xs
xsm
sm
md
lg

มาดามดัน ตอนที่ 8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาดามดัน ตอนที่ 8

หนูดอกยิ้มแห้งๆอยู่ต่อหน้าพุชชี่ที่ยื่นไอแพดให้
“วันนี้มาดามมาอารณ์ไหนคะเนี่ยอยู่ๆจะมาแจกไอ้แพดให้หนู”
“ชั้นไม่ได้จะให้ไอแพดหล่อน แต่จะให้อธิบายมาว่าคลิปในเน็ตเนี่ย...ฝีมือใคร”
หนูดอกชะงัก พุชชี่เปิดหน้าจอแล้วกด Play คลิปในนั้นซึ่งเป็นคลิปแอบถ่าย

คลิปเป็นการแอบตามถ่ายแก้วใสโดยไม่รู้ตัวจากกล้องมือถือ แก้วใสที่เพิ่งถ่ายงานเสร็จรีบเดินออกมาที่ด้านหลังสตูดิโอซึ่งเป็นที่เปลี่ยวๆ เธอเหลียวซ้ายขวาอย่างระวังตัว ในขณะที่กล้องก็คอยหลบไม่ให้แก้วใสเห็น
แก้วใสเดินออกมาได้ครู่ก็เจอ ‘เอก’ ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานรออยู่ เอกฉุดมือแก้วใสเข้าไปในมุมมืดๆ แล้ว กอดรัดฟัดเหวี่ยงพยายามจะนัวเนีย กล้องยังตามไปซูมภาพให้เห็นและได้ยินเสียง
“พี่เอก..พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก”
“แถวนี้ไม่มีใครหรอก พี่มายืนรอแก้วใสจนยุงกัดลายไปทั้งตัวแล้ว”
“ก็ยังไว้ใจไม่ได้ค่ะ..แก้วใสเพิ่งบอกพี่หนูดอกว่าปวดหัวทำงานไม่ไหวขอตัวกลับบ้าน”
“แต่วันนี้ยังไงพี่ก็ไม่พาไปส่งบ้านนะ เมียพี่เขาไปถ่ายละครเมืองนอก”
“แก้วใสรู้ค่ะ..แค่บอกคนอื่นว่าจะกลับบ้าน แต่ตัวจะไปอยู่ที่ไหนนั่นก็แล้วแต่พี่เอกจะพาไปฉีดยาแก้ปวดให้แก้วค่ะ”
แก้วใสยิ้มยั่ว เอกก็ยิ้มชอบใจก่อนจะจับมือมาหอมแล้วโอบไหล่พากันเดินหายไปในมุมมืด

หนูดอกดูคลิปแล้วยิ้มแห้งๆ
“อ๋อ คลิป ‘แก้วปวดหัว อ้อนผัวไปฉีดยา’ นี่เอง หนูก็นึกว่ามาดามจะให้ดูอะไรเด็ดกว่านี้”
พุชชี่หยิกเอวหนูดอกทันที “นี่แน๊ะ !! อย่ามาตีหน้าซื่อใส่ชั้นนะ เธอทำอย่างนี้ทำไม..บอกมา”
“โอ๊ย..หนูเปล่านะคะมาดาม”
“คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่หล่อนโกหกชั้นไม่ได้หรอก อยากให้ชั้นไล่กลับไปอยู่ที่บึงโขงหลง ใช่มั้ย..หนูดอก”
อาร์ทเดินเข้ามา “ถ้าเธอจะลงโทษหนูดอก..เธอก็ต้องลงโทษชั้นด้วยนะพุชชี่ เพราะชั้นรู้เห็นแต่กลับไม่พยายามห้าม”
“อาร์ท”
หนูดอกหน้าจ๋อย “หนูขอโทษค่ะ..หนูยอมรับแล้วว่าหนูทำผิดกฏของมาดามที่จะไม่ยอมให้มี การใช้วิธีสกปรกเพื่อทำลายชื่อเสียงกัน จนถึงขั้นอยู่ในวงการไม่ได้อีก”
“ใช่..ชั้นกลัวว่าถ้าเล่นกันแรงๆ เกิดจนตรอกหมดอาชีพทำกิน แล้วไปทำเรื่องผิดๆขึ้นมา”
อาร์ทช่วยเสริมด้วยการหันมาตอกย้ำหนูดอก “มันจะกลายเป็นบาปหนา”
“ไอ้อาร์ท !! ชั้นก็แค่อยากสั่งสอน ให้นังแม่ลูกคู่นั้นได้รับผลกรรม ที่มันทำให้มาดามต้อง เสียชื่อ…มาดามคะ หนูขอโทษ ครั้งนี้หนูอาจจะเอาคืนแรง แต่หนูเชื่อว่านังสองแม่ลูก นั่นคงไม่ถึงกับจนตรอกหมดทางทำมาหากินหรอก..อย่างมากก็แค่ทำให้มันเหม็นโฉ่ งานหด อดดังไปอีกนานก็แค่นั้น” หนูดอกว่า
หนูดอกกระพริบตาซื่อๆ เพื่อขอโทษสุดฤทธิ์ พุชชี่มองลูกน้องที่หวังดีแล้วก็ถอนใจยาว

แก้วตาฉุดแขนลูกสาวมาคุยกันสองต่อสองในรถตู้ส่วนตัว
“มานี่เลยนังตัวดี”
“โอ๊ย...เจ็บนะแม่”
แก้วใสสะบัดแรงจนแก้วตาอึ้ง
“คลิปแกอ้อนผัวชาวบ้านไปฉีดยาแก้ปวดว่อนเน็ตขนาดนี้ แกยังกล้าพยศใส่ชั้นอีกเหรอ ไอ้ลูกไม่รักดี”
แก้วตาพยายามทุบตีลูกสาวเพราะโมโห แก้วใสพยายามปัดป้อง
“พอซะทีเถอะแม่..แทนที่แม่จะมาลงกับแก้ว ทำไมแม่ไปจัดการกับไอ้คนที่มันโหลดคลิป เล่นงานแก้ว”
“ชั้นจะไปรู้ได้ไงว่าใครเป็นคนทำ”
“โธ่เอ้ย..เห็นคลิปก็รู้แล้วว่าฝีมือใคร นังหนูดอกแน่นอน นังนั่นมันพยายามจับผิดแก้วมาหลายครั้งแล้ว”
“นี่ขนาดรู้ตัวว่ามันพยายามจับผิด แต่ก็ยังทำตัวล่อเป้ามัน” แก้วตาหยิกซ้ำ “ชั้นซื้อข้าวให้กินนะ ไม่ได้ซื้อหญ้าให้..ฉาวโฉ่ เน่าในขนาดนี้ หมดกัน !! แล้วทีนี้เราจะหากินกันยังไง”
“ไม่หรอกแม่ !! แค่ปล่อยให้นักข่าวมันเมาท์กันไป เดี๋ยวมันก็ลืมกันไปเอง ไอ้คลิปนั่นมัน ก็ตั้งนานแล้ว เดี๋ยวนี้แก้วไม่ได้ไปยุ่งกับเขาแล้วด้วย”
“แกกล้าสาบานแน่นะว่าแกไม่ได้ยุ่งกับมันแล้ว”
“แก้วสาบาน”
“งั้นเอาโทรศัพท์แกมา…เอามานี่”
แก้วใสพยายามกำโทรศัพท์ในมือแน่นไม่ยอมปล่อยแต่ก็เจอแก้วตาแย่งโทรศัพท์ไปจนได้ แก้วตาเปิดดูข้อความแชตไลน์แล้วก็อึ้ง
“รอเดี๋ยวนะคะพี่เอก..หนูเอากะปิเน่าๆหมดอายุมาให้แม่จิ้มมะม่วง รับรองว่ามีจู๊ดๆแน่”
แก้วตาหันขวับไปมองลูกแบบจิกตาร้ายเอาเรื่องเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันก่อน
ภาพตอนที่แก้วใสลุกเดินไปตอบไลน์ที่อีกมุมหนึ่งแล้วนั่งอมยิ้มหน้าแดงจนแก้วตาสงสัยผุดขึ้นมา
“นี่...ชั้นเห็นแกจิ้มๆคุยไลน์ทั้งวัน แกคุยกับใคร ไหนเอามาดูสิ”
แก้วใสรีบเก็บ “บอกแล้วไงคะคุณแม่..โทรศัพท์ของแก้วใสคุณแม่ห้ามยุ่ง”
“แต่ตอนนี้ชั้นต้องคุมทุกอย่างในชีวิตแก เพราะฉะนั้นแกจะมีความลับเหมือนตอนอยู่กับนังพุชชี่ไม่ได้”
“แก้วใสไม่ได้มีความลับอะไรหรอก ก็แค่คุยกับเพื่อนๆ” แก้วใสหันไปหยิบกระเป๋า “ขี้เกียจฟังแม่ บ่นเหม็นกลิ่นกะปิเต็มทนด้วย แก้วใสไปเที่ยวกับเพื่อนนะ”
“ชั้นไม่ให้แกไปนะ กลางค่ำกลางคืนเวลาที่แกหายหัวไปทีไร เช้าขึ้นมาต้องเป็นเรื่องทุกที”
“ไม่มีอะไรหรอกแม่..ก็แค่ไปเที่ยวกับเพื่อน”
แก้วใสแกะมือแม่แล้วรีบเดินออกไป แก้วตารีบตาม
“ก็บอกว่าไม่ให้ไปไง” พูดจบแล้วแก้วตาก็ชะงักเพราะรู้สึกหน่วงๆที่ท้อง “อุ๊ย !! ข้าศึกจู่โจม”
“เห็นมั้ยคะแม่..บอกแล้วว่าอย่ากินเยอะ เปรี้ยวปากอะไรกินคนเดียวเป็นโล”
แก้วใสมองไปที่จานมะม่วงกับกะปิหวานแล้วยิ้มชอบใจก่อนจะรีบออกไปจากห้อง
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น แก้วตาก็โกรธจนหน้าแดง

“นี่..นี่แก..แก !! นังลูกชั่ว !”

แก้วใสรีบเปิดประตูรถตู้ออกมาแล้ววิ่งหนีไปรอบๆรถ แก้วตาวิ่งไล่ตี

“แกมันเลว..ชั้นเป็นแม่แก แต่แกยังกล้าเอากะปิเน่าให้ชั้นกิน ชั้นจะตีแกให้ขาหักเลย”
แก้วใสวิ่งวนไปรอบๆ แก้วตาวิ่งตามไม่หยุด ระหว่างนั้นนักข่าวจากหลายสำนักก็กรูกันเข้ามา สองแม่ลูกชะงัก
“น้องแก้วใสคะ ประเด็นคลิป ‘แก้วปวดหัวอ้อนผัวไปฉีดยา’ น้องจะยอมรับหรือปฏิเสธ”
“แล้วตกลงวันนั้นสามีคุณเมตตาพาน้องไปฉีดยาแก้ปวดหัวที่ไหนกันเหรอคะ แล้วฉีดกันกี่เข็ม”
สองแม่ลูกมองหน้ากันเลิ่กลั่ก นักข่าวก็ยิ่งรุมยิงคำถามจนตั้งรับไม่ถูก แก้วใสรีบเปิดประตูรถตู้แล้วเดินเข้าไปตามติดด้วยแก้วตา นักข่าวยังพยายามจะเปิดประตูเข้าไปรุมถาม แต่สองแม่ลูกล็อคประตูแน่นก่อนจะขับรถออกไปโดยทิ้งนักข่าวไว้ด้านหลัง

เน็กซ์มองหน้าพุชชี่ด้วยความแปลกใจ
“ว่าไงนะ...วันนี้ป้าจะออกไปทำงานกับผม ?”
“ใช่...อาร์ทได้ทุนไปเรียนต่อออสเตรเลีย ชั้นเลยให้หนูดอกพาไปกราบลาผู้ใหญ่”
เน็กซ์มีสีหน้าเซ็งๆ
“ทำไม..หรือว่ายังไม่หายโกรธที่โดนชั้นตบหน้า นิสัยเธอน่ะเด็กดื้อ..แค่พูดอย่างเดียว เธอเคยฟังที่ไหน..ถ้าชั้นไม่ลงมือบ้าง เธอก็คง....”
“พอ !! ไอ้เรื่องนั้นผมบอกไปแล้ว ป้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของป้า ผมไม่สน !! หน้าที่ผมมี แค่ทำตามที่เซ็นต์สัญญาเอาไว้…จบป่ะ”
เน็กซ์พูดประชดแล้วจะเดินออกไป แต่ก็ชะงักเมื่อเจอติณณภพเดินเข้ามาตรงทางเข้าพอดี ทั้งคู่ชะงักมองหน้ากัน
ติณณภพพูด “นึกว่ามาไม่ทันแล้วซะอีก”
“ไม่ทันอะไรคะพี่ติณ” พัฒศรีถาม
ติณณภพยิ้มให้พัฒศรีที่ดูงงๆ พอๆกับเน็กซ์

เน็กซ์กอดอกยืนพิงรถของพัฒศรีและมองติณณภพกับพัฒศรีที่เดินคุยกันออกมา
“ตอนที่พี่บอกว่าอยากเข้ามารู้จักชีวิตทำงานของน้อง น้องไม่คิดว่าพี่จะพูดจริงๆ”
“ถ้าเป็นเรื่องของน้องพี่จริงจังทุกคำพูด”
“แล้วงานของพี่ล่ะคะ”
“นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับพี่เลย น้องก็รู้ว่าพี่บริหารเวลาเก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“แต่ว่า...”
ติณณภพกุมมือพัฒศรี “ตอนนี้ทั้งวงการก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกันแล้ว มันคงไม่แปลกถ้าพี่จะตามไป ช่วยงานน้อง ได้เห็นว่าเวลาน้องพัฒทำงานเป็นมาดามพุชชี่ น้องต้องทำอะไรบ้าง”
พัฒศรีนิ่งมองติณณภพก่อนที่เสียงแตรรถจะดังขัดโดยฝีมือเน็กซ์ที่ยืนดูจนเซ็งเลยแกล้งบีบแตรใส่
“ผมไม่อยากไปทำงานสายนะป้า”
พัฒศรีหันไปมองเน็กซ์ที่ทำหน้ากวนๆแล้วมองติณณภพอย่างตัดสินใจ

รถเจ้าม้าป่าวิ่งมาตามท้องถนน รถโฟลค์เต่าเปิดประทุนสีเจ็บวิ่งมาอย่างโดดเด่น ติณณภพข่วยขับเจ้าม้าป่า ส่วนพัฒศรีนั่งอยู่ข้าง ในขณะที่เน็กซ์นั่งหน้าเซ็งเป็นตูดอยู่เบาะหลัง ติณณภพขับรถไปก็หันมายิ้มให้กับพัฒศรี พอเห็นผมของเธอปรกลงมาเขาก็ช่วยปัดผมไปเหน็บที่หลังหูให้อย่างอ่อนโยน
พัฒศรียิ้มเขิน “ขอบคุณค่ะพี่ติณ”
ติณณภพมองพัฒศรีแล้วยิ้มรับด้วยใบหน้าหล่อโคตรๆ แล้วเขาก็ใช้มือซ้ายกุมมือพัฒศรี ส่วนมือขวาก็จับพวงมาลัย
เน็กซ์เซ็งสุดฤทธิ์ “ขับรถช่วยมองทางด้วยได้มั้ยครับกัปตัน บนถนนมันมีแต่รถ ไม่ใช่โล่ง เหมือนขับเครื่องบินบนฟ้า เฉี่ยวชนขึ้นมาจะเจ็บตัวกันหมด”
“นายกลัวเหรอเน็กซ์”
“ไม่ได้กลัว..แต่ไม่อยากให้ประมาท”
ติณณภพมองเน็กซ์ผ่านกระจกหลังแล้วยิ้มมุมปากเท่ๆ
“ไว้ใจพี่ติณได้นะเน็กซ์..ปกติพี่ติณต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารเป็นร้อยๆคน” พุชชี่บอก
ติณณภพยิ้มรับ “ดูแลเด็กในสังกัดเป็นหน้าที่มาดามพุชชี่ แต่ดูแลมาดามพุชชี่เป็นหน้าที่ของพี่”
ติณณภพยิ้มให้พัฒศรีแล้วแตะคันเร่งให้รถพุ่งไปตามถนน เน็กซ์หน้าเซ็งและเริ่มหงุดหงิด

ณ ซุ้มขายดอกไม้ในสวนซึ่งถูกสมมุติว่าเป็นฉากหนึ่งของละครที่กำลังถ่ายทำ พัฒศรีพาติณณภพกับเน็กซ์เดินเข้ามาแต่ตัวเองเดินนำเข้าไปก่อน ติณณภพมองไปรอบๆอย่างสนใจเพราะเพิ่งเคยเข้ามากองถ่ายเป็นครั้งแรก เขาเผลอชนอุปกรณ์ถ่ายทำที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ จนเกือบล้มแต่ดีที่คว้าไว้ทัน เน็กซ์ยิ้มกวนออกแนวข่ม
“ระวังหน่อยนะครับพี่..จะหยิบจะจับอะไรระวังไฟจะดูด”
ติณณภพรีบปล่อยมือ เน็กซ์แอบชอบใจเล็กๆ ระหว่างนั้นทีมงานก็เข้ามาตามเน็กซ์
“น้องเน็กซ์คะ..ไปแต่งหน้ากันเถอะค่ะ”
เน็กซ์รับคำแล้วเดินตามทีมงานออกไป ติณณภพยืนเก้ๆกังๆอยู่ท่ามกลางบรรยากาศกองถ่าย ก่อนที่พัฒศรีจะเข้ามาพร้อมกับป้าแต๋ว
“แล้วเน็กซ์ล่ะคะพี่ติณ” พัฒศรีถาม
“ไปแต่งหน้าจ้ะ”
ติณณภพบอกพุชชี่ไปก็รู้สึกขนลุกเกรียวจากสายตากะลิ้มกะเหลี่ยของป้าแต๋วที่มองเขาเหมือนอยากจะกลืนกิน
“นี่น่ะเหรอหวานใจตัวจริงของหล่อน..หล่อน่าเคี้ยวกรุบกริบเหมือนในข่าวที่เขาเมาท์กัน เลย สนใจมาเล่นละครด้วยกันมั้ยจ๊ะ” ป้าแต๋วชวน
ป้าแต๋วไม่ใช่แค่ชมด้วยปากแต่พยายามส่งยิ้มกระพริบตาปิ๊งๆ ใส่ ติณณภพได้แต่ยิ้มรับเก้ๆกังๆ
“ป้าคะ...เจอหล่อหน่อยไม่ได้จะชวนดันอย่างเดียวเลย..คนนี้หนูขอดันเองดีกว่าค่ะ” พัฒศรีบอก
“แหม..พอเปิดตัวปุ๊บก็หวงก้างเชียวนะหล่อน”
พัฒศรีบอกติณณภพ “ลืมแนะนำไปค่ะพี่ติณ..นี่ป้าแต๋วผู้กำกับชื่อดัง เจ้าแม่ละครจิกหมอนนอนฟิน กำกับเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งทุกเรื่อง”
“แต่จะไม่ฟินก็ตรงที่หล่อนเหน็บแฟนหล่อๆมาเที่ยวกองนี่แหละย่ะ”
ป้าแต๋วประชดขำๆระหว่างนั้นทีมงานก็เข้ามาตาม
“ป้าแต๋วคะ เจ๊เมี่ยงพาน้องแพตตี้มาแล้วค่ะ”
“ได้..เดี๋ยวตามไป”
พุชชี่แปลกใจ “เจ๊เมี่ยงพาแพตตี้มาที่นี่ทำไมเหรอคะป้า”
“ตายแล้ว..ป้ามัวแต่ฟินหวานใจหล่อนเลยลืมเล่าให้ฟังเลย พี่จุ๋งเขาสนใจแพตตี้ก็เลย อยากให้ป้าหาบทเล็กๆลองประกบคู่กับเน็กซ์ดู เผื่อเคมีจะเข้ากัน จะได้จับลงละคร ฉลอง 15 ปีช่อง”
“แต่ว่า...”
“ไม่เอาน่าพุชชี่...โตๆกันแล้ว โปรเฟสชั่นนอลกันหน่อย” ป้าแต๋วหันมายิ้มกับติณณภพ “ตามสบาย นะจ๊ะกัปตัน”

ป้าแต๋วเดินออกไป พุชชี่หันมาทำหน้าตาครุ่นคิดเพราะไม่ค่อยไว้ใจเจ๊เมี่ยง

เน็กซ์ถือบทในมือเพราะกำลังทบทวนบทที่ต้องเข้าฉากอยู่ในเต้นท์สำหรับแต่งตัว พัฒศรีรีบเข้ามาโดยมีติณณภพตาม

“เน็กซ์..เน็กซ์”
เน็กซ์ยกมือบอกให้เงียบ “ผมกำลังทำสมาธิกับบทอยู่..อย่าเพิ่งมากวน”
“แต่ชั้นมีเรื่องต้องคุยกับเธอ” พัฒศรีบอก
“ถ้าเรื่องที่แพตตี้จะมาเข้าฉากกับผมวันนี้ พี่แมวผู้ช่วยฯบอกผมแล้ว”
“งั้นเธอก็รู้ไว้ด้วยว่าชั้นไม่ไว้ทั้งเจ๊เมี่ยงทั้งแพตตี้ อยู่ๆก็มาเสียบให้เล่นละครคู่กับเธอแบบ นี้ คงคิดแผนอะไรอยู่แน่ เธอควรจะระวังตัวไว้”
“ทำไมน้องถึงคิดแบบนั้นล่ะ แค่เข้าฉากเล่นละครด้วยกันไม่เห็นมีอะไรต้องกังวลนี่”
“พี่ติณไม่รู้จักฤทธิ์เดชของเจ๊เมี่ยง อะไรที่ทำลายน้องได้ เขาทำได้ทั้งนั้น”
ติณณภพเป็นห่วงจึงจับไหล่พัฒศรีบีบเบาๆ “ถ้าเขาคิดจะทำอะไรน้องจริงๆ พี่จะปกป้องน้องเอง”
เน็กซ์ที่พยายามทำเป็นไม่สนใจเห็นติณณภพแสดงความเป็นห่วงสนิทใกล้ชิดกับพัฒศรีเลยอดไม่ได้ที่จะกระแอมขัด
“ช่วยไปคุยกันที่อื่นได้มั้ย..ผมต้องทำสมาธิ”
“แต่เรื่องแพตตี้...” พัฒศรีเอ่ยขึ้น
“แพตตี้เป็นเพื่อนผม...ผมรู้ว่าต้องทำยังไง”
เน็กซ์พูดเสร็จก็ถือบทเดินออกไป พัฒศรีมองตามด้วยความเป็นห่วง

เซ็ตถูกจัดฉากเป็นซุ้มร้านขายดอกไม้เก๋ๆในสวน ป้าแต๋วกำลังอธิบายให้เน็กซ์กับแพตตี้ฟัง
“ฉากที่จะถ่ายวันนี้เป็นฉากย้อนอดีตช่วงวัยรุ่นของพระเอกที่นึกถึงรักครั้งแรก เน็กซ์เป็น ลูกจ้างขายดอกไม้อยู่ที่ซุ้มนี้ ส่วนหนูแพตตี้มักจะขี่จักรยานผ่านเป็นประจำ ฉากนี้แพตตี้จะขี่จักรยานมาแล้วล้ม เน็กซ์ก็จะรีบออกมาช่วยพยุง แล้วพาไปนั่งเช็ดแผล ไหวกันนะคะเด็กๆ”
“ไหวครับ” เน็กซ์ตอบ
“แพตตี้จะพยายามค่ะป้าแต๋ว”
“ดีมากจ้ะ..อย่าลืมนะว่าเราสองคนลึกๆแล้วแอบชอบกันอยู่ แต่ยังไม่กล้าคุยกัน เพราะ ฉะนั้นป้าขอสายตาแบบชวนให้จิกหมอนเลยนะจ๊ะ”
แพตตี้รับคำแต่เน็กซ์กลับมองไปที่พัฒศรีซึ่งกำลังดูแลติณณภพอยู่ในบริเวณกองถ่าย
“เน็กซ์...”
“ครับป้า..ผมเข้าใจแล้วครับ”
เน็กซ์ตอบป้าแต๋วแต่สายตาก็ยังไม่เลิกมองพัฒศรีกับติณณภพ

พัฒศรีมองเน็กซ์กับแพตตี้ที่กำลังซักซ้อมก่อนถ่ายโดยที่สีหน้าพัฒศรียังไม่หายระแวง
“เท่าที่พี่ดูแล้ว..ไม่น่ามีอะไรต้องเป็นห่วงนะ” ติณณภพบอก
“แต่สัญชาติญาณน้องไม่รู้สึกอย่างนั้นเลยค่ะ”
“ตกลงงานของน้องคือเบื้องหลังการสร้างความบันเทิงให้ผู้ชม หรืองานออกสนามรบกันแน่ ถึงต้องพึ่งพาสัญชาติญาณกันขนาดนี้”
“มันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ตลอดเวลาหรอกค่ะ..เฉพาะก็แต่ตอนที่..”
เจ๊เมี่ยงเดินเข้ามาขัด “สวัสดีค่ะกัปตัน แหม..เปิดตัวออกสื่อกันปุ๊บก็ตามมาคุมกันปั๊บเลยนะ”
พัฒศรีนิ่งมองเจ๊เมี่ยงด้วยสีหน้าจิกและสงสัย
“เป็นอะไรจ๊ะพุชชี่ วันนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเหรอ ถึงได้มองเหมือนอยากจะกินกบาลเจ๊”
“กบาลเจ๊เนี่ยนะ..เอาไปต้มเปื่อยๆแล้วโยนให้หมาแทะ หมามันยังเมินเลย”
เจ๊เมี่ยงเจ็บใจแต่แอ๊บเชิดไว้ “แหม..พุชชี่จ๊ะ เกรงใจกัปตันเขาหน่อยสิ อุตส่าห์ได้แฟนหล่อเริ่ด เป็นมิสเตอร์เพอร์เฟคขนาดนี้ ควรทำตัวให้คู่ควร จะได้ไม่โดนดูถูกว่าหล่อนน่ะจับฉลาก กาชาดได้มา”
เจ๊เมี่ยงเยาะเย้ยแล้วป้องปากหัวเราะใส่ก่อนจะเดินออกไป พัฒศรีเจ็บใจ
“ได้ยินมั้ยคะพี่ติณ..มาแบบนี้คลื่นลมไม่มีทางสงบอย่างที่พี่คิดหรอก”
พัฒศรีมองตามเจ๊เมี่ยงแล้วนิ่วหน้าคิ้วขมวดจนแทบผูกโบว์ก่อนจะกำชับติณณภพ
“พี่ติณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ น้องจะไปดูเน็กซ์ทำงาน”

พัฒศรีรีบเดินตามเจ๊เมี่ยงไป ติณณภพมองตามด้วยความเป็นห่วง

ป้าแต๋วสั่งแอ็กชั่น ทำให้การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้น เน็กซ์ดูแลดอกไม้สวยๆอยู่ที่ซุ้มขายดอกไม้
 
ระหว่างนั้นแพตตี้ในชุดกระโปรงพริ้วสวยก็ขี่จักรยานผ่าน ทั้งเน็กซ์และแพตตี้ค่อยๆหันมามองหน้ากัน ทั้งคู่สบตากัน แววตาแอบชอบพอกันอย่างวัยรุ่นแรกแย้ม จนกระทั่งแพตตี้ขี่จักรยานไปแล้วจะล้ม เน็กซ์รีบวิ่งเข้าไปประคองเอาไว้
เน็กซ์รับแพตตี้ได้ทันทำให้ล้มมาทับกันจนหน้าเกือบชนกัน ทั้งสองนิ่งสบตาตามสูตรละครเป๊ะๆ ป้าแต๋วที่นั่งจ้องหน้าจอมองตาไม่กระพริบแล้วก็ตบเข่าฉาด
“นั่นแหละ..มันต้องฟินแบบนี้ ไม่งั้นไม่ใช่ละครป้าแต๋ว”
ป้าแต๋วยิ้มชอบใจก่อนจะสะดุ้งเมื่อหันไปเจอเจ๊เมี่ยงกับพุชชี่ยื่นหน้าเข้ามาดูมอนิเตอร์จนหน้าเกือบประกบสองข้างของป้าแต๋ว
“นังเมี่ยง นังพุชชี่ พวกหล่อนไม่ต้องมาลุ้นเด็กจนติดจอขนาดนี้หรอก หน้าที่ลุ้นแอคติ้ง เป็นของผู้กำกับก็พอแล้วย่ะ”
“ขอโทษค่ะป้าแต๋ว เมี่ยงเป็นห่วงน้องเขาค่ะ เพิ่งจะได้ร่วมงานกับป้าครั้งแรก กลัวจะ ทำงานป้าเสีย”
“นั่นสิคะ..ดูๆแล้วฝีมือก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ จะเป็นภาระให้ป้าต้องเสียเวลาเปล่าๆ ละครยิ่ง ใกล้ออนแอร์แล้วด้วย”
“แต่ป้าว่าไม่นะ..ฝีมือของแพตตี้ใช้ได้เลย สีหน้าแววตาสื่ออารมณ์ได้ชัดมาก อธิบาย อะไรไปก็เข้าใจง่าย เด็กหล่อนคนนี้นี่โออยู่นะนังเมี่ยง”
เจ๊เมี่ยงยิ้มกริ่ม “ขอบคุณค่ะป้าแต๋ว” แล้วเจ๊เมี่ยงก็หันไปเชิดใส่พุชชี่ “โชคดีด้วยค่ะที่เด็กสองคนนี้เขา รู้จักสนิทสนมกันมาก่อน ก็เลยเล่นเข้าขากันดี”
“อ้าว....สองคนนั่นสนิทกันมาก่อนเหรอ..สนิทกันยังไง แบบไหนล่ะ” ป้าแต๋วสงสัย
พุชชี่รีบขัด “ไม่ได้อะไรมากหรอกค่ะป้าแต๋ว ก็แค่เพื่อนเคยเรียนจากบึงโขงหลงแค่นั้น”
พุชชี่บอกป้าแต๋วไปก็จิกหน้ามองเจ๊เมี่ยงไปเพราะเริ่มสงสัยแล้วว่าแผนพาแพตตี้มาที่นี่คืออะไร แต่เจ๊เมี่ยงอมยิ้ม

เน็กซ์อุ้มแพตตี้มานั่งที่ม้านั่งข้างๆซุ้มขายดอกไม้แล้วช่วยดูเข่าที่ถลอกจนได้เลือดซิบๆ
“เจ็บมั้ย”
“จิ๊บๆ..ไม่เจ็บหรอก เราดันซุ่มซ่ามเอง”
เน็กซ์เอาผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดแผลให้แต่แพตตี้แสบร้องเจ็บทันที
“โอ๊ย..เจ็บนะ !!”
“อ้าว..ก็เธอบอกไม่เจ็บ เราเห็นแผลมันสกปรกก็เลยช่วยเช็ดให้”
แพตตี้ลุกพรวดเพราะงอน “เวลาผู้หญิงพูดว่าไม่เจ็บ..มันหมายความว่าเจ็บ..ตาบื้อเอ้ย”

แพตตี้รีบเดินไปที่จักรยานที่จอดพิงหน้าซุ้มขายดอกไม้แล้วงอนแก้มป่อง เน็กซ์เห็นเธอกำลังจะไปเลยรีบตามไปคว้าช่อกุหลาบช่อใหญ่ในตระกร้าหน้าร้านแล้วตามไปเรียก
“เดี๋ยวก่อน !!”
แพตตี้หันมาเป็นจังหวะพอดีกับที่เน็กซ์หยุดไม่ทันหน้าทั้งสองเลยชนกัน

ป้าแต๋วกัดริมฝีปาก มือจิกเล็บตัวสั่นเทิ้มออกอาการฟินสุดฤทธิ์ พัฒศรี เจ๊เมี่ยงและติณณภพดูภาพผ่านมอนิเตอร์
“ป้าคะ..เกือบล้มแล้วหันหน้ามาชนกันอีกแล้วเหรอคะ..เมื่อกี้ก็เพิ่งถ่ายไปไม่ใช่เหรอคะ”
“นี่หล่อน..ไม่รู้อะไรแล้วอย่าสอด นางเอกเขาเป็นข้อเข่าเสื่อมตั้งแต่เด็กย่ะ”
“อ๋อ..พุชชี่ขอโทษค่ะป้า”
พัฒศรีหน้าเสียซ้ำยังเจอเจ๊เมี่ยงทำหน้าสมน้ำหน้าใส่อีก
“ชิ...เป็นแค่ผู้จัดการดารา...อย่ามาอวดเก่งเกินหน้าที่ย่ะ”
“เจ๊ !!”
ป้าแต๋วหันมาว่า “ชู่วววว์..เงียบๆ..ถึงไคล์แม๊กซ์ของฉากแล้ว”

ป้าแต๋วหันมาปรามทั้งคู่แล้วกลับไปจ้องที่หน้าจอมอนิเตอร์ตาไม่กระพริบ
 
อ่านต่อหน้า 2

มาดามดัน ตอนที่ 8 (ต่อ)

แพตตี้กับเน็กซ์นิ่งมองตากันตามบท ก่อนที่เน็กซ์จะยื่นกุหลาบช่อใหญ่ในมือให้

“เราให้เธอ”
“ให้ ?...ให้เราจริงๆเหรอ” แพตตี้ยิ้มเขิน
“อือ..เธอชอบกุหลาบไม่ใช่เหรอ”
“รู้ได้ไงว่าเราชอบกุหลาบ”
“ก็..ก็เราเห็นเธอชอบมาถ่ายรูปกุหลาบที่ร้านเราบ่อยๆ”
“แสดงว่าเธอก็แอบดูเราบ่อยๆ..แอบชอบเราอยู่ใช่ป่ะ”
“น่ารักซะขนาดนี้..ไม่ชอบก็บื้อแล้ว”
เน็กซ์จับมือแพตตี้ขึ้นมาแล้วให้ช่อกุหลาบกับมือ แพตตี้ยิ้มเขินน่ารักก่อนจะรับกุหลาบมาดมแล้วมองตาเน็กซ์ตามบท
ป้าแต๋วนั่งลุ้นฉากฟินกัดริมฝีปากขนลุกก่อนจะหยิบวอร์คกี้ทอล์คกี้ขึ้นมาสั่งผู้ชายเสียงเบาๆ
“ทิ้งภาพไว้ก่อน...มันต้องฟินกว่านี้..ฟินอีก..ฟินเยอะๆ”
ป้าแต๋วลุ้นสุดฤทธิ์ในขณะที่เจ๊เมี่ยงที่ยืนอยู่ใกล้ๆแอบยิ้มมุมปากดูมีเล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง พุชชี่มองหน้าเจ๊เมี่ยงแล้วก็ใจคอไม่ดีเพราะชักสังหรณ์ใจ
เน็กซ์กับแพตตี้ยังสบตากันอยู่ในห้วงรักสุดฤทธิ์ แพตตี้หลับตา เน็กซ์ค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปจะจูบหน้าผาก ช้าๆ แต่ทันใดนั้นแพตตี้ก็ลืมตาโพลงจ้องหน้าเน็กซ์เขม็ง
“ถ้าชั้นน่ารักซะขนาดนี้ แต่เธอก็ยังทิ้งชั้น งั้นเธอก็สมควรโดนแบบนี้”
แพตตี้เอาช่อกุหลาบในมือทิ่มเข้าใส่หน้าเน็กซ์เต็มๆทั้งช่อจนเน็กซ์ตกใจผงะ เท่านั้นไม่พอแพตตี้ยังเอาช่อ กุหลาบตีใส่เน็กซ์ไม่หยุดทำเอาป้าแต๋ว พัฒศรี และติณณภพตกใจจนแทบผงะ
“อ๊ายยยย...ตายๆๆๆๆ นี่มันอะไรกันเนี่ย..หยุดเดี๋ยวนี้นะ..คัท !! คัทท”
ป้าแต๋วตะโกนเสียงดังลั่น พัฒศรีเป็นห่วงเน็กซ์รีบวิ่งเข้าไปพร้อมๆกับติณณภพและเจ๊เมี่ยง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะแพตตี้”
พัฒศรีกระชากช่อกุหลาบจากมือแพตตี้แล้วเหวี่ยงทิ้ง ส่วนติณณภพรีบเข้าไปดูเน็กซ์ที่เอามือกุมหน้า
เจ๊เมี่ยงพูดเนียนๆ “พอได้แล้วค่ะหนูแพตตี้..นี่หนูทำอะไรของหนูคะเนี่ย”
แพตตี้เล่นละครทำน้ำตาเอ่อจนไหลพรากจนน่าสงสาร “คนไม่เคยถูกทิ้งไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บปวด ขนาดไหน..ฮือๆๆๆ”
แพตตี้ร้องไห้โฮก่อนจะวิ่งออกไป เจ๊เมี่ยงรีบวิ่งตาม ท่ามกลางความตกตะลึงของป้าแต๋วและทุกคนในกอง
“พุชชี่ !!...รีบพาเน็กซ์ไปโรงพยาบาลเถอะ เน็กซ์ลืมตาไม่ได้เลย” ติณณภพบอก
“เน็กซ์ !!”
พัฒศรีตกใจที่เห็นหน้าเน็กซ์มีแผลถลอกเพราะหนามกุหลาบจนเลือดซิบๆเต็มหน้า แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าก็คือดวงตาทั้งสองข้างที่ลืมไม่ขึ้น

อาร์ทที่อยู่ในบ้านเพิ่งจะออกกำลังเสร็จ เขาเดินออกมาเจอหนูดอกที่เพิ่งกลับเข้ามา
“จัดการธุระเรื่องอาร์ทเสร็จแล้วเหรอหนูดอก” อาร์ทถาม
“เรียบร้อยแล้ว น่าปลื้มใจแทนมาดามนะ เด็กในสังกัดแต่ละคนมีแต่พวกรักดี”
“ส่วนพวกที่ไม่รักดีก็ต้องเจอเธอจัดการ”
“ไม่ต้องมาแขวะชั้นเลยย่ะ”
อาร์ทยิ้มชอบใจแต่ยังไม่ทันจะเดินออกไปก็ได้ยินหนูดอกกดรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นพอดี
“คะมาดาม..มีอะไรเหรอคะ” หนูดอกตกใจ “หา !! เน็กซ์โดนแพตตี้ทำร้าย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล” หนูดอกฟัง “ได้..ได้ค่ะ..หนูจะรีบตามไปช่วยกันนักข่าวให้เดี๋ยวนี้เลย”
หนูดอกตัดสายไปแล้วหันมามองหน้าอาร์ทที่มีสีหน้าไม่ดีไปด้วย
“แพตตี้หาเรื่องให้พวกเรางานเข้าแล้วใช่มั้ย” อาร์ทถาม

เน็กซ์นอนอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉินโดยที่ดวงตาทั้งสองข้างมีผ้าก๊อซปิดเอาไว้ ส่วนรอยข่วนจากหนามกุหลาบบนหน้าได้รับการทำแผลเรียบร้อยแล้ว หลังจากหมออนุญาต พัฒศรีกับติณณภพก็รีบเข้ามา
“เน็กซ์เป็นไงบ้าง” พัฒศรีเห็นตาเน็กซ์มีผ้าก๊อซปิดก็ตกใจ “เขาจะตาบอดรึเปล่าคะหมอ”
“ไม่ถึงกับตาบอดหรอกค่ะ โชคดีที่หนามกุหลาบเกี่ยวโดนกระจกตาจนเป็นแผลถลอก นิดหน่อย ส่วนเลือดที่ไหลออกมา มาจากแผลที่เปลือกตาบน ไม่ใช่จากในลูกตา” หมออธิบาย
“แล้วเน็กซ์ต้องอยู่โรงพยาบาลนานรึเปล่าคะ” พัฒศรีถาม
“ก็จนกว่าหมอจะแน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อค่ะ”
พัฒศรีนิ่งคิดอยู่ครู่มองเน็กซ์แล้วหันไปขอร้องติณณภพ “พี่ติณคะน้องมีเรื่องต้องวานให้พี่ช่วย”
“ได้สิ..อยากให้พี่ช่วยอะไรล่ะ” ติณณภพถาม
“ติดต่อกับธุรการของโรงพยาบาล จัดห้องพิเศษเอาที่ส่วนตัวที่สุดให้เน็กซ์ อนุญาตให้แต่ เฉพาะพวกเราที่เยี่ยมเน็กซ์ได้”
“น้องกลัวว่าเขาจะมาทำอะไรเน็กซ์อีกเหรอ” ติณณภพถามต่อ
“เปล่าค่ะ..ต้องกันเน็กซ์จากนักข่าวต่างหาก เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้ว มันกำลังกลาย เป็นเรื่องใหญ่อย่างที่เจ๊เมี่ยงวางแผนเอาไว้”

ติณณภพงง “แผน ?”

เจ๊เมี่ยงพาแพตตี้เข้ามาแต่ยังหลบหลังเสาเพื่อไม่ให้ใครเห็น

“มาทางนี้ก่อนค่ะหนูแพตตี้..เราต้องเตี๊ยมกันให้ดีอีกครั้ง”
“ว่าแต่เน็กซ์เขาจะตาบอดมั้ยคะเจ๊” แพตตี้ถาม
“ไม่หรอก..เจ๊ใช้เส้นสายเช็คกับทางโรงพยาบาลแล้ว ดีที่หนูยั้งมือไม่กระแทกช่อกุหลาบ เข้าหน้าไปแรงๆ ไม่งั้นตาอาจจะบอดได้จริงๆ”
แพตตี้หน้าเสีย
“เชื่อเจ๊สิจ๊ะ…นี่แหละคือโอกาสดีของเรา แค่หนูทำตามที่เราเตี๊ยมกันไว้ จำได้ใช่มั้ย”
“ค่ะ
เจ๊เมี่ยงยิ้มรับแล้วหันไปเห็นพวกนักข่าวเริ่มทยอยแห่กันมาก็รีบบอก
“พวกนักข่าวมากันแล้ว...เริ่มบิวด์อารมณ์ได้ 5 4 3 2 เดินกล้องแล้วไม่มีสั่งคัทนะจ๊ะ”

พวกนักข่าวแห่มารอทำข่าวเน็กซ์กันจนเต็มโถงของโรงพยาบาล แต่ถูกหนูดอกกับอาร์ทมาช่วยกันไว้ไม่ให้ขึ้นไปเยี่ยม
“ใจเย็นๆกันนะคะพี่ๆ ตอนนี้เน็กซ์ปลอดภัยแล้ว ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เป็นห่วง”
“ถ้าน้องเน็กซ์ปลอดภัยแล้ว ทำไมไม่ให้พวกเราขึ้นไปเยี่ยมล่ะคะ” แจ็คการีน นักข่าวสาวประเภทสองถาม
“หมอเขาอยากให้น้องพักผ่อนมากๆครับ ไว้เน็กซ์พร้อมให้สัมภาษณ์ ทุกคนจะได้คุยกับเน็กซ์แน่นอนครับ”
“งั้นช่วยตอบให้พวกเราหายสงสัยได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ บางข่าวก็บอกว่าเกิด อุบัติเหตุระหว่างถ่ายละคร บางข่าวก็ว่าเป็นฝีมือของน้องแพตตี้จงใจทำให้เน็กซ์เจ็บ”
หนูดอกกับอาร์ทชะงักกันไป พวกนักข่าวก็ยิ่งยื่นไมโครโฟนถามกันเซ็งแซ่ว่าเรื่องจริงคืออะไร ใครเป็นคนทำ
“ถ้าทุกคนอยากรู้ความจริง..เจ๊ก็จะบอกความจริงให้เองค่ะ” เจ๊เมี่ยงบอก
ทุกคนหันขวับไปเห็นเจ๊เมี่ยงพาแพตตี้ที่สวมแว่นดำถือช่อดอกไม้เข้ามาด้วย
“บอกมาเลยค่ะเจ๊ เป็นฝีมือของน้องแพตตี้จริงรึเปล่า”
เจ๊เมี่ยงนิ่งไปครู่พร้อมทั้งตีหน้าเศร้า “ใช่ค่ะเป็นฝีมือของน้องเขาจริงๆ”
พวกนักข่าวฮือฮาหันไมโครโฟนไปรุมจ่อแพตตี้กันใหญ่
“ทำไมคะน้องแพตตี้..เน็กซ์ทำไปอะไรน้อง ถึงกับโกรธแค้นจนต้องทำร้ายเขาให้เลือดตกยางออก”
แพตตี้เอาแต่นิ่งยังไม่ตอบ แต่ตัวสั่นเทิ้มก่อนที่ทุกคนจะได้ยินเสียงสะอื้นน้ำตาไหลอาบแก้ม แพตตี้ถอดแว่นตาดำออก
“แพต..แพตตี้ผิดเอง..แพตตี้ขอโทษเน็กซ์..ขอโทษทุกคนด้วยค่ะ..โฮ..ฮือๆๆ”
แพตตี้ปล่อยโฮร้องไห้เสียงดังอย่างน่าสงสาร เจ๊เมี่ยงรีบโอบไหล่ของเธอมากอดปลอบโยน
“โธ่..หนูแพตตี้..เจ๊..เจ๊เองก็ผิดด้วยเหมือนกันนะ”
เจ๊เมี่ยงบีบน้ำตาออกมาด้วยจนดูแล้วน่าสงสารด้วยกันทั้งคู่ แต่หนูดอกกับอาร์ทที่ยืนดูอยู่กลับไม่รู้สึกไปด้วย
“สตอร์เบอร์แหลเล่นละครต่อหน้าสื่อชัดๆ ดูมันไว้นะอาร์ท ชั้นจะไปตามมาดาม ต้องให้ มาดามมารับมือเอง มันถึงจะทันเหลี่ยมกัน”
พูดจบหนูดอกก็จิกหน้ามองเจ๊เมี่ยงด้วยความหมั่นไส้ ส่วนอาร์ทยืนมองเจาะจงไปที่แพตตี้ที่เอาแต่ร้องไห้อย่างเรียกร้องความสนใจ

เน็กซ์ที่ยังมีผ้าก๊อซปิดตาถูกย้ายมาพักในห้องส่วนตัวและคุยโทรศัพท์กับแม่
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับแม่..จริงๆครับ แม่ไม่ต้องมาเยี่ยมผมหรอก อีกสักวันสองวัน หมอก็ให้ผมกลับแล้ว”
เน็กซ์ฟังแม่อยู่อีกสองสามประโยคก็ยื่นโทรศัพท์ออกมา
“แม่ผมเขาอยากคุยกับป้า..แต่ผมว่าไม่ใช่แม่คนเดียวหรอกที่อยากคุย ป้าเตรียมฟังพ่อ ผมเม้งใส่ให้ขี้หูเต้นระบำได้เลย”
พุชชี่ตกใจ “นี่พ่อเธอรู้เรื่องแล้วเหรอ”
“โธ่เอ้ยป้า..ข่าวผมออกสื่อเยอะแยะขนาดนี้ มีเหรอพ่อผมจะไม่รู้”
“งั้นชั้นก็แย่สิ..พ่อเธอเกลียดชั้นอยู่ด้วย..หูชาแน่”
“ให้พี่ช่วยคุยให้มั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ติณ..น้องรับปากแล้วว่าจะรับผิดชอบลูกเขา..มันก็สมควรโดนด่า”
พุชชี่สูดลมหายใจพร้อมรับคำด่าก่อนจะเอาโทรศัพท์มาแนบหู
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ..คุณแม่ขา”
พุชชี่พยายามเสียงอ่อนเสียงหวานใส่ก่อนจะทำหน้าสะดุ้งแสบแก้วหูเพราะเสียงปลายสายที่ด่าใส่ไม่ยั้ง

เจ๊เมี่ยงนั่งโอบไหล่แพตตี้ที่ยังไม่หายสะอื้นท่ามกลางกลุ่มนักข่าวที่รุมสัมภาษณ์
“น้องยังอยู่ในอาการเสียใจ ช็อคไม่หายกับสิ่งที่ได้ทำลงไป เจ๊เลยขอเป็นคนเล่าให้ฟัง แล้วกันนะคะ จะได้ทราบพร้อมๆกันว่าที่จริงแล้วแพตตี้กับเน็กซ์เคยคบหาเป็นแฟนกันตั้งแต่อยู่ที่บึงโขงหลง”
“เคยเป็นแฟนกันมาก่อน !!..เรื่องจริงเหรอคะเจ๊” แจ๊คการีนถาม
“จริงสิคะพี่แจ๊คการีน ถ้าไม่เชื่อไปถามชาวบ้านที่นั่นดูก็ได้ เน็กซ์กับแพตตี้เรียนหนังสือ ด้วยกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เล็กๆแล้ว”
“ถ้ารู้จักกันดี เคยเป็นแฟนกันมาก่อน แล้วทำไมน้องแพตตี้ถึงต้องทำร้ายเน็กซ์ด้วยล่ะ”
แพตตี้ปล่อยโฮเสียงดังให้ทุกคนเห็นว่าเป็นเพราะคำถามทิ่มแทงใจ
“คำถามนี้มันทิ่มแทงใจแพตตี้มากๆเลยค่ะ” เจ๊เมี่ยงบอก
แพตตี้กลั้นสะอื้น “ไม่..ไม่เป็นไรค่ะเจ๊..ในเมื่อแพตตี้ทำผิด ก็ต้องยอมรับว่าตัวเองผิดที่ปล่อย ให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล” แพตตี้เริ่มเล่า “ก่อนที่เน็กซ์จะถูกมาดามพุชชี่พาเข้าวงการ เราคบ กันเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป แต่หลังจากที่เน็กซ์กลายเป็นดาราที่มีชื่อเสียง เขาก็ถูกผู้ใหญ่ สั่งห้ามไม่ให้ติดต่อแพตตี้ สั่งให้แพตตี้ไม่มีตัวตนในชีวิตเขาอีก จนเมื่อแพตตี้มีโอกาสได้เข้าวงการและได้เจอกับเขาอีก” แพตตี้ชะงักไปครู่ใหญ่ “หนู..หนูไม่ไหวแล้วค่ะเจ๊”
แพตตี้สะอื้นก้อนใหญ่จุกที่คอน้ำตาปริ่มๆจะไหลจนเจ๊เมี่ยงต้องรีบเล่าต่อ
“ผู้ใหญ่ของเน็กซ์กลับสั่งให้มาบอกแพตตี้ว่าเป็นได้แค่น้องสาวเท่านั้น”
เจ๊เมี่ยงบอกได้แค่นั้นแพตตี้ก็ร้องไห้สะอื้นเสียใจน้ำตาไหลพราก เจ๊เมี่ยงต้องจับหน้ามาซบอกปลอบ อาร์ทที่ยืนดูอยู่ตลอดชักเหลืออดกับละครสตอร์เบอรี่ฉากนี้เลยจะเข้าแต่หนูดอกเข้ามาจับไหล่
“ไม่ต้องหรอกอาร์ท..ชั้นตามมาดามมาแล้ว” หนูดอกบอก

อาร์ทหันไปมองพุชชี่ที่จิกหน้าเอาเรื่องได้ยินทั้งหมดที่แพตตี้กับเจ๊เมี่ยงเล่นละครหน้าสื่อ

เจ๊เมี่ยงช่วยเอามือปาดน้ำตาให้แพตตี้แล้วสะกดจิตหมู่สร้างอารมณ์ร่วมจนพวกนักข่าวพากันสงสาร

“พี่ๆน้องๆคะ..เรื่องนี้เจ๊คงไม่ขอให้ทุกคนยกโทษให้น้อง แต่อยากให้เข้าใจน้องบ้าง เพราะน้องยังเด็ก เวลาอกหักมักจะขาดการยั้งคิด”
“พี่ๆคะ..แพตตี้ขอใช้โอกาสตรงนี้ขอโทษเน็กซ์ ขอโทษแฟนคลับของเน็กซ์ ขอโทษมาดาม พุชชี่ แพตตี้เข้าใจแล้วว่าความรักเป็นเรื่องบังคับกันไม่ได้ ถ้าเน็กซ์อยากให้แพตตี้เป็น ได้แค่น้องสาว” แพตตี้สะอื้น “แพต..แพตตี้ก็ขอเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่ชายค่ะ..ฮือๆๆ”
พุชชี่เดินเข้ามาพร้อมปรบมือ “เก่งมากค่ะหนูแพตตี้..เพิ่งจะเข้าวงการมาได้ไม่เท่าไหร่ ก็ลอก วิชาดราม่าเรียกน้ำตาได้ทั้งในจอนอกจอจากเจ๊เมี่ยงมาได้ มาดามพุชชี่ขอชม”
“พุชชี่ !! ชั้นพาแพตตี้มายอมรับผิดและขอโทษเน็กซ์ แต่เธอกลับไม่ให้โอกาสเด็ก”
“ถ้าเด็กมันไม่รู้จักยั้งคิดจริง ชั้นไม่ว่าหรอกเจ๊ กลัวที่พูดๆมาจะเป็นสคริปต์ของเจ๊น่ะสิ” พัฒศรีว่า
เจ๊เมี่ยงชะงักแล้วรีบแก้ตัว “พี่ๆน้องๆคะ..เรื่องเสียหายแบบนี้มีใครที่ไหนอยากจะมาแสดงตัวให้ เสื่อมเสีย มีแต่มาเพราะสำนึกผิดอยากขอโทษ”
“เรื่องจะยกโทษให้รึเปล่าตอนนี้มันไม่ใช่ประเด็นแล้ว เน็กซ์หวิดตาบอดถึงกับต้องนอน โรงพยาบาล กล้ามายอมรับออกสื่อแบบนี้ก็ดี จะได้เอาไว้เป็นหลักฐานแจ้งความแพตตี้ ข้อหาทำร้ายร่างกาย”
น้ำเสียงของพัฒศรีขู่จริงทำเอาแพตตี้หน้าเสียหันขวับไปมองเจ๊เมี่ยงด้วยความตกใจ พวกนักข่าวรีบถ่ายรูปกันใหญ่ พุชชี่กับเจ๊เมี่ยงจิกหน้ามองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

ติณณภพขับเจ้าม้าป่ามาจอดที่หน้าบ้านพัฒศรีในตอนกลางคืน พัฒศรีมีท่าทางเหนื่อยและถอนใจยาว ติณณภพลงไปเปิดประตูให้
“ขอบคุณมากนะคะพี่ติณ..เลยต้องวุ่นวายพี่ทั้งวัน เดี๋ยวก็ต้องขับรถตัวเองกลับบ้านอีก น้องเกรงใจจริงๆ”
“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้มันก็น่าเหนื่อยจริงๆ แต่ละเรื่องชวนปวดหัวทั้งนั้น” ติณณภพว่า
“มากเลยค่ะ ถึงบ้านแล้วยังไม่หายตุ๊บๆตรงขมับเลย”
พัฒศรีบ่นไปก็เอามือข้างหนึ่งนวดขมับไป ติณณภพเลยเสนอตัว
“งั้นให้พี่ช่วยนวดมั้ย..เผื่อจะดีขึ้น”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ติณ น้องพาพี่ไปเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พี่ควรจะกลับไปพักผ่อน”
“พี่แค่ช่วยนวดให้น้อง ไม่ถึงชั่วโมงหรอกน่า ไม่ได้ขออยู่ค้างคืนสักหน่อย”
“พี่ติณ !!”
พัฒศรีทุบแขนเข้าให้ ติณณภพยิ้มรับแล้วจูงมือพัฒศรีเข้าไปในบ้าน

อาร์ทเคาะประตูเรียกเน็กซ์ที่ทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ
“ให้พี่เข้าไปช่วยเล็งให้มั้ยไอ้น้อง..มีผ้าก๊อซปิดตาแบบนั้น มันจะยิงตรงลงชักโครกได้ไง”
เสียงกดชักโครกดัง เน็กซ์เปิดประตูห้องน้ำออกมา
“ขอบคุณครับพี่ที่หวังดี..แต่ถ้าเข้าไปช่วยผมจริงๆ พี่เห็นผมแล้ว ผมว่าพี่อาจจะเสียเซลฟ์” เน็กซ์บอก
เน็กซ์กวนกลับแล้วใช้มือคลำผนังจะกลับไปที่เตียง อาร์ทรีบตามไปล็อคคอแกล้ง
“โธ่เอ้ย..ไอ้บักหมาขี้คุย...กล้าข่มพี่เลยเหรอวะ”
“โอ๊ยพี่..ผมยังเป็นคนป่วยอยู่นะ”
“ไม่ต้องมาสำออยเลยไอ้น้องชาย”
สองคนเล่นหัวกันไปมาครู่หนึ่งหนูดอกก็เข้ามาเห็นแล้วเธอก็ตกใจ
“ทำอะไรของแกน่ะอาร์ท..ปล่อยเน็กซ์เดี๋ยวนี้เลย เน็กซ์เขาต้องนอนพักฟื้นนะ” หนูดอกว่า
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับพี่หนูดอก..แค่ตาอย่างเดียวที่ถูกปิดเอาไว้ อย่างอื่นยังปกติ” เน็กซ์บอก
“ไม่ได้ค่ะน้องเน็กซ์ มาดามสั่งเอาไว้ว่าให้ดูแลให้ดี ถึงให้พี่กับอาร์ทมาเฝ้าน้อง” หนูดอกยืนยัน
“แล้วมาดามล่ะครับ”
“แหม..มาดามเจอแต่เรื่องวุ่นวายเครียดจนหัวแทบระเบิดมาทั้งวัน ก็ต้องถึงเวลาส่วนตัว ให้กัปตันที่หน้าที่คนรักคอยดูแลบ้างสิคะ”

เน็กซ์ชะงัก

พัฒศรีนั่งหันหลังให้ติณณภพช่วยนวดขมับผ่อนคลายความเครียดด้วยการนวดที่นุ่มและเบามือมาก
 
ทำเอาพัฒศรีรู้สึกผ่อนคลายได้จริงๆ
“เป็นไง..รู้สึกดีขึ้นมั้ย”
“จะให้น้องพูดจริงๆมั้ยคะพี่ติณ”
“เอาจริงสิ..ถ้าไม่ดีพี่จะได้รู้”
“งั้นน้องก็จะพูดจริงๆนะคะ..ขับเครื่องบินก็เป็น ทำอาหารก็อร่อย นวดก็ยังได้อีก..มีอะไร ที่พี่ทำไม่ได้อีกบ้างคะพี่ติณ”
ติณณภพยิ้มขำ “นี่ชมหรือกัดพี่กันแน่”
“ชมสิคะ..คนอะไร..ไม่ต้องเพอร์เฟคทุกอย่างก็ได้ค่ะ ยิ่งมีคนจะสงสัยว่าน้องไปงาน กาชาดแล้วจับฉลากได้พี่มาอยู่ด้วย”
“พี่ก็ไม่ได้ทำได้ทุกอย่างหรอกนะ..มีบางอย่างที่พี่พยายามแล้วแต่ทำไม่ได้ก็มี”
“อะไรคะ...”
พัฒศรีหันไปถาม ติณณภพพยายามสบตาพัฒศรีนิ่งๆ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร โทรศัพท์ของติณณภพก็ดัง
“ว่าไงตุล” ติณณภพฟังอยู่ครู่หนึ่ง “ได้..พี่จะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้”
“มีอะไรเหรอคะพี่ติณ”
“สัญญาณกันขโมยที่บ้านดัง..ตุลกลัวว่าจะมีขโมยขึ้นบ้าน”
พัฒศรีตกใจ “งั้นพี่รีบกลับเถอะค่ะ..น้องอยู่คนเดียวน่าเป็นห่วง”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ”
ติณณภพรีบออกไปเพราะเป็นห่วงน้องสาว พัฒศรีมองส่งด้วยความเป็นห่วงเหมือนกัน

เน็กซ์ที่ถูกปิดตาอยู่ทั้ง 2 ข้างยืนยันกับหนูดอก
“พี่หนูดอกกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะครับ ที่นี่ให้พี่อาร์ทอยู่เฝ้าผมคนเดียวก็ได้”
“ตาอาร์ทเนี่ยนะ เมื่อกี้พี่ยังเห็นเล่นเป็นเด็กๆอยู่เลย แล้วจะไว้ใจอะไรได้”
“ผมว่าน่าจะได้มากกว่าพี่นะครับ พี่อาร์ทเป็นผู้ชายเหมือนผม เกิดดึกๆผมอยากเข้าห้อง น้ำขึ้นมา พี่หนูดอกมาจับผมผิดๆถูกๆเข้า ผมอายเป็นเหมือนกันนะพี่”
“แหม..แต่พี่ไม่อายหรอกค่ะ พี่อยากเห็น..อุ๊บส์ !! พี่ล้อเล่นค่ะ นั่นสินะ..พี่ยังสาวยังแส้ เดี๋ยวใจแตกหมด งั้นชั้นฝากให้เธอดูแลเน็กซ์ด้วยแล้วกันนะอาร์ท”
“ได้..ไม่มีปัญหา”
หนูดอกคว้ากระเป๋าถือแล้วเข้าไปตบไหล่เน็กซ์
“พี่กลับก่อนนะ”
หนูดอกขยับเข้าใกล้อาร์ทแล้วดึงอาร์ทออกมาอีกห้องแล้วกระซิบเพราะรู้ว่าเน็กซ์มองไม่เห็น
หนูดอกกระซิบ “ฝากคุยกับเน็กซ์เรื่องแจ้งความแพตตี้ด้วยนะ”
อาร์ทกระซิบ “เอาจริงเหรอเนี่ย”
หนูดอกกระซิบ “เล่นงานเน็กซ์ซะขนาดนี้ มาดามจะไม่เอาจริงได้ไง ฝากด้วยแล้วกันนะ..ไปล่ะ”
หนูดอกบอกแล้วออกไปทิ้งให้เน็กซ์อยู่กับอาร์ทตามลำพัง แต่เน็กซ์พอจะได้ยินที่หนูดอกบอกอาร์ท
“พี่อาร์ท.....เมื่อกี้นี้ที่พี่หนูดอกบอกเรื่องแจ้งความแพตตี้..หมายความว่ายังไงครับพี่”
“เอ่อ...ก็”
อาร์ทหน้าอึกอักไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง

ตุลยาชะเง้อมองไปที่ประตูด้วยสีหน้าหงุดหงิดแง้มประตูดูเพื่อรอดูว่าเมื่อไหร่ติณณภพจะกลับเข้ามา ชายคนหนึ่งสวมหมวกไหมพรมย่องเข้ามาทางข้างหลัง ตุลยาปิดประตูล็อคหันไปตกใจเกือบจะร้องกรี๊ด ชายคนนั้นรีบเอามืออุดปาก
“เราเองตุล !!”
อินทัชรีบดึงหมวกไหมพรมออก ตุลยาเลยผลักซะแรงจนเซเกือบล้ม
“อินทัช !! เล่นอะไร เกิดชั้นหัวใจวายช็อคตายขึ้นมาจะทำยังไง”
อินทัชยิ้ม “ยังไม่แก่สักหน่อยกลัวหัวใจวายแล้วเหรอ”
“ไอ้บ้า..ยังมาปากเสียอีก ที่สั่งให้ไปจัดการน่ะ เสร็จรึยัง”
อินทัชพยักหน้ารับ “เรียบร้อย ชั้นไปย่ำรอยเท้าไว้แล้ว ทำให้เหมือนว่ามีขโมยแอบเข้ามาทางด้านนี้”
“ดี..แต่ลืมอะไรไปอย่าง”
“อะไรอีกล่ะตุล”
ตุลยาแย่งหมวกไหมพรมจากมือแล้วดุใส่ “เอาหมวกโจรนี่มาใส่เล่นทำไม ชั้นบอกให้เอาไปทิ้งไว้แถวๆนั้นด้วย จะได้ดูเหมือนว่าพวกขโมยทำตกเอาไว้”
“แต่เราว่าเยอะไปนะตุล แค่สร้างสถาณการณ์ให้พี่ติณรีบกลับมาเพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่กับ มาดามพุชชี่เนี่ยนะ มันกลายเป็นเรื่องใหญ่จนถึงตำรวจได้เลยนะ”
“ชั้นไม่ได้ซื่อ..ไม่ได้บื้อเหมือนนาย ทุกอย่างชั้นคอนโทรลได้ย่ะ”
ระหว่างนั้นเสียงรถเข้ามาในบ้าน ตุลยาตกใจรีบสั่งอินทัชพร้อมกับส่งหมวกไหมพรมให้อินทัชเอาไปด้วย
“พี่ติณกลับมาแล้ว..นายรีบไปเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเขาเห็นนายอยู่ด้วย มีหวังความแตกแน่ !!”

ตุลยารีบผลักและดันอินทัชให้ออกไปด้านหลังก่อนจะหันมาตั้งสติเตรียมเล่นละครตบตาพี่โดยวิ่งขึ้นไปชั้นบน
 
อ่านต่อหน้า 3

มาดามดัน ตอนที่ 8 (ต่อ)

รถติณณภพจอดอยู่ที่หน้าตึก ติณภพกำลังรีบเอากุญแจไขเข้าบ้านไปด้วยสีหน้าเป็นห่วง

ติณณภพเปิดประตูเข้ามาเรียกน้องสาว
“ตุล....ตุล....”
ติณณภพเดินมาถึงก็เจอน้องสาวกำลังตื่นตระหนกและบีบน้ำตาออกมาหาทันที
“พี่ติณ..ฮือๆๆ ทำไมพี่ติณมาช้าจัง รู้มั้ยว่าตุลกลัว” ตุลยาสวมกอดพี่ชายแน่น
“พอตุลโทรไปบอกพี่ก็รีบมาเลย” ติณณภพดันน้องสาวตัวเองออก “แล้วตุลเป็นอะไรรึเปล่า”
ตุลยาส่ายหน้า “แต่ตุลกลัวค่ะ..ตุลอยู่บ้านคนเดียว ได้ยินเสียงสัญญาณกันขโมยดังก็เลยลงมาดู ตอนแรกก็ไม่เห็นใคร เลยตัดสัญญาณให้มันเงียบ แต่แล้วตุลก็เห็นมันทางนั้นค่ะ” ตุลยาชี้ไป
“แล้วแม่บ้านอยู่ไหน ทำไมทิ้งตุลไว้คนเดียว”
“วันนี้ตุลให้ลากลับไปเยี่ยมลูกเขาค่ะ พอตุลเห็นมัน ตุลก็รีบเข้าไปอยู่ในห้องนอนล็อคกุญแจไม่ออกมา แล้วโทรหาพี่ติณ”
“ทำถูกแล้วล่ะตุล..ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่นี่แล้ว”
ติณณภพดึงน้องสาวมาโอบเพื่อปลอบใจ ระหว่างนั้นก็มีเสียงกระถางต้นไม้แตกดังเพล้งจากด้านหลังบ้าน
“มันยังอยู่ในบ้านนี่..รออยู่นี่นะตุล”
ติณณภพวิ่งออกไปทางที่เสียงกระถางแตก ตุลยามีสีตกใจและเป็นกังวลว่าจะเอาไงดีแต่ก็ยังไม่วิ่งตามไป

อินทัชทำหน้าเซ็งขณะมองกระถางต้นไม้ที่เขาเพิ่งเผลอชนจนแตกกระจาย
อินทัชพูดเบาๆ “ซวยแล้วเรา งานเข้าจนได้”
อินทัชหันรีหันขวางว่าจะเอายังไงดี ยิ่งได้ยินเสียงคนวิ่งมาทางนี้ก็เลยรีบเอาหมวกไหมพรมในมือมาครอบหัวสวมรอยเป็นหัวขโมยจำเป็น แล้วรีบใส่ตีนหมาโกยอ้าว
“หยุดนะ... ไอ้หัวขโมย”
ติณณภพวิ่งไล่กวดแล้วตามไปตะครุบ อินทัชพยายามดิ้นและปัดมือไม้พัลวัน ติณณภพเลยต้องลงมือชกเข้าที่ท้องจนอินทัชจุกตัวงอและเจ็บตัว แล้วจับแขนมาบิดอย่างแรง อินทัชร้องโอ๊ย
อินทัชทรุดฮวบและกำลังจะถูกติณณภพดึงหมวกไหมพรมออก ตุลยาเข้ามาเห็นก็กลัวว่าอินทัชจะถูกจับได้เลยรีบตะโกนขัดจังหวะทันที
“พี่ติณ...”
ติณณภพชะงักหันไปมองน้องสาว อินทัชเลยได้โอกาสสะบัดตัวชกเข้าหน้าติณณภพไปหนึ่งหมัดเต็มๆ ก่อนจะวิ่งจับแขนที่เจ็บหนีไปได้ ติณณภพที่มีเลือดซิบๆมุมปากจะไล่ตามไป แต่ตุลยารีบเข้าไปรั้งไว้
“ไม่ต้องตามมันไปหรอกค่ะพี่ติณ”
“แต่มันโดนพี่เล่นงานไปขนาดนั้น มันหนีไม่รอดหรอกตุล ต้องลากคอมันส่งตำรวจ” ติณณภพจะไป
ตุลยาดึงไว้ “แต่ถ้าตามไปแล้วเกิดมีพวกมันรออยู่ล่ะ มันอาจจะมีปืนรอทำร้ายพี่ก็ได้ ปล่อยมันไปเถอะค่ะ นะคะพี่ติณ..อยู่กับน้องนะ น้องกลัว”
ติณณภพนิ่งมองน้องสาวที่อ้อนจนเขาต้องยอม

วันต่อมา รถติณณภพจอดอยู่หน้าตึกอย่างเดิม ตุลยาพยายามใช้โทรศัพท์ติดต่อมือถืออินทัชแต่ติดต่อไม่ได้ทั้งโทรทั้งส่งข้อความก็ไม่มีการตอบกลับ
“ตาบ้าเอ้ย..ติดต่ออะไรก็ไม่ได้ แล้วชั้นจะรู้มั้ยว่านายเป็นไงบ้าง”
ตุลยาเริ่มกังวลปนหัวเสียที่ติดต่ออินทัชไม่ได้ ระหว่างนั้นเสียงติณณภพก็ดังเข้ามา
“ตุล”
ตุลยาหันไปไม่ได้เห็นติณณภพมาคนเดียวแต่เจอพัฒศรีที่มากับพี่ชายขึ้นบันไดมา พัฒศรีรีบเข้ามาจับเนื้อจับตัวตุลยาด้วยความเป็นห่วง
“เป็นยังไงบ้างน้องตุล พี่ติณเล่าให้พี่ฟังหมดแล้ว น่ากลัวจังเลยนะ”
“ค่ะ น่ากลัวมากเลยค่ะพี่พัฒ ถ้าวันไหนพี่ติณไม่อยู่บ้าน แล้วเกิดมีพวกมันเข้ามาอีก..ตุลก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก”
“ไม่ต้องห่วงหรอกตุล พี่ไปแจ้งความที่โรงพักมาแล้ว ทางตำรวจเขาจะช่วยสืบหาคนร้ายให้ และจะส่งสายตรวจเข้ามาดูให้บ่อยๆ”
ตุลยาเข้าไปเกาะแขนพี่ชาย “แต่ยังไงก็ไม่เหมือนมีพี่ติณคอยอยู่กับตุลหรอก”
“พี่จะอยู่กับเราตลอดเวลาได้ไง พี่ก็ต้องทำงาน”
“แต่เมื่อวานพี่ไม่ได้ทำงาน.. พี่ไปอยู่กับพี่พัฒทั้งวัน” ตุลยาพูดแล้วแกล้งทำเป็นชะงัก “เอ่อ...ตุล... ตุลขอโทษค่ะพี่พัฒ.. ตุลไม่ได้หมายความว่า...”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เข้าใจ..พี่เองก็ผิดที่ชวนให้พี่ติณอยู่กับพี่ทั้งวัน” พัฒศรีหันไปที่ติณณภพ “พี่ติณอยู่กับ น้องตุลเถอะค่ะ ไว้มีอะไรเราค่อยโทรคุยกัน”
“แต่ว่า..”
“เรื่องบริษัทดูแลระบบกล้องวงจรปิดที่เมื่อกี้เราคุยกันไว้ อาร์ทเคยเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ให้เขาอยู่ น้องจะแนะนำให้เขามาดูแลที่นี่ให้ วันนี้น้องต้องไปทำงานต่อแล้ว” พัฒศรีพูดกับตุลยา “พี่ไปก่อนนะคะน้องตุล”
ตุลยาไหว้ “ขอบคุณมากนะคะพี่พัฒ เลยต้องเสียเวลาพี่พัฒเลย”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
ติณณภพจะออกไปแต่ตุลยารีบเกาะแขนพี่ชาย
“พี่ติณคะ...แม่บ้านบอกว่าสงสัยกลอนประตูด้านระเบียงนี้จะเสีย พี่ติณดูให้หน่อยสิคะ”

ติณณภพนิ่งมองน้องสาวแล้วมองตามพัฒศรี ตุลยาดึงพี่ชายออกไป

ยุวดีเอาหนังสือพิมพ์บันเทิง 4 ฉบับให้แพตตี้ดู

“ดูสิคะ..ทุกฉบับพาดหัวเล่นแต่ข่าวคุณแพตตี้เอากุหลาบทิ่มหน้าเน็กซ์หมด ส่วนข่าว แก้วปวดหัวชวนผัวไปฉีดยาที่ว่าแรงๆกลายเป็นจืดสนิทเลย”
แพตตี้มองหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในมือยุวดีแล้วสนใจจึงเอามาดู ภาพที่หน้าปกเป็นภาพแพตตี้กับเน็กซ์ที่ถูกนำขึ้นประกบคู่พร้อมคำโปรย
แพตตี้อ่าน “อดีตรักฝังแค้น ดาวรุ่งสาวหน้าหวานสะท้านโลกันต์ ทนถูกพระเอกหน้าใหม่ไฟ แรงสะบั้นรักเก่าที่บ้านเกิดไม่ได้ แค้นจัดเอากุหลาบทิ่มหน้า จนพระเอกหวิดตาบอด ภาพเด็ดๆและประวัติส่วนตัวแบบเจาะลึกของทั้งคู่ตามอ่านได้ในสกู๊ปพิเศษหน้า 26”
“ใช่ค่ะ..คราวนี้กระฉ่อนใหญ่เลย พวกนักข่าวไปเจาะมาได้ทั้งรูปสมัยประถมยันมหา’ลัย ส่วนในอินเตอร์เน็ตพวกแฟนคลับเน็กซ์ก็รุมด่าคุณแพตตี้ สับเละเป็นโจ๊กเลย”
“ด่าว่าอะไร”
“อย่ารู้เลยดีกว่าค่ะ ยุวดีไม่กล้ารายงาน ถ้าไม่เปรียบคุณแพตตี้เป็นสัตว์มีนอ ก็ไล่ให้ไปหาคอตต้อนบัตมาใช้เกาแก้คัน”
แพตตี้ปรี๊ดขึ้นหน้าปาหนังสือพิมพ์ใส่ยุวดีก่อนจะหันมาหน้าเครียดๆ ระหว่างนั้นเจ๊เมี่ยงเข้ามา
“ไม่ต้องเครียดไปหรอกค่ะหนูแพตตี้.. ใครอยากเม้าท์อะไรก็ปล่อยให้เม้าท์กันไป ยังไง ทุกอย่างเป็นไปตามที่เจ๊คิดไว้เป๊ะ !”
“ให้หนูโดนแฟนคลับเน็กซ์รุมด่า แถมยังโดนนังมาดามพุชชี่ขู่จะแจ้งความข้อหาทำร้าย ร่างกายเน็กซ์เนี่ยนะคะเจ๊”
ยุวดีตกใจ “ว่าไงนะคะ.. จะโดนแจ้งความด้วยเหรอ..ตายแล้ว เรื่องนี้ยุวดีต้องโทรรายงานเสี่ยแล้วล่ะค่ะ” ยุวดีจะหยิบมือถือตัวเองขึ้นมากดโทรออก
เจ๊เมี่ยงหันมาเสียงดังใส่ยุวดี “หยุดเลยนะนังยุวดี ที่ชั้นไม่ยอมให้หล่อนรู้เรื่องนี้ก่อน ก็เพราะ ความสาระแนแส่หาเรื่องให้ชั้นกลายเป็นเป้าปืนเสี่ยนี่แหละ”
“แต่เสี่ยสั่งยุวดีไว้ว่าไม่ให้คุณแพตตี้เข้าใกล้เน็กซ์เด็ดขาด ไม่งั้นจะไม่ให้ทำงานในวงการนี้อีก”
“เรื่องคำสั่งของป๋า แกไม่ต้องกลัวหรอกน่า ชั้นจะคุยกับป๋าเอง แค่แกไม่ต้องคาบข่าวทุกอย่างไปบอกก็พอ”
“แต่ว่า...”
แพตตี้ไล่ “แกอยากเก็บเสื้อผ้ากลับไปอยู่บึงโขงหลงใช่มั้ย..งั้นไปเลย..ไปตอนนี้เลย”
ยุวดีรีบส่ายหน้า “ไม่ค่ะ..ยุวดีไม่อยากกลับ จะปิดปากเงียบไม่พูดอะไรก็ได้ค่ะ”
“ดีถ้าหล่อนเข้าใจแผนการดันเด็กของชั้นแล้ว.. ก็ควรเริ่มทำงานให้คุ้มค่าน้ำค่าไฟบ้านนี้”
“เจ๊จะให้ยุวดีทำอะไรเหรอคะ”
“ลอร่ากำลังรวบรวมคน ตั้งเป็นแฟนคลับแพตตี้ ให้เข้าไปตอบโต้แฟนคลับเน็กซ์ในเน็ต เพื่อปั่นกระแสให้ดัง เพราะถ้าไม่ฉาวก็ไม่ดัง งานแบบนี้หล่อนน่าจะทำได้นะ”
“ได้ค่ะเจ๊..เรื่องปกป้องคุณแพตตี้..มันหน้าที่ยุวดีอยู่แล้ว จะให้ยกพวกไปตีกับแฟนคลับ เน็กซ์ก็ยังได้เลย”
เจ๊เมี่ยงยิ้มรับพอใจ

เจ๊เมี่ยงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แพตตี้เดินตามเข้ามาที่ห้องทำงานแล้วเอ่ยถาม
“แล้วจากนี้หนูต้องทำยังไงอีก ถ้าเกิดเขาแจ้งความหนูจริงๆ ป๋าต้องมาลากหนูกลับบึงโขงหลงแน่ เรื่องใหญ่อย่างนี้ต่อให้หนูอาละวาดบ้านแตก ป๋าก็ไม่มีทางฟัง”
“ต่อหน้าสื่อนังพุชชี่มันก็ขู่ไปงั้นแหละ เชื่อเจ๊เถอะ..ยังไงหนูก็ไม่โดนแจ้งความแน่ เพราะ เจ้าทุกข์ที่จะแจ้งความหนูได้ก็คือเน็กซ์ ไม่ใช่นังพุชชี่”
“แต่เน็กซ์อาจจะโดนนังนั่นสั่ง”
“แต่เจ๊ว่าเน็กซ์ไม่ใช่คนแบบนั้น หนูรู้จักเน็กซ์มาตั้งแต่เด็ก..หนูน่าจะมั่นใจกว่าเจ๊นะ”
แพตตี้นิ่งไปสีหน้าครุ่นคิด เจ๊เมี่ยงเข้ามาจับคางแพตตี้เชยมองชื่นชมความสวย
“เอาล่ะ..วันนี้หนูไปทำงานของหนูตามปกติ แต่ให้ติดบทละครคุณหนูวุ่นวายกับคุณชาย ฉ่ำโบ๊ะที่เจ๊เพิ่งได้มาไปด้วย ว่างเมื่อไหร่ก็เอาบทมาอ่าน เตรียมตัวสำหรับเป็นนางเอกไว้เลย”
“เจ๊มั่นใจว่าหนูจะได้บทนางเอกโปรเจคใหญ่ขนาดนี้แน่นะ”
“มั่นสิยะ” เจ๊เมี่ยงยิ้ม “วันนี้เจ๊มีนัดทานข้าวกับพี่อนุพงษ์ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตของสถานี ของ แบบนี้ถ้าไม่เริ่ด เชิ่ดไม่ได้นะคะหนูแพตตี้”
เจ๊เมี่ยงป้องปากหัวเราะด้วยความชอบใจ แพตตี้ยิ้มอย่างมีความหวัง

เน็กซ์ฟังเพลงจากไอพอดอยู่ที่เตียงเพราะที่ตายังมีผ้าก๊อซปิดอยู่ทั้ง 2 ข้าง ระหว่างนั้นพุชชี่ที่เพิ่งมาถึงบุ่มบ่ามเข้ามาอย่างหัวเสีย
“เน็กซ์.. อาร์ทบอกชั้นว่าเธอไม่ยอมแจ้งความเอาผิดแพตตี้”
เน็กซ์ยังนั่งเฉยฟังเพลงเพราะไม่ได้ยิน พุชชี่เข้าไปดึงหูฟังออกจากหูของเขา
“ไม่ต้องมาทำเป็นหูทวนลมใส่ชั้นนะ ชั้นพยายามปกป้องชื่อเสียงเธอ จะปล่อยให้ถูกเข้า ใจผิดแบบนี้ไม่ได้”
“แต่ผมเป็นผู้ชาย เวลามีข่าวเสียหายเกี่ยวกับผู้หญิง สิ่งที่ควรทำที่สุดก็คือเงียบ เพื่อให้ เกียรติผู้หญิง”
“ไม่ต้องมาโชว์แมนมากเกินไปเลย เพราะถ้าเธอยิ่งเงียบก็เท่ากับว่าเธอยอมรับว่าเคยเป็นแฟนกับแพตตี้”
“ก็เหมือนกับที่ป้าลากกัปตันให้มาเป็นข่าวด้วย แล้วทำไมผมจะทำเหมือนกันบ้างไม่ได้”
พุชชี่อึ้ง “มันไม่เหมือนกันนะเน็กซ์ ที่พี่ติณทำเพราะต้องการช่วยชั้นไม่ให้ถูกโจมตี”
“ผมก็ยอมถูกเข้าใจผิดเพื่อช่วยไม่ให้เพื่อนผมถูกโจมตีเหมือนกัน”
พุชชี่สงสัย “นี่เธอคิดจะประชดชั้นเหรอ”
“ผมจะประชดไปเพื่ออะไร อ๋อ..เพราะเห็นผมไม่เห็นด้วยเรื่องข่าวป้ากับกัปตัน เลยคิดว่า ผมแอบชอบป้าละสิ ไม่เอาน่า…ได้กันจริงๆขึ้นมาคงแย่ ไม่รู้จะเรียกแม่หรือเรียกเมียดี”
พุชช่เหวอเมื่อเจอเน็กซ์ปากเสียใส่ เธอถึงกับหน้าแดง กำมือแน่น และขบกรามจนแทบขึ้นสัน

“ไอ้..ไอ้เด็กปากชักโครก...แก...แก”

ประตูลิฟต์หน้าวอร์ดเปิดออก หนูดอกที่เพิ่งมาถึงถือกระเป๋าแฮนด์แบคใส่เสื้อผ้าของเน็กซ์มาด้วย
 
เธอเดินออกมาเจอหมอผู้หญิงเจ้าของไข้ของเน็กซ์ที่กำลังคุยอยู่กับพยาบาลพอดี หมอเปิดดูแฟ้มคนไข้ของเน็กซ์อยู่
“สวัสดีค่ะคุณหมอ” หนูดอกทัก “อาการของน้องเน็กซ์เป็นยังไงบ้างคะ”
“หมอเพิ่งขึ้นมาที่วอร์ดเองค่ะ กำลังจะเข้าไปตรวจพอดี”
“งั้นขอให้เป็นข่าวดี ได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วๆนะคะ มีงานใหญ่กำลังจ่อรออยู่เลยค่ะ”
“เท่าที่ดูจากรายงานและผลตรวจ คิดว่าไม่น่ามีปัญหา คงกลับได้วันนี้แหละค่ะ”
“ดีจังค่ะ
หนูดอกกำลังดีใจ ระหว่างนั้นมีเสียงเน็กซ์จากอินเตอร์คอมที่ต่อมาจากห้องพักคนไข้ดังขึ้น
“ช่วยด้วย...ช่วยผมด้วย..ช่วยผมด้วยย”
ทุกคนหันไปมองทางห้องเน็กซ์ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเคาน์เตอร์วอร์ด
“นั่นเสียงเน็กซ์นี่คะ...” หนูดอกบอก
หนูดอก หมอ และพยาบาลวิ่งออกไปทางห้องเน็กซ์ทันที พยาบาลที่เหลือมองอย่างงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น

พุชชี่ขึ้นคร่อมอยู่บนตัวเน็กซ์แล้วใช้สองมือบีบคอเขาอย่างเอาเรื่องสุดฤทธิ์
“ไอ้เด็กบ้า..อย่าคิดว่าหล่อลากไส้แล้วผู้หญิงทุกคนจะต้องอยากฟีเจอริ่งกับเธอนะ ต่อให้เหลือเธอเป็นผู้ชายคนเดียวบนโลก ชั้นก็ไม่เอา ขอบวชชีถือศีลไปตลอดชีวิต !”
เน็กซ์หน้าดำหน้าแดง เขาร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังอู้อี้ หนูดอกที่ถือกระเป๋าแฮนด์แบควิ่งเข้ามา หมอหญิง พยาบาลที่ถือแฟ้มคนไข้ของเน็กซ์วิ่งตามเข้ามาในห้อง ทุกคนตกใจ หนูดอกรีบวิ่งเข้าไปพยายามดึงพุชชี่ออกมา
“มาดาม..พอเถอะค่ะ เดี๋ยวเน็กซ์ก็ตายคาเตียงหรอก”
หนูดอกดึงคนเดียวไม่พอ พยาบาลต้องช่วยดึงลงมา เน็กซ์ไอค่อกแค่กเพราะสำลัก
“หมอ..ช่วย..ช่วยผมด้วย”
“นี่คุณทำอะไร เขาเป็นคนไข้นะคะ” หมอบอก
“ปากแบบนี้ สภาพแบบนี้ ไม่ต้องถึงมือหมอก็รู้แล้วค่ะ ว่าหมดเวลานอนสำออยอยู่บนเตียงแล้ว”
“นั่นเป็นหน้าที่ของหมอที่ต้องตรวจคนไข้ค่ะ เชิญพวกคุณออกไปก่อนนะคะ ถ้าคนไข้ สามารถกลับบ้านได้ หมอจะเป็นคนสั่งเอง”
“ออกไปก่อนนะคะมาดาม”
หนูดอกพาพุชชี่เดินออกไป หมอหันมามองสภาพเน็กซ์ที่ยังมีผ้าก๊อซปิดตาอยู่ เน็กซ์เอามือจับคอแล้วหายใจลึกๆ ยาวๆ

ตุลยายังกดโทรศัพท์หาอินทัชเพราะอยากรู้ข่าวคราวจากที่ติดต่อไม่ได้มาตลอดก็เพิ่งจะติดต่อได้
“อินทัช..หายหัวไปไหนของนายมา ชั้นโทรตามตั้งแต่เมื่อคืนทำไมไม่รับสาย” ตุลยาฟัง “ว่าไงนะ..เจ็บแขนที่โดนพี่ติณเล่นงานเหรอ” ตุลยาเผลอพูดเสียงดัง
ตุลยาพูดไปแล้วชะงักเผลอกลัวติณณภพจะมาได้ยินเลยลดหูโทรศัพท์แล้วมองซ้ายขวาจนแน่ใจว่าติณณภพไม่ได้อยู่ใกล้ๆ
ตุลยาพูดเสียงเบา “นายอย่ามาทำสำออยหน่อยเลย ชั้นเห็นพี่ติณเล่นงานนายแค่นิดเดียว บอกมาเดี๋ยวนี้เลยว่าอยู่ไหน” ตุลยาฟัง “ด่านายทางโทรศัพท์มันไม่พอหรอก” ตุลยาฟังแล้วตกใจ “ว่าไงนะ....อย่ามาโกหกนะ..ถ้าชั้นไปแล้วเจอว่านายไม่ได้เป็นอะไร ล่ะก็...นายตายแน่ !”
ตุลยาตัดสายแล้วเดินออกไป

ประตูสตูดิโอสำหรับถ่ายรายการเปิดออก ทีมงานเดินออกมาส่งแพตตี้ที่ด้านนอก
“ขอบคุณมากเลยนะคะน้องแพตตี้ ผู้กำกับเขาชมน้องไม่หยุดเลย สงสัยว่าเทปที่น้องมาเป็นแขกรับเชิญต้องเรตติ้งพุ่งแน่”
“เพราะหนูได้ทำงานกับพวกพี่ๆที่เป็นมืออาชีพกันมากกว่าค่ะ”
“แหม..ถ่อมตัวน่ารักจัง.. ว่าแต่จะให้รถตู้ของพี่ไปส่งน้องมั้ยคะ จะได้ไม่ต้องรอรถมารับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ.. เดี๋ยวพี่ลอร่าก็คงมาถึง รับงานอีเว้นต์ไว้ต้องรีบไปค่ะ”
“งั้นพี่กลับไปทำงานต่อนะคะ”
แพตตี้ยกมือไหว้ขอบคุณตามมารยาทที่ถูกฝึกมาดีแต่ชะเง้อคอยืนรออยู่ครู่ก็ยังไม่เห็นรถของลอร่าจะมารับ
“พี่ลอร่ามัวไปทำอะไรอยู่เนี่ย”
แพตตี้บ่นไปได้ครู่หนึ่ง อาร์ทก็โผล่เข้ามาข้างหลังแล้วใช้ปืนปลอมจี้แพตตี้
“หยุด..นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมขอเชิญคุณไปโรงพักด้วยกันครับ”
แพตตี้ตกใจ “ตำรวจ !!”
“ครับ..เราต้องการสอบปากคำคุณ คดีทำร้ายร่ายกายเน็กซ์”
แพตตี้ชะงักแล้วจำเสียงได้หันขวับไปเห็นอาร์ทแต่งชุดตำรวจนอกเครื่องแบบทะมัดทะแมงโดยมีปืนอยู่ในมือ

“ไอ้บ้า.. เล่นอะไรเนี่ย ชั้นตกใจหมด”

อาร์ทยิ้ม “ทีอย่างนี้ล่ะขวัญอ่อนจังเลยนะครับน้องแพตตี้ ไม่เห็นสมกับฉายาดาวรุ่งสาวหน้าหวาน สะท้านโลกันต์เลย”
 
“ไอ้..ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์..ชั้นเหม็นขี้หน้านาย!”
แพตตี้ไม่อยากอยู่ให้เห็นหน้าเลยสะบัดหน้าใส่แล้วรีบเดินหนีไป อาร์ทมองตามแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มชอบใจก่อนจะเดินตาม

แพตตี้เอาโทรศัพท์มากดโทรหาลอร่าแต่ปลายสายไม่ยอมรับสายเลย แพตตี้หยุดเดินแล้วพยายามกดโทรซ้ำๆ อาร์ทเดินตามมา
“โธ่ๆๆ น่าสงสารจัง” อาร์ทว่า “ถ้ายังไม่มีใครมารับล่ะก็ แวะไปโรงพักให้พี่สอบปากคำแป๊บนึง แล้วเดี๋ยวพี่จะพาไปส่ง”
“ไอ้เฒ่า..ไม่ตลก เที่ยวถือปืนมาข่มขู่คนอื่นแบบนี้ ชั้นเรียกตำรวจมาจับได้นะ” แพตตี้บอก
“ปืนนี่น่ะเหรอ” อาร์ทหัวเราะ “ปืนปลอมครับน้อง วันนี้พี่มารับเชิญเล่นซิตคอมเป็นบทตำรวจ อยู่ในโรงถ่ายใกล้กับที่น้องถ่ายนั่นแหละ”
“ชั้นไม่ได้อยากรู้ว่านายมาทำอะไร รีบกลับไปทำงานซะ..ไป !!”
“งานพี่น่ะเสร็จแล้ว กำลังจะกลับแต่เห็นน้องอยู่คนเดียวเลยเป็นห่วง”
“รถกำลังจะมารับชั้น”
“แล้วไหนละครับน้อง..พี่ไม่เห็นมีรถเข้ามาสักคันเลย”
ระหว่างนั้นโทรศัพท์แพตตี้ก็ดังขึ้น แพตตี้เห็นเป็นเบอร์ลอร่าก็ยิ้มเชิดใส่อาร์ทก่อนจะกดรับสาย
“พี่ลอร่า.. พี่อยู่ไหนคะเนี่ย” แพตตี้ฟัง “ว่าไงนะคะ...รถเสียมารับไม่ได้ แล้วงานอีเว้นต์ที่ต้องรีบไปล่ะ” แพตตี้ฟัง “จะให้แพตตี้นั่งแท๊กซี่ไปเนี่ยนะ..ฮัลโหล..ฮัลโหล”
อยู่ๆโทรศัพท์ก็เงียบไป แพตตี้เอามาดูก็พบว่าแบตหมด
“มาแบตหมดอะไรตอนนี้เนี่ย !”
แพตตี้หัวเสีย เธอหันไปมองหน้าอาร์ทที่ยิ้มกวนๆพร้อมเอากุญแจรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาควงและผิวปาก แพตตี้ทำไม่สนใจแล้วเดินออกไปอย่างหงุดหงิด แพตตี้เดินไปเรียกแท๊กซี่ข้างนอก อาร์ทยิ้มแล้วคิดพยายามจะตื้อ

แพตตี้เดินมุ่งหน้าไปทางปากซอยเพื่อเรียกแท๊กซี่ด้วยสีหน้าหงุดหงิด เธอเดินไปบ่นไปแล้วก็หยุดเดินมองนาฬิกาข้อมือเมื่อเห็นว่าใกล้จะได้เวลาต้องไปถึงงานแล้วแต่ยังเรียกแท๊กซี่ไม่ได้สักคัน
“สายแน่ๆ โดนด่าแน่ๆเรา.. เอาไงดีล่ะ”
แพตตี้หน้าเสียสักพัก อาร์ทก็ขี่มอเตอร์ไซค์เท่ๆของตัวเองออกจากซอยทางเดียวกับแพตตี้เข้ามาจอดใกล้ๆ แล้วก็เปิดหมวกกันน็อคถามแพตตี้
“ใจเย็นจังเลยนะครับน้องแพตตี้ แต่พี่ว่าป่านนี้เจ้าของงานอีเว้นต์คงไม่เย็นเหมือนน้อง”
“หุบปากไปเลยไอ้เฒ่า..ถ้าไม่คิดจะช่วยก็อย่ามาเกะกะ ชั้นไม่มีอารมณ์มาตอแยด้วย”
“ใครว่าพี่ไม่อยากช่วย..พี่ก็เสนอตัวเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้แล้วแต่น้องไม่สนใจเอง”
แพตตี้มองอาร์ทแล้วมองเบาะท้ายมอเตอร์ไซค์อย่างครุ่นคิด
อาร์ทหยิบหมวกกันน็อคอีกใบออกมา “ติ๊กต๊อก..ติ๊กต๊อก..ไม่ต้องคิดนานกลัวพี่จะหาเรื่องแกล้งน้องหรอก ถึงเราจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน แต่เราก็อาชีพเดียวกัน เดือดร้อนขึ้นมาก็ต้องช่วยเหลือกันสิครับน้อง”
อาร์ทพูดแล้วก็ยื่นหมวกกันน็อคให้ แพตตี้มองแล้วครุ่นคิดตัดสินใจ

หนูดอกถือกระเป๋าแฮนด์แบคพาเน็กซ์ที่สวมแว่นตาดำสุดเท่เข้ามาหาพุชชี่
“เรียบร้อยแล้วค่ะมาดาม หมอให้กลับบ้านได้ แต่ก็แนะนำว่าช่วงนี้ควรระวังเรื่องแสงที่ จะกระทบตาบ้าง”
“แล้วหมอเขาไม่สั่งด้วยเหรอว่าให้ระวังเรื่องปากด้วย” พุชชี่ว่า
หนูดอกสงสัย “ปากเน็กซ์ทำไมเหรอคะ”
“ก็ถ้ายังชอบปากเสียหาเรื่องชั้นกับพี่ติณอีก ชั้นจะส่งกลับมาให้หมอเย็บปาก”
“ถ้าการที่ผมพูดอะไรตรงไปตรงมา ไม่ต้องมีมาดมีฟอร์มแบบกัปตันทำให้ป้ารำคาญ ผมว่าป้านั่นแหละที่ต้องไปขอให้หมอช่วยเย็บรูหู ไม่ต้องได้ยินอะไรอีก เพราะผมพอใจ จะพูดแบบนี้” เน็กซ์ว่า
พุชชี่ไม่พอใจ “เด็กบ้า..นี่แก”
หนูดอกรีบห้าม “พอๆๆๆ หนูขอร้องล่ะ คนด้วยกันทั้งคู่ ไม่ใช่น้ำกับน้ำมันที่จะเข้ากันไม่ได้สัก หน่อย ข่าวเรื่องเน็กซ์กับแพตตี้ที่เจ๊เมี่ยงวางระเบิดไว้ก็ยังมีให้ปวดหัวไม่รู้จะแก้ยังไงเลย”
“ก็ไม่ต้องแก้ไขอะไรหรอกครับ ผมก็ทำงานของผมไป แพตตี้ก็ทำงานของตัวเองไป เดี๋ยวข่าวจับคู่ก็ซากันไปเอง”
“แต่วงการนี้มันแคบ เป็นไปไม่ได้หรอกที่แพตตี้กับเธอจะไม่มีโอกาสมาทำงานด้วยกัน”
“นั่นมันก็เป็นหน้าที่ของผู้จัดการอย่างป้าที่ต้องแก้ปัญหาเอง ไม่ใช่ดึงผมกับแพตตี้มาเป็นเครื่องมือใช้ฟาดฟันกับเจ๊เมี่ยง” เน็กซ์พูดน้ำเสียงเข้มและจริงจัง
พุชชี่ชะงักเพราะเจ็บใจแต่ไม่วีน “หนูดอกพาเน็กซ์กลับไปพักผ่อน”
“แล้วมาดามล่ะคะ” หนูดอกถาม
“ชั้นจะกลับของชั้นเอง”
พุชชี่มองหน้าเน็กซ์แล้วเดินออกไปอย่างหัวเสีย หนูดอกต้องสะกิดเน็กซ์เพื่อเตือน
“พี่ว่าเน็กซ์พูดแรงไปนะคะ มาดามเขามั่นใจว่าเจ๊เมี่ยงไม่ใช่คนดี เขาเลยเป็นห่วงเน็กซ์ และไม่เคยคิดร้ายกับแพตตี้เลย”
เน็กซ์นิ่งไป “พี่หนูดอกกลับไปเถอะครับ…ผมจะกลับกับมาดามเอง”
พูดเสร็จเน็กซ์ก็รีบตามพุชชี่ไป หนูดอกถอนใจ

พุชชี่เดินบ่นมาตามทางเดินในโรงพยาบาลพร้อมกับมีน้ำตาซึมออกมา
“เด็กบ้า.. ทำไมชั้นต้องมาทนให้เธอปากร้ายกับชั้นไม่เว้นแต่ละวันด้วย”
พุชชี่บ่นไปก่อนจะชะงักที่อยู่ๆน้ำตาของเธอก็ซึมออกมาด้วยความเสียใจ เมื่อเอามือแตะน้ำตาก็ยิ่งไหล เธอสงสัยในความรู้สึกตัวเองทั้งๆที่เจอเรื่องหนักหนาสาหัสมาเยอะก็ไม่เป็นไร แต่แค่คำพูดทิ่มแทงใจของเน็กซ์กลับเรียกน้ำตาจากเธอได้
พุชชี่นิ่งอยู่อย่างนั้นได้ครู่พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นตุลยาเดินผ่านหน้าไปอย่างรีบร้อน พุชชี่แปลกใจและสงสัยว่าทำไมจึงมาที่นี่
 
พุชชี่จึงเดินตามไป
 
อ่านต่อหน้า 4

มาดามดัน ตอนที่ 8 (ต่อ)

ตุลยาเดินเข้ามาเจออินทัชนั่งอยู่ที่เก้าอี้ แขนข้างหนึ่งของอินทัชเข้าเฝือกอ่อนโดยมีผ้าคล้องแขนอยู่

อินทัชดีใจ “ตุล...”
ตุลยาชะงักที่เห็นสภาพของอินทัช “นี่นายเจ็บจริงเหรอเนี่ย”
“โธ่ตุล..ถ้าทนเดี้ยงไม่ไหวจริงๆ เราจะมาโรงพยาบาลให้หมอรักษาทำไม”
ตุลยายังมองอย่างไม่เชื่อ
“เราไม่ได้สำออยจริงๆนะ.. ตอนที่โดนพี่ติณเล่นงาน เรากลับไปบ้านก็คิดว่าคงไม่เป็น อะไรมาก แต่ทั้งคืนเราต้องนอนระบม เจ็บจนน้ำตาเล็ด กินยาแก้ปวดไปก็ไม่หาย” อินทัชบอก
“พอ..ไม่ต้องสาธยาย ชั้นจะเชื่อรึเปล่าก็ต้องพิสูจน์”
ตุลยามองหน้าอินทัชแล้วเดินเข้าไปบีบแขนข้างที่เขาเจ็บ อินทัชร้องลั่น
“เจ็บจริงนี่”
“ก็เจ็บจริงๆสิ ..เราทำเพื่อตุลขนาดนี้แล้ว ทำไมต้องคิดว่าเราอยากโกหกด้วย”
ตุลยาอึกอัก “ก็...”
อินทัชน้อยใจ “พอเลย..ที่ผ่านมาเราช่วยตุลทุกอย่าง หาเรื่องขัดขวางไม่ให้พี่ติณกับพี่พัฒรักกัน ทั้งๆที่ มันไม่ใช่เรื่องของเราเลย แต่ตุลกลับทำกับเราเหมือนเราเป็นแค่ขี้ข้า พอกันที”
อินทัชโมโหและน้อยใจจึงเดินออกไปทันที ตุลยายืนอึ้งพอตั้งสติได้เธอก็รีบตาม
“อินทัช...กลับมาเดี๋ยวนี้นะ..นายอินทัช !”
ตุลยาตามอินทัชออกไปได้ครู่เดียว พุชชี่ก็เดินออกจากมุมเสาที่บังมามองตามตุลยาเพราะทุกอย่างที่น้อง สาวติณณภพคุยกับเพื่อนทำให้พุชชี่ถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออกและไม่เข้าใจว่าทำไมตุลยาถึงต้องทำขนาดนี้ เน็กซ์เดินออกมาจากมุมที่แอบฟังซึ่งอยู่ด้านหลังพุชชี่ เน็กซ์เดินเข้าไปหาพุชชี่แล้วยืนเคียงข้าง
“ดูท่าทางความรักของป้าจะมีอุปสรรคแล้วนะครับ”
“เน็กซ์ !!”
พุชชี่จะเดินหนีแต่เน็กซ์คว้าข้อมือของเธอไว้
“ถ้าเดินหนีผมอีก..ผมจะยกเลิกสัญญา ไม่เป็นมันแล้วไอ้ดารงดารา”
“หยุดซ้ำเติมชั้นซะทีได้มั้ย”
“ไม่ได้จะซ้ำเติม..แต่อยากจะปลอบใจ !”
เน็กซ์พูดสั้นๆห้วนๆ ชนิดไม่มีหางเสียงแล้วบีบมือพุชชี่แน่นก่อนจะดึงให้เดินไปด้วยกัน

อาร์ทขี่มอเตอร์ไซค์พาแพตตี้นั่งซ้อนท้ายมาส่งแต่ยังไม่ถึงที่ดีแพตตี้ก็พูดเสียงดัง
“ไม่ต้องเข้าไป ส่งชั้นแค่นี้ก็พอ..จอด..จอดๆๆ”
อาร์ทจอดมอเตอร์ไซค์เข้าข้างทาง แพตตี้รีบกระโดดลงจากเบาะซ้อนท้าย อาร์ทสงสัย
“อย่าบอกนะว่าจะเดินจากตรงนี้เข้าไป”
“ใช่...เพราะถ้ามีคนเห็นว่าชั้นนั่งซ้อนท้ายใครมาล่ะก็..พรุ่งนี้ชั้นได้เป็นข่าวเม้าท์อีกแน่”
“ก็ดีไม่ใช่เหรอ..ยิ่งเป็นข่าวก็ยิ่งดัง ไม่งั้นน้องคงไม่วางแผนเอากุหลาบทิ่มหน้าเน็กซ์แล้ว ทึกทักว่าเคยเป็นแฟนเขาหรอก..พี่ห่วงนะถึงอยากเตือน เป็นผู้หญิงแต่วิ่งไล่ตามผู้ชาย ทั้งๆที่เขาก็บอกแล้วว่าเป็นคนรักให้ไม่ได้ ดูยังไงมันก็เป็นได้แค่นางร้ายไม่ใช่นางเอก”
แพตตี้อึ้ง “ไอ้เลว !!”
แพตตี้ปรี่เข้าไปจะตบปากแต่อาร์ทจับข้อมือไว้
“แต่เป็นข่าวกับเกย์น้องไม่มีเสียหายแน่” อาร์ทบอก
“หยุดเลย..ชั้นรู้ความจริงแล้ว นายไม่ได้เป็นเกย์ แต่แมนเต็มร้อย ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์..ที่นาย หลอกชั้นเอาไว้ ชั้นจะคิดทบต้นทบดอกเอาคืนให้หมด”
แพตตี้ขู่อาฆาตแล้วเดินหน้าตึงออกไปแต่อาร์ทเรียกไว้
“เดี๋ยว”
“อะไรอีก”
“หมวกกันน็อคของพี่”
แพตตี้ชะงักเพราะลืมไปว่าสวมหมวกกันน็อคของอาร์ทอยู่ เธอรีบแกะแต่แกะไม่ออก อาร์ทอมยิ้มแล้ว เข้าไปช่วยแกะให้ จังหวะนั้นทำให้หน้าของทั้งสองคนใกล้กัน อาร์ทสบตาแพตตี้จนใจเต้นตึกตัก
อาร์ทถอดหมวกกันน็อคให้ “เรียบร้อยแล้วครับน้อง”
แพตตี้สบตาอาร์ททำซึ้ง “ขอบคุณค่ะ”
แพตตี้ยิ้มให้แล้วแย่งหมวกกันน็อคจากมืออาร์ทมาเหวี่ยงอย่างแรงใส่กระจกมองข้างมอเตอร์ไซค์แตก
อาร์ทเหวอ “เฮ้ย !”
แพตตี้ยิ้มร้ายแต่น่ารัก “อันนี้แค่ดอกเบี้ยนะ..ส่วนต้นน่ะยังไม่ได้คิด..เชอะ”

แพตตี้เอาหมวกกั้นน็อคกระแทกใส่ลำตัวอาร์ทอย่างแรงเพื่อส่งคืน แล้วเดินออกไปโดยทิ้งให้อาร์ทมองกระจกข้างมอเตอร์ไซค์ที่ห้อยร่องแร่งพังยับด้วยสีหน้าไม่ดี

เน็กซ์ที่อยู่ในคาราโอเกะเอาสมุดรายชื่อเพลงมาเปิดไล่ดู แต่พุชชี่นั่งกอดอกมองอย่างหงุดหงิด

พุชชี่เสียงแข็ง “เน็กซ์..เธอพาชั้นมาที่นี่ทำไม”
“มาคาราโอเกะ..จะให้มาเตะบอลเหรอไงป้า..ถามได้”
พุชชี่ลุกพรวด “เด็กบ้า..ชั้นไม่ได้ถามว่ามาคาราโอเกะทำไม ไม่เข้าใจที่ถามเหรอไง”
“เข้าใจ แต่ไม่อยากพูด”
“งั้นชั้นกลับ” พัฒศรีคว้ากระเป๋าถือ
พุชชี่เดินไปที่ประตูแต่เน็กซ์เดินไปขวาง
“หลบไปเลยนะ” พุชชี่ว่า “วันนี้เธอกวนประสาทชั้นมาทั้งวันแล้ว ขอเถอะเน็กซ์ อีกนิดเดียวจริงๆ เส้นเลือดในสมองชั้นคงต้องแตกตายเพราะเธอ”
“ผมขอโทษ” เน็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและจริงใจ
พุชชี่ชะงัก “ว่าไงนะ”
เน็กซ์พูดเสียงดังขึ้นและจริงจังขึ้น “ผมบอกว่าผมขอโทษ”
พุชชี่ยังไม่เชื่อหูว่าเน็กซ์จะเป็นฝ่ายพูดขอโทษเลยหรี่ตามองอย่างจับผิด
“ไม่ต้องมองจับผิดผมแบบนั้นหรอกป้า..ผมรู้ตัวเองดีว่าเลี้ยงหมาอยู่ในปากไว้หลายตัว บางครั้งก็ตั้งใจปล่อยให้มันเห่า แต่บางครั้งที่ไม่ตั้งใจมันก็ดันทะลึ่งเห่าโดยไม่สั่ง” เน็กซ์บอก
ทันใดนั้นเน็กซ์ก็ยกมือขึ้นมาตบแก้มตัวเองจนเสียงดังเพี้ยะ พุชชี่ตกใจ
“ไอ้ตัวที่ทะลึ่งเห่าใส่ป้าวันนี้.. ผมสั่งสอนมันให้แล้วนะ”
“แต่มันไม่ได้เห่าใส่เฉยๆนะ มันยังกัดชั้นจนเลือดซิบเลย สั่งสอนแค่นั้นมันคงไม่พอหรอก”
เน็กซ์ถาม “แล้วจะให้สั่งสอนแบบไหน”
“ตบลืมแบ” พุชชี่ยกหมัดชูกำปั้นแล้วทำหน้าดุสุดฤทธิ์
เน็กซ์เหวอ “เฮ้ย...จะชกเลยเหรอป้า”
“ใช่..หมาในปากเธอจะได้เข็ดเลิกกัดชั้นสักที”
“ได้...ป้า” เน็กซ์หลับตา
พุชชี่ง้างหมัดจะชก เน็กซ์หลับตาปี๋ยอมให้ชก แต่หมัดของพุชชี่กลับค้างกลางอากาศห่างจากหน้าเน็กซ์ไม่ถึงนิ้ว เน็กซ์ค่อยๆลืมตามอง
“ทำไมไม่ชกล่ะป้า”
“ชั้นก็อยากจะชกให้เธอหน้าแหก ปากเจ่ออยู่หรอก แต่แค่แพตตี้เอากุหลาบทิ่มหน้าเธอ จนต้องนอนโรงพยาบาลไปคืนนึง ชั้นก็เสียรายได้ไปตั้งเยอะแล้ว”
“โห...งก !!”
พุชชี่ยิ้มชอบใจ “นี่ใคร..ชั้นมาดามพุชชี่นะยะ”
“งั้นก็หายโกรธแล้วใช่มั้ยป้า”
“ยัง !! ในเมื่อเธอพาชั้นมาคาราโอเกะหวังจะทำให้ชั้นสบายใจ ถ้าเธอร้องเพลงนี้ได้ ชั้นจะลืมให้หมดว่าเคยโกรธเธอ”
เน็กซ์ถาม “ร้องเพลง ?”
“ใช่...”
“เพลงอะไรป้า?”
เน็กซ์มองพุชชี่ด้วยความสงสัยว่าเธอจะให้ร้องเพลงอะไร

ที่หน้าจอ LED ขนาดใหญ่ปรากฏ MV คาราโอเกะเพลง “กรุณาฟังให้จบ” ของ แช่ม แช่มรัมย์ เริ่มต้นตรง “กรุณาฟังๆ ฉันให้จบๆๆ ......” ทำเอาเน็กซ์ถึงกับอึ้งโดยเฉพาะท่อนฮุคที่เป็นแรปปราบเซียนสุดๆ
“หลับตาลงก็เห็นแต่ใบหน้าเธอ กี่เช้าตื่นมาก็เจอว่าคิดถึงเธออยู่เป็นประจำ ใจมันก็ลอยออกไปหาเธออยู่ทุกเช้าค่ำ ไม่รู้จะทำยังไง อยากมีเธออยู่เคียงข้างกาย ให้เธอเป็นคนรักคนสุดท้าย ตลอดชีวิตไม่คิดให้ใคร
แค่เธอผู้เดียวที่ใจฉันเห็นว่าใช่ ถ้ายังไม่มีผู้ใดได้ใจ ก็ถือโอกาสตรงนี้บอกกันซะเลย.....จะคิดยังไงกับฉัน ก็แล้วแต่เธอ”
พุชชี่กดหยุดเพลงเอาไว้แล้วยิ้มร้ายกับเน็กซ์
“ว่าไง..ถึงกับหน้าซีดเลยเหรอ”
“อู้ย..ไม่ซีดได้ไง..นี่มันเพลงปราบเซียนชัดๆ”
“ก็ไหนบอกว่าอยากปลอบใจชั้น อยากให้ชั้นหายโกรธไง” พูดจบแล้วพัฒศรีก็ยื่นไมโครโฟนให้
“ผมร้องเพลงไม่เก่งนะป้า ตอนอยู่บึงโขงหลงเพื่อนผมทำวงดนตรีแล้วให้ผมร้องนำ แต่ ร้องได้แค่เพลงเดียว มันก็ไล่ให้ผมไปยืนถือกีต้าร์ทำหน้าหล่อเฉยๆรอเรียกสาวๆให้มาดู”
พุชชี่ยิ้มร้ายแล้วตบแก้มเน็กซ์เบาๆ “เด็กน้อยจ๊ะ...ถ้าคิดจะง้อผู้หญิง อยากโชว์แมน ก็อย่าอ้าง โน่นนี่นั่น..แต่ต้องทำเลยจ้ะ ผู้หญิงเขาถึงประทับใจ”
เน็กซ์ตัดสินใจ “ก็ได้.. จัดมาเลย” เน็กซ์คว้าไมโครโฟนจากพุชชี่มาอย่างมั่นใจ

เน็กซ์ปั้นหน้าเอาจริง พุชชี่ยิ้มและเอารีโมทกด Play ต่อ แต่คราวนี้เป็นแบบตัดเสียงร้องโดยเนื้อร้องยังเป็นเพลงท่อนเดิมอีกครั้ง

ภาพ MV ถูก Play ที่เดิมอีกครั้ง คราวนี้มีแต่ดนตรีกับตัวหนังสือเนื้อเพลง
 
เน็กซ์หน้าเครียดขณะมองที่หน้าจอคาราโอเกะเพลง ‘กรุณาฟังให้จบ’ เริ่มเข้าท่อนฮุคปราบเซียน เน็กซ์สูดลม หายใจตั้งสติสุดฤทธิ์แล้วเริ่มร้อง
“กรุณาฟังๆ ฉันให้จบ จบ จบ แล้วจะบวกจะลบก็ตามใจ ถ้าเธอมีเวลาพอให้ รบกวนได้ช่วยฟังความในใจสักนิดนึง.......หลับตาลง....”
ท่อนฮุคร้องเร็วเป็นจรวด เน็กซ์พยายามร้องตามแต่มั่วดำน้ำจนลิ้นพันกันฟังแล้วตลกจนพุชชี่อดปล่อยขำออกมาไม่ได้ เน็กซ์มั่วดำน้ำไปต่อไม่ไหวเพราะกลายเป็นตัวตลกให้พุชชี่ขำกลิ้งเลยรีบกดหยุดเพลง
“ขำมากมั้ยป้า”
พุชชี่เยาะเย้ยสุดฤทธิ์ “มาก ฮ่าๆๆๆ”
เน็กซ์ปั้นหน้าเซ็งที่คราวนี้กลายเป็นฝ่ายโดนหัวเราะเยาะ พุชชี่ได้ทีก็ซ้ำเติม
“ไงล่ะเด็กน้อย..ไอ้ท่าทางมั่นใจ เก๋าๆแบบเมื่อกี้นี้น่ะ หายไปไหนหมดจ๊ะ”
“ผมบอกว่าผมทำได้ผมก็ต้องทำได้”
“เหรอ....แต่เมื่อกี้นี้ลิ้นพันกันจนฟังไม่เป็นภาษาคนเลยนะจ๊ะ” พัฒศรีขำ
“ให้โอกาสผมหน่อยสิป้า..ขอผมซ้อมอีกแป๊บนึง รับรอง..เป๊ะแน่”
พุชชี่กอดอกมองครุ่นคิด “ก็ได้..ถ้าน้องกล้าขอ พี่ก็กล้าให้..โอป่ะ”
“โอ !!” เน็กซ์ตอบ
“งั้นให้เวลาซ้อมไปก่อนแล้วกัน ขอตัวเข้าห้องน้ำ กลับมาเมื่อไหร่หวังว่าจะ “โอ” อย่างที่อวด นะจ๊ะเด็กน้อย”
พุชชี่ยิ้มกวนแล้วแกล้งหยิกแก้มฉีกยิ้มเน็กซ์อย่างเยาะเย้ยแล้วออกจากห้องไป เน็กซ์มองตามด้วยสีหน้าตั้งใจสุดๆ เน็กซ์เอารีโมทมากดทีวีตั้งเพลงย้อนกลับไปท่อนเดิมเพื่อซ้อมร้องเพลงท่อนฮุคอีกครั้ง

พุชชี่เปิดประตูออกมาจากห้องแล้วมองผ่านกระจกใสประตูไปที่เน็กซ์ที่เริ่มตั้งใจฝึกท่องฮุคปราบเซียนแล้วอมยิ้มชื่นชม
“เด็กบ้า..อยากปลอบใจชั้นถึงกับต้องลงทุนขนาดนี้เลย..แล้วจะโกรธเธอลงได้ไง”
พุชชี่ยิ้มมีความสุขเมื่อคิดว่านี่คือความน่ารักสดใสของเน็กซ์ที่ทำให้เธอประทับใจ พุชชี่เดินออกไปทางห้องน้ำ เน็กซ์ฝึกซ้อมร้องท่อนฮุคอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ

พุชชี่ที่อารมณ์ดีขึ้นเปิดก๊อกน้ำล้างมือ เธอเอาทิชชู่เช็ดมือ ส่องกระจก แล้วหยิบกระดาษซับมันมาซับหน้าตามปกติของผู้หญิง ก่อนจะมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ
“ถ่วงเวลาให้เยอะแล้ว กลับไปถ้าทำไม่ได้..เธอโดนชั้นล้อทั้งคืนแน่”
พุชชี่กำลังจะออกจากห้องน้ำแต่โทรศัพท์มือถือดังพอดีเลยหยิบมาดูก็เห็นเป็นเบอร์ติณณภพ
“พี่ติณ....”
พุชชี่ชะงักแล้วทำหน้าครุ่นคิดว่าจะรับหรือไม่รับสายดี

เน็กซ์ถือไมค์ซ้อมร้องเพลงท่อนฮุคอย่างตั้งใจแต่ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก พุชชี่รีบเปิดประตูกลับเข้ามาหาเน็กซ์
“หายไปตั้งนาน..คิดจะต่อให้ผมเหรอป้า มาผมพร้อมแล้ว” เน็กซ์พูดจบก็ทำท่าจะร้องให้ฟัง
“หยุดก่อนเน็กซ์..พี่ติณกำลังจะมาที่นี่”
“เขารู้ได้ไงว่าป้าอยู่ที่นี่”
“ก็เขาโทรหาชั้น”
“แล้วบอกเขาทำไม”
“ก็แล้วทำไมชั้นถึงบอกเขาไม่ได้ล่ะ”
“ก็น้องสาวเขาพยายามกีดกันป้า แล้วป้าจะยังดันทุรังไปคบกับเขาอีกเหรอ”
“น้องสาวเขาไม่ชอบชั้น แต่พี่ติณไม่ได้ไม่ชอบชั้นด้วยนี่”
“แต่ว่า..”
“พอเลยเน็กซ์..ไม่ต้องเถียงชั้น ชั้นขอร้องนะ เรื่องน้องสาวพี่ติณห้ามเธอพูดให้พี่ติณรู้ เด็ดขาด..เข้าใจมั้ย”
เน็กซ์ยังเงียบแต่มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ
“ชั้นขอบใจมากที่เธอเป็นห่วงชั้น พยายามพาชั้นมาปลอบใจที่นี่ ชั้นหายโกรธเธอแล้ว แต่สำหรับเรื่องนี้ขอให้มันเป็นปัญหาของชั้นคนเดียวได้มั้ย รับปากชั้นสิเน็กซ์..เน็กซ์”
เน็กซ์นิ่งมองพุชชี่ศรีด้วยแววตาที่ยังดื้อรั้นอยู่บ้าง ระหว่างนั้นเองติณณภพก็เปิดประตูเข้ามา
“น้องพัฒ” ติณณภพไม่แปลกใจที่เห็นเน็กซ์เพราะเขาโทรคุยกับพัฒศรีแล้ว “สวัสดีเน็กซ์”
“สวัสดีครับกัปตัน” เน็กซ์ทัก
พัฒศรีพูด “นั่งก่อนค่ะพี่ติณ”
ติณณภพนั่งลงที่โซฟาในห้องใกล้ๆ กับพัฒศรี
“ทำไมพี่ติณมาถึงเร็วจังเลยคะ”
“ตอนโทรถามน้อง พี่ขับรถอยู่ใกล้ๆแถวนี้เอง”
เน็กซ์แขวะ “บังเอิญจังเลยนะครับ”
“ไม่ใช่บังเอิญหรอก พี่กำลังจะไปหาพุชชี่ที่บ้านอยู่แล้ว ร้านนี้ก็อยู่ระหว่างทางไปพอดี” ติณณภพว่า
“นั่นสินะครับ” เน็กซ์พูดแบบจิกกัด “แล้วกัปตันไม่ต้องอยู่เฝ้าบ้านกับน้องสาวเหรอครับ”
พัฒศรีชะงัก “เน็กซ์ !!”
“มาดามเขาเล่าให้ผมฟังเรื่องขโมยเข้าบ้านพี่น่ะครับ”
ติณณภพพูดกับเน็กซ์ “ไม่มีอะไรหรอก” ติณณภพพูดกับพัฒศรี “เพื่อนเขาไม่สบาย ตุลเขาก็เลยไปเยี่ยม พี่ก็เลยแวะมาหาน้องพัฒได้ไงจ๊ะ”
ติณณภพตอบเน็กซ์แล้วหันมายิ้มให้พัฒศรี พัฒศรียิ้มรับติณณภพแต่แอบขยับเท้าแล้วกระทืบแรงๆลงบนเท้าเน็กซ์ เน็กซ์สะดุ้งโหยง ติณณภพมองด้วยความสงสัย พัฒศรีจ้องหน้าเน็กซ์ตาเขม็ง เน็กซ์มองพัฒศรีแล้วตัดสินใจพูด
“วันนี้มาดามเขาไปรับผมออกจากโรงพยาบาล เห็นผมเจอแต่เรื่องเครียดๆ มาตลอด เลยพาผมมาร้องเพลงให้สบายใจ ตอนนี้ผมสบายใจแล้ว ขอฝากมาดามให้พี่ต่อเลยแล้วกันนะครับ”
มีเสียงตัดพ้ออยู่ในคำพูดของเน็กซ์นิดหน่อยแล้วเขาก็ลุกจะออกไป พัฒศรีโล่งอกที่เน็กซ์ไม่พูดเรื่องตุลยา แต่ติณณภพกลับเรียกเน็กซ์ไว้
“เดี๋ยวสิเน็กซ์ ..ถ้ากำลังสนุกกันอยู่ แล้วจะรีบกลับไปทำไม อยู่ด้วยกันต่อเถอะ”
“จะดีเหรอครับ..พี่สองคนอาจจะอยากอยู่ด้วยกันตามลำพัง” เน็กซ์ว่า
ติณณภพหันมายิ้มกับพัฒศรีแล้วโอบไหล่เธอ “ร้องเพลงด้วยกันสองคนไม่สนุกหรอก อยู่ด้วยกัน เยอะๆสิ..สนุกดี จริงมั้ยน้องพัฒ”
“เอ่อ...ค่ะพี่ติณ”
เน็กซ์มองทั้งคู่ที่กำลังจะสวีทกันแล้วก็ยิ้มร้าย “งั้นถ้าพี่ไม่คิดว่าผมเป็น กขค. ผมก็ขออนุญาตเลยนะครับ” เน็กซ์ยื่นไมโครโฟนให้ติณณภพทันที “สักเพลงนึง เดี๋ยวผมเลือกให้”
ติณณภพมองเน็กซ์แล้วรับไมโครโฟนมาอย่างไม่ระแวงอะไร ในขณะที่เน็กซ์แอบยิ้มเจ้าเล่ห์จนพัฒศรีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
 
เน็กซ์เอารีโมทมากดเปิดเพลงแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

ที่หน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏชื่อเพลง ‘กรุณาฟังให้จบ’ ขึ้นมา ติณณภพอึ้งไป
 
“เอาเพลงนี้เลยเหรอ”
“ครับพี่ พี่เคยฟังมั้ยครับ” เน็กซ์ถาม
“ก็เคยบ้าง”
“งั้นดีเลยครับ มาดามเขาชอบเพลงนี้มาก บ่นอยากฟังตั้งแต่เข้ามาแล้ว”
“น้องพัฒชอบเพลงนี้เหรอ.. งั้นเดี๋ยวพี่จะร้องให้ฟังแล้วกัน”
“เอ่อ..คือ..”
ทันใดนั้นเมโลดี้ก็เริ่มดังขึ้น ติณณภพลุกยืน เขาหันไปมองจอแล้วก็ตั้งใจจะร้อง พัฒศรีหันมามองตาขวางใส่เน็กซ์แล้วดุเบาๆ
“นี่..ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย พี่ติณเขาเป็นผู้ใหญ่นะ”
“เป็นผู้ใหญ่แล้วไง..ผู้ใหญ่จะดำน้ำร้องเพลงรั่วให้คนอื่นเห็นไม่ได้เหรอป้า”
“เธอ !!”
พัฒศรียังไม่ทันจะด่าต่อ ติณณภพก็เริ่มร้องไปตั้งแต่ต้นจนเข้าสู่ท่อนฮุคปราบเซียน เน็กซ์ยิ้มร้ายเตรียมปล่อยขำ แต่ทว่าติณณภพกลับร้องได้คล่องและสนุกมาก “ถ้าเธอมีเวลาพอให้ รบกวนได้ช่วยฟังความในใจสักนิดนึง. หลับตาลงก็เห็น แต่ใบหน้าเธอ กี่เช้าตื่นมาก็เจอว่าคิดถึงเธออยู่เป็นประจำ ใจมันก็ลอยออกไปหาเธอ อยู่ทุกเช้าค่ำ ไม่รู้จะทำยังไง อยากมีเธออยู่เคียงข้างกายให้เธอเป็นคนรักคนสุดท้าย ตลอดชีวิตไม่คิดให้ใคร แค่เธอผู้เดียวที่ใจฉันเห็นว่าใช่ ถ้ายังไม่มีผู้ใดได้ใจ ก็ถือโอกาสตรงนี้บอกกันซะเลย.....จะคิดยังไงกับฉัน…ก็แล้วแต่เธอ”
เน็กซ์อิึ้ง พัฒศรีถาม
“พี่ติณ !! พี่ติณร้องได้ไงคะเนี่ย”
“มันก็ไม่ได้ยากเกินความพยายามนี่คะน้องพัฒ”
เน็กซ์เริ่มพาล “แต่พี่เป็นกัปตันขับเครื่องบินนะ”
“อ้าวน้อง..ไม่มีกฏการบินข้อไหนห้ามรับนักบินที่ชอบร้องคาราโอเกะนะครับ”
เน็กซ์หน้าม้าน พัฒศรีแอบขำเน็กซ์ที่เป็นฝ่ายเสียหน้า
“งั้นน้องขออีกรอบ แล้วขออีกหลายๆเพลงเลยได้มั้ยคะพี่ติณ” พัฒศรีถาม
“ได้สิ เก่าใหม่ แนวไหนพี่ได้หมด น้องพัฒชอบเพลงไหนเลือกมาได้เลยจ้ะ”
ติณณภพร้องต่ออย่างมืออาชีพ เน็กซ์มองติณณภพแล้วหัวเสียไม่สบอารมณ์

แก้วตายื่นหน้าเข้ามาจากประตูทางเข้าแล้วมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง แก้วใสตามเกาะหลังแม่แจ
“เป็นไงคะ.. มีอะไรผิดปกติมั้ย” แก้วใสถาม
“เดี๋ยวสิ..ขอแม่ดูให้แน่ใจก่อน”
แก้วตากวาดตามองในห้องโถงอีกครั้งแล้วเห็นชายฉกรรจ์คนหนึ่งสวมแว่นดำท่าทางดูเหมือนพวกมาเฟียนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โถงคอนโดฯใกล้ลิฟต์ แก้วตาตกใจจึงหันขวับมาที่แก้วใส
“เจอคนนึงท่าทางไม่น่าไว้วางใจ”
“ไหนคะ” แก้วใสรีบชะโงกหน้าไปดูแล้วก็ตกใจ “ท่าทางน่ากลัวจริงๆด้วยค่ะ..แก้วว่านังเมียหลวงนั่น มันต้องส่งคนมาดักรอสาดน้ำกรดแก้วแน่ๆเลย”
แก้วตายิ่งตกใจ “แล้วเอาไงดีล่ะ”
แก้วใสรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดเบอร์ “แก้วจะโทรไปบอกพี่เอกให้เขามารับแก้วไปนอนค้าง ที่โรงแรม”
แก้วตารีบแย่งโทรศัพท์คืนทันที “แกจะบ้าเหรอนังแก้ว แค่นี้ยังทำชีวิตแกกับชั้นพังไม่พออีกเหรอ”
“แต่ทุกครั้งที่เจอกัน พี่เอกเขาบอกว่าเขารักแก้วมากกว่าเมียเขานะแม่”
แก้วตาจิ้มกะบาลลูกสาว “นังโง่..เวลาผู้ชายมันอยากสนุกกับแก ให้ขุดผีบรรพบุรุษเมียมันมาด่ามันก็ ทำได้ ไม่เห็นเหรอไงข่าวฉาวโฉ่กระฉ่อนแบบนี้ สุดท้ายมันก็ไปง้อเมียไม่ง้อแก”
แก้วใสหน้าเศร้า “แล้ว...เราจะทำยังไงล่ะแม่” แก้วใสนึกได้ “เรียกรปภ.มาลากคอมันไป”
แต่พอสองแม่ลูกมองไปอีกทีชายฉกรรจ์ก็ลุกเดินไปยืนคุยกับรปภ.อย่างคุ้นเคย แก้วใสหน้าเสีย
“มันรู้จักกับรปภ.ด้วยค่ะแม่”
แก้วตาพยายามคิด “งั้นรอให้มันเผลอ แล้วรีบวิ่งไปขึ้นลิฟต์ ยังไงห้องเราก็ปลอดภัยที่สุด”
แก้วใสพยักหน้า แล้วสองแม่ลูกก็ชะโงกหน้ามองท่าทีของชายที่น่าสงสัยคนนั้นต่อ

สองแม่ลูกเห็นรปภ.กับชายฉกรรจ์ยืนคุยกันอยู่ รปภ.เดินไปที่อื่น ส่วนชายฉกรรจ์ยืนหันหลังให้ลิฟท์เหมือนเปิดโอกาสให้สองแม่ลูกรีบฉวยโอกาสวิ่งจู๊ดพุ่งไปที่ลิฟต์ทันที สองแม่ลูกหยุดเอี๊ยดที่หน้าลิฟต์ แก้วตารีบกดเรียกลิฟต์ แต่ลิฟท์ถูกใช้งานอยู่
“เร็วสิแม่”
“แกจะมาเร่งชั้นได้ไง..ต้องเร่งลิฟต์สิ” แก้วตาว่า
แก้วตารีบกดเรียกลิฟต์ ตัวเลขลิฟต์กำลังเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ทันใดนั้นชายฉกรรจ์แว่นดำก็เดินเข้ามาข้างหลังแล้วเรียกเสียงดุขึงขังจนน่าตกใจ
“คุณแก้วใส !!”
แก้วใสกับแก้วตาสะดุ้งโหยงหันมามองชายฉกรรจ์ที่ล้วงมือเข้าไปในเสื้อคล้ายจะหยิบอะไรบางอย่างออกมา
“ต้องเป็นน้ำกรดแน่ๆเลยแม่..ทำไงดี”
“อย่าไปยอมมัน.. เราต้องสู้ !!” แก้วตาบอก
แก้วตาจิกหน้าเอาเรื่องแล้วปรี่เข้าไปใช้กระเป๋าถือฟาดใส่ชายฉกรรจ์ไม่ยั้ง แก้วใสเห็นแม่เปิดก็รีบตาม สองแม่ลูกช่วยกันรุมทึ้งฟาดและตีไม่ยั้ง พอชายฉกรรจ์ล้มลง แก้วใสก็หันไปยกถังขยะสเตนเลสหน้าลิฟต์ขึ้นมา
“กลับไปบอกนังเมียหลวงนั่นเลยนะ...มันทำอะไรชั้นไม่ได้หรอก” แก้วใสว่า
ชายฉกรรจ์เหวอ “ไม่..ไม่ใช่ครับ..อย่า..อย่า !”

แก้วใสทำหน้าเหี้ยมเอาเรื่องก่อนจะทุ่มถังขยะใส่ทันทีดังโครม
 
อ่านต่อตอนที่ 9
กำลังโหลดความคิดเห็น