xs
xsm
sm
md
lg

คมพยาบาท ตอนที่ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คมพยาบาท ตอนที่ 1

สายน้ำเหนือน้ำตกแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก หล่นลงมาตกกระทบโขดหินเบื้องล่างกระเซ็นเป็นละอองสวยงาม เลอสรร หนุ่มรูปงาม ซึ่งมาเที่ยวกับเพื่อนๆ จรดพู่กันลงผืนผ้าใบ เขาวาดรูปสายน้ำได้ราวกับเป็นน้ำตกจริงๆ กลุ่มเพื่อนนั่งวาดรูปอยู่ข้างๆ แต่ฝีมือไม่สวยงามเท่า ในบริเวณน้ำตกนั้น มีเด็กๆ กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

ขณะเดียวกัน เปีย เด็กสาวหน้าตาสวยในชุดนักเรียนมัธยมปลายขี่มอเตอร์ไซค์มาตามถนนในตัวเมือง โดยมี น้อย เด็กสาววันเดียวกันซึ่งมีความงามในแบบที่แตกต่างออกไปซ้อนท้าย เปียขี่รถด้วยความเร็วฉวัดเฉวียนแบบสก๊อยทั่วไป น้อยกอดเปียแน่นกลัวร้องลั่น
“ช้าๆ หน่อยสิเปีย ช้าหน่อย”
“ไม่...ช้ามันไม่มัน ต้องแบบนี้แหละ”
เปียยิ้มเฮี้ยว เร่งความเร็วยิ่งขึ้น ขี่รถปาดหน้าปาดหลังผู้ขับขี่รถบนท้องถนนอย่างไม่กลัวจะชนอะไรใคร ด้านหลัง ต้นหนุ่มหล่อรุ่นพี่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ตามมามีเพื่อนซ้อนหลัง สองหนุ่มแว้นขี่รถตามเปีย ต้นเร่งเครื่องแซง พอเปียเห็นก็หันไปยิ้มเฮี้ยว ตะโกน
“จะแว้นแข่งเปียเหรอค้าพี่ต้น ได้เล้ย”
เปียพูดจบก็เร่งความเร็วแว้นเต็มที่ ต้นตาม เปียกับต้นและเพื่อนแว้นกันสนุก แต่น้อยหลับหูหลับตากอดเปียแน่น กลัว ชาวบ้านแถวนั้นและผู้คนที่ขับขี่บนท้องถนนมองด้วยความกลัว เพราะเปียและต้นขี่รถแบบปาดหน้าคนอื่น รถแทบชนกัน ผู้คนตะโกนด่า
“ขี่รถดีๆมันจะตายรึไง พวกเด็กนรกเอ้ย”

เด็กๆ เล่นน้ำกันที่น้ำตกสนุกสนาน ขณะที่เลอสรรกับเพื่อนวาดรูป แต่แล้วจู่ๆเด็กก็ร้องลั่
“เฮ้ยๆ ไอ้น้อยๆ”
เลอสรรและเพื่อนหันไปมอง เห็นเด็กคนหนึ่งกำลังจะไหลไปตามน้ำ เลอสรรกระโดดลงไปช่วยทันที

เปียและต้นขี่รถมาจอดรถริมทาง น้อยถอนหายใจโล่งอก ขณะที่เปียยิ้มบอกต้น
“สนุกจังเลยพี่ต้น”
“เปียจ๋าขี่รถเก่งมาก”
“ก็ถ้าขี่ไม่เก่งก็เสียชื่อซีเปียของพี่ต้นหมดสิ”
“นั่นน่ะสิ เย็นนี้เปียจ๋าว่างมั้ย” ต้นยิ้มพอใจ
“ว่างค่ะ” เปียตอบทันที
น้อยหน้าตาตื่น
“ไม่ว่างนะเปีย รีบกลับบ้านเลย ไม่งั้นน้าเย็นตีตายแน่”
เปียถลึงตาใส่เบาๆ กลัวผู้ชายได้ยิน
“แกก็บอกน้าเย็นว่าติดเรียนพิเศษสิ”
ต้นเห็นท่าทาง “ตกลงเปียจ๋าไม่ว่างเหรอจ้ะ”
“ค่ะ ต้องรีบกลับบ้าน” น้อยสวนทันที
เปียกัดฟันกรอด “นังน้อย” เปียหันไปหาต้น “ว่างค่ะพี่ต้น เปียว่างค่ะ”
ต้นมองน้อยตาเจ้าชู้
“แต่น้อยคงไม่ว่าง งั้น...เอาไว้วันหลัง พี่นัดเปียคนเดียวก็แล้วกันนะจ้ะ”
“ก็ได้ค่ะ” เปียยิ้มร่า
“แล้วเจอกันจ้ะ...น้อง เปียดื้อ...ของพี่”
เปียยิ้มกระแดะสุดๆ
“แอร๊ย...เปียดื้อของพี่ แค่ได้ยินก็ ฟิน”
“รักน้า...จุ๊บๆ”
ต้นทำท่าส่งจูบจิ๊จ๊ะกันตามประสา เปียส่งจูบให้ต้น จิ๊จ๊ะๆ น้อยยืนมองอย่างขัดใจ
พอต้นกับเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์แยกไป เปียหันมาแว้ดใส่น้อย
“เธอนี่เป็นก้างขวางคอฉันกับพี่ต้นจริงๆ น่าเอานิ้วจิ้มตาจริงๆยัยน้อย” เปียผลักหัวน้อยอย่างแรง “อยากกลับบ้านนัก กลับเลย เร็ว”
เปียขึ้นมอเตอร์ไซค์ทำท่าจะซิ่งไป น้อยจำต้องกระโดดซ้อนท้ายอย่างรวดเร็ว กลัวถูกทิ้งขณะเดียวกันนั้นด้านหลังมีเด็กสาวในชุดนักเรียนวัยเดียวกับเปีย สองคนรีบขี่รถตามเปียอย่างเร็ว

เปียขี่รถมาตามทาง มอเตอร์ไซค์ของเด็กสาวที่ตามมาปาดหน้าทันที รถแทบชนกัน เปียเบรกรถหัวทิ่ม อีกฝ่ายก็จอดเหมือนกัน มองเปียเอาเรื่อง ท่าทางสก๊อยแรงกว่า เปียลงจากรถ ถลกแขนเสื้อด่า
“ขี่รถอย่างนี้ อยากตายรึไงวะ”
เด็กสาวลงจากรถ มาจ้องหน้าเปีย “แกนั่นสิ...อยากตาย ถึงได้มายุ่งกับผัวฉัน”
“อะไร...ใครผัวแก” เปียงง
“ก็พี่ต้นที่แกยั่วเขาตะกี้นี่ไง”
เด็กสาวตบผลัวะ โดยไม่ให้เปียได้ตั้งตัว เปียตั้งหลักได้ตบคืน สองสาวฟัดตบกันทั้งชุดนักเรียน ทั้งตบทั้งด่า
“อย่ายุ่งกับผัวฉันอีก”
“ผัวแก แกก็ขังไว้ที่บ้านสิ ปล่อยออกมาทำไม”
สองสาวตบกันสนั่น น้อยเข้าไปห้าม “หยุดนะ...หยุด”
เด็กสาวอีกคนเข้ามาหาน้อย “อย่ายุ่ง นังน้อย”

สาวคนนั้นกระชากน้อยออกมา ไม่ให้เข้าไปยุ่ง น้อยร้อง
“ปล่อย บอกให้ปล่อย”
น้อยพยายามดิ้น สาวยึดเอาไว้ น้อยไม่ยอม เอาศอกถอง และกระทืบเท้าให้ปล่อย สาวคนนั้นโมโห
“เอ๊ะ นังนี่ ฤทธิ์มากนักใช่มั้ย”
สาวคนนั้นตบน้อยล้มลง สาวจะเข้ามาซ้ำ เปียที่ตบอยู่กับสาวอีกคนหันมาเห็นตวาดลั่น
“แกทำน้องฉันทำไม”
เปียตบสาวคนแรกอย่างแรงก่อนลุกมาตบสาวอีกคนช่วยน้อย สาวคนแรกลุกขึ้นมากระชากเปียเหวี่ยงลงน้ำในคลองอย่างแรง ร่างของเปียถลาลงน้ำ สาวอีกคนตบน้อย แล้วผลักน้อยตกลงไปในน้ำอีกคนแล้วกระโดดลงน้ำตามไป สี่คนตบกันนัวทั้งชุดนักเรียน ผู้คนที่ผ่านไปมาถ่ายคลิปอย่างเมามันแต่ไม่มีใครคิดจะห้าม

เย็นน้าสาวของเปียกับน้อย ทำกับข้าวอยู่ในบ้าน พลางบ่นด้วยความห่วงๆ
“เย็นป่านนี้แล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้านกันอีก”
ป้าเพื่อนบ้านวิ่งหน้าตาตื่นตะโกนมา “เย็นๆ”
“อะไรป้า อะไร”
“เปีย กับน้อยมันตบกับใครก็ไม่รู้ที่คลองน้ำ”
“หา!” เย็นตกใจ

เย็นวิ่งมา เห็นชาวบ้านมุงดูที่ริมคลอง พร้อมเสียงสนั่นหวั่นไหว

“แกตาย…ตาย”

เย็นแหวกผู้คนเข้าไปเห็นเปียจับเด็กสาวกดน้ำ ขณะที่สาวอีกคนก็จับหัวน้อยกดน้ำ เย็นตะโกน

“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้หยุด”
ไม่มีคนหยุด ผู้คนชาวบ้านรุมถ่ายคลิป เย็นหันมาด่า
“หยุด แทนที่จะห้าม กลับเอาแต่ถ่ายๆ ผู้คนสมัยนี้มันเป็นยังไง”
เย็นกระโดดลงน้ำ ไปกระชากสองคู่ออกจากกัน เด็กนักเรียนมองเย็นเอาเรื่อง เย็นชี้หน้า
“ถ้าพวกเธอกล้า ก็เข้ามา”
เด็กนักเรียนสองคนกลัวเย็น ผละออก แต่ยังไม่วายชี้หน้าเปีย
“ถ้าแกมายุ่งกับผัวฉันอีก แกตาย” สองสาวขึ้นฝั่งไป
เย็นหันขวับมามองหน้าเปีย “อ้อ!นี่พวกแกตบตีกันแย่งผู้ชายเหรอ...มานี่”
เย็นกัดฟันกรอด ลากน้อยกับเปียขึ้นมาอย่างแรง

เย็นลากเปียกับน้อย ในสภาพที่สามคนเนื้อตัวเปียกมอมแมมเข้ามาในบ้าน ซึ่งเป็นร้านขายของชำ ของเถ้าแก่กิม ซึ่งเย็นพาเปียกับน้อยมาอยู่ด้วยตั้งแต่สองคนยังเด็กๆ เย็นด่าแบบโมโหสุดขีดคว้าไม้กวาดทันที
“นังเปีย นังสารเลว แกคิดว่าตบตีกันแย่งผู้ชาย มันเท่ มันเก่ง มันเจ๋งนักเหรอ” เย็นฟาดไปตีไปด่าไป “มียางอายบ้างมั้ย แกมียางอายบ้างมั้ย”
“อายทำไมเปียไม่ได้แย่ง ผู้ชายมาหาเปียเอง” เปียลอยหน้าลอยตา “ไม่ใช่คนเดียวด้วยนะน้าเย็น ”
“อ้อ!นางสิบสองต้องชิดซ้าย...เพราะแกมันนางสิบสามสินะ ตาย วันนี้แกตายนังเปีย”
เย็นทั้งฟาดฟันทั้งด่า ขณะเดียวกันเสียงในทีวีที่เปิดไว้ดังก้อง
“มีผู้ชมทางบ้าน ส่งคลิปนักเรียนตบกัน เหตุแย่งผู้ชาย ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ของสังคมวันนี้ค่ะ”
ทุกคนหันขวับไปมองทีวีเห็นเป็นคลิปนักเรียนตบกัน เย็นหันมาด่า
“อยากออกทีวีให้คนเขาด่ากันทั่วประเทศแบบนี้ใช่มั้ย”
เย็นฟาดทั้งสองคนไม่ยั้ง เสียงคนด้านนอก ตะโกนมา
“ซื้อยาแก้ท้องเสีย”
บรรดาไทยมุงหน้าบ้านบอก
“นังเย็นมันตีหลานมันอยู่ มันไม่ขายหรอก...”
เย็นได้ยินหันขวับมามอง คนปากรั่วพูดต่อ
“ไม่รู้จะตีทำไม นังเปียก็เหมือนกันน้ามันนั่นแหละ” หญิงขาเม้าหัวเราะ
“ใช่ๆ...ทำเถ้าแก่กิมตายคาอก แล้วฮุบเอาร้านเถ้าแก่น่ะ” หญิงอีกคนเสริม
เย็นเหวี่ยงไม้กวาดทิ้ง เดินส่ายอาดๆออกมาจ้องหน้า
“ไหน...ใครจะซื้อยาแก้ท้องเสีย”
“ฉันจ้ะ”
“ยาแก้ท้องเสียไม่มี แต่ยาแก้ปากเสียน่ะมี”
เย็นกระชากผมหญิงที่ปากรั่ว จ้องหน้า
“หลุมพร้อมโลง แกจะเอาโปรโมชั่นไหนบอกมา”
ชาวบ้านกรี๊ดกร๊าดกลัวเย็น

ขณะเดียวกันเลอสรร และเพื่อนจูงมือเด็กที่ตกน้ำมาส่งบ้าน บ้านอยู่ละแวกเดียวกันกับเย็น เด็กชี้ไป
“บ้านหนูอยู่นี่”
เลอสรรมองบ้านเด็ก เห็นเป็นห้องแถวเรียงรายและก็เห็นไทยมุงโวยวาย เสียงเย็นลอดออกมา
“อย่ามายุ่งเรื่องฉัน ไม่งั้น แกได้ลงหลุมแน่ๆ”
เลอสรรไม่เห็นเย็น เห็นแต่ไทยมุงจึงถามชาวบ้าน
“มีเรื่องอะไรกันครับ”
ชาวบ้านบอกแบบเบื่อๆ
“คนตบกัน อย่าไปสนใจเลย คนบ้านนี้ก็เหมือนกันทั้งน้าทั้งหลานแหละ มีเรื่องกับเขาไปทั่ว น่าเบื่อ”
เลอสรรหันมาบอกเด็ก “ต่อไปหนูอย่าแอบไปเล่นน้ำกันแบบนี้อีกนะ ถ้าจะไปต้องมีผู้ใหญ่ไปด้วย”
“ครับ” เด็กเดินเข้าบ้าน
เลอสรรมองไปยังบ้านต้นเหตุ แต่ไม่เห็นอะไรนอกจากไทยมุง

เย็นชี้หน้าเปียกับน้อยอย่างโกรธจัด
“ไป...แกสองคนรีบไปอาบน้ำเลยนะ ไป๊”
เปียเดินขึ้นบ้านแต่ปากยังเถียง “อาบมาแล้ว จะอาบอีกทำไม”
“นังเปีย”
เย็นทำท่าจะตาม เปียวิ่งหนีขึ้นบ้านรวดเร็ว ทำท่าเหมือนลิงหลอกเจ้า ผลักน้อยที่ตามขึ้นไป
“ฉันอาบก่อน”
น้อยล้มลงตรงบันได ขณะที่เปียวิ่งขึ้นบ้าน เย็นหันมาด่าน้อย
“ถ้ามีเรื่อง รีบมาบอกน้า ห้ามไปตบไปตีกับใคร เข้าใจมั้ยน้อย”
“เข้าใจค่ะน้าเย็น”
“ส่วนนังเปีย มันอยากจะตบกับใครให้มันตบ กลับมาบ้าน น้าจะตบมันเอง”
เย็นพูดด้วยความโมโหปนหมั่นไส้เปียสุดขีด

เปียเปิดประตูเข้ามาในห้องได้ ก็บ่นบ้าด่าเย็น “เอะอะก็ตี เอะอะก็ตบ น้าเย็นโรคจิต”

เปียเตะโต๊ะเตะเก้าอี้จนล้มระเนระนาดระบายอารมณ์ดังมาถึงด้านล่าง น้อยกับเย็นได้ยิน น้อยหน้าซีดคิดว่าเปียผูกคอตายถีบเก้าอี้ล้ม
“เก้าอี้ล้ม หรือว่าเปียจะฆ่าตัวตายคะ”
“เปีย” เย็นใจหายวับ

เย็นกับน้อยรีบวิ่งขึ้นชั้นบนทันที

เย็นกับน้อยวิ่งขึ้นมาด้วยความห่วง

“เปียๆ”
เย็นเปิดประตูออก เห็นด้านในเก้าอี้ล้มระเนระนาด มีเปียยืนด้านในระหว่างเปียและเย็นมีเก้าอี้หลายตัวคั่น เย็นเห็นก็ดุ
“คนอุตส่าห์ห่วง นี่แกทำอะไร”
“เตะเก้าอี้เล่น”
“อ้อ เตะเก้าอี้เล่น เดี๋ยวฉันก็ตบแกเล่นหรอกนังเปีย” เย็นโมโห
เย็นจะถลาเข้ามา เปียดันเก้าอี้ที่ขวางอยู่มาปิดประตู ประดูดังปัง แทบกระแทกหน้า เย็นผงะตวาด
“นังเปีย”
เปียกระโดดมาล็อกประตู ทำหน้าลิงหลอกเจ้า ยิ้ม ส่ายตูดตามประสา เย็นโมโหสบถออกมา
“สันดานแกเหมือนพ่อแม่แกจริงๆ นังเปีย”
น้อยมองหน้าเย็นเหลอหลา ไม่เข้าใจ

ในอดีต....ค่ำคืนหนึ่ง ลำยองนอนร้องครวญครางอยู่ข้างถนน ผู้ชายขี่รถกระบะผ่านมาพอเห็นผู้หญิงนอนเจ็บอยู่ข้างทาง ก็จอดรถลงไปช่วย โมกสามีของลำยอง กับมุกซึ่งเป็นน้องชายที่ซ่อนตัวอยู่ข้างทาง ย่องออกมาพร้อมไม้ท่อนโต ฟาดเข้าที่ด้านหลังของชายคนนั้น เขาร้องสุดเสียงล้มทรุดลงไปด้วยความเจ็บปวด มุกหวดซ้ำ จนเหยื่อแน่นิ่ง ขณะที่ลำยองรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วทั้งสามคนก็วิ่งไปที่รถ ขับเอารถของชายเคราะห์ร้ายหนีหายไป

ในซอยเปลี่ยว โมกกับลำยองเดินนับเงินมาด้วยกันท่าทางอารมณ์ดี มุกเดินอยู่ข้างๆ
“ดูสิพี่โมก วันนี้เราได้ตั้งหลายเงิน” ลำยองบอกอย่างดีใจ
“อย่าลืมส่วนแบ่งของฉันนะพี่ลำยอง” มุกพูดขึ้น
“ไม่ลืมหรอกน่า...เอา...ส่วนของแกไปไอ้มุก”
ลำยองยื่นเงินให้ มุกรับไปนับและหอมอย่างพอใจ
“คนสมัยนี้มันทั้งโง่ทั้งเซ่อจริงๆ”
“ดีแล้วที่มันโง่มันเซ่อ เราจะได้หาอุบายหลอกกินเงินพวกมันไปเรื่อยๆ” โมกยิ้มพอใจ
“งั้นระหว่างคิดหาวิธีหลอกเอาเงินจากพวกหน้าโง่ เราฉลองกันหน่อยแล้วกัน” ลำยองชวน
โมกเห็นดีด้วย
“ได้เลย มีเงินในมือเป็นฟ่อน ลำยองอยากจะฉลองอะไร ว่ามา”
ทั้งสามคนหัวเราะสนุกชอบใจ

บนถนนค่อนข้างเปลี่ยว เย็นที่ทำงานรับจ้างเพิ่งกลับจากทำงาน เธอบ่นอุบระหว่างเดินกลับบ้าน
“โอ๊ย กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาท ทำไมมันยากมันเย็นอย่างนี้วะ”
เย็นปาดเหงื่อ นับเงินที่มีอยู่ไม่กี่ร้อยในมือ ขณะสองเท้าก้าวเดิน แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงไก่ร้องกระต๊ากๆตกใจเจ็บปวด สลับกับเสียงหัวเราะของโมกกับลำยองดังก้องมาตามทาง เย็นโกรธกัด
“สามคนนั้น ต้องทำอะไรชั่วๆอีกแน่”
เย็นเดินแกมวิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว

เย็นน้องสาวของลำยอง เปิดประตูเข้าไปในบ้านเช่า เห็นไก่เป็นๆร้องกระต๊ากๆ วิ่งไปมาอยู่ในบ้าน มุกวิ่งไปตามจับ อีกมุมลำยองตั้งกระทะใบใหญ่ที่มีน้ำเดือดพล่าน
“เอ้า พี่ลำยองได้แล้ว”
มุกเอาไก่เป็นๆส่งให้ เย็นกรีดร้องอย่างโมโห
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่ลำยอง”
เย็นวิ่งเข้ามาจะแย่งไก่จากพี่สาว ลำยองเบี่ยงตัวหลบเย็นเสียหลักล้มหน้าคะมำกับพื้น ขณะที่ลำยองลอยหน้าลอยตาพูด
“เรื่องอะไรจะหยุด ของอร่อย ยิ่งกินตอนไก่ดิบครึ่งนึง สุกครึ่งนึงแล้วไก่มันร้องกระต๊ากๆยิ่งอร่อย”
“พวกคนใจยักษ์ ใจดำ เปรตจากนรก ชอบทรมานสัตว์” เย็นด่าอย่างโกรธจัด
“โถๆทรมานสัตว์”
ลำยองคว้ามีดจากมือโมกชูขึ้นขู่เย็น
“อย่ามาทำปากดี ปากเก่งนะนังเย็น เดี๋ยวฉันก็เอามีดกรีดปากแกแทนซะหรอก หนอยทำยังกับแกไม่เคยทุบหัวปลาอย่างงั้นแหละ”
“ใช่ ฉันเคยทุบหัวปลา” เย็นคว้าสากที่ลำยองตำน้ำจิ้มทะเลขึ้นมา “แต่จะเคยทุบหัวพี่ก็วันนี้ล่ะ ทั้งชั่ว ทั้งเลว ใจดำอำมหิต ระวังเถอะ มีลูก ลูกมันจะได้เชื้อเลว เชื้อชั่วจากพี่”
“ดีสิวะ จะได้ให้มันหาเลี้ยง เพราะน้องอย่างแก มันไม่เคยคิดจะดูดำดูดีฉันอยู่แล้ว”
“แค่ให้ซุกหัวนอนก็ดีถมเถไปแล้วเว้ย อย่าเอาความเดือดร้อนมาให้ฉันนะพี่ไม่งั้น ต่อให้พี่เป็นพี่ ฉันก็ไม่เว้น” เย็นชูสากขึ้นอีก
ลำยองเบ้ปาก ยักไหล่ หัวเราะกวน
“ก็ไม่รู้สินะ...” ลำยองหันไปสั่งโมก “เอ้า พี่โมก เอาไก่ไปจัดการ”
“อย่านะ ฉันบอกว่าอย่า”
เย็นคว้าไก่แล้วโยนไก่ออกไปทางหน้าต่างปล่อยให้มันหนีไป ลำยองโกรธ
“นังเย็น...ไอ้มุก เอ็งไปจับไก่มาเร็ว”
“อย่านะไอ้มุก ไม่งั้นฉันแทงแกไส้ขาด” เย็นคว้ามีด
มุกหัวเราะขำยียวน
“โถๆทำไมเย็นดุมุกนักล่ะจ้ะ เราน่าจะรักกันๆอย่างพี่โมกกับพี่ลำยองนะเย็น จะได้เป็นสองคู่ชู้ชื่นไง”
“ฉันไม่เป็นผีเน่ากับโลงผุเหมือนพวกแกหรอก”
“โถ ผีเน่ากับโลงผุ” ลำยองเบ้ปาก
เย็นจ้องหน้าพี่สาว
“ใช่...แล้วก็เชื่อฉันได้เลย ถ้าพวกพี่ยังทำตัวเลวๆแบบนี้อีก ไม่ได้ตายดีแน่”
“ก็ไม่รู้สินะ” ลำยองไม่สน
สามคนหัวเราะขำเย็น เย็นมองทั้งสามคนไม่ชอบเลย

เย็นวันใหม่ ที่ร้านขายทอง เสี่ยและลูกสาวกำลังขายทองให้ลูกค้าอยู่ 2-3 คน โมกขี่มอเตอร์ไซค์มีลำยองซ้อนท้ายมาหน้าร้าน พอเห็นข้างในร้านทองยุ่งวุ่นวายโมกกับลำยองก็ลงจากรถวิ่งเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว ทุกคนผงะ โมกชูปืน
“หยุด อย่าขยับ”
ทุกคนเห็นปืนก็นิ่งตัวแข็งไปทันทีด้วยความกลัว ทั้งโมกและลำยองช่วยกันกวาดทองทั้งบนตู้ในตู้ใส่กระเป๋า โดยที่โมกยกปืนขู่ตลอดเวลา พอได้ทองสมใจสองคนก็วิ่งออกไปที่ประตู เสี่ยตะโกนลั่น
“ช่วยด้วยๆโจรปล้นทอง...แจ้งตำรวจเร็ว”
ขาดคำเสี่ยก็คว้าปืนออกมาวิ่งตามโมก พร้อมยิงปืนออกไป โมกรีบเอาปืนยิงสวนกลับ สองฝ่ายยิงปืนใส่กัน ลำยองหลบ และเสี่ยก็โชคร้ายที่ถูกกระสุนของโมกอย่างจังจนล้มฟุบลงไปนอนกองที่พื้นเลือดท่วม
 
ลูกสาวเสี่ยวิ่งออกมาร้องกรี๊ดๆ โมกกับลำยองวิ่งมายังที่จอดมอเตอร์ไซค์รออยู่หน้าร้านแล้วซิ่งรถหนีไปอย่างรวดเร็ว

สองคนขี่มอเตอร์ไซค์หนีไปตามทางได้ยินเสียงไซเรนดังลั่น ก่อนจะเห็นรถตำรวจวิ่งมา ถูกดักหน้าดักหลัง โมกเร่งเครื่องหนีไปทางตรอกซอกซอยอย่างรวดเร็ว ตำรวจวอบอกกันทุกจุด

ค่ำนั้น เย็นทำกับข้าวเพิ่งเสร็จ ยกลงมาวางที่พื้นก่อนเดินไปคดข้าว ลำยองกับโมกเปิดประตูผลัวะเข้ามาสองคนหน้าตาตื่น มาถึงก็วิ่งหัวซุกหัวซุน ตรงเข้าไปเก็บข้าวของมีค่าของตัวเอง เท้าของสองคนผัวเมียเหยียบจานกับข้าวที่วางอยู่บนพื้น เย็นโกรธ
“เฮ้ย นี่กับข้าวนะโว้ย เหยียบได้ยังไง ไม่มีตาเหรอ”
“มี แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากกินข้าว โดยเฉพาะข้าวแดงในคุกโว้ย”
ลำยองว่าพลางเก็บข้าวของใส่กระเป๋า เย็นงง ตกใจ ถามรัวเร็ว
“นี่ตำรวจตามจับพี่สองคนเหรอ”
“เออสิวะ” โมกหงุดหงิด
“ฉิบหาย” เย็นหน้าซีด
“ไม่ก็ตายในคุกแน่ถ้าตำรวจจับได้ หนีเร็วพี่โมกหนี” ลำยองเร่งผัวที่เก็บของ
เสียงไซเรนดังใกล้เข้ามา ลำยองหันมาหาเย็น
“แกก็ต้องหนีเหมือนกันนังเย็น เร็ว”
เย็นรีบคว้าข้าวของส่วนตัวใส่กระเป๋าผ้าสะพายที่อยู่แถวนั้น ขณะที่โมกและลำยองวิ่งออกไปก่อน

โมกกับลำยองวิ่งออกมาหน้าบ้านจะตรงไปที่มอเตอร์ไซค์ ตำรวจวิ่งเข้ามาประกาศผ่านโทรโข่ง
“หยุด นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ”
เย็นที่กำลังเก็บข้าวของมีค่าในบ้านได้ยินหน้าซีด รีบเก็บของมีค่าของส่วนตัวจำเป็นใส่กระเป๋า โมกกับลำยองผงะทันทีที่เจอตำรวจ
“มาทางนี้เร็ว”
โมกวิ่งนำลำยองหนีไป ตำรวจประกาศ
“อย่าหนี ยอมให้จับซะดีๆ”
โมกไม่หยุด ซ้ำยังยิงต่อสู้ เกิดการยิงปะทะกัน เย็นได้ยินเสียง ตำรวจและเสียงปืนก็กลัวเนื้อตัวสั่นรีบหนีไปทางไปทางหลังบ้านที่เป็นป่าเปลี่ยวอย่างรวดเร็ว

โมกกับลำยองวิ่งหนีตำรวจมาตามทาง สองคนเห็นคลองที่อยู่ด้านหน้ารีบกระโดดลงไป ดำน้ำหนีไปอย่างรวดเร็ว ตำรวจวิ่งมาไม่เห็นสองคนแล้ว ตำรวจมองที่พื้นผิวน้ำรู้ทันทีสองคนดำน้ำหนี
เย็นวิ่งอยู่ในป่าเปลี่ยวที่เชื่อมต่อกับบริเวณหลังบ้าน ขณะที่ทั้งตกใจกลัวทั้งเหนื่อย โมกกับลำยอง โผล่ขึ้นไปอีกคลอง ก่อนที่ทั้งสองคนจะหนีหายไปในความมืด ท่ามกลางเสียงไซเรนตำรวจดังก้องไปทั่วบริเวณ

เสียงไซเรนดังก้อง...ย็นที่ตกอยู่ในภวังค์คิดถึงเรื่องราวในอดีตสะดุ้งโหยง หันขวับไปมองที่หน้า
ร้าน เห็นรถตำรวจวิ่งผ่าน และผู้คนมากมายตามมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เย็นรีบสาวเท้าไปดูรวดเร็ว น้อยรีบตามเย็นออกไป

หน้าบ้านเถ้าแก่กิม ชาวบ้านยืนออกันเต็ม อีกฝั่งคือเลอสรรและเพื่อนซึ่งบ้านก็อยู่ละแวกเดียวกันเย็น เลอสรรไม่ได้หันมามองทางบ้านเย็น สายตาทุกคนพุ่งไปตามรถตำรวจที่แล่นไป เย็นเดินออกมาถามชาวบ้าน
“มีเรื่องอะไรกัน”
“พวกเมายาบ้า มันฉุดผู้หญิง นี่ตำรวจกำลังล่าตัวพวกมันอยู่”
เย็นตัวสั่นสะท้าน ภาพอดีตที่เคยถูกทำร้ายตามมาหลอกหลอน คว้าตัวน้อยมา
กอดแน่น แบบปกป้อง เย็นประหวั่นพรั่นพรึง กลัว

ท่ามกลางความมืด เลอสรรกับเพื่อนเดินกลับบ้าน
“อุตส่าห์กลับมาเที่ยวบ้าน เจอเรื่องแบบนี้ ยิ้มไม่ออกเลย ขอโทษด้วยนะเลอที่ทำให้ไม่สนุก” เพื่อนบ่น
“ไม่เป็นไร เที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ แค่ได้มาวาดรูปน้ำตกสวยๆก็ดีแล้ว แต่ฉันเป็นห่วงสังคมมากกว่า มีแต่ข่าวอาชญากรรมแบบนี้ทุกวัน น่ากลัว”
สองคนมีสีหน้าไม่สบายใจ

เย็นโอบน้อยเข้าบ้าน น้อยบอก
“น่ากลัวจังเลยนะคะน้าเย็น”
“ใช่... น้าถึงได้สอนพวกแกตลอด ให้ระวังตัว ผู้ชายน่ากลัว น่ากลัวมาก”
เสียงเปียตะโกนลงมาแบบจิกๆเหวี่ยงๆ
“น้อย....อาบน้ำเสร็จแล้ว”
เย็นหันมาบอกน้อย
“ไปอาบน้ำไป จะได้ลงมากินข้าว”
“ค่ะน้าเย็น”
น้อยเดินแยกไป เย็นครุ่นคิด หวาดกลัว คิดถึงอดีต

เย็นระหกระเหินหนีพลัดหลงกับลำยองมาตามทาง พลางครุ่นคิด
“ป่านนี้พี่ลำยองกับพี่โมกเป็นยังไงกันบ้างแล้วก็ไม่รู้ หรือจะหนีไปอยู่กับไอ้มุก”
ค่ำนั้น เย็นเดินเก้ๆกังๆเข้าไปในบ่อนกวาดตามองหามุก นักเลงคุมบ่อนเห็นเย็นสวยก็เดินมาอย่างสนใจ
“มาหาใครจ้ะน้องสาว”
“ไอ้มุกอยู่มั้ย”
“อยู่ๆ...มันเพิ่งเดินไปด้านหลังบ่อนเดี๋ยวนี้นี่เอง เดี๋ยวฉันพาไป”
นักเลงเจ้าเล่ห์ เดินนำเย็นออกไปทางด้านหลังบ่อน ไมได้แสดงท่าทีให้เธอเห็นว่าจะทำร้ายแต่อย่างใดเพื่อให้ตายใจ...

เย็นเดินตามนักเลงออกมา พอเห็นด้านหลังเป็นป่าก็สังหรณ์ใจ
“ไอ้มุกอยู่ไหน”
นักเลงหันมายิ้ม
“จะมาหาไอ้มุกทำไม มาขึ้นสวรรค์กับพี่ดีกว่า”
ว่าพลางนักเลงก็ฉุดมือ เย็นร้องกรี๊ดสะบัดออก
“ปล่อยฉัน”
เย็นจะวิ่งหนีแต่ นักเลงกระชากมือเอาไว้อย่างแรงจนร่างเย็นเซถลา แทบล้ม นักเลงกระโจนเข้าหา เย็นถีบพลางตะโกนลั่น
“ช่วยด้วย”
“หุบปาก”
นักเลงเอามืออุดปากเย็น เธอกัดมือมันร้องลั่น
“ฤทธิ์มากนักนังนี่”
นักเลงตบเย็นเข้าที่หน้า ร่างของเธอล้มลงหัวกระแทกเข้ากับก้อนหินแถวนั้นเป็นแผลแตกเลือดไหล มันยังไม่พอต่อยท้อง เย็นร้องเจ็บจนจุกแทบหมดแรงแต่ยังกัดฟันสู้
“สู้เหรอ”
นักเลงยิ่งโกรธ นักเลงบีบคออย่างแรงคราวนี้เย็นทำท่าอ่อนแรงสู้ไม่ได้ นักเลงเห็นเย็นนิ่งหายใจแผ่วๆก็ฉวยโอกาสลากเข้าไปยังป่าข้างทางติดหนองน้ำหมายปลุกปล้ำขืนใจ เย็นทั้งโกรธทั้งเกลียด รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายถีบอย่างแรง นักเลงผงะ เย็นกระเสือกกระสนหนีกระเซอะกระเซิงลงไปในหนองน้ำกะจะดำน้ำหนีไป แต่นักเลงกระโจนตามลงกระชากตัวไว้ มันหัวเราะเหี้ยม
“ชอบในน้ำหรอกรึน้องสาว”
นักเลงกระชากเย็นจะปล้ำจูบขืนใจ เธอสู้สุดใจร้องรังเกียจขยะแขยง
“ปล่อย”
เย็นคว้าเอาท่อนไม้ที่ติดอยู่กับจอกแหนแถวนั้นฟาดเข้าที่กกหูบริเวณทัดดอกไม้ของมันอย่างจัง นักเลงร้องสุดเสียง เย็นกัดฟันคำราม
“เก่งแต่รังแกผู้หญิง ไอ้เลว”
เย็นกระโจนเข้าหาคนร้ายบีบคอเหมือนที่มันทำกับเธอ เย็นบีบคอย่างแรงด้วยบันดาลโทสะ จนนักเลงแน่นิ่งไป เย็นเห็นมันแน่นิ่งจึงเริ่มเอะใจ ลุยน้ำขึ้นบนบนคว้าถุงผ้าของตัวเองกระหืดกระหอบเจ็บปวดหนีไป

ปัจจุบัน...มือของเย็นที่กำลังกำผ้าเช็ดโต๊ะอยู่สั่นสะท้าน ความรู้สึกเจ็บปวดโกรธแค้นที่ถูกทำร้ายในอดีตยังคงอยู่เสมอ มือของเย็นจิกเกร็งกำผ้าแน่น ราวกับเป็นหน้าของคนร้าย
เปีย กับ น้อย ช่วยกันถือกับข้าวเดินมาหา เปียบ่นไปด้วย
“ไม่ต้องมาสอน ลองผู้ชายคนไหนมาหลอกฉันสิ...ฉันจะเอากำปั้นยัดปากมันเลย”
“เก่งอีกแระ”
“ก็ฉันเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ ไอ้ที่จะยอมให้ผู้ชายหลอกไม่มีทาง มีแต่จะหลอกผู้ชาย”
เปียเดินไปเปิดทีวี เย็นหันมามองเปียไม่พอใจ
“ปากดี”
“ก็มันจริงนี่น้าเย็น...ก่อนที่เขาจะหลอกเรา เราก็ต้องหลอกเขาก่อน”
เย็นเบ้ปากใส่หมั่นไส้
“ยังกับผู้ชายจะบอกแกก่อนว่าจะหลอกนะ จะหลอกนะ เวลาผู้ชายจะเข้ามา ก็มาแบบพระเอกกันทั้งนั้นแหละ”
เย็นน้ำเสียงขมขื่นแต่ข่มไว้ กระแทกจานข้าวดังปัง ทั้งรัก ทั้งเจ็บ ทั้งแค้น เมื่อคิดถึงอดีต...คิดถึงอุทัย ผู้ชายที่เธอรักที่สุด และทำให้เธอต้องเจ็บปวดที่สุด...

เย็นวิ่งกระเสือกกระสนหนีมาตามทางเลือดจากแผลที่ศีรษะไหลออกมาเป็นทาง เธอทั้งเจ็บทั้งเหนื่อยแทบขาดใจ รถของอุทัยวิ่งมาเป็นจังหวะเดียวกับที่เย็นวิ่งข้ามถนนแบบไม่ดูทาง ต่างคนต่างตกใจ อุทัยเหยียบเบรกทันทีขณะที่ร่างของเย็นร่วงผล็อย หมดสติลง ณ ตรงนั้น อุทัยรีบลงจากรถไปดู
“คุณๆ”

อุทัยแตะตามเนื้อตามตัวเย็นที่นอนแน่นิ่งไม่ได้สติ เขาตัดสินใจอุ้มตัวเย็นที่เนื้อตัวเปียกปอนขึ้นรถไปโรงพยาบาลทันที
 
อ่านต่อหน้า 2

คมพยาบาท ตอนที่ 1 (ต่อ)

ในตอนนี้เย็นนอนอยู่ในห้องมีสายน้ำเกลือ ศีรษะมีผ้าพันแผล เธออาละวาดพยายามจะลุกจากเตียง เจ้าหน้าที่ช่วยกันห้าม

“อย่าเพิ่งลุกค่ะคุณ อย่า”
“ฉันจะไป ปล่อย”
อุทัยวิ่งเข้ามา
“หยุดก่อนคุณหยุด”
เย็นชะงักมองหน้าอุทัย ดวงตาของเขาจริงจัง ท่าทางใจดี
“คุณยังเจ็บอยู่ อย่าเพิ่งไปเลยนะ”
“คุณ...” เย็นมองงงปนระแวง
“ผมเกือบขับรถชนคุณ แต่คุณคงตกใจมาก เลยหมดสติไป”
เย็นมองอุทัยทบทวนเรื่องราว เธอถูกทำร้ายวิ่งมาเกือบถูกรถชน เย็นมองอุทัยจำได้ เขาไม่ใช่คนร้าย แต่พอเห็นเย็นจ้อง อุทัยก็บอก
“ผม...ผมไม่ได้ขับรถชนคุณนะ”
เย็นไม่ตอบ แต่มองนิ่ง ดวงตาของเธอเย็นชา อุทัยพูดอย่างอ่อนโยนแกมอ้อนวอน
“ผมไม่ได้ทำร้ายคุณจริงๆ”
“ฉันรู้”
อุทัยโล่งใจ
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ”

วันใหม่...เย็นหอบกระเป๋าผ้าเดินเคียงข้างอุทัยออกมาจากโรงพยาบาล อุทัยมองสงสาร
“คนสมัยนี้ร้ายจริงๆ ดีใจด้วยนะที่คุณรอดมาได้ จะไปแจ้งความหรือเปล่า ผมจะพาไป”
“ฉันไม่ได้เป็นไรช่างมันเถอะค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย” เย็นยกมือไหว้
“แล้วนี่...คุณไหวแน่นะ”
“ไม่ไหว ก็ต้องไหว”
“มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า”
“แค่คุณช่วยพาฉันมาส่งโรงพยาบาล ก็ถือว่าช่วยมากพอแล้ว”
“แล้วนี่คุณจะไปไหนต่อ ขอโทษ...ผมเห็นท่าทางของคุณเหมือนจะไปไหนน่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“อ้าว แล้วครอบครัวญาติพี่น้องคุณล่ะ”
เย็นเสียงแผ่วๆตอบแบบใจหาย คิดถึงโมกกับลำยอง
“ไม่มี...เอาเป็นว่าฉันขอบคุณ คุณมากที่ช่วย โชคดีค่ะ”
เย็นยกมือไหว้อีกครั้งจะเดินไป แต่ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงจากวิทยุจากแม่ค้าที่ขายของแถวนั้น
“เมื่อคืนพบศพชายฉกรรจ์ ถูกฆ่าตายที่หนองน้ำอย่างโหดร้ายทารุณ ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามหาตัวคนร้ายอยู่”
เย็นเข่าอ่อน เซจะเป็นลมจนอุทัยต้องคว้าตัวเอาไว้
“คุณ...เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่า”
“แต่ท่าทางคุณไม่ดีเลย”
“ฉันไม่เป็นไร”
เย็นผละจากอุทัยจะเดินไป แต่ต้องหน้าซีดมากกว่าเดิม เมื่อเห็นรถตำรวจวิ่ง
เข้ามาจอด เย็นจะทรุดลงไปอีก คราวนี้อุทัยคว้าตัวไว้ทั้งตัว เย็นก็ยึดเขาไว้แน่น อุทัยเป็นห่วง
“แน่นะ...หาหมอต่อหน่อยมั้ย”
เย็นหางตาเหลือบมองรถตำรวจตลอดเวลาแก้ตัวกลบเกลื่อนไป
“ม่...ฉัน...ฉันแค่กลุ้ม กลัวจะหางานทำไม่ได้”
“งั้น อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ที่บ้านผมพอจะดูแลคนได้บ้าง คุณไปทำงานกับผมมั้ย”
“ไม่เป็นไร ฉันดูแลตัวเองได้ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”
เย็นรวบรวมสติผละจากอุทัย แต่แล้วต้องหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นตำรวจเดินตรงมา คราวนี้เย็นหันขวับมาเกาะมืออุทัย
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันอยากทำงานกับคุณ...คุณรับฉันเข้าทำงานด้วยนะ”
“ได้...ได้” อุทัยงงๆ
“บ้านคุณอยู่ที่ไหน เรารีบไปกันเลย”
อุทัยยังงง เงอะๆงะๆตั้งตัวไม่ทัน เย็นเห็นตำรวจเดินใกล้เข้ามายิ่งร้อนรน
“ไปกันเลยเถอะค่ะ ฉันอยากทำงานเร็วๆ”
“ได้ๆ”
เย็นเกาะกุมแขนอุทัยแน่นไม่ยอมปล่อย เดินก้มหน้าหลบตำรวจที่เดินสวนผ่านเข้ามา อุทัยมองมือที่สั่นและเย็นจัดของเย็นที่เกาะแขนเขาแน่น ก่อนเหลือบมองดวงหน้าเห็นดวงหน้าของเธอจ๋อยๆดูมีความกังวล เขาเอื้อมมือไปแตะมือเธอเบาๆเป็นเชิงปลอบประโลม
“ไม่ต้องกลัว แม่ของผมใจดี บ้านผมไม่มีอะไรเยอะหรอก”

บ้านคุณหญิงอนุรักษ์...หวานคลานเข้ามาเสิร์ฟน้ำให้อุทัย พลางชำเลืองมองเย็นที่นั่งพับเพียบอยู่ที่พื้น คุณหญิงอนุรักษ์มองเย็นด้วยสายตาหวาดระแวงเพราะสวย
“ลูกรับเขาเข้ามาแล้วจะให้แม่ทำยังไงได้ แต่เดี๋ยวให้แม่เย็นรับใช้แม่ก็แล้วกัน”
“ผมก็ตั้งใจให้เย็นอยู่ดูแลรับใช้คุณแม่อยู่แล้วครับ”
“ดี...แต่ถ้าขี้เกียจสันหลังยาว แม่ก็ไม่เอาเหมือนกันนะ”
“เย็นไม่ขี้เกียจหรอกครับ ว่าไงเย็น”
“เย็นไม่ขี้เกียจหรอกค่ะ เย็นจะขยันขันแข็ง ตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ” เย็นนอบน้อม
คุณหญิงอนุรักษ์ยิ้มพอใจ
“ถ้าแกเป็นอย่างนี้จริง ก็ดี”
“เย็นกราบขอบพระคุณคุณหญิงและคุณอุทัยมากค่ะที่เมตตาช่วยเหลือเย็น”
เย็นก้มลงกราบคุณหญิงอนุรักษ์และกราบอุทัย

เปีย นั่งกินข้าวไป ดูละครไป ในทีวีเป็นแม่ผัวทะเลาะกับลูกสะใภ้ เปียดูทีวีไปแล้ววิจารณ์
“ถ้าฉันเจอแม่ผัวอย่างนี้...ฉันลุยเลยนะเนี่ย..เนาะน้าเย็นเนาะ เจอแม่ผัวอย่างนี้ จับตุ๊กแกโยนใส่เลย”
เปียมองเย็น ที่นั่งกำช้อนแน่น เพราะใจจมอยู่กับอดีตที่เจ็บปวด ไม่กินข้าว น้อยสงสัย
“น้าเย็นเป็นอะไรคะ ทำไมไม่กินข้าว”
“คิดถึงพระเอกอยู่ล่ะซี้” เปียล้อๆ
“เปีย” น้อยติง
“ท่าทางอย่างนี้ ต้องคิดถึงพระเอกแน่ๆเลย” เปียเขย่าตัวเย็น “บอกมาเดี๋ยวนี้เลยน้าเย็น..คิดถึงพระเอกคนไหน บอกมา”
“อะไรของแก” เย็นรำคาญ
“ก็ดูตาน้าเย็นสิ...หน้าตาอย่างนี้ ท่าทางอย่างนี้คิดถึงผู้ชายแหงๆ บอกมานะๆ น้าเย็นคิดถึงใคร”
“พูดมาก เดี๋ยวฉันได้ส่งแกไปเฝ้ายมบาล ไม่ก็จับตุ๊กแก ยัดปากแกยัยเปีย”
เย็นค้อนขวับคว้าจานลุกขึ้นเดินหนีไป เปียหัวเราะลั่น
“ท่าทางอย่างนี้ น้าเย็นคิดถึงผู้ชายแหงๆเลยน้อย”
“ทำไมรู้ล่ะ” น้อยแปลกใจ
“ก็ตอนฉันคิดถึงผู้ชาย...ฉันเคยทำท่าอย่างน้าเย็นไง” เปียหัวเราะคิกคัก

เย็นเดินเอาจานไปไว้ในครัว ดวงหน้าเศร้าสลด คิดถึงอุทัยในอดีต

เย็นกวาดพื้นสนาม อุทัยที่อยู่บนตึกแอบมอง เย็นเงยหน้าขึ้นมองพอดี ตาต่อตาสบสายตากัน เย็นขวยเขิน อุทัยยิ้มพอใจ

ระหว่างทานอาหาร เย็นโน้มตัวลงเสิร์ฟอาหารเนื้อตัวใกล้ชิด อุทัยแทบได้กลิ่นกายของเธอ คุณหญิงอนุรักษ์แอบเหลือบตามองไม่พอใจ
กลางดึก เย็นออกมาเก็บดอกไม้ พร้อมๆกับเมียงๆมองไปทางห้องของอุทัย สักครู่เขาเดินมาที่หน้าต่างกวาดตามองหา เย็นแกล้งทำเป็นไม่เห็นหลบตาเก็บดอกไม้ อุทัยยืนมองเย็นแกล้งทำเป็นเงยหน้าขึ้นไปมองขวยเขินมีจริต สองคนยิ้ม ต่างมีใจให้กัน

เช้าวันใหม่...เย็นกำลังทำความสะอาดกวาดใบไม้ที่หล่นเกลื่อนพื้น เธอเห็นอุทัยจะไปทำงานรีบวางมือเดินไปหา
“ดิฉันช่วยค่ะ” เย็นยื่นมือไปรับกระเป๋า
“ขอบใจมากเย็น แล้วมาอยู่ที่นี่ เป็นไงมั่ง”
“ก็...สบายดีค่ะ” เย็นยิ้มแย้มตอบ
“เย็นทำกับข้าวอร่อยมากนะ”
เย็นยิ้มปลื้มใจที่เขาชม
“ขอบคุณค่ะ คุณอุทัยชอบอะไรเป็นพิเศษบอกได้นะคะ ดิฉันจะทำให้”
“ชอบหลายอย่าง แต่ที่ไม่ชอบ...” อุทัยมองหน้าเย็น
“อะไรคะ”
“ฉันไม่ชอบให้เย็นแทนตัวว่าดิฉัน มันฟังดูห่างเหินยังไงไม่รู้...แทนตัวเองว่าเย็นจะได้มั้ย”
“คุณเป็นเจ้านาย ดิฉันเป็นคนใช้ เรียกตัวเองอย่างนั้นคงไม่เหมาะ”
“แล้วถ้าฉันใช้อำนาจของการเป็นนาย สั่งให้เย็นเรียกล่ะ”
เย็นมองลำบากใจ
“ดิฉัน เกรงใจคุณหญิงท่าน”
“งั้นไว้เรียก ตอน...คุณหญิงแม่ไม่อยู่แล้วกัน”
เย็นอมยิ้มเปิดประตูรถพร้อมยื่นกระเป๋าให้ อุทัยทวงคำตอบ
“ไง...ที่ฉันสั่ง เย็นยังไม่เห็นตอบเลย”
“คุณอุทัยคะ...ดิฉัน...”
“ฉันสั่งให้เย็นแทนตัวเองกับฉันว่า เย็น”
“ก็ได้ค่ะ ต่อไป เย็นจะแทนตัวเองว่า เย็น”
“ขอบใจมากจ้ะ งั้นตอนฉันไม่อยู่บ้าน ฝากเย็นช่วยดูแลคุณหญิงแม่ด้วยนะ”
“ค่ะคุณอุทัย”
อุทัยยิ้มพอใจเดินขึ้นรถ เย็นมองตามรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด

เย็นล้างจานอยู่ในครัว หน้าตาสลด น้อยเก็บโต๊ะกินข้าวเปียนั่งกระดิกเท้าดูทีวีพูดตามประสา เย็นได้ยินเสียงเปียแว่วเข้ามา
“ดูสิน้อย...ดูสิ...พระเอก เอาผ้าคลุมไหล่มาให้นางเอก โอ้ย ฟิน ฉันอยากได้ผ้าคลุมไหล่แบบนี้จัง”
เย็นได้ยิน คราวนี้เย็นยิ่งหน้าสลดไปใหญ่ อดีตยิ่งแจ่มชัดขึ้น

เย็นนั้น จวนกับเย็นกำลังช่วยกันรดน้ำต้นไม้ รถของอุทัยวิ่งมาจอด เย็นวางสายยางลง
“เดี๋ยวฉันมานะพี่”
จวนยังไม่ทันว่าอะไร เย็นก็เดินไปหาอุทัยที่รถยื่นมือไปหา
“กระเป๋าค่ะ”
“จะรีบถือทำไมกระเป๋า...” อุทัยมองเย็นตาหวาน “เอ้านี่...อากาศเย็นแล้ว ฉันซื้อมา
คลุมไหล่มาฝาก”
เย็นยิ้มเขินหลบตา มือไม้สั่น ยื่นมือออกไปรับถุงผ้าคลุมไหล่ อุทัยมองหน้าเย็นปล่อยถุง เย็นรับไม่ทัน ถุงผ้าหล่นลงกับพื้น
“ขอโทษค่ะ” เย็นเกรงใจมาก
“ไม่เป็นไรจ้ะเย็น”
ทั้งเย็นทั้งอุทัยย่อตัวลงไปพร้อมกัน หยิบกระเป๋าพร้อมกัน มือของอุทัยกุมเข้าที่มือของเย็นพอดี เย็นตกใจ เขิน อุทัยไม่ปล่อย ยิ้มตาหวานมองหน้าเย็น จวนที่มองอยู่ตกใจ เย็นเองก็เขิน
“เอ่อ...คุณอุทัยคะ...” เย็นจะดึงมือออก
อุทัยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“จ้ะ...เย็น”
“เอ่อ...” เย็นไม่กล้าบอก ได้แต่ดึงมือออก
“จ้ะ...” อุทัยปากถามแต่ไม่ปล่อยมือ มองจ้องตาหวาน
คุณหญิงอนุรักษ์เดินมา เย็นได้โอกาสบอก
“คุณหญิงมาค่ะ”
อุทัยปล่อยมือทันที เย็นรีบคว้าถุงผ้าขึ้นมา...ค่ำนั้น เย็นนั่งมองลูบคลำผ้าคลุมไหล่ที่อุทัยให้อย่างอบอุ่นใจมีความสุข

ปัจจุบัน....เย็นนั่งพับผ้าคลุมไหล่ที่มิใช่ผืนเดิม เหงื่อซ่กแต่เหมือนเย็นไม่รู้ตัว ในใจคิดถึงแต่อดีต
“ผ้าผืนนั้น มันไม่มีอีกแล้ว ไม่มีอีกแล้ว เพราะคุณ”
“เย็นกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล กำผ้าในมือแน่น น้อยมาพร้อมผ้าเย็น
“น้าเย็นขา อากาศวันนี้ร้อนมากเหงื่อน้าเย็นไหลออกมาเต็มเลย เช็ดหน้าหน่อยนะคะ”
น้อยยื่นผ้าเย็นมาให้เย็น ดวงหน้าใสซื่อ เย็นๆค่อยๆยื่นมือออกไปหยิบผ้าเย็น
สะท้อนใจกับอดีต

เย็นเดินเอาเครื่องดื่มมาให้อุทัยกับผ้าเย็น
“ผ้าเย็นค่ะ”
“ขอบใจมากจ้ะเย็น”
อุทัยรับไปเช็ดหน้าเช็ดตาพลางทำท่าเมื่อย
“ท่าทางคุณอุทัยเมื่อยจัง เย็นขออนุญาตนวดให้นะคะ”
อุทัยมองตะลึงคาดไม่ถึง เย็นมองสบตาเขาส่งยิ้มไปให้ ก่อนค่อยๆนวดที่เท้าให้อย่างนอบน้อม ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆที่ขา อุทัยมองเย็นจากมุมที่นั่งที่อยู่สูงกว่ามองเห็นเนินอกของเย็นที่โผล่พ้นขอบเสื้อออกมา เย็นเองก็เหมือนจะรู้ ก้มตัวต่ำลง ปากก็ถามอ่อนหวาน
“คุณอุทัย เมื่อยตรงไหนอีกมั้ยคะ เย็นจะนวดให้”
อุทัยมองเจ้าชู้
“ถ้าฉันเมื่อยทั้งตัว เย็นจะนวดให้ฉันมั้ยจ้ะ”
เย็นพอจะรู้ความหมายแห่งสายตา เธอก้มหน้าลงต่ำยิ้มเอียงอาย อุทัยโน้มตัวลงต่ำ พลางเอื้อมมือวาดวงแขนโอบเย็นเข้ามาถาม เย็นสะดุ้งนิดๆขณะที่อุทัยถามเสียงพร่า
“ว่าไงเย็นยังไม่ตอบฉันเลย ถ้าฉันเมื่อยทั้งตัว เย็นจะนวดให้ฉันมั้ย”
เย็นยิ้มก้มหน้าตอบเอียงอาย
“แล้วแต่คุณอุทัยจะบัญชาค่ะ”
“งั้น...นวดให้ฉันหน่อยนะเย็น”
พูดพลางอุทัยก็อุ้มเย็นขึ้นมา เธอแกล้งสะดุ้งร้องเบาๆอย่างมีจริต
“คุณอุทัยคะ”

อุทัยไม่โต้ตอบอะไร แต่อุ้มเย็นตัวลอยตรงไปที่ห้องทันที หวานที่หลบอยู่มุมหนึ่งชะโงกหน้าเข้ามามองตาโตตกใจ แต่ดวงตามีประกายยิ้มสอดรู้

ท่ามกลางความมืดมีเพียงแสงสลัวๆของแสงจันทร์ที่สาดเข้ามาในห้อง อุทัยวางร่างของเย็นลงบนเตียง เธอร้องอย่างมีจริต

“อย่าค่ะคุณอุทัย มันไม่ดี”
ปากปฏิเสธแต่มือไม่ปล่อยจากคอของเขา อุทัยยิ้ม
“ไม่ดียังไงจ้ะ”
เย็นตอบแบบมีจริต
“ก็เย็นเป็นเพียงแค่คนใช้ ต่ำต้อยด้อยค่าไร้วาสนา เย็นไม่มีอะไรเหมาะสมคู่ควรกับคุณอุทัยเลย”
“ใครว่าหัวใจของเราสองคนไงจ้ะเย็น ที่เหมาะสมคู่ควรกัน”
เย็นตาโต ดีใจผสมผสานตกใจ คาดไม่ถึง
“คุณอุทัย”
“ถ้ายศถาบรรดาศักดิ์ ฐานะ คือสะพาน ฉันก็พร้อมจะข้ามสะพานไปหาเย็น ฉันรักเธอจ้ะเย็น”
อุทัยก้มลงจูบที่หน้าผากระเรื่อยลงมาที่จมูกที่ปาก ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามครรลองของมัน
เย็นนั่งเศร้า คิดถึงอุทัย เสียงโหวกเหวกโวยวายแบบคนทะเลาะกันดังลั่น
“เพราะแก เพราะแกคนเดียวนังน้อย”
เย็นได้ยินสะดุ้งโหยง
“น้อย”
เย็นแปลกใจ ตกใจ รีบลุกเดินออกไปทันที

หน้าร้านผู้หญิงคนหนึ่งชื่อนกชี้หน้าด่าน้อย เอะอะเสียงดัง
“เพราะแก..แกคนเดียวนังน้อย เพราะแก”
เลอสรรที่อยู่บ้านเพื่อนที่อยู่ด้านหลัง หลังบ้านติดกันกันบ้านเย็นได้ยิน เพื่อนถอนใจ
“นี่แหละที่ฉันไม่ค่อยอยากกลับบ้าน กลับมาอะไรก็ไม่รู้ มีแต่เรื่อง โดยเฉพาะหลังบ้านฉัน” เพื่อนทำท่าบุ้ยใบ้ไปบ้านเย็น “เอะอะเสียงดังตลอดเลย น่ารำคาญ”
เลอสรรลุกเดินไปที่ระเบียง ชะโงกหน้าไปมองออกไปยังบ้านเย็น เห็นแต่ไทยมุง

น้อยหน้าซีดตกใจ ยกมือไหว้นก
“น้อยขอโทษ น้อยไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ”
นกตวาดแว๊ด
“โกหก บ้านก็อยู่ห่างกันแค่นี้ แกจะไม่รู้ได้ยังไงว่าน้องฉันมันอกหักยังจะขายยาเบื่อหนูให้มันอีก” นกตรงเข้ามาขย้ำน้อย “ถ้าน้องฉันเป็นอะไรไป แกตายนังน้อย แกตาย”
เปียเข้าไปผลักทันที
“แกสิตาย” เปียขย้ำตบคืน “พูดอย่างนี้ได้ยังไงวะ ใครจะไปรู้ ว่าน้องแกจะซื้อยาเบื่อหนูไปกิน นังพี่ปัญญาอ่อน”
เปียมีเรื่องแทนน้อย เย็นเดินออกมา เห็นเปียตบตีกับนกอยู่ก็ตกใจ รีบเข้าไปห้าม
“หยุด”
นกชี้หน้าเปียน้อย
“ถ้าน้องฉันเป็นอะไรไป แกสองคนต้องรับผิดชอบ”
นกสะบัดหน้าหนีไป เย็นมองงุนงง
“นกมันเป็นอะไร”
น้อยเสียงสั่นตกใจ
“พี่นกโกรธ ที่น้อยขายยาเบื่อหนูให้น้องเขา แต่น้อยไม่รู้จริงๆนะคะ ว่าน้องเขาอกหัก...แล้วจะเอายาเบื่อหนูไปกินน่ะ”
“อ้อ...นังหนู ที่ว่าจะแต่งงานกับลูกชายร้านทองน่ะเหรอ”
เปียพยักหน้ารับ
“ใช่...น้าเย็น ไม่เจียมบอดี้เอาซะเลย ตัวเองเป็นแค่ลูกจ้าง สะเออะไปรักลูกชายร้านทอง พ่อแม่คนรวยที่ไหน เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงจนๆ”
เย็นสะอึก เปียไม่รู้เรื่องด่าต่อ
“ถ้าเปียเป็นเจ๊เจ้าของร้านทอง ไม่ต้องรอให้มันกินยาเบื่อหนูหรอก เปียจะจิกหัวนังลูกจ้างให้หนังหัวมันหลุดออกมาเลย คนอะไรไม่เจียม”
เย็นหน้าซีดเผือด ดวงตาเจ็บช้ำ เพราะเหตุการณ์ในวันนี้ไม่ต่างกับเรื่องของเธอในอดีต

อุทัยนอนกอดเย็นเอาไว้แน่น เย็นซุกหน้าลงที่หน้าอกของเขา บอกเสียงแผ่วสุขระคนว้าวุ่นใจ
“เย็นเป็นเหมือนผู้หญิงใจง่าย”
“ความรักไม่มีคำว่าง่าย หรือยาก มันเป็นเรื่องของคนสองคน ที่หัวใจตรงกัน ฉันรักเย็น เย็นรักฉัน แค่นี้มันก็เกินพอแล้ว”
“แต่เย็นยังกังวล อย่างที่จวนบอก...เย็นไม่มีอะไรคู่ควรกับคุณอุทัยแม้แต่นิดเดียว” เย็นหนักใจ
“หัวใจของเย็นไง ที่คู่ควรกับฉัน”
“แล้วถ้าคุณหญิงรู้...”
“คุณแม่คงไม่ว่าหรอก เพราะคุณแม่ท่านเอ็นดูเย็นอยู่มาก”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ”
คุณหญิงอนุรักษ์เดินลิ่วๆขึ้นบันไดมาอย่างโกรธมากเดินกระแทกเท้ามาหยุดยืนที่หน้าห้อง เย็นชะงักได้ยินเสียง
“อุ้ย เสียงอะไรคะ”
อุทัยยิ้มเจ้าชู้
“เสียงหัวใจของฉันมันเต้น บอกว่ารักเย็นไง”
อุทัยก้มลงจูบเย็นอีก คุณหญิงอนุรักษ์ทุบประตูอย่างแรง
“ตาอุทัย เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะตาอุทัย”
สองคนตกใจ
“คุณแม่-คุณหญิง”
คุณหญิงอนุรักษ์ตะโกน
“แม่บอกให้เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
เย็นมองอุทัยสายตาหวาดหวั่นพรั่นพรึงแต่แอบมีอาการลุ้นอยู่ไม่น้อย อุทัยหน้าซีด ตัดสินใจ ลุกขึ้นไปเปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณหญิงอนุรักษ์เห็นอุทัยสวมเสื้อยังไม่เรียบร้อย ยืนหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ด้านหน้าเย็น ที่ยืนแอบด้านหลังหน้าซีดอยู่
“นังสันดานเย็น กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา แกไสหัวไปให้พ้นบ้านฉันเดี๋ยวนี้”
สองคนตกใจ
“คุณแม่-คุณหญิง”
คุณหญิงอนุรักษ์โกรธมาก
“ไม่ได้ยินรึไง นังเย็นแกไสหัวไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไป๊”
คุณหญิงอนุรักษ์ตรงเข้ามาลากเย็นจะให้พ้นออกนอกห้อง อุทัยเข้ามาห้าม
“อย่าครับคุณแม่”
“ไม่ต้องมาเรียกฉัน นี่ถ้าพ่อแกยังอยู่ แกถูกตีหัวแตกไปแล้วอุทัย” คุณหญิงอนุรักษ์มองลูกชายอย่างผิดหวังแทบจะเข้ามาขย้ำ “อุทัยนะอุทัย ไปยุ่งกับคนใช้ได้ยังไง แม่สั่งแม่สอน ทำไมแกไม่จำ”
“ผม...”
“มักง่าย กินของเน่าของสกปรก”
เย็นหน้าเสียรีบทรุดตัวลงนั่งกับพื้น
“คุณหญิงขา...ถึงเย็นจะต่ำต้อยด้อยค่าแต่เย็นไม่เคยทำตัวเน่าเหม็น สกปรก ทั้งชีวิต เย็นมีคุณอุทัยเพียงคนเดียวค่ะ”
คุณหญิงอนุรักษ์เยาะเย้ย
“แกนี่ใจง่ายไม่พอ ยังหน้าไม่อาย กล้าประกาศตัวว่ามีอะไรกับผู้ชายอีก แกนี่มันหน้าด้านจริงๆ”
คุณหญิงอนุรักษ์ตรงเข้ามาทุบเย็นอย่างหมั่นไส้เต็มแก่ อุทัยตรงเข้ามาห้าม
“อย่าครับคุณแม่ อย่า...ถ้าคุณแม่จะทำ ทำผม”
เย็นปราดเข้ามากอดขาคุณหญิงอนุรักษ์
“คุณหญิงอย่าทำอะไรคุณอุทัยเลยนะคะ ถ้าจะทำ ทำเย็น”
คุณหญิงอนุรักษ์สุดจะหมั่นไส้
“ทำเย็น...ได้”
คุณหญิงอนุรักษ์ตั้งท่าเงื้อมือขึ้นจะผลักเย็น อุทัยเข้ามาห้าม
“อย่าครับคุณแม่ ถ้าจะทำ ทำผม”
“ทำเย็นเถอะค่ะ อย่าทำคุณอุทัย ทำเย็น” เย็นร้องไห้ “เย็นไม่ดีเองค่ะ ที่ทำตัวใจง่ายเป็นผู้หญิงไม่ดี เพราะถ้าเย็นไม่ยอม คุณอุทัยคงทำอะไรเย็นไม่ได้”
“อ้อ รู้ตัวเหมือนกันนี่” คุณหญิงอนุรักษ์ลดมือลงใจอ่อนลงนิด
“ค่ะ...เย็นเลว เย็นไม่ดี เย็นยอมรับผิดทุกอย่าง แต่คุณหญิงได้โปรด อย่าไล่เย็นไปเลยนะคะ เมตตาสงสารเย็นเถอะ เย็นไม่มีใครแล้วจริงๆ เย็นมีแต่คุณหญิงเป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร คุณหญิงกรุณาเย็นเถอะนะคะ”
เย็นก้มลงกราบแทบเท้าแบบยอมศิโรราบทุกอย่าง คุณหญิงอนุรักษ์มองทั้งโกรธ และเวทนาผสมผสานใจอ่อนที่เย็นยอมขนาดนี้ แต่ตามนิสัยยังไม่ดีง่ายๆ

“แกออกไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้นังเย็น ก่อนที่ฉันจะอดใจไม่ไหวขึ้นมาอีก”

เย็นมองคุณหญิงอนุรักษ์ใจชื้นขึ้น

“กลับไปก่อนเย็น” อุทัยส่งสายตาและท่าทาง ประมาณเดี๋ยวจัดการเอง
เย็นก้มลงกราบอีกครั้ง
“คุณหญิงได้โปรดกรุณาเย็นด้วยนะคะ”
“ไป๊” คุณหญิงอนุรักษ์ตวาดอย่างหงุดหงิด

ปัจจุบัน...เปีย น้อย เย็นเดินกลับเข้ามาในบ้าน
“พูดแล้วโมโหจริงๆเลย จนแล้วไม่เจียม ดัดจริตไปรักลูกคนรวย แล้วยังมาด่าคนอื่น แกก็เหมือนกันนะน้อย วันหลังใครมาด่าแกมากๆ เอายาเบื่อหนู ยัดปากมันเลย” เปียโวยวาย
เย็นหน้าเครียด
“ งั้นแกก็คงโดนเอายาเบื่อหนูยัดปากเป็นคนแรก นังเปีย”
เปียเถียงตาเขียว
“เรื่องอะไรมาพาลเปีย เปียพูดความจริง น้าเย็นลองคิดดู ถ้าน้าเย็นเป็นคนรวยๆ ไฮโซ น้าเย็นจะยอมให้ลูกชายแต่งงานกับลูกจ้างมั้ย ไม่มีทาง”
น้อยแย้ง
“ถ้าเป็นน้อย น้อยให้แต่ง เพราะคุณค่าของคนอยู่ที่คุณงามความดี”
เปียค้อนขวับ
“อย่ามาโลกสวย เดี๋ยวโดนตบ ไม่มีคนรวยที่ไหน อยากให้ลูกแต่งงานกับคนจนหรอก เขาก็หาคนรวยๆมาแต่งกันทั้งนั้นแหละ”
เปียเดินไป น้อยถามเย็น
“จริงเหรอคะน้าเย็น...คนรวยๆ เขาไม่อยากให้ลูกแต่งงานกับคนจนๆ”
“จริง” เย็นตอบน้ำเสียงเยียบเย็น “คนรวย เขาก็อยากให้ลูกแต่งงานกับคนรวยด้วยกัน อย่างที่เรียกว่าเงินต่อเงินนั่นแหละ” เย็นบอกอย่างขมขื่น คิดถึงอดีต...

คุณหญิงอนุรักษ์นั่งอยู่ในห้อง เย็นคลานเข้าไปเอาอาหารว่างไปให้ตามปกติ
“ของว่างค่ะคุณหญิง”
“เอาออกไปเดี๋ยวนี้...ฝีมือแกฉันกินไม่ลง”
“งั้นเย็นจะให้พี่จวนทำมาให้คุณหญิงใหม่นะคะ”
“ใครจะทำ แต่ถ้าแกเอามาให้ ฉันก็กินไม่ลงเหมือนเดิม เพราะฉันเกลียดขี้หน้าแก ฉันขยะแขยง ผู้หญิงใจง่ายหน้าด้าน”
เย็นนั่งเงียบ ก้มหน้าลงต่ำ ท่าทางบอกว่าผิด ไม่คิดจะเถียง
“ผู้หญิงชั้นต่ำ ไม่มีคุณค่าอะไรดีในตัว แต่อยากเผยอหน้าขึ้นมาทัดเทียมชาวบ้าน ด้วยการจับผู้ชายรวยๆ ฉันถามทีเถอะ แกคิดว่าตาอุทัยจะจริงจังจริงใจกับแกเหรอ”
“เย็นไม่ทราบค่ะ แต่สำหรับเย็น คุณอุทัยคือที่รัก คือชีวิตของเย็น”
คุณหญิงอนุรักษ์เลียนเสียง
“คือที่รัก...คือชีวิตของเย็น ขยับเข้ามาใกล้ๆหน่อยมะ ฉันจะได้อ้วก ใส่หน้าแกได้ถนัด”
เย็นนั่งนิ่งไม่โต้ไม่ตอบ แต่น้ำตาไหล คุณหญิงมองหมั่นไส้
“เฮอะ ทำเป็นบีบน้ำตาร้องไห้ ในใจแกคงอยากจะลุกขึ้นมาถอนหงอกฉันล่ะสิไม่ว่า”
เย็นเงยหน้าขึ้นบอกจริงใจ
“ไม่เลยค่ะคุณหญิง เย็นรู้ตัวดี ว่าเย็นทำตัวไร้ค่า ไร้ศักดิ์ศรี สมควรแล้วที่คุณหญิงจะโกรธ จะดูถูกเหยียดหยามเย็น”
“แล้วแกไม่โกรธ”
“ไม่ค่ะ...เย็นรู้ที่คุณหญิงดุด่า เพราะยังเมตตาเย็นอยู่ คุณหญิงอยากให้เย็นสำนึกและทำตัวใหม่ให้ดี อย่างน้อยก็เพื่อตัวเย็นเอง”
คุณหญิงอนุรักษ์มองเวทนาเห็นใจ
“แต่แกเข้าใจใช่มั้ย เรื่องของแกกับอุทัย ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ วันหนึ่งอุทัยก็ต้องแต่งงานกับคนที่เหมาะสมคู่ควร”
เย็นไม่ตอบ ได้แต่นั่งน้ำตาไหลสีหน้าและท่าทางบอกว่าเสียใจทุกข์ใจสุดขีด คุณหญิงอนุรักษ์เห็นใจ
“แต่เอาเถอะ ในเมื่อวันนั้นยังมาไม่ถึง ฉันก็จะไม่ห้ามไม่ขัดขวาง ไม่กีดกันแก แต่หวังว่า...วันใดที่อุทัยต้องแต่งงาน แกจะต้องไปตามทางของแก”
คุณหญิงอนุรักษ์พูดนิ่งๆแต่เย็นร้องไห้โฮ

ทีวียังเปิดค้างอยู่ เย็น เหยียดริมฝีปากออกบอกหลานสองคนแกมเยาะ
“เจ้าชายกับนางซิน คนรวยมารักคนจน มันก็มีแค่ในละคร เพราะฉะนั้น สองสิ่งที่พวกแกสองคน ต้องไม่ทำคือ ของเล่น แล้วก็ของตาย ให้กับพวกผู้ชาย”
น้ำเสียงของเย็นกระแทกกระทั้นหยามหยัน ดวงตาเจ็บปวด

ในเรือนหลังเล็กยามค่ำคืน...อุทัยกอดเย็นแน่น เธอร้องไห้สุดแสนจะกังวลใจ อุทัยปลอบ
“อย่าร้องไห้นะเย็น ยังไงฉันก็ไม่ทีทางมีคนอื่นนอกจากเย็น”
“คุณอุทัยพูดจริง นะคะ...บอกตรงๆว่าเย็นกลัว”
“เย็นกลัวว่าฉันไม่รัก ไม่ซื่อสัตย์กับเย็นเหรอ”
“เปล่าค่ะ...เย็นเชื่อว่าคุณอุทัยรักเย็น ซื่อสัตย์กับเย็น”
“แล้วเย็นกลัวอะไร”
“กลัว...กลัวผู้หญิงคนอื่น ที่ทำงานของคุณอุทัยคงมีแต่คนสวยๆเรียนสูงๆฐานะดีๆ ที่คู่ควรคุณอุทัย”
อุทัยหัวเราะ
“โธ่...นึกว่ากลัวอะไร ถ้าฉันจะชอบคนที่ออฟฟิศ ฉันแต่งงานไปตั้งนานแล้ว ไม่อยู่รอจนกระทั่งพบเย็นหรอก เพราะฉะนั้น เย็นเชื่อฉันนะ ไม่ว่าวันนี้ วันไหน ฉันก็จะไม่มีใครนอกจากเย็น”
“ชื่นใจของเย็น ขอบคุณมากค่ะคุณอุทัย”
เย็นกอดอุทัยแน่น สายตาจงรักภักดีต่อเขาอย่างที่สุด

เย็นจัดของในบ้านมีน้อยคอยช่วย ดวงตาของเย็นวาวโรจน์ เจ็บปวดขนาดหนัก และบอกกับเปียและน้อยเป็นเชิงสอน
“เพราะถ้าแกสองคนหน้าโง่ เชื่อผู้ชาย แกถูกหลอกแน่ๆ”
เย็นเหยียดริมฝีปาก ความแค้นในใจจากอดีตพุ่งขึ้นมาเป็นริ้วๆ

น้อยมองเย็นอย่างไม่เข้าใจ ส่วนเปียนั่งกระดิกเท้าเคี้ยวหมากฝรั่งดูทีวีไม่ได้สนใจเลยสักนิด
 
อ่านต่อหน้า 3

คมพยาบาท ตอนที่ 1 (ต่อ)

เรื่องราวความแค้นในอดีตผุดเข้ามาในห้วงคิดอีก เวลานั้นเย็นเดินมากับจวน เธอถามจวนแบบใจคอไม่ดี

“คุณวณีนี่เขาเป็นใครเหรอพี่”
“พี่ไม่ก็รู้จักหรอก แต่เคยได้ยินคนเก่าๆ เขาเล่าให้ฟังว่า คุณวณีเธอเป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็กของคุณอุทัย สนิทกันมากเลย จนผู้ใหญ่อยากให้แต่งงานกันเลยล่ะ”
เย็นน้ำตารื้นไม่พูดอะไรออกมา จวนทำหน้าแหย เผลอหลุดปากเล่าไป ได้แต่มองสงสารเห็นใจ ส่วนเย็น น้ำตาคลอแล้วหน้าตาก็บึ้งตึง ลึกๆสายตาบอกไม่ยอม

เย็นกระสับกระส่ายนอนไม่หลับอยู่ในเรือนหลังเล็ก ความรู้สึกมีแต่ความหวั่นไหว เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงอุทัยดังเบาๆ
“เย็น...ฉันมาแล้ว เย็น”
“คุณอุทัย”
เย็นลุกพรวดไปเปิดประตูด้วยความดีใจ พออุทัยก้าวเข้ามาและประตูปิดลง เย็นก็กอดเขาแน่น
“เย็นนึกว่าคืนนี้คุณอุทัยจะไม่มาหาเย็นซะแล้ว”
“ไม่มาได้ยังไง ฉันคิดถึงเย็นจะแย่”
อุทัยระดมจูบด้วยรักใคร่ชื่นใจ เย็นเง้างอน
“ก็เย็นนึกว่า คุณอุทัยจะกินข้าวกับคุณวณีเพลินไปแล้วน่ะสิคะ...”
อุทัยแปลกใจ
“เย็นรู้จักวณีด้วยเหรอ”
“เย็นไม่รู้จักเขาหรอกค่ะ แต่รู้มาว่าตอนเด็กๆคุณกับเขาสนิทสนมกัน”
อุทัยหัวเราะเบาๆ
“ตอนเด็กๆแม่ของวณีชอบพาวณีมาเล่นบ้านฉันบ่อยๆน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
“แน่นะคะ...” เย็นกังวล
อุทัยมองหยอกเย้า
“จ้ะ...นี่...อย่าบอกนะว่าหึงฉันน่ะ”
“ทั้งหึงทั้งหวงเชียวค่ะ เพราะคุณอุทัยเป็นยอดรัก ยอดชีวิตของเย็น” เย็นมองเขาอย่างเทิดทูน
“เย็นก็เป็นยอดรัก ยอดชีวิตของฉันเหมือนกัน ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลใจอะไรนะ ฉันรักเย็น”
เย็นมองอุทัยด้วยสายตาเต็มตื้น คราวนี้ไม่ต้องรอให้เขาจูบก่อนเหมือนทุกครั้ง เธอเป็นฝ่ายจูบเขาด้วยรักท่วมท้นก่อนเลย

เย็นน้ำตาเอ่อกับเรื่องในอดีต เปียดูทีวี กรี๊ดกร๊าดจิกหมอน
“อร๊าย พระเอกจูบนางเอกฟินเวอร์”
เย็นที่นึกถึงอุทัยอยู่ด้วยความโกรธแค้น หันขวับมามองดูทีวี
“ดูอะไรปัญญาอ่อนยัยเปีย”
เปียงง แต่เถียง พลางหัวเราะคิกคัก
“ถามได้ ก็ดูละครไงน้าเย็น...พระเอกจูบนางเอก แอร้ย...ฟิน”
เย็นเดินมาปิดทีวีพลางด่า
“ไปอ่านหนังสือเลยนะ ไป๊”
“อะไรน้าเย็น คนกำลังฟินๆอยู่”
เย็นยกไม้กวาดขึ้น
“ลองดูมั้ยนังเปีย ว่าหัวแตกแล้วแกจะฟินอยู่รึเปล่า ไปอ่านหนังสือ เร็ว”
เย็นยกไม้กวาดจะโขก น้อยฉุดเปีย
“ไปเร็วเปีย”
เปียโผตามแรงฉุดของน้อย สองคนวิ่งขึ้นบันได เปียบ่นดังๆไม่เกรงใจเย็น
“จะดูละครก็ไม่ได้ น้าเย็นประสาท”
เย็นตัวสั่นสะท้าน โกรธตัวสั่นเทิ้ม
“ลองใครมาเจออย่างฉัน ไม่ประสาทให้มันรู้ไป ผู้ชายเฮงซวย”

อดีต...เย็นกระวนกระวายรออุทัยอยู่ในห้องพักเรือนหลังเล็ก ความรู้สึกร้อนรน ไม่สบายใจหน้าบึ้งตึง...เย็นออกจากห้องพักกระวนกระวายไปหลบมุมรอ บริเวณใต้ต้นไม้หน้าบ้านหลังใหญ่เห็นบ้านทั้งบ้านเงียบ อุทัยยังไม่กลับมา เย็นชะเง้อคอรอ ขณะเดียวกันนั้นรถของอุทัยเข้ามาจอด เย็นยิ้มดีใจ จะวิ่งเข้าไปหา เอิบคนขับรถวิ่งมาจากอีกด้าน เข้าไปหาและรับกระเป๋าจากอุทัย ก่อนที่สองคนจะเดินหายเข้าไปในบ้าน เย็นผิดหวัง ก่อนปลอบใจตัวเอง
“เดี๋ยวคุณอุทัย...คงจะไปหาเราที่บ้าน”
เย็นมองบ้านอนุรักษ์ เหมือนจะทะลุให้เห็นถึงตัวอุทัยอย่างน่าสงสารที่สุด

เย็นกระวนกระวาย ผุดลุกผุดนั่งอุทัยอยู่อย่างนั้นทั้งคืน อุทัยก็ไม่มา เย็นได้แต่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ

เช้าวันใหม่...เย็นในสภาพดวงตาแดงก่ำเพราะไม่ได้นอนทั้งคืนเดินเข้าไปในครัว ทันทีที่เห็นเย็น หวานก็หัวเราะเยาะถามช้อย


“เฮ้ย นังช้อย แกได้กลิ่นอะไรเหม็นๆเน่าๆรึเปล่าวะ”
ช้อยทำท่าสูดกลิ่น
“ได้ว่ะ...เหม็นๆเน่าๆกลิ่นอะไรวะนังหวาน”
“หมาหัวเน่า”
ทั้งสองมองเย็นแล้วก็หัวเราะเสียงดังลั่น จวนมองหน้าเย็น เห็นกำลังตำน้ำพริก กำสากในมือแน่น หวานหันมาถามเย็น
“แล้วเอ็งได้กลิ่นหมาหัวเน่าบ้างมั้ยวะนังเย็น”
ไม่มีคำตอบ เย็นขว้างครกใส่ หวานหลบอย่างรวดเร็ว เย็นควงสากถืออาดๆเข้าไปหา หวานคว้ามีดที่อยู่ข้างตัวขึ้นมา
“เข้ามาสิ เข้ามาเล้ยนังเย็น แกจะได้รู้หมาหัวเน่าโดนฟันหัวแบะเป็นยังไง”
ด้วยบันดาลโทสะ เย็นจะเดินเข้าไป แต่จวนตรงเข้ามากระชาก
“อย่า เย็น อย่ามีเรื่อง”
เย็นฮึดฮัดไม่ยอม จวนย้ำอีก
“อย่ามีเรื่องนะเย็น”
“จะมีก็ได้นะ แต่ผลมันจะไม่เหมือนครั้งก่อน” หวานถลึงตาใส่เย็น “เพราะคนที่เจ็บคราวนี้จะเป็น แก”
ช้อยโยนปี๊บเปล่าให้หวาน
“เอ้า นังหวาน”
หวานรับแล้วหัวเราะเยาะ
“แกโยนปี๊บมาให้ฉันทำไมนังช้อย แกต้องโยนไปคลุมหัวนังเย็นโน่นโว้ย”
พูดจบหวานก็โยนปี๊บเข้าใส่ เย็นกับจวนหลบ เสียงปี๊บกระทบกับพื้นดังลั่น
“เอาไปคลุมหัวซะ เพราะถ้าฉันเป็นแกฉันคงจะอายจนต้องเอาปี๊บคลุมหัว หมาหัวเน่าไม่พอ ยังตกกระป๋องอีกน่ะ เอ๋ง โอ๊ย”
หวานกับช้อยระเบิดเสียงหัวเราะ เย็นทนไม่ไหว คว้าปี๊บโยนใส่ หวานหลบ เอิบเดินเข้ามาพอดี ผลปรากฏปี๊บหล่นคลุมหัวพอดิบพอดี
“โอ๊ย”
หวานตกใจ
“ที่รัก” หวานหันขวับมามองเย็น “แกทำฉัน ฉันไม่ว่า แต่แกมาทำสามีที่เคารพของฉัน ฉันทนไม่ได้โว้ย”
หวานกระโจนเข้าไปหาเย็น สองคนฟัดกันนัว เย็นเป็นฝ่ายได้เปรียบเมื่อผลักหวานล้มลงแล้วขึ้นคร่อม เงื้อมือ
“ฉันจะจิ้มให้ตาแกเหล่เลยนังหวาน”
เย็นเงื้อมือขึ้นชูนิ้วกลางกับนิ้วชี้ออก หวานกรี๊ด
“ผัวขา...ช่วยหวานด้วย”
เย็นตั้งท่าจะแทงมือลงมา คุณหญิงอนุรักษ์เดินเข้ามา
“หยุดเดี๋ยวนี้นะนังเย็น”
เย็นชะงัก หวานผลักเย็นออกคลานเข่าไปหาคุณหญิงอ้อนประจบ
“คุณหญิงขา...ช่วยหวานด้วย”
“มันเรื่องอะไรถึงได้ตบตีกันอย่างนี้”
“หวานเปล่านะคะคุณหญิง หวานเปล่า...มีแต่นังเย็นนั่นแหละมันจะตบ”
หวานดัดจริตสะอื้นฮักๆไปตามเรื่อง คุณหญิงอนุรักษ์มองเย็น
“ว่าไงนังเย็น แกไปตบนังหวานทำไม”
เย็นเงียบ คุณหญิงอนุรักษ์ชักโกรธ
“หูแตกรึไงวะ ตอบมานังเย็น”
“นังหวาน มันด่าเย็นเจ้าค่ะ”
“หวานไม่ได้ด่านะคะคุณหญิง” หวานสวนทันควัน
“แกด่าฉัน” เย็นถลึงตาใส่อยากตบมาก
“ด่าที่ไหน ฉันก็แค่บอก ให้แกเอาปี๊บคลุมหัวก็เท่านั้น เพราะถ้าเป็นฉัน ฉันคงทนไม่ได้ที่ถูกทิ้งน่ะ”
“นังหวาน” เย็นโกรธและเจ็บใจ
เย็นจะถลันเข้ามาอีก คุณหญิงอนุรักษ์ตวาด
“หยุด ต่อหน้าข้าเอ็งก็ยังไม่เกรงใจใช่มั้ยนังเย็น”
เย็นเสียงเครือสั่น ขอความเห็นใจ
“ก็มันด่าเย็น”
“จะด่าอะไร...นังหวาน...มันก็พูดถูกของมัน”
คุณหญิงอนุรักษ์สะเทือนใจเหมือนกัน แต่ถึงเวลาต้องพูด เย็นมองไม่เข้าใจ
“ตามฉันมา”
คุณหญิงอนุรักษ์เดินออกไป เย็นมองตามไม่สบายใจ จวนได้แต่พยักหน้าให้กำลังใจ เย็นตามคุณหญิงออกไป หวานหัวเราะลั่น

“มาดูมาดูมาดู หมาหัวเน่าตกกระป๋องเว้ย”

คุณหญิงอนุรักษ์ยืนหันหลังให้ เย็นคลานเข่าเข้าไปหา คุณหญิงหันมาถาม

“เอ็งจำได้ใช่มั้ย ที่ฉันเคยบอก...”
เย็นเงยหน้ามองคุณหญิง ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ขณะที่คุณหญิงก็มองเย็นเวทนา
“วันไหนที่อุทัย พบกับผู้หญิงที่เหมาะสมคู่ควร แกจะไป ตอนนี้อุทัยเขาพบผู้หญิงคนนั้นแล้ว”
หัวใจของเย็นแทบหยุดเต้น น้ำตาไหลพรากออกมาทันที เธอสะอื้นถาม
“มันไม่จริงใช่มั้ยคะ คุณหญิงหลอกเย็น”
คุณหญิงอนุรักษ์ทั้งขวางทั้งเวทนา
“เรื่องแบบนี้น่ะเหรอ ฉันจะเอามาพูดเล่นกับแก”
“ทำไมเย็นไม่เคยรู้”
“นี่อุทัยไม่เคยบอกแกเลยเหรอ”
“ไม่เคยเจ้าค่ะ”
คุณหญิงอนุรักษ์ถอนใจ
“เฮ้อ...อุทัยคงไม่รู้จะบอกแกยังไง แต่การที่อุทัยหายหน้าหายตาไปจากแก แกก็น่าจะรู้ ว่าอุทัยมันไม่เอาแกแล้ว”
เย็นร้องไห้โฮๆ คุณหญิงอนุรักษ์ทั้งรำคาญทั้งเวทนา
“อย่าเสียอกเสียใจไปเลยเย็นเอ๊ย...เป็นเรื่องธรรมดาโลก อย่างน้อยแกก็มีความสุขได้เป็นเมียของอุทัยตั้งกว่าปี”
“เย็นอยากเป็นเมียของคุณอุทัยตลอดไป”
“เอ้า...แกนี่ พูดจาหน้าด้านต่อหน้าฉันอีกแล้ว”
เย็นก้มหน้าร้องไห้ คุณหญิงอนุรักษ์มองใจอ่อน
“จะเป็นได้ยังไง ในเมื่ออุทัยจะแต่งาน นี่ฉันก็ไปสู่ขอหนูวณีให้ตาอุทัยแล้ว พอๆอย่าร้องไห้ ตามที่เราเคยคุยกันนั่นแหละ วันไหนที่อุทัยแต่งงานแกจะต้องไป แต่ฉันไม่ให้แกไปมือเปล่าหรอกนะ...ฉันจะให้เงินแกก้อนหนึ่งไว้ทำทุน”
“เย็นไม่เอา” เย็นสะอื้นฮักๆ
“แปลว่า...แกจะไปตัวเปล่า”
“เย็นไม่ไป”
“เอ้า นังนี่”
เย็นคลานเข้าไปกอดแทบเท้า
“คุณหญิงเมตตาเย็นเถอะนะคะ ลำพังคุณอุทัยจะแต่งงาน เย็นก็ใจจะขาดอยู่แล้ว อย่าไล่เย็นไปไหนเลย เย็นไม่มีที่ไป ไม่มีที่ไปจริงๆค่ะ” เย็นก้มหน้าเกลือกที่เท้าคุณหญิง
“แต่อุทัยกำลังจะแต่งงาน”
“ถึงคุณอุทัยจะแต่งงาน เย็นก็จะขอรับใช้คุณหญิง”
คุณหญิงอนุรักษ์ตกใจ
“เมียตาอุทัยจะว่าเอาน่ะสิ...” คุณหญิงอนุรักษ์ดึงเย็นขึ้น “นี่ ฉันว่าแกไปหาผัวใหม่ดีกว่า แกยังสาวยังแส้ หน้าตาก็ดี ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะนะเย็น”
เย็นร่ำไห้ผวาเข้าไปกอดเท้าคุณหญิงใหม่
“ไม่...คุณหญิงอย่าผลักไสไล่ส่งเย็นเลยนะคะ เย็นอยากอยู่ดูแลรับใช้คุณหญิง”
คุณหญิงอนุรักษ์ทั้งเวทนาและลำบากใจ
“ฉันน่ะยินดี แต่ถ้าเมียตาอุทัยรู้ เขาจะมาถอนหงอกฉันเอาน่ะสิ ที่แกยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในบ้านน่ะ”
เย็นอ้อนวอน
“เย็นสัญญาค่ะ วันไหนที่คุณอุทัยแต่งงาน เย็นจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับคุณอุทัยอีก เย็นจะรับใช้คุณหญิงแบบเงียบๆตามประสาเย็น”
คุณหญิงอนุรักษ์ใจอ่อน ถอนหายใจหนักใจ
“เอ็งสัญญาแล้วนะ”
“ค่ะคุณหญิง เย็นสัญญา” เย็นยกมือไหว้
คุณหญิงอนุรักษ์ครุ่นคิดลำบากใจ
“ขอฉันคิดก่อนแล้วกัน ไป...แกจะไปไหนก็ไป”
“คุณหญิง”
คุณหญิงอนุรักษ์ลากเสียงหนักและยาวแบบเริ่มรำคาญ
“ไป”
“เวทนาเย็นด้วยนะคะ”
เย็นก้มลงกราบแทบเท้าคุณหญิงอีกที ก่อนคลานออกไป คุณหญิงอนุรักษ์มองตาม
เวทนาลำบากใจอย่างที่สุด

เย็นเดินน้ำตาไหลพรากออกมาจากบ้าน ดวงตามีความทุกข์ทนแต่ทว่าเด็ดเดี่ยว แฝงความนัยบางอย่าง
ค่ำนั้น เย็นซ่อนตัวดักรอที่ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน พออุทัยก้าวลงจากรถ เธอก็รีบเข้าไปหา อุทัยเห็นเย็นสะดุ้งตกใจเล็กน้อย
“อ้าว เย็น”
“เย็นช่วยค่ะ”
เย็นเอื้อมมือไปจะถือกระเป๋าช่วย อุทัยเบี่ยงกระเป๋าออก
“ไม่เป็นไร”
“เดี๋ยวนี้คุณอุทัยรังเกียจเย็นแล้วเหรอคะ” เย็นน้ำตารื้น
อุทัยหัวเราะเบาๆกอดเย็น
“รังเกียจอะไรล่ะจ้ะ คิดถึงเย็นจะแย่” เขาทำท่าจะหอม
“แล้วทำไม คุณอุทัยไม่ไปหาเย็นเลย”
อุทัยชะงักไม่ได้หอม
“ช่วงนี้ฉันยุ่ง”
“ยุ่งเรื่องงานแต่งงานกับคุณวณีหรือคะ”
“เย็นรู้...”
เย็นน้ำตาไหลพราก
“มันเป็นเรื่องจริงใช่มั้ยคะ”
“เย็นไปรอฉันที่ห้องนะ เดี๋ยวฉันไปหา ไป...”
เย็นมองอุทัยดวงตาร้าวราน อุทัยสำทับด้วยน้ำเสียงหนักขึ้น

“ไปรอที่ห้องเดี๋ยวฉันไปหา ไป”

อุทัยเปิดประตูเข้ามาในห้อง เห็นเย็นนั่งกอดผ้าคลุมไหล่ที่เขาให้ ร้องไห้ อุทัยสุดจะเวทนา เดินเข้ามากอด เย็นถามเจือสะอื้น

“คุณอุทัยกำลังจะแต่งงานกับคุณวณีใช่มั้ยคะ”
อุทัยนิ่ง มีท่าทีลำบากใจ
“คุณอุทัยจะแต่งงาน เป็นเรื่องจริงใช่มั้ยคะ” เย็นถามย้ำ
“มันจำเป็น”
เย็นหัวใจแทบสลาย
“แปลว่าเป็นเรื่องจริง” เย็นร้องไห้โฮๆแบบใจจะขาด
อุทัยรีบดึงเข้ามากอดปลอบ
“เย็นจ๋า อย่าร้องไห้ ฉันเห็นน้ำตาของเย็นแล้วฉันใจไม่ดี อย่าร้องไห้นะ” เขาเช็ดน้ำตาให้เธอ “ฉันรักเย็น”
“รักเย็น แต่ไปแต่งงานกับคนอื่น” เย็นหยันแล้วหัวเราะราวกับเป็นบ้าเสียสติ
“บอกแล้วไงเย็น...มันจำเป็น คุณแม่ไปสู่ขอวณีโดยที่ฉันไม่รู้เรื่องอะไร ทีนี้พอผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ ตกลงกันแล้ว ฉันเลยเหมือนตกบันไดพลอยโจน”
เย็นละล่ำละลักถามแบบมีความหวัง
“แปลว่า...คุณไม่ได้รักคุณวณี”
“จะรักได้ยังไง ก็ฉันมี เมียอยู่แล้วนี่” เขาเชยคางของเธอ “ฉันรักเย็น”
“ชื่นใจของเมีย”
เย็นยิ้มทั้งน้ำตา โผเข้ามากอดเขาแน่น
“เชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้รักวณี ที่ฉันแต่งงานกับเขา เพราะผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสมเท่านั้นจริงๆ”
“งั้น...คุณอุทัยสัญญากับเย็นนะคะ”
“สัญญาอะไรจ้ะ”
“แต่งงานกันแล้ว ก็ห้ามคุณอุทัยรักคุณวณี แม้เขาจะสวยเลิศเลอเป็นลูกผู้ดีมีสกุล มีการศึกษา ไม่ว่าเขาจะดีแค่ไหนก็ตาม คุณอุทัยก็ห้ามรักเขา”
อุทัยหัวเราะขำ
“โธ่เอ้ย นึกว่าอะไร”
เย็นยิ้มดีใจ ตามีความหวัง
“แปลว่า...คุณอุทัยสัญญากับเย็น”
“จ้ะสัญญา...ไม่เห็นจะมีอะไรยากเย็นเลย ในเมื่อฉันรักเย็น รักเมียของฉันคนเดียวอยู่แล้ว”
“งั้น...สาบานได้มั้ยคะ”
“ต้องสาบานเลยเหรอเย็น” อุทัยตกใจ
“เย็นจะได้สบายใจ มั่นใจ นะคะ คุณอุทัยสาบานกับเย็น”
เย็นมองอุทัยดวงตาอ้อนวอน แต่แฝงความเด็ดเดี่ยว จริงจัง แกมคาดคั้น
“เอ้า ถ้ามันจะทำให้เย็นสบายใจ ฉันขอสาบาน จะให้ฉันว่ายังไง ว่ามา”
“คำสาบาน คุณอุทัยต้องพูดเองค่ะ”
“ได้ๆ” อุทัยยกมือไหว้ “ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ข้าพเจ้านายอุทัย อนุรักษ์ธานิน ขอสาบานว่า ต่อให้ข้าพเจ้าแต่งงานกับผู้หญิงคนไหน ข้าพเจ้าจะขอรักและซื่อสัตย์ต่อเมียของข้าพเจ้าคือเย็นคนเดียวเท่านั้น และถ้าข้าพเจ้าตระบัดสัตย์ไม่ทำตามอย่างที่พูด ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้ามีแต่ความทุกข์ทรมานตลอดไป”
เย็นนั่งมองเขาตาแป๋ว ชื่นใจเหลือเกิน อุทัยหันมายิ้ม
“เป็นไง คำสาบานของฉัน โอเคมั้ย”
“ค่ะ”
“เชื่อแล้วนะว่าฉันรักเย็น รักเมียของฉันเพียงคนเดียว”
“ค่ะ...เย็นเชื่อคุณอุทัย แต่ขอให้คุณอุทัยรู้ด้วยนะคะ เย็นรักคุณยิ่งกว่าชีวิตถ้าวันไหนคุณกลายเป็นอื่น คุณผิดคำสาบาน เย็นต้องอยู่ไมได้แน่ๆ”
“อยู่ได้สิจ้ะ เพราะฉันรักเย็น”
“งั้นพรุ่งนี้คุณอุทัยกรุณาช่วยพูดกับคุณหญิงให้เย็นอยู่ที่นี่ต่อด้วยนะคะ เย็นรับปาก เย็นสัญญาเหมือนกัน ว่าจะอยู่ในที่ของเย็น ไม่ไปรบกวนคุณวณีให้ท่านต้องรำคาญใจอย่างเด็ดขาด”
“จ้ะ...เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับคุณแม่เอง...เมียของฉันทั้งคน คุณแม่จะไล่เมียฉันไปได้ยังไง” อุทัยกอดเย็นไว้
“ชื่นใจของเมีย เย็นกราบขอบพระคุณมากนะคะ” เย็นกราบแนบอก “ที่คุณอุทัยเมตตาทั้งๆที่เย็นเป็นแค่คนใช้ ไม่มีอะไรเทียบเท่าคุณอุทัยได้แม้แต่นิดเดียว”
“คำเดียวสั้นๆเพราะเย็นคือเมียของฉัน ต่อไปนี้เราเลิกคุยเรื่องนี้กันนะเย็น”
“ค่ะ”
เย็นกอดพลางซุกหน้าลงกับอกของเขา อุทัยกอดยิ้มโล่งใจที่เย็นไม่แผลงฤทธิ์
อุทัยรู้สึกแคนั้นจริงๆ

ปัจจุบัน.....ในห้องนอน รอบกายเย็นมีแต่ความว่างเปล่า เย็นน้ำตาไหล
“แต่แล้วคุณก็หลอกลวงฉัน โกหกฉัน คนทรยศ”

ความรักความหลังต้นเหตุแห่งแรงแค้นผุดซ้อนเข้ามาในห้วงคิดของเย็น
 
อ่านต่อหน้า 4

คมพยาบาท ตอนที่ 1 (ต่อ)

เมื่อครั้งอดีต ขณะที่เย็นกำลังทำงานอยู่ในครัว ได้ยินเสียงช้อยดังขึ้น

“อะไรนะ คุณหญิงปลูกบ้าน เป็นเรือนหอให้คุณอุทัย คุณวณี”
หวานจีบปากจีบคอนินทา
“ฮื่อ ปลูกในบริเวณเดียวกับบ้านคุณหญิงนี่แหละ ท่าทางคุณหญิงจะรักจะเห่อคุณวณีมากเลยนะแก”
“ก็คุณหญิงเขาเลือกลูกสะใภ้ของท่านเอง จะไม่รักไม่เห่อได้ยังไงล่ะวะ”
สองคนหัวเราะเยาะเย้ยหยันมาทางเย็น เธอล้างมือเดินออกไปท่าทางเฉยๆ หวานตะโกน
“ทนฟังไม่ได้เลยเหรอวะนังเย็น”
เย็นหันขวับมามองหน้า
“ใครว่า ฉันขี้เกียจฟังนกกระจอกมันคุยกันต่างหาก”
หวานกับช้อยมองหน้ากัน
“ใครเป็นนกกระจอก”
ทั้งสองชี้หน้ากันต่างคนต่างพูด
“แก”
“แกทั้งสองคนนั่นแหละ” เย็นแทรก
หวานโกรธ
“แกต่างหากนังเย็นที่เป็นนกกระจอก คุณหญิงถึงไม่เคยชายตามองแกเลย ไม่เหมือนคุณวณี”
“แม่ผัวรัก แต่ผัวไม่รักมันก็เท่านั้น” เย็นหัวเราะกวน

จวนเดินตามเย็นออกไป พออยู่กันตามลำพังก็ถาม
“เป็นยังไงบ้างเย็น”
“ฉันสบายดี” เย็นยิ้ม
“แล้วเรื่องที่คุณอุทัยจะแต่งงาน”
เย็นลอยหน้าลอยตายิ้ม
“อยากแต่งก็แต่งไป คุณอุทัยบอกฉันแล้วว่า เขาจะรักและซื่อสัตย์ต่อฉันเพียงคนเดียว”
“แกนี่พูดจาได้น่าหมั่นไส้ ถ้าฉันเป็นคนอื่นได้ฟัง คงตบแกไปแล้ว ขี้คุยชะมัด”
“ฉันไม่ได้ขี้คุยนะจวน คุณอุทัยเขาสาบานกับฉันอย่างนี้จริงๆ” เย็นจริงจัง
“สาบาน” จวนชะงัก
“ใช่ คุณอุทัยเขาสาบานว่าจะรัก จะซื่อสัตย์ต่อฉันเพียงคนเดียว มันเลยทำให้ฉันเบาใจ”
“แล้วแกจะทำใจได้เหรอ ถ้าคุณอุทัยแต่งงานกับคุณวณีจริงๆ”
“ทำได้สิ...เพราะคุณอุทัยเขารักฉัน ไม่ได้รักคุณวณี”
“ฉันจะคอยดู ว่าถึงเวลาแล้วแกจะทำใจได้อย่างที่พูดหรือเปล่า”
เย็นยิ้ม ไม่ยี่หระท่าทางมั่นใจ เชื่อมั่นในคำสาบานของอุทัย

หลายเดือนต่อมา บ้านอนุรักษ์ถูกจัดแต่งให้สวยงามสมกับเป็นงานแต่งงานของอุทัยและวณี เย็นแอบมองเห็นคุณหญิงเป็นคนจัดแจงงานแต่งด้วยตัวเอง ดอกไม้ประดับตรงนั้น โต๊ะจัดเรียงตรงนี้ เย็นมองอดสะท้อนใจไม่ได้ เพราะรู้สึกเจ็บปวดหัวใจไม่น้อย ดวงตาของเย็นแสดงความเจ็บออกมาเหมือนกัน เธอสะบัดหน้า สลัดความคิดออก ทำท่าทีแบบไม่มีอะไร

ด้านนอก คนใช้จับกลุ่มนินทากันด้วยท่าทางตื่นเต้น
“คุณวณีสวยจริงๆเลย” ช้อยชื่นชม
“คุณอุทัยก็หล้อหล่อ” หวานเสริม
“อย่างนี้นี่เองที่เขาเรียกว่า กิ่งทองใบหยก” เอิบยิ้มปลื้ม
“เหมาะสมกันทุกประการ ฉันล่ะดี๊ใจ ดีใจไปกับคุณหญิงท่านด้วยนะที่มีลูกสะใภ้เป็น ผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วอย่างคุณวณี” หวานถูกใจมาก
เย็นอยู่แถวนั้นได้ยิน ใจเธอร้อนรุ่มเจ็บปวด เธอผละออกไป จวนมองตามเห็นใจ รีบเดินตามไปทันที

ในบ้าน กำลังมีพิธีรดน้ำสังข์ เย็นย่องเข้าไปแอบมองเห็นคุณหญิงอนุรักษ์แขกเหรื่อผู้ใหญ่กำลังรดน้ำสังข์คู่บ่าวสาว หน้าตาของอุทัยและวณียิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขสมกับการเป็นคู่บ่าวสาว เย็นแอบมอง น้ำตาท่วมท้นออกมากบนัยน์ตาจวนเจียนจะหยด เธอวิ่งออกไปจากตรงนั้น

เย็นวิ่งมาหยุดที่ห้องพักของตัวเอง พออยู่ตามลำพังก็ร้องไห้โฮแบบเจ็บปวดใจอย่างที่สุด จวนเดินเข้ามา มองสงสารเห็นใจ ถามเสียงแผ่ว
“แกทนไม่ได้ใช่มั้ย”
เย็นหันมามองจวน สายตาจวนมีแต่ความเป็นมิตร สงสารเห็นใจ เย็นโผเข้ามากอดร้องไห้โฮๆ
“ถึงพี่จะไม่มีผัว แต่ก็กล้าพูดได้เลย ไม่มีผู้หญิงคนไหน ทนได้หรอกที่ผัวมีคนอื่นน่ะ”
“แต่คุณอุทัยเขาสาบานกับฉันแล้วว่าเขาจะรัก เขาจะซื่อสัตย์ต่อฉันคนเดียว”
“แกเชื่อคำสาบานของผู้ชายด้วยเหรอ เปล่า...พี่ไม่ได้ว่าคุณอุทัยเป็นคนไม่ดี แต่พี่หมายถึง...พอเขาแต่งงานกันอยู่ด้วยกัน เขาก็ต้องรักกัน แล้วแกจะทนเห็นเขาอยู่ด้วยกัน รักกัน มีลูกด้วยกันได้เหรอ”
เย็นน้ำตาไหลพรากๆ แสดงถึงความอ่อนแอ เจ็บปวด ทุกข์ทรมานอย่างที่สุด
“ถ้าแกไม่อยากเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างนี้ ทำตามอย่างที่คุณหญิงบอกเถอะเย็น ไปจากที่นี่ ชีวิตที่เป็นเมียเก็บไม่ได้มีความสุขหรอก”
“แต่ฉันมาก่อนคุณวณี”
“ยังไงก็ขึ้นชื่อว่าเมียเก็บอยู่ดี เพราะเขาไม่ได้ยกย่องเชิดหน้าชูตาแกเชื่อพี่ไปจากที่นี่ เพราะถ้าแกยังดื้ออยู่ต่อ ชีวิตแกจะมีแต่ความทุกข์ทรมานแน่เย็น”
เย็นนิ่ง คำพูดของจวนยอกแสลงหัวใจ น้ำตาของเธอได้แต่ไหลพรากๆทุกข์ใจ

ค่ำนั้น เย็นในสภาพดวงตาแดงก่ำ ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเดินมาแอบมองตึกหลังใหม่ที่เป็นเรือนหอของอุทัย เธอเห็นเขาโอบกอดวณีที่อยู่ในชุดสวยหวานเดินอยู่ในบ้าน ท่าทางสองคนมีความสุข เย็นมองดูอุทัยร้าวราน
“นี่หรือที่คุณบอกเย็น ว่าถูกบังคับให้แต่งงาน นี่หรือคุณอุทัย”
เย็นพูดไม่ออกได้แต่ปิดปากร้องไห้โฮแต่ตายังมองไปยังห้องบนตึก เห็นอุทัยโอบกอดวณี เดินหายเข้าไปในตึก สักพักไฟในห้องนอนก็เปิดสว่าง และดับลงในเวลาต่อมา เย็นร้องไห้โฮ เสียใจทุกข์ใจหนัก

เช้าวันใหม่... นาฬิกาบอกเวลาตีห้าครึ่ง เย็นยังนอนน้ำตาไหล ดวงตาเบิกกว้าง นอนไม่หลับอย่างนั้น เสียงประตูห้องน้อยดังขึ้น เย็นได้ยินปาดน้ำตา ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว
เย็นแต่งตัวเสร็จ เดินลงมาเห็นน้อยในชุดนักเรียนถือข้าวต้มเดินไปหน้าบ้าน
“เอาไปให้ใครน่ะ”
“พี่ตอง มานั่งร้องไห้รอหน้าเย็นอยู่หน้าบ้านตั้งนานแล้วค่ะน้อยสงสาร เลยทำข้าวต้มไปให้ค่ะ”
น้อยเดินไป เย็นมองงง เปียในชุดนักเรียนเดินลงมาเบ้ปาก
“แหม ทำยังกับบ้านเราเป็นสถานสงเคราะห์ น้อยนี่มันกระแดะชอบทำตัวเป็นนางเอกนะน้าเย็น”
“ก็เหมือนกับที่แก ชอบทำตัวเป็นตัวโกงนั่นแหละเปีย มีปากเอาไว้ด่ารึไง ตื่นมาก็ปากเสียเลย”
เย็นเดินออกไป เปียมองตามค้อนหน้าคว่ำ ชะโงกหน้าดูกระจกที่ติดข้างฝา
“ปากเสียที่ไหนสวยจะตาย”

เปียยิ้มให้กระจก วิ่งไปหน้าบ้านตามเย็นน้อย

หน้าบ้านตองหญิงวัยราว 25 นั่งร้องไห้อยู่ เลอสรรกับเพื่อนขับรถผ่านหน้าบ้าน เลอสรรหันไปมองเห็นผู้หญิงร้องไห้ เพื่อนเลอสรรมองแล้วยิ้ม

“เห็นรึยัง บ้านนี้มีแต่เรื่องวุ่นวาย ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
เลอสรรมอง สายตาเวทนาขณะขับรถผ่านไป คล้อยหลังรถเลอสรร น้อยเดินถือข้าวต้มออกมา ตามด้วยเย็นและเปีย น้อยนั่งข้างๆตอง เลื่อนชามข้าวต้มให้
“พี่ตองกินข้าวก่อนนะ”
“พี่กินไม่ลง”
เย็นเดินมามอง
“เป็นอะไรตอง”
ตองหันมามองเย็น พอมีคนถาม ก็ยิ่งร้องไห้ เย็นถามเหมือนจะดุแต่ไม่ดุ
“อ้าว...บ้านฉันไม่ใช่ศาลาคนเศร้านะ มาถึงก็เอาแต่ร้องไห้ มีอะไรก็ว่ามา”
“พ่อแม่ของพี่เอกจะให้พี่เอกแต่งงาน”
“พ่อแม่ของเอกไม่รู้เหรอ ว่าเอกมีตองอยู่แล้ว”
“รู้..แต่พ่อแม่พี่เอก อยากได้ผู้หญิงคนนั้นเป็นสะใภ้”
เย็นอึ้งไปนิด เรื่องของตองเหมือนของเย็น เย็นบอกตอง
“งั้น...ลองคุยกับผู้หญิงคนนั้นดีมั้ย เผื่อเขายังไม่รู้”
“รู้พี่....แต่เขาบอกตองไม่มีทะเบียน ถึงจะมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่เมีย”
“หน้าด้าน” เย็นเสียงเข้ม
“จะว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าด้านได้ยังไงล่ะหน้าเย็น ก็พี่ตองไม่ได้จดทะเบียนกับพี่เอกจริงๆนี่” เปียขัด
เย็นหน้าตาบึ้งตึง
“แต่คนทั่วไปเขาก็รู้ ว่าตองกับเอกเป็นอะไรกัน มีแต่ผู้หญิงหน้าด้านนั่นแหละ เอากฎหมายมาอ้าง แล้วฉกผัวคนอื่น ทุเรศ”
“แต่เปียว่า...ผู้หญิงที่ไม่มีทะเบียน มันก็แค่ของเล่นของผู้ชายนะน้าเย็น”
เย็นไม่พอใจ
“ปากดีอย่างนี้ แกก็อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นของเล่นผู้ชายก็แล้วกันนังเปีย”
เปียทำปากพะเยิบพะยาบล้อเลียนเย็นแล้วเดินเข้าไปด้านใน
“ไปกินข้าวดีกว่า....น้อย..จัดข้าวให้ฉันรึยัง”
“จ้ะๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”
น้อยมองตองเห็นใจก่อนเดินตามเปียเข้าไปในบ้าน ตองมองเย็น
“ฉันควรทำยังไงพี่”
“คุยกับเอกมั้ย เผื่อเอกจะไปคุยกับพ่อกับแม่” เย็นจ็บแทน
“ฉันคุยแล้ว พี่เอกบอกฉัน ถึงจะแต่งงานไป แต่เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น เขาสัญญา จะรัก จะมีฉันแค่คนเดียว”
เย็นอึ้ง น้ำตาทำท่าจะทะลักออกมาสะท้อนใจ คำพูดของตองกระแทกใจเย็น
อย่างแรง อดีตแจ่มชัดขึ้นมาอีกครั้ง

ในครัว...เย็นพยายามนิ่งสงบทำงานไปเรื่อย หวานเดินเข้ามา
“นี่ นังช้อย จัดอาหารเช้าไปให้คุณอุทัยด่วน”
ช้อยหันมามองหวาน
“อาหารเช้าอะไรของเอ็ง นี่มันเที่ยงแล้ว”
“เก๊าะคุณอุทัยกับคุณวณีเพิ่งตื่น อย่างว่า คู่ข้าวใหม่ปลามันท่านก็ต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะหน่อย ไม่เหมือน ของกินเล่น ทีน้านนาน คุณอุทัยถึงอยากจะกินขึ้นมาที”
เย็นสับมีดปังตอลงเขียงดังปัง ทุกคนสะดุ้งโหยงหวานตั้งสติหัวเราะเยาะ
“ทำไม แกจะทำไมฉันนังเย็น”
เย็นกำมีดแน่นเข้า จวนห้าม
“อย่าเย็น”
“ไม่ต้องไปห้ามมันนังจวน ให้มันมาตบฉันเล้ย ฉันจะได้ไปบอกคุณวณีว่าให้ระวัง นังเย็นมันจะเป็นแมวขโมย” หวานท้าทาย
“ฉันไม่ได้ขโมย คุณอุทัยเป็นของฉัน” เย็นเถียงเสียงแข็ง
“ต๊าย กล้าพูด เป็นของแกแล้วทำไมเขาไปแต่งงานกับคุณวณีล่ะยะ เป็นได้แค่ของเล่นนางบำเรอแล้วยังไม่รู้ตัวอีก”
ช้อยกับหวานประสานเสียงหัวเราะชอบใจ เย็นน้ำตาคลอ ข่มความโกรธเอาไว้

เย็นไปลอบๆมองๆรออุทัยที่ตึก เห็นวณีเดินลงมา เย็นสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนจ้องมอง เย็น เห็นวณีสวย หวาน เป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว วณียิ้มให้ เย็นผละไปทันทีด้วยรู้สึกโกรธ ปนน้อยเนื้อต่ำใจ วณีมองงงๆ

ค่ำนั้น เย็นนั่งกอดผ้าคลุมไหล่ร้องไห้มีเสียงเคาะประตูเบาๆ พร้อมส่งเสียงเรียก
“เย็น...เย็น”
“คุณอุทัย” เย็นดีใจ
เย็นรีบลุกไปเปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิด ร่างของอุทัยก็ผลุบเข้ามาและปิดประตูทันที เย็นโผเข้ากอด
“ทูนหัวของเย็น เย็นคิดถึงเหลือเกิน...นี่เขาคงจะทำตัวติดชิดกันกับคุณอุทัยใช่มั้ยคะ คุณอุทัยถึงไม่เคยมาหาเย็นเลย”
“เปล่า...วณีไม่เคยทำตัวอย่างนั้น”
เย็นหน้าเสียแปลกใจ
“อ้าว แล้วทำไมคุณอุทัยถึงไม่มาหาเย็น”
“ฉันไม่อยากให้วณีเขารู้เรื่องของเรา ฉันกลัวเขาไม่สบายใจ ทุกข์ใจ”
เย็นหน้าเสียไปถนัดตา
“อ้าว แล้วเย็น คุณไม่กลัวเย็นทุกข์ใจบ้างเหรอคะ”
“เย็น...เย็นเคยรับปากกับคุณแม่ไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าฉันแต่งงาน เย็นจะไม่ไปวุ่นวายอะไรด้วย แต่นี่เย็นไปด้อมๆมองๆหาฉัน จนวณีเขาเห็น”
เย็นน้ำเสียงเยาะ
“อ้อ ตกลง ที่มาหานังเย็นคนนี้ก็เพราะกลัวเมียแต่งจะรู้”
“ถ้าเย็นจะพาลแบบนี้ ฉันไม่คุยกับเย็นดีกว่า เอาเป็นว่า...อย่าไปทำท่าทำทางอะไรใส่วณีอีก ฉันไม่อยากมีเรื่องกับคุณแม่”
“ไม่อยากให้คุณหญิงรู้เรื่อง หรือ ไม่อยากให้เมียแต่งสงสัยเรื่องของเราคะ”
“เธอนี่พูดจาไม่รู้เรื่องจริงๆ ฉันไม่คุยกับเธอดีกว่า”
อุทัยเดินหนีออกไปเลย เย็นร้องเรียก
“คุณอุทัย”
อุทัยไม่หัน เย็นร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
“คุณไม่รัก ไม่แคร์เย็นแล้วเหรอคุณอุทัย...ไม่สิ คุณยังรักเย็น คุณยังแคร์เย็นอยู่ เป็นเพราะนังวณีเท่านั้น”
เย็นเกลียดวณี อยากลองดีอะไรบางอย่าง

วันใหม่...อุทัยเดินเคียงคู่มากับวณีจะไปทำงาน เย็นที่รีๆรอๆอยู่แถวนั้น รีบเดินเข้าไป
“กระเป๋าค่ะคุณอุทัย” เย็นยื่นมือจะถือกระเป๋า
อุทัยหน้าซีด รีบเบี่ยงออกกลัววณีจะรู้
“ไม่เป็นไรเย็น ฉันถือเองได้”
เย็นแกล้งยิ้มซื่อ จริงๆอยากให้วณีรู้
“เย็นรับใช้คุณอุทัยมาตั้งแต่ก่อนคุณอุทัยแต่งงาน แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
เย็นเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋า อุทัยมองวณีเกรงใจ วณียิ้มหวานสายตาบอกไม่มีอะไรจริงๆ คว้าแขนอุทัยมากอด
“รีบกลับนะคะ วณีจะให้เด็กทำของโปรดไว้รอค่ะ”
อุทัยกุมมือวณี
“จ้ะ”

เย็นกัดริมฝีปากแน่น สายตาระแวงสงสัยหนัก อุทัยแคร์วณี ส่วนวณีก็ไม่ได้มีเย็นในสายตาเลย

ด้านหลังคุณหญิงอนุรักษ์ยืนมองอยู่ด้วยสีหน้าท่าทางไม่พอใจ จวนเดินมา

“จวน เรียกนังเย็นมาหาฉันด้วย”
“ค่ะคุณหญิง”
จวนผละไปคุณหญิงมองเย็นไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เย็นคลานเข่าไปหาคุณหญิงอนุรักษ์นอบน้อม
“คุณหญิงมีอะไรให้เย็นรับใช้คะ”
“แกจำได้รึเปล่า แกสัญญากับฉันว่ายังไง”
เย็นก้มหน้านิ่ง สายตากลัวเกรงคุณหญิง ไม่ตอบ
“แกสัญญาว่า ถ้าฉันยอมให้แกอยู่ในบ้านต่อไป แกจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับอุทัยแล้วก็เมียของเขา”
“จำได้ค่ะ” เย็นตอบนอบน้อม แต่ดวงตาน้อยใจ
“แต่ตะกี้ฉันเห็นแกไปยุ่งวุ่นวายกับอุทัยแล้วก็วณี”
เย็นสะดุ้งตกใจที่คุณหญิงรู้ ดวงตาหวาดหวั่น คุณหญิงอนุรักษ์ดุต่อเสียงกร้าวไม่พอใจ
“แกผิดสัญญา”
เย็นน้ำเสยงสั่นเครือ
“เย็น...เย็น...”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ฉันจะบอกอะไรให้ ต่อให้แกพยายามแสดงท่าทีให้วณีเขาสงสัย เขาก็ไม่ลดตัวลงไปยุ่งอะไรกับแกหรอก เพราะเขาเป็น ผู้ดี ไม่เหมือนแก ทำอะไรโง่ๆ สมกับเป็น คนใช้”
เย็นสะอึก คำว่าผู้ดี คำพูดของคุณหญิงแยกชนชั้นชัดเจน เมื่อถูกดูถูกเหยียดหยาม ดวงตาเย็นกร้าวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว คุณหญิงอนุรักษ์เห็นก็ยิ่งไม่พอใจมาก
“คงจะคิดล่ะสิว่า ว่าวิธีนี้จะทำให้วณีเขาโกรธเกลียด จนเลิกกับอุทัยน่ะ”
“เย็นเปล่า”
“ฉันไม่เชื่อ เพราะถ้าแกบริสุทธิ์ใจจริงๆ แกก็ต้องอยู่ในส่วนของแก แต่นี่แกกำเริบเสิบสานขึ้นทุกวัน แกอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วนังเย็น”
เย็นตกใจมาก เงยหน้าขึ้นมาทันที
“ฮะ”
เย็นรีบคลานกระถดตัวเข้าไปหาอ้อนวอน
“คุณหญิงอย่าไล่เย็นออกเลยนะคะ”
คุณหญิงอนุรักษ์เอาเท้าออก บอกเสียงเข้ม
“แกผิดสัญญา”
“เย็น...”
คุณหญิงมองผิดหวัง
“ไม่ต้องมาอ้อนวอน ไปให้พ้นหน้าฉันนังเย็น แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไป๊”
“คุณหญิง” เย็นอึ้ง
คุณหญิงอนุรักษ์ผุดลุกขึ้น
“ถ้าพรุ่งนี้ฉันยังเห็นหน้าแกอีกเป็นเรื่อง”
คุณหญิงเดินออกไป เย็นร้องไห้โฮ อ้อนวอน
“คุณหญิงๆ...เย็นขอโทษ คุณหญิงอย่าไล่เย็นออกไปเลยนะคะ เย็นขอโทษ...เย็นขอโทษคุณหญิง”
เย็นร้องไห้โฮเสียใจ ดวงตาเสียใจ ประหวั่นพรั่นพรึง ก่อนนึกได้
“คุณอุทัย คุณอุทัยต้องช่วยเราได้”

ค่ำนั้น เย็นมาด้อมๆมองๆดักรออุทัยแถวบริเวณหน้าบ้าน สักครู่อุทัยขับรถเข้ามา พอลงจากรถ เย็นก็รีบวิ่งเข้าไปหา
“คุณอุทัยคะ”
อุทัยสะดุ้งโหยงตกใจมาก
“เย็น”
อุทัยหันรีหันขวางมองกลัววณีเห็น เย็นน้อยใจเสียใจมาก
“เดี๋ยวนี้เวลาจะพูดจะจาอะไรกับเย็น คุณกลัวมีคนเห็นเหรอคะ คุณหมดรักเมียคนนี้แล้วใช่มั้ยคะ”
“ฉันยังรักเย็นอยู่ แต่ฉันเกรงใจวณี ฉันไม่อยากให้เขาเห็น”
“ถ้าไม่รักแล้วคุณไปเกรงใจเขาทำไมคะ นี่แปลว่าคุณรักเขาแล้ว” เย็นร้องไห้ “คุณลืมเย็นแล้ว”
อุทัยลำบากใจมาก กวาดตามองกลัววณีเห็น เย็นเห็นท่าทางของเขายิ่งร้องไห้
“คุณลืมเย็นแล้วจริงๆ ทั้งๆที่เย็นคิดถึงคุณทุกลมหายใจ จะทุกข์จะสุขเย็นก็เฝ้าคิดถึงแต่คุณ อยากพบคุณ”
“เอาเป็นว่าคืนนี้ฉันจะไปหาเย็น มีอะไรแล้วค่อยคุยกัน”
อุทัยพูดแค่นั้นก็เดินลิ่วเข้าบ้าน เย็นมองตามดวงตาร้าวราว สายตาของเธอเห็นเขาเดินเข้าไปภายในบ้าน วณียิ้มหวานถามในสิ่งที่เย็นไม่ได้ยิน ขณะที่อุทัยตอบแล้ววาดวงแขนโอบกอดพาวณีเข้าไป เย็นได้แต่ยืนน้ำตาไหลมองภาพตรงหน้าร้าวราน ก่อนจะเดินคอตกกลับห้อง

ปัจจุบัน...เย็น ดวงตาขมขื่นเจ็บช้ำ ขณะที่ตองร้องไห้
“ฮึ ผู้หญิงก็ร้าย ผู้ชายก็เลว พี่เข้าใจแกนะตอง รู้ถึงความเจ็บของแกด้วย และที่มันเจ็บจนกระอัก ก็ตรงที่ผู้หญิง ทำร้ายกันเอง”

อดีต... เย็นอยู่ในห้องพักผุดลุกผุดนั่งรออุทัย เธอเดินเข้าเดินออกนอกห้องชะเง้อชะแง้คอมองหา ตั้งแต่พระจันทร์อยู่บนฟ้า จนหายลับไป เปลี่ยนเป็นตะวันขึ้นมาแทน อุทัยก็ไม่มา เย็นร้องไห้จนน้ำตาแทบไม่มี
“คุณหลอกเย็น เย็นไม่ยอม”
เย็นดวงตาแข็งกร้าวขึ้น

เย็นทำทีเป็นยกอาหารไปเสิร์ฟบนบ้านของอุทัยหน้าตาเฉย อุทัยเดินมาเห็นตกใจมาก
“เย็น...ขึ้นมาบนนี้ทำไม”
อุทัยหันรีหันขวางกลัววณีออกมา เย็นวางอาหารลง ความหึงหวงน้อยใจทำให้เริ่มไม่เกรงใจ เย็นมองกร้าว
“ก็คุณผิดสัญญากับเย็น”
อุทัยอ้อมแอ้ม
“โทษทีเมื่อคืนฉันงานยุ่ง”
“ยุ่งอยู่กับเมียแต่งของคุณ จนลืมเมียบ่าวคนนี้เลยสิท่า”
อุทัยไม่พอใจ
“อย่ามากำเริบกับฉันนะเย็น ไม่งั้นฉันจะไล่เธอออก”
เย็นร้องไห้หนักด้วยความเสียใจ
“ทั้งคุณหญิง ทั้งคุณคิดแต่จะไล่เย็นออก”
“ก็เธอผิดสัญญา”
“ก็ใครกันล่ะคะทำให้เย็นต้องผิดสัญญา ตั้งแต่คุณแต่งงาน คุณไม่เคยไปหาเย็น คุณไม่เคยสนใจเย็น คุณไม่เคยรับรู้เลยว่านังเย็นคนนี้จะร้อนจะหนาวจะทุกข์จะสุขยังไง”
เย็นยิ่งระเบิดอารมณ์ อุทัยก็ยิ่งเครียด หันรีหันขวางกลัววณีมาเห็นพลางว่า
“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันเกรงใจวณี”
“คุณรักเขาจริงๆด้วย” เย็นแทบหมดแรง
อุทัยอ่อนโยนลง
“เพราะวณีเป็นคนดี เขาดีกับฉันมาก ยิ่งเขาดีเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งเกรงใจเขามากขึ้นเท่านั้น...ฉันอยากให้เย็นลืมเรื่องราวของเราซะ คิดว่าเราไม่เคยมีอะไรต่อกันได้มั้ยเย็น”
“คุณอุทัย” เย็นเสียงแผ่ว น้ำตาไหลพราก เจ็บจนใจจะขาด
อุทัยตะล่อม
“นะเย็น...ฉันขอร้อง ลืมเรื่องราวระหว่างเราซะ”
“คุณทำได้...แต่เย็นทำไม่ได้...เย็นยังจำทุกถ้อยคำที่คุณสัญญาไว้กับเย็น ว่าต่อให้คุณแต่งงานคุณก็จะรัก จะซื่อสัตย์ต่อเย็นเพียงคนเดียว”
อุทัยไม่ชอบใจ กลัววณีเห็น
“ฉันขอโทษ...เอาเป็นว่า ฉันขอร้อง ขอให้เราสองคนลืมเรื่องราวระหว่างกันแค่นั้นพอ”
พูดแค่นั้นอุทัยก็ผละเข้าไปในบ้าน เย็นมองตามดวงตากร้าวน้ำตาไหลเจ็บช้ำ
“คำพูดของผู้ชาย มันง่ายแค่นี้จริงๆ” เย็นดวงตาเปลี่ยนเป็นเจ็บแค้น

วณียืนมองอยู่มุมหนึ่งเห็นทุกอย่าง แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

วณีเดินออกมา เจอหน้าเย็นพอดี เย็นยืนจ้องอย่างเกลียดชัง แต่วณีกลับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร มีเมตตา เย็นยืนจ้องเกลียดมาก

“มีอะไรจะคุยกับฉันหรือเปล่าจ้ะ” วณีถามเรียบๆ
“ถ้าฉันคุยจริงๆคุณจะรับได้หรือเปล่า” เย็นยิ่งไม่พอใจ
“เรื่องที่เย็นเคยมีอะไรกับคุณอุทัยมาก่อนน่ะเหรอ”
“คุณรู้” เย็นอึ้งคาดไม่ถึง
วณียิ้มพยายามยิ้มแบบเป็นมิตร แต่เย็นยิ่งทวีความโกรธ
“แล้วทำไมคุณถึงยังแต่งงานกับคุณอุทัยอีก”
“ก็ตอนนั้นฉันไม่รู้”
“ในเมื่อตอนนี้คุณรู้แล้ว งั้นคุณก็เลิกกับคุณอุทัยสิ” เย็นมีความหวัง
“เลิกไม่ได้หรอกจ้ะ”
“ทำไมจะไม่ได้ คุณอุทัยรักฉัน ไม่ได้รักคุณ ที่เขาแต่งงานกับคุณเพราะเขาถูกคุณหญิงบังคับก็เท่านั้น”
“โอ้โห คุณอุทัยพูดขนาดนี้เลยหรือจ้ะ” วณีแปลกใจ
“ไม่ใช่แค่นี้ เขาสาบานกับฉันด้วย ต่อให้เขาแต่งงานกับคุณ เขาก็จะรักซื่อสัตย์ต่อฉันเพียงคนเดียว แต่...เป็นเพราะคุณ” เย็นน้ำเสียงเริ่มสั่น เก็บความเจ็บไม่ได้ “เป็นเพราะคุณคนเดียว พอคุณเข้ามาเขาก็เปลี่ยนไป” เย็นร้องไห้
“ไม่ใช่เพราะฉันนะเย็น...ถึงไม่แต่งงานกับฉัน คุณอุทัยเขาก็ต้องแต่งงานกับคนอื่น” วณีสงสาร
“คุณกำลังจะบอก ยังไงคุณอุทัยก็ไม่มีวันแต่งงานกับฉันเป็นอันขาดเพราะฉันเป็นคนใช้ใช่มั้ย” เย็นโกรธมาก
“ไปกันใหญ่แล้วเย็น ฉันแค่อยากจะบอกเย็น คนเราถ้าไม่ใช่คู่ ยังไงก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ฉันอยากให้เย็นเข้าใจฉัน เพราะฉันก็เข้าใจเย็น”
“จะให้ฉันเข้าใจคนที่มาแย่งผัวฉันน่ะเหรอ รู้เอาไว้นะคุณวณี ว่าฉันเกลียดคุณ เกลียดจนเข้ากระดูกดำ ทำตัวเป็นผู้ดีซะเปล่า แต่มาแย่งผัวคนอื่น หน้าด้าน เกิดมาฉันไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเท่าคุณเลย รู้เอาไว้ด้วย”
เย็นเดินผละไปจากวณีด้วยเกลียดชัง วณีร้องเรียก
“เดี๋ยวก่อนสิเย็น...เดี๋ยวก่อน”
เย็นไม่สนใจฟัง เย็นเดินผละไปจากวณีด้วยความเกลียดชัง


เย็นกอดผ้าคลุมไหล่ร้องไห้อยู่ในห้อง คุณหญิงอนุรักษ์ก้าวฉับๆมา
“นังเย็น เปิดประตู”
เย็นหน้าซีดตกใจ คุณหญิงยิ่งโกรธ
“หูแตกรึไงนังเย็น ฉันบอกให้เปิดประตู”
“ค่ะคุณหญิง”
เย็นรีบเก็บผ้าคลุมไหล่ แล้วมาเปิดประตู คุณหญิงก้าวเข้ามาในห้อง หน้าตาถมึงทึง
“ฉันไล่แกแล้ว แต่แกไม่ไป หนำซ้ำยังไปด่าวณีเขาอีก แกนี่มันเลวจริงๆออกไปให้พ้นบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไป๊”
คุณหญิงอนุรักษ์ลากตัวเย็นออกไปแบบโกรธจัด เย็นร้องไห้ผวามากอดเท้า
“คุณหญิงเย็นขอโทษ...เย็นผิดไปแล้ว คุณหญิงอภัยให้เย็นนะคะ”
“ไม่” คุณหญิงเอาเท้าออก มองเย็นแบบเสียใจมาก “แกขอโทษฉันมาแล้วกี่ครั้ง แต่แก
ก็ไม่เคยสำนึกตัว ซ้ำยังทำแต่เรื่องบ้าๆให้ฉันปวดหัวขึ้นทุกวัน”
เย็นร้องไห้ผวามากอดเท้าอีก
“เย็นขอโทษ เย็นขอโทษคุณหญิง”
คุณหญิงเสียงดัง
“ไม่...ฉันเมตตาแกไม่ไหวอีกแล้ว แกมันหึงจนเป็นบ้า ขาดสติไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แกไปจากบ้านของฉันเลยนะนังเย็น อย่าให้ฉันพูดเป็นครั้งที่ 3 ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
คุณหญิงเดินออกไปแบบโกรธจัด เย็นได้แต่ร้องไห้น้ำตาไหล เสียใจทุกข์ใจ


ค่ำนั้น เย็นร้องไห้ทุกข์ใจไปดักรออุทัยทันทีที่เห็นเขา เธอก็วิ่งเข้าไปหา
“คุณอุทัย ช่วยเมียด้วย”
อุทัยสะดุ้งเฮือกตกใจ
“อย่าพูดกับฉันอย่างนี้อีกนะเย็น”
“ก็เย็นเป็นเมียคุณ”
“เราจบกันไปแล้ว แล้วที่ฉันรู้ คุณแม่ก็ไล่เธอออกจากบ้านไปแล้ว เธอจะทู่ซี้อยู่ทำไมอีก เย็น”
เย็นผิดหวัง เสียใจมากกว่าเดิม
“คุณอุทัย”
“ที่จริงก่อนฉันแต่งงาน ฉันไม่ควรไปเอ่ยปากขอร้องเรื่องเธอกับคุณแม่เลย เพราะถ้าเธอไปตั้งแต่ตอนนั้น ชีวิตฉันมันคงไม่ต้องยุ่งยากเหมือนตอนนี้”
เย็นจะขาดใจ
“คุณเองก็อยากให้เย็นไปอย่างนั้นเหรอคะ”
อุทัยถอนหายใจเฮือกเหนื่อยใจมากบอกจริงจัง
“ใช่ เพราะยิ่งอยู่ เธอก็ยิ่งก่อเรื่องขึ้นไปทุกวัน”
“คุณไม่รักเย็นแล้วเหรอคะ”
“แล้วเธอล่ะยังรักฉันรึเปล่า ถึงทำให้ฉันทุกข์ใจ วุ่นวายใจขนาดนี้”
“รัก...เย็นรักคุณ รักยิ่งกว่าชีวิตของเย็น”
เย็นผวาเข้ามากอด อุทัยสะดุ้งรีบผลักออก
“งั้น...ถ้าเธอรักฉัน เธอก็ต้องทำให้ฉันมีความสุข”
“เย็นพร้อมจะทำทุกอย่างให้คุณมีความสุข”
“งั้น ไปจากที่นี่ซะ เพราะตราบใดถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ ฉันจะไม่มีความสุขเลย”
อุทัยเดินหนีไปอย่างใจดำที่สุด เย็นมองตามน้ำตาไหลพรากแค้นจัดจนกลายเป็นเกลียดชัง เธอรำพึงในใจ
“ยิ่งคุณใจร้ายใจดำกับฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ที่นี่”

เย็นปาดน้ำตาทิ้ง ดวงตาแข็งกระด้าง เต็มไปด้วยความแค้น คล้ายบ่งบอกว่า เย็นคนเดิมจะไม่มีอีกต่อไป
 
อ่านต่อหน้า 2
กำลังโหลดความคิดเห็น