เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 12
ชานนท์พาตัวแทนมาคุยบนสะพานปลาห่างจากเรือ
“ถ้ามีส่วนลดให้ในสิบกิโลแรกอย่างที่คุณว่า ผมจะยอมรอก็ได้” ชานนท์ดีใจมาก
“ผมขอเวลาสัก 20 นาที”
“ผมให้ 10 นาที เราต้องเร่งเดินเครื่องจักร รอนานกว่านี้อีกไม่ได้”
ชานนท์วิ่งเข้ามาบนเรือเห็นปิ้งกับคนงานที่ลาออกไปกุลีกุจอคัดปลา บางคนก็ตักน้ำแข็งใส่เพื่อน็อกปลา ชานนท์งง เขมิกาละมือจากงานหันมา
“ทางโรงงานยอมรออีกสิบนาที แต่เราต้องมีส่วนลดให้ในสิบกิโลแรก ฉันตกลงไปแล้ว”
“เพื่อรักษาชื่อเสียงไว้ กำไรน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร”
ปิ้งลุกยืนร้องตะโกน
“เราต้องทำให้เสร็จภายในสิบนาที พวกเราสู้มั้ยสู้”
ปิ้งยกมือ คนงานทุกคนยกมือขึ้นร้องตะโกน
“สู้!”
เขมิกายิ้มให้ชานนท์
ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ชานนท์ตักน้ำแข็งใส่ตะกร้าปลา ปิ้งถือที่ตักเข้ามาช่วย ชานนท์มองหน้าแต่ปิ้งตีหน้าเฉย ชานนท์ปาดเหงื่อ ปิ้งที่ช่วยตักน้ำแข็งอยู่ส่งผ้าขนหนูให้โดยไม่มองชานนท์ ทำเป็นสนใจมองโน่นนี่ ชานนท์ยิ้มๆ แล้วรับมาเช็ดเหงื่อ
เขมิกาเดินปรบมือร้องเชียร์
“เร็วๆๆ เรามีเวลาอีกแค่ 1 นาที”
ปิ้งกับชานนท์หยิบปลาตัวเดียวกันเป็นตัวสุดท้ายโยนลงตะกร้า
“เย้ สำเร็จแล้วโว้ย”
ทุกคนชูมือร้องเฮ คนงานกอดกัน ปิ้งดีใจหันมากอดชานนท์ เขมิกามองชานนท์กับปิ้ง ยิ้มมีความสุข
จุมพลรีบเดินไปที่รถกระบะ ปรียาวิ่งออกมาพยายามดึงไว้
“คุณเข็มสั่งไว้ไม่ให้ปู่ออกไปไหนนะคะ”
“ไม่ต้องไปสนใจมันพูดหรอก กิจการฉันกำลังจะเจ๊ง ใครจะทนนอนอยู่ได้”
จุมพลเปิดประตูด้านคนขับ ปิดประตู ปรียาเคาะกระจก
“คุณปู่ๆ กำลังป่วยอยู่นะคะ” จุมพลขับรถออกไป ปรียาต้องถอยหลบ “คุณปู่”
ปิ้ง คนงาน ยกตะกร้าปลาขึ้นรถกันอย่างสนุกสนาน เขมิกากับชานนท์ช่วยกันยกตะกร้าปลาขึ้นท้ายรถ
ปิ้งเกิดปวดเอวขึ้นมาฉับพลัน
“โอ๊ย”
ปิ้งจับเอวด้านหลัง
“เป็นอะไรวะ”
“เอวเคล็ดโว้ย อู๊ย ปวดเป็นบ้า”
ชานนท์รีบเข้ามา
“อย่าเพิ่งขยับตัวมาก ไปนอนให้หลังราบกับพื้นไว้ก่อนดีกว่าถ้ายังไม่ดีขึ้น ค่อยไปหาหมอ ฉันจะพยุงไปนอนบนเรือ” ปิ้งดูเขินๆ
“เฮ้ย ไม่ต้องหรอกน่า เดี๋ยวก็หาย”
“แล้วถ้าไม่หายแต่เป็นหนักขึ้นใครจะช่วยลูกพี่นายทำงาน”
ปิ้งมองไปทางเขมิกา เขมิกายังเคืองปิ้งอยู่ เมินไปทางอื่น
“ก็ได้ แต่ฉันไม่ได้แหยนะโว้ย แค่ปวดเอวนิดหน่อย”
ชานนท์อมยิ้มพยุงปิ้งไป
ตะกร้าปลาวางเรียงรายห่างจากรถ เขมิกาเข็นรถมาจะยกตะกร้าขึ้นรถเข็น โยธินเข้ามาช่วย
“เฮียช่วย”
เขมิกาเงยหน้า
“ไม่ต้องเฮีย เข็มบอกแล้วไงให้ไปนั่งเฉยๆ ออกมาเดินตากแดดทำไม”
“ให้เฮียได้มีส่วนช่วยหน่อยๆ ก็ยังดี เสียดายที่เผลอหลับไป อดช่วยเข็มเลย”
เขมิกาพยักหน้ายอม ทั้งคู่ช่วยกันยกขึ้นรถเข็น
จุมพลเดินเข้ามายืนมองเห็นคนงานขนปลาขึ้นรถ ตัวแทนโรงงานรีบเข้ามาหาจุมพล
“สินค้าครบตามจำนวนแล้วครับเถ้าแก่ ว่าที่ลูกเขยของเถ้าแก่หัวนักธุรกิจใช่ย่อย เล่นเสนอส่วนลดให้ จนผมต้องยอมใจอ่อน เสียเวลานั่งรอ”
จุมพลจับมือตัวแทน
“ผมต้องขอโทษจริงๆ ครั้งต่อไปจะไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก”
โยธินเข็นรถเข็นเข้ามาพร้อมเขมิกา
“ปู่ เข็มบอกแล้วว่าให้นอนอยู่บ้านเฉยๆ ไง ดื้อออกมาอีกจนได้”
จุมพลเดินมาหาเขมิกากับโยธิน
“ข้าต้องมาดูให้เห็นกับตาว่าจะวางใจให้เอ็งดูแลแพปลาแทนข้าได้หรือเปล่า”
“แล้วเป็นไงละ ยอมรับนับถือหลานตัวเองหรือยัง”
จุมพลยิ้มๆ หันไปทางโยธิน ตบบ่าโยธินแรงๆ
“ขอบใจมากเจ้าโย ที่คอยช่วยเจ้าเข็มมัน”
โยธินยิ้มแย้มไม่รู้ว่าจุมพลเข้าใจผิด
แววนิลนั่งดูอัลบั้มรูปตัวเองกับชานนท์แล้วร้องไห้ออกมา แววนิลรีบปิดอัลบั้ม บนโต๊ะมีจานขนมวาง เม่นยื่นมือมาหยิบออกไป แววนิลเห็น
“แก” เม่นวิ่งหนีไปหลบในพุ่มไม้ แววนิลตาม เม่นคว้าขนมในจานยัดเข้าปากอยากหิวกระหาย “ไอ้ตัวโสโครก แกขโมยขนมฉัน เอาคืนมา”
เม่นไม่ฟัง ยัดขนมเข้าปากไม่หยุด แววนิลเข้ามาตีๆ เม่น เม่นปัดป้อง
“โอ๊ย ผมหิว คุณผู้ชายหายไปไม่มีใครให้ข้าวผมกิน แม่ก็ไม่เคยมา”
“แกจะอดตายก็เรื่องของแก ไม่ต้องมาพร่ำรำพันให้ฉันฟัง ไปสิไป ไปให้พ้นหน้าฉัน เหม็นเน่า ฉันจะอ้วก” แววนิลเอาอัลบั้มรูปไล่ตีเม่น เม่นวิ่งหนีไป แววนิลมองขนมในจาน “อี๊ ใครจะกลืนเข้าไปลง”
แววนิลโมโหเม่น เดินเข้ามาโวยวาย
“ไอ้โย่ง นังแป้น หายหัวไปไหนกันหมด ทำไมปล่อยให้ไอ้...” แววนิลชะงักเมื่อเห็นประชายืนข้างกระเป๋าเสื้อผ้า หันมาหาแววนิล แววนิลมองกระเป๋า “ถ้าจะมาขอซื้อหุ้นที่เหลือ ฉันเคยบอกไปแล้วว่า ฉันไม่ขายเชิญกลับไปได้แล้ว”
“อ้าว ผมโทรบอกคุณนิลไปแล้วไม่ใช่หรือครับว่าผมมาด้วยเรื่องอะไร”
“บอกอะไร เมื่อไหร่ ตอนไหน ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
“เอ๊ะ หรือผมจะลืมบอก ไม่เป็นไรงั้นก็บอกตรงนี้เลยแล้วกัน ผมจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” แววนิลตกใจ
“ใครอนุญาตไม่ทราบ”
“ไม่เห็นต้องให้ใครอนุญาตนี่ครับ ในเมื่อต่อไปบ้านหลังนี้ก็ต้องเป็นของผม ห้องคุณชานนท์อยู่ตรงไหนครับ”
ประชายกกระเป๋าจะไป แววนิลดึงกระเป๋าไว้
“ออกไป นี่มันบ้านของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์”
ประชาบอกเสียงเฉียบ
“ขนาดสปาผมยังเอามาได้ บ้านหลังนี้ไม่เกินปัญญาผมหรอก”
แววนิลโมโหตีๆ ประชา
“แก ฉันไม่มีวันยอม ออกไปให้พ้น ออกไป”
ประชาโกรธจับสองมือแววนิลเขย่า
“หยุด บอกให้หยุด”
เม่นวิ่งเข้ามาทุบๆ แขนประชา
“อย่าทำคุณหนูนิล ผู้ชายทำร้ายผู้หญิงเป็นผู้ชายใจตุ๊ด”
ประชาโกรธปล่อยมือแววนิล แล้วหันไปชกหน้าเม่น เม่นเซไป หัวชนพนักพิงเก้าอี้ หน้าผากมีเลือดซึม เม่นแตะหน้าผากมีเลือดนิดๆ
“ฉันจะแจ้งตำรวจ แกบุกรุกเข้ามาทำร้ายคนบ้านฉัน”
แววนิลวิ่งไปที่โทรศัพท์บ้าน ประชาตามเข้าไปกระชากแขนแววนิล ผลักแววนิลล้มไปที่พื้น เม่นเห็นแววนิลล้ม วิ่งเข้าไปเอาหัวพุ่งใส่ประชาแบบบ้าเลือด ประชาล้มไป เม่นทับบนตัวประชา ง้างหมัดจะชก มณฑาวิ่งมา
“เจ้าเม่นหยุด แกมาก่อเรื่องอีกแล้วหรือ”
มณฑาดึงเม่นออกมาแล้วตบหน้าหัน แววนิลตกใจเกิดความสงสารเม่นมาวูบหนึ่ง แววนิลไม่อยากให้เม่นโดนอีก
“เม่น แกไปซะ ไปสิ”
เม่นกุมหน้ากลัวมณฑา เดินงุดออกไป มณฑามองกระเป๋าที่พื้น
“นี่มันอะไรกันคุณประชา”
“เขาจะเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ ทำร้ายนิล ทำร้ายไอ้เม่นด้วย รีบแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลยนม”
มณฑาตกใจมองประชา ประชาเดินมายืนตรงหน้ามณฑา
“ตำรวจมาก็ดีเหมือนกัน แต่เวลาผมอยู่กับตำรวจ ไม่รู้เป็นไงมันใจคอมันตื่นเต้น ไม่รู้จะตอบผิดตอบถูกอะไรออกไปบ้าง”
มณฑารู้ตัวว่าถูกขู่
กระเป๋าประชาวางอยู่กลางห้องนอนชานนท์ ประชามองรอบๆ ห้องอย่างชื่นชม มณฑายืนที่ประตู ขู่ประชา
“ฉันรู้นะว่าคุณวางแผนอะไรอยู่ในใจ”
ประชาหันมายิ้ม
“ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ผีย่อมเห็นผีด้วยกัน ว่างั้นเถอะ”
“คุณอย่าคิดว่าจะเข้ามาครอบครองบ้านหลังนี้ได้”
“ไม่ชอบหรือถ้าผมได้เป็นเจ้าบ้าน คุณมณฑาก็ได้เป็นใหญ่ไปด้วย ไม่ต้องเป็นแค่แม่บ้านกระจอกๆ อีกต่อไป และที่สำคัญ คุณหนูนิลก็จะมีผมคอยดูแล”
มณฑารีบตวาดกลับ
“อย่ามายุ่งกับคุณหนูของฉัน ถ้าต้องตายหรือติดคุก ฉันก็จะแลกกับคุณ”
มณฑามองเอาเรื่องก่อนออกไป
แววนิลนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มณฑาถือหวีในมือเตรียมจะหวีให้
“นมมีความลับอะไรปิดบังนิลอยู่หรือเปล่า”
มณฑาสะดุ้งทำหวีหล่นจากมือ
“ทำไมถึงถามนมอย่างนี้ละคะ” แววนิลหันมา
“ก็เพราะพักนี้นมทำในสิ่งที่นิลไม่เข้าใจ ทั้งเรื่องที่ห้ามนิลเอาเรื่องประชาโกงสปา แล้วยังวันนี้ที่นมเห็นดีเห็นงามให้มันเข้ามาอยู่บ้านเรา”
มณฑาก้มลงเก็บหวีเพื่อคิดหาคำตอบ มณฑาลุกยืน
“นมไม่กล้าปิดบังคุณหนูหรอกค่ะ หรือคุณหนูไม่ไว้ใจนมแล้ว”
“ไว้ใจก็ส่วนหนึ่ง แต่ไม่เข้าใจมากกว่า มันไม่สมเหตุสมผลคนอย่างนมเคยกลัวใครที่ไหน แต่ทำไมกับไอ้ประชา...” มณฑารีบชิงพูด
“คุณหนูไม่อยากได้สปาคืนหรือคะ”
“ด้วยการยอมมัน แล้วมันจะคืนให้งั้นสิ”
“เปล่า แต่ถ้าให้มันอยู่ที่นี่ เราจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของมัน ถ้านมเจอจุดอ่อนเล่นงานมันได้วันไหน คุณหนูจะได้สปาคืนมา แค่ใจเย็นรอเท่านั้นค่ะ”
แววนิลฟังเหตุผล ยอมเชื่อมณฑา
แววนิลเข้ามาในครัว ตวาดโย่งเรื่องเม่น
“แกดูแลมันประสาอะไร ปล่อยให้มันขึ้นมาบนตึกอีก”
“คนงานถูกไล่ออกหมดเพื่อประหยัดรายจ่าย ผมก็เลยต้องรับเละ เลยไม่มีเวลาไปควบคุมเจ้าเม่นเหมือนก่อน”
“ไม่ต้องมาอ้างนั่นอ้างนี้” แววนิลยกถุงหูหิ้วใบใหญ่ข้างในมีขนมปังและของกินเล่นหลายอย่างวางบนโต๊ะ “เอาไปให้ไอ้เม่นมันกิน แล้วไม่ต้องบอกมันนะว่าฉันเป็นคนให้”
แววนิลเดินออกไป โย่งหยิบถุงขึ้นมาดู
“นี่มันฟ้าผ่ากลางวันหรือไงวะ อยู่ๆ นางยักษ์ถึงถอดเขี้ยว งงเว้ย เอ๊ะ หรือฉันหูฝาดไป”
เย็นวันใหม่ ที่ชายหาดมีเตาสำหรับย่างอาหารทะเลอยู่ตรงกลางวง บนพื้นทรายปูเสื่อมีโต๊ะญี่ปุ่นวางตรงกลาง แบ่งเป็นจุดๆ หลายโต๊ะสำหรับนั่งกินกัน มุมเตาย่างมีคนงาน เมียคนงานยืนย่างอาหารทะเล ปรียายืนช่วยอยู่มุมนี้ มุมเสื่อโต๊ะญี่ปุ่น คนงาน ชานนท์ ปิ้ง นั่งชนแก้วกันสนุกสนาน เขมิกาเดินเข้ามากลางวงพร้อมโยธิน
“ปู่ฝากมาบอกว่าขอให้ทุกคนสนุกสนานกันให้เต็มคราบ โต้รุ่งกันได้เต็มที่ เพราะพรุ่งนี้อนุญาตให้หยุดงาน1วัน”
ทุกคนร้องเย้ดีใจ เคาะจาน เคาะโต๊ะ ปิ้งมองตาม เขมิกากับโยธินเดินไปที่มุมตู้น้ำแข็งกับเครื่องดื่ม
โยธินตักน้ำแข็งใส่แก้วสองแก้ว พอจะเดินไป ปิ้งเข้ามายืนขวางหน้า แล้วยกมือไหว้
“ผมขอโทษนะคุณโย ที่ทำให้คุณโยต้องเข้าโรงพยาบาล”
โยธินยิ้มสบายๆ ตบบ่าปิ้ง
“ไม่ต้องมาขอโทษฉันหรอก ฉันไม่ได้คิดอะไร โน่น ไปขอโทษเจ๊คนนั้นดีกว่า ยังงอนไม่เลิก”
เขมิกายืนรอโยธินอยู่ใต้ต้นไม้ ปิ้งไม่กล้า
“ไม่เอาดีกว่า กลัวโดนลูกเตะสลาตัน”
“ลูกผู้ชายกล้าๆ หน่อย คิดอะไรก็พูดไปเลย”
โยธินผลักปิ้งอย่างแรง ปิ้งกระเด็นไปทางเขมิกา หน้าแทบคะมำ
เขมิกาหันมา ปิ้งเขินยืนบิดไปมา เขมิกาแกล้งบึ้งตึงเมินไปทางอื่น
“ลูกพี่ใจคอจะไม่ให้อภัยฉันจริงๆ หรือ” เขมิกานิ่ง “ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ ที่ฉันหลงผิดไปเพราะฉันอิจฉาคุณชานนท์ กลัวเถ้าแก่ กลัวพี่เห็นมันสำคัญกว่า ฉันมันงี่เง่าเอง”
เขมิกาหันมา
“แกทำให้ฉันเสียใจ เราเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แกไม่รู้หรือว่าฉัน...” เขมิกาอัดอั้นร้องไห้ออกมา “รักแกมากแค่ไหน ฉันไม่เคยเห็นแกเป็นแค่คนงานของปู่ แต่แกเป็นเพื่อนตาย เป็นพี่น้องของฉัน ไอ้บ้าปิ้ง”
ปิ้งซาบซึ้งร้องไห้ตาม
“ฉันขอโทษ เราคืนดีกันนะลูกพี่”
“ไม่ได้ แกทำผิดต้องโดนลงโทษก่อน ไอ้เผือก เอาปืนมา”
เขมิกาตะโกนบอกคนงาน โยธินที่ยืนฟังอยู่ห่างๆ รีบวิ่งเข้ามา
“เข็ม ใจเย็นก่อน”
พวกคนงานหันมามอง เผือกรีบวิ่งไปหาเขมิกา ชานนท์กลัวมีเรื่องรีบตามไป
เผือกกับชานนท์เดินมาหาเขมิกา
“ไม่ต้องรุนแรงขนาดนี้ก็ได้ ฉันว่าเอาแค่หักเงินเดือนก็พอ” ชานนท์บอก ปิ้งยืดอก
“อย่าห้ามลูกพี่เลยไอ้นนท์ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากถ้าต้องตายด้วยมือลูกพี่ ลูกพี่ไม่ต้องยั้งมือฉันพร้อมแล้ว”
ปิ้งหลับตา เขมิกามองปืนในมือเผือก
หาดทรายใกล้น้ำทะเล เขมิกายืนข้างเผือกที่ถือปืน มีธงปักข้างๆ
“ไอ้เผือกจะเป็นคนส่งสัญญาณให้ไอ้ปิ้งวิ่งลงทะเล”
ทุกคนมายืนรุมกันที่หาดทราย
“เล่นเหมือนตอนเด็กๆ ใช่เปล่า วิ่งไปอ้อมทุ่น แล้วก็วิ่งกลับมาที่จุดสตาร์ทให้ทันเวลา ถ้าฉันทำได้ ลูกพี่ก็จะเลิกโกรธฉัน ถูกต้องมั้ยลูกพี่”
“ถูกเผง แต่แกไม่ได้วิ่งตัวเปล่าต้องอุ้มน้องลูกน้ำไปด้วย”
“โอ๊ย สบาย” ปิ้งบอก แล้วตกใจ “หา อุ้มยัยลูกน้ำ” น้องลูกน้ำตัวอ้วนกลมเดินมาหาปิ้ง ปิ้งร้องจ๊าก “ลูกพี่จะฆ่ากันหรือนี่”
คนงานหัวเราะ
“เริ่มได้ เผือกเตรียมให้สัญญาณ”
ปิ้งดึงเขมิกาไว้
“เดี๋ยวๆ ก่อนลูกพี่ ฉันเล่นคนเดียวไม่มีคนแข่งด้วยมันจะไป สนุกยังไงเล่า ให้คุณโยอุ้มลูกพี่อีกคู่แข่งกับฉัน ดีมั้ยพวกเรา”
คนงานร้องเชียร์ว่าดีๆๆ
“เอางั้นก็ได้ ถ้าแกแพ้ฉัน แกต้องเลี้ยงข้าวทุกคนมื้อใหญ่”
คนงานเฮกันอีก โยธินมองชานนท์
“สองคู่มันยังน้อยไป ไอ้นนท์แกต้องมาเล่นด้วย”
“ใช่ๆ อุ้มแฟนแกนั่นแหละ”
ชานนท์เลิ่กลั่ก ปรียายืนเขิน
“อย่าดีกว่า คือฉันไม่ถนัด”
ปิ้งกับคนงานไปดึงชานนท์กับปรียา
“ไม่ได้ๆ แกเพิ่งมาอยู่ถือเป็นการรับน้องใหม่”
ชานนท์กับปรียาโดนดันไปรวมกับเขมิกาและโยธิน
จุดสตาร์ท โยธินยืนคู่กับเขมิกา ชานนท์ยืนคู่กับปรียา ปิ้งยืนคู่กับสาวอ้วน เผือกยกปืนขึ้นฟ้า ยิงเปรี้ยง! ทั้งสามอุ้มคู่ของตนวิ่งลงทะเลไปยังทุ่นที่กำหนดไว้ คู่ของโยธินกับชานนท์วิ่งสูสีไปถึงทุ่นแล้ววิ่งย้อนกลับมา ทุกคนร้องเชียร์สนุกสนาน คู่ของปิ้งฮาๆ ล้มคว่ำตกน้ำต้องอุ้มกันใหม่ โยธินอุ้มเขมิกาแข่งกับคู่ของชานนท์ ใกล้ถึงจุดสตาร์ท ผลัดกันนำผลัดกันแซง เขมิกาเชียร์โยธิน
“เร็วเฮีย เร็วอีก เร็วอีก”
“โอ๊ย อยู่นิ่งๆ ตัวแกมันหนักนะโว้ย”
โยธินกับชานนท์เร่งเข้าเส้นชัย กัดฟันเร่งกันสุดฤทธิ์ไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายโยธินอุ้มเขมิกาเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยชานนท์ ส่วนปิ้งนอนหมดแรงมาไม่ถึงเส้นชัย สาวอ้วนพยายามดึงปิ้งขึ้นมา โยธินปล่อยเขมิกาลง สองคนกระโดดกอดกันดีใจ ชานนท์มองทั้งคู่ด้วยความรู้สึกผิดหวัง เมียคนงานส่งผ้าขนหนูให้ชานนท์ ชานนท์รับมาแล้วซับหน้า ซับผมให้ปรียา เขมิกามองชานนท์ ส่วนโยธินมองปรียา ต่างคนต่างจ๋อย เขมิกาเดินผละออกจากกลุ่ม
ปรียาเดินมองหาชานนท์เห็นโยธินกำลังยืนย่างกั้ง ปรียาเข้าไปถาม
“คุณโยเห็นพี่นนท์มั้ยคะ”
“เมื่อกี้ยังเห็นเดินๆ อยู่เลยนะครับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ไปไหนแล้ว” โยธินคีบกั้งใส่จาน “กินกั้งด้วยกันมั้ยครับ”
“กั้งหรือคะ รูปร่างมันดูไม่ค่อยน่ากินเลย”
“เนื้อมันหวานมากนะครับ ลองชิมดู ผมแกะให้”
โยธินใช้ช้อนกับส้อมง้างกระดองกั้งออก ปรียามองอย่างสนใจ
“ทำไมไม่ใช้มือแกะเหมือนกุ้งละคะ”
“เปลือกมันแข็งมากครับ ใช้ช้อนแกะแบบนี้จะง่ายกว่า อยากลองแกะดูมั้ย”
ปรียาพยักหน้า โยธินส่งช้อนให้ ปรียาลองแกะ ทำเปลือกกั้งกระเด็นเข้าปากโยธินพอดี ปรียาหัวเราะชอบใจลืมชานนท์ไปชั่วขณะ
ริมถนนชายหาด เขมิกาเดินไปซื้อของ เสียงชานนท์ดังขึ้น
“เข็ม” เขมิกาหยุดเดิน หันมาข้างหลังเห็นชานนท์วิ่งตามมา “จะไปไหนหรือทำไมเดินออกมาคนเดียว”
“น้ำเปล่ากับโซดาหมด ฉันก็เลยจะไปซื้อมาเติม”
“ฉันไปเป็นเพื่อน”
“ไม่ต้องหรอกคุณ ร้านอยู่ข้างหน้านี้เอง”
เขมิกาเดินไป ชานนท์รีบดึงมือไว้ เขมิกามองมือตัวเอง ชานนท์รู้ตัวปล่อยมือเขมิกา
“มันมืดแล้ว เดินไปด้วยกันดีกว่า”
เขมิกายังหึงอยู่ เร่งเท้าเดินหนีชานนท์ ชานนท์ตาม
“คุณกลับไปหาแฟนคุณเถอะ มาเดินตามผู้หญิงอย่างนี้ระวังเขาจะเข้าใจผิด”
“ทีเธอยังไม่พาแฟนมาเป็นเพื่อนเลย”
เขมิกาหยุดเดิน
“ขอเตือนอีกทีว่าอย่าตามมา”
เขมิกาเดินต่อ ชานนท์เดินตาม
“ลูกพี่รมย์บูดหรือ ใครทำให้บูด ฉันจัดการให้”
“ใครเป็นลูกพี่คุณ”
“ก็เธอไง ฉันเป็นคนงานของแพปลานี้ก็ต้องมีเธอเป็นลูกพี่”
เขมิกาหยุดเดินอีก
“ถ้างั้นในฐานะที่ฉันเป็นลูกพี่ ขอสั่งให้คุณกลับไปซะ”
เขมิกาเดินต่อ ชานนท์ตามอีก
“แต่นี่นอกเวลางานแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่ง”
เขมิกายัวะ ลอยหน้าลอยตาใส่ชานนท์
“อยากจะเดินตามก้นฉันก็เชิญเลย คนเดินนำน่ะเป็นคน แต่คนชอบเดินตามน่ะเป็น หอ-มอ-อา”
เขมิกาสะบัดหน้าใส่แล้วเดินเร็ว ชานนท์ไม่อยากเป็นหมารีบเดินเร็วตาม พยายามจะแซงเขมิกาให้เขมิกาเป็นฝ่ายตามแทน เขมิกาไม่ยอมเป็นหมาเลยเดินเร็วขึ้นอีก ชานนท์ซอยเท้าเดินเร็วขึ้นแซงเขมิกา
“เฮ้ย ไรเนี่ย นายขายาวกว่าฉันนี่ ไม่ยุติธรรม”
เขมิกาขี้โกงดึงเสื้อชานนท์ให้ถอยลงมา
“อย่าดึง เล่นแบบนี้มันขี้โกงกันนี่”
เขมิการีบเดินแซงชานนท์บ้าง มีทำหน้าเยาะเย้ย สองคนเดินเร็วจนบิดก้นไปมาเหมือนนักแข่งเดินเร็ว แซงกันไปแซงกันมา ดูตลกน่ารัก
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 12 (ต่อ)
เช้าวันใหม่ที่บ้านจุมพล สมคิดกับโยธินมานั่งรอจุมพล
“อาจุมพลไม่รู้นัดมาทำไมแต่เช้า นี่เจ้าโย แกคงไม่ได้แอบไปกิ๊กกั๊กกับสาวอื่นจนโดนจับได้ใช่มั้ย”
“ก็มีบ้างอ่ะป๋า”
“เฮ้ย งั้นป๋าไม่ขอรับรู้ด้วยโว้ย แกแอ่นอกรับลูกปืนไปคนเดียวแล้วกัน”
สมคิดจะลุกหนี โยธินดึงมือไว้
“ผมล้อเล่นป๋า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปู่เรียกมาทำไม” จุมพลเดินออกมา หน้าบึ้งๆ มองสองพ่อลูก “ปู่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรือครับ”
จุมพลล้วงมือออกมา สมคิดกับโยธินคิดว่าล้วงปืน กอดกันร้องออกมา จุมพลยื่นกระดาษให้
“เข้าเรื่องเลยแล้วกัน นี่เป็นฤกษ์แต่งงานของแกกับไอ้เข็ม ข้าไปขอพระท่านมาให้เรียบร้อย เรื่องสินสอดก็เขียนไว้หมดแล้ว ถ้าสมคิดไม่มีข้อขัดข้อง ก็ตกลงตามนี้”
สมคิดกับโยธินเหวอไปครู่ เพราะกะทันหัน พอได้สติสมคิดดีใจรีบหันไปกอดลูกชาย
“ดีใจด้วยไอ้โยลูกรักของป๋า ในที่สุดแกก็ได้แต่งเมียแล้ว”
โยธินยังงงๆ พูดไม่ออก
ปรียาหิ้วปิ่นโตอาหารมาหาชานนท์ที่บ้านพักพร้อมกับตะโกนเรียก
“พี่นนท์คะ ปรียาเอาอาหารมาส่งค่ะ”
ปรียาเปิดประตูเข้าไป ชานนท์ไม่อยู่
อีกด้านหนึ่งที่โกดังด้านหลังที่โดนไฟไหม้ เขมิกาเลื่อยไม้เพื่อซ่อมแซมจุดที่โดนไฟไหม้
“ไอ้ปิ้งนะไอ้ปิ้ง รับปากเสียดิบดีว่าจะมาช่วยกัน ป่านนี้ยังไม่เห็นหัว หรือมันตาปูดยังไม่หาย” เขมิการู้สึกมีคนมายืนข้างหลัง คิดว่าปิ้ง หันไปยกเลื่อยขู่ “อยากโดนเชือดหรือไงไอ้ปิ้งถึงเพิ่งโผล่มา”
ชานนท์ตีหน้าขรึมใส่
“ปิ้งมาไม่ได้ เขาขอให้ฉันมาแทน”
“ไอ้ปิ้งมันประสาทหรือเปล่า ส่งคุณมาช่วยฉันเนี่ยนะ คุณจะทำอะไรได้ เลื่อยไม้ยังไม่เป็นเลยมั้ง”
ชานนท์ดึงเลื่อยจากมือเขมิกา เดินไปเลื่อยไม้ที่ค้างอยู่ ท่าทางทะมัดทะแมง เขมิกาทึ่ง ไม้ถูกเลื่อยจนหักป็อก เขมิกาเดินไปหยิบดูเห็นงานดีแต่ไม่ยอมชมชานนท์
“ฝีมือไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ก็พอถูไถไปได้”
“งานพื้นๆ พวกนี้ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ทำกันได้ทั้งนั้น เธออยากให้ฉันเลื่อยไม้อันไหนอีกก็สั่งมาแล้วกัน”
“ฉันก็ต้องเป็นคนสั่งอยู่แล้ว เลื่อยไม้กองนี้ให้หมด ตามรอยดินสอที่ฉันมาร์กไว้นะ”
ชานนท์หันไปเลื่อยไม้ต่อ เขมิกาแอบมองหน้าชานนท์รู้สึกเคลิ้มในความหล่อ เลื่อนมามองหมัดกล้ามที่แขน ชานนท์หันมาทางเขมิกา เขมิการีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วเดินไปทำงานของตัวเอง ชานนท์อมยิ้มรู้ทันเขมิกา
โยธินเดินออกจากบ้านจุมพลท่าทางสับสน กุมหัว
“อะไรวะปู่เล่นจัดการเองเสร็จสรรพไม่มีถามไถ่กันก่อนเลย” โยธินรีบกดโทรศัพท์หาเขมิกา เสียงโทรศัพท์ติดแต่เขมิกาไม่รับสาย “รับหน่อยสิเข็ม เฮียตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้ว”
ปรียาเดินเข้ามาจากประตูรั้ว พอโยธินเห็นปรียา โยธินอึ้งไปนิดๆ
“คุณโยมาหาคุณเข็มหรือคะ”
“เออ คือ ปู่เรียกผมมาคุยเรื่องแต่งงานครับ”
“แต่งงาน” ปรียาดีใจจนออกนอกหน้า “แต่งกับคุณเข็มใช่มั้ยคะ”
“ครับ”
ปรียารีบเข้าไปจับมือโยธินเขย่า
“ฉันดีใจด้วยนะคะคุณรอคอยวันนี้มานานในที่สุดก็เป็นจริง”
โยธินเจื่อนไปนิดแล้วรีบยิ้มแย้มสดใส
“ตอนแรกผมก็ช็อกเพราะมันเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน แต่คิดไปคิดมาแต่งเร็วก็ดีเหมือนกัน จะได้มีลูกทันใช้”
ปรียาปล่อยมือโยธิน
“แต่ของปรียาสิคะ คงต้องรออีกนาน”
“เพื่อนอย่างผมยังคอยเอาใจช่วยอยู่นะครับ” ปรียายิ้มให้
“ขอบคุณค่ะ แล้วคุณเข็มอยู่ไหนละคะ ฉันอยากแสดงความยินดีด้วย”
เขมิกาตอกไม้ เกิดอาการเคล็ดที่ต้นแขนร้องอู๊ยออกมา ชานนท์ที่เลื่อยไม้อยู่ตกใจรีบมาดู
“โดนมือหรือ”
“ระดับนี้แล้วไม่มีพลาดหรอกน่า แค่แขนเคล็ดนิดหน่อย”
เขมิกาเงื้อค้อนจะตอกอีก ชานนท์แย่งค้อนไป
“ขอฉันดูหน่อย”
“ก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ชิวๆ เดี๋ยวก็หาย” ชานนท์ไม่สนใจ ดึงตัวเขมิกาไปนั่ง จะถอดเสื้อเชิ้ตเขมิกาออก เขมิกาโวยวาย “เฮ้ยๆ ทำไรเนี่ย จะแก้ผ้าฉันหรือ”
“ฉันไม่ลามกขนาดนั้นหรอกน่า จะขอดูตรงที่เธอปวดหน่อย” ชานนท์ถอดเสื้อเขมิกาออกข้างเดียว แล้วดูต้นแขน “แรกๆ อาจเจ็บหน่อยนะ แต่สักพักกล้ามเนื้อคลายตัวก็จะดีขึ้นกัดฟันทนหน่อย”
“จะทำไรหรือ” ชานนท์ไม่ตอบแต่บีบนวดให้เขมิกา “โอ๊ย! เจ็บนะ”
“แค่นี้ก็ใจเสาะไปได้ นึกว่าจะเก่งซะอีก”
เขมิกาโดนดูถูกเลยอดทน ชานนท์นวดต่อ เขมิการู้สึกดีขึ้นมองหน้าชานนท์ ชานนท์มองตอบ ทั้งคู่จ้องตากัน
เขมิกาเป็นฝ่ายหลบตาเบือนหน้าไปทางอื่น ชานนท์อมยิ้ม เขมิกาก็แอบยิ้มมีความสุข
“เธอต้องพักแขนข้างนี้สักหนึ่งวันอย่าเพิ่งออกแรงหนัก”
“แต่ฉันต้อง...”
“งานที่เหลือฉันจะทำเอง”
ชานนท์ช่วยใส่เสื้อข้างที่ถอดออกให้เขมิกาอย่างนุ่มนวล เขมิกาแอบยิ้มเขินๆ
เขมิกานั่งมองชานนท์ตอกไม้
“ฝีมือนวดของคุณไม่ธรรมดาเลยนะ เกือบลืมไปว่าสมัยที่ฉันเป็นขวัญตาคุณเคยนวดขาให้ฉันเหมือนกัน”
ชานนท์ชะงักมือเมื่อได้ยินชื่อขวัญตา
“อย่าเอ่ยถึงชื่อนี้ให้ฉันได้ยินอีก”
“ฉันมั่นใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ไม่คิดจะตามหาเขาหรือ”
“ผู้หญิงคนนี้ตายไปจากใจฉันแล้ว”
“พูดอย่างนี้แสดงว่ามีผู้หญิงอื่นมาแทนที่แล้วละสิ”
ชานนท์นิ่งไปนิดหนึ่ง
“อาจจะใช่”
เขมิกายิ่งอยากรู้
“คงเป็นคุณปรียาแน่ๆ อือ เขาก็อ่อนหวานดี ผู้ชายคนไหนก็ต้องชอบ”
ชานนท์หันมามองหน้าเขมิกา
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่ปรียาล่ะ”
“แล้วใครหรือ ฉันรู้จักหรือเปล่า” เขมิการีบถาม ชานนท์ตัดสินใจบอก
“เธอรู้จักดี” ชานนท์เดินไปหาเขมิกา ย่อตัวนั่งลง “ผู้หญิงคนนั้นก็คือ...”
“เข็ม” ชานนท์ชะงักคำพูดไว้ทันที ทั้งเขมิกาและชานนท์หันไปมองเห็นโยธินกับปรียาเดินเข้ามา ชานนท์ เขมิกา รีบลุกยืน “เฮียตามหาเข็มแทบตาย ดีนะที่ลองโทรไปหาเจ้าปิ้ง มันเลยบอกว่าเข็มอยู่ที่นี่”
“เฮียตามหาเข็มทำไมหรือ หรือว่าปู่ไม่สบาย”
“แสดงว่าคุณเข็มก็ยังไม่รู้สิคะ”
“รู้อะไรฮะ” เขมิกาทำหน้างง
“ฉันขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าสาวด้วยนะคะ”
เขมิกาเลิ่กลั่กมองหน้าโยธิน
“ปู่เรียกป๋าคิดมาคุยเมื่อเช้าตกลงให้เราแต่งงานกันแล้วจ้ะ”
โยธินบอก ชานนท์ปล่อยค้อนหล่นจากมือ ปรียากับโยธินมองชานนท์ ชานนท์รีบกลบเกลื่อนยิ้มแย้มยื่นมือให้โยธิน
“ยินดีด้วยนะครับ”
โยธินจับมือกับชานนท์
“ขอบคุณครับ”
“ทำไมปู่ไม่เห็นถามเข็มก่อนเลย จู่ๆ ก็ตัดสินใจเองซะงั้น” เขมิกาโวย
“คุณเข็มไม่ดีใจหรือคะ”
เขมิกาอึกอักแล้วรีบยิ้มแย้ม
“แน่นอน เรื่องแบบนี้ใครจะไม่ดีใจ ดีใจจน จนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยล่ะ จริงมั้ยเฮีย”
“จ้ะ ตื่นเต้นสุดๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าเฮียจะมีวันนี้”
เขมิการีบคล้องแขนโยธิน
“งั้นเราไปหาปู่กันดีกว่า อยากรู้เหลือเกินว่าทำไมปู่ใจดีกับหลานรักขนาดนี้”
เขมิการีบดึงโยธินไป ชานนท์จ๋อยๆ ปรียามองชานนท์เพื่อจับอาการ
“เขาสองคนเหมาะกันดีนะคะ”
“ใช่ พี่ขอทำงานก่อนนะ”
ชานนท์รีบเดินไปทำงานต่อเพื่อกลบเกลื่อนความผิดหวัง ปรียามองด้านหลังชานนท์
เขมิกายืนนิ่งมองทะเล โยธินเข้ามายืนข้างหลังเขมิกา
“เฮียไม่ได้เป็นคนเร่งปู่นะเข็ม เฮียบอกปู่ไปแล้วว่าเข็มอยากให้อาฑิตฟื้นขึ้นมาก่อน แต่ปู่ว่าไม่มีปัญหา ป๋าก็เออออไปด้วย”
เขมิกาสูดอากาศลึกๆ หันมา
“เข็มไม่ได้ว่าอะไรเฮียสักหน่อย แต่งช้าแต่งเร็วยังไงก็ต้องแต่ง เข็มแค่ตั้งรับไม่ทันเท่านั้นเอง”
โยธินจับมือเขมิกา
“เข็มเต็มใจจริงๆ นะ เฮียไม่อยากให้เข็มอึดอัดเพราะคำสัญญา”
เขมิกาเกรงใจโยธินรีบยิ้มแย้ม
“เฮียทำเป็นคิดมากไปได้เข็มก็ต้องเต็มใจสิเฮีย หรือว่าเฮียแอบไปมีใจกับผู้หญิงอื่นเลยไม่อยากแต่งขึ้นมาใช่เปล่า” โยธินโดนจี้ใจ รีบโวยวายปฏิเสธ
“เฮ้ยไม่มี เฮียไม่เคยมีใคร เฮียเคยรักเข็มมากแค่ไหน วันนี้ก็ยังรักเหมือนเดิม” โยธินกอดเขมิกา “เฮียจะไม่มีวันทำให้เข็มเสียใจ”
เขมิกายิ้มไม่ออกเพราะไม่อยากแต่ง
เขมิกาเดินเข้าบ้านปากก็บ่นพึมพำ
“ปู่ทำอย่างนี้ได้ยังไง ตามใจตัวเองเกินไปแล้ว” เขมิกาชะงักเห็นรถพยาบาลจอดอยู่ก็ตกใจ “ปู่” จุมพลเดินออกมาจากตัวบ้านพร้อมปิ้ง เขมิการีบเข้าไปพยุง “ปู่ไม่สบายอีกแล้วหรือ ไอ้ปิ้งทำไมแกไม่รีบโทรบอกฉัน”
“ปู่ไม่เป็นอะไร แค่จะไปนอนให้เจ้าหมอมันตรวจตับไตไส้พุง หัวใจ ให้ละเอียด”
“ปู่ยอมไปแล้วหรือ มันต้องอย่างนี้สิปู่” เขมิกาดีใจ
“เถ้าแก่เขาลั้นลาที่ขับไล่ไสส่งลูกพี่ไปแต่งงานซะได้”
“ปู่ใจร้อนเลยไม่มีเวลาถามเอ็งก่อน เอ็งคงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย ปู่จะได้ไปโรงพยาบาลอย่างสบายใจ”
“เข็ม เออ ความจริงแล้ว ...”
“ไม่อยากแต่งหรือ ไอ้ปิ้งแกให้รถพยาบาลกลับไปก่อนไป”
“แต่งสิแต่ง เข็มตามใจปู่ทุกอย่างแหละ”
“ดีแล้ว เจ้าโยเหมาะสมที่จะดูแลเอ็ง ดูแลแพปลาของเราเชื่อปู่ ปู่ตัดสินใจไม่ผิดหรอก ไปกันได้แล้วไอ้ปิ้ง”
“เข็มไปส่งปู่ด้วย”
“เฮ้ยไม่ต้อง ข้าไม่อยากให้เอิกเกริก คนมันจะมองว่าจุมพลเจ้าสมุทรไร้น้ำยา”
จุมพลเดินขึ้นรถโดยไม่ให้ปิ้งประคอง ปิ้งตามขึ้นไป รถพยาบาลเคลื่อนออกจากบ้าน เขมิกาถอนใจ ขยี้หัวตัวเอง
“โอ๊ย ทำไมมันเป็นต้องเป็นแบบนี้ด้วย”
ชานนท์นั่งเศร้าที่หาดทราย มองชายหาดแล้วนึกถึงวันเก่าๆ ภาพเขมิกาเจ็บแล้วขี่หลังชานนท์เดินไปตามชายหาด ภาพชานนท์จับปูไล่หนีบเขมิกา เขมิกาวิ่งหนีไปมาน่ารัก
ชานนท์หลับตาเจ็บปวดใจ ทำใจอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ ปรียาแอบมองชานนท์ รู้ว่าชานนท์ต้องเสียใจเรื่องเขมิกาจะแต่งงาน
วันต่อมาที่แพปลา ชานนท์เดินขึ้นเรือเห็นเขมิกากำลังคุยสั่งงานกับคนงาน ชานนท์เดินเลี่ยงไปทางอื่นไม่ทักทายเพราะต้องการตัดใจจากเขมิกา
ชานนท์นั่งแก้อวนกับปิ้งและคนงาน เขมิกาเดินเข้ามา
“หลายแผลมั้ยปิ้ง”
“กำลังช่วยกันหาอยู่ลูกพี่”
“ฉันช่วย”
เขมิกาลงนั่งยองข้างชานนท์ ชานนท์ขยับห่าง
“ดีใจด้วยนะครับลูกพี่ที่ขายออกแล้ว” คนงานแซว
“ไอ้ปากเสีย แกกล้าว่าลูกพี่ฉันไม่มีใครเอาหรือวะ” คนงานพากันหัวเราะ “นี่ลูกพี่อย่าลืมบอกเจ้าบ่าวให้เตรียมซองแดงแบบจัดเต็มไว้ด้วยนะ ไม่งั้นพวกเราไม่ให้ผ่านประตูเงินประตูทองแน่”
พวกคนงานพากันสนับสนุน ชานนท์ทนฟังไม่ไหว ลุกยืน
“ทางนี้มีคนช่วยหลายคนแล้ว ฉันจะไปช่วยงานข้างบน”
ชานนท์เดินไป ปิ้งมองสงสัย
“ไอ้นนท์มันเป็นอะไรของมันวะ ทำหน้าเหมือนคนอกหัก”
“สงสัยทะเลาะกับเมีย”
ปิ้งตบหัวเพื่อน
“แฟนโว้ยเขาเป็นแค่แฟนกัน”
เขมิกามองตามชานนท์
ชานนท์เดินขึ้นจากเรือมาเจอโยธิน โยธินเดินเข้ามาหา
“เข็มอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ”
“เฮีย” เขมิกาเดินเข้ามา โยธินยิ้มแย้ม “มาหาเข็มมีอะไรเฮีย”
“ป๋านะสิเห่อน่าดู สั่งให้เฮียมาปรึกษากับเข็มเรื่องงานแต่งว่าต้องเตรียมตัวอะไรกันบ้าง เฮียก็ไม่ค่อยรู้เรื่องซะด้วยสิ” ชานนท์ไม่อยากฟังต่อจะเดินไป แต่โยธินดึงไว้ “เดี๋ยวครับคุณนนท์ คุณเคยแต่งงานมาก่อนนี่นา น่าจะมีคำ
แนะนำดีๆ ให้เราได้บ้าง”
ชานนท์ดึงมือโยธินออก
“มันนานมากแล้วผมจำไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับ”
ชานนท์เดินไป เขมิกาดุโยธิน
“เฮียก็ไปถามแบบนั้นได้ยังไง เขายิ่งอยากลืมพี่ขวัญตาอยู่”
“อ้าว เฮียไม่รู้ แต่เฮียเห็นเขาหน้าบูดตั้งแต่เดินออกมาแล้วนะ”
“คงทะเลาะกับแฟน เลยเบื่อโลกมั้ง”
เขมิกามองตาม หมั่นไส้ชานนท์
อีกมุมหนึ่ง คนงานกำลังยกตะกร้าพลาสติกใส่ปลาขึ้นรถกระบะ ชานนท์จะเข้าไปช่วย
“ไม่ต้องๆ นายไปช่วยเอาหนังสือพิมพ์คลุมปิดปากตะกร้าให้ที”
“ครับ”
ชานนท์เดินไปที่ตะกร้าปลา หยิบหนังสือพิมพ์ ดึงบางหน้ามาเพื่อหุ้มปิดปากตะกร้า ชานนท์มองที่หนังสือพิมพ์แล้วชะงักเมื่อเห็นรูปประชายิ้มหรา ชานนท์เพ่งอ่าน
“ซุบซิบกันให้สนั่นสังคมไฮโซ เมื่อมีคนเห็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าบ้านเลิศวิริยะ ทำเอาบรรดาขาเม้าท์พากันสงสัยในความสัมพันธ์กับเศรษฐีสาว”
ชานนท์ไม่สบายใจห่วงแววนิล
เช้าวันใหม่ เขมิกาเดินออกจากห้องน้ำ เสียงทุบประตูดังปังๆ เขมิกาเปิดประตูเห็นปรียายืนอยู่
“พี่นนท์หายตัวไปค่ะ”
ปรียารีบบอก เขมิกาตกใจ
เขมิกาเปิดประตูบ้านพักชานนท์เข้ามาด้านใน มองสำรวจตามโต๊ะทำงานชานนท์
“โน๊ตสักตัวก็ไม่มีเขียนทิ้งไว้ แค่ทะเลาะกับแฟนแค่นี้ทำจะเป็นจะตาย”
เขมิกามองไปที่เตียง เห็นหนังสือพิมพ์หน้าที่เป็นข่าวประชาพับเป็นแผ่นเล็กๆ วางอยู่ข้างหมอน เขมิกาหยิบขึ้นดู คลี่ออกเห็นรูปประชา เขมิการู้ทันทีว่าชานนท์ไปไหน เขมิการ้อนรนออกจากที่พักชานนท์
หน้าบ้านนนท์ ชานนท์อยู่ในชุดชาวเลเก่าๆ ใส่หมวกใบจากบังหน้าไว้ ดูจนซอมซ่อเพื่อให้คนจำไม่ได้ ชานนท์ยืนที่รั้วบ้าน กำลังมองหาคนในบ้าน รถประชาขับตรงมาหน้ารั้ว ประชาเห็นชานนท์ยืนอยู่แต่จำไม่ได้ บีบแตรไล่ ชานนท์เห็นรถประชารีบเดินหนีไปทันที
“ทำไมพวกขอทานมันเยอะจังวะ ไปไหนก็เจอ”
ประชาบ่น ประตูอัตโนมัติเปิด ประชาขับรถเข้าประตูไป
ประชายื่นการ์ดเชิญให้มณฑา
“พาคุณนิลไปร่วมงานให้ได้นะครับ”
มณฑาวางท่าหยิ่งๆ
“ต้องขอดูก่อนว่างานอะไร”
“ก็แค่งานเลี้ยงน้ำชาเล็กๆ เพื่อขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยลงข่าวแก้ภาพลักษณ์ให้กับสปาไงครับ”
“งานกระจอกแบบนี้คุณหนูไม่คิดจะไป” มณฑายื่นการ์ดเชิญคืน
“คุณนิลยังมีหุ้นอยู่บางส่วนจึงจำเป็นจะต้องไป คนจะได้เห็นว่าผมตั้งใจดูแลสปาเพื่อคุณนิล พวกปากหอยปากปูมันจะได้ไม่สงสัยว่า ผมกับคุณนมทำให้คุณชานนท์หายตัวไป” มณฑาโดนไม้นี้พูดไม่ออก “สมเหตุสมผลพอมั้ยครับที่คุณนมจะต้องพานกน้อยในกรงทองออกงานนี้ให้ได้”
มณฑาเชิดหน้า ดึงการ์ดเชิญกลับมาแล้วเดินเข้าด้านในไป ประชายิ้มสะใจ
“นึกว่าจะแน่”
ชานนท์ยังอยู่ในชุดเดิมซ้อนมอเตอร์ไซด์วินมาจอดใกล้บ้านเยาว์ ชานนท์ลงจากรถ ยืนหลบๆ สังเกตการณ์รอเยาว์เห็นอึ่งวิ่งหนีออกมา ชิ้นวิ่งตามพยายามแย่งสร้อยทองจากอึ่ง
“แกบอกมา เอาเงินไปซื้อไอ้ของแพงๆ พวกนี้จากไหน”
“ฉันถูกหวยไม่ได้หรือไงพ่อ”
เยาว์เดินออกมา
“ถูกหวยอะไรบ่อยๆ เห็นแกซื้อนั่นซื้อนี่ตลอด แล้วเรื่องพ่อแกก็เหมือนกัน ทำไมประชามันยอมช่วยประกันตัวออกมาง่ายๆ”
“ฉันก็บอกแล้วว่าเขามีน้ำใจ เขาอยากช่วยเอง”
“รวมทั้งไอ้ทองหยองพวกนี้มันก็ให้แกมาด้วยหรือเปล่า เอามานี่ ไปรับของมันทำไม เอาไปคืนมัน”
ชิ้นแย่งสร้อยทองจากอึ่ง อึ่งไม่ยอมดึงไว้
“โอ๊ย อย่าเอาไปนะพ่อ พรุ่งนี้สปามีงาน พวกสื่อมากันเพียบฉันต้องใส่ออกงาน แข่งรัศมีกับยัยแววนิล”
อึ่งเชิดหน้าเดินเข้าบ้าน เยาว์กับชิ้นรีบตาม
“นังอึ่งมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
ชานนท์แอบมองอยู่ ได้ยินว่าแววนิลจะไปงานที่สปา จึงคิดหาทางไปงานนี้ด้วย
ปิ้งขับรถกระบะเข้ากรุงเทพแต่ไม่ทันใจเขมิกาที่ดูกระวนกระวายมาก
“ให้มันเร็วหน่อยได้มั้ย นี่รถยนต์นะไม่ใช่เต่า”
“โอ๊ย ลูกพี่นี่ก็เร็วจนแทบจะเหาะไปอยู่แล้ว ไอ้คุณนนท์เขาดูแลตัวเองได้น่า ลูกพี่ห่วงเวอร์ไปหรือเปล่า”
เขมิกากลัวปิ้งสงสัยรีบแก้ตัว
“เขาเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันก็ต้องรับผิดชอบ จะให้พูดซ้ำสักกี่หนถึงจะเข้าใจฮึ” เขมิกาชี้หน้าปิ้ง “แกอย่ามาคิดพิเรนๆ นะ”
“เปล่า ไม่ได้คิดอะไรเลย จริงจริ๊ง”
เขมิกาโล่งใจเบือนหน้าไปทางอื่น ปิ้งแอบมองสงสัยว่าเขมิกาจะชอบชานนท์หรือเปล่า
วันรุ่งขึ้น งานเลี้ยงที่สปา นักข่าวทยอยเข้างาน เซ็นชื่อลงทะเบียนรับของชำร่วย อึ่งอยู่ในชุดไทยแขนทรงกระบอกกับผ้าถุงแบบไหมสวยเริ่ดกว่าพนักงานคนอื่น ประดับสร้อยที่ประชาซื้อให้ อึ่งยืนต้อนรับสวัสดีนักข่าว
“เชิญค่ะ เชิญข้างในได้เลยนะคะ”
กุ้งแต่งชุดฟอร์มปกติ เข้ามาดึงแขนอึ่ง
“หน้าที่แกต้องไปช่วยฉันเสิร์ฟกาแฟให้แขกไม่ใช่หรือ”
“แกดูฉันแต่งตัวเสียก่อน ชุดเริ่ดขนาดนี้คือฝ่ายต้อนรับ ไม่ใช่เด็กเสิร์ฟกาแฟนะยะ”
“อ้าว แล้วจะให้ฉันทำคนเดียวหรือไง”
“หรือจะให้ฉันฟ้องผอ.ว่าแกน่ะขี้เกียจ”
“ถุย ได้เลื่อนตำแหน่งแทนจรรยาเข้าหน่อย มาทำเป็นกร่างไม่เห็นหัวเพื่อนเลยนะ นังอึ่งอ่างขึ้นวอ”
อึ่งเงื้อมือจะตบ แต่พอชานนท์ซึ่งแต่งตัวเหมือนนักข่าวสะพายกล้อง ใส่หมวกและหน้ากากผ้าแกล้งเป็นหวัดเดินเข้ามา อึ่งรีบลดมือลง กระซิบขู่กุ้ง
“รอให้ฉันได้เป็นมาดามของที่นี่เสียก่อนเถอะ ฉันจะดีดกุ้งลงบ่อให้ดู”
อึ่งเดินบิดไป กุ้งมองหมั่นไส้
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 12 (ต่อ)
อึ่งรีบปรี่ไปหาชานนท์ที่ใส่หน้ากากปิดหน้า
“อู๊ย สวัสดีค่ะ ไม่ทราบจากฉบับไหนคะ”
ชานนท์ดัดเสียงให้แตกต่างจากเดิม
“ผมมาจากเว็บข่าวออนไลน์ครับ ชื่อเว็บgossipไฮโซ”
“เอ๊ะ ชื่อนี้เหมือนเราไม่เคยออกการ์ดเชิญนี่คะ เออ ช่วยถอดหน้ากากออกได้มั้ย เผื่อเราจำหน้าได้ ก็ให้เข้างานได้ค่ะ”
ชานนท์แกล้งไอแรง จนอึ่งถอยห่าง
“ต้องขอโทษจริงๆ ผมเป็นหวัดทั้งไอทั้งจามตลอด กลัวจะเปิดหน้าแล้วคุณจะติดหวัดจากผม แต่ผมจำหน้าคุณได้เพราะคุณหน้าเหมือนอั้ม พัชราภา” อึ่งดีใจ
“อ๊ายฉันเหมือนอั้มจริงหรือคะ แหม คุณนักข่าวเนี่ยตาถึงจริงๆ”
“ผมขอถ่ายรูปคุณอั้มไปลงที่เว็บได้มั้ยครับ ขอแค่รูปเดียวเอง”
“ว้าย หลายรูปก็ได้ค่ะอั้มเต็มใจ เออ ถ่ายตรงนี้เลยหรือคะ”
“ผมว่าไปมุมโน้นดีกว่า สวยดี”
ชานนท์ชี้ไปมุมดอกไม้ข้างในงาน
“เหมาะกับคนสวยอย่างอั้มมากค่ะ เชิญเลยค่ะ”
อึ่งจูงแขนชานนท์เข้างานโดยไม่ต้องมีการไปลงทะเบียนใดๆ เก่งกาจเพิ่งเดินทางมาถึง เดินตรงไปที่โต๊ะลงทะเบียน
มุมหนึ่งของงาน ชานนท์กวาดสายตามองคนในสปาว่ามีใครยังทำงานอยู่บ้าง ชานนท์เห็นเยาว์ยืนอยู่คนเดียวจึงก้าวเท้าจะไปหา เก่งกาจมาจับบ่าชานนท์ไว้ ชานนท์ชะงัก ชานนท์หันมาหาเก่งกาจ เก่งกาจมองกล้องของชานนท์
“เป็นนักข่าวหรือครับ”
“ครับ”
เก่งกาจมองสำรวจเพราะเห็นปิดหน้า
“ขอโทษนะครับที่ต้องถามเพราะระยะนี้ชอบมีสื่อผีแฝงตัวมาเอาของชำร่วยฟรีบ้าง มากินฟรีบ้าง ก็เลยต้องสอดส่องกันหน่อยว่าน้องมาจากสังกัดไหน”
“ผมมาในนามของเว็บข่าวออนไลน์ครับ”
“มีบัตรนักข่าวมั้ยครับ”
ชานนท์อึ้งไปเพราะไม่มี
“เออ คือ”
ขณะหน้าสิ่วหน้าขวานเกือบโดนจับได้ เก่งกาจเห็นเพื่อนนักข่าวฮือกันไปทางเข้างาน เก่งกาจกลัวตกข่าว เลิกสนใจชานนท์รีบวิ่งไป ชานนท์โล่งอก มองตามไปทางหน้างาน
ทางเข้างาน ประชา แววนิล มณฑาเดินเข้างาน นักข่าวรุมถ่ายรูป ชานนท์เข้าไปรวมกลุ่มกับนักข่าว แกล้งทำเป็นยกกล้องถ่ายรูปแต่ตาจับจ้องมองแววนิลด้วยความเป็นห่วง
แววนิลนั่งที่โซฟาคนเดียว ชานนท์จับตามองอยู่ ตัดสินใจเดินเข้าไปหาแววนิล
“คุณแววนิลครับ”
แววนิลหันมาเจอชานนท์ มองกล้องในมือ
“มีอะไรคะ”
“ผมเป็นนักข่าวจากเว็บgossipไฮโซ อยากขออนุญาตถ่ายรูปคุณแววนิลสักรูปได้มั้ยครับ”
แววนิลรู้สึกคุ้นเสียง มองหน้ากากชานนท์ ชานนท์มองน้องอยากจะรีบเปิดเผยตัวใจแทบขาด
“ถ่ายตรงนี้เลยได้มั้ยคะ”
“คือผมอยากให้มีแบ็กกราวด์ดูเป็นสปาหน่อย เชิญด้านในได้มั้ยครับ ขอเวลาแค่แป๊บเดียว”
“แค่รูปเดียวเท่านั้นนะคะ ฉันไม่มีเวลามาก”
แววนิลลุกยืนกำลังจะไปกับชานนท์ มณฑาถือกาแฟเดินตรงมาพอดี
“จะไปไหนคะคุณหนู”
“นักข่าวเขาขอนิลถ่ายรูปค่ะ” แววนิลหันไปด้านหลัง ชานนท์หายตัวไปแล้ว “อ้าว หายไปไหนแล้วล่ะ ไอ้หมอนี่ไร้มารยาทจริงๆ”
“ไม่ต้องถ่ายดีแล้วค่ะ คุณหนูเป็นคนมีชื่อเสียง ไม่ใช่ใครอยากขอถ่าย ก็ถ่ายกันได้ง่ายๆ ดื่มกาแฟก่อนค่ะ”
แววนิลนั่งลง รับกาแฟจากมณฑามาดื่ม ชานนท์ยืนหลบอยู่ไม่ห่างกันนัก ผิดหวังอีกครั้ง
ประตูห้องน้ำเปิด ฉลามเดินออกมาล้างมือที่อ่างน้ำ แล้วดึงปืนออกมาตรวจความเรียบร้อยของกระสุนปืนฉลามเดินออกมาชนกับเขมิกาพอดี
“เฮ้ย เดินยังไงวะไอ้นี่”
เขมิกาปลอมตัวอยู่ในชุดหมีสีน้ำเงินแบบช่างซ่อมประปา ใส่หมวกแก๊ปบังหน้า มีผ้าปิดปาก ถือกล่องเหล็กใส่อุปกรณ์ เขมิกาดัดเสียงห้าว
“ขอโทษครับๆ”
ฉลามมองเขมิกาอย่างสำรวจแล้วถามเสียงห้วน
“เป็นคนงานที่นี่หรือ”
เขมิกาก้มๆ หน้าไว้
“เปล่าครับ ผมเป็นช่างจะมาซ่อมชักโครก น้าเยาว์หัวหน้าพนักงานที่นี่เป็นคนโทรไปตาม ผมเจอแกที่หน้างานแล้วแกบอกให้เข้ามาซ่อมได้เลย”
ฉลามไม่สงสัยเดินผละไป เขมิการีบก้มหน้าเดินเข้าห้องน้ำ
อีกมุมในงาน ฉลามมองหาชานนท์ว่าจะโผล่มาในงานหรือเปล่า เห็นแต่นักข่าวเดินไปเดินมา ประชาเดินเข้ามาหยุดข้างๆ
“เห็นมันบ้างหรือเปล่า”
“ยังไม่เห็นเลยนาย”
“คอยจับตาดูคนที่น่าสงสัยให้ดี ถ้าไอ้ชานนท์มันยังมีชีวิตอยู่มันต้องอยากมาหาน้องสาวมันแน่ เห็นมันเมื่อไหร่ก็ลากไปเป่าตามแผน”
“ครับนาย”
เยาว์เดินเข้ามาหาประชา ฉลามรีบผละไปทางอื่น
“ได้เวลาแล้วค่ะ”
ประชาขึ้นเวทีพูดขอบคุณสื่อมวลชน
“ผมต้องขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมสังสรรค์กันในวันนี้ นับจากคุณชานนท์นายเก่าของผม
หายสาบสูญไป ผมก็ตั้งใจบริหารกิจการสปาด้วยความหวังว่า ในวันหนึ่งคุณชานนท์จะกลับมา เมื่อถึงวันนั้นผมพร้อมจะคืนสปาแห่งนี้ให้กับเจ้าของเดิมด้วยความเต็มใจ” เก่งกาจนำปรบมือให้ประชา นักข่างคนอื่นเลยปรบตาม ชานนท์นั่งอยู่ในกลุ่มนักข่าว กำมือแน่น “ขอบคุณครับ”
ประชาพยักหน้าให้เก่งกาจถามแบบรู้กัน เก่งกาจลุกยืนถามทันที
“มีข่าวซุบซิบกันว่าคุณประชาเข้าไปอยู่ที่บ้านคุณชานนท์แล้ว ในวงสังคมพูดถึงเรื่องนี้กันมาก โดยเฉพาะข่าวที่ว่าคุณประชากับคุณนิลมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินคนรู้จัก”
ประชามองไปทางแววนิล
“ก่อนจะตอบคำถามนี้ ผมคงต้องขอเรียนเชิญคุณนิลหุ้นส่วนอีกคนของสปาเรา ขึ้นมาบนเวทีหน่อยครับ”
แววนิลมองหน้ามณฑา
“มันจะเล่นอะไรอีก”
“ไปเถอะค่ะ คุณประชาบอกนมแล้วว่าอยากให้คนในสังคมมองคุณหนูในแง่ดี เขาจะช่วยแก้ข่าวให้”
แววนิลเชื่อมณฑา ลุกยืน
แววนิลขึ้นเวทียืนอยู่ข้างประชา ยิ้มแย้มให้สื่อ
“สำหรับผู้คนที่สงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณนิล ผมอยากจะให้นักข่าวทุกท่านเขียนข่าวไปเลยนะครับว่า” ประชาโอบไหล่แววนิลเข้ามาใกล้ “ผมกับคุณนิลเราจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้”
แววนิลตกใจมองหน้าประชา ชานนท์ตะลึงเป็นห่วงแววนิลมากขึ้น พวกนักข่าววิ่งกรูไปหน้าเวทีเพื่อถ่ายรูป
แววนิลพยายามจะพูดปฏิเสธ แต่โดนประชาโอบไหล่ไว้แน่นแล้วแย่งพูดก่อน
“กำหนดวันแต่งเมื่อไหร่ผมจะรีบแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกที คุณนิลเธอรู้สึกจะเป็นลม ผมคงต้องขอจบการแถลงข่าวเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ”
ประชารีบดึงแววนิลออกจากเวทีไป มณฑาลุกยืนห่วงแววนิลรีบวิ่งตามประชา นักข่าวจะตามประชา แต่ได้ยินเสียงอึ่งกรี๊ดลั่น
“อ๊ายยย ไม่จริง เป็นไปไม่ได้”
นักข่าวหันมามองอึ่งเป็นจุดเดียว เยาว์มองอึ่ง รู้ได้ทันทีว่าอึ่งต้องมีอะไรกับประชาแน่แล้ว
ประตูห้องน้ำเปิด ฉลามเดินออกมาล้างมือที่อ่างน้ำ แล้วดึงปืนออกมาตรวจความเรียบร้อยของกระสุนปืนฉลามเดินออกมาชนกับเขมิกาพอดี
“เฮ้ย เดินยังไงวะไอ้นี่”
เขมิกาปลอมตัวอยู่ในชุดหมีสีน้ำเงินแบบช่างซ่อมประปา ใส่หมวกแก๊ปบังหน้า มีผ้าปิดปาก ถือกล่องเหล็กใส่อุปกรณ์ เขมิกาดัดเสียงห้าว
“ขอโทษครับๆ”
ฉลามมองเขมิกาอย่างสำรวจแล้วถามเสียงห้วน
“เป็นคนงานที่นี่หรือ”
เขมิกาก้มๆ หน้าไว้
“เปล่าครับ ผมเป็นช่างจะมาซ่อมชักโครก น้าเยาว์หัวหน้าพนักงานที่นี่เป็นคนโทรไปตาม ผมเจอแกที่หน้างานแล้วแกบอกให้เข้ามาซ่อมได้เลย”
ฉลามไม่สงสัยเดินผละไป เขมิการีบก้มหน้าเดินเข้าห้องน้ำ
อีกมุมในงาน ฉลามมองหาชานนท์ว่าจะโผล่มาในงานหรือเปล่า เห็นแต่นักข่าวเดินไปเดินมา ประชาเดินเข้ามาหยุดข้างๆ
“เห็นมันบ้างหรือเปล่า”
“ยังไม่เห็นเลยนาย”
“คอยจับตาดูคนที่น่าสงสัยให้ดี ถ้าไอ้ชานนท์มันยังมีชีวิตอยู่มันต้องอยากมาหาน้องสาวมันแน่ เห็นมันเมื่อไหร่ก็ลากไปเป่าตามแผน”
“ครับนาย”
เยาว์เดินเข้ามาหาประชา ฉลามรีบผละไปทางอื่น
“ได้เวลาแล้วค่ะ”
ประชาขึ้นเวทีพูดขอบคุณสื่อมวลชน
“ผมต้องขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมสังสรรค์กันในวันนี้ นับจากคุณชานนท์นายเก่าของผม
หายสาบสูญไป ผมก็ตั้งใจบริหารกิจการสปาด้วยความหวังว่า ในวันหนึ่งคุณชานนท์จะกลับมา เมื่อถึงวันนั้นผมพร้อมจะคืนสปาแห่งนี้ให้กับเจ้าของเดิมด้วยความเต็มใจ” เก่งกาจนำปรบมือให้ประชา นักข่างคนอื่นเลยปรบตาม ชานนท์นั่งอยู่ในกลุ่มนักข่าว กำมือแน่น “ขอบคุณครับ”
ประชาพยักหน้าให้เก่งกาจถามแบบรู้กัน เก่งกาจลุกยืนถามทันที
“มีข่าวซุบซิบกันว่าคุณประชาเข้าไปอยู่ที่บ้านคุณชานนท์แล้ว ในวงสังคมพูดถึงเรื่องนี้กันมาก โดยเฉพาะข่าวที่ว่าคุณประชากับคุณนิลมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินคนรู้จัก”
ประชามองไปทางแววนิล
“ก่อนจะตอบคำถามนี้ ผมคงต้องขอเรียนเชิญคุณนิลหุ้นส่วนอีกคนของสปาเรา ขึ้นมาบนเวทีหน่อยครับ”
แววนิลมองหน้ามณฑา
“มันจะเล่นอะไรอีก”
“ไปเถอะค่ะ คุณประชาบอกนมแล้วว่าอยากให้คนในสังคมมองคุณหนูในแง่ดี เขาจะช่วยแก้ข่าวให้”
แววนิลเชื่อมณฑา ลุกยืน
แววนิลขึ้นเวทียืนอยู่ข้างประชา ยิ้มแย้มให้สื่อ
“สำหรับผู้คนที่สงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณนิล ผมอยากจะให้นักข่าวทุกท่านเขียนข่าวไปเลยนะครับว่า” ประชาโอบไหล่แววนิลเข้ามาใกล้ “ผมกับคุณนิลเราจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้”
แววนิลตกใจมองหน้าประชา ชานนท์ตะลึงเป็นห่วงแววนิลมากขึ้น พวกนักข่าววิ่งกรูไปหน้าเวทีเพื่อถ่ายรูป
แววนิลพยายามจะพูดปฏิเสธ แต่โดนประชาโอบไหล่ไว้แน่นแล้วแย่งพูดก่อน
“กำหนดวันแต่งเมื่อไหร่ผมจะรีบแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกที คุณนิลเธอรู้สึกจะเป็นลม ผมคงต้องขอจบการแถลงข่าวเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ”
ประชารีบดึงแววนิลออกจากเวทีไป มณฑาลุกยืนห่วงแววนิลรีบวิ่งตามประชา นักข่าวจะตามประชา แต่ได้ยินเสียงอึ่งกรี๊ดลั่น
“อ๊ายยย ไม่จริง เป็นไปไม่ได้”
นักข่าวหันมามองอึ่งเป็นจุดเดียว เยาว์มองอึ่ง รู้ได้ทันทีว่าอึ่งต้องมีอะไรกับประชาแน่แล้ว
ชานนท์ห่วงแววนิลรีบตามเข้าไปในสปา ฉลามที่เฝ้าสังเกตคนน่าสงสัยอยู่ เห็นชานนท์ดูรีบร้อนตามแววนิลกับประชาไปก็สงสัยชานนท์
ประชาพาแววนิลมาที่ห้องทำงาน แววนิลชี้หน้าด่าประชา
“ฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับคนอย่างแก” ประชายิ้ม
“ผมทั้งหล่อ ทั้งรวย กำลังเป็นที่หมายตาของสาวๆ แต่ผมกลับเลือกคุณนิล นับว่าให้เกียรติมากแล้วนะครับ”
แววนิลยิ่งโกรธมากกว่าเดิม
“ไอ้บ้า ไอ้เลว แกขี้ตู่เอาเองทั้งหมด”
แววนิลพุ่งเข้าไปทุบตีประชา ประชาจับสองมือไว้
“อยากให้นักข่าวได้ภาพผมกอดจูบกับว่าที่เมียในอนาคตหรือไง ได้เลย สามีจัดให้”
ประชาจะกอดแววนิล มณฑาวิ่งเข้ามาผลักประชาออกไป แววนิลตัวสั่นกอดมณฑา
“ไอ้คนปลิ้นปล้อนหลอกลวง แกหลอกฉัน แกต้องการยึดสมบัติคุณหนูถึงได้ใช้วิธีหน้าด้านๆ แบบนี้ อย่าหวังว่าฉันจะยอมให้แกมัดมือชกได้สำเร็จ กลับกันเถอะค่ะคุณหนู”
มณฑารีบพาแววนิลออกไป ประชายิ้มเยาะ
ชานนท์หลบอยู่หาทาง หาจังหวะจะคุยกับแววนิล เห็นแววนิลเดินมากับมณฑา อึ่งวิ่งเข้ามากระชากแขนแววนิลโวยวาย
“หน้าด้าน หาผู้ชายไม่ได้แล้วหรือไง ถึงคิดจะกินผัวชาวบ้าน”
“สามีแกเป็นใคร ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย”
“คุณประชาเป็นผัวฉันรู้ไว้เสียด้วย” แววนิลหัวเราะ
“เหรอ ดูสมกันดีนี่ ไอ้คนขี้โกงกับนังขี้ข้าชั้นต่ำ”
“แก”
อึ่งบีบคอแววนิล มณฑาโกรธจิกผมอึ่ง
“ปล่อยคุณหนูของฉันเดี๋ยวนี้”
อึ่งโดนจิกผมแววนิลหน้าหงายแต่ไม่ยอมปล่อยมือ แววนิลแกะมืออึ่งออกจนหลุด แววนิลถอยไปไอเจ็บคอ
มณฑาลากอึ่งเอาหัวโขกผนังหลายที ชานนท์ถือโอกาสที่มณฑาหันหลังให้ รีบออกมาดึงแขนแววนิลลากให้ตามไป
แววนิลดิ้นพยายามจะตีชานนท์ให้ปล่อย
“อะไรกันเนี่ย ปล่อยฉัน”
ชานนท์กระซิบบอกแววนิล
“พี่เอง”
แววนิลช็อกตาค้างมองหน้ากากชานนท์ ยอมให้ชานนท์ดึงตัวไป
อึ่งออกแรงสะบัดมณฑา หันกลับมาจะตบมณฑา มณฑาแรงเยอะจับข้อมืออึ่งได้ ใช้อีกมือตบหน้าอึ่ง เยาว์วิ่งมาถึงจับมือมณฑา
“พอเถอะค่ะ”
มณฑาสะบัดมือเยาว์ออก สั่งสอนเยาว์
“หัดสั่งสอนลูกสาวเธอซะบ้าง คิดจะทอดกายให้ผู้ชายก็ใจง่ายไปคนเดียว อย่ามาดึงคุณหนูของฉันลงไปเกลือกกลั้วด้วย ฉันเลี้ยงคุณหนูให้รักนวลสงวนตัว ไม่ใช่ปล่อยตัวเป็นคุณโสเหมือนลูกสาวเธอ” มณฑาหันไป มองหาแววนิลไม่อยู่แล้ว “คุณหนู คุณหนูไปไหนแล้วละ คุณหนู”
มณฑารีบวิ่งหาแววนิล
อึ่งโมโหแค้นมณฑามาก
“แม่ไม่น่าเข้ามายุ่งเลย เห็นมั้ยฉันโดนมันด่าฟรีๆ” เยาว์โกรธอึ่ง ตบหน้าอึ่ง อึ่งหน้าหันกุมแก้ม “แม่”
เยาว์โกรธจนตัวสั่น เสียงสั่น
“แกยังไม่รู้สึกตัวอีกหรือว่าทำอะไรลงไป น่าไม่อาย”
อึ่งอักอักพูดไม่ออกที่แม่รู้แล้ว
อีกมุมหนึ่ง ชานนท์ดึงแววนิลมาหลบแล้วดึงหน้ากากผ้าออก แววนิลตกใจจะเรียกชื่อชานนท์ ชานนท์ปิดปากไว้ได้ก่อน
“ฟังพี่ให้ดี ห้ามแต่งกับประชาเป็นอันขาด มันเป็นคนวางแผนฆ่าพี่” แววนิลยิ่งตกใจกว่าเก่า ชานนท์รีบพูด
“รับปากพี่ นิลจะอยู่เฉยๆ อย่าโต้ตอบหรือแจ้งตำรวจตอนนี้” แววนิลพยักหน้า “ห้ามบอกใครว่าพี่ยังไม่ตาย โดยเฉพาะคุณนม”
“ทำไมละคะ” แววนิลถามอย่างแปลกใจ
“คุณนมร่วมมือกับประชาล่อพี่ไปฆ่า” แววนิลตะลึง ชานนท์กอดแววนิล “อดทนรอพี่นะ พี่จะกลับมาลากไอ้ประชาเข้าคุกให้ได้”
แววนิลร้องไห้ ชานนท์ชะโงกหน้ามองออกไปตรงทางเดินระยะไกลเห็นฉลามเดินตรงมา ชานนท์จำฉลามได้ยิ่งมั่นใจว่าเป็นคนของประชาจริงๆ
“พี่ต้องไปแล้ว”
ชานนท์รีบใส่หน้ากากผ้า เร่งฝีเท้าเดินออกจากที่หลบ ฉลามกำลังจะเดินเลี้ยวไปทางอื่นเหลือบมาเห็นหลังชานนท์พอดี ฉลามไล่ตามไป
แววนิลยังยืนนิ่งตกใจกับเรื่องที่ชานนท์บอก มณฑาวิ่งมาถึงพอดีมองเห็นแววนิล
“คุณหนู ทำไมอยู่ๆ หายไป เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูคะ”
แววนิลมองหน้ามณฑาแบบไม่อยากเชื่อ
ชานนท์วิ่งหนีเลี้ยวหลบไปตามทางเดินแต่ฉลามตามไม่ลดละ ชานนท์วิ่งมาถึงหน้าห้องซักอบผ้า หันไปมองข้างหลังฉลามยังไม่ตามมา จึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปในห้อง ชานนท์มองหาที่ซ่อนตัว
ฉลามกำลังจะวิ่งผ่านหน้าห้องแต่เอ๊ะใจที่ประตูแง้มอยู่หน่อยๆ ไม่ได้ปิด ฉลามหยุดวิ่ง ชักปืนออกมาช้าๆ ค่อยๆ ดันประตูเข้าไป ฉลามเดินช้าๆ เข้ามาในห้องอย่างระวังตัว มองไปที่เครื่องซักผ้า ตะกร้าใส่ผ้าขนหนูที่ยังไม่ซักหลายตะกร้า ฉลามเดินไปที่ตู้เก็บผ้าคิดว่าชานนท์ต้องซ่อนตัวอยู่ในตู้แน่ๆ ฉลามกระชากตู้เล็งปืนพร้อมยิง แต่ไม่มีชานนท์อยู่ ฉลามเซ็งกำลังจะเดินออกจากห้อง เห็นกองผ้าปูเตียงกองโตอยู่มุมห้องรอซัก ฉลามเดินช้าๆ ไปที่กองผ้าปูเตียง
ชานนท์อยู่ใต้กองผ้าปู ชานนท์หมอบนิ่งอยู่ ฉลามกระชากผ้าปูออกเห็นชานนท์หมอบอยู่ ฉลามเล็งปืนขู่ไว้ ชานนท์ช็อก
“อยู่นิ่งๆ อย่าขยับแม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นปืนในมือฉันมันจะตกใจลั่นใส่หัวแก”
ชานนท์ไม่กล้าขยับ ฉลามเอื้อมมือไปช้าๆ จะดึงผ้าปิดปากออกเพื่อดูว่าเป็นชานนท์หรือเปล่า ทันใดนั้นฉลามถูกผ้าปูเตียงคลุมหัวไว้มิด เขมิกาคือคนคลุมผ้า ยืนอยู่ด้านหลังฉลาม เขมิกาเตะฉลาม ฉลามมองไม่เห็นล้มลง ดิ้นขลุกขลักในผ้า เขมิกาไม่รอช้าเตะซ้ำ
“โอ๊ยๆๆ”
เขมิกาง้างหมัดอัดซ้ายอัดขวาอย่างเมามันจนฉลามนิ่งไป ชานนท์มองตะลึงไม่รู้ว่าเป็นเขมิกา เขมิการีบวิ่งไปคว้ามือชานนท์ ดัดเสียงให้ใหญ่ๆ
“รีบไป”
เขมิกาดึงชานนท์วิ่งออกจากห้อง ไปทางด้านหลังสปา
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 12 (ต่อ)
ฉลามดิ้นอยู่ในผ้าปู พยายามดึงผ้าออกจนหัวโผล่ออกมา ฉลามรีบลุกนั่ง ประชาวิ่งเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น”
เขมิกาวิ่งนำมาถึงด้านหลังสปา ชานนท์วิ่งตามมาหยุดรีบถามเขมิกา
“คุณเป็นใคร เสียงคุณคุ้นๆ มากเลย”
เขมิกาหันกลับมา พูดเสียงปกติ
“จำฉันไม่ได้หรือ”
“เธอ! เขมิกา”
เขมิกาดึงผ้าลงมาที่คอ
“คุณคิดว่าตัวเองแน่มากเลยใช่มั้ย ถึงได้กล้าบุกมาคนเดียวนี่ดีนะที่ฉันฉลาดหลักแหลมตามมาช่วยคุณได้ทัน”
“ไม่เห็นจำเป็นต้องช่วย ฉันเอาตัวรอดได้”
“โห เห็นๆ อยู่ว่าเกือบโดนจับได้แล้ว ยังจะกล้าคุยโว”
ปิ้งโผล่หัวขึ้นมาจากกำแพง
“โอ๊ย หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีอารมณ์มาทะเลาะกันอยู่ได้ กลัวคนไม่รู้หรือไงลูกพี่ว่าเป็นพ่อแง่แม่งอน”
“เงียบไปเลยไอ้ปิ้ง / เงียบไปเลยปิ้ง”
ปิ้งจ๋อย ได้ยินเสียงประชา
“หามันให้เจอ”
“พวกมันมากันแล้ว ตัวใครตัวมันนะลูกพี่”
ปิ้งรีบผลุบหัวลงไป
“ไอ้ปิ้งฉันให้แกมาช่วยดันหนีเอาตัวรอดก่อนเลย”
ปิ้งโผล่กลับมาอีกทียื่นมือมาทางเขมิกา
“ก็เร็วๆ สิลูกพี่ เร็วๆ”
เขมิกาจับมือปิ้ง ส่วนขาเหยียบตุ่มน้ำ ชานนท์ช่วยดันก้นเขมิกาขึ้นไป
ฉลามกับประชาวิ่งมาทางด้านหลังสปา แต่ไม่เจอพวกชานนท์แล้ว
“แกเห็นหน้ามันมันหรือเปล่า”
ประชาถามฉลามเมื่ออยู่ในห้องทำงาน
“ผมเกือบจะเห็นอยู่แล้ว แต่มีคนมาช่วยมันไปก่อน”
ประชาหงุดหงิด
“โธ่โว้ย ตั้งแต่จ้างแกมาไม่เคยทำอะไรสำเร็จสักอย่าง”
“ถึงผมจะไม่รู้ว่ามันเป็นใคร แต่ผมเห็นมันกระชากตัวแฟนคุณไปเหมือนคิดจะทำร้าย”
“แววนิลหรือ”
ประชายิ่งสับสนหนักขึ้น
คอนโดโยธิน ชานนท์เดินเข้าห้อง เขมิกาเดินตามบ่นไม่หยุด
“คุณทำให้ใครต่อใครเขาเป็นห่วงกันไปหมด คิดจะอยู่ก็อยู่คิดจะไปก็ไป ทำแบบนี้ เปรี้ยวไปหรือเปล่า”
ชานนท์หันมา
“เธอก็เป็นห่วงฉันหรือ”
“โอ๊ย ไม่มีซะหรอก คนที่เป็นห่วงคุณจนกินไม่ได้นอนไม่หลับคือคุณปรียาต่างหาก”
“ฉันห่วงน้อง”
“แต่ก็น่าจะปรึกษากันก่อน”
“เธอมีเวลาให้คุยหรือ ฉันเห็นเธอตื่นเต้นกับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว คงไม่มีกะจิตกะใจจะมาสนใจเรื่องของคนอื่นหรอกมั้ง”
“ฉันเนี่ยหรือตื่นเต้น”
ชานนท์ไม่ตอบเดินไปมองที่หน้าต่าง ปิ้งเดินเข้ามาในห้องวางถุงบนโต๊ะ
“ของอร่อยมาแล้วลูกพี่” ปิ้งหยิบอาหารกล่องออกจากถุง “กล่องนี้ข้าวกระเพราหมึกไข่ดาวสุกๆ ของลูกพี่เข็ม กล่องนี้ผัดซีอิ๊วของฉัน ส่วนข้าวผัดกุ้งกล่องนี้ก็ของไอ้คุณนนท์ เอ๊ยคุณนนท์”
เขมิกาดึงกล่องข้าวของชานนท์จากมือปิ้ง
“เอามานี่ ฉันกินเองทั้งสองกล่องเลย”
“อ้าว”
ปิ้งมองหน้าชานนท์ว่าเกิดอะไรขึ้น ชานนท์หันไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาไม่สนใจเขมิกา เขมิกาบอกกับปิ้งโดยไม่หันไปทางชานนท์
“ช่วยบอกเขาด้วยว่าถ้าหิวข้าวก็ลงไปหากินเอง ที่นี่ไม่มีคนรับใช้มาคอยเอาใจคุณผู้ชายหรอกนะ”
ปิ้งมองชานนท์ ชานนท์รีบบอกปิ้ง
“ช่วยบอกลูกพี่นายด้วยว่า ฉันก็ไม่คิดอยากกินของใครฟรีๆ”
ปิ้งมองเขมิกา เขมิการีบบอกปิ้ง
“ไอ้ปิ้งบอกเขาไปทีว่าถ้ารวยนักก็จ่ายค่าที่พักมา รวมทั้งค่าน้ำเปล่าด้วย”
ชานนท์กำลังยกแก้วขึ้นดื่มถึงกับสำลักน้ำ
“ช่วยบอกลูกพี่นายทีว่าพรุ่งนี้ฉันจะนั่งรถทัวร์กลับเองและฉันก็ไม่ได้อยากกลับไปนัก แต่ต้องการกลับไปสืบหา
หลักฐานที่รีสอร์ทของประชา”
เขมิกาปรี๊ดที่ชานนท์ไม่ลดราวาศอกให้
“ไอ้ปิ้งบอกเขาด้วยว่าคนของปู่เคยไปสืบให้แล้วไม่เจออะไร”
“ปิ้ง ฝากบอกลูกพี่นายทีว่า ฉันต้องการเห็นด้วยตาตัวเอง”
“ไอ้ปิ้ง...”
ปิ้งปวดหัวโวยลั่น
“โอ๊ยย อยู่ใกล้กันแค่นี้ก็คุยกันเองเลยซี่ ฝากข้อความไปมาอยู่นั่นแหละ คนนะครับไม่ใช่มือถือ ไปโดดตึกตายดีกว่า”
ปิ้งหยิบกล่องข้าวของตัวเองเดินออกจากห้องไป เขมิกามองชานนท์อย่างหมั่นไส้ ก่อนกระแทกตัวนั่งบนเก้าอี้
เขมิกาตักข้าวเข้าปาก ชานนท์เดินเข้ามานั่งตรงข้ามหยิบกล่องข้าวของตัวเองไป เขมิกาไม่ยอมจะดึงกล่องคืน ชานนท์วางแบงก์ร้อยแรงๆ ตรงหน้าเขมิกา
“ทอนมาด้วยหกสิบบาท”
เขมิกาฉุนหยิบเงินทอนให้แบบแรงๆ เหมือนกันตรงหน้าชานนท์ ชานนท์หยิบเงินไป เปิดกล่องกินข้าวผัดแต่กัดโดนพริก
“โอ๊ย”
ชานนท์รีบดึงพริกขี้หนูทั้งเม็ดออกจากปาก เขมิกาเห็นพริกขี้หนูสีแดงเม็ดโตก็ตกใจ
“เฮ้ย ข้าวผัดบ้าอะไรยัดใส่พริกขี้หนูด้วย” ชานนท์เผ็ดสุดๆ เขมิกาห่วงมาก “ใจเย็นๆ เดี๋ยวๆ ฉันไปเอาน้ำมาให้” เขมิการีบวิ่งไปเอาขวดน้ำพร้อมแก้ว รีบเทใส่แก้วยื่นให้ชานนท์ ชานนท์รับไปดื่มอักๆ “เป็นไงดีขึ้นมั้ย”
ชานนท์อ้าปากเอามือพัดๆ แบบเผ็ดมาก
“โอ๊ย เผ็ด เผ็ดยิ่งกว่าเดิมอีก” เขมิกาลนลาน
“แล้วกินอะไรช่วยได้ล่ะ นึกออกแล้ว” เขมิการื้อถุงที่ใส่กล่องข้าวมา เจอมะนาวที่ผ่าครึ่งซีกมาให้กินกับข้าวผัด เขมิกาหยิบขึ้นมา “ไอ้นี่แหละ ชะงัด”
ชานนท์มองมะนาว
“อะไร”
เขมิการีบมายืนข้างชานนท์
“อ้าปากเร็วๆ”
“ฉันไม่เอาด้วยหรอก เธอจะแกล้งฉันมากกว่า ฉันรู้ทัน ผู้หญิงอะไรเค็มเป็นเกลือแล้วยังใจดำเป็นอีกาอีก โอ๊ย เผ็ดๆๆ”
“ตาแก่เอ๊ยบ่นอยู่ได้อ้าปาก ไม่อ้าฉันง้าง”
ชานนท์ไม่ยอมบ่ายหน้าหนี เขมิกาบีบปากชานนท์จนหงายหน้า ชานนท์เผ็ดต้องรีบอ้าปากเป่าลมออก
เขมิกาบีบมะนาวทั้งซีกใหญ่ๆ ใส่ปากชานนท์ทันที ชานนท์กลืนลงไป เม้มปากแน่น หน้าเบี้ยวไปมาเพราะเปรี้ยวมาก
“เป็นไงหายเผ็ดหรือยัง”
ชานนท์แปลกใจที่ความเผ็ดหายไป
“มันช่วยได้จริงๆ ไม่เผ็ดแล้ว”
“บอกแล้วว่าฉันมันฉลาดหลักแหลม นี่ไม่ได้คุยนะแค่ชื่นชมตัวเอง คนมันอัจฉริยะว่ามั้ย”
ชานนท์ยิ้มๆ แล้วรีบตีหน้าตาย
“ขอบใจ”
ชานนท์เขี่ยข้าวดูว่ามีพริกอีกมั้ย
“สั้นจุ๊ดแค่นี้เองหรือ”
ชานนท์หยิบเงินที่เขมิกาทอนให้ตอนแรกมาวางบนโต๊ะ
“ค่ามะนาว เงินที่เหลือฉันใจดีทิปให้”
ชานนท์เดินไปเข้าห้องน้ำเฉยเลย เขมิกามองตาม
“อีตาบ้าหน้าหยิ่ง ไม่เคยสำนึกบุญคุณใครเลยหรือไงนะ” เขมิกานั่งลง มองกล่องข้าวผัด เขี่ยๆ ข้าว “มันมีพริกได้ไง สงสัยยัยเจ๊ทำหล่นใส่ แย่ชะมัด”
ปิ้งแอบมองตรงช่องประตูอยู่ ค่อยๆ งับประตูปิดเหมือนเดิม
“ปากก็ว่าไม่สนใจ พอเห็นเขาเผ็ดเข้าหน่อย ห่วงเขาหูตาเหลือก นี่ถ้าฉันไม่ทดสอบเอง คงไม่รู้ชัดแจ้งแดงแจ๋อย่างนี้หรอก ลูกพี่นะลูกพี่ ชอบเขาแล้วจะไปแต่งกับคุณโยทำไม เครียดแทนโว้ย”
วันใหม่ที่ชายหาดติดบ้านจุมพล โยธินใส่หมวกกันแดดเดินมองหาปรียาเห็นปรียายืนเศร้ามองทะเล โยธินเดินเข้าไปหา ถอดหมวกใส่ให้ ปรียาหันมา
“อุ๊ย คุณโยไม่ต้องหรอกค่ะ คุณใส่เถอะ”
“คุณใส่ไว้ดีกว่า เห็นแดดอ่อนๆ แบบนี้ ทำให้ผิวเป็นฝ้าได้นะครับ”
ปรียาหงิดหงุดน้อยใจชานนท์
“ทำไมเขาถึงไม่เป็นห่วงฉันแบบนี้บ้าง ไม่ว่าเขาจะไปไหนทำอะไร เขาไม่เคยบอกฉันเลย”
“ผมว่าคุณนนท์คงห่วงน้องสาวเลยไม่ทันได้บอกใคร แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เข็มไปตามแล้ว วันนี้ก็คงจะกลับมา”
“แต่ไหนแต่ไรมาพี่นนท์ไม่เคยเห็นฉันเป็นคนสำคัญอยู่แล้วค่ะ เขาไม่เคยรักฉัน ฉันต่างหากที่พยายามหลอกตัวเองมาตลอด”
ปรียาจะร้องไห้รีบเบือนหน้าไปทางอื่น โยธินมองปรียาแล้วนึกถึงตัวเอง
“ผมก็เคยแอบถอดใจเหมือนคุณ บางทีก็ยังสงสัยว่าเข็มรักผมหรือเปล่า” ปรียารีบหันมา
“เขาต้องรักคุณสิคะถึงได้ยอมแต่งงานด้วย หรือคุณรู้ว่าคุณเข็มมีใครอยู่ในใจ”
“ไม่มีนะ ผมไม่เคยเห็นเข็มมีใคร”
“ดีแล้วค่ะ คุณกำลังจะแต่งงานกันต้องเชื่อใจกันมากๆ” โยธินยิ้มออก
“คุณพูดถูก ขอบคุณนะครับที่ทำให้ผมมั่นใจขึ้น ต่อไปผมจะรักเข็มให้มากกว่าเก่า ไม่เป๋ไปทางไหนอีก”
“คุณโยพูดเหมือนเคยปันใจไปให้คนอื่น”
“ก็มีบ้างตามประสาผู้ชาย แต่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วครับ คุณปรียาก็เหมือนกันอย่าท้อ ผมยกป้ายไฟเชียร์คุณอยู่นะ”
ปรียายิ้มให้โยธินรู้สึกมีกำลังใจขึ้น
ปิ้งขับรถกระบะเข้ามาจอดหน้าบ้านจุมพล ชานนท์กับเขมิกาลงมาจากรถกระบะ ปิ้งชะโงกหน้าบอกเขมิกา
“ฉันเอารถกลับไปที่แพปลาเลยนะลูกพี่”
เขมิการีบเกาะประตู พูดขู่เบาๆ
“ถ้าปู่รู้ว่าฉันไปทำอะไรมา แกชะตาขาด”
“รับรองปิดปากสนิทน่าลูกพี่ บายใจได้”
เขมิกาถอยออกมา ปิ้งขับรถออกไปสวนกับรถของโยธิน โยธินขับรถเข้ามาจอด ปรียาเห็นชานนท์ดีใจมาก รีบลงจากรถทันที
“พี่นนท์ พี่นนท์กลับมาแล้ว”
ปรียาวิ่งเข้าไปสวมกอดชานนท์ ชานนท์ก็ไม่ได้ผลักไสปรียา เขมิกาหึงเลยประชดชานนท์ด้วยการอ้าแขนกว้างวิ่งไปหาโยธิน
“เฮียโยจ๋า เข็มกลับมาแล้วจ้า”
เขมิกากอดคอโยธิน โยธินงงแต่ก็ดีใจกอดตอบ
“ไปแค่วันเดียวคิดถึงเฮียขนาดนี้เลยหรือไอ้สลาตัน”
เขมิกาเงยหน้า แกล้งพูดเสียงดังๆ
“มาก ให้ไอ้ปิ้งใส่ตีนผีไม่มีแตะเบรกเลยละเฮีย”
ชานนท์มองเขมิกาอย่างหึงๆ
“เมื่อคืนปรียานอนไม่หลับเลย เป็นห่วงพี่นนท์ คิดไปสารพัดว่าพี่นนท์จะมีอันตราย”
ปรียาบอก ชานนท์แกล้งพูดหวานจี๋จ๋ากับปรียา
“พี่ไม่คิดทำอะไรเสี่ยงๆ หรอกจ้ะ แค่จะไปส่งข่าวให้นิลเฉยๆ พอเสร็จเรื่องปั๊บ ก็รีบกลับทันทีกลัวปรียาจะห่วง”
เขมิกามองอย่างหมั่นไส้ พูดเสียงดัง
“เฮีย ตอนที่เข็มไม่อยู่คิดถึงเข็มมากหรือเปล่า”
“ไม่มากเท่าไหร่ แค่สองเวลา คือเวลาหลับตากับลืมตาแค่นั้น”
“โหย เหมือนกันเด๊ะๆ”
ชานนท์หมั่นไส้เขมิกา ปรียารีบช่วยโยธิน
“คุณโยอยากพาคุณเข็มไปพิมพ์การ์ดแต่งงานไม่ใช่หรือคะ”
โยธินงงแต่รีบผสมโรงไป
“อ๋อ ใช่ครับ แต่เข็มกลับมาเหนื่อยๆ จะพักก่อนก็ได้นะ”
“พักได้ไง งานแต่งของเราสำคัญกว่า” เขมิกาตั้งใจแกล้งชานนท์จึงคล้องแขนโยธิน “ขอตัวก่อนนะคะทุกคน”
ชานนท์รีบโอบไหล่ปรียาพูดกับโยธิน
“ผมก็ขอตัวเหมือนกัน ปรียาไปคุยกับพี่ที่บ้านนะจ้ะ”
ปรียายิ้มหวานพยักหน้า เขมิกาหึงรีบดึงแขนโยธินมาโอบไหล่ตัวเองบ้างเลียนแบบชานนท์
“เฮียจ๋า รีบไปกันเถอะจ๊ะ แถวนี้มันเหม็นกลิ่นน้ำเน่าๆ ยังไงก็ไม่รู้”
เขมิกาเชิดใส่ชานนท์เดินไปที่รถกับโยธิน ชานนท์มองบึ้งตึง ปรียาลอบมองสีหน้าชานนท์
ชานนท์เดินมาถึงหน้าบ้าน จะเปิดประตู ปรียาเดินตามหลังพูดขึ้นทันที
“ปรียารู้นะคะที่วันนี้พี่นนท์ดีกับปรียาเพราะอะไร”
ชานนท์ชะงักมือ หันกลับมา
“อย่าเพิ่งพูดกันตอนนี้เลย พี่เหนื่อย อยากนอนพัก”
ชานนท์เปิดประตูจะเข้าห้อง ปรียาดึงแขนไว้
“พี่นนท์ต้องการประชดประชันใครหรือเปล่าคะ”
ชานนท์อึ้ง รู้สึกผิด
“พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำอย่างนี้อีก”
“แต่ปรียาอยากขอร้องให้พี่นนท์ทำต่อไป” ชานนท์แปลกใจ ปรียาจับมือชานนท์ “ปรียาเต็มใจให้พี่นนท์ทำแบบนี้ดีกว่าเห็นพี่นนท์ทำเย็นชา ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับปรียาเหมือนที่ผ่านมา” ชานนท์อึ้ง
“เธอบ้าหรือเปล่าปรียา คิดอะไรอย่างนี้”
“ปรียามีสติดีทุกอย่างค่ะ เราต่างคนต่างหลอกตัวเองกันต่อไปเรื่อยๆ เถอะนะคะ ปรียาขอ ได้มั้ยคะ”
ชานนท์พูดไม่ออก
ที่บ้านชานนท์ แววนิลต้องตอบคำถามมณฑาเกี่ยวกับผู้ชายที่ฉลามเห็นว่าอยู่กับเธอ
“ไม่ได้ค่ะ เพราะมันใส่maskปิดหน้าไว้ นิลก็เลยจำไม่ได้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง”
มณฑาซักต่อ
“เสียงพูดละคะ”
“เสียงมันแหบๆ พูดไม่เต็มคำคล้ายคนลิ้นไก่สั้น”
“มันพูดอะไรกับคุณหนูคะ”
“มันก็ขู่ให้นิลถอดแหวนให้มัน แต่ยังไม่ทันถอด มันคงเห็นคนของประชาไล่ตามมา มันก็เลยวิ่งหนีไป”
มณฑาจ้องตาแววนิลเพื่อจับผิด
“คุณหนูพูดจริงนะคะ ไม่ได้ปิดบังอะไรนม” แววนิลแกล้งโกรธ
“แล้วนมล่ะสงสัยอะไรนิลถึงได้ซักไซ้ละเอียดยิบขนาดนี้”
“นมเป็นห่วงค่ะ”
“เนี่ยหรือห่วง นิลตกใจกลัวมันทำร้าย แทนที่จะถามว่านิลเจ็บมั้ยเป็นยังไงบ้าง กลับถามซ้ำซากอยู่นั่นแหละ”
“นมแค่อยากรู้ว่ามันเป็นคนในสปาหรือเปล่าจะได้แจ้งตำรวจจับมันไงคะ”
แววนิลแกล้งหงุดหงิด
“นิลก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นพวกหัวขโมย ถ้าเป็นคนที่สปานิลก็ต้องรู้ ต้องจำได้ พอแล้วนะ ขี้เกียจจะตอบแล้ว”
แววนิลรีบเดินหนีเข้าห้องน้ำ มณฑาเดินออกจากห้องปิดประตู แววนิลเดินออกมาหน้าห้องน้ำทาบอกโล่งใจ
มณฑาเปิดประตูห้องทำงานชานนท์เข้ามา ประชายืนรออยู่ ประชาหันไปหามณฑา
“คุณนิลว่าไงครับ”
มณฑาหน้าบึ้งตึงไม่ค่อยอยากพูดด้วย
“ผู้ชายคนนั้นเป็นหัวขโมย มันต้องการขู่เอาแหวนจากคุณหนู ไม่ใช่คุณผู้ชายอย่างที่คุณเข้าใจ”
“เชื่อคุณนิลได้แค่ไหน”
มณฑาไม่พอใจ
“ถ้าไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องให้ฉันไปถาม”
“ใจเย็นสิครับ ผมก็แค่ต้องการความแน่ใจแบบไม่มีข้อกังขา”
“ฉันเลี้ยงคุณหนูมา รู้จักนิสัยคุณหนูดีทุกอย่าง ถ้าคนๆ นั้นคือคุณผู้ชาย คุณหนูต้องรีบบอกฉันเป็นคนแรก ไม่มีทางที่จะปิดบังไว้แน่”
ประชายิ้ม พูดขู่นิ่มๆ
“ผมก็ไม่คิดว่าคุณนมจะโกหกผมเหมือนกัน เพราะถ้าเป็นไอ้ชานนท์จริง ไม่ใช่ผมคนเดียวแน่ที่จะลำบาก”
มณฑายิ้มเยือกเย็น
“คำขู่บางครั้งมันก็มีประโยชน์ตรงทำให้คนหวาดกลัวจนตัวสั่นแต่ถ้าใช้มันบ่อยๆ คนใช้ก็อาจได้ผลสะท้อนกลับที่น่ากลัวยิ่งกว่านะคะ ฉันเตือนในฐานะที่อาบน้ำร้อนมาก่อน”
มณฑาเดินเชิดไป ประชาเกลียด
“จะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้วยังมาทำเป็นปากดี”
ฉลามยืนรออยู่ ประชาเดินเข้ามายื่นเงินให้
“เอาไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ครั้งนี้แกต้องตามหาตัวไอ้คนขับรถของชานนท์แล้วฆ่ามันทิ้งให้ได้ อย่าให้ฉันต้องรู้สึกว่าเงินค่าจ้างที่จ่ายให้แกมันเสียเปล่า”
“ครับนาย ผมจะทำอย่างสุดฝีมือ”
ฉลามรับเงินแล้วออกไปสวนกับอึ่ง ประชาจะเดินหนี อึ่งรีบวิ่งมาดึงแขนไว้
“คิดจะหนีหน้ากันหรือ เรื่องที่ผอ.จะแต่งกับนังแววนิล ฉันไม่ยอมนะ”
ประชาไม่พอใจ
“อย่ามาแสดงท่าทางแบบนี้กับฉัน เอามือออกไป”
อึ่งกลัวปล่อยแขนประชา ประชาเดินไป อึ่งรีบพูดขู่
“ฉันรู้นะว่าผอ.กำลังจะทำอะไร ฉันรู้ทุกอย่าง อยู่ที่ว่าฉันอยากจะพูดให้ใครฟังหรือเปล่าเท่านั้น”
ประชาชะงัก หันมายิ้มให้
“ก็เพราะเธอคอยช่วยฉันทุกอย่างฉันถึงไม่มีวันทิ้งเธอไง” ประชาเข้าไปโอบบ่าอึ่ง “แต่ที่ฉันต้องแต่งกับยัยคุณหนูไฮโซ เพราะต้องการดูดสมบัติจากมัน เธอก็จะได้ส่วนแบ่งด้วย”
อึ่งตาโตอยากได้เงิน
“ผอ.จะแบ่งให้ฉันหรือ”
“แน่นอน ถ้าฉันรวยเธอก็ต้องรวยด้วย แต่ตอนนี้เธอต้องช่วยสืบข่าวไอ้ชานนท์ว่ามันมีการติดต่อกับแม่ของเธอบ้างหรือเปล่า ส่วนฉันจะต้องหาทางทำให้แววนิลยอมจดทะเบียนให้เร็วที่สุด”
ประชาคิดแผนร้าย
เช้าวันใหม่ที่รีสอร์ตประชา ชานนท์ยืนมองตัวบ้านก่อนจะเข้าไปสำรวจภายในบ้าน ที่มุมห้องชานนท์เห็นขาสำหรับติดตั้งกล้องวงจรปิด ชานนท์เดินไปเงยหน้าดู
“มันถอดกล้องออกไปแล้ว”
ชานนท์ผิดหวังก่อนจะเดินออกมายืนตรงระเบียง พยายามนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
เขมิกาประคองชานนท์ออกมาเจอมณฑา มณฑาเห็นชานนท์เลือดออกที่แขนงงมาก เขมิกาเห็นรถชานนท์จึงร้องบอกมณฑา
“กุญแจรถอยู่ไหน”
“คนขับเอาไป”
ปัจจุบัน ชานนท์นึกขึ้นได้รีบวิ่งลงไปยืนตรงจุดที่รถชานนท์เคยจอดอยู่
“ยังมีนายยมอีกคน”
จบตอนที่ 12