สมรภูมิละครทีวีดุเดือด
“ดร.โด่ง” มั่นใจ “ช่อง8” เอาอยู่!!!
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการทำละครเฟิร์สรัน จนกลายเป็นผู้นำตลาดแซทเทลไลท์ทีวี หลายค่ายเริ่มเห็นช่องทางส่งละครใหม่มาเสิร์ฟให้คอละครได้เลือกชมกันอย่างจุใจ แม้งานนี้ “ช่อง 8” ของค่ายอาร์เอส ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดจะต้องมีคู่แข่งเพิ่ม แต่ผู้บริหารคนเก่งอย่าง “ดร.โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 มั่นใจว่าเอาอยู่!!!
โดย ดร.โด่ง กล่าวว่า “ช่วงนี้ทีวีดาวเทียมหลายช่องเริ่มผลิตละครออกมาเยอะขึ้น มันเป็นกลไกทางตลาด ข้อดีคือทำให้เราได้พัฒนา ข้อเสียคือทำให้เราทำงานยากขึ้น แต่ในแง่การทำธุรกิจ การที่ธุรกิจจะบูมหรือประสบความสำเร็จมันต้องมีคู่แข่ง เป็นธรรมชาติของการทำธุรกิจ ยิ่งคู่แข่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เราต้องพัฒนางานของตัวเองให้ดีขึ้นๆ สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์คือผู้ชม ที่จะได้ชมของดีเพราะเกิดการแข่งขัน การที่มีผู้ผลิตละครเพิ่มขึ้นส่งผลอะไรกับช่อง 8 คือเราคงห้ามใครทำไม่ได้ แต่เชื่อว่าแต่ละช่องย่อมมีกลุ่มคนดูเป็นของตัวเอง ซึ่งเรารู้ว่าเราจะทำละครแบบไหนให้คนกลุ่มไหนดู ทิศทางของช่องต้องสอดคล้องต่อความต้องการของคนดูเป็นหลัก และการทำการตลาดต่างกัน แต่สิ่งที่ทำให้ช่อง 8 ประสบความสำเร็จ มาจากความกล้าลงทุน การผลิตก็ใช้มาตรฐานเดียวกับฟรีทีวี มีการวางแผน ลงทุน ให้เวลากับการทำงาน ที่สำคัญคือเราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ การที่มีละครผุดเยอะๆ ข้อดีคือ อุตสาหกรรมแซทเทลไลท์ทีวีกำลังโตขึ้น ทำให้ธุรกิจเติบโต เป็นสัญญาณที่ดีให้กับลูกค้าหรือเอเจนซี่ต่างๆ เริ่มหันมาเห็นความสำคัญช่องดาวเทียมว่ามีฐานคนดูเยอะ การที่เราเข้ามาทำเป็นเจ้าแรกๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบ เพราะเราได้เดินกลยุทธ์ไว้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว ส่วนข้อไม่ดี น่าจะเป็นเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทั้ง ดารา ทีมงานผู้ผลิต ที่อาจจะมีการดึงตัวกัน แต่สุดท้ายถ้าองค์กรแข็งแรง เชื่อว่าบุคลากรก็อยากทำให้กับองค์กรที่ดีและมีความแข็งแรงอยู่แล้ว ในส่วนของช่อง 8 ค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ แต่ก็ได้มีการเตรียมพร้อมทั้งบุคลากรและนักแสดง สำหรับรองรับปัญหาที่จะเกิดในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการเตรียมเพิ่มงบประมาณในการผลิตละครให้มากขึ้น เพิ่มนโยบายทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ และพยายามทำให้เร็วที่สุด เพื่อให้ช่องมั่นคง และสิ่งต่อไปที่ช่องต้องพัฒนาอย่างจริงจัง คือ บทและการเลือกเรื่อง อย่างเรื่องนางมาร ถือเป็นบททดสอบของช่อง ในการเปลี่ยนหน้าละครจากเรื่องแซ่บๆ แรงๆ มาเป็นละครแนวผี ซึ่งกระแสตอบรับดีขึ้นกว่าเดิม โดยที่เรายังรักษาคนดูกลุ่มเดิมได้ พร้อมกับได้แฟนกลุ่มใหม่ด้วย นั่นทำให้เรารู้ว่า คนดูเริ่มมีพัฒนาการไปพร้อมๆ ช่อง ขอให้ละครดีตอบโจทย์ความต้องการของเขา เขาก็ดู อันนี้เป็นสิ่งที่เราพยายามทำ คือไม่ยึดติดกับละครแนวเดียว อยากให้รู้สึกว่าเรามีความหลากหลาย เพื่อง่ายต่อการทำธุรกิจและเป็นการขยายฐานคนดูครับ”