มายาสีมุก ตอนที่ 6
ไข่มุกนั่งอยู่ในบ้านวันดี ส่งเงินให้วันดี วันดีรับมาทำท่านับตาโตแล้วยัดใส่ชายผ้าถุง
“ก็นึกว่าใครสวยๆ นังอ้อยเพิ่งย้ายมาใหม่ มันไม่รู้จักเอ็งสินะ”
“เออ มาก็ดีแล้ว แม่ว่าจะเก็บข้าวของย้ายไปบ้านผัวเอ็ง อยู่ที่นี่ลำบากขึ้นทุกวัน บ้านผุ ปลวกจะกินหมดหลังแล้ว ขนของไปอยู่พรุ่งนี้เลยนะ”
“ไม่ได้หรอกแม่ ไม่ใช่บ้านหนู”
เม่นเดินเข้ามาพอดี
“อะไรวะนังมุก พ่อแม่ขอแค่นี้ก็ไม่ได้ นี่เอ็งได้ดีแล้วริจะทิ้งพวกข้ารึไง นังลูกอกตัญญู”
“ใช่ เอ็งดูบ้านนี่” วันดีตบฝาบ้าน “เก่าจนจะพังใส่หัวแล้ว เงินเดือนเอ็งจะไปพอทำอะไร สู้ให้ไปอยู่ด้วยดีกว่า”
“แค่หนูไปอยู่ก็รบกวนมากแล้ว ไหนจะคุณผู้หญิงอีก แม่เอาเงินที่ให้ไปซ่อมบ้านก่อนนะ เดี๋ยวเดือนหน้าจะให้อีก”
“เงินขี้ประติ๋วเอาซื้อหวยงวดเดียวก็หมดแล้ว”
“เอ็งไม่อยากให้พ่อแม่สบายเหรอวะ ข้าอุตส่าห์ลำบากเลี้ยงมา นี่ถ้าไม่ได้ข้า ป่านนี้ก็นอนเป็นศพให้หมาแทะข้างถังขยะแล้ว ชะช้า เนรคุณอย่างงี้ มันน่านัก”
วันดีกระโดดตะครุบปากเม่นแล้วถลึงตาใส่ เม่นตาโตอย่างนึกรู้ ไข่มุกมองเม่นตาเศร้า
“ทำไมพ่อชอบพูดเหมือนหนูไม่ใช่ลูก”
“ไอ้เม่นมันเมาอย่าไปสนใจ เออ แล้วตกลงจะให้ไปอยู่มั้ยจะได้เก็บของซะที”
“ไม่ได้จริงๆ แม่ หนูให้ไปไม่ได้”
ไข่มุกทำหน้าเศร้า วันดีฮึดฮัดอย่างขัดใจรัดคอเม่นแน่นขึ้น เม่นดิ้นขลุกขลักตาเหลือก
จินจูนั่งอยู่กับไข่มุกในสวนขชองโรงแรม จินจูเขี่ยข้าวในจานช้าๆ ท่าทางเหม่อลอย ใบหน้าเศร้ามาก ไข่มุกแตะมือเบาๆ
“ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“ชั้น” จินจูเม้มปากแน่น คว้าตัวไข่มุกเข้ามากอดแล้วร้องไห้ ลูบหัวไข่มุกเบาๆ ไข่มุกกอดตอบอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก “ถ้าหนูโดนแม่ทิ้ง ปล่อยให้ลำบากคนเดียว ต้องขอทาน ต้องโดนคนอื่นรังแก ลำบากทุกอย่าง หนูจะโกรธแม่มั้ย”
ไข่มุกอึ้ง น้ำตาคลอ
“ถึงจะต้องขอทาน ต้องขายส้มตำจนเหนื่อย แต่แม่ก็เป็นแม่ หนูไม่เคยโกรธค่ะ แม่ลำบากมามาก ถ้าทำอะไรได้ หนูก็อยากช่วยแม่ ต้องเหนื่อยก็ยอม”
จินจูกอดไข่มุกแน่น
“หวังว่ายองแอจะคิดแบบนี้”
“ยองแอ คือใครเหรอคะ”
จินจูสบตาไข่มุก แล้วร้องไห้ กอดไข่มุกไว้ ไข่มุกกอดลูบหลังเบาๆ นึกสงสัยแต่ไม่ถามอะไรอีก
ไข่มุกกับคีรินทร์นั่งอยู่ที่โซฟาในห้องทำงาน ไข่มุกหน้าตากังวลนิดๆ แต่คีรินทร์กุมมือเบาๆ
“สงสารคุณจินจูจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ท่าทางเศร้ามาก ตอนกอดชั้นแล้วร้องไห้ ชั้นยังใจหาย”
“เลยร้องตามเขาเลยล่ะสิ” ไข่มุกพยักหน้า
“ใครจะอดไหว ไม่รู้เรื่องอะไร”
“ยังคิดเหมือนกันว่าที่มาไทยคราวนี้ คงมาทำอะไรสักอย่าง ดูๆ แล้วไม่ได้มาเที่ยว จนป่านนี้ยังไม่แจ้งเลยว่าจะกลับเมื่อไหร่ เหมือนจะอยู่โดยไม่มีกำหนด อย่าไปถามเขาล่ะ ทั้งคุณคิมทั้งคุณจินจูทำท่าเหมือนไม่อยากให้ใครรู้”
“แต่ถึงยังไง ชั้นก็อยากช่วยเขา พอจะมีวิธีมั้ยคะ”
คีรินทร์ยิ้ม จิ้มที่หัวตัวเอง
“วิธีมันมี แต่ราคาแพงนะครับ ต้องจ่ายมัดจำก่อนนะ”
“มัดจำยังไง”
คีรินทร์โอบไข่มุกเข้ามา
“ก็หอมมัดจำแลกสิบแต้ม” ไข่มุกทำท่าเขยิบออก “อ๊ะๆ วิธีของชั้นยังไงก็ได้แต้มแน่ๆ เพราะงั้นหอมก่อน มามะ กุ๊กๆๆ”
“เวลาอย่างงี้ยังจะมาแลกแต้มกันอีก”
“อ้าว ชั้นน่ะนักธุรกิจนะ ลงทุนทั้งทีต้องมีกำไร คิดอะไรดีๆ ให้เมียก็ต้องได้แต้ม มาเร็ว คราวนี้ให้หอมก็ได้ นี่ยอมขาดทุนนะเนี่ย”
คีรินทร์ทำยื่นแก้มเข้าไปหา ไข่มุกเอามือแตะปากแล้วแปะที่แก้ม ยิ้มหวานให้
“ชั้นอยู่กับคุณจนเป็นนักธุรกิจเหมือนกันแล้ว เอามัดจำแบบนี้ไปแล้วกัน”
“ร้ายนะเนี่ย เมียชั้น”
ไข่มุกมองคีรินทร์อมยิ้ม คีรินทร์ทำท่าจะเข้าไปหอมแต่ถูกดันออกมา ไข่มุกกับคีรินทร์หยอกล้อกันสนุกสนาน
แทยอนวางเอกสารลง ในห้องมีจินจูกับนักสืบนั่งอยู่ แทยอนพยักหน้า
“แซม เป็นนักสืบเอกชน ที่มิสเตอร์คีรินทร์แนะนำมา เขาจะช่วยเราตามหายองแอ”
“ไม่ต้องห่วงครับ คิดว่าภายในหนึ่งเดือน น่าจะพอได้ข้อมูลอะไรบ้าง”
จินจูพยักหน้า ยิ้มนิดๆ อย่างมีความหวัง
“ชั้นไม่ได้บอกแซม ว่ายองแอเป็นอะไรกับเรา ไม่ต้องกลัวว่าใครจะรู้เรื่องนั้น” แทยอนบอกจินจูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เมื่อนักสืบแยกกลับไปแล้ว
“ขอบคุณพี่แทยอนมาก ถ้าไม่ได้พี่ ก็ไม่รู้จะทำยังไง”
แทยอนสบตาซึ้ง มองจินจูด้วยความรัก ค่อยๆ ยกมือจินจูขึ้นมาจูบเบาๆ
“อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลย แม้แต่ชีวิต ชั้นก็ให้เธอได้”
“พี่แทยอน”
จินจูมองแทยอนอย่างซาบซึ้ง ตื้นตันใจ
คืนนั้นระหว่างอยู่ในห้องคีรินทร์ยิ้มอมภูมิ มีไข่มุกนั่งอยู่ใกล้ๆ สีหน้าซึ้งใจ
“ขอบคุณคุณมากนะคะ ที่ช่วยจินจู”
“ชั้นทำให้เธอได้ทุกอย่างแหละ รู้ไว้นะ”
ไข่มุกมองอึ้งๆ
“คุณ ชอบชั้นมากขนาดนั้นเลยเหรอ” คีรินทร์เลิกคิ้ว ยักไหล่
“เปล๊า เพื่อแต้มต่างหาก ร้อยไวๆ จะได้...” คีรินทร์ลากเสียงยาว ทำตากรุ้มกริ่ม “จุด จุด จุด ซะที”
“โอ๊ย คุณนี่” ไข่มุกตีแขนเบาๆ
“อะไร ชั้นยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ แน่ะ คิดอะไร บอกมาซะดีๆ”
“ไม่บอก”
“แอบปลื้มไปนิดนึงก็บอกมาเหอะ ยัยลูกไก่กุ๊กๆ”
“ใครปลื้ม ไม่พูดกับคุณแล้ว”
คีรินทร์ดึงไข่มุกเข้ามากอดให้พิงอกไว้ กดคางลงบนกระหม่อม ไข่มุกเขินแต่ก็ยอมให้กอด
“นี่ เราไปเที่ยวเมืองนอกกันอีกมั้ย ที่ไหนดี เกาหลี ญี่ปุ่น หรือจะไปอิตาลี ชั้นเคยไปมา สวยดีเหมือนกัน”
“อย่าเลยค่ะ เปลืองเงิน คุณต้องลางานด้วย เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอา”
“ก็บอกไปสิ ว่าจะไปผลิตน้องโตเกียว น้องมิลาน”
“ไม่เอาหรอกค่ะ ทำงานก่อนดีกว่า คุณก็มีโปรเจ็คตั้งเยอะ อย่าเพิ่งไปเลย”
“เธอนี่ต่างกับแม่เธอจริงๆ คนนั้นถ้าเสนออย่างงี้ไม่มีพลาดแน่” ไข่มุกชะงัก
“คุณผู้...เอ่อ แม่มาขอเงินคุณเหรอคะ”
“ช่างมันเถอะ ชั้นเป็นลูกเขย แม่ยายเดือดร้อน จะไม่ช่วยได้ไง”
“แต่เงินตั้งสามล้าน”
“ล้านห้าต่างหาก ชั้นไปต่อกับบ่อน เลยได้ลดไปครึ่ง แต่เธอก็เตือนๆ ด้วยแล้วกัน ว่าอย่าไปเล่นอีกไม่เคยมีใครรวยจากการพนัน เห็นมีแต่ทำให้ตายทั้งนั้น ทั้งตายจริงกับตายทั้งเป็น”
คีรินทร์กอดไข่มุกเบาๆ ไข่มุกหน้าขรึม
ชลลดานอนเอนๆ บนโซฟากลางบ้าน ข้างหน้ามีจานผลไม้กับขนม ชลลดาหยิบกินอย่างสบายใจ มณีเดินเข้ามาแย่งของที่ชลลดากำลังจะเอาเข้าปาก เท้าเอวหน้าขึง ช้อยยืนอยู่หน้าตาขึงขังไม่แพ้กัน
“วันๆ คิดจะนั่งกินนอนกินอย่างเดียวหรือไง หมั่นไส้นัก บ้านตั้งกว้าง ช่วยหยิบจับทำอะไรบ้างเถอะย่ะ อย่าให้ต้องด่า”
“โน่น จานในครัวตั้งเยอะ ไม่ก็รดน้ำต้นไม้ไงคะ อยู่ว่างๆ เดี๋ยวคนจะนึกว่าง่อย”
“อี๋ งานเลเบอร์ ระดับชั้นไม่ลดตัวลงไปทำให้มือด้านหรอก”
“แล้วอย่างหล่อนทำอะไรได้ยะ แม่ไฮโซ”
เขมทัต คีรินทร์ ไข่มุกเดินเข้ามา กำลังจะไปทำงาน ชลลดาปราดไปเกาะแขนเขมทัต
“คุณพี่ขา ให้ชลไปเป็นเลขาได้มั้ยคะ”
มณีขึงตามอง เขมทัตสะดุ้ง
“ผะ...ผมมีแล้วครับ สองคนด้วย”
เขมทัตปัดมือชลลดาออก คีรินทร์รีบพูด
“ผมก็สอง พอแล้วครับ”
ชลลดาฮึดฮัดปรายตามองไข่มุก ทำท่าจะพูด มณีพูดแทรก
“อย่าคิดไปเต้นมวยเชียว สงสารลูกค้า หล่อนไปทำเดี๋ยวลมจับตาย เหม็นโรงแรมอีก ชั้นไม่ให้ทำ”
“นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ให้ แล้วจะให้ทำอะไรล่ะ”
ชลลดาทำท่าคิดหนัก มณียิ้มร้ายทำท่าดีดนิ้ว
“ชั้นนึกออกแล้วล่ะ ว่าอย่างเธอเหมาะกับงานอะไร”
แม่บ้านใหญ่ของโรงแรมเดินนำชลลดาที่หน้าตูม ใส่ชุดฟอร์มโรงแรมตามหลัง มองตัวเองแล้วทำท่าอี๋ชุด
“นี่ชั้นต้องมาตรวจพวกแม่บ้านทุกวันเลยเหรอ”
“ใช่ค่ะ วันละสองรอบด้วย”
ชลลดาทำท่าจะเป็นลม กรอกตาไปมาอย่างสุดจะเบื่อ
พิพัฒน์เดินผิวปากมาจากมุม กำลังจะเดินออกมา พอเห็นชลลดาก็สะดุ้งเฮือก รีบหลบมุม หน้าตาตกใจมาก
“ยายตัวแม่นี่หว่า ซวยแล้วตู”
พิพัฒน์แอบมองชลลดาไกลๆ ทำหน้าแขยง ใบหน้าครุ่นคิดหาทางหนีทีไล่
คีรินทร์เปิดประตูให้ไข่มุกเดินออกมาจากหน้าฟิตเนส แล้วมายืนข้างๆ
“เรื่องคอร์สออกกำลังกายของพนักงาน เธอไปร่างแผนมานะ ชั้นอยากให้พนักงานร่างกายแข็งแรง ถ้าเวิร์ค ก็ดีทั้งกับตัวเองทั้งกับบริษัท เงินประกันสุขภาพพนักงานก็ไม่ต้องเสียเพิ่ม แถมค่าดูแลอื่นๆ ก็ไม่ต้อง เธอคิดว่าไง”
“ชั้นเห็นด้วยค่ะ เดี๋ยวจะรีบเอามาให้นะคะ ออกกำลังกันตอนเช้าสักสิบหรือสิบห้านาที ก่อนเข้างานกำลังเหมาะ”
“ต้องให้ได้อย่างนี้สิครับ คุณภรรยา ถ้าทำงานดีต่อไปชั้นจะเลื่อนตำแหน่งให้ทั้งเธอทั้งแม่เธอเลย ดีมั้ย”
“แค่ชั้นคนเดียวก็พอค่ะ ของแม่ไม่เป็นไร” ไข่มุกแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ คีรินทร์หัวเราะร่วน
“เริ่มใช้ได้แล้วนะเรา บางทีก็ต้องดัดนิสัยคนแก่ซะบ้าง อย่าให้ได้ใจ ป่านนี้แม่เธอคงหน้าบูดหน้าบึ้ง เดินสำรวจโรงแรมแล้วแหง แม่ชั้นนี่แสบได้ใจเหมือนกัน”
“เขาเรียกว่าเชื้อไม่ทิ้งแถวค่ะ”
“งั้นลูกเราคงแสบคูณสอง เธอว่ามั้ย”
คีรินทร์หยอกไข่มุกแล้วแกล้งโอบ ไข่มุกได้ทีหยิกมือบนไหล่ คีรินทร์ร้องโอดโอยแบบเว่อร์ๆ ไข่มุกอมยิ้มทำไม่สนใจ
ที่หน้าห้องทำงานคีรินทร์ กีกี้ แองจี้ น้องแพรว ยืนล้อมภัททิมาที่ทำท่าเอาเรื่องพอๆ กัน
“มาตอนไหนก็ไม่อยู่ นี่แกหลอกชั้นใช่มั้ยยะ นังเลขากิ๊กก๊อก”
“พูดไม่รู้เรื่อง ฟังภาษาคนไม่ออกหรือไง ชั้นบอกไม่อยู่ก็ไม่อยู่สิ”
“ไม่อยู่ก็เปิดให้เข้าไปนั่งรอสิ รู้อยู่แล้วนี่ พวกชั้นเป็นใคร”
“ไม่เปิด หมั่นไส้คน มีอะไรมั้ย จะรอก็รอหน้าห้อง ไม่งั้นก็นู่น หน้าห้องน้ำยังว่าง”
กีกี้เดินเข้าไปหา ภัททิมายกมือตบก่อน
“อุ๊ย โทษที มือมันลื่น”
กีกี้โกรธจัด ขยุ้มคอเสื้อภัททิมา
“มือลื่นใช่มั้ย ได้” กีกี้ตบภัททิมา “โอ๊ย มือชั้นลื่น ลื่นอีกแล้ว” กีกี้ตบรัว “คิดจะสู้กับใครฮะ ชั้นน่ะ มือวางอันดับหนึ่งบทตบย่ะ”
ภัททิมาผลักกีกี้ทำท่าจะตบบ้าง แต่กีกี้หลบทัน ทำท่าจะตบอีก ภัททิมาวิ่งหนีจะเข้าห้องคีรินทร์ น้องแพรวตามไปดึงไว้
“จะหนีไปไหน”
“โอ๊ย ปล่อย”
ภัททิมากระทืบเท้าแล้ววิ่งเข้าไปในห้องคีรินทร์ สามสาววิ่งตามเข้าไป สามสาววิ่งไล่จับภัททิมาจะรุมตบ ภัททิมาวิ่งหนีอ้อมโต๊ะไปมา หัวหูฟูกระเจิง คีรินทร์กับไข่มุกเดินเข้ามา ไข่มุกมองอย่างตะลึง คีรินทร์รีบไปขวางดึงกีกี้ออกมาจากภัททิมา กีกี้จะเตะภัททิมาแต่วืดถูกคีรินทร์อุ้มตัวลอยออกมาก่อน
“นี่มันอะไรกัน ไข่มุก กีกี้”
“ก็ยัยนี่สิคะ มันกีดกันพวกเรา บิชชี่ มาจะเจอคุณทีไรก็ไม่เคยให้เข้าสักที พอพวกเราว่าก็ตบกีกี้”
“ดูหน้าชั้นซะก่อน ใครกันแน่โดนตบ โอยย บอสขา เจ็บจังเลย”
“สะตอเรียกแม่”
ไข่มุกมองสามสาวแหยงๆ แล้วเหลือกตามองคีรินทร์ คีรินทร์ยักไหล่ มองสี่สาวอย่างเซ็งจัด
“ใครสะตอยะ อย่านึกว่ามาหมาหมู่ชั้นจะยอมง่ายๆ นะ”
“เป็นแค่เลขาอย่าสะเออะ เจ้านายเขาจะคุยกัน ชู่วๆ โกอเวย์”
“ไล่ชั้นเหรอ”
ภัททิมาทำท่าจะใส่แองจี้
“หยุด ไข่มุก เธอพาคุณลูกไก่ไปนั่งทานกาแฟก่อน”
“แต่บอสคะ”
“ไม่มีแต่ ลูกไก่ ไปนั่งรอชั้นก่อนนะ”
ไข่มุกพยักหน้าแล้วเดินนำไป ภัททิมามองอย่างเคืองๆ เสียหน้ามาก เดินกระแทกกระทั้น สามสาวยิ้มเยาะแล้วเดินมาเกาะคีรินทร์ที่หน้านิ่ง
“ทีนี้ตาพวกคุณบ้าง มาที่นี่ทำไม”
คีรินทร์หน้าขึง สามสาวเริ่มรู้ตัวก็นิ่ง น้องแพรวพูดอ้อมแอ้ม
“เอ่อ พวกเราแค่คิดถึง คุณรินทร์บอกว่าเราจะเหมือนเดิม แต่ไม่เห็นเหมือนสักนิด”
“ไปเดท กินข้าว ช็อปปิ้ง ไม่มีเวลาสักอย่าง พวกเราเลยมาทวงสัญญา แต่นัง...เอ่อ ผู้ช่วยเลขาของคุณ กวนเรา เลย ทะเลาะนิดหน่อย”
“คิดถึงก็มาหากันดีๆ ไม่ใช่มาแล้วก็ตบตี ก่อเรื่องกันอย่างงี้”
“ก็นัง” คีรินทร์ขึงตาใส่ กีกี้ท่าทางอ่อนลง “ก็ไข่มุกเขาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของคุณ ชั้นเลยสั่งสอนไปนิดหน่อย”
คีรินทร์มองแล้วถอนใจหนัก
“พอเลย ผมบอกไว้เลยนะ ถ้าคราวหน้าพวกคุณมาก่อเรื่องแบบนี้อีก ผมจะสั่งห้ามเข้าโรงแรม” สามสาวจะเถียงแต่คีรินทร์ชี้นิ้วใส่ “ผมเอาจริงแน่”
สามสาวได้แต่อึกอักพยักหน้ารับคำเสียงอ่อย คีรินทร์หันหลังให้แล้วเลิกเก๊กหน้าเคร่งขรึม เปลี่ยนเป็นอมยิ้ม
ที่มุมชงกาแฟ ภัททิมาคนแก้วกาแฟอย่างกระแทกกระทั้นจะกดน้ำร้อนเพิ่มก็กดไม่ออก กระแทกแก้ววางลงไข่มุกมองหน้าตาเฉย
“โอ๊ย เจ็บใจยัยสามบ้านั่นจริง แกก็ด้วยนังมุก ทำตัวโง่ซื่อบื้อให้นัง พวกนั้นพาผัวเข้าห้อง อีกหน่อยได้โดนแย่งไปแน่ ฮึ”
“ถ้าเขาจะแย่งก็เอาไปเถอะ ชั้นไม่ได้หวง”
“พูดจริงนะยะ”
ไข่มุกมองหน้า พยักหน้าให้
“จริงสิ”
ภัททิมายิ้มร้ายอย่างสมใจ
“ดี แกพูดแล้ว อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน”
ไข่มุกมองขมวดคิ้วด้วยความแปร่งหู ภัททิมายกกาแฟขึ้นจิบ ยิ้มร้ายกาจ มาดหมายจะเอาชนะ
คีรินทร์กำลังจะเดินเข้าบ้าน นุชนารถโผล่ออกมาดักหน้าไว้ คีรินทร์มองเอือมๆ
“มีอะไรเหรอนุช ผมเหนื่อย อยากอาบน้ำแล้ว”
นุชนารถทำท่ายั่วยวน เอามือพาดคอคีรินทร์
“ให้นุชช่วยมั้ยคะ ไปที่ห้องก็ได้”
คีรินทร์ปลดมือนุชนารถออก
“ไม่ล่ะ ผมเหนื่อยจริงๆ”
“พักนี้คุณไม่สนใจนุชเลย ขลุกอยู่แต่กับเมีย”
“พอเถอะ คุณเอาเวลาไปดูแลหนูนาให้ดีดีกว่า”
คีรินทร์ทำท่าจะผละ นุชนารถขวาง
“คุณคิดจะทิ้งนุชใช่มั้ย บอกมานะคุณรินทร์ คุณรินทร์”
คีรินทร์มองนิ่งๆ แล้วเดินจากไป นุชนารถมองอย่างแค้นเคือง
นุชนารถเด็ดดอกไม้ขึ้นมากำไว้แล้วขยำมือบี้จนเละ สายตาโกรธและออกอาการโรคจิตนิดๆ
วันดียืนหิ้วกระเป๋าเก่าๆ กับถุงสายรุ้งเท้าเอวยืนอยู่หน้าห้องนั่งเล่นบ้านคีรินทร์ ชลลดากับมณีตั้งท่าใส่ ภัททิมาทำหน้าอี๋
“โอ๊ย จะมาอะไรกันนักกันหนากับบ้านชั้นยะ เดี๋ยวแม่เดี๋ยวป้า จะบ้าตาย”
วันดีเข้าไปกอดภัททิมา
“ชั้นคิดถึงลูกชั้นไงยะ โอ๋ๆ ลูกจ๋า มากอดที” วันดีทำกอดแน่น ภัททิมาขยะแขยงดึงให้ออก “คิดถึงแม่เหมือนกันใช่มั้ย หอมทีเร็ว”
วันดีหอมแก้มภัททิมา ภัททิมาทำท่ากรี๊ดไม่มีสียง อี๋สุดฤทธิ์ ชลลดาคว้ามือดึงออกมา ภัททิมาทำท่าปัดตัวรังเกียจ ไข่มุกกับคีรินทร์เดินลงมา
“ยัยลูกไก่ ป้าเธอจะมาอยู่อีกคน จัดการไล่ไปซะ”
ไข่มุกทำท่าจะพูดแต่ชลลดาห้าม
“ไม่ต้อง ชั้นจัดให้”
วันดีร้องเรียกอย่างเผลอตัว
“นังมุก ช่วยแม่ด้วย”
ชลลดาลากวันดี วันดีสะบัดออกวิ่งเข้าไปที่สระว่ายน้ำ ชลลดาตามไปยื้อยุดริมของสระ ทุกคนวิ่งตามมา
“เอ๊ะนังนี่ ชั้นบอกให้กลับไง”
“ไม่กลับโว้ย ทำไมวะ ข้าเป็นแม่มัน ไม่ได้เงิน ไม่กลับ” ไข่มุกจะเข้าไปช่วยวันดี ชลลดาปัดมือออกถลึงตาใส่ คีรินทร์เข้ามารั้งไข่มุกไว้ วันดีชี้หน้าด่าชลลดา “คิดจะสุขสบายคนเดียวใช่มั้ยนังคุณนาย เดี๋ยวแม่จะแฉให้หมด เอาให้โดนไล่กลับด้วยกันล่ะวะ”
ชลลดาผลักวันดีที่สระน้ำจนวันดีเซถลาตกน้ำ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วยโว้ย ใครก็ได้ช่วยชั้นที”
วันดีโวยวาย มณีค่อน
“แค่สระในบ้าน จะลึกแค่ไหนกันเชียว ขึ้นมาได้แล้ว อย่าดราม่า”
“ตรงนี้ลึกที่สุดนะแม่ สองเมตร”
“อุ๊ยตาย”
ไข่มุกหน้าซีด
“แม่วันดีว่ายน้ำไม่เป็น”
“นังมุก โอ้ย ช่วยด้วย ช่วยชั้นด้วย”
ไข่มุกทำท่าจะกระโดดลงน้ำ คีรินทร์ขวางไว้ สบตากัน คีรินทร์กระโดดลงน้ำว่ายไปช่วยวันดี พอถึงตัววันดีก็กอดรัดแน่น คีรินทร์พยายามแกะแล้วลากเข้าฝั่ง
“ป้าอย่าดิ้นสิ”
“ว่ายเร็วๆ สิวะ ชั้นเป็นตะคริว จะตายอยู่แล้ว นังชลลดา นังบ้า จะฆ่าชั้น ใช่มั้ย โอ๊ย ตะคริวๆ”
วันดีดิ้นตะเกียกตะกาย แขนสะบัดไปโดนคีรินทร์หัวกระแทกขอบสระแตกเลือดไหล มณีกรี๊ดลั่นแต่คีรินทร์ก็ลากขึ้นขอบฝั่งได้ ไข่มุกปราดเข้ามาประคองวันดีแต่ตามองคีรินทร์ด้วยความเป็นห่วง
“คุณรินทร์”
คีรินทร์เอื้อมมือไปแตกที่หัว แล้วลดมือลง เห็นมือเปื้อนเลือดเต็ม
มณี ภัททิมา ชลลดา ไข่มุก นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น นุชนารถประคองคีรินทร์เดินพันผ้าบนหัวเข้ามากับเขมทัต ไข่มุกรีบลุกขึ้นไปหา
“เป็นไงบ้างคะ”
“เย็บสิบเข็มไง ฝีมือญาติเธอทั้งนั้น”
“เพราะแม่เธอนะยัยไข่มุก ลูกชั้นถึงหัวแตกหมดหล่อแบบนี้”
“ยังหล่ออยู่นะแม่”
มณีหันไปหาไข่มุก
“เธอก็ด้วยยัยลูกไก่ ตั้งแต่แต่งมามีแต่เรื่อง วันนี้แค่เจ็บตัวคราวหน้าไม่ตายเลยเหรอ โอ้ย วุ่นวายจริ๊งบ้านนี้ กรรมของชั้น”
“ไม่เอาน่าแม่ อุบัติเหตุอย่าไปโทษใครเลย ผมไม่เป็นไรมากหรอกครับ น้องหนู พาพี่ขึ้นไปนอนพักเหอะ”
ไข่มุกนิ่ง เข้าไปประคองคีรินทร์จะพาขึ้นห้อง นุชนารถปัดมือไข่มุกออกอย่างแรง
“อย่ายุ่ง ทำเขาเจ็บตัว แล้วยังทำไม่รู้สึกอีก นุชพาไปเอง”
นุชนารถประคองคีรินทร์เดินขึ้นไป มณีมองไข่มุกอย่างรังเกียจ ค่อนเข้าให้
“นี่เธอทำให้ลูกชั้นดวงซวยหรือเปล่ายะ ตั้งแต่แต่งมาเดี๋ยวบาดเจ็บ เดี๋ยวเลือดออก เยินได้แทบทุกวัน”
ชลลดาแกล้งทำตกใจ
“อุ๊ย นั่นสิ ชั้นเคยไปดูหมอ บอกว่าดวงลูกไก่แต่งกับใครก็ได้ดี มีแต่รวย เสียอย่างเดียวจะเป็นม่ายสามีตายตั้งแต่ยังสาว หรือถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต”
มณีตาเหลือก
“จริงเหรอ”
“ใช่ ที่จริงน่าให้คุณรินทร์แต่งกับไข่มุกนะ คนนี้เค้าดวงส่งสามี ได้ดีคู่กัน โถ คุณรินทร์ ไม่น่าเลย ซี้แหงแก๋แน่ ชั้นผิดเอง น่าจะเปลี่ยนตัวแต่งงานตั้งแต่แรก”
“ตาย ตายแล้ว ตารินทร์ โอ๊ย จะเป็นลม”
มณีทำท่าตาเหลือก ภัททิมากับชลลดาแอบยิ้มร้ายสมใจ ไข่มุกนิ่งหน้าเครียด เขมทัตมองอย่างเป็นห่วง
นุชนารถประคองคีรินทร์ให้นอนแล้วหยิบยากับน้ำป้อนถึงปาก
“ทานยานะคะ จะได้นอน”
คีรินทร์กินอย่างว่าง่าย ทำท่าสะลึมสะลืออย่างมึนๆ ไข่มุกเปิดเข้ามาเห็นนุชนารถกำลังนั่งคลอเคลียถือแก้วน้ำ ยิ้มร้ายตั้งใจจะยั่วใส่
“มาแล้วเหรอ คุณภรรยา”
“ให้คุณรินทร์ทานยาแล้วออกไปได้แล้วค่ะ ชั้นดูแลต่อเอง”
“คืนนี้ชั้นดูแลเองดีกว่า อย่าลืมสิว่าชั้นเป็นพยาบาล เธอน่ะไปนอนห้องหนูนาแล้วกัน”
“แต่ชั้น”
“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง”
“ชั้นอยากช่วยดูแล”
“อยากให้เขาเจ็บตัวเพิ่มขึ้นอีกไม่ว่า อยู่ใกล้เธอ ดวงซวยตลอด”
นุชนารถไล่ตรงๆ ไข่มุกมองคีรินทร์ที่นอนจวนจะหลับนิ่ง เม้มปากแน่นมองอย่างสงสาร
ไข่มุกค่อยๆ เดินลงบันได น้ำตาหยดช้าๆ ถึงกลางทางก็ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นนึกน้อยใจตัวเอง เขมทัตเดินตามมาแตะที่ไหล่เบาๆ
“ยังไม่นอนเหรอลูกไก่ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“หนู...ที่คุณรินทร์ซวย ต้องมาเจ็บแบบนี้ คงเป็นที่หนู”
เขมทัตลูบหัวเบาๆ
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ ไม่เอาน่า เรื่องดวงมันเชื่อไม่ได้หรอก ที่มันเป็นอย่างนี้เพราะคนรอบตัว ไม่ใช่เพราะหนูเลย เลิกร้องซะนะอย่าคิดมาก”
ไข่มุกเงยหน้ามอง เขมทัตยิ้ม
“หนูจะพยายามค่ะ”
“ดีมาก เราต้องเข้มแข็งไว้ ลุงเชื่อว่าลุงคิดไม่ผิดที่เลือกหนูมาเป็นสะใภ้ ลูกไก่เป็นเด็กดี ใครไม่รู้ลุงรู้”
ไข่มุกอึ้ง มองซาบซึ้ง
“คุณลุงคะ เรื่องที่ลานจอดรถวันนั้น หนูไม่ได้ทิ้งคุณรินทร์นะคะ หนูตามพวกคนร้ายไป ไม่ได้ตั้งใจปล่อยคุณรินทร์ไว้คนเดียว”
“ลุงรู้ ก็ขนาดหนูนาเป็นน้อง หนูยังช่วยไม่คิดชีวิตตัวเองเลย ประสาอะไรกับเจ้ารินทร์จะทิ้งได้ยังไง ใช่มั้ย… เรื่องนี้ไม่ใช่แต่ลุงคนเดียว รินทร์เองก็รู้เหมือนกัน”
เขมทัตมองอย่างเข้าใจและเอ็นดู ไข่มุกยิ้มดีใจที่เขมทัตเข้าใจ
อ่านต่อเวลา 17.00 น.
มายาสีมุก ตอนที่ 6 (ต่อ)
ดีค่ะ หนูนาจะได้สระบ่อยๆ บางทีพี่นุชบอกสองวันค่อยสระค่อยหวี หนูนาคันมากๆ” รัตนามองหน้าไข่มุก ยิ้มหวานเอาใจ “พี่ลูกไก่คะ หนูมีความลับอะไรจะเล่าให้ฟัง แต่อย่าไปบอกใคร นะ คือว่าวันนั้นที่หนูนาได้ยิน...”
รัตนาเล่าให้ไข่มุกฟังเรื่องที่ได้ยินนุชนารถคุยโทรศัพท์
“จัดการนังผู้หญิง เอาให้มันเสียโฉมยับเยิน หมอไม่รับทำศัลยกรรม ส่วนผู้ชาย อย่าให้ถึงตาย เอาแค่พิการก็พอ”
ไข่มุกหน้าเครียด รัตนามองตาแป๋ว ไข่มุกลูบหัวรัตนาเบาๆ
“หนูนากลัวพี่นุชจังค่ะ ใจร้าย ชอบดุ ขนาดแมลงสาปวิ่งตัดหน้ายังตื้บซะแบน ขี้แตกเลย ถ้าหนูดื้อบ้างจะโดนตื้บมั้ยคะ”
“ไม่หรอกค่ะ พี่จะดูแลเอง ไม่ต้องกลัว”
รัตนากอดไข่มุกเบาๆ ไข่มุกมองสงสารปนหวั่นใจนุชนารถนิดๆ
คีรินทร์นอนหลับอยู่ในห้อง ไข่มุกเข้ามาดู มองอย่างซึ้งใจสงสารและซาบซึ้ง ไข่มุกนั่งลงใกล้ๆ แล้วจับมือคีรินทร์ยกมาแนบแก้มร้องไห้เงียบๆ คีรินทร์ลืมตาขึ้นมามอง กระพริบตาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“นี่เธอรักชั้นขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นมาจุ๊บทีนึงสิ”
ไข่มุกตกใจปล่อยมือออก เช็ดน้ำตา ยิ้มให้แบบเขินนิดๆ คีรินทร์เอื้อมมือช่วยเช็ดน้ำตาแล้วยิ้มให้ ไข่มุกก้มลงจุ๊บแก้ม คีรินทร์หน้าเหวอ ไม่นึกว่าจะทำจริง
“โห ท่าทางวันนี้ชั้นจะโชคดีสุดๆ ได้จุ๊บแต่เช้า”
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตแม่วันดี ถ้าไม่ได้คุณอาจจะ...”
“ชั้นจำได้ว่าแม่วันดีมีบุญคุณกับเธอ เพราะงั้นเขาก็มีบุญคุณกับชั้นเหมือนกัน แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เพื่อเธอชั้นทำได้”
ไข่มุกมองคีรินทร์อย่างซาบซึ้ง
“คุณดีกับชั้นมาก ดีจริงๆ” ไข่มุกน้ำตาคลอ
“ไม่ดีกับเมียจะดีกับใครล่ะ ไม่เอา อย่าร้องนะ”
“ก็...กับบรรดากิ๊กไง”
“น่าน ตัดมุกซะงั้น คุณภรรยาครับ เคยได้ยินป่ะ ร้อยกิ๊กหรือจะสู้เมียเรา ยังไงเธอเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับชั้นนะ”
คีรินทร์หลุดปากพูดแล้วอึ้งเอง ไข่มุกก็อึ้งแต่ทำนึกขึ้นได้ ยิ้มแซว
“พูดผิดพูดใหม่ได้นะคะ ชั้นให้โอกาสอีกที อย่างคุณต้องบอกว่าร้อยเมียไม่สู้หนึ่งกิ๊กมากกว่ามั้ง”
คีรินทร์ยังอึ้งๆ
“เอ่อ ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดอย่างนั้นได้ยังไง แต่ช่างเถอะ ไม่พูดใหม่หรอก ก็มันเรื่องจริงนี่” ไข่มุกอึ้ง คีรินทร์สบตาซึ้ง ทำท่าจะก้มไปจูบ ประตูเปิดออกเป็นนุชนารถยืนถือถ้วยข้าวต้ม “ขัดลาภจริง”
คีรินทร์บ่นเบาๆ นุชนารถเดินเข้ามาเบียดไข่มุก ถือข้าวต้มยิ้มหวานให้คีรินทร์
“นุชเอาข้าวต้มมาให้ค่ะ”
“เข้ามาทำไมคะ”
“ชั้นสิต้องถาม นี่ห้องชั้น หลีกไป อย่าเกะกะ จะป้อนข้าวคุณรินทร์”
ไข่มุกลุกขึ้นมองนิ่ง แย่งถาดมา
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวชั้นป้อนให้เอง”
“เอ๊ะ นิสัยเสีย พูดไม่รู้เรื่องรึไง ชั้นบอกว่าชั้นจะดูแลเอง ชั้นเป็นพยาบาลนะ”
“แต่ชั้นเป็นภรรยา คุณต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง ชั้นดูแลเองได้ หน้าที่ของภรรยาที่ต้องดูแลสามี มีแค่ชั้นคนเดียวพอ คนอื่นไม่ใช่อย่ามายุ่ง”
คีรินทร์มองอึ้งแต่แอบอมยิ้ม นุชนารถมองอย่างแค้นจัด พอหันไปมองคีรินทร์ คีรินทร์ก็แกล้งหลับไม่รู้ไม่ชี้ นุชนารถมองไข่มุกฝากความแค้นไว้เต็มที่
“ฝากไว้ก่อนนะแก”
นุชนารถกระซิบกับไข่มุก ไข่มุกแค่นยิ้ม กระซิบตอบ
“ทำไม จะจ้างนักเลงมาทำร้ายชั้นอีกเหรอ”
นุชนารถอึ้งอย่างตกใจ หน้าเสีย
“พะ พูดอะไรของเธอ ชั้นไม่รู้เรื่อง”
นุชนารถเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไข่มุกวางถาดลงถือชามไว้ในมือขยับจะป้อน คีรินทร์ลืมตามองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เก่งจังนะคุณเมีย พูดแป๊บเดียวนุชเดินหนีไปเลย ของเค้าแรงจริง”
“หมดยุคที่ต้องมานั่งร้องด้วยเรื่องแค่นี้แล้วค่ะ ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟันบ้าง ไม่งั้นอยู่กับคุณได้ร้องน้ำตาหมดตัวแน่”
“อะนั่นแน่ จริงๆ แล้วหึงผมล่ะสิ ไม่อยากให้ใครมาปรนนิบัติสามี หวงก็บอกได้ ผมชอบให้คุณหวงนะ”
ไข่มุกหน้าแดง
“เปล่าค่ะ ชั้นแค่อยากดูแลคุณ ไม่ได้หึงหรือหวงสักหน่อย”
“อย่างนี้แหละเค้าเรียกว่าหึง ไหน บอกหน่อยสิว่ารักชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไปเกาหลี ตอนจูบครั้งแรก หรือตอนชั้นนอนกอด”
ไข่มุกยกช้อนข้าวต้มจ่อปาก
“ก็คุณดีกับชั้น ชั้นก็ต้องดีตอบ อย่าถามมากเลยค่ะ กินข้าวได้แล้ว”
“เฉไฉอีกละ ไม่ต้องเขินหรอก บอกมาตรงๆ ก็ได้”
“ไม่เอาแล้ว กินดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหายร้อน อ้าปากนะ” คีรินทร์อ้าปากงับ มองไข่มุกยิ้มๆ จับมือไว้ ไข่มุกสบตามองเขินนิดๆ เอามือตีมือคีรินทร์เบาๆ “ไม่ปล่อยจะป้อนได้ไง ทำตัวเป็นเด็กๆ อีกแล้ว”
“มีกฎข้อไหนห้ามอ้อนเมียครับ ตอนนี้ชั้นป่วยต้องอ้อนตุนไว้เยอะๆ ขืนหายแล้วเธอใจร้ายเหมือนเดิมทำไง”
“ใจร้ายเพราะคุณใจร้ายใส่ก่อนหรอก”
“งั้นชั้นจะดีกับเธอเยอะๆ ไม่เอาแต่ใจ ไม่งอแง จะนอนให้เธอกอดทุกวัน หอมแก้มทุกเช้า จูบก่อนเข้านอน ดีมั้ย”
“นั่นคุณกำไรแล้วค่ะ ชั้นขาดทุน ไม่เอาแล้ว กินข้าวนะ”
คีรินทร์ยิ้ม อ้าปากรอ ไข่มุกเป่าแล้วป้อนเข้าปาก คีรินทร์กินไปชมไป
“โห อร่อยมากๆ อร่อยตรงคนป้อนนี่ล่ะ น่ากินสุดๆ”
“พูดได้ขนาดนี้น่าจะหายแล้วะ ทานเองดีกว่ามั้ง” คีรินทร์รีบอ้อน
“มือไม่มีแรง คอก็เจ็บ ป้อนให้นะ นะๆ คุณลูกไก่กะต๊ากคนดี”
คีรินทร์พูดอ้อนทำหน้าแกล้งป่วยมาก ไข่มุกยิ้มรู้ทันแต่ก็ยอมป้อน ทั้งสองคนสบตากันกระหนุงกระหนิง
จินจูกับแทยอนนั่งอยู่ในห้องอาหารของโรงแรม จินจูคอยเหลือบตามองที่แกรนด์เปียโนเหมือนกำลังรอใคร
แทยอนมองจินจูแล้วขมวดคิ้วนิดๆ คธาเดินออกมาโค้งหน้าเปียโนในจังหวะที่พนักงานมาเสิร์ฟอาหาร จินจูเลยคลาดสายตาไป คธามองเห็นจินจูแล้วมองนิ่ง นั่งลงเล่นเพลง “น้ำตาไข่มุก”
จินจูหันมามองอย่างตกใจแล้วลุกยืน คธาเล่นพลางสบตาจินจูด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตาหมองแกมตัดพ้อ
ทั้งคู่สบตากัน จินจูอึ้งทำท่าจะยิ้มแต่ชะงักเปลี่ยนสีหน้าเป็นเฉยตึงแกมเย็นชา แทยอนมองทั้งคู่อึ้งๆ ปนตกใจ แต่ยังเก็บอาการไว้ คธาเล่นไปเรื่อยๆ สบตากับจินจู จินจูมองนิ่งนึกย้อนความหลัง
ในอดีตที่ห้องอัดเพลงคธากำลังเล่นเปียโน จินจู แทยอน ผอ.เดินเข้ามาในห้องอัดเพลง คธาที่เล่นเปียโนอยู่ชะงักเงยหน้าขึ้นมอง
“นี่คุณคธา เป็นนักแต่งเพลงที่เก่งมาก จะมาช่วยเราทำเพลงประกอบหนัง คุณคธา นี่คุณแทยอนกันคุณจินจู ผู้อำนวยการสร้างฝั่งเกาหลี และนางเอกของเรา”
คธากับจินจูมองสบตากัน คธาก้มหัวให้นิด จินจูยิ้มน้อยๆ โค้งตัวทักทายตอบ ทั้งคู่สบตากันอย่างถูกชะตา จนแทยอนรู้สึก
คธากับจินจูยืนคู่ดูเนื้อเพลงด้วยกัน จินจูร้องเพลงไทยแบบผิดๆ ถูกๆ ไม่ค่อยชัด
“ไม่ใช่ครับ ตรงนี้ต้องอย่างนี้นะ”
คธาร้องให้ฟัง จินจูร้องตามแบบผิดๆ คธาหลุดหัวเราะมองจินจูอย่างเอ็นดู จินจูยิ้มให้คธาอย่างเขินๆ จินจูเอื้อมมือจะหยิบเนื้อจากสแตนด์ คธายื่นมือไป มือชนกัน คธาค่อยๆ กุมมือจินจู ทั้งสองคนสบตานิ่งอย่างหวานซึ้ง
กลัลมาปัจจุบัน มือคธาไล่โน้ตตัวสุดท้ายจบลง จินจูยืนนิ่งกระพริบตา น้ำตาหยดลงมา แทยอนมองอึ้ง จินจูหมุนตัวเดินออกไปทันที คธาลุกจากเปียโนตามออกไป แทยอนนั่งนิ่งหน้าเครียดอย่างเป็นกังวล
จินจูยืนนิ่งน้ำตาไหลเงียบๆ ที่มุมหนึ่งของโรงแรม คธาเดินตามมาจากด้านหลัง
“สบายดีมั้ย”
จินจูรีบเช็ดน้ำตา หันหน้ามามองคธาอย่างเย็นชา คธาเห็นสายตาก็อึ้งเปลี่ยนสีหน้าอ่อนโยนเป็นเรียบตึง
“เรา รู้จักกันด้วยเหรอคะ”
คธานิ่ง มองสบตาจินจูอย่างเศร้าๆ
“ขอโทษ ผมจำคนผิด นักเปียโนกระจอกๆ ผมจะไปรู้จักดาราชื่อดังอย่างคุณได้ยังไง” จินจูแค่นยิ้ม
“ไม่นึกว่าคนอย่างคุณจะจำเรื่องเก่าๆ ได้”
“คนที่พูดคำนี้ต้องเป็นผมมากกว่า”
“หมายความว่ายังไง” คธานิ่ง ทำท่าจะพูด จินจูมองแล้วส่ายหัว วางตัวห่างเหินใส่ “ช่างเถอะ จะอะไรก็ช่าง ตอนนี้มันนานมากเกินไป จนไม่มีอะไรต้องมาสำคัญอีกแล้ว ไม่มีเรื่องของเราอีกแล้ว”
คธาพูดไม่ออก ได้แต่ส่งสายตาตัดพ้อ จินจูสบตานิ่งพยายามกลั้นความรู้สึก แทยอนเดินเข้ามาจับที่ข้อศอกประคองจินจูเบาๆ
“จินจู ไปพักเถอะ เธอยังไม่ค่อยแข็งแรง”
แทยอนสบตาคธา คธาเบือนสายตาออก แทยอนประคองจินจูเดินหันหลังไป คธามองตามแววตาเศร้าและขมขื่นใจ
คีรินทร์นอนห่มผ้าห่มไข้ขึ้นอยู่บนเตียง ไข่มุกถือปรอทยืนเท่าเอวขมวดคิ้วมอง
“ถ้าไม่อม แล้วจะรู้ได้ไงคะว่าคุณมีไข้เท่าไหร่”
“ไม่เอาอ่ะ ชั้นไม่ชอบหน้าตามัน”
ไข่มุกเอาจ่อปาก คีรินทร์เม้ม
“อย่างอแงสิคะ ยิ่งกว่าเด็กอีกนะคุณเนี่ย อ้าปากเร็ว”
คีรินทร์เม้มแน่น ส่ายหัว
“อุตส่าห์ได้กลับมานอนห้องเรายังจะบังคับอีก ไม่เอา ผมไม่อม เด็ดขาด ใส่ปากแล้วมันจะอ็อก นะครับ ลูกไก่จ๋า” คีรินทร์ตีหน้าเศร้า ไข่มุกถอนใจ หยิบแผ่นวัดไข้เด็กขึ้นมาแปะที่หัวคีรินทร์ คีรินทร์ยิ้มออก “เอาอันนี้ตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง”
“ก็อันนี้ของเด็ก ไม่นึกว่าจะได้ใช้ด้วยซ้ำ” ไข่มุกหยิบดู “อุ๊ย ไข้สูงมากเลย ทานยานอนก่อนดีกว่านะ”
“ยังไม่ง่วงเลย”
“กินยาเดี๋ยวก็ง่วงเองค่ะ”
ไข่มุกประคองให้นั่งดีๆ แล้วหยิบยากับน้ำมาให้ คีรินทร์ทำหน้าอี๋ใส่ เบ้ปากไม่อยากกิน
“ขมเปล่า ผมแพ้ของขมนะ”
“ยาแก้ไข้คงหวานหรอกค่ะ หรือจะเอาแบบน้ำเชื่อมเด็กดี”
“ถ้ายอมกิน ต้องมีอะไรหวานๆ ตบท้ายนะ”
“อะไรคะ ขนมเหรอ”
คีรินทร์ทำท่ายื่นปากจุ๊บ
“ก็...จุ๊บหวานๆ ไง”
ไข่มุกยิ้มเย็น ยื่นยาให้
“ชั้นไม่อยากติดหวัดคุณ กินยานะคะ อย่าดื้อ ไม่งั้นชั้นวางไว้ตรงนี้ให้กินเองจริงๆ ด้วย”
“เดี๋ยวนี้เอะอะอะไรขู่ตลอด อย่าใจร้ายกับคนป่วยสิ”
ไข่มุกป้อนยา คีรินทร์อ้าปากงับนิ้วเอาไว้สบตาไข่มุก ไข่มุกดึงออกอย่างเขินๆ แล้วเอาน้ำให้กิน คีรินทร์จับมือส่งสายตาหวานซึ้ง ไข่มุกขยับตัวคีรินทร์ให้นอนลงแล้วห่มผ้าให้ ไข่มุกทำท่าจะลุก คีรินทร์ดึงมือเอาไว้
“อย่าทิ้งไปไหนนะ คืนนี้อยู่ด้วยกัน ขอนอนกอดหน่อยนะ”
ไข่มุกมองถอนหายใจ คีรินทร์อ้อนใส่ ไข่มุกกับคีรินทร์นอนด้วยกัน คีรินทร์กอดไข่มุกเอาไว้ยิ้มอย่างป็นสุข
กลางดึก คีรินทร์นอนดิ้นกระสับกระส่ายเพราะพิษไข้ไข่มุกลุกขึ้นไปหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้ ไข่มุกเช็ดเบาๆ อย่างอ่อนโยนสายตาหวานซึ้ง เป็นห่วงคีรินทร์มาก
เช้าวันรุ่งขึ้นไข่มุกนอนพิงเตียงเอนหลับ มือนึงจับมือคีรินทร์ไว้ ไข่มุกรู้สึกตัวตะลีตะลานสะดุ้งลุกพรวดขึ้นมามองคีรินทร์ คีรินทร์นอนยิ้มมองไข่มุกอย่างเอ็นดู
“ตื่นซะแล้ว กำลังดูเธอหลับเพลินๆ เลย ตกใจอะไรฮึ คุณพยาบาล”
ไข่มุกลุกแตะหน้าผากคีรินทร์
“เป็นไงบ้างคะ ดีขึ้นหรือยัง”
คีรินทร์แกล้งไอ ทำอ้อน
“ยื่นหน้ามาหน่อยสิ ชั้นไม่มีแรงเลย” ไข่มุกยื่นหน้ามา คีรินทร์หอมแก้มฟอดใหญ่แล้วยิ้มหวานให้ นัยน์ตาวิบวับ “ไม่เคยรู้สึกดี สบายตัวอย่างนี้มาก่อนเลย”
“คุณ หลอกกันนี่นา”
“เขาเรียกว่าทริคเล็กๆ มัดใจเมียยามเช้าต่างหาก มาหอมอีกข้างนะ จะได้เท่าๆ กัน คนอะไร แก้มห้อมหอม”
ไข่มุกถลึงตาใส่ทั้งอายทั้งฉุน คีรินทร์ยิ้มกว้างทำท่ารวบมากอด ไข่มุกลุกหนีทัน คีรินทร์คว้าลมหน้าจุ่มลงในหมอน ไข่มุกหัวเราะ คีรินทร์ลุกขึ้นมาทำท่าจะคว้ามากอดอีก ทั้งสองคนยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
มณี เขมทัต นุชนารถ ภัททิมา ชลลดา รัตนานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น มณีกำลังต่อว่าชลลดาอย่างโมโห
“ยังไงชั้นก็จะให้ลูกไปนอนโรงพยาบาล มีอย่างที่ไหน ทำอ้างสิทธิ์เมียดูแลเอง ลูกสาวเธอร้ายนักนะ พยาบาลอยู่ทั้งคนไม่ให้ดูแล เก่งนักรึไงฮึ เกิดเป็นหนักกว่าเก่า ใครจะรับผิดชอบ”
“จะไปหนักอะไร อย่างดีก็มีไข้ เค้าเป็นผัวเมียกัน ให้ดูแลแหละดีแล้ว ไม่น่าเกลียด”
“ดีตรงไหน คราวที่แล้วยังทิ้งตารินทร์เลย”
ภัททิมาได้ทีแทรก
“จริงๆ ลูกไก่เป็นคนดีนะคะ เสียแต่ชอบเอาตัวรอดไปนี้สสนึง” ชลลดาแกล้งทำเศร้า
“ชลต้องขอโทษที่เลี้ยงลูกไม่ดี ไม่น่ารัก ดูสิ น้องมุกยังน่ารักกว่า เสียดายนะคะ ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้น่าจะให้น้องมุกแต่งงานแทน ดวงจะได้ดี ส่งเสริมกัน”
“อย่าเลยย่ะ ชั้นกลัวจะเป็นหนีเสือเล็กปะจระเข้อเมซอนน่ะสิ”
ชลลดาหน้าตึง มณียิ้มสะใจนิดๆ คีรินทร์กับไข่มุกเดินลงมา ประคองกันยิ้มหวานสดใสกระหนุงกระหนิง นุชนารถเห็นก็หน้าตึง รู้สึกเหมือนถูกหักหน้า รัตนายิ้มหวานอย่างดีใจ
“ลงมาทำไมรินทร์ ทำไมไม่นอนพัก”
“ผมหายดีแล้วครับ ไปทำงานได้แล้ว”
“ไปไม่ได้นะคะ คุณต้องพักดูอาการอีกวัน” นุชนารถรีบบอก
“ทำไมจะไม่ได้ ผมรู้ตัวของผมดีน่า ตอนนี้สบายจะตาย”
“หายแล้วจริงเหรอคะ”
คีรินทร์ยิ้มหวานใส่ไข่มุก
“ครับ ได้เมียดีคอยดูแล หายเป็นปลิดทิ้งเลย”
คีรินทร์หอมไข่มุกโชว์ ภัททิมาทำท่าหมั่นไส้ รัตนายิ้มหัวเราะคิกคัก แต่นุชนารถมองหน้าบึ้งอย่างคนเสียหน้ามาก คีรินทร์โอบไหล่กำลังจะพาไข่มุกไป นุชนารถหันไปหามณี พูดเสียงดังประกาศลั่น
“คุณมณี นุชขอลาออกค่ะ”
คีรินทร์ชะงัก อึ้งมองนุชนารถ นุชนารถมองสบตาคีรินทร์ท้าทายนิดๆ
นุชนารถกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า มีมณียืนอยู่ใกล้ๆ
“ถ้าเธอไป ใครจะดูแลหนูนาล่ะ มีอะไรคุยกัน อย่าเพิ่งออกเลย”
“ที่นี่คนตั้งเยอะแยะก็ให้เขาช่วยดูไปสิคะ”
มณีแย่งกระเป๋า
“แต่เธอเป็นพยาบาล ต้องดีกว่าอยู่แล้ว น่า อย่าออกเลย ถือว่าช่วยๆ กัน เอ้า ชั้นเพิ่มให้สามร้อยเลย”
“เป็นพันก็ไม่เอาค่ะ”
คีรินทร์เข้ามายืนมองหน้านิ่ง นุชนารถสบตาทำท่าถือกระเป๋าในมืออย่างรักปนแค้น
“ชั้นก็ลำบากแย่สิ บอกปุ๊บออกปั๊บมีที่ไหน ไม่มีเวลาให้หาคนแทน แล้วจะทำยังไง ไม่ได้ ยังไงชั้นก็ไม่ให้ไป”
นุชนารถไม่ฟังทำท่าจะเดินออก คีรินทร์ดึงแขนไว้ นุชนารถมองขวั่บสีหน้าดุมาก
“คุณไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“นุชไม่มีความหมายกับคุณ จะอยู่ไปให้โดนหยามทำไมคะ ปล่อย นุชจะไป”
คีรินทร์มองหน้าไม่พูดอะไรแต่ลากแขนนุชนารถออกไป
คีรินทร์จับแขนนุชนารถลากกำลังจะเดินผ่านหน้าไข่มุก พอเห็นไข่มุกคีรินทร์ก็ชะงักแวบหนึ่ง ส่งสายตาแล้วลากนุชนารถออกไป
“ต๊าย ยัยพยาตูมพยาบาลนี่ร้าย เข้าใจเรียกร้องทำตัวเป็นจุดสนใจ มุขนี้เอาคะแนนความสะตอไปเลยสิบแต้ม”
ภัททิมายิ้มเยาะไข่มุก
“ลากกันอย่างนี้ สงสัยได้พาไปกก เอ๊ย กล่อม ปรับความเข้าใจกันยาวแหง โถๆๆ แต่งมาตั้งนาน จนป่านนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ดูสิ นังพยาตูมโวยนิดเดียว คุณรินทร์ก็พาไปปลอบใจซะแล้ว สงสัยได้ปลอบกันถึงอกถึงใจ”
ภัททิมากับชลลดาประสานเสียงหัวเราะเยาะ รัตนานิ่วหน้า เขมทัตมองไม่พอใจนิดๆ ไข่มุกนิ่งอึ้ง เม้มปากแน่น
คีรินทร์จอดรถลงข้างทางแล้วถอนหายใจหนัก
“ใจเย็นลงหรือยัง”
“จะให้ใจเย็นได้ไง คุณทำอย่างนี้ต่อหน้านุชได้ไง นุชก็เมียคุณนะคะ เป็นมาก่อนแม่นั่นด้วย”
“ผมรู้ คุณยังสำคัญเหมือนเดิมนะ อย่าลาออกเลย”
“จะเลี้ยงนุชไว้ให้ดูแลน้องคุณเหรอ คนอย่างนุชนารถไม่ใช่ของเล่นหรือทาสที่คุณจะร้อยไว้ใช้ ถ้าจะให้อยู่ก็ต้องในฐานะเมียอีกคน”
“เดี๋ยวสิ”
“ชั้นจะเปิดเผยเรื่องของเราให้ทุกคนรู้ จะไม่ยอมให้คนอื่นเหยียบหัวชูคออีกแล้ว”
คีรินทร์อึ้ง นุชนารถมองอย่างเอาจริง
ที่ห้องพักจินจู แทยอนพูดโทรศัพท์ โดยมีจินจูนั่งมองมาอย่างสนใจ
“ผมเข้าใจ คุณพยายามต่อไปแล้วกัน ...บาย”
แทนยอนวางหู จินจูรีบถาม
“นักสืบว่าไงคะ”
“ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ยังไม่พบข้อมูลที่จะเชื่อมโยงหาตัวยองแอได้แต่เขากำลังพยายามสืบหาต่อไป” จินจูหน้าเสีย แทยอนมองอย่างสงสาร “เธอกลับเกาหลีก่อนดีมั้ย ทางนั้นมีงานหนังติดต่อมาเรื่องยองแอ บางทีมันอาจจะยาก ต้องใช้เวลานาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่”
“ไม่ค่ะ ชั้นไม่กลับ ถ้าพี่อยากกลับก็กลับไปคนเดียว”
แทยอนมองจินจูนิ่ง
“เป็นเพราะเขาใช่มั้ย” จินจูนั่งนิ่งก้มลงมองพื้นไม่สบตาใคร แทยอนหน้าเครียด “เธอ...คิดจะกลับไปคืนดีกับเขา”
จินจูนิ่ง สบตาแทยอนแล้วพูดเสียงเรียบ
“ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว สายน้ำไม่มีวันไหลย้อนกลับ เรื่องของเขา มันเป็นอดีตไปแล้ว”
แทยอนมองจินจูอย่างยังกังวล ไม่แน่ใจว่าเธอจะทำแบบนั้นได้จริง
ที่ฟิตเนส ไข่มุกกำลังสอนเต้นอย่างเมามัน สีหน้าขึงขัง เตะต่อยเอาจริงมาก กีกี้ แองจี้ น้องแพรวมองอย่างแหยงๆ ไข่มุกเตะตวัดขาเฉียดหน้ากีกี้
“ว้าย อย่ามาใกล้ชั้นนะ”
ไข่มุกเขยิบไปนิด
“เตะให้แข็งแรงหน่อยค่ะ ตวัดให้เร็วและสูงกว่านี้”
ไข่มุกเต้นนำดุเดือด
“กินอะไรมาเนี่ย น่ากลั๊วน่ากลัว”
“จัดหนักได้อีก โอ๊ย จะเตะชั้นคอหักมั้ยเนี่ย”
ไข่มุกตวัดมองกระโดดเตะออกหมัดเข้ามากลางวง สามสาวถอยกรูด หน้าตาตื่น
“ชีคลุ้มคลั่งไปแล้ว เมื่อก่อนไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่”
คีรินทร์ยืนมองข้างนอก เห็นว่าเป็นคลาสส่วนตัวของสามสาวก็เดินเข้ามาใกล้ไข่มุก
“ลูกไก่ ชั้นอยากคุยด้วย” ไข่มุกชะงัก
“ชั้นทำงานอยู่” ไข่มุกเต้นต่ออย่างไม่สนใจ
“พักก่อนก็ได้ สาวๆ ไม่ว่าหรอก”
สามสาวพยักหน้าพร้อมเพรียง ไข่มุกมองดุ สามสาวถอยกรูดอีกรอบ
“ไม่ได้ รอให้จบคลาสก่อน”
คีรินทร์จับแขนไข่มุก ไข่มุกฉุนจับเหวี่ยงทุ่มข้ามตัวแบบยูโดลงไปกองที่พื้น สามสาวมองตาเหลือก สยองไข่มุกมาก คีรินทร์ทั้งงงทั้งฉุน
“เฮ้ย เอาจริงเหรอ”
ไข่มุกตวัดมองตาดุ หน้าเหี้ยมมากแล้วเดินเปิดประตูออกไป คีรินทร์นอนกุมท้องนึกรู้ว่าโดนโกรธจริงๆ แล้ว
ไข่มุกเดินมานั่ง น้ำตาคลอ สีหน้าทั้งโกรธทั้งเสียใจ งอนคีรินทร์ จินจูเดินเข้ามาหานั่งลงข้างๆ
“ไม่เจอหนูตั้งหลายวัน เป็นไงบ้าง” ไข่มุกเงยหน้ามอง จินจูชะงักนิ่ง ไข่มุกน้ำตาไหล จินจูเลยลูบหัวให้เบาๆ
“ชั้นอยากไปเที่ยว พาไปหน่อยได้มั้ย”
ไข่มุกเช็ดน้ำตาเร็วๆ พยักหน้า
“ได้ค่ะ หนูกำลังอยากไปเหมือนกัน เราไปที่ไกลๆ เลยนะ เดี๋ยวหนูพาไปเอง”
ไข่มุกมอง ยิ้มทั้งน้ำตา จินจูยิ้มรับจางๆ
ภัททิมาเดินมาที่ห้องแต่พอมองเข้าไปแทบช็อค เมื่อเห็นนุชนารถรวบเสื้อผ้าข้าวของของเธอใส่ถุงดำ นุชนารถหันมามองภัททิมาด้วยสายตาร้ายๆ
“ทำอะไร จะเอาของชั้นไปไหน อี๊ ของดีๆ เอามาใส่ถุงขยะได้ไงยะ รู้มั้ยว่าตัวนี้ราคาเท่าไหร่”
“ชั้นจะย้ายของให้เธอไปนอนกับป้าเธอไง”
“เรื่องอะไร แล้วแกเป็นใครยะ ทำมาเป็นสั่ง เจ้าของบ้านก็ไม่ใช่ เป็นแค่ลูกจ้างก็ไปอยู่กับยัยเด็กง่อยนั่นสิ จะเสร่อมานอนข้างบนทำไม”
นุชนารถไม่สน โยนถุงดำลงตรงหน้า ภัททิมาร้องว้ายกระโดดหนี นุชนารถยิ้มเยาะใส่
“ชั้นก็ต้องนอนกับผัวชั้นสิ เธอนั่นแหละออกไป”
“ใครยะผัวแก” ภัททิมางง
นุชนารถยิ้มเยาะอย่างเป็นต่อ มองนุชนารถหัวจรดเท้า แค่นหัวเราะเบาๆ
จินจูกับไข่มุกเดินเล่นในสวนสวย ไข่มุกถอนหายใจ จินจูยิ้มจาง
“ชีวิตมันยากอย่างนี้แหละ บางเรื่องก็หนักกว่าที่คิด แต่บางทีก็ดีกว่าที่เรานึก เชื่อชั้นเถอะลูกไก่ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปเอง ไม่มีใครที่แย่ตลอดไป หรือดีตลอดไปหรอก แต่ไม่ว่าจะดีหรือร้าย สุดท้ายเราก็จะผ่านมันไปได้”
ไข่มุกเม้มปากแน่น
“ขอหนู กอดคุณหน่อยได้มั้ยคะ” จินจูดึงไข่มุกเข้ามากอด ไข่มุกกอดแน่นร้องไห้เบาๆ จินจูลูบหัวอย่างเอ็นดู “หนูพยายามทำดีที่สุดแล้ว ทำไมเขาถึงยังเป็นแบบนี้ ทำไมไม่นึกถึงจิตใจกันมั่งเลย”
“นี่แหละผู้ชาย เวลาดีก็ทำให้เรามีความสุขเหลือเกิน แต่เวลาใจร้าย ก็เหมือนฆ่าเราทั้งเป็น”
จินจูกอดกับไข่มุกสีหน้าครุ่นคิด ไข่มุกสะอื้นเบาๆ อย่างเจ็บปวดใจ
ไข่มุกเดินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นภัททิมากับชลลดายืนหน้าเครียด มีนุชนารถกับมณียืนประจันหน้า
“ต่อไปนี้พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาใช้ชั้น เพราะชั้นเป็นเมียคุณรินทร์”
“ได้ยังไง ลูกชั้นเป็นเมียอยู่ เธอจะมาเป็นอีกคนหรือไง หน้าด้าน คิดจะออลอินวันเหมาหมดทั้งพยาบาลทั้งเมียใช่มั้ย”
คีรินทร์มองนิ่ง เบื่อนิดๆ
“ใช่ ชั้นทำได้ทั้งสองอย่าง และทำได้ดีด้วย ไม่เชื่อก็ถามคุณรินทร์กับหนูนาสิ”
“อ๋อ ทำกร่างล่ะสิ สำคัญตัวผิดหรือเปล่า”
นุชนารถยิ้มเยาะตอกกลับ
“อย่างน้อยก็สำคัญกว่าพวกอ่อยให้ตายเขาก็ไม่เอา”
ภัททิมาอึ้ง ทำท่าจะอยากเข้าไปใส่ นุชมองตาถลึงพอกัน ไข่มุกมองคีรินทร์ คีรินทร์ยังนิ่ง
“ชั้นไม่ยอม รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เมียสองคนในบ้านเดียวกัน หัดไปเช็คประสาทตัวเองมั่งนะ อย่ามัวแต่ดูแลคนอื่น”
“โอ้ย จะโวยไปทำไม นิสัยผู้ดีไม่รู้จักเหรอ พูดค่อยๆ ก็ได้ เรื่องของเด็กๆ ผู้ใหญ่ไม่เกี่ยว”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ลูกชั้นเป็นเมียแต่ง ต้องถามก่อน ใช่มั้ยลูกไก่ บอกมาเลยว่าไม่เอาแม่นี่” ไข่มุกมองทุกคน เดินออกไปเงียบๆ คีรินทร์นั่งอึ้งมึน กลอกตาไปมาแบบเซ็งๆ ชลลดาโวยลั่น “จะไปไหนลูกไก่ ยอมไม่ได้นะ ไม่ได้เด็ดขาด กลับมาก่อนสิ ลูกไก่”
ไข่มุกไม่สน เดินจากไป คีรินทร์มองตามสีหน้าครุ่นคิด
ประตูห้องนอนค่อยๆ เปิดออก คีรินทร์ค่อยๆ ย่องเข้ามา ไข่มุกนั่งหันหน้าเข้ากระจกมองเห็น คีรินทร์ทำท่าจะเข้ามากอดแต่ไข่มุกลุกหนีทันที
“หวีผมให้นะ”
“ไม่ต้องค่ะ ชั้นทำเองได้”
“อย่าโกรธชั้นเลย นุชเขาก็เคยเป็นเมียชั้นมาก่อน เขาเองก็ไม่มีใคร ถ้าไม่รับผิดชอบ ก็ทำร้ายจิตใจกันเกินไป แต่ยังไงเธอก็สำคัญที่สุดนะ”
“ไม่ต้องอ้างเรื่องรับผิดชอบหรอก คุณต่างหากที่เป็นคนมักมาก เอาแต่ใจ ไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น คิดแต่ประโยชน์ของตัวเอง ไม่สนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง แล้วก็ไม่ต้องบอกว่าชั้นสำคัญที่สุดด้วย ถ้าสำคัญจริง คุณต้องไม่ทำแบบนี้”
คีรินทร์โกรธ โดนจี้ใจดำ
“เธอก็เอาแต่ว่าชั้น ตัวเองทำหน้าที่เมียสมบูรณ์หรือเปล่าล่ะ ที่ชั้นเป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอนั่นแหละ เมียคนเดียวยังกอดไม่ได้ ตัวเลือกชั้นมีเยอะแยะ ไม่เห็นต้องแคร์เธอเลย”
“คุณกำลังบ่ายเบี่ยงนะ คุณเองก็ไม่ให้เกียรติชั้น ไม่ให้เกียรติผู้หญิงทุกคนในชีวิตคุณ ปัญหาที่มันคาราคาซังยืดเยื้อเป็นเพราะคุณไม่ใช่ชั้น”
“นี่เธอว่าชั้นเหรอ ยัยลูกไก่”
ไข่มุกจ้องหน้าคีรินทร์ คีรินทร์จ้องกลับ นุชนารถเปิดประตูเข้ามาควงแขบโอบเอวซบคีรินทร์ ยิ้มยั่วไข่มุก
“เสียงดังอะไรกันคะ ไปเถอะคุณรินทร์ ไปนอนห้องนุชนะ อย่าอยู่ที่นี่นานๆ เลยค่ะ เหม็นของเก่าเก็บ”
คีรินทร์มองหน้าไข่มุกแล้วเดินออกไปด้วยความโกรธ ไข่มุกมองตาม พอคีรินทร์ไปแล้วก็ทรุดลงนั่งน้ำตาค่อยๆไหล สะอื้นแรงขึ้น
มายาสีมุก ตอนที่ 6 (ต่อ)
วันต่อมานุชนารถเข็นรถพารัตนามาที่ฟิตเนส กะมาเย้ยไข่มุกเต็มที่ รัตนามองรอบข้างอย่างตื่นเต้น รัตนาเห็นไข่มุกก็โบกมืออย่างดีใจ
“นั่นพี่ลูกไก่นี่นา พี่ลูกไก่ หนูนาอยู่นี่ค่ะ”
ไข่มุกมองแล้วชะงัก เดินเข้ามา
“มาได้ยังไงคะ มาเที่ยวเหรอ”
“ค่ะ วันนี้พี่นุชใจดีพามา”
นุชนารถทำพูดยิ้มแย้มกับรัตนา
“อีกหน่อยจะพามาบ่อยๆ ด้วย” คีรินทร์เดินมา
“นุชมาทำไมเนี่ย”
“ก็พาหนูนามาเที่ยวไงคะ แล้วก็มาให้กำลังใจคุณรินทำงานด้วย”
“โรงแรมส๊วยสวย หนูนาชอบจัง พี่รินทร์กับพี่ลูกไก่ให้มาบ่อยๆ ได้ ใช่มั้ยคะ นะคะ”
คีรินทร์กับไข่มุกอึ้ง นุชนารถยิ้ม
“ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวพี่พามาเอง เดี๋ยวนุชพาหนูนาไปกินขนมก่อน แล้วเจอกันในห้องทำงานนะคะคุณรินทร์”
“เย้ อยากกินขนมเค้กจังค่ะ เอาเค้กช็อกโกแลตนะคะ”
นุชนารถปรายตามองคีรินทร์แล้วมองไข่มุกอย่างสะใจ นุชนารถเข็นออกไป ไข่มุกมองอึ้งสายตาตัดพ้อคีรินทร์ ไข่มุกทำท่าจะเดินออกแต่คีรินทร์คว้าแขนไว้ ไข่มุกตวัดตามอง จะดึงออกแต่คีรินทร์ยิ่งรั้ง
“ปล่อยค่ะ ชั้นไม่อยากยุ่งกับคนอย่างคุณอีกแล้ว สนุกใช่มั้ยคะ ที่ทำให้คนอื่นเสียใจได้”
“แล้วเธอจะรีบไปไหน ไปหากิ๊กหรือไง อย่างี่เง่าน่า”
ไข่มุกสะบัดวิ่งออกมาด้านนอก คีรินทร์ตามมาจับแขนไว้ คธาเดินมาหยุดดูทั้งคู่งงๆ
“คุณน่ะแหละงี่เง่า ปล่อย”
ไข่มุกสะบัดออกแล้วเดินหนีไป คีรินทร์เตะกำแพงระบายอารมณ์ บ่นอย่างหงุดหงิด
“ผู้หญิงก็อย่างเงี้ย ขี้งอนทั้งปี ไม่ได้ดั่งใจก็เดินหนี ยัยลูกไก่บ้าเอ๊ย”
“รู้อย่างนี้แล้วก็ต้องถนอมน้ำใจหน่อยนะครับ ภรรยาคุณทั้งคน อย่าทำให้เสียใจเลย”
คธาพูดแบบเศร้านิดๆ คีรินทร์อึ้ง นิ่งคิด
ไข่มุกเดินเข้ามาในห้องโถงโรงแรมนั่งลงที่แกรนด์เปียโน พรมนิ้วบนคีย์ผิดๆ ถูกอย่างระบายอารมณ์ ใบหน้าถมึงทึงคลายออกนิดๆ ไข่มุกกดเล่นอย่างสะใจ คธาเดินตามมายิ้มๆ
“สบายใจขึ้นหรือยังครับ”
“ก็บ้างแล้วค่ะคุณอา ดนตรีนี่ดีนะคะ ช่วยระบายอารมณ์ กดหนักๆ เน้นๆ สะใจดี”
คธามายืนข้างๆ กดนิ้วลงคีย์สองสามอัน มองเปียโนนิ่ง
“บางเรื่องที่พูดออกมาไม่ได้ ดนตรีก็ช่วยพูดแทนเรา”
ไข่มุกนิ่ง วางมือบนคีย์แตะเล่น คธามองอย่างเห็นใจและเข้าใจ
“คุณลูกไก่อยากลองหัดเล่นเปียโนมั้ยครับ”
ไข่มุกมองคีย์แล้วเงยหน้ามองคธา แววตาสนใจ
จินจูเดินมากับผู้อำนวยการสร้างของไทย
“นางเอกที่ทางเราคัดผลงานกับประวัติไปให้ดูเป็นไงบ้างครับ มีคนไหนถูกใจหรือยัง”
“ดูแล้วค่ะ แต่ยังไม่ใช่สักคน ท่าทางไม่ได้ คาแรคเตอร์ยังไม่โอเค ยังไม่มีคนที่ถูกใจเลย ชั้นอยากได้คนที่เป็นสตันท์มาบ้างด้วย”
“อืม แล้วคุณจินจูมีคนใครในใจรึยังครับ ผมจะได้รีบติดต่อ” จินจูอมยิ้มนิดๆ
“เขาคงมาเล่นไม่ได้หรอกคะ ไม่ใช่นักแสดงอาชีพด้วย”
“น่าเสียดาย”
เสียงเปียโนดังขึ้นจากห้องโถง ผู้อำนวยการชะงักฟังอย่างพอใจ
“อืม ฝีมืออย่างนี้ไม่ใช่ระดับธรรมดาแน่ ใครเล่นกันเนี่ย”
จินจูได้ยินแล้วนิ่ง นึกรู้ว่าเป็นคธาแน่
คธานั่งอยู่ที่เปียโนกับไข่มุก คธาเล่นนำสอนแบบง่ายๆ สลับให้ไข่มุกเล่นตาม จินจูเดินเข้ามาพร้อมผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการเขม้นมองแล้วทำท่าตกใจ
“นั่นคุณคธานี่ คุณคธาครับ”
คธาละมือออก มองเห็นผู้อำนวยการ กับจินจูก็ชะงัก จินจูมองเมิน คธาลุกเดินมาหา ไข่มุกเดินตามหลังมาด้วย
“สวัสดีครับผู้อำนวยการ ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีมั้ยครับ”
“ก็สบายตามปกติครับ นี่คุณจินจู เคยเจอกันมาแล้วนี่ จำได้มั้ยครับ ตอนที่คุณคธามาสอนร้องเพลงให้ไง”
จินจูมองสบตา คธาสบตอบ
“เหรอคะ แต่มันนานมากแล้ว จำไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ”
ไข่มุกมองจินจูสลับกับคธา
“อ้าว นี่คุณอารู้จักคุณจินจูมาก่อนเหรอคะ ไม่เห็นบอกกันเลย ปล่อยให้หนูโม้ตั้งนาน”
ไข่มุกยิ้มหวานให้จินจู คธานิ่ง
“มันนานมาแล้ว ผมจำไม่ได้”
ไข่มุกกับผู้อำนวยการมองงงๆ คธากับจินจูมองสบตากัน คธามีแววตาโกรธปนตัดพ้อ จินจูมองเรียบๆ แต่ซ่อนแววตาไว้
“ผู้ชายนี่ลืมง่ายจังนะ”
“แต่ผมว่าผู้หญิงลืมเก่งกว่า ทั้งลืม ทั้งเปลี่ยนไป”
จินจูกับคธามองสบตากันนิ่งนาน ผู้อำนวยการ มองเห็นท่าไม่ดีรีบเปลี่ยนเรื่อง
“เออ สงสัยต่างคนต่างลืมจริงๆ เพราะมันยี่สิบกว่าปีแล้วนี่นะ นี่คุณคธา ผมกำลังจะทำหนังฟอร์มยักษ์ร่วมทุนไทยเกาหลี สนใจมาร่วมงานด้วยมั้ยครับ ผมอยากได้คนมีประสบการณ์มาช่วยทำเพลงประกอบ”
คธาสบสายตากับจินจู จินจูมองกลับแต่ซ่อนแววตาเอาไว้ คธาแค่นยิ้ม
“อย่าดีกว่าครับ ผมคงมีความสามารถไม่พอที่จะร่วมงานกับดาราดังหรอกครับ คงต้องเป็นคนอื่น ขอโทษนะครับ”
ไข่มุกมองจินจูกับคธาด้วยแววตาสงสัย แต่ไม่กล้าพูดอะไร
ภัททิมาเดินเอากาแฟมาวางที่โต๊ะคีรินทร์ นุชนารถนั่งมองอย่างนึกอยากแกล้ง
“กาแฟค่ะบอส กาแฟสองน้ำตาลหนึ่ง อร่อยเป๊ะเหมือนเดิม”
“ขอบใจมาก”
นุชนารถมองหมั่นไส้ พูดเรียบๆ
“ของชั้นกาแฟสองน้ำตาลหนึ่งเหมือนกัน ขอเป็นน้ำตาลเทียม ไม่อ้วน ถ้าไม่มี ก็เป็นน้ำตาลทรายแดงละเอียดแล้วกัน”
“หนูนาเอาช็อกโกแลตเย็น หวานๆ นะคะ มีขนมด้วยมั้ยคะ”
ภัททิมาก้าวเข้ามาใกล้นุชนารถ ฉีกยิ้มหวานแต่กระซิบลอดไรฟัน
“ชั้นเป็นเลขา ไม่ใช่คนใช้ อยากกินไปทำเอง”
“แต่ชั้นเป็นภรรยา เท่ากับเป็นเจ้านายเธอด้วย”
ภัททิมาแค่นหัวเราะ
“อ๋อเหรอ แต่ชั้นว่าคู่นอนมากกว่า เขาอยากเขี่ยทิ้งแทบตายแต่เขี่ยไม่ได้ ต้องเลี้ยงไว้ใช้ประโยชน์”
“ปากดี มันจะมากไปแล้วนะ”
“มากไปตรงไหนไม่ทราบ โถ อุตส่าห์มาถึงที่กะจะอ่อย แล้วไง เขาสนใจมั้ย ฮึ เสียเวลาเปล่าๆ”
คีรินทร์มองเซ็งๆ ค่อยๆ ย่องเงียบออกจากห้อง สบตารัตนา คีรินทร์ทำท่าจุ๊ปาก รัตนาพยักหน้า ตบมือชอบใจดูต่อ
“ดีกว่าบางคนที่อ่อยเท่าไหร่เขาก็ไม่เอา ลงทุนไปเท่าไหร่ล่ะ เชอะ เลขา ตัวสร้างปัญหาไม่ว่า”
“แก แก คุณรินทร์คะ” ภัททิมากับนุชนารถหันไปทางโต๊ะ ไม่มีคีรินทร์แล้ว ทั้งสองคนผละจากกัน “โอ๊ย เสียเวลาจริงๆ มาทะเลาะกับคนอย่างแก”
“ชั้นต่างหากที่ต้องพูดคำนี้”
ภัททิมากับนุชนารถสบตากันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ รัตนายิ้มชอบใจดูอย่างสนุกสนาน
ไข่มุกเดินมากับจินจู
“คุณไม่ชอบคุณอาเหรอคะ” ไข่มุกถามอย่างสงสัย
“ไม่หรอก ไม่มีอะไร ชั้นแค่ไม่ได้เจอกันนาน จนไม่รู้จะพูดอะไร”
“แต่ทั้งคุณทั้งคุณอาดูแปลกๆ ทำท่าเหมือนมีอะไรกันเลย” จินจูนิ่ง
“อาจจะเคยมี แต่มันนานมากแล้ว เรื่องเก่าๆ บางทีจำไม่ได้จะดีกว่า ชั้นมาที่นี่เพื่อจะทำงานหนัง กับธุระส่วนตัว สำเร็จเมื่อไหร่ ชั้นก็จะกลับเกาหลี ไม่มาไทยอีก”
“ถ้าคุณกลับไปแล้ว หนูคงคิดถึงแย่”
จินจูมองไข่มุกอย่างเอ็นดู คีรินทร์เดินดุ่มๆ เข้ามาคว้าข้อมือไข่มุก ไข่มุกสะดุ้ง เห็นเป็นคีรินทร์ก็ทำเฉย
“ไปกับชั้นหน่อย” นุชนารถกับภัททิมากำลังเดินมา คีรินทร์เร่งกระตุกมือ “เร็วๆ มาแล้ว”
“นั่นไง คุณรินทร์ คุณรินทร์คะ อย่าไปไหนนะ”
“คุณรินทร์”
ไข่มุกขืนตัว
“จะพาชั้นไปไหน”
“ไปไหนก็ได้ให้พ้นจากที่นี่ หนวกหูมาก ชั้นปวดหัวจะตายแล้ว”
คีรินทร์จูงมือไข่มุกเดินฉับๆ ออกไปจินจูมองยิ้มนิดๆ ภัททิมาเดินมาถึงกับนุชนารถ หันมาโทษกันเอง
“เพราะเธอ คุณรินทร์เลยหนีไป”
“ใครกันแน่ที่ยั่วโมโหก่อน โอ๊ย จะบ้าตาย อยู่ดีไม่ว่าดีต้องมารบกับคนประสาทกิน ชั้นล่ะเบื่อจริง”
“ชั้นก็เบื่อพวกหมาเห่าเครื่องบิน อยากได้ไม่มีปัญญาจะเอาเหมือนกัน”
ภัททิมามองหน้านุชนารถ นุชนารถมองเชิ่ดหยิ่ง จินจูมองสองสาวแล้วส่ายหน้าเบาๆ
คีรินทร์หงายหลังเต็มเบาะรถ ทำท่าเซ็งจัด ไข่มุกมองคีรินทร์ยิ้มนิดๆ ก่อนจะหลุดขำ
“หนีเปิดมาเลยนะคะ สาวๆ คุณแสบจริงๆ”
คีรินทร์หันมองไข่มุก หน้าบึ้ง
“หัวเราะเยาะชั้นเหรอ ขำนักใช่มั้ย”
“หนุ่มเจ้าเสน่ห์ก็งี้แหละค่ะ สาวๆ ทะเลาะกัน โกยแน่บหนีแทบไม่ทัน ทำเค้าไว้เยอะล่ะสิ”
คีรินทร์หน้ามุ่ย
“ก็ไม่นึกว่าจะถึงขั้นนี้นี่ ยังดีสามสาวไม่มาแจม ไม่งั้นโรงแรมแตกแน่ โอย เหนื่อย ไม่ได้วิ่งนานแล้วเหนื่อยจัง”
ไข่มุกหัวเราะกิ๊ก
“เค้าเรียกว่ากรรมติดจรวดค่ะ ใครทำอะไรไว้ก็ได้อย่างงั้น”
“เธอว่าทำไงดี ชั้นไม่อยากวิ่งหนีแล้ว เหนื่อยชะมัด”
“เรื่องของตัวเองจัดการเองเถอะค่ะ ขี้เกียจปวดหัวไปด้วย”
“ไม่ช่วยกันเลยนะคุณภรรยา ญาติเธอก็ด้วย กิ๊กก็ไม่ใช่ ทำไมหวงจัง เธอยังไม่หวงเท่าเขาเลย”
“ไม่รู้ค่ะ ถามเขาเองสิ”
คีรินทร์ทำอ้อนซบไหล่ หอมไหล่เบาๆ ซุกหน้าเอาไว้ ไข่มุกยิ้มนิดๆ อย่างอดไม่ได้ เอนหัวแนบผม
“คิดถึงเธอจัง คิดถึ้งคิดถึง”
ไข่มุกทำเป็นเก๊กแต่แอบยิ้ม
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย”
“ยังงอนอยู่เหรอ ขอโทษนะลูกไก่คนสวย ชั้นมันปากเสียไปหน่อย เจอเธอด่าเลยของขึ้น ขอโทษนะ” ไข่มุกอมยิ้ม
“ขอโทษแล้ว ที่หลังก็อย่าทำอีกนะคะ ชั้นไม่ใช่พวกลืมง่าย”
“ลืมยากก็ไม่เป็นไร แต่ขอชั้นอ้อนก่อนนะ ชั้นคิดถึงเธอจริงๆ คืนนี้ขอกลับไปนอนห้องได้มั้ย” ไข่มุกมองออกนอกหน้าต่างซ่อนยิ้ม คีรินทร์เอามือกอดเอวไว้ “นะๆ แถมโปรโมชั่นให้กอดชั้นฟรีด้วยเลยเอ้า”
คีรินทร์กอดอ้อน ไข่มุกแอบยิ้มคนเดียว หน้าตาดูมีความสุข
แทยอนนั่งมองจินจูอยู่ในห้อง จินจูนั่งเหม่อ หน้าเศร้านิดๆ
“เรื่องคธา เธอยัง...”
“พอเถอะ ชั้นไม่ได้คิดอะไรแล้ว เรื่องระหว่างเขากับชั้นจบไปนานมากแล้ว ยี่สิบกว่าปี นานเท่าชีวิตคนๆ นึง นานพอที่จะทำให้ลืมทุกเรื่องได้แล้ว”
แทยอนยิ้ม โล่งขึ้นนิดๆ
“ดีแล้ว งั้นเราต้องรีบหายองแอให้เจอเร็วที่สุด จะได้กลับเกาหลีกัน”
“ไม่ต้องห่วง ถ้าชั้นเจอยองแอเมื่อไหร่ ชั้นจะกลับเกาหลีทันที แล้ว ไม่กลับมาที่นี่อีกชั่วชีวิต”
จินจูพูดแล้วนิ่ง แทยอนมองอย่างโล่งใจปนดีใจ
คืนนั้นคีรินทร์นอนแผ่สบายใจอยู่บนเตียง กอดหมอนข้างแล้วตบหมอนให้ไข่มุกที่นั่งอยู่ปลายเตียงมานอนด้วย
“มานอนกัน คิดถึง ขอกอดให้ชื่นใจหน่อย”
“ไม่ล่ะคะ คุณนอนไปเถอะ”
คีรินทร์เอาหน้าซุกหมอน
“มาเถอะ ที่นอนสบ๊ายสบาย หมอนก็นุ่ม ผ้าห่มอุ่นแดด รอแค่เธอนะ มานอนกอดกันดีกว่า” ไข่มุกนั่งนิ่ง คีรินทร์กระเถิบหา “นะ คืนนี้ได้เวลาดี แฮปปี้ไทม์แล้ว มาให้ฟัดซะที”
“ฟัดอะไร คดีเก่ายังไม่หมดนะคะ”
คีรินทร์พลิกตัวนอนหนุนตักไข่มุก
“ลืมๆ ไปบ้างก็ได้ ชั้นรู้นะว่าเธอก็คิดถึงชั้น นอนร้องไห้กอดหมอนด้วยใช่มั้ยล่ะ ยังเปียกอยู่เลย”
“ไม่มีทาง ใครจะร้องไห้ให้คุณ”
“โหย งอนได้แต่อย่านาน ชั้นจิตใจอ่อนไหว ขาดคนดูแลไม่ได้”
“มีคนอยากดูแลเยอะแยะ”
“แต่คนที่ชั้นอยากให้ดูแลมีแค่คนเดียวนะ”
“คุณรินทร์ อยู่ที่นี่รึเปล่าคะ”
นุชนารถเคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้อง คีรินทร์เบ้หน้าเอาหน้าปิดหมอน
“นั่นไง เบอร์หนึ่งมาเรียกแล้ว”
“ไม่เอาอ่ะ หลับดีกว่า”
คีรินทร์มุดตัวเอาผ้าห่มคลุมโปง ไข่มุกส่ายหน้าเอามือดันหัวคีรินทร์แล้วลุกไปเปิดให้นุชนารถ นุชนารถยืนมองอย่างแค้นๆ
“คุณรินทร์ล่ะ เอามากกถึงในห้อง คิดจะดึงตัวไว้ล่ะสิ”
“ก็เข้ามาเอาไปสิ นอนอยู่บนเตียงน่ะ”
นุชนารถเดินเข้ามากระชากโปงออก คีรินทร์ทำหน้าเซ็งจัด ถอนหายใจหนัก นอนหลับตาแน่น
“คุณรินทร์ ไปเถอะค่ะ เขามาเรียกแล้ว” ไข่มุกบอก
“ไม่เอา ชั้นจะนอนที่นี่” คีรินทร์บอกทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“ได้ยังไง นี่คุณไม่เห็นความสำคัญของนุช ไม่รักนุชแล้วเหรอ คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง”คีรินทร์ครางพลิกตัวหนีแกล้งทำง่วงจัด นุชนารถแทบกรี๊ด เขย่าตัวคีรินทร์ “คุณรินทร์ คุณทำแบบนี้อยากให้นุชตายใช่มั้ย คิดจะทิ้งนุช อยากเห็นนุชเป็นบ้าใช่มั้ย”
คีรินทร์พลิกกลับมามอง
“อืม บอกด้วยแล้วกันจะเผาวัดไหน กับข้าวเลี้ยงอะไร ตั้งศพกี่วัน”
นุชนารถมองอย่างโกรธมาก
“ได้ งั้นชั้นจะตายให้ดู”
นุชนารถวิ่งออกไป ไข่มุกมองตามอย่างสงสารนิดๆ คีรินทร์ดึงมือลงมานั่งแล้วนอนหนุนตักกอดเอวไว้
“ใจร้ายจัง ถ้าเขาตายจริงจะทำยังไง” คีรินทร์หัวเราะ
“ก็ดี ตายไปเกิดใหม่ไวๆ แต่อย่าเป็นผีมาหลอกแล้วกัน”
คีรินทร์ยกตัวหอมแก้มไข่มุก ไข่มุกตีแขน คีรินทร์ร้องโอยแต่ยิ้มตาพราว
“ไม่ต้องหอมเลยค่ะ แต้มติดลบหมดกระดานแล้ว งดหอม”
“งกอีกแล้ว งกตลอด ติดได้ติดไป เดี๋ยวชั้นค่อยๆ ทำเพิ่มก็ได้ แต่คืนนี้ขอนอนกอดก่อนนะ คิดถึงเมีย อยากอ้อนเมียใจจะขาด”
“ให้แค่กอดนะคะ ห้ามเกินกว่านั้น ไม่งั้นชั้นโละกระดานทิ้ง”
“โอเคครับ รับทราบ”
คีรินทร์ดึงไข่มุกเข้ามากอด แววตาวาวเจ้าชู้
ที่ห้องนอนนุชนารถ คมคัตเตอร์ในเงามืดสะท้อนกับแสง นุชนารถมองนิ่งร้องไห้ แล้วค่อยๆ กรีดไปบนแขน กรีดไปร้องไห้สะอึกสะอื้นไป รัตนางัวเงียเงยหน้ามอง
“พี่นุช ทำอะไรคะ”
นุชนารถหันหลังมาหา เลือดเต็มแขน นุชนารถร้องไห้แบบเสียสตินิดๆ รัตนาเห็นร้องไห้กรี๊ดลั่นอย่างตกใจ
นุชนารถถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล คีรินทร์ยืนหน้าเครียดนิ่งๆ มองนุชนารถ นุชนารถนอนซีดเซียวอยู่บนเตียงให้น้ำเกลือ มองคีรินทร์อย่างตัดพ้อ
“ดีนะครับที่แผลไม่เป็นอะไรมาก คัตเตอร์ไม่ได้ลงลึก ถ้ายังไงหมอให้พักสักคืนกับให้น้ำเหลือ ยาบำรุง กับยาคลายเครียด พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ แล้วก็ทำแผลทุกวันนะครับ”
หมอเดินออกไป นุชนารถเงยหน้ามองอ้อนคีรินทร์ คีรินทร์มองกลับหน้าเฉย นุชนารถอึ้งไป
“ขอโทษนะที่ไม่ได้ตายสมใจคุณ”
คีรินทร์แค่นยิ้ม
“เลิกเล่นละครได้แล้วนุช อย่านึกว่าผมไม่รู้นะ ที่คุณทำแค่เรียกร้องความสนใจ ไม่ได้จะตั้งใจตายจริงหรอก” นุชนารถอึ้ง
“คุณรินทร์”
“คุณเป็นพยาบาล ถ้าอยากตายจริงคงกรีดเส้นเลือดใหญ่ไปแล้ว”
“คุณหาว่านุชแกล้งทำเหรอ”
“ช่างมันเถอะ คุณนอนพักแล้วกัน”
คีรินทร์พูดจบก็เดินออกจากห้องไป นุชนารถมองตามสายตาทั้งรักทั้งแค้น
ไข่มุกกอดรัตนาอยู่ในห้อง รัตนาร้องไห้ ไข่มุกปลอบ ลูบหัวเบาๆ คีรินทร์มองอย่างเป็นห่วง
“หนูนากลัว พี่นุชเลือดเต็มเลย ฮือ”
“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ คุณนุชไปหาหมอแล้วนะ”
รัตนาดึงชายเสื้อคีรินทร์
“ฮือ พี่นุชจะตายมั้ยคะ เลือดออกเยอะแยะเลย ฮือ”
คีรินทร์ย่อตัวลงดึงรัตนามากอด
“ไม่ตายหรอก หายแล้ว พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ หยุดร้องไห้นะ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” คีรินทร์มองสบตาไข่มุก “ต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก พี่สัญญา”
รัตนาร้องไห้โฮ คีรินทร์กอดแน่นสบตาไข่มุก ไข่มุกสบตากลับนิ่งแฝงความไว้วางใจ
คีรินทร์พานรัตนามาเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้า คีรินทร์จับมือรัตนาอุ้มให้นั่งเครื่องเล่นแล้วดึงมือไข่มุกให้ช่วยจับ
รัตนายิ้มหวานหัวเราะคิกคัก ไข่มุกช่วยจับยิ้มหวานให้ คีรินทร์โอบไข่มุกยิ้มหวานให้ ไข่มุกมองแกล้งทำเมินคีรินทร์กอดคว้าหมับ รัตนายิ้มหวานอย่างรู้เชิง
ทั้งสามมานั่งในร้านอาหาร รัตนาจับตะเกียบป้อนไข่มุก ไข่มุกอ้าปากรับแล้วป้อนกลับ คีรินทร์มองยิ้มๆ แกล้งอ้าบ้าง รัตนาคีบใส่ปากให้ คีรินทร์ป้อนรัตนาแล้วคีบไปจ่อปากไข่มุก ไข่มุกส่ายหน้า คีรินทร์ยิ้มอ้อน ไข่มุกเขิน จำใจอ้ารับ คีรินทร์ยิ้มหวาน รัตนาสะกิด อ้าปากรอ คีรินทร์กับไข่มุกประสานเสียงหัวเราะกัน
ทั้งสามคนนั่งอยู่บนโซฟาในโรงหนังโดยมีไข่มุกนั่งตรงกลาง รัตนานั่งมีผ้าห่มคลุมตัว รัตนาทำท่าตื่นเต้นยกผ้าปิดตา คีรินทร์แกล้งกลัวกอดไข่มุกแน่น ไข่มุกตีเพี้ยะ คีรินทร์ยิ้มทำท่าจะหอม รัตนาแหวกผ้าออกดูเห็นกำลังกอด
“พี่รินทร์ขี้โกง กอดพี่ลูกไก่คนเดียว”
รัตนาโผเข้าไปกอด ไข่มุกยิ้มเอ็นดู
“ว้า หนูนาขี้โกง เอาไปกอดคนเดียว พี่กอดมั่ง”
คีรินทร์กอดทั้งไข่มุกทั้งรัตนาไว้ด้วยกัน รัตนายิ้มกว้างหัวเราะมีความสุข คีรินทร์สบตากับไข่มุกใบหน้าใกล้กันมาก คีรินทร์จุ๊บเบาๆ ที่ปากไข่มุก รัตนาหัวเราะร่วนอย่างถูกใจ
นักสืบชะโงกมองเข้าไปในรั้วบ้านวันดี วันดีเดินมาจากด้านหลังหิ้วถุงผัก นักสืบหันมาเห็น
“เจ๊ รู้จักคนชื่อวันดีเปล่า”
วันดีชะงัก ถามเสียงระวัง
“วันดีไหน ที่นี่มีหลายคน”
“ก็วันดีที่เคยเป็นขอทาน มีลูกสาวคนนึงไง” วันดีอึกอีก นึกกลัว
“อ๋อ นังวัน โอ๊ย มันตายไปนานแล้ว โดนรถชนตายพร้อมลูกมันแหละ ชั้นไปนะ”
วันดีผละออกมา ใบหน้าตื่นตระหนก
จินจูนั่งร้องไห้หลังจากรู้เรื่องจากนักสืบ แทยอนจับมือเบาๆ สีหน้าเศร้าไม่แพ้กัน
“ชั้นไม่เหลืออะไรแล้ว ยองแอ ยองแอตายแล้ว”
“อาจจะมีอะไรผิดพลาดก็ได้ ขอทานที่ชื่อวันดีคงไม่ได้มีคนเดียวชั้นไม่เชื่อหรอกว่ายองแอจะตายไปแล้ว ยองแอยังมีชีวิต เขายังรอเธออยู่ เราต้องมีความหวังนะจินจู”
จินจูปาดน้ำตา ดวงตาเข้มแข็งขึ้น มองสบตาแทยอนอย่างขอบคุณ คธามองจากที่ไกลๆ ใบหน้าหมองเศร้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อนึกถึงอดีต
ภาพในอดีตหวนกลับมา คธากับจินจูนอนกอดกันบนเตียง จินจูนอนซบอกคธา คธาลูบหัวจินจูเบาๆ ด้วยความรักสุดซึ้ง
“ชั้นรักคุณคะ”
คธาหอมหน้าผากจินจู
“ผมก็รักคุณ คุณคือชีวิตผม”
จินจูยิ้มตอบอ่อนหวาน ซบกับอกคธาอย่างมีความสุข
คธานั่งนิ่ง ใบหน้าขมขื่น ไข่มุกเข็นรัตนาผ่านมาเห็นก็ชะงัก เข็นรถรัตนาเข้าไปหา นั่งลงข้างๆ
“คุณอาเป็นอะไรคะ หน้าเศร้าจัง”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คนแก่คิดถึงเรื่องเก่า”
แทยอนเดินข้างจินจู คธามอง ไข่มุกเห็นรีบชี้ให้รัตนาดู
“หนูนาๆ นั่นไงจินจู ดาราคนโปรดสุดปลื้มของพี่”
“อู้หู สวยจังค่ะ แล้วคนข้างๆ ใครเหรอคะ”
“อ๋อ แฟนเขาค่ะ ชื่อคุณคิม เป็นคนทำหนังด้วยนะ”
“อายุเยอะแล้วแต่ยังเท่อยู่เลยนะคะ ท่าทางเขารักดาราคนโปรดพี่ลูกไก่มากๆ ด้วย ว้า เดินไปซะแล้ว ยังเห็นไม่ชัดเลย”
คธาแค่นเสียง ไข่มุกหันมองแล้วกระซิบถาม
“คุณอา ไม่ชอบจินจูเหรอคะ”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ”
“ ก็คราวที่แล้วที่เจอกัน ท่าทางคุณอาดูไม่ค่อยชอบ หรือว่าเคยทะเลาะกันตอนร่วมงานมาก่อนเหรอคะ ทำไมถึงดูเหมือน ต่างคนต่างมีอะไรในใจ ที่ไม่ถูกกัน”
คธานิ่ง ยิ้มเศร้า
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้”
คธานั่งเศร้า ไข่มุกมองอย่างสงสารปนสงสัย
นุชนารถแต่งตัวสวยอยู่ในห้องคนไข้ ประตูค่อยๆ เปิดออก นุชนารถตื่นเต้นรีบหันไปมอง
“มาแล้วเหรอคะ คุณรินทร์ อ้าว ป้าช้อย”
“ก็ชั้นน่ะสิ ไป กลับบ้านได้แล้ว ชั้นต้องไปจ่ายตลาดอีก”
“ทำไมคุณรินทร์ไม่มารับชั้นล่ะ แล้วจะกลับยังไง”
“เอ้า แท็กซี่ก็มี หรือจะกลับรถเมล์ก็ได้ ประหยัดดี คุณรินทร์งานเยอะจะตาย จะไปกวนเขาทำไม เขาให้ชั้นมารับนี่ก็ดีแล้ว”
“ไม่กลับ ชั้นจะโทรหาคุณรินทร์”
ช้อยส่ายหน้าเซ็งๆ นุชนารถกดโทรหาคีรินทร์ แต่ได้ยินเสียงตอบรับว่าไม่สามารถติดต่อได้ในขนาดนี้ นุชนารถโยนมือถือลงกับเตียงโกรธมาก
“ปิดมือถืออีก”
“จะกลับได้รึยังยะ ลุกเร็วๆ อย่าลีลาให้มากนัก”
นุชนารถฮึดฮัด ตวัดตามองค้อนช้อยอย่างพาลหาเรื่อง
นุชนารถเดินอาดๆ เข้ามาจะไปห้องทำงานคีรินทร์ ภัททิมาเห็นลุกขึ้นไปยืนขวางหน้านุชนารถ
“คุณรินทร์กำลังประชุม เข้าไปไม่ได้”
นุชนารถผลักภัททิมาจนเซ
“อย่ายุ่ง เมียจะเข้าไปหาผัวไม่ต้องขออนุญาตใคร คนอื่นไม่เกี่ยว”
ภัททิมาลุกขึ้นมาผลักกลับ
“เอ๊ะ พูดไม่รู้เรื่อง บอกว่าติดงานอยู่ ห้ามเข้า”
“โกหก คิดว่าชั้นโง่เหมือนพวกสามสาวนั่นเหรอ”
นุชนารถจับภัททิมาเหวี่ยงล้ม ภัททิมาลุกขึ้นมาได้ก็จิกผมจนหน้าหงาย นุชนารถหันไปตบ ภัททิมาตบกลับ ขยี้หัวทึ้งกันจนฟู
ขณะนั้นคีรินทร์นั่งอยู่ในห้องทำงานกับเขมทัต วัฒนา และบอร์ดอีกสามสี่คน
“ทางเกาหลีเขาติดต่อมา อยากให้เราไปดูงานเพิ่มเติม จะได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ”
“แต่ช่วงนี้ผมต้องไปร่วมงานกอล์ฟการกุศลกับทางบริษัทลูกค้ากับซัพพลายเออร์รายใหญ่ อาจจะไปไม่ได้นะครับ”
เขมทัตทำท่าคิด วัฒนามองยิ้มๆ
“ถ้ารินทร์ไม่ว่างจริงๆ ผมเป็นตัวแทนไปดูแลที่เกาหลีก็ได้นะครับ”
“เรื่องนี้ขอผมตัดสินใจอีกที อาจจะ...”
ประตูเปิดผาง นุชนารถหัวฟูชุดยับย่นหน้ามีรอยแดงเดินเข้ามาในห้อง จ้องคีรินทร์หน้าเหวี่ยงมาก
“คุณรินทร์ ทำไมไม่ไปรับนุช คนจะตายอยู่แล้ว คุณใจร้ายมาก”
บอร์ดประชุมอึ้ง มองนุชนารถเป็นตาเดียว วัฒนาลอบมองยิ้มสะใจ
“เข้ามาทำไม” คีรินทร์ถามเสียงเรียบ
“นุชรอคุณอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งนาน แต่คุณดันให้ป้าช้อยไปรับแทน โทรหาก็ปิดเครื่องหนี อย่างงี้หมายความว่าไง คุณใจดำ ไม่มีน้ำใจที่สุด”
ภัททิมาวิ่งตามเข้ามา สภาพเยินพอกัน
“เอ่อ มุกบอกแล้วนะคะว่าประชุมๆ ห้ามเข้า ยังจะเข้ามาอีก นี่ยังทำร้ายร่างกายกันอีก”
ภัททิมาทำท่าแกล้งกระซิกกระซี้ร้องเหมือนเจ็บมาก บอร์ดเริ่มซุบซิบกันแอบหัวเราะ วัฒนายิ้มเยาะสมใจ
เขมทัตหน้าเครียด
“นุชออกไปก่อน ไว้ค่อยคุยกันที่บ้าน” นุชนารถอึ้ง
“ไม่ นุชจะรอคุณที่นี่”
คีรินทร์พูดเสียงเบาแต่เอาจริง
“กลับไป อย่าให้ผมโมโหมากกว่านี้”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ คุณเป็นใคร ขนาดภรรยาผมยังไม่เคยทำแบบนี้ คุณไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น กลับบ้านซะ ไม่งั้นผมจะให้รปภ.มาลากตัวคุณออกไปเอง”
นุชนารถอึ้งอย่างเสียหน้ามาก คีรินทร์จับเอกสารต่ออย่างไม่สนใจ ภัททิมายิ้มเยาะแอบสะใจมาก
คธาเล่นเปียโนอยู่ในห้องอาหาร คีรินทร์ ไข่มุก แทยอน จินจู รัตนา นั่งกินข้าวด้วยกัน
“คุณคธาเป็นมือทองของโรงแรมเลยนะครับ เล่นเพราะมาก แขกชอบกันทุกคน เป็นโชคดีของทางโรงแรมที่เขายอมมาทำงานให้”
“เหรอครับ”
ไข่มุกตักกับข้าวให้รัตนา จินจูมองอย่างเอ็นดู คธามองเห็นจินจู เปียโนจบลง เพลงใหม่ขึ้น คธาร้องเพลงเล่นเปียโนคล้ายจะตัดพ้อจินจู จินจูสะอึก เงยหน้ามองสบตาคธา คธาสบตากลับ จินจูเม้มปากแน่นลุกขึ้นยืน
“ชั้นปวดหัว ขอตัวกลับห้องก่อนนะ”
จินจูลุกเดินออกไป คธามองตาม แทยอนสบตากับคธา ไม่พูดไม่จาลุกตามออกไป คีรินทร์โน้มตัวไปกระซิบกับไข่มุก
“คุณว่าจินจูกับคุณคธาทะเลาะกันใช่เปล่า”
“ใช่ ก็คุณดูเอาสิ เจอหน้ากันทีไรหนีทุกที”
“แต่ผมว่าสองคนนี้เคยเป็นแฟนกันมากกว่า คงจะมีอดีตกันไม่ค่อยดี เจอหน้าก็เชิดใส่กันซะเลย”
“รู้ได้ไงคะ”
“มือชั้นนี้แล้ว ชิลซะ ประสบการณ์เยอะ แค่มองก็รู้แล้ว”
“ค่ะ คนเก่ง แล้วคุณคิดว่าคุณคิมจะรู้มั้ยคะ”
“ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คงจะรอดูท่าทีว่าสองคนนั้นจะเอายังไงต่อไป ผู้ชายสมัยนี้ไม่โง่นะ ขืนทำโวย กระโตกกระตากไป ดีไม่ดีเขาเลยไปคืนดีกัน ได้ซวยไป”
“ก็เป็นไปได้นะคะ ท่าทางแปลกขนาดนั้น ไม่รู้ก็ต้องสะกิดใจบ้าง”
คีรินทร์ยิ้มกริ่ม ยื่นแก้มให้
“สามีเธอเก่งมั้ย มามะ ให้รางวัลกันหน่อย”
ไข่มุกดันหน้าคีรินทร์ออก
“ไม่เอาค่ะ หนูนาอยู่ด้วย”
“ให้กำลังใจไง น้องชั้นไม่ว่าหรอก นะ หอมทีนึง”
ไข่มุกนั่งนิ่ง คีรินทร์เลยหอมแก้มเอง ไข่มุกถอย กุมแก้มอายๆ คีรินทร์ยิ้มกริ่ม รัตนายิ้มชอบใจหัวเราะเสียงใส
“พี่ลูกไก่กับพี่รินทร์หวานเหมือนเค้กของหนูนาเลย”
คีรินทร์กับไข่มุกมองกัน สบตายิ้มเขินๆ รัตนาหัวเราะกิ๊กชอบใจ
จินจูกำลังจะรูดการ์ดเข้าห้องพัก แต่มือสั่นรูดผิดถูก แทยอนเข้ามาจับมือให้หยุดสั่น
“เธอยังแคร์เขาอยู่ใช่มั้ย”
“ก็บอกแล้วไงว่าทุกอย่างจบไปแล้ว ไม่มีอะไร” แทยอนมองนิ่ง
“กำลังหลอกชั้น หรือหลอกตัวเองด้วย”
จินจูดึงมือออก รูดการ์ดเข้าไปในห้อง พอเข้าห้องทันทีที่ประตูปิดลง จินจูยืนนิ่งน้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาช้าๆ
คืนนั้นที่บ้านตคีรินทร์ ทุกคนอยู่ในห้องนั่งเล่น เขมทัตส่งตั๋วเครื่องบินให้คีรินทร์
“เอ้า นี่ตั๋ว ไปจัดการโรงแรมทางโน้นให้เรียบร้อยแล้วกัน พ่อจะรอฟังข่าวดีอยู่ทางนี้”
“พี่รินทร์กับพี่ลูกไก่ซื้อของมาฝากหนูนาด้วยนะคะ” รัตนาบอก
“ได้เลยค่ะ”
ชลลดากับภัททิมาตาวาว
“อุ๊ย เกาหลี ขอไปด้วยคนได้มั้ยคะคุณพี่”
“ให้มุกตามไปเป็นเลขานะคะบอส จะดูแลจัดการให้ทุกอย่างเลย”
มณีลุกยืน มองเชิด
“หยุด หยุดเลยย่ะ ลางานไม่ได้ยังไม่ผ่านโปรทั้งนั้น ชั้นไม่ให้ไป” มณีลงนั่งข้างคีรินทร์ “รินทร์ ให้แม่ไปด้วยนะ แม่จะไปช่วยดูโรงแรม ดูบรรยากาศ ดูเครื่องสำอางค์ออกใหม่”
“อย่าไปยุ่งกับเขาเลยคุณ รินทร์ไปทำงาน ให้ไปกับลูกไก่ สองคนพอแล้ว”
“แล้วยัยลูกไก่ไปทำไม ไม่ได้เป็นผู้บริหารเกี่ยวข้องอะไรสักหน่อย”
“ก็ให้ไปดูงานฟิตเนสที่นั่นไง จะได้เอามาปรับปรุงที่นี่”
เขมทัตมองไข่มุก ไข่มุกยิ้มขอบคุณ
“งั้นให้ชลไปอีกคนสิคะ ชลเป็นห่วง อยากตามไปดูลูก”
“ห่วงอะไรยะ โตจนมีผัวแล้ว กระแดะ”
เขมทัตหันไปหาไข่มุกกับคีรินทร์
“ไปคราวนี้ อย่าลืมเอาหลานกลับมาฝากด้วยล่ะ อย่ามัวแต่ทำงานเพลิน ดูแลเมียดีๆ เดี๋ยวเขาจะหาว่าไม่มีน้ำยานะรินทร์”
คีรินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์
“นี่ใครครับพ่อ นี่คีรินทร์ลูกพ่อเชียวนะ รับรองว่ากลับมาคราวนี้ เมียผมได้ป่องมาแน่นอน กะว่าจะผลิตน้องโซลแฝดเลย”
นุชนารถที่นั่งเงียบมานาน ทำแก้วน้ำตกลงพื้นแตกกระจาย จนทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว นุชนารถยืนขึ้น จ้องคีรินทร์ขมึงทึง แววตาน่ากลัวปนแค้น มณีกับชลลดาทำหน้าขยาด
คีรินทร์ขับรถไปสนามบิน เสียบสมอลทอล์คคุยกับเขมทัต มีไข่มุกอยู่ข้างๆ
“ครับ กำลังไปสนามบินครับพ่อ เดี๋ยวผมเอารถไปจอดที่นู่นเลย ขากลับจะได้สะดวก คร้าบคุณพ่อ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลเมียผมเป็นอย่างดี รับรองว่าได้ของฝากติดท้องมาแน่” ไข่มุกตีเพี้ยะ คีรินทร์หันมายิ้มหวานให้ จังหวะนั้นมีมอเตอร์ไซค์เข้ามาประกบรถ แล่นเบียดเข้ามาชิด “ทำไมขับแปลกๆ”
คนซ้อนควักปืนขึ้นมาจ่อยิง คีรินทร์เห็นกอดไข่มุกก้มตัวลงหลบ รถพลิกคว่ำลงข้างทาง มอเตอร์ไซค์ขับหนีไป
นุชนารถคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องด้วยน้ำเสียงพอใจ
“ดีมาก”
นุชนารถวางหูลงยิ้มเหี้ยมเกรียมแต่น้ำตาไหลออกมาอย่างทั้งรักทั้งแค้น รัตนามองอย่างสงสัย เลื่อนรถเข็นไปชนโต๊ะ นุชนารถหันขวับมา รัตนาหันล้อหนี นุชนารถเห็นหลังล้อนิดๆ นุชนารถแค่นยิ้ม มองอย่างโรคจิตนิดๆ
“ถึงแกรู้ จะทำอะไรชั้นได้”
นุชนารถยิ้มหน้าเหี้ยม แววตาวาวโรจน์
รถยนต์ของเขมทัตจอดริมถนน เขมทัตกับวัฒนาวิ่งลงมาที่ซากรถคีรินทร์ เขมทัตทำท่าตกใจ แต่เห็นคีรินทร์กับไข่มุกยืนคุยกับตำรวจอยู่ก็ค่อยโล่ง
“เดี๋ยวผมขอตัวไปตรวจสอบที่รถก่อนนะครับ”
ตำรวจเดินไป วัฒนาทำท่าเจ็บใจปนผิดหวังที่คีรินทร์ไม่เป็นอะไร เขมทัตเดินเข้าไปหา
“เป็นอะไรหรือเปล่า รินทร์ ลูกไก่”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณลุง แค่ช้ำนิดหน่อย”
“รู้มั้ยว่าใครเป็นคนทำ”
คีรินทร์ส่ายหน้า วัฒนาแค่นยิ้ม
“หรือว่าพวกสาวๆ ของนายแผลงฤทธิ์อีกแล้ว”
“ไม่น่าใช่ คราวนี้มันเล่นหนัก กะเอาให้ตาย”
“งั้นเรากลับบ้านก่อนดีมั้ย หรือไปโรงพยาบาลเช็คให้แน่อีกที”
“คือ ผม”
“เรื่องงานที่เกาหลีให้ชั้นไปจัดการแทนมั้ย นายจะได้พัก คุณลูกไก่เองก็คงตกใจมาก อยู่ที่นี่คงดีกว่า” วัฒนาบอก คีรินทร์สบตาไข่มุกไข่มุกยิ้มส่ายหน้า
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวชั้นไปปลอบขวัญเมียที่นู่นได้ สบายมาก ขอบใจนะวัฒ”
คีรินทร์ตบบ่าวัฒนา วัฒนามีแววตาผิดหวังแว่บหนึ่งแต่ยิ้มกลบเกลื่อนไป ไม่แสดงออก
คีรินทร์กับไข่มุกเดินทางถึงเกาหลีก็เข้าพักที่โรงแรม ทันทีที่เข้าห้องพักคีรินทร์โอบไข่มุกเข้ามากอด ซุกหัวกับไหล่อ้อน
“ดีจัง ได้อยู่กันสองคนซะที อยู่บ้านวุ่นวาย ไม่ได้กอดเธอดีๆ เลย”
“มาทำงานนะคะ ไม่ได้มาเที่ยว คุณเตรียมเอกสารการประชุมแล้วหรือยังคะ”
“เรียบร้อยครับ คุณภรรยา อย่าเข้มงวดนักสิ อุตส่าห์ได้มาด้วยกันทั้งที รีแล็กซ์หน่อยนะ หายตกใจรึยัง”
“ใครนะ ที่อยากให้เราตาย” ไข้มุกบอกอย่างครุ่นคิด คีรินทร์นิ่งคิด
“ไม่รู้ แต่ตอนนี้อย่าพึ่งคิดเลย ลืมมันไปก่อน ตอนนี้หาความสบายใจใส่ตัว เพราะกลับกรุงเทพแล้วจะมีแต่เรื่องปวดหัว โอเคมั้ย”
“ยังไง”
“ชั้นจะทำให้เธอสนุกจนลืมไม่ลงเลย”
คีรินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก้มตัวเข้าไปหาไข่มุก ไข่มุกทำหน้างง
คีรินทร์จูงมือไข่มุกหยุดตรงหน้าทางเข้าเอเวอร์แลนด์ ไข่มุกมองอย่างตื่นตาตื่นใจ ยิ้มกว้างชอบใจ
“ยินดีต้อนรับสู่เอเวอร์แลนด์ครับคุณผู้หญิง” คีรินทร์ทำท่าโค้งตัว เอามือยื่นรอให้ไข่มุกวาง ไข่มุกมัวแต่หันดูรอบๆ คีรินทร์ค้างเก้อ กระแอมแก้เขินแล้วดึงมือมาจับไว้เหมือนเดิม “เธอนี่ไม่รับมุกชั้นเลย”
“สวยจังค่ะ ที่นี่เป็นสวนสนุกเหรอคะ ทำไมไม่เห็นเหมือนงานวัดที่เคยไปเลย”
“อย่างเธอเนี่ยนะเดินงานวัด ดูรถไต่ถัง เมียงู ปาเป้า ยิงปืน คุณชลไม่บ่นแย่เหรอ ยิ่งไฮโซอยู่ คิดจะอำชั้นล่ะสิ เลิกแอ๊บได้แล้วน้องสตอเบอรี่” ไข่มุกทำท่านึกออก ยิ้มแหย คีรินทร์ยกไอโฟนขึ้นมาถ่ายรูปคู่โอบไข่มุกเข้ามาใกล้ “ไป วันนี้เที่ยวกันให้สนุกไปเลย”
ไข่มุกมองไปที่ทางเข้าอย่างตื่นเต้น ดีใจ
คีรินทร์กับไข่มุกเดินเที่ยวเอเวอร์แลนด์ ถ่ายรูปกับต้นไม้ดอกไม้สวยๆ คีรินทร์พาชมที่ต่างๆ ในโซนเครื่องเล่น คีรินทร์กับไข่มุกเล่นม้าหมุน คีรินทร์ถ่ายรูปไข่มุกแอคท่าหลายๆ ท่า ไข่มุกถ่ายรูปคีรินทร์ คีรินทร์ทำท่าตลกๆปนเก๊ก
คิรินทร์นั่งอยู่ในห่วงรอลื่นไถลจากลานหิมะ ทำหน้ากลัวๆ จะหันไปหาไข่มุก ไข่มุกถีบห่วงลงมาหน้าตาสนุกสนาน
คีรินทร์ถือฮอทด็อกกับน้ำมาให้ไข่มุก ไข่มุกรับมาเดินกินไปด้วยกัน คีรินทร์ยกของตัวเองให้ไข่มุกกัด ไข่มุกกัดครึ่งอัน คีรินทร์ทำหน้ายู่ ไข่มุกยื่นของตัวเองให้คีรินทร์กัดบ้าง คีรินทร์กัดแก้แค้น ไข่มุกเอื้อมมือเช็ดซอสที่เลอะแก้มให้คีรินทร์ คีรินทร์ก้มลงทำท่าเหมือนจะจูบ ไข่มุกหลับตาปี๋ คีรินทร์ใช้นิ้วปาดซอสติดแก้มไข่มุกออกแล้วหัวเราะ ไข่มุกตวัดตาค้อนนิดๆ แกล้งก้มดูดน้ำระงับอาการเขิน
ไข่มุกกับคีรินทร์นั่งอยู่ที่ลานรอชมโชว์แมวน้ำ นักแสดงออกมาโชว์แมวน้ำ ไข่มุกมองอย่างตื่นเต้น ตบมือดีใจเหมือนเด็กๆ คีรินทร์อมยิ้มมองไข่มุก ไข่มุกหันมาเจอดันหน้าคีรินทร์ให้กลับไปดู พอไข่มุกเผลอคีรินทร์ก็หันกลับมาดูอีก แววตารักและชอบอย่างเปิดเผย
คีรินทร์เดินกอดคอไข่มุกมาตามทางเดิน คีรินทร์ทำท่าล็อคคอไข่มุก ไข่มุกเตะคีรินทร์ คีรินทร์เตะกลับ ทั้งสองคนวิ่งไล่กัน ไปเจอข้างทางมีคนขายของมายากล คีรินทร์กับไข่มุกหยุดดูทำหน้าสนใจ
ทั้งคู่เดินมาหยุดที่เครื่องเล่นรถไปเหาะ คีรินทร์มองรางแล้วแอบกลืนน้ำลาย ไข่มุกมองอย่างตื่นเต้น
“รถไฟเหาะกระชากวิญญาณ ไปต่อคิวขึ้นกันดีกว่าค่ะ เขาบอกว่าถ้าไม่ได้เล่นอันนี้เหมือนมาไม่ถึงเลยนะ”
“เฮ้ย จะเล่นจริงเหรอ ชั้นไม่เอาด้วยหรอก”
“แต่ชั้นอยากเล่นนี่ นะคะคุณรินทร์”
“ไม่เอา กินเพิ่งอิ่ม เดี๋ยวก็อ้วกหรอก ไปเล่นอย่างอื่นดีกว่า ม้าหมุนอีกรอบมั้ย”
“กินตั้งนาน ย่อยเรียบร้อยแล้วค่ะ ม้าหมุนก็ไม่เอา ชั้นอยากเล่นเครื่องนี้ ไปเล่นด้วยกันนะ”
คีรินทร์มองเครื่องหน้าแอบซีด
“อยากขึ้นก็ขึ้นไปคนเดียวแล้วกัน”
“หรือว่าคุณกลัว” ไข่มุกยิ้มท้า
“กลัวอะไรกัน ชั้นแค่ขี้เกียจต่อแถว ไปเลย ชั้นรอนี่แหละ”
“งั้นชั้นขึ้นคนเดียวก็ได้”
“เอาสิ ชั้นจะคอยถ่ายรูปเธอ เอาแบบที่หน้าเหยเกกรี๊ด ดูไม่ได้เลย”
ไข่มุกมองค้อนก่อนจะเดินไปต่อแถว ไข่มุกเล่นเครื่องเล่นมันสุดๆ คีรินทร์มองแหยงๆ หน้าซีด ไข่มุกกรี๊ดลั่นอย่างสะใจตอนรถไฟวิ่งลง คีรินทร์ทำหน้าหวาดเสียว บ่นเบาๆ
“เล่นเข้าไปได้ไง น่ากลัวชิปเป๋ง”
คีรินทร์ทำท่าขนลุกมองรถไฟที่วิ่งขึ้นวิ่งลงอย่างหวาดเสียวปนกลัวๆ
ไข่มุกกับคีรินทร์นั่งกระเช้าลอยฟ้า ไข่มุกมองวิวมุมสูงรอบๆ อย่างตื่นเต้น คีรินทร์เอนหัวลงซบไข่มุก ไข่มุกเขินๆ คีรินทร์จับแก้มไข่มุกให้เอนซบลงด้วย ไข่มุกเอนตามแอบอมยิ้ม
“วิวสวยดีมั้ย”
“สวยค่ะ ทั้งสวยทั้งสูง มองเห็นได้รอบสวนสนุกเลย”
“เธอนี่ชอบอะไรสูงๆ เสียวๆ จัง” กระเช้าเลื่อนจะถึงที่ มีช่างภาพคอยอยู่ คีรินทร์สะกิดไข่มุก “หันตรงๆ เขาจะถ่ายรูปแล้ว ยิ้มหวานๆ ชูสองนิ้วด้วย”
ไข่มุกทำตาม คีรินทร์หันไปจุ๊บแก้ม ช่างภาพถ่ายไว้พอดีเป๊ะ
ไข่มุกกับคีรินทร์ในร้านของที่ระลึก ไข่มุกหยิบตุ๊กตาขึ้นมาดูราคา ทำหน้าตกใจแล้ววางลงอย่างเสียดาย คีรินทร์ลอบมองอยู่ห่างๆ ไข่มุกเดินไปดูอย่างอื่น ไข่มุกยืนหันหลังรอคีรินทร์อยู่ด้านนอก
“ลูกไก่” ไข่มุกหันกลับ แก้มชนกับตุ๊กตาที่เคยจับพอดี ไข่มุกตาโตมองคีรินทร์ คีรินทร์ยิ้มให้ “ชอบใช่มั้ย อยากได้ทำไมไม่บอกล่ะ หัดอ้อนบ้างสิ ของแค่นี้ถ้าเธออ้อน เหมาทั้งร้านให้ยังได้เลย”
“เว่อร์แล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะ” ไข่มุกยื่นมือจะกอด คีรินทร์ดึงกลับ ไข่มุกจะหยิบ คีรินทร์ดึงออก ไข่มุกมองค้อนใส่ “คุณแกล้งชั้น”
คีรินทร์ยิ้ม กอดตุ๊กตาไว้กับตัวเอง
“อยากได้ก็เข้ามากอดสิ กอดทั้งพ่อทั้งลูกเลยนะ”
คีรินทร์ยักคิ้วใส่ ไข่มุกทำท่าจะดึง คีรินทร์ถอยหนี ไข่มุกเดินเข้าใกล้ จับตุ๊กตาดึง คีรินทร์เอื้อมมือมากอดเอาไว้ทั้งคนทั้งตุ๊กตา
“คุณรินทร์ คนเยอะแยะ อายเขา”
“อายทำไม ไม่มีใครรู้จักเราหรอก ขอกอดทีนะ”
คีรินทร์กอดไข่มุก ยิ้มหวานอย่างมีความสุข ไข่มุกยิ้มเขิน มองตุ๊กตาไม่ยอมสบตา
ไข่มุกถือตุ๊กตาอีกมือจับมือคีรินทร์เดินกันมาเรื่อยๆ แล้วหยุดลงตรงหน้าต้นไม้กลางสวนสนุกที่ประดับไฟอย่างสวยงาม
“ขอบคุณคุณมากนะคะ ที่พาชั้นมาที่นี่ มันสวยเหมือนอยู่ในความฝันเลย”
“แล้วเธอมีความสุขหรือเปล่า” ไข่มุกยิ้มหวาน
“ค่ะ มีความสุขมากที่สุด”
“งั้นก็ไม่ต้องขอบคุณ หน้าที่ของสามี คือทำให้ภรรยามีความสุขอยู่แล้ว”
คีรินทร์ดึงไข่มุกเข้ามากอด ไข่มุกกอดตอบซุกตัวเข้าหา ไข่มุกเงยหน้าขึ้นสบตาคีรินทร์
“ชั้น...”
ไข่มุกทำท่าเหมือนจะบอกรักแต่ไม่พูด บอกผ่านแววตา คีรินทร์จ้องมองด้วยแววตาแบบเดียวกัน คีรินทร์ยิ้มอบอุ่น ค่อยๆ ก้มลงจูบ
คีรินทร์เดินมากับไข่มุกที่ทางเดินของโรงแรม
“เดี๋ยววันนี้วัฒจะตามมา พ่อให้เขาถือเอกสารตัวจริงที่จะต้องใช้เซ็นสัญญากับทางนี้ ว้า อดอยู่ด้วยกันสองคนเลย”
“ก็มาทำงานนี่คะ ไม่ได้ส่งมาอยู่กันสองคนสักหน่อย”
“ใครว่า ชั้นว่าพ่อต้องมีแผนสอง แกล้งส่งมาทำงานแต่จุดประสงค์จริงให้มาทำลูก”
“เอะอะอะไรก็ทำลูกๆ ถ้าชั้นไม่ยอมสักอย่าง ก็ไม่มีหรอก”
“ก็รีบๆ ยอมซะทีสิคร้าบ คุณปู่รีเควสอยากอุ้มหลานแล้ว รอคุณภรรยาเครื่องติด รับรองมีลูกแฝดแน่นอน”
“ลามกไม่หายเลยคุณเนี่ย ไม่เอาดีกว่า ชั้นก็มาทำงานนะคะ ต้องไปดูงานฟิตเนส ไม่มีเวลามาเล่นด้วยหรอก”
คีรินทร์ทำหน้าล้อเลียนความจริงจังของไข่มุก ทั้งสองคนเดินมาถึงล็อบบี้จึงพบ วัฒนา ชลลดา ภัททิมา นั่งรออยู่ ไข่มุกทำหน้างง ชลลดาลุกถลามาหา กอดไข่มุกแน่น
“มาแล้วเหรอลูก แม่คิดถึ้งคิดถึง ไม่ได้เจอกันตั้งสองวัน คิดถึงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับแล้ว”
“มาได้ไงเนี่ย”
“คุณเขมทัตเขาเห็นว่าน้าคิดถึงลูกม้ากมาก เลยใจดีให้ตามมาด้วยแต่ แหม มากะทันหัน น้าแลกเงินไม่ทันเลย” ขลลดายิ้มหวานใส่คีรินทร์
“ที่โรงแรมมีครับ เอาเงินไทยไปแลกได้ เรทโอเคเลย”
“พอดีว่ารีบไปนี้สสนึงค่ะบอส คุณป้ากับมุกเลยลืมหยิบเงินมา อยากจะไปช็อปปิ้ง แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง มาเกาหลีทั้งทีไม่ได้ช็อปกลับไปอายคนตาย”
คีรินทร์สบตาไข่มุก ยิ้มรู้ทัน
“งั้นเอาที่ผมไปก่อน เงินนี่คิดเป็นเงินไทยก็แสนกว่าๆ หวังว่าคงจะพอนะ”
ชลลดารีบหยิบมายิ้มชอบใจ
“ขอบใจจ้ะ แหม ลูกเขยน้าใจดีจัง”
“ชั้นเอาเอกสารมาแล้ว เดี๋ยวเราไปประชุมด้วยกันเลย”
วัฒนาบอก คีรินทร์พยักหน้าแล้วเดินไปกับวัฒนา ไข่มุกมองสองแม่ลูกอย่างแอบเซ็ง
“คุณผู้หญิงจะออกไปเที่ยวเลยใช่มั้ยคะ หนูขอตัวไปฟิตเนสก่อน”
“ยู้ดดดหยุด ใครว่า ชั้นจะไปกับเธอนี่แหละ” ไข่มุกหน้าเหวอ
“ใช่ คันไม้คันมืออยากแดนซ์จะแย่แล้ว ชั้นจะเต้นให้สาวกิมจิอายเลย หึๆๆ”
“อย่างคุณสองคนเนี่ยนะจะไปเต้นด้วย เห็นที่...”
“สต็อป หยุด หยุดเลยย่ะ ชั้นก็แค่อยากดูว่าหนุ่มเกาหลีหล่อล่ำ เอ๊ย ครูสอนของที่นี่จะเป็นยังไง จะได้จำท่าไปใช้ นี่ชั้นช่วยหล่อนนะยะนังมุก สำเหนียกไว้ซะด้วย”
สองแม่ลูกกระดี๊กระด๊า ไข่มุกมองถอนหายใจเซ็งๆ
ไข่มุก ชลลดา ภัททิมายืนอยู่หน้ากระจกในห้องฟิตเนส ครูฝึกตั้งท่า ไข่มุกตั้งตาม ชลลดาทำเก้ๆ กังๆ ภัททิมาทำแล้วมองตัวเองในกระจก ไข่มุกจับจังหวะเต้นตามได้อย่างสวยงาม ภัททิมาเต้นผิดๆ ถูกๆ แต่ก็ยังเต้น ชลลดายกแขนผิดขาผิด ทำหน้าหงุดหงิด
ไข่มุกเต้นถูกต้องสวยงาม ภัททิมาเต้นตามได้ช้าไปบ้างแต่พอไหว ชลลดาปาดเหงื่อเหนื่อยแฮกบ่นพึมพำ
“กรรม กรรมของชั้นจริงๆ”
ภัททิมาหน้ามุ่ย บ่นเบาๆ
“นึกว่าจะได้หล่อล่ำ ดันสวยกว่าเราอีก เซ็งไก่เลย”
ขณะนั้น คีรินทร์ วัฒนา บอร์ดของเกาหลีเดินชมโรงแรมผ่านมา คีรินทร์มองผ่านกระจกเข้าไปเห็นไข่มุกเต้นอย่างเซ็กซี่ คีรินทร์ทำตาเจ้าชู้มองอย่างพอใจ ไข่มุกเห็นก็ค้อนให้แล้วเต้นต่ออย่างตั้งใจ วัฒนามองเธออย่างพอใจ แต่ไม่แสดงออก
คีรินทร์ วัฒนา ล่าม บอร์ดเกาหลี นั่งอยู่ในห้องประชุม บอร์ดเกาหลีทำท่าพูดกับล่าม ล่ามพยักหน้า
“ทุกอย่างไม่มีปัญหาครับ เตรียมเซ็นสัญญาได้เลย”
“ขอบคุณมากครับ บอกท่านประธานด้วยว่าผมยินดีที่ได้ร่วมงานกัน”
“ยินดีที่ได้ร่วมงานเช่นกัน” ท่านประธานบอก คีรินทร์กับวัฒนามองหน้าแปลกใจ “ผมพูดไทยได้นิดหน่อยครับ”
“ครับ”
คีรินทร์ยิ้มดีใจ ภูมิใจ วัฒนาหันหน้าออกหน้าเครียด สีหน้าอยากเอาชนะ
คีรินทร์กับไข่มุกยืนอยู่ด้วยกัน คีรินทร์มีสีหน้าภูมิใจ ไข่มุกก็ยิ้มอย่างมีความสุข
“ตอนนี้เรียบร้อย ทุกอย่างราบรื่น การร่วมทุนเป็นไปด้วยดี เฮ้อ โล่งใจจริงๆ”
“ชั้นเองก็ได้ท่าเต้นใหม่ๆ เพียบเลยคะ คิดว่าลูกค้าของเราต้องชอบแน่ ตอนนี้กำลังฮิตด้วย เคป็อปกำลังมา ต้องรีบเอาไปใช้ก่อนคนอื่น”
“ผมยังชอบเลย เซ็กซี่สะบัด” คีรินทร์บอกพร้อมกับโอบเอวไข่มุก ไข่มุกหยิกมือ
“ตลอดเลยนะคะ เผลอไม่ได้”
“หวงตลอด เดี๋ยวช่วงรอเซ็นสัญญา เราไปฮันนีมูนฉลองกันดีกว่า เธออยากไปไหนมั่ง เที่ยว ช้อปปิ้ง หรือไปเดินเล่นที่สวยๆ ดี”
“ชั้นก็ไม่ค่อยรู้ค่ะ แล้วแต่คุณละกัน”
“เอ้า จะตามใจซะหน่อยบอกแล้วแต่ชั้นได้ไง”
“ก็ชั้นไม่ใช่ไกด์นี่ จะรู้ได้ไงที่ไหนดีไม่ดี”
ไข่มุกยิ้มกวน คีรินทร์บีบปลายจมูกมุกอย่างหมั่นเขี้ยว
“ยอกย้อนอย่างนี้ต้องเจอทำโทษ”
คีรินทร์ก้มลงไปทำท่าจะหอม ไข่มุกหลบไม่ยอม คีรินทร์ตามไป ไข่มุกไม่ยอมอีก พอปากจะแตะแก้มก็ได้ยินเสียงวิ่ง ไข่มุกรีบผละออก ชลลดากับภัททิมาวิ่งเข้ามาหา
“อยู่นี่กันเอง แหม ไม่เรียกกันมั่ง ปล่อยให้แม่หาตั้งนาน”
“เราไปเที่ยวไหนดีคะบอส ตามรอยซีรีย์เกาหลีกันมั้ยคะ”
“มาอีกแล้ว จับสองป้าหลานใส่ถังส่งไปเกาหลีเหนือได้มั้ยเนี่ย พัสดุมีพิษเขาจะให้เข้ามั้ยฮึ เธอว่าไงลูกไก่”
ไข่มุกยิ้มขำ คีรินทร์มองทั้งสองคนอย่างนึกเซ็ง ภัททิมาหยิบกุญแจขึ้นมาโชว์คีรินทร์
“บอสขา ลูก...เอ่อ ไข่มุกจะชวนไปเขียนกุญแจล็อคที่โซลทาวเวอร์ เห็นในหนัง โรแมนติกม้ากมาก นะคะ พลีส”
“ทำไมผมต้องเขียนกับคุณด้วยล่ะ”
“ก็เป็นบอสกับเลขา บอสอยู่ไหน เลขาก็อยู่นั่นไงคะ”
คีรินทร์ยิ้มร้าย หยิบกุญแจมา
“เอาเป็นอย่างงี้ดีกว่า”
คีรินทร์เขียนชื่อ “ไข่มุก&ชลลดา” แล้วยัดใส่มือภัททิมา ภัททิมายิ้มหวานเปิดออกดูแล้วกรี๊ดลั่น ชลลดาชะโงกหน้ามาดู ทำท่าเหวอ
“อยู่กันไปสองคนแล้วกัน ผมไปล่ะ”
คีรินทร์ฉวยมือไข่มุกเดินหนีปล่อยภัททิมาตาค้างมองกุญแจในมืออย่างโมโหคนเดียว โวยวายไล่หลังคีรินทร์
“เดี๋ยวก่อน บอสคะ บอส”
“คุณรินทร์ น้าไปด้วย”
คีรินทร์หันมาหา
“รอผมอยู่ที่นี่แป๊บเดียว เดี๋ยวมารับ”
คีรินทร์โอบไหล่ไข่มุกเดินออกมา สองสาวมองอย่างเคืองมาก
ที่โซลทาวเวอร์มีแม่กุญแจแขวนอยู่เต็มไปหมด
“โห จะล็อคตรงไหนเนี่ย แขวนเป็นราวเลย”
“เขาล็อคกันทำไมคะ อุ๊ย มีเขียนภาษาไทยด้วย”
“ที่นี่เป็นที่ยอดฮิตของทัวร์ไทยเลย มีภาษาไทยก็ไม่แปลกหรอก เขาว่ากันว่า ถ้าล็อคกุญแจด้วยกันก็จะได้รักกันนาน ชั่วกาลปาวสานไง ชั้นก็เลยเอาซะหน่อย ดีมั้ย ชั่วกัลปาวสานน่ะ”
“เว่อร์แล้วค่ะ”
“จริงๆนะ ไม่งั้นจะมาล็อคกันเยอะขนาดนี้เหรอ เรามาเขียนชื่อกันดีกว่า รินทร์กับลูก...”
ไข่มุกดึงปากกาออก
“ชั้นไม่ได้ชื่อ” ไข่มุกแย้งและทำท่านึกออก “อะ เอ่อ ชั้น...ว่าเราไม่ต้องล็อคดีกว่าค่ะ”
“มาถึงที่ไม่เอาได้ไง หรืออยากให้เปลี่ยนเป็นคีรินทร์ ภัททิมาแทน แต่ชั้นว่ายาวไปหน่อยนะ”
“รินทร์ กับมุกก็ได้ค่ะ เขียนเผื่อเขาเลย เอ่อ เผื่อคุณเปลี่ยนใจไง”
คีรินทร์มองไข่มุกยิ้มๆ
“อ่ะแน่ หึงล่ะสิ แหม ตั้งแต่มาเกาหลีนี่ขี้หึงขึ้นนะเรา” ไข่มุกยิ้มเจื่อน
“เปล่าค่ะ แต่ชั้นชอบ รินกับมุก ชื่อเข้ากันดีออก นะคะ เขียนว่าไข่มุก มา เขียนให้ก็ได้” ไข่มุกทำท่าคว้าแต่คีรินทร์เอาหนี
“เรื่องสิ อ๋อ ชั้นจะล็อคไว้กับเธอนี่แหละ ยัยลูกไก่กุ๊กๆ” คีรินทร์ค่อยๆ เขียน “ริน& ” มีโทรศัพท์เข้ามา คีรินทร์ยกดู เป็นชื่อชลลดา “โห ตามมาหลอกหลอนที่นี่” คีรินทร์กดตัดสายแล้วเขียนต่อ “ลอ อู กอ ไม้มาลัย กอไก่ ไม้เอก ลูกไก่ ชัดเจน โอเคนะ”
ไข่มุกยิ้มแหย สีหน้าไม่ค่อยพอใจ คีรินทร์มัวแต่ชื่นชม แล้วจับมือไข่มุกไปที่ราวกุญแจ คีรินทร์จับมือไข่มุกให้คล้องแล้วกดล็อคลงด้วยกัน ไข่มุกแอบถอนใจ หน้าเซ็งๆ คีรินทร์จับมือ มองกุญแจของตัวเองชอบใจ ไข่มุกมองอย่างเสียดายปนหนักใจ
“ล็อคเอาไว้แล้ว ห้ามหนีไปไหน อยู่กับชั้นตลอดไปนะ”
“ล็อคไว้ขนาดนี้ คงไม่หลุดหนีไปไหนหรอกค่ะ” ไข่มุกทำเสียงงอน
“แน่ะ งอนไม่เลิก ชื่อเราเก๋ออก รินกับลูกไก่”
“กับไข่มุกก็ไม่ได้” ไข่มุกบ่นอุบอิบ คีรินทร์ไม่ทันฟัง ยืนมองอย่างยิ้มย่อง ไข่มุกมองอย่างผิดหวังนิดๆ ถอนหายใจอย่างเสียดาย
ไข่มุกเดินเอามือระแม่กุญแจ
“คุณว่า ที่ล็อคกุญแจแบบนี้ จะผูกใจคนสองคนได้ตลอดไปจริงเหรอ”
“ถ้าตอบแบบนักธุรกิจ ชั้นว่าก็เป็นการตลาดที่ทำให้สถานที่เป็นที่นิยมน่ะแหละ”
“ชั้นก็ว่างั้นแหละค่ะ ไม่งั้นเขาจะโปรโมทกันทำไม”
“แต่ถ้าตอบแบบชั้นเอง ชั้นว่ามันเป็นสัญลักษณ์ ที่แสดงถึงความหนักแน่นของคนสองคน ยอมที่จะเสียสละ ยอมที่จะล็อคตัวเอง ผูกตัวเองไว้กับอีกคน”
“ฟังแล้วโรแมนติกจังนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าแม่กุญแจอันเดียว จะกลายเป็นของสำคัญของคนสองคนได้”
“ทำได้สิ ดูจากจำนวนบนราวเธอก็จะรู้”
“แต่ก็คงไม่ใช่ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ บางคนอาจจะล็อคแล้วรักกันดี หรือไม่ ก็เลิกกันไป”
“แม่กุญแจเป็นสัญลักษณ์ที่จับต้องได้ก็จริง แต่ชั้นว่า ทั้งหมดอยู่ที่คนสองคน ต้องเข้าใจ คอยดูแล แล้วก็ให้อภัยกันและกัน เหมือนที่เธอต้องเข้าใจและให้อภัยในความเจ้าเสน่ห์ของชั้น”
คีรินทร์โอบไข่มุกมากอด
“พูดเองเออเองอีกแล้วนะคะ เจ้าเสน่ห์ซะขนาดนี้ ใครจะไปเข้าใจไหว”
“ก็หัดไว้ เริ่มทีละเล็กละน้อย เชื่อสิว่าเธอทำได้ ยัยลูกไก่คนเก่ง”
“ชั้นไม่ได้เก่งอย่างที่คุณคิดหรอกค่ะ ผู้หญิง ไม่มีคนไหนเข้าใจได้หรอก”
“ไม่ลองไม่รู้นะ”
คีรินทร์จับแก้มไข่มุกให้หันมา สบตาด้วยความรัก ไข่มุกเขิน ก้มหน้างุด
ภัททิมากับชลลดานั่งอยู่ในโรงแรม ภัททิมาโทรศัพท์แล้วกดทิ้ง
“โอ๊ย โทรไปเป็นร้อยสายแล้วนะ”
“กดโทรต่อไป เดี๋ยวนังมุกได้เที่ยวคนเดียว แม่ไม่ยอมนะ”
“คุณแม่ช่วยลูกไก่โทรสิคะ เดี๋ยวอดกันพอดี มาถึงที่ไม่ได้เที่ยวช็อปปิ้งอายเขาตาย”
ชลลดากดโทรศัพท์
“ฮึ่ม รับเมื่อไหร่ แม่จะอาละวาดให้หูแตกเลย คอยดู”
ชลลดากดโทรศัพท์เอาแนบหู ตาวาวอย่างอารมณ์เสียสุดๆ
จบตอนที่ 6
อ่านต่อตอนที่ 7 เวลา 17.00น.