คมพยาบาท ตอนที่ 6
ในร้านกาแฟ...เย็นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว อุทัยเดินเข้ามาเห็นเย็น นั่งเฉย ดูไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร สองคนมองหน้ากันและเย็นก็เป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน
“มีเรื่องอะไรคะ”
อุทัยอ้ำอึ้งแบบเกรงใจก่อนบอก
“ฉัน...อยากคุย เรื่องลูกเปีย”
เย็นตระหนก หวาดระแวง กลัวอุทัยจะรู้
ในห้อง...ประวิทย์นั่งตัวสั่นแบบเกร็งๆมองดูเปียลูกเจ้านาย เปียหัวเราะคิก อ้อน
“ประวิทย์อ่ะ นั่งมองเปียอยู่ได้ตั้งนาน ไม่เห็นชวนเปียทำอะไรเลย”
ประวิทย์ตกใจ งง ถามซื่อๆ
“แล้วจะให้ผมชวนทำอะไรเหรอครับ”
เปียกระเถิบเข้ามานั่งข้างๆซบหน้าลงที่ไหล่เขา
“ก็...ชวน ไปกินข้าว ดูหนัง”
“ผมไม่กล้าหรอกครับ” ประวิทย์เจียมตัว
เปียงอแง อ้อน
“มีอะไรต้องกลัวด้วยล่ะ...ประวิทย์ไม่ชอบเปียเหรอ”
เปียช้อนตามอง ประวิทย์อาย ยิ้ม เปียหัวเราะชอบใจ
“เปียน่ะชอบประวิทย์น่ะ”
“คุณหนู...” ประวิทย์ตกใจ
เปียชอบใจใหญ่ ขยับเข้าใกล้อีก ถามอ้อนๆ
“ว่าไง ประวิทย์ชอบเปียรึเปล่า”
ประวิทย์ค่อยๆมองหน้าเปีย ยิ่งเขิน
“ผมไม่กล้าหรอกครับ ผมเป็นแค่คนอาศัย แต่คุณหนู เป็นถึงลูกสาวเจ้าของบ้าน”
เปียหัวเราะคิกชอบใจใหญ่
“รักออกแบบไม่ได้นะประวิทย์...แต่รักน่ะแอบบอกได้ ว่าไง” เปียจับแขนประวิทย์เขย่าอ้อนๆ “ประวิทย์รักเปียรึเปล่า”
ประวิทย์มองเปีย สายตาบอกว่ามีใจ แต่อาย เปียหัวเราะคิกทำปูไต่ตรงท่อนแขน
“นี่...ถ้าคำว่า รัก มันพูดยาก...พิมพ์เอาก็ได้นะ แล้วส่งข้อความมา”
ประวิทย์หัวเราะออกมา เปียเองก็หัวเราะ ผลักเขาแบบหยอกๆ
“จริงๆแล้วประวิทย์ก็รักเปียเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ ใช่มั้ย แต่ไม่ยอมบอก ต้องให้เปียบอกก่อน...นี่แน่ะๆ”
เปียกับประวิทย์หยอกล้อผลักกันไปมา ประวิทย์ล้มลง เปียล้มลงทับ ประวิทย์
ใจเต้นเปียเองก็ใจเต้นแต่มีจริต เธอเอามือไล้ดวงหน้าของเขาโดยเฉพาะริมฝีปาก
“ประวิทย์บ้าที่สุด...เปียเป็นผู้หญิง มาบอกรักประวิทย์ก่อนมันน่าอายรู้มั้ย”
เปียพูดเหมือนจะอายแต่ท่าทางไม่อายเลย ประวิทย์ตกใจ กลัว เขิน เห็นว่าไม่ควร ดันตัวเธอออก นั่งตัวสั่น เปียหัวเราะคิก
เย็นถามอุทัยเสียงแข็ง โกรธมาก
“ไอ้คำว่าเปียเป็นเด็กไม่ธรรมดาของคุณน่ะ หมายความว่ายังไง”
อุทัยอึกอักท่าทางเกรงๆ
“ก็...ก็...ดูแปลกๆ...”
เย็นเสียงเข้มๆ
“แปลกยังไง”
อุทัยกลุ้มใจ
“ก็....ฉันว่าท่าทางแกล้นๆ เกินเด็ก...ที่สำคัญ ฉันว่าแกชอบโกหก เหมือนในหัวแกจะสร้างเรื่อง แอ๊บตลอดเวลา ฉันแปลกใจมาก ลูกเปียเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ฉันกับวณีไม่มีใครเป็นอย่างนี้เลยนะเย็น”
เย็นโกรธจนตัวสั่นมองจ้องอุทัยราวกับจะกินเลือด ถามเย้ยหยัน
“อ้อ!เหรอ คุณกับคุณวณีไม่เคยมีใครเป็นแบบนี้เลยเหรอ แล้วใครที่มันมาโกหกฉันว่า จะรักฉันเพียงคนเดียว ต่อให้แต่งงานก็จะรักฉันเพียงคนเดียว...มันเป็นใคร ไม่ใช่คุณหรอกเหรอคุณอุทัย”
อุทัยเห็น คนหันมามองก็อาย
“อย่าเอาเรื่องเก่าๆมาพูดอีกได้มั้ยเย็น”
“สำหรับคุณ มันอาจจะเป็นเรื่องเก่าๆ คุณลืมไปแล้ว แต่ฉันไม่เคยลืม และถ้าคุณหนูเปียจะได้นิสัย โกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อน ตอแหล ก็ขอให้รู้ว่ามาจากคุณนั่นแหละ”
เย็นลุกขึ้น จะเดินออกไปแต่นึกได้หันมาด่าอีก
“อ้อ...แล้วที่คุณหนูเปียดูแอ๊บๆ...ก็ไม่ได้ต่างจากคุณวณีเลยนะ...รู้ทั้งรู้...ว่าคุณน่ะมี ฉันเป็นเมียอยู่แล้ว คุณวณีก็ยังแอ๊บไม่รู้เรื่อง...แล้วอย่างนี้คุณจะมาถามฉันทำไมคุณอุทัย ว่าคุณหนูเปียได้นิสัยใครมา ก็มาจากคุณกับเมียคุณนั่นแหละ”
เย็นเดินพรวดออกไปแบบโกรธมาก
“เย็น...เย็น”
อุทัยรีบตามออกไปทันที
เย็นเดินลิ่วออกมาโกรธจัด อุทัยตามออกมาเรียกแบบโกรธๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเย็น...หยุด”
เย็นไม่ยอม เดินลิ่ว อุทัยเดินมาขวางหน้า ดุ ใส่อำนาจเต็มที่ด้วยเคยชิน
“ฉันบอกให้หยุด”
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน ถ้าจะสิทธิ์ของการเป็นเจ้านาย อย่าลืม ฉันไม่ได้เป็นขี้ข้าคุณมาแล้วเกือบยี่สิบปีแล้ว แต่ถ้าคุณจะใช้สิทธิ์ของการเป็นผัวคุณยังทำได้ค่ะเพราะที่ผ่านมาฉันไม่เคยลืมสัญญาของคุณ”
อุทัยถูกจี้จุดก็โกรธ
“เลิกพูดบ้าๆซะที ที่ฉันอยากคุยกับเธอ เพราะฉันอยากปรึกษา เผื่อรู้ต้นสายปลายเหตุ จะได้ช่วยกันดูแลลูกเปียได้...แต่ถ้าเธอตั้งใจมาก่อกวน ยียวน อย่างนี้ เราก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกัน”
อุทัยเดินหนีไป เย็นตะโกน
“ใคร...ใครกันแน่ที่มาก่อกวน ใครกันแน่ที่มันมาด่าฉันถึงที่ว่าฉันเลี้ยงนังเปียมันมาดี ไม่ใช่คุณหรอกหรือ คุณอุทัย”
เสียงของเย็นสั่นเครือ ทั้งโกรธทั้งเจ็บจนน้ำตาแทบจะไหล แต่กลั้นเอาไว้ แต่เหมือนจะกลั้นไม่ได้ น้ำเสียงของเธอที่บอกตัวเองสั่นระริก
“ฉันพยายามดับไฟแค้นในใจฉัน แต่คุณก็ยังมาสุมไฟใส่ใจฉันอีก ตกลง คนที่มันผิดคือฉันใช่มั้ย หรือเพราะฉันมันเป็นคนใช้...ถึงได้มาด่าเอาๆ”
เย็นกำมือแน่น พยายามควบคุมอารมณ์เต็มที่ มุมหนึ่ง เลอสรรกับน้อยยืนแอบมองอยู่ เห็นเย็นเดินมา น้อยกลัว เลอสรรรีบบอก
“น้าเย็นมาแล้ว รีบกลับกันก่อนเร็ว”
น้อยยืนเนื้อตัวสั่น เลอสรรฉวยข้อมือของเธอหลบไปทางอื่นให้พ้นสายตาเย็น
เลอสรรพาน้อยที่เนื้อตัวสั่นเข้าไปในอาร์ตแกลเลอรี่ เอามือจับสองแขนของเธอปลอบเสียงเข็มแข็ง
“ใจเย็นๆ น้อยต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้อยต้องทำทีเหมือนรอน้าเย็นอยู่ที่นี่ ไม่ได้ไปไหน ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
“น้อย...น้อยเป็นห่วงน้าเย็น”
“พี่เชื่อว่าน้าเย็นดูแลตัวเองได้ น้อยนั่นแหละ ถ้าน้าเย็นมา น้อยต้องทำท่าเหมือนไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจค่ะ เข้าใจ”
“งั้นพี่ไปก่อน”
เลอสรรจะเดินไป เย็นเดินเข้ามาเห็นภาพเลอสรรปล่อยมือน้อยพอดี
“นังน้อย”
น้อยสะดุ้ง
“น้าเย็น”
เย็นกวาดตามองน้อยและเลอสรร
“เลวมาก แกมานี่”
เย็นทำท่าจะเข้ามาลากน้อย เลอสรรปราดเข้ามาขวาง
“อย่าครับน้าเย็น”
เลอสรรกระชากแขนน้อย พาออกไปเลย เย็นวิ่งตามออกไปแบบคาดไม่ถึง
เลอสรรพาน้อยวิ่งออกมาที่รถที่จอดอยู่ เย็นวิ่งตามมาไม่ได้แต่ร้องตะโกนโกรธจัด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณเลอสรร หยุด”
เลอสรรไม่หยุด เปิดประตูรถยัดน้อยเข้าไป แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เย็นตะโกน
“หยุดนะคุณเลอสรร หยุด ไอ้เลอสรร หยุด”
เลอสรรไม่หยุด เย็นเรียกแท็กซี่ตามไป
วณีผุดลุกผุดนั่งไม่มีความสุข
“จริงๆแล้วพี่อุทัยยังมีเยื่อใยกับเย็น”
อุทัยเดินเข้ามาในบ้านท่าทางหงุดหงิด วณีหันไปมอง เห็นก็เข้าใจผิด เธอรำพึงในใจ
“พอเย็นไม่อยู่ อารมณ์เสียขึ้นมาทันที”
อุทัยเห็นวณีหน้างอ
“นี่วณียังไม่หายโกรธพี่อีกเหรอ”
“วณีไม่โกรธ ไม่รู้สึกอะไรกับใครหรอกค่ะ สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของวณีคือ ลูกเปีย”
วณีเดินออกไป อุทัยเซ็ง นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ตาม
วณีเดินมาเคาะประตูห้องเปีย
“เปียจ๋า...เปีย...ลูกเปีย...”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบ วณีเคาะประตูอีก
“เปียดื้อของแม่ทำอะไรอยู่จ้ะ เปีย”
นมแสเดินมาเห็นวณี ได้แต่มองสงสาร วณีเปิดประตูเข้าไปในห้องไม่มีเปีย
“ไปไหน”
วณีหันมาเห็นนมแสที่จะเดินเลี่ยงไปรีบเรียก
“นมแส เห็นลูกเปียมั้ยจ้ะ”
“เอ่อ...”
นมแสอยากบอกแต่ไม่กล้า วณีคาดคั้น
“ว่าไงจ้ะ นมแสเห็นลูกเปียรึเปล่า”
“เปล่าค่ะคุณวณี ดิฉันไม่เห็นเลย”
“เอ๊ะ…ไปไหนกัน ค่ำมืดๆ”
วณีเดินออกไป นมแสเห็นใจ
“โธ่เอ๊ยคุณวณี…ป่านนี้คุณหนูเปีย กินข้าวหลามเพลินไปแล้วล่ะ ฮึ้ย”
ประวิทย์นั่งตัวสั่นอยู่มุมห้อง เปียนั่งมองขำ
“เปียไม่แกล้งประวิทย์แล้ว กลับดีกว่า”
เปียทำท่าจะเดินออกไปแต่หยุดหันมานั่งมองประวิทย์
“แต่มีข้อแม้...” เธอเอามือประคองแก้มเขาอ้อน “เราสองคนตกลงเป็นแฟนกันแล้ว ประวิทย์ห้ามมองใครอีกนะ ต้องมองเปียคนเดียว รักเปียคนเดียว ไม่อย่างนั้นเจอดีแน่ๆเลย”
“ครับ” ประวิทย์ดีใจมาก
เปียหยิกแก้มสองข้างแบบรักสุดๆ
“น่ารักที่สุดเลย เปียรักประวิทย์ที่สุด” เปียหอมฟอด “แล้วเจอกันใหม่นะประวิทย์ รักนะ จุ๊บๆ”
เปียเดินออกไป ประวิทย์นั่งยิ้มแก้มแทบแตก หลงเสน่ห์เปีย
เปียเดินฉับๆออกไปจากหน้าบ้าน ด้านหลังหวานกับช้อยแอบมองอยู่ หวานแอบถ่ายคลิปตอนเปียเดินออกมาจากบ้านประวิทย์เอาไว้
“อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด คุณหนูเปียแอบมากินข้าวหลามประวิทย์”
“คุ้มค่ากับการมาแอบดูมากๆ” ช้อยสะใจ
“เห็นอย่างที่ฉันว่าหรือเปล่านังช้อย จะขี้ข้าหรือผู้ดี มันก็หนีไม่พ้นเรื่องคาวๆไปได้”
“จะว่าคุณหนูไม่ได้หรอกนังหวาน เข้าหาผู้ชายอย่างนี้ สันดานนังเย็นชัดๆ” ช้อยเยาะ
เลอสรรจอดรถ พาน้อยวิ่งลงมา ด้านหลัง แท็กซี่มาจอด เย็นแทบกระโจนลงมาตะโกนโกรธมาก
“หยุดนะคุณเลอสรร หยุด”
อุทัยได้ยิน วณีที่เพิ่งเดินลงมาบันไดก็ได้ยิน สองคนมองหน้ากัน อุทัยรีบเดินออกไป วณีตามไปด้วย
เลอสรรจะพาน้อยเข้ามาในบ้าน อุทัยกับวณีเดินออกไปพอดี ด้านหลังเย็นตามมา
“หยุดเดี๋ยวนี้คุณเลอสรร”
อุทัยสงสัย
“มีเรื่องอะไรกัน”
“เรื่องอะไรก็ถามคุณเลอสรรเองสิคะ...น้อย มานี่”
น้อยยืนตัวสั่นกลัว เย็นยิ่งโมโห
“หูแตกรึไงนังน้อย ฉันบอกให้มานี่”
เย็นไม่ทันใจ เดินไปลากน้อยเลย ทุกคนสงสารน้อย วณีขอร้อง
“ใจเย็นๆนะเย็น อย่าทำอะไรน้อย”
“ฉันไม่ทำอะไรหรอกค่ะ หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อเปล่าๆ”
ปากว่าแต่มือของเย็นกระชากผมน้อยระบายอารมณ์ น้อยร้องเจ็บ
“แค่จะพามันไปจากที่นี่...เพราะถ้านังน้อยมันยังอยู่ที่นี่ต่อ สักวันมันก็คงจะท้องไม่มีพ่อสักวัน ไปนังน้อย”
เย็นลากน้อยไป เปียเดินเข้ามาเห็นเย็นลากน้อยพอดี เย็นหัวเราะ
“อ้อ...คุณหนูเปียมาพอดี...ไหนๆคุณหนูเปียก็มาแล้ว ฉันขออนุญาตพาคุณหนูเปียกลับไปด้วยนะคะ”
เปียหน้าเสียร้องก่อนเพื่อนเลย
“น้าเย็นจะพาเปียไปไหน”
“กลับบ้านของเราสิคะคุณหนู...ในเมื่อ คนที่นี่ เขามองคุณหนูหลอกลวง ปลิ้นปล้อน กะล่อน ตอแหล คุณหนูจะอยู่ให้เขาว่าทำไมล่ะคะ”
เปียหันมามองอุทัย ไม่ได้สนใจใคร ไม่เห็นเลอสรรที่ยืนอยู่ด้านหลังอุทัยกับวณี เปียสนใจแต่เรื่องของตัวเอง
“ใครว่าเปียคะคุณพ่อคุณแม่...ใครว่าเปีย” เปียน้ำเสียงแทบเป็นตวาด
อุทัยอึ้ง วณีงง เย็นหัวเราะลั่นก่อนเย้ยหยัน
“ก็คุณอุทัย...คุณพ่อของคุณหนูนะสิคะ...”
เปียตกใจคาดไม่ถึง
“คุณพ่อ”
“พี่อุทัย” วณีงง
“เปล่านะพ่อไม่ได้ว่า”
“แล้วใครกันที่นัดฉันออกไปคุยกันข้างนอก...คุณนี่มัน โกหก จริงๆคุณอุทัย แล้วไม่ต้องมาถามฉันอีกนะ...ว่าคุณหนูเปียได้นิสัยโกหกมาจากใคร”
“คุณพ่อ” เปียคาดไม่ถึง
เย็นเดินเข้ามาหาเปีย
“รู้ขนาดนี้จะอยู่ทำไมล่ะคะคุณหนู...กลับไปอยู่กับน้าเถอะค่ะ นะคะ”
เย็นเข้ามาดึงแขนเปีย วณีเข้ามากอดเปียเอาไว้กระชากคืน
“อย่านะเย็น อย่าเอาลูกของฉันไป”
“อย่าไปนะเปีย พ่อรักเปีย”
เย็นมองตาเปีย
“มาอยู่กับน้า ยัยเปีย”
เปียทำท่าไม่อยากไป เย็นมองตาอีก นมแสยืนลุ้นด้านหลังพึมพำเบาๆ
“ไปเถอะ...กลับไปอยู่กับนังเย็นเถอะ อยู่ที่นี่ต่อมีเรื่องเสื่อมเสียแน่ๆ”
ไม่มีใครมอง หรือสนใจนมแส เย็นจ้องมองเปียที่ทำท่าลังเล
“ถึงน้าจะจน แต่ที่ผ่านมา คุณหนูก็รู้...น้าทำทุกอย่าง เพื่อคุณหนู...และน้าก็มั่นใจว่า แม้กระทั่ง คุณพ่อคุณแม่ ไม่มีใครทำเพื่อคุณหนู เท่ากับน้าแน่นอน”
เปียมองตาเย็น ถึงไม่อยากไป แต่ก็รู้ความหมายในสายตานั้น เปียเล่นละครทันที
“ค่ะน้าเย็น เปียจะกลับไปอยู่กับน้าเย็น ลาก่อนค่ะคุณพ่อคุณแม่”
เปียดราม่าแกะมือวณีกับอุทัยออก วณีคว้าหมับกอดแน่น ร้องไห้
“ไม่...แม่ไม่ให้หนูไป แม่รักหนูแม่รักลูกเปียสุดชีวิต อย่าไปจากแม่เลยนะลูก”
อุทัยมองเย็นอ้อนวอน
“ฉันขอโทษนะเย็น จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ แต่ฉันขอร้อง อย่าพาลูกฉันไป”
เย็นหัวเราะเย้ยหยัน
“โถๆ ยอมทำทุกอย่าง...งั้นกราบดิฉันทั้งสองผัวเมียเลยดีมั้ยคะ”
อุทัยกับวณีอึ้ง เย็นหัวเราะอีก
“ดิฉันไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นหรอก...เอาเป็นว่า แค่คุณอุทัยรับปาก ว่าจะไม่สงสัยคลางแคลงใจอะไรในตัวคุณหนูเปียอีก ดิฉันก็จะให้คุณหนูอยู่ที่นี่”
เปียมองหน้าอุทัย วณีก็มอง อุทัยพยักหน้า
“ฉันรับปาก”
“แต่ยังไง คำพูดของคุณอุทัยก็เชื่อไม่ได้อยู่ดี เพราะครั้งหนึ่งคุณอุทัย” เย็นจ้องหน้าอุทัยสลับวณี “ก็เคยสัญญาว่าจะรักดิฉันเพียงคนเดียว แต่แล้วก็หนีไปแต่งงานกับคุณวณี”
ทุกคนอึ้ง เย็นหัวเราะอีกมองเปีย
“เอาเป็นว่า คุณหนูเปียชั่งใจเอาเองนะคะ...ว่าจะอยากอยู่ที่ไหน เพราะยังไงน้าก็ยืนยัน ว่าน้าเป็นคนเดียวที่ทำทุกอย่างเพื่อคุณหนูจริงๆ”
เปียมองอุทัยตีหน้าเศร้า
“คุณพ่อไม่รักเปียเลย เปียเสียใจ เปียเกลียดคุณพ่อ”
เปียวิ่งร้องไห้เข้าไปในบ้าน วณีตกใจวิ่งตามเข้าไป อุทัยหันมามองเย็นโมโห
“เธอนี่มันร้ายจริงๆเย็น”
เย็นพูดเรียบๆนิ่งๆยิ้มๆ
“ผู้หญิงร้ายเพราะผู้ชายเลวค่ะ”
“เธอ”
อุทัยไม่รู้จะตอบโต้ยังไงเดินเข้าไปในบ้าน เย็นหัวเราะสะใจ เลอสรรมองเย็นและน้อยก่อนจะพูดขึ้น
“งั้นถ้าผู้ชายดี...ผู้หญิงก็พร้อมจะดีใช่มั้ยครับ”
“ใช่...แต่มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เพราะผู้ชายดีๆมันก็มีแค่ในละคร”
“ผมนี่แหละครับ จะเป็นผู้ชายที่ดี”
“น้ำเน่าแล้ว ตลก อย่ามายุ่งกับหลานฉันนะคุณเลอสรร ไม่งั้นนังน้อยตาย”
เย็นเยาะ แล้วลากคอน้อยกลับบ้าน น้องร้องโอดครวญเจ็บ เย็นด่า
“นี่ก็เหมือนกันพ่อแม่เป็นจิ้งหรีดรึไงต่อหน้าผู้ชายน่ะร้องจั๊ง...นังสำออยน้อย”
เลอสรรได้แต่มองเย็นลากคอน้อยไปอย่างสงสาร ไม่รู้จะช่วยอย่างไร
บริเวณบ้านพักเย็นยามค่ำคืน...ท้องฟ้าลมแรง เมฆดำเคลื่อนตัวมาเหมือนฝนจะตกเย็นลากน้อยอย่างแรงน้อยยื้อตัวเอาไว้เย็นหันมามองจ้อง เห็นหน้าของน้อยเป็นหน้าของวณี อุทัยยิ้มเย้ยหยัน เย็นของขึ้นกัดฟันกรอด จิกกระชากผมน้อยด่า
“หนอยไม่เคยโกหก ไม่เคยหลอกลวง เป็นคนดีทุกอย่าง พวกผู้ดีเอ๊ย”
เย็นตบหน้าอุทัยและวณีอย่างแรงคนละด้าน แต่จริงๆแล้วเย็นตบหน้าน้อยอย่างแรงสองทีซ้ายขวาหน้าหัน น้องร้องลั่นล้มลงมองเย็นไม่เข้าใจสายตาเย็นเห็นเป็นวณียิ้มเย้ยเย็นโกรธจนตัวสั่นกระชากตัวน้อยขย้ำ
“แกมองหน้าฉันแบบนี้ อยากมีเรื่องเหรอนังวณี”
เย็นจิกผมน้อยขึ้น ตบผลัวะๆ น้อยล้มลงไปกองที่พื้น ร้องไห้ เงยหน้ามองตกใจ
“น้าเย็น...นี่น้อยนะคะ...น้อย”
เย็นจ้องหน้าเห็นเป็นน้อยจริงๆ แต่ตายังเหลือกวาวโรจน์อยู่
“นังน้อย”
น้อยรีบบอกแบบกลัวมาก
“น้อยไม่ใช่คุณวณีนะคะ แล้วน้อยก็ไม่ได้นัดคุณเลอสรรจริงๆค่ะ ไม่ได้นัดจริงๆ”
เย็นยังของขึ้นอยู่ กระชากผมจนหน้าหงายกัดฟันกรอด
“ไม่ได้นัด...แต่บังเอิญไปเจอกัน เฮอะโลกนี่มันช่างกลมจริงๆเลยนะนังน้อย แกก็เหมือนกับแม่ของแกนั่นแหละ มารยาสาไถย ฉันเกลียดนักคนดัดจริตคืนนี้แกนอนอยู่นี้เลยไม่ต้องเข้าบ้าน”
เย็นผลักน้อยออกจะเข้าบ้านน้อยล้มอยู่ผวากอดขา
“น้าเย็นขา”
“อย่ามาถูกตัวฉัน”เย็นผลักหัวออก
เย็นผลักอย่างแรง รังเกียจก่อนกระชากผมกลับ
“อ้อ!แล้วถ้าพรุ่งนี้ ฉันออกมาแล้วไม่เห็นแกอยู่ที่นี่ แกคงรู้ใช่มั้ยนังน้อย ว่าแกจะเจออะไร”
เย็นมองน้อยเกลียดชัง ก่อนเดินเข้าบ้านปิดประตูโครมน้อยได้แต่ร้องไห้มองเย็นกลัวเนื้อสั่น เสียงฟ้าคำรามก่อนฝนจะตกลงมาห่าใหญ่น้อยได้แต่กอดตัวเองหวาดกลัวไม่กล้าไปไหน...ในบ้าน เย็นหัวเราะก้อง แต่ดวงตาเจ็บปวด
“สมน้ำหน้าพวกผู้ดี เก่งนัก ฉลาดนัก แล้วเป็นยังไง”
เย็นมองออกไปข้างนอก เหมือนมองน้อย
“สะใจโว้ย...สะใจ”
เย็นหัวเราะ ก่อนสะบัดหน้าเดินเข้าห้อง มองผ่านออกไปที่หน้าต่าง ท่ามกลางสายฝนเย็นเห็นเป็นบ้านของอุทัยพล่ามัว
เธอมองสะท้อนใจ น้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวดใจช้ำใจค่อยๆทรุดตัวลงตรงนั้น ร้องไห้ออกมาแบบหมดแรง ฝนสาดเข้ามาถึงตัวเย็นเปียกปอน
เลอสรรมองฝ่าสายฝนออกไปทางบ้านเย็น ท่าทางเป็นห่วงน้อย จะเดินออกไปอุทัยหงุดหงิด
“ไม่ต้องไปยุ่งกับนังเย็นนะเลอสรร มันจะทำอะไรช่างหัวมัน”
“แต่น้อย”
อุทัยโกรธประชด
“น้อยเป็นหลานมัน มันจะฆ่าจะแกงหลานมันได้ ก็ลองดู”
วณีมองขมขื่นใจอยู่นาน
“ทำไมพี่อุทัยต้องโกรธเย็นขนาดนั้นคะ”
“ก็มันด่าพี่”
“แล้วสิ่งที่เย็นพูดไม่ถูกหรือคะพี่อุทัย เคยสัญญาว่าจะรักเขาเพียงคนเดียว...แต่แล้วจู่ๆพี่อุทัยก็เปลี่ยนใจถ้าเป็นวณี ก็คงต้องว่าพี่อุทัยเหมือนกันค่ะ”
อุทัยหน้าเสีย
“วณีไปเอาอะไรกับคำพูดของคนแบบนั้น”
“แต่คนแบบนั้น ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเมียของพี่อุทัยนะคะ”
อุทัยซีด
“วณี...ก็น่าจะรู้...พี่พูดไปอย่างนั้น”
“อย่าแก้ตัวเลยค่ะ ยิ่งพูด พี่อุทัยก็ยิ่งเสียที่วณีพูดก็แค่ติงให้พี่อุทัยได้รู้ ทุกอย่างมีที่มีที่ไปทั้งนั้นวณีไม่ได้หึงหวง นาทีนี้สิ่งที่อยู่ในใจของวณีมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือลูกเปียค่ะ” วณีเดินออกไป
“โธ่เว้ย”
อุทัยได้แต่หงุดหงิด เหวี่ยงเท้าใส่ข้าวของแถวนั้นก่อนกระแทกเท้าไปนมแสยืนกอดฝ้ายมองดูอยู่อีกมุมเลอสรรมองภาพตรงหน้าด้วยความไม่สบายใจ แต่ในความรู้สึกนั้น เขาเห็นใจเข้าใจเย็นกับน้อย
เปียมีความสุข ปราศจากน้ำตา เมื่ออยู่ตามลำพังในห้อง
“อุ๊ต๊ะ! คืนนี้ยังไม่ได้อัพเฟส ต้องอัพซะหน่อย”
เปียนอนกลิ้งเกลือกถ่ายรูปตัวเองวณีเดินมาเคาะประตูห้องห่วง
“ลูกเปียจ้ะลูกเปีย...หลับรึยังจ้ะลูก”
เปียที่นอนเอกเขนกตาเหลือกตกใจลุกขึ้นมานั่ง
“อุ๊ยตาย…ลืม ต้องดราม่า” เปียแอ๊บเสียงร้องไห้ “เกิดเรื่องขนาดนี้ เปียหลับไม่ลงหรอกค่ะคุณแม่”
“โธ่เอ๊ยเปียขอแม่เข้าไปหน่อยนะจ้ะ”วณีห่วงมาก
เปียนอนบนเตียงถ่ายรูปไป พูดไปแบบกลั้นสะอื้น
“ขอเปียอยู่คนเดียวนะคะคุณแม่ขา เปียอยากอยู่คนเดียว”
“เปีย”
“นะคะคุณแม่...เปียอยากอยู่คนเดียวจริงๆ เปียกลุ้มขอเปียทำใจก่อนนะคะ พรุ่งนี้เปียสัญญา จะเป็นเปียดื้อที่น่ารักของคุณแม่เหมือนเดิมค่ะ”เปียอ้อน
“ก็ได้จ้ะ...งั้นอย่าคิดมากนะลูก แม่รักหนูที่สุด...รักที่สุดในชีวิตจ้ะ”
เปียไมได้ใส่ใจมัวแต่ถ่ายรูป พูดไปเรื่อย
“ค่ะ เปียก็รักคุณแม่ที่สุด...ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคุณแม่นะคะ”
วณีได้ยินก็งง ก่อนจะถอนหายใจรับคำเปีย เดินไป...เปียในห้อง ยิ้มร่าดีดนิ้วเปาะ
“นึกออกแล้ว”
เปียบีบน้ำตา ทำร้องไห้ ถ่ายรูปมาดู เห็นสภาพตัวเองร้องไห้
“ทำไมเวลาเราร้องไห้ ถึงได้ทุเรศอย่างนี้วะไม่ได้ๆ คนสวยเวลาร้องไห้ก็ต้องสวย”
เปียบีบน้ำตาใหม่ พร้อมแอ๊คติ้งหน้าสวยๆ ก่อนโมโห
“เออ…ให้มันได้อย่างนี้สิ หน้าสวย น้ำตาดันไม่ไหล ไม่ได้ๆซีเปียต้องเริ่ด ซีเปียต้องน้ำตาสั่งได้”
เปียลุกไปเปิดตู้เย็น เทน้ำใส่แก้วมานอนบนเตียง เอาน้ำหยอดตา ก่อนเอามือถือถ่ายรูป เปียเอารูปมาดูหัวเราะชอบใจ
“เป๊ะเวอร์อัพเฟสเลยดีกว่า”
เปียพูดไปด้วยพิมพ์ไปด้วย
“ใครๆก็ไม่รัก ซีเปียอยากตาย”
เปียอัพแล้วก็ดูยอดไลค์ยิ้มแฉ่ง
เลอสรรยืนอยู่ที่หน้าต่างมองฝ่าสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมา
“ป่านนี้น้อยจะเป็นยังไงบ้าง”
เลอสรรมองออกไปด้วยสายตาเป็นห่วง
น้อยกลัวเย็นนอนซุกตัวติดอยู่กับฝาหน้าบ้านเพื่อไม่ให้ตากฝนโดยตรง แต่ถึงจะหลบยังไงก็เปียกอยู่ดีขณะที่เลอสรรมองดูรูปน้อยที่ตัวเองทำเอาไว้อย่างเป็นห่วง
เช้าวันใหม่...รุ่งเช้า ท้องฟ้ายังไม่สว่างดี พื้นยังชุ่มไปด้วยน้ำฝน เลอสรรเดินลิ่วไปบ้านเย็นห่วง
น้อยเห็นน้อยนั่งพิงฝาบ้านกอดตัวเองเนื้อตัวสั่นเนื้อตัวเปียกปอน
“น้อย”
เลอสรรรีบวิ่งเข้าไปหาประคองเอาไว้
“น้อย...น้อย”
น้อยปรือตาขึ้นมามองเลอสรร เรียกแผ่วๆแบบคนไม่สบาย
“คุณเลอสรร”
“เพราะพี่ใช่มั้ย น้อยถึงได้เป็นแบบนี้ พี่จะพาไปหาหมอ”
เลอสรรประคองน้อยให้ลุกขึ้นยืน น้อยเอามือดันเขาเอาไว้ บอกแผ่วๆหมดแรง
“ไม่ค่ะคุณเลอสรร...ไม่”
เลอสรรดุดัน
“ไม่ยังไง น้อยต้องไปหาหมอ”
เลอสรรจะพาไป จวนในมือมีขันดอกมะลิ เดินเข้ามาเห็น ตกใจ
“คุณเลอสรร น้อย”
จวนเห็นอาการรีบเข้ามาประคองน้อย
“เดี๋ยวน้าจะดูน้อยเอง คุณเลอสรรรีบกลับไปเถอะค่ะ”
“แต่ผมเป็นคนทำให้น้อยต้องเป็นแบบนี้นะครับ”เลอสรรหน้ายุ่ง
“น้าขอร้องล่ะ คุณเลอสรรก็รู้ว่าเย็นไม่ชอบให้น้อยยุ่งเกี่ยวกับใครโดยเฉพาะผู้ชาย”จวนกังวลมองไปบนบ้าน“รีบกลับไปเถอะค่ะ ถ้าเย็นมาเห็นเป็นเรื่องอีกแน่ๆ”
“น้าจวน”
“ถ้าคุณเลอสรรเป็นห่วงน้อยจริง ต้องรีบกลับไปค่ะ นะคะน้าขอร้อง”
จวนมองบนบ้านกลัวเย็นเดินลงมาเห็น
“นะคะคุณเลอสรร รีบกลับไปค่ะ”
เลอสรรหงุดหงิดตัวเอง แต่พูดกับจวนสุภาพ
“ผมฝากน้อยด้วยนะครับน้าจวน”
“ค่ะ”
เลอสรรมองน้อยเป็นห่วง ก่อนเดินผละออกไป จวนพยายามประคองน้อย แต่น้อยเหมือนจะหมดแรง ทั้งสองทำท่าจะล้มลง ประวิทย์เดินมาพอดี เห็นตกใจ
“น้อยเป็นอะไรน้าจวน”
“อย่าเพิ่งถาม มาช่วยน้าก่อนเร็ว”
ประวิทย์รีบเข้ามาประคองน้อยช่วยจวน พาเข้าบ้านไป
จวนกับประวิทย์ประคองน้อยเข้าไปในบ้าน จวนตะโกนแบบไม่กลัวเย็น
“เย็น...เย็น”
เงียบไม่มีเสียงตอบ จวนบ่นหงุดหงิด
“มัวทำอะไรอยู่ เรียกไม่ได้ยิน...น้าฝากน้อยก่อนนะประวิทย์”
จวนเดินเข้าไปด้านในเปิดประตูห้องเข้าไป เห็นเย็นนั่งทรุดอยู่ที่ริมหน้าต่างเนื้อตัว
ชุ่มๆแบบโดนฝนทั้งคืน ดวงตาของเย็นเหม่อลอย จมอยู่กับความทุกข์ เหมือนคนไม่ได้นอน จวนตกใจ รีบเข้าไปหา
“เฮ้ย...เย็น แล้วนี่เป็นบ้าอะไร ถึงได้มานั่งให้ฝนสาดทั้งคืน”
เย็นนิ่งเหมือนเดิม จวนเขย่าตัว
“เย็น...เย็น”
เย็นหันมามอง แววตาว่างเปล่าถามเนิบๆ
“มีอะไรพี่จวน”
“มันเรื่องอะไรน้อยถึงได้นั่งตากฝนอยู่นอกบ้านทั้งคืน จนไม่สบาย”จวนฉุน
เย็นฟัง นิ่งไปนิดเหมือนเพิ่งคิดได้
“น้อยไม่สบาย”
เย็นลุกพรวดขึ้นมา รีบเดินออกไปแบบเซๆตัวเองก็ป่วยเหมือนกัน จวนระอา
“เป็นบ้าอะไรของแก ประสาท”
จวนเดินตามออกไป
เย็นเดินออกมา เห็นน้อยนั่งพิงพนักเก้าอี้อยู่ มีประวิทย์นั่งข้างๆ เย็นรีบมาหาน้อย
“น้อย น้อย เป็นยังไงบ้างลูก”
เย็นหันขวับมามองประวิทย์
“แล้วแกมายุ่งอะไรกับหลานฉัน ออกไป๊”
เย็นผลักประวิทย์อย่างแรง แทบหัวคะมำ จวนแทรกขึ้น
“ก็ฉันนี่แหละบอกให้ประวิทย์มาช่วย ไม่งั้นฉันกับน้อยคงได้ล้มหัวร้างข้างแตกกันไปแล้ว...แกนี่มันจริงๆเลยเย็น เป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้ให้น้อย ตากฝนทั้งคืน”
เย็นนิ่ง รู้สึกผิด ก่อนบอกน้อยเสียงแผ่ว
“ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าไปเดี๋ยวน้าทำข้าวต้มมาให้”
เย็นประคองน้อยจะพาเข้าห้อง จวนถามขึ้น
“หยูกยามีรึยังล่ะ”
เย็นไม่ตอบ พาน้อยเข้าไป จวนค้อนระอา บ่นแบบเป็นห่วงแกมขวาง
“เกลียดนัก คนถามแล้วไม่ตอบเนี่ย นี่...ดอกมะลิน่ะ ฉันเก็บมาให้น้อยมันร้อยพวงมาลัย แต่น้อยมันไม่สบาย แกก็เอาดอกมะลิไปไหว้พระ แล้วเอาน้ำมนต์รดหัวมั่งนะนังเย็น เผื่อผีบ้ามันจะออกจากตัวแกมั่ง”
เย็นเงียบไม่ตอบอะไรออกมาอีกตามเคย จวนหน้างอ
“เออ...เวลาแกไม่อยากพูด แกก็ไม่พูดฉันล่ะเกลียดแกจริงๆเลยนังเย็น คนอะไร เอาแต่ใจตัว...เดี๋ยวน้าจะไปหายามาให้น้อย ประวิทย์กลับได้แล้วล่ะ”
“ห้องผมมียาสมุนไพรที่บ้านให้มา ดีมากเลยเดี๋ยวผมไปเอามาให้น้อยนะครับ”
ประวิทย์พูดเป็นห่วง จวนพยักหน้าก่อนสองคนเดินออกมา กังวลห่วงน้อย
บริเวณสนามหญ้า...เลอสรรวาดรูปบนเฟรมผ้าใบ ด้วยท่าทางดุดัน ภาพที่ออกมาจึงดูดุดันเหมือนอารมณ์เจ้าตัว คุณหญิงอนุรักษ์เดินมาเห็นแปลกใจ
“อ้าววาดรูปอะไรตาเลอ”
คุณหญิงหันมาเห็นหน้าดุดันของเลอสรรก็แปลกใจ
“มีเรื่องอะไรเหรอ”
อุทัยกับวณีหน้าเครียด วณีหน้าตาตึงๆเคืองอุทัย นมแสกับหวานจัดเตรียมอาหาร แมวเดินไปมา อยู่ที่พื้น
“นี่วณี ยังโกรธพี่ เรื่องนังเย็นอยู่อีกหรือ”อุทัยถามอย่างแคร์ความรู้สึก
“วณีบอกพี่อุทัยแล้วไงคะ...วณีไม่ได้คิดอะไร ทุกวันนี้ใจของวณีมีลูกเปียเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
นมแสไม่สบายใจ หวานผะอืดผะอมแอบเบ้ปาก คุณหญิงหน้าดุ
“เมื่อคืนเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้นทำไมไม่มีใครบอกแม่”
อุทัยกับวณีหน้าเจื่อน ไม่อยากให้คุณหญิงกังวล คุณหญิงดุเสียงกร้าว
“มันเกิดขึ้นเพราะนังเย็นอีกแล้วนะ นังสันดานเย็นคนเดียว”
เย็นประคองน้อยที่เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาแล้วให้มานั่งในที่สบายๆบอกอ่อนโยน
“แก๊สบ้านเรามันหมด เดี๋ยวน้าไปต้มข้าวต้มที่ครัวใหญ่มาให้นะ รอเดี๋ยว”
“น้าเย็นคะ...น้อยกินอะไรที่มีในตู้กับข้าวก็ได้ค่ะ”
“ไม่ได้...น้อยไม่สบาย ต้องกินอะไรอุ่นๆร้อนๆสะอาดๆ เดี๋ยวน้ามา”
เย็นเดินออกไป น้อยมองเย็นตื้นตัน แต่ก็ไม่เข้าใจเย็น
ในครัว เมาท์กันกระจาย หวานเล่าตื่นเต้น ตบเข่าฉาดๆประกอบไปด้วย
“แหมๆทำไม๊...ทำไม เมื่อคืนฉันไม่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยวะ ขนาดฟังคุณหญิงเมาท์กับคุณอุทัยเรื่องนังเย็นยังแซ่บเวอร์ ของจริงจะแซ่บเวอร์ขนาดไหน”
เย็นเดินเข้ามาตาขวาง ถามไม่ยี่หระ
“เอ็งอยากแซ่บรึเปล่าล่ะนังหวาน”
ทุกคนหันขวับไปมอง หวานกับช้อยคู่กรณีตาเหลือก เย็นตะคอกถามกร้าว
“ไง...ฉันถาม ทำไมไม่ตอบ อยากแซ่บรึเปล่า ถ้าอยากจะได้จัดให้”
เย็นคว้าสากหวานรีบบอก
“ไม่ต้องมาจ่งมาจัดอะไรเลยนังเย็น ไม่มีใครอยากยุ่งกับแกหรอก ตัวกาลกิณี”
“รู้เอาไว้ด้วย...ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนูเปีย ป่านนี้แกถูกเฉดหัวออกไปแล้ว”ช้อยมองหยัน
“ใช่ป่านนี้ยังไม่สำนึก เที่ยวมาด่าคนอื่นฉอดๆ เหมือนที่คุณหญิงด่า นังสันดานเย็น”หวานเสริม
เย็นโกรธมากตาขวาง มองเอาเรื่อง
“คุณหญิงด่าฉันไม่ว่า แต่ถ้าเป็นขี้ข้า...”
เย็นเงื้อสากขึ้น หวานปัดมือเย็นออกร้องลั่น
“อย่านะ”
เย็นกระชากผมหวานจนหน้าหงายกระหน่ำตบอย่างแรงหลายที หวานร้องล้มลง เย็นตามไปนั่งคร่อม บีบคออย่างแรง
“แกลุกขึ้นมาด่าฉันสินังหวาน ลุกขึ้นมา”
หวานตาเหลือก พยายามบอกช้อย
“ช่วยด้วย”
เย็นตาขวางมองช้อย
“แกกล้าก็เข้ามานังช้อย”
“ฉันไม่กล้า”ช้อยเสียงสั่นๆ
เย็นหัวเราะลั่นสะใจ
“แกได้ยินแล้วใช่มั้ยนังสันดานหวาน คนอย่างแก มันต้องเอาน้ำกรดล้างปากเท่านั้น”
“อย่า”หวานตาเหลือก
“แต่ฉันเป็นคนดี แกเอาแค่น้ำเกลือล้างปากแทนแล้วกัน”
เย็นคว้าถุงเกลือแกงถุงใหญ่ทำกับข้าวแถวนั้นมากรอกปาก หวานแหวะ เย็นหัวเราะสะใจ
“นี่แค่การสั่งสอน”เย็นผละออกลุกขึ้น“ต่อไป ใครมายุ่งเรื่องของฉันอีก ไม่เจอแค่นี้แน่”
เย็นเดินออกไป สวนกับจวนที่เดินเข้ามามองงงๆ หวานลุกขึ้นมาแหวะเกลือด่าเย็น
“นัง...นังเสื้อลาย นังกางเกงแหว่ง นังรองเท้าขาด นังชุดชั้นในยืด นังนัง...”
“เฮ้ย แกด่าอะไรของแกนังหวาน”ช้อยงงๆ
หวานคับข้องใจมาก
“ด่าเป็นชุดไง นัง...นัง เย็น ฉันไม่รู้จะด่ามันยังไงโอ๊ย”
“สมน้ำหน้า”จวนสะใจ
“ทำไมมาสมน้ำหน้ากันล่ะพี่จวน”หวานน้อยใจ
“เพราะฉันรู้น่ะสิ ว่าแกสองคนต้องหาเรื่องนังเย็นมันก่อน ดีแล้วที่มันไม่เอาสากยัดปากแกน่ะนังหวาน” จวนสุดจะเพลียละเหี่ยใจ
เย็นเดินมาตามทางเจ็บปวดหัวใจ เสียงของช้อยดังก้องในหัว
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนูเปีย ป่านนี้แกถูกเฉดหัวออกไปแล้ว”
เย็นผงะ จนต้องเอามือยันต้นไม้เอาไว้ ความรู้สึกของเย็นมีแต่ความเจ็บ ทุกข์ใจ
คุณหญิงอนุรักษ์ยังคงเกรี้ยวกราดโมโหเย็น
“เรื่องทุกอย่างเป็นเพราะนังเย็นคนเดียว แม่ไม่อยากทนมันอีกแล้ว”
“ยังไงก็ต้องทนครับ เพราะถ้าเย็นไป ลูกเปียไปกับเย็นแน่ๆ...หนูน้อยอีก”
“แต่วณีว่าเรื่องทุกอย่างไม่ได้เกิดเพราะเย็นค่ะ”วณีมองอุทัยนิ่งๆ
“ทำไมจะไม่ใช่เพราะมัน เพราะนังเย็นคนเดียว แล้วนี่แม่เปียเป็นยังไงบ้าง”
“ขังตัวเองอยู่ในห้องอยู่เลยค่ะ...ลูกคงยังกลุ้มใจ น้อยใจ วณีไปถามอะไรก็ไม่ตอบ”
อุทัยอ่อยๆกลุ้มใจ
“เป็นไรรึเปล่าก็ไม่รู้”
คุณหญิงนิ่งไปนิดกลุ้มใจก่อนนึกได้
“เฟสบุ๊คไง เช็กเฟสบุ๊คแม่เปียสิตาอุทัย จะได้รู้ แม่เปียเขียนอะไรลงไปรึเปล่า”
วณีกับอุทัยแปลกใจ
“เปียมีเฟสด้วยเหรอคะคุณแม่”
“มีสิ...วันนั้นตาเลอยังเปิดให้แม่ดูเลย เซ็กซี่ ซีเปียอะไรนี่แหละ”
อุทัยคว้าโน๊ตบุ๊คข้างตัวมาเปิดดูทันทีค้นหาชื่อเฟสของเปียจนเจอ วณีกับอุทัยแปลกใจมาก ขณะที่คุณหญิงจำได้ร้องลั่น
“นี่ไงๆเฟสนี้แหละ แม่จำได้”
อุทัยคลิกดูทันที เห็นภาพเปียหน้าสวย ร้องไห้โพสต์ว่า...พ่อแม่ไม่รัก อยากตาย
“ตายแล้ว...ลูกเปียของแม่ อยากตาย”วณีร้องลั่น
วณีจะวิ่งออกไป อุทัยคว้ามือเอาไว้
“อย่าเพิ่งฟูมฟายไปวณี คนอยากตาย ไม่มีใครมาโพสต์รูป อัพลงเฟสแบบนี้หรอก นี่มันจงใจ...ถ่ายแบบชัดๆ”
คุณหญิงอยากรู้
“อ่านซิอุทัย...แม่เปียคุยอะไรกับเพื่อนบ้าง”
อุทัยมองเห็นข้อความเพื่อนสก๊อยเมนท์ อุทัยอ่าน
“อยากตายก็ไปเลยสิยะ / แกแอ๊บหน้าสวยร้องไห้เป๊ะเวอร์แบบนี้แกไม่ตายง่ายๆหรอกนังเปีย แล้วเปียก็หัวเราะตอบไป 55555”
ทุกคนอึ้งๆ อุทัยถอนหายใจแบบหนักใจมาก
“ลูกต้องเป็นอะไรแน่ๆเลย”
คุณหญิงเห็นด้วย
“มันก็จริง คนปกติธรรมดาที่ไหน...จะมาถ่ายรูปร้องไห้ลงเฟส แม่บอกแล้ว ทุกอย่างเป็นเพราะนังเย็น เพราะนังเย็นคนเดียว”
ทุกคนอึ้ง เปียเดินลงมาหน้าตาสดชื่นแจ่มใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เปียเดินผ่านหน้านมแสที่ยืนอยู่แบบแทบจะชนแต่ไม่แคร์
“คุณพ่อ คุณแม่ คุณย่าขา...คิดถึงจังเลยค่ะ”
เปียกอดวณีกับคุณหญิงหอมประจบ ทุกคนอึ้งๆ เปียเหมือนไม่ได้สนใจอาการของทุกคน
“เดี๋ยวเปียไปเดินเล่นก่อนนะคะ”
เปียออกไปทันที ทุกคนมองเปียแบบงงๆ
“แม่เปียไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดทุกข์ร้อนแล้วนี่ นี่มันอะไร”
เปียเดินลัลล้าจะไปบ้านประวิทย์
“ประวิทย์ๆ...คิดถึงประวิทย์จังเลย คอยดูเถอะ เจอหน้าเมื่อไหร่จะกอดจะหอมให้สะใจเลย”
เปียเดินผ่านบ้านเย็นเบ้ปากใส่ กำลังจะเดินผ่านไป แต่ตามองเห็นรองเท้าผู้ชายอยู่หน้าบ้านเย็น เปียชะงักยิ้ม
“รองเท้าผู้ชาย นี่นังน้อยมันนัดผู้ชายมาหาถึงบ้านเหรอ ไวไฟจริงๆนังน้อย”
เปียจะเดินไปแต่นึกขึ้นได้
“รองเท้าประวิทย์”
เปียหันขวับมองตาเขียว
ในบ้าน...ประวิทย์บอกน้อย ที่นั่งกินข้าวกินยาอยู่
“กินข้าวกินยานะน้อย จะได้หายเร็วๆ”
“ขอบคุณมากพี่ประวิทย์”
“อดทนนะ...เหมือนที่พี่บอก เราเป็นเด็ก เป็นผู้น้อย ยังไงก็ต้องอดทน”
“น้อยไม่ได้อดทนเลยนะพี่ประวิทย์...น้อยเข้าใจน้าเย็น...ไม่ว่าน้าเย็นจะทำยังไงกับน้อย น้อยก็ยอมเพราะน้อยรักน้าเย็น”
ประวิทย์กับน้อยยิ้มให้กันด้วยไมตรี เปียเดินเข้าไปเห็นตาขวาง แต่จำต้องยิ้ม
“น้อย...”
เปียทำทีเป็นเพิ่งเห็น
“อ้าว...ประวิทย์ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เดี๋ยวน้าเย็นมาเห็นล่ะยุ่งเลย...รีบกลับไปเลยนะถ้าไม่อยากให้น้อยเดือดร้อนน่ะ”
“ครับๆ...หายไวๆนะน้อย” ประวิทย์รีบออกไป
อ่านต่อหน้า 2
คมพยาบาท ตอนที่ 6 (ต่อ)
บริเวณสนามหน้าบ้านเย็น...เย็นเดินหน้าเศร้าทุกข์ใจมาสายตาเห็นหลังประวิทย์แว่บๆเดินออกมาจากบ้านเย็น กำลังจะไปบ้านตัวเอง เย็นตกใจห่วง
“ประวิทย์ น้อย”
เย็นรีบสาวเท้ามาที่บ้านของตัวเอง เย็นจะขึ้นบ้านเห็นรองเท้าเปีย วางอยู่ก็ยิ้มเยาะออกมาเดาออก
เปียหันไปมอง พอไม่เห็นใครก็หันมาตาเขียวด่าน้อย
“สำออย”
“อะไรเปีย น้อยสำออยอะไร”น้อยงง
เปียกระชากผมจนหน้าหงาย
“แกไม่ต้องดัดจริตมาถามฉันอย่างนี้นะนังน้อย อย่ามายุ่งกับของของฉัน ไม่งั้น”
“แกตาย”เปียบีบคอน้อย
เย็นเดินเข้ามา
“แกกล้าฆ่ายัยน้อยก็เอาซี้”
เปียตกใจปล่อยมือออก
“น้าเย็น”
“ไง...ฉันมาแล้ว กล้าฆ่ายัยน้อย แกก็ฆ่าต่อหน้าฉันเลย เร็ว”
เย็นกระชากมือเปีย
“ชักช้าอะไรอยู่ ฆ่ายัยน้อย ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก”
“น้าเย็น”น้อยตกใจ
“หุบปาก”เย็นตวาดน้อย
เย็นหันมาบีบคางเปีย
“คำก็ตาย สองคำก็ตาย น้าอยากรู้จริงๆ คุณหนูเปียก็เป็นลูกผู้ลากมากดี ไหงได้สันดานเลวๆแบบนี้มาจากไหนกันคะ”
เปียกลัว แต่ตาวาวไม่พอใจ
“น้าเย็น” เปียรู้ดีหมายถึงพ่อแม่ตัวเอง
“เพราะเรื่องผู้ชายนายประวิทย์หรือคะ คุณหนูเปียถึงจะฆ่าจะแกงน้องได้”
เย็นเข้มดุ บีบปากแรงเข้า
“อย่าปัญญาอ่อนนักนะนังเปีย ไม่งั้นแกจะไม่มีโอกาสได้กินผู้ชายอย่างที่แกชอบ ไป๊”
“น้าเย็นหยาบคายกับเปีย”เปียกระทืบเท้า
“กล้ากระทืบเท้าใส่น้าหรือคะคุณหนูเปีย”
เย็นกระหน่ำตบผลัวะที่ขา
“โอ๊ย”
เปียยกเท้าหนีเป็นเด็กๆ
“ไปนะนังเปีย แกอย่ามาแหกปากแถวนี้ ไม่งั้นแกจะไม่มีปากได้พูดกับพ่อแม่ของแกอีก ไป๊”
เปียมองน้อยโกรธ
“อย่ายุ่งกับผู้ชายของฉันอีกจำไว้” เปียวิ่งออกไปกลัวเย็น
“นังเปีย...ผิดคำฉันว่าซะเมื่อไหร่ วันๆคิดแต่เรื่องผู้ชาย นังสันดานเปีย”เย็นโกรธ
บริเวณสวน...เปียวิ่งหน้าหงิกหน้างอมา เบ้ปากใส่เย็น
“ปากเก่งไปเถอะน้าเย็น ซักวันนังเปียจะเฉดหัวออกจากบ้านทั้งน้าทั้งหลานเลย ฮึ้ย!พูดแล้วอารมณ์เสีย ไปกินผู้ชายดีกว่า...ประวิ้ด”
เปียวิ่งไปทางบ้านประวิทย์อย่างรวดเร็ว
อุทัยเดินลิ่วไปที่รถจะไปทำงานพลางบ่น
“เฮ้อวันๆงานการไม่ต้องทำ มัวแต่วิ่งวุ่นเรื่องลูกทั้งวัน”
“อย่าว่าลูกได้มั้ยคะ”
“ก็เพราะวณีห้ามพี่อย่างนี้น่ะสิ นับวันเปียเลยยิ่งเอาใหญ่...เป็นบ้าอะไร ทำโกรธพ่อโกรธแม่จะเป็นจะตาย อัพรูปร้องไห้ลงเฟส แต่พอตื่นมา ทำท่าเหมือนไม่มีอะไร ลูกยังปกติดีอยู่รึเปล่าเนี่ยวณี”
“พี่อุทัยว่าลูกอีกแล้วนะคะ”
“พี่ไม่ได้ว่า พี่เพียงแต่ตั้งข้อสงสัย...คนปกติดีๆที่ไหน เขาจะถ่ายรูปร้องไห้ลงเฟส เฮ้อ” อุทัยถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ลูกก็ทำตามประสาวัยรุ่น แต่ถ้าพี่อุทัยจะจับผิดลูก โยนความผิดมาให้วณีก็ได้ค่ะ เป็นเพราะวณีตามใจ ลูกถึงได้เป็นแบบนี้”
“พี่ไม่อยากทะเลาะกับวณีอีกคนนะ”
อุทัยเดินขึ้นรถออกไปทำงาน เลอสรรเดินถือเฟรมวาดรูปเข้ามาพอดี เห็นเหตุการณ์ วณีบอก
“น้าอุทัยอารมณ์ไม่ดี...วันนี้ต้องไปไซต์งานด้วย เลอช่วยไปดูน้าอุทัยทีนะจ้ะ น้าเป็นห่วง”
“ครับคุณน้า”
เลอสรรยื่นเฟรมวาดรูปให้นมแสที่ตามมา
“ฝากด้วยนะครับนม”
“ค่ะๆ”
เลอสรรขับรถตามอุทัยออกไปอย่างรวดเร็ว วณีมองนมแสหน้าจ๋อยๆ
“ได้ลูกกลับคืนมา แต่ทำไมทุกคนถึงไม่มีความสุข บ้านร้อนเป็นไฟขึ้นทุกวัน”
“นั่นน่ะสิคะ...ดิฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ตกลงเป็นเพราะเย็น หรือคุณหนูเปีย”
นมแสก้มหน้าเดินเลี่ยงเข้าไปในบ้าน วณีไม่สบายใจ
เปียเดินไปที่บ้านพักของประวิทย์ เคาะประตูดังปังๆประวิทย์ตกใจรีบมาเปิด เห็นเปียก็ยิ่งตกใจ
“มีอะไรครับคุณหนูเปีย”
เปียแทรกร่างเข้ามาปิดประตู
“มีแน่ๆ...ประวิทย์ไปยุ่งกับน้อยทำไม”
ประวิทย์ยิ้มไม่มีอะไร
“ก็น้อยไม่สบาย”
“ไม่สบายก็ช่าง ยังไงน้อยก็มีน้าเย็นดูแลอยู่แล้ว แต่เปีย เปียไม่มีคนดูแล ประวิทย์ต้องดูแลเปีย”
เปียเง้างอดเอามือคล้องคอรั้งประวิทย์เข้าใกล้ หน้าแทบชน
“ไม่งั้น...เปียจะ...”
เปียกวาดตามองเจ้าชู้เล็กๆ
“ดูประวิทย์”
“คุณหนู”ประวิทย์ตื่นเต้นเนื้อตัวสั่น
“อายอะไร...เรารักกันนี่นา”เปียหัวเราะพอใจ
เปียดันตัวประวิทย์ให้นั่งแล้วนั่งตักเขา
“หรือ...ประวิทย์ไม่รักเปีย”
ประวิทย์ยิ้มเขิน มองเทิดทูน
“ผมรักและเทิดทูนคุณหนูมาก แล้วก็รู้สึกเป็นบุญจริงๆที่คุณหนูลดตัวลงมา...มองผม”
เปียเชยคางประวิทย์ขึ้น
“ไม่ใช่แค่มอง เปียรักประวิทย์...ไม่มีประวิทย์ก็จะไม่มีจรรยา ถ้าไม่มีจรรยาก็จะไม่มีประวิทย์...เข้าใจตรงกันนะ” เปียยิ้มทะเล้น
“ครับ”ประวิทย์ยิ้มดีใจ
“ครับเฉยๆได้ยังไง ประวิทย์ต้องกอดเปียด้วย”
เปียจับมือประวิทย์มากอดตัวเอง ประวิทย์ยิ้มเขินกล้ากอด เปียหัวเราะพอใจ ดีใจที่คุมประวิทย์ได้
“ไม่ว่าเปียจะให้ทำอะไร ประวิทย์ก็ทำตามเปียทุกอย่าง น่ารักที่สุดเลย...”
เปียจับแก้มลูบหน้าลูบตากอดหัวประวิทย์เหมือนเป็นของเล่นตุ๊กตา
“ประวิทย์ต้องตามใจเปียอย่างนี้ตลอดเลยรู้มั้ย”เปียอ้อน
“ครับ”ประวิทย์ยิ้มว่าง่าย
“งั้นคืนนี้เราไปเที่ยวกัน”
ประวิทย์ตกใจตาเหลือก
“ไปเที่ยว...ไม่ได้หรอกครับคุณหนูเปีย ผมไม่กล้า”
“เปียไม่ได้บอกให้ประวิทย์กล้า ที่เปียบอกคือ...ประวิทย์ต้องทำตามใจ ต้องทำตามคำสั่งเปียทุกอย่าง คืนนี้ไปเที่ยวกัน ส่วนจะไปอะไรยังไง เปียจัดการเอง”
ประวิทย์อึ้ง เปียยิ้มทะเล้น
“เข้าใจตรงกันนะ”
น้อยนั่งหน้าจ๋อย เย็นด่า
“ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยยัยน้อย ว่าอย่ายอมให้นังเปียมันรังแก”
“น้าเย็นก็รู้ น้อยสู้เปียไม่ได้ อีกอย่าง...พี่น้องกัน น้อยไม่รู้จะทะเลาะกันไปทำไม”
“แกคิดว่ามันเป็นพี่น้อง แล้วมันคิดว่าแกเป็นพี่น้องของมันรึเปล่า โดยเฉพาะผู้ชายของมันมายุ่งกับแกถึงบ้าน ถึงขนาดหาข้าวหาน้ำให้กิน ฉันว่านังเปียมันต้องคิดทำอะไรแกแน่ๆ...แต่แกไม่ต้องกลัว ถ้านังเปียมันทำอะไรแก ฉันจะจัดการมันเอง”
เย็นหน้าเครียดเดินออกไป น้อยมองตามเย็นไม่สบายใจ
เย็นเดินมาแอบมองสังเกตการณ์ เห็นวณีนั่งกอดนั่งเล่นกับแมว อยู่ที่สนาม ท่าทางแมวว่านอนสอนง่าย
“ถ้าลูกเปียน่ารักแบบแกก็คงดีนะฝ้าย”
เปียเดินเข้ามาทำท่าแบบจะตาย
“คุณแม่ขา...”
วณีตกใจวางฝ้ายลง เดินไปหาเปีย
“ว่าไงลูกเปีย หนูเป็นอะไร”
เปียเข้ามากอดประจบวณี
“เปียกลุ้มใจน่ะค่ะ เมื่อคืน น้อยไม่พอใจมาก น้าเย็นก็ไม่พอใจที่คุณพ่อคุณแม่ไปว่าพวกเขาเลยจะออกไปจากบ้านเราค่ะ”
เย็นเบ้ปาก ยิ้มเยาะ รู้ทันมองดูเปีย วณีตกใจ งุนงง เปียปั้นหน้าเศร้าเล่าต่อ
“เปียพยายามห้ามแล้วนะคะ ว่าไม่ให้ไป น้าเย็นกับน้อยก็ไม่ฟัง แล้วน้าเย็นยังบอกอีก ถ้าเปียรักน้าเย็นจริงๆต้องให้น้าเย็นไป เพราะอยู่ที่นี่...คุณพ่อคุณแม่ คุณย่า ทุกคนต่างดูถูกเหยียดหยามน้าเย็น”
“ไม่เลยนะลูก ไม่มีใครว่าเย็นเลย”
“เปียเชื่อคุณแม่ค่ะ แล้วเปียก็พยายามบอกน้าเย็นแล้วนะคะแต่น้าเย็นก็ด่าเปียกลับมา ว่าเปียดัดจริต ดัดจริตเหมือนคุณแม่”
“ตายจริง”
“เท่านั้นไม่พอ น้าเย็นยังด่าคุณพ่ออีก ว่าคุณพ่อตอหลดตอแหล หลอกน้าเย็นแล้วก็ทิ้ง ส่วนคุณย่า...น้าเย็นก็บอกว่าจะถอนหงอกเข้าซักวัน...โอ๊ย...น้าเย็นพูดขนาดนี้ จะไม่ให้เปียปวดหัวได้ยังไงคะ” เปียทำท่าปวดหัวมากๆ
เย็นมองเปีย เสียใจมาก ขณะที่เปียบอกวณี
“เปียปวดหัวมากๆเลยค่ะ ขอเปียขึ้นห้องนอนยาวๆถึงพรุ่งนี้เลยนะคะ”
“ไม่ได้ลูก ยังไงหนูต้องกินข้าวกินยา ไปรอในห้องไปลูก เดี๋ยวแม่เอายาไปให้”
วณีเดินออกไป เย็นยิ้มแสยะเดินไปอีกทาง ขณะที่เปียหน้าหงิกบ่นเบาๆ
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่กิน มองทำไม ประเดี๋ยวตบหัวหลุดเลย นี่แน่ะ”
เปียตบกะโหลกแมวที่วิ่งหนีทันที นมแสเห็นมองตกใจ เปียหันไปมอง นมแสรีบเดินเข้าบ้าน เปียตาม
นมแสเดินเร็วๆเข้าบ้าน เปียรีบเดินไปขวาง ท้าทาย ยิ้มยั่ว กวนประสาท เปียกัดฟันกรอดๆ
“มองอะไรคะนมแส อยากเจอเหมือนนังฝ้ายเหรอ”
“ปะเปล่าค่ะเปล่า”
เปียเดินเข้ามาบีบคางเหมือนที่เย็นทำกับตัวเอง
“ดีแล้ว...นมแสจะได้มีฟันแท้ไว้เคี้ยวข้าวนานๆ...เพราะถ้าแส่เรื่องฉันมากๆ ได้ใส่ฟันปลอมหมดปากแน่”
วณีเดินเข้ามา เห็นเปียจับคางนมแส เปียก็ยิ้มร่าหัวเราะทันที
“คุณแม่ขา...มาดูหน้านมแสสิคะ...เหมือนการ์ตูนปลานีโมเลย”
เปียบีบคางนมแสอีกๆทำเล่นๆแต่แอบบีบจริงๆ นมแสหน้าเหยเก
“อุ๊ยๆตอนนี้นมแสหน้าเหมือนคุมะด้วย” เปียหัวเราะลั่น
“นมแสเป็นผู้ใหญ่ เปียอย่าเล่นอะไรอย่างนี้สิลูก” วณีปราม
“น่ารักจะตาย จริงมั้ยนมแสๆ”
เปียบีบสองแก้มนมแส ทำทีเล่นแต่บีบเจ็บ นมแสเห็นเปียตาวาว สายตาบอกเอาเรื่อง ไม่ได้ล้อเล่น วณีอยู่ด้านหลังเปียไม่เห็นติง
“ไม่เอาจ้ะ เลิกเล่น กินข้าวกินยาได้แล้ว”
“กินยาอย่างเดียวแล้วกันนะคะ...ส่วนข้าวเปียไม่กิน เพราะเปียอ้วนตัวจะแตกอยู่แล้ว อ้อ...แล้วคุณแม่ไม่ต้องไปเรียกนะคะ เปียอยากอยู่เงียบๆคนเดียวค่ะ เปียกลุ้มค่ะ”
เปียคว้ายาและน้ำเดินขึ้นบ้านไป วณีกับนมแสมอง ก่อนจะหันมามองหน้ากันแหยๆกับความพิกลของเปีย...เปียพอพ้นสายตาสองคน เอายาทิ้งลงถังขยะ เบ้ปาก
น้อยกวาดสายตามองหาเย็น
“น้าเย็นไปนานจัง เกิดเรื่องอะไรรึเปล่า”
น้อยเดินออกมาตามเย็น
เย็นเดินอยู่บริเวณซุ้มลัดดาวัลย์ น้ำตาไหลรำพึงในใจ
“เพื่อความสุขของทุกคน ฉันควรไปใช่มั้ย”
น้อยเดินมาเห็น ตกใจสงสาร
“น้าเย็น”
เย็นสะดุ้งรีบเช็ดน้ำตาออก แกล้งดุ
“อ้าว...ไม่สบาย แล้วออกมาทำไมน้อย”
“น้อยเห็นน้าเย็นไม่กลับมาสักที น้อยเป็นห่วง น้าเย็นมีเรื่องไม่สบายใจเหรอคะ ถ้าเป็นเรื่องน้อย”
น้อยทรุดตัวลงนั่งแทบเข่า
“น้อยขอโทษ...แต่น้าเย็นเชื่อใจน้อยนะคะ น้อยไม่เคยขัดคำสั่งน้าเย็นแม้แต่อย่างเดียวค่ะ”
เย็นพูดแผ่วๆ
“น้าเชื่อ...น้าแค่คิดถึงบ้าน...ตอนนี้เปียก็มีความสุขกับพ่อแม่เขาแล้ว...เรากลับบ้านของเราดีมั้ยน้อย”
“ดีค่ะน้าเย็น...น้อยก็คิดถึงบ้านของเราเหมือนกัน...”น้อยยิ้ม
“งั้น...น้อยหายดีแล้ว เรากลับบ้านกันนะ”
“ค่ะน้าเย็น”
น้อยยิ้มอ่อนโยนลุกขึ้นมา เย็นดึงน้อยมากอด สองคนกอดกันแน่น เย็นน้ำตาไหลออกมาอีกแล้วรีบปาดทิ้ง จวนยืนมองอยู่ เห็นใจทุกข์ใจแทน
เย็นเก็บเสื้อผ้า จวนเดินเข้ามามอง สงสารเห็นใจ
“รีบเก็บเสื้อผ้าทำไม ทำยังกับจะไปวันนี้-พรุ่งนี้”
เย็นนิ่งๆเสียงเศร้าเจ็บๆ
“จะไปวันไหน ก็ต้องไปเหมือนกัน เก็บๆไว้แหละดี”
“พี่เห็นด้วย”
เย็นหันมามองจวนยิ้มขื่น
“นี่พี่จวนจะมาพูดเหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อนใช่มั้ย”
“ไม่...เพราะถึงพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ แกไม่เคยเชื่อสิ่งที่พี่บอกอยู่แล้ว แกถึงได้กลับมา”
เย็นหัวเราะขำ ยิ้มเย้ย
“ตอนแรก พี่ก็ด่าฉัน ว่าเพ้อเจ้อ ฝันกลางวัน ทั้งๆที่คุณอุทัยเป็นคนมาหลงรักฉัน ให้คำสัญญากับฉันก่อน มาตอนนี้ พี่ก็มาด่าฉันอีก ทั้งๆที่คุณอุทัยเป็นฝ่ายขอร้องอ้อนวอนให้ฉันอยู่ที่นี่...เกิดเป็นคนจน เป็นคนใช้นี่มันผิดตั้งแต่เกิดสินะพี่จวน”
“จะผิดหรือถูก มันอยู่ที่ความควรหรือไม่ควร”
เย็นขมขื่นเสียงเครือ
“ถ้าพี่จะมองว่าความรัก ความซื่อสัตย์ของคนที่ต่ำต้อย มันไร้ค่าไร้ราคา ไม่สมควรที่จะไปอาจเอื้อมรักคนรวย งั้น...การโกหก หลอกลวง ของคนที่เรียกตัวเองว่าผู้ดีร่ำรวย มันก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเหมือนกัน”
เย็นจ้องหน้าจวนมองนิ่ง
“ไม่ใช่ว่าเกิดเป็นคนรวยทำอะไรก็ไม่ผิด”
เย็นเก็บของต่อ จวนถอนใจ
“จนถึงป่านนี้ แกก็ไม่เข้าใจความหวังดีของพี่อยู่ดี เอาเถอะ...จะไปเมื่อไหร่ก็ไป...แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร พี่ว่าแกไม่ควรกลับมาที่นี่อีก”
จวนเดินออกไป เย็นยืนนิ่งเจ็บปวดน้ำตาไหล น้อยเดินเข้ามาเห็น
“น้าเย็นไม่อยากไปจากที่นี่หรือคะ”
“ทำไมน้าต้องอยากอยู่ ให้คนที่นี่ดูถูกเหยียดหยาม”
เย็นมองจริงจังขมขื่น
“จำไว้นะน้อย อย่าอ่อนแอให้ใครเห็น แกต้องเข้มแข็ง แต่ถ้าวันไหน แกร้องไห้”
เย็นกลั้นไม่ไหว พูดไปน้ำตาไหลไป
“แกก็ร้องออกมาให้มันหนำใจ แต่แกต้องได้อะไร จากน้ำตา"
ดวงหน้าของเย็นบิดเบี้ยวเจ็บปวด ดวงตาแค้นเอาคืน
อุทัยเดินนำเลอสรรดูโครงการคอนโดหรูของเขา
“คอนโดของเรา จะเน้นการตกแต่งแบบโมเดิร์น น้าอยากให้เลอช่วยใส่กิมมิคลงไปด้วย อาร์ตดีไซค์แบบของเลอน่ะแหละ จะได้มีเอกลักษณ์เฉพาะโครงการของเรา”
“เดี๋ยวผมจะออกแบบมาให้คุณน้าเลือกหลายๆแบบนะครับ”
“ดี ส่วนเรื่องวัสดุน้าอยากให้เลอใช้ที่โรงงานของเรา ว่าแต่มีเวลาทำนะ”
“ครับ...ผมขออนุญาตทางมหาวิทยาลัยแล้ว ว่าจะทำโปรเจ็คที่นี่ แล้วค่อยบินกลับไปส่ง”
“ก็ดี...เลอจะได้ช่วยน้าดูแลน้อง ดูแลน้าวณี บอกตรงๆน้ากลุ้มใจ ทำไมน้าวณีไม่เข้าใจน้าบ้าง ยังไง น้าไม่มีทางจริงจังกับเย็นอยู่แล้ว”
เลอสรรมองผิดหวัง สงสารเห็นใจเย็น
“น้าอุทัยไม่เคยรักน้าเย็นเลยเหรอครับ”
อุทัยคิดไปครู่ก่อนตอบ
“น้าว่ามันเป็นแค่ความหลง เพราะยิ่งรู้จัก น้าก็ยิ่งเห็นว่าทัศนคติการใช้ชีวิต การศึกษา ฐานะทางสังคม น้ากับเย็นไม่มีทางไปด้วยกันได้”
“แต่น้าอุทัยก็รู้แต่แรกแล้วว่าน้าเย็นเป็น...”
“น้าถึงบอกว่ามันเป็นความหลงไง...และความหลงก็ทำให้ชีวิตของน้าต้องพบกับความวิบัติ”
อุทัยถอนหายใจหนักใจ
“บอกตรงๆน้าหนักใจกับลูกเปียหนักใจมาก แล้วก็โกรธเย็นมากที่เลี้ยงดูให้ลูกเปียเป็นคนแบบนี้...เลอต้องอยู่ช่วยน้าดูแลน้องนะ รับปากกับน้านะเลอ”
เลอสรรพยักหน้ารับคำแต่หนักใจ
เลอสรรเดินออกมาโทรศัพท์หน้าออฟฟิศ...จวนอยู่ในครัวรับมือถือ
“สวัสดีค่ะ...”
“น้อยเป็นยังไงบ้างครับน้าจวน”
จวนยิ้มดีใจแทนน้อย
“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะค่ะ คุณเลอสรรไม่ต้องห่วงนะคะ เย็นคอยดูแลน้อยตลอดค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนในครัวหันมามองจวนเป็นตาเดียว...เลอสรรยิ้มโล่งใจ
“ได้ยินอย่างนี้ผมก็โล่งใจ ขอบคุณมากนะครับ”
“ยินดีค่ะ” จวนวางสาย
เลอสรรยิ้ม...ขณะที่คนในครัวกรูกันเข้ามาหาจวน หวานถามทันที
“คุณเลอสรรโทรมาถามอาการน้อยเหรอ”
“หูก็ไม่ได้ตึง ได้ยินกันทุกคน จะมาถามอะไรฉันอีก”
จวนเดินออกไปไม่สนใจช้อยหันมาจับกลุ่มเมาท์กัน
“อย่าบอกนะว่าคุณเลอสรร...”
เอิบโผล่งออกมา
“ชอบน้อย”
“ถ้าชอบจริงๆประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนคุณอุทัยกับนังเย็นมั้ยเนี่ย” ช้อยคิดๆ
หวานขัดขึ้น
“ไม่ซ้ำหรอก เพราะคุณเลอสรร เข้าหาหนูน้อยเอง ไม่เหมือนนังเย็นที่มันพยายามเข้าหา อ่อยคุณอุทัย...ถ้าจะซ้ำ...น่าจะเป็นคุณหนูเปียมากกว่าที่เผลอไม่ได้...เข้าหาแต่ประวิทย์”
น้ำเสียงหวานเหยียดหยาม ไม่ได้ให้เกียรติเปียเลย
ค่ำนั้น เปียแต่งตัวค่อนข้างเซ็กซี่ค่อยๆย่องเปิดประตูออกมา มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครเปียล็อกประตูห้องวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หน้าตากระหยิ่มยิ้มย่องมาก ลับหลังเปียวิ่งหายไป วณีเดินมาอีกมุม ตามด้วยนมแสที่ถือสำรับข้าวต้ม วณีเคาะประตูห้อง
“เปีย...เปียจ๋า...แม่ขอโทษที่รบกวน เปียลุกมากินข้าว กินยาหน่อยนะลูก”
เงียบไม่มีเสียงตอบ วณีเรียกอีก
“เปีย เปียจ๋า เปีย”
วณีหน้าตายิ่งกังวลเคาะแรงขึ้น
“เปีย”
นมแสอดไม่ได้
“คุณหนูไม่อยู่รึเปล่าคะคุณวณี”
“จะไม่อยู่ได้ยังไง ก็ลูกเปียไม่สบาย...หรือแกจะป่วยหนัก จนหมดสติเปิดประตูเร็วนมแส”
“ค่ะๆ”
นมแสวางข้าวต้มบนโต๊ะแถวนั้น รีบเอากุญแจมาเปิด วณีเข้าไป พลางเรียกเป็นห่วง
“เปีย เปียจ๋า เปียลูกแม่ เป็นอะไรลูก”
วณีเปิดไฟสว่าง ไม่เห็นเปีย วณีเบิกตากว้างตกใจ ขณะที่นมแสถอนใจแบบคิดอยู่แล้ว
“เปียหายไปไหน...เปีย”วณีเสียงสั่นเครือตกใจมาก
อุทัยขับรถอยู่รับโทรศัพท์จากวณีด้วยท่าทางตกใจแกมหงุดหงิด
“ว่าไงนะ เปียหาย”
วณีหน้าตาไม่ดีกังวล จะร้องไห้
“ค่ะ หายไปไหนก็ไม่รู้”
“หรือว่าเย็น...เย็นจะพาลูกหนีไป วณีรีบไปตามลูกที่บ้านเย็นก่อนเร็ว พี่ใกล้ถึงบ้านแล้ว แล้วจะรีบตามไป”
วณีรับคำ
“ค่ะๆ...ป่ะนมแส ไปที่บ้านเย็นเร็ว”
สองคนรีบพากันออกไป
เย็นถามวณีด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเย้ยหยัน
“คุณหนูเปียหายแล้วนึกยังไงคะคุณวณีถึงได้มาตามที่นี่ หรือคิดว่าฉันจะจับคุณหนูเปียไปเรียกค่าไถ่”
“อย่ายอกย้อนได้มั้ยเย็น บอกฉันมาดีๆเถอะ ลูกเปียอยู่ที่นี่รึเปล่า”
“ลูกเปียไม่อยู่ แต่ลูกคุณน่ะอยู่”เย็นยิ้มมีนัย
น้อยที่หลบอยู่บนบ้านแอบดู วณีไม่เห็นน้อยถามงงๆ
“หมายความว่ายังไงจ้ะ ตกลง...ลูกเปียอยู่ที่นี่ใช่มั้ย”
เย็นหัวเราะสะใจ
“ฉันจะเอาลูกเปียของคุณมาเก็บไว้ทำไมคะให้แล้ว ให้เลยไม่มีทางเอาคืนเป็นอันขาดค่ะ”
อุทัยเดินเข้ามา เย็นเห็นก็มองเจ็บช้ำแต่ดวงตาแข็งกร้าวน่ากลัว
“เหมือนกับสามี ให้แล้ว ก็ให้เลยเหมือนกัน ไม่มีวันเอาคืนมาโดยเด็ดขาด”
“ตกลง ลูกเปียอยู่ที่นี่รึเปล่า”อุทัยฉุน
เย็นมองโกรธ ตาเขียวเหี้ยม
“โถๆคุณอุทัยขา...คุณคิดว่าลูกเปียของคุณ เป็นมดเป็นปลวก หรือยังไงคะ ฉํนถึงจะเอามาซ่อนโดยที่คุณไม่เห็นได้ หรือถ้าคิดว่าลูกเปียของคุณเป็นเห็บหมา ก็ลองมาแงะข้างฝาดูค่ะ เผื่อจะเจอ”
“กลับกันเถอะวณี เปล่าประโยชน์ที่จะคุยกับคนแบบนี้” อุทัยโกรธจะพาวณีกลับ
เย็นสวนทันที
“ฉันมันไร้ประโยชน์ตั้งแต่คุณมีเมียผู้ดีแล้วล่ะคะคุณอุทัย”
อุทัยหันมาใหม่
“มายืนพูดปาวๆอยู่ได้ หน้าไม่อาย”
เย็นหัวเราะก้องหยัน
“หรือเรียกง่ายๆว่า หน้าด้าน ก็ถ้าฉันหน้าด้าน แล้วไอ้คนที่ลืมสัญญา ได้ใหม่ลืมเก่า เรียกว่าอะไร คุณอุทัยตอบฉันได้มั้ยคะ ถ้าตอบไม่ได้ ก็ช่วยเก็บไปคิดเป็นการบ้านที จะได้สอนลูกสอนหลาน เติบโตวันหน้าจะได้ไม่ทำตัวอย่าง อุทัย”
น้อยหน้าซีดเผือดไม่คิดว่าเย็นจะด่าอุทัยถึงขนาดนั้น อุทัยโกรธจัด จ้องหน้าเย็น
“เธอมันเลว กว่าที่ฉันคิดจริงๆเย็น กลับวณี”
อุทัยจูงมือวณีเดินไป เย็นมองตามเจ็บหัวเราะก้อง
“ตัวเองเป็นคนผิดแท้ๆ กลับโยนความผิดมาให้ฉัน แล้วก็มาด่าว่าฉันเลว...ยังไงคนอย่างนังเย็น ก็เลวไม่สู้ลูกคุณหรอกคุณอุทัย”
นมแสมองเย็นเกลียดชัง เย็นตวัดสายตาหันมามองนมแส ท่าทางน่ากลัว นมแสรีบผละไปแทบจะหกล้มด้วยความเร่งรีบ กลัวเย็น
อุทัยเดินนำวณีมาบริเวณหน้าบ้านหน้าตาบึ้งตึงโกรธบ่นออกมาเสียงดัง
“ไม่น่า ไม่น่าไปหามันเลยจริงๆ”
“ยังไงก็ต้องไปค่ะ เราไม่มีทางตัดเย็นออกไปได้เพราะเย็นคือคนที่เลี้ยงหนูเปียมา”
“แต่ท่าทางแม่เย็นไม่ได้รักคุณหนูเปียเลยนะคะ ขนาดคุณหนูหาย แม่เย็นยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน...หนำซ้ำยังว่าคุณหนูเลวอีก”
“หรือว่าเย็น ตั้งใจแก้แค้นเรา ด้วยการเลี้ยงลูกเปีย ให้เป็นเด็กเหลือขอ”
อุทัยมองหน้า วณีอึ้งหน้าตาเป็นห่วงเปียมาก นมแสผละไป เลอสรรขับรถมาจอด แล้วรีบลงมาถาม
“เจอน้องรึยังครับคุณน้า”
“ยังเลยจ้ะ โธ่เอ๊ย ลูกเปีย จะไปไหน ทำไมไม่บอกแม่...ไม่รู้รึไง ว่าแม่ใจจะขาดแล้ว”
“คุณน้าใจเย็นๆก่อนครับ น้องเปียแค่อาจจะหนีเที่ยว”
“จริงสิ...ดูเฟสลูกเปียสิตาเลอ เผื่อน้องจะเช็กอินว่าอยู่ที่ไหน”
“ครับ”
เลอสรรหยิบมือถือมาดู เห็นเปียเช็กอินที่สถานที่เที่ยวกลางคืน เลอสรรอึ้ง วณีเห็นสีหน้าเลอสรรก็ถามทันที
“ทำไมตาเลอ น้องเช็กอินที่ไหน”
เปียลากประวิทย์เข้ามาในผับที่เต็มไปด้วยนักเที่ยวที่มีลักษณะแวนซ์สก๊อย ประวิทย์มองตื่นๆตกใจแปลกใจ
“คุณหนูรู้จักที่เที่ยวแบบนี้ได้ยังไง”
“เพื่อนในแกงค์เปียเขาแนะนะ เขาบอกถ้ามากรุงเทพฯต้องมาเที่ยวที่นี่ให้ได้”
เปียกวาดสายตามอง เห็นบนเวทีนักร้องร้องเพลง นักเต้นเต้นกันสนุก เปียกรี๊ดออกท่าสก๊อย
“ทำไมมันมันอย่างนี้ ป่ะไปเต้นด้วยกันประวิทย์”
เปียลากประวิทย์เข้าไปกลางวง เต้นเต็มเหนี่ยว ออกสเต็ปแรงๆประวิทย์มองตะลึง
อุทัยประคองวณีที่ทำท่าเหมือนจะเป็นลม
“ลูกแม่ไปเที่ยวแบบนั้นได้ยังไง โอย...แม่จะเป็นลม...”วณีเอามือทาบอก
อุทัยร้อนใจ
“เลอ ช่วยไปตามน้องกลับมาให้น้าหน่อย เร็ว”
“ครับคุณน้า”
เลอสรรเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว อุทัยพาวณีเข้าบ้าน
“ลูกแค่ไปเที่ยวไม่มีอะไรหรอกวณี”
อุทัยปลอบวณีแต่หน้าบึ้ง
เลอสรรเบียดผู้คนที่เต้นกระหน่ำออกสเต็บกันอย่างเมามัน บางคู่กอดซบกัน เลอสรรหน้าไม่ดีสายตาตำหนิแบบมาเที่ยวแบบนี้ได้ยังไงที่ด้านหน้าเวที เปียเต้นสู้ตายมันมากจับมือประวิทย์
“เต้นด้วยกันสิประวิทย์ เต้นๆ”
ประวิทย์ยื้อไม่ยอม
“ไม่เอา...กลับกันเถะครับคุณหนู”
“เหงื่อยังไม่ออกเลย เปียไม่กลับ นะๆประวิทย์เต้นกับเปียนะ...เราสัญญากันแล้วนี่ ที่ไหนมีจรรยาก็ต้องมีประวิทย์ ที่ไหนมีประวิทย์ก็ต้องมีจรรยา เต้นๆกันดีกว่า”
เปียจับประวิทย์ให้เต้น เลอสรรกวาดสายตามองหา ประวิทย์หันมาเห็นเลอสรรพอดี
“คุณเลอสรร”
เปียเอามือป้องหู ยื่นหน้ามาหาประวิทย์
“อะไรนะ ประวิทย์พูดอะไรเปียไม่ได้ยิน”
“คุณเลอสรร”
เปียไม่ได้ยิน
“โอ๊ยพูดจางึมงำอะไรอยู่ในปาก ไมได้ยิน เต้นกันดีกว่า”
เลอสรรเดินเข้ามาใกล้ ประวิทย์กลัวดึงมือเปีย
“กลับกันเถอะครับคุณหนู”
เปียโกรธ คุมตัวเองไม่ได้
“ไม่กลับ อยากกลับก็กลับคนเดียวเลย ไป๊”
เปียผลักประวิทย์ออก หันหน้าไปออกเสต็ปสก๊อยทางด้านอื่น เลอสรรเดินมาใกล้ ประวิทย์เห็นท่าไม่ดี รีบเผ่นออกไปก่อน เลอสรรเดินเข้ามา เปียหันมาเห็นเลอสรร ตะลึงมองอึ้ง เหมือนโลกหยุดหมุน เลอสรรหล่อมาก
เย็นนั่งหน้าบึ้งโกรธ น้อยนั่งอยู่ห่างๆมองเป็นห่วง
“เอาเลย ด่านังเย็นเลยว่าเลว สักวันจะกระอักเลือดตาย ถ้าคุณหนูเปียมันเลวยิ่งกว่า”
น้อยไม่เข้าใจ
“ทำไมน้าเย็น...ถึงว่าเปียเลวละคะ”
เย็นเผลอหลุด
“เพราะพ่อแม่มันเลวไง แล้วฉันก็มั่นใจว่านังเปียมันต้องได้เลือด พ่อเลือดแม่มัน”
น้อยงงมองไม่เชื่อ
“คุณอุทัย คุณวณีเป็นคนเลวเหรอคะ น้อยไม่อยากเชื่อเลย”
“นี่นังน้อยตกลง แกเข้าข้างใครกันแน่ห๊า”
เย็นโกรธตาเขียวใส่ทำท่าจะขย้ำ น้อยกลัว
“น้อยเข้าข้างน้าเย็นค่ะ”
เย็นกระชากผมน้อยจนหน้าหงาย
“งั้นแกอย่าพูดให้ฉันได้ยินอีก ว่าไอ้คุณอุทัยกับนังวณีเป็นคนดี มันสองคนเป็นคนเลว และนังเปียก็จะต้องเลวเหมือนพ่อเหมือนแม่มัน”
นมแสแอบฟังอยู่ ไม่ชอบใจ เกลียดเย็น นมแสพูดเบาๆ
“คุณอุทัย คุณวณีเป็นคนดี คุณหนูเปียจะเลวได้ยังไง นอกซะจากว่า...”
นมแสนิ่ง ยิ่งขึ้นทุกวัน
เปียมองดูเลอสรร หล่อมาก แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เลอสรรมองเปียระอา เสียงเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทรดังขึ้น เปียตะโกนบอกนักดนตรี
“ซีเปียขอร้องเพลงนี้เองค่ะ”
เปียกระโจนขึ้นบนเวที คว้าไมค์ร้องเพลง เลอสรรมองอึ้ง คาดไม่ถึง เปียเห็นเลอสรรมองก็เข้าใจผิด นึกว่าเขาสนใจ เปียทั้งร้องทั้งเต้น เต้นลืมตาย ประวิทย์ที่แอบมองอยู่มุมหนึ่ง เห็นท่าทางของเปียที่สนใจเลอสรรก็ใจหาย เสียใจ ยิ่งเปียกระโดดลงมาจากเวที มานัวเนียเต้นต่อหน้าเลอสรร ประวิทย์ก็ยิ่งใจหาย เลอสรรสุดจะอาย จะคว้ามือ เปียก็หมุนตัวขึ้นไปร้องเพลงต่อบนเวที ร้องไปด้วย ส่งสายตาเชิญชวนเลอสรรไปด้วย ทุกคนในนั้นหันมามอง เลอสรรอายเดินผลุนผลันออกไป เปียมองตามเป็นจังหวะที่เพลงจบพอดี เปียกระโจนลงมาจากเวที ตะโกน
“คุณคะ...สุดหล่อคะ อย่าเพิ่งไป รอฉันก่อน”
เลอสรรหลบมุมรอเปียหน้าผับ เปียวิ่งตามออกมา
“คุณคะ...คุณ...”
ประวิทย์โผล่มากระชากมือเปีย
“คุณหนู”
เปียหงุดหงิด
“อะไรประวิทย์”
เปียจะเหวี่ยงมือออก ประวิทย์ยึดมือเปียไว้ บอกอย่างร้อนใจเสียใจ
“รีบกลับเถอะครับ”
“ก็บอกแล้วไง อยากกลับก็กลับไปคนเดียว”เปียตวาด
“ยังไงคุณหนูก็ต้องกลับครับ เพราะคุณเลอสรรมาตามแล้ว”
เปียได้ยินชื่อไม่พอใจ
“ไอ้เลอสรรอะไรนั่น มีสิทธิ์อะไรมาตามฉัน”
“ผมว่าคุณอุทัยกับคุณวณีให้มาตามคุณหนูแน่ๆ รีบกลับกันเถอะครับ ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่ๆ”
เปียชะเง้อคอมองตามเลอสรรแบบเสียดาย ประวิทย์เห็นท่าทีของเปียก็ฉุดมือ
“รีบกลับเถอะครับคุณหนู เร็ว”
ประวิทย์พาเปียออกไปทางด้านอื่น เลอสรรที่อยู่หน้าผับ หงุดหงิด ไม่เห็นเปีย เขาเดินกลับเข้าไปอีก
เลอสรรเดินกลับเข้าไปกวาดสายตามองหาไม่เห็นเปียก็หงุดหงิดเดินออกมา ก่อนจะโทรหาอุทัย
“ว่าไงตาเลอ เจอน้องมั้ย”
“เจอครับ...แต่ตอนนี้น้องเปียหายไปแล้ว”
“ว่าไงนะ ยัยเปียหายไปแล้ว”
อุทัยเสียงดัง วณีมองตกใจ
“ผมคิดว่าประวิทย์พาน้องไป”
อุทัยใจหายคาดไม่ถึง
“แปลว่า...ยัยเปียไปเที่ยวกับประวิทย์”
“ครับ”
อุทัยวางสายหันมามองวณีหน้าซีด
“ไอ้ประวิทย์ มันกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา”
วณีหน้าซีดปากสั่น คาดไม่ถึง นมแสมองเห็นใจ
ท่ามกลางความมืด ประวิทย์ฉุดมือเปีย ท่าทางร้อนใจร้อนรนมามุมหนึ่งของบ้าน
“รีบเข้าบ้านเร็วครับคุณหนูเปีย”
เปียมาถึงบ้านกลัว ยื้อมือไว้
“ไม่เอา เปียกลัว ถ้าเปียเข้าไปตอนนี้คุณพ่อคุณแม่เอาตายแน่ๆ”
“แล้วคุณหนูจะทำยังไง ในเมื่อคุณเลอสรรเห็นเราสองคนแล้ว”
เปียเบ้หน้าถือดี
“นายเลอสรรอะไรนั่น อาจจะตาฝาดก็ได้”
ประวิทย์งง
“คุณหนูเปียหมายความว่ายังไง”
เปียเข้ม เสียงเกลียด
“นายเลอสรรมันตาฝาด...ไม่ต้องห่วง น้าเย็นช่วยเปียได้”
เปียยิ้มเจ้าเล่ห์ มองหาทางเอาชนะเลอสรร
ภายในบ้าน เปียนั่งแทบเท้าเย็นลักษณะพินอบพิเทา ขณะที่เย็นหัวเราะลั่น
“แกนี่เองนังเปียที่มาของคำว่า รกโลก ตอหลด ตอแหล สร้างเรื่องไม่มีวันสิ้นสุด”
“เปียอุตส่าห์มาขอร้อง ทำไมน้าเย็นต้องด่าเปียด้วย”
เย็นเย้ยหยัน
“รู้...ดิฉันรู้ค่ะว่าคุณหนูเปียลดตัวมาขอร้อง ไม่งั้นคุณหนูเปียคงไม่นั่งแทบเท้าฉันอย่างนี้หรอก”
เปียเข้ม กร้าว ถือดี
“ตกลง น้าเย็นจะช่วยหรือไม่ช่วย”
“อย่ามาทำเสียงใส่ฉันอย่างนี้นะนังเปีย ถ้าแกไม่อยากเลือดกบปาก”เย็นถลึงตาใส่
เปียเสียงอ่อยกลัว
“ก็เปียกลัวน้าเย็นไม่ช่วยนี่ น้าเย็นช่วยเปียหน่อยนะ...นะ ช่วยเปียหน่อย”
เย็นหัวเราะ
“โถๆหมาขี้เรื้อนข้างถนนน้ายังช่วย แล้วทำไม เปียดื้อหลานรักของน้าเดือดร้อน น้าจะไม่ช่วยล่ะจ้ะ”
เย็นลูบหัวเปียเหมือนลูบหัวหมา เปียตาเขียว
“น้าเย็นลูบหัวเปีย เหมือนลูบหัวหมา”
“อู้ย...น้าไม่กล้าเอาคุณหนูไปเปรียบเทียบกับหมาหรอกค่ะ เพราะหมามันกตัญญูรู้คุณกว่าคุณหนูเยอะ”
“น้าเย็น”เปียโกรธ ตาวาว
เย็นจิกกระชากผมเปียอย่างแรง
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เรื่องที่แกอยากให้ฉันกับยัยน้อยไปจากที่นี่น่ะ รู้เอาไว้...ยิ่งแกอยากให้ฉันกับยัยน้อยไปจากที่นี่เท่าไหร่ฉันก็จะเกาะฝาบ้านให้มันแน่นมากขึ้นเท่านั้น”
เย็นผลักเปียออกอย่างแรง เปียร้องลั่น
“โอ๊ย”
เปียหน้าคะมำคว่ำพื้น เย็นเดินไปจิกหัวขึ้นนั่งคร่อมกัดฟันกรอด เปียมองเย็นโกรธเกลียด
“ไม่ต้องด่าฉันในใจ แกอยากด่าอะไรฉันแกด่ามาเลยนังเปีย ด่ามาเลย”
เปียมองท้าทาย
“เปียเป็นหลานน้าเย็น ถึงเปียไม่ด่าออกไป น้าเย็นก็น่าจะรู้ ในใจเปียด่าน้าเย็นยังไง”
“นังสารเลว” เย็นตบผลัวะ
“ตบเลย...น้าเย็นตบเปียเลย”
น้อยแอบมองแบบกลัวมาก ไม่กล้าออกมา เย็นกัดฟันตาเขียวโกรธมาก
“แกอย่าท้าฉันนะนังเปีย”
“เปียไม่ได้ท้า อยากตบให้เปียเลือดกบปากน้าเย็นก็ตบเลย จะได้สาสมกับที่เปียด่าน้าเย็นในใจ หรือถ้าน้าเย็นอยากให้เปียด่าออกไปดังๆเปียก็จะด่า น้าเย็นโรคจิต น้าเย็นขี้อิจฉา ทั้งเนื้อทั้งตัวน้าเย็นไม่มีอะไรดีเลย มิน่า คุณพ่อถึงได้ทิ้งน้าเย็นไปหาคุณแม่”
เปียเถียงเย็นโมโหมาก
“ปากแกนี่มันไร้ตะกร้อจริงๆ”
เย็นหลังมือตบผลัวะหน้าเปียแรงๆ เปียหน้าหันร้องลั่น
“โอ๊ย”
อ่านต่อหน้า 3
คมพยาบาท ตอนที่ 6 (ต่อ)
เย็นหลังมือตบผลัวะหน้าเปียแรงๆ เปียหน้าหันร้องลั่น
“โอ๊ย”
เปียแทบล้ม เย็นกระชากร่างเปียขึ้นมาขย้ำตบ
“นังสารเลว รู้มั้ยว่า ปากแกมันเหม็นมันเน่ายิ่งกว่ามีแมลงสาปเป็นพันตัวตายอยู่ในนั้น”
เปียหัวเราะ
“แต่ยังไงก็ไม่สู้น้าเย็นไม่ได้...ตบเปียเลยสิน้าเย็น ตบเล้ย ตบเลย เอาให้ฟันเปียหลุดหมดปากเลยก็ได้นะ”
“อย่ามาลองดีกับฉันนะนังเปีย”
เย็นกระหน่ำตบไม่พอ ลากตัวเปียขึ้นมาซ้อม น้อยทนไม่ไหววิ่งเข้ามาห้าม
“อย่าค่ะน้าเย็น อย่า”
“ไม่ต้องห้ามนังน้อย ปล่อยให้น้าเย็นซ้อมฉันเลย...คุณพ่อคุณแม่จะได้รู้...ว่าคืนนี้ฉันไม่ได้หายไปไหน แต่น้าเย็นจับฉันขังเอาไว้ แล้วซ้อมฉันต่างหาก”
เย็นชะงักมองเปียอย่างคาดไม่ถึง ก่อนระเบิดหัวเราะออกมา
“แกนี่สมกับเป็นหลานฉันจริงๆ”
เย็นมองดูถูกเย้ย
“แกรู้มั้ยนังเปีย ขยะในโลกมีอยู่3 ชนิด 1.ขยะไม่มีพิษ 2.ขยะมีพิษ แล้ว3.ก็คือแก นังขยะเปีย...แกอยากให้พ่อแม่แกรู้ว่าฉันขังแกไว้แล้วก็ซ้อมแกใช่มั้ย...ได้ คุณหนูเปียอยากได้ น้าจัดให้”
พูดจบเย็นก็ถีบร่างของเปียอย่างแรง เปียร้องกรี๊ดขณะร่างเซหลุนๆตกบันไดลงไป น้อยกรีดร้องสติแตก ขณะที่เย็นเดินลงไปหาเปียแบบช้าๆทว่าน่ากลัว
เปียนอนหน้าคว่ำอยู่ที่พื้นดินหน้าบ้าน เย็นเดินลงมา ตามมาด้วยน้อย เย็นหัวเราะก้องกระชากผมเปียขึ้นมา
“ไง...สาแก่ใจรึยังคะหลานรักหรือจะให้น้าซ้อมอีก”
เย็นทำท่าจะตบ เปียกลัว ยกมือไหว้ พร้อมดันมือเย็นออก
“ไม่...น้าเย็น เปียเจ็บ”
เย็นหัวเราะ
“วันหลังอยากให้น้าแสดงละครตบตาคนก็บอก แต่อย่าอวดเก่งกับน้านะคะ ไม่อย่างนั้น...”
เย็นลูบผมเปียเหมือนหมา
“แกได้เป็นหมาหัวเน่าแน่ๆนังเปีย”
“น้อย”เย็นตะคอกเรียก
“คะ...”น้อยปากคอสั่น
“ไปตามพ่อแม่นังเปียมา...บอกว่าฉันซ้อมและกำลังจะขุดหลุมฝังมัน”
“น้าเย็น”
น้อยมองกลัว กลัวว่าเย็นจะทำอะไรเปีย
“ถ้าแกเรียกฉันอีกคำเดียว แกจะถูกฝังแทนนังเปีย ไป๊”
“ค่ะๆ” น้อยวิ่งออกไปรวดเร็ว
อุทัยเดือดดาลเป็นอย่างมาก ตวาดนมแสก้องบ้าน
“ไอ้ประวิทย์ ไปลากตัวไอ้ประวิทย์มาเดี๋ยวนี้”
นมแสหน้าตาเหลอหลางุนงง วณีเป็นฝ่ายพูดด้วยร้อนใจ
“จะไปลากที่ไหนคะพี่อุทัย ในเมื่อตอนนี้ประวิทย์อยู่กับลูกเปีย...”
วณีร้องไห้กลุ้มอุทัยคับข้องใจมากฟาดงวงฟาดงา
“ทำไมลูกเปีย ถึงได้เป็นคนแบบนี้ไปได้”
วณีนึกได้ เข้าข้างสุดๆ
“หรือว่า...ลูกเปียจะถูกประวิทย์หลอก”
นมแสแย้งมาทันที สายตาไม่เชื่อ
“ประวิทย์นะหรือคะจะหลอกคุณหนูเปีย”
“นมแสพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”วณีดุปรามในที
“ก็...เท่าที่ดิฉันรู้จัก ประวิทย์เป็นคนซื่อๆเจียมเนื้อเจียมตัว ติดจะขี้อายซะด้วยซ้ำ ประวิทย์จะกล้าพาคุณหนูเปียออกนอกลู่นอกทางหรือคะ”
วณีดุมาก แต่สุภาพ
“นมแสกำลังด่าลูกเปียของฉัน”
นมแสรีบบอกทันที กลัวเกรงวณี
“เปล่าค่ะคุณวณี ดิฉันเปล่า”
“จะเปล่าได้ยังไง ในเมื่อคำพูดของนมแสหมายความว่าอย่างนั้นชัดๆ”
วณีกลั้นสะอื้น จริงๆใจก็เอนเอียงเหมือนกันแต่ปฏิเสธ
“ฉันไม่เชื่อ...ไม่เชื่อเด็ดขาด”
“อาจจะเป็นอย่างที่นมแสว่าก็ได้นะวณี”อุทัยคิดๆ
“นี่พี่อุทัยกำลังด่าลูกอีกคนนะคะ”วณีโกรธ
“ก็สมควรด่ามั้ยล่ะ...หรือลูกประเภทนี้ พี่ควรใส่พานยกขึ้นมากราบเช้าเย็น”
วณีเสียงเครือ เสียใจ
“พี่อุทัย”
อุทัยเข้มโกรธมาก
“ยัยเปียกลับมาเมื่อไหร่ เจอดีแน่”
วณีร้องไห้โฮเป็นห่วงเปีย นมแสได้แต่มองเห็นใจ สงสารวณี
เปียพยายามจะลุกขึ้น แต่เย็นกลับเอามือผลักเปียอย่างแรงลงไปอีก หัวเราะก้อง
“คุณพ่อคุณแม่ยังไม่มาเลย จะรีบลุกขึ้นมาทำไมคะคุณหนูเปีย...เดี๋ยวก็ไม่สมบทบาทหรอก”
เปียล้มลงใหม่ มองเย็นกลัวๆ
“อย่าตีเปียอีกนะ”
“ก็ไม่ดีหรือคะจะได้สมบทบาทยิ่งๆขึ้น”
เย็นกระชากผมเปียขึ้นมาใหม่
“แกรู้มั้ยนังเปีย สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือการที่แกไม่รู้ว่าตัวเองโง่โง่แล้วยังมาทำอวดฉลาดคิดจะหลอกใช้ฉัน...แต่แกรู้เอาไว้ ว่าฉันนี่แหละจะหลอกใช้แก”
เปียมองงงไม่เข้าใจ
“น้าเย็นจะทำอะไร”
“แกลุกขึ้นมานังเปีย แกลุกขึ้นมา”
เย็นกระชากลากคอเปียขึ้นมาสุดแรงทั้งที่เปียหมดแรง เปียร้องโอดครวญขณะที่ถูกเย็นลากถูลู่ถูกังขึ้นบ้าน
น้อยวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไป มาที่บ้านอุทัย
“คุณอุทัย-คุณวณีคะ”
อุทัยเห็นท่าทางของน้อยก็ตกใจ
“มีอะไรหนูน้อย”
“น้าเย็น...น้าเย็นให้มาตามคุณๆไปดูเปียค่ะ”
วณีกับอุทัยตกใจ งุนงง
วณีกับอุทัย แทบจะวิ่งขึ้นไปบนบ้านของเปีย ตามด้วยนมแสกับน้อย สายตาทุกคนเห็นเปียหน้าเศร้าทำแผลปากแตกของเปียอย่างสงสารเวทนาวณีตกใจมาก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
เย็นปรับสีหน้าเป็นดุเอาเรื่อง
“ฉันต้องถามพวกคุณมากกว่าว่าพวกคุณปล่อยให้เกิดเรื่องราวแบบนี้กับเปียของฉันได้ยังไง”
“เกิดอะไร...มีเรื่องอะไรกับเปีย”อุทัยงง
“ยัยเปียเกือบถูกแท็กซี่ฉุดไปข่มขืน”
เปียหน้าเหวอไม่ทันเกมน้อยงงอุทัย วณี นมแสตกใจ เย็นพูดต่อเกรี้ยวกราด
“แต่โชคดี ที่เปียของฉันต่อสู้ขัดขืนจนหนีรอดมาได้ แต่คุณดู...พวกคุณดูสภาพของเปีย”
เย็นชี้ให้ทุกคนดูหน้าเปียที่มีบาดแผลความบอบช้ำเย็นพูดเหมือนเจ็บปวดแทบขาดใจ น้ำตาคลอ
“เปียถูกทำร้าย เกือบเอาชีวิตไม่รอด...นี่หรือคือสิ่งที่พวกคุณดูแลทะนุถนอมลูกสาวคนเดียว”
อุทัยมองอื้ออึงงงเหมือนเรียบเรียงข้อมูล เลอสรรบอกไปกับประวิทย์ แต่เย็นเล่าคนละอย่างขณะที่วณีสงสารเปียมาก
“เปีย...เปียลูกแม่”
เปียจะลุกไปหาวณี แต่มือเย็นที่โอบเปียเอาไว้แอบหยิกเปียแรงๆที่ด้านหลัง...ใต้โต๊ะ เย็นเอาเท้ากดเท้าเปียไว้แน่น ไม่ให้ไป
“คุณจะมาร้องไห้ตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะคุณวณี...ในเมื่อ เวลาที่เปียเดือดร้อน คนแรกที่เขานึกถึง ไม่ใช่คุณ แต่เป็น ฉัน”
เย็นมองตาเน้นย้ำอีก
“เปียคิดถึงฉัน ไม่ใช่พวกคุณ”
เปียมองหน้าเย็นผะอืดผะอม เหมือนจะค้านในใจ มันไม่ใช่ แต่กลัวเกรงอุทัยนิ่งๆแต่น้ำเสียงตำหนิ
“แล้วยังไงในเมื่อเปียอยากหนีออกไปเที่ยวเอง”
วณีเหวอ เปียเหวอ เย็นยิ้มเยาะมองอุทัยลอยหน้าลอยตาถาม
“คำถามนี้ ต้องย้อนกลับไปถามพวกคุณนะคะ...ว่าพวกคุณเลี้ยงดูยัยเปียต่อจากฉันยังไงยัยเปียถึงได้หนีเที่ยว”
อุทัยกับวณีอึ้ง งง เย็นพูดต่อทันที
“ตอบไม่ได้ เพียงแค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เอาเข้าจริงพวกคุณก็ไม่ได้รักใคร่ใส่ใจอะไรยัยเปีย”
“ไม่นะเย็น ฉันรักลูกเปียอย่างที่สุด”วณีรีบบอก
“รักของคุณคืออะไรให้ลูกอยู่แต่กับบ้าน จะไปไหนมาไหน รถสักคันก็ไม่มี...นี่ถ้ายัยเปียมันมีรถของตัวเอง ถึงจะหนีเที่ยว ยังไงก็ไม่โชคร้ายถึงขนาดไปเจอแท็กซี่หื่นกามหรอก”
เปียเข้าใจทันที รู้ว่าเย็นกำลังจะขออะไรให้ เปียแอบอมยิ้มอุทัยบอกฉุนๆไม่ชอบท่าทางเย็น
“รถในบ้านฉันมีเยอะแยะ”
“แต่มันใช่ของยัยเปียมั้ยไม่ใช่...ในเมื่อไม่ใช่แล้วคุณคิดว่ายัยเปียจะกล้าเอารถคุณไปขับเหรอ”
วณีรีบบอกทันที
“ถ้าเปียอยากได้รถ แม่ซื้อให้เลยจ้ะ แม่ซื้อให้เลย”
เย็นบอกทันทีเหมือนกัน
“รถที่แพงที่หรูที่สุดเลยนะ จะได้สมศักดิ์ลูกสาวคนเดียวของคุณวณีไม่ใช่...รถที่เอาไปทำแท็กซี่” เย็นเย้ยหยัน
“ได้...ลูกเปียอยากได้อะไรฉันจะซื้อให้หมดเลย”
วณีมองเปียเว้าวอน
“เปียจ๋า...แม่ขอโทษ...มาหาแม่นะลูกนะ”
“คุณแม่”
เปียดีใจมากรีบลุกมาหา เท้าของเย็น ปล่อยเท้าเปีย อมยิ้มพอใจ อุทัยนิ่ง งงๆ ขณะที่นมแสไม่เห็นด้วยเลย น้อยนั่งอึ้ง กับเรื่องที่เย็นเล่า เพราะมันไม่จริง
วันใหม่...คุณหญิงอนุรักษ์ถามอุทัยด้วยอยากรู้
“ตกลง ลูกซื้อรถใหม่ให้แม่เปีย”
“ก็ผมไม่รู้จะทำยังไงนี่ครับ...วณีรับปากเปียไปแล้ว นี่ก็ออกไปซื้อรถกันอยู่ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ อยากซื้อ ก็ซื้อ ผมยินดี แต่ที่ผมรู้สึกไม่ดี มันเหมือนกับผมกำลังถูกหลอก ผมเป็นคนโง่”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”
“เลอสรรยืนยันกับผม เมื่อคืนเปียไปกับประวิทย์จริงๆ”
คุณหญิงสบตากับอุทัย สองคนครุ่นคิดอยากรู้
ประวิทย์เดินมากังวลเรื่องพาเปียหนีเที่ยว เลอสรรเดินมา พอประวิทย์เห็นเลอสรรเดินตรงมาก็ตกใจ ทำท่าจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น แต่เลอสรรเดินเข้าไปขวาง
“อย่าเพิ่งไปไหน คุยกันก่อนประวิทย์”
ประวิทย์จ๋อยสนิท
ประวิทย์บอกเลอสรรด้วยสีหน้าตกอกตกใจที่ได้รู้เรื่องเปีย
“ผมสาบานได้นะครับคุณเลอสรร เมื่อคืนผมมาส่งคุณหนูเปียถึงหน้าตึกจริงๆ”
“แต่น้องเปียบอกคุณน้า...ว่ากลับแท็กซี่ แล้วก็ถูกแท็กซี่ฉุดไปทำร้าย”
ประวิทย์มีสีหน้ายุ่งยากใจ ไม่รู้จริงๆเป็นห่วงเปีย เลอสรรสังเกตเห็นก็บอก
“เอาล่ะ เมื่อนายยืนยันว่ามาส่งน้องเปียถึงหน้าตึกจริงๆ ฉันก็เชื่อนาย”
ประวิทย์เสียงอ่อย
“แต่ยังไง ผมก็กลัวคุณๆดุอยู่ดี...ที่พาคุณหนูเปียออกไป”
“ในเมื่อนายก็รู้...แล้วนายพาน้องเปียออกไปทำไม”
“ผมไม่ได้พาไปนะครับ คุณหนูเปียหนีออกไป พอผมรู้ ผมก็รีบตามไปแล้วก็เจอ...คุณเลอสรร...” ประวิทย์อึกอักรู้สึกผิด
“แต่ถ้านายพามาน้องเปียมาส่งถึงบ้าน แล้วน้องเปียไปนั่งแท็กซี่ได้ยังไง”
สองหนุ่มมองหน้ากันงงๆ
เปียเดินเล่นกับเย็น ท่าทางมีความสุขดี๊ด๊า
“เปียไม่คิดเลยจริงๆ ว่าน้าเย็นจะหลอกคุณพ่อคุณแม่ว่าเปียถูกแท็กซี่ฉุดไปทำร้ายจนเปียได้รถคันใหม่เริ่ดเวอร์ นี่ถ้าไม่กลัวคนสงสัย เปียจะพาน้าเย็นนั่งรถคันใหม่ไปเที่ยวเลย”
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก แค่ฉันเห็นหน้าแก ฉันก็รู้แล้วว่า รถคันนั้นมันคงเริ่ดเวอร์ สมกับคนเวอร์ๆอย่างแก ทายาทคนเดียวของอนุรักษ์ธานิน”เย็นเยาะ
“น้าเย็นฉลาดสุดๆ”
เย็นหัวเราะหึหึ
“ฉันถึงได้บอกแกไง ว่าแกน่ะก็โง่สุดๆ...เพราะฉะนั้นอยากได้อะไร บอกฉันดีๆ แต่อย่าคิดหลอกใช้ฉัน”
“แต่พอเปียหลอกใช้น้าเย็น...น้าเย็นก็ได้เอาคืนอย่างสะใจแล้วไง”
เย็นมองเปียตาวาว
“น้าเย็นก็เห็นหน้าของคุณอุทัยคุณวณี มันสลด มันทุกข์ทรมาน พวกเขากลุ้มจนแทบกระอักเลือด ที่ลูกสาวคนเดียวไม่รักดี...ทั้งหมดที่เปียทำ ก็ช่วยแก้แค้นแทนน้าเย็นนะ”
เย็นหัวเราะรู้ทัน
“เหรอ...งั้นเอาเลยนังเปีย...”
เย็นลูบหัวแบบเอ็นดูแต่ตาแทบขย้ำ
“แผลงฤทธิ์ออกมาเลย เรื่องเลวๆแกถนัดอยู่แล้วนี่สองคนนั้นจะได้กระอักเลือดตาย แล้วแกก็จะได้ทุกอย่างของอนุรักษ์ธานิน”
เปียมองเย็นตาเขียว กัดฟันกรอดรู้ว่าถูกหลอกด่า แต่ก็ยิ้มเมื่อได้ยินประโยคท้าย
“ถ้าไม่มีนายเลอสรรนะ”
เปียหุบยิ้มในทันทีเมื่อเย็นพูดมาเย็นยิ้มพอใจ ที่ยั่วแหย่ จนเปียหน้าเสียขึ้นมาอีก ก่อนเดินไป เปียค้อนหน้าคว่ำ รู้ว่าเย็นเป็นต่อ นมแสแอบมองท่าทีของคนสองคน นับวันยิ่งสงสัยขึ้นทุกที
น้อยมีท่าทีไม่สบายใจ กำลังเก็บเมล็ดดอกดาวเรืองในสวน เลอสรรเดินมาเก็บเมล็ดดอกไม้ดอกเดียวกับน้อย เธอสะดุ้ง ตกใจ เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเลอสรร
“คุณเลอสรร”
“โอเค ถ้าน้อยยังไม่พร้อมจะเรียกพี่เหมือนเดิม พี่ก็ไม่บังคับ...เดี๋ยวพี่ไปช่วยปลูกที่บ้านนะ”
น้อยนิ่ง เลอสรรถามทันที
“กลัวน้าเย็นจะดุเหรอไม่ต้องกลัว...พี่จะไปปลูกดอกไม้ให้ตอนน้าเย็นไม่อยู่”
“น้อยไม่ได้จะเอาดอกไม้พวกนี้ ไปปลูกที่บ้านพักน้าเย็นค่ะ”
เลอสรรงง สงสัย
“แล้วน้อยจะเอาไปปลูกที่ไหน”
“บ้านค่ะ น้าเย็นจะพาน้อยกลับบ้านแล้ว”
“น้าเย็นจะพาน้อยกลับบ้าน”
เลอสรรตกใจมองน้อยสายตาอาวรณ์ไม่อยากให้ไป
ระหว่างรับประทานอาหาร เปียหน้าตาหงิกงอแบบไม่พอใจเต็มที่
“ทำไมคุณแม่ต้องทำท่าตกอกตกใจอย่างนี้ด้วยคะในเมื่อเปียก็เคยบอกแล้วว่าน้าเย็นจะพาน้อยกลับไปอยู่บ้านนอกเหมือนเดิม”
วณีเศร้าละห้อย
“ก็แม่ไม่อยากให้น้อยไป”
เปียตาเขียวปั้ดขึ้นมาทันทีแบบไม่พอใจ อิจฉามาก นมแสมอง วณีไม่ได้มองเปียพูดต่อ
“ยิ่งบ้านเรามีแต่เรื่องวุ่นๆแม่แทบไม่ได้คุยกับน้อยเลย”
เปียลุกขึ้น มือแทบจะปัดจานทิ้ง
“นี่คุณแม่ว่าที่ผ่านมาเปียทำเรื่องวุ่นๆใช่มั้ยคะ”
อุทัยแทรกขึ้น
“ก็แล้วมันจริงมั้ยล่ะ...นี่พ่อยังไม่ได้เช็กบิลเราเรื่องที่หนีไปเที่ยวเลยนะ เพราะฉะนั้นอย่าก่อเรื่องอีก...นั่งลง”
“ไม่นั่ง”เปียโกรธมากคุมตัวเองไม่ได้
“ยัยเปีย”อุทัยลุกขึ้นโกรธ
เปียเถียงไม่กลัว
“เอาสิคะ เอาเล้ย ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้นังน้อยมันอยู่มากกว่าเปีย เปียก็จะไป”
เปียทำท่าจะไปวณีคว้าแขนไว้
“ไม่เอา แม่ไม่ให้เปียไป”
เปียจ้องวณีโกรธ
“เปียจะอยู่ทำไม ในเมื่อคุณพ่อคุณแม่ ทำให้เปียช้ำใจเสียใจตลอด มีพี่เลอสรรไม่พอ ยังจะมีน้อยอีก เชิญเลย ถ้าอยากมีพี่เลอสรร มีน้อยก็ไม่ต้องมีเปีย”
เปียผลักวณีอย่างแรงวิ่งไปวณีเซ
“เปียๆ”
วณีวิ่งตามออกไปอุทัยมองสุดแสนจะกลุ้ม เหนื่อยใจ
“โธ่เว้ย”
อุทัยจำต้องเดินพรวดตามไปนมแสมองตามระอาเปียมาก เหนื่อยใจแทนทุกคน
เปียวิ่งหน้าตาบูดเบี้ยวโกรธขัดใจออกมาหน้าบ้าน วณีตามมาฉุด
“อย่าไปนะลูกอย่าไป”
เปียกรีดร้องสะบัดวณีออกเหมือนคนบ้า
“ไม่ต้องมายุ่ง”
“ไม่ยุ่งได้ยังไง เปียเป็นลูกแม่”
“งั้นก็รู้ไว้นะคะ ว่าเปียไม่อยากมีพี่มีน้อง ไม่อยากมีใครทั้งนั้น เปียอยากเป็นลูกคนเดียว”
เปียสะบัดวณีออกอย่างแรง จะวิ่งออกไป เธอชนเข้ากับเลอสรรที่เดินเข้ามาเต็มแรง เปียล้มร้องอย่างเจ็บปวด ด่าทันที
“ไอ้บ้า ชนฉันทำไม”
เลอสรรตกใจ
“พี่ขอโทษ”
เปียตาเขียวเงยหน้าขึ้นมองเอาเรื่อง พอเห็นเป็นเลอสรรก็ตกตะลึงคาดไม่ถึงวณีเข้าไปหาเลอสรร
“เลอสรร ช่วยน้าด้วย”
เปียมองเลอสรรสลับพ่อแม่ ถามเหมือนอยู่ในภวังค์
“พี่เลอสรร”
เปียเสียงหวานทันที
“นี่เหรอคะพี่เลอสรรของเปีย”
อุทัยเดินออกมาพอดี
“ใช่...นี่แหละ...เลอสรร”
“ถ้าน้องเปียลำบากใจ ผมย้ายไปอยู่คอนโดข้างนอกก็ได้ครับ”
เปียเปลี่ยนท่าทีไปเลย พรวดเข้ามาจับมือเลอสรร
“ไม่นะคะ...อย่าไปเลยนะคะ...เปียไม่ให้พี่เลอสรรไป”
ทุกคนมองเปียงุนงง ท่าทางของเปียเปลี่ยนไปเหมือนคนละคน
“ทำไมล่ะก็ตะกี้...เปียยังอยากอยู่คนเดียวอยู่เลย”
เปียเอาดีใส่ตัว พูดหวานน่าสงสาร
“แต่เปียรู้ คุณพ่อคุณแม่อยากให้พี่เลอสรรอยู่ด้วย...งั้น...พี่เลอสรรอยู่ด้วยกันนะคะ...อย่าไปไหน คุณพ่อคุณแม่”
เปียจับมือสองคนมาจับมือเลอสรรด้วย
“จะได้มีความสุขสบายใจ”
“แล้วเปียล่ะ”เลอสรรมองหน้า
เปียยิ้มแอ๊บหวาน
“คุณพ่อคุณแม่สบายใจมีความสุข เปียก็มีความสุขไปด้วยค่ะ”
วณียิ้มปลื้มมากกอดเปีย
“เด็กดีของแม่”
อุทัยมองจ้อง พูดยิ้มๆ
“ขอบใจมากนะลูก หนูเป็นเด็กดีเหลือเกิน”
“ก็เปียอยากให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขนี่คะ...”
“งั้น ให้น้อยอยู่ด้วยนะลูก พ่อกับแม่จะได้มีความสุข”อุทัยมองเปีย
เปียตาเขียวปั้ดขึ้นมาทันที คุมตัวเองไม่ได้เลย
เปียเดินลิ่วตรงไปที่บ้านพักของเย็นท่าทางเดือดดาลไร้สติ...ในบ้าน น้อยกำลังจัดของใส่กระเป๋า เปียเดินกระแทกเท้าเข้าไปหา ผลักน้อยอย่างแรง จนล้ม น้อยงง ถามทันที
“อะไรเปีย”
เปียกระชากผมน้อยอย่างแรง
“แกจัดของเลยนะ แกรีบจัดของเลย”
“ก็จัดอยู่แล้วไง เป็นบ้าอะไรอีก” น้อยโกรธ
“ฉันเป็นบ้าแน่ๆถ้าแกยังอยู่นี่”
เปียตรงเข้ามาขย้ำ บีบคอโกรธจัด น้อยกร้าวแกะมือเปียออก
“ปล่อย”
“ฉันไม่ปล่อย จนกว่าแกจะไปจากที่นี่”
“ยังไงก็จะไปอยู่แล้ว” น้อยเถียง
“แกต้องไปเดี๋ยวนี้”
เปียลากน้อยอย่างแรงผลักลงบันไดเหมือนที่เย็นทำเปีย น้อยร่วงลงไปยังพื้นดินข้างล่างร้องลั่น
“โอ๊ย”
เปียหัวเราะลั่นสะใจ กำลังจะเดินลงไป เย็นเดินมาข้างหลังเปีย ในมือมีเชือกถักสีแดงตวัดเชือกในมือรัดคอเปียกระตุก อย่างแรงถามเสียงกร้าว
“แกเป็นบ้าอะไรนังเปีย”
เปียถูกรัดคอ ตาเหลือก น้อยอ้าปากค้าง ขณะที่เย็นรัดคอเปียแน่นเข้า
“ชักจะเอาใหญ่ขึ้นทุกวันแล้วนะนังสารเลว”
เปียหายใจไม่ออก พยายามแกะเชือกออก เย็นผลักร่างเปียอย่างแรงจนตกบันไดลงมากองข้างๆน้อย พร้อมเชือกที่หลุดออกจากคอมาอยู่ในมือเปีย เย็นเดินลงมา
“ตอนแรก ฉันว่าจะไปจากที่นี่ แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว...” เย็นยิ้มเยาะ “ฉันจะอยู่ต่อ และอนาคต ถึงฉันจะไป แต่ฉันก็จะให้ยัยน้อยอยู่ที่นี่” เย็นเย้ยหยัน
“แต่เปียเป็นหลานน้าเย็นนะ” เปียลืมตัว
เย็นลูบหัวเปีย แต่ตากร้าวหัวเราะ
“โถๆใครบอกว่าคุณหนูเปียเป็นหลานน้าคะ...”
เย็นผลักหัวเปียออกมาแล้วมากอดน้อยปกป้อง
“ยัยน้อยต่างหากเป็นหลานฉัน และถ้าคุณหนูเปีย ทำอะไรหลานฉันอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“น้าเย็น” เปียอึ้ง
“กลับไปได้แล้ว แล้วอย่ามายุ่งกับยัยน้อยอีก ไป๊”
เปียมองเย็นโกรธ ได้แต่กระทืบเท้าร้องกรี๊ดๆวิ่งไปพร้อมกับเชือกสีแดงในมือ เย็นหันมาดุน้อย
“บอกแล้วใช่มั้ยให้สู้คนน่ะ”
“น้อยสู้เปียไม่ได้” น้อยเสียงเครือ
เย็นตบผลัวะ กรี๊ดใส่
“สู้ไม่ได้”
เย็นกระชากคอน้อยขึ้นมา
“แกรู้มั้ย ทันทีที่แกบอกตัวเองว่าเป็นคนแพ้ แกจะแพ้ไปตลอดชีวิต...เพราะฉะนั้นแกต้องสู้...ต่อให้เป็นหมาจนตรอก แกก็ต้องสู้ยิบตา”
เย็นผลักน้อยออก ตาเขียวปั้ด พูดเหมือนย้ำกับตัวเอง
“คนที่สู้...มันต้องชนะสักวัน”
เย็นหัวเราะหยัน น้อยมองเย็นกลัวๆ
บริเวณสวนบ้านอุทัย...เปียเดินมาอย่างโกรธจัด เตะหญ้า เตะต้นไม้ไปเรื่อย ในขณะที่มือกางเชือกออกรัดต้นไม้กระชาก ระบายอารมณ์แบบที่เย็นทำเธอ
“ก็เอาซี้...ถ้าแกไม่ไป แกเจอดีแน่ๆนังน้อย”
เปียรัดกิ่งไม้ดึงอย่างแรง กิ่งไม้หัก ประวิทย์เดินมาเห็นทั้งดีใจตกใจ
“คุณหนู”
เปียแว้ดใส่หมดเยื่อใย
“อะไร”
“คุณหนูถูกคุณท่านดุเรื่องที่หนีไปเที่ยวเหรอครับ ผมเป็นห่วง”
“ไม่ต้องมาห่วงฉัน ห่วงตัวเองดีกว่า”
เปียจะเดินไปอารมณ์เสีย ประวิทย์คว้ามือไว้
“คุณหนู”
เปียสะดุ้งโหยงรังเกียจ
“อย่ามาถูกเนื้อต้องตัวฉัน ฉันขยะแขยง ไปให้พ้นเลยนะ อย่ามายุ่ง”
ประวิทย์หน้าเสีย งง ไม่เข้าใจ เป็นห่วง
“จะไม่ให้ผมยุ่งได้ยังไง ในเมื่อเรารักกัน แล้วผมก็ห่วงมากๆ ที่คุณหนูไปเจอแท็กซี่หื่นกาม...เรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไงครับ หรือว่าเป็นแผนของคุณหนู”
เปียตาวาววับโกรธ
“แผน...แกหมายความว่ายังไง”
ประวิทย์พูดแบบซื่อๆ
“ก็ที่คุณหนูบอกผม น้าเย็นช่วยคุณหนูได้...ตกลงเรื่องที่ถูกแท็กซี่ฉุด เป็นแผนของคุณหนูกับน้าเย็นใช่มั้ยครับ”
ได้ยินอย่างนั้นเปียก็หน้าซีดเผือด กลัวความลับแตก ปรับสีหน้าทันทีมองซ้ายขวา ไม่มีใคร คว้ามือประวิทย์
“ไปคุยกันที่อื่นดีกว่าประวิทย์”
ในห้องของประวิทย์...เปียซุกหน้าลงกับอกประวิทย์ขณะที่มือก็เอาเชือกถักพันผมเอาไว้ พูดไปพันไป มีพิรุธ แต่ประวิทย์ไม่ได้มองหน้าเปีย เพราะเปียซุกอกออดอ้อน
“เปล่านะประวิทย์ ไม่ใช่แผน แต่เป็นเพราะเปียโชคร้ายเอง”
เปียตีหน้าเศร้าบีบน้ำตา
“พอเปียไปขอร้องให้น้าเย็นช่วยพูดกับคุณพ่อ น้าเย็นก็ใช้ให้เปียไปซื้อของ แล้วเปียก็เจอแท็กซี่...”
เปียทำท่าขมขื่นใจไม่อยากพูด
“อย่าให้เปียพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยนะประวิทย์ ยิ่งพูด มันก็ยิ่งเหมือนเปียถูกแท็กซี่ทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
เปียหันหน้าไปทางอื่น ปิดหน้าแกล้งสะอื้นฮักๆ ประวิทย์เข้ามากอดด้านหลัง
“ครับคุณหนูเปีย ผมจะไม่พูดไม่ถามถึงเรื่องนี้อีก แต่ขอให้คุณหนูรู้...ผมเสียใจมาก ที่ปกป้องคุณหนูไม่ได้ ทั้งๆที่เรารักกัน”
เปียอึกอักไม่อยากรักแล้ว ปลดมือออก
“อย่าพูดว่าเรารักกันอีกนะประวิทย์”
“ทำไมล่ะครับ”
“ตอนนี้ เปียยังไม่พร้อม เปียไม่อยากให้รักถ่วงชีวิต”
พูดจบเปียก็เดินฉับๆออกไป ไม่สนเลย ประวิทย์เหวอวิ่งตาม
หวานเดินมา ในมือมีกระจาดผักตามประสา แต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นเปียเดินเชิดๆ
ลงมาจากบ้านของประวิทย์ โดยมีประวิทย์วิ่งตามลงมา หวานหลบมุมแอบมอง ประวิทย์วิ่งมาขวางหน้าเปียถามงงๆ
“รักถ่วงชีวิต คุณหนูเปียแปลว่ายังไงครับ”
“ก็ถ่วงชีวิตไง เปียยังเด็ก เปียอยากเรียนหนังสือ ที่สำคัญ...ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้ ต้องโกรธแน่ๆที่เปีย ลดตัว ลงมารู้จักกับคนใช้ในบ้านน่ะ เราเลิกกันตั้งแต่วินาทีนี้เลยนะประวิทย์”
“คุณหนู” ประวิทย์ตกใจมาก
“ก็บอกแล้วไง ว่าเลิกกัน ...เข้าใจตรงกันด้วยนะ”
เปียเดินฉับๆไปแบบไม่แคร์ ประวิทย์ได้แต่มอง คาดไม่ถึงเสียใจ หวานรำพึงในใจ
“สงสัยมนต์รักข้าวหลามจะเสื่อมแล้ววุ้ย” หวานหัวเราะคิกคักรีบหลบไป
เปียหน้าตาบูดบึ้งหงุดหงิดมาตามทาง เตะต้นไม้ใบหญ้าไปเรื่อย
“ไอ้บ้าประวิทย์จะมาเซ้าซี้อะไรนักหนา คนยิ่งอารมณ์เสียอยู่ด้วย น่ารำคาญ”
เปียแก้เชือกถักที่พันผมออก เหวี่ยงเชือกทิ้ง วิ่งพรวดเข้าไปในบ้านขัดใจ เชือกถักสีแดงหล่นอยู่บนกอไม้ นมแสที่ทำงานอยู่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ถึงไม่รู้เรื่อง แต่เห็นกริยา ได้แต่ส่ายหน้าระอา
ในครัวหัวเราะกันยกใหญ่
“สงสัยจะจริงว่ะ มนต์รักข้ามหลามเสื่อมแล้ว แกดูประวิทย์สิ”
ช้อยบุ้ยใบ้ไปยังด้านนอกครัว ซึ่งประวิทย์กำลังตัดกิ่งไม้ยืนซึมอกหัก เอิบสงสัย
“เป็นไปได้ยังไง ประวิทย์กับคุณหนูก็เพิ่งหนีไปเที่ยวด้วยกันหยกๆ”
หวานยิ้มหยัน
“ได้ซี้...ในเมื่อคุณหนูคุณหนูลิ้มรสข้าวหลามแล้วจะเก็บบ้องมันเอาไว้ทำไม”
“พูดจาน่าเกลียดอีกแล้วนะ เดี๋ยวเถอะจะเป็นเรื่อง” จวนปราม
“ถ้าไม่มีคนคาบไปบอกคุณหนู มันก็ไม่มีทางเป็นเรื่อง” หวานดักคอ
จวนถลึงตาใส่
“ไม่ต้องมาเหน็บฉัน ยังไงฉันก็ไม่ใช่คนปากรั่วเหมือนแก ที่พูดเพราะอยากให้คิด จะได้ไม่ทำตัวเป็นขี้ข้านินทานาย”
“ถ้านายทำตัวไม่สมควร ขี้ข้าก็มีสิทธิ์จะนินทาโว้ย”
ช้อยเห็นด้วยกับหวาน
“ใช่ๆ ฉันยังจำภาพวันงานเลี้ยง ที่คุณหนูเปียกระโดลงมาในสระว่ายน้ำได้เลย ยิ่งกว่าดาวโป๊ซะอีก แถมมาอยู่ได้ไม่เท่าไหร่ ก็เข้าหาประวิทย์”
หวานยิ้มพราย
“คุณหนูต้องมีเป้าหมายใหม่แน่ๆถึงได้ทิ้งประวิทย์น่ะ และคนคนนั้นก็คือ...”
แล้วช้อยกับหวานก็พูดออกมาพร้อมกัน
“คุณเลอสรร”
สองคนหัวเราะ เอิบมองประวิทย์ซึมเศร้า
“เฮ้อ...น่าสงสารประวิทย์ ถูกกินแล้วทิ้ง ร้ายจริงๆผู้หญิงสมัยนี้”
จวนได้แต่ทำหน้าไม่สบายใจ กังวลห่วงไปซะหมด
ค่ำนั้น วณียืนอยู่ ท่าทางไม่สบายใจเรื่องที่เปียกลับคำเรื่องเลอสรร ขณะเดียวกันนั้น เปียเดินเข้ามายิ้มเจ้าเล่ห์รำพึงในใจ
“ยังไง ฉันก็จะหาทางเฉดหัวน้าเย็นกับนังน้อยไปจากที่นี่ให้ได้”
เปียเดินมากอดวณีประจบหอมแก้ม
“คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ”
วณียิ้มเอ็นดู
“ประจบแม่อย่างนี้ อยากได้อะไรรึเปล่าคะ”
“คุณแม่ให้เปียหมดแล้ว จนเปียไม่อยากได้อะไรแล้วล่ะค่ะ...เปียแค่เป็นห่วง”
“ห่วงเรื่องอะไรจ้ะ”
“ทำไมคุณพ่อถึงอยากให้น้าเย็นกับน้อยอยู่ที่นี่จังเลยคะ”
“ก็เพราะคุณพ่ออยากให้หนูมีเพื่อนไงลูก...หนูเองก็ติดน้าเย็น ขนาดวันที่มีเรื่องกับแท็กซี่..หนูยังไปหาน้าเย็นก่อนแม่เลย”
“โอ๋ๆคุณแม่อย่าน้อยใจนะคะ”
เปียอ้อน ปั้นเรื่องทันที
“ที่เปียไปหาน้าเย็น เพราะน้าเย็น เป็นคนใจร้าย เหี้ยมโหด สมัยอยู่ที่ต่างจังหวัด แค่แมวหลงมาย่องกินปลาทู น้าเย็นยังเอามีดสับคอแมวซะขาดเลยค่ะ”
วณีตกใจมาก
“คุณพระช่วย จริงเหรอลูก”
“จริงค่ะ น้าเย็นโหดมากเลยใช่มั้ยคะ คืนนั้นเปียโกรธ เลยอยากให้น้าเย็นไปจัดการไอ้แท็กซี่หื่นกามให้ แต่พอเห็นหน้าคุณแม่ที่ใจดี อ่อนโยน เป็นห่วงเปียมากที่สุด เปียก็รู้ว่าคิดผิด เพราะคนแรกที่เปียควรมาหาคือคุณแม่ค่ะ”
“โถ...ลูกแม่”
วณีกอดเปียเอาไว้แน่น เปียก็กอดตอบแน่นเช่นกันหน้าเจ้าเล่ห์
“ยิ่งคุณแม่ดีเท่าไหร่ เปียก็ยิ่งเป็นห่วง”
เปียถอนตัวออกมาสบตาวณี
“ห่วงว่าความดีของคุณแม่จะถูกคุณพ่อใช้เป็นเครื่องมือ”
วณีงุนงงกับคำพูดของเปีย
“แปลว่าอะไรลูก”
เปียลากมือวณีมาอีกมุม
“พูดก็พูดเถอะนะคะ...เปียกลัวคุณพ่อจะมีเยื่อใยกับน้าเย็นอยู่ เลยเอาเปียมาอ้าง ทั้งๆที่ความจริงแล้วคุณพ่อยังอยากสนุกกับน้าเย็น”
นมแสที่เดินถือนมเข้ามา ได้ยิน นมแสหลบมุมแอบฟังอย่างไม่ชอบใจ เปียตีหน้าเศร้า
“แต่จะโทษคุณพ่อฝ่ายเดียวก็ไม่ได้หรอกค่ะ...น้าเย็นเองก็เรียกร้องความสนใจจากคุณพ่อ...ถึงได้บอกแต่ว่าจะไปๆ ทั้งๆที่ไม่ได้อยากไป พอคุณพ่อคุณแม่ขอร้อง ก็เข้าทางน้าเย็น”
“คงไม่ใช่อย่างนั้นมั้งลูก”
“ป้องกันไว้ก่อนดีมั้ยคะ ให้น้าเย็นกับน้อยกลับบ้านนอกไป ก่อนที่คุณแม่จะเจ็บปวดเพราะคุณพ่อกับน้าเย็นค่ะ”
วณีอึ้ง เปียแอบยิ้มพอใจ นมแสมองเปียไม่พอใจ
วณีเดินออกมาเดินเล่นที่สนาม ท่าทางไม่สบายใจ นมแสเดินตามเอานมมาให้
“ดื่มนมอุ่นๆก่อนนอน จะได้หลับสบายนะคะคุณวณี”
“ขอบใจจ้ะนมแส แต่ฉันไม่ดื่มได้มั้ย ฉันดื่มไม่ลง”
“คุณวณีคิดมากเรื่องที่คุณหนูเปียมาบอกหรือคะ”
“นมรู้ได้ยังไง”
“พอดีเมื่อครู่จะเอานมมาให้คุณวณีดื่ม เลยได้ยินน่ะค่ะ...คุณวณีคะ เรื่องของคุณอุทัยกับเย็นเป็นอดีตไปแล้ว คุณต้องหนักแน่นให้สมกับการเป็นเมียแต่ง การเป็นภรรยา สะใภ้คนเดียวของคุณหญิงนะคะ”
“ฉันก็คิดอย่างที่นมบอกน่ะจ้ะ”
“แต่ถึงจะไม่ได้คิดอย่างคุณหนูเปีย ดิฉันก็ไม่อยากให้เย็นอยู่ที่นี่นะคะ...คนที่ดิฉันอยากให้อยู่ คือหนูน้อยคนเดียว ส่วนเย็น...ดิฉันอยากให้เขาไปค่ะ”
นมแสพูดจริงจัง สายตาไม่สบายใจ ท่าทางวณีเองก็ยังไม่สบายใจ
เช้าวันใหม่...อุทัยเดินตรงไปที่รถจะไปทำงาน ขณะยื่นหนังสือแบบให้เลอสรร ท่าทาง
เคร่งเครียดหน้ากลุ้มไม่สบายใจ
“เลอเอาไปดูเป็นreferenceนะ น้าอยากตกแต่งคอนโดของเราแบบนี้”
เลอสรรรับหนังสือ
“ครับ”
อุทัยมองอ่อนโยน
“เลออย่าถือสายัยเปียนะ น้องไม่ได้รังเกียจเลอ แกแค่กลัวถูกแย่งความรัก”
“ผมเข้าใจครับ อีกอย่าง...ตอนนี้น้องก็อยากให้ผมอยู่ด้วยแล้ว น้องคงไม่มีอะไรกับผมแล้วครับ”
“กับเลอ อาจจะไม่มีอะไร แต่กับประวิทย์น่ะสิ ถึงที่ผ่านมาประวิทย์จะเป็นเด็กดี ยังไงน้าก็ไม่สบายใจอยู่ดี”
วณีพูดขึ้น
“น้าก็ไม่สบายใจ แต่จะให้น้าไปพูดไปเตือน น้าก็เกรงว่าประวิทย์จะน้อยใจ เดี๋ยวจะคิดมาก ว่าเป็นคนอาศัย ทั้งๆที่ใจจริง น้าไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย”
“งั้น...ผมจะไปเตือนประวิทย์ให้นะครับ ต่อให้น้องเปียบังคับ ขู่เข็ญยังไงก็ห้ามประวิทย์ทำตามน้องเปียอย่างเด็ดขาด”
“ขอบใจมากเลอ”
วณีหันมาถามอุทัย
“แล้วตกลงพี่อุทัย...จะยังไง เรื่องน้อยกับเย็นคะ”
“จริงๆพี่ก็ไม่อยากขัดใจลูก แต่พี่ก็ไม่อยากตามใจ พี่กลัวลูกจะเสียนิสัย วณีก็เห็น ยัยเปียเป็นเด็กที่ชอบพูดเอาดีใส่ตัว ตอนที่อยากให้เราทำห้องใหม่ ก็อ้างว่าเพื่อหน้าตาของพ่อแม่”
“แปลว่า...”
“พี่จะไปขอร้องให้เย็นกับน้อยอยู่ต่อ”
ถึงจะอยากให้น้อยอยู่ แต่พอได้ยินอย่างนั้น วณีก็หน้าซีด เลอสรรเห็นรีบบอกอุทัย
“น้าอุทัยครับ ให้ผมไปดีกว่านะครับ”
เลอสรรมองหน้าวณี อุทัยเห็นก็เข้าใจ
“งั้นเลอช่วยพูดกับเย็นให้น้าหน่อยนะ”
“ครับ”
เลอสรรเดินไป อุทัยกับวณีเดินขึ้นรถไปด้วยกัน เปียเดินออกมาจากมุมหนึ่งของบ้าน พอเห็นสองคนขับรถออกไปก็ยิ้มพอใจ ร้องเรียกตะโกน
“พี่เลอสรรขา...พี่เลอสรร”
เปียวิ่งไปหา นมแสแอบมองอยู่นานแล้ว มองเปียไม่พอใจมากขึ้นทุกวัน
เปียวิ่งตามเลอสรรไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเลอสรรคุยกับประวิทย์ที่หน้าบ้าน สองหนุ่มหน้าซีเรียสแต่เปียยิ้ม
“ผู้ชายสองคนต้องคุยกัน แย่งเราแน่ๆเลย”
เปียหัวเราะคิก แล้วตกใจเมื่อนึกได้
“แล้วถ้าประวิทย์บอกพี่เลอสรร เรื่องเราเข้าหาล่ะ”
เปียกังวลมาก
เปียค่อยๆย่องเข้าไปจนตัวแนบชิดติดบ้านประวิทย์ แอบฟัง แล้วก็ได้ยินเลอสรรพูด
“นายเข้าใจใช่มั้ย...ที่ฉันขอร้อง”
ประวิทย์หน้าเจื่อน
“ครับคุณเลอ...ต่อไป ผมจะไม่ไปไหนมาไหนกับคุณหนูเปียอีก”
“ขอบใจมาก”
เลอสรรเดินไป ประวิทย์ซึม แต่เปียยิ้มปากแทบฉีกถึงหู เดินผละมาพร้อมหัวเราะคิกคัก
“พี่เลอสรรต้องหึงเราแน่ๆเลย ดีล่ะ”
เปียดีดนิ้วเปาะ คิดอะไรออก
อ่านต่อหน้า 4
คมพยาบาท ตอนที่ 6 (ต่อ)
เปียมาหาอุทัยที่บริษัท อุทัยถามพร้อมรอยยิ้มหยันปนเสียใจ
“ตกลงที่มาหาพ่อกับแม่ถึงที่นี่ เพราะอยากจัดงานเลี้ยงต้อนรับเลอสรร”
เปียแอ๊บหวาน
“ใช่ค่ะ...เปียรู้สึกผิด รู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดีเลย ที่ตอนแรกเปียตั้งแง่รังเกียจพี่เลอสรรว่าความอิจฉา เลยอยากจะไถ่โทษพี่เลอสรรน่ะค่ะ”
“พ่อก็นึกว่าเราอยากมาเรียนรู้งานที่บริษัท” อุทัยหัวเราะ
“จะเรียนรู้งานได้ยังไงล่ะคะ เปียเรียนจบแค่ม.6”
“งั้นก็เรียนต่อสิลูก พ่อเคยบอกให้หนูเรียนแล้ว หนูก็ไม่เรียน”
“ไม่ใช่ไม่เรียน แต่เปียขอพักก่อนสักปีสองปี”
“ไม่ได้ พ่อให้หนูพักแค่ปิดเทอมนี้ เทอมหน้าหนูต้องเรียนต่อมหาวิทยาลัย”
“ก็ได้ค่ะ แต่คุณพ่อ คุณแม่ต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับพี่เลอสรรให้เปียนะคะ เปียอยากแสดงโชว์ให้พี่เลอสรรเป็นของขวัญ”
“โชว์อะไรลูก” วณีแปลกใจ
“ไม่บอก” เปียยิ้มมีนัย
อุทัยมองหน้า
“หวังว่าคงไม่ใช่โชว์แบบงานวันที่พ่อเลี้ยงต้อนรับหนูนะ”
“โชว์อะไรคะ” เปียลืมไปแล้ว
อุทัยพูดนิ่งๆแบบรู้ทัน
“ก็กระโดดลงสระว่ายน้ำทั้งชุดนอนไง”
เปียเดินฉับๆแบบโกรธมากออกมาจากออฟฟิศ โดยมีวณีวิ่งตามร้อนใจ
“จะรีบไปไหนลูกเปีย”
“กลับบ้านน่ะสิคะ...ในเมื่อคุณพ่อคิดว่าเปียสร้างเรื่อง เปียจะทำทำไม...ในเมื่องานคืนนั้นเปียอายจะตาย ที่เปียโป๊”
เปียทำบีบน้ำตาพูดเหมือนจะอายแต่หน้าภูมิใจ
“ทุกคนเห็นรูปร่างส่วนสัดของเปียหมดเลย”
“คุณพ่อแค่พูดเล่น”
“ไม่จริงค่ะคุณพ่อพูดจริง”
เปียตีอกชกหัวไม่อายคน
“รู้งี้คืนนั้น...เปียให้คนร้ายมันฆ่าปากคอเปียไปซะก็ดี”
“ไม่เอาลูกอย่าพูดอย่างนี้”
เปียยิ้มทันที
“งั้นคุณแม่ต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับพี่เลอสรรนะคะ”
“จ้ะ...”
วณีรับคำตามองเปียสงสัย เปียเปลี่ยนอารมณ์เร็วมากผวากอด
“เปียรักคุณแม่ที่สุดเลย”
วณีกอดตอบ แต่ไม่สบายใจกับท่าทางของเปีย
เปียวิ่งอย่างดีใจมากเข้ามาในบ้านตะโกนลั่น
“พี่เลอสรรคะ พี่เลอสรร”
เงียบ ไม่มีเลอสรร เปียวิ่งไปที่ห้องนอนของเขาเปิดทันที
“พี่เลอสรรคะ...”
เปียชะงัก เมื่อมองเข้าไปในห้อง เลอสรรไม่อยู่ เธอจะเข้าไป...รูปน้อยอยู่บนโต๊ะทำงานของเลอสรร แต่เปียไม่เห็น นมแสผ่านมา
“คุณเลอสรรไม่อยู่ค่ะ”
เปียเดินออกมาจากห้องถามเสียงห้วน
“พี่เลอสรรไปไหน”
“ไม่ทราบค่ะ”
“เป็นคนใช้ ทำไมถึงไม่ทราบ”
“เพราะนายไม่ได้บอก และคนใช้ก็ไม่ควรแส่เรื่องเจ้านายค่ะ”
นมแสปิดประตูห้องให้เลอสรรก่อนเดินไป ทิ้งให้เปียค้อนหน้าคว่ำอยู่ตรงนั้น
เปียเดินกระฟัดกระเฟียดเข้ามาในสวน โกรธนมแส
“นังแก่นี่ สักวันมันจะไม่ได้ตายดี”
แมวเดินมา เปียยกเท้าเตะอย่างแรง แมวกระเด็น เปียสะใจ
“สมน้ำหน้า ว่าแต่พี่เลอสรรไปไหนเนี่ย จะบอกเรื่องงานเลี้ยงสักหน่อย”
เลอสรรเดินตรงไปที่บ้านของเย็น ใจร้อนรนเป็นห่วงน้อย
“คุณเลอสรร” น้อยเห็นเลอสรรก็ตกใจ
น้อยมองเข้าไปข้างในกลัวเย็นเห็น รีบเดินลงมา
“มีอะไรคะ”
“พี่ไม่อยากให้น้อยไปเลย คุณน้าทั้งสองก็เหมือนกัน อยากให้น้อยอยู่...น้อยอย่าไปเลยนะ”
เย็นได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันก็นิ่วหน้าเดินออกมา น้อยสบตาเลอสรร เห็นความอาวรณ์ ก็เศร้า
“น้อยแล้วแต่น้าเย็นค่ะ”
“พี่จะบอกกับน้าเย็นเอง ว่าทุกคนอยากให้น้อยกับน้าเย็นอยู่ที่นี่”
เลอสรรจะขึ้นไป น้อยกลัว รีบขวาง
“อย่าค่ะคุณเลอสรร น้อยกลัวน้าเย็นโกรธ”
“น้อยห้ามพี่ไม่ได้หรอก...ในเมื่อพี่อยากให้น้อยอยู่ที่นี่ พี่ก็ต้องคุยกับน้าเย็น”
เย็นยิ้มเดินออกมาพูดเย้ยๆ
“ขนาดเป็นแค่ลูกบุญธรรม นิสัยคุณเลอสรรช่างเหมือนกับคุณกับอุทัย ราวกับโขลกกันออกมาเลยนะคะ”
เลอสรรมองสบตาเย็นไม่กลัว อยากรู้เย็นจะพูดอะไรต่อ เย็นเดินมาเผชิญหน้าเลอสรร
“อยากได้อะไรต้องได้”
เลอสรรไม่กลัว
“สิ่งที่ผมอยากได้ ไม่ได้มีอะไรเสียหาย คือความปรารถนาดี”
เย็นยิ้มรู้ทัน
“แต่มันคือขั้นแรกไงคะ...ขั้นแรกที่ทำให้ผู้หญิงตายใจ และหลังจากนั้น มันก็คือความขมขื่น เพราะว่าผู้ชายจะทำทุกอย่าง จนได้ และพอได้ ก็ทิ้ง ทิ้งแบบไม่แคร์ ลืมไปเลยคำว่า ลูกผู้ชายมันเป็นยังไง”
“ผมเป็นลูกผู้ชายเสมอ”
เย็นหัวเราะหยัน
“คุณอุทัยเคยพูดกับดิฉันอย่างนี้ค่ะ แต่สุดท้ายเป็นไง คุณเลอสรรก็น่าจะรู้ดี...กลับไปเถอะค่ะอย่ามายุ่งกับยัยน้อย”
“ผมแค่อยากให้น้อยกับน้าเย็นอยู่ที่นี่ต่อ”
“งั้นคุณสบายใจได้ค่ะ”
เย็นเดินมากอดน้อย
“เพราะฉันกับยัยน้อยไม่ได้ไปไหน เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้วกลับไปได้หรือยังคะ”
เลอสรรรีๆรอๆมองน้อย เย็นปล่อยมือจากน้อย เดินมาเผชิญหน้ากับเลอสรรอีก
“ถ้าคุณไม่กลับไป ฉันจะถือว่า คุณคิดจะเดินตามรอย คุณอุทัย”
“งั้น...ผมกลับ ขอบคุณมากนะครับน้าเย็นที่ไม่พาน้อยไปจากพวกเรา”
เลอสรรยกมือไหว้เย็น มองน้อยตาละห้อยก่อนกลับไป น้อยมองตาม เย็นดุ
“มองเขาตาละห้อยเลยนะนังน้อย”
เย็นเดินกลับขึ้นไปบนบ้าน น้อยมองตามเย็นหน้าเสีย สลับมองเลอสรรที่เดินจากไป ก่อนเดินตามเย็นขึ้นไป
เย็นจะเดินเข้าห้อง น้อยเดินตามร้อนรนเกรงใจ
“น้าเย็นคะ”
เย็นไม่หันมาแต่ยกมือห้าม
“ไม่ต้องพูด ดูฉันเป็นตัวอย่างแล้วกัน” เย็นเสียงเครือเจ็บเมื่อนึกถึงตัวเอง “อย่าคิดว่าจะโชคดี ได้เป็นนางซินของเจ้าชาย คนอย่างเราถ้าเผลอใจ อย่างดีก็ได้เป็นแค่ของเล่นคนรวย”
เย็นเดินเข้าห้องปิดประตู น้อยมองเย็นสงสาร...เย็นน้ำตาไหลเสียใจ จนป่านนี้ยังทุกข์อยู่
ค่ำนั้น อุทัยทำงานไปด้วย ครุ่นคิดเรื่องเปียไปด้วย อุทัยกลุ้มหยิบมือถือมาโทร
“หมอเหรอ...ฉันมีเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวกับลูกสาวของฉัน ไว้จะไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลนะ”
มีเสียงเคาะประตูพร้อมกับเลอสรรเปิดประตูเข้ามา อุทัยบอกปลายสาย
“แล้วคุยกันนะหมอ”
อุทัยวางสาย ถามเลอสรร
“มีอะไรเลอ”
“น้าวณีให้ผมมาตามน้าอุทัยไปกินข้าวครับ”
อุทัยพยักหน้าเดินออกไปกับเลอสรร
ในห้องนั่งเล่น วณีนั่งดูทีวีอยู่ กับนมแส อีกมุมเลอสรรเดินมากับอุทัย
“เรียกให้พี่มากินข้าว แล้วไหงนั่งดูอะไรอยู่วณี”
“รายการรู้เหลี่ยมคนที่ตาเลอไปแสดงไงคะ”
นมแสเสริม
“คุณเลอแสดงได้เหมื้อนเหมือนคนจรจัด”
“ใช่...วันนั้นที่กลับมาบ้าน น้ายังจำเลอไม่ได้เลย”
เลอสรรหัวเราะ
“ออนแอร์วันนี้เหรอครับ ไม่ยักกะมีคนบอก”
เลอสรรกับอุทัย เข้าไปนั่งดูกับวณี ทุกคนหัวเราะขำกัน อุทัยย้ำอีก
“เล่นได้เหมือนกันจริงๆเลยตาเลอ”
เปียเดินเข้ามาทีหลัง
“ดูอะไรกันอยู่คะ...ไม่เห็นเรียกเปียบ้างเลย”
ไม่รอใครตอบ เปียมองดูภาพในทีวีเห็นเลอสรรในสภาพคนจรจัด เปียด่าทันที
“ไอ้นี่แหละค่ะ ไอ้คนจรจัดนี่แหละที่มันมาลวนลามเปีย ที่ท่ารถ”
ทุกคนหันขวับมามองเปีย เลอสรรเหวอเพราะไม่ได้ทำอย่างนั้น อุทัยถามซ้ำ งงๆ
“อะไรนะลูก”
เปียทำท่าขยะแขยงชี้ในทีวี
“ไอ้จรจัดนี่แหละค่ะที่มันจะลวนลามเปีย...เฮอะคงไปลวนลามคนอื่นอีกล่ะสิ ถึงได้ถูกกระทืบอย่างนั้นน่ะ”
วณีพยายามอธิบาย
“เปียจ๋า...มันละครจ้ะ...ละคร”
“ละคร” เปียงง
“จ้ะ...และคนที่ลูกกำลังด่าว่าไอ้คนจรจัด ก็นั่งอยู่นี่”
อุทัยมองมาทางเลอสรร เปียงง เลอสรรบอกเปียเสียงนิ่งๆ
“พี่เอง...พี่เล่นเป็นคนจรจัด”
เปียเหวอไปทันที
“พี่เลอสรรเล่นเป็นคนจรจัด”
น้อยกับเย็นนั่งดูทีวีด้วยกัน เย็นว่าขำๆหัวเราะปนเย้ย
“รายการรู้เหลี่ยมคนนี่ดีนะ...ทำให้เราได้รู้เหลี่ยมคนเลว ถึงแม้ชีวิตจริงอาจจะดูลำบาก เพราะคนที่เลว มักมีวิธีที่จะทำให้เราไม่รู้ว่าเขาเลว”
น้อยเงียบ เย็นหันไปมองก็เห็นน้อยนั่งจ้องในทีวี
“จ้องอะไรยัยน้อย”
“น้อยเห็นเรื่องนี้ก็วันที่เรามากรุงเทพครั้งแรก...ตอนแรกน้อยก็คิดว่าเรื่องจริงที่แท้ก็ละคร” น้อยทำหน้านิ่ว “แต่ยิ่งดู น้อยก็ยิ่งคุ้นหน้าคนเล่นเป็นคนจรจัดยังไงไม่รู้ค่ะ”
น้อยจ้องมองเลอสรรคนจรจัด นั่งดูชัดๆก็คุ้น แต่จำไม่ได้
นมแสดูแลตามปกติ ขณะที่เปียหัวเราะร่าอ้อนเลอสรร
“นี่ถ้าอยู่เมืองนอก พี่เลอต้องได้รางวัลออสการ์แน่ๆเลยค่ะ แสดงได้เหมื้อนเหมือนคนจรจัด จนเปียเข้าใจผิดเลย”
เลอสรรนิ่ง รู้ดีจริงๆเปียเป็นอย่างไร อุทัย วณี นมแส ทำหน้าเจื่อนๆ มีเปียร่าเริงคนเดียวแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เปียพูดต่อพร้อมกอดแขนเลอสรรอ้อน
“งั้นวันงานเลี้ยง...พี่เลอแสดงละครให้เปียดูนะคะ...นะค้า”
“งานเลี้ยงอะไรครับ” เลอสรรงง
เลอสรรมองวณีกับอุทัย
“ยัยเปียอยากจัดงานเลี้ยงต้อนรับเลอน่ะ” อุทัยบอกเอือมๆ
“ต้อนรับทำไมครับ” เลอสรรงงไปใหญ่
เปียกอดแขนแน่นเข้า ทำท่าอ้อนพี่ชาย
“ก็...ที่เราสองคนเป็นพี่น้องกันไงคะ”
เลอสรรแกะมือออกท่าทางอ่อนใจ
“ไม่เห็นจำเป็นเลยน้องเปีย”
“จำเป็นสิคะ...เปียดีใจที่มีพี่เลอ เปียอยากให้โลกรู้ว่าเปียรักพี่เลอ พี่ชายคนเดียวของเปีย”
ทุกคนอึ้งกับคำพูดของเปีย โดยเฉพาะนมแสแอบค้อนขวับ เลอสรรยิ้มอ่อยๆ
“ทำไมต้องให้โลกรู้ ในเมื่อเราก็มีกันอยู่แค่นี้”
เปียเอาแต่ใจ
“ไม่รู้ล่ะ...ยังไงเปียก็จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพี่เลอ”
วณีพูดแกมขอร้อง
“ตามใจน้องหน่อยนะจ้ะเลอ ถ้าเลอไม่อยากจัดใหญ่โต เป็นงานเลี้ยงเล็กๆภายในบ้านก็ได้จ้ะ”
เปียกอดแขนเลอสรรอีกอ้อน
“นะคะ...นะค้า” เปียดัดจริตมาก
นมแสเดินออกมาแบบฮึดฮัด ไม่พอใจมาก
“คนอะไร เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น แก่แดด กระแดะ ดัดจริต”
หวานกับช้อย ที่เดินเล่นแถวนั้นโผล่หน้ามา
“ต๊ายๆเกิดอะไรขึ้นคะ คุณนมถึงได้ด่าเป็นชุดขนาดนี้” หวานถามเสียงแจ๋น
นมแสตกใจ
“ด่าคนแอบฟังไง”
“ไม่ได้แอบนะ อย่างที่นมแสทำ เขาเรียกว่าตะโกนด่าเลยแหละ” ช้อยเถียง
“เก็บกดเรื่องอะไรคะคุณนม” หวานยิ้มเยาะ
“เดี๋ยวพวกเธอก็รู้เรื่องเองแหละ” นมแสหงุดหงิด
หวานกับช้อยมองหน้ากันอยากรู้
วันใหม่...คุณหญิงกับวณีเดินดูความเรียบร้อยในครัว คุณหญิงถามแปลกใจ
“ว่าไงนะ จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับตาเลอ”
ทุกคนในครัว ยกเว้นน้อยหันมามองสนใจ โดยเฉพาะประวิทย์ที่กำลังขัดล้างซิงค์อยู่ถึงกับหยุด มองใจระทึก
“ค่ะ...ลูกเปียอยากจัดเป็นของขวัญให้ตาเลอ แกดีใจมากเลยค่ะที่มีพี่ชาย”
ประวิทย์หน้าเศร้า รู้ดีว่าไม่จริง หวานกับช้อยมองหน้ากันอมยิ้มแบบรู้ทัน
“อยากจัดก็จัด ดี พี่น้องจะได้รักใคร่ กลมเกลียวกัน แต่ไม่ต้องเชิญแขกเหรื่อมานะ แม่กลัวจะเกิดเรื่องอย่างวันเลี้ยงต้อนรับยัยเปีย”
หวานโพล่งออกมา
“ที่คุณหนูเปียกระโดดลงมาจากห้องลงสระว่ายน้ำเหรอคะ”
“หวาน” จวนติงเสียงดุ
หวานยกมือไหว้ เสียงอ่อยๆ
“ขอโทษค่ะ...แต่มันเป็นภาพจำ นึกถึงคุณหนูเปียทีไร...หวานจำภาพวันนั้นได้ทุกทีเลยค่ะ”
คุณหญิงไม่ได้ว่าอะไร เดินหน้าบึ้งออกไป ตามด้วยวณีที่หน้าจ๋อย
คุณหญิง เดินนำวณีมาท่าทางไม่สบายใจเอามาก
“เห็นมั้ยวณี อะไรที่ทำลงไปแล้ว ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน คนมันก็ยังเอามาพูดถึง”
“แต่ลูกเปียไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนั้นนะคะ...” วณีหน้าจ๋อย
“ไม่ตั้งใจ แต่ก็ไม่ได้ระวัง แม่คิดถึงเรื่องวันนั้นแม่อายทุกที ไหนจะเรื่องยัยเปียถูกแท็กซี่ลวงไปปล้ำอีก บอกตรงๆแม่ไม่เคยคิดเลย ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับอนุรักษ์ธานิน”
วณีเงียบ จ๋อยพูดไม่ออก ขณะที่คุณหญิงว่าต่อ
“เป็นเพราะนังเย็นคนเดียว ที่มันเลี้ยงหลานแม่ จนสันดานเหมือนกับเป็นไพร่ ไพร่เหมือนกับมัน”
น้อยในชุดนักเรียนเรียบร้อยเดินผ่านมากับเย็น พอเย็นเห็นคุณหญิงก็ยกมือไหว้ ท่าทางเย็นชา น้อยไหว้นอบน้อม คุณหญิงแว้ดใส่เย็นทันที
“ถ้าไม่พอใจจะไหว้ ก็ไม่ต้องไหว้”
“ขอบคุณที่บอกค่ะ” เย็นยิ้มยั่ว
“นังเย็น...แก นังไพร่”
“คุณหญิงโกรธดิฉันทำไมคะ ในเมื่อคุณหญิงบอก ดิฉันก็รับทราบต่อไปเจอคุณหญิงเมื่อไหร่ ดิฉันจะได้ไม่ต้องไหว้อีก”
“นังเย็น”
คุณหญิงทำท่าจะปราดเข้าหา วณีรีบห้าม
“อย่าค่ะคุณแม่ เลิกยั่วคุณแม่ได้แล้วเย็น”
“ยั่วอะไรคะ ดิฉันอุตส่าห์ทำตามใจแท้ๆ คุณหญิงยังมาโกรธอีก ผู้ดีนี่เอาใจยากจัง เฮ้อ”
เย็นยิ้มมอง คุณหญิงมองเย็น สายตาท้าทายกันอยู่ในที วณีพูดเลี่ยงไป
“แล้วนี่ไปไหนมาจ้ะน้อย”
“ไปรายงานตัวค่ะ น้อยสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว”
คุณหญิงมองน้อยทึ่ง วณียิ้ม
“ดีใจด้วยนะจ้ะ...นี่...คืนนี้จะมีงานเลี้ยง น้อยมาด้วยนะ ถือว่าฉันเลี้ยงฉลองให้น้อยด้วย”
คุณหญิงมองเย็น
“ฉันอนุญาตให้ยัยน้อยมาคนเดียว ส่วนแกไม่ต้องมา”
“ค่ะ”
เย็นมองหน้ายั่วๆ คุณหญิงมองโกรธ อยากจะย้ำ
“ฮื้อ!แกนี่มันเหลือเกินจริงๆนังเย็น”
เย็นยิ้มไม่รู้สึกรู้สาอีก สองคนสบตาท้าทาย วณีกับน้อย หน้าเสีย กับท่าทีของสองคน
เย็นเดินหัวเราะเข้ามาในบ้าน วางของลงพลางพูดแบบสะใจ
“ทำท่ารังเกียจฉันนักคุณหญิงเอ๊ย คอยดูเถอะ คุณหนูเปียหลานรักมันจะเป็นยิ่งกว่าฉัน ถึงตอนนั้น คุณหญิงจะรู้ ว่าไพร่ตัวจริงเป็นยังไง”
“ทำไมน้าเย็นถึงเกลียดคุณหญิงนักคะ”
“เพราะคุณหญิงชอบดูถูกฉัน ทั้งที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่กลับดูถูกกัน เหยียดหยามกันเอง แล้วก็ให้ท้ายลูกชายตัวเอง โดยไม่รู้ผิดรู้ถูก ฉันเลยอยากจะรู้นัก ถ้าหลานคนเดียวของคุณหญิง อย่างนังเปีย มันสันดานเลว คุณหญิงจะเป็นยังไง”
เย็นยิ้มเหยียดริมฝีปากออก ดวงตาร้าย น้อยมองเย็นไม่สบายใจเลย
ในครัว...ประวิทย์ถามหวานอย่างอยากรู้
“คุณหนูโดดลงมาแล้วมันเป็นยังไงน้าหวาน”
“ก็โป๊สิยะ...”
“ไม่ใช่โป๊ธรรมดา โป๊มาก แกคิดเอาแล้วกันประวิทย์ ชุดนอนสีขาวพอถูกน้ำมันจะเป็นยังไง”
ช้อยเสริม ประวิทย์หน้าซีดขณะที่หวานพูดต่อ
“ฉันว่างานเลี้ยงพรุ่งนี้ คุณหนูเปียต้องทำอะไรสนุกๆให้พวกเราเก็บเอามานินทาอีกแน่ๆเลยว่ะ” หวานหัวเราะ
“โธ่เอ๊ย!คุณหนูเปีย”
จวนไม่รู้จะว่ายังไง เพราะเห็นด้วย เปียทำตัวเอง
วันใหม่...อุทัยเดินเร็วตามนิสัยนักธุรกิจ วณีเดินตาม
“ตกลงงานเลี้ยงเย็นนี้จัดที่ไหนดีคะพี่อุทัย”
“ตรงไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่สระว่ายน้ำ พี่กลัวยัยเปียจะคิดอะไรแผลงๆแล้วกระโดดลงสระว่ายน้ำอีก พี่ไปเคลียร์งานที่ออฟฟิศก่อน เดี๋ยวมา”
อุทัยเดินไป วณียืนอึ้ง รู้ว่าถูกประชด
หวาน ช้อย ประวิทย์ เอิบ จัดแต่งงานปาร์ตี้ที่สนามหน้าบ้าน เปียเดินเง้างอดกอดแขนวณีมา
“ทำไมไม่จัดตรงสระว่ายน้ำคะคุณแม่”
วณีหน้าแหย คิดถึงคำพูดอุทัย
“ตรงสนามนี่แหละจ้ะกว้างดี”
เลอสรรเดินเข้ามาหน้าตาไม่แสดงว่าดีใจ เปียเห็นก็หัวเราะคิก
“สนามก็ดีค่ะ..เปียจะได้ร้องเพลงให้พี่เลอฟัง”
เลอสรรไม่ได้ยิน แต่ประวิทย์ที่ติดลูกเล่นงานเลี้ยงอยู่แถวนั้นได้ยินก็ยิ่งเสียใจหนักเมื่อเห็นเปียวิ่งไปหาเลอสรรกอดแขน
“พี่เลออยากฟังเพลงอะไรคะ เดี๋ยวเปียร้องให้ฟัง”
มุมหนึ่งของสนาม ประวิทย์น้ำตาคลอเสียใจ เอิบเดินเข้ามาหาปลอบ
“อย่าเสียใจเลยนะประวิทย์ เราเป็นแค่คนใช้ คุณหนูเขาไม่มองหรอก”
“ผมรู้ครับ แต่ผมก็อดเสียใจไม่ได้ ยิ่งคิดถึงวันที่คุณหนูอยู่กับผม บอกรักผม ผมก็ยิ่งเสียใจ”
เอิบเอามือตบไหล่ๆ
“โถๆ น่าสงสารจริงๆ ว่าแต่...แกยังไม่ได้เสียอะไรให้คุณหนูใช่มั้ย”
เย็นที่เดินมาส่งน้อยผ่านมาได้ยิน สองคนหยุดฟัง ประวิทย์งง
“เสียอะไรครับ”
“ก็เสียตัวไง” เอิบยิ้มแซวขำ
ประวิทย์หน้าตาเหลอหลา ตกใจ
“เปล่าครับเปล่า ผมกับคุณหนูไม่เคยมีอะไรกัน”
“ดีแล้ว...งั้นที่ถูกคุณหนูลวนลามไปนิดๆหน่อยๆก็ช่างมันเถอะ อย่าคิดมาก คราวต่อไปจะคบใครก็ดูหน้าดูหลัง อย่าให้ผู้หญิงคนไหนมาหลอกกินฟรีอีก”
เย็นกลั้นหัวเราะแทบแย่ ในขณะที่น้อยหน้าแหยอายแทน
เย็นระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า
“โอ๊ย...ฉันอยากจะหัวเราะให้พวกอนุรักษ์ธานินได้ยินจริงๆ คุณหนูสก๊อยเปียเป็นผู้นำเทรนด์กินผู้ชายแล้วทิ้ง” เย็นหัวเราะอีก
“น้าเย็นอย่าบอกใครนะคะ ไม่อย่างนั้น เปียเสียหายแน่ๆ”
“ไม่มีใครทำให้นังเปียมันเสียหายได้หรอก นอกจากมันทำตัวเอง แกไปงานเลี้ยงเลยน้อย แล้วกลับมาเล่าให้ฉันฟังด้วย ว่างานคืนนี้ นังเปียมันฉีกหน้าพ่อแม่มัน ย่ามันยังไง” เย็นหัวเราะสะใจ
ภายในงาน กลางแจ้ง เป็นงานเลี้ยงเก๋ๆในสวน ทุกคนนั่งปกติ ยกเว้นเปียที่กรี๊ดกร๊าดสนุกอยู่คนเดียว
“วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองต้อนรับพี่เลอ พี่ชายคนเดียวของเลอ เปียขอมอบเพลงนี้ให้พี่เลอนะคะ” เปียดีดนิ้วทำท่าสก๊อย “มิวสิค”
คุณหญิงอนุรักษ์มองๆ
“สงสัยยัยเปียจะร้องเพลงพี่ชายที่แสนดีให้ตาเลอแน่ๆเลย”
นักดนตรีเล่นเพลง “บอกตรงๆรักจังเลย” ของเชอรีน ทุกคนมองหน้ากัน เปียจับไมค์ร้องเพลงเดินไปหาเลอสรร ทำท่าเต้นเหมือนในมิวสิค แต่ส่งสายตาเจ้าชู้ จีบเต็มที่ โดยเฉพาะท่อนฮุค เปียเดินมาร้องตรงหน้าเลอสรรสบตาแล้วเดินอ้อมไปอ้อมมา ไม่ไปไหน เลอสรรกระอักกระอ่วน ประวิทย์เสียใจ เหล่าคนงานมองตากันแอบหัวเราะคิก นมแส รู้ทันเปีย คุณหญิง อุทัย วณี หน้าเหวอ
“ทำไมยัยเปียร้องเพลงนี้” คุณหญิงถามอย่างไม่พอใจ
วณีหน้าแหยแก้ตัวแทน
“เพลงฮิตมั้งคะคุณแม่”
คุณหญิงหงุดหงิด
“แต่มันไม่เข้าท่า...”
“แกคงแค่อยากสนุกเท่านั้น ปล่อยแกสักวันนะคะ...”
คุณหญิงฮึดฮัด ไม่พอใจไม่ได้ไม่พอใจเปีย แต่ไม่พอใจเพลง เปียร้องจบลั้นลา
“เพราะมั้ยคะพี่เลอ”
เลอสรรเจื่อน เกรงใจอุทัยกับวณี
“จ้ะเพราะจ้ะ”
“งั้นต่อไป...พี่เลอร้องเพลงให้เปียฟังนะคะ...นะค้า...”
เลอสรรอึกอักไม่อยากร้อง เปียก็คะยั้นคะยออยู่อย่างนั้น
เย็นเดินออกมาเห็นน้อยนั่งอยู่
“กลับมานั่งอยู่ทำไม ไปสิ...เขาอุตส่าห์อยากให้แกไปสนุกด้วย รีบไป”
“น้อยไม่อยากไปเลยค่ะ”
“แต่แกต้องไป ไปดูแล้วมารายงานให้ฉันฟังด้วย...นังเปียมันแผลงฤทธิ์อะไร”
“ก็ได้ค่ะ”
น้อยทำหน้าเซ็ง ไม่อยากไป แมวเดินมา น้อยเห็นก็ดีใจ
“ฝ้าย...” น้อย “ป่ะ...ฝ้ายไปด้วยกัน ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย”
น้อยอุ้มแมวเดินไป เย็นมองตามยิ้มร้าย แอบเดินตามน้อยไป
เปียคะยั้นคะยอเลอสรร
“เปียร้องเพลงให้พี่เลอฟังแล้ว พี่เลอร้องเพลงให้เปียฟังหน่อยนะ...นะค้า”
น้อยเดินอุ้มแมวเข้ามา เลอสรรเห็น แต่เปียไม่เห็นเพราะน้อยนั่งอยู่วงนอกในกลุ่มคนงาน เลอสรรมองน้อยพยักหน้าบอกเปีย
“ได้...เดี๋ยวพี่ร้องให้ฟัง”
เปียกรี๊ดโอเวอร์อยู่คนเดียว
“แอร้ย...พี่เลอใจดีที่สุดเลย ร้องเลยค่ะร้องเลย”
เลอสรรเดินไปหยิบกีตาร์จากนักดนตรี แล้วเล่นเพลง “อาย”ของสิงโต เลอสรรร้องเพลงไปมองหน้าน้อยไป น้อยเขินหลบตา เปียมองแต่หน้าเลอสรร ทำท่าบิดไปมารำพึงในใจ
“พี่เลอร้องเพลงจีบเราแน่ๆเลย”
เปียบิดไปใหญ่ แต่ตามองเลอสรรเจ้าชู้ คุณหญิง วณี อุทัยมองหน้าเปีย สายตาผู้ใหญ่ทุกคนรู้เปียชอบเลอสรร
เลอสรรกับน้อยสบตากันสองคนเหมือนรู้มีใจต่อกัน ณ มุมๆหนึ่งเย็นแอบมองอยู่ สายตาที่มองเปียให้ท่าเลอสรร สะใจ เย็นรำพึงในใจ
“แล้วคุณจะรู้...ว่าลูกสาวคุณที่ชื่อนังเปีย มักมากเหมือนคุณนั่นแหละคุณอุทัย”
ทุกคนเดินกลับเข้ามาในบ้าน เช่นเคยมีเปียดี๊ด๊าอยู่คนเดียว
“พี่เลอสรรร้องเพลงให้เปียเพราะที่สุดเลยค่า...”
ทุกคนเลือกที่จะนิ่ง วณีหันไปทางด้านหลังมอง
“ให้นมแสไปตามน้อย ทำไมป่านนี้ยังไม่มาอีก”
เปียหันขวับมามองตาเขียว
“ตามน้อยมาทำไมคะ”
“ก็น้อยสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แม่เลยให้น้อยมางานเลี้ยงด้วย แต่ฟังหนูกับตาเลอร้องเพลงซะเพลิน ไม่ได้คุยกับน้อยเลย”
นมแสเดินมากับน้อย ในมือน้อยอุ้มแมวมาด้วย เลอสรรมองน้อยยิ้ม อุทัยหันไปเห็น
“นั่นไงมาแล้ว”
“คุณวณีมีอะไรให้น้อยรับใช้คะ”
“ไม่มีหรอกจ้ะ...มีแต่จะให้รางวัลที่น้อยสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ” น้อยเกรงใจ
“น่านะ...” อุทัยยิ้ม
เปียตาเขียวปั้ด นาทีนั้นมองแต่น้อยตาแทบหลุด ไม่ได้มองเลอสรร
“น้อยไม่ต้องการอะไรจริงๆค่ะ”
“งั้นถ้าเป็นฝ้ายล่ะ น้อยอยากได้รึเปล่า”
น้อยมองวณีดีใจ วณีพูดต่ออาทร
“ฉันเห็นน้อยรักฝ้ายมาก งั้นฉันยกฝ้ายให้เป็นของน้อย น้อยตกลงมั้ยจ้ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณ” น้อยยิ้มกอดแมวดีใจ
เปียค้อน ด่าในใจ
“ทำเป็นรักสัตว์ มักน้อย นังดัดจริตเอ๊ย”
เปียเดินเข้ามากอดวณี เลอสรร บอกอ้อน
“คุณพ่อ คุณแม่ พี่เลอสรร เปียเหนื้อยเหนื่อย เข้าไปพักผ่อนกันเถอะค่ะ
“จ้ะๆ” วณีพยักหน้ารับ
“ไปค่ะพี่เลอสรร”
เปียลากเลอสรรเข้าไป เลอสรรไม่อยากมีเรื่อง ตามไป ทั้งที่ตามองน้อย อุทัยมองน้อยเอ็นดู
“ขอให้หนูน่ารักอย่างนี้ตลอดไปนะน้อย”
น้อยยกมือไหว้อุทัย กอดแมวอย่างมีความสุข
น้อยเอาข้าวให้แมวกิน เย็นเห็นก็ว่า
“อยู่ดีไม่ว่าดี ไปหาเหาใส่หัวอีก”
“น้อยรักฝ้ายค่ะ”
“ฉันรู้ แต่เวลาที่แกไปร่ำไปเรียนล่ะ ใครจะเลี้ยงนังฝ้าย”
“ก็น้าเย็นไงคะ น้อยรู้ น้าเย็นชอบสัตว์เหมือนกัน”
เย็นเดินมานั่งเล่นกับแมวด้วย
“ใช่ เพราะสัตว์มันซื่อสัตย์ ไม่เหมือนคน ที่ขนาดเรารัก ภักดีขนาดไหน สุดท้ายก็หันมาแว้งกัด มาทำร้ายเราวันยังค่ำ”
“น้อยไม่อยากให้น้าเย็น คิดเรื่องเก่าๆที่มันทำให้น้าเย็นเจ็บเลย”
“ฉันก็ไม่อยากคิด แต่ทำยังไงได้ล่ะน้อย ยิ่งลืม มันก็ยิ่งจำ และยิ่งจำมันก็ยิ่งเจ็บและแค้น แต่ฉันมั่นใจ ต่อไป...คนที่เจ็บไม่ใช่ฉันแน่นอน”
อุทัยยืนถอนหายใจเฮือกๆ วณีเดินมาหา
“คิดอะไรอยู่คะพี่อุทัย”
“คิดเรื่องลูก”
“พี่อุทัยกำลังจะว่าอะไรลูกเปียอีก”
“พี่ไม่สบายใจ สายตาที่ยัยเปียมองตาเลอไม่ใช่สายตาของน้องสาวมองพี่ชาย แต่เป็นสายตาของผู้หญิงมองผู้ชาย”
วณีอึ้ง จริงๆก็รู้สึกเหมือนกัน
เปียในชุดนอนสีขาวเป็นชุดกางเกงเซ็กซี่ยืนหน้ากระจก มองตัวเองพอใจ
“ชอบเปียก็ไม่บอก สวยเซ็กซี่ขนาดนี้ พี่เลอสรรไม่มอง ก็ให้มันรู้ไป”
เปียยิ้ม สายตาพึงใจเลอสรรมาก
เลอสรรนั่งเปิดดูหนังสือที่อุทัยให้ เตรียมงาน เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ครับ”
เลอสรรลุกมาเปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิดออก เปียที่อุ้มตุ๊กตาก็โผล่หน้ามา ยื่นตุ๊กตาหาเลอสรรทำท่าน่ารักๆ
“จ๊ะเอ๋”
เลอสรรผงะเพราะไม่ทันตั้งตัวขณะที่เปียก้าวเข้ามาในห้อง โดยการเอาตุ๊กตารุกใส่หน้าเลอสรร ทำเสียงหยอกล้อน่ารักๆ เอาตุ๊กตาใส่หน้าเลอสรร
“งิๆ นี่แน่ะๆ”
“อย่าน้องเปีย มีธุระอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีธุระหรอกค่ะ น้องสาวแค่จะมาบอกว่าพี่ชายร้องเพลงได้เพราะมาก มากที่สุด ท่าทางพี่เลอต้องถอดหัวใจร้องแน่ๆเลย”
“ใช่...พี่ถอดหัวใจร้อง”
เปียหัวเราะคิกคักนึกว่าถูกจีบ กระโจนขึ้นไปนั่งกึ่งนอนบนเตียงพร้อมตุ๊กตา ทำไร้เดียงสา
“เตียงพี่เลอนุ่มจังเลย...มานั่งด้วยกันสิคะพี่เลอ มาค่ะมาเล่นตุ๊กตากัน เปียอยากเล่นกับพี่เลอน้า”
“อย่าทำอย่างนี้น้องเปีย มันไม่เหมาะ”
“น้องสาวมาเล่นกับพี่ชาย ไม่เหมาะตรงไหนคะ” เปียตบเตียง “มาๆค่ะ มาเล่นกันค่ะ ตุ๊กตาตัวนี้เป็นของพี่เลอน้า”
เลอสรรไม่พอใจ
“ถ้าน้องเปียไม่มีอะไร ออกไปเถอะ พี่จะทำงาน”
“พี่เลอก็ทำงานไปสิคะ เปียจะเล่นอยู่ตรงนี้” เปียส่งสายตายิ้มยั่ว “ไม่กวนพี่เลออย่างเด็ดขาด เนาะ..เนาะ...” เปียทำเป็นคุยกับตุ๊กตา
“ออกไปน้องเปีย” เลอสรรดุ
“ไม่เอา เปียจะเล่นกับพี่เลอ”
“ก็ไปเล่นที่อื่น” เลอสรรฉุน เข้ามากระชากเปียให้ลุกอย่างแรง
“ว้าย” เปียไม่ทันตั้งตัวร้อง โผมาตามแรงฉุดของเลอสรร
“ออกไป”
เลอสรรจะลากออกไป เปียตั้งตัวทันแล้วอมยิ้ม พอเลอสรรลาก เปียก็โผมากอดคอเลอสรรแน่น หน้าชิด อ้อนยั่วๆ
“ทำไมพี่เลอสรรใจร้ายกับน้องเปียจังเลยคะ”
เลอสรรเจออย่างนี้ก็ตกใจ ปล่อยมือจากการฉุดเปียทันที เปียไม่ทันตั้งหลักเซล้ม ไปชนเข้ากับโต๊ะทำงานของเลอสรร เปียร้องสุดเสียง ขณะที่กรอบรูปของน้อยที่วางอยู่บนโต๊ะ เจอแรงกระแทกก็ร่วงหล่นลงมา โขกหัวเปีย ก่อนกระเด็นลงพื้น เปียร้องสุดเสียง
“โอ๊ย”
เปียโกรธแต่ไม่กล้าทำอะไรเลอสรร ทำท่าจะคว้ากรอบรูปขึ้นมาแต่ก็ชะงัก เห็นรูปน้อย เปียหน้าซีดเผือดตกใจ คว้ากรอบรูปมาดู
“น้อย รูปน้อยมาอยู่ในห้องพี่เลอสรรได้ยังไง”
“รูปของพี่ พี่เป็นคนทำเอง”
เปียคาดไม่ถึง
“ทำเอง นี่พี่เลอสรรรู้จักน้อยด้วยเหรอ”
“ใช่”
เปียลุกขึ้นแว้ดแบบลืมตัวพร้อมเขวี้ยงรูปน้อย
“เมื่อไหร่”
เลอสรรเก็บรูปขึ้นมาไม่พอใจ
“เรื่องของพี่ และน้องเปียก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับของๆพี่แบบนี้ ออกไป”
“พี่เลอ” เปียตกใจปากคอสั่น
“พี่บอกให้ออกไป”
“แอร้ย” เปียกรี๊ดใส่เลอสรร แล้ววิ่งออกไปขัดใจมาก
เปียวิ่งออกมานอกบ้าน ทั้งๆที่อยู่ในชุดนอน
“ฉันไม่ยอม นังน้อย ฉันไม่ยอม”
เปียจะเดินไป เห็นเชือกถักสีแดง วางอยู่บนกอไม้ จึงกระชากด้ายถักขึ้นมาอีกครั้ง เดินตรงไปยังบ้านพักของเย็น
หน้าบ้าน น้อยนั่งอ่านหนังสืออยู่ แมวอยู่ข้างๆ น้อยหาวหวอดๆ ก่อนเอนกายลงพิงพนักแบบพักสายตาก่อนคอพับคออ่อนเผลอหลับไป เปียมองน้อย ก่อนทำเสียงแมว
“เมี้ยวๆ”
แมวได้ยินเสียง วิ่งมาตามเสียง
แมววิ่งตามประสา เปียคว้าหมับเข้าที่ร่างของแมวกระชากขึ้นมา
“ในเมื่อแกหน้าด้านจะอยู่ที่นี่เป็นหนามหัวใจฉัน แกต้องได้รับการสั่งสอนนัง
น้อย”
เปียตาวาว หน้าดุ ขย้ำตัวแมวแน่น ราวกับเป็นน้อย
กลางดึก น้อยงัวเงียขึ้นมาท่ามกลางกองหนังสือ
“เผลอหลับไปซะได้...ฝ้าย...ฝ้ายล่ะ” น้อยลุกขึ้นเดินหา “ฝ้าย...ฝ้าย ไปเล่นซนที่ไหนเนี่ย”
น้อยจะเดินลงไปหา แต่เปลี่ยนใจ มองไปทางห้องเย็น
“หรือว่า น้าเย็นจะเอาฝ้ายไปนอนด้วย”
น้อยเดินไปที่ห้องของเย็น ทำท่าจะเคาะ แต่เปลี่ยนใจ
“ไม่กวนน้าเย็นดีกว่า ฝ้ายคงนอนกับน้าเย็นนั่นแหละ”
น้อยเดินมาหยิบหนังสือเดินเข้าห้องนอน
เปียเดินสวบๆเข้าไปในบริเวณสวนลึกบ้านอุทัยที่ต้นไม้ครึ้ม
“ช่วยไม่ได้นะนังฝ้าย แกอยากเป็นของรักของนังน้อยเอง”
เปียเหวี่ยงแมวลงกับพื้นเต็มแรง แมวร้องเสียงหลง เปียทรุดตัวนั่งลงไปบีบคอแมวขณะที่อีกมือหนึ่งใช้เชือกสีแดงตวัดรักคอฝ้าแน่น หน้าเปียเหยเกขณะออกแรงรัดคอ ก่อนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งสะใจ
อ่านต่อตอนที่ 7