สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ตอนที่ 24
จุนจี พงอินทร์ วิ่งไล่ตามจับเบญจา แต่เบญจาหลบมุมนั้นทีโผล่มุมนี้ที ทั้งสองจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
จนต้องมายืนหอบอยู่มุมหนึ่ง
"วันนี้ทั้งวันไม่มีทางจับแม่นี่ได้แน่" จุนจีบอก
"ผมรู้สึกเหมือนเราโดนหลอกนะ"
"นายโจ้"
พงอินทร์หันไปทางเสียง พบเบญจายืนจังก้ารออยู่
"นายอุนจิ"
จุนจีหันไปทางอีกเสียง พบอีกเบญจายืนรออยู่
"ใช่…ถูกของนาย ผมว่าเราโดนหลอกให้แยกจากกัน"
"งั้นเราควรจะไปหาคนอื่นๆแล้วรวมตัวกันไว้"
"ใช่…โดยเฉพาะนายติณห์"
พงอินทร์นึกได้ ตาช็อก ตกใจ
"แล้วสาวๆที่ออฟฟิศล่ะ"
เนตรสิตางศุ์เดินมาที่รถ เคาะกระจก สุพิชชาไม่ยอมลง แต่เปิดล็อคประตู ยื่นตัวไปผลักประตูรถเปิดให้
"ขึ้นมาซีคะ"
เนตรสิตางศุ์ยังไม่ยอมขึ้น
"ไม่ลงมาคุยกันล่ะคะ"
"เพื่อนน้องเนตรตามมากันเต็มขนาดนั้น จะคุยเรื่องส่วนตัวกันได้ยังไงล่ะคะ"
เนตรสิตางศุ์เลยจำต้องเข้ามานั่งในรถ ปิดประตู สุพิชชาแอบยิ้ม ดีใจ เนตรสิตางศุ์หันมามองสุพิชชานั่งนิ่ง
"อ้าว มีอะไรจะคุยกับเนตรก็พูดมาซีคะ แต่ถ้าเป็นเรื่องของหมอวรรธล่ะก็ เนตรแนะนำว่าคุณพีชเลิกยุ่งกับหมอเถอะนะคะ หันมารักและซื่อสัตย์กับพี่ณัฐให้มากๆ เนตรรับรองว่าชั่วชีวิตของคุณพีช จะมีพี่ณัฐอยู่เคียงข้างไปตลอด ไม่ว่าคุณจะเจอปัญหาอะไร พี่ณัฐจะไม่มีวันทอดทิ้งคุณ"
สุพิชชาหันมายิ้มเลือดเย็น
"ก็แล้วทำไม แกไม่อยู่กับพี่แกไปจนวันตายล่ะ มาแย่งวรรธไปจากฉันทำไม"
"คุณพีช! พูดแบบนี้ เนตรไม่คุยด้วยแล้ว"
เนตรสิตางศุ์หันไปจะเปิดประตู แต่ไม่ทันแล้ว สุพิชชาปิดล็อกประตูรถ
"ห่ะ! ล็อกประตูทำไมคุณพีช เปิดประตู"
สุพิชชาไม่เปิด แถมยังเข้าเกียร์เร่งเครื่องขับรถเอี๊ยดออกไปเลย ท่ามกลางสายตาของสาวๆที่ยืนอยู่นอกรถ พากันตกอกตกใจ ตะโกนกันลั่น
กรรัมภาบอก
"ว้าย! ยัยพีชขับรถพายัยเนตรไปแล้ว"
"คุณพีชหยุดรถนะ" ญาณินบอก
"ยัยบ้าเอ้ย เอาเพื่อนฉันกลับมาเดี๋ยวนี้นะ" กรรณาว่า
"กลับมานะ...บอกให้กลับมา"
กรรณากับสุคนธรสถึงกับวิ่งตาม ก้องฟ้าบอก
"โธ่พี่ จะวิ่งตามไปทำไมล่ะครับ กลับมาเอารถขับตามไปซี"
"กุญแจรถอยู่ไหนเนี่ยะ เดี๋ยวป้าไปเอามาให้นะคะ" อรวรรณลน
ทุกคนกรูกลับมาที่รถ
ญาณินบอก
"เจ้าโกลเดนอยู่ไม่ใช่เหรอ ตามไปก่อนซี"
"รับแซ่บค่ะเจ๊ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง โกลเด้นอยู่ทั้งคน ยัยนั่นไปไม่รอดหรอกไอออนเกิร์ลไปแว้ว!"
โกลเดนเบบี๋ทำท่าแปลงร่าง แล้วทำท่าบินไปราวกับจรวด
สุพิชชากำลังซิ่งขับรถอย่างเร็ว เนตรสิตางศุ์หาทางเปิดล็อกประตูแต่เปิดไม่ได้
"จอดรถเดี๋ยวนี้นะคุณพีช ฉันจะลง"
"มีที่แห่งเดียวเท่านั้นที่แกจะได้ลง คือนรก หึๆๆ"
"คุณมันป่วยทางจิตคุณพีช เนตรสาบานว่าจะไม่ยอมให้พี่ชายที่แสนดีของเนตรต้องมาอยู่กับผู้หญิงอย่างคุณ"
"เหรอจ๊ะน้องเนตร ยัยตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ฮ่าๆๆ จะทำนายอนาคตให้นะ ภายในวันนี้เธอจะต้องตาย แล้วฉันนี่แหละจะได้อยู่ อยู่ทำลายพี่ชายเธอ แล้วก็อยู่เพื่อจะได้ รักกับวรรธ สร้างครอบครัว มีลูกที่น่ารักด้วยกัน โอ้ว ฉันต้องทำความฝันให้เป็นจริงให้ได้ ฉันจะไม่ยอมตายโดยปราศจากหมอตาหนู"
เนตรสิตางศุ์เลยหันไปกระชากแขนสุพิชชาเพื่อทำให้หยุดรถ
"จอดรถเดี๋ยวนี้นะ...จอดซี"
"หุบปาก!"
สุพิชชาสะบัดมือ แล้วปาดท่อนแขนไปที่หน้าเนตรสิตางศุ์จนเซไปขนขอบหน้าต่างด้านข้าง
"ว้าย!"
เนตรสิตางศุ์เงยหน้ามองไปที่หน้ารถต้องช็อฏ เมื่อเห็นวิญญาณผีนายลาภยืนขวางทางอยู่
รถกำลังวิ่งเข้าไปหา
"ห่ะ!"
รถวิ่งพุ่งชน แต่วิญญาณนายลาภลอยทะลุกระจกหน้ารถเข้ามาสิงเนตรสิตางศุ์ทันที
เนตรสิตางศุ์สะดุ้งนั่งหน้าแข็งตัวแข็ง ใบหน้าเปลี่ยนไป...มีสภาพไม่ต่างจากวิญญาณนายลาภ
สุพิชชาหันมามอง ตกใจ นายลาภในร่างเนตรสิตางศุ์หันมามองสุพิชชา พลางพูดด้วยเสียงของนายลาภ
"ขับไป! หึๆ"
วิญญาณโกลเดนเบบี๋ตามมาทัน หายตัวเข้ามาในเบาะหลัง
"จอดรถนะ ปล่อยพี่เนตรลงเดี๋ยวนี้!"
วิญญาณนายลาภออกจากร่างเนตรสิตางศุ์ไปที่เบาะหลังบีบคอโกลเดนเบบี๋ที่ไม่ทันรู้ตัวทันที
"แกนั่นแหละ ออกไป"
วิญญาณนายลาภจับเหวี่ยงโกลเดนเบบี๋ออกไปจากรถ
"อ้าย"
เนตรสิตางศุ์สลบหลังวิญญาณนายลาภออกจากร่างไปแล้ว
โกลเดนเบบี๋ที่นั่งก้นจำเบ้ามองรถของสุพิชชาที่ขับลิ่วไป
"อู้ย ผีนายลาภโผล่มาอยู่ในรถยัยพีชได้ไง แบบนี้ มันฮั้วกันนี่"
โกลเดนเบบี๋หายแว๊บไปจากถนนไปตักสุคนธรสในรถ
"เจ๊ๆคะ..หนูหยุดรถยัยนั่นไม่ได้ เพราะมีผีนายลาภอยู่ด้วย"
ทุกคนตกใจ
กรรัมภาบอก "อย่าบอกนะว่ายัยพีชมีคาถาอาคมเรียกผีได้อีกคน"
"ไม่หรอก ยัยพีชไม่รู้เรื่องไสยศาสตร์ แต่คงถูกหลอกใช้มาเล่นงานเนตร" ญาณินว่า
"ก็ไม่แน่นะ ยัยพีชอาจจะยอมร่วมมือด้วยความเต็มใจ" สุคนธรสบอก
"หนูก็คิดอย่างพี่รส ต้องมีการฮั้วกันเกิดขึ้น ระหว่างยัยพีชกับ..."
กรรณาโพล่งขึ้น "เบญจา"
สุคนธรสยอมรับ "ล้านเปอร์เซ็นต์"
กรรัมภาบอก
"โธ่...ยัยเนตร พี่ณัฐเอ๊ย ทำไมพี่ดวงตกแบบนี้นะพี่ชาย"
"ตายแล้ว ชั้นตามมันไม่ทัน" ญาณินบอก
"จบกัน" กรรณาว่า
เสียงแตรรถมอเตอร์ไซด์ดังขึ้นที่ข้างรถ ทุกคนหันไปมอง เห็นก้องฟ้าใส่หมวกกันน็อคซิ่งมอเตอร์ไซด์ตีคู่มากับรถ
"เออจริงด้วย โกลเดนไปกับก๊อง รีบซิ่งตามรถยัยพีชไป แล้วโทรจิตบอกยัยเจ๊เป็นระยะนะ"
"ได้เลย แว๊บ"
โกลเด้นหายตัวแว๊บไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์เกาะเอวก้องฟ้าพร้อมใส่อุปกรณ์แว่นหมวกกัน น็อคพร้อม ก้องฟ้าซิ่งมอเตอร์ไซด์ไปอย่างเร็ว โกลเดนเบบี๋หันมาโบกมือให้สาวๆ
เบญจาเดินหนีลึกมาที่ด้านหลังโกดัง พลางเหลียวไปมองด้านหลังว่ามีใครตามมาไหม แล้วต้องชะงักเมื่อมีใครเดินโผล่ออกมามุมมืด
"ไอ้พวกหน้าโง่ คราวนี้แกอย่าให้พลาดอีกนะ นังลูกสาวจอมแสล็น" สมคิดบอก
สมคิดมองเบญจาที่ยังคงชะเง้อมองไปอย่างห่วงติณห์
"ยังจะชะเง้อคอยาวมองอะไรอีก ห่วงไอ้ติณห์นักหรือไงห่ะ"
เบญจาหันกลับมาก้มหน้าหลบตา
"ปล่อยให้มันถูกฟัดอยู่ในโกดังนี่แหละ ไอ้พวกผู้ชายไร้สมองมันไม่สำคัญสำหรับเราอีกต่อไปแล้ว เพราะเรามีเรื่องสนุกกว่าที่ต้องทำ...รออยู่ ฮ่ะๆๆ รีบไป"
สมคิด กรกฎ เบญจาพร้อมสมุนหันจะเดินออกไปที่ประตูหลังโกดัง แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นสมุน2คนที่ถูกซัดเสียมึน ถูกโยนเข้ามาจากประตูหลัง
ณัฐเดชถาม
"จะไปไหนหมอสมคิด"
สมคิดระเบิดหัวเราะออกมา
"สารวัตร คุณหมอ... ยังคิดจะมาจับฉันอีกเหรอ ไม่มีทาง กูไม่มีทางให้พวกมึงจับแน่ กูจำวันนั้นไม่มีวันลืม ... วันนั้นพวกมึงผิดมหันต์ที่ปล่อยให้ดูหนีออกมาได้ ตาพระแก่คนนั้นก็อีก ทำมาเป็นพูดดี...เชอะ"
"คนเรา โง่หนเดียว ใจดีหนเดียว นายสมคิด ตอนนี้ ทุกคนรู้สันดานแกดีแล้ว" ณัฐเดชบอก
"และคงไม่ให้เวลาถึง5วินาทีแน่" วรวรรธว่า
พูดจบ วรวรรธกดไกปืนทันที หมอสมคิดต้องหลบเข้าหลังกรกฎ กระสุนไม่สามารถเจาะเข้าร่างกรกฎได้
"ถึงกูไม่มีอาคม แต่ก็ฝึกลูกศิษย์ได้เว้ย"
หมอสมคิดชักปืนออกมายิงสวนออกไปเป็นชุดด้วยความโกรธ ทุกคนหลบเข้าที่กำบังยิงต่อสู้กัน แต่กรกฎกลับเดินผ่าห่ากระสุนไป โดยที่กระสุนไม่ระคายผิวเลย โดยมีเบญจาและสมคิดเดินตามหลังแยกไปอีกทาง
"พวกมันจะหนีแล้วพี่"
ณัฐเดชกับวรวรรธทำท่าจะตาม แต่ถูกกรกฎชักปืนยิงใส่เป็นชุด จนต้องกลิ้งหลบหัวซุกหัวซุน
เบญจารีบเดินออกมาจะไปยังรถที่จอดซุ่มอยู่ที่หนึ่งด้านหลังโกดัง แต่กลับเจอติณห์ที่มาจากด้านหน้าโกดัง มาดักหน้าไว้
"จะไปไหนเบญจา"
เบญจาชะงักก้าวถอยช้าๆ ติณห์เดินหน้าเข้าหา
"อยากเจอไอมากไม่ใช่เหรอ นี่ไง...ไออยู่นี่แล้ว มาหาไอซี"
ติณห์ยื่นมือ เบญจามองมือติณห์อย่างรู้สึกเจ็บปวด
"อย่ามาหลอกหนู มือของพี่ตอนนี้ ไม่ได้ต้องการจะกอดหนู แต่ต้องการจะจับตัวหนูไปติดคุก"
"ใครทำผิดอะไรไว้ ก็ต้องได้โทษในสิ่งที่ตัวเองทำ ยูเป็นฆาตกร เป็นภัยต่อส่วนรวม"
ติณห์โผเข้าจับเบญจา แต่เบญจาสู้เตะต่อยติณห์ ติณห์ยกแขนตั้งการ์ดรับ ไม่ลงไม้ลงมือตอบโต้รุนแรง ในที่สุดติณห์จับล็อคแขนเบญจาไว้ได้
"ปล่อยหนูนะพี่ติณห์...ปล่อย! คิดว่าจับตัวหนูได้แล้วจะชนะงั้นเหรอ พี่คิดผิด"
ปาร์คจุนจี พงอินทร์กับไตรรัตน์หลังจากจัดการกับสมุนทางด้านในโกดังได้แล้วก็แอบซุ่มมา
โผล่เข้าด้านหลังจัดการสมุนของสมคิดที่กำลังยิงใส่ณัฐเดชกับวรวรรธ กรกฎหันไปเห็นลูกน้องตัวเองถูก3 หนุ่มจัดการจนหมอบก็โกรธ
"พวกมันตามมาสมทบกันตามแผนแล้ว"
"เดี๋ยวใจเย็นๆ มันยังมากันไม่ครบเลย" สมคิดบอก
ตอนนั้นเองที่ติณห์ล็อกตัวเบญจาเดินเข้ามา
"สั่งให้ลูกน้องหยุดเดี๋ยวนี้นะหมอสมคิด เบญจาอยู่นี่แล้ว"
แต่แล้วติณห์ต้องถึงกับตะลึงที่เห็นเบญจาอีกคนยืนอยู่กับสมคิดและกรกฎ
"เบญจา อะไรกัน"
"นั่นไง!ยังงี้ถึงจะเรียกว่ามาครบ ทีนี้ก็ถึงเวลา..go go go"
สมคิดพูดพลางล้วงระเบิด2ลูกออกมาโยนให้กรกฎ
"จัดการ!"
ณัฐเดชบอก
"ระเบิด! หลบเร็ว"
กรกฎใช้ปากดึงสลักระเบิด แล้วโยนระเบิดทั้ง2ลูกเข้าใส่พวกหนุ่มๆ ทุกคนกระโจนหลบเข้าที่กำบัง โดยที่ติณห์โอบตัวเบญจาหลบระเบิดไปด้วย
ตูม! ตูม! ระเบิดทั้ง2ลูกกระทบพื้นแล้วก็ระเบิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน เศษข้าวของในโกดังกระจุยกระจายเกิดควันคลุ้ง ณัฐเดชรีบลุกขึ้นจากที่หลบปัดควันมองหาหมอสมคิดกับกรกฎ...พบว่าทั้งคู่หนีไปแล้ว ณัฐเดชยืนขัดใจ วรวรรธลุกตามเข้ามา
วรวรรธบอก
"หมอสมคิดมันเผ่นไปแล้ว"
"ไม่เป็นไร ยังไงเราก็ได้ตัวเบญจาแล้ว"
ติณห์ก้มลงมองเบญจาที่เขาโอบหมอบอยู่ พบว่าเบญจากำลังหัวเราะ
"ฮ่ะๆๆ"
หนุ่มๆลุกขึ้นมาดู
พงอินทร์ถาม
"ตัวจริง ตัวปลอมวะ"
"เบญจา...ห่ะ!"
ติณห์ยื่นมือไปจะจับตัวเบญจา แต่มือกลับทะลุร่างเบญจาไป
ปาร์คจุนจีขยี้ตา
"เว เหลือเชื่อ..."
เบญจาลุกขึ้นยืน
"หนูบอกแล้วไงว่าพี่คิดผิด"
ไตรรัตน์ที่อยู่กับสุคนธรสจนพอจะเดาออก
"โธ่เอ้ย เราถูกต้มซะเบื่อเหรอ นั่นไม่ใช่เบญจา" วรวรรธบอก
"นี่แหล่ะ ที่ผมกำลังจะมาบอก" ปาร์คจุนจีว่า
"นั่นเป็นแค่ภาพลวงตาที่เบญจาโคลนนิ่งจิตแบบแบ่งตัวทวีคูณออกมาหลอกล่อพวกเรา"
"แต่..ไอยังจับต้องตัวเบญจาได้อยู่เลย"
"ก็เพราะพี่เอาแต่หมกตัวอยู่กับนังเชยเฉิ่มญาณินมากเกินไป พี่ถึงไม่รู้ว่าโลกของจิต และไสยเวทคนอื่นเค้าก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว ฮ่ะๆๆๆ"
6หนุ่มได้แต่ยืนเซ็ง
หมอสมคิด กรกฎและสมุนรีบเดินมาที่รถซึ่งจอดซุ่มรออยู่ กรกฎเปิดประตูรถออก เห็นกายหยาบของเบญจานั่งหลับตาทำสมาธิถอดจิตอยู่ในรถ
"เฮ้ย...ออกรถเลย รีบไป"
"ป่านนี้ไอ้พวกนั้นคงจะยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ในโกดัง ฮ่ะๆๆ" กรกฎบอก
"ฮ่ะๆๆ ตลกดีเว้ย..คิกๆๆ"
สมคิดล้วงมือถือขึ้นมากดโทรไป
จิตของเบญจากำลังจางหายไป
"ลาก่อนพี่ติณห์ ถ้าพี่ไม่ตาย เราคงได้เจอกันอีก"
แล้วจิตเบญจาก็หายวับไป ไม่ทันขาดคำมีเสียงมือถือดังขึ้นในโกดังแทน
วรวรรธบอก
"สาวๆคงเป็นห่วงโทร.มาหาแล้วครับ รีบรีบเลย"
หนุ่มทุกคนรีบควักมือถือของตัวเองออกมาดู
ไตรรัตน์ "ไม่ใช่ของฉัน"
พงอินทร์ "ผมก็ไม่ใช่"
ปาร์คจุนจี "ผมไม่ได้เปิดมือถือ"
วรวรรธ "ไม่ใช่ของผมเหมือนกันครับ"
ณัฐเดช"ฉันก็ไม่ใช่ แล้วแกของแกล่ะไอ้ติณห์"
ติณห์"ไอ้ณัฐ! ฉันได้ยินมันดังมาจากไอ้นั่น"
ติณห์ชี้ไปยังสมุนหมอสมคิดคนหนึ่งที่นอนคว่ำสลบอยู่ ทั้งหมดเลยเดินช้าๆระมัดระวังเข้าไปหา แล้วพลิกตัวมันอนหงายขึ้น เสียงมือถือดังชัดเจน มาจากอกมัน
"นั่นไง! ชัดเลยเห็นไหม" ไตรรัตน์บอก
"แต่ทำไม มือถือไปดังอยู่ในอกเสื้อมันล่ะ" พงอินทร์ว่า
"มา...ผมเอง!"
วรวรรธนั่งลงเปิดเสื้อมันออก ต้องผงะตกใจ
"วิ่ง"
6หนุ่มวิ่งหน้าตั้งหลุดออกมาจากโกดังดัง ระเบิดดัง ตูม! โกดังกระจุยกระจาย เศษวัสดุปลิวว่อน พร้อมกับเกิดไฟไหม้ ทั้ง6หนุ่มหันไปมองสภาพโกดังอย่างใจหายใจคว่ำ
เนตรสิตางศุ์ค่อยๆลืมตาได้สติจากการถูกผีไอ้ลาภเข้าสิง เธอมองเพดานที่เก่าผุพังฟ้ารั่วเป็นรอยคราบ หันมองสภาพรอบๆ พบว่าตัวเองอยู่ในห้องๆหนึ่งที่มีสภาพเก่าโทรม ถูกทิ้งร้าง
เธอพยายามตั้งสติ เพื่อที่จะลุกขึ้น ระหว่างนั้น เสาแขวนน้ำเกลือเคลื่อนที่เองผ่านบริเวณด้านศีรษะของเธอล้อที่เป็นสนิม ส่งเสียงค่อกแค่กๆ
"ใคร"
เธอเอียงคอไปมอง แต่ไม่เห็นใคร ใจคอไม่ดี แล้วอยู่ๆเครื่องวัดความดันเก่าที่ถูกทิ้งคว่ำแถวนั้น กลับทำงานเอง เห็นปรอทพุ่งขึ้นพุ่งลงราวกับมีคนใช้งานมันอยู่ เธอสยอง
แล้วอยู่ๆสายน้ำเกลือที่ทีแรกห้อยต่องแต่ง กลับค่อยๆขยับเขยื้อน คล้ายงู เลื้อยมาทางด้านเหนือศีรษะของเธอ ในจังหวะที่เนตรกำลังจะลุก อยู่ๆสายน้ำเกลือก็ขยับไปมาได้เหมือนเลื้อย เธอรีบเหวี่ยงทิ้งไปให้ไกลตัวสุดๆ แล้วรีบกระโจนหนีลงจากเตียง เสียหลัก ล้มไปกับพื้น แม้จะเจ็บแต่เธอก็ต้องรีบตั้งหลัก ใจคอไม่ดี
อยู่ๆมีขวดแก้วกลิ้งกุกกักๆผ่านไปด้านหลังเธอ
"ว้าย"
เธอสะดุ้ง ตกใจ แล้วก็มีเศษฝ้าเพดานที่เก่าหล่นปุมาอีกด้าน เธอตกใจอีก เธอจะวิ่งออกจากห้อง แต่ทันทีที่ไปเปิดประตู ก็ต้องผงะ เพราะผีนายลาภ แต่งชุดนางพยาบาลยืนอยู่..ตึง!!
"อ๊ะเจ๋"
เนตรสิตางสุ์ขาสั่น ช็อก อ้าปากค้าง อยากกรี๊ด แต่กรี๊ดไม่ออก
ด้านหน้าของโรงพยาบาลร้างแถบชานเมือง ที่ถูกทิ้งร้างไว้นาน สภาพทรุดโทรม น่าขนลุก
พวก4สาวลงจากรถ เข้ามามองสภาพแวดล้อม
"โรงพยาบาลร้าง"
ก้องฟ้ากับโกลเด้นท์รีบตามเข้ามารายงาน
"พี่เนตรถูกพามาที่นี่แน่นอนครับ..ผมเห็นพี่เนตรลงจากรถพี่พีช แล้วก็เดินเข้าไปด้านใน แต่พี่เนตรดูแปลกๆ เหมือนไม่มีสติไงไม่รู้"
"ไม่ใช่ไม่มีสติ แต่พี่เนตรถูกผีนายลาภสิง" โกลเดนเบบี๋บอก เพราะเห็น คือ ผีนายลาภที่หันกลับมาจ้องตาเขียวปั๊ด ก่อนที่สุพิชชาจะรีบขับรถกลับออกไป ปล่อยให้เนตรสิตางศุ์เดินไม่รู้ตัวเข้าไปในโรงพยาบาล
กรรัมภาแตะของบางอย่างในบริเวณนี้
"โรงพยาบาลนี้ ใช่จริงๆ ที่นี่ เคยเกิดไฟไหม้ใหญ่ คนไข้ หมอ พยาบาลเสียชีวิตเพียบ แล้วตั้งแต่นั้นมา ที่นี่ก็ทำอะไรไม่ขึ้น สุดท้ายเลยต้องทิ้งร้างไป"
"ชั้นก็เคยได้ยินชื่อเสียงของที่นี่..ในหมู่คนที่มีอาคมเค้าลือกันว่า..ทุกวัน ตอนหกโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่เกิดโศกนาฎกรรม ชาวบ้านจะได้ยินเสียงโหยหวนประหลาดออกมากที่นี่ จนไม่มีใครกล้าผ่านมาทางนี้อีกเลย" สุคนธรสบอก
ก้องฟ้าบอก
"แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลา ห้าโมงห้าสิบ อีกสิบนาที ก็จะเป็นเวลาปล่อยผี"
"สรุปว่าที่นี่เป็นแหล่งชุมนุมของวิญญาณตายโหง ที่ติดอยู่ในบ่วงกรรม" กรรณาว่า
ญาณินบอก
"ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผีนายลาภพายัยเนตรมาที่นี่ แต่มันเป็นการตั้งใจ ชักใยของใครบางคน..และก็ไม่มีทางเป็นใครได้ นอกจาก เบญจา"
ทันใด มีประตูบานหนึ่งเปิดออกช้าๆ เสียงสนิมที่บานพับประตูดังเอี๊ยดอ๊าด แหลมๆ ..แล้วอยู่ๆก็มีรถเข็นเข็นออกมา โครงของล้อที่ยางหมดสภาพแล้วบดกับพื้น ส่งเสียงก๊อกแก๊กๆ..รถเข็นนั้นไม่มีคนนั่ง แต่เคลื่อนเองได้ และมันยังลงมาตามทางลาดสำหรับรถเข็น แต่ไม่ได้ไหลปรื้ดไปตามแรงโน้มถ่วง มันค่อยๆไหลลงมาช้าๆ ราวกับมีใครบางคนนั่งอยู่ และบังคับรถเข็นไว้
พวกญาณินรู้สึกได้ว่ามีอะไร ระวังตัว
"เอายันตร์ไป ชั้นช่วยพวกแกได้แค่นี้"
ทุกคนรับยันตร์ แต่อยู่ๆมีเสียงกรี๊ดของเนตรดังมา พวก4สาวได้ยิน จำได้
"เสียงยัยเนตร"
ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปด้านในทันที
"พี่กรรณเดี๋ยว อย่า..ก๊องไม่อยากเข้าอ่า"
ก้องฟ้ามองซ้ายมองขวา อยู่คนเดียวก็สยอง รีบวิ่งตามไป รถเข็นหันตาม ราวกับมีใครบางคนนั่งอยู่และมองตามพวก4สาวไป
เนตรสิตางศุ์วิ่งร้องหนีออกมาจากห้อง พยายามล้วงหาแว่นตาอย่างลนลาน
"แว่น..แว่นตาอยู่ไหนๆๆ"
ระหว่างนั้น ที่ฝ้าเพดานที่เป็นรูโหว่อยู่ ค่อยๆมีมือผี สีซีดเซียวหลายๆมือ ยื่นลงมาจากความดำมืดเหนือฝ้าเพดานนั้น มือๆ กวักไกวๆ เธอไม่รู้ตัว หาแว่นตาไม่เจอ ยืนปิดตาตัวเองอยู่อย่างนั้น
มือนั้น แห้งเกร็ง เห็นกระดูกโปนเป็นสัน เล็บดำแหลม น่ากลัว พุ่งมาที่เธอ
ในจังหวะที่มือกำลังจะจับ เธอหันกลับมา หน้าผีผมยาว โผล่ประจันหน้าแบบกลับหัว เนตรผงะ
"แอร๊ย"
ที่วิ่งเข้ามาด้านในโรงพยาบาล ก้องฟ้ารีบตามมาเกาะหลังกรรณา
"เสียงมาจากทางนั้น ไปเร็ว"
ทุกคนรีบวิ่งไป ก้องฟ้าที่รั้งท้ายถูกกระชากด้วยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น จนตัวปลิวไปด้านหลังอย่างแรงกระแทกกับผนังดังอั้ก! ทุกคนตกใจ
"ก๊อง!"
ก้องฟ้าถูกอะไรบางอย่าง พยายามจะลากตัวไป พุ่งถอยหลังเลี้ยวไปอีกด้านอย่างรวดเร็ว
"พี่กรรณ ช่วยด้วย"
พวก4สาวพยายามช่วยกันไล่ตามก้องฟ้า
อ่านต่อหน้า 2
สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ตอนที่ 24 (ต่อ)
เนตรสิตางศุ์วิ่งมาอีกด้านเป็นทางเดินหน้าห้องตรวจ แล้วอยู่ๆประตูทุกบานก็เปิดและปิดเอง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เธอยืนผงะอยู่ท่ามกลางประตูที่พลุ่งพล่านอย่างนั้น ปลายทางเดินมาปรากฏร่างของผีนายลาภยืนอยู่ เธอผงะแล้วคิดทบทวน
" นายลาภ คุณ คุณเป็นคนพาชั้นมาที่นี่ คุณต้องการอะไร"
ลาภแว่บๆๆๆ จนมาโผล่ประชิดตัวเนตร..ตึง!
"พวกแก ทุกคน ต้องตาย"
ลาภขยับปากด้วยท่าทีที่อาฆาตมาก แล้วทันใด สายไฟที่เดินอยู่ตามขอบผนัง ทั้งซ้ายและขวา ก็หลุดผลั้วะๆๆๆออกมาจากตัวยึด ทุกเส้นเคลื่อนไหวคล้ายงู จะเข้ามารัดเธอ
ก้องฟ้าถูกลากไปตามทาง
"ช่วยด้วยๆๆ แกต้องการอะไร ชั้นจะใส่บาตรไปให้ ปล่อยชั้นเว้ย..ปล่อยๆๆ"
ก้องฟ้าหยิบผ้ายันตร์สุคนธรสออกมาโบกๆ
"นี่แน่ะๆๆ"
แต่มันไม่มีท่าทีจะหยุดหรือแผ่วลงเลย หนำซ้ำยังดูดุดันขึ้นอีก
"ทำไมมันถึงไม่กลัวผ้ายันตร์แกเลย"
"ก็นี่มันหกโมงเย็นแล้ว เวลาที่พวกมันพลุ่งพล่านอย่างถึงที่สุด"
พวกญาณินวิ่งไล่ตะครุบจับตัว แต่ก้องฟ้าถูกลากอย่างเร็วและแรงมาก จับไม่อยู่ ไม่ทัน
"ก๊อง"
กรรัมภาบอก
"ทำอะไรหน่อยสิยัยรส"
"จับตัวก๊องให้ได้ก่อนเถอะ"
ญาณินเงยหน้ามองทิศทางของการลาก เหมือนตั้งใจจะลากก๊องพุ่งออกไปด้านนอก ที่เป็นระเบียงผุๆ เธอรู้เจตนา
"แย่แล้ว มันจะโยนก๊องออกไปนอกตึก"
สุคนธรสบอก
"จับเอาไว้เร็ว"
ก้องฟ้าพยายามจะไขว่คว้าหาอะไรยึด จนจับขอบวงกบประตูได้ แต่แรงนั้นยังกระชากก๊อง จนตัวลอย ขาลอย
"ปล่อยช้าน"
กรรณาวิ่งเข้ามาถึงตัวก๊อง พยายามดึงเอาไว้ สู้กับแรงกระชากนั้น ทีแรกจะดึงไม่อยู่ ญาณินกับกรรัมภารีบเข้ามาช่วยกันดึงอีกแรง
"ยัยรส เร็ว"
สุคนธรสรีบควานหาของขลังในย่าม หยิบข้าวสารเสกออกมา ท่องคาถาใส่ฝ่ามือ
เนตรสิตางศุ์ถอยวิ่งหนีมา แต่ไม่รอด สายไฟนั้นเข้ามารัดแขนพรึ่บๆๆ ผีลาภยืนมองอย่างอำมหิต เธอผงะแล้วกระชากสุดแรง สายไฟเก่านั้นขาดออก เธอคว้าเศษไม้ที่หล่นแถวนั้นมา แล้วฟันสายไฟที่หมายจะเข้ามารัดอีก
"ช่วยด้วย"
ก้องฟ้าหยุดคาที่ขอบระเบียง ยังไม่หล่นออกไป เพราะโกลเดนเบบี๋ช่วยดึงตัวเอาไว้
"มาเร็วๆเข้าสิ"
กรรณาเข้าไปช่วยโกลเดนเบบี๋ สุคนธรสพ่นคาถาใส่ข้าวสารเสร็จ
"โกลเดนท หลบ"
โกลเดนเบบี๋หายแว่บทันที
สุคนธรสเขวี้ยงข้าวสารใส่ด้านหลังของก้องฟ้า
"จงไปสู่ที่ชอบๆ..ไป"
จุดที่ข้าวสารตก กลายเป็นควัน ส่งเสียงฉ่าๆ พร้อมกับเสียงวิญญาณโหยหวน แล้วจึงปรากฏร่างจางๆให้เห็น ว่ามันคือกลุ่มวิญญาณคนที่ตายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ 3-4คนที่กำลังรุมดึงก๊องอยู่ เพียงชั่วแว่บเดียว พวกมันก็หลายเป็นควัน ลอยพุ่งกระจัดกระจาย ไม่เป็นท่า หายไปในอากาศ ทุกคนดึงก้องฟ้ากลับเข้ามา
ก้องฟ้านอนแผ่ หายใจเต็มปอด รอดตายหวุดหวิด
"ก๊อง แกไม่เป็นอะไรนะๆๆ"
"ผมโอเค..พี่กรรณ ขอบคุณนะพี่ที่ช่วยผม พี่ๆด้วย..ผมไม่คิดเลยว่าในชีวิตผมจะมีความรู้สึกอะไรอย่างนี้"
"ความรู้สึกเฉียดตายและเห็นคุณค่าของชีวิตใช่มั้ยล่ะ"
"ความรู้สึกถูกผู้หญิงสี่คนวิ่งไล่ตะครุบตัวผม มันเป็นอย่างนี้นี่เอง อ๊าห์ ฟิน"
ทุกคนท้าวสะเอว อยากตบสักที เรียกสติ "ก๊อง!" ก้องฟ้าหน้าจ๋อยไป
ทันใด เนตรสิตางศุ์วิ่งโผล่เข้ามาในสายตาทุกคน
"ช่วยด้วย"
กรรัมภาเรียก "ยัยเนตร"
เธอหันมาเห็นทุกคน "เพื่อนๆ..ช่วยด้วย"
เนตรรีบวิ่งจะเข้าไปหา แต่อยู่ๆ กลับมีคนไข้ หมอ นางพยาบาลที่เป็นผี หน้ากะโหลก มาจับเธอไว้
"ไอ้พวกผีหมู่ เล่นรุมเพื่อนชั้นเลยหรือ" กรรัมภาบอก
ญาณินบอก
"ปล่อยเพื่อนเราเดี๋ยวนี้"
พวกญาณินจะเข้าไปช่วยเนตร แต่อยู่ๆมีหัวกะโหลกตกลงมาจากเพดาน..ตุ้บ..ตุ้บ ทุกคนผงะ
หัวกะโหลกพวกนั้น บางอัน ปากอ้าหุบๆๆ บ้างอัน มีแมงสาบไต่มาจากตา บางอัน มีมือยื่นมาจากปาก พรวด หัวกะโหลกพูดพร้อมกัน
"พวกแกต้องตายๆๆๆ"
กรรัมภากรี๊ดปรอทแตก
เนตรสิตางศุ์ยืนเงอะงะอยู่ อยู่ๆก็มีเตียงเคลื่อนออกมาเอง จากห้องๆนึง เตียงนั้นชนเนตร จนเธอล้มลงไปนอนบนเตียง แล้วเตียงนั้นก็เข็นออกไป
"พี่เนตร มันเอาพี่เนตรไปแล้วเจ๊"
สุคนธรสบอกกรรัมภา
"หยุดร้อง! ไปช่วยเพื่อนก่อน"
"ชั้น ชั้นกลัว"
"โธ่เว้ย"
สุคนธรสวิ่งข้ามหัวกระโหลกที่พูดพร้อมกันไป ไล่ตามไปคนแรก
"พวกแกต้องตายๆ"
กรรัมภาหลบหลังเพื่อน
"ชั้นจะตายหรือเปล่า ไม่รู้นะ แต่พวกแก ตายกันหมดแล้วแน่ๆ..ไปที่ชอบๆไป๊"
"ก็อยากจะไปเหมือนกันแหละ แต่ไปไม่ได้ๆๆๆ ช่วยด้วยดิ ช่วยด้วยเด้"
กรรณากับญาณินไม่ได้กลัวมากนัก กลั้นใจแล้วกระโดดข้ามพวกกระโหลกวิ่งตามไปช่วยเพื่อนจนได้ เหลือกรรัมภายืนขาสั่นคนเดียว
"อย่าทิ้งชั้นสิ..แอร๊ย"
สุคนธรสวิ่งไล่ตามมา เห็นเตียงเข็นไปทางด้านหนึ่ง กำลังจะตามไป แต่ต้องชะงัก เพราะได้กลิ่นวิญญาณ แล้วทันใด ราวกับถูกอะไรบางอย่างอัด..โครม! ญาณินกับกรรณาวิ่งตามเข้ามา
"ยัยรส"
"กลิ่น..วิญญาณอาฆาต และพลุ่งพล่านแปรปรวน..นายลาภ..อยู่ตรงนั้น"
ญาณินหลับตา ถอดจิตทันที
"พวกแก จะต้องตาย ทุกคน ที่นี่วันนี้...ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ) ตาย..ตาย..ตาย ฮ่าๆๆ"
นายลาภหายไป พวกญาณินมองหาเพื่อน แต่ไม่เจอแล้ว ไม่รู้หายไปไหน
บนรถเข็น เนตรสิตางศุ์ พยายามจะโดดลง แต่มีผีหมอ ผีพยาบาล ผีคนไข้จับตรึงไว้ ลาภค่อยๆเข็นไปตามทาง จนกระทั่ง ไปถึงห้องๆหนึ่ง ที่มีกล่องป้ายไฟเขียนว่าห้องดับ--- แต่กล่องแตกๆหักๆตัวอักษรไม่ครบ
ทีแรก ประตูห้องนั้นปิด แต่พอเตียงมาถึง ประตูห้องเปิดออก แอ๊ด...ราวกับรอต้อนรับ
"ไม่เอ๊า ไม่เอาๆๆ"
เธอดิ้น โดดไหลลงมาจากเตียงได้ แต่ลาภมาล็อคคอ เอามือปิดปาก แล้วลากเนตรเข้าห้องไป และประตูปิดตาม ผนังกระจกประตู ส่องแสง แว่บๆๆ เปิดดับๆๆ
6หนุ่มเดินสะบักสะบอมกลับเข้ามาในบริษัท แต่ละคนสภาพคลุกฝุ่น มอมแมมไปด้วยเขม่าควันจากระเบิด มีแผลถลอก เสื้อผ้าขาด ประปราย
"ทำไมบริษัทดูเงียบๆจัง" จุนจีถาม
"หรือกลับบ้านนอนกันหมดแล้ว" ติณห์ว่า
"ไม่มีทาง คุณแก้มต้องอยู่รอผมสิ" จุนจีรีบจะเข้าไป
ไตรรัตน์บอก
"เฮ้ย..เดี๋ยว ผิดสังเกตว่ะ"
ทุกคนชะงัก
ณัฐเดชควักปืนออกมา
"เบญจา หมอสมคิด ว่าแล้ว มันไม่หลอกติณห์ไปอย่างไม่มีเหตุผลแน่"
"สุคนธรส...ถ้ามีอะไร ทำไมไม่โทรบอกวะ" ไตรรัตน์ว่า
จุนจีหยิบโทรศัพท์มากด
"ใจเย็นๆครับ..แยกย้ายกันเข้าไปไหม" วรวรรธบอก
พงอินทร์เสียงดังเรียก
"กรรณาๆๆ เฮ้ย..เงียบ ไม่มีคนตอบ"
หมอวรวรรธดึงไว้
"เฮ้ย...ทำไมห้าวแบบนี้วะ บอกให้ย่องเข้าไปเงียบๆ"
อยู่ๆจุนจีที่กดโทร.หากรรัมภาก็บ่นๆขึ้นมา
"ติดต่อคุณแก้มไม่ได้ ไม่มีมัสัญญาณ"
ทุกคนอึ้ง
ติณห์ควักปืนมา
"เข้าไปเร็ว"
ณัฐเดชใช้มือทำสัญญาณแบบตำรวจว่าใคร เข้าไปทางไหนกับใคร
ติณห์ถือปืนถีบประตูเข้ามา ณัฐเดชชนหลังตามเข้ามา หันไปทางหน้าประตู ไตรรัตน์บุกทางประตูหลัง พงอินทร์ห้อยตัวเข้ามาทางหน้าต่าง วรวรรธแถกกระดี่เข้ามา จุนจีตีลังกากลิ้งตัว ทั้งหมดมารวมกัน เอาหลังชนกันกลางบ้าน แล้วหมุนรอบ สอดส่ายสายตา เตรียมยิง อยู่ๆอรวรรณที่ได้ยินเสียง รีบวิ่งกระหืดกระหอบลงมา ทุกคนหันไป พร้อมขึ้นไกปืน แกรกๆๆๆ เสียงก้อง
"อย่ายิงๆ ป้าเองๆๆๆ" อรวรรณพูดพลางยกมือ
ทุกคนเรียกชื่อ "ป้าออ" ถอนใจเฮือก เอาปืนลง
"คุณติณห์...คุณๆขา พวกคุณหายไปไหนมา ป้าพยายามจะติดต่อพวกคุณ แต่ติดต่อไม่ได้เลยสักคน..ป้าก็เลยต้องไปสวดมนต์"
"เกิดอะไรขึ้นครับ..ทุกคนหายไปไหนกันหมด"
"คุณสุพิชชา เอาตัวหนูเนตรไปค่ะ"
วรวรรธ ณัฐเดชร้องถาม
"อะไรนะ"
"เขามาจอดรถหน้าบริษัท อ้างว่ามีเรื่องจะคุยกับหนูเนตรส่วนตัว หลอกให้หนูเนตรขึ้นรถ แล้วก็เอาตัวไปเลย ตอนนี้พวกคุณหนูตามไปช่วยอยู่ แต่ไปถึงที่ไหน เกิดอะไรขึ้นบ้าง ป้าก็ไม่รู้ พวกคุณต้องไปช่วยแฟนพวกคุณนะคะ"
อยู่ๆณัฐเดชกับวรวรรธเดินพุ่งแยกออกไปทันที ทุกคนกังวล เป็นห่วง
กรอบรูป 5 สาวที่แขวนเอาไว้ด้านหนึ่ง หล่นลงมาเองแบบไม่มีสาเหตุ กรอบกระจกแตกละเอียด
ทุกคนหน้าซีด
ภายในโรงพยาบาลร้างเวลากลางคืน ญาณิน สุคนธรส กรรณาระมัดระวังตัว เพราะไม่รู้ว่าผีนายลาภหายไปอยู่ไหน ทุกคนมองไปรอบๆบริเวณแต่ก็ไม่พบเห็นอะไร
สุคนธรสดมกลิ่นบอก
"กลิ่นมันยังอยู่ ผีนายลาภยังไม่ไปไหน"
โกลเดนทเบบี๋ช่วยมองหา
"หนูรู้ว่ามันยังอยู่ แต่หนูมองหาไม่เจอ"
กรรัมภากับก้องฟ้ารีบวิ่งตามมาสมทบ
"พวกแกทิ้งชั้น เพื่อนทรยศๆๆ" กรรัมภาบอก
"พี่สาวทิ้งน้อง พี่ใจร้าย" ก้องฟ้าบอก
"เงียบ!" 3 สาวบอก
ญาณินบอก
"จะโดนผีหักคออยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก ยัยรส แกจัดหนักซักดอกสองดอกเลย"
สุคนธรสล้วงของในย่าม
"ได้ ...ไอ้พวกพูดด้วยดีๆแล้วไม่รู้เรื่อง ก็ต้องเจอกันหน่อย"
กรรณากำลังจะขยับ แต่อยู่ๆมีเสียงการเคลื่อนไหวของวิญญาณ พุ่งจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง
กรรณาหันขวับ!!
"มันอยู่ทางนั้น"
เสียงนั้นพุ่งไป จนไปจบที่ผนังอีกด้านหนึ่ง ขวางหน้าทางที่กรรณาจะไป ผนังตรงนั้นถูกแรงอะไรบางอย่างกระแทกเข้าใส่ จนเป็นรอยลึกเหมือนถูกอะไรปักลงไป..ฉึก!!
พวก4สาวคะลึงเมื่อเห็นความรุนแรงของรอยนั้น อยู่ๆรอยนั้นก็ค่อยๆลากมาเป็นทางยาว เกิดเสียงแหลมแสบหูเหมือนเอาเหล็กขูดผนังเป็นรอย เส้นนั้นพุ่งตรงไปหาพวก4สาว จนกรรณาต้องถอยๆๆ ทั้งหมดรู้ดีว่าอะไรบางอย่างกำลังพุ่งเข้ามาจะทำร้ายพวกเธอ
ญาณินบอก
"หลบ!"
พวก4สาวรวมก้องฟ้าต่างกระโจนหลบคนละทิศละทาง ทุกอย่างที่ขวางเส้นทาง ถูกตัดขาดกระจุย!
กรรัมภาคว่ำไปอีกทางล้มไปกับพื้น มือยันพื้น ไถลไป จนถุงมือขาดเป็นทาง
"ถุงมือชั้น!"
กรรัมภากำลังจะลุก แต่ปรากฏร่างผีสาวในชุดพยาบาลนั่งซ้อนหลังกรรัมภาอยู่ กอดไว้ เอื้อมมือมาคว้ามือกรรัมภาเอาไว้ ข้างที่ถุงมือขาด
ผีพยาบาลเสียงแผ่วเบา
"ชั้น...ไม่อยากตาย"
กรรัมภาผงะ ตาเบิกกว้าง เห็นภาพสยดสยอง
โรงพยาบาลนี้ไฟไหม พวกคนไข้ พยาบาล พากันหนี นางพยาบาลคนหนึ่งโดนเสาล้มทับ ไฟลุกโพลง พวก3สาวตั้งหลักได้ มองไปเห็นกรรัมภายังไม่ยอมลุกจากตรงนั้น นั่งผงะอยู่ ช็อกกับภาพที่ได้เห็น
ในขณะที่ผีนายลาภกำลังพุ่งกลับไปที่กรรัมภา เห็นเส้นปาดมากับพื้น เป็นรอยแหวกพุ่งไป
"ยัยแก้ม!"
ญาณินรีบวิ่งพุ่งไปกระชากตัวกรรัมภาออกมา ก่อนที่เธอจะถูกผ่ากลางได้อย่างหวุดหวิด แต่ญาณินกลับถูกอะไรบางอย่างนั้นเฉี่ยวถากๆไปเล็กน้อย ที่ต้นแขน
"โอ๊ย!"
ญาณินไม่เจ็บมาก รีบกระชากกรรัมภาให้มีสติ
"ยัยแก้ม มีสติหน่อยสิ"
"วิญญาณที่นี่ พวกเขาถูกไฟคลอก ตายทั้งเป็น น่ากลัว น่ากลัวที่สุด"
กรรัมภาน้ำตาไหล
"หนีก่อนเถอะ ไป"
กรรณามาคว้ามือลากให้รีบไปก่อน พวก4สาวกำลังจะไป แต่ต้องชะงักกันหมด
สุคนธรสบอก
"ไม่ทันแล้ว"
ตรงหน้าและด้านหลังมีเสาแขวนน้ำเกลือหลายเสาเคลื่อนที่เข้ามาเองจากคนละทิศละทาง ราวกับมีใครลากมันมา ขวางหน้าขวางหลังเต็มไปหมด มีขวดน้ำเกลือเก่าๆโทรมๆห้อยต่อยแต่งมาด้วย
โกลเดนเบบี๋หน้าซีดกลัว
"พวกเขา ไม่ได้มาดี เขาจะฆ่าเราทุกคน"
พวกสาวๆผงะ จะหันกลับ ปรากฏร่างของลาภขึ้นมา ในมือถือมีดผ่าตัด กำลังเดินเอากรีดไปกับผนังจนเป็นรอย สีหน้าเหี้ยม แสยะยิ้ม อำมหิต โรคจิต
บริษัทซิกส์เซนส์เวลากลางคืน ติณห์นั่งสมาธิอยู่ จุนจีโวยวายที่ติณห์ไม่ทำอะไร เอาแต่นั่งเฉย
"เว!!! ว็อท แฟนหายไปทั้งคน ไม่สิ ทั้งห้าคน แต่นายมานั่งสมาธิ จะอธิษฐานให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองหรือไง"
"เงียบๆหน่อยได้มั้ย ติณห์กำลังทำสมาธิ เพื่อให้เกิดปัญญา ได้ดวงตามองเห็นธรรม หาทางช่วยเหลือพวกสาวๆนั่นแหละ"
"เขามีซิกส์เซนส์"
อรวรรณบอก
"คุณติณห์เรียนสมาธิ เรียนปฏิบัติกับคุณหนูณินมาตลอด..คุณติณห์เคยทำสมาธิแล้วเกิด
”ญาณปัญญา” เห็นเหตุการณ์ร้ายล่วงหน้าได้มาแล้ว จำไม่ได้เหรอคะ"
"ใช่ และนายก็กำลังรบกวนสมาธิไอ้ฝรั่งอยู่ ไปที่อื่นไป" ไตรรัตน์ว่า
"ไตวาย...แฟนนายเป็นแม่หมอ เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แต่คุณแก้มกับคนอื่นๆไม่มีวิชาเหมือนแฟนนาย" จุนจีบอก
"คุณรสไม่มีวันทิ้งเพื่อน"
"ผมจะไม่รอแล้ว!"
อยู่ๆ พงอินทร์ที่นั่งอยู่ก็ทำท่าจะผลุนผลันออกไป
"จะไปไหน"
"ไปตามหา..ไปทำอะไรก็ได้ ที่มันมีประโยชน์กว่านั่งรอเฉยๆ"
"จะไปตามที่ไหน สำนักของเบญจาเหรอ รู้เหรอว่าอยู่ไหน พวกเราไม่รู้ ไม่มีเบาะแสอะไรสักอย่างที่จะตามได้เลย ออกไปสุ่มหาก็เสียเวลาเปล่า..พวกนายก็รู้ดี"
ทุกคนจ๋อย ฮึดฮัดที่ทำอะไรไม่ได้
"สิ่งที่เราทำได้ คือ เชื่อมั่นในตัวไอ้ฝรั่ง หรือไม่ก็ช่วยกันภาวนาให้ผู้กองกับไอ้หมอเค้นความจริงจากสุพิชชาให้ได้" ไตรรัตน์บอก
สุพิชชาขับรถมาในซอยเข้าบ้าน แต่แล้วต้องชะลอเพราะมีรถเปิดไฟจอดขวางอยู่ตรงหน้า เธอเพ่งมองวรวรรธกับณัฐเดชที่กำลังเดินเข้ามา
วรวรรธพุ่งเข้ามาชาร์ตที่รถทันที กระชากประตูรถ แต่ไม่ออกเพราะล็อกไว้
"คุณเอาคุณเนตรไปไหน หา คุณคิดจะทำอะไร บอกมา"
ณัฐเดชร้อนใจ แต่พยายามพูดดี
"พีช..มีคนบอกว่าพีชพายัยเนตรขึ้นรถออกไป..จริงหรือเปล่า"
สุพิชชาอยู่ในรถ ส่ายหน้า ไม่ยอมรับ
"ไม่นะ พีชไม่รู้เรื่อง"
วรวรรธยิ่งโมโหมากขึ้น
"โกหก คุณเลิกเล่นละครตบตาพี่ณัฐซะที บอกมาว่าเอาคุณเนตรไปไว้ที่ไหน"
วรวรรธถึงขั้นกระชากประตูและเขย่ารถของสุพิชชา
"เปิดประตู ผมบอกให้เปิด!"
พีชไม่รู้จริงๆ..พี่ณัฐ..นี่มันอะไรกัน..พีชกลัว"
ณัฐเดชกระชากวรวรรธออก
"สงบสติอารมณ์หน่อยสิวะไอ้หมอ แกบ้าอย่างนี้ใครจะกล้าลงมา"
"คนบ้าไม่ใช่ผม..แต่เป็นพีช พี่ก็เลิกบ้าได้แล้ว พีชไม่ได้ใสซื่ออ่อนแอเหมือนที่แสดงออกมา และเขาไม่ได้รักพี่ เขาแค่หลอกใช้พี่เป็นเครื่องมือทำลายผมกับคุณเนตร"
"ทำไมหมอพูดแบบนั้น พีชไม่เคย ไม่เคยแม้แต่จะ..."
สุพิชชาพูดไม่ทันจบ วรวรรธพุ่งเข้ามาตบที่ข้างรถ
"คุณมันชั่วร้ายที่สุด"
วรวรรธผละออก ไปหาก้อนหินจากข้างทาง คว้าหินขนาดใหญ่เกือบสิบโลขึ้นมาด้วยสองมือ ยกอยู่ในท่าที่จะทุ่มใส่กระจกรถ สุพิชชาผงะ แต่ณัฐเดชเข้าชาร์ตวรวรรธไว้ ปัดก้อนหินออก ผลักวรวรรธออก ปกป้องสุพิชชา
"แกจะทำให้พีชกลัวทำไมไอ้หมอ"
"กลัวเหรอ..ผมว่าเขากำลังสะใจมากกว่า ที่ทำให้ผมเสียสติได้ ผมจะทำทุกอย่างให้เขายอมรับว่าเอาคุณเนตรไปไว้ที่ไหน"
ณัฐเดชผลักหมอออก
"แกไม่ต้องยุ่ง ไปรอห่างๆ ชั้นจะคุยกับพีชเอง"
"ไม่"
"ชั้นบอกให้ไป"
ณัฐเดชเด็ดขาด
"ถ้าพี่ณัฐทำไม่ได้ ผมจะทำเอง แล้วถ้าพี่ยังมาขวางผมอีก รับรองวันนี้จะเป็นครั้งแรกที่ผมจะไม่ยอมพี่"
หมอวรวรรธคับแค้น สุพิชชาแอบยิ้มสะใจ
อ่านต่อหน้า 3
สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ตอนที่ 24 (ต่อ)
เสาน้ำเกลือขยับเข้ามา พวก4สาว ก้องฟ้าและโกลเดนเบบี๋ถอยมาชิดกัน
"พี่รส ทำอะไรหน่อยสิ" ก้องฟ้าบอก
สุคนธรสหยิบขวดน้ำหอมอาคมขึ้นมา พนมมือ ท่องคาถา แล้วเป่าพ่วง แล้วฉีดน้ำหอมนั้นออกไป พวกเสาน้ำเกลือc]tวิญญาณที่มองไม่เห็นต่างผงะ เคลื่อนถอยกลับไปเล็กน้อย มีเสียงหวีดแหลมดังมา
โกลเดนเบบี๋กระหยิ่ม
"ไงล่ะ เล่นกับใครไม่เล่น ไม่รู้จักแม่หมอสุคนธรสซะแล้ว"
"ถ้าไม่อยากตาย ถอยไปไกลๆเลย" ก้องฟ้าบอก
"เราสัญญาว่าจะช่วยปลดปล่อยให้พวกคุณได้ไปสู่ที่ๆดีกว่านี้ ได้โปรดอย่าขัดขวางเราเลย" ญาณินบอก
"แล้วถ้าจะให้ดี ช่วยบอกให้เรารู้ด้วยว่า ตอนนี้เพื่อนของเราอยู่ที่ไหน ไป กรรณ แก้ม รีบไปช่วยยัยเนตร!"
กรรณากับกรรัมภากำลังจะไป แต่ลาภยืนอยู่ข้างกรรณาแบบประกบติด
"พวกแก!"
กรรณาสะดุ้งโหยง เสียงอยู่ประชิดติดตัว
ทันใดลาภเหวี่ยงเอากรรณากระเด็นตัวลอยหลุดไปอีกห้อง โครม! ทรุด กระอัก ทุกคนช็อกที่กรรณาเจอแรงมาก
"พี่กรรณ"
ก้องฟ้ากับกรรัมภารีบวิ่งเข้าไปดู
"ต้องให้ใช้กำลังใช่มั้ย...ได้"
ปรากฏร่างของผีนายลาภยืนขวางหน้าอยู่ พร้อมเผชิญหน้าสู้กัน
"ไม่มีใครไปจากที่นี่ได้ พวกวิญญาณทั้งหลายกำลังกลัว ไม่มีความสุข ชั้นจะช่วยให้พวกแกไม่ต้องทรมานอีกต่อไปเอง"
ทันใด พวกวิญญาณที่มองไม่เห็นกลับมีท่าทีคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม เสียงแหลมดังขึ้น เสาน้ำเกลือถึงกับพลุ่งพล่าน เคลื่อนที่ไปมา ถึงขั้นปลิวไปมา
ญาณินบอก
"ผีนายลาภควบคุมที่นี่อยู่ ถ้าไม่จัดการมันก่อน ก็ไม่มีทางหายัยเนตรเจอแน่"
"ชั้นจะขอแลกกับพวกแล้ว ไอ้ผีไร้สติปัญญา มืดบอดทุกตัว"
สุคนธรสกำลังจะหยิบของขลังในย่าม แต่อยู่ๆพวกเสาน้ำเกลือกลับมารุมล้อมสุคนธรส ท่อสายยางของถุงน้ำเกลือตวัดรัดแขน ขาของสุคนธรส ตรึงเอาไว้ จนสุคนธรสดิ้นไม่หลุด
"เฮ้ย ปล่อย"
โกลเดนทเบบี๋ร้องเรียก
"พี่รส!"
โกลเดนเบบี๋จะไปช่วย แต่ถูกพลังอัดจนกระเด็นไป ญาณินจะขยับไปช่วยสุคนธรส
"ยัยรส!"
แต่อยู่ๆญาณินต้องผงะ ที่ต้นคอของเธอปรากฏรอยนิ้วมือบีบ ตามด้วยที่แขนมีรอยปรากฏขึ้นมาแทบจะซ้อนทับกัน พึ่บๆๆๆ หลายๆรอยแทบจะทุกส่วนของต้นแขนโดนบีบหมด รวมถึงที่เท้าด้วย
ญาณินทั้งเจ็บทั้งหายใจไม่ออก
"อ้อก"
กลุ่มวิญญาณรุมเกาะญาณินมากมายจนน่ากลัว สุคนธรสดิ้นไม่หลุดร้องลั่นด้วยความเจ็บ
"อ๊าก"
"ยัยรส"
ผีลาภยืนควบคุมทุกอย่างอยู่ ยิ้มสะใจ
กรรณากระแทกไปกับข้าวของต่างๆในห้องนั้น ก้องฟ้าวิ่งตามเข้ามา
"พี่กรรณเป็นไงบ้าง"
"ก๊อง..ที่นี่อันตรายมากกว่าที่คิด แกรีบออกไปจากที่นี่ ถ้าเกิดอะไรขึ้น แกต้องดูแลพ่อกับแม่แทนพี่"
"พี่คิดว่า ผมจะทิ้งพี่สาวคนเดียวได้ลงคองั้นเหรอ พี่มองผมผิดไปแล้ว ผมจะปกป้องพี่เอง เว้นแต่พี่จะหนีไปด้วยกันกับผม"
มีเสียงเด็กร้องแหลมดังเข้ามา ... กรรณาเอะใจ เงยหน้ามอง พบว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องอนุบาลเด็กแรกคลอด มีตู้อบเด็กหลายๆตู้ล้มระเนระนาดอยู่
"ห้องนี้..มันห้อง"
"พี่กรรณ นั่น อะไร"
ก้องฟ้าชี้ไปที่มุมด้านหนึ่งของห้อง สองพี่น้องสยอง
เสียงร้องของเด็กดังมาอีก จากด้านนั้นที ด้านนี้ที มากขึ้น กรรณาผงะ จนปวดแก้วหู
"โอ๊ย"
กรรณาไม่มีเครื่องป้องกัน รีบยกมืออุดหู เจ็บปวด ทรมาน
"พี่กรรณ เป็นอะไร"
กรรัมภาวิ่งตามเข้ามา
"ยัยกรรณ"
"พี่แก้ม ช่วยพี่กรรณด้วย"
กรรัมภากำลังจะเข้าไป แต่อยู่ๆต้องชะงัก ตาเบิกกว้าง ก้มหน้ามองลงมาที่มือทั้งสองข้างของตัวเอง ที่มีมือเด็กเอื้อมมาจับกุมเอาไว้ กรรัมภาผงะ ตู้อบเด็กเคลื่อนเข้ามาสวมมือของกรรัมภาเอง
"ไม่..ชั้นไม่อยากเห็นภาพพวกนั้น"
กรรัมภาเห็นภาพทุกอย่าง ที่น่าสยดสยอง น่ากลัว ตาเหลือก ก้องฟ้าทำอะไรไม่ถูก
ไตรรัตน์ จุนจี พงอินทร์ เดินกระวนกระวายรออยู่ ติณห์ลืมตาขึ้นมาไตรรัตน์โดดเข้าไปเขย่า
"รู้แล้วใช่มั้ยว่าพวกสาวๆอยู่ที่ไหน"
ติณห์เสียใจ
"ชั้นไม่เห็นอะไรเลย"
จุนจีโวยวาย
" คุณให้พวกเราอดทนรออย่างมีความหวัง แล้วก็มาตอบซื่อๆว่าไม่ได้อะไร..นอยาบีเฮ!!!(แกมันเฮงซวย)"
"ถ้าออกไปตามหาแต่แรก อาจได้เบาะแสอะไรแล้วก็ได้" พงอินทร์บอก
ทุกคนแยกย้ายกันออกไปด้วยความหงุดหงิด
อรวรรณบอก
"คุณติณห์ ป้าว่า เราไปหาใครช่วยดีมั้ยคะ อาจจะพระอาจารย์ที่มีฌาณพิเศษ หรือผู้มีอาคมที่ไหนก็ได้ที่พอจะช่วยเราได้"
"ผู้มีอาคม ใช่ ผมลืมคนๆนี้ได้ยังไง"
ติณห์รีบนั่งสมาธิอีกรอบ
สุพิชชากำลังบีบน้ำตาเสแสร้งอยู่ต่อหน้าณัฐเดช วรวรรธอยู่อีกด้าน จับตาดูอย่างหงุดหงิด
"พีชรับน้องเนตรไปส่งที่บ้าน พอส่งน้องเนตรเข้าบ้านแล้ว พีชก็กลับ เรื่องที่น้องเนตรหายตัวไป พีชไม่รู้ พีชพูดจริงๆนะคะพี่ณัฐ"
ณัฐเดชจ้อง ไม่อยากเชื่อ
"ถ้าพี่ณัฐไม่เชื่อ จะให้พีชไปสาบานที่วัดไหนยังไงก็ได้"
"บ้านผมมีกล้องวงจรปิดนะพีช ผมเช็กมันผ่านมือถือแล้ว ไม่เห็นอะไรที่คุณว่าเลย มันหมายความว่ายังไง"
"เอ่อ...ก็"
"บอกมาเถอะพีช ยัยน้องหนูอยู่ที่ไหน"
วรวรรธ อดทนไม่ไหว เดินพรวดเข้าไปกระชากแขนสุพิชชามา จะลากไปขึ้นรถ
"พาผมไปหาคุณเนตรเดี๋ยวนี้"
สุพิชชาทำบอบบาง
"โอ๊ย"
"ไอ้หมอ"
"พี่ณัฐอย่ายุ่ง เราไม่จำเป็นต้องพูดดีกับคนที่ร้ายกาจอย่างนี้อีกแล้ว ผมจะถามครั้งสุดท้าย ถ้ายังลีลามาก อย่าหาว่าผมใจร้าย คุณเนตรอยู่ที่ไหน"
สุพิชชาหันมองหน้าวรวรรธ แล้วหัวเราะออกมาแบบเสียสติ
"ทุกข์มากเลยใช่มั้ย พีชก็เคยทุกข์มาก่อน ในที่สุดหมอก็เข้าใจพีชซะที สมน้ำหน้า จ้างก็ไม่บอก ตาทึ่ม"
ณัฐเดชอึ้งคาดไม่ถึง ที่ได้ยินสุพิชชาพูดอย่างนั้น
"พีช"
หมอสุดทน จับสุพิชชาเขย่าด้วยสองมือ
"บอกผมมาว่าเนตรอยู่ไหน บอกผมๆๆ"
ยิ่งถูกเขย่า สุพิชชาก็ยิ่งหัวเราะ สะใจที่ได้เห็นวรวรรธพลุ่งพล่าน
สุคนธรสหน้าซีดลง ญาณินทรุดลงไปนั่งกับพื้น สุคนธรสท่องอาคมสู้... แรงอาคม ทำให้เสาน้ำเกลือรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม ดุดันยิ่งกว่าเดิม และสุคนธรสอยู่ในสภาพเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม
"อ๊าก"
ญาณินบอก
"ไม่ อย่าใช้อาคม ยิ่งใช้ ยิ่งทำให้พวกเขาเกรี้ยวกราด"
"แล้วจะให้ทำยังไงเล่า"
โกลเดนเบบี๋โผล่มา
"ปล่อยพี่รสกับพี่ญาณินเดี๋ยวนี้ หนูโกรธแล้วนะ"
โกลเดนเบบี๋รวมพลังกำลังจะเข้าไปช่วย ผีลาภโผล่มายืนตรงหน้าคว้าหมับที่คอเสื้อ พลังงานที่กำลังพลุ่งพล่านนั้นหล่นฮวบ หายไปทันที
ผีลาภเหวี่ยงโกลเดนเบบี๋ไปกระแทกกำแพง ล้มคว่ำ สิ้นท่าไป
"เก่งนักใช่มั้ย"
ลาภหันมาจ้องญาณินกับสุคนธรส
"ชั้นรู้ว่า พวกเธอกำลังเจ็บปวดมาก ชั้นจะช่วยเอง ไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไป ดีใช่มั้ย"
แล้วร่างกายของลาภก็หายไป เหลือแต่รอยของมีดที่กรีดไปกับผนังหรือพื้น ลากเป็นรอยยาว ตรงไปที่ญาณินเป็นคนแรก
"ยัยเจ๊ แก..แกต้องเจอกับชั้น"
สุคนธรสจะช่วยเพื่อน คิดจะท่องอาคมอีก
"ไม่ อย่าใช้อาคม แผ่...แผ่เมตตา แผ่ให้พวกเขา"
"แผ่เมตตา"
ญาณินหลับตา ตั้งจิต ฝืนอดทนต่อการกระทำของวิญญาณร้ายทั้งหมด พยายามแผ่เมตตา ขมุบขมิบปากเป็นบทสวดแผ่เมตตา
"แกต้องเพี้ยนไปแล้ว"
สุคนธรสจำใจต้องเอาบ้าง แผ่เมตตา
เสียงบทสวดแผ่เมตตาแว่วๆมา จากเสียงญาณินคนเดียว ค่อยมีเสียงของสุคนธรสเพิ่มเข้ามา รอยกรีดของผีลาภพุ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แต่มันกลับพุ่งเข้ามาเร็วขึ้น รอยนั้นลึกและแรงขึ้น ส่งเสียงคำรามดุดันมากขึ้น
ญาณินกับสุคนธรสยังสวด
"สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ นิททุกขา อะเวรา อัพยาปัชฌา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ"
อยู่ๆมีเสียงสวดของกรรณาดังเสริมเข้ามาอีก
กรรณานอนดิ้นทรมาน แต่ปากขมุบขมิบสวดแผ่เมตตา ก้องฟ้าพนมมือไหวสารทิศ
"ก๊องสวดมนต์ไม่เป็น แต่ถ้าชีวิตนี้ก๊องพอจะมีบุญกุศลอะไรกับเขาบ้าง ก๊องขออุทิศให้กับภูติผีวิญญาณที่นี่ทั้งหมด ขอให้รับผลบุญของก๊อง แล้วไปสู่ที่ชอบๆด้วยเถอะ"
ผีลาภยังเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ญาณิน จนใกล้ถึงที่สุด แต่แล้วรอยนั้นก็หยุดกึก ชะงัก พวกญาณินยังคงสวดแผ่เมตตาต่อไป เสาน้ำเกลือที่รัดสุคนธรสอย่างแน่นหนาก็คลายออก ร่องรอยมือที่ร่างหายญาณินก็จางหายไป เสียงเด็กหายไป กรรณาดีขึ้น กรรัมภาดึงมือออกมาได้
ประตูห้องเก็บศพเปิดออก พวกผีที่รุมกอดเนตรสิตางศุ์ไว้คล้ายมือออก เธอรีบแหวกตัวออกมา ทั้งกลัว ทั้งแปลกใจ ผีนายลาภตรงหน้าญาณินอ่อนแรงลง เพราะได้รับกระแสบุญ นายลาภปล่อยมือจากมีดที่ถือ อ่อนแรง คุกเข่า
"พวกแกทำอะไรชั้น"
"บุญกุศลใดๆที่พวกเราบำเพ็ญมาด้วยกาย วาจา จิต ตั้งแต่เล็กจนปัจจุบัน เราขออุทิศให้กับพวกท่านทั้งหลาย เป็นผู้มีส่วนร่วม ขอให้พวกท่านจงอนุโมทนาบุญกับเรา แล้วไปเกิดดีถึงสุขเสีย"
ฉับพลัน เสาน้ำเกลือที่รายล้อมสุคนธรสก็ล้มตึงๆๆๆ เหล่าวิญญาณได้รับการปลดปล่อย ล่องลอยหายไป ก้องฟ้าประคองกรรณากับกรรัมภากลับออกมา
"ชั้น..ชั้นเกลียดพวกแก ชั้นไปจากที่นี่ไม่ได้ ถ้าพวกแกยังมีชีวิตอยู่"
สุคนธรสถาม
"มีใครบังคับให้คุณมาทำร้ายพวกเราใช่มั้ย"
"ชั้นไม่รู้ แต่มันเหมือนกับว่า ถ้าพวกแกไม่ตาย ชั้นจะไม่มีวันไปไหนได้"
"คุณไปได้ คุณแค่หยุดความอาฆาต อย่าให้ความแค้นใดๆมาเป็นบ่วงผูกมัดตัวคุณเอง แค่คุณตั้งจิตให้มั่นถึงที่ๆคุณอยากไป ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้"
"พวกเราจะช่วยนำทางให้คุณเอง"
ทุกคนเห็นว่าเนตรสิตางศุ์กลับมา
"พี่เนตร" โกลเดนเบบี๋เรียก
"เรารู้ว่าคุณไม่ได้อยากทำอย่างนี้ ไปเถอะค่ะ พวกเราไม่มีใครโกรธแค้นคุณ เราอโหสิกรรมให้"
พวก 5สาวตั้งจิตแผ่เมตตา วิญญาณนายลาภสงบลง จากเกรี้ยวกราด ก็สงบขึ้น พื้นตรงหน้าหมุนๆๆ เหมือนน้ำวน แล้วร่างสีแดง 4 ร่าง ผุดขึ้นจากพื้นมาพานายลาภ หายลงไปในพื้นนั้น แล้วพื้นกลับคืนปกติ พวก5สาวหันมาด้วยความห่วงกัน
"ยัยเนตร!" ญาณินเรียก
"ชั้นไม่เป็นไร ยังไหว แล้วพวกแกเป็นไงบ้าง"
กรรณาบอก
"เกือบตาย"
"รีบไปเถอะ ชั้นอยากไปทำบุญให้กับดวงวิญญาณที่เสียชีวิตที่นี่ ชั้นเห็นทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ ชั้นสงสารพวกเขา" กรรัมภาบอก
สุคนธรสบอก
"ไม่น่าเชื่อว่ายัยคุณหนูเบรนด์เนมจะชวนทำบุญ"
พวก 5 สาวหัวเราะกัน กำลังจะออกไป แต่พอหันมา ต้องผงะ เพราะเบญจา สมคิดยืนอยู่
ทุกคนระวังตัวทันที
"นึกว่าพวกชั้นจะไม่ต้องออกแรงซะแล้ว" สมคิดบอก
ทันใด จิตของเบญจามาปรากฏแว่บที่ด้านหลังของพวก5สาว เบญจาใช้ฝ่ามือทั้ง 2 กุมศีรษะของสุคนธรส เบญจาท่องอาคม
สุคนธรสกับญาณินโดนอาคม ตาเหลือก ตัวสั่น แล้วก็ร่วงหมดสติลงไปกับพื้น คนอื่นที่เหลือต่างตกใจ จิตเบญจายิ้ม แล้วกลับเข้าร่าง
"อุ๊บ แม่หมอประจำกลุ่มน็อกซะแล้ว พวกเธอจะทำยังไง" สมคิดว่า
โกลเดนเบบี๋ตกใจ ผงะ หายตัวไป พวก3สาวที่เหลือหน้าซีด
ติณห์ที่นั่งสมาธิหลับตาอยู่ จิตของติณห์เดินมาในความเวิ้งว้าง ว่างเปล่า ขาวโพลน ตามหาใครบางคน แล้วที่สุดปลายทางอีกด้าน มีใครบางคนนั่งสมาธิอยู่ ก็คือ กำนันพงษ์
"กำนันพงษ์"
กำนันพงษ์พูดตัดบท เพราะรู้อยู่แล้วว่าติณห์มาด้วยจุดประสงค์อะไร
"ชั้นช่วยอะไรไม่ได้"
"ไม่จริง ทำไม คุณเป็นถึงกำนันพงษ์ อดีตผู้ที่เชี่ยวชาญคาถาอาคมยิ่งกว่าหมอสมคิด คุณต้องพอมีวิธีที่จะช่วยผมตามหาพวกคุณณินได้ แล้วที่ผมสามารถมาเจอคุณได้อย่างนี้ ส่วนหนึ่งต้องเป็นเพราะคุณก็อยากเจอผมด้วย ใช่มั้ย"
"คุณเข้าใจถูกแล้ว แต่ชั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี ชั้นรู้เท่าที่ชั้นควรรู้"
"คุณต้องรู้อะไรมากกว่าผม ต้องชี้แนะอะไรผมได้ คุณณินกับเพื่อนกำลังมีอันตราย ถ้าไม่มีห้าสาวซิกส์เซนส์ก็จะไม่มีใครต่อกรกับหมอสมคิดและเบญจาได้ คุณต้องช่วยผม ไม่มีใครที่ผมจะพึ่งได้แล้วนอกจากคุณ"
"เหตุครั้งนี้มืดสนิท ไร้แสงสว่างใดๆที่จะส่องให้เห็นปลายทาง"
"หมายความว่ายังไง"
"ปล่อยวาง เข้าถึงความว่าง อย่าเอาใจไปผูกติดและยึดเหนี่ยว ไม่มีอยู่ ไม่มีตาย ไม่มีสิ่งใดเป็นจริง"
"ทำไม จะเกิดอะไรร้ายแรงกับคุณณินเหรอ ไม่ ผมจะปล่อยวางได้อย่างไร ผมจะช่วยคุณณินให้ได้ ต่อให้ต้องตาย ไม่มีแสงสว่างอะไร ผมก็จะทำ คุณเข้าใจมั้ย"
"ตราบใดที่คุณยังเห็นเงาตัวเองในกระจก คุณยังไม่เข้าใจ"
ติณห์ชักหงุดหงิด
"อะไร เห็นเงาแล้วทำไม ช่วยพูดให้มันชัดเจนไปเลยได้มั้ย"
"สิ่งที่ชั้นรู้ ชั้นพูดชัดเจนแล้ว ที่เหลือ อยู่ที่คุณจะมองเห็นมันได้ทะลุปรุโปร่งแค่ไหน"
กำนันพงษ์หายไป
"เดี๋ยว..ผมไม่เข้าใจ กำนันพงษ์..กำนันพงษ์"
ติณห์ลืมตาตื่นขึ้น ผงะ อรวรรณที่รออยู่แล้วรีบเข้ามาถาม
"เป็นไงบ้างคะคุณติณห์ ได้เรื่องอะไรบ้างมั้ย"
ติณห์หน้าเครียด หงุดหงิด ไม่มีคำตอบ
รถของพงอินทร์จอดเอี๊ยด พงอินทร์กับจุนจีรีบพุ่งเข้ามาที่บริษัท
"พวกเราไปติดต่อขอดูภาพซีซีทีวีของตำรวจมา รู้มั้ยว่าเป็นไง" พงอินทร์ว่า
จุนจีสวน
"กล้องซีซีทีวีตั้งแต่หน้าบริษัท ไปจนถนนใหญ่ ทุกสี่แยก ใช้งานไม่ได้ มีกล้อง แต่เจ๊ง"
ไตรรัตน์บอก
"มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือความบกพร่องของระบบจราจร แต่เป็นเพราะใครบางคนจงใจทำให้กล้องใช้งานไม่ได้"
"จะได้ไม่มีใครแกะรอยตามไป" พงอินทร์บอก
"คนที่ทำอย่างนี้ได้ มีคนเดียวคือเบญจา" ติณห์บอก
"เท่ากับว่า คุณสุพิชชาร่วมมือกับแม่หมอเบญจาจับตัวพวกคุณหนูไป... โธ่ คุณหนู"
ไตรรัตน์ใจคอไม่ดี หันมาที่ติณห์
"หรือมันจะจริงอย่างที่กำนันพงษ์บอกกับนาย สถานการณ์นี้มืดสนิท ไม่มีแสงสว่าง ให้พวกเราปล่อยวางซะ"
จุนจี พงอินทร์โพล่ง
"เว! / อะไรนะ!"
"ชั้นไม่รู้ว่าทำไมกำนันพงษ์ถึงพูดอย่างนั้น แต่ชั้นจะไม่ทอดทิ้งพวกห้าสาวเด็ดขาด ต่อให้รู้แน่ว่าต้องแพ้ ชั้นก็ยอม ดีกว่าต้องมีชีวิตอยู่ในสังคมที่ถูกครอบงำด้วยพ่อมดหมอผี ตายเพื่อปกป้องความดี ดีกว่ามีชีวิตอยู่ด้วยการสูบเลือดเนื้อเพื่อนมนุษย์เหมือนพวกมัน"
ทุกคนเห็นด้วยกับติณห์ ฮึกเหิม ไม่ย่อท้อ
"ใช่ อย่าเพิ่งหมดหวัง" พงอินทร์บอก
"งั้น..ป้าจะไปโทรหาคุณณัฐเดช ว่าเค้นคำตอบจากคุณสุพิชชาได้หรือยัง"
อรวรรณกำลังจะวิ่งไป อยู่ๆโกลเดนเบบี๋ก็พุ่งเข้ามาราวผีพุ่งไต้ เบรกไม่อยู่ ชนข้าวของบริเวณนั้นล้มคะมำ แล้วรีบโงหัวขึ้นมา
"ช่วยด้วย! พวกเจ๊ๆกำลังจะตายแล้ว รีบไปช่วยเร็ว"
ทุกคนผงะ ตกใจ ช็อก
สุพิชชาผลักวรวรรธออกเต็มแรง จนหมอล้มคะมำไป
"เจ็บใช่มั้ย..อดทนหน่อยนะ หมอยังต้องเจ็บกว่านี้อีก ตอนที่ไม่มีผู้หญิงชื่อเนตรสิตางศุ์อยู่ในโลกนี้แล้ว"
ณัฐเดชถาม
"พีช...นี่คือคุณจริงๆเหรอ"
สุพิชชาหันมาที่ณัฐเดช แล้วทำตัวอ่อนแอ
"พี่ณัฐ..หมอจะฆ่าพีช พีชเจ็บระบมไปทั้งตัวแล้ว ฮือๆๆ"
แต่ณัฐเดชจับสองแขน
"น้องสาวผมอยู่ไหน"
สุพิชชายิ้ม ลอยหน้าลอยตา
"พีชไม่รู้จริงๆค่ะพี่ณัฐ"
"บอกผมมา ไม่งั้นผมจะ..."
"พี่ณัฐจะฆ่าพีชเหรอคะ พี่ณัฐจะใจร้ายกับพีชเหมือนหมอเหรอคะ"
ณัฐเดชทั้งเจ็บปวด ทั้งขยะแขยง ผลักสุพิชชาออก แล้วเครียดกุมขมับ
"คุณมัน"
มือถือของวรวรรธดัง เขาหยิบมารับสาย
"ว่าไง..จริงเหรอ ที่ไหน ได้ ผมจะรีบตามไป"
ทันทีที่วางสาย รีบบอกณัฐเดช
"ติณห์รู้ที่อยู่ของพวกสาวๆแล้ว"
สุพิชชาอึ้ง วรวรรธรีบวิ่งแยกไปที่รถ
"พี่ณัฐ"
ณัฐเดชตัดใจจากสุพิชชาก่อน แล้วรีบตามไปที่รถทันที ทั้งสองโดดขึ้นรถ แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
สุพิชชามองตาม แค้น ไม่ยอม
"ไม่จริง ไม่ หมอจะตามไปช่วยยัยเนตรไม่ได้..ชั้นไม่ยอม"
อ่านต่อหน้า 4
สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ตอนที่ 24 (ต่อ)
บริเวณโกดังร้างเก็บของหลังโรงพยาบาลร้าง ทุกคนโดนมัดหลังชนกันไว้ด้วยกัน ญาณินกับสุคนธรสไม่มีสติ ก้องฟ้า กรรณา พยายามดิ้นๆๆ เนตรสิตางศุ์ กรรัมภาพยายามช่วยกัน จนกรรัมภาหลุดมาได้ แล้วรีบแกะให้คนอื่นๆ
"ยัยเจ๊ กะรสท่าจะแย่แล้วละ" กรรัมภาบอก
"แล้วเราจะทำอะไรได้" เนตรสิตางศุ์ว่า
"พวกพี่ทุกคนก็มีพลังของพวกพี่ไม่ใช่เหรอ"
"ทำให้ดีที่สุด เท่าที่เราสามคนจะทำได้ก็แล้วกัน" กรรณาบอก
สามสาวล้อมวง จับมือสุคนธรสและญาณินเพื่อถ่ายเทพลังไปเยียวยาเพื่อน ก้องฟ้านั่งพนมมืออยู่ด้านหนึ่ง
"ผมทำอะไรไม่ได้ ผมสวดมนตร์ให้นะ"
ก้องฟ้าหลับตา สวดมนตร์ข้างหลังสาวๆ เกิดแสงสว่างสีขาวถ่ายเทจากฝ่ามือไปสู่ญาณินและสุคนธรส สีหน้าทั้งคู่ค่อยๆดีขึ้น แล้วลืมตาขึ้น
ทันใด เบญจาก้าวเข้ามายืนดูอย่างอึ้งๆ สมคิดก้าวเข้ามา แล้ววางมือบนบ่าเบญจา
"อย่าดูเฉยๆสิ ลูกรักของพ่อ"
สมคิดจ้องหน้า ดุ เบญจาพยักหน้ารับ แล้ววาดมือไป
ทันใด กลุ่มวิญญาณสัมภเวสีร้ายพุ่งเข้ามา โฉบเข้าไปที่พวกห้าสาว ปั่นป่วนการช่วยเหลือญาณินกับสุคนธรส แล้วในที่สุดทั้ง5สาวต่างก็ถูกกระแทกให้ต้องผละแยกออกจากกัน มือที่จับกันไว้ก็หลุดออกหมด
"สมแล้วที่เกิดวันเดือนปีและเวลาเดียวกัน สามารถถ่ายเทพลังเยียวยากันและกันได้ น่าทึ่งกับความสามารถของพวกเธอจริงๆ"
"ชั้นอยากจะคุยรื้อฟื้นความหลังกับพวกเธอหน่อย อดีตที่พวกเธอทำกับชั้นเอาไว้อย่างเจ็บแสบ ชั้นจะบอกว่า..ชั้นไม่เคยลืม" สมคิดว่า
กรรัมภาบอก
"ที่แกส่งเบญจาเข้ามาหาญาณิน ..เพื่อล้างแค้น"
"อย่าสำคัญตัวผิด พวกแกมันก็แค่หมากตัวนึง ที่จะต้องถูกกำจัดออก เพื่อให้เป้าหมายที่ชั้นต้องการบรรลุผล สมคิดอีสคัมมิ่งแบ็ก ชั้นจะกลับมาเป็นท่านอาจารย์สมคิดผู้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง และมันต้องมากกว่าเดิม เพราะชั้นมีเบญจา คนเดียวที่มีทุกอย่างเหนือกว่าพวกแกทั้งห้ารวมกัน เบญจาจะช่วยให้ชั้นควบคุมประเทศนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ"
กรรณาบอก
"คิดจะควบคุมประเทศเลยเหรอ..ฝันหรือเปล่า"
"ถ้าพวกแกติดตามข่าวบ้าง จะรู้ว่าช่วงที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ ทั้งบริษัทผู้นำด้านธุรกิจอาหาร หรือบริษัทข้ามชาติด้านไอที" กรกฎว่า
ญาณินบอก
"ที่เคยมีข่าว ผู้บริหารป่วยหนักกระทันหัน หรือคดีพยายามฆ่าตัวตายหมู่คาห้องประชุม ก็เป็นฝีมือ..."
"ลองคิดสิ..ว่าคนที่ขึ้นไปบริหารแทนคนที่ตายไปเป็นลูกศิษย์ใคร หึๆ คนสมัยนี้ไม่มีใครเล่นกันในกรอบแล้ว ความโลภ อยากได้ทางลัดไปสู่ลาภยศสรรเสริญให้เร็วกว่า มากกว่าคนอื่นนี่แหละ ที่จะทำให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของชั้น เพราะใครที่อยากสมหวัง ก็จะต้องคลานเข้ามาให้ชั้นดลบรรดาลให้..และเมื่อพวกมันสมหวัง ก็จะไม่มีใครกล้าขัดใจชั้น เพราะพวกมันรู้ดี ว่าชั้นทำอะไรได้บ้าง"
เบญจาพูดเสียงเศร้าๆ
"พรุ่งนี้...จะมีข่าวใหญ่ระดับประเทศ"
พวกห้าสาวตะลึง
"ทำไม..พวกแกจะทำอะไร..หา" ญาณินถาม
พวกสมคิดหัวเราะ ไม่ตอบ
ติณห์ จุนจี ไตรรัตน์ พงอินทร์เข้ามายืนที่ด้านหน้าโรงพยาบาลร้าง
โกลเดนเบบี๋บอก
"ที่นี่แหละ มันจับแฟนพวกพี่ๆมาขังไว้ข้างใน"
ทุกคนมองบรรยากาศอย่างตะลึง จุนจีรีบนัดแนะบัญชาการ
"ชั้นจะเข้าไปก่อกวนข้างหน้า เพื่อล่อให้พวกมันมารุม แล้วพวกนายแอบอยู่ก่อน จากนั้น..."
"เดี๋ยวๆๆ ยูมาออกคำสั่ง วางแผนการงั้นงี้..ยูเป็นหัวหน้าทีมตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอเป็นแฟนเจ๊ญาณิน ไอคือเขยคนโตของบริษัทซิกส์เซนส์" ติณห์บอก
"เดี๋ยวๆๆเขยคนโต ชั้นจ้ะ ชั้นแต่งงานเป็นคนแรก" ไตรรัตน์บอก
"ชั้นเคยเข้าอบรมหลักสูตรพิเศษทางทหารตอนที่เล่นหนัง ชั้นมีประสบการณ์มากกว่าพวกนาย ถ้าอยากรอดต้องฟังชั้น... นายไปทางนั้น นายไปทางนั้น"
ติณห์กับไตรรัตน์บอก "ไม่ไป"
พงอินทร์แอบไปยืนข้างจุนจี
"ผมเห็นด้วยกับจุนจี เราต้องมีแผน"
ติณห์ ไตรรัตน์ มองพงอินทร์ตาเขม็ง
"เฮ้ย...ไอ้แมลงทับนี่แปรพักตร์เหรอ แน่ใจนะว่าอยู่ข้างไอ้อุนจิ" ไตรรัตน์ถาม
"ใช่"
"จะเถียงกันอีกนานไหมเนี่ย"
โกลเดนเบบี๋เดินพุ่งจะเข้าไป แต่ชะงัก
"อ้าว มีคนมา"
วรวรรธนั่งรถมากับณัฐเดช
"เฮ้ย..หยุด..ไม่ต้องเถียงกัน..เพราะพวกนายทุกคน..ฟังคำสั่งของชั้น" ณัฐเดชบอก
ทุกคนพร้อมเพรียงกัน
"ทำไมต้องฟัง"
ณัฐเดชควักปืนออกมา
"เพราะฉันมีปืน จบมั้ย"
โกลเดนเบบี๋ทำหน้าจ๋อย "จบ"
"พวกมันไม่ใช่คนธรรมดา ยิ่งแยกย้ายกันไปยิ่งอันตราย เราต้องอยู่ด้วยกัน ไปด้วยกัน แต่ไม่ตายด้วยกัน มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้"
"ผมเห็นด้วย..มาๆๆ ขอมือหน่อย" วรวรรธบอก
"ผมเห็นด้วยกับพี่ณัฐ เราไม่ควรแยกกัน"
พงอินทร์บอกแล้วแยกไปยืนกับณัฐเดชและวรวรรธ ทั้งไตรรัตน์ ติณห์ และจุนจีมองพงอินทร์แบบจะกินเลือด
"ทำไมทำงี้วะ ไอ้แมลงทับ" ติณห์ว่า
"เมื่อกี้ยังบอกให้แยกอยู่เลย ทำตัวเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสีนี่หว่า" ไตรรัตน์บอก
"เว...เกาหลีจะจำเอาไว้"
จุนจีเดินแยกไปเลย ทุกคนรีบตามไป
พวกห้าสาวยันตัวลุกมารวมกัน พร้อมสู้
"เราจะไม่ยอมให้แกทำร้ายใครได้อีกเด็ดขาด" ญาณินบอก
"แกจะทำอะไรประเทศไทย ข้ามศพพวกชั้นไปก่อน" กรรัมภาบอก
สมคิดได้ยินแล้วรู้สึกเป็นเรื่องตลกเหลือเกิน
"ฮ่าๆๆ มีปัญญาเหรอ...พวกแกกำลังจะได้รู้สึกแบบเดียวกับที่ชั้นเคยรู้สึก ไม่มีซิกส์เซนส์ ไม่มีอาคมพลังพิเศษใดๆ กลายเป็นคนธรรมดาๆ"
พวกห้าสาวตะลึง
"พวกแกจะถอนอาคมและเซนส์พิเศษของพวกเราเหรอ"
สุคนธรสฮึดสู้
"เอาสิ...ก็ลองดูว่าแกจะทำได้แค่ไหน"
แต่อยู่ๆเบญจาผงะ หันกลับไปมองทิศด้านทางเข้าโกดังร้าง พวกห้าหนุ่มเดินเข้ามาภายในโรงพยาบาลร้าง ระแวงกับบรรยากาศที่ดูวังเวง ไม่น่าปลอดภัย เบญจาชะงัก
"มีอะไร" สมคิดถาม
"รู้สึกว่า..ผู้ชายของพวกเธอจะมาถึงแล้ว"
เนตรสิตางศุ์โวยเสียงดังแบบมั่นใจในตัวหนุ่มๆ
"หึๆ สถานการณ์ตอนนี้ พวกเธอไม่ได้เป็นต่ออีกแล้ว รู้ไว้ด้วย"
"คิดเหรอว่า ที่ชั้นจงใจปล่อยให้ผีเด็กของพวกเธอหนีไปได้ เพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้มันไปนำทางพวกแกทั้งหมดมาที่นี่ ทุกอย่างจะได้จบ"
สมคิดจับแก้มเบญจาบีบ
"โดยเฉพาะไอ้ติณห์ของหนู เขาควรจะได้มาเห็นคนที่เขารักตาย ใช่ไหมลูก"
ญาณินและพวกสาวๆอึ้ง ก้องฟ้ารีบไปรวมกัน
"อย่ารอช้า เบญจา"
ทันใด เบญจาหลับตา ท่องคาถา เรียกพลังวิญญาณร้ายให้ออกมาวนเวียนพลุ่งพล่าน ลมพัดรุนแรง เสียงหวีดหวิวของภูตผีดังเข้ามา พวกห้าสาวหน้าซีดไปตามๆกัน
หน่มๆเดินเข้ามา ท่าทางระแวดระวังอันตราย โกลเดนเบบี๋เป็นด้านหน้านำทาง
"ตามมาเร็ว"
แล้วโกลเดนเบบี๋ต้องผงะ ที่ด้านหน้ามีรถเข็นเคลื่อนที่มาจอดขวางทาง มีผู้ชายผอมแห้งนั่งคอพับคออ่อนอยู่ เนื้อหนังดำเกรียม ทุกคนผงะ ทุกคนมองเห็น
"ทุกคน เห็น เหมือนที่ผมเห็นใช่มั้ย" วรวรรธถาม
"พวกพี่..มองเห็นด้วยเหรอ หรือจะเป็นฝีมือเบญจาที่จงใจให้พวกพี่เห็นวิญญาณ จะได้เตลิด เข้าไปช่วยพวกเจ๊จีจ้าไม่ได้"
จุนจีถาม
"นี่คือผี ใช่ไหม"
"ไม่ต้องสงสัย ใครกลัวก็กลับไป" ติณห์บอก
ติณห์กับไตรรัตน์เหล่มองพงอินทร์
พงอินทร์ทำท่าเชื่อมั่นข่มทุกคน
"เราจะไม่มีวันทิ้งห้าสาวซิกส์เซนส์"
"พวกห้าสาวช่วยเหลือผู้คนและวิญญาณเร่ร่อนมามาก พวกเราทั้งหมดก็แคล้วคลาดปลอดภัยมาได้เพราะพวกห้าสาว ต่อให้ตายเราก็ถอยไม่ได้" ติณห์บอก
ทันใด วิญญาณผีเงยหน้ามา แยกเขี้ยว ตาขาวโพลน..แฮ่! ทุกคนผงะ แล้ววิญญาณผีนั้นแว๊บมาบีบคอติณห์จนหน้าเหยแก ทุกคนช็อก
พวกห้าสาวผงะถอยมาชนกัน รวมกลุ่มกัน สะพรึงกับอันตรายมารอบด้าน กลุ่มควันดำของวิญญาณร้ายฉวัดเฉวียนวนเวียน รุนแรง น่าสยอง เกิดลม..ปรากฏเป็นภาพชายหรือหญิงยืนประกบด้านหลังของพวกห้าสาว แต่พอหันกลับไปมอง ร่างนั้นก็หายไป..หรือบางทีก็มาเป็นมือ มาจับต้นแขน จับบ่า จับขา แต่พอหันกลับไปมองก็ไม่เห็นวิญญาณนั้น พวกห้าสาวจับมือกันตั้งจิต
กรกฎบอก
"เปลี่ยนจากตั้งจิตอธิษฐาน เป็นคุกเข่ากราบขอร้องอาจารย์สมคิดและองค์เบญจา อาจจะมีทางรอดมากกว่าก็ได้นะ"
รัศมีพลังของพวกห้าสาว คอยป้องกันพวกวิญญาณร้ายไม่ให้เข้ามาทำอันตรายได้ ทันทีที่ลืมตาขึ้น
พวกวิญญาณพุ่งร้ายดุดันขึ้นเข้ากระแทก กลืนกินรัศมีพลังบุญให้หดลงไปเรื่อยๆ
"ถ้าไม่มีพวกแกแล้ว ก็จะไม่มีใครมีพลังพิเศษมาต้านทานเบญจาได้อีก"
"ต่อให้พวกเราไม่มีซิกส์เซนส์ พวกเราก็จะทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางพวกแก" สุคนธรสบอก
ญาณินสำทับ
"คนอื่นๆก็ด้วย ชั้นมั่นใจว่ายังมีคนดีๆอีกมาก ที่พร้อมจะสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อสิ่งที่ดีงาม ..ความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะความชั่วร้ายต่างหากคือพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเซนส์พิเศษใดๆ"
เบญจาบอก
"งั้น..ชั้นก็จะมอบพลังที่ยิ่งใหญ่นี้ให้พวกแกเอง"
กลุ่มควันดำ พุ่งเข้าล้อมร่างกายของทั้งห้าสาว แต่ละคนถูกตรึงไปคนละทาง สุคนธรสถูกควันดำพุ่งไหลเข้า-ออกทางจมูก, เนตรถูกควันดำไหลเข้า-ออกทางดวงตา, กรรณาถูกควันไหลเข้า-ออกทางหู, กรรัมภาถูกไหลเข้า-ออกไปทางฝ่ามือและเล็บ ไปตามเส้นเลือด ส่วนญาณินไหลเข้าไปในท้อง
พวกห้าสาวมีอาการเหมือนถูกดูดพลัง เกร็ง
สมคิดยิ้มสมใจ
ติณห์ที่ถูกผีบีบคอ พยายามจะกระชากตัวเองออก แต่ไม่สำเร็จ ณัฐเดช จุนจี วรวรรธ พยายามจะเข้าไปจับตัวผี แต่จับไม่ได้ ไม่มีตัวตน งง
"มันไม่มีตัวตน แล้วทำไมมันทำร้ายคนด็" จุนจีว่า
"ไม่รู้ แล้วเราจะทำอะไรกับมันดี" พงอินทร์บอก
ณัฐเดชบอก
"ติณห์คือคนที่มีสมาธิดีที่สุดแล้วนะ ยังช่วยตัวเองไม่ได้"
"ต้องให้ผีด้วยกันจัดการสิ" วรวรรธบอก
พงอินทร์บอก
"โกลเดนไง อยู่ไหนอ่า..ลุยเลย"
โกลเดนเบบี๋พุ่งเข้าไปกระชากผี
"ปล่อยพี่ติณห์"
ไตรรัตน์หยิบผ้ายันตร์ของสุคนธรสออกมา
"หลบไป"
ไตรรัตน์เข้าไป เอาผ้ายันตร์แปะหน้าผากผี วิญญาณผีร้ายผละออก ส่งเสียงร้องแล้วหายไป พงอินทร์กระเด้งไปหลบหลังไตรรัตน์
"เฮ้ย...กลัวไร"
"เปล่าไม่กลัว...แต่พี่เก่งมาก ขอผมเป็นศิษย์เหอะ อาจารย์ นำหน้าเลย"
5สาวถูกดูดพลัง ทรุดลงไปกับพื้น หน้าซีด ก้องฟ้าท่องคาถาไม่หยุดบอก
"พี่กรรณ..พี่รส เจ๊ณิน แก..นังหมอผี หยุดทำร้ายพี่สาวชั้น..หยุด"
ก้องฟ้าจะเข้าไปทำร้ายเบญจาวิ่ง กำลังจะชก แต่กลับค้างอยู่อย่างนั้น มีอะไรบางอย่างจับหมัดของไว้ แล้วถูกเหวี่ยงลอยไปอย่างแรง
"หมดเวลาของพวกแกแล้ว" เบญจาบอก
แต่แล้วทันใด พวกผู้ชายเข้ามา
"หมดเวลาของเธอต่างหากเบญจาW
ติณห์เอี้ยวหลบ ไตรรัตน์ เขวี้ยงมีดหมออาคมพุ่งเข้าไป แต่เบญจาหลบได้หวุดหวิด มีดไปปักที่ผนัง เบญจาหลุดจากการท่องอาคม กลุ่มพลังงานที่รุมทำร้ายพวก5สาวอยู่ อันตรธานหายไป
พวก5หนุ่มรีบเข้าไปดูแล5สาว
"คุณเนตร"
วรวรรธเข้าหา เนตรสิตางศุ์กอดแน่น
"หมอ"
จุนจีไปดูแลกรรัมภา
"คุณแก้ม..ผมอยู่นี่แล้ว คุณได้ยินผมมั้ย"
กรรัมภาชูนิ้วภาษามือว่าไอเลิฟยู
"จุนจี"
ไตรรัตน์ไปกอดสุคนธรส
"เมียจ๋า ห้ามเป็นอะไรนะ ถ้าเมียตาย สามีอยู่ไม่ได้แน่ สามีรักเมียนะ"
"ชั้นก็รักคุณ คุณขว้างมีดได้เท่มากๆ รู้ตัวไหม"
พงอินทร์เข้ามาหากรรณา
"ชั้นว่าแล้วคนถึกๆอย่างเธอต้องไม่เป็นอะไรมาก"
"ชั้นก็ว่า...ว่าคนถึกๆอย่างนาย ต้องมาช่วยชั้นทันเวลา"
ติณห์ประคองญาณิน
"คุณณิน มองผม คุณห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด คุณต้องอยู่กับผมจนแก่จนเฒ่า คุณเข้าใจใช่มั้ย"
"ติณห์ ขอบคุณนะ"
เบญจามองแล้วยิ่งแค้น
"นึกว่าเป็นโรมิโอ จูเลียตกันหรือไง"
ติณห์ลุกขึ้นมา เผชิญหน้า
"เบญจา เธอเลิกทำร้ายคนอื่นเถอะ วิชาอาคมที่เธอเรียนมา ถ้าเอามาใช้ให้ถูกต้อง มันจะเป็นบุญกับตัวเธอมากกว่า"
"ใช้ให้ถูกต้อง เหมือนยัยญาณินน่ะเหรอ นี่พี่ติณห์คิดว่า เบญจาทำอะไรก็ผิดทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่จะสู้ยัยญาณินได้เลยใช่ไหม"
สมคิดบอก
"แกไม่ต้องไปฟังมัน จัดการปิดเซนส์และถอนอาคมของพวกผู้หญิงให้หมดเดี๋ยวนี้"
จุนจีบอก
"ถ้าคิดว่าพวกเราจะยอมอยู่เฉยๆ คิดผิดแล้ว"
"พวกเรามากกว่าที่จะถอนอาคม ถอนขนพวกแก" วรวรรธบอก
กรกฎก้าวออกมาพร้อมลุย จุนจี วรวรรธก็พร้อม ไตรรัตน์ โจ้ ณัฐเดชขยับเข้ามาช่วย แต่อยู่ๆมีวิญญาณมากระชากพงอินทร์กับวรวรรธไปติดผนัง
พงอินทร์และวรวรรธโดนวิญญาณกระชากดึงไปติดผนัง
ณัฐเดชโพล่ง
"ไอ้หมอ"
ไตรรัตน์ร้องเรียกอย่างตกใจ
"นายโจ้"
"ถ้าเธอยังทำตัวอย่างนี้ เชื่อฟังหมอสมคิดทำแต่เรื่องชั่วๆ ไม่ใช่แค่พี่หรอกที่จะไม่รัก ใครๆก็ไม่รักเธอ" ติณห์บอก
"ไม่รักก็ไม่ต้องรัก เชิญเกลียดกันซะให้พอ" เบญจาว่า
เบญจาโกรธ สีหน้าแววตา พลังอาคมชั่วร้ายพลุ่งพล่านรอบตัวเธอ
"ความรักมันคือความหลอกลวง สิ่งเดียวที่เที่ยงแท้แน่นอนคือความตาย"
พวกผู้ชายปกป้องผู้หญิงไว้ แต่ถูกพลังกระชากดึงให้แยกออกจากพวกผู้หญิง กระเด็นไปคนละทิศละทาง แล้วมีมือผีมาจับล็อกเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้
วิญญาณผีกำลังบีบพวกผู้ชายเอาไว้ ยืนบีบ นั่งคร่อมบีบ ล็อกจากด้านหลังบีบ
สุคนธรสถาม
"เธอคิดจะทำอะไร"
เบญจาท่องอาคม บรรยากาศบริเวณนั้นแปรเปลี่ยน มีอีกาบินมาเกาะ ส่งเสียงร้อง บรรดาภูตผีโฉบว่อนไปทั่ว
"ชั้นจะฆ่าพวกมัน พวกแกจะต้องอยู่อย่างไร้คนรักเหมือนชั้น"
พวกญาณินพยายามจะขยับไปช่วยพวก5หนุ่ม แต่พวกวิญญาณผีร้ายโฉบมาขวาง ทำให้พวก5สาวไปไม่ถึงตัว ถูกต้อนไปรวมกัน
"เอาตัวเองให้รอดก่อนดีมั้ย"
พวก5หนุ่มกำลังแย่ ต่อต้านอะไรไม่ได้ หายใจรวยริน
"จุนจี ปล่อยจุนจีเดี๋ยวนี้"
"นายจิงโจ้"
กรรณากับกรรัมภาจะฝ่าเข้าไปหาผู้ชาย แต่วิญญาณผีร้ายกระแทกทั้งคู่กลับมา ล้มบาดเจ็บ ทุกคนถูกวิญญาณโฉบทำร้าย เลือดซิบ
"ติณห์"
"ตั้งสมาธิเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเราต้านอาคมของเบญจาไม่อยู่แน่"
5สาวพยายามตั้งสมาธิ
ญาณินบอก
"เราจะเอาแต่ป้องกันตัวเองไม่ได้ พวกหนุ่มๆกำลังจะตาย เราต้องช่วยพวกเขา"
เนตรสิตางศุ์บอก
"ยัยรส แกทำอะไรสักอย่างสิ"
"คิดว่าชั้นไม่อยากทำหรือไง"
เบญจาหัวเราะ สะใจ สมคิดพึงพอใจในฝีมือเบญจามาก
"ลูกทำได้ดีมากเบญจา"
"ใกล้จะเช้าแล้ว พ่อไปเตรียมทำสิ่งที่พ่อต้องทำเถอะ เดี๋ยวหนูเก็บกวาดทางนี้เอง แล้วจะเคลียร์ปัญหาส่วนตัวของหนูด้วย"
สมคิดกับกรกฎแยกออกไป
สมคิดกับกรกฎแยกออกมา
"อีกไม่ถึงสองชั่วโมง นายจะสร้างประวัติศาสตร์ที่คนทั้งประเทศจะไม่มีวันลืม" กรกฏบอก
"เช้านี้ จะเป็นเช้าที่ชั้นมีความสุขที่สุด"
ทั้งสองคนรีบออกไป
ติณห์หายใจริบหรี่
"ติณห์ คุณอย่าเป็นอะไรนะ"
"คุณณิน ผม..."
ญาณินจะผละไปหาติณห์ ทำให้พวก5สาวเสียสมาธิ ถูกพวกวิญญาณร้ายพุ่งกระแทกใส่ ให้บอบช้ำบาดเจ็บไปตามๆกัน
ติณห์กำลังจะหลับตา อยู่ๆเสียงกำนันพงษ์ดังเข้ามา
"ปล่อยวาง"
ติณห์ลืมตาขึ้นมามอง เห็นกำนันพงษ์ยืนอยู่ตรงหน้า
"ปล่อยวาง เข้าถึงความว่าง อย่าเอาใจไปผูกติดและยึดเหนี่ยว ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีสิ่งใดเป็นจริง"
"อะไร...ไม่เข้าใจ"
"ธรรม คือธรรมชาติ ธรรมชาติคือจิตดั้งเดิมที่ไม่มีสิ่งปรุงแต่ง ไม่มีดี ไม่มีชั่ว ทุกสภาวะไหลเวียนเปลี่ยนไป ไม่คงที่ ไม่มีตัวตนของใครเลย ที่จะรับรู้หรือตัดสิน ว่าคือไอ้นั่นคือไอ้นี่ ว่าคือชอบ คือไม่ชอบ ว่าสวย ว่าน่าเกลียด ว่ากล้า ว่ากลัว ไม่มีอุปปาทาน ไม่มีอวิชชา"
"ไม่มีอวิชชา"
ติณห์หลับตาลงไป ราวกับสิ้นใจ
ญาณินช็อก
"ติณห์"
แต่แล้วติณห์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แววตาใสบริสุทธิ์ ปราศจากอารมณ์ใดๆ
"ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเลย ทุกสภาวะไหลเวียนเปลี่ยนไป ไม่คงที่ ไม่มีตัวตนที่จะรับรู้หรือตัดสิน ว่าคือไอ้นั่นคือไอ้นี่ ว่าคือชอบ คือไม่ชอบ ว่าสวย ว่าน่าเกลียด ว่ากล้า ว่ากลัว ไม่มีอุปปาทาน ไม่มีอวิชชา"
ติณห์ยิ้มใส่หน้าผี พูดเสียงสงบ แน่วแน่ แต่ดังกังวาน
อ่านต่อตอนที่ 25 / 17.00 น.