xs
xsm
sm
md
lg

สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ตอนที่ 23

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สื่อรักสัมผัสหัวใจ ตอนที่ 23

จุนจีเดินหนีไปรอบๆห้อง โดยปาริฉัตรยังตามติดยื้อต้อนหน้าต้อนหลัง ดึงพยายามจะเปิดเสื้อปาร์คจุนจี หวังเผด็จศึกให้ได้ภายในวันนี้

"อายอะไรล่ะ จีนจี คุณเป็นผู้ชายนะ นักร้องเกาหลีเขาถอดเสื้อบนเวทีให้คนดูเยอะแยะ นี่คุณมาหวงอะไร ไม่ยอมให้ชั้นดู แค่คนเดียวเอง"
"ถ้าคนเยอะๆ ผมไม่อาย แต่อยู่กันสองต่อสองแบบนี้ ผมว่า มันจะไม่ดี"
"ทำไมจะไม่ดีล่ะคะ นี่เราอยู่ในฟิตเน็ส เป็นที่ที่คนเขาเอาไว้ออกกำลัง เพื่อพัฒนาหุ่น เราต้องโชว์หุ่นกันสิ ว่าใครพัฒนามากน้อยแค่ไหน"
ปาริฉัตรพยายามจะเปิดเสื้อ จุนจีเลยเอา 2มือกำต้นแขนเป้ยไว้ ตั้งใจจะผลักเป้ย ออกจากตัว แต่กรรัมภาดันเดินเข้ามาเห็นเสียก่อน โวยขึ้นอย่างเสียใจ
"จุนจี"
"ห่ะ คุณแก้ม"
ปาร์คจุนจีผลักปาริฉัตรผละออกจากตัว ลุกขึ้น
"ว้าย!"
"อานยา...ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ๆๆ"
แต่ปาริฉัตรสอดขึ้นเสียก่อน
"ใช่! เธอจะได้รู้ตัวซะทีว่า เธอมันก็แค่ขนมขบเคี้ยวให้จุนจีเค้าไว้กินเล่นๆ แก้ขัดไม่ใช่อาหารหลัก ไว้ตั้งโต๊ะ ออกหน้าออกตาเหมือนระดับซุปสตาร์ด้วยกันอย่างเป้ย ปาริฉัตร"
ปาร์คจุนจีหันมามองหน้าปาริฉัตร แทบไม่เชื่อหูตัวเองที่ได้ยินเธอพูดอย่างนั้น ปาริฉัตรยิ้มสะใจ กรรัมภาน้ำตาไหลเผาะ หันจะเดินไป แต่ปาร์คจุนจีคว้าแขนเอาไว้
"เดี๋ยวก่อน"
"ปล่อยฉัน"
แต่ปาร์คจุนจีไม่ปล่อย พูดใส่หน้า
"ผมบอกให้คุณเชื่อมั่นให้หนักแน่นไง แล้วทำไมคุณถึงเชื่อที่คุณเป้ยพูด แต่ที่ผมพูดถึงไม่เชื่อห่ะ เว"
"คงโง่มั้ง"
"คุณไม่โง่หรอก ผมต่างหากที่โง่มาชอบคนอย่างคุณ"
กรรัมภาอ้าปากค้าง ปาร์คจุนจีพูดเสร็จก็หันไปคว้ามือถือที่วางอยู่แล้วเดินจูงกรรัมภาจะออกจากฟิตเนสไป
"นั่นคุณจะไปไหนจุนจี"
ปาร์คจุนจีไม่ตอบ รีบจูงมือกรรัมภาที่งงๆเดินดุ่ยๆออกไป
"อย่าไปนะจุนจี เราเป็นคู่จิ้นกัน คุณไปกับแม่นั่นได้ยังไงกัน กลับมานะจุนจี จุนจี!"

ปาร์คจุนจีหน้าจริงจังเดินจูงมือกรรัมภาเข้ามาในห้าง กรรัมภายังงงๆตื่นๆ เขาหันมาโวย
"เดินตามผมเร็วสิ"
"ว้าย! ทำไมต้องตวาดด้วย"
"ก็ผมโกรธ"
"โกรธแล้วมากับฉันทำไม"
"ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าทำไม! คุณนี่มันน่านัก..."
ลีจองกุ๊กกำลังเดินตามหาปาร์คจุนจีอย่างร้อนใจ ลีจองกุ๊กชี้มือไปตาเหลือก เมื่อเห็นทั้งคู่เดินอยู่ด้วยกัน
"จุนจี! หยุดอยู่ตรงนั้นนะ จะไปไหน จุนจี!"
ลีจองกุ๊กแหกปากพลางออกวิ่งไปราวกับคนบ้า ทั้งคู่สะดุ้งกับเสียงแหกปากของลีจองกุ๊ก
"เร็วคุณ"
ปาร์คจุนจีกับกรรัมภารีบวิ่งหนี
"ละ...แล้วเราจะไปไหนกัน"
"ก็แล้วแต่คุณ ต่อจากนี้ผมขอเป็นแค่นายจักร ไม่ใช่ปาร์คจุนจีอีกแล้ว คุณต้องรับผิดชอบชีวิตผมนะ"
กรรัมภาแทบไม่เชื่อหูตัวเองที่ปาร์คจุนจียอมทิ้งทุกสิ่งมากับตัวเอง
"จุนจี"
"เร็วสิคุณ"
กรรัมภารีบวิ่งหน้าตาตื่น
"คาจีมาจุนจี! แปลว่าอย่าไป...จุนจี...จุนจี...โทรราวา! แปลว่ากลับมา...จุนจี"
ลีจองกุ๊กวิ่งตามอย่างบ้าคลั่งพร้อมแหกปากสั่งเสียงเรียกลั่นตึก แต่ทั้งคู่วิ่งออกไปนอกห้างแล้ว ลีจองกุ๊กหยุดวิ่ง ทรุดเข่าลงกับพื้น
"ทำกุ๊กอีกแล้ว...จุนจี"
"อย่าโทรหรือตามหาฉัน ขอเวลาฉันได้คิดตัดสินใจอะไรบางอย่างในชีวิต ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ฉัน
ภายในห้าง ลีจองกุ๊กวางสาย ถอนใจ คอตก น้ำตาคลอ

ปาร์คจุนจี และกรรัมภาเดินคุยกันอยู่ริมถนน
"จุนจี คุณทำอย่างงี้มันจะดีเหรอ"
"แล้วคุณเชื่อผมหรือยัง ว่าผมจริงใจกับคุณ"
"ฉันเชื่อแล้ว แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำ"
ปาร์คจุนจีแย้งขึ้น
"จำเป็นซิ ผมอยากเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึงที่ใช้เวลากับคุณอย่างอิสระ โดยที่ไม่มีชื่อเสียงคอยตามบงการ ว่าผมควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร"
"แล้วตอนนี้ คุณอยากทำอะไรล่ะ"
"ทำทุกอย่างที่จะได้อยู่กับคุณ"

ทั้งคู่วิ่งจูงมือกันไป

ผ่านเวลามา ถนนแห่งหนึ่ง-กาญจนบุรี เวลากลางคืน ทนายสมชาติกำลังขับรถมุ่งหน้าไปที่รีสอร์ทของติณห์ แล้วคุยโทรศัพท์กับมิรันตีไปด้วย

"ครับคุณมิรันตี เรียบร้อยแล้วครับ ผมกำลังจะเอาเอกสารไปให้คุณเซ็นต์ ครับผม เจอกันที่รีสอร์ตครับ"
สมชาติวางสายแล้วหันไปวางโทรศัพท์ไว้ที่เบาะหน้าข้างคนขับ แต่พอหันกลับมาก็ต้องเบรกรถกะทันหัน เพราะมีใครบ้างคนวิ่งตัดผ่านหน้ารถ
สมชาติกวาดตามองไปที่ถนนรอบๆก็ไม่เห็นใคร
"ตาฝาด"
ทันใดนั้น เบญจาก็โผล่มานั่งที่เบาะหลัง ยื่นหน้ามาหาสมชาติทันที
"มองหาฉันอยู่เหรอคะคุณทนายสมชาติ"
"เฮ้ย คุณเบญจา"
"ตกใจมากเหรอคุณทนาย ฉันเป็นคนนะคะ ไม่ใช่ผี"
สมชาติใจดีสู้เสือ
"คะ...คะ...คุณเบญจามาหาผม ทำไมเหรอครับ"
"ฉันมีเรื่องอยากให้คุณทนายช่วย"
"ช่วย...ช่วยอะไรเหรอครับ"
"ช่วยหายตัวไปสักระยะ ให้พี่ติณห์เขาเป็นห่วงคุณทนายมากๆ มากจนกระทั่งพี่ติณห์จะต้องยอมออกมาหาฉัน ก็แค่นั้น"
"เห็นจะไม่ได้หรอกครับคุณเบญจา ผมเป็นลูกจ้าง อะไรที่จะทำให้นายจ้างเดือดร้อน ผมคงทำไมได้ ขอตัวนะครับ"
สมชาติรีบคว้ากระเป๋าเอกสาร เปิดประตูลงจากรถเดินจ้ำอ้าวอย่างเร็วเพราะต้องการหนีเบญจา เธอมองตามนัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ
สมชาติกึ่งเดินกึ่งวิ่งมุ่งหน้าไปทางรีสอร์ต เหลียวหน้าแลหลังอย่างหวาดระแวงเบญจา เธอปรากฏตัวดักหน้าสมชาติ
"เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะคะคุณทนาย เมื่อก่อนคุณทนายเอ็นดูฉันมากไม่ใช่เหรอคะ"
แล้วน้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเสียงแข็ง
"ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงช่วยฉันไม่ได้"
"ผมบอกคุณชัดเจนแล้วว่า ผมจะไม่ยอมให้คุณใช้ผมเป็นเครื่องมือไปทำร้ายคุณติณห์กับคุณญาณินอีก"
"ซื่อสัตย์ รักเจ้านาย เหมือนสุนัขรับใช้ไม่มีผิด"
"ผมถือเป็นคำชมแล้วกันนะครับคุณเบญจา"
สมชาติรีบเดินไป เบญจาที่หันหลังอยู่นัยน์ตาเปลี่ยนเป็นสีแดง สมชาติชะงัก เพราะจู่ๆก็รู้สึกปวดท้องอย่างหนัก ราวกับมีใครมาบิดไส้
"โอ้ย อ้าก...โอ้ย...ช่วยด้วย คุณเบญจา พอเถอะครับ ผมปวด"
สมชาติทรุดตัวลงกองกับพื้น เพราะปวดท้องจนยืนไม่ไหว เบญจาค่อยๆย่างสามขุมเข้ามาหาสมชาติ
"ไม่เคยมีใครขัดใจฉันได้ จำเอาไว้"
"ใช่ ไม่เคยมีใครขัดใจลูกสาวฉันได้"
สมคิดก้าวเข้ามาพร้อมกับกรกฏ เบญจาตกใจเพราะเรื่องนี้เธอไม่ได้บอกสมคิด
"มิสgตอร์ รอบบี้ คิตส์"
"ดีใจจัง ยูยังจำไอได้ ฮ่าๆ"
"พ่อ! กรกฏ...มาที่นี่ทำไมคะ"
"แกมาทำอะไร ฉันก็มาทำอย่างเดียวกับแกนั่นแหละ อ้อ! แต่รับรองฉันเด็ดขาดกว่าแกเยอะ"
สมชาติที่นอนปวดท้องอยู่ที่พื้นพยายามรวบรวมกำลังจะคลานหนี
"กรกฏ!"
"ครับนาย"
กรกฏเข้าไปคว้าตัวสมชาติไว้ เขาพยายามต่อสู้ แต่สู้แรงไม่ได้
"ปล่อยฉันนะ...ปล่อย!"
สมคิดเดินตามไป เอาเท้าเหยียบหน้าอกทนายสมชาติไว้ดัง อั๊ก!! เบญจาตามมาคว้าแขนสมคิดเอาไว้
"พ่อค่ะ พ่อจะทำอะไร ปล่อยคุณทนายนะคะ"
"นังงี่เง่า คิดจะทำการใหญ่แต่ดันใจเสาะ เพราะอย่างนี้ไงแกถึงได้แพ้นังญาณินนั่นอยู่ร่ำไป...ถ้าอยากจะให้ลิงมันกลัวแล้วยอมทำตามคำสั่ง ก็ต้องมีการเสียสละไก่สักตัวถูกเชือดให้มันดู"
สมคิดมองสมชาติด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม
"แต่พ่อคะ หนูแค่ต้องการขู่พี่ติณห์"
สมคิดตวาด
"หุบปาก! ฉันยอมให้แกเอาเวลาอันมีค่าของฉัน มาทำเรื่องปัญญาอ่อนเพราะความบ้าผู้ชายของแกก็นับว่าบุญมากแล้ว และเวลาของฉันมันจะต้องไม่สูญเปล่า"
สมคิดสะบัดมือเบญจาออก แล้วกระทืบเท้าลงบนอกของสมชาติอย่างแรง
"โอ้ย"
"แกคงต้องโทษตัวเองนะ ที่ดันเกิดมาเป็นคนสนิทของไอ้ติณห์ บ๊ายบาย...จัดการซะกรกฏ" สมคิดพูดพลางโบกมือลา
"ครับนาย"
กรกฏยกตัวสมชาติขึ้นจนลอยจากพื้น สมชาติที่ปวดท้องทรมานพยายามขัดขืนต่อสู้ แต่ก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ เบญจาจะเขาขวาง แต่สมคิดจับตัวไว้
"กรกฏอย่านะ! ปล่อยเขา"
กรกฏไม่ฟังเสียงเหวี่ยงร่างสมชาติด้วยพละกำลังมหาสารกระเด็นออกไปปะทะกับโดนต้นไม้ใหญ่อย่างแรง
"ไม่"

ร่างสมชาติร่วงลงกระแทกพื้น เลือดกระอักออกจากปากไม่ยอมหยุด

ภายในกลาสเฮาส์ เวลาเดียวกัน อรวรรณกำลังเก็บกระดาษที่เอาออกมาปรินท์รูปตึก ถูกขอบกระดาษบาดนิ้วดัง ฟึ่ด!! จนเลือดไหล

"โอ้ย"
สี่สาวที่กำลังจะเริ่มนั่งสมาธิเพื่อหาที่ตั้งของสำนักองค์เบญจา ก้องฟ้ากับญาณินรีบวิ่งมาดูด้วยความเป็นห่วง
"ป้าออโดนอะไรคะ"
"กระดาษบาดน่ะคะคุณหนู นิดหน่อยค่ะ ไม่เป็นไร"
"เดี๋ยวก๊องพาไปทำแผลให้ดีกว่าครับ"
ก้องฟ้าประคองอรวรรณเข้าบ้านไป ทุกคนมองตาม แล้วกลับมาระดมความคิดในการค้นหาสำนักองค์เบญจาต่อ
"ยัยแก้มนะยัยแก้ม ถ้าอยู่ป่านนี้เราอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่า ไอ้สำนักองค์เบญจานี้มันตั้งอยู่ที่ไหน"
ญาณินบอก
"ถึงเราจะไม่มีเซนส์สัมผัสของยัยแก้มตอนนี้ แต่ถ้าเราสี่คนลองรวมพลังกันก็ไม่แน่นะ"
"เนตรเห็นด้วย "
"งั้นลองดู!" สุคนธรสบอก
สี่สาวได้นั่งล้อมกันเป็นวงกลม แล้วจับมือส่งพลังกัน หลับตา กำหนดลมหายใจ แล้วดำดิ่งลงสู่สมาธิ
มุมหนึ่งหน้าศาลพระภูมิ โกลเดนท์เบบี๋ยืนพนมมือภาวนา
"ขอวิญญาณของเจ้าที่ ช่วยให้พี่ๆหาที่อยู่ของไอ้หมอสมคิด กับเบญจาให้เจอทีนะ...สาธุ"

เช้าวันใหม่ที่บริษัทฯ รูปวาดในกระดาษวางอยู่กลางที่ประชุม เป็นรูปวาดตึกจากนิมิตรที่5สาวเห็นผ่านการนั่งสมาธิรวมพลังจิตกันทั้งวันทั้งคืน เพื่อค้นหาที่ตั้งสำนักองค์เบญจา ซึ่งญาณินทำหน้าที่หลับตาเขียนถ่ายทอดภาพที่เห็นว่าสำนักของเบญจาเป็นตึกสูงตั้งอยู่กลางกรุงมีสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ของอีกา อยู่บนยอดของตึก เมื่อวาดเสร็จ...เห็นตึกแวดล้อมก็รู้ว่าอยู่กลางถนนสาธร
พงอินทร์บอก
"บริเวณตรงนี้ ผมขับรถผ่านบ่อยๆ สาบานได้ว่า ไม่เคยเห็นตึกไหน มีสัญลักษณ์อีกาบนยอดตึกแบบนี้เลย"
ไตรรัตน์บอก
"จะไปเห็นได้ไง ก็มันใช้คาถาอาคมบังตาเราไว้ ใช่ไหมจ๊ะที่รัก"
สุคนธรสยิ้ม พยักหน้า
"ฉลาด! หัวไว ไม่เสียแรงที่อยู่ใกล้แม่หมอ"
ไตรรัตน์กับสุคนธรสยื่นมือตบกัน ทุกคนมองแล้วเอือมๆ หลังจากคืนดีกันแล้วก็หวานจนเลี่ยน
ญาณินบอก
"เบญจากับหมอสมคงคิดเตรียมการป้องกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าสักวันต้องถูกจับได้ขึ้นมาว่าเป็นฝีมือของพวกมัน จึงใช้วิธีการอำพรางตัว"
วรวรรธบอก
"คุณเนตรไงครับ คุณเนตรมองเห็นวิญญาณได้ ก็น่าจะมองเห็นตึกนั่นได้"
"มันไม่เหมือนกันนะคะหมอ ตาเนตรมองเห็นได้แต่วิญญาณ ไม่ใช่เรดาร์จะมองทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่างได้"
"งั้นหูยัยแว่วเสียงผีนี่ ก็ยิ่งช่วยอะไรไม่ได้เลยซิครับ"
กรรณาโวยๆ
"ใช่! หูฉันช่วยไม่ได้ แต่กำปั้นฉันช่วยเอาเลือดออกจากปากนายได้นะ"
สุคนธรสรีบยกมือห้ามเป็นกรรมการ
"เย็นไว้ยัยกรรณ! เก็บความแค้นไว้ไปจัดการหมอสมคิดกับเบญจาดีกว่า"
"ถึงมันจะเอาอาคมมาบัง เอาหมอกม่านมาพรางสายตาเรายังไง เราก็จะต้องหารังมันให้พบให้ได้"
ติณห์บอก
"เมื่อวานมันทำคนให้ไฟลุกได้คนเดียว พรุ่งนี้ วันต่อๆไปข้างหน้า มันก็คงทำให้คนทั้งเมืองตัวระเบิดเป็นลูกไฟเหมือนในหนังได้แน่ๆ"
ไตรรัตน์บอก
"แค่นึกภาพก็สยองแล้ว เมืองทั้งเมืองจะกลายเป็นเมืองร้าง เพราะพวกผีมันครองเมือง"
"เอาล่ะ ในเมื่อรู้บริเวณพิกัดใกล้เคียงแล้ว เราก็ต้องไปหาตึกนั่นให้เจอ จะด้วยวิธีไหนก็ต้องหาให้พบก่อน ถึงจะหาวิธีจัดการกับพวกมันได้" ณัฐเดชบอก
และแล้วตอนนั้นเอง กรรณารู้สึกอะไรบางอย่าง
"ทุกคน...เงียบก่อนเร็ว ฉันได้ยินเสียงไรไม่รู้"
ทุกคนเงียบพากันเงี่ยหูฟัง แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงอะไร
"ไม่เห็นได้ยินเสียงอะไรเลย" ญาณินบอก
"แต่ฉันได้ยิน"
"ห่ะ ผีอีกแล้วเหรอ" พงอินทร์ว่า
"ไม่รู้ซิ คล้ายๆเสียงวิญญาณ แต่มันล่องลอยมา เหมือนมาแต่ไกล กำลังมาที่นี่"
ตอนนั้นเองที่เสียงประตูบ้านดังเหมือนถูกขย่ม ทำเอาทุกคนตกใจ สาวๆร้องลั่น
"มีอะไรอยู่ข้างนอก!" ติณห์ถาม
สุคนธรสเดินนำไป แต่ไตรรัตน์ดึงไว้
"อย่าไปรส!"

"ไม่ต้องกลัวน่า ฉันมีเครื่องรางของขลังเต็มกระเป๋า"

สุคนธรสเดินนำทุกคนช้าๆไปที่หยุดอยู่ที่ประตู สุคนธรสล้วงขวดน้ำมนต์ออกมา พนมมือท่องคาถา เทน้ำมนต์ราดหน้าประตูเสร็จหันมามองหน้าติณห์ แล้วพยักหน้าให้ติณห์เปิด ส่วนตัวเองถือขวด น้ำมนต์ไว้แน่นพร้อมจะสาดถ้าเจอวิญญาณ
 
ติณห์กลั้นหายใจ เปิดประตูผัวะออกไป ทุกคนลุ้น...สาวๆพร้อมจะกรี๊ด แต่ทุกอย่างว่างเปล่า...ไม่มีอะไรอยู่ที่หน้าประตูเลย
วรวรรธบอก
"อ้าว ไม่เห็นจะมีอะไรเลย"
พงอินทร์ทำหน้าดุ
"กรรณา"
"แต่ฉันได้ยินเสียงจริงๆนะ"
"โธ่เอ้ย ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ทำเอาใจหายใจคว่ำหมด" ไตรรัตน์ว่า
อรวรรณเดินออกมาจากในบ้าน
"มีอะไรกันคะ ยืนกันเต็มหน้าบริษัทเลย"
"ไม่มีอะไรค่ะป้าออ" ญาณินบอก
"ยัยกรรณแว่วเสียงผีนะป้า"
ณัฐเดชบอก
"กลับเข้าบริษัทกันเถอะ"
ทุกคนหันหลังกลับจะเดินเข้าบริษัท พลั่ก! บางสิ่งบางอย่างร่วงลงจากฟ้า ทุกคนนิ่งอึ้งก่อนค่อยๆหันไปมอง เห็นร่างขาวซีดไร้วิญญาณของทนายสมชาตินอนอยู่ที่พื้นต่อหน้า...ทุกคนตะลึงช็อก
ญาณินร้อง
"ทะ...ทนายสมชาติ แอร๊ย"
อรวรรณช็อกจนกรี๊ดไม่ออก ตัวอ่อนลมใส่ ณัฐเดชอยู่ใกล้ประคองร่างเอาไว้ทัน
"ป้าออ!"
กรรัมภาเรียกอีกคน
"ป้าออ!"
ณัฐเดชกับน้องสาวช่วยกันบีบนวดพัดวีอรวรรณ ติณห์เดินเข้าไปทรุดนั่งที่ข้างศพทนายสมชาติ
"ทนายสมชาติ...ทนายสมชาติ"
ติณห์เขย่าร่างทนายสมชาติอย่างขาดสติ ไตรรัตน์ ญาณิน พงอินทร์ต้องเข้ามาช่วยห้าม
"ติณห์คะ...ติณห์"
"ไอ้ฝรั่งๆ ตั้งสติเว้ยเพื่อน" ไตรรัตน์บอก
วรวรรธยื่นมือไปอังที่จมูกของทนายสมชาติ
"เอ่อ....เค้าตายแล้ว"
ติณห์ทรุดหมดแรง ขณะที่สุคนธรสมองไปที่หน้าผากของทนายสมชาติเห็นเป็นรอยไหม้ของอาคม
"แล้วก็ไม่ได้ตายธรรมดาด้วย แต่ตายด้วยอาคม"
"เบญจา ทำไมเธอต้องทำคนดีๆ คนบริสุทธิ์ด้วย"

ติณห์ร้องไห้
 
อ่านต่อหน้า 2

สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ตอนที่ 23 (ต่อ)

ศพทนายสมชาติโดนขนขึ้นรถปอเต๊กตึ๊ง บริเวณหน้าบ้านมีทั้งรถตำรวจ รถพยาบาล วุ่นวายไปหมด

รับมุมหนึ่ง 4 สาว ยืนประคองอรวรรณที่ร้องไห้ไม่หยุด
ติณห์ยืนร้องไห้ดูศพทนายสมชาติขึ้นรถปอเต๊กตึ๊ง มีไตรรัตน์ วรวรรธคอยปลอบ
ณัฐเดชเดินคุยกับตำรวจเสร็จแล้วเดินเข้ามา
"ไอ้ติณห์ ชั้นจัดการทุกอย่างแล้ว ส่งตำรวจไปคุ้มกันแม่แกที่รีสอร์ตแล้ว"
"ไอ้ฝรั่ง แกกลับไปดูแลแม่แกก่อนดีกว่าไหม"
"ไม่! ตัวปัญหามันอยู่ที่นี่ ฉันต้องไปหามันให้เจอ จะได้จบปัญหาทุกอย่าง"
วรวรรธบอก
"โอเค! งั้นไป"
"ไปเฉพาะพวกเรา ให้สาวๆอยู่นี่ มันอันตรายเกินไป" ณัฐเดชว่า
"อะไรอ่ะ ก็พี่ณัฐพูดอยู่ตะกี้ว่าต้องไปหาตึกนั่นให้พบ"
"พี่ไป แต่เราไม่ต้องไป"
พงอินทร์ถาม
"แล้วเราจะเจอตึกมันได้ยังไง"

"ฉันเตรียมเครื่องรางของขลังให้พวกคุณเอาติดตัวไปด้วย รับรองว่าเจอผี ผีก็ทำอะไรพวกคุณไม่ได้อ่ะ เลือกกันเอาไป ตามแต่ความถนัดของแต่ละคน"
สุคนธรสเปิดย่ามใส่ของขลังยื่นไปให้หนุ่มๆเลือกของ มีทั้งผ้ายันต์ ตะกรุด ขวดน้ำมนต์ สายสิญจน์
แต่ญาณินหยิบกล่องๆหนึ่งออกมายื่นให้
ญาณินบอก
"พี่ณัฐคะของชิ้นสำคัญคือชิ้นนี้ค่ะ"
ติณห์กับณัฐเดชแปลกใจ ณัฐเดชรับกล่องมาเปิด เห็นเป็นก้อนกลมๆคล้ายหินคล้ายลูกแก้วแวววับ
"อะไรเหรอณิน"
"ลูกตาของแมวค่ะ หรือที่เรียกกันว่าเพชรตาแมว"
หนุ่มๆอึ้งมองอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
พงอินทร์ยื่นมือออกไป...ไตรรัตน์ยื่นตามมา ติณห์ วรวรรธและณัฐเดชยื่นตาม แล้วทำท่าจะตะโกน ขึ้นพร้อมกัน แต่ปาร์คจุนจีตะโกนขึ้น
"จัม-กัน-มา-นโย!(เดี๋ยวก่อน!)"
หนุ่มๆทั้ง5หันมามองอย่างแปลกใจ ปาร์คจุนจีและกรรัมภายืนอยู่ จุนจียื่นมือเข้ามาวางด้วย ทุกคน อึ้งมอง
"ลืมผมไปหรือเปล่าทุกคน"
ติณห์บอก
"ขอบใจมากจุนจี"
"มาพวกเรา" ณัฐเดชบอกแล้ววางมือ
ทั้ง6มองหน้ากัน ตะโกนออกมา "สู้"

กลางเมืองย่านธุรกิจของกรุงเทพ ทั้ง6หนุ่มที่ยืนอยู่ท่ามกลางตึกสูงย่านธุรกิจ แหงนหน้ามองหาตึกที่มีสัญลักษณ์อีกาอยู่บนยอดตึกตามรูปวาดในแผนที่ของ5สาว…
ณัฐเดชถาม
"มีใครเห็นสัญลักษณ์อีกาที่ตึกไหนบ้างรึยัง"
"โน!" ติณห์ว่า
"ไม่เห็นมีเลย" ไตรรัตน์บอก
"ผมก็ไม่เห็น" วรวรรธบอก
พงอินทร์บอก
"บอกแล้วว่าผมผ่านตรงนี้เป็นประจำ ไม่มีหรอก"
ทุกคนส่ายหน้า
"ก็อย่างที่คุณณินบอก มันกำลังอำพรางตัวเพื่อก่อกรรมทำชั่ว" ติณห์บอก
"งั้นก็มาดูกันว่า เพชรตาแมวจะช่วยเราหามันพบไหม"
ณัฐเดชล้วงกล่องเพชรตาแมวออกมา...เปิดออกเห็นเพชรตาแมวทั้ง2เม็ด พร้อมเสียงบอกเล่าของ ญาณินที่บอกเล่า
"กำเนิดของเพชรตาแมวนั้นเป็นเรื่องลี้ลับ ตั้งแต่โบราณกาลมา บูรพาจารย์ผู้รู้ท่านได้กล่าว เอาไว้ว่าเป็นของกายสิทธิ์อิทธิฤทธิ์เกรียงไกร ใน ๑๐๐ ปี ถึง ๑,๐๐๐ ปี จึงจะมาจุติยังดินแดนสุวรรณภูมิสัก ๑ ตน อานุภาพของเพชรตาแมวนั้นมีคุณวิเศษดังแก้วสารพัดนึก เมตตามหานิยม เตือนภัย ป้องกันภัยอันตรายได้สารพัด แคล้วคลาดจากอันตรายได้และด้วยคุณสมบัติของตาแมวที่สามารถมองเห็นอะไรที่คนมองไม่เห็น โดยเฉพาะอำนาจลี้ลับ อาจจะช่วยให้พี่หาตึกนั่นพบ"
ณัฐเดชหลับตาอธิษฐาน...พร้อมชูเพชรตาแมว2ตาขึ้น...หนุ่มทั้ง 6มองจ้องไปที่ตาแมว เพียงครู่เดียว ตาแมวที่ส่องกระทบกับแสงแดด ทุกคนก็สามารถมองเห็นสัญลักษณ์ดำทะมึนของอีกาพาดอยู่บนยอดตึกผ่านทางตาแมว ทั้งหมดตื่นเต้นดีใจ
ไตรรัตน์ร้องดีใจ
"เฮ้ยๆๆ นั่นไงเห็นแล้ว"
แต่ปาร์คจุจีร้องตกใจขึ้นเมื่อพบว่า...

"มว๋อ! มันไม่ได้มีตึกเดียว"

พงอินทร์บอก

"เออว่ะ! ตึกโน้นก็มี ตึกนั่นก็มี"
"ตึกนั่นด้วยครับ" วรวรรธว่า
ติณห์ยิ้มเครียด
"Three มีตั้ง3ตึก เราจะหาเจอได้ยังไง"
"จะกลัวอะไร เรามากันตั้ง6คน ก็แยกย้ายกันหาซิ! แบ่งกันไป3ทีม ไอ้หมอไปดูตึกนั้นกับไอ้ติณห์นะ" ณัฐเดชชี้บอก
"ครับพี่"
"งั้นฝากเด็กใหม่ไปกับพี่ณัฐนะครับ ผมไปดูตึกนั้นกับนายโจ้เอง" ไตรรัตน์บอก
"โอเค!"
"โพ้มน่ะเหรอเด็กใหม่W
ปาร์คจุนจียังข้องใจ แต่ณัฐเดชรีบดึงไป
"รับไปเถอะน่า"

ขณะเดียวกันสมคิด เบญจา กรกฎพร้อมสมุนยืนอยู่ในเหนือตึกบัญชาการของตัวเอง เบญจายืนหลับตาท่องคาถา โดยถือลูกกรอกพรายกระซิบอยู่ในมือ เพียงครู่เดียวก็เห็นวิญญาณ ลูกกรอกที่ปล่อยออกไปหาข่าว ลอยลดเลี้ยวไปมาจากมุมไกลยอดตึกมากระซิบที่หูของเบญจา
"ฉันรู้แล้ว"
เบญจาลืมตาขึ้น วิญญาณวูบหายกลับเข้าลูกกรอกในมือเบญจาไป
"ลูกกรอกพรายกระซิบมันบอกว่าไง" สมคิดถาม
"พวกนั้นมาแล้ว"
"มากันครบไหม"
"มีแต่พวกผู้ชาย6คน รวมทั้ง พี่ติณห์"
"ดี! เชือดพวกแฟนๆของมัน ตัดกำลังของมันก่อน เหลือแต่นังผู้หญิงทั้ง5คน จะได้กำจัดมันได้ง่ายๆ กรกฎ! เบญจา!"
กรกฎกับเบญจาหันมาโค้งหัวฟัง
"ทำตามแผนที่เราวางไว้ เจอทั้งคนทั้งผี ดูซิ มันจะรอดไปได้ไหม"
สมคิดรีบเดินไป กรกฎกับสมุนรีบตามไป ทิ้งเบญจาไว้คนเดียว
เบญจาหันกลับไปมองยอดตึกสูงข้างหน้าอีกครั้ง แววตาทั้งแค้นทั้งอึดอัด
"พี่ติณห์ มารนหาที่ตายทำไม!"

ทั้ง6คน เอาโทรศัพท์มือถือออกมา เข้าแอพฯกัน
ณัฐเดชบอก
"เอาเป็นว่า ถ้าใครเจออะไรก่อน กดสัญลักษณ์โอเคมาในห้องแชท แล้วถ้าเจออะไรที่ต้องการ ความช่วยเหลือ ก็กดสัญญลักษณ์sosเข้ามานะ"
ไตรรัตน์บอก "เฮ้ย...ไม่ต้องเข้าห้องแช็ทอะไรแล้ว ดูนั่น..."
ทุกคนหันไปมองตามที่ไตรรัตน์บอก เห็นสมคิด กรกฎ เบญจา ยืนอยู่พร้อมสมุน
พงอินทร์บอก
"ลุยก่อนได้เปรียบ ใส่เลย"
พงอินทร์ขยับจะเข้าไปแต่ชะงัก เพราะสมุนสมคิดและกรกฎยกปืนขึ้นมา ไม่พูดให้เสียเวลา ทั้งหมด สาดกระสุนเป็นชุด
"โอมายหลอดกอด...หลบ"
พวกติณห์หลบกันคนละมุมเท่าที่จะหาที่กำบังได้ พร้อมๆกับชักปืนออกมา ยิงสวนกลับกัน
ฝูงชนบริเวณนั้นแตกกระเจิง หวีดว้ายกันจ้าละหวั่น เบญจาได้จังหวะ วิ่งหลบไปอีกทางพร้อมสมุน2-3คน
"เบญจา"
ติณห์รีบฉากตัววิ่งตามไป มีวรวรรธตามไปด้วย
"พี่ติณห์ ระวังครับ พี่ติณห์"
สมคิดและกรกฎกับสมุนยิงจนกระสุนหมด ทิ้งปืนแล้ววิ่งล่อพวกที่เหลือไปอีกทาง
"ไอ้สมคิด..คราวนี้แกอย่านึก ว่าจะหนีไปได้อีก"
ณัฐเดชตามสมคิดไป
ไตรรัตน์และพงอินทร์ตามกรกฎและสมุน ณัฐเดชและจุนจีตามสมคิดและสมุนไปกันคนละทาง

เบญจาและสมุนปะปนกับผู้คน แล้วเหมือนละลายหายไปท่ามกลางคนใช้บริการรถไฟใต้ดิน พลุกพล่าน ติณห์ชะงัก คว้าง มองหาไปมา งง วรวรรธตามมาสมทบ
"หายไปแล้ว"
"พี่ติณห์ มันอาจจะเป็นภาพลวงตาก็ได้นะ"
ทันใดหูติณห์แว่วได้ยินเสียงของเบญจา
"พี่มาหาที่ตายทำไม...ทำไมๆ"
ติณห์เหลียวหันไปมองรอบๆ วรวรรธหันมามองอย่างแปลกใจ
"มีอะไรครับ"
"เบญจา..ส่งเสียงมาทางจิต ให้ผมได้ยิน"
วรวรรธสังเกตเห็นเบญจาที่มุมหนึ่งกำลังวิ่งหนี
"แต่ตัวจริงนางอยู่นั่น"
ทั้งคู่รีบวิ่งตามไปไปที่บันไดเลื่อนลงชั้นล่าง

กรกฎวิ่งมาในตึกทางเดินเชื่อมตึกออฟฟิศสองตึกพร้อมลูกน้อง เจอยามยืนอยู่3คน เลยทำเป็นเดินทื่อจะเข้าในตึก
ยาม1บอก "เฮ้ยๆๆ อะไรกันๆ"
ยาม2บอก "มาจากไหนเนี่ย หน้าตาแปลกๆ"
ยาม3บอก "พวกนายเป็นใคร คนนอกเข้าไม่ได้นะ หยุดอยู่ตรงนั้น"
พวกกรกฎชะงักหยุด มองหน้ากัน และเดินเข้าไปหายามอย่างช้าๆ พอเข้าระยะประชิด กรกฏและสมุนก็อัดยามทั้งสามกองอย่างง่ายดาย ผู้คนตะลึง ยืนมองงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไตรรัตน์ พงอินทร์ วิ่งตามมาทันพอดี
พงอินทร์บอก "ไอ้บ้าเอ๊ย อยู่ๆไปทำคนไม่รู้เรื่องทำไมวะ"
"เออ..แน่จริงมาเจอกับชั้นนี่มา" ไตรรัตน์ว่า

กรกฎมองเขม็ง หักนิ้วตัวเอง เตรียมพร้อม หันไปหัวเราะๆกับชาวสมุน

ปาร์คจุนจีกับณัฐเดชวิ่งตามเข้ามา สมคิดและลูกน้องวิ่งกันมาตามตรอกซอกซอยท่ามกลางตึก ระฟ้า สมคิดให้สัญญาณลูกสมุนไปจัดการกับจุนจีและณัฐเดช เขาหลบหายไปในซอกๆหนึ่ง

ทั้งสองโดนสมุนสมคิดรุม ณัฐเดชสู้ด้วยมวยสากล จุนจีสู้ด้วยเทควันโด้ ทั้งสองจัดการลูกน้องสมคิดจนร่วงไป ปาร์คจุนจีพยักหน้ายกหัวแม่โป้งให้ณัฐเดช แล้ววิ่งตามสมคิดไป

ติณห์กับวรวรรธวิ่งตามเบญจาและสมุนเข้ามาในตึกร้าง ทั้ง2แยกกันหา พบว่าทุกอย่าง เงียบ มีแต่ไม่พบใครเลยสักคน เดินๆหันมาเจอกันเองก็สะดุ้งตกใจ ตั้งการ์ด ร้อง "เฮ้ย!"
ติณห์ถอนใจวางการ์ดหมัดลง
"ไม่มีใครเลย หมอ"
"นั่นสิครับ วังเวงด้วยซ้ำ"
ไม่ทันขาดคำแต่อยู่ๆเหล่าโคมไฟก็เกิดไฟกระพริบๆ ติดๆดับๆ ทำเอาติณห์กับวรวรรธชะงักอยู่กับที่อย่างระวังตัว
"เอาแล้วไง"
เสียงเบญจาลอยมาตามอากาศ ก้องไปทั่วบริเวณ
"พี่ติณห์.. หนูต้องการความช่วยเหลือ"
ทั้งสองหัยระวังตัว
"อย่ามาโกหก เธอฆ่าทนายสมชาติทำไม"
ทุกอย่างยังคงเงียบ นิ่ง สงบ และแฝงไปด้วยกระแสของความน่ากลัว
ครู่เดียวไฟก็หยุดกระพริบกลับมาปรกติเหมือนเดิม แต่กลับปรากฏชายฉกรรจ์ในชุดดำ3คนโผล่ มาจากคนละมุม เดินเข้ามาหาทั้งคู่
"เอ่อ หวัดดีครับ มาจากไหนครับ"
วรวรรธถามพลางส่งยิ้มยกมือทักทาย แต่ทั้ง3คนกลับไม่ทักตอบ เดินปรี่เข้ามา
"โทษนะครับ เป็นกองกำลังฝ่ายไหนครับ"
ติณห์บอก
"แบบนี้ มันกองกำลังไม่ทราบฝ่ายชัดๆ"
ไม่ขาดคำของติณห์...ชายฉกรรจ์ทั้ง3ก็กระโจนโจมตีทั้ง 2
ชายฉกรรจ์1เตะติณห์ ติณห์จับขามันไว้ได้ ต่อยๆๆหน้ามันผงะออก แต่ชาย2เข้ามาต่อยติณห์ ติณห์ยกแขนกัน ต่อยมันคืน แต่ถูกชาย1โผล่เข้าด้านหลัง...ถีบ จนติณห์ผงะไปชนกับเสาจุก
วรวรรธถูกชายฉกรรจ์3เข้ามาเตะๆไม่ยั้ง วรวรรธยก2แขนหันซ้ายกันขวาราวกับเป็น เบาะซ้อม วรวรรธเลยสวนคืนด้วยการเตะคืนพับในซ้ายขวาไม่ยั้งมั่ง
"เอสๆๆ"
มันทรุดเข่าลง 2มือวรวรรธจับพนักโซฟาที่อยู่2ข้าง เตะขาคู่ใส่หน้ามัน แต่มันดันรู้ทันจับขาไว้ได้
"เฮ้ยๆๆ"
เลยถูกมันกระชากขาเต็มแรง พามือหลุดจากพนักเก้าอี้หลังกระแทกพื้นจุก
"อุ๊บ!"

ภายในห้างสรรพสินค้า เวลาเดียวกัน ไตรรัตน์กับพงอินทร์ยืนประจันหน้ากับกรกฎ2ต่อ1
ผู้คนยืนมุงดูกันเต็ม
พงอินทร์บอก
"คุณเข้าไปก่อนดิ"
"แกนั่นแหล่ะ" ไตรรัตน์ว่า
"เป้า ยิ้ง"
"ฉุบ"
ทั้งสองออกทุกอย่างตรงกันหมด กระดาษ กรรไกร ค้อน
"แบบนี้ แปลว่า" พงอินทร์บอก
"พร้อมกันเลย ลุย"
ทั้งคู่วิ่งเข้าหากรกฎพร้อมกัน และต่อยสลับกันไปมา กรกฎกันได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่โดนหมัด และเท้าก็ทำอะไรกรกฎไม่ได้เลย ตรงกันข้าม กรกฎอัดทั้งไตรรัตน์ทั้งพงอินทร์กลับ ทั้งคู่กระเด็นไปกระดอนมาตามแรงหมัด แรงเหวี่ยง

ณัฐเดชวิ่งพาปาร์คจุนจีมาในซอกตึกที่ตัน แต่กลับไม่พบสมคิดและสมุน
"เออ...ดูเหมือนว่าเราจะถูกหลอกมาเล่นซ่อนหาซะละ ชักเป็นห่วงไอ้4คนนั่น"
"กลับทางเก่าดีกว่าครับ" ปาร์คจุนจีบอก
ทั้งคู่หันหลังกลับพบสมคิดและสมุนอีก2คนถือปืนดักอยู่ทางออกซอกตึกนั้น หมอสมคิดเดินหัวเราะออกมา ชี้ไม้เท้าไปที่ทั้งคู่
"ก่อนออกจากบ้าน คงลืมดูเงาหัวกันมาก่อนสินะ" สมคิดบอก
"แล้วคุณลุงล่ะครับ เช็คดวงชะตามาก่อนรึเปล่า" จุนจีถาม
"คิดจะมาบุกทลายสำนักสมคิด เวอร์ชั่น2 งั้นเหรอ งั้นเจอนรกเวอร์ชั่น1แทนละกัน เฮ้ย เด็กๆ ป๋าอยากได้เลือดของไอ้พวกนี้ไปให้องค์เบญจาทำพิธี จัดมา"
สมคิกระทุ้งปลายไม้เท้าลงกับพื้น ลูกน้องรวมทั้งสมคิดสาดกระสุนใส่ณัฐเดชและจุนจีทันที ทั้งคู่หลบเข้าหาที่กำบังแทบไม่ทัน ณัฐเดชยิงสวนออกไปเป็นระยะ ปาร์คจุนจีหลบ งงๆ ว่าจะเอาอะไรไปสู้
ณัฐเดชหันมา โยนปืนให้
"เอาไป ยิงเป็นหรือเปล่า"
"ก็เคยยิงในหนัง ของจริงยังไม่เคย"
ปาร์คจุนจีกระโดดลอยตัวยิงแบบเกาหลีเท่ห์ๆ ตามสไตล์ ลูกปืนโดนสมุนไปหนึ่ง
ณัฐเดชหันมามอง ทึ่ง
"เฮ้ย แม่นว่ะ"
"ยังไม่แน่ใจ ไหนลองอีกทีซิ"
ทำแบบเดิมอีกที โดนลูกสมุนอีกคน
"ว้าว ไม่อยากเชื่อแต่ผมไม่อยากทำร้ายใครนะ พวกคุณอย่าเข้ามานะ ผมยิงแม่น เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน"

พวกสมุนอึ้ง

ติณห์กับวรวรรธกำลังสู้กับสมุนทั้ง3 สมุนถูกเตะต่อยกระเด็นผงะออกมา หางตาติณห์หันไปเห็นเบญจามุมหนึ่งพอดี เลยตัดสินใจวิ่งไปทางนั้น
 
"เฮ้ย...พี่ติณห์ไปไหน"
วรวรรธหันมาเจอกับสมุน2คน ทั้งหมดวิ่งเข้าอัดกันต่อ
ติณห์วิ่งตามหาเบญจามาจนดักหน้าเบญจาไว้ได้
"คุณมันชั่วร้าย เป็นปีศาจ เป็นmonster คุณฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ยังไง"
"หนูไม่อยากทำๆๆ หนูขอโทษนะคะ หนูรักพี่"
"อย่ามาเรียกสิ่งที่คุณทำว่าความรักนะ ผมขยะแขยง"
เบญจาเค้นหัวเราะออกมาอย่างเจ็บปวด
"ใช่ หนูมันน่าขยะแขยง หนูมันไม่มีใครรัก ชีวิตหนูไม่มีใครเลย แต่หนูรักพี่ ถ้าพี่จะเห็นใจ หนูช่วยให้หนูพ้นจากสภาพนี้ที ไม่งั้น หนูก็ต้องทำแบบนี้ต่อไป เพราะหนูหยุดไม่ได้"
"คุณหมายความว่าไง คุณหยุดไม่ได้ ทำไม อย่าทำใครอีกนะ เข้าใจไหม... Stop it!"

สมคิด สมุน ยิงสวนกันกับณัฐเดชและจุนจี
"ที่จริง ฆ่าพวกมันด้วยอาวุธแบบนี้ มันสะใจกว่าเสกด้วยเวทมนตร์ซะอีก"
ณัฐเดชแม่นกว่า ยิงสมุนสมคิดร่วงไปอีกคน
"ไอ้พวกโง่ คาถาหนังเหนียวสอนเท่าไหร่ ไม่เคยจำ โธ่เว้ย"
สมคิดเหลือคนเดียว จึงใช้แผนสอง เขาลุกขึ้นยืนไม่เกรงกลัว ณัฐเดชและจุนจีที่เล็งปืนมาที่สมคิดที่ยกสองมือขึ้นพร้อมไม้เท้า ตะโกนสุดเสียงเป็นการให้สัญญาณ
"เบญจา"

เบญจาที่ยืนประจันหน้าอยู่กับติณห์
"พี่ติณห์ รีบ รีบหนีไปก่อน เร็ว"
"ไม่ เธอฆ่าคนตาย เธอต้องยอมมอบตัวให้ตำรวจ"
"ไปเร็ว"
ทันใดเบญจาหลับตาท่องคาถา ในมือกำเส้นผมทั้งขาวและดำไว้ปอยหนึ่ง ก่อนจะโยนออกไป เส้นผมปลิวไป กลายเป็นกลุ่มควันของวิญญาณลอยว่อนไปยังตึกทั้ง3ที่เห็นอยู่ตรงหน้า
"ทำอะไร"
เบญจาลืมตาขึ้นมอง ทำลงไปแล้วก็อดนึกห่วงติณห์ไม่ได้
"พี่ติณห์ หนูไม่อยากทำร้ายพี่. หนูไม่อยากทำ แต่พี่ พี่บังคับหนูเอง"
ปาร์คจุนจีกับณัฐเดชก็กำลังเดินเล็งปืนไปที่สมคิด
"มอบตัวซะหมอสมคิด"
"ฮ่าๆๆ"
จุนจี ณัฐเดช มองหน้ากัน แต่ตอนนั้นเองกลุ่มควันของวิญญาณที่เบญจาปล่อยมาก็ลอยเข้ามา
ปาร์คจุนจีกับณัฐเดชเห็นถึงกับตกตะลึง
"ควันอะไรน่ะ"
"ควันอะไรกัน นั่นมันผี"
"มว๋อ! ผี"
ปาร์คจุนจียังงงๆ แต่แล้วก็เข้าใจเมื่อเห็นควันเหล่านั้นพุ่งเข้าหายไปในตัวเหล่าสมุนที่โดนยิงไป ก่อนหน้า ทุกคนที่เจ็บตัวอยู่กลับมาลุก ตัวแข็งขึ้น สีหน้าเปลี่ยนมาเป็นขาวซีด ตาลึกโหล รอบปาก ดำคล้ำ แล้วหันมาคำรามใส่ปาร์คจุนจีกับณัฐเดช
"เฮ้ย...ผี!"
"หึ ทีนี้ล่ะเข้าใจ เรียกผีชัดเชียวนะ"
พวกมันพุ่งเข้ามาหาณัฐเดชและจุนจี ทั้งคู่ยิงจนกระสุนหมด ทำอะไรพวกมันไม่ได้ สมุนคนหนึ่งเข้าบีบคอปาร์คจุนจี ปาร์คจุนจีดิ้นรนยังไงก็ไม่หลุด เพราะแรงผีที่สิงอยู่ทำให้สมุน มีแรงเยอะมากขึ้น
"อ๊าก"
ปาร์คจุนจีหายใจไม่ออก แถมมีสมุนอีกตัวเข้ามาจะกัดแขนจุนจี แต่แล้วสมุนที่บีบคอปาร์คจุนจีต้องร้องโหยหวน ณัฐเดชถือไม้หวายอาคมสำหรับไล่ผีฟาดไปที่สมุนตัวเดิม มันร้องโหยหวน...พร้อมวิญญาณที่ลอยออกมาจากปากและแตกสลายไปอีกตัว ร่าง สมุนร่วงสลบ
"ไม้หวายอาคมของยัยรสได้ผลจริงๆ"

ปาร์คจุนจีล้วงแหวนออกมาสวมที่นิ้ว จัดการต่อยสมุนผีสิงอีกตัว สมุนร้อง โหยหวน...พร้อมวิญญาณที่ลอยออกมาจากปากสมุนและแตกสลายไปทันที ร่างสมุนฟุบสลบเมื่อ วิญญาณออกจากร่างไปเหมือนกัน ... แต่สมคิดหายไปแล้ว

สมุนทั้ง3ถูกวิญญาณสิง สีหน้าเปลี่ยนมาเป็นขาวซีด ตาลึกโหล รอบปากดำคล้ำ แล้วหันมาคำรามใส่ สมุน2คนตรงเข้าไปกระชากวรวรรธแล้วเหวี่ยงไปอัดกับกำแพง ติณห์เห็นวรวรรธโดนรุม3ต่อ1จึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปช่วย เห็นสีหน้าอาการ2หนุ่ม ผู้ชำนาญ การจากการเจอผีมานักต่อนักก็รู้ทันที
ทั้งคู่โพล่งพร้อมกัน
"ไอ้พวกผีสิง"
"ฆ่ามัน" เบญจาสั่ง
แต่วรวรรธล้วงสนับมือลงอาคมขึ้นมาใส่ ขณะที่ติณห์ชักมีดหมอ ออกมาสับใส่เหล่า สมุน...มันร้องโหยหวน...วิญญาณลอยออกจากปาก...แตกสลายไป...ร่างสมุนทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นทันที
เบญจาเห็นอย่างนั้นรีบอาศัยจังหวะวิ่งหลบไป
"เบญจามันหนีแล้วคุณติณห์"

ทั้ง2รีบวิ่งตาม
 
อ่านต่อหน้า 3

สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ตอนที่ 23 (ต่อ)

กรกฎสู้กับไตรรัตน์เหวี่ยงหมัดต่อย ไตรรัตน์กระเด็นไป กรกฎจะบุกเข้าใส่ไตรรัตน์อีก แต่พงอินทร์ กระโดดเข้าล็อคคอกรกฎทางด้านหลังไว้ กรกฎพยายามกระแทกศอกใส่สีข้างพงอินทร์ เหวี่ยงจนทรุด กรกฎกำลังจะเข้าไปซ้ำทั้งคู่ให้แหลก เสียงสมคิดเรียกกรกฏที่ชะงัก เงยขึ้น รับฟัง

"พอแล้ว กลับมา"
"แต่ ท่านครับ
"กลับมา"
กรกฏชะงัก หันหลัง และเดินฝ่าผู้คนไป ผู้คนแตกฮือ รปภ.ห้างวิ่งนำตำรวจมาขวาง แต่กรกฏเดินจางหาย ทุกคนงงงัน
ไตรรัตน์ พงอินทร์ ลุกขึ้นมาแบบหมดสภาพ
"เรื่องนี้ ห้ามบอก ห้ามบอกใครเด็ดขาด" ไตรรัตน์บอก
"สภาพแบบนี้...จะไปเล่าให้ฟังได้ขายขี้หน้าเขาตายเลย"

ตึกสำนักองค์เบญจา เวลาเย็นต่อเนื่องมา สมคิดยืนท่าเหมือนถ่ายแบบ เบญจากับกรกฎวิ่งหน้าตั้งกลับมา
"สั่งอะไร ให้ทันทีนะ อย่าต่อรอง อย่าเถียง อย่าขัดใจ อย่าทำให้อารมณ์เสีย เข้าใจ๋"
กรกฏหอบๆ ก้มหน้า กลัว เบญจาหน้าตาสับสน กังวล ทั้งกลัวพ่อ ทั้งอยากหนี ทั้งห่วงติณห์
สมคิดเดินมาหน้าเบญจา เชยคางขึ้นให้มองตา พูดอ่อนหวานเวอร์
"ชั้นให้โอกาสแกหนนี้เป็นหนสุดท้าย แล้วแกก็ยังปล่อยให้ไอ้ติณห์รอดไปอีก อยากจะไฝ้ว์ออก กะฉันเหรอ"
"แต่...พวกนั้นมีของอาคม"
"อย่ามาอ้าง ฝีมืออย่างแก ไอ้ของอาคมกระจอกพวกนั้นทำอะไรแกไม่ได้"
เบญจาอึ้งไป
"ใช้คนจัดการมันก็สู้ได้ ใช้ผีจัดการมันก็สู้ได้ หึ! ก็ดี เจอศัตรูที่สูสี การต่อสู้มันจะได้ สนุก เข้มข้น แกมีธุระต้องทำกะนังเนตรไม่ใช่เหรอ"
"คุณหนูตกลงกับคุณสุพิชชาไว้แล้วนะครับ"
เบญจาอยากจะร้องไห้ออกมา กรกฎผายมือ เชิงบังคับ หันมาสบตาสมคิดแบบประจบเต็มที่
เบญจาจำใจเดินตามไป

กรกฏถือห่อผ่าดิบสีขาวเข้ามาในห้อง เบญจายืนรออยู่แล้ว
"ของที่คุณหนูให้หาได้แล้วครับ"
เบญจายิ้มพอใจ รับห่อผ้ามาเปิดออกดู เห็นเป็นเศษกระดูกชิ้นเล็กๆอยู่ในห่อผ้า

ในห้องพิธี ห่อผ้าดิบถูกกางออกไว้บนแท่นพิธี เห็นเศษกระดูกเป็นชิ้นๆถูกวางไว้เป็นสี่ทิศ แทนตำแหน่ง หัว แขนสองข้างและขา เบญจาหลับตาบริกรรมคาถา กรกฏยืนอยู่ข้างๆ เบญจาลืมตาขึ้น ใช้กริชกรีดนิ้วตัวเอง แล้วหยดเลือดตัวเองลงบนเศษกระดูกทั้งสี่กอง เลือดซึมเข้าไปในกระดูกทันทีเหมือนถูกดูดเข้าไป เศษกระดูกเหล่านั้นก็สั่นๆๆ ขยับลอยขึ้นราวกับมีชีวิต
เบญจามองตาม กรกฏยืนมองลุ้น
เศษกระดูกลอยวนสูงขึ้น และวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ แล้วรวมกันเป็นก้อนพุ่งหายลงไปที่พื้น
กลางห้องพิธีค่อยๆมีรอยแยกออก กว้างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับแสงสีส้มแดง กลุ่มควันที่ทำให้ภายให้ห้องร้อนราวกับไฟเผาทันที ปรากฏมืออันเน่าเฟะผายผอมของเหล่าดวงวิญญาณทั้งชายและหญิงที่อยู่ในนรกพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาบนพื้นดิน เสียงร้องโหยหวนของเหล่าดวงวิญญาณบาปดังก้องอย่างน่าสยองระคนสลดใจ
"ดวงวิญญาณนรกที่เคยได้ลองเลือดของข้า เจ้าคือทาสของข้า จงขึ้นมาจากนรก และมาเป็นทาสรับใช้ข้า ณ บัดนี้"
สิ้นเสียงทรงพลังของเบญจา แสงสีดำที่มีรูปร่างเหมือนคน พุ่งขึ้นมาจากปากทางนรก
ปากทางนรกปิดลงพร้อมกับเสียงโหยหวนที่เงียบลงทันที
ตรงหน้าเบญจาปรากฏร่างของวิญญาณชายหนุ่มในชุดซาฟารีสีเข้ม สวมถุงมือเพทย์ ร่างของวิญญาณค่อยๆชัดเจนขึ้น
เบญจายิ้ม
"ยินดีตอนรับสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง...ไอ้ลาภ"
ดวงวิญญาณลาภ ใบหน้าขาวซีด นัยน์ตาสีแดงระเรื่อย ยืนคอเอียงด้วยท่าทางวิกลจริต กว่าเดิม แสยะยิ้มสุดสยอง

ภายในบริษัทซิกส์เซนส์ เวลากลางคืน หนุ่มๆกลับมาพร้อมร่องรอยฟกช้ำ ทำเอาทุกคนที่รออยู่ตกใจ
"ว้ายคุณพระช่วย! เป็นอะไรกันมากไหมคะ" อรวรรณร้องตกใจ
ณัฐเดชบอก "ไม่เท่าไหร่ครับป้าออ"
"นายไม่เป็นไรมากใช่ไหม"
สุคนธรสเข้ามาดู จับไปที่แขนไตรรัตน์
"อ๊าก เจ็บๆ"
"เร็วก๊อง ไปเอายามาทำแผลเร็ว" อรวรรณบอก
"ครับๆ"
ก้องฟ้าวิ่งหาวุ่น
พงอินทร์บอก
"เจ็บใจนัก ถูกมันหลอกให้ไปวิ่งไล่อัดซะหอบ ไม่เจอสักสำนัก"
กรรณาบอก
"แล้วนายไม่โดนอะไรเหรอ มีมีแผลเหมือนพี่ๆเค้าอ่ะ"
กรรณาพูดพลางจับไปที่หลังพงอินทร์ พงอินทร์ร้องจ๊าก ทำเอากรรณาสะดุ้ง
กรรัมภารีบเข้าไปจับหน้าจับตาปาร์คจุนจีเช็คดู
"อ๊ปป้าๆ จะเสียโฉมไม่ได้นะ"
จุนจีชี้แก้มบอก
"ตรงนี้เจ็บมากเลยอะ จุ๊บๆหน่อย"
ณัฐเดชบอก
"ต้องขอบใจยัยรสนะ ที่ให้เครื่องรางของขลังติดตัวไป ไม่งั้นเราเสร็จแน่"
วรวรรธบอก
"มันรู้ล่วงหน้า ว่าเราจะไป มันหลอกพวกเราไป กะจะฝังซะพร้อมๆกันหมดนี่เลยนะ"
"เสียดายที่จับตัวเบญจามาไม่ได้"
"มันก็คงเจ็บใจเหมือนกันที่ล่อลวงพวกเราไปถึงที่ แต่จัดการพวกเราไม่ได้" จุนจีบอก"ก็พวกเราเก่งไง เออ แล้วแฟนผมไปไหนครับ"

วรวรรธเป็นห่วงเนตรสิตางศุ์ตะหงิดๆ

เนตรสิตางศุ์เดินมาหยุดที่หน้าประตูบ้าน หยุดเช็กอย่างรอบคอบ มองยันต์ของสุคนธรส แปะอยู่ที่หน้าประตูบ้านเหมือนปรกติทุกวัน แต่เธอแปลกใจที่เห็นว่าภายในบ้านปิดไฟมืด

"ทำไมบ้านมืด คุณพีชไม่อยู่หรือไง"
เนตรสิตางศุ์ลองบิดลูกบิดประตู
"ประตูก็ไม่ได้ล็อค"
เธอถอดแว่นดำออก ผลักประตูเข้ามาในบ้าน พบว่าบ้านปิดไฟมืด
"คุณพีชๆๆ อยู่รึปล่าว ทำไมไม่เปิดไฟ"
เนตรสิตางศุ์เลยเดินเข้าในบ้าน
หน้าประตู สุพิชชาปรากฏตัวขึ้น มือดึงยันต์ที่แปะหน้าประตูออก โดยมีเสียงของเบญจาสั่ง
"คุณไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รอ...ให้ยัยนั่นเดินเข้าบ้าน แล้วดึงยันต์กันผีที่แปะหน้าประตูบ้านออก ต่อจากนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับมัน ก็ทำเป็นไม่เห็น ไม่ได้ยิน"
สุพิชชาปล่อยยันต์ร่วงจากมือไป บรรยากาศรอบบ้านเริ่มเปลี่ยนไปทันที มีเสียงหอนเบาๆของวิญญาณดังมา สุพิชชาเหลือกตามองไปที่ท้องฟ้า…ยิ้มประสาทๆ

เนตรสิตางศุ์เดินมืดๆเข้ามาในบ้าน ตรงไปหาสวิตช์ไฟที่ผนัง แต่ต้องชะงักเมื่อตาที่ไม่ได้ใส่แว่นมองเห็นอะไรแว้บๆผ่านหน้าไป
"นั่นใครอ่ะ คุณพีชเหรอ"
เงียบ ไม่มีเสียงตอบ เนตรสิตางศุ์ชักใจคอไม่ดี ค่อยๆเดินไปที่สวิตช์ แล้วกดเปิดไฟสว่างขึ้น ไม่มีใครอยู่ตรงหน้า เนตรสิตางศุ์ถอนใจโล่งอก แต่พอหันกลับมาแทบช็อกเมื่อเห็นวิญญาณ นายลาภยืนอยู่...เนื้อตัวนายลาภด้วยเขียวช้ำ เส้นเลือดปูดบวม
"นะๆ...นายลาภ"
"มึงทำให้กูต้องตาย วันนี้กูจะเอามึงไปเป็นผีกับกูด้วย แฮ่ก"
ผีนายลาภอ้าปากคำรามใส่...
"แอร๊ย"
เนตรสิตางศุ์กรี๊ดร้องลั่นหันวิ่งหนีไปอีกทาง แต่ก็เจอผีนายลาภมาดักหน้า คว้ามือเนตรสิตางศุ์ไว้
"ปล่อย"
เนตรสิตางศุ์สะบัดอย่างแรงอยู่หลายครั้งกว่าจะหลุด แล้วหันวิ่งขึ้นบันไดไป ผีนายลาภมาดักหน้า ลิ้นแล่บๆเป็น2แฉกเหมือนงู เนตรสิตางศุ์ค่อยๆถอยหลังลงบันไดมา กลัวสุดชีวิต ร้องไห้สะอึก สะอื้น ถอยหลังหนีลงจากบันได ก้าวพลาด
"อ๊าย"
เนตรสิตางศุ์กลิ้งตกจากบันไดมา นอนฟุบเจ็บอยู่ที่พื้น
"โอ๊ย"
ผีนายลาภเดินใกล้เข้ามา เนตรสิตางศุ์จะลุกแต่ขายังเจ็บเลยต้องใช้วิธีเถือกถอย หนีไปก่อน ผีนายลาภคำรามอย่างน่าสยอง ยื่นมาคว้าขาเนตรสิตางศุ์ได้
"แอร๊ย…ปล่อยนะ อย่าทำอะไรเนตรเลย เนตรไม่ได้ตั้งใจจะอยากให้คุณตาย"
"แต่กูอยากให้มึงตาย"
"แอร๊ย"
เนตรสิตางศุ์ถีบๆเตะๆ จนขาหลุดจากมือผีนายลาภได้ ก็กัดฟันลุกขึ้นวิ่งกระเผลกๆไป เหลียวไปมองไม่เห็นผีนายลาภเดินตามมา มัวแต่มองเนตรสิตางศุ์ชนเข้ากับสุพิชชาที่ทำเป็นตกใจไม่รู้เรื่อง
"เป็นอะไรน้องเนตร อยู่ๆก็วิ่งมาชน พี่เจ็บนะ"
"ผีค่ะ"
เนตรสิตางศุ์ชี้ไปแต่สุพิชชาทำเป็นไม่รู้เรื่อง
"ผีเผอที่ไหน ไม่เห็นมีอะไร คิดไปเอง"
"เนตรไม่ได้คิดไปเอง นั่นไงคะ อ๊าย มันเข้ามาแล้ว หนีเร็วค่ะพี่พีช"
"เชิญหนีไปคนเดียวเถอะย่ะ ฉันไม่หนีกับเธอด้วย"
ว่าแล้วสุพิชชาก็เปิดประตูห้องข้างๆ ผลักเนตรสิตางศุ์เข้าไปในห้อง
"ว้าย!"
เนตรสิตางศุ์ถลาล้มคว่ำเข้ามาในห้อง สุพิชชาปิดล็อกประตู ใส่กลอนข้างนอกทันที เธอรีบลุกมาเปิดประตู แต่เปิดไม่ออก เคาะเรียก
"พี่พีชเปิดประตูให้เนตรออกไป คุณพีช เปิดประตู"
หน้าประตู สุพิชชายืนฟังอย่างเลือดเย็น สุพิชชามองไม่เห็นลาภ จึงพูดสาดๆไปรอบๆ ไม่รู้ว่าผีอยู่ตรงไหน ไม่มีเป้ามอง แต่ไม่มีความกลัวผีเลย หวังแต่จะทำร้ายเนตรสิตางศุ์อย่างเดียว
"ถ้าอยากจะฆ่ามัน ก็รีบจัดการนังนี่ให้ฉันเร็วๆ เชิญ ตามสบายนะ"
สุพิชชาหันเดินสบายใจไป ผีนายลาภหันมองตามสุพิชชาแล้วหันกลับมามองที่ประตูห้อง ที่มีเสียงเนตรสิตางศุ์เคาะเรียกให้เปิดอย่างน่าสงสาร
"พี่พีชเปิดประตู เปิดประตู!"
เนตรสิตางศุ์ถอยกรูห่างออกมาจากประตูทันที กลุ่มควันของวิญญาณลอดประตูเข้ามาค่อยๆกลับมาเป็นร่างนายลาภยืนแลบลิ้นอยู่

"แอร๊ย"

สุพิชชาเดินฮัมเพลงมาเลือกแผ่นเพลงอย่างใจเย็น ไม่สนใจเสียงกรีดร้องของเนตรสิตางศุ์ที่ได้ยิน แถมใส่แผ่นเพลงคลาสสิกแล้วเร่งเสียงดังกลบเสียง ร้องของความช่วยเหลือ ก่อนจะเดินสยายผมกลับไปที่ครัว

"พี่พีชช่วยด้วย เปิดประตูให้เนตรออกไป พี่พีช แอร๊ย"
ในห้อง...ผีนายลาภปรี่เข้าหาเนตรสิตางศุ์ด้วยแรงอาฆาต เนตรสิตางศุ์ถอยพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า หยิบยันต์ของสุคนธรสที่ติดตัวไว้ออกมา
"อย่า"
ผีนายลาภที่พุ่งเข้าบีบคอเนตรสิตางศุ์ ถูกยันต์แปะเข้าที่หน้าอกก็ร้องลั่น
"อ๊าก"
นายลาภร้องลั่น เดินถอยออกมาอย่างเจ็บปวดโดยมียันต์แปะอยู่ที่หน้าอกแดงว๊าบราวกับถูกถ่านทาบติด แต่ผีนายลาภก็ทนต่ออานุภาพของผ้ายันต์ได้ กัดฟันดึงผ้ายันต์ออกจากอกโยนทิ้ง
"ห่ะ!"
เนตรสิตางศุ์อ้าปากค้าง หน้าซีดยิ่งกว่าเดิม

ภายในห้องครัว สุพิชชาใส่ผ้ากันเปื้อนกำลังทำเมนูสลัดผลไม้ โดยหั่นแอปเปิ้ลใช่ชาม แต่งด้วยมะเขือเชอรี่ องุ่นเขียว พลางฮัมเพลงตามเสียงเพลงที่เปิดดังกลบเสียงเนตรสิตางศุ์ไว้ ก่อนจะยกองุ่นเขียวขึ้นทั้งพวง แหงนหน้ากินองุ่นด้วยท่าทางประสาท
"อืม...หวานชื่นใจ ฮิๆๆ"

ผีนายลาภเดินเข้าจะทำร้ายเนตรสิตางศุ์อีก เธอมือสั่นล้วงหยิบขวดสเปรย์น้ำมนต์ออกมา ผีนายลาภโผล่เข้ามาใกล้ เนตรสิตางศุ์ฉีดสเปรย์ใส่ แต่ผีนายลาภหายตัวหลบ โผล่มาทางนั้นทางนี้ที ผีนายลาภโผล่มาประชิดตัว เงื้อมือปัดขวดสเปรย์ที่มือเนตรสิตางศุ์ ขวดกระเด็นไปพร้อมร่างเนตรสิตางศุ์ที่ถูกยกและเหวี่ยง กระเด็นไปชนกับโต๊ะเก้าอี้ล้ม กระเป๋าหลุดจากตัว ตกอยู่ที่พื้น เธอนั่งจุก เจ็บ หมดทางสู้ พยายามร้องขอความช่วยเหลืออย่างหมดแรง
"ช่วยด้วย คุณพีช เปิดประตู"

สุพิชชาถือจานสลัดเดินเต้นรำลอยๆ สวยๆมาตามจังหวะเพลง เอามาวางจัดที่โต๊ะ จัดจานช้อน ไว้รอณัฐเดช

ผีนายลาภปรี่เข้ามาเนตรสิตางศุ์อีกครั้ง คราวนี้บีบคอเนตรสิตางศุ์ได้
"มึงตาย ฮ่ะๆๆ"
เนตรสิตางศุ์หายใจไม่ออก แต่พยายามยื่นมือไปคว้ากระเป๋าตัวเอง ล้วงมือที่สั่นเทาเข้าไปอย่าง ลำบาก ตอนที่ใกล้จะหมดสติ ก็คว้าได้เครื่องช็อตไฟฟ้าอาคมออกมาช็อตไปที่ร่างผีนายลาภ
"อ๊าก"
ผีนายลาภสั่นไปตามกระแสไฟอาคมของเครื่องช็อต เห็นเป็นรัศมีรอบตัว แต่กลับไม่ยอม ปล่อยมือจากเนตรสิตางศุ์ พลางหัวเราะ
"ฮ่ะๆๆ เจ็บปวดดีเหลือเกิน ถ้าวิญญาณกูจะสลาย กูก็จะไปพร้อมวิญญาณมึง"
เนตรสิตางศุ์ร้องไห้ มือกดเครื่องช็อตราวกับเป็นวิธีสุดท้ายที่จะเอาชีวิตรอด
"ช่วยด้วย"

สุพิชชาเทน้ำผลไม้ลงในแก้วช้าๆ พลางทำสีหน้าดื่มด่ำกับเสียงเพลง ณัฐเดชเปิดประตูเข้ามา โดยมีวรวรรธตามหลังเข้ามาด้วย
"โอ้โห เปิดเพลงซะลั่นบ้าน ครึ้มอกครึ้มใจอะไรจ๊ะพีช"
สุพิชชาส่งยิ้มมา
"ก็พีชกำลังเตรียมมื้อค่ำให้พี่ณัฐ ก็ต้องเพิ่มบรรยากาศให้โรแมนติกหน่อยซีคะ"
สุพิชชาเข้าโอบกอดณัฐเดชพลางแอบส่งสายตามองยั่วยวนไปที่วรวรรธ เขาไม่สน
กลับมองหาเนตรสิตางศุ์
"แล้วเนตรล่ะครับ กลับมาถึงหรือยัง"
"เอ้...พีชก็มัวแต่ทำอาหารอยู่ในครัว ไม่ได้ยินเสียงว่าน้องเนตรกลับมาหรือยัง"
"ก็อย่าเปิดดังซีครับ เราเองก็จะได้ไม่ต้องตะโกนคุยกัน"
วรวรรธยื่นมือไปหรี่เสียงลง
"เฮ้ยไอ้หมอ พีชเค้าจะฟังเพลง ไปหรี่ทำ..."
พูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเนตรสิตางศุ์กรี๊ดดังมา
"แอร๊ย ช่วยด้วย"
วรวรรธร้องอย่างตกใจ "เนตร!"
ณัฐเดชถาม "เนตรอยู่ไหน"
"เอ่อ...มะ...ไม่รู้ซีคะ!"
เสียงเนตรสิตางศุ์รน้องบอก "ช่วยด้วย"
"เนตร เนตร"

วรวรรธจับได้ทิศทางว่าเนตรสิตางศุ์อยู่ที่ไหนก็วิ่งไป ณัฐเดชตาม สุพิชชายืนขัดใจ

วรวรรธ ณัฐเดช ร้องเรียก "เนตร!"
 
ภายในห้อง ผีนายลาภได้ยินเสียงเลยเหลียวไปมองที่ประตู ดวงตาโกรธ ขณะที่เนตรสิตางศุ์ได้ยินเสียงวรวรรธกับณัฐเดชก็พยายามเรียก
"ช่วยเนตรด้วย"
วรวรรธได้ยินเสียงเนตรสิตางศุ์ ร้องอยู่ภายในห้องอย่างแผ่วเบาลงทุกที
"เนตรอยู่ในห้องนี้ เนตร...เนตร"
วรวรรธบิดลูกบิดประตูเข้าไป พบว่าลงกลอนล็อกไว้จากข้างนอก ปลดกลอนแล้วเปิดประตูเข้า ไปพบว่าเนตรสิตางศุ์ นั่งพิงผนังห้อง2มือจับอยู่ที่คอของตัวเอง
"เนตร! เป็นอะไรไป"
วรวรรธรีบถลาเข้ามาประคองเนตรสิตางศุ์
"หมอ...ฮือๆๆ"
เนตรสิตางศุ์ โผเข้ากอดวรวรรธร้องไห้
"เนตร! ตัวสั่นไปหมดเลย ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่นี่"
ณัฐเดชถาม
"มันเกิดอะไรขึ้น บอกพี่ซิเนตร"
หน้าประตู สุพิชชาเดินมาหยุดมองอย่างแค้น

เดชแปลกใจ เนตรสิตางศุ์มีวรวรรธนั่งโอบปลอบ
"อะไรนะ! ผีนายลาภเหรอ"
"ค่ะ ผีนายลาภกลับมาแก้แค้นเนตร"
"ผีอะไรกันน้องเนตร บ้านหลังนี้มีผีด้วยเหรอ ตอนพีชอยู่คนเดียวไม่เห็นมีอะไร ไม่เอาน่า อย่าทำให้พีชผวาซีคะ"
"พี่พีชคิดว่าเนตรโกหก หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่เชื่อกันแน่ ถึงได้ผลักเนตรเข้าไปในห้องนั้น"
"อะไรนะ! พีชผลักเนตรเหรอ แล้วล็อกประตูห้องไว้ด้วยใช่ไหม" วรวรรธว่า
"พีชป่าวนะ พี่ณัฐคะ นี่มันอะไรกัน น้องเนตรกลัวผีอะไรก็ไม่รู้ อยู่ๆก็มาโทษพีช พีชไม่ใช่ พวกตัวประหลาดสัมผัสผีได้ซะหน่อย"
สุพิชชาทำงอนเดินผละไป ณัฐเดชรู้สึกลำบากใจ
"ไม่เอาน่าเนตร เรื่องผีเรื่องสาง พีชเค้าไม่รู้เรื่องอะไรกับพวกเราด้วย"
"นี่พี่ณัฐคิดว่าเนตรใส่ร้ายคุณพีชเรื่องที่ผลักเนตรเข้าไปในห้องเหรอคะ"
"พี่ไม่ได้ว่าเนตรใส่ร้าย แต่เป็นไปได้ว่าผีนายลาภอาจจะบังคับให้พีชทำอย่างงั้น โดยที่พีชไม่รู้ตัว"
"ก็ขอให้เป็นอย่างที่พี่ณัฐพูดเถอะค่ะ"
"มันต้องเป็นอย่างงั้นอยู่แล้วเนตร พีชเค้าไม่รู้เรื่องผีเรื่องวิญญาณ แล้วพี่ก็ไม่อยากให้เค้ามารู้เรื่องกับเราด้วย เพราะงั้น อย่าพยายามพูดให้เค้าได้ยิน"
"พี่ห่วงคุณพีช แล้วเนตรล่ะคะ"
"พี่ก็ห่วงเนตรเหมือนกัน เนตรเป็นอะไรมากรึปล่าว ให้พี่พาไปหาหมอไหม"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ เนตรมีหมอประจำตัวอยู่แล้ว"
เนตรสิตางศุ์งอน เมินหันมามองหน้าวรวรรธ
"พี่ไปดูพีชเถอะครับ ไม่ต้องห่วงเนตร ผมจะดูแลเอง"
ณัฐเดชพยักหน้า จำต้องลุกเดินไป
"ไหนให้หมอดูซิ เจ็บตรงไหนบ้างครับ"
"หมอ...เนตรนึกว่าจะต้องตาย ไม่มีโอกาสได้เจอหน้าหมออีกแล้ว"
วรวรรธสีหน้ากังวลดึงเนตรสิตางศุ์มากอดไว้

ภายในบริษัทซิกส์เซนส์ เช้าวันรุ่งขึ้น
กรรัมภาร้อง"อ้าย" ก่อนชักมือกลับจากแขนเนตรสิตางศุ์ ที่มีรอยแดงๆของมือวิญญาณนายลาภ
กรรณาถาม
"คืออะไร ยังไง ใคร"
"นายลาภจริงๆ"
ญาณิน สุคนธรส พากันตกใจห่วงเนตรสิตางศุ์ที่ยังมีอาการกลัวไม่หาย และรู้สึกเสียใจ
"เค้าโกรธที่เนตรทำให้เค้าตาย เลยกลับมาแก้แค้นเนตรงั้นเหรอ เนตรไม่เคยคิดร้ายต่อใคร เนตรไม่ได้ตั้งใจจะให้มีใครเจ็บปวดด้วยซ้ำ"
ญาณินโอบปลอบเนตรสิตางศุ์
"ไม่ใช่นะเนตร! นายลาภตายเพราะตัวเอง เค้าฆ่าคนอื่น กรรมเลยตามสนองเค้า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว..นั่นคือสิ่งที่นายลาภได้รับ"
สุคนธรสคิดสงสัย
"แต่อยู่ๆวิญญาณนายลาภกลับมาได้ไง เค้าตายไปนานแล้ว วิญญาณน่าจะไปชดใช้กรรม หรือไปผุดไปเกิดได้แล้ว"

ภายนอกบริษัท พวกผู้ชายทุกคนสีหน้าเครียด ปาร์คจุนจีออกความคิดเห็น
"ถ้ามันใช้คุณติณห์เป็นหมากตัวหนึ่งของเกมของมัน ทำไม เราไม่ทำให้คุณติณห์ เป็นหมากของเกมของเราบ้าง ทำไมเราไม่เดินหมากให้คุณติณ์ล่อหมอผีหญิงชื่อเบญจาคนนั้นออกมามั่งล่ะ"
ไตรรัตน์บอก
"ยัยเบญจา มันฆ่าได้แม้แต่คนอย่างทนายสมชาติ หรือผีอย่างเจ้าที่เจ้าทางที่นี่เลยนะ ขืนใช้แผนนี้ ก็เท่ากับส่งให้ฝรั่งมันไปตายน่ะซีคุณกิมจิ"
"อานยาๆๆ (ไม่ใช่)"
"อานยาน...อาตายายอะไรของนายห่ะ ไม่เข้าใจ"
"ถ้าคุณไม่เข้าใจก็หยุดโวยวาย ฟังผมพูดให้จบเสียก่อนซิครับคุณตี๋"
"อ้าวเฮ้ยนายกิมจิ พูดงี้ นี่หาว่าฉันพูดมากเหรอห่ะ"
ไตรรัตน์ยิ้มกวนๆชี้หน้า ทั้งสองผลักอกกัน พงอินทร์เลยรีบเข้าขวาง

"ใจเย็นๆครับ อย่าทะเลาะกันๆ ช่วยกันคิดครับๆ"
 
อ่านต่อหน้า 4

สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ตอนที่ 23 (ต่อ)

ภายในบริษัท ทั้ง 5สาวปรึกษาหารือกัน

กรรณาบอก
"ชั้นว่าเรื่องผีนายลาภ เป็นฝีมือของขบวนการเดียวกัน กับที่ฆ่าทนายสมชาตื"
"ไม่ต้องสงสัยเลย" สุคนธรสเห็นด้วย
สีหน้าทุกคนมั่นใจเหมือนกัน

ตึกสำนักองค์เบญจา ปกคลุมด้วยเมฆดำเหนือตึกและฟ้าแลบแปลบปลาบ ชายในชุดตำรวจครึ่ง ท่อนยืนอยู่ในลิฟท์ที่กำลังเคลื่อนขึ้นสู่ชั้นบนยอดตึกซึ่งที่ตั้งกองบัญชาการของสมคิด สมคิดนั่งมองภาพจากกล้องวงจรปิดในลิฟต์จากจอที่ผนังอยู่ที่เก้าอี้พนักสูง สีหน้าพออก พอใจมาก
"ลูกค้าคนสำคัญที่ฉันรออยู่...มาถึงแล้ว ฮ่ะๆๆ"
กรกฎถาม
"เค้าเป็นใครครับท่าน"
สมุน2คนเดินนำรองสาโรจน์เข้ามาหาสมคิดที่ออกมายืนรออยู่ที่ห้องรับรองของสำนัก
ยื่นมือไปจับกับสมคิดแนะนำตัว
"ผมรองสาโรจน์"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับท่าน เชิญนั่งครับ...ผมพอจะรู้เรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานของท่านแล้ว"
"ถ้าอย่างงั้นผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มาก"
"ท่านต้องการให้ผมรับใช้อะไร เชิญสั่งมาได้เลยครับ"
"ผมอยู่ในตำแหน่งเก่าๆ เป็นแค่ตัวรองๆๆๆมานานเกินไปแล้ว"
"ใครๆก็ต้องการอยู่ตำแหน่งตัวเอก..ไม่ใช่ตัวรอง"
รองสาโรจน์พยักหน้า แล้วแววตาก็นึกแค้น
"แต่พอดี ดันมีก้างขวางทางผมอยู่"
รองสาโรจน์ยื่นรูปในมือถือให้สมคิดดู เป็นรูปผู้การ สมคิดดูเหมือนจะไม่แปลกใจ สีหน้ายิ้มร้าย
"ผมรู้จักผู้การคนนี้ดี แบบนี้ก็สนุกสองเท่า จัดไปเป็นคอมโบ้เซ็ทเลยครับท่าน"
เสียงหัวเราะของสมคิด ช่างเยือกเย็นน่ากลัวจนรองสาโรจน์เองก็สะท้าน

ติณห์นั่งคิดหนัก ญาณินเข้ามานั่งเคียงข้างกอดคอราวเพื่อนคู่คิด มือถือของติณห์ดังขึ้น
ติณห์มองมือถือ เห็นเป็นเบอร์แปลกๆ
"เบอร์ไม่คุ้น"
"อาจจะเป็นพวกมัน"
ติณห์กดกรามรับสายเสียงเข้ม
"ฮัลโหล"

ภายในห้องน้ำ เบญจานั่งซุกตัวอยู่ข้างอ่างอาบน้ำราวกับเด็กมีปัญหาชอบมาหมกตัวอยู่ในห้องน้ำ
"พี่ติณห์ หนูไม่ได้ตั้งใจ"
ติณห์รู้ว่าเป็นเบญจาก็โกรธมาก
"คุณมันชั่วร้าย เป็นปีศาจ เป็นmonster คุณฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ยังไง"
"หนูไม่อยากทำๆๆ หนูขอโทษนะคะ หนูรักพี่"
"อย่ามาเรียกสิ่งที่คุณทำว่าความรักนะ ผมขยะแขยง"
เบญจาเค้นหัวเราะออกมาอย่างเจ็บปวด
"ใช่ หนูมันน่าขยะแขยง หนูมันไม่มีใครรัก ชีวิตหนูไม่มีใครเลย แต่หนูรักพี่ ถ้าพี่จะเห็นใจ หนู ช่วยให้หนูพ้นจากสภาพนี้ที ไม่งั้น หนูก็ต้องทำแบบนี้ต่อไป..เพราะหนูหยุดไม่ได้"
"คุณหมายความว่าไง คุณหยุดไม่ได้ ทำไม อย่าทำใครอีกนะ เข้าใจไหม... Stop it"
ติณห์มองหน้าญาณิน ต่างก็ตกใจ
"หนูหยุดไม่ได้ ถ้าพี่ไม่มา หนูก็ไม่รู้ ว่าใครจะต้องเป็นเหยื่อรายต่อไป อาจจะเป็นพี่ญาณิน ก็ได้"
เบญจาแผดเสียงกรี๊ดลั่น ทำเอาติณห์ตกใจ สวนตอบไปทันที
"โอเค...โอเค้...ไอจะไปหายู"
ญาณินตกใจ
"ติณห์คะ"
ติณห์ยกมือห้ามญาณินไว้ไม่ให้พูด ขณะที่เบญจาปิดปาก กลั้นเสียงร้องไห้
"แต่พี่ต้องมาคนเดียวนะ อย่าบอกใคร อย่าให้พี่ญาณินรู้ ไม่งั้น"
"เยส! ผมจะไปหาคุณคนเดียว จะไม่บอกใคร จะไม่ให้คุณณินรู้"
ติณห์พูดพลางดึงญาณินมากอดไว้
"คุณอยากให้ผมไปหาเมื่อไหร่"
"พี่ขับรถออกมาก่อน เจอกันที่ไหน พี่เปิดมือถือไว้ หนูจะโทรไปบอกพี่เป็นระยะ"
"โอเค จะให้ไอออกไปเมื่อไหร่"
"เดี๋ยวนี้เลย"
แล้วสายเบญจาก็ตัดสายทิ้ง ตอนนั้นเองที่ประตูห้องน้ำเปิดออก...สมคิดก้าวเข้ามา เบญจาเงยหน้ามองสีหน้าสิ้นหวัง สมคิดยิ้มร้าย

สีหน้าทุกคนตกใจ ไตรรัตน์ลุกขึ้น
"แกคงไม่ไปใช่ไหมไอ้ฝรั่ง"
แต่ปาร์คจุนจีสวนขึ้น
"แต่ผมว่าคุณควรไป"
"เฮ้ย อะไรของนายจุนจี ยุให้ไอ้ฝรั่งไปหายัยฆาตกรนั่นจัง"
"ถ้าคุณฝรั่งไม่ไป แล้วจะได้ตัวเบญจาเหรอ"
คำพูดของปาร์คจุนจีทำให้ทุกคนชะงัก
วรวรรธบอก
"จริงอย่างที่คุณกิมจิพูด ถ้าเราจับตัวเบญจาได้ ทุกอย่างก็จบ"
"หมอสมคิดไม่ใช่จอมขมังเวทย์อีกแล้ว ถ้าไม่มีเบญจาซะคน ก็ไม่มีเครื่องมือใช้คาถา อาคมปล่อยผีมาเล่นงานใครได้"
พงอินทร์หันมายื่นหัวแม่โป้งให้ปาร์คจุนจี
"ผมเห็นด้วยกับแผนการนี้"
ทุกคนดูสีหน้ามีความหวัง ยกเว้นญาณิน
"แต่ให้ติณห์ไปคนเดียว ณินกลัวว่า..."
ทุกคนต่างกังวลมองหน้ากัน
ติณห์ขับรถไปคนเดียว เสียงมือถือดังขึ้น ติณห์ยกขึ้นมารับสาย
"ฮัลโหล...ไอกำลังขับรถอยู่ จะไปหายูแล้วเบญจา บอกมา จะให้ไอไปหายูที่ไหน”

สีหน้าติณห์เข้ม แค้น รถณัฐเดช ขับตามหลังไปห่างๆ โดยมี4หนุ่มนั่งไปในรถด้วย

ภายในบ้านณัฐเดช สุพิชชานั่งหลังคู้ก้มหน้าก้มตาจิ้มแป้นพิมพ์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์

"สำนักเบญจา ไหนว่ามีคาถาอาคม ช่วยทุกคนได้สมปรารถนาได้ไง แค่ฆ่านังเนตร นังเด็กสตอเบอรี่ ชอบทำตัวอ่อนต่อโลกแล้วแย่งผู้ชายคนอื่น ทำไมถึงฆ่ามันไม่ได้...ทำไม!"
สุพิชชากดEnterส่งข้อความไปด้วยอาการโกรธแค้นเก็บกด แล้วก็จ้องจอคอมฯ รอคำตอบ
หน้าจอเว็ปไซด์ของอาณาจักรสีดำ ภาพหน้าจอเต็มไปด้วยรูปสัญลักษณ์ของมนต์ดำ ไสยศาสตร์
"ตอบฉันมาซี ทำไมไม่ตอบ ฉันจ้างพวกแกแล้วนะ ฉันจ่ายเงินไปตั้งมาก พวกแกต้องช่วยฉันได้ซี เอานังเนตรไปจากชีวิตของฉันเสียที ฮือๆ"
สุพิชชาสะอื้น ตอนนั้นเองมีเสียงข้อความตอบกลับ มีรูปอนิเมชั่นของแม่หมอเบญจากางกรงเล็บมาพร้อมข้อความ
"ปฎิบัติการครั้งแรกไม่สำเร็จ ลงมือปฏิบัติการครั้งที่2 แต่คุณต้องเป็นตัวช่วย"
"จะให้ฉันช่วยยังไง บอกมา ฉันจะช่วยทุกอย่าง"
สุพิชชาพูดพลางพิมพ์แล้วEnterไป มีข้อความตอบกลับมา
"คุณได้เลือกแล้ว ขอต้อนรับสู่ปฎิบัติการของเรา ฮ่ะๆๆ"
ตอนนั้นเองที่จอคอมก็ดับวูบลง ทำเอาสุพิชาสะดุ้งตกใจ
"ว้าย!"
นายลาภยืนอยู่ด้านหลัง จอคอมจะเปิดสว่างขึ้นอีกครั้ง พร้อมกล่องข้อความกระพริบที่มีคำว่า “รับแผนพิฆาต” สุพิชชาจ้องกล่องข้อความนั่นชั่วครู ก่อนยื่นมือไปจับเม้าท์และคลิกเปิดเข้าไป

ประตูหน้าบ้านเปิดออก สุพิชชาที่ดูแค้นๆสะพายกระเป๋าเดินออกมาจากบ้าน หลังจากรับแผนการมาจากเบญจาแล้ว โดยมีวิญญาณผีนายลาภตามออกมา เธอหยุดเดิน หันไปมองที่กระถางต้นไม้ข้างประตู ผ้ายันต์ที่เคยแปะหน้าประตู และตัวเองเป็นดึงทิ้ง ตกอยู่ สุพิชชาก้มหยิบมันขึ้นมา แปะกลับไปที่ประตู ก่อนเดินไปที่รถ
สุพิชชาสตาร์ทเครื่อง ขับออกไป โดยมีวิญญาณนายลาภนั่งเบาะหลัง

รถของณัฐเดชขับมาตามถนนที่ออกนอกตัวเมืองกรุงเทพ ณัฐเดชเป็นคนขับ มองตามหลังติณห์ที่ขับอยู่ข้างหน้าไปห่างๆ
ไตรรัตน์ถาม
"จะไปถึงไหนวะเนี่ย นี่จวนถึงลพบุรีแล้วนะไอ้ณัฐ"
ณัฐเดชชักสังหรณ์ใจ
"เบญจาจะเอาไอ้ติณห์ไปทำอะไรถึงที่นั่น"
"จับตัวคุณติณห์ไปเลี้ยงโต๊ะจีนลิง" วรวรรธ[อก
"นั่นก็ยังธรรมดาไป"
พงอินทร์บอก
"ฆ่าคุณติณห์ แล้วฝังใต้ทุ่งทานตะวัน"
"ก็ยังธรรมดาไป"
"โธ่เอ้ยไอ้คุณสารวัตร แล้วมันพิเศษยังไง ยัยนั่นถึงล่อไอ้ติณห์มาไกลขนาดนี้ แกมีแนวทางอะไรก็บอกมาซี" ไตรรัตน์ว่า
"ไม่มี"
"คนไทยนี่พูดมาก พูดไปแล้วไม่มีประโยชน์อะไรก็อยากจะพูด"
ปาร์คจุนจีกอดอกเอนตัวหลับตาลงงีบ
"อ้าวเฮ้ย พ่อนักร้องเกาหลี หลอกด่าพวกเรา อัดมันเลยดีไหม" ไตรรัตน์ว่า
"หลับเอาแรงก่อนนะ พูดไปไม่มีสาระเปลืองแรง เดี๋ยวตอนต่อสู้กะพวกมนุษย์ประหลาดทั้งโขยง จะแพ้เอา บอกเลย"
หนุ่มๆทั้ง 4คน อึ้ง หันมามองหน้ากัน เหวอๆ ประมาณไอ้นี่กวนตีน แต่ก็เถียงไม่ได้

ของติณห์ที่ขับรถไปอย่างร้อนใจ เสียงมือถือดังขึ้น ติณห์รีบรับสาย
"ฮัลโหล...นี่คุณจะให้ผมขับรถผลาญน้ำมันเล่นเหรอ เบญจา มันเปลืองพลังงานนะ คุณตั้งใจจะนัดตรงไหน ว่ามาเลย"
"ระดับความอดทนของพี่ติณห์ต่ำจังเลยนะคะ ถ้าพี่ไม่อยากเจอหนูก็กลับไปซีคะ"
"เบญจา บอกมา ให้ไปเจอที่ไหน"
"ขับต่อไปเถอะน่าพี่ติณห์ จนกว่าจะเจอหุ่นไล่กากับอีกา"

ติณห์เร่งเครื่องไปทันที

ภายในบริษัทซิกส์เซนส์ ญาณินยืนมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างห่วง มองมือถือในมือ ใจอยากโทรไป แต่รู้ดีว่าไม่ควร

"ป้าสังหรณ์ใจว่า คราวนี้มันจะอันตรายกว่าคราวก่อน" อรวรรณบอก
"ชั้นน่าจะไปด้วย" สุคนธรสบอก
"เนตรห่วงหมอมากเลย"
"เค้าก็ห่วงโอปป้าของเค้า"
อรวรรณ ก้องฟ้า โกลเดนเบบี๋มองกรรณาเป็นคนสุดท้าย กรรณาจะหลุดพูดเลยยั้งปากไว้
"อะไร! มองฉันทำไม ชั้นไม่ห่วงใครทั้งนั้น"
โกลเดนเบบี๋บอก
"ปากไม่ตรงกะใจ ระวังจะเสียใจ"
ญาณินคิดหนัก
"เบญจา ความจริง คนที่ควรไปเผชิญกะเบญจา คือชั้นต่างหาก"
"เจ้าพระคู้ณ ขอให้พี่ณัฐจับตัวยัยเบญจากะหมอสมคิดเอาไปดำเนินคดีได้สำเร็จ จะได้ไม่มีใครตกเป็นเหยื่อไสยศาสตร์ของพวกมันอีก" ก้องฟ้าบอก
"ไม้เด็ดของพี่รส ที่ให้หนุ่มๆพกติดตัวไปด้วยมันก็ไม่ใช่ของเล่นนะค่ะ ขุ่นพี่คะ! หนูมั่นใจค่ะ ขุ่นพี่..ว่าพวกคุณพี่ผู้ชายต้องเอาอยู่ค่ะ" โกลเดนเบบี๋บอก

ติณห์ขับรถไป เห็นข้างหน้า มีหุ่นไล่กาทำจากฟางปักอยู่ริมทางเข้าซอยนึง โดยมีอีกาจริงๆเกาะอยู่ที่ตัวหุ่นไล่กาเต็มไปหมด
ติณห์พึมพำ
"หุ่นไล่กา กับอีกา"
ติณห์มองกระจกมองหลัง...เห็นรถณัฐเดชยังขับตามหลังมาห่างๆ
"ตามฉันมานะเว้ยไอ้ณัฐ!"
ติณห์พูดเหมือนส่งใจไปบอกณัฐเดช ก่อนเลี้ยวเข้าซอยไป รถณัฐเดชขับตามมา เลี้ยวเข้าซอยตามไป
รถติณห์ขับมาจนสุดทาง ติณห์มองไปข้างหน้า เห็นโกดังเก็บของมีตู้คอนเทนเนอร์วางเรียงรายอยู่รอบๆ
ติณห์มองไปเห็นประตูรั้วด้านหน้าโกดังถูกเปิดรอเขาอยู่ ติณห์ขับเลี้ยวเข้าไป
รถณัฐเดชที่ขับตามมาด้านหลัง...พอเห็นรถติณห์ขับเลี้ยวเข้าโกดังไปก็ชะลอความเร็วลง
ก่อนจะจอดนิ่ง ณัฐเดชรีโมตกระจกรถมองไกลไป
"อ้าว...จอดทำไม ไม่รีบตามไอ้ฝรั่งเข้าไปวะไอ้ณัฐ"
"เราไม่ได้รับเชิญ ต้องเล่นซ่อนหากันหน่อย"

ติณห์ขับรถผ่านตู้คอนเทนเน่อร์มาหยุดที่หน้าโกดังใหญ่ ดับเครื่องลงจากรถ หันมองไปรอบๆ ไม่พบใครสักคน ทุกอย่างเงียบราวกับเป็นโกดังร้าง
ติณห์แอบเหลือบตาไปมองที่ถนนทางเข้าโกดัง. ไม่พบรถของณัฐเดชขับตามเข้ามา แต่ติณห์ก็ไม่กังวลอะไร มั่นใจในปฏิบัติการของณัฐเดช
หน้าที่เขาคือเข้าไปเจอเบญจา ติณห์เดินตรงเข้าโกดังไป
นอกรั้วโกดังด้านข้าง เป็นดงหญ้าคา ต้นไม้รกๆณัฐเดชทิ้งรถซ่อนไว้ที่อื่น แล้วนำทีมไตรรัตน์ ปาร์คจุนจี พงอินทร์ วรวรรธลุยดงหญ้ารกๆแอบตรงไปที่โกดัง 5หนุ่มเดินลุยดงหญ้าและต้นไม้รกๆไปอย่างเบาเท้าและระมัดระวังตัว

สุพิชชาขับรถเข้ามาจอดช้าๆห่างจากหน้าบริษัทซิกส์เซนส์
"นังเนตรคงสุมหัวอยู่กับเพื่อนๆอยู่ในนั้น"
สุพิชชาจ้องไปที่บ้านตาแข็ง...

ติณห์เดินเข้ามาในโกดังที่มีเครื่องมือเครื่องจักรข้าวของต่างๆ ตะโกนเรียกเบญจา! เสียงเรียกติณห์ก้องโรงงาน
"มาแล้วเหรอคะพี่ติณห์"
เบญจาค่อยๆก้าวออกมาจากหลังเครื่องปั่นไฟใหญ่เครื่องหนึ่ง มาหยุดมองติณห์ด้วยความคิดถึง ทั้งคู่อึ้งมองกันชั่วครู่ ก่อนที่เบญจาจะวิ่งเข้ามาโผกอดติณห์ไว้
"พี่ติณห์ หนูคิดถึงพี่ ทำไมเรา2คนเจอกันช้าไป ถ้าพี่ไม่มีพี่ญาณิน แล้วหนูไม่ใช่ลูกพ่อ..เราจะรักกันได้ไหมคะ"
ติณห์จับไหล่2ข้างของเบญจาดึงออกจากตัว มองหน้า พูดอย่างเตือนสติ
"และถ้ายูหยุดทำร้ายคนอื่น เอาญานพิเศษ คาถาอาคมที่มีมาใช้ช่วยคนอื่น เหมือนกับที่ญาณินทำ ไอสัญญาว่าจะรักยู เหมือนน้องสาวของไอ"
"เหมือนญาณินงั้นเหรอ ทำไมหนูต้องเหมือนนังนั่นด้วย หนูไม่อยากเหมือนมัน หนูต้องเหนือกว่ามัน หนูต้องชนะมัน"
"ไอให้โอกาสยูเลือกแล้ว แต่ยูก็ยังเลือกทำผิด งั้นเราก็คุยกันไม่ได้ ยูไปกับไอ"
ติณห์จะพาตัวออกจากโกดัง แต่เบญจาขืนตัวไว้
"ปล่อยหนู"

"เบญจา ไอพยายามจะช่วยยูให้หลุดพ้นจากหมอสมคิดนะ....ไปกับไอ"

ปาร์คจุนจี ไตรรัตน์ พงอินทร์แอบเข้ามาในโกดังทางด้านหลัง เดินเงียบเชียบมองหาติณห์กับเบญจา
 
"คิดแล้วว่าต้องมีพวกพยาธิใบไม้ในตับมากันเพียบ"
ทั้ง3ชะงักหันไปมอง ก็เจอเข้ากับเบญจายืนมองอยู่ที่มุมสูง
"เฮ้ย! แล้วไอ้ติณห์หายไปไหน" ไตรรัตน์บอก
"แย่ละ" พงอินทร์ว่า
"ใครทำก่อนได้เปรียบ"
ปาร์คจุนจีปรี่เข้าไปหาเบญจาก่อนเลย แต่เจอชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากอีกด้าน
"จะทำอะไรใครก่อนหรือจ๊ะ ปาร์คจุนจี"
ปาร์คจุนจีหันไปตามเสียง แต่กลับพบเบญจาอีกคนยืนจังก้าอยู่
"เฮ้ย... ทำไม"
ไตรรัตน์ถาม
"ทำไมเบญจามันมีหลายตัววะ"
"แล้วจะจับตัวไหนล่ะเนี่ย" พงอินทร์ว่า
พงอินทร์ถอนใจ ถลาเข้าไปช่วยปาร์คจุนจีจับเบญจา
"ก็จับทุกเบญจานั่นเลย"
ทั้งสามแยกกันพยายามจะจับเบญจาทั้งสอง

มือถือของเนตรสิตางศุ์ก็ดังขึ้น
"คุณพีชโทรมา"
ทั้ง3มองหน้ากัน สุคนธรสทำหน้าไม่ชอบขี้หน้า
"ยัยนั่นโทรมาทำไม ไม่ต้องสนใจหรอก ไม่ต้องรับ"
"ถ้าไม่รับแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าโทรมาทำไม" ญาณินบอก
เนตรสิตางศุ์เลยรับสาย
"ฮัลโหล"
"ออกมาหาพีชหน่อย พีชรออยู่ที่หน้าบริษัทของน้องเนตร"
"คุณพีชอยู่หน้าบริษัท"
ญาณินกับสุคนธรสแปลกใจที่สุพิชชามาที่นี่

เนตรสิตางศุ์เดินออกมาหน้าบริษัท เห็นรถสุพิชชาจอดอยู่ที่นอกรั้ว ที่ถนนฝั่งตรงข้าม
ทุกคนตามออกมาด้วย
"เขาต้องการอะไร"
เนตรสิตางศุ์จะเดินไป แต่กรรณาคว้าแขนไว้
"เดี๋ยวยัยเนตร! ก่อนจะไป คิดดิ แกมีความจำเป็นอะไรต้องไปคุยกับยัยนั่นอีก"
กรรัมภาบอก
"ใช่ เป็นแฟนกับพี่ณัฐแล้ว ยังจะหวงก้างหมอวรรธแฟนเก่าอีก"
ก้องฟ้าบอก
"ก็ทั้งอดีตและปัจจุบัน ดันหล่อทั้ง2คนนี่ เป็นธรรมดาที่ต้องรักพี่เสียดายน้อง"
"แบบว่าอยากเหมายกเข่งทั้ง2คน ว่างั้นเหอะ" อรวรรณบอก
โกลเดนเบบี๋บอก
"อ่ะ ถูกโต้ม!"
"ยัยโกลเด้น มัวแต่เล่นมุขอยู่นั่นแหละ ดูดิ ที่รถยัยพีช มีอะไรไม่น่าไว้ใจบ้างไหม" สุคนธรสบอก
"เดี๋ยวนะเจ๊ ขอส่องดูก่อน"
ว่าแล้วโกลเดนเบบี๋ก็ทำตาเป็นเรดาร์หมุนๆมองไปที่รถสุพิชชา
"ไม่มีนะเจ๊ ในรถไม่มีผี ไม่มีคนอื่น นอกจากยัยนั่นนั่งฮือๆอยู่ในรถคนเดียว"
"งั้นให้เนตรไปคุยกับเค้าหน่อยเถอะ เดี๋ยวเค้าก็ไปฟ้องพี่นัทว่าเนตรใจจืดใจดำ เค้าอุตส่าห์มาขอคุยด้วย แล้วทิ้งให้เค้ารออยู่ในรถ"
เบญจาและติณห์ฉุดกระชากลากถูกันอยู่
"เบญจาต้องไปกับพี่"
เบญจาสะบัด
"ไม่คราวนี้เบญจาช่วยพี่ไม่ได้แล้ว"
"ช่วย ยูมาช่วยอะไรไอ...นอกจากจะพยายามฆ่าพวกไอ"
"ดี...เข้าใจเบญจาอย่างนี้ก็ดี เบญจาจะได้เลว เลวให้มันถึงที่สุดไปเลย"
เบญจาตบติณห์แล้ววิ่งหนีไป ติณห์วิ่งตาม
"เบญจา...หยุดนะ"
ติณห์จะตาม แต่สมุนอีกคนกระโดด ถีบเข้ามา ติณห์หยุดชะงัก มันสาวหมัดเข้ามาต่อยๆ
ติณห์ต่อยสู้กับสมุน3คน

ไตรรัตน์มองไปเห็นเบญจากำลังขึ้นบันไดหนีไป ก็กระโดดข้ามราวบันไดไปขวางหน้าไว้
"จะหนีไปไหน"
เบญจาชะงักหยุด ก้าวถอยช้าๆ ขณะที่ไตรรัตน์เดินขู่ยิ้มๆเข้าหา
"ปรกติผมจะอ่อนโยนกับผู้หญิง ห่วงใย ดูแลเทคแคร์ เพราะผู้หญิงทำให้โลกของแมนทั้งแท่งอย่างผมสวยงาม แต่สำหรับคุณ...คงต้องยกเว้น"
ไตรรัตน์พูดเสร็จปรี่เข้าหาเบญจา ยื่นมือจะคว้าแขนไว้
"ขอเชิญไปกับผมครับคุณผู้หญิง"
"ฉันไม่ไป"
เบญจาตวัดเขาเตะเข้าหน้า ไตรรัตน์ผงะหลบได้ทันฉิวเฉียด
"โอ้โห...แค่นี้เด็กๆ"
ไตรรัตน์จะเข้าคว้าตัวอีก แต่มีลูกสมุน2คนเข้ามาขวางไว้เสียก่อน
"จัดการมัน!"
สมุนทั้ง2คว้าท่อนเหล็กที่ตกเกลื่อนอยู่แถวนั้นเข้าฟาดไตรรัตน์ ไตรรัตน์หลบ คว้าท่อนเหล็ก2อันมารับเหล็กของสมุนทั้ง2ที่ฟาดเข้าใส่

"อ๊าก"
 
อ่านต่อตอนที่ 24
กำลังโหลดความคิดเห็น