xs
xsm
sm
md
lg

“ณารา” จากนิยายโรมานซ์ สู่ ละครยอดฮิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
 
“ณารา” จากนิยายโรมานซ์ สู่ ละครยอดฮิต
 

“ณารา” นักเขียนนิยายโรมานซ์ ที่ผู้อ่านสาวๆ รู้จักกันดี ด้วยเป็นนักเขียนคนแรกๆ ที่นำเสนอความคิดของหญิงสาวที่มีต่อชายหนุ่มมากกว่านิยายก่อนหน้า ที่ไม่ค่อยมีความรู้สึกของหญิงสาว มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่พูดถึงผู้หญิงอยู่ฝ่ายเดียว ความเติมเต็มส่วนที่ขาดนี่เอง ทำให้นักอ่านสาวๆ ตามติดเป็นสาวก “ณารา” อย่างเหนียวแน่น ล่าสุด ผลงานที่กำลังออกอากาศทางช่อง 3 คือชุด Rising Sun “รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน รอยฝันตะวันเดือด”
 

“ณิชา ตันติเฉลิมสิน” หรือ “ณารา” จบปริญญาตรี สาขาการเงินการธนาคาร จากมหาวิทยาลัยพายัพ แล้วไปต่อปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเซเวียร์ โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ทำงานบริษัทการเงินจนเกิดเหตุการณ์ไอเอ็มเอฟ เปลี่ยนไปแม่บ้านและผู้จัดการฝ่ายบุคคลให้กับบริษัทของสามี จากนั้นก็เปิดร้านอาหารไทยที่ประเทศแคนาดา พร้อมกับเขียนนิยายไปด้วย
 

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักเขียน
 
"ตอนแรกเริ่มแปลนิยายโรมานซ์ให้กับสำนักพิมพ์แก้วกานต์ก่อน ที่แปลเพราะว่าอ่านนิยายโรมานซ์เยอะ พอมาทำสำนักพิมพ์แล้ว เขาก็มีคอนเซปท์ให้ พระเอกมักจะเป็นลูกครึ่ง เสน่ห์ของพี่คือนิยายจะมีความแตกต่าง อย่าง "กรีนเบเรต์" พ่อนางเอกเป็นคนไทย มันเหมือนเราได้เข้าไปโลดเล่นด้วย มันมีความคล้ายโรมานซ์ฝรั่ง คนก็ชอบ
 
เรื่องที่เขียนจะมีหลายแนวค่ะ ไม่ว่า รักโรแมนติก สืบสวนสอบสวน ทำให้คนอ่านเดาไม่ถูก ตัวร้ายมี 2 ตัวเดินคู่ขนานกันไปด้วยกัน เรื่องเราจะลงในเว็บไซด์ก่อน เราก็ดูว่าเขาเดาว่าใคร เราก็ไปเอาอีกคนเป็นตัวร้าย เขาเรียกหักหลังคนอ่าน
 
ถ้าเป็นแนวโรแมนติกก็รักธรรมดา รักข้ามภพบ้าง นวนิยายของพี่จะมีความเพ้อฝัน เพราะคนอ่านเกิน 50 เปอร์เซ็นต์เป็นสาวโสด นั่นคือกลุ่มเป้าหมาย ถ้าจะแบ่งจริงๆ จะได้หลักๆ สองอย่าง คือหนึ่ง เรื่องใกล้ตัวเองมาก สอง.ไกลตัวเกิน เพ้อฝัน เจ้าชายเป็นชีค มีตบจูบด้วย มีความรู้สึกว่าอ่านไปจินตนาการไป เป็นความสุขช่วงหนึ่ง อิ่มเอมใจ"

 

มีสะท้อนสังคมบ้างไหม
 
"จริงๆ มีหลายเรื่องที่สะท้อนสังคม พี่ไปเรียนอเมริกา เขียนเรื่องคนไทยเอาตัวรอดในสังคมเมืองหนาว เรื่องผู้หญิงคนหนึ่งแอบรักเพื่อน ตามไปถึงอเมริกาเพื่ออยู่ใกล้ๆ เขา อีกเรื่องที่กำลังเขียนคือ “วิมานเมฆ” คนส่วนใหญ่ผู้หญิงจะหาแฟนฝรั่ง
 
พี่เจอคนไปเมืองอเมริกาแล้วเฟล ผิดหวังก็มี คนไทยหลอกกันเองก็มี เป็นเรื่องผู้หญิงตามหาฝัน เธอวาดวิมานในอากาศ พอนางเอกเข้ามาทำให้รู้ว่าวิมานไม่มีจริง กว่าจะรู้ว่าเพ้อฝันก็เกือบจะสายไปแล้ว แฟนหนังสือเป็นกลุ่มมหาลัย เราอยากให้เขาพิจารณาให้ดีก่อนไปหาแฟนต่างประเทศ ภัยสังคมก็เยอะ ขึ้นกับมุมมองของคนที่ตีความ" 
 
 
 
 
มีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้วย
 
"ใช่ๆ เขียนนิยายเรื่องนักรบมาซีลอน พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ คนหนึ่งคนจะมีความรู้ประวัติศาสตร์กว่จะเขียนได้ 1 เรื่องต้องอ่าน 7-8 เล่ม เคยเขียนเรื่องนักกายภาพบำบัด มีน้องคนหนึ่งอ่านแล้วก็มาบอกทีหลัวว่าหนูได้เป็นนักกายภาพแล้วนะ พี่ว่าดีนะ ได้จุดประกายให้คน แค่นี้ก็ดีใจ ภูมิใจแล้ว เราเป็นไกด์ไลน์ให้เขาว่าอาชีพนี้ทำอะไร"

 

เขียนได้หลากหลายแนว เอาความรู้มาจากไหน

"ความรู้ต่างๆ มาจากความใจกล้าหน้าด้าน อย่าง “กลรักลวงใจ” ก็โทรไปกระทรวงต่างประเทศเลย บอกเขาว่ากำลังจะเขียนเรื่องนี้ จะสอบถามใครได้บ้าง เขาก็โอนไปโอนมาไปที่เลขาทูต ก็ได้ความรู้
 
พอเขียน “ไฟฝันวันรัก” ก็โทรไปหาเลขาท่านทูตบราซิล ถามว่าพระเอกน่าจะชื่ออะไรดี เขาก็ตั้งชื่อให้ แล้วแนะนำให้ความรู้ต่อว่าถ้าขอแต่งงานต้องไปที่ตรงนี้ ถ้าแต่งงานกันต้องไปตรงนี้ นี่คือจุดเริ่มต้น
 
ตอนหลังมีผู้ช่วยเยอะ นักอ่านเยอะ ก็ไม่ต้องถามใครหรอก ถามในกลุ่มคนอ่านนี่ล่ะ เพราะเราเริ่มรู้จักคนมากขึ้น มีหมอเป็นแฟนคลับบ้าง อาชีพอี่นบ้าง อยากรู้อะไรก็ถามเขาว่าพอจะมีใครพอมีความรู้บ้างไหม เขาก็จะช่วยเหลือกัน แนะนำมา ไม่ก็ช่วยถามให้หน่อย"


แรงบันดาลใจที่อยากจะเป็นนักเขียนมาจากไหน
 
"เริ่มมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้ว ชอบอ่านนิยาย ที่บ้านสนับสนุนให้อ่านนิยาย ตอนตั้งท้องต้องอยู่เฉยๆ แฟนก็เอานิยายมาให้อ่าน ก็อ่านมาเยอะแล้ว คิดว่าน่าจะเขียนได้ มานึกพล็อตดู
 
แล้วมีเพื่อนเป็นบรรณาธิการ เราก็ส่งให้เขาอ่าน เขาก็ โอเค.แต่นิยายเรื่องแรกเขาติยับเลย เขาติตรงๆ เลย เราก็ยอมรับได้ ก็ดี ทำให้เราไม่อยู่ในความเพ้อฝัน

เราชอบนิยายแบบไหน เรื่องแบบไหน ทุกเรื่องมีหัวใจสำคัญอยู่ในนั้น เอาแต่สิ่งดีๆ เอาไปใช้ ดูละครแล้วย้อนดูตัว เราต้องเป็นนางเอกไม่ใช่นางร้าย เอาสิ่งดีๆ มาใช้กับตัวเราเอง


พูดถึงเรื่องที่เป็นละครกำลังออกอากาศตอนนี้บ้าง “รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน”
 

"Rising Sun เป็นเรื่องของครอบครัวหนึ่งชื่อว่าโอนิสึกะ เป็นตระกูลที่ถ่ายทอดสืบทอดความเป็นซามูไรสมัยก่อน มีความเชื่อว่าเขาคือผู้ปกป้องประชาชน มีความรับผิดชอบต่อสังคม คอยดูแลคนในกลุ่ม
 
แกงค์ของเขาก็จะดูแลคนในก๊วน ดูแลประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี เหมือนเรื่อง"เณรน้อยเจ้าปัญญา"จะมีซามูไรอยู่คนหนึ่งคอยช่วยเหลือ อารมณ์นั้นล่ะ ถ่ายทอดมาปัจจุบัน แต่เปลี่ยนไป กลายเป็นกลุ่มแกงค์คอยดูแลความเป็นอยู่ ดูแลสารทุกข์สุกดิบคนในกลุ่ม
 
เป็นเรื่องราวในปัจจุบัน ในหนังสือตระกูลโอนิซึกะทำท่าเรือ แต่ในละครจะเปลี่ยนไป นิยายของเราต้องการพูดถึงซามูไร หรือ ยากูซ่า ในมุมมองที่ดี เป็นนักเลงที่เป็นนักเลงจริงๆ ไม่ใช่นักเลงอันธพาล
 
ทางการญี่ปุ่นขอไม่ให้ใช้คำว่ายากูซ่า เพราะเราไปใช้สถานที่ของเขา ไปถ่ายรูป ไปถ่ายภาพซากุระบาน มีฉากเอาท์ดอร์อยู่เยอะ มีคำห้ามอยู่เยอะ อย่างคำว่า “โอย่าบุน” ที่แปลว่านายท่าน พ่อเลี้ยง ที่ตรงตัว ก็ต้องเปลี่ยนเป็นโซเรียว เปลี่ยนเป็นหัวหน้าแทน"

 

มีส่วนร่วมในการผลิตละครเรื่องนี้ด้วยไหม
 

“ไม่ได้มีส่วนร่วมเลย แต่เขาได้มาถาม เล่ม 2 เรื่องราวอาจจะน้อยไปหน่อยหนึ่ง ต้องเติมเรื่องราวเข้าไป เรื่องแรกจะหนาเต๊อะเลยเพราะวางพล็อตไว้สำหรับเล่มสองแล้ว มีปมให้เล่นเยอะ พอเล่มสอง ต้องเติมเข้าไปให้มันมีเรื่องราว ต้องขยี้ออกไป ส่วนเรื่องที่สามเป็นรุ่นลูกของสองคนนี้ มันอาจจะไกลเกินไป ผู้ผลิตเขาขอดูก่อน ก็เลยเอาแค่สองเรื่อง  

เรื่องนักแสดง คุณสมรักษ์เขาอ่านเรื่องก็นึกภาพ”ณเดชน์”อยู่แล้ว ตอนที่เขาซื้อก็ถามคุณสมรักษ์ว่าจะให้ "ณเดชน์" แสดงหรือคะ เขาบอกว่าใช่ คือตอนนั้น "ณเดชน์" แสดงเรื่อง "ดวงใจอัคนี" แล้วเขาเกิดเลย ก็เลยจะหานิยายให้ณเดชน์ ก็ซื้อเรื่องนี้โดยที่ไม่ได้คิดถึงคนอื่น" 

 
 
ที่มาของนิยายเรื่องนี้มาได้อย่างไร
 
“พอดีไปเที่ยวค่ะ ไปงานแต่งงานเพื่อน เราเห็นประเทศญี่ปุ่นมีความน่ารัก มีความนอบน้อม แล้วในความนอบน้อมก็มีความแข็งแกร่ง เราก็อยากนำเสนอ เออ.ถ้ามีลูกของยากูซ่ามาแอบรักลูกของนักเรียนไทยจะทำยังไง คือเป็นคำถามที่เราจุดประกายขึ้นมาเล็กๆ เราก็เลยเอามาเขียน"

 

ค้นคว้าข้อมูลเรื่องนี้อย่างไร
 

“ตอนนั้นมีแฟนคลับ สามีเป็นชาวญี่ปุ่น ทำงานเป็นล่าม แล้วเคยทำงานกับยากูซ่าด้วย แต่โดยส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยอยากยุ่งกับยากูซ่า มันอันตราย อย่างมีคนหนึ่งโดนลอบฆ่าแต่ไม่ตาย พวกเขาก็บุกเข้าไปในโรงพยาบาลจับโยนออกมาจากตึกให้ตายเลย โดยที่คนก็จับไม่ได้ ใครก็ทำอะไรเขาไม่ได้" 

 
 
ในส่วนของนิยายกับความเป็นจริงแตกต่างกันอย่างไร

“เราพยายามนำเสนอส่วนที่ดี อย่างยากูซ่าก็นำเสนอความเป็นนักเลงที่แท้จริง ไม่อันธพาล ในปัจจุบันก็ยังมีอยู่นะ แต่ว่าไม่เปิดเผย

 
ผลงานในมือตอนนี้ที่กำลังจะเป็นละครมีอะไรบ้าง
 
“เก้าเล่ห์รักร้าย, ทอดาวกุสุมา, เพลิงพยัคฆ์, กามเทพปราบมาร, รอยฝันตะวันเดือด สังกัด สถาพรบุคส์ หมดเลย คือพี่เขียนนิยายให้กับสถาพรบุคที่เดียว มีช่อง 7 ช่อง 3 ซื้อไป ตอนนี้รอออนแอร์ ช่อง 7 ห้าเรื่อง(ไฟรักเกมร้อน ทะเลไฟ เลห์รักบุษบา โซ่เวลี บ่วงวิมาลา) ช่อง 3 สี่ห้าเรื่อง

 

ชีวิตตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

“ตอนนี้ใช้เวลาเขียนช่วงวันหยุด สามีก็เข้าใจให้เวลาในวันหยุดมากขึ้น เมื่อก่อนทำงานไฟแนนซ์ แล้วก็มาทำงานบริษัท เป็นผู้จัดการส่วนบุคคล ผู้จัดการทั่วไปในโรงงาน จิปาถะ อะไรก็ตาม ทำได้หมด ของโรงงานแฟน
 
ตอนหลังมาเขียนนิยายเต็มตัว แล้วก็เปิดร้านอาหาร เป็นกุ๊กเอง เป็นเฮลพ์เปอร์ เป็นคนหั่นผัก ทำทุกอย่าง ทำบัญชีด้วย พอมีเวลาว่างก็มาเขียนเรื่อง “เพลิงพยัคฆ์” แต่เดี๋ยวนี้จะเขียนให้น้อยลงปีละประมาณ 2 เรื่อง แต่ก็ยังไม่ทิ้ง เพราะว่ามีแฟนๆ เขาคอยอ่านอยู่ แต่เราอยากครีเอทงานให้ครอบครัวไปด้วย" 

อนาคตข้างหน้าจะมีผลงานอะไรออกมาบ้าง

“ละครตอนนี้ไรซิงซันกำลังออนแอร์ โปรเจคต่อไปคือ"คุณชายภาคสอง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน ดวงใจเทวพรหม" เป็นซีรีส์ 5 คน
 
สำหรับนิยายก็มี “เพลิงพยัคฆ์” มีเล่มต่อ “ไฟรักมังกร” แล้วก็ “อัสดรพิโรธ” เป็นซีรีส์ของเขา ส่วนซีรีส์คุณชายจะออกประมาณมีนาคมปีหน้า แล้วก็มีโปรเจคของสถาพร 15 ปี 15 รัก
 
ส่วนเล่มที่เพิ่งออกล่าสุดคือ “แปดเล่ห์สิบสองรัก” ที่แผลงมาจาก “แปดเหลี่ยมสิบสองคม” ที่แปลว่า เจ้าเล่ห์มาก”

 
คนที่อ่านหนังสือแล้ว ดูละครทีวีแล้วยังไม่จุใจ อยากไปพบตัวจริงของ “ณารา” ก็ไปที่ร้านอาหาร “สตางค์ไทย” ที่เมือง Kelowna ประเทศ CANADA ได้เลยจ้า







กำลังโหลดความคิดเห็น