xs
xsm
sm
md
lg

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 29

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 29

ดวงคุยกับถนอมในห้องพักฟื้น

“พอสิครับ คุณช่วยผมไว้ทั้งที่ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คุณจะต้องทำขนาดนั้น”
“มีสิ...เหตุผลน่ะคือ...”
พยาบาลเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับยาและอาหาร
“ได้เวลาทานอาหารแล้วค่ะ ส่วนยาทานหลังอาหารนะคะ”
“ครับ”
ดวงจัดแจงอาหารเพื่อจะป้อนให้ถนอม
“ไม่ต้องหรอกดวง ฉันทานเองได้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องแค่นี้เอง”
ดวงจัดแจงป้อนอาหารให้ ถนอมแค่กินเข้าปากคำแรกน้ำตาก็คลอเบ้า
“ฉันไม่คิดเลยว่า คนอย่างฉันจะมีวันนี้”
“ทำไมเหรอครับ”
“เปล่าหรอก”
“เมื่อกี้เหมือนเราคุยอะไรค้างไว้...ใช่มั้ยครับ”
“ฉันเองก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน”
ถนอมมองหน้าดวงยิ้มเศร้า

สายมุกนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ในห้องรับแขก พะวงคุยโทรศัพท์กับเพื่อน เสียงดังมาถึงสายมุก
“แกได้ดูรึเปล่า ตอนเมื่อคืนที่นางเอกเป็นลมแล้วพระเอกก็เข้ามากอดไว้ ฉันดูแล้วหัวใจตื๊ดๆมากเลย”
สายมุกมองพะวง นึกถึงที่เธอวูบแล้วดวงประคองเธอไว้ สายมุกเอามือจับหัวใจ ถอนหายใจ
“เออ แค่นี้ก่อนนะแก ไปทำงานก่อน เดี๋ยวโดนบ่น”
สายมุกถอนหายใจ ตกในภวังค์ อาการดูผิดปกติ พะวงมองๆ
“คุณมุกเป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“เปล่าๆ”
“คุณมุกได้ดูละครเมื่อคืนมั้ยคะ”
สายมุกยกมือห้ามทันที
“ไม่ต้องเล่า ไม่ต้องเล่า พอแล้ว”
“ทำไมละคะ”
“ไม่มีไร อายุปูนนี้ยังติดละครอีกนะ”
สายมุกลุกจะออกไปจากห้อง แต่แล้วเธอก็วูบล้มพับลงข้างเก้าอีก พะวงตกใจ
“ตายแล้วคุณมุก” พะวงประคอง “เป็นไรรึเปล่าค่ะ”
“แค่วูบนิดหน่อย”
“จากที่โดนตีหัวแน่ๆเลย พะวงว่าคุณมุกควรไปเช็คหน่อยนะคะ”
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง”
“อาการทางสมองเนี่ย น่ากลัวนะคะ ถ้าเป็นหนักรักษายาก ตาอาจจะพร่าลงเรื่อยแล้วบอดในที่สุดหรืออัลไซเมอร์ ค่อยๆลืมทีละอย่าง จนทำอะไรเองไม่ได้”
“พูดซะ...เดี๋ยวฉันไปเช็คก็ได้”
“ดีค่ะ รู้แต่เนิ่นๆ จะได้รักษาถูก”
“นี่จะไม่คิดว่าฉันไม่เป็นอะไรมั่งเลยรึไง”
สายมุกถอนหายใจ

สายมุกนั่งรอผลตรวจอยู่ในห้องตรวจ หมอเดินเข้ามา
“จากผลสแกนทุกอย่างก็ดูปกติดี แต่หมอเดาว่าสิ่งที่คุณเป็นอยู่เนี่ย อาจเกิดจากการกระทบเทือนที่ค่อนข้างรุนแรงนะฮะ จะมีอาการเบลอๆมึนๆเนี่ยในช่วงแรกๆ ก็แนะนำให้พักเยอะๆนะครับ แล้วก็เคลื่อนไหวช้าๆ จะช่วยได้”
“ไม่ได้มีอะไรรุนแรงนะคะ”
“ไม่น่ามีนะครับ ไม่ทราบว่าโรคประจำตัวอื่นรึเปล่าครับ เช่นโรคความดันโลหิต หรือโรคหัวใจ”
สายมุกเหม่อๆ จับหัวใจ
“เหมือนช่วงนี้หัวใจจะเต้นผิดปกติค่ะ”
“จะตรวจด้วยเลยมั้ยครับ”
“เปล่าค่ะ พูดไปลอยๆเฉยๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ”
สายมุกยิ้มแหยๆ

สายมุกนั่งเหม่อรอรับยา ดวงเดินมาเห็นพอดี
“คุณมาทำอะไรที่นี่น่ะ”
สายมุกลุกขึ้นทันที แล้วเธอก็เซอีก ดวงประคองสายมุกไว้
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่า”
สายมุกผลักดวงออก เขินๆ
“ไม่เป็นอะไรได้ยังไง นี่คุณเหมือนจะเป็นลมเลย”
“ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ”
เสียงประกาศให้สายมุกไปรับยาดังขึ้น
“นั่นไง คนไม่เป็นอะไรไม่เห็นต้องมียากินเลย”
“ก็...สมองกระทบกระเทือนนิดหน่อย เลยวูบน่ะ เดี๋ยวก็หาย”
“แล้วนี่คุณมากับใคร”
“คนเดียว”
“แบบนี้ถ้าเป็นอะไรตอนขับรถจะทำยังไง”
“ไม่เป็นหรอก”
“รอผมทำธุระนิดนึงได้มั้ย เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณเอง”
“ไม่ต้องหรอก”
“อย่าดื้อได้มั้ย”
สายมุกปฏิเสธไม่ได้ ได้แต่ถอนใจ

แหววมาช่วยซันขายไข่ที่แผง
“หยิบหนังสือพิมพ์ให้หน่อยสิ”
แหววเอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมพ์ ซันตั้งใจเอื้อมไปหยิบเช่นกัน มือเลยจับกันพอดี ซันยิ้ม
“อุ๊ย ใจตรงกันเลย”
แหววเขิน
“ไอ้บ้า”
ซันจับมือแหววไม่ปล่อย
“ปล่อยสิ เดี๋ยวใครมาเห็น”
“ใครมาเห็นก็ดีสิ จะได้รู้ว่าเธอน่ะเป็นแฟนฉันแล้ว”
“ไม่ดีมั้ง...”
“ทำไม...อายรึไงที่เป็นแฟนฉัน”
“ไม่ใช่แบบนั้น”
อาซ้งเดินมาที่แผง
“อะไรของพวกเอ็งสองคนเนี่ย ยุกยิกดุ๊กดิ๊ก เดี๋ยวก็ไปฟาดไข่ตกมาแตกพอดี”
แหววถือโอกาสชักมือออกจากซันทันที
“พ่อมาก็ดีแล้ว ผมมีข่าวจะบอก ว่าผมกับแหววน่ะ”
แหววตัดบทขึ้นมาทันที
“ไปสู้กับพวกโจรมานะลุง”
“เออ ข้าก็จะมาถามเอ็งเรื่องนี้แหละ ไอ้ดวงมันเป็นไงบ้าง”
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ มีคนมาช่วยอีกคน”
“ใครวะ”
ซันหันมาบอก
“ลุงแก่ๆคนนึง แต่สู้เก่งมากเลยนะ เสียดายพลาดท่า โดนแทงซะได้”
“ลุงแก่ๆที่ไหนวะ”
“คนที่ฉันเคยเล่าไง ที่อยู่ๆก็มาบอกฉันว่าไอ้ดวงอยู่ในอันตราย แล้วก็อันตรายจริงๆซะด้วย ไม่รู้ว่ารู้ได้ไง”
อาซ้งสงสัย
“แล้วตอนนี้คนๆนั้นอยู่ที่ไหน”

“ก็คงอยู่โรงพยาบาล เพราะว่าเพิ่งผ่าตัดเสร็จละมั้ง”

“งั้นพาฉันไปพบคนๆนี้ทีสิ”

“อะไรของพ่อเนี่ย”
“เอาเถอะน่า พาไปก็พอ”
ซันงงๆ มองหน้าแหวว ไม่เข้าใจพ่อตัวเองนัก ทันใดนั้นโทรศัพท์แหววดังขึ้นพอดีแหววรับสาย
“ค่ะ ใช่ค่ะกำลังพูด...หมายความว่าไงคะ...แคสงานผ่าน ฉันเนี่ยนะคะผ่าน...ก็แปลว่า...ได้งานโฆษณาชิ้นนั้นน่ะเหรอค่ะ จริงเหรอค่ะ ค่ะ ได้ค่ะ ค่ะ ว่างค่ะ ไปได้เลยค่ะ”
แหวววางหู ซันถามทันที
“อะไรน่ะ”
“ฉันได้เล่นโฆษณาแล้ว” แหววดีใจมาก “ฉันไปก่อนนะ”
“อ้าว ไม่ไปโรงพยาบาลด้วยกันเหรอ”
“ฉันไม่ว่างแล้ว คิวเต็ม เอาไว้พรุ่งนี้เจอกันละกันนะ”
แหววดีใจรีบแยกไป ซันมองเซ็งๆ

ลั้นลาถือล็อตเตอร์รี่กำใหญ่มาเขวี้ยงใส่หน้าอั้ม
“นี่ไงศูนย์แปดของหล่อน”
“อ้าว...ไหนบอกไม่เชื่อ จะไม่ซื้อ”
“แค่เสี่ยงทายดู ฉันชอบคาดเดาตัวเลขของรัฐบาล”
“งั้นก็ไม่ต้องมาโทษลูกฉัน”
“ก็ลูกแกเป็นคนให้หวย จะไม่โทษได้ยังไงยะ ฉันซื้อมาเหมาแผงเลยเนี่ย ไหนบอกเด็กวิเศษไง”
“คนอื่นเขาไม่เห็นจะมาโทษลูกฉันเหมือนแกทำเลย แกน่ะงมงาย”
แฝดนิชคุณคลานสะบักสะบอมเข้ามา รอยเท้าเต็มตัวหน้าช้ำ ปากคาบรองเท้าติดมาด้วย อั้มเห็นเข้าก็ตกใจ
“ว๊ายตายแล้ว ใครทำอะไรลูก”
ลั้นลามองแฝด
“ไหนบอกคนอื่นไม่ว่าไรไง ดูสภาพสิ น่าเวทนาจริงๆ”
“หมดกันความศักดิ์สิทธิ์ที่สั่งสมมา”
แฝดนิชคุณพูดเลือดกลบปาก

ซันพาอาซ้งมาที่เคาน์เตอร์โรงพยาบาล
“คุณพยาบาลครับ คนไข้ที่โดนแทงเมื่อวานที่ต้องผ่าตัดอยู่ห้องไหนพอทราบมั้ยครับ”
“อ๋อ คุณลุงคนนั้น เดี๋ยวฉันเช็คให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ซันกับแหววยืนรอพยาบาลเช็คกับคอม อาซ้งหยิบกระเป๋าสตางค์ที่ดวงฝากไว้กับเขาขึ้นมาดู
“ฉันหวังว่าคุณจะเป็นเจ้าของกระเป๋าสตางค์ใบนี้นะ”
ซันเห็นอาซ้งทำท่าแปลกๆเดินเข้ามา
“บ่นอะไรน่ะพ่อ”
อาซ้งรีบเก็บกระเป๋าสตางค์
“อย่ายุ่งน่า”
“เอ้า ก็เป็นคนพามาแท้ๆนะเนี่ย”
พยาบาลหันมาบอก
“เดี๋ยวเชิญฉันสามเลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
อาซ้งร้อนใจ
“ไปเร็วๆ”
ซันงงๆ
“จะรีบไปไหนเนี่ย”
ซันพาอาซ้งเดินไป

ดวงพาสายมุกมาหาถนอมที่ห้องพักฟื้น
“ผมพาคนมาเยี่ยมน่ะครับ”
ถนอมเหลือบตามองสายมุก
“คุณลุงน่ะเอง เป็นยังไงบ้างคะ”
“ดีขึ้นแล้วล่ะ”
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยมุกแล้วก็คนอื่นๆไว้”
ถนอมยิ้มบางๆ
“ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว แล้วหนูเป็นอะไรมั้ย”
สายมุกส่ายหน้า
“พวกเธอไปทำงานเถอะ เดี๋ยวจะเสียงานเสียการเปล่าๆ มาเยี่ยมให้เป็นภาระทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“แล้วใครจะดูคุณละครับ”
สายมุกมองดวงยิ้มๆที่ดวงเป็นคนดี ใส่ใจคนอื่น ถนอมพูดเรียบๆ
“ฉันดูแลตัวเองได้น่า”
ถนอมลุกขึ้น แต่ก็เจ็บจี๊ดที่แผลล้มไป ดวงเข้าประคอง
“นี่เหรอครับคนดูแลตัวเองได้”
“เธอรู้อะไรมั้ย...ยิ่งเธอทำแบบนี้ ฉันยิ่งรู้สึกผิด”
“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องรู้สึกแบบนั้น”
ถนอมเงียบ น้ำตาคลอเบ้า
“คุณเหมือนปิดบังอะไรผมอยู่”
ถนอมหลบตาดวง สายมุกตัดบท
“อย่าเพิ่งคุยเรื่องเครียดๆกันเลยดีมั้ย ฉันว่ามันไม่ดีต่อคนป่วยหรอกนะ”

ซันกับอาซ้งเดินมาที่เตียงที่ถนอมนอนอยู่ ม่านปิดอยู่ อาซ้งค่อยๆเปิดม่านออกลุ้นๆ แต่ปรากฎว่าเป็นคนแก่คนอื่นนอนป่วยพะงาบอยู่บนเตียง อาซ้งเห็นก็ตกใจ
“นี่อาการหนักขนาดนี้เลยเหรอ”
ซันสะดุ้ง
“เฮ้ยนี่มันไม่ใช่ ผิดคนแล้ว”
“แกนี่...ทำฉันลุ้นซะแทบแย่”
“ทำไมต้องลุ้นด้วยพ่อ ตาลุงนี่อริเก่าพ่อรึไง”
“ไม่ใช่แบบนั้น พาฉันไปให้ถูกห้องที เดี๋ยวแกก็รู้เองว่าคืออะไร”
ซันมองอาซ้งงงๆ

พยาบาลเปิดม่านเข้ามาที่เตียงถนอม
“สามารถพาคนไข้ไปเดินเล่นได้นะคะ แผลจะได้หายเร็วๆ”
ดวงพยักหน้ารับ
“ครับ”
สายมุกยิ้ม
“ดีเลย จะได้ผ่อนคลาย”

ซันพาพ่อมาถึงอีกห้อง ค่อยๆเปิดม่าน กลายเป็นคนตายคลุมหน้าอยู่ อาซ้งหน้าเศร้า
“โถ ไม่น่าอายุสั้นเลย ยังไม่ทันจะได้คุยกันเลยแท้ๆ”
ซันเดินไปเปิดหน้า ปรากฏว่าไม่ใช่อีก
“ไม่ใช่พ่อ”
“อ้าว ไอ้นี่ ดีนะฉันไม่ได้เรียกพระมาสวด”
ซันถอนใจ
“ทำไมมันผิดตลอดเลยวะ”

ซันกับอาซ้ง เข้ามาที่ห้องของถนอม แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ซักคน ซันหันมาบอกพ่อ
“ถูกแล้วนะ ห้องนี้เนี่ย แต่ไมไม่มีใครเลยอ่ะ”
พยาบาลเดินเข้ามา
“ญาติพาคนไข้ไปเดินเล่นน่ะค่ะ”
อาซ้งชะงัก
“อ้าว”
ซันเซ็งเลย
“มันเป็นกันซะอย่างงี้”
“วันนี้จะได้เจอกันมั้ยเนี่ย”
“ทำไมพ่อต้องอยากเจอลุงคนนี้ขนาดนี้ด้วยเนี่ย ห๊า”
“เออน่า ถึงเวลาก็รู้เองล่ะ” อาซ้งมองซันอย่างรำคาญ

ถนอมนั่งบนรถเข็น ดวงเข็นไปตามทางเดิน มีสายมุกเดินไปด้วย ถนอมหน้าเศร้าหมอง
“ฉันน่าจะตายๆไปซะ ฉันไม่มีค่าพอที่จะมีชีวิตอยู่”
ดวงปลอบ
“อย่าพูดแบบนี้สิครับ ทุกคนมีค่าพอที่จะมีชีวิต”
“อย่างน้อยคุณก็มีค่าต่อครอบครัวของคุณนะคะ”
ถนอมนิ่งไปนิด
“ครอบครัวเหรอ...”
ดวงน้ำเสียงจริงจัง
“คุณควรมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเขา”
ถนอมส่ายหน้าเศร้าๆ
“ฉันไม่มีครอบครัวหรอก”
“ถ้างั้นคุณก็มีชีวิตอยู่เพื่อผม”
สายมุกได้ยินดวงพูดก็มองยิ้มๆที่เขาเป็นคนดี ถนอมหันมองดวง อึ้งๆ
“คุณน่ะ ช่วยชีวิตผมไว้ แล้วก็ยังทำดีกับผมตั้งหลายครั้ง คุณควรให้โอกาสผมตอบแทนคุณบ้าง”
ถนอมมองหน้าดวงนิ่ง สายมุกเสริม
“ใช่ค่ะ คุณก็มีบุญคุณกับฉันเหมือนกัน ถ้าฉันไม่ได้ตอบแทนคงเป็นคนบาปแน่ๆ”
ถนอมมองทั้งมุกและดวง เอื้อมมือไปจับมือมุกและดวงไว้ด้วยกัน ดวงกับมุกมองหน้ากันอึกอักเล็กน้อย
“ขอบคุณจริงๆ”
ทั้งสามคนยิ้มสุขใจ

อาซ้งกับซัน เดินลงมาตามหาถนอม แต่ก็สวนกันไปนิดเดียว พออาซ้งกับซันเลี้ยวไปทางหนึ่ง ดวง สายมุก ถนอมก็เดินมาอีกทางหนึ่ง ไม่ทันเห็นกัน อาซ้งบ่นอุบ
“ฉันจะได้เจอมันมั้ยเนี่ย ไอ้คนเจ้าของกระเป๋าตังค์ใบนี้”
“พ่อรู้ได้ไงว่าเขาเป็นคนๆเดียวกัน อาจจะคนละคนก็ได้”
“สัญชาตญาณเว้ย เข้าใจมะ”
อาซ้งเดินเซ็งๆจากไป

ดวงกับสายมุกมานั่งกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหาร
“ฉันว่าคุณลุงน่ะ ชอบพูดจาแปลกๆนะ เหมือนมีลับลมคมนัยบางอย่าง”
“เขาอาจจะมีเรื่องอึดอัดที่เก็บไว้ในใจไม่บอกใคร”
“แต่ดูเหมือนว่าเขาจะอยากพูดด้วยนะ แต่ยังหาโอกาสไม่ได้”
“คุณน่ะเอาแต่ห่วงเรื่องคนอื่น ดูแลตัวเองบ้างเถอะ”
“คุณก็เหมือนกัน คุณมาเฝ้าไข้คนอื่นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่รู้สิ...ผมว่าผมรู้สึกผูกพันกับเขายังไงก็ไม่รู้” ดวงถอนใจ “แต่มาคิดอีกที...การมาเฝ้าไข้คนอื่นก็ดีกว่านะ เพราะเราคงไม่อยากให้คนที่ใกล้ชิดเราเป็นอะไรหรอก จริงมั้ย”
ดวงหยิบถุงยาสายมุกออกมา จัดเรียงยาที่จะต้องทานก่อนอาหาร หลังอาหาร สายมุกมองๆ
“กินยาให้มันตรงตามหมอบอกด้วย ผมไม่อยากมาเฝ้าคุณหรอกนะ”
สายมุกรู้สึกดีกับสิ่งที่ดวงทำ

สายมุกเดินเข้ามาในบ้านกอดถุงยายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คุณนายสร้อยเพชรเดินมาเห็นพฤติกรรม ชะเง้อดูหน้าบ้าน เห็นหลังดวงไวๆ เปิดประตูออกไป คุณนายสร้อยเพชรมองลูกสาว
“เป็นอะไรน่ะมุก”
สายมุกสะดุ้ง
“คะ”

“ไปโรงพยาบาลมาไม่ใช่เหรอ ทำไมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หมอหล่อรึไง”

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 29 (ต่อ)

“เปล่าค่ะ”

“แล้วนี่ใครมาส่ง”
“เปล่าค่ะ มุกขอตัวไปบนห้องก่อนนะคะ”
คุณนายสร้อยเพชรมองจับผิด สายมุกปลีกตัวออกไป
“เมื่อกี้มันหลังไอ้ดวงไวๆนี่”
คุณนายสร้อยเพชรระแวงพฤติกรรมสายมุก

ดวงนั่งขายของอยู่ที่แผง คุณนายสร้อยเพชรเดินมาหา
“ได้ข่าวว่าเธอเปิดแผงในตลาด ฉันก็เลยมาดูซะหน่อย”
“ไม่ใช่แผงของผมหรอกครับ ผมแค่ลูกจ้าง”
“ของยายหนูดีสินะ”
“ครับ”
คุณนาย สร้อยเพชรครุ่นคิดในใจ
‘…ยายหนูดีนี่มันร้าย วางแผนว่าจะฮุบเงินนายดวงนี่เหมือนกันละสิ...’
“คุณนายสร้อยเพชรมีอะไรรึเปล่าครับ”
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอหน่อย”
“ครับ” ดวงรับคำ แม้ว่าแปลกใจ

คุณนายสร้อยเพชรพาดวงมาที่ร้านอาหาร คุณนายสร้อยเพชรทานอาหารแล้วหันไปถามดวง
“จะไม่สั่งอะไรหน่อยเหรอ”
“ผมเพิ่งทานมาครับ”
คุณนายสร้อยเพชรคิดในใจ
‘…ดี ไม่เปลือง’
ดวงถามย้ำ...
“คุณนายสร้อยเพชรมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมงั้นเหรอครับ”
“ฉันตามตรงๆ ไม่อ้อมค้อมละนะ เธอชอบยายมุกรึเปล่า”
ดวงกำลังกินน้ำอยู่ ถึงกับสำลัก
“ผมกับคุณมุกมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ครับ ผมรู้ตัวดี”
“รู้แบบนั้นก็ดี เธอนะคนละชั้นกับยายมุกอยู่แล้ว”
“ผมรู้ตัวดีครับว่าผมเข้าไปอยู่ในบ้านคุณนายในฐานะอะไร”
“อย่ามาทำให้ฉันต้องเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”
“ครับ”
“แล้วยายหนูดีล่ะ”
“ผม...ไม่ได้คิดอะไรเลยครับ”
“ฉันละเห็นยายหนูดีติดเธอแจ ชอบเขารึไง”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“ระวังเถอะจะโดนหลอกใช้ไม่รู้ตัว นี่ฉันหวังดีนะ ถึงพูด”
“ครับ”
คุณนายสร้อยเพชรคิดในใจ
‘…ฉันจะไม่ยอมให้ยายหนูดีได้เงินไปครองแน่ๆ คนอย่างฉันจะไม่จำเป็นต้องแลก ต้องมีแต่ได้กับได้…’
คุณนายสร้อยเพชรมองดวงแล้วพูดออกมา
“ยังไงก็จำไว้ให้ดีก็แล้วกัน ว่าเธอกับสายมุกสถานะเป็นอะไรกัน”
“ครับ”
“เธอน่ะติดเงินฉันอยู่เท่าไหร่...ไม่ลืมใช่มั้ย”
“ไม่ลืมครับ ผมจะใช้มันให้ครบทุกบาททุกสตางค์พร้อมดอกเบี้ย รวมถึงน้ำใจที่คุณนายดีกับผม”
“ดี...ฉันน่ะจะตีเงินทั้งหมดเป็นตัวเลขไว้ให้ก็แล้ว”
คุณนายสร้อยเพชรอมยิ้มพอพูดเรื่องเงิน ดวงหน้าเศร้าๆ คุณนายสร้อยเพชรมองด้วยสายตาจิกเหมือนเดิม

ซันโทรหาแหววแต่เธอไม่ยอมรับสาย ซันหน้าเครียดกลุ้มใจ ดวงเดินหน้าเศร้าๆผ่านหน้าแผงไข่ ซันที่นั่งนิ่ง เซ็งเรื่องแหววเอ่ยทักเพื่อน
“เฮ้ยดวง เป็นไรวะ”
“ชีวิตนี่มันยากเนอะ”
“ใช่ ไม่พอดีซักอย่าง เกือบจะลงเอยด้วยดีอยู่แล้วเชียว”
“ใช่”
แฝดนิชคุณ ตัวเต็มไปด้วยรอยเท้าชาวบ้าน คลานสะบักสะบอมมาสมทบ
“ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ”
ซันเหลือบไปมอง
“อะไรของแก”
“ต้องมี เราคงต้องมีสักวัน ความฝัน เป็นจริงต้องขอสู้ไป”
ซันถอนใจ
“นั่น เอาใหญ่แล้ว”
ดวงส่ายหน้าระอา แฝดนิชคุณกระโดนเกาะขาดวง
“พ่อจ๋า อย่าทิ้งหนู หนูอาจไม่ได้วิเศษเหมือนใครๆ แต่พ่ออย่าทิ้งหนูไป”
ดวงก้มลงมองๆแล้วสอน
“คนเราไม่ได้วัดกันที่ปลายทางเสมอไปนะ อาจหมายถึงระหว่างทางว่าเราเจออะไร แล้วได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง”
ซันทำท่าเพลียๆ
“ดวง...แกกำลังพูดกับเด็กอายุไม่ถึงขวบ แกหันมาพูดกับฉันนี่”
ดวงถอนหายใจ ซันก็ถอนด้วย แฝดนิชคุณเลยถอนบ้าง ซันมองแฝดนิชคุณ
“ตอนแรกเศร้ากันสองคนก็ดีอยู่แล้ว ใครเอาไอ้นี่มาวะเนี่ย”
ซันเหนื่อยใจกับแฝดนิชคุณ

ค่ำนั้น สายมุกชะเง้อรอดวงกลับมาบ้าน ก็ไม่เห็นกลับสักที
“เถลไถลใหญ่แล้ว”
สายมุกได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามา รีบทำเป็นนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไม่ได้รอ ดวงเดินเข้ามา หญิงสาวชำเลืองตาดู ยิ้มๆ
“คุณทานยาแล้วใช่มั้ย”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันรู้หรอกว่าต้องทำอะไร”
ดวงมองสายมุกเศร้าๆ สายมุกแปลกใจ
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
หนูดีเดินเข้ามาพอดี
“ฉันจะกลับบ้านแล้ว ไม่มี goodnight kiss บ้างเหรอ”
ดวงชะงัก
“คุณหนูดีครับ”
“โอเคๆ ฉันรู้ว่ามากเกินไปหน่อย แต่ดวงควรทำอะไรสักอย่างที่บอกว่าฉันพิเศษกว่าเดิม ดวงเป็นคนเรียกให้ฉันมาเองนะวันนี้”
ดวงเก้ๆกังๆ แต่หันไปเห็นสายมุกมองอยู่ เขานึกถึงคำพูดของคุณนายสร้อยเพชร เขาจึงจำใจกอดหนูดีเพื่อลา สายมุกเห็นเจ็บปวด หนูดียิ้มมีความสุข
“ขอบคุณนะ ฉันไปและ”
หนูดียิ้ม มีความสุขออกไป ดวงไม่สบายใจนัก สายมุกก็เช่นกัน หญิงสาวเข้ามาถามเขา
“เธอกับหนูดี ตกลงเป็น...”
ดวงตัดสินใจ
“ผมว่าผมจะลอง”
สายมุกชะงัก
“ทำไม...”
“คุณหนูดีดีกับผมมาก”
“ฉันไม่ได้อยากรู้ว่าเพราะอะไร แค่อยากรู้ว่า...ถ้าเธอจะตัดสินใจอย่างนั้นตั้งแต่แรก แล้วมาดีกับฉันทำไม”
ดวงอึ้งไป
“ผม...”
“โอเค...ฉันคงแค่คิดมากไปเอง ฉันเข้าใจละ”

สายมุกเจ็บปวดใจเดินจากไปเงียบๆ ดวงเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน

ดวงเข้าห้องมาอย่างเจ็บปวด เขาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงเงียบๆ หยิบไดอารี่เล่มเดิมที่เขาชอบเขียน ออกมาขีด
 

สายมุกนั่งเหม่อนึกถึงภาพหนูดีกับดวงกอดกัน น้ำตาเธอคลอเบ้า
“ไม่เป็นไร เราไม่ได้อะไรกับเขาสักหน่อยนี่ ไม่เป็นอะไรหรอก”
สายมุกพยายามกลั้นน้ำตาไว้

สายๆของวันใหม่ ดวงสอนหนูดีวาดรูปอยู่ที่หน้าบ้าน ดวงชะเง้อหาสายมุกที่ไม่มีวี่แววจะลงมา หนูดีหันมาบอก
“ลืมบอกไปว่าวันนี้มุกคงไม่มาเรียนหรอก เขาบอกว่าไม่ค่อยสบาย”
ดวงพยักหน้าเศร้าๆ

ซันนั่งรอแหววอยู่ที่ร้านข้าวเขี่ยข้าวไป เขี่ยข้าวมา แหววแต่งตัวสวยเดินผ่าน ซันเงยหน้าขึ้นทัก
“แหวว มาแล้วเหรอ นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก”
“จะมาบอกว่าต้องรีบไปทำงานนะ วันนี้เขานัดลองเสื้อผ้าด้วย”
ซันหน้าเหวอ
“อ้าว...ก็วันนี้เธอจะช่วยฉันแข่งโยนไข่ไม่ใช่เหรอ”
“โทษที หาคนอื่นช่วยก็แล้วกันนะ ฉันไม่ว่างจริงๆ”
แหววพูดจบก็เฉิดฉายออกไป ซันมองถอนหายใจ กินข้าวที่อยู่ตรงหน้าไม่ลง

เวทีด้านหน้าตลาดมีคนมาดูการแข่งขันกันคึกคัก สายมุกหน้าหงิกไม่ค่อยอยากมานัก
“แม่ก็ตัดสินกันสองคนกับพะวงก็ได้นี่คะ”
“ไม่ได้หรอกลูก ยายพะวงนี่ก็พึ่งพาได้ที่ไหน”
พะวงค้อน
“แหมคุณนาย พูดเหมือนไม่ได้อยู่ตรงนี้เลยนะ”
สายมุกเซ็งมาก
“ยังต้องแข่งอีกเหรอคะเนี่ย คราวที่แล้วก็แข่งไปแล้ว”
“ประกาศไปแล้ว จะเลิกได้ยังไง คราวที่แล้วก็หยุดกลางคันไปละ”
“มุกละไม่อยากมาตลาดเลยจริงๆ”
สายมุกถอนใจ...บนเวทีคณะลิเกเตรียมตัวโชว์ลิเกสี่มิติ เป้งกับต๋อยเดินมาต้อนรับคุณนายสร้อยเพชร สายมุก และพะวง
“เดี๋ยวเชิญนั่งเก้าอี้ตรงนี้เลยนะครับ” ต๋อยเข้ามาเอาใจ
เป้งยิ้มแย้มประจบ
“นั่งแถวนี้นี่เห็นระบบแสงสีเสียงสี่มิติชัดที่สุด”
คุณนายสร้อยเพชรหันมาถาม
“สี่มิติเลยเหรอ ปลอยภัยมั้ยเนี่ย”
ต๋อยยืนยัน
“ปลอดภัยแน่นอนครับ”
สายมุกเหล่มอง
“จะเชื่อได้มั้ยเนี่ย”
พะวงเบ้หน้า
“ดูคนพูดนั่น ยังจะเอาตัวไม่รอด”
ต๋อยเก๊กท่าทางโอ่ๆ
“อย่าดูถูกกันนะครับ เมื่อก่อนผมก็สูงเท่าพวกคุณๆท่านๆนี่แหละ”
คุณนายสร้อยเพชรสงสัย
“แล้วไปโดนอะไรมาถึงหด”
เป้งหันมาบอก
“ก็เพราะลิเกสี่มิตินี่แหละ”
พะวงหน้าตื่น
“ว๊าย แล้วจะปลอดภัยมั้ยเนี่ย”
ต๋อยยิ้มๆ
“มุกครับมุก ให้รู้ว่าลิเกเรานี่ตลกจริงอะไรจริง”
คุณนายสร้อยเพชรตัดบท
“จะทำอะไรก็รีบๆทำ ฉันละกลัวใจพวกแกจริงๆ”
ต๋อยพยักหน้าส่งซิกให้คณะลิเก เป้งวิ่งขึ้นไปบนเวที ส่วนต๋อยอยู่ข้างล่าง แจกแว่นสามมิติ ลิเกเริ่มแสดง ต๋อยคอยเขย่าเก้าอี้ ฉีดฟอกกี้ทำเป็นฝน ในฉากรบก็มาต่อสู้กันต่อหน้าคุณนายสร้อยเพชร มีการยิงธนูโดยต๋อยวางลูกแอ๊ปเปิ้ลบนหัว ยืนหลังคุณนายสร้อยเพชร แล้วยิงมาจากบนเวที บรรยากาศดูคึกครื้นวุ่นวาย...ต๋อยหันมาบอกทั้งสาม
“หลังการแสดงจบ ไม่ได้จบแล้วจบเลยนะ เรายังมีบริการรับส่งถึงบ้านแบบ delivery ด้วย”
ทันใดนั้น เป้งขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาในวิกลิเก มีคนกระโดดซ้อน แล้วเป้งก็ออกไปอย่างเร็ว คุณนายสร้อยเพชร สายมุก พะวง มองหน้ากัน เพลียๆกับการแสดง
ลั้นลายืนดูการแสดง มองแบบดูถูก
“ชิ ทำเป็นแอ๊คชั่น สู้ฉันก็ไม่ได้”
อั้มที่ยืนข้างแทรกขึ้น
“ใช่...สู้ลูกฉันไม่ได้ซักนิด”
“ยังกล้าพูดอีกนะหล่อน ดูสภาพลูกแกซิน่ะ”
ลั้นลาหันไปดูแฝดทั้งสองคน ที่ปลอมตัวเป็นอาบังเข้ามาร่วมงาน แฝดนิชคุณหันมาถามอั้ม
“แม่ ฉันไม่เข้าใจทำไมฉันต้องแต่งตัวเป็นอาบังแบบนี้ด้วย”
“ก็อยากให้คนจำได้ แล้วมารุมสกรัมอีกรึไงล่ะ แกเพิ่งทำชาวบ้านหมดตัวเพราะหวยที่แกให้นะ”
“แล้วทำไมต้องเป็นอาบังด้วยเนี่ย”
ลั้นลายิ้มๆ
“ก็เป็นแขกไงยะ ไม่ใช่คนคุ้นเคยแถวนี้”
แฝดนิชคุณชะงักอึ้งๆ
“โห มุก อยากจะถอดหนวดเลยเนี่ย”
อีกมุมหนึ่งของตลาด ซันมาขอร้องดวงให้ช่วย
“เฮ้ยแก ขอร้องล่ะ ช่วยหน่อยเหอะ แหววเขาไม่อยู่แล้ว”
“ฉันทำไม่เป็นหรอก”
“ก็แค่ปาไข่มาให้ฉัน เดี๋ยวฉันจัดการรับเอง แค่นั้นแหละ”
“แต่เราไม่ได้ซ้อมกันเลยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า มายังไงฉันก็รับได้หมดแหละ”
“จะดีเหรอว่ะ ถ้าฉันทำงานแกเสียล่ะ”
“เฮ้ย...แกก็รู้ว่าฉัน ทั้งรับทั้งโยนไข่แม่นขนาดไหน ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันโตมากับไข่”
“ก็ได้...ก็ได้ นี่เห็นว่าเป็นแกหรอกนะ”
ซันยิ้มดีใจที่ดวงช่วย

ซันกับดวงขึ้นเวทีมาพร้อมกับไข่มากมาย คุณนายสร้อยเพชรมองงงๆ ไม่เข้าใจว่าจะโชว์อะไร
“นั่นจะโชว์อะไรกันน่ะ”
สายมุกเห็นดวงก็เมินหน้าหนี ดวงมองสายมุก อึดอัดเช่นกัน ซันอธิบาย
“หลายคนอาจจะงงนะครับว่าผมจะมาโชว์อะไร มีแต่ไข่กับไข่ เพราะผมโตมากับไข่ตั้งแต่เด็ก แต่ผมรับรองได้ว่าทุกคนต้องทึ่งกับโชว์ของผม และมันจะเป็นหน้าเป็นตาให้ตลาดของเราได้ไม่ยาก”
สายมุกมองดวงถอนใจ ทนดูไม่ได้
“แม่คะ มุกขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ”
สายมุกลุกออกจากตรงนั้นไป ดวงมองตาม ซันหันมาบอกผู้ชม
“เดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลยนะครับ”
ดวงไม่มีสมาธิชะเง้อตามสายมุก
“ดวง โยนมาเลยเว้ย” ซันหันไปบอกคนดู “คอยดูความเป็นมืออาชีพนะครับ”
ดวงพยักหน้าแบบขอไปที ตาไม่มองซัน เขวี้ยงไข่ใส่ซันอย่างเร็วตาก็มองสายมุกไป ไข่แตกเต็มหน้าเต็มหัวซัน ย้อยเลอะเทอะไปหมด คนดูหัวเราะกันตรึม คุณนายสร้อยเพชรกับพะวงส่ายหน้าระอา
“นี่มันให้ฉันมาดูอะไรเนี่ย”
ดวงยังไม่รู้ตัว หันกลับมาอีกทีตกใจ
“เฮ้ย หน้าไปโดนอะไรมา”
ซันกัดฟัน เจ็บใจ
“กระทืบมันซะดีมั้ยเนี่ย”

สายมุกเดินมาหามุมทำใจ แต่แล้วเธอก็เจอหนูดีเดินมา สายมุกจะหนีก็ไม่ได้
“มุกมาทำอะไรตรงนี้”
“เปล่า กำลังจะกลับบ้าน”
“ทำไมรีบกลับล่ะ มากินกลางวันด้วยกันก่อนสิ เนี่ยฉันซื้อของมาเต็มเลย ดวงเขาไม่ชอบไปกินตามร้านหรูน่ะ ฉันก็เลยซื้อมาให้เขากินที่นี่”
“เธอกินสองคนของเธอคงอร่อยกว่า”
“อืม ก็จริง ขอบใจนะที่เข้าใจ เพิ่งเริ่มคบกันด้วยก็อยากอยู่สองคนเป็นธรรมดา”
สายมุกอึ้งพูดไม่ออก ดวงเดินมา สายมุกเห็นก็เมินหน้าหนี
“ฉันขอตัวก่อนก็แล้วกันนะ”
สายมุกเดินแยกออกไป หนูดีเดินยิ้มไปหาดวง
“ดวง มากินข้าวกัน”
ดวงมองตามสายมุกห่วงๆ

เย็นนั้น สายมุกมาเยี่ยมถนอมที่โรงพยาบาล
“เป็นไงบ้างคะวันนี้”
“ดีขึ้นมาก เพราะดวงกับหนูนี่แหละที่คอยดูแล แล้วดวงล่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ”
สายมุกยิ้มเศร้าๆ
“หนุ่มสาวทะเลาะกันละสิ”
“ถ้าแค่ทะเลาะกันมันคงดีกว่านี้...แต่นี่มัน...” สายมุกน้ำตาร่วงอย่างห้ามไม่ได้ “เจ็บกว่านั้น”
“อกหักละสิ แต่เท่าที่ฉันดู มันไม่น่าจะเป็นไปได้นะแบบนั้น ดวงเขา...”
สายมุกปาดน้ำตาทิ้ง
“จริงๆฉันไม่ควรเอาเรื่องเครียดมาคุยกับคนป่วย ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณหายเร็วๆนะคะ ต่อไปฉันอาจจะไม่ได้มาเยี่ยมคุณบ่อยๆ”
ถนอมยิ้มรับ
“ฉันเข้าใจ”
“กลับก่อนนะคะ”
ถนอมพยักหน้ายิ้มๆ แต่แล้วสายมุกก็เห็นดวงเปิดประตูเข้ามา เธอรีบหาที่หลบทันที ถนอมมองงงๆ แล้วสายมุกก็วิ่งออกไปหลบที่ระเบียง ดวงเปิดประตูเข้ามาเดินมาหาถนอม ถนอมชำเลืองตามองดูเห็นว่าสายมุกปลอดภัย เขาหันมาคุยกับดวง
“อ้าว ดวง”
“เป็นไงบ้างครับ”
“ฉันอยู่ใกล้หมอ ไม่เป็นไรหรอก เธอน่ะเป็นอะไรไปรึเปล่า ดูเหนื่อยๆนะ”
ดวงถอนใจ
“ผมไม่รู้ว่าผมจะเล่าดีมั้ย...มันควรเป็นสิ่งที่ถูกเก็บเป็นความลับในใจผมเท่านั้น”
“เรื่องความรักใช่มั้ย”
ดวงยิ้มเศร้าๆ
“เอายังงี้มั้ย ฉันจะเล่าความลับของฉันให้ฟัง เธอลองฟังดูแล้วพิจารณาละกัน ว่ามันคู่ควรกับความลับที่เธอจะเล่าให้ฉันฟังมั้ย”
สายมุกที่แอบฟังอยู่ที่ระเบียงพยายามจะเงี่ยหูฟัง
“ก็ได้ครับ”
“เรื่องของฉันมันเกิดขึ้นนานแล้วล่ะ”

ในอดีต...ถนอมวัยหนุ่มอุ้มเด็กอ่อนมาที่หน้าตลาด เสียงคนไล่หลังเขามาไม่ไกล
“ตามจับมันมาให้ได้”
ถนอมแอบอยู่มุมมืดข้างกองขยะ

“ตอนนั้น ด้วยความที่ยังคิดอะไรไม่ได้มากนัก ฉันคิดว่า ทางเดียวที่จะทำให้เด็กคนนั้นปลอดภัย ก็คืออยู่ให้ไกลจากนักเลงหัวไม้อย่างฉัน คนที่ไม่มีทางรู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง”

ถนอมวางเด็กน้อยไว้ข้างๆกองขยะ มองแววตาเด็กที่ไร้เดียวสา ทรมานใจนัก
“พ่อขอโทษนะลูก พ่อจำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆ”

ถนอมวิ่งหนีล่อพวกนักเลงไปอีกทาง พวกนักเลงวิ่งกรูตามเขาไป เด็กน้อยอยู่ลำพังข้างกองขยะในตลาด

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 29 (ต่อ)


ดวงฟังเรื่องที่ถนอมเล่าถึงตอนที่เขาทิ้งลูกตัวเอง ก็อึ้งไปชั่วขณะ

“เธอคงกำลังคิดว่าฉันนี่มันช่างเลวจริงๆใช่มั้ยล่ะ” ถนอมเล่าอย่างเศร้าๆ
“แล้วคุณเคยไปเจอเด็กคนนั้นมั้ยครับ ว่าเขาเป็นยังไง”
ถนอมมองดวง
“ฉันว่าเขาคงโตมาเป็นเด็กที่ดี ไม่เหมือนกับพ่อของเขา ที่ทำตัวน่ารังเกียจ”
“ไม่หรอกครับ ผมเองก็เป็นเด็กที่ถูกทิ้งเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่เคยคิดน้อยใจพวกท่านนะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง และมันก็มีน้ำหนักมากพอ”
ถนอมน้ำตาคลอเบ้าที่ได้ยินดวงพูดแบบนั้น
“เธอนี่ช่างเป็นคนดีจริงๆ”
“เอาล่ะครับ ต่อไปผมจะเล่าความลับของผมบ้าง”
หนูดีเดินเข้ามาพอดี แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเพราะม่านบังเธออยู่ เธอได้ยินสิ่งที่ดวงพูด เธอจึงยืนแอบฟังด้วย ส่วนสายมุกเธอก็เงี่ยหูฟังเต็มที่
“ผมน่ะ ก็เป็นแค่คนเข็นผักในตลาดคนนึง บ้านก็ไม่มีจะอยู่ แถมยังกำพร้า แต่ผมดันไปหลงรักดอกฟ้าที่แค่คิดยังไม่สิทธิ์เลยครับ”
หนูดีได้ยินแอบอมยิ้ม คิดว่าเป็นตัวเอง...ดวงนึกถึงตอนที่เขาได้รู้จักสายมุกครั้งแรก และเหตุการณ์ต่างๆที่ใช้ช่วงเวลาผ่านมาด้วยกัน...
“โลกผมจากที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่พอได้รู้จักเธอ มันก็ดูสดใสไปหมด มันเริ่มต้นแค่ความสุขจากรอยยิ้มเล็กๆ พอนานวันเข้ามันก็มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็เหมือนว่า ผมควบคุมความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีผมอยากเจอเธอคนแรกตอนที่ตื่น และอยากเจอเธอคนสุดท้ายก่อนนอน ผมมีความสุขที่เห็นเธอยิ้ม และทรมานทุกครั้งที่เราห่างกัน เหตุผลเดียวที่ผมยอมไปอยู่ที่บ้านของคุณนายสร้อยเพชร ก็เพื่อจะได้อยู่ใกล้เธอ ผมพยายามหนีใจตัวเองไปคบคนอื่นแต่มันก็ยิ่งทรมาน ผมนี่ช่างไม่เจียมตัวเอาซะเลย”
หนูดีที่ยืนฟังอยู่ถึงกับหน้าเสีย เมื่อรู้ว่าคนที่ดวงรักคือสายมุกเพื่อนของตน หนูดีเศร้า...ถนอมมองดวง
“ความรักมันเป็นแบบนี้แหละ ถ้ารักไปแล้ว เราควบคุมตัวเองลำบาก”
“ผมควรทำยังไงต่อไปดีครับ ผมไม่มีอะไรคู่ควรกับเธอเลย แต่ดูเหมือนเหตุผลพวกนี้มันไม่พอจะทำให้ผมหยุด”
ถนอมชำเลืองมองที่ระเบียง
“เคยได้ยินมั้ย อะไรที่มันเป็นของเรา มันก็จะเป็นของเรา แต่ถ้ามันไม่ใช่ ฝืนให้ตายมันก็ไม่ใช่...ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ อย่าทำให้มันยากเกินไปนัก”
“ขอบคุณมากนะครับ แต่ผมก็ยังไม่มีคำตอบให้กับมันหรอก”
หนูดีที่แอบฟังทำใจไม่ได้ เดินออกไปจากตรงนั้น ส่วนสายมุกพอได้ฟังถึงกับทรุดลงไปนั่ง ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
หนูดีเข้ามานั่งเหม่อบนรถตัวเอง สับสนไปหมด เธอนึกถึงตอนที่เธอถามสายมุกว่าชอบดวงมั้ย สายมุกปฏิเสธและนึกถึงตอนที่เธอขอโอกาสดวงแล้วดวงบอกว่าเขาชอบคนอื่นอยู่แล้ว หนูดีสับสนไปหมด
“สายมุกดีกว่าฉันยังไงนะดวง ทำไมเธอต้องรักสายมุกด้วย”

ถนอมตะโกนเรียกสายมุกที่แอบอยู่ที่ระเบียง
“เข้ามาเถอะ ดวงเขาไปแล้ว”
สายมุกค่อยๆก้าวเข้ามาอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ทีนี้ก็เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าเขารู้สึกยังไง”
“ขอบคุณนะคะ แต่มุกก็ยังทำอะไรไม่ถูกอยู่ดี”
“ปล่อยไปตามธรรมชาติ”
“อ้อ...มุกเสียใจเรื่องลูกคุณด้วยนะคะ ถ้าคุณอยากตามหาเขา มุกมีคนที่พอช่วยได้นะคะ”
“ไม่จำเป็นหรอก...ฉันรู้แล้ว”
“งั้นก็ต้องเปลี่ยนคำพูดเป็น...ดีใจด้วยนะคะ ขอให้คุณกับลูกได้มาอยู่ด้วยกัน”
“ขอบคุณมาก”
สายมุกหน้าตายังงงๆ ทำอะไรไม่ถูกเรื่องดวง

ค่ำนั้น คุณนายสร้อยเพชรนั่งอยู่ในห้องรับแขก กำลังครุ่นคิดถึงคนที่จะชนะการประกวดครั้งนี้ สายมุกนั่งเหม่อๆ คุณนายสร้อยเพชรหันไปถามพะวง
“แกว่าใครควรจะได้เป็นจุดขายของตลาดเราดี”
“ใครก็น่าปวดหัวหมดนะคะ”
“นั่นน่ะสิ ดูจะไม่รอดซักคนเลยนะ” คุณนายสร้อยเพชรหันไปถามสายมุก “ใครดีมุก”
สายมุกเหม่อไม่ได้ยิน
“ยายมุก”
สายมุกสะดุ้ง
“คะ”
“เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ยลูก...ห๊า”
“เปล่าค่ะ”
“เลือกใครมาเป็นจุดขายของตลาดดีลูก”
“ไม่รู้สิคะ”
“อ้าว...ลูกตอบแบบนี้ แม่จะไปถามใครได้”
สายมุกตอบส่งๆ
“งั้นก็ไม่ต้องเลือกละกันค่ะ ทำสกู๊ฟส่งสื่อมวลชนมันทุกคนนั่นแหละ มุกขอตัวนะคะ”
สายมุกเดินขึ้นไปบนห้อง คุณนายสร้อยเพชรคิดตามคำลูกสาวแล้วคล้อยตาม
“ก็ดีเหมือนกันนะ ถ้ามันไม่โดดเด่นซักอัน เราก็เน้นปริมาณไปซะเลย”
“กลายเป็นตลาดของแปลกงี้”
“อืม ก็ดีเหมือนกันนะ”
“คุณมุกทำตัวประหลาดนะคะคุณนาย”
คุณนายสร้อยเพชรชำเลืองตามองถอนหายใจ หนูดีเข้ามาในบ้านพอดี
“หนูมาหาสายมุกค่ะ สายมุกอยู่บ้านมั้ยคะ”
“ไม่อยู่หรอก”
พะวงหน้าเหวอ
“อ้าวคุณนาย!”
“แล้วดวงละคะ”
“ไม่อยู่เหมือนกัน...แต่เธอมาก็ดีแล้วหนูดี ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอหน่อย”
“กับหนูเนี่ยเหรอคะ”
หนูดีงงๆ คุณนายสร้อยเพชรมองหนูดีไม่เป็นมิตร

คุณนายสร้อยเพชรออกมาคุยกับหนูดีที่สนามหน้าบ้าน
“คุณแม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูดีเหรอคะ”
“ฉันรู้แผนของเธอนะหนูดี”
หนูดีงงๆ
“แผน”
“ก็เกี่ยวนายดวงไง”
หนูดีอึ้ง
“คุณแม่รู้”
“นั่นไง...ฉันกะแล้ว คนอย่างเธอไม่ได้เข้ามาอย่างหวังดีแน่ๆ”
หนูดีไม่เข้าใจ
“คุณแม่พูดถึงเรื่อง...”
“ก็เรื่องสมบัติของไอ้ดวงนั่นไง ฉันรู้นะ ว่าเธอเห็นว่าไอ้ดวงมันโง่มันซื่อ ก็เลยวางแผนจะฮุบเงินหวยของมันใช่มั้ยล่ะ”
หนูดีงงๆ
“หนูเนี่ยเหรอคะ”
“ฉันเตือนเธอไว้ก่อนนะ แผนนี้ฉันวางมานานแล้ว ฉันลงทุนให้ไอ้ดวงมาอยู่บ้าน ให้เงินมันยืมทำโน่นทำนี่ ฉันลงทุนไปตั้งเท่าไหร่ เงินนั่นควรจะเป็นของฉัน เข้าใจมั้ย เธอจะมาแค่เอาตัวเข้าแลกตัดหน้าฉันเนี่ย มันไม่ดีหรอก ฉันไม่อยากจะเป็นศัตรูด้วย”
หนูดีอึ้งๆ
“อ๋อ...ที่คุณแม่ทำทั้งหมดนั่น เพราะหวังจากดวงเรื่องเงินหรอกเหรอคะ”
“อย่าพูดมากกันเลยน่า ฉันขอเตือนเธอแค่นี้ อย่าทับไลน์กัน”
“แปลว่า...ยายมุกก็ต้องรู้เรื่องนี้ด้วย”
“อย่าโยงอะไรไปเรื่อย แค่ถอยไปก็พอ โอเค๊”
หนูดีผิดหวังกับตัวคุณนายสร้อยเพชร เธอเดินออกไปจากบ้านอย่างสับสน

หนูดีจอดรถริมถนน ผิดหวังกับสายมุกและคุณนายสร้อยเพชรมาก
“ทำไมพวกเธอเป็นคนแบบนี้ เธอไม่น่าเป็นเพื่อนฉันเลยสายมุก ฉันจะไม่มีวันยอมให้พวกเธอทำร้ายดวง ทำไมดวงต้องรักคนอย่างเธอด้วย”
หนูดีก้มหน้าร้องไห้กับพวงมาลัย

สายมุกสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เธอจะเดินออกจากห้องไป เธอก็ถอยกลับมานั่ง แต่เธอก็ว้าวุ่นจะออกจากห้องอีก แต่ก็กลับมานั่ง วนไปวนมาอยู่แบบนี้ ในหัวในได้ยินเสียงของดวงที่สารภาพความในใจให้ถนอมฟัง ในที่สุดหญิงสาวก็ทนไม่ไหว ออกไปจากห้องจนได้
สายมุกเดินมาหน้าบ้าน เจอดวงที่เพิ่งกลับบ้านมาพอดี เธอมองดวงหายใจถี่รวบรวมความกล้า ดวงงงๆไม่เข้าใจนักว่าเธอเป็นอะไร
“ผมขอตัวขึ้นบ้านก่อนนะครับ”
“ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
ดวงงงๆ
“คุณต้องมากับฉัน”
สายมุกจูงมือดวงเปิดประตูรถให้ดวงขึ้นไปนั่ง แล้วขับออกไปจากบ้านทันที...สายมุกขับรถพาดวงมาที่ตลาดซึ่งเงียบสนิท ไร้ผู้คน ดวงงงๆไม่เข้าใจ
“คุณพาผมมาที่นี่ทำไม”
“เพราะเราเจอกันที่นี่”
“แล้ว…”
“ฉันมีเรื่องจะถาม ขอให้คุณตอบความจริง”
“ถามอะไรครับ”
“คุณดีกับฉันทำไม ทำไมคุณต้องทำให้ฉันรู้สึกพิเศษเสมอ...ทำไม”
ดวงชะงัก
“เอ่อ...”
“คุณยังไม่ต้องตอบ คุณฟังเรื่องฉันก่อนก็แล้วกัน”

สายมุกมองหาที่เข้าไป เห็นหลืบหนึ่งก็วิ่งเข้าไปหลบตรงมุมมืดตรงนั้น

“ไม่ต้องตามฉันมา”
ดวงงงๆ
“คุณจะไปไหน”
“ถ้าเห็นหน้าคุณแล้วฉันจะเขิน”
สายมุกเข้าไปหลบมุมมืด โดยมีดวงยืนฟังอยู่ห่างๆ
“ก่อนหน้านี้ชีวิตฉันก็เหมือนลูกคุณหนูทั่วไป อยากได้อะไรก็ได้มาง่ายๆ ไม่เคยต้องลำบาก ไม่เคยต้องคิดถึงคนอื่น มันไม่ได้พิเศษอะไรเลย จนเมื่อฉันได้เจอคนๆนึง เขาเป็นคนธรรมดา แต่เขาเห็นค่าของชีวิตคนอื่น ชีวิตเขาใส่ใจแต่เรื่องคนอื่น มากกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำ เขาทำให้ชีวิตฉันมีความหมาย ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา แล้วก็คิดถึงเมื่อห่างกัน ตลอดเวลาฉันไม่ค่อยแน่ใจนักว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร แต่พอเห็นเขาสนใจคนอื่นมากกว่าตัวฉัน ฉันเริ่มกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก แต่พอฉันรู้ใจเขา ฉันรู้ทันทีว่าฉันอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตฉันอยู่กับคนๆนี้ ทั้งที่ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกว่ามันจะเป็นไปได้แค่ไหน คุณว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร”
ตลอดเวลาที่ดวงฟัง เขาก็อึ้งไปไม่น้อย เขาค่อยๆเดินไปหา สายมุกอายเกินกว่าจะสบตาเขา
“ตอบฉันทีว่าความรู้สึกเหล่านี้...คืออะไร”
“สิ่งที่คุณพูด...คุณกำลังพูดความรู้สึกตัวเอง หรือความรู้สึกผมกันแน่”
สายมุกโผเข้ากอดดวงแน่น ดวงอึ้งไปแต่เขาก็กอดตอบ ทั้งคู่ยิ้มมีความสุข พอทั้งคู่แยกกันสายมุกทรุดลงไปกองกับพื้น
“คุณ เป็นอะไรรึเปล่า”
“สงสัยทำอะไรเร็วไปหน่อย”
“ยังไม่ได้กินยาใช่มั้ย”
ทั้งคู่ต่างก็หัวเราะให้กันกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อกลับมาที่บ้าน ดวงเข้าห้อง ยังไม่หายตื่นเต้น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่...สายมุกเองเข้าห้องก็ยังไม่หายตื่นเต้นเช่นกัน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดีใจล้นกลิ้งไปมาบนเตียง ทันใดนั้นรูปเธอที่ถ่ายกับหนูดีที่วางบนหัวเตียงก็ร่วงลงมา สายมุกหยิบขึ้นดู
“ฉันจะบอกหนูดียังไงละเนี่ย”
สายมุกถอนหายใจเครียด

วันใหม่...สายมุกนั่งอยู่ในร้านอาหาร ถอนหายใจรวบรวมความกล้า หนูดีเดินมาหน้าตาไม่เป็นมิตรนัก สายมุกยิ้มให้
“หวัดดี”
“นัดฉันมามีเรื่องอะไร”
“ก็เพื่อนกัน...นัดกันกินข้าวกัน ไม่ต้องมีเรื่องอะไรก็ได้มั้ง”
“แน่ใจเหรอ พักหลังเธอก็ไม่เห็นว่าจะอยากกินข้าวกับฉันนี่”
สายมุกแปลกใจ
“เธอดูแปลกๆไปนะหนูดี”
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้แหละ ใครดีมาฉันก็ดีตอบ แต่ถ้าไม่ดี...ฉันก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน”
“ไม่ได้ว่าฉันอยู่ใช่ป่ะ”
“ยังไม่ทันทำอะไร ก็ร้อนตัวแล้วเหรอ”
“งงไปหมดแล้ว”
“พูดมาตรงๆเลยดีกว่า เธอนัดฉันมามีอะไร”
“เอาไว้วันหลังดีกว่า วันนี้ดูเธออารมณ์ไม่ค่อยดี”
“เรื่องดวงใช่มั้ย”
สายมุกชะงัก
“เธอรู้”
“ฉันรู้ทุกอย่าง แล้วฉันก็บอกเธอว่า ฉันไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้นกับดวงหรอก”
สายมุกไม่เข้าใจ
“ทำไม”
“ก็เพราะคนอย่างเธอไม่คู่ควรกับคนดีๆอย่างดวงน่ะสิ ฉันจะขัดขวางทุกอย่างเท่าที่ฉันจะทำได้ เพื่อไม่ให้เธอได้ในสิ่งที่เธอหวัง”
สายมุกช็อคไปกับสิ่งที่ได้ยิน
“ตลอดเวลาที่เราเป็นเพื่อนกัน ฉันดีกับเธอมาตลอดนะมุก แต่นั่นเพราะฉันไม่รู้ว่าเธอแล้วก็ที่บ้านของเธอเป็นแบบนี้ ต่อไปนี้เราไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกันอีก แล้วฉันก็จะปฏิบัติต่อเธอแบบที่เพื่อนเขาไม่ทำกัน”
สายมุกตะลึง
“มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอ เป็นเพื่อนก็ไม่ได้เลยเหรอ”
หนูดีส่ายหน้า
“เธอทำให้ฉันผิดหวังในตัวเธอมากเลยนะสายมุก”
หนูดีลุกออกไปจากโต๊ะ สายมุกยังอึ้งๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่รู้จะทำยังไง

หนูดีมาช่วยดวงขายขนมที่แผง
“ดวงชิมขนมใหม่ที่ฉันไปลองเอามาหน่อยสิ อร่อยมั้ย”
หนูดีหยิบขนมจะป้อน ดวงยิ้มๆ หยิบจากมือหนูดีมากินเอง หนูดีไม่พอใจนัก
“ก็อร่อยดีครับ”
“เดี๋ยวเย็นนี้เราไปกินข้าวด้วยกันนะ”
“ผมไม่ว่างน่ะครับ”
“งานดวงก็หมดแล้วนี่ ต้องไปทำอะไรอีกล่ะ”
“ผมมีนัดแล้วน่ะครับ”
หนูดีแสดงอาการไม่พอใจชัดเจน
“สายมุกเหรอ”
ดวงยิ้มๆไม่ตอบอะไร
“ถ้าฉันไม่ให้ไปล่ะ”
ดวงชะงัก
“คุณหนูดีครับ อย่าทำให้ผมลำบากใจเลย”
หนูดีเสียงแข็ง
“ฉันไม่ให้ไป”
“คุณหนูดีครับ คุณเป็นเพื่อนที่ดีของผมนะครับ”
“งั้นก็ต้องเชื่อเพื่อน เพราะเพื่อนน่ะทำทุกอย่างด้วยความหวังดี”
ดวงลำบากใจ
“ตกลงฉันเป็นคนเลือกร้านก็แล้วกันนะ ร้านอะไรดีนะ...”
ดวงลำบากใจ ไม่รู้จะทำยังไง

ซันโทรศัพท์หาแหววแต่แหววไม่รับ ซันเลยฝากข้อความไว้
“โทรหาทำไมไม่รับเลย ที่นัดกันว่าจะมากินข้าวเย็นที่บ้านด้วยกันวันนี้น่ะ จะมามั้ย รออยู่นะ”
ซันวางโทรศัพท์เหงาๆ อาซ้งเดินออกมาเห็นหน้าซันเศร้าๆ
“เป็นอะไร ทำหน้ายังกับหมาเหงา”
ซันถอนหายใจใส่
“คุยด้วยก็ไม่คุย หยิ่งนะเอ็งน่ะ”
“พ่อจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ”
“นี่พาไปโรงพยาบาลหน่อยสิ”
“เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ”
“ไม่ใช่ ก็จะไปหาไอ้คนๆนั้นนั่นล่ะ”
“ฟ้าจะไม่ให้เจอ ก็ยังจะพยายามอยู่อีกเนาะ”
“มันเป็นเรื่องสำคัญเว้ย เอ็งไม่รู้อะไรอย่าพูดมาก แค่พาไปก็พอ”
“ไปเองเถอะพ่อ ฉันเฝ้าร้านให้ละกัน”
“ไอ้นี่”
อาซ้งส่ายหน้าระอาลูกชาย

พยาบาลเอาเอกสารมาให้ถนอมเซ็น
“จริงๆก็น่าจะพักต่ออีกซักวันสองวันนะคะ เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน”
“ผมดีขึ้นแล้วครับ อยู่ไปก็เปลืองเงินเปล่าๆ”
“แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมด มีคนจ่ายให้คุณแล้วนะคะ”
“ใครกัน...”
“ก็ผู้ชายที่มาเยี่ยมคุณบ่อยนั่นแหละค่ะ”
ถนอมอึ้งไป
“ดวง...”
“เขายังฝากนี่มาให้คุณด้วยค่ะ”
พยาบาลยื่นซองบางอย่างให้ ถนอมหยิบมาเปิดดูเป็นสมุดบัญชีที่มีเลขหลักร้อยล้าน พร้อมจดหมายถนอมเปิดอ่าน
“ผมส่งสิ่งนี้ให้เพื่อบอกว่าเงินนี่เป็นของคุณนะครับ”
ถนอมอ่านแล้วน้ำตาคลอกับสิ่งที่ดวงทำ

อาซ้งเดินเข้ามาในโรงพยาบาล ในมือกำกระเป๋าสตางค์ของถนอมแน่น อาซ้งไม่รู้ว่าถนอมคือคนไหน
“หน้าตาก็ไม่รู้จัก ไอ้ซันนะไอ้ซัน”
อาซ้งเดินไป ถนอมก็เดินสวนเข้ามา อาซ้งไม่รู้จักหน้าเลยไม่รู้

อาซ้งรีบเดินมาที่ห้องพักฟื้นเปิดม่านก็พบว่าไม่มีใครอยู่แล้ว
“เอาอีกละ เป็นแบบนี้อีกละ”
พยาบาลเดินเข้ามาพอดี
“มาเยี่ยมคนไข้เหรอคะ”
“ใช่...คนไข้ที่ถูกแทงมาน่ะ”
“เพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ”
อาซ้งเสียดายที่คลาดนิดเดียว
“ตกลงฟ้าไม่อยากให้เจอกันจริงๆใช่มั้ยเนี่ย”
อาซ้งเจ็บใจ

คนเดินกรูเฮกันไปหน้าตลาดผ่านแผงไข่ไป ซันยังนั่งหงอยไม่สนใจ ชาวบ้านเดินมาทักซัน
“ไม่ไปดูเขามาถ่ายแบบกันเหรอ”
ซันส่ายหน้า
“ไม่เอา”
“ก็เห็นเขาบอกว่านางแหววเป็นนางแบบด้วย มันเป็นดาราตั้งแต่เมื่อไหร่”
“แหววเหรอ”

ซันวิ่งออกไปจากแผงโดยไม่สนใจใคร รีบไปหาแหวว

มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 29 (ต่อ)

แหววในชุดเซ็กซี่ยืนโพสท่าอยู่หน้าตลาด มีอุปกรณ์เซ็ตใหญ่สำหรับถ่ายภาพ ชาวบ้านมุงกันมากมาย

“ดูนางแหววสิ สวยเนอะ”
ซันชะเง้อดูแหวว ยิ้มดีใจที่ได้เห็นหน้าและได้ยินคนชมว่าแหววสวย การถ่ายถึงเวลาพักพอดี ช่างแต่งหน้าเข้าซับหน้า มีคนกางร่มคอยพัดให้แหวว ซันรีบเดินดุ่มๆเข้าไปทันที
“แหวว แหวว”
แหววมองซันอายๆ ไม่อยากทำท่าทีสนิท
“นึกแล้วว่าต้องทำงานถึงไม่รับโทรศัพท์ เพราะปกติแหววไม่ใช่คนแบบนั้น”
ช่างแต่งหน้าหันมาถามแหวว
“รู้จักคนแบบนี้ด้วยเหรอ”
แหววทำส่ายหน้าทำท่าว่าไม่รู้จัก
“ออกไป เขากำลังทำงานกันอยู่ เขาไม่ให้คนนอกเข้ามาวุ่นวาย”
“ก็บอกสิ ว่าฉันไม่ใช่คนนอก เป็นแฟนแหวว”
“ก็บอกให้ออกไปไง”
ทีมงานเข้ามาพาซันออกไป
“เข้ามาไม่ได้นะครับ ดูได้แต่ไกลๆนะครับ”
ซันหันมาหาแหวว
“แหววบอกสิว่าเรารู้จักกัน”
แหววไม่พูด ทำไม่สนใจ
“แหวว แหวว แหวว”
ซันถูกทีมงานลากออกไป แหววก็แอบสงสาร แต่ทำอะไรไม่ได้มาก...ซันถูกลากมาไว้อีกที่ ทีมงานขู่
“อย่าเข้าไปวุ่นวายอีกนะ ไม่งั้นจะเรียกตำรวจมาจับ”
“แต่ฉันรู้จักคนที่ถ่ายแบบอยู่นะ แกมาทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้”
ซันตื้อจะเข้าไป ทีมงานเริ่มโมโห
“เฮ้ย อยากมีเรื่องรึไง”
แหววเข้ามาห้าม
“พอเถอะ”
“แหววบอกพวกมันสิว่าเรารู้จักกัน”
“อย่าเข้ามาวุ่นวายเลย จะทำให้ลำบากกันทุกฝ่าย”
“แหวว”
ทีมงานหันมาถามแหวว
“ตกลงเป็นคนของคุณรึเปล่าเนี่ย”
“เปล่า”
แหววมองซันเห็นใจ แต่ก็พยายามไกล่เกลี่ยแล้วเดินเข้าไปข้างใน ซันเสียใจที่ได้ยินจากปากแหววแบบนั้น

ถนอมยืนรอแท็กซี่อยู่ อาซ้งเองก็เดินมายืนข้างๆโดยไม่รู้ว่านั่นคือถนอม
“แถวนี้ไม่ค่อยมีแท็กซี่เลยเนอะคุณ”
ถนอมยิ้มรับ อาซ้งถามต่อ
“รอมานานยังเนี่ย”
“สักพักแล้วครับ”
“มาหาหมอเหรอ”
ถนอมพยักหน้ารับ
“คุณก็มาหาหมอเหรอครับ”
“มาหาคน แต่ก็ไม่เจอ คลาดกันไปกันมาอยู่นั่น พลาดโอกาสนี้ก็ไม่รู้จะได้เจออีกมั้ย”
“คนสำคัญสินะครับ”
“มากเชียวล่ะ”
“ยังไงก็ขอให้ได้เจอในวันหนึ่งนะครับ”
“ขอบใจมาก นั่นแท็กซี่มาแล้ว”
ถนอมเดินกระย่องกระแย่งเพราะเจ็บแผล อาซ้งเห็นเลยเข้ามาช่วยพยุง
“ไปโดนอะไรมาเนี่ย”
“โดนแทงนิดหน่อย”
อาซ้งหันไปมองหน้าถนอมตาโตเหมือนจะรู้
“โดนแทงนี่แปลว่าไม่ธรรมดานะ อายุปูนนี้ แปลว่าขาใหญ่น่าดู”
ถนอมยิ้มๆ อาซ้งเปิดประตูให้แล้วส่งถนอมขึ้น แต่แล้วอาซ้งก็ทำกระเป๋าสตางค์ของถนอมที่ตัวเองพกมาร่วงลงกับพื้น กระเป๋าตังค์เปิดออกเห็นรูปเด็กชายตอนแบเบาะ ถนอมมองเห็นแล้วตกใจ อาซ้งไม่รู้อะไรรีบเก็บ
“ขอโทษที”
“นั่นมันกระเป๋าสตางค์ผมนี่...คุณไปเอามาจากไหน”
“พูดเป็นเล่น”
“ผมทำหายเมื่อหลายวันก่อนที่ตลาดสร้อยเพชร”
“บ๊ะ! งั้นเขยิบเข้าไปหน่อย”
ถนอมเขยิบเข้าไปด้านในรถ อาซ้งขึ้นแท็กซี่ไปกับถนอม

ค่ำนั้นคุณนายสร้อยเพชรนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก พะวงกำลังจะเอาน้ำเข้าไปเสิร์ฟ สายมุกเดินตามอาศัยพะวงบังไว้เพื่อจะออกไปข้างนอก แต่คุณนายสร้อยเพชรก็เห็น
“จะออกไปไหนน่ะยายมุก มืดค่ำแล้ว”
สายมุกยิ้มแหยๆ
“แหะ แหะ”
“หัวเราะอะไร ถามว่าจะออกไปไหน”
“นัดเพื่อนไว้น่ะค่ะ”
“ยายหนูดีเหรอ”
“ค่ะ หนูดี”
“ถ้างั้นไม่ต้องไป”
“ทำไมละคะ”
“แม่ไม่อยากให้มุกคบกับหนูดีละ แม่ว่าเขาเป็นเพื่อนที่ใช้ไม่ได้”
“แต่มุกก็…”
คุณนายสร้อยเพชรเสียงแข็ง
“ไม่ต้องไป”
สายมุกดูนาฬิกา อยากออกไปหาดวงจะแย่
“งั้นมุกขึ้นไปนอนละกันนะคะ”
คุณนายสร้อยเพชรหันไปสั่งพะวง
“คอยเฝ้าหน้าห้องยายมุกด้วย ไว้ใจไม่ได้”
สายมุกชะงัก
“แม่คะ มุกไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ”
คุณนายสร้อยเพชรไม่ฟังพยักหน้าให้พะวงตามไป
“ไปกันค่ะคุณมุก”
สายมุกเซ็งมาก

ดวงถอนใจตลอดเวลาที่นั่งอยู่กับหนูดีในร้านอาหาร
“ดวงกินอะไรดี ร้านนี้อร่อยหลายอย่างเลยนะ”
ดวงบอกเซ็งๆ
“แล้วแต่คุณเลยครับ”
“งั้นฉันสั่งเผื่อดวงเลยก็แล้วกันนะ”
“ผมขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้…แต่ต้องเอากระเป๋านั่นมาฝากฉันนะ”
ดวงงงๆ
“ทำไมละครับ”
“ก็เผื่อดวงแอบชิ่งไปให้ฉันทำไงล่ะ”
“งั้นไม่เป็นไรครับ”
“ตกลงว่าหายปวดห้องน้ำแล้วใช่มั้ย”

ดวงยิ้มแหยๆ ที่ถูกจับได้

สายมุกออกมาจากห้องน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอน พะวงก็ยังนั่งเฝ้าไม่ห่าง

“พะวงก็ไปบ้าจี้ตามแม่ มุกไม่หนีไปไหนหรอก ไม่ใช่เด็กๆแล้ว”
“ก็เพราะไม่ใช่เด็กนี่แหละค่ะ ถึงต้องห่วง”
“นี่มุกใส่ชุดนอนแล้วนะ จะนอนแล้วเนี่ย”
“ก็นอนไปสิคะ”
“แล้วนี่…ไม่ดูละครเหรอคะ ไหนบอกกำลังสนุก”
พะวงนึกได้
“ว๊าย...ตายแล้วลืมเลย”
“นั่นไง”
พะวงมองสายมุกไม่ไว้ใจ
“มุกไม่ไปไหนหรอก”
“ไม่เป็นไร ไม่ดูซักตอนก็ได้”
“หูย…เสียดายนะ พระนางกำลังสวีทไม่ใช่เหรอ”
พะวงอยากดูละครขึ้นมาจับใจ
“คุณมุกเนี่ย ยั่วจริง”
“พะวงก็ไปดูละคร ส่วนฉันก็นอน แค่นั้น ได้ตามความต้องการทั้งสองฝ่าย”
“แต่คุณมุกอย่าบอกคุณนายนะคะ ว่าพะวงบกพร่องต่อหน้าที่”
“ไม่บอกหรอก”
พะวงรีบแจ้นออกไปดูละคร สายมุกยิ้มหันไปดูนาฬิกา
“ว๊าย ไม่ทันแล้ว”
สายมุกรีบออกจากห้องตามไปติดๆ ไปทั้งชุดนอน

ดวงกินพอเป็นพิธี หนูดีเองก็คอยจ้องดวงตลอด กลัวดวงจะหนีไปไหน
“คุณหนูดีไม่ไปห้องน้ำเหรอครับ”
“ไม่อ่ะ ไม่ชอบเข้าห้องน้ำแปลกที่”
“ครับ”
ดวงหันดูนาฬิกาที่ร้าน เห็นเวลาก็ถอนใจ หนูดีกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟ ดวงดีใจนึกว่าจะเช็คบิล ยิ้มออกมาได้
“ขอเมนูของหวานหน่อยสิ”
ดวงถอนใจหนักกว่าเดิม
“ทานของหวานมั้ยดวง”
“ทานตอนนี้จะอ้วนนะครับ”
“ฉันไม่กลัวอ้วนตอนนี้หรอก กลัวอย่างอื่นมากกว่า”
ดวงยิ้มแห้งๆไม่พูดอะไร ทันใดนั้นโทรศัพท์หนูดีดังขึ้นขัดจังหวะ หนูดียกหูรับ
“สวัสดีค่ะ…ใครนะคะ โอม โอมไหนคะเนี่ย แป๊บนะคะ สัญญาณไม่ชัดเลย”
หนูดีเดินถือโทรศัพท์ออกไปคุยนอกร้าน ดวงเห็นหนูดีออกไปก็มองที่ประตูอีกด้าน

หนูดีคุยโทรศัพท์อยู่นอกร้าน
“อ๋อ โอม…โอมสายมุกใช่มั้ย… มีอะไร…คุยกับฉัน เรื่องอะไร…ก็ได้ เมื่อไหร่ล่ะ…ได้ ตกลง ตามนั้นก็ละกัน” หนูดีวางสาย “โอม…จะคุยอะไรกับฉันเนี่ย”
หนูดีนึกถึงดวงขึ้นมาได้ เธอรีบเดินกลับไปในร้านทันที แต่พอกลับมาที่โต๊ะไม่มีดวงอยู่จริงๆ หนูดีหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“อยากโดนมันหลอกนักรึไง คนหวังดีแท้ๆ”

ดวงมาถึงตลาดตอนกลางคืนที่ไร้ผู้คน เขามองหาสายมุกก็ไม่มี พยายามเดินหาตามมุมต่างๆ ก็ไม่มี ดวงเริ่มท้อใจคิดว่าสายมุกโกรธ แต่แล้วสายมุกก็วิ่งมาในชุดนอน
“ขอโทษที มาสายไปหน่อย”
ดวงเห็นสายมุกในชุดนอนเขาก็อมยิ้ม สายมุกดูชุดตัวเองเขินๆ
“ก็มันรีบ”
“ผมเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่มั้ยที่จะมาที่นี่”
สายมุกพยักหน้ารับ ทั้งคู่ยิ้มให้กัน

ดวงพาสายมุกมาที่ที่เขาเคยอาศัยอยู่ สายมุกเดินดูทั่วๆ
“คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไงน่ะ”
“มันดูลำบากมากเลยสิ”
“เปล่า…แค่รู้สึกว่า ที่นี่กลางวันคนพลุกพล่าน แต่ตอนกลางคืนกลับไม่มีใคร มันน่าเหงาออกจะตาย”
ดวงยิ้มๆ
“คุณกลัวเหงาเหรอ”
“ไม่ได้กลัว…แต่ไม่ชอบ เหงามาทั้งชีวิตแล้ว”
ดวงเดินไปจับมือสายมุกแบบกล้าๆกลัวๆ สายมุกแอบยิ้ม
“เราจะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน”
สายมุกถอนใจ
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่รู้จะบอกแม่ยังไงดี กลัวแม่จะเป็นเหมือนหนูดีอีกคน”
“ให้ผมช่วยคุยกับคุณหนูดีให้มั้ย”
สายมุกส่ายหน้า
“ไม่ต้องหรอก ฉันภาวนาว่าสักวัน เขาจะเข้าใจฉัน”
“อะไรที่อุปสรรคเยอะๆ ข้างหน้ามันน่าจะดีนะ ว่ามั้ย”
“แต่ฉันกลัว…ฉันไม่รู้ว่าต่อจากนี้เราต้องเจออะไรบ้าง” สายมุกจริงจัง “ดวง สัญญาได้มั้ยว่าจะเชื่อใจกันมากๆ ไม่ฟังคำคนอื่น นอกจากคำพูดฉัน”
ดวงพยักหน้ารับ
“สัญญา”
“ฉันก็จะสัญญาเหมือนกัน”
ดวงและสายมุกกุมมือกันแน่นทั้งคู่ต่างก็ไม่แน่ใจในอนาคต

ซันยืนรอแหววที่หน้าบ้าน มีรถเก๋งคันหรูมาส่ง แหววลงจากรถยิ้มแย้ม แต่พอเห็นซัน แหววก็เครียดทันที
“นั่นใครมาส่งน่ะ”
แหววตอบสั้นๆ
“เพื่อน”
“เป็นดาราไม่นาน ก็มีรถเก๋งคันงามมาส่งถึงหน้าบ้านแล้วเหรอ”
“กลับบ้านไปนอนไป”
ซันไม่พอใจ
“เห็นหน้าก็ไล่เลยเหรอ วันนี้ไล่มารอบนึงแล้วยังไม่พออีกเหรอ”
“ก็ทำงานอยู่”
“เธออายใช่มั้ยที่รู้จักคนอย่างฉัน”
“อย่าเพิ่งคุยกันตอนนี้ดีกว่า”
“เราเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมจะคุยกันไม่ได้”
“ถ้าหาเรื่องกันแบบนี้ อย่าคุยกันดีกว่า”
“หาเรื่องเลิกใช่ป่ะ ใช่สิ ฉันมันหน้าตาไม่ดี ไม่มีรถเก๋งนี่ จะไปสู้คนอื่นได้ไง”
“เธอก็รู้ว่าฉันอยากเป็นดารา ฉันรอเวลานี้มาทั้งชีวิต ฉันไม่ยอมเสียมันไปง่ายๆหรอกนะ”
“เธอก็เลยจะทิ้งทุกอย่างเพื่อมัน รวมทั้งฉันด้วย…เห็นแก่ตัวชิบเป๋งเลย”
“ฉันทำงานมาเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปนอนก่อน ฉันไม่มีเวลามาทะเลาะด้วยหรอกนะ”
แหววเดินจากซันไป ทั้งที่ก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน ซันตะโกนไล่หลัง
“เออ ฉันมันกระจอก ไม่คู่ควรกับคนอย่างเธอหรอก อยากไปไหนก็ไปเลย ขอให้เด่นให้ดังก็แล้วกัน”
ซันพูดอย่างเจ็บปวด ซึ่งแหววฟังก็รู้สึกผิด

อาซ้งเมาแอ๋ไปซะแล้ว ถือแก้วยกชนกับถนอม ซึ่งกินเพียงน้ำเปล่า อาซ้งเริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้ว
“ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันวันนี้”
“พี่เมามากแล้วนะ ตั้งแต่นั่งรถมาพี่ไม่พูดประโยคอื่นเลยนอกจากดีใจที่ได้เจอ”
“ฉันรอวันนี้มาทั้งชีวิต ฉันอยากจะเห็นหน้ามันเหลือเกิน ไอ้คนที่ใจร้ายใจดำเนี่ย”
“พี่หมายถึงผมเหรอ”
“เอากระเป๋าสตางค์มาดิ๊”
ถนอมหยิบกระเป๋าสตางค์ยื่นให้ อาซ้งเปิดมันชี้รูปดวง
“ไอ้เด็กนี่ใคร”
ถนอมอึกอัก
“มีอะไรรึเปล่า”
“ไม่ตอบ คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ไอ้เด็กนี่ฉันเลี้ยงมันมากับมือ มันถูกทิ้งไว้ข้างกองขยะที่ตลาด ฉันจำแววตาของมันได้ไม่เคยลืม จำเสียงร้องไห้ของมันได้แม่น”
ถนอมชะงัก
“พี่คือ…”
“ใช่...ฉันคือคนที่เลี้ยงไอ้ดวงมาเองล่ะ”
ถนอมนิ่งอึ้งไป
“รู้มั้ย ตลอดเวลาฉันเอาแต่ถามว่าพ่อแม่บังเกิดเกล้ามัน ทำกับมันแบบนี้ได้ยังไง”
ถนอมหน้าเสีย
“คือ…”
“แต่เดี๋ยว ก่อนที่แกจะตอบเนี่ย…ฉันฝันไว้อย่างนึง”

อาซ้งลุกขึ้นยืนมาดึงคอเสื้อถนอมขึ้น แล้วก็ชกถนอมลงไปกองกับพื้น แต่ตัวเองก็เมาหนักก็ลงไปกองกับพื้นด้วยเหมือนกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น