ทองประกายแสด ตอนที่ 12
ภายในงานปาร์ตี้ริมสระน้ำค่ำนั้น ทีมงานเดินคุยกันร่าเริง โฬมยืนคุยอยู่ด้วย มีดารายืนมองอยู่ห่างๆ บุญเทียมกำลังยืนคุยกับชายหนุ่มรูปงาม ในขณะที่ทองดียืนฟังอย่างเบื่อๆ ระหว่างนั้นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น บุญเทียมหยิบมือถือออกมาดูชื่อ แล้วทำหน้าเบื่อหน่าย
“จะโทร.จิกทำไมนัก อีพี่แก้วนี่ทำตัวน่ารำคาญจริงๆ” บุญเทียมกดปิดเครื่อง “ปิดซะเลย เวลาพักเข้าใจมั้ย”
บุญเทียมไม่สนใจหันไปคุยกับชายหนุ่มต่อ ทองดีมองรอบๆตัวอย่างเบื่อๆ สักพักค่อยๆเดินหลบไปที่บาร์เครื่องดื่ม เธอเบื่อมากเลยอยากดื่มแอลกอฮอร์ย้อมใจ
“ขอเบียร์ซักแก้วสิ”
โฬมเดินมาหา
“เบียร์หรือครับ ลองนี่หน่อยมั้ย...มาร์การิต้า เปรี้ยวอมหวาน...เหมาะกับผู้หญิงแบบคุณ”
โฬมยื่นแก้วเครื่องดื่มให้ ทองดียิ้มให้ แบบลองดูก็ได้แล้วรับแก้วเครื่องดื่มไป
“ค่อยยังชั่วหน่อย ผมพยายามจะเป็นมิตรกับคุณนะ ทำไมคุณต้องเลี่ยงผมด้วย”
ทองดียิ้มรู้ทัน
“ไม่ได้เลี่ยง ฉันไม่อยากมีปัญหา”
“กับผมน่ะหรือ คุณไม่กล้าใช่มั้ย”
“ไม่กล้าเหรอ” ทองดีขำ “ฉันไม่อยากยุ่งกับคุณมากกว่า”
ทองดีมองไปอีกทาง โฬมมองตามไปเห็นดาราเดิมมา ทองดียิ้มเยาะ
“โน่นแน่ะ ใครมาแล้วเห็นมั้ย”
ทองดียิ้ม โฬมอายๆ ทองดีมองขำเยาะๆ โฬมหันไปหยิบแก้วมาการ์ริต้า จากบาร์เดินกลับไปหาดารา ส่งแก้วเหล้าให้ดื่ม สักพักก็ค่อยๆประคองดารากลับเดินออกไป ทองดีตามส่ายหน้า
โฬมประคองดาราเดินเข้ามานั่งที่เตียง
“ทำไมวันนี้พี่มึนหัวจังเลย ดื่มไปแค่แก้วเดียวเอง”
“อากาศมันร้อนมั๊งครับพี่ วันนี้พี่ทำงานทั้งวัน ผมยังนึกเป็นห่วงเลย เดี๋ยวผมหาอะไรเย็นให้ดื่มดีกว่า”
โฬมเดินไปรินน้ำผลไม้ในตู้เย็นใส่แก้ว หันไปมองดาราพอเห็นเธอกำลังนั่งหลับตา เขาแอบใส่ยานอนหลับลงไปในแก้ว แล้วเดินเอาแก้วน้ำมาส่งให้
“มาแล้วครับ น้ำผลไม้เย็นชื่นใจ”
ดารารับไปแต่ยังไม่ดื่ม โฬมส่งแก้วมาชนด้วย
“สำหรับเราสองคนครับ ดื่มเลย...ครับพี่จะได้สดชื่นขึ้น”
ดารายกน้ำผลไม้ดื่มจนหมด โฬมยิ้มพอใจ
“ตั้งแต่มานี่ ไม่มีเวลาส่วนตัวกับพี่เลย เบื่อจังฮะ”
ดาราตาปรือ
“มาทำงานก็แบบนี้แหละ แหม...ทำไมห้องมันโคลงเคลงอย่างนี้”
ดาราค่อยๆหลับตาล้มลงนอนไปในอ้อมกอดของเขา
“พี่ดาราครับ...พี่ดารา”
โฬมผลักหน้าดาราล้มไปบนเตียง แล้วเอาขาเขี่ยซ้ำ ดาราแน่นิ่งไม่ไหวติง เขาตบมือร่า
“เสร็จละ อีแก่...งานนี้แกนอนเฝ้าห้องไปก่อนนะ...”
โฬมยิ้มร้าย
ทองดีเริ่มเมา มีช่างหน้า ผม สไตล์ลิส มาชวนเธอดื่ม เฮฮาหัวเราะกันร่าเริง บุญเทียมดึงเธอออกมาคุยด้วย
“นี่หล่อน กินไปกี่แก้วแล้วยะ พอได้แล้ว ขึ้นไปนอนได้แล้ว”
“อ้าว ทีฉันไม่อยากลงมาก็บังคับ ที่นี้จะให้ไปนอน...ฉันยังไม่นอน มีอะไรมั้ย”
“ย่ะ...แต่อย่าเมาให้มากหล่ะ ระวังหน่อย เดี๋ยวใครจะเอาไปเม๊าท์”
“กลัวอะไร ไม่เห็นมีคนนอกเลย”
“ไม่ต้องมาทำเป็นเก่ง รู้มาก ทำตามที่ฉันบอก ฉันจะไปนอนแล้ว”
ทองดียักไหล่ ไม่สนใจ แล้วเดินกลับไปรวมกลุ่ม
เมื่อทุกคนเริ่มเมาได้ที่รวมทั้งทองดีด้วย โฬมลงมาแล้วมายืนแอบดูทองดีอยู่ตรงเค้าท์เตอร์บาร์เหล้า เห็นเธอกำลังเมา เฮฮาอยู่ โฬมตามไปแล้วไปมั่วรวมอยู่ด้วย เหมือนใครจะไม่สนใจใคร ทองดีเริ่มเมามาก โฬมเข้าไปใกล้ แล้วรวบตัวทองดีมากอด ไซร้ซอกคอ ทองดีเคลิ้มเรียกชื่อมนตรา
มีคนโดดลงน้ำ หลายคนเลยโดดตาม ทุกคนเชียร์ทองดี เธอถอดส้นสูงโดดบ้าง โฬมตาม แล้วไปฟัดทองดีต่อในน้ำ โฬมประคองทองดีมาริมขอบสระน้ำ เธอตะกายขึ้นมาได้ แล้วเมาหลับไปในอ้อมกอดเขา
“คุณเสร็จแน่”
โฬมอุ้มทองดีเดินไป
บุญเทียมอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อยเดินออกมานั่งที่เตียงอย่างเซ็งๆ
“ทำไมมันร้อนแบบนี้นะเสียหรือเปล่าเนี่ย ร้อนจะตายชัก”
บุญเทียมมองช่องแอร์อย่างหงุดหงิด
“เปลี่ยนห้องกับนังทอง ดีกว่า”
บุญเทียมยิ้มแล้วเดินออกจากห้องไปทันที
โฬมอุ้มทองดีมาถึงหน้าประตูห้อง ประตูไม่ได้ล็อค เขายิ้มแล้วหมุนเปิดเข้าไปเอาเธอไปวางลงที่เตียง แล้วถอดเสื้อตัวเองออก นึกได้จะเดินกลับมาปิดประตู บุญเทียมออกมาทันเอาขาเสียบประตูไว้ก่อนที่โฬมจะปิด บุญเทียมตกใจมากที่เห็นโฬมอยู่ในห้อง
“อ๊าย อะไรกันยะ นี่แกทำอะไรเด็กฉันฮะ หมดกัน เอากันไปรึยังเนี่ย ตายแล้ว”
โฬมตกใจ
“เปล่า ไม่มีอะไร ผมเห็นทองประกายเมามาก เลยอุ้มมาส่ง”
“แล้วไป ขอบใจมาก กลับไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวคุณดารามาเห็นเข้า ฉันจะเดือดร้อนไปด้วย ไปสิ”
โฬมมองทองดีด้วยความเสียดาย บุญเทียมมองอย่างรู้ทัน โฬมออกมานอกห้องโมโหตัวเอง
“กูนี่โง่จริงๆ รู้งี้บอกเอาไปแล้วก็ดี จะได้เลยตามเลย หึ หึ”
เช้าวันใหม่...ทองดีกับโฬมถ่ายรูปด้วยกันที่สระว่ายน้ำ ทองดีโพสท่าถ่ายรูปเต็มที่ ไม่สนใจท่าทางของโฬม บุญเทียมแอบด่า
“จิตหงุดเงี้ยวสิมึง...”
ดาราแปลกใจ
“ว่าอะไรนะ...”
“เปล่าค่ะ บอกว่า สวยสุดๆเลยเนอะ”
ดารามองโฬมอย่างสงสัย
“โฬมทำไมโพสประหลาด ดูเกร็งๆ ไม่เหมือนเมื่อวานเลย เป็นอะไรของเขานะ”
โฬมโพสท่าถ่ายกับทองดี
“เมื่อคืนเราจูบกัน คุณจำได้มั้ย...”
ทองดีตกใจ นึกไม่ออก ตากล้องเห็นท่าสวยรีบบอก
“ขอท่านี้ค้างไว้ก่อนนะครับคุณโฬม”
โฬมยิ้ม
“ได้ครับ...คุณเล้าโลมผมซะจนผมเกือบตะบะแตก”
“ฉันเนี่ยนะ ไม่จริงมั๊ง” เธอไม่แน่ใจนัก “แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก”
“ผมก็อุ้มคุณไปส่งที่ห้องไง”
“แค่นั้นเหรอ”
“ก็แค่นั้นน่ะสิ ผมน่ะสุภาพบุรุษนะครับ ไม่ทำอะไรคุณหรอก”
ทองดีถอนใจโล่งอก ยิ้มให้เขา
“ขอบคุณมากนะคะ คุณสุภาพบุรุษ”
ทองดีโพสท่าคู่กับโฬม อย่างสบายใจ เสียงชัดเตอร์ลั่น ติดๆกัน ตากล้องพอใจมาก
“เสร็จแล้วครับ”
ทั้งสองยิ้มให้กัน บุญเทียมเห็นเข้าพอดี รีบเอาตัวบังดาราไว้ ดาราชะเง้อมอง บุญเทียมรีบวิ่งไปหาทองดี
“อ้า...เสร็จแล้ว ขอบคุณนะคร้า...” บุญเทียมกระซิบ “โฬมมันพูดอะไรกับแก...”
“เปล่า”
“ก็ฉันเห็นอยู่ จะบอกให้ อย่าไปไว้ใจมันเชียวนะ เมื่อคืนก็เกือบไปแล้ว”
“มีอะไรที่ไหน หรือต้องให้ไว้ใจเจ๊คนเดียว ไว้ใจได้งั้นสิ”
ทองดีมองอย่างรู้ทันก่อนจะสะบัดออกไป
“อ๊ะ...อีนี่ อารมณ์ไหนละเนี่ย มาพาลอะไรฉันยะ”
บุญเทียมแบกกระเป๋าเดินมาเก็บที่หลังรถ ทองดีเดินเชิด มาถึงรถ ก็เปิดประตูขึ้นไปนั่ง บุญเทียมมองตามอย่างหมั่นไส้
“วางท่าเป็นคุณนายเชียวนะมึง...ถ้าไม่เห็นแก่เงินนี่กูไม่ยอมบริการหรอก”
บุญเทียมพึมพำด่าก่อนจะรีบขึ้นรถไป ทองดีเชิดหน้า
“ฉันขอนั่งข้างหลังนะเจ๊ เพราะฉันจะนอนพัก”
บุญเทียมเหยียดปากประชด
“ได้เพคะ...องค์หญิง หม่อมฉันจะทำตามพระบัญชา”
ทองดียิ้มขำ
“ดีมาก”
ทองดีหยิบแว่นดำมาใส่ บุญเทียมมองกระจกหลังทำปากขมุบขมิบด่าแต่ไม่กล้าออกเสียง
บุญเทียมขนของจนหลังแอ่น ปากคาบอยู่อีกถุง เดินเข้ามาในห้อง ทองดีเดินเข้ามาตัวเปล่า ทรุดตัวลงนั่งเฉย บุญเทียมวางของลงจนหมด แล้วหอบหายใจแรง
“นี่แม่คุณ แม่ทูลกระหม่อม...ใจคอหล่อนจะไม่ช่วยฉันหยิบฉันจับอะไรเลยหรือไง”
“อยากรู้ไม๊ทำไม เพราะเจ๊ มีรายได้เยอะกว่าฉัน เจ๊ก็ต้องทำงานเยอะกว่าฉัน”
บุญเทียมชะงัก
“นี่แกพูดอะไร...ฉันช่วยแกแท้ๆ เห็นว่าไม่มีงาน แล้วนี่แกมาว่าฉันแบบนี้หรือ”
“ฉันแค่อยากจะเตือนเจ๊ว่า ฉันไม่ได้โง่นะ”
“แกจะเอายังไงกะฉัน ถ้ารับไม่ได้ ก็ออกไปหางานเองสิไป๊...แหม...แม่ยอดนางแบบ ดูซิ มึงไม่มีฉันจะหางานเองได้มั้ย”
ทองดีแค้นๆ แต่พยายามเก็บไว้
“ไม่เป็นไร ถือว่าเจ๊มีบุญคุณ”
“ก็แน่ละ ถ้าไม่มีฉันแล้วแกจะได้เกิดหรือ นังทองประกาย”
ทองดีลุกขึ้นหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย
“พรุ่งนี้วันหยุด ฉันจะออกไปหาเพื่อนข้างนอกนะ”
พูดจบเธอก็เดินออกไปจากห้องทันที บุญเทียมมองตามไปอย่างอารมณ์เสีย
“แหม...อีนี่...มึงชักฉลาดเกินแล้วนะ แต่อย่าหวังจะมากินกูได้เลย...มึงรู้จักกูน้อยไปแล้ว”
บุญเทียมคิดว่ามีชัยเหนือยกว่า
วิไลนั่งถักเสื้อเด็กอยู่ในห้อง เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เธอลุกขึ้นแล้วชะงักรู้สึกเหมือนปวดท้อง เสียงกริ่งยิ่งดังขึ้น
“ไปเดี๋ยวนี้แหละ...”
วิไลเดินไปเปิดประตูห้อง ทองดีเข้ามาพร้อมถุงผลไม้ในมือ
“ทำไมเปิดช้านัก มัวแต่ทำอะไรอยู่” ทองดีหันไปมองท้องวิไล “โห...นี่แฝดสามหรือเปล่าเนี่ย ท้องเบ่อเร่อเลย”
“บ้า...แปดเดือนแล้ว”
“โหเร็วจังเลย...ใกล้คลอดสิเนี่ย”
“หายหน้าไปไหนมา ไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงนะเนี่ย”
“เฮ้อ...มัวแต่ทำงาน แทบไม่ได้เงยหน้าเลย”
“โอ้โห จะดังใหญ่แล้ว น้องฉัน ดีแล้ว หาเงินได้ก็ต้องเก็บเงินไว้เพื่ออนาคตด้วยนะ แต่แกก็เก็บเก่งอยู่แล้วนี่”
“เฮ้อ...อย่าพูดเลย เจ๊บีบีมันเขี้ยวลากดิน หักยิบ สรุปแล้วได้นิดเดียว”
ทองดีหันไปเห็นแม่บ้าน เจียมเข้ามาสวัสดี เธอรีบรับไหว้
“ใครล่ะ ญาติพี่เหรอ”
“แม่บ้านน่ะ นิคเขาจ้างมาให้มาคอยเลี้ยงลูกพี่ ชื่อเจียม งั้นคืนนี้ค้างด้วยกันเลย จะได้เม้าธ์กันให้หายคิดถึง”
“ตั้งใจอยู่แล้วละ อ๊ะ...ใกล้คลอดแล้วมีอาการยังไงบ้างหรือเปล่า”
วิไลคิดๆ
“ไม่มี แค่ปวดหลัง แล้วลูกก็ดิ้นบ่อยขึ้น นี่ๆ ดิ้นอีกแล้ว เตะซ้ายเตะขวาเลยมึ๊ง”
ทองดีขำ
“ไหน ขอดูหน่อยซิ”
ทองดีเอื้อมมือ วิไลเอามือทองดีขึ้นวางบนตัวเอง ทองดีขำกิ๊ก ดึงมือออก
“ตลกดีนะคนท้องเนี่ย ไม่จั๊กจี๋ท้องเหรอ เป็นฉันคงจั๊กจี๋ตายเลย”
ทั้งคู่หัวเราะขำกันอย่างสนุกสนาน
ทองดีครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเตียง วิไลวางหูโทรศัพท์จากนิค
“แหม...นิคนี่เขารักพี่ดีจังเลยนะ แล้วนี่เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ”
“คงอีก 2-3 เดือนมั๊ง...เห็นว่าพายุเข้าหลายลูก แท่นเจาะเสียหาย เขาก็ต้องไปดู...โทรมาก็คุยได้แค่แป๊บเดียว คงยุ่งมากแหละ”
“ชีวิตพี่ก็ลงตัวอย่างที่พี่ฝันแล้วเนอะ ฉันดีใจด้วยจริงๆ”
“ขอบใจจ๊ะ พี่ก็ขอให้แกโด่งดังอย่างที่แกฝันเช่นกันนะ นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้าไม่ใช่หรือ”
ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนปิดไป วิไลนอนกระสับกระส่ายสักพักก็ลุกขึ้นทำหน้าประหลาด
“เป็นอะไรหรือ...”
“ปวดท้อง ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
วิไลลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ทองดีล้มตัวลงนอนต่อ
วิไลเดินเข้าห้องน้ำออกมาจะนอน แล้วปวดไปเข้าห้องน้ำอีก แล้วลงนอน เธอนอนปวดแต่ไม่กล้าปลุกทองดี นอนปวดซักพักไม่ไหว จึงร้องลั่น ทองดีตื่นขึ้นมาโกลาหลมาก
“พี่วิไลเป็นอะไรอ่ะ”
“ปวดท้อง”
“จะคลอดแล้วเหรอ ทำไงล่ะ” ทองดีนึกได้ “ไปโรงพยาบาล ไปพี่”
ทองดีประคองจะออก วิไลนึกได้
“เดี๋ยวก่อน เอาของไปด้วย เจียมๆ”
ทองดีนึกได้ประคองวิไลนอน แล้ววิ่งเก็บของโกลาหล
เช้าวันใหม่...วิไล นอนให้นมลูกอยู่ในห้องพักผู้ป่วย ทองดียืนมองอย่างตื้นตัน
“น่าเอ็นดูนะ ตั้งชื่อหรือยังล่ะเนี่ย”
“ยังเลย ว่าจะรอนิคกลับมาตั้งชื่อ โชคดีนะที่เมื่อคืนทองอยู่ด้วยขอบใจนะ”
“ขอบใจอะไรล่ะ พี่น่ะช่วยฉันมาตั้งเยอะแล้ว”
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของทองดีดังขึ้น เธอมองหน้าจอแล้วทำหน้ากังวล
“พี่บีบีโทรมาตามอีกแล้ว”
“ไปทำงานเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก มีเจียมคอยเฝ้าอยู่ด้วย”
“งั้นฉันไปก่อนนะ เสร็จงานแล้วจะรีบมา”
ทองดีเดินออกไป วิไลมองตามไปสักพักก็เริ่มมีอาการผิดปกติหายใจไม่ออก สักพักก็ดีขึ้นเธอนิ่งคิดอย่างไม่สบายใจ
ทองดีกำลังยืนโพสท่าถ่ายรูปในเซ็ต เสียงชัตเตอร์ดังรัว ตากล้องเงยหน้าจากกล้องแล้วบอก
“เปลี่ยนชุดได้เลยครับ”
ทองดีรีบเดินออกจากเซ็ต ตรงไปค้นโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าจะหยิบมาโทรออก บุญเทียมกระแอม
“นี่หล่อน ตั้งใจทำงานหน่อย...มัวแต่โทรศัพท์ มันดูไม่เป็นมืออาชีพนะยะ”
“ฉันมีธุระ”
“ธุระอะไร รอไว้ก่อน รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่าให้คนอื่นเขารอ”
ทองดีทำหน้าเซ็งจำใจวางโทรศัพท์ เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
“นึกว่าจะแน่...เชอะ...”
บุญเทียมยิ้มอย่างพอใจ ที่วางอำนาจใส่ทองดีได้
วิไลนั่งอุ้มลูกอยู่บนเตียง รอทองดี สักครู่ทองดีวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในสภาพเพิ่งเสร็จจากถ่ายแฟชั่นสดๆร้อน
“โหย...แต่งตัวซะ...นี่ถ้าไปเดินแถวบ้านนอกนะ หมาฟัดแน่เลย”
“เพิ่งเสร็จงานก็รีบบึ่งมานี่เลย แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้ หมอให้กลับแล้วหรือ ทำไมเร็วนัก”
“ก็ไม่เป็นอะไรแล้วนี่นา แค่คลอดลูก เดินได้ก็อยากกลับบ้านแล้วละ ไม่ต้องห่วงหรอก หมอเขานัดให้มาตรวจอีกเดือนหน้า”
ทองดีกังวล
“น่าจะนอนพักอีกหน่อย เงินทองก็มีนี่นา นิคเขาส่งมาให้ทุกเดือนไม่ใช่หรือ”
“ใช่ แต่เราก็ต้องรู้จักประหยัด เอาน่าไม่เป็นอะไรหรอก อยากกลับบ้านเต็มทีแล้ว”
วิไลอุ้มลูกลงจากเตียง ทองดีรีบไปช่วยถือของเดินออกจากห้องไป
วิไลนอนกอดลูกไว้ในอ้อมแขน ทองดีเดินเข้ามาส่งกระเป๋าน้ำร้อนให้ วิไลส่งลูกให้ทองดีช่วยอุ้ม ทองดีส่ายหน้า
“ฝากไว้หน่อย ลองอุ้มดู หัดไว้ อีกหน่อยมีเป็นของตัวเองจะได้คล่อง”
“ไม่เอาหรอกฉันบอกตรงๆนะ ไม่ชอบเด็ก แล้วตัวเล็กเท่าลูกหนู ฉันกลัวหล่นไป ไปมีปัญญาทำใช้น่ะสิ”
“เอาน่า ไม่หล่นหรอก กลัวไปได้ เอามือประคองหัวไว้แบบนั้นแหละ”
ทองดีรับเด็กมาท่าทางเก้ๆกังๆ วิไลมองยิ้มๆ
“เห็นมั้ย ไม่ยากเลย” วิไลพูดกับลูก “นี่น้าทอง เป็นน้องของแม่เอง ฝากเนื้อฝากตัวกับน้าไว้ เผื่อวันหน้าแม่ไม่อยู่ หนูจะได้อยู่กับน้าเขา”
“พูดอะไรไม่รู้ ฉันไม่ชอบเลย”
“ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ของแบบนี้มันไม่แน่ไม่นอน จริงมั้ยลูก”
วิไลก้มลงไปหยอกลูก ทองดียิ้มอย่างนึกเอ็นดู
“ชั่วครู่ชั่วคราวก็พอรับฝากได้หรอก บอกตรงๆนะ ฉันไม่ชอบเด็ก”
“ตอนนี้แกก็พูดได้หรอก พอมีเป็นของตัวเองเข้าขี้คร้านจะหลง จริงมั้ยลูก”
วิไลรู้สึกหน้ามืดเซไป ทองดีมองอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรไปเนี่ย...บอกแล้วให้อยู่โรงพยาบาลก่อนก็ไม่เชื่อ”
วิไลแข็งใจพูด
“แค่หน้ามืดนิดเดียวเอง สงสัยจะก้มนานไปหน่อย เดี๋ยวก็หาย”
วิไลนั่งหน้าตาซีดเซียว ทองดีมองอย่างเป็นห่วง
เช้าวันใหม่...ทองดีนั่งมองวิไลนั่งพับผ้าเก็บผ้าให้ลูกอยู่ เธอยิ้มปลื้มใจ
“คลอดลูกแล้ว หน้าตาพี่ผ่องใสนะ กะจะมีซักกี่คนล่ะเนี่ย”
“คนเดียวเลี้ยงให้รอดก่อนเถอะ แต่นิคน่ะ เขาอยากมีเยอะๆ”
“พี่ก็มีซักโหลนึงเลยสิ”
“บ้าเหรอ พี่ไม่ใช่แม่หมูนะเว้ย ฮ่าๆๆๆ แล้วแกล่ะ มีใครมาจีบบ้างรึเปล่า”
“โอ๊ย...มีฉันก็ไม่สนใจหรอก ตอนนี้ฉันต้องการแต่ชื่อเสียงเท่านั้นแหล่ะ”
วิไลชะงัก หายใจไม่ออก
“โอ๊ะ...ทอง...พี่...พี่...หาย...ใจไม่ออก”
“พี่วิไลเป็นอะไร...อย่าล้อฉันเล่นนะ”
วิไลชักหายใจไม่ออก ทองดีหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยอะไรวิไลได้ วิไลสิ้นใจ ทองดีจึงตัดสินใจรับเลี้ยงลูกของเธอไว้ ตั้งชื่อให้ว่าไท
แต่เพราะไม่สามารถพาไปอยู่ด้วยได้ ทองจึงแก้ปัญหา พาไปฝากเลี้ยงไว้ที่เนอร์สเซอรี่
อ่านต่อหน้า 2 strong>
ทองประกายแสด ตอนที่ 12 (ต่อ)
บุญเทียมก้าวลงจากรถพร้อมทองดี เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น บุญเทียมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วออกอาการหงุดหงิดขึ้นมาอีก
“อีกแล้ว อีพี่แก้วเอ๊ย นี่แกจะล้วงจะควักฉันไปถึงไหนเนี่ย...อีพี่แก้วเอ๊ย...ยุ่งกับฉันจริงเชียว”
บุญเทียมกดรับโทรศัพท์ แล้วทำเสียงอ่อนหวานทันที ทองดีหันไปมองทำหน้าเบื่อหน่าย
“..พี่แก้วขา แหม..ใจตรงกันเลย หนูว่าจะโทรพาพี่อยู่เชียว ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะไปหาพี่แก้วที่ออฟฟิศ...ตอนนี้หนูกำลังติดลูกค้าอยู่ ค่ะๆ แหม...ใครจะกล้าล้วงคองูเห่า...เอ๊ย...พี่แก้วได้ละคะ แค่นี้นะ”
บุญเทียมกดโทรศัพท์ปิดแล้วถอนหายใจยาว
“อีบ้าเอ๊ย...อย่าให้กูโมโหนะ กูจะลาออกแม่งเลย..”
บ่นแล้วหันไปบอกทองดี
“เชิญเสด็จสิคะ...มัวยืนมองหาอะไรล่ะ นังนี่ก็ กวนประสาท”
บุญเทียม คว้าหยิบถุงข้าวของบนรถ เดินบ่นๆๆๆเข้าบ้าน ทองดีส่ายหน้ายิ้มเหยียด
“หน้าไหว้หลังหลอกจริงๆ”
ทองดีนิ่งสงบอารมณ์ แล้วค่อยเดินตามไป
บุญเทียมวางข้าวของบนโต๊ะ พลางบ่น
“โอ๊ย...ปวดจะแย่อยู่แล้ว”
บุญเทียมรีบวิ่งแซงทองดีไปเข้าแย่งเข้าห้องน้ำ ทองดีไม่ยอมแพ้ วิ่งตามไปเคาะประตู
“ฉันก็ปวดเหมือนกันนะ ออกมาเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ออก...”
ทองดีทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้อย่างหงุดหงิด เสียงกริ่งประตูดังขึ้น ทองดีหันไปมองแล้วเฉย เสียงกริ่งยิ่งดังกระชั้นขึ้น ทองดีตะโกน
“เจ๊มีคนมาเรียก”
“ก็ไปเปิดสิยะ...หรือจะให้ฉันออกไปแบบเรตเอ็กซ์...”
ทองดีลุกขึ้นเดินออกไป พบแก้วยืนหน้าตึง
“มาหาใครคะ”
“บีบีอยู่มั๊ย...”
“แล้วใครมาหาล่ะ”
“ไปบอกมัน พี่แก้วมาหา”
ทองดีชะงัก ยิ้มร้ายทันที
“อ๋อ...พี่แก้วหรือคะ...เจ๊บีบีอยู่ข้างใน เชิญเข้ามาเลยค่ะ”
“แล้วหล่อนล่ะเป็นใคร”
“อ๋อ...หนูเป็นเด็กของเจ๊บีบีค่ะ”
แก้วมองทองดีตาค้าง ทองดีหลบแล้วผายมือให้แก้วเดินเข้าห้อง แก้วพรวดเข้าไปในห้องทันที บุญเทียมล้างมือเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ พอเห็นหน้าแก้วก็ชะงัก
“แกทำแบบนี้ได้ยังไง นังบีบี เสียแรงฉันปั้นแกมาตั้งแต่เป็นกะเทยภูธร จนแกมีบ้านใหญ่อย่างงี้ได้ แล้วแกหักหลังฉันแบบนี้ได้ยังไง”
“โธ่พี่แก้วขา ใจเย็นสิคะ หักหลังอะไรกัน หนูไม่รู้จริง...จริ๊ง”
“ไม่ต้องมาตอแหล แกเอานางแบบของแก”แก้วชี้มือไปทางทองดี “...ไปเสียบงานพี่ลูกอ๊อดแทนจีบี้ใช่มั๊ย...สารเลวจริงๆ”
“อุ๊ย...ไม่จริงค่ะ หนูสาบานได้ พี่แก้วเค้าเลือกเด็กคนนี้เอง หนูเปล่านะ”
“ยัง...ยังไม่เลิกตอแหลอีก ...พี่ลูกอ๊อดจะไปรู้จักนังนี่ได้ยังไง ถ้าแกไม่เสนอ แล้วแกยังเบี้ยวงานฉันอีก อย่างนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว”
ทองดียืนห่างออกมายิ้มอย่างสะใจ บุญเทียมทรุดตัวลงกอดขาแก้ว สะอึกสะอื้นทำสำนึกผิด
“พี่แก้วขา หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูโดนบังคับ”
แก้วเตะบุญเทียมกระเด็นไป บุญเทียมฉุน
“ไม่ต้องมาบีบน้ำตา คนเนรคุณอย่างมึง อยู่กับใครคนนั้นก็ซวย”
บุญเทียมชี้หน้าด่าสวนทันที
“...โธ่เอ๊ย...ยังกะกูอยากอยู่กะมึงนักนี่ อีเฒ่าหนังเหนียว แกกะโหลกกะลาขนาดนี้ยังบ้าอำนาจ...กะอีแค่โมเดลลิ่งเล็กๆ กูก็ไม่อยากจะร่วมงานด้วยหรอก ต่อไปนี้ทางใครทางมัน”
“อีบีบี...อีเนรคุณ...มึงกล้าลองดีกับกูใช่มั๊ย...คอยดูเหอะ...แล้วมึงจะเสียใจ”
พี่แก้วสะบัดหน้าออกจากห้อง ผ่านหน้าทองดีไป แก้วชะงัก หยิบนามบัตรส่งให้ทองดี
“ถ้าอยากมีอนาคตดีกว่านี้ ก็ไปหาฉันได้นะ”
ทองดีรับนามบัตรมาอ่านทำหน้าเฉย บุญเทียมมองตามแก้วไป พอแก้วลับตัวไป บุญเทียมนั่งกุมขมับอย่างเริ่มร้อนใจ ทองดีมองอย่างสะใจ
ทองดีนั่งอ่านหนังสือ กินขนมไม่สนใจบุญเทียม ที่เดินใช้ความคิดเครียดอยู่คนเดียว พอหันไปมองทางทองดี
“อีพี่แก้วนี่มันร้ายจริง...จริ๊ง...ทำกูเดือดร้อนซะอีก...อีบ้าเอ๊ย...ถ้าอีทองมันบ้าตามพี่แก้วไป เราจะทำยังไงเนี่ย...ไม่ได้ ต้องจับมันเซ็นสัญญาก่อน เอาไงเอากันวะ”
บุญเทียมเดินออกมาหาทองดี
“ทองประกาย หล่อนจะว่ายังไง”
ทองดีทำเป็นใสซื่อ
“ยังไง เรื่องอะไร”
บุญเทียมมองอย่างหมั่นไส้แต่พยายามข่มใจสุดฤทธิ์
“ฉันจะเปิดบริษัทแข่งกับอีพี่แก้ว สู้กันให้รู้แล้วรู้แรดกันไปเลย ให้มันรู้ไปว่า คนอย่างฉันจะแพ้อีแก่อย่างมัน ถ้าหล่อนตัดสินใจจะอยู่กับฉัน ก็บอกมา”
“โห...ฉันสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ”
บุญเทียมรำคาญ
“...มึงจะเอายังไงบอกมาเลยดีกว่า อย่าทำเล่นองค์ทรงเครื่องแบบนี้ ว่ามาเลย มึงจะอยู่กับกูหรือไปอยู่กับพี่แก้ว”
ทองดียิ้มเย็น
“...อยู่กับใครก็ได้ แต่ขอแบบซื่อสัตย์หน่อย ไม่งั้นเสียอารมณ์”
บุญเทียมแค้น แต่จำยอม
“...ก็ได้...ฉันยอมแก แต่มีข้อแม้ แกต้องทำงานให้ฉันคนเดียวเท่านั้น เข้าใจมั๊ย”
“ไม่มีปัญหา คนอย่างอีทอง พูดคำไหนคำนั้น”
ทองดียิ้มอย่างสะใจ ทั้งคู่ต่อตากัน แล้วแยกย้ายเข้าห้องใครห้องมัน
บุญเทียมเดินเข้าไปในห้อง ปิดประตู เดินไปเดินมาอย่างโกรธๆ
“ทำไม่กูถึงซวยได้ขนาดนี้ โดนทั้งอีพี่แก้ว โดนทั้งอีเขี้ยวทอง ซวยซับซวยซ้อนจริงโว๊ยกู”
บุญเทียมหยิบหนังสือสัญญาออกมา
“เออ...กูยอมมึงวันนี้ เพราะกูเห็นแก่เงินเท่านั้นแหละ ถ้ากูหาเด็กใหม่ได้ละก็ กูจะเฉดหัวมึง กลับไปขายตัวเหมือนเดิม”
ทางด้านทองดีที่อยู่ในห้อง มือถือนามบัตรแก้วไว้อย่างคุ่นคิด
“ฉันไม่ยอมหรอก คนอย่างพี่บีบีมันไว้ใจไม่ได้ เป็นตายยังไง ฉันจะไม่ยอมเสียรู้อีกแน่นอน ถ้าไม่มีสัญญาอย่าหวังว่าฉันจะทำงานกับให้อีกเลย ฉันไม่มีวันไว้วางใจแกอีกแล้ว พี่บีบี”
ทองดีกับบุญเทียม เปิดประตูห้องออกมา เจอหน้ากันพอดี ต่างคนต่างยิ้มหวานให้กัน
“อะ...นี่สัญญา อ่านแล้วก็เซ็นต์ซะ เงื่อนไขอย่างที่หล่อนต้องการ ทุกอย่าง ฉันหัก 40 เปอร์เซ็นต์ แต่มีข้อแม้ว่าหล่อนต้องทำงานให้ฉันคนเดียวเท่านั้น”
บุญเทียมยื่นสัญญาส่งให้ ทองดีรับมาอ่าน ทำท่าลังเล
“40 เปอร์เซ็นต์ ไม่มากไปหน่อยหรือไง”
“อีบ้า...ฉันต้องวิ่งเต้นหางาน นี่นั่นโน่นสารพัด ฉันให้ได้แค่นี้แหละฉันไป ขายตัวดีกว่า”
“ไม่เป็นไร เจ๊ให้ไม่ได้ ฉันลองโทรหาพี่แก้วดีกว่า”
ทองดีหยิบบัตรแก้วออกมา
“เบอร์อะไรเนี่ย...”
บุญเทียมระงับใจสุดขีด โดนทองดีย้อนศร
“เออ...เอาก็ได้ ก็ได้ ถือว่าครั้งนี้ฉันยอมหล่อน 30 ก็ 30 เซ็นซะ”
ทองดียิ้มสะใจ หยิบปากกาขึ้นมาเซ็นต์ แล้วส่งคืนให้ บุญเทียม
“ขอบคุณนะเจ๊...เจ๊ใจดี๊...ใจดี”
บุญเทียมคว้าสัญญามา แล้วแบมือ ขอนามบัตรแก้ว ทองดีส่งให้ บุญเทียมคว้ามาอย่างเร็ว ฉีกทิ้งทันที
“ต่อไปนี้แกเป็นคนของฉันแล้ว แกจะทำให้ฉันแพ้อีพี่แก้วไม่ได้นะ”
บุญเทียมอ่านสัญญาแล้วหัวเราะก๊าก
“...แหม...ลายมือแกเนี่ย เหมือนเหมือนเด็ก ป.4...จริ๊ง...”
ทองดียักไหล่
“...ก็เรียนมาแค่นั้นนี่นา ไม่เห็นเป็นไรเลย”
หลายเดือนต่อมา...ทองดีเดินแบบอยู่บนแคทวอร์ค มีโฬมเดินแฟชั่นเสื้อผ้า ในคอลเลคชั่นของดารา โฬมเดินนำมาก่อน ตามด้วยทองดีในชุดฟินาเล่ เธอหยุดยืนโพสท่า ตากล้องรุมถ่ายรูปกันวุ่นวาย คนดูปรบมือกันเกรียวกราว
ทองดีเดินควงแขนโฬมกลับไปรับดารา เดินออกมาโค้งคนดูบนเวที ดารารับช่อดอกไม้ ทองดีกับโฬมปรบมือ ดารากอดแสดงความยินดีกับทองดีกลางเวที อย่างชื่นมื่น
หลังจากเดินแฟชั่นโชว์เสร็จ ทองดีได้ตามติดบุญเทียม เพราะกลัวบุญเทียมจะโกง บุญเทียมหงุดหงิดที่ไม่สามารถโกงทองดีได้
โฬมยืนรีรออยู่หลงเวที พอมองเห็นทองดียืนอยู่กับบุญเทียม โฬมเดินตรงตั้งใจจะเข้ามาหาทองดี ดาราเดินมาจากอีกทาง ลากแขนโฬมออกไป บุญเทียมมองเหวอๆ แล้วปิดปากหัวเราะขำ ทองดีมองโฬมกับดาราอย่างเบื่อหน่าย
ทองดีได้ไปถ่ายแฟชั่น เธอโพสท่าอย่างคล่องแคล่ว ช่างภาพมองอย่างพอใจ
“สวยครับ...ดีมาก เอียงหน้านิดนึง...โอเค เปลี่ยนหน้าได้เลย”
ทองดีเดินไปนั่งให้ช่าง แต่งหน้าให้ บุญเทียมยืนมองภาพในคอมพิวเตอร์ ที่ถ่ายไว้แล้ว มีบ.กกับตากล้องยืนชื่นชมอยู่ด้วย
“แหม...คุณทองประกายนี่ เปลี่ยนไปลุคไหนก็ขึ้นกล้องนะครับ เยี่ยมจริงๆ ผมถ่ายนางแบบมาเป็นร้อย ยังไม่เห็นใครฮ๊อตเท่านี้เลย” ช่างภาพชื่นชม
“แหม...คุณบีบีเนี่ยโชคดีจริงๆนะ ได้เพชรมาไว้ในสังกัด ถ้ามีอย่างนี้ซักคน รวยตายเลย” บ.ก แซว
“แหม...คุณพี่ก็ ทองประกายเค้าตั้งใจทำงานดีค่ะ หนูเป็นแวว ก็อยากจะสนับสนุนเด็กก็เท่านั้นแหละค่ะ แหมรูปนี้ก็สวยนะคะ”
บ.ก และช่างแต่งหน้า เลือกรูปทองดีอย่างชื่นชม บุญเทียมแอบเบ้ปาก
“แหวะ...อีเขี้ยวทอง สวยตายละมึง”
ที่บ้านของดารา...โฬมเดินเข้ามาในห้อง ดาราเดินตามเข้ามาอย่างหงุดหงิด
“มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ โฬมตั้งใจจะดักรอมันใช่มั๊ย”
“โธ่ พี่ดารา ผมแค่จะเดินไปแสดงความยินดีกับเค้าก็เท่านั้นแหละ แค่เพื่อนร่วมงาน เจ๊บีบีก็ยืนอยู่ทั้งคน”
“ไม่จริง พี่ไม่เชื่อ ไม่ต้องมาโกหกเลย พี่เห็นนะ สายตาโฬมเวลาที่มองมัน ยังกะจะกลืนมันเข้าไป โฬมชอบมันใช่มั๊ย บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”
โฬมเดินหนีอย่างหงุดหงิด
“อย่าเดินหนี ฉันไม่ชอบ เข้าใจมั๊ย”
ดารากระชากโฬมกลับมาแล้วตบเปรี้ยง โฬมเงยหน้าขึ้นมาเลือดซึม ดาราตะลึง ค่อยๆเดินมาจับหน้าโฬม
“โฬมพี่ของโทษ คนดีของพี่”
ดาราเอื้อมมือไปเช็ดเลือดให้เบาๆ แล้วเปลี่ยนเป็นจูบซับเลือดแทน ดาราหน้าหื่นโถมเข้าใส่โฬมทันที
โฬมลุกขึ้นจากเตียง ดาราพลิกตัวไปด้านข้างคว้าบุหรี่หัวเตียงมาจุดสูบ พ่นควันอย่างสบายอารมณ์
“จะไปไหน”
โฬมแอบถอนหายใจ…
จะไปล้างหน้า เจ็บไปหมดเลย
“อย่าให้พี่รู้อีกนะ ว่าโฬมแอบไปพบกับมัน พี่เล่นงานเธอแน่”
โฬมแอบทำหน้าเบื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วล้างหน้า แต่น้ำไปโดนแผลปากแตก โฬมสะดุ้ง
“ถ้ากูดังขึ้นเมื่อไหรละก็ กูจะถีบหัวอีแก่ซาดิสม์นี่ไปไกลๆเลย”
โฬมทุบมือกับอ่างอย่างหงุดหงิด
บุญเทียมเดินหอบหนังสือเข้ามาในห้อง ทองดีนั่งอยู่ ที่หัวมีผ้าพันเพราะหมักผมไว้ มือตะไบเล็บ บุญเทียมมาถึงก็กองโครมไปตรงหน้า ทองดีมองๆแล้วตะไบเล็บต่ออย่างไม่สนใจ
“ดูซะให้เต็มตา เป็นยังไง ฝีมือฉัน”
ทองดีหยิบขึ้นมาดูๆ แล้ววางลง ตะไบเล็บต่อ
“สวยดีนี่ แต่ตัวจริงสวยกว่า”
บุญเทียมทำท่าเหมือนจะด่า แต่อดใจไว้ หยิบหนังสือซุบซิบขึ้นมาอ่าน
“ทองประกาย นางแบบหน้าใหม่ไฟแรงเว่อร์...ลงปกหนังสือแฟชั่นเกือบทุกหัวบนแผง...เป็นยังไงบ้าง เห็นฝีมือฉันหรือยัง ป่านนี้อีพี่แก้วคงอกแตกตาย”
“มีตรงไหนบ้างที่เค้าพูดถึงเจ๊...ได้ยินแต่ทองประกาย เค้าน่าจะชมฉันนะ”
“แหม...ถ้าไม่ใช่ฉันทั้งผลัก ทั้งดัน ทั้งดึง แกจะมาถึงตรงนี้ได้หรือยะ”
“แล้วทำไม เจ๊ไม่ไปเดิน ไปถ่ายซะเองล่ะ จะได้ไม่ต้องทวงบุญคุณทุก 10 นาทีแบบนี้”
“ถ้าฉันเดินเองได้ ฉันทำไปแล้วย่ะ ไม่ต้องรอให้หล่อนมาชี้แนะหรอก แม่ซุปตาร์”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทองดีเดินเลี่ยงไปรับ บุญเทียมมองตามไปแล้วด่าตาม
“วอนแล้วมั๊ย อีนี่”
ทองดีฟังโทรศัพท์แล้วถามเสียงดัง
“อะไรกัน ไทไม่สบายหรือ ก็ได้ฉันจะรีบไปรับ”
ทองดีกดปิดโทรศัพท์ บุญเทียมรีบกระแซะเข้ามาข้างๆ
“มีอะไร ใครโทรมา”
“เนอสเซอรี่เค้าโทรมา บอกไทไม่สบายมากให้รีบไปรับ”
“ไม่ได้นะแก ที่นี่ไม่ใช่สถานรับเลี้ยงเด็ก ไม่ได้เด็ดขาด ฉันไม่ยอม”
บุญเทียมโวยวายทันที ทองดีหนักใจ
ในซุปเปอร์มาร์เก็ต
บุญเทียมในชุดพลางตัว เดินอยู่ในร้านอย่างมีพิรุธ หยิบนมผม ของใช้เด็กอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปจ่ายเงิน
“ทั้งหมด สองพันสามร้อย ห้าสิบบาทครับ”
“อะไรนะ สองพันสามเชียวหรือ...ทำไมมันแพงนักวะ เลี้ยงหมาถูกกว่ามั๊ยเนี่ย”
บุญเทียมควักเงินมาจ่ายอย่างหงุดหงิด
“ซื้อไปให้ลูกของพี่หรือครับ...”
“อีบ้า...กูเป็นกะเทยดูไม่ออกหรือ...”
บุญเทียม คว้าถุงของเดินออกมาอย่างหงุดหงิด พนักงานมองตามไปอย่างขำๆ
ทองดีกำลังวุ่นวายกับไทที่ร้องไห้โยเย สภาพในห้องรกเละไปหมด
“อย่าร้องนะ โอ๋..นะจ๊ะ อย่าร้องสิ บอกว่าอย่าร้องไง จะเอาอะไรก็บอกมาสิร้องอยู่ได้”
ทองดีหงุดหงิด ไทยิ่งแผดเสียงร้องหนักขึ้น
“ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย...จะร้องทำไม ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว กรี๊ดอยู่ได้ เดี๋ยวกูเอาขี้เถ้ายัดปากให้ตายซะหรอก บอกว่าให้เงียบๆ”
ไทยิ่งกรี๊ดๆลั่นไม่ยอมหยุด ทองดีกุมขมับอย่างเครียดๆ ขณะเดียวกัน บุญเทียมเดินเข้ามา พอถึงโต๊ะ ถอดแว่นกับผ้าพันคอออก แล้วโยนของลงบนโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย
“มาแล้วของเด็ก แพงจะตาย นี่แกช่วยทำให้มันหุบปากหน่อยไม่ได้หรือไง หนวกหูจะตายชัก”
“ทำอยู่ แต่มันไม่เงียบ จะให้ทำไงล่ะ เจ๊ทำได้ก็มาทำเองสิ”
บุญเทียมรำคาญลุกขึ้นไปดู แล้วหัวเราะ
“...ริจะเป็นแม่ ทำไมไม่รู้จักเปลี่ยนผ้าอ้อมให้มันล่ะ เปียกขนาดนี้ หมกไว้ได้ยังไง ประเดี๋ยวก็เน่าหรอก”
บุญเทียมจัดการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้อย่างคล่องแคล่ว ไทเงียบเสียง ทองดีมองอย่างชื่นชม
“แหม...เจ๊นี่เก่งเหมือนกันเนอะ...”
“เป็นกะเทยต้องฉลาด ไม่งั้นอยู่ไม่ได้...ไม่ต้องมาชมเลย แกจะเอาเด็กมาเลี้ยงไว้ไม่ได้นะ หายแล้วต้องส่งกลับไป ห้ามเลี้ยงเองเด็ดขาด ใครมาเห็นเข้า จบเห่แน่คราวนี้”
“ทำไงล่ะ ที่เก่าเค้าจะเลิก แถมตอนนี้ไทก็ป่วย...เจ๊ต้องช่วยฉันหาที่ใหม่สิ ไม่อย่างนั้น ฉันก็ต้องหยุดงานมาเลี้ยงลูกด้วย”
“มันใช่มั๊ยเนี่ย...กูเป็นผู้จัดการนางแบบนะ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก...เวรจริง...จริ๊ง”
“น่าจะ ถือว่าช่วยเด็กมันเอาบุญ ถ้าฉันทำงานไม่ได้ เจ๊ก็ขาดรายได้นะ”
“เออ...ยังไงฉันก็ต้องช่วย ฉันมันคนใจดี นางฟ้านางสวรรค์อยู่แล้ว แต่แกต้องจ่ายฉันพิเศษ ห้าพัน ค่าเสียเวลา ตกลงหรือเปล่า”
“อะก็ได้ ก็ได้ ห้าพันก็ห้าพัน งกนะเจ๊” ทองดีมองค้อน
ที่สถานรับเลี้ยงเด็กอย่างหรู บุญเทียมในชุดพลางเต็มที่ ยืนอุ้มไทไว้ อีกมือหนึ่งอ่านใบแจ้งค่าใช้จ่าย
“ว๊าย...อยู่ประจำเดือนละ 2 หมื่นหรือเนี่ย โอ๊ย..ปล้นกันเห็นๆ”
“ราคานี้เป็นมาตรฐานค่ะ เราใช้พยาบาลเฉพาะทางในการดูแลเด็กแต่ละคนนะคะ ไม่แพงหรอกค่ะ”
“ลดหน่อยไม่ได้หรือ นิดหน่อยก็ยังดีนะ”
“ราคานี้ลดไม่ได้หรอกค่ะ”
บุญเทียมถอนหายใจ
“..เอาก็เอาวะ กูบอกให้เลี้ยงหมาก็ไม่เชื่อ หาเรื่องเองแท้ๆ นังทองประกาย”
เจ้าหน้าที่รับไทไปจากบุญเทียม
“เชิญชำระเงินด้านนี้ค่ะ ทั้งหมด สองหมื่นห้าพันบาทถ้วนค่ะ”
“แล้วไอ้ห้าพันนี่มันค่าอะไรอีกเนี่ย”
“ค่านมผงแล้วก็ค่าอุปกรณ์ต่างๆสำหรับเด็กค่ะ”
“แพงชะมัดเลย เออ...แล้วใช้บัตรอะไรลดได้บ้างคะเนี่ย”
บุญเทียมจ่ายเงิน เจ้าหน้าที่ส่งใบเสร็จให้ แล้วนิ่งคิดนิดนึงว่าจะหาผลประโยชน์ได้อย่างไร แล้วก็นึกได้ แล้วหยิบปากกาออกมาแก้ตัวเลขลงไป
“กำไรเหนาะๆ 2 หมื่น เชอะ...คนอย่างบีบี ไม่มียอมขาดทุนอยู่แล้ว”
ทองดีเดินไปเดินมาอย่างกังวล บุญเทียมเดินเข้าห้องมาอย่างห่อเหี่ยว
“เป็นยังไงบ้างเจ๊ เรียบร้อยดีมั๊ย ทำไมไม่ยอมให้ฉันไปด้วยล่ะ”
“ไปทำไม เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าก็จบเห่สิแก ไม่ต้องห่วงแล้ว เรียบร้อยดีทุกอย่าง เว้นแต่กระเป๋าฉัน”
“แหม แค่จ่ายล่วงหน้าไปก่อนแค่นี้เอง ทำมาบ่น”
“ไม่บ่นได้ยังไง นี่ฉันต้องจ่ายเท่าไหรรู้ม๊ย ห้าหมื่น นี่ไม่รวมค่าตัวฉันนะ”
ทองดีตาโต
“โหย ห้าหมื่น ทำไมมันแพงขนาดนี้ อำกันหรือเปล่า ไหนล่ะใบเสร็จ”
บุญเทียมส่งใบเสร็จให้
“...ดูซะให้เต็มตา ถูกกว่านี้แกก็ไปหาเอาเองแล้วกัน”
ทองดีมองใบเสร็จแล้วเครียด บุญเทียมแอบหรี่ตามอง ดึงใบเสร็จกลับมา
“เอาน่า ไม่ต้องห่วงหรอก แกหาได้อยู่แล้ว รับรองลูกแกจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด รับรองได้ แกก็ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินเหอะ”
บุญเทียมกางสมุดนัดออกมาดู
“อุ๊ยตาย เกือบลืม รีบไปแต่งหน้าได้แล้ว วันนี้มีอีเว้นต์ตอน 3 โมงเย็นเร็วเข้า”
“เฮ้อ...อะไร...อะไร...ก็ต้องใช้เงินทั้งนั้นเลยนะ...ไม่เป็นไร สู้ต่อไป”
ทองดีเดินกลับเข้าห้องไป บุญเทียมมองตามอย่างสมใจ
“ต้องอย่างนั้นแหละ ทีนี้แกมีค่าใช้จ่าย แกจะเลือกงานไม่ได้แล้ว แหม...ฉันนี่มันอัจฉริยะจริง...จริ๊ง...”
วันต่อมา...ทองดียืนอยู่หน้าฉากสำหรับถ่ายรูป ในงานอีเว้นต์ นักข่าวรุมกันยื่นไมค์สัมภาษณ์ ทองดีกันวุ่นวาย อีกด้านดำเกิงหันกลับไปมอง เห็นทองดียืนอยู่ หยุดยืนมองอย่างสนใจ
“คุณทองประกาย ทำงานอาทิตย์ละเจ็ดวัน อย่างนี้ก็รวยสิครับ” นักข่าวถาม
“โหย...ไม่ถึงอย่างนั้นหรอกค่ะ ค่าใช้จ่ายก็สูงนะ”
“แล้วมีช่องไหน ติดต่อเล่นละครบ้างหรือเปล่า”
“ยังไม่มีค่ะ ถ้าช่องไหนสนใจเชิญได้เลยนะคะ” ทองดียิ้มหวาน
“แล้วคุณทองประกาย มีความฝันอยากทำอะไรมากที่สุดครับ”
ทองดีนิ่งคิด
“...ฝันหรือคะ อยาเป็นดารา เพราะฝันมาตั้งแต่เล็กแล้ว แต่ไม่รู้จะเป็นได้อย่างที่ฝันหรือเปล่า”
บุญเทียมรีบเดินมาประกบทองดี กลัวเธอจะตอบอะไรเรื่อยเปื่อย
“แค่นี้ก่อนนะคะ ขอบคุณพี่ๆนักข่าวทุกคนนะคะ ขอบคุณค่ะ”
ดำเกิงยิ้มอย่างพอใจ
“อยากเป็นดาราหรือ...น่าสนใจ”
หลังจากทำงานเสร็จ ทองดีเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เดินมาขึ้นรถ ดำเกิงยืนคุยกับแขกในงาน พอเห็นทองดีเดินมา เขาจึงรีบเดินไปหาทองดี
“คุณทองประกาย...”
ทองดีหันมา
“...เรียกฉันหรือคะ คุณ...”
“ผมดำเกิงครับ ตอนคุณเดินแบบสวยสง่ามากครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
ขณะเดียวกัน บุญเทียมที่เดินเช็คสมุดคิววุ่นวาย รีบวิ่งเข้ามาหาทองดี พอเห็นดำเกิงก็ชะงัก รีบเดินเข้าไปขวาง
“พรุ่งนี้มีถ่ายปกหนังสือ นัดเช้านะ กลับไปพักดีกว่า...”
ทองดีหันไปมองดำเกิงแล้วยิ้ม
“ขอตัวก่อนนะคะ”
“ครับ นี่นามบัตรผม เผื่อวันหน้าเราอาจได้ร่วมงานกัน”
ดำเกิงส่งนามบัตรให้ทองดี แต่บุญเทียมตัดหน้ารับไปเอง พออ่านนามบัตรก็ตาโตเปลี่ยนเป็นยิ้มยินดีทันที เสียงเครื่องคิดเลขในสมองดังกริ๊งกร๊าง
“อุ๊ย...คิดว่าใคร คุณดำเกิงนี่เอง ทองประกายรู้จักคุณดำเกิงหรือยัง คุณดำเกิงนี่เป็นลูกชายเจ้าของบริษัท Film Peace ไงล่ะ สวัสดีนะคะ กลับมาเมืองไทยนานหรือยังคะเนี่ย ไม่เห็นมีข่าวเลย”
“เพิ่งกลับมาซักพักเองครับ จะกลับมาช่วยคุณพ่อลุยเรื่องหนังนั่นแหละครับ ทำไงได้ ธุรกิจครอบครัว”
“แหมดีเลย ยังไงยังไง ฝากทองประกายด้วยคนนะคะ...เผื่อขาดนางเอก”
“ครับ ผมได้ยินตอนคุณทองประกายให้สัมภาษณ์เลยสนใจ ว่าจะขอคุยด้วย ถ้ายังไงผมขอเบอร์โทรคุณทองประกายไว้ด้วย เผื่อจะได้นัดคุยกันมั๊ยครับ”
ทองดียิ้มอย่างมีความหวัง อ้าปากจะบอก บุญเทียมขัดขึ้นทันที
“อุ๊ย...เอาเบอร์ของบีบีจะสะดวกกว่านะคะ” บุญเทียมส่งนามบัตรให้ “...ติดต่อบีบีได้ 24 ชั่วโมงเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ บีบีเป็นผู้จัดการส่วนตัวของน้องทองประกายค่ะ”
ดำเกิงแอบเซ็ง รับนามบัตรของบุญเทียมแล้วยัดใส่กระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ
“แหม.....ไหนๆ เราได้รู้จักกันแล้ว ผมขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารคุณทองประกายซักมื้อนะครับ ถ้าไม่รังเกียจ”
ทองดีจะพูดแต่ถูกขัดอีก
“แหมเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยค่ะ ยินดี”
ดำเกิงมองหน้าทองดีแล้วยิ้ม แต่มองบุญเทียมอย่างเบื่อๆ
อ่านต่อหน้า 3
ทองประกายแสด ตอนที่ 12 (ต่อ)
ดำเกิงชวนทองดีทานอาหาร ซึ่งจำใจต้องยอมให้บุญเทียมไปด้วย เขาพาไปที่ร้านอาหารหรู
“คุณทองประกายอยากทานอะไรครับ อาหารที่นี่อร่อยทุกอย่าง ลองพอร์คช๊อพของที่นี่ก็อร่อยนะครับ เนื้อนุ่มมากเลย”
บุญเทียมเสนอหน้าตอบทันที
“อุ๊ย...ทองประกาย กำลังไดเอ็ทค่ะ ขอเป็นสลัดซีซ่าร์สลัดที่เดียวก็พอ ส่วนของฉัน ขอเป็นสเต็คสุกปานกลาง อุ๊ย...ฟรัวกราก็น่าทาน เอามาที่นึง ขอซี่โครงแกะซอสมินต์ ด้วย อ๊ะ..พอคช๊อพก็อร่อยใช่มั๊ย เอามาด้วย แล้วก็ไวน์แดง เอามาทั้งขวดเลย จะได้ไม่ต้องสั่งซ้ำ แค่นี้ก่อนเดี๋ยวค่อยสั่งของหวาน”
ดำเกิงกับทองดีมองบุญเทียม แล้วหันไปสบตากันอย่างบอกให้รู้ว่า รำคาญเหมือนกัน แต่บุญเทียมไม่รู้ตัว
“คุณทองประกาย ทานน้อยจัง ไม่ต้องกลัวอ้วนหรอกนะครับ” ดำเกิงพยายามชวนคุย
“ฉันไม่ค่อยชอบทานอาหารพวกนี้เท่าไหร่หรอกค่ะ”
“ทองประกายเค้ามีวินัยในการทานอาหารมากค่ะ คือ เราเป็นโปรเฟสชั่นแนล ต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ แล้วคุณดำเกิงล่ะคะ ตอนนี้มีโปรเจ็คอะไรบ้าง” บุญเทียมถามเข้าเรื่องงานทันที
“ตอนนี้ก็มีหลายเรื่องครับ ผมตั้งใจว่าจะทำให้แตกต่างจากคนอื่น คงต้องใช้เวลาหน่อย แหม หนังเรื่องนึง เงินลงทุนค่อนข้างสูง ต้องพิถีพิถันเลือกนักแสดงหน่อย”
“แล้วอย่างนี้ต้องใช้เวลาอีกนานมั๊ยคะถึงจะรู้ว่า นักแสดงจะได้งาน”
“คงต้องรอทีมงานคัดเลือกก่อนครับ ตอบเลยคงไม่ได้ ถ้าคุณทองประกายสนใจ ผมของเบอร์ติดต่อด้วยนะครับ ผมจะได้นัดหมายเรื่องเทสหน้ากล้องกับคุณ”
ดำเกิงพยายามจะขอเบอร์ส่วนตัวอีก ทองดีขยับจะตอบ บุญเทียมแทรกขึ้นทันที ทองดีหงุดหงิดหันหน้าหนี
“ติดต่อโดยตรงกับ ผู้จัดการส่วนตัว ในที่นี้ก็คือ บีบี ได้เลยนะคะคุณดำเกิง”
ดำเกิงหงุดหงิด เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ ชนกับทองดีพอดี ทั้งคู่มองสบตากัน บุญเทียมกระแอม ทั้งคู่ผละออกจากกัน
“อาหารมาพอดีเลยครับ มาทานกันดีกว่า คุณทองประกายคงหิวแย่แล้ว เชิญครับ”
ทองดีสบตากับดำเกิงแล้วหันไปมองบุญเทียมอย่างอึดอัด แล้วลงมือทานอาหารอย่างเงียบๆ
บุญเทียมมองทั้งคู่ อย่างจับผิดตลอดเวลา
ทองดีเดินออกมาจากร้านอาหาร สูดอากาศอย่างอึดอัด ดำเกิงเดินตามออกมา
“คุณทองประกาย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ที่โต๊ะผมเห็นคุณนั่งเงียบ หรืออาหารไม่ถูกใจครับ”
“อาหารอร่อยมากค่ะ แต่บรรยากาศไม่ค่อยดี”
“เป็นเพราะผมหรือเปล่าครับ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ คุณดำเกิงอย่าคิดมาก”
“ขอให้ผมได้มีโอกาสแก้ตัวสักครั้งนะครับ”
ดำเกิงดึงมือทองดีมาจับ แอบยัดนามบัตรใส่มือ ทองดีชะงักหมุนตัวหลบแอบเอานามบัตรยัดใส่อกเสื้อทันที
บุญเทียมเดินออกมาพร้อมถุงอาหารในมือเต็มไปหมด พอเห็นทองดี รีบตรงดิ่งเข้ามากันท่าทันที ดำเกิงจึงบอกลา
“ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ คุณทองประกาย หวังว่าเราจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันนะครับ”
“อย่าลืม โทรมาหาบีบีนะคะ..บ๊าย..บาย”
ดำเกิงยิ้มให้ทองดี แล้วเดินจากไปไม่สนใจบุญเทียมที่ยิ้มค้าง บุญเทียมหันมาซักไซร้ทองดีทันที
“เดินไม่รอเลยนะแก นี่แอบคุยอะไรลับหลังฉันหรือเปล่า หรือว่าแกแอบให้เบอร์เค้าไปด้วย อย่าเชียวนะ”
“เปล่าหรอกน่า ก็เท่าที่เจ๊เห็นนั่นแหละ”
ทองดีรีบเดินไปขึ้นรถทันที บุญเทียมมองตามไปอย่างจับพิรุธ
ค่ำนั้น...ทองดีเดินเข้ามาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาดื่ม บุญเทียมเดินตามเข้ามาวางกล่องอาหารลงบนโต๊ะแล้วมองหน้า ทองดีทำเป็นไม่สนใจ พอดื่มเสร็จวางแก้ว ก็จะเดินเข้าห้อง
“เดี๋ยวก่อน ฉันมีอะไรเตือนแก”
“เรื่องอะไร ถ้าเรื่องกินล่ะก็ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ชอบกินอาหารพวกนี้ มันเลี่ยน กินแล้วจะอ้วก”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น ฉันหมายถึงเรื่องนายดำเกิงต่างหาก ขอเตือนนะ นาย ดำเกิงน่ะ ทั้งเปรียว ทั้งเจ้าชู้ รู้มั๊ย ทำไมมันถึงไปเมืองนอก”
ทองดีทำเป็นไม่สนใจ
“...ไม่รู้ และก็ไม่สนใจด้วย เจ๊จะบอกฉันทำไม”
“แกจะได้รู้ไว้ไงล่ะ มันทำดารารุ่นพี่ท้อง พ่อมันเลยส่งไปเรียนเมืองนอนที่ไหนได้ เรียนก็ไม่จบ แถมยังไปทำลูกสาวชาวบ้านเค้าท้องอีก เขาจะเอาเรื่อง เลยต้องหนีกลับมาเมืองไทย เอาดีไม่ได้ซักอย่าง”
“แล้วมันเกี่ยวกับฉันตรงไหนล่ะ”
“แกจะได้รู้ไว้ไงล่ะ ระวังอย่าไปหลงลมมันก็แล้วกัน ไม่งั้นจะเสียใจ”
“อ๋อ...ให้หลงลมเจ๊ได้ คนเดียวใช่มะ”
ทองดีเดินหนีเข้าห้องไป บุญเทียมค้อนตาเหลือก
“อีนี่รู้ทัน...แหม...อารมณ์เสีย...”
บุญเทียมหงุดหงิดหันรีหันขวาง คว้ากล่องอาหารมาเปิดกินแก้เครียด
ทองดีเดินเข้ามาในห้องจัดการปิดประตูล๊อคห้องอย่างแน่นหนา แล้วหยิบนามบัตรของดำเกิงในอกเสื้อออกมาดู
“เป็นเจ้าของบริษัทสร้างหนังหรือ...ลองดูก็ได้ไม่เสียหายนี่นา”
ทองดีกดโทรศัพท์หาดำเกิง ครู่เดียวเขาก็รับสาย
“คุณดำเกิงใช่มั๊ยคะ นี่ฉันทองประกายนะคะ”
ดำเกิงดีใจ
“...ดีใจจังเลย คิดว่าคุณจะไม่โทรมาซะแล้ว”
“ฉันสนใจเรื่องงานค่ะ คุณบอกว่าจะให้ฉันแสดงหนังไม่ใช่หรือ”
“โหย...โทรมาเพราะเรื่องงานหรือครับ แหม..เสียดายจังเลย คิดว่าคุณจะให้โอกาสผมแก้ตัวเรื่องอาหารอีกซักครั้ง”
“เรื่องอาหารน่ะ กินเมื่อไหร่ก็ได้ เราคุยกันเรื่องงานดีกว่าค่ะ”
“ว๊า...เครียดจังเลย ผมว่าเรานัดเจอกันสักครั้ง พูดคุยทำความรู้จักกันก่อน แล้วค่อยคุยเรื่องงานอีกที”
ทองดีเริ่มรำคาญ
“..อ้าวเราก็รู้จักกันแล้วนี่คะ อาหารก็ทานแล้ว”
“แหม...เรื่องงานน่ะ ผมโทรตรงหาผู้จัดการคุณก็ได้ แต่เรื่องส่วนตัว คุยตรงกับคุณน่าจะดีกว่านะครับ”
ทองดีฉุน
“...งั้นก็ตามใจคุณ”
ทองดีกดปิดโทรศัพท์ทันที ดำเกิงงง มองโทรศัพท์อย่างแปลกใจ
“เขี้ยวเหมือนกันนะ ทองประกาย...แต่ถึงยังไง เธอต้องเสร็จฉันอยู่ดีนั่นแหละ และต้องเป็นคนแรกในวงการด้วย...”
ดำเกิงยิ้มอย่างมั่นใจในตัวเอง
วันใหม่...บุญเทียมกำลังคุยโทรศัพท์ต่อรองเรื่องงาน ทองดีนั่งดูโทรทัศน์รายการสัมภาษณ์ ตัวเองในงานอีเว้นต์
“แปดหมื่นน่ะ แต่งชุดปกติค่ะ ถ้าจะให้เปิดครึ่งเต้า ก็แสนนึง...ถ้าซีทรูทั้งเต้า ก็อีกราคา ถ้าจ่ายไม่ได้ก็ไปหาคนอื่นก็แล้วกัน”
บุญเทียมกดโทรศัพท์ปิด แล้วด่าตามลูกค้า
“อีบ้า ต่อราคายังกะของตลาดนัด...มันใช่มั๊ยเนี่ย...ดูอะไร...อ๋อ...งานเมื่อคืนนี้ใช่มะ...นี่ลืมบอกไป เวลาให้สัมภาษณ์น่ะ แกอย่าให้มันตรงเกิ๊น...อยากแค่ไหน ก็ต้องให้พอประมาณ ขืนพูดโพล่งไปแบบนั้น เค้าก็รู้ไต๋แกหมดสิ”
“อ้าว...ก็เค้าถามมา ฉันก็ตอบไป จะให้แหลอะไรอีกล่ะ”
“เออ...แม่ซุปตาร์...ฉันแค่จะปั่นค่าตัวหล่อน...อะไรที่มันได้ง่ายๆ เร็วๆ ถูกๆ อีกหน่อย มันก็หมดราคา ไร้ค่า เหมือนของแบกะดิน”
ทองดีทำหน้าเบื่อหน่าย เสียงโทรศัพท์เข้ามา บุญเทียมกดรับ แล้วตาโตอย่างประหลาดใจ
“ฮัลโหล...บีบีพูดค่ะ...อะไรนะคะ...เทสหน้ากล้อง พรุ่งนี้ 10 โมงเช้าที่บริษัท ได้สิคะ แหมยินดีมากเลยนะคะ ค่ะขอบคุณค่ะ”
บุญเทียมหันมาถาม เมื่อวางสาย
“นี่แกรู้มั๊ย ใครโทรมา”
“นี่เจ๊...ฉันไม่มีอารมณ์มาเล่น 20 คำถามกับเจ๊หรอกนะ จะบอกก็บอก...”
“เลขาคุณดำเกิง...เค้าบอกให้แกไปเทสหน้ากล้อง พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า”
ทองดีชะงัก หันไปมองบุญเทียมอย่างคาดไม่ถึง ขณะที่อีกฝ่ายจ้องอย่างจับผิด
“นี่แสดงว่าเค้าต้องปิ๊งแกแน่เลย แกไปหว่านเสน่ห์อะไรใส่เค้าหรือเปล่า”
ทองดีหลบตา
“..เมื่อวานนี้เจ๊ก็ไปด้วยนี่นา จะมีช่วงไหนหว่านเสน่ห์ล่ะ”
“ก็จริงนะ...แต่งานนี้มันต้องมีอะไรแน่เลย ฉันได้กลิ่นทะแม่งๆ”
“แล้วตกลงเจ๊จะให้ฉันไปหรือเปล่าล่ะ ฉันจะได้เตรียมตัว”
“ไปสิยะ...ถ้าผ่าน แกก็ได้เล่นหนัง ค่าตัวหัก 30 เปอร์เซ็นต์จะได้เท่าไหร่นะ”
บุญเทียมหันไปคว้าเครื่องคิดเลขมาคำนวณวุ่นวาย ทองดีถอนหายใจโล่งอก แล้วยิ้มอย่างมีความหวัง
วันใหม่...บุญเทียมกับทองดีมาที่บริษัทดำเกิง เดินสวนกับเจนนี่นางเอกดัง เดินมาพร้อมกับผู้จัดการ บุญเทียมชะงัก
“อุ๊ย...อะไรกันนี่ ยัยเจนนี่ก็มาเทสด้วยหรือด้วย”
ผู้จัดการเจนนี่หันมาเห็น
“ไงบีบี...พาเด็กมาเทสหน้ากล้องหรือ”
“ค่ะ แล้วคุณพี่ละคะ มาทำไม อย่าบอกนะคะ เจนนี่ก็มาเทสหน้ากล้องด้วย”
“อุ๊ยแสนรู้นะเรานี่ แหม...ใจจริงก็ไม่อยากหรอกนะ แต่คุณดำเกิงเค้าโทรไปขอคิวด้วยตัวเองเลยนะ พี่เลยต้องมา เกรงใจเค้าน่ะ เจนนี่คิวแน่นไปถึงปลายปีโน่นแน่ะ”
เจนนี่ปรายตามองทองดีอย่างเหยียดๆ
“...ไปหรือยังล่ะเจ๊ เสียเวลา...”
“ไปสิคะ ไป...” ผู้จัดการหันมองทองดี “...หน้าตาหล่อนก็โอเคนะ แค่ตัวประกอบปลายแถวคงพอได้ ถ้าฝันถึงนางเอกละก็ ต้องใช้เวลาไต่เต้านานหน่อย”
เจนนี่กับผู้จัดการเดินเชิดผ่านทองดีไป ทองดีฉุนจะตามไปตบ บุญเทียมดึงมือไว้
“หมั่นไส้นัก ทั้งสองตัวเลย เจ๊จะดึงทำไมล่ะ ฉันขอตบมันซักที ลูกกระตาจะได้เข้าที่”
“เก็บแรงแค้นไว้ดีกว่า ถ้าอยากจะตบไว้รอตบหน้าไอ้ดำเกิงดีกว่า”
ทองดีงง
“...ตบคุณดำเกิงทำไม เค้าทำอะไรผิด”
“อ้าว...หล่อนไม่ได้ยินหรือ เค้าเป็นคนโทรนัดแม่นั่นเอง ฉันว่าเราอย่าชนกับยัยเจนนี่เลย กลับดีกว่า”
“โธ่เจ๊...มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ลองดูสิ จับพลัดจับผลู ฉันเกิดได้งานขึ้นมาเจ๊ก็ได้ 30 เปอร์เซ็นต์นะ”
บุญเทียมนิ่งคิด แล้วตัดสินใจพยักหน้า
“อ่ะ...ก็ได้ก็ได้ ตามใจแกแล้วกัน”
ทองดียิ้มอย่างมีความหวัง
บุญเทียมกับทองดีเดินเข้าไปในสตูดิโอ ดำเกิงยืนคุยกับทีมงานอยู่ พอเห็นทั้งคู่ก็รีบเดินเข้าไปรับ
“เชิญทางนี้เลยครับคุณทองประกาย”
บุญเทียมกับทองดีเดินเข้าไป ทีมงานรีบขวาง
“เชิญผู้จัดการรอด้านนอกก่อนนะครับ”
บุญเทียมโวยทันที
“อะไรกันเนี่ย ฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวนะ ทำไมจะเข้าไม่ได้”
“จะได้ไม่รบกวนสมาธิของนักแสดงครับ เชิญครับ”
ดำเกิงช่วยเสริม
“ขอโทษนะครับ คุณบีบีเชิญไปรอที่ห้องรับรองก่อน”
“ก็ได้ ก็ได้ อะไรกันนักกันหนาเนี่ย”
บุญเทียมจำใจเดินออกไป พร้อมทีมงานดำเกิงหันมายิ้มให้ทองดี
“ขอบคุณนะคะที่เรียกฉันมา แต่ทำไมถึงให้มาชนกับเจนนี่ได้ก็ไม่รู้”
ดำเกิงยิ้ม
“..ผมต้องขอโทษอย่างแรงเลย เป็นความผิดพลาดของทีมงาน ทำให้คุณเจนนี่เข้าใจผิด และมาผิดเวลา คุณคงไม่โกรธผมนะครับ คุณทองประกาย”
“บอกตรงๆนะคะ ฉันไม่ทราบว่าจะเชื่อดีหรือเปล่า”
“ผมดูเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ ทองประกาย”
ทองดียิ้มเฉย ดำเกิงเดินเข้ามาประชิด
“ผมชอบคุณนะ ประทับใจตั้งแต่เห็นครั้งแรก ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ เอาอย่างนี้ดีมั๊ย เราไปเที่ยวด้วยกันสักครั้ง...ผมอาจจะตัดสินใจให้คุณได้บทนางเอกก็ได้”
“ถ้าฉันไปกับคุณแล้ว ฉันจะมีอะไรเป็นหลักประกัน”
ดำเกิงยิ้มร้าย
“งั้น เรามาเซ็นต์สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรดีมั๊ย”
“ได้...งั้นเซ็นต์สัญญาก่อน แล้วเราค่อยว่ากันดีมั๊ยคะ”
“ตกลง”
ทั้งคู่จ้องตากัน ทองดีทิ้งหางตาให้ดำเกิงก่อนจะเดินไป ดำเกิงยิ้มร้าย
ทองดีเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อถ่ายเทสต์เสร็จ กำลังจะกลับออกไปพร้อมบุญเทียม ทีมงานรีบเดินเข้ามาหาทั้งคู่พร้อมซองเอกสารในมือ
“คุณทองประกาย อันนี้เป็นบทนางเอก คุณดำเกิงสั่งให้เทสท์บ่ายนี้เลย”
บุญเทียมแปลกใจ
“ทำไมมันเร็วนักล่ะ จะเตรียมตัวทันได้ยังไง”
“ไม่ทราบค่ะ คุณดำเกิงสั่งให้เทสท์บทนี้ด่วนเลย เห็นว่าจะเลื่อนกำหนดเปิดกล้องด้วยค่ะ”
ทีมงานรีบเดินหนีไป บุญเทียมบทอย่างใช้ความคิด
“อะไรกันเนี่ย...เช้าเทสท์หน้ากล้อง บ่ายเทสท์บทนางเอก มันไวไปมั๊ยเนี่ย”
“อย่าคิดมากเลยเจ๊ ทำงานเสร็จเร็ว ก็ได้ตังค์ไวไม่ใช่หรือ”
“มันก็จริงอยู่หรอก แต่ฉันตงิด...ตะหงิด”
“เอาน่า...เหนื่อยเพราะทำงาน ดีกว่าเหนื่อยเพราะวิ่งหางานนะเจ๊”
“จริงของแก...เอาวะ เอาไงก็เอากัน”
บุญเทียมส่งซองใส่บทให้ทองดี
ในสตูดิโอ...ทีมงานกำลังทำงานอยู่หลังกล้อง ด้านหน้ากล้อง ทองดีกำลังแสดงบทบาท ตามสคริป
ด้านหลังกล้อง ดำเกิงและทีมงานกำลังนั่งดูมอนิเตอร์ อย่างตั้งใจ พอผู้กำกับสั่งคัท ดำเกิงลุกขึ้นปรบมือให้ทองดีแบบชื่นชมออกนอกหน้า ทองดียิ้มเขิน ทีมงานมองหน้ากันแบบรู้กันว่าดำเกิงเป็นคนยังไง
ขณะเดียวกันที่ห้องแต่งตัว บุญเทียมนั่งอ่านหนังสือซุบซิบอย่างเบื่อหน่าย หนักเข้าก็หยิบขนมออกมากิน จนถุงขนมเกลื่อนห้องไปหมด
ดำเกิงเดินเข้ามาในห้องพร้อมทองดี
“ผมพาคุณทองประกายมาส่งนะครับ คุณบีบี” ดำเกิงหันไปมองสบตาทองดี “วันนี้คุณเยี่ยมมาก”
บุญเทียมรีบถาม
“อุ๊ย...แบบนี้ แสดงว่า ทองประกายมีสิทธิ์ลุ้นบทนางเอกใช่มั๊ยคะ”
บุญเทียมกับทองดีมองหน้าดำเกิงแบบลุ้นๆ
“อืมม...ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ คุณทองประกายเหมาะมาก สำหรับบทนี้ ถ้าเรียนแอ็คติ้งเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย คงไปได้สวยครับ”
บุญเทียมกับกับทองดีหันไปตีมือกันอย่างตื่นเต้นมาก แล้วทองดีก็หันไปยิ้มหวานให้ดำเกิง
“..ขอบคุณมากนะคะ คุณดำเกิง ที่ให้โอกาสฉัน”
“ผมเปิดโอกาสสำหรับคุณเสมอครับ ทองประกาย”
ทองดีกับดำเกิงสบตากัน บุญเทียมมองงทั้งคู่อย่างเริ่มระแวง รีบกระแอมขัดคอ
“ตายจริง...ดีใจจริง...จริ๊ง...เจ๊ว่าแล้ว ต้องไปได้ เอ่อ...แล้วค่าตัวล่ะคะค่าตัวเป็นไง”
“ค่าตัว 5 แสนบาทครับ แต่ถ้าหนังทำเงินเกินเป้า เรามีโบนัสให้อีกต่างหาก”
บุญเทียมตาโต
“ตายจริง 5 แสน น้อยไปนิด แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะคะ สำหรับการเริ่มต้น แหม..ขอบคุณคุณดำเกิงมานะคะ ที่ช่วยสนับสนุน ยังไงยังไง ฝากน้องทองประกายด้วยคนนึงนะคะ..ทองประกาย รีบขอบคุณ คุณดำเกิงเร็วเข้า”
บุญเทียมลากตัวทองดี ผลักใส่ดำเกิงทันที ทองดีมองหน้าดำเกิง แล้วขยับเข้าไปกราบที่อก
“ขอบคุณมากนะคะ คุณดำเกิง”
ดำเกิงกระซิบ
“...อย่าลืมสัญญาของเรานะครับ”
ทองดีถอยห่างออกมาสบตาดำเกิงอย่างหวานซึ้ง บุญเทียมมองหน้าทั้งสองคนอย่างคิดหนัก
ผู้กำกับและดำเกิงกำลังดูเทปที่ทองดีแสดง ดำเกิงเปิดเทปค้างไว้ที่หน้าทองดี
“ตกลงคุณมีความเห็นว่ายังไง ระหว่าง เจนนี่ กับทองประกาย”
ทีมงานกับผู้กำกับหันไปมองหน้ากัน แบบเกรงใจ
“จริงๆคุณทองประกายดูสวยโดดเด่นมากนะครับ ขึ้นกล้องด้วย” ผู้กำกับบอก
“ส่วนเจนนี่ ดูสง่า มีพลังมากกว่า” ทีมงานออกความเห็น
“ผมว่าคุณดำเกิงตัดสินใจดีกว่าครับ เอ่อ...ทองประกายดูเด่นก็จริง แต่จะเหมาะกับบทหรือครับ” ผู้กำกับอยากได้เจนนี่มาทำงานด้วยมากกว่า แต่ไม่กล้าพูด
“เงื่อนไขที่ทั้งสองคนเสนอมา ขอค่าตัวก็พอๆกัน ตอนนี้คงอยู่ที่ความเหมาะสมมากกว่า” ทีมงานเข้าข้างเจนนี่เช่นกัน
ดำเกิงยิ้ม
“...งั้นก็ไม่มีปัญหา สำหรับผม งานก็คืองาน ถ้าคุณและทีมงานว่าเหมาะสม ผมก็โอเค”
ดำเกิงหันไปมองที่ภาพทองดีในจอโทรทัศน์ แล้วยิ้มร้าย
บุญเทียมแต่งตัวเตรียมออกจากบ้าน ทองดีเดินออกมาพอดี
“เจ๊จะไปไหนน่ะ”
บุญเทียมอึกอัก
“...ฉันจะออกไปงานวันเกิดเพื่อน...แกจะไปด้วยหรือไง”
“เปล่า...ถามดูเฉยๆ”
“เออ...ฉันไปละ จะเอาอะไรมั๊ย ขากลับจะซื้อมาฝาก”
ทองดีชะงัก หันไปมองบุญเทียมอย่างไม่เชื่อสายตา
“อะไรนะเจ๊...ฉันหูฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย”
“อีนี่...กวนอีกแล้ว...พอทำดีด้วยละก็แว้งเชียวนะ ไม่พูดด้วยแล้ว”
บุญเทียมทำงอนเดินออกจากห้องไป ทองดีมองตามไปแล้วหัวเราะ
“สงสัยฟ้าฝนจะตกใหญ่...”
ทองดียกดรีโมทเปิดโทรทัศน์ดูแก้เหงา
บุญเทียมเดินเข้ามาในร้านอาหาร แล้วชะเง้อมองหา พอเห็นด้านหลังของดำเกิงก็รีบเดินตรงเข้าไปนั่ง
“แหม...คุณดำเกิงมาก่อนซะอีก ขอโทษนะคะ รถมันติ๊ดติด”
“สวัสดีครับ คุณบีบี คุณนัดผมออกมา มีอะไร ก็พูดมาเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา”
“แหม...จริงค่ะ เวลาเป็นเงินเป็นทอง เข้าเรื่องเลยแล้วกัน คุณอยากได้ทองประกายมากใช่มั๊ยคะ”
ดำเกิงนิ่ง ยิ้มไม่ตอบ
“นิ่งแสดงว่าเจ๊เข้าใจถูก ใช่มั๊ยคะ”
“ถ้าผมตอบว่าใช่ แล้วยังไงครับ”
“ถ้าอย่างนั้น เจ๊จะจัดการให้ มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องให้บทนางเอกกับทองประกาย แล้วก็จ่ายค่าเอ็กซ์ตร้ากับฉันอีก 1 แสนบาท เป็นเงินสดไม่รวมค่าตัวนักแสดง ตกลงมั๊ยคะ”
“อ้าว...ถ้าทำแบบนั้น มันจะทำให้ค่าตัวนักแสดงมันเกินงบสิครับ”
“แต่มันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่คุณจะได้ไม่ใช่หรือคะ คุณดำเกิง”
“แหม..คุณบีบีนี่กล้าจริงๆ แล้วคุณไม่กลัวจะมีปัญหากับทองประกายหรือครับ ถ้าเค้าบังเอิญรู้เรื่องนี้เข้า”
“ก็อย่าให้เค้ารู้สิคะ ถือว่าเป็นความลับระหว่างเราสองคน แล้วฉันจะจัดการให้คุณสมประสงค์ทุกอย่าง”
ดำเกิงนิ่งคิด มองหน้าบุญเทียมอย่างพิจารณา ขณะที่อีกฝ่ายยิ้มอย่างเป็นต่อ
จบตอน ที่ 12