว่าจะปล่อยครูไง ทำไมทำแบบนี้ล่ะ”
กำนันปราบหัวเราะชอบอกชอบใจเสียงดัง

เนื้อทอง ที่ถูกลูกน้องกำนันปราบพาตัวเดินผ่านเข้ามาตรงบริเวณที่เชนกับเพลิงและวัลภา ซุ่มอยู่ แอบเบือนหน้าหันไป แล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าทางสะดวก เชนกับวัลภารีบเล็ดลอดเข้าไปข้างใน เพลิงที่คอยระวังดูต้นทางให้ มองตามอย่างเป็นห่วง

รถจี๊ปของชาติขับเข้ามาจอดที่หน้าสุขศาลา ไอ้เชิดถือปืนเอ็ม 16 ลงจากรถพร้อมลูกน้อง
ชาติรีบสั่งการ
“ค้นให้ทั่ว ถ้าเจอตัวพวกมันก็ลากเอาออกมาด้วย”
ไอ้เชิดกับพวกลูกน้องกรูกันเข้าไป ชาติยิ้มร้ายแล้วเดินตามเข้าไป ผู้กองสมาน ยอด และจิก แอบซุ่มอยู่รอบๆสุขศาลาอย่างเงียบเชียบ

ไอ้เชิดกับพวกลูกน้องเข้ามารื้อค้น ตรวจตราทุกห้องในสุขศาลา ชาติตามเข้ามา ไอ้เชิดรีบรายงานว่าพวกเชนคงไหวตัว พาหลวงพ่อสินหนีไปแล้ว
ชาติหัวเราะเหยียดๆ
“ผาปืนแตกถูกปิดตายทุกช่องทาง แม้แต่พญาอินทรีย์ ที่คิดจะบินหนีก็ไม่พ้นต้องโดนสอยร่วง ลงมา แล้วนับประสาอะไรกับมดปลวกอย่างพวกมัน”
ทันใดนั้นเสียงระเบิดระเบิดก็ดังสนั่น.มาจากข้างนอก แรงอัดระเบิดทำให้เศษฝุ่น เศษใบไม้ กระจายฟุ้งเข้ามาทางหน้าต่าง ชาติกับพวกไอ้เชิดตกใจ

ชาติกับไอ้เชิดและพวกลูกน้องรีบวิ่งออกมา ก็พบว่ารถจี๊ปโดนลอบวางระเบิดจนไฟลุก
ยอดและจิกระดมยิงปืนกราดเข้าใส่ ชาติกับเชิดและลูกน้อง กระโจนหลบกันพัลวัน “ฉันจะบุกเข้าไป ยิงคุ้มกันให้ด้วย”
ผู้กองสมานสั่งการ แล้วรีบกระโจนโผออกไป

เชนกับวัลภาแอบลอบเข้ามาถึงใต้ถุนเรือน เจอลูกน้องปราบเดินถือปืนป้วนเปี้ยนอยู่คนนึง แต่ทั้งคู่ก็เล็ดลอดมาได้ แล้วจะพากันไปต่อ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอลำดวนเดินออกมายืนตรงระเบียง ใกล้กับทางที่ เชนจะลอบเข้าไปช่วยครูประสิทธิ์ เชนกับวัลภานต้องหยุดอยู่กับที่ไม่กล้าคืบหน้าไปต่อ
วัลภาจับมือเชนมาบีบ แล้วผละออกไปยืนกลางแจ้งอย่างตั้งใจให้ลำดวนมองเห็น
“วัลภา ? นี่แกมาที่นี่ได้ยังไง”
“ฉันแอบเข้ามาเพราะว่าฉันมีเรื่องต้องคุยกับแม่”
ลำดวนถึงกับชะงัก
“แกไม่รู้เหรอไงว่าในผาปืนแตกกำลังเกิดอะไรขึ้น”
“รู้ หนูถึงต้องแอบเข้ามาหาแม่ไง แม่มีที่เงียบๆ ปลอดภัยคุยกับหนูรึเปล่า”
ลำดวนพยักหน้า แล้วเดินนำออกไปอีกทาง วัลภาเดินตาม แล้วหันมาพยักหน้าให้เชนรีบ ไปช่วยครูประสิทธิ์

ผู้กองสมานกับยอดรุกเข้ามาถึงตัวชาติกับไอ้เชิด แล้วรีบแย่งปืนจากมือทั้งคู่ ก่อนที่จะดวล มือเปล่าแลกหมัดกัน ระหว่างไอ้เชิดกับยอด และผู้กองสมานกับชาติจิกที่อยู่อีกทางโดนลูกน้องชาติเล่นงานจนเกือบจะหมดท่า ยอดหันมาเห็นเลยใช้ขวานของ ตัวเองโยนให้จิกรับไปรับมือพวกมัน
จิกใช้ขวานที่ยอดให้มาไล่ฟันมั่วๆ ไม่ยั้งจนลูกต้องชาติวิ่งหนีกันกระเจิง ผู้กองสมานซัดไม่ยั้งชาติเสียท่า โดนอัดทั้งหน้าและลำตัวไปหลายหมัดจนโงนเงน ชาติชักมีดพกที่เหน็บอยู่ที่ข้อเท้าออกมาแล้วแทงที่สีข้างของผู้กองสมานอย่างจัง ยอดได้ยินเสียงร้องของผู้กองสมานก็หันกลับไปมอง จนพลาดโดนไอ้เชิดเตะเข้าลำตัว จนยอดเพลี่ยงพล้ำ
ครู่เสียงรถจี๊ปก็ดังเข้ามา จิกหันไปเห็นเป็นไอ้คมกับพวกทหารลูกน้องคมกำลังมุ่งหน้าเข้ามา “แย่ แย่แล้ว”

ชาติถอนมีดออกจากสีข้างผู้กองสมานแล้วง้างจะแทงหัวใจ แต่กลับถูกผู้กองสมานจับมือไว้ คมมีดห่างจากอกเพียงแค่คืบ ก่อนจะออกแรงฮึดต้าน แล้วกระแทกหัวใส่ชาติจนเซ จากนั้นก็ตามไปปลดมีด จากมือชาติ ไอ้เชิดที่กำลังอัดไอ้ยอดอยู่ หันไปมองชาติ เลยถูกยอดพลิกกลับมากระหน่ำหมัดเข้าใส่ไม่ยั้ง
จิกเข้ามาร้องตะโกนบอก
“พอได้แล้วผู้กอง พวกมันกำลังมาสมทบที่นี่ เราต้องหนีแล้ว”
จิกกับยอดต้องช่วยประคองหิ้วปีกพาผู้กองสมาน ที่โดนแทงบาดเจ็บออกไป ชาติยันตัวลุกขึ้น มองตามอย่างเจ็บใจ

“แม่เตือนแกเลยนะวัลภา สถานการณ์ตอนนี้ แกอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยดีกว่า กลับมาอยู่ กับแม่แล้วชีวิตแกจะปลอดภัย”
ลำดวนเตือนวัลภาด้วยความเป็นห่วง เมื่อหลบออกมาคุยกันตามลำพัง“ปลอดภัยจากพวกคนเลวน่ะเหรอแม่ แล้วทำไมแม่ไม่คิดกลับบ้างว่า ในสถานการณ์แบบนี้ มันถึงเวลาแล้วที่เราจะใช้ความดีสู้กับความเลว”
ลำดวนด่ากลับ
“สู้? แกโง่หรือบ้าตามผัวแกไปแล้วเนี่ยวัลภา แกแหกตาดูบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา หลงรักไอ้จิ๊กกะโล่อย่างไอ้เชน จนไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร นังลูกโง่ ตอนนี้พี่ปราบเขาหันมาร่วมมือ กับพวก ลายเสือ เขาเสริมเขี้ยวเล็บจนน่ากลัว เพราะเป้าหมายเขาในอนาคตมันยิ่งใหญ่กว่าที่จะต้องมารับมือกับ ไอ้กระจอกอย่างผัวแก”
“ก็ดีแล้วที่แม่บอกหนูแบบนี้ เพราะยิ่งเป้าหมายของผัวแม่ใหญ่โตมากแค่ไหน เวลาที่ โดนคนตัวเล็กๆ ขัดแข้งขัดขาจนล้มทิ่มหัวคะมำ มันก็ยิ่งล้มเสียงดังมากขึ้นเท่านั้น”
“หุบปากนะวัลภา”
ลำดวนฟาดฝ่ามือเข้าที่หน้า จนวัลภาหน้าหัน

เชนหลบหลีกพวกลูกน้องกำนันปราบขึ้นมาบนเรือน พลางเดินไปที่ประตูห้องซึ่งขังครูประสิทธิ์ ก่อนที่จะยื่นมือไปเปิด ประตูช้าๆ แล้วเดินเข้าไปข้างใน

เพลิงซึ่งแอบซุ่มรอเฝ้าดูต้นทางให้เชนกับวัลภาอยู่เริ่มกังวลเป็นห่วง ทันใดนั้นทอม ก็เดินโผล่เข้ามา พร้อมพุ่งหมัดเข้าหน้าจนเพลิงกระเด็น เพลิงตั้งสติได้พลางกำหมัดแน่นจนกล้ามแขนขึ้นเส้นเลือด ก่อนจะ พุ่งเข้าปะทะกับทอมอย่างสูสี ทั้งรูปร่างและฝีมือ

เชนเข้ามาในห้องขังที่แสงสลัวๆ เห็นมีคนถูกจับมัดอยู่กับเก้าอี้ที่กลางห้องในสภาพคอตก มีถุงดำคลุมหัว พลางรีบขยับเข้าไปใกล้ เห็นเสื้อที่ใส่ก็มีแต่คราบเลือดเกรอะกรังก็ยิ่งสลดสงสาร
“นี่พวกมันทำกับพ่อถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
เชนเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าพร้อมยื่นมือไปดึงผ้าคลุมหัวสีดำออก แต่ทว่า...
“ไง ไอ้เชน พนัญเชิง ในที่สุดความแค้นของเอ็งกับข้าก็ถึงวันที่ต้องสะสางซะที”
เชนชะงักอึ้ง ฟ้าลั่นยิ้มร้าย ลายเสือเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับปืนในมือ

วัลภายกมือลูบแก้ม ที่โดนตบ พลางหันกลับมาจ้องหน้าลำดวนเขม็ง
“เอาสิแม่ ลงมือกับฉันอีกเลย ฉันจะได้รู้ว่า แม่ฉันตายไปจากโลกนี้แล้ว และที่ยืนตรงหน้าฉัน ก็มีแต่ผู้หญิงที่เห็นแก่ตัว บูชาเงินเป็นพระเจ้า ทั้งๆที่มีตราบาปติดตัว แต่กลับไม่เคยสำนึก คิดจะทำความดี เพื่อลบตราบาปตัวเอง”
ลำดวนชะงัก
“แกพูดอะไรของแก ตราบาปอะไร”
วัลภามองหน้าลำดวน ก่อนจะหันหลังให้ พร้อมกับเลิกชายเสื้อออก เผยให้เห็นรอยสักรูปผีเสื้อ ราตรีที่หลังเธอ
“ผีเสื้อราตรี”
“ใช่ โสเภณีที่ถูกตีตราให้เป็นเพียงแค่วัตถุทางเพศของพวกผู้ชายเหมือนที่แม่มีไง”
ลำดวนตกใจ
“แกถูกตีตรานี้มาได้ยังไง”

“หนูเคยถูกพวกมันจับตัวไป แต่ก็โชคดีที่รอดมาได้ ยังไม่ถูกบังคับให้ไปขายตัว แต่หนูก็ได้เห็น ชีวิตของผู้หญิงอีกมากมายที่ถูกตีตรานี้ มันคือบาปที่พวกชั่วๆ พยายามยัดเยียดให้ผู้หญิง หนูเลยตั้งใจเอาไว้ ว่าจะทำความดีทุกอย่าง จัดการกับพวกชั่วๆเพื่อลบรอย บาปบนตัวหนูให้ได้
แต่สำหรับแม่ แม่กลับปล่อยให้ตราบาปบนตัวแม่ ตีค่าราคาให้ตัวเองเป็นผู้หญิงบาป มัวเมาแต่กิเลศ ตัณหาไม่รู้จักหยุด”
วัลภามองแม่ด้วยสายตาที่เจ็บปวด
“หุบปาก แกไม่ต้องมาปากดีทำเป็นสั่งสอนฉัน เสียแรงที่ฉันเป็นห่วงแก แต่ในเมื่อแกกล้าด่า ฉันขนาดนี้ ต่อไปนี้แกกับฉันก็ขาดกัน ไม่ต้องเหลือความเป็นแม่เป็นลูกกันอีก แล้วจะบอกให้ด้วยนะ ว่าแกกับ ไอ้เชนผัวแกไม่ได้ฉลาดนักหรอก โง่ที่เดินมาหลงติดกับซะมากกว่า”
ลำดวนยิ้มร้ายก่อนจะชะงักกึกไปเมื่อถูกฟาดด้วยของแข็งที่หัวจนล้มลงแน่นิ่ง วัภลาตกใจ แต่เมื่อเงยหน้ามองจึงเห็นว่า คนที่ลงมือตีหัวลำดวนจนสลบก็คือเนื้อทอง
“อย่าเพิ่งถามอะไรเลย เชนกับเพลิงกำลังตกอยู่ในอันตราย กำนันปราบหลอกใช้ให้ฉันล่อ พวกเธอมาติดกับ”

กำนันปราบเดินเข้ามาในถ้ำทอง พร้อมกับลูกน้อง ที่มีอาวุธครบมือ เมื่อมองไปรอบๆ เห็นความ ระยิบระยับของแร่ทองคำที่ปะปนอยู่ในถ้ำทอง ก็หัวเราะชอบใจ
ลูกน้องเข้ามารายงาน
“ตรวจดูรอบๆถ้ำหมดแล้วครับนาย ไอ้เชนมันเก็บระเบิดออกไปหมดแล้ว”
“มันก็ต้องอย่างนั้นสิวะ เพราะถ้ามันยังดันทุรังอยากระเบิดถ้ำนี้ทิ้ง ก็เท่ากับมันตั้งใจอยากมือ เปื้อนเลือดฆ่าพ่อตัวเอง จริงมั้ยครู”
พูดพร้อมกับหันไปที่ครูประสิทธิ์ซึ่งถูกคุมตัวพามาด้วย
“อย่าคิดว่าเอ็งเอาข้ามาเป็นตัวประกันแล้วไอ้เชนมันจะยอมหยุด”
กำนันปราบหัวเราะลั่น
“ฉันเห็นไอ้เชนมาตั้งแต่มันยังเป็นเด็ก ฉันรู้ว่าสันดานใจร้อนมันเป็นยังไง ฉันถึงใช้ให้เนื้อทอง ไปบอกมันว่าฉันขังแกเอาไว้ที่บ้าน เพื่อล่อให้มันบุกไปช่วยแกไง แล้วฉันก็คิดถูก เพราะป่านนี้ ไอ้เชน มันคงหลง ไปติดกับดัก โดนไอ้ฟ้าลั่นสะสางบัญชีแค้นอยู่”
ประสิทธิ์กัดฟันกรอด แล้วตัดสินใจกระแทกไหล่ใส่ลูกน้องกำนันปราบที่คุมตัวอยู่ ก่อนจะวิ่งหนี เข้าไปในถ้ำ กำนันปราบชักปืนออกมายิงใส่ไล่หลัง แต่ครูประสิทธิ์หายไปอย่างรวดเร็ว
กำนันปราบ ที่ตามเข้ามาพร้อมพวกลูกน้อง เหลือบไปเห็นคราบเลือดที่เปรอะก้อนหิน
ก่อนที่จะเดินตามคราบเลือดบนก้อนหินไปที่ช่องหินซึ่งเชนกับวัลภาเคยมุดไปออกที่เหมืองทองคำ
“มันหนีออกไปทางนี้ พวกเอ็งตามไปล่าตัวมันกลับมา”

เชนถูกฟ้าลั่นซัดหมัดเข้าหน้าไปเต็มๆ จนเซล้มลงไปที่พื้นเลือดกลบปาก พอจะลุกขึ้นมาสู้ ก็เจอลายเสือเอาปืนจ่อ
“แก มันไอ้พวกขี้ขลาดตาขาว อยากล้างหนี้แค้นก็มาตัวๆ กันสิวะ”
ลายเสือหัวเราะ
“ข้าก็ให้เอ็งตัวๆกับลูกชายข้าอยู่นี่ไง ข้าไม่ได้ช่วยซะหน่อย เพียงแต่ว่าข้ามีปืนไว้จ่อหัวเอ็ง แค่นั้น ถ้าเอ็งไม่กลัวลูกปืน เอ็งก็สู้สิวะ”
เชนจ้องหน้าลายเสืออย่างเจ็บใจ ฟ้าลั่นตามเข้ามากระชากคอเสื้อ แล้วอัดหมัดเข้าใส่ทั้งหน้า และลำตัวไม่ยั้ง เชนเจอจัดหนักไปหลายดอกจนโงนเงน

เพลิงที่กำลังดวลเดี่ยวกับทอมพลาดท่าถูกมันจับบีบคอ จวนเจียนจะขาดอากาศ หายใจ อยู่รอมร่อ ทันใดนั้นเองวัลภาก็โผล่มาข้างหลัง แล้วใช้เข็มฉีดยาพิษจิ้มเข้าไปที่คอของทอม จนมันชะงัก หันขวับมา ก่อนที่จะปล่อยมือจากเพลิงแล้วตบหน้าวัลภาอย่างแรง จนเซถลาล้มลง เพลิงรีบเข้ามาประคอง
“อสรพิษมันต้องโดนพิษของตัวเอง ไม่งั้นเอาไม่อยู่หรอกจ๊ะพี่เพลิง”
ทอมแข็งใจจะรุกเข้าใส่ แต่กลับถูกเพลิงง้างหมัด แล้วซัดเข้าหน้าเต็มๆ จนมันล้มแน่นิ่ง เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่

เชนที่ถูกอัดมาจนเละ ถูกฟ้าลั่นกับลายเสือลากตัวเอาปืนจ่อพาออกมานอกห้อง ฟ้าลั่นเตะอัด เข้าที่ข้อพับขาทำให้เชนคุกเข่าลง
“ไอ้เชน พนัญเชิง ทันทีที่ข้ามาถึงผาปืนแตก แล้วรู้ว่าเอ็งอยู่ที่นี่ มือข้าก็สั่นระริก กระหาย อยากจะแก้แค้นที่เอ็งเล่นงานข้าจนต้องถูกส่งเข้าคุก”
ฟ้าลั่นพูดพร้อมกับจิกหัวเชนกระชากดึงไปข้างหลัง เชนจ้องหน้ากลับอย่างไม่หวั่นเกรง
“ตอนนั้นข้ามันคิดผิดเองที่ไปหวังว่ากฏหมายจะช่วยเล่นงานเอ็งให้เข็ดหลาบได้ ถ้ารู้ว่าเชื้อชั่ว อย่างเอ็งต้องใช้ยาแรงกว่ากฏหมายล่ะก็ ข้าน่าจะดับเอ็งตั้งแต่ตอนนั้น”
“ถ้าเอ็งอยากจะคุยโวล่ะก็ อีกเดี๋ยวเอ็งได้ไปคุยโอ้อวดกับยมบาลเอาแล้วกัน ไม่ต้องมาพ่น น้ำลายเหม็นขี้ฟันให้ข้าฟัง ไหนๆตอนนี้ผาปืนแตกบ้านที่เอ็งรักนักรักหนาก็ตกอยู่ในมือพวกข้าแล้ว ข้าจะให้ โอกาสเอ็งเลือกแล้วกันว่าเอ็งอยากจะมีชีวิตอยู่เป็นทาสพวกข้า หรือจะตายไปพร้อมกับความ หยิ่งยะโสของ เอ็ง ไอ้เชน”
ฟ้าลั่นจ่อกระบอกปืนมาตรงหน้า
“ชีวิตข้า ข้ากำหนดเองได้ ไม่มีทางให้คนชั่วมาชี้นำ”
“ได้ จองหองนักใช่มั้ยไอ้เชน พนัญเชิง”
นิ้วฟ้าลั่นแตะที่ไกปืนจ้องเขม็งที่เชน ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้น ฟ้าลั่นกับลายเสือหันขวับไปด้วยความตกใจ ก่อนจะพบว่าคนที่เข้ามายิงขวางไว้ก็คือเพลิงกับวัลภา
เชนฉวยจังหวะผุดลุกขึ้นกระแทกฟ้าลั่นจนปืนหลุดจากมือ เพลิงช่วยยิงสกัดเปิดทางให้เชนหนี ออกมา ลายเสือกับฟ้าลั่นพยายามไล่ยิงตาม แต่ก็ไม่ทันเพราะเชนหนีออกไปกับเพลิงและวัลภาแล้ว

เชน เพลิงและวัลภาวิ่งหนีออกมาข้างนอก มาพบกับเนื้อทองที่รออยู่ จากนั้นก็รีบพาทุกคน มาที่รถจี๊ปของกำนันปราบซึ่งเตรียมไว้ให้หนี
“ฉันเอารถของกำนันมาให้ รีบพากันหนีไปเลย”
วัลภารีบหันมาบอก
“เธอหนีไปกับเราด้วยนะเนื้อทอง”
“ฉันไปไม่ได้หรอกวัลภา เพราะว่าตอนนี้ผาปืนแตกของเรากำลังอยู่ในวิกฤต ไม่มีทางให้หนี ไม่มีชีวิตแบบเดิมที่เคยมีกันอีกแล้ว”
เชนส่ายหน้า
“ไม่หรอกเนื้อทอง พวกเรายังมีกันและกันอยู่ เรายังจะสู้ได้อีก”
“เชน เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ตายก็คือจบ ไม่เหลือแม้แต่ความหวังอีก”
“แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ เรี่ยวแรงและลมหายใจก็ยังทำให้มีความหวัง แม้จะต้องทนเจ็บปวด”
เพลิงช่วยพูดเสริม เนื้อทองพยักหน้ารับ
“ใช่แล้วจ้ะพี่เพลิง ฉันเลือกที่จะทนเจ็บเพื่อรอวันที่จะได้จบพร้อมกับคำว่าชัยชนะ”
เนื้อทองพูดพร้อมกับจับมือวัลภากับเชนมากุมเอาไว้ด้วยกัน
“ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของพวกเรามาถึงแล้วนะเชน ไม่ว่าจะคิดหรือจะตัดสินใจ ทำอะไร อย่าลืมว่าผลของมันจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง”
พูดได้แค่นั้นเสียงปืนก็ดังเปรี้ยง เนื้อทองถูกยิงเข้าที่ไหล่จนล้มลง ลายเสือกับฟ้าลั่นตามเข้ามา แล้วยิงใส่ไม่หยุด
“รีบไปเถอะเชน รีบไปได้แล้ว”
เชนเป็นห่วงเนื้อทอง แต่เพลิงรีบเข้ามาดึงตัวเชนขึ้นไปบนรถจี๊ป พร้อมกับวัลภา แล้วรีบขับพา ทั้งหมดหนีออกไป
ลายเสือกับฟ้าลั่นวิ่งเข้ามาตามกราดยิง แต่เชนกับพวกหนีไปได้ลายเสือหันขวับมาจ้องหน้าเนื้อทองอย่างเครียดแค้น

ครูประสิทธิ์เดินกุมแขนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลจากการถูกซ้อมออกมาที่บริเวณทุ่งหิน เหมืองทองโบราณ แต่อาการอิดโรยทำให้เริ่มเข่าอ่อนเดินต่อไม่ไหว จนกำนันปราบตามมาทัน“แกมันแน่มากนะไอ้แก่ คิดจะใช้ความลับที่แกพยายามไม่ให้ใครรู้มาทำให้แกรอด แต่ก็อย่างว่า เวลานี้พวกแกมันดวงซวย ทำอะไรก็ไม่ขึ้น แทนที่จะหนีพ้นก็ดันทำให้ข้าได้มาเจอที่นี่เข้า”
กำนันปราบพูดไปก็มองไปรอบๆพร้อมกับหยิบก้อนหินที่เป็นทองคำทั้งก้อนที่พื้นขึ้นมา
“เหมืองทองคำโบราณ อำนาจและบารมีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินไทยกำลังเป็นของข้าแล้ว”
ครูประสิทธิ์ปรี่เข้าใส่ พยายามจะยื้อยุดแย่งก้อนหินทองคำจากมือ แต่กลับถูกกำนันปราบใช้ก้อนหินในมือฟาดเข้าที่หัวจนเลือดอาบ ก่อนที่จะเตะเข้าที่ท้องจนแน่นิ่ง
กำนันปราบมองไปรอบๆ เหมืองทองโบราณ แล้วหัวเราะสะใจ

จิกกับยอดช่วยกันพยุงผู้กองสมานที่เลือดยังไม่หยุดจากแผลถูกชาติแทงเข้ามาที่ลานวัด ที่เอื้อมเดือนกำลังรักษาพวกชาวบ้านที่โดนทำร้าย โดยมีติ๋ม น้อย ช่วยเป็นลูกมือเท่าที่จะช่วยได้
“อดทนหน่อยนะครับผู้กอง ใกล้จะถึงมือหมอแล้ว”
ใบหน้าของผู้กองสมานเริ่มซีดจางเพราะอาการเสียเลือดและเริ่มเซพยุงตัวไม่อยู่
“ข้าจะไม่ยอมตายจนกว่าจะกวาดล้างพวกชั่วๆ ให้หมด”
พูดได้แค่นั้น ผู้กองสมานก็คอพับ
“คุณหมอครับ พี่ชายคุณหมออาการแย่แล้วครับ”
เอื้อมเดือนหน้าซีด ตกใจ “พี่สมาน”

หลวงพ่อสินพยายามลุกขึ้นมาเพื่อจะจุดเทียนบูชาพระพุทธรูป แต่เรี่ยวแรงที่จะจุดไม้ขีด แทบจะไม่มี เชนเข้ามาพร้อมกับวัลภา สภาพของเชนดูยังมีร่องรอยของการถูกทำร้ายมา
เชนสบตาหลวงพ่อแล้วก้มหน้าก้มตาเศร้าๆเข้าไปจุดเทียนบูชาพระให้อย่างเงียบๆ
“อะไรเหรอไอ้เชน หรือว่าพ่อเอ็ง”
เชนน้ำตาคลอๆ
“ผมขอโทษครับหลวงพ่อ นอกจากผมจะช่วยพ่อกลับมาไม่ได้แล้ว ผมยังทำลายถ้ำทองไม่ได้อีก ผมมันไม่เอาไหน ผมหยุดความชั่วของพวกมันไม่ได้”
เชนพูดไปก็น้ำตาเอ่อ นิ้วมือจิกกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ วัลภามองอย่างสงสาร
“เชน ไม่มีใครโทษเธอ พวกเราทุกคนพยายามสู้แล้ว”
“แต่พ่อยังถูกมันจับตัวเอาไว้ แล้วพวกเราที่อยู่ที่นี่ ก็ยังไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไร”
หลวงพ่อสินรีบพูดให้กำลังใจ
“สมัยหนุ่มๆพ่อเอ็งพูดกับข้าเสมอ เสียงเพลงมันจะช่วยขับกล่อมทำให้คนในผาปืนแตก ไม่หมดหวัง เพราะมันจะทำให้ทุกคนยังรู้สึกว่า ในความทุกข์ก็ยังมีความสุขได้”
หลวงพ่อสินพูดได้แค่นั้นก็ไอหนักมากขึ้น จนมีเลือดติดมือ
“ไม่ต้องห่วงข้า หมอเขาให้ยาข้าเอาไว้แล้ว เอ็งกับวัลภาไปช่วยดูแลคนอื่นๆเถอะ”
เชนกับวัลภามองหลวงพ่อสินด้วยความเป็นห่วง

ผู้กองสมานเสียเลือดมามาก จนชีพพจรเริ่มเต้นอ่อนลงทุกที ความดันก็เริ่มต่ำลงด้วย
เอื้อมเดือนมองพี่ชายด้วยความเป็นห่วง
“ต้องให้เลือดก่อนที่เขาจะเกิดอาการช็อก”
พูดไปก็น้ำตาคลอเบ้ากุมมือพี่ชายด้วยความเป็นห่วง
“พี่สมาน พี่ต้องไม่เป็นอะไรนะ ฉันจะหาทางช่วยพี่ให้ได้ พี่อย่าทิ้งฉันไปนะ”
เพลิงเดินเข้ามาได้ยินพอดี
“ผมมีเลือดกรุ๊ปโอครับคุณหมอ ผมให้เลือดได้กับทุกคน ขอให้ผมได้ช่วยชีวิตพี่ชายคุณหมอ ด้วยนะครับ”

ลายเสืออยู่ที่ระเบียง ฟ้าลั่นเข้ามา ตามด้วยปราบกับชาติ กำนันปราบพูดเสียงเข้ม
“วันนี้พวกมันอาจจะรอดไปได้ แต่พอถึงพรุ่งนี้เช้า พวกมันก็ต้องเจอกับความจริงที่หนีไม่พ้น อยู่ดี ถึงเวลานี้จะฆ่าพวกมันไม่ใช่เรื่องยากแล้ว แต่หลังจากที่ฉันไปค้นพบไอ้นี่มา ฉันก็มีความคิดใหม่ มาแทน”
กำนันปราบพูดเสร็จก็โยนก้อนหินที่เป็นทองคำซึ่งเก็บมาจากเหมืองทองโบราณให้ลายเสือรับไป
“ความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังถ้ำทอง มันคือเหมืองทองโบราณที่พวกมันพยายามปกปิด ฉันไป เห็นกับตามาแล้ว ถ้าพวกเราจะเอาทองคำในเหมืองออกมา แรงงานคนเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคิดถึงอันดับแรก”
ชาติรีบบอกทันที
“ตอนนี้พวกชาวบ้านที่คิดต่อต้านถูกกำจัดไปจนหมด ถ้ายังไล่เก็บพวกมันอีก จะทำให้เราขาด แรงงานทาสไว้ใช้งาน”
ฟ้าลั่นถามแทรกขึ้นมา
“หมายความว่าจะไว้ชีวิตพวกมันเพื่อเอามาใช้เป็นทาสทำเหมือง หึ..คนอย่างไอ้เชนมัน คงยอมหรอก”
“ยอมหรือไม่ยอมเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้เอง”
ชาติยิ้มเหี้ยม

เนื้อทองรู้สึกตัวขึ้นมาบนเตียงในห้องนอน พบว่าเธอได้รับการทำแผลที่ถูกยิงเฉี่ยวที่แขนไป ระหว่างนั้นน้ำค้างเข้ามาในห้อง พลางบอกเนื้อทองว่าเธอเป็นคนทำแผลให้เอง
“ไหนขอฉันดูแผลให้เธอหน่อย”
น้ำค้างจะเข้าไปใกล้แต่เนื้อทองปัด
“นี่หล่อน อย่ามาทำมากเรื่องใส่ฉันนะ เงาหัวตัวเองจะไม่มีอยู่แล้วยังมาทำเก่งอีก”
น้ำค้างพูดพร้อมใช้มือบีบไปที่แขนของเนื้อทองอย่างแรง แล้วก็ยิ้มสะใจ
“ผลงานของเธอวันนี้ที่พยายามช่วยพวกเชนให้รอดออกไปได้ พี่ชาติเขารู้หมดแล้ว เขาโกรธ แล้วก็ไม่อยากเก็บเธอไว้ แต่เพราะพ่อกำนันยังสงสารเห็นว่าเธอช่วยล่อพวกมัน มาติดกับได้ ก็เลยสั่งไม่ให้พี่ชาติ ทำอะไรเธอ แต่ก็นะ พี่ชาติถูกห้ามไม่ให้ทำอะไรเธอ แต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้ฉันทำนี่ ใช่มั้ย”
น้ำค้างพูดไปก็ยิ่งบีบแขนเนื้อทองแรงขึ้น ชาติเดินเข้ามาพอดีน้ำค้างรีบปล่อยแขนเนื้อทอง ชาติจ้องหน้าเนื้อทองอย่างชิงชัง
“ถ้าพ่อไม่ขอให้ฉันไว้ชีวิตเธอ ป่านนี้ เธอคงไม่ได้มานอนอยู่ในห้องนี้หรอก โน่น ฉันจะส่งเธอไป ให้ไอ้ฟ้าลั่น เห็นมันบอกว่าอยากรื้อฟื้นธุรกิจจับผู้หญิงในหมู่บ้านมาตีตราเป็นผีเสื้อราตรีอยู่”
“ผีเสื้อราตรี ?” เนื้อทองเลิกคิ้ว สงสัย
น้ำค้างลอยหน้าลอยตาตอบ “ก็โสเภณีที่ถูกตีตราไง”
“จำเอาไว้นะเนื้อทอง ถ้าคิดทรยศหักหลังฉันอีก ชีวิตเธอจะไม่เหลืออะไรอีก แม้แต่ค่า ของความเป็นคน จำไว้”
ชาติชี้หน้าขู่จริงจัง น้ำค้างได้ทีเข้าไปเกาะชาติ พลางโอบเอวจู๋จี๋ แล้วพากันออกไป ทิ้งให้ เนื้อทองเจ็บปวดอยู่คนเดียว

ผู้กองสมานนอนอยู่บนเตียงผ้าใบ เพิ่งจะได้รับการให้เลือดจากเพลิงเสร็จ เอื้อมเดือนดูแลอาการพี่ชาย อย่างใกล้ชิด ส่วนเพลิงก็ยืนดูอยู่ห่างๆ พร้อมกับใช้มือกดที่สำลีปิดแผลตรงเส้นเลือดข้อพับแขน แล้วก็เดินออกไป
เอื้อมเดือนมาถามถึงเพลิงกับจ่าลูกน้องผู้กองสมานด้วยความเป็นห่วงเป็นห่วง จ่ารีบบอกว่าเพลิงกลับไปพักผ่อนแล้ว เพราะเสียเลือดจากการบริจาคมาก เอื้อมเดือนจึงรีบตามไป จ่ามองตามแล้วเป่าปากหันไปมองผู้กองสมาน
“ขอโทษด้วยนะครับผู้กอง คนทำดีมันก็ต้องมีรางวัลให้กันบ้าง”

ที่ด้านหนึ่งของวัด ไอ้เชิดกับพวกลูกน้องกำนันปราบ 2 คน กำลังเฝ้าคุมเชิงอยู่ ลูกน้องอีกคนเดินเข้ามา
ไอ้เชิดรีบถาม
“ไปดูพวกมันมาเป็นไงมั่งวะ”
“ก็เหมือนหมูที่อยู่ในเล้านั่นแหละพี่เชิด รอเวลาถูกเชือดหนีไปไหนไม่ได้”
ลูกน้องอีกคนรีบแทรกขึ้นมาทันที“แต่เวลาแบบนี้มันน่าเข้าไปจัดการพวกมันให้หายคันจริงๆนะพี่เชิด”
ไอ้เชิดพยักหน้าเห็นด้วย
“ข้าก็อยาก แต่นายสั่งมา แค่คุมเชิงมันเอาไว้ไม่ให้มันแผลงฤทธิ์ กดดันให้พวกมันกลัว นอกจากนั้น ห้ามเด็ดขาด”
ไอ้เชิดพูดจบก็เดินไปปลดทุกข์ ห่างออกไปที่มุมต้นไม้ห่างจากจุดเฝ้าคุมเชิงไม่ไกลเท่าไหร่ พลันก็เหลือบไปเห็นเอื้อมเดือนเดินลัดเลาะมาตามทางเพื่อมุ่งหน้าไปหาเพลิง มันยิ้มมุมปากอย่างมีแผนร้าย

เอื้อมเดือนเดินมาตามทางในสวน พลันก็ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงคนเดินตามมาข้างหลัง จึง
เตรียมพร้อมรับมือ ลูกน้องไอ้เชิดคนหนึ่งเข้ามาแตะไหล่ เอื้อมเดือนจึงหันไปจับแขนมือมันบิด แต่พอหันมาอีกที ก็เจอ ไอ้เชิดจู่โจมประชิด แล้วชกเข้าที่ท้องน้อยทันที
เอื้อมเดือนสะดุ้งเฮือกมองไอ้เชิดอย่างเจ็บใจ ในขณะที่ไอ้เชิดยิ้มร้าย

เอื้อมเดือนในสภาพจุกไม่มีเรี่ยวแรงถูกไอ้เชิดกับพวกฉุดกระชากพามาที่โกดังเก็บโลงศพ พลางกระชากแขนเสื้อเธอจนขาด
“อย่ามายุ่งกับฉัน ไปให้พ้น”
เอื้อมเดือนพยายามจะหนีแต่พวกลูกน้องก็เข้ามาช่วยกันจับแขนพยายามจะขึงพืดเธอ ไอ้เชิดเข้าไป กระชากเสื้อ จนไหล่เสื้อเธอขาดวิ่นเห็นไหล่ไปถึงเนินอก แล้วก็มองด้วยสายตาโลมเลีย
“จุ๊ๆๆ ของดีที่มันซ่อนตัวของคุณหมอนี่ ทำให้ผมอดใจไว้ไม่อยู่จริงๆ”
พูดไปก็ซุกไซร้ใบหน้าเข้าที่ซอกคออย่างบ้าคลั่ง เอื้อมเดือนพยายามดิ้นสะบัด ด้วยความสะอิดสะเอียน

เพลิงกำลังตักน้ำจากตุ่มหน้าบ้านขึ้นมาล้างหน้าล้างตา พลันหูก็ได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ มา แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนเมื่อล้างหน้าเสร็จกำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน เสียงร้องก็ดังขึ้น จนเพลิงเริ่มเอะใจ

เอื้อมเดือนอาศัยทีเผลอ เตะเสยหว่างขาไอ้เชิด แล้วคว้าแผ่นไม้ใกล้มือมาฟาดเข้าที่หัวของลูกน้องของมัน จากนั้นก็ฉวยโอกาสวิ่งหนีไปทันที พวกลูกน้องรีบวิ่งไล่ตาม ไอ้เชิดกุมเป้าอย่างหัวเสีย

เอื้อมเดือนวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานอยู่ท่ามกลางบรรยากาศน่ากลัว มีแต่หลุมศพรายล้อม เสื้อผ้าขาด รุ่งริ่ง เนื้อตัวเปรอะไปด้วยฝุ่น จู่ๆ ก็มี มือหนึ่งยื่นเข้ามาปิดปากไว้ เธอจึงพยายามดิ้นต่อสู้สุดแรง
“ผมเองครับคุณหมอ”
เอื้อมเดือนถอนหายใจโล่งอก “เพลิง”
“เกิดอะไรขึ้นครับ ฝีมือใคร ใครมันทำกับหมอแบบนี้”
“ไอ้เชิดกับพวก มันพยายามจะ….”
เอื้อมเดือนกลัวจนตัวสั่นน้ำตาคลอ เพลิงต้องบีบไหล่เธอเอาไว้ให้นิ่ง
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมอยู่กับคุณหมอแล้ว พวกมันทำอะไรคุณหมอไม่ได้หรอก มีแต่พวกมันนั่นแหละ ที่ต้องโดนมันกระทืบ”
พูดพลางจะไปลุยเอาเรื่อง แต่เอื้อมเดือนห้ามไว้ พลางบอกว่าเธอกลัว ที่จะไม่ได้พบหน้าเพลิงอีก
เพลิงหันกลับมานิ่งมองอย่างตัดสินใจ ขณะที่ได้ยินเสียงพวกไอ้เชิดกำลังตามหา

เพลิงพาเอื้อมเดือนย้อนกลับเข้ามาที่โกดังเก็บโลงศพ ให้หลบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดๆแคบๆ ข้างหลัง โลงศพเปล่าที่ตั้งเรียงราย
“คุณหมอหลบอยู่ในนี้นะครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามออกมาเด็ดขาด”
เอื้อมเดือนส่ายหน้า
“ไม่ ถ้าเธอจะทำแบบนั้น ฉันไม่ยอม”
เพลิงจับไหล่เธอมาบีบแน่นสายตาจริงจัง
“คนอย่างไอ้เพลิง พญาไฟมันไม่ตายง่ายๆหรอกครับ เพราะชีวิตนี้มันยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ และหนึ่ง ในเรื่องนั้นก็มีเรื่องของคุณหมอกับผมอยู่ด้วย”
ทั้งสองคนมองสบตากัน เสียงของไอ้เชิดกับลูกน้องดังแว่วเข้ามา เพลิงหันไปมองทางพวกมัน สีหน้าเคร่งเครียด เอื้อมเดือนน้ำตาคลอ พลางจูบไปที่ริมฝีปากเพลิง
“จำไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผม ห้ามคุณหมอออกมาเด็ดขาด”
เพลิงย้ำอีกครั้งแล้วดันให้เอื้อมเดือนเข้าไปซ่อนตัวด้านใน ก่อนจะเอาเอาโลงศพมาวางขวางอีกชั้น เพื่อป้องกันเธอเอาไว้ เหลือแค่ช่องแคบๆ พอให้เธอแอบมองออกมาเท่านั้น

พวกไอ้เชิดย้อนกลับมาที่โกดังเก็บโลงศพด้วยท่าทางหงุดหงิด พลันเพลิงก็ปรากฏตัวขึ้น
“ไอ้เพลิง นี่เอ็งยังกล้าออกมาเดินเพ่นพ่านอีกเหรอวะ”
“ทำไมข้าจะออกมาเดินในที่ของพวกข้าไม่ได้”
ไอ้เชิดหัวเราะขำ
“หึ ที่ของพวกเอ็ง ข้าจะบอกให้นะเว้ย ที่คืนนี้เอ็งกับพวกไอ้เชนยังมีลมหายใจอยู่ได้ เพราะนายข้ายังใจดี ไม่อยากฆ่าพวกเอ็งตอนนี้”
“คิดว่าข้าไม่รู้ทันพวกเอ็งเหรอว่าพวกเอ็งต้องการอะไร”
ไอ้เชิดสวนกลับทันควัน
“งั้นถ้าเอ็งรู้ เอ็งก็ควรกลับไปอยู่ในที่ของเอ็ง ไม่งั้นจะหาว่าข้าไม่เตือน”
“ถ้าข้าไม่ไปแล้วเอ็งจะทำไม”
ไอ้เชิดโมโหปรี่ไปง้างหมัดจะชกแต่เจอเพลิงยกมือขึ้นรับ แล้วกำหมัดมันไว้ พร้อมกับจ้องเขม็ง ไอ้เชิดยกเรื่องครุประสิทธืกับชาวบ้านมาขู่ จนเพลิงจำต้องค่อยๆ ปล่อยมือ ไอ้เชิดได้ทีเลยซัดหมัดเข้าหน้าเพลิงทันที
เอื้อมเดือนเห็นเพลิงถูกชกหน้าก็ตกใจแต่พยายามเงียบไม่ส่งเสียง
ไอ้เชิดซัดหมัดเข้าหน้าเพลิงเต็มๆ อีกหลายดอกจนเพลิงเซล้ม แล้วรีบเข้าไปใช้เท้าเหยียบที่กลางหลัง กดตัวเอาไว้ไม่ให้เพลิงลุกขึ้น
เอื้อมเดือนตกใจอยากจะออกไปช่วยเพลิง แต่เพลิงกลับมองมาที่เธอแล้วส่งสายตาเป็นเชิงห้าม ไอ้เชิดกระชากตัวเพลิงขึ้นมา แล้วมันกับลูกน้องก็ช่วยกันประเคนทั้งหมัดเข่าศอกรุมใส่ไม่ยั้ง โดยที่ เพลิงไม่ตอบโต้
เอื้อมเดือนได้แต่แอบดูผ่านช่องแคบๆ น้ำตาไหลพรั่งพรู เอามือปิดปากไม่ให้ได้ยินเสียงสะอื้น

เพลิงในสภาพถูกซ้อมจนแทบหมดสภาพถูกไอ้เชิดกับลูกน้องหิ้วปีกเข้ามาที่หลุม ซึ่งขุดเอาไว้และมี โลงศพเปล่าเปิดฝาโลงรออยู่ในหลุม
เพลิงตาปรือมองไปที่โลงศพในหลุม พยายามจะขัดขืน แต่ก็เจอไอ้เชิดทุบเข้าที่ต้นคอจนคอพับหมดสติ
ไอ้เชิดยิ้มชอบใจแล้วช่วยกันกับลูกน้องโยนร่างของเพลิงลงไปในโลงศพ
“หลับให้สบายนะไอ้เพลิง ถ้าโชคดีดวงเอ็งแข็งรอดขึ้นจากหลุมมาได้ วันพรุ่งนี้เอ็งกับพวก ก็จะได้เห็น ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในผาปืนแตก”
ไอ้เชิดพยักหน้าให้ลูกน้องปิดฝาโลงแล้วช่วยกันเอาดินที่ขุดขึ้นมากลบไปบนโลงที่ละนิด..ละนิด

เอื้อมเดือนวิ่งเข้ามาในบริเวณป่าช้า พลางพยายามมองหาเพลิงด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเหลือบมองไปเห็นกองดินที่เป็นเนินสูง มั่นใจว่าเพลิงต้องถูกฝังทั้งเป็นอยู่ในนี้แน่
เอื้อมเดือนไม่รอช้ารีบใช้มือพยายามโกยดินออกมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พร้อมกับน้ำตาที่ไหล อาบแก้ม แสงฟ้าแล่บแปล๊บปล๊าบเข้ามาเป็นระยะ พร้อมกับเสียงฟ้าร้องครืนๆ
เอื้อมเดือนขุดดินไปจนเจอฝาโลง เธอรีบเกลี่ยดินออกแล้วเปิดฝาโลงออกมา ก็พบเพลิงนอนหมดสติ อยู่ในนั้น
เอื้อมเดือนประคองพาเพลิงที่เริ่มรู้สึกตัวแต่แรงไม่ค่อยมี ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือดจากการถูก ซ้อมเข้ามาภายในเรือนพัก จากนั้นก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้ด้วยความห่วงใย ทั้งๆที่เนื้อตัวและมือของเธอยัง เปรอะเปื้อนคราบโคลน
“เพลิง เธอทำเพื่อฉัน เธอไม่น่าทำแบบนี้เลย”
เพลิงมองสบตาเอื้อมเดือน
“แล้วคุณหมอปลอดภัยนะครับ”
เอื้อมเดือนพยักหน้ารับ
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะเพลิง เธอถูกพวกมันทำร้ายมาหนักขนาดนี้ ฉันต้องทำแผลให้เธอ”
เพลิงจับมือเอื้อมเดือนเอาไว้ แล้วค่อยๆ หมดแรงจนตาปิดหมดสติไปเอง
เอื้อมเดือนกุมมือเพลิงขึ้นมาแนบแก้มน้ำตาคลอเบ้าอย่างตื้นตัน

ชาติกับน้ำค้างเดินคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งเข้ามา ฟ้าลั่นเดินสวนมา พลางมองโลมเลียไปที่น้ำค้าง แล้วยื่นมือจะไปจับแก้ม แต่กลับถูกจับมือมันมาบีบ
“เอ็งจะมาหวงอะไรนักหนาวะ มีเมียตั้งสองคน ถ้าคนนึงเบื่อไม่คิดจะใช้อะไรแล้วก็แบ่งๆ กันมั่งสิวะ ทีพ่อข้ากับพ่อเอ็งยังแบ่งเหมืองทองกันได้เลย”
น้ำค้างได้ทีรีบยุส่ง
“พี่ชาติจ๊ะ ไหนๆ นังเนื้อทองมันก็ทรยศหักหลังให้พี่ต้องเจ็บใจแล้ว ฉันว่ายกมันให้หุ้นส่วนพี่ไปดีกว่า แล้วยกให้ฉันขึ้นมาเป็นเมียหลวงพี่แทนมัน”
ชาตินิ่งไปชั่วครู่
“คนอย่างไอ้ชาติ ไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ยิ่งเรื่องผู้หญิง ยิ่งไม่ชอบ”
พูดจบก็เดินกระแทกไหล่ฟ้าลั่นเข้าไปในบ้าน ฟ้าลั่นมองตามอย่างหัวเสีย น้ำค้างที่อยากจะเขี่ยเนื้อทอง แต่ไม่ได้อย่างใจเลยหงุดหงิดอารมณ์เสีย แล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง ฟ้าลั่นมองตามแล้วครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดิน ตามไป

น้ำค้างกำลังจะเดินออกจากบ้าน ฟ้าลั่นรีบตามมาจับแขน พลางยื่นข้อเสนอให้น้ำค้างช่วยหาผู้หญิงสาวๆ สวยๆมาเป็นผีเสื้อราตรี
“เป็นไง ฟังแล้วน่าใจเลยใช่มั้ยล่ะ รายได้จากธุรกิจนี้งามอย่าบอกใครเลย ถ้าสนใจก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อ”
ฟ้าลั่นยักคิ้วให้ แล้วจับมือน้ำค้างมาหอมที่หลังมือก่อนจะปล่อยเธอเดินกลับเข้าไป น้ำค้างนิ่งมอง พลางคิดตาม

จบตอนที่ 15
กำลังโหลดความคิดเห็น