xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวนอกนา ตอนที่ 19 - 20

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ข้าวนอกนา ตอนที่ 19

ดำกลับมาที่ห้องพักคุยกับใจหวาน หัวเราะร่าอย่างสะใจ

“ฮ่าๆๆ สะใจจริงๆ เลยพี่หวาน นังนั่นมันยิ่งหนีก็ยิ่งเจอหนู”
“แล้วเขายอมรับหรือยังว่าเป็นพี่สาว”
“ยัง มันคอยเลี่ยงไม่คุยกับหนู พ่อแม่ใหม่ขอเอามันไปเลี้ยงซะเลิศลอย มันไม่เห็นหัวหนูหรอก วันงานหนูจะเข้าไปทักมัน ขืนมาทำหัวสูงใส่จะตบประจานกลางงานเลย”
ใจหวานหนักใจ
“เอางั้นเลยเหรอดำ เดี๋ยวคุณจ้อยกับเจ๊ตุ้มจะเสียชื่อเปล่าๆ”
“ไม่เสียหรอก ดีซะอีกผับนี้จะได้ดัง คนต้องแห่กันมาดูหน้าหนู แล้วคอยดูนะ วันงานหนูจะโชว์พลังเสียงร้อง พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าหน้าตาสวยๆ อย่างมันร้องเพลงได้ไม่เท่าขี้เล็บของหนูด้วยซ้ำ”
ดำหน้าตามุ่งมั่นไม่ยอมแพ้

สมพันธุ์เดินมาตามทางในห้างสรรพสินค้า​อย่างรีบร้อน เขาถึงกับผงะเมื่อเจอกับออย เขาทำท่าจะเลี่ยงหนี แต่ไม่ทันที่ออยเห็นเข้าเสียก่อน เธอเดินเข้ามาหา
“เป็นไงพี่พัน สบายดีเหรอ”
“ก็เรื่อยๆ”
“คงสบายดี มีคนเลี้ยงคนเอาใจประเคนทุกอย่างให้เลยนี่”
สมพันธุ์อาย
“ถ้าออยจะมาแขวะพี่ เราต่างคนต่างไปเถอะ”
“ฉันหวังดีต่างหาก เห็นพี่ยังจมปลักอยู่กับอีมืดลูกนิโกรก็เลยเป็นห่วง ถามจริงๆเถอะไม่อายบ้างหรือไง”
“เรื่องอะไรจะต้องอาย”
“อ้าว...ใครๆ เขาก็จะว่าสิ้นคิดน่ะซี่ หรือว่ารักนังมืดนั่นจริงๆ”
สมพันธุ์หงุดหงิด
“จะรักหรือไม่รักก็ไม่เกี่ยวกับออย เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่ ดำเขาเป็นคนดี ที่สำคัญเขาช่วยให้พี่ไม่ต้องติดคุก”
“ก็เลยอยู่กับมันเพราะสำนึกบุญคุณงั้นสิ”
“จะอยู่เพราะอะไรมันก็เรื่องของพี่ ออยไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
สมพันธุ์รีบเดินหนี ออยมองตามเยาะๆ

สมพันธุ์เข้ามาหน้าโรงหนังตรงไปหานิวด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“พี่พันเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมหน้าแดงๆ”
“เปล่าจ้ะ พี่คงรีบเดินน่ะ กลัวมาไม่ทันนัด เดี๋ยวเราดูเรื่องอะไรดี”
“อยากดูเรื่องนี้อ่ะพี่พัน...”
นิวเกาะแขนสมพันธุ์พาไปดูโปรแกรมหนัง สมพันธุ์กอดนิวไว้ ออยแอบดูอยู่ ยิ้มกระหยิ่ม แล้วหยิบมือถือออกมาถ่ายรูป นิวที่เกาะแขนสมพันธุ์อิงแอบแนบชิดกันไว้

ค่ำนั้นเมื่อเข้ามาในห้องแต่งตัวนักร้อง ออยเปิดมือถือให้แนทกับแอ๋มดูภาพในมือถือ แนทหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้านังดำ ถูกไอ้แมงดามันหลอกซะ”
“ทำไมไม่ส่งให้นังดำเลยวะออย”
ออยยิ้มสะใจ
“ส่งให้ตอนนี้ก็ไม่หนุกน่ะสิ”
แนทสงสัย
“แล้วจะส่งให้มันตอนไหน”
ออยยิ้มกระหยิ่ม
“มันจะไปร้องเพลงออกงานเมื่อไรล่ะ”
ทั้งสามคนยิ้มกันอย่างเจ้าเล่ห์ แอ๋มชม
“แกนี่มันเจ๋งจริงว่ะนังออย”
ออยยิ้มภูมิใจ ดำเดินเข้ามา ออยเลยรีบปิดคลิป แต่ทั้งสามคนหันไปมองหน้าดำแบบยิ้มเยาะปนขำ ดำมองกราดทั้งสามอย่างรู้สึกผิดปกติ
“มองอะไรวะ อย่าแส่หาเรื่องอีกนะโว้ย”
ออย แนท แอ๋มยิ้มๆให้กัน ออยพูดขึ้นลอยๆ
“ไม่มีใครแส่หาเรื่องหรอก มีแต่ความหวังดีที่อยากจะเตือนให้ระวัง ไอ้ผัวแมงดาของใครบางคนอาจจะไปหาที่เกาะใหม่แล้ว ฮ่าๆๆ”
แนทกับแอ๋มประสานเสียงหัวเราะด้วย
“อย่ามาเสี้ยมเลย ฉันไม่เชื่อน้ำหน้าอีพวกปากตำแยหรอก”
“ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ สักวันน้ำตาจะเช็ดหัวเข่าแบบไม่ทันตั้งตัว ฮะๆๆ”
ออยกับแนทและแอ๋มหัวเราะคิกคักกันอย่างมีเลศนัย ดำได้แต่มองทั้งสามอย่างรู้สึกร้อนรุ่มว่ามีนัยยะอะไรแฝงอยู่

เช้าวันใหม่...สมพันธุ์แต่งตัวอยู่หน้ากระจก จัดทรงผมอย่างเนี้ยบ ดำเข้ามากอดไว้
“วันนี้ฉันจะไปร้องเพลงในงานสมาคมศิษย์เก่าของมหาลัยดังเลยนะ พี่พันไปดูหน่อยสิ”
“วันนี้พี่ไม่ว่าง”
ดำแง่งอน
“พี่พันจะไปไหนอีก”
“พี่มีธุระ ต้องเข้าไปเซ็นสัญญางานใหม่”
“แต่งานมันเริ่มตั้งทุ่มนึง กลับมาก็ยังทัน”
สมพันธุ์อึกอัก
“อย่าเลย พี่ไม่อยากให้ดำรอ เดี๋ยวจะเสียงานเปล่าๆ”
“ไม่เสียหรอก ถ้าพี่พันไป ฉันยิ่งมีกำลังใจร้อง”
“เอางี้นะ ถ้าพี่กลับมาทันพี่จะไปด้วย จะรีบไปรีบมา”
ดำเข้าไปเกาะแขนเขาอย่างดีใจ
“จริงเหรอพี่พัน”
สมพันธุ์พยักหน้า
“แต่ดำอย่าโทรจิกพี่นะ พี่ไม่ชอบ”
“จ้ะพี่ ฉันจะรออยู่ที่ห้องนี่แหละ”
“ถ้าพี่ไม่มาก็ไม่ต้องรอล่ะ พี่ไปละ”สมพันธุ์ออกไปจากห้องทันที

ดำแต่งตัวอยู่ในห้องอย่างสบายใจ เสียง sms ดังขึ้น ดำไปหยิบมาดูตกใจมาก
“พี่พัน”
ภาพในมือถือดำ เป็นภาพที่ออยแอบถ่ายสมพันธุ์กับนิวป้อนไอศกรีมกัน ดำกัดริมฝีปากจนห้อเลือด แล้ววิ่งออกไปนอกห้องทันที

ออยกับแนทและแอ๋ม อยู่ในคอนโดประสานเสียงหัวเราะกันอย่างสะใจ
“ฮ่าๆๆ ป่านนี้นังดำคงเต้น”
แนทสะใจ
“สมน้ำหน้า”
แอ๋มเสริม
“หน้าตา...”
แววตาของออยวาบขึ้นอย่างรอคอยเวลา

สมพันธุ์กับนิวนั่งกินไอศกรีมอยู่ด้วยกันในร้าน
“อั้ม...”
นิวป้อนไอศกรีมให้ สมพันธุ์ป้อนกลับอย่างเอาใจ
“อร่อยไหมจ๊ะ”
“อร่อยค่ะ”
ทันใดนั้นเสียงดำดังขึ้น
“อร่อยมากใช่ไหม”
ทั้งสองตกใจหันไป เห็นดำยืนหน้าถมึงทึงอยู่ข้างโต๊ะ
“ดำ”
นิวถามอย่างสงสัย
“ใครน่ะพี่พัน”
ดำสวนทันที
“ก็เมียพี่พันน่ะสิ”
นิวมองหน้าสมพันธุ์อย่างตกใจและขยะแขยง
“พี่พัน...อี๋...”
สมพันธุ์รีบแก้ตัว
“ไม่ใช่นะนิว”
“ไม่ใช่แล้วอะไรพี่พัน”
ดำกระชากนิวขึ้นมา
“คิดจะแย่งผัวฉันเหรอ”
ดำตบหน้านิวเต็มแรงจนกระเด็นไป สมพันธุ์เข้ามากันไว้
“อย่านะดำ”
ดำยิ่งแค้นใจ เข้าไปนั่งคร่อมนิว แล้วเอาไอศกรีมโปะลงไปบนหน้า นิวร้องลั่น
“อ๊าย”
สมพันธุ์ดึงตัวดำขึ้นมา
“หยุดได้แล้วดำ หยุดซะที”

นิววิ่งหนีออกไป พนักงานในร้านช่วยกันจับตัวดำไว้ เธอสะบัดตัวออก
“ปล่อยกู ปล่อยสิวะ ปล่อย...”
ดำดิ้นจนหลุดออกมาได้ แล้วดึงตัวสมพันธุ์
“ไปคุยกันให้รู้เรื่อง”
สมพันธุ์หันมองนิวอย่างเป็นห่วง ดำดึงตัวเขาออกไปหน้าร้านไอศกรีมเธอต่อว่าเขาอย่างโมโห
“พี่พันลืมบุญคุณของฉันหมดแล้วเหรอ ถ้าไม่ได้ฉันวิ่งเต้นช่วย ป่านนี้พี่พันก็อยู่ในคุก ไม่ได้ออกมาสบายอย่างนี้หรอก เพราะฉันเห็นแก่ลุงหวัดถึงได้ช่วยพี่พัน”
สมพันธุ์รู้สึกอายที่ถูกขุดปมด้อย เลยพาลใส่
“ไม่ต้องลำเลิกบุญคุณหรอก ดำเองก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรจากพี่ รู้ไว้ด้วยว่า ที่พี่ทนอยู่กับดำมาตั้งนานก็เพราะจะแทนบุญคุณ แค่นี้พี่ก็อายเขาจะแย่อยู่แล้ว จะให้พี่เกาะอยู่กับดำตลอดชีวิตไม่ได้หรอก”
“แต่ก็เคยคิดจะเกาะนังออยตลอดชีวิต ใช่ไหมล่ะ ลองมันไม่ไล่ซี่ ป่านนี้ก็ยังแกะไม่ออก”
สมพันธุ์ชะงัก
“ดำ...”
ดำมองสมพันธุ์อย่างผิดหวัง
“คนอย่างพี่พันถึงไม่เกาะฉัน ก็ต้องไปเกาะคนอื่น อย่ามาพูดหน่อยเลย พี่พันคิดจะเกาะอีนี่ต่อใช่ไหม คอยดูไปก็แล้วกัน วันนึงมันก็ต้องถีบหัวส่งเหมือนนังออย”
สมพันธุ์หน้าแดงก่ำ
“สัญชาติผู้ชายมันก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น ถ้าตั้งใจขุนละก็ไม่มีวันเชื่องหรอก ไปซี่ พี่พันจะไปไหนก็ไป แต่ถ้าถูกถีบหัวส่งละก็อย่ากลับมา”
สมพันธุ์น้ำตาคลอ เดินจากไปอย่างอับอาย ดำเจ็บใจ

ใจหวานเปิดประตูห้องให้ดำเข้ามาในห้อง
“หนูไม่น่าไปไล่พี่พันเลยพี่หวาน เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ เลย หนูจะทำยังไงดี”
“ลืมมันซะเถอะดำ ไม่มีใครจริงจังกับผู้หญิงอย่างเราหรอกวะดำ ถ้าแกมีเงินมันก็หลอกเอาเงิน ถ้าไม่มีเงินมันก็เห็นแกเป็นเครื่องเล่นเท่านั้นเอง”
“แต่หนูว่าพี่พันไม่ใช่คนแบบนั้น เขาเป็นคนดี เขาต้องกลับมาหาหนู”
“ก็แกเชื่อมั่นของแกแบบนี้ งั้นแกจะมาปรึกษาฉันทำไม”
“หนูกลัวเขากลับมาแล้วไม่พูดกับหนูเพราะยังโกรธหนูอยู่ หนูควรจะขอโทษเขาดีไหม”
ใจหวาน​เหนื่อยใจ
“ตามใจสิ อยากจะง้อให้มันกลับมาก็ตามใจ มันจะกลับมาหรือเปล่าเหอะ ป่านนี้อาจจะไปอยู่กับกิ๊กใหม่แล้วมั้ง”
ดำหน้าเสีย
“พี่หวานไม่พูดให้กำลังใจหนูบ้างเลย”
“ฉันพูดความจริง ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้แหละดำ ฉันไม่อยากหลอกแกให้หวังลมๆ แล้ง ๆ กับผู้ชายพรรณนี้เลย”
เสียงกดกริ่งประตูห้องใจหวานดังขึ้น ดำรีบไปเปิดประตู พอเห็นเป็น รปภ. ก็ดีใจ
“แฟนรูปหล่อของพี่กลับมาแล้วนะ”
ดำดีใจถึงกับลิงโลด
“จริงเหรอ ขอบใจนะ”
ดำควักแบงก์ห้าร้อยจ่ายให้ รปภ. แล้วหันไปบอกใจหวาน
“เห็นไหมในที่สุดเขาก็ต้องกลับมา หนูไปหาพี่พันก่อนนะพี่หวาน”
ใจหวานพยักเพยิด มองตามดำไปอย่างเป็นห่วง

สมพันธุ์เข้ามาในห้อง เก็บข้าวของใส่กระเป๋า ดำตามเข้ามา ตกใจอย่างนึกไม่ถึง
“พี่พัน จะทำอะไรน่ะ”
“ไปจากที่นี่น่ะสิ”
ดำหน้าเสีย
“พี่พันอย่าไปเลยนะ”
“เมื่อกี้ดำเป็นคนไล่พี่เอง”
“ฉันพลั้งปากไปน่ะ พี่พันอย่าทิ้งฉันไป”
สมพันธุ์ไม่สนใจ ดำโผเข้าไปกอดรัดไว้ เหนี่ยวตัวไม่ให้ไป
“พี่พัน...พี่พันอย่าโกรธฉันเลย ขอโทษนะพี่ ฉันกำลังโมโห เลยพูดไปอย่างนั้นเอง”
สมพันธุ์น้ำตาไหล เบี่ยงตัวจากการกอดรัดของดำ รู้สึกทั้งน้อยใจและเกือบจะขยะแขยง สงสารดำเหมือนกัน แต่เห็นแก่ตัวมากกว่า
“ปล่อยนะดำ”
ดำดึงกระเป๋าของเขาไว้
“เอาของไว้นี่แหละ พี่พันจะไปเที่ยวไหนก็ไปเถอะ แล้วค่อยกลับมาตอนดึก”
สมพันธุ์กระชากกระเป๋ากลับมา
“ปล่อยพี่นะดำ พี่ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”
ดำกอดขาอ้อนวอน
“พี่พันอย่าไปเลย อยากได้อะไรฉันซื้อให้”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวมันจะกลายเป็นบุญคุณ พี่ไม่อยากได้อะไรจากดำอีกแล้ว ปล่อย”
สมพันธุ์กัดฟันสะบัดขาอย่างแรง จนดำลงไปกองอยู่กับพื้น

สมพันธุ์รอเรียกแท็กซี่อยู่หน้าอพาร์ตเมนท์ แท็กซี่คันหนึ่งแล่นมา เขาโบกมือเรียกแท็กซี่แล่นเข้ามาจอด สมพันธุ์กำลังจะขึ้นรถ แต่ดำเข้ามาคว้าแขนเขาไว้
“พี่พันอย่าไปเลย”
“ปล่อย...ดำ”
“พี่พันอย่าไป ฉันขอโทษพี่พัน พี่อย่าทิ้งฉันไป ฉันขอร้อง”
“บอกให้ปล่อย ปล่อยสิ”
“ไม่ปล่อย ฉันรักพี่พัน ฉันรักพี่ พี่อย่าทิ้งฉันไป”
“ปล่อยนะดำ พี่ไม่ได้รักดำ พี่ไม่เคยรักดำเลย”
สมพันธุ์ผลัก ดำเซไปจนล้ม สมพันธุ์ตกใจ จะเข้าไปช่วย แต่แล้วก็เปลี่ยนใจรีบขึ้นรถ
“พี่พัน...กลับมา พี่พัน...ฮือๆ”
ดำทุ่มตัวลงร้องไห้กับพื้น โดยไม่อายสายตาคนอื่น ผู้คนผ่านไปมามองเธอเป็นตัวประหลาด ผู้หญิงคนหนึ่งถามรปภ.
“มีอะไรเหรอ”
“ถูกผัวรูปหล่อทิ้งน่ะพี่”
คนอื่นมองดำอย่างสมเพช ใจหวานลงมาจากห้องเห็นเข้าพอดี
“ดำ...เกิดอะไรขึ้นน่ะดำ”
“มันไปแล้วพี่หวาน ไอ้สมพันธุ์มันทิ้งหนูไปแล้ว”
ใจหวานสงสาร
“โธ่...ดำเอ๊ย”
“ไม่มีใครรักหนูจริงพี่หวาน ในที่สุดมันก็ทิ้งหนูไปเหมือนคนอื่น มันทิ้งหนูไปแล้ว...”

ใจหวานกอดไว้อย่างปลอบประโลม ดำร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ

ข้าวนอกนา ตอนที่ 19 (ต่อ)
ใจหวานพาดำเข้ามาในห้องพัก ดำเหม่อลอยร้องไห้

“ทำใจซะเถอะดำ ผู้ชายเลวๆ อย่างนี้อย่าไปนึกถึงมันอีกเลย”
“แต่หนูรักพี่พัน หนูรักเขาคนเดียว”
“แกจะไปรักมันทำไม ในเมื่อมันไม่รักแกเลย เห็นไหมมันทิ้งแกไปแบบไม่มีเยื่อใย ยังจะเพ้อถึงมันหาสวรรค์วิมานอะไรวะ”
“พี่หวานไม่เข้าใจ พี่พันกับลุงหวัดช่วยหนูมาตลอดทั้งที่คนอื่นมีแต่รังเกียจหนู”
“แกก็มัวแต่ยึดติดกับเรื่องสมัยเด็กๆ ไอ้สมพันธุ์ไม่ได้คิดอย่างแกหรอก มันฉลาดกว่าแกเยอะ หลอกให้แกทำงานเลี้ยง แล้วมันก็ถีบหัวส่งทีหลัง ไปหลงรักผู้ชายรูปหล่อก็อย่างนี้แหละ ใครเขาจะมาจริงจังกับแก”
ดำเจ็บปวดกับคำพูดของใจหวานที่เสียดแทงใจดำ ได้แต่กัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจตัวเองที่ยอมให้หลอก และสมพันธุ์ที่หลอกตน
“มันไม่ได้นึกถึงความดีหรือบุญคุณของแกเลย ทั้งที่แกเอาใจสารพัด ทูนหัวให้ทุกอย่างแล้วมันยังทิ้งแกไปมีคนอื่นได้ลงคอ”
ใจหวานยิ่งพูดเหมือนยิ่งตอกย้ำทิ่มแทงใจดำ ดำปิดหูตัวเองอย่างทนฟังไม่ได้อีกต่อไป
“พอแล้วพี่หวาน...หนูไม่อยากฟังแล้ว หนูอยากอยู่คนเดียว”
“ฉันอยากเตือนสติแกเท่านั้นแหละ ให้ลืมผู้ชายตัวเมียพรรค์นั้นซะ แกจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนดิ้นรนอะไรมากมาย มีเงินก็ใช้คนเดียวสบายตัวกว่าเยอะ”
“พี่หวานพูดหนูก็ยิ่งเจ็บ พอแค่นี้เถอะพี่หวาน ให้หนูสงบสติอารมณ์สักพัก”
ดำหันหลังให้ ใจหวานมองดำอย่างสงสาร แต่ไม่รู้จะปลอบอย่างไร
“แน่ใจนะว่าอยู่ได้”
ดำหันหลังให้
“หนูอยากอยู่คนเดียวจริงๆ”
“งั้นพี่ไปช่วยงานที่คลินิกก่อน ถ้ามีอะไรโทรหาได้ตลอดเวลาเลยนะ”
ดำพยักหน้าซึมๆ ใจหวานเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออกไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองดำอย่างเป็นห่วงก่อนปิดประตู

ใจหว่านมาหาจอร์จที่คลินิก เขาตกใจเมื่อได้ฟังเรื่องดำจากใจหวาน
“อาการของดำน่าเป็นห่วงมาก ไม่น่าไว้ใจเลย”
“หมอหมายความว่า...”
“ผมกลัวเขาจะเครียดจนคิดสั้น”
ใจหวานหน้าเสีย
“งั้นหวานลองโทรหาดำก่อน”
ใจหวานกดมือถือโทรหาดำ แต่ไม่มีคนรับสาย
“ดำไม่ยอมรับสายเลย”
“ดำไม่ควรอยู่คนเดียว ผมอยากไปเยี่ยมเขา เดี๋ยวหวานช่วยเตรียมเครื่องมือปฐมพยาบาลให้ผมด้วยนะ ผมจะไปปิดคลินิกก่อน”
จอร์จรีบออกไป ใจหวานเตรียมเครื่องมือใส่กล่องล่วมยา

ดำอยู่ในห้องพัก ร้องไห้น้ำตานองหน้า นึกถึงความหลังที่บ้านลุงหวัด
“วันนี้ฉันไปเจอเพลงใหม่มา พี่พันดีดกีตาร์ให้ร้องหน่อยสิ”
ดำไปหยิบกีตาร์ของเขาที่วางอยู่มาให้ สมพันธุ์จำใจดีด ดำร้องไปเต้นไปอย่างมีความสุข...ดำนึกถึงอดีตในโรงพักเธอลูบหลังปลอบเขา
“พี่พันไม่ติดคุกหรอก ฉันจะหาทางประกันตัวพี่ออกมา”
สมพันธุ์จับมือดำไว้ มองด้วยน้ำตาคลอตา
“จริงนะดำ ความหวังของพี่อยู่ที่ดำคนเดียว หลุดออกไปได้พี่จะยอมเป็นทาสของดำจริงๆนะ ดำดีกับพี่ยิ่งกว่าญาติพี่น้องแท้ๆ เสียอีก ไม่เสียแรงที่พ่อเคยรักดำเหมือนลูก”
ดำจับมือสมพันธุ์ไว้อย่างให้ความมั่นใจ
“จ้ะพี่พัน ฉันจะไม่มีวันทิ้งพี่พันไปไหน”
สมพันธุ์บีบมือดำแน่น แล้วกอดไว้อย่างหาที่พึ่ง...ดำนึกถึงอดีตตอนที่อยู่ในห้องพักกับเขา ดำลูบผมของสมพันธ์เบาๆ อย่างอ่อนโยน
“อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวนะพี่พัน ฉันจะไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับพี่อีก”
สมพันธุ์จับมือดำ แล้วสะอื้นออกมาเบาๆ
“ดำดีกับพี่จังเลย นอกจากพ่อกับแม่แล้วก็มีดำนี่แหละที่ดีกับพี่มากที่สุด ดำอย่าทิ้งพี่ไปไหนนะ”
“ฉันไม่มีวันทิ้งพี่หรอกพี่พัน ฉันจะดูแลพี่พันเอง”
ทั้งสองสบตากัน ดำมองใบหน้าสวยของสมพันธุ์ในความมืดอย่างหลงใหล เธอค่อยๆ ก้มลงไปจนหน้าชิดกับเขา...ดำหลับตาอย่างคิดถึงสมพันธุ์จับใจ ก่อนจะถอนใจยาวออกมาอย่างตัดสินใจโทรไปง้อเขาอีก เธอหยิบมือถือโทรเข้ามือถือของเขา แต่เป็นเสียงฝากข้อความ ดำร้องไห้คร่ำครวญ
“พี่พัน ฉันรักพี่ยิ่งกว่าตัวฉันเอง ฉันยอมให้พี่ได้ทุกอย่าง ทำไมพี่ถึงมองไม่เห็นความดีของฉัน ทีนังออยพี่ยังทนอยู่ด้วยได้ มันไล่พี่ก็ยังไม่ยอมไป ฉันไม่เคยทำอะไรให้พี่เสียใจเลย แต่พี่กลับทิ้งฉันได้ลงคอ กลับมาหาฉันเถอะพี่พัน ไม่มีใครรักพี่พันได้เท่าฉันอีกแล้ว ฉันยังรอพี่พันอยู่เสมอ...”
ดำขว้างมือถือทิ้ง แล้วผุดลุกขึ้นไปที่หน้ากระจกในห้อง ส่องกระจกดูหน้าตัวเอง
“เพราะฉันตัวดำ ฉันน่าเกลียดใช่ไหม พี่พันถึงทิ้งฉันไป”
ดำทุ่มกระจกลงบนพื้นอย่างเจ็บใจ

จอร์จกับใจหวานมาถึงหน้าห้องพักของดำ กำลังจะกดกริ่ง ได้ยินเสียงกระจกแตกก็ตกใจ
“หวานได้ยินเหมือนผมไหม”
“เสียงเหมือนอะไรแตก”
“เกิดอะไรขึ้น”
จอร์จกับใจหวานมองหน้ากันเครียดๆ

ดำทุ่มตัวลงกับพื้นร้องไห้อย่างขมขื่น เห็นหน้าตัวเองในเศษกระจกก็ยิ่งเจ็บใจ เธอหยิบเศษกระจกขึ้นมาดู
“เกิดมาน่าเกลียดอย่างนี้ แกจะเกิดมาทำไมวะนังดำ มีแต่คนรังเกียจ​มีแต่คนดูถูกแก ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแก”
ดำเอาเศษกระจกกรีดข้อมือตัวเองอย่างบ้าคลั่ง แล้วทรุดล้มลงไปจมกองเลือด เสียงเคาะประตูด้านนอกดังลั่น
“ดำ... ดำ เปิดประตูที”
“ดำ...นี่พี่หวานเอง เปิดประตูให้หน่อย”
ไม่มีเสียงตอบรับ จอร์จกับใจหวานมองหน้ากันเครียด
“อาการดำน่าเป็นห่วงมาก หวานไม่น่าทิ้งให้ดำอยู่คนเดียวเลย”
“ท่าทางจะไม่ดีแล้วละ เราต้องหาทางเข้าห้องดำให้ได้”
“แล้วเราจะเข้าไปยังไง นอกจากต้องพังประตูอย่างเดียว”
จอร์จมองไปห้องข้างๆ อย่างนึกอะไรได้

จอร์จมาขอความช่วยเหลือจากห้องติดกันกับห้องดำ ผู้หญิงเจ้าของห้องพาจอร์จกับใจหวานมาที่ระเบียง
“ขอบคุณนะครับที่ให้เข้ามา”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันก็เห็นนะ เมื่อตอนสายๆ เขาทะเลาะกับแฟนรูปหล่อคนนั้น น่าสงสารมาก ไอ้ผู้ชายมันถึงกับถีบหัวส่ง มีแฟนหล่อก็อย่างนี้แหละ มันไปหาผู้หญิงสวยๆ รวยๆ กว่านี้ได้เยอะแยะ...”
ใจหวานรีบตัดบท
“ผู้ชายดีๆ สมัยนี้มันหายากค่ะพี่”
จอร์จดูระเบียงแล้วมองลงไปอย่างหวาดเสียว เพราะอยู่สูงหลายชั้น ใจหวานมองลงไปทำหน้าหวาดเสียวแทน
“อย่าเสี่ยงเลยค่ะหมอ เราเรียกอาสาสมัครมาช่วยดีกว่า”
“ผมกลัวจะไม่ทัน ผมปีนเอง”

“ระวังนะคะ”

จอร์จปีนระเบียงห้องเพื่อข้ามไปห้องดำ ใจหวานมองลุ้นๆ ผู้หญิงเจ้าของห้องปิดตาอย่างหวาดเสียว...จอร์จปีนระเบียงจะข้ามไปห้องของดำ
แต่ไม่มีที่ให้เหยียบข้ามไป เขามองหาจนเจอท่อระบายน้ำฝน จึงเอื้อมไปเหยียบ ใจหวานมองรู้สึกใจหายใจคว่ำ
“ระวังค่ะ ระวัง...”
จอร์จเหยียบพลาดจะตก ใจหวานร้องลั่น
“ว้าย”
ใจหวานรีบเข้าไปดึงเขาไว้ แล้วหันไปเรียกเจ้าของห้อง
“พี่ช่วยหน่อยจ้ะ”
เจ้าของห้อง มาช่วยดึงจอร์จไว้แบบหวาดเสียว หลับตาปี๋ไม่กล้ามองลงไป
“โอ๊ย...พี่กลัวความสูง”
ใจหวานพยายามห้ามจอร์จ
“อย่าปีนเองเลย มันอันตราย”
“ไม่เป็นไร ผมโอเคแล้ว”
จอร์จจับระเบียงไว้ได้
“ค่อยๆ นะคะหมอ ระวังด้วย ถ้าไม่ได้ก็อย่าเสี่ยงเลย”
“ผมยังไหว”
เจ้าของห้องยกมือไหว้ปะหลกๆ
“คุณพระคุณเจ้าช่วยด้วย”
จอร์จค่อยๆ ตะเกียกตะกายข้ามไปสำเร็จ ใจหวานเอามือทาบอกอย่างโล่งใจ...จอร์จกระโดดลงมาบนระเบียงห้องดำ มองเข้าไปแต่ไม่เห็น จึงเอามือป้องตามอง แล้วเขาก็ตกใจมาก
“ดำ...ดำ...”
ใจหวานตะโกนถามข้ามไป
“ดำเป็นอะไรคะ”
“ดำนอนอยู่บนพื้น เหมือนจะมีเลือดด้วย”
ใจหวานหน้าตื่น
“ตายแล้ว”
เจ้าของห้องสวดมนต์อย่างตกใจ
“พุทโธ...ธัมโม...สังโฆ...”
จอร์จพยายามจะเปิดหน้าต่างระเบียง ในที่สุดก็กระชากออกมาได้ แล้วเอาไขควงไขกรอบ
“ผมกำลังจะเข้าห้องแล้ว หวานไปรอหน้าประตูเลย ผมจะเปิดประตูให้”
ใจหวานหันมาบอกเจ้าของห้อง
“ขอบคุณพี่มากนะคะ”
เจ้าของห้องยังหลับตาปี๋สวดมนต์อยู่ ใจหวานรีบออกไป

จอร์จเข้ามาช้อนตัวดำไว้ แล้วเขย่าตัว
“ดำ...ดำ...ได้ยินฉันไหม ดำ”
ดำคอพับคออ่อน จอร์จตรวจชีพจรและลมหายใจแล้วโล่งใจ แต่ก็รีบตบหน้าดำเบาๆ ให้ฟื้น เสียงกริ่งดังขึ้น จอร์จรีบไปเปิดประตู ใจหวานรีบเข้าห้องมา
“ดำเป็นยังไงบ้างคะ”
“ไม่ได้สติเลย”
ใจหวานส่งล่วมยาให้ จอร์จหยิบเครื่องมือออกมาปฐมพยาบาล ใจหวานมองดำอย่างใจคอไม่ดี
“ดำ...โธ่...ดำ ไม่น่าเลย แกต้องไม่เป็นไรนะดำ”
จอร์จรีบใช้สเปรย์ฉีดออกซิเจนเข้าไปให้ดำ ใจหวานห้ามเลือดที่ข้อมือ

ออย แนท แอ๋ม อยู่ในคอนโด ออยหัวเราะสะใจ
“ฮ่าๆๆ ป่านนี้นังดำมันคงชักดิ้นชักงอ กระอักเลือดตายไปแล้วมั้ง”
แนทเหยียดปาก
“สมน้ำหน้า หน้าตาขี้เหร่แล้วยังอยากมีแฟนหล่อ ไม่เจียมกะลาหัว”
ออยยิ้มพอใจมาก
“ฉันรู้สันดานไอ้สมพันธุ์ดี มันเกาะนังดำได้ไม่นานหรอก ทั้งจนทั้งขี้เหร่น่าขยะแขยง”
แอ๋มหันมาถาม
“แกว่าวันนี้มันจะไปร้องเพลงได้ไหม”
“ไม่มีทาง คุณจ้อยต้องให้ฉันไปร้องแทนนังดำแน่”
ทั้งสามประสานเสียงหัวเราะกันอย่างสะใจ

เดือนแต่งตัวสวย เดินลงมาจากชั้นบน ชะงักเมื่อเห็นพ่อมองอยู่ เดือนถึงกับเดินตัวลีบ ดนัยธรถามลอยๆ
“จะไปไหน”
“เดือนจะไปร้องเพลงงานศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยค่ะ”
“ใครอนุญาต”
เดือนหน้าเจื่อน มองเขมวรรณ
“เดือนไม่ทราบว่าต้องขออนุญาต”
“ตราบใดที่ยังอยู่ในบ้านนี้ก็ต้องขออนุญาตพ่อแม่ก่อน”
“งั้นเดือนขอ...”
ดนัยธรสวนทันที
“ไม่อนุญาต”
“เดือนต้องไปค่ะคุณพ่อ ไม่งั้นจะทำให้งานเสียหมดค่ะ”
“พ่อจะไปด้วย”
เดือนชะงัก
“แต่ว่า...”
“ทำไม หรือนัดใครไว้”
เดือนอึกอัก พูดไม่ออก เขมวรรณเดินเข้ามา
“มีอะไรกันคะ”
ดนัยธรพูดกับเดือน
“เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็ง เห็นพ่อเป็นหัวหลักหัวตอ นึกจะทำอะไรก็ทำ”
เขมวรรณปราม
“นัยคะ...”
“ดูลูกคุณสิ จะไปทำอะไรที่ไหนไม่เคยขออนุญาตเลย ถ้าผมไม่เห็นก็คงไม่รู้ว่า​จะไปเต้นแร้งเต้นกาในงานบ้าบออะไรก็ไม่รู้”
เดือนพยายามอธิบาย
“เดือนไม่ต้องเต้นค่ะ เดือนร้องแต่เพลงช้า แล้วเดือนก็ขออนุญาตคุณแม่แล้ว”
ดนัยธรหันไปหาเขมวรรณ
“แล้วทำไมคุณไม่บอกผม”
“ฉันไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไรนี่คะ”
ดนัยธรไม่พอใจ
“ทำอย่างนี้อีกแล้วนะเข็ม ทุกคนเห็นผมเป็นหัวหลักหัวตอกันหมด คุณเชื่อเหรอว่าลูกจะไปร้องเพลงจริงหรือไปทำอย่างอื่น”
“ฉันคุยกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแล้วค่ะ”
“ผมจะไปดูให้เห็นกับตา คุณไปกับผมด้วย”
เดือนมองหน้ากับเขมวรรณอย่างอึดอัด

เดือนแอบมามุมหนึ่งในบ้านโทรหาไวภพ
“ไวคะ ไม่ต้องมารับเดือนแล้วนะคะ”
ไวภพแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังจะออกจากบ้าน
“อ้าว...ทำไมล่ะครับเดือน”
“คุณพ่อคุณแม่เดือนจะไปด้วยค่ะ”
“แต่ถึงยังไงผมก็จะไปให้กำลังใจเดือนที่นั่น แล้วเจอกันครับ”

ไวภพวางสายอย่างเป็นห่วงเดือน

ข้าวนอกนา ตอนที่ 20
เสียงดนตรีดังขึ้น ผู้ชมตบมือ เดือนออกมาร้องเพลง ผู้ชมตบมือให้อีกอย่างชอบใจ ดนัยธรกับเขมวรรณนั่งดูอยู่มุมหนึ่ง ไวภพยืนดูจากหน้าประตูด้านหลังดนัยธร ถัดไปเป็นใจหวานกับจอร์จ ใจหวานสงสัย

“อ้าว...นึกว่าคิวนี้ดำต้องออกมาร้องซะอีก”
“หรือว่าดำจะออกมาร้องไม่ไหว”
ทั้งสองมองไปทางหลังเวทีอย่างเป็นห่วงดำ
ออยกลับเช้ามาด้านหลังเวที
“อ้าว...ทำไมเปลี่ยนคิวล่ะเจ๊ตุ้ม...นังดำออกไปร้องไม่ไหวหรือไง”
“ไม่ใช่หรอก น้องเดือนจะรีบกลับน่ะ”
ขณะที่ทุกคนมองไปบนเวที ดำมองไปที่ไมค์ตัวหนึ่งซึ่งวางอยู่ เธอเดินไปหยิบไมค์ที่วางอยู่ แล้วเดินออกไป ตุ้มหันไปเห็น
“เอ๊ะ...ดำออกไปทำไม ยังไม่ถึง...”
จ้อยมองดำงงๆ
“ดำจะเล่นอะไรของมัน”
ออยมองอย่างหมั่นไส้
“คงอยากประกบไฮโซละสิท่า ไม่เจียมกะลาหัวเล้ย”

เดือนร้องเพลงอยู่บนเวที เสียงดำประสานออกมา เดือนชะงักแปลกใจ หันไปมองข้างเวที ดำเดินออกมายืนร้องคู่กับเดือนบนเวที ผู้ชมตบมือชอบใจ
“นั่นมันมิสดอลลี่นี่”
“ใช่ๆ เสียงดีกว่าคนที่ร้องอยู่ก่อนด้วยนะ”
ดนัยธรกับเขมวรรณมองขึ้นไปบนเวทีอย่างงุนงง
“มีร้องเพลงคู่กันด้วยเหรอ”
“ฉันก็เพิ่งรู้นี่แหละค่ะ”
เดือนมองดำงงๆ แต่ก็ต้องร้องเพลงต่อไปแม้จะรู้สึกใจคอไม่ดี เสียงเริ่มสั่น ดำเข้ามาจับมือเดือนไว้ไม่ให้กลับเข้าไปหลังเวที

ดนัยธรกับเขมวรรณเดินไปหาตุ้มหลังเวที
“ทำไมต้องให้เด็กสองคนนั้นขึ้นไปร้องเพลงคู่กันด้วย” ดนัยธรถามอย่างไม่พอใจมาก
“เอ่อ...ใจเย็นๆ นะคะท่าน คือว่า...”
ตุ้มอึกอักไม่รู้จะพูดยังไง จ้อยรีบแก้แทน
“สองคนนั้นร้องเพลงเข้าคู่กันดี คนดูก็ชอบนี่คะ”
ดนัยธรอึกอักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบอย่างหัวเสีย
“เด็กนิโกรคนนั้นไม่คู่ควรที่จะร้องเพลงคู่กับเดือน มันคนละชั้นกัน”
“ดำเป็นคนที่เสียงร้องมีพลังมากนะคะ ส่วนเดือนจะเป็นแนวเสียงหวานเสียงดีทั้งคู่แต่คนละแนว จ้อยไม่เห็นว่าจะคนละชั้นกันตรงไหน”
เขมวรรณถามเสียงเข้ม
“หวังว่าคงจะร้องเพลงด้วยกัน ไม่มีอย่างอื่นใช่ไหมจ๊ะ”
ตุ้มรีบบอก
“แค่ร้องเพลงด้วยกันเท่านั้นค่ะ”
ดนัยธรฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ

ดำกับเดือนร้องเพลงจนจบ เสียงคนปรบมือชอบใจ
“ขอบคุณทุกท่านค่ะที่ให้กำลังใจเราสองคน”
ดำยกมือไหว้ก้มหน้าขอบคุณ แต่รู้สึกมีอาการหน้ามืดเล็กน้อย ชายคนหนึ่งเข้ามาถาม
“ใช่มิสดอลลี่หรือเปล่า”
“ใช่ค่ะ ขอบคุณที่ยังจำกันได้ วันนี้หนูดีใจที่สุดที่ได้มาร้องเพลงกับพี่สาวแท้ๆของหนูเอง”
เดือนมองดำอย่างตะลึง คนในงานฮือฮา เดือนพยายามส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่...”
คนในงานหัวเราะขำ ไวภพมองเดือนอย่างนึกไม่ถึง
“เดี๋ยวขอเชิญพบกับนักร้องท่านต่อไปเลยค่ะ”
เดือนทำท่าจะเข้าไปหลังเวที แต่ดำดึงไว้

ดนัยธรจะออกไปหน้าเวที
“นังเด็กนิโกรมันพูดจาบ้าบออะไร ไหนบอกว่าแค่ร้องเพลงไง”
จ้อยกับตุ้มช่วยกันดึงไว้
“อย่าค่ะคุณอา ถ้าออกไปเรื่องจะไปกันใหญ่”
“แล้วจะปล่อยให้มันพูดจาเหลวไหลต่อหน้าคนเป็นร้อยน่ะเหรอ ฉันไม่ยอม”
“อย่าเพิ่งค่ะท่าน เดี๋ยวตุ้มออกไปจัดการค่ะ”
ออยรีบเอาหน้า
“เดี๋ยวออยจะออกไปร้องต่อเอง”
ตุ้มพยักหน้ารับ แล้วออกไป เขมวรรณจับมือกับดนัยธรอย่างลุ้นจัด
จอร์จกับใจหวานมองดำอย่างนึกไม่ถึง ใจหวานอึ้งๆ
“นังดำคิดจะทำอะไรของมัน”
ไวภพมองเดือนอย่างเป็นห่วงและตกใจปนกัน คนในงานหัวเราะเยาะไม่เชื่อดำ ผู้หญิงคนหนึ่งโพล่งออกมา
“พี่น้องอะไร สีผิวกับหน้าต่างคนละเรื่องเลย”
ผู้ชายเสริม
“มาเล่นตลกให้ดูเหรอเนี่ย”
แขกในงานส่งเสียงโห่ ดำหน้าเสียที่ทุกคนไม่เชื่อ แต่ก็ยังประกาศก้อง
“หนูพูดความจริงค่ะ เราสองคนเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน”
เดือนจะกลับเข้าหลังเวที แต่ดำดึงไว้
“พี่เดือนจะไม่ช่วยยืนยันหน่อยเหรอ ว่าเราเป็นพี่น้องกันจริงๆ”
ตุ้มออกมา ดึงไมค์จากเดือนแล้วประกาศ
“ขอบคุณค่ะ ขอเสียงปรบมือให้กับดำและเดือนด้วยค่า”
ทุกคนตบมืองงๆ ตุ้มจะดึงดำเข้าไป เดือนรีบเข้าไปก่อน ดำเริ่มรู้สึกไม่ดี มองไปรอบๆ ด้วยใบหน้าซีดเซียว สายตาดำ เห็นรอบข้างเริ่มเบลอ ภาพคนในงานที่จับจ้องมาเหมือนปีศาจร้ายที่กำลังหัวเราะดังลั่น ในที่สุดดำก็ล้มพับไปบนเวที ทุกคนตกใจ จอร์จตะลึง
“ดำ”
จ้อยหันไปมองไปอย่างตะลึง
“ตายแล้ว...”
ออยยิ้มเยาะดำ
“สงสัยจะอยากดังจนตัวสั่น”
ดนัยธรมองดำอย่างสะใจ
“ตื่นเต้นจนเป็นลมไปแล้ว”
เขมวรรณยิ้มออกมาได้
“โชคเข้าข้างเราแล้วค่ะนัย”
เดือนกลับเข้ามา โผเข้ากอดเขมวรรณ
“คุณแม่ขา...”
เขมวรรณลูบหลังลูบไหล่ปลอบ
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเด็กนั่นถึงได้พูดแบบนั้นบนเวที”
เดือนส่ายหน้า
“เดือนก็ไม่รู้ค่ะ” เดือนน้ำตาไหล “เดือนก็งง ตั้งตัวไม่ติดเหมือนกัน”
ดนัยธรหันไปต่อว่าจ้อย
“ไหนบอกว่าแค่ร้องเพลงคู่กันไง”
จ้อยยกมือไหว้
“จ้อยขอโทษค่ะคุณอา จ้อยก็ไม่รู้ว่าดำมันจะพูดแบบนั้น จ้อยไม่รู้เรื่องเลยนะคะ”
“ไม่รู้เรื่องได้ยังไง คอยดูนะ ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปข้างนอก ฉันจะฟ้องเธอกับนังนิโกร เรียกค่าเสียหายให้เข็ด”
จ้อยถึงกับหน้าซีดอย่างหวาดกลัว ดนัยธรรีบเข้าไปดึงกึ่งกระชากแขนเดือน
“กลับไปคุยต่อที่บ้าน”
ดนัยธรกับเขมวรรณรีบพาเดือนออกไป

ตุ้มร้องโวยวาย และเขย่าตัวดำ
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ดำเป็นอะไรก็ไม่รู้”
ผู้คนกรูกันมาที่หน้าเวที แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ดำ จอร์จแหวกผู้คนเข้ามา
“ขอทางหน่อยครับ ผมเป็นหมอครับ”
จอร์จเข้ามาถึงตัวดำ เปิดเปลือกตาและตบหน้าดำเบาๆ สองสามที
“ดำ...ดำ เป็นยังไงบ้าง”
ดำยังไม่ได้สติ จอร์จบอกกับตุ้ม
“ผมจะพาดำไปโรงพยาบาล”
จอร์จช้อนตัวดำขึ้นมา แล้วอุ้มออกไป ใจหวานตามไป ตุ้มรีบไปหยิบไมค์ประกาศ
“ทุกท่านกลับสู่ความสงบนะคะ ขอเชิญฟังเพลงต่อไปจากนักร้องสุดเซ็กซี่ของเราเลยค่า”
ตุ้มกลับเข้าไปอย่างร้อนรน เสียงดนตรีดังขึ้น ออยออกมาบนเวที
“เชิญแขกผู้มีเกียรติและศิษย์เก่าทุกท่าน ฟังเพลงต่อไปเลยนะคะ”

ออยเริ่มร้องเพลง แต่ตาก็มองตามดำไปอย่างอยากรู้อยากเห็น

ไวภพลงมาจากชั้นบน กำลังจะออกไปข้างนอก ก็ต้องชะงักฟังเมื่อได้ยินเสียงวนิดาพูดอย่างตื่นเต้น

“โธ่เอ๊ย...ที่แท้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดหรอกเหรอ”
“อะไรกันครับแม่”
“ก็ข่าวที่ว่าลูกสาวอธิบดีดนัยธรไม่ใช่ลูกแท้ๆน่ะสิ กลายเป็นโอละพ่อ ยัยนิโกรที่เคยออกมาประกาศดันกลับคำ บอกว่าเป็นการเข้าใจผิดซะแล้ว”
“ไหนครับ ผมขอดูหน่อย”ไวภพเดินเข้าไปดู
วนิดาเปิดให้ไวภพดูภาพข่าวจากไอแพด
“นี่ไง เขาลงข่าวเล็กๆในซุบซิบนี่”
ไวภพยิ้มออกมาทันที
“ยิ้มอะไรเหรอไว”
“เปล่านี่ครับ ผมไปก่อนนะครับ”
ไวภพออกไปอย่างอารมณ์ดี วนิดามองตามงงๆ

ไวภพเดินมาพลางชะเง้อมองหาใครบางคน พอเห็นก็เข้าไปหาอย่างดีใจ
“เดือน...”
เดือนเงยหน้าขึ้นจากแก้วน้ำผลไม้ พอเห็นไวภพก็แปลกใจนึกไม่ถึง แล้วเก็บหนังสือทำท่าจะออกไป เขารีบดึงแขนเธอไว้
“เดี๋ยวก่อนสิครับ คุยกันก่อน”
“ปล่อยนะ เราไม่มีอะไรจะคุยกัน”
“ผมขอโทษ...เรื่องเมื่อคืน ผมเมาไปหน่อย”
เดือนอ่อนลง
“คุณไปที่ผับนั้นทำไม ติดใจนักร้องคนไหนเหรอ”
“เปล่าเลย ผมไปเพราะกลุ้มใจต่างหาก”
“ทำไมคะ ไวรังเกียจเดือนใช่ไหม ถ้าเดือนไม่ใช่ลูก...ของคุณพ่อ คุณแม่”
“เปล่า ผมแค่สับสน อยากรู้ความจริงเท่านั้นเอง”
“ไวก็รู้แล้วนี่คะ”
ไวภพจ้องมองเดือนอย่างหวานซึ้ง จับมือไว้
“ครับ ผมรู้แล้วยิ่งห่างเดือนเท่าไร ก็ยิ่งทรมานใจเท่านั้น”
เดือนกลั้นยิ้ม
“เลี่ยน...”
“ถึงเลี่ยนก็เลี่ยนกับเดือนคนเดียว”
เดือนกลั้นไม่ไหวยิ้มออกมา ไวภพดีใจมากที่ง้อเธอได้สำเร็จ

ดำนั่งลงตรงหน้าจ้อย ในห้องทำงาน
“คุณจ้อยเห็นหรือยังคะ ว่าหนูยอมแก้ข่าวให้แล้ว”
จ้อยมองดำอย่างมึนตึง
“เห็นแล้ว”
“หนูกับซูซี่ พี่หวานกลับมาร้องเพลงได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ใช่”
“ขอบคุณค่ะคุณจ้อย งั้นหนูจะไปแต่งตัวเลย”
ดำทำท่าจะออกไปด้วยความดีใจ
​“เดี๋ยวก่อน”
ดำชะงัก หันกลับมา จ้อยลุกขึ้น
“ถึงจะกลับมาร้องเพลงได้ แต่ฉันต้องคาดโทษเธอ ที่ก่อเรื่องมาตลอด”
“หนูไม่ได้ก่อเรื่องนะคะ นังออยนั่นแหละ...”
“ไม่ต้องมาเถียง ไม่ใช่แค่เรื่องนังออยเรื่องเดียว เรื่องทุกอย่างที่เธอทำมันเดือดร้อนฉันด้วย”
“หนูขอโทษคุณจ้อยก็แล้วกันค่ะ”
“แค่ขอโทษมันไม่พอหรอก เธอต้องไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะไล่เธอออกทันที”
จ้อยจ้องหน้าดำอย่างเอาจริง ดำเชิดหน้านิดๆ
“รับทราบค่ะคุณจ้อย”
ดำเดินออกไป จ้อยมองตามอย่างไม่แน่ใจว่าดำจะทำได้อย่างที่พูด

ดำนั่งแต่งหน้าอยู่ในห้องแต่งตัว ออยเข้ามาเห็นก็งงๆ
“แกโดนพักงานอยู่ไม่ใช่เหรอนังดำ”
“คุณจ้อยให้ฉันกลับมาทำงานได้แล้ว”
ใจหวานกับซูซี่พูดพร้อมกัน
“รวมทั้งพวกฉันด้วย”
ออยหันไป เห็นใจหวานกับซูซี่เดินเข้ามาในชุดเตรียมร้องเพลง ออยมองอย่างเจ็บใจ
“ดูหน้าตาของเธอจะซูบซีดเชียว พวกฉันไม่อยู่คงทำงานหนักมากสินะ”
ออยลุกขึ้นกระแทกไหล่ใจหวาน แล้วกระแทกเท้าออกไป ดำกับใจหวานและซูซี่หัวเราะไล่หลังอย่างสะใจ

ออยกรีดร้องอย่างเจ็บใจ ขณะที่หลบอยู่มุมหนึ่งของผับกับแอ๋มและแนท
“เจ็บใจว่ะ นึกว่าพวกอีดำโดนเด้งออกไปแล้ว มันยังหน้าด้านกลับมาอีก”
“มากันครบแก๊งเลยด้วยว่ะ” แอ๋มหงุดหงิดไปด้วย
“วันนี้คุณไวภพก็ไม่มาอีก โอ๊ย...จะบ้าตาย อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจเลย” ออยโวยวาย
“เขาเสร็จแกหรือยัง”
“ยังน่ะซี่ ใจแข็งเป็นบ้า”
“ใจเขาแข็งหรือแกอ่อนปวกเปียกกันแน่วะ” แนทออกความเห็น
“อีบ้า...แต่เขารวยโคตรเลยนะโว้ย แค่เล่าเรื่องอีดำให้ฟังก็ให้ทิปซะบานเบอะ”
“ทำไมเขาสนใจเรื่องอีดำนัก หรือชอบของดำอีกคน” แอ๋มสงสัย
“ไม่ใช่ เขาสนเพราะอยากรู้ว่าอีดำเป็นพี่น้องกับเด็กเขาหรือเปล่า ฉันก็จัดเต็ม​ไปซะ ว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ อีดำดันมายอมพลิกลิ้นซะอีก เซ็งว่ะ เป็นเพราะอีดำคนเดียว อยากตบล้างน้ำมันซะให้หายแค้น” ยิ่งพูดออยยิ่งแค้น
“ใจเย็นๆ ออย สักวันคนอย่างอีดำมันต้องพลาดอีกแน่”
“ฉันไม่รอให้พลาดอีกหรอก ฉันรอไม่ไหว”
ออยคิดวางแผนชั่วร้ายทันที

วันใหม่ ดำกลับมาที่อพาร์ทเม้นต์ หลังจากออกไปกินข้าวมา เธออึ้งไปเมื่อเห็นจอร์จประคองใจหวานเข้ามาอย่างทะนุถนอม พร้อมกับถือถุงยามาด้วย
“เดินระวังๆ หน่อยนะหวาน”
“แหม...ทำอย่างกับหวานท้อง 5-6 เดือน”
“ท้องกี่เดือนก็ระวังไว้ดีกว่า”
ดำรู้สึกปวดแปลบขึ้นมาในใจ หน้าเศร้าไป จอร์จหันมาเห็น
“อ้าวดำ มายืนทำอะไรตรงนี้”
ดำทำเป็นร่าเริงเข้าไปหาทั้งสอง
“เพิ่งไปกินข้าวมา สองคนไปไหนกันมาคะ”
“หมอพาพี่ไปฝากท้อง แล้วก็อัลตร้าซาวนด์ด้วย”
“รู้หรือยังว่าได้ลูกสาวลูกชาย” ดำถามอย่างตื่นเต้น
“ยังหรอก เพิ่งจะ 10 สัปดาห์เอง แต่ก็บอกใจหวานให้ระวังหน่อย เวลาร้องเพลงอย่าเต้นหักโหมนัก” จอร์จบอกอย่างเป็นห่วง
“พี่หวานน่ะชอบร้องเพลงเต้นท่าเซ็กซี่ ต่อไปนี้ต้องลดดีกรีความเซ็กซี่ลงบ้างแล้ว เดี๋ยวหนูจะคอยดูแลพี่หวานเอง”
“แกน่ะเหรอจะมาดูแลฉัน เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ” ใจหวานรู้สึกดีที่ดำเป็นห่วง แต่ก็แกล้งว่า
“โธ่...พี่หวาน หนูน่ะหัดเอาตัวรอดมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว”
“ที่จริงเดือนหน้า หวานควรจะหยุดร้องเพลงแล้วด้วย”
ใจหวานถอนใจ
“แล้วหวานจะเอาอะไรกินละคะหมอ ไหนจะต้องเก็บเงินเป็นค่าผ้าอ้อมค่านมลูกอีก”
“เราค่อยๆ หาทางคิดกันไปนะ มันน่าจะมีทางออก”
จอร์จโอบใจหวานแบบไม่คิดอะไร ใจหวานมองอย่างประทับใจ แต่ดำรู้สึกเจ็บแปลบในใจแบบแปลกๆ ซึ่งดำก็ไม่เข้าใจตัวเอง

จอร์จกับดำช่วยกันพาใจหวานเข้ามาในห้อง
“เดี๋ยวผมไปสอนหนังสือก่อน อย่าลืมกินยาบำรุงตามที่หมอสั่งล่ะ”
“ค่ะหมอ”
จอร์จวางถุงยาไว้แล้วออกไป ใจหวานมองตามอย่างปลาบปลื้ม ดำมองตาม
“ครูจอร์จเป็นคนดีมากเลยนะพี่หวาน”
“เรียกว่าประเสริฐเลยแหละแกเอ๊ย ทำอย่างกับเป็นพ่อเด็กซะเอง แถมพอเด็กคลอดออกมาเขายังจะรับรองเป็นพ่อให้ด้วย แต่ฉันยังไม่ยอม”
“ทำไมล่ะพี่หวาน”
“ฉันไม่อยากเป็นภาระของเขา เผื่อเขาจะมีครอบครัวของตัวเอง ว่าแต่แกเถอะ เขาดีขนาดนี้แล้วยังไม่คิดจะชอบเขาอีกเหรอ”
“หนูไม่คู่ควรกับคนดีๆ อย่างเขาหรอก”
“เฮ้อ...ฉันรู้นะแกยังฝังใจกับเรื่องเก่าๆ ยังไม่ลืมไอ้สมพันธุ์ใช่ไหม”
ดำก้มหน้าถอนใจเศร้า
“มันหลายเรื่องน่ะพี่หวาน”
​“ตามใจนะ ถ้าแกยังไม่สนใจเขา อีกหน่อยเขาก็คงไปสนใจคนอื่นเหมือนกัน”

ดำนิ่งอั้นไป ใจหวานส่ายหน้ามองดำอย่างไม่เข้าใจ



ข้าวนอกนา ตอนที่ 20 (ต่อ)

​กุหลาบซึ่งในเวลานี้ทั้งแก่และโทรมลงมาก มาด้อมๆ มองๆ หน้าบ้านเขมวรรณ เธอชะเง้อมองหาเดือน

​“มาหาใคร”ขจิตถาม
​กุหลาบหันกลับไปอย่างดีใจ แต่แล้วสีหน้าเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเมื่อเห็นว่าเป็นใคร ขจิตซึ่งไปเดินออกกำลังกายมา มองกุหลาบหัวจรดเท้าอย่างรู้สึกคุ้นหน้า พอนึกได้ก็ตกใจ
“ฉันจำแกได้ แก...แกกลับมาอีกทำไม”
“ฉันอยากมาเห็นหน้าลูกฉัน”
“แกไม่มีสิทธิ์เจอหน้าลูกแก แกเซ็นสัญญายกลูกให้พ่อกับแม่ใหม่เขาแล้ว”
“ฉันแค่อยากเห็นว่าโตขึ้นเขาเป็นยังไง อยู่สุขสบายดีหรือเปล่า
​“เขาอยู่สุขสบายดีมาก แกไม่ต้องมาดูหรอก”
“เดือนอยู่บ้านหรือเปล่า”
“ไม่อยู่ ถึงอยู่เขาก็ไม่อยากเจอแก เขาไม่คิดว่ามีแม่อย่างแกอยู่ในโลกนี้ แกกลับไปได้แล้ว”
กุหลาบมองไม่พอใจ
“อย่าใจร้ายไปหน่อยเลยคุณนาย ฉันขอเห็นหน้าลูกอีกสักครั้งเท่านั้นเองคุณนายก็เป็นแม่คนน่าจะเข้าใจหัวอกแม่ด้วยกัน”
“ก็เพราะฉันเป็นแม่คนน่ะสิ เลยเข้าใจว่าแกเป็นแม่ที่เลวที่สุด ขายลูกตัวเองได้ลงคอ เงินหมดแล้วล่ะสิถึงได้ซมซานกลับมา”
“ฉันอยากจะมาเจอลูกฉัน ไม่ได้มาเอาเงิน”
“ฉันไม่เชื่อน้ำหน้าผู้หญิงชั้นต่ำอย่างแกหรอก”
“ฉันจะโพนทะนาให้ทั่วว่าคุณนายกีดกันไม่ให้ฉันเจอลูก”
ขจิตชี้หน้ากุหลาบ
“ก็ลองดูสิ พวกฉันจะฟ้องแกติดคุกหัวโตเลย แกไปให้พ้น ไม่งั้นฉันจะเรียกรปภ.หมู่บ้านมาจับแกโยนออกไป ไป!”
กุหลาบไม่ยอมไป ขจิตร้องเสียงดัง
“ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยเรียก รปภ.ที มีคนบ้าจะทำร้ายฉัน”
ชาวบ้านหันมามองแล้วทำท่าจะเข้ามาช่วยขจิต กุหลาบยอมออกไป แต่ในใจนั้นไม่ยอมแพ้

ขจิตเข้าไปในบ้าน มองหาเขมวรรณพลางร้องเรียก
“ยัยเข็ม...ยัยเข็ม...”
แต่แล้วขจิตก็หยุดกึก เมื่อเห็นซองยาซึ่งวางอยู่ข้างแก้วน้ำที่ดื่มไปแล้ว ขจิตหยิบขึ้นมาดู หน้าเสียกว่าเดิม
“ถึงกับต้องกินยาแก้เครียดเลยเหรอยัยเข็ม”
ขจิตวางซองยาลง เป็นห่วงเขมวรรณจับใจ เปลี่ยนใจยังไม่บอกเขมวรรณเรื่องที่เกิดขึ้น

เดือนเดินออกมาที่หน้ามหาวิทยาลัย มองหาไวภพ
“เดือนลูกแม่...” เสียงกุหลาบดังขึ้น
เดือนชะงัก หันไปมองอย่างตกใจ กุหลาบในสภาพผอมโซโผเข้ามาหา
“ในที่สุดแม่ก็ได้เจอหนูซะที แม่คิดถึงหนูเหลือเกิน”
เดือนจำได้ แต่รีบขยับตัวออกห่าง ไม่กล้าเข้าใกล้ เกรงสายตาคนที่มองมา
“คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ ฉันไม่ใช่ลูกคุณหรอกค่ะ”
กุหลาบขยับใกล้เดือน
“เดือนจำแม่ได้เหรอลูก นี่แม่กุหลาบ แม่แท้ๆ ของหนูไง”
เดือนส่ายหัวดิก ถอยห่างออกมาอีก ทำท่าจะหนี
​“คุณไม่ใช่แม่ฉัน ขอตัวนะคะ”
เดือนเดินหนี กุหลาบรีบตาม
“เดี๋ยวสิ เดือน...เดือนลูกแม่ เดือน...”

เดือนเดินไปเหลียวหลังไปจนชนกับไวภพ
“เดือน...มีอะไรหรือเปล่า ท่าทางเหมือนหนีอะไรอยู่”
“มีผู้หญิงท่าทางแปลกๆ คนนึงตามเดือนมา น่ากลัวจัง”
ไวภพหันไปมอง เห็นกุหลาบมองเห็นเดือน กำลังจะเข้ามา
“คนนั้นใช่ไหม”
เดือนพยักหน้า แล้วรีบหันหนีกุหลาบไม่ให้เห็นหน้า ไวภพบังไว้
“หลบไปก่อน”
ไวภพกันเดือนหลบไปทางมุมตึก กุหลาบชะเง้อมอง ไม่เห็นเดือนแล้ว
“คุณเห็นผู้หญิงคนนึงผมยาวผิวขาว หน้าตาลูกครึ่งผ่านมาแถวนี้หรือเปล่า”
“เห็นครับ ไปทางโน้นครับ”
ไวภพชี้ให้ไปอีกทาง กุหลาบเดินไปทางนั้น เดือนมองตามโล่งใจ

ไวภพจูงเดือนหลบออกมาอีกด้าน
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
​“เดือนไม่รู้จักเขาเลย”
“หน้าตาเหมือนคนสติไม่ดี เดือนต้องระวังหน่อยนะ อย่าไปคุยกับคนแปลกหน้า สมัยนี้ไม่น่าไว้ใจ”
เดือนพยักหน้า แล้วยังหันไปรอบๆ อย่างหวาดระแวงแต่ก็รู้สึกผิดลึกๆในใจ เพราะรู้ดีว่าเป็นใคร
“ผู้หญิงคนนั้นคงไปแล้ว เรารีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันรอบหนัง”
เดือนพยักหน้า ไวภพจูงมือเดือนออกไปอย่างหวานชื่น

หลังจากดูหนังจบ ไวภพพาเดือนออกมานั่งกินไอศกรีมกันภายในร้านของห้างสรรพสินค้า
“หนังเรื่องนี้สนุกดีนะ ชอบพระเอกน่ารักดี”
“น่ารักกว่าผมหรือเปล่า”
เดือนค้อนๆ
“นิดนึง”
“ผมหึงนะ”
“หึงแม้กระทั่งดาราเหรอคะ”
“หึงทุกคนที่เดือนชอบมากกว่าผมนั่นแหละ”
“แล้วทียัยนักร้องในผับนั่นละคะ เดือนไม่เห็นหึงเลย”
“บอกแล้วว่าไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”
“ไม่เชื่อ”
“ไวภพ”
เสียงวนิดาดังขึ้น ไวภพหันไปมองอย่างแปลกใจ
“คุณแม่...”
วนิดาเดินเข้ามา
“แหม...พาสาวมาออกเดทอยู่นี่เอง”
ไวภพกับเดือนมองหน้ากันเขินๆ
“คุณแม่ผมครับเดือน..นี่เดือนครับคุณแม่” ไวภพแนะนำทั้งสอง
เดือนยกมือไหว้วนิดา วนิดารับไหว้ พลางมองหน้าอย่างพิจารณา
“เดือน...ใช่เดือนไขแสง ลูกอธิบดีดนัยธรที่เพิ่งเป็นข่าวหรือเปล่าจ๊ะ”
“ใช่ครับ”
“แย่หน่อยนะหนู จู่ ๆ ก็มีคนมาแอบอ้างว่าเราเป็นพี่น้องกับเขา ทั้งที่หน้าตาคนละเรื่องเลย เด็กนิโกรนั่นจะแอบอ้างใครก็น่าจะหาหน้าตาใกล้เคียงกันหน่อย” วนิดาบอกอย่างเห็นใจ
“ค่ะคุณป้า”
“เดี๋ยวแม่ต้องไปธุระต่อแล้ว นัดกับเพื่อนไว้ ว่างๆ ให้นายไวพาไปเที่ยวบ้านนะจ๊ะ จะได้คุยกันนานๆ...แม่ไปละ อย่าพาหนูเดือนเที่ยวดึกนักล่ะ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่เขาจะเป็นห่วง”
“คร้าบคุณแม่”
เดือนยกมือไหว้ วนิดารับไหว้ แล้วเดินแยกไป เดือนมองตามอย่างแอบเครียด

ใจหวานร้องเพลงอยู่บนเวที เป็นเพลงเร็วแต่ใจหวานเต้นแบบเบาๆ และแอบนิ่วหน้าอย่างรู้สึกเวียนหัว เสียงเริ่มสั่นเครือ ลูกค้ามองอย่างสงสัย
“วันนี้ใจหวานเต้นไม่มันเลยว่ะ เสียงก็เหมือนหมดแรง”
อีกคนตะโกน
“ขอแด๊นซ์มันๆหน่อยใจหวาน”
ใจหวานพยายามเต้นแต่ไม่กล้าออกสเต็ปมาก ซูซี่ซึ่งนั่งคุยกับแขกอยู่ข้างล่างสังเกตเห็น จึงบอกกับลูกค้า
“ขอโทษนะคะ วันนี้พี่หวานไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวซูซี่เต้นแทนนะคะ”
ซูซี่ขึ้นไปเต้นท่าฮาเล็มเชค ลูกค้าเต้นไปด้วยอย่างเมามัน แต่ใจหวานรู้สึกเพลียจนร้องต่อไม่ค่อยไหว ดำซึ่งรอร้องเพลงต่อไปถือไมค์อีกตัวเข้ามาร้องไปกับใจหวาน แล้วขยิบตาให้ใจหวานเข้าไปด้านใน
ขณะเดียวกันในห้องแต่งตัว ออย แนทและแอ๋มแอบเข้ามาในห้อง มองหารองเท้าของดำ
“เจอแล้ว นี่ไงออย”
ออยหยิบรองเท้าของดำมา
“เดี๋ยวนังดำมันต้องใส่คู่นี้ใช่ไหม”
“ใช่ เพลงต่อไปมันต้องเต้นเยอะ มันจะใส่คู่เตี้ยหน่อย”
ออยยิ้มกระหยิ่ม มองซ้ายมองขวา แล้วบอกกับแอ๋ม
“แกไปดูหน้าประตู”
แอ๋มพยักหน้า รีบไปเฝ้าหน้าประตู ออยเอาส้นรองเท้าข้างหนึ่งฟาดกับอีกข้างจนส้นอีกข้างร่องแร่งแต่ยังไม่หลุด ออยกับแนทแปะมือกันสะใจ
“เดี๋ยวมันได้หน้าแหกกลางเวทีแน่”
แอ๋มรีบเข้ามาบอกหน้าตาตื่น
“มาแล้วๆ นังใจหวานมา”

ออยกับแนทรีบทำตัวปกติ ใจหวานเดินเข้ามา พอเห็นพวกสามคนก็มองอย่างไม่ไว้ใจ ออยเบะปากใส่ใจหวาน แล้วแกล้งทำเป็นแต่งตัวเหมือนไม่มีอะไร

​23.3 (ต่อ) ออยเข้ามาหาจ้อยในห้องทำงาน บอกมีเรื่องจะคุยด้วย

“มีอะไรเหรอออย นังดำมันวุ่นวายอะไรอีกหรือเปล่า” จ้อยถามทันที
​“คืองี้ค่ะ ออยยังได้ยินนังดำมันบ่น ว่าที่นี่ให้เงินน้อย มีผับอื่นจะดึงตัวมันไป แล้วมันก็จะเอาใจหวานกับซูซี่ไปด้วย”
​“แล้วพวกมันกลับมาหาฉันทำไม”
“ออยก็ไม่แน่ใจนะคะ แต่เดาว่ามันคงกะจะดึงลูกค้าจากที่นี่ไปด้วย แบบว่าไม่ยอมหายไปเฉยๆ ค่ะคุณจ้อย”
จ้อยเลือดขึ้นหน้า กำมือแน่นอย่างรู้สึกโกรธ
“อีพวกนี้เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ ถ้าเลี้ยงไว้เสียข้าวสุก ฉันก็จะปล่อยให้มันไปหากินเอาเอง”
ออยลอบมองหน้าจ้อยที่มีท่าทีเชื่อในสิ่งที่เธอพูด ก็ยิ้มอย่างพอใจ

ใจหวานนั่งหมดแรงอยู่ในห้อง ดำกับซูซี่กลับเข้ามา
“พี่หวานเป็นไงมั่ง”
“รู้สึกเหมือนจะหน้ามืด”
“ยังแพ้อยู่อีกเหรอ”
“นิดหน่อยน่ะ”
“อย่างนี้ไม่นิดแล้วพี่หวาน ถ้าไม่ไหวบอกนะ ฉันจะไปร้องแทน”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากให้คุณจ้อยรู้ เดี๋ยวจะสั่งให้หยุดร้องไปเลย”
“แต่พี่หวานก็ต้องห่วงลูกในท้องบ้าง” ดำกังวล
“ไม่ต้องห่วงหรอก มันแข็งแรงจะตาย มันต้องเข้มแข็งเหมือนแม่มัน”
ดำกับซูซี่มองใจหวานอย่างเป็นห่วง ดำไปหยิบรองเท้าคู่ที่ออยทำหักออกมา
“เอางี้นะพี่หวาน เดี๋ยวพี่ใส่รองเท้าคู่นี้ของหนูขึ้นไปร้องดีกว่า”
“ก็ดีเหมือนกัน ใส่ส้นเตี้ยหน่อยจะได้ไม่ต้องกังวลมาก”
ดำเอารองเท้าให้ใจหวานสวม

มุมหนึ่งในผับ ออยแปะมือแนทกับแอ๋ม
“แกนี่มันเจ๋งจริงว่ะนังออย ฟ้องทีเดียวเล่นงานได้ทั้งสามตัวเลย”
ออยยิ้มเยาะ
“ฮึ่ม...พวกมันนึกว่าตัวเองแน่ที่กลับมาได้ คราวนี้มันต้องโดนเฉดหัวออกไปยกแก๊ง”
“สมน้ำหน้า เราเตรียมดูความหายนะของพวกมันเลยดีกว่า ฮ่าๆๆ”
ทั้งสามหัวเราะอย่างสะใจ
ใจหวานออกมาร้องเพลงช้าๆ อย่างซาบซึ้งกินใจบนเวที ส้นรองเท้าที่ใจหวานสวมอยู่เริ่มเพยิบออกมา เธอรู้สึกผิดปกติ จึงพยายามไม่ขยับมาก ซูซี่เห็นท่าไม่ดี ขึ้นไปคว้าไมค์ช่วยใจหวานร้องเพลง
แขกในผับเริ่มไม่พอใจ
“เอ๊ะ...ทำไมวันนี้ซูซี่กับดำ ผลัดกันขึ้นมาร้องแทนใจหวาน เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ร้องไม่จบเพลงแบบนี้ เอาเปรียบกันนี่หว่า”
แขกเริ่มส่งเสียงโห่ ใจหวานรีบกลับเข้าไป แต่เกิดส้นรองเท้าหลุด สะดุดล้มตกบันไดเวทีดังโครม แล้วกลิ้งลงมาที่พื้น
“ว้าย...พี่หวาน”
แขกส่งเสียงอื้ออึงตกใจ

ดำส่องกระจกตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่ในห้องแต่งตัว พอได้ยินเสียงเอะอะก็ตกใจ รีบออกไปทันที แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นแอ๋มกับแนทคุยกัน
“ออยมันตั้งใจจะเล่นนังดำ ทำไมกลายเป็นนังหวานไปได้วะ”
“สงสัยมันจะสลับรองเท้ากัน”
แอ๋มพยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นต้องให้ออยหาวิธีเล่นอีดำทางอื่น”
ดำสงสัยว่าสองคนนี้คุยอะไร จะออกไปถาม แต่ทั้งสองรีบออกไปดูเหตุการณ์ก่อน
“พี่หวาน...พี่หวานเป็นยังไงมั่ง”ซูซี่ร้องอย่างตกใจ
ดำรีบออกไปดู ทันทีที่เห็นหวานใจกองอยู่ที่พื้นก็รีบเข้าไปช่วย
“พี่หวานเป็นยังไงบ้าง”
ใจหวานแทบลุกไม่ขึ้น ดำกับซูซี่ช่วยกันประคองใจหวานเข้าไปข้างใน จ้อยออกมาดูเหตุการณ์
“เกิดอะไรขึ้น”
ออยรีบเข้ามารายงาน
“หวานมันสะดุดรองเท้าตัวเองล้มน่ะค่ะ”
“โอ๊ย...น่าขายหน้าจริงๆ มีแต่เรื่องปวดหัว” จ้อยส่ายหัวเซ็งๆ
ออยมองตามใจหวานอย่างสะใจ

ดำกับซูซี่ช่วยกันประคองใจหวานเข้ามานั่งพักในห้องแต่งตัว
“แย่แล้ว พี่หวานเลือดออก”
ซูซี่ร้องบอก ทุกคนมองไป เห็นใจหวานมีเลือดออกมาจากกระโปรง
“รีบพาพี่หวานไปโรงพยาบาลเถอะ” ดำบอก
ทั้งสองจะพาใจหวานออกไป แต่จ้อยเข้ามาเสียก่อน
“จะไปไหนกัน”
“พี่หวานเอ่อ...”
ซูซี่ไม่กล้าพูด ดำตัดสินใจบอก
“พี่หวานตกเลือดค่ะคุณจ้อย”
“ตกเลือด? หมายความว่าไง ใจหวานท้องเหรอ”
ดำกับซูซี่มองหน้ากัน ไม่กล้าพูดอะไร จ้อยโวยวายทันที
“โอ๊ย...ท้องแล้วยังจะมาร้องเพลงอีก พวกแกนี่วุ่นวายจริงๆ”
“พวกหนูจะพาพี่หวานไปโรงพยาบาลก่อนนะคะ”
“แล้วใครจะร้องเพลงต่อล่ะ”
“ให้พวกนังออยร้องไปก่อนสิคะ”
ดำกับซูซี่ประคองใจหวานออกไป จ้อยมองตามอย่างหมายหัวไว้
“งั้นก็ให้นังออยมันร้องแทนไปตลอดก็แล้วกัน”

ใจหวานร้องไห้เสียใจเมื่อรู้ว่าแท้งลูก ขณะที่นอนพักอยู่ในห้อง ดำกับซูซี่และจอร์จช่วยกันปลอบ
“พี่หวานอย่าเสียใจเลย เด็กคงไปสบาย ไม่ต้องมาลำบากอย่างพวกเราแล้ว”
​ใจหวานสะอื้น
“ถึงตอนแรกฉันจะไม่อยากได้เขา แต่ยิ่งนานวันฉันก็ยิ่งผูกพัน ฉันตั้งใจจะเลี้ยงเขาให้เป็นคนดี คิดว่าอีกเจ็ดเดือนเราจะได้เจอหน้ากันแล้ว”
“หวานอย่าคิดมาก เดี๋ยวหมอสูติขูดมดลูกแล้ว รักษาร่างกายให้แข็งแรง อีกหน่อยก็มีลูกได้อีก” จอร์จปลอบ
“หวานคงไม่อยากมีอีกแล้ว ขอโทษนะลูก ที่แม่เคยเสือกไสไล่ส่งหนู แม่ขอโทษ...” หวานจับท้องตัวเอง
ดำมองหวานอย่างสงสาร
“หนูก็ต้องขอโทษพี่หวานเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะหนูให้เปลี่ยนรองเท้าพี่หวานก็คงไม่...”
ดำเม้มปากแน่น อย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์
​“ไม่เกี่ยวกับแกหรอกดำ แกไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ”
ดำนึกถึงเหตุการณ์ ที่ได้ยินออยกับแนทคุยกัน
‘ออยมันตั้งใจจะเล่นนังดำ ทำไมกลายเป็นนังหวานไปได้วะ’
‘สงสัยมันจะสลับรองเท้ากัน’
‘งั้นต้องให้ออยหาวิธีเล่นอีดำทางอื่น’
นึกแล้วดำเลือดขึ้นหน้าทันที
“แต่อาจจะมีคนตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้น”
“แกหมายถึงใคร”
ดำไม่ตอบคำถาม แต่หันไปบอกจอร์จ
“ครูจอร์จกับซูซี่ดูแลพี่หวานไปก่อนนะ เดี๋ยวหนูมา”
“ดำจะไปไหน”
จอร์จถาม ดำเดินออกไป ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน

ดำกำมือแน่นอย่างแค้นใจ จอร์จตามมาคว้ามือดำไว้
“ดำจะไปไหน”
“หนูจะกลับไปคุยกับคุณจ้อยที่ผับ”
“จะคุยเรื่องใจหวานน่ะเหรอ อย่าเพิ่งเลยดำ ไว้พรุ่งนี้ก็ได้”
“หนูรอไม่ได้”
“งั้นฉันไปด้วย”
“อย่าเลยค่ะครู เดี๋ยวซูซี่กับพี่หวานจะสงสัย แล้วซูซี่ตามไปอาจโดนลูกหลงคุณจ้อยไปด้วย บอกสองคนนั้นแค่ว่าหนูกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก็แล้วกัน”
ดำเดินออกไปอย่างมุ่งมั่น จอร์จมองตามกลุ้มใจและเป็นห่วงดำ

ดำเปิดประตูผลัวะเข้ามาในห้อง จ้อยมองดำอย่างแปลกใจที่เห็นดำกลับมา
“อ้าวดำ...กลับมาอีกทำไม เกิดอะไรขึ้นกับใจหวานหรือเปล่า”
“พี่หวานแท้ง...”
“ใจหวานรู้ตัวว่าท้องก็ไม่น่าจะมาร้องเพลงเลย”
“ที่จริงพี่หวานไม่น่าจะเป็นอะไร แต่มีคนจงใจแกล้งหนู แล้วพี่หวานรับเคราะห์แทน”
“ใครแกล้งแก”
“พวกนังออย มันหักรองเท้าหนู แต่พี่หวานขอยืมรองเท้าหนูไปใส่ ก็เลยล้มคาเวที”
จ้อยตก แต่ก็ยังไม่เชื่อนัก
“รู้ได้ยังไง”
“หนูแอบได้ยินนังแอ๋มกับนังแนทคุยกัน”
“งั้นก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน”
“จะให้มีหลักฐานยังไงคะ ตรวจลายนิ้วมือบนรองเท้าเลยไหม”
“ไม่จำเป็น ที่จริงมันก็เป็นความผิดใจหวานด้วยเหมือนกัน ที่ท้องแล้วปิดบังฉัน ทำให้ผับของฉันเสียชื่อ”
“คุณจ้อยพูดแบบนี้ แสดงว่าจะไม่จัดการให้หนูใช่ไหม”
“อย่ามาสั่งฉันนะดำ ตั้งแต่แกมาทำงานที่นี่ก็มีแต่ป่วนหาเรื่องตลอด แกกลับไปดูแลใจหวานให้ดี เรื่องที่เหลือฉันจะจัดการตามที่เห็นสมควร”
“ก็ได้ งั้นหนูจะจัดการตามที่หนูเห็นสมควรเหมือนกัน”
ดำผลุนผลันออกไป จ้อยเรียกดำไว้
​“ดำ...นังดำ”

จ้อยมองตามอย่างไม่สบายใจ กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้น


โปรดติดตาม ข้าวนอกนา ตอนที่ 21
กำลังโหลดความคิดเห็น