xs
xsm
sm
md
lg

มาดามดัน ตอนที่ 13 จบบริบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาดามดัน ตอนที่ 13 อวสาน

เจ๊เมี่ยงเดินออกมาหน้าผับมองหาแอน แล้วเห็นแอนกำลังคุยโทรศัพท์กับพัฒศรี

“เออ..ชั้นก็ล้อเล่นไปงั้นแหละ..ฟังนะ ถ้าเขาขอแกแต่งงานขึ้นมา แกตอบตกลงไปเลย ไปเป็นมาดามอยู่ที่โน่น ไม่ต้องห่วงทางนี้ ชั้นมีสองเจ๊คอยดูแลอยู่แล้ว” แอนบอก
“ดูแลอะไร..ที่โน่นเที่ยงคืนกว่าแล้วชั้นยังได้ยินเสียงแกอยู่ในผับอยู่เลย” พัฒศรีว่า
“แกนี่มันยิ่งกว่าพ่อแม่ชั้นอีก ไม่มีอะไรหรอกน่า เจ๊เขาเจอผู้ใหญ่ เขาก็เลยชวนให้ชั้นอยู่ต่อ”
“ผู้ใหญ่ที่ไหนใครเหรอแก”
“เอาน่า..ไว้กลับมาค่อยคุยกัน อย่าลืมนะแก..ชั้นอยากเห็นแกเป็นมาดามเริ่ดๆเชิดๆอยู่ที่โน่นมากกว่าต้องมาคอยดูแลชั้นอยู่ที่นี่..แค่นี้นะ จุ๊บๆๆๆ รักแกนะเพื่อน”
แอนกดตัดสายแล้วยิ้มมีความสุขที่ได้รับรู้ว่าเพื่อนกำลังมีความสุข แต่ยังไม่ทันจะเดินกลับเข้าไปก็มีคนจำแอนได้เข้ามาขอลายเซ็นต์และถ่ายรูป เจ๊เมี่ยงจะเดินเข้าไปหาแอนแต่กลับถูกแอ๋มพร้อมลูกน้องจัตวาตามมาขวาง
“ถ้าชั้นเป็นแก..ชั้นจะไม่เอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับอิทธิพลของท่าน ที่พูดเนี่ยเพราะเป็น ห่วงแกในฐานะเพื่อนเลยนะ” แอ๋มว่า
“แกไม่ต้องมาขู่ชั้น..หน้าอย่างแกแบบนี้แหละที่ทำให้ชื่อเสียงของพวกชั้นต้องเน่าเฟะ อีเก้งแปลกปลอม หลบไป !!”
“อยากด่าอะไรชั้นก็เชิญ..แต่ถ้าชั้นให้แกดูอะไรแล้วล่ะก็..แกอาจจะเปลี่ยนจากด่าชั้นมา เป็นกอดขาอ้อนวอนชั้นก็ได้”
เจ๊เมี่ยงมีสีหน้าสงสัยเมื่อแอ๋มเอามือถือออกมายื่นให้กดดูคลิปในนั้น เจ๊เมี่ยงดูแล้วถึงกับหน้าถอดสี
“คลิป..คลิปชั้นกับไอ้แดน..ก็ไหน..ไหนแกว่าแกเอาต้นฉบับให้ชั้นแล้วไง”
“โธ่ๆๆๆ..นังเมี่ยงเจิดเอ้ย..ของดีของเด็ด เอ็กซ์คลูซีฟแบบนี้ ถ้าไม่เก็บเอาไว้ใช้ประโยชน์ ก็หน้าโง่เต็มทีแล้ว”
“อีแอ๋ม..นังเพื่อนชั่ว”
เจ๊เมี่ยงเงื้อมือจะตบแต่ถูกลูกน้องจัตวาจับและบีบแรงอย่างเอาเรื่อง
“อย่าหาเรื่องเจ็บตัวดีกว่านังเมี่ยง..ถ้าแกไม่อยากเล่นด้วย แกก็แค่อยู่เฉยๆ ทำเอาหูไป นาเอาตาไร่ ดีกว่าปล่อยให้ชื่อเสียงที่แกสั่งสมมาทั้งชีวิต กลายเป็นคลิปสยิวบนยูทูป”
เจ๊เมี่ยงนิ่งอึ้งมองแอนที่กำลังถ่ายรูปกับแฟนๆ
“ไม่ต้องไปห่วงเด็กมันหรอก..แกก็รู้ว่าชะนีอย่างพวกมันพอดังขึ้นมาแล้ว มันก็พร้อมจะ ถีบหัวส่งแก พอชื่อเสียงเริ่มสู้เด็กใหม่ๆไม่ไหว มันก็ต้องไปวิ่งไล่จับหาไฮโซรวยๆมาเป็น ผัวอยู่ดี เห็นมั้ย..ช้าเร็วก็ไม่ต่างกัน”

แอนกลับมาที่เดิมแต่ก็ไม่เจอเจ๊เมี่ยงแล้ว เธอแต่จัตวากับลูกน้องอีกคน
“แล้วเจ๊เมี่ยงล่ะคะท่าน” แอนถาม
“ไปเข้าห้องน้ำจ้ะ” จัตวาบอก
แอนพยายามมองหาเจ๊เมี่ยง ระหว่างนั้นพนักงานเสิร์ฟเอาเครื่องดื่มน้ำส้มมาให้
“ดื่มน้ำนั่งรอเจ๊เมี่ยงก่อนสิคะ..เดี๋ยวเจ๊เมี่ยงก็มา” จัตวาบอก
แอนนิ่งมองแก้วน้ำส้มตรงหน้าอย่างไม่ทันคิดระแวง เธอยกแก้วขึ้นมาดื่ม เจ๊เมี่ยงยืนดูอยู่อีกมุมเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแอนทุกอย่างแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะโดนแอ๋มกับลูกน้องจัตวาประกบติด เจ๊เมี่ยงสีหน้าอึดอัดเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้เลยตัดสินใจตะโกนออกมา
“แอน..ไม่นะ !!”
เจ๊เมี่ยงพยายามสะบัดตัวแต่ถูกลูกน้องจัตวากระชากตัวแล้วชกเข้าที่ท้องจนจุก แอ๋มจิกหัวเจ๊เมี่ยงขึ้นมาแล้วทำหน้าร้าย
“ชู่ว” แอ๋มจุ๊ปาก “ชะนีเขากำลังจะได้ผัว เก้งอย่างเราแค่นั่งดูเฉยๆก็พอ..อย่าสะเออะ”
แอ๋มพูดจบลูกน้องจัดตวาก็ทุบต้นคอเจ๊เมี่ยงทีเดียวจนตาปรือ เจ๊เมี่ยงแอ๋มแล้วสลบไป

วันใหม่ เจ๊เมี่ยงในสภาพปวดคอเดินลงมาจากชั้นสอง
“อู้ย...คอชั้น..โอ๊ย..ไอ้พวกบ้า มันเห็นเป็นขนมตุ๊บตั๊บเหรอไง”
เจ๊เมี่ยงบ่นไปได้ครู่เดียว แอนก็วิ่งร้องไห้เข้ามา พอเจอหน้าเจ๊เมี่ยงแอนก็ชักสีหน้าโกรธ
“น้องแอน”
“เจ๊..เจ๊ทำกับหนูแบบนี้ได้ยังไง”
“เอ่อ..ฟัง..ฟังเจ๊ก่อนนะคะ..คือเจ๊..เจ๊ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่สาบานได้ว่าเจ๊ไม่ได้รู้เห็น เป็นใจกับพวกนั้นเลย”
“แต่เจ๊ทิ้งให้หนูถูกมอมยา..เจ๊รู้มั้ยว่าไอ้ชาติชั่วนั่นมันทำอะไรกับหนูบ้าง”
“มันทำอะไรเหรอคะ”
แอนชะงัก “เจ๊ !!”
“อุ๊ย..เจ๊..เจ๊ขอโทษ เจ๊ก็แค่..แค่ไม่อยากให้หนูไปคิดมาก ลืมมันได้ก็ลืมๆไป”
“ลืมเหรอ..หนูถูกมันข่มขืน แต่เจ๊บอกให้หนูลืม..ถ้ามันข่มขืนเจ๊ ชีวิตนี้เจ๊จะลืมได้มั้ย”
“นึกไม่ออกหรอกค่ะ เพราะท่านไม่ได้ชอบเก้งอย่างเจ๊นี่คะน้องแอน”
แอนปรี่เข้าไปตบหน้าเจ๊เมี่ยงทันทีด้วยความโมโห เจ๊เมี่ยงอึ้งเหวอ แอนน้ำตาพร่างพรูด้วยความเจ็บปวด
“หนูจะเอาเรื่องมัน”
ระหว่างนั้นโทรศัพท์เจ๊เมี่ยงก็ดังขึ้น เจ๊เมี่ยงเอามาดูเบอร์แล้วผงะก่อนจะกดรับสาย
“ยังมีหน้าโทรมาอีกเหรออีแอ๋ม…ว่าไงนะ !! ท่านถูกใจแอนมาก อีก 2 วันให้พาไปพบ”
เจ๊เมี่ยงพูดไม่ออก เธอมองหน้าแอนแล้วกดตัดสาย
“น้องแอนคะ..เจ๊ว่าหนูเอาเรื่องท่านไม่ได้หรอก เรามันก็แค่หนูตัวเล็กๆไม่มีแรงไปทำ อะไรราชสีห์ได้หรอก”
“หนูจะกลับไปอยู่อพาร์ทเม้นต์เดิม ไม่อยากเห็นหน้าใครอีกแล้ว..ฮือๆๆ”

แอนน้ำตานองหน้า เธอร้องไห้โฮวิ่งขึ้นบ้าน เจ๊เมี่ยงมองตามอย่างเสียใจ

เจ๊เมี่ยงเข้ามานั่งลงกุมขมับหน้าเครียด

“โอ้ย...อีเมี่ยง..อีเมี่ยงเอ้ย..เจ๊งสนิท..ไม่มีเจิดอีกแล้ว ตาย..ตายแน่ๆ”
เจ๊เมี่ยงเครียดจัดไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปที่หัวเตียงซึ่งลิ้นชักหัวเตียงถูกเปิดออก เจ๊เมี่ยงสงสัยเลยเข้าไปดูหยิบกล่องปืนที่เก็บไว้ออกมาเปิด เธอตกใจเพราะปืนที่เก็บไว้หายไป
“ปืน ?...ปืนชั้นหายไปไหน”

พัฒศรีเคาะประตูห้องพักแล้วทุบปังๆๆ
“แอน..เปิดประตูให้ชั้นเดี๋ยวนี้นะ..แอน !!”
พัฒศรีไม่ได้ยินเสียงตอบเลยรีบใช้กุญแจไขเข้าไปในห้องแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นแอนกำปืนเอาไว้ในมือพร้อมกับนั่งร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นเจ็บปวดรวดร้าว
“แอน..อย่านะ..ชั้นขอร้อง..อย่าทำอย่างนี้เลย”
แอนสะอื้น “พัฒ..ชั้น..ชั้นทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว...ฮือๆๆๆ..ชั้นขอโทษนะแก”
“ไม่นะ..แกอย่าทิ้งชั้นไปสิ..ลืมไปแล้วเหรอว่าเราสัญญาว่าจะดูแลกัน”
“ฮือๆๆๆ..ขอบใจนะแก..แต่ชั้นทนอยู่กับความอับอายอีกไม่ได้แล้ว..ชั้นรักแกนะเพื่อน ชั้นขอโทษ..ฮือๆ”
แอนน้ำตาไหลอาบแก้มแล้วยกปืนขึ้นมามองอย่างตัดสินใจ
พัฒศรีร้องเสียงดังลั่น “แอน !!!”
เสียงปืนดังลั่นดังเปรี้ยง พัฒศรีตกตะลึง แอนฟุบลงกับพื้นตายคาที่ พัฒศรีระเบิดเสียงร้องไห้จนแทบหัวใจสลาย

เหตุการณ์ปัจจุบัน หนูดอกกับลอร่าตกใจจนสะดุ้งโหยง ส่วนพุชชี่น้ำตาเอ่อเสียใจและเจ็บปวดทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องแอนขึ้นมา ติณณภพต้องจับมือพุชชี่มากุมปลอบใจ
หนูดอกสงสาร “มาดามคะ..หนูเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่อยากให้พวกเรารับรู้อดีตของมาดาม”
หนูดอกโผเข้าไปกอดพุชชี่แล้วร้องไห้เสียใจไปด้วย
“แสดงว่าที่ผ่านมาเจ๊เมี่ยงก็น้ำท่วมปากพูดความจริงไม่ได้ เพราะตัวเองก็ถูกพวกนั้น แบลค์เมล์เอาไว้ ลอร่าเพิ่งรู้ว่าเจ้านายของลอร่าหัวใจก็สวยเป็นกับเขาเหมือนกัน..โธ่” ลอร่าเห็นใจ
“แต่ผมสงสัย..ทำไมหลังเกิดเรื่องกับแอนแล้ว ไอ้นายจัตวามันถึงหนีไปฝรั่งเศสอยู่นาน จนเพิ่งกลับมาเอาตอนนี้” อาร์ทบอก
ติณณภพเล่า “ตอนนั้นการเมืองกำลังมีปัญหา มันกลัวถูกตรวจสอบเลยหนีไปกบดานทำธุรกิจ แต่ตอน นี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ได้ยินว่ามันจะเลิกหนุนหลังให้คนอื่นแล้วเตรียมลงเลือกตั้งเอง”
“ถ้าปล่อยให้คนแบบนี้เชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคมต่อไป..จะต้องมีผู้หญิงถูกทำร้ายและลง เอยเหมือนแอนอีกไม่รู้เท่าไหร่”
“และจะต้องไม่เกิดขึ้นกับแพตตี้ด้วย”
อาร์ทยืนยันเสียงหนักแน่นด้วยความเป็นห่วงแพตตี้ ระหว่างนั้นเน็กซ์ก็เข้ามาได้ยินว่ามีคนพูดถึงแพตตี้
“เกิดอะไรขึ้นกับแพตตี้เหรอครับ”
ทุกคนหันไปเห็นเน็กซ์กลับมาจากบึงโขงหลง

แพตตี้ที่กลับมาจากบึงโขงหลงพบว่าบ้านเงียบเชียบ
“เจ๊..เจ๊คะ..เจ๊อยู่ไหน..เจ๊เมี่ยง”
แพตตี้เรียกหาแต่ไม่มีเสียงตอบ ยุวดีตามเข้ามา
“คุณแพตตี้คะ..พวกแม่บ้านก็ไม่อยู่ ในบ้านเงียบเชียบไม่มีใครอยู่เลย” ยุวดีว่า
“หายไปไหนกันหมด ?” แพตตี้สงสัย
แพตตี้ทำหน้าสงสัยได้ครู่มือถือก็ดัง เธอกดรับสาย
“เจ๊เมี่ยง..นี่เจ๊อยู่ไหนคะ”

เจ๊เมี่ยงถูกประกบข่มขู่และให้พูดโทรศัพท์กับแพตตี้
“หนู..หนูแพตตี้..คือเจ๊..เจ๊”
เจ๊เมี่ยงอ้ำๆอึ้งๆ มองพวกลูกน้องหน้าเหี้ยมที่ประกบเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว
“ตอนนี้..หนู..หนูอยู่ที่ไหนเหรอคะ”
“หนูกลับมาจากบึงโขงหลงแล้วค่ะเจ๊”
“หนูจะกลับมาทำไม !! ก็เจ๊สั่งให้หนูอยู่กับป๋าที่โน่นไง”
เจ๊เมี่ยงพูดไม่ถูกหูจัตวา จัตวาเลยพยักหน้าให้ลูกน้องเอาปืนจี้พุง เจ๊เมี่ยงหน้าเสีย
“อย่าเชียวนะนังเมี่ยง..อย่าทำให้มันยุ่งยากมากไปกว่านี้ เพราะท่านจะไม่เตือนอีก” แอ๋มขู่
เจ๊เมี่ยงกลืนน้ำลายเอื๊อก
“หนูไม่อยากอยู่ที่บึงโขงหลงอีกแล้วค่ะเจ๊ หนูตัดใจจากเน็กซ์ได้แล้ว หนูก็เลยจะกลับมา เป็นซุปตาร์ แต่มาแล้วไม่เจอใครในบ้านเลย..เกิดอะไรขึ้นคะเจ๊..ตอนนี้เจ๊อยู่ที่ไหน”

เจ๊เมี่ยงอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดต่อ ลูกน้องจัตวาเอาปืนจ่อจนเจ๊เมี่ยงจำยอม

“เจ๊..เจ๊มาคุยกับผู้ใหญ่เรื่องงานให้หนูอยู่จ้ะ”

“งานอะไรเหรอคะเจ๊”
“เอ่อ..ไว้..ไว้หนูมาหาเจ๊ถึงที่..หนู..หนูก็จะรู้เองจ้ะ รออยู่ที่บ้านนะ เดี๋ยวจะมีรถไปรับ”
“แหม...บอกหนูก่อนก็ไม่ได้ แสดงว่าต้องเป็นงานใหญ่เลยใช่มั้ยคะเนี่ย ได้ค่ะเจ๊”
เจ๊เมี่ยงไม่ทันพูดอะไรต่อพวกลูกน้องจัตวาก็กระชากมือถือไปจากมือแล้วกดตัดสายทันที
“ท่านคะ..เมี่ยงขอร้อง..เว้นน้องแพตตี้ไว้สักคนเถอะค่ะ น้องเป็นเด็กน่ารัก วัยกำลังใส อย่าทำให้ผ้าขาวต้องแปดเปื้อนเลยนะคะ..นะคะท่าน”
“ยิ่งกำลังเป็นเด็กสาวน่ารักๆวัยใสๆเหมือนผ้าขาว..ชั้นยิ่งปล่อยเอาไว้ไม่ได้เลยน้องเมี่ยง” จัตวาบอก
“ท่าน !!”
“เอามันออกไป” จัตวาสั่ง
ลูกน้องลากตัวเจ๊เมี่ยงออกไปเหลือจนจัตวาอยู่กับแอ๋ม จัตวาหันไปจิบน้ำสมุนไพรซดอย่างคล่องคอ
“เป็นไงคะท่าน..ทั้งโสมและถั่งเช่าอย่างดีช่วยให้ท่านรู้สึกฟิตเปรี๊ยะขึ้นมาเลยมั้ยคะ” แอ๋มถาม
“แกนี่มันรู้ใจชั้นจริงๆ..รู้สึกว่าเลือดลมมันเดินสูบฉีดแรงได้ใจทันที”
“แหม..แอ๋มดูแลท่านมาตั้งหลายปีก็ต้องรู้ใจสิคะ..เลยจัดออเดิร์ฟไว้ให้ท่านเคี้ยวเล่นกรุ๊บ กริ๊บ ให้หายคิดถึงเมืองไทยก่อนจัดหนักรับหนูแพตตี้เป็นเมนคอร์ส”
“มีออเดิร์ฟด้วยเหรอ” จัตวายิ้มกริ่ม

หญิงสาวคนหนึ่งหันหลังปล่อยผมสยายแช่อยู่ในอ่างจากุชชี่วิวเมืองสวยงามอย่างหรู แอ๋มพาจัตวาที่อยู่ในชุดคลุมเดินเข้ามา เพียงแค่เห็นจากด้านหลังจัตวาก็ตื่นเต้นแล้ว
“น้องเขารอดูแลท่านอยู่แล้วค่ะ...ครบทุกคุณสมบัติที่ท่านชอบเลย”
แอ๋มยิ้มเอาใจนายแล้วถอยออกไปจากห้องก่อนจะช่วยปิดประตูเพื่อให้จัตวาได้รับความบันเทิง
จัตวาเอ่ยถาม “สวัสดีจ้ะหนู..หนูชื่ออะไรเหรอจ๊ะ”
แก้วใสหันมา “สวัสดีค่ะท่าน..หนูแก้วใสค่ะ..เรียกแก้วเฉยๆก็ได้”
แก้วใสโปรยยิ้มแล้วปัดผมเปียกๆยั่วยวน จัตวายิ้มชอบใจ

เน็กซ์รับรู้เรื่องทั้งหมดก็ถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจ
“ถ้าไอ้ชั่วนั่นมันเลวถึงขนาดนี้ แล้วจะมาอยู่เฉยกันทำไม เรียกตำรวจจับมันเลยสิ”
“จะให้ตำรวจไปจับมันข้อหาอะไร” ติณณภพถาม
“ซื้อบริการ กักขังหน่วงเหนี่ยว เล่นมันตั้งแต่คดีเพื่อนมาดามเลย”
“ถ้าทำอย่างนั้นได้..มันคงไม่ลอยนวลได้มาจนทุกวันนี้หรอกเน็กซ์” พุชชี่ว่า
“และชั้นก็คิดว่าที่มันยังกล้ากลับมาทำชั่วแบบเดิมๆอีก ก็แสดงว่ามันต้องมั่นใจว่าอิทธิ พลของมันกลับมาแข็งแรงพอที่ใครก็ไปแตะไม่ได้” ติณณภพบอก
“แต่แพตตี้กลับมาจากบึงโขงหลงแล้ว เราต้องทำอะไรสักอย่าง” เน็กซ์บอก
อาร์ทตกใจ “ว่าไงนะ..แพตตี้กลับมาแล้วเหรอเน็กซ์..แย่แล้ว”
อาร์ทตกใจเป็นห่วงแพตตี้เลยรีบออกไปทันที
เน็กซ์ตะโกนไล่หลัง “พี่อาร์ท..รอผมด้วย”
เน็กซ์จะตามออกไปแต่พุชชี่รั้งเอาไว้
“เดี๋ยวเน็กซ์..ชั้นให้เธอไปยุ่งกับเรื่องนี้ไม่ได้”
“แพตตี้เหมือนน้องสาวผม..แล้วทำไมผมจะไปช่วยน้องไม่ได้” เน็กซ์บอก
“เพราะเรื่องนี้มันอันตรายเกินไป ชั้นไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นกับเธอ” พุชชี่บอก
“เข้าใจผิดแล้ว ถ้าคิดว่าที่ผมกลับมาเพื่อจะเป็นซุปตาร์ต่อล่ะก็..” เน็กซ์มองพุชชี่แล้วมองติณณภพ “ผมกลับมาเพื่อจะจบเรื่องที่เราสามคนค้างคาไว้ที่ฝรั่งเศสต่างหาก”
พุชชี่ชะงัก “เน็กซ์”
“แต่ตอนนี้เรื่องความปลอดภัยของแพตตี้สำคัญกว่า เสร็จธุระแล้วค่อยเคลียร์กันทีหลัง”
เน็กซ์รีบตามอาร์ทออกไป พุชชี่มองตามด้วยความเป็นห่วง

ลูกน้องจัตวาเปิดประตูรถที่เอามารับแพตตี้ แต่กันไม่ให้ยุวดีขึ้นรถ
“ท่านให้มารับคุณแพตตี้ไปคนเดียว..คนอื่นไม่เกี่ยว”
ยุวดีงง “ชั้นเป็นคนอื่นที่ไหน..ชั้นคนสนิทคอยตามดูแลคุณแพตตี้นะยะ”
ลูกน้องจัตวาไม่สนใจ เขาดันยุวดีให้หลบแล้วเปิดทางให้แพตตี้ขึ้นรถ
“ไม่เป็นไรหรอกยุวดี เจ๊เมี่ยงให้ไปคุยงานกับผู้ใหญ่ ไม่ต้องตามไปหรอก” แพตตี้บอก
ยุวดีทำหน้าเซ็งๆ แล้วก็ยอมถอยไปยืนห่างๆ แต่ขณะที่แพตตี้กำลังจะก้าวขึ้นรถ เน็กซ์ก็ขับรถเจ้าม้าป่าของพุชชี่มาจอดเอี๊ยด คนที่รีบเปิดประตูลงจากรถตรงมาห้ามก่อนก็คืออาร์ท
“ห้ามไปกับพวกมันเด็ดขาดนะแพตตี้” อาร์ทบอก
แพตตี้ตกใจ “ไอ้เฒ่า !! นี่แกมาที่นี่ได้ไง”
“มาเพราะเป็นห่วงน้องไง..ถ้าขึ้นรถไปกับไอ้พวกนั้น ชีวิตน้องจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก”
“พูดเรื่องบ้าอะไรของแก..อย่ามาเกะกะ” แพตตี้ว่า

“นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆนะแพตตี้ เชื่อพี่อาร์ทเถอะ เธออยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ไปอยู่ที่ บ้านมาดามกับพวกเราเถอะ” เน็กซ์บอก

“เน็กซ์..นี่เธอหลงยัยป้านั่นจนยอมให้มันปั่นหัวชวนชั้นไปเข้าสังกัด หวังทำร้ายเจ๊เมี่ยง ด้วยแล้วเหรอ”

“ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะแพตตี้..ไอ้พวกนี้มันกำลังจะพาเธอไป..”
เน็กซ์ยังพูดไม่จบ ลูกน้องจัตวาก็ขัดขึ้น “เฮ้ย..พอกันได้แล้วไอ้น้อง”
เน็กซ์กับอาร์ทชะงักเมื่อพวกลูกน้องจัตวาชักปืนออกมาขู่
ยุวดีตกใจ “ว๊าย !! คุณแพตตี้ขา..ปะๆๆๆปืน !!”
แพตตี้ตกใจจนหน้าเสีย ลูกน้องอีกคนหนึ่งเข้ามาฉุดแขนพยายามลากแพตตี้เข้าไปในรถ
อาร์ทขู่ “เฮ้ย..ปล่อยแพตตี้นะเว้ย !!”
อาร์ทขยับแต่ลูกน้องจัตวากลับเอาปืนขู่ชี้หน้า
“อย่าเสี่ยงดีกว่า..นี่มันปืนจริงๆไม่ใช่ปืนปลอมอย่างในละคร”
อาร์ทกับเน็กซ์หน้าเสีย แพตตี้กำลังจะถูกพาตัวไปแต่ก็ฮึดสู้ด้วยการจับมือลูกน้องมางับแรงจนมันร้องลั่น พวกมันเสียสมาธิ จังหวะนั้นเองอาร์ทกับเน็กซ์เลยฉวยโอกาสสู้กลับโดยการปัดปืนจากพวกมันจนกระเด็นแล้วซัดหมัดเข้าหน้า เน็กซ์สู้กับคนหนึ่ง อาร์ทสู้กับอีกคนหนึ่ง ทั้งหมดซัดกันนัวเนีย เน็กซ์เล่นงานจนมันเจ็บจุกแต่หันไปเห็นอาร์ทกำลังถูกพวกมันเล่นงานเสียบเปรียบและคว้าปืนจะยิงใส่อาร์ท
“พี่อาร์ท !”
เสียงปืนดังลั่นโดยแพตตี้ที่เป็นคนหยิบปืนอีกกระบอกที่พื้นขึ้นมายิงขึ้นฟ้าแล้วใช้ขู่
“ถ้าแกทำอะไรเขาอีกล่ะก็..ชั้นยิงสมองกระจายแน่..ทิ้งปืน !!”
ลูกน้องจัตวาหน้าเสียรีบโยนปืนทิ้งแล้วพากันหนีไปขึ้นรถขับออกไป แพตตี้เป็นห่วงอาร์ทที่นอนเจ็บตัวอยู่ที่พื้น
“ไอ้เฒ่า..เจ็บรึเปล่า”
แพตตี้จะช่วยพยุงแต่อาร์ทร้องเสียงหลง
“โอ๊ยๆ..เบาๆหน่อยครับน้อง พี่เจ็บ”
แพตตี้ตกใจ “เจ็บตรงไหน”
อาร์ทยิ้มกวนแล้วชี้ที่หัวใจ “ตรงนี้ครับน้องแพตตี้”
แพตตี้อึ้ง “ไอ้..ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์ !”

เจ๊เมี่ยงเดินไปเดินมาอยู่ในห้องพักของโรงแรมเพราะถูกคุมตัวเอาไว้ จนกระทั่งแอ๋มเปิดประตูเข้ามา
“นังแอ๋ม..หล่อนมาขังชั้นเอาไว้ในนี้ทำไม”
“กันหล่อนหาเรื่องขัดขวางไม่ให้ท่านมีความสุขกับน้องแพตตี้ไง”
“แกไม่กลัวบาปกลัวกรรมมั่งเหรอไง สักวันพี่สาวแกน้องสาวแกจะโดนแบบนี้บ้าง”
“ชั้นลูกชายคนเดียวย่ะนังเมี่ยง”
“งั้นก็ขอให้แม่แกโดน”
“อีนี่..เล่นถึงบุพการีเลยเหรอ..ชักจะทนฟังขี้ปากแกไม่ไหวแล้ว ขอสักทีเถอะ”
แอ๋มจะเข้าไปตบ แต่ระหว่างนั้นลูกน้องจัตวาก็เข้ามาขัด
“คุณแอ๋มครับ..ผมพาแพตตี้มาไม่ได้ครับ”
“ทำไม..เกิดอะไรขึ้น” แอ๋มถาม
“มีพวกมันรู้ตัวแล้วก็เลยมาขวางเอาไว้ครับ”
“พวกมัน ?”
แอ๋มหันขวับไปที่เจ๊เมี่ยงที่กอดอกยิ้มเยาะชอบใจ

เจ๊เมี่ยงโดนแอ๋มตบหน้าฉาดจนเซลงไปบนเตียง แต่เจ๊เมี่ยงยังยิ้มชอบใจ
“มีแรงตบชั้นแค่นี้เองเหรอนังแอ๋ม..เสียชาติเกิดเป็นกะเทยควาย”
แอ๋มโกรธ “นังเมี่ยง !!”
เจ๊เมี่ยงหัวเราะชอบใจ “คนอย่างอีเมี่ยงมันอาจจะหน้าหนาหน้าทน เห็นแก่ตัวชนะเลิศ แต่มันก็ ไม่เลวให้เสียสถาบันเก้งแห่งชาติ ถ้าคิดว่าชั้นจะยอมให้แกกับไอ้บ้ากามนั่นโขกสับเป็น แม่เล้าจำเป็นล่ะก็..ฝันไปเถอะ”
“แกเอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟัง”
“นังพุชชี่..อ้อ..พูดชื่อนี้แกคงไม่รู้จัก เพราะหายหัวไปหลายปี ต้องบอกว่านังพัฒศรีเพื่อน สนิทของแอน แกคงจะคุ้นมากกว่า”
“พัฒศรี”
“ใช่ !! พัฒศรีคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นให้กับแอน หลังจากที่ชั้นยอมพูด ความจริง แกควรจะต้องกลัวนังนี่ไว้ ชั้นขอเตือน..เพราะชั้นรู้ซึ้งดีถึงความแรงของมันดี”
เจ๊เมี่ยงยิ้มเยาะหัวเราะขู่ทำให้แอ๋มหงุดหงิดหัวเสียหันไปสั่งลูกน้อง
“เอามันไป !! จับไปหักแข้งหักขาให้พิการ มันจะได้รู้ตัวว่า..ลองดีกับท่านแล้วเป็นไง”

ลูกน้องจัตวา 2 คนเดินเข้าหาเจ๊เมี่ยงที่กลืนน้ำลายเอื๊อกและหน้าเสีย
 
อ่านต่อหน้า 2

มาดามดัน ตอนที่ 13 อวสาน (ต่อ)

เจ๊เมี่ยงถูกลูกน้องจัตวาสองคนประกบซ้ายขวาคุมตัวจะพาออกโรงแรม
 
เจ๊เมี่ยงเห็นพนักงานโรงแรมเดินเฉียดเข้ามาใกล้ก็จะส่งเสียงขอความช่วยเหลือ แต่ถูกลูกน้องจัตวาเอาปืนจี้เอว
“อย่าดีกว่าที่รัก..เดี๋ยวจะไม่ได้แค่เจ็บตัว แต่จะไปนอนจมอยู่ก้นแม่น้ำแทน”
เจ๊เมี่ยงหน้าเสียไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากใคร พวกมันค่อยๆคุมตัวเจ๊เมี่ยงเดินไปตามทาง ระหว่างนั้นที่บริเวณเคาท์เตอร์เช็คอิน ‘หนูเล็ก’ ซึ่งเป็นไกด์ทัวร์สาวหน้าตาดีโบกธงให้ลูกทัวร์ชาวเกาหลีมารุม ล้อมเธอแล้วแจกกุญแจห้องเพื่อให้ลูกทัวร์ไปพักผ่อนก่อนจะบอกลา เจ๊เมี่ยงถูกคุมตัวเดินผ่านหน้าหนูเล็กไปทำให้เธอชะงักมองอย่างตกใจ
“พี่เมี่ยง !!...นั่นพี่เมี่ยงนี่”
หนูเล็กไม่รอช้ารีบตรงดิ่งเข้าไปขวางทางเจ๊เมี่ยงทันที
“พี่เมี่ยงคะ..ใช่พี่เมี่ยงจริงๆด้วย หนูเล็กดีใจจังเลย ไม่นึกไม่ฝันว่าชาตินี้จะได้เจอพี่เมี่ยง อีก ต้องเป็นเพราะก่อนนอนทุกคืนหนูเล็กเฝ้าสวดมนต์ขอให้ได้เจอพี่เมี่ยงอีกแน่ๆเลย”
เจ๊เมี่ยงจะอ้าปากพูดแต่เจอลูกน้องจัตวาประกบติดปืนจี้ขู่ “เอ่อ....”
“พี่เมี่ยงจำหนูเล็กไม่ได้เหรอ อุ๊ยตาย..ต้องเป็นเพราะศัลยกรรมที่หนูเล็กไปทำที่เกาหลี มาแน่ๆ หนูเล็กเลยดูสวยขึ้น แต่หนูเล็กก็ยังเป็นหนูเล็กคนเดิมนะคะ เป็นอดีตรักวัย เรียนของพี่เมี่ยง สมัยที่พี่เมี่ยงยังแอ๊บแมน”
ลูกน้องกระซิบเจ๊เมี่ยง “ไล่นังพูดมากนี่ไปให้พ้น”
“เอ่อ..น้องคะ..พี่..พี่ว่าน้องจำคนผิดแล้วค่ะ” เจ๊เมี่ยงพูด
ลูกน้องจะพาเจ๊เมี่ยงออกไป แต่หนูเล็กตามไปขวางอีก
“เดี๋ยวค่ะ หนูเล็กไม่มีทางจำพี่เมี่ยงผิดแน่ๆ ต่อให้พี่เมี่ยงเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เป็นสาว เต็มตัวและเต็มกาย แต่หนูก็ยังจำรักครั้งแรกและรักครั้งเดียวของหนูเล็กได้ดีค่ะ”
“น้องสาว..ที่รักของพี่เขาบอกว่าจำน้องไม่ได้ พี่ว่าน้องหลบไปดีกว่า อย่ามาเกะกะ” ลูกน้องจัตวาบอก
หนูเล็กตกใจ “ที่รัก !” หนูเล็กแปลกใจ “พี่เมี่ยง..สองคนนี้เป็น..เป็นที่รักของพี่เหรอ มีอะไรรึเปล่าคะพี่ “ หนูเล็กเพิ่งสังเกตเห็นรอยฟกช้ำบนหน้า “หน้าพี่เหมือนไปโดนอะไรมา”
เจ๊เมี่ยงจงใจวีน “ไม่ใช่ย่ะนังหน้าหนอนดอนเจดีย์ ชั้นไม่ใช่เมี่ยงเมิ่งอะไรของหล่อน หลบไป เดี๋ยวแม่ก็ตบให้หายร่านเลย”
เจ๊เมี่ยงสะบัดเชอะแล้วปล่อยให้ลูกน้องจัตวาคุมตัวเดินออกไป หนูเล็กน้ำตารื้นกลัดหนองเจ็บปวดสุดฤทธิ์

เจ๊เมี่ยงถูกลูกน้องจัตวาคุมตัวมาจนเกือบถึงรถตู้ที่จอดรอ เจ๊เมี่ยงชะงักขาแข็งไม่ยอม
“ไม่นะ..ชั้นไม่ไป..ปล่อยชั้นไปเถอะ..ขอร้องล่ะ..ท่านจ้างพวกแกเท่าไหร่ ชั้นจะจ่ายให้ สองเท่าเลย”
ลูกน้องจัตวามองเจ๊เมี่ยงแล้วยิ้มร้ายแต่ไม่สนใจล็อคแขนจะลากขึ้นรถตู้
“สามเท่าก็ได้ สี่เท่าเลย แค่เป็นเก้งก็น่าสงสารแล้ว อย่าให้ต้องเป็นเก้งพิการเลย เมี่ยง รับไม่ได้”
ลูกน้องจัตวาไม่สนใจ พวกมันช่วยกันฉุดกระชาก ทันใดนั้นหนูเล็กก็โผล่มาข้างหลังแล้วใช้ท่อเหล็กฟาดใส่พวกมันไม่ยั้ง
“นี่แน๊ะ..ปล่อยพี่เมี่ยงของหนูเล็กนะ..ปล่อยนะ !!”
หนูเล็กฟาดไม่ยั้งจนพวกมันยอมปล่อยเจ๊เมี่ยง หนูเล็กรีบคว้าข้อมือเจ๊เมี่ยงแล้ววิ่งหนีหน้าตั้งทันที
“หนีเร็วค่ะพี่เมี่ยง”

หนูเล็กจูงมือเจ๊เมี่ยงวิ่งหนีมาแล้วหอบแฮ่กๆ
“โอ้ย..เหนื่อย..ขอ..ขอพักหายใจหน่อย” เจ๊เมี่ยงบอก
“ค่อยๆค่ะพี่เมี่ยง ค่อยๆค่ะ เดี๋ยวเป็นลม” หนูเล็กพูด
เจ๊เมี่ยงสูดลมหายใจจนดีขึ้น “ขอบ..ขอบใจมากนะหนูเล็ก ถ้าหนูเล็กไม่มาช่วยพี่ล่ะก็..พี่แย่แน่”
“ตอนแรกหนูเล็กก็เกือบจะไม่สนใจแล้วค่ะ แต่เพราะรอยฟกช้ำบนหน้าพี่กับโค้ดลับที่พี่ เมี่ยงด่า หนูเล็กก็เลยแน่ใจว่าพี่เมี่ยงของหนูเล็กกำลังตกอยู่ในอันตราย”
“พี่ก็ลุ้นอยู่ว่าหนูเล็กจะจำได้รึเปล่า”
“แหม นังหน้าหนอนดอนเจดีย์ เดี๋ยวแม่ก็ตบให้หายร่านเลย ชาตินี้มีพี่เมี่ยงคนเดียวเท่า นั้นที่ด่าหนูเล็กแบบนี้ ว่าแต่..ไอ้พวกนั้นมันเป็นใครเหรอคะ”
เจ๊เมี่ยงไม่ทันจะตอบก็ได้ยินเสียงพวกมันเข้ามาตามหาตัว
เจ๊เมี่ยงรีบบอก “พวกมันมาตามหาพี่อีกแล้ว”
“ตามหนูเล็กมาค่ะพี่เมี่ยง”

ลูกน้องจัตวาเข้ามาบริเวณที่มีรถจอดเรียงราย พวกมันกวาดสายตามองหาทั่วๆ เจ๊เมี่ยงกับหนูเล็กนั่งเงียบอยู่เบาะหลังของรถหนูเล็กที่จอดอยู่บริเวณนั้น หนูเล็กโงหัวขึ้นมาดูผ่านกระจกส่องหลังก็เห็นพวกมันยังเดินป้วนเปี้ยนหา
“พวกมันยังไม่ไปเลยค่ะพี่เมี่ยง”
“แล้วจะทำไงดี..ชั้นไม่อยากโดนพวกมันเอาตัวไปนะ”
“เอาอย่างนี้แล้วกันค่ะพี่เมี่ยง..คับขันขนาดนี้แล้ว..มันจำเป็นแล้วค่ะ”
“หนูเล็กมีแผนอะไรเหรอ”
หนูเล็กมองหน้าเจ๊เมี่ยงจริงจังแล้วสองมือจับไหล่เจ๊เมี่ยงบีบแรงทำเอาเจ๊เมี่ยงใจคอไม่ดี
“หนูเล็ก..อย่า..อย่าบอกนะว่า..ไม่..พี่ไม่เอา..พี่ทำไม่ได้..เก้งกับชะนีมันคนละสปีชีย์”
เจ๊เมี่ยงไม่ทันพูดต่อหนูเล็กก็ปรี่เข้าไปประกบปากจูบ เจ๊เมี่ยงดิ้นพล่านจนรถเขย่าไปมา พวกลูกน้องจัตวาเดินเข้ามาใกล้รถของหนูเล็ก ลูกน้องคนหนึ่งเห็นรถเขย่าขโยกไปมาก็สนใจจึงเดินเข้าไปดู กระจกรถขึ้นฝ้าขาวเพราะไอน้ำจับ มือของหนูเล็กตะปบที่กระจกเลียนแบบหนัง Titanic ลูกน้องจัตวาผงะตกใจ ลูกน้องอีกคนเดินเข้ามา
“เฮ้ย..เจอไอ้กะเทยนั่นรึเปล่า”
“ไม่เจอว่ะ..ไปดูทางนั้นดีกว่า”

พวกลูกน้องจัตวาพากันเดินออกไปแล้วรถก็หยุดโยก

หนูเล็กขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านพุชชี่
 
เจ๊เมี่ยงที่นั่งมาด้วยเงียบตาลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว น้ำตารื้นนิดๆเพราะเจ็บปวดข้างในเหมือนถูกย่ำยี
“ให้หนูเล็กส่งพี่ที่นี่จริงๆเหรอคะ..แล้วที่นี่มันจะปลอดภัยรึเปล่า เอางี้มั้ยคะ หนูเล็กมี คอนโดฯส่วนตั๊วส่วนตัวที่หัวหิน พี่เมี่ยงไปหลบอยู่ที่นั่นกับหนูเล็กได้”
เจ๊เมี่ยงสะดุ้งแล้วรีบปฏิเสธทันที “ไม่ !! ไม่ต้อง !! ขอบใจ บ้านเพื่อนพี่ที่นี่ปลอดภัยที่สุดแล้ว ขอบใจมากนะหนูเล็ก พี่ไปล่ะ”
เจ๊เมี่ยงจะลงจากรถแต่หนูเล็กจับแขนรั้งไว้
“เดี๋ยวสิคะพี่เมี่ยง..หนูเล็กไม่ได้อยากได้คำขอบคุณจากพี่เมี่ยงนะคะ”
เจ๊เมี่ยงชะงัก “แล้วอยากได้อะไร”
หนูเล็กยิ้มเขินหน้าแดง “ที่อยากได้ก็ได้ไปแล้ว..เอ้ย..ไม่ใช่ค่ะ หนูเล็กดีใจที่พรหมลิขิตบันดาล ให้หนูเล็กได้เจอพี่ ได้ช่วยเหลือพี่ แถมยังได้” หนูเล็กหน้าแดงขึ้นอีก “อายอ่ะ..รู้งี้ปล้ำพี่ตั้งแต่ตอน เรียนก็ดี เผื่อพี่จะติดใจไม่เบี่ยงเบน เราสองคนจะได้ไม่พลัดพรากจากกันแบบนี้”
เจ๊เมี่ยงจะอ้วก “ถ้าหนูเล็กไม่มีอะไรแล้ว พี่ว่าพี่ขอตัวก่อนนะ”
“โอเคๆๆค่ะพี่เมี่ยง หนูเล็กก็แค่อยากจะให้พี่เก็บนามบัตรหนูเล็กไว้ หนูเล็กทำบริษัททัวร์ ถ้าพี่เบื่อวงการบันเทิงอยากท่องเที่ยวทั่วโลก...หนูเล็กจัดให้ได้ค่ะ”
“โอเคจ้ะ”
เจ๊เมี่ยงรับนามบัตรแล้วรีบเปิดประตูลงจากรถ หนูเล็กส่งจูบโบกมือ
“บ๊ายบายนะคะพี่เมี่ยง”
เจ๊เมี่ยงโบกมือบายรอจนหนูเล็กขับรถออกไป เจ๊เมี่ยงรีบฉีกนามบัตรทิ้งแล้วย่ำอยู่กับที่ทันที
“อ๊ายย...ชะนีลวนลาม...อ๊ายๆ”

แพตตี้กอดเจ๊เมี่ยงด้วยความดีใจ
“เจ๊..หนูนึกว่าเจ๊จะถูกพวกมันจับไปเชือดให้เป็ดกิน แล้วทุบหน้าเจ๊ให้เละ เอาศพเจ๊ไปทิ้ง แม่น้ำแล้วซะอีก”
“แหม..น้องแพตตี้ขา..คิดแต่ละอย่าง..โหดไปป่ะคะ”
“ก็หนูห่วงเจ๊จริงๆนี่”
“แต่เจ๊ก็รอดมาได้แบบไม่มีส่วนไหนบุบสลายเลยนี่คะ..เห็นมั้ย”
พุชชี่สงสัย “แล้วเจ๊รอดมาได้ยังไง”
“ชั้นรอดมาได้ยังไงมันไม่สำคัญหรอก..ห่วงก็แต่แพตตี้นี่แหละ นี่ถ้าเจ๊ไม่ขอให้พุชชี่ช่วย นะ ป่านนี้หนูแพตตี้ของเจ๊ก็คง...”
“โชคดีที่พี่อาร์ทเขาไปช่วยแพตตี้ทันค่ะ ไม่งั้นก็คงโดนมันพาตัวไป”
เน็กซ์กระแอม “ชั้นไปช่วยเธอด้วยนะแพตตี้ ทำไมไม่เห็นพูดถึงมั่ง”
แพตตี้ชะงักมองเน็กซ์แล้วมองไปที่อาร์ท อยู่ๆหน้าของแพตตี้ก็แดงผ่าวขึ้นมาและไม่กล้าสบตาอาร์ท
“ทั้งเจ๊เมี่ยงกับแพตตี้ปลอดภัยก็ดีแล้ว ผมว่า” ติณณภพมองไปที่พุชชี่ “พวกเราควรจะปล่อยให้พุชชี่กับเจ๊เมี่ยงได้อยู่กับตามลำพัง..มีอีกหลายเรื่องที่เขาอยากจะคุยกันตามลำพัง”
ติณณภพพยักหน้ากับพุชชี่ เจ๊เมี่ยงเองก็มองพุชชี่ตาปริบๆ ทุกคนเห็นด้วยเลยพากันทยอยออกไปโดยทิ้งให้เจ๊เมี่ยงกับพุชชี่อยู่กันตามลำพัง

พุชชี่กับเจ๊เมี่ยงเอาแต่เงียบกันอยู่คนละมุม ไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายพูดก่อน จนในที่สุดเจ๊เมี่ยงก็ลุกพรวด
“พุชชี่..ชั้น..ชั้นขอบใจเธอมากนะที่ยอมเชื่อว่าชั้นไม่ได้ขายแอนให้ไอ้จัตวา”
ตอนแรกที่เจ๊โทรไปหาชั้นที่ฝรั่งเศส ชั้นก็ไม่อยากเชื่อหรอก คิดว่าเจ๊คงมีแผนสะตอร์ อะไรชั้นอีก แต่ก็นะ..เห็นหมาโดนไล่ตีจนตรอกจริงๆ ถ้าไม่ลองเชื่อมันดูก็คงใจดำไป”
เจ๊เมี่ยงจะปรี๊ด “พุชชี่ !!” แต่แล้วเจ๊เมี่ยงก็ลดลง “มันก็จริงของหล่อน ถึงความจริงชั้นจะไม่ได้ขายแอนให้มัน แต่ชั้นก็ผิดเต็มประตูเพราะความเห็นแก่ตัวยอมปิดเรื่องชั่วๆให้กับมัน”
เจ๊เมี่ยงพูดไปถึงตรงนี้ก็เริ่มจุกที่คอแล้วน้ำตารื้น
“หลายครั้งที่หล่อนด่าชั้นเป็นอีแม่เล้า ชั้นน้ำท่วมปากอยากจะสารภาพความจริงให้ หล่อนรู้ แต่ชั้นก็ทำไม่ได้ มันเหมือนเป็นบาปเป็นกรรมที่ทำให้ชั้นนอนไม่เคยหลับเวลาที่นึกถึงแอน”
เจ๊เมี่ยงร้องไห้สะอื้นเสียใจ พุชชี่เห็นแล้วก็น้ำตาเอ่อเหมือนกัน
“เจ๊....”
“พุชชี่..เจ๊..เจ๊ขอโทษนะ..เจ๊ไม่อยากมีบาปติดตัว..หล่อนอยากจะตบเจ๊ ด่าเจ๊ยังไง หล่อนจัดเต็มมาเลย เจ๊จะไม่โต้ตอบอีกแล้ว”
พุชชี่เข้าไปดึงเจ๊เมี่ยงมากอดแล้วร้องไห้ไปด้วย “ชั้นต่างหากที่ต้องขอโทษเจ๊ ชั้นเพิ่งรู้ว่าที่เจ๊พยายามไล่ชั้นออกจากวงการ เพราะกลัวชั้นจะไปยุ่งกับพวกมัน เจ๊เป็นห่วงชั้นใช่มั้ย”
“เจ๊ไม่ได้แค่ห่วง แต่เจ๊รักแกมากนะนังพัฒศรี เจ๊อยากให้แกเป็นน้องสาวเจ๊ เจ๊ถึงชอบ ปากร้ายเคี่ยวเข็ญอยากให้แกเก่งเหมือนเจ๊ไง”
“โธ่เจ๊เมี่ยง”
“นังพัฒศรี..น้องรักของเจ๊”

เจ๊เมี่ยงปล่อยน้ำตาแตกร้องไห้โฮ พุชชี่ก็ร้องไห้โฮแล้วกอดกันกลมกับเจ๊เมี่ยง

แอ๋มโดนจัตวาชกเปรี้ยงจนล้มลงไปเลือดกลบปาก

“ท่าน..แอ๋ม..แอ๋มขอโทษ”
“แกทำให้ชั้นอารมณ์เสียมากนะนังแอ๋ม” จัตวาบอก
“แอ๋ม..แอ๋มประมาทนังเมี่ยงไปหน่อย แต่แอ๋มรับปากจะพาน้องแพตตี้มาให้ท่านให้ได้”
“ไก่มันตื่นทั้งเล้าไปแบบนี้แล้วแกจะไปเอามาได้ไง ขืนหลอกไปวางยาแล้วลากขึ้นเตียง ให้ชั้นอีก แล้วถ้าเกิดมันยิงตัวตายเหมือนนังเด็กคนนั้นล่ะ คราวนี้ฉิบหายแน่..อีโง่ !”
จัตวาถีบแอ๋มจนล้มคะมำไปอีก แอ๋มเจ็บจุกแล้วรีบคลานเข้าไปเกาะขาจัตวา
“แอ๋มขอโทษค่ะท่าน..งั้น..งั้นระหว่างนี้ ท่าน..ท่านแก้ขัดด้วยน้องแก้วใสไปก่อน ระหว่าง แอ๋มหาคนใหม่ให้นะคะ”
จัตวาชักสีหน้ายิ่งหงุดหงิดขึ้นมาอีกทันที เขาถึงกับจิกหัวแอ๋มขึ้นมาแล้วจ้องเขม็ง

แก้วใสนั่งลงบนโซฟา แก้วตารีบนั่งประกบแล้วถามลูกสาวทันที
“ว่าไง..เล่าให้แม่ฟังหน่อยสิ ท่านประทับใจแกรึเปล่า” แก้วตาถาม
“แม่ !! จะให้เล่าเรื่องแบบนี้ให้ฟังเนี่ยนะ เยอะไปแล้วแม่” แก้วใสว่า
แก้วตาหมั่นไส้จึงจิ้มนิ้วไสหัวลูกสาว “แหม..จนป่านนี้แกไม่ต้องมาแบ๊วกับแม่แล้ว ที่ทุกวันนี้แกต้อง ตกอับรับแต่งานเกรดต่ำโชว์เนื้อหนังน่ะ ไม่ใช่เพราะไปเยอะแยะกับผัวชาวบ้านเขาเหรอ”
แก้วใสลุกพรวด “แม่ !”
“ไม่ต้องมาขึ้นเสียงกับชั้น..อุตส่าห์บากหน้าไปให้นังเมี่ยงมันช่วย แต่มันก็ทำได้แค่โยน งานกระจอกๆให้ แกเห็นมั้ย” แก้วตาเดินไปหยิบซองจดหมายบนโต๊ะ “หนี้มันมากองสุมอยู่เท่าไหร่ แล้วเรื่องอะไรชั้นจะยอมให้แกไปสนุก แต่ชั้นปลดหนี้ไม่ได้”
แก้วใสทำหน้าเซ็งแล้วยอมนั่งลง “ก็ได้..บอกแล้วแม่อย่าดีใจล่ะ” แก้วใสอมยิ้มชอบใจ “แก้วใสทั้งจัดหนักจัดเต็มให้ท่านไปหมดทุกอย่าง มีเหรอที่ท่านจะไม่ประทับใจ”
“แกแน่ใจนะ”
“จริงสิแม่.. แก้วใสว่าแม่เตรียมตัวเป็นแม่ยายหมื่นล้านได้เลย”
แก้วใสกอดอกกระหยิ่มยิ้มเยาะชอบใจ ส่วนแก้วตาก็ยิ้มแก้มปริฝันหวาน
จัตวาหัวเสียด่าแอ๋มซ้ำอีก
“แก้วใส...นี่ก็อีกอย่างของความผิดพลาดที่ทำให้ชั้นต้องสั่งสอนแก ชั้นผ่านมากี่คนแล้ว คิดว่าดูไม่ออกเหรอว่ามันสินค้าเกรดอะไร แพคเกจมันดูดีแต่ข้างในมันของรีไซเคิลเว้ย”
จัตวาผลักหัวแอ๋มไปอย่างหงุดหงิดจนแอ๋มกลัวลนลานเพราะเห็นว่าจัตวาโกรธมาก แอ๋มได้แต่สะอื้น
“แอ๋มผิดไปแล้ว..แอ๋ม..แอ๋มขอให้ท่านยกโทษให้แอ๋มด้วยค่ะ..ฮือๆ”
“หยุดเลย..อย่ามาร้องไห้คร่ำครวญให้ชั้นปวดประสาท..แล้วไม่ต้องตามแก้วใสมาให้ชั้น อีก เอาเวลาไปนั่งคิดว่าแกควรจะทำให้ชั้นหายเครียดยังไง ส่วนนังเมี่ยง..แกก็ต้องให้ มันได้รับบทเรียน..ไป !!”
แอ๋มรับคำแล้วรีบออกจากห้องไปทันที

วันใหม่ พุชชี่เดินคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง โดยที่เจ๊เมี่ยงยืนมองอยู่
“พี่ติณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พวกเราอยู่รวมกันที่นี่หลายคน พวกมันคงไม่กล้าทำอะไรค่ะ พี่ติณ..ขอบคุณมากเลยนะคะ”
พุชชี่วางสายไปแล้วหันมาเจอเจ๊เมี่ยง
“กัปตันเขาว่ายังไงบ้าง”
“พี่ติณมีเพื่อนสนิทเป็นตำรวจที่สนใจคดีของนายจัตวาอยู่ ตอนนี้กำลังปรึกษากันว่าพอ จะมีทางไหนบ้างที่จะเล่นงานเอาผิดไม่ให้มันก่อกรรมทำชั่วแบบนี้ได้อีก”
“แล้วพอมีทางรึเปล่า”
พุชชี่ถอนใจ “ให้บอกตรงๆก็ยังหรอกเจ๊ จะเล่นงานมันต้องมีหลักฐานเด็ดๆเอาให้ดิ้นไม่หลุด”
“แต่เจ๊เชื่อ ถ้าเราร่วมมือกันแล้ว ต่อให้ยากแค่ไหนเราก็ต้องแก้แค้นให้แอนได้ เออ..แล้ว เรื่องอีรุงตุงนังของหล่อนล่ะ”
“เรื่องอะไรเจ๊”
“อย่ามาทำแบ๊วกับเจ๊นะยะ ก็ระหว่างมิสเตอร์เพอร์เฟคกับเด็กปั้นหล่อโฮกฮือของหล่อน มันยังค้างคาหาบทสรุปไม่ลงตัวอยู่ไม่ใช่เหรอ”
พุชชี่ชะงัก “เจ๊จะมายุ่งอะไรกับเรื่องของชั้น ตอนนี้ชั้นคิดแต่จะหาทางแก้แค้นให้แอน เรื่อง อื่นไม่คิดหรอก”
พุชชี่พยายามปฏิเสธ แต่เจ๊เมี่ยงจิกหน้าหรี่ตามองพุชชี่อย่างจับผิด ระหว่างนั้นหนูดอกก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยความตกใจ
“แย่แล้วมาดาม..เจ๊เมี่ยง..งานเข้าโครมเป็นสิบล้อชนปั๊มแก๊สแล้วค่ะ”
พุชชี่กับเจ๊เมี่ยงมองหนูดอกด้วยความสงสัย

โน้ตบุคกำลังเปิดต่อหน้าทุกคน เจ๊เมี่ยงถึงกับหน้าถอดสีเพราะเห็นคลิปวีดิโอลับของเจ๊เมี่ยงกับแดนที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงนัวเนียเล่นอุปกรณ์พิเรนท์จนติดเรต
"อ๊าย..ไม่ได้ค่ะ" ยุวดีรีบปิดตา "ห้ามดูเด็ดขาด นี่มันเรต ฉ.ฉิ่งยกกำลัง เดี๋ยวคุณแพตตี้ใจแตก"
"อย่าปิดตาชั้นสิ ยิ่งห้ามชั้นก็ยิ่งอยากดู" แพตตี้บอก
แพตตี้พยายามปัดมือยุวดี แต่เจ๊เมี่ยงรีบเข้าไปพับจอโน้ตบุคแล้ววิ่งร้องห่มร้องไห้ออกไปทันที
พุชชี่ร้องเรียก "เจ๊..เจ๊เมี่ยง !!”

ทุกคนหันมามองหน้ากันด้วยความเป็นห่วงเจ๊เมี่ยง

เจ๊เมี่ยงออกมานั่งร้องห่มร้องไห้ พุชชี่ตามออกมานั่งด้วยกันแล้วกุมมือเจ๊เมี่ยงอย่างปลอบโยน

"ไม่เอาน่าเจ๊..เจ๊เมี่ยงที่ชั้นรู้จัก ไม่ใช่คนอ่อนแอน้ำตาแตกแบบนี้ง่ายๆหรอกนะ"
"เจ๊ก็ดีแต่หน้าด้านหน้าทนต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นแหละ..หัวใจเจ๊ทำด้วยเนื้อนะ ไม่ใช่อิฐใช่ ปูน..ฮือๆๆ หมดกัน..ต่อไปนี้จะเอาหน้าไปมองใครได้อีก เมี่ยงไม่เริ่ด เชิ่ดไม่ได้อีกแล้ว"
เจ๊เมี่ยงปล่อยโฮเสียงดังลั่นแล้วหันไปซบไหล่พุชชี่ คนอื่นๆตามออกมาเห็นแล้วก็พากันสงสาร แพตตี้สงสารจึงเข้าไปจับมือเจ๊เมี่ยงเพื่อปลอบโยน
"เจ๊อย่าเสียใจนะ ต่อให้มันทำลายชื่อเสียงเจ๊จนป่นปี้ขนาดไหน หนูนี่แหละที่จะอยู่กับเจ๊"
"ลอร่าก็เหมือนกันค่ะ..จะไม่ทิ้งเจ๊ไปไหนแน่นอน ถ้าไม่มีใครเหลียวแลเก้งอย่างเจ๊จริงๆ ชะนีตัวนี้แหละจะทำงานช่วยเจ๊เอง"
"ใช่ค่ะเจ๊..เพราะว่าพวกเราคือ..”
ยุวดี ลอร่า แพตตี้หันมามองหน้ากันแล้วพยักหน้าทำท่าประจำตัวเจ๊เมี่ยงพร้อมๆกัน
"เด็กเจ๊เมี่ยงเจิด ถ้าไม่เริ่ดก็เชิ่ดใส่ !!”
เจ๊เมี่ยงเห็นความรักของทุกคนแล้วก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้จึงดึงทั้งสามคนมากอดแล้วร้องไห้
"ขอบใจ..ขอบใจพวกหล่อนมากนะ..ฮือๆๆ"
"มาดามคะ..แล้วเราจะปล่อยให้พวกมันเล่นงานอยู่แบบนี้อย่างเดียวเหรอคะ" หนูดอกถาม
"หนูดอก..การที่พวกมันเล่นงานเจ๊เมี่ยงแบบนี้ นอกจากต้องการจะสั่งสอนแล้ว มันก็คือ การจงใจข่มขู่ให้พวกเราเงียบ" อาร์ทบอก
"แต่ยิ่งเงียบก็ยิ่งทำให้มันได้ใจนะครับพี่อาร์ท แถ้าเรายังหาหลักฐานไปเล่นงานมันไม่ได้ ก็เท่ากับเรายอมปล่อยให้มันเป็นมะเร็งเกาะกินวงการของเราไปเรื่อยๆ" เน็กซ์ว่า
คำพูดของเน็กซ์ทำให้ทุกคนสีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมา พุชชี่พยายามคิดและตัดสินใจ
"ไม่ !!..ถ้ามันเป็นมะเร็งร้ายของวงการ มาดามพุชชี่ก็ต้องหาทางกำจัดมันให้ได้"
เจ๊เมี่ยงหันมาพยักหน้ารับกับพุชชี่ สีหน้าของทั้งคู่จริงจังสุดฤทธิ์

พุชชี่กับเจ๊เมี่ยงสวมแว่นดำยืนรออยู่ที่บริเวณลานจอดรถโล่งๆซึ่งเป็นที่ปลอดตาผู้คน ครู่หนึ่งรถเก๋งคัน หนึ่งก็แล่นมาจอดใกล้ๆ อุ้มรัก โจทก์เก่าเจ๊เมี่ยงเปิดประตูลงมาจากที่นั่งข้างคนขับ
อุ้มรักลดแว่นดำแล้วยิ้มเยาะ "อ๊ายย..ต๊ายตาย อุ้มรักไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยคะเนี่ย ผีเน่ากับโลงผุ มากอดคอจิ๊จ๊ะอยู่ด้วยกันตรงหน้าอุ้มรัก" อุ้มรักงัดมือถือมาถ่าย "ขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกนะคะ"
"นังอุ้ม !! ชั้นตามหล่อนมาไม่ได้อยากจะมีเรื่องนะ"
"ค่ะเจ๊..ที่อุ้มรักยอมมาก็ไม่ได้อยากมามีเรื่องค่ะ" อุ้มรักยิ้มยั่ว "แต่อยากมาสมน้ำหน้าเจ๊ ต่างหาก โห๊ะๆๆ ไอ้วิตรถาร บ้ากาม นี่ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้คลิปเล่นเสียวกับเด็กหนุ่มของ เจ๊นะ คนทั้งประเทศคงไม่รู้หรอกว่าเจ๊สักรูปมิกกี้เมาท์ที่ตูด..แถมจมูกมิกกี้เมาท์ยังมี สิวหัวช้างอีก ฮ่าๆ"
เจ๊เมี่ยงหน้าเสีย "นังอุ้ม..อีอึ่งอ่าง อยากโดนซ้ำแบบคราวที่แล้วใช่มั้ยได้..จัดให้ !!”
เจ๊เมี่ยงจะเข้าไปตบแต่น้ำหวาน คนขับรถที่มากับอุ้มรักเปิดประตูลงมาเสียงดังห้ามด้วยเสียงห้าวดุดัน
"หยุดเดี๋ยวนี้นะนังเมี่ยง !! ถ้าแกทำร้ายมายดาร์ลิ่งของชั้นอีกล่ะก็.." น้ำหวานหักนิ้วกร่อบ "หึ !!”
"น้ำหวาน !!”
อุ้มรักรีบถอยไปซบไหล่น้ำหวาน ทอมร่างสูงแต่งตัวแมนจัดปากคาบไม้จิ้มฟันมาดเหมือนมาเฟีย
"จัดการมันเลยดาร์ลิ่ง..คราวที่แล้วเค้าต้องเข้าเฝือกอยู่เกือบเดือนก็เพราะมันนี่แหละ" อุ้มรักบอก
"นี่ที่เขาเมาท์กันว่าในวงการเรามีพวกกินตับกันเอง..ที่แท้ก็..ก็คู่นี้เหรอ" พุชชี่ว่า
น้ำหวานห้าวสุดฤทธิ์ "พุชชี่ใช้คำพูดกับพี่ระวังปากหน่อย ที่ยืนอยู่ด้วยกันตรงนี้ หล่อนน่ะ เด็กสุดในวงการนะ อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนรุ่นน้องนะครับ"
"หนูขอโทษค่ะพี่น้ำหวาน..แต่ที่หนูตามพี่อุ้มรักมา เพราะหนูมีเรื่องอยากให้ช่วยจริงๆ" พุชชี่บอก
อุ้มรักยกมือห้าม "หยุดเลยนังพุชชี่..ไอ้เรื่องที่หล่อนเล่าให้ชั้นฟังทางโทรศัพท์น่ะ ขอบอกเลย ว่ามันไม่ใช่ธุระอะไรของพวกชั้น อยากเอาคอขึ้นเขียงก็เชิญโดนสับกันสองคน ส่วนชั้น ขอนั่งหัวเราะเยาะพวกหล่อนดีกว่า"
อุ้มรักเชิดหน้าไม่สนใจแล้วควงแขนน้ำหวานเดินกลับไปที่รถ เจ๊เมี่ยงหันไปบอกพุชชี่เซ็งๆ
"เจ๊บอกแล้วไง..พวกเรามันแก่งแย่งชิงดีกันซะเคยตัว..คำว่ามิตรแท้เลยสะกดกันไม่เป็น"

ติณณภพอยู่กับเน็กซ์ที่บ้าน
"พุชชี่มีแผนที่จะจัดการกับนายจัตวาแล้วเหรอ" ติณณภพถาม
"ครับพี่ติณ" เน็กซ์ตอบ "แต่มันต้องขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับความร่วมมือจากพวกเดียวกันรึเปล่า ถ้าได้รับความร่วมมือ ความหวังจะเล่นงานไอ้จัตวาก็พอจะมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์"
"แล้วแผนของพุชชี่คืออะไร พี่พอจะช่วยอะไรได้บ้าง"

เน็กซ์นิ่งมองติณณภพ
 
อ่านต่อหน้า 3

มาดามดัน ตอนที่ 13 อวสาน (ต่อ)

พุชชี่รีบเดินเข้าไปขวางไม่ให้อุ้มรักกับน้ำหวานขึ้นรถ

"เดี๋ยว !! ใจคอจะไม่คิดช่วยเหลือกันจริงๆเหรอ นี่มันอาชีพของพวกเรานะ"
"ใช่ !! ถึงพวกเราจะชอบแก่งแย่งชิงดี มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลกันได้ไม่เว้นฤดู แต่เราก็แค่ด่ากันเอง ซัดกันเอง ไม่เคยปล่อยให้คนอื่นมาดูถูกพวกเรา" เจ๊เมี่ยงบอก
"เพื่อนของพุชชี่ถูกมันย่ำยีศักดิ์ศรี ทำลายความฝันที่อีกเพียงแค่นิดเดียวก็จะเดินไปถึง แต่สุดท้ายก็ต้องจบลงที่การฆ่าตัวตาย พุชชี่เลยอยากถามพวกพี่..เวลาพวกพี่อยู่กับ เด็กๆในสังกัด..พวกพี่เห็นอะไรในตัวเขา"
อุ้มรักกับน้ำหวานนิ่งเงียบไปแล้วมองหน้ากัน
"คนภายนอกอาจจะคิดว่าเราเห็นเด็กๆพวกนั้นเป็นตัวทำเงิน..แต่เจ๊รู้ดีว่าพวกเราทุกคน เห็นอะไร เราไม่ใช่แค่เจ๊ดัน มาดามดัน แมวมอง นักปั้น ผู้จัดการดารา แต่เราคือสะพาน สู่ดวงดาว เราสร้างฝันที่เป็นจริงให้กับเด็กๆพวกนั้น"
"พี่อุ้มรักเห็นความฝันของเด็กๆใช่มั้ยคะ" พุชชี่ถาม
อุ้มรักเงียบ
"พี่น้ำหวาน..พี่ก็เห็นความฝันของพวกเขาใช่มั้ย พี่ถึงรักอาชีพนี้ เพราะพี่มีความสุขที่ได้ เห็นเด็กๆถึงฝั่งฝัน"
พุชชี่พูดไปก็น้ำตาคลอไป เจ๊เมี่ยงสงสารพุชชี่เลยเข้าไปดึงมาโอบปลอบใจ
"เจ๊กับพุชชี่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับแอนอีก แค่นี้แหละที่เรา อยากจะพูด..ไปเถอะพุชชี่ ไปหาทางตายเอาดาบหน้าดีกว่า"
เจ๊เมี่ยงโอบพาพุชชี่เดินออกไป อุ้มรักกับน้ำหวานยืนนิ่งงันก่อนจะหันมามองหน้ากัน
"เดี๋ยว !! มาฉอดๆพ่นน้ำลายใส่หน้าแล้วคิดจะเดินสะบัดตูดออกไปเฉยๆได้ไง..ห๊ะ !!” น้ำหวานไม่พอใจ
น้ำหวานปั้นหน้าเอาเรื่องเอียงคอมองดูแบบกวนตีนทั้งพุชชี่และเจ๊เมี่ยงสุดฤทธิ์
อุ้มรักเสริม "ใช่ แถมยังมาพูดจาสอนสั่งแมวมองระดับพรีเมี่ยมอย่างเราอีก..ขืนปล่อยไปเฉยๆล่ะก็ เสียชื่อนังเหมียวตาเพชร" อุ้มรักชี้ตัวเอง "กับ" อุ้มรักชี้น้ำหวาน "นักปั้นมือทองแน่..ใช่มั้ยคะดาร์ลิ่ง"
"ใช่แล้วครับดาร์ลิ่ง..อาชีพนักปั้นของพวกเรา ถ้าไม่รักษาเอาไว้ให้ทรงคุณค่า แล้วต่อไป ข้างหน้าเราจะร้องเพลงชาติให้ใครฟัง"
"ไม่ใช่แล้วค่ะดาร์ลิ่ง"
"หมายถึง ไอ วิล เซอร์ไวฟ์ เพลงประจำชาติของพวกเราทั้งหมดไงครับดาร์ลิ่ง"
พุชชี่ดีใจ "นี่หมายความว่า..พี่น้ำหวานกับพี่อุ้มรัก..”
อุ้มรักเชิดหน้า "ย่ะ !! วงการก็มีอยู่แค่นี้ ถ้าไม่รักกันแล้วจะพัฒนาแข่งกับเออีซีได้ไงยะ"
พุชชี่หันมาดีใจกับเจ๊เมี่ยง แล้วทั้งคู่ก็ยิ้มออกมาได้

บรรยากาศในผับมีเสียงเพลงสนุกสนาน แอ๋มจุ๊บแก้มซ้ายขวาของอุ้มรักชนิดรักกันสุดฤทธิ์
"แหมๆๆ ชั้นว่าชั้นกลับมาเมืองไทยเซอร์ไพรซ์แล้วนะ แต่เจอข่าวช็อคว่าหล่อนกับเฮียน้ำหวานจะแต่งงานกันนี่สิ..เซอร์ไพรซ์กว่าเยอะ" แอ๋มบอก
"อายุเรามันก็ได้เวลาแล้วน่ะครับ แม่ของอุ้มเขาก็ยอมปล่อยให้เฮียดูแลลูกชายเขาด้วย" น้ำหวานว่า
อุ้มรักสบตาซึ้งกับน้ำหวาน "ก็เฮียเล่นตื้อจนแม่ต้องใจอ่อนนี่..มามะจุ๊บทีนึงพ่อยอดตื้อ"
อุ้มรักกับน้ำหวานทำปากจะจูจุ๊บ แอ๋มหมั่นไส้จึงกระแอมออกมา อุ้มรักยิ้มร่าหัวเราะชอบใจ
"ไม่ต้องอิจฉาย่ะ ชั้นกำลังมีความสุขเจอแต่ข่าวดีทั้งเรื่องชั้น เรื่องศัตรูของชั้นรู้ใช่มั้ย เรื่องอีนังเมี่ยง สะใจอับอายขายหน้าชาวโลก ตอนนี้มันกลายเป็นนังเมี่ยงตกอับไปแล้ว"
"อยากรู้จังเลยนะครับว่าฝีมือใครเล่นงานมัน" น้ำหวานบอก
แอ๋มทำยิ้มๆรับแต่ไม่พูดอะไรก่อนจะชะงักเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้มือตบอกและไม่กระพริบตา
"เป็นอะไรไปยะ อาการแบบนี้..เจอใครร่ายมนต์สะกดเข้าให้ล่ะสิ" อุ้มรักถาม
แอ๋มพยักหน้ารับแล้วพยักหน้าให้ดูเป้าหมายทาง 14 นาฬิกาซึ่งก็คือ อินทัชที่เดินเข้ามานั่งตรงเคาท์เตอร์
"โอ้แม่เจ้า...เนื้อสมันน้อยน่าเคี้ยวกรุ๊บกริบนี่เอง..ระวังนะหล่อน ยังดูไร้เดียงสาอยู่เลย" อุ้มรักบอก
"ดูแล้วร้ายเดียงสาน่ะสิไม่ว่า..เห็นมั้ย..เหล่มาทางชั้นด้วย อ๊ายยยิ้มให้ด้วย" แอ๋มกระดี๊กระด๊า
"แสดงว่าสปีชี่เดียวกัน..ลุยเลยย่ะ แต่อย่าลืมตบแป้งกลบรอยบนหน้าที่หล่อนเอาไป กระแทกเขื่อนมาด้วยล่ะ"
"ชั้นซุ่มซ่ามเดินชนประตูย่ะ" แอ๋มบอก
แอ๋มหันมากระหยิ่มยิ้มเมื่ออินทัชยิ้มให้แล้วยกแก้วคอกเทลขึ้นมาชวนดื่ม แอ๋มรีบเอาตลับแป้งมาส่องดูหน้าแล้วตบแป้งสุดฤทธิ์ อุ้มรักกับน้ำหวานหันมายิ้มให้กัน

พุชชี่ เจ๊เมี่ยงและติณณภพมาแอบซุ่มดูอินทัชที่ส่งไปเป็นนกต่อล่อแอ๋มอยู่ห่างๆ
"นังอุ้มรักมันส่งสัญญาณมา..ปลากำลังจะกินเหยื่อแล้ว" เจ๊เมี่ยงบอก
"ขอให้แผนการนี้สำเร็จด้วยเถอะ ถ้าเราได้ตัวนังแอ๋มมา เราก็มีโอกาสเค้นให้มันคาย ความลับของไอ้จัตวา" พุชชี่ว่า
"เรื่องเค้นเอาความจริงกับแอ๋ม..เพื่อนตำรวจของพี่เตรียมข้อมูลไว้ให้แล้ว" ติณณภพบอก
พุชชี่ยิ้มรับกับติณณภพก่อนจะชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นตุลยาเดินหน้าตึงเข้าไปหาอินทัช

"แย่แล้วค่ะพี่ติณ..น้องสาวพี่ !!”

อินทัชกำลังนั่งรอให้แอ๋มเข้ามาแต่กลับถูกตุลยาโผล่มาทำหน้าตึงใส่

"ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง..หลบหน้าไม่รับโทรศัพท์ชั้นเพราะมาไล่จับผู้หญิงในที่แบบนี้"
"ตุล..เอ่อ..ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างที่ตุลคิด"
"ก็เห็นอยู่กับตายังมาปฏิเสธ นี่ถ้าชั้นไม่แอบตามนายมาตั้งแต่ที่สำนักพิมพ์ ชั้นก็คงไม่รู้ หรอกว่านายไม่ได้คิดจริงใจกับชั้นอย่างที่พูด"
"ตุล..เรื่องนั้นไว้คุยกันทีหลังได้มั้ย"
"ไม่ !! คุยมันตรงนี้ให้รู้เรื่องแหละ ตั้งแต่นายด่าชั้นแล้วหนีหายไปจากชีวิต ทิ้งให้ชั้นต้อง ทำทุกอย่างคนเดียว ชั้นถึงได้รู้ใจตัวเองว่าที่ผ่านมาชั้นรู้สึกยังไงกับนาย"
อินทัชอยากจะฟังแต่เห็นแอ๋มกำลังเดินใกล้เข้ามา
"ขอร้องนะตุล..ตอนนี้เราไม่สะดวกคุยด้วยจริงๆ"
"ไงจ๊ะพ่อรูปหล่อ..อยากจะเลี้ยงคอกเทลพี่เหรอจ๊ะ" แอ๋มถาม
ตุลยาเห็นแอ๋มเข้ามาเกาะแขนอินทัชก็อึ้งหน้าเสียน้ำตาคลอเบ้า เธอเข้าไปตบหน้าอินทัชดังเพี๊ยะ !! แอ๋มตกใจ ตุลยาร้องไห้วิ่งออกไป แอ๋มเริ่มมีสีหน้าสงสัยกลัวว่าเด็กหนุ่มจะไม่ใช่เก้งจริงๆ
"ไม่มีอะไรหรอกครับพี่..ก็แค่พวกนังชะนีที่ชอบคิดเองเออเอง" อินทัชยิ้มกลบเกลื่อน "ผมเห็นพี่ตั้งแต่เข้ามาแล้ว..ขออนุญาตให้ผมเลี้ยงหน่อยนะครับ"
"แหม..จะไหวเหรอพี่ทั้งกินดุแล้วยังกินจุด้วยนะจ๊ะหนุ่มน้อย" แอ๋มยิ้มกรุ้มกริ่ม
อินทัชยิ้มรับแล้วหันไปหยิบแก้วคอกเทลบาร์เทนเดอร์เตรียมไว้ยื่นให้แอ๋ม

ตุลยาร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ติณณภพตามเข้ามาคว้าตัวเธอไว้
"ตุล..นี่พี่เอง"
"พี่ติณ..นี่..นี่พี่มาทำอะไรที่นี่"
พุชชี่เดินเข้ามา "พี่เป็นคนขอร้องพี่ติณกับอินทัชให้ช่วยเหลือพี่เองจ้ะน้องตุล"
"พี่พัฒ ?...หมายความว่ายังไงคะพี่ติณ"
ติณณภพนิ่งมองตุลยา

วันใหม่ เน็กซ์กับอาร์ทช่วยกันพยุงแอ๋มที่อยู่ในอาการสลึมลือคอพับให้มานั่งที่เก้าอี้ต่อหน้าเจ๊เมี่ยง พุชชี่และติณณภพ
"ขอบใจนะเน็กซ์..อาร์ท ปล่อยมันไว้กับพวกเราที่นี่แหละ" พุชชี่บอก
"แต่ผมอยากอยู่ช่วย" เน็กซ์บอก
"เรื่องนี้พี่ติณจะเป็นคนจัดการเอง"
เน็กซ์นิ่งมองติณณภพ อาร์ทจับบ่าเน็กซ์แล้วพูดกับเขา
"พี่ว่าเราออกไปก่อนเถอะ"
อาร์ทพาเน็กซ์ออกไป เจ๊เมี่ยงอดกระซิบแซวพุชชี่ไม่ได้
"เสร็จงานนี้เมื่อไหร่..เจ๊บอกตรงๆนะ ปมรักสามเส้าของหล่อนแก้ยากกว่าเยอะ"
"เจ๊ !”
ระหว่างนั้นแอ๋มก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะยาสลบเริ่มหมดฤทธิ์
"นี่..นี่ชั้นอยู่ที่ไหนเนี่ย..นังเมี่ยง !! นี่..นี่พวกแกทำอะไรชั้น"
เจ๊เมี่ยงยิ้มร้ายแล้วเข้าไปบีบปากแอ๋ม "ทำในสิ่งที่ควรจะทำมาตั้งนานแล้วไงนังแอ๋ม"
แอ๋มตกใจที่เห็นพุชชี่กับเจ๊เมี่ยงทำสีหน้าเอาจริง

แอ๋มวิ่งวนไปรอบๆ ห้องแล้วพยายามร้องให้คนช่วยเสียงดังสุดฤทธิ์
"ช่วยด้วย..ช่วยด้วย"
"พอได้แล้วนังแอ๋ม แหกปากไปก็เท่านั้น ไม่มีใครมาช่วยหล่อนได้หรอก" เจ๊เมี่ยงบอก
"อย่าเข้ามานะ..ถ้าพวกแกทำอะไรชั้นแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ ท่านเอาพวกแกตายแน่"
"คำก็ท่านสองคำก็ท่าน ถามจริงๆ ไอ้หน้าเยินๆที่แกบอกว่าเดินชนประตูน่ะ..ฝีมือใคร" เจ๊เมี่ยงถาม
แอ๋มชะงักแล้วจิกหน้าเอาเรื่องเจ๊เมี่ยง "เพราะแกนั่นแหละนังเมี่ยง แกทำให้ท่านไม่พอใจ ท่านเลยต้องมาลงที่ชั้น สมน้ำหน้าแกเลยไงกลายเป็นเก้งบ้ากามประจานชาวโลก"
เจ๊เมี่ยงโกรธจะปรี่เข้าไปตบแต่พุชชี่รั้งไว้
"ไม่เอาค่ะเจ๊..ถึงพวกมันจะเลวกับเราขนาดไหน เราก็ไม่ควรจะเลวตามพวกมันเพื่อแค่ ต้องการแก้แค้นให้แอน"
"อ๋อ..นี่น่ะเหรอมาดามพุชชี่..เปลี่ยนไปเยอะนะจากนังพัฒศรีคนนั้น"
พุชชี่หันมาจิกหน้าแค้น "ใช่..ชั้นนี่แหละพัฒศรีเพื่อนรักของแอน ที่จะทำให้เวรกรรมตามทัน ไอ้จัตวาในชาตินี้ ไม่ใช่ชาติหน้า"
"อย่างหล่อนกับพวกเนี่ยนะจะทำอะไรท่านได้..รู้จักท่านน้อยไปแล้วมั้ง"
"แต่ผมว่าคุณนั่นแหละที่รู้จักเจ้านายตัวเองน้อยไป"
แอ๋มใช้หางตามอง "พูดอะไร..ชั้นเป็นเลขาดูแลท่านมาตั้งหลายปี ชั้นรู้ดีหมดทุกอย่าง"
"ไม่หรอก..คุณไม่ได้รู้เรื่องหมดทุกอย่างแน่"

ติณณภพโยนแฟ้มที่เตรียมเอาไว้ให้แอ๋มดู แอ๋มมองแฟ้มด้วยความแปลกใจ

แอ๋มโยนแฟ้มที่เปิดดูเสร็จแล้วลงพื้นอย่างขยะแขยง

"จะบ้าเหรอไง..เอารูปศพเละๆมาให้ชั้นดูทำไม"
"รูปที่ผมให้ดู หน้าอาจจะเละจนจำไม่ได้ แต่ถ้าคุณดูรูปที่ทางตำรวจเขาสืบจนรู้ว่าเป็น ใครแล้ว คุณอาจจะพอนึกออก" ติณณภพบอก
ติณณภพหยิบแฟ้มขึ้นมาพลิกหน้าสุดท้ายแล้วให้แอ๋มดูอีกที แอ๋มกล้าๆกลัวมองรูปชายคนหนึ่ง
แอ๋มชะงัก "นี่...นี่มันเลขาคนก่อนของท่านนี่ ทำไมกลายเป็นศพแล้วล่ะ ชั้นได้ยินว่าได้ผัว รวยแล้วไปอยู่เมืองนอกนี่"
"ได้ผัวรวยที่ไหน โดนฆ่าปิดปาก คดียังค้างอยู่ที่ตำรวจเพราะสอบสวนไปไม่ถึงเจ้านาย หล่อนไง" เจ๊เมี่ยงว่า
"ไม่จริง !! ชั้นไม่เชื่อพวกแก"
"อย่ามาโง่หน่อยเลยนังแอ๋ม..ไอ้จัตวามันไม่ได้ชวนหล่อนหนีไปกบดานอยู่ฝรั่งเศสตั้ง หลายปีเพราะเรื่องการเมืองอย่างเดียวหรอก เรื่องชั่วๆที่มันทำไว้น่ะยาวเป็นหางว่าว" เจ๊เมี่ยงว่า
"แล้วคนอย่างไอ้หมอนั่น มันไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องมันเยอะ เมื่อไหร่ที่เริ่มรู้มากมันก็จะไม่เอาไว้เหมือนกับรายนี้..เมื่อกี้นี้คุณบอกผมเองว่าคุณรู้ดีทุกอย่าง..อันตรายนะครับ" ติณณภพบอก
แอ๋มเริ่มหน้าเสียและลังเล พุชชี่เข้าไปที่แอ๋มแล้วพูดอย่างจริงจัง
"ชั้นอยากให้สะกดคำว่าเวรกรรม แกทำงานให้มันได้เงินตอบแทนมากมายก็จริง แต่สุด ท้ายก็ต้องนอนโลงมีเหรียญบาทยัดปากเหมือนกันทุกคน ก็เลือกเอาแล้วกันนะ จะได้ นอนโลงแบบมีคนแต่งหน้าสวยๆให้ หรือไม่เหลือหน้าสวยๆให้แต่ง"
แอ๋มนิ่งมองพุชชี่อย่างครุ่นคิด

จัตวานั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟา แอ๋มเดินก้มหน้าก้มตาเข้ามา
"หายหัวไปไหนมา..แกทำให้คิวงานของชั้นวันนี้วุ่นวายไปหมด"
"ขอโทษค่ะท่าน..คือแอ๋ม..แอ๋ม"
"ลูกน้องชั้นบอกว่าแกหิ้วผู้ชายหายไปด้วยกันทั้งคืน อย่าให้ชั้นรู้ว่าแกทำอีก เพราะถ้ามี ปัญหามาถึงชั้น ชั้นไม่เอาแกไว้แน่"
"ค่ะท่าน..เอ่อ..ท่านคะ แอ๋ม..แอ๋มอยากถามท่านสักเรื่อง คือ..เมื่อคืนแอ๋มบังเอิญเจอ เพื่อนของเลขาคนเก่าของท่าน"
จัตวาชะงัก "แล้วแกไปคุยอะไรกับเขา"
"ไม่มีอะไรค่ะ..ก็แค่ถามสารทุกข์สุกดิบกัน เขาว่าเขาไม่ได้เจอเพื่อนเลย"
"ไม่ต้องห่วงมันหรอก..มันน่ะไปดีแล้ว ไปได้ดีอย่างที่ชั้นจัดหาให้"
จัตวาพูดเสียงราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรแล้วเดินออกไป แอ๋มถึงกับหน้าเสีย

ติณณภพพาอินทัชเข้ามาหาตุลยาที่นั่งรออยู่อย่างเป็นห่วง เขาผลักไหล่อินทัชเบาๆให้เดินเข้าไป
"ตุล"
"อินทัช !" ตุลยาเข้ามาผลักไหล่ทันที "นี่นายเสียสติไปแล้วเหรอ ไปช่วยพี่ติณทำอะไรแบบนั้น"
"ก็พี่ติณเป็นพี่ชายเธอ เขาเห็นว่าหน้าตาท่าทางเราเป็นนกต่อล่อเก้งได้ เราก็อยากช่วย"
"แล้วถ้าเกิดผิดแผน..เกิดเขา..เขาทำอะไรเธอขึ้นมาล่ะ"
"เธอจะเสียดายเราใช่มั้ยล่ะ ถ้าเราจะพลาดท่าเสียตัวให้ผู้ชาย"
"ไอ้บ้า !! นี่แน๊ะ"
ตุลยาจะทุบแต่อินทัชจับมือเธอหมับแล้วนิ่งมองตากันอย่างซาบซึ้ง
"ถึงเราจะบอกว่าเราไม่อยากเจอหน้าเธออีก..แต่เราก็ถามเรื่องเธอจากพี่ติณตลอดเวลา เพราะเราห่วงเธอกลัวไม่มีใครคอยตามใจ"
ตุลยาสบตาอินทัชแล้วเขินจนหน้าแดง ติณณภพแกล้งกระแอมขัดจังหวะ
"พี่เลี้ยงน้องสาวแบบตามใจจนเสียนิสัยไปแล้ว พี่ไม่สนับสนุนให้เราตามใจอีกคนนะ"
"พี่ติณ !!”
"ไม่หรอกครับพี่ติณ" อินทัชบอก "ต่อไปนี้ผมจะเล่นตัวให้ตุลตามใจผมบ้างแล้ว"
ตุลยาหันขวับแล้วกระทุ้งศอกใส่อินทัชทันที

ติณณภพโอบไหล่น้องสาวเดินออกมาด้วยกัน
"เรื่องพี่ติณกับพี่พัฒ..น้องต้องขอโทษด้วยนะคะ น้องเข้าใจพี่พัฒผิดมาตลอด" ตุลยาพูด
"ไม่เป็นไรหรอกตุล..แม้แต่พี่เองก็เพิ่งจะรู้นี่แหละว่าทำไมพัฒเขาถึงต้องเปลี่ยนตัวเอง เพื่อเป็นมาดามพุชชี่"
"น่าสงสารพี่พัฒนะคะ..ที่ผ่านมาต้องทนเก็บความรู้สึก ฝืนตัวตนที่แท้จริงเพื่อเป้าหมาย แก้แค้นให้เพื่อนรัก แต่ถ้าแผนนี้สำเร็จพี่พัฒก็จะกลับมาเป็นคนเดิม พี่ติณก็จะได้ มาดามตัวจริงไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ชาร์โต้"
ติณณภพนิ่งไปแล้วมีสีหน้าครุ่นคิด "ไม่รู้สิตุล..ถึงตอนนี้เขาก็ยังเก็บความรู้สึกที่มีต่อพี่อยู่ เหมือนเขายังไม่ตัดสินใจว่า..เขาคือพัฒศรี หรือมาดามพุชชี่"

ติณณภพถอนใจ ตุลยามองด้วยสีหน้าสงสัย

เจ๊เมี่ยงรีบเอาข่าวดีมาบอกทุกคนที่อยู่ในบ้าน

"ข่าวดีจ้ะข่าวดี..นังแอ๋มมันยอมตกลงช่วยพวกเราแล้ว"
"จริงเหรอเจ๊" หนูดอกถาม
"จริงสิยะหล่อน..ชั้นเพิ่งวางสายจากมันไปเมื่อกี้ มันมีคลิปเด็ดๆที่ไอ้จัตวาทำร้ายผู้หญิง อายุไม่ถึงก็มี แต่ละคลิปเนี่ยเล่นงานให้มันติดคุกยาวได้เลย"
"ดีจังเลยเจ๊..แบบนี้สิที่เขาเรียกว่าสวรรค์มีตา" หนูดอกว่า
"ไม่ใช่แค่สวรรค์มีตาหรอกครับพี่หนูดอก ผมว่าเพื่อนของมาดามคงช่วยดลใจให้เขาคิด กลับใจยอมช่วยเรา" เน็กซ์บอก
พุชชี่หันมายิ้มกับเน็กซ์แล้วพยักหน้ารับ "แอนจะได้ไม่ตายฟรี คนที่ทำกรรมอะไรไว้ต้องได้ รับกรรมนั้นด้วย"
"หนูว่ามาดามรีบโทรบอกพี่ติณให้รู้ดีกว่า เพื่อนตำรวจเขาจะได้รีบจัดการกับไอ้จัตวา" แพตตี้บอก
"คุณกัปตันสุดหล่อนี่เท่จังเลยนะคะ นี่ถ้าไม่ได้เขาช่วยล่ะก็คงไม่สำเร็จ มาดามต้องจัด หนักขอบคุณเขาเยอะๆแล้วล่ะค่ะ"
คำพูดของยุวดีทำเอาเน็กซ์กับพุชชี่ชะงักมองหน้ากันอย่างอึดอัดขึ้นมาทันที
"เอ่อ..ชั้น..ชั้นขอตัวไปโทรหาพี่ติณก่อนนะ" พุชชี่บอก
พุชชี่เดินออกไป เจ๊เมี่ยงรีบเข้ามาหยิกยุวดี
"ปากบานๆของหล่อน..ไม่ต้องพูดทุกอย่างที่คิดก็ได้นะยะ เดี๋ยวจะให้อมกระโถนแทน"
เน็กซ์ดูนิ่งขรึมขณะเดินออกไปคนเดียวเงียบๆ ทำเอาทุกคนพากันเงียบ

แก้วตาลากแก้วใสเข้ามาในร้านกาแฟ
"มานี่สิ..มัวแต่ชักช้าอยู่ได้ เดี๋ยวก็คลาดกับนังแอ๋มอีกหรอก”
"ใจเย็นก็ได้น่าแม่" แก้วใสบอก
"ใจเย็นเหรอ" แก้วตาหยิกแขนลูกสาว "นี่แน๊ะ..ไหนบอกว่าท่านติดใจแกไง แล้วทำไมท่านถึงหายไป เป็นอาทิตย์ ไม่เรียกแกไปดินเนอร์ ไปช้อปปิ้ง"
"แหม..ช่วงนี้ท่านกำลังยุ่ง ไว้รอเลือกตั้งเสร็จ ท่านคงอยากเปิดตัวชั้นตอนนั้น"
"เปิดตัวหรือปิดตัวกันแน่"
แก้วตาหัวเสียแล้วหันไปเห็นแอ๋มกำลังนั่งรออยู่ที่มุมด้านในร้านแล้วเธอก็ฉุดแขนลูกสาวจะพาเข้าไป แต่ทั้งคู่ก็ต้องชะงักเพราะเห็นพุชชี่กับเจ๊เมี่ยงที่สวมแว่นดำเดินจากอีกทางเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับแอ๋ม
"แม่..นั่นมันนังพุชชี่กับเจ๊เมี่ยงนี่"
สองแม่ลูกมองหน้ากันด้วยความสงสัย

แก้วตากับแก้วใสพากันไปนั่งหลบมุมใกล้ๆ กับโต๊ะที่แอ๋มอยู่กับพุชชี่และเจ๊เมี่ยง สองแม่ลูกหูกางแอบฟังสุดฤทธิ์
แอ๋มยื่นซองเอกสารให้พร้อมเหลียวซ้ายแลขวาอย่างระมัดระวัง "คลิปหลักฐานที่จะเล่นงานท่านอยู่ในนี้"
เจ๊เมี่ยงจะรับแต่แอ๋มชักกลับ "อะไรของแกนังแอ๋ม..จะมาเปลี่ยนใจอะไรตอนนี้"
"ไม่ได้เปลี่ยนใจ..แต่อยากให้พวกหล่อนยืนยันว่าจะกันชั้นไว้เป็นพยาน"
"ชั้นคุยกับตำรวจที่ดูแลคดีนี้อยู่แล้ว หล่อนจะมีความผิดด้วย แต่ความดีที่หล่อนช่วยจะ ทำให้ได้ลดโทษลงไปเยอะ" พุชชี่บอก
แอ๋มนิ่งไปโดยยังถือซองเอกสารแน่น เจ๊เมี่ยงจับที่ปลายอีกด้านของเอกสารแล้วพูด
"เราทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องได้รับกรรม ชั้นเคยผิดพลาดเป็นเหตุให้แอนต้องฆ่าตัวตาย ก็ได้รับกรรมที่ทำไว้จนชื่อเสียงป่นปี้ไปแล้ว แกคงเข้าใจนะ"
แอ๋มนิ่งอยู่อีกครู่ก่อนจะยอมปล่อยมือ "คิดจะเล่นงานท่าน พวกหล่อนต้องระวังให้ดี รอบตัวท่านมีแต่พวกเก่งๆโหดๆเยอะ"
แอ๋มพูดเสร็จก็หยิบแว่นดำมาสวมเอาผ้ามาโพกศรีษะแล้วเดินออกไป เจ๊เมี่ยงกับพุชชี่หันมามองหน้ากันแล้วยิ้ม สองแม่ลูกที่แอบซุ่มอยู่ถึงกับหันมาสบตากันแล้วตาโตเป็นไข่ห่านกับสิ่งที่ได้ยิน

จัตวาพร้อมการ์ดกำลังเดินออกมาจากโรงแรมเพื่อขึ้นรถ แต่แก้วตากับแก้วใสพยายามเข้าไปให้ถึงตัว
"ท่านคะ..ท่าน" แก้วใสเรียก
จัตวาชะงักหันมามองแก้วในนิดเดียวแล้วไม่สนใจก่อนจะเดินผ่านไป การ์ดรีบเข้ามากันไม่ให้สองแม่ลูกเดินตาม
"เดี๋ยวสิคะท่าน..หนูมีเรื่องจะคุยกับท่านนะคะ..เรื่องสำคัญจริงๆค่ะ"
"เห็นมั้ย..ท่านสนใจแกที่ไหน..งานนี้ ได้ไม่คุ้มเสียแล้วนังลูกโง่ !" แก้วตาจิ้มหัวลูกสาว
"แม่ !! แก้วไม่ยอมให้โอกาสดีๆหลุดมือไปหรอก แก้วเบื่อทำงานแล้ว อยากเป็นคุณนาย"
แก้วใสเสียงแข็งกับแม่แล้วผลักการ์ดเพื่อจะพุ่งเข้าไปหาจัตวา แต่วิ่งไปได้ไม่ถึงตัวการ์ดก็ตามไปคว้าตัวของเธอไว้
"ปล่อยนะ..ไอ้บ้า..ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะ ชั้นต้องคุยกับท่าน เรื่องคอขาดบาดตาย"
การ์ดไม่ยอมปล่อยแก้วใส แก้วตาจึงรีบวิ่งเข้ามาเอากระเป๋าฟาดใส่ไม่ยั้ง
"ปล่อยลูกชั้นเดี๋ยวนี้นะ..บอกให้ปล่อย" แก้วตาหันไปขอ "ท่านคะ..ท่านต้องฟังพวกเรานะคะ ตอนนี้มีคนไม่หวังดีคิดเล่นงานท่าน พวกเรารู้ว่ามันเป็นใคร..ฟังพวกเรานะคะท่าน"

จัตวาที่กำลังจะก้าวขึ้นรถหยุดชะงักแล้วหันมามองสองแม่ลูกด้วยสีหน้าครุ่นคิด
 
อ่านต่อหน้า 4

มาดามดัน ตอนที่ 13 อวสาน (ต่อ)

เน็กซ์กับติณณภพเข้ามาหาพุชชี่ที่กำลังรออยู่พร้อมหลักฐานที่ได้มา

"เป็นยังไงบ้างน้องพัฒ" ติณณภพถาม
"ได้หลักฐานพร้อมเล่นงานนายจัตวามาแล้วค่ะพี่ติณ" พุชชี่บอก
"เพื่อนพี่กำลังมารับหลักฐานด้วยตัวเอง อีกนิดเดียวน้องก็จะได้แก้แค้นให้แอนได้แล้ว"
"ขอบคุณพี่ติณมากนะคะที่ช่วยเป็นธุระให้น้องมาตลอด"
ติณณภพเอามือจับไหล่พุชชี่แล้วบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจจนเจ๊เมี่ยงต้องทำเป็นกระแอมก่อนจะแอบสะกิดพุชชี่แล้วกระซิบ
"อาการแบบนี้แสดงว่าหล่อนตัดสินใจเลือกแล้วใช่มั้ย..เจ๊สงสารเน็กซ์จัง"
พุชชี่ชะงักกระทุ้งศอกเจ๊เมี่ยงแล้วเห็นเน็กซ์ที่มองเธอกับติณณภพเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน
"ผมเป็นห่วงมาดามก็เลยตามมาด้วย..แต่เห็นแบบนี้แล้ว..คงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วมั้ง"
พุชชี่หน้าเสีย เน็กซ์เสียใจและจะเดินออกไป
พุชชี่เรียกไว้ "เน็กซ์..เดี๋ยวก่อน"
พุชชี่เรียกเน็กซ์ไม่ทันขาดคำ รถSUVของลูกน้องจัตวาขับเข้ามาจอดเอี๊ยด การ์ดของจัตวา 3 คนก้าวลงมาจากรถแล้วยกปืนขู่ทุกคนทันที
"พวกแกใช่มั้ยที่คิดจะเล่นงานท่าน"
การ์ดส่ายปืนใส่หน้า พุชชี่กับเจ๊เมี่ยงกลืนน้ำลายเอื๊อกก่อนจะถอยกรูดไปหลบข้างหลังติณณภพกับเน็กซ์ทันที
เน็กซ์เข้ามาขวาง "ตำรวจกำลังจะมาที่นี่แล้ว พวกแกทำอะไรไม่ได้หรอก"
"ไอ้น้อง !! พระเอกมันมีแค่ในจอทีวีเท่านั้นเว้ย"
การ์ดที่เหลือปรี่เข้าไปล็อคตัวเน็กซ์เพื่อจะเล่นงาน แต่เน็กซ์ฮึดสู้แล้วแลกหมัด ติณณภพรีบเข้าไปช่วยเน็กซ์รับมือกับพวกการ์ดพร้อมตะโกนบอกพุชชี่
"น้องพัฒหนีไป !”
พุชชี่ตกใจกับเหตุการณ์ชุลมุน เจ๊เมี่ยงรีบฉุดพุชชี่ให้หนีไปทันที การ์ดคนแรกรีบไล่ตามทำให้เหลือเน็กซ์กับติณณภพรับมือกับการ์ดอีกสองคนแบบตัวต่อตัว

พุชชี่กับเจ๊เมี่ยงวิ่งกระหืดกระหอบหนีหน้าตั้งมาอีกมุมหนึ่ง แต่การ์ดตามมากระชากคอเสื้อเจ๊เมี่ยง
"คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ"
เจ๊เมี่ยงโดนชกหน้าจนเซ การ์ดจะเข้าไปที่พุชชี่เพราะเป็นคนถือซองเอกสารหลักฐาน แต่เจ๊เมี่ยงกระโดดขี่ หลังแล้วทั้งทุบทั้งตีใส่ไม่ยั้ง
"หนีไปพุชชี่..อย่าให้มันได้หลักฐาน..หนีไปไม่ต้องห่วงเจ๊"
"เจ๊ !!”
พุชชี่ยืนลังเลเพราะเป็นห่วงเจ๊เมี่ยง แต่พอเจอเจ๊เมี่ยงไล่เธอก็จำใจวิ่งหนี เจ๊เมี่ยงทั้งกัดทั้งทุบสู้สุดฤทธิ์สร้างความลำบากและรำคาญให้การ์ดจนต้องออกแรงเล่นงานอย่างหนักหน่วง การ์ดเจ๊เมี่ยงมาบิดแขนจนเธอร้องลั่น แล้วก็ทุบต้นคอจนเจ๊เมี่ยงสลบจากนั้นการ์ดก็ถือปืนไล่ตามพุชชี่ไป

เน็กซ์กับติณณภพรับมือกับการ์ดที่เหลือสองคนด้วยฝีมือที่พอตัวจนในที่สุดก็คว่ำการ์ดทั้งสองได้ แต่ก็ เล่นเอาเจ็บตัวกันไปคนละนิดะหน่อย แต่ระหว่างนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น เน็กซ์กับติณณภพพากันชะงักอึ้งเพราะเป็นห่วงพุชชี่

พุชชี่ยืนตัวแข็งหน้าเสียกอดซองเอกสารหลักฐานแน่นหลังจากที่การ์ดตามเธอมาทันแล้วยิงปืนขู่ให้หยุด
"แกหนีไม่รอดแล้ว..เอาหลักฐานนั่นมา"
พุชชี่กอดแน่นแล้วส่ายหน้าไม่ยอมให้
"เอามา !" การ์ดเข้าไปฉุดกระชาก
"ชั้นไม่ให้..ไอ้สารเลวนั่นต้องได้รับกรรมที่ทำกับเพื่อนชั้น"
พุชชี่พยายามยื้อยุดสุดฤทธิ์ถึงกับจับมือการ์ดมากัดจนจมเขี้ยว การ์ดร้องลั่นแล้วรีบปล่อยมือ พุชชี่รีบฉวยโอกาสวิ่งหนีทันทีทำให้การ์ดโมโหยกปืนเล็งพุชชี่พร้อมยิง
"ฤทธิ์เยอะนักนะนังบ้า..ตายอยู่ที่นี่ไปนั่นแหละ"
การ์ดแตะนิ้วที่ไกปืนพร้อมยิง ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังลั่น เปรี้ยง !! ติณณภพพุ่งเข้ามาคว้าตัวพุชชี่หลบไปได้อย่างเฉียดฉิว กระสุนปืนพลาดไปเฉียดแขนติณณภพจนได้เลือด
พุชชี่ตกใจ "พี่ติณ !!”
พุชชี่ประครองติณณภพเอาไว้ การ์ดยังตามมาจะยิงทั้งคู่อีก เน็กซ์โผล่เข้ามาข้างหลังแล้วล็อคคอการ์ดพยายามยื้อยุดแย่งปืน แต่ฝีมือการ์ดดีกว่าเน็กซ์จึงซัดจนเน็กซ์ล้มแล้วหันปากกระบอกปืนไปจ่อหวังยิงเน็กซ์แทน
"เกะกะกันนัก..ตายเรียงตัวมันหมดนี่แหละ"
พุชชี่ร้องลั่น "อย่า..อย่าฆ่าเขา !!”
เน็กซ์หน้าเสียมองติณณภพและพุชชี่ "ดูแลเธอให้ผมด้วยนะครับพี่ติณ"
เน็กซ์หลับตาพร้อมตาย การ์ดกำลังจะยิงเน็กซ์ ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดัง พุชชี่ร้องกรี๊ด ร่างของการ์ดล้มลงเพราะถูกยิงสกัดจากสารวัตรอู๊ดดี้ นายตำรวจหนุ่มที่เดินทางมาถึงในชุดตำรวจสุดเท่ อู๊ดดี้เข้ามาช่วยอย่างทันท่วงทีแล้วรีบเข้าไปเตะปืนการ์ดที่พื้นก่อนจะเช็คดูว่าการ์ดตายคาที่แน่นอน
"ทุกคนปลอดภัยนะครับ..ขอโทษที่ผมมาช้าไปหน่อย"
"มาทีหลังเป็นตอนจบละครแบบนี้ ไม่เรียกหน่อยหรอกเว้ย..ไอ้สารวัตร !!” ติณณภพว่า

อู๊ดดี้ยิ้มรับอย่างเจื่อนๆ

ตำรวจเข้ามาเคลียร์พื้นที่ การ์ดจัตวาที่บาดเจ็บถูกคุมตัวออกไป
 
เจ๊เมี่ยงนั่งปวดคอตุ๊บๆ ส่วนติณณภพได้รับการปฐมพยาบาลพันแผลที่ต้นแขนโดยไม่เป็นอะไรมาก ส่วนเน็กซ์มีบุรุษพยาบาลป้ายยาทำแผลให้อยู่อีกมุมหนึ่ง
"เจ็บมั้ยคะพี่ติณ"
"นิดหน่อยเองจ้ะ..กระสุนมันเฉียดไป"
"นี่หล่อน..ห่วงแต่พี่ติณ..ไม่เห็นห่วงเจ๊มั่ง ดูสิมันทุบเจ๊จนช้ำในไปหมดแล้ว"
"แหมเจ๊..ชั้นเป็นหนี้บุญคุณเจ๊เลยนะ ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อชั้นเนี่ย"
"ก็บอกแล้วไงว่าเจ๊รักหล่อนเหมือนน้องสาว พี่ก็ต้องเสียสละเพื่อน้องได้สิยะ"
"ซึ้งจังเลยเจ๊"
อู๊ดดี้เดินเข้ามา "เรียบร้อยมั้ยวะไอ้ติณ"
ติณณภพพยักหน้า "โอเคแล้ว แค่เจ็บกันคนละนิดละหน่อย แล้วเรื่องหลักฐานล่ะ"
"ตรวจสอบหมดแล้ว..แน่นหนา ชัดเจน เอามันอยู่แน่ ตอนนี้กำลังทำเรื่องออกหมายจับ เส้นใหญ่แค่ไหนก็ไม่พ้นติดคุกยาว"
"ขอบคุณมากเลยนะคะคุณสารวัตร..." เจ๊เมี่ยงขอจับมือ
"ผมสารวัตรอู๊ดดี้ เกิดมาลุยครับ"
"เกิดมาลุย..นามสกุลหรือฉายาคะ"
"นามสกุลของตระกูลเลยครับ"
"แหม..นามสกุลเท่จัง..ถ้าเมี่ยงอยากขอใช้นามสกุลนี้บ้าง..สารวัตรจะขัดข้องมั้ยคะ แบบว่าเมี่ยงชอบลุยให้สุดซอยอ่ะค่ะ"
เจ๊เมี่ยงกระพริบตาปริบๆ แถมมือที่จับอยู่ยังเอานิ้วเขี่ยมืออู๊ดดี้อีก
อู๊ดดี้รีบชักมือกลับ "เอ่อ..ผมลุยแต่เรื่องบู๊ครับ เรื่องอื่นไม่ค่อยชอบลุยเท่าไหร่..ไอ้ติณ เดี๋ยวชั้นขอคุยเรื่องรายละเอียดคดีกับแกหน่อย"
ติณณภพรับคำแล้วเดินออกไปกับสารวัตรอู๊ดดี้ เจ๊เมี่ยงมองตามแล้วยิ้มชอบใจ
พุชชี่แซว "เช็ดน้ำหมากหน่อยเจ๊..หกเรี่ยราดแล้ว"
"ว๊าย..นังนี่..หญิงอ่อนแออย่างเจ๊ก็อยากได้ผู้ชายมาคอยดูแลบ้างสิยะ..ใครจะเหมือน หล่อนล่ะ..มีผู้ชายมาแย่งตายต่อหน้าถึง 2 คน"
"เจ๊ !!”
พุชชี่ขึ้นเสียงเพื่อเบรคเจ๊เมี่ยงแล้วหันไปมองเน็กซ์ที่เพิ่งเสร็จจากให้บุรุษพยาบาลดูแล ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วก็นิ่งเงียบอึกอัก
"เฮ้อ…รักพี่เสียดายเด็ก เจ๊ก็อยากช่วยนะ แต่เรื่องนี้เจ๊ว่าหล่อนต้องสติให้ดี ใช้ทั้งสมอง และหัวใจไตร่ตรองให้เยอะ เพราะถ้าเลือกคนหนึ่งยังไงก็ต้องเสียอีกคนแน่ๆ"
พุชชี่ฟังเจ๊เมี่ยงแล้วหน้าเครียดได้แต่มองเน็กซ์ที่เดินจากไปอย่างน่าสงสาร

วันต่อมา แพตตี้กับยุวดีดูข่าวที่หน้าหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวใหญ่โตพร้อมภาพ จัตวาถูกตำรวจจับที่หน้าโรงแรม “คลิปเด็ดมัดตัวเจ้าพ่อดัง ซื้อบริการเด็กนับสิบ อนาคตทางการเมืองดับวูบ” อยู่ที่บ้านเจ๊เมี่ยง
"เห็นมั้ยยุวดี..ในที่สุดคนที่ทำกรรมอะไรไว้ ถึงเวลาก็ต้องชดใช้กรรม"
"สมน้ำหน้ามันนะคะ อายุขนาดนี้ยังลดละเลิกเรื่องอย่างว่าไม่ได้ ชอบนักดาราสาวๆเนี่ย หน้าตาผิวพรรณแบบนี้เข้าคุกไปคงได้เป็นดาราดาวคุกลุ้นได้สามีอยู่ในนั้น"
"ว๊าย !! แกนี่ก็.." แพตตี้ยิ้ม "แต่ก็อยากให้เป็นอย่างนั้นนะ"
ทั้งสองคนยิ้มชอบใจกัน ระหว่างนั้นอาร์ทก็ขี่มอเตอร์ไซค์คันเท่เข้ามาจอด เขาถอดหมวกกันน็อคออกแล้วยิ้มให้แพตตี้
แพตตี้ถาม "ไอ้เฒ่า..มาทำอะไรที่นี่เนี่ย"
"จะมารับน้องไปทำงานไงครับ วันนี้เรามีถ่ายแบบด้วยกัน"
แพตตี้กับยุวดีมีสีหน้าแปลกใจ เจ๊เมี่ยงเดินเข้ามา
"โทษทีนะจ๊ะหนูแพตตี้ เจ๊มัวแต่ยุ่งๆเลยไม่ได้บอกหนู"
"เจ๊กู้ชื่อเสียงกลับมาได้แล้วเหรอคะ ถึงมีคนติดต่องานกับเจ๊" แพตตี้สงสัย
"ก็มีบ้างนิดๆหน่อยๆจ้ะ พวกเพื่อนๆเจ๊ในวงการเขาพยายามช่วยเจ๊กันอยู่ แต่คงจะไม่เริ่ด ไม่เชิ่ดเหมือนเมื่อก่อน เจ๊เองก็เสียดายฝีมือหนูถ้าจะต้องมาติดหล่มกับเจ๊..เจ๊ก็เลย"
"พอเลยค่ะเจ๊..ถ้าจะบอกให้แพตตี้ย้ายสังกัดไปอยู่กับคนอื่น แพตตี้ไม่ทำเด็ดขาด"
"ใช่ค่ะ..ถึงคุณแพตตี้จะแรง ร้ายเอาเรื่อง แต่เรื่องกตัญญูรู้คุณเนี่ยเป็นข้อดีอันดับต้นๆ ที่มีอยู่ไม่กี่ข้อของคุณแพตตี้เลยนะคะ"
"ยุวดี !! หลอกด่าชั้น"
"ค่ะ..เย้ย..เปล่านะคะคุณแพตตี้"
เจ๊เมี่ยงซาบซึ้งน้ำตาคลอ "เจ๊ขอบใจมากนะจ๊ะหนูแพตตี้ ความกตัญญูรู้คุณ ตั้งใจทำงานไม่ งอแงโยเย เรื่องเยอะ ยกตัวเองว่าเป็นซุปตาร์ จะทำให้หนูเจริญก้าวหน้าในอาชีพนี้ เจ๊ฝากน้องด้วยนะอาร์ท"
"ได้ครับเจ๊ ผมตั้งใจมาดูแลน้องเขาทั้งชีวิตอยู่แล้ว"
อาร์ทพูดไปก็ยิ้มกวนๆแล้วยักคิ้วให้แพตตี้แต่โดนแพตตี้แลบลิ้นใส่ก่อนจะเดินไปรับหมวกกันน็อคมาสวมแล้วซ้อนท้าย
"เกาะแน่นๆนะสก๊อย" อาร์ทบอก
อาร์ทบิดมอเตอร์ไซค์พาแพตตี้ออกไป เจ๊เมี่ยงมองตามแล้วหันมากอดอกทำสีหน้าครุ่นคิด

รูปพุชชี่กับแอนที่เคยถ่ายด้วยกันอยู่ในกรอบรูป พุชชี่หยิบมาดู
"แอน..ในที่สุด..ชั้นก็ทำตามสัญญาที่ชั้นบอกแกเอาไว้ได้แล้วนะ ชั้นเชื่อว่าตอนนี้แกคง เป็นนางฟ้าที่สวยงามอยู่บนสวรรค์ เป็นดาวจรัสแสงอย่างที่แกฝันเอาไว้..ชั้นทำให้แกได้แล้วนะเพื่อน"
พุชชี่น้ำตาซึมกอดรูปเอาไว้แนบอกได้ครู่ก็เอารูปไปวางที่โต๊ะตามเดิม

"แต่ชั้นตอนนี้สิแอน..ชั้น..ชั้นไม่รู้จะเลือกทางเดินชีวิตของชั้นยังไงดี..ชั้นไม่รู้ว่าชั้นคือใคร ชั้นคือพัฒศรีหรือมาดามพุชชี่ แกบอกชั้นหน่อยได้มั้ย มันถึงเวลาที่ชั้นต้องเลือกแล้ว"

เน็กซ์นั่งหน้าเครียดอยู่บนเตียง เขามีสีหน้าครุ่นคิดเพราะหนักใจมาก

เน็กซ์นึกถึงตอนที่พุชชี่พยายามยื้อยุดการ์ดสุดฤทธิ์ถึงกับจับมือการ์ดมากัดจมเขี้ยวเต็มแรง การ์ดร้องลั่นรีบปล่อยมือ พุชชี่รีบฉวยโอกาสวิ่ง หนีทันที ทำให้การ์ดโมโหยกปืนเล็งพุชชี่พร้อมยิงทิ้ง
"ฤทธิ์เยอะนักนะนังบ้า..ตายอยู่ที่นี่ไปนั่นแหละ"
การ์ดแตะที่ไกปืนพร้อมยิง เสียงปืนดังลั่นแต่ติณณภพพุ่งเข้ามาคว้าตัวพุชชี่หลบไปได้อย่างเฉียด ฉิว กระสุนปืนพลาดเป้าเฉียดโดนแขนติณณภพจนได้เลือด
"พี่ติณ !!”
พุชชี่ประครองติณณภพเอาไว้ การ์ดตามมาจะยิงทั้งคู่อีก เน็กซ์โผล่เข้ามาข้างหลังแล้วล็อคคอการ์ดแล้วพยายามยื้อยุดแย่งปืน แต่ฝีมือการ์ดดีกว่าเน็กซ์ การ์ดซัดจนเน็กซ์ล้มแล้วหันปากกระบอกปืนไปจ่อหวังยิงเน็กซ์แทน
"เกะกะกันนัก..ตายเรียงตัวมันหมดนี่แหละ"
"อย่า..อย่าฆ่าเขา !”
เน็กซ์หน้าเสียแล้วมองติณณภพและพุชชี่ "ดูแลเธอให้ผมด้วยนะครับพี่ติณ"
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เน็กซ์ก็ลุกพรวดขึ้นจากเตียงสีหน้าเพราะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

หนูดอกตกใจจนตาโต
"ห๊ะ !! ว่าไงนะคะมาดาม ไม่เอานะคะ..มาดามอย่ามาล้อหนูเล่นแบบนี้ หนูไม่ชอบ"
"ดูหน้าชั้นนะหนูดอก..ชั้นจริงจังและตัดสินใจดีแล้ว"
"ไม่ค่อยเชื่อค่ะ คิดดีๆทบทวนแบบทบไปทบมา ทับกันเป็นชั้นๆก็ได้ค่ะมาดาม ไม่ต้องรีบ"
"อายุชั้นเท่าไหร่แล้ว..หมดเวลาค่อยๆคิดแล้ว"
"แต่ว่า..”
พุชชี่เข้าไปจับไหล่หนูดอกสองข้างอย่างจริงจัง "ตั้งแต่มีหล่อนเข้ามาในชีวิตชั้น ชั้นพูดได้คำเดียวเลยว่าหล่อนไม่ใช่ลูกจ้างแต่หล่อนคือน้องรักของชั้น"
หนูดอกน้ำตาคลอ "มาดาม..อย่าดราม่าแบบนี้สิ..หนู..หนู"
"ห้ามร้องไห้ !! มาดามเฟลอร์จะต้องเข้มแข็ง"
"ไม่ไหวหรอกค่ะ..ดราม่าขนาดนี้..หนูขอสองแหมะ" หนูดอกว่า
หนูดอกโผเข้าไปกอดพุชชี่แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น
"หนูก็รักมาดามนะคะ..รักมากด้วย..ฮือๆๆ"
พุชชี่กอดหนูดอกแล้วลูบหลังปลอบใจ ระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือของพุชชี่ก็ดัง พุชชี่หยิบมาดูเบอร์
"กัปตันใช่มั้ยคะ" หนูดอกถาม
พุชชี่พยักหน้ารับแล้วกดรับสาย "ค่ะพี่ติณ..น้องพร้อมแล้วค่ะ"

เน็กซ์มาเคาะประตูห้องนอนพุชชี่แล้วเรียก
"ป้า..ป้า..ผมมีเรื่องจะคุยด้วย..มาดาม..มาดามพุชชี่"
เน็กซ์เคาะเรียกอยู่นานไม่ได้ยินเสียงตอบเลยลองเปิดประตูเข้าไปก็พบห้องว่างเปล่า เน็กซ์ทำสีหน้าแปลกใจ

เน็กซ์เดินตามหาพุชชี่จนทั่วบ้านแต่ไม่เจอจนมาเจอหนูดอกยืนอยู่คนเดียว
"พี่หนูดอก..มาดามอยู่ไหนครับ"
"เอ่อ..คือ"
"ผมถามว่าเขาอยู่ไหน"
"ที่นี่ไม่มีมาดามพุชชี่อีกแล้วค่ะน้องเน็กซ์"
เน็กซ์อึ้ง "หมายความว่า...”
เน็กซ์รีบถอยแล้ววิ่งออกไปทันทีในจังหวะที่สวนกับเจ๊เมี่ยงที่เดินเข้ามาพอดี
เจ๊เมี่ยงมองตามเน็กซ์แล้วก็รู้สึกสงสัย "เกิดอะไรขึ้นน่ะหนูดอก"
หนูดอกมองหน้าเจ๊เมี่ยงแล้วก็ถอนใจยาว

บริเวณสนามบินบริเวณขาออก ติณณภพจัดการเรื่องตั๋วเรียบร้อยก็เดินมาหาพุชชี่ที่มีสีหน้าครุ่นคิด
"เรียบร้อยแล้วจ้ะน้องพัฒ"
พุชชี่นิ่งจนเหมือนจะไม่ได้ยินที่ติณณภพเรียกเพราะเหม่อ ติณณภพต้องแตะไหล่ พุชชี่จึงรู้สึกตัว
"คะพี่ติณ"
"ได้เวลาต้องขึ้นเครื่องแล้ว"
พุชชี่พูดอย่างตัดสินใจ "ค่ะพี่ติณ..ไปกันเถอะค่ะ"
พุชชี่ยิ้มให้แล้วควงแขนติณณภพก่อนจะพาเดินเข้าไปด้านใน

เน็กซ์กระหืดกระหอบวิ่งเข้ามามองหาพุชชี่ แต่มาช้าไปเพราะเห็นจากที่จอบอกว่าเครื่องได้เทคออฟไปแล้ว เน็กซ์ได้แต่ไปยืนเกาะผนังกระจกมองเครื่องบินที่บินขึ้นสู่ฟ้าและพาพุชชี่ไปจากชีวิตเขาอย่างเศร้าๆ

หลายวันผ่านไป เน็กซ์หิ้วกระเป๋าจะออกจากบ้าน หนูดอกกับเจ๊เมี่ยงรีบไปดักขวางทาง
"น้องเน็กซ์อย่าทำอย่างนี้สิคะ จำได้มั้ยคะกว่าจะก้าวมาเป็นซุปตาร์ได้เลือดตาแทบ กระเด็น แล้วอยู่ๆจะมาเลิกทิ้งไปดื้อๆแบบนี้ ไม่สงสารแฟนๆเขาบ้างเหรอ”
"เห็นด้วยจ้ะ..เจ๊ไม่อยากให้เน็กซ์ทิ้งโอกาสนี้ไป มันจะเสียกำลังใจที่พุชชี่อุตส่าห์ปลุกปั้น มานะคะ" เจ๊เมี่ยงบอก
"กลัวเขาเสียกำลังใจ แล้วถามผมบ้างมั้ย ว่าจะมีกำลังใจทำให้ทุกคนมีความสุขได้ยังไง ถ้าไม่มีเขาอยู่ในชีวิตผมอีก !”
เจ๊เมี่ยงกับหนูดอกพากันชะงักที่โดนย้อนกลับ ระหว่างนั้นอาร์ทก็เข้ามาพร้อมกับแพตตี้
"ไอ้น้อง ถ้าพูดแบบนี้ก็แสดงว่าน้องยังไม่เข้าใจว่าทำไมพุชชี่ถึงต้องทำแบบนี้" อาร์ทบอก
"พี่อาร์ทจะให้ผมเข้าใจอะไรอีก..เขาเลือกพี่ติณ เขาเห็นผมเป็นแค่ไอ้เด็กกะโปโล"
"นี่นายคิดแค่นั้นจริงๆเหรอ"
หนูดอกกับเจ๊เมี่ยงกลัวอาร์ทจะพูดอะไรมากไปกว่านี้เลยรีบเข้าไปประกบ
"พอได้แล้วตาอาร์ท..ให้เจ๊กล่อมเน็กซ์เองดีกว่า" เจ๊เมี่ยงบอก
"เจ๊คะ..ปกติหนูเห็นด้วยกับเจ๊เกือบทุกเรื่อง..แต่กับเรื่องนี้ เน็กซ์เขาเป็นพี่ชายหนูนะคะ" แพตตี้บอก
"แพตตี้ !!”
เน็กซ์สงสัย "นี่ทุกคนมีอะไรปิดผมอยู่รึเปล่า"
"ไม่มีค่ะน้องเน็กซ์..ไม่มีจริงๆ" หนูดอกบอก
"งั้นถ้าไม่มีอะไรจริงๆ..พวกพี่ก็ช่วยหลบ..ผมจะกลับบึงโขงหลง กลับไปเป็นไอ้บักหมา เหมือนเดิม"
เน็กซ์ดันหนูดอกที่พยายามขวางแล้วเดินออกไปทันที
"น้องเน็กซ์..น้องเน็กซ์ !!” หนูดอกเรียก
"เจ๊.." แพตตี้ทำหน้าจริงจัง "หนูกับพี่อาร์ทไม่สมรู้ร่วมคิดด้วยนะ ดูหนูกับพี่อาร์ทเป็นตัวอย่างสิ บอกเขาไปไอ้เฒ่า !!”
อาร์ทโอบแพตตี้ "เมื่อความรักร้องเรียกเธอจงตามมันไป แม้ว่าทางของมันนั้นจะขรุขระและ ชันเพียงไร และเมื่อปีกของมันโอบรอบกายเธอ จงยอมทน..เก๋มั้ย..คาริล ยิบรานว่าไว้”
“น่ารักมากไอ้เฒ่า คนสองคนรักกันเราต้องปล่อยให้เขาเดินบนทางขรุขระของเขาเองสิเจ๊”

เจ๊เมี่ยงกับหนูดอกนิ่งไปมองหน้ากันว่าจะเอายังไงดี

เจ๊เมี่ยงกับหนูดอกรีบตามเน็กซ์ออกมา

"เดี๋ยวก่อนน้องเน็กซ์..อย่าเพิ่งไป" หนูดอกเรียก
ทั้งหนูดอกกับเจ๊เมี่ยงรีบเข้ามาขวาง หนูดอกกอดเอว เจ๊เมี่ยงล็อคคอสุดฤทธิ์ อาร์ทกับแพตตี้ตามออกมาด้วย
"เจ๊ไม่ให้เน็กซ์ไปนะคะ..ไม่ปล่อยเด็ดขาด"
"ปล่อยผมนะครับ" เน็กซ์บอก
"ไม่..พี่ไม่ปล่อย"
"แต่ถ้าพวกพี่ไม่ปล่อย..ผมจะขาดใจตายอยู่ตรงนี้..ผมหายใจไม่ออก"
เจ๊เมี่ยงกับหนูดอกชะงักที่รัดเน็กซ์จนแน่น
"ชะอุ๋ย..เจ๊ขอโทษค่ะ เจ๊กลัวเน็กซ์ไปแล้วจะไม่มีโอกาสตามไปบอกความจริ"ง
"ความจริง..ตกลงพวกพี่มีความจริงอะไรที่ยังไม่ได้บอกผม"
หนูดอกพูด "คือ..คือน้องเน็กซ์อย่าเพิ่งโกรธสิคะ..มาดามเขาเป็นคนสั่งพี่กับเจ๊เมี่ยงเอาไว้ให้รูดซิป ปิดปากเงียบกริบ"
"เรื่อง !!”
"ก็เรื่องที่เน็กซ์เข้าใจว่าพุชชี่เลือกพี่ติณไง..คือความจริงแล้วพุชชี่ไม่ได้เลือกพี่ติณหรอก พุชชี่อยากให้เน็กซ์เข้าใจอย่างนั้น เพราะคิดว่ายังไงรักต่างวัยกับเน็กซ์คงเป็นไปไม่ได้”
หนูดอกเสริม “ใช่จ้ะ..มาดามเขาอยากให้น้องเน็กซ์ได้เจอคนที่เหมาะสมกันมากกว่า ก็เลยเลือกหนี หน้าไปเสียใจคนเดียว”
“นิสัยนังพุชชี่มันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันชอบดูแลคนอื่น ชอบเห็นคนที่มันรัก มีความสุข มันถึงรักที่จะเป็นมาดามดัน ชอบเป็นพุชชี่มากกว่าเป็นน้องพัฒศรีที่ต้องให้ พี่ติณคอยดูแล”
“พุชชี่ถึงได้เลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้กับนายมาตลอดไงเน็กซ์ คิดดูสิ..ตั้งแต่วันแรกที่พุชชี่ไป เจอนายจนพานายมาอยู่ด้วยกัน มีสักวันมั้ยที่พุชชี่จะคิดเรื่องตัวเองก่อนเรื่องของนาย” อาร์ทบอก
เน็กซ์นิ่งไป แพตตี้เข้ามาจับมือให้กำลังใจเน็กซ์
"เน็กซ์..อย่าปล่อยให้มาดามวิ่งหนีหัวใจตัวเองเด็ดขาดนะ"
เน็กซ์มองแพตตี้แล้วมองทุกคนด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเพราะฮึดขึ้นมาทันที

บริเวณหน้าชาร์โต้ติณณภพกำลังยืนคุยอยู่กับคนงาน ระหว่างนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นเน็กซ์ก้าวเข้ามา ติณณภพผละจากคนงานแล้วเดินเข้ามาที่เน็กซ์
“ไม่แปลกใจเลยที่ได้เห็นนายที่นี่อีกครั้ง”
“ถ้าพี่ติณรู้ว่าผมมาเพราะอะไร ผมก็หวังว่าพี่จะช่วยผม”
“หึๆๆ..นายไม่คิดว่าชั้นจะมีด้านมืด ด้านที่เห็นแก่ตัว ไม่อยากเห็นนายกับพุชชี่ลงเอยกัน บ้างเหรอ”
“มิสเตอร์เพอร์เฟคแมนอย่างพี่ ถ้าคิดจะเห็นแก่ตัวจริงๆ ผมก็คงแพ้พี่ไปนานแล้วครับ”
ติณณภพหัวเราะชอบใจ “เฮ้อ...สงสัยว่าถ้าชั้นไปตกหลุมรักผู้หญิงคนไหนอีก ชั้นคงต้องหัดเห็น แก่ตัวบ้างแล้ว”
“ถึงตอนนั้นผมจะเป็นกุนซือให้พี่เอง”
ติณณภพตบบ่าเน็กซ์อย่างถูกใจ “รับปากพี่แล้วนะไอ้น้องชาย..งั้นพี่จะบอกให้ว่าพุชชี่อยู่ที่ไหน”
เน็กซ์ยิ้มรับอย่างดีใจ

พุชชี่นั่งเศร้าเหม่อมองปราสาท Chamboard อยู่คนเดียว ระหว่างนั้นเน็กซ์ก็เข้ามายืนข้างหลัง
“คิดจะหนีหน้าผมทำไมไม่หนีไปขั้วโลก หนีมาแค่ฝรั่งเศสแบบนี้ จงใจให้ผมตามมาง้อนี่”
พุชชี่ลุกพรวดทันที “กลับไปเลยนะเน็กซ์ ชั้นไม่ได้หนีเธอ ชั้นแค่เปิดโอกาสให้เธอได้เจอคนที่ เหมาะกับเธอมากกว่า”
“จะให้ผมไปเจอคนที่เหมาะกับผมที่ไหนอีก..ก็ในเมื่อผมเจอของผมมาตั้งนานแล้ว”
เน็กซ์พูดไปก็ยื่นกล่องแหวนที่ซ่อนไว้ข้างหลังออกมาพร้อมกับคุกเข่ายื่นให้ต่อหน้าพุชชี่
“แต่งงานกับผมเถอะนะครับมาดามพุชชี่ อายุมันก็เหมือนสายลม ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ความรักต่างหากที่จะอยู่กับเราไปจนวันตาย”
พุชชี่อึ้ง “เน็กซ์...เธอจะอยู่กับชั้นทั้งชีวิตมันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดนะ”
“ผมรู้...แต่มาดามพุชชี่ปลุกปั้นดันทุรังพาผมผ่านเรื่องยากๆมาได้ตั้งเยอะแยะ จากเด็ก กวนๆเก่งแต่เตะฟุตบอลอยู่ที่บึงโขงหลง จนกลายมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ แล้วทำไมกับ เรื่องแค่นี้ผมจะทำไม่ได้”
“แต่ว่า...”
เน็กซ์ลุกขึ้นรีบแล้วใช้นิ้วแตะปากพุชชี่ไม่ให้พูดต่อ
“ฟังผมให้ดีนะครับมาดามพุชชี่...”
เน็กซ์สีหน้าจริงจังจับมือพุชชี่มากุมแล้วยกฝ่ามือของพุชชี่มาสัมผัสที่หัวใจเขา
“ถ้าเธออยากรู้ว่ามันจะยาวนานเท่าไร ถ้าเวลาผ่านไป ฉันจะเบื่อเธอไหมที่อยากรู้ จะตอบให้เธอนั้นเข้าใจ ไม่มีวันเปลี่ยนไป ให้เธอจงฟัง ถึงเธอจะแก่กว่านี้ จะเหี่ยวกว่านี้ จะหง่อมกว่านี้สักเท่าไร ผมเธอจะหงอกจะขาว เคี้ยวข้าวแทบไม่ไหว ยังไงก็รักเธอ….ยัยแก่”
เน็กซ์พูดจบประโยคเนื้อเพลง วัยทองรำลึก พร้อมกับจับมือพุชชี่ขึ้นมาจูบเบาๆ พุชชี่นิ่งงันใจเต้นตึกตักแต่ก็ยังไม่ยอมใจอ่อนดึงมือออกจากเน็กซ์
“บอกตรงๆนะมุขจีบผู้หญิงแก่กว่าแบบนี้ มันไม่ได้ผลกับชั้นหรอก ถ้าเธออยากให้ชั้น มั่นใจ เธอต้องพิสูจน์ว่าเธอจะคอยดูแลเวลาที่ชั้นแก่ได้จริงๆ” พุชชี่ว่า
“ได้ครับ..จะให้ผมพิสูจน์ยังไง”
พุชชี่กอดอกแล้วยิ้มมุมปากร้ายๆ น่ารักแต่เจ้าเล่ห์ เน็กซ์ชักใจคอไม่ดี

เน็กซ์แบกพุชชี่ขึ้นหลังเดินขึ้นบันไดวนอันสูงชันของโบสถ์แล้วหอบแฮ่กๆ เพราะเหนื่อยโคตรๆ
“อะไรกัน..นี่ยังไม่ถึงครึ่งทางเลยนะ ถ้าแค่นี้เธอยังดูแลพาชั้นขึ้นไปไม่ได้ แล้วเธอจะดูแลชั้นตอนที่ชั้นแก่หนังเหี่ยว นมยาน เดินไม่ไหวได้ยังไง”
“ผมจะปลูกบ้านชั้นเดียวให้เป็นเรือนหอ” เน็กซ์บอก
“ไม่ต้องบ่น..ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าหวังว่าชั้นจะรับปากแต่งงานกับเธอ”
“ทำได้..ผมทำได้ครับ” เน็กซ์เงยหน้ามองบันไดที่ยังเหลืออีกเพียบ “พ่ออังเดรครับ..ช่วยส่ง แรงฮึดมาให้ผมด้วย ผมจะพาเจ้าสาวขึ้นไปให้พ่อทำพิธีให้ได้...ฮึบ !! สู้เว้ย”
เน็กซ์ฮึดแรงเฮือกขึ้นมาแล้วแบกพุชชี่ขึ้นไต่บันไดไปทีละขั้นๆ

เน็กซ์แบกพุชชี่ขึ้นมาหมดแรงที่ลานด้านบนหน้ารูปปั้นพระเยซู
“ถึง...ถึงแล้ว...”
เน็กซ์หมดแรงจนเข่าทรุด พุชชี่หยุดมองเน็กซ์แล้วยิ้มขำชอบใจ
“เก่งนี่..แข็งแรงแบบนี้ชั้นยอมเชื่อแล้วก็ได้ว่าเธอจะดูแลยัยแก่คนนี้ได้จริงๆ”
เน็กซ์หอบแฮ่กๆ “ก็..ก็บอกแล้วไงว่าผม..ผมทำได้...เฮ้ออ”
เน็กซ์แทบแผ่หราหงื่อแตกเต็มหน้า พุชชี่ยิ้มแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อให้อย่างเอ็นดู
“ชั้นรักเธอนะเน็กซ์..ต่อให้เธอไม่แบกชั้นขึ้นมาบนนี้ ชั้นก็ยังรักเธออยู่ดี”
“อ้าว..งั้นก็แกล้งผมน่ะสิ”
พุชชี่ยิ้มชอบใจ “คิดจะมีแฟนเด็กก็ต้องรู้จักตามทันเด็ก ไม่งั้นจะเอาเธออยู่หมัดเหรอ !”
“คร้าบ..ยอมให้ก็ได้ ได้ทั้งแฟนได้ทั้งแม่มาแบบนี้ คุ้มจะตาย” เน็กซ์หันไปที่โบสถ์ “พ่ออังเดรครับ..เป็นพยานเข้าพิธีแต่งงานให้ผมกับมาดามพุชชี่ด้วยนะครับ”
“เด็กบ้า...ตะโกนอะไร..อายเขา”
เน็กซ์หันมาดึงพุชชี่รวบกอดแน่นจนหน้าแทบชนกันแล้วสบตาซึ้งสุดฤทธิ์ “ผมรักมาดามพุชชี่ ผมรักพัฒศรี และรักทุกอย่างที่เป็นเธอ ผมสัญญาว่าผมจะอยู่กับเธอไปจนชั่วชีวิต”
พุชชี่ยิ้มรับ “ชั้นก็สัญญาว่าจะอยู่ดูแลเธอไปจนกว่าลมหายใจสุดท้าย”

เน็กซ์กับพุชชี่สบตาซึ้งแล้วใบหน้าของทั้งคู่ก็ค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากัน ท่ามกลางวิวอันสวยงามบน Saint Mont Micheal
 
จบบริบูรณ์...
กำลังโหลดความคิดเห็น