คมพยาบาท ตอนที่ 2
วันใหม่...เย็นนั่งร้องไห้หน้าตาเซื่องซึมอยู่แทบเท้า วณีถามตกใจ
“อะไรนะ คุณหญิงแม่กับคุณอุทัยไล่เย็นออกจากบ้าน”
เย็นสะอึกสะอื้นน่าสงสาร
“ค่ะ...คุณวณีที่ผ่านมาเย็นกราบขอโทษที่ทำไม่ดีกับคุณ ต่อไปเย็นจะไม่กำเริบเสิบสาน เย็นจะไม่ก้าวร้าว เข้ามาวุ่นวายกับคุณเด็ดขาด...เย็นขอความกรุณาช่วยเย็นด้วยนะคะ”
เย็นยกมือไหว้ ดวงตาอ้อนวอน ทั้งๆที่ในใจเต็มไปด้วยความอัปยศอดสูที่ต้องมานั่งนั่งไหว้ ยอมแพ้อย่างศิโรราบให้คนที่ตัวเองเกลียดชัง วณีมองเมตตาสงสาร
“เย็นจะให้ฉันช่วยอะไร”
“อยากอยากอยู่ที่นี่...เย็นไม่อยากไปไหน...คุณหญิงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของเย็น เย็นอยากอยู่ดูแลรับใช้ท่าน คุณวณีกรุณาช่วยด้วยนะคะ เย็นไหว้ล่ะ”
เย็นยกมือไหว้อีก วณีแตะมือเย็นให้เอาลง
“ไม่ต้องไหว้ฉันหรอกเย็น เอาเป็นว่า ฉันจะช่วยพูดกับคุณแม่ให้นะ ตอนนี้เย็นทำใจดีๆไว้ก่อน อย่าเพิ่งร้องไห้”
“ขอบคุณมากค่ะคุณวณี”
เย็นยกมือไหว้อีกด้วยท่าทางนอบน้อม ยอมศิโรราบแต่แอบค้อนวณีเกลียดชัง
วันใหม่...เย็นนั่งที่พื้น ก้มลงกราบแทบเท้าอุทัย วณี คุณหญิงอนุรักษ์
“เย็นกราบขอบพระคุณ คุณหญิง คุณอุทัย คุณวณีมากค่ะที่เมตตาเย็น”
“กราบคุณวณีคนเดียวเถอะ เพราะคุณวณีเป็นคนอ้อนวอนให้แกอยู่ เพราะลำพังฉันกับอุทัย อยากให้แกไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว”
เย็นหน้าสลด วณีเห็นใจ มองไปที่คุณหญิงเชิงขอร้อง คุณหญิงเมินหน้าหนี
“เราจะลืมเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วเริ่มต้นกันใหม่นะเย็น” วณีปลอบ
“ค่ะคุณวณี”
วณียิ้ม อุทัยเอื้อมมือไปกุมมือวณีบอกอ่อนโยน
“ขอบคุณมากจริงๆวณี”
เย็นมองภาพตรงหน้า เจ็บปวดแทบขาดใจ แต่ดวงหน้านิ่งสงบ ขณะที่อุทัยหันมาบอก
“คุณวณีเป็นคนที่ดีมาก ต่อไปเธอต้องรักต้องเคารพคุณวณีให้มากๆนะเย็น”
“ค่ะคุณอุทัย”
เย็นฝืนยิ้ม ทั้งที่รู้สึกราวกับถูกน้ำกรดราดรดใจ แต่ทว่าความรู้สึกคนไม่อาจปิดบังกันด้วยสายตา ดวงตาเย็นเฉียบเย็นแตกต่างจากรอยยิ้มจนอุทัยสัมผัสได้ อุทัยมองหน้าเย็น ไม่ไว้ใจ
เย็นเดินไปตามทาง อุทัยเดินตามมา
“เดี๋ยวเย็น”
เย็นหันกลับไปมอง
“คะ”
“เธอมีอะไรรึเปล่า” อุทัยมองเย็นสังเกต
“อะไร ถึงทำให้คุณอุทัยคิดว่าเย็นมีอะไร”
“ก็ดวงตาของเธอมันบอก ว่าลึกๆเธอเกลียดวณี”
เย็นหัวเราะหยามหยันเบาๆ
“เพราะเย็นรู้ทันเมียคุณมั้งคะ ว่าที่เขาทำอย่างนั้นเพราะต้องการให้สามีสุดที่รัก ยกย่อง เทิดทูนบูชา ว่าเขาเป็นคนดี ใจดีมีเมตตาอย่างที่สุด ฮึ ซึ่งขณะนี้คุณก็หลงกลเขา หลงเชื่อว่าเขาเป็นคนดีอย่างหัวปักหัวปำ”
“ฉันไม่คิดจริงๆเย็นว่าเธอจะเป็นคนอย่างนี้ไปซะได้ เลว เลวที่สุด”
“แค่เย็นรู้ทันเมียคุณเท่านั้นน่ะหรือคะที่คุณเห็นว่าเย็นเป็นคนเลว”
“มันมากกว่านั้นอีกเย็น เพราะสิ่งที่เธอพูดออกทั้งหมด มันคือการเนรคุณ” อุทัยมองอย่างสมเพช “ต่อไปฉันคงไม่มีอะไรจะพูดกับเธออีก ต่างคนอย่างอยู่แล้วกันเย็น”
อุทัยเดินผละไป เย็นหน้าซีดเผือดตามไปคว้าตัวไว้อ้อนวอน
“คุณอุทัย”
“ปล่อยฉัน”
อุทัยสะบัดอย่างแรง จนเย็นหกล้มลงไปนั่งทรุดแทบเท้า อุทัยมองเฉยเมย เย็นน้ำตาไหลพรากๆ
“นี่คุณไม่รัก ไม่สงสารเมียแล้วจริงๆ”
“ฉันเคยรัก เคยสงสาร แต่เมื่อฉันรู้สันดานเธอ บอกตามตรง ตอนนี้ฉันเกลียดเธอมาก เกลียดอย่างไม่เคยเกลียดอะไรเท่าเธอมาก่อนเลยเย็น”
“แต่เย็นรักคุณ เย็นอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีคุณ” เย็นผวาไปกอดขา
“ปล่อยฉันนะเย็น ปล่อย” อุทัยผลักออก
เย็นกอดขาแน่นเข้า
“ไม่...เย็นไม่ปล่อย จนกว่าคุณจะบอกว่ารัก ว่าสงสารเย็นเหมือนเดิม”
“ไม่ ฉันไม่รักเธอไม่พอ แต่ฉันยังสงสัยว่าเมื่อก่อนฉันหลงรักเธอเข้าไปได้ยังไง ปล่อยฉันนะเย็น ปล่อย” อุทัยพยายามผลักเย็นออก
เย็นกอดแน่นกว่าเดิม โกรธเหมือนกัน
“ไม่”
“ฉันบอกให้ปล่อย”
อุทัยโกรธจัด ผลัก สะบัดขาอย่างแรง จนร่างของเย็นหลุดออกมา อุทัยมองเย็นด้วยสายตาโมโห เกลียดชัง รำคาญจนเย็นสัมผัสได้ ขณะบอกเย็นชา
“อย่ามายุ่งกับฉันอีก จำไว้ว่าฉันกับเธอจบกันแล้ว”
อุทัยเดินไปชนิดไม่สนใจจะมองหน้าเธออีก เย็นนั่งอยู่อย่างนั้นน้ำตาไหลพราก ความน้อยใจ เจ็บใจ แปรเปลี่ยนเป็นความแค้นอย่างถึงที่สุด
“แล้วคุณจะเสียใจ ที่ทำกับฉันอย่างนี้ คุณอุทัย ฉันไม่มีความสุข ทุกคนก็ต้องไม่มีความสุขเหมือนกัน”
เย็นบอกตัวเอง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
เย็นเดินมาส่งตองที่บ้าน ที่ยังร้องไห้เสียใจหนัก
“เช็ดน้ำตา....กลับบ้านไป พ่อแม่เห็น เขาจะตกใจ”
ในร้านอาหารเช้า เลอสรรนั่งกินข้าวกับเพื่อน เลอสรรเห็นเย็นเดินผ่าน เขามองอย่างสนใจ เพราะดวงหน้าของเย็นเยือกเย็น ดูไม่มีความสุข เลอสรรมองเย็นอย่างสนใจโดยไม่ได้หันไปมองทางด้านหลัง เปียในชุดนักเรียนลากน้อยแอบตามเย็นมาน้อยยื้อตัว
“จะตามน้าเย็นมาทำไมละเปีย”
“ก็ตามมาให้เห็นกับตาไง ว่าน้าเย็นมาส่งพี่ตองจริงๆ”
“แล้วจะทำไม”
“ถามได้ ก็เอารถมอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียนไง”
เปียยิ้มร่า ชะโงกหน้ามอง เห็นเย็นกับตองเดินหลุดหัวโค้งถนนไป เปียยิ้ม
“น้าเย็นไปบ้านพี่ตองแล้ว กลับบ้านเร็ว น้อย”
เปียลากน้อย วิ่งตุบๆ กลับไป เลอสรรได้ยินเสียงฝีเท้าคนวิ่งหันไปมอง ไม่เห็น
เปียน้อยแล้ว ตองถามเย็น
“แล้วถ้าพี่เย็นเป็นฉัน พี่เย็นจะทำยังไง”
“แก้แค้นมัน ทำอะไรก็ได้ ให้มันกระอักเลือดตาย”
เย็นยิ้มเหยียด ดวงตาบอกว่าเอาจริง ไม่ได้พูดเล่น
อดีต...เย็นทำงานอยู่ในครัวท่าทางเหมือนจะเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม หวานวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นท่าทางดีใจ
“นี่พวกแก...คุณวณีคลอดลูกแล้วนะ คุณหนูเอื้อย หน้าตาน่าเกลียดน่าชังที่สุดเลย”
“น่าเกลียดน่าชัง พูดยังกับแกเคยเห็นหน้าคุณหนูแล้วยังงั้นแหละนังหวาน” เอิบขัดขึ้น
“แน่นอน...ฉันเห็นแล้ว เพราะคุณหญิง คุณอุทัย ไปรับคุณวณีกับคุณหนูเอื้อยกลับมาอยู่บ้านแล้ว”
ทุกคนยกเว้นเย็นดีใจมาก
“คุณหนุเอื้อยกลับมาบ้านแล้ว”
“ไปดูคุณหนูกันมั้ยแก ฉันอยากเห็น” ช้อยตื่นเต้น
“ไปสิ...ไปๆ” จวนดีใจกับเขาด้วย
ทุกคนวิ่งออกไปยกเว้นเย็นที่ยืนนิ่งๆดวงตาร้าวรานฉายประกายบางอย่าง ก่อนจะเดินตามออกไป
วณีอุ้มหนูเอื้อยด้วยท่าทางรักอย่างที่สุด มีอุทัยนั่งข้างๆ ถัดมาไม่ห่างเป็นคุณหญิงอนุรักษ์ คุณหญิงวรรณา ส่วนคนใช้นั่งชูหน้ากันสลอนอยากเห็นคุณหนู ท่าทางของแต่ละคนเห่อ
ที่ด้านหน้าอีกมุม เย็นยืนนิ่งๆแอบมองอยู่ สายตาจับที่คุณหนูเอื้อย ที่อยู่ในอ้อมกอดของวณี แล้วก็ยิ้มเหี้ยมออกมา
เลอสรรเดินออกมาชะเง้อมองตามหลังเย็นอย่างสนใจ แต่เย็นเดินเลยไปแล้ว
“จะไปไหน”
“ว่าจะตาม คนแถวบ้านแกไปหน่อย” เลอสรรยิ้มๆ
“ใครวะ”
“คนที่แกบอกว่าบ้านเขามีเรื่องตลอดเวลาไงที่แกว่า คนบ้านนี้ท่าทางไม่มีความสุข”
“จะตามไปปลอบใจรึไง เฮ้ย...อย่าบอกนะคุณเลอสรรชอบสาวแก่” เพื่อนตกใจ
“เทรนด์นี้กำลังมาแรงไม่ใช่เหรอ ...30 กำลังแจ๋ว 40 กำลังสวย” เลอสรรพูดเล่น
“เฮ้ย...ชอบสาวแก่จริงดิ” เพื่อนร้องเสียงหลง
“พูดเล่น แกก็รู้ ฉันชอบศึกษาชีวิตคน และคนที่ไม่มีความสุข ฉันว่าเขาต้องมีปมบางอย่างในชีวิตว่ะ” เลอสรรมองตามเย็นสนใจ
เปียวิ่งนำหน้าน้อยตรงมาที่บ้านจะวิ่งเข้าไป แต่แล้วชะงักหน้านิ่ว เอามือกุมท้อง น้อยตกใจ
“เปีย เป็นไร เปีย”
“ท้องเสีย เมื่อเช้าแกเอาอะไรใส่ลงไปในกับข้าวให้ฉันกินยัยน้อย” เปียโวย
“เปล่านะเปล่า”
“เปล่า แล้วฉันจะท้องเสียได้ยังไง แกต้องแกล้งฉันแน่ๆ” เปียหน้านิ่ว
“นี่...รีบไปเข้าห้องน้ำก่อนเลย มัวแต่โวยวายเดี๋ยวก็ราดอยู่ตรงนี้หรอก”
“ไปเอากุญแจรถรอไว้เลยนะ ฉันเสร็จจะได้ไป” เปียโวย
“ฮื่อๆ” น้อยรีบรับคำ
เปียจะวิ่งเข้าบ้าน ป้าที่มาซื้อของวิ่งแซงพรวดนำหน้าเปีย ปากก็บอก
“ป้าท้องเสีย ขอเข้าห้องน้ำหน่อย”
“เฮ้ย”
เปียร้องได้คำเดียว วิ่งตามเข้าไป น้อยรีบวิ่งตาม
ป้าวิ่งพรวดเข้าไปในห้องน้ำล็อกประตู เปียที่ท้องเสียวิ่งตามมา โวย เปียกระชากประตู
“เปิดๆป้า เปิดประตู”
“แป๊บนึงๆ”
เปียร้องหน้านิ่ว เอามือกุมท้องกลั้น
“แป๊บนึงได้ยังไง ฉันมาก่อน โอ๊ย...ปวดท้องๆ ทำไมป้านิสัยไม่ดีอย่างนี้ แซงคิวได้ยังไง ออกมาเดี๋ยวนี้นะป้า ออกมา ไม่งั้นฉันจะ...จะราดแล้ว”
“แป๊บนึงๆ”
เปียหน้าเขียวหน้าเหลือง ท้องเสีย ได้แต่เอามือกุมท้องก้นบิดบอกตัวเอง
“เย็นไว้เปีย ท่องไว้ คนสวยต้องไม่ท้องเสีย คนสวยต้องไม่เข้าห้องน้ำ คนสวยต้อง โอ๊ย”
พูดไม่ทันจบหน้านิ่ว จะราด น้อยวิ่งตามเข้ามาเห็นอาการเปียรีบบอก
“ขึ้นข้างบนสิเปีย วิ่งไปขึ้นข้างบนวิ่งๆ”
เปียส่ายหน้าทำท่าแบบไม่ไหว ขยับตัวราดแน่ น้อยเห็นท่าของเปียก็สงสาร
“งั้นอดทนไว้นะ เปียคนสวยต้องอดทน ท่องไว้...เกิดเป็นคนสวย ไม่ต้องเข้าห้องน้ำ”
เปียได้แต่กัดฟันพูดไม่ได้ กลัวราด ประตูเปิดพรวดออกมา ร่างของเปียที่พิงประตูเอาไว้ เสียหลักล้มลงอย่างแรง ขณะที่ป้าเบียดตัวออกมาสบาย
“เปียเป็นไงมั่ง”
เปียทำหน้าจะร้องไห้ก่อนตอบออกมา
“ราดแล้ว”
เปียในชุดนักเรียนใหม่เดินนำหน้าน้อยออกมาหน้าร้านอย่างโกรธๆ
“ฉันสาบานได้เลย เจอมนุษย์ป้าที่ไหน ฉันจะขุดหลุมฝัง ไม่ให้มนุษย์ป้าแซงคิวฉันเป็นอันขาด เอากุญแจมา”
“นี่จ้ะ”
น้อยยื่นให้ เย็นเดินเข้ามา
“เอ้า...ทำไมไม่ไปโรงเรียนกันอีก”
“ก็กำลังจะไปเดี๋ยวนี้ไงน้าเย็น”
เปียกระแทกไหล่น้อยแกล้งตามประสา
“แกนี่ไม่แกล้งยัยน้อยสักวันมันจะตายมั้ยยัยเปีย เป็นลิงเป็นค่าง เดินดีๆเหมือนยัยน้อยหน่อยไม่ได้รึไง”
“อย่างยัยน้อยเขาเรียกว่าคลานนะน้าเย็น” เปียยิ้มทะเล้น
“อ้อ…งั้นอย่างแกคงไม่ใช่คนสินะ แต่เป็นแรด ถึงได้มีเรื่องให้ฉันปวดกะโหลกทุกวัน”
เปียทำหน้าเบื่อเดินไปยังมอเตอร์ไซค์ เย็นตวาด
“หยุดเลยนะนังเปีย หยุด”
เย็นเดินมาหาเปียที่หน้างอ
“อะไรอีกล่ะน้าเย็น”
“อย่ามาเนียน บอกแล้วไง ไม่ให้เอารถไป เอากุญแจมานี่”
เย็นกระชากกุญแจจากเปีย น้อยอมยิ้ม เปียหงุดหงิด
“ยิ้มอะไร”
“ดีใจที่ได้เดินไปเรียนไง จะได้ไม่มีเรื่องตื่นเต้น อะดรีนาลีนหลั่งจนหัวใจจะวายเหมือนทุกวัน”
เปียทำเสียงเยาะเย้ย เอามือจิ้มหัวน้อย
“แหม....อะดรีนาลีน ทำมาเป็นพูด กลัวคนเขาไม่รู้รึไง ว่าได้เรียนมาน่ะ”
เย็นหัวเราะขำปนหยัน
“ฉันกลัวคนเขาไม่รู้มากกว่า ว่าแกน่ะได้เรียนมารึเปล่า นี่ถามจริงยัยเปีย เคยคิดบ้างมั้ย ว่าเรียนจบแล้วแกจะทำอะไร”
“ทำนม ทำดั้ง...ทำหน้า” เปียตอบจริงจังทันที
เย็นตวาดโมโหมาก
“นังเปีย...แกใช้ปากพูดหรือตูดขมิบ ทำไมมันทุเรศอย่างนี้ห๊า”
เย็นคว้าไม้กวาด เปียกระชากน้อยพาวิ่ง แต่เถียง
“อยากทำนม ทำดั้ง ทำหน้า มันทุเรศตรงไหนเนี่ย ไปโรงเรียนเร็วน้อย”
น้อยสะดุดล้มลง เปียกระชากคอเสื้อลากขึ้นมาพาหนี เย็นบ่นตามระอา
“โอ๊ย…เรียนจบแล้วจะทำนม ทำดั้ง ทำหน้า ตอบมาได้ยังไง ฉันล่ะปวดหัวกับแกจริงๆเลยยัยเปีย”
ชาวบ้านที่มาซื้อของ ที่มองมานาน บอกเย็น
“ถ้าแม่เย็นปวดหัว ก็กำหราบแม่เปียให้มันจริงจังสิ...นี่ฉันเห็นแม่เย็นได้แต่บ่น แต่ไม่ทำอะไรแม่เปียสักที ขนาดแม่เปียแกล้งแม่น้อย แม่เย็นยังเฉยๆ”
เย็นยิ้มเย็น แววตามีความสะใจ
“บางทีชีวิตมันก็มีดีที่สะใจ”
เย็นเดินหัวเราะเข้าบ้าน ชาวบ้านมองตามพูดกัน
“ประสาท”
เย็น ยิ้มเยาะ ปนสะใจขณะคิดถึงความหลัง
ค่ำนั้น เย็นกำผ้าพันคอที่อุทัยเคยให้เอาไว้แน่น คิดถึงคำพูดคำสาบานของเขาที่สาบานจะรักเธอคนเดียว แต่งงานแล้วก็จะรักเธอคนเดียว แล้วนึกถึงคำพูดของคุณหญิงอนุรักษ์ที่ดูถูกเธอ ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น น้ำตาของเธอหยดลงที่ผ้าพันคอด้วยความเสียใจ ทุกข์ใจ น้อยเนื้อต่ำใจ
“จะไม่มีนังเย็นคนเก่าอีกต่อไป”
เย็นฉีกผ้าพันคอที่อุทัยให้ขาด ตาเป็นประกายกร้าวเจ็บปวด แค้น
วณีอุ้มหนูเอื้อย โดยมีอุทัยนั่งอยู่ข้างๆ สองสามีภรรยาหยอกเอินลูกน้อยอย่างมีความสุข นมแสนั่งอยู่ที่พื้นอย่างนอบน้อม เย็นยืนมองภาพครอบครัวอบอุ่นของสองคนอยู่ด้านนอกด้วยสายตาปวดร้าวดวงตาแข็งกระด้าง กำมือแน่นพยายามข่มความรู้สึกริษยาโกรธแค้น น้ำตาคลอเจ็บปวด คุณหญิงอนุรักษ์ เดินเข้ามาทางหลังเย็นส่งเสียงดุ
“มายืนมองอะไรนังเย็น...เลิกหวังได้แล้วว่าอุทัยจะกลับไปสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้ากับแกน่ะ”
เย็นอมยิ้มเหมือนเยาะโล่งใจ
“เย็นเลิกคิดเรื่องนี้ไป ตั้งนานแล้วค่ะ”
คุณหญิงเหยียดปากใส่
“ให้มันจริงเถอะย่ะ ไม่ใช่จ้องจะทำตัวเป็นดาวยั่วแย่งอุทัย ไปให้พ้นเลยไป ออกไป๊”
เย็นนั่งมองกระเป๋าเดินทางของตัวเอง จวนเดินมาหา
“จะไปจากที่นี่เหรอ”
“พี่คิดว่าไง” เย็นถามนิ่งๆ
“ก็ดี คุณหญิงจะได้ไม่ต้องห่วงว่าเย็นจะกลับไปคืนดีกับคุณอุทัย”
เย็นยิ้มหยันพยายามเก็บอารมณ์ น้ำตาคลอ
“ฉันเลิกคิดนานแล้วพี่ ฉันรู้ คุณอุทัยกับฉันคนละชั้นกัน ลูกผู้ลากมากดีอย่างเขา จะมีเมียเป็นคนใช้ได้ยังไง”
“ถ้าแกตัดใจได้จริงๆพี่ก็ดีใจด้วย อย่างน้อยแกจะได้ไม่ต้องทุกข์ใจ แล้วจะไปเมื่อไหร่”
“อีกไม่นาน ฉันทำใจได้เมื่อไหร่ฉันจะไป”
จวนพยักหน้า เย็นมองกระเป๋าที่ภายในว่างเปล่านิ่งอย่างมีเลศนัย
เย็นมองดูรูปน้อยที่ถ่ายคู่กับเปีย แล้วยิ้มเยาะ เพราะน้อยคือหนูเอื้อย แก้วตาดวงใจของครอบครัวอุทัย
“ไป...พร้อมกับลูกสุดที่รัก แก้วตาดวงใจของพวกแกไง”
อดีต...นมแสเลี้ยงหนูเอื้อย ข้างๆกายมีกระติกโอเลี้ยงวางอยู่ นมแสดูดกินโอเลี้ยงไปเลี้ยงหนูเอื้อยไป เย็นเดินเข้าไปหาพร้อมถุงโอเลี้ยง นมแสหันมาเห็นตกใจ
“อุ๊ย เธอเป็นใคร”
“คนใช้ของคุณหญิงจ้ะ ฉันเห็นป้าอยู่คนเดียวเลยซื้อโอเลี้ยงมาฝาก”
นมแสมองงง เย็นยิ้มเป็นมิตร
“ฉันเห็นว่าป้าชอบโอเลี้ยง เลยซื้อมาฝาก คุณหนูน่ารักน่าชังจังเลยนะป้า”
นมแสรับโอเลี้ยง
“ก็แหงล่ะ คุณอุทัยก็หล่อ คุณวณีก็สวย คุณหนูเอื้อยจะไม่น่ารักได้ยังไง”
“ไม่เหมือนลูกหลานคนใช้อย่างเราๆเนาะป้าเนาะ หน้าตาดูไม่ได้เลย” เย็นหัวเราะเจ็บๆ
“จริง...หลานป้าก็ดูไม่ได้ ทั้งเล็กทั้งดำทั้งผอมทั้งแกร็น แถมยังไม่สบายอีก”
“ไม่สบาย เป็นอะไรจ้ะ” เย็นสังเกตทุกคำ
“พุงโรก้นปอดตามประสา นี่พ่อแม่มันก็อยากให้ป้ากลับไปดูหลาน แต่ป้าไปไม่ได้ ติดเลี้ยงคุณหนู เห็นคุณหนูทีไร ก็คิดถึงหลานตัวเองทุกที”
“คนจนก็อย่างนี้แหละป้า ทำตามใจไม่ได้หรอก เลยจริงๆ” เย็นหัวเราะคิกคักมองดูเอ็นดูมาก “ขอฉันจับคุณหนูหน่อยได้มั้ยป้า”
นมแสมองงงแต่ไม่ได้ถึงขั้นว่าระแวง แค่สงสัย เย็นรีบบอก
“ฉันเป็นคนรักเด็ก” เย็นปั้นหน้าเศร้าเสียงแผ่ว “อันที่จริง ฉันเคยมีลูก แต่ลูกฉันตายไปน่ะป้า”
“อ้าว...แล้วเป็นอะไรตาย” นมแสตกใจสงสาร
“ฉันไม่อยากพูดถึง แต่เห็นเด็กทีไร” เย็นบีบน้ำตา “ฉันก็อยากกอด อยากหอมเหลือเกิน ฉันคิดถึงลูก ขอฉันจับคุณหนูหน่อยได้มั้ยป้า แค่ปลายเท้าก็ยังดี”
“โถๆแม่คู้ณ...พูดจาได้น่าสงสารซะจริง เอ้า...ฉันให้อุ้ม”
นมแสทำท่าจะยื่นคุณหนูมา เย็นยิ้มเอื้อมมือจะไปรับ แต่นมแสชักกลับ เย็นหน้าเสีย
“แต่อย่าบอกใครนะ ไม่งั้น รู้ไปถึงหู คุณๆเอาฉันตาย”
เย็นยิ้มโล่งใจ
“แน่นอนอยู่แล้วล่ะป้า ใครจะบอก” เย็นประชดตัวเอง “ฉันน่ะมันเป็นแค่คนใช้ ต่ำต้อยด้อยค่าไร้วาสนา ใครรู้เข้าว่าบังอาจเอื้อมมาแตะมาสัมผัสคุณหนู คงเอาฉันตายเหมือนกัน”
“อ่ะ...อันแกเอาไปอุ้มให้ชื่นใจเลย นัง...” นมแสงมองหน้า
“เย็น...ฉันชื่อเย็นจ้ะ”
“ฮื่อ...นังเย็น เอาคุณหนูไปอุ้มให้ชื่นใจเลย” นมแสงส่งคุณหนูให้
“ขอบคุณมากจ้ะป้า”
เย็นรับคุณหนูมา ทำท่าทางเอ็นดูรักใคร่
“น่ารักน่าชัง เป็นบุญของฉันจริงๆที่ได้อุ้มคุณหนู ว่าแต่ป้าอย่าบอกใครแล้วกัน ว่าฉันมาที่นี่ ไม่งั้นฉันโดนตะเพิดแน่ๆ”
“เออ”
นมแสหยิบโอเลี้ยงมาดูด มองเย็นอุ้มคุณหนู เลี้ยงคุณหนูสบายใจ เย็นเหลือบมองอย่างมีแผน
วันใหม่...วณีกับอุทัยจะออกนอกบ้าน วณีกอดจูบหนูเอื้อยตลอดเวลา
“คิดถึงอะไรขนาดนั้น เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” อุทัยเอ็นดู
“ก็วณีรักของวณี พี่อุทัยไม่รักลูกเหรอคะ” วณียิ้ม
“รักจ้า” อุทัยกอดหอมหนูเอื้อย “งั้นรีบไป จะได้รีบกลับ” อุทันหันไปสั่งนมแส “ดูแลหนูเอื้อย
ดีๆนะนมแส”
นมแสอุ้มหนูเอื้อยอยู่รับคำ
“ค่ะ”
สองคนขึ้นรถขับออกไป เย็นแอบมองอยู่ เบ้ปากด้วยความเกลียดชัง
เย็นบดยานอนหลับสีขาวจนเป็นผงละเอียด ก่อนเทใส่ถุงโอเลี้ยงคนๆ
“หลับยาวแน่ นมแส”
เย็นมองโอเลี้ยงหัวเราะเดินออกไปพร้อมในมือมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้า
นมแสเลี้ยงหนูเอื้อยอยู่ในสวน เย็นเดินเข้าไปพร้อมกับกระเป๋าใส่เสื้อผ้า
“นมจ๋านม”
“แหม วันนี้เรียกซะหวานมีอะไร”
“จะกลับบ้าน เลยซื้อโอเลี้ยงมาฝากนมก่อนกลับ”
“ฝากทำไม๊ เสียเวล่ำเวลาเปล่าๆ”
พูดไปอย่างนั้น แต่นมแสก็รับมาแล้วดูดทันที เย็นมองอย่างพอใจที่เห็นนมแสดูดโอเลี้ยงไปเกินครึ่ง
“ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ฉันจะได้กลับมาอีก เลยซื้อมาฝากนมตามประสาคนรักกันชอบกัน เออ...ลืมไป ตะกี้มีโทรศัพท์ ฉันได้ยินพอดีเลยรับให้ เขาขอสายนมนะจ้ะ”
“ใครวะ โทรหาฉัน”
“เขาบอกว่าเป็นหลานของนมจ้ะ”
นมแสหน้ากังวลทันที
“โอ...งั้นท่าจะไม่ดีแล้ว”
“นมรีบไปรับโทรศัพท์ก่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงคุณหนูให้”
“ฝากหน่อยนะเย็น”
นมแสยื่นหนูเอื้อยให้ ก่อนเดินเข้าไปด้านใน เย็นอุ้มหนูเอื้อยไว้
เย็นหิ้วกระเป๋าที่มีหนูเอื้อยเดินออกมาหน้าตาเฉย กำลังจะพ้นประตูบ้านอยู่แล้ว หวานเดินสวนเข้ามาพร้อมในมือถือถุงอาหารสด สองคนมองหน้ากัน เย็นทำหน้าเชิด
“ยืนขวางทำไม หลีก”
“จะไปไหน”
“หนีตามผู้ชาย”
“ใครวะ” หวานอยากรู้
“ฉันไม่ตาต่ำ หนีไปกับผัวแกแล้วกัน”
เย็นเดินกระแทกไหล่หวานออกไปแบบหมั่นไส้ ท่าทางเหมือนนางพญา หวานเซ
เย็นอุ้มหนูเอื้อยไว้แนบอก นั่งไปในรถโดยสาร สายตาที่เย็นมองหนูเอื้อยมีความ
สงสารและสะใจ
“ป่านนี้พ่อแม่เธอมันคงกำลังใจจะขาด แต่อย่าหวังเลย ว่าฉันจะสงสาร ฉันจะทำให้พ่อแม่เธอมันคลั่งตาย”
เย็นเมินไม่มองหนูเอื้อย หนูเอื้อยที่ถูกอุ้มร้องไห้จ้า เย็นมองเหมือนจะไม่อยากดู แต่
จำต้องหันมาใหม่ และป้อนนมเข้าปากหนูเอื้อย สายตาที่เย็นมองหนูเอื้อยมีความเวทนา
เย็นยังยืนอยู่มองภาพที่รูปของน้อยที่ถ่ายคู่กับเปีย เห็นน้อยยิ้มซื่อบริสุทธิ์ น่าเอ็นดูจนเย็นใจอ่อน เผลอเอามือลูบรูปของน้อย สายตาอ่อนลงสงสาร
“ฉันไม่ได้ตั้งใจเอาแกมาให้ยัยเปียมันทรมานนะน้อย ที่มันต้องเป็นอย่างนี้เพราะพ่อแม่ของแก”
อดีต...เถ้าแก่กิมขายของอยู่หน้าร้าน ขณะที่ด้านในเย็นเลี้ยงดูน้อย และเปียไปพร้อมๆกัน เปียร้องไห้โยเย ขณะที่น้อยไม่โยเยเท่า
“ยัยน้อย...กินข้าวนะลูกนะ”
เย็นจะป้อนข้าวน้อย เปียกระชากช้อนในมือเย็นจนข้าวหก
“เอ๊ะ...ยัยเปีย เธอนี่ยังไง มาแย่งน้องทำไมลูก”
“จะกิน”
“ก็อิ่มแล้วไม่ใช่เหรอ เอ้าๆอยากกินก็กิน”
เย็นตักข้าวป้อนให้เปียใหม่ เปียอมข้าวแล้วพ่นใส่หน้าน้อย น้อยร้องลั่น
“ตาย...ยัยเปีย ทำไมนิสัยแบบนี้” เย็นตกใจ
เย็นฟาดเพี๊ยะ คราวนี้ทั้งเปียและน้อยผสานเสียงกันร้องไห้ เย็นชี้หน้าเด็กสองคน
“เงียบเดี๋ยวนี้นะ เงียบ”
น้อยเงียบในทันที แต่เปียแหกปากร้องดังลั่นกว่าเก่า แถมพ่นข้าวที่เหลือใส่หน้าเย็น
“ยัยเปีย กล้าทำกับน้าอย่างนี้เหรอ”
เย็นจับตัวหันหลัง ฟาดเพี๊ยะๆ เปียร้องกรี๊ด เถ้าแก่กิมวิ่งเข้ามา
“พอๆแล้วแม่เย็น ตีอะไรหนูเปียนักหนา”
เถ้าแก่กิมคว้าตัวเปียไปอุ้มเอาไว้
“ก็ยัยเปียมันพ่นข้าวใส่หน้าฉัน”
“ก็หนูเปียยังเด็ก ป่ะๆหนูเปีย ไปข้างนอกกับแปะดีกว่า” เถ้าแก่กิมพาเปียออกไป เปียร้องลั่น
“ไปกับแปะๆ เปียเกลียดน้าเย็น”
“ทำยังกับฉันรักแกอย่างนั้นล่ะยัยเปีย” เย็นมองตามระอาพูดลอยๆ “เถ้าแก่ตามใจจนยัยเปียเอาแต่ใจตัวเองขึ้นทุกวันแล้วรู้มั้ย...เฮ้อ”
เย็นหันมาเจอน้อยมองตาแป๋ว เย็นเจอดวงตาแป๋วๆของน้อยก็ใจอ่อน
“กินข้าวต่อมั้ย”
“กินค่ะ”
เย็นตักข้าวป้อนให้ น้อยอ้าปากกิน แล้วยิ้มน่ารัก เรียบร้อย
“น้อยรักน้าเย็น น้าเย็นรักน้อยมั้ยคะ”
เย็นชะงักไป มองน้อย เธอรำพึงในใจ
“รักสิ...เพียงแค่ เธอจะไม่ใช่ลูกของ...” เย็นหยุดแค่นั้น “อย่าพูดมาก....กินข้าวยัยน้อย”
เย็นตักข้าวป้อนเข้าปากน้อย ไม่ได้อ่อนโยน เหมือนป้อนไปงั้นๆ...ด้านนอกร้านเปียเห็นเด็กฝั่งตรงข้ามขี่จักรยานเล่น เธอพุ่งจะไปหา เถ้าแก่กิมคว้าตัวไว้ไม่ทัน รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งมา เปียวิ่งปาดหน้ารถ เถ้าแก่กิมตกใจ
“เปีย”
เปียล้มลงขณะที่มอเตอร์ไซค์เบรกสนั่นจนล้ม เปียร้องไห้จ้า เถ้าแก่กิมเอามือกุมอกร้องสุดเสียงเจ็บปวดมาก
“โอ๊ย”
เย็นได้ยินเสียงเถ้าแก่กิมก็ตกใจ รีบวางจานช้อนวิ่งออกไปทันที
เย็นวิ่งออกไปหน้าบ้านเห็นเถ้าแก่กิมนอนหน้าเหยเกเอามือกุมหน้าอก กลางถนน เปียร้องไห้จ้า น้อยวิ่งตามหลังออกมา เย็นถลาไปประคองเถ้าแก่กิม
“เถ้าแก่”
เถ้าแก่กิมหน้าตาเจ็บปวด เย็นร้องตะโกน
“เรียกรถพยาบาลให้ทีๆ”
เถ้าแก่กิมถูกนำส่งโรงพยาบาล ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินทันที เย็นมองตามใจเต้นไม่เป็นส่ำตกใจ ในใจห่วง
“อย่าเป็นอะไรไปนะเถ้าแก่”
เถ้าแก่กิมนอนอยู่บนเตียงในห้องคนไข้ ค่อยๆลืมตาขึ้นมามอง ท่าทางเหนื่อยมาก เห็นเย็นนอนเอาหน้าซบแขนตัวเองที่ข้างเตียง ส่วนที่โซฟามุมห้องมีร่างของเปียกับน้อยนอนอยู่ เปียนอนเอกเขนกตัวยาวบนโซฟา ขณะที่น้อยนั่งพื้นเอาหัววางบนโซฟา เถ้าแก่กิมขยับตัว เย็นรู้สึกตัว ถามทันที
“เถ้าแก่ เป็นยังไงบ้าง อยากได้อะไรมั้ยคะ”
เถ้าแถ่กิมส่ายหน้า
“ไม่...ขอบใจมาก...ที่ช่วยดูแลฉันนะเย็น”
เย็นจับมือเถ้าแก่กิม
“ก็เถ้าแก่เป็นผู้มีพระคุณของเย็น”
“ฉันดีใจที่เธอมาอยู่ดูแลฉัน เป็นเพื่อนฉัน...ถ้าฉันเป็นอะไรไป ฉันก็ไม่ห่วงเพราะฉันเชื่อ ว่าเธอดูแลทุกอย่างของฉันได้ ดูแลเปียกับน้อยได้”
“พูดอะไรอย่างนั้นคะ เถ้าแก่ยังอยู่อีกนาน”
เถ้าแก่กิมส่ายหน้า
“ฉันรู้ตัวฉันดี โรคหัวใจมันกำเริบขึ้นทุกวัน ฉันเหนื่อยมาก”
“เถ้าแก่อยู่กับหมอแล้ว ยังไงก็ต้องแข็งแรง”
“ขอบใจมาก ที่ให้กำลังใจฉันมาตลอด เธอเป็นกัลยาณมิตรคนเดียวของฉันจริงๆเย็น”
พูดได้แค่นั้นเถ้าแก่กิมก็หลับตา แต่เย็นรู้ว่าเป็นอาการผิดปกติ เธอแตะมือเถ้าแก่
“เถ้าแก่ๆ”
เย็นใจหายกดกริ่งเรียกพยาบาลทันที พยาบาลวิ่งเข้ามา
“เถ้าแก่เป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะ”
พยาบาลตรวจร่างกายของเถ้าแก่กิม แล้วบอกเพื่อน
“ตามหมอเร็ว”
เปียกับน้อยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เย็นรีบไปกอดเด็กทั้งสองคนไว้แนบอก หมอวิ่งเข้ามาและตรงไปปั๊มหัวใจให้เถ้าแก่กิม เย็นปิดตาเด็กทั้งสองเอาไว้ หน้าซีดเผือดหัวใจเต้นรัว...เวลาผ่านไปสักพักหมอหันมาบอก
“หมอพยายามเต็มที่แล้วครับ”
“เถ้าแก่”
เย็นกอดน้อยกับเปียแน่น น้ำตาไหลออกมาโดยไม่มีเสียงสะอื้น ก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
เย็นยืนมองรูปเถ้าแก่กิมที่ติดอยู่ข้างฝา ด้วยดวงตาเศร้าสร้อย
“เถ้าแก่พยายามสอนฉันมาตลอด ถึงการเป็นผู้ให้ เหมือนที่เถ้าแก่ ฉันพยายามทำตามที่เถ้าแก่สอนทุกอย่าง แต่สิ่งที่ฉันทำยังไม่ได้คือ การให้อภัย”
เย็นหันไปมองรูปน้อยอย่างเศร้าๆ
อ่านต่อหน้า 2
คมพยาบาท ตอนที่ 2 (ต่อ)
หลังเลิกเรียน เปียกับน้อยเดินกันมาตามทาง เปียบ่น
“โอ๊ย...เหนื่อยๆน้าเย็นใจร้าย กะอีแค่มอเตอร์ไซค์คันเดียวจะอะไรกันนักกันหนา”
“น้าเย็นไม่ได้หวงรถ แต่น้าเย็นไม่อยากให้เปียซิ่งรถต่างหาก” น้อยอธิบาย
“ฉันที่ไหน มันต้องเราสองคนสิ”
“ทำไมต้องเราล่ะ ก็เปียเป็นคนขี่”
“ฉันขี่..แต่เธอซ้อนท้าย แต่ถ้าพูดอย่างนี้ วันหลัง เธอเดิน” เปียดุ
“ดี…จะได้ไม่ต้องซ้อนท้ายเปีย”
เปียถลึงตาใส่
“นังน้อย...ประเดี๋ยวเถอะ” พูดปุ๊บ...จิ้มหัวน้อยปั๊บ
“โอ๊ย...ประเดี๋ยวที่ไหน เปียจิ้มหัวน้อยแล้วเนี่ย
“สมน้ำหน้า” เปียหัวเราะสะใจ
เปียเดินไป น้อยรีบเดินตาม ด้านหลัง เลอสรรขับรถมากับเพื่อน...
“กลับคืนนี้แน่เหรอไม่เปลี่ยนใจ” เพื่อนถามย้ำ
“ไม่เปลี่ยน...น้าวณีโทรมาตามแล้ว ไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง”
“ไว้มีโอกาส มาเที่ยวบ้านฉันใหม่ แล้วมาศึกษาชีวิตคนแถวบ้านฉันด้วย จะหาข้อมูลไว้รอเลย”
เลอสรรหัวเราะเร่งเครื่องไป เปียกับน้อยได้ยินเสียงรถดังมาทางด้านหลัง เปียหันไปมองเห็นรถเท่สุดๆ
“โอ้โห รถของใครเนี่ย ไม่เคยเห็นเลย เท่สุดๆ” เปียหันมากรี๊ดกร๊าดกับน้อย “รถเท่ขนาดนี้...คนขับต้องหล่อต้องเท่สุดๆเลยน้อย”
“รถเท่ คนขับก็ต้องหล่อ ต้องเท่ ตรรกะอะไรกันเปีย”
“ตรรกะของคนรวยไฮโซไง คนรวย ถึงได้มีเงินซื้อรถเท่ๆ นั่งรถเท่ๆเขาก็ต้องหล่อ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็น เขาต้องเป็นเนื้อคู่ของฉันแน่ๆเลย”
เปียถลกกระโปรงขึ้น อ่อยแบบให้จอด น้อยร้องเสียงหลง
“เฮ้ย...ทำอะไรน่ะเปีย”
เลอสรรกับเพื่อนเห็นเปีย กับน้อยไม่เห็นหน้าชัด เพราะไกลพอประมาณ เลอสรรตกใจ
“ทำอะไรน่ะ”
น้อยรีบมาขวาง เอากระเป๋าปิดไว้ไม่ให้เห็นเปียเปิดกระโปรง เปียผลักน้อยออก สองคนฉุดกระชากกันไปมา ดูเผินๆเหมือนเล่นกันแกล้งกัน
“คงเล่นกันน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” เพื่อนบอก
เลอสรรขับรถผ่านไป พร้อมมอง เห็นด้านหลังน้อย ที่เอากระเป๋าบัง เป็นจังหวะเดียวกับที่เปียก้มหน้า พอเงยขึ้นมาอีกที รถเลอสรรผ่านไปแล้ว เปียโวยเอากระเป๋าตีน้อย
“ตาย เนื้อคู่ฉัน เขาไปแล้ว เพราะเธอคนเดียวยัยน้อย คุณเนื้อคู่ขา..รอเปียก่อน...”
เปียกรี๊ด วิ่งตามรถประหนึ่งจะวิ่งทัน น้อยมองตามระอา จำต้องวิ่งตาม
เลอสรรขับรถมาจู่ๆรถกระตุก เพื่อนถาม
“รถเป็นไร”
“ถามได้ เสียสิวะ...ก่อนมาที่นี่ ฉันไม่ได้เอาเข้าศูนย์ไปเช็กน่ะ”
เลอสรรลงจากรถพร้อมเพื่อนไปดูเครื่องยนต์ เปียวิ่งกระหืดกระหอบมา เห็นรถเลอสรรจอดอยู่ เปียตะลึง หอบหายใจแฮ่กทั้งตื่นเต้นดีใจ
“น้อย...แกเห็นอะไรมั้ย”
“อะไร” น้อยวิ่งตามมาหอบ
เปียชี้มือไปข้างหน้า ทำท่าตื่นเต้นดีใจเวอร์ๆ
“เนื้อคู่ๆ เนื้อคู่ของฉัน ...เขาต้องแอบเห็นหน้าฉันทางกระจก แล้วมองว่าฉันสวย เขาเลยรอฉันแน่ๆเลย
เปียเหวี่ยงกระเป๋าให้น้อยถือกรี๊ดกร๊าดวิ่งไป น้อยระอา
“มโนตลอดเลยเปีย”
น้อยรีบหอบกระเป๋าเดินตาม เลอสรรกับเพื่อน ดูเครื่องยนต์
“ขั้วแบตหลวม น่าจะไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวฉันลองสตาร์ทดู”
เลอสรรขึ้นรถสตาร์ท รถติด
“เรียบร้อยไม่มีปัญหา”
เพื่อนกระโดดขึ้นรถ เลอสรรเร่งเครื่อง เปียวิ่งมาใกล้จะถึง หกล้มหัวคะมำ
“ว้าย”
เสียงเครื่องยนต์เร่งเครื่องดังลั่น เลอสรรกับเพื่อนไม่ได้ยินเสียงเปีย”
“คุณเนื้อคู่”
เปียพูดได้แค่นั้น...เขม่าจากท่อไอเสียรถของเลอสรร พุ่งเข้าที่หน้าเปียอย่างจัง ขณะที่รถเลอสรรวิ่งไปไกล น้อยวิ่งมาเห็นหน้าเปียดำ หัวเราะลั่น เปียยังไม่สนหน้าตัวเอง ชี้ตามรถ
“เนื้อคู่ๆของฉันไปแล้ว”
น้อยกลั้นหัวเราะ
“เนื้อคู่เขาจำเปียไม่ได้มั้ง”
“ทำไม”
“ดูเองสิ”
เปียกระชากกระเป๋านักเรียนของตัวเองที่ให้น้อยถือ เปิดกระเป๋าควักเอาแป้งพัฟที่มีกระจกออกมาส่องดู เห็นตัวเองหน้าดำ เปียกรี๊ด น้อยหัวเราะ เปียโมโห
“ขำนักใช่มั้ย”
เปียเอาเขม่าที่หน้าตัวเอง ป้ายหน้าน้อย หน้าดำทั้งคู่
เปียกับน้อยโผล่หน้าดำๆมายืนที่หน้าบ้าน เย็นที่จัดของในบ้านเงยหน้าขึ้นมา
“อ้าว...แล้วมันเรื่องอะไร ถึงได้มายืนหน้าดำกันอยู่ตรงนี้”
“เปียวิ่งตามผู้ชายน้าเย็นค่ะ เลยหกล้ม”
“นังน้อย” เปียโกรธจี๊ด เอื้อมมือมาปิดปาก
เย็นจ้องหน้าเปีย ดุๆ
“เรื่องผู้ชายอีกแล้วนะนังเปีย” เย็นคว้าไม้กวาด
เปียผละจากน้อยกระโดดหนีเย็นทันทีหัวเราะไม่กลัว
“สวยๆอย่างเปีย ถ้าสนใจผู้หญิง ก็เสียของแย่สิน้าเย็น”
เปียวิ่งลงส้นขึ้นบันไดบ้าน เย็นตะโกนด่า
“แต่ถ้าแกสนใจผู้ชาย แกจะเสียทั้งของ เสียทั้งตัว นังเด็กเวร”
เย็นปาไม้กวาดตามหลังเปีย ไม้กวาดกระแทกเข้าฝาบ้านอย่างแรง เลอสรรกำลังเก็บของอยู่ในบ้านเพื่อน สะดุ้งกับเสียงดังปังของฝาบ้านเย็น เพื่อนหัวเราะ
“ยกที่หนึ่งเริ่มขึ้น”
เลอสรรหัวเราะเฝื่อนๆ
“ทำไมเขาดุกันจัง”
“ไม่รู้...แต่ขนาดดุกันอย่างนี้ ก็ยังมีเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เดี๋ยวคืนนี้ก็ต้องมีอีกจะอยู่ดูมั้ยล่ะ”
“ไม่ล่ะ...เก็บของเสร็จก็จะกลับเลย”
“แหม...ก็นึกว่าจะอยู่ดูของดีด้วยกันซะอีก
เลอสรรยิ้มส่ายหน้า สองหนุ่มหัวเราะให้กันไม่จริงจังอะไร
ห้องแถวยามค่ำคืนเงียบสงบ เปียในชุดสก๊อยภูธรลากแขนน้อยออกมา จะหนีออกจากบ้านไปเที่ยว
“โอ๊ย...เบาๆหน่อยสิเปีย น้อยเจ็บ” น้อยร้อง
เปียถลึงตาใส่ พูดเสียงเข้มแต่เบา
“อย่ามาทำสำออย เดี๋ยวน้าเย็นมาเห็นก็อดไปกันพอดี”
“แล้วจะไปทำไม เปียนี่ชอบเล่นอะไรเพี้ยนๆ”
เปียตีน้อยเพี๊ยะ
“เพี้ยนที่ไหน สนุกจะตาย ไปด้วยกันเดี๋ยวนี้เลย”
เปียลาก น้อยขืนตัวไว้
“ไม่ไป”
“ต้องไป ขืนฉันไปคนเดียว กลับมาฉันก็ถูกตีหลังลายคนเดียวสิ แกต้องไปด้วย ไม่งั้น”
เปียดุ ยกมือทำท่าจะตบจริงๆ น้อยกลัว เปียลดมือลง
“ออกมาเร็ว”
เปียยกมือขึ้นทำท่าจะผลัวะ น้อยหลบด้วยความกลัว เปียลากน้อย แอบเปิดประตูห้องแถว หนีออกไป
บนถนนใหญ่...บรรดาแว้นและสก๊อยรวมตัวกันพร้อมมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ แต่ละคนแต่งตัวเป็นแว้น สก๊อยภูธรเต็มรูปแบบ เปียลากน้อยเดินเข้ามา ก่อนชูมือก๋ากั๋นทักทายเพื่อนฝูง
“ซีเปียมาแล้วค่า”
ทุกคนหันมามอง เปียโพ้สท่าในแบบที่คิดว่าเก๋สุดๆ น้อยก้มหน้าอับอาย
เลอสรรหิ้วกระเป๋ามาขึ้นรถ เตรียมกลับบอกเพื่อน
“ขอบใจมาก ที่ให้กินอยู่ด้วยตั้งหลายวัน”
“ด้วยความยินดี แล้วเจอกันใหม่เพื่อน ขับรถดีๆนะ”
เลอสรรโบกมือลาเพื่อนก่อนขับรถออกไป
ถนนทางหลวง... เลอสรรขับรถกลับกรุงเทพฯ แต่แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อกลุ่มเด็กแว้นสก๊อย ขี่มอเตอร์ไซต์ปาดหน้าปาดหลัง แซงด้วยความเมามัน แทบชนรถเลอสรร
“เฮ้ย” เลอสรรหน้าบึ้งไม่พอใจ
เปียนั่งเป็นสก๊อยแซงหน้าเลอสรร ชูมือชูไม้ดี๊ด๊า ไม่ได้สนใจรถเลอสรร มันอย่างเดียว เลอสรรโมโห หยิบเอามือถือมาถ่ายเหตุการณ์รวมๆไว้ รถคันที่น้อยซ้อน ผ่านหน้าเลอสรรขึ้นไปอีก น้อยเอามือปิดหน้าปิดตากลัวตก เลอสรรมองด้วยความระอา
“ทำตัวไม่มีความคิดกันแบบนี้ สงสัยคนเป็นพ่อเป็นแม่จริงๆ”
เลอสรรขับรถด้วยความระมัดระวังยิ่ง ขณะที่แว้นสก๊อยมันมาก
เย็นเดินตรวจตราบริเวณบ้าน ล็อกประตูหน้าต่างตามปกติ
“ยัยเปีย ยัยน้อย ก่อนนอนอย่าลืมล็อกประตูหน้าต่างดีๆด้วยนะ”
เงียบไม่มีเสียงตอบ เย็นยังไม่ได้เฉลียวใจ แค่หงุดหงิด
“ยัยเปีย ยัยน้อย ได้ยินมั้ย ก่อนนอนอย่าลืมล็อกประตูหน้าต่าง”
เงียบไม่มีเสียงตอบอีก เย็นเอะใจ รีบวิ่งไปที่ห้องนอนของสองคนทันที เปิดประตูห้องเข้าไป เห็นห้องว่างเปล่า
“นังเปีย นังน้อย!” เย็นตาเขียวขึ้นมาทันที
กลุ่มเด็กแว้น แว้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย มีสก๊อยซ้อนท้ายทุกคัน หนึ่งในนั้นมีเปียอยู่ด้วย เปียยกมือยกไม้ ร้องกรี๊ดๆแกว่งเสื้อในมือแบบสก๊อยตัวแม่อย่างมีความสุข ในขณะที่น้อยนั่งหลับหูหลับตาบนรถมอเตอร์ไซค์จะจับคนขี่ก็ไม่กล้า ได้แต่นั่งปิดหน้าปิดตาเนื้อตัวสั่น เด็กแว้นสร้างความรบกวนแก่ผู้คนที่ขับรถสวนผ่านไปมา ที่ต้องหลบหลีกกันจ้าละหวั่น ชาวบ้านเปิดประตูบ้านหน้าต่างออกมาด่า
“บิดหาสวรรค์วิมานอะไรวะ”
ชาวบ้านภาพอีกมุมตะโกนด่า
“ไปตายๆให้หมดเลยไป๊”
กลุ่มเด็กแว้นไม่สนใจ บิดกันต่อแบบมันมาก
ถนนเส้นใหญ่ กลุ่มเด็กแว้น แว้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย มีสก๊อยซ้อนท้ายทุกคัน หนึ่งในนั้นมีเปีย เปียยกมือยกไม้ ร้องกรี๊ดๆแกว่งเสื้อในมือแบบสก๊อยตัวแม่อย่างมีความสุข ในขณะที่น้อยนั่งหลับหูหลับตาบนรถมอเตอร์ไซค์จะจับคนขี่ก็ไม่กล้า ได้แต่นั่งปิดหน้าปิดตาเนื้อตัวสั่น
เด็กแว้นสร้างความรบกวนแก่ผู้คนที่ขับรถสวนผ่านไปมา ที่ต้องหลบหลีกกันจ้าละหวั่น ชาวบ้านเปิดประตูบ้าน หน้าต่างออกมาด่า
“บิดหาสวรรค์วิมานอะไรวะ”
“ไปตายๆให้หมดเลยไป๊”
กลุ่มเด็กแว้นไม่สนใจ บิดกันต่อแบบมันมาก
เย็นยืนหน้าตาถมึงทึงอยู่ ท่าทางนิ่งเงียบแต่ตาขวาง รออยู่ที่จุดหมายปลายทางแบบรู้อยู่แล้วว่าเหล่าแว้นต้องมาจอดกันที่นี่ ชั่วครู่ รถของกลุ่มเด็กแว้นก็วิ่งมาจอดระเกะระกะจนเต็มท้องถนนไปหมด เปียกระโดดลงจากรถร้องเย้วๆตามประสา
“สนุกที่สุดเลย”
แว้นคนหนึ่งตะโกนขึ้น
“ซีเปียสุดยอด แต่ดูน้องของซีเปียสิ”
น้อยยังคงนั่งอยู่บนรถเนื้อตัวสั่นหน้าซีดเผือดเหมือนช็อก เปียตาขวางเดินไปหาน้อย
“มัวนั่งอยู่ทำไม ลงมาสิน้อย”
เปียลากน้อยลงมา น้อยร้องไห้โฮออกมา เปียด่า
“ร้องไห้ทำไม”
“น้อยกลัว”
เปียบิดแขนน้อยลากกัดฟันหมั่นเขี้ยว
“กลัวอะไร”
“โอ๊ย...เจ็บ เปีย น้อยเจ็บ” น้อยร้อง
เปียถลึงตาใส่ เปียบิดน้อยอีก
“ดัดจริต แค่นี้ทำเป็นเจ็บ สำออยล่ะสิ นี่แน่ะๆ”
น้อยร้องโอ๊ยๆเจ็บ เด็กแว้นและสก๊อยหัวเราะกันสนุกเห็นเป็นเรื่องขำ เปียยิ้มกร่าง
“ขี้ขลาดตาขาวอย่างนี้ ถ่ายคลิปไว้ประจานเลย”
กลุ่มเด็กแว้น สก๊อย ยกมือถือมาจะถ่ายคลิป เย็นเดินแหวกกลุ่มคนเข้าไปน้ำเสียงเยาะเย้ย
“เก่งนักใช่มั้ยแม่ ซีเปีย”
เปียหันขวับมามองกลัวๆ
“น้าเย็น”
เปียกับน้อยถูกเย็นลากเข้ามาในบ้าน พอเข้ามา เย็นก็เหวี่ยงร่างสองคนทันที สองคนเซถลาไปคนละมุม ร้องโอดโอย
“ไหนตะกี้ทำเป็นเก่ง แล้วตอนนี้มาร้องโอดโอยทำไม”
“ก็น้าเย็นทำเปียเจ็บ”
เย็นกระชากแขนเปีย พูดเสียงเข้มดุ
“คนเราถ้าจะเก่ง มันต้องเก่งให้ตลอดซี้”
เย็นคว้าไม้เรียวมาหวดฟั่บๆเข้าที่ร่างของเปีย เปียร้องกรี๊ดๆหลบ แต่ยิ่งหลบเย็นก็ยิ่งตี น้อยนั่งหลบมุม กอดตัวเองเนื้อตัวสั่น กลัว เย็นดุมาก ดุไปตีเปียไป
“ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย ไม่ให้แกเป็นสก๊อย แกไม่เชื่อ แล้วยังกล้าเปลี่ยนชื่ออีก...ซีเปีย แกคิดว่าชื่อซีเปียมันเก๋ มันเริ่ดนักเหรอยัยเปีย” เย็นฟาดแบบหมั่นไส้มาก
เปียเบี่ยงตัวหลบไปเถียงไป
“ก็ใครๆเขาฮิตมีชื่อนำหน้าทั้งนั้นแหละ ซ้อกุ้ง ทีเด็ด ซันจีน เด็ดทุกท่า”
“ใครฮิต มีแต่พวกสก๊อยนั่นแหละที่ฮิต อย่าให้ฉันได้ยินเธอเรียกตัวเองว่าซีเปียอีกนะยัยเปีย ไม่งั้นเธอจะกลายเป็น ซีอุย”
เปียชะงักงัน เย็นหันขวับมาทางน้อย
“เธอก็เหมือนกัน ปากน่ะมีมั้ย” เย็นบิดน้อยร้องลั่น “ถ้าไม่อยากไป ทำไมไม่ตะโกนบอกฉันหา ยัยน้อย”
“น้อยกลัว” น้อยหวาดกลัว
“กลัวใคร” เปียตะคอก
“กลัวเปีย” น้อยหลบตา
“กลัวทำไม ฉันออกจะสวย” เปียสวนทันที
เย็นมองหน้าเปีย
“กล้าพูดนะยัยเปีย จำไว้นะ ห้ามเธอข่มขู่บังคับยัยน้อย เป็นอันขาด” เย็นหันมาจ้องหน้าน้อย “แต่ถ้าเธอโง่ ยอมให้เขาข่มขู่ มันก็ช่วยไม่ได้ เกิดเป็นคนมันต้องสู้ ไม่สู้ก็ต้องแพ้ เข้าใจมั้ยยัยน้อย”
“ค่ะน้าเย็น”
เย็นเดินหน้าบึ้งออกไป เปียเอามือผลักหัวน้อย
“สู้ฉันสิ...เธอกล้าสู้ฉันก็สู้สิ ยัยน้อย”
น้อยได้แต่นั่งร้องไห้ ท่าทางเปียดุ น่ากลัวมาก เย็นยืนอยู่ด้านนอกได้ยิน เธอรำพึงในใจ
“นี่ใช่มั้ยที่เขาเรียก เชื้อไม่ทิ้งแถว แต่ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน...ถ้าเชื้อของคนจนๆคนที่ถูกประณามว่าเลว ได้เข้าไปอยู่ในดงผู้ดีมันจะเป็นยังไง”
เย็นหัวเราะก้องเดินออกไป น้อยกับเปียได้ยินเสียงหัวเราะของเย็นก็หันไปมองตามเสียง เสียงหัวเราะที่เด็กทั้งสองได้ยินตั้งแต่เด็กแต่ไม่เคยเข้าใจ
วันใหม่...เลอสรรขับรถมาจอดที่หน้าบ้านอุทัย ก่อนเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางอิดโรย วณีเดินออกมาพอดี เห็นเลอสรรก็ยิ้มดีใจ
“ตาเลอ...”
เลอสรรตกใจ
“นี่คุณน้ารอผม จนไม่ได้นอนหรือครับ”
“เปล่าจ้า..น้าตื่นมาเตรียมของใส่บาตรพอดี”
อุทัยเดินลงมาจากบนบ้าน อีกทางจวนและช้อย ช่วยกันถือถาดอาหาร ผลไม้ดอกไม้ที่จะใส่บาตรออกมา
“ใส่บาตรด้วยกันเลยนะเลอ”
“ครับ”
อุทัย เลอสรร วณีเดินออกไป มีจวน ช้อยเดินตาม
อุทัย วณี เลอสรร ใส่บาตรพระ พระให้พรก่อนเดินไป วณียกมือไหว้
“เจ้าประคู้ณ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้หนูเอื้อย ได้กลับมาอยู่กับแม่ด้วยเถอะ สาธุ”
วณีน้ำตาคลอ เลอสรรมองวณีเห็นใจ อุทัย มองวณีมีทั้งสงสารและเห็นใจ และยังนึกโกรธเย็นที่ขโมยลูกสาวของตนไป
อุทัยเดินเข้าไปในห้องปิดประตูดังปัง อย่างโมโหมาก มือไม้ปัดข้าวของในห้อง
“เพราะเธอ เธอคนเดียว ทำให้บ้านฉันเป็นแบบนี้”
อดีต... เย็นคลานเข่าเอาอาหารขนม น้ำชามาเสิร์ฟ คุณหญิงอนุรักษ์ชะโงกหน้ามาดู
“อะไรเนี่ย”
“ขนมสาลี่ค่ะ”
คุณหญิงอนุรักษ์หัวเราะขำ
“ทำไมหน้าตามันแปลกๆพิกล”
“เย็นเพิ่งหัดทำน่ะค่ะ”
“อ้อ แกเพิ่งหัดทำ มิน่า หน้าตามันดูไม่ได้เลย แต่หอมนะ...หอมมาก”
“งั้นคุณหญิงกับคุณอุทัยชิมให้เย็นนะคะ”
เย็นกุลีกุจอจัดแบ่งขนมให้คุณหญิงอนุรักษ์และอุทัยอย่างนอบน้อม อุทัยมองเย็น สายตาบ่งบอกว่าชอบใจไม่น้อย คุณหญิงอนุรักษ์เห็นสายตาของอุทัยก็บอกเย็น
“เดี๋ยวฉันชิม แกมีอะไรก็ไปทำไป”
“ค่ะ”
เย็นคลานออกไปเรียบร้อยน่ารัก อุทัยมองตาม คุณหญิงอนุรักษ์กระแอม
“นังเย็นมันน่ารักเรียบร้อยดีนะ...นี่ถ้ามันได้เรียนสูงๆแต่งตัวสวยๆแม่ว่าต้องมีผู้ชายมาสนใจมันแน่ๆเลย แต่อย่างว่าผู้ชายดีๆฉลาดๆเวลาเลือกคู่ครอง เขาไม่ได้มองแค่ความสวย แต่เขามองไปถึงการศึกษา ฐานะ ชาติตระกูลด้วย” คุณหญิงอนุรักษ์จับมือลูกชาย “ลูกก็เหมือนกันนะอุทัย...จะเลือกใครมาเป็นสะใภ้ของแม่ ต้องเลือกให้ดี ลูกต้องรู้จักว่าผู้หญิงคนไหนเป็นเพชร คนไหนเป็นพลอย”
“ครับคุณแม่”
ปากรับคำแต่สายตาของอุทัยมองหาเย็น คุณหญิงอนุรักษ์ดูออกว่าลูกชายคิดยังไง
คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว อุทัยหน้าเครียด โกรธตัวเอง
“นี่ถ้าเราเชื่อคุณแม่ เรื่องคงมาเป็นแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละทุกอย่างมันเกิดขึ้น เพราะเธอมันเลว...เธอมันเลวที่สุด เย็น”
อุทัยกำมือแน่น ดวงตาบอกว่าโกรธเกลียดเย็น
เย็นนั่งมองดูหนังสือ ข่าวสังคมซุบซิบเป็นรูปอุทัยกับวณีสวยหล่อ หน้าตายิ้มแย้มออกงานด้วยกัน เย็นหน้าเศร้า เจ็บปวดทุกข์หนัก ในใจเสียงเคียดแค้น
“ หวังว่า วันไหนที่ฉันเอาลูกคุณกลับไปคืน คุณสองคนรักกันจนตายแบบนี้นะ”
เย็นหัวเราะหยัน แต่ในที่สุดน้ำตาของเย็นก็ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด เสียใจน้อยใจอาฆาตแค้นพยาบาท
วันใหม่ เลอสรรในชุดพร้อมเดินทางไหว้คุณหญิงอนุรักษ์ อุทัย และวณี
“มาแป๊บๆก็ต้องกลับอเมริกาอีกแล้ว น้าคิดถึงแย่”
“ก็ถ้าแว่บมาได้ เดี๋ยวตาเลอก็บินกลับมาแหละ จริงมั้ยตาเลอเลอสรร” อุทัยถามขำๆ
“ครับน้าอุทัย”
“เดินทางปลอดภัยนะลูก” คุณหญิงยิ้มรับ
“ครับ...”
เลอสรรขึ้นรถ เอิบขับออกไป ทุกคนมองตามเลอสรรด้วยสายตารักมาก
เปียยืนคุยโทรศัพท์กับบอย หนุ่มคนใหม่ที่จีบกันอยู่
“ได้ๆ เดี๋ยวกลางวัน เปียจะหลบไปหานะ พี่บอยรอเปียที่ร้านนมหน้าโรงเรียนก็ได้”
ป้าสองคนที่มาซื้อของได้ยิน มองเปียไม่พอใจ เย็นเดินออกมาจากด้านใน เปียเห็น
“แค่นี้ก่อนนะพี่บอย...จ้ะๆแล้วเจอกัน”
เปียรีบวางสาย ทำท่าซังกะตาย เย็นเดินออกมาพร้อมน้อยที่แต่งชุดนักเรียนเรียบร้อย
“อ้าว สายแล้ว ทำไมไม่แต่งตัวไปเรียนอีก” เย็นถามเปียอย่างแปลกใจ
“ไม่สบาย”
“เป็นอะไร”
เปียตาเลิ่กลั่ก
“ปวดหัว ปวดท้อง ปวดฟัน ปวดขา ปวด...”
เย็นขัดขึ้น
“แกจะปวดอะไรก็ช่าง แต่ฉันน่ะปวดตับ รู้มั้ยนังเปีย คนเรามีทั้งข้อดี ข้อเสีย แต่ที่แกมีเยอะอยู่ข้อเดียว คือข้ออ้าง รีบแต่งตัวไปโรงเรียนเลยนะ ไม่งั้น...แกได้ไปลาป่วย กับยมบาลแน่ ไป๊”
“ไปก็ได้ โอ๊ย” เปียหน้างอกระแทกเท้าเข้าไปในบ้าน
“วอนจริงๆนังนี่”
เย็นมองตามระอา ป้าที่มาซื้อของบอกอย่างหวังดี
“ป้าได้ยิน เปียมันนัดกับผู้ชาย ยังไงสอนหลานดีๆนะเย็น ลูกผู้หญิงเราคุณค่าอยู่ที่การวางตัว ทำตัวไม่ดี ไม่มีใครอยากได้ไปเป็นลูกเป็นเมียหรอก”
“สมัยนี้ทำตัวดีอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องรวย ต้องไฮโซด้วย ไม่งั้น ผู้ชายดีๆรวยๆ มีชาติมีตระกูล เขาก็ไม่ดองกับคนจนๆหรอก” ป้าอีกคนเสริม
“สมัยไหนๆ มันก็เงินต่อเงินทั้งนั้น”
เย็นได้ฟัง อึ้งขึ้นมาอีก
เย็นขอดเกล็ดปลาช่อนในรัว เสียงของป้าๆดังก้อง
“สมัยนี้ทำตัวดีอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องรวย ต้องไฮโซด้วย ไม่งั้น ผู้ชายดีๆรวยๆ มีชาติมีตระกูล เขาก็ไม่ดองกับคนจนๆหรอก”
“สมัยไหนๆ มันก็เงินต่อเงินทั้งนั้นแหละ”
เย็น ดวงตาเป็นประกายโกรธ
“ใช่...สมัยไหนๆ เงินมันก็ต้องต่อเงิน”
เย็น ดวงตาเป็นประกายกร้าว น้ำตาทำท่าจะไหลออกมาอีก เย็นปาดน้ำตา
“ฉันเจ็บปวดทุกข์ทรมานใจกับคำดูถูกมากพอแล้ว ต่อไป...ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะเอาคืน”
เย็นสับหัวปลาช่อน ฉับเดียว หัวปลากระเด็น ดวงตาของเย็นน่ากลัว
วันใหม่...ประมูลนักธุรกิจที่รำรวยเดินดูต้นไม้ดอกไม้ในบ้าน แม่นุ่ม แม่บ้านที่อยู่ด้วยกันมานานเดินมาหา
“คุณประมูลคะ มีโทรศัพท์ค่ะ”
“จากใคร”
“เขาบอกว่าชื่อเย็น เนื้อเย็นค่ะ”
“เย็น”
ประมูลดีใจ รีบเดินเข้าบ้านทันที
ประมูลรับโทรศัพท์ด้วยความดีใจ
“สวัสดีจ้ะเย็น”
เย็นอยู่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ
“ดีใจค่ะที่คุณประมูลยังจำดิฉันได้อยู่”
“จำได้สิจ้ะ ฉันระลึกถึงเย็นอยู่เสมอ แต่จะโทรไปหา หรือติดต่อไป...ก็รู้ว่าไม่สมควร”
“เพราะดิฉันมีสามีแล้ว” เย็นหัวเราะ
“ที่เย็นโทรมานี่ มีอะไรหรือเปล่าจ้ะ”
“ดิฉันจะไปทำธุระที่กรุงเทพเลยอยากจะขอรบกวนไปพักที่บ้านคุณ อย่างที่คุณเคยชวนน่ะค่ะ”
“ได้สิ...ด้วยความยินดี เย็นจะมาเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้ค่ะ”
ประมูลยิ้มยินดีเปิดเผย แม่นุ่มมองสนใจ
เปียตะโกนลั่นบ้านด้วยความดีใจ
“อะไรนะคะ น้าเย็นจะพาเปียเข้ากรุงเทพ”
“ก็ขืนฉันไม่พาไป วันๆเธอก็คงเป็นแต่สก๊อย เที่ยวกับเด็กแว้น”
น้อยถามขึ้นมาบ้าง
“แล้วน้อยล่ะคะ น้าเย็นจะพาไปด้วยมั้ย”
“เธอก็ถามอะไรโง่ๆอีกแล้วยัยน้อย ตั้งแต่เธอเกิดมา ฉันเคยทิ้งเธอมั้ย ไปไหนมาไหน ฉันก็กระเตงเธอไปด้วยตลอด”
“ขอโทษค่ะ ที่น้อยทำให้น้าเย็น อารมณ์เสีย ก็ตะกี้เปียพูดถึงแต่เปียคนเดียว น้อยเลยไม่กล้าคิดว่าตัวเองจะได้ไปด้วย” น้อยยิ้มๆ
“ไปกันทั้งคู่แหละ รีบไปเก็บเสื้อผ้าไป พรุ่งนี้เราจะเดินทางแต่เช้า”
สองคนดีใจ
“ค่ะน้าเย็น”
เปียกับน้อยรีบเข้าห้องตัวเองเก็บข้าวของ
“น้าเย็นเกิดเฮี้ยนอะไรมาเนี่ย ถึงจะพาเข้ากรุงเทพ” เปียนินทาเสียงดัง
เย็นได้ยินก็ค้อน ค่ำนั้น...เย็นนั่งเขียนจดหมายถึงอุทัย กับวณีอยู่ในห้อง
เช้าวันใหม่สถานีรถไฟ...เย็นพาน้อยกับเปียมารอขึ้นรถ ท่าทางของเด็กทั้งสองตื่นเต้น เปียเดินสบายส่วนน้อยหิ้วกระเป๋า น้อยโอดครวญเบาๆ
“เปีย ช่วยถือหน่อยได้มั้ย น้อยหนัก”
“ฉันก็หนัก เธอช่วยเสียสละ หนักคนเดียวแล้วกันนะจ้ะน้อย”
เปียเดินร่าเริงไป น้อยเดินหิ้วกระเป๋าแบบถูลู่ถูกังตามไป เย็นไม่ได้สนใจเด็กทั้งสองคนเดินไปที่ตู้ไปรษณีย์หยอดจดหมายลง แล้วยิ้มพอใจ
นมแสเดินเอาจดหมายและซองเอกสารมาให้วณีกับอุทัย
“จดหมายค่ะ”
ทั้งวณีและอุทัย รีบรับกันมาพลิกดู ก่อนถอนหายใจ
“ไม่มี...ไม่มีการติดต่อมาจากเย็นเลย” วณีบ่น
“18 ปี เข้าไปแล้ว หัวจิตหัวใจเขาทำด้วยอะไร” วณีน้ำตาซึม
“ความพยาบาทมันช่างรุนแรงเหลือเกิน ถ้าเย็นเอาลูกมาคืน วณีพร้อมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เขาคลายความพยาบาท อย่าเกลียดอย่าชังวณีเลย”
“พี่ก็เหมือนกัน...พี่พร้อมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เย็นให้อภัย”
อุทัยกอดวณีปลอบใจ คุณหญิงอนุรักษ์ยืนมองไม่สบายใจ วณีหันมาเห็นพอดี
คุณหญิงอนุรักษ์เดินมาตามทาง หน้าเคร่งเครียด วณีเดินตาม
“คุณแม่มีอะไรไม่สบายใจคะ”
“ก็เรื่องที่ทั้งอุทัยทั้งวณีโทษตัวเองน่ะสิ จะโทษตัวเองทำไม ในเมื่อคนที่เป็นคนผิดคือนังเย็น”
“จะว่าเย็นฝ่ายเดียวก็ไม่ได้หรอกค่ะคุณแม่ วณีเองต่างหากที่ผิด ผิดที่แย่งคุณอุทัยมาจากเย็น”
“วณีจะผิดได้ยังไง ในเมื่อวณีคือเมียแต่ง ส่วนนังเย็นมันเป็นได้แค่ของเล่นของตาอุทัย”
“แต่เย็นมาก่อน”
“แม่บอกแล้วไง ผู้หญิงที่ยอมเป็นของเล่นผู้ชาย ไม่มีใครเขายกย่องออกหน้าออกตาหรอกหนำซ้ำนังเย็นมันก็เป็นแค่คนใช้ วณีคิดว่าแม่จะยอมรับคนใช้ใจง่าย ไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างนังเย็นมาเป็นลูกสะใภ้เหรอ”
“แต่ถ้าพี่อุทัยไม่จริงใจกับเย็น ก็ไม่น่าจะไปยุ่งเกี่ยวข้องแวะกับเขา”
“ผู้ชายก็คือไม้เลื้อย ใกล้ไหนก็พันนั่น ผู้หญิงต่างหากที่ควรรักศักดิ์ศรี รักเกียรติยศของตัวเอง ไม่ยอมเอาตัวเป็นของเล่นใครง่ายๆ เรื่องนี้ยังไงๆนังเย็นมันก็ผิด ผิดที่ใจง่าย ไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเอง แล้วยังอาฆาตแค้นพยาบาท ทำลายชีวิตของคนอื่น ถ้าแม่ได้เจอมันอีก แม่ไม่เอามันไว้แน่ๆ”
คุณหญิงพูดเสียงเหี้ยม หน้าดุ วณีหน้าเจื่อน รำพึงในใจ
“ฉันเข้าใจเธอนะเย็น ฉันเข้าใจเธอ...เธอก็ควรเข้าใจฉัน ได้โปรดเอาลูกมาคืนฉันเถอะ เอาลูกฉันคืนมา” วณีน้ำตาซึม
เย็น เปีย น้อย เดินลงมาจากรถไฟ น้อยยังต้องลากกระเป๋าหิ้วกระเป๋าให้เปียเหมือนเดิม ท่ามกลางผู้คนเยอะแยะวุ่นวาย เย็นดุ สองคนที่เดินอยู่ข้างหลัง
“เดินเร็วๆหน่อย ประเดี๋ยวก็หลงกันหรอก”
เปียกับน้อยเร่งฝีเท้า แต่ต้องชะงักเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งท่าทางเป็นสาวน้อยแต่งตัว
ธรรมดาวิ่งพรวดพราดผ่านเข้ามา ชนทั้งน้อยทั้งเปียล้ม สาวน้อยเองก็ล้ม ฉับพลันก็มีสาวใหญ่แทรกเข้ามา สาวใหญ่มองหน้าสาวน้อยตาขวาง ตามมาด้วยชายผู้เป็นสามี
“คุณบอกมาเลย ระหว่างมันกับฉัน คุณจะเลือกใคร”
“เลือกคุณอยู่แล้ว ใครจะไปเอาคนใช้ในบ้านมาทำเมีย” สามีฉอเลาะเอาใจ
เย็นได้ยิน สะอึก อึ้งไปทันที สาวใหญ่มองหน้าสาวน้อย
“ได้ยินแล้วใช่มั้ย”
“แต่ที่คุณชายบอก คุณผู้ชายจะพาหนูหนีไปอยู่ต่างจังหวัดด้วยกัน ทำไมคุณผู้ชายทำอย่างนี้คะ” สาวน้อยเถียงทั้งน้ำตา
“เพราะฉันไม่ได้รักเธอไง ฉันรักเมียฉัน ฉันเลือกเมียฉัน ได้ยินแล้ว ก็ไสหัวกลับบ้านนอกเลยไป๊”
ทุกคนบริเวณนั้นมองกันอึ้ง ตกตะลึง ผู้กำกับเดินเข้ามาดีดนิ้วเปาะๆ
“เวลาถ่ายจริงเอาอย่างนี้เลยนะ เอาให้คนตะลึง เอาให้คนมองอย่างนี้เลย”
ทุกคนแถวนั้น ถอนหายใจโล่งอก น้อยกับเปีย พ้นจากอาการตะลึงก็ลุกขึ้น
“ถ่ายหนัง” เปียโพล่งออกมา
ผู้กำกับสวน
“ถ่ายละคร รู้เหลี่ยมคน อย่าลืมติดตามชมนะครับ...เคลียร์ๆ ตอนถ่ายจริง อย่าให้คนเข้ามานะ”
“ครับ” ทีมงานรับคำ
ทุกคนแยกย้ายกันไป ทุกอย่างเข้าสภาพปกติ มีแต่เย็นที่ยืนอึ้ง อึ้งเหมือนภาพอดีตย้อนกลับมาตรงหน้า เปียหัวเราะคิกคักชอบใจ ขณะที่น้อยถอนหายใจ
“ที่แท้ก็ถ่ายละคร โล่งอก นึกว่าเป็นเรื่องจริง”
“ถ้าเรื่องจริงก็แซ่บเวอร์ เป็นเปียนะ จะตบนังเมียน้อยให้กระเด็น ออกไปให้รถเหยียบเลย หนอย เป็นแค่คนใช้ สะเออะไปรักเจ้านาย ไม่เจียม”
“หยุดพูดได้รึยังยัยเปีย” เย็นหันมาดุ
“หยุดทำไมล่ะคะน้าเย็น เมาท์เรื่องผัวๆเมียๆมันจะตาย” เปียหัวเราะ
“ถ้ามัน มันนักก็อยู่ที่หัวลำโพงนี่แล้วกัน เผื่อเธอจะได้เป็นเมียคนจรจัดแถวนี้ คนอื่นเขาจะได้เมาท์ถึงเธอให้มันปาก ไปยัยน้อย” เย็นสะบัดหน้าไป
“ค่ะ น้าเย็น” น้อยรีบตามไป
เปียยิ้มเบ้ปาก
“อู้ย...สาวแก่อย่างน้าเย็นจะไปรู้เรื่องผัวๆเมียๆได้ยังไง ไม่เหมือนสาวพราวเสน่ห์อย่าง ซีเปีย อิอิ...อ้าว หายไปไหนกันแล้ว น้าเย็นๆ”
เปียวิ่งตามไป
อ่านต่อหน้า 3
คมพยาบาท ตอนที่ 2 (ต่อ)
อุทัยนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานที่บริษัท วณีเดินหน้าเศร้าเข้ามา
“นี่วณียังคิดมาก เรื่องที่คุยกับคุณแม่เมื่อเช้าเหรอจ้ะ”
“เปล่าค่ะ...แต่ตาเลอสรรเพิ่งไลน์มาบอก ว่าจะเลื่อนเดินทางกลับ เฮ้อ...ตาเลอนะตาเลอ ไม่รู้รึไง ว่าวณีคิดถึงจะตายอยู่แล้ว”
“ตาเลอ อาจติดธุระด่วน เสร็จธุระ เดี๋ยวตาเลอก็กลับมา”
“ธุระอะไร ตอนแรกก็คอนเฟิร์มวณีเป็นมั่นเป็นเหมาะ”
“อืมห์ งั้นเอางี้” อุทัยหยิบมือถือมาจะถ่ายรูป “พี่ถ่ายรูปวณีส่งให้ตาเลอเห็นดีกว่า ว่าวณีเครียดจนตีนกาขึ้นเต็มไปหมดแล้ว ตาเลอจะได้กลับตามกำหนดเดิม”
วณีหัวเราะไม่ให้ถ่าย
“ไม่เอาค่ะ”
“งั้นก็อย่าทำหน้างอ ไม่งั้นพี่ถ่ายรูปวณีตอนหน้างอๆส่งไปให้ตาเลอเห็นแน่ๆ”
วณียิ้มขำ ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย แต่กลับหมองลงอีก
“การรอคอยทุกอย่าง...เป็นเรื่องที่ทรมานจริงๆค่ะ”
ประมูลยืนรอเย็นอยู่มุมหนึ่งในหัวลำโพง พอเห็นเย็นก็กวักมือเรียกอย่างดีใจ
“เย็น...เย็น ทางนี้เย็น”
เย็นหันมามอง
“เอ้า...คุณประมูล มองหาซะตั้งนานอยู่นี่เอง...น้อย นี่คุณประมูลที่เราจะไปอาศัยเขาอยู่”
“สวัสดีค่ะคุณประมูล” น้อยไหว้นอบน้อม
“เรียกลุงประมูลได้จ้ะ...แล้วนี่มากันแค่นี้เหรอ ”ประมูลรับไหว้
เย็นหันมามองไม่เห็นเปีย
“เอ้า...แล้วนี่เปียหายไปไหน หลงทางแน่เลย” เย็นกัดฟันหมั่นเขี้ยว “มันน่านัก น้อยไปตามหน่อยเร็ว จะได้รีบไป”
“ค่ะ...คุณน้า” น้อยรีบไปทันที
ประมูลมองตาม
“เห็นท่าทางเงียบๆ เอาเข้าจริง เป็นคนกล้าเหมือนกันนะ”
“กล้าเป็นบางเรื่องแล้วก็โง่เป็นบางเรื่องค่ะ...อย่างที่เขาว่า คนดี...เลือดผู้ดี บางทีก็ไม่ทันเรื่องร้ายๆหรอกค่ะ”
เย็นยิ้มเป็นนัย ประมวลมองไม่เข้าใจ
เปียหน้าตาเหลอหลาหลงทาง
“เผลอแป๊บเดียว หายไปไหนกันหมด” เปียขัดใจ แต่ก็เหวอๆเสียงอ่อยๆ “ใจคอ น้าเย็นจะปล่อยให้เราเป็นเมียคนจรจัดที่หัวลำโพงจริงๆรึไง”
เปียเหลียวซ้ายแลขวาหน้าซีด น้อยวิ่งมาเห็นร้องเรียก
“เปีย ทางนี้ เปีย”
เปียหันขวับไปตามเสียง จังหวะที่หัน เปียชนเลอสรรที่แต่งตัวทรุดโทรม เหมือนคนจรจัดเต็มแรงเปียเป็นฝ่ายผิดแต่แว๊ดใส่เขาอย่างรังเกียจ
“ว้าย...ไอ้บ้า ไอ้คนจรจัด ไอ้สกปรก ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“ขอโทษก็ได้ แต่จริงๆแล้ว คุณเป็นคนชนผมนะ”
เปียเบ้ปาก เบ้หน้าใส่
“ฉันน่ะเหรอ จะเอาเนื้อตัวที่ขาวสะอาด ขาวอล่องฉ่องไปชนคนสกปรกคนจรจัดอย่างแก มีแต่แกนั่นแหละ จงใจจะลวนลามฉันใช่มั้ย”
เปียหันรีหันขวางคว้าขวดน้ำปาใส่ เลอสรรร้อง ยกมือกันตัวเอง น้อยวิ่งเข้ามา
“อย่าเปีย อย่า...”
เปียหันไปแว้ด
“มาห้ามทำไม มันจะลวนลามฉัน”
“น้อยไม่ได้เห็นเขาทำอย่างนั้นเลยนะ เห็นแต่เปีย...ชนเขา”
เลอสรรหันมามองน้อย ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ขณะที่เปียหันมาแว้ดน้อย
“นี่เธอว่าฉันให้ท่ามันเหรอ คนอย่างซีเปียเหรอจะให้ท่าคนจรจัด ไม่มีทาง”
เปียมองเลอสรรเหยียดหยาม ก่อนหันมาเหน็บน้อย
“แต่ถ้าเป็นเธอ ไม่แน่”
เปียเดินผละไปไม่สนใจ น้อยหันมามองเลอสรรบอกอ่อนโยน
“ฉันขอโทษแทนพี่สาวฉันด้วยนะคะ...” น้อยรีบตาม “เปีย...เปีย รอน้อยก่อน”
เลอสรรล้วงเอากล้องมือถือขึ้นมาตะโกนเรียกน้อย
“คุณ”
น้อยหันมาเลอสรรหลบข้างเสาไม่ให้น้อยเห็นแล้ว เอามือถือถ่ายรูปเอาไว้ น้อยหน้าเลิ่กลั่ก มองไม่เห็นใครเรียก ก่อนจะตามเย็นไป เลอสรรมองตามอมยิ้ม
“เปีย น้อย พี่น้องประสาอะไร ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย”
ผู้กำกับเดินเข้ามา
“ตะกี้มีเรื่องอะไรกัน”
“เขาเข้าใจว่าผมเป็นคนจรจัดน่ะครับ” เลอสรรหัวเราะ
ผู้กำกับหัวเราะขำไปด้วย
“แสดงว่า ทีมงานของเรา ทำงานกันมาดี แปลงร่างเลอสรรซะไม่เหลือคราบหนุ่มไฮโซเลย ป่ะ...ไปเข้าฉากกัน แล้วนี่มือถือ พี่เก็บไว้ให้ก่อน เดี๋ยวเผลอเอาไปเข้าฉากด้วยล่ะยุ่งเลย”
ผู้กำกับ พาเลอสรรไปกองถ่ายเขามองตามน้อย เห็นวิ่งตามเปียเป็นลูกไล่เลอสรรยิ้มเอ็นดูน้อย ระอาเปีย
“โลกจะกลม จนเราได้เจอกันอีกมั้ยน้อย”
เปียเดินนำน้อย เย็นชะเง้อคอมองหาห่วงปนหงุดหงิด
“หายไปไหนกัน หรือว่าหลงทางกันทั้งคู่”
เปียวิ่งเข้ามา
“น้าเย็นขา เปียมาแล้วค่ะ”
“เป็นห่วงแทบแย่ หายไปไหนมาตั้งนาน”
“ก็น้อยน่ะสิคะ มัวแต่ไปเล่นหูเล่นตากับคนจรจัด”
น้อยที่ตามมาได้ยินหน้าซีด
“น้อยเปล่านะคะน้าเย็น น้อยเปล่า”
“เปล่าอะไร ฉันเห็นกับตา ฉันวิ่งมาแล้ว เธอยังไปพูดอะไรกับมันตั้งนานสองนาน นี่แอบนัดแนะให้มันมาหาใช่มั้ย” เปียสวน
“จะบ้าเหรอเปีย น้อยเพิ่งมานะ จะไปนัดใครได้ยังไง”
“แน่ะๆงั้นแสดงว่า ถ้าอยู่นาน เธอก็พร้อมจะนัดผู้ชายใช่มั้ย” เปียหัวเราะ
“ยัยเปีย คำว่ามารยาทน่ะมีบ้างมั้ย”
เย็นดุ เปียรู้ตัวหันไปเห็นประมูล
“อุ๊ต๊ะ! สวัสดีค่ะคุณลุงประมูล แหม...เปียนึกว่าคุณลุงจะหนุ่มกว่านี้นะคะเนี่ย...ที่ไหนได้ แก่กว่าที่คิดเยอะเลย”
“ยัยเปีย” เย็นแทบจะหยิก
“อะไรคะน้าเย็น” เปียยังไม่รู้ตัว
“ขอโทษนะคะคุณประมูล ไปกันเถอะค่ะ”
“จ้ะๆ”
ประมูลหน้าเจื่อนๆเดินไป เย็นหยิกเปียหมับ ถลึงตาใส่
“ปากไม่มีหูรูด”
“เปียอั้นไว้แล้วนะคะ เพราะถ้าไม่อั้น เปียจะบอกว่าคุณประมูลทั้งแก่ ทั้งขี้เหร่หัวก็เถิก ลงพุงอีกต่างหาก”
ประมูลที่เดินไปแล้ว ตีหน้าปูเลี่ยนๆ เมื่อได้ยินเสียงลอยมาตามลม เย็นหยิกเปียอย่างอดไม่ได้ เปียร้องโอ๊ยอย่างน่าหมั่นไส้ที่สุดเย็นคำราม
“ถึงบ้านเมื่อไหร่ ฉันจะจับเธอทำปุ๋ยเลยยัยเปีย”
ค่ำนั้นประมูลขับรถเข้ามาในบ้าน ทันทีที่ลงจากรถ เปียก็ตาโตตามประสา
“โห…บ้านสวยจังเลยค่ะ ต้นไม้ก็สวย แต่ต้นไม้สวยๆอย่างนี้ไม่ต้องจับเปียทำปุ๋ยแล้วนะคะ จับน้อยดีกว่า”
“น้อยเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ” น้อยงงๆ
“เถียงกันมากๆจะถูกจับทำปุ๋ยทั้งคู่นั่นแหละ” เย็นปราม
ประมูลหันไปสั่งแม่นุ่ม
“แม่นุ่ม เดี๋ยวพาคุณเย็น หนูเปีย หนูน้อยไปห้องพักนะ...ตามสบายนะเย็น”
“ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วย”
“ผมบอกแล้วไง ยินดีและเต็มใจช่วยคุณเสมอ”
ประมูลยิ้มให้เย็นสายตาบ่งบอกว่ารักใคร่เปิดเผย เปียแอบยิ้มแบบเด็กแก่แดด เย็นดวงตาอ่อนลงแต่ไม่ได้ยิ้มรับไมตรี
“งั้นฉันขอเข้าที่พักก่อนนะคะ”
“เชิญครับ”
ประมูลเดินนำเย็นเข้าไป เปียหันมาพูดกับน้อย
“อีตาคุณประมูลนี่...ชอบน้าเย็นของเราแหงๆ ส่วนเธอก็ชอบคนจรจัดนะยัยน้อย ขนกระเป๋าเข้ามาให้ด้วย” เปียหัวเราะคิกเดินเข้าไป
“เขาไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย ไปแขวะคนจรจัดเขาทำไม”
น้อยมองกระเป๋าเปียระอาก่อนจะหิ้วเข้าไปอย่างทุลักทุเล
วณีเดินออกมานอกบ้าน แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเลอสรรในสภาพคนจรจัดยืนอยู่ในเงามืดของต้นไม้
“ใครน่ะ”
เลอสรรยิ้มเดินออกมา
“ผมเองครับ น้าวณี”
วณีกวาดตามองทั้งตกใจ แปลกใจ ดีใจ ตื่นเต้น มองจ้อง
“เลอสรร...”
“ครับ ผมเลอสรร”
“เลอสรรจริงๆด้วย” วณีโผเข้ากอดแน่นพร้อมตะโกน “พี่อุทัยค่ะ เลอสรรกลับมาแล้วค่ะ”
วณีกับเลอสรรโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ อุทัยเดินแกมวิ่งออกมา เลอสรรยกมือไหว้
“สวัสดีครับคุณน้า”
“สวัสดีๆ ว่าแต่มันเรื่องอะไรถึงได้แต่งเนื้อแต่งตัวแบบนี้”
“พอดีไปเล่นเป็นตัวประกอบให้รุ่นพี่ที่คณะน่ะครับ อีกอย่าง ตั้งใจมาเซอร์ไพร์สน้าวณีด้วย”
“เลยโกหกว่าเลื่อนกลับ จนน้าวณีบ่อน้ำตาแทบแตก”
“มาเซอร์ไพร์สจริงๆ น้าตกใจแทบแย่ ป่ะ ไปหาคุณย่ากัน” วณีหัวเราะ
เลอสรรคว้ากระเป๋าเดินทางที่แอบวางซุกอยู่แถวนั้นเดินเข้าไปด้านในกับวณีและอุทัย
เลอสรรก้มลงกราบที่ตักของคุณหญิงอนุรักษ์
“สวัสดีครับคุณย่า”
“ไหว้พระๆจ้ะลูก” คุณหญิงจับคางเงยหน้าขึ้นมาดู “แหม...โตขึ้นมาหน้าตาขาวสะอาด แต่ทว่าคมเข้มแปลกดีจัง”
“คงได้ส่วนผสมของคุณน้าอุทัยและคุณน้าวณีมาน่ะครับคุณย่า”
“เหมือนทั้งสองคนว่างั้น..เฮ้อ!พูดแล้วก็คิดถึงหนูเอื้อย...ถ้าป่านนี้หนูเอื้อยยังอยู่ หน้าตาจะสวยงามแค่ไหนน้อ”
วณีได้ยินน้ำตาร่วงผุดลุกออกไป คุณหญิงตกใจบอกอุทัย
“แม่ขอโทษ...แม่ลืมไป แม่แค่คิดถึงหนูเอื้อย”
“วณีก็คงคิดถึงหนูเอื้อยเหมือนกัน”
อุทัยตามวณีออกไป คุณหญิงกับเลอสรรมองหน้ากัน ก่อนที่เลอสรรจะประคองคุณหญิงออกไป เหล่าบรรดาคนใช้ที่นั่งรอรับใช้ ได้แต่มองเห็นใจ
วณียืนร้องไห้ อุทัยเดินมาปลอบใจ
“วณี...อย่าโกรธคุณแม่นะ ท่านไม่ได้ตั้งใจ”
“เปล่าค่ะ วณีไม่ได้โกรธคุณแม่ วณีเพียงแต่คิดถึง...วันนี้วณีจะมีความสุขแค่ไหนหนอ ถ้าพวกเราได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากัน มีคุณ มีวณี มีคุณแม่ มีตาเลอสรร แล้วก็มีหนูเอื้อย...วณีคิดถึงลูกจริงๆค่ะ คิดถึงจนใจจะขาด”
วณีโผซบเข้ากับอกของอุทัยร้องไห้ เขาได้แต่กอดปลอบ
“ผมก็คิดถึง แล้วก็ได้แต่หวัง สักวัน...ลูกกับเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
เลอสรรยืนมองอยู่กับคุณหญิงอนุรักษ์
“จนป่านนี้ ยังไม่ได้ข่าวหนูเอื้อยอีกเหรอครับคุณย่า”
“ใช่ลูก...พยายามตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เคยจะได้ข่าวคราวเลย ไม่รู้นังสันดานเย็น มันพาหนูเอื้อยไปอยู่ที่ไหน”
คุณหญิงพูดได้แค่นั้นก็น้ำตาไหลออกมา เลอสรรกอดคุณหญิงปลอบ
“ผมก็มีความหวังอย่างคุณน้าอุทัย...สักวันหนูเอื้อยจะต้องได้กลับมาอยู่กับพวกเราอีกครั้ง”
“ย่าก็หวังอย่างนั้น แต่ที่ย่าทุกข์ทรมานใจก็คือ ย่าไม่รู้ หนูเอื้อยจะมีชีวิตอยู่รึเปล่า และถ้ามีป่านนี้หนูเอื้อยของย่าจะเป็นตายร้ายดียังไง”
คุณหญิงปล่อยโฮ เลอสรรได้แต่กอดเอาไว้ ขณะที่อุทัยก็กอดปลอบวณี
น้อยจัดข้าวของใส่ตู้เสร็จ ก็เอาหนังสือ ออกมาอ่านมาติว เปียชะโงกหน้าเข้ามามองแล้วเหน็บแนม
“นี่อย่ากระแดะนักได้มั้ยน้อย”
“น้อยกระแดะอะไร” น้อยงง
“ก็มันปิดเทอม เธอจะมานั่งอ่านหนังสือ ทำการบ้านอยู่ทำไม”
“ก็อ่านเตรียมไว้สอบเข้ามหาวิทยาลัยไง”
“เชอะ...แอ๊บล่ะสิ” เปียเบ้ปาก
“แอ๊บอะไร”
เปียยิ้มยั่ว
“ก็เธอเอาหนังสือมาอ้าง จริงๆแล้ว เธอกำลังคิดถึงคนจรจัด” เปียเลื่อนสมุดไปตรงหน้าน้อย “งั้นเขียนคำว่าคนจรจัดๆให้ขึ้นใจเลยนะยัยน้อย”
พูดจบเปียก็จิ้มหน้าผากน้อยจนแทบหงายหลัง หัวเราะเดินออกไป น้อยหน้าง้ำไม่พอใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่บ่นตาม
“เปียนี่ยังไง ชอบเอาเราไปยุ่งกับคนจรจัดอยู่เรื่อย”
เปียชะโงกหน้าเข้ามา
“ก็คนจรจัดเป็นเนื้อคู่เธอไง ยัยน้อย”
เปียผลุบหน้าออกไป น้อยทำท่าจะเอาปากกาขว้าง แต่ทำได้แค่คิดน้อยหน้าง้ำ
เลอสรรนั่งมองดูรูปน้อยในมือถืออมยิ้มก่อนใช้โปรแกรมแอพในมือถือ ทำให้น้อยยิ้มๆน้อยๆแล้วแต่งภาพให้น้อยสวยๆ เลอสรรทำไป อมยิ้มไป มีความสุข...แอพสร้างรูปของน้อยเสร็จน่ารักๆเก๋ๆ เลอสรรยิ้ม มองรูปน้อยมีความสุขก่อนจะปริ๊นต์ภาพของน้อยที่แต่งภาพจากมือถือ เอามาใส่กรอบรูป วางไว้บนโต๊ะทำงาน เลอสรรมองดูแล้วยิ้ม
“ถ้าพรหมลิขิตมีจริง หวังว่า....เราคงได้เจอกันอีกนะ...น้อย”
เลอสรรนั่งวาดรูปอยู่ แล้วรู้สึกร้อน
“ทำไมอากาศร้อนอบอ้าวขนาดนี้ แอร์ยังช่วยอะไรไม่ได้เลย”
ท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน...เย็นในสภาพเสื้อผ้าสีอึมครึม เทาๆเดินออกจากบ้านของประมูลด้วยท่าทางเยือกเย็น แต่ดวงตาของเย็นเต็มไปด้วยประกายแห่งความแค้นน่ากลัว
เลอสรรในชุดคลุมว่ายน้ำอาบน้ำ เดินมายังบริเวณสระว่ายน้ำ ก่อนที่จะถอดเสื้อ
คลุมออก กระโดดลงไปในสระ แหวกว่ายด้วยท่าทางแข็งแรง ออกกำลังกายยามดึก คลายร้อน ขณะเดียวกัน เย็นมาหยุดยืนที่บริเวณหน้าบ้านของอุทัย กวาดตามองไปรอบๆ ยิ่งมองก็ยิ่งปวดร้าวใจอย่างที่สุด เลอสรรที่ขึ้นมาจากสระแล้ว ใส่เสื้อคลุมเรียบร้อยกำลังจะเดินเข้าบ้าน เหลือบตาไปมองเห็นเงาคนมายืนตะคุ่มๆหน้าบ้าน ด้วยความสงสัย เขารีบเดินไปดูทันที
เย็นแอบมองหาอุทัย วณีด้วยสายตาคั่งแค้นอยากรู้ความเป็นไป เลอสรรเดินออกมาจากบ้าน เย็นเห็นคนมารีบหลบมุมอยู่บริเวณนั้น เลอสรรเดินออกมาดูไม่เห็นใคร
“ตะกี้เหมือนมีคนยืนอยู่นี่เลย หายไปไหนเร็วจริง”
“มองอะไรตาเลอ”
เลอสรรสะดุ้ง เย็นที่อยู่หลบอยู่ได้ยินเสียงอุทัย ใจเต้นโครมคราม ค่อยๆชะโงกหน้าออกมาดู เห็นอุทัยจับมือวณี ยืนคุยอยู่กับเลอสรรที่หันหลังอยู่ เลอสรรถอนหายใจ
“คุณน้านี่เอง ตกใจหมดเลย”
“ทำไมเหรอลูก มีอะไร” วณีสงสัย
“ตะกี้เหมือนผมเห็นมีคนมายืนแถวนี้น่ะครับ...แต่พอเดินมาดู ก็ไม่เห็นใคร”
“หรือจะเป็นขโมยคะพี่อุทัย”
“นั่นน่ะสิ” อุทัยกวาดตาดู “ต่อไป คงต้องกำชับให้ทุกคนช่วยกันระมัดระวัง แต่วณีไม่ต้องกลัวนะ...พี่เสียลูกไปแล้ว....พี่จะไม่ยอมเสียวณีไปอีกเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะดูแลวณีอย่างดีที่สุด”
อุทัยกอดวณี เย็นได้ยิน ขบกรามแน่น ดวงตาโกรธแค้นริษยาอย่างที่สุด วณีหัวเราะ
“พูดเป็นนิยายไปได้ ไม่อายตาเลอบ้างเลยพี่อุทัย”
“พี่พูดจริง...ตอนนั้นเพราะพี่หลงไว้ใจคนอย่างนังเย็น...มันถึงได้ขโมยหนูเอื้อยไปได้ ต่อไปนี้...ไม่มีวันซะล่ะที่พี่จะไว้ใจใคร”
“แต่ตอนนี้ เวลาผ่านไปนานแล้ว วณีก็ได้แต่หวังว่า...เย็นจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำเหมือนอย่างคนเดิม”
“ผมเอาใจช่วยให้เขาเอาหนูเอื้อยกลับมาคืนคุณน้าไวๆนะครับ” เลอสรรบอกอย่างเห็นใจ
“ขอบใจมากเลอ ถ้าเย็นเอาหนูเอื้อยมาคืน พวกเราคงจะอบอุ่นมีความสุข บ้านคงเป็นบ้านซะที”
อุทัยกอดวณีและเลอสรรพาเดินเข้าไปในบ้าน เย็นยืนนิ่ง ราวกับเป็นรูปปั้นแค้นจัด
เย็นโผเผกลับเข้าไปในบ้านประมูล พึมพำน่ากลัว
“ใช่...ต่อไป บ้านของพวกแกก็จะเป็นบ้าน แต่เป็นบ้านที่ร้อนระอุอยู่ท่ามกลางกองเพลิง”
น้ำตาของเย็นไหลออกมา เย็นสะอึกสะอื้น ก่อนที่จะผล็อยหลับไปด้วยความทุกข์ที่สุมใจ
เช้ามืด เปียนอนหลับอยู่บนเตียง...ท้องฟ้ายังมืดสนิท น้อยนั่งหาวหวอดๆอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ พอหาวน้อยก็สะบัดหน้าไล่ความง่วงงุนก่อนลุกเดินออกไปด้านนอก ทันทีที่ประตูปิด เปียที่นอนหลับอยู่ก็สะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นมา สงสัยว่าน้อยต้องไปทำอะไรแน่ๆ
เย็นนอนหลับสนิทอยู่ในห้อง ต้องสะดุ้งตื่น เมื่อมีเสียงเคาะประตู
“น้าเย็นๆ”
น้ำเสียงเปียร้อนรนไม่ปกติ เปียผุดลุกขึ้นไปทันทีด้วยความห่วง เปิดประตูออกไป
“มีอะไรเปีย”
“น้อยแอบไปหาผู้ชาย”
“หา”
เย็นตกใจจริงๆ หน้าไม่ดุ สงสัยว่าเป็นไปได้ยังไง ตามเปียออกไปทันที
เปียนำเย็นออกไปหน้าบ้าน เปียยิ้มร้ายตามประสา ขณะที่เย็นกังวลตกใจปนงง แต่ทั้งสองคนต้องชะงัก เมื่อเห็นน้อยกำลังนั่งคุกเข่าใส่บาตรพระที่หน้าบ้านด้วยท่าทางสงบ เรียบร้อย อ่อนหวาน แสงพระอาทิตย์ฉายแสงแห่งวันใหม่ ดูภาพของน้อยช่างงดงาม เย็นหันมามองเปียคราวนี้ตาดุ
“ผู้ชาย พระ น้อยมันใส่บาตร”
เย็นทำท่าจะเขกกะโหลกเปียหลบ เสียงอ่อยๆ
“ก็เมื่อวานน้อยมันคุยกับผู้ชาย เปียก็นึกว่ามันจะนัดกับเขาน่ะสิ”
“มีแต่แกนั่นแหละ วันๆคิดถึงแต่เรื่องผู้ชาย”
เย็นถลึงตาใส่เปีย ก่อนเดินกลับเข้าไปในบ้าน เปียหน้าเหวอไปเดินตามเย็นเข้าบ้านไปด้านใน ขณะที่พระให้พร น้อยยกมือไหว้ ดวงหน้ายิ้มละไมสวยงาม
ประมูลกับแม่นุ่มยืนมองน้อยอยู่ด้วยสายตาทึ่งๆ แปลกใจที่เด็กสมัยนี้ตื่นแต่เช้าใส่บาตร ก่อนยิ้ม สายตาบอกว่าน้อยน่ารัก น่าเอ็นดู
น้อย กรวดน้ำหลังทำบุญ ด้วยใบหน้ายิ้มละไม อิ่มเอิบ
เย็นยืนมองปฏิทินแขวนติดฝาผนัง ดวงหน้านิ่ง แต่ดวงตาเต้นระริกไปด้วยความตื่นเต้น ประมูลเดินมาไม่ได้ทันสังเกตสีหน้าและดวงตาเย็น
“เมื่อเช้าผมเห็นหนูน้อย ตื่นแต่เช้ามาใส่บาตร”
“น้อยเขาก็เป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ ชอบทำบุญ”
“หายาก ที่เด็กสมัยนี้ จะสนใจเรื่องตักบาตรทำบุญ หนูน้อยนี่น่ารักจริงๆเลย” ประมูลเพิ่งเห็นเย็นอยู่หน้าปฏิทิน “อย่าบอกนะว่าคุณเพิ่งมาถึง จะนับวันกลับแล้ว”
เย็นยิ้มเย็น เดินออกมายังด้านนอก ประมูลเดินตาม
“ดิฉันยังไม่กลับง่ายๆหรอกค่ะ จะอยู่จนกว่ารู้ผล...ยัยเปียกับยัยน้อยจะสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ที่ไหน”
“ถ้าหนูเปียกับหนูน้อยสอบเรียนต่อได้ คุณพาเด็กๆอยู่กับผมที่นี่นะ” ประมูลดีใจ
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ดิฉันคงต้องหาที่อยู่ใหม่”
“อยู่เถอะนะครับ คุณก็รู้..ผมอยากให้คุณอยู่ที่นี่ด้วยกันจะตาย” ประมูลหน้าเสีย
“อย่าเลยค่ะ ถ้าคุณรู้ว่าจริงๆฉันเป็นคนยังไง คุณอาจจะไม่อยากอยู่ใกล้ฉันเลยก็เป็นได้”
“ไม่มีทาง คุณน่าอยู่ใกล้จะตาย ไม่ค่อยพูด ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหน ขยันขันแข็ง ผมเห็นชีวิตคุณมีแต่เปียกับน้อย”
“ไม่มีใครเปิดเผยตัวเองได้ทุกแง่ทุกมุมหรอกค่ะ ฉันก็เหมือนกันเอ่อ...ถ้าส่งจดหมายจากตากมากรุงเทพฯน่าจะใช้เวลากี่วันคะ”
“อีเอ็มเอส วันสองวันก็น่าจะถึง แต่ถ้าธรรมดาก็ไม่น่าเกินอาทิตย์”
เย็นพูดเบาๆ
“งั้นก็...อีกไม่กี่วัน”
เย็นเดินไปพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย ประมูลมองตามงงๆ
“อะไร ไม่กี่วัน”
หลายวันต่อมา...อุทัยในชุดทำงานเดินอย่างเร่งรีบออกมาจากบ้าน พร้อมวณี นมแสวิ่งมา นมแสในมือหอบเอกสารจดหมายมาด้วย
“คุณคะ...จดหมาย เอกสารค่ะ”
“ไว้ก่อน วันนี้มีประชุม ฉันรีบ” อุทัยเสียงเย็นชา
อุทัยกับวณีขึ้นรถไปพร้อมกัน เอิบขับรถออกไป เลอสรรเดินออกมาจากด้านใน
“มะนมแส เดี๋ยวผมเก็บไว้ให้”
นมแสยืนให้ หน้าเจื่อนๆ
“ขอบคุณค่ะ ฝากด้วยนะคะคุณเลอสรร ตั้งแต่นังเย็นมันขโมยหนูเอื้อยไป ดิฉันเข้าหาคุณอุทัยไม่ติดเลยจริงๆ”
นมแสเดินหน้าจ๋อยไป เลอสรรมองตามนมแส สงสารเห็นใจ เขาตรวจเช็คเอกสารในมือ ว่าส่งมาจากที่ไหนบ้าง จดหมายของเย็น จ่าหน้าซองกรุณาส่ง คุณอุทัย-คุณวณี อนุรักษ์ธานิน อยู่ในนั้น เลอสรรกำลังจะหยิบมาดู เสียงมือถือดัง เขากดรับ
“ครับพี่ กำลังจะไปเดี๋ยวนี้ แล้วเจอกันครับ”
เลอสรรถือกองจดหมาย เอกสารเดินไปที่รถวางไว้เบาะหลัง และขับออกไป
อ่านต่อหน้า 4
คมพยาบาท ตอนที่ 2 (ต่อ)
วันต่อมา...เย็นยืนจ้องปฏิทินพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย ประมูลเดินมาข้างหลังเห็นเย็น
“อะไรกันคุณเย็น เอาแต่ยืนจ้องปฏิทินอีกแล้ว”
เปียที่อยู่อีกมุม มองเย็นนานแล้ว ออกความเห็นทันที
“นั่นน่ะสิคะ...น้าเย็นจ้องปฏิทินจนตาจะเหล่ส่วนเปียก็นั่งตูดบานอยู่เนี่ย เบื่อจะตายอยู่แล้ว”
“นี่...จะพูดจะจาอะไร หัดระวังหน่อยนะยัยเปีย” เย็นถลึงตาใส่
เปียเหลอหลาแบบไม่รู้จริงๆ
“เปียพูดอะไรผิดคะ”
เย็นหมั่นไส้มาก กัดฟันกรอด ตรงเข้ามาบิดก้น
“ยังจะมาย้อนถามฉันอีก เดี๋ยวฉันก็บิดให้ตูดเธอแตกหรอก”
เปียแรกๆร้อง แต่พอเย็นพูดจบเปียก็หัวเราะ
“อ๋อ...น้าเย็นไม่ให้เปียพูดตูด แล้วน้าเย็นมาบิดจนตูดเปียจะแตกมันถูกเหรอคะน้าเย็น”
เย็นหมั่นไส้ๆสุดๆ คราวนี้เงื้อมือขึ้นจะฟาด
“หื้อ...เดี๋ยวปากก็แตกอีกอย่างหรอก”
น้อยหลับหูหลับตา ประมูลเข้ามาห้าม
“อย่าคุณเย็น”
“ไม่ต้องมาห้ามเลยค่ะคุณประมูล” เย็นมองเปียถลึงตาดุ “เด็กอะไร รั่ว พูดจาไม่มีสติ ไม่อยู่กับร่องกับรอย”
“แต่อย่างที่เปียพูดก็ถูกนะ คุณห้ามแก แต่คุณกลับทำซะเอง แล้วเด็กจะรู้ได้ ยังไง ว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรควร อะไรไม่ควร”
“จริงค่ะคุณลุงประมูล”
เย็นถลึงตาใส่หมั่นไส้มาก
“จะไปไหนก็ไปเลยยัยเปีย ก่อนที่ฉันอดใจไม่อยู่แล้วเธอจะถูกจับทำปุ๋ย”
“งั้นเปียไปเที่ยวห้างนะคะ...ไป น้อย ไปเที่ยว” เปียคว้ามือน้อยทันที
“น้อยไม่ไป น้อยจะอ่านหนังสือ”
เปียถลึงตาใส่แบบที่เย็นทำ ยกมือจะตบ
“ถ้าไม่ไป ก็เลือกเอา จะเอาหน้ามือ หรือหลังมือ”
น้อยหลบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เปียลากแขนน้อยออกไปอย่างแรง จนหัวคะมำ
โดยที่เย็นไม่ได้ว่าอะไร นอกจากตะโกน
“อย่ากลับค่ำนะ ไม่งั้นน่าดู”
ประมูลถามเย็นอย่างสงสัย
“ในเมื่อน้อยไม่อยากไป ทำไมคุณถึงปล่อยให้เปียบังคับน้อย”
“ฉันสอนยัยน้อยมาตั้งแต่เล็กจนโต เกิดเป็นคน มันต้องสู้ ถ้าไม่สู้ ก็จะเป็นคนแพ้ตลอดไปซึ่งเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้”
เย็นเดินไป ท่าทางไม่รู้สึกรู้สา ประมูลมองตามไม่เข้าใจ
เย็นเดินออกมานอกบ้าน บริเวณสวนที่ร่มรื่น แต่หน้าตาเย็นตรงกันข้าม
“แต่ถ้าคนแพ้ มันฮึดสู้ เกมมันต้องพลิกแน่ๆ อ่านจดหมายฉบับนี้ไปก่อน แล้วรอจดหมายฉบับต่อไปนะคะคุณอุทัย”
เย็นน้ำเสียงยิ้มเยาะ หน้าตาเยาะเย้ย เปียแต่งตัวเสร็จเดินออกมา กวาดสายตามองไม่เห็นใคร เปียผลุบเข้าห้องเย็น กดปิดมือถือของเย็น
“จะกลับดึกแค่ไหน นังน้อยก็โทรมาฟ้องไม่ได้แล้วนะคะน้าเย็น”
เปียหัวเราะ แล้วเดินออกไป
น้อยยืนรอเปียอยู่ด้านนอก พอเปียเดินมาน้อยก็ถาม
“หายไปไหนมา น้อยรอตั้งนาน”
“ถ้าถามอีกคำนึง โดนตบปากแตก”
เปียค้อนเดินนำไป น้อยระอา
ในห้างสรรพสินค้า เลอสรรในชุดคนจรจัด เดินเข้ามาบริเวณกองถ่ายที่ตั้งอยู่ในห้างเจอทีมงานหน้าหงิก
“เป็นไรพี่โต้ง”
“พี่ลืมเอาพร็อบจดหมาย เอกสารมาจากออฟฟิศนะครับคุณเลอ นี่น้องทีมงานอีกคนกำลังกลับไปเอาอยู่ แต่กลัวไม่ทันจัง จะถ่ายทำอยู่แล้วด้วย”
พี่โต้งยกนาฬิกาขึ้นมอง ท่าทางกระวนกระวาย เลอสรรนึกได้
“ ผมมีๆ เดี๋ยวผมให้พี่ยืมเอาไปใช้ก่อน รอเดี๋ยวนะครับ”
“ขอบคุณมากๆครับคุณเลอ”
พี่โต้งดีใจ เลอสรรยิ้มก่อนเดินไป ทีมงานโล่งใจ
เปียดึงแขนน้อยที่ทำท่าอิดออดเดินมาตามทางห้างสรรพสินค้า เปียโมโห
“นี่...เดินเร็วๆได้มั้ยน้อย แดดร้อนจะแย่ ชักช้าผิวฉันเสียหมด”
เปียยื้อยุดฉุดกระชากน้อยแบบขัดใจเต็มที่ เลอสรรหยิบกองจดหมายออกมาจากรถและปิดประตู หลังของเลอสรรชนเข้ากับด้านหลังของเปีย สองคนร้อง ขณะที่จดหมายในมือของเลอสรรตกลงพื้น เปียเห็นเลอสรร เป็นคนจรจัดก็กรี๊ด
“ไอ้จรจัด ต๊าย เดินสายมาถึงนี่เลยเหรอยะ...นี่แกกำลังจะขโมยรถใช่มั้ย”
“เปล่านะครับ ผมเปล่า”
เลอสรรรีบบอก ก้มลงจะหยิบจดหมายเห็นชื่ออุทัยจ่าหน้า
“ฉันไม่เชื่อ”
เปียเอากระเป๋าถือฟาด เลอสรรผงะ จดหมายหล่นพื้นซองพลิก น้อยร้อง
“อย่าเปียอย่า”
เปียไม่สนใจ ฟาดๆ เลอสรรเซล้มลง มืออยู่ข้างกองจดหมายพอดี เลอสรรไม่อยากมีเรื่องจะหยิบจดหมาย เปียกระชากกองจดหมายไป ด้านหลังจดหมายเห็นชัด เนื้อเย็น บัวแย้ม แต่นาทีนั้นไม่มีใครสนใจจดหมาย ทะเลาะกันอยู่ เลอสรรชักฉุน
“เอาของผมคืนมา”
เปียเบี่ยงตัวหลบ ไม่คืน ถลึงตาใส่
“ต๊าย กล้าพูดนะไอ้ขอทานไอ้คนจรจัดว่านี่เป็นของๆแก มาขโมยรถเขา ยังจะปากดีอีก ฉันจะจับแกเข้าคุก ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย คนขโมยรถ”
ทั้งเลอสรรทั้งน้อยตกใจ คนที่อยู่บริเวณนั้นก็หันมามองเป็นตาเดียว น้อยฉุดเปีย
“อย่านะเปีย อย่า...”
“ฉันกำลังเป็นพลเมืองดี เธอจะมาห้ามฉันทำไมยัยน้อย”
เปียผลักน้อยเต็มแรง ร่างน้อยเซถลา ไปชนเข้ากับเลอสรร เขาต้องคว้าเธอไว้ ไม่ให้ล้ม จึงเหมือนประคองกอดน้อย เปียหัวเราะลั่น
“เธอนี่ช่างเหมาะสมกับไอ้คนจรจัดจริงๆยัยน้อย ปล่อยให้มันกอดอยู่นี่แหละฉันจะไปตามคนมาจับมัน”
เปียปากองจดหมายในมือใส่หน้าเลอสรร จดหมายหล่นพื้น
“อย่านะเปีย จะบ้าเหรอนี่มันของๆเขา”
“ของๆมันที่ไหน มันขโมยเขา คนขี้ขโมยก็ต้องเจอแบบนี้ล่ะ มากับฉันเร็ว”
น้อยมองเปียระอาไม่สนใจ หันไปพูดกับเลอสรร
“ขอโทษนะคะ”
น้อยนั่งลงจะเก็บจดหมายให้ กองจดหมายที่หล่นเกลื่อนพื้น เห็นชื่อเนื้อเย็น บัวแย้มหรา น้อยจะหยิบ แต่เปียกลับพุ่งพรวดเข้าไปหยิบกระชากจดหมายออกมาจากมือน้อยแทน แล้วเหวี่ยงกองจดหมายไปไกล และผลักน้อยเต็มแรง ด้วยความโกรธ น้อยร้องลั่นด้วยความเจ็บ เลอสรรตกใจมาก ห่วงน้อย
“คุณ” เลอสรรนั่งลงข้างน้อยประคอง ไม่มีใครสนจดหมาย
เปียเซผงะโกรธมาก
“ไอ้บ้า ไอ้จรจัด”
เลอสรรโกรธ
“ไปตามตำรวจมาเลยไป ผมจะได้ให้ตำรวจจับคุณ”
“กล้าดียังไงมาจับฉัน” เปียโกรธตัวสั่น
พี่โต้งวิ่งเข้ามา
“มีอะไรเหรอครับคุณเลอ”
“เข้าใจผิดกันนิดหน่อยครับ ไม่มีอะไร”
เปียมองงงๆ แต่เถียง
“ไม่มีได้ยังไง ก็แกขโมยรถเขาน่ะ” เปียชี้ที่รถของเลอสรร
“คุณเข้าใจผิดแล้วครับ รถคันนี้ของคุณเลอจริงๆ”
“คนจรจัดที่ไหนจะมีปัญญามีรถแพงขนาดนี้” เปียมองโต้งหัวจรดเท้า เบ้ปาก “ท่าทางอย่างนี้ พวกเดี๋ยวกันล่ะสิ ดี ฉันจะไปแจ้งตำรวจ ทัวร์ยกแก๊งเข้าคุกกันไปเลย”
“หยุดเถอะน่าเปีย ไปกันได้แล้ว” น้อยสุดจะอาย หันไปบอกเลอสรร “ขอโทษนะคะ”
เปียไม่ยอม อ้าปากจะด่าจะเถียง น้อยเสียงแข็ง
“ไปเร็วเข้าเปีย ไม่งั้นน้อยจะกลับบ้าน และเปียก็จะต้องอดเที่ยว”
น้อยลากเปียไป เปียจำต้องไปตามแรงลากของน้อย แต่หันไปมองเลอสรรแบบงงๆ เลอสรรมองตามระอา ก้มลงเก็บกองจดหมาย เอกสารที่กระจายที่พื้น บอกพี่โต้ง
“คนอะไร ล้นจริงๆ”
“หน้าตาก็ดี ไม่น่าเป็นโรคประสาทเลยนะครับ”
เลอสรรหัวเราะออกมาได้
“แต่จะว่าเขาก็ไม่ได้นะครับ เพราะท่าทางผม มันเหมือนคนจรจัดจริงๆ”
พี่โต้งหัวเราะ
“จริงด้วย ไปครับ รีบไปกันเถอะ จะถ่ายทำกันแล้ว อ้อ!จดหมายทีมงานเอามาแล้ว คุณเลอเก็บเถอะครับ”
“ครับ”
เลอสรรเปิดรถเก็บจดหมาย ที่เลอะเทอะไปหมดแล้วก็ถอนใจ มองตามน้อยอย่างเสียดาย ที่ไม่ได้รู้จักมากกว่านี้
เปียเดินหน้าง้ำหน้างอเข้าไปในห้าง เปียเดินเร็วชนิดจ้ำพรวดๆน้อยวิ่งตาม
“เปีย จะรีบเดินไปไหน รอก่อน”
“ไปเลยนะไม่อยากเห็นหน้า” เปียผลักน้อย
“เป็นอะไรอีกล่ะ”
เปียหันมามองตาเขียว
“ก็ตะกี้ใครบอกให้เธอไปเข้าข้างไอ้จรจัดนั่น”
“น้อยเข้าข้างเขาที่ไหน น้อยเข้าข้างเปียต่างหาก ไม่ได้ยินเหรอ เขาบอกจะไปตามตำรวจมาจับเปียน่ะ”
“มันกล้ามาจับซีเปีย ก็ให้มันรู้ไปสิ ฉันจะตามพรรคพวกมาแว้นเหยียบหน้ามันเลย ทำมาอ้างว่าเป็นคนรวยเจ็บใจนัก พูดแล้วคนสวยอารมณ์เสีย เอามานี่” เปียแบมือ
“เอาอะไร”
“เงิน เอาเงินมาให้ฉันเลยนะ ฉันจะช้อปปิ้งแก้เครียด ทำอะไรไอ้จรจัดไม่ได้ฉันเครียด” เปียตบอกตัวเอง “เครียดมากเอามาเลย”
เปียแย่งค้นกระเป๋า น้อยปัดป้อง
“อย่านะเปีย อย่าเอาของน้อย น้อยไม่มีเงินหรอก”
เปียกระชากกระเป๋าอย่างแรง เปิดดู ควักแบงค์ร้อย ห้าร้อยออกมา
“นี่อะไร เขาเรียกเงินยัดปากผีเธอเหรอยัยน้อย”
เปียผลักน้อยอีก น้อยเซ หน้าเสีย
“อย่าเอาเงินของน้อยเลยนะ น้อยอุตส่าห์หางานพิเศษทำ”
“จะเอา”
“เกรียน”
เปียผลักอกอีก
“เออ...เกรียน เกรียนแล้วทำไม มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“หาเรื่องเอาเงินน้อยน่ะสิ เอาเงินน้อยคืนมาเถอะ น้อยมีเงินอยู่นิดเดียว”
“ต่อให้เธอมีแค่สลึงเดียว ฉันก็จะเอา” เปียเอาเงินของน้อยทั้งหมด ชูเหรียญสลึง “เอาไว้ยัดปากผีเธอยัยน้อย”
เปียเอาเหรียญสลึงยัดปาก น้อยร้องปัดป้อง ไม่ยอมให้ยัด เปียมองหมั่นไส้แล้วปากระเป๋าของน้อย แทบถูกหน้าน้อย ก่อนเดินฉับๆไป น้อยได้แต่ร้อง
“โธ่เปีย”
น้อยขัดใจทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆวิ่งตาม
เปียเดินเข้าไปในห้าง เห็นเสื้อผ้า-ข้าวของน่ารักมากมายเยอะแยะไปหมด โดยเฉพาะเสื้อที่โชว์อยู่ในหุ่น สวยมาก แต่ค่อนข้างโป๊ เปียมอง
“อยากได้ แต่ไม่มีเงินจะซื้อเนี่ย มันทรมานยิ่งกว่าชะนีคันแล้วไม่ได้ผู้ชายอีกนะเนี่ย”
น้อยเดินตามมาได้ยินตกใจ
“ตาย ทำไม เปียพูดจาน่าเกลียดอย่างนี้”
“น่าเกลียดตรงไหน เพื่อนสก๊อยของฉันเขาก็พูดกันอย่างนี้แหละ”
“แต่เปียพูดอย่างนี้ไม่ได้นะ มันไม่ดี”
“โอ๊ย...โน่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ดี เธอนี่ชักจะเหมือนน้าเย็นขึ้นทุกวันแล้วนะยัยน้อย ห้ามโน่นห้ามนี่ไปหมด” เปียมองของ สายตาอยากได้มากๆ “ฉันจะต้องเอาเสื้อตัวนี้มาเป็นของฉันให้ได้”
“อย่าขโมยนะเปีย” น้อยตกใจ
เปียทำท่าจะเบิ๊ดกะโหลกน้อย
“พูดจาโง่ๆเหมือนกับหน้าตาอีกแล้วนะยัยน้อย เสื้อมันอยู่ในหุ่น เธอจะให้ฉันแบกหุ่นทั้งตัววิ่งหนีเขาเหรอ”
“ก็ไม่รู้สิ เห็นว่าเปียอยากได้” น้อยอ่อยๆ
“ฉันมีวิธีของฉันแล้วกันน่า”
เปียเดินถอยหลังหน้ายิ้มๆแบบทะเล้นๆออกจะล้นๆ จนมาหยุดยืนอยู่ที่ป้ายที่ติดเอาไว้ ที่ป้ายเขียนว่า
“รับสมัครพริตตี้สาวสวย รายได้ดี”
เปียเดินลิ่วเข้าไปในงานมอเตอร์โชว์ในห้าง เห็นรถยนต์คันหรูจอดอยู่หลายคัน พร้อมพริตตี้ที่ค่อนข้างเซ็กซี่หลายคน เปียเดินยิ้มเข้าไป ดึงแขนเสื้อลง เปิดให้เห็นไหล่
“มาสมัครเป็นพริตตี้ค่ะ”
น้อยตาเหลือก
“เปีย อย่านะ ไม่งั้นน้อยจะโทรฟ้องน้าเย็น”
เปียเบ้ปาก ทำเสียงล้อๆ
“เชิญเลยย่ะ ขุ่นแม่ขี้ฟ้อง”
เปียหัวเราะใส่น้อยแล้วเดินเข้าไป น้อยหน้าเสีย เคืองเปียที่สุด
ประมูลนั่งทำงานอยู่ในบ้าน เสียงโทรศัพท์บ้านดัง เขาเดินไปรับ
“สวัสดีครับ...ได้จ้ะๆ เย็น...โทรศัพท์”
ประมูลหันไปบอกเย็นที่เดินมาพอดี เย็นชี้ตัวเองแปลกใจ
“โทรศัพท์ถึงดิฉันเหรอคะ”
ประมูลพยักหน้า
“ครับ...จากหนูน้อย”
เย็นกังวล เป็นห่วงแต่นิ่วหน้าตามนิสัยมารับ
“ว่าไงยัยน้อย มีอะไร ทำไมไม่โทรเข้ามือถือ โทรเข้าบ้านทำไม”
“มือถือน้าเย็นปิดน่ะค่ะ”
“มือถือฉันน่ะเหรอ ปิด”
“น้อยไม่ทราบค่ะแต่น้อยโทรหาน้าเย็นไม่ได้เลยต้องโทรเข้าบ้านคุณประมูล”
เย็นหงุดหงิด งง ตัดบท
“เออๆมีอะไรว่ามา”
“เปียค่ะ เปียสมัครเป็นพริตตี้”
เย็นลืมตัวเสียงดัง โกรธมาก
“หา...นังเปียสมัครเป็นพริตตี้”
ประมูลกับแม่นุ่มที่เอาเครื่องดื่มมาให้ประมูลหันมามอง เย็นหันมามอง ทั้งโมโหทั้งอายลดเสียงลง
“ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
เย็นวางสาย ประมูลรีบลุกบอก
“เดี๋ยวผมพาไป”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันไปเองได้”
“ทำไมล่ะคุณเย็น”
“ฉันอาย”
เย็นเดินออกไปโมโห เปียมาก แม่นุ่มถอนใจ
“คุณเนื้อเย็นออกจะดุ ทำไมหนูเปียอะไรนั่น ถึงล้นได้ทุกเรื่องเลยก็ไม่รู้นะประมูล”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ประมูลหน้าแหย
ด้านหลังเวทีโชว์ที่จัดไว้ให้เป็นห้องแต่งตัว ในห้อง มีพริตตี้สาวสวยยืนแต่ง หน้าทำอยู่หลายคน รวมทั้งเปียด้วย แต่ละคนแต่งชุดเหมือนกัน ไม่โป๊มาก พอเซ็กซี่ เปียปรายตามองสาวๆเหล่านั้นแล้วยิ้มดูถูกในใจ
“แต่ละคนหน้าตายังกับกระสือกัดปอบ ประเดี๋ยวเถอะ พวกเธอจะได้รู้จักซีเปีย”
น้อยยืนอยู่หน้าเวที อย่างกระวนกระวาย ยิ่งกวาดตามองเห็นผู้ชายที่ยืนออกันอยู่หน้าเวที รอดูพริตตี้ น้อยก็ยิ่งหน้าเสีย ได้แต่พึมพำ
“รีบๆมานะคะน้าเย็น ไม่งั้น เปียได้ทำอะไรห่ามๆแน่เลย”
น้อยมองไปทางเข้าออกห้าง รอเย็นอย่างกังวล ด้านใน สต๊าฟบอกทุกคน
“สาวๆใครพร้อม รอแสตนด์บายเลยนะ อีกไม่นานงานจะเริ่มแล้ว”
“ค่ะ”
สาวๆแล้วเดินออกไปรอ เปียยังไม่ออกไป ทำทีเป็นแต่งตัว ยืนยิ้มอยู่หน้ากระจกอย่างมีแผน
กองถ่ายกำลังถ่ายทำอยู่ เลอสรรในสภาพคนจรขอทาน นอนไถตัวอยู่บนสเก็ต ขอทานผู้คนไปมา คนเดินผ่านไปมาให้เงิน ตัวประกอบเดินมามอง
“เอ๊ะ...ฉันจำได้....ฉันเคยให้เงินเธอที่หัวลำโพงเนี่ย เธอมาที่นี่ได้ยังไง”
เลอสรรแสดงหน้าตาเลิ่กลั่ก ตัวประกอบโวย
“นี่เธอเป็นพวกมิจฉาชีพมาหากิน หลอกลวงชาวบ้านใช่มั้ย ตำรวจ ฉันจะแจ้งตำรวจ”
เลอสรรร้องลั่น
“อย่าๆ”
เลอสรรที่แสดงเป็นคนจรขอทานลุกขึ้น คว้าสเก็ตวิ่งหนีในสภาพปกติ ผู้กำกับสั่ง
“คัท” ผู้กำกับเดินเข้ามาหา “โอ้โห” เล่นได้เหมือนมากๆเลยเลอ”
เลอสรรยกมือไหว้
“โห...ขอบคุณครับพี่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผมจะดีใจมากๆ คนดูรู้เหลี่ยมคน จะได้รู้ มิจฉาชีพ ในคราบขอทาน คนจร ไปได้ทุกหนทุกแห่งทุกที่ ถ้าเรารู้ทันเล่ห์เหลี่ยม ก็จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกเขา”
“เพราะฉะนั้น จะคิดจะทำอะไร เราต้องมีสติ หมดคิวเลอแล้ว กลับเลยรึเปล่า”
“ว่าจะไปหาดูหนังสือหน่อยนะครับ”
“อย่าลืมเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยล่ะ เดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิดอีก”
เลอสรรหัวเราะขำ
“ยินดีครับ แสดงว่า งานเราดีมีคุณภาพ กลับก่อนนะครับพี่”
เลอสรรไหว้ผู้กำกับ ทีมงานแล้วเดินออกไป โต้งตะโกนแซว
“ก่อนกลับ อย่าลืมแวะดูงานมอเตอร์โชว์นะคุณเลอ พริตตี้แต่ละคน แซ่บเวอร์”
เลอสรรยิ้ม ส่ายหน้าขำๆ ไม่ได้สนใจ
บริเวณงานมอเตอร์โชว์บนเวที มีรถจอดอยู่มากมาย แต่มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ ในระดับที่สูงกว่าคันอื่น ดนตรีดังกระหน่ำกึกก้อง dry ice พุ่งบนเวทีเหล่าพริตตี้ออกมาเต้นโชว์ลีลาตามสเต็ป ก่อนที่เปียในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกเอว กางเกงขาสั้นจู๋ เดินเซ็กซี่ออกมาด้วยท่าทางมุ่งมั่น คนละชุดกับตอนอยู่ในห้องแต่งตัว และเป็นชุดเดียวกับตอนที่เปียใส่มาเที่ยวห้าง เสื้อเชิ้ตขาว ส่วนกางเกงยีนส์ เปียตัดเอง สาวสวยบนเวทีหน้าเหวอ รู้ว่าถูกขโมยซีน หนุ่มๆที่มารอดู ยกมือถือถ่ายรูป ถ่ายคลิปเอาไว้ น้อยหน้าเสีย เมื่อเห็นอย่างนั้น
บนเวที...สายน้ำถูกฉีดเข้ามา จนร่างกายของเปียและรถ รวมทั้งทุกคนที่อยู่บนเวทีเปียกปอน แต่ชุดขาวของเปีย พอถูกน้ำ ก็กลายเป็นชุดแนบเนื้อสุดเซ็กซี่ หนุ่มๆฮือฮา กรูกันเข้ามาติดเวทีถ่ายรูป ถ่ายคลิป เปียเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งยิ้มพอใจ โชว์ลีลาเซ็กซี่ล้างรถ น้อยถอนใจเฮือก
“น้าเย็น..เมื่อไหร่น้าเย็นจะมา”
เย็นเดินแกมวิ่งเข้ามาในห้างด้วยความโมโห
“วอนได้ทุกวันจริงๆนังเปีย” เย็นเดินอย่างเร่งรีบ กวาดสายตามองหา “งานบ้านั่นมันอยู่ตรงไหนเนี่ย” เย็นจะหยิบมือถือ “โอ๊ย...มือถือก็ลืมเอามา เพราะแกคนเดียวนังเปีย”
เย็นก้มๆเงยๆหงุดหงิดกับการล้วงมือถือ เดินไปบ่นไป ไม่ได้ดูทาง เงยหน้าขึ้นมา ก็
ชนเข้ากับเลอสรรเต็มแรง จนเย็นล้มลง ร้องโอ๊ย เลอสรรประคอง
“เป็นไรมากรึเปล่าครับคุณ”
“ ไม่ค่ะ ขอโทษ ฉันไม่ได้ดูทางงานพริตตี้มอเตอร์โชว์มันอยู่ตรงไหนคะ”
“ทางโน้นครับ” เลอสรรชี้
“ขอบคุณค่ะ” เย็นมองไปที่เลอสรรชี้ ตาเขียว “เตรียมตัวตายได้เลยนังเด็กเปรต”
เย็นเดินไป เลอสรรได้ยินตกใจ
“มีเรื่องอะไรกัน” เลอสรรรีบเดินตาม
บนเวที เปียโชว์ลีลาเซ็กซี่ล้างรถ หนุ่มๆฮือฮา เปียยิ้มรู้สึกตัวเองเป็นจุดเด่นมีคน
สนใจ พยายามทำท่าเซ็กซี่มากกว่าเดิม ทั้งๆที่ชุดขาวก็แนบเนื้อมากพอแล้ว น้อยหน้าเสียมาก
“โธ่เอ๊ยเปีย ทำไมทำแบบนี้...น้าเย็น เมื่อไหร่น้าเย็นจะมา”
ด้านหลัง เย็นเดินแหวกผู้คนเข้ามา แล้วชะงักมอง เห็นความน่าเกลียดของเปีย ทั้งท่าเต้นเซ็กซี่เอ็กซ์แตก และชุดที่โป๊ เย็นตวาดสุดเสียง
“นังเปีย”
น้อยได้ยินหันขวับเห็นเย็นดีใจ
“น้าเย็น”
บนเวที เปียเห็นเย็นหน้าถมึงทึงตาเขียวก็หน้าเปลี่ยนสี เซ็กซี่ไม่ออก
“ลงมาเดี๋ยวนี้นะนังเปีย ลงมา”
ผู้คนฮือฮา เกิดอะไรขึ้น เปียเซ็กซี่ไม่ออก แต่ไม่ลงกลัวเสียหน้า ได้แต่ส่ายหน้า ด้านหลังฝูงชนที่รุมล้อมดูพริตตี้ เลอสรรวิ่งตามเย็นมา แต่ไม่ได้แหวกวงล้อมเข้าไป ยืนอยู่วงนอกสุดมองดู ด้วยสงสัยและอยากรู้ เห็นสภาพเปียในชุดแนบเนื้อเปียกปอนก็ส่ายหน้าระอา
เย็นเย็นยิ่งโมโห ตะเบ็งเสียงดังลั่น
“แกไม่ลงมาใช่มั้ย”
“ไม่...” เปียแอบอยู่หลังคนบนเวที “ช่วยด้วยค่ะ”
“นังเปีย” เย็นโกรธมาก
โดยไม่มีใครคาดคิด เย็นกระโจนขึ้นเวที น้อยวิ่งตาม แต่พะว้าพะวงไม่กล้าขึ้นเวที ได้แต่ร้องห้าม เปียวิ่งหนีวนไปรอบรถ เย็นยิ่งโมโห
“แกคิดว่า แกจะหนีฉันพ้นเหรอนังเปีย”
เย็นกระโจนพรวดเดียวถึงตัวเปียลาก ดึง ทึ้ง เปียลงมา
“ปล่อยนะปล่อย ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย”
สต๊าฟเข้ามาช่วยเปีย
“อย่าครับ อย่ามีอะไรค่อยๆพูดค่อยๆจากัน”
“ไปคุยกันในคุกมั้ย ที่คุณล่อลวงหลานสาวฉันมาทำอะไรทุเรศๆอุบาทว์ๆแบบนี้น่ะ...หุบปากเดี๋ยวนี้นะนังเปีย ไม่งั้นแกได้เป็นพริตตี้เมืองผีตายอยู่ตรงนี้แน่ๆ”
เย็นทั้งลากทั้งดึง ทึ้งเปียลงมา ผู้คนตรงนั้นถ่ายคลิปเอาไว้ เย็นลากเปียลงมาจากเวที เปียร้องไห้ กลัวจริงๆ ที่น้อย มองตกใจมากที่เรื่องรุนแรง เย็นตวาดน้อย
“นี่ก็ยืนหน้าเซ่ออยู่ได้ กลับบ้าน”
เย็นลากเปียออกไป ลากอย่างแรง พอเปียดื้อดึง เย็นก็หยิกก็ตี เลอสรรมองภาพตรงหน้า เห็นทั้งสามคนแล้วถอนใจ และรู้สึกเห็นใจน้อยมาก
วณี อุทัย และคุณหญิงอนุรักษ์นั่งรับประทานอาหารกันอยู่ โดยมีนมแสดูแล เลอสรร
เดินเข้ามาอย่างเครียดๆ ยกมือไหว้ทุกคน
“ผมไม่ทราบว่าคุณย่ามาทานข้าวด้วยไม่งั้นจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”
“กลับมาตอนนี้ก็ยังทัน แต่ กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มจะดีกว่านะจ้ะ”
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าเลอสรร” อุทัยสงสัย
“จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องของผมหรอกครับ แต่พอดีไปเห็นครอบครัวอยู่ครอบครัวนึง ทะเลาะกัน ทุบตีกันกลางห้างเลยนะครับ”
“ตายจริง มันเรื่องอะไรกันจ้ะ ถึงต้องทำกันขนาดนั้น” วนณีตกใจ
“ไม่ลูกก็หลานของเขา เป็นพริตตี้”
“เป็นพริตตี้ ก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่ ไปตบตีกันทำไม” อุทัยแปลกใจ
“เด็กผู้หญิงคนนั้น ทำตัวไม่ค่อยเหมาะสมครับน้าอุทัย นี่ครับ มีคนถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย เดี๋ยวผมเปิดให้ดู”
เลอสรรหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาจะเปิดให้ดู คุณหญิงรีบห้าม
“ไม่ต้องตาเลอ ย่าไม่ชอบดูอะไรแบบนี้ เกลียดนักเชียวผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัว เอะอะก็โป๊ เอะอะก็โป๊ๆ เนี่ย”
“ดูหน่อยก็ดีนะครับคุณแม่ จะได้ดูเป็นกรณีศึกษา สังคมทุกวันนี้ทำไมถึงได้นิยมความรุนแรง”
อุทัยบอก เลอสรรยื่นแท็บเล็ตจะเปิดให้อุทัย กับวณีดู แต่คุณหญิงห้าม
“ไม่ต้อง อยากรู้เรื่องปัญหาสังคม หรืออยากดูพริตตี้กันแน่”
“นั่นน่ะสิคะ” วณีขรึมๆ
“โธ่วณี ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะ แต่อย่างว่า คนมีอดีตอย่างผม พูดอะไรก็ฟังไม่ขึ้นหรอก...เก็บเลยเลอสรร น้าไม่ดูแล้ว”
“เก็บเลยตาเลอ ของอย่างนี้ไม่ต้องดูหรอก เสื่อม”
คุณหญิงเสริม เลอสรรเก็บ
“ผมเองก็ไม่อยากดูหรอกนะครับ แต่ผมว่าทุกวันนี้ มันเป็นโลกของการถ่ายคลิป การอัพคลิป การแชร์...ก่อนที่ใครจะทำอะไรตามอารมณ์ น่าจะคิดเยอะๆ เพราะถ้าถูกแชร์ออกไป จะมีแต่ความเสื่อมเสีย”
“แต่คนสมัยนี้อาจจะไม่คิดอย่างนั้นก็ได้นะ อาจจะนึกว่าเป็นความโก้เก๋ ความเจ๋ง เราถึงได้เห็นแต่คลิปเสื่อมๆเต็มไปหมด”
คุณหญิงออกความเห็น วณีซึม
“ถ้าสมัยก่อน มีการถ่ายคลิป การแชร์คลิปแบบนี้ ก็คงจะดีนะคะ เพราะเราคงจะได้รู้ข่าวหนูเอื้อย ไม่ต้องคิดจนเป็นโรคประสาท ว่าตอนนี้หนูเอื้อยเป็นตายร้ายดียังไง”
“พูดแล้วฉันเกลียดมันนัก นังสันดานเย็น” คุณหญิงพูดด้วยความโกรธเกลียด
เย็นลากเปียที่ร้องโอดครวญเข้ามาในรั้วบ้านของประมูล โดยมีน้อยตามมาทันที เข้ามาได้เย็นก็เหวี่ยงเปียลงกับพื้นอย่างแรง จนเปียเซถลาก้นจ้ำเบ้า เย็นไม่สนใจ คว้าไม้กวาดในบ้านของประมูลขึ้นมาฟาดเปีย เปียร้องลั่น น้อยได้แต่เอามือปิดปากยืนตัวสั่น เปียโวยวายเจ็บ
“อย่านะ น้าเย็น อย่าตีเปีย เปียเจ็บ”
“เจ็บแล้วแกเคยจำมั้ย นังเปีย ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย ไม่ให้แกทำตัวเป็นสก๊อยถ่อยเถื่อน แล้วทำไมแกยังกล้าขัดคำสั่งฉันอีก” เย็นฟาดไปด่าไป
“เป็นสก๊อยที่ไหนล่ะ เปียเป็นพริตตี้”
“พริตตี้...แล้วจำเป็นต้องโป๊เหมือนแกเหรอ ฉันเห็นคนทั้งเวที เขาแต่งตัวมิดชิด พี่แต่แกคนเดียวเท่านั้นที่แต่งตัวยังกับเป็นดาวยั่ว แกตั้งใจจะยั่วผู้ชายใช่มั้ยนังเปีย”
เย็นฟาดเปียอีกอย่างไม่ยั้ง น้อยหลับหูหลับตากลัว เปียร้องกรี๊ดๆ เย็นกัดฟันกรอด
“แล้วยังออกอุบาย ปิดมือถือฉันอีกนะ แกคงคิดล่ะสิว่า ถ้ามือถือติดต่อไม่ได้ แล้วฉันจะไม่รู้เรื่องชั่วๆของแกนะนังเปีย”
ด้านในประมูลกับแม่นุ่มเดินออกมามองหน้ากัน
“มีเรื่องอะไรกันอีก”
ประมูลไม่ได้ตอบ รีบเดินออกมา แม่นุ่มรีบตาม
เปียแหกปากร้องโอเวอร์ เย็นบิดเปีย
“หยุดแหกปากเดี๋ยวนี้นะนังเปีย เงียบ”
“ไม่เงียบ...มันเจ็บ....”
“เถียงฉันเหรอนังเปีย” เย็นเงื้อไม้กวาดจะฟาดอีก
ประมูลวิ่งเข้ามาห้าม ดึงไม้กวาด
“อย่า คุณเย็น อย่า...”
“อย่ามาห้ามฉัน”
เปียโผเข้าหาประมูลกอด
“คุณอาขา..ช่วยเปียด้วย”
เย็นยิ่งโมโหที่เห็นเปียกอดประมูล ลากตัวออกมา
“นังเปีย เป็นสาวเป็นแส้ แกเที่ยวไปกอดผู้ชายง่ายๆได้ยังไง หา ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
“ผมนะเย็น นี่ผม”
“แล้วไงคะ คุณไม่ใช่ผู้ชายเหรอ”
เย็นหันมากระชากบิดแขนเปีย พูดด้วยความเจ็บปวด สะท้อนใจ
“ฉันจะบอกอะไรแกนะเปีย ลูกผู้หญิง ถ้าทำตัวไม่มีคุณค่า มันก็ไม่ต่างจากขยะที่รอวันทิ้งหรอก”
“เปียทำอะไร”
“ทำอะไร แกดูสารรูปแกหน่อย เห็นไปถึงไหนต่อไหน ผู้ชายดีๆมีชาติมีตระกูลคนไหน เขาจะอยากได้แกเป็นลูกเป็นเมีย จำไว้นะ คุณค่าของลูกผู้หญิงอยู่ที่การวางตัว ถ้าแกทำตัวง่ายๆ ไร้เกียรติ ไร้ค่า ไร้ศักดิ์ศรี ก็ไม่มีใครเขาให้ค่าแกหรอก”
เย็นผลักเปียแทบหงายหลัง เดินไปโมโห ประมูลจะเข้าไปปลอบ
“หนูเปีย”
“ไม่ต้องมาเรียก แอร้ย” เปียกรี๊ดใส่
เปียวิ่งเข้าห้องไป น้อยวิ่งตาม ประมูลกับแม่นุ่มมองตาม
“ดูสิ..เด็กเสียขวัญหมด คุณเย็นนี่ทำเกินไปจริงๆ”
เย็นเดินเข้ามาในห้องก็ปิดประตู ร้องไห้ ประมูลเดินมาจะเคาะประตูห้องเย็น แม่นุ่มตามมาเรียก
“เดี๋ยวก่อนประมูล”
“ครับพี่นุ่ม”
“ถ้าเธอจะเรียกแม่เย็นออกมาตำหนิ พี่ไม่เห็นด้วยนะ”
เย็นที่อยู่ด้านในชะงักฟัง
“บอกตามตรงพี่เห็นหนูเปียทีแรก ตกใจหมด เสื้อสีขาวเวลาเปียก มันแนบเนื้อเห็นไปถึงไหนต่อไหน น่าเกลียดชะมัด ที่แม่เย็นพูดน่ะถูกทุกอย่าง ผู้หญิงทำตัวง่าย ไร้เกียรติ ไร้ค่า ไร้ศักดิ์ศรี ไม่มีใครให้ค่าหรอก”
แม่นุ่มเดินไป ประมูลมองตามอึ้ง ก่อนเดินตามแม่นุ่มไป เย็นน้ำตาหยด เจ็บทุกทีที่นึกถึง
“แกไม่รู้หรอกเปีย เวลาที่ถูกคนเขาดูถูกว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย ไร้ค่า ไร้ศักดิ์ศรี มันเจ็บปวดแค่ไหน ฉันไม่อยากให้แกเป็นเหมือนฉัน รู้ไว้”
เย็นอ่อนลง เย็นปาดน้ำตา ก่อนเปิดประตูห้องเดินออกไป
เปียเปิดประตูเดินเข้าห้อง และดึงประตูจะปิด ชนิดไม่ได้มองดูน้อยที่เดินตามหลัง
มาเลย ประตูกระแทกหน้าน้อยร้องลั่น
“โอ๊ย”
เปียหันขวับมามองตาขวาง กระชากน้อย
“แกโทรมาฟ้องน้าเย็นทำไม”
“ก็น้อยเป็นห่วงเปีย”
“แกคิดเหรอว่าฉันจะเชื่อ แกอิจฉาฉันใช่มั้ยนังน้อยที่มีแต่ผู้ชายมองฉันน่ะ”
เปียผลักน้อยลง น้อยล้ม เปียตามไปกระชากผมน้อยอย่างแรง ดวงตาเข้มจัดโกรธ
แบบพร้อมเอาเรื่อง น้อยมองงุนงง
“ทำไมน้อยต้องอิจฉา ดาวโป๊อย่างเปียด้วย”
น้อยผลักออก เปียโมโห
“นังน้อย นี่แกคิดจะสู้ฉันเหรอ”
“เหมือนที่น้าเย็นบอกแหละ ไม่สู้ก็แพ้ ถ้าเปียเห็นความหวังดีของน้อย เป็นความอิจฉา ก็แสดงว่า จิตใจของเปียมันต่ำยิ่งกว่าบัวอยู่ใต้โคลน เปล่าประโยชน์ที่จะพูด เปลืองน้ำลาย”
น้อยหันหลังจะเดินออกไป เปียร้องกรี๊ดโมโห
“นังน้อย”
เปียกระโจนไปกระชากผมน้อยอย่างแรง จนน้อยล้ม
“ปล่อยนะเปีย ปล่อย”
เปียคร่อม ไม่ตบ แต่กระชากคอเสื้อขึ้น ถามกร่าง
“เก่งจริง แกสู้ฉันให้ได้ แกลุกขึ้นมาสู้ฉันเลย นังน้อย”
เปียผลักน้อยลงไปอีก กดบ่าไหล่ของน้อยให้แนบพื้น น้อยจะพยายามสู้ แต่สู้ไม่ได้ เปียตะคอก
“แกลุกขึ้นมาสิ ลุกขึ้นมา”
เปียคว้าหมอนมาอุดหน้าน้อยเอาไว้ น้อยดิ้นอึกอัก หายใจไม่ออก เปียหัวเราะลั่น
“แกลุกไม่ได้หรอก เพราะอีกประเดี๋ยวแกก็จะขาดใจตาย”
เย็นที่ตั้งใจจะมาหาเปียได้ยิน เย็นจะเปิดประตูแต่หยุดมือค้างอยู่ตรงนั้น เมื่อด้านในเปียพูดขึ้น
“ถ้าแกไม่อยาก โดนหมอนอุดหน้าตาย แกต้องขอโทษฉันนังน้อย แกต้องขอโทษฉัน ได้ยินมั้ย”
เปียผ่อนหมอนออก แล้วเอาหมอนฟาดหน้าน้อย
“แกจะขอโทษฉัน หรือแกจะยอมตายนังน้อย”
น้อยร้องไห้ กลัว รู้แล้วสู้ไม่ได้ สะอึกสะอื้น
“น้อยขอโทษ...น้อยขอโทษ”
เปียจิ้มหน้าหงาย
“ดี งั้นต่อไป แกรู้แล้วใช่มั้ย ถ้าแกสอพลอไปฟ้องน้าเย็น แกจะโดนอะไร”
เปียกระชากผมน้อยจนหน้าหงาย ชี้หน้า น้อยก้มหน้ากลัว
“ รู้..รู้แล้ว...ต่อไป น้อยจะไม่บอกอะไรน้าเย็นอีก”
เปียผลักหัวน้อยออก หัวเราะลั่นเหมือนคนบ้า
“ดี...เพราะถ้าแกบอก แกได้เจอซีเปีย แน่ๆ รู้แล้วใช่มั้ยว่าใครใหญ่ ซีเปียนี่ละโว้ยใหญ่”
เปียหัวเราะลั่น เหมือนสก๊อยที่ตบกันในคลิปแล้วชนะ ยิ่งเห็นน้อยกอดเข่ากลัว ก็รู้สึกภูมิใจ ด้านนอก เย็นยิ้มหยัน
“เลือดพี่มันแรงจริงๆพี่ลำยอง คุณอุทัย คุณวณีขา เตรียมตัวรับลูกสาวบ้าๆ ไว้เชยชมได้แล้วนะคะ ส่วนลูกของคุณก็ปล่อยให้มันทรมานอยู่ที่นี่แหละ”
เย็นคิดจะสลับตัวน้อยกับเปีย ส่งคืนอุทัยกับวณีด้วยความสะใจ เย็นเดินหัวเราะกลับไป น้อยในห้องร้องไห้ขมขื่นใจมาก
เลอสรรเดินเข้ามาในห้องอย่างเคร่งเครียดไม่สบายใจมองดูรูปน้อย
“น่าสงสารคุณน้าที่สุด เมื่อไหร่ พวกเราจะได้เจอหนูเอื้อยก็ไม่รู้...เนื้อเย็น..ผมไม่รู้จักคุณ แต่ทำไม คุณถึงได้ใจร้ายใจดำแบบนี้”
เลอสรรมองดูรูปน้อยอย่างเศร้าๆ
เย็นนั่งเขียนจดหมายด้วยสีหน้าเย็นชา
“เรียนคุณอุทัย-คุณวณี ตอนนี้ดิฉันมาอยู่ที่กรุงเทพฯแล้วนะคะ”
เย็นยิ้มเยาะ บอกกับตัวเอง...
“ฉันจะปั่นหัวพวกแก ให้เป็นโรคประสาทกันทั้งบ้านเลย”
เช้าวันใหม่ เย็นเดินออกไปนอกบ้าน ประมูลเห็นชะเง้อคอมอง
“คุณเย็นไปไหนแต่เช้า”
เปียเดินมาเห็น
“คุณอาประมูลดูอะไรคะ”
ประมูลสะดุ้ง แม่นุ่มเดินมาทางด้านหลังชะงักฟัง เปียโพล่งถาม
“แค่หนูถาม ทำไมคุณลุงต้องสะดุ้งด้วย”
ประมูลหันมามองเปีย ยิ้มเฝื่อนๆ
“ก็บางทีหนูเปียก็เรียกฉันว่าอา บางทีก็เรียกว่าลุง ฉันเลยงงๆน่ะสิจ้ะ ไม่รู้จะเป็นอา รึเป็นลุงดี”
เปียหัวเราะคิกคัก
“จะอาหรือลุงก็เป็นตาประมูลคนเดิม ที่หลงรักน้าเย็นนั่นแหละค่ะ”
“อุ้ย” ประมูลตาโตตกใจ
แม่นุ่มหน้าแหยไม่พอใจที่เปียพูดเกินเด็ก ขณะที่เปียหัวเราะเข้าไปใหญ่
“ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะ เปียเป็นคนฉลาด เปียรู้ ไม่งั้นตาประมูลจะให้น้าเย็นเข้ามาอยู่บ้านด้วยทำไมฟรีๆ ให้เปียเป็นแม่สื่อได้นะคะ เปียคิดไม่แพงหรอก แต่ถ้าน้าเย็น ยอมแต่งงานกับตาประมูลจริงๆ เปียค่อยคิดแพงๆ”
ประมูลเขินแกมเจื่อน แม่นุ่มมองเปียแบบไม่ค่อยพอใจ
“คุณเย็นไม่ได้คิดอะไรกับฉันหรอก” ประมูลว่าอ้อมแอ้มเขินๆ
“น้าเย็นก็เลือดเย็นสมชื่อน่ะค่ะ ไม่งั้นคงตกลงยอมเป็นเมียเถ้าแก่กิมไปตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เถ้าแก่ตายแบบไม่ได้แอ้มเนื้อเย็นหรอกค่ะ”
เปียหัวเราะขึ้นมาอีก คราวนี้แม่นุ่มเอามือทาบอกหน้าแหย รับไม่ค่อยได้
“อะไรนะ หนูเปียว่า คุณเย็นไม่ได้เป็นอะไรกับเถ้าแก่กิม” ประมูลถามอย่างกระตือรือร้น
เปียแบมือทันที
“อยากรู้ก็จ่ายมาก่อนสิคะ สักพันสองพัน
แม่นุ่มลุ้นว่าประมูลจะทำยังไง ประมูลควักกระเป๋า แม่นุ่มตาโต ประมูลยื่นเงินให้เปีย
“ฉันให้หนูเปียเลยสามพัน”
“ว้าว”
เปียตาโต ฉกเงินทันที ประมูลตาเป็นประกายอยากรู้
“เล่ามาเลย เรื่องคุณเย็นกับเถ้าแก่กิมเป็นยังไง”
“คุณตาประมูลให้เงินเปียเยอะขนาดนี้ คงต้องเล่ายาวๆ เอาเป็นว่า...ไว้วันหลังแล้วกันนะคะ ว่าแต่คุณตาประมูลยังไม่ตอบเลยเปียเลยน้าเย็นไปไหน”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“งั้นเปียขออีกห้าร้อยได้มั้ยคะ แล้วจะสืบให้ น้าเย็นไปไหน”
ประมูลควักให้แต่แบบอิดออด
“แล้วกลับมาเล่าเรื่องคุณเย็นกับเถ้าแก่กิมให้ฉันฟังด้วยนะ”
เปียฉกเงินอย่างเร็วอีก
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
พูดจบก็เดินออกไปเลย ประมูลเหวอ
“หนูเปีย”
แม่นุ่มเดินเข้ามา
“อะไรกัน เมื่อคืนถูกตีแทบตาย ไม่สลดไม่พอ หนูเปียยังทะลึ่งตึงตังอีก ถึงจะดุไปหน่อย แต่พี่ก็ว่าแม่เย็นเขาสอนหลานเขาดีอยู่นะ หนูน้อยก็เรียบร้อยเชียว แล้วหนูเปีย กลายเป็นเปียดื้อได้ยังไง เธอก็เหมือนกัน ให้เงินทองเขาไปได้ยังไงเยอะแยะ เฮ้อ”
ประมูลจ๋อย ถูกดุ แม่นุ่มเดินไประอาเปีย
เปียเดินออกมาบริเวณบ้านด้านนอกประตูรั้ว หยิบเงินขึ้นมากรีดดูชอบใจ
“คนฉลาดมีแต่ได้กับได้ จะตามดูให้รู้เลย ถ้าน้าเย็นแอบนัดผู้ชายล่ะก็...”
เปียวิ่งออกไปรวดเร็ว น้อยเดินออกจากบ้านมาดู
“หนีไปไหนอีกแล้ว ถ้าน้าเย็นรู้ ตายแน่ๆเปียเอ๊ย”
เปียวิ่งด้วยความเร็วสูงออกมาตามหาเย็น เห็นเย็นเดินออกไปที่ปากซอย พอตามเย็นทัน เปียก็ค่อยลดฝีเท้าลงแอบย่องตาม มองเย็นไม่ให้คลาดสายตา เย็นที่เดินอยู่ จากหางตาเห็นเปียแอบตามมา แต่เย็นทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เดินต่อไป
ระหว่างรับประทานอาหาร นมแสดูแลอุทัย
“หมู่นี้ ไม่มีจดหมาย หรือเอกสารอะไร มาส่งเลยเหรอจ้ะนมแส” วณีถาม
“ไม่มีเลยค่ะ แล้วจดหมายคราวก่อน ไม่มีข่าวคราวของแม่เย็นเลยเหรอคะ”
“จริงสิ...ยังไม่ได้อ่านเลย อยู่ไหนแล้ว”
“คุณเลอสรรเก็บเอาไว้ค่ะอ้าว แล้วนี่คุณเลอสรรยังไม่เอาจดหมายให้เหรอคะ”
“ยัง...นมแสช่วยตามเลอสรรมาหาฉันที”
“คุณเลอสรรออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
วณีหน้าเจื่อน อุทัยปลอบ
“ไม่เป็นไรน่าวณี เดี๋ยวเย็นๆตาเลอก็คงจะกลับ มันคงไม่แจ๊คพ็อตขนาดขนาดจะมีจดหมายจากเย็นในคราวนี้หรอก”
วณีพยักหน้าแต่หน้าตาท่าทางก็ดูเจื่อนๆอยู่ดี
“ผมไปทำงานก่อนนะ อย่าคิดมาก”
“วณีไปด้วยค่ะ วณีไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ วณีฟุ้งซ่านค่ะ”
วณีกับอุทัยขึ้นรถ นมแสยืนสิ่ง เอิบขับรถออกไป ทันทีที่รถของอุทัยแล่นผ่าน ออกไปนอกบ้านรถของเลอสรรก็วิ่งเข้ามา ทันทีที่จอดรถ เลอสรรก็คว้าเอากองจดหมายลงมาด้วย นมแสรีบมาบอก
“ว้า ตะกี้คุณๆเพิ่งถามหาคุณเลอสรร คลาดกันนิดเดียวเอง”
“มีอะไรนมแส”
“เรื่องจดหมายค่ะ”
“โทษที ผมลืม ตะกี้นึกได้ เลยรีบขับรถเอามาให้...นี่ครับ”
เลอสรรยื่นจดหมายให้ นมแสรับมาดู พึมพำ
“ดิฉันแก่แล้ว มองไม่ค่อยเห็น จะมีของแม่เย็น ส่งมารึเปล่าก็ไม่รู้”
“งั้นผมดูให้”
เลอสรรรับมาจะดู แต่ยังไม่ทันดู รถของอุทัยเลี้ยวเข้ามา
“อ้าว คุณน้า ลืมอะไรหรือครับ” เลอสรรหันไปถาม เมื่อทั้งคู่ลงจากรถ
“เปล่า แต่วณีน่ะสิ ร้อนใจ อยากดูจดหมาย พอเห็นรถของเลอเลี้ยวเข้ามาในบ้าน เลยบอกให้กลับมาดู” อุทัยบอก
“นี่ครับคุณน้า จดหมาย”
เลอสรรจะยื่นกองจดหมาย เอกสารให้วณี คุณหญิงอนุรักษ์เดินแบบป่วยๆเข้ามา
“อุทัย แม่รู้สึกเหมือนจะมีไข้ พาแม่ไปหาหมอหน่อย”
“ครับๆคุณแม่” อุทัยรีบไปประคองคุณหญิง
วณีเดินไปหาคุณหญิงช่วยประคอง
“ไหวมั้ยคะคุณแม่”
“ไหวจ้ะ จริงๆแม่ก็ยังไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่รู้สึกไม่สบายตัว น่ารำคาญ เลยอยากไปให้หมอตรวจดูซักหน่อย”
“งั้นไปครับคุณแม่”
อุทัย กับวณีประคองคุณหญิง
“เก็บจดหมายให้ฉันหน่อย นมแส”
วนีหันมาบอก นมแสรับคำรีบยื่นมือมารับ แต่วณีปล่อยก่อน จดหมายทั้งกองร่วงหล่นพื้น
เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหญิงก้าวเท้าลงมาเหยียบ
“อุ๊ย แม่ขอโทษ”
คุณหญิงรีบชักเท้าออก อุทัยรีบบอก
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่”
“วณีเองค่ะที่ซุ่มซ่าม”
วณีรีบนั่งลงไปหยิบ เห็นจ่าหน้าซอง กรุณาส่ง คุณอุทัย-คุณวณี อนุรักษ์ธานิน ใจวณีเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก รีบพลิกจดหมายดูชื่อผู้ส่งทันที แล้วก็เห็น “เนื้อเย็น บัวแย้ม” วณีขนลุกซู่ พูดแทบไม่เป็นภาษา
“เย็น....จดหมายจากเย็น”
อุทัยปล่อยคุณหญิงทันที
“อะไรนะ”
“จดหมาย..จดหมายจากเย็นค่ะ”
ทุกคนหันมามองวณีเป็นตาเดียว
อ่านต่อตอนที่ 3