ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 16
วีด้าเดินมาชงกาแฟดื่มตอนเช้าเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น วีด้าเดินไปหยิบดูหน้าจอแล้วกดรับ
“ฮัลโหล..”
“สวัสดีค่ะ คุณวีรดานะคะ” เสียงโบรกเกอร์ดังมาตามสาย
“ค่ะ ว่ายังไงคะ”
“หุ้น Prime Enterprise ที่คุณวีรดา ช้อนซื้อไว้ คุณได้หุ้นไปทั้งหมด เกือบ 10 % เลยค่ะ”
“เหรอคะ” วีด้ายิ้มพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้
“ค่ะ แล้วราคาตอนนี้ก็ขึ้นมาแล้วด้วย คุณวีรดาสนใจจะขายมั้ยคะ”
“ดิชั้นไม่คิดขายค่ะ มีแต่จะซื้อเพิ่ม”
“ค่ะ ถ้ายังไงติดต่อนุชได้ตลอดเวลานะคะ” โบรกเกอร์กล่าว
“ขอบคุณมากค่ะ”วีด้าวางสาย จิบกาแฟ
วีด้ากำลังนั่งมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานภายในบริษัทหน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงหน้าโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท Prime Enterprise มีชื่อของนายบัญชาเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุดอันดับ1 อันดับรองลงมาคือนายปีเตอร์
“ผู้ถือหุ้นลำดับสองของบริษัท Prime Enterprise คือนายปีเตอร์ ถ้าเราซื้อหุ้นจากนายปีเตอร์ได้ รวมกับหุ้นที่ซื้อไว้แล้ว เราก็จะกลายเป็นหุ้นใหญ่ทันที” วีด้าคิดวางแผน
วีด้าคัชพลและคณะกรรมการกำลังประชุมทุกคนดูVTR ที่คัชพลอธิบายขั้นตอนการก่อสร้างจากจอมอนิเตอร์ ที่เสร็จไปหลายส่วนแล้วจนจบ
“การก่อสร้างโครงการดำเนินไปมากแล้ว ภายในหกเดือนนี้โครงการของเราน่าจะแล้วเสร็จทันตามกำหนดครับ” คัชพลพูด
ทุกคนยิ้มแย้ม คัชพลยิ้มให้วีด้า วีด้ายิ้มรับ
ช่วงบ่าย ยศสรัลอยู่ในห้องทำงาน เขาเซ็นเอกสารแล้วยื่นให้กับเลขา เลขารับแล้วจะเดินออก
ยศสรัลคิด แล้วเรียกเลขา
“เอ่อเดี๋ยวคุณช่วยติดต่อเช่ารถให้ผมคันหนึ่งด้วยนะครับ”
“รถคุณสรัลเสียเหรอคะ จะให้ดิฉันส่งรถเข้าศูนย์ไหมคะ” เลขาถาม
“เปล่าครับ รถผมไม่ได้เป็นอะไร แต่ยังไงช่วยจัดหาให้ผมหน่อยนะครับ” ยศสรัลบอก
“ค่ะ” เลขาตอบรับแบบงงๆ แล้วเดินออกไป
ยศสรัลคิด มีแผนการอยู่ในใจ
ตกเย็น วีด้าเดินมาที่รถ ไขกุญแจ เข้าไปในรถแล้วขับออกไป ยศสรัลอยู่ในรถที่เช่ามา เขามองวีด้าแล้วขับตามเธอไป
วีด้าขับรถมาจอดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ยศสรัลขับตามมาจอดห่างกันไม่มากนักวีด้าเดินเข้าไปในร้านอาหาร ยศสรัลมองตามและคอยจนวีด้าเดินออกมาพร้อมกับดนัย ยศสรัลแอบมองต่อ ดนัยเดินมาส่งวีด้าที่รถ ดนัยมองหน้าวีด้า
“ผมเป็นห่วงคุณนะ ขับรถดีๆด้วย” ดนัยบอก
“ขอบคุณนะดนัย” วีด้าตอบพร้อมกับยิ้ม มองดนัยอย่างขอบคุณ ทั้งสองกอดกันแบบเพื่อน แล้วยิ้มให้กัน ดนัยเดินกลับไป ส่วนวีด้าขับรถออกจากร้าน
ยศสรัลพยายามออกรถตาม แต่มีรถคันหนึ่งมาขวาง ยศสรัลจึงเบรก รถคันหน้าจอดรอผู้หญิงเดินมาขึ้นรถยสสรัลชะเง้อหาวีด้าแล้วไม่เห็น รู้สึกเซ็งที่ตามวีด้าไม่ทัน
พลบค่ำ ยศสรัลเดินเข้าบ้านมาเจอกับคัชพลที่ยืนอยู่ คัชพลมองยศสรัลแล้วหันไปทางอื่น ยศสรัลมองพี่ชายแล้วตัดสินใจเข้าไปคุย
“พี่ใหญ่...ผมขอคุยอะไรหน่อยสิครับ” ยศสรัลเอ่ย
“มีอะไร”
“เรื่องคุณวีด้า”
คัชพลหันขวับมองทันทีที่ได้ยิน
“ผมไม่ไว้ใจเขา” ยศสรัลกล่าวต่อ
“เพราะอะไรนายถึงไม่ไว้ใจเค้า” คัชพลไม่พอใจ
ผมว่าเค้าอาจจะมีแผนอะไรบางอย่าง” ยศสรัลไม่กล้าบอกความจริง
“แผน?”
“ครับ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนว่าเขาคิดจะทำอะไร และผมก็ไม่แน่ใจว่าเค้าจะรักพี่ใหญ่จริงๆ”
คัชพลโกรธทันที ดึงคอเสื้อยศสรัล
“เค้าไม่รักชั้นแล้วรักแกรึไง! แกต้องการให้วีด้าเลิกกับชั้นเพราะแกชอบเขาใช่มั้ย! ไอ้สรัล!..”
คัชพลง้างมือจะต่อยน้อง สินีเข้ามาเห็นพอดี
“หยุดนะตาใหญ่! นี่อะไรกัน” สินีเข้าห้าม
คัชพลปล่อยคอสรัล
“สรัลมันคิดจะแย่งวีด้าไปจากผม”
“อะไรนะ ชื่อผู้หญิงคนนี้อีกแล้วเหรอ?” สินีเอ่ย
“ครับ ชื่อนี้แหล่ะคือคนที่ผมรักมาก” คัชพลตอบผู้เป็นแม่
“แกจะไปไหนก็ไปเลยนะไอ้สรัล ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก” คัชพลหันมาพูดกับยศสรัล
สินีอึ้งมองหน้ายศสรัล ยศสรัลอึ้งมองหน้าพี่ชายที่ไม่ยอมฟังแล้วเดินออกไป คัชพลเดินไปนั่งอารมณ์เสีย สินีมองลูกชายทั้งสอง รู้สึกเจ็บใจวีด้า
มณฑิตาเดินมาถึงหน้าห้องพักของจิมแล้วกดออด แต่ก็ไม่มีคนมาเปิด มณฑิตากดอีกครั้ง กำลังจะกลับประตูเปิดออกเห็นจิมยืนอยู่ในชุดเสื้อคลุมนอน ยืนขวางประตูไว้
“จะนอนแล้วเหรอ” มณฑิตาถาม
“พรุ่งนี้ผมมีธุระเช้า”
“ขอโทษที่มากวนนะ พอดีฉันโทรหาคุณแล้วคุณไม่รับสาย”
“มีอะไร”
“ขอค้างที่นี่ได้ไหม ไม่อยากกลับบ้าน”
“อย่าดีกว่า ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณอีก”
มณฑิตาถอนใจ แล้วบอกว่า
“เราจะไม่ทะเลาะกันอีก เพราะฉันตัดสินใจแล้วว่าจะถอนหมั้นมาคบคุณอย่างจริงจัง”
“เราไปกันไม่ได้หรอก”
“ทำไม คุณก็ชอบฉัน ฉันก็ชอบคุณ ทำไมเราจะไปกันไม่ได้” มณฑิตาตกใจ
“เอาเป็นว่าเราต่างคนต่างอยู่ดีกว่า”
“คุณยังไม่เลิกกับแฟนใช่มั้ย หรือคุณมีใครอีก” มณฑิตาเริ่มรู้ตัว
“ไม่ใช่หรอก” จิมปฏิเสธ
“งั้นทำไมเราคบกันไม่ได้”
มีเสียงผู้หญิงในห้องดังมา“คุยกับใครน่ะ”
มณฑิตาอึ้งตัวชาตัดสินใจผลักจิมออกแล้วผลักประตูให้กว้าง ซึ่งจิมก็ถอยให้อย่างไม่สะทกสะท้าน ภาพที่เห็นคือ ผู้หญิงคนใหม่ของจิมยืนมองหน้ามณฑิตาหน้านิ่งจิมไม่สนใจ มณฑิตามองหน้าจิมด้วยความผิดหวัง
“ที่แท้คุณก็ไม่คิดจริงจังกับชั้น” มณฑิตากล่าวอย่างเสียใจ
จิมยักไหล่แล้วยิ้ม กล่าวว่า
“เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วใช่ไหม” ก่อนจะยิ้มแล้วปิดประตูใส่หน้ามณฑิตาเบาๆเสียงคลิ๊กของประตูทำให้มณฑิตาแค้น เสียใจ
เช้าวันใหม่ ยศสรัลกับสินีนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร รอบัญชา แล้วบัญชาก็เดินเข้ามาในชุดทำงาน นั่งลง มือจัดเนคไท ยศสรัลกับสินีแปลกใจ
“คุณพ่อจะไปทำงานแล้วเหรอครับ” ยศสรัลถาม
บัญชาพยักหน้า “อือ..”
“คุณคะ อย่าเพิ่งไปเลย ปล่อยตาใหญ่กับตาสรัลทำไปเถอะ” สินีว่า
“ปล่อยพวกมัน เดี๋ยวก็ได้ตัดสินใจทำอะไรผิดๆอีก” บัญชาบอก
ยศสรัลกับสินีค้านอะไรไม่ได้ เมื่อเริ่มกินข้าวกันไป 1-2 คำ บัญชาชวนยศสรัลคุย
“งานแผนกแกเป็นไงบ้าง” บัญชาถาม
“ก็เรียบร้อยดีครับ”
“ช่วงนี้ บริษัทเราวุ่นวายระวังกันหน่อย พนักงานก็มาก ไม่รู้ใครมันแอบมาเป็นศัตรูรึเปล่า”
“งานบริษัท มันจะมีพนักงานเป็นศัตรูได้ไงคะ” สินีถามงงๆ
“ใครจะไปรู้ ชั้นแค่สงสัยว่าถ้าไม่มีศัตรูภายนอกเข้ามา ทำไมถึงมีคนรู้เรื่องภายในของเรา”
“เรื่องอะไรครับ” ยศสรัลสงสัย
บัญชามองหน้ายศสรัลแล้วทานข้าวต่อ ไม่ยอมตอบ
ยศสรัลคิด ตัดสินใจถาม
“คุณพ่อครับ....” ผู้เป็นพ่อเงยมอง “ถ้าเรามีศัตรูจริงๆ เข้ามาพัวพัน คุณพ่อจะจัดการยังไงครับ”
“ถ้าชั้นรู้ ว่าใครมันเป็นศัตรูกับชั้น ชั้นคงไม่ปล่อยมันไว้หรอก” บัญชาตอบลูกชาย
ยศสรัลถึงกับอึ้งไป บัญชามองยศสรัล
“ทำไม มีอะไร”
“ไม่มีครับ”
ยศสรัลคิดเป็นห่วงวีด้า
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 16 (ต่อ)
คัชพลนั่งคิดเรื่องงานที่ร่วมทุนกับวีด้า เขาหยิบมือถือมาโทรหาวีด้าแต่ไม่มีใครรับสายจนตัด คัชพลเซ็ง ทันใดนั้น มีเสียงโทรศัพท์คัชพลดังขึ้น คัชพลคิดว่าเป็นวีด้า แต่พอเห็นชื่อที่ขึ้นหน้าจอแล้วเครียด
“ครับคุณพ่อ”
“ใหญ่ แกมาที่ห้องทำงานชั้นหน่อย” บัญชากล่าวมาตามสาย
“ครับ”คัชพลวางสาย ลุกออกไปที่ห้องทำงานของบัญชา
บัญชานั่งรอคัชพลอยู่ในห้องทำงาน คัชพลเดินเข้ามาแล้วนั่งลง
“ตอนนี้ ป.ป.ง มันกำลังตรวจสอบเรา แต่มันไม่มีหลักฐานจะเอาผิดเราได้ แกอย่าได้พลาดทิ้งหลักฐานอะไรนะ ไม่งั้น แกกับชั้นได้ติดคุกหัวโตแน่” บัญชาบอก
“หลักฐานทุกอย่าง ทำลายทิ้งไปหมดแล้วครับ คุณพ่อไม่ต้องห่วง” คัชพลตอบ
“ป.ป.ง มันรู้เรื่องได้ยังไง ใครที่มันกล้าเป็นศัตรูกับเรา” บัญชาถามพร้อมกับคิดไปด้วย
สองพ่อลูกคิดไม่ออก
ยศสรัลนั่งคิดถึงคำพูดของบัญชาเมื่อเช้า
“ถ้าชั้นรู้ ว่าใครมันเป็นศัตรูกับชั้น ชั้นคงไม่ปล่อยมันไว้หรอก”เขารู้สึกเครียด
เขานึกไปถึงตอนที่ทะเลาะกับคัชพล
คัชพลดึงคอเสื้อยศสรัล
“เค้าไม่รักชั้นแล้วรักแกรึไง! แกต้องการให้วีด้าเลิกกับชั้นเพราะแกชอบเขาใช่มั้ย!! ไอ้สรัล!..”
เมื่อคิด ยศสรัลก็ปวดหัว
“ถ้าหยุดพี่ใหญ่ไม่ได้ ผมก็ต้องหยุดคุณให้ได้ วีด้า” ยศสรัลคิด สีหน้าจริงจัง
ตกเย็น ยศสรัลนั่งรอวีด้าอยู่ในรถคันที่เช่ามาวีด้าเดินออกมาที่รถ ดนัยโทรหาวีด้า เธอรับสาย
“ป.ป.ง โทรมาแจ้งว่า หลักฐานที่คุณให้ไป ยังเอาผิดใครไม่ได้” ดนัยบอก
วีด้าขมวดคิ้ว “ทำไมถึงเอาผิดไม่ได้ล่ะคะ ถ้าป.ป.ง ยังเอาผิดไม่ได้ แล้วใครจะจัดการได้”
ยศสรัลที่แอบฟังอยู่ มองหน้าวีด้า
“หลักฐานมันน้อยเกินไปที่จะเอาผิด ทางนั้นแจ้งว่า เค้าโดนกลั่นแกล้ง แต่เงินก็ยังถูกอายัติอยู่เพื่อรอหลักฐานเพิ่มเติม” ดนัยพูด
วีด้าหงุดหงิด ยศสรัลสังเกตอาการ
“พวกนั้นเป็นใครเหรอวีด้า วีด้า” ดนัยถาม
“แล้ววันนึงวีด้าจะบอกค่ะ ขอบคุณนะคะ ดนัย” วีด้าวางสาย
ยศสรัลมอง แล้วคิด “ป.ป.ง.? วีด้ากำลังตามเรื่องอะไร”
วีด้าขึ้นรถแล้วขับออกไป ยศสรัลขับตามวีด้าขับรถเข้าคอนโด ยศสรัลขับรถตามมาจอดหน้าถนน มองเข้าไปในคอนโด
มณฑิตากับสินีนั่งคุยกัน สินีมองมณฑิตาด้วยสายตานิ่งเฉยเหมือนคนไม่คุ้นเคยกัน
“ที่ผ่านมามณก็พยายามปรับตัวและทำดีทุกอยากเพื่อสรัลแล้ว แต่... แต่สรัลเค้าไม่เคยใส่ใจ มณเลย...ไปพักผ่อนที่ต่างประเทศมาพักหนึ่งค่ะ” มณฑิตาว่า
“เหรอ แต่แม่ยังเห็นข่าวมณออกงานสังคมอยู่เลย” สินีเอ่ย
มณทิตาอึกอัก
“แม่รู้ว่ามณกับสรัลมีปัญหากัน แม่เลยคิดว่าคงถึงเวลาที่ผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายหนูแล้วก็ฝ่ายแม่จะคุยกัน”
“คุยกัน!...คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ?” มณฑิตาตกใจ
“ก็ถ้ามณกับสรัลไปกันไม่ได้.....”
มณทิตารีบพูด “ไม่ค่ะ ตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ คือระหว่างที่เราห่างกัน มณคิดแล้วว่ามณคงไม่มีความสุขไปทั้งชีวิตถ้าไม่ได้อยู่กับสรัล....มณจะทำทุกอย่างให้เรากลับคืนมาเหมือนเดิมค่ะ”
“หนูแน่ใจนะ”
“ค่ะ”
“เอาล่ะ ถ้างั้นแม่ก็ดีใจด้วย เพราะไงแม่ก็รักมณเสมอ”สินีพูดพร้อมกับกุมมือปลอบมณฑิตา
ตกกลางคืน ยศสรัลขับเข้าบ้าน สินีกับมณฑิตานั่งอยู่ด้วยกันที่ห้องนั่งเล่น ยศสรัลเดินผ่านมา มณฑิตาเห็น เธอเรียกยศสรัลอย่างดีใจ
“สรัลคะ”
ยศสรัลหันมองเห็นว่าเป็นมณฑิตา มณฑิตาลุกเดินเข้าหายศสรัล
“มณมาคุยกับคุณแม่ตั้งแต่บ่ายแล้ว แล้วมณยังช่วยทำคุ้กกี้ด้วยนะคะ สรัลไปชิมนะ” มณฑิตาบอก
“ไปสิสรัล หนูมณเขาแนะนำสูตรใหม่ให้ นี่ถ้ามาช่วยแม่ทำทุกวันแม่อ้วนแย่เลย” สินีเอ่ย
มณฑิตาดึงแขนยศสรัล ยศสรัลขืนไว้แล้วดึงมือออก
“มณกลับมาทำไม” ยศสรัลถาม
มณฑิตากับสินีถึงกับอึ้งที่เห็นยศสรัลถามจริงจัง
“เพราะมณตัดใจจากสรัลไม่ได้ มณถึงกลับมาไงคะ” มณฑิตาตอบอึ้งๆ พร้อมกับมองสินีเพื่อหาตัวช่วย
“สรัล....พูดจากันดีๆสิ ยังไงเขาก็เป็นคู่หมั้นเรานะลูก” สินีว่า
ยศสรัลเซ็ง มองไปทางสินี ก็ถูกสินีจ้องบังคับด้วยสายตา
วีด้าเดินคุยกับเกรซในคอนโด ทั้งคู่อยู่ในชุดนอน
“หลักฐานไม่พอจะเอาผิดนายบัญชา ถ้าชั้นหาหลักฐานเพิ่มได้อีกก็ดีสิ” วีด้าว่า
“วีด้า แกปล่อย ป.ป.ง เค้าทำงานไปเถอะ แกอย่าทำตัวเป็นนักสืบเลย มันเสี่ยง” เกรซบอก
“ฉันมาไกลถึงขนาดนี้แล้วเกรซ ฉันไม่ยอมแพ้หรอก”
“วีด้า...ทำไมแกถึงได้ดื้ออย่างนี้”
วีด้าแววตาไม่ยอมแพ้
สินีกับยศสรัลเดินมาส่งมณฑิตาที่หน้าบ้าน
“หนูมณ ขับรถดีๆนะจ๊ะ” สินีบอก
“ค่ะคุณแม่” มณฑิตาตอบรับ แล้วหันไปพูดกับยศสรัล
“ขอบคุณสรัลมากนะคะ ที่อุตส่าห์อยู่คุยกับมณ”
“อุตส่าห์อะไรกันล่ะจ๊ะ มันเป็นหน้าที่ของสรัลอยู่แล้วที่ต้องเทคแคร์หนู” สินีว่า แล้วหันมาพูดกับยศสรัล
“แล้วสรัลก็เหมือนกัน กลับมาเอาใจใส่มณเหมือนเดิมได้แล้ว”
“มณเข้าใจสรัลค่ะ ที่ผ่านมามณก็ผิด แต่มณจะชดเชยทุกอย่างคืนให้สรัล มณรักคุณนะ”
มณฑิตาไหว้สินีแล้วหอมแก้มยศสรัล ยศสรัลขัดไม่ได้เพราะแม่จ้องอยู่มณฑิตายิ้มพอใจแล้วขึ้นรถ
ตอนกลางวัน ยศสรัลอยู่ในห้องทำงาน เขานั่งตรวจเช็คแฟ้มเอกสารเพิ่งเสร็จยศสรัลพักนวดตาผ่อนคลายก่อนมองดูนาฬิกา ที่กำลังบอกเวลา 15:45 ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์เข้ามายศสรัลหยิบมาดูเห็นชื่อเป็นมณฑิตาก็เลยไม่รับยศสรัลตัดสินใจลุกออกไปข้างนอก พร้อมโทรศัพท์กับกุญแจรถคันใหม่
เมื่อยศสรัลเดินมาตามทางเดินออฟฟิศบริษัท เขาเห็นมณฑิตากำลังเดินมาอีกทางยศสรัลไม่อยากคุยด้วย เลยยอมเดินอ้อมเลี่ยงไปอีกทาง เพื่อหลบหน้ามณฑิตาที่กำลังเดินผ่านออฟฟิศไปห้องทำงานยศสรัล
มณฑิตาเดินมาถึงโต๊ะเลขาที่หน้าห้องยศสรัล พอเลขาเห็นก็รีบไหว้
“สวัสดีค่ะคุณมณฑิตา”
“สรัลอยู่ใช่ไหม” มณฑิตาถาม
“เพิ่งออกไปเมื่อสักครูนี่เองค่ะ ไม่สวนกันเหรอคะ ลองโทรเข้ามือถือไหมคะ”
มณทิตาคิด ว่าทำไมไม่เห็น
“โทรตั้งหลายทีไม่เห็นจะรับเลย”
“ยังไงก็ไม่ทราบนะคะ เพราะคุณสรัลก็ไม่ได้บอกดิฉันไว้ด้วยว่าจะไปไหน คุณมณจะนั่งคอยไหมคะ” เลขาถาม
“ไม่ล่ะ ฉันกลับเลยดีกว่า”มณฑิตาบอก แล้วเดินกลับไป
ขณะเดียวกัน ยศสรัลเดินขึ้นรถที่ลานจอด แล้วขับรถออกไป
วีด้ากำลังนั่งดูงานผ่านจอคอมพิวเตอร์ คัชพลโทรเข้ามา
“สวัสดีค่ะคุณใหญ่” วีด้ารับสาย
“วีด้าครับ เย็นนี้ว่างมั้ยครับ”
“ค่ะ ว่างค่ะ”
“งั้นเย็นนี้เราเจอกันที่สปอร์ตคลับนะครับ”
วีด้าคิดครู่หนึ่ง
“ค่ะ ได้ค่ะ แล้วเจอกัน”
วีด้าวางสาย และคิดว่าคัชพลไม่อยู่บริษัทแน่เย็นนี้
ตอนเย็น วีด้าขับรถเข้ามาตรงลานจอดรถบริษัทยศสรัลขับตามมาจอด
“ถ้ารู้ว่าจะมาบริษัทเรา คงไม่ต้องตามให้เหนื่อย” ยศสรัลขำแล้วส่ายหัว
“แล้วมาทำไม!” ยศสรัลคิด
วีด้านั่งนิ่งไม่ลงรถ
“จะทำอะไรของเค้านะ!” ยศสรัลแปลกใจ
คัชพลนั่งลงมองดูนาฬิกา แปลกใจว่าทำไมวีด้ายังไม่โทรมา คัชพลหยิบมือถือมากดโทรหาวีด้า วีด้าไม่รับสายคัชพลรอสายจนหงุดหงิด แล้วลองโทรออกอีกครั้ง
ที่ลานจอดรถบริษัท Prime Enterprise ยศสรัลยังนั่งรอดูวีด้าg-kมองดูนาฬิกา ที่หน้าปัดบอกเวลา1ทุ่ม
“เธอกำลังรออะไรอยู่นะ ..” ยศสรัลสงสัย
ยศสรัลสงสัยได้ไม่นาน วีด้าก็เปิดประตูรถออกมานชุดมิดชิด สวมหมวกอำพราง มองซ้ายขวาแล้วเดินไปทางหลังตึกยศสรัลเปิดประตูลงยืนมองตาม แปลกใจวีด้ามาก
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 16 (ต่อ)
วีด้าเดินเข้ามาถึงในตึกบริเวณชั้น1 พนักงานกลับบ้านกันหมดแล้ว เธอมองซ้ายขวาอย่างระวัง จนมาถึงมุมหนึ่ง ยามเดินผ่านมา วีด้ารีบหลบในซอกหนึ่ง ยามเหมือนเห็นอะไรบางอย่างดินมาทางที่วีด้าซ่อนอยู่ เขาเดินเข้ามาเรื่อยๆจนใกล้จะถึงวีด้า แต่วีด้าออกมาแล้วเดินไปอีกทาง โดยมียศสรัลตามมาไกลๆ
คัชพลยังถือสายฟังเสียงรอสายจากเครื่องวีด้าที่ไม่มีใครรับ คัชพลหงุดหงิด คิด แล้วโทรหายศสรัล
“สรัล แกอยู่ไหน”
“ผมยังอยู่ที่ออฟฟิศครับ”
“แกแน่ใจเหรอ”คัชพลไม่ค่อยเชื่อ
“ผมพูดความจริงครับ”
คัชพลฟังแล้ววางสายระแวงยศสรัล
“ชั้นจะไปดู ว่าแกโกหกชั้นรึเปล่า”
วีด้าเดินออกมาจากลิฟท์จะไปห้องทำงานคัชพล แต่เห็นพนักงานคนหนึ่งยังนั่งทำงานอยู่
เธอรู้สึกหงุดหงิด และหามุมนั่งรอ เธอลังเลว่าจะลุกออกไปดีหรือไม่ยศสรัลเดินมาอีกทาง แต่วีด้าไม่ทันสังเกตยศสรัลเพราะมัวแต่ระวังพนักงาน ยศสรัลไม่เห็นใคร พยายามมองไปทั่ว ยศสรัลหยุดคิด ก่อนเดินออกไป
คัชพลขับเข้ามาจอด เขาลงลงรถ ไม่เห็นรถของวีด้าคัชพลเดินเข้าบริษัทไป
พนักงานที่บริษัทเพิ่งทำงานเสร็จ เก็บสัมภาระแล้วลุกเดินออกไปปิดไฟวีด้าที่แอบอยู่ ออกมามองจนทั่ว เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วก็วิ่งเข้าห้องคัชพลทันที
วีด้าเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานคัชพล หยิบไฟฉายออกมาส่องหาเอกสาร หาไปเรื่อยๆได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนเดินมาจากข้างนอก วีด้ารีบหาที่ซ่อน คนที่เข้ามาคือคัชพล เขาเข้ามาแล้วเปิดไฟสังเกตไปรอบๆ วีด้ายังไม่รู้ว่าใครเข้ามา เธอขยับตัวแอบชิดกว่าเก่า
เสียงมือถือคัชพลดังขึ้น คัชพลกดรับสาย
“ฮัลโหล.. ครับคุณพ่อ อยู่ข้างนอกครับ”
วีด้าได้ยินเสียงคัชพลก็ตกใจ หน้าซีด แอบมองเห็นคัชพลหันหลังอยู่ เธอตัดสินใจเสี่ยงหลบออกไปทางประตู พอพ้นประตูวีด้าเริ่มวิ่งทันที คัชพลได้ยินก็สงสัย รีบวิ่งออกไปดู เห็นหลังไวไว
“นั่นใคร!”
คัชพลตาม แล้วหาไม่เจอ แต่มีเสียงดังเลยรีบตามต่อ
วีด้าวิ่งเลี้ยวหนีคัชพลมาจนถึงหน้าห้องยศสรัล แล้วชนเข้ากับยศสรัลที่เดินมาอีกทาง วีด้าเห็นยศสรัลก็ตกใจ ตามทางมีเสียงคัชพลดังมา “ชั้นถามว่านั่นใคร!” ทั้งสองมองตามเสียง ด้วยความตกใจยสสรัลดึงวีด้าหลุดเข้าห้องทำงานของตัวเองยศสรัลปิดปากวีด้า ปิดประตู สองคนมองหน้าใกล้กันคัชพลเดินหาไม่เจอใคร หงุดหงิด เห็นห้องยศสรัล คัชพลเดินมาหยุดหน้าห้อง
คัชพลเปิดประตูห้องยศสรัลเข้ามา ยศสรัลนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานมองคัชพลที่เข้ามา
คัชพลมองสังเกตดูทั่วห้อง ยศสรัลมองตาม
“มีอะไรเหรอครับพี่ใหญ่”
“แกยังไม่กลับเหรอ”
“อีกซักพักครับ”
“แกเห็นใครวิ่งมาแถวนี้บ้างรึเปล่า”
ยศสรัลคิด “เห็นมีพนักงานลืมของ วิ่งกลับไปแล้วครับ ท่าทางจะกลัวตกรถ”
“บ้าจริง !ชั้นก็นึกว่าขโมย งั้นชั้นกลับแล้ว” คัชพลหงุดหงิด
ยสสรัลยิ้มให้ คัชพลเดินออกจากห้องไป ยศสรัลลุกไปที่ห้องน้ำ
ยสสรัลเปิดประตูห้องน้ำมองวีด้า วีด้ายังระแวงกลัวคัชพลยังอยู่ เธอดูจนแน่ใจแล้วออกมา ยศสรัลถามเสียงไม่พอใจ
“คุณเข้ามาทำอะไรที่นี่ ต้องการจะค้นอะไร”
วีด้าเงียบไม่ตอบ รู้สึกเจ็บแผลที่ต้นแขนยศสรัลเห็นแผลวีด้าจึงดึงแขนมาดู
“เดี๋ยวผมใส่ยาให้” ยศสรัลพูดอย่างเป็นห่วง
ยศสรัลจะรีบไปเอายา วีด้าสะบัดออก
“ไม่ต้อง คุณไม่ต้องมาทำดีกับชั้น”
“คุณเกือบถูกพี่ใหญ่จับได้”
“แล้วคุณมาช่วยชั้นทำไม”
“เพราะผมไม่อยากให้คุณเดือดร้อน” ยศสรัลหลบตา
วีด้าอึ้ง ยศสรัลจ้องหน้าวีด้าแล้วพูดต่อ
“และผมก็ไม่ต้องการให้ครอบครัวผมเดือดร้อนด้วย”
วีด้าไม่อยากคุย หมุนตัวจะออกไป ยสสรัลดึงวีด้ากลับเข้าหาตัวอีกครั้ง มองแผลวีด้า
“คุณจะหยุดมั้ยวีด้า ไม่ว่าเรื่องอะไร ที่คุณกำลังทำอยู่”
ทั้งสองคนมองหน้ากัน
วีด้าในชุดนอนทิ้งตัวลงบนเตียงคิดมากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องยศสรัล เธอนึกถึงคำพูดของยศสรัล
“คุณจะหยุดมั้ยวีด้า ไม่ว่าเรื่องอะไรที่คุณกำลังทำอยู่ …….ผมไม่อยากให้มันแย่ไปมากกว่านี้"
วีด้าหมุนตัวกลับนอนไม่หลับ ลุกขึ้นเดินออกมาที่ระเบียง
ยศสรัลนอนก่ายหน้าผากอย่ในห้องนอน คิดไม่ตกเรื่องของวีด้าเช่นกัน จึงลุกขึ้นเดิน
เช้าวันใหม่ วีด้ามาหากานดาที่โรงพยาบาลจิตเวช ทั้งสองนั่งด้วยกันที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่วีด้าแกะส้มป้อนกานด้า รู้สึกเหนื่อย ท้อกานดาหันมองวีด้า เห็นแววตาวีด้าเศร้า กานดาจับแก้มวีด้า วีด้าจะร้องไห้ แต่ฝืนยิ้มให้แม่
“แม่” วีด้าเอ่ยดึงมือแม่มากุมไว้
“แม่เป็นกำลังใจให้แพรด้วยนะ แพรไม่อยากใจอ่อนเลย” เธอพูดต่อ
วีด้าน้ำตาซึม เธอเช็ดน้ำตาแล้วหันหน้าหนีกานดา
กานดาไม่รับรู้อะไร
วีด้านั่งทำงานอยู่ในห้อง เลขาเดินเข้ามา
“ดิฉันเช็คให้แล้วนะคะ อีกสองวัน คุณปีเตอร์ หุ้นส่วนของบริษัท Prime Enterprise ถึงจะกลับมาเมืองไทยค่ะ”
“งั้นช่วยโทรกลับไปนัดให้ด้วยนะคะ วันไหนก็ได้ที่คุณปีเตอร์สะดวก” วีด้าดีใจ
“ค่ะ”เลขาตอบรับ แล้วเดินออกไป
ยศสรัลนั่งอยู่ที่ห้องทำงาน กำลังนั่งคิดจะแก้ปัญหาเรื่องของวีด้า ยศสรัลรีบกดอินเตอร์คอมหาเลขา
“ช่วยหาเบอร์แล้วติดต่อคุณกำธร ประธานบริษัท KTT Logistic ที่สิงคโปร์ให้ด้วยนะครับ ถ้าติดต่อได้แล้ว ต่อสายมาให้ผมด้วย”
“ค่ะ คุณสรัล” เลขาตอบรับ
ที่บริษัท KTT Logistic ประเทศสิงคโปร์ กำธรกดรับโทรศัพท์ภายใน
“ฮัลโหล”
“สวัสดีครับคุณอากำธร ผม ยศสรัล โชตินุพงษ์ จากบริษัทPrime enterprise เอ่อ...ผมเป็นเพื่อนสมัยเด็กของวีด้า เอ่อ…น้องแพรน่ะครับ"
กำธรเพิ่งวางสายจากยศสรัล มีผู้ช่วยของกำธรยืนอยู่ภายในห้องด้วย
“เช็คประวัติ คนที่ชื่อยศสรัล โชตินุพงษ์ จากบริษัทPrime enterprise ในเมืองไทย แล้วรีบเอามาให้ผมด่วน”
“ครับท่าน”ผู้ช่วยตอบรับแล้วเดินออกไป กำธรคิด รู้สึกเป็นห่วงวีด้า
ยศสรัลนั่งนิ่งคิด แล้วกดอินเตอร์คอมหาเลขา
“จองตั๋วไปสิงคโปร์เที่ยวเช้าพรุ่งนี้ให้ผมด้วยครับ”
“ค่ะ”
ยศสรัลเตรียมใจไปพบกำธร
เช้าวันต่อมา กำธรคุยกับยศสรัลภายในห้องทำงานของกำธร
“ผมขอบคุณคุณมาก ที่เลือกจะมาพบผม แทนที่จะเล่าให้ครอบครัวคุณฟัง” กำธรเอ่ย
“ผมเป็นเพื่อนเล่นกับวีด้ามาตั้งแต่เด็ก เห็นวีด้าเหมือนน้องสาว ผมเคยถามถึงวีด้ากับคุณแม่เค้าอยู่บ่อยๆ แต่ไม่มีใครเล่าให้ฟัง หลังจากวีด้าออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
“วีด้าคงฝังใจกับครอบครัวคุณมาก ช่วงนั้นเค้าเป็นเด็กมีปัญหา ไม่พูดไม่จา และนอนฝันร้ายทุกคืน พอเวลาผ่านไป เค้าโตขึ้น ผมคิดว่าเค้าลืมเรื่องทุกอย่างไปได้หมดแล้ว ไม่คิดเลยว่ามันจะยังอยู่ในใจของเค้าตลอด” กำธรหนักใจ
“วีด้าเธอคงคิดกลับมาแก้แค้นครอบครัวของผมจริงๆ ตอนนี้เค้าพยายามทำอะไรหลายๆอย่าง ทำยังไง ผมถึงจะหยุดเค้าได้”
“ผมขอร้องคุณ อย่าทำร้ายวีด้านะครับ” กำธรพูด รู้สึกกลุ้มใจมาก
“ผมไม่มีวันทำแบบนั้นหรอกครับ คุณอาสบายใจได้” ยศสรัลให้คำมั่น
กำธรสบายใจขึ้น พยักหน้าขอบคุณ
ตกเย็นวีด้านั่งรอปีเตอร์อยู่ในส่วนหน้าฟรอนท์ของโรงแรม ไม่นานปีเตอร์ก็เดินเข้ามา วีด้าลุกขึ้นจับมือ
“คุณวีด้า” ปีเตอร์ทัก
“สวัสดีค่ะคุณปีเตอร์ เชิญนั่งก่อนค่ะ”
ปีเตอร์นั่งลง ชื่นชมความสวยของวีด้า
“ข้าเรื่องเลยนะคะ ดิชั้นสนใจซื้อหุ้นบริษัท Prime Enterpriseที่คุณปีเตอร์ถืออยู่เกือบ 28%”
“ผมเป็นนักลงทุน ผมไม่สนใจจะขาย เพราะบริษัทของคุณบัญชาทำกำไรให้กับผมทุกปี ผมไม่มีเหตุผลที่จะต้องขาย” ปีเตอร์ยิ้มขำก่อนบอก
วีด้าไม่คาดคิดว่าจะเป็นแบบนี้ ปีเตอร์พูดต่อ
“นอกจากจะได้ราคาที่ดีเท่านั้น”
วีด้ายิ้มอึ้งๆไป ตอนแรกคิดว่าคงไม่ง่ายแล้ว
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 16 (ต่อ)
ที่สิงคโปร์ กำธรกับยศสรัลยังคุยกันต่อเนื่อง
“ผมหยุดเค้าไม่ได้ วีด้าต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ถ้ามันถึงขนาดต้องสูญเสียธุรกิจในเมืองไทย ผมก็ยอมรับได้ แต่ที่ผมเสียใจ คือผมไม่อยากให้เค้าวนเวียนอยู่กับการแก้แค้น” กำธรถอนใจ
ยศสรัลเห็นด้วย
“ผมรู้ว่าคุณลำบากใจ แต่ผมฝากคุณดูแลหลานสาวผมด้วย” กำธรเอ่ย
ยศสรัลมองหน้ารับปาก กำธรเชื่อมั่นยศสรัล
ตกกลางคืน วีด้ายืนหน้ามุ่ยมองออกไปนอกหน้าต่างในคอนโด เกรซที่อยู่ด้วยสังเกตเห็น
“ชั้นเห็นแกแอบหน้ามุ่ยมาตั้งหลายทีแล้ว แกเป็นอะไร”
วีด้าหันมา “นายปีเตอร์ไม่ยอมขายหุ้นให้ชั้น”
เกรซงงไม่เข้าใจ
“นายปีเตอร์มีหุ้นบริษัทนายบัญชาอยู่เกือบ 30% ถ้าปีเตอร์ขายหุ้นให้ชั้น รวมกับหุ้นที่ชั้นมีอยู่ ชั้นก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่” วีด้าบอก
“แกจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทPrime enterprise น่ะเหรอ” เกรซตกใจ
“แล้วแกจะเอาทุนจากไหนไปซื้อหุ้นเค้า” เกรซถามต่อ
“ถ้าปีเตอร์ยอมขายให้ ชั้นก็จะถอนหุ้นทั้งหมดของโครงการศูนย์การค้าทันที”
เกรซคิดตาม“ทำแบบนั้นมันจะไม่เจ๊งเหรอ”
“ชั้นต้องการให้มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้วเหมือนกับที่พ่อชั้นเคยเจอ” ประโยคหลังวีด้าพูดกับตนเองเบาๆ
“ชั้นคิดว่าแกจะเอาผิดเค้าทางกฎหมายอย่างเดียว เรื่องมันจะใหญ่โตไปนะวีด้า” เกรซจ๋อย
วีด้ามองเกรซ พูดว่า “ในเมื่อกฎหมายยังเอาผิดมันไม่ได้ ชั้นก็ต้องเดินเกมส์ของชั้นต่อไป”
“แต่เกมส์แก มันเสี่ยงต่อชีวิตมากเลยนะ”
วีด้ามองหน้าเกรซ “ชั้นยอมแลก”
เกรซฟังแล้วใจหาย ส่วนวีด้าแววตาจริงจัง
รถของยศสรัลแล่นเข้ามาจอดที่ลานจอดรถในบ้าน ยศสรัลเข้าบ้านเดินผ่านมาทางห้องนั่งเล่น เห็นคัชพลกับสินีนั่งอยู่ ยศสรัลจะเดินผ่านไป แต่สินีเรียกลูกชายไว้ “สรัล”
ยศสรัลหยุด หันมองผู้เป็นแม่ สินีเดินเข้าหายศสรัล
“มณฑิตามารอลูกตั้งแต่เย็น จนเค้ากลับไปแล้ว หายไปไหนมา” สินีถาม
ยศสรัลได้ยินชื่อมณฑิตาก็ถอนใจเซ็ง ไม่อยากพูดอะไร
“วันนี้ผมเหนื่อยครับคุณแม่ ไว้คุยพรุ่งนี้นะครับ” ยศสรัลตัดบท
ยศรัลมองคัชพลที่นั่งอยู่ก่อนเดินไป คัชพลมองตามยศสรัล
ยศสรัลนอนอยู่บนเตียงในห้องนอน คิดเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเขากับวีด้า
เขานึกถึงวันที่วีด้าเข้ามาในบริษัทของเขา นึกถึงตอนที่เขาดึงวีด้ากลับเข้ามาหาตัวอีกครั้ง ทั้งสองมองหน้ากัน
เมื่อนึกถึงตอนนั้น ยศสรัลยิ้มมุมปาก และนึกภาพในอดีตต่อ
ยศสรัลนึกถึงวันที่เขาเจอวีด้าอีกครั้งในงานวันเกิดบัญชา เมื่อยศสรัลเห็นวีด้า และตกตะลึงในความสวย ยศสรัลมองวีด้าอย่างไม่วางตา
“ไม่ว่าเรื่องอะไรที่คุณกำลังทำอยู่ ผมไม่อยากให้มันแย่ไปมากกว่านั้น”ยศสรัลกับวีด้าจ้องหน้ากัน
กลับมาที่ปัจจุบัน ยศสรัลนึกถึงคำพูดของกำธร
“ผมรู้ว่าคุณลำบากใจ แต่ผมฝากคุณดูแลหลานสาวผมด้วย”
ยศสรัลหนักใจเรื่องวีด้าและครอบครัวของตัวเอง
เช้าวันใหม่ ยศสรัลอยู่ในห้องทำงาน เขานั่งคิดอะไรบางอย่างแล้วตัดสินใจโทรหาวีด้า
วีด้านั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงาน เลขาต่ออินเตอร์คอมเข้ามา
“คุณวีด้าคะ สายจากคุณยศสรัลค่ะ”
วีด้าแปลกใจ คิดว่าจะรับดีมั๊ย
“ต่อเข้ามาเลยค่ะ” เธอตอบเลขา
วีด้ายกหูโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
“วีด้า ผมอยากจะนัดเจอคุณ”
“ทำไมชั้นต้องออกไปพบคุณ” วีด้าถอนใจขำ
“ถ้าคุณไม่อยากให้ใครรู้ ว่าคุณเป็นลูกน้ากานดากับอาชาติชาย!!” ยศสรัลขู่
วีด้าช็อคที่ยศสรัลรู้ความจริง
อ่านต่อตอนที่ 17