xs
xsm
sm
md
lg

คมพยาบาท ตอนที่ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คมพยาบาท ตอนที่ 5

เปียรื้อเสื้อผ้าข้าวของมากมายจัดใส่กระเป๋าเดินทาง อุทัยยืนกอดอกมองเอือมๆ

“พ่อว่าหนูเอาเสื้อผ้าไปเยอะเกินไปนะลูก แค่ไปฮ่องกงไม่กี่วันเอง”
“ก็เปียอยากใส่ทุกชุดนี่คะคุณพ่อ ตั้งใจจะเปลี่ยนวันหนึ่งสัก 12 ชุดเลย”
“ทำไมมันเยอะขนาดนั้นลูก” วณีตกใจ
“ก็คุณพ่อคุณแม่ซื้อเสื้อผ้าให้เปียเยอะแยะนี่คะ..เปียกลัวใส่ไม่หมด”
“ไว้ใส่ตอนไปเที่ยวที่อื่นดีมั้ยลูก”
“ก็แล้วเมื่อไหร่ล่ะคะ” เปียหน้างอ
“อะไร ทริปนี้ยังไม่ทันได้ไป ก็ถามหาทริปอื่นซะแล้ว”
“ก็เปียอยากไปเที่ยวเมืองนอกนี่คะ คุณพ่อนั่นแหละทำไมพาเปียไปแค่ฮ่องกง”
“พ่อติดธุระ เอาไว้มีเวลา พ่อพาไปเที่ยวไกลๆเลยนะลูก ไป..เอาเสื้อผ้าออกหน่อยเถอะ”
“ไม่เอาอ่ะ เอาไปเยอะๆเผื่อเลือกดีกว่าค่ะ”
เปียเดินไปหยิบเสื้อผ้า ขณะที่ผ่านหน้าต่าง เห็นประวิทย์เดินมา เปียรีบเอาเสื้อผ้าที่ถือในมือยัดใส่ตู้บอก
“คุณพ่อคุณแม่ขา...เปียจัดเสื้อผ้าเสร็จแล้วค่ะ”
“อ้าว ทำไมเปลี่ยนใจล่ะลูก”
“เชื่อคุณพ่อคุณแม่ดีกว่าค่ะ เปียไม่รบกวนแล้ว เชิญคุณพ่อ คุณแม่ตามสบายนะคะ”
อุทัยพยักหน้าพอใจ
“งั้นพ่อไปเคลียร์งานก่อนนะ จะได้เดินทาง”
“แม่ก็ต้องเข้าออฟฟิศไปช่วยคุณพ่อ ไว้ดึกๆไปเที่ยวกันจ้ะ”
“ค่ะ” เปียยิ้มแฉ่ง
วณีกับอุทัยออกไป เปียเดินไปกระจก เช็กความสวยของตัวเองตามประสา ก่อน
จะเดินออกมา แต่แล้วกลับนึกได้ เปียเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบชุดที่เซ็กซี่ที่สุดออกมาเปลี่ยน

เลอสรรนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ยิ้ม ส่งไลน์หาอุทัย ขณะที่อุทัยกำลังจะขับรถออกนอกบ้าน เสียงไลน์ดัง อุทัยหยิบมือถือมาดู เห็นข้อความเลอสรร
‘ผมกำลังจะถึงบ้านแล้วนะครับ...อยากเห็นหน้าน้องมาก’
อุทัยยิ้ม วณีเดินมาเห็นอุทัยยิ้มก็ถาม
“ใครส่งอะไรมาหาคะ ยิ้มเชียว”
“ตาเลอ ส่งไลน์มาบอกว่าอยากเห็นหน้าน้องมาก”
“วณีก็อยากให้ตาเลอได้เห็นลูกเปีย แต่เสียดายจังนะคะ ลูกเปียไม่อยากเห็นตาเลอ”
อุทัยยิ้มเอ็นดูเลอสรร
“แต่ถ้ารู้ว่า มีพี่ชายหล่อขนาดนี้ ยัยเปียอาจจะเปลี่ยนใจ”
“จริงค่ะ”
สองคนขึ้นรถออกไปทำงาน

น้อยปัดกวาดเช็ดถูห้องของเลอสรร ด้านหลังน้อย คือรูปของน้อยที่เลอสรรปริ๊นต์ ออกมา เธอทำความสะอาดโต๊ะของเลอสรร ใกล้ถึงจุดที่เลอสรรวางรูปไว้ เปียเดินผ่านห้องเลอสรร จากหางตาเห็นน้อย เปียเดินกลับมาตะคอก
“นี่นังน้อย”
น้อยหันขวับมามอง
“เปียมีอะไร”
“ไม่ต้องมาทำเสียงเหมือนคนใกล้ตาย คุณพ่อคุณแม่ฉันไม่อยู่แล้ว แกไม่ต้องทำเป็นขยัน กลับไปเลยไป”
“แต่น้อยยังทำความสะอาดห้องคุณเลอสรรไม่เสร็จเลย”
“ดัดจริต ทำมาเป็นหาข้ออ้างใจจริงแล้วแกอยากอยู่ในห้องผู้ชายนานๆล่ะสิ”
“ทำไมทุกลมหายใจเข้าออกของเปีย มีแต่คำว่าผู้ชาย”
“ก็ผู้ชายมันอร่อย นี่...!กลับไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่อยากให้แกเหยียบบ้านของฉันแม่แต่วินาทีเดียว ไป๊” เปียยิ้มกวน
น้อยถอนหายใจเบื่อเปีย เดินออกไป เปียเบ้ปากใส่น้อย ก่อนเดินเร็วๆกระแทก
น้อยเต็มแรง น้อยล้มลง เปียยิ้มเยาะ
“สมน้ำหน้า”
น้อยมองเปียเสียใจอ่อนใจ น้อยทำท่าจะลุกขึ้นเดิน แต่ลุกไม่ไหว ต้องค่อยๆกระ
เผลกออกไป

รถแท็กที่เลอสรรนั่งมาจอดที่หน้าบ้าน เปียวิ่งออกมาแต่ไม่ได้มองหน้าบ้าน วิ่งผ่าน ตั้งใจไปที่พักของประวิทย์
เลอสรรเดินเข้ามาในบ้าน ไม่เห็นเปีย ขณะที่น้อยเดินกระเผลกออกมาจากหน้าบ้าน เจ็บขามาก เธอก้าวที่บันไดแต่ก้าวผิดขั้น ร่างของเธอร่วงลงมากองที่พื้น ร้องลั่น
“โอ๊ย”
เลอสรรได้ยินเสียงน้อยหันมามอง เห็นน้อยนั่งนิ่วหน้าอยู่ที่พื้น พอเห็นหน้าน้อยชัดๆ เลอสรรตะลึงคาดไม่ถึง
“คุณน้อย”
น้อยเงยหน้ามามองเลอสรร งง เขารู้จักชื่อเธอได้ยังไง

เปียเดินเข้ามาในสวนกวาดสายตามองหา
“ประวิทย์อยู่ไหน”
ด้านหลังหวานเดินมา พอหวานเห็นเปียก็ขยาด
“คุณหนูเปีย”
หวานจะย่องกลับ เปียหันมาเห็นหวาน ร้องเรียก
“เฮ้ย...นังหวาน ฉันเรียกแกไม่ได้ยินเหรอยะ”
หวานค่อยๆหันมา
“คือ...ตอนแรก หวานไม่รู้ว่าคุณหนูเฮ้ยกับใครน่ะคะ”
“ก็เฮ้ยกับแกนั่นแหละ นี่…ประวิทย์พักอยู่ไหน”
หวานตาโตอึ้งอีกเมื่อเปียถามถึงที่พักประวิทย์ เปียถลึงตาใส่
“หูหนวกรึไง ฉันถามว่าประวิทย์พักที่ไหน”
“ที่นั่นค่ะ” หวานปากคอสั่น ชี้ไปบริเวณที่พักประวิทย์
เปียมองไปตามมือหวานชี้มองพอใจ ก่อนหันมาตาเขียวใส่หวาน
“แล้วก็หุบปาก เพราะถ้าแกไม่หุบ ต่อไปแกจะไม่มีปากให้พูดอีกต่อไป”
เปียสะบัดหน้าไป หวานยืนทำหน้าแหยงกลัวเปีย เอามืออุดปากตัวเองแน่น รับ
ช้อยเข้ามาจับไหล่ หวานสะดุ้งโหยง
“เป็นอะไรวะนังหวาน”
หวานทำหน้ากลืนไม่เข้า คายไม่ออก อยากจะพูดแต่ก็กลัวเปีย ได้แต่เอามือชักเข้า
ชักออกอยู่อย่างนั้น

เลอสรรเข้าไปช่วยประคอง น้อยมองเลอสรรงงๆ
“ขอบคุณค่ะ...ว่าแต่ คุณรู้จักน้อยด้วยหรือคะ”
เลอสรรยิ้มละไม รู้ว่าเธอจำไม่ได้
“ไม่รู้จัก”
“แล้ว...คุณรู้จักชื่อน้อยได้ยังไง”
“ฉันเห็นเธอตัวเล็กๆ เห็นเธอเจ็บ เลยเผลอเรียกไปอัตโนมัติ ว่าแต่เธอมาทำอะไรที่นี่”
“น้อยมาทำความสะอาดบ้านคุณอุทัยน่ะค่ะ แล้วคุณล่ะคะเป็นใคร ชื่ออะไร”
“ฉันชื่อเลอสรร”
น้อยตกใจ เกรงๆ
“คุณเลอสรร....ลูกของคุณท่าน พี่ของเปีย”
“หา....น้อยพูดว่าอะไรนะ” เลอสรรตกใจ
“น้อยพูดว่า คุณเลอสรร เป็นพี่ของเปีย”
“แปลว่า...ลูกของคุณน้า..คือเปีย” เลอสรรชักกลัว
“ค่ะ...ลูกของคุณวณี คุณอุทัย ชื่อเปีย”
“เปีย”
เลอสรรเหวอไปเลยคาดไม่ถึง นึกถึงเหตุการณ์ที่เจอเปียครั้งแรกที่ท่ารถ ขณะที่เขาอยู่ในชุดคนจรจัด และนึกถึงเปียตอนเป็นพริตตี้

ประวิทย์นั่งผ่าข้าวหลามอยู่ เปียเดินเข้าไปแอบมอง เห็นท่าทางประวิทย์ซื่อๆก็ยิ่งชอบใจ ค่อยๆย่องเข้าไปหา แอ๊บเสียงหวานเรียกแบ๊วๆ
“สวัสดีจ้ะประวิ้ด”
“คุณหนูเปีย”
ประวิทย์หันมาเห็นเปียตกใจ เห็นเธอแต่งตัวเซ็กซี่มาก เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขิน อาย โดยเฉพาะเป็นลูกเจ้านาย เปียมองประวิทย์ยิ่งพอใจ หัวเราะคิกคัก
“ทำไม...ตกตะลึงในความสวยของเปียเหรอ”
เปียเดินมาเผชิญหน้า ประวิทย์เห็นเนินอกขาวๆของเปีย แล้วรีบมองไปทางอื่น เปียยิ่งชอบใจเดินไปตรงหน้าประวิทย์อีก
“ทำไม...ไม่เห็นตอบเปียเลย ตะลึงในความสวย ความเซ็กซี่ของเปียใช่มั้ยล่ะ”
เปียมองประวิทย์ตาหวาน โปรยเสน่ห์ ประวิทย์ยิ่งพูดไม่ออกเข้าไปใหญ่ บริเวรบ้านพักของประวิทย์อีกมุม หวานกับช้อยอุดปากตัวเอง ย่องมาดู สองคนแฝงตัวอยู่ ณ มุมหนึ่ง ที่มองไม่เห็น แต่ได้ยินเสียง และสองคนก็ได้ยินเปียหัวเราะ
“ว่าไง เปียสวย เซ็กซี่ใช่มั้ยล่ะ” เปียเอามือคล้องคอประวิทย์ถามเซ็กซี่
“ครับ” ประวิทย์เหงื่อแตก ไม่กล้ามองหน้า
เปียหัวเราะชอบใจ มองข้าวหลาม
“ก็แหงล่ะสิ เปียสวย เปียเซ็กซี่ ข้าวหลามประวิทย์ใหญ่ดีจัง น่ากินจังเลย”
หวานกับช้อยได้ยินอย่างนั้นก็ตะลึง
“คุณเปียจะกินมั้ยครับ” ประวิทย์ถามเสียงสั่น
“ถ้าประวิทย์ให้เปียกิน...เปียก็กินจ้ะ”

ประวิทย์ยิ้มแหย ค่อยๆปลดมือเปียออก หยิบข้าวหลาม หวานกับช้อยตาเหลือก ได้แต่เอามืออุดปากตัวเองแน่น

คุณหญิงเดินอยู่ในสนาม หวานกับช้อยวิ่งหน้าตั้งกันมา จังหวะที่เลี้ยวมุม ทั้งคู่จะเข้าด้านใน เกือบจะชนคุณหญิง ต้องเบรกตัวโก่ง จนสองคนล้มกันเอง

“นี่พวกแก ทำไมเดินไม่ดู หนีผีมารึไงฮะ”
“ค่ะๆผี” หวานร้องบอกอย่างตกใจ
“ห๊ะ...ผี..ผีอะไร ที่ไหนยังไง”
“ผี..ผีผ้าห่ม ผีผ้าห่มค่ะคุณหญิง”
“ผีผ้าห่ม อะไรของพวกแก”
“คุณหนูเปีย...คุณหนูเปียกับประวิทย์ค่ะ” ช้อยลืมตัวบอกออกไป
“หา”
คุณหญิงนิ่วหน้าตกใจ สองคนเอามืออุดปากตัวเอง ลืมตัว กลัวมาก

ประวิทย์ยื่นข้าวหลามให้เปีย เปียรับมากิน สองคนมองตากันไปมาอย่างมีใจให้กัน
คุณหญิง รีบเดินมายังบ้านพักประวิทย์หน้าตาโกรธมาก
“ถ้าประวิทย์มันทำอะไรหลานฉัน ฉันจะฆ่ามันให้ตาย”
หวานกับช้อย เดินตามคุณหญิงมองหน้ากัน กระซิบ
“แล้วคุณหนูเปียจะเอาเราตายด้วยรึเปล่านังช้อย”
“เดี๋ยวก็รู้” ช้อยเสียงสั่นๆ
หวานกระซิบ
“งั้นขอให้ข้าวหลามติดคอคุณหนูเปีย ตายๆไปเลยแล้วกันนะ”
“นังหวาน แกนี่พูดอะไร”
“ก็ฉันกลัวตายนี่ เจ้าประคู้ณ ขอให้คุณหนูเปียเพลิดเพลินกับข้าวหลาม อย่าฆ่าอย่าแกงลูกช้างเลย”
หวานยกมือไหว้ปลกๆ ขณะที่เปียแอ๊บตามประสา ประวิทย์ถาม
“อร่อยมั้ยครับ”
“ข้าวหลามของประวิทย์อร่อยที่สุดเลย”
“ผมไม่ได้ทำเองหรอกครับคุณหนู มีคนเอามาฝากคุณท่าน..ผมมีหน้าที่ผ่าเท่านั้นเอง”
“แต่ถ้าประวิทย์ไม่ได้เป็นคนผ่า ก็ไม่อร่อย”
คุณหญิงเดินมาถึง ยังไม่เห็นหน้า ได้ยินแต่เสียง
“สำหรับเปีย ยังไงข้าวหลามของประวิทย์ก็อร่อยที่สุดในโลก”
ประวิทย์ยิ้มเขิน คุณหญิงเนื้อตัวสั่น เหมือนจะเป็นลม แข้งขาอ่อน แทบไม่มีแรงก้าว เท้าของคุณหญิงสะดุด ล้มลง ตรงหน้ากองข้าวหลามของประวิทย์พอดี เปียกับประวิทย์หันมามองตกใจ ร้องออกมาพร้อมกัน
“คุณหญิง/คุณย่า”
หวานกับช้อย หน้าซีดเผือด

เลอสรรประคองน้อยมาส่งที่บ้านพัก หน้าเคร่ง ถึงจะยินดีที่เจอน้อยแต่กลุ้มเรื่อง
เปีย น้อยยกมือไหว้
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย”
“ไม่เป็นไร...ไว้เจอกันใหม่นะน้อย”
“ค่ะ”
เลอสรรเดินไป เย็นเดินมาเห็นพอดี
“ใครน่ะน้อย”
“คุณเลอสรรค่ะ”
“ก็คุณเลอสรร เขาเป็นใครล่ะ” เย็นหงุดหงิด
“ลูกของคุณอุทัย คุณวณี พี่ชายของเปียค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น เย็นก็หัวเราะ
“น้าเย็นหัวเราะทำไมคะ”
“ขำ..มีพี่ชายหล่อขนาดนี้ แกว่า นังเปีย มันจะรักเขาเหมือนพี่ชายเหรอ คุณอุทัย คุณวณีขา งานนี้แซ่บเวอร์ค้า”
เย็นหัวเราะสะใจ ขณะที่น้อยไม่เข้าใจ

เปียวิ่งร้องไห้โฮๆมาหน้าบ้านช้อยกับหวานประคองคุณหญิงอนุรักษ์ ที่มีอาการเจ็บจากการหกล้มตามมา คุณหญิงร้องเรียกเปียอย่างเป็นห่วง และรู้สึกผิด
“เปีย...เปีย...”
เปียไม่ฟัง ไม่หยุดวิ่งร้องไห้เข้าไปด้านใน เลอสรรวิ่งมาจากหลังสวนเห็นหวานกับช้อยประคองคุณหญิงที่ตะโกนเรียกเปียแต่ไม่เห็นเปีย
“มีเรื่องอะไรกันครับคุณย่า”เลอสรรรีบวิ่งมาหา
“ตาเลอ”คุณหญิงตกใจที่เห็นเลอสรร
คุณหญิงพะว้าพะวงเรื่องเปีย ชี้ไปในบ้าน
“น้องๆ”
เลอสรรมองตาม ไม่เห็นใคร ยังงงอยู่
“เป็นไรครับ”
“น้องโกรธย่า พาย่าไปหาน้องเร็ว”
“ครับ”
เลอสรรรีบประคองคุณหญิงแทนช้อยกับหวานคุณหญิงแว้ดกับช้อยหวานที่หน้าเจื่อน
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน เพราะแกสองคนนั่นแหละ”
คุณหญิงทำท่าจะยกมือศอกใส่สองคน สองคนจ๋อยสนิท เลอสรรรีบพาคุณหญิงเข้าไป

เปียวิ่งเข้ามาในห้องได้ก็ปิดประตูดังปัง หน้าตาขึ้งโกรธไม่พอใจมาก
“บ้าที่สุด มาขัดจังหวะฉันทำไม”
คุณหญิงวิ่งนำเลอสรรมา โดยมีนมแส วิ่งออกมาจากอีกมุม นมแสเห็นเลอสรรก็งง เห็นท่าทางของคุณหญิงก็งงเพราะไม่รู้เรื่องรู้ราว
“เปีย...เปียจ๋า เปิดประตูออกมาคุยกับย่าหน่อย”คุณหญิงเคาะประตู
เปียตาเขียว เบ้ปากแต่แอ๊บเสียงกลั้นสะอื้น
“ไม่ค่ะ เปียไม่มีอะไรจะคุย”
“โธ่เปียออกมาคุยกับย่าหน่อยนะลูก”คุณหญิงร้อนใจ
“ไม่ค่ะ”เปียตาเขียวเข้าไปใหญ่
เลอสรรทนเห็นท่าทางคุณหญิงไม่ไหว เคาะประตูหนักๆ
“เปีย ออกมาคุยกับคุณย่า”
เปียทำหน้างงใครวะ เลอสรรเคาะอีก ลงเสียงหนัก
“เปีย ออกมาคุยกับคุณย่า”
เปียไม่ชอบใจ ตวาดออกไป
“ไม่...คุณย่าดูถูกเปียไม่พอ คุณย่ายังให้คนมาข่มขู่เปียอีก เปียเกลียดคุณย่า”
“เปีย”
คุณหญิงตกใจหน้าซีดเข่าอ่อน ไม่เคยเจอลูกหลานก้าวร้าวเลอสรรประคองบอกนมแส
“ผมจะพาคุณย่าไปพัก นมแสโทรบอกน้าวณี น้าอุทัยด้วย”
“ค่ะคุณเลอสรร”
เลอสรรประคองคุณหญิงออกไป เปียด้านใน ได้ยินชื่อเลอสรร ก็นิ่งพึมพำเบาๆ
“เลอสรร...กลับมาได้ยังไง”

เลอสรรพาคุณหญิงเดินลงมาที่ด้านล่าง
“พาย่านั่งโน่นก็ได้เลอสรร ย่าจะรอพ่ออุทัยกับแม่วณีที่นี่แหละ”คุณหญิงพยักเพยิดบอก
“ครับคุณย่า”
เลอสรรพาไปนั่งห้องรับแขก หวานกับช้อยนั่งหน้าเจื่อนอยู่ที่พื้น คุณหญิงยิ่งเห็นก็ยิ่งตาขวาง
“เพราะแกสองคน ทำให้ฉันเข้าใจหลานฉันผิด”
หวานกับช้อยยกมือไหว้กลัวๆ
“ประทานโทษเจ้าค่ะคุณหญิง”
“ช้อยไม่ตั้งใจนะคะ...นังหวานค่ะ...นังหวานมันเป็นคนบอก”
หวานสะดุ้งโหยง ย้อนช้อย
“ฉันบอกที่ไหน ก็ไปแอบดูอยู่ด้วยกัน อุ๊ปส์”
“แอบดู”เลอสรรแปลกใจ
“แอบดูแล้วก็ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดจนฉันเข้าใจหลานฉันผิดๆ”
หวานกับช้อยยิ่งก้มหน้าก้มตา หน้าตาเจื่อนไปใหญ่ จวนนำประวิทย์ที่หน้าตาเคร่งเครียด
เข้ามา ทรุดตัวลงนั่งที่พื้นนอบน้อม
“คุณหญิงคะ...ประวิทย์ ขอมาอธิบาย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นค่ะ”
ประวิทย์ท่าทางหวาดหวั่นตัดสินใจเล่า
“คุณหนูเปีย ไม่ได้ทำอะไรที่เสื่อมเสียจริงๆนะครับคุณหญิงคุณหนูเปียแค่...เข้ามาดูผมผ่า...ประวิทย์อึกๆอักๆ “ข้าวหลาม”
คุณหญิงยกมือห้าม
“ไม่ต้องอธิบายให้ฉันอับอายกับความหูเบาของฉันเฮ้อสมควร สมควรให้หลานเปียโกรธฉันจริงๆ” คุณหญิงหน้าตากังวลมาก
“เดี๋ยวผมจะไปคุยให้น้องเข้าใจคุณย่านะครับ”

เลอสรรเดินออกไป

เลอสรรเดินมาเคาะประตู อีกมุม นมแสเดินออกมา ในมือถือโทรศัพท์ พอเห็นเลอสรรเดินไปห้องเปีย นมแสก็เดินตาม

“เปีย...เปีย”เลอสรรเคาะประตูห้อง
เปียสะดุ้งโหยงมองที่ประตู ถามทันที
“ใคร”
“พี่เลอสรร”
เปียเชิดหน้าขึ้นถือดี กวน หลอกถาม
“เลอสรรน่ะใคร ฉันไม่รู้จัก”
“พี่ชายของเปีย”เลอสรรอ่อนใจ
“เท่าที่รู้ ฉันเป็นลูกคนเดียวของคุณพ่อคุณแม่”เปียหยั่งเชิง
นมแสหน้าเจื่อน คำพูดของเปียก้าวร้าว หันไปมองก็เห็นเลอสรรหน้าเคร่ง
“โอเค...เปียเป็นลูกคนเดียวของคุณน้า...พี่ มีศักดิ์เป็นพี่”เลอสรรอ่อนใจ
“งั้นก็ไม่ต้องมาสะเออะ”เปียสวนทันที
นมแส ตาโต เหวอยิ่งกว่าเดิม เปียหยาบคายมากเลอสรรสะอึก แต่พยายามใจเย็น
“พี่อยากให้เปียออกมาคุยกับคุณย่าหน่อย ท่านกังวล ท่านร้อนใจมาก”
“พี่เลอสรร คงไม่เข้าใจคำว่าสะเออะนะคะ...เพราะถ้าเข้าใจ น่าจะไปตั้งนานแล้ว ไม่ใช่มาสะเออะ อยู่ตรงนี้ต่อ”
“โอเค...พี่ไปก็ได้...ไว้ให้คุณน้ามาคุยกับน้องเปียแล้วกัน” เลอสรรหันมาหานมแส “โทรบอกคุณน้าแล้วใช่มั้ยครับ”เลอสรรชักโมโห
“ค่ะ...ท่านบอกจะรีบกลับ”
“คุณน้าคงจะคุยกับน้องเปียได้ดีกว่าเรา”
เลอสรรเดินออกไปเปียเอาหูแนบประตู ได้ยินเสียงฝีเท้าเลอสรรห่างออกไป เธอเบ้ปาก
“เฮอะทำมาอวดเบ่ง อ้างคุณพ่อคุณแม่ เดี๋ยวได้รู้ฤทธิ์ซีเปียกันทั้งบ้านแน่”
เปียคว้ามือถือขึ้นมา กดโทรออก ปั้นเสียงจะขาดใจตาย
“คุณแม่ขา...เปียอยากตายค่ะ”

วณีนั่งอยู่บนรถกับอุทัย กำมือถือมือไม้สั่นหน้าซีดตกใจ
“อะไรนะ เปียอยากตาย”
อุทัยที่ขับรถอยู่หันมาได้ยินเสียงเปียแว่วออกมาจากมือถือ มองตกใจกึ่งรำคาญใจเปียกรีดร้องตามประสา
“ค่ะ เปียอยากตาย เปียอยากตาย”
“อย่านะลูก อย่าคิดอะไรสั้นๆ”
“แต่เปียอาย...คุณย่าดูถูกเปีย คนใช้ในบ้านก็ดูถูกเปียกันไปหมด เปียอายเปียทนไม่ได้...คุณแม่ได้ยินมั้ยคะเปียอายเปียอยากตาย”
อุทัยทนไม่ไหวคว้ามือถือมาคุย
“เปีย หยุดฟูมฟายไร้สติ ไม่งั้น พ่อจะยกเลิกการไปเที่ยวคืนนี้”
“ถ้าเปียตายก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเหมือนเดิมล่ะคะคุณพ่อ”
เปียวางสายหน้าตาบึ้งตึง วณีกรี๊ดดึงมือถือมาจากอุทัย
“เปียๆ ใจเย็นๆก่อนนะลูก” วณีหน้าแหยหันไปว่าอุทัย “ลูกวางสายไปแล้ว”
“แค่วางสายไม่ตายหรอกน่า”
“แล้วถ้าลูกฆ่าตัวตายไปจริงๆล่ะคะพี่อุทัยจะว่ายังไง”วณีโกรธ
“ไม่เผาก็ฝัง พี่เกลียดที่สุดเลย คนที่ชอบขู่จะฆ่าตัวตายน่ะ”
อุทัยโกรธเหมือนกันวณีน้ำตาคลอ
“ลูกอาจจะไม่ได้ขู่ก็ได้นะคะ ลูกอาจเสียใจ สะเทือนใจ จนอยากจะฆ่าตัวตายไปจริงๆก็ได้”
“มันจะอะไรนักหนา โฮ้ย”
อุทัยเร่งเครื่องเร็วขึ้นระบายอารมณ์ วณีนั่งน้ำตาคลอห่วงเปีย

เลอสรรเดินหน้าเจื่อนลงมาจากชั้นบน คุณหญิงถามกังวล
“น้องเปียว่ายังไงบ้างลูก”
“ไม่ยอมออกมาคุยเลยครับคุณย่า”
คุณหญิงมองหวานกับช้อยยิ่งโกรธ
“เพราะแกสองคนทีเดียว นี่ถ้าหลานฉัน เป็นอะไรไป ฉันจะทำยังไงตาอุทัย แม่วณีจะต้องโกรธฉันแน่ๆ”
ช้อยกับหวานจ๋อยไปใหญ่ นมแสมองคุณหญิงสงสาร จวนบอกเกรงใจนอบน้อม
“ให้เย็นลองมาคุยกับคุณหนูเปียมั้ยคะคุณหญิง”
คุณหญิงมองไม่พอใจ ตั้งแต่ได้ยินชื่อ
“น้ำหน้าอย่างนังเย็น มันจะมาช่วยอะไรได้”
จวนพูดเสียงอ่อยกลัวๆ
“แต่เย็นเป็นคนเลี้ยงคุณหนูมา...คุณหนูอาจจะฟังเย็นก็ได้นะคะ...”
คุณหญิงนิ่งไป เลอสรรก็มองแบบลุ้นๆปนอยากรู้...คุณหญิงบอกเสียงเรียบ
“งั้นไปตามมันมาแล้วกัน...บอกมันด้วย ที่ให้มาน่ะ เพราะฉันไม่อยากให้วณี อุทัยทุกข์ใจ”

เย็นหัวเราะดังก้อง น้ำเสียงบอกว่าสะใจมาก
“โถๆ จะเรียกใช้นังเย็น ยังอุตส่าห์มีฟอร์มนะคุณหญิง”
“อย่าโยกโย้ ยอกย้อนหน่อยเลยเย็น รีบไปเถอะ” จวนปราม
“คุณหนูเปียไม่ตายง่ายๆหรอกพี่ ไม่ต้องกลัว”เย็นยิ้ม
“ใช่เพราะถ้าตายง่ายๆ คุณหนู คงตายไปตั้งแต่แกขโมยคุณหนูไปตกระกำลำบากแล้วล่ะ”
จวนโมโหเย็นมองจวนตาเขียวปั้ด น้อยที่อยู่ด้านหลังหน้าซีด เลอสรรที่มาด้วยเห็นท่าไม่ดีรีบบอก
“ขอความกรุณาด้วยนะครับ น้องไม่ฟังใครเลยจริงๆ”
เย็นหันมามองเลอสรรแล้วยิ้ม
“ถ้าคิดว่า คุณหนูเปียจะฟังฉัน ฉันก็จะไปค่ะ”
เย็นเดินยิ้มออกไป ก่อนหันมาบอกน้อย
“มากับน้า น้อย”
“คะน้าเย็น”น้อยงงๆ
“ฉันบอกให้มากับฉัน”เย็นเสียงดัง

น้อยเดินตามเย็นไปแบบกลัวๆ เลอสรรมองน้อย ยิ่งสงสาร เห็นใจ ปนไม่เข้าใจ

จวนพาเย็นเดินเข้ามา ตามด้วยเลอสรรและน้อย คุณหญิงเห็นเย็นก็ชักสีหน้าเย็นยิ้ม ยกมือไหว้

“สวัสดีค่ะคุณหญิง”
“อ้อ…ยกมือไหว้ฉันได้แล้วเหรอนังเย็น”
“ดิฉันระลึกถึงคุณหญิงเสมอ แต่ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะ ที่ไม่ได้เข้าไปกราบสวัสดีถึงที่บ้าน” เย็นยิ้มขมขื่น “เพราะรู้ดี...คุณหญิงไม่ได้อยากเห็นหน้าดิฉัน”
“รู้ก็ดี รีบไปคุยกับหนูเปีย แล้วก็ไสหัวของแกไปซะ”
น้อยมองเย็นอย่างสงสาร เลอสรรก็มองเย็นเห็นใจ
“เฮ้อ...ไม่น่าเชื่อเลยนะคะคุณหนูเปียเพียงแค่คนเดียวจะทำเอาป่วนไปทั้งบ้าน”
เย็นยิ้มสาแก่ใจคุณหญิงเสียงดัง
“มันเป็นเพราะแกไง เพราะถ้าแกไม่ ขโมยเอาหลานฉันไปเลี้ยงหลานฉันก็ไม่สันดานแบบนี้หรอก”
“คุณย่า”เลอสรรตกใจติง
คุณหญิงอ่อนลง
“ขอโทษที ย่าลืมตัว” คุณหญิงมองเย็น “ต่อให้จะผิดจะถูก ตระกูลของย่าไม่เคยมีลูกหลานคนไหน นิสัยเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่เป็นเพราะนังเย็น จะเป็นเพราะใคร”
“แต่ถ้าผู้ดีจริงๆ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็ต้องเป็นผู้ดี ไม่ใช่เหรอคะคุณหญิงนอกจะจากว่า ผู้ดีจอมปลอม เห็นแก่ได้”เย็นสวน
คุณหญิงยิ้มเยาะรู้ทันถูกประชด
“หึ...จะโยงเข้าเรื่องตัวเองสินะ อยากโง่ให้ผู้ชายมันหลอกเอง ช่วยไม่ได้”
น้อยมองเย็นแบบสงสารสุดขั้วหัวใจ เลอสรรมองสังเกต แต่มีความเห็นใจเย็นยิ้ม แต่ดวงตาเจ็บ
“คนถูกหลอกไม่ได้โง่ ก็แค่รัก ส่วนคนหลอก ก็ไม่ได้ฉลาด แต่แค่เลว”
“นังเย็น”คุณหญิงโกรธจี๊ด
เย็นหันไปหานมแสถามเสียงเข้ม
“คุณหนูเปียอยู่ไหน”
“ข้างบน”
นมแสมองคุณหญิงเกรงใจ ก่อนนำเย็นเข้าไป
“เลอสรร พาย่ากลับบ้าน ย่าไม่อยากเห็นหน้านังตัวเสนียด”
เย็นหันขวับมาบอกน้อย
“น้อย”
“คะน้าเย็น”น้อยมองกลัว ๆ
“แกไปขอน้ำมนต์ 9 วัดมาให้ฉัน กลับบ้านฉันจะได้เอามาอาบ ล้างเสนียด”
“แกกล้าว่าฉันเหรอนังเย็น”คุณหญิงตวาดแว๊ด
“ดิฉันไม่ได้ว่าคุณหญิงสักหน่อย ดิฉันว่าตัวเสนียด”เย็นยิ้ม
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”
“ถ้าคุณหญิงรู้ว่าตัวเองอยู่บนที่สูง ก็อย่าปล่อยใจให้มันไหลลงต่ำนะคะ ไม่ใช่อยู่ที่สูง แล้วยังมากดขี่ข่มเหงคนที่อยู่ต่ำกว่า เพียงเพราะเห็นว่าเป็นคนใช้ แล้วมันเจ็บไม่เป็น”
เย็นเชิดใส่ เดินตามนมแสเข้าไปด้านในคุณหญิงโกรธมากมองตาม
“นังเย็น”
“กลับไปพักผ่อนนะครับคุณย่า”
เลอสรรรีบเข้าไปประคองพาคุณหญิงออกไปเย็นท่าทางเฉยชา แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจเจ็บแค้นหวานหันมาเห็นน้อย
“นี่ น้าแกไม่อยู่จะยืนเสนอหน้าทำไมไปหาน้ำมนต์9วัดมาล้างเสนียดนังเย็นไป๊”
น้อยเดินหน้าเจี๋ยมเจี้ยมออกไป ประวิทย์มองน้อยเห็นใจ ก่อนเดินตามหวานสะกิดช้อย ให้ดูประวิทย์กับน้อย
“แกดูๆ”
“หลานนังเย็น มันก็ชอบยั่ว ชอบอ่อย เหมือนนังเย็นนั่นแหละ”
ช้อยมองเหยียดจวนแทรกขึ้น
“ก่อนจะว่าใคร ดูตัวเองก่อนมั้ยก็เพราะแกสองคนไม่ใช่เหรอเรื่องมันถึงได้วุ่นวายอย่างนี้น่ะ”

ประวิทย์วิ่งตามน้อยออกมา เลอสรรประคองคุณหญิงจะพากลับบ้าน ได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันไปมองเห็นประวิทย์วิ่งตามน้อย คุณหญิงเห็นเลอสรรหยุดก็หันไปมองพอประวิทย์เห็นคุณหญิงกับเลอสรรมองกลับมา ก็ชะงักไม่กล้าตามน้อย คุณหญิงถอนหายใจ
“อย่าให้แม่น้อยได้นิสัยนังเย็นมาเหมือนหนูเปียเลย ย่าเสียดาย”
คุณหญิงเสียดายและเป็นห่วงน้อยจริงๆ เลอสรรเองก็เหมือนกัน

นมแสเดินนำเย็นมาห้องเปียเย็นเดินเข้าไปหน้าห้อง
“เปีย”
เปียในห้องสะดุ้งเฮือกตกใจ
“น้าเย็นมาทำไม”
เย็นลงเสียงหนัก
“เปีย ได้ยินมั้ยเปิดประตู”
“ค่ะ”
เปียไม่พอใจแต่ขัดไม่ได้เดินมาเปิดประตู นมแสทึ่งๆเมื่อเห็นเย็นเอาเปียอยู่เย็นเดินเข้าไปในห้องแต่จากหางตายังเห็นว่านมแสแอบยืนฟังสังเกตการณ์ เย็นปิดประตู เปียถามทันที
“น้าเย็นมาทำไม”
“ก็มีคนบอกว่าคุณหนูไม่ยอมคุยกับใครเลยนี่คะ...” เย็นตั้งใจพูดให้นมแสได้ยิน “คุณหนูขา...อยู่ที่นี่ คนสอดรู้สอดเห็นมันเยอะ คนปากมากมันก็แยะ”
นมแสหน้าแหย เหมือนถูกด่ากลายๆแต่ยังแนบหูฟัง
“ต่อให้คุณหนูไม่ได้ทำอะไร คนที่นี่มันก็จ้องเอาคุณหนูไปนินทาอยู่แล้ว”
เย็นเปิดประตูออกไปพูดเลย
“ใช่มั้ยนมแส”
“ว้าย” นมแสร้องลั่น เซตามแรงประตูล้มลงรีบบอก “ปะเปล่านะ ฉันเปล่า”
“แล้วที่ล้มหัวคะมำอยู่เนี่ยเรียกว่าอะไร”เย็นมองดุ ตวาด
นมแสมองเย็นกลัวเย็นตาดุนั่งลงจ้องหน้าเสียงดุ น่าเกรงขาม
“แก่แล้วอยู่ส่วนแก่เถอะนะ อย่าแก่กะโหลกกะลา ไม่อย่างนั้น” เย็นค่อยๆเอามือ
ลูบผมนมแสตรงหน้าผากขึ้น “จะโดนถอนหงอกตอนแก่”
นมแสมองเย็นกลัวลุกเดินออกไปรวดเร็วเย็นยิ้มก่อนเบ้ปากมองไม่พอใจลุกขึ้นปิดประตูเดินไปหาเปีย บอกเบาแต่ดุ
“แกเห็นแล้วใช่มั้ยเปีย ว่ามันเป็นยังไง”
เปียยิ้มพอใจ
“ใช่ค่ะ ขี้ข้าบ้านนี้ มันขี้นินทาที่สุด ถ้ามันแอบฟังเราอีก น้าเย็นจับมันถลกหนังหัวเลยนะคะ”

“ฉันไม่ได้ว่าขี้ข้า แต่ฉันว่าแก” เย็นดุ
 
อ่านต่อหน้า 2

คมพยาบาท ตอนที่ 5 (ต่อ)

“ว่าเปียทำไมน้าเย็น” เย็นจิกผมเปียดึงหน้าหงาย

“ฉันสั่งฉันสอนแกมาตลอด เป็นผู้หญิง ทำอะไรมันต้องรักเกียรติ รักศักดิ์ศรีตัวเอง แล้วแกไปให้ท่าให้เด็กประวิทย์นั่นทำไม...หา”
เปียกลัว รีบบอก
“เปียไม่ได้ให้ท่าประวิทย์จริงๆนะน้าเย็น”
“ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ทำไมฉันจะไม่รู้ ว่าสันดานแกมันเป็นยังไงไม่ต้องมาทำไร้เดียงสาคาราไมด์คงช่วยไม่ได้ ซีมาร์ซักโหลเลยมั้ย”
เปียหลบตาจากสายตาเย็น กลัวและยอมรับในที
“น้าเย็น...เปียขอโทษ...” แต่เธอยังแก้ตัว “แต่เปีย...เปียไม่ได้คิดอะไรกับประวิทย์จริงๆนะ”
เย็นเย้ยๆกลั้วหัวเราะแบบรู้ทัน
“เอ้า...ไม่ได้คิด...ก็ไม่ได้คิด” เย็นปล่อยมือจากผมเป็นลูบหน้าเปียอ่อนโยน “งั้นแสดงว่าเปียหลานน้าก็เก่งจริงๆ ที่ทำให้พวกมันป่วนกันทั้งบ้านได้ เพราะฉะนั้นเปียดื้อต้องใช้ความไร้เดียงสาสร้างประโยชน์ให้ตัวเองเยอะๆนะจ้ะ....แล้วทุกอย่างของอนุรักษ์ธานินจะเป็นของเปีย”
เปียมองตาเย็น รู้กัน
“ความไร้เดียงสาจะทำให้เปียได้ทุกอย่างของอนุรักษ์ธานิน”
เย็นพยักหน้าเปียผวากอด
“ขอบคุณค่ะน้าเย็น ที่สั่งที่สอนเปีย เปียรักน้าเย็นที่สุดเลย”
เย็นกอดเปียตอบ แต่ดวงตาสาแก่ใจสะใจ รำพึงในใจ
‘ตั้งแต่วินาทีนี้ เตรียมรับมือกับความย่อยยับได้แล้ว คุณอุทัยคุณวณี’
เย็นหัวเราะดังก้องออกมาสาแก่ใจ โดยที่เปียไม่รู้เรื่องตามเคย

จวน หวาน ช้อย นั่งกันอยู่ที่หน้าบ้านท่าทางไม่สบายใจ อุทัยกับวณีเข้ามาวณีร้อนใจ
“เปียล่ะ ลูกเปียล่ะ”
จวนหันไปบอก
“อยู่ในห้องค่ะ”
วณีกำลังจะเดินเข้าไป จวนพูดต่อแบบเกรงๆ
“เย็นกำลังช่วยพูดกับคุณหนูค่ะ”
วณีชะงัก อุทัยตวาดแบบอารมณ์เสียกับวณี
“นี่แปลว่า ทุกคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ พี่ วณี กำหราบลูกไม่ได้เลยใช่มั้ยนอกจากเย็นน่ะ”
“อย่าเพิ่งว่าเย็นเลยค่ะ...วณีอยากรู้มากกว่า ว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องถึงได้วุ่นวายใหญ่โต ขนาดลูกคิดจะฆ่าตัวตาย”
ช้อยกับหวาน หลบตานายทันที จวนมองไม่พอใจ รีบบอก
“ก็นังหวาน กับนังช้อยน่ะสิคะ...ไปฟ้องคุณหญิงว่าคุณหนูเปียเล่นผีผ้าห่มกับประวิทย์ คุณหญิงเลยรีบไปดู แล้วก็เห็น คุณหนูเปียไปดูประวิทย์นั่งผ่าข้าวหลามเท่านั้นเอง พอคุณหนูรู้ว่าคุณหญิงเข้าใจเธอผิดๆก็เลยเสียใจ ร้องห่มร้องไห้...คงจะอายมากน่ะค่ะ”
“โธ่เอ๊ยเปียลูกแม่” วณีหันมาพูดกับอุทัยเชิงตำหนิ “ลูกเป็นผู้หญิง ถูกเข้าใจผิดขนาดนี้ ก็คงอาย สมควรแล้วที่แกอยากจะฆ่าตัวตายค่ะ”
อุทัยหน้าเจื่อน เปียไม่ผิด แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการฆ่าตัวตายแต่ไม่กล้าเถียงวณีอุทัยหันไปดุหวานกับช้อย
“ฉันจะตัดเงินเดือนพวกเธอครึ่งนึง โทษฐานที่ให้ร้ายลูกฉัน”
หวานกับช้อยหน้าซีดเผือด วณีเสริมดุ
“คราวหน้าคราวหลังจะได้ไม่คิดอะไรเพ้อเจ้ออีกโดยเฉพาะกับลูกของเจ้านาย”
วณีเดินเชิดเข้าไปข้างใน ตามด้วยอุทัย จวนหันไปพูดใส่หน้าสองคน
“สม”
ช้อยตาเขียวโกรธ
“ไม่ต้องมาสม...วันนี้คุณหนูเปียอาจจะเอาตัวรอดได้ แต่วันหน้า ไม่มีทาง”
“ใช่ฉันเห็นสายตาคุณหนูเปียมองประวิทย์ ยังไงคุณหนูเปียก็อยากกินประวิทย์ย่ะ...บ้านนี้มีเรื่องงามหน้าแน่”หวานเสริม
สองคนลุกพรวดเดินโกรธออกไปจวนมองตามไม่พอใจ แต่ก็กังวล
“พวกปากเสีย...อย่าเป็นอย่างที่เขาว่านะคุณหนู”

เย็นเดินออกมากับเปีย สองน้าหลานมองตากันยิ้มร้าย วณีกับอุทัยเดินขึ้นชั้นบน สองฝ่ายเจอกันที่บริเวณเชิงบันได พอเปียเห็นวณีกับอุทัยก็แอ๊บหน้าเจื่อน ก้มหน้าวณีพูดอย่างอ่อนโยน
“เปีย”
เปียบีบน้ำตาจะร้องไห้เหมือนอับอาย
“คุณแม่”
“แม่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แม่เสียใจ อย่าโกรธคุณย่าเลยนะลูก ท่านเข้าใจผิด”
เปียแผ่วๆแอ๊บไร้เดียงสา
“เปียไม่โกรธคุณย่าเลยค่ะ แต่เปียอาย อายมาก แล้วก็กลัวคุณพ่อคุณแม่จะเข้าใจผิด”
“ไม่เลยลูก แม่เชื่อมั่นในตัวเปียเสมอ”
วณีดึงเปียมากอดอุทัยรีบบอก
“พ่อก็เชื่อเปียไปหาคุณย่าด้วยกันนะลูกนะ...คุณย่าไม่สบายใจกลัวหนูโกรธ”
“เปียไม่ไปได้มั้ยคะเปียยังไม่พร้อมที่จะเจอใคร ไปเที่ยวเลยดีกว่า”
“ไปหาคุณย่าก่อนนะลูกจะได้เจอพี่เลอสรรด้วย” อุทัยบอก
“ถ้าต้องเจอคนอื่น เปียยิ่งไม่อยากไป” เปียจับมืออุทัย “ไปเที่ยวกันดีกว่านะคะ”
“ไปหาคุณย่า ไปหาพี่เลอสรรก่อนนะลูก”วณีพยายามช่วยพูด
“ไม่ดีกว่านะคะคุณแม่เปียยังไม่อยากเจอใครจริงๆ โดยเฉพาะพี่เลอสรร เปียกลัวคุณพ่อคุณแม่จะไม่รัก ไม่สนใจเปีย”เปียไม่เหวี่ยงแต่อ้อน
“แม่รักเปียที่สุดอยู่แล้วล่ะลูก”วณีกอดหอมใหญ่
“งั้นไปเที่ยวกันเลยนะคะ...”
“ก็ได้จ้ะ” วณีจับมืออุทัย “พาลูกเดินทางเลยดีกว่านะคะพี่อุทัย”
“จ้ะ”อุทัยพยักหน้า
เย็นมองภาพที่สามคนจับมือกันแน่น รู้ตัวเองเป็นคนนอก เย็นเจ็บจนน้ำตาแทบไหล กลั้นน้ำตาเชิดหน้า ยิ้มเหยียด
“ไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันกลับนะคะ”
เย็นจะเดินไปวณีเรียกไว้
“เดี๋ยวจะเย็น”
เย็นหยุด แต่ไม่ได้หันมา วณีพูดต่อ
“ขอบใจมากนะที่มาช่วยพูดจนลูกเปียเข้าใจ”
เย็นยิ้มหันไปมองวณี
“ยินดีค่ะ...และตอนนี้ ดิฉันก็เชื่อว่า คุณหนูเปียจะยิ่งเข้าใจ ว่าต้องทำตัวยังไง ใช่มั้ยคะคุณหนู”
เปียยิ้มหวานๆแต่ตาที่มองเย็นมีเลศนัย
“ค่ะน้าเย็น เปียเข้าใจแล้วว่าเปียต้องทำตัวกับคุณพ่อ คุณแม่ คุณย่ายังไง”

เปียกับเย็นมองหน้ากัน รู้ความนัย เย็นหัวเราะก้องก่อนเดินลงบันไดมา นมแสที่อยู่ด้านล่าง แอบมอง ดูท่าทางของเย็นกับเปียด้วยท่วงท่าไม่สบายใจเอาเสียเลย

คุณหญิงถามนมแส แบบกึ่งๆไม่มั่นใจ

“แกคิดมากไปหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะคุณหญิง ดิฉันว่า ท่าทางแม่เย็นกับคุณหนูเปียดูมีเลศนัยจริงๆ”
“อาจเป็นเพราะน้าเย็น ดูเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยพูดมั้งครับ”เลอสรรออกความเห็น
“ไม่นะคะคุณเลอ มันเงียบแบบอึมครึม มีเลศนัยจริงๆค่ะ”
คุณหญิงถอนใจ
“เฮ้อ!ฉันก็ไม่รู้จะคิดยังไงนะ เพราะเชื่อนังหวานกับนังช้อย ทำเอาฉันแทบเสียคน เอาไว้แกรู้ แกเห็นอะไรจะๆตา ค่อยมาบอกฉันก็แล้วกัน”
“ค่ะ คุณหญิง”นมแสจ๋อยๆ
“นี่...แล้วอย่าให้ตาอุทัยกับแม่วณีรู้นะ ฉันไม่อยากให้คิดว่าฉันเกลียดนังเย็นเลยมีอคติกับหนูเปีย”
“ค่ะคุณหญิง”
นมแสออกไปแบบจ๋อยๆ
“ผมดีใจจังเลยครับ ที่คุณย่า...บอกนมแสไปอย่างนั้น”
“ย่าไม่อยากถูกถอนหงอกตอนแก่นะเลอ นี่ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ที่ตาอุทัยกับแม่วณีไม่ได้โกรธ เอาไว้หนูเปียกลับมาจากไปเที่ยว...ย่าคงต้องทำดีกับน้องเยอะๆแล้วล่ะ”
คุณหญิงยิ้ม สองคนยิ้มให้กัน ก่อนที่คุณหญิงจะเปลี่ยนสีหน้า
“แต่ต่อไป เลออย่าไปนับญาติเรียกน้าเย็นนะลูก เรียกมันว่า นังเย็นก็พอ”
เลอสรรไม่สบายใจ

ท่ามกลางความมืด เย็นยืนกอดอกอยู่บริเวณนอกบ้าน ท่าทางเจ็บปวดภาพอุทัยกับวณี จับมือกันรักกันแว่บเข้ามา เย็นน้ำตาคลอ จิกมือแน่นแค้นรำพึงในใจ
“สุขกันเข้าไป สักวัน คุณสองคนจะต้องเจ็บมากกว่าฉัน”
เลอสรรเข้ามาแอบมองอยู่มุมหนึ่ง อย่างสนใจอยากรู้เกี่ยวกับเย็นและน้อย ด้านหลังเย็น น้อยเดินออกมาจากในบ้านเรียกอ่อนหวาน
“น้าเย็นขา...น้อยทำกับข้าวเสร็จแล้ว ไปกินข้าวนะคะ”
“น้าไม่หิว”เย็นพูดแบบซึมๆ
“น้าเย็นไม่สบายหรือเปล่าคะ”น้อยเป็นห่วง
“แค่ไม่อยากกินข้าวนี่มันจะอะไรนักหนา แกอยากกินก็ไปกิน ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
เย็นหงุดหงิดเดินเข้าไปข้างในน้อยหันไปบอก
“น้าเย็นไม่กิน น้อยก็ไม่กิน เดี๋ยวน้อยจะไปเก็บดอกมะลิมาร้อยพวงมาลัยนะคะ พรุ่งนี้จะได้เอาไปถวายพระ9วัด”
น้อยพูด แต่เหมือนเย็นจะไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง มีเพียงเลอสรรที่มองน้อยสงสาร เขากำลังจะเรียกแต่ จวนเดินเข้ามาหา
“คุณเลอสรรคะ...คุณท่านจะออกเดินทางแล้วค่ะ ท่านให้ไปหาค่ะ”
“ครับน้าจวน”
เลอสรรมองน้อยเห็นใจก่อนเดินออกไปกับจวนน้อยหันมามองทอดสายตามองออกไปในความมืด เธอรำพึงในใจ
“น้อยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วน้าเย็นเป็นอะไร แต่น้อยจะไหว้พระ ขอให้น้าเย็นมีความสุขค่ะ”

อุทัย วณี เปียในชุดเดินทาง มีเอิบถือกระเป๋าเดินทางตามมา เปียกอดวณีกับอุทัย
“เปียดีใจมากๆเลยค่ะคุณพ่อคุณแม่ ที่จะได้ไปเที่ยว”
วณีจับคางเอ็นดู
“แม่ก็ดีใจมากๆที่เห็นลูกมีความสุขจ้ะ”
“งั้นไปกันเลยนะคะ”เปียยิ้มประจบ
อุทัยขัดขึ้น
“อยู่เจอพี่เลอสรรก่อนนะลูก พ่อให้คนไปตามพี่เลอสรรมาแล้ว”
“เปียบอกคุณพ่อแล้วนี่คะ ว่ายังไม่อยากเจอ”เปียหน้างอเล็กๆ
“ไม่เจอก็ไม่เจอจ้ะ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่อุทัย ไปฮ่องกงแค่ไม่กี่วันกลับมาค่อยเจอก็ได้...เอิบ เอากระเป๋าไปขึ้นรถเลย”วณีตัดบท
“ครับ”
เอิบเดินออกไป ประวิทย์เดินผ่านหน้าตึก เปียเห็นก็รีบบอก
“เอ่อ...เดี๋ยวเปียมานะคะ”
เปียเดินออกไปวณีถาม
“จะไปไหนลูก”
“เอ่อ...เซอร์ไพร์สคุณพ่อคุณแม่นิดหน่อยค่ะ”
เปียรีบออกไปวณีหันมาหาอุทัย
“เปียดื้อของเรา ไม่เห็นดื้อเลยนะคะ ลูกเราน่ารักจะตาย”
วณียิ้มปลื้มมาก อุทัยปลื้มแบบเจื่อนๆยังไง ก็ไม่สบายใจอยู่ดี

เปียวิ่งออกมา มองหาประวิทย์ แต่ไม่เจอ
“ประวิทย์เดินไปไหนเร็วจัง”

เปียเดินตามหา

น้อยกำลังเก็บดอกมะลิใส่กระทงใบไม้ ประวิทย์เดินมาหา

“สวัสดีจ้ะน้อย”
น้อยมองประวิทย์ ไม่รู้จักแต่เคยเห็นหน้า
“พี่ชื่อประวิทย์ พี่เห็นใจน้อยนะเรื่องเมื่อเย็น ที่น้อยถูกดุ...แต่เราเป็นเด็กก็ต้องเจออย่างนี้แหละ”
“น้อยเข้าใจค่ะพี่ประวิทย์ ขอบคุณมากค่ะที่เป็นห่วง”น้อยยิ้ม
“มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้นะ พี่อยู่เรือนทางด้านหลัง เป็นคนอาศัยน่ะ”
“น้อยก็เป็นคนอาศัยเหมือนกันค่ะ อยู่กับน้าเย็น”
สองคนยิ้มให้กันเป็นมิตร
“ดีใจที่ได้รู้จักนะ...มะ...พี่ช่วย”
ประวิทย์ช่วยเก็บดอกมะลิเปียเดินมาเห็นประวิทย์กับน้อยเก็บดอกมะลิด้วยกันก็โกรธ พึมพำเบาๆ
“นังน้อย”
เปียเดินเข้าไปหาฉกกระทงไป
“น้อย...น้าเย็นให้กลับบ้าน”
“จ้ะ”
น้อยรีบเดินออกไปแบบกลัวเปีย แต่ยังไม่กลับ แอบหลบมุมดูเปียหันมายิ้มหวานให้ประวิทย์
“ประวิทย์...เป็นไงบ้าง”
ประวิทย์กังวล
“ไม่เป็นไรครับ คุณหนูนั่นแหละ รีบไปเถอะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า จะเป็นเรื่องอีก”
“เปียไม่สน เปียไม่แคร์ เปียเป็นห่วงประวิทย์มากกว่า...เนี่ย...เปียไม่อยู่ตั้งหลายวัน ไม่รู้ประวิทย์ของเปีย จะเป็นยังไง”
ประวิทย์ตกใจกับคำพูด เปียเดินเข้ามาใกล้ กอดแขนเขาซบหน้าลงกับไหล่ น้อยมองตกใจขณะที่เปียออดอ้อนประวิทย์
“ประวิทย์อย่าเที่ยวไปแกะข้าวหลามให้ใครต่อใครกินนะ...เปียหวง...ไม่อยากให้ใครกิน เปียอยากกินข้าวหลามของประวิทย์เพียงคนเดียว”
ประวิทย์ตัวแข็งทื่อ ตกใจในท่าทีของเธอ เปียหัวเราะคิก จับแก้มเขา
“ยิ่งทำท่าแบบนี้ ประวิทย์ยิ่งน่ากินที่สุดเลยรู้มั้ย”
“คุณหนู...เดี๋ยวคนมาเห็น”
เปียหน้าตาเซ็กซี่ท้าทาย
“เปียไม่กลัว...นี่เปียพูดจริงๆนะ ตอนที่เปียไม่อยู่ห้ามประวิทย์ไปยุ่งกับใคร โดยเฉพาะน้อยไม่อย่างนั้น เปียกลับมา” เปียยิ้มๆ “เปียจะลวกจิ้มประวิทย์กิน”
เปียเอามือจับคางเขาแบบที่วณีจับเธอเอ็นดูประวิทย์มองเมื่อรู้ว่าเปียสนใจเขาก็อดยิ้มดีใจไม่ได้ เปียเห็นก็ยิ่งคลั่ง
“นี่อย่ามายิ้มอย่างนี้ใส่เปีย เปียอดใจไม่ไหว เดี๋ยวก็ได้กินประวิทย์ตรงนี้จริงๆหรอก” เปียทำท่าหมั่นเขี้ยว “กลับมาแล้วเจอกัน” เปียวิ่งกลับไป
ประวิทย์มองตามค่อยๆเอามือจับคางตัวเองยิ้ม ตกหลุมรักเปีย ค่อยเดินตามออกไปน้อยยืนตกใจ

อุทัยกับวณี ยืนอยู่ที่รถพร้อมเดินทาง ข้างๆคือเลอสรร
“เปียดื้อของแม่ไปทำอะไรอยู่ ดูสิ...ป่านนี้ยังไม่มาเลย แล้วจะได้เจอกับเลอรึเปล่าเนี่ย”
“นั่นน่ะสิ...” อุทัยมองนาฬิกา “ต้องรีบไปแล้วด้วย”
“เดี๋ยวผมไปตามน้องดีกว่าครับ...” เลอสรรอาสา
“ก็ดีจ้ะ”วณียิ้ม
เลอสรรเดินออกไป อีกฝั่งเปียโผล่ออกมา
“คุณพ่อคุณแม่ขา...เปียดื้อมาแล้วค่า...”
วณีถามทันที
“ไปไหนตั้งนานลูก”
“ไปเก็บมะลิค่ะ...”
อุทัยกับวณีมองกระทงดอกมะลิในมือของเปียแบบคาดไม่ถึง
“เปียไปเที่ยวหลายวัน...คิดถึงพี่ดอกมะลิเลยจะเอาพี่ดอกมะลิติดตัวไปด้วยที่สำคัญ...เปียเก็บมาให้คุณพ่อคุณแม่ค่ะ”
“เปีย...เปียของแม่ ทำไมหนูช่างจิตใจอ่อนโยนแบบนี้ แม่ชื่นใจที่สุดเลย”วณีปลื้มมาก
วณีดึงเปียเข้ามากอด มาหอม แบบปลื้มมาก ชื่นใจมากอุทัยยิ้มเฝื่อนๆเปียล้นไปทุกอย่าง เปีย เห็นประวิทย์มาแอบมอง เธอดีใจสุดๆ ลืมตัว
“ประวิทย์”
วณีได้ยินไม่ถนัด
“อะไรจ้ะลูก”
เปียรีบแก้
“เอ่อ...ประชิด...คุณแม่กอดเปียประชิดตัวแบบนี้ เปียอบอุ่นมีความสุขที่สุดเลยค่ะ”
เปียกอดวณีแน่นเข้า แต่ตามองไปที่ประวิทย์ เขาสบตากับเธอยิ้มให้ ส่งสายตาแห่งความพอใจออกมา จวนมองตามสายตาเปีย เห็นประวิทย์ก็ตกใจ...แต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา นมแสมองตาม จวนทำเป็นกลบเกลื่อน แต่เปียหันมาเห็นสายตานมแสที่มองจวนสงสัย เปียค้อน พูดเสียงเข้ม
“มองอะไรคะนมแส”
“ปะเปล่าๆค่ะ”นมแสหลบตาเปีย
“ดีจ้ะ...เพราะถ้าอยู่ต่อหน้าเปีย ทุกคนต้องมองที่หน้าสวยๆของเปียเพียงอย่างเดียว ใช่มั้ยคะคุณแม่”
“ใช่จ้ะ”วณีเอ็นดู
“จวนได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ” อุทัยบอก
“อ้าว...ไม่รอตาเลอเหรอคะ”วณีนึกได้
“เดี๋ยวไม่ทัน” อุทัยหันไปสั่งจวน “บอกตาเลอด้วยนะจวน กลับมาเจอกัน”
“ค่ะ”
อุทัย วณี เปีย เดินขึ้นรถ ที่เอิบรออยู่ ท่าทางเปียมีความสุขมาก ขณะมองกลับไปที่ประวิทย์ที่มองเปียตาละห้อย รถแล่นออกไปแต่ตาเปียยังมองประวิทย์ นมแสมองตามสายตาเปีย จวนรู้แกว รีบเดินมาขวางไม่ให้เห็นประวิทย์แต่ยิ้มเป็นมิตร
“มองอะไรจ้ะนมแส”
“ปะเปล่า”
“ดีจ้ะ...งั้นฉันขอเลียนแบบคุณหนูเปียหน่อยนะ อยู่ต่อหน้าฉัน นมแสต้องมองที่หน้าสวยๆของฉันเพียงอย่างเดียว”
นมแสหัวเราะขำ
“ไม่ไหวล่ะจ้ะแม่จวน เพราะเธอไม่สวย”
นมแสเดินเข้าบ้านไปจวนหน้าตึง หันไปหาประวิทย์ ไม่เห็นซะแล้ว จวนได้แต่ทำหน้าหงุดหงิด

“คุณหนูเปียนะคุณหนูเปีย ไม่น่าเลย”

น้อยเก็บดอกมะลิด้วยท่าทางกังวล

“นี่ถ้าใครมาเห็น แย่แน่ๆเลยเปีย”
เลอสรรเดินเข้ามา ร้องเรียก
“น้องเปียๆ”
น้อยตกใจหันมา เลอสรรเองก็ตกใจปนดีใจที่เห็นน้อย
“เปียออกไปแล้วค่ะ...คุณเลอสรรเพิ่งมาใช่มั้ยคะ” น้อยถามแบบกังวล กลัวเลอสรรเห็นเปีย
“ใช่...มีอะไรเหรอ”
“เปล่าคะ...เปียออกไปนานแล้วค่ะ”
น้อยจะเดินหนีเลอสรรแตะต้นแขน
“เดี๋ยวก่อนน้อย”
น้อยสะดุ้ง กลัวเลอสรรเห็นเปีย
“คะ...”
“ขอโทษ...น้อยมีอะไรรึเปล่า”
“ปะเปล่าค่ะ...น้อยแค่อยากบอกว่า เปียออกไปนานแล้วจริงๆ ขอตัวนะคะ”
น้อยเดินไป เลอสรรมองตามสงสัย
“ต้องมีอะไรแน่ๆเลย”

น้อยนั่งร้อยพวงมาลัยจากมะลิที่เก็บมา เธอกังวลเรื่องเปียกับประวิทย์ทำให้เข็มทิ่มมือน้อยสะดุ้ง
“อย่าให้มีใครมาเห็นเลยนะเปีย ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่ๆ”

เช้าวันใหม่...ประวิทย์นั่งช่วยงานในครัว นั่งไปยิ้มไปจวนมองขวางๆ
“ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่อะไรประวิทย์”
ประวิทย์สะดุ้ง หุบยิ้มทันที
“เปล่ายิ้มน้าจวน”
“ก็เห็นอยู่ว่ายิ้ม”
จวนมองดูเห็นหวานกับช้อยมองสงสัยอยู่เลยหยุดว่า
“สงสัย อยากให้มีคนมากินข้าวหลามมั้ง” หวานหัวเราะคิกคัก
“น้ากินได้นะ...ข้าวหลามของประวิ้ดน้าก็ชอบเหมือนกัน” ช้อยล้อๆ
“ถ้าแกสองคนไม่หุบปาก ได้ถูกเฉาะเป็นข้าวหลามแน่” จวนชี้หน้า
หวานยิ้มยั่ว
“ทำไมต้องซีเรียสด้วยล่ะพี่จวนรึว่า...มันมีอะไรๆในกระบอกข้าวหลาม”
“นังหวาน” จวนตวาด
“ห้ามทำไม ก็ท่าทางพี่มีพิรุธเองนี่...” หวานยิ้มๆ “เรื่องที่ฉันกับนังช้อย สงสัย มันเป็นจริงใช่มั้ยจ้ะพี่”
ช้อยกับหวานมองหน้ากันหัวเราะดังลั่นประวิทย์มองจวน กลัว มีพิรุธ จวนก็มองประวิทย์ ขณะเดียวกันนั้น เลอสรรเดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์
“ต้องการอะไรคะคุณเลอ” จวนตกใจ
“มีเรื่องจะคุยกับน้าจวนหน่อยครับ”
“ค่ะๆ”
จวนเดินตามเลอสรรออกไปประวิทย์หน้าเสียมีพิรุธ หวานกับช้อยมองหน้ากันหัวเราะลั่น
“ฉันว่า คุณหนูเปียอาจจะไม่อยากกินข้าวหลามของประวิทย์แล้วนะ แต่อาจจะอยากกินไส้กรอกจากเมืองฝรั่งของคุณเลอสรรแทน”
หวานกับช้อยหัวเราะกันตามประสา ประวิทย์หน้าซีด

เลอสรรคุยกับจวนที่บริเวณสนามของบ้าน
“อย่างที่ผมคิดไว้จริงๆต้องมีเรื่อง น้อยเองก็ต้องรู้...ถึงได้มีพิรุธตลอด”
“คุณเลออย่าบอกใครนะคะ...น้ากลัว...แต่ไม่พูดก็ไม่ได้ น้าห่วงคุณหนูเปีย”
“ดีแล้วครับ ที่น้าจวนบอกผม เราสองคนจะได้ช่วยกันระวัง ผมสัญญาจะเก็บเรื่องที่น้าจวนเล่า เป็นความลับ”
จวนห่วงไม่ตำหนิ
“ทำไมคุณหนูเปีย ถึงไม่เหมือนหนูน้อยมั่งก็ไม่รู้นะคะ...หนูน้อยเรียบร๊อย...เรียบร้อย แต่คุณหนูเปีย มีเรื่องให้ปวดหัวได้ทุกวัน อุ๊ย”
จวนรีบเอามือปิดปาก มองเลอสรรแบบเกรงๆ เลอสรรนิ่ง ขณะพูดออกมาเบาๆ
“นั่นน่ะสิครับ ทำไมน้องเปียกับน้อย นิสัยไม่เหมือนกันเลย ทั้งๆที่คนที่เลี้ยงมา คือน้าเย็นคนเดียว”

เย็นยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองออกไปที่บ้านของอุทัย เธอนึกถึงคำสาบานของอุทัย นึกถึง เธอกับเขาเคยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนั้น เย็นน้ำตาไหลออกมา เจ็บปวด...น้อยเดินเอาชามข้าวต้มมาวางไว้ที่โต๊ะ โดยมีมือถือของเธอวางอยู่บนโต๊ะด้วย น้อยวางข้าวต้มเสร็จเดินมาเคาะประตูห้องเย็น
“น้าเย็นคะน้าเย็น”
เย็นสะดุ้งนิดๆ รีบเช็ดน้ำตา
“มีอะไร”
“น้อยทำข้าวต้มไว้ให้แล้ว น้าเย็นออกมากินนะคะ”
“แกนี่วันๆยุ่งแต่กับเรื่องกินจริงๆยัยน้อย” เย็นหงุดหงิด
“ก็น้อยห่วงน้าเย็น...น้าเย็นออกมากินข้าวนะคะ น้อยจะไป” น้อยหน้าจ๋อย
“แกจะไปไหนก็ไป...ไป๊ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน แล้วไอ้กับข้าวของแก ก็เก็บไว้ในตู้เลย ฉันไม่กินฉันไม่หิว”
“น้าเย็นกินหน่อยนะคะ”
เย็นเปิดประตูพลัวะออกมาตาเขียว
“ถ้าแกพูดเรื่องกินอีกคำเดียว ฉันจะเอาข้าวต้มราดหน้าแก จะไปไหนก็ไป”
“ค่ะน้าเย็น”
น้อยรีบเดินไปโดยลืมหยิบมือถือไปด้วย เย็นปิดประตูดังปัง
“ฉันไม่ได้อยากเอาข้าวต้มราดหน้าแกหรอกน้อย แต่ฉันอยากเอาข้าวต้มราดหน้าพ่อแม่แก”

น้อยเดินออกมาจากบ้านพัก ในมือมีถุงพวงมาลัย เลอสรรเดินเข้ามาพอดี สองคนชะงักทันทีน้อยก้มหน้ากลัวเขาจะถามรีบเดินเลี่ยงไปเลอสรรเรียก
“เดี๋ยวน้อย”
น้อยหยุด หันมามองแบบกลัวๆ
“คะ...”
“เมื่อคืน...”
น้อยตกใจ ห่วงเรื่องเปีย
“คุณเลอสรรเห็นอะไรเหรอคะ”
เลอสรรยิ้มขำ
“คิดว่าฉันจะเห็นอะไรล่ะ”
“เปล่าค่ะ...”
“ถ้าน้อยบอกว่าเปล่า...ฉันก็เปล่า...ฉันไม่เห็นอะไร”
“แล้วคุณเลอสรรเรียกน้อยทำไมเหรอคะ” น้อยมองงงๆ
“ก็เมื่อคืน เห็นเก็บดอกมะลิ” เลอสรรมองถุงมาลัย “ร้อยพวงมาลัยไปไหนเยอะแยะ”
“ไปถวายพระค่ะ ว่าจะไปขอน้ำมนต์9วัดมาให้น้าเย็น”
“9 วัด...แล้วจะไปยังไง”
“นั่งรถเมล์ไปน่ะค่ะ”
“แล้วรู้จักถนนหนทางเหรอมะเดี๋ยวฉันพาไป”
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ น้อยไปเองได้” น้อยตกใจรีบปฏิเสธ
“แต่ถ้าฉันพาไป น่าจะดีกว่า เพราะถ้าเธอไปเอง น้าเย็นของเธอ ได้น้ำมนต์ไม่ครบ 9วัดแน่”
“งั้น...น้อยขอบคุณมากนะคะ”
น้อยยกมือไหว้เลอสรรยิ้ม
“เธอทำเอาฉันรู้สึกว่าตัวเองแก่เลย แต่ก็ดี...ไหนๆฉันก็อายุมากกว่าเธอ แล้วฉันก็เป็นพี่ชายของน้องเปีย ฉันก็น่าจะเป็นพี่ชายของเธอด้วยต่อไปเรียกฉันว่าพี่เลอสรรนะน้อย”
น้อยส่ายหน้าตกใจปฏิเสธ
“ไม่ได้ค่ะ”
“ต้องได้...ต่อไปน้อยต้องเรียกพี่ ว่าพี่เลอสรร ไป...”

เลอสรรเดินนำน้อยออกไปพร้อมรอยยิ้ม น้อยเดินตามออกไป
 
อ่านต่อหน้า 3

คมพยาบาท ตอนที่ 5 (ต่อ)

คุณหญิงเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร แม่บ้านแต่ละคนดูแลตามหน้าที่

“กับข้าวเยอะแยะ แบ่งไปให้ตาเลอหน่อยแล้วกัน คงจะยุ่งอยู่ที่บ้านตาอุทัย”
“ค่ะคุณหญิง งั้นหวานไปจัดสำรับเลยนะคะ” หวานประจบ
คุณหญิงพยักหน้า หวานเดินออกไป
“บ้านหลังใหญ่โต ฉันนั่งกินข้าวคนเดียว มีลูกมีหลานก็เหมือนไม่มี” คุณหญิงถอนใจ
“เดี๋ยวคุณๆก็กลับกันมาแล้วนะคะคุณหญิง”
“ไม่รู้สิ ยังไงฉันก็เหงา” คุณหญิงยิ้มแบบฝัน “ฉันอยากมีหลานเรียบร้อยน่ารักไว้ออดอ้อนเจรจา คงน่ารักชะมัดเลย”
“คุณหนูเปียไงคะ” ช้อยโพล่งขึ้น
คุณหญิงหุบยิ้ม สายตาไม่แน่ใจ เปียไม่ได้เรียบร้อยน่ารักน่าเอ็นดู จวนถองช้อย

หวานเดินถือสำรับอาหาร พร้อมบ่นกระปอดกระแปดต่างจากท่าทางเมื่อครู่
“เป็นคนรวยนี่ดีจริงๆ อยู่ที่ไหน ก็มีคนเอาข้าวมาป้อนให้ถึงปาก”
หวานจะเดินเข้าบ้าน แต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นเลอสรร เดินเคียงคู่มากับน้อย หวานตาโตแอบมองสอดรู้สอดเห็น แมววิ่งผ่านมา น้อยร้องเรียก
“ฝ้ายฝ้ายจ๋า...”
น้อยรีบไปคว้าตัวฝ้ายมา นั่งกอดนั่งอุ้มอย่างดีใจเลอสรรแปลกใจ ทรุดตัวลงนั่งคุยด้วย
“นี่...น้อยรู้จักฝ้ายด้วยเหรอ”
“รู้สิคะ...ฝ้ายเป็นน้องแมวของคุณวณี ฝ้ายตัวขาวน่ารักที่สุดเลย”
น้อยเอามือจะลูบหัวแมว มือของเลอสรรวางทาบลงมาที่มือน้อย เขาจะลูบหัวแมวเหมือนกันสองหนุ่มสาวตกใจ แต่ที่ตาโตกว่าคือหวาน
“ขุ่นพระ”
น้อยยิ้มเจื่อนๆเลอสรรหน้าแหยๆเอามือออก บอกน้อยเขินๆ
“รีบไปกันเถอะ สายแล้ว”
“ค่ะ” น้อยวางฝ้ายลง “แล้วเจอกันนะจ้ะน้องฝ้าย”
เลอสรรเดินไปเปิดประตูรถให้
“ขอบคุณค่ะคุณเลอสรรร”
เลอสรรมองหน้า
“พี่เลอสรร”
“ค่ะพี่เลอ”
น้อยยิ้มอ่อนๆ ก้าวขึ้นไปนั่งเลอสรรปิดประตูแล้วเดินไปประจำที่คนขับขับออกไป หวานตาแหก
“คุณหนูเปียว่าแรงแล้ว ยัยน้อยติดเทอร์โบเลยเหรอ แรงและเร็วจริงๆ”
หวานมองตามรถของเลอสรร อยากรู้อยากเห็นมากๆ

เย็นเดินกวาดสายตาอยู่ในบริเวณบ้านหาน้อย
“น้อย...น้อย”
ไม่มีเสียงตอบ เย็นบ่นไป
“ไปสาระแนบ้านคุณๆอีกล่ะสิ นี่ถ้ามีเรื่องอะไร จะตีให้ตายเลย”
เย็นเดินออกไปอย่างห่วงๆน้อย

หวานวิ่งเข้ามาในครัวหน้าตาตื่นเต้นโอเวอร์ตามเคย
“พวกเรา แย่แล้วๆ”
“อะไร อาหารไม่ถูกปากคุณเลอสรรเหรอ” จวนตกใจ
“ถูก น่าจะถูกมากด้วย...” หวานยิ้ม “คุณเลอเอาออกไปกินนอกบ้านด้วย”
“หือ...คุณเลอเอาอะไรออกไปนอกบ้าน” จวนงง
“ขนมหวานน้อย”
จวนงงไปใหญ่
“อะไรของแก ขนมหวานน้อย”
ช้อยโพล่งขึ้นมาแบบรู้กัน
“นังน้อยน่ะสิ...ใช่มั้ย”
หวานหัวเราะพอใจ
“หูยนังช้อย...แกนี่สมกับเป็นคู่หูของฉันจริงๆ ถูกต้องแล้วย่ะ คุณเลอสรรจับมือถือแขนแล้วก็พานังน้อยออกไปกินนอกบ้าน”
เย็นเดินเข้ามาในครัว ทันได้ยิน ตกใจมาก แต่ไม่มีใครเห็น
“ยังไม่เข็ดเรื่องคุณหนูเปียอีกเหรอถึงได้ใส่ร้ายน้อยน่ะ” จวนว่าหวาน
“ฉันไม่ได้ใส่ร้ายย่ะ ฉันเห็นกับตา จับมือกันอย่างนี้ๆเลย” หวานทำท่าไปด้วย “และถ้าคุณหญิงต้องการ ฉันก็ยินดีพาคุณหญิงไปท้าพิสูจน์ว่าคุณเลอสรรพานังน้อยออกไปนอกบ้านจริงๆ”
“นังน้อยนี่มันแรงจริงๆ...มันคงจะได้เชื้อแรงจากนังเย็น” ช้อยยิ้มหยัน
“แรงหรือแรด” หวานหัวเราะเย้ยใส่ “แรดบางตัวมันก็แรดเงียบ บางตัวก็แรดเปิดเผย บางตัวก็แรดขั้นรุนแรง แต่นังเย็น...”
เย็นตวาดทันที
“จะแรดหรือไม่แรดมันก็เรื่องของฉัน ตัวฉัน”
เย็นเดินเข้าไปหาหวานกับช้อยถอยหลังกรูดร้องลั่น
“อ่ะจ๊าก”
เย็นมองเอาเรื่อง หวานบอกปากคอสั่น
“ฉันไม่ได้ว่าแกนะเย็น ไมได้ว่าแกจริงๆ ฉันว่าแรด”
ช้อยทำเสียงน่ารักๆกลัวๆ
“ใช่ๆ เราสองคนว่าแรด แรดมีนอ ในสวนสัตว์ไม่ใช่แกน้า...”
“ต่อให้พวกแกว่า ฉันก็ไม่สนใจ แต่อย่ามาใส่ร้ายหลานฉัน น้อยไม่มีทางเป็นขนมหวานของใครเด็ดขาด”
“ก็รอดูสิ...แล้วแกจะรู้ ว่านังน้อยมันออกไปกับคุณเลอสรรจริงๆ” หวานเถียง
“แล้วผู้ชาย ผู้หญิงที่รู้จักกันไม่ถึงข้ามวัน ออกไปด้วยกัน มันแปลว่า...” ช้อยทำเสียงล้อเลียน “อัลไล”
สองคนหัวเราะคิกคักเยาะเย้ย เย็นโกรธเนื้อตัวสั่นกำมือแน่น สายตายังลังเลไม่แน่ใจว่าน้อยจะออกไปกับเลอสรรจริงๆ จวนมองเย็นเป็นห่วง

เลอสรรพาน้อยไปขอน้ำมนต์ที่วัด เขามองพวงมาลัยทึ่งๆ
“พี่ไม่คิดเลยจริงๆ สมัยนี้ จะมีผู้หญิงนั่งร้อยพวงมาลัยอยู่กับบ้าน”
“น้าเย็นสอนค่ะ เกิดเป็นคน ต้องทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเป็นลูกผู้หญิง ถึงไม่มีคนเลี้ยง คนดูแล เราก็ต้องดูแลตัวเองได้”
“งั้นต้องชมไปถึงน้าเย็นด้วย น้าเย็นสอนเก่ง”
“น้าเย็นเป็นคนเก่งด้วยค่ะพี่เลอ น้าเย็นทำได้ทุกอย่าง ทั้งงานบ้าน งานเรือนงานช่าง ตั้งแต่เกิดมา...น้อยไม่เคยเห็นน้าเย็นอยู่เฉยๆเลย”
“น้อยเลยไม่ยอมอยู่เฉยๆเหมือนน้าเย็นไง”
น้อยยิ้มดีใจและเขินในคำชม
“ไหว้พระกัน...เดี๋ยวจะได้ไปวัดอื่น” เลอสรรแนะ
“ค่ะ”
สองคนกราบพระ ไหว้พระ ทำบุญ พระให้น้ำมนต์น้อยสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้มอิ่มเอิบ

เย็นร้อนรุ่น กระวนกระวายมองเห็นมือถือน้อยที่วางอยู่
“จะไปไหน มือถือก็ไม่ยอมเอาไป ยัยน้อย...น้าจะได้รู้ว่าแก ไปหรือไม่ไปกับคนบ้านนั้น”
เย็นกำมือถือของน้อยแน่น มือสั่นระริก

เลอสรรพาน้อย ตระเวนไปวัดต่างๆครบ9วัด ขณะที่เย็นรออยู่ โกรธมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเย็นแล้ว
“แกไปไหนของแกน้อย”
เย็นเดินพรวดออกนอกบ้านไป เพราะรอไม่ไหวแล้ว

เลอสรรขับรถมาจอดบริเวณโรงจอดรถ ก่อนที่จะเดินลงมากับน้อย สองคนช่วยกันถือขวดน้ำมนต์มา น้อยยกมือไหว้เลอสรร
“น้อยขอบคุณพี่เลอสรรมากๆเลยนะคะ ที่กรุณาน้อย”
“เรื่องเล็กน้อยจ้ะ”
“แต่ทุกครั้งที่น้อยไหว้พระ ทำบุญ น้อยจะเอาบุญมาฝากพี่เลอสรรนะคะ”
“ขอบใจมากจ้ะ”
สองคนยิ้มให้กันอ่อนโยน เย็นเดินเข้ามาเห็นพอดี โกรธมาก
“นังน้อย”
น้อยหันไปมองตกใจ
“น้าเย็น”
“นี่แกออกไปกับผู้ชายจริงๆด้วย”
เย็นเสียงสั่นเครือผิดหวังโมโหตรงเข้ามากระชากน้อย
“ใครบอกให้แกทำอย่างนี้นังน้อย”
เย็นเอามือฟาดน้อยพลัวะๆน้อยร้องลั่นเจ็บปวด ถุงขวดน้ำมนต์หล่นลงที่พื้น เลอสรรเองก็ตกใจ ตกตะลึง รีบบอก
“เราสองคนไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียเลยนะครับน้าเย็น”
“มันเสื่อมเสีย ตั้งแต่มันออกไปกับคุณแล้ว” เย็นตวาดดึงลากน้อยอย่างแรง “นังเด็กไม่รักดี แกทำตัวอย่างนี้ได้ยังไง”
เย็นหยิกทึ้งตบตีอย่างแรงด้วยโมโหนมแสได้ยินเสียงเอะอะโวยวายวิ่งออกมาดู เห็นน้อยร้องโอดโอย
“อย่าน้าเย็น...น้อยเจ็บ”
“เจ็บแค่นี้แกไม่ตายหรอก แต่ถ้าวันไหน แกถูกผู้ชายมันทิ้ง แกจะตาย...มานี่...แกมานี่”
เย็นลากน้อยไป เลอสรรร้องห้าม
“อย่าครับน้าเย็น อย่า...”
เย็นผลักเลอสรร
“อย่ามายุ่ง”

เลอสรรผงะ แต่ตามไป นมแสเอามือทาบอกตกใจ

จวนนั่งนวดเท้าให้คุณหญิงอนุรักษ์อยู่ในบ้าน นมแสวิ่งหน้าตั้งเข้ามา

“คุณหญิงคะคุณหญิง เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ”
“บ้านก็ไม่มีคนอยู่ มันจะมีเรื่องอะไรนมแส”
“นังเย็นค่ะ นังเย็นมันจะฆ่าหนูน้อย”
คุณหญิงตกใจงง
“หา...ว่าไงนะ นังเย็นมันจะฆ่านังน้อย”
“ค่ะ ดิฉันเห็นกับตา นังเย็นมันลากมันทึ้งหนูน้อย คุณเลอสรรไปช่วยก็ถูกผลัก
ออกมา”
“เย็นต้องโกรธที่คุณเลอสรรพาน้อยออกไปข้างนอกแน่ๆเลยค่ะ” จวนกังวล
“แล้วตาเลอพาแม่น้อยออกไปนอกบ้านทำไม” คุณหญิงแปลกใจ
“จวนไม่ทราบค่ะ”
“ตาเลอนะตาเลอ หาเรื่องจริงๆ”
คุณหญิงลุกพรวดเดินออกไป จวนกับนมแสรีบตามเป็นห่วง

เย็นลากพาน้อยมาที่บ้าน ทั้งหยิกทั้งทึ้งทั้งตี
“วันนี้ฉันจะตีแกให้ตายเลยนังน้อย นังเด็กไม่รักดี”เย็นฟาดๆ
“น้าเย็น อย่า น้อยเจ็บๆ”
น้อยทรุดตัวลงนั่ง กอดขาเย็นเอาไว้อ้อนวอน
“หุบปากของแกเดี๋ยวนี้”
เลอสรรพยายามจะห้าม
“น้าเย็นครับ กรุณาฟังผมก่อน ผมกับน้อยไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียจริงๆ”
“แรกๆผู้ชาย มันก็พูดกันอย่างนี้ทั้งนั้น ไม่มีอะไร ไม่ได้ทำอะไรแต่พอเผลอเท่านั้น มีอะไรทุกที”
เลอสรรตกใจ แต่เข้มแข็ง
“น้าเย็นจะด่าจะทุบจะตีผม ผมไม่ว่า แต่ที่น้าเย็นทำ น้าเย็นกำลังทำร้ายน้อย ดูถูกน้อย”
“ฉันจำเป็นต้องดูถูก เพราะนังน้อย มันทั้งโง่ทั้งเซ่อและหน้าโง่ๆเซ่อๆอย่างมัน ผู้ชายก็ชอบหลอกซะด้วยสิ”
เย็นจิกผมน้อยอย่างแรง น้อยโอดครวญ
“น้าเย็น..น้อยเจ็บ..เจ็บ...”
“ฉันบอกแล้วไงนังน้อย เจ็บให้จำในวันนี้ ดีกว่าแกต้องเจ็บเพราะโดนผู้ชายทิ้งในวันหน้า เพราะถ้ามีวันนั้น แกจะเจ็บไปจนตาย”
เย็นฟาดๆ เลอสรรเข้าห้าม
“น้าเย็น อย่า...”
เย็นผลักเลอสรรออกด่าน้อย
“จำใส่กะโหลกไว้นังน้อย แกอย่าใจง่ายเที่ยวไปไหนมาไหนกับผู้ชายอีก”
เย็นกระหน่ำฟาดอย่างแรงน้อยร้องแบบเจ็บมาก ยกมือไหว้
“อย่าน้าเย็น น้อยเจ็บ”
คุณหญิงอนุรักษ์เดินแกมวิ่งเข้ามา
“หยุดเดี๋ยวนี้นะนังเย็น”
เย็นหันมามองคุณหญิง แต่มือยังกำจิกผมน้อยอยู่
“แกเป็นบ้าไปแล้วรึไง ถึงได้เฆี่ยนตีหลานขนาดนี้”
“ไม่ได้บ้าค่ะ ดิฉันกำลังสั่งสอนหลานของดิฉัน ไม่ให้ใจง่าย เที่ยวไปไหนง่ายๆกับผู้ชายอีก”
“จะอะไรนักหนา” คุณหญิงเดินเข้ามาปกป้องเลอสรร “หลานชายฉัน ไม่ใช่คนเลวคนร้าย เขาเป็นผู้ดี”
เย็นหัวเราะดังลั่น พูดเย้ยๆ
“ผู้ดีแล้วมันทิ้งผู้หญิงไม่ได้เหรอคะดิฉันจำฝังใจว่าลูกชายคุณหญิงที่เป็นผู้ดีก็ทิ้งผู้หญิงไปเหมือนกัน”
“นังเย็น” คุณหญิงโกรธ
เลอสรรมองเย็น ภายใต้ท่าทางแข็งกร้าวเย็นชาเห็นดวงตาของเย็นมีน้ำตาคลอ
หน่วย เย็นมองคุณหญิงเจ็บช้ำ ยิ้มเย้ยหยัน
“แล้วครั้งนั้น คุณหญิงก็ด่าดิฉัน ว่าเลวเอง ใจง่ายเอง แล้วอย่างนี้คุณหญิงจะไม่ให้ดิฉันสั่งสอนหลานได้ยังไงคะ”
เย็นหันมาจิกผมน้อยกระชากขึ้นแรง ทำประชดคุณหญิง เสียงดัง
“จำไว้นะนังน้อย แกเป็นผู้หญิง ต้องรักเกียติรักศักดิ์ศรีของตัวเอง โดยเฉพาะ แกเป็นลูกหลานคนใช้อย่าใจง่ายเพราะวันไหนที่แกใจง่าย ทุกคนเขาจะซ้ำเติมแก”
“นังเย็น” คุณหญิงเนื้อตัวสั่น
เย็นหัวเราะเยาะ
“ที่ดิฉันพูด มันแทงใจดำใช่มั้ยคะ”
เย็นลอยหน้าลอยตาไม่แคร์มองคุณหญิงเย้ย ด่าน้อยต่อ
“งั้นก็ฟังต่อนะนังน้อย แต่ถ้าแกเป็นลูกคนรวย ต่อให้แกไปแย่งผัวเขา มันก็จะเป็นเรื่องชอบธรรม เรื่องถูกต้อง เพราะแกมันเป็นผู้ดี แกมันรวย”
เย็นจิกกระชากผมของน้อยอีก น้อยร้องเจ็บมากคุณหญิงกับเลอสรรร้องห้าม
“อย่า...อย่าทำน้อย”
“นังน้อยมันเป็นหลานฉัน ฉันจะตีจะฆ่ามันก็ได้ ใครจะทำไม”
เย็นตีประชดอีกคุณหญิงแทบกรี๊ด
“นังเย็น นังโรคจิต ฉันจะแจ้งตำรวจ”
“แจ้งเลย ฉันจะได้ฆ่านังน้อย ต่อหน้าตำรวจเลย”
เลอสรรสงสารมาก ถลันเข้าไป
“อย่าครับน้าเย็น อย่า...”
เย็นผลักออก
“บอกว่าอย่ามายุ่ง”
เลอสรรเสียงดัง
“แต่ผมต้องยุ่ง เพราะผมเป็นคนพาน้อยออกไป ผมให้น้าเย็นทำร้ายน้อยไม่ได้”
เย็นหัวเราะเย้ย
“อย่างงั้นเหรอ”
เลอสรรมองเย็น ไม่พอใจ ถลันเข้ามา จะกระชากตัวน้อย เย็นคว้าไม้แถวนั้นฟาด
เลอสรรถูกฟาดที่ลำตัว ร้องลั่น “โอ๊ย” เซผงะทันที
ทุกคนตกใจ เย็นดูโหดร้าย โหดเหี้ยม คุณหญิงร้องลั่น
“ตาเลอ”
“พี่เลอ...” น้อยร้อง
เย็นได้ยินตก
“หา...รู้จักกันไม่ทันข้ามวัน แกเรียกเขาว่าพี่เลอเลยเหรอ นังน้อยทำไมแกใจง่ายอย่างนี้” เย็นกระหน่ำจิกตีน้อยโมโหมาก “ถ้านังเปียมันใช้ซีมาร์ยกโหล อย่างแกมันต้องใช้ซีมาร์ยกลัง นังสารเลว”
“อย่าน้าเย็น”
เลอสรรถลันเข้ามาหาอีก กระชากน้อยเย็นโกรธมาก กระชากน้อยคืนมา แล้วคว้าไม้ท่อนเดิมฟาดเลอสรรอีก คุณหญิงเข้ามาห้าม ดึงเลอสรรออก
“เจ็บมั้ยลูก เจ็บมั้ย”
เลอสรรส่ายหน้าไม่เป็นอะไร แต่คุณหญิงก็ด่าเย็นแบบโกรธจัด
“นังเย็น นังสารเลว แกโกรธฉันแล้วแกก็ไปพาลกับเด็กๆ ตาอุทัยกลับมา ฉันจะฟ้องตาอุทัย”
เย็นเสียงดังไม่กลัว
“ฟ้องเลย เชิญฟ้องเลย อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าคุณอุทัยจะว่ายังไง ถ้ารู้ว่าหลานชายสุดที่รัก พาหลานสาวดิฉันออกไปนอกบ้านตั้งแต่เช้าจรดค่ำ...หรือจะให้ท้าย...เพราะของมันเคยๆกันอยู่ หลอกผู้หญิงแล้วทิ้ง”
“นังเย็น”
เย็นไม่สนใจคุณหญิง ลากน้อย
“เข้าบ้านเดี๋ยวนี้นังน้อย ฉันมีเรื่องต้องจัดการแกอีก วันนี้แกตายแน่ๆ”
เย็นลากน้อยที่ร้องโอดโอยเข้าบ้าน ไม่สนใจใคร
“อย่านะครับน้าเย็น อย่าทำน้อย ผมพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง”
เย็นชะงัก ไม่คาดคิดเลอสรรจะพูดอย่างนี้ น้อยเองก็คาดไม่ถึงคุณหญิงดึงเลอสรรเอาไว้
“หยุดตาเลอ...ถ้านังโรคจิตเย็น มันฆ่าหลานมันได้ ก็ให้มันฆ่าไป ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน กลับ”
คุณหญิงลากเลอสรรออกไป
“คุณย่าครับ”
“ย่าบอกให้กลับ”
คุณหญิงดึงเลอสรรกลับอย่างแรงเย็นลากน้อยเข้าบ้าปิดประตูดังปัง จนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต้องเอามืออุดหู
“นังโรคจิต”
คุณหญิงด่าอย่างสุดจะทน แล้วดึงลากเลอสรรกลับไปนมแสรีบตามไป มีจวนที่รีๆรอๆมองตามเย็นและน้อยเป็นห่วง

ด้านใน พอปิดประตู เย็นก็เดินนิ่งๆไปที่อื่น ไม่ได้ทุบตีทำร้ายน้อยอีก ท่าทางของ
เย็นเยือกเย็น ดวงตาเจ็บช้ำ น้อยที่ร้องไห้ค่อยๆเดินไปหา ทรุดตัวลงนั่งที่พื้น กอดขาเย็น
“น้าเย็นขา....น้อยขอโทษ...แต่น้อยสาบานได้ น้อยไม่ได้ทำอะไรที่เสื่อมเสียคุณเลอสรร เขาพาน้อยไปเอาน้ำมนต์ 9 วัดมาให้น้าเย็น”
เย็นเสียงสั่นเครือห่วง
“แล้วทำไมแกไม่บอก แกรู้มั้ย ฉันเป็นห่วงแกแทบตายคิดมากมายสารพัด”
“เมื่อคืน...น้อยบอกแล้วค่ะ...แต่น้าเย็นคงไม่ได้ยิน.เมื่อเช้าน้อยก็จะบอก แต่น้าเย็นไม่ให้พูดแล้วน้อยก็ผิดเอง ที่ลืมเอาโทรศัพท์ไปน้าเย็นเลยติดต่อน้อยไม่ได้”
เย็นมองน้อยรู้สึกผิด น้อยมองเย็น ดวงตาใสซื่อไม่โกรธ เย็นค่อยๆทรุดตัวลงนั่งลูบผมน้อยเบาๆ
“เจ็บมากมั้ย”
น้อยพยักหน้า น้ำตาไหล
“มากค่ะ แต่น้อยเข้าใจ น้าเย็นเป็นห่วงน้อย...น้าเย็นขา...น้าเย็นไม่ต้องกังวลนะคะน้อยจะไม่มีวันทำอะไรที่มันเสื่อมเสียเป็นอันขาด”
“ไม่มีใครเกิดมาแล้วตั้งใจทำในสิ่งที่มันผิดๆหรอกน้อย แต่เมื่อถึงคราวที่หลงผิด อะไรๆมันก็เกิดขึ้นมาได้ โดยเฉพาะ...เวลามีความรัก…”
ด้านนอก... จวนค่อยๆหาทาง หาช่องมาแอบมองเพราะเป็นห่วง แล้วจวนก็ได้เห็น ได้ยินที่เย็นพูดกับน้อย
“น้อยจะไม่มีความรัก”
“ตลก” เย็นหัวเราะหยามหยัน
“น้อยพูดจริงค่ะ”
“ห้ามไฟไม่ให้มีควัน ห้ามใจไม่ให้รัก ทำไม่ได้หรอกแต่ถ้าน้อยจะรักใครสักคน อย่าไปมองคนที่เขาอยู่สูงกว่าเพราะคนที่เขาอยู่สูงกว่า เขาไม่มีวัน ก้มหน้าลงมามองคนต่ำๆอย่างเราหรอก อย่างมากก็หลอก พอสมใจ เขาก็ทิ้ง ตีค่าความรักของเราเป็นแค่เศษขยะ อย่าไปเชื่อคำหวาน คำสัญญา ความรับผิดชอบของผู้ชาย”
น้อยน้ำตาไหลสงสารเย็น
“น้อยจะจำเอาไว้ค่ะน้าเย็น...น้อยจะไม่รักใครง่ายๆ”
“ถ้าน้อยทำได้มันก็ดีน้าห่วงเหลือเกินกลัวว่าน้อยจะเจ็บ เพราะถ้าคนเรามันลองให้เจ็บจากคนดีๆมันก็กลายเป็นคนบ้าได้เหมือนกัน”
ดวงตาของเย็นวาวโรจน์ แสดงถึงความเจ็บปวดเจ็บช้ำ น้อยซบหน้าลงกับเข่า
เย็นลูบผมน้อยอ่อนโยน จวนถอนหายใจโล่งอก

คุณหญิงอนุรักษ์ เดินกระแทกเท้าเข้าบ้านแบบโกรธมาก ด่าเย็นตลอดทาง
“ย่าเกลียดนังเย็น เกลียดนังเย็น”
“แต่ผมเข้าใจน้าเย็นนะครับ”
“เลอสรร”
“น้าเย็นพูดถูกทุกอย่าง ผู้หญิงจะทำอะไร มีแต่เรื่องเสื่อมเสีย ผู้ชายเสียอีกที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ”
“ผู้ชายจะได้เปรียบก็ต่อเมื่อเจอผู้หญิงที่มันใจง่าย อยากได้ เพราะถ้าเป็นผู้หญิงดีๆ เขาต้องระมัดระวังตัวเองอยู่แล้ว”
“แต่ไม่ว่าจะยังไง ผู้ชาย ก็ควรเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผู้หญิงไม่ใช่เหรอครับ...สำหรับผม...ถ้าผมไม่ได้รักไม่ได้ชอบ ผมจะไม่มีวันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนเป็นอันขาด ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเปิดโอกาสแค่ไหนก็ตาม...ผมขอกลับไปดูน้อยนะครับ ผมเป็นห่วงน้อย”
เลอสรรค้อมศีรษะก่อนเดินออกมาคุณหญิงมองตามห่วงกังวล
“อย่าบอกนะว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยตาอุทัย”

เลอสรรเดินลิ่ว ร้อนใจ เป็นห่วงน้อย จวนเดินมาจากบ้านเย็นเห็นเข้าพอดี
“จะไปหาน้อยใช่มั้ยคะ”
“ครับ ผมเป็นห่วง น้อยไม่ผิด ต้นเหตุมาจากผม ผมเป็นคนชวนน้อยออกไป”
“น้าว่าคุณเลออย่าไปเลยค่ะ เดี๋ยวเย็นจะโกรธขึ้นมาอีกตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วที่เย็นทำทั้งหมด เพราะเป็นห่วงน้อย”
“ผมทราบครับ”
จวนมองเกรงใจ
“อย่าหาว่าน้าก้าวก่ายเลยนะคะแต่คุณเลอก็ทราบเรื่องระหว่างคุณอุทัยกับเย็น...”
“น้าจวนเลยกลัว ว่าผมกับน้อย...”
จวนก้มหน้า ไม่กล้าพูด
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมกับคุณน้าอุทัยคนละคนกัน เรื่องราวของผู้ใหญ่ ผมเองไม่กล้าก้าวก่าย แต่สำหรับผม..ผมจะไม่ทำความเสื่อมเสียให้เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไหนเป็นอันขาด”
น้ำเสียงเลอสรรหนักแน่น จวนมองยิ้มโล่งใจ

เลอสรรเดินจะกลับบ้าน เห็นขวดน้ำมนต์ 9 วัด หล่นเกลื่อนอยู่ที่พื้น เลอสรรเดินไปเก็บขึ้นมา สงสารน้อยสุดหัวใจ

ประวิทย์ซึ่งเรียนวิศวะปี 1 นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง ไม่มีสมาธิกับการอ่านหนังสือเลย เพราะคิดถึงแต่เปีย เขาเอามือลูบคางตัวเองตรงที่เปียจับ เคลิ้มกับรักครั้งแรกของตัวเอง

“กลับมาเร็วๆนะครับคุณหนูเปีย”
ประวิทย์อมยิ้ม อ่านหนังสือก็เห็นแต่หน้าเปีย ขณะที่เปียสนุกกับการไปเที่ยวฮ่องกงมาก เธอถ่ายรูปไว้มากมาย

เช้าวันใหม่...เลอสรร หยิบขวดน้ำมนต์ 9 วัด มาเทรวมใส่ในขวด ขวดเดียว จะเดินออก
นอกห้อง สายตาเห็นรูปของน้อยที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วนึกถึงเย็นตีน้อยอย่างหนัก แต่ตัดสินใจลองไป

น้อยเดินลงมาจากบ้าน แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเลอสรรเดินตรงมา
“คุณเลอสรร”
น้อยตกใจ จะหลบ เลอสรรรีบเรียก
“น้อย”
น้อยไม่หยุด รีบเดินเข้าบ้านรวดเร็ว

เย็นนั่งถักผ้าอยู่ในบ้าน น้อยเดินหน้าซีดเข้ามาท่าทางกลัวๆ ตกใจ
“ไหนบอกจะไปเอาดอกมะลิมาไหว้พระ ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ”
เย็นมองมือของน้อย ไม่มีดอกมะลิ
“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้น...หรือพวกคนปากเสีย มันว่าอะไรมา”
“เปล่าค่ะน้าเย็น...” น้อยหลบตา
“โกหก บอกมา ใครว่าอะไร น้าจะไปจัดการให้”
“ไม่มีใครว่าจริงๆค่ะน้าเย็น น้อยเพิ่งนึกได้ ดอกมะลิน้อยเก็บมาหมดแล้วค่ะ”
น้อยเดินเลี่ยงเข้าห้องไป ไม่กล้าสู้หน้า เย็นมองตามขวาง
“อายุไม่เท่าไหร่หลงๆลืมๆไปได้ประสาท”
เย็นถักต่อแล้วนึกได้ลุกเดินออกไป น้อยเห็นเย็นออกไป ก็หน้าซีดรีบตาม

เย็นเดินออกมาหน้าบ้าน พร้อมกวาดสายตามอง น้อยเดินตามออกมาหน้าซีดเผือด กลัวจะเห็นเลอสรร น้อยมองเย็นและกวาดตามองรอบๆแบบหวาดระแวง ทั้งคู่ไม่เห็นใคร น้อยลอบถอนใจ เย็นหันขวับมามองท่าทางน้อยมีพิรุธ
“แกนัดใครไว้ยัยน้อย”
น้อยตกใจ ปากคอสั่น
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“ไม่ได้นัดใคร แล้วแกออกมาทำไม”
“ก็...จู่ๆน้าเย็นก็เดินออกมา น้อยสงสัย เลยเดินตามมา เผื่อน้าเย็นมีอะไร เรียกใช้น่ะค่ะ”
เย็นกวาดสายตามองโดยรอบ ไม่เห็นใครทำหน้าไม่เชื่อ แบบไม่มีอะไรได้ยังไง น้อยยิ้มโล่งใจ คราวนี้กล้าหันมามอง เย็นมองน้อยก่อนเดินกลับเข้าไปด้านในพร้อมความสงสัย น้อยถอนหายใจโล่งอกเดินตาม เลอสรรที่ซ่อนตัวอยู่โผล่หน้าออกมา เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างมองน้อยอย่างเห็นใจ ไม่กล้าแสดงตัวให้เห็น

เย็นเดินกลับมา นั่งถักเหมือนเดิม ขณะที่น้อยมีท่าทีโล่งอก หยิบเอามือถือมาเล่นเป็นภาพของเปียถ่ายเดี่ยวๆ ถ่ายแอ๊บหน้าแบบสาวๆสมัยนี้ แก้มป่อง ตาโต น้อยนั่งมองดูภาพของเปียยิ้ม มีความสุขไปกับความสุขของเปีย เย็นเงยหน้าเห็นมองขวางสงสัย
“นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรยัยน้อย นี่ ตกลง แกนัดผู้ชายเอาไว้ใช่มั้ย”
“เปล่าค่ะน้าเย็น น้อยดูรูปที่เปียไปเที่ยวน่ะค่ะ”
เย็นเดินมาดูแบบหวาดระแวง เห็นเป็นเปียจริงก็ยิ้ม
“เปียนี่เล่นเฟสๆอะไรนี่ด้วยเหรอ” เย็นกลั้วหัวเราะ “บ๊ะ ตั้งชื่อกระแดะซะด้วย เซ็กซี่ซีเปีย เออ ฉันห้ามไม่ให้มันเรียกตัวเองซีเปีย มันก็เอามาตั้งชื่อเฟส...ร้ายจริงๆ”
เลอสรรแอบมองอยู่ ฟัง เก็บข้อมูลทุกอย่าง
“อยากไปเที่ยวกับเขาบ้างเหรอ” เย็นหันมาถาม
“ค่ะ...น่าสนุกจังเลย”
“ก็ถ้าแกเป็น ลูกของคุณวณี คุณอุทัยแกก็คงได้ไปแหละ แต่พอดี แกเป็นหลานฉัน แกเลยต้องมานั่งดูรูปของยัยเปีย แล้วก็วาดวิมานในอากาศไป”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะน้าเย็น...เห็นเปียมีความสุข น้อยก็มีความสุขแล้ว ไว้น้อยเรียนจบ ทำงาน มีเงินเท่าไหร่ น้อยค่อยไปเที่ยวกับน้าเย็นก็ได้”
เลอสรรยิ้มเอ็นดูน้อย เย็นหน้าเจื่อนลงก่อนยิ้มกลบเกลื่อน
“ ถึงตอนนั้นแกก็ไปกับแฟนแกแล้วยัยน้อย”
“น้อยบอกน้าเย็นแล้วไงคะ น้อยจะไม่มีแฟน...” น้อยจริงจัง
เลอสรรเผลอทำหน้าสลด น้อยมองมือถือสะดุ้ง
“อุ๊ย”
เย็นมองสงสัย
“อะไร...หรือมีผู้ชายส่งข้อความมาหา ถึงได้กลับลำไม่ทันเชียว”
“เปล่าค่ะ”
น้อยหน้าแหย พยายามจะเอามือถือหลบ เย็นยิ่งสงสัย
“อะไร เอามาดู”
“ไม่มีอะไรค่ะน้าเย็น” น้อยเจื่อนไป
“เอามาดู” เย็นดุ
เย็นกระชากมือถือของน้อยไปดูทันทีเห็นเป็นรูปเปียในเฟสบุ๊ค แลบลิ้นออกเซ็กซี่ เย็นไม่พอใจอย่างแรง
“นังเปียมันทำท่าอะไรของมันเนี่ย”
“เอ่อ...เปียคงแค่เลียนแบบท่าฮิตของสาวๆสมัยนี้น่ะค่ะ”
“อะไรดีๆไม่ฮิตตาม มาฮิตท่าทุเรศๆแบบนี้นะ ชักจะเอาใหญ่แล้วนังนี่” เย็นหยัน
เลอสรร อยากรู้ เปียถ่ายภาพอะไร...เย็นยิ้ม นึกได้
“แต่ก็ดี...ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน คุณหญิงอนุรักษ์ธานินจะว่ายังไง ที่ลูกหลานผู้ลากมากดีกลายเป็นสก๊อยถ่อยเถื่อน” เย็นหัวเราะพอใจ
เลอสรรฟัง สงสัยมากวางขวดน้ำมนต์ลง ที่หน้าบ้านเย็น ก่อนรีบออกมา

เลอสรรก้าวฉับๆเข้ามาในบ้าน คว้าแท็ปเลตขึ้นมา ค้นหาเฟสของเปีย พอเห็นก็รีบนั่งมองดูภาพของเปียในเฟซบุ๊คเป็นภาพน่ารักธรรมดาๆก่อน แล้วจึงเป็นภาพแลบลิ้น พอเห็นแล้วก็ได้แต่อึ้ง เข้าใจทำไมเย็นถึงว่าเปีย คุณหญิงอนุรักษ์ เดินมาหาเลอสรรหน้าตายิ้มแย้ม ตามมาด้วยหวานที่ยกสำรับของว่างมาให้
“ตาเลอ หิวรึเปล่า ย่าเอาของว่างมาให้”
หวานวางสำรับ
“วันนี้หวานลองทำพิซซ่าหน้าจิ๋วซีฟู้ดมาให้คุณเลอชิมเลยนะคะ”
“แกทำที่ไหนนังหวาน ก็เห็นๆกันอยู่ ว่าจวนเป็นคนทำ”
“หวานก็ช่วยเป็นลูกมือไงคะ” หวานยิ้มแหยๆ
“ช่วยเป็นลูกมือก็ต้องบอกว่าเป็นลูกมือ ไม่ใช่มาแอบอ้าง เหมือนคนสมัยนี้ ชอบนักล่ะ ลอกโน่นลอกนี่ แล้วก็ไม่ให้เครดิตคนที่เขาคิดคนแรก แต่บอกว่าคิดเอง หน้าไม่อาย”
หวานหน้าจ๋อย ค่อยๆกระเถิบออกไป ขณะที่คุณหญิงถามเลอสรร
“แล้วดูอะไรอยู่ลูก หน้าตาเคร่งเครียดเชียว”
“เอ่อ...”
เลอสรรยังไม่ทันปิดหน้าเฟส คุณหญิงชะโงกหน้าเข้ามาดู
“ต๊าย...ผู้หญิงสมัยนี้ทำท่าอะไรน่าเกลียด” คุณหญิงมองชัดๆตกใจ “ต๊าย...แม่เปียนี่ ทำท่าทำทางแบบนี้เข้าไปได้ยังไง ย่าจะเป็นลม”
คุณหญิงทำท่าจะเป็นลม เลอสรรประคอง หวานแอบดู
“ตาอุทัย แม่วณีไม่ห้ามบ้างเลยรึไง” คุณหญิงบ่น
“ไม่มีอะไรหรอกครับคุณย่า น้องเปียคงแค่ถ่ายรูปเล่นๆ” เลอสรรอ้อมแอ้ม
“จะเล่นหรือจริง ภาพแบบนี้ก็ไม่สมควรถ่ายออกมา...นี่...แล้วเลอรู้ได้ยังไง ว่าเป็นเฟสบุ๊คของเปีย ทั้งที่เลอไม่เคยเห็นหน้าน้องมาก่อน”
“เอ่อ...” เลอสรรอึกอัก
“บอกย่ามาเดี๋ยวนี้นะเลอสรร” คุณหญิงดุ
“ผม...ผมเคยเห็นน้องเปีย น้อย แล้วก็น้าเย็นครับ”
“หา”
คุณหญิงทำท่างุนงงมาก หวานทำตาโต

ทุกคนนั่งล้อมวงกินข้าวอยู่ในครัวรวมทั้งประวิทย์ หวานวิ่งหน้าตั้งมา
“พวกเราๆ”
ช้อยหันไปต่อว่า
“นี่ จะโวยวายไปทำไม ไม่มีใครแย่งแกกินหรอกนังหวาน กับข้าวเยอะแยะ”
“จริงด้วย ยังไงผัวจ๋า...ก็ต้องเก็บกับข้าวไว้ให้เมียจ๋าอยู่แล้ว” เอิบแหย่
“ตอนนี้กระเพาะฉันไม่ได้ต้องการกินข้าวย่ะ เพราะฉันมีอะไรที่มันแซ่บเวอร์มากกว่าข้าว”
“อะไรของแกอีกวะ” จวนมองหน้าหวาน
“คุณหนูเปีย แซ่บเวอร์...แซ่บเวอร์” หวานหัวเราะคิกคัก
ประวิทย์มอง ทั้งสงสัยและสนใจอย่างมากๆ ได้แต่ถามตัวเองในใจ
“คุณหนูเปียทำอะไร แซ่บเวอร์”

เลอสรรเปิดภาพในมือถือให้คุณหญิงอนุรักษ์ดู เป็นภาพของเย็นที่กำลังลากเปียบนเวทีพริตตี้...คุณหญิงมอง เอามือทาบอก ท่าทางจะเป็นลม
“นี่มันอะไรกัน แม่เปีย...แม่เปียจริงๆเหรอเนี่ย”
“มันเป็นเรื่องก่อนที่น้องจะกลับมา คุณย่าอย่าคิดมากนะครับ”
“จะไม่ให้ย่าคิดมากได้ยังไง เพราะนังเย็น นังเย็นคนเดียว หลานย่าถึงได้เป็นแบบนี้ โอ๊ย...ย่าทำใจไม่ได้ตาเลอ ทำใจไม่ได้ หมดกัน ลูกหลานของอนุรักษ์ธานิน หมดกัน”
คุณหญิงจะร้องไห้ เลอสรรปลอบ
“คุณย่า...คิดซะว่าเป็นเรื่องดีนะครับดีที่เราได้รู้ เราจะได้ช่วยกันตักเตือนน้อง”
“ถ้าตักเตือนได้ แม่เปียไม่แลบลิ้นทำท่าอะไรทุเรศๆหรอก นี่แสดงว่าการได้กลับมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะแม่เปียติดสันดานนังเย็นมาหมดแล้ว นังเย็นนะนังเย็น”
คุณหญิงลุกพรวดออกไปแบบโกรธมาก
“คุณย่า”
เลอสรรรีบตามไปทันที นมแสเดินออกมาจากด้านในบ้าน เห็นท่าทางของสองคนก็มองอย่างสงสัย
“มีเรื่องอะไรอีก”

นมแสรีบตามคุณหญิงกับเลอสรรออกไปทันที

ประวิทย์เดินลิ่วมาที่บ้านพักของน้อย ด้วยความกังวลอยากรู้

“น้อยต้องรู้แน่ๆ คุณหนูทำอะไร”
ประวิทย์เดินมาตามทาง น้อยเดินออกมาหน้าบ้าน ชะงักไปทันทีที่เห็นขวดน้ำมนต์วางอยู่ น้อยรีบเดินมาอุ้มเอาไว้ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
“คุณเลอสรร”
เย็นเดินออกมาเห็นน้อย โกรธทันที
“ฉันว่าแล้ว ว่าแกต้องนัดผู้ชายเอาไว้”
“เปล่านะคะน้าเย็น น้อยไม่ได้นัด” น้อยสะดุ้ง
เย็นกระชากน้ำมนต์ แต่ไม่หลุดจากอกน้อย
“ไม่ได้นัดแล้วนี่มันอะไร”
“น้ำมนต์...น้ำมนต์ 9 วัดที่น้อยไปเอามาให้น้าเย็นไงคะ”
เย็นลากเสียงเย้ยหยัน
“เหรอ...ไปเอามาให้ฉัน แล้วทำไมฉันเพิ่งเห็น”
“เอ่อ...น้อย เอ่อ...”
น้อยไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เย็นจิ้มหน้าผากน้อยด้วยความหมั่นไส้
“เพราะเพิ่งมีคนเอามาให้แก มิน่า เมื่อเช้าแกถึงได้ทำท่าแปลก ๆ หนอย เดี๋ยวนี้กล้าตบตาฉัน แกเอาไปคืนเดี๋ยวนี้”
น้อยกอดขวดน้ำมนต์เอาไว้
“แต่นี่ มันน้ำมนต์ของน้าเย็นนะคะ”
“ไม่ใช่...แกจะเอาไปคืน หรือไม่ไป”
“น้าเย็นคะ...”
เย็นเสียงเข้ม
“ถ้าแกไม่ไป ฉันไปเอง”
เย็นกระชากน้ำมนต์จากน้อยเดินออกไป น้อยตกใจ
“น้าเย็นคะ...”
น้อยรีบตามไปทันที ประวิทย์เดินมาถึง ตกใจ

คุณหญิงเดินลิ่วแบบโมโหมาก เลอสรรวิ่งตามมาห้าม
“ใจเย็นๆก่อนสิครับคุณย่า”
“จะให้ย่าเย็นได้ยังไง การที่แม่เปียเป็นอย่างนี้ก็เพราะนังเย็น”
“แล้วทำไมน้อยไม่เป็นล่ะครับ คุณย่าก็เห็นในคลิปวีดีโอ น้าเย็นก็ห้ามน้องเปียทุกอย่าง แต่น้องเปียก็ยังทำ”
“เพราะสันดานนังเย็นไงสันดานนังเย็น มันซึมเข้ามาในตัวหลานย่าหมดแล้ว”
เย็นเดินมาได้ยินพอดี หัวเราะก้อง
“แต่ถ้าผู้ดีจริงๆ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ต้องเป็นผู้ดีนะคะคุณหญิง นอกจากผู้ดี จอมปลอม”
“นังเย็น”
เย็นกับคุณหญิงจ้องตากัน ท่ามกลางความตกใจของเลอสรร น้อย นมแสที่ตามมา
“จะต้องให้ดิฉันเรียนคุณหญิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าแค่ไหนคะ...คุณหญิงถึงจะเข้าใจ ว่าผู้ดีอยู่ที่ไหนก็ย่อมเป็นผู้ดี”
“หุบปากของแกเดี๋ยวนี้นังขี้ข้า”
เย็นหัวเราะก้อง เย้ยหยัน
“ถึงคุณหญิงจะไปดึงหน้า ฉีดโบทอกซ์จนมันตึงเปี๊ยะ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยนะคะ คุณหญิงแก่แล้วแก่เลย ถึงได้ลืมไปแล้วว่า อีเย็นคนนี้ไม่ได้เป็นขี้ข้าของคุณหญิงมาเกือบยี่สิบปี”
คุณหญิงมองเหยียดหยาม
“เหมือนที่แกบอกล่ะ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน ขี้ข้ามันก็เป็นขี้ข้าวันยังค่ำ นังตัวเสนียด”
เย็นพูดไป เปิดขวดน้ำมนต์ไป
“ถ้ากลัวเสนียดนัก ก็เอาน้ำมนต์ 9 วัด ไปอาบนะคะคุณหญิง”
เย็นสาดเลย น้ำจากขวดถูกตัวคุณหญิงจังๆ
“ว้ายนังเย็น”
“ต๊าย ปวดแสบปวดร้อน สงสัย ผี จะอยู่ในตัวคุณหญิงเยอะเลยนะคะ ทั้งผีดูถูกคน ผีเหยียดหยามคน ถึงได้ร้องจนปากจะฉีกอย่างนี้”
เย็นหัวเราะก้อง คุณหญิงเนื้อตัวสั่น
“นังเย็น แก แก นังสันดาน”
“แน่ะๆ ผีไพร่ ออกมาอีกตัวแล้ว งั้นอาบน้ำมนต์อีกหน่อยนะคะคุณหญิง”
เย็นทำท่าจะสาดน้ำมนต์อีก คุณหญิงวิ่งหนี ไปซ่อนหลังเลอสรร
“อย่าทำคุณย่านะครับ ถึงยังไงคุณย่าก็มีพระคุณต่อน้าเย็น” เลอสรรขวางพูดเสียงเข้ม
เย็นชะงักไปทันที ก่อนโต้ตอบ
“บุญคุณทุกอย่าง มันหมดไปตั้งแต่คุณหญิงดูถูกเหยียดหยาม ข่มเหงน้ำใจดิฉันแล้วล่ะคะคุณเลอสรร”
“สำหรับคนดีบุญคุณก็คือบุญคุณ ทดแทนยังไงไม่มีวันหมด” เลอสรรส่ายหน้า
“คุณเลอสรรกำลังจะด่าว่าฉันเป็น คนเลว” เย็นหัวเราะหึ...หึ
“นั่นเป็นสิ่งที่น้าเย็นคิดเองได้ครับ ผมไม่จำเป็นต้องบอก ไปครับคุณย่า”
เย็นยืนอึ้ง เลอสรรประคองคุณหญิงไป คุณหญิงหันมาด่าเย็นแบบโกรธจัด
“นังสันดานเย็น”
คุณหญิงไปกับเลอสรร มีนมแสมองเย็นเกลียดชังเดินไป เย็นกำมือแน่น ดวงตาเป็นประกายเจ็บปวด น้อยเดินมาแตะแขน
“น้าเย็น”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน” เย็นตวาด สะบัดมือออก หันมาด่า “เพราะแก เพราะแกคนเดียว นังน้อย”
เย็นตบพลัวระบายอารมณ์ ประวิทย์ที่แอบดูอยู่ตะลึง น้อยหน้าหัน ร้องลั่นเจ็บ ร้องไห้เสียงสั่นเครือ
“น้าเย็น”
“เพราะความบ้าผู้ชายของแก ทำให้คนเค้าด่าฉัน”
“ไม่นะคะน้าเย็น ไม่ใช่...”
“ทำไมจะไม่ใช่ ถ้าแกไม่ไปเอาน้ำมนต์บ้าๆมันจะเป็นยังงี้ แกมานี่เลยนังน้อย มานี่” เย็นกระชากลากน้อยกลับไป
น้อยได้แต่ร้องโอดครวญ ประวิทย์ได้แต่ยืนแอบมอง ไม่กล้าเข้าไปกลัวเย็น

คุณหญิงเดินเข้าบ้านในสภาพเปียกปอนพร้อมด่า
“ย่าจะไล่มันออกจากบ้าน”
“แต่ถ้าน้าเย็นไป น้องเปียจะอยู่กับเราเหรอครับคุณย่า” เลอสรรถาม
“ใช่ค่ะคุณหญิง ท่าทางคุณหนูเปียยิ่งกลัวๆเย็นอยู่ด้วย” นมแสแทรกขึ้น
“ในเมื่อมันเอาหลานมาต่อรองกับฉัน ฉันก็จะเอาหลานไปต่อรองกับมัน ถ้าหนูเปียทั้งรักทั้งหลงฉันเมื่อไหร่ ฉันจะเฉดหัวนังเย็นให้มันกระเด็น”
คุณหญิงโกรธมาก นมแสหน้าแหย
“คุณหญิงจะทำให้คุณหนูเปียรัก คุณหนูหลงคุณยังไงคะ”
“ก็เอาอกเอาใจ ตามใจทุกๆอย่าง”
“ถ้าเอาอกเอาใจ ตามใจทุกอย่าง น้องเปียจะไม่เสียเด็กหรือครับคุณย่า” เลอสรรขัดขึ้น
“ทุกวันนี้ ดิฉันก็ว่าคุณหนูเปียเสียเด็กที่สุดแล้วนะคะ” นมแสเสียงอ่อยๆเผลอ
คุณหญิงกับเลอสรรหันมามอง นมแสรู้สึกตัวก้มหน้า คุณหญิงถอนหายใจ
“มันก็จริง เฮ้อ...เห็นมั้ย ยังไง ย่าก็ต้องวกไปด่านังเย็น เพราะมันคนเดียว ไม่งั้นหลานเปียไม่เป็นแบบนี้หรอก”
“งั้นผมก็ต้องย้ำคำเดิมกับคุณย่า...ทำไมน้อยไม่เป็นอย่างนั้นล่ะครับ”
นมแสเห็นด้วย
“จริงด้วยค่ะ หนูน้อยเรียบร้อยน่ารักจะตาย ดิฉันล่ะง้ง...งง มันเป็นอย่างนั้นได้ยังไง”
ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีคำตอบ แต่สายตาครุ่นคิดกันทุกคน นมแสเดินแยกไป

ประวิทย์เดินมาท่าทางร้อนใจ เจอจวนที่หน้าตาตื่น
“มีเรื่องอะไรประวิทย์ น้าได้ยินเสียงเอะอะโวยวายไปหมดเลย”
“คนที่ชื่อน้าเย็นทะเลาะกับคุณหญิง”
“คุณพระ” จวนตกใจ
นมแสเดินมาถึงพอดี
“ไม่เห็นจะต้องตกใจเลยแม่จวน นังเย็นมันก็สันดานไม่ดีอย่างนี้แหละ หยาบคาย ก้าวร้าว สันดานขี้ข้า”
“อย่าพูดว่าสันดานขี้ข้าเลยนมแส เพราะพวกเรา ก็เป็นขี้ข้าเหมือนกับเย็นนั่นแหละ” จวนพูดโต้นิ่งๆ หันไปถามประวิทย์ “แล้วเป็นยังไงมั่ง”
“คุณหญิงด่าน้าเย็น น้าเย็นก็เลย...ตีน้อย”
จวนหน้าเจื่อน สงสารน้อย นมแสยืนอึ้ง ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

เย็นปิดประตูห้องพักดังปัง กระแทกกระทั้นข้าวของทุกอย่างในบ้านระบายอารมณ์
“คำก็ขี้ข้า สองคำก็ขี้ข้า...” เย็นมองน้อยสาแก่ใจ “แล้วไง ผู้ดีกับขี้ข้ามันก็เหมือนๆกันล่ะว้า”
น้อยไม่รู้เรื่องที่เย็นพูด ร้องไห้
“น้าเย็น...น้อยขอโทษ แต่น้อยไม่ได้นัดใครจริงๆนะคะ น้อยเองก็เสียใจ น้อยไม่อยากให้ใครว่าน้าเย็น”
เย็นเกลียดคุณหญิง ระบายใส่น้อย
“หุบปาก แล้วก็ไสหัวไป”
“น้อยไม่ไป น้อยจะอยู่กับน้าเย็น”
“ฉันบอกให้ไป แกไปให้พ้นๆหน้าฉันเดี๋ยวนี้เลยนะนังน้อย ไม่งั้นแกโดน”
เย็นปราดมากระชากแขนน้อย วูบหนึ่งที่เผลอมองน้อยเกลียดชัง แต่เมื่อเห็นสายตาที่มีแต่ความรักและภักดีของน้อย เย็นก็อ่อนลง ผลักออก
“ไปไหนก็ไป ไป๊”
“ค่ะน้าเย็น”
น้อยกลัวลนลาน เดินออกไป เย็นมองตามเจ็บปวด
“เพราะพ่อแม่ ญาติโกโหติกาของแก บังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้ แกเลยต้องรับกรรมไป นังน้อย”
เย็นร้องไห้เสียใจ

น้อยเดินร้องไห้ออกมา นมแสที่มารอจดๆจ้องๆอยู่แล้วด้วยความสงสัยเดินมาหา
“เจ็บมากมั้ยหนูน้อย”
น้อยสะดุ้งรีบเช็ดน้ำตา
“เปล่าค่ะ เปล่า น้อยไม่ได้เจ็บอะไร”
“ไม่ต้องมาโกหก ยายรู้ ว่าเย็นน่ะตีหนู...อย่าร้องไห้นะ มะ...มานั่งคุยกันก่อน”
นมแสจับมือน้อย
“ไม่ค่ะ...น้อยต้องอยู่ดูน้าเย็น”
“ยายว่าตอนนี้ เย็นคงไม่อยากเห็นหน้าหนูหรอก มาคุยเป็นเพื่อนยายหน่อยนะ นะ...ยายคิดถึงหลานของยาย ไม่ได้เห็นหน้าเห็นตาเขามาหลายปีแล้ว ช่วยมาคุยกับยายให้หายคิดถึงเขาหน่อย นะ...”

น้อยมองสงสาร นมแสฉวยโอกาสจูงมือน้อยไป
 
อ่านต่อหน้า 4

คมพยาบาท ตอนที่ 5 (ต่อ)

นมแสพาน้อยเข้ามานั่งที่ม้านั่งหน้าที่พักของตัวเอง น้อยนั่งลงเรียบร้อย นมแสมองเอ็นดู

“เฮ้อ...ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ยายเห็นหนูร้องไห้บ่อยๆ ถามจริง...หนูเป็นหลานของแม่เย็นจริงเหรอ”
“จริงสิคะ...ทำไมยายถามน้อยอย่างนี้” น้อยยิ้มออกมาได้ ขำๆ
“ก็ยายเห็นแม่เย็นทุบตีหนูอยู่บ่อยๆล่ะสิ...” นมแสหัวเราะแกล้งถาม “เลยนึกว่าถูกเก็บมาเลี้ยง”
“คนที่ถูกเอามาเลี้ยง คือเปียต่างหากล่ะคะยาย...แม่ของน้อยเป็นพี่สาวของน้าเย็นค่ะ”
“แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“พ่อกับแม่ตายตั้งแต่น้อยเพิ่งเกิดน่ะค่ะ...ตั้งแต่นั้นมา น้าเย็นก็เลี้ยงน้อยมาตลอด...น้าเย็นเป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ น้อยรักน้าเย็นค่ะ”
“น้อยรักน้าเย็น แล้วน้าเย็นรักน้อยรึเปล่า ถึงได้ตีเอาๆ”
“น้าเย็นตีทั้งน้อย ทั้งเปียนั่นแหละค่ะ ใครดื้อ ใครซน ถูกตีทั้งนั้น”
นมแสหัวเราะหึๆ
“ยายไม่เห็นว่าน้อยจะดื้อ ถ้าเป็นคุณหนูเปียล่ะไม่แน่”
“เปียเขาเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ กล้าพูด กล้าคิด กล้าแสดงออก ไม่เหมือนน้อย”
“แบบหนูน้อยนี่แหละ น่ารักน่าเอ็นดูแล้ว ไม่ต้องกล้า ไปซะหมด อย่างคุณหนูเปียหรอก” นมแสมองพินิจ “เฮ้อ...ยิ่งมอง ยายก็คุ้น”
“คุ้นอะไรคะ”
“ก็คุ้นหน้าหนูน้อยน่ะสิ...เหมือนเคยเห็นมาก่อน ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก”
นมแสมอง สงสัยเองจริงจัง น้อยยิ้มไม่รู้เรื่อง

ค่ำนั้น เย็นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ถามน้อยที่กำลังจัดสำรับกับข้าวเสียงดัง
“อะไรนะ นมแสบอกว่าคุ้นหน้าแก”
“ค่ะ นมแสบอกเหมือนเคยเห็นน้อยมาก่อน” น้อยยิ้ม
“แล้วมันถามอะไรแกอีก”
“ไม่ได้ถามอะไรค่ะ ก็คุยกันเรื่องทั่วไป เรื่องหลานของแกบ้าง เรื่องของน้อยบ้าง”
“แกมีเรื่องอะไรกับเขาด้วยเหรอ”
“มีสิคะ...ก็เรื่องของน้าเย็น เรื่องของพ่อของแม่” น้อยหัวเราะ
“แกเล่าเรื่องอะไรของพ่อแม่ ให้นมแสมันฟัง”
“ไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ แค่บอกว่า แม่เป็นพี่สาวน้าเย็นเท่านั้นเอง”
เย็นนิ่งไป อย่างไม่พอใจนมแส

วันใหม่...คุณหญิงอนุรักษ์ถามนมแสด้วยอยากรู้
“หนูน้อยบอกแค่นั้นเองเหรอ”
“ค่ะ ดิฉันพยายามตะล่อมแล้ว หนูน้อยก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง”
“คุณย่าอยากรู้เรื่องของน้อยไปทำไมครับ” เลอสรรที่นั่งฟังอยู่ ถามอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่รู้สิ...ย่าแค่รู้สึกสนใจ ย่าว่าแม่น้อย เรียบร้อยน่ารักดี พูดก็พูดเถอะนะตาเลอ ถ้าแม่เปีย ได้นิสัยแม่น้อยมาบ้าง ย่าคงสบายใจ”
“หรือไม่ ถ้าหนูน้อย เป็นหลานของคุณหญิงจริงๆ ก็คงดีนะคะ อุ้ย”
นมแสเอามือตบปากตัวเอง เผลอพูดอีกแล้ว คุณหญิงกับเลอสรรนิ่ง หวานที่
ปัดๆกวาดๆเช็ดถูอยู่แถวนั้น ตาโต

ด้านนอก ทุกคนง่วนอยู่กับการตัดแต่งต้นไม้ รดต้นไม้ ช้อยหัวเราะ
“ยายแสนี่พูดแบบไม่กลัวชะตาขาดเลยนะ”
“ใช่ ถ้าคุณหนูเปียได้ยินนี่ ตายหยังเขียดแน่ๆนมแส” จวนเห็นด้วย
“แต่จะว่าไป คุณหนูเปียไม่อยู่ บ้านสงบเงียบดีจังเลยเนาะ” หวานมองรอบบ้าน
“พูดยังกับตอนคุณหนูเปียอยู่ ที่นี่มีสงครามยังงั้นแหละ” จวนประชด
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง วิ่งวุ่นวายกันทั้งวัน พูดก็พูดเถอะ ฉันไม่อยากให้คุณหนูเปียกลับมาเลยว่ะ”
“ปากเสีย” จวนปราม
“ใช่ ปากเสียไม่สมชื่อเลยนังหวาน ถึงแกจะไม่อยากกลับ แต่ก็มีคนอยากให้คุณหนูเปียกลับมาล่ะน่า จริงมั้ยยประวิ้ด” ช้อยเสริม
ประวิทย์สะดุ้งเขิน มือไม้สั่น สายยางฉีดเข้าหาตัวเอง พยายามทำหน้าไม่รู้เรื่อง หวานหัวเราะขำ
“อู้ย แค่พูดถึงก็มือไม้สั่น แข้งขาอ่อน...คุณหนูเปียกำลังจะกลับมาแล้ว ไปเตรียมข้าวหลามรอเถอะประวิ้ด”
หวานกับช้อยหัวเราะเสียงดังตามประสา ประวิทย์เขิน จวนส่ายหน้าระอา

เอิบขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน อุทัย วณี เปียเดินลงมา ท่าทางของเปียร่าเริงสุดๆ ขณะเดินเข้าไปในบ้าน เอิบหิ้วกระเป๋า ข้าวของตาม
“ฮ่องกง เวรี่ ฟันนี่นะคะคุณแม่ ฟันนี่สุดๆ” เปียเริงร่า
“ไปเมืองนอกแค่สองสามวัน กลับมาลูกพ่อพูดไทยคำอังกฤษคำ” อุทัยยิ้มขื่นๆ
“ก็เปียอิมเพรสนี่ค่ะ” เปียกอดวณีอ้อน “คุณแม่ขาเดี๋ยวเราไปเที่ยวกันอีกนะคะ”
“จ้ะ”
นมแสที่เข้ามาช่วยขนของ มองเปียแบบหมั่นไส้ไม่ถูกชะตา เปียเห็นนมแสก็ทำจมูกย่น
“เหม็นอะไรก็ไม่รู้นะคะคุณพ่อคุณแม่”
“ไม่เห็นได้กลิ่นอะไรนี่ลูก” อุทัยทำท่าสูดจมูก
“นั่นน่ะสิลูก ไม่เห็นเหม็นอะไรเลย” วณีดมๆ
เปียลากเสียงยาวแบบเอ็นดู
“เหม็นสิค้า...เหม็นสาบคนแก่” เปียยิ้มแกล้งเข้ามากอดนมแสเอ็นดู “ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งเหม้นเหม็น เหม็นเหมือนส้วมแตกเลยค่ะ”
นมแสหน้าเจื่อน ก้มลงดมเสื้อผ้า เนื้อตัวตัวเอง อุทัยมองตำหนิ
“เปีย พูดจาอะไรลูก ไม่น่ารักเลย”
“เปียก็แค่หยอกนมแสเล่นๆ ถ้าพูดเล่นไม่ได้ เปียไปหาน้าเย็นกับน้อยดีกว่า”
พูดจบเปียก็คว้าถุงข้าวของที่ซื้อมาออกไป นมแสมองเปียสงสัย หาเรื่องเลี่ยง
“เอ่อ...สงสัยดิฉันจะเหม็นจริงๆ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” นมแสรีบไปอย่างเร็ว
“อ้าวไปกันหมดเลย ตาเลอก็ไม่เห็นออกมา อยู่รึเปล่าเนี่ย”วณีหน้าเหวอ
เอิบที่กลับมาเอาของใหม่อีกรอบหันมาบอก
“คุณเลอออกไปอาร์ตแกลเลอรี่ครับ”
“ตาเลอก็ไม่อยู่ ตะกี้ก็ลืมบอกลูกเปียเอาของฝากไปให้หนูน้อย” อุทัยเซ็ง
“เย็นพาหนูน้อยออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วครับ”
“ไปไหนกัน” อุทัยกังวล
วณีแอบมองไม่พอใจ แต่นิ่ง
“เย็นก็คงมีธุระของเย็นน่ะค่ะ”
“ที่พี่ถาม...เพราะพี่กลัว...เย็นจะพาหนูน้อยหนีไปน่ะสิ”
อุทัยมองเข้าใจ วณียิ้ม
“ถึงเราจะรักจะเอ็นดูหนูน้อยยังไง หนูน้อยก็ไม่ใช่ลูกของเรานะคะพี่ เย็นจะพาหนูน้อยไปไหนก็ได้...แต่ห้ามพาเปียไปเด็ดขาดค่ะ...”
“จ้ะ...” อุทัยหน้าจ๋อยๆ
“ว่าแต่...เย็นกับหนูน้อยไม่อยู่ ลูกเปียก็ไปเก้อสิคะ” วณีนึกได้ เป็นห่วง
“เก้อก็ไปใหม่ บ้านก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เองวณี...รีบไปเก็บของเถอะ จะได้ไปหาคุณแม่กัน”
วณีระแวงพูดเบาๆ
“เหมือนพี่อุทัยจะไม่สนใจลูกเลย มาถึงก็ถามหาแต่...เย็น”

เย็นกับน้อยเดินมาด้วยกัน ในมือน้อยถือถุงใบใหญ่ ผ่านอาร์ตแกลเลอรี่ ด้านหน้าเขียนว่า “รับสมัครแบบ” น้อยกระตุกมือเย็นอย่างกระตือรือร้น
“น้าเย็น”
“หือ”
“เขาสมัครแบบด้วยนะค่ะ...น้าเย็นให้น้อยทำนะคะ น้อยอยากมีเงินพิเศษเอามาช่วยน้าเย็น...ไม่งั้น น้าเย็นต้องทำงานหนักอยู่คนเดียว”
“ไม่เป็นไร น้าเลี้ยงแกได้” เย็นมองเข้าไปแบบเกรงๆ “ข้างใน มีอะไรน่ากลัวรึเปล่าก็ไม่รู้ น้ากลัวอันตราย”
“ไม่มีหรอกค่ะ น้อยเคยอ่านเจอ ที่นี่เป็นอาร์ตแกลเลอรี่ชื่อดัง แล้วก็ยังสอนศิลปะด้วย น้าเย็นให้น้อยทำนะคะ”
เย็นมองเห็นไม่มีอะไร
“ตามใจ...งั้นเดี๋ยวน้าเอาของไปส่ง แล้วจะกลับมารับนะ”
“ค่ะน้าเย็น”
น้อยยื่นถุงให้ เย็นเดินจากไป น้อยเข้าไปด้านใน

น้อยเดินเข้าไปข้างใน เห็นอาจารย์ยืนอยู่ ยกมือไหว้ยิ้มใส กระตือรือร้น
“สวัสดีค่ะ หนูมาสมัครเป็นแบบค่ะ”
อาจารย์มองงง แปลกใจ
“หนูจะมาสมัครเป็นแบบ”
“ค่ะ...”
น้อยยิ้มมองมุ่งมั่น อาจารย์แปลกใจ
“ทำไมเหรอคะ หนูเป็นแบบไม่ได้เหรอคะ”
“ได้...แต่หนูจะเป็นจริงๆเหรอ”
“มีอะไรเหรอคะ” น้อยงง

นมแสแอบตามเปียมา เห็นเปียผ่านบ้านของเย็นกับน้อยไปไม่แวะ นมแสยิ้ม
“อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด...คุณหนูเปีย ต้องไปหาประวิทย์แน่ๆ”
นมแสตามไปทันที

เย็นเอาถุงด้ายถักเครื่องประดับที่ถือมายื่นให้เจ้าของร้าน
“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”
เจ๊เจ้าของร้านหยิบออกมาดูยิ้มชอบใจ
“หลายแบบเลย สวยๆทั้งนั้น เย็นนี่ มีฝีมือจริงๆ”
“อยู่ว่างๆนะค่ะ เลยคิดลายคิดแบบไปเรื่อยๆ ถ้าเจ๊ชอบฉันก็ดีใจ” เย็นยิ้ม
เลอสรรเดินถือแก้วกาแฟสองมือผ่านทางหน้าร้าน จากหางตาเย็นเหมือนจะ
เห็นเลอสรร แต่ไม่แน่ใจ จะเดินออกไปดู เจ๊เรียกไว้
“เย็น”
เย็นจำต้องหันมา
“คะ...”
เจ๊หยิบหนังสือมาให้ดู
“นี่มีลูกค้ามาสั่งไว้ ลายนี้ เย็นทำให้เขาหน่อยสิ...ค่ำๆเขาจะมาเอา”
เย็นมองดูแบบ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวนะคะเจ๊” เย็นเดินออกไปดูหน้าร้าน ไม่เห็นใคร “เราคงแค่ตาฝาด คุณเลอสรรจะมาแถวนี้ทำไม เออ...ถ้าเป็นคนเจ้าเล่ห์เหมือนยัยเปียก็ว่าไปอย่าง”

เย็นเดินเข้าไปในร้าน ทำงานไม่สนใจ

ประวิทย์อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เปียเดินมาหน้าบ้านร้องเรียกเบาๆกลัวคนได้ยินเหมือนกัน

“ประวิทย์...ประวิทย์”
เงียบไม่มีเสียงตอบ เปียย่นหน้า
“ทำอะไรอยู่นะประวิทย์เนี่ย เรียกก็ไม่ออกมา ประเดี๋ยวเถอะ...ตีตายเลย”
นมแสแอบมองแบบลุ้นๆ เปียยืนลังเลอยู่ครู่ก็ยิ้ม เดินเข้าไปในบ้าน นมแสตาโต

เปียเดินเข้าไปในบ้านพักของประวิทย์ ได้ยินเสียงน้ำไหล ฟังดูก็รู้ประวิทย์อาบน้ำ เปียหัวเราะคิกคักทะเล้นร้องเรียก
“ประวิ้ด”
ประวิทย์ที่กำลังอาบน้ำอยู่สะดุ้งตกใจ
“คุณหนูเปีย”
เปียเดินไปหน้าห้องน้ำเคาะเบาๆ
“ออกมาเอาสบู่เร็วๆ เปียซื้อมาฝาก”
ประวิทย์หน้าซีดตกใจ นมแสที่แอบฟังก็ตาเหลือกเอาหูแนบ เปียอ้อนๆ
“เร็วสิ...ประวิทย์ ออกมาเอาสบู่เร็ว”
ประวิทย์ปากคอสั่น
“ผม...ผม ผมยังอาบน้ำไม่เสร็จ คุณหนูเปียวางไว้เลยก็ได้ครับ”
“ไม่ได้...ประวิทย์ต้องออกมาเอาเอง” เปียหยอดเสียงแกล้งยั่ว “แต่ถ้าไม่ออก...เปีย จะเข้าไปฟอกสบู่ให้ประวิทย์เอง”
“อย่านะครับคุณหนูเปีย” ประวิทย์ตกใจ
“งั้นก็ออกมาสิ ออกมาเร็วๆ ออกมาเดี๋ยวนี้เอง 1 2 3”
เปียจะกระชากประตูเปิดเข้าไป ประวิทย์อยู่ในสภาพพันผ้าขนหนูท่อนล่างแบบรีบๆ ท่อนบนมีฟองสบู่พรายเดินออกมา สองคนต่างจ้องตะลึง นมแสพึมพำเบาๆ
“น่าเกลียดที่สุด เห็นกับตาขนาดนี้ แก้ตัวไม่ได้แน่ๆคุณหนูเปีย”
นมแสรีบเดินออกไปอย่างเร็ว

ประวิทย์กับเปียยืนจ้องหน้ากัน ด้วยความตกตะลึงและความเขิน
“ประวิทย์น่ะ มาจ้องเปียทำไม” เปียพูดสะบัดสะบัดแต่มองจ้อง ไม่หลบตา
“คุณหนูเปียน่ะแหละ มาจ้องอะไร ผมทำตัวไม่ถูกแล้ว” ประวิทย์เขิน
“ทำตัวไม่ถูก...งั้นอาบน้ำเอง ไหวป่ะ” เปียแกล้งเย้า “ถ้าไม่ไหว เดี๋ยวเปียอาบให้”
“ไม่นะคุณหนูเปีย ผมอาบเองได้” ประวิทย์ตกใจมาก
“ให้เปียอาบให้เถอะ” เปียแกล้งอีก
เปียทำท่าจะเข้าไปหา ประวิทย์ตาเหลือก
“ไม่ครับ ไม่...ผมอาบเอง”
ประวิทย์รีบเข้าไปในห้องน้ำปิดประตู เปียยืนหัวเราะแบบเป็นต่อชอบเอาชนะ พูดกับตัวเองเบาๆ
“บ้า...!ใครจะอาบให้...ประวิทย์ต้องอาบให้เปียสิ” เปียทำตาโตหัวเราะคิกคัก “แหม...แค่คิดก็ตื่นเต้นจุงเบย”

อาจารย์เดินนำน้อยไปยังห้องสอนศิลปะ สีหน้าลำบาก น้อยถามเกรงๆ
“อาจารย์ยังไม่ได้บอกน้อยเลย ทำไมเหรอคะ”
อาจารย์หยุดยืนที่หน้าห้อง
“ก็...”
น้อยมองเข้าไปเห็นผู้หญิงใส่ชุดคลุม ในห้องมีนักศึกษาชายหลายคนนั่งอยู่ น้อยมองงงไม่เข้าใจ เลอสรรเดินมาพร้อมกาแฟ
“อาจารย์ครับ กาแฟครับ”
น้อยหันมามองตกใจ
“คุณเลอสรร”
“น้อยมาทำอะไรที่นี่” เลอสรรงง
“น้องเขามาสมัครเป็นแบบ” อาจารย์บอก
เลอสรรตกใจ
“เป็นแบบ...ขอโทษนะครับอาจารย์” เลอสรรฉวยมือน้อย “มานี่เลยน้อย”
เลอสรรจูงมือน้อยที่งงๆออกไป
“อะไรคุณเลอสรร อะไร”

นมแสเดินลิ่วขาแทบพันกัน ตรงไปยังบ้านคุณหญิงอนุรักษ์
“โอ๊ย...หัวใจจะวาย เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นผู้หญิงอะไรก๋ากั๋นขนาดนี้ คุณหญิงต้องได้เห็น...คุณหญิงต้องได้เห็น...ว้าย”
นมแสขาพันกันล้มลง คนแก่เวลาล้มแล้วลุกลำบาก นมแสพยายามจะลุกขึ้น กว่าจะลุกได้ยากเย็น

อุทัยกับวณีเดินเข้ามาหาคุณหญิงอนุรักษ์
“สวัสดีครับ / ค่ะคุณแม่”
“อ้าว...กลับมากันแล้วเหรอลูก” คุณหญิงมองหาไม่เห็นเปีย “อ้าว แล้วแม่เปียล่ะ”
“เห็นบอกว่าจะไปหาเย็นกับน้อย แต่เย็นกับน้อยไม่อยู่ วณีว่า ประเดี๋ยวก็คงมาที่นี่แหละค่ะ” วณีบอก
“อ้อ เห็นย่าเป็นตัวสำรอง” คุณหญิงทำหน้าเซ็ง
“เขาเลี้ยงกันมาน่ะครับคุณแม่” อุทัยเสียงอ่อย
“แม่ก็พยายามบอกตัวเองนะ ว่านังเย็นมันเลี้ยงหลานแม่มา และหลานแม่ก็เป็นเด็กกตัญญูรู้คุณคน เพราะถ้าแม่เป็นหนูเปีย แม่คง เกลียด นังเย็นมาก ที่ขโมยแม่พาไปตกระกำลำบากขนาด”
“งั้นต้องถือว่าเราโชคดีมากๆแล้วนะคะคุณแม่ ที่ลูกเปียเป็นเด็กน่ารักกตัญญูรู้คุณคน ...วณีรักลูกจริงๆเลยค่ะพี่อุทัย...ดีใจมากที่สุดในชีวิตที่ได้ลูกกลับคืนมา” วณียิ้ม
จวนที่รอรับใช้อยู่แถวนั้น ยิ้มปลื้มไปกับความรักความอบอุ่น อุทัยหน้าเจื่อน นมแสวิ่งเข้ามากระหืดกระหอบ พอเห็นวณีกับอุทัยนั่งอยู่ก็ชะงัก
“อุ้ย”
วณีหันไปถาม
“มีอะไรนมแส”
นมแสมองวณีกับอุทัยไม่กล้าบอก
“ปะ...เปล่าค่ะ...”
“ทำท่าซะยังกับมีเรื่องอะไร...หรือว่ามี...” คุณหญิงคาดคั้น
นมแสมองคุณหญิงอยากบอกเหลือเกิน แต่มองไปที่วณีอุทัยก็ไม่กล้า
“เอ่อ...”
วณีถามอ่อนโยน
“มีอะไรจ้ะนม”
“ไม่มีค่ะ แค่เห็น” นมแสพยายามส่งซิกกับคุณหญิง “กล้วยไม้ที่คุณหญิงรอให้มันออกดอก มันออกแล้วนะคะ สวยมากๆเลยค่ะ”
คุณหญิงดีใจปนงงๆ
“เหรอ แปลก...เมื่อเช้าฉันก็เพิ่งเดินไปดู ทำไมไม่เห็น”
“เพิ่งออกค่ะเพิ่งออก คุณหญิงไปดูกับดิฉันนะคะ”
“เมื่อย ไว้วันหลังแล้วกัน”
คุณหญิงทำท่าจะเอนหลัง วณีเอาใจ
“เดี๋ยววณีนวดให้ค่ะ”
วณีกุลีกุจอเข้ามานวดให้ แล้วบอกนมแส
“นมไปพักผ่อนเถอะจ้ะ”
“ค่ะ” นมแสหน้าจ๋อย
นมแสเดินออกไปแบบเซ็งสุดๆ จวนมองสงสัย ก่อนจะหันมาบอก
“จวนต้มแกงเอาไว้ ขอไปดูก่อนนะคะ”
จวนรีบออกไป อุทัยยิ้มแย้มให้แม่
“นานแล้ว ไม่ได้อยู่ดูแลคุณแม่...ผมขอนวดด้วยดีกว่า”
“ประจบแม่เชียวนะตาอุทัย” คุณหญิงยิ้มมีความสุข “กลัวแม่จะรักหลานมากกว่าล่ะสิ เออ...ว่าแต่ นังเย็นกับหนูน้อยไม่อยู่ ทำไมหนูเปีย ไม่มาหาแม่สักที”
อุทัยกับวณีมองหน้ากัน และที่สุด สามคนก็มองหน้ากัน คุณหญิงพึมพำ
“นมแส...”
คุณหญิงคิ้วขมวดเข้าหากัน นึกออกทันทีว่านมแสมาทำไม

นมแสเดินออกมาเร่งรีบไปบ้านประวิทย์ ใจหายใจคว่ำ หงุดหงิดอยู่ในที พึมพำ
“ไม่น่าเลย คุณหญิงนะคุณหญิงน่าจะออกมาด้วย จริงสิ...เอามือถือถ่ายรูปไปให้คุณหญิงดูก็ได้” นมแสงควานจะเอามือถือ “โอย...ตาย...ลืมเอามาอีก แกนี่จริงๆเลย ยายแส”
นมแสงรีบเดินกลับไปเอา จวนมองนมแส สลับกับมองบ้านประวิทย์
“ต้องมีอะไรแน่ๆ”
จวนเดินไปบ้านประวิทย์

เปียยืนพิงประตูห้องน้ำอยู่
“ชักช้าจริงประวิทย์ เดี๋ยวเปียก็เข้าไปอาบให้หรอก” เปียดึงขวดสบู่หอมออกมาจากถุง พูดเย้าๆ “เปียเอาสบู่หอมออกมาแล้วน้า”
“จะเสร็จแล้วครับคุณหนูเปีย” ประวิทย์ร้องลั่น
“อย่าเพิ่งเสร็จเลยน่า...เดี๋ยวเปียเข้าไปถูสบู่ให้ดีกว่านะ สบู่ห้อม หอม” เปียแกล้ง
“เสร็จแล้วครับ”
ประวิทย์เปิดประตูออกมาในสภาพมีผ้าเช็ดตัวพันแค่ด้านล่าง เปียที่ยืนถือขวดสบู่มองสบตากัน ทั้งเขินทั้งอาย...จวนที่เดินมาแอบดูเห็นก็ตกใจพึมพำเบาๆ
“คุณหนูเปีย...” จวนทำเป็นไม่รู้เรื่องรีบเรียก “ประวิทย์...ประวิทย์”
เปียและประวิทย์สะดุ้งเฮือก จวนเรียกอีก
“ประวิทย์...ประวิทย์”
ประวิทย์กลัว หน้าซีด
“น้าจวนมา...”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็แค่คนใช้” เปียไม่สน
“ไม่ได้ครับ ถ้าเขาเข้ามาเห็น คุณหนูจะเสียหาย แล้วเราสองคนก็จะต้องถูกคุณๆดุอีกแน่ๆ”
เปียจำได้ หน้าซีดตกใจ เริ่มกลัว
“จะทำยังไงดีประวิทย์”
“หาที่ซ่อนก่อนครับ”
ประวิทย์หาที่ซ่อนให้กับเปียด้านใน มุมนั้นมุมนี้ ด้านนอก จวนหน้าซีด
“อย่าบอกนะ ที่เงียบๆกันอยู่ เพราะทำเรื่องไม่ดี” จวนตะโกน “ประวิทย์ทำอะไรอยู่ น้าจะเข้าไปแล้วนะ”
ประวิทย์กับเปียยังหาที่ซ่อนไม่ได้ สองคนหน้าซีด
“แย่แน่เลยคุณหนู”
เปียมองเห็นหน้าต่างอีกด้านก็ยิ้ม เพราะมีทางออกแล้ว กระซิบบอกประวิทย์
“ถ้าจะแย่ก็เป็นเพราะประวิทย์อาบน้ำนานนั่นแหละเลยอดทำอะไรแซ่บๆเลย ไว้เจอกันใหม่นะประวิทย์”
เปียหอมแก้มประวิทย์อย่างเร็ว แล้วสวมวิญญาณสก๊อยกระโดดลงหน้าต่างทั้งๆที่มือถือ

ขวดสบู่ เปียถึงพื้น แต่ลงแรงไปหน่อยจึงเจ็บหน้าเหยเก จวนเดินขึ้นมาบนบ้าน เปียวิ่งขากระเผลกหนีไปได้หวุดหวิด

ประวิทย์ยืนเซ่อจับแก้มตัวเอง แล้วประตูก็เปิดผางเข้ามา

“ทำอะไรอยู่ประวิทย์”
จวนกวาดสายตามองห่วงเปีย ประวิทย์ยืนตัวแข็งทื่อมีพิรุธ
“อาบน้ำครับน้าจวน”
จวนกวาดสายตามองไม่เห็นเปีย ทำหน้างง ประวิทย์หลบตามองพื้น เห็นถุงที่เปียใส่สบู่มา ตกอยู่ จวนมองตาม ประวิทย์มีพิรุธหลบตามองไปทางหน้าต่าง จวนมองตามอย่างเข้าใจ เธอรำพึงในใจ
“ร้ายจริงๆคุณหนูเปีย”

บริเวณทางเชื่อมบ้านสองหลัง...คุณหญิงเดินเร็วๆมาตามทาง ใจเต้นรัว วณีกับอุทัยเดินตามงงๆ
“มีอะไรคะคุณแม่”
“แม่อยากคุยกับนมแส”
“ให้ใครไปตามมาก็ได้นี่ครับ” อุทัยงง
“ไม่เป็นไร แม่ร้อนใจ” คุณหญิงตะโกน “นมแสๆ”
นมแสวิ่งถือมือถือมาพอดี
“ขา...คุณหญิง”
คุณหญิงมองตานมแส
“ฉันอยากไปดูกล้วยไม้”
นมแสมองตาแล้วยิ้ม
“ไปเลยค่ะคุณหญิง ไปเลย”
นมแสจะพาคุณหญิงไป เปียมาจากอีกทางร้องเสียงหวาน
“เปียไปด้วยสิคะคุณย่า”
“คุณหนูเปีย”
นมแสหน้าเสีย เพราะพลาดไปแล้ว เปียยกมือไหว้คุณหญิงกอดประจบ
“เปียดื้อคิดถึงคุณย่าจังเลยค่ะคิดถึงสุดๆเลย” เปียทั้งกอดทั้งหอม
คุณหญิงเจอเด็กประจบยิ้มลืมนมแส
“คิดถึงแล้วทำไมไปหาคนอื่นก่อนย่าล่ะจ้ะ”
“ก็เปียดื้ออยากเซอร์ไพร์สคุณย่านี่คะ...” เปียยิ้ม “เห็นมั้ยล่ะ คุณย่าขาแปลกใจจริงๆที่เห็นเปีย นี่ค่ะ...เปียเอาสบู่หอมมาฝากคุณย่า”
เปียยื่นสบู่หอมให้คุณหญิง จวนเพิ่งมาจากบ้านประวิทย์ได้ยินเปียประจบ
“สบู่หอมมากๆเลยนะคะ เปียดื้อตั้งใจเอาฝากคุณย่าโดยเฉพาะเลย คุณย่าอาบน้ำเสร็จแล้วจะได้ตัวหอมๆ”
เปียพูดจบก็หอม ซุกหน้าประจบคุณหญิง วณีกับอุทัยยืนอึ้ง รู้ดีเปียประจบ นมแสหัวเสีย เปียมองเย้ย
“ไหน ตะกี้ ว่าจะไปดูกล้วยไม้กันใช่มั้ยคะ...เปียไปด้วย”
“เอ่อ...คุณหนูเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆไปพักผ่อนก่อนก็ได้ค่ะ” นมแสบอกกับคุณหญิง “คุณหญิงขา...ไว้วันหลังนะคะ...พอดีดิฉัน ทำงานค้างมือไว้อยู่”
นมแสรีบเดินออกไป เปียมองหมั่นไส้ ก่อนหันมายิ้มประกบกอด วณี อุทัย คุณหญิง ยืนอึ้งๆ ดูก็รู้ว่าเด็กเสแสร้ง

เลอสรรกับน้อยนั่งในร้านกาแฟ น้อยมองพูดเสียงดุจริงจัง
“คุณเลอสรรพาน้อยมานั่งที่นี่ จนกาแฟจะหมดแก้วแล้ว ยังไม่บอกเลย ทำไมไม่ให้น้อยเป็นแบบ”
“น้อยเข้าใจคำว่าแบบของการวาดภาพแค่ไหน”
“ก็...ไปนั่งเป็นแบบ ให้นักศึกษาเขาวาดภาพ”
“แล้วน้อยเห็นผู้หญิงที่เขาใส่ชุดคลุมมั้ย”
น้อยพยักหน้า
“ค่ะ ทำไมคะ”
“นั่นละแบบ แล้วตอนนั้นก็เป็นเวลาที่เขาพักเบรก เพราะถ้าตอนที่เขาเป็นแบบ เขาต้องเปลือยหมด”
น้อยตกใจหน้าตื่น
“หา”
“ไม่ต้องหา ไม่ได้ลามก เพราะการวาดภาพเปลือยของแบบ คือการฝึกสมาธิ ฝึกสายตา ฝึกรายละเอียด อาจารย์ของพี่บอก การวาดภาพคนยากที่สุด ถ้าวาดได้ ต่อไปจะวาดอะไรก็ได้ นี่แหละที่นักศึกษาถึงต้องวาดภาพเปลือยของคน”
“แปลว่า...ถ้าเป็นแบบ น้อยต้องเปลือย”
“จะเป็นมั้ยล่ะ ถ้าเป็น พี่จะวาดภาพน้อยเอง...” เลอสรรยิ้มๆ
น้อยส่ายหน้าบอกอย่างเร็ว
“ไม่ค่ะ...”
“ถึงน้อยจะเป็นพี่ก็ไม่ให้เป็นแล้วเรื่องอะไรถึงได้มาเรียกพี่ว่า คุณเลอสรร”
“คุณเลอสรรก็รู้ว่าทำไม นี่ถ้าน้าเย็นเห็นว่าน้อยมานั่งกับคุณเลอสรร น้อยตายแน่ๆเลย”
เสียงมือถือดังขึ้น น้อยสะดุ้งมอง
“น้าเย็น”
เย็นนั่งทำงานอยู่ในร้าน น้อยไม่รับสายก็เป็นห่วง
“ทำไมไม่รับสายซะทีเนี่ย ยัยน้อย”
เลอสรรบอกน้อย
“รับสายเร็วเข้าน้อย...เดี๋ยวน้าเย็นก็โกรธหรอก”
“ค่ะ”
น้อยรับสายแบบกลัวๆ
“คะน้าเย็น”
“ทำอะไรอยู่ชักช้าจริงนี่...น้ายังไม่เสร็จงานนะ น้อยรอก่อน เสร็จแล้วน้าจะรีบไปหา”
“ค่ะน้าเย็น” น้อยโล่งใจ
“แล้วหาอะไรกินเลยนะ...ไม่ต้องรอ ท่าทางน้าจะเสร็จงานค่ำหน่อย”
“ค่ะ น้าเย็นก็อย่าลืมหาอะไรกินด้วยนะคะ หมู่นี้ น้าเย็นไม่ค่อยกินอะไรเลย น้อยเป็นห่วง”
“จ้ะ...แล้วเจอกัน”
เย็นหมดห่วง นั่งทำงานต่อ...เลอสรรมองการพูดคุยของน้อยตลอด เห็นความรักความอาทรของน้อยกับเย็น...ด้านนอกตะวันคล้อยต่ำลง เลอสรรนั่งมองหน้าน้อยอยู่อย่างนั้น จนน้อยอาย

ค่ำนั้น อุทัยกับวณีจัดของ อุทัยเดินเข้ามามอง ท่าทางเหมือนมีอะไร สองคนนิ่งไปครู่ก่อนที่อุทัยจะพูดขึ้นแบบกลุ้มใจ
“วณีรู้ใช่มั้ยว่าลูกโกหก”
วณีรู้ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ถามปกป้อง
“ลูกโกหกอะไรคะ”
“ก็เรื่อง ของฝากคุณแม่ วณีก็รู้ ความจริงแล้วเปียไม่ได้ตั้งใจเอาสบู่หอมไปฝากคุณแม่สักหน่อย นี่อะไร...”
อุทัยยังพูดไม่จบ วณีขัดขึ้นหน้าตึง
“แล้วจะเป็นไรคะ ให้ใครก่อน ใครหลังก็เหมือนๆกัน อีกอย่าง พี่อุทัยก็บอกเองนี่ เย็นเป็นคนเลี้ยงลูกเปียมา ลูกก็ต้องรักต้องคิดถึงเปียก่อนเป็นคนแรก เป็นเรื่องธรรมดา”
“มันก็จริง...แต่ พี่ดูท่าทางของลูกแล้ว เหมือน คนไม่จริงใจ”
“พี่อุทัยคอยจับผิดลูกเปียตลอดเวลาเลย ไม่ต้องเป็นลูกหรอกค่ะ วณีฟัง วณียังน้อยใจเลยค่ะ”
วณีไม่พอใจ จะเดินออกไป อุทัยพูดขึ้น
“วณีกำลังใช้อารมณ์...ทั้งๆที่จริงแล้ว วณีก็คิดอย่างพี่”
วณีปากปฏิเสธแต่ตาหวาดหวั่น
“วณีไม่ได้คิด”
อุทัยมองจ้องสังเกต ดุ รู้
“วณีกำลังโกหก เหมือนลูกเปีย”
วณีเสียงสั่นเครือตกใจ แกมโกรธไม่พอใจ
“พี่อุทัย...พี่อุทัยว่าลูกเปียไม่พอ พี่อุทัยกำลังว่าวณีด้วยนะคะ”
“ก็หรือไม่จริง วณีโกหกเพราะต้องการปกป้องลูก ทั้งๆที่วณีก็รู้ ความจริงลูกโกหก”
“พี่อุทัย” วณีเสียงสั่นเครือ เถียงไม่ขึ้น
“ที่พี่พูด เพราะพี่อยากให้เราช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ได้พูดเพราะจะโยนความผิดให้กับใคร”
อุทัยโมโหจะเดินออกไป วณีพูดทันที
“ค่ะ เพราะถ้าจะมีคนผิด คนคนนั้นก็คือเย็น”
อุทัยถอนหายใจ แล้วเดินออกไป วณีน้ำตาไหล อดน้อยใจไม่ได้ ระแวง ตามไป

อุทัยเดินเร็วๆลงด้านล่าง วณีแอบตามออกมา มองอยากรู้ว่าเขาจะไปไหน อุทัยเดินลิ่วออกจากบ้าน วณีตามรวดเร็ว เปียเดินออกมาจากห้องเห็นพอดี
“คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่”
เปียยิ้มตาเจ้าเล่ห์ ไม่ได้อยากรู้ว่าไปไหน แค่ดีใจที่ไม่อยู่ เปียมองพอร่างของอุทัยกับวณีพ้นประตูบ้าน เธอก็วิ่งออกไปลิงโลด นมแสที่อยู่ด้านหลัง มองตามอย่างจับผิด แล้วตามไป

อุทัยเดินลิ่วมายังบ้านพักของเย็น เห็นไฟดับสนิท วณีแอบตามมา พอเห็นเขามาที่บ้านเย็นก็ยืนอึ้งไปนิด มองระแวงเสียใจก่อนจะเดินกลับไป อุทัยหงุดหงิด ห่วงทั้งน้อยและร้อนใจอยากคุยกับเย็น

“ไปไหนกันมืดค่ำ ขนาดนี้ยังไม่กลับมาอีก”

ท่ามกลางความมืดบริเวณทางเชื่อมสวนในบ้าน นมแสตามเปียมา แต่แล้วก็ไม่เห็น

“คุณหนูหายไปไหนเร็วซะจริง...”
“อยู่นี่...”
เปียโผล่พรวดทางด้านหลังนมแส ล็อกคอเอาไว้ นมแสตกใจมาก
“คุณหนู”
เปียล็อกคอนมแสมาประชิดตัว กดน้ำหนักมือ ถามยั่วๆ
“ยายแสก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าฉันจะไปไหน ถึงได้ตามมาน่ะ”
“เปล่านะคะ...เปล่า ดิฉันไม่รู้” นมแสรีบบอก
เปียผลักออกอย่างแรง แล้วเดินเข้ามาหา หน้าดุ
“ไม่รู้ก็ดีแล้ว แล้วก็อย่าแส่ทำเป็นอยากรู้อยากเห็น”
นมแสถอยหลังกรูดกลัว
“ไม่นะคะ ดิฉันไม่เคยอยากรู้อยากเห็น”
เปียยั่ว แล้วกระชากเข้ามาหาใหม่
“หรา...แล้วใคร ที่ออกอุบายชวนคุณย่าไปดูกล้วยไม้ ใคร้”
เปียลามปามเอามือลูบหัวนมแสแบบขู่ๆ
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่ายายแสจะทำอะไร”
เปียกระตุกผมนมแสหงายหลัง พูดช้าๆข่มขู่
“ท่าทาง...อยากได้เงินปากผียัดปากนะเนี่ย”
“ไม่นะคะคุณหนู...ไม่” นมแสกลัว
เปียหัวเราะชอบใจ เปียเห็นใบไม้ตรงหน้ามีหนอนตัวเบ้อเริ่ม เธอหยิบหนอนมาชูตรงหน้านมแส
“งั้น...ปากเน่าๆแบบนี้ก็คงอยากจะกินหนอน”
นมแสมองหนอนตรงหน้า
“อย่านะคะคุณหนู อย่า...”
“ยิ่งพูด เดี๋ยวก็เจอหนอนยัดปากหรอก” เปียหมั่นไส้
นมแสหุบปากกลัว เปียพยายามจะอ้าปากนมแสยัดหนอนใส่ นมแสผลักเปียเต็ม
แรง หนอนหล่น แต่นมแสก็ล้มลงร้องลั่น
“อย่าค่ะ”
เปียนั่งลงมองหน้า
“ยายแสจำไว้นะ อย่ายุ่งเรื่องของฉันทุกเรื่อง ไม่งั้นยายแสจะไม่แก่ตาย ไป๊”
เปียผลัก นมแสกลัวลนลาน
“ค่ะๆ ดิฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย”
นมแสจะไป เปียยกมือชี้หน้าส่งเสียงเหี้ยม
“เดี๋ยว...รู้ใช่มั้ย ถ้ายายแสเอาเรื่องนี้ไปพูด จะเป็นยังไง”
นมแสพยักหน้า เปียหัวเราะก้อง
“ฉลาด แสดงว่ากินปลามาเยอะ...งั้นรีบไปเลย ก่อนจะได้กินปลาตีน”
นมแสเนื้อตัวสั่นรีบวิ่งออกไป เปียหัวเราะลั่นสะใจ

ประวิทย์เดินกระวนกระวายหน้าบ้าน เป็นห่วงเปีย เปียวิ่งมาเห็นแอบมอง
“ป่านนี้ คุณหนูเปียจะเป็นยังไงบ้าง”
“ประวิทย์ เปียอยู่นี่” เปียอมยิ้ม
ประวิทย์ดีใจปนตกใจ
“คุณหนู”
เปียวิ่งมาหาเอามือคล้องคอ หน้าแทบติดกัน
“ดีใจจัง ประวิทย์เป็นห่วงเปีย”
ประวิทย์มองหน้าเปียที่อยู่ห่างแค่คืบตื่นเต้น
“คุณหนู...เดี๋ยวมีคนมาเห็น”
เปียยั่วๆอ้อนๆแบบน่ารัก
“กลัวคนเห็น...ประวิทย์ก็พาเปียเข้าบ้านสิ”
ประวิทย์ตกใจยิ่งกว่าเดิม
“คุณหนู”
เปียยิ้ม ขู่แบบเหนือกว่า
“เร็วสิ...รีบพาเปียเข้าบ้าน ไม่งั้น มีคนมาเห็น แย่แน่ๆ”
ประวิทย์ยืนลังเล ตกใจ ไม่กล้า เปียอ้อน ดึงมือเขา
“เร็วสิประวิทย์ เร็ว”
เปียดึง ประวิทย์หันรีหันขวาง ก่อนตามเข้าไป

เย็นถักด้ายเสร็จยื่นให้เจ้าของร้าน
“เสร็จแล้วค่ะเจ๊”
เจ้าของร้านรับมาดู
“สวยมาก เย็นนี่ฝีมือดีจริงๆ นี่จ้ะค่าเหนื่อย”
เจ้าของร้านยื่นเงินให้ เย็นยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ ต้องการอะไรบอกเลยนะเจ๊ จะเร่งจะด่วนแค่ไหนฉันทำได้”
เจ้าของร้านพยักหน้ายิ้ม
“เย็นนี่ขยันจริงๆ”
“ไม่ขยันได้ยังไง ฉันมีหลานต้องเลี้ยงดู อีกเดี๋ยวก็จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว”
เสียงมือถือดังขึ้น
“ปล่อยให้รอซะนาน สงสัยโทรมาตามแล้ว กลับก่อนนะคะ”
เย็นเดินออกมาพร้อมหยิบมือถือจากกระเป๋าออกมาดู แล้วงง
“เบอร์ใครเนี่ย” เย็นกดรับสาย “สวัสดีค่ะ”
“ฉันเองเย็น...อุทัย”
เย็นตกใจ ก่อนที่ดวงตาจะฉายแววแห่งความตื่นเต้นดีใจมีเยื่อใยปนอยู่
“ฉันขอเบอร์เธอมาจากจวน...เธออยู่ที่ไหน ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
เย็นอึ้ง ลังเลไม่แน่ใจ เป็นประกายกร้าวดุดัน แต่แอบมีเยื่อใย

เลอสรรพาน้อยดูงานศิลปะด้านใน
“เบื่อมั้ยน้อย”
“ไม่ค่ะ...น้อยชอบ เพิ่งรู้ว่าคุณเลอสรรเรียนศิลปะ”
“ฉันเรียนจิตรกรรม แล้วก็เรียนApplied Art มัณฑนศิลป์ ศิลปะการตกแต่งเรียนกลับมาจะได้ช่วยงานคุณน้า น้อยอยากเรียนอะไร”
น้อยจริงจังมุ่งมั่น
“เรียนอะไรก็ได้ค่ะ...ที่จบมา ทำงานหาเงินได้เยอะๆ”
“บางทีความสุขของคนอาจจะไม่ได้อยู่ที่เงินนะน้อย” เลอสรรผิดหวัง
“มันก็ใช่ค่ะ แต่เงินสามารถบันดาลสิ่งที่มีความสุขให้เกิดขึ้นได้ น้อยอยากมีบ้านให้น้าเย็น พาน้าเย็นไปเที่ยว ไปกินอะไรอร่อยๆ น้อยอยากให้น้าเย็นมีความสุข” น้อยยิ้ม
“น้อยรักน้าเย็นมาก”
“ค่ะ น้าเย็นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของน้อย น้อยจะไม่มีวันทำให้น้าเย็นผิดหวังเสียใจ ในการกระทำของน้อยเป็นอันขาด”
เลอสรรยิ้มเศร้า
“งั้นถ้าน้าเย็นสั่งให้เลิกคุยกับพี่...น้อยก็คงทำตาม”
น้อยมองเลอสรร ยังไม่ตอบ สองคนสบตากัน เสียงมือถือดัง น้อยสะดุ้งหยิบมาดู ก่อนมองเลอสรรแล้วกดรับสาย
“คะ...น้าเย็น”
เย็นอยู่ที่ข้างทางบอกน้อยไม่เต็มเสียง
“น้าทำงานยังไม่เสร็จ รอก่อนนะ”
“ค่ะ...”
น้อยวางสายหันมามองเลอสรร แต่พบว่าเขามองอยู่ เธอหลบตา เลอสรรยิ้ม
“พี่รู้คำตอบอยู่แล้วว่ามันคืออะไร เอาเป็นว่า...พี่จะไม่ทำให้น้อยลำบากใจแล้วกัน...มาดูรูปนี้กันดีกว่า...”
น้อยยิ้มมองเลอสรร สายตาขอบคุณที่เขาไม่ทำให้ลำบากใจ

เย็นยืนรออยู่ข้างทางริมฟุตบาท อุทัยขับรถมาจอด เปิดกระจกอีกฝั่งเรียก
“ขึ้นมาสิเย็น”
เย็นเยือกเย็นระวังตัว
“แถวนี้มีร้านกาแฟ คุยกันที่ร้านกาแฟก็ได้ค่ะ”
อุทัยพยักหน้า รู้ว่า เย็นไม่อยากนั่งรถด้วย

น้อยนึกขึ้นมาได้
“อุ๊ย”
“อะไรน้อย”
“น้าเย็นมัวแต่ทำงาน ต้องยังไม่ได้กินข้าวแน่ๆเลย เดี๋ยวน้อยไปหาอะไรให้น้าเย็นกินก่อนนะคะ”
น้อยจะเดินออกไป
“แถวนี้มีร้านกาแฟอยู่ เขาขายขนม อาหารด้วย เดี๋ยวพี่พาไป”
น้อยลังเล
“ไม่ต้องห่วง พี่พาไปซื้อเฉยๆ ตอนน้อยเอาไปให้ พี่จะหลบไม่ให้น้าเย็นเห็นพี่เป็นอันขาด โอเคนะ”

เลอสรรเดินออกไป น้อยเดินตาม
 
อ่านต่อตอนที่ 6
กำลังโหลดความคิดเห็น