xs
xsm
sm
md
lg

มาดามดัน ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาดามดัน ตอนที่ 3

พุชชี่ลากคอเน็กซ์พาออกมาในสภาพที่มีทิชชู่อุดจมูก เพราะโดนเล่นงาน จนเลือดกำเดาไหลมาที่หน้าบ้าน

"ปล่อยผมเลยป้า ผมไม่เอาด้วยแล้ว ที่นี่มันนรกชัดๆ อู้ย...ชักไม่แน่ใจแล้วว่าป้าน่ะ เป็นผู้หญิงจริงๆหรือกะเทยแปลงเพศมา แรงถึงได้มหาศาลอย่างกับ..."
"กับอะไร...พูดให้ดีนะ ไม่งั้น โดนหนักกว่าเมื่อกี้นี้แน่"
"โห...เห็นว่าเป็นผู้หญิงนะเลยไม่อยากสู้ แต่เล่นยกขาชี้หน้าผมอย่างนี้ ผมขอสู้"
"ไอ้...ไอ้เด็กบ้า นี่แขนนะไม่ใช่ขา"
"อ้าวเหรอ...เห็นต้นแขนใหญ่อย่างกับต้นขา"
หล่อนเหวอจัดเต้นเร่าๆอย่างกับอยากฆ่ามัน
"ไอ้เด็กนรก ถ้าชั้นฆ่าแกได้ ชั้นจะฆ่าแกเดี๋ยวนี้"
"แต่ฆ่าผมไม่ได้เพราะผมเป็นตัวทำเงิน...ฮ่าๆ"
"ได้ ชั้นมีวิธีดันสันดานแก แกจะเจ็บอย่างที่ไม่เคยเจ็บมาก่อน โดยที่ชั้นไม่ต้องลงมือเอง"
หล่อนเดินหน้าตึงโกรธจัดไปเปิดประตูรถเจ้าม้าป่าสุดเท่
"เข้าไป" หล่อนสั่ง
เน็กซ์มองหน้าระแวง
"มองอย่างนี้กลัวอ่ะเด่ะ โธ่เอ้ย เก่งแต่ปาก" หล่อนว่า
"ใครว่ากลัว คนอย่างไอ้บักหมา เจ็บไม่กลัว กลัวไม่เจ็บหรอกครับ"
เน็กซ์เข้าไปนั่งในรถวางท่ากวนๆใส่ หล่อนแอบยิ้มร้ายแล้วตามไปนั่งที่คนขับก่อนจะเร่งเครื่องออกไป
ลอร่าชะโงกหน้าออกมาจากมุมในบ้านที่มือยังกำโทรศัพท์คุยกับเจ๊เมี่ยงต่อรองราคาไม่เสร็จ
"ราคานี้ไม่แพงหรอกค่ะเจ๊ เพราะลอร่าไม่เคยเห็นมาดามระริกระรี้เนื้อเต้นอยากปั้นใคร เท่าเด็กคนนี้มาก่อนเลย"

เจ๊เมี่ยงฟังลอร่าแล้วสีหน้าครุ่นคิดอย่างสนใจเพราะนางก็รู้จักนิสัยพุชชี่ดี
"คนอย่างนังพุชชี่ถ้าไม่มั่นใจมันไม่จัดเต็มแน่ ก็ได้ ชั้นตกลงตามราคาที่หล่อนเรียก แต่ถ้าเด็กใหม่นังพุชชี่ไม่เด็ดจริงล่ะก็ ชั้นทวงตังค์หล่อนคืนแน่"
เจ๊เมี่ยงกดตัดสายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมารอดูรูปที่ลอร่าส่งมา แต่ภาพที่หน้าจอไอโฟนของเจ๊เมี่ยงไม่ขึ้นสักที หมุนติ้วๆๆ เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดี
"หมุนติ้วๆๆ ตลอดๆ สามจีแล้วเหรอยะเนี่ย !"
นางหน้าหงุดหงิดอารมณ์ไม่ดี แต่ตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่หน้าจอไอโฟนจนรูปเน็กซ์ค่อยโหลดเข้ามาช้าๆ จนในที่สุดภาพก็ขึ้นเต็มหน้าจอ พอนางเห็นรูปเน็กซ์ก็ถึงกับผงะ เว่อร์
"ไม่...โอ้วมายก๊อด ไม่จริง ไม่จริง ชั้นไม่เชื่อ"
นางมือสั่นปากสั่นระริก ขนหัวลุกเกรียว ระหว่างนั้นหมอกี้เดินเข้ามาตาม
"พี่เมี่ยงครับ ทำอะไรอยู่น่ะพี่ พี่ๆนักข่าวเขารออยู่นะครับ"
"คุณน้องหมอคะ...ช่วยตบหน้าพี่หน่อยได้มั้ย"
หมอกี้งง
"ตบทำไมครับพี่"
"ทำเถอะค่ะ พี่ขอร้อง ตบแรงๆให้พี่ได้สติ"
หมอกี้ยังไม่กล้าตบ
"ตบเลยค่ะ ตบพี่เลย"
"ก็ได้ครับ พี่เมี่ยง"
หมอกี้กำหมัดแน่นแล้วชกหน้าเจ๊เมี่ยงเต็มๆ นางเหวี่ยงหมุนตัวเคว้งหน้าโย้ด้วยความเจ็บมาก
"อู้ย...พี่ให้ตบค่ะ ไม่ได้ให้ชก"
"โทษทีครับพี่...ผมถนัดชกไม่ถนัดตบ"
"ค่ะๆๆ ไม่เป็นไร"
หล่อนเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูรูปเน็กซ์อีกที
"นี่ชั้น...ชั้นไม่ได้ฝันไปจริงๆ นี่มันยิ่งกว่าหล่อขั้นเทพอีก นังพุชชี่ แก...แก !"

เน็กซ์โดนทั้งหมอทั้งพยาบาลจับนั่งที่เก้าอี้ทำฟัน หมอต้องเอาเข็มขัดหนังรัดข้อมือเน็กซ์ไม่ให้ลุกหนี
"ป้าจะทำอะไรผมเนี่ย ผมนึกว่าป้าพูดเล่น เรื่องจะเอาหมาออกจากปากผม"
หล่อนตีหน้าโหด
"ใครว่าชั้นพูดเล่นยะ ก็เธอบอกว่ามีเป็นฝูง ลำพังชั้นคนเดียวเอาออกเองคงไม่ได้ ชั้นเลยต้องพึ่งคุณหมอไง"
"แต่นี่มันไม่สนุกแล้วนะป้า ปล่อยผม บอกให้ปล่อย"
"เธอหนีไปไหนไม่รอดแล้วล่ะเน็กซ์ เพราะนี่เป็นหนึ่งในขั้นตอนเริ่มต้นของการปั้นเธอให้ เป็นซุป’ตาร์ รอยยิ้มคือเสน่ห์อย่างแรกที่จะมัดใจแฟนๆ เพราะฉะนั้นชั้นจะปล่อยให้เด็กชั้นไปเจอหน้าใครไม่ได้หรอก ถ้าปากเหม็น ฟันไม่สวยไม่วิ้งค์"
หมอบอก
"น้องครับ น้องควรจะอยู่เฉยๆนะครับ เพราะถ้าน้องดิ้นเนี่ย หมอจะทำงานลำบาก"
"แต่ฟันผมไม่เป็นอะไรนะหมอ ฟันผมแข็งแรงดี"
"ของอย่างนี้ดูด้วยตาเปล่าไม่ได้ครับ ต้องตรวจอย่างละเอียดถึงจะรู้"
"จัดการเลยค่ะหมอ ตรวจให้ละเอียดยิบเลยค่ะ"
หมอพยักหน้ารับแล้วให้พยายามกดปุ่มให้เก้าอี้เอนราบ เน็กซ์ร้องโวยวายเสียงดังและพยายามดิ้นแต่ก็ถูก พยาบาลจับตัวเอาไว้ จากนั้นหมอก็เอาเครื่องถ่างปากให้อ้ากว้างๆ หมอกับพุชชี่ชะโงกดูปากที่อ้ากว้างแล้วคุยกัน
หล่อนตกใจแทบผงะ
"อั๊ยยะ ! หมอคะ นี่ช่องปากคนหรือโถส้วมปั้มน้ำมันคะ อี๋..."
"แสดงว่าน้องเขาไม่เคยตรวจสุขภาพฟันเลยน่ะสิครับ"
"ขอโทษค่ะหมอ พุชชี่เอางานหนักมาให้หมอเลย"
"ไม่เป็นไรครับ สำหรับคุณพุชชี่หมอเต็มที่อยู่แล้ว"
"งั้นลงมือเลยค่ะหมอ จัดเต็มทุกอย่างเอาให้เด็กคนนี้เพอร์เฟคสุดๆไปเลย"
หมอพยักหน้ารับ แล้วหยิบเอาที่กรอฟันขึ้นมาเปิด เสียงเครื่องกรอฟันดังกระหึ่มจนน่ากลัว เน็กซ์หน้าเหวอสยองสุดฤทธิ์ พยายามดิ้นแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะโดนล็อกแน่นเลยได้แต่ส่ายหน้า ไม่...ไม่...ไม่

พุชชี่เดินยิ้มชอบใจออกมาที่โถง
"หึ...ก็แค่นี้แหละไอ้น้อง ต่อไปจะได้เข็ดไม่กล้าหือกับมาดามพุชชี่อีก"
"น้องพัฒ"
หล่อนชะงักไปทันที เมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆของติณณภพที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใจเธอก็เต้นตึกๆ
"พี่ติณ...นี่พี่มาที่นี่ได้ไงคะเนี่ย"
"พี่โทร.คุยกับหนูดอก พอมีเวลาว่างคุยกับพี่ได้มั้ย"
"เอ่อคือ..."
หล่อนลำบากที่จะตอบ ยิ่งเสียงร้องโหวกเหวกของเน็กซ์ที่ดังออกมาจากห้องหมอยิ่งทำให้หล่อนลำบากใจ
"น้องกำลังทำงานอยู่ค่ะพี่ติณ เด็กปั้นใหม่คนนี้ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้ ไว้เสร็จงาน แล้วคืนนี้น้องจะไปฉลองวันเกิดกับพี่เหมือนเดิมนะคะ"
ติณณภพไม่สนใจเข้าไปจับมือ
"แต่พี่ไม่อยากรอ พี่ต้องคุยกับเราตอนนี้"

ติณณภพดึงมือพาหล่อนออกไปด้วยกันทันที

ภายในร้านกาแฟในสวนสวยๆ หล่อนอยู่กับเขาตามลำพัง

"ถ้าพี่ติณเชื่อว่าน้องเป็นอย่างที่หนังสือพิมพ์เขาเล่นข่าว น้องก็ไม่โกรธหรอกค่ะ"
"พี่รู้จักเรามาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้วนะ พี่รู้ว่าพัฒศรีคนนี้ไม่ใช่มาดามพุชชี่ "
"งั้นพี่ติณก็ไม่เห็นจะต้องห่วงน้องเลย ไอ้เรื่องแบบนี้มันแทบจะเป็นส่วนหนึ่งชีวิตน้องไปแล้ว น้องรับมือมันได้ค่ะ"
"ชีวิตที่ต้องโดนสาดโคลน ต้องคอยใส่หน้ากากเข้าหากันอยู่ตลอดเวลาเนี่ยน่ะเหรอ พี่ไม่เข้าใจมันมีอะไรดีนักหนา พัฒถึงต้องมาทนอยู่"
หล่อนนิ่งไป
"ว่าไงล่ะพัฒ...พี่สงสัยตั้งแต่วันที่พัฒตามแอนเข้ามาทำงานในวงการนี้แล้ว นึกว่าหลัง จากเกิดเรื่องกับแอนแล้ว พัฒจะถอนตัวออกมาซะอีก"
"พอเถอะค่ะพี่ติณ น้องไม่เคยพูดสักคำว่าต้องทนอยู่ในวงการนี้ ตรงกันข้ามน้องมีความสุขดีและสนุกกับงานนี้มาก"
"แต่พัฒศรีไม่ใช่มาดามพุชชี่ ไม่ใช่แม้แต่นิดเดียว"
"งั้นก็แสดงว่าพี่ติณยังไม่รู้จักน้องดี น้องขอตัวนะคะ น้องมีงานต้องทำอีกเยอะ ฉลองวันเกิดปีนี้ของพี่ติณ น้องคงไปไม่ได้แล้ว น้องขอโทษด้วย... Happy Birthday ค่ะ พี่ติณ" พัฒศรีพูดด้วยสีหน้าเศร้าน้ำตาคลอ
หล่อนรีบลุกออกไป เขาตกใจรีบลุกจะตาม แต่ไม่ทันมองทางเลยไปชนกับพนักงานที่ยกถาดกาแฟมาเต็ม ถาดจนแก้วกาแฟตกแตกกระจาย..เพล้ง !
"น้องพัฒ..น้องพัฒ !"

เน็กซ์เดินขาอ่อนออกมาจากห้องทำฟัน แก้มตุ่ยเพราะต้องอมสำลีเอาไว้ หน้าซีดเพราะยังเจ็บไม่หาย
"อู้ย...ยัย ยัยป้าปีศาจ เล่นซะทั้งเสียวทั้งระบมเลย"
เน็กซ์ออกมาแล้วมองหาหล่อนแต่ไม่เห็นใคร เลยหันไปถามพยาบาล
"มาดามพุชชี่อยู่ไหนแล้วครับ"
พยาบาลฟังไม่ชัดเพราะเน็กซ์อมสำลีอยู่ในปาก
"อะไรนะคะ"
"มาดามพุชชี่ อยู่...ไหน...ครับ"
"อ๋อ...ออกไปตั้งนานแล้วค่ะ"
"ไปแล้ว !"
เน็กซ์เจ็บใจเอามือกุมแก้มตุ่ยๆตัวเอง หน้าตาโกรธพัฒศรีอย่างเอาเรื่อง
"ยัยป้าปีศาจ"
เน็กซ์รีบเดินมือกุมแก้มตุ่ยออกไป แต่คล้อยหลังไม่นาน เจ๊เมี่ยงสวมแว่นดำอันโตทำเนียนมานั่งสังเกตการอยู่ครู่ใหญ่ ลดนิตยสารที่เอามาอ่านบังหน้าลงแล้วมองตามเน็กซ์อย่าง...อะฮ้า !
"โอ้วแม่เจ้า..ทำไมถึงได้หล่อกระโชกโฮกฮือแบบนี้เนี่ย ชั้นไม่ยอมแกแน่นังพุชชี่"
นางหน้าจิก ครุ่นคิดอย่างเจ็บใจ มือกำนิตยสารแน่นจน ฉีกขาดคามือ...แคว่ก!

เจ๊เมี่ยงรีบตามเน็กซ์ออกมา
"น้องคะ น้อง เดี๋ยวค่ะ"
เน็กซ์ชะงักมองนางที่ปรี่เข้ามาโพสหน้าเก๋ฉีกยิ้มละมุนให้ซะหวานเว่อร์
"พี่ขออนุญาติแนะนำตัวให้น้องรู้จักได้มั้ยคะ พี่ชื่อเจ๊เมี่ยง เมี่ยงเจิด น้องพอจะคุ้นหน้าพี่มั้ยคะ"
"รู้จัก"
นางได้ยินไม่ถนัด
"ว่าไงนะคะ"
เน็กซ์หน้าเซ็งชี้ให้ดูแก้มที่ตุ่ยเพราะมีสำลียัดอยู่ในปาก แล้วยกมือขอเวลาครู่เดียว ก่อนจะเดินไปถุยสำลีออกจากปากที่ถังขยะ นางเห็นแล้วสะดุ้ง...ยี้ แต่เพราะต้องการเอาใจหนุ่มหล่อสุดฤทธิ์เลยยอมเสียสละรีบเอาผ้าเช็ดหน้าตัวเองยื่นให้
"นี่ค่ะ เช็ดซะหน่อยนะคะ"
เน็กซ์รับผ้าเช็ดหน้าของนางมาซับปากที่เลอะน้ำลายแล้วยื่นคืนให้ นางผงะ สยอง
"ไม่เป็นไรค่ะคุณน้อง ที่บ้านพี่มีอีกหลายผืน เอาเป็นว่าพี่ขอแนะนำตัวต่อนะคะ พี่ชื่อ..."
"ไม่ต้องหรอกครับ ผมรู้จักพี่แล้ว เจ๊เมี่ยงเจิด ถ้าไม่เจิดก็เชิดใส่"
"ว๊าย รู้จักพี่ซะด้วย เขินนะเนี่ย งั้นก็ดีเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องชวนคุยอ้อมโลก ถ้าน้อง สนใจอยากเป็นดารา น้องไม่ต้องไปพึ่งใครเลยค่ะ พี่คนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยน้องได้"
นางยิ้มละไมแล้วเข้าไปโอบไหล่เน็กซ์อย่างสนิทสนมก่อนจะชี้ชวนให้ดูป้ายโฆษณาแถวนั้น
"โน่น...น้องเห็นมั้ยคะ คู่ขวัญซุปตาร์ที่กำลังดังเว่อร์ๆ ฝันหวานหวานกับหมอกี้ คู่นั้นพี่ปั้นมากับมือ ถ้าอยากดังอยากรวยชั่วข้ามคืนแบบนั้น..เจ๊เมี่ยงเจิดคือคำตอบสุดท้ายค่ะ"
เน็กซ์นิ่งมองนางอย่างครุ่นคิด
"อ๊ะๆๆ ชักสนใจแล้วใช่มั้ยคะ เอาอย่างนี้แล้วกัน น้องเก็บนามบัตรของพี่เอาไว้นะคะ มีอะไรกริ๊งกร๊างหาพี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อ้อ...อีกอย่าง เผื่อจะช่วยให้น้องตัดสินใจง่ายขึ้น"
นางขยับใกล้แล้วกระซิบชนิดเป่าหูกันสุดฤทธิ์
"เท่าที่พี่ดูจากสภาพที่พุชชี่ทำกับน้องแล้ว ขอบอกไว้เลยนะคะ สวรรค์น่ะอยู่กับพี่ ส่วนนรกน่ะต้องพุชชี่"
นางบอกแล้วถอยออกมาฉีกยิ้มละไมหวานๆ เป็นพี่ที่แสนดีสุดฤทธิ์
"พี่จะรอโทรศัพท์จากน้องนะคะ"
นางออกไปทิ้งให้เน็กซ์มองนามบัตรในมือ ... ชื่อ มัชฌิมา นามสกุล กล้าทุกทาง

บ้านพุชชี่เวลากลางคืน หล่อนกลับเข้ามาเจอหนูดอกที่รออยู่
"เน็กซ์ล่ะ"
"อยู่ในห้องค่ะมาดาม ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นคะ ก็เห็นออกไปด้วยกัน แล้วทำไมเน็กซ์ถึงนั่งแท๊กซี่กลับมาคนเดียว หรือว่าเขาเฮี้ยวเปรี้ยวกวนใส่มาดามอีก"
"เปล่า ชั้นมีธุระนิดหน่อยเลยไม่ทันได้กลับไปดูเขา"
"ธุระอะไรเหรอคะ ถึงทำให้มาดามต้องทิ้งเขาไว้"
พุชชี่ชะงักไป
"ไม่ต้องรู้เรื่องชั้นทุกเรื่องก็ได้นะ หนูดอก"
หล่อนบอกหนูดอกแล้วรีบขึ้นบันไดไปหาเน็กซ์

หล่อนเคาะประตูเรียกแข่งกับเสียงเพลง “เล่นของสูง” ที่เน็กซ์เปิดจากเครื่องเสียงในห้อง
"เน็กซ์...เน็กซ์ เปิดประตูให้ชั้นเดี๋ยวนี้ ได้ยินรึเปล่า เบาเสียงเพลงแล้วมาเปิดให้ชั้นเดี๋ยวนี้ เด็กบ้า บักหมา !"
หล่อนเคาะและเรียกจนเสียงแทบแหก แต่ประตูก็ยังล็อก เสียงเพลงยังดังต่อเนื่อง
"คิดว่าล็อกประตูแล้ว ชั้นจะเข้าไปไม่ได้งั้นเหรอ นี่มันบ้านมาดามพุชชี่นะ ไอ้เด็กบ้า"

หล่อนใช้กุญแจไขเข้ามาในห้อง แล้วรีบปิดเครื่องเสียงให้เพลงเงียบทันที ครู่หนึ่งเน็กซ์ก็รีบออกมาจาก ห้องน้ำในสภาพนุ่งผ้าขนหนู หัวยังมีฟองยาสระผมอยู่
"อะไรของป้าเนี่ย มาปิดเพลงผมทำไม"
"ก็เล่นเปิดเสียงซะดังลั่นบ้านแบบนี้ ชั้นถึงเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มาเปิดประตูให้ชั้นไง"
"อ้าว...แล้วเข้ามาได้ไง ผมล็อกประตูไว้นี่"
"ที่นี่คือบ้านของมาดามพุชชี่ เด็กของชั้นจะต้องไม่มีความลับอะไรกับชั้น กลับไปอ่าน สัญญาข้อที่ 19 เรื่องห้ามล็อกประตูห้อง ต่อไปจะได้ไม่ทำผิดกฏอีก"
เน็กซ์ทำหน้าเซ็ง
"น่าเบื่อชะมัด บ้านหรือว่าคุกกันแน่"
เน็กซ์เบ้ปากเซ็งๆแล้วจะกลับเข้าไปอาบน้ำต่อ แต่หล่อนดึงมือเอาไว้
"เดี๋ยว..ชั้นยังอบรมเธอไม่จบ ต่อไป... ถ้าเธอออกไปข้างนอกกับชั้น เธอห้ามกลับบ้านเองเด็ดขาด ต้องยืนรอจนกว่าชั้นจะมารับเธอ"
"งั้นป้าหายไปไหนมา รู้รึเปล่าว่าผมยืนรออยู่นานแค่ไหน"
"ชั้นจะไปไหนมันก็เรื่องของชั้น"
"งั้นผมจะทำอะไรก็เรื่องของผม ขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว จะอาบน้ำต่อ แต่ถ้าไม่อยากให้ผมคลาดสายตาจากป้าอีก จะตามเข้าไปดูผมอาบน้ำก็ได้นะ"
เน็กซ์ไม่สนใจปัดมือหล่อนแล้วเข้าไปอาบน้ำต่อ หล่อนจะด่าต่อเจอเน็กซ์ปิดประตูใส่หน้า..ปัง !
"เด็กบ้า...ฝากไว้ก่อนเถอะ เธอกับชั้นยังต้องเจอกันอีกหลายยก"
หล่อนหัวเสียจะออกไปจากห้อง แต่ระหว่างนั้นพลันสายตาเหลือบไปเห็นนามบัตรของเจ๊เมี่ยงวางอยู่บนโต๊ะ หล่อนรีบคว้ามาดูแล้วตาเบิกโพลงอย่างตะลึงตึงๆ

"นี่...นี่มัน !"

หล่อนเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปจังหวะที่เน็กซ์กำลังแก้ผ้าอาบน้ำอยู่ เน็กซ์ตกใจรีบดึงผ้าม่านมาบังตัว

"เฮ้ยป้า...นี่จะบ้าแล้วเหรอ ไอ้ที่เมื่อกี้นี้ท้าไปน่ะ ท้าเล่นๆนะ"
หล่อนไม่สนใจตีหน้าเอาเรื่องสุดฤทธิ์ ชูนามบัตรถาม
"นี่อะไร"
"ก็นามบัตรไง"
"ชั้นรู้ว่ามันคืออะไร แต่เธอได้มาได้ยังไง"
"ก็ตอนป้าทิ้งผมไว้ที่ร้านหมอฟัน อยู่ๆเขาก็โผล่เข้ามา ชวนผมให้ไปอยู่กับเขา"
"หา ! นี่...นี่มันกล้ามาฉกเธอหน้าด้านๆแบบนี้เลยเหรอ"
เน็กซ์พยักหน้ารับ
"อ้อ...เขาบอกผมด้วยว่า ผมจะดังกว่า รวยกว่า แล้วยังว่าอะไรอีกนะ อ๋อ สวรรค์น่ะอยู่กับพี่ ส่วนนรกน่ะต้องพุชชี่เท่านั้น"
หล่อนเหวอปรี๊ดขึ้นตาทันที
"นัง...นังเมี่ยง แก มันจะเกินไปแล้ว"
หล่อนฉุนจัดรีบออกไปจากห้องน้ำทันที เน็กซ์มองตามแล้วถาม
"จะรีบไปไหนน่ะป้า..ป้า !"

บริเวณหน้าบ้าน พุชชี่แต่งตัวทะมัดทะแมงเดินเอาเรื่องสุดๆ มีหนูดอกเดินตามหลังหน้าเหี้ยมเอาเรื่อง
"พร้อมแล้วใช่มั้ยมาดามเฟลอร์"
หนูดอกเสียงแข็งจริงจัง
"ค่ะ มาดามดัน"
พุชชี่ยิ้มมุมปากร้ายๆก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่คนขับที่เจ้าม้าป่ากับหนูดอกมือขวาคู่ใจ เสียงเครื่องบรื้นๆๆ ออกไป ลอร่าแอบชะโงกหน้าออกมาดูแล้วหน้าเสีย
"เป็นเรื่องแล้วไงเจ๊เมี่ยง...เอาไงดีเนี่ย"

ค่ำคืนนั้น ภายในโรงยิมแห่งหนึ่งมีนักมวยหุ่นล่ำๆหล่อๆมาฝึกซ้อมลงนวม ยกเวทเดินไปเดินมา พุชชี่สีหน้าเอาเรื่องเข้ามา มองหาคู่กรณีอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นเจ๊เมี่ยงกำลังยืนเชียร์หมอกี้ที่มาฝึกคิวบู๊กับครูมวยอยู่บนเวที
หล่อนกัดฟันกรอดๆ ด้วยความเจ็บใจจะปรี่เข้าไปเอาเรื่องแต่หนูดอกรีบรั้งไว้
"เดี๋ยวๆๆค่ะ มาดาม"
"ไหนว่าพร้อมลุยกับชั้นไง ถ้าป๊อดขึ้นมาก็ไปรอข้างนอก เดี๋ยวชั้นจัดการนังฉกนั่นเอง"
"หนูน่ะพร้อมลุยกับมาดามอยู่แล้วค่ะ แต่อยากให้มาดามหยุดคิดแล้วตั้งสตินี้ดส์นึง เราเพิ่งแพ้คดีนังเจ๊เมี่ยงมา ถ้ามาดามทะเล่อทะล่าไปมีเรื่องกับมันต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้ ขืนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอีกรอบ เราไม่เหลืออะไรแน่ค่ะ"
หล่อนนิ่งไป เห็นจริงอย่างที่เลขาฯสาวเตือน
"ก็จริง...งั้นต้องใช้แผนสเปน"
"แผนสเปนอะไรเหรอคะ มาดาม"
"ก็แผนกระทิงล่อกะเทยไง"
หล่อนบอกหนูดอกแล้วหันไปจับตามองเจ๊เมี่ยงอย่างเอาเรื่อง

ข้างเวที เจ๊เมี่ยงยืนสะดุ้งหวาดเสียวลุ้นเด็กที่กำลังฝึกคิวบู๊อยู่กับครูฝึก หมอกี้พลาดถูกชกเซมาที่ข้างเวทีตรงหน้านางพอดี
"ว๊าย..เบาๆหน่อยสิคะโค้ช เดี๋ยวน้องหมอของเจ๊จะเจ็บตัวก่อนถ่ายจริงนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับพี่เมี่ยง นานๆผมจะได้เล่นละครบู๊สักที ผมอยากเต็มที่"
"แหม...แต่น้องหมอเคยเรียนแต่จับมีดผ่าตัดมานี่คะ เอางี้ เจ๊หาบทอื่นให้เล่นดีกว่ามั้ย ตบจูบก็ดีนะ คนดูชอบ"
"ไม่ครับ..ตอนเซ็นต์สัญญาผมบอกแล้วนี่ครับ ผมเข้าวงการเพราะอยากหาประสบการณ์ อะไรที่ทำซ้ำๆแล้วน่าเบื่อ ผมจะไม่ทำ"
นางชะงัก
"เอ่อ...จ้ะๆ เจ๊จำได้"
"งั้นผมก็ขอบคุณครับที่พี่จะไม่รบกวนผม ไว้พรุ่งนี้เจอกันครับ"
หมอกี้ตัดบทแล้วลุกขึ้นตั้งการ์ดพร้อมฝึกคิวบู๊กับครูฝึกอีกครั้ง ส่วนนางแอบเหน็บเด็กตัวเอง
"ติสต์รับประทานเหลือเกิ้น...คุณหมอขา"
นางบ่นไปก่อนจะรู้สึกว่ามีคนมองมา พอหันไป ก็ป๊ะกับสายตายิ้มยั่วจากหนุ่มหล่อกล้ามล่ำบึ้กที่กำลัง ยกเวท เหงื่อชุ่มเปียกเสื้อกล้าม เจ๊เมี่ยงเล่นตัวทำเชิดคอ เริ่ดๆ ไม่สนใจ แล้วทำทีเดินไปกดน้ำดื่มจากตู้
นางกดน้ำพลางชายหางตามองหนุ่มหล่อล่ำ ยังเห็นเขายกเวท โชว์กล้ามแน่นๆ แล้วยิ้มให้อีก นางกลืนน้ำลาย มือสั่นเตือนตัวเอง
"ใจเย็นๆนังเมี่ยง หล่อนเป็นกุลสตรี หล่อนต้องไม่ให้ท่าผู้ชาย"
นางยังแอบชำเลืองอีกครั้ง แล้วตกใจเพราะเขาลุกเดินเข้ามาหา
"นิ่งๆไว้นังเมี่ยง กุลสตรี ท่องไว้ ชั้นเป็นกุลสตรี ต้องไม่ให้ท่าผู้ชายเด็ดขาด"
นางพยายามข่มตัวเองสุดฤทธิ์ แต่พอหนุ่มล่ำเข้ามาใกล้ปุ๊บ เจ๊เมี่ยงก็รีบเอาถ้วยน้ำที่กดจากตู้มาราดใส่เอง
"ว๊าย ! เลอะเทอะหมดเลย แย่จัง"
หนุ่มล่ำบอก
"ผมช่วยมั้ยครับ น้องสาว"
นางยิ้มหวานเว่อร์
"น้องสาวเลยเหรอคะ...โอป๊อ"

นางสบตาปิ๊งๆ แอ๊บหน้าเด็กแก้มป่องเกาหลีสุดฤทธิ์ ส่วนหนุ่มล่ำก็เอาผ้าขนหนูเช็ดเสื้อที่เปียกให้

เวลาต่อมา นางเดินควงแขนหนุงหนิงกับหล่อล่ำมาที่ลานจอดรถอู้กำเมืองคุยกันด้วยภาษาเหนือมาตลอดทาง
 
"ดีใจจังที่ได้เจอคนบ้านเดียวกัน สงสัยฟ้าจะลิขิตให้มาเจอกันนะจ๊ะ พี่ชาย"
"พี่ก็ไม่คิดว่าจะได้เจอน้องสาวคนบ้านเดียวกันเหมือนกัน สาวๆกรุงเทพยังไงก็สวยสู้คนบ้านเราไม่ได้"
"พี่ชายนี่ปากหวานจัง"
นางทำเป็นอายบิดม้วนก่อนจะเดินมาหยุดที่รถตัวเอง
"ถึงรถน้องสาวแล้ว พี่ส่งแค่นี้นะ"
"เดี๋ยวสิจ๊ะพี่ชาย ที่บ้านน้องตำน้ำพริกหนุ่มไว้ ไม่ลองไปจิ้มน้ำพริกดูหน่อยเหรอ"
"น้ำพริกหนุ่มเหรอครับ พูดแล้วก็อยากขึ้นมาทันที"
"รับรองน้ำพริกหนุ่มบ้านน้องจิ้มจกอร่อยมากๆจ้ะพี่ชาย ยิ่งได้กินกับไส้อั่วด้วยนะ"
นางสบตาชะม้ายมองหน้าหนุ่มล่ำแล้วไหลลงไปที่เป้าไส้อั่ว
"งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวไปเอากระเป๋าแป้บนึง...น้องสาวคนสวยรอพี่อยู่ที่นี่ก่อนนะ"
หนุ่มล่ำเดินกลับไป นางมองตามแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มหันไปส่องกระจกข้างรถเช็ดสวยตัวเองสุดฤทธิ์
"เมี่ยงเจิดซะอย่าง...ไม่สวยไม่เริ่ดทำไม่ได้นะเนี่ย..คริคริคริ"
เจ๊เมี่ยงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ก่อนจะชะงักเพราะเห็นพัฒศรีเดินเข้ามาข้างหลังผ่านทางกระจก
"นังพุชชี่ !"

ภายในบ้านติณณภพ เขานั่งเท้าคางมองเค้กและอาหารดินเนอร์ที่จัดเตรียมเอาไว้อย่างเงียบเหงา ตุลยาแอบชะโงกหน้าเข้ามามอง รู้สึกสงสารพี่ชายตัวเองอยู่บ้าง แต่ก็จำเป็นต้องทำเพราะหวงพี่ชาย
"ยังจะรอพี่พัฒเขาอีกเหรอคะ พี่ติณ"
"ตั้งแต่รู้จักกันมา ต่อให้ยุ่งแค่ไหน เขาก็ต้องมาเป่าเค้กกับพี่"
"แต่เขาก็บอกพี่แล้วไม่ใช่เหรอว่า คืนนี้เขามาไม่ได้"
ติณณภพนิ่งไป
"พี่ติณคะ พี่พัฒเขาเป็นรุ่นน้องพี่ ห่างกันตั้งหลายปี แถมตอนเรียนจบพี่ยังตามไปอยู่กับแม่ที่ยุโรปอีก เวลาเปลี่ยนอะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปได้นะคะ เอาง่ายๆ เดี๋ยวนี้เขาไม่ยอมให้คนอื่นเรียกชื่อพัฒศรีเลย แต่ต้องเรียกเขาว่ามาดามพุชชี่เท่านั้น"
"มาดามพุชชี่เป็นแค่อาชีพของเขา ถึงยังไงพี่ก็เชื่อว่าพัฒศรีที่พี่รู้จักจะต้องมา พี่จะรอ"
ติณณภพมั่นใจแล้วหันไปยิ้มกับน้องสาว แต่ตุลยาแอบจิกหน้าไม่พอใจ

พุชชี่จิกหน้าเอาเรื่องเดินเข้าหาเจ๊เมี่ยงที่ยังอึ้งไม่หาย
"นังพุชชี่...ที่แท้ก็ฝีมือหล่อน"
"คนที่จะทำแบบนี้กับเจ๊ได้ก็ต้องเป็นคนที่รู้จักเจ๊ดีเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าต้องล่อด้วยกระทิงประเภทไหน เจ๊ถึงหน้ามืดตามัวมาติดกับ"
"นังเจ้าเล่ห์ ถ้าหล่อนคิดจะแก้แค้นชั้นล่ะก็...ฝันไปเถอะ หล่อนน่ะแพ้ชั้นไปแล้วย่ะ"
"เหรอคะเจ๊...ถ้าชั้นแพ้เจ๊ไปแล้วจริงๆ แล้วทำไมเจ๊ถึงทำตัวเป็นปอบหยิบ แอบไปจก ไปฉกเด็กของชั้นล่ะ"
เจ๊เมี่ยงชะงัก พุชชี่ตอกย้ำด้วยการเอานามบัตรของเจ๊เมี่ยงที่ได้มาจากเน็กซ์ขยำแล้วปาใส่หน้า
"เด็กคนนั้นเซ็นต์สัญญากับมาดามแล้ว ยังไงเจ๊ก็มาฉกเอาไปไม่ได้หรอก" หนูดอกบอก
"ชิ...สัญญาก็แค่กระดาษไม่กี่แผ่น ถ้าเด็กเขาไม่อยากอยู่กับหล่อนเพราะเห็นว่า อยู่กับชั้นแล้วอนาคตดีกว่า ชั้นก็จะเอาเงินที่หล่อนแพ้คดีนั่นแหละมาจ่ายเป็นค่าฉีกสัญญาให้"
"หน้าด้าน ! ถ้าไม่มีปัญญาหาเด็กเองแล้วเที่ยวฉกเด็กคนอื่นแบบนี้ ก็อย่ามาทำอาชีพนี้เลย พวกเหลือบไรวงการ" หนูดอกบอก
"หุบปากแกไปเลยนะ นังหนูดอก หล่อนมันก็แค่ไส้ติ่งของนังพุชชี่ เดี๋ยวแม่ก็ตบให้ปากเบี้ยวเลย"
"เอาเลยสิ มาเลย หนูดอกนี่แหละจะตบเมี่ยงเจิดให้เป็นเมี่ยงเจ่อเลย"
"ไม่ต้องหนูดอก...นี่เป็นเรื่องของชั้นกับเขาเท่านั้น"
หล่อนเดินเบียดหนูดอกเข้ามาประจัญหน้ากับเจ๊เมี่ยง สองคนจ้องหน้ากันเขม็งด้วยปมในอดีตที่มีต่อกัน
"หนูดอก ไปดูต้นทาง ชั้นไม่อยากให้มีคลิปหลุดออกไปเหมือนอย่างคราวที่แล้ว"
"จะดีเหรอคะมาดาม หนูดอกอยู่ช่วยซ้ำให้ได้นะคะ"
"ไม่ต้อง"
หล่อนย้ำเสียงขึงขังจริงจัง หนูดอกเลยต้องทำตามคำสั่งรีบถอยออกไปดูต้นทางปล่อยให้ ทั้งคู่ฮึ่มๆ จ้อง ตาเขม็ง แทบจะแยกเขี้ยวยิงฟันใส่กันอยู่รอมร่อ

หน้าบ้านเจ๊เมี่ยงในอดีต อารียามือชุ่มเหงื่อ เดินกระวนกระวายตื่นเต้นรออยู่ครู่หนึ่ง พัฒศรีรีบขี่เวสป้าคันเก่งเข้ามาจอดใกล้ๆ
"ทำไมมาช้าจังแก"
"โหแก...ชั้นต้องรับหน้าแทนแกอยู่คนเดียว กว่าจะหลุดจากกองถ่ายมาได้ โดนผู้กำกับด่า จนหูตูบแทบจะเสียหมาอยู่แล้ว"
"ชั้นขอโทษนะแก ชั้นไม่ตั้งใจจะทิ้งงานให้แกรับผิดชอบคนเดียว"
"ไม่ต้องมาทำหน้าหมาเศร้าขอโทษเลย"
พัฒศรีมองไปที่ตัวบ้าน
"แล้วยังไงเนี้ย นี่มันบ้านใคร"
"บ้านเจ๊เมี่ยง"
พัฒศรีตกใจ
"เจ๊เมี่ยงเจิดน่ะเหรอ นี่แกอย่าบอกนะว่า..."
อารียารีบยกมือไหว้ขอโทษ
"อย่าว่าชั้นเลยนะพัฒ ชั้นไม่อยากปิดแกจริงๆ ที่ชั้นหายๆไป ไม่ได้ไปทำงานเพราะว่าเจ๊เมี่ยงเขามาชวนให้ชั้นไปคัดตัวประกวดนางงามมา"
"ประกวดนางงาม ! เรื่องสำคัญขนาดนี้ แกมาปิดชั้นเนี่ยนะ"
"เห็นมั้ย ถ้าแกรู้แกก็ต้องห้ามชั้น"
อารียาเข้าไปควงแขนอ้อน
"ไม่เอาน่าพัฒ แกก็รู้ว่าเจ๊เมี่ยง เขาเป็นเจ๊ดันเบอร์หนึ่ง ถ้าเขาไม่เห็นว่าชั้นมีดีพอ เขาคงไม่มาชวนชั้นไปคัดตัวหรอก"
"ไม่ต้องมาอ้อนเลย แกไปมาแล้วนี่ แล้วจะตามชั้นมาที่นี่อีกทำไม"
"ก็...ก็เจ๊เมี่ยงเรียกให้ชั้นมาฟังผล ชั้นกลัวผิดหวัง คิดว่าถ้ามีแกอยู่ด้วยชั้นจะได้มีคนปลอบใจ"
"แอน...แกนี่ เฮ้อ ชั้นไม่น่าเป็นเพื่อนรักแกเลย"

พัฒศรีส่ายหน้าบ่นๆแต่ก็ยิ้มเมื่ออารียาทำหน้าน่าสงสาร
 
อ่านต่อหน้า 2

มาดามดัน ตอนที่ 3 (ต่อ)

พัฒศรีพาเพื่อนเดินเข้ามาเห็นเจ๊เมี่ยงกำลังวุ่นวายอยู่กับการคัดตัวเด็กหนุ่มๆ หน้าตาดีเพื่อไปประกวด เวทีหนุ่มหล่อ ภาพลักษณ์ของนางเหมือนนางพญาจริงจังกับงานมาก

"เดี๋ยวทุกคนเดินให้เจ๊ดูตัวอีกรอบนะ"
"เจ๊เมี่ยงคะ"
นางไม่สนใจ เอาแต่ดูเด็กหนุ่มๆ ที่เดินให้ดูตัว อารียาพยายามเรียกอีกสองสามครั้งจนนางรำคาญ
เจ๊เมี่ยงหันมาตวาด
"อะไรของหล่อน เห็นมั้ยว่าชั้นกำลังยุ่ง ออกไป อย่ามาเกะกะชั้น"
อารียาหน้าจ๋อย พัฒศรีไม่พอใจคว้าข้อมือเพื่อน
"ไปเถอะแอน นัดเรามาเองแท้ๆแต่กลับไล่อย่างกับหมูกับหมา"
นางหันมามองอารียาอีกครั้งเลยจำได้
"เดี๋ยว !!... อ๋อ เจ๊จำหนูได้แล้ว น้องแอนคนสวยของเจ๊ เจ๊ขอโทษนะจ๊ะ พอดีเจ๊กำลังยุ่งๆ ต้องรีบคัดเด็กไปประกวดเวที DreamGuy น่ะ เอางี้... เดี๋ยวน้องแอนรอเจ๊อยู่ตรงนี้แหละ ช่วยเจ๊ดูหน่อยว่าคนไหนเริ่ดที่สุด"
"ได้ค่ะเจ๊"
แอนดีใจรีบดึงพัฒศรีเข้ามายืนใกล้ๆ ดูเด็กหนุ่มๆเดินโชว์ตัวให้ดู
"เอาล่ะๆ...เดี๋ยวเดินให้เจ๊ดูอีกรอบนะ แต่คราวนี้ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด เหลือแค่กางเกงในตัวเดียวนะจ๊ะ"
เด็กหนุ่มๆ ทำตามที่เจ๊เมี่ยงสั่งทุกคน เริ่มถอดเสื้อผ้าออกหมดจนเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว บางคนใส่บ๊อกเซอร์ บางคนใส่แบบบีกินี อารียาเห็นเข้าจังๆถึงกับตกใจรีบเอามือปิดตา พัฒศรีเองก็ตกใจถึงกับหันหลังให้
นางชายหางตามามองสองสาวแล้วอมยิ้ม ช่างไร้เดียงสากันซะจริง ! ก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจหนุ่มๆอย่างใกล้ชิด มือไม้ลูบคลำจิกตามองแต่ละคนราวสายตาเหยี่ยวรอจิกเหยื่อ
พัฒศรีมีความอยากรู้อยากเห็นเลยหันมาชำเลืองดู พอเห็นท่าทางที่เจ๊เมี่ยงดูหนุ่มๆแล้วทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจเจ๊เมี่ยงเท่าไหร่

จากนั้นไม่นาน เด็กหนุ่มๆใส่เสื้อผ้ากลับคืนเรียบร้อยแล้วมายืนเรียงแถว
"เอาล่ะ ขอบใจทุกคนมากนะจ๊ะ แล้วรอโทรศัพท์จากเจ๊นะจ๊ะ คนไหนไม่ได้รับโทรศัพท์ก็ไม่ต้องเสียใจ ไว้มีงานที่เหมาะเจ๊จะกริ๊งกร้างไปบอก"
เด็กหนุ่มๆยกมือไหว้นางแล้วพากันเดินออกไป พัฒศรีเห็นว่าหนุ่มหล่อคนสุดท้ายที่หล่อสุดยิ้มหวานให้ นางยิ้มรับและขยิบตาให้หวานๆตอบ ก่อนที่มัชฌิมาจะหันมายิ้มกับอารียา
"แหม...ถึงกับแก้มแดงอายม้วนเลยเหรอคะน้องแอน ต้องหัดให้ชินตาไว้ค่ะ เพราะเดี๋ยวเวลาเจ๊พาหนูไปถ่ายแบบคู่กับนายแบบพวกนี้ หนูจะได้ไม่ทำเสียเวลาทีมงานเขา"
"พาแอนไปถ่ายแบบ หมายความว่าไงคะเจ๊"
"อ๋อ...เจ๊ลืมไปว่าเจ๊ยังไม่ได้บอกข่าวดี น้องแอนเข้ารอบสุดท้ายเวทีประกวดมิสสมายแลนด์แล้วนะจ๊ะ"
"จริงเหรอคะ เจ๊เมี่ยง"
"เจ๊จะโกหกหนูทำไมล่ะจ๊ะ... เวทีนี้ไม่ใช่เวทีเล็กๆนะจ๊ะ ดาวรุ่งหน้าใหม่ในวงการเกิดจากเวทีนี้ทั้งนั้น"
อารียาหันมาดีใจกับพัฒศรี
"แก...ชั้นดีใจจังเลยชั้นจะได้แจ้งเกิดแล้ว"
"ใจเย็นๆน่าแก...ก็แค่ได้เข้ารอบประกวด ไม่ได้หมายความว่าจะชนะซะหน่อย"
"แหมๆๆ เพื่อนน้องแอนนี่พูดจาไม่เข้าหูเลยนะคะ สายตาอย่างเจ๊เมี่ยงเจิดมองคนไหน แล้วรับรองต้องเจิดต้องเกิดในวงการแน่นอน แต่น้องแอนก็ต้องทำตามกฏของเจ๊อย่างเคร่งครัด เริ่มด้วยต้องย้ายมาอยู่กับเจ๊ที่นี่ เพราะเจ๊ต้องดูแลหนูอย่างใกล้ชิด"
"ได้ค่ะเจ๊"
พัฒศรีตกใจร้องปราม "แอน !"
หล่อนรีบคว้าข้อมือเพื่อนแล้วลากตัวออกไปทันที เจ๊เมี่ยงตกใจ

บริเวณสนามหน้าบ้าน
"ชั้นไม่ไว้ใจเจ๊เมี่ยง ท่าทางดูเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นชั้นไม่ยอมให้แกย้ายมาอยู่กับเขาตามลำพังเด็ดขาด" พัฒศรีบอก
"ตามลำพังที่ไหนล่ะแก เด็กในสังกัดเขาก็อยู่ในบ้านนี้ด้วยกันตั้งหลายคน"
"นั่นแหละที่ชั้นยิ่งไม่ไว้ใจ เพราะชั้นไม่เชื่อว่าเขาจะดูแลแกได้"
"ชั้นขอบใจที่แกเป็นห่วงชั้น แต่นี่มันเป็นโอกาสที่ชั้นต้องคว้าเอาไว้"
"หมายความว่าที่สัญญากันไว้ จะเป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิต มันต้องจบแล้วใช่มั้ยแอน"
อารียาชะงักนิ่งไป มัชฌิมาตามเข้ามา
"ว่าไงจ๊ะน้องแอน ตกลงอะไร ยังไง โอกาสดีๆแบบนี้ถ้าไม่รับไว้น่าเสียดายแย่เลยนะ"
อารียามองพัฒศรี
"เจ๊คะ คือ คือว่า หนูกับเพื่อนเราไม่เคยแยกจากกันเลย เราดูแลกันมาตลอด ถ้าพี่อยากให้โอกาสหนู หนูก็อยากขอโอกาสจากพี่ช่วยรับเพื่อนหนูให้ทำงานกับพี่ด้วยได้มั้ยคะ"
"แอน"
อารียาน้ำตาคลอ
"แก...นี่มันคือความฝันของชั้นนะ อย่าให้ชั้นต้องเลือกเลย ชั้นขอร้องล่ะ"
อารียาน้ำตาไหลอาบแก้มแล้วจับมือเพื่อนมากุม พัฒศรีสงสารเพื่อนเลยพยักหน้ารับ
"ได้มั้ยคะเจ๊ เพื่อนแอนคนนี้เขาทำงานเก่งมากนะคะ เขาเรียนรู้เร็ว แล้วก็ขยันมากด้วย"
เจ๊เมี่ยงนิ่งมองสังเกตพัฒศรีหัวจรดเท้า
"แอนขอร้องนะคะเจ๊ ช่วยรับเพื่อนแอนไว้ช่วยเจ๊ทำงานด้วยคน นะคะเจ๊"
"แล้วเพื่อนหนูชื่ออะไรล่ะ"

"ชั้นชื่อพัฒศรี"

บริเวณลานจอดรถ ทั้งคู่ฮึ่มๆ จ้องหน้ากัน

"ชั้นเป็นคนให้โอกาสแกนะ พัฒศรี แต่แกกลับมาลำเลิกบุญคุณ นังศิษย์คิดล้างครู"
"บุญคุณน่ะ ชั้นใช้เจ๊จนหมดแล้ว เพราะเจ๊จิกหัวใช้งานชั้นยิ่งกว่าทาส กดขี่ชั้นทุกอย่าง แต่ที่ชั้นต้องทนก็เพราะว่าแอน"
"การตายของแอนไม่เกี่ยวอะไรกับชั้น ชั้นบอกหล่อนไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว"
"คนที่มันเห็นแก่ตัว เรื่องดีๆรับไว้หมด แต่เรื่องชั่วๆโยนให้คนอื่นเป็นประจำอย่างเจ๊ ถึงคนอื่นจะไม่รู้ แต่นังพัฒศรีคนนี้แหละที่รู้ดี เจ๊ขายแอนให้ไอ้สารเลวนั่น ทำให้แอนต้อง..."
พุชชี่น้ำตาคลอเบ้า เจ็บใจจนเล็บจิกเข้าไปในมือ

ภายในห้องพักอพาร์ทเม้นต์ พัฒศรีเคาะประตูห้องพัก ทุบดังปังๆๆ
"แอน เปิดประตูให้ชั้นเดี๋ยวนี้นะ แอน"
พัฒศรีไม่ได้ยินเสียงตอบเลยรีบใช้กุญแจไขเข้าไปในห้อง แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นอารียากำปืนเอาไว้ในมือนั่งร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นเจ็บปวดรวดร้าว
"แอน อย่านะ ชั้นขอร้อง อย่าทำอย่างนี้เลย"
อารียาสะอื้น
"พัฒ...ชั้น ชั้นทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว...ฮือๆๆๆ..ชั้นขอโทษนะแก"
"ไม่นะ แกอย่าทิ้งชั้นไปสิ ลืมไปแล้วเหรอว่าเราสัญญาว่าจะดูแลกัน"
"ฮือๆๆ...ขอบใจนะแก แต่ชั้นทนอยู่กับความอับอายอีกไม่ได้แล้ว ชั้นรักแกนะเพื่อน ชั้นขอโทษ ฮือๆๆ"
อารียาน้ำตาไหลอาบแก้ม แล้วยกปืนขึ้นมามองอย่างตัดสินใจ พัฒศรีร้องเสียงดังลั่น
"แอน!"
เสียงปืนดังลั่น...เปรี้ยง ! พัฒศรีตกใจตะลึง ก่อนจะเห็นว่า เพื่อนรักได้ฟุบลงกับพื้น ตายคาที่ หล่อนระเบิดเสียงร้องไห้จนแทบหัวใจสลาย

พุชชี่น้ำตาคลอเบ้าเจ็บแค้นจากภาพในอดีต
"เจ๊ทำลายศักดิ์ศรีของแอนจนไม่เหลือ ถ้าชาตินี้นังพัฒศรีไม่ได้สั่งสอนให้เจ๊หมดศักดิ์ศรีบ้าง มันไม่ขออยู่เป็นผู้เป็นคน"
หล่อนปรี่เข้าไปตบหน้าเจ๊เมี่ยงทันที..เพี๊ยะ ! นางโกรธสุดๆ
"นังพัฒศรี นังดักดาน ที่นังนั่นตายมันไม่เกี่ยวอะไรกับชั้น"
นางปรี่เข้าไปตบหน้าหล่อนอย่างเอาคืน แล้วทั้งคู่ก็เปิดฉากแลกตบกันนัวเนีย แรกๆเหมือนพุชชี่จะได้เปรียบ ตบไปหลายฉาด แต่เจ๊เมี่ยงเป็นผู้ชายในร่างกะเทยจึงแรงเยอะกว่ายกมือขึ้นรับมือพัฒศรีได้กลางอากาศ แล้วจิกหน้าเอาเรื่องสุดๆ

ติณณภพมองเค้กกับอาหารตรงหน้าแล้วถอนใจป่านนี้พัฒศรียังไม่มา ตุลยาเห็นพี่ชายเอาแต่รอๆๆก็เหลืออดรีบเดินเขามา ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเอาเทียนมาปักลงบนหน้าเค้ก
"ทำอะไรน่ะตุล"
"ตุลว่าพี่อย่าเสียเวลารออีกเลยค่ะ...ได้เวลาที่เราต้องมาเป่าเทียนกันแล้ว"
ตุลยาปักเทียนไปแล้วเอาไฟแช็คมาจุดเทียนบนหน้าเค้กสว่างไสวสวยงาม แต่ติณณภพกลับนิ่ง
"พี่ติณคะ...เวลาที่พี่รักใคร ตุลก็พร้อมจะรักเขาด้วย แต่ถ้าเขาไม่เห็นความสำคัญของพี่ ตุลว่าพี่ก็อย่าเสียเวลาเลยค่ะ พี่ยังมีคนที่รักและเป็นห่วงพี่อยู่ตรงนี้อีกคนนะคะ"
ตุลยาบอกแล้วก็เอากล่องของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้มายื่นให้พี่ชาย
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะคะพี่ชาย"
ติณณภพนิ่งไปมองของขวัญที่น้องสาวตั้งใจมอบให้ก่อนจะยิ้มรับแล้วลูบหัวน้องสาว
"ขอบใจนะตุล...น้องรัก"
ตุลยายิ้มแก้มปริ
"งั้นเป่าเทียนเถอะค่ะ ตุลอยากกินเค้กฝีมือพี่จะแย่อยู่แล้ว"
ติณณภพยิ้มให้น้องสาวแล้วหลับตาอธิษฐานสั้นๆก่อนจะเป่าเทียนวันเกิดทีเดียวดับ ตุลยารีบควงแขนพี่ชายหัว อิงไหล่ซบอ้อนพี่สุดฤทธิ์และแอบจิกตายิ้มร้าย

บริเวณลานจอดรถ พุชชี่โดนเจ๊เมี่ยงจิกผมแล้วตบ...ผั๊วะ ! จนเลือดไหลซิบที่มุมปากหล่อน นางไม่รอช้าเข้าไปจับแขนพุชชี่บิดไขว้หลัง อีกฝ่ายร้องเจ็บลั่น...โอ๊ย !
"อย่าดิ้นนะพุชชี่ ไม่อย่างนั้นแขนหล่อนหักแน่"
"ก็เอาสิเจ๊... ยิ่งเจ๊ทำชั้นเจ็บ ชั้นก็จะยิ่งจำฝังใจว่า ชาตินี้ชั้นต้องแก้แค้นเจ๊ให้ได้"
เจ๊เมี่ยงหงุดหงิด
"นังพัฒศรี หล่อนนี่มัน...อ๊าย... ชั้นไม่รู้ว่าชั้นเลี้ยงคนหรือเลี้ยงควายมากันแน่ ทำไมมันถึงได้ดื้อด้านแบบนี้"
เจ๊เมี่ยงหัวเสียออกแรงบิดจนพุชชี่ร้องเจ็บน้ำตาเล็ด ระหว่างนั้นเอง เสียงเน็กซ์ก็ดังแทรกเข้ามา
"ปล่อยมาดามเดี๋ยวนี้นะครับ เจ๊เมี่ยง"
เจ๊เมี่ยงชะงักหันไปเห็นเน็กซ์เข้ามาพร้อมกับหนูดอกก็ตกใจ
"คุณน้อง !"
นางรีบปล่อยมือจากพุชชี่แล้วตีหน้าซื่อสุดฤทธิ์ หนูดอกรีบเข้าไปประคองเจ้านายอย่างเป็นอย่างห่วง
"คุณน้องอย่าเพิ่งเข้าใจอะไรเจ๊ผิดนะคะ เจ๊โดนทำร้ายก่อนเจ๊ก็เลยต้องป้องกันตัว"
"ป้องกันตัวอะไร เห็นอยู่กับตาว่าเจ๊กำลังจะหักแขนมาดาม"
"ก็นังพุชชี่มันตบหน้าชั้นก่อนนี่"
"ก็เจ๊ทำทุเรศมาแจกนามบัตรฉกเด็กของมาดามทำไมล่ะ" ดอกไม้บอก
"ก็..."
"พอกันได้แล้วครับ ! เลิกโหวกเหวกใส่กันซะที"
"เจ๊ไม่เถียงกับพวกนี้แล้วก็ได้ค่ะคุณน้อง แต่เจ๊เฟิร์มเลยนะคะ ถ้าคุณน้องยังคิดจะอยู่กับมาดามพุชชี่ คุณน้องจะมองไม่เห็นหนทางสวรรค์ ประตูสู่ดวงดาวจะไม่เปิดรอรับคนที่ปูพรมแดงให้น้องได้ มันต้องเจ๊เมี่ยงเจิดเท่านั้น"
"พอได้แล้วครับ...ผมไม่รู้หรอกครับว่าไอ้ธุรกิจปั้นดารามันจะต้องแข่งขันกันดุเดือดเลือด พล่านกันยังไง ผมรู้แต่ว่า ต้องเป็นคนมีสัจจะรักษาคำพูด ถึงจะได้รับเกียรติและการยอมรับนับถือจากผู้ร่วมงาน"
"ว้าว... เน็กซ์ปล่อยของหัวใจหล่ออีกแล้วค่ะ มาดาม"
เจ๊เมี่ยงเชิดหน้า
"หมายความว่าคุณน้องจะปฏิเสธเจ๊เมี่ยงเจิด"
"ครับ เพราะผมรับปากมาดามพุชชี่แล้ว ผมก็ต้องให้เกียรติเขา"
เจ๊เมี่ยงเจ็บใจ
"เชอะ ! แล้วคุณน้องจะต้องเสียใจ เวลาที่เจ๊เมี่ยงเจิดโกรธใครแล้วเชิดใส่ นรกมาเยือนคุณน้องแน่"
นางสะบัดบ๊อบอย่างหัวเสียใส่เน็กซ์แล้วชายหางตามองพุชชี่อย่างอยากกินเลือดกินเนื้อ
"อย่าคิดว่าแค่เด็กใหม่หล่อนหล่อเว่อร์แล้วจะเอาชนะชั้นได้ นี่มันก็แค่เริ่มพิธีบวงสรวง กว่าจะเปิดกล้องถ่ายทำ หล่อนต้องเจอชั้นอีกเยอะ...นังพุชชี่ !"

นางเดินบิดออกไปอย่างเริ่ดๆเชิดๆ เน็กซ์หันมามองพุชชี่ที่ยังรู้สึกเจ็บระบมแขนไม่หาย

หนูดอกช่วยพยุงพุชชี่พากลับมาที่รถ

"โอ๊ยๆๆ เบาหน่อยๆสิหนูดอก ชั้นเจ็บนะ"
"แหม...ก็บอกให้หนูอยู่ช่วย มาดามก็ไม่ฟัง"
"ชั้นไม่ชอบหมาหมู่นี่ แล้วนี่ยังไง ทำไมอยู่ๆเน็กซ์ถึงโผล่มาได้"
"เน็กซ์เขาเป็นห่วงมาดาม เห็นหุนหันออกมาจากบ้านก็เลยโทร.มาถามหนู"
พุชชี่นิ่งมองเน็กซ์
"รู้จักห่วงชั้นเป็นด้วยเหรอ เด็กบ้า"
"อ้าวป้า...ผมไม่ได้ห่วงป้าหรอก แต่ผมกลัวว่า ถ้าป้าไปทำร้ายคู่กรณีอีก เกิดป้าติดคุกขึ้นมา ผมจะกลับบ้านไปมองหน้าพ่อผมได้ยังไง ทั้งๆที่เขาห้ามไม่ให้ผมตามป้ามา"
"ไอ้เด็กบ้า !"
"พอๆๆเถอะค่ะ มาดาม ไว้กลับไปเถียงกันต่อที่บ้าน ตอนนี้กลับบ้านกันก่อนเถอะ"ดอกไม้บอก
"หล่อนพาเน็กซ์กลับไปเถอะ ชั้นมีธุระต้องไปทำต่อ"
"ธุระ อ๋อ...หนูนึกว่ามาดามจะลืมไปแล้ว"
"หุบปากหล่อนไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น รีบพาเน็กซ์กลับไป"
"ไม่...ผมไม่กลับ สภาพแบบนั้นป้าจะขับรถไปคนเดียวได้ยังไง"
"ชั้นไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย"
"เหรอ" เน็กซ์บอกแล้วเข้าไปบีบแขนพุชชี่จนร้องจ๊ากลั่นน้ำตาเล็ด
"ไอ้เด็กบ้า...เจ็บนะเว้ย อู้ย"
"เห็นมั้ย...เป็นซะขนาดนี้ ป้าต้องมีคนขับรถให้แล้ว พี่หนูดอกกลับเถอะครับ ผมกลับไปก็ไม่มีอะไรทำ ขับรถเล่นแก้เซ็งดีกว่า"
"แต่ว่า..."
เน็กซ์ไม่สนใจ เอากุญแจรถในมือหนูดอกมาแล้วเข้าไปนั่งในรถสตาร์ทเครื่องเจ้าม้าป่าเสียงกระหึ่ม
"จะไปมั้ยป้า"
พัฒศรีมองเน็กซ์อย่างหมั่นเขี้ยว
"ไม่เป็นไรหรอกหนูดอก หล่อนกลับไปดูแลคนอื่น กับไอ้เด็กบ้ามันต้องชั้นคนเดียวเท่านั้น"
หล่อนบอกแล้วเดินไปเปิดประตูนั่งข้างเน็กซ์ก่อนจะออกไปด้วยกัน ดอกไม้มองตามแล้วยิ้มชอบใจ
"เด็กบ้ากับป้าปีศาจ...เข้ากันยังไงก็ไม่รู้"

เน็กซ์ขับเจ้าม้าป่าพาพุชชี่เข้ามาจอดที่ริมรั้วก่อนถึงประตูบ้านติณณภพ
"จอดตรงนี้แหละ"
เน็กซ์สงสัย
"หา...แถวนี้เนี่ยนะ อะไรของป้าเนี่ย แถวนี้ไม่เห็นมีอะไรซะหน่อย มืดก็มืด เปลี่ยวก็เปลี่ยว"
"ไม่ต้องถามซอกแซกขี้สงสัยได้มั้ย ดับไฟหน้ารถด้วย"
เน็กซ์ยังทำหน้างง พัฒศรีบอกต่อ
"ไม่ต้องทำหน้าโง่ด้วย ปิดไฟ !"
เน็กซ์ยังไม่ดับไฟหน้ารถตามคำสั่ง หล่อนเลยเอื้อมมือไปปิดไฟเองที่พวงมาลัย ตัวเลยเบียดกับเน็กซ์ชนิดหน้าเกือบจะชนกัน ทั้งคู่ชะงักมองตากันปริบๆ ก่อนที่เน็กซ์จะรู้สึกตัวรีบดันหล่อนออกห่าง
"นั่นแน่...ผมรู้แล้ว ชวนผมขับรถมาที่เปลี่ยวๆแบบนี้ แถมยังให้ปิดไฟหน้ารถอีก อย่ามาคึกกับผมนะป้า เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน"
หล่อนเหวอ ตบกบาลเน็กซ์ ทันที..ผั๊วะ!
"ไอ้เด็กบ้า ! ทุเรศ ชั้นเนี่ยนะจะชวนแกมาเล่นจ้ำจี้กันในรถ มาดามพุชชี่ ไม่มีนโยบายกินเด็กตัวเองย่ะ"
"อู้ย...เจ็บนะป้า ก็จะไม่คิดได้ไงล่ะ อายุขนาดนี้สามีก็ยังไม่มี แฟนก็ยังไม่เห็น เวลาอารมณ์เปลี่ยวขึ้นมาผมก็กลัวเหมือนกันนะ เมื่อกี้นี้ยังเอาดูมดูมมาโดนผมอีกด้วย"
"อ๊าย...ไอ้เด็กนรก ชั้นว่าชั้นเอาหมาในปากแกออกมาแล้วนะ ทำไมมันยังมีอยู่ อีกเนี่ย นี่แน๊ะๆๆ"
หล่อนทั้งทุบทั้งตีเน็กซ์ไม่หยุด เพราะฉุนสุดๆ เน็กซ์ต้องปัดป้องเป็นพัลวัน
"โอ๊ย...เจ็บนะป้า เบาๆ เดี๋ยวชาวบ้านเขาก็แตกตื่นออกมาด่าหรอก"
คำพูดของเน็กซ์ทำให้พุชชี่ชะงัก เพราะคิดได้รีบหยุดแล้วหันไปมองที่บ้านติณณภพ ที่ระเบียงห้องนอนของติณณภพไฟในห้องนอนที่ดับมืดอยู่เกิดสว่างขึ้นมา ทำเอาหล่อนชะงัก
"นั่นไง เจ้าของบ้านเขาตื่นเลย"
"ชู่ว์ เบาๆ หุบปากแกไปเลยนะไอ้เด็กบ้า ห้ามส่งเสียงเด็ดขาดเข้าใจมั้ย"
หล่อนชี้หน้าเน็กซ์แล้วรีบลงรถไปยืนเกาะรั้วมองไปที่ห้องนอนของติณณภพ เน็กซ์มองตามอย่างแปลกใจสงสัย

ติณณภพนอนไม่หลับลุกขึ้นมาเปิดไฟ ด้วยยังค้างคาใจเรื่องพัฒศรีทำให้เขาต้องคว้าโทรศัพท์มาไล่เปิดดู SMS หรือทุกช่องทางการติดต่อผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ก็ไม่มีการติดต่อมาจากหล่อนเลย
"ใจคอจะไม่อวยพรอะไรให้พี่เลยเหรอ น้องพัฒ" ติณณภพพึมพำ
เขาวางโทรศัพท์แล้วถอนใจก่อนจะเดินไปหยิบรูปถ่ายคู่กันของเขากับหล่อนสมัยที่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ภาพนั้นเป็นภาพวันรับน้องที่หล่อนหน้าเลอะและมีป้ายแขวนคอว่า “หนูโสดไม่มีแฟน” เขามองภาพนั้นแล้วยิ้มได้ก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียง

หล่อนหน้าเศร้ายืนเกาะรั้วมองไปที่ห้องนอนของเขาแล้วหลับตาอธิษฐานพึมพำเบา
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะคะพี่ติณ ขอให้พี่มีความสุข ถ้าวันนั้นมาถึงน้องจะไม่ทำแบบนี้กับพี่อีกแน่นอนค่ะ"
หล่อนลืมตาน้ำตาคลอๆ เน็กซ์เห็นแบบนี้ก็พอจะเข้าใจ แต่จังหวะนั้น ติณณภพเดินออกมายืนที่ระเบียง หล่อนตกใจกลัวเขาเห็นเลยรีบยืนพิงแนบกำแพงหลบ เน็กซ์สงสัยจะชะเง้อหน้าไปดู
"เด็กบ้า ก้มหัวลงไป แล้วรีบพาชั้นไปจากที่นี่เร็วๆเข้า"
"จะให้ไปไหนล่ะป้า"
"ไปไหนก็ได้..เร็ว !"
พุชชี่รีบก้มหัวงุดๆกลับเข้าไปนั่งในรถ แล้วให้เน็กซ์ขับรถพาออกไปทันที

บนระเบียงติณณภพเห็นแสงไฟรถวิ่งผ่านหน้าบ้านตัวเองไปก็สงสัย ยิ่งพอเห็นรถชัดๆว่าเป็นเจ้าม้าป่า ของพัฒศรีก็ยิ่งตกใจ

ติณณภพรีบออกมาที่โถงหน้าบ้านยังไม่ทันจะออกไปก็เจอตุลยา
 
"มีอะไรเหรอคะพี่ติณ"
"เมื่อกี้นี้พี่เห็นรถของพัฒ"
ตุลยางง
"รถพี่พัฒน่ะเหรอคะ... ดึกดื่นป่านนี้เขาจะมาทำไม ตุลว่าพี่ตาฝาดไปรึเปล่า"
"เจ้าม้าป่า พี่จำได้นะตุล เขาไม่ได้ลืมวันนี้ แต่เขาตั้งใจมาหาพี่"
"ตุลว่าไม่ใช่หรอกค่ะ ถ้าเขาไม่ลืมจริงๆ เขาก็ต้องเข้ามาหาพี่แล้วสิคะ"
"งั้นพี่จะโทรหาเขา"
"อย่าเลยค่ะพี่ตุล...นี่มันดึกแล้ว"
ติณณภพไม่ฟังเอาโทรศัพท์มากดโทร.ออกทันที

เน็กซ์ขับเจ้าม้าป่าไปตามถนน เสียงโทรศัพท์มือถือของพุชชี่ดังเพราะสายเรียกเข้าจากติณณภพ
หล่อนเอาโทรศัพท์มาดูด้วยสีหน้าเศร้าๆก่อนจะตัดสินใจกดปิดเครื่องไม่ยอมรับโทรศัพท์จากเขา เน็กซ์ชายหางตามองด้วยความอยากรู้ แต่เจอหล่อนหันมาแขวะใส่
"มองอะไร อย่ามาเยอะกับเรื่องของชั้น ขับรถไป"
เน็กซ์ไม่พูดอะไรแต่ทำหน้ากวนตรีนใส่ แล้วเปิดวิทยุหมุนหาคลื่นเพื่อฟังเพลงแบบจงใจหาเพลงอกหักเศร้าๆ เน้นๆ โดนๆ เจอเพลงแรกก็ "ภาพลวงตา" ของดา เอนโดฟิน หล่อนหรี่ตามองเน็กซ์แล้วปิด
"อะไรเนี่ยป้า...ผมจะฟังเพลง"
"แต่ชั้นไม่มีอารมณ์ฟังตอนนี้"
"แต่ผมจะฟัง !"
เน็กซ์เปิดอีกทีคราวนี้เจอเพลง "ไกลแค่ไหนคือใกล้ ของ Getsunova" พุชชี่จะกดปิด
"หยุดเลยนะป้า ถ้าป้าปิดวิทยุผมอีกทีล่ะก็ ผมจะจอดรถแล้วไล่ป้าลงจากรถให้นั่งแท๊กซี่กลับไปคนเดียว"
"แต่นี่มันรถชั้นนะไอ้เด็กบ้า"
"แล้วไง กับไอ้แค่เพลงเพราะๆเพลงเดียว ถ้าทนฟังไม่ได้ก็แสดงว่า มาดามพุชชี่ไม่ได้อึด ถึก อย่างหนาห้าห่วงอย่างที่ใครๆเขาว่ากัน"
พุชชี่ชะงัก เน็กซ์ยิ้มกวนท้าทาย หล่อนเบือนหน้าหลบแล้วทนฟังเพลงเศร้าๆบาดใจไป

ติณณภพโทร.เข้าเครื่องพุชชี่ไม่ติดเลย
"เห็นมั้ยคะพี่ติณ ถ้าเป็นพี่พัฒจริงๆ เขาก็คงรับสายพี่ไปแล้ว"
ติณณภพมองโทรศัพท์อย่างเศร้าๆ แต่ลึกๆ ก็ยังมั่นใจ
"แต่พี่ก็ยังเชื่อว่าเป็นเขานะตุล"
ติณณภพบอกน้องสาวแล้วเดินขึ้นบ้านไป ตุลยามองตามจิกหน้าหัวเสีย

เจ้ามาป่าจอดแช่อยู่ริมน้ำ เสียงเพลงเศร้าๆจากเพลง ไกลแค่ไหนคือใกล้ ยังดังคลอ หล่อนออกไปยืนอยู่คนเดียวเหม่ออย่างเศร้าๆ เน็กซ์ยืนดูหล่อนเศร้าแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ยกถุงลูกชิ้นที่ไปแวะซื้อมาแล้วทำเป็นกวนเดินไปนั่งกินใกล้ๆ
"ซักไม้มั้ยป้า เนื้อหรือเอ็นบอกมา น้ำจิ้มเขาแซ่บเว่อร์เลยนะ แตงกวาผมเอามาเพียบเลย"
หล่อนมองหางตาไม่สนใจ
"อ๊ะๆๆ...อยากกินก็จัดไปเหอะ สั่งให้ผมจอดรถมานั่งทำมิวสิกนานๆ เดี๋ยวหนังหน้าจะเมื่อยชวนแก่ให้เสียตังค์ไปฉีดโบท๊อกอีก...เปลืองแย่"
หล่อนขวับทันที
"แก..ไอ้เด็กบ้า ขอชั้นอยู่คนเดียวเงียบๆสักสิบยี่สิบนาทีได้มั้ย"
"ไม่ให้หรอก...เดี๋ยวเกิดป้าคิดสั้นอยากโดดน้ำตายขึ้นมา ปลาแถวนี้จะขึ้นอืดหมด"
หล่อนเจ็บใจสองมือตบเข้าสองแก้มเน็กซ์ทันที จนเน็กซ์ปากจู๋เป็นปลาจวด..ผั๊วะ ! เน็กซ์ร้องลั่น หล่อนไม่สนใจเดินออกไปยืนถอนใจต่อคนเดียว
" อู้ย...ปากจู๋เลยเรา"
เน็กซ์จับปากอยู่ครู่ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้แล้วเดินตามไปยืนใกล้ๆหล่อนอีก
"พอได้แล้วเน็กซ์ เลิกกวนประสาทชั้นซะที"
พุชชี่หันมาจะด่าต่อ แต่ชะงักเพราะเจอเน็กซ์ทำปากจู๋ตาเหล่ชวนขำกลิ้ง
"เล่นอะไรของเธอเนี่ย...ไอ้เด็กบ้า"
เน็กซ์ยังทำหน้าตลก
"ก็ป้าตบหน้าผมจนเป็นแบบนี้ ป้าต้องรับผิดชอบเลย ต่อไปนี้ผมคงใช้หน้าตาทำงานให้ป้าไม่ได้แล้ว"
เน็กซ์ยังทำหน้าปากจู๋ตาเหล่โอดครวญ หล่อนเลยหลุดขำออกมา
"ไอ้เด็กบ้า เธอนี่มัน....พอได้แล้ว เดี๋ยวก็เป็นแบบนี้ไม่หายหรอก"
"ทำคืนไม่ได้ ป้าต้องดึงหน้าให้ผม"
"เออๆๆ ช่วยก็ได้"
หล่อนเอามือช่วยหยิกแก้มแล้วดึงหน้าเน็กซ์ให้ยืดออกจนเน็กซ์ทำหน้าเป็นปกติ พุชชี่ยังขำไม่หาย
"ชั้นเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าเธอเล่นตลกเป็นเหมือนกัน ไปหัดมาจากไหนเนี่ย"
"ไม่ได้หัดมาจากไหนหรอก แค่ไม่ชอบเห็นป้าทำหน้าหงิกๆแบบนี้ ชอบตอนป้ายิ้มมากกว่า เลยขอโจ๊ะมุกสักหน่อย"
หล่อนชะงัก ไม่คิดว่าเน็กซ์จะทำเพราะห่วงเธอ
"อ้อ...อีกอย่างป้าอายุเฉียดเลข 3 แล้ว แต่ยังทำเป็นวัยรุ่นไปแอบยืนมองหลังคาบ้านผู้ชายตอนค่ำๆมืดๆ ผมเป็นห่วงจริงๆ อายุเยอะหัวใจไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนวัยรุ่น เจอเรื่องผิดหวังบ่อยๆ หัวใจจะวายเอาได้"
หล่อนเหวอ
"ไอ้...ไอ้...เว้ย ชั้นจะฆ่าแก ไอ้บักหมา ไอ้เด็กนรก!"

หล่อนวิ่งไล่เล่นงานเน็กซ์ที่ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดแต่ก็ยังวิ่งวนหลอกล่อให้หล่อนไล่ตาม ทั้งคู่ไล่ตีกันสนุกสนานปนเสียงหัวเราะ
 
อ่านต่อหน้า 3

มาดามดัน ตอนที่ 3 (ต่อ)

วันใหม่ แสงแดดจัดจ้าสดใส ในห้องนอน เน็กซ์หลับสนิทกรนเบาๆอยู่ที่เตียง พุชชี่เข้ามาสะกิดเรียกให้ตื่น

"เน็กซ์...เน็กซ์"
หล่อนเผลอมองเน็กซ์ที่กำลังหลับด้วยหน้าใสๆ ดูซื่อๆน่ารัก แววตาที่หล่อนมองมีความชื่นชม หล่อนนึกถึงคำพูดของเน็กซ์ที่พูดต่อหน้าเจ๊เมี่ยง
"ผมไม่รู้หรอกครับว่า ไอ้ธุรกิจปั้นดารามันจะต้องแข่งขันกันดุเดือดเลือด พล่านกันยังไง ผมรู้แต่ว่า ต้องเป็นคนมีสัจจะรักษาคำพูด ถึงจะได้รับเกียรติและการยอมรับนับถือจากผู้ร่วมงาน"
หล่อนยิ้มชื่นชอบคำพูดของเน็กซ์ แล้วก็อดคิดถึงสิ่งดีๆที่เน็กซ์ทำให้เมื่อคืน...
"ชั้นเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเธอเล่นตลกเป็นเหมือนกัน ไปหัดมาจากไหนเนี่ย"
"ไม่ได้หัดมาจากไหนหรอก..แค่ไม่ชอบเห็นป้าทำหน้าหงิกๆแบบนี้ ชอบตอนป้ายิ้มมากกว่า เลยขอโจ๊ะมุกสักหน่อย"
หล่อนเผลอลูบแก้มเน็กซ์เบาๆอย่างเอ็นดูรู้สึกประทับใจมาก
"รู้ตัวมั้ยว่าเธอน่ะ เด็กก็แค่อายุ แต่ความคิดของเธอโตยิ่งกว่าคนที่ชั้นเคยทำงานด้วย หลายคนเลย ชั้นต้องปั้นเธอให้ดังให้ได้เลยเน็กซ์...ชั้นสัญญา"
หล่อนเห็นเน็กซ์หลับสบาย เลยจะปล่อยให้หลับต่อ แต่พอจะลุกไปกลับต้องชะงักเพราะเน็กซ์คว้าข้อมือไว้ หมับ แล้วละเมอ
"คิดถึงจัง"
เน็กซ์ออกแรงดึงทีเดียว หล่อนเซถลาลงมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาบนเตียง
"ว๊าย...ไอ้เด็กบ้า จะทำอะไรชั้น ไอ้ลามกปล่อยนะ"
เน็กซ์ยังละเมอเพ้อกอดแน่นไม่ยอมปล่อย แถมยังเอาขามาตวัดรัดแน่นอีกต่างหาก
"ผมคิดถึงแม่จังเลยครับ ขอผมกอดแม่หน่อยนะ"
หล่อนหน้าเหวอกัดฟันกรอด ที่เน็กซ์ละเมอคิดถึงแม่แล้วมากอดเธอแบบนี้
"แม่ ! แม่เลยเหรอ ไอ้ ไอ้เด็กบ้า"

บนโต๊ะอาหาร แก้วใสชะเง้อหาจนคอแทบจะหลุด แต่เจอลอร่าเข้ามายืนขวาง
"อยากได้อะไรเหรอคะคุณแก้วใส บอกลอร่าสิคะ"
"ช่วยหลบไปไกลๆหน่อย มันรบกวนวิสัยทัศน์เบรคฟาสต์ชั้น"
หนูดอกบอก
"แต่มื้อเช้าเธอน่ะ อยู่ตรงหน้านะจ๊ะแก้วใส ไม่ทราบว่าจะชะเง้อคอมองหาอะไรมิทราบ"
"ก็ไม่เห็นมาดามลงมากินมื้อเช้าด้วยเลย"
"เหรอ...ปกติชั้นไม่เคยเห็นเธอสนใจเลยนี่ว่า ใครจะมาร่วมโต๊ะกับเธอ"
เชอรี่พูดเสริมทันที
"แถมไม่ค่อยอยู่ร่วมโต๊ะกับใครเขาด้วยนะคะ"
"ใช่ค่ะ เพราะตื่นสายตลอดๆ" แอปเปิ้ลบอก
แก้วใสหันขวับ
"กงการอะไรของพวกหล่อนยะ"
หนูดอกจิกหน้าเอาเรื่องมองแก้วใส
"อย่าคิดว่าชั้นไม่รู้นะว่าหล่อนคิดอะไรอยู่ กฎของมาดาม ห้ามเด็กทุกคนในบ้านมีเรื่องชู้สาวเด็ดขาด ถ้าจำไม่ได้ชั้นจะได้เขียนติดไว้ที่หน้าผากให้"
"อะไรกันคะ พี่หนูดอก แก้วใสเคยมีพฤติกรรมแบบนั้นที่ไหน"
"ก็ดีถ้าไม่คิดจะมี เพราะถ้ามีขึ้นมาล่ะก็...เธอได้เห็นมาดามลงดาบเล่นงานเธอแน่"
แก้วใสเชอะใส่หนูดอกที่มาข่มขู่เธอ ระหว่างนั้นพุชชี่เดินเข้ามาตามหลังด้วยเน็กซ์ที่เดินบ่นมีทิชชู่อุดจมูกเพราะเลือดกำเดาพุ่งไปเมื่อกี้
"ต่อไปนี้ป้าไม่ต้องไปปลุกผมถึงในห้อง ผมมีนาฬิกาปลุก...อู้ย"
"นาฬิกาปลุกเธอมี แต่ชั้นไม่เห็นมันจะปลุกเธอได้ นี่ถ้าชั้นไม่เข้าไปกระทืบเธอให้ตื่น ป่านนี้ก็คงนอนกินบ้านกินเมือง"
"ก็คนกำลังฝันดีอยู่นี่"
หล่อนหัวเราะ
"ฝันว่าคิดถึงแม่ กอดแม่เป็นปลิงเนี่ยนะ เด็กน้อยเอ้ย โตแต่ตัว ไอ้ลูกแหง่"
"เฮ้ย...ป้ารู้ได้ไงว่าผมฝันถึงแม่"
หล่อนชะงัก
"ไม่ต้องถาม รีบๆไปกินมื้อเช้า วันนี้เธอต้องเริ่มทำงานแล้ว"
หล่อนผลักเน็กซ์ให้ไปนั่งที่โต๊ะอาหาร หนูดอกรีบเข้ามาคุยกับพุชชี่
"มาดามคะ หนูดอกมีเรื่องคุยด้วยค่ะ"
หล่อนมองหน้าหนูดอกที่ท่าทางมีลับลมคมนัย อยากจะคุยก็พอรู้กันเลยพยักหน้ารับ แล้วพากันเดินออกไปด้วยกัน
ลอร่าแอบชำเลืองมองตามทั้งคู่ด้วยความสนใจ

ทั้งคู่ปิดประตูห้องทำงานคุยกันอย่างลับๆ
"จริงเหรอคะ มาดามเองก็สงสัยเหมือนกับที่หนูดอกกำลังสงสัยอยู่"
"มันต้องใช่แน่ๆหล่อน ต้องมีสายลับของนังเจ๊เมี่ยงอยู่ในบ้านเรา ไม่อย่างนั้น มันจะรู้เรื่องเน็กซ์แล้วตามไปจกต่อหน้าต่อตาชั้นได้ไง"
"ทุเรศที่สุด นี่น่ะเหรอเจ๊ดันตัวแม่ เก่งแต่ใช้แผนสกปรกทุกอย่างเพื่อทำลายมาดามชัดๆ"
"ชั้นอยู่กับมันมาหลายปี...ชั้นรู้เท่าทันมันหมด แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้มันจะกล้าเล่นสกปรกกับชั้นถึงขนาดนี้ ยังคิดอยู่เลยว่าที่ชั้นต้องแพ้คดีให้มัน ก็คงเพราะสายลับที่มันส่งมาสืบนี่แหละ"
"แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะคะมาดาม เราจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นคนของเจ๊เมี่ยง"
"ตอนนี้คนที่เหลืออยู่ในบ้านเราก็มีแค่ไม่กี่คน คงกระชากหน้ากากมันไม่ยาก"
หนูดอกตกใจ
"อาร์ทเหรอคะ"
"อาร์ทน่ะตัดทิ้งไปได้เลย เขาเป็นเพื่อนชั้น ถ้าคิดจะหักหลังชั้น เขาไม่ทนทู่ซี้อยู่กับชั้นจนป่านนี้หรอก"
"งั้นก็เหลือ…"

ทั้งคู่มองหน้ากัน

บนโต๊ะอาหาร แก้วใสเอาขนมปังมาทาแยมให้เน็กซ์อย่างเอาอกเอาใจ

"กินเยอะๆนะจ๊ะเน็กซ์ มื้อเช้าน่ะสำคัญมากๆ งานเป็นนักแสดงไม่ใช่งานที่สบายอย่างที่หลายคนคิด ถ้าไม่ดูแลสุขภาพร่างกายจะทำให้ทุกคนที่มารอเราพลอยเสียงานไปด้วย"
"ขอบคุณครับ"
"อย่าพูดเหมือนเราห่างเหินกันแบบนั้นสิจ๊ะ ตอนนี้เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกันแล้ว มีอะไรก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เหมือนที่เน็กซ์ช่วยชีวิตแก้วใสไว้ไง"
แก้วใสพูดไปก็ทำตาปริบๆแอ๊บแบ๊วสุดฤทธิ์ แถมมือยังเอื้อมมากุมมือเน็กซ์อีก
"แก้วใสเป็นหนี้บุญคุณเน็กซ์มากเลยนะจ๊ะ มากจนไม่รู้ว่าชาตินี้จะใช้หนี้หมดรึเปล่า"
แก้วใสจะจับมือเน็กซ์มาสัมผัสที่หน้าอก แต่จังหวะนั้น พุชชี่กับหนูดอกพากันเดินกลับเข้ามา
"ที่ซ้อมอยู่เมื่อกี้นี้ คล้ายๆบทนังนกสองหัวในเรื่องแรงเงาเลยนะแก้วใส หรือว่าเธอแอบไปฝิ่นละครไม่ให้ชั้นรู้อีก"
แก้วใสชะงัก
"มาดาม...ซ้อมบทอะไรกันคะ เปล่าซะหน่อย"
"ถ้าเปล่าก็ดี เพราะหล่อนรับปากกับมาดามแล้วนะว่าจะไม่แอบไปรับงานเองอีก"
"ชั้นจำได้น่า"
"ก็ดี...แล้วนี่คนอื่นหายไปไหนหมด"
"แก้วใสไล่ให้ไปทำงานบ้านค่ะมาดาม มาเฝ้าอยู่แถวนี้มันเกะกะ"
พัฒศรีหันไปพยักหน้ารู้กันกับดอกไม้ จากนั้นดอกไม้ก็แยกออกไป
"อิ่มแล้วใช่มั้ยเน็กซ์ วันนี้ชั้นมีนัดทานข้าวกับพี่จุ๋ง เธอต้องไปกับชั้นจะได้แนะนำให้พี่จุ๋งรู้จัก"
"ใครครับพี่จุ๋ง"
"ผู้จัดละครจ้ะเน็กซ์"
"แก้วใส…เสร็จธุระของเธอแล้วก็รีบไปแต่งตัวสิ วันนี้มีงานไม่ใช่เหรอ"
"ค่ะมาดาม"
แก้วใสสบัดหน้าเชอะ หัวเสียที่โดนพุชชี่ขัดจังหวะอ่อยเหยื่อ หล่อนหรี่ตามองตามแก้วใส

พุชชี่เดินออกมาที่เจ้าม้าป่า ดอกไม้รีบเข้ามารายงาน
"โอเค เรียบร้อยแล้วค่ะมาดาม หนูบอกทุกคนตามที่มาดามสั่งไว้แล้วค่ะ"
"ดีมาก เดี๋ยวเราก็ได้รู้แล้วว่า นังหนอนบ่อนไส้มันเป็นใคร"
ระหว่างนั้นเน็กซ์ตามออกมาเห็นพัฒศรีซุบซิบกับดอกไม้ก็สงสัย
"มีอะไรกันเหรอครับ ท่าทางเหมือนกับจะวางแผนไปดักอุ้มใคร"
"ยุ่งน่า...ไม่ใช่เรื่องของเด็ก ขึ้นรถ"
พุชชี่ผลักเน็กซ์ให้ขึ้นรถแล้วขับรถออกไป หนูดอกไม้มองตามแล้วยิ้มชอบใจ
ลอร่าแอบซุ่มอยู่ไกลๆ รีบเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วกดเบอร์ยิกๆ

ภายในห้องสตูดิโอของโรงเรียนสอนการแสดงแห่งหนึ่ง เน็กซ์สงสัย
"อ้าว...นี่มันโรงเรียนสอนการแสดงไม่ใช่เหรอป้า ไหนบอกว่าจะพาผมไปเจอ ผู้ใหญ่ไง"
"ชั้นยังให้เธอไปพบผู้จัดละครไม่ได้หรอก จนกว่าเธอจะมีพื้นฐานการแสดงที่ชั้นกล้าการันตีว่า เธอพร้อมสำหรับการเป็นนักแสดงไม่ใช่ดารา"
"แล้วทำไมป้าถึงบอกแก้วใสว่า..."
"พอ...ไม่ต้องถามอะไรซอกแซก เธอให้เกียรติชั้นดูแลชีวิตเธอและปั้นเธอให้เป็นซูเปอร์ สตาร์ เพราะฉะนั้นเธอต้องเชื่อชั้น แล้วความฝันที่เธอจะตามหาพ่อก็จะเป็นจริง"
ครูดาวเข้ามา
"สวัสดีค่ะมาดาม รอนานกันรึเปล่า"
"สวัสดีค่ะครูดาว เพิ่งมาถึงค่ะ"
"นี่น่ะเหรอคะเด็กใหม่ของมาดาม ดูหน่วยก้านดีนี่คะ"
"สารรูปน่ะดีอยู่ค่ะครู แต่ไม่รู้ว่าจะใช้ได้จริงรึเปล่า ถึงต้องมาขอร้องให้ครูเคี่ยวเข็ญ"
"สวัสดีครับครูดาว"
ครูดาวรับไหว้
"จ้ะ ไม่ต้องห่วงนะมาดาม ถ้ามาดามไว้ใจครู เดี๋ยวครูจะเคี่ยวเอาแต่หัวกระทิออกมาให้เลย"
"ขอบคุณมากเลยค่ะครู ยังไงหนูฝากเขาด้วยนะคะ แล้วหนูจะกลับมารับ"
"อ้าว...แล้วป้าจะทิ้งผมไว้แบบนี้เหรอ"
"ชั้นมีธุระสำคัญต้องไปจัดการ เธอต้องตั้งใจทำงานนะเน็กซ์ เพราะนี่คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดของเธอ ถ้าเธอทำไม่ได้ เธอต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี แต่ถ้าเธอทำได้ดี แค่ไม่ถึงปี เธอก็มีโอกาสไปตามหาพ่อแล้ว"
หล่อนตบบ่าเน็กซ์แล้วออกไปทิ้งเน็กซ์อยู่กับครูดาวตามลำพัง

พุชชี่ออกมาที่เจ้าม้าป่าที่จอดอยู่ด้านหน้า ระหว่างนั้นหนูดอกโทร.เข้ามา
"ว่าไงหนูดอก...ได้เรื่องรึยัง"
"ได้เรื่องแล้วค่ะมาดาม อย่างที่หนูสงสัยไว้เป๊ะเลย"
"นังนั่นมันเป็นใคร ชั้นจะไปกระชากหน้ากากมันเอง"

ภายในบ้าน เจ๊เมี่ยงกลับมาอย่างหงุดหงิดหัวเสีย
"นังลอร่า นังแสบเอ้ย ส่งข่าวอะไรของมันมาก็ไม่รู้ เสียเวลาชะมัด ขอโทร.ไปด่าให้หูตูบ สักทีเถอะ"
นางกดโทรศัพท์โทร.ออกไปหาลอร่า ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในบ้านนั่นเอง นางทำหน้างงๆสงสัย ก่อนจะตกใจหน้าถอดสีเมื่อเจอพุชชี่ลากตัวลอร่าในสภาพปากเจ่อเลือดซิบ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเพราะโดนเล่นงานมา
"ไม่ต้องเสียเวลาโทร.หานังหน้าหนอนบ่อนไส้หรอก ชั้นลากคอมันมาคืนให้เจ๊แล้ว"
"เจ๊...เจ๊เมี่ยงขา ช่วยลอร่าด้วย"
"นัง...นังลอร่า นี่แก...แก"
"ชั้นไม่นึกเลยนะว่า เจ๊จะทำตัวสกปรกโสโครกได้ขนาดนี้ ชั้นคิดว่าที่ชั้นแพ้เจ๊มาตลอด เพราะเจ๊มีดี เก๋าเกมส์เป็นมือหนึ่งของวงการ ชั้นถึงไล่ไม่ทันเจ๊สักที แต่มันไม่ใช่เลย เจ๊มันก็หน้าหนอนพอๆ กับลูกน้องเจ๊"
หล่อนผลักลอร่าไปให้นาง ลอร่าเกาะขาร้องห่มร้องไห้
"เจ๊ขา...ลอร่าเจ็บจังเลย"
"แกไปพลาดท่าให้มันจับได้ยังไง"
"เพราะชั้นใช้สมองกว่าเจ๊ไง ชั้นให้หนูดอกบอกทุกคนในบ้านว่าชั้นจะพาเน็กซ์ออกไปไหน แต่ละคนจะรู้ไม่เหมือนกัน พอมันส่งข่าวไปให้เจ๊ มันถึงได้ถูกจับคาหนังคาเขา"
นางรีบสะบัดลอร่าออก
"แกนะแก เก่งแต่ไถเงินชั้น สมองมีแต่ขี้เลื่อย"
"อย่าไปว่านังลอร่ามันเลยเจ๊ อยากด่าว่าโง่มันต้องด่าคนสั่งการมันมากกว่า" พุชชี่บอก
"นังพุชชี่"
นางง้างมือจะตบแต่หล่อนไม่กลัวยื่นหน้าเข้าไปอย่างท้าทาย
"เอาสิเจ๊ ถ้าเจ๊คิดว่าจะเอาชนะชั้นด้วยกำลังและด้วยแผนสกปรกที่เจ๊ถนัดล่ะก็...เชิญ เจ๊งัดทุกตำราของเจ๊มาจัดการชั้นเลย แต่ชั้นขอบอกไว้เลยนะ เจ๊ทำอะไรชั้นไม่ได้หรอก เพราะเน็กซ์ของชั้นจะต้องเป็นซูเปอร์สตาร์ เขาจะดังกว่าเด็กทุกคนที่เจ๊เคยสร้างมาด้วยฝีมือปั้นของชั้น...มาดามพุชชี่ !"
เจ๊เมี่ยงเสียหน้าลดมือลง พุชชี่สะบัดบ๊อบใส่แล้วเดินผ่านหน้าลอร่าก่อนจะดีดลูกเตะหลังอีกหนึ่งดอก ทำเอาลอร่าหลายหลังตึงร้องโอ๊ยลั่น
"อู้ย...เจ๊ขา ลอร่าเจ็บ อู้ย..."

เจ๊เมี่ยงมองตามพุชชี่แล้วกำหมัดแน่นกัดกรามอย่างเจ็บใจ

ห้องเรียนภายในสตูดิโอ นักเรียนการแสดงของครูดาวหนุ่มสาวหน้าตาดีหลายคนออกไปแสดงเป็นสารพัดสัตว์ ทั้งหมา แมว นก ฯลฯ ตามแต่จินตนาการที่ครูดาวให้โจทย์ ส่วนเน็กซ์ยืนหน้าอึ้งๆเอาแต่ดูอย่างเดียว

"ไปสิเน็กซ์ ตาเธอแล้ว"
"ผมเหรอ"
เน็กซ์ส่ายหน้าแล้วบอก
"ไม่ไหวมั้งครับ ผมทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นหรอกครับ"
"แล้วไม่อยากลองดูเหรอจ๊ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำถูกหรือผิด ครูแค่อยากให้ลองจินตนาการ เป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา อะไรก็ได้จ้ะ แล้วแต่เน็กซ์เลย"
เน็กซ์ยังเงียบนิ่ง ครูดาวคะยั้นคะยอ
"ลองดูสิจ๊ะ ไปสนุกๆกับเพื่อนๆ"
"ก็ได้ครับ"
เน็กซ์สูดลมหายใจ สีหน้าดูตั้งใจมั่กๆ ก่อนจะไปยืนท่ามกลางทุกคนที่กำลังเป็นโน่นนี่นั่น เน็กซ์ยืนนิ่งๆตัวแข็งๆ สีหน้าเรียบเฉยจนครูดาวสงสัย
"จินตนาการของเน็กซ์คืออะไรเหรอจ๊ะ"
"ก้อนหินครับ ผมกำลังเป็นก้อนหิน"
เน็กซ์บอกไปแล้วก็ยืนตัวแข็งๆนิ่งเฉยไม่ต้องทำอะไรเลย ครูดาวรู้ทันทีว่า กำลังเจอลูกศิษย์กวนประสาทเข้าให้
"อ๋อ...เหรอจ๊ะ ช่างคิดนะ"
ครูดาวยิ้มแบบเดี๋ยวเจอดีแน่

ครูดาวเริ่มฝึกสอนการจินตนาการให้กับนักเรียนในคลาสต่อด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมให้กลุ่ม
"เมื่อดวงอาทิตย์แผ่ความร้อนลงมาถึงพื้นดิน อากาศเริ่มร้อนมากขึ้น และมากขึ้น"
นักเรียนการแสดงคนอื่นๆ จินตนาการรับมือกับความร้อนที่ครูให้โจทย์อย่างเต็มที่กันทุกคน ผิดกับเน็กซ์ที่เอาแต่ยืน เฉยไม่แสดงอะไรออกมาทั้งนั้น
"แดดกำลังร้อนมากเลยนะจ๊ะเน็กซ์ ไม่รู้สึกถึงความร้อนเลยเหรอ"
"ไม่ครับ เป็นก้อนหิน ไม่มีความรู้สึกครับ"
ครูดาวชะงักไป แล้วจิกหน้าหรี่ตามองอารมณ์ งั้นเดี๋ยวเจอเยอะกว่านี้แน่
"ทันใดนั้น เมฆก้อนใหญ่เริ่มแผ่มาปกคลุม ลมพายุเริ่มพัดเข้ามาแรงขึ้น แรงขึ้น และแรงจนเป็นพายุไต้ฝุ่น"
นักเรียนการแสดงคนอื่นๆ จินตนาการรับมือกับความร้อนที่ครูให้โจทย์อย่างเต็มที่กันทุกคน ผิดกับเน็กซ์ที่เอาแต่ยืน เฉยไม่แสดงอะไรออกมาทั้งนั้น
"ลมพายุพัดแรงขนาดนี้ ก้อนหินไม่ขยับเลยเหรอจ๊ะเน็กซ์"
"ผมเป็นก้อนหินที่ใหญ่มากครับ ใหญ่เท่ากับภูเขาเลย"
เน็กซ์บอกไปก็ยืนเฉยๆสีหน้าเรียบไร้ความรู้สึกไม่แสดงอะไรออกมาสักอย่าง เจอแบบนี้เข้าไปครูดาวแทบอยากเอาเท้าก่ายหน้าผาก

ครูดาวออกมาซดกาแฟดังโฮก! แล้วพยายามข่มสติสุดๆ พุชชี่เดินยิ้มแย้มเข้ามา
"เป็นยังไงบ้างคะครู เด็กปั้นหนูคนนี้โอเลยมั้ยคะ"
ครูดาวหน้าเหนื่อยสุดฤทธิ์
"โอมากเลยค่ะมาดาม..โอมาก... เฮ้อ" ครูดาวกัดฟันลากเสียงยาว
หล่อนสงสัย
"น้ำเสียงครูแบบนี้ พุชชี่ว่า...เอ่อ"
"เอาเป็นว่ามาดามไปดูกับตาตัวเองแล้วกัน สอนนักแสดงมาไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น เพิ่งจะเคยเจอแบบนี้นี่แหละค่ะ"

ภายในห้องเรียน นักเรียนการแสดงคนอื่นๆกำลังร่วมกันแสดงในฉากที่ต้องใช้อารมณ์เสียใจจากสถาการณ์ในงานศพ ทุกคนอยู่ในอารมณ์ร่วมโศกเศร้าน้ำตาคลอ ส่วนเน็กซ์กลับเอาแต่ยืนดูเฉยๆ แถมยังหลุดหัวเราะออกมา ขณะที่ทุกคนกำลังพีคสุดๆกับความเสียใจ ทุกคนหันขวับมามองเน็กซ์ตาเขียวปั๊ด
"ขอโทษครับ ลืมไปว่ากำลังอยู่ในฉากงานศพ เมื่อกี้นี้ยังเห็นเขาเล่นเป็นหมาอยู่เลย เลยนึกว่ามางานศพหมา ไม่ได้มางานศพคน เชิญเล่นกันต่อเลยครับ เชิญๆ"
ครูดาวพาพุชชี่เข้ามาดูถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่
"เห็นแล้วใช่มั้ยคะมาดาม หน้าตาเขาน่ะดีพอเป็นซูเปอร์สตาร์ได้สบาย แต่ก็คงได้แค่ยืนเฉยๆ ห้ามแสดงอะไรเด็ดขาด เพราะเขาดื้อหัวแข็ง ไม่ยอมรับการแสดง ไว้ถ้าเขาพร้อมเมื่อไหร่ มาดามค่อยส่งมาให้ครูอีกทีแล้วกัน"
หล่อนพยักหน้ารับอย่างจ๋อยๆ
"ค่ะครู"
หล่อนมองเน็กซ์ที่ยังยืนอมยิ้มขำอยู่ในฉากเศร้าแล้วกัดฟันกรอดๆ

พุชชี่ดึงติ่งหูเน็กซ์จนหูแทบยานเข้ามาในบ้าน
"โอ๊ยๆๆ อะไรเนี่ย ป้าปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลย ถ้าไม่เลิกทารุณผมนะ ผมจะไปหาเจ๊เมี่ยง"
หล่อนอึ้ง
"ไอ้เด็กบ้า นี่เธอขู่ชั้นเหรอ"
"ก็ป้ามาเยอะกับผมก่อนทำไม รู้มั้ยว่ามันเสียเวลา ที่ผมตามป้ามาเพราะต้องการหาเงิน ไปตามหาพ่อ ไม่ใช่เอาผมไปปล่อยให้ใช้เวลาหมดไปวันๆแบบนั้น"
หล่อนชะงัก
"อ๋อ...ชั้นรู้แล้ว ที่ไปดื้อกับครูเขาก็เพราะเธอกำลังดูถูกอาชีพนักแสดง"
"ผมเปล่าดูถูก"
"ทำไมจะไม่ใช่ ชั้นเห็นมาเยอะแล้วเน็กซ์ คนที่อยากเข้าวงการนี้เพราะคิดว่าเงินกับชื่อเสียงมันได้มาง่ายๆ แค่มายืนยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้หน้ากล้องแล้วก็ได้ตังค์กลับบ้าน มีรูปลงหนังสือพิมพ์ทุกวัน มีคนมาเอาอกเอาใจ"
"เท่าที่ผมเห็นก็แบบนั้นไม่ใช่เหรอ"
พุชชี่จริงจัง
"ไม่ใช่ ! มาดามพุชชี่ไม่เคยปั้นเด็กให้เป็นแค่ดาราประดับวงการ"
เน็กซ์มองหล่อนอย่างไม่เข้าใจ หล่อนยังไม่อธิบายอะไรให้ฟังเพราะหันไปตะโกนเรียก
"หนูดอก"
หนูดอกเดินเข้ามา
"คะ มาดาม"
"โทรหาพี่ก้อง อีเว้นท์...บอกเขาว่าชั้นอยากพาเด็กใหม่ไปเปิดซิง"
หนูดอกงงๆ
"มาดามจะให้เน็กซ์เริ่มทำงานเลยเหรอคะ ก็ไหนว่าเขายังไม่พร้อม"
"ไปทำตามที่ชั้นสั่งเถอะน่า...ไป"
หนูดอกรีบออกไปทำตามคำสั่ง พุชชี่ขยับเข้าไปมองหน้าเน็กซ์ใกล้ๆแล้วใช้นิ้วจิ้มอกอย่างท้าทาย
"ถ้าคิดว่าแค่หน้าตาดีแล้วใช้แค่นั้นหาเงินได้ง่ายๆสบายๆล่ะก็...หึ...เธอดูถูกวงการนี้มากไปแล้ว ไอ้เด็กบ้า"

หล่อนยิ้มมุมปากอย่างดูถูกเน็กซ์

บ้านธีระเวลากลางวัน แพตตี้เอาแต่นั่งจ้องจอสมาร์ทโฟนเช็กทั้งเฟสบุ๊ก เช็กทั้งไลน์และสารพัดโซเชียลเน็ตเวิร์ก ยุวดีเดินเข้ามา
 
"ยังไม่มีการติดต่อกลับมาจากเน็กซ์เลยเหรอคะ คุณหนู"
"ก็ยังน่ะสิ ทั้งโทร. ทั้งส่งข้อความเฟสบุ๊ก ไลน์ ว้อทแอบ ทุกอย่างก็แล้วแต่เงียบฉี่เลย"
"เฮ้อ...ยุวดีว่าคุณแพตตี้ทำใจไว้ล่วงหน้าก็ดีนะคะ เคยได้ยินมั้ยคะเพลงของพุ่มพวง ยุวดีว่ามันตรงกับเรื่องของคุณหนูมากๆ"
"เพลงอะไรของหล่อน"
"เดี๋ยวยุวดีร้องให้ฟังค่ะ..เผื่อจะช่วยทำให้คุณหนูได้คิด"
ยุวดีตั้งท่าอย่างดีแล้วเริ่มร้องเพลง “คนดังลืมหลังควาย” โจ๊ะพรึ่มๆสุดๆ
"นึกไว้ทุกนาที ถ้าเขาไปได้ดีแล้วคงไม่มาขี่ควาย เขานั้นคงแหนงหน่ายเบื่อนั่งหลังควาย เบื่อเคียวเกี่ยวหญ้า นึกไว้ทุกคืนวัน เพียงเดี๋ยวเดียวลืมกันทิ้งกันให้คอยตั้งตา ไปได้ดีมีค่าก็ลืมสาวชาวนาคนซื่อชื่อรวง ได้เจอะคนเล็บแดงแดง ปากแดงแก้มแดงแดงที่ในเมืองหลวง ทิ้งให้สาวนานอนน้ำตาเอ่อทรวง คนซื่อชื่อรวงเขาคงไม่ห่วงไม่สน"
แตตี้เหวอเสียงปรี๊ดทันที
"นังยุวดี...หยุดเลยนะ นี่หล่อนหาว่าชั้นเป็นควายเหรอ"
"ชะอุ๋ย...เปล่านะคะคุณแพตตี้ ยุวดีแค่เปรียบเปรยตามเพลงแค่นั้นเอง ป่านนี้เน็กซ์เขาคงไปได้ดี ได้เจอผู้หญิงสวยๆทุกวัน มันก็เลยเป็นธรรมดาที่คนดังจะต้องลืมหลังควาย"
"ยังไม่หยุดว่าชั้นเป็นควายอีก หล่อนตาย !"
แพตตี้เข้าไปใช้สองมือตบหน้ายุวดีทันที..ผั๊วะ! ยุวดีตาเหล่ปากจู๋ร้องลั่น
"ฮือๆๆ คุณแพตตี้ ยุวดีขอโทษ ยุวดีไม่ตั้งใจ ยุวดีแค่หวังดีไม่อยากเห็นคุณเสียใจ"
แพตตี้จิกหน้าเจ็บใจไม่สนใจ ระหว่างนั้นเสียงเตือนข้อความตอบกลับจากไลน์ในโทรศัพท์ของนางดังขึ้น นางรีบดูแล้วดีใจ
"เน็กซ์ตอบกลับชั้นมาแล้ว"
"เน็กซ์ตอบกลับมาว่าอะไรคะ คุณแพตตี้"
นางเปิดอ่านดูแล้วชะงักนิ่งอึ้งไปตัวแข็งทื่อ ยุวดีสงสัย
"ไม่...ไม่จริง"

หนูดอกเป็นคนพิมพ์ข้อความตอบกลับไปแล้วยิ้มชอบใจ
"อยู่ที่นี่ชั้นมีความสุขดี มีหน้าที่รับผิดชอบมากมาย คงไม่ได้กลับไปบึงโขงหลงอีกแล้ว ขอโทษด้วยที่ทำให้เธอต้องเสียใจ"
อาร์ทชะโงกหน้าเข้ามามองหนูดอกไม้ที่กำลังนั่งหัวเราะคิกคัก หลังจากส่งข้อความกลับไป
"เอาอีกแล้วเหรอหนูดอก ชั้นนึกว่าไอ้วิธีการแบบนี้จะเลิกกันแล้วซะอีก"
"แหมคุณอาร์ท ก็มาดามเขาสั่งมานี่คะ เน็กซ์ต้องถูกจับตาดูทุกฝีก้าว เพราะฉะนั้นจะให้มีเรื่องอื่นมาทำให้วอกแวกไม่ได้เด็ดขาด"
"แล้วถ้าเขารู้ขึ้นมาล่ะ ว่าไปละเมิดเรื่องส่วนตัวเขา"
พัฒศรีเข้ามา
"ไม่มีเรื่องส่วนตัวระหว่างเน็กซ์กับชั้น ทุกอย่างระบุอยู่ในสัญญาที่ชั้นให้เขาเซ็นไปแล้ว การติดต่อสื่อสารทุกทางจะต้องผ่านการเซนเซอร์จากชั้น ตอนชั้นปั้นเธอใหม่ๆก็เคยเจอมาแล้วนี่"
"ชั้นถึงไม่ชอบไง"
"ชั้นก็ไม่ชอบหรอกอาร์ท แต่เน็กซ์เป็นความหวังเดียวของชั้น ต่อไปชั้นไม่อยากให้มีเรื่องผู้หญิงมาโจมตีทำให้เขาต้องเสียหาย"
"ชั้นเข้าใจ แต่หัวใจไม่ได้หล่อเลี้ยงด้วยเลือดอย่างเดียวนะพุชชี่ มันต้องมีความรู้สึก มีความรักช่วยหล่อเลี้ยงด้วย เขาถึงจะอยู่กับเราอย่างมีความสุข"
อาร์ทบอกหล่อนไปแล้วเดินออกไป หล่อนนิ่งไปที่โดนเตือน
"ที่คุณอาร์ทพูดมาก็น่าฟังนะคะมาดาม ถ้าเน็กซ์รู้ว่าเราไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเขาขนาดนี้ ต่อไปเขาจะเกลียดมาดามได้เลยนะคะ"
"ทำอย่างกับทุกวันนี้เขาจะไม่เฮี้ยวกับชั้นงั้นแหละ อยากเกลียดก็เกลียดไป หึ...เชื่อชั้นเถอะ ผู้หญิงอย่างแพตตี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะกับเน็กซ์หรอก"
"แล้วแบบไหนล่ะคะที่เหมาะ"
พุชชี่นิ่งไปไม่ตอบ

ธีระขับรถกลับเข้ามาพร้อมกับลูกน้อง หลังจากไปเก็บเงินกู้มา ระหว่างนั้นยุวดีรีบเข้ามาหาเสี่ย
"เสี่ยคะ...เสี่ย แย่แล้ว เสี่ยรีบไปห้ามคุณแพตตี้เถอะค่ะ"
ธีระสีหน้าสงสัย
"ยัยแพตตี้แผลงฤทธิ์อะไรอีก"
ยุวดีสีหน้าหนักใจ

ธีระเดินตามยุวดีมาเจอลูกสาวหอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าลงมาจากชั้นสอง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะแพตตี้ ถ้าลูกก้าวเท้าออกไปจากบ้านนี้เมื่อไหร่ล่ะก็ ป๋าเอาจริงแน่"
"เอาจริงอะไรเหรอคะ ป๋า"
นางเสนอหน้าเข้าไปท้าทายถาม ธีระชะงักเพราะไม่เคยเอาจริงกับลูกซะที
"ถ้าป๋าไม่รู้ว่าจะทำอะไรก็หลบไปค่ะ แพตตี้ไม่อยากเสียเวลา"
แพตตี้เดินเลยผ่านไป ธีระกัดฟันหงุดหงิด แล้วตัดสินใจหันขวับไปคว้าข้อมือลูกสาวไว้ทันที...หมับ !
"อย่ามาท้าทายป๋าแบบนี้นะแพตตี้ ความรักลูกทำให้ป๋าทำได้ทุกอย่าง !"
ธีระบีบมือลูกสาวแน่น จ้องหน้าเขม็งก่อนจะฉุดกระชากพากลับขึ้นไปข้างบนบ้าน ท่ามกลางเสียงร้องของแพตตี้
"ปล่อยแพตตี้นะป๋า...ปล่อย"

นางถูกธีระผลักล้มลงบนเตียง ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้ามียุวดีถือตามเข้ามา ธีระหันไปสั่ง
"เก็บเสื้อผ้าของแพตตี้กลับไปไว้ที่เดิม แล้วอย่าให้ทำแบบนี้อีก"
"อย่านะยุวดี...วางเอาไว้ตรงนั้นนั่นแหละ ยังไงชั้นก็จะไปตามเน็กซ์ที่กรุงเทพฯ"
"พ่อเอาจริงกับลูกขนาดนี้แล้ว ยังไม่กล้าอีกเหรอแพตตี้"
"ถ้าป๋าไม่ล่ามโซ่แพตตี้เอาไว้ ป๋าก็ห้ามแพตตี้ไม่ได้หรอก"
ยุวดีรีบห้าม
"คุณแพตตี้คะ หยุดท้าเสี่ยเถอะคะ ตั้งแต่อยู่กับเสี่ยมา วันนี้ยุวดีเห็นเสี่ยโกรธสุดๆแล้วนะคะ"
"เชอะ...ก็ลองดูสิ ถ้าป๋าไม่อยากให้แพตตี้รักป๋าอีก"
"นี่แก ! ระหว่างชั้นกับไอ้บักหมา แกรักมันมากกว่าชั้นอีกเหรอ"
"เมื่อก่อนก็ไม่มากกว่าหรอกค่ะ แต่ถ้าป๋ายิ่งห้าม แพตตี้ก็จะยิ่งรักเขามากกว่า"
"แต่ชั้นให้แกกับมันรักกันไม่ได้เด็ดขาด"
"ทำไมคะป๋า เน็กซ์ไม่มีอะไรดีตรงไหน ทั้งบึงโขงหลงเขาเหมาะกับแพตตี้ที่สุดแล้ว"
"ไม่ ! มันไม่มีอะไรเหมาะสมกับแกแม้แต่นิดเดียว แกจะไปรักใครชอบใครชั้นจะไม่ห้าม แต่ต้องไม่ใช่ไอ้บักหมา"
"ทำไม ทำไมต้องห้ามเน็กซ์คนเดียว ป๋าเกลียดอะไรเขา บอกแพตตี้มาสิ"
ธีระนิ่งไป สีหน้าจริงจัง
"แกไม่ต้องรู้อะไรทั้งนั้น ต่อไปนี้แกห้ามออกจากห้องจนกว่าชั้นจะอนุญาต โทรศัพท์ก็ห้ามใช้ ห้ามคุยกับใครเด็ดขาด ! คนของชั้นจะจับตาดูแกทุกฝีก้าว"
ธีระสั่งจริงจังแล้วออกจากห้องไปปิดประตูปัง ! แพตตี้อึ้งไปทันทีรีบตามไปเคาะประตู
"ป๋า ป๋า ป๋าจะขังแพตตี้เอาไว้แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดนะ ป๋า ป๋า"

พุชชี่เดินคุยโทรศัพท์เข้ามาที่ห้องโถงในเวลากลางคืน
"เห็นรูปเด็กใหม่ของพุชชี่แล้วใช่มั้ยคะพี่ก้อง เป็นไงคะน้องเขาหล่อเทพเลยใช่มั้ยคะ" หล่อนพูดพลางหัวเราะ "แหม...พุชชี่ก็ต้องคัดแต่ดีๆให้พี่ไว้ใช้งานสิคะ ตั้งใจจะให้เปิดตัวที่งานของพี่เป็นงานแรกเลย รักค่ะ คิดถึงพี่เหมือนกัน พรุ่งนี้จะพาไปให้ดูตัวเป็นๆเลย จุ๊บๆนะคะ"
หล่อนกดตัดสายไป แล้วชะงักตกใจเมื่อเจอติณณภพมานั่งรออยู่ที่ห้องโถง
"พี่ติณ"
"งานยุ่งทั้งวันเลยเหรอ พี่โทร.หาก็ไม่รับสายพี่เลย"
"เอ่อ คือ...ค่ะพี่ติณ ยุ่งมากเลยค่ะ"
"เพราะอย่างนี้ไง พี่ถึงต้องมาหาน้องพัฒถึงบ้าน"
ติณณภพยิ้มให้อย่างอบอุ่นแล้วเข้าไปเอามือถืออกจากมือหล่อนมาวางไว้ที่โต๊ะ
"คนไม่ใช่เครื่องจักร ทำงานก็ต้องพักบ้าง ออกไปทานข้าวกันเถอะ พี่เจอร้านอาหารอิตาเลี่ยนอร่อยๆ รับรองว่าเราต้องชอบแน่"
"เอ่อ แต่ว่า..."
"ห้ามปฏิเสธพี่นะ พี่อยากเลี้ยงขอบคุณที่น้องพัฒไปแฮบปี้เบิร์ธเดย์พี่ถึงหน้าบ้าน"
หล่อนหน้าเสียไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ระหว่างนั้นเน็กซ์ที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จเดินผ่านเข้ามาพอดี
"อ้าว...เน็กซ์เข้ายิมเสร็จแล้วเหรอ ชั้นกำลังรออยู่เลย"
หล่อนรีบเข้าไปจิกเน็กซ์ที่ยืนงงๆไม่ทันรู้เรื่องอะไร
"นี่เน็กซ์ค่ะพี่ติณ เขาเป็นเด็กปั้นคนใหม่ พรุ่งนี้เขาต้องไปเดินแบบเป็นงานแรก น้องเลยต้องเคี่ยวเขาให้พร้อมที่สุดก่อนค่ะ"
"อะไรกันป้า ก็วันนี้ป้าให้พี่อาร์ทช่วยเทรนให้ผมแล้วไง"
หล่อนหันมาจิกหน้าดุใส่
"อย่ามาเถียงชั้นนะ พรุ่งนี้เธอต้องทำให้ดีที่สุด ไม่งั้นเสียชื่อมาดามพุชชี่หมด"
"ไม่เป็นไรหรอกน้องพัฒ ถ้าไม่ว่างไว้เราไปกันวันหลังก็ได้ แต่วันนี้พี่ไม่ได้ทำอะไร ขอพี่อยู่ดูน้องทำงานแล้วกันได้มั้ย"
หล่อนชะงัก
"เอ่อ..."

เน็กซ์หรี่ตามองพัฒศรีแล้วชำเลืองมองไปที่ติณณภพอย่างสงสัยพฤติกรรมของทั้งคู่
 
อ่านต่อหน้า 4

มาดามดัน ตอนที่ 3 (ต่อ)

บริเวณสระว่ายน้ำ หล่อนพาเน็กซ์ออกมาโดยมีติณณภพตามมานั่งรอดู

"คนนี้ใช่มั้ย ที่ป้าแอบไปมองหลังคาบ้านเขาตอนดึกๆ หล่อ ดูดีมีชาติตระกูล มิน่าป้าถึงต้องทำตัวเป็นหมาแหงนมองเครื่องบิน"
หล่อนหยิก
"นี่...ไอ้เด็กบ้า ปากเสียใหญ่แล้วนะ"
"ถ้าไม่อยากให้ผมปากเสียอยู่เป็นก้างขวางคอแล้วป้าลากผมมาเป็นกขค.ทำไมล่ะ ตอนนี้ที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่ ออกไปทำงานกันหมด โอกาสเป็นของป้าแล้ว ผมไปดีกว่า"
หล่อนรีบดึง
"ห้ามไปไหนนะเน็กซ์ ชั้นต้องฝึกเดินแบบให้เธอ มานี่เลย"
หล่อนดึงติ่งหูเน็กซ์แล้วลากมาหยุดที่ทางเดินข้างสระ ติณณภพดูการทำงานของหล่อนอยู่
"เด็กสมัยนี้ทั้งหัวแข็งแล้วก็ดื้อด้าน ถ้าไม่ลงไม้ลงมือก็ไม่ค่อยจะฟังหรอกค่ะ พี่ติณ"
"งานของน้องพัฒน่าสนุกดี พี่อยากเห็นน้องทำงานมาตั้งนานแล้ว"
เน็กซ์กระซิบถามหล่อน
"น้องพัฒเลยเหรอป้า หวานไปป่ะเนี่ย"
หล่อนแอบหยิกก้นเน็กซ์
"หุบปากแกไปเลยนะไอ้เด็กบ้า เดินให้ชั้นดูสิว่า อาร์ทเทรนเธอมายังไงบ้าง ผิดพลาดตรงไหนชั้นจะได้แก้ไขให้ได้"
เน็กซ์ทำหน้าเซ็ง
หล่อนกดรีโมตเปิดเพลงประกอบให้เน็กซ์เดินแบบให้ดู แต่เน็กซ์เดินได้รอบเดียว พัฒศรีก็รีบปิดเพลงทันที
"หยุดเลย ถ้าพรุ่งนี้ชั้นปล่อยให้เธอไปเดินแบบนั้นบนเวที ชั้นต้องเอาปี๊บคลุมหัวแน่"
"อะไรอีกเนี่ยป้า ก็พี่อาร์ทบอกว่าผมเดินโอเคแล้วนี่"
"นั่นสิ พี่ก็เห็นว่าน้องเขาเดินได้ดีแล้วนี่"
"นั่นไงเห็นมั้ย ลุงเขายังว่าผมเดินได้ดีแล้วเลย"
ติณณภพชะงัก
"ลุงเลยน้องชาย พี่ก็พอมั้ง"
"อย่าไปสนใจเด็กบ้านี่เลยค่ะพี่ติณ ตั้งแต่ปั้นเด็กมาไม่เคยเจอใครปากเสียเท่าคนนี้มาก่อนเลยจริงๆ ชั้นจะบอกให้นะเน็กซ์ การเดินแบบคือการดึงเสน่ห์ในตัวของเราออกมาให้คนดูดูเราแล้วอึ้ง ทึ่ง หลง จนละสายตาจากเราไม่ได้แม้แต่นิดเดียว"
"เมื่อกี้นี้ผมก็ทำแล้วไง"
"ไม่ใช่...ถึงเธอจะหล่อหน้าตาดี แต่เมื่อกี้นี้ชั้นไม่รู้สึกว่า อยากดูเธอเดินเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนดูลิงเผือกกระย่องกระแย่งเดินหากล้วยอยู่ในป่ามากกว่า"
หล่อนพูดไปก็ทำท่าเดินแบบตลกๆให้เน็กซ์ดู ติณณภพเห็นแล้วก็ขำ หล่อนชะงักที่เผลอทำตัวน่าอายให้เห็น
"อ้าว ป้า มาว่าผมเป็นลิงเผือกเดินหากล้วย งั้นป้าก็ลองเดินให้ผมดูเป็นตัวอย่างแล้วกัน ผมจะได้รู้ว่าเดินแล้วทำให้คนดูละสายไม่ได้เป็นยังไง"
"อย่ามาท้าชั้นนะเด็กบ้า"
"ไม่ได้ท้า ก็แค่อยากรู้ว่า ถ้าป้าเดินแล้วจะเป็นชะนีเดินหากล้วยรึเปล่า"
หล่อนชักสีหน้าโกรธจะด่าแรงๆใส่ แต่ติณณภพอยู่ด้วยเลยชะงักและรับคำท้า
"ก็ได้ จับตาดูให้ดีแล้วกัน จะได้รู้ว่า ทำไมวงการนี้ถึงยอมรับว่าชั้นคือมาดามพุชชี่"
เสียงเพลงดังขึ้น หล่อนยืนโพสต์หันหลังอยู่ที่ปลายทางเดินข้างสระน้ำ เน็กซ์กับติณณภพรอดู เสียงเพลงเร้าใจ หล่อนค่อยๆหันหน้ามาแล้วสะบัดผมสยายด้วยลุคอย่างนางแบบมืออาชีพและเพียงแค่เริ่มก้าว เดินไม่เท่าไหร่ ท่วงท่าเย้ายวนสวยเซ็กซี่ของหล่อนก็ตรึงทั้งสองเอาไว้ได้จริงๆ
เน็กซ์กับติณณภพเหมือนโดนมนต์สะกดให้ละสายตาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ยิ่งพอหล่อนเดินโฉบเข้ามาโพสต์ตรงหน้าพร้อมกับใช้มือเปิดไหล่ให้เห็นเนินอกขาวๆ ทั้งติณณภพและเน็กซ์ก็พากันลืมตัว กลืนน้ำลายดัง…เอื๊อก !!
หล่อนสวมวิญญาณนางแบบมืออาชีพรวบผมขึ้นโชว์ต้นคอสวยๆก่อนจะหมุนตัวเดินกลับ ทิ้งให้สองหนุ่มสองวัยยืนหัวใจเต้นตึกๆ แต่แล้วทันใดนั้น หล่อนเกิดสะดุดสายยางที่ข้างสระร้องดัง
"ว๊าย"
หล่อนเซเกือบจะตกลงไปในสระ เน็กซ์กับติณณภพตกใจ รีบโผเข้าไปหาเธอพร้อมกัน..หมับ !! หล่อนค้างเติ่งอยู่ขอบสระในท่าเกือบหงายหลัง โดยมือข้างขวาเน็กเป็นคนคว้าเอาไว้ทัน ส่วนมือข้างซ้ายติณณภพก็คว้าเอาไว้ทันเช่นกัน หล่อนเป่าปากโล่งอก
"ขอบคุณค่ะพี่ติณ...ขอบใจนะเน็กซ์"
สองหนุ่มยิ้มให้หล่อนแล้วหันมามองหน้ากัน เพราะทั้งคู่ต่างจับมือพุชชี่เอาไว้คนละข้าง และยึกยักรอให้อีกฝ่ายปล่อยมือก่อน ตัวเองจะได้เป็นคนดึงพุชชี่เข้าหาตัว
"ปล่อยกันได้แล้วล่ะ ชั้นไม่เป็นอะไรแล้ว"
สองหนุ่มยังมองหน้ากัน รอให้อีกฝ่ายเป็นคนปล่อย พอหล่อนบอกให้ปล่อยก็ดันปล่อยมือพร้อมกันอีก
ตูม!... หล่อนหงายหลังตกลงไปในสระทันที เน็กซ์กับติณณภพต่างตกใจ

พุชชี่นั่งตัวเปียกหนาวสั่นอยู่ที่ม้านั่งข้างสระ ติณณภพเอาผ้าขนหนูมาช่วยห่มให้
"พี่ขอโทษนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ติณ น้องซุ่มซ่ามเองต่างหาก"
"ไม่รีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวหวัดก็รับประทานหรอกป้า"
"เพราะแกเลยไอ้เด็กบ้า"
"อ้าวมาโทษผมซะงั้น ป้าเดินซุ่มซ่ามเองต่างหาก ดีแค่ไหนที่ผมช่วยป้าเอาไว้น่ะ"
"พี่ติณเขาช่วยชั้นต่างหาก"
"เอาล่ะ พี่ว่า พี่ให้น้องพัฒไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า คืนนี้พี่ไม่กวนแล้ว ไว้วันหลังพี่ จะเช็คเวลาว่างของน้องกับหนูดอกก่อน จะได้ไม่มาเก้อแบบวันนี้อีก"
"เอ่อ...พี่ติณคะ คือว่า ช่วงนี้น้องต้องยุ่งกับเน็กซ์ค่อนข้างมากแทบจะ 24 ชั่วโมงเลย เวลาว่างน้องคงไม่ค่อยมี ไว้น้องจะเป็นคนโทร.หาพี่ติณเองดีกว่านะคะ"

ติณณภพทำหน้าเซ็งๆ ผิดหวังก่อนจะหันไปมองเน็กซ์ สองหนุ่มมองหน้ากัน แววตาของติณณภพดูไม่ค่อยชอบใจนัก

เน็กซ์เดินตามหล่อนมาหยุดที่หน้าห้อง ขณะที่หล่อนกำลังจะกลับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

"หยุดเลยนะป้า ป้ากำลังใช้ผมเป็นเครื่องมืออะไรอยู่รึเปล่า"
"เครื่องมืออะไรของเธอ ชั้นหนาว ชั้นอยากจะเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว"
"อายุผมอ่อนกว่าป้า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรนะ ถ้าอยากจะเล่นตัวให้ผู้ชายเขาหลงหัวปักหัวปำล่ะก็ ป้าอยากจะทำอะไรก็ตามสบายมันไม่ใช่เรื่องของผม แต่ถ้าการใช้ผมเป็นเครื่องมือปั่นหัวหมอนั่น ผมไม่ชอบ"
หล่อนชะงัก
"นี่คิดได้ไงเนี่ยไอ้เด็กบ้า"
"แล้วมันใช่มั้ยล่ะ แล้วมันได้ผลมั้ยล่ะ พอป้าบอกว่าต้องวุ่นวายกับผมปุ๊บ เขาก็หันมา มองหน้าผมอย่างกับผมเป็นศัตรูทันที"
"หยุดเลยนะเน็กซ์ เธอกำลังยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของชั้นมากเกินไปแล้ว"
"ผมไม่หยุด เพราะผมไม่ชอบให้ป้าใช้ผมเพื่อปั่นเรตติ้งตัวเอง"
หล่อนโกรธจัดตบหน้าเน็กซ์ทันที เพี๊ยะ ! เน็กซ์อึ้ง หล่อนตกใจที่เผลอตบหน้าเน็กซ์ไป
"เน็กซ์...ชั้น ชั้นขอโทษ"
เน็กซ์หน้านิ่งเฉยแสดงความไม่พอใจแบบดื้อๆ
"สัญญามันระบุไว้ว่า ผมมาทำงานให้ป้าในฐานะดาราสังกัด ถ้าจะให้ทำอย่างอื่นนอกเหนือสัญญา ผมไม่ทำให้หรอก มันเสียเวลา หาเงินเพื่อไปตามหาพ่อของผม"
เน็กซ์เดินออกไป หล่อนหน้าเสีย

เน็กซ์หัวเสียเข้ามาล้มตัวลงนอน สีหน้าของนิ่งครุ่นคิดเอามือก่ายหน้าผาก พลางย้อนคิดที่เน็กซ์ตะลึงในความสวยของพุชชี่ที่ตรึงเขาไว้อย่างอยู่หมัดชนิดไม่เคยเห็นมุมสวยของหล่อนมาก่อน เน็กซ์เผลออมยิ้มก่อนจะรีบหุบยิ้มทันที
"หึ...ความจริงก็สวยอ่อนกว่าวัยอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องไปปั่นหัวให้ผู้ชายมาหลงหัวปักหัวปำเลย เจ้าเล่ห์สมกับเป็นมาดามพุชชี่จริงๆ"
เน็กซ์บ่นไปแล้วตัดสินใจเลิกคิดถึงหล่อนเพื่อหลับตานอนพักผ่อน

วันใหม่เน็กซ์กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูเรียกจากอาร์ทดังเข้ามา
"เน็กซ์...เน็กซ์"
เน็กซ์งัวเงียลืมตาตื่นก่อนจะรู้สึกผิดปกติที่เป้ากางเกงเลยเลิกผ้าห่มขึ้นมาดูแล้วตกใจ
"เฮ้ย ! เวรแล้ว"
เน็กซ์หันขวับไปที่ประตู แต่ไม่ทันแล้วเพราะอาร์ทเปิดประตูเข้ามา
"พี่อาร์ท อย่าเพิ่งเข้ามา"
"อ้าว...ทำไมล่ะ พุชชี่เขาให้พี่มาตามเรานะ"
เน็กซ์ยังไม่ยอมลุกจากเตียงเอาแต่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม
"เอ่อ...ผมตื่นแล้วพี่ เดี๋ยวผมลงไป"
อาร์ทหรี่ตามองสงสัย
"ถ้าตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำสิไอ้น้อง แต่ที่ไม่ยอมลุกเอาแต่มุดอยู่ในผ้าห่มแบบนี้ หึๆๆ คิดว่าปิดพี่มิดเหรอไอ้น้อง ธรรมชาติของผู้ชาย ไม่ต้องอายพี่หรอก ไอ้น้องชาย"
อาร์ทจะแกล้งเข้าไปแย่งผ้าห่ม เน็กซ์ยิ่งดึงไว้แน่น
"ไม่เอาพี่ อย่าแกล้งกันแบบนี้น่า ผมขอ"
อาร์ทหัวเราะชอบใจ
"พี่เข้าใจน่าไอ้น้อง มาอยู่แบบนี้ห่างบ้านห่างแฟน มันก็ต้องมีคิดถึง ช่วงเวลาหวานๆสวีตหวิวๆกันมั่ง"
"เปล่านะครับพี่อาร์ท ผมยังไม่มีแฟน"
"โห...เชื่อตายแล้วไอ้น้อง หน้าหล่อๆแบบนี้เนี่ยนะ คาสโนว่าชัดๆ"
"ผมไม่มีจริงๆพี่ ไม่เคยคบใคร มีแต่เพื่อนๆกันทั้งนั้น"
อาร์ทเห็นท่าทางจริงจังจนสงสัย
"จริงเหรอเน็กซ์ เฮ้ย...อย่าบอกนะว่าโตมาขนาดนี้แล้ว แกยังไม่เคย ไอ้แบบว่า"
อาร์ทยกมือมาทำท่าปั๊มๆ เน็กซ์ชะงักหน้าเสีย ไม่กล้าสบตาเพราะยังเวอร์จิ้นจริงๆ อาร์ทเลยฮาก๊าก
"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ะ หล่อโฮกแบบแกเนี่ยยังรอดอยู่ได้ ไอ้น้องเอ้ย"
อาร์ททำท่าคารวะแบบจอมยุทธ์บอก
"ศิษย์พี่ขอนับถือในพรหมจรรย์ของศิษย์น้อง"
"เฮ้ย...พอเลยพี่ เลิกพูดเหอะ"
"ก็ได้วะ พี่รู้ว่าแกอาย ว่าแต่ขออีกคำถามเดียว อยากรู้จริงๆ ใครเหรอ บอกพี่หน่อยสิ ใครที่ตามไปเปิดซิงน้องชายพี่ถึงในความฝัน" อาร์ทพูดพลางเหล่มองผ้าห่ม
เน็กซ์โดนถามแบบนี้ก็ชะงักหน้าเจื่อนๆ ไม่กล้าพูดรีบปฏิเสธ
"พอแล้วพี่ ผมไปอาบน้ำดีกว่า"
เน็กซ์รีบลุกขึ้นพร้อมรวบผ้าห่มชิงหนีเข้าไปในห้องน้ำทันที อาร์ทหัวเราะร่วนชอบใจ

ภายในห้องทำงาน พุชชี่สีหน้าจริงจังกับหนูดอก
"ว่าไงนะ เจ๊เมี่ยงจะส่งเด็กมันขึ้นเวทีเดินแบบวันนี้ด้วยเหรอ"
"ค่ะมาดาม เมื่อกี้นี้หนูโทรเช็คแล้ว เจ๊เมี่ยงขนเด็กตัวเองแทบจะยกบ้านไปให้พี่ก้องดูตัว ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
"สงสัยพี่ก้องจะไปเมาท์ว่า ชั้นมีเด็กใหม่หล่อเว่อร์ไปร่วมงาน เจ๊เมี่ยงก็เลยอยากเกทับชั้น"
"แล้วมาดามจะทำยังไงคะ ขึ้นเวทีแรกเน็กซ์ก็โดนรับน้องแล้ว"
แก้วใสเดินเข้ามา
"ถ้าไม่อยากให้เน็กซ์โดนจัดหนักบนเวที มาดามก็ต้องส่งพี่เลี้ยงฝีมือดีๆคอยประกบสิคะ"
"แก้วใส"
แก้วใสยิ้มดูมีแต้มต่อจนหล่อนไม่สามารถปฏิเสธได้

ภายในผับ กำลังเตรียมการจัดเวที แสงสีเสียงพร้อมสำหรับงานอีเวนท์เปิดตัวสินค้ากาแฟกระป๋อง Savanna พุชชี่เข้ามาไหว้ก้อง สองคนเจอหน้ากันทักทายกันอย่างสนิทสนมแก้มชนแก้ม จุ๊บๆ
"คิดถึ้ง...คิดถึงจังเลยนะฮ้า มาดาม ดูสิ ผอมไปรึเปล่าเนี่ย"
"หนูน่ะ พยายามแค่ไหนก็ลงไปได้แค่นิดส์นึง ไม่เท่าสลิมมิ่งเฮลตี้อย่างพี่หรอกค่ะ"
"ปากหวานนะยะหล่อน แสดงว่ารู้เรื่องที่ต้องประชันเด็กกับเจ๊เมี่ยงแล้วสิ"
"ทำไมพี่ทำกับหนูอย่างนี้ล่ะ ก็รู้ว่างานนี้หนูอยากเปิดตัวเด็ก"
"คุณน้องอย่าวีนพี่เลยนะฮ้า งานนี้ลูกค้าเขารีเควสท์มาว่าอยากได้เริ่ดๆ เจิดๆให้เต็มเวที เด็กของมาดามพุชชี่ก็หล่อเริ่ด เด็กของเจ๊เมี่ยงก็เจิดสุดๆ ถ้าไม่ตามใจลูกค้าพี่ก็ตกงานสิฮ้า ว่าแต่หล่อเทพของคุณน้องอยู่ไหนฮ้า ขอพี่ดูตัวเป็นๆหน่อย"
หล่อนยิ้มรับก่อนจะขยับเปิดทางให้พี่ก้องเห็นเน็กซ์ที่เข้ามาพร้อมกับตั้ม แก้วใสและดอกไม้
"โอ้ว...มายก๊อด ! หล่อเป๊ะเว่อร์ นี่คุณน้องไปกระชากลากตัวจากสวรรค์ชั้นไหนมาเนี่ย"
"แหมพี่ก้องก็...เช็ดน้ำหมากนิ้ดส์นึง อย่างมาดามพุชชี่ถ้าไม่ได้เป๊ะเว่อร์มาล่ะก็...ไม่มีทางเอามาให้น้ำลายไหลหรอก เห็นอย่างนี้แล้วตกลงให้น้องเขาเดินฟินาเร่เลยนะคะ"
ก้องชะงัก
"เอ่อ...เรื่องนั้นน่ะเหรอฮ้าคุณน้อง คือ..."

หล่อนสงสัยกับสีหน้าของก้องที่หนักใจ

ทางเดินหน้าห้องแต่งตัว มัชฌิมากับลอร่าพาเด็กหนุ่มสาวในสังกัดเข้ามา

"ตั้งใจทำงานกันหน่อยนะจ๊ะเด็กๆ ยกมือไหว้ทุกคน แม้แต่แม่บ้านก็ต้องยกมือไหว้ พูดคำว่าขอบคุณทุกครั้ง และที่สำคัญ ยิ้มค่ะ ต้องยิ้มไว้เสมอ อย่าให้เสียชื่อมาถึงเจ๊นะคะ"
นางส่งเด็กๆเข้าไปในห้องแต่งตัว ลอร่าเข้ามาถาม
"เจ๊คะ ถามจริงๆเถอะค่ะ งานไซส์แค่นี้แต่เจ๊เล่นทุ่มพาเด็กเรามาหมดสังกัด แถมยังยอมให้หมอกี้กับน้องฝันหวานๆมาเดินฟินาเร่อีก มันจะคุ้มเหรอคะ"
"ถ้าคิดเรื่องเงินน่ะยังไงก็ไม่คุ้ม แต่ถ้าคิดเรื่องได้สั่งสอนนังพุชชี่ล่ะก็...คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม"
"แน่ใจเหรอเจ๊ว่า คิดจะสั่งสอนเด็กชั้นได้"
นางกับลอร่าชะงักหันไปเห็นพัฒศรีเดินหน้าตึงเข้ามาพร้อมกับหนูดอก
"ต๊ายตายนังพุชชี่ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าหล่อนเป็นวิญญาณเร่ร่อน ยังไม่ทันจะกรวดน้ำก็ลอยมาเสนอหน้าขอส่วนบุญแล้ว"
"ต๊ายตายพุชชี่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะคะว่าเจ๊น่ะเป็นผีเปรต มือเท่าใบตาล ปากเท่ารูเข็ม วันๆไม่ทำอะไร ดีแต่ยืนตัวโย่งๆร้อง อ๊าย..อ๊าย…อ๊าย...ขอส่วนบุญ ช้าน"
เจ๊เมี่ยงปรี๊ดขึ้นทันที
"อ๊าย...อ๊าย...อ๊าย…นังพุชชี่ แก แกกล้ามาว่าชั้นได้ไง"
ลอร่าบอก
"มันกล้าว่าเจ๊ได้เพราะว่าเจ๊ชอบร้องแบบเมื่อกี้นี้จริงๆไงคะ อ๊าย...อ๊าย...อ๊าย"
"นังลอร่า ! เดี๋ยวแม่ก็ตบปากเบี้ยวเลย อยากทำงานอยู่กับชั้นต่อ หรือว่าอยากลดเกรดตัวเองไปเป็นแม่บ้านจริงๆ...ห๊ะ"
"ขอโทษค่ะเจ๊ ลอร่าก็ต้องอยากมือขวาของเจ๊สิคะ เดี๋ยวลอร่าจัดการให้เองค่ะ"
ลอร่าเชิดหน้าเอาเรื่องก้าวมายืนประจัญหน้าแทนลูกพี่
"ชั้นขอเตือนไว้เลยนะ งานนี้ถ้ามาดามไม่อยากเอาปี๊บมาคลุมหัวล่ะก็...รีบๆพาเด็กที่มีอยู่ แค่กระจุ๋มกระจิ๋มของมาดามกลับบ้านไปซะ อย่าได้มาเสนอหน้าแข่งกับเด็กของเจ๊เมี่ยง"
หนูดอกก้าวออกมาชนกับลอร่าเอง
"สำหรับนังหน้าหนอนบ่อนไส้ มาดามไม่ต้องหนูดอกเองค่ะ หล่อนนี่มันหน้าหนายิ่งกว่าถนนราดยางมะตอยอีกนะนังลอร่า ขนาดโดนจับได้ว่าเป็น นกสองหัว หล่อนยังกล้ามาเสนอหน้าให้พวกชั้นเห็นอีก"
ลอร่าหน้าเชิดไม่สน
"อ๊ะ...คนโง่ก็ต้องเป็นเหยื่อของคนฉลาด กฏธรรมชาติเบสิกๆแบบนี้ ใครๆก็รู้ แล้วทำไมชั้นต้องแคร์พวกหล่อนด้วยยะ"
เจ๊เมี่ยงปรบมือให้
"อ๊ะ...เริ่ดมากลอร่า แบบนี้ค่อยสมกับตำแหน่งมือขวาของเจ๊"
"งั้นหล่อนก็คงลืมกฏธรรมชาติไปอีกข้อนึง เกิดเป็นหนอนมันก็ต้องโดนนกจิก"
หนูดอกปรี่เข้าไปจิกผมลอร่า กระชากหน้าหันแล้วตบหน้าทันที ผั๊วะ ! ลอร่าหน้าหันเซถลาร้องเจ็บ
"อู้ย...เจ๊ขา มันเปิดหนูก่อนอ๊ะ"
เจ๊เมี่ยงเจ็บใจจะเข้าไปเอาเรื่อง แต่พุชชี่ขยับมาขวางแล้วจ้องหน้าเขม็ง
"อย่าดีกว่าเจ๊ ถ้าจะสู้กันให้รู้แพ้ชนะ บนเวทีดีกว่ามั้ง"
"หึ...ได้ เด็กหล่อนไม่มีวันได้แจ้งเกิดในวงการนี้แน่ นังพุชชี่"
ทั้งคู่จ้องตากันเขม็ง...ฮึ่มๆ

ภายในห้องแต่งตัว แก้วใสกำลังให้ช่างแต่งหน้าทำผมพร้อมสำหรับการเดินแบบในธีมป่าแอฟริกา พุชชี่กับหนูดอกเข้ามาอย่างหงุดหงิดหัวเสีย
"มาดามไม่น่าห้ามหนูดอกเลย น่าจะให้สั่งสอนมันให้หนีเตลิดกลับบ้านไปเลย"
"ชั้นไม่อยากดังเพราะมีแต่เรื่องฉาวโฉ่ตบตีอีก ต้องวัดกันที่เด็กใครเด็กมันกันอย่างเดียว"
"แล้วจะไหวเหรอคะมาดาม ที่เรามีอยู่ก็แค่กระจุ๋มกระจิ๋มจริงๆ"
"ของอย่างนี้วัดกันที่ปริมาณไม่ได้หรอก มันต้องวัดกันที่คุณภาพ ชั้นจะไปดูเน็กซ์ หล่อนดูแก้วใสอยู่นี่แหละ"
หล่อนเดินออกไป แก้วใสหันมาที่ดอกไม้อย่างสนใจ
"เจอเจี่ยงเมี่ยงจัดหนักแบบนี้ ท่าทางมาดามจะเครียดเลยนะคะ พี่หนูดอก"
"คุณน้องไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ใช้ประสบการณ์ของตัวเอง ช่วยดูให้เน็กซ์ไม่ขายหน้าบนเวทีก็พอ"
"แหม...แต่แก้วใสช่วยได้มากกว่านั้นนะคะ"
"หล่อนจะช่วยอะไรได้ยะ ฝั่งนั้นมีหมอกี้กับฝันหวานๆเป็นเบอร์หนึ่งที่มันจงใจเอามาดับรัศมีเรา เฮ้อ...หนทางที่จะทำให้เน็กซ์ได้เกิดคงไม่เจิดซะแล้ว"
แก้วใสยิ้มมีเลศนัย
"ก็ไม่แน่เสมอไปหรอกค่ะ พี่หนูดอก"
แก้วใสยิ้มเหมือนมีแผนการบางอย่างที่หนูดอกมองอย่างไม่เข้าใจ

ภายในห้องน้ำ ตั้มเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้าทำผมในธีมป่าแอฟริกาเสร็จเรียบร้อย กำลังยืนฉี่สบายๆ สักพัก เน็กซ์ที่ถูกจับแต่งตัวเป็นเสือแบบเท่ๆ แต่มีอาการตื่นเต้นเพราะเป็นเวทีแรกเลยเข้ามายืนฉี่ข้างๆตั้ม
ตั้มชายหางตาไปมองเน็กซ์
"ตื่นเต้นล่ะสิ ไอ้น้อง"
"เปล่าครับพี่ ธรรมดา สบายๆ เหมือนตอนผมแข่งชิงถ้วยฟุตบอล"
"เออ...เก่งนะ งานแรกก็ว่าสบายๆแล้ว"
ตั้มยืนฉี่ต่อแล้วผิวปาก เน็กซ์ฉี่เสร็จจะออกไป แต่ไม่พ้นประตูก็ย้อนกลับมาฉี่อีกข้างๆตั้มเหมือนเดิม
ตั้มอมยิ้ม
"สบายๆเนอะ ไม่ตื่นเต้น"
"ครับพี่ สบายๆ"

เน็กซ์บอกตั้มไป แต่ตัวเองก็ยังฉี่ไม่สุดซะที จนตั้มรู้ว่าตื่นเต้นสุดๆ

หน้าห้องน้ำ พุชชี่เดินเข้ามาตามหาเน็กซ์ แต่เจอตั้ม
 
"ตั้ม...เน็กซ์อยู่ไหน"
"อยู่ในห้องน้ำ ท่าทางจะอาการหนัก"
หล่อนตกใจ
"ท้องเสียเหรอ กินอะไรเข้าไป ทำไมต้องมาเป็นตอนนี้ด้วย"
"ไม่ได้ท้องเสียหรอกพุชชี่ แต่ตื่นเต้นจนวิ่งเข้าวิ่งออกฉี่จนกระเพาะฉี่จะอักเสบแล้ว"
"งั้นเดี๋ยวชั้นเข้าไปดูเอง"
"นั่นมันห้องน้ำชายนะ พุชชี่"
พุชชี่ไม่ฟังไม่สนใจรีบเปิดประตูเข้าไป ตั้มมองตามแล้วยิ้มเบาๆ ก่อนจะหันไปเห็นป้ายทำความสะอาดวางอยู่ ใกล้ๆ ตั้มเลยช่วยเอามาวางที่หน้าประตูห้องน้ำให้

เน็กซ์ยังยืนฉี่ไม่เสร็จเพราะตื่นเต้น พุชชี่เข้ามากอดอกมอง
"ไอ้แบบนี้เขาเรียกอวดเก่ง ยังไม่ทันจะเริ่มงานก็ฉี่แตกแล้ว"
"ป้า ! นี่ป้าเข้ามาในนี้ได้ไง นี่มันที่ของผู้ชายเขานะ"
"ที่ไหนชั้นก็ไม่สนทั้งนั้น ชั้นสนแต่ว่า เธอจะพร้อมออกไปทำงานได้รึยังเท่านั้น"
"ก็ยังไม่ได้เวลาไม่ใช่เหรอ ผมปวดฉี่ผมก็ต้องเข้ามาทำธุระ"
"ตั้มบอกชั้นแล้ว ถ้าตื่นเต้นมากขนาดนี้แล้วจะขึ้นไปบนเวทีได้ยังไง"
"โธ่เอ้ย กับไอ้แค่เดินแบบ มันไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นหรอก"
"เหรอ..งั้นก็เลิกฉี่ได้แล้ว ออกไปเตรียมตัว ชั้นต้องติวเข้มเธอก่อนขึ้นเวทีอีกรอบ"
หล่อนชี้มือไปที่ประตูให้เน็กซ์ออกไปซะที เน็กซ์ทำเป็นว่าสบายๆ แล้วจะเดินออกไปแต่หยุดชะงักที่ประตู
"ไปสิ จะอะไรอีกล่ะ"
"ป้า คือผม ผมรู้สึกหน่วงๆอีกแล้ว เมื่อกี้นี้มันคงไม่สุด ขอเข้าห้องน้ำอีกรอบแล้วกันนะ"
เน็กซ์รีบวิ่งเข้าไปในห้องส้วมแล้วปิดประตูใส่หน้าหล่อนทันที ปัง! หล่อนแทบอยากจะเป็นลมที่เจอเน็กซ์เป็นแบบนี้

หน้าเวที บรรยากาศงานเดินแบบเปิดตัวกาแฟกระป๋อง Savannaเริ่มขึ้นแล้ว เสียงเพลงบนเวทีดักระหึ่ม สนุกสนานเพราะมีการจ้างดีเจสแครชแผ่นมาสร้างสีสัน สินค้าเครื่องดื่มชูกำลังเปิดบูทให้ผู้ร่วมงานได้ดื่ม
ด้านข้างเวที ดอกไม้เดินวนไปวนมา มีแก้วใสอยู่ใกล้ๆ ตั้มเดินเข้ามา
"แล้วมาดามกับเน็กซ์ล่ะ คุณตั้ม"
"เดี๋ยวก็มา พุชชี่กำลังช่วยบิ้วท์อยู่"
"แต่นี่มันใกล้ได้เวลาแล้วนะ"
"เท่าที่ชั้นเห็น เน็กซ์ยังไม่พร้อมสำหรับงานนี้จริงๆ ถ้าไม่ปล่อยให้พุชชี่ช่วยล่ะ มาดามพุชชี่เอาชื่อมาทิ้งบนเวทีนี้แน่"
หนูดอกหน้าเสีย ระหว่างนั้นมีเสียงฮือฮา นักข่าวพยายามเข้ามารุมถ่ายรูปจนแสงแฟลชวูบวาบ เมื่อหมอกี้กับน้องฝันหวานๆมาถึงที่งานและถูกมัชฌิมากับลอร่าพาแหวกคนเข้ามา
"ขอทางให้น้องเข้าไปทำงานหน่อยนะคะ เดี๋ยวน้องเสร็จงานแล้ว เจ๊จะให้พี่ๆน้องๆถ่ายรูป ให้หนำใจเลย"
ถึงเจ๊เมี่ยงจะขอร้อง แต่พวกนักข่าวก็ไม่หยุดตามไปถ่ายรูป นางหันไปพยักหน้าให้ลอร่าเข้าไปทับถมหนูดอก
"มายืนเกะกะอะไรแถวนี้ล่ะยะ หลบค่ะหลบ ไม่เห็นเหรอไงว่า ซุปตาร์ของจริงน่ะมาแล้ว พวกกะเลวกะราดอย่ามายืนเกะกะขวางทาง"
"นังหน้าหนอน !"
หนูดอกอดไม่ไหวจะเอาเรื่อง แต่ตั้มจับมือไว้
"ไม่เอาน่าหนูดอก ใจเย็นๆ อย่าทำให้ความตั้งใจของพุชชี่เสียเปล่า"
หนูดอกกัดฟันทนให้ลอร่าเชิดหน้าเชอะใส่
ภายในห้องน้ำ พุชชี่เคาะประตูส้วมเรียกเน็กซ์
"นี่...จะออกมาได้รึยัง จะหลับอยู่ในนั้นเลยมั้ย"
"คนจะถ่ายทุกข์นะป้า มาเร่งยิกๆแบบนี้ แล้วใครจะถ่ายออกล่ะ"
"แต่ชั้นว่าเธอไม่ได้ปวดหนักเบาจริงๆหรอกเน็กซ์ ชั้นเห็นมาเยอะแล้ว อาการแบบนี้เขาเรียกว่าไอ้พวกป๊อด !"
หล่อนเยาะเย้ยถากถาง ทันใดนั้นเน็กซ์ก็รีบเปิดประตูออกมาจากส้วมทันที
"ป้าว่าใครป๊อด ผมเนี่ยนะ"
"แล้วมันใช่มั้ยล่ะ ทำเป็นปากเก่ง ดูถูกว่าอาชีพนี้มันง่าย พอเอาเข้าจริงก็ไม่พ้นอย่างที่ชั้นคิด หึ...แถมยังป๊อดหนักสุดเท่าที่เคยเจออีก"
เน็กซ์โกรธ
"ก็ได้ งั้นผมจะออกไปทำงานให้ป้าเดี๋ยวนี้เลย จะได้เลิกดูถูกว่าผมป๊อดซะที จะอะไรนักหนาก็แค่เดินไปเดินมาเก๊กหน้าหล่อๆก็แค่นั้น"
เน็กซ์จะออกไป แต่หล่อนรีบคว้าข้อมือเขาไว้
"ถ้าเธอคิดแค่นั้นล่ะก็ ชั้นยอมเลิกเป็นมาดามพุชชี่ไปขายเต้าฮวย ดีกว่าปล่อยให้ไอ้เฮงซวยอย่างเธอไปทำลายงานที่ชั้นรักดีกว่า...ไอ้เด็กบ้า !"
หล่อนบีบมือเน็กซ์แรงด้วยความโกรธ ทำเอาเน็กซ์ชะงัก มองหล่อนจริงจัง

ไฟหน้าเวทีดับพรึ่บก่อนที่ซาวน์แบบป่าแอฟริกาจะกระหึ่มขึ้นมา เมื่อแสงไฟสว่างอีกครั้ง นายแบบนาง แบบชุดแรกก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างสวยงาม เด็กทั้งหมดเป็นเด็กตัวรองๆของเจ๊เมี่ยง เสียงปรบมือต้อนรับดังพอสมควรเพราะเด็กๆ หล่อสวยเข้าตา
เจ๊เมี่ยงกับลอร่าเดินเบียดเข้ามาใกล้ๆ หนูดอกเพื่อจงใจถากถาง
"ต๊ายตาย นี่แค่เพิ่งจะเปิดโชว์ เจ้านายหล่อนกับหล่อเทพก็หนีหายไปแล้วเหรอยะ"
"สงสัยจะพากันไปหาปี๊บมาเตรียมคลุมหัวอ่ะค่ะเจ๊" ลอร่าบอก
"แค่ปี๊บจะพอเหรอ โอ่งมังกรเลยดีกว่ามั้ง"

ทั้งคู่หัวเราะเข้าขาแล้วพากันเดินออกไป หนูดอกกัดฟันอย่างเจ็บใจ
 
อ่านต่อตอนที่ 4
กำลังโหลดความคิดเห็น