เรื่องย่อจบบริบูรณ์
ลิขิตฟ้า ชะตาดิน
บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : ปราณประมูล
กำกับการแสดง : ผอูน จันทรศิริ
ผลิต: บริษัทเอ็กแซ็กท์ - บริษัทซีเนริโอ
แนวละคร : ดราม่า
วันเวลาออกอากาศ : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 5
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
จำนวนตอนออกอากาศ : -
ฟ้ากระจ่าง หรือ อาจ้าง (สน ส่งไพศาล) ชายหนุ่มลูกกำพร้าที่ถูกแม่นำมาทิ้งไว้ เติบโตมาในศาลเจ้าแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ ฟ้ากระจ่างเป็นคนหนักเอาเบาสู้ ว่านอนสอนง่าย ทำได้ตั้งแต่ ทำกับข้าว เชิดสิงโต รำมวยจีน จนถึงทำงานช่วยเหลือคนอื่นในมูลนิธิกู้ชีพของศาลเจ้า จึงเป็นที่รักของทุกๆ คน โดยเฉพาะ อาหึ่ง (เด๋อ ดอกสะเดา) คนครัวอนาถา และ สารภี (ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) สาวสติไม่เต็มที่ช่วยกันเลี้ยงดูและรักดุจลูก รวมทั้งยังได้รับการอบรมจาก กู๋เหลียง (เคน ลิมกานน) กับ นักบวชตง (ถนอม นวลอนันต์) สองเรี่ยวแรงสำคัญของศาลเจ้า
โดยเมื่อ 21 ปีก่อน ดารากานต์ (นุสบา ปุณณกันต์) แม่แท้ๆ ของฟ้ากระจ่างเอาเขามาทิ้งไว้ หลังจากแอบไปมีสัมพันธ์กับนักธุรกิจหนุ่มชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนจนเกิดตั้งท้องระหว่างเรียน แต่ฝ่ายชายถูกพ่อแม่บังคับให้กลับประเทศไปแต่งงานกับคู่หมั้นตามประเพณี โดยไม่รู้ว่าดารากานต์กำลังท้องอยู่
ดารากานต์ ตัดสินใจหนีพ่อแม่ไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด ก่อนจะนำลูกมาทิ้งไว้ที่ศาลเจ้า หลังจากนั้นจึงถูกพ่อแม่บังคับจับให้แต่งงานกับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ นายหัวบัญชา (นพพล โกมารชุน) เจ้าของธุรกิจเหมืองแร่ ที่เปลี่ยนมาจับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในเวลาต่อมา
21 ปี ต่อมา ดารากานต์เดินทางกลับมาที่ศาลเจ้าอีกครั้ง พร้อมกับเปิดเผยตนว่า เธอเป็นแม่ของฟ้ากระจ่าง และมาเพื่อขอร้องให้ฟ้ากระจ่างกลับไปช่วยกอบกู้ธุรกิจของครอบครัว เนื่องจาก นายหัวบัญชา สามีตามกฎหมายของดารากานต์ ถูกคู่แข่งทางธุรกิจลอบยิงจนเป็นอัมพาต แถม ดิน หรือ เกียรติบดินทร์ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) ลูกชายของเธอที่เกิดกับนายหัว ก็ไม่มีวุฒิภาวะพอจะรับช่วงธุรกิจต่อได้
เกียรติบดินทร์นั้นเคยก่อวิวาทกับ นพชัย (กลศ อัทธเสรี) สามีของ มาดามพิณ (ภัสสร บุญย-เกียรติ) เป็นเหตุให้ฝ่ายนั้นเสียชีวิต ทำให้ ชิงชัย (พงศ์สิรี บรรลือวงศ์) ลูกชายมาดามพิณแก้แค้นกลับ โดยจ้างคนยิงนายหัวบัญชาจนเป็นอัมพาตดังกล่าว
ฟ้ากระจ่างผู้ชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้วเป็นชีวิตจิตใจ และนี่คือโอกาสที่จะได้ช่วยแม่ พ่อเลี้ยง และน้องร่วมมารดาแท้ๆ เขาจึงตัดสินใจมาอยู่กับครอบครัวของแม่เพื่อช่วยทุกคนอย่างเต็มใจ
แท้จริงแล้วซีอีโอบริษัทคู่แข่งของนายหัวบัญชาคือ ปีเตอร์ โจว (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) รักแรกรักเดียวของดารากานต์ ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของฟ้ากระจ่าง แต่ทั้งปีเตอร์และดารากานต์ไม่รู้เรื่องนี้
ปีเตอร์กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง เพราะยังโหยหาคิดถึงอดีตคนรัก และอีกประการเขามาเพราะได้รับคำชวนจาก มาดามพิณ ให้มาร่วมลงทุนธุรกิจโดยมีนายหัวบัญชาเป็นหุ้นส่วน
นายหัวบัญชาได้ล่วงรู้ความสัมพันธ์ในอดีตของดารากานต์ศรีภรรยาของตนกับปีเตอร์โดยบังเอิญ สร้างความโกรธแค้นใจให้กับนายหัวบัญชาเป็นอย่างมาก จึงเปลี่ยนสถานภาพของปีเตอร์โจวจากมิตรให้เป็นศัตรู และคอยประมูลแย่งงานของบริษัทปีเตอร์กับมาดามพิณด้วยวิธีสกปรกโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้
นอกจากนี้เจตนาเบื้องลึกที่นายหัว ขอร้องให้ดารากานต์ไปพาตัวฟ้ากระจ่างมาสืบทอดธุรกิจแทนเกียรติบดินทร์ ก็เพราะต้องการให้พ่อ กับ ลูกชาย ที่ไม่เคยจักกัน ปีเตอร์ และฟ้ากระจ่าง ผิดใจกันจนต้องห้ำหั่นกันให้ตายไปข้างหนึ่ง จะได้สาสมกับที่ดารากานต์อยู่กับเขาอย่างไร้หัวใจมาตลอด 21 ปี
เมื่อฟ้ากระจ่างเข้ามาทำงานสิ่งที่เขาต้องเผชิญอย่างสาหัส กลับไม่ใช่ความขัดแย้งกับศัตรูภายนอก แต่มันเป็นศึกสายเลือดระหว่างเขากับเกียรติบดินทร์
เนื่องเพราะความเจ้าคิดเจ้าแค้นของเกียรติบดินทร์ที่อยู่ๆ ก็มีเด็กกำพร้าจากศาลเจ้าถูกเชิดชูให้เป็นพี่ชายคนโตและเป็นทายาทดำเนินกิจการของครอบครัวแทนตน
หนำซ้ำ ดวงยิหวา (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) หญิงสาวที่เขาแอบรัก ก็เปิดตัวว่าเป็นคนรักของฟ้ากระจ่าง หรือแม้แต่ ทรายทอง (หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) น้องสาวบุญธรรมที่คอยตามตื๊อเขามาตลอด และแม้กระทั่ง เทเรซ่า (ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) ลูกสาวของปีเตอร์ สาวสวยดุจนางฟ้าที่ชายทุกคนใฝ่ฝัน ต่างก็รุมรักและพยายามยื้อแย่งฟ้ากระจ่างกันอย่างจริงจัง นั่นจึงยิ่งทำให้เกียรติบดินทร์ทวีความเกลียดชังในตัวฟ้ากระจ่างมากขึ้นเรื่อยๆ และทำทุกอย่าง ทุกวิถีทางเพื่อช่วงชิงสิ่งที่ควรจะเป็นของเขากลับคืนมา
โดยมี บุรี (ปราบ ยุทธพิชัย) อาแท้ๆ คอยยุแยงเสี้ยมสอนให้แย่งชิงทุกอย่าง และ ได้ฟ้าใสหรือเสี้ยวท้อ (พิชญา เชาวลิต) สาวเอสคอร์ทรับควงเฉพาะเศรษฐี ผู้ซึ่งเคยหลงรักฟ้ากระจ่างแต่ผิดหวังมาเป็นตัวช่วยอีกแรง
กว่าที่เกียรติบดินทร์จะรู้ความจริงว่า ฟ้ากระจ่างถูกหลอกมาเป็นตัวล่อเป้าเพื่อให้ตายแทนตน ที่แท้เขาและพี่ชายร่วมมารดาเดียวกัน คือเหยื่อที่โดนปั่นหัวให้เกลียดชังกันแทบตาย ก็เกือบจะสายเกินไป
เช่นเดียวกับฟ้ากระจ่าง ที่เมื่อหลงเชื่อคนชั่ว จนเข้าใจผิดว่าคนที่เจตนาเอาเขามาตายแทนเกียรติบดินทร์คือแม่ของตัวเอง ความผิดหวัง ความเสียใจครั้งใหญ่ในชีวิต ได้พลิกให้ความซื่อใสดีงามในใจ กลายเป็นความโหดเหี้ยมอย่างที่ตัวเขาเองก็นึกไม่ถึง
แต่ท้ายสุดแล้วเมื่อความจริงปรากฏสองพี่น้องก็กลับหันมาร่วมมือกัน ต่อสู้กับศัตรูตัวจริงของครอบครัว และท้ายที่สุดสองพี่น้องก็สามารถรักและเสียสละให้กันได้ แม้แต่หัวใจรักของตัวเอง
ติดตามชมเรื่องราวความสนุกเข้มข้นในละคร “ลิขิตฟ้าชะตาดิน” เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 20.25น. ทางช่อง 5
และโปรดติดตามอ่านเรื่องราวสุดเข้มข้นของ "ลิขิตฟ้าชะตาดิน" ตอนต่อตอน ตรงตามบทโทรทัศน์ ตั้งแต่ต้นจนอวสาน ละเอียดทุกลมหายใจตัวละคร ทาง "ละครออนไลน์" เริ่ม 30 มกราคม 2555 เป็นต้นไป
รายชื่อนักแสดง “ลิขิตฟ้าชะตาดิน”
สน ส่งไพศาล รับบทเป็นอาจ้าง หรือ ฟ้ากระจ่าง
พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล รับบทเป็นเกียรติบดินทร์
นพพล โกมารชุน รับบทเป็นบัญชา
นุสบา ปุณณกันต์ รับบทเป็นดารากานต์
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบทเป็นปีเตอร์ โจว
ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ รับบทเป็นเทเรซ่า
มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ รับบทเป็นดวงยิหวา
หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช รับบทเป็นทรายทอง
พิชญา เชาวลิต รับบทเป็นเสี้ยวท้อ/ฟ้าใส
พงศ์สิรี บรรลือวงศ์ รับบทเป็นชิงชัย
ภัสสร บุญยเกียรติ รับบทเป็นมาดามพิณ
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับบทเป็นนางสารภี
เด๋อ ดอกสะเดา รับบทเป็นอาหึ่ง
โฉมฉาย ฉัตรวิไล รับบทเป็นอาม่าสาลี่
ญาณี ตราโมท รับบทเป็นนายน้อม
ชาตรี ชมพู รับบทเป็นนายเด่น
ปราบ ยุทธพิชัย รับบทเป็นนายบุรี
เคน ลิมกานน รับบทเป็นกู๋เหลียง
ถนอม นวลอนันต์ รับบทเป็นนักบวชตง หรือเซียนตง
เปิดใจนักแสดง เปิดอกผู้กำกับ
สน ส่งไพศาล รับบท อาจ้าง หรือ ฟ้ากระจ่าง
ชายหนุ่มรูปหล่อลูกกำพร้าที่เติบโตมาในศาลเจ้า ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาด้วยความรักและความอบอุ่น จึงหล่อหลอมให้จ้างเป็นคนดี กตัญญู และมีน้ำใจกับผู้อื่นเสมอ แต่ชีวิตต้องพลิกผัน เปลี่ยนไปเป็นคุณชายเป็นผู้นำ เมื่อต้องกลับไปรับช่วงธุรกิจของบัญชา (นพพล โกมารชุน) ตามความต้องการของแม่แท้ๆ
“เรื่องนี้รับบทเป็น ‘อาจ้าง’ หรือ ‘ฟ้ากระจ่าง’ ครับ ต้องบอกว่าเป็นละครเรื่องแรกที่สนเล่นแล้วสบายใจที่สุด ยิ่งเล่นยิ่งสนุกไม่กดดัน เพราะคาแรคเตอร์เรื่องนี้คล้ายตัวจริงของสนมาก ตรงความทะเล้น ร่าเริง ตลก เป็นการพลิกบทบาทจากหนุ่มมาดขรึมกลายเป็นหนุ่มขี้เล่น ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่ทุกคนจะได้เห็นสนในคาแรคเตอร์แบบนี้ รับรองว่าถ้าใครได้ชมเรื่องนี้ต้องชอบแน่นอนครับ”
พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล รับบท เกียรติบดินทร์
หนุ่มหล่อแสบซ่า ลูกคุณหนู เอาแต่ใจตัวเอง ชอบก่อปัญหาให้คนรอบข้างปวดหัวเป็นประจำ ซึ่งลึกๆ แล้วเป็นคนดี แต่ที่เป็นแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากทุกคนโดยเฉพาะกับดารากานต์ (นุสบา ปุณณกันต์) ผู้เป็นแม่ เพราะคิดว่าแม่รักอาจ้างเด็กที่มาจากศาลเจ้ามากกว่า จึงทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เขาควรได้ครอบครองกลับคืนมา
“รับบทเป็น “เกียรติบดินทร์” เป็นคนค่อนข้างเก็บกด โหยหาความรัก ความอบอุ่น บางครั้งเลยทำอะไรลงไปไม่คิด เพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากแม่(นุสบา) แต่พอแม่ให้ความสำคัญก็กลับเย็นชาไม่ใส่ใจโลก ซึ่งเรื่องนี้เป็นละครดราม่าเรื่องแรกของผมครับ ค่อนข้างเกร็ง แถมช่วงแรกๆ ต้องเข้าฉากกับนักแสดงมากฝีมืออย่างอาตู่และพี่นุสบา ผมกลัวมาก แต่อาตู่กับพี่นุสบาน่ารักใจดีคอยให้กำลังใจ เลยรู้สึกผ่อนคลายกล้าเล่นมากขึ้น ยังไงผมขอฝากผลงานละครเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ”
มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ รับบท ดวงยิหวา
สาวสวยสมัยใหม่ ฉลาด ห้าว คล่องแคล่วว่องไว คลุกคลีอยู่ในไซท์งานกับพ่อตั้งแต่เล็ก เลยมีนิสัยเหมือนผู้ชายกล้าได้กล้าเสีย
“ดีใจมากค่ะ ที่ได้รับโอกาสให้มาเล่นเรื่องนี้ ก็เป็นละครเรื่องแรกของโมด้วย ยากมาก เพราะไม่รู้มุมกล้อง และจังหวะต่างๆ เลยทำให้ต้องไปเรียนการแสดงเพิ่ม เพื่อความเข้าใจในบทบาทการแสดงมากขึ้นค่ะ ก็อยากฝากให้ทุกคนติชมกันด้วยนะคะ แต่รับรองว่าโมจะทำให้เต็มที่แน่นอนค่ะ”
นพพล โกมารชุน รับบท นายหัวบัญชา
หนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการเหมืองแร่ แต่เปลี่ยนมาจับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพราะเรื่องธุรกิจทำให้บัญชาโดนลอบยิงจนเป็นอัมพาต
“เรื่องนี้รับเล่นเพราะแค่อ่านเรื่องย่อก็สนุกแล้ว ตอนแรกเป็นคนดี แต่พอสืบรู้มาว่าภรรยาคือ นุสบา เคยมีลูกมาแล้ว แต่กลับปกปิดไว้ไม่ให้เรารู้ เลยทำให้ผมกลายเป็นคนเลว วางแผนต่างๆ ให้พ่อลูกได้เจอกันและห้ำหั่นกันเอง เพื่อที่จะได้สาสมกับที่โดนภรรยาสาวสุดที่รักมากทำกับตัวเอง”
นุสบา ปุณณกันต์ รับบท ดารากานต์
นายหญิงแสนดีภรรยาของนายหัวบัญชา คอยดูแลปรนนิบัติอย่างดี แต่ลึกๆ มีปมในใจ เพราะสมัยวัยรุ่น เคยพลาดท่าตั้งท้องกับ ปีเตอร์ โจว เลยตัดสินใจหนีพ่อแม่ไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัดก่อนจะทิ้งลูกไว้ที่ศาลเจ้า หลังจากนั้นพ่อแม่เลยจับให้แต่งงานกับนายหัวบัญชาเจ้าของธุรกิจใหญ่
“ได้กลับมาเล่นละครเอ็กแซ็กท์อีกครั้ง ดีใจมาก วันแรกที่เข้าฉากมีเคอะเขินบ้างเพราะห่างจากละครไปนาน ค่อนข้างหนักใจเหมือนกันเพราะเป็นซีนอารมณ์เยอะ วันแรกๆ รู้สึกเหมือนพลังเราน้อยลงไป เลยไปวิ่งรอบหนึ่ง พอกลับเข้าฉากก็รู้สึกคึกขึ้น พลังเริ่มมาการเคลื่อนไหวหรือการแสดงมันเริ่มเข้าที่เข้าทาง พอหยุดไปนานแล้วกลับมาเล่นจะมีตึงๆ ก็ต้องไปวอร์มอัพ ดูแลตัวเองนิดนึง พอไปวันที่สองที่สามก็เริ่มเนียนแล้ว เริ่มไหลลื่นมากขึ้น”
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบท ปีเตอร์ โจว
นักธุรกิจหนุ่มชาวสิงค์โปร์ มีลูกสาวชื่อ เทเรซ่า สมัยอดีตตกหลุมรัก ดารากานต์เพียงครั้งแรกที่เจอตอนมาเรียนที่เมืองไทย แต่ต้องกลับไปแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อแม่หาไว้ให้ เลยไม่รู้ว่าทำดารากานต์ท้อง
“เรื่องนี้เล่นเป็นแฟนเก่าของคุณนุสบา แล้วก็เป็นนักธุรกิจสิงค์โปร์มาเรียนที่นี่ แล้วก็กลับไปสิงค์โปร์และไปแต่งงานมีลูกใช้ชีวิตปกติ เลยไม่รู้ว่าทำให้ดารากานต์ท้อง เราก็ไม่รู้จริงๆ พอพี่ตู่มาแต่งงานกับนุสบาตอนหลัง เขาก็ระแคะระคายเลยสืบจนรู้ว่านุสบามีลูกกับเรา พอกลับมาทำธุรกิจในเมืองไทยก็เลยกลายเป็นศัตรูทางธุรกิจกัน กับ นุสบายังคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง แต่กับพี่ตู่เนี่ยบอกได้คำเดียวงานนี้เล่นไม่ดีมีตาย”
พิชญา เชาวลิต รับบท เสี้ยวท้อ หรือ ฟ้าใส
หญิงสาวที่รักสวยรักงาม ฟุ้งเฟ้อทะเยอทะยานชอบใช้แต่ของแพงๆ แต่ฐานะทางบ้านยากจน เติบโตมาในศาลเจ้า เลยต้องใช้ความสวยเอาตัวเข้าแลกกับเงิน โดยมีจุดมุ่งหมายคือต้องหาผู้ชายรวยๆ หรือพวกเศรษฐีมาอุปถัมภ์เลี้ยงดู
“เรื่องนี้ฟางรับบทร้ายแบบน่ารักๆ คะ จะออกไปทางตลกๆ ซึ่งในเรื่องคาแรคเตอร์ฟ้าใสต้องทำอินโนเซ้นต์ ไร้เดียงสา เน้นมารยาทร้อยเล่มเกวียนของผู้หญิงออกมาใช้หว่านเสน่ห์ ไม่ร้ายแบบวางแผนฆ่าคน แรกๆ ก็กลัวว่าจะเล่นไม่ได้ แต่โชคดีที่ได้พี่ปุ๊ยคอยช่วยชี้แนะทาง ก็ทำให้คลายกังวลเล่นแล้วกลับรู้สึกสนุก ก็เป็นบทร้ายอีกแบบหนึ่งของฟาง อยากจะฝากให้ติดตามและเป็นกำลังใจให้ฟางด้วยนะคะ”
ลัลณ์ลลิน เตจะสาเวศซ์ รับบท เทเรซ่า
ลูกสาวของปีเตอร์ โจว บอบบาง น่าทะนุถนอม ดุจดังเจ้าหญิง แต่ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วภายในจริงใจของเธอนั้นเข้มแข็ง
“ตื่นเต้นและดีใจมาก อยากขอบคุณพี่บอย-ถกลเกียรติ พี่ป้อน-นิพนธ์ มากๆ และพี่ปุ๊ย-ผอูน ค่ะ ที่เปิดโอกาสให้มาเล่นละคร เพราะนอกจากจะเป็นละครเรื่องแรกแล้วบทนี้ค่อนข้างตรงข้ามกับตัวเองมาก คือชีวิตจริงเราจะร่าเริง แต่สำหรับบทของ เทเรซ่า จะเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน บอบบางมากๆ ก็รู้สึกขัดๆ อยู่บ้างในช่วงแรก แต่พอเข้าใจตัวละครแล้ว ทุกอย่างก็โอเคขึ้นค่ะ”
หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช รับบท ทรายทอง
เด็กสาวน่ารักแป๋วแหวว ลูกสาวของนายบุรีน้องชายบัญชา แต่นายหัวบัญชาขอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
“ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆ คนด้วยค่ะ ที่เปิดโอกาสให้ซี ได้แสดงละคร ก็ยอมรับว่ามีอาการเกร็งเหมือนกันค่ะ เพราะเป็นละครเรื่องแรก ก็ไม่อยากให้พี่ๆ นักแสดงคนอื่นๆ ต้องเสียเวลารอเรา ก็ต้องทำการบ้านหนัก ทั้งไปเรียนแอ็คติ้ง และอ่านบทหลายๆ รอบ เพื่อที่จะศึกษาความคิดของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง รวมทั้งดูการแสดงจากนักแสดงพี่ๆ คนอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น อาตู่, พี่นุส, พี่กบ เพื่อที่เราจะได้พัฒนาฝีมือการแสดงของเราให้ดีขึ้นค่ะ”
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับบท นางสารภี
สาวสติไม่ดี เพี้ยนๆ ที่อาศัยอยู่ในศาลเจ้า และเป็นผู้ที่เจอ “อาจ้าง” ตอนเป็นทารก เลยคิดว่าตัวเองเป็นแม่แท้ๆ
“พอรู้ว่าต้องมารับบทเป็นคนสติไม่ดีจริงๆ ครั้งแรก ก็คิดว่าต้องสนุกแน่ๆ เพราะที่ผ่านมาเรามักจะได้เล่นเป็นคนปกติ ที่มีคาแรคเตอร์เป็นคนตลก แต่พอเรื่องนี้ ต้องเป็นคนที่เพี้ยนจริงๆ จึงรู้สึกสับสนบ้างเหมือนกัน เพราะกลัวคนดูจะไม่รู้สึกแตกต่าง ก็พยายามสังเกตคนเหล่านี้ดู ว่าแววตา ท่าทางของพวกเค้าเป็นยังไง บางครั้งเวลาเข้าฉากก็ดีไซน์ท่าทางตลกๆ ให้ ผู้กำกับดูก่อน ว่ามากหรือ น้อยไป รึป่าว ก็รู้สึกสนุกดีค่ะ”
เด๋อ ดอกสะเดา รับบท อาหึ่ง
คนครัวศาลเจ้า สติไม่เต็ม นึกว่า “อาจ้าง” คือน้องชายของตนที่ตกน้ำตาย กลับชาติมาเกิด เลยขอเป็นคนเลี้ยงอาจ้างเสมือนว่าเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง
“ต้องเข้าฉากคู่กับคุณเหมี่ยวตลอด ก็เข้าขากันดีครับ เราจะช่วยกันคิดดีไซน์มุขตลก ให้ผู้กำกับดู หรือบางครั้งผมจะแอบใส่มุขสดลงไปตอนถ่ายทำเลย คุณเหมี่ยวเค้าก็รับมุขเราได้ คราวนี้ก็เลยกลายเป็นมุขที่ทีมงานฮากันใหญ่ ก็ทำให้เรายิ่งรู้สึกสนุก เป็นการทำงานที่มีความสุขมากๆ เรื่องหนึ่งครับ”
พงศ์สิรี บันลือวงศ์ รับบท ชิงชัย
ลูกชายของมาดามพิณและนพชัย ตกหลุมรักเทเรซ่าลูกของปีเตอร์ โจว จึงคอยตามดูแลเทเรซ่าทุกฝีก้าว
“ผมเล่นเป็น “ชิงชัย” ครับ ดีใจมากครับที่ได้มาร่วมงานกับพี่ปุ๊ย อีกครั้ง เพราะพี่ปุ๊ยเป็นผู้กำกับที่ละเอียดมากๆ คาแรคเตอร์ในเรื่องนี้จะเป็นคนไม่ยอมคน เพราะพ่อถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา ทำให้เราต้องไปล้างแค้นตระกูลของไมค์ ด้วยการ สั่งคนไปฆ่านายหัวบัญชา จนเป็นอัมพาต ซึ่งเป็นการรับบทร้ายในแบบที่ผมชอบนะครับ คือร้ายแบบมีเหตุผล ซึ่งทำให้ผมแสดง แอ็คติ้งออกมาได้อย่างไม่ขัดกับความรู้สึกด้วย”
ผอูน จันทรศิริ ผู้กำกับการแสดง
ฝากผลงานสร้างชื่อมาหลายต่อหลายเรื่องทั้งภาพยนตร์และละครชื่อดัง ล่าสุดผู้กำกับสาวมากฝีมือ ผอูน จันทรศิริ กำลังมีผลงานใหม่มาฝากแฟนๆ ละครกับ “ลิขิตฟ้าชะตาดิน” ละครดราม่าเข้มข้น ที่เจ้าตัวการันตีว่าครบรสโดนใจอย่างแน่นอน
“จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ต้องขอออกตัวก่อนว่าเลือกพระเอกก่อน (สน และไมค์) แล้วถึงเขียนบทตามเพราะคิดว่าอยากดูเขาสองคนคือเหมือนกับว่าบางทีละครหลายเรื่องที่เกิดขึ้นมาเองเลือกนักแสดงก่อนแล้วถึงหา เรื่องราวที่เหมาะกับเขาเรื่องนี้ก็เช่นกัน พี่รู้สึกว่าเวลาดูไมค์ตั้งแต่เป็นนักร้อง ก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าสนใจจังเลย แล้วดูเป็นคนดราม่ามาก ดูมีอารมณ์ข้างในเยอะ
...ก็คิดว่าถ้าคนเล่นกับไมค์เนี่ยเป็นสนแล้วก็สองคนคาแรคเตอร์ดูต่างกัน เพราะว่าสนดูเป็นเด็กเรื่อยๆ คือถ้าสองคนมาเล่นด้วยกันคิดว่าน่าสนใจทีเดียว ทีนี้ก็เลยไปปรึกษาคนเขียนบท (ปราณประมูล) ซึ่งคนเขียนบทเขาก็เห็นด้วยอย่างมาก ก็เลยช่วยกันคิดเรื่องมาให้เนื้อเรื่องสนุก แม้จะมีนักแสดงรุ่นใหม่ๆ หลายคนก็ไม่ใช่ปัญหา ทุกคนตั้งใจทำงาน และเตรียมตัวทำการบ้านมาอย่างดีมาก อยากบอกคนดูว่านักแสดงกลุ่มนี้น่าจับตามองมากเลยค่ะ แค่มาถ่าย มาฟิตติ้งแต่ละคนมีความแจ่มใส แล้วก็เขามีทิศทางที่จะไปอย่างชัดเจน อยากให้ช่วยกันดูหน่อยนะคะ สำหรับเรื่องราวความน่ารักสดใสกุ๊กกิ๊กของคู่พระนางในเรื่องจะโดนใจคุณผู้ชมได้มากน้อยแค่ไหนนั้น เตรียมติดตามชมกันได้เร็วๆ นี้ ในละคร "ลิขิตฟ้าชะตาดิน" รับรองว่าไม่ทำให้แฟนละครต้องผิดหวังอย่างแน่นอน”