ทองประกายแสด ตอนที่ 13
บุญเทียมนอนหลับฝันไป...ในฝันบุญเทียมคล้องกระเป๋าหรู ยืนอ่านหนังสือพิมพ์ด้วยมาดนางพญา
“บีบีเป็นนักปั้นมือหนึ่ง รวยเละ หลังจากที่ดันทองประกายเป็น นางเอกหนังค่าตัวแพงลิ่ว แถมยังได้งานโฆษณาอีกเป็นสิบ”
ทองดีเข็นรถเข็นบรรทุกเงินจนล้นเข้ามาให้
“ทองประกายก็ต้องขอบคุณเจ๊บีบี ที่ทำให้ทองประกายมีวันนี้ นี่เป็นเงินส่วนแบ่งของเจ๊จ้ะ”
บุญเทียมตาลุก
“ว้าว เงิน”
บุญเทียมกระโจนเข้าใส่ นอนเกลือกกลิ้งบนกองเงินอย่างมีความสุข...บุญเทียมละเมอเกลือกกลิ้งบนเตียงนอน
“เงินๆๆ...”
ทันใดนั้นเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น บุญเทียมสะดุ้งตื่น มองไปรอบๆเตียง
“เงินฉันล่ะ โธ่...ฝันหรอกเหรอเนี่ย...อ้ะ แต่ก็ถือว่าเป็นฝันที่ดี ฝันบอกเหตุว่าจะได้เงินก้อนใหญ่...จากคุณดำเกิง”
บุญเทียมหัวเราะชอบใจลุกจากเตียง ร้องเพลงอย่างสดใสร่าเริงไปเข้าห้องน้ำ
ทางด้านทองดี เธอนอนหลับฝันไปว่า...กำลังเดินโปรยเงินให้บุญเทียมตามเก็บเงินด้วยความโลภ ทองดีเชิดๆ
“นี่เป็นเงินค่าตัวจางานถ่ายหนัง...ถ่ายแบบ เดินแบบ เล่นละคร อีเว้นท์ ถ่ายโฆษณา”
ทองดีโปรยเงิน บุญเทียมเก็บเงินมาหอบไว้ พูดอย่างหงอๆ
“เจ๊โชคดีมากที่ได้เจอน้อง ทองประกาย ขอบคุณนะที่ยอมมาร่วมสังกัดของเจ๊”
“ยังไม่หมด”
ทองดีเปิดตู้เซฟให้ดูเงินที่ไหลล้นออกมา บุญเทียมตาลุก
“ว้าว...เงิน”
บุญเทียมจะกระโจนเข้าใส่เงิน แต่ทองดีคว้าคอเสื้อไว้ก่อน
“เสียใจ ทั้งหมดนี่มันเงินของฉันคนเดียว ฉันไม่ยอมให้แกโกงฉันหรอก แล้วก็เชิญใช้กระเป๋าโอท็อปของแกต่อไปเถอะ อย่าหวังเลยว่าจะได้ใช้แอร์เมส”
ทองดีหัวเราะลั่นสะใจ
เช้าวันใหม่...ทองดียังนอนหลับอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมเสียงเรียก
“ทอง...ตื่นหรือยัง...ทอง”
ทองดีงัวเงียตื่นขึ้น อย่างหงุดหงิด แล้วเดินไปเปิดประตู เห็นบุญเทียมยืนยิ้มหวานให้
“อะไรเจ๊ กำลังฝันดีอยู่เลย”
“มอร์นิ่งจ้า ฉันก็ฝันดีเหมือนกัน”
ทองดีมองอย่างสงสัย
“แล้วไง จะมาบอกแค่นี้เหรอ”
“เปล่า ฉันจะมาบอกว่า ฉันเตรียมอาหารเช้าไว้ให้”
ทองดีตาโต แปลกใจสุดๆ
“ถามจริง เมื่อคืนฝันว่าเจ้ากรรมนายเวรมาตามทวงหนี้หรือเปล่า ถึงต้องได้มาทำดีล้างบาปอย่างเงี้ย”
บุญเทียมค้อน
“แหมหล่อน ปากเนี่ยนะ น่าตบ เอ้ย...น่าตีจริงๆ เอาล่ะๆ มากินก่อนเร็ว”
ทองดียังทำหน้าลังเล บุญเทียมดึงมือออกไป
“มาเร็วๆเถอะน่า ไม่ต้องงงมากหรอกย่ะ ฉันปกติดี”
ทองดียืนตะลึงมองดูอาหารเช้าที่มีทั้งสลัด น้ำผลไม้ และอื่นๆ เป็นอาหารเช้าที่ดูดี มีประโยชน์ บุญเทียมยืนยิ้มปลื้มกับผลงาน
“ฉันคัดมาแล้ว ผักสลัดก็เป็นผักออร์แกนิกส์ นี่ก็น้ำแครอทปั่น ไม่ใส่น้ำตาล ทุกอย่างมีประโยชน์ต่อสุขภาพ รูปร่าง และผิวพรรณ พวกดาราเขาก็กินอย่างนี้แหละเพราะฉะนั้นเธอก็ต้องดูแลตัวเองตั้งแต่เดี๋ยวนี้”
“คิดตังค์ด้วยใช่มั้ยเนี่ย ไม่กินหรอก”
ทองดีจะเข้าห้อง บุญเทียมรีบดึงไว้
“ไม่คิ๊ด”
“ดีเกินไปไหมเนี่ย”
“อาหารเหรอ”
“เจ๊น่ะ”
“อุ๊ย...ฉันก็ต้องดูแลตัวเงินตัวทอง เอ้ย...เด็กในสังกัดของฉันอย่างดีสิ มาๆ นั่งๆแล้วก็กินซะ”
ทองดียังงงๆ หยิบน้ำแครอทมาดื่ม แต่ก็มองอย่างระแวง บุญเทียมนั่งลงกินด้วย
ดำเกิงนอนแฮ้งค์อยู่ที่โซฟา เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขางัวเงียรับสายทั้งที่ยังไม่ลืมตา
“ฮัลโหล...น้องฟางไหน...อ๋อ เจอกันเมื่อคืน...เราคงเจอกันไม่ได้อีกแล้วล่ะ เพราะตอนนี้พี่ป่วยหนัก เพิ่งตรวจเจอโรคร้ายแรง น้องฟางอย่ามารักพี่เลยนะ...ลาก่อนจ้ะ...”
ดำเกิงกดวางสาย ป๊าเดินลงมาจากบนบ้าน เห็นสภาพลูกชาย ก็ส่ายหน้าระอาใจ
“ไง ตื่นมาเคลียร์เรื่องหญิงแต่เช้าเลยนะ ไหนว่าไปคุย pre-pro เรื่องหนังไง ทำไมมานอนเหม็นเหล้าอย่างนี้ แล้วทำไมไม่กลับไปนอนที่คอนโด”
“เพื่อนมันขอยืมห้องน่ะ”
ป๊าหน้าตื่นพูดเสียงดัง
“ไอ้หยา พวกลื้อนี่มันทำแต่เรื่องสกปรก แล้วที่ผู้หญิงโทรหาลื้อเมื่อกี๊ล่ะ อย่ามาทำเรื่องให้ป๊าต้องมาเคลียร์ข่าวอีกนะ ลื้อสัญญาแล้วนะว่าจะตั้งใจทำงาน ไม่งั้นลื้อเจอดีแน่”
“รู้แล้วน่า ป๊าอ่ะ ด่าแต่เช้า”
ดำเกิงเอาหมอนมาปิดหน้า ป๊ายังด่าต่อ
“ไม่ด่าได้ยังไง อย่าคิดว่าเป็นลูกคนมีเงิน แล้วจะทำตัวเลวๆได้นะ ที่ผ่านมาป๊าก็ให้โอกาสลื้อหลายครั้งแล้วนะ ถ้าลื้อยังไม่ได้เรื่อง ลื้อเจอดีแน่”
ป๊าเดินออกไปอย่างอารมณ์เสีย ดำเกิงนอนต่อไม่ไหว เพราะป๊าชักด่าแรง เลยต้องลุกขึ้นมานั่งลูบหน้า ขยี้หัว
“สร่างเลยกู”
ทองดีกินอาหารเช้าอยู่กับบุญเทียม อาหารพร่องไปพอสมควรแล้ว บุญเทียมมองๆแล้วเริ่มเข้าเรื่อง
“นี่ ฉันมาคิดๆดูแล้ว จะว่าไปคุณดำเกิงนี่ก็ดูเป็นคนดีเหมือนกันนะ”
ทองดีงง
“อ้าว ไหนตอนแรกบอกว่าร้าย ต้องระวังเอาไว้ไง”
“แหมก็ภาพกับตัวจริงไม่เหมือนกันนี่ เรื่องในอดีต ใครๆก็ผิดพลาดได้ทั้งนั้น จะทำ
ใครท้อง หรือท้องกับใคร...หรือจะหลายผัว”
ทองดีอึ้ง เหลือบมอง บุญเทียมทำไม่รู้
“บางทีเราก็ต้องมองๆผ่านมันไปบ้าง...ใช่ไหม”
ทองดีชักฉุนพูดห้วนๆ
“อือ นี่ไม่ได้หลอกด่าอะไรฉันใช่ไหม”
“เปล๊า...ฉันพูดถึงทั่วๆไปต่างหาก ไม่ต้องสนใจหรอกน่า สนใจคุณดำเกิงดีกว่า เขาว่าเขาเห็นแววเธอ เขาจะดันให้เธอดัง เธอน่ะโชคดีนะที่จะได้เล่นหนังกับฟิล์มพีซ เพราะฉะนั้นเธอต้องเอาใจคุณดำเกิงเขาไว้ดีๆล่ะ”
ทองดีตาโต
“นี่เขาตอบตกลงให้ฉันเล่นหนังแล้วเหรอ ไปคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
บุญเทียมพูดอ้อมแอ้ม
“ก็แค่คุยคร่าวๆน่ะ เขาบอกจะโทรมาคุยรายละเอียดวันนี้ ก็กะว่าฉันจะตกลงเรื่องคิว เรื่องค่าตัวให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยบอกเธอ”
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดังมาจากในห้อง
“นั่นไง พูดยังไม่ทันขาดคำเลยเห็นไหม เดี๋ยวฉันไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ”
บุญเทียมเดินไป พอผ่านทองดีก็แอบเหลือบมอง ยิ้มร้าย พอบุญเทียมเข้าห้องปิดประตูแล้ว โทรศัพท์ของทองดีก็ดังมาจากในห้องบ้าง เธอลุกขึ้นเข้าไปในห้อง ปิดประตู
บุญเทียมหยิบโทรศัพท์มาพูดสาย
“อ้าว พ่อหรอกเหรอ...เออน่า เดี๋ยวส่งไปให้ ต้องใช้เท่าไหร่ล่ะ”
บุญเทียมหน้าตื่น
“8หมื่น!”
บุญเทียมโวยวายใส่โทรศัพท์
“ซ่อมบ้านอะไรตั้งแปดหมื่น ฉันยังไม่มีขนาดนั้นหรอกพ่อ พ่อรออีกหน่อยได้ไหม ฉันกำลังจะได้เงินก้อนใหญ่ไม่นานนี่แหละ...จ้ะๆ...จ้ะพ่อ ไม่ลืมหรอก”
บุญเทียมวางสายอย่างหนักใจ
ในห้อง...ทองดีคุยกับดำเกิง
“มีอะไรเหรอคะคุณดำเกิง”
“ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วย แต่ผมไม่อยากให้พี่บีบีรู้ ผมขอเจอคุณส่วนตัวนะ”
“เรื่องหนังเหรอ”
“ก็...ทำนองนั้น”
ทองดีคุยโทรศัพท์หน้าตาสงสัย
“ไม่อยากให้พี่บีบีรู้ แล้วทำไมเขามาพูดเกริ่นกับฉันเหมือนรู้แล้วล่ะ”
“รู้อะไร มาคุยกันก่อนดีกว่า คุณอาจจะรู้แบบผิดๆก็ได้”
ทองดีครุ่นคิด
ทองดีออกมาจากห้องพร้อมกับบุญเทียม ทั้งสองมองหน้ากัน บุญเทียมหน้าจ๋อยๆ
“ไม่ใช่คุณดำเกิงหรอก”
“อือ...เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอกนะ”
บุญเทียมเปลี่ยนอารมณ์เป็นจิกทันที
“จะไปไหน”
“ฉันก็มีเรื่องส่วนตัวเหมือนกันนี่ ต้องรายงานทุกเรื่องเลยหรือไง”
“แต่ฉันเป็นผู้จัดการเธอนะ ฉันก็ต้องรู้สิ ถ้าคุณดำเกิง...หรือใครโทรมาติดต่องาน ฉันจะได้บอกเขาถูกว่าเธอว่างหรือไม่ว่าง”
“เออน่า ไปไม่นานหรอก”
ทองดีรีบกลับเข้าห้องไป อาบน้ำ แต่งตัว บุญเทียมมองตามอย่างไม่พอใจ
“จะเลี้ยงเชื่องไหมนังนี่”
ทองดีมาพบดำเกิงที่ร้านกาแฟ ทองดีโมโหมากเมื่อรู้เรื่องจากดำเกิง
“อีเจ๊บีบี นี่มันกะจะขายฉันให้คุณเหรอเนี่ย แหม มิน่าเมื่อเช้ามาทำดีด้วย แล้วบอกว่าปกติดี ฮึ...เลวตามปกติน่ะสิ” ทองดีเอะใจ “แล้วนี่คุณมาบอกฉันทำไม”
“เพราะผมรักคุณน่ะสิ ถึงไม่อยากให้คุณเสียรู้คน ผมเลยจะปั้นคุณเอง”
ทองดีชักสงสัย
“ที่ทำดีกับฉันเนี่ย เพราะรักเหรอ”
ดำเกิงมองตา
“ใช่...”
ดำเกิงจะจับมือเธอที่วางอยู่บนโต๊ะ ทองดีดึงมือออกก่อนอย่างรู้ทัน
“รักได้ไง เพิ่งเจอกัน”
“คุณเชื่อเรื่องรักแรกพบไหมล่ะ”
ทองดีนิ่งไป นึกถึงเรื่องที่ผ่านมา เผลอเศร้า ดำเกิงมองอย่างสงสัย
“เป็นอะไรไป”
ทองดีรีบเปลี่ยนเป็นแข็งๆ
“เปล่า รักแรกพบอะไร ฉันไม่รู้หรอก แต่ถ้าจะให้ฉันเล่นหนัง ฉันก็ต้องได้เซ็นสัญญาก่อน”
ดำเกิงเซ็งไปนิดนึง เสียอารมณ์
บุญเทียมกำลังเอกเขนกอ่านหนังสือประเภทดาราบันเทิงอยู่ พร้อมทั้งด่าไปด้วย
“นางเอกหน้าหวาน ไปทำบุญเลี้ยงเด็กกำพร้า” บุญเทียมหัวเราะ “ว้าย นังนี่โปรโมทตัวเอง เก่งจริงๆ กูเคยเห็นเด็กมาขายปากกามึง มึงยังสั่งให้ผู้จัดการไล่ไปเลย...อุ๊ย แต่มันก็ดังนะ”
บุญเทียมคว้ามือถือมากดๆเบอร์ เริ่มโทรหา พวกหนังสือต่างๆ
“ดาราแซ่บเว่อร์นะคะ บีบีค่ะ อยากให้พี่ช่วยโปรโมทข่าวเด็กปั้นหน้าใหม่หน่อยค่ะ ค่า...ทองประกายนั่นแหละค่ะ อุ๊ยดีใจจัง พี่จำได้ด้วย...ค่า...คือว่าน้องเขาจะได้เล่นหนังน่ะค่ะ…พี่ช่วยเขียนว่าค่ายฟิล์มพีซยื่นบทนางเอกให้ทองประกาย ดาวดวงใหม่ภายใต้สังกัดบีบี กับพรสวรรค์ทางการแสดงที่ทุกคนต้องจับตามอง”
บุญเทียมเดินคุยอยู่กับหนังสืออีกเล่ม
“star zoneนะ คะ...บีบีเองค่า...อยากรบกวนให้ช่วยลงข่าวนางเอกหน้าใหม่น่ะค่ะ”
เวลาผ่านไปบุญเทียม ยังคงโทรติดต่อกัยคนโน้นคนนี้อยู่
“ขอบคุณพี่แต๋วแหววด้วยนะคะ ที่กรุณาพีอาร์ข่าวทองประกายให้ แล้วบีบีจะพาน้องไปขอบคุณพี่นะคะ...ค่า ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ” บุญเทียมวางสาย “หล่อนดังแน่ แม่ทองประกาย...หล่อนดัง ฉันก็รวย”
บุญเทียมหัวเราะชอบใจ
ดำเกิงนั่งกอดอก ครุ่นคิด ถอนใจ ทองดีเริ่มรำคาญ
“ถ้าต้องคิดนานขนาดนี้ เอาไว้วันหลังคุณค่อยมาบอกก็ได้”
ทองดีลุกขึ้น จะกลับ ดำเกิงรีบคว้ามือไว้
“โอเค เราจะเซ็นสัญญากัน ผมจ่ายค่าตัวล่วงหน้าให้ครึ่งหนึ่งก่อน วันเปิดกล้อง อีกครึ่งมารับตอนหนังฉาย ตกลงไหม”
“ตกลง”
ดำเกิงมองทองดีแววตาเจ้าชู้
“แต่ว่าต้องหาที่เซ็นสัญญากันหน่อย ที่นี่มันประเจิดประเจ้อเกินไป”
ทองดีรู้ แต่ก็คิดถึงผลประโยชน์
“แล้วคุณจะพาฉันไปเซ็นในที่ลับตาที่ไหนล่ะ”
ดำเกิงยิ้มพอใจ ส่งสายตาเจ้าชู้ให้ ทองดียิ้มอย่างรู้ทัน
ค่ำนั้น...ทองดีอยู่กับดำเกิงที่คอนโดของเขา ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม สักครู่ก็ถอนหน้าออกจากกัน ดำเกิงค่อยๆถอดเสื้อของเธอ ทองดีเขินอายแล้วความคิดเรื่องในอนาคตของเธอก็แว่บเข้ามาในห้วงคำนึง ในความคิดเธออยู่ในชุดสวย เดินสง่ามาตามแคทวอล์คโพสท์ท่าอย่างมั่นใจ...เธอถ่ายแบบในชุดหรู...สุดท้ายเธออยู่หลังเสลท เมื่อมีคนคัทเสลท เธอก็โพสท์ท่าใส่กล้องด้วยสายตาที่เฉียบขาด
ดำเกิงซุกไซ้ซอกคอ ทองดีเคลิ้มไป แต่แววตาคิดฝันต่อ เธอยืนอยู่หน้าบ้านสวยหลังใหญ่ที่ซื้อเอง มองบ้านอย่างปลื้มใจ มีคนใช้ เอาน้ำใส่ถาดมาเสิร์ฟ...
ดำเกิงผลักทองดีให้นอนลง แล้วตัวเองก็ถอดเสื้อ ทองดีเคลิ้มฝัน...เธอยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วมีรถสวยคันหนึ่งแล่นเข้ามา คนขับเปิดประตูลงมาเอากุญแจรถมาส่งให้ ค้อมหัวให้ แล้วออกไป...สองคนพลิกกันไปมา ในห้วงความคิดของทองดี ไทกำลังยิ้ม หัวเราะ...ทองดีและดำเกิงกอดก่ายกันอย่างเร้าร้อนพร้อมกับเสียงหอบหายใจที่หนักหน่วงและเร็วขึ้น
ในความคิดของเธอ...เป็นภาพที่เธออยู่ในชุดสง่างามยืนอยู่บนเวที ถือรางวัลเกียรติยศ เสียงพลุดังขึ้น มีพลุกระจายเหนือศีรษะ ดูยิ่งใหญ่ แสงแฟลชวูบวาบ จับที่เธอ ทองดีภาคภูมิใจกับความสำเร็จในชีวิต...ดำเกิงล้มตัวลงนอนข้างๆอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วหลับไป ทองดียังลืมตา ยิ้ม เหม่อมองไป คิดฝันถึงแต่ความมีชื่อเสียงและสุขสบายของตนเอง
บุญเทียมโมโหที่ทองดียังไม่กลับ โทรจิกหลายรอบ แต่ทองดีก็ไม่รับสาย
“โอ๊ย...อีนี่ บอกไปแป๊บเดียว ไป featuring อยู่กับใครหรือเปล่าเนี่ย โอ๊ย...ตายๆๆ ถ้าคุณดำเกิงรู้ หล่อนจะได้เกิดไหมเนี่ย” บุญเทียมทิ้งตัวนั่งบนโซฟาอย่างเซ็งๆ “โอย...เผลอๆได้ชวดทั้งหนัง ละคร ถ่ายแบบ เงินทองของฉันก็หายวับน่ะสิ ว้าย ไม่ได้ๆ”
บุญเทียมกดมือถือตามจิกอีก แล้วรอสาย
เช้าวันใหม่...ทองดี กึ่งนั่งกึ่งนอน เอาผ้าห่มปิดร่างที่ยังเปลือยไว้ อยู่บนเตียง กระหยิ่มยิ้มย่องกับสัญญาที่ถืออยู่ในมือ แล้วมองไปด้านข้างเห็นดำเกิงยังนอนคว่ำหน้าหลับสนิทไม่รู้เรื่องอยู่
เมื่อกลับมาที่บ้าน บุญเทียมกรี๊ดใส่ทองดีด้วยความโมโห ทองดีเซ็งๆ
“จะกรี๊ดทำไมเนี่ย เดี๋ยวใครเขาก็นึกว่าฉันวิปริตขืนใจกะเทยหรอก”
“ยังจะมาทำปากดีอีก หายไปทั้งคืน โทรหาก็ไม่ติด ไปขายตัวที่ไหนมา จะมาติดนิสัยกะหรี่สมัยเป็นโคโยตี้ไม่ได้นะ”
“อ้าว...พูดอย่างนี้ เดี๋ยวก็ตบหรอก อย่านึกว่าไม่กล้านะ”
ทองดีโกรธเงื้อมือ บุญเทียมอึ้งกลัวนิดๆ
“งั้นก็บอกมาสิว่าหายหัวไปไหนมา อย่ามาถามอีกนะว่าต้องรายงานทุกเรื่องเหรอ หล่อนทำตัวอย่างนี้ ต่อไปนี้ก็ต้องบอกให้ฉันรู้ทุกเรื่อง”
ทองดีอารมณ์ขึ้น
“แล้วที่แกไปตกลงกับคุณดำเกิงล่ะ ทำไมฉันไม่รู้”
บุญเทียมอึ้ง ตกใจ
“รู้ได้ยังไงเนี่ย”
“ก็เพราะฉันหายไปอยู่กับคุณดำเกิงมาไงล่ะ”
บุญเทียมอ้าปากค้าง
“ฮ้า...งั้นก็แสดงว่าเธอกับคุณดำเกิง...ว้าย นึกแล้วว่าไอ้ดำเกิงมันต้องเลว นี่มันคิดตลบหลัง เอาดีเข้าตัวเอาชั่วโบ้ยให้ฉัน แล้วก็หลอกฟันเธอ”
ทองดีอึ้งไปนิดๆ ชักหวั่นๆ แต่ก็ยังไม่เชื่อ
“เธอก็เหมือนกัน ไปยอมมันทำไม ถ้าโดนมันหลอกฟันฟรีๆนะ พัง...พังกันหมด โอ๊ย...ทำไมถึงได้โง่ ๆๆๆ อย่างนี้”
ทองดีไม่พอใจ
“แล้วจะให้ฉันโง่โดนแกหลอกหรือไง”
“แล้วหล่อนคิดว่าหล่อนฉลาดนักใช่ไหม ที่ไปนอนแบให้มันน่ะ”
ทองดีโชว์สัญญาที่เซ็นกับดำเกิง
“ฉันเซ็นสัญญากับคุณดำเกิงแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาโกงฉันได้ทั้งนั้น รวมทั้งแกด้วย”
บุญเทียมตะลึง หน้าเจื่อน จ้องอ่านสัญญา แต่ทองดีรีบเอาลง
“เอาเถอะๆ ฉันยอมขอโทษก็ได้ ฉันผิดเอง นี่...ขอดูสัญญาหน่อยสิว่ามีอะไรเสียเปรียบเขาหรือเปล่า”
ทองดีไม่ให้ดู
“ไม่ต้องดูหรอก แค่รอรับส่วนแบ่งก็พอ”
ทองดีเดินเข้าห้องไป บุญเทียมด่าตามหลัง
“ย่ะ แม่คนฉลาด อย่าเสียรู้มันก็แล้วกัน นี่...บ่ายมีงานเดินแบบนะยะ”
ทองดีตะโกนออกมา
“รู้แล้ว”
บุญเทียมถอนใจอย่างเอือมๆ
ทองดีแต่งหน้า ทำผม บุญเทียมถือแม็กกาซีน 3-4 เล่มเข้ามาอย่างดีใจ
“ทอง ดูซะ ข่าวเธอลงแล้วนะ นี่ๆๆ” บุญเทียมเปิดให้อ่าน “ไม่เสียแรงที่ฉันโทรไปอ้อนวอนพวกนักข่าว”
ทองดีรับมาอ่าน
“ฟิล์มพีซยื่นบทนางเอกให้ทองประกาย...เจ๊ นี่ฉันจะได้เล่นหนังจริงๆแล้วใช่ไหม”
“ต้องได้เลยล่ะ หนังสือลงกันแทบทุกเล่มขนาดนี้ ดำเกิงคงปฏิเสธไม่ได้”
“ขอบคุณนะเจ๊”
“ย่ะ แหม นานๆได้ยินหล่อนพูดดีๆสักที ฟังแล้วขนลุกเกรียว”
ทองดียิ้ม แล้วหยิบเล่มอื่นมาเปิดดู อ่านแล้วก็ดีใจกับทุกเล่ม
ดำเกิงนั่งดูเว็บข่าวทองดีจะเป็นนางเอกหนังของตน ก็ยิ้มขำ ทันใดนั้น เจนนี่เข้ามาด้วยความโมโห วางหนังสือโครมตรงหน้าดำเกิง
“อะไรกันครับเจนนี่”
“ไหนคุณว่าเจนนี่มีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะได้เล่นหนังคุณไง แล้วทำไม ข่าวลงว่าให้ทองประกายเป็นนางเอกแล้วล่ะ จะให้เล่นหรือไม่ให้เล่นทำไมคุณไม่บอกเจนนี่เลย”
“ใจเย็นๆก่อนเจนนี่ ข่าวมันมั่ว ผมยังไม่ได้ให้ข่าวใครเลยนะครับ ของอย่างนี้มันเขียนแต่งกันเองได้คุณอยู่ในวงการ คุณก็น่าจะรู้”
เจนนี่สงบลงมาได้บ้าง
“งั้นแสดงว่าคุณ ยังไม่ได้ตกลงอะไรกับทองประกายใช่ไหม”
“ถูกต้อง”
เจนนี่ถอนใจ โล่งอก ดำเกิงส่ายหน้าเซ็ง
วันต่อมา ดำเกิงรออยู่ที่ล็อบบี้ ครู่หนึ่งทองดีก็เดินออกจากลิฟท์มาหา
“ไปค่ะ”
ทองดีควงแขนดำเกิงเดินไป บุญเทียมเดินสวนกลับเข้ามา ทั้งสองฝ่ายมองกันอึ้งๆ บุญเทียมเมินใส่ดำเกิง หันไปพูดกับทองดี
“ฉันเพิ่งไปคุยงานละครให้เธอนะ ผู้ใหญ่เขาอยากเจอตัวพรุ่งนี้ อย่ากลับดึกล่ะ”
“อะไรกันพี่บีบี จะให้เล่นหนังกับผม แล้วอยู่ๆจะเอาทองประกายไปขาย เอ้ย...ไปเล่นละครให้คนอื่นได้ยังไง”
“ก็พี่ไม่เห็นคุณพูดเรื่องหนัง ไม่มีการบอกคิวเวิร์คช็อป ไม่มีการบอกอะไรสักอย่าง” บุญเทียมค้อนทองดี “มีแต่มารับกันไปนอน พี่น่ะให้ข่าวไปแล้วนะว่าทองจะได้เป็นนางเอกหนังของคุณ”
ดำเกิงได้แต่ยิ้ม
“ครับ...ผมเห็นแล้ว”
บุญเทียมอึ้ง คิดว่ามันตอบได้แค่นี้เหรอ ทองดีมองดำเกิง ชักหวั่นๆ
ในคอนโด...ดำเกิงจูบซอกคอทองดีจากด้านหลัง แต่เธอนิ่ง ขมวดคิ้ว ครุ่นคิด
“คิดอะไรอยู่เหรอ”
“คิดถึงที่พี่บีบีพูด” ทองดีหันมองดำเกิงหน้าตาจริงจัง “ฉันก็ชักสงสัยเหมือนกัน ไม่เห็นคุณ
พูดเรื่องหนังกับฉันเลย”
“ได้สัญญาไปแล้วยังจะกลัวอีกเหรอ”
ทองดีนิ่ง ครุ่นคิด ไม่รู้จะต่อรองยังไง เพราะก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากนัก
“ก็เดี๋ยวสิ ใจร้อนกันไปได้ ผมก็ต้องคุยกับทีมงานให้ลงตัวก่อน ไม่เอาน่า เรากำลังมีความสุขกันนะ อย่าเครียดสิ”
“จริงนะ”
“จริงสิ”
ดำเกิงดันทองดีเบาๆ ให้นอนลงบนเตียง
อ่านต่อหน้า 2
ทองประกายแสด ตอนที่ 13 (ต่อ)
ทองดี กับดำเกิงไปเดินเล่นด้วยกัน...
“เดี๋ยวกินข้าวแล้ว จะไปไหนกันอีก”
“แล้วแต่คุณเลย หรือว่าอยากจะกลับไปขลุกกันที่ห้องผมอีก”
ทองดีค้อน
“บ้า ไม่รู้จักพอ”
ทองดีเดินผ่านแผนกเสื้อผ้าเด็กก็นึกถึงไท เลยแวะดู ดำเกิงสงสัย
“ทำไมมาดูเสื้อผ้าเด็กล่ะ”
“ก็เห็นมันน่ารักดี”
“อย่าบอกนะว่าแอบซุกลูกไว้”
ทองดีอึ้ง แล้วทำปกติ
“จะบ้าเหรอ ไปเถอะ หิวแล้ว”
ทองดีเดินออกไป ดำเกิงเดินตาม มุมหนึ่งปาปาราซซี่แอบถ่ายภาพไว้
ค่ำนั้น...ทองดีกลับมาพร้อมถุงข้าวของเต็มมือ บุญเทียมนั่งดูทีวีเช็คข่าวทองดีอยู่ ทองดีพอได้ยินข่าวก็มานั่งดูด้วย
“วันนี้เริ่มด้วยข่าวคู่รักคู่ใหม่ คุณดำเกิงลูกชายสุดหล่อเจ้าของค่ายหนังยักษ์ใหญ่หลังจากที่กลับมาจากนอกอย่างเงียบๆ ก็มีคนเห็นว่าควงคู่กับทองประกาย นางแบบหน้าใหม่ไปช็อปปิ้งกันหนุงหนิงๆ น่าอิจฉาจริงๆ”
ภาพนิ่งในทีวีเป็นภาพดำเกิงเดินโอบเอวทองดีซื้อของในห้าง พิธีกรรายงานข่าวต่อเนื่อง
“ตอนนี้คุณดำเกิงกำลังมีโปรเจคหนังเรื่องแรก แว่วๆว่าจะได้นางแบบตาคมคนนี้มาเป็นนางเอกซะด้วย”
พิธีกรรายงานต่อ
“แต่เอ...ทำไมถึงไปดูของแผนกเด็กกันล่ะคะ สงสัยจัง”
ทองดียิ้ม ชอบใจ
“ข่าวไวชะมัด เดินเล่นตอนกลางวัน ข่าวออกตอนกลางคืน แล้วนี่จะมาขุดคุ้ยว่าฉันท้องหรือเปล่าเนี่ย”
“อุ๊ย ทีงี้มาทำเป็นกลัว ดีนะที่เขาเห็นแค่นี้ ไม่เห็นตอนเข้าโรงแรม ไม่งั้นป่านนี้ได้ดังกว่านี้แน่”
“ไม่ดีเหรอ ดังเร็วๆ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยตะเกียกตะกาย”
“ช่างกล้า...นี่ ถ้าหล่อนจะควงไอ้ดำเกิงเย้ยฟ้าท้าโลกอย่างนี้นะ ก็ได้...ฉันก็จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส พลิกปลาดุกย่างให้เป็นปลาสำลีเผา”
“คิดแผนอะไรได้อีกล่ะ”
“ก็คิดว่าเธอออกไปเที่ยวกับดำเกิงก็ดีแล้วล่ะ เพราะเธอก็จะได้เป็นข่าวว่าควงหนุ่มไฮโซ ดีกว่าจะเป็นข่าวนางเอกฉาว โดนเขาหลอกฟัน”
ทองดียิ้มเหยียด
“แล้วก็เลยคิดจะขายข่าวฉันให้นักข่าวอีกล่ะสิ”
“แหม มันก็ได้ด้วยกันทั้งหมดแหละย่ะ”
“ไปนอนละ”
ทองดีลุกไป
“เพลียสิท่า แล้วเขาพูดเรื่องหนังมั่งหรือยังล่ะ”
ทองดีอึ้งไปนิดนึง
“ยัง...”
ทองดีเข้าห้องไป บุญเทียมมองตาม ถอนใจ
“ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเล้ย...เฮ้อ...”
ดำเกิงยิ้มขำ ปิดทีวี ดูข่าวเดียวกับทองดีจนจบ เพื่อนเดินถือกาแฟเข้ามาจากเคาท์เตอร์ครัว
“เดี๋ยวนี้ชักดังแล้วนะเว้ย ทองประกายนี่สวยกว่าคนอื่นๆที่มึงเคยควงเลยว่ะ คราวนี้มึงได้เจอนักข่าวได้แห่มาล้อมหน้าล้อมหลังขอสัมภาษณ์แน่”
“ก็ดีน่ะสิ กูก็ได้ประโยชน์ เพราะตั้งแต่กลับจากนอก ก็ไม่เห็นมีใครรู้ เป็นข่าวควงนางแบบดังอย่างนี้ จะได้ช่วยโปรโมทหนังของกูด้วยไง”
“คุ้มว่างั้น”
ดำเกิงหัวเราะ
“เออ...ไปนอนก่อนนะเว้ย”
ดำเกิงจะเดินไป เพื่อนเรียกไว้
“เฮ้ย เดี๋ยว พรุ่งนี้จะใช้ห้องอีกหรือเปล่าวะ”
ดำเกิงยิ้ม
“เออ มึงก็กลับมาดึกๆละกัน”
“บ่อยเหลือเกินนะมึง เออ...จัดให้”
ดำเกิงยิ้มๆ เข้าห้องไป
วันใหม่...ดำเกิงกำลังเดินเข้าบริษัท นักข่าว 3-4 คนก็รีบเข้ามาดัก
“คุณดำเกิงครับ ขอสัมภาษณ์นิดนึงนะครับ”
“เชิญครับ”
“หนังเรื่องแรกของคุณ จะให้ทองประกายเป็นนางเอกแน่แล้วใช่ไหมครับ”
“อ๋อ ผมยังไม่ได้ฟังธงหรอกครับ ว่าใครจะได้เป็นนางเอก”
“แต่เห็นว่าเขาให้ข่าวว่าได้เล่นชัวร์นี่คะ”
ดำเกิงหัวเราะแหยๆ
“เดี๋ยวต้องคุยกับทีมงานอีกทีครับ ขอตัวก่อนนะครับ”
ดำเกิงเดินหนีไป นักข่าวหันไปคุยกับเพื่อน
“แบบนี้นะ ทองประกายสร้างข่าวเองแหงๆ”
“ได้ยินว่าไอ้ที่มาควงกับคุณดำเกิง ก็เพื่อจะดันตัวเองให้ดังนะ”
“ตามไปสัมภาษณ์ทองประกายดีกว่า”
นักข่าวแยกย้ายกันขึ้นรถ
ทองดีกับบุญเทียมมาถึงหน้างาน สต๊าฟเดินมาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะพี่บีบี คุณทองประกาย เชิญแต่งตัวด้านหลังเลยค่ะ”
ทองดีกับบุญเทียมจะไป แต่นักข่าวรี่เข้ามา
“คุณทองประกายคะขอสัมภาษณ์นิดนึงคะ”
บุญเทียมตกใจที่นักข่าวรุมเข้ามา
“ว้าย อะไรกันคะเนี่ย”
“มีข่าวออกมาว่าน้องทองประกายจะได้เล่นหนังกับฟิล์มพีซ เป็นความจริง หรือข่าวโคมลอยกันแน่ครับ”
บุญเทียมเถียงแทน
“อ๊าย...จริงสิคะ ก็พี่น่ะให้ข่าว...เอ้ย ให้ทองเขาเซ็นสัญญาแล้วล่ะค่ะ”
ทองดีบอกไปอย่างซื่อๆ
“หนูได้เล่นแน่ค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรก่อน เดี๋ยวให้พี่บีบีกับผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง หนูเป็นเด็กก็คงต้องรอทำตามที่ผู้ใหญ่บอก”
บุญเทียมแอบค้อน มึงนั่นแหละไปคุยกับเขาเองทุกอย่าง นักข่าวถามต่อ
“แต่เมื่อชั่วโมงที่แล้วคุณดำเกิงเพิ่งให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่ได้ฟันธงว่าใครเป็นนางเอก
นะครับ”
ทองดีเหวอไป
“อะไรนะคะ”
บุญเทียมกระซิบกับทองดี
“เอาแล้วไหมล่ะ ไอ้คุณดำเกิงของเธอน่ะ”
ทองดีทำใจสู้
“หนูได้เล่นแน่นอนค่ะ คุณดำเกิงเขายืนยันกับหนูแล้ว ที่เขาพูดแบบนั้นอาจจะเป็นการสร้างกระแสข่าวให้หนังของเขาก็ได้ ขอตัวก่อนนะคะ”
ทองดีเดินไปหลังเวที แต่ในใจพลุ่งพล่าน โมโหดำเกิง บุญเทียมรีบตามเข้าไป ทองดีหันมาเดือดใส่บุญเทียม
“เจ๊ คุณดำเกิงเขาพูดแบบนี้ได้ยังไง”
“ก็หล่อนไปคุยกับเขายังไงล่ะ ไม่ให้ฉันรู้เรื่องอะไรด้วยก็เชิญเคลียร์กันเองเถอะ”
ทองดีรีบหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาดำเกิง
“ทองเหรอ...ว่าไง”
ทองดีตวาดลั่น
“ทำไมคุณบอกนักข่าวว่ายังไม่ได้จะให้ฉันเป็นนางเอก”
“อ๋อ เรื่องนี้เอง ที่ผมให้ข่าวอย่างนั้น ก็เพราะว่าผมอยากให้คนรู้ว่าทองเป็นนางเอกเพราะฝีมือ ไม่ใช่เพราะเป็นแฟนผม ผมเลยไม่อยากออกรับแทน เอางี้ แต่ผมจะให้ทางผู้กำกับ หรือพ่อผมออกหน้าแทนก็แล้วกันนะ”
ทองดีสงบลง หลงเชื่อเขาพูดเสียงหวาน
“จริงนะ”
บุญเทียมฟังอยู่ งงกับท่าทางทองดี
“จริงครับ...ทองจ๋า เดี๋ยวผมต้องเข้าประชุมแล้ว ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ”
ทองดียิ้ม วางสาย บุญเทียมงง
“ยังไงกันเนี่ย ตอนแรกปรี๊ดขึ้นสมอง ไหงตอนนี้อย่างกับโดนล้างสมอง”
ทองดียิ้ม
“ก็โอแล้ว ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ เขาให้ข่าวอย่างนั้นเพื่อปกป้องฉัน ไม่อยากให้ฉันดูเป็นเด็กเส้นน่ะ”
ทองดีเดินไปนั่งให้ช่างแต่งหน้าแต่งอย่างอารมณ์ดี บุญเทียมไม่ค่อยเชื่อ
“อ่อ เหรอ...ถ้าจริงก็ดีไป”
ดำเกิง ถอนใจอย่างเซ็งๆ แล้วหยิบซองน้ำตาลซองหนึ่งขึ้นมาจากลิ้นชัก มองดูอย่างใช้ความคิด
เย็นนั้น ทองดีนั่งดูเสื้อผ้าเด็กที่ซื้อมาให้ไท เธอคิดถึงวิไลกับจูน
“ฉันจะดูแลไทให้ดีที่สุดนะวิไล ไม่คิดเลยว่าแกจะไม่อยู่กับฉันแล้ว นังจูนมันก็คงมีความสุขอยู่กับแฟนมัน ฉันคิดถึงพวกแกจัง พวกแกจะรู้ไหมว่าฉันกำลังจะดังแล้วนะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าชีวิตของเราสามคนจะต่างกันได้ขนาดนี้”
บุญเทียมเปิดประตูห้องเข้ามา แปลกใจที่เห็นทองดีอยู่ห้อง
“อ้าว ฉันนึกว่าแยกจากอีเว้นท์แล้ว เธอจะไปอยู่กับคุณดำเกิงซะอีก”
“เขาบอกไม่ว่าง ฉันก็เลยไปเดินซื้อเสื้อให้ไท แล้วก็กลับห้องมาเลย”
“ระวังเขาจะเขี่ยทิ้งนะ”
ทองดีมองเคืองๆ
“แช่งเหลือเกินนะ”
ทองดีแอบหวั่นๆ เลยเข้าห้องไปโทรหาดำเกิง บุญเทียมมองตามแล้วบ่น
“แทงใจดำล่ะสิ”
บุญเทียมเดินสะบัดไปเปิดตู้เย็นกินน้ำ ไม่สนใจทองดี
ทองดีโทรหาดำเกิง รอสายอยู่ครู่หนึ่ง สายถูกตัดไป เธอโทรอีก รอครู่หนึ่งก็ตัดอีก โทรอีกครั้ง คราวนี้เสียงรอสายดังตื๊ดเดียว ก็ตัดไปเลย ทองดีใจเสีย โทรอีกครั้ง คราวนี้เป็นเสียงคอมพิวเตอร์บอก “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก” ทองดีโกรธ กำโทรศัพท์แน่น เจ็บใจ
ทางด้านดำเกิงประชุมกับทีมงาน
“ตกลงเจนนี่ให้คิวมาแล้วนะครับ เปิดกล้องได้ในเดือนหน้าได้เลย”
ผู้กำกับอึ้งไป
“อ้าว ทำแบบนี้แล้วน้องทองจะไม่เสียใจ แล้วมาต่อว่าเอาเหรอ ได้ข่าวว่าผู้จัดการเขี้ยวมาก พี่กลัวจะเป็นข่าวลบกับหนังเรานะ”
ดำเกิงวางซองสีน้ำตาลบนโต๊ะ
“ผมว่าโชคดีแล้วล่ะที่ไม่เอายัยนี่มาเป็นนางเอก กะหรี่เก่าชัดๆ”
ทีมงานเปิดซองดู ก็เห็นว่าเป็นรูปของทองดีสมัยเต้นโคโยตี้
“พี่แก้ว ส่งมาให้ บอกว่าอยากแก้แค้นพี่บีบี”
ดำเกิงบอกเครียดๆ
เช้าวันใหม่ บุญเทียมกับทองดีกำลังใส่รองเท้าจะออกจากห้อง
“เดี๋ยวไปที่ช่อง 8 คุยเรื่องละครก่อน แล้วไปถ่ายหนังสือ เย็นไปแฟชั่นโชว์ แล้วก็ไม่ต้องนัดดำเกิงล่ะ คิวหล่อนน่ะเต็มไปถึงพรุ่งนี้นะยะ”
“ค่า รู้แล้วค่า ฉันน่ะเห็นเงินดีกว่าผู้ชายอยู่แล้ว”
เสียงมือถือดังขึ้น บุญเทียมกดรับสาย
“ค่า สวัสดีค่ะ...” บุญเทียมอึ้ง “ยังไม่สะดวกจะให้ไปที่ช่องเหรอคะ...ค่ะๆ สวัสดีค่ะ”
“เขาว่ายังไงเหรอ”
“ที่ช่องเขาโทรมาขอยกเลิกการดูตัว”
เสียงโทรศัพท์มาอีก บุญเทียมกดรับ แล้วก็ต้องตกใจ
“หา! แคนเซิ่ลเดินแบบ” พอวาง สายก็เข้าอีก “อะไรนะ ขอเปลี่ยนตัวนางแบบ” บุญเทียมวางสายอย่างหงุดหงิด “อ๊าย อะไรกันเนี่ย”
ทองประกายหน้าเสีย เสียงเตือนจากมือถือดังขึ้นอีก บุญเทียมกดดู แล้วก็ต้องตกใจ ทองดีร้อนใจ
“มีอะไรเหรอเจ๊”
บุญเทียมอ่านให้ฟัง
“นางแบบหน้าใหม่มาแรง แต่เป็นโคโยตี้หน้าเก่าปลดระวางมาก่อน”
ทองดีตกใจ บุญเทียมกดโหลดเป็นรูปทองดีตอนเป็นโคโยตี้ บุญเทียมร้องกรี๊ดทันที
“ไปเปิดทีวีเร็วเข้า”
ทองดีรีบไปเปิดทีวี ข่าวเช้าช่วงบันเทิงกำลังรายงานพอดี
“ข่าวร้อนข่าวแรกวันนี้ นางแบบตาคม ทองประกาย เขาว่าเคยเป็นโคโยตี้ และเด็กนั่งดริ๊งค์มาก่อน มีภาพยืนยันนะคะ”
ภาพในทีวีขึ้นรูปทองดีรูปเดียวกับที่บุญเทียมได้รับ ทองดีทรุดนั่งอย่างหมดแรง
“ทำไมเป็นแบบนี้”
เสียงมือถือดังขึ้น บุญเทียมรับสาย
“รายการคุยมันส์กันเองจะขอสัมภาษณ์ทองประกายเหรอคะ...เรื่องโคโยตี้...ขอโทษนะคะยังไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ค่ะ” บุญเทียมกดวางสาย แล้วสายเข้าอีก “จีเอฟเอ็มจะขอสัมภาษณ์ทองประกายขอโทษค่ะ น้องไม่มีคิวเลย”
บุญเทียมวางสาย ขณะเดียวกันนั้น มือถือทองดีดังขึ้น เธอกดรับสาย
“สตาร์โซน...ไม่ค่ะ ยังไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ค่ะ”
ทองดีวางสาย เสียงมือถือบุญเทียมและทองประกายก็ดังขึ้นอีก ทั้งสองตัดสาย แต่สายก็เข้าอีก
“ว้าย ไม่เอาแล้ว” บุญเทียมกดปิดเครื่อง “เธอก็ปิดด้วย ไม่ต้องรับสายใครทั้งนั้น”
ทองดีปิดเครื่องหนีอย่างกลุ้มใจมาก
“ฉันจะทำยังไงดีเจ๊”
“แต่ฉันอยากรู้นักว่าใครทำ”
แต่ไม่ทันขาดคำ มีซองจดหมายไม่ปิดผนึกถูกส่งลอดเข้ามาใต้ช่องประตูบ้าน บุญเทียมเดินไปหยิบแล้ว ดึงกระดาษข้างในซองออกมา แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด กรี๊ดลั่น
“อีนังพี่แก้ว”
บุญเทียมเป็นลมล้มลง ทองดีตกใจ
“เจ๊บีบี!”
ทองดีเข้าไปประคองแล้วหยิบกระดาษขึ้นมาดู ตกใจไปอีกคน เมื่อเห็นข้อความ “สมน้ำหน้า” ลงชื่อ “แก้ว” ทองดีอึ้ง เหวอ ทำอะไรไม่ถูก
ผู้กำกับเปิดข่าวจากไอแพดให้ดำเกิงที่นั่งหน้าเครียดดู
“นอกจากเรื่องโคโยตี้แล้วนะ กระแสในเน็ตยังพูดถึงคุณว่าโง่มาก ไปเรียนเมืองนอกมาซะสูง ดันมาโดนผู้หญิงขายตัวหลอก แถมยังมีลูกติดอีกด้วย”
ดำเกิงอ่าน อย่างเจ็บใจ
“ว่าแล้ว สงสัยอยู่เหมือนกัน เจ็บใจชะมัด โดนกะหรี่ต้มได้ไงวะเนี่ย”
“ที่สำคัญเรื่องนี้มันก็ส่งผลกับหนังของเราด้วย คนด่าตั้งแต่หนังยังไม่ออกฉายเลย”
ขณะเดียวกันนั้น มือถือดำเกิงดังขึ้นเขารับสายอย่างหงุดหงิดไม่ได้มองว่าเบอร์ใคร
“ฮัลโหล”
เสียงป๊าเปิดฉากด่ามาเลย
“ป๊าบอกลื้อแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำเรื่องอีก ลื้อต้องรีบจัดการเลยนะ ไม่งั้นหนังเราจะไม่มีคนดู แล้วก็อย่าหวังว่าป๊าจะให้ลื้อทำเรื่องต่อไป”
ดำเกิงวางสาย หน้าเคร่งเครียด
“ผมจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาถ่วงความเจริญได้หรอก ไม่มีทาง ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง”
ดำเกิงจัดแถลงข่าว นักข่าวมากันเพียบ ถ่ายรูปกันพรึ่บพรั่บ
“ผมต้องขอบคุณที่พี่นักข่าวให้ความกรุณามางานแถลงข่าวของผม ผมจะขอบอกทุกคนว่า ผมไม่ได้คบกับทองประกายอย่างชู้สาว แต่ผมยอมรับว่ามีการทาบทามเขามาเป็นนางเอกจริง แล้วมันก็แค่นั้น”
“แต่ก่อนหน้านี้มีคนเห็นคุณสองคนไปเดินช็อปปิ้งกันนี่คะ”
“ก็ไปคุยงาน แล้วก็ไปทานข้าว เขาก็คุยสนุก แล้วก็ดูเป็นคนดี ผมเองก็เป็นเพื่อนกับใครก็ได้อยู่แล้ว แต่หลังจากที่เขารู้ว่าผมติดต่อคนอื่นมาแคสบทนางเอกด้วย เขาก็พยายามมาหาผม แต่คนอย่างผม เรื่องงานมาเป็นอันดับหนึ่ง หวังว่าพี่ๆคงเข้าใจนะครับ แล้วผมกับทีมงานก็เลือกนางเอกคนอื่นอยู่ก่อนแล้ว”
“อย่างนี้หมายความว่า ทองประกายมาเกาะคุณดังหรือเปล่า”
“ถ้าพูดแบบนั้นมันก็จะไม่ดีกับผู้หญิงนะครับ เอาเป็นว่าเราไม่มีอะไรต่อกัน” ดำเกิงพูดหน้าตาเฉย
บุญเทียมกับทองประกายดูทีวีแถลงข่าวสดของดำเกิงอยู่ ทองดีร้องลั่น
“ไอ้เลว นี่มันเท่ากับด่ากันนี่หว่า เจ๊...เราฟ้องมันเลยไหม ไอ้นี่มันเลวชาติจริงๆ ไปจัดการมันเลยเถอะเจ๊”
ทองดีดึงแขน บุญเทียมสะบัดออกอย่างแรง
“โอ๊ย ไปจัดการเองเถอะ ฉันไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว ต่อไปนี้ก็ทางใครทางมันเถอะ ขืนทำมาหากินร่วมกันต่อไป คงได้ฉิบหายกันไปข้างนึงแน่ๆ”
ทองดีอึ้ง
“เจ๊บีบี...นี่เจ๊จะทิ้งฉันเหรอ”
“ฉันว่าเป็นทางที่ดีที่สุดแล้วล่ะ กรรมของฉันจริงๆ ที่ไปเอาเธอมาปั้น”
ทองดีพยายามขอร้อง
“เจ๊ อย่าทำอย่างนี้สิ ต่อไปนี้งานฉัน เจ๊จะหัก 30% หรือหักครึ่งนึงเจ๊ก็หักไปเลย แล้วฉันก็จะบอกเจ๊ทุกอย่างด้วยว่าจะไปไหน ทำอะไร เจ๊อย่าทิ้งฉันนะ ฉันกำลังจะดังไม่ใช่เหรอ”
“โอ๊ย...นี่มันดับอนาถแล้วล่ะย่ะ เธอไปซะเถอะ อย่างนี้มันไม่ไหวจะเยียวยาแล้ว จะให้ฉันจับเธอล้างอีกกี่น้ำมันก็ไม่หายคาวหรอก”
“แล้วจะให้ฉันไปไหน จะไปทำอะไร”
“คนอย่างเธอ มันออกจะกร้าน แค่นี้ไม่ตายหรอก เดี๋ยวเธอก็มีที่ไปเองแหละ ได้เงินจากไอ้ดำเกิงมาตั้งเยอะแล้วนี่ ไปหาโรงแรมอยู่เองเถอะ แล้วก็ไปซะเดี๋ยวนี้เลย”
ทองดีเลือดขึ้นหน้า
“เออ ไปก็ได้ คนอย่างแกมันก็ไม่ได้ดีกว่าฉันหรอก เมื่อก่อนทำนาไม่พอกินใช่ไหม ถึงได้มาทำนาบนหลังคนอีก กรรมของฉันต่างหากที่ต้องมาเจอแก อีบุญเทียม!”
ทองดีเดินเข้าห้องปิดประตูปั้ง บุญเทียมอ้าปากค้าง เถียงไม่ออก ได้แต่ร้องกรี๊ดออกมา
ทองดีขนของลงจากแท็กซี่ที่จอดอยู่หน้าโรงแรม คนผ่านไปผ่านมาก็มอง แล้วก็ซุบซิบ แล้วมีหญิงวัยทำงานสองคนเดินมา ทั้งสองคุยกัน
“แกว่าใช่ป่ะ”
“เข้าไปถามเลย”
หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาถาม
“ใช่ทองประกายหรือเปล่า”
ทองดีอึกอัก
“ใช่”
หญิงสาวหันไปซุบซิบกับเพื่อน
“ใช่จริงๆด้วย สวยนะ ไม่น่าเชื่อว่าขายตัวมาก่อน”
หญิงสาวสองคนพากันเดินไป ทองดีอึ้ง ขยับจะด่า แต่ก็ด่าไม่ออก ผู้คนมองเธอเหมือนสัตว์ประหลาด ทองดีรีบขนของเข้าไปติดต่อด้านใน
ทองดีเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าด้วยอาการเนือยๆ แต่เก็บกดความรู้สึกเจ็บใจอยู่ข้างใน สุดท้ายก็ระเบิดกรี๊ดออกมาพร้อมทั้งขว้างข้าวของกระจุยกระจาย
“ทำไมฉันต้องเจอแบบนี้ ชีวิตฉันกำลังจะไปได้ดี ทำไมต้องเป็นแบบนี้”
ทองดีนึกอะไรได้ คว้าโทรศัพท์มากด เห็นเป็นเบอร์ดำเกิง เสียงรอสายดังครู่หนึ่ง แล้วสายก็ตัดไป เธอเจ็บใจ โทรใหม่ก็โดนตัดสายอีก โทรอีกก็ตัดอีก ทองดีโมโหจัดขว้างมือถือทิ้ง เครียดมาก
“วิไล จูน ฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่เหลือใคร ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว” ทองดีหันไปเห็นเสื้อไทที่
ถูกขว้างออกมาพร้อมข้าวของ ก็ไปเก็บมา “ไท...”
ทองดีนึกถึงไท ก็คว้ากระเป๋า แล้วรีบออกไป
ทองดีมาที่ เนอสเซอรี่ เธอยืนมองไทที่นอนอยู่ในเปลอย่างเอ็นดู
“ไท...ฉันจะทำยังไงต่อไปดี” ทองดีอุ้ม และหอมไทอย่างรักใคร่ “ตอนนี้ ฉันเหลือไทอยู่คนเดียวแล้วนะ”
มุมหนึ่ง ปาปาราซซี่แอบถ่ายรูปไว้ได้
วันต่อมา ทองดี ใส่แว่นดำใส่หมวกพรางตัวบุกไปที่คอนโดฯที่พักของดำเกิง พนักงานถามอย่างสงสัย
“มาพบใครคะ”
“คุณดำเกิง”
“คุณดำเกิงสั่งไม่ให้ใครเข้าไปค่ะ”
ทองดีถอดแว่น
“จำฉันไม่ได้หรือไง ฉันเคยมาบ่อยๆ”
พนักงานยิ้มแหยๆ
“จำได้ค่ะ คุณดำเกิงสั่งว่าไม่ให้คุณเข้าไปค่ะ”
ทองดีอึ้ง เจ็บใจ
“ไอ้ดำเกิง”
ทองดีเดินออกไปแค้นๆ
อ่านต่อหน้า 3
ทองประกายแสด ตอนที่ 13 (ต่อ)
ดำเกิงค่อยๆถอยรถออกมา ทองดีที่แอบซ่อนตัวอยู่กระโดดขวางหน้ารถจนดำเกิงเบรกหน้าคว่ำ
“เฮ้ย...” ดำเกิงเปิดประตูลงมา “เป็นบ้าอะไรวะ มาขวางทำไม”
“เรื่องหนังจะเอายังไง จะมาชิ่งฉันแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ข่าวฉาวโฉ่แบบนี้ ผมไม่เอามาเล่นหนังหรอก นี่ก็ไม่รู้จะเอาโรคมาติดหรือเปล่าเป็นกะหรี่มาก่อนก็ไม่บอก”
“แต่ฉันเซ็นสัญญาแล้ว ถ้าแกผิดสัญญา ฉันก็จะฟ้อง”
ดำเกิงหัวเราะ
“ไปอ่านมาใหม่ไป ว่าในนั้นเขียนอะไรบ้าง แล้วนี่” ดำเกิงโยนหนังสือพิมพ์ให้ “ดูซะให้เต็มตา ยังคิดว่าจะมาเล่นหนังได้อีกเหรอ กลับไปเลี้ยงลูกเถอะคุณ”
ดำเกิงเดินขึ้นรถขับออกไป ทองดีเก็บหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดู เห็นรูปเธอไปเยี่ยมไทที่เนอสเซอรี่ เด่นกลางหน้า 1
ทองดีรอตำรวจอ่านสัญญาจนจบ
“ฉันแจ้งจับมันได้ใช่ไหมคะ”
“คงไม่ได้หรอกครับ สัญญาฉบับนี้มันไม่สมบูรณ์”
ทองดีอึ้ง ดึงสัญญากลับมา
“ไม่สมบูรณ์ยังไง”
“มันไม่ได้ติดอากรแสตมป์น่ะครับ แล้วที่สำคัญ สัญญานี้ไม่มีพยานเซ็น แล้วยังระบุว่า ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์ ยกเลิกหรือเปลี่ยนตัวผู้แสดงได้”
ทองดีอ่านสัญญา แล้วก็ต้องตกใจ
“อะไรกันเนี่ย มันหลอกให้ฉันเซ็นเหรอเนี่ย”
“คุณไม่รู้เรื่องการเซ็นสัญญาจ้างงานเลยเหรอครับ”
“ไม่รู้ค่ะ”
ทองดีหน้าเสียใจ แต่ไม่ยอมร้องไห้
ทองดีอุ้มไทมาที่การเงิน
“ชำระเงินค่ะ”
“ไม่ทราบว่าจะชำระที่ค้างไว้ของเดือนที่แล้วด้วยหรือเปล่าคะ”
ทองดีกลั้นใจ
“ค่ะ” เธอเปิดกระเป๋าดูเงินที่เหลืออยู่ แล้วหยิบออกมายื่นให้เจ้าหน้าที่เกือบหมดกระเป๋า “เอ่อ...ฉันจะขอรับไทกลับไปเลี้ยงเองด้วยค่ะ”
“ค่ะ เดี๋ยวเชิญติดต่อกับธุรการได้เลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ทองดีเดินไปทางห้องธุรการ
ทองดีอุ้มไทมานอนบนที่นอน ในห้องที่เธอเช่าไว้ มองอย่างเอ็นดู
“ฉันจะไม่ทิ้งหนูนะ”
ทองดีเล่นกับไท อุ้มและร้องเพลงกล่อมจนไทหลับไปในอ้อมแขน...เวลาผ่านไปไทร้องไห้ผ้าอ้อมเปียก ทองดีเปลี่ยนผ้าอ้อมให้แบบเก้ๆกังๆ ปิดจมูกเหม็น...ทองดีนั่งมองไทหลับบนเบาะ เธอก้มลมจูบแก้มไทอย่างรักใคร่ รู้สึกผูกพันกันมากขึ้น
ทองดีหยิบโทรศัพท์มากดดู
“ขอให้เข้ามาสักงานเถอะ”
เธอถอนใจ เดินไปชงนม แต่นมผงหมด เธอคว้ากระเป๋าตังค์แล้วอุ้มไทออกไป
ทองดีเดินเลือกนมผงอยู่ หญิงสองคนเข็นรถมาเห็นก็ซุบซิบกับเพื่อน
“อุ้ย นี่ไง ทองประกาย ที่เขาว่าขายตัวมาก่อน”
ทองดีชะงัก พยายามไม่สนใจ เลือกของต่อไป
“มีลูกแล้วจริงๆด้วยอ่ะ สงสัยท้องแล้วโดนทิ้ง”
ทองดีหันขวับไปมอง หญิงสองคนหลบตา แล้วทำเป็นเลือกของกันไป แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินป้าสองคนที่เพิ่งเดินมาเม้าท์กันอีก
“สวยนะ แต่ไม่น่าขายตัวมาก่อนเลย”
“สร้างภาพเก่งเนอะ ตอนแรกฉันก็ช๊อบชอบ”
“เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานให้ดีล่ะ เดี๋ยวโตมาจะเป็นแบบนี้”
ชายสองคนเดินมาอีกด้านก็พูดกันอีก
“เฮ้ย ทองประกายว่ะ เมื่อก่อนกูก็เคยเห็นเขาเต้นอยู่ แต่เสียดายไม่ได้ออฟว่ะ”
“โชคดีแล้วมึง เดี๋ยวก็ได้ติดโรคมาหรอก”
ทองดีทนไม่ไหวด่ากลับ
“เป็นพ่อเป็นแม่ฉันกันใช่ไหม ถึงได้รู้เรื่องฉันดีนัก ถ้าเป็นคนดีกันนัก แล้วทำไมมานินทาด่าคนอื่นกันอย่างนี้ล่ะ” ทองดีมองหน้าผู้ชาย “พวกคุณก็เหมือนกัน เป็นผู้ชายหรือเปล่าถึงได้พูดถึงผู้หญิงได้ทรามขนาดนี้ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณเป็นผู้ดีมาจากไหน แต่การที่เห็นคนล้มแล้วกระทืบซ้ำแบบนี้ มันบ่งบอกว่าพวกคุณมีจิตใจที่ต่ำมาก”
ชาวบ้านต่างก็อายหน้าม้าน พยักเพยิดกันออกไป
ทองดีอุ้มไทเข้ามาในห้อง กดล็อคประตู ก่อนจะอุ้มไปนอนที่เตียง เธอมองเด็กน้อยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ร้องไห้ออกมา
“ไท...ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันไม่อยากสู้แล้ว”
ทองดีหยิบยาฆ่าแมลงมา เทใส่แก้ว หยิบขึ้นมาจ้องมองอย่างแน่วแน่ แล้วหันไปมองไทที่นอน
ทองดีนิ่งคิดหนัก มองยาฆ่าแมลงในมือ สลับกับหน้าที่ไร้เดียงสาของไท ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจขว้างขวดยาฆ่าแมลงทิ้ง แล้วกอดไทไว้แนบอก
“ขอโทษนะไท น้าไม่น่าคิดอะไรโง่ๆเลย ถ้าไม่มีไท ชีวิตนี้น้าก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว”
ทองดีซับน้ำตา จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำให้เด็กน้อยอย่างเรียบร้อย เธอนั่งมองด้วยสายตาอ่อนโยน
“นับแต่นี้ต่อไป น้าจะเป็นแม่ของไท จะรักเลี้ยงดูไท ให้ดีที่สุด” ทองดีเงยหน้ามองเบื้องบน “พี่วิไล เป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะ...” ทองดีหันมาพูดกับไท “ไหนเรียกแม่ ซิลูก”
ไทยิ้มให้อย่างไร้เดียงสา ทองดีตะลึงน้ำตาซึม
“ไทลูกแม่...”
ทองดีกำลังอาบน้ำให้ไท เธอมองดูเด็กน้อยเล่นน้ำอย่างมีความสุข เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอรีบพาไทขึ้นจากน้ำ แล้ววิ่งไปรับโทรศัพท์
“ทองประกายพูดค่ะ”
“ผมนักข่าวจาก หนังสือซุบซิบสตาร์นะครับ อยากจะขอสัมภาษณ์คุณทองประกาย เรื่องข่าวที่เกิดขึ้น แบบเจาะลึกเลยครับคุณสะดวกหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ...ฉันไม่สะดวกค่ะ ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก ขอตัวดีกว่านะคะ”
“แหม...คุณทองประกายไม่อยากแก้ข่าวหรือครับหรืออย่างน้อยพูดความจริงกับเรา เราจะได้เป็นตัวแทนของคุณ เปิดเผยเรื่องราวให้กระจ่างไงครับ”
“อย่าดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากพูดถึงมันอีก”
“ลองไปคิดดูก่อนก็ได้นะครับ ถ้าคุณเปลี่ยนในอยากให้ข้อมูลเมื่อไหร่ ก็ติดต่อ ซุบซิบสตาร์ ได้ทันทีนะครับ”
ทองดีวางหูโทรศัพท์ แล้วถอนหายใจยาว อย่างเหนื่อยหน่าย แล้วหันกลับมาทาแป้งให้ไทหน้าครุ่นคิด ก่อนจะอุ้มไทขึ้นมาเห่กล่อม
“แม่ไม่รู้จะพูดไปทำไม พูดไปก็เหนื่อนเปล่า ใครจะมาเชื่อเรา อย่าไปสนใจมันเลย เดี๋ยวแม่ชงนมให้หนูกินดีกว่าเนอะ”
ทองดีหันไปเปิดกระป๋องนมผง แต่นมใกล้หมดเต็มที่ เธอขูดๆก้นกระป๋องเอามาชงใส่ขวดให้ไทกิน
วันต่อมา...ทองดีมาซื้อนมที่ห้างสรรพสินค้า เธออุ้มไทไว้ในอ้อมแขนเดินเลือกซื้อนมผง คนที่เดินในห้าง ชี้มือไปที่ทองประกายแล้วซุบซิบกัน
“ใช่หรือเปล่าเนี่ย ทำไมดูโทรมจัง ไม่เห็นเหมือนในหนังสือเลย”
“อ้าว...มีลูกแล้วจะเอาอะไรมาสวยได้”
ทองดีหันไปมองแบบสงสัย ลูกค้าคนหนึ่งมองเหยียด
“ดูสิ...ยังมีหน้าหันมามองอีก แหม...กล้าหลอกชาวบ้านขนาดนั้น คงไม่อายหรอกมั๊งเรื่องแค่นี้”
“เนี่ยเห็นมั๊ย คนเรามันอยากดังจนลืมตัว”
ทองดีหันขวับมามองตาเขียว
“ว่างกันมากนักใช่มั๊ย”
ลูกค้าทั้งสองคนหน้าเสีย ทองดีหันไปมองรอบตัวมีแต่คนมุงเต็มไปหมดทุกคนทำหน้ารังเกียจเหยียดหยาม
“เอาเวลาว่างไปทำอะไรที่มันสร้างสรร กว่านั่งนินทาชาวบ้านดีกว่ามั๊ย”
ทองดีขยับตรงไปที่ชั้นวางนม คนที่ขวางอยู่แตกหนีไปคนละทาง ทองดีเครียดมาก
ทองดีอุ้มไทเดินเข้ามาในห้อง อีกมือหนึ่งถือถุงนมเข้ามา เธอปล่อยไทลงนอนในเปลแล้ววางของลง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างเปล
“ทำไมคนถึงได้ใจร้ายกับเราแบบนี้ เฮ้อ...เราจะทำยังไงต่อไปดีเนี่ย...ไทบอกแม่หน่อยซิลูก”
ทองดีคุยกับไท ก้มหน้ากอดเข่าอย่างท้อแท้ ไทค่อยๆทรงตัวลุกขึ้นยืนเกาะข้างเปล เอื้อมมือมาเกาะมือ ทองดีค่อยๆเงยหน้าขึ้นเห็น ไทยืนยิ้ม ทองดีดีใจ
“ไท หนูยืนได้แล้วหรือ แม่ดีใจจังเลย ไทลูกแม่”
ทองดีกอดไทไว้ในอ้อมกอดแน่น เหมือนต้องการซึมซับกำลังใจ
ดำเกิงโทรศัพท์หาหญิงสาวรายใหม่ที่เขาสนใจอยู่...
“คุณแพทริเซียครับ นี่ผมดำเกิง วันนี้เรามีนัดทานกลางวันด้วยกันนะครับ”
เสียงโทรศัพท์ตัดสายไป ดำเกิงงงคิดว่าสายหลุด โทรกลับไปใหม่ เสียงโทรศัพท์ปิดเครื่องดำเกิงหงุดหงิดมาก
“อะไรกันวะ ทำไมไม่ยอมรับสาย”
เลขาดำเกิงเดินเข้ามาพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ ดำเกิงหันไปมองงงๆ
“อ้าว...ดอกไม้นี่มาได้ยังไง ฉันสั่งให้ส่งไปให้คุณแพทริเซียที่บ้านไม่ใช่หรือ”
“ค่ะ...ส่งไปแล้ว แต่คุณแพทริเซียส่งกลับคืนมา แล้วบอกว่า...”
เลขาอึกอักไม่กล้าบอก
“บอกว่าอะไร พูดไปสิ อ้ำอึ้งอยู่ได้”
“เอ่อ...เธอบอกว่า ต่อไปอย่าติดต่อมาอีก เธอไม่อยากวุ่นวายกับคุณอีกแล้ว เธอไม่อยากใช้...ของร่วมกับผู้หญิงหากินค่ะ”
ดำเกิงโมโหมาก
“อะไรนะ จะบ้าไปใหญ่แล้ว นี่มันอะไรกันวะ อาทิตย์นี้ฉันโดน ผู้หญิงปฏิเสธมา 3 คนแล้ว เซ็งโว๊ย...ไหนบอกว่าข่าวออกไปจะทำให้อะไรดีขึ้นไง แล้วเป็นแบบนี้ได้ไง”
“ตอนนี้ข่าวมันแรงมากนี่คะ คงต้องใช้เวลาซักระยะนึง อีกหน่อยคงซาไปเองแหละคะ”
“อีกหน่อย เนี่ยมันนานเท่าไหร่ล่ะ...ชื่อเสียงฉันป่นปี้เพราะนังทองประกายนั่นคนเดียวแท้ๆ อีบ้าเอ๊ย”
ดำเกิงเดินไปเดินมาใช้ความคิดอย่างหงุดหงิด สักพักก็นึกได้
“ฉันนึกออกแล้ว จะหาวิธีกู้ชื่อเสียงแบบไหน...ไปตามผู้กำกับแล้วก็พีอาร์มาประชุมด่วนเลย”
เลขารีบลนลานออกจากห้องไปทันที ดำเกิงยิ้มร้าย
หนังสือพิมพ์ฉบับที่ลงข่าวดำเกิงพาดหัวพร้อมหนังสือซุบซิบวางอยู่บนโต๊ะ ดำเกิงยืนอยู่ที่หัวโต๊ะสีหน้าจริงจัง
“เราต้องหาทางกู้ชื่อเสียงของบริษัทกลับคืนมาให้ได้”
“ตอนนี้แทบทุกหัวหนังสือ เล่นข่าวเรื่องคุณกับทองประกายทั้งนั้น ตอนนี้เราควรวางเฉยก่อนดีกว่า เพราะถ้าเขาขุดคุ้ยขึ้นมา อาจไม่เป็นผลดีกับบริษัทนะครับ” พีอาร์แนะ
“แต่ผมมีวิธีที่แยบยลกว่านั้น เราต้องสร้างข่าวดีๆ มากลบข่าวเสียๆ”
ผู้กำกับ หันไปมองหน้าพีอาร์
“ข่าวอะไรครับ”
“ผมจะจีบนางเอกเบอร์หนึ่งของวงการ”
ผู้กำกับ ไม่เห็นด้วย
“ผมว่า เราอย่าเรื่องส่วนตัวมาทำลายงานดีกว่า ตอนนี้ที่เราต้องการคือเวลา ให้คนลืมเรื่องนี้ไป อย่าลืมสิครับ คนไทลืมง่าย”
“ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ 3 เดือน 5 เดือน หรือว่าปีนึง ผมมิพังยับเยินก่อนเหรอ อย่าขัดผม ผมจะนำเสนอด้านดีของผม ให้คนได้เห็น”
พีอาร์มองหน้า
“แล้วถ้า นางเอกของคุณเขา ไม่ยอมโอเคด้วยล่ะ”
ดำเกิงยิ้ม
“ไม่ต้องห่วง ระดับผมแล้ว คาสโนว่าเรียกพ่อ...”
ดำเกิงมั่นใจมาก พีอาร์กับผู้กำกับหันไปมองหน้ากันแบบอึ้งๆ
ค่ำนั้น เจนนี่เดินเข้ามาในร้านอาหารอย่างสง่า ดำเกิงรีบลุกขึ้นต้อนรับ เจนนี่เดินตรงไปหา เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเต็มที่ เจนนี่เชิดเฉยชา
“ดีใจจังเลยครับ ที่คุณเจนนี่ให้เกียรติผม จะสั่งอาหารเลยมั๊ยครับ”
“อย่าดีกว่าค่ะ ฉันไม่ค่อยหิว”
“เชฟที่นี่ทำอาหารได้ยอดเยี่ยมมากเลยนะครับ เมื่อก่อนแกอยู่อเมริกา ตอนนี้ย้ายมาประจำที่นี่ ลองดูหน่อยดีมั๊ยครับ”
“อย่าเสียเวลาดีกว่า คุณนัดฉันมา มีธุระอะไร จะจีบฉันหรือเปล่า”
“แหม...ผมชอบจัง คุณนี่เปิดเผยมาก” ดำเกิงเอื้อมมือไปจับมือเจนนี่ “แล้วถ้าใช่ล่ะ คุณจะรังเกียจผมหรือเปล่า”
“ไม่รังเกียจ แต่คิดว่า เสียเวลาเปล่า”
ดำเกิงงง
“อ้าว พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ฉันไม่อยากมีความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงาน มันดูไม่เป็นมืออาชีพ”
“ไม่มีปัญหา เรื่องแบบนี้ผมแยกแยะได้อยู่แล้ว”
“อย่าทำอะไรโง่เง่าแบบนี้อีกเลย จะบอกให้ ฉันไม่ชอบผู้ชาย มันน่าขยะแขยง”
เจนนี่ลุกขึ้นสะบัดหน้าเดินออกไปทันที ดำเกิงหน้าเหวอ
“อีบ้า...เป็นดี้ก็ไม่บอก...โธ่เว๊ย”
วันต่อมา...ดำเกิงเปิดดูรูปนักแสดงหญิงเพื่อหาเป้าหมายใหม่
“เอาใครดีวะ...ทำไมมันหายากหาเย็นแบบนี้โว๊ย”
เลขาวิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้อง หน้าตาตื่น
“อะไรอีกล่ะ ไฟไหม้หรือไง”
“ยิ่งกว่านั้นอีกค่ะ คุณดำเกิงดูนี่ก่อนสิคะ”
เลขากดโทรทัศน์เปิดเปลี่ยนช่องไปดู เห็นเจนนี่กำลังยืนให้สัมภาษณ์อยู่
“เจนนี่ขอเคลียร์ให้ชัดๆเลยนะคะ ว่าจะไม่มีการร่วมงานระหว่าง เจนนี่กับคุณดำเกิงแน่นอน”
“เป็นเพราะเรื่อง ฉาวระหว่างคุณดำเกิงกับ ทองประกายหรือเปล่า ทำให้คุณเจนนี่ตัดสินใจแบบนี้”
“อืมม...เอาเป็นว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ติงมา เจนนี่เป็นเด็ก ก็ต้องรับฟังไว้นะคะ เจนนี่ขอพูดแค่นี้นะคะพี่ขอบคุณพี่ๆทุกคนนะคะ”
เลขากดปิดโทรทัศน์ หันกลับมา ดำเกิงอึ้ง เอามือกุมหัว
“อีบ้าเอ๊ย...แสบนักนะมึง”
ดำเกิงยกโทรศัพท์กดหาเจนนี่ทันที
“คุณทำอย่างนี้ผมเสียหายนะ ผมจะแฉกับนักข่าวว่าคุณเป็นดี้ ดูซิ ใครจะจ้างคุณอีก”
“เชิญเลย ดูซิ...ว่าเขาจะเชื่อใคร ระหว่างคนเน่าฉาวโฉ่อย่างคุณ กับนางเอกที่แสนดีแบบฉัน” เจนนี่โต้กลับ
ดำเกิงกดวางสายอย่างหงุดหงิด ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดังกระหน่ำทั้งมือถือทั้งโทรศัพท์สำนักงาน ดำเกิงลุกขึ้นดึงปลั๊กโทรศัพท์สำนักงานทิ้ง แล้วนั่งกุมขมับ
“บอกว่าฉันไม่อยู่ ไม่รับโทรศัพท์ทุกสาย เข้าใจมั๊ย”
เลขาลนลานออกจากห้องไปทันที
ทองดีเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ไท เสียงรายการข่าวบันเทิงในทีวีตัดข่าวของเจนนี่มาออกซ้ำ ทองดีนิ่งฟัง
“เจนนี่ถอนตัว สมน้ำหน้า”
เลขานั่งรับโทรศัพท์วุ่นวาย สายแล้วสายเล่า
“ตอนนี้คุณดำเกิงไม่อยู่ ไปต่างประเทศค่ะ อ๋อไม่ทราบกำหนดกลับนะคะ ค่ะ...สวัสดีค่ะ”
เลขาวางหูอย่างเหนื่อยอ่อน
“โอ๊ย...เกือบร้อยสายได้มั๊ง ต้องหางานใหม่แล้วมั๊งเนี่ยฉัน”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก เลขาถอนหายใจเฮือก แล้วกดรับ
“สวัสดีค่ะ คุณดำเกิงไม่อยู่ไปต่างประเทศค่ะ ยังไม่ทราบกำหนดกลับ” เลขาสะดุ้งเฮือก “ได้ค่ะ จะตามให้เดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
เลขารีบลนลานวิ่งเข้าไปหาดำเกิงในห้องทันที
ขวดเหล้ากองระเกะระกะเต็มโต๊ะไปหมด ดำเกิงเมากรึ่มๆอยู่ที่โซฟา เลขาเปิดเข้ามาตกใจ มองสภาพดำเกิงอย่างกลัวๆกล้าๆ
“คุณดำเกิงคะ โทรศัพท์ค่ะ”
ดำเกิงตวาด
“บอกแล้วไงว่าไม่รับโทรศัพท์ หรืออยากโดนไล่ออก”
“คุณดำเกิงคะ สายไหนไม่รับก็ได้ แต่สายนี้ต้องรับ”
“มันเป็นใคร ทำไมฉันต้องรับ มันใหญ่มาจากไหน”
“คุณพ่อคุณโทรมาค่ะ”
ดำเกิงลุกพรวดขึ้นจากโซฟา หายเมาเป็นปลิดทิ้ง
ดำเกิงมาพบพ่อที่บ้านนั่งคอตกฟังพ่อด่า พ่อตบหัวลูกชายป้าบ
“แล้วเตี่ยจะให้ผมทำยังไงล่ะ ก็ยายนั้นจู่ๆก็ประกาศผ่านสื่อแบบนั้น”
“มันต้องมีเหตุ ปกติเจนนี่น่ะไม่มีข่าวเสียหาย ผู้ใหญ่ในวงการก็เอ็นดู แล้วเขายกเลิกแก ก็แสดงว่า แกต้องมีอะไรผิดปกติ”
“อีบ้านั่นแหละ ผิดปกติ มันเป็นดี้ เตี่ยรู้มั๊ย”
“รู้แล้วทำไม คนอื่นเขารู้กับแกมั๊ยล่ะ”
“ผมจะแฉมัน เอาให้ร่วงไปเลย”
“ทำแล้วได้ประโยชน์อะไร ใครจะเชื่อแก ฉันเองยังไม่อยากเชื่อเลย”
“โธ่เตี่ย เตี่ยต้องช่วยผมนะ ไม่งั้นคราวนี้ผมจบเห่แน่”
“เฮ๊ย...ไม่เกี่ยวกันโว๊ย...ตะก่อน ฉันสร้างหนัง สร้างตัวได้ ไม่เห็นต้องมีพ่อมาช่วยเลย แกก็ต้องทำได้เหมือนกัน เพราะถ้าแกทำไม่ได้ ฉันไม่เอาแกไว้แน่ และต่อไปนี้ ฉันจะไม่ช่วยแกอีกแล้วผลาญจนบริษัทเกือบเจ๊ง ไปหาเงินใช้เอาเองแล้วกัน ฉันสร้างมันมากับมือ แต่จะมาให้แกเอาตีนลบมันเหรอ ห๊า...”
ยิ่งพูดเตี่ยยิ่งโมโห เบิร์ดหัวลูกต่อ
สองสาวไฮโซ นั่งดูรูปทองดีที่ร้านดารา
“ทองประกาย นางแบบที่เค๊าว่า ขาย...ใช่มั๊ย”
เพื่อนไฮโซซุบซิบ
“ใช่นะ ตายแล้วคุณดารา เอารูปผู้หญิงแบบนี้มาโชว์ไว้ได้ยังไงคะ”
ดาราทำเป็นตกใจ
“อุ๊ย ขอโทษทีค่ะ คุณพี่ รูปแฟชั่นล๊อตเก่า เด็กๆเขาลืมถอดตายจริง เลือกคนผิดมาทำงานด้วย น่ากลัวค่ะ”
ไฮโซนางหนึ่งเห็นด้วย
“นั่นสิคะ เห็นว่าเป็นพวกโคโยตี้ พวกเด็กไซ้ไลน์ ร้านคุณดารา จะพลอยเสียชื่อไปด้วยนะคะ”
“จริงค่ะ อ้าวชุดมาแล้วค่ะ จะลองก่อนมั๊ยคะ”
เพื่อนไฮโซยิ้มแย้มให้ดารา
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เชื่อฝีมือคุณดาราอยู่ พี่จะรีบกลับไปแต่งตัว ใส่ชุดคุณไปงานคืนนี้ค่ะ”
ดาราหันไปถามเจ้าสัว
“เจ้าสัวไปด้วยรึเปล่าคะ”
เมียไฮโซรีบบอก
“คนนี้น่ะ เขาไม่ชอบออกงานหรอก อุตส่าห์มากับพี่นี่ก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว ชวนไปไหนก็ไม่ไป”
เจ้าสัวยิ้มให้ หยิบหนังสือที่มีรูปทองดีขึ้นมาดูแล้ววางลง ก่อนจะเดินออกไป
ดารากำลังจัดแต่งเสื้อผ้าอยู่ โทรศัพท์ดังขึ้น พอเห็นเบอร์ก็กดรับ
“ฮัลโหล เจ้าสัวเองเหรอคะ มีอะไรให้ดารารับใช้คะ...อุ๊ย...ทองประกายเหรอคะ เจ้าสัวสนใจเหรอคะ...แต่ชื่อเสียงของทองประกายไม่ดีสักเท่าไหร่นะค่ะ ถ้าเป็นน้องๆคนอื่นๆ ดาราไม่ขัดเลยค่ะ เอ่อ...ค่ะได้คะ ถ้าเจ้าสัวยืนยันว่ายังไงก็ยังต้องการ ทองประกาย ดาราก็ยินดีติดต่อให้ค่ะ ทำได้ซิค่ะ มีน้องคนไหนที่เจ้าสัวต้องการแล้วดาราติดต่อให้ไม่ได้บ้างละคะ...คะ ยินดีรับใช้คะท่าน...”
ดารากดวางสาย ครุ่นคิด แล้วยักไหล่ ช่างมันฉันไม่แคร์
พนักงานกำลังวุ่นวาย เปลี่ยนชุดให้หุ่น ดาราถือโทรศัพท์มือถือ พยายามกดหาทองดี ขณะที่เธอนอนหลับอยู่ข้างๆเปลไท ไม่ได้ยินเพราะเธอเปิดระบบสั่นไว้ ดารากดปิดโทรศัพท์ ถอนหายใจ หงุดหงิดติดต่อทองดีไม่ได้
“นี่หล่อนไปตายอยู่ที่ไหนยะแม่ทองประกาย เอาเงินมาให้ดันไม่รับโทรศัพท์อีก ดี...ฉันจะเสนอคนอื่น”
ดาราเชิดใส่วางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะหัวเสีย เธอจะเดินไปแล้วชะงัก
“ลองอีกทีน่ะ”
ดาราเดินมาหยิบโทรศัพท์กดอีกครั้ง ทองดีสะดุ้งตื่น งัวเงียหยิบโทรศัพท์มาดู ก่อนจะกดรับ
“ฮัลโหล”
“ทองประกาย นี่ฉันเอง”
"พี่ดาราเหรอคะ”
ทองดีสดชื่นขึ้นคิดว่าจะได้งานเดินแบบ ถ่ายแฟชั่น
“ใช่...พี่มีงานให้เธอทำ มาหาพี่หน่อยนะ เดี๋ยวนี้เลย”
ดาราพูดจบกดปิดโทรศัพท์ทันทีเพื่อไม่ให้ทองดีถามอะไร
ดาราหน้าตายิ้มแย้มแบบไม่จริงใจ ตาไม่ยิ้มด้วย เมื่อทองดีมานั่งอยู่ตรงหน้า
“พี่รู้ว่าเธอกำลังเดือดร้อน พี่เลยอยากจะช่วย งานการหดหายหมดเลยสิ”
“แล้วพี่มีงานอะไรคะ เดินแบบ หรือว่าถ่ายแบบ”
“งานดูแลคน”
ทองดีงง
“ดูแลคน”
“ใช่ เจ้าสัวปั้น รวยมาก แต่ขี้เหงา เธอก็แค่ดูแลเอาอกเอาใจเจ้าสัว ไปทานข้าวด้วย ไปเที่ยวกัน”
ทองดีเริ่มไม่พอใจ
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่เดือดร้อน จนถึงกับต้องขายตัว ถ้าไม่ใช่ตามฉันมาเรื่องงานแฟชั่น งั้นฉันกลับนะคะ”
“ฟังให้จบก่อนดีมั้ย แล้วค่อยปฏิเสธฉัน คบคนแก่น่ะ ไม่บุบสลายหรอก แล้วมันก็ไม่ใช่ขายตัว เพราะถ้าเธอทำให้เจ้าสัวเอ็นดูได้ เขาก็จะเลี้ยงเธออย่างจริงจัง เธอก็จะสุขสบาย มีเงินใช้ มีรถขับ”
ทองดีเงียบคิดตาม ดารารุกต่อ
“ไปคิดดูดีๆ วัยสาวมันอยู่กับเราไม่นาน ตอนนี้ยังมีคนต้องการ...อยากมีชีวิตแบบไหนล่ะ สุขสบาย หรือลำบาก ถ้าสนใจก็โทรหาฉันนะ แต่อย่านาน เดี๋ยวเจ้าสัวรอไม่ไหวจะเปลี่ยนใจ”
ทองดีไม่พูดอะไรจะเดินออก
“อ้อ...ถ้าเธอยังอยากจะเป็นนางแบบ ฉันช่วยให้เธอกลับมาดังได้นะ”
ทองดีอึ้งๆ เดินออกไป ดาราพูดไล่หลัง
“ก่อนมาเป็นนางแบบ ก็เป็นโคโยตี้มาก่อน อย่าบอกนะว่าแกไม่เคยขาย”
จบตอนที่ 13