xs
xsm
sm
md
lg

ทองประกายแสด ตอนที่ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 ทองประกายแสด  ตอนที่ 1 

ที่ร้านขายอาหารตามสั่งเล็กๆ แห่งนั้น ทองดี เด็กสาววัย 17 ปี นั่งดูละครโทรทัศน์อยู่ในอาการเคลิ้มคล้อย เพราะนึกว่าตัวเองเป็นริสา นางเอกของเรื่องที่วิ่งร้องไห้ แล้วพระเอกก็วิ่งตามมาร้องเรียกงอนง้อเธอ

“ริสา..ฟังผมก่อน”
ริสาไม่ฟัง วิ่งต่อไป พระเอกรีบวิ่งเข้ามาคว้าเอวริสา ล้มกลิ้งไปที่ริมทะเล คลื่นซัดเข้าหาทั้งสองที่จ้องตากัน นางเอกน้ำตาไหล
“ริสา คุณอย่าหนีผมอีกเลยนะ”
“คนอย่างริสามันไม่มีค่ากับใครหรอกค่ะ”
“ริสามีค่ากับผมมากที่สุด”
“แต่…”
“ไม่มีแต่อะไรอีกแล้ว..ผมรักคุณ...ผมรักคุณ...”
ริสาดีใจ ยิ้มทั้งน้ำตา พระเอกจูบริสา…
ขณะเดียวกัน ทองดีในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น มือบิดหนังสือประเภทซุบซิบดาราไป ยิ้มไป มองในจอโทรทัศน์เห็นพระเอก นางเอก จับมือกันลุกขึ้น มองตา แล้วกอดกัน และขึ้นคำว่า จบบริบูรณ์ที่กลางจอ
แล้วเสียงดังราวกับฟ้าผ่าของแม่ก็ขัดจังหวะขึ้น
“อีทองดี!”
ทองดีสะดุ้ง หันไปทางหน้าร้าน มีลูกค้านั่งกินกาแฟ และข้าวอยู่หลายโต๊ะ ด้านหน้าร้านมีมุมขายข้าวตามสั่ง อีกด้านขายกาแฟ ซึ่งขณะนี้แม่ยืนเท้าเอวถือตะหลิวอยู่หน้าเตา ถลึงตามองมา ทองดีพ่นลมทางปากอย่างเซ็งๆ

ทองดีเดินสะบัดๆไม่พอใจมาหาแม่ ที่ยืนท้าวเอวรออยู่
“ดูทีวีทั้งวันนะมึง งานการไม่ทำ ลูกค้าแหกปากสั่งผัดกระเพราให้ลั่นน่ะ ได้ยินไหม”
“แม่ได้ยินแล้วทำไมไม่ทำเลยล่ะ ถ้าไม่มัวด่าฉันป่านนี้ผัดได้สองจานแล้ว”
“อีทองดี อีดอกกระทือ อีลูกทรพี! กูไม่น่าเอามึงมาเลี้ยงเลย ปากแบบนี้ปล่อยให้อดตายอยู่กับพ่อแม่มึงซะดีก็หรอก”
พูดจบแม่ก็เงื้อมือจะตี ทองดีรีบกระโดดหลบจนไปชนกับลูกค้าชายที่เดินมาหน้าร้านพอดี
“โอ๊ะๆๆ” ลูกค้าประคองทองดี “โธ่ เจ๊ จะตีทองดีมันทำไม เดี๋ยวผิวสวยๆก็ช้ำหมด”
ลูกค้าชายยังจับทองดีไว้ไม่ยอมปล่อย จนทองดีต้องสะบัดแขนออกด้วยความไม่พอใจ
“ถุย ผิวสวยๆ หนังหนาอย่างกับหนังแรด เอ้าอีนี่ ยังจะมัวยืนสำออย อ่อยผู้ชายอยู่ได้ พอกูบอกว่าแรดนี่ ทำตัวกลมกลืนทันทีเลยนะ”
ทองดีฉุน
“โอ๊ยยยย แม่...จะด่าอะไรนักหนาเนี่ย”
“หนอยอีทองดี มึงวิเศษมาจากไหนกูถึงด่าไม่ได้”
ลูกค้าที่รอกินข้าวอยู่ในร้าน ทนไม่ไหวตะโกนขึ้นมา
“เจ๊ ผัดกระเพราได้ยัง รอนานแล้วนะ”
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง เดี๋ยวกูจะมาด่าต่อ”
แม่หันกลับไปผัดข้าว ทองดีหันมาก็เจอลูกค้าชายส่งยิ้มรออยู่ก่อน
“แล้วพี่จะเอาอะไร”
“ยกล้อแก้วนึงจ้ะทองดี”
ลูกค้าสั่งแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะที่ใกล้ทองดีที่สุด ทองดีเดินไปชงกาแฟ ลูกค้าชายก็มองสำรวจรูปร่างทองดีอย่างลืมตัว โดยไม่รู้ว่าทองดีมองอยู่อย่างเคืองๆ ทองดีเอาช้อนเคาะแก้ว แก๊งๆๆ ลูกค้าสะดุ้ง
“มองอะไร”
“มองคนสวยไง ทองดีนี่สวยอย่างหาที่ติไม่ได้เลยนะ แถมยังสวยขึ้นทุกวันทุกวันเลยนะ”
ทองดียิ้ม ชม้ายชม้ายตา
“จริงเหรอ ฉันสวยขนาดที่พอจะเป็นดาราได้ป่ะ”
“ไม่ใช่ดาราธรรมดาๆนะ ต้องนางเอกเท่านั้น”
ทองดีเขินอายหยุดชง แม่ที่ผัดกระเพราราดข้าวเสร็จก็ถือจานรอ พอเห็นทองดีถูกจีบอยู่ก็โมโห
“มึงจะชงจนชั่วลูกชั่วหลานเลยใช่ไหม”
ทองดีรีบคนๆโอเลี้ยงในแก้ว ตักน้ำแข็งใส่แก้วเทโอเลี้ยงใส่แล้วส่งให้ลูกค้า ลูกค้ายิ้มเจ้าชู้ให้ทองดีก็ยิ้มตอบ แล้วรีบเดินไปรับจานข้าวที่แม่ผัดเสร็จไปวางส่งให้ลูกค้า


แม่ยืนผัดข้าวให้ลูกค้าเด็ก ที่จอดจักรยานรออยู่หน้าร้าน ลูกค้าที่จีบทองดีดื่มยกล้อหมดแก้ว แล้วลุกเดินมาส่งตังค์ให้ทองดียี่สิบ
“พี่ชอบยกล้อของทองดีมากเลยรู้ไหม”
ทองดียิ้ม
“ชอบก็ให้ฉันเพิ่มอีกยี่สิบสิ”
ลูกค้าหน้าเสีย
“แฮ่ะๆ พี่ไม่รวยขนาดแจกเงินใครได้หรอก แต่พี่ก็มีหัวใจให้ทองดีนะ”
ทองดีชักสีหน้าทันที
“ไปไหนก็ไปเลยไป”
ลูกค้าหน้าจ๋อยเดินออกไป แล้วชายหญิงที่ทานข้าวก็เรียก
“ทองดี เก็บเงินโต๊ะพี่ด้วย”
ทองดีนับจานและน้ำ
“ร้อยนึงพอดี”
หญิงลูกค้าหยิบเงินมานับเป็นแบงก์ยี่สิบห้าใบ ส่งให้ทองดีแล้วลุกไปทั้งคู่ ทองดีมองแม่ที่ผัดข้าว มองไปที่ในร้านที่โต๊ะเตี่ยก็ไม่เห็นมีเตี่ย ทองดีแอบดึงแบงก์ยี่สิบพับใส่กระเป๋ากางเกง
“เก็บเงินเสร็จแล้วก็เอามาสิ”
ทองดีสะดุ้งหันไปที่โต๊ะก็เห็นเตี่ยเดินไอออกมาจากห้องน้ำมานั่งที่โต๊ะเก็บเงิน


เตี่ยนั่งนับเงิน ทองดียืนมองอยู่ข้างๆ
“หกสิบ แปดสิบ ร้อยนึง...แล้วของโต๊ะที่อีกินโอยั๊วะล่ะ”
เตี่ยจ้องหน้า ทองดีตีหน้าซื่อ
“ไม่ครบเหรอเตี่ย” ทองดีทำเป็นค้นกระเป๋า “อ้าว...อยู่นี่เอง”
“ลื้อคิดจะอมตังค์ใช่ไหม”
“แหม...เตี่ย ก็มันลืมอ่ะ”
“อย่าให้รู้นะ ว่าลื้อคิดจะขโมยเงินอั๊ว”
ทองดีหน้ามู่ทู่ มองดูเตี่ยพับเก็บเงินแยกไว้อย่างดีแล้วเก็บลงลิ้นชัก
“เตี่ย ขอตังค์ไปซื้อรองเท้าแตะหน่อยสิ มันเก่าแล้วอ่ะ”
เตี่ยมองไปที่รองเท้าแตะเก่าๆดำๆของทองดี
“ก็ยังใส่ได้อยู่นี่ จะซื้อของใหม่ไปทำไม...เปลือง”
“นี่เตี่ย...รองเท้าแตะกี่บาทกันเชียว เตี่ยจะงกไปทำไม”
“เรื่องของอั๊ว งกแล้วรวย มันจะเสียหายอะไร ใช้ไม่คิดอย่างลื้อน่ะสิจะล่มจม ไปๆๆไปเก็บจานไปล้าง ล้างจานเลยไป”
ทองดีดูเตี่ยล็อกกุญแจลิ้นชักด้วยความเจ็บใจ เลยเดินสะบัดไปหลังร้านอย่างไม่พอใจ


ทองดีหน้าหงิกหน้างอโยนจานช้อนใส่กาละมัง ส่วนแก้วก็วางใส่อีกกาละมันอย่างไม่ค่อยใยดี แล้วใช้เท้าเขี่ยเก้าอี้พลาสติกมานั่ง ใช้เท้าเลื่อนกาละมังใส่แก้วมาให้ตรงกับก๊อกก่อนเปิดน้ำใส่กาละมัง แล้วเอามือควักผงซักฟอกใส่เยอะๆ
“งกกันนักใช่ไหม”
ทองดีตีฟองเยอะๆท่วมอ่าง แล้วล้างอย่างลวกๆ แกว่งๆ ในน้ำผงซักฟอกแล้วเอารองน้ำจากก๊อกหนเดียวก็วางในถังอีกใบเลย ช่วงที่เอาแก้วใบที่สองล้างน้ำก่อนเอาใส่ถังทองดีก็หยิบมาดูเงาตัวเอง ระหว่างที่ลากกาละมังมา เปิดสายยางใส่กาละมังจนน้ำเกือบเต็ม ปิดก๊อกน้ำ พอจะล้างแก้ว ก็เห็นเงาตนในแก้วน้ำ เหม่อคิดไปถึงที่ผู้ชายเคยชม...
“ทองดีนี่สวยอย่างหาที่ติไม่ได้เลยนะ”
“.. สักวันเถอะ อีทองดีคนนี้จะไปจากที่นี่ ไปเป็นดาราดัง มีเงินเป็นล้านๆ มีบ้านหลังใหญ่ๆแล้วใครๆก็ต้องเรียกฉันว่าคุณทองดี”
ทองดีมองเงาในแก้ว กัดริมฝีปากด้วยความเจ็บใจ

ทองดีหิ้วถังสองใบใส่แก้วถังหนึ่งใส่จานช้อนถังหนึ่ง ขึ้นมาจากจุดล้างจาน
“เดี๋ยวเอ็งไปจ่ายตลาดให้หน่อย” แม่หยิบกระดาษจดรายการ และเงินจากกระเป๋า
ผ้ากันเปื้อนส่งให้ “เอ้านี่ เหลือเท่าไหร่ทอนให้ครบนะ”
“รู้แล้วน่า”
ทองดีวางถังสองใบลงตรงหน้าแม่ เช็ดมือที่เปียกกับกางเกง แล้วรับเงินมาแล้วรีบออกไปทั้งๆที่ทำงานค้าง แม่มองถังที่วางกองอยู่ แม่ตะโกนไล่หลัง
“อีทองดี งานมึงยังไม่เสร็จเลย”
ทองดีเดินไปไม่สนแม่เรียก แม่มองถังจานแก้วแล้วโมโห ตะโกนด่า
“แหม อีเด็กบ้า ให้ไปตลาดทีไร มันต้องระริกระรี้ทุกที อย่าให้กูรู้นะว่าแอบนัดผู้ชายเอาไว้ จะเอาเลือดหัวออกเลยคอยดู”

ในตลาด ทองดีเดินมาอย่างสวยเริ่ดเชิดมั่น ชาวบ้านทั้งหญิง และชาย ต่างก็มองทองดีเป็นตาเดียว โดยเฉพาะผู้ชายที่มองอย่างเจ้าชู้ บางคนก็จุ๊ปาก บางคนมองหัวจรดเท้า เท้าจรดหัว เหลียวหลังจนเมียด่า
ทองดียิ้มพอใจ สะบัดผมหนึ่งที แล้วเสียงบีบแตรปิ๊นๆก็ดังขึ้นด้านหลัง ทองดีตกใจ หันไปเห็นคนเข็นเข่งผักบีบแตรพร้อมร้องตะโกน
“หลบหน่อยๆ”
“ว้าย” ทองดีรีบหลบคนเข็นผัก แล้วร้องด่า “คนเดินอยู่ไม่เห็นหรือไง”
คนเข็นผักหยุดแล้วหันมายิ้มให้
“เห็นสิจ๊ะ ใครๆก็เห็นทองดีทั้งนั้นล่ะ ทองดีมาทีไร ตลาดสดชื่นขึ้นมาทันทีเลย เสียดายวันนี้พี่รีบ เดี๋ยววันหลังจะไปคุยที่ร้านนะ”
คนเข็นผักยิ้มแล้วรีบเข็นไป ทองดีมองตามด้วยสายตาดูถูก
“ใครเขาอยากคุยกับแก ลูกเจ้าของตลาดก็ไม่ใช่”

ทองดีรับของจากแม่ค้า เบิ้มซึ่งรู้จักกันมานาน วิ่งเข้ามาหาอย่างดีใจ
“ทองดี”
“พี่เบิ้ม แม่ใช้มาจ่ายตลาดเหรอ”
“ใช่ ..แล้วเลยมารับเพื่อนด้วย”
“เหรอ..แล้วไหนล่ะเพื่อนพี่”
เบิ้มชี้ไปที่พิสุทธิ์
“นั่นไง”
พิสุทธิ์เดิมยิ้มสะพายกีตาร์เดินเข้ามาอย่างเท่ห์ ทองดีกับพิสุทธิ์มองหน้ากัน ทองดียิ้มเขินโดนใจ
“พิสุทธิ์มันเรียนที่เดียวกับพี่ในตัวจังหวัด” เบิ้มบอก
“ชื่อทองดีเหรอครับ”
“จ้ะ”
“ทองดีซื้อของเสร็จยัง กลับพร้อมกันไม๊”
ทองดียังยิ้มเขิน
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับเองได้ ยังซื้อของไม่ครบ ไปก่อนนะ แล้วเจอกันทองดีแยกออกไป พิสุทธิ์ก็ยังมองตาม ไม่ละสายตา”
“มองตามตาไม่กระพริบเลยนะมึง...คนนี้น่ะสวยที่สุดในอำเภอบ้านกูเลยนะ บ้านเป็นร้านขายข้าวขายกาแฟ อยากไป กินกาแฟร้านทองดีไหมล่ะ”
พิสุทธิ์ไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มๆ เบิ้มมองอย่างรู้ทัน ทองดีหันกลับมามองยิ้มให้

พิสุทธิ์นั่งดูดชาเย็น มองทองดีที่ยิ้มเขินอยู่ตรงข้าม เบิ้มแกล้งดูดน้ำแข็งก้นแก้วแรงๆขึ้นขัดอารมณ์ ทองดี พิสุทธิ์หันมามองเบิ้ม
“จะคุยอะไรก็คุยซะทีสิคร้าบ มัวแต่มอง จะรู้เรื่องไหมเนี่ย”
พิสุทธิ์ถามยิ้มๆ
“มีแฟนหรือยังครับ”
“เฮ่ย มานิ่มๆแต่โดนจังๆเลยว่ะ” พิสุทธิ์หันไปมองทองดี “ว่าไงจ๊ะทองดี”
“ยังไม่มีหรอก”
แม่ที่ผัดข้าวอยู่ ตักข้าวใส่จานเสร็จ เห็นทองดีนั่งคุยกับผู้ชาย ก็ตะโกนด่า
“อีทองดี มาเอาข้าวผัดออกไป มัวแต่อ่อยผู้ชายอยู่ได้”
ทองดีเดินกระฟัดกระเฟียดไปหาแม่
“แม่อ่ะ เรียกดีๆหน่อยได้ไหม ฉันไม่ได้อ่อยซะหน่อย พี่เบิ้มเขาพาเพื่อนมากินข้าวฉันก็ไปคุยด้วยเฉยๆ”
“อย่ามาสตอ กูเห็นมึงชม้อยชม้ายตาให้ท่าไอ้หน้าหล่อนั่นอยู่ ถ้าโดนเขาหลอกฟันล่ะมึงเอ๊ย...”
เบิ้มรีบขัด
“ป้าจ๋าใจเย็นๆ ไม่มีอะไรอย่างนั้นหรอก พ่อแม่เขาเป็นข้าราชการอยู่ในจังหวัด ขืนทำอะไรไม่ดี ก็เสียชื่อหมดสิ”
แม่เปลี่ยนท่าที ชะโงกหน้าถามพิสุทธิ์
“อ่อ เป็นลูกข้าราชการหรอกเหรอ” พิสุทธิ์ยิ้มรับพยักหน้า แม่จึงหันไปพูดกับทองดี “งั้นมึงก็เอาข้าวไปส่ง แล้วค่อยมาคุยกับเพื่อน”
“จ๊ะ”ทองดียิ้ม
“แต่กูให้มึงคุยได้แป๊บเดียวนะ”
“จ้า...” ทองดีหยิบจานข้าว หันมองพิสุทธิ์แว่บนึง ยิ้มแล้วออกไป
พิสุทธิ์มองตามทองดีอย่างหลงใหล


ค่ำคืนนั้น...พิสุทธิ์กึ่งนั่งกึ่งนอนใจลอยเกากีตาร์ตรงโต๊ะญี่ปุ่นซึ่งมีกองหนังสือวางอยู่เต็ม โดยมีเบิ้มก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ ครู่หนึ่งเบิ้มเงยหน้ามองพิสุทธิ์
“เฮ้ย ตกลงจะติวกันไหมวะเนี่ย กูอ่านจบไปสองเล่มแล้วนะ”
“มึงก็อ่านไปก่อนเถอะน่ะ”
“เฮ้อ ไม่น่าเลยกู”
“ไม่น่าอะไร”
เบิ้มส่ายหน้า...
“ก็ไม่น่าแนะนำให้รู้จักทองดีน่ะสิ อุตส่าห์ถ่อจากจังหวัดมาหากูถึงนี่ แล้วเป็นไง เห็นหญิงดีกว่าเรื่องเรียน”
“เฮ้ย...มึงหยุดบ่นเถอะว่ะ กูฟังแม่กูบ่นจนเบื่อแล้ว”
“เออๆ เรื่องของมึงแล้วกัน”
เบิ้มอ่านหนังสือต่อ พิสุทธิ์วางกีต้าร์ ลุกขึ้น
“ไงกูก็ขอบใจมึงแล้วกัน”
“ขอบใจอะไรวะ”
“ก็...ก็ขอบใจที่ให้กูมานอนบ้านมึงไง กูไปนอนแล้ว”
พูดจบพิสุทธิ์ก็เดิน เบิ้มมองตามส่ายหน้าระอาใจ

เช้าวันใหม่...
ทองดีเปิดร้านออกมาเจอพิสุทธ์ยืนสะพายกีตาร์ยิ้มอยู่หน้าร้าน เบิ้มยืนอยู่ห่างๆ ทองดีทั้งตกใจ ทั้งดีใจ
“มาทำไมแต่เช้า”
พิสุทธิ์ยิ้ม
“ก็...อยากเจอ”
“แล้วไม่ไปเรียนเหรอ”
“ไปครับ แต่ขอมาเจอหน้าทองดีก่อน”
ทองดีเขิน
“เจอแล้วไง”
“เจอแล้วก็อยากเจออีก”
“บ้านฉันก็อยู่ที่นี่ มาหาพี่เบิ้มเมื่อไหร่ก็แวะมาได้”
“จริงนะ ทองดีสัญญานะ”
ทองดีพยักหน้ารับ ทั้งสองมองหน้ากันยิ้มให้กัน
“เฮ้ย คุยเสร็จยัง เดี๋ยวตกรถไปสอบไม่ทันกันพอดี”
“ผมต้องไปมหาลัยแล้ว ไว้ผมจะมาหาอีกนะ”
สองหนุ่มเดินออกไป เบิ้มเดินจ้ำเร็วๆพิสุทธิ์เดินไป ก็ยังหันกลับมามองโบกมือให้ทองดี”
ทองดียืนยิ้ม หัวใจพองโตตาเป็นประกาย


ช่วงสาย...ทองดีซักผ้าอยู่หลังร้าน ร้องเพลงชิมิของบลูเบอร์รี่ ไปกับวิทยุเล็กๆวางอยู่บนโต๊ะ แล้วคิดถึงพิสุทธิ์ เธอยิ้มไปซักผ้าไป
“คนอย่างอีทองดี มันต้องได้เป็นผัวเรียนสูง เป็นลูกข้าราชการแบบนี้แหละถึงจะเหมาะสม”
เพลงในวิทยุจบ เสียงดีเจสาวก็พูดขึ้น
“เอาล่ะค่ะ ข่าวดีที่อุบไว้ตั้งแต่เบรกที่แล้ว ชาววิทยุชุมชน เสียงลูกทุ่ง เตรียมเฮได้เลยเพราะว่ากองถ่ายละคร เพลิงพิศวาส จะมาตั้งกองถ่ายกันที่ตลาดบ้านเราในวันพรุ่งนี้”
ทองดีหูผึ่ง หยุดซักผ้า ฟังอย่างตั้งใจ
“ใครที่อยากเห็นว่าเขาถ่ายละครกันยังไงก็ลองแวะไปดูได้ ดีเจก็ว่าจะไปดูสักหน่อย เผื่อมีผู้กำกับเห็นแววอาจจะชักชวนไปเป็นนางเอกก็ได้นะคะ”
ทองดีตาวาว
“กองถ่ายละครจะมาพรุ่งนี้”
ทองดีรีบเอาสายยางมาล้างแฟ้บออกจากมือ แล้วรีบกลับไปที่ห้องนอน คุ้ยเสื้อผ้าในตู้ หยิบตัวนั้นตัวนี้มาทาบแล้วก็ไม่ได้อย่างใจ หลายตัวดูแล้วก็โยนทิ้งๆ แล้วก็มานั่งเซ็งที่เตียง
“โอ๊ย ไม่มีเสื้อผ้าสวยๆเลยอ่ะ ทำไงดีวะ”
ทองดีเกาหัวอย่างหงุดหงิด

เตี่ยนั่งไอไม่หยุดอยู่ที่โต๊ะเก็บเงิน แม่วางมือจากจัดของหน้าร้าน มาดู
“เฮีย เป็นอะไรมากหรือเปล่า ไปหาหมอดีกว่า” ว่าแล้วก็ตะโกนเรียกทองดี “ทองดี
อีทองดี...มาช่วยกันพาเตี่ยไปหาหมอเร็ว”
เตี่ยโบกมือ
“ไม่ต้องๆเปลือง กินยาแก้ไอก็พอ”
“เฮียกินมาเป็นสิบขวดแล้วไม่เห็นจะหายเลย ไปหาหมอดีกว่าน่า”
“บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปสิ ค่าหมอแต่ละทีไม่ใช่น้อยๆนะ อั้วเสียดาย”
แม่เงอะงะ
“เอางั้นเหรอ เอ้าๆก็ได้”
ไปหยิบยากแก้ไอจากตู้ยามาให้ เตี่ยเปิดกินเข้าไปไม่ทันไร ก็ไอพรวดออกมา ขวดยาหล่นแตก
“เฮีย!”แม่ตกใจร้องลั่น


แม่ประคองเตี่ยจะขึ้นไปข้างบน ผ่านห้องทองดีที่อยู่ข้างล่างใกล้บันได ทองดีนั่งคุดคู้เก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ก็ด่า
“อีทอง ทำตะบักกตะบวยอะไรอยู่ เมื่อกี้กูแหกปากเรียกไม่ได้ยินเหรอ”
ทองดีหน้างอ
“ก็ฉันกำลังยุ่ง”
“ยุ่งอะไรของมึง แล้วนี่ ซักผ้าเสร็จหรือยัง ถึงมาหลบอยู่นี่”
“ก็...เกือบเสร็จ”
“เกือบเสร็จ แสดงว่ามึงยังซักผ้าไม่เสร็จ อีนี่...มึงแอบอู้ใช่ไหม”
ทองดีรำคาญ
“ก็จะไปเดี๋ยวนี้แล้ว”
“มึงรีบไปซักผ้าให้เสร็จ แล้วไปซื้อยาแก้ไอ้ให้เตี่ย กูจะพาเตี่ยมึงไปนอน”
ทองดีรีบเดินออกมาดูทันที
“เตี่ยเป็นอะไรอ่ะแม่”
“ก็ไอเหมือนเดิม บอกให้ไปหาหมอก็ไม่ไป”
“ได้จ้ะแม่ เดี๋ยวฉันไปซื้อให้ เอาตังค์มา”
“เงินนี่นับแล้วกูจะเอาไปเก็บ มึงไปเปิดเอาตังค์ ในเก๊ะที่ร้าน”
เตี่ยที่ไอ้อยู่หยิบกุญแจให้ทองดี
“หยิบแค่ห้าสิบบาทนะ”
“แหม...ไม่ต้องกลัวฉันขโมยหรอก”
“ไปหยิบเงินสิ แล้วเอากุญแจมาคืน”
ทองดีหน้างอเดินไปที่โต๊ะเก็บเงิน เห็นเงินในลิ้นชักที่ถูกวางแยกไว้อย่างเป็นระเบียบ เธอมองเงินอย่างใช้ความคิด เสียงแม่ดังขึ้น
“อีทอง เสร็จหรือยัง กูจะพาเตี่ยขึ้นข้างบน”
“จ้ะแม่”
ทองดีรีบหยิบเงินแล้วปิดลิ้นชักล็อคกุญแจ แล้วเดินกลับไปหาแม่กับเตี่ยส่งกุญแจให้เตี่ย
“เอาเงินไปเท่าไหร่”
ทองดีแบมือ
“ก็ห้าสิบบาทน่ะสิเตี่ย”
เตี่ยพยักหน้ารับรู้
“มึงไปตากผ้าให้เสร็จ แล้วรีบไปซื้อยาเลยไป”
แม่สั่ง ทองดีเดินหน้างอออกไปที่ราวผ้า นำผ้าที่ซักแล้วมาตาก แล้วหยิบเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกง 300 บาท
“พรุ่งนี้ฉันจะต้องสวยที่สุด”
ทองดีมองเงินในมือแล้วยิ้มมีความสุข

ทองดีถือถุงยาในมือ ยืนอ่านหนังสือดาราภาพยนตร์ หน้าปกเป็นพระนางเรื่องเพลิงพิศวาส คนขายมาชวนคุย
“นี่ พรุ่งนี้กองถ่ายเพลิงพิศวาสเขาจะถ่ายกันที่นี่รู้หรือยัง”
“รู้แล้ว เมื่อเช้าวิทยุประกาศ”
“ทองดีจะไปดูหรือเปล่า”
“ไปสิ เผื่อเขาเห็นฉันแล้วจะชวนฉันไปเป็นดารา”
“ฝันสูงไปหรือเปล่าทองดี”
ทองดีปิดหนังสือหน้างอทันที
“ทำไม ไม่เคยได้ยินหรือไงดาราหลายคนเขาก็เป็นดาราเพราะไปยืนดูเขาถ่ายนี่แหละ”
คนขายหัวเราะ
“ก็เลยคิดว่าจะมีคนชวนไปเป็นดารากะเขาบ้างละสิ”
“ใช่ ก็ฉันสวยฉันก็คิดได้สิ ไม่ได้หน้าตาอย่างพี่นี่จะได้ไม่กล้าฝัน”
ทองดีกับคนขายจ้องหน้ากันอย่างไม่ยอมกัน
คนขายพูดห้วนๆ
“จะซื้อไหมเล่มนั้นน่ะ เดี๋ยวหนังสือพังหมด”
“ซื้อ...แต่จะไปซื้อร้านอื่น”

ทองดีวางหนังสือกระแทกลงแล้วเดินหนีไป คนขายมองตามด้วยความไม่พอใจ

อ่านต่อหน้า 2





 ทองประกายแสด  ตอนที่ 1 (ต่อ) 

ทองดีเดินดูตามแผงเสื้อผ้า เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ หยิบมาลองบ้าง ทาบกับตัวบ้าง เธอเดินมาหยุดที่แผงหนึ่งที่แขวนเสื้อสายเดี่ยวโป๊ๆ กับกางเกงขาสั้น พอเห็นก็ชะงักมองทันที

“ตัวเท่าไหร่”
“เสื้อสองร้อย กางเกง 199”
ทองดีหน้าเสีย
“โห ลดหน่อยได้ไหม”
“ลดไม่ได้หรอก นี่มาจากกรุงเทพฯเลยนะ เอาเสื้อหรือเอากางเกงไปก่อนสิ”
“ฉันอยากได้ทั้งชุดนี่”
“งั้นคิดไป 350 แล้วกัน นี่ลดให้สุดๆแล้วนะ”
“ฉันก็มีเงินไม่พออยู่ดี”
“พี่กวงซื้อให้ไหม”
ทองดีหันมาเห็นกวงใส่เสื้อกั๊กวินมอเตอร์ไซค์ ใส่แว่นดำ โพสท์ท่าบนมอเตอร์ไซค์ดูเสี่ยวในความรู้สึกของเธอ อยู่ด้านหลัง
“ไม่ต้อง”
ทองดีเดินหนีออกไปนอกร้าน กวงเดินตามมาด้วยแล้วจับมือไว้
“ปล่อยนะพี่กวง อยากโดนด่าหรือไง”
กวงรีบปล่อยมือทันที
“ทองดี เมื่อไหร่จะคุยกับพี่ดีๆสักที พี่ชอบทองดีมานานแล้วทองดีก็รู้”
“แต่ฉันไม่ชอบพี่นี่ รำคาญด้วย”
พิสุทธิ์ลงจากรถสองแถวมาเห็นพอดี รีบเดินเข้ามาหาทั้งคู่
“ทองดี”
ทองดีกับกวงหันไปตามเสียงพอเห็นพิสุทธิ์ ก็ดีใจรีบเดินไปหาทันที
“ทองดี ไอ้หน้าอ่อนนี่เป็นใคร”
“เขาก็เป็นนักศึกษา มาจากในเมือง ไม่ได้เป็นมอเตอร์ไซค์ท้ายตลาดแบบแกแล้วกัน”
“โธ่..เอ๊ย...จะหวังสูง คิดว่าไอ้นี่มันจะเอาเอ็งจริงเหรอ ฟันเล่นละไม่ว่า”
พิสุทธิ์ไม่พอใจ
“เฮ้ยพี่...ทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะ”
“กูจะพูด ใครจะทำไม หรือมึงจะเอา”
กวงผลักอกพิสุทธิ์ๆก็จะเดินเข้าใส่ ทองดีรีบมาขวาง
“ไอ้กวง ถ้ามึงทำอะไรคุณพิสุทธิ์กูจะเรียกตำรวจ”
กวงมองหน้าพิสุทธิ์ไม่ชอบใจแล้วเดินหลุดไป พิสุทธิ์กับทองดีมองหน้ากันเครียดๆ

พิสุทธิ์ และทองดีนั่งกินไอศครีมด้วยกัน
“โทษนะที่เป็นตัวทำให้เกิดเรื่อง” ทองดีบอกอย่างไม่สบายใจ
“ไม่เป็นไร ว่าแต่..นายกวงนั่น ไม่ได้เป็นแฟนทองดีนะ”
“โอ๊ย .. ฉันรำคาญมันจะตาย หน้ามันฉันยังไม่อยากจะมองเลย”
พิสุทธิ์ยิ้ม มองทองดีอย่างหลงใหล แล้วเอื้อมมือไปจับมือ ทองดีใจเต้นกับสัมผัสแรกจากคนที่เธอมีใจ
“แล้วหน้าผมล่ะ อยากมองไหม”
ทองดียิ้มเขิน
“ถ้าอยากมอง แล้วจะมาให้มองทุกวันไหมล่ะ”
“ไม่รู้เหรอ ว่าอยากมาที่สุด”
ทองดีก้มหน้า อาย แต่ยิ้มแก้มแทบฉีก พิสุทธิ์จับมือทองดี ทั้งสองมองตากัน ตกหลุมรักกันอย่างแรง

ค่ำคืนนั้น...พิสุทธิ์นั่งวาดรูปทองดีอยู่ในห้อง เสียงเคาะประตูดังขึ้น พิสุทธิ์สะดุ้งรีบซ่อนรูป แม่เปิดประตูเข้ามาพอดี
“วันนี้อาจารย์แกโทรมา เขาบอกว่าแกขาดสอบช่วงบ่าย”
พิสุทธิ์อ้ำอึ้ง
“ก็ฉันรู้ว่าฉันทำไม่ได้ เข้าสอบไปก็ตกอยู่ดี ไว้ลงเรียนใหม่ก็แล้วกัน”
“ลงใหม่เหรอ พ่อแกเป็นแค่เสมียนอำเภอนะ จะหาเงิน มาให้แกเรียนทั้งชาติก็ไม่ไหวหรอก ไหนจะน้องแกอีกสองคน ฉันว่าแกออกมาทำงานดีกว่า จะได้ช่วยค่าใช้จ่ายที่บ้านด้วย”
“แล้วทำไมแม่ไม่ให้ฉันเรียนศิลปะ อย่างที่ฉันอยากเรียนล่ะแม่”
“แหม...ไอ้คุณชายกำมะลอ จะเรียนศิลปะ เรียนนู่นเรียนนี่ อยากเป็นศิลปินไส้แห้งรึไง เป็นเทวดาประจำบ้าน ถ้าอยากทำอะไรตามใจตัวเอง ก็ไปอยู่ที่อื่น ไปหาเงินใช้เอง จะได้ไม่ต้องมาเบียดเบียนเงินพ่อแม่”
พิสุทธิ์จ้องหน้าแม่ด้วยความเจ็บใจ
“ได้ ฉันจะออกไปจากที่นี่ ถ้าแม่ไม่อยากให้อยู่ฉันไม่อยู่ก็ได้”
“เออ....ขอให้มันเก่งจริงเถอะ”
แม่พูดจบก็เดินออกไปปิดประตูโครม พิสุทธิ์มองตามด้วยความเจ็บใจ


ทองดีเอาชุดสวยมาทาบกับตัว ส่องกระจกอย่างมีความสุข นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายที่พิสุทธิ์ซื้อชุดให้...
“ทองดีชอบตัวนี้เหรอ”
“จ้ะ”
“ผมซื้อให้นะ”
ทองดียิ้มดีใจ มองพิสุทธิ์อย่างปลื้มใจ...
ทองดีมองตัวเองในกระจกอย่างพึงพอใจในความสวย
“มีแฟนรวยมันดีอย่างนี้เอง อีกหน่อยฉันก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้ว”
ทองดีหงายตัวลงนอนบนที่นอน กอดชุดสวย หลับตาพริ้มอย่างสุขใจ

ที่บ้านเบิ้ม...เบิ้มกับแม่คุยกับซุบซิบอยู่มุมหนึ่ง แล้วแม่เบิ้มก็เดินเข้าห้องไป เบิ้มเดินมาหาพิสุทธิ์ที่นั่งอยู่มีกระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่ข้างๆ
“แม่มึงว่าอะไรหรือเปล่าวะ”
“ไม่ว่าหรอก แต่เขาสงสัยว่าถึงกับออกจากบ้านเลยเหรอวะ”
“เออ แม่เขาไม่เคยเข้าใจกู กูอดทนมานานแล้ว”
“แล้วเรื่องเรียนล่ะ”
“กูยังไม่ได้คิด”
เบิ้มถอนใจ
“เอางี้ ช่วงนี้มึงอยู่ที่นี่ไปก่อน กูว่าเดี๋ยวมึงกับแม่ก็เข้าใจกัน ทุกอย่างก็เหมือนเดิม”
“ขอบใจมึงมากนะเบิ้ม”
เบิ้มถือกระเป๋าพิสุทธิ์ เดินขึ้นห้องกันไป

เช้าวันต่อมา...พิสุทธิ์ในชุดอยู่บ้านนั่งวาดรูปทองดีจนเสร็จ เบิ้มสะพายเป้เดินออกมา
“เฮ้ย นี่ตื่นแต่เช้ามานั่งวาดรูปทองดีเนี่ยนะ กูก็นึกว่ามึงอ่านหนังสือเรียน”
พิสุทธิ์พยักหน้ารับ
“เออ กูคิดถึงเค้า”
“โอ๊ย เพื่อนกู อาการหนักซะแล้ว”
“ช่วงนี้กูต้องรีบทำคะแนน”
“เออๆ แล้วแต่มึงละกัน แต่ตอนนี้กรุณาไปเรียนก่อน”
“เฮ้ย...เบิ้ม กูว่ากูจะไม่ไปเรียนแล้ว”
เบิ้มตกใจ
“ไอ้บ้า มึงอย่าพูดแบบนี้นะเว้ย มึงไม่เรียนแล้วจะไปทำงานอะไร”
“ยังไม่รู้เว้ย ไว้ค่อยคิด”
“กูว่ามึงคิดถึงอนาคตไว้บ้างก็ดีนะเว้ย มึงไปอาบน้ำเถอะจะได้ไปเรียน ไปนั่งเป็นเพื่อนกูก็ยังดี”
พิสุทธิ์เก็บรูป แล้วเดินเข้าบ้านไป

ทองดีชงกาแฟ แล้วเอามาให้ลูกค้าที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในร้าน ตาก็เหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนัง บอกเวลา 8 โมง แม่ผัดข้าวอยู่หน้าเตา มีลูกค้าอีกคนนั่งในร้าน ทองดีเหลือบมองแม่ แล้วมองนาฬิกาอีกอย่างกังวลร้อนใจ เตี่ยเดินไอลงมาจากข้างบน
“อ้าวเตี่ย หายแล้วเหรอ กินกาแฟไหม ชงให้”
“ไม่ต้องๆ”
ทองดีเทชาร้อน แล้วเอาไปให้เตี่ย
“กินอะไรร้อนๆซะหน่อยเถอะน่า”
เตี่ยมองทองดี
“ลื้อจะเอาอะไร ไม่ต้องมาทำประจบ”
“เปล่าซะหน่อย ก็เห็นเตี่ยไม่สบาย เลยมาดู ทำดีก็ด่า”
แม่ตะโกนเรียก
“อีทอง ข้าวผัดได้แล้ว”
ทองดีเดินสะบัดก้นไปหยิบจานข้าวผัดที่หน้าเตา มาเสริ์ฟให้ลูกค้า แล้วเดินมาใกล้ๆเตี่ยที่นับเงิน จดบัญชีอยู่ ครุ่นคิดหาทางออกนอกบ้าน แล้วก็นึกได้
“โอ๊ย ปวดท้อง เตี่ย ขอตังค์ไปหาหมอหน่อยสิ”
“ปวดท้องก็กินยาธาตุสิ ต้องไปหาหมอให้เปลืองตังค์ทำไม”
“ปวดท้องเมนส์ โอ๊ย ปวดไปถึงขาเลย”
เตี่ยหยิบพาราจากใสลิ้นชักให้ทองดี
“เอ้า เอาพาราไปกินแก้ปวด หายเหมือนกัน”
“เตี่ยรู้ได้ไง เคยเป็นเมนส์เหรอ”
“ไม่เคยเป็น...”
ยังด่าไม่เสร็จ ก็ไอโขลกออกมา แล้วจะขากเสลดลงพื้น ทองดีรีบห้าม
“อี๋ เตี่ย จะบ้วนในบ้านได้ไง เดี๋ยวลูกค้าก็ไม่กล้าเข้าร้านหรอก ไปข้างนอกซิ”
เตี่ยอมเสลดลุกไปนอกร้าน ทองดีเห็นเงินในลิ้นชัก ก็มองไปที่แม่กำลังอ่านโพยที่เด็กหญิงคนหนึ่งมาซื้อข้าว
“ข้าวผัดหมู 1 ผัดพริกแกง 1 เดี๋ยวให้ทองดีไปส่งนะ”
เด็กหญิงพยักหน้า แล้ววิ่งกลับไป แม่แล้วลงมือผัดข้าว ไม่ได้หันมาทางทองดี เธอรีบจิ๊กเงินออกมาร้อยนึง ยัดใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปหน้าร้านอย่างสบายใจ
“แม่ เสร็จยัง”
“เอ๊ะอีนี่ กูเพิ่งจะผัด มึงจะเร่งทำไม”
ทองดียิ้มๆ แล้วเดินไปที่มุมขายกาแฟ แอบเอาเงินใส่กางเกง

เมื่อทองดีออกจากบ้านมาได้ เธอแอบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำในตลาด แล้วตรงไปที่สวนสาธารณะที่มีการถ่ายทำละครทันที
ที่กองถ่าย... พระเอก นางเอกกำลังแต่งหน้าอยู่ ทองดียืนรวมกับกลุ่มไทยมุง ชะเง้อมอง พระเอก นางเอกกำลังเดินไปเข้าฉาก ทองดีพยายามเข้าไปใกล้ๆ สต๊าฟที่คุมไทยมุงรีบบอกทองดี
“เข้าไม่ได้นะคะน้อง”
ชาวบ้านหันมาบกทองดี
“เขาบอกถ้าอยากได้ลายเซ็นต้องรอตอนเย็นว่ะอีทอง”
“ฉันไม่ได้อยากได้ลายเซ็นต์อย่างเดียวซะหน่อย”
ทองดีหาทางเข้าใกล้กองถ่ายอีก แล้วเดินไปมุงอีกทางที่คนน้อยๆ ผู้กำกับพูดใส่วอล์กกี้ทอล์กกี้
“พร้อมนะ..คิว..แอ็คชั่น...”
นางเอกพูดตามบท...
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณอีก”
เธอจะเดินไป พระเอกคว้ามือไว้ แล้วรั้งเอวมากอดแน่น
“แต่ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ ทั้งวัน ทั้งคืน”
ทองดีที่มาแอบดูอีกมุมหนึ่ง ก็แกล้งทำเป็นล้ม
“ว้าย”
ทุกคนหันมามอง ทองดีแอบยิ้ม แล้วทำหน้าเจ็บ ผู้กำกับเสียงลั่น
“คัท ...อะไรเนี่ย ปล่อยคนดูเข้ามาได้ยังไง”
ผุ้ช่วยรีบไปไล่ทองดี
“น้อง ตรงนี้เข้ามาดูไม่ได้นะคะ ช่วยออกไปก่อนนะคะ”
ทองดีเดินเซ็งออกไป ชาวบ้านซุบซิบ หัวเราะ องดีค้อนประหลับประเหลือก แล้วเดินออกไปห่าง
ๆแล้วหันกลับมามอง เห็นกองถ่ายทำงานกันวุ่นวาย ไทยมุงก็ดูกันไป
ทองดียืนดูอยู่ไกลๆด้วยสีหน้าผิดหวัง พิสุทธิ์เดินเข้ามาด้านหลังทองดี
“ทองดี”
ทองดีสะดุ้งหันไป
“คุณพิสุทธิ์”
“”เป็นอะไรเหรอ”
ทั้งคู่เดินเล่นออกมาห่างจากกองถ่าย
“ตกลงทองดีไม่ดูเขาถ่ายละครแล้วเหรอ”
“ไม่เอาแล้ว ฉันยืนมาทั้งวันแล้วไม่เห็นจะมีใครสนใจฉันสักคน”
“ไม่เป็นไรนะ ใครไม่สนแต่ผมสน”
ทองดียิ้มรับเจื่อนๆ
“แล้วคุณพิสุทธิ์ไม่เรียนหนังสือเหรอ ทำไมมาเร็วจังล่ะ”
“ผมไม่มีกระจิตกระใจเรียนหรอก”
พิสุทธิ์นึกถึงปัญหาที่บ้าน แต่ทองดีอายคิดว่าเขาคิดถึงเธอ พิสุทธิ์หยิบม้วนกระดาษจากเป้ออกมากางให้ดู พอเห็นเป็นรูปตัวเองก็ตกตะลึ้งอึ้งไปเลย
“ผมตั้งใจวาดให้ทองดี”
ทองดีมองที่ท้ายกระดาษมีลายเซ็น พิสุทธิ์ด้านล่าง
“สวยจัง”
“คุณชอบไหม”
“ชอบที่สุด”
ทองดีลงนั่ง พิสุทธิ์ลงนั่งตาม แล้วก็ค่อยๆโอบทองดีเข้ามา เธอดันตัวออกอายๆ
“คุณจะทำอะไร”
“เราเป็นแฟนกันนะ”
ทองดีเขิน แล้วพยักหน้า พิสุทธิ์ดีใจ กระชับกอดทองดีแน่นเข้ามาอีก ทองดีตกใจ หันมองรอบๆ
“พอแล้ว เดี๋ยวใครเห็น”
ทองดีเบี่ยงตัวออก
“ทำไมล่ะ ก็เราเป็นแฟนกันแล้วนี่”
“ไม่เอา อายเขา”
พิสุทธิ์หอมฟอดใหญ่ ทองดีเขินมาก
“ฉันต้องกลับร้านแล้วล่ะ ออกมานานแล้ว”
“โธ่ อย่าเพิ่งไปเลยนะ”
พิสุทธิ์คว้ามือทองดีไว้
“ไม่ได้ เดี๋ยวแม่ด่า”
พิสุทธิ์จำใจ
“ก็ได้ๆ แต่ว่าคืนนี้ทองดีออกมาเจอผมอีกได้ไหม”
ทองดีพยายามแกะมือออก
“รับปากก่อน”
“ที่ไหนล่ะ”
พิสุทธิ์กระซิบ ทองดีพยักหน้า เขาฉวยมือทองดีมาจูบอีกอย่างดีใจ ทองดีอายรีบดึงมือออกแล้วเดินจ้ำหนีไป พิสุทธิ์มองตามยิ้มมีความสุข

ทองดีเดินยิ้มมาในชุดปกติเดินเข้ามาในร้าน ถือถุงเสื้อมาด้วย แม่ที่เช็ดโต๊ะอยู่เปิดฉากด่า
“อีดอกกระทือ มึงไปไหนมา”
ทองดีไม่พอใจ
“คำก็ดอกกระทือ สองคำก็ดอกกระทือ ดอกกระทือถึงมันไม่สวยแต่มันก็มีดีนะแม่”
“เถียงคำไม่ตกฟาก เดี๋ยวกูตบปาก กูให้ไปส่งข้าวแค่นี้ มึงหายหัวไปไหนเป็นชั่วโมง”
“ก็แค่แวะไปดูกองถ่ายมานิดเดียวเอง”
“นั่นไง กูว่าแล้ว เห็นมึงลุกลี้ลุกลนแต่เช้า บ้าดารานักนะ เผลอเป็นแว่บ เรื่องออกไปแรดนี่ขอให้บอก”
“โธ่แม่...เอ่ะอ่ะก็ด่า ฉันแค่ไปดูกองถ่ายละครนะ ไม่ได้ไปฆ่าคนตาย”
“อีนี่ เถียงอีกแล้ว”
“ก็แม่มาด่าฉันก่อนทำไมล่ะ”
“ไป...มึงรีบไปทำงานก่อนกูจะทนไม่ไหว จานชามกองรอมึงอยู่ มึงรีบไปล้างเลยนะอีดารา”
ทองดีเดินกระแทกเข้าเข้าหลังบ้านไป ผ่านเตี่ยนั่งคิดเงินอยู่เงยหน้ามามองนิดหนึ่ง แล้วส่ายหน้า ไม่สนใจ จดบัญชีต่อ
“เฮ้อ กูละเหนื่อย เอาลูกคืนอื่นมาเลี้ยงนี่มันไม่ได้อย่างใจจริงๆเล้ย”
แม่เช็ดโต๊ะไปบ่นไป โดยไม่รู้ว่าทองดีหันมองจ้องสีหน้าเจ็บใจสุดๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน คลี่ม้วนรูปวาดของตนดูอีก ยิ้มปลื้ม
“นี่ใช่ไหม รักแท้..คุณพิสุทธิ์”
ทองดีเอาสก็อตเทปจากในลิ้นชักมาติดที่มุมรูปภาพ แล้วแปะผนังไว้ มองอย่างมีความสุข
“ชีวิตฉันกำลังจะดีขึ้น ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่รักฉัน”
ทองดียิ้มแล้วเดินออกไปจากห้อง

ค่ำคืนนั้น...เก้าอี้ในร้ายถูยกขึ้นวางบนโต๊ะหมดแล้ว ประตูร้านก็ปิดเช่นกัน ทองดีถูพื้นอย่างเหนื่อยๆ คอยเหลือบมองนาฬิกา เห็นว่า 3 ทุ่มแล้ว เตี่ยยังคิดเงิน ลงบัญชีอยู่ แม่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ออกมาจากห้องน้ำ
“เฮีย ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ”
“เดี๋ยวก่อน..ทำให้เสร็จก่อน” เตี่ยไอออกมา แรงขึ้นๆ
แม่ห่วง เข้าไปประคอง
“เห็นไหม บอกให้พักก็ไม่พัก เดี๋ยวก็เป็นหนักหรอก”
ยังไม่ทันขาดคำ เตี่ยก็ไอพรวดออกมาเป็นเลือด ทั้งแม่และทองดีตกใจ ทองดีทิ้งไม้ถูพื้น รีบเข้ามาประคองเตี่ย
“พาไปโรงบาลเหอะแม่”
“ไม่ต้องๆ อั๊วจะไปนอน” เตี่ยโบกมือห้าม
“เฮียนี่ดื้อจริงๆ เป็นอะไรก็ไม่รู้เนี่ย ยังไม่ไปหาหมออีก”
“เออน่า พูดมาก รำคาญ”
แม่ถอนใจ
“เออๆ ตามใจ...เดี๋ยวเอายาเตี่ยตามขึ้นไป แล้วคืนนี้อยู่เฝ้าเตี่ยด้วยกัน”
แม่ประคองเตี่ยขึ้นไปนอน ทองดีกระวนกระวายใจ ทำอะไรไม่ถูก มองนาฬิกาอีก

พิสุทธิ์ยือรออย่างกระวนกระวาย ดูนาฬืกาข้อมืออยู่บ่อยๆ
“ทำไมยังไม่มาอีกนะ หรือจะออกมาไม่ได้”
พิสุทธิ์ยืนคอยอย่างร้อนใจ ขณะเดียวกันทองดีวิ่งมาถึง มองหาพิสุทธิ์ แต่ไม่เห็น ทองดีเดินมองชะเง้อหา ไม่เห็นพิสุทธิ์ก็น้อยใจจะเดินกลับ พิสุทธิ์ออกมาจากหลังต้นไม้ รวบกอดทองดีจากด้านหลัง ทองดีสะดุ้งจะร้อง
“ผมเอง”
“ฉันนึกว่าคุณจะไม่คอยฉันซะแล้ว” ทองดีเบี่ยงตัวออก
“ยังไงผมก็ต้องรอ แต่ทำไมมาช้าจังล่ะครับ”
“เตี่ยไม่สบาย ฉันต้องดูเตี่ย”
“ผมว่าเราไปคุยกันตรงนั้นดีกว่า เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า”
พิสุทธิ์จูงมือทองดีไป ทั้งสองลงนั่ง...
“คุณใส่ชุดนี้แล้วสวยจังเลย”
“ขอบคุณนะที่ซื้อให้ฉัน”
“เตี่ยกับแม่ ดุเหรอครับ”
ทองดีพยักหน้า...เจี้อยแจ้ว
“คงเป็นเพราะฉันไม่ได้เป็นลูกแท้ๆของเค้ามั๊ง เค้าเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ฉันเล็กๆแล้วล่ะ”
พิสุทธิ์หาเรื่องคุยต่อ
“คุณรู้ตัวไม๊ ว่าคุณเป็นคนสวยมาก”
“อย่ามาปากหวานเลย”
“ผมพูดจริงๆนะ คุณสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นเลย”
ทองดีอาย เปลี่ยนเรื่องคุย
“คุณวาดรูปเก่งนะ น่าจะเป็นไปเป็นจิตกร”
“แล้วทองดีล่ะ อยากเป็นอะไร”
“ถ้าฉันบอกแล้วคุณอย่าหัวเราะเยาะฉันนะ”
พิสุทธิ์ อมยิ้ม ทองดียิ้ม เล่าต่อจ้อยๆ ถูกใจที่ถาม
“ฉันอยากเป็นดารา ฉันว่าฉันสวยกว่าแม่พวกนั้นอีก ฉันอยากเป็นนักร้องด้วย ฉันชอบเต้น
ชอบร้องเพลง หรือเป็นนางแบบดี ฉันอยากมีรูปลงหนังสือ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เป็น
ดารานะ ฉันเบื่อทำงาน ดูสิล้างแก้วจนมือเปื่อยไปหมดแล้ว ถ้าฉันได้เป็นดารา ฉันก็จะมีเงินเยอะๆ ฉันจะได้เอาไปซื้อเสื้อผ้า จะได้แต่งต้วสวยๆ แล้วก็จะปลูกร้านให้เตี่ยกับแม่ใหม่ เอาให้ใหญ่ที่สุดในตำบลนี้เลย”
ทองดีหันมาหา พิสุทธิ์หอมแก้มทันที
“ว๊าย”
ทองดีอายลูบแก้ม พิสุทธิ์หัวเราะ จับมือ
“คุณว่าสวยอย่างฉัน เป็นดาราได้มั้ย”
“ได้สิ”
“จริงๆนะ”
“แต่ถ้าคุณเป็นดารา คุณคงต้องโดนพระเอกจูบ ผมคงยอมไม่ได้”
ทองดีนึกตาม
“เค้าคงไม่จูบกันจริงๆหรอกมั๊ง”
“ใครว่าล่ะ เค้าเล่นจริงกันทั้งนั้นแหล่ะ ว่าแต่ คุณเคยจูบกับใครรึยัง”
ทองดีส่ายหน้า
“งั้นผมจะสอนคุณให้ว่าต้องทำยังไง คุณต้องหลับตาก่อน”
ทองดีหลับตา พิสุทธิ์ก้มลงจูบ ทองดีเคลิ้ม ครู่หนึ่งเขาผละจากมา...
“นี่ยังไงล่ะจูบ เป็นไง ชอบมั้ย”
พิสุทธิ์กอดทองดีไว้ ทองดีอบอุ่น เอาหัวซุกคอ กลัวโดนจูบอีก
“ผมรักทองดีจังเลย เราแต่งงานกันนะ ผมจะให้พ่อแม่มาขอทองดี เอามั้ย”
“แล้วคุณจะพาฉันไปอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันเบื่อ ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ไปอยู่บ้านคุณเหรอ”
“ยังไม่รู้เลย ว่าแต่ คุณจะตกลงหรือเปล่า”
ทองดียิ้มพยักหน้า พิสุทธิ์มองทองดีหลงไหล
“ทองประกายของผม”
ทองดีตลึงในชื่อใหม่ เธอชอบมากๆ พิสุทธิ์พาเอนลงนอน
“ผมรักคุณจังเลย”
ทองดีตาเป็นประกาย
“ทองประกาย”

ทองดีปล่อยตัว ปลอยใจให้พิสุทธิ์ด้วยความรัก
 
 อ่านต่อหน้า 3 





 ทองประกายแสด  ตอนที่ 1 (ต่อ) 

เช้าวันใหม่ ทองดีกับพิสุทธิ์ เดินกระหนุงกระหนิงคุยกันอย่างมีความสุขมาตามทาง กวงขี่มอเตอร์ไซค์จากอีกทาง หันมาเห็นทั้งคู่เข้าจึงหยุดมอง แล้วหันหัวรถวิ่งมาชะลอดักหน้าทั้งคู่

“ทองดี ไปไหนมา”
ทองดีตกใจหน้าเสีย
“ทองดีพึ่งกลับมาเหรอ” กวงถามต่อ
“...ก็...”
“นี่แสดงว่า ทองดีไปค้างกับไอ้หน้าจืดนี่มาทั้งคืนเหรอ”
“เปล่านะ เราพึ่งเจอกัน แกอย่ามาพูดมั่วๆนะ”
“มั่วอะไร ก็เห็นอยู่เต็มตา”
ทองดีแกล้งโมโห
“ไอ้กวง ตกลงไม่เชื่อฉันใช่มั้ย ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องมาคุยกัน แล้วต่อไปนี้ ไม่ ต้องมาเจอหน้ากันอีก”
กวงมองหน้าทองดีกับพิสุทธิ์ด้วยความเจ็บใจ แล้วออกรถไป
“ทำไมทองดีไม่บอกมันไปล่ะ ว่าทองดีเป็นเมียผม” พิสุทธิ์ถาม
“ขืนบอกไป แม่ก็ได้ตีหัวแตกนะสิ ไว้คุณพาพ่อแม่มาขอทองดีเร็วๆนะ เราจะได้อยู่ด้วยกัน”
พิสุทธิ์ยิ้ม
“ได้จ้ะ”
“งั้นเราแยกตรงนี้เถอะ ทองดีต้องรีบเข้าบ้าน”
ทองดีวิ่งออกไปพิสุทธิ์มองตาม ยิ้มอย่างมีความสุข


กวงที่จอดรถแอบมองอยู่อีกมุม เห็นทองดีวิ่งแยกออกมาจากพิสุทธิ์ก็คิดเครียดๆ
“พี่จะเอาทองดีกลับมา”
กวงคิดเอาไงดี แล้วนึกออก รีบไปที่ร้าน เล่าถึงสิ่งที่เห็นให้แม่ทองดีฟังทันที
“หา!...อีทองดี” แม่ตะโกนด้วยความโมโห “อีทองดี มึงโผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะนังตัวดี อีทองดี อีทองดี ดอกกระทือ”
ทองดีใส่ชุดนอนถือขันกับผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟันงัวเงียตีหน้าซื่อออกมา
“มีอะไรเหรอแม่”
“ไอ้กวงมันบอกว่าเอ็ง ไปค้างกับไอ้หน้าหล่อนั่นมาเมื่อคืน”
“จะบ้าหรือแม่ นี่ฉันพึ่งออกมาจากห้อง แล้วฉันจะไปไหนมาได้ล่ะแม่”
แม่มองๆเริ่มเชื่อ แต่ไม่ค่อยแน่ใจ
“แต่กวงมันบอกว่า มันเห็น แล้วมันยังได้คุยกะเอ็งเลย”
“ใช่ เรายังคุยกันที่ถนน ไอ้หน้าจืดนั่นก็อยู่” กวงยืนยัน
“มึงจะบ้าเหรอไอ้กวง มึงอย่ามาพูดมั่วๆให้กูเสียนะ มึงละเมอรึไง” ทองดีโวยแล้วหันไปพูดกับแม่ “แม่...ใครพูดอะไรแม่ก็เชื่องั้นเหรอ”
แม่มองทองดีกับกวงแล้วงง หนักใจ
“ตกลงจะให้กูเชื่อใครวะ”
“เชื่อฉันสิ ฉันเป็นลูกแม่นะ ไอ้กวงมันเป็นใครแม่จะไปเชื่อมัน”
ทองดีเดินกระทืบเท้าเข้าห้องน้ำไป
“อีลูกคนนี้ กูยังไม่ได้ว่าอะไรมันซักคำ ดู๊ดู...เดินยังกะม้ากระทืบโรง...ผีบ้านผีเรือนกูหนีหมด”
“แล้วตกลงเจ๊จะเอาไง”
แม่ยื่นหน้ามามองกวงใกล้ๆ
“กูว่ามึงนี่เพี้ยนหนักแล้วนะไอ้กวง มึง หาเรื่องให้กูแต่เช้า มึงกลับไปเลยไป”
กวงเจ็บใจ บิดมอไซด์ออกไปเสียงดัง แม่มองตามส่ายหน้าระอา
ทองดีแอบดูบรรยากาศภายนอกอยู่ในห้องน้ำ พอเห็นกวงออกไป แล้วแม่ไปเตรียมของ ทองดีก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
กวงกลับไปที่วินมอไซด์ เล่าให้เพื่อนๆฟังอย่างโมโห
“นี่แหล่ะน๊า มดแดงแฝงพวงมะม่วง ในที่สุด หมาก็คาบไปรับประทาน” เพื่อนหัวเราะ
“สงสารหว่ะ กูเห็นมึงเฝ้ามาตั้งแต่นังทองดีมันยังนุ่งกางเกงตูดขาดอยู่เลย เฮ้ย”
เพื่อนอีกคนว่า แล้วยื่นเครื่องดื่มให้อย่างเป็นกำลังใจ กวงซึม ก้มหน้าเช็ดน้ำตา ก่อนรับมาดื่ม


ค่ำคืนนั้น...ทองดีเก็บร้านอย่างอารมณ์ดีร้องเพลงไปด้วย แม่เดินลงมาเห็นก็มองประหลาดใจ
“แหม...อารมณ์ดีจริงนะ อีทองดี”
“อ้าว...แม่จะให้ฉันร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน หรือไงล่ะ แล้วทำไมแม่ยังไม่นอนอีก”
“กูลืมยาเตี่ยมึง”
แม่เดินไปหยิบขวดยา แล้วเดินขึ้นไป ทองดีมองตามแล้วยิ้มดีใจ รีบถูพื้นถูโต๊ะแบบลวกที่สุด แล้วรีบเอาอุปกรณ์ไปเก็บ แล้วกลับเข้าห้องไปแต่งตัว บรรจงแต้มน้ำหอมบนซอกคอ ติ่งหู แล้วหยิบชุดที่คิดว่าสวยที่สุดแล้วออกมา แล้วแอบออกไปที่นัดพบ
ทองดียืนชะเง้อมองหาพิสุทธิ์ อย่างใจจดใจจ่อ แล้วกลับมานั่งจับเจ่าอยู่มุมหนึ่ง มือลึกลับยื่นไปจับไหล่ ทองดีสะดุ้งหันกลับมา ทำท่าจะร้อง
พิสุทธิ์ยิ้ม รีบฉกหอมแก้มทองดีอย่างรวดเร็ว ทองดีเขิน
“ทำอะไรเนี่ย...ประเดี๋ยวใครมาเห็นเข้าหรอก”
“ดีสิจะได้รู้ว่าทองดีเป็นของใคร”
“ทำไมวันนี้มาช้าล่ะ ทองดีรอตั้งนานรู้ไหม”
“ผมกลัวว่าไอ้กวงมันจะมาดักดูเรา เลยต้องรอให้แน่ใจก่อน”
“คอยดูนะ ถ้าวันไหนที่ทองดีจะไปกับคุณแล้ว ทองดีจะไปด่ามันให้สาแก่ใจเลย ยุ่งเรื่องคนอื่นดีนัก”
“ตอนนี้เรื่องคนอื่นช่างมันเถอะ มาว่าเรื่องของเรากันดีกว่านะ ผมอยากกอด ทองดีจะแย่แล้ว”
พิสุทธิ์จะหอมทองดีแต่ทองดีหลบ
“ไม่เอาแล้วละ...เดี๋ยวไอ้กวงมันมาเห็นเข้าอีก ทองดีอยู่กับคุณได้แป๊บเดียวนะ ทองดีต้องรีบกลับไปดูเตี่ย”
“งั้น....ผม ขอตามไปที่บ้านทองดีด้วยนะ”
ทองดีชะงักไป

ในห้องนอนเตี่ยกับแม่...เตี่ยนั่งอยู่บนเตียง ไอจนหมดแรง แม่เดินเข้ามาหยิบแก้วน้ำส่งให้เตี่ยจิบ
“ยังมีเลือดออกมาอีกไหม”
“ไม่มีแล้ว”
“เฮีย...บอกตรงๆนะ ฉันกลัว”
“เฮ้ย...ไม่มีอะไรหรอก มันคงไอมากคอก็อักเสบ เลยมีเลือดออกมา”
“งั้นเราก็ไปหาหมอรักษามันให้หายไปเลยสิ”
“ค่ารักษามันแพง อั๊วะเสียดาย”
“มัวแต่เสียดายแล้วเมื่อไหร่จะหาย”
“ช่างอั๊วเถอะ”
พูดจบก็ไอกระจาย จนแม่หน้าเสีย แม่ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
“เฮ้อ...งั้นเฮียนอนเถอะ ยิ่งพูดก็ยิ่งไอ”
แม่ประคองเตี่ยให้นอนลงแล้วห่มผ้าให้อย่างเรียบร้อย

ที่ห้องนอนของทองดี...พิสุทธิ์นอน ทองดีมาซบอก
“ผมมีความสุขที่สุดในโลกเลย เวลาอยู่ใกล้กับทองดี”
“ทองดีก็เหมือนกัน”
ระหว่างนั้นเสียงท้องพิสุทธิ์ร้องดังโครก ทองดีปิดปากหัวเราะกิ๊ก
“นี่กินข้าวเย็นมาหรือยังเนี่ย”
“ยังเลย”
“ทำไมไม่กินซะก่อน หอบท้องมาถึงนี่”
“มัวแต่คิดถึง ลืมกิน”
ท้องดียิ้ม เสียงท้องพิสุทธิ์ร้องดังอีก ท้องดีหัวเราะเอ็นดู
“งั้น...รอก่อน เดี๋ยวทองดีไปหาข้าวขึ้นมาให้นะ”
ทองดีรีบลุกขึ้นใส่กระโจมอกเดินออกจากห้องไป พิสุทธิ์ล้มตัวลงนอน มองรอบๆห้อง เห็นความรกของห้อง แล้วหัวเราะขำ นั่งมองอย่างสบายอารมณ์

พิสุทธิ์ทานข้าวหมดจานแล้วส่งให้ ทองดีเอาจานวางไว้ตามมุมห้องที่พื้น แล้วมากอดซบพิสุทธิ์
“อร่อยไหม”
“อร่อยที่สุดในโลกเลย ยิ่งได้กินใกล้ๆทองดียิ่งอร่อยมาก”
“ปากหวานจริงๆเลย”
“แต่ผมไม่เคยหวานกับใครนะนอกจากทองดี”
ทองดียิ้มรับ แล้วนึกได้
“ตกลงเมื่อไหร่คุณจะพาพ่อแม่มาสู่ขอล่ะ”
“ตอนนี้พ่อไปสัมนาที่กรุงเทพฯ”
ทองดีตาโต ได้ยินคำว่ากรุงเทพฯ
“กรุงเทพฯเหรอ ทองดีอยากไปกรุงเทพฯ คุณพาทองดีไปกรุงเทพหน่อยได้ป๊ะ”
พิสุทธิ์มองทองดีไม่แน่ใจ แต่ปากก็บอก
“ได้..ไว้วันหลังผมไปกรุงเทพฯแล้วจะพาทองดีไปด้วย”
ทองดียิ้มฝัน
“เคยเห็นกรุงเทพฯแต่ในทีวี ทองดีอยากไปเที่ยวกรุงเทพฯ”
ทองดีกับพิสุทธิ์นอนกอดกันหลับไป


เช้ามืดวันใหม่…หน้าร้านประตูยังปิดอยู่ แม่กำลังสาละวันต้มข้าวอยู่ที่เตา ทองดีเปิดประตูห้องนอนออกมา เห็นไฟเปิดก็แปลกใจโผล่หัวมาดูก็ตกใจ ทองดีรีบปิดประตูห้องกลับไป
“แม่ลงมาแล้ว”
พิสุทธิ์ตกใจ
“แม่คุณลงลงมาแต่เช้าอย่างนี้เหรอ”
“นั้นซิ เอางี้ เดี๋ยวทองดีจะไปถ่วงไว้ก่อน คุณก็หาทางออกไปแล้วกัน ระวังอย่าให้ใครเห็นล่ะ”
“เอ่อ...ทองดีมีเงินไหม ผมไม่มีเลย”
ทองดีเปิดกระเป๋าเห็นมีสองร้อย
“เอาไปหมดเลยแล้วกัน”
พิสุทธิ์รับเงินไป แล้วทองดีก็รีบเดินออกไป ทองดีเดินมาที่แม่แต่ตาคอยดูพิสุทธิ์ที่เดินหลบออกไป
“แม่ทำอะไรแต่เช้า”
“ต้มข้าวให้เตี่ยเอ็ง”
“ให้ฉันไปซื้อโจ๊กให้มั๊ย”
“เตี่ยเอ็งบอกโจ๊กมันฝืดคอ”
“งั้นฉันไปล้างหน้าก่อนนะ เดี๋ยวมาช่วยเปิดร้าน”
“เดี๋ยว....ทำไมกับข้าวที่เหลือเมื่อวานมันหายไปไหนหมดวะ”
“เอ่อ...ฉันหิวเมื่อคืนนี้เลยมาตักกิน”
“เอ็งกินไปเยอะมากเลยนะ”
“แหม...แม่ ก็มันหิวนี่ ตกลงฉันกินของเหลือไม่ได้เหรอ”
“เออ...กินๆไปน่ะดีแล้ว จะได้ไม่ทิ้งเสียของ เอ็งจะไปไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวข้า จะเอาข้าวต้มไปให้เตี่ย”
ทองดีเดินแยกไป แม่ก็ตักข้าวต้มที่ทำเสร็จ แล้วยกเดินขึ้นข้างบนไป

เบิ้มอาบน้ำเสร็จเดินออกมาใส่เสื้อยืด พิสุทธิ์เปิดประตูเดินเข้ามาเห็นก็แปลกใจ
“มึงไม่ไปเรียนเหรอวะ”
“ไอ้บ้า สอบเสร็จหมดแล้วจะให้กูไปเรียนอะไรวะ”
“อ้าวเหรอ”
“มึงนี่ติดทองดีจนไม่รู้วันรู้คืนเลยนะ”
พิสุทธิ์ยิ้มแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว
“นี่ตกลงมึงจะไปค้างกับทองดีทุกคืนใช่ไหม”
พิสุทธิ์เงียบ
“เจริญนะมึง กลางวันอยู่บ้านกู กลางคืนอยู่บ้านทองดี ตกลงจะไม่กลับบ้านมึงเองเหรอวะ”
“ยังไม่รู้”
“มึงจะรู้อะไรมั่งวะ”
“รู้แต่ว่าวันนี้มึงว่างใช่ไหม”
“ใช่...ทำไม”
“เดี๋ยวกูอาบน้ำแล้วเราไปนั่งร้านทองดีกัน”
เบิ้มตกใจ
“อีกแล้วเหรอวะ มึงเพิ่งแยกจากทองดีมันมานะเว้ย”
“ก็กูคิดถึงเค้านี่ มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยนะ กูกลัวแม่เขา”
เบิ้มมองหน้าพิสุทธิ์ด้วยความเซ็ง

หน้าร้าน...ทองดีเดินถือถังจานกับถังแก้ว ออกมาจัดเรียงหน้าร้าน แม่กำลังวุ่นวายอยู่กับการผัดอาหาร
พิสุทธิ์กับเบิ้มนั่งอยู่ในร้าน ทองดียิ้มให้ พิสุทธิ์ยิ้มรับ ทองดีนึกได้หันไปมองทางแม่ แล้วรีบเข้าไปช่วย
“มาแม่ฉันทำเอง”
“งานมึงเสร็จแล้วเหรอมาช่วยกูเนี่ย”
“ก็มันไม่มีใครสั่งกาแฟนี่ หรือแม่จะไม่ให้ทำ”
“เออ..ทำไป เดี๋ยวกูไปดูเตี่ยมึงหน่อย สายป่านนี้ยังไม่ลงมาเลย”
แม่เดินกลับเข้าไปด้านใน ทองดีรับหน้าที่ผัดอาหารต่อ แล้วยกมาที่โต๊ะพิสุทธิ์
“กินเต็มที่เลยนะฉันไม่เก็บเงิน”
“ดีเว้ย ลาบปากจริงๆ” เบิ้มแหย่
พิสุทธิ์สบตากับทองดีแล้วยิ้ม ทองดีเขิน แล้วพิสุทธิ์กับเบิ้มก็ลงมือทานอาหาร เมื่อทานอาหารเสร็จ เห็นว่าไม่มีลูกค้า พิสุทธิ์จึงดีดกีต้าร์ ร้องเพลงให้ทองดีฟัง ทองดีนั่งเท้าคางมองยิ้มหน้าบาน
แม่พยุงเตี่ยลงมานั่งที่โต๊ะ แล้วมองไปทางทองดีกับพิสุทธิ์และเบิ้ม
“ไอ้หมอนี่มันชอบทองดีแน่เหรอ”
“ไม่รู้สิ แต่ดูๆมันก็คงชอบมาก”
“ลื้อว่าไง”
“ก็ถ้าพ่อแม่มันรวยจริงเป็นคนใหญ่คนโตอย่างทองดีมันว่า ก็ดีนะเฮียเราจะได้สบาย”
เตี่ยพยักหน้า
“งั้น..ก็ปล่อยมันแล้วกัน”
สักพักเตี่ยก็เห็นพิสุทธิ์กับเบิ้มลุกออกไป เตี่ยมองสงสัย
“ลื้อไปดูสิ ไอ้สองตัวนั่นมันจ่ายหรือเปล่า”
แม่เดินมาหาทองดีที่กำลังเก็บจาน
“ไอ้เบิ้มกับเพื่อนมันจ่ายเงินหรือเปล่า”
“เปล่า”
“อีทองดี นี่มึงให้มันกินฟรีเหรอ”
“แหม...แม่ เขาลืมกระเป๋าตังค์ เดี๋ยวเขาเอามาให้”
“ของซื้อของขายนะโว้ย ที่นี่ไม่ใช้มูลนิธินะ”
“โห้แม่...โวยวายไปได้ ฉันบอกว่าเดี๋ยวเขาก็เอามาให้ เค้าลูกข้าราชการมี เงิน เงินแค่นี้ เขาไม่โกงหรอก”
“โอ๊ย..อีทองดี กูจะเป็นลม ไม่รู้จะด่ามึงยังไง มึงนี่มันโง่จริงๆ คนมีเงินก็ต้องพกเงินมากินสิ กูไม่ไว้ใจมันแล้ว ให้มันเอามาจ่ายวันนี้นะ ไม่งั้นก็จะบอกเตี่ยมึง”
แม่บ่นพึมพำ ทองดีหน้างอไม่พอใจ

พิสุทธิ์กับเบิ้มเดินห่างอกมาจากร้าน เบิ้มชวนคุย
“มึงนี่เก่ง ทำให้ทองดีมันรักได้”
“เก่งไง”
“มึงรู้ไหม บ้านนี้งกจะตาย ไม่เคยเลี้ยงใครหรอก แต่มึงพากูมากินฟรีได้ไม่บอกว่าเก่งแล้วเรียกอะไรวะ ทองดีน่ะสวยที่สุด ปากจัดที่สุด แต่มันทำให้มันเลี้ยงข้าวมึงกับกูได้ ต้องบอกว่ามึงนี่มันสุดยอดจริงๆ”
เบิ้มกับพิสุทธิ์หัวเราะกันสนุกสนาน

ในร้าน...แม่ยืนผัดอาหารหน้าเป็นมันอยู่หน้าเตา ทองดีเก็บเช็ดโต๊ะหน้าหงิกหน้างอ กระแทกของโครมคราม
“เอ้า...เอาเข้าไป กลัวของกูไม่พินาศใช่ไหม เมื่อกี้ก็ให้เขาติดเงิน นี่จะทำลายของกูอีกหรือไงนังลูกทรพี”
“แม่ก็หยุดด่าฉันซะทีสิ”
“กูไม่หยุด กูเป็นแมมึง กูจะด่า”
“โอ๊ยยยย...รำคาญ”
เตี่ยที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ไอจนตัวงอ ค่อยๆลุกขึ้น เดินไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่ยืนล้างหน้าอยู่ที่อ่างล้างหน้า เตี่ยไอออกมาเป็นเลือดแต่คราวนี้เยอะขึ้นมาก เตี่ยชะงักมองที่ผ้าเช็ดหน้าในมือ แล้วรีบบ้วนปากอย่างรวดเร็ว
เตี่ยไอซ้ำซากจนหมดแรง ทรุดตัวลงนั่งที่พื้นข้างโอ่ง เอื้อมมือไปหยิบขันน้ำ พยายามจะตักน้ำมาบ้วนปากล้างคราบเลือด แต่หมดแรง ล้มฟุบลงไปนอนที่พื้น ขันกลิ้งตกลงไปเสียงดัง แม่ได้ยินเสียงก็สะดุ้ง หันไปมองที่โต๊ะเก็บเงิน เตี่ยไม่อยู่จึงตะโกนเรียกทองดี
“อีทองดี มึงเห็นเตี่ยมึงหรือเปล่า”
ทองดีตะโกน
“ไม่รู้ ไม่เห็น”
“อีลูกเวร...พึ่งพาไม่ได้เลย”
แม่รีบวางตะหลิว เดินไปที่หน้าห้องน้ำ เห็นประตูเปิดแง้มๆอยู่
“เฮีย...เฮียอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”
แม่เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปพบเตี่ยนอนฟุบที่พื้น แม่รีบวิ่งไปประคองเตี่ยไว้ในอ้อมแขน
“เฮีย...เฮีย...เป็นอะไรไป อีทองดี ...มาช่วยกันหน่อยเร๊ว เตี่ยมึงเป็นลม”
ทองดีวิ่งหน้าตาเหรอหราเข้ามาไปช่วย

แม่ประคองเตี่ยขึ้นบันได เตี่ยไอจนตัวงอ แม่คอยประคองอย่างเป็นห่วง ทองดียืนมองอย่างกลุ้มๆเพราะรู้ว่าที่เป็นอย่างนี้ เพราะเตี่ยม่ยอมไปหาหมอ
“เอ็งจัดการปิดร้านเก็บข้าวของให้เรียบร้อย วันนี้กูหมดอารมณ์ขายแล้ว” แม่หันมาบอก
“จ๊ะ”
“อ้อ...แล้วเอาน้ำร้อนใส่กระติกขึ้นไปให้ด้วยนะ”
แม่ประคองเตี่ยขึ้นข้างบนไป ทองดีเดินรินน้ำร้อนใส่กาอย่างกระแทกกระทั้น
“เป็นขนาดนี้ ไม่ยอมรักษา กลัวเสียเงิน เฮ้อ....คืนนี้คงไอทั้งคืน ไม่รู้จะทนทรมารทำไม”
ทองดีหันกลับมาสะดุ้ง พิสุทธิ์ยืนยิ้มอยู่ ทองดีมองซ้ายมองขวา ผลักพิสุทธิ์เข้าไปที่มุมห้อง
“ทำไมมาเร็วนักล่ะ ประเดี๋ยวแม่ก็เห็นหรอก แล้วเข้ามาได้ยังไงเนี่ย”
“ไม่เห็นหรอก ผมปีนเข้ามาทางหน้าต่างหลังบ้าน”
ทองดีเขิน พิสุทธิ์กอดทองดีไว้ทำท่าจะหอม
“อีทองดี...วันนี้กูจะได้น้ำร้อนมั๊ย...เตี่ยมึงกินยาวันนี้นะโว๊ย...” เสียงแม่ดังขึ้น
“ได้แล้วแม่ ไปเดี๋ยวนี้แหละ” ทองดีหันไปพูดกับพิสุทธิ์ “...คุณไปหลบในห้องก่อน เดี๋ยวฉันเก็บร้านเรียบร้อยแล้วจะตามเข้าไป”

ทองดีผลักพิสุทธิ์ออก ฉวยกระติกน้ำร้อนไปด้วย
 อ่านต่อตอนที่ 2 วันนี้  เวลา 12.00 น. 




กำลังโหลดความคิดเห็น