รักออกอากาศ ตอนที่ 6
เวลาเดียวกัน บรรยากาศที่บ้านสมใจเงียบสงัด ไม่มีใครอยู่เพราะทุกคนไปบ้านแม่อุ๊ยกันหมด มีเพียงสมใจที่ออกจากห้องมาเห็นกับข้าววางเตรียมไว้ให้กลางบ้าน สมใจรีบเก็บกับข้าวใส่ถาดเดินลงไปข้างล่าง
พอเดินลงมาที่ใต้ถุนบ้านแล้วต้องชะงัก รู้สึกเหมือนมีใครแอบมองอยู่ สมใจหันขวับตวาดแว้ดอย่างไม่กลัว
“ใครน่ะ!”
สมใจ ที่มุมมืดมุมหนึ่งเห็นเงาคนแว้บไปมา
สมใจตาลุกวาว กระชับมือจับถาดอาหารแน่น กะจะใช้ฟาดหัวสมใจค่อยๆ ย่องเข้าไปที่มุมมืดมุมนั้น พอใกล้ สมใจคว้าจานกระเบื้องเงื้อขึ้นสุดแขน
“ตายเถอะแก!”
“อย่า!”
เจ้าคุณร้องเสียงหลง สมใจชะงัก เจ้าคุณค่อยๆ เผยตัวออกมา ทั้งที่ยังมีรอยช้ำที่มุมปากหลังจากโดนสมหมายต่อย
“ฉันเอง”
สมใจอึ้งเมื่อรู้ว่าเป็นขุนทอง
“ขุนทอง!”
แคบหมูกำลังตัวสั่นแบบผีเข้า ตาเหลือกไปมา ปากเคี้ยวหมากแดงเถือก ร้องฮือๆ ทุกคนนั่งลุ้นอยู่อย่างกลัวๆ ยกเว้นอุ๊ย
“เอ้า! ไงวะเนี่ย สงสัยจะตายอด ตายอยากมานาน กินหมากกูหมดไปหลายคำแล้วนะเว๊ย เล่าให้ฟังซะทีว่าอีนังผู้หญิงกะไอ้ผู้ชายนั่นมันไปทำอะไรกันในป่าทั้งคืน”
แคบหมูสั่น เคี้ยวหมาก พูดเสียงห้าว
“ทำ มันทำ!”
“ห๊า!”
ทุกคนตกใจ สมหมายยิ่งร้อนใจรีบถาม ไม่กลัวแล้วไม่ว่าผีตนไหน
“ทำอะไร มันสองคนทำอะไรกัน”
“มันสองคน ผิดผี กันใช่มั้ย”
แม่อุ๊ยรีบถามเสียงดัง แคบหมูร้องกรี๊ดสนั่น
สมใจ ยืนคุยกับเจ้าคุณอยู่ใต้ถุนบ้านสองต่อสอง
“ยังจะกล้ามาอีกเหรอ”
เจ้าคุณทำหน้าเหมือนสำนึกผิด
“ก็..ฉัน...ฉัน...”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
สมใจพูดจบก็หันหลังกลับเดินออก เจ้าคุณหน้าตากังวล สมใจวางถาดกับข้าวลงที่แคร่ใต้ถุน แล้วนั่งลง
“กินข้าวรึยัง”
สมใจถามเจ้าคุณ เจ้าคุณส่ายหัว
“เอ๊า! มากินด้วยกันซิ”
เจ้าคุณอึ้ง
“ไม่กินก็ตามใจ”
สมใจตักข้าวใส่ปากเคี้ยวอย่างอร่อย เจ้าคุณหน้าบานพอเห้นสมใจเรียกกินข้าว
“กินซิ...กินด้วย!”
เจ้าคุณวิ่งหน้าตั้งมานั่งกินข้าวกันสองคน อย่างน่าเอร็ดอร่อย
ที่บ้านอุ๊ย แคบหมูในร่างผีสิงยังคงเค้ยวหมากไม่เลิก จยอุ๊ยเคือง
“เฮ่ย! หมากข้าหมดสต๊อกแล้วนะเว้ย บอกมาได้แล้ว ตกลงมันสองคนผิดผีกันใช่มั้ย”
ทุกคนลุ้นคำตอบ แคบหมูสั่นแรง ก่อนจะตอบ
“มันสองคน ไม่ได้ผิดผีกัน!”
ทุกคนตกใจ ก่อนที่สมหมาย สมศรี และคำปุยจะดีใจกอดกัน เฮลั่น
“อ้าวเฮ้ย! แล้วตะกี๊เอ็งบอกว่าอีนังผู้หญิงกะไอ้ผู้ชายนั่นมันทำ มันทำอะไรกันวะ”
แคบหมูสั่นหัวต่อ ตาเบิกโพลง เหมือนนึกอะไรออก
“พวกมันทำ..มันทำ...”
ทุกคนลุ้น แคบหมู
“..พวกมันทำ....”
ภาพอดีตเมื่อวันฝนตกหนัก ในป่าเจ้าคุณกับสมใจ นั่งมองตากันค่อยๆ ผุดขึ้นมาในหัวแคบหมู โดยไม่รู้ว่าหญิงชายสองคนนั้น ที่แท้คือ สมใจกับเจ้าคุณ
“ฉันว่า นายเป็นคนดี”
เจ้าคุณอึ้ง ค่อยๆ เหลือบมองสมใจ
“..ใช่มั้ย ฉันว่าใช่”
สองคนจ้องกัน ค่อยๆ เขยิบหน้าใกล้กัน ทันใดนั้น ฟ้าผ่าเปรี้ยง สองคนสะดุ้งออกห่างกันทันที
“ โอย! ตกหนักขึ้นทุกทีเลย”
สมใจพูดแก้เขิน
“ตรงนี้ไม่ค่อยปลอดภัยแล้ว ฉันว่าเราไปหาที่อื่นหลบฝนกันดีกว่า”
สมใจชะโงกมองซ้ายขวา
“จะไปหลบที่ไหน มืดตึ้ดตื๋อ”
เจ้าคุณมองไปรอบๆ แล้วเริ่มเอาไม้มาทำเหมือนเสา 4 มุม
“ทำอะไรของนายน่ะ”
เจ้าคุณไม่ตอบ เอาผ้าขาวม้ามาขึงเป็นหลังคา หาใบไม้ใหญ่ๆ แถวนั้นมามุงอีกที สมใจมองอยู่ตลอด
“มาหลบในนี้ก่อน”
“แล้วนายล่ะ”
“เหอะน่า”
เจ้าคุณดึงสมใจให้เข้าไปนั่งตัวงอหลบฝนอยู่ใต้เพิงที่เขาทำขึ้น ซึ่งช่วยหลบฝนได้ดีขึ้นบ้าง แล้วเจ้าคุณก็นั่งตากฝนอยู่ข้างเพิงนั้น สมใจแอบซึ้ง มองเจ้าคุณอยู่ในเพิง
“เข้ามาเหอะ มาหลบฝนในนี้ พอมีที่”
เจ้าคุณซึ้ง
“มาซิ!”
ฟ้าผ่าเปรี้ยงอีก
“มาเร็ว”
เจ้าคุณรีบมุดเข้ามาเบียดกันในเพิงสองคนมองยิ้มให้กัน ต่างคนต่างนั่งตัวงอกอดเข่าเบียดกันอยู่ในเพิงนั้น
“ทำเพิง” ทุกคนร้องอย่างตกใจขึ้นพร้อมกัน
“ก็เออซิวะ พอทำเพิงเสร็จ มันสองคนก็…”
แคบหมูในร่างผีสิงกั๊กไว้ ทุกคนพุ่งถามพร้อมกันรวมทั้งอุ๊ยก็เผลอ
“ทำอะไร มัน สองคนทำอะไร”
“กูตกใจ! พอทำเพิงเสร็จ มัน 2 คนก็...หลับ!”
“หลับ”
“เออ หลับยันเช้า”
แคบหมูในร่างผีหัวเราะคิกคัก สมหมาย สมศรี มองหน้ากันแอบจ๋อยที่คิดว่าลูกสาวทำเสื่อมเสีย ส่วนคำปุยตบเข่าฉาดภูมิใจในตัวสมใจอย่างยิ่ง
“มั้ยล่ะ ไอ้ใจ๋ของนังปุ๋ย แม่หญิงกุลสตรีม่วนแต๊ตัวจริงเสียงจริง”
สมศรีโอบสมหมายไว้
“ดีใจมั้ยตาหมาย”
สมหมายฝืนยิ้ม สมศรียกมือไหว้ขอบคุณอุ๊ยที่ช่วยให้ความกระจ่าง
“ขอบคุณอุ๊ยมากนะจ๊ะที่เมตตาฉัน ตาหมาย แล้วก็ไอ้ใจ๋มัน งั้นพวกเรากลับเถอะ อุ๊ยจะได้หลับได้นอน”
ทุกคนไหว้อุ๊ย ก่อนกลับ
“เออ โชคดีมีสุข”
“เดี๋ยวจ้ะ แล้ว นังแค๊บ” คำปุยยังห่วงแคบหมูที่นั่งสั่นอยู่
“เออจริง กูลืมเชิญผีออก เฮ้อ กูหนอกู มาๆ”
อุ๊ยเอามือกุมหน้าผากแคบหมูไว้ แล้วท่องคาถางึมงำ แคบหมูตัวสั่นแรง ส่วนสมหมายกับสมศรี มองหน้ากันด้วยความเปี่ยมสุข และสุดแสนภูมิใจในตัวสมใจที่ไม่ทำผิดประเพณีของชาวม่วนแต๊
กินข้าวด้วยกันเสร็จ เจ้าคุณช่วยสมใจล้างถ้วยชามอาหารอยู่
“ฉัน ฉันขอโทษนะ ที่ทำให้เธอโดนใครๆ เข้าใจผิด”
“ขอโทษ!”
เจ้าคุณหลบตา
“ทำไมต้องขอโทษ นายไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย”
“เธอไม่โกรธฉันจริงๆ เหรอ”
“โกรธทำไม ฉันต้องขอบใจนายด้วยซ้ำ”
เจ้าคุณเลิกคิ้วมอง
“พูดจริงๆ นะ ตั้งแต่เกิดมา ฉันยังไม่เคยเห็นฝนตกที่ม่วนใจ๋หนักขนาดนั้นมาก่อนเลย คืนนั้น ถ้าฉันไปที่ท่าน้ำแล้วไม่เจอนาย ฉันก็คงต้องติดฝนอยู่ในป่าคนเดียวทั้งคืน โชคดีที่มีนายอยู่เป็นเพื่อน แถมยังทำเพิงให้ชั้นหลบฝนอีก สมใจยิ้ม เจ้าคุณค่อยๆ ยิ้มให้ แฃ้งสองคนมองหน้ากัน แต่ทันใดนั้นเสียงสมหมายก็ดังขึ้น
“ไอ้ใจ๋!”
สมใจกับเจ้าคุณสะดุ้งโหยง สมศรี คำปุยประคองแคบหมูที่ยังปากแดงเพราะผีสิงร่าง สมหมายปรี่เข้าหาทันที
“เอ็งสองคนทำอะไรกัน!”
สมศรีกับคำปุยทิ้งแคบหมูทรุดฮวบนั่งกองกับพื้นปรี่มาห้าม
“อย่าจ้ะ อย่า!”
“อย่าอะไร ทำอะไรกันเนี่ย ให้ไอ้แค๊บมันล้างให้ซิ ถ้วยชามแค่นี้”
สมใจอึ้ง ค่อยๆ ฉีกยิ้ม โผเข้ากอดพ่อ
“พ่อ!”
ทุกคนซาบซึ้ง ชื่นใจ น้ำตาซึม ยกเว้นแคบหมูยังนั่งทรุดงงๆ อยู่ โดยมีคำปุย ประคอง
“เกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้วเจ๊ปุ๋ย”
“ชู่ว์ เดี๋ยวค่อยเม้าท์ให้ฟัง ตอนนี้ขอชมช็อตเด็ดประทับใจเจ๊ก่อนนะ”
พูดจบคำปุยหันไปดู สมหมาย สมศรี และสมใจ กอดกันแน่น ส่วนเจ้าคุณยืนยิ้มแฉ่ง สักครู่สมหมายเหลือบมองเจ้าคุณ เจ้าคุณสะดุ้ง เหลือแค่ยิ้มแหยๆ สมหมายหันไปกอดสมใจ สมใจแอบส่งสายตามองเจ้าคุณ สองคนยิ้มให้กัน
สมใจกำลังนั่งหวีผมเพลินอยู่ในห้องนอน คำปุยกับแคบหมู จ้องสมใจอย่างสแกนสุดฤทธิ์ สมใจรู้สึกตัว หันขวับจ้องสองคนกลับ
“มองอะไร”
คำปุยกับแคบหมูสะดุ้งโหยง
“เปล๊า! เปล่ามอง”
สมใจเหล่
“ไม่ต้องมาขี้จุ๊เลย แกสองคนมองฉันทำไม”
สองคนเกี่ยงกันยึกยักก่อนคำปุยจะแก้ตัว
“ก็แหม ก็แค่ดีใจที่เพื่อนปลอดภัย ไม่มีภัยอันตรายใดๆ มาแพ้วพานอะเซ่”
“พูดมาตรงๆ นังปุ๋ย รุ่นนี้แล้ว นึกเหรอว่าฉันจะไม่รู้ว่าแกคิดอะไรอยู่ แกด้วยนังแค๊บ”
สองคนสะดุ้ง หลบตา
“ฉันขอยืนยันว่าฉันปลอดภัย ไม่มีภัยอันตรายใดๆ มาแพ้วพานทั้งสิ้น แกสองคนเลิกคิดสกปรกกันได้แล้ว”
สมใจพูดจบก็สะบัด เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้สองคนจ๋อยไป
“เห็นมั๊ย นังแค๊บ บอกว่าอย่าถามๆ โดนเลย”
“โห่ ก็คนมันอยากรู้อ่ะ
“ยังจะมาอยากรู้ โดนอุ๊ยเชิญผีป่ามาสิงซะขนาดนั้นยังไม่รู้อีกเรอะแก”
“ก็ไม่รู้นะเซ่ ตอนนั้นมันมึนไปหมด ปวดหัวตุ๊บๆ ไม่รู้อะไรเลย”
“อืมม์..ว่าแต่ นังแค๊บ ถามจริงเหอะ…” คำปุยยังสงสัย
“ว่า..”
“ผีป่าเข้าสิงแกจริงป่ะวะ”
“นังปุ๋ย!”
สมใจแกล้งเรียกสองคนจนสะดุ้งโหยง แล้วยืนจังก้าท้าวเอวตีหน้ายักษ์ อยู่ที่ประตู
“ไอ้ใจ๋ ..”
สมใจหันมาค้อนคำปุยและแคบหมูที่ไม่ยอมเลิกสงสัยเรื่องติดในป่าวันฝนตกหนักที่ม่วนแต๊กับเจ้าคุณสองต่อสองเสียที
ก้องเกียรติ ทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้หน้าคอนโทรล นั่งขำจนกิ่งแก้วสงสัย
“ขำอะไรเนี่ย แหม ตอนนี้ขำออกแล้วหรอยะ” กิ่งแก้วย้อนถามแฟน
“ก็ขำผีป่าอ่ะดิ ตัวเองว่าผีป่าเข้าสิงยัยแคบหมูจริงรึเปล่า”
“จะบ้าหรอ ก็เห็นอยู่ว่าตัวสั่น เคี้ยวหมาก หงับๆซะขนาดนั้น”
กิ่งแก้วขนลุก ส่วนก้องเลียนแบบผีป่าเข้าสิงแคบหมู
“อย่างงี้อ่ะเหรอ เจ้า จะต้องเป็นแฟนข้าตลอดไป ไม่งั้นข้าจะหักคอเจ้า ฮ่าๆ”
กิ่งแก้วตีแขนก้อง
“บ้า เอ้า อยากขำก็ขำซะให้พอ อีกไม่กี่วันก็เตรียมร้องไห้ได้แล้ว”
“ร้องไห้ ร้องทำไม”
“อีก 5 วัน! เจ้าคุณก็ต้องกลับบ้านแล้ว ไม่ใช่เหรอ”
“อีก 5 วัน!”
กิ่งแก้วพยักหน้าแบบปลง ก้องเกียรติอึ้งไปชั่วขณะที่ยังไม่รู้ชะตาชีวิตของบริษัทในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
คืนนั้นเจ้าคุณนั่งคิดถึงเหตุการณ์ในคืนฝนตก ที่ตัวเองและสมใจเขยิบหน้าเข้าหากัน ฟ้าผ่าเปรี้ยง เจ้าคุณทำเพิงให้ สมใจเรียกเจ้าคุณเข้ามาหลบฝนด้วยกันอย่างมีความสุข เจ้าคุณแอบยิ้มไม่รู้ตัว
“อ้าวเฮ้ย นั่งยิ้มคนเดียว”
เจ้าคุณสะดุ้ง กำโป๊งเดินมาจ้องหน้า
“รึเอ็งจะติงต๊องจริงๆซะแล้ววะ ไอ้ขุนทอง”
เจ้าคุณได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบอะไร
“ดีใจล่ะซิ อีกไม่กี่วันก็ได้กลับบ้านแล้ว”
เจ้าคุณหุบยิ้มทันที แต่กำโป๊งไม่ทันสังเกต
“เหลืออีกไม่กี่วัน ก็หวังว่าเอ็งจะไม่ไปก่อเรื่องอะไรให้ข้าเดือดร้อนอีกนะเว๊ย ไอ้ขุนทอง หลานข้า”
กำโป๊งเดินไปตบไหล่เจ้าคุณ แล้วยิ้มให้ เจ้าคุณมองตามใจแป้ว โดยไม่รู้ว่ามุมหนึ่ง ไส้อั่วซุ่มแอบฟังอยู่
“อะไรวะ กลับบ้าน ใครจะกลับบ้านวะ หึ้ย!
ไส้อั่วฉุนตัวเองที่ไมได้ยินทั้งหมด ส่วนเจ้าคุณแอบเศร้า นึกถึงใครคนหนึ่งที่นับวันก็จะยิ่งถอนตัวลำบากและต้องกลับกรุงเทพฯในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว
เช้าวันใหม่ ที่เรือนเพาะชำ บริเวณบ้านสมใจ สมใจกำลังพุ้ยๆดิน ด้วยอารมณ์เหม่อ มีใครคนหนึ่งมายืนมอง สมใจรู้สึกตัวรีบหันมามอง
“ปลัด”
ปลัดจืดยืนอยู่ ชูถุงโจ๊กยิ้มมาแต่ไกล
“ซื้อโจ๊กมาฝาก”
“ขอบใจ”
“กินเลยมั้ย จะใส่จานให้”
ปลัดจืดเอาใจอย่างเคย
“ไม่ล่ะ ต้องรีบไปที่ไร่”
ปลัดจืดหน้าจ๋อยลง
“เก็บไว้กินได้ ยังไงก็ต้องกินซิ โจ๊กเจ้าประจำนี่”
“แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว”
ปลัดยิ้มขึ้นมาได้ สมใจยิ้มแต่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ อีกมุมเจ้าคุณเดินมาเห็น ชะงักกึก แล้วหลบวูบ
“คืนก่อน ที่ฝนตกหนักน่ะ..”
สมใจตวัดสายตามองปลัดจืดทันที
“ฉันเป็นห่วงใจ๋มากนะ”
สมใจก้มหน้าพุ้ยเดินต่อ เจ้าคุณยังฟังอยู่
“ฉันกับลุงหมายออกตามหาใจ๋ แต่ทางมันขาด..”
“รู้แล้ว พ่อเล่าให้ฟังแล้ว ขอบใจมากนะปลัด ตอนนี้ฉันก็ปลอดภัยดี ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้วนี่”
“ห่วงซิ ยิ่งห่วงมากขึ้นด้วยซ้ำ”
สมใจอึ้ง สมใจกับปลัดจืดมองตากัน ส่วนเจ้าคุณจ๋อยไปถนัดตา
“ปลั๊ด! ปลัดจืดเจ้า”
แคบหมูวิ่งกระหืดกระหอบ สองคนหันขวับ
“ลุงหมายตามหาน่ะ เขาจะไปที่ไร่กันแล้ว เจ๊ใจ๋ด้วย”
“ไป ใจ๋ ไปด้วยกัน”
สมใจมองถังไส้เดือนอยากทำให้เสร็จก่อน แล้วให้ปลัดล่วงหน้าไป
“ไปกันก่อนเถอะชั้นจัดการตรงนี้เรียบร้อยก่อนแล้วจะรีบตามไป
“แต่...”
แคบหมูลากปลัดไปในทันที จนปลัดจืดต้องจำยอม
“ไปเร็ว เดี๋ยวลุงหมายจะเม้ง”
“งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ไร่นะใจ๋”
สมใจยิ้มให้ ปลัดจืดกับแคบหมูเดินออกไป สมใจถอนใจเฮือก ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ เจ้าคุณมองอยู่ ตัดสินใจจะหันหลังกลับออกไป แต่ดันชนอะไรตกเสียก่อน
“ใครน่ะ!”
เจ้าคุณชะงัก ค่อยๆหันมา
“ขุนทอง!”
เจ้าคุณค่อยๆ ขยับตัวจะออก ไป แต่สมใจเรียกไว้
“จะไปไหน ไม่ไปไร่เหรอ วันนี้ทุกคนเขาจะไปช่วยงานที่ไร่กันนะ”
เจ้าคุณยืนมองสมใจทำตัวไม่ถูก
“มานี่ มาช่วยฉัน จะได้เสร็จไวๆ แล้วเดี๋ยวไปไร่ด้วยกัน”
เจ้าคุณค่อยๆเดินมานั่งข้างๆ มองไส้เดือน สมใจพยายามอธิบายว่าต้องทำอย่างไร เจ้าคุณ ไม่ค่อยกล้าจับ แต่สมใจจับมือเจ้าคุณแบออกแล้วหย่อนไส้เดือนใส่
“เราตัวออกใหญ่จะไปกลัวอะไรไส้เดือนตัวนิดเดียว แต่ไส้เดือนตัวนิดเดียวแค่เนี้ย กลับมีประโยชน์มากมาย เกิดเป็นคน อย่าทำตัวไร้ประโยชน์นะ อายไส้เดือนแย่เลย”
สมใจยิ้ม แต่เจ้าคุณอึ้งนึกถึงตัวเองขึ้นมาทันที
“ไปช่วยงานที่ไร่กันเถอะ”
สมใจเลิกคิ้วด้วยความงง แต่แอบดีใจที่เจ้าคุณนึกขยันขึ้นมา
เช้านั้น ที่ไร่ชาม่วนใจ๋ ทุกคนยืนมองอยู่ไร่ชาที่สภาพเสียหาย
“คนม่วนแต๊ สู้ ไม่สู้”
สมหมายตะโกน
ทุกคนตอบรับ
“สู้!”
เจ้าคุณมองทุกคนที่มุ่งมั่นอย่างทึ่งซึ้งใจ
กำโป๊ง“เพื่อม่วนใจ๋ สู้ ไม่สู้”
กำโป๊งตะโกนบ้าง
คราวนี้ทุกคน รวมทั้งเจ้าคุณตอบรับด้วย
“สู้!”
สมใจเหลือบมองเจ้าคุณที่ตะโกนดังโอเวอร์ เจ้าคุณแอบอาย แต่ทำไก๋ ไม่รู้ไม่ชี้ ปลัดจืดขึ้นเวทีประกาศ
“ถ้าพวกเราร่วมมือร่วมใจช่วยกันฟื้นฟูม่วนใจ๋ อีกไม่นานกิจการของคนม่วนแต๊ก็จะกลับมาเจริญเหมือนเดิม ถ้าพร้อมแล้ว ก็เริ่มกันเลยหมู่เฮา”
ชาวบ้านพอใจส่งเสียงเฮ ทุกคนเตรียมจะลุยลงฟื้นฟูไร่ชา แต่ก็ต้องชะงักเพราะอาฟง มาเฟียของหมู่บ้านกำลังมาป่วนอีกแล้ว
“น่าชื่นชม น่าชื่นชม”
อาฟงตบมือแปะๆ ทุกคนหันมอง อาฟงและอาเฟย พ่อลูกพร้อมสมุนรายล้อม
“แต่แน่ใจเร้อ ว่ากิจการของคนม่วนแต๊จะกลับมาเจริญเหมือนเดิม เฮ้อ ท่าทางพวกลื้อจะเหนื่อยฟรีซะละม้าง อาหมาย ฮ่าๆ”
ชาวบ้านขยับตัวเตรียมลุย แต่สมหมายห้ามไว้
“อย่า! แกต้องการอะไร”
“อั๊วต้องการอะไร อั๊วก็ต้องการจะช่วยเหลือคนม่วนแต๊ให้เจริญรุ่งเรืองอย่างที่อั๊วพูด แต่ว่าไม่ต้องเสียเหงื่อ เสียเวลาไงหล่ะอาหมาย”
“คุณพูดอะไรของคุณ”
ปลัดจืดย้อนถาม
“ลื้อด้วยอาคุณปลัด ลื้อเองก็จะได้ไม่ต้องวิ่งต๊อกๆ คอยบริการชาวบ้านอย่างทุกวันนี้ ยังหนุ่มยังแน่น เอาเวลาไปหาความสุขใส่ตัวจะดีกว่า..ฮ่าๆ”
ปลัดจืดฉุนขึ้นทันที
“หยุดพูดจาสกปรกได้แล้ว ไม่งั้นผมเล่นงานคุณแน่”
“เฮ่ย! ลื้อคิดว่าลื้อเป็นใคร หนอย คิดจะเล่นงานอั๊ว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กลับไปกินนมแม่ที่บ้านเถอะไป๊!”
ปลัดจะพุ่งเข้าใส่อาฟง แต่สมศรีดึงไว้
“อย่าปลัด อาฟง มีอะไรก็ว่ามา”
“แหม อาศรี ยังสวยดุฉลาดชัดเจนเหมือนเดิมอีกและ”
“ว่ามา อาฟง ตกลงลื้อมาทำไมอีก” สมหมายตะโกนถามดว้ยความรำคาญ
“ได้ ที่อั๊วมาอีกนี่ก็เพราะ ไร่ม่วนใจ๋ของลื้อเหมือนเดิม”
สมใจฟังอยู่ทนไม่ไหว ปรี่ออกมา
“เอ๊ะ! ก็พ่อฉันบอกแล้วว่าไม่ขาย แล้วยังจะมาทำไมอีกห๊า”
อาเฟยมองสมใจ
“ก็มาถามพ่อลื้อใหม่ไงอาหมวย ว่า..”
“ฉันไม่ได้ชื่ออาหมวย!”
สมใจตวาดเสียงใส่ อาเฟยมองสมใจอย่างสนอกสนใจไม่น้อย เจ้าคุณเห็นอาการนั้นเริ่มไม่พอใจ
“แหม้ ขอโทษทีอาหนู สวยดุเหมือนแม่ลื้อจริงๆ ที่อั๊วมานี่ก็เพราะจะมาถามพ่อลื้ออีกทีว่า จะขายไร่ม่วนใจ๋มั้ย”
“ไม่ขาย! จะถามอีกกี่ทีอั๊วก็ไม่ขาย” สมหมายยืนยันอย่างเดิม
“เงินเป็นล้านๆ อั๊วอุตส่าห์จะเอามาให้ง่ายๆ ไม่ต้องเหนื่อย พวกลื้อไม่เอา รึไง”
ลำยองลำใยสองแม่ลูกเกาหลีตาลุกวาว
“ทั้งที่ไร่ชาของพวกลื้อมันเละตุ้มเป๊ะไม่มีราคาอย่างนี้แล้วเนี่ยนะ”
“ใครบอกว่าไม่มีราคา”
สมใจเถียง สมหมาย สมศรี และทุกคนหันมองสมใจ
“ไร่ม่วนใจ๋มีราคาที่ประเมินค่าไม่ได้ด้วยซ้ำ ถึงคุณหรือใครจะมีเงินล้นฟ้าก็อย่านึกว่าจะซื้อไร่ม่วนใจ๋ได้”
เจ้าคุณมองสมใจ
“ม่วนใจ๋เป็นมากกว่าไร่ชา ม่วนใจ๋เป็นชีวิตจิตใจของทุกคนที่นี่ คนม่วนแต๊ทุกคนรักแล้วก็หวงม่วนใจ๋เกินกว่าจะเห็นแก่เงินของคุณ”
อาฟงไม่พอใจ ส่วนอาเฟยมองและฟังยังไม่พูดอะไร
“เพราะฉะนั้น ไปซะ อย่ามากวนใจพวกเราอีก ไป๊!”
สมุนขยับตัว แต่อาเฟยยกมือห้าม
“อย่า!”
สมใจกับอาเฟยมองกันต่างไม่หลบตา
เจ้าคุณมอง ปลัดจืดมองตามเช่นกัน
“ต้องขอโทษที่มากวนใจ ไว้จะมาอีก”
สมใจอึ้ง สมหมายโวยแถมไล่กลับ
“ไม่ต้องมาแล้วเว๊ย ไป๊ รีบไปก่อนที่อั๊วจะหมดความอดทน ไป๊!”
ชาวบ้านช่วยกันไล่ อาฟงกับพวกยอมร่นถอย แต่มิวายตะโกนกลับมา
“แต่อั๊วยังไม่หมดความอดทนเว๊ย อั๊วจะมาอีก!”
ชาวบ้านฮือ อาฟงรีบเผ่นออกไป เหตุการณ์จึงคลี่คลายเข้าสู่ปกติ
“ขอบใจทุกคน ฉันรับปากว่าถึงแม้ฉันจะไม่ขายม่วนใจ๋ แต่พวกเราทุกคนในม่วนแต๊ ก็จะมีความสุข ความสบายกาย สบายใจ อย่างที่เคยเป็นมา”
สมหมายประกาศจุดยืน ลำยองแบลำใย แอบย่นจมูก
“อย่างที่ไอ้ใจ๋มันว่า ต่อให้ใครมีเงินล้นฟ้าก็อย่านึกว่าจะซื้อไร่ม่วนใจ๋ของพวกเราได้ใช่มั้ย”
“ใช่!”
ทุกคนตอบรับอย่างเต้มเสียง ยกเว้นลำยองกับลำใยจำใจตอบ ส่วนเจ้าคุณที่มีเงินล้นฟ้าแอบอึ้งกับคำพูดนั้น
“ใช่ ศักดิ์ศรีมีไว้ภูมิใจ ไม่ใช่มีไว้ขาย จริงมั้ยพวกเรา”
“จริง!”
ทุกคนตอบพร้อมกันยกเว้นสองแม่ลูกเกาหลีอีกเช่นเคยที่ไม่เต็มใจ
เจ้าคุณมองสมใจด้วยความทึ่ง ทุกคนกอดกัน ยิ้มชื่นใจให้กัน สมใจ มองเจ้าคุณแล้วยิ้มให้ เจ้าคุณยิ้มตอบอย่างมีความสุข ทุกคนช่วยกันฟื้นฟูพื้นที่ไร่ชาคนละไม้ละมือ
คืนนั้นกำโป๊งนั่งกินข้าวอยู่บนแคร่กับเจ้าคุณอย่างสบายใจ
“เอ็งเห็นเสน่ห์ของม่วนแต๊แล้วใช่มั้ยวะ ไอ้ไฮโซ และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้ข้าหลงเสน่ห์ ซะจนไม่อยากจะกลับกรุงเทพฯ และไม่เคยกลับไปอีกเลยตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา”
กำโป๊งพูดจากใจ เจ้าคุณฟังอย่างเพิ่งจะเข้าใจ
“แต่ไฮโซอย่างเอ็งคงไม่หลงเสน่ห์ที่นี่อย่างข้าหรอกจริงมั้ย”
เจ้าคุณอึ้ง มือที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากชะงักกึก กำโป๊งเลยแหย่เพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้อึมครึม
“ฮั่นแน่ อีกไม่กี่วันจะได้กลับไปหลงแสงสีเมืองกรุงเหมือนเดิมแล้ว ดีใจถึงกับกินข้าวกินปลาไม่ลงเลยเรอะ ฮ่าๆ”
เจ้าคุณอึ้งเมื่อนึกว่าจะต้องกลับบ้านแล้ว
“ลุ๊ง! ลุงกำโป๊ง!”
ไส้อั่วเรียก กำโป๊งเสียงหลง สองคนหันมอง ไส้อั่ววิ่งหน้าตั้งมายืนหอบ
“แย่แล้วลุง แย่แล้ว แฮ่กๆ”
“เอ้า ยังกะหมาหอบ อะไรแย่ห๊า ไอ้ไส้อั่ว”
กำโป๊งยื่นขันน้ำให้ไส้อั่วดื่ม อีกฝ่ายรีบจนสำลัก
“แย่แล้วลุง! หมอมา”
“หมอมา หมออะไรมาวะ”
“ก็หมออ่ะหมอ หมอฉีดยาอ่ะ
“หมอฉีดยา แล้วมันแย่ยังไงวะ”
กำโป๊งกินข้าวต่อไม่ได้สนใจ
“แย่ซิลุง ก็เขากำลังมาที่นี่ มาหาอ้ายขุนทอง!”
เจ้าคุณชะงักตกใจปนงง กำโป๊งสำลักข้าวพุ่งพรวด
“ห๊า! มาหาอ้ายขุนทอง”
เวลาต่อมา ก้องเกียรติแต่งชุดเป็นหมอ กิ่งแก้วแต่งชุดพยาบาล ส่วนเจอาร์แต่งชุดผู้ช่วยพยาบาลชายยืนเรียงแถวพร้อมหน้า เจ้าคุณตกใจร้องลั่น
“ไอ้ก้อง ไอ้กิ๋ง ไอ้เจอาร์!”
กำโป๊งโดดปิดปากเจ้าคุณทันที ส่งซิกว่าไส้อั่วจ้องมองอยู่
“เห็นหน้าหมอมันคงตกใจน่ะครับ ว่าแต่คุณหมอก้อง คุณหมอกิ๋ง มาถึงที่นี่มีธุระอะไรเหรอครับ”
กำโป๊งแก้แทนเจ้าคุณกลัวไส้อั่วสงสัย
“พยาบาลค่ะ เป็นพยาบาล” กิ่งแก้วแก้ยศตัวเองทันที
“อ๋อครับ คุณพยาบาลกิ๋ง”
“อ๋อ คือเราก็จะมาขอร้องไอ้เจ้าคุณ...”
กิ่งแก้วโดดปิดปากเจอาร์ทันที ไส้อั่วมองอย่างสงสัย
“คือ งี้ครับ คือทางโรงพยาบาลเรามีโครงการติดตามอาการผู้ป่วยทางจิตน่ะครับ เจ้าคุณ..เอ่อ.. เจ้าขุนทองกลับมาอยู่บ้านนานแล้ว เราก็เลยมาเยี่ยมดูอาการว่าเป็นยังไงบ้างน่ะครับคุณลุง”
ก้องเกียรติยิ้มแฉ่ง กำโป๊งหน้าตายังไม่เข้าใจว่าตกลงก้องเกียรตและพวกมาทำไม แต่ต้องแกล้งทำเป็นเข้าใจสุดฤทธิ์
“อ๋อ!”
ก้องเกียรติ กิ่งแวและ เจอาร์ ยิ้ม เจ้าคุณหน้าตาสงสัยเหลือเกินกับการมาของผองเพื่อนครั้งนี้
เจ้าคุณโวยวายลั่นห้องนอนตัวเอง
“แกว่าไงนะ ไอ้ก้อง”
“ก็ ฉันมาขอร้องให้แกอยู่ที่นี่ต่อ”
“อยู่ที่นี่ต่อ”
เจ้าคุณกับกำโป๊งร้องออกมาพร้อมกัน
“ใช่ อีกแค่ ซัก 3-4 เดือน”
“3-4 เดือน”
กำโป๊งกับเจ้าคุณร้องเสียงหลง เจ้าคุณยังไม่ทันว่าอะไร แต่กำโป๊งโวยก่อน
“เฮ้ย! ไอ้ก้อง ก่อนที่จะขอร้องไอ้ขุนทองให้มันอยู่ต่อเนี่ย พวกเอ็งถามข้าซักคำรึยังวะ”
“เอ๊ะ ทำไมต้องถามลุงด้วยล่ะครับ ลุงเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ”
เจอาร์โพล่งถามทั้งที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร จนกำโป๊งยัวะ
“อ้าว ไอ้นี่”
“โธ่เอ๊ย! กิ๋ง บอกแล้วว่าอย่าชวนๆ ไม่รู้จะชวนไอ้เจอาร์มาด้วยทำไมเนี่ย”
“แหม ก็เผื่อเจ้าคุณมันอาละวาดจะได้ช่วยกันหลายๆ คน”
“คืองี้ครับ ก็ตั้งใจจะถามทั้งสองคนนั่นแหละครับว่า ได้มั้ย”
ก้องเกียรติแก้สถานการณ์ กำโป๊งตอบทันทีแบบไม่ต้องรอคิด
“ไม่ได้!”
“ใจดำ!”
เจอาร์ต่อว่ากำโป๊ง
“ไอ้นี่!”
กำโป๊งชักยัวะ ก้องเกียรติต้องรีบดึเจอาร์
“ไอ้จ้อย!”
“เจอาร์!”
เจอาร์ไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเก่า
“อ๋อ ไอ้จ้อย เอ็งดูปากข้านะ ไม่ได้ ข้าไม่ยอม”
“โธ่! คุณลุงขา ใจเย็น ๆ นะคะ อย่าเพิ่งไม่ยอมนะคะ”
กิ่งแก้วอ้อนวอนอีกครั้ง
“ข้าคนเดียวซะที่ไหน ไอ้ขุนทองมันก็ไม่มีทางยอมเอ็งหรอกเว๊ย ใช่มั้ย”
ทุกคนจ้องเจ้าคุณ รอคำตอบแต่เจ้าคุณนิ่งจนเดาคำตอบไม่ได้
แคบหมูประแป้งเตรียมเข้านอนแล้ว แต่ก็อดส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับไส้อั่วเรื่องหมอจะมาฉีดยาให้เจ้าคุณไม่ได้
“หมอจะมาจับอ้ายขุนทองฉีดยา จริงเรอะไอ้อั่ว”
สองคนกำลังส่งข่าวเม้าท์มอยกันสุดฤทธิ์
“จริงซิ นังแค๊บ โหย มากันตั้ง 3 คนแน่ะ”
“ต๋ายล่ะ! มากันเยอะขนาดนี้อย่าบอกนะว่า จะมาจับอ้ายขุนทองไปอยู่โรงพยาบาลบ้าอีก”
“แย่แล้ว! สงสารอ้ายขุนทองว่ะ”
สองคนมองหน้ากันเศร้า
สมใจกับคำปุยแอบได้ยินอยู่มุมหนึ่ง สมใจอึ้งอยู่ คำปุยเหลือบมองหน้าเพื่อนเพราะรู้ว่าแอบมีใจกับเจ้าคุณไปแล้ว
สมใจถึงกับจ๋อยพูดไม่ออกกับสิ่งที่ได้ยิน
อ่านต่อหน้า 2 เวลา 12.00 น.
รักออกอากาศ ตอนที่ 6 (ต่อ)
ก้องเกียรติ กิ่งแก้วและ เจอาร์ อยู่กันพร้อมหน้า ทุกคนกำลังกล่อมอยากให้เจ้าคุณอยู่ม่วนแต๊ต่ออีก
“ไอ้คุณ” ก้องเกียรติเรียก เจ้าคุณหันขวับจ้องตาเขม็งจนอีกฝ่ายเริ่มกลัว
“คือ..คือ...”
“คืองี้ ไอ้คุณ เราก็รู้นะว่าแกต้องลำบากขนาดไหน” กิ่งแก้วเสริม
เจอาร์ยืนตบยุงที่หน้าตัวเอง
“ชัวร์! มอสกิโต้ยังกะบัฟฟาโล่ ยุงบ้าอะไรตัวเท่าควาย! นี่แกทนอยู่ได้ไงวะ ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ผลักหน้าเจอาร์หงาย ที่เริ่มทำสถานการณ์ กิ่งแก้ว ตั้งใจใหม่ กลับมายิ้มแฉ่งให้เจ้าคุณ
“แต่ในที่สุด แกก็ทำได้”
เจอาร์ผีเจาะปากอีกรอบ
“ใช่! เพราะฉะนั้นรีบกลับบ้านไปให้ไอ้แมทธิวมันกราบเท้าแกเร็วๆ เถอะว่ะ ฉันอยากเห็นใจจะขาด ฮ่าๆ”
เจ้าคุณอึ้งไป จนเกือบจะลืมคำท้านี้ ก้องเกียรติรีบตะปบปิดปากเจอาร์แล้วลากออกไปอีกมุม
“ไอ้จ้อย! ถ้าขืนแกยังไม่หุบปาก ฉันจะลากแกไปฆ่าหมกป่าแน่ ไอ้เพื่อนนรก นั่งอยู่ตรงนี้ แล้วก็ เงียบ!”
เจอาร์หน้าจ๋อย ก้องเกียรติเดินมาหาเจ้าคุณพร้อมกิ่งแก้ว
“ไอ้คุณ...คือ...”
“ตกลงมันอะไรกันไอ้ก้อง พวกแกถ่อมาถึงนี่มาขอร้องให้ฉันอยู่ต่อ เพื่อ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองหน้ากันอึกอัก
“ก็...เพื่อ..เพื่อให้แก...เก่งขึ้นอีกไง เจ้าคุณแกรู้มั้ยตอนนี้แกเก่งขึ้นมากเลยนะ”
กิ่งแก้วเสริม เจ้าคุณสงสัยว่าเพ่อนรู้ความเคลื่อนไหวที่ม่วนแต๊ได้อย่างไร
“แกรู้ได้ไง”
เจ้าคุณคาดคั้น ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วยังอึ้ง
“พวกแกรู้ได้ยังไงว่าฉันเก่งขึ้นมาก”
“เอ่อ..ก็..ก็...”
“ก็ลุงกำโป๊งเล่าให้ฟังไง”
ก้องเกียรติรีบตอบ เจ้าคุณสายตาอ่อนลง
“แล้วยังบอกอีกด้วยว่า หลังๆ นี่ดูท่าทางแกมีความสุขขึ้นมากด้วย จริงป่ะ”
กิ่งแก้วถามแบบเจ้าเล่ห์ เจ้าคุณต้องหลบตาทันที
“บ้า สุขบ้าอะไร พวกแกก็บ้าไปฟังลุงกำโป๊ง”
“นะ..ไอ้คุณ อยู่ต่ออีกนิดเหอะ กลับไปอะไรๆ มันก็เหมือนเดิม น่าเบื่อ กรุงเทพฯ รถติดควันพิษก็เยอะอยู่นี่สนุกกว่าแยะ”
“งั้นแกก็มาอยู่กับฉันซิไอ้ก้อง”
“ แหะๆ แหม ไอ้คุณ ถ้าฉันรวยอย่างแก มีมรดกคุณหญิงแม่ ให้นั่งกินนอนกินไม่ต้องทำงานทำการ ฉันก็คงจะมาอยู่กับแกแล้ว”
พอพูดถึงแม่เจ้าคุณก็นึกขึ้นได้
“เออ..แม่ แม่ฉันเป็นไงบ้าง”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วอึ้ง นึกขึ้นได้ว่าไม่น่าพูดถึงรจนาวรรณเลย ด้านเจอาร์แหลมขึ้นทันที
“จะเป็นไง คุณหญิงแม่แกก็กวาดใบไม้ในวัดไป ร้องไห้แงๆ คิดถึงแกไปน่ะซิไอ้คุณ เฮ้อ! น่าสงสารชิบเป๋งเลยว่ะ โซแซด”
“แม่....”
เจ้าคุณอุทาน ในขณะที่ ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วลมแทบจับเพราะเจอาร์ป่วนตั้งแต่มาถึงจนเกือบเสียแผน
คืนนั้นต่อมา กำโป๊งนั่งอยู่บนแคร่ ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินมาก็นึกว่าพวกเจ้าคุณ แต่สุดท้ายไม่ใช่
“ป่วยการน่าไอ้ก้อง ไอ้ขุนทองมันไม่ยอมใช่มั้ยล่า! เย้ย!”
สมใจยืนอยู่เป็นแผงกับคำปุย แคบหมู และไส้อั่ว
“แฮ่ เฮ้ย! มาทำไรกันดึกๆ ดื่นๆ วะ”
กำโป๊งแกล้งเสียงเข้ม หลังจากเกือบหลุดความจริง
“ขุนทองเป็นอะไรเหรอลุงกำโป๊ง” สมใจถาม กำโป๊งทำหน้าเหรอหรา
“เป็นอะไร ไอ้ขุนทองมันจะเป็นอะไร”
“อ้าว ถ้าไม่เป็นอะไร แล้วหมอจะแห่มาที่นี่ทำไมล่ะลุง”
คำปุยย้อนถาม กำโป๊งเหล่ไปที่ไส้อั่วทันที ไส้อั่วรีบหลบวูบ
“หมอเขาก็มาตรวจอาการมันน่ะซิว เขาเป็นหมอ จะให้มานึ่งข้าวนึ่งให้มันกินเรอะ”
“แล้วจู่ๆ ทำไมหมอต้องมา”
สมใจย้อนถามอีก
“หมอเขาก็.อ้า เว๊ย ไอ้นี่ ข้าไม่ใช่หมอ ข้าจะรู้ได้ไงล่ะวะ เอ้า! อยากรู้ ก็ถามกันเองละกันเว๊ย”
สมใจหันไปทางที่กำโป๊งมอง เจ้าคุณเดินมากับก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ ทั้งหมดเห็นสมใจก็ชะงัก กลัวสมใจจำได้ ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว รีบหันหลังไปคว้าแว่นสายตามาใส่รวมทั้งหามาใส่ให้เจอาร์อย่างรวดเร็วแล้วหันกลับมาพบกับสมใจที่ปรี่มายืนใกล้ๆ
“เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า”
สมใจรู้สึกคุ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่นะคะ คิดว่าไม่เคย”
สมใจเข้าไปมองอย่างสำรวจ
“คุณเป็นหมอจากที่ไหนคะ”
“กรุงเทพฯซิครับ” ก้องเกียรติรีบตอบ
“แต่ลุงกำโป๊งบอกว่าขุนทองไม่เคยไปกรุงเทพฯ”
กำโป๊งสะดุ้งเฮือก เพราะเคยพูดเอาไว้ว่าขุนทองไม่เคยไปกรุงเทพฯสักครั้งแต่แต่เกิดซึ่งสมใจจำได้
“ว่าไงหมอ”
สมใจคาดคั้นก้อง
“แต่เราได้รับมอบหมายให้ติดตามอาการของ ขุนทอง เราก็ต้องมาตามคำสั่งค่ะคุณยังสงสัยอะไรอีกมั้ยคะ” กิ่งแก้วตอบ
“สงสัยค่ะ”
สมใจถามกลับ จนทุกคนอึ้ง
“คุณจะทำอะไรกับขุนทองบ้าง”
เจ้าคุณมองสมใจ
“เป็นห่วงเหรอคะ”
กิ่งแก้วถามสะกิดใจสมใจอย่างจัง
สมใจสะดุ้งเจ้าคุณมอง
“เอ่อ..ก็..แค่อยากรู้อ่ะค่ะ”
กิ่งแก้วอมยิ้ม ถามก้องต่อ
“คุณหมอว่าไงคะ”
“อ๋อ..ก็..คือ..คงต้องเฝ้าติดตามอาการซักระยะนึงถึงจะรู้ว่าจะต้องทำอะไร ยังไง ต่อไปน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคนไข้เหรอครับ เท่าที่ทราบ คนไข้มีญาติคนเดียวคือลุงกำโป๊งนี่ครับ”
สมใจหน้าจ๋อยลง
“กลับเหอะไอ้ใจ๋! จะมาทำไมก็ไม่รู้”
คำปุยชวนสมใจกลับบ้าน สมใจจำใจ จะเดินออกแล้วชะงักหันกลับมาถามด้วยความห่วงใย
“คุณหมอจะเอาตัวขุนทองไป โรงพยาบาลรึเปล่า”
เจ้าคุณหันขวับมองสมใจ ทุกคนอึ้งมองสมใจ
“เอ่อ..คือ..ก็ตามกฎของม่วนแต๊ ใครจะมาจะไปก็ต้องแจ้งให้ปลัดจืดเขารู้ก่อนด้วย ฉันก็แค่เตือน กลัวจะลืม”
สมใจยังมีฟอร์ม พูดจบก็เดินออกไปอย่างเร็วเลย ทิ้งให้ทุกคนอึ้งๆ ก่อนคำปุย แคบหมูจะวิ่งตามไป
“เอ๊ะ! ไอ้ใจ๋นี่มันท่าจะเพี้ยน”
กำโป๊งงงกับอาการของสมใจ แต่กิ่งแก้วอมยิ้มหันไปมองเจ้าคุณที่มองสมใจอย่างมีเลศนัย ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
สมใจรีบเดินจ้ำพรวด คำปุยกับแคบหมูวิ่งตามจนทัน
“โอย นังใจ๋ นี่แกเป็นบ้าอะไรของแก นึกจะไปก็ไปยังกะพายุ นึกจะกลับก็กลับพรวดออกมายังกะจรวด”
“ก็..มันดึกแล้วนี่”
“โหย นังนี่ อีตอนออกมาจากบ้านไม่พูดงี้นะ หยุดก่อนเลยนังใจ๋” คำปุยดึงมือสมใจไว้
“อะไร”
“จะอะไร บอกมาซะดีๆ ว่าทำไมต้องห่วงอ้ายขุนทองซะขนาดนี้”
สมใจอึ้ง คำปุย กับแคบหมูจ้องนิ่ง
“อย่าลืมซิว่าขุนทองก็เป็นลูกจ้างที่ไร่ ถ้าขาดเขาไปซักคนฉันก็..”
คำปุยกับแคบหมูคาดคั้นทางสายตา
“ก็อะไร”
“ฉันก็ ฉันก็ จะได้รีบหาลูกจ้างใหม่ไงล่ะว้อย”
สมใจพูดจบก็วิ่งออกไปเลย
คำปุยกับแคบหมูหันมองหน้ากัน แล้วทำจมูกฟุดฟิด
“ได้กลิ่นมั้ย”
“เยอะเลย!” แคบหมูตอบคำปุย
สองคนตาวาวใส่กันก่อนจะหันไปมองตามสมใจ
“หึๆ มันชักจะยังไงซะแล้วไอ้ใจ๋/ เจ๊ใจ๋”
คำปุยกับแคบหมูมองสมใจอย่างไม่น่าไว้วางใจในสถานการณ์รักตอนนี้ของสมใจ
เรื่องการอยู่ม่วนแต๊ต่อหรือไม่ของเจ้าคุณ ทำให้กำโป๊งต้องเจรจากับก้องเกียรติและเจ้าคุณอีกครั้ง กำโป๊งกลัวความลับหลุดจึงรีบไล่ไส้อั่วไปนอน
“ตกลงจะยังไงกันล่ะวะเนี่ย ไอ้อั่ว รีบไปนอนเดี๋ยวนี้เลยเอ็ง ไป๊!”
ไส้อั่วลุกไปอย่างเสียดาย
“ว่าไง”
กำโป๊งเร่งรัดเอาคำตอบ
“อยู่ต่ออีกนิดนะ ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติขอร้องเพื่อน เจ้าคุณมองก้องเกียรติกับกิ่งแก้วที่ทำสายตาอ้อนวอน
“ฉัน..เป็นห่วงแม่ว่ะ”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ปรี่เข้ามาแทบเท้าเจ้าคุณเลย
“ถูกต้องเพื่อนรัก อีก 3 วัน อีก 3 วันเท่านั้น กลับไปถึงปุ๊บไม่ต้องล้างเท้าเลย เอาเหม็นๆ อย่างนี้เลย ให้ไอ้แมทมันกราบอย่างนี้เลย ฮ่าๆ”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้วอึ้ง กำโป๊งถอนหายใจโล่งอก ส่วนเจ้าคุณไม่ลังเลแล้วในเวลานี้
แมทธิวนั่งดูทีวีอยู่ที่คอนโด ดูท่าทางไม่สบอารมณ์เมื่ออาจต้องเสียท่ากราบเท้าเจ้าคุณหากครบเดือน จนเจอาร์เยาะเย้ย
“ไอ้จ้อย! ไอ้เลว! ฝันไปเถอะไอ้คุณ ชาตินี้ฉันไม่มีทางกราบเท้าแกเด็ดขาด แกต่างหากล่ะ ที่ต้องมาสยบแทบเท้าฉัน คอยดู”
แมทธิวแค้นอาฆาต
ห้องนอนเจ้าคุณ เจ้าคุณ ก้องเกียรติ กิ่งแก้วและเจอาร์ อยู่พร้อมหน้า เจอาร์กำลังโวยวายเรื่องห้องน้ำไม่เลิก
“โอ้วมายกอด! โนชาวเวอร์ ไม่มีห้องอาบน้ำ ต้องไปอาบในคลอง”
กำโป๊งโดดตะปบปากเจอาร์ทันที กลัวไส้อั่วจะได้ยิน
“โธ่ ไอ้เวร จะแหกปากไปไหน เดี๋ยวชาวบ้านได้ยินล่ะได้บรรลัยกันหมดล่ะทีนี้”
เจอาร์ยังง้องแง้งต่อ
“ไม่ไหวๆ ไอ้คุณมายเฟรนด์ แกทนอยู่ได้ไงวะ ไม่อยากจะเชื่อ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว หันไปมองเจ้าคุณที่กำลังปูที่นอนอย่างคล่องแคล่วอย่างแอบทึ่งอยู่เหมือนกัน
“แต่เขาเชื่อ”
กิ่งแก้วกระซิบแฟนหนุ่ม
“ว่า”
“เชื่อว่าเจ้าคุณทนอยู่ได้เพราะ...”
“เพราะ”
ก้องเกียรติถามอย่างสงสัย กิ่งแก้วยิ้ม
“ก็เพราะ คนๆ นั้น คนที่คุณก็รู้ว่า..ใคร”
ก้องเกียรติทำหน้าเหมือน ไม่อยากเชื่อ แต่กิ่งแก้วสุดมั่นใจว่าคนคนนั้นหมายถึงสมใจแน่นอน
คำปุยกับแคบหมูแอบดูสมใจที่นั่งเหม่อคิดอะไรบางอย่างอยู่ที่ห้องนอน
“ไอ้ใจ๋ แกโอเค.ป่ะ”
คำปุยถามเพื่อนสาว
“โอเค้ ทำไมฉันจะต้องไม่โอเค ด้วยห๊านังปุ๋ย”
คำปุยรู้ทันว่าเพื่อนสาวทำฟอร์ม
“ถามตัวแกเองดีกว่ามั้ยว่าทำไม”
“อะไร แกพูดอะไรของแก ไปๆ ง่วงนอนแล้ว พวกแกก็ด้วย พรุ่งนี้ต้องไปช่วยที่ไร่แต่เช้านะ”
“เออ! นอนให้หลับเต๊อะ ไปนังแค๊บ ปล่อยให้มันนอนปากแข็งอยู่เนี่ยแหละ ฮิฮิ”
คำปุยประชด แล้วก็เดินขำกับแคบหมูเดินออกไป
“นังปุ๋ยบ้า ว่าใครวะ ปากแข็ง หึ้ย!”
สมใจเผลอลืมตัวเอามือแตะปากตัวเอง แล้วนอนคลุมโปงหลับไป
เช้าวันใหม่ ที่ไร่ชาม่วนใจ๋ ที่ยังสภาพเสียหาย ชาวบ้านกำลังช่วยกันวิดน้ำทั้งโดยมือ และเครื่องทุ่นแรงฝีมือกำโป๊ง ส่วนสมใจกับเจ้าคุณทำงานไปแอบมองกันไปอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก ปลัดจืดเดินมาเต็มยศเครื่องแบบในวันนี้ เดินเข้ามาหาสมหมายกับสมศรี
“สวัสดีครับลุงหมาย ป้าศรี”
“ไง ปลัด”
สมหมายเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นปลัดจืดหน้าจ๋อยไป
“พวกเราคงต้องช่วยกันไปก่อนนะครับ น้ำท่วมครั้งนี้หนักมาก ที่อื่นเสียหายลำบากกว่าพวกเราเยอะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเข้าเมืองให้มันเหนื่อยเปล่า เรื่องแค่นี้พวกเราดูแลกันเองได้” สมหมายตบบ่าปลัดเบาๆ
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” ปลัดจืดหน้าจ๋อยเข้าไปใหญ่
“โห่ย จะต้องขอโทษทำไมปลัด มันใช่ความผิดของปลัดซะที่ไหน ฝนตกน้ำท่วมมันก็ไม่ใช่ความผิดใครทั้งนั้นล่ะ”
“ผิดซิแม่”
ทั้งหมดหันไปเห็นสมใจเดินเข้ามา
“ไอ้พวกตัดไม้ทำลายป่าไง ความผิดของพวกมัน”
“จริง อย่างพวกไอ้อาฟง นั่นไง แหม้ พูดแล้วมันขึ้น” สมหมายเห็นด้วยกับลูกสาว
“เอาน่า บาปกรรมมีจริง ใครทำดีก็ได้ดีทำชั่วก็ได้ชั่ว ตาหมาย ไอ้ใจ๋ เดี๋ยวแม่จะกลับบ้านไปทำกับข้าวเอามาเลี้ยงมื้อเที่ยงกัน อยากกินอะไรล่ะ”
“อะไรก็ได้จ้ะแม่”
“ฝีมือแม่ศรี ฉันอยากกินหมดล่ะจ้ะ” สมหมายยอเมียอีกตามเคย
“ปลัดล่ะ”
“ผมก็เหมือนกันครับ”
“เอ๊า! พอกัน”
คำปุย แคบหมูและหวานเจี๊ยบเดินเข้ามาพอดี
“ไป ไอ้ปุ๋ย ไอ้แค๊บไปช่วยกันทำกับข้าว”
“เออ..ปลัดจ๊ะ รู้ยังว่าเมื่อคืนมีหมอมาตรวจอ้ายขุนทอง”
“หมอ”
ปลัดจืดงง เจ้าคุณกับกำโป๊งอยู่แถวๆ นั้น ชะงักชั่วครู่
“เออ นั่นซิ เมื่อเช้าไอ้แค๊บมันเล่าให้ฟังทีแล้ว แต่ข้ายุ่งๆ ก็เลยไม่ได้สนใจ แล้วตอนนี้หมออยู่ไหนล่ะ พี่กำโป๊ง อ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณกับกำโป๊งมองหน้ากันรีบหาทางออก
ปลัดจืดจ้องมองเจ้าคุณ
เวลาต่อมา ลำใยนอนโอดโอยอยู่บนแคร่
“โอ๊ย! เจ็บตรงนี้ ปวดตรงนี้ แสบตรงนี้ ค่ะ คุณหมอ”
ลำใยใส่จริตปวดแผลเต็มที่ ก้องเกียรติในชุดคุณหมอ ทำหน้าไม่ถูก เพราะลำยองคอยประกบ และไส้อั่วเกาะสถานการณ์อยู่อย่างใกล้ชิด
“ช่วยแทใยลูกสาวฉันด้วยนะเจ้า ฉันมีลูกสาวคนเดียวสวยซะด้วย แถมยังโสด ถ้าคุณหมอไม่ช่วย เห็นทีชาตินี้ฉันจะอดมีลูกเขย กะเขาซะแล้ว”
ลำยองพูดไปพาลจะร้องไห้ กิ่งแก้วในชุดพยาบาลกับเจอาร์เดินเข้ามา
“แล้วมันเกี่ยวกับหมอตรงไหนคะ ไอ้ลูกเขยของคุณป้าเนี่ย”
“อ้าว ใครเนี่ย”
ลำยองสงสัย ลำใยก็หายป่วยทันที
“นั่นซิ ลูกนึกว่ามีแต่คุณหมอรูปหล่อคนเดียว ไหงมีแม่หญิงกะป้อชายหน้าตาน่าเกลี้ยดน่าเกลียดมาด้วยล่ะเนี่ย”
“โหย นี่ถ้าฉันน่าเกลียด อย่างเธอนี่จะเรียกอะไรจ๊ะ แม่หน้าแหนมป้าย่น”
เจอาร์สวน ลำใยชักดิ้นชักงอ
“กรี๊ดๆ คุณหมอขา เจ็บแสบค่ะ มันว่าแทใย หัวใจแทใยเจ็บแสบไปหมดแล้ว”
ไม่พูดเปล่าจับมือหมอมาแปะที่หัวใจตัวเองกิ่งแก้วหมั่นไส้ หันไปเห็นเข็มฉีดยาวัวควายของลุงกำโป๊งก็เลยหยิบขึ้นมา
“หัวใจเจ็บแสบแบบนี้ ให้ยาเต็มที่เลยใช่มั้ยคะคุณหมอ”
กิ่งแก้วหันไปถามก้อง
“ใช่! ฉีดด่วนเลย”
“ว๊าย! ยาอะไร ใหญ่ขนาด”
ลำใยลุกวิ่งหนีกับลำยอง แต่ปะทะเข้ากับใครคนหนึ่ง
“พ่อปลัด!”
ปลัดจืดตวัดสายตาไปมองจ้องก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ โดยมีเจ้าคุณ กำโป๊ง สมใจ แหละหวานเจี๊ยบ ยืนอยู่ด้วย
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ พยายามทำเนียนสุด กว้างเห็นปลัดจืดเดินจ้องไปมาอย่างจับสังเกต
“ต้องติดตามอาการกันมาถึงที่นี่เลยเหรอครับ” ปลัดจืดถาม ก้องเกียรติไม่ได้หลบตา
“ครับ”
“อืมม์ แล้วอาการขุนทองเป็นยังไงบ้างครับ”
สมใจก็อยากรู้เช่นกัน
“ยังต้องดูอย่างละเอียดอีก 2 วัน”
“2 วัน แล้วต่อจากนั้น”
สมใจลุ้นมาก
“ก็ ต้องแล้วแต่คนไข้”
ก้องเกียรติมองหน้าเจ้าคุณ แต่ปลัดจืดงง
“แล้วแต่คนไข้”
“ครับ...คือ...แล้วแต่อาการของคนไข้ ถ้าเป็นปกติดีก็ไม่มีอะไร แต่ถ้า...”
“ถ้าไม่ปกติจะต้องทำไมเหรอคะคุณหมอ”
หวานเจี๊ยบถามยังกังวล
“ก็ อาจต้องพาตัวกลับไปรักษาครับ”
“ห๊า!”
สมใจอึ้ง แอบใจหายวูบ
“แต่ตั้งแต่เห็นกันมา ฉันก็ไม่เคยเห็นอ้ายขุนทองผิดปกติอะไรเลยนะคะหมอ ยังดูปกติกว่าคนบางคนซะอีก”
หวานเจี๊ยบเหล่ไปที่ปลัดจืด จนอีกฝ่ายมองสะดุ้ง
“แหม ดูท่าทางเป็นห่วงเจ้าคุ..เอ๊ย! เจ้าขุนทองมากเลยนะครับ ไม่ทราบว่าเป็นญาติกันรึเปล่า” เจอาร์ถามขึ้น
“ที่แน่ๆ ไม่ใช่ญาตินายละกัน” หวานเจี๊ยบตอบทันที
“โห...แร้งส์”
“เราเองก็ภาวนา เอ๊ย! เอาใจช่วยนะคะไม่อยากพาขุนทองกลับไปเลย อยากให้ขุนทองอยู่ที่นี่ต่อไป แต่อย่างที่คุณหมอบอกน่ะค่ะ ต้องแล้วแต่ขุนทอง”
กิ่งแก้วพูดพลางยิ้ม เจ้าคุณเหล่กิ่งแก้วแล้วก็หนักใจ หันไปสบตากับสมใจที่แอบมองอยู่ สมใจหลบตา
“งั้นก็รีบตรวจเลยซิคะ ตรวจแป๊บเดียวก็น่าจะรู้แล้ว”
“ไม่ได้หรอกค่ะ อาการของขุนทองน่ะ..ต้องใช้เวลา”
กิ่งแก้วเหล่เจ้าคุณ เจ้าคุณรู้ว่ากิ่งแก้วหมายถึงอะไร แต่ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้
“สรุปว่า พวกคุณหมอจะต้องอยู่ดูอาการขุนทองอีก 2 วัน” ปลัดจืดถาม
“ครับ” ก้องตอบ
“ที่ถามเพราะผมต้องดูแลความสงบเรียบร้อยของทุกคนในม่วนแต๊ รวมทั้งแขกอย่างคุณหมอด้วย”
“ขอบคุณมากครับ”
“ไชโย้! อย่างนี้ถ้ามีใครเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ให้คุณหมอช่วยได้ 24 ช.ม. เลยใช่มั้ยค้า” ลำใยแจ๋ขึ้นมา
สามหมอ พยาบาลจำเป็นถึงกับอึ้ง ปลัดจืดลอบมองอยู่
“ด้วยความยินดีค่ะ” กิ่งแก้วจำใจตอบ
“เอ่อ..แหะๆ”
ในขณะที่ลำใยยังตกใจเข็มฉีดยาอันใหญ่ยักษ์ไม่หาย
“แล้วนอกจากรักษาคนไข้แล้ว พวกเรายังยินดีช่วยงานอย่างอื่นของม่วนแต๊ด้วยนะคะ อย่างเช่นไร่ชาของคุณสมใจ”
กิ่งแก้วตอบ สมใจเลิกคิ้วมองหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง
สมหมายยิ้มแย้ม ล้อมวงคุยกัน
“เอาซิคุณหมอ แหม..ขอบใจๆ วางเข็มฉีดยามาวิดน้ำออกจากไร่ชามันก็น่าสนุกอยู่นะ ฮ่าๆ แต่แน่ใจนะ..ว่าไหว”
ก้องเกียรติยิ้มแฉ่งตอบ
“สบายมากครับ”
สมศรียกกับข้าวเข้ามาพร้อมสมใจ คำปุย หวานเจี๊ยบ แคบหมู และไส้อั่ว
“เติมพลังข้าวนึ่ง น้ำพริกหนุ่ม กันก่อนดีกว่ามั้ย ประเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งกันไป” สมศรีชวนทุกคนกินข้าว
“โห...น่าทานจังเลยค่ะ” กิ่งแก้วรีบตอบรับ
“ไม่ใช่น่ากินอย่างเดียว แต่อร่อยมากด้วย ฝีมือแม่ศรีเมียข้า ฮ่าๆ”
สมหมายชมเมียตามเคย
“ตาหมายนี่ก็ขี้โม้ อายคุณหมอเขา เอ้า พวกเราพอก่อน มากินข้าวกันก่อนเร็ว”
บรรยากาศดูเป็นกันเอง สมใจส่งกับข้าวให้ตั้งสำรับ บังเอิญเจ้าคุณรับต่อ มือแตะกันพอดีสองคนมองตากัน สมใจรีบดึงมือกลับ เจ้าคุณแอบใจหาย
ทุกคนกินข้าวเหนียวกันอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นช่วยกันวิดน้ำในไร่ชากันอย่างขยันขันแข็ง สมใจ เจ้าคุณ แอบมองกันอยู่เป็นระยะ ปลัดจืดดูแลสมใจ หวานเจี๊ยบดูแลเจ้าคุณ ลำยองลำใย สองแม่ลูกเกาหลีอู้งาน จ้องจับหมอก้องกับปลัดจืดท่าเดียว ส่วนก้องเกียรติ กับกิ่งแก้วแอบเพลิดเพลินสนุกไม่รู้ตัว เจอาร์สนุกและอู้ตามประสา
คืนนั้นที่ห้องนอนเจ้าคุณ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ สามคนอาบน้ำแล้วประแป้งพร้อยนั่งคุยกัน กิ่งแก้วนวดให้ก้องเกียรติอยู่
“อะไรวะ แค่นี้ก็เดี้ยงซะแล้ว ฉีดยาซักเข็มมั้ยคุณหมอ”
เจ้าคุณแซวก้องเกียรติ
“โห แค่นี้ที่ไหน หลังแทบหัก”
“พอและ นวดให้เขามั่งซิ”
ก้องเกียรติผลัดไปนวดไหล่ให้กิ่งแก้วบ้าง
“นี่ขนาดพวกแกยังไม่ได้ไปตักน้ำมาใส่ตุ่มอย่างที่ฉันต้องทำทุกวันนะเว๊ย”
เจ้าคุณแอบภูมิใจไม่รู้ตัว ส่นกิ่งแก้วยอมรับในความอดทนของเพื่อน
“แกเก่งจริงๆ นะไอ้คุณ”
เจ้าคุณชะงัก เมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอคุยไป
“ไม่ต้องมาแกล้งยอเลย ยังไงฉันก็ไม่อยู่ต่อแน่ๆ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วจ๋อยไป
“แน่ใจเหรอ ไอ้คุณ”
ก้องถาม เจ้าคุณตอบเสียงแข็งกลับมาทันที
“แน่ซิวะ!”
ก้องเกียรติมองกิ่งแก้ว เชิงจะถามเจ้าคุณ ถึงเรื่องสมใจ
“แล้วแกไม่คิดถึง..”
กิ่งแก้วตะล่อมถาม
“อะไร คิดถึงอะไร”
“ก็..คิดถึงที่นี่ บรรยากาศก็ดี๊ดี ผู้คนก็ออกจะน่ารัก ขนาดฉันมาอยู่แป๊บเดียว ฉันยังแฮปปี้เลยนะ”
“แกแฮปปี้ก็มาอยู่เองดิ” เจ้าคุณตัดบท
“โห่ ไอ้คุณอ่ะ”
“อ้ายขุนทอง! อ้ายขุนทอง!”
ไส้อั่วตะโกนเรียกเจ้าคุณดังลั่น ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วเด้งตัวรีบโดดไปคว้าแว่นตามาใส่ เจ้าคุณจึงค่อยเปิดประตู
“มีอะไรไส้อั่ว”
“เจ๊มา”
“เจ๊ไหน”
เจ้าคุณงง ไส้อั่วเกาหัวยิก
“โห่ ก็เจ๊ใจ๋อ่ะดิ”
“สมใจ”
“ใช่ เจ๊ใจ๋มาหาอ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณอึ้ง ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองตากัน
สมใจยืนหันหลังอยู่ เจ้าคุณเดินลงบันไดมาหา สมใจหันมามอง
“เอ่อ...”
สมใจอึกอัก
“มีอะไรเหรอ”
เจ้าคุณแกล้งถาม แต่ในใจลึกๆดีใจที่สมใจมาหา
“ก็...เอ่อ...”
เจ้าใจยื่นกุญแจให้ เจ้าคุณมองอย่างสงสัย
“กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของนายไง ที่ให้ฉันซ่อม”
“อ๋อ แล้วไง”
“ก็ ฉันซ่อมเสร็จแล้ว”
“แล้ว..”
“รถจอดอยู่ที่บ้านฉัน ฉันก็รีบเอากุญแจมาให้ก่อน เผื่อพรุ่งนี้นายจะไปเอามาเก็บไว้ที่นี่”
เจ้าคุณยังมองสมใจอยู่ สมใจหลบตา
“ก่อนนายจะไป...”
เจ้าคุณอึ้ง แอบใจหาย สมใจยื่นกุญแจให้ แต่ไม่มองตา
“อื่อ เอาไปซิ”
เจ้าคุณนิ่งไป ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือไปหยิบมาจากมือสมใจ
“ขอบใจ”
แล้วสองคนสอง คน ก็ยืนนิ่งกันไปสักครู่ สมใจขอตัวกลับ
“ฉันกลับล่ะ”
เจ้าคุณยังอึ้งอยู่ ได้แต่พยักหน้า
“เอ่อ..”
เจ้าคุณมองเลิกคิ้ว
“พรุ่งนี้จะไปที่ไร่มั้ย”
“ปะ..ไปซิ ไป”
สมใจฝืนยิ้ม พยักหน้า แล้วเดินออกไป
เจ้าคุณมองตามอึ้งๆ
“ตามไปเซ่!”
เจ้าคุณหันขวับ เห็นไส้อั่วแอบดูอยู่
“เจนเทิลแมน สุภาพบุรุษ ให้เลดี้ สุภาพสตรีเดินกลับบ้านคนเดียวได้ไงเนี่ย หู้ย”
ไส้อั่วยุส่ง เจ้าคุณยังอึ้ง
“ไปเด้!”
เจ้าคุณรีบพุ่งออกไป ไส้อั่วตาลุกวาว เพราะได้ข่าวเด็ดเอาไปเล่าให้แคบหมูฟังแล้ว
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว แอบดูอย่างลุ้นระทึกอยู่อีกมุมหนึ่ง กิ่งแก้วดูมีความสุข แต่ก้องเกียรติหน้าจ๋อยไม่ค่อยมีความสุขเหมือนแฟนสาว
สมใจเดินลิ่วตรงกลับบ้านท่าเดียว เจ้าคุณวิ่งตามมาทัน ร้องเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อน..สมใจ”
สมใจชะงักนิดนึง ไม่หยุดเดินแต่ชะลอฝีเท้าช้าลง
“อะไรอีกล่ะ”
“เออ..คือ...”
สมใจหยุดเดินหันหน้ามามองเจ้าคุณยังฟอร์มเยอะเหมือนเคย
“เอ๊า! ตกลงจะวิ่งตามมาติดอ่างเนี่ยนะ เอ้ามีอะไรจะพูดก็พูดมา”
เจ้าคุณยิ่งจ๋อย พูดไม่ออก
.“..ก็..ก็..เอ่อ...”
“หู๊ย ไว้นึกออกแล้วไปบอกที่ไร่พรุ่งนี้ละกันนะยะ”
พูดจบก็สะบัดตัวจะเดินออก เจ้าคุณโพล่งขึ้นมาเลย
“ฉันไปส่ง!”
สมใจชะงักกึก อึ้งไป เสียงอ่อยลง”
“ว่าไงนะ”
“ฉันจะไปส่ง...”
สมใจเหล่มองเจ้าคุณ
“เดินเป็นเพื่อน ไปส่งเธอที่บ้าน”
“อะไร ส่งทำไม บ้านฉันฉันอยู่มาตั้งแต่เกิด ฉันเดินไปเองได้”
“แต่..ฉัน”
เจ้าคุณห่วงสมใจแต่ไม่กล้าพูดออกมา
“ฉันอะไร”
“เอ่อ..ชะ..ฉัน...”
“เอ๊า แค่นี้ยังไม่กล้าพูดแล้วนายยังจะกล้าเดินไปส่งฉันที่บ้านเรอะ ไป กลับบ้านนอนเหอะ ขุนทอง”
เจ้าคุณจ๋อยไป นึกว่าสมใจพูดจริง ถอนหายใจ ค่อยๆ เดินหันหลังกลับไป
“เฮ๊ย! อ้าย...” สมใจลืมตัวจะตะโกนเรียก
แต่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งไล่เจ้าคุณ เลยได้แต่ยืนมองเจ้าคุณที่เดินจากไป
อ่านต่อหน้า 3
รักออกอากาศ ตอนที่ 6 (ต่อ)
ไม่นานหลังจากนั้น บริเวณทางเดินใกล้บึงอาบน้ำ เจ้าคุณเดินหน้าจ๋อยกลับบ้านคนเดียว ลำใยเดินผ่านมาเห็นเจ้าคุณก็ตาโต
“อ้ายขุนทอง!”
ลำใยรีบโดดหลบ ซุ่มรอให้เจ้าคุณเดินผ่านไปแล้วค่อยๆ โผล่ขึ้นมาตาลุกวาว
“อ้ายขุนทอง อาบน้ำ อ้ายขุนทอง ต้องไปอาบน้ำแน่ๆ”
ลำใยตาวาววิบวับ
เจ้าคุณ ก้องเกียรติ กิ่งแก้วและไส้อั่ว กำลังรุมต่อว่าเจ้าคุณอยู่
“เขาไล่ให้กลับก็กลับ” กิ่งแก้วตกใจ
“จะบ้าเหรอวะ” ก้องเกียรติโวยบ้าง
“ง่าวแต๊ๆ อ้ายขุนทองเอ๋ย...” ไส้อั่วเสริมด้วย
เจ้าคุณ ก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว หันขวับจ้องไส้อั่ว
“ชะอุ๊ย!”
“ไอ้อั่ว เกี่ยวอะไรเนี่ย รีบออกไปเลยไป เดี๋ยวนี้เลย” เจ้าคุณไล่ไส้อั่ว
“เออ วันหลังอย่ามาง้อขอคำปรึกษาละกัน”
เจ้าคุณส่ายหน้าเซ็ง ถอนใจ หันมาเห็นก้องเกียรติกับกิ่งแก้วที่ จ้องมองอยู่
“อะไร มองอะไร”
“ก็มองแกน่ะซิ เจ้าคุณ ตกลงแกช่วยอยู่ม่วนแต๊ต่ออีกซักนิดเหอะนะ”
กิ่งแก้วอ้อนเพื่อน เจ้าคุณรีบตอบทันทีเช่นกัน
“ไม่!”
“แกจะฝืนใจตัวเองไปทำไมว้า” ก้องเกียรติหลุดปาก
“ฝืนใจอะไร ใครฝืนใจ”
“เปล่า...เปล่า..ฉันบอกกิ๋งว่าจะไปฝืนใจแกทำไม”
ก้องเกียรติดำน้ำต่อ
“อ้าว”
กิ่งแก้วงง รับมุกแทบไม่ทัน
“แต่จริงๆ นะ..ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันคงจะอยู่ที่นี่ต่ออีกซักพักว่ะ อย่างที่กิ๋งบอก อากาศก็ดี คนที่นี่ก็น่ารัก แล้วดูแกดิ อยู่ที่นี่เดือนเดียวดูหล่อเข้มฟิตขึ้นเยอะเลย กิ๋งว่ามั้ย”
“ใช่ๆ บึ้กขึ้นเยอะเลย ส่วนเรื่องคุณหญิงแม่น่ะ อย่าไปฟังไอ้เจอาร์มัน ฉันเพิ่งไปเยี่ยมมา โหย หน้าตาท่านอิ่มบุญจนใสเด้งเลย อยู่กับพระกับเจ้าดีกว่าอยู่กับพวกคุณนายไฮโซไฮซ้อ วันๆ เอาแต่นินทาอิจฉากัน ถ้าฉันเป็นแกนะ จะเชียร์ให้ท่านปฎิบัติธรรมต่อนานๆ เลย”
“อยู่ต่ออีกซักเดือนก็ยังดีนะเพื่อนนะ” ก้องเกียรติอ้อนอีกรอบ
“ไม่!” เจ้าคุณยืนยัน
“แกจะไปจากที่นี่แล้วจริงๆเหรอเจ้าคุณ”
เจ้าคุณอึ้งไป ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
“นอนได้แล้วเว๊ย ง่วงแล้ว อ้าว! ไอ้เจอาร์หายไปไหน”
“ไปอาบน้ำตั้งนานแล้วเนี่ย ป่านนี้จมน้ำตายไปแล้วมั้ง”
เจอาร์ทะลึ่งพรวดขึ้นจากน้ำอย่างสดชื่น ดำผุดดำว่ายสนุกสนาน
“เออเว้ย! สนุกกว่าอาบจากุซซี่อีกเว้ยเฮ้ย”
อีกมุมลำใยค่อยๆ โผล่ดู เข้ามาใจว่าเจอาร์คือขุนทองที่มาอาบน้ำเป็นประจำ
“อึ๊ย! อ้ายขุนทองมาอาบน้ำจริงๆ ด้วย หืมม์ สนุกใหญ่เลยนะ หึ เล่นคนเดียวจะไปสนุกอะไร เล่นกะแทใยด้วยสนุกกว่าเยอะ”
ว่าแล้วก็โผล่พรวด นุ่งกระโจมอกเตรียมพร้อม แล้วค่อยๆ ย่องลงน้ำไปแบบเงียบๆ
เจอาร์กำลังดำผุดดำว่ายอยู่อีกมุม
ลำใยเข้าใกล้เจอาร์ ดูน่าลุ้น เจอาร์หันมาพอดี ลำไยโผล่พรวดจากน้ำ มผเผ้าปิดหน้าเหมือนผี
“จ๊ะเอ๋!”
เจอาร์ตกใจสุดขีด
“จ๊าก! ผีหลอก!”
ด้านลำใยพอเห็นว่าไม่ใช่ขุนทองก็ร้องจ๊ากเช่นกัน
“อร้าย!”
หน้าตาลำใยยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ เจอาร์ตกใจหนักผลักหน้าลำใยหงายจมน้ำ ปากก็ร้องลั่น รีบว่ายน้ำหนีสุดชีวิต ส่วนลำไยร้องไห้อยู่ในน้ำต่อไป
สมใจกลับมาถึงบ้าน เดินขึ้นบ้านมาเห็นพ่อกับแม่กำลังป้อนขนมกันอย่างมีความสุข
“อ้าว! ไอ้ใจ๋ ไปไหนดึกๆ ดื่นๆ ข้านึกว่าเอ็งนอนแล้วนะเนี่ย” สมหมายเอ่ยถามลูกสาว
“ไปดูสต๊อกชาน่ะพ่อ เผื่อจะพอมีส่งลูกค้ามั่ง” สมใจตอบเลี่ยงไป ไม่สบตา
“โห่ย เหลืออยู่นิดเดียวไอ้ใจ๋ อย่าเครียดๆ เดี๋ยวน้ำลดเราค่อยลุยกันใหม่นะ”
“จ้ะ..ฉันไปนอนละ”
“เออๆ ไปนอนซะ พรุ่งนี้จะได้ไปที่ไร่แต่เช้า”
สมใจยิ้มแล้ว เดินออกไป สมศรีมองตามอย่างผิดสังเกต สมใจกลับเข้าห้องนอนนั่งลงบนเตียงเหงาอย่างบอกไม่ถูก
เช้าวันใหม่ ที่บริษัทก้องเกียรติลักิ่งแก้ว เสียงร้องวี๊ดว๊ายดังลั่น จอยกำลังห้ามวิบูลย์ที่บุกเข้ามาในสตู
“เดี๋ยวค่ะ...เสี่ยขา..ใจเย็นๆ”
“อั๊วเย็นไม่ไหวแล้ว ตกลงจะยังไง คนดูด่าเละไปหมดแล้ว เคขาไม่ยอมให้อาคุณเจ้าคุณกลับบ้าน แล้วนี่อาคุณก้อง อาคุณกิ๋งอยู่ไหน ทำไมอั๊วโทร.หาก็ปิดโทรศัพท์หนีอั๊ว”
“คุณก้องคุณกิ๋งไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วก็ไม่ได้ปิดโทรศัพท์หนีเสี่ยด้วยนะคะ”
“ไม่ได้อยู่ที่นี่ ถ้างั้นอยู่ที่ไหน”
“คือ..ตอนนี้ คุณก้องคุณกิ๋งอยู่ที่ม่วนแต๊ค่ะเสี่ย”
“ม่วนแต๊!”
“ค่ะ”
เช้าวันเดียวกันที่ไร่ชาม่วนใจ๋ ทุกคนกำลังช่วยกันวิดน้ำออกจากไร่ สมใจวิดไปก็ชะเง้อ ไปเพราะไม่เห็นเจ้าคุณ ปลัดจืดแอบสังเกตอยู่ตลอด
“มองหาใครเหรอใจ๋”
สมใจสะดุ้ง
“เปล่า ไม่ได้มองหา”
ปลัดจืดยื่นถุงน้ำแดงให้
“อ่ะ..จะได้ชื่นใจ”
สมใจยิ้มใหก่อนจะหยิบเอาน้ำแดงมาถือไว้
“ขอบใจ”
หวานเจี๊ยบได้ยิน แหวใสทันที
“เลือกปฎิบัติ ดูแลราษฎรไม่ทั่วถึงอย่างนี้มันต้องร้องเรียนซะให้เละเลยดีมั้ยห๊า ปลัดจ๋อย”
“อย่างเธอน่ะต้องจับใส่กรง จะได้ไม่ไล่กัดชาวบ้าน”
ปลัดจืดตอบกลับ
“ว๊าย! ไอ้จ๋อยปากจัด แกนั่นแหละกัดฉันก่อนเลย พี่ใจ๋เห็นมั้ย”
สมหมายกับสมศรี เดินเข้ามาพอดี
“ก็มัวแต่กัดกันอยู่นั่นแหละ เร่งมือกันหน่อยดีกว่า วันนี้น่าจะเสร็จละเว๊ย”
“อ้าว! หยั่งงี้คืนนี้ก็ต้องมีฉลองซิจ้ะลุงหมาย” หวานเจี๊ยบถามขึ้น
“บ้านเราสภาพแบบนี้ยังจะมีแก่ใจฉลองอีกเหรอ แย่!”
“แกว่าใครแย่ห๊า!”
“เดี๋ยวๆ อย่าทะเลาะกันเลย ฉันว่าเสร็จงานแล้ว เราก็ทำอะไรกินกันซะหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยปลัด เหนื่อยกันมาหลายวันแล้ว ก็ต้องให้กำลังใจกันหน่อยจริงมั้ย” สมศรีหย่าศึกให้
“นั่นซิ ม่วนแต๊ของเราก็ไม่มีความบันเทิงอื่น นอกจากล้อมวงกินข้าว ร้องรำทำเพลงกันแค่นี้ นะปลัดนะ เออ ว่าแต่อ้ายกำโป๊งไปไหนไม่ยักกะเห็น จะได้บอกให้ช่วยเตรียมงานคืนนี้ซะหน่อย”
สมหมายถามหากำโป๊งทันที
กำโป๊งกำลังดีใจเพราะ เจ้าคุณไม่มีท่าที่จะอยู่ม่วนแต๊ต่อแล้ว
“ไชโย้ พรุ่งนี้ข้าก็จะได้เป็นอิสระแล้ว”
ทุกคนมองลุงกำโป๊ง ไส้อั่วแอบสงสัย
“อิสระ อิสระอะไรเหรอลุง”
“ไอ้อั่ว ไปเลย รีบเอาข้าวไปให้หมู เสร็จแล้วก็รีบไปช่วยวิดน้ำที่ไร่นู่นเลยไป๊”
กำโป๊งยกมือจะซัด ไส้อั่วรีบวิ่งหน้าตั้งไปทำ กำปีงหันมาคุยกับก้องเกียรติและกิ่งแก้ว ที่นั่งจ๋อยอยู่
“เอาล่ะ ไอ้ก้อง เป็นอันว่าพรุ่งนี้เอ็งก็กรุณาพาพ่อเพื่อนรักของเอ็งออกไปให้พ้นบ้านข้าซะที เกือบเดือนนี่ข้ายังกะตกนรก ต้องโกหกใครต่อใครเขาไปทั่ ต่อนี้ไปก็สบายล่ะ ไอ้กำโป๊งเอ๋ย”
“ดีใจด้วยนะครับลุง”
ก้องเกียรติเสียงเรียบ ยกมือไหว้ กำโป๊งชะงัก
“ผมขอบคุณที่ลุงช่วยผมมาตลอด แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ลุงลำบาก จากนี้ไป ก็ถึงเวลาที่ผมกับกิ๋งจะต้องลำบากกันบ้างแล้ว บริษัทของเราคงต้องพังแน่
ก้องเกียรติหันไปจับมือกิ่งแก้ว มองกันตาละห้อย กำโป๊งลอบมอง กลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วทำใจแข็ง
“เอาล่ะ พวกเอ็งก็เตรียมตัวเก็บข้าวของๆ เอ็ง เครื่องไม้เครื่องมือทั้งหลายก็ค่อยๆ เก็บ อย่าให้ชาวบ้านผิดสังเกตล่ะ ส่วนข้าจะออกไปช่วยวิดน้ำที่ไร่ละ”
กำโป๊งลุกจะไป พอดีเจ้าคุณเดินลงบันไดมา
“ลุง! รอด้วย”
“อ้าว เอ็งไม่เก็บข้าวของเหรอพรุ่งนี้จะกลับบ้านแล้ว”
“ฉันไม่มีข้าวของอะไรมาซักชิ้น ลุงจำไม่ได้เหรอ”
“เออ จริงซิ ข้าลืมไป”
“ฉันจะไปช่วยงานที่ไร่...เป็นครั้งสุดท้าย”
กำโป๊ง ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ มองเจ้าคุณ
ทุกคนอึ้ง มองหน้ากัน เจ้าคุณหน้าเศร้าลง
ที่ไร่ชาม่วนใจ๋ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันวิดน้ำออกจากไร่ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ ลงมือช่วยอยู่กับเจ้าคุณด้วย จนสมหมายเอ่ยชม
“แหม หมอนี่น่ารักจริงๆ รักษาคนไข้แล้วยังมาช่วยวิดน้ำด้วย”
ก้องเกียรติยิ้มเขิน
“ครับ”
“คนหนุ่มสาวสมัยนี้หน้าตาดีแล้วยังจิตใจดีด้วยเนอะตาหมาย”
สมศรีเอ่ยชม เจอาร์รีบรับคำชมทันที
“ชัวร์ครับ ขอบคุณครับ”
“แหม...คุณเจอาร์!”
กิ่งแก้วแซเจอาร์ อีกมุม ใกล้ที่สมใจปาดเหงื่อ ตาก็มองหาเจ้าคุณไป หันมาอีกทีก็พบกับเจ้าคุณอย่างจัง
“อุ๊ย!”
“ฉันช่วย”
สมใจส่งถังน้ำที่วิดน้ำให้ เจ้าคุณวิดน้ำไปเรื่อย สมใจตัดสินใจถาม
“ตกลง หมอว่าไง”
“อะไรนะ”
เจ้าคุณยังไม่เข้าใจ
“ก็..อาการของนายน่ะซิ..หมอว่าไงบ้าง”
“อ๋อ...”
เจ้าคุณก้มหน้าก้มตาวิดน้ำต่อ เพราะตอบไม่ถูก
“ว่าไง นายไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้วใช่มั้ย”
เจ้าคุณชะงัก วิดน้ำต่อ สมใจอึ้งไป
“ว่าไง..ขุนทอง”
เจ้าคุณเลิกวิด มองหน้าสมใจ
“ฉัน..ต้องไป”
สมใจอึ้ง จ้องเจ้าคุณ เจ้าคุณลอบมองสมใจที่เหมือนจุกที่ลำคอ
“ต้อง....ไป....ทำไมล่ะ...นายก็ดู..ปกติดี..ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
เจ้าคุณอึ้ง จุกไปเหมือนกัน
“ แล้ว...ต้องไป...เมื่อไหร่”
เจ้าคุณนิ่งไปนิด มองสมใจ
“พรุ่งนี้...”
สมใจขอบตาร้อนผ่าว ใจหายวูบ พยักหน้าช้าๆ
“พรุ่งนี้”
สองคนมองกันอึ้งไปทั้งคู่
คำปุย หวานเจี๊ยบ ไส้อั่ว และแคบหมูมาเป็นหมู่คณะ
“จ๊ะเอ๋!”
สองคนยังไม่แสดงท่าทีผิดปกติ
“มาทำอะไรกันอยู่ตรงนี้”
“จะมาทำอะไร้”
ไส้อั่วมองมีเลศนัย แล้วหันมองตากับแคบหมูทำนองรู้กัน พร้อมยักคิ้วให้
“อะไร ทำอะไร ไอ้อั่ว นังแค๊บ”
สมใจแหวใส่ แคบหมูกับไส้อั่วเริ่มสยอง
“ปะ..เปล่าๆ จ้ะเจ๊ใจ๋”
“นี่...ไอ้ใจ๋ แกอยู่ช่วยลุงหมายทางนี้ไปนะ พวกฉันจะไปช่วยป้าศรี ทำกับข้าวไว้เลี้ยงชาวบ้านคืนนี้” คำปุยตัดบท
“คืนนี้จะมีงานเลี้ยงด้วยเหรอ”
เจ้าคุณถามขึ้น
“ก็ใช่ซิจ้ะอ้ายขุนทอง พวกเราเหนื่อยกันขนาดนี้ แถมยังขวัญเสียจากน้ำท่วม ลุงหมายกับป้าศรีก็เลยจะเลี้ยงปลอบขวัญน่ะจ้ะ”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ โผล่มาสมทบ
“ดีเลย หยั่งงี้ก็ถือเป็นการเลี้ยงส่ง ไอ้...เอ่อ...อ้ายขุนทองด้วยซะเลยจริงมั้ย”
เจอาร์ทำทุกคนอึ้ง
“อะไร ทำไมต้องเลี้ยงส่งอ้ายขุนทองด้วย” หวานเจี๊ยบสงสัย โวยวายยกใหญ่
“อ้าว! น้องสาวคนสวย นี่ไม่รู้เรื่องกะเขาเลยเหรอจ้ะว่าพรุ่งนี้อ้ายขุนทองต้องกลับบ้าน”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้วงกระทุ้งศอกใส่เจอาร์
“อุ๊บ! กลับ โรงพยาบาลแล้วนะจ้ะ”
หวานเจี๊ยบ คำปุย แคบหมู กับไส้อั่ว อึ้งไปตามๆกัน สมใจกับเจ้าคุณต่างคนต่างเศร้าไป
คืนนั้นที่บ้านสมใจมีงานเลี้ยง พระจันทร์เต็มดวง บรรยากาศร้องรำทำเพลงแว่วมาแต่ไกล หมู่มวลกำลังสังสรรค์กันแบบยิ้มแย้ม สมใจและเพื่อนๆ ช่วยกันปิ้งย่างอาหาร เจ้าคุณนั่งรวมกลุ่มกับก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และ เจอาร์ เจ้าคุณนั่งมองบรรยากาศแบบนี้ที่จะไม่ได้เห็นอีก ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว เหลือบมองเจ้าคุณแล้วมองหน้ากันอย่างเข้าใจเพื่อน เจ้าคุณกวาดสายตาไปจนเจอสมใจ สมใจเหลือบมองเห็นเจ้าคุณพอดีเช่นกัน สองคนจ้องตากันแล้วปลัดจืดเข้ามาทักสมใจ เจ้าคุณรีบเบือนหน้าหนี
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วสะกิดคุยกัน
“น่ารักเนอะ...”
เจ้าคุณเสียงเขียวขึ้นทันที
“อะไร น่ารักอะไร”
“ก็...บรรยากาศแบบนี้ น่ารักดี ที่กรุงเทพฯ นี่หาไม่ได้เลยนะเว้ย”
เจ้าคุณฟังแล้วเงียบ ไม่ว่าอะไร
“ผู้คนก็น่ารัก จริงใจ ใสซื่อ ว่ามั้ย..ขุนทอง”
เจ้าคุณปรายตามองกิ่งแก้ว แต่ไม่พูดอะไร ก้องเกียรติเปรยขึ้นแนวหว่านล้อม
“ฉันมาอยู่แค่ไม่กี่วันยังติดใจเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าฉันมีบริษัทต้องกลับไปทำมาหากิน ฉันคงอยู่ที่นี่มันซักครึ่งปี คงมีความสุขเป็นบ้า
“ไม่ต้องเลยไอ้ก้อง เลิกหว่านล้อมฉันได้แล้ว” เจ้าคุณตัดบทให้
“ไม่ได้หว่านล้อม พูดจริง นี่ถ้าฉันรวยเละเทะไม่ต้องทำงานทำการอย่างแกล่ะก็ ฉันไม่กลับไปให้โง่หรอก อยู่ที่นี่แหละ...ม่วนแต๊จริงๆ”
เจ้าคุณเริ่มอึ้ง
“ใช่...ม่วนแต๊ แถมยัง ม่วนใจ๋”
เจ้าคุณหันขวับมอง กิ่งแก้วทำยิ้มแฉ่งไม่รู้ไม่ชี้ พอเพลงจบลงเสียงดำเกิงดังลั่นมาเลย
“พ่อแม่พี่น้องที่ฮัก ดำเกิงมาแล้วเจ้า”
“นั่นไง ไม่มีงานเลี้ยงล่ะ มันไม่เคยมา”
สมหมายแซวดำเกิง
“ไอ้ดำเกิง ไอ้คนไร้น้ำใจ เขาวิดน้ำกันแทบเป็นแทบตายเอ็งหายหัวไปไหน มาวะ”
กำโป๊งรีบโวย
“โธ่ ลุงโป๊ง ไร้น้ำใจที่ไหน ฉันไปติดฝนอยู่บนดอยนู่น โอ๊ย กว่าจะฝ่าน้ำป่าลงมาได้ หูย แทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ต้องฝ่ามาให้ได้ เพราะถ้าจะต้องตาย ไอ้เกิงก็ต้องขอกลับมาตายที่ม่วนแต๊”
“มา งั้นก็ตายซะเหอะไอ้ดำเกิง”
กำโป๊งเงื้อเท้า สมศรีห้ามไว้
“อ้ายโป๊ง จะไปเอาอะไรกับมัน เอาล่ะ..ตาหมาย...พูดอะไรกับพี่น้องซะหน่อยซิ”
สมศรีพูด
“จะขึ้นพูดแล้วเหรอลุงหมาย เดี๋ยวอ้ายเกิงเปิดไมค์ให้”
ดำเกิงเอาใจ พูดจบก็โดดขึ้นเวทีคว้าไมค์เลย
“ฮาโหลๆ เทสต์เจ้า...เทสต์เจ้า ณ บัดนี้ได้เวลาที่ลุงหมายของหมู่เฮาจะขึ้นกล่าวอะไรเล็กๆ น้อยๆ ขอเสียงให้ลุงหมายหน่อยหมู่เฮา”
ทุกคนปรบมือ รอฟัง สมหมายขึ้นพูด
“พี่น้องม่วนแต๊ นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พวกเราได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างแท้จริง ไร่ชาม่วนใจ๋เปรียบเหมือนหัวใจของม่วนแต๊ก็จริง แต่หัวใจคงไม่อาจจะมีแรงเต้นต่อไปได้ถ้าไม่มีกำลังใจจากทุกๆ คนในม่วนแต๊”
ทุกคนปรบมือเฮ
“ฉัน แม่ศรี แล้วก็ไอ้ใจ๋ ขอขอบใจพ่อแม่พี่น้องที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันฟื้นฟูไร่ชาม่วนใจ๋ ลำพังเราสามคนพ่อแม่ลูกคงจะไม่มีแรงขนาดนี้ ฉันจะขอจดจำวันนี้ไว้ในใจอีกวันจนวันตาย แม้น้ำจะท่วมม่วนใจ๋ซักเท่าไรก็ไม่สามารถเอาชนะน้ำใจคนม่วนแต๊ได้ซักครั้งเดียว”
สมหมายพูดอย่างซาบซึ้งใจ ทุกคนปรบมือเฮสนั่น
“เอาล่ะ เหน็ดเหนื่อยกันมามากแล้ว คืนนี้ฉันขอให้ทุกคนมีความสุขกันให้เต็มที่ ถือเป็นการเรียกขวัญ และกำลังใจของพวกเราชาวม่วนแต๊กลับคืนมา ม่วนแต๊ สู้มั้ยสู้”
“สู้!”
สมหมายชูแก้วเตรียมฉลอง
“สู้มั้ยสู้”
“สู้!”
“ม่วนแต๊ สู้ตาย”
“สู้ตาย”
ทุกคนเฮ กอดกันอย่างรักใคร่ เจ้าคุณ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ อึ้งและซึ้งกับภาพที่เห็น
“น่ารักจริงๆ...”
กิ่งแก้วชื่นชมคนบ้านม่วนแต๊อย่างจริงใจ เจ้าคุณใจหายวูบ
“ไอ้คุณ แกไม่คิดถึงจริงๆ เหรอ”
กิ่งแก้วหันไปถามย้ำเจ้าคุณอีกครั้ง เจ้าคุณอึ้ง พูดไม่ออกตอบไม่ถูก ทันใดนั้นเสียงดำเกิงดังขึ้น
“เอาล่ะ..พ่อแม่พี่น้อง...ตามประเพณี ลุงหมายป้าศรีต้องดวลไมค์”
ทุกคนเฮ สมหมายกับสมศรี ขึ้นเวที ขอเปลี่ยนเพลงใหม่เป็นเพลงให้กำลังใจ ทั้งคู่ร้องเพลงท่ามกลางบรรยากาศอิ่มเอม เวลาผ่าน ผู้คนเริ่มกึ่ม กำโป๊งร้องเพลงคู่กับเครือฟ้า สมหมายกับสมศรีเดินมาที่กลุ่มเจ้าคุณ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์
“ไง หมอ งานเลี้ยงคนบ้านนอกคอกนา พอไหวมั้ย”
สมหมายเอ่ยถาม
“โห พูดอะไรอย่างนั้นครับลุงหมาย พวกผมสนุกมากครับ”
ก้องเกียรติรีบตอบอย่างให้เกียรติและรู้สึกดี
“ใจ๋! เอาจิ้นหมู กับแกงอ่อมมาเติมให้คุณหมอหน่อยซิลูก”
สมศรีสั่งสมใจ อีกฝ่ายตะโกนกลับมา
“จ้ะ..แม่”
สมหมายมองเจ้าคุณ
“พรุ่งนี้ต้องไปแล้วเหรอ...อ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณอึ้ง
“จ้ะ”
สมหมายกับสมศรี มองตากันแอบใจหายไม่น้อย สมใจเดินถือกับข้าวเข้ามาพอดี
“ต้องไปนานมั้ยคุณหมอ” สมศรีเอ่ยถามราวกับรู้ว่าสมใจเองก็อยากรู้
“เอ่อ..คงจะนานครับ”
สมใจได้ยินก็สะดุด น้ำแกงกระฉอกรดมือ
“อุ๊ย!”
เจ้าคุณรีบลุกขึ้นช่วย คว้ามือสมใจทันที
“เป็นอะไรมั้ย”
สมใจตกใจจ้องหน้าเจ้าคุณ ทุกคนตรงนั้นมองเป็นตาเดียว สมใจรีบดึงมือออก
“ไม่เป็นไร”
“เฮ้อ! ไอ้ใจ๋มันงี้แหละหมอ อย่าไปถือสา”
กิ่งแก้วอาสาช่วยสมใจ รีบรับกับข้าว
“ฉันช่วยนะคะ”
“เมื่อกี๊ว่าไงนะหมอ คราวนี้อ้ายขุนทองต้องไปนานเลยเหรอ”
สมใจยิ่งฟังยิ่งใจหายวูบ
“เอ่อ..ครับ” ก้องรีบตอบ
“โถ..น่าสงสาร แต่ดูๆ ไปก็ไม่เห็นมันจะมีอาการอะไรนะ คุณหมอนะ” สมศรีพูดตามที่เห็น
“เอ่อ..เราอยากพาคนไข้กลับไปเช็คให้ละเอียดอีกครั้งน่ะครับ”
สมใจกับเจ้าคุณแอบวูบในใจ
“แล้วรีบกลับมานะขุนทอง มาช่วยฉันเก็บใบชาอีก” สมศรีพูดอย่างเอ็นดู
เจ้าคุณอึ้ง พูดแทบไม่ออก
“ จ้ะ..น้าศรี”
“ช่วยให้มันหายนะหมอนะ ยังไงซะ มันก็หลานลุงกำโป๊ง ก็เหมือนลูกหลานม่วนแต๊คนนึง”
สมหมาทำเอาเจ้าคุณอึ้ง ซึ้ง จ้องสมหมายอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แต่ก็ยกมือไหว้เชิงขอบคุณ
“ขอบใจจ้ะ..ลุงหมาย”
สมหมายไม่พูดอะไร ตบไหล่เจ้าคุณแล้วพากันเดินออกไปกับสมศรี สมใจมองเจ้าคุณ จ้องกัน
สมใจ
“โชคดีนะ ขุนทอง...”
เจ้าคุณอึ้ง ใจหายวูบ สองคนมองตากันแบบ ยากจะบรรยายความในใจ ทันใดนั้น เสียงดำเกิงดังขึ้นอีกแล้ว
“ต่อไป..ถึงคิวน้องใจ๋คนจ๋วย”
“โอ้ว น้องใจ๋จะร้องเพลงอะไรครับเนี่ย”
เจอาร์รีบแซว สมใจทำหน้าตาเหมือนไม่อยากร้อง
ปลัดจืดเดินเข้ามาตาม
“ใจ๋..ไปเร็ว”
สมใจฝืนใจเดินไปขึ้นเวทีโดยมีปลัดจืดตามไปส่ง เจ้าคุณมองตามหน้าจ๋อย ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองเพื่อนอย่างรู้สึกเห็นใจ บนเวที สมใจคว้ากีต้าร์มา วงด้านหลังพร้อมบรรเลงเพลง “คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ...”
แฟนรายการไฮโซบ้านเฮา ที่นั่งดูหน้าจอ พ่อ แม่ ลูก นั่งดูทีวีตาไม่กระพริบ แม่เช็ดน้ำตาป้อยๆ พ่อตบไหล่ปลอบใจ แม่ค้าผัดกับข้าวค้าง ตาจ้องมองทีวี มือก็ป้ายน้ำตาไป ลูกค้าจ้องทีวีอึ้ง วัยรุ่นปาดน้ำตาแล้วยัวะกดเอสเอ็มเอส ด่ารายการ “ใจร้าย! จะไปบึ้มสถานี” สาวออฟฟิศดูทีวีแล้วเข้าเว็บด่าแหลก “ถ้าเอาขุนทองกลับบ้าน ขอให้เจ้าของรายการมันไม่ได้แต่งงานกัน ไม่ต่างจากที่ออฟฟิศก้องเกียรติและกิ่งแก้ว พนักงานวิ่งรับโทรศัพท์โดนด่ากันหูชา วิบูลย์ เจ้าของเคเบิลทีวีโทร.หาก้องเกียรติกับกิ่งแก้วไม่ได้ ยัวะสุดขีด ในขณะที่ชาวม่วนแต๊ รวมทั้งเจ้าคุณไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในรายการเรียลิตี มีเพียงก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และกำโป๊งเท่านั้นที่รู้
สมใจร้องเพลงไปสบตากับเจ้าคุณเป็นระยะ ร้องจบลงไปด้วยอารมณ์เศร้า ทุกคนปรบมือ กำโป๊ง
“เอ...ทำไมวันนี้ ไอ้ใจ๋มันร้องเพลงเศร้าๆ พิก๊ล”
สมศรีชะงัก มอง
“เออ..อ้ายกำโป๊ง พรุ่งนี้หลานชายจะไปแล้ว ยังไม่เคยได้ยินมันร้องเพลงเลยนะ”
สมหมาย ทักขึ้น กำโป๊งสะดุ้งโหยง เครือฟ้าเห็นด้วย
“จริงด้วย มันร้องเพลงเป็นรึเปล่า”
“ต้องเป็นซิน้า เดี๋ยวฉันจัดการเอง รับรองอ้ายขุนทองต้องเหนือกว่าคนแถวนี้ ขนาดเสียงพูดยังกะควายปวดท้องอึ!”
หวานเจี๊ยบแขวะปลัดจืดก่อนจะเดินไปหาเจ้าคุณ คำปุยแอบห่วง
“จะไหวเหรอนังใจ๋ แค่พูดเฉยๆ น่ะ ฉันยังเคยเห็นอ้ายขุนทองพูดติดๆ ขัดๆ แล้วร้องเพลงจะรอดเหรอ
“นั่นซิ!”
ปลัดจืดเห็นด้วยกับคำปุย
“อิจฉาเขาล่ะเซ่ คอยดูละกันเตรียมอายไว้ได้เลย..ปลัดจ๋อย”
หวานเจี๊ยบยังเชียร์เจ้าคุณไม่เลิก วิ่งขึ้นเวทีฉกไมค์มาพูด สมใจยังคงงง
“ฮาโหลๆ...พวกเรารู้มั้ย พรุ่งนี้ อ้ายขุนทองจะต้องกลับไปโรงพยาบาลกับคุณหมอ”
ชาวบ้านอึ้งเงียบกริบ หันมองเจ้าคุณเป็นตาเดียว
“แต่ไม่ต้องห่วง ยังไงเดี๋ยวอ้ายขุนทองของหวานเจี๊ยบก็ต้องกลับมา”
ชาวบ้านโอเค.ขึ้น เจ้าคุณยังทำหน้าตาไม่ถูก
“แต่ตอนนี้ขอให้อ้ายขุนทองขึ้นมาบนเวทีนี้หน่อย เร็ว!”
หวานเจี๊ยบรีบปรบมือนำ ทุกคนปรบมือตาม
เจ้าคุณสะดุ้ง ขนลุกเกรียว ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ ก็สยองแทนเพื่อนด้วย เพราะรู้ประวัติเรื่องฉี่ราดของเจ้าคุณดี
“โอ้มายก็อด แย่แล้ว..ไอ้คุณ!”
เจอาร์อุทาน หวานเจี๊ยบยิ่งเร่ง
“เร็วซิ อ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณเหงื่อแตก
“ไงดีวะ..เพื่อน”
ก้องเกียรติถามเจ้าคุณ ที่เริ่มติดอ่างแล้ว
“อะ..อะ..ไอ้..”
“ใจเย็นนะ..สูดหายใจลึกๆ”
กิ่งแก้วปลอบเพื่อน เจ้าคุณพยายามสูดหายใจลึกๆ
“ไม่มีอะไรหรอก..ขึ้นไปเถอะ...”
หวานเจี๊ยบวิ่งมาลากเจ้าคุณขึ้นเวทีไป สมใจเองก็ยังนั่งงงอยู่กับกีต้าร์ตรงที่เดิม มองเจ้าคุณ
“และวันนี้...อ้ายขุนทองก็จะร้องเพลงให้พวกเราได้ฟังกัน เย้!”
เจ้าคุณสุดช็อก
“เฮ้ย!”
สมใจมอง ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ ตกใจสุดขีด
“แย่แล้ว ไอ้คุณ!”
“เพลงอะไรดีจ๊ะ..อ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณหน้าซีด มือไม้สั่น หวิวๆ เหมือนจะเป็นลม สมใจขมวดคิ้วมอง สังเกตเห็น
“ขุนทอง..เป็นอะไรรึเปล่า”
เจ้าคุณหันมองสมใจ สายตาเหมือนอยากหาที่พึ่ง ดำเกิงเริ่มตะโกนแซว
“ร้องเพลงเพราะจริงๆ เลยเว๊ย”
“ยัง!”
ทุกคนก็ฮากันสนั่น เจ้าคุณยิ่งสั่น สมใจมอง
“ไง..อ้ายขุนทอง ร้องดิ!”
เจ้าคุณหวิวๆ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ห่วงเพื่อน ส่วนปลัดจืดส่ายหน้ายิ้ม ยิ่งทำให้หวานเจี๊ยบยัวะ
“ร้องเลย!”
ทันใดนั้น เจ้าคุณทรุดฮวบลงแบบขาอ่อนแรงกะทันหัน ทุกคนตกใจ ก้องเกียรติ กิ่งแก้วและ เจอาร์ ลุกพรวด
ในขณะที่สมใจปรี่เข้าประคองเจ้าคุณทันที
อ่านต่อหน้า 4 พรุ่งนี้ (23 ก.พ.55) เวลา 9.30 น.
รักออกอากาศ ตอนที่ 6 (ต่อ)
หลังจากเห็นเจ้าคุณ ขาอ่อนแรงจนเป็นลม อยู่บนเวที สมใจรีบเข้าไปประคองเจ้าคุณอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ขุนทอง นายต้องไม่เป็นไรนะ”
เจ้าคุณหอบ สายตามองสมใจอย่างขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
กลุ่มก้องเกียรติปรี่มาถึงพอดี
“ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย”
ก้องเกียรติลืมตัวว่าตัวเองปลอมตัวเป็นหมอ จนสมหมายร้องทัก
“อ้าว! หมอ หมอเป็นหมอไม่ใช่เหรอ”
ก้องเกียรติอึ้งไป กำโป๊งสะดุ้ง ปลัดจืดแอบสงสัย กำโป๊งรีบวิ่งจี๋ไปหาเจ้าคุณทันที
“ไอ้เวร! แกเป็นหมอ”
ก้องเกียรติสะดุ้ง
“เออ..จริงด้วย ทำไงดีล่ะลุง”
“เฮ้อ! ยังจะมาถาม เป็นไรวะเนี่ย”
“ตื่นเต้นน่ะค่ะ” กิ่งแก้วรีบตัดบท
กำโป๊งคิด หันรีหันขวางแล้วคว้าไหยาดองของนักดนตรีมากรอกปากเจ้าคุณ
“อะไรน่ะลุง”
“อย่าถาม ช่วยกัน”
สามคนช่วยกันจับเจ้าคุณกรอกยาดอง กิ่งแก้วรีบคว้าไมค์มาทันที
“ไม่มีอะไรค่ะ อย่าตกใจ นี่เป็นอาการตื่นเต้นของเจ้า เอ่อ อ้ายขุนทองน่ะค่ะ ตอนนี้โอเคแล้ว”
กิ่งแก้วรีบหันไปส่งไมค์ให้เจ้าคุณที่ยังนั่งงงอยู่
“เอ้า! ร้อง!”
เจ้าคุณยังมึนและงงผสมกัน
“ชะ...ชะ..ฉัน..อะ..อาย”
“ไม่ต้องอายแล้วไอ้คุณ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของแกแล้วที่จะบอกสมใจ”
เจ้าคุณอึ้ง ค่อยๆ เหลือบ ไปมองสมใจที่ยังงง มองอยู่เช่นกัน
“หรือแกอยากจะจากไป โดยที่ไม่ได้บอกเขาซักคำ”
กิ่งแก้วยุ เจ้าคุณอึ้ง
“พรุ่งนี้แกก็จะไปแล้วนะ..เพื่อน”ก้องเกียรติคอยเสริม กิ่งแก้วส่งไมค์ให้ เจ้าคุณมองจ้องไมค์ก่อนจะตัดสินใจค่อยๆ ยื่นมือไปรับไว้ กิ่งแก้วหันไปพูดกับนักดนตรี แล้วกันมาพูดกับสมใจและหวานเจี๊ยบ
“ไปค่ะ...เราลงไปข้างล่างกันเถอะ”
สมใจมองก่อนจะลงไปล่างเวทีกับก้องเกียรต กิ่งแก้ว หวานเจี๊ยบ และเจ้าคุณค่อยๆ ลุกขึ้น ดนตรีขึ้น ผู้คนปรบมือเจ้าคุณรวบรวมความกล้าร้องเพลง “แค่บอกว่ารักเธอ” ท่ามกลางความอึ้งของสมใจ ความตะลึงของเพื่อนๆ ความครื้นเครงของชาวบ้านที่กึ่มเต็มที่ และความจ๋อยของปลัดจืด จบเพลงที่เจ้าคุณและสมใจจ้องตากันสุดๆ ก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงกรี๊ดของหวานเจี๊ยบ
“กรี๊ด! สุดยอดเลย! อ้ายขุนทองของหวานเจี๊ยบร้องเพลงเพราะที่สุดในโลก”
หวานเจี๊ยบหันไปกรี๊ดใส่หูปลัดจืด จนโดนผลักกระเด็น
“บ้า! ไปกรี๊ดไกลๆ เลยหูจะแตก”
“อิจฉาล่ะซิ ฮิๆ ปลัดจ๋อย จ๋อยจริงล่ะคราวนี้ อ้ายขุนทองร้องเพลงเจ๋งสุดๆ เลยใช่มั้ยพวกเรา”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เจอาร์ กำโป๊ง คำปุย แคบหมู ไส้อั่ว ลำใย และชาวบ้านพร้อมใจกันตอบลั่น
“ใช่!”
ปลัดจืดอึ้ง
“ฮ่าๆ ไงล่ะยะ พ่อปลัดจืด จืดสนิทไปเลย ฮ่าๆ พี่ใจ๋ พี่ใจ๋ว่าไง พี่ใจ๋ก็ชอบเพลงที่อ้ายขุนทองร้องใช่มั้ยจ้ะ”
สมใจสะดุ้ง เจ้าคุณเหลือบมอง รอคำตอบ สมใจไม่รู้จะพูดอย่างไร หวานเจี๊ยบเลยตอบแทนให้แบบเนียน
“ชอบ! พี่ใจ๋นิ่งหยั่งงี้แปลว่าชอบ เพราะถ้าไม่ชอบก็ต้องด่ายับไปแล้วจริงมั้ยพวกเรา”
“จริ้ง!”
ทุกคนฮากันสนุกสนาน สมใจเหวอ ปนอายเหลือบมองเจ้าคุณ เจ้าคุณกำลังจ้องสมใจอยู่พอดี แถมแก้มยังแดงเพราะฤทธิ์ยาดอง สมใจสุดเขินแต่ยังฟอร์ม ทั้งคู่มองตากัน
อีกมุมของงาน ก้องเกียรติยื่นแก้วน้ำให้เจ้าคุณที่แยกตัวออกมานั่งชิลด์ๆ อยู่ เจ้าคุณหันมอง
“กินน้ำเยอะๆ จะได้สร่างเร็วๆ”
เจ้าคุณรับมาจิบ ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว นั่งลงข้างๆ กิ่งแก้วเริ่มแซว
“เมาจริงเหรอ นึกว่าเมาดิบ”
เจ้าคุณสำลักน้ำ
“อะไรของแก...กิ๋ง”
“จะอะไร ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเกือบ 20 ปี ก็เพิ่งจะรู้วันนี้ว่าแกร้องเพลงได้ด้วยW
เจ้าคุณอึ้งปนอาย
“ไอ้บ้า!”
เจ้าคุณไม่รู้จะอย่างไรเลยทำท่าจะลุกขึ้น ก้องเกียรติถาม แล้วดึงเจ้าคุณนั่งลงที่เดิม
“จะไปไหน จะหนีไปไหน..ไอ้คุณ”
“หนีอะไรก็หนีได้ แต่หนีความจริงไม่มีทางหนีได้หรอก”
กิ่งแก้วโพล่งขึ้น เจ้าคุณนิ่ง
“ยิ่งถ้าจะหนีหัวใจตัวเอง ก็คงจะเหนื่อยหน่อยล่ะเพื่อน”
เจ้าคุณมองก้องอึ้ง
“แต่ถ้าแกตัดสินใจจะไปจริงๆ แกก็ไม่ควรจะหนี บอกลากันดีๆ จะได้มีความทรงจำดีๆ เก็บไว้..ในหัวใจของแกกับ...เขา”
กิ่งแก้วพูดจากใจจริงแอบเตือนสติเจ้าคุณ อีกฝ่ายยิ่งอึ้ง ก้องเกียรติตบไหล่เพื่อนอย่างให้กำลังใจเจ้าคุณคิดตามคำพูดกิ่งแก้ว
สมใจกำลังรินน้ำใส่แก้วที่เรียงอยู่ในถาดเตรียมเอาไปเสิร์ฟในครัว ใจลอยไม่ได้มองแก้วน้ำเลยซักนิด ยืนเหม่อ จู่ๆสะดุ้งเฮือกเพราะน้ำล้นแก้วเปียกเปรอะเลอะเทอะ
“อุ๊ย! เฮ้อ จะบ้าไปใหญ่แล้วไอ้ใจ๋เอ๊ย”
สมใจจัดการเช็ดน้ำ จัดแก้วใหม่จนเสร็จเรียบร้อยก็ยกถาดหันขวับจะกลับเข้างาน แต่ก็ต้องสะดุ้งโหยง
“เฮ๊ย!”
เมื่อเห็นเจ้าคุณยืนมองอยู่ใกล้อย่างมาก พอตั้งสติได้ก็ฟอร์มเช่นเคย
“ตกใจหมด มายืนเงียบๆ นึกว่าผี!”
เจ้าคุณยังยืนมองสมใจนิ่งเหมือนเดิม
“ทำไม จะเอาอะไร”
สมใจอาย เจ้าคุณไม่ตอบแต่ขยับตัวจะเดินเข้าใกล้ สมใจรีบยกถาดขึ้นกันไว้แบบอัตโนมัติเจ้าคุณมอง
“เอ่อ..กินน้ำมั้ย”
เจ้าคุณจ้องหน้าสมใจ ทำท่าเหมือนจะพูด แต่รีบยกถาดน้ำให้เจ้าคุณทันทีแก้เขิน เจ้าคุณชะงัก อายเหมือนกันเลยแก้เขินดว้ยการหยิบน้ำมามาหนึ่งแก้ว สมใจถอนใจเฮือก ยิ้มเจื่อนๆ แบบโล่งอก เจ้าคุณยังมองสมใจ
“กินดิ เดี๋ยวน้ำแข็งไม่เย็น”
เจ้าคุณหน้าแหย แต่ก็รีบดื่มน้ำ
“ไง เย็นมั้ย”
เจ้าคุณพยักหน้าตอบ
“เย็น”
สองคนมัวยืนพยักหน้าใส่กัน ไม่ได้พูดอะไร ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว แอบลุ้นอยู่ ทุกคนมีอารมณ์เซ็ง ถอนใจเฮือกพร้อมกัน
“เฮ้อ!”
คืนนั้น ที่ห้องนอนเจ้าคุณ เจอาร์นอนกรน เมาหลับไป เจ้าคุณ เดินเข้ามาจะล้มตัวลงนอนแต่ก็ถูกกิ่งแก้ว กระชากขึ้นมานั่ง
“ไอ้กิ๋ง!นี่แกจะเว่อร์ไปถึงไหนวะ”
“แกนั่นแหละไอ้คุณ จะเก็กเว่อร์ไปถึงไหน จนป่านนี้แล้วยังจะปากแข็งอยู่ได้”
“ปากแข็งอะไร”
“อ้าว ไอ้นี่ ก็เรื่องสมใจไงล่ะ”
ก้องเสียงเบาลงกลัวเจอาร์ตื่น เจ้าคุณอึ้งไป
“สมใจ..อะไร ทำไม”
“อ้าว!” สองคนอุทานพร้อมกัน
“โอเค! สรุปว่า พรุ่งนี้เช้า แกกลับชัวร์”
เจ้าคุณอึ้งไป ก่อนจะเหลือบมองก้องเกียรติ กับกิ่งแก้วที่จ้องรอคำตอบ เจ้าคุณพยักหน้ารับ
“งั้นก็นอน พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางแต่เช้า”
ก้องเกียรติตัดบท ก่อนจะล้มตัวลงนอน เหลือกิ่งแก้วที่ยังมองเจ้าอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าจะยอมจากบ้านม่วนแต๊ไปแบบง่ายๆ และไม่ยอมบอกความในใจกับสมใจ ฝ่ายเจ้าคุณทำเฉไฉล้มตัวลงนอน แต่ก็แอบนอนไม่หลับเช่นกัน
ที่ห้องนอน สมใจเดินเหงาเข้ามานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง เปิดลิ้นชักหยิบรูปพี่โก้ขึ้นมาดูก่อนจะหยิบรูปอีกใบขึ้นมามองดูเป็นรูปรวมหมู่ในงานวันฟ้อนรำบ้านเครือฟ้า เห็นเจ้าคุณยืนอยู่หลังตัวเองก็ถอนใจเฮือก สมใจพูดกับตัวเอง
“ไม่นะไอ้ใจ๋ ไม่ เจ็บแล้วต้องจำซิ จำได้มั้ย”
“จะจำไปทำไม๊”
คำปุยโผล่เข้ามา
“อ้าว ต้องจำสิ จะได้...เฮ๊ย!”
สมใจเห็นคำปุยโผล่หน้าอยู่ข้างๆ
“นังปุ๋ย แก..แกเข้ามาตอนไหนเนี่ย”
“ฉันก็เข้ามาทุกตอนน่ะแหละ โดยเฉพาะตอนที่แกกำลัง...”
“กำลังอะไร”
“ก็กำลังอะไรล่ะ ทำมาถาม เชอะ..รู้อยู่แก่ใจ”
“อะไรของแก อย่ามาทำยอกย้อน”
“ใครกันแน่ที่ยอกย้อน คนอย่างนังปุ๋ยน่ะตรงไปตรงมา ชัดเจนตลอด แต่เพื่อนนังปุ๋ยน่ะซิ...ไม่แน่”
“คุยกับแกนี่มันเสียเวลาจริงๆ ฉันง่วงนอนแล้ว”
“ดี รีบนอนก็ดี พรุ่งนี้จะได้ไปส่งอ้ายขุนทองแต่เช้า นอนให้หลับก็แล้วกันนะเพื่อน”
คำปุยประชดสมใจเสร็จแล้วเดินออกไป ทิ้งให้สมใจนอนไม่หลับอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงเป็นเวลาเที่ยงคืนกระทั่งนาฬิกาเป็นเวลาตีสี่ สมใจก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม สมใจถอนหายใจ ลุกขึ้นไปที่หน้าต่าง สมใจมองฟ้าก่อนจะค่อยๆ มองลงไปที่ด้านล่างแล้วตกใจ ขยี้ตาแบบนึกว่าตาฝาด
“อ้ายขุนทอง!”
เจ้าคุณยืนพิงมอเตอร์ไซค์มองขึ้นมาที่สมใจอยู่ สมใจตาโต
ใกล้รุ่งสาง ที่โรงน้ำมันไบโอดีเซลหลังบ้าน สมใจกำลังตวงน้ำมันใส่ขวด
“นายจะบ้ารึเปล่าเนี่ย มาขอน้ำมันฉันตอนตี 4 เนี่ยนะ”
เจ้าคุณไม่พูดอะไร
“แล้วก็มายืนรออยู่งั้นน่ะนะ ทำไมไม่เรียก นี่ถ้าฉํนไม่โผล่มาเห็นนาย นายไม่ต้องยืนรอจนเช้าเลยเรอะ”
เจ้าคุณยังเงียบไม่พูดไม่จา
“เออ..เจริญ แล้วก็เพี้ยนอะไรเนี่ย นึกอยากจะขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นมาอีตอนตี 4 เฮ้อ”
เจ้าคุณเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่ซึ้งใจสมใจมาก
“ฉันอยากให้เธอนั่งกับฉัน เป็นคนแรก...”
สมใจชะงัก หันมองหน้าเจ้าคุณ
“...ก่อนที่ฉันจะไป”
สมใจอึ้ง พูดไม่ออกอีกเลย
เกือบรุ่งสาง บรรยากาศที่ม่วนแต๊ยังคงสดชื่นสวยงาม เจ้าคุณขี่มอเตอร์ไซค์ให้สมใจซ้อน ช่วยกันเข็นข้ามเนินบ้าง สองคนนั่งคุยกันดูพระอาทิตย์ขึ้น โดยมอเตอร์ไซค์คันเก่งจอดอยู่ด้วย
“นายจะไปนานมั้ย”
สมใจถาม จนเจ้าคุณอึ้ง
“นายต้องให้ลุงกำโป๊งเอามอเตอร์ไซค์ไปใช้บ้างนะ ไม่งั้นเครื่องมันจะเสียอีก กว่านายจะกลับมา”
สมใจแกล้งเฉไฉ เจ้าคุณอึ้งไป สมใจยังคงปลอบใจตัวเอง
“แต่..นายคงไปไม่นานหรอก ใช่มั้ย”
เจ้าคุณอึ้ง สมใจรอคำตอบ
“ใช่มั้ย!”
เจ้าคุณมองหน้าสมใจ พูดอะไรไม่ออก สุดท้ายตัดสินใจรวบตัวสมใจมากอดแน่น สมใจอึ้ง พูดไม่ออกเช่นกัน แถมมือไม้อ่อนแรงไม่ขัดขืน ปล่อยให้เจ้าคุณกอดแน่นอยู่อย่างนั้นซักพักเจ้าคุณพูดไปทั้งที่ยังกอดสมใจอยู่
“อย่าโกรธผมนะ”
สมใจฟังไม่ถนัด
“ว่าไงนะ”
เจ้าคุณค่อยๆ ผละออก มองหน้าสมใจ
“อย่าโกรธฉันนะ..สมใจ”
สมใจไม่ค่อยเข้าใจความหมาย
“ไม่เป็นไรหรอก นายคงกลัวใช่มั้ย เดี๋ยวจะต้องไปโรงพยาบาลแล้ว”
เจ้าคุณยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่
“ไม่ต้องกลัวนะ หมอบอกว่าจะพานายไปเช็คให้ละเอียดแค่นั้นเอง ไม่นานก็คงได้กลับบ้าน”
เจ้าคุณยิ่งอึ้ง พูดไม่ออก
“รู้มั้ย..ฉันตั้งใจจะไปส่งนายที่บ้านลุงกำโป๊งด้วยนะ”
เจ้าคุณมองสมใจอย่างอึ้งและซึ้งใจ
“ทำไม ไม่อยากให้ไปส่งเหรอ ตามใจ ไม่ไปส่งก็...”
ไม่ทันได้พูดจบ เจ้าคุณก็รวบตัวสมใจมากอดแน่นอีกครั้งแบบไม่อยากปล่อยสมใจ
ที่บริษัทก้องเกียรติ เสียงโทรศัพท์ระรัวดังลั่นไปหมด จอยสีหน้าหวาดหวั่นนั่งอุดหูอย่างสยองขวัญ
“ไอ้บ๊วย! รับซิวะ”
“ไม่เอาอ่ะ โดนด่าจนหูบวมไปหมดแล้ว”
“โอย...ใจคอจะไม่หลับไม่นอนกันมั่งเลยรึไงคะแฟนๆ โธ่! บอสก้องกับบอสกิ๋งของจอยเมื่อไหร่จะกลับมาซะที ฮือๆ”
วิบูลย์ในสภาพชุดนอน หอบหมอนมาด้วย เปิดประตูผลัวะเข้ามา
“นั่นน่ะซิ อั๊วก็อยากจะรู้เหมือนกัน เมื่อไหร่จะกลับ”
“ว๊าย! เสี่ยขา มาทำไมเนี่ย แล้วนี่”
“ก็อั๊วไม่มีที่จะนอนน่ะซิ เมียอั๊วโกรธที่อั๊วทำให้อ้ายขุนทองอยู่ที่ม่วนแต๊ต่อไม่ได้ อีเลยไล่อั๊วออกจากบ้าน”“ห๊า!”
ลูกน้องอีกคนโผล่พรวดเข้ามา
“แย่แล้วเจ๊ เว็บจะล่มแล้ว แฟนๆ ด่ากระจายเลย เขาไม่อยากให้อ้ายขุนทองกลับบ้านอ่ะ ทำไงดีเจ๊”
“โอ๊ย ถ้ารู้ ฉันคงไม่เป็นแบบนี้หรอกเว๊ย เอิ้ก!”
จอยเป็นลม ลูกน้องช่วยกันปฐมพยาบาลอลหม่าน วิบูลย์ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้
เช้านั้นเวลาต่อมา ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เจอาร์ เดินลงบันไดนำลงมาแล้วชะงัก เจ้าคุณเดินตามลงมาแล้วกำโป๊งนั่งอยู่บนแคร่ โดยมีไส้อั่วยืนอยู่ด้วย กำโป๊งดูเศร้า และฝืนทำอะไรไม่ค่อยถูกในวันที่ขุนทองหลานจำเป็นต้องกลับกรุงเทพฯ
“ไง จะไปกันแล้วเรอะ”
ทุกคนเดินลงมา ก้องเกียรติซึมอย่างเห็นได้ชัด
“ครับลุง ขอบคุณลุงมากนะครับ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง”
ก้องเกียรติกราบกำโป๊งที่แอบซึมแต่หันไปเห็นไส้อั่วที่มองๆ อยู่ก็เลยทำเนียน
“โห่ย มานอนแค่ 2-3 คืน ไม่ต้องมาขอบอกขอบใจอะไรหรอกหมอ ฝากดูอ้ายขุนทองมันด้วยละกัน”
เจ้าคุณมองกำโป๊งอย่างแอบคิดถึง แล้วเดินมาข้างๆ ก้มลงกราบ
“ขอบคุณนะครับลุง”
สองคนมองหน้ากัน กำโป๊งตบไหล่เจ้าคุณ
“ เออ..โชคดีนะ คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง เอ้า! ไป ไปกันได้แล้ว อย่าโอ้เอ้ กว่าจะถึงกรุงเทพฯ เดี๋ยวจะค่ำมืด”
กำโป๊งรีบตัดบท ไม่อยากให้เศร้าไปกว่านี้
“งั้นพวกเราลานะคะ”
กิ่งแก้วเอ่ยก่อนลา ทุกคนยกมือไหว้ลุงกำโป๊ง ไส้อั่วปรี่เข้ามาหาเจ้าคุณ
“กลับมาเร็วๆ นะ..อ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณชะงัก อึ้ง ฝืนยิ้ม ตบหัวไส้อั่วเบาๆ ก่อนจะเดินออก แต่ชะงัก
“อ้ายขุนทอง!”
เจ้าคุณและคณะอึ้ง หวานเจี๊ยบวิ่งกรูเข้ามาแข่งกับลำใย ที่ปรี่เข้ามาแย่งกันเกาะแขนซ้ายขวา
“หวานเจี๊ยบเอาน้ำแดงมาให้กินระหว่างทางนะจ๊ะ จะได้ชื่นใจหายคิดถึงหวานเจี๊ยบ”
“อมบ๊วยของแทใยดีกว่าจะได้ตาสว่างจ้ะอ้ายขุนทอง”
หวานเจี๊ยบกันลำไยแย่งกันเอาใจเจ้าคุณ ดำเกิงพร้อมสมุนเดินก๋าเข้ามา
“เฮ่ยๆ อย่าไปกินของนังลำใยมันนะอ้ายขุนทอง ประเดี๋ยวของจะเข้าตัว”
“ไอ้บ้า!”
ลำไยด่าดำเกิง อีกมุมสมศรีเข้ามาพร้อมคำปุย และแคบหมู ที่เตรียมอาหารมาให้
“กินข้าวนึ่ง จิ้นหมู ของฉันดีกว่า เอามาเผื่อคุณหมอด้วยนะจ้ะ”
สมศรีส่งให้เจ้าคุณและทุกคนซึ้งใจ สมหมายเข้ามาพร้อมปลัดจืด
“เดินทางปลอดภัยนะขุนทอง คุณหมอ”
สมหมายอวยพร ปลัดจืดยิ้มให้เจ้าคุณ เจ้าคุณเริ่มใจหาย ชาวบ้านกรูกันเอากล้วย ผลไม้ มาให้เจ้าคุณและทีมหมอพยาบาลจำเป็นไว้กินระหว่างทาง
“เอาล่ะๆ ขอบใจทุกคนที่มีน้ำใจกับอ้ายขุนทองหลานข้า ไปได้แล้ว เดี๋ยวจะสาย”
“ขอบใจทุกคน ฉันไปก่อนนะจ๊ะ”
เจ้าคุณยกมือไหว้ แล้วหันไปสวมกอดกำโป๊ง เจ้าคุณและเพื่อนกำลังเดินออก
“เดี๋ยว!”
เจ้าคุณชะงักสมใจเดินเข้ามา เอาชายื่นให้
“ชาม่วนใจ๋ เหลือห่อสุดท้าย ฉันให้นาย”
เจ้าคุณรับไว้ สองคนมองหน้ากัน ก้องเกียรตอเดินมาตบไหล่เจ้าคุณเบาๆ ก่อนจะเดินนำออกไป
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ยกมือไหว้ทุกคน
“ ขอบคุณนะครับ,ค่ะ ไปก่อนนะ”
เจ้าคุณมองสมใจก่อนจะค่อยๆ เดินออก ชาวบ้านที่คอยส่ง เจ้าคุณจดจำบรรยากาศภาพสุดท้ายทั้งเศร้าและคิดถึง ทันใดนั้นเจ้าคุณหยุดกึก
“ไม่!”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ ชะงัก หันหลังกลับมามองเจ้าคุณ
“ฉันไม่ไปแล้ว”
สมใจอึ้ง ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว มองหน้ากันดีใจ ปรี่มาหาเจ้าคุณ
“แก..เอ๊ย! นายว่าไงนะ นายขุนทอง”
“ฉันไม่ไปได้มั้ย..หมอ”
ก้องเกียรติดีใจออกนอกหน้า
“ได้ซิ! ทำไมจะไม่ได้ ไชโย้”
ทุกคนงง กำโป๊งตกใจ
“เฮ่ยๆ! ยังไงกันเนี่ย..คุณหมอ ไม่เอามันไปตรวจแล้วเรอะ”
“เอ่อ..จริงๆ..ก็..ไม่จำเป็นหรอกนะครับ”
ทุกคนงงทำไมเปลี่ยนแปลงง่ายดาย
“คือว่า..จากการเฝ้าดูอาการ 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ขุนทองก็ไม่มีอาการอะไรที่ผิดปกติ ผมคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเอาตัวขุนทองไปกรุงเทพฯ ในตอนนี้หรอกครับ”
“อ้าว!”
กำโป๊งมึน แต่ชาวบ้านชอบอกชอบใจกันใหญ่ ทุกคนรุมกอดเจ้าคุณ โดยเฉพาะหวานเจี๊ยบ ลำไย
จังหวะหนึ่งสมใจยิ้ม มองตาเจ้าคุณ ปลัดจืดมองอย่างข้องใจ เมื่อเห็นสมใจและเจ้าคุณยังคงยิ้มให้กัน
อ่านต่อตอนที่ 7 เวลา 17.00 น.