รักออกอากาศ ตอนที่ 7
เวลาเดียวกัน ภายในห้องคอนโทรล ทั้งแฟนคลับขุนทอง และพนักงานแน่นห้อง ทุกคนเฮกันตัวลอย วิบูลย์ จอย กอดกันแน่นก่อนจะตกใจ ผละออกจากกัน
คนดูซึ่งดูกันทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก กินโจ๊กกันหน้าจอทีวี โดดกอดกันตัวลอย วัยรุ่นเฮหน้าคอมพ์ โดดดีใจบนเตียง รปภ.ดูทีวีหน้าป้อมเฮ คู่รักกอดกันแน่น มีเพียงแมทธิวที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่หน้าทีวีในคอนโดตัวเอง ผิดหวังเจ้าคุณกลายเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ ผ่านรายการเรียลลิตีไฮโซบ้านเฮา
“ไอ้คุณ อย่าหวังเลย ว่าแกจะอยู่ที่นู่นได้อย่างมีความสุข!”
แมทธิวมองไปที่ทีวีเห็นเป็นภาพเจ้าคุณแววตาอาฆาตมาดร้าย ก่อนที่แมทธิวมองไปที่สมใจด้วยสายตามีแผนร้าย
ทุกคนกำลังดีใจแต่กำโป๊งดูท่าจะไม่ได้ปลื้มเหมือนคนอื่น เมื่อขุนทองตัดสินใจอยู่ต่อแบบกะทันหัน
“นี่มันยังไงกันมิทราบครับ ไอ้คุณหมอก้อง จู่ๆ ก็จะนึกอยากจะอยู่ต่อกันขึ้นมาซะงั้น ถามกูซักคำรึยังวะ”
“ถามอ้ายขุนทองหลานลุงดีกว่ามั๊งครับ”
“ไอ้เวร! หลานข้าที่ไหนล่ะ”
“อ้าว! ตะกี้เห็นเรียกเต็มปากอ้ายขุนทองหลานข้า”
เจอาร์แซว จนกำโป๊งโมโหชูกำปั้นจะต่อย
“อยากโดนกำปั้นเต็มปากมั่งมั้ยล่ะ ไอ้หน้าฝรั่ง”
เจอาร์จ๋อย กิ่งแก้วรีบเข้ามาปลอบกำโป๊ง
“ใจเย็นก่อนนะคะไว้ฟังเหตุผลจากเจ้าคุณก่อนดีกว่าว่าเพราะอะไรถึงเปลี่ยนใจ”
กิ่งแก้วยิ้ม เพราะรู้เหตุผลอยู่แล้ว
“นั่นซิ! มันนึกยังไงของมัน เอ่อ..ว่าแต่มันหายหัวไปอยู่ที่ไหนละวะเนี่ย”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว มองหน้ากันแล้วยิ้ม
บ่ายวันนั้น ที่ไร่ชาม่วนใจ๋ เจ้าคุณยืนอยู่กับสมใจ ซักพักสมใจพูดขึ้น
“เพราะ..ม่วนใจ๋”
เจ้าคุณหลบตา
“เพราะม่วนใจ๋ นายเลยจะยังไม่ไปกรุงเทพฯ”
เจ้าคุณยังหลบตานิ่ง
“ที่จริงนายก็ไม่เห็นจะต้องทำถึงขนาดนี้เลย”
“จะให้ฉันทิ้งไปได้ยังไง”
สมใจหันมองขวับ
“..เอ่อ..จะให้ฉันทิ้งม่วนใจ๋ไปได้ยังไง เพิ่งจะวิดน้ำเสร็จ ยังต้องฟื้นฟูอะไรอีกตั้งเยอะ”
สมใจจ๋อยเล็กน้อย คิดว่าจะบอกว่าไม่อยากทิ้งตนเอง
“..แล้ว..แน่ใจเหรอว่านายไม่เป็นอะไรแล้ว..ให้หมอก้องเช็คอีกทีดีกว่ามั้ย”
เจ้าคุณไม่ตอบได้แต่เงียบไป
ที่บ้านกำโป๊ง ใกล้หมอก้องเอาปรอทยัดปากเจ้าคุณ ทุกคนลุ้น
“ต้องเช็คให้ละเอียดครับ ไม่ประมาท”
ก้องเกียรติยิ้มแหย พูดจบก็ส่งปลอกแขนที่วัดความดันให้เจอาร์
“เอ้า! ใส่แขน ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คราวนี้ก็อาจจะซักปีนึง หมอถึงจะมาติดตามอาการอีกครั้ง”
ก้องเกียรติบอกกับสมใจ กำโป๊งตกใจ
“ปีนึง!”
“แหม..ดีใจน่าดูเลยนะคะคุณลุง”
กิ่งแก้ว พูดพลางหันมากอดกำโป๊งไว้
กำโป๊งบ่นงึมงำ เจอาร์ร้องจ๊ากขึ้นมา
“จ๊าก!”
“เฮ่ย เป็นอะไรของเอ็งวะ”
กำโป๊งตวาดถาม เจอาร์ชูแขนตัวเอง เห็นปลอกแขนที่วัดความดันรัดแขนตัวเองแน่น
“พอแล้วหมอ เจ็บ เฮิร์ต”
“ปัทธ่อ! บอกให้ใส่แขนไอ้คุณ”
ก้องเกียรติรีบไปกระซิบบอก เจอาร์รีบถอดออก
“อ้าว! ตลกครับ เล่นตลกแถมให้ดูฟรีเป็นแพคเกจใหม่ หัวเราะวันละนิดจิตแจ่มใส”
ทุกคนขำๆ กันไป ยกเว้นกำโป๊งยังเคือง
“คุณหมอคะ ตกลงอาการขุนทองไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงใช่มั้ยคะ”
ก้องเกียรติมองหน้าเจ้าคุณ
“อาการทางสมองไม่มีอะไร แต่อาการทางหัวใจอาจมีโรคแทรกซ้อนครับ”
สมใจตาโตเหมือนเชื่อจริง ส่วนเจ้าคุณรู้ว่าโดนกัด แต่แสดงอาการไม่ได้
“โรคแทรกซ้อน โรคอะไรคะ”
“เบื้องต้นสันนิษฐานว่าโรคหัวใจนะครับ”
ก้องเกียรติรีบบอก สมใจตกใจ
“โรคหัวใจ”
“โรคหัวใจประเภทนี้ หมออาจจะรักษาไม่หายซะด้วย เพราะหมอไม่มียา”
เจ้าคุณแอบชี้หน้าก้องโดยที่คนอื่นไม่เห็น
“แล้วอย่างนี้จะทำยังไงคะ จะต้องใช้ยาอะไร มีขายที่ไหนคะหมอ”
สมใจห่วงจริง ส่วนกิ่งแก้วยิ้มพอใจ
“ใจเย็นค่ะ ยานี้ไม่มีขาย แต่ขุนทองอาจจะได้ ยาดีแถวๆ นี้แหละค่ะ”
สมใจยังงง เจ้าคุณชี้หน้ากิ่งแก้วอีกคน สมใจหันมามองเจ้าคุณ เจ้าคุณรีบทำท่าเป็นปกติแล้วรีบยิ้มให้
เวลาผ่านไปสักครู่ ชาวบ้านละทุกคน ไปรวมตัวกันที่ไร่ชาม่วนใจ๋ ทุกคนช่วยกันฟื้นฟูไร่ชาม่วนใจ๋ ไม่นานไร่ชาม่วนใจ๋กลับคืนสู่สภาพเดิม ชาวบ้านทุกคนปลื้มใจ เจ้าคุณเอาไม้กระดานมาเล่นแทนเวคบอร์ดโชว์ เด็กๆ ชาวบ้านปลื้มกันใหญ่ ทุกคนมีความสุข
ที่ออฟฟิศของก้องเกียรติ ทุกคนเฮชนแก้วกันครื้นเครง โดยมีวิบูลย์อยู่ด้วย บรรยากาศดูกันเอง
“และวันนี้เสี่ยวิบูลย์ก็มีข่าวดีจะบอกพวกเราด้วยใช่มั้ยคะ”
กิ่งแก้วพูด ทุกคนส่งเสียงเฮดีใจ
“ใช่ๆ คือเพื่อเป็นรางวัลที่อาคุณก้อง กะอาคุณกิ๋งสามารถทำให้อาคุณเจ้าคุณอยู่ทำรายการไฮโซบ้านเฮาต่อไปได้อีก อั๊วก็จะเพิ่มเวลาให้บริษัทลื้ออีก 2 รายการเลย”
“เฮ!”
“โห..แค่นี้เองเหรอคะเสี่ย”
จอยโพล่งขึ้น
“แหม จะเอาอะไรอีก”
“นั่นซิครับ รายการเรตติ้งออกจะกระฉูดซะขนาดนี้”
บ๊วยบอก พร้อมกับทุกคนตะโกนบอกให้แจกเงิน วิบูลย์ค้อนขวับ ปาดเหงื่อ
“ก็ล่าย อั๊วจะตบรางวัลให้ทุกคน คนละ 5 พัน!”
ทุกคนเฮดีใจกอดกันกลม
“สนุกกันใหญ่เลยนะครับ”
ทุกคนชะงักหันมอง เมื่อเห็นแมทธิวยืนหน้ายิ้มกวนเข้ามาแบบไม่ได้รับเชิญ
อีกมุมออฟฟิศก้องเกียรติ มีประเด็นที่ทำให้ทั้งหมดต้องมาคุยกัน เรื่องการอยู่บ้านม่วนแต๊ต่อของเจ้าคุณ
“แกจะบ้าไปแล้วเหรอไอ้แมท”
ก้องเกียรติโพล่งขึ้นเสียงดัง
“ฉันไม่ได้บ้า แต่พวกแกสซิบ้า แกคิดว่าแกจะหลอกไอ้คุณมันได้อีกนานแค่ไหน”
ก้องเกียรติอึ้งไป แต่กิ่งแก้วพร้อมลุย
“พวกเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะอีกนานแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบเอาเจ้าคุณกลับมา
“นั่นซิ! หรือว่าแกอยากกราบเท้าไอ้คุณมันเร็วๆ เหรอวะไอ้แมท”
เจอาร์เสริมกิ่งแก้ว จนโดนแมทธิวด่ากลับ
“ไอ้เจอาร์ ถ้าปากว่างก็ไปหาอะไรยัดปากไว้ก่อนดีมั้ย”
“เออ..ดีเหมือนกัน”
เจอาร์คว้าขนมมาเคี้ยวหน้าตาเฉย
“ไอ้แมท..ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ขอร้องนะเว๊ย อย่าเพิ่งบอกให้ไอ้คุณรู้เด็ดขาด”
“ไอ้ก้อง..ถึงแม้แกจะหลอกไอ้คุณได้ แต่แกคิดว่าแกจะหลอกคุณหญิงแม่ของไอ้คุณมันไปได้อีกนานแค่ไหนวะ”
ก้องเกียรติอึ้ง ลืมนึกถึงรจนาวรรณ แมทธิว ยิ้มเจ้าเล่ห์
บ๊วยกำลังคุมคอนโทรลอยู่ แมทธิวเดินผ่านประตูไปแล้วชะงักถอยหลังกลับมายืนมองภาพนิ่งระหว่างเจ้าคุณกับสมใจที่กอดกัน ที่ขึ้นคาจอไว้ แล้วนึกแผนร้ายขึ้นได้ แล้วควักมือถือขึ้นมาถ่ายภาพนั้นไว้
“เสร็จฉันล่ะ...ไอ้เจ้าคุณ!”
เอมี่นั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ แต่แอบหลับโงกเงก ทันใดนั้นเสียงข้อความดังขึ้น เอมี่สะดุ้งเฮือกลืมตาโต
“อุ้ย! แฮ่ๆ”
ผู้ปฎิบัติธรรมทั้งหลายที่นั่งสมาธิเรียงกันอยู่ หันมามองเอมี่เป็นตาเดียว เชิงตำหนิรวมทั้งรจนาวรรณด้วยที่ต้องปรามเอมี่
“ลูกมี่”
“แหะๆ”
แม่ชีปรี่เข้ามาพูดเนิบๆ แต่สอนได้เจ็บปวดถึงใจ
“หนึ่งเดือนเหมือนไร้ค่า อุตส่าห์สละทุกอย่างมาเพื่อหวังจะพบแสงสว่างไม่ใช่เหรอลูก”
แม่ชีขอแบมือขอมือถือ เอมี่หน้าแหยหยิบมือถือที่เหน็บอยู่ที่เอวส่งให้แม่ชีอย่างอิดออด พอใกล้ถึงมือแม่ชีก็รีบชักกลับมา
“ขออ่านอีกแมสเสจเดียวได้มั้ยคะ”
“เมื่อมีหนึ่งก็มีสองสามสี่ตามมา ถ้าจะตัด..ต้องตัดให้ขาดตั้งแต่ต้นนะลูก”
เอมี่แอบหงุดหงิด แล้วส่งมือถือให้แม่ชียึดไว้ แม่ชีเดินออกไป
“โอ๊ย! จะบ้าตายอยู่แล้ว”
“ลูกมี่...” รจนาวรรณร้องทัก
“คุณหญิงแม่คะ”
“แอบพกมือถือมันผิดกฎนะลูก”
“แล้วถ้าคุณคะคุณขาแมสเสจมาล่ะคะ”
“คุณพระช่วย จริงด้วยซิ แล้วลูกมี่เอามือถือให้แม่ชีไปทำไมล่ะ โธ่เอ๊ย!”
“นั่นไง!”
เอมี่ทำหน้าอย่างอารมณ์หน่าย
“เอ๊า! ยังอีก ลูกคุณอยู่อังกฤษจะเดือดร้อนอะไรยังไงรึเปล่าก็ไม่รู้ โธ่ทำไมไม่รีบไปเอาคืนมาล่ะลูก”
“อ้าว มี่จะไปเอาคืนยังไงล่ะคะ คุณหญิงแม่”
รจนาวรรณแอบกลุ้มใจ คิดถึงเจ้าคุณมากขึ้น
คืนนั้นที่หน้าห้องพักแม่ชี เอมี่และรจนาวรรณ สองคนย่องเข้ามาที่หน้าห้องแม่ชีที่ยึดมือถือเอาไว้ “ห้องนี้แหละ..รีบเข้าไปเร็วสซิลูกมี่”
“อ้าว! แล้วคุณหญิงแม่ล่ะคะ”
“เอ๊า! มือถือลูก ลูกก็เข้าไปเอาซิ”
“เอ๊ะ! แต่คุณหญิงแม่อยากเอามาดูแมสเสจคุณคะคุณขาไม่ใช่เหรอคะ”
“แหม..ก็แม่กลัวบาป”
เอมี่เบือนหน้าไปอีกทาง
“ชิ!”
“น่านะ..ลูกมี่..แม่อุตส่าห์สะสมบุญให้ลูกคุณได้ตั้งเยอะแล้ว ลูกก็นึกว่ายอมทำบาปซักนิดเพื่อลูกคุณได้มั้ยจ๊ะลูกมี่จ๋า”
เอมี่เบือนหน้าไปแหวะ ก่อนจะกลับมายิ้มหวาน
“โอเคค่ะ เพื่อคุณหญิงแม่และคุณคะคุณขาของมี่”
“มันต้องอย่างนี้ซิ ลูกสะใภ้คนดีของแม่”
เอมี่กรอกตาไปมาด้วยอารมณ์เซ็ง
“คุณหญิงแม่ดูต้นทางดีๆ นะคะ”
“จ้ะๆ”
เอมี่ย่องเข้าห้องไปท่ามกลางความลุ้นของคุณหญิงแม่
เอมี่ย่องเข้ามาในห้องพักชีที่มืดตึ้ดตื๋อ เอมี่ปรับสายตากวาดตามอง เห็นแม่ชีนอนอยู่กับพื้นที่มุมนึง เอมี่ค่อยๆ ย่อง ไปกวาดตามอง มือก็แอบค้นๆ หาโทรศัพท์มือถือ แม่ชีกรน เอมี่สะดุ้งเฮือกยืนตัวแข็งก่อนจะทำหน้าแสยะใส่ แล้วค้นต่อ เอมี่เห็นมือถือของตัวเองวางอยู่ ดีใจมาก รีบตะปบมือถือหันขวับกลับมาเจอผู้หญิงแก่ ผมขาวก็ตกใจสุดขีด
“กรี๊ด!”
แม่ชีสะดุ้งลืมตาโพลง
“กรี๊ด!”
รจนาวรรณตกใจ
“ลูกมี่!”
เอมี่ขัดส้วม โดยมีแม่ชีกับลูกศิษย์ ยายแก่ผมขาวที่คิดว่านึกเป็นผี ยืนคุม
“อดทนหน่อยนะลูก สักวัน บัวใต้น้ำอย่างลูกก็คงจะเป็นบัวพ้นน้ำได้ เชื่อแม่”
แม่ชีพูดจบก็เดินออกไปพร้อมลูกศิษย์
“ฉันเป็นคนเว๊ย! ไม่ใช่บัว หึ้ย”
เอมี่ขัดแรง แล้วขว้างแปรงร้องไห้ราวกับเด็ก รจนาวรรณยืนอยู่อีกมุมอย่างสุดกลัว และสงสารเอมี่
“โธ่! ลูกมี่..”
แมทธิวนั่งจ้องมือถือในมืออย่างโมโหเพราะไม่มเอมี่ไม่ได้ติดต่อกลับ
“อะไรวะ ป่านนี้ยังไม่โทร.มา จะบ้ารึเปล่า เอมี่”
“อะไรอ่ะคะ..พี่แมท! อยู่กับน้องนกแต่รอโทรศัพท์นังเอมี่”
นกโผเข้ากระชากมือถือ แต่โดนแมทธิวผลักกระเด็น
“อย่าจุ้น!”
“ว๊าย! พี่แมทใจร้าย ฮือๆ พี่แมทใจร้าย”
นกทุบตีแมทธิวจนอีกฝ่ายรำคาญ
“เฮ๊ย หยุด!”
นกไม่หยุด แมทธิวลากนกโยนออกไปนอกห้อง ปิดประตูโครม ไม่สนใจนกที่ทุบประตูรัวอยู่หน้าห้อง ส่วนตัวเองพยายามกดมือถือหาเอมี่ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ
“โอ๊ย งี่เง่า งี่เง่ากันไปหมดเลยเว๊ย”
พูดจบก็เขวี้ยงมือถือทิ้งไปอย่างอารมณ์เสีย แล้วคว้ารีโมทมากดทีวี จ้องตาวาว
“ไอ้คุณ! ดังนักเหรอแก”
หน้าจอทีวีฉายภาพเจ้าคุณในเรียลิตีขึ้นมาอีกครั้ง
ที่โรงเก็บใบชา เจ้าคุณ สมใจ สมศรี คำปุย แคบหมู และชาวบ้าน กำลังคัดเลือกใบชาอยู่กับทุกคน
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า ดึกแล้วกลับบ้านนอนกันได้แล้ว”
“แม่..ออเดอร์เพียบเลยนะ ทั้งในเมืองแล้วก็ที่กรุงเทพฯ”
สมใจพูด แต่เจ้าคุณชะงักเมื่อได้ยินคำว่ากรุงเทพฯ
“ใช่จ้ะ..โดนน้ำท่วม ใบชาขาดตลาดไปตั้งนาน แฟนคลับเลยเรียกร้อง ฮิๆ”
คำปุยพูดอย่างดีใจ
“อย่าโลภมากกันนักเลย ทำเท่าที่ทำกันได้ เอ็งไม่เหนื่อย แต่คนอื่นเขาเหนื่อยกันนะไอ้ใจ๋..ไอ้ปุ๋ย”
สมศรีเอ่ยขึ้น ในขณะที่แคบหมูหาวโชว์ทุกคน
“จริงจ้ะ..ป้าศรีพูดถูก”
พูดจบคว้าขนมมานั่งเคี้ยวอย่างสบายใจ
“ก็ขยันกินกับนอนนักถึงได้อ้วนยังกะแหนมป้าย่น”
คำปุยกัดแคบหมู
“แหม..เจ๊อ่ะ”
“เอาล่ะ..กลับบ้านกันได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ ขอบใจทุกคนนะ”
สมศรีตะโกนบอก ทุกคนแยกย้าย ขณะที่เก็บข้าวของ คำปุยชวนสมใจคุย
“นี่..นังใจ๋ พูดถึงกรุงเทพฯ แกยังจำได้มั้ย ไอ้หนุ่มไฮโซซิกแพ็คที่เราเคยเจออ่ะ”
เจ้าคุณสะดุ้ง
“โอย จำได้ซิ ทำไมจะจำไม่ได้ ไอ้ไฮโซเลวนรกอย่างนั้น จำไม่เคยลืม”
เจ้าคุณกลืนน้ำลายเอื๊อก
“แหม...แกก็เรียกซะ เออ ว่าแต่ถ้าต้องไปส่งชาล็อตนี้ที่กรุงเทพฯแล้วดันป๊ะกะพ่อซิกแพ็คนั่นอีก แกจะทำไง”
เจ้าคุณลุ้นคำตอบ
“จะทำไง ก็จะไล่เตะมันให้หางจุกตูดเลยซิ”
เจ้าคุณสะดุ้ง
“หนอย..ยังแค้นไม่หาย คนอะไรเลวนรก เกิดมาไม่เคยเจอะเคยเจอ เจ้าประคู้ณ..ชาตินี้ขออย่าให้ได้เจอะเจอกันอีกเลย ชิ้วๆ”
เจ้าคุณอึ้งไป คำปุยเข้ามาควงแขนเจ้าคุณ
“น่านน่ะซิ..ใครมันจะไปน่ารักแสนดีเท่าอ้ายขุนทองของหมู่เฮา ฮิ้ว!”
คำปุยกับแคบหมูฮิ้วกันลั่น แคบหมูยื่นหน้าใส่สมใจ
“แม่นก่อ..เจ๊!”
“ทะลึ่งๆ..เดี๋ยวแม่จับทำแหนมซะเลย”
ทุกคนขำๆ กัน ยกเว้นเจ้าคุณที่ยิ้มแหย เพราะถ้าสมใจรู้ว่าตนขุนทองกับไฮโซเจ้าคุณคือคนเดียวกันต้องไม่จบสวยแน่
“เคยไปมั้ย กรุงเทพฯ”
สมใจหันไปถามเจ้าคุณ
“ ห๊า ว่าไงนะ”
เจ้าคุณตกใจถึงกับสะดุ้ง
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น แค่ถามว่าเคยไปกรุงเทพฯมั้ย?!
“อ๋อ..เอ่อ..”
“แน่ะ บ้านน้อก คนมันไม่เคยก็เงี้ย กรุงเทพฯเนี่ยนะอ้ายขุนทอง มัน มัน..มันอเมซิ่งมากๆ มีไอ้นี่ด้วย...รถบนฟ้ากะรถในดิน”
แคบหมูโม้ไปเรื่อย เจอคำปุยเบิ๊ดกะโหลก
“แกแหละบ้านนอก นังแค๊บ เขาเรียกรถไฟฟ้ากะรถไฟใต้ดินเว๊ย”
“เออๆ นั่นแหละ”
“ แกเคยไปแล้วเหรอนังแค๊บ”
“แฮ่ๆ ไม่เคย”
“แล้วยังมีหน้ามาคุย ไว้คราวนี้จะพาไป”
สมใจจะพาแคบหมูไปด้วย ทำเอาดีใจสุดขีดกอดสมใจยกใหญ่
“ไชโย้ จริงนะ..เจ๊ใจ๋ วู้ว เจ๊ใจ๋ใจดีขนาดๆ”
“นายด้วย..ขุนทอง..ไว้ฉันจะพานายไปเที่ยวกรุงเทพฯด้วย”
เจ้าคุณอึ้ง สมใจยิ้มให้อย่างจริงใจ
“ดีมั้ย”
“เอ่อ..เอ่อ...”
เจ้าคุณติดอ่าง พูดไม่เต็มปาก
“อ้าวๆ..ติดอ่างอีกแล้วดีใจจนติดอ่างเลยเหรอเนี่ย ฮ่าๆ”
คำปุยกับแคบหมูขำกันลั่น สมใจมองเจ้าคุณด้วยความเอ็นดู เจ้าคุณอึ้งพูดไม่ออกอีกเช่นเคย
ที่ห้องคอนโทรลก้อง จอยกระโดดตัวลอย
“วู้วๆ เจ้าคุณกะสมใจจะพากันมาแอ่วกรุงเทพฯ ม่วนขนาดละเว๊ยทีนี้ จริงมั้ยคะ บอสก้องบอสกิ๋ง?!
“ม่วนบ้านแกซิ จอยฎ
“อ้าว?”
“ขืนมาก็งานเข้า ตอนนี้ใครๆ ก็รู้จักอ้ายขุนทองกะเจ๊ใจ๋กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว”
ก้องเกียรติพึมพำกับตัวเอง
“เย้ย!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว หันมามองหน้ากันแล้วอุทานพร้อมกัน
“แย่แล้ว!”
กำโป๊งพูดโทรศัพท์ด้วยอารมณ์โมโห
“เรื่องของเอ็ง ไอ้หมาก้อง! อ้ายขุนทองมันจะไปขึ้นสวรรค์รึตกนรกที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับข้า”
“โธ่! ลุงค้าบ”
“ไม่ต้องมาคับมาหลวม แค่นี้ข้าก็ปวดกบาลจะแย่อยู่แล้ว ไอ้กำโป๊งนะไอ้กำโป๊งคบเด็กสร้างบ้านแท้ๆ”
“ฮาโหล นี่กิ๋งนะคะ คุณลุงสุดหล่อ”
“พอเลย อีหนูกิ๋ง อย่าหวังว่าข้าจะเคลิ้ม ให้มันรีบๆ ไปเลยกรุงเทพฯน่ะ ความลับจะได้แตก แล้วไอ้ขุนทองของเอ็งจะได้รีบๆ กลับบ้านไปซะที แค่นี้นะ”
พูดจบกำโป๊งวางสาย ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองหน้ากัน หมดหวัง
กำโป๊งล็อกกุญแจห้องลับ ปากก็บ่นพึมพำ
“ไม่รู้มันเวรกรรมอะไรของไอ้กำโป๊งถึงได้ต้องมาร่วมขบวนการแหกตาชาวบ้านกับไอ้เด็กพวกนี้ เจ้าประคู้ณ ขอให้ไอ้ขุนทองมันรีบๆ ไปกรุงเทพฯ วันนี้พรุ่งนี้”
กำโป๊งพูดไม่จบ หันมาเกือบชนเจ้าคุณ กำโป๊งตกใจสุดขีด
“จ๊าก!”
เจ้าคุณมองสงสัย
“ไอ้บ้า! มายืนหน้าเอ๋ออยู่ตรงนี้ทำไมวะ ตกใจหมด!”
“ลุงรู้ได้ยังไงว่าฉันจะไปกรุงเทพฯ”
“ไปกรุงเทพฯ อะไร ข้าไปรู้อะไร เมื่อไหร่ ว่าเอ็งจะไปกรุงเทพฯ”
กำโป๊งกลบเกลื่อน
เ “ก็เมื่อกี๊ ตอนลุงออกมาจากห้องนั้นน่ะ”
“เฮ้ย! เปล่า ข้าก็พูดของข้าไปเรื่อย”
เจ้าคุณมองอย่างไม่เชื่อ กำโป๊งถอนหายใจ
“เห็นใจข้ามั่งซิวะ ต้องโกหกชาวบ้านชาวช่องเขามาเป็นเดือน มันเหมือนตกนรก ข้าก็อยากให้เอ็งรีบๆ กลับไปซะที ก็เท่านั้น!.
“โกหก”
“ใช่..โกหก”
“ฉันก็ไม่อยากโกหกใครเหมือนกัน”
เจ้าคุณพึมพำเพราะไม่อยากโกหกสมใจเช่นกัน
สมใจประแป้งหน้าโต๊ะกระจก แคบหมูโผล่มาในกระจก
“เจ๊!”
แคบหมูค่อยๆเรียก สมใจตกใจจึงโดนเขกหัวไปหนึ่งที
“ ว๊าย!นี่แน่ะ! นังแค๊บ ตกใจหมด”
“แหม..เดี๋ยวนี้ขวัญอ่อนนะเจ๊”
คำปุยเข้ามาเสริม
“นั่นน่ะเซ่..ขวัญจ๋าขวัญ เดี๋ยวนี้มัวแต่ลอยไปอยู่ที่ไหน อยู่กะใคร ทำไมถึงไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ฮ่าๆ”
สมใจ แอบเขิน แต่ยังมีฟอร์ม
“ขำตรงไหนวะขำตาย”
“อายล่ะซิ ขำไม่ออก ฮ่าๆ”
สมใจยัดอะไรแถวนั้นเข้าปากคำปุยทันที
“แค่กๆ ต๊าย นังใจ๋ นังเจ๊โหด ใจคอจะฆ่าเพื่อนเหรอยะ”
“ก็ถ้าแกไม่หยุดพูดเพ้อเจ้อล่ะฉันฆ่าแกแน่”
“อย่าเพิ่งฆ่ากันเลยเจ๊ เดี๋ยวชั้นอดไปกรุงเทพฯ พอดี”
“โหย..นังนี่ นึกว่าห่วงพี่ห่วงเชื้อ ที่แท้ห่วงตัวเองอดไปเที่ยวกรุงเทพฯ”
“นะเจ๊ใจ๋นะ เจ๊ใจ๋คนสวย เจ๊ใจ๋คนดี เจ๊ใจ๋...”
“พอๆ ไม่ต้องมายอ ไว้ถ้าไปเมื่อไหร่จะพาแกไป นังแค๊บ จะพาไปกินหมูกะทะด้วย แต่คนบางคนอาจจะอด อยากพูดมากดีนัก”
“อ้าวๆ นังใจ๋ ถ้าแกไม่พาฉันไป แล้วดั๊นไปเจออีตาซิกแพ็คนั่นหาเรื่องอีก คราวนี้ไม่มีใครช่วยไม่รู้ด้วยนะยะ”
“เชอะ ไอ้ไฮโซเลวนรกนั่นน่ะเหรอ ถ้าเจอกันอีกคราวเนี้ย แม่จะจับเจี๋ยนทำหมูกะทะซะเลย คอยดูซิ”
เจ้าคุณโดนนินทานั่งจามฮัดเช่ยลั่น
“ฮ้าดเช่ย!”
“ปิดปากปิดจมูกซะหน่อยก็จะเป็นพระคุณ นี่ถ้าคนม่วนแต๊เขารู้ว่าข้ากะเอ็งรวมหัวโกหกเขากันล่ะก้อ...เฮ้อ!”
เจ้าคุณหน้าจ๋อย
“ไม่ต้องคนม่วนแต๊ล่ะ เอาแค่ไอ้ใจ๋คนเดียวเหอะ หึ้ย! ไม่อยากจะนึกม่วนแต๊แตกแน่ๆ ล่ะไอ้ขุนทองเอ๋ย”
เจ้าคุณยิ่งจ๋อยหนักเข้าไปอีก
เช้าวันใหม่ สมหมายกำลังคุยกับสมใจเรื่องไปกรุงเทพฯ
“ทำไมจะต้องรีบไปนักหนาวะไอ้ใจ๋ กรุงเทพฯ เนี่ย”
สมใจ สมศรี คำปุย และแคบหมู ยืนอยู่ด้วยกัน
“โธ่พ่อ! ชาเราขาดตลาดไปตั้งนาน ตอนนี้ลูกค้าอยากได้มาก เหมาซื้อล็อตใหญ่เลย ไม่รีบไปตอนนี้แล้วจะให้ไปตอนไหน”
แคบหมูออกนอกหน้า
“ใช่จ้ะ ต้องรีบไปอย่างแรงจ้ะ หมูกะทะรออยู่”
สมหมายกับสมศรี ทำหน้าสงสัย คำปุยรีบหยิกก้นแคบหมูเตือนสติ
“แต่น้ำมันเพิ่งจะลด ถนนหนทางตอนนี้มันก็ยังไม่ค่อยดีนะลูก”
สมศรีเตือนลูก
“นั่นซิใจ๋...”
ทุกคนหันไปมองปลัดจืดที่เดินเข้ามา
“รออีกซักวันสองวันได้มั้ย ขอฉันเคลียร์งานให้เสร็จก่อน แล้วจะขับรถไปให้ ดีมั้ยครับลุงหมาย”
“ดี! มีปลัดไปด้วยฉันค่อยอุ่นใจ”
“พ่อ! ทำยังกะฉันไม่เคยไปงั้นแหละ แหม..ม่วนแต๊ - กรุงเทพฯ หลับตาขับยังได้เลย”
“ลองซิ ลองหลับตาขับซิ ไอ้ใจ๋!”
สมศรีตีแขนลูกสาวดังเพียะ จนสมใจต้องเข้ามากอด
“แหม แม่ แค่มุก”
“ไม่ขำเว๊ย!”
“ใจ๋..”
ปลัดจืดลากเสียงยาว
“ไม่ต้องห่วงน่า ฉันไปได้”
“จะไปได้ยังไง ผู้หญิงทั้งนั้น”
“อร้าย! คุณพระ ปลัดจืดรู้จริง”
คำปุยอาย
“ใครว่าผู้หญิงทั้งนั้นล่ะปลัด”
แคบหมูแซวคำปุยจนโดนผลักหัว
“ อ้าว! นังนี่”
“โอ๊ย! ไม่ได้ว่าอะไรเจ๊ซะหน่อย ฉันหมายถึงไม่ใช่แค่ ฉัน เจ๊, แล้วก็เจ๊ใจ๋ ซะเมื่อไหร่ อ้ายขุนทองก็ไปด้วยจ้า”
สมหมาย สมศรีและปลัดจืด อุทานพร้อมกัน
“อ้ายขุนทอง”
“จ้ะ..อ้ายขุนทอง”
ทุกคนหันมองตามมือแคบหมู เจ้าคุณยืนหน้าเอ๋ออยู่ ทุกคนมองเป็นตาเดียว ปลัดจืดหันขวับมองสมใจ
แต่อีกฝ่ายไม่รู้ไม่ชี้ ทำตาปริบๆไป
เวลาต่อมา ดูเหมือนปลัดจืดจะไม่พอใจกับเรื่องเจ้าคุณจะไปกรุงเทพฯกับสมใจ
“ใจ๋...”
“ปลัด ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แค่ฉันจะไปกรุงเทพฯ”
“ใจ๋ไปกรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ใจ๋ไปกับขุนทอง”
สมใจยังเนียนไม่หลบตาปลัดจืด
“ไปกับขุนทอง ก็ไม่เห็นจะใช่เรื่องใหญ่”
“ใหญ่ซิใจ๋”
“ใหญ่ตรงไหน”
“ตรงหัวใจปลัดจืด”
สมใจถึงกับอึ้ง สู้สายตาปลัดไม่ไหวแล้วคราวนี้
“ปลัดจืดพูดอะไร”
“ใจ๋ก็รู้ว่าฉันพูดอะไร”
“ปลัด...”
ปลัดจืดรอฟัง
“แต่สำหรับหัวใจของฉัน มันยังไม่มีเรื่องใหญ่อะไร แล้วก็กับใครทั้งนั้นฎ
“แน่ใจเหรอใจ๋”
สมใจนิ่งก่อนตอบ
“อือ..”
ปลัดจืดมองตา แล้วพูดน้ำเสียงเรียบ
“โอเค..เดินทางปลอดภัยนะ”
“ขอบใจ..ปลัด”
พูดจบสมใจเดินออกมา ปลัดจืดมองตาม สายตาไม่เชื่อในสิ่งที่สมใจบอก และคิดว่ารู้ใจอีกฝ่ายเช่นกัน
บนถนนขรุขระ รถกระบะสมใจวิ่งมาตามทาง เสียงคำปุยลั่นมาเลย
“พุธโธ ธัมโม สังโฆ เบาหน่อยซิไอ้ใจ๋ ก้นฉันจะหักหมดแล้ว จะรีบไปไหนยะ”
“รีบซินังปุ๋ย ต้องรีบไปรีบกลับ”
แคบหมูนั่งกินขนมอยู่ข้างๆ คำปุย และเจ้าคุณ นั่งเบียดกันอยู่ข้างหลัง
“สมน้ำหน้า ก็อยากไปนั่งข้างหลังทำไมล่ะเจ๊ปุ๋ย นั่งข้างหน้าสบายกว่าตั้งเยอะ”
แคบหมูพูด
“ยัดขนมเข้าไปเยอะๆ เลยนังแค๊บ จะได้ไม่ต้องพูด อร้าย! ใครว่าข้างหน้าสบาย ข้างหลังสบายกว่าเยอะเนอะอ้ายขุนทองเนอะ ฮ่าๆ”
คำปุยแกล้งเซไปซบอกเจ้าคุณ จนอีกฝ่ายทำหน้าตาบอกไม่ถูก สมใจเหลือบมองกระจกหลัง อมยิ้มส่ายหน้าระอาเพื่อน คำปุยสังเกตเห็นหน้าเจ้าคุณไม่ค่อยสบายนัก
“อ้ายขุนทอง! ทำไมทำหน้ายังกะปวดท้องอึงั้นล่ะ จะได้ไปเที่ยวกรุงเทพฯ ไม่ดีใจเหรอ”
เจ้าคุณอึ้งก่อนจะฝืนยิ้ม สมใจเหลือบมองกระจกมองหลัง
“ตื่นเต้นล่ะเซ่ โอ๋ๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะจ๊ะ ไม่ต้องกลัวนะ ไปกรุงเทพฯ สนุกจะตาย แล้วจะติดใจ ฮ่าๆ”
สมใจมองหลัง อมยิ้ม เจ้าคุณแอบหวั่นใจกับการมากรุงเทพฯมากในครั้งนี้
ก้องเกียรติทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้แบบหนักใจ
“เอาไงดี ขืนปล่อยให้เจ้าคุณมากรุงเทพฯ ล่ะพังแน่ ใครๆ ก็รู้จักสมใจกับอ้ายขุนทองกันทั้งนั้น ทำไงดีล่ะ”
กิ่งแก้วพูด ก้องเกียรติอึ้ง พูดไม่ออกทันใดนั้นเสียงมือถือก้องดังขึ้น หยิบมาดูเป็นสายของกำโป๊ง
“ลุงกำโป๊ง! ฮาโหล สวัสดีครับลุง”
เอมี่ดูไม่สบอารมณ์กับการอยู่วัดเสียแล้ว
“เบื่อหนอ เซ็งหนอ ไม่ไหวแล้วเว๊ย”
เอมี่เขวี้ยงไม้กวาดทิ้งอย่างแรง ทันใดนั้นมีมือปริศนามาคว้าเอมี่หายไป
“ว๊าย แมท!”
“ชู่ว์”
เอมี่โผกอดแมทธิวแน่น
“แมท! มี่ดีใจที่สุดเลย มี่อยากออกไปจากที่นี่เต็มทีแล้วอ่ะแมท แมทพามี่ออกไปทีนะ”
แมทธิวยิ้มเจ้าเล่ห์
“ได้ซิ ผมจะพามี่ออกไปเที่ยว โอเค้”
เอมี่ตาโต
“ไปเที่ยว”
แมทธิวยิ้ม พยักหน้า
“แมทของมี่!”
เอมี่โผกอดแมทธิวแน่น แต่แมทธิวยิ้มร้ายมีแผนในใจ
อ่านต่อหน้า 2
รักออกอากาศ ตอนที่ 7 (ต่อ)
รถกระบะสมใจวิ่งมาตามทางถนนนอกเมือง แคบหมูหลับมีขนมคามือกรนคร่อกๆ คำปุยเหล่มองเห็นแคบหมูหลับแล้ว เลยทำฟอร์มหลับซบไหล่เจ้าคุณบ้าง สมใจมองกระจกหลังอมยิ้ม ทันใดนั้นรถมีอาการผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น
“เฮ่ยๆ”
เจ้าคุณผลักหัวคำปุยกระเด็นไปโขกกระจกแล้วชะโงกถามสมใจ
“รถเป็นอะไรเหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
สมใจพยายามหักหลบจอดข้างทาง แล้วทั้งหมดก็ลงมาดู เจ้าคุณเป็นคนเห็นล้อรถข้างนึงโดนตะปู เจ้าคุณหยิบตะปูขึ้นมา สมใจวิ่มาดูด้วย
“อะไรอ่ะ โธ่เว๊ย โอ๊ย!”
สมใจโมโหเตะล้อจนเท้าเจ็บ เจ้าคุณรีบคว้าเท้าสมใจมาดู
“เจ็บมากมั้ย”
เจ้าคุณรีบถาม สมใจอึ้ง คำปุยกับแคบหมูตาโต แต่ไม่วายคว้าขนมยัดเข้าปากแบบลืมตัว จนติดคอ ฝ่ายสามใจรีบชักเท้ากลับ
“ฉันไม่เป็นไร”
เจ้าคุณก็เก้อ แล้วอึ้งไป
“อ่ะๆ สรุปว่าเท้าแกไม่เป็นอะไร แต่ตกลงว่ารถอีแก่ของแกมันเป็นอะไรห๊าไอ้ใจ๋”
สมใจคว้าตะปูในมือเจ้าคุณมาขึ้นมา
“นี่ไง!”
“ว้า!”
คำปุยกับแคบหมูอุทานพร้อมกัน แล้วเจ้าคุณมองกวาดสายตาไปทั่วบริเวณล้อรถ
“แปลก ตะปูมาจากไหนเยอะแยะ”
สมใจฟัง
“ยังกะมีคนมาโรยไว้”
สมใจเอะใจว่าทำไมเจ้าคุณรู้จักคิดสงสัย ในเมื่อติงต๊อง
“พุธโธ ธัมโม สังโฆ! ใครอ่ะ ใครโรยตะปู แล้วมันจะโรยทำไม”
“จะโรยทำไม ก็ไว้ดักปล้นเราน่ะซิเจ๊”
แคบหมูพูดจบก็ชะงักตกใจเอง
“ดักปล้น! อร้ายยยย!”
คำปุยกับแคบหมู สองคนโดดกอดกันกลม สมใจกับเจ้าคุณมองหน้ากัน ทันใดนั้นมีเสียงรถหวอแว่วมา สมใจ เจ้าคุณหันขวับ ซึ่งเป็นรถพยาบาลเข้ามาจอดเทียบ ประตูเลื่อนเปิดออก สมใจ เจ้าคุณจ้องเขม็ง แล้วตาโต
“ไอ้!...”
“หมอก้อง!”
สมใจเรียกขึ้นมาเมื่อเห็นก้องเกียรติโผล่หน้ามายิ้ม
“ไง...สมใจ”
กิ่งแก้วโผล่หน้ามา
“ไง...อ้ายขุนทอง”
เวลาต่อมา ทั้งหมดนั่งกันมาในรถกันเรียงราย ก้องเกียรติแววตามีเลศนัยเจ้าเล่ห์ทักเจ้าคุณทันที
“แย่จัง รถดันมาโดนตะปู”
เจ้าคุณรู้ทันรีบสวนกลับเพื่อนทันที
“นั่นซิ ไอ้เวรที่ไหนไม่รู้มันเอามาโรยไว้”
ก้องเกียรติสะดุ้ง
“ไอ้เวรที่ไหนอ้ายขุนทอง ไอ้โจรมากกว่าไอ้โจรห้าร้อย!”
แคบหมูรีบเสริม ก้องเกียรติกับกิ้งแก้วแอบสะดุ้ง ส่วนเจ้าคุณแอบอมยิ้มที่ได้ด่าเพื่อนแต่อีกฝ่ายโต้ตอบไม่ได้
“นั่นซิ! คุณพระคุณเจ้ายังคุ้มครองนะเนี่ย จู่ๆ คุณหมอก้องก็โผล่มาพอดี๊พอดีเลย”
คำปุยยกมือไหว้ท่วมหัว ในขณะที่ก้องเกียรติยิ้มแบบไม่เต็มใจนักในคำชม
“นั่นซิคะ พอดีจริงๆ เลย ว่าแต่หมอก้องมาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ”
สมใจถามขึ้น จนก้องเกียรติอึกอัก
“อ๋อ..เอ่อ..”
“ก็พอดีได้รับคำสั่งให้แวะดูคนไข้แถวนี้น่ะค่ะ เพิ่งเสร็จพอดี นี่ก็กำลังจะกลับกรุงเทพฯ พอดี”
กิ่งแก้วช่วยก้องเกียรติไว้ได้ทัน คำปุยตบเข่าฉาด
“เห็นมั้ย อะไร้มันจะพอดีไปซะหมดขนาดนี้”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว เริ่มกลัวหลุดเลยรีบตัดบท
“เออ..ว่าแต่คุณสมใจจะต้องไปส่งชาที่ไหนบ้าง ขอที่อยู่เลยนะครับ เดี๋ยวผมให้คนไปส่งให้”
“อุ๊ย! ไม่ได้หรอกค่ะ คือฉัน...”
“เถอะค่ะ..ไม่ต้องเกรงใจ รถราก็ไม่มี ให้คนของเราไปส่งให้ดีกว่า”
กิ่งแก้วรีบเสริม สมใจยังคงเกรงใจ
“แต่...”
“ดีออกเจ๊ใจ๋ ไม่ต้องไปส่งชา เราก็มีเวลาไปเที่ยวอื้อเลย”
แคบหมูแทรกทันที ในขณะที่ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วตกใจเมือ่ไดยินแคบหมูพูดอย่างนั้น
“ไปเที่ยว”
“ใช่จ๊ะ สวนสนุกไงเจ๊ใจ๋”
“สวนสนุก”
แคบหมูเข้ามากอดอ้อนสมใจหวังจะได้ไปเที่ยว
“นะเจ๊นะ ฉันอยากนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเสียวกะเขาซักกะที นะๆ”
“แต่ว่า...”
สมใจอึกอัก คำปุยแทรกเสริมแคบหมูทันที
“ดีเหมือนกันนะไอ้ใจ๋ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ดีมั้ยอ้ายขุนทอง เกิดมาก็คงไม่เคยตีลังกากะเขาเหมือนกันใช่มั้ย”
“อ๋อ..เอ่อ..ไม่เคย”
เจ้าคุณตอบไม่เต็มปาก
“โอเค งั้นถึงกรุงเทพฯ ปั๊บ เราจะไปเที่ยวสวนสนุกกันเล๊ย เย้!”
แคบหมูดีใจจับมือเจ้าคุณชูอย่างมีความสุข
“เย้! เย้!”
“เฮ้ย ไอ้พวกนี้นี่...”
คำปุยกับแคบหมู ทำหน้าอ้อนวอนสมใจ ส่วนเจ้าคุณยิ้มแบบนึกสนุกขึ้นมา ส่วนก้องเกียรติกบกิ่งแก้วไม่สบายใจนัก เพราะหวั่นใจจะมีคนเจ้าคุณและสมใจได้
เวลาต่อมา จอยลูกน้องของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว ที่กำลังคีบมาม่าคำโตเข้าปาก เพราะเสียงมือถือดังทำเอาสะดุ้ง รีบรับโทรศัพท์แล้วทำตาโต
“ฮาโหล อะไรนะคะบอส ว่าไงนะคะบอส”
จอยสำลักหมี่พุ่งกระเด็น จอยอึ้งเมื่อฟังเสียงคำสั่งจากปลายสาย
ต่อจากนั้น เจ้าคุร สมใจ แคบหมู คำปุย ก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว ทุกคนมาที่สวนสนุกที่แสนจะครื้นเครง เจ้าคุณกำลังโดนมือใครคนหนึ่งละเลงสีที่หน้า ไม่ใช่ใครแต่คือจอย แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูน กำลังตั้งหน้าตั้งตาวาดหน้าเจ้าคุณอยู่โดยมีก้องเกียรติยืนคุม
“อยู่นิ่งๆ ค่ะ อยู่นิ่งๆ ค่ะอ้ายขา จะเสร็จแล้ว อ่ะ โอเคมั้ยคะ บอส เอ๊ย! คุณหมอ”
ก้องเกียรติมองแล้วยิ้ม
“ไอ้ก้อง ขำให้เยอะ ขำให้พอ เพราะเดี๋ยวฉันจะเตะแกให้ขำไม่ออกเลย”
“ใจเย็น..เพื่อน”
“แล้วมันเรื่องอะไร? ทำไมถึงต้องจับชั้นมาทำทุเรศๆ อย่างนี้วะ”
“อ้าว..แหม เดี๋ยวแฟนๆ จำอ้ายขุนทองได้ พวกเราก็ซวยอ่ะซิคะ”
จอยรีบตอบ
“ว่าไงนะ”
ก้องเกียรติตาเขียวใส่จอย จอยรีบปิดปากแน่น
“เปล่า..ไม่มีอะไร..คืองี้..คือ..ถ้าเกิดบังเอิญเจอเพื่อนฝูงคนรู้จักแล้วทักแกขึ้นมาต่อหน้าสมใจ แกก็ซวยซิ..จริงมั้ยเจ้าคุณ”
ก้องเกียรติรีบเฉไฉ
“เออ..ว่ะ แต่ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอวะ เฮ้ย ไอ้ก้อง ไม่เอาอ่ะ ชั้นอายเขาเว๊ย”
เจ้าคุณหยิบกระจกมาส่องหน้ารับตัวเองแทบไม่ได้
“อายใคร อายสมใจน่ะเหรอ”
ก้องเกียรติถาม เจ้าคุณหลบตา
“ไม่ต้องอาย”
เจ้าคุณมองก้องเกียรติ อีกฝ่ายหันมองไปอีกทางหนึ่ง
“เฮ๊ย!”
กิ่งแก้วดึงสมใจเข้ามา สมใจหน้าเปื้อนสีไม่แพ้เจ้าคุณ แต่พอเห้นเจ้าคุณสมใจก็แอบตกใจไม่ต่างกัน
“เฮ้ย!”
คำปุยกับแคบหมู กระโดดเข้าร่วมแจมด้วย
“จ๊ะเอ๋!”
“เฮ๊ย!”
ทั้งหมดขำกันกลิ้ง
“คนเมืองนี่ใจดีจัง มาเที่ยวสวนสนุกมีแต่งหน้าให้ฟรีด้วย นี่ขนาดยังไม่ทันจะเริ่มเล่นก็ม่วนนักๆแล้ว นี่ถ้าเข้าไปเล่นรถไฟเหาะตีลังกามันจะม่วนขนาดไหนเนี่ยเจ๊ใจ๋”
แคบหมูสนุกชอบใจ สมใจก็ร่าเริงไปดว้ยในเวลานี้
“เออ..งั้นรีบเข้าไปเล่นกันเหอะเร็ว! หมอก้อง คุณพยาบาลไปเล่นด้วยกันมั้ยคะ”
“เชิญพวกคุณเถอะครับ เดี๋ยวผมรอแถวนี้ดีกว่า เผื่อมีใครเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา”
“งั้นไปกันเหอะ (ชูมือขึ้นนำขบวน พร้อมสมใจ แคบหมู) ลุย!”
คำปุยดูท่าทางมีความสุข สามสาวก็วิ่งกรูกันออกไปราวกับเด็ก เหลือเจ้าคุณที่มองตามด้วยรอยยิ้ม ก้องเกียรติบอกให้เจ้าคุณไปสนุกตามบรรดาสาวๆ
“ไปซิ..สนุกให้เต็มที่ เพื่อน!”
แคบหมูกับคำปุยวิ่งกลับมาลากเจ้าคุณไปด้วย
“ไปเร็ว อ้ายขุนทอง”
“น่ารักเนอะ”
กิ่งแก้วเห็นความน่ารักของเจ้าคุณและสาวม่วนแต๊ในความเป็นธรรมชาติ ไม่นานนักทีมงานหนึ่งคน วิ่งเข้ามา
“ไง...เรียบร้อยมั้ย”
ก้องเกียรติถาม
“ซ่อนกล้องไว้ 8 ตัว เรียบร้อยครับบอส”
ทีมงานตอบอย่างมั่นใจ ส่วนจอยพนมมือขอให้ทุกอย่างราบรื่น
“เจ้าประคู้น ขอให้ทุกอย่างราบรื่นฉลุยๆ ไม่มีอุปสรรคใดๆ ไม่มีมารตัวไหนมาผจญด้วยเถิ๊ด”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วหันมามองหน้ากัน แล้วเคาะกะโหลกจอยไปหนึ่งที
“นี่แน่ะ อย่าพูดจาเป็นลางงั้นซิ”
“เอ๊า หนูเปล่านะคะบอสกิ๋ง หนูแค่พูดกันเหนียวไว้ก่อนเฉยๆ”
“ไม่มีหรอกน่า มารที่ไหนมันจะมาผจญ จริงมั้ย”
ก้องเกียรติยิ้มให้กิ่งแก้ว ก่อนที่รอยยิ้มจะจางลงแล้วครุ่นคิด
ต่อจากนั้น คำปุยลากทุกคนเข้ามาที่เครื่องเล่นเบบี๋
“ว๊าย! ไม่เอาอ่ะเจ๊ปุ๋ย เครื่องเล่นเด็กน้อยหยั่งงี้ชั้นจะไปนู่น รถไฟเหาะตีลังกา”
แคบหมูไม่ร่วมด้วย
“อร้าย! ฉันกลัว ฉันเสียว เชิญแกไปตีลังกากะไอ้ใจ๋ละกัน ส่วนชั้นขอเล่นไอ้นี่กับอ้ายขุนทองกันสองคนก็ได้”
“โหย ดัดจริต นี่นังปุ๋ย ถึกหยั่งแกอย่าว่าแต่ตีลังกาเลย ต่อให้โดนรถไฟทับทั้งขบวนแกก็ไม่สะเทือน ไปๆ เวลามีน้อย ไปรถไฟเหาะตีลังกากันเลยดีกว่า เร็ว!”
สมใจรีบลากคำปุยไปด้วย คำปุยบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยอมตามสมใจออกไป เจ้าคุณมองตามส่ายหน้าขำกับกิริยาของสมใจและคำปุย แล้วเดินตามไป แต่ไม่นานนักก็ตัดภาพมาที่แมทธิวที่ตามมาด้วยแต่ไม่ได้ ซึ่งมีเอมี่ตามมด้วย
“จะบ้าเหรอแมท แทนที่จะพาเอมี่ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ซักชุด แล้วก็ไปสปง สปาให้สบายตัว กลับพามาเที่ยวสวนสนุกเนี่ยนะ โห ร้อนจะตาย น่าเบื่อ”
เอมี่บ่นตามเคย
“เธอนั่นแหละเอมี่ อย่าทำตัวน่าเบื่อนักเลย มิน่า ไอ้คุณมันถึงได้ทิ้ง”
“อะไรนะ เมื่อกี๊แมทว่าไงนะ ใครโดนใครทิ้ง”
“ก็เธอน่ะซิเอมี่ เธอนั่นแหละโดนไอ้เจ้าคุณมันเคี๊ยะทิ้งตั้งนานแล้ว ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะ”
แมทธิวด่าเอมี่ซ้ำอีก เอมี่ตะลึง กรี๊ดสนั่น
“ไม่จริง พูดจาอะไรระวังปากหน่อยนะแมท คนอย่างเอมี่ไม่มีวันจะโดนเจ้าคุณเขี่ยทิ้งเด็ดขาด
“งั้นไม่พูดก็ได้ ให้ดูเลยดีกว่า”
แมทธิวควักมือถือขึ้นมากดรูปเจ้าคุณกอดสมใจให้เอมี่ดูให้เต็มตา เอมี่แทบช็อก
“กรี๊ด เจ้าคุณ กะอีนังบ้านนอก”
“ใช่! ไอ้คุณกับแฟนใหม่ของมัน”
เอมี่กรี๊ดสนั่น โกรธที่กำลังจะถูกแย่งเจ้าคุณไป
บนรถไฟเหาะตีลังกา สมใจนั่งกับแคบหมูด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นคำปุยนั่งคู่เจ้าคุณ 3สาวกรี๊ดกันกระจายรวมทั้งเจ้าคุณด้วยที่รู้สึกปลดปล่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไหน พวกมันอยู่ไหน แมท จะยืนบื้ออยู่ทำไม ช่วยเอมี่หามันหน่อยซิ”
เอมี่ถามอย่างโกรธ
“ใจเย็นๆ พวกมันอยู่ที่นี่ชัวร์”
แมทธิวพูดด้วยน้ำเสียงไม่ปรารถนาดี
“อยู่ที่นี่ แล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะ โธ่เว๊ย!”
เอมี่ฟึดฟัดพุ่งออกตามหาต่อไป แมทธิวยิ้มสะใจ
“ไอ้คุณ แกเละแน่คราวนี้ ฮ่าๆ”
เวลาต่อมา เจ้าคุณแหกปากร้องเต็มที่บนเครื่องเล่น สมใจนั่งเรียงถัดไป โดยมีแคบหมูกับคำปุยทมี่กรี๊ดสนั่นอย่างสนุกสนาน ต่อด้วยเครื่องเล่นอีกเครื่อง เจ้าคุณนั่งคู่สมใจและแอบมองตากันเป็นระยะ แคบหมูนั่งกับคำปุย โดยแคบหมูอาเจียนใส่ถุงจนเจ้าคุณและสมใจแอบขำ
“ขำอะไร คนอ้วกแตกมันขำตรงไหนห๊า อ้วก!”
ทุกคนขำกันตัวงอ
“ไงล่ะนังแค๊บ หนอย อยากจะเสียว เกิดมาไม่เคยเสียว เสียวสะใจมั้ยละแก”
คำปุยแซวแคบหมู
“ไม่สงสารแล้วยังเสียดสี เดี๋ยวอีแค๊บอ้วกใส่ซะเลยนี่”
แคบหมูทำท่ายื่นหน้าจะอ้วกใส่ คำปุยโดดหลบหลังเจ้าคุณ
“นังบ้า อย่านะ อ้ายขุนทองช่วยด้วย”
สองคนวิ่งไล่แอบหลังเจ้าคุณกะสมใจไปมา สุดท้ายเอาเจ้าคุณกับสมใจเป็นเกราะกำบัง ทำให้เจ้าคุณกับสมใจประจันหน้ากันจนแทบจะชนกัน สองคนมองตากันนิ่ง ในขณะที่ เอมี่กับแมทธิว เดินใกล้เข้ามา ซักพักก็สะดุ้งโหยงเพราะเสียงแคบหมูแว๊ดขึ้น
“เอ๊า! เลิกมองตากันได้แล้ว ฉันกับเจ๊ปุ๋ยเลิกตีกันตั้งนานแล้ว”
สองคนรีบผละออกจากกันเขินๆ
“เอ่อ อยากเล่นอะไรต่อล่ะนังแค๊บ รีบไปกันเถอะ”
“ไม่ไหวล่ะ ฉันจะอ้วก พวกเจ๊ไปเล่นกันเหอะ”
แคบหมูยอมแพ้ แต่สมใจยังท้าอยู่
“เฮ่ย ได้ไง มาด้วยกันก็ไปด้วยกันซิ ที่สำคัญแกเป็นคนร้องจะมาเที่ยวที่นี่เองนะนังแค๊บ ไป!”
แคบหมูดีดดิ้น ไม่ยอมไป
“ไม่ไหว..แค๊บไม่ไหว”
เอมี่กับแมทธิวยิ่งเดินเข้ามาใกล้อีก
“นี่ นังแค๊บ หยุดแอ๊บเลย เดี๋ยวแม่ตบดิ้น”
คำปุยเงื้อมือ แต่แคบหมูหันมาค้อนใส่
“หยุดแล้ว เจ๊โหด”
“ขุนทอง..อยากเล่นอะไรต่อ”
สมใจหันมาถาม
“ล่องแก่งมั้ย หรือบ้านผี”
เจ้าคุณตอบเชิงเสนอตัวเลือกให้ด้วย
“เออ..ดี เอ๊ะ นายรู้จักได้ยังไง นายไม่เคยมาไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ...”
เจ้าคุณอึ้ง เกือบหลุดแต่เหลือบเห็นป้ายบอกทางพอดีเลยหาทางออกได้
“นี่ไง....”
“อ๋อ...”
สมใจเห็นป้ายบอกทาง จึงไม่ได้สงสัยอะไร
“เอ้า! จะไปกันรึยังล่ะ”
แคบหมูรีบเร่ง
“ไปๆ”
ทังหมดพากันออกไป ซักพัก เอมี่กับแมทธิวเดินเข้ามาหยุดยืน
“แมท! แน่ใจนะว่านังนั่นมันมาที่นี่กับคุณคะคุณขา”
“แน่ยิ่งกว่าแน่”
“แล้วมันไปอยู่ที่ไหน ทำไมไม่เจอมันซักที หึ้ยๆ”
เอมี่หงุดหงิดที่ยังหาเจ้าคุณกับสมใจไม่เจอ แต่แมทธิวยิ่งแอบสะใจ
เวลาเดียวกัน ก้องเกียรติแทบชะงักเมื่อเห็นเอมี่และแมทธิวอยู่ในมอนิเตอร์ด้วย
“เฮ๊ย!”
“อะไรเหรอ”
กิ่งแก้วถาม ก้องเกียรติชี้ไปที่มอนิเตอร์
“ดูนี่ซิ!”
“เอมี่ แมทธิว!”
กิ่งแก้วอุทาน ทั้งสองมองหน้ากันอย่างรู้ว่าแมทธิวและเอมี่ไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน
สมใจ เจ้าคุณ คำปุยและแคบหมู สี่คนเดินมาถึงบริเวณเกมโซนยิงปืน แคบหมูดูตื่นเต้นกว่าใครเพื่อน
“เจ๊ใจ๋ ฉันอยากได้ตุ๊กตา น่ารักอ่ะ”
“ไปซื้อเอาจะง่ายกว่ามั้ยนังแค๊บ ยิงเท่าไหร่ถึงจะได้ตุ๊กตาห๊า”
“ลองดูเหอะน่า”
เจ้าคุณแนะ
“เย้!”
แคบหมูดีใจยกใหญ่
“เอ๊ะ ขุนทองนี่ นังแค๊บมันจะไปยิงโดนได้ยังไง”
“ใครบอกว่าแค๊บ ฉันจะยิงให้เอง”
พูดจบเจ้าคุณแบมือขอเงินสมใจ
“นายเนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ เสียดายตังค์”
“น่า ลองดู ขอแค่ครั้งเดียว”
สมใจไม่มั่นใจในฝีมือเจ้าคุณ
“ครั้งเดียว 3 นัดเนี่ยนะ”
“อืมม์ 3 นัด”
สมใจจ้องเจ้าคุณอย่างลังเล
“น่า..เจ๊ แค่ครั้งเดียวจะขี้เหนียวไปไหน”
แคบหมูอยากได้ตุ๊กตาตัวสั่น เลยโดนสมใจเคาะหัวเข้าให้
“นี่แน่ะ นังแค๊บ กำลังจะใจอ่อนอยู่เลย เดี๋ยวก็อดหรอก”
“ใจ๋..เหอะน่า..หนุกๆ”
คำปุยเชียร์เจ้าคุณให้ยิง สมใจไม่เต้มใจให้แต่ก็ยอมโดยดี
“โอเค”
สมใจควักตังค์ส่งให้พนักงานอย่างอดเสียดายไม่ได้
“ถ้าไม่ได้นะ”
สมใจทำท่าเชือดคอเจ้าคุณ สามคนยืนลุ้นให้เจ้าคุณยิงได้ นัดแรกไม่โดนอะไรเลย นัดที่สองก็ยังไม่โดนอีก สามคนเริ่มเซ็ง
“ไปเหอะๆ เสียเวลา ไม่ต้องยงไม่ต้องยิงแล้ว”
“เดี๋ยวซิเจ๊”
เจ้าคุณรั้งสมใจไว้ก่อน
“เอ๊ะ บอกให้ไปก็ไปซิ”
เจ้าคุณหันมาด้วยอารมณ์เซ็ง หันหลังแล้วยิงนัดสุดท้ายสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ตั้งใจยิ่ง แต่ปรากฎโดนเป้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ คำปุยแค้บหมูกันมาเฮดีใจ ส่วนสมใจกับเจ้าคุณยังงงไม่หาย
“เอาตัวไหนพี่ เลือกเลย”
พนักงานบอก แคบหมูดีใจสุดขีด
“ไชโย้! เอาตัวนั้นจ้ะ”
สมใจเหวอ มองหน้าเจ้าคุณ เจ้าคุณยักไหล่บ่งบอกถึงความเจ๋งในการยิงของตัวเอง แคบหมูหันมากอดคำปุย สมใจและเจ้าคุณ
“เย้ ดีใจจัง ขอบใจนะเจ๊ ขอบใจนะอ้ายขุนทอง คนเก่งของนังแค๊บ ทั้งหล่อทั้งเก่งขนาดๆ”
เจ้าคุณยิ้มแฉ่ง สมใจแอบค้อนใส่ ทันใดนั้นเจ้าคุณชะงัก หุบยิ้มทันทีเมื่อเห็นแมทธิวกับเอมี่โผล่มาไกลๆ จากมุมหนึ่ง เจ้าคุณรีบหันหลังให้พร้อมกับจับสมใจหันหลังใส่แมทธิวกับเอมี่ด้วย
“รีบไปกันเถอะ”
“แหม...ฉันก็อยากได้เหมือนกันนะ ยิงให้ฉันมั่งซิอ้ายขุนทอง”
คำปุยอยากได้เหมือนกัน
“ชู่ว์ว! อย่าเสียงดัง”
เจ้าคุณกลัวเอมี่กับแมทธิวจะได้ยินชื่ออ้ายขุนทอง สมใจเกิดสงสัยขึ้นมา
“ทำไม ทำไมจะเสียงดังไม่ได้”
“เอาน่า รีบไปเล่นต่อกันดีกว่า”
เจ้าคุณชวนไปตรงจุดอื่น ทุกคนเดินออกไปอีกทาง พอดีกับที่แมทธิวหันมาเห็นหลังไวๆ ของเจ้าคุณ
“ไอ้เจ้าคุณ!”
แมทธิวออกวิ่งทันที
“แมท รอมี่ด้วย รอด้วย”
เอมี่วิ่งตามแมทธิวออกไป
อ่านต่อหน้า 3
รักออกอากาศ ตอนที่ 7 (ต่อ)
ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าคุณ สมใจ คำปุย และแคบหมู ก็พากันมาอยู่ที่หน้าบ้านผีสิง
“เอ๊ะ! จะรีบไปไหนของนายห๊ะ ขุนทอง”
พูดไปพลางมองด้านหลังไป เร่งโดยที่สามสาวไม่รู้ตัว
“ก็มัวแต่ช้า เดี๋ยวสวนสนุกเขาปิดก็อดเล่นกันพอดี”
“เฮ๊ย! บ้านผีสิง”
แคบหมูตกใจ คำปุยก็เช่นกัน
“อร้าย! ไม่เอา ฉันไม่เข้านะ ฉันกลัว”
แต่ไม่ทัน เพราะเจ้าคุณกระชากทุกคน เข้าบ้านผีสิงไป เจ้าคุณหันหลังมองๆดูแมทธิวอีกครั้งไม่นานนัก แมทธิววิ่งตามมาหยุดยืน แต่ยังไม่ทันเห็นเจ้าคุณ
“ไปไหนแล้ววะ หึ้ย!”
เอมี่วิ่งตามมาอย่างหอบ
“แมท! รอมี่ด้วยซิ”
“ก็มัวแต่ช้าอย่างนี้ไง ยัยสมใจถึงได้ฉกไอ้คุณไปได้”
“หยุดนะ! อย่ามาพูดจาไม่เข้าหู ถึงนังบ้านนอกนั่นมันจะฉกเจ้าคุณไป แต่ก็ฉกได้แค่ชั่วคราว คอยดูนะ มี่จะฉกกลับมาให้แมทดู”
“ดี! อยากดูเต็มแก่แล้ว อย่ามัวแต่โม้เลย ไป”
แมทธิวคว้ามือเอมี่วิ่งตามหาเจ้าคุณและสมใจต่อ
“ว๊าย! จะไปไหน”
“จะไปไหน ก็นี่ไง”
เอมี่มองเห็นเป็นป้ายบ้านผีสิง อุทานตาโต
“บ้านผีสิง ว๊าย! ม่าย!”
แมทธิวกระชากเอมี่ตัวปลิวเข้าบ้านผีสิงในสวนสนุกไปอย่างรวดเร็ว
เวลาต่อมา บรรยากาศในบ้านผีสิงบ้านผีสิงดูน่ากลัว สมใจเดินนำเข้ามาอย่างไม่กลัว คำปุยกับแคบหมูเดินกอดกันกลมตามมา เจ้าคุณเดินรั้งท้ายยังคงเหลียวหลังมองระวังแมทธิว สักครู่มีผีทำให้คำปุยกับแคบหมูตกใจสุดขีดโดดกอดเจ้าคุณแน่น
“โธ่เอ๊ย ไอ้พวกนี้ขี้ป๊อด ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน”
ทันใดนั้นผีโผล่มาเต็มหน้า สมใจกรี๊ดลั่นโดดกอดเจ้าคุณแน่นเช่นกัน
“ว๊าย!”
สมใจยังกอดเจ้าคุณแน่นอยู่ คำปุยกับแคบหมูยืนท้าวสะเอวเหล่สุดฤทธิ์
“ไม่เห็นจะน่ากลัว น่ากลัวตรงไหน”
คำปุยกับแคบหมูแดกดัน สมใจรู้สึกตัว มองเจ้าคุณอย่างเสียฟอร์ม
“แหม ก็นิดหน่อย พอให้ได้ฟิล”
“ได้ฟิลอะไรของแกยะ ได้ฟิลกลัวผีหรือว่าได้ฟิลกอดอ้ายขุนทอง ฮ่าๆ”
คำปุยกับแคบหมูหัวเราะประสานเสียงกันลั่น เจ้าคุณอมยิ้มมองสมใจ
“ไอ้บ้า กลัวผีซิยะ ใครจะอยากกอด”
“ว๊าย! ใครจะอยากกอดจ๊ะ”
คำปุยกับแคบหมูล้อสมใจกันใหญ่
“เดี๋ยวเหอะไอ้พวกนี้ เดี๋ยวฉันจะเป็นผีหักคอพวกแกเองซะเลย เอามั้ย”
“อูย...กลัวผีจังเลย”
“กลั๊วกลัวอ่ะ”
คำปุยกับแคบหมูล้อไม่เลิก เจ้าคุณจึงรีบตัดบท
“เดินต่อเหอะ จะได้เล่นอย่างอื่นต่อได้เยอะๆ”
ทั้งหมดเริ่มเดินต่อ แมทธิวเดินพรวดๆ มา แล้วเอมี่ตามเข้ามากอดแขนแน่น
“ช้าๆ หน่อยซิแมท รอมี่ด้วย”
“ปัทธ่อ! มัวแต่ช้าเดี๋ยวก็ตามไอ้คุณมันไม่ทันพอดี”
“ก็มี่กลัวนี่”
“ไปๆ รีบไป”
แมทธิวเดินออกไปโดยมีเอมี่เกาะแน่น อีกมุมเป็นผีโผล่เข้ากล้อง แคบหมูกับคำปุย กรี๊ดกันสนุกสนาน โดยทั้งหมดกระโดดเกาะเจ้าคุณแน่น เจ้าคุณไม่ค่อยสนใจคอยระแวงหลังไว้ แมทธิวได้ยินเสียงกรี๊ดแว่วๆ ก็ทำตาวาวจะรีบวิ่งตามเสียง แต่เอมี่ดึงไว้
“แมท ช้าๆ ซิ มันมืดตึ๊ดตื๋อ มี่มองไม่ค่อยเห็น มี่กลัว”
“งั้นรออยู่ตรงนี้แหละ ผมจะไปดักไอ้พวกนั้นไว้ก่อน”
พูดจบแมทธิววิ่งออกไปทันที
“ไม่นะ แมท ไม่นะ ม่าย!”
แมทธิวออกไปแล้ว เอมี่ยืนสยองขวัญตัวแข็งอยู่อย่างนั้น กรอกตาไปมาอย่างหวาดกลัว
“เอมี่...”
เสียงเรียกชื่อเอมี่ดังขึ้นเย็นยะเยือก
“ใครอ่ะ เสียงอะไรอ่ะ”
“เอมี่...”
เสียงเรียกชื่อเอมี่ดังขึ้นอีก ยะเยือกกว่าเดิม จนเจ้าของชื่อจะร้องไห้
“เฮ๊ย! เรียกชื่อฉันทำไม”
“ไปอยู่ด้วยกันมั๊ย!”
เอมี่ขนหัวลุก
“ม่าย!”
เอมี่หันหลังกลับจะออกทางเก่าแต่ต้องสะดุ้งเฮือก เพราะจอยแกล้งแต่งหน้าผีตาห้อยโผล่พรวดมาเกือบหน้าชนเอมี่
“แฮ่!”
“กรี๊ด!
แมทธิวกำลังเดินอยู่กลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงเอมี่กรี๊ดสนั่น
“เอมี่”
“กรี๊ด! ช่วยด้วย!”
“เฮ๊ย!”
แมทธิวลังเล ก่อนจะตัดสินใจกลับไปหาเอมี่
“เกิดอะไรขึ้นเอมี่ เป็นอะไร”
เอมี่ยังยืนแข็งอยู่ที่เดิม หลับตาปี๋ ขนหัวลุก แมทธิวเห็นยสภาพเอมี่แล้วถึงกับตกใจ
“เฮ๊ย! ทำไมเป็นอย่างนี้”
“ผะ..ผะ..ผะ..ผี ผีหลอกมี่”
เอมี่โผเข้ากอดแมทธิวแน่น ปากก็พร่ำว่าโดนผีหลอกอยู่อย่างนั้น แมทธิวถอนหายใจ
“เฮ้อ! เวร”
ต่อจากนั้น สมใจ แคบหมู และคำปุย วิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน หัวเราะกันกลิ้ง เจ้าคุณรีบเดินตามมา
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ปรี่เข้ามาทันที
“อ้าว! คุณหมอ มารอเลยเหรอคะ ยังไม่มีใครเป็นลมหรอกค่ะ”
ก้องเกียรติมองตากับเจ้าคุณแบบรู้สถานการณ์กันดี
“อ๋อ..ครับ..ผมแค่จะมาบอกคุณสมใจว่ารถคุณซ่อมเสร็จแล้ว และเขาก็เอามาส่งที่หน้าสวนสนุกแล้วด้วย”
“อ๋อ..ค่ะ”
“คือ...คุณจะขับกลับม่วนแต๊เลยรึเปล่าคะ”
กิ่งแก้วถาม
“เอิ่ม...”
“โห่! ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว อย่ารีบกลับเลย นอนค้างซักคืนไม่ดีเหรอไอ้ใจ๋”
คำปุยเสนอ แต่ดูก้องเกียรติกับกิ่งแก้วจะรีบไม่เห็นด้วย
“ไม่ดีหรอกครับ/ค่ะ”
สมใจ คำปุย และแคบหมู มองหน้าก้องเกียรติกับกิ่งแก้วด้วยความงง
“เอ่อ..คือ..ลุงหมายกับป้าศรีจะเป็นห่วงทุกคนแย่เลยนะครับ”
ก้องเกียรติย้ำ
“นั่นซิ! ไม่ได้หรอกแค๊บ เดี๋ยวพ่อด่าตาย”
สมใจเห็นด้วย
“ใช่ค่ะ ใช่..ด่าเละแน่เลย”
กิ่งแก้วรีบเสริมทันที
“ถ้าจะกลับ ผมคิดว่าควรจะกลับซะตอนนี้เลยนะครับ”
ก้องเกียรติรีบบอก
“ห๊า! ทำไมอ่ะ”
สมใจสงสัย
“ก็..สวนสนุกก็ใกล้จะปิดแล้วน่ะครับ อีกอย่างถ้าออกจากที่นี่ช้า ก็จะถึงม่วนแต๊ช้าเข้าไปใหญ่”
“จริงด้วย เรารีบไปกันเถอะนะ ไป”
เจ้าคุณจับมือสมใจแล้วชวนจะกลับม่วนแต๊
“เฮ๊ย! เดี๋ยวๆ”
เจ้าคุณลากสมใจออกไป โดยไม่ฟังเสียงใดๆ ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว ลากคำปุยกับแคบหมูตามไปติดๆ ครู่หนึ่งแมทธิววิ่งตามออกมา มองซ้ายขวา ไม่เห็นใครยิ่งอารมณ์เสีย ในขณะที่เอมี่วิ่งตามออกมาในสภาพหัวฟูเพราะโดนผีหลอก
“แมท...รอมี่ด้วย...”
แมทธิวกำลังยัวะสุดขีด
“โธ่เว๊ย!”
เวลาต่อมา ก้องเกียรติรีบปิดประตูรถให้สมใจด้านคนขับ
“ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะครับ”
ก้องเกียรติรับพูด
“ที่จริงไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้นะคะคุณหมอ”
สมใจโพล่งขึ้น โดยมีแคบหมูเป็นกองหนุน
“นั่นซิ จะรีบไปไหน”
“เอาน่า...วันหลังมาเที่ยวใหม่นะจ๊ะ..แคบหมูคนสวย”
กิ่งแก้วพูดเชิงปลอบ แต่แคบหมูยังคงมีอาการงอน
“โชคดีนะ..ขุนทอง”
ก้องเกียรติหันไปพูดกับเพื่อนรัก เจ้าคุณแอบส่ายหน้าอย่างอารมณ์เซ็ง
ก้องเกียรติและกิ่งแก้ว หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะครับ สมใจออกรถไป ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วยืนมองจนรถลับสายตา สองคนหันมองหน้ากันอย่างโล่งอก ยิ้มแฉ่งให้กันแล้วหันหลังกลับมา สะดุ้งสุดขีดเจอจอยหน้าผีปะทะหน้าเต็มๆ
“เฮ๊ย!”
“ว๊าย!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วตกใจสองคนกอดกันกลม หลับตาปี๋
“บอสคะ..จอยเอง...”
สองคนลืมตาจะเอาเรื่อง
“ไอ้จอย!”
สองคนเล่นงานจอย เพราะตกใจกับหน้าผีที่แต่งไว้
เย็นวันเดียวกัน ปลัดจืดนั่งเหม่อคิดถึงสมใจอยู่ หวานเจี๊ยบขี่จักรยานเลยไปแล้วเบรกเอี๊ยด หันกลับมามอง ทำหน้าหมั่นไส้ ก่อนจะเอาเท้ายันพื้นถอยๆ กลับมาตะโกนเรียก
“นี่ เป็นปลัดกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแล้วก็มานั่งสบายใจเฉิบเฉยๆ เงี้ยนะ ไม่ต้องทำงานทำการรับใช้ชาวบ้านเลยนะ”
ปลัดจืดอารมณ์เซ็ง ถอนหายใจอย่างรำคาญ พูดโดยไม่หันมามอง
“ก็กะว่าจะอุดปากเธอให้เงียบๆ อยู่เนี่ยแหละ เห่าอยู่นั่น ชาวบ้านเขาหนวกหูแย่”
“ว๊าย! ไอ้จืด ไอ้หน้าจืด ไอ้หน้าเต้าหู้ยี้”
หวานเจี๊ยบโกรธตัวสั่น รีบจอดจักรยานแล้วปรี่มาลุยปลัดจืดเลย
“ตะกี๊แกว่าใคร แกว่าใครเห่า”
ปลัดจืดมองแบบไม่สนใจ
“จะว่าใคร ก็อยู่ตรงนี้กัน สองคน”
“อร้าย! ไอ้ปาก ไอ้จืดปากจัด นี่แน่ะๆ”
หวานเจี๊ยบทุบปลัดรัว แต่โดนรวบมือไว้
“นี่ นอกจากจะหยาบคายแล้วยังทำร้ายปลัดอีกด้วย สองกระทงเลยนะ”
“จะให้มากกว่าสอง อีก แกด่าฉันเป็นหมาเหรอ แกซิปากจัดกัดเก่งยิ่งกว่าหมา ดูซิ ทำไมหมอถึงได้เอาเหล็กรัดแต่ฟันแก ทำไมไม่รัดปากแกไปด้วยเลยห๊าจะได้เลิกกัดซะที”
ผลักมือหวานเจี๊ยบที่รวบไว้ออกไปจนหวานเจี๊ยบเซ
“ รีบไปๆ เลยไป จะไปไหนก็ไป ฉันไม่มีอารมณ์จะทะเลาะด้วยหรอก”
“อ๋อ..อารมณ์เสีย ฮ่าๆ โดนพี่ใจ๋ทิ้งอ่ะเซ่ ไงล่ะ เขาหนีไปเที่ยวกรุงเทพฯ ทิ้งปลัดจืดให้จ๋อยอยู่คนดียว ฮ่าๆ”
โดนแซวจี๊ดใจดำ ปลัดจืดถึงกับออกอาการโกรธ
“หุบปากไปเลย ใจ๋เขาไม่ได้หนีไปเที่ยว เขาไปส่งชา”
“รู้ได้ไง ส่งชาเสร็จเขาก็อาจจะเที่ยวต่อก็ได้ อู๊ย! ป่านนี้ม่วนขนาดๆแล้ว ฮ่าๆ หมาหัวเน่า โดนทิ้งๆ”
ปลัดจืดยิ่งฟังยิ่งไม่สบอารมณ์ แถมกังวลใจหนักขึ้นกว่าเดิมอีก
เวลาต่อมา สมใจขับรถไป ส่องกระจกมองหลังเอามือเช็ดหน้าไป
“เฮ๊ย! ทำไมเช็ดไม่ออกล่ะ”
ทุกคนเอะใจ เช็ดของตัวเองบ้าง แต่ก็เช็ดไม่ออกเหมือนกันหมด
“คุณพระช่วย! หน้าสวยๆ ของปุ๋ยเละหมดเลย”
คำปุยโวยวาย เช่นเดียวกับแคบหมู
“ของฉันด้วยเจ๊”
“ไอ้ก้องนะไอ้ก้อง!”
เจ้าคุณพึมพำคนเดียว
“เออ..เจริญล่ะ ได้นั่งหน้าเป็นการ์ตูนกันไปจนถึงม่วนแต๊ล่ะ”
“หน้าเป็นการ์ตูนยังพอไหวนะเจ๊ แต่ไอ้ท้องร้องโกร้กๆ อย่างนี้อีแค๊บไม่ไหว ใจคอจะไม่แวะกินอะไรซะหน่อยเหรอเจ๊ใจ๋”
แคบหมูทักท้วง
“เออ..จริงว่ะ ลืมไปเลย”
สมใจเพิ่งนึกขึ้นได้
“หมูกะทะไงไอ้ใจ๋”
คำปุยเสนอ
“เย้! หมูกะทะ”
แคบหมูดีใจแต่เจ้าคุณสะดุ้งสุดตัว
“หมูกะทะเจ้าที่เราเคยกินกันไง จำได้มั้ย”
“โหย..จำได้ซิ ทำไมจะจำไม่ได้ นั่งกินอยู่ดีๆ ก็เกือบตายคากะทะซะขนาดนั้น ฉันไม่มีวันลืมหรอกนังปุ๋ย”
เจ้าคุณกลืนน้ำลายลำบาก
“ไอ้ไฮโซตีนผีนั่นนะ หื้ม อย่าให้เจอ อย่าให้เจอ แม่จะจับแล่เนื้อราดพริกน้ำจิ้มแล้วจุ่มกะทะโยนให้หมากินซะให้หายแค้นเลยคอยดู๊”
เจ้าคุณอาการไม่เป็นสุขทีเดียว
“เป็นอะไรอ้ายขุนทอง ไม่อยากกินเหรอหมูกะทะ อร่อยนะ เคยกินรึเปล่า”
“เอ่อ...”
“ต้องลอง ของโปรดฉันเลยนะขุนทอง เดี๋ยวกินให้เยอะๆเลยนะ แล้วจะติดใจ เชื่อซิ!”
สมใจเอ่ยขึ้น เจ้าคุณยิ้มตอบกลับหน้าแหย
ไม่นานนักต่อจากนั้น เจ้าคุณ คำปุยและแคบหมู นั่งกินหมูกะทะทั้งที่หน้ายังเลอะสีอยู่ ทุคกนกินหมูกะทะอย่างสนุกสนาน แคบหมูคีบเข้าปาก ร้อนจี๋ แต่เสียดายของประคองเคี้ยวไว้ในปาก สมใจกับคำปุยหัวเราะชอบใจ
“ใจเย็นนังแค๊บ อย่าตะกละ ทำไมไม่กินล่ะ”
สมใจถามเจ้าคุณ
“รีบๆ กินเข้า เดี๋ยวพี่ไฮโซตีนผีของไอ้ใจ๋มันซิ่งมาเสยเอาก็จะตายซะก่อนจะได้กิน ฮ่าๆ”
คำปุยโพล่งขึ้น เจ้าคุณกลืนน้ำลายลำบากเหมือนกำลังถูกด่า สมใจคีบหมูที่ปิ้งแล้วใส่จานให้เจ้าคุณ
“อ่ะ ลองชิม”
“อืมม์..อร่อย”
“อร่อยใช่มั้ยล่ะ บอกแล้ว”
สมใจดูมีความสุข
“น่าสงสารอ้ายขุนทองนะ คงไม่เคยกินมาก่อน ใช่ป่ะ”
แคบหมูถาม เจ้าคุณรีบพยักหน้า
“ไม่เคย”
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ คนมันเกิดมาจนนี่มันก็จนจริงๆ นะ”
คำปุยเสริม เจ้าคุณสำลัก สมใจยื่นน้ำให้
“เอ้าๆ ใจเย็น ค่อยๆกินก็ได้ ไม่เคยกินก็ค่อยๆ กิน”
เจ้าคุณดื่มน้ำ แววตาสมใจมองมานึกสงสาร
“ตอนเด็กๆ นายคงลำบากมากเลยซินะ”
เจ้าคุณพูดไม่ออก หลบตาแล้วพยักหน้าตอบแทน
“ไม่เป็นไรนะ จากนี้ไป ฉันจะ....”
สมใจพูดไว้แค่นั้น เจ้าคุณ คำปุยและแคบหมูต่างรอฟัง
“เอ่อ..ชั้นจะ...ปิ้งหมูกะทะให้นายเอง...”
สามคนผิดหวัง สมใจเฉไฉไปปิ้งหมูกะทะแทน
“มันร้อน นายไม่เคยกินก็ไม่ต้อง อยู่เฉยๆ เดี๋ยวฉันปิ้งให้”
สมใจคีบหมูให้ เจ้าคุณลอบมองสมใจในความน่ารัก ทั้งหมดนั่งกินหมูกะทะกันอย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุข
คืนนั้นหลังกินหมูกะทะเสร็จ สมใจขับรถวิ่งบนถนนนอกเมือง โดยเบาะหลังแคบหมู กับคำปุย หลับไม่รู้เรื่อง จนเจ้าคุณอดหัวเราะไม่ได้
“ทุเรศจริงๆ กินแล้วก็นอนเฉยเลย”
สมใจบ่น ส่วนเจ้าคุณแอบมองสมใจ
“ไม่ง่วงเหรอ”
เจ้าคุณถาม
“โอย...สบาย ขับอย่างนี้มาทั้งชีวิต”
“เยอะไปมั้ย ทั้งชีวิต”
“ก็...แหม ครึ่งชีวิตก็ได้อ่ะ”
เจ้าคุณมองสมใจด้วยความทึ่ง
“เธอนี่เก่งจริงๆ นะ”
สมใจรู้สึกเขินปนภูมิใจ
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“ฉันมันไม่เอาไหน”
เจ้าคุณพึมพำกับตัวเอง แต่สมใจได้ยินไม่ถนัด
“ว่าไงนะ”
“อ๋อ...เปล่าๆ...ฉันถามว่า..ฉันขับให้เอามั้ย”
“ขับให้ นายเนี่ยนะจะขับให้ ขับรถเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ยะ มอเตอร์ไซค์ฉันยังต้องสอนให้แทบตาย”
เจ้าคุณลืมตัวเกือบหลุดแต่ก็นึกขึ้นมาได้
“มอเตอร์ไซค์น่ะขับไม่เป็น แต่ตะก่อนเคยขับรถอีแต๋นนะ”
สมใจตาโต
“จริงอ่ะ”
เจ้าคุณพยักหน้า สมใจยิ้ม
“ไม่เอาล่ะ..ไม่อยากเสี่ยง นั่งเป็นเพื่อนฉันไปงี้ล่ะดีแล้ว อย่าหลับละกัน แค่นี้ก็หนวกหูเสียงกรนจะแย่แล้ว”
สองคนขับรถไปพลางยิ้มให้กันไปพลาง จังหวะหนึ่ง เจ้าคุณส่งน้ำ แกะลูกอมให้สมใจกินแก้ง่วง คุยกันตลอดๆ อย่างมีความสุข
อ่านต่อหน้า 4
รักออกอากาศ ตอนที่ 7 (ต่อ)
ไม่นานสมใจก็ขับรถเข้ามาถึงถนนลูกรังที่จะเข้าสู่หมู่บ้านม่วนแต๊ แต่จู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์สองคน ยืนขวางถนนอยู่ สมใจมองเพ่งมองอย่างสงสัย เจ้าคุณรู้สึกผิดปกติ ส่วนคำปุยกับแคบหมูยังหลับอยู่
“ใจ๋...ระวัง”
เจ้าคุณโพล่งออกมาเตือนสติ สมใจขับรถเข้าไปใกล้ ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนโบกไม้โบกมือไล่ออกไป ไม่ให้ผ่านทางนี้
“อะไรวะ ถนนของมันคนเดียวรึไง ไอ้บ้า!”
“ใจ๋...มีทางอื่นมั้ย” เจ้าคุณถาม
“มี! แต่ไม่ไป ฉันเคยใช้ทางนี้มาตลอด ทำไมต้องเชื่อพวกมันด้วย เชื่อก็กลัวดิ”
พูดจบสมใจพุ่งรถเข้าไปเบรกเอี๊ยดตรงหน้าชายฉกรรจ์สองคน แล้วเปิดประตูรีบลงไปทันที
“เฮ่ย! ใจ๋! เดี๋ยว ใจ๋!”
เจ้าคุณรีบเปิดประตูตามลงไปทันที ในขณะที่สมใจพร้อมลุยแหลก
“มีสิทธิ์อะไรมาปิดถนน”
เจ้าคุณคว้ามือสมใจไว้
“ใจ๋...”
“ถนนของต้นตระกูลพวกแกรึไง”
ชายฉกรรจ์ สองคนแสยะยิ้ม หน้าตาเอาเรื่อง
“ฮั่นแน่ น้องสาว หน้าตาสวยๆ ปากจัดๆ หยั่งงี้ พี่ช้อบ ชอบ ฮ่าๆ”
ชายฉกรรจ์สองคนหัวเราะประสานเสียงดังลั่น
“ไอ้บ้า!”
สมใจด่า เจ้าคุณดึงสมใจไปไว้หลังตัวเอง ด้วยความห่วงใย
“เปิดทางให้เรา เราจะกลับบ้าน”
“เฮ่ย ไม่ใช่พ่อ อย่ามาสั่ง”
“พ่อสั่งยังไม่กลัวเลยเว๊ย ฮ่าๆ”
สองโจรดูท่าจะไม่ยอมง่าย หัวเราะใส่อีกต่างหาก
“ขำตรงไหนวะ หลีกไปให้พ้น ไม่งั้นฉันจะขับรถชนพวกแกจริงๆ ด้วย”
“ใจ๋...”
เจ้าคุณร้องปรามสมใจ
“หึ้ย! แม่หญิงปากจัดมันต้องจับมากัดซะให้เจ็บ จะได้จำ”
สองโจรพูดจบปรี่เข้ามาจะคว้าตัวสมใจ แต่เจ้าคุณไวกว่าซัดหมัดสกัดชายฉกรรจ์คนแรกจนคว่ำแล้วกระชากสมใจมากอดไว้ สมใจอึ้งแต่แอบอบอุ่นในหัวใจ
“เจ็บมั้ยพี่” โจรอีกคนเข้ามาถามพรรคพวก
“ไอ้เวร! จะถามทำพ่อเอ็งเรอะ ไปซิ ไปจัดการมัน เร็ว อูย...”
ชายฉกรรจ์สองคน รีบพุ่งเข้าใส่เจ้าคุณ เจ้าคุณดูจะได้เปรียบแต่ซักพักชายฉกรรจ์1 ตามมารุม เจ้าคุณเริ่มเสียเปรียบแล้ว
“ขุนทอง ระวัง!”
สมใจตะโกนบอกอย่างเป็นห่วง แต่เจ้าคุณกลับห่วงสมใจตะโกนให้ไปนั่งรอในรถ
“ใจ๋ ขึ้นรถ! ล็อกรถด้วย ไป!”
“ไม่!”
สมใจไม่ทิ้งเจ้าคุณ เจ้าคุณซัดชายฉกรรจ์สองคน จนหมอบโดยมีสมใจช่วย แต่พอหันมาจะเล่นงานชายฉกรรจ์อีกคน ปรากฎว่าสมใจโดนล็อกคอแล้วเอาปืนจี้ไว้
“อยากให้นังนี่ตายโหงก็เข้ามา”
โจรเล่นสกปรกใส่เจ้าคุณ
“ใจ๋! อย่านะ อย่าทำอะไรผู้หญิง”
“ไอ้โง่ ผู้หญิงเขาอุตส่าห์มาหาถึงที่ ถ้าไม่ทำอะไรก็ควายแล้วเว๊ย ฮ่าๆ”
เจ้าคุณกับสมใจอึ้ง
“ไอ้หม่อง ล็อกมัน!”
โจรอีกคนรีบลุกขึ้นล็อกเจ้าคุณ
“ซ่าดีนักนะ มีเมียก็ไม่รู้จักสั่งสอน เดี๋ยวข้าจะสอนวิธีปราบเมียให้ดูสดๆ เลย ฮ่าๆ”
สมใจดิ้น เจ้าคุณขยับตัวอยากช่วยสมใจ
“อย่า!”
โจรขยับปืนใส่สมใจ เจ้าคุณเลยไม่กล้า ชายฉกรรจ์ลากสมใจผลักลงกับพื้น
“อย่า! ใจ๋!”
สมใจแอบกลัว เมื่อโจรคนหนึ่งพุ่งหมายจะปล้ำ
“หยุด!”
โจรชะงักกึก เห็นอาเฟยลูกชายอาฟงยืนอยู่กับลูกน้องสามคน
“เถ้าแก่น้อย!”
โจรอุทานพร้อมกัน
“ปล่อยผู้หญิง!”
อาเฟยสั่ง
โจรรีบปล่อยสมใจ เจ้าคุณวิ่งไปกอดสมใจไว้อย่างเป็นห่วง
“ทำอะไรของแก”
อาเฟยมองหน้าลูกน้อง
“เอ่อ...”
โจรติดอ่าง แต่ไม่ทันได้ตอบ อาเฟยตบหน้าชายฉกรรจ์ โดยมีเจ้าคุณกับสมใจมองการกระทำนั้นอยู่
“ขอโทษด้วย..สมใจ”
สมใจมองอาเฟยด้วยความงง เพราะก่อนหน้านี้ปาเฟยเคยมากับอาฟงผู้เป็นพ่อค้ามาเฟียค้าไม้ และต้องการมาต่อรองซื้อไร่ชาม่วนใจ๋จากสมหมายนั่นเอง
“นาย...”
อาเฟยยิ้มแล้วก้มหัวเล้ฏน้อยแนะนำตัว
“..เฟย..ฉันชื่อ เฟย”
สมใจตาลุกวาว
“นี่พวกนายกำลังทำอะไร แอบตัดไม้ใช่มั้ย”
สมใจพูดด้วยความโกรธ อาเฟยยิ้มแต่ไม่ตอบ
“พวกนายนี่มันเลวจริงๆ”
สมใจด่า
“รีบกลับไปดีกว่า ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”
“ไอ้...”
“ใจ๋!”
เจ้าคุณดึงสมใจจะเดินไปที่รถ แต่สมใจชะงักหันกลับมา
“ขอให้เวรกรรมตามสนองพวกแก ขอให้เจ้าป่าเจ้าเขาลงโทษพวกแก”
เจ้าคุณรีบดึงสมใจขึ้นนั่งในรถ โดยเจ้าคุณเป็นคนขับ อาเฟยมองตามด้วยแววตาครุ่นคิดในใจ
ต่อจากนั้น ที่บ้านสมใจ สมหมายยัวะด้วยอารมณ์โกรธ
“ไอ้เฟย ลูกไอ้ฟง มัน ตาย!”
สมหมายพุ่งจะออกไปเอาเรื่องอาเฟย แต่สมศรีคว้าไว้
“จะไปไหนตาหมาย”
“ถามได้ ก็จะไปฆ่ามันทั้งพ่อทั้งลูกน่ะซิแม่ศรี หนอย ลูกไอ้ฟงมันรังแกลูกเราได้ขนาดนี้ แม่ศรีอย่าห้ามฉัน ฉันจะไปฆ่ามัน!”
สมศรีเตือน
“ก็ไม่ได้อยากจะห้าม แต่อยากจะบอกว่า ถ้าขืนไปมือเปล่าอย่างนี้มีหวังโดนพวกไอ้ฟงมันฆ่าตายก่อนจะได้ฆ่ามันซะละม้าง ตาหมาย”
“เออ..จริง งั้นฉันไปเอาลูกซองก่อน”
สมหมายจะไปเอาปืนในบ้าน แต่โดนสมศรีดึงไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยว!”
“อะไรอีกล่ะ..แม่ศรี นี่อย่าบอกนะว่าเป็นห่วงกลัวไอ้ฟงมันจะโดนผัวเธอยิงตาย”
“ตาบ้า! ตาหมายบ้า โกรธจนไม่ลืมหูลืมตา ฉันห่วงแกนั่นแหละ ปืนลูกซองกระบอกเดียวเนี่ยนะจะบุกไปสู้กับไอ้พวกมาเฟียเป็นโขยง นึกว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังบู๊รึไงห๊า พระเอกคนเดียวแต่ยิงผู้ร้ายตายเรียบ เชอะ”
สมหมายหน้าจ๋อยไป
“จริงของป้าศรีนะลุงหมาย ไอ้พวกนั้นตะละคน มันโหดร้าย”
คำปุยรีบพูด แคบหมูทำท่าสยอง เหมือนอยู่ในเหตุการณ์
“จริงจ๊ะ..อำมหิต มาเฟีย นรกส่งมาเกิด”
“เงียบไปเลยทั้งคู่ แหม นอนหลับเป็นตายอยู่ในรถ ยังจะกล้าพูด นี่ถ้าไม่ได้ขุนทองช่วยไว้ ป่านนี้ฉันคงกลายเป็นผีเฝ้าป่าไปแล้ว”
คำปุยกับแคบหมูจ๋อยไป สมหมายกับสมศรีหันไปมองเจ้าคุณที่นั่งอยู่ ใบหน้ามีรอยฟกช้ำเพราะเป็นคนเข้าไปช่วยสมใจ
“โถ...ไอ้ขุนทองเอ๊ย”
สมหมายมองอย่างเริ่มเห็นความดีของเจ้าคุณ สมใจแอบส่งสายตาในความมภูมิใจในตัวเจ้าคุณที่กล้าเข้าช่วยตัวเองจากโจรไว้ได้
เวลาถักมา สมใจถือลูกประคบ นำมาโปะไว้บนรอยช้ำที่หน้าเจ้าคุณ
“โอ๊ย! เบาๆ”
เจ้าคุณร้องโอดโอย
“อะไร แค่นี้เจ็บ ทีตะกี๊โดนอัดผลัวะๆ ไม่เห็นร้อง”
สมใจค้อนใส่ เจ้าคุณเผลอตอบอย่างลืมตัว
“อ้าว! ก็ตอนนั้นมันมัวแต่ห่วงนี่”
สมใจชะงัก เจ้าคุณก็ชะงักตาม สองคนมองหน้ากัน แล้วสมใจก็จิ้มลูกประคบพรวดเข้าไปอีกเต็มหน้าเจ้าคุณด้วยความเขิน
“โอ๊ย!”
“อุ๊ย! โทษๆ เจ็บมั้ย”
คราวนี้หน้าสมใจใกล้เข้ามาอีก เจ้าคุณยังไม่ตอบ
“ขอบใจมากนะ”
สมใจเอ่ยขึ้น เจ้าคุณมอง
“ขอบใจที่ช่วยฉัน..อยู่ข้างๆ ฉัน..ไม่ทิ้งฉัน”
เจ้าคุณฟังแล้วใจหายวูบ เพราะวันหนึ่งอาจต้องทิ้งสมใจไปด้วยความจำเป็น
“นายจะไม่ทิ้งฉันใช่มั้ย...ขุนทอง”
เจ้าคุณอึ้ง พูดไม่ออก ได้แต่มองหน้าสมใจ
“ฉันก็จะไม่ทิ้งนาย...เอ่อ...คือ...ถ้าต่อไปนายมีเรื่องเดือดร้อน ฉันก็จะไม่ทิ้งนาย ฉันจะช่วยนาย เหมือนที่นายเคยช่วยฉันไว้ไง”
สมใจยิ้มให้เจ้าคุณ ส่วนเจ้าคุณพยายามยิ้มตอบเช่นกัน
“มา..คราวนี้จะเบาที่สุดเลย...รับรอง!”
สมใจชูลูกประคำดูแลแผลเจ้าคุณต่อ เจ้าคุณยื่นหน้าให้แต่โดยดี สมใจรู้สึกดีในขณะที่เจ้าคุณมองสมใจอย่างรัก แต่แอบครุ่นคิดภายในใจด้วยความกังวล
เช้าวันต่อมา ที่ไร่ชาม่วนใจ๋
“อะไรกัน ฉันไม่อยู่แค่ไม่กี่วันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ใจ๋ไม่เป็นอะไรแน่นะ”
สมใจเก็บใบชาอยู่ มีแคบหมูคอยเงี่ยหูฟังอยู่แถวนั้นด้วย
“แน่ซิ...ปลัดก็เห็นอยู่ว่าฉันยังไม่ตาย”
“ใจ๋! ทำไมพูดอย่างนี้”
“ล้อเล่น”
สมใจพูดไปขำไป แต่ดูเหมือนปลัดจืดจะไม่ขำด้วย
“แถมยังเสียใจมากด้วยที่ช่วยเหลืออะไรใจ๋ไม่ได้เลย”
สมใจแกล้งเฉไฉเด็ดใบชาต่อ แคบหมูเหล่ตามองเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนปลัดจืดยังยืนหน้าเศร้าอยู่
“ไม่เอาน่าปลัด อย่าคิดมาก ปลัดไม่ใช่ซูเปอร์แมนนะ ที่จะโผล่ไปช่วยคนโน้นคนนี้ได้ตลอดเวลา”
“พี่ใจ๋พูดถูก”
ปลัดจืดหันขวับ หวานเจี๊ยบตาลุกวาวขึ้นมาทันที
“ปลัดจืดไม่ใช่ซูเปอร์แมน แต่เป็นไอ้กระจอก ไม่มีน้ำยา สู้อ้ายขุนทองก็ไม่ได้ซักนิด”
“หวานเจี๊ยบ!”
สมใจดุหวานเจี๊ยบ
“ช่างเถอะใจ๋...”
หวานเจี๊ยบตกใจที่วันนี้ปลัดจืดไม่โต้ตอบเช่นทุกครั้ง
“ฉันมันไอ้กระจอกอย่างที่หวานเจี๊ยบพูดก็ถูกแล้ว แต่ที่เธอพูดผิดก็คือเรื่องที่ฉันสู้ขุนทองไม่ได้”
“ฉันพูดผิดตรงไหนยะ ก็นายมันสู้อ้ายขุนทองไม่ได้ซักกะเรื่อง”
หวานเจี๊ยบลอยหน้าลอยตา ปลัดจืดรีบสวน
“เรื่องอื่นฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้าเป็นเรื่อง รักและเป็นห่วงใจ๋ ฉันไม่เคยแพ้ใครทั้งนั้น จำไว้นะใจ๋”
พูดจบปลัดจืดเดินออกไปทันที ทิ้งให้สมใจ หวานเจี๊ยบ และแคบหมู อ้าปากค้าง
“พระเอก..พระเอกชัดๆ”
แคบหมูพึมพำ หวานเจี๊ยบหายอึ้งแล้วว่าปลัดจืดต่อ
“อ้วก! พระเอกลิเกอ่ะซิ อ้วกแตก เลี่ยนเว๊ย พี่ใจ๋อย่าไปฟังมันนะ..จะอ้วก”
หวานเจี๊ยบกันมาเกะแขนสมใจ ที่แอบสงสารปลัดจืดอยู่ไม่น้อยเจ้าคุณซึ่งยืนเด็ดใบชาอยู่แถวนั้น โดยที่ไม่มีใครทันเห็น เจ้าคุณได้ยินหมดแล้วทุกอย่าง
เวลาต่อมา เจ้าคุณเดินด้วยอารมณ์เซ็ง เข้ามายืนทอดสายตามองไปไกลๆ หลับตาแล้วสูดลมหายใจลึกๆ แล้วกวาดตามองความสวยงามของม่วนแต๊
“ฉันจะได้อยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน”
เจ้าคุณบ่นกับตัวเอง
“บ่นอะไรขุนทอง”
เจ้าคุณสะดุ้ง เมื่อเห็นสมใจเดินเข้ามาหามีปิ่นโตเล็กๆ ในมือมาด้วย
“ปะ....เปล่า”
เจ้าคุณรีบปฏิเสธ
“โกหก! ตะกี๊ชั้นได้ยินอ่ะ นี่ อย่าโกหกฉันนะ รู้มั้ยว่าฉันเกลียดคนโกหกที่สุดในโลก”
เจ้าคุณอึ้ง
“ถ้าฉันรู้ว่าใครบังอาจโกหกชั้นล่ะก็ ฮึ่ม ชาตินี้ชาติหน้าอย่าหวังว่าจะได้เจอะเจอกันอีกเลย”
เจ้าคุณหน้าจ๋อยขึ้นมาทันที
“เฮ๊ย! เป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า ทำไมหน้าซีดเชียว ตัวร้อนรึเปล่า”
สมใจเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเจ้าคุณ แต่เข้าคุณเบี่ยงหลบ จนไปจับมือสมใจไว้
“เปล่า”
สมใจมองมือตัวเองที่เจ้าคุณจับไว้ เจ้าคุณรู้ตัวก่อนจึงรีบปล่อย
“..ขอโทษ”
สมใจยิ้มเขิน
“ตัวก็ไม่ร้อน หิวข้าวล่ะซิ นี่ ข้าวนึ่ง หมูจิ้น น้ำพริกหนุ่ม เดอลิเวรี่ แม่ฉันฝากมาให้นายแทนคำขอบใจที่เมื่อคืนนายช่วยฉัน”
เจ้าคุณซึ้ง
“เอ๊า จะยืนอีกนานมั้ย นั่งลง!”
เจ้าคุณรีบนั่งลงอย่างว่าง่าย สมใจจัดแจงกับข้าว เห็นแล้วถึงกับหิวเช่นกัน
“หูย...เห็นแล้วน้ำลายจะหก ขอแจมด้วยได้ป่ะ?
“ได้ซิ..ก็ของแม่เธอ จะต้องมาขอทำไม”
“ของแม่ฉันที่ไหน แม่ฉันเขาฝากมาให้นาย ก็ต้องเป็นของนายซิ นี่! ถึงฉันจะเป็นแม่นางบ้านนอก แต่พ่อแม่ฉันก็สอนมาดีมีมารยาทนะยะ จะกินอะไรของใคร เขาก็ต้องขอก่อน กินได้ยังล่ะ หิวแล้ว”
เจ้าคุณยิ้มอย่างเอ็นดูสมใจ
“กินเลย”
สมใจจ้วงข้าวเหนียวทันที เจ้าคุณยิ้ม มองสมใจด้วยความรัก
“เอ๊า! กินซิ”
สมใจปั้นข้าวเหนียว เจ้าคุณทำตาม จะใส่ปากแต่สมใจร้องทัก
“เดี๋ยวๆ”
เจ้าคุณมองอย่างสงสัย สมใจยื่นข้าวเหนียวในมือออกมา
“ชนกันหน่อย”
“ห๊า!”
“ข้าวนึ่งร่วมสาบานไง เราจะไม่ทิ้งกันไม่ใช่เหรอ”
เจ้าคุณอึ้งไป
“เร็วดิ”
เจ้าคุณค่อยๆ ยื่นข้าวเหนียวออกมาชนกับสมใจ
“เอ้า! ชน”
สมใจยิ้มอย่างมีความสุข แต่เจ้าคุณแอบฝืนยิ้มในใจ สมใจควักข้าวเหนียวแบ่งกับเจ้าคุณ เจ้าคุณหยิบข้าวเหนียวที่ติดปากสมใจออก ทั้งคู่ดูมีความสุขมากในข้าวร่วมสาบานมื้อนี้
หลังจากนั้น เจ้าคุณกำลังเดินกำลังเนกลับจากไร่ชาม่วนใจ๋ ไส้อั่ววิ่งกระหืดกระหอบเลยเจ้าคุณไปแล้วชะงักเบรกเอี๊ยด วิ่งกลับมาตะโกนเรียก
“อ้ายขุนทอง! เดี๋ยว!”
“อะไรวะไอ้อั่ว”
ไส้อั่ววิ่งมาหยุดหอบ เจ้าคุณยิ้มพลางหัวเราะ
“ใจเย็น....”
“...เฮ้อ! ค่อยยังชั่ว”
“มีอะไร ว่ามา”
“มีคนมาหาอ้าย”
“ใคร”
“แน้ จะไปรู้เรอะว่าใคร ก็เขามาหาอ้าย ไม่ได้มาหาฉันนี่ เออ..ว่าแต่อ้ายไปแอบมีเพื่อนเป็นฝรั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ห๊า!”
ไส้อั่วรีบพูด เจ้าคุณยังงงว่ามีใครมาหาตนอีก
“เพื่อน...ฝรั่ง”
เจ้าคุณครุ่นคิดว่าใครกันที่มาหาตนที่บ้านม่วนแต๊
ต่อจากนั้น พอมาถึงบ้าน เจ้าคุณต้องอึ้งเมื่อรู้ว่าคนที่มาหานั้นคือแมทธิว
“ฮัล....โหล!”
“ไอ้แมท”
“ใช่แล้วไอ้คุณ เอ๊ย! อ้ายขุนทองเพื่อนรัก”
แมทธิวตาวาว มีแผนร้ายในใจ เจ้าคุณอึ้ง รู้แน่ว่าแมทธิวไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน
อ่านต่อตอนที่ 8 25 ก.พ. 55 เวลา 9.00 น.