รักออกอากาศ ตอนที่ 4
ที่ห้องคอนโทรลเวลาเดียวกันนั้น ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว และทีมงาน ต่างก็ตกใจเมื่อเห็นนักเลง 3 คนกำลังจะจัดการกับเจ้าคุณ เพราะไม่ใช่ทีมงานของตน
“เฮ้ย! ใครน่ะ”
“แย่แล้วเจ้าคุณ”
ลูกน้องกรูกันมาดูจอทีวี
เหตุการณ์ในตลาดยังคงชุลมุนหวานเจี๊ยบโวยวาย
“ทำไงดี ทำไงดี”
“ต้องรีบไปตามปลัด ขึ้นรถเร็ว!”
แคบหมูคว้าชามโจ๊กพุ้ยใส่ปากไปด้วย ขณะหันไปบอกคนงาน นักเลงคนหนึ่งโดนเจ้าคุณต่อยถลามาใกล้แคบหมู แคบหมูเอาชามโจ๊กร้อนๆ ราดใส่หัวจนนักเลงคนนั้นร้องจ๊าก แคบหมูกับคนงานขึ้นรถ แต่แคบหมูดันขึ้นที่นั่งคนขับ คนงานขึ้นไปนั่งข้างๆ แล้วนึกได้
“เฮ้ย! แล้วจะไปยังไง พี่มาขับซิ”
คนงานกับแคบหมูสลับที่กัน คนงานรีบขับออกไปทันที เจ้าคุณยังลุยนักเลงอยู่ มีบางจังหวะเกิดเพลี่ยงพล้ำแต่หวานเจี๊ยบเอาที่ไสน้ำแข็ง ตบเปรี้ยงปักหน้าลูกน้องนักเลงไว้ได้คนหนึ่ง ดำเกิงกับเคนและติ๊ก เห็นเจ้าคุณแล้วฮึดสู้กับลูกน้องนักเลงอีกคนนึง ดำเกิงหวิดเพลี่ยงพล้ำแต่เจ้าคุณเข้ามาช่วยไว้ทัน ดำเกิงแอบซึ้งใจ แม่ค้าโจ๊กเอาโจ๊กร้อนๆ ราดหน้าลูกน้องนักเลงไปอีกคน
ชาวบ้านคนจ้องดูทีวีในร้านค้า ยายแก่ผัดข้าวค้าง ตาจ้องทีวี หลานเล็กๆ และลูกค้าในร้านก็ถือช้อนค้าง เพราะลุ้นเอาใจช่วยเจ้าคุณในทีวี
“อ้ายขุนทอง! สู้ซิลูก สู้มัน”
ยายถลกผ้าถุง ชูตะหลิวลุ้นยังกะเชียร์มวย
ร้านหวานเจี๊ยบ ดำเกิง เคน ติ๊ก หวานเจี๊ยบ แม่ค้าโจ๊ก ชาวบ้าน ฯลฯ ช่วยกันอัดนักเลงจนน่วม วิ่งหนีหางจุกตูด
“อัดมันให้น่วม” เจ้าคุณสั่ง
“ยำมันให้เละ!” ดำเกิงตะโกนบ้าง
แล้วทุกคนก็ขำกันลั่น
แมทธิวนอนจ้องทีวีอยู่ที่คอนโดกำลังเดือดดาล เขวี้ยงรีโมททิ้งอย่างโมโหสุดขีด
“ไอ้พวกงี่เง่า!”
จัดการนักเลงที่แมทธิวส่งมาจัดการเจ้าคุณได้สำเร็จ หวานเจี๊ยบปรี่มาเกาะแขนเจ้าคุณ
“เก่งจังเลย เก่งที่สุดเลยอ้ายขุนทอง”
“พอได้แล้วน้องหวานเจี๊ยบ”
ดำเกิงเหล่ใส่หวานเจี๊ยบชะงักมองดำเกิงว่าจะหาเรื่องอะไรเจ้าคุณอีก ดำเกิงกระชากหวานเจี๊ยบออกไป แล้วปรี่ประชิดเจ้าคุณแทน
“ไอ้ขุนทอง! (เปลี่ยนเสียง เปลี่ยนอารมณ์ โผกอดแน่น) ข้าขอบใจเอ็งจริงๆ ขอบใจที่ไม่ทิ้งให้ข้าโดนตื้บแบนแต๊ดแต๋”
ดำเกิงเปลี่ยนเสียง และซาบซึ้งในน้ำใจจองเจ้าคุณที่เข้าช่วยตนจากนักเลง โผเข้ากอดแน่น จนเจ้าคุณเจ้าคุณแอบเขิน
“นี่ขนาดว่าข้ากับเอ็งเคยมีเรื่องกัน เอ็งยังอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยข้า สมแล้วที่เอ็งเป็นลูกหลานม่วนแต๊เหมือนข้า เพราะว่าลูกหลานม่วนแต๊ต้องหล่อ ต้องดี และมีน้ำใจ”
“อ้วก! ที่พูดมาน่ะ แกไม่เข้าข่ายเลยซักนิดอ้ายเกิง”หวานเจี๊ยบประชดด่าใส่ซ้ำ
“แหม น้องหวานเจี๊ยบอ่ะ ไป จะกินอะไร อ้ายเกิงเลี้ยงเต็มที่
“ไม่ได้หรอก ต้องไปส่งชาต่ออีก”
“ไม่ต้องไปแล้ว”
ทุกคนหันขวับ สมใจยืนหน้ายักษ์อยู่กับปลัดจืด มีแคบหมูทำหน้าสยองขวัญอยู่ใกล้ๆ ทำหน้าสงสารเจ้าคุณรอไว้ล่วงหน้า
“หมายความว่ายังไง ไม่ต้องไปแล้ว”
“ก็หมายความว่า ไม่ต้องไปแล้ว ไงล่ะ ชั้นสั่งให้ไปส่งของ แต่นายกลับมามีเรื่องมีราวไง อยากโชว์ฟอร์มอวดหญิงนักรึไง”
แคบหมูอ้าปากจะพูด สมใจก็ไม่ฟัง ผลักอกเจ้าคุณ
“กลัวชาวบ้านเขาไม่รู้เหรอว่าเจ๋ง ว่าเป็นนักเลง”
เจ้าคุณอึ้ง ทุกคนก็อยากจะอธิบาย แต่สมใจไม่หยุด
“พ่อแม่จะดีใจมั้ยเนี่ยถ้ารู้ว่าลูกเป็นนักเลงในตลาดแบบเนี้ย”
เจ้าคุณอึ้ง
“เธอไม่มีสิทธิ์พูดถึงพ่อแม่ฉัน!”
สมใจกับทุกคนตกใจ เจ้าคุณเดินพรวดออกไป
“ไอ้ใจ๋! แกไปพูดถึงพ่อเขาทำไม พ่อเขาตายไปแล้วนะเว๊ย”
สมใจอึ้งกับพูดตัวเอง รู้สึกผิดขึ้นมา
เจ้าคุณเดินมาตามทาง แล้วก็หยุดเดิน หันไปมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินที่บ้านม๊วนแต๊อากาศดี พลางคิดย้อนกลับไปสมัยเป็นเด็ก
ภาพในอดีตตอนเจ้าคุณยังเด็ก วัย7ขวบ เจ้าคุณถูกพ่อเอาไม้เรียวตี เจ้าคุณกอดอกร้องไห้ไม่หยุด โดยมีรจนาวรรณ ยืนร้องไห้อยู่ใกล้ๆ
“พอเถอะค่ะคุณ พอได้แล้ว”
“คุณหญิง อย่ายุ่ง! คุณน่ะตามใจลูกมากซะจนจะเสียคน”
“แต่ลูกยังเด็กอยู่ แกยังไม่ประสีประสา”
“ถ้าจะสอนก็ต้องสอนกันตั้งแต่เด็กนี่ล่ะถึงจะถูก”
รจนาวรรณยิ่งไม่กล้า พ่อเดินมาตรงหน้าเจ้าคุณที่ร้องไห้ไม่หยุด คุกเข่าตรงหน้า
“พ่อเคยสอนว่ายังไง”
“คุณพ่อสอนว่าให้รู้จักรักษาคำพูด ห้ามทรยศกับคำพูดของตัวเองครับ” เจ้าคุณสะอื้นไห้
“เจ้าคุณรับปากกับพ่อว่าจะทำการบ้านให้เสร็จ แล้วทำไมถึงทำไม่เสร็จ”
“เพราะผมห่วงเล่นเกมครับ ผมขอโทษครับคุณพ่อ ต่อไปนี้ผมจะไม่ทรยศกับคำพูดตัวเองอีกแล้ว”
พ่อพยักหน้าด้วยความพอใจ“
“ดีมาก! ลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น พูดอะไรออกไป ต้องทำให้ได้ เข้าใจมั้ย”
พ่อดึงเจ้าคุณมากอด เจ้าคุณกอดพ่อแน่น
วันที่เจ้าคุณไม่อยากให้มาถึงก็เกิดขึ้น ขณะที่เจ้าคุณกำลังเล่นรถบังคับกับพ่ออย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นพ่อเกิดอาการเจ็บที่หัวใจขึ้น เจ้าคุณไม่รู้เรื่อง พ่อเริ่มปวดมากขึ้นแต่พยายามแสดงออกว่าไม่เป็นอะไร
“เจ้าคุณ...”
“ครับ
“ไปเอายาบนโต๊ะในห้องทำงานให้พ่อ รีบเอามานะ”
“ครับ”
เจ้าคุณรีบวิ่งออกไป ทันทีที่เจ้าคุณออกไป พ่อทรุดเข่าลงกับพื้น เจ็บจนจะทนไม่ไหว เอามือกุมอกข้างซ้าย เริ่มกระตุกๆ เจ้าคุณวิ่งกลับเข้ามาเห็นสภาพพ่อแล้วตกใจ กลัว
“จะ..จะ..เจ้าคุณ..อะ..เอา..ยา..มา”
เจ้าคุณกลัวๆ กล้าๆ เอายาส่งให้พ่อ พ่อคว้าหมับมาแล้วกระตุกทีนึง ดูน่ากลัวสำหรับเจ้าคุณ พ่อพยายามเปิดฝายา ขวดหล่น ยากระจายเต็มพื้น พ่อยื่นมือไขว่คว้า ตาจ้องเจ้าคุณ
“อะ..เอา..ยะ..ยา..สะ..ใส่..ปาก..พ่อ..ที”
เจ้าคุณกลัวส่ายหน้าไม่กล้า
“เร็ว!”
เจ้าคุณสะดุ้งเฮือก รีบวิ่งไปหยิบยามาถือไว้เม็ดนึง แต่พอหันกลับมาก็เห็นว่าพ่อฟุบนิ่งไปแล้ว เจ้าคุณยืนอึ้ง
รจนาวรรณวิ่งพรวดมา ตะลึง
“คุณ ไม่จริง! ไม่จริ้ง! คุณ อย่าทิ้งชั้นไป”
เจ้าคุณยืนอึ้ง ตัวสั่น มือสั่นและในมือยังถือยาอยู่ในมือไว้แน่น
คืนนั้น สมใจดูกระวนกระวายใจ เดินไปเดินมา ผุดลุก ผุดนั่ง คำปุยเดินผ่านมาเห็นสมใจก็รู้ว่าเป็นอะไร
“ใจ๋ ไอ้ใจ๋! ถ้ารู้สึกผิดกับอ้ายขุนทองก็ไปขอโทษเขาซะ แกจะได้เลิกเดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่นแบบนี้ซักที”
คำปุยทักเพื่อน สมใจเริ่มหน้าถอดสี แก้ตัวพลัวัน
“ฉันไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย หิวแล้ว ไปทำอะไรกินดีกว่า”
สมใจรีบเดินออกไป คำปุยส่ายหัว พร้อมถอนหายใจ
“ไอ้ใจ๋เอ๊ย!”
ส่วนกำโป๊ง วันนี้ชะเง้อคอยาวรอเจ้าคุณเหมือนเช่นทุกวัน เพราะเลยเวลากลับบ้านมาสักพักแล้ว
“ทำไมป่านนี้ไอ้ขุนทองยังไม่กลับมาอีก”
ทันใดนั้นไส้อั่ววิ่งหน้าตาตื่นกลับมา
“ลุงแย่แล้ว แย่แล้ว!”
“อะไรของเอ็งห๊ะไอ้อั่ว”
“งูเห่า งูเห่าหลุดจากฟาร์ม!”
กำโป๊งใจเสีย เป็นห่วงเจ้าคุณขึ้นมาทันที
ที่ห้องคอนโทรล ก้องเกียรติกำลังโทรศัพท์กับกำโป๊งหน้าตาตื่นตระหนก
“ไอ้คุณยังไม่กลับบ้าน!”
ก้องหันไปทางกิ๋ง แล้วทั้งคู่ก็หันไปดูที่หน้าจอทีวี เห็นมุมต่างๆของหมู่บ้าน แต่ไม่เห็นเจ้าคุณ จึงโทรศัพท์หากำโป๊ง
“คุณไปไหนอ่ะก้อง” กิ๋งถามอย่างห่วงใยเพื่อน
“ผมยังไม่เห็นไอ้คุณเลยครับลุง”
กำโป๊งวิตกมากขึ้น
“แย่แล้ว!”
“มีอะไรรึเปล่าครับ ห๊ะ! งูหลุด!”
ก้องเกียรติคุยโทรศัพท์กับกำโป๊งทราบเรื่อง เจ้าคุณและงูหลุดพร้อมกันจึงตกใจ
“ฉันจะแวะไปที่บ้านนังใจ๋ บางทีไอ้ขุนทองอาจจะอยู่ที่นั่น”
กำโป๊งวางสายรีบออกไป ก้องวางสายหันไปมองกิ๋งใจไม่ดี
“แล้วคุณหายไปไหน ทำไมเราถึงหาไม่เจอ”
ก้องหันไปมองที่หน้าจอทีวี มองยังไง ก็ไม่เห็นเจ้าคุณ
เจ้าคุณนอนแผ่อยู่ในทุ่งหญ้าที่สูงท่วมตัว นอนดูดาวบนท้องฟ้า พลางคิดย้อนกลับไป ในวัยเด็กอีกครั้ง ในวันที่นอนดูดาวเจ้าคุณนอนบนตัวพ่อดูดาวด้วยกัน
“นู่นเขาเรียกว่าดาวลูกไก่”
“แล้วตรงนู้นล่ะครับ”
“นั่นดาวไถ”
“แล้วมีดาวคุณพ่อรึเปล่าครับ”
“นั่นไง ดาวของพ่อ ดาวที่ส่องแสงสว่างที่สุด เด่นที่สุดบนท้องฟ้า จำไว้นะเจ้าคุณ ถ้าลูกโตขึ้น ไม่ว่าลูกจะเจออุปสรรค หรือปัญหาอะไร ขอให้ลูกมองมาที่ดาวดวงนี้ ลูกจะรู้ว่าพ่ออยู่กับลูกเสมอ
เจ้าคุณมองที่ดาวดวงนั้น พ่อกอดเจ้าคุณเอาไว้”
เจ้าคุณยื่นมือออกไปเหมือนจะคว้าดาวดวงนั้น
“พ่อครับ ผมคิดถึงพ่อ”
เจ้าคุณน้ำตาซึม งูเห่าตัวหนึ่งกำลังเลื้อยเข้าไปในพงหญ้า
สมใจกินอะไรไม่ลง คำปุย สมหมาย สมศรี และแคบหมู นั่งอยู่ด้วย
“ใจ๋ ทำไมเขี่ยข้าวเล่นอย่างนั้นล่ะ”
“นั่นซิ ไม่สบายรึเปล่า”
“ใจจ๊ะลุง ใจของใจ๋มันไม่ฉบาย” คำปุยชิงพูดก่อน
“กินเข้าไปจะได้ไม่ต้องพูดมาก” สมใจตักอาหารเข้าปากคำปุย”
สมหมายกับสมศรีงงๆ ทันใดนั้นลุงกำโป๊งทะเล่อทะล่าเข้ามา ทุกคนหันไปมอง
“อ้าวตากำโป๊ง! หน้าตาตื่นหยั่งกับวิ่งหนีอะไรมา”
“ไอ้ขุนทองอยู่ที่นี่รึเปล่า”
สมใจผงะ หันไปมองคำปุยกับแคบหมู แล้วก็ใจไม่ดี
“ไม่อยู่ มีอะไรเหรอ”
“ไอ้อั่วมันบอกว่ามีงูเห่าหลุดออกมา กัดคนตายไปคนนึงแล้ว แล้วตอนนี้ไอ้ขุนทองก็ยังไม่กลับบ้านมาเลย
สมใจหน้าเสีย ทำช้อนร่วงใส่จานเสียงดัง ทุกคนหันไปมอง
คืนนั้นที่อนามัยหมู่บ้านม๊วนแต๊สมใจ สมหมาย สมศรี ลุงกำโป๊ง คำปุย แคบหมู และไส้อั่ว รีบวิ่งเข้ามาในอนามัย เห็นพยาบาลเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน สมใจรีบเข้าไปหา
“คนที่โดนงูกัดอยู่ไหนคะ”
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่เข็นศพออกมา ทุกคนหันไปมอง
“พวกเราขอดูศพหน่อยได้มั๊ยคะ”
“พวกคุณเป็นญาติรึเปล่าคะ”
“ผมเป็นลุงของมัน”
สมใจ สมหมาย สมศรี ลุงกำโป๊ง คำปุย เดินมาข้างเตียง คำปุยจะร้องไห้ไม่กล้าดู ลุงกำโป๊งค่อยๆเปิดผ้า ยังไม่เห็นว่าเป็นใคร
ที่ห้องคอนโทรล กิ่งแก้วเห็นเจ้าคุณเดินออกมาจากทุ่งหญ้า ก็ดีใจ รีบหันไปเรียกก้องเกียรติ
“ก้อง!”
ก้องเกียรติหันไปเห็นเจ้าคุณก็ยิ้มกว้างโล่งใจ
“ไอ้คุณ!”
ที่หน้าบ้านกำโป๊ง ทุกคนกำลังโจษขานกันเรื่องมีคนโดนงูกัดในหมู่บ้าน
“น่าสงสารไอ้หม่อง มันยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ๆ” สมหมายเอ่ยขึ้น
“นั่นซิ เห็นมาตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยก ไม่น่าจะอายุสั้นเลย เออ ว่าแต่พวกเราก็ยังไม่รู้เลยนะว่าขุนทองหายไปไหน”
สมใจยังจ๋อยอยู่ คำปุยหันไปเห็น
“ไอ้ใจ๋ ยังไม่หายจ๋อยอีกเหรอแก”
“จะหายได้ไง เพราะฉันแท้ๆที่ทำให้นายขุนทองหายตัวไปแบบนี้ ถ้านายนั่นเป็นอะไร ฉันจะทำไง”
คำปุย และไส้อั่วหันขวับมองตากันทันที
แล้วเจ้าคุณก็เดินออกมา ลุงกำโป๊ง สมหมาย สมศรีเห็น
“ไอ้ขุนทอง!”
สมใจกับคำปุยหันไปเห็นเจ้าคุณก็ดีใจกันสุดๆ ลุงกำโป๊งกระโดดกอดเจ้าคุณ เจ้าคุณงง
“ลุงเป็นไร”
“ข้าคิดถึงเอ็งน่ะซิ”
กำโป๊งกอดเจ้าคุณแน่น เจ้าคุณอึ้งๆ ที่มีคนเป็นห่วงอย่างจริงใจ เจ้าคุณหันไปเห็นสมใจยืนยิ้ม เจ้าคุณมอง สมใจรีบหุบยิ้ม
กลางดึกคืนนั้นกำโป๊งเดินมาคุยกับเจ้าคุณที่ห้องนอน เจ้าคุณหันมาทางลุงกำโป๊งสีหน้าแปลกใจ
“คิดว่าฉันโดนงูกัดตายเนี่ยนะ!”
“เออซิวะ ทุกคนเขาออกตามหาเอ็งกันให้ควั่ก เป็นห่วงเอ็งแทบตาย”
“จะมาห่วงฉันทำไม โอ๊ย! ลุงตบหัวฉันทำไม”
“หมั่นไส้น่ะซิ แหม พูดออกมาได้ ห่วงฉันทำไม ข้าจะบอกอะไรให้เอ็งฟัง ใครก็ตามที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านม่วนแต๊ ก็เปรียบเสมือนเป็นลูกเป็นหลาน พวกเรารักกันเหมือนพี่น้อง มีอะไรก็ช่วยกัน ไม่ใช่ตัวใครตัวมันเหมือนคนกรุงเทพอย่างเอ็ง
“พูดดีๆก็ได้ จะตบหัวทำไม”
“ต้องตบ จะได้จำ จำไว้ให้ดีด้วยว่า ใครๆ เค้าก็เป็นห่วงเอ็งกันทั้งนั้น อ้อ! โดยเฉพาะไอ้ใจ๋ หน้ามันงี้ซีดยังกะไก่ต้มเลยตอนที่นึกว่าเอ็งโดนงูกัดตายน่ะ”
เจ้าคุณชะงัก กำโป๊งพูดไปเรื่อยไม่ได้คิดอะไร เจ้าคุณนิ่งคิด โดยไม่รู้ว่าไส้อั่วลอบมองสังเกตอากัปกิริยาตัวเองอยู่
เช้าวันถัดมา เจ้าคุณออกมาจากบ้าน แล้วก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ เจ้าคุณหันไปเห็นสมใจขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดตรงหน้าบ้าน สมใจทำฟอร์ม
“พอดีว่าเมื่อเช้าฉันไปตลาด ขากลับผ่านมาทางนี้ ก็เลยแวะมารับนายไปไร่”
“ทำไมต้องแวะ”
“ตกลงเอาไง จะไปมั้ย”
สมใจ ทั้งยัวะทั้งแอบเก้อ เจ้าคุณไม่ตอบ ขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย สมใจสตาร์ทแต่ไม่ติด สมใจสตาร์ทอีกสองสามครั้งก็ไม่ติด
“เป็นอะไรอีกล่ะลูกแม่ ขัดใจแม่จริงๆเลย ลงมาก่อน”
เจ้าคุณลงมา สมใจนั่งยองๆดูมอเตอร์ไซด์
“เก่ายังกะเศษเหล็ก”
“มันเป็นของพ่อฉัน พอฉันโต พ่อก็ยกให้ฉัน ถึงมันจะเก่า แต่มันมีคุณค่าทางใจ ไม่เคยได้อะไรจากพ่อเลยซิท่า”
เจ้าคุณอึ้ง สมใจชะงักกึก เอามือปิดปากตัวเอง
“เอ่อ โทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
สมใจหน้าแหย แต่เจ้าคุณหน้าเฉย สมใจรีบเฉไฉไปก้มหน้าก้มตาซ่อมมอเตอร์ไซค์
เจ้าคุณมองสมใจซ่อมมอเตอร์ไซค์
“ทำไมเธอทำอะไรเป็นเยอะแยะ”
“เอ๊า! ทำไม่เป็นแล้วใครจะทำให้ล่ะ เอ้า! ถือไว้หน่อย”
เจ้าคุณรับชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์ไว้ แป๊บนึงสมใจแบมือขอรับกลับ เจ้าคุณยื่นให้แล้วเอามือลูบหน้าเช็ดเหงื่อตัวเองคราบดำจากมือติดหน้า สมใจยิ้ม เจ้าคุณหันไปมอง
“ทำไม”
“หน้านายเปื้อน”
สมใจปาดรอยเปื้อนบนหน้าให้ เจ้าคุณชะงัก มองสมใจ สมใจรู้ตัวรีบเอามือออก ปัดมือ แล้วสตาร์ทเครื่อง เครื่องสตาร์ทติด
“เยส ไง ฉันเก่งมั๊ย”
“ก็ พอได้”
“ขึ้นมาได้แล้ว”
เจ้าคุณซ้อนท้ายรถ สมใจขับรถออกไปแล้วก็แอบอมยิ้ม รถมอเตอร์ไซค์สมใจแล่นไปตามทางผ่านวิวทิวทัศน์สวยของหมู่บ้าน จังหวะนั้นยางรัดผมสมใจหลุด ทำให้ผมปลิวสยายตามแรงลมมาโดนหน้าเจ้าคุณ เจ้าคุณสูดกลิ่นหอมของผมสมใจเผลอเอามือโอบเอว สมใจตกใจ เบรกเอี๊ยด เจ้าคุณตัวเด้งไปตามแรงเบรก สมใจหันหน้ามาพอดี ทำให้จมูกเจ้าคุณแตะแก้มสมใจ สมใจผงะ ตีหัวเจ้าคุณอัตโนมัติ
เจ้าคุณสะดุ้ง “โอ๊ย!”
“เห็นฉันดีด้วยก็เลยฉวยโอกาสงั้นเหรอ”
“ฉันเปล่านะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เมื่อ..เมื่อ..เมื่อกี๊ฉันจะหล่น ก็..ก็...ก็เลยรีบจับเอวเธอ พอเธอเบรก ฉะ..ฉะ..ฉัน..ก็..ก็..” เจ้าคุณติดอ่างขึ้นมาทันที
“เออๆ พอแล้ว รำคาญ ขี้เกียจฟัง เฮ้ย! ยางรัดผมหายไปไหน
สมใจมองหาแต่ไม่เจอ “มานี่”
สมใจหันไปมอง เจ้าคุณรวบผมให้สมใจ สมใจชะงักไปนิดๆ รู้สึกหัวใจเต้นแรง
“ฉันจับผมให้เธอเอง”
สมใจมองอึ้ง
“ไปซิ เดี๋ยวก็สายหรอก”
สมใจอึ้ง ค่อยๆ ออกรถไป เจ้าคุณอมยิ้ม โดยไม่รู้ตัวสมใจขี่มอเตอร์ไซด์มีเจ้าคุณซ้อนท้าย แล่นไปตามถนนที่สวยงามและน่าประทับใจ
ขับมาได้สักพักสมใจจอดรถมอเตอร์ไซด์ สมใจหันไปทางเจ้าคุณ
“ขอโทษ”
เจ้าคุณชะงัก หันไปมองสมใจอย่างไม่เข้าใจในเรื่องที่อีกฝ่ายขอโทษ
“อะไรนะ”
“ฉันบอกว่าขอโทษ”
“ขอโทษ ขอโทษฉันเรื่องอะไร”
“ที่ฉันพูดถึงพ่อของนาย ทั้งๆที่ เออ พ่อนาย ไม่อยู่แล้ว”
เจ้าคุณผงะ อึ้งช็อกมาก
“ฉันขอให้ลุงกำโป๊งเล่าให้ฉันฟังเองแหละ ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วว่านาย เออ ต๊องจริง ไม่ได้โกหก”
เจ้าคุณเงียบ เพราะแปลกใจว่ากำโป๊งไปเล่าอะไรให้สมใจฟัง แต่สมใจเข้าใจว่าเจ้าคุณไม่หายโกรธ
“นี่นายยังไม่หายโกรธฉันเหรอ”
เจ้าคุณยังเงียบอยู่เพราะงง
“ขี้งอนเป็นผู้หญิงไปได้ งั้นเอางี้ นายอยากให้ฉันทำไรให้ บอกมาเลย”
“ทุกอย่าง”
สมใจพยักหน้า เจ้าคุณมองสมใจแล้วก็ยิ้มมุมปาก
ที่บ้านสมใจ คำปุยกับแคบหมูมองสมใจด้วยความตกตะลึง
“จะสอนอ้ายขุนทองขี่มอเตอร์ไซค์”
“เออ ทำไมต้องตกใจกันด้วย”
“พุธโธ ธัมโม สังโฆ ไม่ตกใจไม่ได้หรอก แกญาติดีกับอ้ายขุนทองตั้งแต่เมื่อไหร่”
“นั่นซิ ทำไมแค๊บตกข่าว โอ๊ย อารมณ์เสีย”
“ที่ฉันตกลงจะสอนนายขุนทองขี่มอเตอร์ไซด์ ไม่ใช่ว่าฉันญาติดี ฉันก็แค่ไถ่โทษเรื่องที่พูดถึงพ่อเขา ก็แค่นั้น”
“ขอให้แค่นั้นจริงๆเถอะ
“อะไรของแกห๊ะไอ้ปุ๋ย แค่นั้นอะไร”
“หึ้ย! ไม่ได้ดั่งใจ แคบพูดเอง พี่ปุ๋ยเขาคิดว่าพี่ใจ๋เอาการสอนอ้ายขุนทองขี่มอเตอร์ไซด์มาบังหน้า เพราะที่แท้พี่ใจ๋กับอ้ายขุนทองแอบปิ๊งกันแล้วน่ะซิ”
“แกคิดแบบนั้นเหรอไอ้ปุ๋ย
“ใช่ ว๊าย!”
คำปุยหลุดปาก เลยเจอสมใจเขกหัวแก้เขิน
“นี่แน่ะ”
“โอ๊ย!”
“พวกแกเนี่ยนะ วันๆคิดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เพ้อเจ้อที่สุด”
สมใจรีบเดินออกไปเพราะใจเต้นกับคำพูดของแคบหมู คำปุยหันไปเขกหัวแคบหมูเอาคืน
“โอ๊ย! พี่ปุ๋ย เจ็บนะ”
“เพราะแกคนเดียวเลยนังแคบ ไปบอกไอ้ใจ๋ทำไมก็ไม่รู้”
“คนอย่างแคบไม่ชอบทำอะไรหลบๆซ่อนๆ มีอะไรก็เปิดเผยกันไปเลย ชัดเจน เคลียร์ๆ”
“ถ้างั้น เราไปแอบดูกันมะ”
“ชัดเจน เคลียร์ๆ ฮิฮิ”
คำปุยกับแคบหมูรีบออกไปด้วยกัน
ถนนสวยยามเย็น เจ้าคุณยืนอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซด์สมใจ สมใจกำลังอธิบาย
“มอเตอร์ไซด์ฉันเป็นเกียร์ธรรมดา สิ่งแรกที่นายต้องทำก็คือ เข้าเกียร์ว่าง สตาร์ทเครื่องให้ติด”
เจ้าคุณตั้งใจดู สมใจอธิบายไปเรื่อยๆ
“ใช้มือซ้ายบีบคลัทช์ค้างไว้ อย่าพึ่งปล่อย เท้าซ้ายเข้าเกียร์ 1 โดยการตบลงไปที่ด้านหน้า 1 สเต็ป ใช้มือขวาค่อยๆเร่งคันเร่ง พร้อมกับค่อยๆปล่อยคลัทช์ที่มือซ้าย รถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป แต่ถ้าปล่อยคลัทช์เร็วเกินไป รถจะพุ่งตัวออก แบบนี้ อย่าตกใจ บีบคลัทช์กลับเข้ามาอย่างเก่า สมใจดับเครื่อง ลงจากรถ หันไปทางเจ้าคุณ
“ค่อยๆฝึกตอนออกตัวที่เกียร์ 1 ให้ชำนาญก่อน อ่ะ ลองดู”
“เกียร์ว่าง สตาร์ท”
เจ้าคุณทำตามที่สมใจบอก แต่รถกระชากไปอย่างแรงพุ่งหัวทิ่มข้างทางดูตลก
“ ว๊าย! ลูกแม่!”
สมใจตกใจ รีบเข้ามาดูรถก่อนเจ้าคุณเสียอีก
“เฮ้ย! ลูกแม่เป็นไงบ้าง”
“ลูกเธอไม่เป็นไรหรอก ถามฉันดีกว่ามั้ย”
“นายมันถึก ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก ระวังหน่อยซิ รถคันนี้ฉันรักมากนะ”
เจ้าคุณเซ็งส่ายหน้า สมใจมองสภาพเจ้าคุณแล้วขำ เจ้าคุณพยายามประคองรถมอเตอร์ไซด์ สมใจลุ้น สุดๆ เห็นเจ้าคุณขับเข้าข้างทาง สมใจตกใจรีบเข้าไปดู เจ้าคุณขับมอเตอร์ไซด์อีก ครั้งนี้ทรงตัวดีขึ้น สมใจลุ้น เจ้าคุณค่อยๆประคองจนทำได้ เจ้าคุณดีใจสุดๆ หันมาทางสมใจด้วยความดีใจ เผลอปล่อยมือจากแฮนด์ แล้วก็นึกได้ รีบจับแฮนด์ สมใจโล่งอก แต่ก็ยิ้มที่เจ้าคุณทำสำเร็จ เจ้าคุณเลี้ยวรถกลับมาจอดตรงหน้าสมใจ แล้วก็ลงจากรถ เข้ามาจับมือสมใจ
“ฉันขี่มอเตอร์ไซด์เป็นแล้ว”
สมใจยิ้มตอบ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้าคุณจับมือ เจ้าคุณก็นึกขึ้นได้เช่นกัน ก้มมองมือตัวเองที่จับมือกัน ก่อนจะรีบปล่อย สมใจกับเจ้าคุณหันหน้ากันไปคนล่ะทาง ทำหน้าไม่ถูก ดูเก้อๆเขินๆกันไป คำปุยกับแคบหมูเห็นทุกอย่าง หันมามองหน้ากัน
“ชัดมั้ยเนี่ย”
คำปุยถามแคบหมู
“เคลียร์มั้ยอ่ะ”
แคบหมูถามกลับอย่างมั่นใจ สองคนก็หันมาจ้องสมใจกับเจ้าคุณตาเขม็ง ในขณะที่สัมพันธภาพของสมใจและเจ้าคุณดีขึ้นมากในเวลานี้
อ่านต่อหน้า 2
รักออกอากาศ ตอนที่ 4 (ต่อ)
สมใจสอนเจ้าคุณจนขับมอเตอร์ไซค์ได้ เจ้าคุณก้มมองมือตัวเองที่จับมือสมใจ ทั้งคู่ชะงัก ก่อนจะรีบปล่อย สมใจกับเจ้าคุณหันหน้ากันไปคนละทาง ต่างทำหน้าไม่ถูก ดูเก้อๆเขินๆ
จังหวะหนึ่งสมใจหันไปเห็นคำปุยหน้าแจ๋นแหล๋นออกมาตรงที่ซ่อน คำปุยตกใจรีบหดหัวหลบ สมใจหรี่ตามอง เจ้าคุณมองสมใจเป็นเชิงถามว่ามีอะไร สมใจยิ้มเจ้าเล่ห์ พูดกับเจ้าคุณแบบไม่ออกเสียง คำปุยกับแคบหมูหน้าตาตื่นเต้น ก้มหัวงุดกันอยู่ทั้งคู่เพื่อสมใจจะได้ไม่เห็น
“ไอ้ใจ๋มันต้องเห็นฉันแล้วแน่ๆ”
“ไม่นะ! ถ้าเห็น เจ๊ใจ๋ไม่เงียบกริบอย่างนี้หรอก ป่านนี้เจ๊แกด่าป่าแตกไปแล้ว”
สมใจแอบฟังทำหน้าเคืองสุดขีดที่โดนเม้าท์ แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มโหด
“เอ ป่านนี้ยังเงียบอยู่แฮะ รึว่าโดนอ้ายขุนทองจับจูบปากเลยไม่มีปากจะด่าพวกเรา ฮ่าๆ”
ว่าแล้วคำปุย กับแคบหมูขำกลิ้งแบบไม่ออกเสียง สมใจตาโตทำหน้าเหี้ยม แล้วหย่อนรังมดแดงใส่คำปุย กับแคบหมู สองคนคันยิบไปทั้งตัวจนต้องกระโดดเหยง
“อ๊าย! พุธโธ ธัมโม สังโฆ”
“แกกับนังแค๊บมาแอบดูฉันทำไม” สมใจถามน้ำเสียงฉุน
“แอบดูอาไร้ พวกเราแค่บังเอิญเดินผ่านมาตะกี้นี้เอง ชิมินังแค๊บ” คำปุยปฏิเสธลั่น
“ชิมิ ชิมิเจ้า” แคบหมู หันไปทำหน้าซื่อตาใสกับสมใจ
“หน็อย บังเอิญผ่านมา แล้วหมาที่ไหนมันเม้าท์ว่าฉันโดนอ้ายขุนทองจับจูบปาก”
พูดจบก็สะดุ้งโหยงซะเอง
“อะไรวะ” เจ้าคุณเองก็สะดุ้ง
คำปุยรีบเปลี่ยนเรื่องทันที ทำทีเป็นเพิ่งเห็นเจ้าคุณ รีบจับแขนแคบหมูเดินออกไป
“อ้าวอ้ายขุนทอง มายืนทำหล่ออะไรตรงนี้”
“ฉันมาเรียนขี่มอเตอร์ไซค์กับสมใจ” เจ้าคุณตอบ
“แล้วอยากได้คนนั่งซ้อนท้ายเป็นเพื่อนอ๊ะป่าว” คำปุยแซวอีกดอก
“นังปุ๋ย!” สมใจฮึดฮัด
“ยังงี้ซ้อน 4 เลยดีมั้ยอ้าย” แคบหมูเสนอ
สมใจหันไปมองเจ้าคุณ “นี่ เพิ่งจะมือใหม่หัดขี่อย่าซ่าส์”
“จะไปยากอะไร อาจารย์ใจ๋ก็โชว์ฟอร์มซิเจ้า”
แคบหมูท้าสมใจให้ขับแทนเจ้าคุณเสียเอง
ไม่นานหลังจากนั้น สมใจขี่มอเตอร์ไซค์นั่งซ้อน 3 เริ่มด้วยแคบหมู คำปุย และเจ้าคุณอยู่ท้ายสุด คำปุยดูแฮปปี้ลั้นลามากๆ ที่เจ้าคุณนั่งเอาหลังแนบชิดตัวเอง รีบร้องบอกเพื่อนสาว
“ไปเลยนังใจ๋!”
สมใจสตาร์ท ขับออกไป คำปุยดี๊ด๊าทำท่าขยับไปมาตลอด เจ้าคุณรู้สึกไม่ไหวแล้ว
“หยุด! หยุดก่อน”
สมใจเบรกเอี๊ยด เจ้าคุณกระแทกคำปุยอย่างแรง
“อร้าย! มาเสยท้ายกันอย่างนี้ ก้นชนฉันบุบกันพอดีอ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณรีบลงจากรถ เดินมาหาสมใจ
“ฉันว่าฉันขับมั่งดีกว่า”
เจ้าคุณเบียดขึ้นไปนั่ง สมใจจำต้องถอย ทำให้แคบหมูกับคำปุยต้องถอยไปด้วย
“อะไรของนายเนี่ย”
เจ้าคุณรีบสตาร์ทแล้วบิดอย่างแรง รถกระชากตัว ทำให้คำปุยหล่นตุ่บ
“อ๊าย!”
เจ้าคุณเบรกเอี๊ยด เจ้าคุณ สมใจ แคบหมูหันไปมองคำปุยที่นั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้นหน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บ
“อูย คราวนี้ห้องเครื่องพังหมดเลยอ่า ฮือๆ”
ทั้งสมใจ เจ้าคุณ และแคบหมูต่างพากันขำคำปุยที่ตกมอเตอร์ไซค์ก้นจ้ำเบ้า
พอมาถึงบ้านสมใจ เจ้าคุณ กับสมใจประคองคำปุยที่เจ็บก้นกบเข้ามาในบ้าน โดนมีแคบหมูตามาติดๆ สมหมายกับสมศรีเห็นก็รีบเดินออกมา
“โดนใครถีบมา ห๊ะ!” สมหมายถามคำปุย
คำปุยอ้าปากจะพูดแต่แคบหมูสาระแนตอบแทนเสียก่อน
“ไม่ได้โดนใครถีบมาหรอกจ้ะ พี่ปุ๋ยตกมอ’ไซค์”
“เอ้า แล้วไปขี่อีท่าไหน ถึงตกมอเตอร์ไซค์”
คำปุยอ้าปาก แคบหมูตอบแทนให้อีกรอบ
“เจ๊ปุ๋ยไม่ได้ขี่ แต่คนขี่คืออ้ายขุนทองเจ้า”
สมหมายหันขวับมองเจ้าคุณ
“นี่! นังแค๊บ ตกลงแกรึฉันที่เจ็บกันแน่” คำปุยหันมาบ่นแคบหมูที่ตอบแทนไปเสียทุกสิ่งอย่าง
“แหม ก็ห่วงว่าเจ๊จะเจ็บตูดจนพูดไม่ออก ก็เลยพูดแทนให้”
“เฮ๊อะ! ขี่มอเตอร์ไซค์ยังทำไอ้ปุ๋ยหล่น แล้วจะไปทำอะไรกิ๊น” สมหมายแดกดันเจ้าคุณ
“เอ๊ะตาหมาย ตั้งแต่เข้าวัยทองนี่เป็นยังไง ปากจัด กัดเก่งขึ้นเยอะเลยนะ”
สมศรีหันไปหยิกปากสมหมาย จนสมหมายต้องรับปัดออก
“โอ๊ย! คนนะ..ไม่ใช่หมา”
“ฉันกลับก่อนล่ะจ้ะ”
“เดี๋ยว! อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนซิ น้าเพิ่งทำเสร็จเลย” สมศรีชวน
“จะไปชวนมันกินทำไม บ้านอ้ายกำโป๊งก็มีข้าวกิน ให้มันกลับไปกินที่บ้านซิ”
“แหม พอดีเลยจ้ะน้าศรี ลุงกำโป๊งบอกว่าเย็นนี้ที่บ้านไม่มีอะไรกินเลยน่ะจ้ะ” เจ้าคุณผุดยิ้มมุมปากอยากแกล้งสมหมาย
“ว่าไงนะ”
สมหมายไม่พอใจ ไม่อยากให้เจ้าคุณอยู่ใกล้สมใจ เพราะหวงลูกสาว แต่ไม่อาจฝืนคำสั่งสมศรีผู้เป็นภรรยาที่รักได้
เจ้าคุณ สมใจ คำปุย แคบหมู สมหมาย และสมศรีนั่งกินข้าวด้วยกัน สมหมายมองเจ้าคุณที่นั่งติดกับสมใจก็ไม่พอใจ รีบลุกขึ้นมานั่งแทรกกลางระหว่างเจ้าคุณกับสมใจ
“ตาหมาย วันนี้แกเป็นอะไรของแก ยุกยิกๆ พิกล”
“วันนี้อยากนั่งข้างลูกสาวสุดที่รัก ไม่ได้เหรอไง”
“เดี๋ยวนี้ชักเยอะนะ”
สมหมายเหล่เจ้าคุณไม่ชอบขี้หน้าอย่างแรง เจ้าคุณไม่สนใจ เอื้อมมือไปตักอาหาร สมหมายรีบยื่นช้อนไปตักชิ้นเดียวกับเจ้าคุณ ทุกคนมอง ลุ้นว่าจะเกิดเรื่องอะไรรึเปล่า
เจ้าคุณเปลี่ยนไปตักอีกจาน สมหมายก็ตักบ้าง เจ้าคุณเริ่มไม่พอใจ แกล้งจะไปตักอีกจาน สมหมายรีบเอาช้อนตักดัก แต่เจ้าคุณเปลี่ยนใจกลับไปตักอาหารจานแรกใส่ปากหมับ เคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย ทำให้สมหมายหัวเสีย สมใจ กับแคบหมู เหล่มอง
“ฉันว่าพ่อหมายกับอ้ายขุนทองดูแปลกๆ นะไอ้ใจ๋” คำปุยเอ่ยขึ้น
“นั่นซิ”
“สงครามเย็นชัดๆ”
สมหมายหัวเสีย แล้วก็นึกอะไรออก หันไปทางเจ้าคุณ
“ขุนทอง แกงส้มดอกแคสูตรเด็ดของแม่ศรีเขา ลองซักนิดนะ กำลังร้อนๆ เลย
สมหมายมองตาเจ้าเล่ห์ ยกชามแกงร้อนๆมาให้เจ้าคุณ แล้วก็แกล้งทำหกใส่เสื้อเจ้าคุณ ทุกคนตกใจ เจ้าคุณสะดุ้งโหยง
“โอ๊ย!”
“ต๊ายตาย สุมาเต๊อะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
เจ้าคุณหันไปมองสมหมาย รู้ว่าสมหมายจงใจแกล้ง
“ขุนทองรีบถอดเสื้อออกมาก่อน เดี๋ยวเนื้อจะพอง” สมศรีร้องบอกเจ้าคุณทันที
“อุแม่เจ้า!” แคบหมูอุทาน
“ข้าบอกแล้ว นังแค๊บ! มันปะล้ำปะเหลือแต๊ๆ” คำปุยน้ำลายหก
เจ้าคุณถอดเสื้อ สมศรี สมใจ คำปุย และแคบหมูผงะ อ้าปากค้างกับหุ่นซิกแพค สมศรีปรี่เข้าเช็ดให้ คำปุย แคบหมูรุมเข้าช่วยเช็ดกันใหญ่ สมหมายยิ่งยัวะที่ผิดแผน กระชากมือสมศรีไม่ให้เช็ดเพราะหึง
“มันโตเป็นควายแล้ว แค่นี้มันเช็ดเองได้”
ไม่มีใครฟัง สมหมายเลยยกขันน้ำดื่มสาดตัวเองโครม แล้วแกล้งร้องโวยวาย
“โอ๊ย! น้ำหก! น้ำหก!”
ทุกคนหันขวับไปมอง สมหมายรีบถอดเสื้อ แต่พุงพลุ้ยมาก ทุกคนถึงกับเซ็ง ก้มหน้ากินข้าวกันต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สมหมายเสียเซลฟ์
“เฮ้ย! ข้าเปียกซ่กเลย หนาวนะเว๊ย”
สมศรีส่ายหน้าอย่างอนาถ โยนผ้าขี้ริ้วเต็มหน้าสมหมาย
“รีบๆ เช็ดซะเร็ว ทุเรศลูกกะตา”
ทุกคนหันไปดูซิกแพ็คเจ้าคุณกันต่อ ยกเว้นสมใจสมหมายเซ็งสุดๆ เจ้าคุณอมยิ้ม สมหมายแค้นใจ
เมื่อเจ้าคุณกลับบ้าน รีบไปซักเสื้อที่เปื้อนน้ำแกงทันที ไปถึงโยนเสื้อที่เปื้อนแกงใส่ลงในกะละมัง หันไปคุยกับไส้อั่ว
“ลุงกำโป๊งไปตั้งกังหันลมที่หมู่บ้านข้างๆ กลับพรุ่งนี้”
“จ้า ฉันไปนอนก่อนนะจ๊ะ”
ไส้อั่วหาวแล้วก็เดินออกไป เจ้าคุณกำลังจะนั่งซักผ้า แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เจ้าคุณหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที
ไม่นานเจ้าคุณยืนอยู่หน้าห้องลับ และจำได้ว่าครั้งหนึ่งกำโป๊งเคยออกมาจากห้องนี้ เจ้าคุณดูสายยูที่ล็อกหน้าห้อง ก็ยิ้มมุมปาก เอาคีมตัดเหล็กที่ถือไว้ขึ้นมา เตรียมจะตัด ก้องเกียรติและกิ่งแก้วที่อยู่หน้าจอมอนิเตอร์เริ่มเครียด
“เฮ้ย!”
“แย่แล้วอ่ะก้อง ถ้าเจ้าคุณเข้าไปในห้องนี้มีหวังรายการไฮโซบ้านเฮาของเราพังหมดแน่ ทำไงดีล่ะ”
ก้องนิ่ง เงียบ จนกิ๋งแปลกใจ
“ก้อง! เคขาถามว่าทำไงดี ทำไมนั่งเงียบอยู่ได้”
“เงียบก็เพราะไม่รู้ไง ว่าจะทำไงดี”
“เอ้า!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วหน้าเสียมองไปที่หน้าจอ กิ๋งไม่รู้จะทำไง รีบยกมือพนม หลับตา ปากก็พูดอะไรไม่รู้มุบมิบๆ ก้องเกียรติถอนใจเฮือก เจ้าคุณพยายามตัดเหล็ก แต่ตัดไม่ออก
“ทำไมมันแข็งอย่างนี้ อ๊าก!”
ที่บ้านสมใจ สมใจใส่ชุดนอนกำลังจะนอน แล้วก็ชะงักนึกขึ้นมาได้
“กุญแจมอไซค์! อยู่ไหนเนี่ย อยู่ที่ไอ้นายขุนทอง โธ่เอ๊ย!”
ปลัดจืดขี่มอเตอร์ไซด์มาตามทาง แล้วก็ชะงักที่เห็นสมใจขี่จักรยานมาจอดที่หน้าบ้านกำโป๊ง ปลัดจืดชะงัก รีบหยุดรถ แล้วเพ่งมอง ปลัดจืดสงสัย ส่วนสมใจเดินเข้าไปในบ้านกำโป๊งใกล้กับห้องลับ
หน้าห้องลับ เจ้าคุณพยายามตัดสายยูจนหมดแรง ถึงกับทรุดลงนั่งกับพื้น มองมือตัวเองด้วยความเจ็บ แต่แววตายังมุ่งมั่น เจ้าคุณเอาผ้าขาวม้าที่คาดเอวขึ้นมาคาดหัว หยิบที่ตัดเหล็กขึ้นมา หน้าตามุ่งมั่นพยายามตัดสายยู ด้านหลังเห็นสมใจเข้ามา ก็ชะงักเห็นเจ้าคุณที่มีผ้าขาวม้าโพกหัว สมใจตกใจ รีบหลบ
“ขโมย! แย่แล้ว หมู่บ้านเราไม่เคยมีขโมย ฮึ่ม แกตายแน่”
สมใจค่อยๆโผล่หน้าออกไปมองอีกครั้ง แล้วก็เหลือบไปเห็นท่อนไม้หรือท่อนเหล็กแถวนั้น สมใจคว้าขึ้นมากระชับในมือแน่นแล้วย่องเข้าไปหาเจ้าคุณ ปลัดจืดยืนอยู่นอกตัวบ้าน มองเข้าไปในบ้าน สีหน้ากังวลใจ
สมใจเข้าใกล้เจ้าคุณมากขึ้น แล้วก็เงื้อไม้ฟาดอย่างแรง เจ้าคุณสะดุ้งโหยง ทำคีมตัดเหล็กหล่นทับเท้าตัวเอง
“โอ๊ย!”
สมใจฟาดไม่หยุด เจ้าคุณต้องก้มหน้าและยกมือป้องกันตัวเองเอาไว้
“เฮ้ย! หยุด หยุด!”
“ไอ้หัวขโมย!”
เจ้าคุณเงยหน้าขึ้นมา จับมือสมใจหมับ
“จะบ้าเหรอ!”
“นายขุนทอง!”
สมใจตกใจที่รู้ว่าเป็นขุนทอง ทันใดนั้นมีมือปลัดจืดมากระชากไหล่เจ้าคุณให้หันไปแล้วต่อยเปรี้ยง เจ้าคุณเซถลาไปบนพื้น สมใจแทบช็อก สมใจรีบเข้าขวาง หันไปมองเจ้าคุณด้วยความเป็นห่วง เห็นเจ้าคุณปากแตก แล้วทันใดนั้นไฟในบ้านก็ถูกเปิดให้สว่าง ทุกคนหันไปเห็นกำโป๊งยืนหน้าเหวี่ยงอยู่ เจ้าคุณตกใจสุดขีด
“ทำอะไรกัน!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ที่นั่งมองในห้องคอนโทรล ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันมาตีมือกัน ด้วยความสบายใจ
“ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พรุ่งนี้เช้าลูกจะจัดนางรำชุดใหญ่ไปถวายนะเจ้าคะ”
“นางรำ นางรำที่ไหน
“ก็เขากับตัวเองไง”
“ห๊ะ!”
กิ่งแก้วยิ้มแหย ก้องเกียรติมีสีหน้ากลุ้มใจ
เจ้าคุณส่งกุญแจมอเตอร์ไซค์คืนสมใจ ปลัดจืดหันไปขอโทษเจ้าคุณที่เข้าใจผิดคิดว่าลวนลามสมใจเหมือนทุกครั้งที่เคยเข้าใจผิด
“ขอโทษ ฉันนึกว่านายจะทำร้ายใจ๋”
เจ้าคุณเหล่ปลัดจืด ขณะที่เอามือกุมปาก เจ็บปาก กำโป๊งยังจ้องเจ้าคุณตาเขม็ง เจ้าคุณทำหน้าไม่ถูก
“ฉันก็ต้องขอโทษนายเหมือนกันที่คิดว่านายเป็นขโมย แต่ท่าทางนายมันใช่อ่ะ”
ลุงกำโป๊งยังจ้องเจ้าคุณจับผิด เจ้าคุณหลบตาพยายามแก้ตัว
“เออ ฉันได้ยินเสียงดังมากจากในห้อง ก็..ก็.. สงสัยว่าเสียงอะ..อะไร ก็..ก็...เลยจะเข้าไปดู”
เจ้าคุณติดอ่าง กำโป๊งที่หรี่ตามองเจ้าคุณไม่เชื่อ ก่อนจะพูดกับสมใจ ปลัดจืด
“ดึกแล้ว กลับบ้านกันได้แล้ว”
สมใจกับปลัดจืดไหว้ลากำโป๊ง แล้วก็เดินออกไป เหลือเจ้าคุณกับลุงกำโป๊งสองคน เจ้าคุณรีบลุกขึ้นยืน
“จะไปไหน”
“ปะ..ปะ..ไปนอนไงลุง ง๊วงง่วง”
กำโป๊งตบโต๊ะดังปัง แล้วก็เจ็บมือเอง เจ้าคุณสะดุ้ง
“เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้องนี้ห้ามเข้า จะตบโต๊ะอีก แต่ชะงักกลัวเจ็บ เปลี่ยนใจไปหยิบคีมตัดเหล็กขึ้นมา หนอย คิดจะตัดสายยู ฝันไปเถอะ สายยูอันนี้ข้าทำขึ้นมาจากเหล็กกล้าคัดพิเศษ ไม่มีอะไรในโลกนี้ตัดมันได้หรอกเว๊ย ไอ้โง่ ฮ่าๆ”
กำโป๊งพูดจบก็เดินออกไป
“ห้ามดีนัก ซักวันจะเข้าไปให้ดู!”
เจ้าคุณพูดด้วยสีหน้าเอาเรื่อง และหมายมั่น ว่าจะต้องรู้ความจริงได้ว่าห้องลับนั้นมีอะไรกันแน่
คืนนั้นที่บ้านกำโป๊ง สมใจกับปลัดจืดเดินออกมาด้วยกัน ปลัดจืดยังข้องใจที่สมใจมาบ้านนี้ดึกๆ ดื่นๆ
“เดี๋ยวนี้ปี๊ดง่ายนะปลัด เดี๋ยวต่อยเลย เลิกเป็นปลัดไปเป็นนักมวยตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ใจ๋ยังไม่บอกผมเลยว่ามาบ้านลุงกำโป๊งทำไมดึกๆ ดื่นๆ”
“แหม ไม่ใช่นักมวยอย่างเดียว แต่ยังจะเป็นพ่อฉันด้วยนะเนี่ย”
“ใจ๋ ใจ๋ไม่ได้ปิ๊งนายขุนทองใช่มั้ย”
สมใจแถไปมา จนปลัดจืดทนไม่ไหวหันมามองหน้าสมใจจริงจัง
“เฮ้ย! อะไร๊ ปิ๊งนายขุนทอง จะบ้าเหรอะ ปลัดเอาอะไรมาพูดก็ไม่รู้ หึ้ย!”
สมใจตัดบทไปทันทีแล้วรีบเดินออกไป ปล่อยให้ปลัดจืดหันไปมองด้วยสีหน้าหนักใจ
เช้าวันถัดมากำโป๊งกำลังกินข้าวเช้า เจ้าคุณเดินมานั่ง ทั้งที่มุมปากยังมีรอยช้ำที่โดนปลัดจืดต่อยมาเมื่อคืน ส่วนกำโป๊งเมินหน้าหนีไปทางอื่น เจ้าคุณผงะ
“ยังโกรธฉันอยู่อีกเหรอลุง ขี้งอนอย่างงี้ ตุ๊ดป่ะเนี่ย”
“เอ็งซิตุ๊ด! แล้วข้าก็ไม่ได้งอน แต่ข้าไม่ชอบคนที่ทำตัวเป็นหัวขโมย”
พูดไปทั้งที่ข้าวเต็มปาก หลุดกระเด็นมาที่เจ้าคุณ...เต็มๆ
“โธ่ ลุง”
“อยากได้อะไรก็ขอกันดีๆ”
“ถ้าฉันขอดีๆ ลุงจะให้ฉันเข้าห้องนี้ป่ะล่ะ เห็นมะ ลุงก็ไม่ให้ฉันเข้า ฉันคิดถึงแม่ อยากโทร.หาแม่”
เจ้าคุณเสียงอ่อนลงแต่จริงใจ จนกำโป๊งแอบสงสารแต่ก็ไม่ให้
“ไม่ได้เว๊ย! ไอ้ก้องมันสั่งไว้!” กำโป๊งหลุดปาก พอรู้ตัวก็รีบเอามือปิดปาก
“ไอ้ก้อง ไอ้ก้องมันสั่งอะไรลุง”
“สั่งอะไร ใครหน้าไหนจะกล้ามาสั่งคนอย่างข้า มัน เออ มันก็รู้สันดานเอ็งไงล่ะ เอ็งเป็นพวกหยิบโหย่ง ไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ความ เอะอะก็จะฟ้องแม่ เอ็งมันเป็นไอ้ลูกแหง่”
“ไอ้ก้องมันพูดอย่างนั้นเหรอลุง
“เออ ไม่แค่ไอ้ก้องนะเว๊ย มีแฟนมัน แล้วก็เพื่อนๆ ของเอ็งรุมด่าเอ็งให้ข้าฟังกันเกรียวเลย”
“ฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น!”
เห็นเจ้าคุณเถียงโวยวายเสียงดังลั่น กำโป๊งเลยได้ที
“ถ้างั้นเอ็งก็ต้องพิสูจน์ เอ็งก็ต้องอยู่ที่นี่ให้ได้ โดยไม่ต้องโทรศัพท์กลับไปฟ้องแม่”
พูดจบกำโป๊งเดินกวนๆ ทำท่าโทรศัพท์ล้อเจ้าคุณอย่างอารมณ์ดี “ฮาโหลๆ แม่จ๋าๆ” และเดินออกไป ในขณะที่เจ้าคุณเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้อย่างมาก
กำโป๊งโทรศัพท์หาก้องเกียรติในห้องคอนโทรล เล่าเรื่องเจ้าคุณให้ฟัง
“เจริญล่ะลุง บอกมันไปแบบนั้น มีหวังมันกลับมาแหกอกผมกับกิ๋งแน่ๆ”
“ก็ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกนี่หว่า อะไรแถได้ก็ต้องแถไปก่อน ว่าแต่ไอ้รายการโคโยตี้”
“เรียลลิตี”
“เออ วุ้ย เรียกยาก ไอ้ตี้ๆ อะไรของเอ็งเนี่ย มันจะจบเมื่อไหร่ ขืนนานไปเดี๋ยวชาวม่วนแต๊จับได้ขึ้นมา ข้ามีหวังตายหยังเขียดเลยนะเว้ย”
“อีกไม่นานหรอกลุง ทนหน่อยนะครับ แค่นี้ก่อนนะลุง แล้วคุยกันใหม่ สวัสดีครับ ว่าไงกิ๋ง อ่ะพร้อมก็พร้อม”
ก้องเกียรติรับสายกิ่งแก้ว แล้วทำหน้าจ๋อย
เช้าวันรุ่งขึ้นที่บริเวณหน้าออฟฟิศของก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว มีเสียงดนตรีไทยเดิมดังขึ้น ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วใส่ชุดรำไทยเต็มยศซอยเท้ายิกๆ ออกมารำ ท่าทางเก้ๆกังๆ ต่างจังหวะดนตรี พนักงานยืนดูยิ้มขำกันใหญ่
เวลาเดียวกัน ปลัดจืดนั่งลงที่ร้านหวานเจี๊ยบในตลาด มองมือตัวเองที่ต่อยเจ้าคุณด้วยความเจ็บ หันไปทางหวานเจี๊ยบ
“น้ำแดงแก้วหนึ่ง”
หวานเจี๊ยบเดินออกมากำลังจะอ้าปากด่า ปลัดจืดหันมาชี้หน้า
“อย่า!อย่าชวนทะเลาะ วันนี้อารมณ์ไม่ดี เอาน้ำแดงมาเร็วๆเข้า”
ปลัดจืดมามาดเหี้ยม หวานเจี๊ยบผงะ เดินไปชงน้ำแดง แล้วก็มองปลัดจืดไปด้วย
“ดุยังกะหมาบ้า ตาก็ขวาง บรื๋อ”
หวานเจี๊ยบเอาน้ำแดงมาให้ปลัดจืด เห็นมือปลัดจืดแดงเป็นจ้ำ
“มือไปโดนไรมา” หวานเจี๊ยบถาม
“ชกหน้าไอ้ขุนทองมาน่ะซิ” ปลัดจืดบอก
หวานเจี๊ยบตกใจ ปลัดจืดกำลังจะคว้าน้ำแดงดื่ม แต่หวานเจี๊ยบคว้าเร็วกว่าแล้วสาดใส่หน้าปลัดจืด ปลัดจืดตกใจ
“สาดน้ำใส่ฉันทำไม”
“แก้แค้นให้อ้ายขุนทองของฉันยังไงล่ะ”
ปลัดจืดผงะ ยกแขนเสื้อเช็ดหน้า แค่นั้นยังไม่พอ หวานเจี๊ยบผลักปลัดจืดอย่างแรงจนล้มก้นจ้ำเบ้า
“โอ๊ย! อะไรเนี่ยยัยบ้า”
หวานเจี๊ยบเอาป้าย “ปิดร้าน” มาแขวน
“ปิดร้าน! วันนี้ไม่ขายแล้ว อารมณ์เสีย”
หวานเจี๊ยบก็รีบขี่จักรยานออกไป ลำใยที่แอบอยู่ได้ยินทุกอย่าง มีสีหน้าครุ่นคิด
เช้าวันนั้น ที่มุมทำใบชาที่ไร่ม่วนใจ๋ เจ้าคุณกับคนงานกำลังช่วยกันเอาใบชาใส่กระจาดเพื่อเอาไปตาก พลันก็มีมือยื่นยาหม่องมาตรงหน้าเจ้าคุณ เจ้าคุณหันไปมอง
“ยาหม่อง ทาซะ จะได้หายช้ำ”
“ยาหม่องอีกแล้วเหรอ”
“นี่เป็นยาวิเศษ ทาแผลฟกช้ำ แผลสด กลาก เกลื้อน ผื่นคัน วันเดียวหายสนิท เอาไปเลยฉันให้”
เจ้าคุณรู้สึกดี รับยาหม่องมา แล้วก็เปิดทาแผลที่มุมปาก สมใจหันมาเจอสายตาคำปุยกับแคบหมูที่กำลังจ้องจับผิดก็ทำไม่เป็นไม่สนใจ เดินไปเอากระจาดใส่ใบชาไปตาก คำปุยกับแคบหมูรีบตามไป
“เป็นห่วงเป็นใยกันเหลือเกิ๊น”
คำปุยแซวสมใจ โดยมีแคบหมูคอยเสริม
“นั่นน่ะเซ่” แคบหมูว่า
“ดูเผินๆ นึกว่าเป็นแฟนกัน”
“นั่นน่ะเซ่”
“อยากปากแตกมั๊ยไอ้ปุ๋ย”
“นั่นน่ะเซ่”
“แกก็อีกคนนังแค๊บ!”
“นั่นน่ะเซ่ อ่ะจึ๋ย แฮ่ๆ”
“ฉันเป็นต้นเหตุทำให้นายขุนทองเจ็บตัว มันก็ไม่แปลก ถ้าฉันจะแสดงน้ำใจ”
“อ่ะจ๊ะอ่ะจ๊ะ เชื่อก็ได้ มุสาวาทาเวระมณีสิขา....”
คำปุย หลับตาพนมมือ จนโดนสมใจผลักหัวอย่างแรงพร้อมกับด่า
“นังปุ๋ยบ้า!”
“นั่นน่ะเซ่ อิอิ” แคบหมูว่า
กลายเป็นแคบหมูที่โดนคำปุยเขกหัวต่อ
ส่วนทางด้านหวานเจี๊ยบรีบปั่นจักรยานมาตามทาง ทันใดนั้นลำใยก็ปั่นจักรยานมาประกบข้างๆ
หวานเจี๊ยบหันไปมองก็ชะงัก “นังลำใย! แกจะไปไหน”
“จะรีบไปดูอ้ายขุนทอง” ลำใยลอยหน้าบอก
“นี่แกแอบฟังฉันกับไอ้ปลัดจืดคุยกันเหรอ”
“ไม่ได้แอบฟัง แต่เสียงแกมันแหลมลอยมาเข้าหูฉันเองย่ะ ไปก่อนล่ะนะ ไม่อยากเสวนากับผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ”
พูดจบลำใยก็แซงหน้าหวานเจี๊ยบขึ้นไป
หวานเจี๊ยบหัวเสีย “ฮึ้ย อีหน้าหนอน!”
หวานเจี๊ยบรีบปั่นตามไปข้างๆ สองคนแข่งกันปั่นจักรยาน ผลัดกันแซงไม่หยุดไปตลอดทาง แถมมีการเอาขาเตะกันด้วย
หน้าไร่ชา เจ้าคุณกับสมใจช่วยกันยกกระจาดใส่ใบชา สมใจยกมือเช็ดเหงื่อที่หน้า ทำให้ใบชาติดที่เหนือปาก เจ้าคุณหันมาเห็นหน้าสมใจเหมือนมีหนวดก็ขำ
“ขำอะไร”
“เธอมีหนวด”
“ห๊ะ!”
สมใจจับไปที่เหนือปากแต่หยิบไม่โดนใบชา เจ้าคุณเลยเอื้อมมือไปหยิบใบชาออกไป ด้านหลังเห็นคำปุยกับแคบหมูสะกิดกันดู ยิกๆ ทั้งคู่ตาลุกวาว สมใจชะงักเล็กน้อย เจ้าคุณยื่นใบชาให้ สมใจทำหน้าไม่ถูก
ทันใดนั้นเสียงประสานของหวานเจี๊ยบกับลำใยก็ดังขึ้น
“อ้ายขุนทอง!”
ทั้งหมดหันไปเห็นหวานเจี๊ยบกับลำใยจอดจักรยานแล้วรีบเดินพุ่งมาหาเจ้าคุณ จนกระแทกจนสมใจกระเด็นออกไป
“เจ็บตรงไหน เป็นไงบ้าง ไปหาหมอมั้ย ไหนดูแผลหน่อยซิ” หวานเจี๊ยบกับลำใยแย่งกันพูด
เจ้าคุณสุดทนเพราะเสียงแผดเข้าหู ตวาดออกมา “หยุด!”
หวานเจี๊ยบกับลำใยชะงัก
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“เอ่อ คือ พี่ใจ๋อย่าหึงนะ คือหวานเจี๊ยบก็ยังรักพี่ใจ๋ แต่หวานเจี๊ยบได้ข่าวว่าอ้ายขุนทองถูกปลัดจ๋อยชกหน้า หวานเจี๊ยบเป็นห่วงก็เลยมาดู”
“ต๊าย! นังวันทองสองใจ แต่แทใยเป็นห่วงมากกว่านังลิงเจี๊ยกเป็นร้อยเท่าพันทวีนะจ้ะ” ไหนดูซิ โถๆ ปากช้ำหมดเลย อย่างเงี้ยต้องจูบจะได้หายช้ำ”
ลำไยจะทำจริงตามพูด เจ้าคุณตกใจ หวานเจี๊ยบผลักลำใยอย่างแรง ลำใยหงายหลังทับกระจาดใบชา เจ้าคุณ สมใจ แคบหมู และคำปุยตกใจ
“เฮ้ย! หยุด!” สมใจตะโกนสั่ง
ลำใยโมโห ลุกขึ้นมาผลักหวานเจี๊ยบ หวานเจี๊ยบหงายหลังทับกระจาดใบชาอีก
“เฮ้ย! บอกให้หยุด!” สมใจตะโกนสั่งอีกแต่ไม่ได้ผล
หวานเจี๊ยบกรี๊ดดังลั่น ลำใยกรี๊ดดังกว่า จังหวะหนึ่งหวานเจี๊ยบกับลำใยคว้ากระจาดตากใบชาขึ้นมาตีกัน แล้วก็ปาใส่กัน ใบชาหล่นเต็มพื้น เห็นหวานเจี๊ยบกับลำใยเหยียบย่ำใบชา สมใจใจแทบขาด
“หยุดนะ หยุด ใบชาของฉัน หมดกัน! หมดแล้ว”
คำปุยกับแคบหมูรีบเข้าไปห้ามสองสาว
“สุมาเตอะเจ้า ขอเถอะ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” คำปุยห้าม
“หนูขอร้องล่ะ เลิกตีกันได้แล้ว” แคบหมูบอก
ทว่าคำปุยกับแคบหมูกลับโดนผลักกระเด็นออกมา
เจ้าคุณสุดจะทนไหว เห็นสายยางฉีดน้ำ จึงเข้าไปดึงออกมา สมใจเห็นก็ตกใจ
“เฮ้ย! อย่า!”
สมใจตะโกนห้ามเจ้าคุณ ไม่ทันแล้ว เจ้าคุณเปิดน้ำ ฉีดใส่หวานเจี๊ยบกับลำใย สองสาวหยุดกึกจ๋อยไปตามๆ กัน สมใจโมโหมาก หันไปมองรอบๆ เห็นใบชาเปียกแฉะ และหกเต็มพื้น สมใจมองเจ้าคุณ หวานเจี๊ยบ และลำใยด้วยความโกรธสุดขีด
“บ้า!ไอ้พวกบ้า!”
สมใจเนื้อตัวสั่น น้ำตาคลอวิ่งพรวดออกไปทันที
เจ้าคุณ หวานเจี๊ยบ และลำใยจ๋อย แต่เจ้าคุณไม่เข้าใจ
“เจ๊แกเป็นไร” เจ้าคุณหันไปถามคำปุย
“ใบชาหล่นพื้นก็ยังพอเก็บได้ แต่นี่อ้ายขุนทองเล่นฉีดน้ำซะเละเทะแบบนี้ ใบชาพวกนี้ก็ใช้ไม่ได้แล้ว”
“ที่สยองขวัญกว่านั้น ก็คือพี่ใจ๋ต้องไปส่งชาให้ลูกค้าวันนี้ด้วย” แคบหมูพูดสีหน้าเศร้า
เจ้าคุณอึ้ง หันไปมองหวานเจี๊ยบกับลำใยอย่างไม่พอใจ สองสาวก้มหน้าจ๋อยสนิท
เจ้าคุณยืนรอสมใจที่บริเวณหน้าไร่ชา สีหน้าเป็นกังวลใจ คำปุยกับแคบหมูยืนอยู่ด้วย ไม่นานสมใจขี่มอเตอร์ไซค์กลับมา พอเห็นเจ้าคุณก็เมินหน้าหนี จอดรถแล้วรีบลงมาหาคำปุยกับแคบหมู
“ฉันบอกเฮียเจ้าของร้านแล้วว่าขอส่งของพรุ่งนี้ เฮียแกโอเค แต่เราต้องรีบเก็บใบชา แกกับนังแค๊บไปบอกชาวบ้านให้มาช่วยกันที ไม่งั้นไม่ทัน”
“จ้ะๆ”
คำปุยกับแคบหมูรีบออกไป สมใจจะเดินออกไป
เจ้าคุณรีบเรียกไว้ “สมใจ”
“ไม่ต้องพูด พวกเราต้องเดือดร้อน เพราะนายคนเดียว!!”
สมใจพูดน้ำเสียงเย็นชา เจ้าคุณหน้าจ๋อยสนิท เพราะไม่ได้ตั้งใจทำให้ใบชาเสียหาย
อ่านต่อหน้า 3 วันนี้ (19 ก.พ.55) เวลา 18.00 น.
รักออกอากาศ ตอนที่ 4 (ต่อ)
ช่วงบ่ายของวันเดียวกันนั้น สมใจ คำปุย แคบหมู และพวกชาวเขา กำลังเร่งมือช่วยกันเก็บใบชาอยู่ในไร่
“เร่งมือกันหน่อยนะทุกคน”
สมใจหันไปเจอเจ้าคุณยืนอยู่
“ฉันช่วย”
สมใจไม่พูด หันไปตัดใบชา เจ้าคุณหันมาตัดใบชา แต่ก็แอบมองสมใจเป็นระยะๆ สมใจรู้ว่าเจ้าคุณมอง แต่ทำเป็นไม่สนใจ เจ้าคุณพยายามเข้ามาใกล้ สมใจเดินหนีออกไป เจ้าคุณมองตามอย่างด้วยความเซ็ง
ไม่นานนัก ใบชาจำนวนมากกองรวมอยู่ในกระจาด เจ้าคุณ สมใจ คำปุย แคบหมู และคนงานช่วยกันเอาใบชาที่เก็บได้เทใส่กระจาด ระหว่างนั้นเจ้าคุณพยายามจะช่วย แต่สมใจก็ยังไม่สนใจ ไม่มองหน้า คำปุยกับแคบหมูมองเจ้าคุณด้วยความเห็นใจ
เจ้าคุณตั้งหน้าตั้งตาทำงานเต็มที่ แม้จะยังไม่คล่องแต่ก็มุ่งมั่นมาก ดูเหนื่อยแต่ไม่ท้อ สมใจชำเลืองมองเป็นระยะๆ แววตาเริ่มอ่อนลง
จนเกือบค่ำใบชาถูกแพคใส่ถุงเรียบร้อย สมใจสบายใจ หันไปทางทุกคน
“ขอบคุณทุกคนมากนะจ๊ะที่มาช่วยกัน”
สมใจหันไปสบตาเจ้าคุณพอดี เจ้าคุณยิ้ม สมใจหุบยิ้มพร้อมทำหน้าโหด เจ้าคุณจ๋อย
ชาวบ้านทยอยกันเดินกลับไป
“ไอ้ปุ๋ย นังแค๊บ กลับบ้าน!”
สมใจทำเหมือนเจ้าคุณไม่มีตัวตน แล้วเดินออกไป คำปุยกับแคบหมูหันไปทางเจ้าคุณ
“ไปด้วยกันซิอ้ายขุนทอง” คำปุยเอ่ยชวน
“เขาจะกินหัวฉันอยู่แล้ว” เจ้าคุณส่ายหน้าเพราะรู้ว่าสมใจยังโกรธอยู่
“พี่ใจ๋เป็นพวกปากร้ายแต่ใจดี โกรธง่ายหายเร็ว เดี๋ยวก็ลืม”
เจ้าคุณมองคำปุยกับแคบหมูครุ่นคิด
เย็นวันนั้นที่บ้าน สมใจกำลังชงชา มีคำปุยกับแคบหมูมองอย่างตั้งใจ สมใจตักใบชาใส่ลงในกา
สมใจเอาน้ำร้อนใส่ตามลงไปในกา
“เอาน้ำร้อนเทใส่ น้ำแรกเป็นการกระตุ้นใบชา ใส่น้ำสองลงไป เอาน้ำแรกที่รินใส่เหยือกแก้วเทใส่แก้วชาแล้วเอาน้ำสองเทลงในเหยือกแก้ว เอาน้ำแรกล้างแก้ว”
สมใจเอาแก้วยาวกับแก้วสั้นขึ้นมาวนๆ คำปุยยื่นมือจะไปรับแก้วมาดื่ม แต่สมใจเทชาทิ้ง คำปุยกร่อย สมใจเอาเหยือกที่ใส่น้ำสอง เทใส่แก้วยาว
“เมื่อไหร่จะได้กินวะ”
“เราต้องเอาแก้วสั้นปิดแก้วยาวไว้”
สมใจเอาแก้วสั้นปิดแก้วยาว แล้วคว่ำกลับด้าน ก่อนยื่นให้คำปุย
“ดึงแก้วยาวขึ้นมาเลย”
คำปุยดึงแก้วยาวขึ้นมา น้ำชาจากแก้วยาวลงมาอยู่ในแก้วสั้น
“ดื่มคู่กับผลไม้แช่อิ่ม ลำแต๊ๆ”
“โอ๊ย กว่าจะได้กินเนอะ”
“ศิลปะการชงชามันต้องใจเย็น”
“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคนใจร้อนอย่างแกจะทำได้อะไรอย่างนี้ได้”
“เดี๋ยวจะอดกิน”
“มีชาตั้งเยอะ น่าจะแบ่งให้คนอื่นกินด้วยเนอะแค๊บเนอะ”
“ใช่เลยจ๊ะ”
สมใจสงสัย คำปุยกับแคบหมูหันไป เห็นเจ้าคุณเดินเข้ามา สมใจชะงัก
“มานี่มาอ้ายขุนทอง ดื่มชาที่ใจ๋ชงให้ชื่นใจหายเหนื่อย อ่ะนี่”
สมใจเหล่ เจ้าคุณดื่มแต่ร้อน
“โอ๊ย!”
“สมน้ำหน้า”
คำปุย และแคบหมูเหล่กัน พูดใส่กันเยาะหยอกล้อสมใจและเจ้าคุณ เลยโดนสมใจจับหัว 2 คนโขกกัน
“นี่แน่ะ!”
“โอ๊ย!”
เจ้าคุณแอบอมยิ้ม สมใจตาเขม็งใส่ เจ้าคุณสะดุ้ง แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้
มุมหนึ่งของบ้านสมใจกำลังเดินออกมา ด้านหลังเจ้าคุณเดินตามออกมา สมใจชะงัก พยายามทำหน้าให้เป็นปกติ หันไปทางเจ้าคุณ
“ตามฉันมาทำไม”
“ตามที่ไหน ฉันจะไปฉี่”
สมใจหน้าเจื่อนไป เจ้าคุณกำลังจะเดินไป
“เดี๋ยว!”
เจ้าคุณชะงัก หันมา
“อย่าทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นอีก กว่าพ่อฉันจะสร้างไร่ชาม่วนใจ๋มาได้ขนาดนี้ รู้มั้ยว่ามันต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา พวกเราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ได้เป็นพวกไฮโซไฮซ้อที่มีเงินซื้อรถคันละเป็นสิบล้าน”
เจ้าคุณมองนิ่ง สมใจพูดเสียงเรียบแต่จริงจังจากใจ เจ้าคุณสะอึกเหมือนถูกด่า
“เงินทองทุกบาททุกสตางค์มันมีค่า แต่ยิ่งไปกว่านั้น ใบชาทุกใบมันคือชีวิตจิตใจของพวกเรา”
สมใจพูดจบ ค่อยๆเดินออกไป เจ้าคุณได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น
ที่ร้านหวานเจี๊ยบ เจ้าของร้านกลับมาพร้อมกับหัวกระเซอะกระเซิง เสื้อผ้ายับเหยิน สีหน้าหงุดหงิด
“นังหน้าหนอน! ฝากไว้ก่อนเถอะ”
หวานเจี๊ยบหัวเสียสุด จะเตะก้อนหินบนพื้น แต่เตะไม่โดน รองเท้าที่ใส่อยู่เลยกระเด็นลอยไปโดนหัวปลัดจืดที่กำลังเดินมา หวานเจี๊ยบตกใจ ปลัดจืดผงะ ก้มลงหยิบรองเท้าขึ้นมาจากพื้น หวานเจี๊ยบกะเผลกๆมาหา
“เอารองเท้าฉันมา
“ขอโทษฉันก่อน”
หวานเจี๊ยบไม่พูด เอื้อมมือจะคว้ารองเท้า แต่ปลัดชูไว้เหนือหัว หวานเจี๊ยบหัวเสียกระโดดจะหยิบให้ได้ แต่ไม่ถึง
“ฮ่าๆ จ้างให้ก็หยิบไม่ถึงหรอกยัยขมปี๋ ฮ่าๆ”
หวานเจี๊ยบโมโห จับไหล่ปลัด แล้วเข่าเข้าเป้า ปลัดจืดจุกหน้าเขียว ปล่อยรองเท้า หวานเจี๊ยบรีบเอามาใส่ แล้วก็หันมาเตะหน้าแข้งปลัดจืดอีกรอบ
“อย่ามาเล่นกับฉัน คนยิ่งกำลังโมโหๆอยู่”
หวานเจี๊ยบเดินหนี ปลัดจืดเจ็บปวดมาก กระโดดขาเดียวเพราะเจ็บแข้ง แต่แล้วกลับทรงตัวไม่อยู่
ล้มก้นกระแทกพื้นอย่างแรง หวานเจี๊ยบหันไปมามองก็ตกใจแล้วก็ขำก๊ากออกมา
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า กรรมมันตามทันจริงจริ๊ง”
ปลัดจืดยังนอนนิ่งหน้าแย่ๆ จนหวานเจี๊ยบแปลกใจ
“ปลัด ทำไมไม่ลุก”
ปลัดจืดลุกไม่ขึ้น
“มุกป่ะเนี่ย”
“ไม่ได้มุก เจ็บจริง”
หวานเจี๊ยบรีบเดินมาดู เห็นปลัดสีหน้าเจ็บปวด
คืนนั้นที่บ้านปลัดจืด หวานเจี๊ยบประคองปลัดจืดที่หน้าเหยเกเข้ามาในบ้าน
“ตัวหนักยังกะวัวกะควาย”
“ขี้บ่นยังกะยายแก่ นี่ เพราะเธอนะที่ทำให้ฉันเจ็บ”
“ก็อยากแกล้งฉันก่อนทำไมล่ะ”
หวานเจี๊ยบพาปลัดจืดมานั่ง แต่นั่งไม่ได้
“อุ๊ย อุ๊ย”
“นอนคว่ำ”
“จะทำอะไรฉัน!”
“แหวะ ใครอยากทำ นอนเร็วเข้าซิ”
ปลัดจืดทำตาม แต่ก็ระแวง หวานเจี๊ยบเปิดเสื้อปลัดทันที
“เฮ๊ย! จะปล้ำฉันเหรอ”
หวานเจี๊ยบไม่ตอบ นวดกดจุด ปลัดจืดได้แต่ร้องจ๊าก แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นยืนบิดเอวซ้าย บิดเอวขวา หันมายิ้มด้วยความดีใจ
“หายแล้ว ไม่อยากจะเชื่อ”
“น้าเครือฟ้าเขาสอนชั้นย่ะ เขาเคยเรียนนวดแผนไทยW
“รำไทยเก่งแล้วยังนวดแผนไทยเก่งอีก ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเธอจะมีน้าสาวเก่งๆ แบบนี้”
“มันน่าปล่อยให้เป็นปลัดเป๋ซะจริงๆ”
“ยังไงก็ขอบใจ”
“ไม่ต้องมาขอบใจ ฉันทำนายเจ็บ แล้วฉันก็ทำให้นายหายเจ็บ ถือว่าหายกัน ชาตินี้ชาติหน้าอย่าตามมาจองเวรจองกรรมฉันอีกนะยะไอ้จ๋อย”
พูดจบก็วิ่งไปทันที ปล่อยให้ปลัดพึมพำกับตัวเองและยังงกับความสามารถในการนวดกดจุดของหวานเจี๊ยบ
คืนนั้นที่บ้านกำโป๊ง เจ้าคุณออกมาจากห้องน้ำ มีผ้าขาวม้าพาดบ่า ได้ยินเสียงโป๊งๆ เป๊งๆ ก็แปลกใจ เดินไปตามที่มาของเสียง มาถึงหลังบ้าน เห็นลุงกำโป๊งโยนเศษเหล็กออกมาเกือบโดนตัวเจ้าคุณ
“เฮ้ย! ลุงแกทำอะไร”
เจ้าคุณถามไส้อั่ว
“ออร์แกไนซ์!”
“อะไรนะ”
“ออร์แกไนซ์ ไง จัดของ จัดให้เรียบร้อย อะไรไม่ใช้ก็โยนทิ้ง”
“ไอ้เวร ออร์แกไนซ์”
เจ้าคุณหันไปมอง แล้วเห็นมอเตอร์ไซค์เก่าๆคันหนึ่งเป็นยุค 80 เจ้าคุณสนใจขึ้นมาทันที
“มอไซค์ใครอ่ะลุง?
“ไม่ใช่ของข้าแล้วมันจะมาอยู่บ้านข้าได้ไง ถามได้ ไอ้ง่าว”
“ฉันขอได้มั้ย”
“เอ็งจะเอาไปทำไม”
เจ้าคุณมองมอเตอร์ไซค์แล้วก็ยิ้ม
เช้าวันถัดมา ทิวทัศน์บ้านม่วนแต๊ยังคงสวยงาม พระอาทิตย์ขึ้นเหนือท้องฟ้าสวยงาม สมใจออกมาจากในบ้าน ก็ผงะที่เห็นเจ้าคุณกับมอเตอร์ไซด์คันเก่าๆ ยืนรออยู่
“ฉันได้มาจากลุงกำโป๊ง อยากให้เธอช่วยซ่อมให้หน่อยได้มั้ย”
สมใจมองด้วยความสนใจ เข้ามาดูใกล้ๆ
“ตอนมันยังดีอยู่ ต้องเท่ห์มากแน่ๆเลย”
“ถ้าเธอซ่อมได้ ฉันจะให้ยืมขับ”
“จริงเหรอ”
“หายโกรธฉันแล้วใช่ป่ะ”
“ยัง”
“งั้นเธอคงไม่ซ่อมให้ฉัน”
สมใจยังฟอร์มเจ้าคุณเข็นมอเตอร์ไซค์กลับไป สมใจมองตามหน้าจ๋อยๆ ก่อนจะเรียกเจ้าคุณ
“เดี๋ยว!”
เจ้าคุณชะงัก แอบทำหน้ายิ้มกริ่ม ก่อนจะหันไปฟอร์มทำหน้านิ่งใส่สมใจบ้าง
สมใจดูกระตือรือร้นอย่างมาก หันมาทางเจ้าคุณที่มองยิ้มๆ สมใจทำเก๊กใส่
“ที่ช่วย ไม่ได้หมายความว่าฉันหายโกรธนาย ฉันก็ยังมีเคืองอยู่นิดหน่อย”
“เหรอ”
“สนิมขึ้นหมดแล้ว คงต้องเปลี่ยนอะไหล่หลายอย่างเอาแบบอะไหล่มือสองก็น่าจะเกือบหมื่น”
“แค่เนี้ย เกือบหมื่น”
“ตั้งเกือบหมื่น ยังมาแค่เนี้ย”
“เออ โห ตั้งเกือบหมื่น”
เจ้าคุณเริ่มรู้ตัวว่าต้องจนเลยแกล้งทำตาโต
“นั่นซิ จะมีเงินเหรอนายอ่ะ”
เจ้าคุณเงียบ
“ฉันให้ยืม ก่อนเอามั้ย”
เจ้าคุณมองสมใจตาโต สมใจรีบพูด กลัวอีกฝ่ายจะรู้ความในใจ
“ไม่ได้คิดอะไร ไม่คิดดอกเบี้ย ทำงานใช้หนี้ก็ได้ ฉันก็ไม่ได้ใจยักษ์ใจมารอะไรนะยะ”
เจ้าคุณมองสมใจ ด้วยสายตาเปี่ยมสุข
เช้าวันต่อมาที่บึงน้ำ ลำใยกำลังอาบน้ำในบึง พลางเหล่มองหนุ่มๆที่เดินผ่านมา ลำใยส่งจูบ และยั่วยวน ทำให้หนุ่มที่เดินผ่านมาถึงกับล้มลงชักกะแด่กๆเพื่อนรีบลากออกไป แล้วก็มองลำใยด้วยความกลัว
ลำใยหัวเสีย หันไปทางลำยองที่กำลังซักผ้า เทฟองแฟ้บจากกาละมังพอดี ลำใยอ้าปากจะพูดก็ฟองเข้าปากจึงสำลัก
“แม่จ๋า แค่กๆ แม่จะฆ่าลูก”
“โถๆ มีลูกสวยอย่างกะนางฟ้านางสวรรค์ ใครกันจะฆ่าลูกลงจ๊ะ”
“จริงหรือจ๊ะแม่ แต่ลูกไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาผู้ชายเห็นหน้าสวยๆ ของลูกทีไร ถ้าไม่อ้วกแตก ก็ชักตาตั้งกันหมดเลย”
“นั่นเป็นเพราะลูกแม่สวยมากยังไงล่ะ”
“จริงเหรอแม่ แล้วทำไมสวยๆอย่างลูก ถึงไม่มีผู้ชายมาจีบซักที”
“ก็เพราะเขาไม่กล้ายังไงล่ะ”
“แล้วทำไมเขาถึงไม่กล้าล่ะ”
“ก็เพราะหน้าลูกมันเหมือนหนอน เอ๊ย ไม่ใช่ ก็เพราะลูกแม่น่ะเป็นนางฟ้า อยู่สูงเกินเอื้อม”
“แต่ลูกอยากมีผัวแล้วนะแม่”
“พูดอย่างนี้ แสดงว่าแอบชอบใครอยู่ บอกแม่มา”
“ไม่เอา ไม่บอก ลูกอาย”
“บอกมาเถอะ จะอายทำไม นี่แม่นะ ใครอ่ะใคร”
“อ้ายขุนทอง”
“หลานตากำโป๊ง!”
“เจ้า แม่ช่วยลูกทีนะ ลูกอยากได้คนนี้ อยากได้ๆ”
“จัดให้ๆ เพราะแม่ก็อยากดองกะอ้ายลุงกำโป๊งใจแทบขาดเหมือนกัน”
สองคนแม่ลูกมองหน้ากัน หัวเราะคิกคัก ก่อนจะเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ
ที่หลังบ้านสมใจกับเจ้าคุณช่วยกันซ่อมมอเตอร์ไซค์ เจ้าคุณเผลอมองสมใจแล้วก็ยิ้ม สมใจหันมา เจ้าคุณรีบก้มหน้าทำเป็นทำงาน สมใจแปลกใจ เจ้าคุณกับสมใจช่วยกัน เอื้อมมือจะหยิบไขควง แต่กลับจับโดนมือเจ้าคุณ สองคนหันมามองหน้ากัน แล้วก็รีบเอามือออกจากกัน
สมใจลุกเดินไปอีกทางของมอเตอร์ไซค์ เจ้าคุณแอบมองสมใจผ่านมอเตอร์ไซค์ เผลอไขน็อต แล้วทำน็อตหลุด กลิ้งไปอยู่ใต้มอเตอร์ไซด์ เจ้าคุณกับสมใจก้มลงมองข้างใต้มอเตอร์ไซค์พร้อมกัน สายตาประสานกันพอดี เจ้าคุณกับสมใจตกใจรีบผละออกห่าง เจ้าคุณเซไปชนข้าวของหล่นโครม สมใจตกใจรีบเดินมาดูเห็นของเต็มตัวเจ้าคุณ สมใจหัวเราะก๊าก ทำให้เจ้าคุณหัวเราะตามไปด้วย
สมใจเอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงโบราณเข้ามาวาง เจ้าคุณดูด้วยความสนใจ
“อะไร”
“เครื่องเล่นแผ่นเสียง อายุมันมากกว่านายกับฉันรวมกันอีกนะ”
“มันยังใช้ได้อยู่เหรอ”
สมใจไม่ตอบ แต่เปิดแผ่นเสียงแทน เป็นเพลงยุคเก่า ที่ฟังแล้วสมใจอมยิ้มอย่างมีความสุข
“เพลงอะไร”
“เพลงนี้คลาสสิคจะตาย ฉันเป็นคนชอบอะไรเก่าๆ”
“งั้นเธอก็เป็นคนแก่น่ะซิ”
“นี่แน่ะ!”
สมใจเขกหัวเจ้าคุณ
“แตกเลย!”
“เฮ้ย!”
สมใจรีบตะปบหัวเจ้าคุณเพื่อดูบาดแผล แต่เจ้าคุณขำที่หลอกสำเร็จ สมใจชะงักรู้ว่าโดนหลอกก็จ้องหน้าเจ้าจะเอาเรื่อง แต่ทั้งคู่หน้าอยู่ใกล้กันสุดๆ ต่างคนต่างมองกัน เสียงเพลงคลอเบาๆ ยิ่งทำให้โรแมนติกมากขึ้น
สมหมายกับสมศรีกลับเข้ามาในบ้าน แล้วก็ชะงักได้ยินเสียงเพลง
“เสียงเพลงดังมาจากไหน”
สมหมายกับสมศรีมองหน้ากัน เช่นเดียวกันกับเจ้าคุณกับสมใจยังจ้องหน้ากัน เพลงจบ ทำให้ทั้งคู่ได้สติ รีบผละออกจากกัน
“ไม่เห็นจะแตกเลย ติงต๊อง”
เจ้าคุณยิ้มๆ สมใจด่าแก้เขิน
“โอ้เอ้อยู่นั่น เมื่อไหร่จะซ่อมเสร็จเนี่ย”
สมใจรีบเดินไปซ่อมมอเตอร์ไซค์ เจ้าคุณหันมองสมใจ แววตาเป็นประกายรู้สึกดี สมหมายกับสมศรีที่แอบดูอยู่เห็นทั้งคู่กำลังสนุกกับการซ่อมมอเตอร์ไซค์ ดูสมหมายไม่พอใจนัก
“มันต้องจีบไอ้ใจ๋แน่ๆ”
“คิดมาก ก็เห็นอยู่ว่าเด็กมันกำลังซ่อมมอเตอร์ไซค์กัน”
“โธ่! แม่ก็ ผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันมันมองกันออก พ่อรู้ว่าไอ้นั่นมันคิดยังไงกับไอ้ใจ๋ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว”
“ตาหมาย แกจะทำอะไร”
“ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม”
สมหมายหน้าเหี้ยม สมศรีมองอย่างแปลกใจ
ตอนที่ 7.4
ที่บ้านชาวบ้านหลังหนึ่ง ปลัดจืดปีนอยู่บนต้นไม้ กำลังยื่นมือไปเรียกแมวที่นั่งอยู่
“เมี๊ยวๆ มาหาพ่อมาลูก มานี่มา”
ชาวบ้านข้างล่างเงยหน้ามอง หน้าถามปลัดจิดว่าจับแมวได้หรือยัง
“ยังเลยครับป้า ใจเย็นๆนะครับ เมี๊ยวๆ มานี่มาเร็ว พ่อเมื่อยก้นไปหมดแล้ว”
ปลัดจืดค่อยๆเอื้อมมือจับแมวได้สำเร็จ ปลัดจืดถอนหายใจโล่งอก
“ขอบใจนะปลัด”
“ไม่เป็นไรครับ”
ปลัดจืดมองเห็นสมหมายยืนอยู่จึงเข้าไปหา
กลางวันที่ริมบึง ปลัดจืดมองหน้าสมหมายอึ้งตะลึงงัน
“ลุงหมายถามผมว่าอะไรนะครับ”
“ฉันถามว่าปลัดคิดยังไงกับไอ้ใจ๋”
ปลัดจืดชะงัก เอามือแคะหู แล้วก็มองสมหมายเขินๆ
“ตอบมาซิปลัด”
“เออ ก็ ใจ๋ ก็เราก็เป็นเพื่อนสนิทกันน่ะครับ”
“ขี้จุ๊! ตอบยังกะพวกดารา ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ บอกมาเร็วๆ”
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรใจ๋นะครับลุงหมาย”
“เออ รู้แล้ว จะบอกรึไม่บอก”
“ถ้าไม่บอก ฉันจะยกไอ้ใจ๋ให้คนอื่นนะ”
“ผมชอบใจ๋ครับคุณพ่อ”
“น่าน เป็นพ่อเลย”
“อ่า ลุงหมาย ผมชอบใจ๋ครับ”
“ดี! ถ้างั้นปลัดก็จะมามัวแอ๊บอยู่ไม่ได้แล้ว ปลัดต้องบอกให้ไอ้ใจ๋รู้ว่าปลัดคิดยังไง”
“ผมไม่กล้า ผมกลัวใจ๋โกรธผม”
“ปลัดเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันเปิดทางให้ขนาดนี้ ไปคิดเอาเองก็แล้วกัน”
สมหมายมองปลัดจืด ส่วนปลัดจืดยังงงกับชีวิตว่าจะบอกกับสมใจอย่างไรเรื่องความในใจที่มีในตอนนี้
ที่บ้านสมใจกับเจ้าคุณช่วยกันพ่นสีมอเตอร์ไซค์ เจ้าคุณมองแล้วก็แกล้งเอาสีพ่นใส่เสื้อสมใจ สมใจชะงัก
“ไอ้นายขุนทอง!”
เจ้าคุณหัวเราะ สมใจเอาสีฉีดใส่เจ้าคุณ เจ้าคุณชะงัก สองคนไล่ฉีดสีใส่กัน เจ้าคุณหลบสมใจ แล้วก็หันไปฉีดสีสมใจ สมใจจะฉีดกลับแต่สีหมด เจ้าคุณหัวเราะสะใจ
“ฮ่าๆ เธอแพ้ฉันแล้ว”
“รู้มั้ยว่าตั้งแต่เจอนายนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นนายหัวเราะมากขนาดนี้”
“เหรอ”
“ใช่ หัดหัวเราะบ่อยๆซิ น่ารัก เอ๊ย! ดีออก หมอเขาบอกหัวเราะบ่อยๆ ดีต่อสุขภาพ หรือว่า นายยังเสียใจเรื่องพ่อนายที่โดน เอ่อ ควายขวิดตาย นายก็เลยชอบหน้าหงิก”
“ก็คงใช่ล่ะมั้ง ฉันไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร ฉันก็เลยทำตัวไร้สาระไปวันๆ”
เจ้าคุณชะงัก แอบเคืองกำโป๊งเล้กน้อยที่โกหกทุกคนว่าพ่อโดนควายขวิดตาย
“แต่ตอนนี้นายไม่ไร้สาระแล้ว นายเก็บใบชาได้ เลี้ยงหมูเป็น แล้วก็ซ่อมมอไซค์ได้ด้วย”
“อื้อ”
เจ้าคุณกับสมใจยิ้มให้กัน
เริ่มค่ำลง เจ้าคุณกำลังล้างหน้าล้างมือ เห็นปลัดจืดมากับสมหมาย ก็รีบหลบ
“ผมไม่กล้าครับลุง”
“แค่บอกรักผู้หญิง ทำไมถึงไม่กล้าห๊ะ!”
เจ้าคุณนิ่วหน้าสงสัย
“บอกรักใจ๋ ยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีกนะครับ”
เจ้าคุณตกใจ
“ลุงจะให้ผมเดินเข้าไปบอกใจ๋ทื่อๆแบบนี้ ผมทำไม่ได้หรอกครับ มันต้องสร้างบรรยากาศกันหน่อย”
“ทำไมเรื่องมากอย่างนี้วะ ประเดี๋ยวชั้นยกไอ้ใจ๋ให้คนอื่นซะดีมั้ย”
“ไม่ดีครับ ไม่ดี เอางี้ดีกว่า พรุ่งนี้ผมจะชวนใจ๋กินข้าว และผมจะใช้โอกาสนี้สารภาพรักใจ๋”
“มันต้องอย่างนี้ซิวะ ฮ่าๆ”
สมหมายตีหลังปลัดจืดดังอั๊ก ปลัดจืดยิ้ม แววตามีความหวัง ส่วนเจ้าคุณไม่สบายใจ รีบย่องออกไป
เจ้าคุณกลับเข้ามา สมใจหันไป
“ฉันว่าพรุ่งนี้ก็น่าจะซ่อมเสร็จแล้ว”
สมใจหันไปซ่อมมอเตอร์ไซค์ต่อ เจ้าคุณมองสมใจ คำพูดปลัดจืดดังขึ้น “พรุ่งนี้ผมจะชวนใจ๋กินข้าว และผมจะใช้โอกาสนี้สารภาพรักใจ๋”
เจ้าคุณรู้สึกใจหาย ระหว่างนั้นปลัดจืดเข้ามาเห็นเจ้าคุณกับสมใจก็ชะงัก
“ใจ๋”
สมใจกับเจ้าคุณหันไป
“ทำอะไรกัน”
“อ้าว! ซ่อมมอเตอร์ไซด์ ยังไม่เห็นอีก”
“ผมมีเรื่องจะคุยกับใจ๋ สองคน”
ปลัดจืดเหล่เจ้าคุณ เจ้าคุณมองหน้านิ่ง สมใจมองปลัดจืดสีหน้าแปลกใจ
“จะเลี้ยงข้าวฉัน เนื่องในโอกาสอะไรปลัด”
“ก็ เนื่องในโอกาส เออ อ่า โอกาสที่เรารู้จักกันมาสามปี”
เจ้าคุณแอบฟังอยู่ พยายามเปิดหูให้ได้ยินมากที่สุด สมใจหัวเราะ ปลัดจืดงง
“ใจ๋หัวเราะอะไร”
“หัวเราะปลัดอ่ะดิ ปลัดตลกมากไปแล้ว เลี้ยงข้าวที่รู้จักกันสามปีเนี่ยนะ โอ๊ยไม่ต้องหรอก”
“ทำไมล่ะใจ๋ ก็ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ ใจ๋ช่วยเหลือผมมาตลอด ผมก็อยากทำอะไรตอบแทนใจ๋บ้าง”
“ไม่ต้องหรอก”
“ไม่ต้องไม่ได้ มันต้องได้ นะใจ๋นะ ให้ผมเลี้ยงข้าวนะ”
ทันใดนั้นเจ้าคุณเดินออกมา
“รับปากปลัดเขาไปเถอะใจ๋”
ปลัดจืดกับสมใจหันไปมอง ปลัดจืดไม่พอใจ
“แอบฟังคนเขาคุยกัน มันเสียมารยาทฎ
“เหรอ แต่ฉันไม่ได้แอบฟังนะ ฉันตั้งใจฟังเลยล่ะ”
เจ้าคุณยิ้มกวน ปลัดจืดฉุน
“ความคิดปลัดนี่เข้าท่า ฉันว่าเราจัดงานเลี้ยงขอบคุณใจ๋ด้วยกันเลยดีกว่า”
“นายเกี่ยวอะไรด้วย”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ใจ๋ก็ช่วยเหลือฉันตั้งเยอะแยะ ฉันก็อยากตอบแทนใจ๋บ้างเหมือนกัน จัดที่บ้านลุงกำโป๊งดีมั้ย ฉันจะเป็นคนจัดงานนี้ให้เอง เรื่องแบบนี้ฉันถนัด”
เจ้าคุณหันไปมองปลัดจืดท้าทาย ปลัดจืดเหวอเมื่อเจอเจ้าคุณทำผิดแผน สมใจมองเจ้าคุณกับปลัดด้วยความไม่เข้าใจ
ที่ริมบึงสมหมายหัวเสีย โวยวายใส่ปลัดจืดที่จัดการบอกรักใจ๋ยังไม่สำเร็จ
“ไอ้ขุนทองจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณไอ้ใจ๋ ทำไมปลัดไม่ห้ามมันล่ะ”
“ตอนนั้นผมกำลังอึ้งนี่ครับลุง ก็เลยนึกอะไรไม่ออก”
“ม่วนล่ะมึงงานนี้ กูอยากจะบ้าไม่เป็นไร ฉันจะกันไอ้ขุนทองให้เอง แล้วที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของปลัดแล้วนะ”
ปลัดจืดพยักหน้า เริ่มกังวลใจ
บ่ายวันนั้นที่ร้านหวานเจี๊ยบ เจ้าของร้านกระแซะมาทางเจ้าคุณทันที
“จะจัดงานเลี้ยงขอบคุณพี่ใจ๋ ได้เลยจ้ะ หวานเจี๊ยบจะจัดการเรื่องอาหาร และเครื่องดื่มให้เอง
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็เป็นงานเลี้ยงสำหรับพี่ใจ๋ แถมอ้ายขุนทองก็มาขอความช่วยเหลือจากหวานเจี๊ยบเป็นคนแรก หวานเจี๊ยบรู้สึกดีมากเลยอ่ะ ทีได้ทำอะไรให้คนที่หวานเจี๊ยบรักทั้ง 2 คนทีเดียวพร้อมๆ กัน มันเก๋มากเลยอ่ะ”
หวานเจี๊ยบจับแขนเจ้าคุณ พร้อมส่งตาปิ๊งๆ เจ้าคุณ รีบลุกขึ้น
“ฉันไปเก็บชาก่อนนะ”
“หื้ม เก็บหวานเจี๊ยบสนุกกว่าน้า”
เจ้าคุณยิ้มให้ ก่อนจะรีบออกไป หวานเจี๊ยบลัลล้าเดินไปไสน้ำแข็งต่ออย่างอารมณ์ดี
โดยไม่รู้ว่าลำใยกับลำยองได้ยินทั้งหมด สองแม่หันมาคุยกัน
“ได้ยินมั้ยแม่เจ้า”
“ได้ยินชัดเลย แม่จะใช้งานนี้ทำให้อ้ายขุนทองเป็นของลูก”
ลำใยยิ้มหน้าบาน ในขณะที่ผู้เป็นแม่อย่างลำยองผุดยิ้มร้ายกาจออกมา
อ่านต่อหน้า 4
รักออกอากาศ ตอนที่ 4 (ต่อ)
คืนนั้นสมใจกับคำปุยวิ่งพรวดเข้ามาในบ้าน เห็นสมหมายกับสมศรี มีสีหน้ากังวล ในขณะที่แคบหมูที่นอนหน้าซีดตัวสั่นอยู่บนฟูกที่พื้น
“นังแค๊บ!”
สมใจปรี่เข้าไปดูแคบหมู
“ท่าจะไม่ดีแล้วล่ะ ไอ้ใจ๋”
“รีบเข้าเมืองดีกว่าแม่ ปุ๋ยแกอุ้มนังแค๊บนะ ฉันจะไปเอารถ”
สมใจรีบลุกพรวด แต่แคบหมูตัวสั่นผิดปกติอย่างกะผีเข้า
“อร้าย! ต๊ายล่ะ นังแค๊บมันเป็นอะไรเนี่ย”
คำปุยโวยวาย สมหมายกับสมศรี หันควับมองหน้ากันทันที อย่างกังวล
“เร็ว! ช่วยกันอุ้มนังแค๊บขึ้นรถ”
สมใจจะวิ่งออกไป แต่ถูกสมหมายคว้าข้อมือไว้หมับ
“เดี๋ยว!ไอ้ใจ๋”
“อะไรอีกล่ะ พ่อ”
“ข้าว้าเอ็งอย่าพาเข้าเมืองเลย”
“เอ๊า! ไงเนี่ยพ่อ”
“เอ็งไปตามอุ๊ยมาดีกว่า
สมศรียืนยันตามที่พูด สมใจตกใจ
“ห๊า! จริงดิ”
สมศรีพยักหน้าให้อย่างเชื่อแม่ แต่แอบมองอย่างหวั่นใจ
ไม่นานหลังจากนั้นภายในบ้านสมใจ ก็มี อุ๊ย ผู้หญิงสูงอายุ ตัวเล็กแต่แววตาท่าทางหน้าเกรงขาม แต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองเก่า มายืนจ้องแคบหมู ที่นอนสั่น ครางอยู่บนฟูกเหมือนเดิมทุกคนมองลุ้นอยู่
“อุ๊ยจ๊ะ ไอ้แค๊บมันเป็นอะไร”
อุ๊ยหันขวับมา ทำเอาทุกคนแอบสะดุ้งกลัว พนมมือขึ้นพร้อมกันโดยอัตโนมัติ อุ๊ยไม่ตอบแต่หันขวับกลับไปจ้องแคบหมูเขม็ง
“กูจะรู้ได้ยังไง มันเป็นอะไรก็ต้องถามมันซิวะ อีโง่!”
อุ๊ยหันมาด่าสมศรี สมใจกับคำปุย หันมองกันงงพากันไปใหญ่
“มึงเป็นอะไร”
อุ๊ยเดินไปหาแคบหมูใกล้ๆ สมใจกับคำปุยมองอย่างลุ้น
“เอ๊ะ! นังนี่ กูถามว่ามึงเป็นอะไร”
“กรี๊ด! อีแก่ ไป๊ อย่ามายุ่งกะกู” แคบหมูเด้งตัวลุกขึ้นมา ตาขวางน่ากลัวมาก สมหมาย สมศรี สมใจ และคำปุย ตกใจสุดขีด กอดกันกลม
“นังแค๊บ!”
“พวกมึงด้วย อย่ามายุ่งกะกู”
พูดจบก็ร้องกรี๊ดอย่างโหยหวน ก่อนจะหงายหลังล้มตึงนอนสั่นพั่บๆเหมือนเดิม ทุกคนวิ่งกรูไปที่อุ๊ยทันทีอย่างร้อนใจ
“ไอ้แค๊บมันเป็นอะไรจ๊ะอุ๊ย”
“นังนี่มันไปทำสิ่งไม่ดี ไม่ควร มันทำให้ผีแม่อุ๊ยนางรอโกรธ
“ผีแม่อุ๊ยนางรอ!”
“ผีแม่อุ๊ยนางรอ”
ทุกคนตกใจ
“ช่วยมันด้วยเถอะนะ อุ๊ย นึกว่าสงสารลูกนก ลูกกาตาดำๆ”
สมหมายขอร้องอุ๊ย ในขณะที่อีกฝ่ายหน้านิ่งดุ
“นะจ๊ะอุ๊ย ไอ้แค๊บมันยังเด็ก น่าสงสาร อย่าปล่อยให้มันเป็นอะไรเลย ช่วยมันด้วยเถอะนะจ๊ะ”
อุ๊ย ถอนใจนิดนึงก่อนจะหันขวับ จ้องสมใจตาแทบถลน
“มึงจะช่วยมันมั๊ย”
“ห๊า! อะ อะ อะไรนะจ๊ะ”
สมใจตกใจสุดขีด
“กูถามว่ามึงจะช่วยมันมั้ย”
ทุกคนรีบพยักเพยิดให้สมใจรับคำ
“จ๊ะๆ ช่วยซิจ๊ะ ช่วย”
“แล้วไอ้หนุ่มนั่นล่ะ มันจะช่วยมั้ย”
“ไอ้หนุ่ม”
“ไอ้หนุ่มไหนจ๊ะอุ๊ย”
ทุกคนงงเป็นไก่ตาแตก อุ๊ยทำตาวาว ก่อนจะหลับตาลง เอียงหูนิดนึงเหมือนฟังพรายกระซิบ ทุกคนลุ้น
เอียงเข้าหาอุ๊ยเหมือนอยากจะฟังเสียงกระซิบด้วย พออุ๊ยลืมตาพรึ่บ ทุกคนสะดุ้ง
“ตกลง ไอ้หนุ่มที่อุ๊ยว่าน่ะ มันใครเหรอจ๊ะ”
“ไอ้ขุนทอง!”
“ไอ้ขุนทอง!”
ทุกคนช็อกเมื่อได้ยินชื่อขุนทองออกจากปากอุ๊ย แม่หมอผีประจำบ้านม่วนแต๊
คืนเดียวกันนั้น เจ้าคุณถูกปลุก และโวยลั่นหลังจากได้ยินเรื่องราวจากกำโป๊ง
“จะบ้าหรอ จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว ไม่เอา ฉันไม่ไป”
เจ้าคุณนั่งกองอยู่บนที่นอนหลังจากโดนกำโป๊งกับไส้อั่วเข้ามาปลุก โดยมีสมใจกับคำปุย
อยู่ใกล้ๆ ด้วย
“เฮ๊ย ช่วยกันหน่อยน่ะ ไอ้ขุน”
“ไม่ ไม่มีทาง!”
“แค่นี้ก็ช่วยกันไม่ได้ ใจคอจะปล่อยให้เด็กคนนึงมันตายไปต่อหน้าต่อตารึยังไง” สมใจแขวะ
“ตายแน่ แคบหมูมันตายแน่ และไม่ได้ตายเพราะฉัน แต่มันจะตายเพราะเธอ ไม่พามันไปโรงพยาบาล
ต่างหาก"
“นี่ นายไม่เข้าใจ” สมใจว่า
“เธอซิไม่เข้าใจ คนไม่สบายก็ต้องพาไปหาหมอ ไม่ใช่หมอผี”
“เวรล่ะ ไอ้ขุนเอ็งไปเรียกอุ๊ยแกอย่างนั้นได้ไง นี่เอ็งฟังข้าก่อน" กำโป๊งอธิบาย
“ไม่ฟัง ขืน ฟังก็บ้าแล้ว อยากบ้าก็เชิญบ้ากันไปเหอะ ฉันไม่บ้าด้วยหรอกชั้นจะนอน”
เจ้าคุณกำลังจะคลุมโปง แต่ต้องชะงักด้วยน้ำเสียงแดกดันของสมใจ
“ใจดำ!”
เจ้าคุณชะงักกึก สมใจน้ำตาคลอ
“ฉันไม่นึกเลยนะว่านายจะเป็นคนใจดำอย่างนี้”
เจ้าคุณอึ้งใจหายวูบ และสุดท้ายท้ายก็ยอมไปช่วยแคบหมู
เช้ามืดของวันต่อมา ในป่าระหว่างทางไปน้ำตก สมใจกับเจ้าคุณเดินมาด้วยกัน สมใจจ้ำอ้าว สะพายกระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำ เจ้าคุณเดินตามมาช้าๆ หน้ามุ่ย ท่าทางไม่พอใจนัก
“เร็วๆซิ! เดิน นวยนาดยังกะประกวด นางงาม”
“แล้วเธอล่ะ จะเดินจ้ำ ไปตามควายที่ไหน”
“ฉันไม่ได้ไปตามควาย แต่ฉันจะต้องไปเอาน้ำจากน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอ มาให้ไอ้แค๊บ มันกินก่อน 9 โมง
เช้า แล้วนี่มันใกล้จะเช้าแล้วด้วย”
“ใช่! ซึ่งฉันก็ต้องแหกขี้ตาตื่นมา ไปน้ำตก กับเธอทั้งๆที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย
สมใจจ้องหน้าเจ้าคุณด้วยแววตาขุ่นเคือง ปนน้อยใจ
“เกี่ยวซิ อุ๊ย บอกว่าเกี่ยว”
“เอ๊า! ไปๆ จะไปไหนก็รีบไป”
สมใจรีบออกเดินหน้าไปลิ่ว เจ้าคุณส่ายหัวด้วยความเซ็ง เดินตามออกไป
ที่ใต้ถุนบ้านสมใจ สมหมายเดินไปมา ราวกับหนูติดจั่น
“นี่! ตาหมาย หยุดเดินซะทีได้มั้ย ฉันเวียนหัวจะตายอยู่แล้ว”
“แม่ศรีเวียนหัว แต่ฉันน่ะ หัวใจจะวาย”
“เฮ้อ! ไอ้ใจ๋ มันก็แค่ไปที่น้ำตกแค่เนี้ย”
“แค่นี้ที่ไหนกัน มันไปกับไอ้ขุนทองนะ มันไปกันสองคน สองต่อสอง ตอนตี 5 เนี่ย นะ”
สมศรีจ๋อยไป ไม่รู้จะพูดอย่างไร ในขณะที่สมหมายเริ่มเดินไปมาเป็นหนูติดจั่นอีกครั้ง
ส่วนสมศรีนึกถึงสมใจกับขุนทองว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
สมใจกับเจ้าคุณเดินตาม ๆ กันมา สมใจเดินคล่อง เจ้าคุณติดขัดเป็นระยะ เจ้าคุณแอบมองสมใจอย่างทึ่งในความเก่งและอดทนเกินหญิง
“อีกไกลมั้ยเนี่ย”
“อือ”
“แล้วทำไมไม่ขับรถไป”
“ไม่มีถนน”
“สุดๆ ไม่มีถนน”
เดินต่อไปเจ้าคุณถามอีก เดินไปคุยไป
“ทำไมเธอต้องเชื่อหมอผีนั่นด้วย”
“อุ๊ย! ไม่ใช่หมอผี”
“ก็ได้ อุ๊ยก็อุ๊ย ทำไมเธอต้องเชื่อ อุ๊ยอะไรนั่นด้วย”
“ไม่ใช่แค่ชฉันที่ต้องเชื่อ แต่ทุกคนในม่วนแต๊ แม้แต่พ่อแม่ชั้นก็ยังต้องเชื่ออุ๊ย อุ๊ยเป็นคนทำคลอดฉัน รวมทั้งเด็กทุกๆ คนในหมู่บ้าน”
“ห๊า!”
“ตอนเด็กๆฉันเคยไม่สบายมาก ก็อุ๊ยอีกแหละที่เอาอะไรไม่รู้มากวาดคอให้ ฉันจำได้ว่ากลัวแทบตาย ยาทั้งเหม็นทั้งขมจนจะอ้วก แต่วันรุ่งขึ้นฉันก็หายเป็นปลิดทิ้ง”
เจ้าคุณอึ้งไป แต่สายตายังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
“ฉันเองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ”
“แล้วแน่ใจเหรอว่าถ้าเราไปเอาน้ำจากน้ำตกอะไรนั่นมาให้แคบหมูกินแล้วจะหาย”
“ไม่รู้ รู้แต่อุ๊ยบอกให้ไปเอาก็ต้องไปเอา แล้วเราก็ต้องรีบด้วย เร็ว!”
“เดี๋ยว!”
ทั้งคู่หยุดเดิน สมใจหันมองหน้าเจ้าคุณ
“อะไรอีกล่ะ”
“แล้วทำไมต้องเป็นเรา”
“ทำไมต้องเป็นฉันกับเธอ”
สมใจมองเจ้าคุณอย่างเห็นด้วย
ฟ้าใกล้สว่างมากขึ้นปลัดจืดมารออยู่ที่ใต้ถุนบ้านสมใจ ท่าทางไม่พอใจ
“ทำไมต้องให้ขุนทองไปกับใจ๋ โธ่! ป่านนี้ใจ๋จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้”
“ใจเย็นน่ะ ปลัด ใจ๋มันไม่เป็นไรหรอก”
“ทำไมน้าหมายกับน้าศรีไม่บอกผมล่ะครับ ผมจะได้ไปกับใจ๋เอง”
“ก็อยากบอกอยู่ แต่อุ๊ยน่ะซิ”
“อุ๊ย! อุ๊ยทำไมครับ”
“คืองี้ปลัด คืออุ๊ยบอกว่าไอ้แค๊บน่ะมันโดนผีแม่อุ๊ยนางรอเล่นงาน ไอ้ใจ๋ต้องไปเอาน้ำจากน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอมาให้มันขอขมาแล้วก็กินถึงจะหาย”
คำปุยอธิบายเป็นฉากๆ
“แล้วขุนทองมันเกี่ยวอะไรด้วย”
“ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรด้วย รู้แต่ว่าอุ๊ยสั่งให้ไอ้ใจ๋ต้องไปกับ ไอ้ขุนทองคนคนเดียวเท่านั้น”
“ไอ้ขุนทองคนเดียวเท่านั้น บ้าแล้ว! งมงายที่สุด!”
“หุบปากนะ ไอ้ปลัด!”
ทุกคนสะดุ้งขวับ รับเป็นอุ๊ยยืนจังก้าอยู่บนเรือน
“ไม่เชื่อ อย่าลบลู่!”
ทุกคนจ๋อย ๆ ยกเว้นปลัดจืดที่ยังคงหน้านิ่ง ไม่เชื่อ
“กูรู้ กูเห็นทุกอย่างมันเป็นลิขิตฟ้าพวกมึงอย่าบังอาจ”
ทุกคนพนมมือแต้ ยกเว้นปลัดจืดที่เก็บความรู้สึกห่วงสมใจสุดหัวใจ
ท้องฟ้าเริ่มใกล้สว่าง สมใจจ้ำพรวดๆ เจ้าคุณพยายามเดินตาม
“เธอไม่สงสัยมั่งเหรอว่าทำไมต้องเป็นฉันกับเธอ”
“เอ๊ะ! ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ ไม่สงสัยอะไรทั้งนั้นแหละ จะเซ้าซี้ทำไมเนี่ย”
“จริงเหรอไม่อยากรู้ เห็นเป็นคนอยากรู้อยากเห็นอะไรตลอด”
สมใจเบรกเอี้ยดเพราะรู้ว่าโดนกัด หันกลับมาจะด่า เจ้าคุณเบรกไม่ทันเลยชนกัน หน้าสมใจโขกเข้ากับซิกแพ็คเจ้าคุณเต็ม ๆ
“โอ๊ย!”
สมใจกุมจมูกตัวเองไว้
“เจ็บหรือเปล่า”
“เจ็บซิ! ไม่เจ็บจะร้องเหรอ”
เจ้าคุณยิ้ม แต่สมใจหันมาดุ
“ยิ้มอะไร นิสัยไม่ดี!”
เจ้าคุณยิ้มกว้างขึ้นอย่างขำสมใจ สมใจทำตาดุใส่แต่เจ้าคุณยังยิ้มให้แถมไม่หลบตา
“ไปๆ เช้าแล้ว เดี๋ยวไม่ทันกันพอดี”
สมใจรีบจ้ำพรวดออกไป เจ้าคุณมองตามยิ้ม ๆ ก่อนจะตามออกไป
ใกล้กับหน้าผาน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอ สองคนเดินมาหยุดยืนที่หน้าผาสูงชัน ที่ลักษณะเหมือนทางตัน เพราะมองไม่เห็นเบื้องหน้า
“อ้าว! ไงเนี่ย โอยหลงทางหรือเปล่า”
“นี่ มากะใครยะ ระดับไอ้ใจ๋ เชอะ หลงทางหรือเปล่า แหม”
“แล้วไง ไปไงต่อ เมื่อไหรจะถึงซะที?
“ก็จะถึงแล้วเนี่ย”
“จะถึงแล้ว ไหนน้ำตกอะไรของเธอนั่นอยู่ไหนล่ะ”
“ก็นี่ไง แค่ปีนหน้าผานี่ขึ้นไปก็ถึงแล้ว”
“แค่ปีนหน้าผา ห๊า! ปีนหน้าผาเนี่ยนะ”
“อือ”
“แค่ปีนหน้าผา นี่เธอจะบ้าไปแล้วเหรอสมใจ เธอปลุกฉันขึ้นมากลางดึก เธอลากฉันจากที่นอนออกมาลุยป่าจนสว่างคาตา แล้วนี่ยังจะให้ฉันมาปืนหน้าผา โอ๊ย ง่วงก็ง่วง เมื่อยก็เมื่อย หิวก็หิว ไม่ไหวแล้ว”
“ไม่ไหวก็ต้องไหว”
“ไม่ไหว เธออยากจะปีนก็ปีนไปคนเดียว เธอปีนไปตักน้ำที่น้ำตกบ้าบออะไรนั่นคนเดียว ฉันจะนั่งรอตรงนี้”
“ไม่ได้! อุ๊ยสั่งให้เราต้องไปด้วยกัน”
“ไม่ไป อุ๊ยสั่งเธอไม่ได้สั่งฉัน ฉันไม่ไป”
“ใจดำ!”
“เออ ใช่ ชั้นใจดำ ส่วนเธอ คนใจดีที่โง่งมงาย บ้าไสยศาสตร์เหมือนแม่ฉันไม่มีผิด”
“ห๊า อะไรนะ”
เจ้าคุณรู้ตัวว่าหลุดปากออกมา โดยมีสมใจคอยจับผิด
“ไม่ต้องเลย เมื่อกี๊นายพูดอะไร นายหาว่าฉันบ้าไสยศาสตร์เหมือนใคร”
“เปล๊า!ไม่ได้ว่า”
“ว่า! ว่าฉันบ้าไสยศาสตร์เหมือนแม่นาย นายจำเรื่องเกี่ยวกับแม่นายได้ด้วยเหรอ ตกลงนายติงต๊องจริงหรือ แกล้งติ้งต๊องกันแน่ห๊า นายขุนทอง”
เจ้าคุณอึ้งเมื่อเผลอหลุดความลับจนโดนสมใจจับผิดเข้าให้แล้ว
ที่ห้องถ่ายทอดของก้องเกียรติ มุงดูหน้าจอมอนิเตอร์ ก้องเกียรติกับกึ่งแก้วถือแก้วกาแฟค้างไว้ด้วยความลุ้นทั้งคู่ ด้านหลังมีพนักงาน 2 คน ถือปาท่องโก๋ค้างเติ่งไว้ในมือเช่นกัน สายตาของทั้งหมดจับจ้องอยู่ที่มอนิเตอร์ เจ้าคุณกำลังจนแต้มเพราะโดนสมใจไล่ถามไม่หยุด
“แย่แล้ว ไอ้คุณ” ก้องบ่นพึมพำ
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว มองหน้ากัน กลืนน้ำลายเอื้อก พร้อมใจกันวางแก้วกาแฟก่อนจะกันไปมองมอนิเตอร์อีกครั้ง
เจ้าคุณกำลังโดนสมใจไล่บี้จนเจียนจะถึงตัว
“ว่าไง ตกลงว่าบ้าหรือแกล้งบ้า ห๊า!” สมใจคาดคั้นเจ้าคุณ จนอีกฝ่ายถึงกับสะดุ้ง
“เอ่อ บ้า บ้าจริง”
“บ้าแล้วทำไมถึงจำอะไรๆ เกี่ยวกับแม่นายได้”
“ก็ ก็”
“ก็อะไร”
“ก็ ลุงกำโป๊งเล่าให้ฟัง”
“กี่โมงแล้วเนี่ย ต้องเอาน้ำให้แคบหมูก่อน 9 โมงเช้าไม่ใช่เหรอ”
เจ้าคุณพยายามเปลี่ยนเรื่อง เพื่อเบี่ยงความสนใจเรื่องตัวเอง
“ว๊าย! ตายแล้ว! จริงด้วยซิ!”
“รีบซิ รีบไปซิ” เจ้าคุณรีบเดินนำหน้า
“อ้าว! ไหนบอกจะรอตรงนี้ไง”
“เออน่ะ ไหนๆ ก็มาแล้ว อยากเห็นน้ำตก”
“อะไรวะ” สมใจแอบงง
“เอ้า เร็ว ปีนซิ ปีน”
“แล้วไหวเหรอ ตะกี้บอกง่วง เมื่อย หิว”
“เออ ไม่ง่วง ไม่เมื่อย ไม่หิวแล้วเจ๊ จะปีนก็รีบๆปีนเร็ว”
สมใจมองเจ้าคุณแบบมีข้อสงสัย แต่ก็เสียมิได้เพราะต้องรีบไปให้ถึงน้ำตกเร็วที่สุดก่อนจะลงมือปีนผาอย่างชำนาญ แต่เจ้าคุณเป็นฝ่ายทุลักทุเล สมใจช่วยเหลือเจ้าคุณอย่างมือโปร จนในที่สุดเจ้าคุณขึ้นไปนั่งหอบ บนผาได้สำเร็จ
“ทำได้ไงเนี้ย ไม่น่าเชื่อเลย” เจ้าคุณนั่งหอบแล้วมองไปที่หน้าผาที่เพิ่งปีนมา
“ก็เพราะเราเชื่อน่ะซิ เราก็เลยทำได้”
เจ้าคุณอึ้งมองหน้าสมใจ ก่อนหูจะแว่วเสียงน้ำตก เจ้าคุณค่อย ๆ หันไปมองสิ่งที่อยู่ด้านหลัง น้ำตกสวยงามกว้างและสดชื่นสมค่าการมาถึง สมใจมองน้ำตกด้วยแววตาเปี่ยมสุข
“นี่ไง น้ำตกแม่อุ๊ยนางรอ”
“สวยจริง ๆ” เจ้าคุณตะลึงในความงามเหมือนต้องมนต์สะกด
“ไป รีบไปตักน้ำกันเถอะ”
สมใจรีบวิ่งนำเจ้าคุณไปตักน้ำใกล้ ๆ เจ้าคุณวิ่งตามไปแล้วยืนรอ
“เอ้า เร็วซิ อุ๊ยสั่งให้ตักด้วยกัน”
“ตักด้วยกัน ทำไมต้องตักด้วยกันด้วย” เจ้าคุณยังไม่หายสงสัย
“เหอะน่าเร็ว ๆ อุ๊ยสั่งให้ตักก็ตักเหอะ”
สมใจกระชากมือเจ้าคุณมาจับกระบอกไม้ไผ่แล้วตักน้ำร่วมกัน แถมยังรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนจะรู้สึกเข้าใจกันมากขึ้น แต่ทันใดนั้น สมใจได้สติก่อน
“เอ่อ รีบกลับกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทัน”
“เออ จริงด้วย”
เจ้าคุณเขิน รีบลุกขึ้น แต่พลาดลื่นหงายหลังหล่นโครมลงไปในน้ำตก สมใจขำ
“โธ่เอ๊ย! ติงต๊องแล้วยังซุ่มซ่ามอีก รีบขึ้นมาเร็ว”
เจ้าคุณทำเป็นขึ้นไม่ได้ ยื่นมือขอให้สมใจช่วยดึง
“ช่วยหน่อยซิ ยืนขำอยู่ได้”
สมใจวางกระบอกไม่ไผ่ แล้วเอื้อมสองมือไปให้เจ้าคุณจับ แต่เจ้าคุณเจ้าเล่ห์แกล้งดึงสมใจหล่นโครมตาม
ลงมา สมใจทุบเจ้าคุณ กดหัวเจ้าคุณจมน้ำ เจ้าคุณเอาคืน สองคนเล่นน้ำกันสดชื่นหวานฉ่ำที่น้ำตกอุ๊ยนางรอ อย่างมีความสุข
ห้องคอนโทรลของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว เมื่อเห็นทั้งเจ้าคุณและสมใจ
“ไงล่ะ” กิ่งแก้วตะโกนกัดก้องที่ไม่เชื่อตนแต่แรก
“ไม่จริง คุณหญิงแม่รู้เข้า ไอ้คุณตายแน่” สีหน้าก้องเกียรติเชื่อ แต่ปากยังคงปฏิเสธ
“ไม่ใช่แค่ไอ้คุณตาย เขากะตัวเองก็ตายด้วย งานนี้ตายหมู่”
“ไม่จริง”
“จริงยิ่งกว่าจริง ตายหมู่!”
กิ่งแก้วยื่นหน้าไปพูดใกล้ๆก้องเกียรติ ทำให้อีกฝ่ายใจคอไม่ดีเมื่อรู้ว่าเพื่อนชายกำลังปิ๊งรักสาวบ้านไร่ที่แม่ของเพื่อนอาจไม่ปลื้ม
ที่ใต้ถุนบ้านสมใจ ทุกคนกระสับกระส่าย ทั้งห่วงแคบหมูละห่วงสมใจที่หายไปกับเจ้าคุณ
“ยังไงวะเนี่ย ป่านนี้แล้ว ทำไมไอ้ใจ๋ยังไม่มา” สมหมายพูดอย่างหงุดหงิด
“ผมไปตามดีกว่าครับ น้าหมาย”
“ไอ้ใจ๋มาแล้ว!”
คำปุยเสียงแหลมขึ้นมาทันที สมใจกับเจ้าคุณจ้ำอ้าวเข้ามาพร้อมกระบอกไม้ไผ่ แต่ตัวทั้งคู่ยังเปียกอยู่ ทุกคนปรี่ไปหาสมใจ ทักทายกันลั่น
“ไอ้ใจ๋” สมหมายกับสมศรีเข้าไปกอดลูกสาวไว้แน่น
“ใจ๋ ไม่เป็นไรนะ” ปลัดจืดรีบถาม
“ไม่เป็นไร! ทำไมใจ๋จะต้องเป็นไรด้วยล่ะ”
ทุกคนมองสภาพเปียก ทุกคนมองสมใจ กับเจ้าคุณเป็นตาเดียว
“เอ่อ ใจ๋ได้น้ำมาแล้วจ๊ะ”
“จริงซิ รีบเอาไปให้อุ๊ยเถอะเร็ว”
สมศรีรีบทักขึ้น ทุกคนวิ่งกรูขึ้นบ้าน เหลือปลัดกับเจ้าคุณ ปลัดหันมองหน้าเจ้าคุณก่อนจะวิ่งขึ้นไป ทิ้งให้เจ้าคุณยืนมองตามอยู่ตรงนั้น
ขึ้นไปบนบ้าน สมใจยื่นกระบอกไม้ไผ่ให้อุ๊ย และแววตาลุ้นกับอาการของแคบหมู อุ๊ยจ้องหน้าสมใจก่อน จึงค่อยรับกระบอกไม้ไผ่มาไว้ในมือแล้วทูนขึ้นไหว้เหนือหัวก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปจ้องแคบหมูที่นอน
ตัวสั่นครางฮืออยู่ที่เดิม ทุกคนมองลุ้นกันเงียบกริบ เจ้าคุณโผล่หน้ามาแอบมองดูอยู่มุมหนึ่ง ไม่มีใครเห็น
อุ๊ย ทรุดลงนั่งข้างๆ แคบหมู ทันใดนั้นแคบหมูร้องกรี๊ดเด้งดึ๋งขึ้นนั่งสั่นราวกับผีเข้าทันที ทุกคนตกใจกอดกันกลม ยกเว้นปลัดจืดยืนมองอย่างประหลาดใจ
“แม่อุ๊ย ได้โปรดเอ็นดูลูกหลานม่วนแต๊ มันไม่ประสา มันโง่เง่า” อุ๊ยฌพล่งออกมารีบก้มลงกราบ พนม
มือแต้
“ก็ไม่ยอม!”
อุ๊ยหน้าเครียด ทุกคนหน้าเสีย ปลัดจืดก็ชักจะ ยังไงวะ เจ้าคุณมองอย่างไม่เชื่อสายตา
“อุ๊ย ทำยังไงดีล่ะ”
“อุ๊ย ช่วยนังแค๊บให้ได้นะจ๊ะอุ๊ย”
“อย่ามาสั่งกู! กูก็ช่วยอยู่เนี่ย แต่แม่อุ๊ยไม่ยอม หูหนวกรึไงวะ”
อุ๊ยตวาด สมใจจ๋อย สมศรีปรามให้สมใจอย่ากวนใจอุ๊ย
“อุ๊ยจ๋าอุ๊ย อุ๊ยคนเก่ง ต้องช่วยนังแค๊บได้แน่ๆ เลย” สมศรียังคงพนมมือหวังการช่วย
อุ๊ยแอบปลื้มกับคำชมของสมศรี ก่อนจะหันกลับไปจ้องแคบหมูที่สั่นพั่บๆ อยู่ อุ๊ยยกกระบอกไม้ไผ่ขึ้นท่วมหัวก่อนจะเริ่มฟ้อนอย่างงาม
ทุกคนจ้องมอง ปลัดจืดส่ายหน้างง พร้อมกระซิบถามสมใจ
“พาไปหาหมอในเมืองดีกว่าใจ๋ แคบหมูเป็นไข้นะ ไม่ใช่ผีเข้า”
อุ๊ยชะงักกึกทันที หันขวับจ้องปลัดจืดตาวาว ชี้หน้าปลัดจืดทันที
“ไอ้ปลัด! มึงอยากโดนดีอีกคนใช่มั้ยถึงได้บังอาจลบหลู่แม่อุ๊ยนางรอ”
ปลัดจืดอึ้งกิมกี่ที่อุ๊ยได้ยิน
“ปลัด! ขอสุมาอุ๊ยเดี๋ยวนี้!” สมหมายร้องบอกปลัดจืด ทุกคนรีบบอกให้ปลัดจืดยกมือไหว้ขอโทษ
“ขอสุมาเต๊อะครับอุ๊ย”
ปลัดยอมทำตาม อุ๊ยค้อนขวับก่อนจะยกกระบอกไม้ไผ่ขึ้นท่วมหัวอีกทีแล้วทรุดลงนั่งข้างแคบหมู
“ไอ้พวกหนุ่มสาวละอ่อนมันโง่เง่านัก บัดนี้พวกมันสำนึกแล้ว ขอแม่อุ๊ยอย่าถือสา ขอสุมาเต๊อะ ขอให้น้ำจากน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอกลายเป็นยาชะล้างความชั่วร้ายในตัวมันให้หมดไปด้วยเต๊อะ สาธุๆ”
พูดจบอุ๊ยก็เอาน้ำในกระบอกไม้ไผ่กรอกปากแคบหมู แคบหมูกระตุก ร้องกรี๊ดๆ ตัวสั่นอย่างแรงก่อนจะหงายหลังสลบล้มตึงนอนแน่นิ่งไป
“แคบหมู!”
ทุกคนกรูเข้าไปรุมแคบหมูกันใหญ่
“อุ๊ย! นังแคบเป็นอะไร ทำไมเป็นอย่างนี้”
“แล้วมึงอยากจะให้มันสั่นพั่บๆ อย่างตะกี๊อีกรึไง”
อุ๊ยปาดเหงื่อ แอบเหนื่อย ตวาดใส่สมใจอีกรอบ
“ให้มันนอน เดี๋ยวมันก็หาย!”
สมหมาย สมศรีและทุกคนไหว้ขอบคุณ อุ๊ยพยักหน้ารับสีหน้านิ่งแล้วเดินออกไป
“ต้องขอบคุณแม่อุ๊ยนางรอถึงจะถูก ท่านอภัยไม่ถือสา เฮ้อ! นี่ถ้ามึงกับไอ้ ไอ้ อะไรนะ”
“ไอ้ขุนทองจ้ะ” คำปุยรีบตอบแทน
“เออ นี่ถ้ามึงกับไอ้ขุนทองไปตักน้ำที่น้ำตกมาไม่ทันกาลล่ะก็ อีนังอ้วนนี่ตายแน่!”
สมใจอึ้ง นึกถึงเจ้าคุณ โดยไม่รู้ว่าเจ้าคุณแอบยืนดูอยู่ สมใจหันหลังกลับไปแต่ไม่มีเจ้าคุณอยู่ตรงนั้นแล้ว
ในขณะที่ปลัดจืดสีหน้าแววตาเซื่องซึม กังวลเรื่องความสีมพันธ์ของสมใจและเจ้าคุณอยู่ไม่น้อย
อ่านต่อตอนที่ 5 เวลา 18.00 น.