xs
xsm
sm
md
lg

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 30 จบบริบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 30 อวสาน

ชาวบ้านมุงอะไรบางอย่าง ซุบซิบนินทากันใหญ่ ดวงเดินผ่านงงๆว่าคนมุงอะไร ดวงแหวกคนเข้าไปดู เห็นเป็นอาซ้งและซัน นอนกองอยู่ข้างถังขยะ

“เฮ้ย! มาทำอะไรกันอยู่ตรงนี้เนี่ย”
ดวงพยายามจะปลุกทั้งคู่ ชาวบ้านหันมาบอกดวง
“เมาร่วงกันมาเลยอะดิ ทั้งพ่อทั้งลูก”
“ปกติก็ไม่เห็นจะดื่มเลยนี่”
ดวงพยายามปลุกทั้งคู่
“อาซ้ง ไอ้ซัน...เฮ้ย”
ซันรู้สึกตัวยังเบลอๆ
“นี่แกเข้ามาในห้องนอนฉันได้ไงวะ” ซันเห็นชาวบ้าน “เฮ้ย ไม่ได้มาคนเดียวนี่ เข้ามากันได้ไงเนี่ย”
ซันหันไปเห็นอาซ้งหลับอยู่ข้างๆ ก็ปลุกพ่อ
“พ่อ...พ่อ แขกมาเต็มบ้านเลยว่ะ”
“บ้านอะไร มองดูดีๆดิ แกนอนอยู่ไหน”
ซันหันไปมองรอบๆข้าง เห็นเป็นตลาด อาซ้งค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้น
“เฮ้ย นี่ฉันมานอนในตลาดนี่ได้ไงวะเน่ย”
อาซ้งงัวเงีย
“ไอ้ซัน แกพาข้ามานอนที่ไหนเนี่ย”
“เรื่องมันไปไงมาไง ถึงมาลงเอยสภาพนี้ได้เนี่ย”
อาซ้งนึกย้อนถึงตอนที่ตนกินเหล้ากับถนอมริมถนน
“ไอ้คนนั้นล่ะ ไอ้คนนั้นไปไหน”
ซันงงๆ
“ใครพ่อ”
“ไอ้...แหม๋ ลืมถามชื่อมันอีก”
“แล้วนี่พ่อไปเมาจากไหนมาเนี่ย ไม่ไปกะฉันซักหน่อย”
“ไอ้คนนั้นน่ะ พ่อไอ้ดวงไง”
ซันจับอาซ้งเขย่าๆ
“พ่อแม่ไอ้ดวงมันไปเมืองนอกแล้ว จำไม่ได้เหรอ เบลอใหญ่แล้วเนี่ย” ซันหันบอกดวงและชาวบ้าน “เดี๋ยวจัดการเอง เมาแล้วรั่วตลอด”
ซันพยุงอาซ้งลุกขึ้นโดยมีดวงช่วยประคองไป

ดวงนั่งเฝ้าแผงไข่ ครู่หนึ่งซันก็เดินมาท่าทางยังอิดโรยและดูเหนื่อยๆ
“ขอบใจว่ะที่เฝ้าแผงให้”
“เรื่องเล็ก แล้วแกมีเรื่องอะไร ทำไมถึงไปเมาหัวราน้ำได้”
ซันถอนหายใจ
“เรื่องแหววอะดิ”
“ฉันบอกแกไว้เลยนะเว้ย ถ้าไม่อยากเจ็บ อย่ารักใคร”
“ความรักมันห้ามกันไม่ได้ป่าววะ”
“แต่จังหวะแม่งเจ็บ เหมือนมีใครเอามีดมาปักอกจริงๆนะเว้ย”
“ฉันก็ไม่รู้จะปลอบยังไงว่ะ”
“แม่งเจอคนที่เรารักหลอกเนี่ย...มัน...” ซันตะโกนลั่น “โว๊ยยย”
“เฮ้ย ใจเย็น”
“แกก็ระวังไว้ให้ดีๆนะเว้ย ผู้หญิงไว้ใจไม่ได้”
“แกอย่าไปเหมารวมดิวะ”
“ระวังไว้ ยิ่งหน้าซื่อเท่าไหร่ ใจยิ่งคดเท่านั้นแหละ”
ดวงได้แต่ยิ้มแห้งๆรับคำพูดซัน ไม่มีคำตอบใดๆกลับไป

โอม กับนักเลงรอหนูดีอยู่ในร้านอาหาร
“แกแน่ใจนะ ว่ายายหนูดีเนี่ยจะยอมร่วมมือกับเรา”
“แน่ใจสิครับ มันน่ะตามตื้อไอ้ดวงไม่เว้นแต่ละวัน แบบนี้มันคงไม่อยากให้ไอ้ดวงไปลงเอยกับใครแน่ๆ”
“แล้วมันไม่รู้ทันแผนเราเหรอ”
“อย่าลืมสิครับนาย ว่าความรักน่ะ ทำให้คนตาบอด”
“เป็นแบบนั้นก็ดีสิ...ฉันจะได้กำจัดมันให้เจ็บปวดที่สุด”
หนูดีเดินเข้ามาในร้านตรงมาหาโอม นักเลงปลีกตัวแยกไป ให้หนูดีกับโอมได้คุยตามลำพัง
“มีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ”
โอมยิ้มให้
“จะไม่สั่งอะไรทานหน่อยรึไง”
“ฉันจะไว้ใจคุณได้ยังไง ฉันกับคุณก็แค่เคยเจอกันไม่กี่ครั้ง แล้วอยู่ๆคุณก็นัดฉันมา ฉันจะรู้ได้ไงว่าคุณมาแบบมิตรรึเปล่า”
“คุณจะจำกัดความยังไงก็แล้วแต่นะ แต่ผมมาคุยเรื่องเกี่ยวกับไอ้ดวง ซึ่งคุณคงรู้จักดี”
“ทำไม ดวงไปทำอะไรให้คุณ”
“ได้ข่าวว่าคุณอุปถัมภ์มันอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ฉันทำธุรกิจร่วมกับดวง ไม่ได้อุปถัมภ์”
“โอเค อะไรก็ช่างเถอะ แต่คุณก็ชอบไอ้ดวงมันใช่มั้ยล่ะ”
หนูดีนิ่ง ไม่ปฏิเสธ
“ถ้าเป็นแบบนั้น แปลว่าคุณกับผมก็มีจุดร่วมกันอย่างนึง”
“จุดร่วมอะไร”
“ก็ไม่อยากให้มุกกับไอ้ดวงลงเอยกันไง”
หนูดีนิ่ง ไม่ปฏิเสธ
“แต่ผมก็ไม่รู้ว่า คุณจะอยากทำให้มุกเพื่อนคุณเขาเสียใจรึเปล่า”
“สายมุกไม่ใช่เพื่อนอีกแล้ว”
โอมแอบยิ้มกับคำตอบหนูดี
“งั้นก็ดีนะ ถ้าเราร่วมมือกัน ก็วินวิน”
“แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง”
“ก็พยายามกีดกั้นทั้งคู่ไม่ให้อยู่ใกล้กันไง”
“ถ้าแบบนั้น ฉันทำคนเดียวก็ไม่เห็นต่าง”
“ต่างสิ...เพราะถ้าคุณทำกับผมมันจะไม่ใช่แค่กีดกัน แต่มันจะมีการทำให้เข้าใจผิด มีการทำให้ไอ้ดวงย้ายไปอยู่กับคุณ มันก็เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของการสมหวังมากขึ้นป่ะ”
หนูดีนิ่งคิด
“แค่ทำตามแผนที่ผมบอก...รับรอง เราทั้งคู่ได้สมหวังแน่”
“สายมุกนี่เหมาะกับคนเลวอย่างคุณจริงๆ”
“ผมถือว่านั่นเป็นคำชมนะ ส่วนเรื่องนี้ คุณเก็บกลับไปคิดก่อนก็ได้”
โอมยิ้มรับ ไม่สะทกสะท้าน

ดวงขายของอยู่ที่แผง สายมุกมาซื้อขนม ทั้งคู่แอบมองกันยิ้มๆ สายมุกหยิบของจ่ายเงิน ดวงรับของไว้แอบจับมือกัน ยิ้มๆ หนูดีเดินเข้ามาเห็นภาพนั้นพอดีเจ็บปวด หนูดีเดินเข้าไปขัดจังหวะ ทั้งคู่พอเห็นหนูดีก็รีบจ่ายเงินแล้วสายมุกก็แยกย้ายเดินไปอีกทาง เกรงใจหนูดี
“ขายดีมั้ยวันนี้”
“ก็โอเคครับ”
“แค่โอเคเองเหรอ”
“คนก็มาเรื่อยๆนะครับ”
หนูดีเดินเข้าไปจับมือดวงหน้าตาจริงจัง
“ดวง...ฉันขออะไรอย่างสิ”
ดวงตกใจที่หนูดีทำแบบนั้น เขาชักมือออก หนูดีรู้สึกได้ มันช่างต่างกับสายมุก
“คุณหนูดีมีอะไรครับ”
“ดวงอย่าสนใจคนอื่นนอกจากฉันได้มั้ย”
“ทำไมคุณหนูดีพูดแบบนั้นละครับ ปกติคุณหนูดีออกจะเป็นคนดี ไม่น่าจะพูดอะไรแบบนี้”
“ในสังคมแบบนี้ คนดีมันอยู่ไม่ได้หรอกดวง”
“ได้สิครับ...”
“มันจะถูกสังคมดูดกลืนไปเรื่อยๆนั่นแหละ คนดีที่ดวงว่า มันอาจจะไม่มีอยู่จริงก็ได้ มีแต่คนเลวมากเลวน้อย”
ดวงผิดหวัง
“คุณหนูดี...”
“ก็ได้...ถ้าสิ่งที่ฉันขอเมื่อกี้ดวงทำไม่ได้ ฉันก็จะขอให้ง่ายขึ้นอีกนิดนึง...ดวงย้ายออกมาจากบ้านคุณนายสร้อยเพชรได้มั้ย เดี๋ยวฉันจะหาที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่าให้ดวงเอง”
ดวงลำบากใจ
“คุณนายสร้อยเพชรเป็นคนให้ผมไปอยู่ ถ้าผมจะออก ก็ควรเพราะเขาเหมือนกัน”
หนูดีไม่พอใจกับคำตอบนัก
“มีคำขอไหนมั่งมั้ยที่ดวงจะให้ฉันได้”
“ผมจะตั้งใจขายของให้คุณหนูดีครับ”
หนูดีเซ็งเดินแยกจากไป ดวงมองลำบากใจ

หนูดีเดินมาที่ลานจอดรถ ไม่สบอารมณ์กับดวงนัก
“ดวงนะดวง ทำไมให้พวกหลอกอยู่ได้”
สายมุกเดินมาที่รถพอดี หนูดีกับสายมุกสบตากัน
“นี่หนูดี ฉันกำลังจะทำกับข้าว ไปกินข้าวที่บ้านฉันมั้ย”
“ตกลงที่เราคุยกัน เธอยังไม่เข้าใจใช่มั้ย”
“ฉันรู้ว่าเธอโกรธ...”
“ผิดละ ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันเกลียดคนแบบเธอ” หนูดียิ้มหวาน “ไม่ต้องทำมาเป็นคนดีต่อหน้าฉัน”
หนูดีเดินหนีจากสายมุกไปขึ้นรถตน สายมุกถอนใจท้อๆ

หนูดีกดโทรศัพท์โทรออกหาโอม...โอมนั่งทำงานอยู่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นักเลงหยิบโทรศัพท์ยื่นให้
“ฮัลโหล”
“นี่ฉันหนูดีเองนะ”
“โทรมา...มีข่าวดีรึเปล่า”
“ตกลงฉันจะร่วมมือกับเธอ”
“ข่าวดีจริงๆซะด้วย”
“แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง”
“ก่อนอื่นเลยก็ต้อง...เอานายดวงออกมาจากบ้านคุณนายสร้อยเพชรก่อน”
“ท่าจะยากนะเรื่องนั้น ฉันเพิ่งพูดกับเขาไป เขาไม่ยอมย้าย”
“ของแบบนี้ก็ต้องพยายามกันหน่อยสิ ใช่มั้ยล่ะ”

“แล้วคุณล่ะ ทำอะไร”

“ผมรอทำการที่ใหญ่กว่านั้นอยู่ คุณไปจัดการเรื่องของคุณให้เรียบร้อยก่อนก็แล้วกัน”

“การใหญ่ของคุณจะไม่มีใครต้องเจ็บตัวใช่มั้ย”
“แหมคุณก็ เห็นผมเลวขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ดี เพราะถ้าเป็นงั้น ฉันคงไม่เอากับคุณด้วย”
โอมยิ้ม พอใจที่หนูดีทำตามแผนตน
“แล้วฉันจะโทรมารายงานความคืบหน้าเป็นระยะก็แล้วกัน”
หนูดีวางสายไป ยังไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่ทำนั้นมันถูกมั้ย ส่วนโอมมองหน้านักเลงยิ้มๆกันสองคน

คุณนายสร้อยเพชรนั่งคิดคำนวณตัวเลข บ่นพึมพำ พร้อมจดใส่กระดาษ
“หนี้ตั้งแต่ครั้งก่อนโน้น บวกกับดอกเบี้ย” คุณนายสร้อยเพชรกดเครื่องคิดเลข
“ก็ได้...”
คุณนายสร้อยเพชรมองตัวเลขในจอเครื่องคิดเลข ก่อนจะจดมันลงใส่กระดาษ
“หนี้ที่ติดสายมุก บวกดอกเบี้ยอีกก็...อืมม...”
คุณนายสร้อยเพชรกดเครื่องคิดเลข จดตัวเลขลงในสมุดอีก
“ค่าเช่าบ้าน ค่าเสื่อม ค่าไฟ ค่าน้ำ ต่อเดือน...”
สายมุกเดินเข้ามาในบ้าน ถอนหายใจ
“แม่ทำอะไรคะ”
คุณนายสร้อยเพชรตกใจ
“ว๊าย”
คุณนายสร้อยเพชรรีบเก็บทุกอย่างอย่างรวดเร็ว
“ก็คิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยนั่นแหละลูก”
“หน้าตาซีเรียสยังกับคำนวณเงินล้าน”
“แหะ แหะ แล้วนี่มุกจะทำอะไร”
“ทำกับข้าวซักหน่อยค่ะ เดี๋ยวจะได้เอาไปให้...”
สายมุกคิดถึงดวง คุณนายสร้อยเพชรจ้องหน้าลูกสาว
“เอาไปให้ใคร”
“ก็ให้แม่กินไงคะ”
คุณนายสร้อยเพชรส่ายหน้า
“ไม่เอาหรอก ตามสบาย”
สายมุกจะเดินเข้าครัว คุณนายสร้อยเพชรเรียกไว้
“แล้วนี่เรากับยายหนูดีเป็นยังไงกันบ้าง”
สายมุกชะงัก
“แม่รู้อะไรเหรอคะ ทำไมถึงถามแบบนี้”
“เปล่า...แม่ก็ถามไปยังงั้นแหละ”
“ตอนนี้เขาโกรธมุกน่ะค่ะ มุกก็ยังไม่รู้จะทำยังไงดี”
“ก็ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยไปสิ คนแบบนั้นจะคบอีกทำไม”
“หนูดีเขาไม่ดียังไงเหรอคะ ทำไมแม่ไม่ชอบ”
“เปล่า ไม่ได้ว่าอะไรเขานี่ มุกจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ”
สายมุกมองแม่ไม่ค่อยเข้าใจนัก แล้วเดินเข้าครัวไป
“มันร้ายจริงๆยายหนูดีเนี่ย รู้ทันนิดรู้ทันหน่อย ก็มาพาลใส่ลูกฉัน ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ให้แกมาฮุบเงินไอ้ดวงในส่วนของฉันไปหรอก คอยดูเถอะ”
คุณนายสร้อยเพชรไม่พอใจหนูดี

อาซ้งมองดวงอยู่ห่างๆ พยักหน้าตั้งใจแน่วแน่ว่าจะบอกดวงเรื่องถนอม อาซ้งก้าวขาอย่างมั่นใจไปหา
“ดว...”
อาซ้งยังเรียกดวงไม่จบ ถนอมก็เข้ามาปิดปากแล้วพาอาซ้งหลบเข้าไปอีกทาง ดวงหันมาไม่เห็นมีใคร...ถนอมลากอาซ้งมาหลบมุมเพื่อคุยกัน
“อะไรของเอ็งเนี่ย”
“หยุดสิ่งที่คิดจะทำเลย”
“ทำไม กลัวความจริงรึไง”
“เปล่า...มันยังไม่ถึงเวลา”
“เวลาอะไรของเอ็ง รู้มั้ยไอ้ดวงมันอยากเจอพ่อแม่ที่แท้จริงของมันมากแค่ไหน”
“ฉันขอเวลาอีกนิดเถอะ ให้ฉันได้แน่ใจในบางเรื่อง”
“แน่ใจบางเรื่อง...เรื่องอะไร”
“มันสำคัญมากจริงๆ ฉันขอล่ะ ขอเวลาฉันอีกหน่อย ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อดวง เชื่อเถอะ”
“เรื่องอะไร...ถ้าฉันเห็นว่าไม่สำคัญ ฉันก็ไม่เชื่อเอ็งหรอก”
ถนอมถอนหายใจ
“อย่าลืมสิ ดวงมันยังมีคนที่อ้างเป็นพ่อแม่อยู่อีก”

เช้าวันใหม่...ประเวศกับดาราลงจากรถแท็กซี่ในชุดที่กลับมาจากเมืองหนาวเต็มที่ใส่ถุงมือ หมวกคลุมยังกะไปเล่นสกีหิมะมา ประเวศเชิดๆ
“ดูสิ มีแต่คนมอง ไอ้พวกไม่เคยไปนอก”
ดาราแกล้งพูดเสียงดัง
“ใช่พี่ ดีนะที่เราแต่งเต็มมาจากยุโรป”
ประเวศร้อน เหงื่อแตก
“ให้มันรู้จักกับคำว่าเจ้าแฟชั่นกันซะมั่ง”
ลิเกเข้ามาทัก
“เพิ่งกลับมาสิท่า”
“รู้ได้ไง” ดาราอยากอวด สะบัดพาสสปอร์ต “ไม่อยากให้ใครรู้เลยว่าไปนอกมา”
ลิเกมองเอือมๆ
“เหรอ”
ประเวศวางท่าโอ่ๆ
“เชงเกนวีซ่า รู้จักมั้ย”
ลิเกมองๆแล้วถาม
“ซื้ออะไรมาฝากมั่ง”
ดาราชูถุงใส่ของ
“อะนี่ หมูยอ ข้าวหลาม แล้วก้อ ครองแครง”
อาซ้งข้องใจ
“นี่แกไปยุโรปหรือศรีราชา”
ประเวศส่ายหน้า เอือม
“แกจะไปรู้อะไร อ่ะนี่ของแก”
ประเวศส่งน้ำพริกศรีราชาให้ อาซ้งรับมามอง
“ชัวร์ เต็มที่ก็ไม่เกินเขาสามมุก”
“บ้า...” ดารากวาดตามอง “นี่ดวงลูกชายสุดเลิฟฉันไปไหนเนี่ย”
อาซ้งมองหน้า
“ลูกแกแน่เหรอ”
ประเวศโวย
“นี่อย่ามาพูดงี้นะ ปูมหลังของเราสองคน ลำบากเพื่อลูกมามากแล้ว”
ดาราหน้าตามั่นมาก
“ไปเอาเครื่องจับเท็จมาตรวจก็ได้ เข็มไม่มีกระดิก”
ขณะเดียวกันนั้น คนแคระคนนึงเดินแทรกวงเข้ามา
“ดารา...ดาราใช่มั้ย”
ดาราอึกอัก ประเวศมองสงสัยว่าใครกัน ดาราทำเป็นไม่อยากมอง ตำรวจเดินผ่านมา พอคนแคระเห็นตำรวจ จึงจำใจต้องหลบออกไปจากตรงนั้น

ค่ำนั้น ดารากับประเวศ นั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันอยู่ในชุดเต็มยศ ประเวศถามเบาๆ
“แกว่าไอ้พวกตลาดมันจะรู้มั้ย ว่าเราไม่ได้ไปยุโรปมา”
“อย่าเอ็ดไปสิ ก็พี่น่ะ ลูกให้ตังค์ไปเที่ยว ก็เอาไปเข้าบ่อนหมด”
“ความคิดแกแท้ๆ เรื่องของฝาก ข้าบอกแล้ว ไปยุโรป มันต้องซื้อครกมาเป็นของฝาก”
“พี่นี่ ...”
ดารามองรอบด้านหวั่นใจ ประเวศสงสัย
“มองหาใคร”
“เปล่าพี่ เปล่า”
“คนแคระเมื่อกี๊เป็นใคร”
“หือม์ อะไรนะพี่ คนแคระที่ไหน”
“ที่มาทักแกน่ะ”
“ไม่มีนี่”
ประเวศมองหน้าเมียอย่างไม่ไว้ใจ
“ไม่ใช่แอบไปมีกิ๊กเก่าที่ไหนล่ะ”
ดาราชะงัก
“บ้าพี่...ฉันก็มีพี่คนเดียวนี่แหละ”
“ดี...ไม่ใช่ไปเอาเชื้อใครมาปนกะเชื้อข้า ไม่ชอบ”
“บ้า...”
ดาราหน้าเครียดไม่สบายใจนัก

เย็นนั้น คุณนายสร้อยเพชรนั่งดูทีวีอยู่ หนูดีก็เดินเข้ามาในบ้าน
“สวัสดีค่ะ คุณนายสร้อยเพชร”
“เธอมาที่นี่ทำไมอีก ฉันไม่ให้เธอเจอลูกสาวฉันหรอกนะ”
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณค่ะ”
“ฉันไม่มีนี่ ฉันพูดของฉันไปหมดแล้ว”
“คุณก็ฟังข้อเสนอฉันบ้างจะเป็นไรไปคะ”
“มีอะไรก็รีบๆพูดมา”
“ฉันอยากให้ดวงออกจากบ้านของคุณ”
คุณนายสร้อยเพชรหัวเราะ
“ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรตลกขนาดนี้มาก่อนเลย”
หนูดียื่นเช็คให้
“นี่ค่ะ ค่าตัวดวง”
คุณนายสร้อยเพชรหยิบเช็คมาดู
“ห้าแสน ตายละ จะซื้อตัวทั้งทีให้เท่านี้เองเหรอจ้ะ ชีวิตคนทั้งคนเชียวนะ”
หนูดียื่นเช็คอีกใบให้อีก คุณนายสร้อยเพชรรับมา

“อีกล้านนึง จะบอกอะไรให้นะ เลขแค่หกเจ็ดหลักเนี่ย ฉันไม่สนหรอก”

หนูดีไม่พอใจ

“แล้วคุณต้องการเท่าไหร่”
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกเธอ อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ทันเธอนะ เธอตั้งใจจะเอาดวงไปอยู่บ้านเธอ เพื่อจะปอกลอกให้ถนัดใช่มั้ยล่ะ ลงทุนแค่ล้านสองล้าน แต่ได้เงินก้อนโต คิดว่ามันคุ้มแล้วสินะ”
“ก็เหมือนกับที่คุณกำลังทำอยู่ใช่มั้ยล่ะคะ”
“นี่...ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน ให้คะแนนความอาวุโสกันบ้าง”
“คุณเพิกเฉยต่อข้อเสนอของฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพูดดีกับคุณอีก เพราะมันมีค่าเกินไปกว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ ขอตัวนะคะ”
“นี่หนูดี เธอพูดกับฉันแบบนี้แรงเกินไปละนะ”
“คนที่คิดจะเอาของๆคนอื่น ทั้งที่ไม่ใช่ของตัว มีคำไหนเหมาะกว่านี้ละคะ”
หนูดีเดินไม่พอใจออกจากบ้านไป คุณนายสร้อยเพชรคิดตามคำของหนูดี
“สิ่งที่ฉันทำมัน มันดูไม่ดีขนาดนั้นเลยรึไง”
คุณนายสร้อยเพชรถอนหายใจกลุ้ม

เป้งกับต๋อย นั่งกินเหล้ากับกลุ่มวินมิเตอร์ไซด์กันอย่างครื้นเครง
“เอ้าชนๆ” เป้งชูแก้ว
ต๋อยยกชน
“วันนี้ต้องคลานกลับเท่านั้นเว้ย”
อั้มหอบของพะรุงพะรังเดินผ่านวงเหล้าพอดี เป้งหันไปทัก
“เจ๊จะรีบไปไหนเนี่ย”
“อะไร เมาแล้วจะปากเสีย แม้แต่ฉันก็ต้องแซวรึไง”
“ไม่ใช่...อยากให้เจ๊มานั่งอยู่เพื่อเป็นขวัญใจให้กับชาวเรา ชาววินมอเตอร์ไซค์หน่อยเร้ว”
อั้มอาย
“แหมพวกแกก็พูดเข้า วันนี้ไหนๆลูกก็ไม่ได้มาด้วย อยู่นิดๆหน่อยๆก็ได้ แต่ไม่เอานะ ฉันไม่ดื่มแล้ว”
อั้มเดินไปนั่งท่ามกลางชายหนุ่ม ซันเดินผ่านมาอีกคน
“เฮ้ยซัน...มานี่ มานี่” ต๋อยเรียกไว้
ซันเดินเศร้าๆ ไม่อยากเข้าไปนัก
“เรียกทำไมเนี่ย”
“เดินซึมอย่างกับคนอกหักเลยนะแกน่ะ เอ้า...”
ต๋อยยื่นแก้วเหล้าให้ซัน
“แบบนี้มันต้องชนกันหน่อยแล้ว”
ซันฃะงัก
“จะดีเหรอ”
“โธ่...นิดเดียวก็ได้น่า สนุกด้วยกันหน่อย”
“ก็ได้ แต่นิดเดียวนะ”
ซันยกแก้วขึ้นดื่ม ตอนแรกก็ดื่มนิดๆแต่แล้วกลายเป็นตั้งใจกระดกจนหมดแก้วทีเดียว ต๋อยเห็นก็ตะลึง

เวลาผ่านไป ซันกับอั้มก็เมากว่าเพื่อน เต้นสุดเหวี่ยงไร้สติเย้วๆใหญ่ ต๋อยเดินชนกับคนแคระอายุเยอะคนที่เคยเจอกับดารา
“ขอโทษนะ”
ต๋อยยิ้มให้
“ไม่เป็นไรครับ”
คนเเคระมองหาดารา ต๋อยสงสัย
“หาใครเหรอครับ”
“เห็นคนนี้มั่งมั้ย”
คนแคระเอารูปในกระเป๋าให้ดู เป็นรูปดาราวัยสาว ต๋อยพยักหน้า กะพริบตาปริบๆ

ประเวศกับดารา เดินมาตรงมุมที่ดวงเคยนอน
“ลูกเรามันไม่กลับมานอนตรงนี้แล้วเหรอ”
ดาราแปลกใจ
“นั่นดิ”
“เอ็งมีเงินเหลือมั่งมั้ย”
“พี่ไปเอาเเหนบมาไป ฉันจะถอนให้”
“ไม่มีก็บอกกันดีๆก็ได้ ไอ้ดวงมันไปไหนนะ”
ดาราเห็นคนแคระกับต๋อยเดินผ่านไปไกลๆ ดารารีบลากประเวศไปทางอื่น
“ไป ไปหาไอ้ดวงมันทางอื่นเหอะ”

ดวงกับสายมุกมากินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารริมถนน ดวงตักอาหารให้
“คุณมุกลองทานนี่สิครับ”
“เมื่อไหร่จะเลิกเรียกคุณสักทีเนี่ย”
ดวงยิ้มๆ
“เหนื่อยมั้ยครับวันนี้”
“ฉันว่าประโยคนี้ฉันควรจะเป็นคนถามดวงมากกว่านะ ดวงทำงานตั้งหลายอย่าง”
“ไม่เหนื่อยครับ เพราะรู้ว่าตอนค่ำจะได้มาเจอคุณมุก”
สายมุกเขิน
“อย่าไปพูดแบบนี้กับใครล่ะ”
“ทำไมละครับ ผมพูดความจริงนะ”
“ก็เพราะมันทำให้รู้สึกดีมากๆน่ะสิ ฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้สึกแบบนี้นอกจากฉัน แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกรึไง”
ดวงกับสายมุกดูสวีทหวาน ถนอมเดินผ่านมาพอดี ดวงมองเห็น
“อ้าว คุณ...”
“ดวง...”
“มาทานข้าวด้วยกันสิคะ”
“จะขัดคอเธอสองคนเปล่าๆ”
“ไม่เลยครับ ผมดีใจด้วยซ้ำ”
ถนอมนั่งลงที่โต๊ะ มองสายมุกกับดวง
“เธอทั้งคู่คง...”
ดวงกับสายมุกต่างก็เขินๆ ถนอมยิ้มให้
“ฉันดีใจด้วยนะ เธอมีความสุขฉันก็ดีใจ”
“ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล คุณก็หายไปเลย”
“ฉัน...มีเรื่องต้องจัดการเยอะน่ะ”
“แล้วหายดีรึยังคะ”
“ก็โอเคขึ้นเยอะ”
ถนอมมองทั้งสองแล้วยื่นมือไปจับมือทั้งคู่
“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะอยู่ไปได้อีกนานเท่าไหร่ ฉันเลยขออวยพรให้เธอทั้งสองคนก่อนเลยก็แล้วกันนะ ขอให้เธอสองคนรักกันมากๆ เชื่อใจกันมากๆ จะได้อยู่ด้วยกันยืนยาวนะ”
สายมุกยิ้มเขิน
“แหม ยังกับอวยพรวันแต่งงานเลย”
ดวงยิ้มๆ
“ผมก็ขออวยพรให้คุณกับลูกชายของคุณ ได้พบหน้ากันเร็วๆ ผมเชื่อว่าเขาคงมีความสุขมาก ที่ได้เจอพ่อของเขา”
ถนอมอึ้งไปกับคำพูดของชายหนุ่ม ดวงยิ้มให้ถนอมด้วยความจริงใจ สายมุกอวยพรให้ถนอม
“ฉันก็ขอให้คุณผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้อย่างเข้มแข็งนะคะ”
ถนอมยิ้มมีความสุขกับทั้งสองคน
“ขอบใจพวกเธอสองคนมาก ไม่ว่าชีวิตฉันต่อไปจะเป็นยังไง ฉันจะจำวันนี้ไปจนชั่วชีวิต”

ขณะที่ดารานั่งอยู่บนรถ เธอฝันว่านอนหลับอยู่บนเตียงในห้องนอนซัน ในฝันเธอพลิกตัวไปกอดคิดว่าเป็นประเวศ แต่พอเปิดผ่าห่มมาเป็นคนแคระ
“พี่ตามหาเธอมานานแค่ไหนรู้มั้ย”
ดาราสะดุ้ง
“ว้าย”
ประเวศนอนอยู่ข้างๆเห็นคนแคระก็โวยวาย
“มันเป็นใคร”
ดาราหน้าเสีย
“เปล่าๆ”
ประเวศคาดคั้น
“เปล่าแล้วจะมานอนอยู่นี่ได้ไง”
ดาราหยิกตัวเอง
“ไม่เจ็บ คุณพระช่วย ฉันฝันไป”
ซันเดินเข้ามา
“มานอนอะไรกันในห้องฉันเนี่ย”
“ฉันฝัน จะตรงไหนก็ได้ ไม่อยากฝันไกล”
“อย่างน้อย เธอก็ยังฝันถึงพี่”
คนแคระจะจุ๊บ ดาราผลัก
“ไม่นะ ไป๊”
รถเบรคเอี๊ยดดาราตกใจตื่น ประเวศมองเอือมๆ
“นิ่งเป็นหลับ ขยับไปกิน”
“ถึงไหนแล้วพี่”
“เลิ่กลั่กอะไรของแก ยังไม่ถึงโรงแรมเลย”
ดาราพยักหน้า
“อะไรของแก ทำยังกะกลัวใครจะเจองั้นแหละ”
ดาราส่ายหน้า ว่าไม่มีอะไร
“คงคิดถึงลูกน่ะ”
ประเวศมองหน้า
“แกคงหมายถึงไอ้ดวงนะ”
ดาราพยักหน้า

ค่ำนั้น ดวงกับสายมุกนั่งบนกระโปรงรถ เอนหลังพิงกระจกหน้า แหงนดูดาวบนฟ้าอยู่ริมรั้วบ้าน สายมุกยิ้มมีความสุข
“อยากให้มีเวลาอยู่แบบนี้นานๆ”
“ไม่กลัวคนในบ้านเปิดประตูออกมาเหรอ”
“เปิดมาก็ดี จะได้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีก”
“ไม่ดีหรอก...มันน่าจะมีทางอื่นที่จะทำให้เขายอมรับได้มากกว่านั้นนะครับ”

สายมุกคิดๆ

“แม่มุกน่ะ มีจุดอ่อนอยู่เรื่องเดียว คือ เรื่องนวด...ใช่ อะไรๆอาจจะดีก็ได้นะ”

ดวงอึ้งๆ
“แค่เรื่องนวดเนี่ยนะครับ”
“ใช่ มันสำคัญต่อแม่มากเลยนะ...เราน่าจะลองดู”
“จริงๆ เราไม่ควรจะมาคุยเรื่องแบบนี้ในเวลาโรแมนติกแบบนี้เลยนะครับ ว่ามั้ย”
“นั่นสิ”
ดวงกับสายมุกยิ้มให้กัน จับมือกันแน่น

แหววออกมาจากร้านอาหารกับชายหนุ่มดูดีคนหนึ่งกำลังจะเดินขึ้นรถ ซันเดินเมาเซไปเซมาผ่านมา เห็นเข้าพอดี ซันเดินเข้าไปกระชากแขนแหวว
“แหวว ทำไมเธอทำกับเราแบบนี้”
แหววตกใจ ชายหนุ่มก็ตกใจ
“ไอ้นี่มันดีกว่าฉันตรงไหน” ซันมองชายหนุ่มคนนั้นหัวจดเท้า “เออ มันก็ดีกว่าไปหมด แล้วไงว่ะ ทิ้งกันไปแบบนี้ คิดว่าฉันไม่มีหัวใจรึไง”
แหววสะบัดมือซันทิ้ง
“พอได้แล้วซัน เธอเมามากแล้ว กลับไปนอนเถอะ”
“ไอ้เวลาหลายปีที่เราเป็นเพื่อนกันมา ไอ้สิ่งดีๆทุกอย่างที่ฉันเคยทำให้ มันไม่มีความหมายอะไรเลยรึไง”
“เธอพูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้วซัน ฉันกำลังจะไปถ่ายงานต่อ อย่ามาทำแบบนี้”
“ถ่ายงานเหรอ...เวลานี้เนี่ยนะ ใครเขาจะถ่าย ไปทำอย่างอื่นละไม่ว่า”
ชายหมุ่มต่อยซันคว่ำลงไป
“คุณพูดกับผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง คุณควรให้เกียรติคุณแหววบ้าง”
ซันหัวเราะซ้ำเติมตัวเองอยู่กับพื้น ไม่ลุกขึ้นมา
“แบบนี้สินะที่เธอรอคอยน่ะแหวว เจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยให้เธอออกจากตลาดซอมซ่อนี่ซักที ฉันให้เธอไม่ได้ใช่มั้ย”
แหววหันไปพูดกับชายหนุ่ม
“ไปกันเถอะค่ะ ปล่อยเขาไปเถอะ”
แหววขึ้นรถไปกับเขารถแล่นออกไป แหววยังชำเลืองมองดูกระจกหลังอย่างเป็นห่วง ซันเห็นรถออกไป เขาลุกขึ้นวิ่งไล่ตามรถ ตะโกนไล่หลัง
“เธอทิ้งฉันไปแบบนี้ไม่ได้ แหวว...เธออย่าทำแบบนี้เลย แหวว แหวว”
ซันวิ่งตามจนหมดแรง ยืนหอบอย่างท้อๆ

ชายหนุ่มจอดรถที่ลานจอดรถโรงแรม แหววถามอย่างสงสัย
“ตกลง เราจะเทสหน้ากล้องกันที่นี่เหรอคะ”
“ใช่ พอดีว่าสตูมันเต็มน่ะ คุณคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย”
“ได้ค่ะ แค่เทสแป๊บเดียวก็กลับใช่มั้ยคะ”
“ครับ”
ชายหนุ่มยิ้มให้แหววอย่างสุภาพบุรุษ แหววไม่ค่อยไว้ใจนัก...แหววเดินเข้ามาในห้องในโรงแรมกับชายหนุ่ม แต่ก็ไม่เห็นใครสักคนในนั้น
“ไม่เห็นมีทีมงานสักคนเลยคะ”
“นี่มันห้องพักนักแสดง เดี๋ยวแหววดื่มอะไรเย็นๆรอก่อนสิ”
ชายหนุ่มหยิบไวน์มาเปิดรินใส่แก้วให้แหวว
“แหววไม่ดื่มอะไรแบบนี้หรอกค่ะ”
“เป็นดาราต้องหัดไว้นะ ช่วงนี้ใครก็ดื่มไวน์ทั้งนั้น มันเป็นแฟชั่น”
“แหววอยากเทสหน้ากล้องให้มันเสร็จเร็วๆน่ะค่ะ อยากกลับบ้าน บรรยากาศในนี้มันยังไงไม่รู้”
แหววไม่ค่อยไว้ใจชายหนุ่มเท่าไหร่นัก

ซันเดินผ่านหน้าโรงแรม แวะอ้วกแล้วเขาก็พบว่าที่เขายืนพิงอ้วกอยู่คือรถที่แหววขึ้นมาเมื่อกี้ ซันแทบจะสร่างเมา
“นี่มัน...รถคันเมื่อกี้”
ซันสับสนไปหมดเมื่อเห็นว่ามันจอดอยู่ที่โรงแรม เขาจะเดินหนี แต่อีกใจก็บอกเขาว่าอย่าหนีไปแบบนี้
“ไม่ใช่หรอก แหววไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น มันต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง แต่เขาก็อาจจะเต็มใจก็ได้นี่ แต่...”
ซันสับสนไปหมด ไม่รู้จะเอายังไงดี

แหววท่าทางไม่ค่อยไว้ใจ เขาจึงรีบรวบรัดตัดความจะปล้ำทันที เขาผลักแหววลงบนเตียง
“นี่จะทำอะไรน่ะ”
“อย่ามาแอ๊บแกล้งโง่อยู่เลยน่า ฉันรู้ว่าแกก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันพามาทำอะไร”
แหววดิ้นรน
“อย่านะ อย่าทำแบบนี้”
“แอ๊คติ้งดีนี่ เดี๋ยวจะพาไปเล่นหนังโป๊ซักสองสามเรื่อง”
“ปล่อยฉันนะ”
“แกก็กะเอาตัวเข้าแลกเพื่อจะได้เข้าวงการอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ปล่อยฉันนะ...ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
แหววพยายามดิ้นสุดแรง เพื่อรอดพ้นเงื้อมมือของชายหนุ่ม

ซันเดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์โรงแรม
“พอดีผมมีนัดกับผู้ชายที่ขับรถสปอร์ตที่เพิ่งมาถึงน่ะครับ เขาจำเลขห้องไม่ได้ ให้ผมลองถามคุณดู”
แหววโดนปล้ำ เธอพยายามต่อสู้จนเกือบจะหมดแรงแล้ว ไม่รู้จะทำยังไง เธอร้องห่มร้องไห้ก็ไม่เห็นว่าชายหนุ่มจะสนใจน้ำตาของเธอ
“ซัน ช่วยฉันด้วย ซันอยู่ไหน ช่วยฉันด้วยสิ”
ชายหนุ่มยิ้มหยัน
“ร้องหาใครก็ไม่มีใครช่วยได้ทั้งนั้นแหละ”
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ชายหนุ่มหงุดหงิด ตะโกนถาม
“ใครน่ะ มาทำอะไรตอนนี้”
ไม่มีเสียงตอบกลับมา แหววพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย”
ชายหนุ่มเอามือปิดปาก
“ฉันถามว่าใคร”
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะทำอะไร ซันก็ไขประตูเข้ามาในห้อง แล้วก็มาต่อยชายหนุ่มคนนั้นคว่ำไป แหววเห็นซันก็ดีใจมาก
“ซันจริงๆด้วย ซันมาช่วยฉันจริงๆด้วย”
ซันต่อยไม่ยั้ง
“ฉันขอเอาคืนที่แกทำฉันไว้เมื่อกี้”
ซันดูเท่มากในสายตาแหววตอนนี้ พอซันซัดชายเท่ซะหมอบ แหววก็โผเข้ากอดด้วยความดีใจ
“ขอบคุณนะซันที่ช่วยฉันไว้ทุกครั้งเลย ขอบคุณจริงๆ ฉันไม่รู้จะตอบแทนเธอยังไงดี”
“แค่รักฉันก็พอ”
แหววและซันกอดคอกันร้องไห้

เช้าวันใหม่...เป้งนอนอยู่ในเพิงของวินมอเตอร์ไซด์ คนอื่นๆก็เมาหลับกันที่นี่ เป้งงัวเงียตื่นขึ้น
“เฮ้ย เช้าแล้วเว้ย อาบน้ำอาบท่า เตรียมวิ่งกันได้แล้ว”
เป้งมองไปทั่วแต่ไม่เห็นต๋อย
“แล้วนี่ไอ้ต๋อยมันหายไปไหนวะเนี่ย”
เป้งงัวเงีย งงว่าต๋อยหายไป

ในห้องนอน อั้มนอนหลับโดยมีต๋อยกอดเป็นลิงอยู่ข้างๆ ทั้งคู่อยู่ใต้ผ้าห่ม โป๊เปลือย ต๋อยใส่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว อั้มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมานึกว่าต๋อยเป็นลูก ถีบออก
“ไอ้นิชคุณ เกาะเป็นลิงไปได้ คนยิ่งร้อนๆอยู่”
“ขออีกห้านาทีได้มั้ยเล่า”
อั้มได้ยินเสียงแปลกๆ ลืมตาโพงขึ้น ต๋อยเองก็รู้สึกตัวว่าเสียงนั่นไม่ใช่เสียงเป้ง ลืมตาโพงด้วยเช่นกัน ทั้งคู่ลุกนั่ง เห็นสภาพโป๊เปลือยของทั้งคู่ ก็ตกใจ
“เอ็งมาทำอะไรที่นี่ไอ้ต๋อย”
ต๋อยงงๆ
“พี่เป้งล่ะ พี่เป้งไปไหนเนี่ย”
“นี่บ้านฉัน ไอ้เป้งจะมาทำอะไร”
“อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนเจ๊...” ต๋อยก้มมองดูสภาพตัวเอง “เจ๊พรากพรหมจรรย์ผมไปแล้ว”
อั้มถลึงตาใส่
“ฉันควรจะถามมากกว่า ว่าแกทำอะไรฉัน”
ต๋อยเถียง
“เจ๊นั่นแหละทำอะไรผม ผมไม่เคย ทำเป็นที่ไหนเล่า”
อั้มโมโห
“นี่แกได้ฉันแล้วไม่ยอมรับเหรอ”
ต๋อยรับไม่ได้
“ไม่มีทาง ต้องไม่ใช่แบบนั้น ไม่จริง ไม่จริง”
“ฉันนี่ควรจะต้องพูดประโยคนั้น”
ต๋อยคร่ำครวญ
“โธ่ ชีวิต...นอกจากจะโดนพ่อแม่เอามาทิ้งไว้ข้างกองขยะตั้งแต่เด็ก ยังโดนพรากพรหมจรรย์ให้กับหญิงที่ไม่ได้รักอีก ทำไมชีวิตไอ้ต๋อยมันซวยแบบนี้ ไม่นะ ไม่...”
“อีบ้า...หยุดคร่ำครวญได้แล้ว เอาเป็นว่า เราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าใจมั้ย”
“นี่เจ๊จะ one night stand กับฉันด้วยเหรอ ไม่ ไม่นะ”
“พอแล้ว เดี๋ยวลูกฉันตื่นมาได้ยิน ก็เรื่องใหญ่กันพอดี”
“ไม่...ฉันไม่ยอมให้ไอ้เด็กยักษ์สองตัวนั่นเรียกฉันว่าพ่อแน่ๆ”
อั้มถีบต๋อยกระเด็นเข้าข้างฝา
“หยุดได้รึยัง รีบแต่งตัวแล้วไปทำงานซะ แล้วก็ไม่ต้องบอกใคร เข้าใจมั้ย”
ต๋อยหยิบผ้าห่มมาปิดอกร้องไห้กระซิก

ดวงจัดของเตรียมรับลูกค้า หนูดีเดินเข้ามาหา
“สวัสดีตอนเช้าครับคุณหนูดี”
“ดวง ฉันมีเรื่องอยากคุยกับดวง”
“เรื่องอะไรเหรอครับ”
“ดวงรู้ใช่มั้ย ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันหวังดีกับดวงมาตลอด”
“ครับ...”
“สิ่งที่ฉันจะขอร้องดวงอีกครั้ง ก็เพราะฉันหวังดีกับดวงเหมือนกัน...ฉันขอร้องให้ดวงย้ายออกจากบ้านคุณนายสร้อยเพชรซะ ก่อนที่ดวงจะเดือดร้อน”
ดวงไม่เข้าใจ
“เดือดร้อน หมายความว่ายังไงครับ”
“คนบ้านนั้น ไม่มีใครหวังดีกับดวงซักคน เชื่อฉันสิ มันก็แค่ผลประโยชน์”
“อย่างน้อยคุณมุกก็ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้นนะครับ”
“เธอเชื่อฉันเถอะนะ ย้ายออกมา ฉันจะหาที่อยู่ให้เอง ฉันพูดเพราะหวังดีกับเธอจริงๆ”
“ผมไม่รู้ว่าคนที่บ้านนั้นจะไม่ดีกับผมยังไง ผมไม่ได้หมายความว่าคุณมีเจตนาไม่ดีนะครับ แต่สิ่งที่ผมรับรู้กับสิ่งที่คุณหนูดีรู้ อาจจะคนละมุมก็ได้”
“เธอต้องให้ฉันหาหลักฐานมาใช่มั้ย เธอถึงจะยอมเชื่อ...ก็ได้ ดวงฟังไว้ตรงนี้เลยนะ ว่าฉันจะทำทุกอย่างให้ดวงออกมาจากที่นั่น และทำทุกอย่างอีกเหมือนกัน ให้ดวงอยู่ห่างจากสายมุกมากที่สุด”
หนูดีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าแต่ก็จริงจัง ดวงมองหนูดีอย่างลำบากใจ

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 30 อวสาน (ต่อ)

ประเวศกับดาราเดินมาที่ตลาด มาตามหาดวง
“มันจะยอมให้เงินเราอีกรึเปล่าเนี่ย”
“ให้สิ เราเป็นพ่อเป็นแม่มันไม่ใช่เหรอ”
ประเวศชักไม่มั่นใจ
“แน่ใจนะว่าเราเป็นพ่อแม่มันจริงๆ”
ดาราไม่แน่ใจแต่พูดไปก่อน
“แน่ใจสิ มันจะมีเด็กสักกี่คนถูกทิ้งที่ตลาด ไม่มีหรอก”
ดาราได้ยินเสียงแว่วๆเรียกชื่อเธอมาจากด้านหลัง
“ดารา...ดารา”
ดาราหันไปดู เห็นเป็นคนแคระแอบอยู่ข้างถังขยะ ดาราตกใจ ประเวศเองก็ได้ยินแว่วๆเหมือนกัน
“ได้ยินเสียงอะไรป่ะ”
ดารารีบเฉไฉ
“ไม่นี่พี่ ไม่เห็นได้ยินเสียงอะไรเลย”
“เสียงเหมือนเรียกชื่อใครสักอย่าง”
“ไม่มี...พี่รีบไปหาไอ้ดวงไป จะได้มีเงินใช้สักที เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำแล้วจะตามไป”
“ไม่เป็นไร รอไปพร้อมกันดีกว่า”
ดาราหนักใจ
“เอาน่า ไปเจอหน้าลูกมันก่อน เดี๋ยวฉันตามไป ไม่นานหรอก”
“เออ ก็ได้ รีบตามมาล่ะ”
ประเวศเดินนำไป ดาราเดินเข้าไปหาคนแคระ
“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับฉันอีก”
“พี่คิดถึง...”
“คิดถึงอะไร ลูกนั่นฉันก็ทิ้งไปแล้ว”
คนแคระหน้าตื่น
“ลูก...นี่เรามีลูกด้วยกันด้วยเหรอ”
ดาราตกใจที่ตัวเองเผลอหลุดปาก
“ลูกนั่นเป็นลูกของเรา ไม่ใช่ลูกของผัวใหม่เธอเหรอ”
“ฉันไม่รู้ ช่างเถอะ ลืมๆไปซะ ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้”
“ไม่ได้...ตกลงพี่มีลูกใช่มั้ย ลูกอยู่ไหน ถ้าเธอไม่อยากเลี้ยง พี่จะเลี้ยงเอง”
“ก็บอกว่าทิ้งไปแล้วไง ไม่รู้เป็นเชื้อผัวไหนด้วย ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ”
“บ้ารึเปล่า ลูกฉัน...พันธุ์ดีขนาดนั้น เธอทิ้งลงคอได้ยังไง ทำไมเธอใจร้ายใจดำอย่างนี้ เธอเอาลูกไปทิ้งไว้ไหน ฉันจะเลี้ยงของฉันเอง”
“บอกว่าไม่ใช่เชื้อแก เชื้อผัวฉันอีกคน”
“ไม่จริง”
“ไม่รู้”
ดารารีบเดินไป คนแคระเฝ้าฝันถึงลูกตัวเอง
“โถลูกพ่อ”
คนแคระมองดาราแอบตามดาราไปอีก

ดวงขายของอยู่ที่แผง ประเวศเดินเข้ามาหา ดาราตามมาสมทบ
“อ้าวพ่อ...กลับมาแล้วเหรอครับ”
“จริงๆมีของมาฝากด้วยนะ แต่ไม่ได้ติดมาหรอก”
“ไม่ต้องฝากหรอกครับ แค่กลับมาปลอดภัยก็ดีมากแล้ว”
ดาราเดินเข้ามาเห็นดวงขายของอยู่ที่แผง
“โห มีแผงขายของของตัวเองแล้ว ก็รวยใหญ่แล้วสิ”
“ไม่ใช่ของผมหรอกครับ ผมแค่ลูกจ้าง”
ดาราไม่เชื่อ
“แหม ไม่ต้องมาถ่อมตัวหรอกน่า”
“ไม่ใช่ของผมจริงๆครับ”
ประเวศกับดารา ต่างมองหน้ากัน พยักหน้าเกี่ยงให้อีกคนพูด
“เนี่ย...พ่อเพิ่งกลับจากเมืองนอกนะ ค่าใช้จ่ายที่โน่นมันก็แพ๊งแพง”
ดาราเสริม
“ใช่ จะกินอะไรก็ลำบาก อาหารไม่อร่อย กลับมาก็อยากมีเงินไปกินอะไรดีๆกับเขาบ้าง”
“ผมคงพาไปกินได้แค่ในตลาดนี่เท่านั้นแหละครับ”
ประเวศยิ้ม
“ไม่เป็นไร ไม่ว่างก็ไปเป็นไร เดี๋ยวพวกเราไปกินเองก็ได้”
“แต่ก็ติดตรง...เงินที่เหลือมันท่าจะไม่พอน่ะสิ” ดารารีบบอก

คุณนายสร้อยเพชรนั่งจดรายละเอียดใส่สมุดบัญชีเหมือนเคย
“รวมหนี้ ค่าที่มาอยู่ที่บ้าน ค่าเสื่อม ค่าทุกอย่าง บวกดอกเบี้ย ก็ 20 ล้าน ให้แบ่งจ่ายเป็นสองงวดดีมั้ยนะ...น้อยไปมั้ยเนี่ย แต่ไม่หรอก ก็กำลังพอดีนะ”
สายมุกถือเอกสารเข้ามา
“แม่คะ บริษัทที่จะจ้างประชาสัมพันธ์ตลาด ส่งเอกสารราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้แล้วค่ะ”
สายมุกยื่นให้
“ไหนดูซิ” คุณนายสร้อยเพชรรับมาดูก็ตกใจ “ว๊าย ทำไมมันแพงแบบนี้”
“ก็แม่จะโปรโมทตั้งหลายคนไม่ใช่เหรอคะ ทำเป็นตลาดรวมของแปลก ก็คงแพงเป็นธรรมดา”
“แพงแบบนี้ไม่ทำแล้ว เสียดายเงิน”
“แต่ทำก็คุ้มนะคะแม่ รายได้ก็อาจจะเข้ามาอีกเยอะก็ได้”
สายมุกมองสมุดที่แม่จด
“นั่นแม่จดอะไรอยู่คะ”
คุณนายสร้อยเพชรรีบปิด
“ไม่มีอะไรจ้ะ แม่ก็คิดคำนวณกำไรขาดทุนอะไรไปเรื่อยเปื่อย”
“ไม่ได้คิดจะไปโกงอะไรใครใช่มั้ยคะ”
“โกงอะไร ไม่เค๊ย”
“ดีแล้วค่ะ อย่าไปอยากได้อะไรที่ไม่ใช่ของเรา”
คุณนายสร้อยเพชรทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ไม่ฟัง สายมุกเดินออกไป คุณนายสร้อยเพชรหยิบใบค่าใช้จ่ายพีอาร์ตลาด มาเทียบกับสมุดที่จะทวงหนี้จากดวง คุณนายก็คิดอะไรออก
“ใช่...ก็เอาเงินจากไอ้ดวงนี่แหละมาใช้ประชาสัมพันธ์ตลาด ก็เหมือนเราไม่เสียอะไร มีแต่ได้กับได้”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มฝัน

ดวงคุยกับพ่อแม่อยู่ที่แผง...
“อ๋อ แต่ตอนนี้ที่ผมมีอยู่ก็แค่นี้”
ดวงควักเงินออกมายื่นให้ ดาราคว้าเงินมานับ
“สองพัน สองพันเนี่ยนะ จะกินอะไรพอ”
“ผมมีแค่นี้จริงๆครับ”
ประเวศรีบบอก
“ก็ไปเบิกธนาคารสิ เนี่ยธนาคารเปิดด้วยเวลานี้ ไป”
ดวงหน้าสลด
“ผมไม่มีเงินแล้วครับ ทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีแค่นี้”
ดาราโวยวาย
“ไม่มีได้ไง แล้วเงินตั้งหลายร้อยล้านของแกล่ะ หายไปไหน”
“ผมคืนให้เจ้าของไปแล้วครับ”
ประเวศไม่เชื่อ
“พูดเป็นเล่น เจ้าของที่ไหน ก็หวยนั่นเป็นของลูกแล้วลูกก็ถูก จะมีเจ้าของไหนอีก”
“หวยนั่นผมไม่ได้ซื้อมาครับ มีคนให้มา ผมเลยต้องเอาไปคืนเขา”
ดาราฉุนกึก
“บ้าไปแล้ว ไปคืนมันทำไม มันเป็นใคร บอกแม่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ประเวศเซ็งเลย
“ไม่ใช่เอาเงินไปถลุงหมดแล้วนะ”
“เงินของเขานะครับ ผมไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปทำอะไรหรอก ส่วนเงินของผม ผมก็มีแค่นี้แหละครับ ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ต้องรอให้เงินค่าจ้างของผมออกก่อน”
ดาราชะงัก
“แต่นี่มันต้นเดือน”
“ถ้ารอไม่ได้ พ่อกับแม่ก็ต้องหางานทำครับ”
ดารากับประเวศมองหน้ากันอึกอัก ประเวศรีบบอก
“รอไหวสิ ทำไมจะไม่ไหว”
ดาราตัดบท
“ตอนนี้เอาแค่สองพันนี่ก่อนก็ได้”
“งั้นพ่อกับแม่ไปก่อนละ ไม่อยากรบกวนลูกทำงาน”
ดารากับประเวศ โบกมือลา ดวงยิ้มแห้งๆส่งท้าย ตลอดเวลาทั้งหมดไม่รู้ว่ามีคนแคระแอบฟังอยู่ด้วย ซ่อนอยู่ข้างกองขิงข่าตะไคร้เนียนมาก คนแคระแอบมองดวงตาเป็นประกาย
“นี่น่ะเหรอลูกของเรา ถอดแบบพ่อมาเลย...ใช่จริงๆด้วย”
คนแคระมองดวงอย่างหลงใหล

ดวงนั่งขายขนมอยู่ อยู่ก็ได้ยินเสียงบางอย่างแต่มองไม่เห็นตัว
“ขายยังไง”
ดวงหันมองหาเสียง คิดว่าหูแว่ว แล้วคนแคระก็ปีนขึ้นมาตรงที่ดวงนั่ง ดวงตกใจสะดุ้ง
“มาไงเนี่ย”
“ก็ยืนข้างนอกมันมองไม่เห็นนี่”
“ต้องการอะไรครับ”
“หน้าตาดี สุภาพ เหมือนพ่อมัน”
ดวงงงๆ
“นี่มันอะไรกันครับ”
“ฉันจะบอกความจริงบางอย่างให้นะ”
“ความจริง ความจริงอะไรครับ”
“ก็ความจริงทีว่า จริงๆแล้ว เธอกับฉัน เราผูกพันกันโดยสายเลือด”
ดวงตะลึง
“ห๊า”
“ไอ้คนเมื่อกี้มันไม่ใช่พ่อจริงๆเธอหรอก ฉันต่างหากที่เป็นพ่อจริงๆของเธอ”
ดวงยิ่งงงหนัก
“คุณคือพ่อจริงๆของผม จะให้ผมเชื่อได้ยังไง”
“ยังจะต้องสงสัยอะไร ก็เราเหมือนกันขนาดนี้ เธอน่ะถอดแบบมาจากฉันไม่มีผิด”
ดวงไม่แน่ใจนักว่าคนแคระบ้าหรือดีแน่
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันไม่ได้มาหวังเงินทองอะไรจากเธอ”
“ผมว่านี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันแน่ๆ”
“ไม่ผิดแน่ ฉันนี่ตัวจริงเสียงจริง”
คนแคระกระโดดขี่หลังดวง ปลอบดวง
“โถ พ่อขอโทษนะลูกที่ทิ้งลูกไปตั้งแต่เด็กโดยไม่มาดูแล”
ดวงอึดอัดทำอะไรไม่ถูก อาซ้งเดินผ่านมาเห็นดวงกับคนแคระ
“อ้าวดวง เดี๋ยวนี้ซื้อหมามาเลี้ยงแล้วเหรอ”
คนแคระโวยใส่
“คนเว้ยไม่ใช่หมา”
อาซ้งมองคนแคะเซ็งๆ
“นี่ไอ้ดวงมันจะเป็นลูกแกได้ยังไง มันมีพ่อมีแม่อยู่แล้ว”
“ถ้าหมายถึงไอ้พ่อแม่ 2 คนนั่นน่ะ ฉันบอกไว้เลยว่าไม่ใช่”
“แต่ฉันไม่ได้หมายถึง 2 คนนั้น”
ดวงชะงักไม่เข้าใจ
“หมายความว่าไงครับอาซ้ง”
อาซ้งนึกได้ที่ตัวเองหลุดปากไป
“เอ่อ...”
ดวงคาดคั้น
“หมายความว่ายังไงครับ อธิบายมา ใครคืออีกคน...ใคร”
อาซ้งรีบเดินจากไปอย่างมีพิรุธ ดวงมองไม่เข้าใจนัก

ประเวศกับ ดารา เดินแยกมาจากดวง ทั้งคู่ต่างเครียดกับดวงที่ไม่มีเงินให้ปอกลอกอีกต่อไป
“ทำยังไงดีละทีนี้ เงินมันก็ไม่มีแล้ว”
ประเวศหน้าเครียด
“ทำยังไง ถามได้ เราก็ต้องไปเอาเงินคืนจากไอ้คนนั้นสิ เงินนั่นควรจะเป็นขอเรา”

ดาราเห็นด้วย

“ใช่ แล้วเราจะไปหาเจอได้ยังไงว่าใครเอาเงินนั่นไป”

“ไม่ยากหรอก”
ประเวศชำเลืองมองไปที่อาซ้งที่เดินลับๆล่อๆ ดาราอย่างชั่วร้าย พวกเขาแอบเดินตามอาซ้งไป อาซ้งแอบมาคุยโทรศัพท์มือถือหลบมุมอยู่
“นี่ถนอม คุณไปขายล็อตเตอรี่อยู่ที่ไหน แวะมาที่ตลาดสร้อยเพชรหน่อยได้มั้ยวันนี้ ไอ้ดวงน่ะสิเหมือนจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น ใครโผล่มาจากไหนอีกตัวก็ไม่รู้ เออๆ รีบมานะ”
อาซ้งวางสายพยายาามหันซ้ายหันขวาไม่เห็นใคร แล้วเดินไป ประเวศกับดาราแอบฟังอยู่ ประเวศยิ้มพอใจ
“โชคเข้าข้างเราแล้ว ไม่ต้องไปตามหาที่ไหน เดี๋ยวไอ้คนขายหวยมันก็มาหาเราถึงที่ หึหึ”
ดาราตาวาวโรจน์
“ที่นี้ล่ะ จะได้เงินเป็นของตัวเอง”
ประเวศกับดารายิ้มพอใจ

ต๋อยนั่งเศร้าอยู่คนเดียวที่เพิงพักวินมอเตอร์ไซค์ คนแคระเองก็เซ็ง มานั่งข้างๆถอนหายใจอย่างแรง ต๋อยถอนหายใจเช่นกัน คนแคระหันไปถาม
“มีเรื่องไม่สบายใจเหรอ”
“คุณก็เหมือนกัน”
“ฉันตามหาคนๆนึงอยู่ แต่เขาไม่ยอมรับฉัน”
“การตามหามันยากเสมอ”
“นี่เธอพอจะเห็นใครในตลาดที่ถอดแบบฉันมาอีกมั้ย”
ต๋อยหันไปดูคนแคระ มองพิจารณาแล้วส่ายหน้า
“ที่นี่ก็ไม่เห็นใครถอดแบบพี่มาสักคน”
คนแคระถอนหายใจ

ประเวศกับดารายืนชะเง้อชะแง้รอถนอมอยู่ที่หน้าตลาด ดาราถามงงๆ
“แกรู้เหรอว่าคนไหน”
“ก็มันขายหวยไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นจะยาก”
คนตาบอดขายลอตเตอรี่เดินถือไม้เท้าเข้ามา ประเวศเข้าชาร์ตทันที
“แกใช่มั้ยที่เอาเงินลูกฉันไป เอามาคืนเดี๋ยวนี้นะ”
คนตาบอดงง
“นั่นใครน่ะ ปล่อยนะ ปล่อย”
ดาราปราม
“พี่...นี่คนตาบอด นี่แกรังแกได้กระทั่งคนพิการรึ”
“อ้าวเหรอ ก็เห็นขายหวยไง ก็นึกว่าใช่”
ประเวศจ๋อย ปล่อยคนตาบอดไป แล้วหันหลังไปชนถนอมที่เดินเข้ามาพอดี ถนอมทำแผงลอตเตอรี่ตก ประเวศ หันไปดุ
“เฮ้ย เดินอะไรให้มันระวังๆหน่อย”
ถนอมเห็นประเวศกับดาราก็จำได้ ตกใจ
“พวกเธอ...กลับมาแล้ว”
ดารากับประเวศเอะใจขึ้นมาทันที ดาราจ้องหน้า
“แกรู้จักฉันด้วยเหรอ”
ประเวศมองกวาดตาเห็นแผงล็อตเตอรี่
“แก...เป็นแกแน่ๆใช่มั้ย”
ถนอมพยายามจะเดินหนีไป แต่ประเวศมาขวางไว้
“ฉันว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ถนอมมองหน้าดารากับประเวศ ท้อใจ

ประเวศ ดารา ถนอม นั่งอยู่ในร้านอาหารริมถนน หน้าตาประเวศกับดาราจริงจังมาก ถนอมถามอย่างสงสัย
“พวกคุณมีอะไรจะคุยกับผม”
“แกชื่อถนอมใช่มั้ย”
“อย่าเสียเวลาเช็คชื่อกันอยู่เลยน่า มีอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะ”
ดารารีบบอกประเวศ
“ฉันพูดเอง จะได้ไม่เสียเวลา...เราขอเงินทั้งหมดของลูกดวงคืน”
“ดวงเขาบอกพวกคุณให้มาขอเหรอ”
“ใช่”
“แน่ใจนะ”
“แน่ใจสิ ดวงเป็นลูกของเรานะ”
ถนอมยิ้มรู้ทัน
“คุณแน่ใจแล้วเหรอว่าดวงคือลูกของคุณ”
ประเวศยืนยัน
“แน่ใจสิ ถามทำไมล่ะ”
ถนอมหันไปหาดารา
“แล้วคุณผู้หญิงล่ะ แน่ใจมั้ย”
ดาราอึกอัก
“ก็แน่ใจ”
“มันมีสิ่งที่คุณทิ้งไว้ให้เขา หรือรูปร่างลักษณะใดที่บอกว่าเขาคือลูกคุณบ้าง”
ประเวศโวยวาย
“ไม่ต้องมาทำซักไซร้ไล่เรียงเลย เงินอยู่ไหน”
“ผมคงให้ไม่ได้ นอกจากว่าคุณจะหาหลังฐานมาพิสูจน์ได้ ว่าคุณคือพ่อจริงๆของเขา”
ประเวศมั่นมาก
“ได้...ดีเอ็นเอเลยมั้ย จะได้รู้กันไปเลย”
ดาราชะงักกังวล
“พี่...ไม่ต้องตรวจหรอกมั้ง”
ประเวศเสียงแข็ง
“ไม่ได้...ตอนนี้มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีไปแล้ว”
ดาราบ่นพึมพำ
“เดี๋ยวก็อดกันไปหมดหรอก”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี ถ้าคุณพิสูจน์ได้จริงว่าดวงเป็นลูกคุณ”
ถนอมยิ้มเพราะรู้ความจริงอยู่แก่ใจ ดาราเริ่มร้อนรนกังวลใจ

ดวงกลับเข้ามาในบ้าน สายมุกนั่งอยู่ข้างๆคุณนายสร้อยเพชรอยู่ในห้องรับแขก สายมุกเห็นดวงก็แอบส่งยิ้มให้กันแอบพยักหน้าให้ดวงแบบรู้กัน ดวงพยักหน้าตอบ ดวงเริ่มทำท่าปวดเมื่อยตามตัว คุณนายสร้อยเพชรเห็นก็อดใจไม่ได้
“ดวงเป็นอะไร”
“วันนี้คงทำงานเยอะไปน่ะครับ เลยปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย”
“งั้นมานั่งตรงนี้เลย ให้ไวเลยเชียว”
ดวงทำเป็นเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเกรงใจ”
“ไม่ได้ อย่ามาใช้ความเกรงใจกับการนวดของฉัน เร็วๆ”
ดวงมานั่งให้คุณนายสร้อยเพชรนวด สายมุกมองหน้าดวงยิ้มๆ
“โอโห้ บ่าแข็งมากนะเนี่ย...ยายมุก ไปหยิบน้ำมันบนห้องแม่ให้หน่อยเร็ว”
“ได้ค่ะ”
สายมุกเดินไปออกไป ยังส่งยิ้มให้ดวงอยู่ พอสายมุกเดินออกไป คุณนายสร้อยเพชรก็นึกได้เรื่องเงิน
“สบายมั้ย”
“ครับ”
“นี่ดวง จำได้มั้ยที่ฉันบอกว่าฉันจะลิสต์ ค่าใช้จ่ายที่ดวงจะต้องจ่ายให้ฉันทั้งหมดให้น่ะ”
“ครับ ผมรู้ว่าคุณนายมีบุญคุณกับผม”
“ดีเลย พอดีช่วงนี้ฉันต้องใช้เงิน ฉันก็เลยลิสต์ค่าใช้จ่ายให้เธอดูตัวเลขก่อน”
“ครับ”
คุณนายสร้อยเพชรหยิบสิ่งที่ลิสต์ไว้ให้ดู ดวงเห็นก็ตกใจ
“ยี่สิบล้าน คุณนายไม่ได้ล้อเล่นกันใช่มั้ยครับ”
“แหม...ก็เธอพูดเองว่าฉันมีบุญคุณกับเธอ ไหนสายมุกจะดีกับเธออีก บ้านนี้ก็ให้ที่พักพิง ให้ยืมเงินตลอดเวลาเธอเดือดร้อน เงินแค่นี้ยังไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ที่เธอมีเลยไม่ใช่เหรอ”
ดวงช็อคกับสิ่งที่คุณนายสร้อยเพชรพูด คำพูดของหนูดีลอยมาทันทีมันเป็นจริงอย่างสิ่งที่หนูดีเตือน ดวงผิดหวัง เสียใจมาก
“คุณนายกับสายมุกทำทุกอย่างเพื่อเงินยี่สิบล้านเนี่ยน่ะเหรอครับ”
“จะพูดอย่างงั้นก็น่าเกลียดเกินไป คนมีบุญคุณกันมา ว่าแต่เธอไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย”
“ผมไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอกครับ”
“ก็เงินหวยเธอนั่นไง”
“ดูเหมือนเงินก้อนนั้นมีแต่คนอยากได้นะครับ แต่ผมยกให้คนอื่นไปแล้ว”
คุณนายสร้อยเพชรตกใจ
“ยกให้คนอื่น เธอจะบ้าเหรอ”
“ครับ...ผมไม่มีเงินเลยซักบาทติดตัวตอนนี้ ผมคงยังใช้หนี้คุณนายทั้งหมดตอนนี้ไม่ได้ แต่ทำจะทยอยส่งเงินมาให้เท่าที่ผมจะทำงานไหวนะครับ”
คุณนายสร้อยเพชรโมโหมาก
“ถ้าอย่างงั้น ก็ออกจากบ้านฉันไปเลยนะ ที่ฉันลงทุนทั้งหมดคือเสียเปล่าใช่มั้ย ไปเลย”
ดวงมองเศร้าๆ ผิดหวังในตัวคุณนายสร้อยเพชรมาก สายมุกเดินเอาน้ำมันนวดลงมา
“น้ำมันได้แล้วค่ะแม่”
บรรยากาศในห้องตึงเครียด ดวงมองสายมุกด้วยความผิดหวัง
“ผมพยายามเชื่อว่าคุณจะไม่เป็นอย่างที่คุณหนูดีว่า แต่สุดท้าย คุณหนูดีก็พูดความจริง”
ดวงเดินออกไปจากห้องไปด้วยความผิดหวัง สายมุกไม่เข้าใจ คุณนายสร้อยเพชรเองก็ไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนัก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะแม่ แล้วมุกเกี่ยวอะไร
“ก็...เอ่อ”
สายมุกเห็นสมุดที่แม่วางไว้ เธอหยิบขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตกใจ
“ทำไมแม่ทำแบบนี้”
คุณนายสร้อยเพชรจ๋อยๆไม่กล้าพูดอะไร

ดวงเก็บของใส่กระเป๋าของตน สายมุกเปิดประตูเข้ามา ดวงก้มหน้าก้มตาเก็บของ ไม่สนใจ
“ดวงจะไปไหน”
“ไปจากที่นี่ ที่นี่ไม่มีคนจริงใจ”
“แต่ฉันจริงใจกับดวงนะ”
“ขอบคุณครับ แต่เวลานี้ความจริงมันเปิดเผยแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องทำดีกับผมแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น ดวงโกรธฉันเรื่องอะไร”

“ผมไม่ได้โกรธคุณมุกหรอกครับ คนอย่างผมจะมีสิทธิ์อะไรไปโกรธคุณได้ ผมแค่ไม่อยากอยู่ใกล้คุณ แค่นั้นเอง”
 

“ดวง หันหน้ามาคุยกันหน่อยได้มั้ย มันเกิดอะไรขึ้น”
ดวงเก็บของทั้งหมดเสร็จแล้ว ปิดกระเป๋าจะออกไป สายมุกกอดดวงไว้จากด้านหลัง ไม่อยากให้เขาไป
“อย่าไปเลยนะดวง ฉันขอร้อง”
ดวงเจ็บปวดใจ
“มันจริงของคุณหนูดีนะครับ คนดีๆมันอยู่บนโลกนี้ยากขึ้นทุกที บางทีผมต้องลองหัดทำตัวแย่ๆ ไม่ต้องแคร์คนอื่นดูบ้าง”
“ดวง...ดวงเป็นอะไร อย่างน้อยอธิบายให้ฉันเข้าใจหน่อยได้มั้ย”
“ผมว่าคุณมุกเข้าใจอยู่แล้วละครับ ผมคงไม่ต้องอธิบาย ผมขอตัวนะครับ”
ดวงแกะมือสายมุกที่กอดเขาไว้ แล้วเดินออกไป ปล่อยให้เธอร้องไห้คร่ำครวญอยู่ลำพัง...ดวงเดินออกมาจากบ้านคุณนายด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน...สายมุกร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เข้าใจว่าทำไม และไม่รู้ทำอย่างไร

ดวงเดินเหม่อๆถือกระเป๋าเสื้อผ้า ไม่มีที่ไป เจอประเวศ กับดาราเข้ามาหา
“ดวงไปตรวจดีเอ็นเอเดี๋ยวนี้”
ดารารั้งแขนประเวศไว้
“ไม่ต้องหรอกมั้งพี่ ไม่เป็นไรหรอก”
“ทำไมอยู่ๆก็ห้ามจังเลยเนี่ย เงินน่ะ ไม่อยากได้รึไง”
ดาราไม่แน่ใจ
“ก็ถ้าตรวจแล้วมันไม่ใช่ล่ะ”
ประเวศมองหน้าดารา
“ไม่ใช่ หมายความว่าไง หมายความว่าดวงไม่ใช่ลูกฉันเหรอ แล้วเป็นลูกเธอกับใคร”
“ไม่ใช่แบบนั้น หมายถึงว่าถ้าเราไม่ใช่พ่อแม่จริงๆของเขา เราจะไม่โดนตำรวจจับรึไง”
“อ้าว...ก็ไหนบอกว่าทุกอย่างบอกว่าใช่ชัวร์ไง”
ดวงงงไปหมดที่มีเรื่องสารพัดเข้ามา
“นี่มันอะไรกันครับเนี่ย”
คนแคระเดินผงาดเข้ามา ไม่สนใจดาราว่าห้ามมาเจออีก
“ถ้าอยากจะตรวจดีเอ็นเอกันนักละก็ ฉันก็ขอไปตรวจด้วยคน”
ประเวศหันไปมองคนแคระงงๆ ดาราตกใจ
“ไอ้นี่ใครเนี่ย มันอีกแล้วเหรอ”
คนแคระจ้องหน้าประเวศ
“วัดกันไปเลย ให้มันรู้กันไป ว่าฉันกับแกน่ะ ใครกันแน่”
ประเวศไม่เข้าใจ
“นี่แกพูดอะไรของแกเนี่ย ห๊า”
ต๋อยปั่นจักรยานเด็กเข้ามาใส่เสื้อวิน มีลูกค้าเป็นเด็กน้อยซ้อนอยู่
“นี่มายืนคุยอะไรกันเนี่ย”
“เอ็งมาก็ดีแล้ว” คนแคระบอกทุกคน “นี่สมุนข้าเอง ถ้ามีปัญหาอะไรระวังไว้ให้ดี”
ดาราเห็นต๋อยก็ถึงกับช็อค เอามือปิดปาก
“คุณพระ! เด็กคนนั้น...” ดารามองต๋อย สลับกับคนแคระ “เหมือนกันยังกับแกะ”
ประเวศยิ่งงง
“อะไร...นี่ลูกแกรึไง จะเอามาตรวจดีเอ็นเอด้วยกันเลยมั้ย”
คนแคระโวย
“ไม่ใช่ลูกเว้ย ลูกสมุน...”
ดาราหน้าเสียที่เห็นต๋อย ดวงเองก็ไม่ไหวกับทุกคน
“หยุดสักทีได้มั้ยครับเนี่ย ผมไม่ขอยุ่งกับเรื่องพวกนี้อีกแล้ว”
ถนอมเข้ามาเป็นคนสุดท้าย สมทบอีกคน
“ไม่ได้ ดวงต้องไป เรื่องนี้จะได้จบซักที”
ดวงมองทุกคน สับสนไปหมดกับหลายเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา

ทุกคนมาที่ที่เคาน์เตอร์โรงพยาบาล ประเวศเข้าไปบอกเจ้าหน้าที่
“พวกเรามาตรวจดีเอ็นเอครับ”
ดาราพยายามแย้ง
“ไม่เอา ฉันไม่ตรวจ”
ประเวศดุ
“อย่าเรื่องมากได้มั้ย นี่แปลว่าเธอไม่บริสุทธิ์ใจใช่มั้ย”
คนแคระยิ้มเย้ย
“จะกลัวอะไรเล่า ดารา”
ดารากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องยอมตรวจด้วย ต๋อยพยายามปฏิเสธ
“ผมไม่เกี่ยว แค่หลงมาเฉยๆ”
ดาราหันมาดุ
“เธอน่ะตัวดีต้องตรวจเลย”
ต๋อยหน้าเหวอ
“ห๊า”
ถนอมตัดบท
“อย่าเรื่องมากเลย ก็ตรวจกันหมดนี่เนี่ยแหละ ความจริงทั้งหมดจะได้เปิดเผยสักที ฉันก็ไม่ไหวกับเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน”
คนแคระมองถนอม
“แล้วนี่เกี่ยวอะไรกับเขาด้วยเนี่ย”
ดวงถอนใจ
“ครับ ตรวจก็ตรวจกัน จะได้จัดการเป็นเรื่องๆไป”
พยาบาลพาทั้งหมดไปที่ห้องตรวจ

สายมุกเสียใจเรื่องดวงมาก นั่งซึมไม่เป็นอันทำอะไรอยู่ในห้องรับแขก คุณนายสร้อยเพชรเดินเข้ามาหา
“มุก แม่ขอโทษ แม่รู้ว่าแม่ทำไม่ดี”
“มุกขออยู่คนเดียวสักพักนะคะแม่”
คุณนายสร้อยเพชรเขยิบมานั่งข้างๆ สายมุกลุกขึ้นหนี แล้วเธอก็วูบลงไปอีก คุณนายสร้อยเพชรตกใจ
“มุก เป็นอะไรมากมั้ยลูก”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“แม่ว่าไปโรงพยาบาลดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ มุกมียา”
“เชื่อแม่หน่อยเถอะลูก ถึงแม่จะเห็นแก่ตัว อยากได้ของคนอื่น แต่แม่ก็ยังเป็นแม่ ยังรักมุกนะลูก”
สายมุกมองแม่ปฏิเสธไม่ได้

ทั้งหมดนั่งรอผลกันอยู่ที่หน้าห้องตรวจ ต๋อยบ่นๆ
“ไม่เข้าใจเลย ทำไมฉันต้องไปตรวจกับเขาด้วยเนี่ย”
ถนอมหันถามดวง
“เธอกลัวความจริงมั้ยดวง”
“ผมไม่ใช่คนที่มีอะไรต้องเสียนี่ครับ ผมไม่กลัวอะไรหรอก”
“ก็ดี...ระหว่างที่รอผลตรวจเนี่ย ฉันก็อยากจะเล่าอะไรบางอย่างให้ดวงฟัง”
ดวงงงๆ
“ให้ผมฟัง”
“เธอจำเรื่องที่ฉันเคยเล่าให้เธอฟังได้มั้ย เรื่องที่ฉันเอาลูกฉันไปทิ้ง”
“อ๋อ จำได้ครับ”
ประเวศหันมาด่า
“สันดานแกก็เป็นแบบนี้เหมือนกันเหรอ”
“ฉันมีเหตุผลของฉัน ถ้าไม่เกี่ยว ช่วยฟังเฉยๆด้วย”
ประเวศจ๋อยไป ถนอมเล่าต่อ
“เรื่องต่อจากนั้นก็คือ...พอฉันทิ้งลูกชายของฉัน ฉันก็กลัวว่าฉันจะไม่มีอะไรเชื่อมโยงถึงเขาเลย ฉันเลยถอดตุ้มหูของฉัน ทิ้งไว้กับลูกของฉันข้างนึง แล้วฉันก็บอกกับเขาว่า...ถ้าวันใดที่เราได้กลับมาเจอกันอีก ฉันจะให้ตุ้มหูอีกข้างที่เหลือกับเขา”
ดวงได้ฟังถึงกับตาค้าง ดวงเอามือจับตุ้มหูที่ใส่อยู่ทั้งสองข้าง เขานึกถึงตุ้มหูอีกข้างที่เขาได้มาทีหลัง หลังจากเจอถนอม
“คุณ...”
ดาราขัดขึ้น
“ก็แค่ตุ้มหูข้างเดียว ใครจะเก็บไว้ ทิ้งไปหมดแล้ว จะทิ้งอะไรทั้งทีทำไมไม่ทิ้งของมีค่ากว่านั้นเล่า โง่จริงๆ”
ดวงช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน
“ผมขออยู่คนเดียวซักแป๊บนึงนะครับ”
ดวงเดินแยกออกไป คนอื่นๆงง ประเวศบ่นๆ
“เป็นอะไรของมัน”
ถนอมมองดวง ใจเขาก็ยังตื่นเต้นที่สารภาพความจริงออกไป พอดวงออกไป สายมุกกับคุณนายสร้อยเพชรก็เข้ามาอีกทาง เพื่อมาตรวจ แต่ก็ไม่ได้เห็นคนที่นั่งรออยู่ด้านหน้า
ดวงดินมาตามลำพังเขาสับสนไปหมด เขานึกถึงตั้งแต่ที่เขาเจอถนอม วันที่เขาไปช่วยถนอม ถนอมให้ล็อตเตอรี่ วันที่ถนอมมาช่วยเขาแล้วโดนแทง ดวงน้ำตาไหล

สายมุกออกมาจากห้องน้ำ เจอกับถนอมพอดี
“หนูมุก ลุงกำลังเป็นห่วงดวงอยู่พอดี”
“ดวง...ดวงเป็นไรคะ”
“ลุงสารภาพความจริงกับดวงไปแล้ว”
สายมุกงงๆ
“ความจริง”
ถนอมลำบากใจที่จะพูด

คุณนายสร้อยเพชรยืนชะเง้อชะแง้รอลูกสาว
“ทำไมยายมุกถึงไม่กลับมาจากห้องน้ำซักทีเนี่ย”
คุณนายสร้อยเพชรเป็นห่วงลูกสาว

สายมุกวิ่งตามหาดวงไปทั่วโรงพยาบาลอย่างเป็นห่วงมาก...ดวงปวดหัวไปหมดทั้งเรื่องพ่อ ทั้งเรื่องสายมุก เขานั่งกุมขมับเครียด แล้วหนูดีก็เดินมาหาเขา
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าดวง ที่ตลาดบอกว่าดวงมาโรงพยาบาล”
“ผมสับสนไปหมดแล้วตอนนี้ ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี”
หนูดีเข้าไปกอดดวง
“ไม่เป็นไรนะดวง”
“คุณพูดถูกทุกอย่างเลย”
“ไม่ต้องเล่าหรอก...ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไง ฉันก็อยู่ข้างดวงเสมอ”
สายมุกวิ่งมาเจอภาพหนูดีกำลังกอดกับดวงพอดีเธอชะงัก ถอยกลับ แล้วเธอก็วูบล้มไปพยาบาลต่างมาช่วยมามุงเธอ ดวงหันมาดู แต่คนมุงไม่เห็นว่าเป็นใคร

ทั้งหมดนั่งกันอยู่หน้าห้องตรวจ รอผล คุณนายสร้อยเพชรเดินผ่านทั้งหมดที่นั่งอยู่ ต๋อยหันไปเห็นก็ทักทาย คนอื่นๆมองนิ่งๆ
“อ้าว คุณนายสร้อยเพชร สวัสดีครับ”
“นี่มาทำอะไรกันที่นี่เนี่ย”
“มาตรวจดีเอ็นเอ”
“ทำไม ใครไปฆ่าคนเหรอ”
“เขาหาพ่อลูกกัน ผมไม่เกี่ยวหรอก”
“แล้วนี่ ใครเห็นสายมุก ลูกฉันบ้างมั้ย”
“เอ...ไม่เห็นเลยนะครับ”
พยาบาลถือผลตรวจออกมา ยิ้มแย้ม
“ผลออกมาแล้วนะคะ”
ประเวศกับ คนแคระ วิ่งไปออรอผลตรวจ ดาราหนักใจไม่อยากฟังนัก คุณนายสร้อยเพขรกับต๋อย ยืนฟังด้วย พยาบาลหันมาถาม
“คนไหนชื่อคุณดวงคะ”
ประเวศรีบบอกอย่างร้อนใจ
“ไม่อยู่หรอก รีบๆบอกผลมาเลยดีกว่า เดี๋ยวฉันไปบอกดวงให้”
“ได้ค่ะ คนที่เกี่ยวพันทางสายเลือดกับคุณดวง ก็คือ...”
ประเวศ ดารา คนแคระ ลุ้นๆ
“คุณถนอมค่ะ คนไหนคุณถนอมคะ”
ประเวศตะลึง

“ห๊ะ...ไอ้คนเมื่อกี้น่ะนะ แล้วๆๆผมล่ะ ผมไม่เกี่ยวอะไรกับดวงเลยเหรอ”

“คุณชื่ออะไรคะ”

“ประเวศ”
“คุณประเวศเป็นคนเดียวที่ไม่เกี่ยวกับใครเลยค่ะ”
ประเวศงงๆ
“คนเดียว หมายความว่าไง”
ดาราหน้าเสียกับความจริงที่จะได้ยิน
“ก็หมายความว่า คุณแคระกับคุณดารา มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับคุณต๋อยไงคะหรือจะเรียกๆง่ายว่าเป็นพ่อแม่คุณต๋อยก็ได้ค่ะ”
ประเวศช็อค
“ห๊า”
ต๋อยอึ้งๆ
“พ่อแม่ผมเหรอ”
ต๋อยหันไปมองหน้าคนแคระ กับดารา คนแคระก็ตาค้างมองต๋อย พยาบาลเดินแยกตัวออกไป
“ลูกพ่อ”
สองคนแคระโผเข้ากอดกัน ส่วนประเวศจ้องดาราตาเขียว
“อ๋อ แกแอบมีชู้กับไอ้นี่” ประเวศชี้คนแคระ “แล้วพอลูกคลอดออกมาเป็นไอ้นี่” ประเวศชี้ต๋อย “แกกลัวฉันจะรู้ความจริง เลยเอาลูกไปทิ้งใช่มั้ย”
ดาราหน้าเสีย
“ฉันขอโทษพี่”
ประเวศโวยดาราจะเอาเรื่อง คุณนายสร้อยเพชรมองทุกคน
“นี่มันเรื่องวุ่นวายอะไรกันเนี่ย แล้วสายมุกอยู่ไหน”
โทรศัพท์ดังขึ้น คุณนายสร้อยเพชรกดรับ
“อะไรนะคะ สายมุกน่ะเหรอ ค่ะ ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
คุณนายสร้อยเพชรวิ่งออกไป

หนูดีเปิดประตูห้องโรงแรมเข้ามา ดวงเดินตามเข้ามาอย่างเกรงใจ
“ไม่ต้องให้ผมพักดีขนาดนี้ก็ได้ครับ ผมเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ยังไงฉันก็อยากช่วยดวงอยู่แล้ว”
“ขอบคุณคุณหนูดีมากนะครับที่ดีกับผมมาตลอด”
“ฉันอยากให้โลกนี้ยังมีคนดีๆอย่างดวงหลงเหลืออยู่บ้าง”
“บางทีผมอาจจะไม่อยากเป็นคนดีอีกแล้วก็ได้”
“ไม่เอาสิดวง อย่าพูดแบบนั้น เดี๋ยวอะไรๆมันก็จะดีขึ้น”
ดวงถอนหายใจ
“อย่างน้อยดวงก็ยังมีฉันนะ”
ดวงยิ้มเศร้าๆ หนักใจกับชีวิต

ค่ำนั้น...นักเลงมองขึ้นไปบนโรงแรมแล้วกดโทรศัพท์โทรออก
“ยายหนูดีพาไอ้ดวงมาพักโรงแรม ตามแผนที่ตกลงกันไว้แล้วครับ ดำเนินการต่อเลยนะครับนาย”
หนูดีรินน้ำใส่แก้วคนละแก้วสำหรับเธอและดวง
“มาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำก่อนดวง”
หนูดียื่นน้ำให้ แล้วก็ดื่มในแก้วตัวเอง แล้วทั้งคู่ต่างก็มึน ล้มพับไป โอมกับนักเลงเปิดประตูเข้ามา
“ถึงคราวของฉันบ้างแล้วล่ะยายหนูดี ทำตัวเป็นฉลาด ที่แท้ก็โง่ไม่แพ้คนอื่นหรอก”
“จัดการยังไงต่อครับนาย”
“จัดฉากแล้วถ่ายรูปแบล็คเมล์ แค่นี้ก็จบ ดูซิ สายมุกจะกล้ามาเอาไอ้ดวงที่เคยมีอะไรกับเพื่อนตัวเองมั้ย”
“แผนเจ้านายนี่ลึกล้ำจริงๆ”
โอมกับนักเลงหัวเราะกันสะใจ

สายมุกฟื้นขึ้นมาบนเตียงของโรงพยาบาล มีแม่เฝ้าอยู่
“ฟื้นแล้วเหรอยายมุก เจ็บตรงไหนมั้ยลูก”
“ตกลงมุกเป็นอะไรคะเนี่ย”
“หมอว่าเป็นอาการปกติของคนที่สมองกระทบกระเทือน”
“ค่ะ”
สายมุกเมินไปทางอื่น
“มุกยังโกรธแม่อยู่เหรอลูก”
“เปล่านี่คะ”
“แม่ขอโทษ แม่รู้ว่าแม่ทำตัวไม่ดีที่ไปอยากได้เงินของดวงเขา”
“แม่ไม่ต้องขอโทษมุกหรอกค่ะ ไปขอโทษดวงดีกว่า”
“แม่รู้ว่าแม่ก็ไปพูดไม่ดีกับหนูดี ที่ไม่ให้มาแย่งเงินของดวงด้วย”
“ห๊า แม่ไปพูดกับหนูดีแบบนั้น ถึงว่า...”
“แม่ขอโทษ”
“แม่ไปขอโทษหนูดีอีกคนด้วยก็แล้วกันค่ะ หนูดีเขาเลิกคบมุกไปแล้ว”
“มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอ”
“แม่คะ ขอมุกพักนะคะ มุกยังไม่อยากฟังอะไรตอนนี้”
สายมุกหันหลังให้ ภาพดวงกับหนูดีที่กอดกันแวบเข้ามา สายมุกน้ำตาไหลเธอพยายามข่มตาให้หลับ ข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น คุณนายหยิบมือถือจ๋อยยื่นให้สายมุก
“มีข้อความมาถึงลูก”
สายมุกรับโทรศัพท์มาเปิดดู เป็นรูปหนูดีกับดวงนอนด้วยกันในผ้าห่มที่โรงแรม สายมุกช็อคน้ำตาไหลไม่หยุด
“มุกเป็นอะไรลูก มุกร้องไห้ทำไม”

ดวงฟื้นขึ้นมาในโรงแรม แล้วเขาก็เห็นหนูดีนอนข้างๆ เขาตกใจและยิ่งพบว่าตัวเองเปลือยอยู่ ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ หนูดีเองรู้สึกตัวขึ้นมาก็ตกใจไม่แพ้กัน
“นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง”
หนูดีพูดไม่ออก พยายามทบทวน แล้วก็นึกถึงโอมขึ้นมา
“โอม ต้องใช่แน่ๆ”
หนูดีเจ็บใจ

หนูดีลงมาที่ล็อบบี้อย่างรีบร้อน จะไปหาโอม ปรากฏว่าโอมนั่งรอเธออยู่แล้ว
“แกมาทำอะไรที่นี่”
“นี่เธอไม่รู้เหรอว่าโรงแรมนี้ เป็นของบ้านฉัน”
หนูดีโกรธมาก
“แกนี่มันเลวจริงๆ แผนแกทั้งหมดใช่มั้ยที่เป็นแบบนี้”
“ก็อยากได้อย่างงี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฉันรักดวงก็จริง แต่ฉันไม่ได้อยากได้ตัวเขา ฉันอยากได้ใจเขา ถ้าใจเขาอยู่กับคนอื่น ฉันก็จะไป ไม่ใช่ทำอะไรทุเรศๆแบบนี้”
โอมยิ้มหยัน
“เสียใจด้วยนะ ป่านนี้สายมุกคงเห็นรูปแล้ว ไอ้ดวงคง...หมดสิทธิ์ทุกอย่าง”
หนูดีเจ็บแค้นมาก
“เลว...ทำร้ายได้แม้กระทั่งคนที่ตัวเองรัก แบบนี้คงไม่ได้เรียกว่ารักสินะ”
“อย่าคิดอะไรมากเลยน่า แค่นี้ไอ้ดวงมันก็รับผิดชอบเธอแล้ว”
หนูดีโกรธโอมเดินหุนหันออกไป

คุณนายเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า มีอาหารการกินครบชุดเตรียมไปเยี่ยมสายมุก หนูดีเดินเข้ามาในบ้าน
“หนูมาหาสายมุก”
“สายมุกไม่อยู่หรอก นอนอยู่โรงพยาบาล”
“มุกเป็นอะไร หรือว่าเรื่องของหนู”
“ฉันขอโทษนะหนูดี ที่พูดไม่ดีกับเธอ ฉันมันเป็นพวกขี้ขโมยเหมือนเธอว่า แต่มุกเขาไม่รู้เรื่องนี้ด้วยหรอกนะ ฉันคิดฉันทำของฉันเอง แล้วฉันก็สำนึกผิดแล้ว”
หนูดียิ่งเสียใจที่ได้ยินแบบนั้น
“โธ่ มุก!”
หนูดีรีบออกไปทันที

สายมุกนอนอยู่บนเตียงอย่างซังกะตาย หนูดีเปิดประตูเข้ามา สายมุกเห็นหลบหน้า
“เธอเป็นยังไงบ้าง”
“สมใจเธอแล้วสินะ เธอจะขัดขวางฉันกับดวงทุกอย่างไม่ใช่เหรอ”
หนูดีหน้าเศร้าหมองลง
“มุก ฉันขอโทษ ยกโทษให้ฉันเถอะนะ ฉันมันโง่เองล่ะ ที่หลงเชื่อแผนชั่วของไอ้โอมมันน่ะ”
“ฉันไม่เป็นไรหรอก ถ้าเธอมีความสุข ฉันก็ดีใจด้วย”
“มุก”
ทั้งคู่กอดคอกันร้องไห้
“ฉันขอโทษจริงๆ”

ดวงเดินมาที่แผงหน้าตาไม่สบายใจ เขาเห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ก็เปิดอ่าน
“ขอให้เธอมีความสุขนะ”
ดวงเห็นข้างในเขียนชื่อห้องพักและโรงพยาบาลไว้ ดวงอ่านแล้วตกใจ
“คุณหนูดี”
ดวงรีบวิ่งออกไปทันที

หนูดีหยิบพาสปอร์ตขึ้นมาในมือ เธอยิ้มเศร้าๆ จากไปพร้อมน้ำตา...ดวงรีบมาตามที่หนูดีเขียนไว้ในกระดาษ แล้วก็เจอคุณนายสร้อยเพชรเปิดประตูออกมา ดวงงงๆ
“คุณหนูดีล่ะครับ”
“หนูดีเขาไปแล้ว”
“ถ้างั้นข้างในก็...”
“ใช่...ดวง ฉันขอโทษนะ ที่คิดไม่ดีกับเธอ หนี้ทั้งหมดของเธอฉันยกให้ ฉันไม่อยากได้อะไร นอกจากอยากให้ยายมุกกลับมาสดใสเหมือนเมื่อก่อน”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างที่ทำให้ผม”
คุณนายน้ำตาไหล
“เธอนี่มันเป็นคนดีจริงๆ”
คุณนายสร้อยเพชรยิ้มให้ ดวงพยักหน้าเคารพแล้วเปิดประตูเข้าไปข้างใน

ดวงเดินเข้ามาหา สายมุกเห็นก็ทำหน้าไม่ถูก
“ผมขอโทษที่ผมเข้าใจคุณผิด”
“ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี...”
“คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอก”
ดวงหยิบสมุดโน้ตที่เขาชอบจดบันทึกเป็นประจำยื่นให้ สายมุกเปิดดูด้านใน มันเต็มไปด้วยรูปวาดของเธอเต็มไปหมด สายมุกเห็นแล้วน้ำตาไหล โผเข้ากอดดวง
“แต่งงานกับผมได้มั้ย”
สายมุกพยักหน้ารับ ไม่พูดอะไร กอดกันมีความสุข

ต๋อยอ่านหนังสือพิมพ์กับคนแคระ มีคอลัมน์เขียนว่าโอมโดนจับเพราะว่าค้ายาเสพติดและมีคอลัมน์ที่เขียนถึงตลาดสร้อยเพชร ในนั้นมีรูป แฝดนิชคุณ อั้ม ลั้นลา คณะลิเก ซัน แหวว เป้ง ต๋อย เต็มไปหมด โดยพาดหัวว่า “ตลาดสดที่มีสีสันที่สุด” ตลาดสร้อยเพชรกลายเป็นตลาดดัง คนแคระยิ้มดีใจกับต๋อย
“ลูกพ่อได้ลงหนังสือพิมพ์ด้วย เก่งจริงๆเลย”
“แน่นอนอยู่แล้วพ่อ”
คุณนายสร้อยเพชรเดินผ่านคนที่คึกคักมองดูไปทั่วตลาดอย่างภูมิใจ...ถนอมกับดวงและสายมุกยืนอยู่ด้วยกันอีกมุมหนึ่งของตลาด
“ขอให้ลูกทั้งสองคนอายุมั่นขวัญยืน แต่งงานกันไปอยู่ด้วยกันไปจนตายจากกันนะลูก”
“ขอบคุณนะครับพ่อ”
ดวงกับถนอมกอดกัน สายมุกมองยิ้มๆ ซันกับแหวว และอาซ้งเข้ามาสมทบ
“ไอ้คู่นี้ก็ไม่ได้น้อยหน้านะ จะแต่งกันเหมือนกัน”
ซันยิ้มแย้ม
“เรื่องอะไรจะให้ไอ้ดวงมันแต่งก่อนล่ะ ฉันไม่ยอมหรอก”
แหววยิ้มๆ
“เจ้าสาวทางนี้ก็สวยไม่แพ้กันเหมือนกันนะ”
ดวงแซว
“จ้า สมกันขนาดนี้”
ซันกับแหววจับมือกันรักกันแนบแน่น ดวงกับสายมุกจับมือยิ้มให้กัน คุณนายสร้อยเพชรเดินมา สายมุกกับดวงปล่อยมือกัน เกร็งๆ
“นี่ฉันยอมรับเธอเป็นลูกเขยเนี่ย ไม่ลืมใช่มั้ยว่าเงื่อนไขเดียวที่ฉันต้องการคืออะไร”
ดวงยิ้มรับ
“ไม่ลืมครับ...ผมจะสืบทอดการนวดแผนไทยจากคุณนาย”
“ดีมาก ฉันต้องการแค่นี้แหละ”
ถนอมหยิบเช็คขึ้นมาโบกไปมา
“ถ้างั้นก็แปลว่า คุณนายไม่ได้อยากได้ค่าสินสอดละสิครับ”
คุณนายสร้อยเพชรชะงัก
“สินสอด...ฉันจะได้ด้วยเหรอ ดวงมันไม่มีเงินนี่”
“ดวงไม่มี แต่ผมเป็นพ่อดวง ผมมี”
ถนอมยื่นเช็คจำนวนเงินยี่สิบล้านบาทให้ คุณนายสร้อยเพชรเห็นตัวเลขก็ตกใจ
“ตายแล้ว นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเนี่ย”

คุณนายสร้อยเพชรเซแทบจะเป็นลม ซันกับแหววช่วยประคองไว้ คุณนายสร้อยเพชรดีใจมาก ทุกคนยิ้มมีความสุข บรรยากาศตลาดที่แสนจะคึกคัก...

                                       จบบริบูรณ์
 
โปรดติดตาม "น้องเมีย" เร็วๆ นี้ ทางละครออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น