xs
xsm
sm
md
lg

กากับหงส์ ตอนที่ 1 - 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กากับหงส์ ตอนที่ 1

ชาวบ้านและกลุ่มวัยรุ่นล้อมวงเชียร์มวยกัน คู่ชกบนเวทีมวยเป็น มดดำ เด็กสาวที่เติบโตขึ้นมาในสลัม กับนักชกชาย จังหวะนั้น มดดำชกนักมวยชายแต่ถูกสวนกลับ จนล้มมาที่พื้น

อิทธิเพื่อนรุ่นพี่ที่อยู่บ้านติดกันมองอย่างตกใจ
“มดดำ!”
อิทธิรีบวิ่งมาข้างเวทีที่มดดำล้มลง ชาวบ้านต่างช่วยกันเริ่มนับ 1 มดดำจะพยุงร่างลุกขึ้นแต่ก็ลุกไม่ค่อยได้ จนพอนับ 8 ก็เริ่มลุก จนนับ 9 ก็พยุงร่างลุกขึ้นมาได้ ชาวบ้านที่เชียร์มดดำเฮลั่น นักมวยชายจะเดินเข้ามาชกแต่กรรมการตีระฆังก่อน นักมวยทั้งสองฝ่ายแยกกันไป อิทธิรีบเอาน้ำขึ้นมาให้มดดำล้างหน้า
“มดดำพี่ว่า...”
มดดำยกมือห้าม
“ฉันไม่เป็นไร”
ที่มุมตรงข้าม จิ๋กโก๋คนหนึ่งปีนขึ้นมาบนเวทีแล้วตบไหล่นักมวยของตัวเองยกนิ้วให้ แล้วเดินไปหามดดำกับอิทธิ
“เฮ้ย...มดดำ ยอมแพ้เหอะ ฝ่ายพี่ไม่ชอบเลยว่ะที่ต้องมารังแกผู้หญิง มันไม่แฮปปี้...ปี้...ปี้”
จิ๊กโก๋ตบท้ายด้วยเสียงเอคโค่เบาลงๆแบบกวนๆ มดดำหน้าเข้มจริงจัง
“สู้ให้รู้ผลแพ้ชนะไปเลยดีกว่า ขออย่างเดียวแพ้แล้วจ่ายให้ครบก็แล้วกัน”
จิ๋กโก๋หัวเราะ
“บอกตัวเองดีกว่าม้าง น้องมดดำ ถ้าแพ้จะเอาที่ไหนมาจ่าย”
จิ๋กโก๋พูดจบก็มองเรือนร่างมดดำด้วยสายตาเจ้าชู้ เสียงระฆังดังขึ้น จิ๋กโก๋กับอิทธิเดินลงจากเวที มดดำกับนักมวยชายเดินมากลางเวที กรรมการบอกให้ชก แล้วเสียงเชียร์ก็ดังขึ้น

สุทธิดา บุตรสาวคนโตของ ชาติชาย และ กัลยา หลานสาวของ คุณหญิงวาปี เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ นั่งดื่มเหล้าอยู่กับแก้ว วาว่า และพงษ์ ในผับหรู เมื่อเธอยกแก้วดื่มเพื่อนๆเชียร์
“สุดธิดา ๆ ๆ ๆ”
สุทธิดา ยกดื่มตามเสียงเชียร์จนหมดแล้ว คว่ำแก้วโชว์ เพื่อนหัวเราะเฮฮา
“ดาไปเต้นกันมั๊ย” พงษ์ชวน
สุทธิดายิ้ม
“ได้...นำไปสิ”
พงษ์จูงมือสุดธิดาออกไปเต้นรำ

เมื่อมาชกอีกยก มดดำปรับทางมวย เธอปราดเปรียวกว่าจนได้เปรียบและใช้ท่าจระเข้ฟาดหางซัดจนนักมวยชายนอนสลบนับถึง 10 เมื่อผลออกมาชาวบ้านต่างโห่ จิ๊กโก๋มองมดดำบนเวทีด้วยความไม่พอใจ มดดำยักคิ้วกวน จิ๋กโก๋เดินไปเอาเงินให้อิทธิ มดดำกระโดดลงจากเวทีไปหา อิทธิช่วยถอดนวมให้ จิ๊กโก๋มองหน้ามดดำอย่างเซ็งๆจะเดินออกไป มดดำเรียกไว้
“นี่!!”
จิ๊กโก๋หันกลับมา
“มีอะไร”
มดดำแตะไหล่จิ๊กโก๋แล้วยิ้ม
“เมื่อกี้บนเวทีคิดทะลึ่งกับฉัน” มดดำแทงเข่าใส่ทันที “นี่แน่!”
“โอ้วว!!”
อิทธิร้องเสียงหลงเห็นแล้วเจ็บแทนจิ๊กโก๋ที่กำลังกุมเป้าหน้าเขียวปากเบี้ยวตัวงอร้องโอดโอย มดดำยิ้มอย่างเลือดเย็น อิทธิเห็นแล้วเหวอไปเลย

เช้าวัยใหม่...แก้วกับวาว่านั่งอยู่ที่โต๊ะในมหาวิทยาลัย ช่วยกันเรียงภาพเกี่ยวกับสถานที่ในกรุงเทพในคอมพ์ พงษ์เดินหน้ามึนๆอย่างไม่สร่างเมาเข้ามานั่งกุมขมับที่โต๊ะ แก้วกับวาว่ามองพงษ์ไม่ค่อยพอใจ
“แล้วเอกสารที่จะแจกตอนรายงานล่ะอยู่ไหน...หรือว่ายังไม่ได้พิมพ์” วาว่าหันไปถาม
พงษ์รำคาญ
“โธ่...จะตื่นมานี่ยังไม่ไหว ใครจะไปพิมพ์ทัน”
แก้วกับวาว่าโมโหทันที
“เมื่อคืนบอกว่าอย่าดื่มมากใช่มั๊ย” แก้วถอนใจ “ถ้าดามาจะบอกว่าไง”
“ก็ให้ดารายงานกับฉายสไลด์อย่างเดียวได้ไหมล่ะ”
“บอกเจ้าตัวเขาเองแล้วกัน มานั่นแล้ว”
วาว่าชี้ไปที่ลานจอดรถ รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาจอด สุทธิดาลงมาจากรถในชุดนักศึกษาแต่ใส่แว่นกันแดด สะพายกระเป๋าหรู พร้อมถือแฟ้มเรียนเดินมาตามทาง ผ่านนักศึกษาที่มองกันเป็นตาเดียวด้วยความชื่นชม จนถึงโต๊ะที่วาว่า แก้ว พงษ์นั่งรออยู่
“พร้อมรายงานแล้วใช่ป่ะ” สุทธิดามองที่หน้าจอคอมแล้วยิ้ม
แก้วกับวาว่าส่งสายตาฟ้องไปที่ พงษ์ที่นั่งเงียบจ๋อย สุทธิดารู้ทันทีวางแฟ้มเอกสารกระแทกลงบนโต๊ะ พงษ์ไม่กล้าสู้ตา
“พงษ์ยังไม่ปริ๊นท์เอกสารแจกในคลาสเลย” แก้วฟ้อง
พงษ์อึกอัก
“เอ่อ...คือ...”
สุทธิดามองพงษ์เซ็งๆ หยิบเอกสารมาวางปึกหนึ่ง
“นึกอยู่แล้วว่า พงษ์ต้องเบี้ยวเหมือนทุกครั้ง ฉันเลยปริ๊นท์มาให้”
แก้ว วาว่า พงษ์ มองสุทธิดาแล้วยิ้มดีใจ
“ขอบคุณมากนะ ดานี่นางฟ้าจริงๆ ช่วยพวกเราทุกครั้งเลย” พงษ์เอาใจ
“แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปพงษ์ไปหากลุ่มอื่นอยู่เถอะนะ”
พงษ์จ๋อยไป
“ดา”
สุทธิดายิ้ม
“ขอโทษนะ ดาชอบร่วมงานกับคนเก่งๆน่ะ”
พูดจบสุทธิดาก็ไม่สนใจพงษ์อีก ลงนั่งเปิดแฟ้ม เอาเอกสารมาจัดกับแก้วและวาว่า พงษ์มองเซ็งๆ

ในห้องเรียนมหาวิทยาลัย....สุทธิดารายงานงานอยู่หน้าชั้นเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว มีรูปสวยๆของกรุงเทพฯฉายบนกระดาน
“Finally, As the cultural, and spiritual capital of Thailand, Bangkok features both old-world charm and modern convenience, but always with a gracious smile.”
สุทธิดาพูดจบก็โค้งสวยงาม เพื่อนๆต่างชื่นชมปรบมือลั่นทั้งห้อง แก้ว วาว่า พงษ์ ลุกมาเดินแจกเอกสารให้อาจารย์และเพื่อนๆ แล้วมารวมตัวกันโค้งรับเสียงปรบมือที่หน้าห้องอีกครั้ง อาจารย์สุนีย์ยกนิ้วให้
“อาจารย์อยากให้ทุกคนดูไว้นะคะ ของสุทธิดาทำออกมาดีมาก พรีเซ้นท์ ได้ดีสามารถนำไปใช้งานได้จริง เก่งมากค่ะ”
สุทธิดา ยิ้มให้อาจารย์และเดินสวยกลับมานั่งที่โต๊ะ พงษ์มองอย่างรักใคร่
“เก่งมากดา”
สุทธิดายิ้ม
“ถ้ารักจะเที่ยว ต้องหัดรับผิดชอบให้มากกว่านี้นะพงษ์”
พงษ์จ๋อยสนิท สุดธิดาวางท่ามั่นใจอย่างสวยงาม

สุทธิดาขับรถมีวาว่านั่งมาด้วย
“ฉันไม่เข้าใจ แค่แฟลชไดร้ฟเสียอันเดียวทำไมต้องมาหาซื้อแถวนี้ด้วย ไปซื้อที่ห้างใกล้ๆมหาลัยสะดวกกว่าตั้งเยอะ” สุทธิดาบ่น
“แหม...ไอ้พวกความจุเยอะๆซื้อในห้างมันแพงอ่ะ ฉันไม่ชอบลงทุนกับอุปกรณ์การเรียน มันเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ถ้าเป็นกระเป๋าร้องเท้าว่าไปอย่าง”
“ย่ะ...คุ้มมากเลย แถวนี้ร้อนจะตายเดี๋ยวเธอลงไปนะ ฉันจะรอในรถ”
“จ้ะคุณหนู นี่ถ้าเธอเกิดมาเป็นอย่างสองคนที่เดินถนนนั่นจะทำไง”
วาว่าชี้ไป สุทธิดามองตามเห็นอิทธิกับมดดำเดินอยู่ริมถนน สุทธิดาต่อว่าเพื่อน
“เพ้อเจ้อ ฉันจะไปเป็นสองคนนั้นได้ไง”
รถสุทธิดาขับเลยไปแล้วไปจอดไฟกระพริบที่ริมถนน วาว่าเดินลงจากรถวิ่งเข้าร้านไป ขณะที่มดดำกับอิทธิทีเดินอยู่ริมถนนคุยกันไปเรื่อยๆ
“พี่อิทหน้าฉันยังช้ำอยู่รึเปล่า”
“ไม่มีหรอก แต่ตามแขนตามตัวนี่สิ ไม่รู้น้าส้มจะว่าไงบ้าง”
มดดำส่ายหัว
“ไม่ว่าไงหรอก แม่เขาไม่เคยสนใจฉันอยู่แล้ว”
“มดดำ”
“อะไร”
“พี่ว่ามดดำเลิกเหอะ อย่าไปชกมวยอีกเลย”
“ฉันชอบชกมวย จะได้ไม่มีใครมารังแกฉันได้...และถ้าฉันไม่หาเงินเรียนเอง แม่คงยอมให้เรียนหรอก”
อิทธิถอนใจเห็นใจมดดำ แล้วทั้งสองก็เดินมาหยุดที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆกับที่สุทธิดาจอดรถรอเพื่อนอยู่ มดดำมองเข้าไปในรถเห็นสุทธิดานั่งเติมหน้ารอเพื่อน
“ถ้ามดดำแต่งหน้าคงสวยเหมือนคนในรถเน๊อะ” อิทธิหันมาบอก
“โห พี่อิทธิ พูดอะไรไม่ใกล้ความจริงเลย” มดดำหัวเราะ “ฉันจะมีโอกาสแต่งตัวสวยๆ เหมือนคนอื่นเขาเหรอ”
มดดำหันมองสุทธิดาอีกครั้ง อิจฉาหน้างอนป่อง
“ไม่เห็นจะอยากเลย”
มดดำมองไปที่สุทธิดาในรถอีกทีแล้วถอนใจเครียด แล้วเธอก็ตะโกนบอกอิทธิ
“นั่นไง รถประจำตำแหน่งพร้อมคนขับของฉันมาแล้ว”

รถเมล์วิ่งมาจอด มดดำกับอิทธิขึ้นรถเมล์ไป

เมื่อครั้งในอดีต..มดดำในวัยเด็กได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกก็สะดุ้งตื่นงัวเงียลุกขึ้นออกจากมุ้ง แล้วรีบกวาดบ้านถูบ้าน

ทางด้านสุทธิดา...ในวัยเด็กนอนห่มผ้าในห้องแอร์เย็นสบาย ข้างๆมีคนใช้คอยปลุกแต่สุทธิดาไม่ตื่น กัลยาเปิดประตูเข้ามามองแล้วส่ายหน้าแต่ก็อมยิ้มเอ็นดูไปด้วย

มดดำถูบ้าน ขณะที่ส้ม แม่ของเธอซึ่งเป็นหมอนวดแผนโบราณที่สปาแห่งหนึ่ง เดินหาวออกมามีผ้าเช็ดตัวพาดไหล่จะไปล้างหน้าแปรงฟัน ส้มเดินไม่ดูจะชนมดดำๆเลยถอยหลีกทางให้แต่มาชนถังน้ำหกเลอะบ้าน
“อีกแล้วเหรออีมดดำ ทำงานแค่นี้ก็ไม่ได้เหรอมึง อีโง่!”
ส้มเห็นก็โกรธ วิ่งเข้าตีๆๆๆมดดำไม่ยั้ง
“แม่ หนูเจ็บ แม่”
มดดำร้องไห้ ส้มจะตีต่อ เฉลิมพี่ชายแท้ๆ ของส้ม ซึ่งมีอาชีพขับรถสองแถว ดึงมือไว้ มดดำได้ทีวิ่งหนีไปเลย
“อีมดดำ กลับมานี่ มาให้กูตีซะดีๆ อีลูกบ้า”
ส้มมองตามด้วยความเจ็บใจ

สุทธิดาออกมาจากห้องน้ำ คนใช้สองคนคอยเตรียมชุดนักเรียนให้ ติดกระดุม หวีผม ถักเปีย ใส่ถุงเท้า เตรียมกระเป๋าเลือกที่คาดผมให้ สุทธิดา ส่ายหน้าจนเลือกอันที่ถูกใจ คนใช้คาดผมให้ กัลยาเดินมารับยิ้มแย้ม
“ไปโรงเรียนได้แล้วนะลูก”

ลูกค้าซึ่งเป็นคุณนายเดินเข้าสปามา ส้มรีบเข้ามาไหว้นอบน้อมดูดี แล้วประคองไปนั่งที่เก้าอี้นวด ด้านหลังสปามดดำกำลังเอาผ้าขนหนูตากอยู่ ส้มเดินเข้ามา
“อีมดดำลูกค้ามาแล้วเอาอ่างน้ำไปให้ด้วย”
“หนูยังตากผ้าอยู่”
ส้มเดินมาเงื้อมือ
“แล้วจะไม่ทำหรือไง”
มดดำยกมือป้องแล้วรีบวางงานไปหยิบกาละมังเติมน้ำ ส้มมองค้อนแล้วเดินเข้าไปในร้าน มดดำเติมน้ำเสร็จก็ยกอ่างน้ำที่ใหญ่กว่าตัวเดินไป...มดดำล้างเท้าเช็ดเท้าให้คุณนายอย่างดี คุณนายยิ้มแล้วหยิบเงินทิปส่งให้ มดดำยิ้มแป้นแต่ยังไม่ทันจะแบมือรับเงิน ส้มก็ชิงแบมือมาก่อน คุณนายมองส้มงงๆ
“เขาเป็นลูกหนูเองค่ะ หนูเก็บไว้ดีกว่าเดี๋ยวเอาไปทำหล่นหาย”
คุณนายมองส้มที่แบมือไม่สนใจ จับมือมดดำมายัดเงินใส่ ส้มมองมดดำไม่พอใจ

มดดำอยู่หลังร้านสปา ส้มเดินมาหา
“ทิปเมื่อกี้อยู่ไหน”
“หนูจะเอาไว้เรียนตอนโต”
“ตอนโตเหรอ ฮึ...กูจะยอมให้มึงเรียนแค่ป.หกพอ เอาเงินมา”
“หนูไม่ให้”
สองแม่ลูกแย่งเงินกัน จนสุดท้ายส้มก็ได้เงินไปแล้วผลักมดดำล้มลง เพื่อนหมอนวดวิ่งมาประคองมดดำ ส้มชี้หน้า
“จำไว้นะ ชีวิตมึงเป็นของกู กูจะให้มึงโง่ มึงเลว มึงก็ต้องทำ”
ส้มเดินเข้าสปาไป เพื่อนๆหมอนวดมองตามส้มแล้วส่ายหน้าระอาใจ มดดำมองตามแม่ แล้วเห็นเด็กนักเรียนเล็กๆเดินกลับบ้านผ่านหน้าร้าน
“หนูจะเรียน หนูอยากไปโรงเรียน”
มดดำร้องไห้

สุทธิดาเล่นเสก็ตน้ำแข็งด้วยลีลาสวยงาม กัลยา นั่งเชียร์อยู่ด้วยความปลาบปลื้ม สุทธิดาเล่นท่าจบอันแสนสวยงาม คนดูทุกคนปรบมือ กัลยาเห็นคนดูชอบก็มีความสุข...สุทธิดารับเหรียญรางวัล

ส้มไม่กลับบ้าน ตั้งวงเล่นไพ่ กินเบียร์อยู่หลังร้าน
“โอ๊ย...ทำไมวันนี้มันซวยอย่างงี๊วะ”
มดดำชวน
“แม่...กลับบ้านเหอะ หนูหิวข้าว”
ส้มไล่
“มึงไปเลย อีตัวซวย ไม่ต้องมาตื๊อกู กลับไปเลย”
“แม่...เลิกเหอะ เล่นไปก็มีแต่เสีย”
“อีมดดำ อีปากหมา”
ส้มถีบจนมดดำไถไปกับฟื้น จนเพื่อนหมอนวดต้องห้าม
“พอแล้ว เดี๋ยวก็ตายคาตีนกันพอดี มดดำ เอ็งก็กลับไปก่อนไป ไม่ต้องรอหรอก”
มดดำนั่งมองแม่อีกสักพัก ก็ตัดใจเดินออกไป

ส้มเล่นไพ่มือเริ่มขึ้น
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อีมดดำไป มือกูขึ้นเลย อีนี่มันตัวซวยจริงๆ มาๆเลยจ่ายมา กินเรียบ”
มดดำเดินจูงตำรวจมาไกลๆ
“ทางนี้เลยจ๊ะ เดินเร็วๆหน่อย ลุงตำรวจ หนูอยากกลับบ้านแล้ว”
ส้ม หัวเราะร่าเริงเพื่อนเล่นเสียก็บ่นอย่างเซ็งๆ
“โอ๊ย...ไพ่ฉัน ไอ้มดดำไปมือตกเลย”
ส้มดีใจ
“ป๊อกอีกแล้ว กินเรียบ จ่ายมาเลย เด้งด้วย ฮ่าๆๆๆๆ”
“กินอยู่คนเดียวเลยนะอีส้ม วันนี้กูเลิกแล้ว ไม่เอาแล้ว”
มดดำจูงมือตำรวจเข้ามาตำรวจรีบบอก
“อย่าพึ่งเลิกสิครับ ขอเล่นด้วยคน”
ส้มไม่ทันหันไปมอง
“มาเล่นเลย นั่งแทนอีนี่เลย นั่งๆๆ”
เพื่อนที่เห็นอ้าปากค้าง อีกคนสะกิด ส้มเงยหน้ามอง มดดำชี้ไปที่แม่
“แม่หนู จับเลย...”
ทุกคนแตกฮือเป็นผึ้งแตกรัง วิ่งวนอยู่แถวนั้น ส้มตกใจลุกไม่ขึ้น ตำรวจเข้ารวบตัววุ่นวาย ส้มตะโกนด่ามดดำ
“อีมดดำ อีลูกเวร มึงเอาตำรวจมาจับกู กูจะฆ่ามึง อีบ้า! กูจะฆ่ามึง!”
ส้มพูดไปด้วย ยกเท้าถีบลูกไปด้วย แต่ไม่ถึง ตำรวจสองนายช่วยจับส้มไว้ มดดำวิ่งหนีแม่ตั้งแต่แม่ยกเท้าแรก ไปยืนมองไกลๆ หน้าตากลัว และสลดลง

ปัจจุบัน...บริเวณหน้าร้านต้นไม้ มดดำกับอิทธิ กำลังช่วยกันยกกระถางที่เพิ่งมาส่งที่ร้าน อย่างขยันขันแข็ง เจ้าของร้านคอยยืนกำกับอยู่ใกล้ๆ มดดำเห็นลูกค้าเดินเข้าร้าน ก็รีบปลีกตัวไปต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะ...ชอบต้นไม้ต้นไหนถามหนูได้นะคะ”
มดดำนำลูกค้าเดินดูต้นไม้และใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างดี เจ้าของร้านที่ยืนอยู่กับอิทธิมองดูมดดำก็อดเอ็นดูและชื่นชมไม่ได้
“พี่คิดไม่ผิดจริงๆที่รับเธอสองคนมาทำงานที่นี่ เหนื่อยกันตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็ยังมีแรงไปยิ้มต้อนรับลูกค้าได้อีก”
“ถ้าเรื่องความขยัน ผมคงสู้มดดำไม่ได้หรอกพี่ รายนั้นน่ะทำงานช่วยแม่มาตั้งแต่เด็กแล้ว”
“ไม่คิดจะจีบเขาเป็นแฟนบ้างเหรอ”
อิทธิเขิน
“พูดอะไรอย่างงั้นพี่ ผมเห็นมดดำตั้งแต่เกิด มันเหมือนน้องสาวผมไปแล้ว”
เจ้าของจ้องหน้าคาดคั้น
“จริงเหรอจ๊ะ”
เจ้าของร้านเดินออกไป ปล่อยให้อิทธิยืนยิ้มๆมองดูมดดำอย่างชื่นชม มดดำหันมามองอิทธิแล้วยิ้มตอบ ขณะเดียวกันนั้นกัลยากำลังเดินเลือกต้นไม่อยู่ที่ร้านไม่ไกลกัน ทันใดนั้นก็มีโจรสองคนขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดใกล้ๆ โจรคนซ้อนท้ายวิ่งลงมากระชากกระเป๋ากัลยา
“ว้าย!! ช่วยด้วย”
มดดำหันมองตามเสียงเห็นกัลยาดึงกระเป๋าไว้ โจรผลักกัลยาล้มก่อนจะวิ่งขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ที่เพื่อนรออยู่แล้วขี่หนีผ่านมาทางมดดำ เธอหยิบกระถางต้นไม้ขนาดเหมาะมือ แล้ววิ่งมาที่ฟุตบาท
“ไอ้โจรห้าร้อย บังอาจทำชั่วต่อหน้ามดดำรึ!”
พอได้จังหวะมดดำก็ซัดกระถางใส่คนขี่จนเสียหลักล้ม โจรทั้งสองคนโมโหจะลุกขึ้น มดดำปรี่เข้าไปถีบโจรแล้วจะกระชากกระเป๋าคืนแต่โจรไม่ให้
“ปล่อย!”
“ปล่อยให้โง่สิมึง”
“ไม่ปล่อยใช่มั้ย งั้นเอานี่ไปกิน ย๊ากกก!!”
มดดำเตะเสยปลายคางป๊าบเข้าให้เต็มๆ อิทธิรีบวิ่งเข้ามาช่วยกระชากเสื้อโจรอีกคนแล้วต่อย เกิดการต่อสู้กันขึ้น มดดำกระชากกระเป๋ามาได้ โจรเจ็บใจชักมีดออกมาจะแทงมดดำ อิทธิผลักมดดำออกเลยโดนมีดเฉี่ยวเล็กน้อย โจรเห็นมดดำเสียหลักล้มก็หยิบสายยางมารัดคอมดดำ อิทธิก็กูกกระโดดคร่อมและสู้กับมีดที่กำลังจ่อคอหอย ทั้งสองกำลังจะเสียที กัลยาวิ่งมาดูเหตุการณ์อยู่เห็นท่าไม่ดี เจ้าของร้านวิ่งมาจับมือกับกัลยาด้วยความกลัว กัลยามองไปรอบๆแล้วตัดสินใจตะโกน
“ตำรวจ! ตำรวจมาแล้ว ช่วยด้วยค่ะคุณตำรวจ!!”
สองโจรตกใจรีบวิ่งไปสตาร์ทรถแล้วหนีไป มดดำลุกขึ้นได้เจ็บใจ
“เฮ้ย! กลับมาก่อนไอ้โจรห้าร้อย! โด่...ไม่แน่นี่หว่า กลับมาดิเว้ย!”
“พอได้แล้วมดดำ เมื่อกี้เกือบเสร็จมันอยู่แล้วยังจะห้าวอีก” อิทธิกุมแผล “โอ้ย!”
กัลยารีบวิ่งมาดูมดดำ เจ้าของร้านรีบวิ่งไปช่วยอิทธิ
“หนู! หนูเป็นไงบ้างจ๊ะ! เจ็บตรงไหนมั้ย”
มดดำปัดๆฝุ่นตามตัวและกระเป๋า
“ไม่เป็นไรค่ะ...” มดดำยื่นกระเป๋า “นี่กระเป๋าของคุณค่ะ”
กัลยารับมา
“ขอบใจมากจ๊ะหนู”
ทันทีที่กัลยาสบตามดดำก็รู้สึกว่าถูกชะตามาก มดดำรีบวิ่งไปดูอิทธิที่เจ็บแผลอยู่
“พี่อิท...พี่อิทเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรหรอก โดนมีดเฉี่ยวนิดเดียวเอง แผลไม่ลึก”
“ไม่เป็นไรไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะพาไปโรงพยาบาล”
กัลยาหยิบโทรศัพท์มากดโทรตามคนขับรถ
“นายเหวง มารับฉันเร็ว”

กัลยากดวางสาย สีหน้าเป็นห่วงเด็กทั้งสอง

ติดตาม "กากับหงส์" ตอนที่ 1 (ต่อ) เวลา 9.00 น.

กากับหงส์ ตอนที่ 1 (ต่อ)

มดดำกับเจ้าของร้านช่วยกันพยุงอิทธิเข้ามานั่งด้านใน กัลยาเดินตามมาด้วย เจ้าของร้านรีบวิ่งไปเอากล่องยาทำแผลมาเปิด มดดำจะทำแผลกัลยารีบหยิบแอลกอฮอล์มาเช็ดแผล

“ฉันว่าไปหาหมอเถอะนะจ๊ะ ฉันขอร้อง...” กัลยาหันมาหามดดำ “ตัวหนูก็เถอะ ดูสิคอแดงหมดเลย”
“หนูไม่เป็นหรอกค่ะ นี่ถ้าไม่เสียสมาธิกับกระเป๋านะ...หึ!ไม่ได้กินหนูหรอก”
อิทธิส่ายหน้า
“กับไอ้เรื่องชกต่อยเนี่ย โม้ได้ตลอด”
มดดำยิ้มแหยๆ นายเหวงวิ่งเข้ามา เห็นอิทธิมีแผลก็งง
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณกัลยา”
“พาเด็กสองคนนี่ไปหาหมอหน่อย”
อิทธิหันมาบอก
“ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ ทำแผลที่นี่ก็พอ”
“หนูก็เหมือนกันค่ะ ขอบคุณนะคะ”
มดดำยกมือไหว้ กัลยามองหน้าอิทธิกับมดดำอย่างจนใจที่เด็กทั้งสองไม่รับความช่วยเหลือ เลยตัดสินใจทำแผลให้อิทธิต่อ

เจ้าของร้าน มดดำ อิทธิ ที่ทำแผลเสร็จเดินมาส่งกัลยากับเหวง ที่หน้าร้าน
“ฉันต้องขอขอบคุณพวกเธอสองคนอีกครั้งนะ ที่ช่วยฉันเอาไว้ ถ้าไม่ได้พวกเธอฉันต้องแย่แน่เลย พวกเธอกล้าหาญมากจ้ะ”
อิทธิยิ้ม
“ไม่เป็นหรอกครับ เป็นคนอื่นก็คงทำแบบเดียวกับพวกผม”
กัลยายิ้มชื่นชม แล้วหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมา
“ฉันอยากจะตอบแทนพวกเธอ” กัลยายื่นเงินให้ “ถือว่านี่เป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆจากฉันนะ”
มดดำตาโตมองเงิน ก่อนยิ้มมองหน้าอิทธิ อิทธิส่ายหน้า มดดำงอน อิทธิมองตาง้อๆ
“หนูไม่ได้ทำเพื่อหวังสิ่งตอบ แต่หนูทำเพราะมันเป็นสิ่งที่สมควรทำค่ะ”
มดดำยิ้มที่คิดว่าน่ารักที่สุดให้กัลยา
“แต่หนูก็ขอบคุณมากนะคะ”
อิทธิหน้าเหวอ กัลยาหัวเราะเอ็นดูออกมา ส่งเงินให้ มดดำรับเงิน หันมายิ้มให้อิทธิแล้วก้มลงไหว้ เรียบร้อยแทบติดพื้น
“ขอบคุณมากนะค๊า”
กัลยาซึ้งน้ำใจเด็กทั้งสอง หันไปบอกเจ้าของร้าน
“คุณนี่มีลูกดีจังเลยนะคะ น่าภูมิใจแทน”
เจ้าของร้านรีบบอก
“ไม่ใช่ค่ะ เด็กสองคนนี้เป็นลูกจ้างในร้านค่ะ”
กัลยายิ้ม
“เธอสองคนเป็นคนดีมากนะ ไว้ฉันจะมาเยี่ยมมาซื้อของบ่อยๆนะจ๊ะ”
เจ้าของร้านบอกกับกัลยา
“ฉันกำลังจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดค่ะ”
กัลยาชะงัก
“อ้าว...แล้วสองคนนี่ล่ะ”
มดดำกับอิทธิมองหน้ากันยิ้มให้กำลังใจกัน
“ผมกับน้องก็คงหางานใหม่น่ะครับ”
เจ้าของร้านนึกได้
“คุณช่วยหางานให้เด็กสองคนนี่ได้ไหมคะ ฉันก็อยากจะช่วยแต่ร้านแถวนี้เขาก็จ้างแรงงานต่างด้าวกันหมดแล้ว”
อิทธิกับมดดำพูดพร้อมกัน
“ป้านวล”
“เกรงใจคุณเขา” มดดำบอกกับกัลยา “เอ่อ...ไม่เป็นไรนะคะ พวกหนูไม่รบกวนนะคะ”
“เออ...น่า ถ้าคุณแกช่วยได้ก็ดี ช่วยไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนี่...คือเอาตามที่คุณสะดวกนะคะ ฉันแค่เป็นห่วงพวกเขา”
กัลยามองอิทธิกับมดดำอย่างใช้ความคิด อิทธิกับมดดำหน้าเจื่อนเพราะเกรงใจกัลยา

พิมพ์พรรณเจ้าของบริษัท Jewelry by Pimphan บริษัทเครื่องประดับอัญมณีอันดับหนึ่ง อยู่ในบริเวณห้องอาหาร กำลังง่วนอยู่กับการสั่งคนในบ้านจัดแจงบ้านให้เรียบร้อย ขณะที่สิริยุพาเลขาส่วนตัวกำลังวุ่นอยู่กับการคุยโทรศัพท์เดินตาม
“นี่...ห้องของตารัฐน่ะเรียบร้อยดีรึยัง” พิมพ์พรรณถามแม่บ้าน
“ค่ะ...เรียบร้อยดีแล้วค่ะ”
แม่บ้านรีบไปจัดแจงอย่างอื่นต่อ สิริยุพายื่นโทรศัพท์ให้พิมพ์พรรณ
“สายจากกองประกวดค่ะ...ถามเรื่องเป็นสปอนเซอร์น่ะค่ะ”
ระหว่างที่ส่งโทรศัพท์ให้พิมพ์พรรณ สิริยุพาก็ต้องรีบสายโทรศัพท์อีกเครื่องแล้วเดินคุยกระซิบกระซาบแยกไป พิมพ์พรรณรับโทรศัพท์มาพูดสาย
“สวัสดีค่ะ...ได้ค่ะได้...ส่งรายละเอียดมาได้เลยค่ะ ค่า...ไม่มีปัญหา ค่ะ แต่ต้องให้พิธีกรพูดชื่อบริษัทพี่บ่อยๆหน่อยนะคะ แล้วเดี๋ยวแบบมงกุฎเพชรเสร็จพี่จะนัดประชุมนะคะ...ค๊า...ขอบคุณค่ะ...สวัสดีค่ะ”
พิมพ์พรรณวางสายมองหา สิริยุพารีบวิ่งมาหาแล้วยื่นให้อีกเครื่อง
“จากมูลนิธิเพื่อเด็กพิการซ้ำซ้อนค่ะ”
แม่บ้านวิ่งมา
“คุณผู้หญิงคะพรหมใหม่มาส่งแล้ว ให้ปูไว้ตรงไหนดีคะ”
พิมพ์พรรณพูดกับโทรศัพท์
“ปูไว้หน้ามูลนิธิได้เลยจ๊ะ...อุ๊ยขอโทษ...สักครู่นะคะ”
แม่บ้านงง พิมพ์พรรณนึกได้เอามือปิดโทรศัพท์หันมาพูดกับแม่บ้าน
“ถ้าเป็นลายตารางหมากรุกก็ไปปูหน้าเตียงห้องตารัฐได้เลยแต่ถ้าลายดอกไม้ก็ไปปูห้องรับแขก”
แม่บ้านวิ่งไปพิมพ์พรรณหันกลับมาคุยโทรศัพท์
“ขอโทษค่ะ พอดีพี่คุยกับแม่บ้านไปด้วย มาต่อเลยค่ะ อันนี้จากไหนนะคะ นางงามซ้ำซ้อนเหรอคะ”
สิริยุพารีบเบรก
“เอ่อ...คุณพิมพ์คะ เด็กพิการซ้ำซ้อนค่ะ”
“อ่ะ...อ๋อ...ค่ะๆ เรื่องเงินบริจาคไม่มีปัญหานะคะ เพื่อ มูลนิธิเด็กพิการซ้ำซ้อน ดิฉันเต็มใจเสมอค่ะ ก็ปีนี้ดิฉันขอบริจาคเพิ่มแล้วกันนะคะ เป็นล้านหนึ่งแล้วกัน ยังไงจะให้บัญชีส่งเช็คให้วันพรุ่งนี้นะคะ....อุ๊ยไม่ต้องเป็นข่าวนะคะ พี่ไม่ใช่พวกทำบุญสร้างข่าวค่ะ ขอบคุณนะคะ ถ้าทางมูลนิธิขาดเหลืออะไรต้องรีบแจ้งเลยนะคะ”
พิมพ์พรรณวางสายแล้วหันไปดูความเรียบร้อยของบ้าน
“ยุพา แล้วตกลงตารัฐคอนเฟิร์มไฟล์ไหนเนี่ย”
“ยุพาก็ไม่ทราบค่ะ คุณรัฐบอกครั้งสุดท้ายว่าถึงวันนี้แค่นี้ค่ะ”
พิมพ์พรรณ์ถอนใจ
“ตายแล้วลูกฉัน จะขยันทำตัวลึกลับไปไหนนะ”
ทันใดนั้นเสียงสหรัฐดังขึ้น
“ไม่ไปไหนแล้วครับ”
พิมพ์พรรณกับสิริยุพาหันไปก็เห็นสหรัฐเดินลากกระเป๋าเข้ามากอด พิมพ์พรรณตกใจ
“ตารัฐ”

พิมพ์พรรณพาสหรัฐ ลูกชายคนเดียวของเธอ เดินเข้ามาในห้องนอน คนรับใช้ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาวางในห้อง
“ขอบใจนะ เดี๋ยวฉันจัดเอง”
คนรับใช้เดินออกไป
“นี่รัฐ...ทำไมลูกไม่อยู่ฉลองรับปริญญาที่นู่นล่ะ แม่จะได้ถือโอกาสบินไปช้อปปิ้ง”
“ตกลงคุณแม่อยากไปช้อปปิ้ง มากกว่าไปฉลองรับปริญญาผม”
พิมพ์พรรณค้อนที่ลูกรู้ทัน เดินไปนั่งลงที่เตียง สหรัฐตามไปนั่งข้างๆ
“เออนี่ลูก...ตอนนี้รัฐของแม่ก็จบโทแล้ว แม่คิดว่าแม่จะวางมือเรื่องธุรกิจอยากเอาเวลาไปทำงานเพื่อสังคมมากกว่า ไม่อยากทำอะไรเพื่อเงินแล้ว รัฐมาทำงานแทนแม่นะ”
สหรัฐกอดเอวแม่
“ตามบัญชาฮองเฮาเลยครับ”
พิมพ์พรรณหอมแก้มลูกชายด้วยความพอใจ แล้วนึกได้
“อ้อ...เย็นนี้ไปกับแม่หน่อยนะ”
“ไปไหนครับ”
“บ้านน้ากัลยาจ้ะ วันนี้เป็นวันเกิดของคนสำคัญของลูกในอนาคตไงจำได้ไหม”
“สุดธิดา นี่แม่ยังคิดจะจับคู่ให้พวกเราอีกเหรอครับ”
“ไม่ได้จับคู่ พูดซะแม่ดูโบราณเลย แค่ว่าแม่ชอบแล้วอยากให้ลูกชอบ แม่ดูๆแล้วหนูดานี่ล่ะโดนแม่ที่สุดแล้ว ถ้าลูกไม่มีใครก็มองหนูดาขวัญใจแม่หน่อยนะ”
สหรัฐยิ้มรับเจื่อนๆ

อาจารย์สุนีย์ดูสมุดรายงานของสุทธิดา แล้วถาม...
“สุทธิดา คนเก่ง คิดจะสอบชิงทุนไปดูงานกับ BBC ที่อังกฤษไหม จะได้เป็นหน้าเป็นตาของมหาวิทยาลัยด้วย อาจารย์จะเขียนจดหมายแนะนำให้”
“ถ้าไปก็เสียเวลาไปหนึ่งปี หนูไม่เอาดีกว่าค่ะ ขอโทษด้วยนะคะอาจารย์”
“ไม่เป็นไร ถ้าเปลี่ยนใจก็มาบอกอาจารย์นะ”
อาจารย์สุนีย์เดินออกไป พงษ์ แก้ว วาว่าเดินเข้ามา
“ดา...เธอนี่เก่งจริงๆเลยอ่ะ ขอบใจมากนะ” แก้วเอ่ยชม
“ถ้าไม่ได้เธอนะ รายงานกลุ่มเราต้องแย่แน่เลย”
วาว่าพูดจบก็หันไปค้อนใส่พงษ์ ที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ สุทธิดายิ้มดีใจที่เพื่อนชม
“เดี๋ยวเราไปเลี้ยงฉลองกันนะดา วันนี้วันเกิดดาด้วยนี่” พงษ์หันมาชวน
“วันนี้คุณแม่จัดงานให้ที่บ้าน แล้วพี่รัฐก็กลับมาวันนี้ด้วย”
แก้วตาโต
“โห...จัดงานด้วย ใจคอจะไม่ชวนเพื่อนๆเลยเหรอ”
“เอาเป็นว่าเชิญตอนนี้เลยแล้วกัน พวกเธอจะได้เจอพี่รัฐด้วย”
วาว่านึกๆ
“พี่รัฐ...ที่ดาเคยเล่าว่าเป็นลูกชายเพื่อนสนิทคุณแม่ดาน่ะเหรอ แหม...แฟนใช่ป่ะ”
“บ้า พี่ชาย...”
สุทธิดายิ้มเขิน แต่พงษ์รู้สึกไม่พอใจ แก้วรีบบอก
“งั้นเอารูปมาให้ดูเลย เร็วๆ ยังไงฉันต้องขอสกรีนด้วยคน”
สุทธิดาเอารูปสหรัฐที่อยู่ในโทรศัพท์ออกมาให้ทุกคนดู เป็นรูปในชุดปริญญาที่หล่อมาก ทุกคนกรี๊ด ยิ้มแซวสุทธิดากันใหญ่ แต่พงษ์คนเดียวที่มีท่าทีเซ็งไม่พอใจ

พงษ์ แก้ว วาว่า เดินมาส่งสุทธิดาที่รถ
“ดา...ตกลงนายสหรัฐนั่นเป็นแฟนดาหรือเปล่า” พงษ์ถามอย่างแคลงใจ
สุทธิดายิ้มๆ
“ก็...ยังไม่รู้สิ”
พงษ์ชะงัก
“ไม่รู้...ดาโกหกผมหรือเปล่า”
สุทธิดาชักฉุน
“นี่พงษ์ ฉันว่าเธอกำลังยุ่งเรื่องของฉันนะ”
“งั้นก็บอกมาสิ”
สุทธิดาเสียงจริงจัง
“ไม่จำเป็น และถ้าเธอยังล้ำเส้นฉันอีก งานเย็นนี้ก็ไม่ต้องไป แล้วต่อไป และฉันก็อาจจะไม่คุยกับเธออีกต่อไปด้วย”
สุทธิดาเปิดประตูรถเข้าไปสตาร์ทแล้วขับไป พงษ์ยืนหัวเสีย แก้วกับวาว่ายืนมองพงษ์ด้วยความสงสาร แก้วเข้ามาบอก
“ถ้าชอบดาฉันว่าเปลี่ยนใจเถอะ ดาทั้งสวยทั้งรวยทั้งเก่งขนาดนั้น เขาไม่ชอบคนรุ่นเดียวกันหรอก”
วาว่าเสริม
“นั่นสิ เธอก็ออกจะหล่อ ไปหาจีบคนอื่นดีกว่า หรือพวกฉันสองคนก็ได้นะยังว่าง ไม่รังเกียจคนเรียนไม่เก่งด้วย”
“ขอโทษนะ เธอสองคนไม่ได้ชื่อสุทธิดา”

ขาดคำพงษ์ก็เดินหนีไปขึ้นรถขับออกไป แก้วกับวาว่ามองตามแล้วค้อนหมั่นไส้

ฝ่ายกัลยาคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องรับแขกบ้าน คุณหญิงวาปีกับดอม ลูกชายคนเล็กของกัลยา ในชุดนักเรียนมัธยมนั่งฟังอยู่

“กัลไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ค่ะ...สวัสดีค่ะ”
กัลยาวางสาย
“สมัยนี้ขโมยขโจรมันเยอะจริง” คุณหญิงบ่นๆ
สุทธิดาเดินเข้าบ้านมา
“มีอะไรกันหรือคะ”
สุทธิดาวิ่งเข้าไปหอมแก้มคุณหญิงอย่างประจบประแจง แต่พอมองคุณหญิงก็เห็นสีหน้าแปลกๆ
“อย่าบอกนะว่าไม่ได้จัดงานให้ดา ดาไม่ยอมด้วย”
ดอมมองเซ็งๆ
“จัดน่ะจัดอยู่แล้ว ใครกล้าขัดใจพี่ดาได้บ้างล่ะ”
“นี่นายดอม ฉันไม่ได้พูดกับเรา”
“ยายกำลังคุยเรื่องที่แม่เราโดนจี้วันนี้”
สุทธิดาตกใจ
“ห๊า...” เธอรีบวิ่งไปนั่งใกล้ชนดอมกระเด็น “คุณแม่โดนจี้ยังไงคะ นี่ไปเดินถนนที่พวกคนธรรมดาเขาเดินกันใช่ไหม”
“แม่เขาไปหาซื้อต้นไม้มาจัดงานวันเกิดให้เรานั่นแหละ”
สุทธิดามองกัลยาด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะเป็นห่วง
“ก็นั่นแหละค่ะ อย่าว่าดาดูถูกเลยนะคะ แต่ที่ๆคนจนอยู่กันน่ะมันน่ากลัว”
ดอมขัดขึ้น
“แต่คุณแม่ก็ได้คนจนสองคนช่วยชีวิตไว้นะพี่ดา”
กัลยายิ้มแย้มบอกลูกสาว
“ใช่จ้ะ น่าสงสารเด็กสองคนนั่น ต้องมาบาดเจ็บเพราะแม่”
“ยังจะไปห่วงคนอื่นอีก เอางี้สิคะ พรุ่งนี้คุณแม่ก็ไปให้เงินเขาให้มากหน่อยเขาก็ดีใจเองแหละ”
“ให้เงินมันไม่ใช่การแก้ปัญหาสังคมหรอก แม่เลยเสนอให้เขามาอยู่ที่นี่ แม่จะส่งให้เรียนหนังสือทั้งคู่”
คุณหญิงขัดขึ้น
“มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ สองคนนั่นน่ะไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ลูกอยากตอบแทนเด็กสองคนนั้นค่ะคุณแม่ นะคะคุณแม่”
คุณหญิงถอนใจ
“มีเด็กสาวเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย ฉันกลัวประวัติศาสตร์คาวๆของผัวหล่อนมันจะซ้ำรอยซะมากกว่า”
กัลยาอึ้งพูดไม่ออก คุณหญิงพูดจบก็เดินออกไป สุทธิดากับดอมมองหน้ากันงงๆ
“คุณพ่อมีเรื่องอะไรในอดีตเหรอคะคุณแม่” สุดธิดาถามอย่างสงสัย
กัลยาตัดบท
“เราสองคนน่ะ ไปอาบน้ำเตรียมตัวลงมางานไป”
สุทธิดากับดอมเดินออกจากห้องไป กัลยามองตามถอนใจ

กัลยาเดินแล้วไปหยุดคิดถึงมดดำเธอนึกถึงตอนที่ได้คุยกับมดดำและอิทธิที่ร้านต้นไม้ กัลยามองหน้ามดดำด้วยความสงสัย
“อะไรนะ นี่แม่ไม่ให้มดดำเรียนหนังสือเหรอ”
“คือบ้านมดดำจน แม่ไม่มีเงินส่งค่ะ เลยได้เรียนแค่ม. 3”
“แต่มดดำเขารักเรียนครับ ถึงแม่ไม่ค่อยสนับสนุนแต่เขาก็แอบเรียนจนสอบเทียบม.6ได้ แต่มหาวิทยาลัยนี่คงไม่มีหวัง”
กัลยาเห็นใจ
“ไม่เป็นไรนะมดดำ หนูไปขออนุญาตแม่ซะ อิทด้วย ฉันอยากจะให้เธอทั้งสองไปอยู่กับฉัน รับรองว่าฉันเป็นคนไว้ใจได้ และจะส่งเสียเธอทั้งสองให้เรียน”
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ เรียนรามใกล้จบแล้ว ห่วงก็แต่มดดำที่ปีนี้ควรอยู่มหาวิทยาลัยปีหนึ่งแล้ว”
“ให้ฉันไปพูดกับแม่หนูนะ”
มดดำรีบห้าม
“ไม่เป็นไรค่ะ! เดี๋ยวหนูคุยเองดีกว่า ถ้ามีคนส่งเสียแล้วหนูไปทำงานบ้านคุณ แม่น่าจะยอม”
กัลยาหยิบนามบัตรมาส่งให้มดดำแล้วจับมือไว้
“สัญญานะ ไม่ว่าผลจะออกมายังไงหนูต้องโทรหาฉัน”
มดดำยกมือไหว้ขอบคุณ กัลยายิ้มให้ด้วยความเอ็นดู

กัลยายิ้ม เมื่อนึกถึงมดดำ
“ฉันก็ได้แต่หวังว่าหนูจะติดต่อกลับมา ทำไมฉันถึงได้เอ็นดูหนูนักนะ มดดำ”
กัลยานิ่งยิ้มนึกถึงมดดำแล้วมีความสุข

มดดำกับอิทธิเดินมาด้วยกันตามทางในสลัม
“ยังเครียดเรื่องน้าส้มอยู่เหรอ”
“ฉันกลัวแม่ไม่ให้เรียน”
“แต่ก่อนที่น้าส้มไม่ยอมให้มดดำเรียนเพราะไม่มีเงิน แต่คราวนี้มีคนส่งเสียให้มดดำเรียนฟรีๆน่าจะใจอ่อนนะ”
“พี่อิทคิดจริงๆเหรอว่าแม่จะยอม”
มดดำถอนใจ อิทธิยิ้มปลอบ
“เอางี้สิ เดี๋ยวเราขอให้น้าเหลิม ยายแดง แล้วก็พี่ช่วยคุยกับน้าส้มให้ด้วยเอาไหม หลายๆคนช่วยกันพูดน้าส้มน่าจะยอม”
“ฉันขอบใจพี่อิทมาก แต่ฉันไม่อยากให้พี่อิทกับยายแดงต้องมาลำบาก เอาเป็นว่าฉันขอคุยกับแม่ก่อนแล้วกันนะ”
“พี่เอาใจช่วยนะมดดำ”
อิทธิยิ้มปลอบมดดำ แต่มดดำก็ไม่รู้สึกดีขึ้นกลับหน้าเครียดเป็นกังวล

ส้มตบพื้นดังลั่นแล้วหันขวับมาจ้องหน้ามดดำ เมื่อรู้เรื่อง
“กูไม่ให้เรียน”
“คุณที่ฉันช่วยเขาแค่อยากตอบแทนบุญคุณ แม่ไม่ต้องเสียตังค์เลยสักบาทนะ”
“ต่อให้มีเงินถุงเงินถังมาจากไหนกูก็ไม่ให้มึงเรียน แล้วอย่าหวังว่ามึงจะแอบหนีไปเรียนไปสอบเหมือนตอนจบ ม. 6 นะ ถ้ากูรู้มึงทำอีกกูจะเผาทุกที่ๆมึงเรียนเลย” ส้มหันไปหาอิทธิ “เอ็งก็อีกคนไอ้อิท ถ้าน้ารู้ว่าเอ็งแอบพามดดำไปเรียนเหมือนคราวที่แล้ว เอ็งไม่ต้องมาเหยียบบ้านนี้เลย”
อิทธิจ๋อยพูดไม่ออก ส้มจะเดินเข้าห้องแต่มดดำมาดึงแขนไว้
“แม่...ยังไงฉันจะก็จะเรียน ฉันขอร้องนะ”
ส้มได้ยินก็ตบหัวมดดำ แล้วกระหน่ำตีไม่หยุด อิทธิต้องเข้าช่วยดึงส้มแต่ส้มไม่ฟัง
“พอแล้วน้าส้ม”
เฉลิมที่เพิ่งกลับมาจากทำงานเห็นเข้าก็รีบวิ่งมาห้าม
“เฮ้ย!!...มันเรื่องอะไรอีก”
“ก็อีมดดำมันจะไปเรียนหนังสือน่ะสิ!”
“ใช่จ้ะลุง แม่ไม่ยอมให้ฉันไปเรียน คราวนี้มีคนจะส่งให้ฉันเรียนด้วย”
เฉลิมเกาหัวงง
“อีส้ม...อีบ้า เอ็งเป็นแม่ภาษาอะไรวะ ตีลูกเพราะลูกไปเรียน”
“เออ...ฉันมันบ้า พี่เหลิมหลีกไปนะ พี่เป็นแค่ลุงอย่ามายุ่ง”
“กูไม่หลีก ถึงกูจะเป็นลุง แต่กูก็รักมัน ไม่เหมือนมึงอีแม่ใจร้าย”
มดดำสะท้อนใจ ส้มจะเข้าทางไหนเฉลิมก็ขวางตลอด ส้มไม่อยากจะเถียงกับเฉลิมอีก
“อย่าให้กูได้ยินเรื่องเรียนอีก ไม่งั้นกูเอาตายแน่”
ส้มโมโหเดินเข้าห้องไป เฉลิมโมโห
“นี่กูมีน้องเป็นยักษ์เหรอวะเนี่ย”

อิทธิอาศัยอยู่กับยายแดง ยายของเขาตามลำพัง เขาเล่าเรื่องมดดำให้ฟัง ขณะที่ยายนั่งเย็บซ่อมผ้าไปด้วย
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆเลยยาย น้าส้มเขาเป็นแม่แบบไหนไม่อยากจะเห็นลูกได้ดี ขนาดจะมีคนส่งให้ลูกตัวเองได้เรียน น้าส้มก็ไม่ให้”
ยายแดงถอนใจ
“มดดำน่ะมันเป็นเด็กดีต่อให้มีอุปสรรคแค่ไหนมันก็ต้องได้ดีสักวัน เราทำได้คือเอาใจช่วยมดดำ ว่าแต่เอ็งเถอะทำไมมอมอย่างนี้แล้วดูสิเนี่ยเป็นแผลอะไรมา”
“ไม่มีอะไรหรอก” อิทธิหยิบเงินออกมา “นี่จ๊ะยายค่าแรงวันนี้”
ยายแดงคืนเงินให้
“เก็บไว้เถอะอิท วันนี้ยายรับสอยกางเกงกับปักเสื้อนักเรียนได้เงินมาเยอะแล้ว เอ็งเก็บไว้เป็นทุนเรียนนะ”
สองยายหลานกอดกันซึ้งใจ ยายแดงหยิบหนังสือภาษาอังกฤษที่วางอยู่ใกล้ๆมา
“ยายไปเดินแผงหนังสือมือสองเห็นเล่มนี้น่าสนใจดี อยากให้มดดำมันรู้ภาษาอังกฤษไว้เยอะ ยังไงซะมีภาษาก็มีโอกาสดีกว่าคนอื่น”
“ยายนี่ทันสมัยสมกับที่เคยเป็นแม่บ้านคอนโด ฝรั่งเลยนะ”
“อ๊ะไม่ได้สิ เดี๋ยวตกเทรนด์”
สองยายหลานหัวเราะกันมีความสุข
“ยายจะให้ฉันเอาไปให้มดดำเหรอ คงต้องรอพายุสงบก่อน”
“เอาไปให้ทำไม เดี๋ยวนังส้มเห็นก็เอาไปเผาหรอก ไปตามมดดำมานี่สิ”
“ถ้าตามมดดำก็ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน”
“ไม่ได้ ต้องวันนี้เท่านั้น”
อิทธิมองหน้ายายแดงงงๆแล้วนึกได้
“จริงด้วย ต้องวันนี้”

บรรยากาศงานเลี้ยงวันเกิดที่แสนสนุกสนาน สุทธิดาเดินมายืนคอยมอง กัลยากับดอมเดินตามมา
“คุณแม่คะ น้าพิมพ์มาแน่ใช่ไหมคะ”
“แน่สิก็ตอนเย็นยังโทรมาเลย บอกว่าตารัฐจะขับรถมาให้”
สุทธิดาพอได้ยินชื่อสหรัฐก็อมยิ้ม ดอมสังเกตได้
“เจอน้าพิมพ์บ่อยๆพี่ดายังจะถามหาอีกเหรอ”
“แล้วไง ก็พี่มีเรื่องจะคุยกับน้าพิมพ์นี่”
“อยากเจอพี่รัฐก็บอกมาเถอะ”
สุทธิดาหยิกดอมจนร้องจ๊าก กัลยาต้องห้าม
“เอานี่ พี่น้องตีกันอีกแล้ว”
“โอ๊ย...แม่ห้ามพี่ดาก็ไม่ฟังหรอกครับ โน่นไงพี่รัฐมาถึงแล้ว ให้เขาเห็นไปเลยว่าพี่ดาใจร้ายกับน้องชาย”
สุทธิดามองไปพอเห็นสหรัฐกับพิมพ์พรรณเดินเข้ามา ก็รีบปล่อยดอมทันทีแล้วยืนรอด้วยความดีใจ

อิทธิถือเค้กก้อนเล็กจุดเทียนเรียบร้อยเดินร้องเพลงเบิร์ดเดย์มาที่มดดำ ยายแดงร่วมร้องเพลงกับอิทธิ มดดำยิ้มมีความสุข จนเพลงจบมดดำเป่าเค้ก ยายแดงส่งหนังสือให้มดดำ
“มีความสุขมากๆนะมดดำ ยายรู้ว่าเอ็งเป็นคนดีรักษามันเอาไว้นะ เพราะความดีจะนำพาชีวิตเอ็งไปเจอแต่สิ่งที่ดี”
“ขอบคุณมากจ๊ะยาย วันเกิดของฉันก็มีแต่ยายกับพี่อิทนี่แหละที่จำได้ ขนาดแม่แท้ๆของฉันยังไม่พูดถึงวันเกิดฉันเลยสักครั้ง”
มดดำนึกถึงแม่แล้วเศร้า
“อย่าคิดมากเลย ส้มมันจำไม่ได้สักปี แต่ยายก็จัดวันเกิดให้ทุกปีแล้วไง”
อิทธิชวน
“มากินเค้กกันเถอะ”
มดดำมองเค้กแล้วตัดส่งให้ยายแดงกับอิทธิ มดดำกินเค้กด้วยความเศร้า ยายแดงกับอิทธิมองมดดำแล้วถอนใจสงสาร

ค่ำนั้น...บริเวณจัดงานริมสระน้ำ แขกมาพอสมควร คุณหญิงวาปี พิมพ์พรรณ สหรัฐ สุทธิดาและดอมอยู่ที่โต๊ะ
“ไม่ได้เจอคุณยายสองปี คุณยายยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ” สหรัฐกราบที่ตักคุณหญิง
คุณหญิงยิ้ม
“นี่ๆๆ ไปปากหวานกับสาวๆเถอะ”
พิมพ์พรรณรีบบอก
“อุ๊ย...สาวที่ไหนคะคุณแม่ ถ้าไม่ใช่คนที่พิมพ์กับกัลมองไว้ ไม่ได้เด็ดขาด”
พวกผู้ใหญ่หัวเราะกัน สหรัฐมองไปที่สุทธิดา เธอก็ยิ้มอายๆ พิมพ์พรรณสะกิด สหรัฐลุกขึ้นเดินมาหาสุทธิดา ส่งของขวัญกล่องเล็กให้
“สุขสันต์วันเกิดนะดา”
สุทธิดารับไปอย่างอายๆ แล้วเปิดดูเห็นเป็นกำไลเพชร กัลยา และองค์อรน้องสาวของเธอซึ่งเป็นโสด เห็นก็ชื่นชม
“น้าให้ตารัฐเป็นคนเลือกเลยนะ” พิมพ์พรรณยิ้มแย้มบอก
“ขอบคุณค่ะ”
สุทธิดายิ้มหวานให้สหรัฐ ทำให้พงษ์ที่ยืนอยู่ด้วยเห็นแล้วไม่พอใจ

มดดำเดินกลับเข้าบ้านมา เห็นส้มจะเดินออกไปก็สงสัย
“แม่จะไปไหน”
“ยุ่ง”
ส้มเดินออกไป มดดำจะตามไปแต่เฉลิมเดินมาคว้ามือไว้
“ปล่อยแม่เอ็งเหอะ วันนี้ไม่ได้ทำงานมันคงไม่อยากอยู่บ้าน”
“แต่ฉันกลัวแม่ไปเล่นไพ่”
“ดีแล้วลุงอยากให้มันไปตั้งนานแล้ว จะได้เอาของขวัญนี่ให้เอ็งไง”
เฉลิมหยิบเสื้อยืดมาให้มดดำ
“ลุงไม่อยากให้ส้มมันเห็น เดี๋ยวจะอาละวาดอีก เป็นไง สวยไหม อ่ะ ลุงให้วันเกิดนะ”
มดดำรับเสื้อไปแล้วไหว้เฉลิม แต่ใจก็ยังห่วงแม่
“ขอบคุณมากจ้ะลุง...เดี๋ยวฉันไปดูแม่ก่อนนะ เป็นห่วง”
มดดำวิ่งออกไป เฉลิมมองตามแล้วส่ายหน้าระอาใจ
“อีส้มเอ๊ย มดดำมันออกจะดี เอ็งจะเลวกับลูกไปถึงไหนวะ”

ส้มเดินมองหามอเตอร์ไซค์มาตามทาง แล้วเรียกรถได้หนึ่งคัน ส้มบอกทางแล้วขึ้นนั่งไป มดดำวิ่งตามมามองตามสงสัย มดดำตะโกน
“แม่...” เธอเรียกมอเตอร์ไซค์อีกคัน “พี่ตามรถคันหน้าไป”

รถของส้มมาจอดหน้าบ้านคุณหญิงวาปี ส้มจ่ายเงินแล้วเดินไปเกาะริมรั้วดูแอบดูผู้คนในบ้านหลังใหญ่ มอเตอร์ไซค์ของมดดำวิ่งมาแล้วมดดำเห็นส้มยืนอยู่
“จอดตรงนี้แหละพี่”
มดดำจ่ายเงิน แล้วเดินไปหา
“แม่...มาทำอะไรที่นี่อ่ะ”

“อีมดดำ” ส้มตกใจ

กากับหงส์ ตอนที่ 2

ส้มมองมดดำอย่างไม่พอใจ ตวาดถาม

“มึงมานี่ทำไม”
มดดำเดินมากับส้มที่ริมรั้วแล้วมองเข้าไปในบ้าน มดดำมองส้มงงๆไม่เข้าใจว่าส้มมาดูอะไร
“แม่รู้จักพวกเขาเหรอ”
“มึงไม่ต้องยุ่งเรื่องของกู ไป! จะไปไหนก็ไป”
“แล้วแม่ล่ะ”
“กูบอกให้ไปก็ไปสิ!”
“ไม่เอาหรอก ถ้าแม่ไม่กลับฉันก็ไม่กลับ”
มดดำถอนใจเซ็งแล้วถอยมายืนห่างๆ แอบดูส้มมองเข้าไปในบ้าน มดดำมองไม่เข้าใจอารมณ์ของส้ม
บริเวณงาน กัลยายืนหันหลังกอดสุทธิดา มดดำจึงไม่เห็นว่ากัลยาอยู่ในบ้านนั้น ส้มดูจนเต็มอิ่มก็หันหลังกลับมาเจอมดดำยืนรอ ส้มไม่สนใจเดินไป มดดำเดินตามไป

ส้มเดินมาถึงฟุตบาทริมถนนใหญ่ มดดำเดินตามมา
“แม่ จะไปไหนอีก”
“กูจะกลับบ้าน”
“อะไรกัน นี่แม่นั่งรถมาตั้งไกล มาดูบ้านนั้นแล้วก็กลับเนี่ยนะ”
“เอ้าอีนี่ แล้วจะให้กูไปร่วมงานกับเขาเหรอ”
“ไม่ใช่ แต่ฉันแค่สงสัยว่าแม่มาที่นี่ทำไม”
“อีมดดำ ถ้ามึงถามเรื่องนี้กับกูอีก กูตบมึงปากกระเด็นแน่”
มดดำจ๋อย ส้มเรียกแท็กซี่แล้วจะขึ้น มดดำจะขึ้นตามแต่ส้มผลักออกไป
“มึงสาระแนตามกูมาเองได้ ก็หาทางกลับเองแล้วกัน”
มดดำชะงัก
“อ้าวแม่...อะไรอ่ะ จะทิ้งฉันเหรอ”
ส้มยิ้มร้าย
“ใช่...กูอยากทิ้งมึงมานานแล้ว”
ส้มมองหน้าจ้องเขม็งแล้วขึ้นรถปิดประตูกดล็อค มดดำทุบประตูขอให้เปิด ส้มมองมดดำยิ้มเยาะแล้วบอกคนขับ รถแล่นออกไป มดดำวิ่งตาม
“แม่...แม่”
มดดำถอนใจมองซ้ายมองขวา เดินไปนั่งรอรถเมล์ที่ป้าย

สุทธิดาใส่กำไลเพชรยืนไม่ห่างสหรัฐ ทั้งสองคนยืนคุยกับผู้ใหญ่ทั้งคุณหญิงวาปี กัลยา พิมพ์พรรณ ดอมนั่งเซ็งๆอยู่ คุณหญิงหันไปพูดแหย่ สหรัฐกับสุทธิดา
“ตายแล้ว หนุ่มสาวสองคนนี่มาอยู่วงคนแก่เบื่อแย่”
กัลยาบอกลูกสาว
“ดา...ลูกพาพี่รัฐไปแนะนำกับเพื่อนๆสิ”
สุทธิดายิ้มแล้วพาสหรัฐเดินไปทักทายกับเพื่อนๆ ดอมพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ
“คุณย่าไล่พี่รัฐไปที่อื่น ผมก็ไม่มีเพื่อนคุยสิครับ”
“ลูกก็ไปคุยกับเพื่อนๆพี่เขาสิ”
“มีแต่พวกลูกไฮโซน่าเบื่อออก”
คุณหญิงมองค้อนดอม
“งั้นก็รอพ่อเธอกลับมาละกัน สนิทกันมากไม่ใช่เหรอ อย่าให้สนิทจนถอดนิสัยกันมาทุกอย่างซะละ”
ดอมงง กัลยาถอนใจที่แม่เหน็บสามี

แก้วกับวาว่าและเพื่อนๆที่นั่งอยู่ด้วยกันมองสหรัฐกับสุทธิดาต้อนรับแขก
“ดานี่มันพร้อมเกินไปแล้วนะ ฉันอิจฉา” แก้วมองอย่างอิจฉา
วาว่ายิ้ม
“เปลี่ยนจากอิจฉาเป็นทำใจเถอะแก้ว ทั้งสวย รวย เก่ง แถมยังจะมีแฟน หล่อ รวย เก่ง เหมือนกัน กระโดดน้ำในสระตายไปเกิดใหม่ก็ไม่รู้จะได้อย่างนี้หรือเปล่า”
“โลกไม่ยุติธรรมเลยเน๊อะ ทำไมไม่ให้ฉันมาครบอย่างดาบ้าง”
“อย่างดาเขาเรียกว่าได้เกินย่ะ”
สุทธิดาเดินคล้องแขนสหรัฐมาถึงโต๊ะ ทันได้ยินประโยคสุดท้ายของวาว่าพอดี
“ฉันได้อะไรเกินหน้าเกินตาพวกเธอเหรอ”
“ไม่เกินเล้ย ดาน่ะได้ทุกอย่างน้อยกว่าพวกเราหมด น้อยจนพวกเราอิจฉาตาแทบหลุดมานอกเบ้าแล้ว”
แก้วพูดจบทุกคนก็หัวเราะขำ ขณะเดียวกันนั้นเสียงพงษ์ดังขึ้น
“สุขสันต์วันเกิดนะดา”
ทุกคนหันไปตามเสียงก็เห็นพงษ์เดินถือกล่องของขวัญเล็กๆเข้ามา พงษ์เห็นหน้าสหรัฐก็จำได้แต่ไม่สนใจ เดินเข้าไปใกล้ๆจับมือสุทธิดาขึ้นมาก่อนจะวางกล่องของขวัญใส่มือเธอ สุทธิดารับไว้แล้วไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เธอเกรงใจสหรัฐรีบดึงมือกลับ
“ขอโทษที่มาช้านะดา พอดีผมใช้เวลาเลือกของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับดา ไม่เปิดดูหน่อยเหรอ”
วาว่าเชียร์
“เปิดเลยสิดา ฉันอยากเห็นว่านายพงษ์จะให้อะไร เริ่ดไหม”
สุทธิดาแกะของขวัญแล้วเปิดออกเป็นแหวนเพชรเม็ดเล็ก พงษ์ยิ้มปลื้มหน้าบาน แต่ต้องหุบทันทีที่สุทธิดาปิดกล่อง
“ไม่ใส่เหรอ” พงษ์เหลือบมองสหรัฐอย่างคิดว่าตัวเองก็ไม่ด้อยกว่า “ผมตั้งใจเลือกให้ดาเลยนะ”
“พอดีมันไม่เข้าชุดกับกำไลที่พี่รัฐให้น่ะ”
สุทธิดายกแขนมองกำไลอย่างชื่นชม พงษ์หน้าเจื่อนทันที
“พี่รัฐไปกันเถอะค่ะ น้าพิมพ์เหงาแย่แล้ว” สุทธิดาหันไปหาสหรัฐ
สุทธิดากับสหรัฐหัวเราะขำแล้วสุทธิดาก็พาสหรัฐเดินไป พงษ์มองตามไม่พอใจ แก้วปลอบ
“ไม่ต้องน้อยใจหรอกน่า พี่รัฐน่ะเขาเป็นทายาทบริษัทผลิตอัญมณีรายใหญ่ของประเทศ มีร้านทั้งในนี้แล้วก็ที่ยุโรป
“หา...รวยมากเลยเหรอ” พงษ์ตกใจ
“รวยไม่รวย ถ้าจะแข่งให้เพชรกับดา ฉันว่าคงไม่มีใครในประเทศกล้าวัดรอยพี่รัฐเขาหรอก” วาว่าบอก
พงษ์ถอนใจเครียดทันที

สหรัฐกับสุทธิดายืนคุยกันใกล้กับคุณหญิงวาปีและกัลยา สักพักไฟเริ่มหรี่ลงและเพลงเบิร์ดเดย์ก็ดังขึ้น ทุกคนช่วยกันร้อง สุธิดายิ้มปลื้ม องค์อรถือเค้กออกมา
“น้าอร”
สุทธิดาเดินเข้าไปหาพร้อมกับเพลงจบ กัลยาเดินมายืนข้างๆสุทธิดา
“เป่าแล้วอธิฐานเลยสิจ๊ะ” องค์อรบอกอย่างยิ้มแย้ม
สุทธิดามองๆหาแล้วเศร้า
“แต่...คุณแม่คะ คุณพ่อยัง...”
ทันใดนั้นเสียงชาติชายดังขึ้น
“ใครว่าพ่อยังไม่มาล่ะ”
สุทธิดาหันมองตามเสียง เห็นชาติชายที่มายืนอยู่ข้างๆเมื่อไหร่ไม่รู้
“คุณพ่อ แหมนึกว่างานวันนี้ครอบครัวเราจะไม่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว”
องค์อรยิ้มให้หลานสาว
“ที่จริงเพื่อนๆชวนน้าอยู่ต่อบอกจะพาไปสกีที่ออสเตรียด้วยนะ แต่เห็นว่าเป็นวันเกิดหลานรักเลยต้องทิ้งสกีกลับมาจ้ะ”
สุทธิดาดีใจแต่ยังทำเป็นงอนน่ารัก
“โอเค ของน้าอรดาไม่โกรธแล้ว แต่สำหรับคุณพ่อ ดาจะทำไงดีน้าที่มาสายวันนี้ พี่รัฐว่าไงคะ”
“ดา...พี่ว่าอย่าโกรธน้าชาติเลยนะ ท่านก็มาทันตอนดาเป่าเค้กนี่”
ชาติชายมองลูกสาวอย่างเอ็นดู
“แน่ะ...ยังงอน นี่ตอนพ่อรู้ว่าต้องติดงานจนมาช้า พ่อก็รีบโทรหาคนบางคนที่ลูกคิดถึงมาเป็นองครักษ์ดูแลลูกแทนพ่อเชียวนะ”
สุทธิดาแปลกใจ
“ก็พี่รัฐของลูกไง”
สุทธิดามองไปทางสหรัฐแล้วเขิน พวกผู้ใหญ่หัวเราะชอบใจ
“งั้นดาหายงอนเพราะพี่รัฐขอก็ได้ค่ะ”
ชาติชายหัวเราะ
“โอ้วๆๆๆ ตกลงไม่รักพ่อแล้วสิเนี่ย”
สุทธิดายิ้มแล้วโผไปกอดชาติชาย ทุกคนยิ้มเอ็นดูสุทธิดากันใหญ่

สุทธิดาเป่าเทียนเสร็จแล้ว องอรก็เอากล่องของขวัญให้
“ของขวัญจากฝรั่งเศสจ๊ะ”
สุทธิดารับมาเปิดกล่องเป็นกระเป๋าแบรนด์ดัง
“อู้หูว...ขอบคุณมากค่ะน้าอร ดาอยากได้แบรนด์นี้มานานแล้วขอบคุณนะคะ”
องค์อรยิ้ม
“สำหรับหลานรักของอา มากกว่านี้ยังให้ได้เลยจ๊ะ”
แก้วกระซิบกับวาว่า
“กระเป๋าใบนั้นราคาเป็นล้านเลยนะนั่น”
“ความอิจฉาขึ้นตาอีกแล้วฉัน”
สุทธิดาถามสหรัฐ
“สวยมั้ยคะพี่รัฐ”
สหรัฐยิ้มรับ
“ครับ...สวยดี”
“วันหยุดนี้พี่รัฐต้องพาดาไปเดินเล่นแล้วนะคะ ดาอยากใช้กระเป๋าใหม่”
“ได้เลย แล้วแต่เจ้าหญิงของพี่จะบัญชา”
สุทธิดายิ้มปลื้มเกาะแขนสหรัฐมีความสุข พงษ์ที่ยืนอยู่รู้สึกเหมือนไร้ตัวตนมองดูสหรัฐและสุทธิดาด้วยความไม่พอใจ สุทธิดาหันมาเห็นสายตาของพงษ์แล้วไม่ชอบ หันไปทำเป็นแกล้งพูดข้างหูสหรัฐแล้วหอมแก้มเขาซะเลย สหรัฐเหวอแต่ก็ลูบๆจับๆหัวสุทธิดาเอ็นดูแบบน้องสาว

พวกผู้ใหญ่เห็นแล้วยิ้มพอใจ แต่พงษ์ยิ่งเจ็บใจ

มดดำเดินเข้าบ้านมา แล้วมองไปรอบๆ เธอเดินดูทุกที่ แล้วไปเคาะห้องเฉลิม

“ลุง...ลุงนอนยังจ๊ะ”
เฉลิมเปิดประตูมา
“มีอะไรวะมดดำ”
“แม่ล่ะจ๊ะ”
“เอ้า...ก็ตั้งแต่เอ็งวิ่งตามไป นังส้มมันก็ยังไม่กลับมาเลยนะ นี่ตกลงไม่ได้ไปด้วยกันเหรอวะ”
“ฉันก็ตามไปเจอแม่ไปยืนหน้าบ้านใครก็ไม่รู้ แต่ตอนกลับแม่ทิ้งฉันขึ้นแท็กซี่หนีมาเลย”
“เอ็งลองไปดูร้านเหล้าปากซอย แม่เอ็งคงเมาอยู่นั่นมั้ง”
“ไม่มี เมื่อกี้ฉันเดินผ่านมาร้านปิดแล้ว”
มดดำกับเฉลิมก็นึกได้พร้อมกัน
“มีอีกที่เดียว”
มดดำนึกได้
“อีกแล้วเหรอ” มดดำถอนใจเซ็ง “งั้นฉันไปตามแม่ก่อนนะลุง”
มดดำวิ่งออกไป เฉลิมมองตามแล้วหัวเราะ
“บ้านอื่นเขาวิ่งตามลูกสาวกลัวหนีไปเป็นสก๊อย ไอ้บ้านนี้ลูกวิ่งดูแม่ทั้งวัน”

สหรัฐเดินดื่มเครื่องดื่มไปเรื่อยๆ สุทธิดาเดินยิ้มเข้ามาหา
“ทำไมมาหลบอยู่ตรงนี้ล่ะคะ”
สหรัฐยิ้ม
“พี่มาเดินดูต้นไม้น่ะ ไม่ได้มาที่นี่สองปีกว่า ต้นไม้โตขึ้นเยอะนะ”
สุทธิดาอายๆ
“พี่รัฐคิดถึงที่นี่แค่ต้นไม้เหรอคะ”
“จริงๆก็คิดถึงทุกคนนะ”
“ดาก็คิดถึงพี่รัฐค่ะ รู้ไหมวันนี้ดาดีใจมากเลยนะที่รู้ว่าพี่รัฐจะมา”
“จริงเหรอ” สหรัฐจับหัวเอ็นดู “เรานี่ช่างประจบเหมือนเดิมเลยนะ”
สุทธิดาดึงมือมาจับ
“ดาพูดจริงๆนะคะไม่ได้ประจบสักหน่อย”
“เชื่อจ้ะเชื่อ” สหรัฐนึกได้ “เอ่อ...แล้วนายดอมหายไปไหนล่ะ มานี่ไม่ค่อยได้คุยกันเลย”
“โอ๊ยไม่เอาหรอกค่ะ น้องชายจอมกวนประสาท ถ้ามาเดี๋ยวก็มาทะเลาะกับดาอีก”
“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว นี่พวกเราโตๆกันหมดแล้วนะ ใจคอจะให้พี่เป็นกรรมการห้ามมวยตั้งแต่เด็กจนแก่เลยเหรอ”
“ถ้าพี่รัฐจะห้ามจนแก่ดาก็จะดีใจมากค่ะ แต่ต้องอยู่ข้างดาคนเดียวตลอดไปนะคะ”
สหรัฐหัวเราะ
“ขี้โกงนี่เรา”
สุทธิดาจับมือสหรัฐให้เหลือแต่นิ้วก้อยแล้วตัวเองก็เกี่ยวก้อยด้วย
“ไม่รู้ล่ะดาถือว่าพี่รัฐรับปากแล้ว”
สหรัฐส่ายหน้าหัวเราะขำแบบเอ็นดู แต่สุทธิดายิ้มกลับตาหวานเยิ้ม
“เครื่องดื่มพี่รัฐหมดแล้ว เดี๋ยวดาไปเอามาให้ใหม่นะคะ”
“เอ่อ...ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพี่ไปเอาเองดีกว่า”
สุทธิดาแย่งแก้วมา
“ไม่ค่ะ ดาชอบดูแลพี่รัฐ”
ว่าแล้วสุทธิดาก็ยิ้มเดินออกไป...สุทธิดาจะเดินไปเติมเครื่องดื่ม แต่มีเพื่อนเข้ามาคุย พงษ์ที่แอบดูสุทธิดาอยู่ก็ขอตัวผละจากเพื่อนๆเดินแยกไป

ระหว่างสหรัฐรอเครื่องดื่มจากสุทธิดา พงษ์ก็เดินเข้ามา
“ดูคุณสนิทกับดาจังเลยนะครับ”
สหรัฐหันมองตามเสียง
“คุณ เพื่อนของน้องดา...”
“ครับ...ผมชื่อพงษ์ เพื่อนชายคนสนิทของดา”
สหรัฐรู้สึกว่าน้ำเสียงของพงษ์ดูไม่ค่อยเป็นมิตร
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“เช่นกันครับ” พงษ์จ้องนิ่งที่สหรัฐ “อืม...เอาเป็นว่าผมจะไม่อ้อมค้อมดีกว่า ยังไงเราก็เป็นลูกผู้ชายเหมือนกัน ดาคงจะเล่าเรื่องผมกับดาให้คุณฟังแล้ว”
สหรัฐงง
“เอ่อ...ขอโทษครับ ดาไม่เคยเล่าเลย”
พงษ์ชักไม่พอใจที่สหรัฐพูดไม่เข้าหู
“งั้นผมจะเล่าให้ฟังเอง”
ทันใดนั้นเสียงสุทธิดาดังขึ้น
“พี่รัฐคะ เครื่องดื่มคะ”
สุทธิดาเดินเอาเครื่องดื่มมาให้สหรัฐ แล้วแอบมองหน้าพงษ์เอาเรื่อง พงษ์ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร
“แก้วกับวาว่าตามหาพงษ์อยู่”
พงษ์พูดไม่ออกมองหน้าสุทธิดาแต่ไม่กล้าก็เลยเดินออกไป สุทธิดาหันมาถามสหรัฐ
“เขามาคุยเรื่องอะไรคะ”
สหรัฐยิ้มให้สุทธิดาไม่ได้ตอบอะไร

องค์อรกับตุณหญิงวาปีมองดูแขกเหรื่อรอบงานอยู่ริมสระ ชาติชายและกัลยายืนอยู่ใกล้ๆ
“คุณแม่คะ เพื่อนผู้ชายของยายดาที่ชื่อพงษ์นั่นน่ะคะ อรว่าเขาดูแปลกๆนะคะ”
วาปีสงสัย
“แปลกยังไง”
“ก็...อรรู้สึกว่าเาจะตามยายดาอยู่ตลอด ท่าทางตารัฐจะมีคู่แข่งนะคะ”
กัลยาหันมาบอก
“เห็นยัยดาบอกว่าเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่มหาวิทยาลัย”
องค์อรยิ้มๆ
“แค่เพื่อนเหรอ ไม่ละมั้ง อรว่านายพงษ์คงชอบยัยดา คนของเรานี่เสน่ห์แรงจริงๆ”
ทั้งสามยิ้มพอใจ ชาติชายพูดขึ้นมาบ้าง
“นึกถึงตอนที่ผมจีบคุณใหม่ๆนะกัล ตอนนั้นพอผมรู้ว่ามีคนมาจีบคุณหลายคน คู่แข่งเยอะก็ทำให้ผมรู้สึกหวงๆคุณเหมือนกัน”
คุณหญิงค้อน
“หึ...แล้วทีตอนที่ยายกัลมีคู่แข่งโดยที่เธอไม่บอกลูกสาวฉันสักคำเลยล่ะ”
“คุณแม่คะ...”
กัลยาต้องรีบเบรกก่อนที่คุณหญิงจะเหน็บชาติชายกับเรื่องในอดีตไปมากกว่านี้ ชาติชายได้แต่นิ่งพูดไม่ออก
“ยายอร พาฉันเข้าไปในบ้านหน่อยเถอะ ฉันอยากพักแล้ว” คุณหญิงหันไปบอกองค์อร
“ค่ะ”
องค์อรมองกัลยาอย่างเห็นใจแต่ก็ยังตึงๆกับพี่เขยก่อนพาคุณหญิงเดินเข้าบ้านไป ชาติชายถอนใจ
“คุณแม่ ท่านไม่เคยอภัยให้ผม”
“คุณค่ะ...กัลเข้าใจดีว่าคุณรู้สึกยังไง”
“ผมคงไม่ดีเองที่มาเกาะครอบครัวของท่าน”
“อย่าคิดอย่างนั้นเลยค่ะ คุณเองก็มีครอบครัวมีหลักฐานอยู่เมืองนอก ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ตัวซะที่ไหน อย่าลืมสิคะว่าที่บริษัทประสบความสำเร็จ จนขยายงานไปเยอะก็เพราะคุณเป็นแรงกายแรงสมองที่สำคัญ”
ชาติชายยิ้มออก แล้วกุมมือกัลยา
“ขอบคุณคุณมากนะกัล เมื่อก่อนผมไม่น่าทำผิดต่อคุณเลย”
กัลยายิ้ม
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว คุณก็สัญญาที่จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ แล้วคุณก็ทำได้จริง กัลรักคุณกัลก็ต้องให้โอกาสคุณสิคะ เพื่อลูกของเราด้วย”
ชาติชายยิ้มภูมใจในตัวภรรยา
“เออ...แล้วเรื่องเด็กสองคนนั้นที่ช่วยคุณไว้ คุณจะเอายังไงต่อ”
“ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าเด็กสองคนนั้นจะติดต่อกลับมา”
“ดูคุณจะชอบเด็กสองคนนั่นมากนะ”
“ค่ะ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่ชื่อมดดำ กัลเห็นแล้วเอ็นดู ถูกชะตาจริงๆเลย”
กัลยานิ่งยิ้มนึกถึงมดดำแล้วมีความสุข

มดดำเดินมาถึงหน้าบ้าน แล้วสอดส่องมองตามรู แต่ไม่เห็นเลยเงี่ยหูฟัง สุดท้ายตัดสินใจเคาะประตู ขาไพ่หญิงเปิดประตูมาอารมณ์ไม่ดี
“อ้าว...อีมดดำเองเหรอ มีอะไร”
“แม่ล่ะน้าหงา อยู่นี่ป่ะ”
ขาไพ่ตะโกน
“อีส้ม แม่มึงมาตามอีกแล้ว เร็วๆ”
ส้มเดินหน้าตึงออกมา
“อะไรของมึง วิ่งตามกูอยู่ได้”
“แม่กลับบ้านเถอะ ดึกแล้ว”
“กูไม่กลับ มึงจะไปตายที่ไหนก็ไป”
“แม่...เราไม่ค่อยมีเงินกัน แม่มาเล่นทำไม กลับบ้านเถอะนะ”
“เอ๊ะอีนี่ พูดไม่เคยรู้เรื่อง” ส้มนึกได้ “เออ...ไหนๆก็มาแล้ว เอาเงินมา”
ส้มเดินเข้าไปล้วงตามตัว มดดำปัดป้อง
“ไม่นะแม่ นี่เงินฉัน เงินของแม่ฉันก็ให้แล้วนี่”
“หมดแล้วโว้ย มีเท่าไหร่เอามา”
ส้มล้วงมาได้สองร้อย มดดำจะเอาคืนแต่ส้มไม่ให้
“แม่...ไม่กลับบ้านก็ได้ แต่เอาเงินฉันคืนมา”
ส้มมองหน้าไม่สนใจแล้วผลักมดดำเซ ก่อนจะปิดประตูใส่
“แม่...แม่!...” มดดำชักฉุน “ได้ ไม่กลับ...งั้นฉันจะไปหาคนมาตามกลับ”

ส้มกำลังมือขึ้นเรื่อยๆ เจ้ามือหน้าซีด ลูกขาอื่นๆก็เสียตัง
“อีนังส้ม มึงกินอยู่คนเดียวเลยนะ”
“กูว่ามึงกลับไปได้แล้ว พวกกูจะได้ได้มั่ง ลูกมึงก็มาตามแล้ว”
“ไม่กลับ! กูกำลังมือขึ้น”
“มึงไม่กลับกูก็ต้องกลับแล้ว เพราะทุนเกลี้ยงเลย”
ส้มเสียงแข็ง
“ไม่ได้...ถ้าใครกลับ กูตบ!”
ระหว่างนั้นมีเสียงตำรวจตะโกนเข้ามา
“ดุจังเว้ย จะเล่นถึงเช้าหรือไง”
วงไพ่มองหน้ากัน แล้วมองไปที่ขาไพ่ชายคนหนึ่ง
“ไอ้วิทย์ทำไมเสียงมึงแปลกๆวะ” ส้มถามอย่างสงสัย
วิทย์ส่ายหน้า
“กูยังไม่ได้อ้าปากสักคำ”
ข้าไพ่งงๆ
“อ้าว...งั้นใครพูด”
ส้มไม่สนใจ
“ใครพูดก็ช่าง รีบเข้ามาเลย มาให้กูแดกให้ไว”
“กูเอง”
ตำรวจพังประตูเข้ามามีมดดำยืนจังก้าอยู่ข้างตำรวจ ทุกคนกรี๊ด!! วงแตก!หนีกระเจิง
“แม่กลับบ้านเหอะ!” มดดำเรียก
“อีมดดำ...อีกแล้วเหรอ”

ส้มวิ่งหนีไป

กากับหงส์ ตอนที่ 2 (ต่อ)

ช่วงชุลมุนแตกตื่นนั้น ขาไพ่ชายกับขาไพ่หญิงหนีเข้าครัว ผู้หญิงแยกไปหยิบกระทะ คว่ำหน้ากระทะใส่เตาแล้วใช้ไพ่ต่างตะหลิวทำท่าผัดๆ ส่วนผู้ชายไปหยิบจานกับช้อนเอาไพ่ที่ติดมือมาใส่จาน แล้วตักเข้าปากเคี้ยวหงับๆๆๆ ตำรวจตามเข้ามาถาม

“อร่อยมั้ย”
ขาไพ่หญิงกระโดดออกหน้าต่างมาจ๊ะเอ๋กับตำรวจ เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงหลับตาปี๋ถลกผ้าถุงมาครอบหัว เปิดให้เห็นช่วงล่าง ตำรวจตกใจเอามือปิดตา
“เฮ้ย...แบบนี้ เอาอนาจารไปอีกกระทงละกัน”
ขาไพ่ชายวิ่งหนีไปในบ้านวัยรุ่นที่กำลังนั่งสูบยาบ้ากันอยู่ ขาไพ่ไม่สังเกตไม่พูดพร่ำทำเพลงแย่งยาเขามาดูดซะงั้น ตำรวจตามมาสองคน
“เฮ้ย!!”
ขี้ยาวงแตก ตำรวจคนหนึ่งวิ่งตามจับขี้ยาทันที ส่วนขาไพ่ก็ยังดูดยาบ้าเฉย ตำรวจเข้ามาถาม
“ทำอะไรน่ะ!”
ขาไพ่ตวาด
“ดูดม้าอยู่ไม่เห็นรึไง!” แล้วก็นึกได้ “เฮ้ยยย!!”
ตำรวจยิ้มกริ่ม
“ได้ผลงานเพิ่มแล้วกรู...”

ตำรวจทยอยพาขาไพ่กับขี้ยาขึ้นรถ ส้มยังไม่ได้ขึ้นจ้องหน้ามดดำเหมือนจะกินเลือดกันเนื้อ มดดำทำเฉยเหมือนไม่เห็นอะไร
“อีนังมดดำ! อีเนรคุณ! กูเป็นแม่มึงนะ ใจคอมึงจะเอาตำรวจจับกูจนกูแก่ตายเลยหรือไง”
ส้มจะกระโดดถีบ ตำรวจสองคนคว้าหมับ ส้มดิ้น
“ปล่อย!! ฉันจะตบมัน มันลูกฉันนะ...โอ้ยยย...คุณตำรวจ ฉันขอทีเดียวน่า”
“จะเอาข้อหาทำร้ายร่างกายอีกกระทงรึไง ลูกมันทำถูกแล้ว ไปๆ ถ้าเขาไม่รักแม่ เขาไม่ทำงี้หรอก เราน่ะแหล่ะ ไม่อายหรือไง ให้ลูกมันตามตำรวจมาจับได้ตั้งแต่สาวจนแก่”
มดดำเสริม
“ใช่จ้ะแม่ ลุงจ่าพูดถูก ที่ฉันทำเพราะฉันรักแม่นะ”
“ถุย...ไม่ต้องมารักกูเลย กูไม่ต้องการ กูเกลียดมึง”
มดดำสะอึกกับคำพูดของแม่ ตำรวจเห็นแล้วก็ส่ายหน้าเซ็ง
“ไปเลย...ไปเสียค่าปรับ”
ตำรวจหิ้วปีกส้มขึ้นรถ มดดำมองตามแม่อย่างห่วงๆ

สุธิดาเดินคล้องแขนสหรัฐ มาส่งสหรัฐกับพิมพ์พรรณที่รถ มีพงษ์กับวาว่ามาส่งด้วย พิมพ์พรรณเห็นว่าสุทธิดายังเกาะแขนสหรัฐอยู่ก็มองยิ้มๆ
“น้าขอลูกชายคืนได้มั้ยจ๊ะ จะเอามาขับรถน่ะ”
สุทธิดาถูกแซวก็ยิ้มเขินปล่อยแขน สหรัฐจับหัวสุทธิดา
“ยังไงก็สุขสันต์วันเกิดอีกทีนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่รัฐ”
สุทธิดาหอมแก้มสหรัฐ พงษ์อึ้ง ส่วนแก้วกับ วาว่ากรี๊ดอิจฉา
“พี่ไปนะ”
ทุกคนไหว้พิมพ์พรรณกับสหรัฐ พงษ์ไหว้พิมพ์พรรณแต่ไม่ได้ไหว้สหรัฐ แก้วประชดประชัน
“นี่ดา จะหวานมากเกินไปแล้วนะเธอ”
สามสาวเดินเข้าในงาน พงษ์ดึงแขนสุทธิดาไว้ แก้วกับวาว่าเดินเข้าไปก่อน สุทธิดาดึงแขนกลับ
“ปล่อย! ทำบ้าอะไรอ่ะพงษ์! เดี๋ยวใครก็เห็นหรอก”
“เฮอะ!...กลัวเขาเห็น ทีตอนกระโดดกอดคอหอมแก้มไอ้นั่นไม่ยักกะกลัวใครเห็น”
สุทธิดาจ้องหน้า
“นั่นมันว่าที่คู่หมั้นดา...”
พงษ์อึ้ง
“แล้วผม...”
สุทธิดายิ้ม
“เราสองคนจะจำความรู้สึกดีๆก่อนพี่รัฐกลับมา จบนะ”
ว่าแล้วสุทธิดาก็เดินเชิดออกไป พงษ์เจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

คุณหญิงวาปีอยู่บนที่นอน ส่วนองค์อรอยู่ที่ริมหน้าต่างมองลงไปที่งานวันเกิด
“แขกเริ่มทยอยกลับกันแล้ว คืนนี้ยายดากับตารัฐไม่ห่างกันเลยนะคะ น่ารักดี”
“เขาไม่ห่างกันหรือคนของเราไม่ห่างเขากันแน่ยัยอร ยังไงฝ่ายเราก็เป็นผู้หญิงเธอก็ปรามๆหลานหน่อยนะ ไม่ใช่รักแล้วตามใจกันจนเสีย”
“ค่ะ...คุณแม่” องค์อรเดินไปนั่งข้างแม่ “เออ...คุณแม่คะ เพื่อนของยายดาที่ชื่อพงษ์นั่นเหมือนจะหวงๆหลานเราเกินพอดีไปหน่อยนะคะ”
“นี่สังเกตเขาทุกฝีก้าวเลยรึ”
“แหม...ก็เราเป็นตระกูลใหญ่ ใครจะมาเป็นเขยเป็นสะใภ้ก็ต้องสแกนดูก่อนสิคะ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสยังไงจะลองถามยัยดาดู ว่าตาพงษ์นั่นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร”
“เห็นตอนแรกปลาบปลื้มว่าหลานเสน่ห์แรงไม่ใช่เหรอ”
“ก็ใช่ค่ะ แต่ถ้าต้องเลือก อรก็เชียร์ตารัฐ นายพงษ์นั่นคงอีกนานกว่าจะขึ้นมาเท่าตารัฐ เสียเวลารอ”
คุณหญิงยิ้มส่ายหน้าให้กับความเคี่ยวของลูกสาว องค์อรเข้ากอดแม่

ส้มยืนเกาะลูกกรงห้องขังอย่างเซ็งโลก เฉลิมเดินเข้ามาในโงพัก ส้มเห็นก็ดีใจ แต่พอเห็นมดดำเดินตามมาก็อารมณ์ขึ้น กำลังจะอ้าปากด่า
“หยุดเลยนังส้ม จะด่าอะไรมันอีก” เฉลิมชี้หน้า
ส้มกดอารมณ์ไว้
“แทนที่จะได้หลับได้นอนกัน ดันหาเรื่องชั่วๆมาใส่บ้าน”
“อ้าวพี่เหลิม ด่าอีมดดำสิ ถ้ามันไม่เรียกตำรวจมา ป่านนี้ชั้นก็รวยไปแล้ว”
“โธ่...อี...อี...จะด่าอะไรมึงดีวะ”
“นี่ไม่ต้องด่าหรอก ประกันตัวฉันออกไปก่อน”
มดดำขอร้องเฉลิม
“ลุง ช่วยประกันแม่ออกไปทีนะ”
ส้มด่า
“มึงเงียบไปเลยอีลูกเวร อยากประกันแล้วเสือกเรียกตำรวจมาจับกูทำไม”
“ก็อยากให้แม่เลิกเล่นไง ขนาดเรียกมาจับเป็นสิบๆครั้งยังไม่เลิกเลย”
เฉลิมหันมาหาหลานสาว
“มดดำ เอ็งอยากช่วยแม่เอ็งให้เลิกเล่นมากใช่ไหม”
“ใช่จ้ะลุง”
“งั้นเรากลับบ้านไปนอนให้สบายดีกว่า”
มดดำกับส้มงงๆ เฉลิมลากตัวมดดำไปเลย มดดำก็ตามไปแบบงงๆ ส้มหน้าเหวอ
“อ้าวพี่เหลิม...พี่เหลิม! โธ่เว้ยย! กูอยากจะแหกลูกกรงออกไปกระทืบมึงจริงๆเลยนังมดดำ!อีลูกทรพี”

เช้าวันใหม่...สหรัฐกำลังผูกเน็คไทอยู่หน้ากระจกในห้องนอน สักครู่มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญครับ”
พิมพ์พรรณ เปิดประตูเดินเข้ามา สหรัฐมองอย่างแปลกใจ เพราะแม่แต่งชุดที่ไม่เหมือนจะไปทำงาน
“นี่คุณแม่จะไม่ไปทำงานจริงๆเหรอครับ”
“ก็แม่บอกแล้วไงว่าจะให้รัฐดูแล แม่ก็วางมือสิ วันนี้แม่เปลี่ยนตารางงานเป็นตารางบุญแล้วนะ จะเริ่มจากไปนั่งสมาธิกับเพื่อนๆ”
“คุณแม่ครับ คือวางมือนี่ค่อยๆวางก็ได้นะครับ อย่างน้อยก็ไปแนะนำงานผมหน่อยก็ยังดี”
พิมพ์พรรณค้อน
“นี่คุณสหรัฐขา อุตส่าห์ส่งไปเรียนเมืองนอกเมืองนาจนจบโทเนี่ย ไม่คิดจะใช้เทคโนโลยี่บ้างเหรอจ๊ะ โทรศัพท์,Skype ,iMessage มีตั้งเยอะแยะก็ใช้เข้าไปสิลูก นี่รู้หรือเปล่าว่าโทรทัศน์เดี๋ยวนี้เขาต่ออินเตอร์เน็ทได้แล้ว”
สหรัฐหัวเราะแล้วกอดหอมแก้มแม่อย่างเอ็นดู
“โห...คุณแม่ผมนี่สุดยอดจริงๆ โอเคครับ งั้นผมจะไปผจญเวรผจญกรรมคนเดียว...หรือเรียกอีกอย่างว่าไปทำงาน ผมไปนะครับ”
สหรัฐจะเดินไปแต่พิมพ์พรรณดึงไว้
“เดี๋ยวลูกตารัฐ แม่เป่ากระหม่อมก่อน”
สหรัฐหัวเราะ
“อะไรครับคุณแม่ เมื่อกี้ยังล้ำหน้าผมในโลกอนาคตอยู่เลย”
“ไม่ต้องพูดมาก เรื่องมงคลน่ะรับๆไว้เถอะ ก้มหัวมา”
สหรัฐก้มหัวพิมพ์พรรณลูบหัวไปเรื่อยๆพร้อมกับสวดคาถา

พิมพ์พรรณนั่งกับปลายเตียง สหรัฐนั่งคุกเข่าก้มหัวอยู่นานแล้ว พิมพ์พรรณยังสวดๆๆ แล้วพักหอบหายใจ พอสหรัฐจะเงยหน้าพิมพ์พรรณกดหัวสวดต่อ
พิมพ์พรรณสวดจบสุดท้ายเป่ากระหม่อมเพี้ยง! สหรัฐกราบที่ตักแต่ยังไม่เงยหน้า พิมพ์พรรณมองงงๆ
“เสร็จแล้วลูกก้มอยู่ทำไม”
“คือคอผมล็อคครับคุณแม่”
“ตายแล้ว อะไรกัน สวดแค่ 45 นาทีเอง”
สหรัฐเงยพรวดมายิ้ม
“แฮ่ะๆ ผมล้อเล่นครับ...ผมไปนะครับ”
พิมพ์พรรณยิ้มให้ สหรัฐลุกขึ้นแล้วเหลียวคอหาสูทก็เจ็บแปล๊บที่คอ
“โอ๊ยย!”

พิมพ์พรรณกับแม่บ้านยืนส่งสหรัฐขึ้นรถ โดยที่สหรัฐใส่เฝือกอ่อนเพราะคอเคล็ด พิมพ์พรรณหน้าเสีย

“รัฐ แน่ใจนะลูกว่าจะไม่หาหมอ”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ถึงกับคอหัก ผมโอเค”
“ยังจะล้อแม่อีก แม่หวังดีนะอุตส่าห์ให้พร”
“พรคุณแม่ออกฤทธิ์เร็วมากครับ”
“งั้นก็ให้อนันต์เขาขับรถไปส่งก็ยังดีนะลูก”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมขับเองดีกว่า วันนี้ทั้งวันคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้วครับ”
สหรัฐหอมแก้มแม่แล้วขึ้นรถขับออกไป พิมพ์พรรณบอกกับแม่บ้าน
“ดีนะ ที่ฉันสวดอวยพรไว้ ไม่งั้นคงหนักกว่านี้”
แม่บ้านมองหน้าพิมพ์พรรณเหวอไปเลย

ในตลาด...แม่ค้ากำลังขายผักอยู่ อิทธิกับมดดำเข็นรถเข็นผักมาส่งแล้วยกเข่งผักลง
“น้าแก้ว เดี๋ยวฉันกับพี่อิทธิขนอีกรอบแล้วจะมาช่วยจัดผักนะจ๊ะ”
แม่ค้าแผงผักพยักหน้ายิ้มรับแล้วหันไปขายของต่อ มดดำจะเข็นรถเปล่าไปแต่อิทธิดึงมือไว้
“มดดำ อีกสองเที่ยวพี่เข็นเองดีกว่า มดดำอยู่จัดของเถอะ”
“เฮ้ย...ได้ไงพี่อิท ฉันจะกินแรงพี่ได้ไง”
“พี่สงสารมดดำ งานนี้มันหนักเกินไป”
“หนักหรือไม่มันอยู่ที่ใจฉันนะพี่ ขอร้องล่ะ พี่อย่าให้ฉันลำบากใจเลย พี่ก็รู้ว่าฉันจะเอาเงินไปประกันแม่”
“เฮ้ย...แล้วลุงเหลิมจะไม่ว่าเหรอ แกบอกว่าอยากทำโทษน้าส้มนี่”
“ตอนแรกฉันก็คิดแบบลุงนะ แต่อยากให้แค่แม่โดนจับ ไม่คิดว่าลุงจะไม่ประกัน ฉันรู้สึกผิดนะพี่ เลยกะว่าจะเอาค่าแรงวันนี้ไปประกัน”
“งั้นก็ตามใจ”
มดดำเข็นรถไป อิทธิมองตามด้วยความสงสารแล้วรีบเข็นรถตามไป

มดดำกับอิทธิที่กำลังช่วยกันเข็นผักอยู่ ทั้งสองเข็นผักข้ามถนนเพื่อไปส่งในตลาด มดดำเข็นมาถึงฝั่งตลาดแต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อหัวขโมยสองคนขี่จักรยานมาจอดแล้วจะวิ่งไปกระชากกระเป๋าผู้หญิงแก่คนหนึ่ง
“ว๊าย...ช่วยด้วย”
อิทธิจำได้
“เฮ้ย...ไอ้โจรสองคนนั่นอีกแล้ว”
“ขโมย!! ขโจร! โจรวิ่งราวจ้า อยู่นั่น!ช่วยกันจับมันหน่อย!”
มดดำกับอิทธิรีบทิ้งรถเข็นผัก แล้ววิ่งไปดักหน้าโจร มดดำชี้หน้า
“ทำชั่วอีกแล้วนะแก”
โจรทั้งสองจำมดดำกับอิทธิได้ โจรที่อยู่ที่มอไซด์ลงจากรถ มาสมทบเพื่อน
“พวกมึงอีกแล้ว ทำไมชอบขวางการทำมาหากินสุจริตของพวกกูวะ เป็นคนดีๆ ยืนเฉยๆนิ่งๆเหมือนคนทั่วไปไม่ได้หรือไง”
มดดำเบ้หน้า
“คนดีที่ไหนเขาจะเฉยเห็นคนทำชั่ววะ มาเลยแมทนี้ขอล้างตาหน่อย เดี๋ยวแม่จะจ้วงให้ตาแตก”
อิทธิมองมอดดำ
“อ้าว...ห้าวอีกน้องกู...”
โจรวิ่งใส่ อิทธิตกใจ
“เฮ้ยย!”
เหตุชุลมุนวุ่นวายก็เกิดขึ้น แต่คราวนี้สองโจรระวังตัวมากขึ้นและชักมีดมาทั้งคู่ มดดำสู้ได้ยากตกเป็นรองตลอด อิทธิก็เสียท่าจะสู้กับมีดอีกก็ไม่ไหว ทั้งสองถูกถีบเสียหลักมาชนกัน โจรเดินเข้ามาหาทั้งคู่ อิทธิรีบบอก
“มดดำ!! หนี!!”
โดยไม่รู้กัน มดดำวิ่งหนีไปคนละทางกับอิทธิ
“เฮ้ย...คราวนี้ต้องเอาให้ตาย”
สองโจรแยกกันตามกัดไม่ปล่อย

สหรัฐกำลังขับรถไปมือก็คลำที่เฝือกที่คอไปด้วยเพราะเจ็บคอ ทันใดนั้นมดดำวิ่งตัดหน้ามา สหรัฐเบรกตัวโก่ง หัวทิ่มเจ็บคอเข้าไปอีก
“โอ๊ยยยยย!”
มดดำล้มลงแต่ไม่เป็นไร สหรัฐหัวเสีย เปิดประตูรถ
“อะไรกันเนี่ย! นี่เธอ ถนนนะไม่ใช่สนามหญ้า อยู่ๆก็วิ่งมานอนเล่น เป็นบ้าหรือเปล่า...โอ๊ย...”
สหรัฐด่า แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นโจรวิ่งมาจะเตะ มดดำหลบได้ ลุกขึ้นสู้กัน มดดำพลาดท่าโดนไปหลายที สหรัฐทนไม่ได้เข้าไปช่วย
“เฮ้ย!!รังแกผู้หญิงเหรอวะ...โอ๊ย...”
สหรัฐเจ็บคอ โจรชี้หน้า
“เรื่องของผัวเมียอย่ามายุ่ง!”
สหรัฐฉุน
“ไอ้บ้า!กฎหมายใหม่จะผัวจะเมียใครถ้าผู้หญิงโดนทำร้ายต้องช่วยเว้ย! ไม่รู้เรื่องหรือไง”
มดดำตะโกนบอก
“ฉันไม่ใช่เมียมันโว้ย! มันเป็นโจร!”
โจรจะวิ่งใส่มดดำ สหรัฐสวนหมัดใส่ แล้วทั้งหมดก็ชกต่อยกันนัวเนีย สักพักตำรวจสายตรวจวิ่งเข้ามาเป่านกหวีดใส่ โจรจะหนีสหรัฐดักขา โจรเสียหลักเซไปทางมดดำ มดดำได้ทีวางเข่ารอเสยเข้าไปเต็มๆคางโจรสลบเหมือด มดดำใช้นิ้วโป้งเช็ดจมูกแบบบรู๊ซลี เชอะ!

โจรทั้ง 2 โดนใส่กุญแจมือยังมึนๆ ตำรวจพาตัวมาที่รถ มดดำ สหรัฐเดินตามมา อิทธิเดินมาหามดดำ
“มดดำเป็นไงบ้าง”
“ฉันไม่เป็นไร”
ผู้เสียหายเดินมาหาทั้งคู่
“ขอบคุณมากนะหนูสองคน”
สหรัฐมองทั้งคู่ไปด้วยเจ็บคอไปด้วย ตำรวจเดินมาหา
“เดี๋ยวขอเชิญคุณทั้งสามและผู้เสียหายไปให้ปากคำด้วยนะครับ”
มดดำกับอิทธิไม่มีปัญหา แต่สหรัฐมี
“เอ่อ...ผมไม่ไปได้ไหมครับ พอดีผมไม่สะดวกครับ”
“ไปเถอะนะครับ อยากให้คุณเป็นพยาน”
“อืม...ถ้างั้นผมไปวันหลังได้ไหมครับ”
มดดำฉุน
“อ้าว คุณ! นั่นมันโจรนะ ช่วยป้าแกแล้วก็ช่วยให้ตลอดสิ”
สหรัฐหันขวับไปแล้วเจ็บคออีก
“ก็ช่วยแล้วไง จะเอาอะไรอีก ฉันต้องไปทำงานนะ เข้าใจกันบ้าง”
มดดำค้อน
“ฮึ...เสียแรงว่าจะขอบคุณซะหน่อย ไม่เอาแล้ว”
อิทธิรีบบอก
“เอ่อ...คุณครับ ไปเถอะครับ รู้ว่าคุณเสียเวลา แต่มันจำเป็น ผมขอร้อง”
“พี่อิท อย่าไปขอร้องคนแบบนี้เลย รวยขับรถโก้ แต่ไม่มีน้ำใจ เราจนกว่าแต่น้ำใจเราใหญ่กว่า เราสองคนยอมเสียรายได้วันนี้ไปช่วยป้าแกเถอะ”
พูดจบมดดำก็จูงอิทธิกับผู้เสียหายขึ้นรถตำรวจ รถแล่นออกไป สหรัฐมองตามเขม่น พอเดินจะไปขึ้นรถแล้วชะงักมองตามจับคอถอนใจเซ็ง แล้วขึ้นรถขับไป

ส้มที่อยู่ในห้องขัง นั่งมองมดดำ อิทธิ สหรัฐคุยกับตำรวจ
“อีมดดำมันพาใครมาประกันฉันวะ”
สหรัฐ มดดำและอิทธิไหว้ลาร้อยเวรแล้วเดินผ่านมาทางส้ม มดดำเดินมาหา
“แม่...”
สหรัฐงงที่เห็นแม่มดดำอยู่ในลูกกรง มดดำกับอิทธิเดินเข้าไปหา สหรัฐตามไปด้วย
“ประกันตัวกูแล้วไม่ใช่เหรอ”
มดดำจ๋อยๆ
“เอ่อ...ยังจ้ะ”
ส้มชะงักไม่พอใจ
“หมายความว่าไง ตำรวจไม่ให้ประกันเหรอ นี่กูไม่ได้ฆ่าคนตายนะ” ส้มหันไปหาสหรัฐ “คุณฉันแค่เล่นไพ่นะ ช่วยฉันหน่อยนะ นะๆๆคุณนะ”
มดดำรีบบอก
“แม่...ฉันมาเรื่องอื่น”
ส้มอึ้งโมโห
“อีมดดำ! อีลูกเลว สะใจใช่มั้ยเห็นกูติดคุกนี่”
ส้มเอามือออกมาจะมาตีอิทธิห้าม
“น้าส้ม ใจเย็นๆ”
ส้มตวาดไล่
“ไป...ไปให้หมด ไม่ต้องมายุ่งกับกู อีมดดำ มึงอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีกนะ”
อิทธิรีบพามดดำเดินออกไป สหรัฐยืนงงแต่ส้มจ้องหน้า สหรัฐรีบเดินตามไป

มดดำกับอิทธิเดินออกมาหน้าโรงพัก สหรัฐเดินตามมา
“นั่นแม่เธอเหรอ...ทำไมไม่ช่วย ที่กับคนอื่นละเห็นไปช่วยเขา กับแม่ตัวเองปล่อยติดตารางซะงั้น”
“นี่...คุณไม่รู้เรื่องอะไรอย่าพูดดีกว่า”
“ไม่รู้อะไรก็เห็นๆอยู่”
อิทธิอธิบาย
“เอ่อ...คุณครับ มดดำกำลังหาเงินมาเสียค่าปรับอยู่ครับ”
สหรัฐอึ้ง
“หา...เงินค่าปรับแค่ไม่กี่ตังค์เนี่ยนะ”
“ไม่กี่สตางค์สำหรับคุณมากกว่าครับ”
“พอเถอะพี่อิท ไม่ต้องอธิบายอะไรให้คนแบบนี้ฟังหรอก”
“นี่ฉันมันเลวอะไรกันนักกันหนา เมื่อกี้ที่ฉันไม่อยากมาที่นี่ก็เพราะฉันอยากจะไปหาหมอ ฉันเจ็บคอ ลงมาช่วยเธอ ไม่ขอบคุณแต่มาด่าซ้ำ แถมฉันจะไปหาหมอก็ไม่ให้ไป ฉันก็มาเป็นพยานให้แล้ว ฉันยังเลวอีกเหรอ”
มดดำเถียงไม่ออก
“โอเค...ขอโทษก็ได้ งั้นคุณไปหาหมอสิ เดี๋ยวคอหักตายมาโทษฉัน”
“ยังไม่ไปอ่ะ ฉันจะประกันแม่เธอก่อน”
“ไม่ต้อง เรื่องนี้ฉันจัดการเอง”
“เธอมีเงินเหรอ”
มดดำจ้องหน้าเขา
“นี่...จะบอกให้นะ ฉันไม่มีเงิน แต่ฉันก็ไม่กล้ารับเงินคุณหรอก ปากจัดขนาดนี้ ฉันกลัวมาตามด่าฉันอีก”
สหรัฐอึ้งจะอ้าปากด่าแต่อิทธิยกมือห้ามไว้
“ใจเย็นก่อนครับ ผมว่าไปกันใหญ่แล้ว...เดี๋ยวทางน้าส้มขอให้พวกเราจัดการเองเถอะนะครับ คุณไปหาหมอเถอะครับ ขอบคุณๆมากนะครับ”
สหรัฐถึงขัดใจแต่ก็ต้องยอม อิทธิกับมดดำพากันเดินไป สหรัฐมองตาม

อิทธิกับมดดำยืนรอรถเมล์ อิทธิคลำกระเป๋าตังค์
“มดดำ ตังค์พี่ตกหายหมดแล้ว มดดำมีเงินไหม”
มดดำคลำบ้างแล้วเห็นกระเป๋ากางเกงขาด
“ตายแล้ว ฉันก็ไม่มีอ่ะพี่ทำไงดีล่ะ”
อิทธิถอนใจ
“เดินแล้วกัน”
ทั้งสองจะเดินแต่รถของสหรัฐก็แล่นออกมาแล้วจอดตรงหน้า สหรัฐเปิดกระจกลงมา
“ไปไหนกันล่ะ ฉันไปส่งให้เอาไหม”
“ไม่ต้อง พวกเรากลับเองได้”
สหรัฐลงจากรถมาหาทั้งคู่
“ไปเหอะน่า อย่าเยอะ”
มดดำฉุน
“นี่...จะมาอาสาไปส่งแล้วปากอย่างงี้เหรอ ไปเลยไป ผู้ชายอะไร อารมณ์แปรปรวนยังกับวัยทอง”
“เฮ้ย...นี่เธอ ฉันยังไม่สามสิบเลยนะ” สหรัฐเข็ดเขี้ยวฉุนจัด “เออ...ไม่ไปก็อย่าไป อุตส่าห์แสดงน้ำใจแล้ว”
สหรัฐเดินไป อิทธิสะกิดมดดำ
“พี่ว่าไปกับเขาก็ดีนะ ถ้าเราเดินกลับพี่ไปเรียนไม่ทันแน่”
มดดำลังเลมองสหรัฐที่จะออกรถแล้ววิ่งไปขวางอีก สหรัฐเบรกเอี๊ยดแล้วเดินกุ้มคอออกมา
“โอ๊ย...นี่จะให้ฉันคอหักตายหรือไง อะไรอีก”
มดดำเสียงแข็ง
“ไปส่งพวกฉัน”

สหรัฐเกาหัวงงมอง มดดำแกล้งเชิดหน้ากลบเกลื่อน

ติดตาม "กากับหงส์" ตอนที่ 3 พรุ่งนี้ เวลา 09.00 น.
หัวใจเรือพ่วง ตอนที่ 5
หัวใจเรือพ่วง ตอนที่ 5
สองคนอยู่ในห้องนั่งเล่น แพทยืนคุมอะตอมใส่ชุดนอนแล้วดื่มนมจนหมด อะตอมยิ้มคว่ำแก้วโชว์ให้แม่ดู “ดีมาก แล้วก็อย่าลืมบ้วนปากด้วยนะครับ เดี๋ยวแม่ตามไปเล่านิทานนะ” “ฮะ แต่แม่แพทตามมาเร็วๆ นะ ตอมคิดถึง” แพทยิ้ม ขำลูกอ้อนของอะตอม “จ้า” อะตอมยื่นแก้วส่งให้ แพทเดินออกไปทางครัว ตอมวิ่งขึ้นข้างบน แต่ปรากฏว่าจังหวะนี้ รัญธิดาซึ่งแอบอยู่ซอกตู้ เอาหุ่นยนต์ตัวเล็กๆ มาชูล่อ อะตอมที่วิ่งมาหยุดทันทีตาโต “อยากได้มั้ย” รัญธิดาพาอะตอมมาคุยอีกทางด้วยท่าทีซีเรียส “เจอกันแค่ครั้งเดียวจริงๆ นะ เค้าไม่ได้คุยอะไรกับอะตอมอีกนอกจากที่เล่าให้พี่ฟังจริงๆ เหรอ” ที่แท้รัญธิดาซักไซ้เด็กน้อยเรื่องธาริศ
กำลังโหลดความคิดเห็น