สาปสาง ตอนที่ 18
ไทกำลังจัดร้านขายของเก่าโดยคุยโทรศัพท์กับแพรวไปด้วย ไทปิดประตูตู้ไม้โบราณหลังหนึ่งที่ด้านหน้ามีกระจก ในกระจกมีเงาช่อเอื้องวูบผ่านไป
ไทตกใจ "เฮ้ย !”
เสียงแพรวดังมาจากโทรศัพท์ "ไท แกเป็นอะไร"
ไทปิดบานตู้อีกครั้งก็ไม่มีเงาแล้ว พอหันไปมองเขาเห็นเป็นโปสเตอร์เก่ารูปหญิงสาวในชุดรำ
"ไม่มีอะไร เมื่อกี๊ฉันนึกว่าเห็นช่อเอื้อง"
แพรวไม่เชื่อ ไม่กลัวจึงด่าซ้ำ
"ไอ้โง่ จะไปกลัวมันทำไม อีช่อเอื้องไม่มีทางออกมาปรากฎตัวให้ใครต่อใครเห็นอีกแล้ว"
ไทมองไปรอบร้านด้วยความโล่งใจขึ้น
"แล้วที่ดินผืนนั้นล่ะ คุณกรณ์เขาจะไม่สร้างโรงแรมที่นั่นแล้วใช่ไหม"
แพรวยิ้มเยาะอย่างสมหวัง
"แน่นอน พ่อปู่แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แล้วก็ทำให้คุณกรณ์เชื่อสนิทใจ"
พริ้วแอบย่องไปแง้มประตูห้องซินแสเฟย เฟยที่อยู่ในห้องหลับไปแล้ว
"ป๊า ฉันขอโทษที่ไม่เชื่อป๊า แต่ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามีพลังลึกลับอะไรที่นั่น"
พริ้วค่อยๆงับประตูปิดด้วยความรู้สึกผิดต่อพ่อ เธอก้มลงมองหยก
"อย่างน้อยก็มีหยกคุ้มกันที่ป๊าให้มา....ฉันไม่เป็นไรหรอกน่าป๊า ไม่ต้องห่วงนะ"
พริ้วยิ้มกับประตูห้องแล้วเดินออกไป
ท้องฟ้าภายนอกตำหนักพ่อปู่มีดวงจันทร์ แรม 15 ค่ำที่ดับสนิท เมฆลอยบังดวงจันทร์อีกชั้น อีกาบินในยามวิกาลอย่างน่าขนลุก พ่อปู่ที่อยู่ในตำหนักตาลุกโพลง
"คืนจันทร์ดับ อาคมกูแก่กล้า ฮ่ะๆ"
อีกาในตำหนักกระพือปีกพึ่บพั่บ พ่อปู่หยิบขันทองแดงที่มีเลือดสีแดงสดขึ้นมาเพ่ง
"ได้เวลาแล้วอีพริ้ว เลือดแดงฉาดฉานบริสุทธิ์ด้วยความดีของมึง จะต้องโดนมนต์มารสกัดพลัง กูจะล้างเลือดแดงด้วยเลือดดำ กูจะล้างเลือดดีด้วยเลือดชั่ว"
พ่อปู่เริ่มท่องมนต์แล้วเป่าลงไปในเลือดของพริ้วที่อยู่ในขันทองแดง
ณราจอดรถ พอปิดไฟหน้ารถก็เห็นว่าด้านในที่ดินมืดสนิท ณราลงจากรถพร้อมกระบอกไฟฉาย
"คืนเดือนมืดเสียด้วย จะเห็นอะไรน๊า"
ณราเดินไปเล็กน้อยพลางส่องไฟกราดไปมา เขาเหลียวมองทางถนน
"พริ้วยังไม่มา เข้าไปคนเดียวก่อนแล้วกัน"
ณราเดินเข้ามาอย่างไม่กลัวอะไรแถมรู้สึกพอใจที่ผืนนี้
"อืม ที่สูงดีจริงๆ แทบไม่ต้องถมเลยมั้ง" ณราลองกระทืบดิน "ดินก็แน่น เวิร์คมาก ใครปั้นข่าวว่าที่ดินมีเรื่องไม่ดีนะ กลยุทธ์การตลาดทำลายคู่แข่งนี่หว่า....หึ แบบนี้ยิ่งต้องสร้างโรงแรมให้ได้"
ณราเดินดูไปรอบๆ ด้วยความพอใจมาก
พริ้วมาถึงก็เห็นรถณราจอดอยู่
"คุณณรายอมมาจริงๆด้วย...คงอยู่ข้างในแล้ว"
พริ้วทำท่าจะเดินเข้าไป
ขันทองแดงวางอยู่บนแท่นหน้าพ่อปู่ ขันทองแดงใส่เลือดพริ้วสั่นระริก พ่อปู่จ้องขันทองแดงโดยเพ่งพลังมืดเป็นวงแหวนเงาดำๆ ใส่ขัน
"วินาศกุมราศี กาลีกุมชะตา"
พ่อปู่ยื่นมือมาเหนือขันแล้วหยิบมีดอาคมลงยันต์ดำมะเมื่อม เขาจรดปลายแหลมของมีดที่ข้อมือซ้าย
"ดีจงพ่าย ร้ายจงครอง"
พ่อปู่กรีดมีดลง เปิดแผลออก เลือดสีดำซึมออกมา มีควันหมอกสีดำระเหยจากรอยแผล ดูน่าสะพรึงกลัว เลือดสีดำข้นคลั่กของพ่อปู่หยดลงใส่เลือดพริ้วในขัน
"วิญญาณมารจงสิงสู่ในเลือดอีสาระแน!”
เลือดพริ้วในขันเริ่มเดือดปุดๆ พลังวงแหวนสีดำครอบคลุมขันทองแดง
พริ้วกำลังจะก้าวขาเข้าไปในที่ดินร้าง ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบที่หยกคุ้มกัน พริ้วตกใจ
"เกิดอะไรขึ้น....หยกเปลี่ยนสี"
หยกที่ห้อยคอพริ้วเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวกลายเป็นเหมือนมีสีเลือดแฝงรินเข้ามา พริ้วรู้สึกร้อนจะจับหยกก็ร้อน หยกที่แนบอยู่กับผิวหนังก็ร้อนขึ้น
"ทำไมหยกร้อนอย่างนี้....โอ๊ย"
เลือดพริ้วในขันเดือดปุดๆ มีควันขาวลอยขึ้น ควันขาวเหนือเลือดเป็นภาพใบหน้าพริ้วที่กำลังบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด พ่อปู่กำมือแน่น เขาเค้นให้เลือดข้นเหนียวสีดำหยดลงไปในเลือดสีแดง
"ให้มารสะกด ให้มนต์สะกัด ให้วินาศจัญไร ให้แพ้ให้พ่าย ข้าขอบูชาพญามาร....ให้เลือดชั่วล้างเลือดดี"
เลือดหยดลงในควันขาวที่มีหน้าพริ้วราวกับว่าหน้าพริ้วถูกอาบด้วยเลือดสีดำ
อ่านต่อหน้า 2
สาปสาง ตอนที่ 18 (ต่อ)
พริ้วสุดแรงต้านทานมนต์ดำก็ทรงตัวไม่อยู่ เธอทรุดลง
"หยกคุ้มกันเตือนเราไม่ให้เข้าไปที่ดินนั่น"
พริ้วจะจับหยกแต่ก็จับไม่ได้เพราะร้อนผ่าว หยกราวกับถูกแทรกด้วยรอยเลือด ตามเส้นรอยเลือด มีแสงขาววาบส่องออกมาเป็นระยะ
"หยกร้อน !! โอ๊ย...ไม่ไหวแล้ว....ไม่นะ หยกแค่เตือนภัยเรา หยกคุ้มกันไม่มีทางทำร้ายเรา"
พริ้วกัดฟัน กุมหยก มีแสงสว่างแว่บลอดมาตามรอยร่องนิ้วของเธอ
"หยกคุ้มกัน ช่วยคุ้มครองฉันให้มีแรงเข้มแข็งด้วยเทอญ"
ณราเดินมาหยุดที่ลานน้ำพุเทวีที่เหลือแต่ซาก
"สวยดีแฮะ สวยเศร้าๆ แต่ก็ดูขลังดี"
ณรามองไปรอบๆ เขาเดินไปรอบน้ำพุเทวีแล้วหยุดอยู่เหนือบริเวณที่ช่อเอื้องถูกฝังอยู่
ช่อเอื้องไขว่คว้าหาทางออกในความมืด
"ปล่อยฉันออกไปนะ ปล่อยฉันออกไป นานเหลือเกิน ทรมานเหลือเกิน ปล่อยฉันออกไป"
พริ้วเดินเข้ามาด้วยสีหน้าซีด แต่ก็แข็งใจ
"บอสคะ ฉันมาแล้ว"
ณรากวาดตามองเพลิน เขาหันมาเห็นก็แอบดีใจ
"ผมนึกว่าคุณจะเบี้ยว.....เอ๊ะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าซีดๆ"
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ"
"คุณโอเคแน่นะ"
"จะว่าโอเคก็โอเค จะว่าไม่ก็ใช่"
"อะไรของคุณ"
"ฉันสบายดี แต่ที่ไม่โอเค เพราะที่ดินผืนนี้มีเรื่องแปลกๆ ฉันถึงต้องนัดคุณมาเพื่อให้เห็นกับตาว่ามันมีอะไร"
"ผมก็เดินดูจนทั่วแล้ว ไม่เห็นมีอะไร"
"แต่ป๊าฉันเตือนไว้ ที่ดินนี้มีความลับฝังอยู่ เราต้องแก้ไข ไม่อย่างนั้นใครก็ตามที่มายุ่งกับที่นี่อาจได้รับอันตราย"
"ผมน่ะเหรอ จะได้รับอันตราย"
"ฉันไม่อยากให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้น"
"ขอบคุณที่เป็นห่วงผม"
"ฉันก็เป็นห่วงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับที่ดินผืนนี้นั่นแหละ"
"นั่นไง คุณยอมรับแล้วว่าคุณเป็นห่วง"
พริ้วหน้าแดง เธอเฉไฉเสียงแข็ง
"ฉันห่วงงานเท่านั้น ชัดนะ"
"ห่วงงาน แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย เขินล่ะสิ....เอ นี่คุณตกหลุมรักผมรึเปล่าเนี่ย"
"เพ้อเจ้อ จะบ้าหรือเปล่า ใครจะไปรักคนอย่างคุณ ไม่ใช่ฉันแล้วกัน....นี่มาทำงานนะ ทำไปสิ"
พริ้วกราดไฟฉายไปรอบบริเวณ เธอเมินไปดูทางอื่นเพื่อหลบตาณรา
ข้อมือพ่อปู่มีเลือดสีดำไหลออกมาอีกหนึ่งหยด เลือดหยดลงกลางอากาศช้าๆ หมอกควันสีดำวนรอบหยดเลือด พ่อปู่ร่ายมนต์มาร
"ให้มารสะกด ให้มนต์สะกัด ให้วินาศจัญไร ให้แพ้ให้พ่าย ข้าขอบูชาพญามาร....ให้เลือดชั่วล้างเลือดดี เลือดดำของกูจงสิงสู่เลือดอีสาระแน"
เลือดหยดลงในเลือดสีแดง เลือดสีแดงของพริ้วเดือดปุดๆ
พริ้วจะเดินไป แต่แล้วหยกที่คอก็ร้อนวาบและมีแสงเปล่งออกมา
"อ๊าก.....”
พริ้วล้มลง ณรารีบพุ่งตัวเข้ามาประคอง
"คุณพริ้ว เป็นอะไรครับ เกิดอะไรขึ้น"
"หยกค่ะ หยกร้อนขึ้น หยกคุ้มกันกำลังเตือนภัยฉัน...แต่มันร้อน...โอ๊ย"
"ร้อนก็ถอดออกสิครับ"
"ไม่ได้ หยกคุ้มกันกำลังเตือนว่าที่ตรงนี้มีอันตราย"
"ถ้างั้น ผมจะพาคุณออกไปจากที่นี่"
ณราประคองพริ้วจะพาออกไปแต่พริ้วขัดขืน
"ไม่ค่ะ หยกคุ้มกันบอกแล้ว แสดงว่ามันมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ที่นี่ เราต้องหาให้เจอ....โอ๊ย ฉันร้อน โอ๊ย....”
พริ้วร้อนจนไม่ไหว เธอจะทรุดลง ณราประคองแล้วจะดึงออกไป
"ไปเถอะคุณพริ้ว คุณจะไม่ปลอดภัย"
"ไม่ ฉันไม่ไป"
ขันทองแดงใส่เลือดพริ้วที่มีเลือดสีแดงมีเลือดสีดำเข้ามาผสม เลือดสองสีหมุนเป็นเกลียว
พ่อปู่ท่อง "วินาศกุมราศี กาลีกุมชะตา เลือดดำล้างเลือดดี วิบัติ ณ ฉับพลัน"
พ่อปู่เฉือนมีดอีกครั้งที่ข้อมือ เลือดดำหยดลงจนแทบจะกลบเลือดสีแดงของพริ้ว
พริ้วดิ้นทรมานเพราะหยกที่ร้อนจัดจนผิวหนังแดง
"หยกคุ้มครอง ช่วยด้วย โอ๊ย ร้อน ช่วยด้วย"
"คุณพริ้ว !”
ณราเป็นห่วงพริ้วมาก เขาทนเห็นพริ้วทรมานไม่ไหว
"คุณพริ้ว ผมทนเห็นคุณเจ็บปวดไม่ได้"
ณรากระชากหยกออกจากร่างพริ้ว หยกขาดตกลงพื้น หยกเกิดแสงสว่างวาบฉายออกมาจากหยกเป็นลำแสงเงินยวง ส่องสว่าง ฉายไปทุกทิศทุกทาง
"อะไรกันเนี่ย" ณรางง
"ปาฎิหาริย์หยกคุ้มครอง"พริ้วบอก
ช่อเอื้องเห็นแสงสว่างวาบที่ด้านบน ตอนแรกเธอแสบตาจึงยกมือขึ้นป้อง แต่แล้วรู้สึกได้ว่าเป็นแสงนวลให้ความรู้สึกเย็น แสงสว่างค่อยๆสาดส่องเป็นลำฉายลงมา
ช่อเอื้องรับรู้ได้ถึงสัมผัสที่อ่อนโยนของแสงทอง
อ่านต่อหน้า 3
สาปสาง ตอนที่ 18 (ต่อ)
พ่อปู่ลืมตาโพลงอย่างโกรธจัด
"อีฉิบหาย มึงมาสู่รู้อะไรกู...กูจะให้โหงพรายจัดการมึง"
พ่อปู่ตวัดสายตามาหยุดที่ดินปั้นสีดำที่รูปทรงบิดเบี้ยว มีทองคำเปลวแปะ ดินปั้นสีดำเคลื่อนย้ายตัวเองวูบไหลมาอยู่บนแท่นตรงหน้าพ่อปู่
พ่อปู่ร่ายคาถาเรียกโหงพราย "กะกุกากา ห่าโหงจงมา กะกากุกู"
หมอกดำปรากฎขึ้นเหนือก้อนดินปั้นแปะทองคำเปลว
ณราอุ้มพริ้วลุกขึ้น
"ไม่ ฉันไม่ไป หยกคุ้มครองอยู่นั่น หยกคุ้มครองเราได้"
"ตอนนี้คุณหน้าซีดแค่ไหนรู้ตัวหรือเปล่าพริ้ว ไม่ได้...ผมจะไม่ยอมให้คุณเป็นอะไร เราต้องรีบออกไปจากที่นี่"
ณราอุ้มพริ้วออกมา หยกคุ้มกันเรืองแสงสว่างวาบอยู่บนลานน้ำพุเทวี
ณราอุ้มพริ้วมาเจอกับหมอกดำที่พุ่งเข้ามาหา ณราซวนเซถอยหลังจนล้มลง พริ้วทับอยู่บนร่างณรา ไม่มีแรง
"นี่มันอะไรกัน"
"ไสยดำ....ป๊าเคยบอกไว้ ที่นี่มีคนปล่อยคุณไสยด้านมืดไว้ที่นี่"
พริ้วพยายามยันตัวลุกขึ้น ณราประคองกอดเธอไว้
"ไสยดำ....ไม่ใช่ของล้อเล่น ผมจะไม่ปล่อยให้คุณเจอเรื่องแบบนี้"
"เราจะทำยังไงกันคะ"
"หนี !”
ณราประคองพริ้วให้ออกวิ่ง หมอกควันดำเป็นร่างคนพุ่งเข้ามาสกัดจนณราหงายหลังไป
พริ้วตกใจ "คุณณรา !”
พริ้วหันไปจ้องหมอกดำโหงพราย หมอกดำพุ่งขึ้นด้านบน ณรายันตัวลุกขึ้น
"ไม่ต้องห่วงผม คุณเป็นอะไรหรือเปล่า คุณพริ้ว"
"ไม่ค่ะ....ว้าย คุณณรา ระวัง"
หมอกดำพุ่งลงมาแล้วเลี้ยวพุ่งเข้าใส่ณรา
ณราร้องลั่น "อ๊าก"
พริ้วเห็นณราถูกหมอกดำเป็นร่างคนนั่งคร่อม ร่างหมอกดำประสานมืดเป็นหอกจะพุ่งปักใส่กลางอกณรา
พริ้วร้องลั่น "คุณณรา !”
ณรารวบรวมแรงหมุนตัวหนี หมอกดำรูปคนพุ่งหายวับ
"รีบหนีไปเร็วพริ้ว"
ณราประคองพริ้วจะหนีอีก ที่หน้าประตูมีหมอกดำมวลใหญ่พุ่งเข้ามา พริ้วเห็น
"คุณณรา ระวัง"
พริ้วเอาตัวเข้าบังร่างณราทำให้พริ้วโดนหมอกดำอัดปะทะจนหงายหลัง ดวงตาของพริ้วสว่างโพลง พลันร่างพริ้วก็ร่วงลงแล้วแน่นิ่งไปกับพื้น
หมอกดำก่อมวลเหนือร่างพริ้วแล้วซึมเข้าสู่ร่างพริ้วทั้งร่าง พริ้วกระตุก เมื่อหมอกดำอยู่ในตัวพริ้วทั้งหมด พริ้วก็เกร็งชักแล้วนิ่งไป
"คุณพริ้ว !”
ณราเขย่าตัวพริ้ว แต่เธอก็ไม่มีสติ ณราจึงรีบอุ้มพริ้วออกไป
ใบหน้าช่อเอื้องสัมผัสแสงสว่างอาบหน้า มีพรายลอยเป็นละออง ช่อเอื้องค่อยๆลืมตา
"ปลดปล่อย.....มีคนมาปลดปล่อยเราแล้ว"
ช่อเอื้องมองแสงสว่างเป็นลำจากด้านบน ช่อเอื้องเดินไปที่แสงสว่างลำแรก แสงสว่างลำที่สองสาดมา ช่อเอื้องก้าวเข้าไป ช่อเอื้องยืนอยู่ที่ปากทางอุโมงค์ รอบกายมีแสงสว่างจ้า เงาของช่อเอื้องทอดยาวจนน่าขนลุก ช่อเอื้องยกแขนขึ้นสองข้างด้วยความดีใจ และเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น ช่อเอื้องทั้งดีใจและสะใจ
"เราเป็นอิสระแล้ว"
พ่อปู่เคร่งเครียดจึงลืมตาขึ้นทันที
"อีผีชั่ว"
แพรวที่หลับอยู่เหงื่อกาฬแตก เธอสะดุ้งตื่นจนกระเด้งตัวขึ้นมาลืมตาโพลง
"อีช่อ !”
ไทเดินผ่านกระจกเงาบานเก่า ทันใดนั้นกระจกก็เกิดรอยร้าว ไทหันขวับไปมองอย่างตกใจ
"ช่อเอื้อง!”
ในกระจกร้าวปรากฏเงาช่อเอื้องจ้องตาเขม็ง
ทันใดนั้น กระจกก็ร่วงกราวลงพื้น แตกเพล้ง ไทตกใจถอยหลังกรูดไปจนหลังชนฝา
กรณ์อยู่ที่ลานน้ำพุเทวี เขามองสภาพที่รกร้าง กรณ์ดึงหญ้าและเถาวัลย์ออกจากน้ำพุ
"ผมจะสร้างโรงแรมที่นี่....ผมอยากให้คุณมาเห็นนะช่อ"
เสียงช่อเอื้องดังขึ้น "ช่อกลับมาแล้วค่ะ"
กรณ์หันไป ช่อเอื้องเดินเข้ามา
"คุณกรณ์คะ ช่อคิดถึงคุณ"
"ผมก็คิดถึงคุณ ช่อเอื้อง"
กรณ์เอื้อมมือออกไปจะจับมือช่อเอื้อง เขาคว้าได้แล้วก็กลายเป็นเงาดำวูบ กรณ์ตกใจ
กรณ์ฝันละเมอ มือของเขาไขว่คว้า พลัน กรณ์ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาตกใจ
"ช่อเอื้อง"
เดือนมืดบนฟ้ามีดาวระยิบระยับ ฉับพลันเมฆก็ค่อยๆเคลื่อนเข้ามา ฟ้าแล่บแปลบปลาบ ช่อเอื้องในชุดนางละคร ยืนอยู่บนลานดินข้างน้ำพุเทวี ลมพัดกรู ใบไม้ปลิวมา ดอกไม้ปลิวมาตามลม ดาระดาดบนพื้นเกลื่อนกลาดตรงหน้าช่อเอื้อง
"อ้ายอีตัวไหนที่บังอาจพรากร่างกู พรากรักจากกู มันต้องชดใช้ ! ชดใช้อย่างสาสม"
ทันใดนั้น ฟ้าก็ผ่าปลาบลงที่เหนือหัวช่อเอื้อง ในแสงสว่างวาบของสายฟ้าปรากฏใบหน้าช่อเอื้องที่เป็นนางละครขาวซีด
ดวงตาของเธอสีแดงฉาดด้วยความคั่งแค้น
อ่านต่อหน้า 4
สาปสาง ตอนที่ 18 (ต่อ)
แพรวร้อนใจที่ฝันเห็นช่อเอื้อง
"ทำไมผีอีช่อมันมาเข้าฝันฉันได้....พ่อปู่ต้องรู้เรื่องนี้"
แพรวหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรถึงพ่อปู่
"พ่อปู่ รับสายสิ...”
เสียงพ่อปู่ดังขึ้น "กูรู้แล้ว"
แพรวแปลกใจเพราะที่เธอได้ยินไม่ใช่เสียงจากในโทรศัพท์ เธอหันไปทางปลายเตียงก็ตกใจที่เห็นควันดำก่อตัวขึ้น ร่างพ่อปู่ปรากฎกาย
"พ่อปู่ !”
แพรวแทบไม่เชื่อสายตา เธอเอื้อมมือกวาดไปก็ไม่โดนตัวพ่อปู่แต่กลับผ่านกลุ่มหมอกดำวูบไป ร่างพ่อปู่วูบไหวเพราะแรงมือแพรว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างหายไป พ่อปู่หัวเราะลั่น
"อีเลือดชั่ว มึงไม่เคยไว้ใจใครเลยจริงๆ"
"พ่อปู่มาก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องจะถาม....อีช่อ....”
พ่อปู่ยิ้มอย่างรู้ทัน
"ผีอีช่อมันออกมาได้แล้ว"
"งั้นที่ฉันฝันมันก็เป็นความจริงน่ะสิ"
"มึงกลัวเหรอ"
"เปล่า ต่อให้มันมา ฉันก็จะฆ่ามันให้ตายอีกรอบ"
"ฮ่ะๆ ดีแล้วที่มึงไม่กลัว เพราะมันจะมาตามล้างแค้นมึงแน่"
"แล้วฉันต้องทำยังไง"
"อยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัย มึงรีบไปหลบที่ตำหนักกูก่อน"
แพรวพยักหน้า พ่อปู่ร่ายมนต์ใส่ประคำสีดำ
อนงค์แง้มผ้าม่านด้วยความหวาดกลัว เธอเห็นว่านอกบ้านมีลมพัดแรง ใบไม้ปลิว ฟ้าผ่าแปลบๆ
"หน้าร้อนแท้ๆ แต่เหมือนจะมีพายุ....อูย ทำไมมันเย็นจนขนลุกอย่างนี้"
แพรวเดินลงมาจากชั้นบนอย่างรีบร้อนแล้วจะเปิดประตูออกไป
"นั่นแกจะไปไหน" อนงค์ถาม
"อย่ายุ่งน่ะแม่"
"มันดึกแล้วนะ....แพรว...ทำไมแกถึงทำตัวลึกลับด้วย"
"นี่แม่ มองหน้าฉันอย่างนั้น คิดว่าฉันไปก่อเรื่องอะไรมาใช่ไหม"
"แล้วแกไปทำอะไรมาหรือเปล่าล่ะ"
"ฉันจะทำอะไรมาก็เรื่องของฉัน ถ้าแม่ไม่อยากมีเรื่องก็ไม่ต้องยุ่ง"
แพรวรีบออกจากบ้าน ขณะที่อนงค์ยืนอึ้งอยู่ แพรวเดินมาหน้าบ้านแล้วหยิบประคำออกมา
พ่อปู่ร่ายมนต์ใส่ประคำ แล้วยื่นให้แพรว แพรวงง
"อย่าประมาท....นี่คือ บริวารดำ มันจะคุ้มครองมึงไปที่ตำหนักกู"
แพรวเหวี่ยงประคำออกไป เม็ดประคำกระจายกลางอากาศ แล้วกลายร่างเป็นอีกาหลายตัว
"บริวารดำ....นำทาง !”
แพรวยิ้มมุมปากแล้วมองฝ่าความมืดออกไป
"อีช่อ กูไม่กลัวมึง"
แพรวขึ้นรถ อีกาบินโฉบไปมาและร้องดังระงม
อนงค์ได้ยินเสียงอีกาก็รู้สึกหวาดกลัว
"อีกามาอีกแล้ว...มีเรื่องไม่ดีแน่"
อนงค์รีบเปิดประตูจะรั้งแพรวไว้
"แพรว เดี๋ยวก่อน แกไปทำอะไรไว้ นังแพรว !”
อนงค์จะวิ่งตามรถแพรว แต่แพรวไม่สนและไม่หันไปมองอนงค์ เธอขับรถออกจากบ้าน อีกาตัวหนึ่งบินโฉบกลับมาไล่จิกอนงค์
"อ๊าย อย่า ฉันกลัวแล้ว ฉันไม่ยุ่งแล้ว"
อนงค์รีบวิ่งหนีเข้าบ้าน เธอปิดประตูแล้วแต่ก็ได้ยินเสียงอีกาจิกประตู จิกกระจกหน้าต่าง
อนงค์หวาดกลัวมาก "เกิดอะไรขึ้น แพรวทำอะไรไว้แน่ๆ"
ไทกำลังคุมลูกน้องเคลื่อนย้ายลังไม้ขนาดใหญ่
"ระวังหน่อย"
ลูกน้องแกะไม้ปิดฝาลังออก ไทเปิดลังออกก็เห็นพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 2 ศอก
"วางไว้บนแท่นเลย พระเก่าองค์นี้ฉันจะไม่ขาย....ของขลัง กว่าจะหามาได้ไม่ใช่ง่ายๆ" ไทบอก
โทรศัพท์ของไทดังขึ้น ไทรับโทรศัพท์ ลูกน้องเคลื่อนย้ายพระไปตั้งบนฐาน
ไทรับโทรศัพท์ "ว่าไงแพรว...." ไทมีสีหน้าเครียด "ใช่ ช่อเอื้องมาปรากฎตัวให้ฉันเห็น"
แพรวโทรศัพท์คุยกับไท
"พ่อปู่บอกว่าผีอีช่อมันออกมาได้แล้ว ตอนนี้มันเที่ยวราวีทั้งฉันทั้งพ่อปู่ รวมทั้งแกด้วย"
ไทหันไปมองพระที่ลูกน้องตั้งบนฐานเรียบร้อยแล้ว
"ฉันถึงต้องรีบหาของดีมาไว้กับตัว"
แพรวสีหน้าเครียดย้ำกับไท
"คิดว่าจะมีอะไรป้องกันแกจากอีช่อได้เหรอ หึ ถ้าแกไม่อยากตาย ก็รีบมาที่ตำหนักพ่อปู่ เข้าใจไหม"
แพรวกดวางโทรศัพท์แล้วรีบขับรถไป อีกาบินนำทางและบินไปรอบๆ รถ
อ่านต่อตอนที่ 19