xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเวลา “อัษฎาวุธ” ขึ้นแท่น ‘ผู้จัด’ รวบตึง ‘ผู้กำกับฯ’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คนเบื้องหลัง

จากเบื้องหน้า สู่เบื้องหลัง ถึงเวลาของ “อัษฎาวุธ”
ขึ้นแท่น ‘ผู้จัด’ รวบตึง ‘ผู้กำกับการแสดง’

ดำรงตนเป็น “นักแสดง” ที่ดีมาหลายสิบปี ล่าสุดพระเอก “อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร” สะสมบ่มเพาะประสบการณ์ส่วนตัวจนได้ขึ้นแท่นเป็น ผู้จัดละครหน้าใหม่ของวิกเจ็ดสี ในนาม บริษัท ดูมันดี จำกัด แถมรั้งตำแหน่งผู้กำกับการแสดง ประเดิมผลิตละครซิทคอมเรื่อง “วิวาห์...ฮาเฮ” เป็นเรื่องแรก โดยได้พระนางคู่ใหม่ ไผ่-พาทิศ พิสิฐกุล และ เจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ มาสวมบทบาทใหม่ที่สดใส พร้อมด้วยนักแสดงสมทบที่ร่วมสร้างสีสัน และเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูมากมาย
ละครออนไลน์จึงไม่พลาดที่จะจับผู้จัดฯ และผู้กำกับฯ หน้าใหม่มาพูดคุยถึงผลงาน และแง่คิดในบทบาทใหม่ของเขาในครั้งนี้

จุดเริ่มต้นของการขึ้นแท่น “ผู้จัดละคร” และ “ผู้กำกับฯ”
ต้องขอบคุณช่อง7 สี ที่ให้โอกาสให้เราได้ใช้ความรู้ความสามารถจากประสบการณ์ตรง ที่เราได้เคยสั่งสมมาตลอด ระยะเวลาในการทำงาน ผู้ใหญ่คงเห็นความตั้งใจจริงในการทำงาน เลยให้โอกาสทั้งการเป็นผู้จัดฯ และผู้กำกับฯ พร้อมๆ กัน

แรงบันดาลใจในการทำงานใหม่
ต้องบอกตรงๆ ว่าเราชอบทำงานเบื้องหน้า สนุกกับการสวมบทบาทเป็นตัวละครตัวโน้นตัวนี้ ในละคร เรื่องต่างๆ กับบทบาทที่ชีวิตจริงเราอาจจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส เช่น บทขอทาน บทท่านชายสูงศักดิ์ หรือบท ผู้ร้ายฆ่าคนตาย แต่ในละคร เราสามารถเป็นตัวละครเหล่านั้นได้ สร้างความสุข รอยยิ้มให้ผู้ชมมากมาย บางเรื่องนอกจากความสนุกสนานความบันเทิง ที่มีให้แล้ว ยังสอดแทรกความรู้ ข้อคิดดีๆ ให้ผู้ชมได้นำไปปรับใช้ใน ชีวิต ได้เห็นผลของความดีความชั่วผ่านตัวละครที่โลดแล่นในจอ ถือเป็นความภาคภูมิใจ ถ้าละครเรื่องไหน ที่เราแสดงทำเรตติ้งดี ไปไหนก็มีใครพูดถึง เข้ามาทักทายเรียกชื่อตามตัวละครที่เราแสดง มันมีความสุขมาก พอถึงวันนึงนอกจากเราจะทำการบ้านตามบทบาทที่เราได้รับ เรายังคิดต่ออีกชั้นนึงว่า ถ้าเรามีโอกาสได้ทำละครของเราเอง เราอยากจะเล่าเรื่องอะไรให้คนดูได้ดู เรื่องแบบไหนที่เป็นลายเซ็นต์ของเรา พอคิดอะไรออก ก็มีการเขียนการจดเอาไว้
พอถึงวันนี้สิ่งต่างๆ ที่เคยคิดเคยถูกบันทึกไว้ในสมุด ได้ถูกนำมาขัดเกลา นำมาพัฒนาให้เป็นบทละคร ที่นอกจากจะดูสนุกแล้ว ยังมีสาระแฝงอยู่ในนั้นด้วย ตามนโยบายของช่อง7 ที่ย้ำว่าละครที่ผู้จัดเจ้าต่างๆ ทำออกมา ต้องไม่มีพิษภัยต่อสังคม โดยเฉพาะเยาวชนตรงกับนโยบายของ บริษัท ดูมันดี อยู่แล้ว เราเลยทำงานกันอย่างสบายใจ

ที่มาของชื่อบริษัท “ดูมันดี”
บริษัท “ดูมันดี” มาจากคำ 3 คำ คือ “ดู” คือ แน่นอนว่าเป็นบริษัททำละคร ทำรายการให้ผู้ชมได้ดูได้ชม “มัน” คือ ดูแล้วต้องสนุก บันเทิง ถ้าเป็นอาหารต้องกินนอร่อยครบรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เผ็ด กลมกล่อม มีหลากอารมณ์ไม่ว่าจะเป็น รักโรแมนติก ดราม่าเคล้าน้ำตา หรือบู๊ถึงใจ ดี แน่นอนว่า เมื่อเป็นอาหารที่อร่อยแล้วต้องมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย ไม่ได้กินอร่อย แต่เป็นพิษหรือกินแล้วป่วย ต้องเป็นบันเทิงที่ให้คุณ ไม่ใช่บันเทิงให้โทษ สรุปว่าคำทั้งสามคำรวมกันแล้วเป็น “ดูมันดี” บอกตัวตนของเรา งานของบริษัทเราได้ดีที่สุด

เลือก “วิวาห์...ฮาเฮ” ทำเป็นเรื่องแรก
ที่เลือกเรื่องนี้มาทำเป็นเรื่องแรก เพราะโจทย์ของเราคือ ซิทคอมวันหยุด เป็นเวลาของครอบครัว เลยพยายามหาว่า เรื่องอะไรที่ คนทุกวัยจะสมารถรับรู้ร่วมกันได้ เลยได้บทสรุปว่า เรื่องเกี่ยวกับงานแต่งงาน เพราะทุกคนไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ต้องเคยไปร่วม งานแต่งมาแล้วทุกคน ไม่ว่าจะในฐานะแขก เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว หรือเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวซะเอง แต่ยังมีอีกหลายคน ที่ยังไม่รูว่ากว่าจะออกมาเป็นงานแต่งงาน ที่สวยสมบูรณ์แบบ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง มีทั้งสนุก สุข เศร้า คละเคล้ากันไป หลายเรื่อง เศร้าสะเทือนใจ หลายเรื่องควรจะถูกนำมาตีแผ่ให้รู้ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้คู่รักที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน หรือครอบครัว ของบ่าวสาวได้เตรียมตัวเตรียมใจ ผ่านทางกลุ่มคนที่มีอาชีพที่เรียกเก๋ๆว่า Wedding planner หรือบริษัทจัดงานแต่ง ที่มีคู่บ่าวสาวหลากหลายแวะเวียนเข้ามาสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา หรือบางคู่ก็มาพร้อมปัญหามากมาย มาช่วยให้ ทีมงานได้เพิ่มรอยหยักในสมองในแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ ทางช่องก็เห็นด้วย เลยอนุมัติให้เราทำละคร เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องแรกครับ

ความน่าสนใจของละครเรื่องนี้
อย่างที่บอกไปว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวที่มนุษย์ทุกคนบนโลกต้องเจอ ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหน อาชีพใด วัยใดก็ตาม เพราะฉะนั้นทุกคน จะเข้าใจเรื่องได้ง่าย ที่สำคัญ ทุกเรื่องจะมีประเด็นของความรักในแง่ต่างๆ ทิ้งท้ายให้เก็บไปคิดอีกด้วย รับรองว่าครบรสชาติจริงๆ

จับ ไผ่ พาทิศ และ เจี๊ยบ ลลนา มารับบทพระนาง
ที่เลือกไผ่เพราะเคยทำงานด้วยกัน ไผ่เป็นคนที่มีศักยภาพในตัวสูงคนนึง เชื่อว่าเค้าจะสามารถสวมบทบาท “เข้ม” พระเอกของ เรื่องนี้ออกมาได้น่าสนใจ ตรงตามที่จินตนาการเอาไว้ ที่สำคัญเค้ามีแฟนคลับเยอะมาก ที่คอยติดตามผลงานของเค้า ส่วน เจี๊ยบ ถ้าเป็นละครซิทคอมเสาร์-อาทิตย์ เค้าถือว่าเป็นเจ้าแม่เลย (หัวเราะ) สำหรับตัวเองในฐานะที่แสดงละครมา เรียนมาทางนี้โดยตรง เชื่อว่าคนที่เรียนหนังสือเก่งจะช่วย ทำให้แสดงละครได้ดีด้วย เพราะการแสดงละครเป็นเรื่องของความเข้าใจในสิ่งที่ตัวเอง กำลังทำ กำลังแสดง เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเจี๊ยบเลย เพราะเค้าเรียนหมอ เรื่องความฉลาดหลักแหลมเค้ามีมากอยู่แล้ว ส่วนเรื่องนี้ภาพเค้าจะ ออกมาต่างจากละครเรื่องอื่นๆ ที่เคยผ่านสายตาผู้ชม แต่ตัวละครจะน่าสนใจตรงที่มีพัฒนาการ เริ่มเรื่องอย่างนึง พอจบเรื่องจะเป็น อีกอย่าง ทำให้คนดูต้องลุ้น ต้องติดตาม

สื่อแง่คิดฝากสาระถึงคนดู
อย่างตัว แจง ที่เจี๊ยบเล่น เป็นคนที่มาจากครอบครัวที่หย่าร้าง ซึ่งปัจจุบันมีเยอะมาก ทำให้แจงไม่เชื่อใน ความรักที่ยั่งยืน แต่ตัวเอง ต้องมาทำงานที่เกี่ยวข้องกับความรัก แต่เพราะตัวเองเป็นที่ที่ทำอะไรต้อง สมบูรณ์แบบ เลยต้องพยายามทำทุกงานให้ออกมาดีที่สุด แม้บางครั้งอาจจะมีอะไรขัดแย้งในใจบ้าง ส่วนเข้ม พระเอกของเรื่อง จะเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต เข้าใจโลก เข้าใจความรัก เลยทำให้ ทั้งคู่เกิดความขัดแย้งกัน บางครั้งก็เคลียร์กันได้ บางครั้งก็บานปลาย สุดท้ายจะลงเอยอย่างไร ต้องให้คนดูติดตาม ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็มีหน้าที่เข้ามาสร้างสีสัน ให้เรื่องเข้มข้นขึ้น สนุกขึ้น ตามสูตรของละครซิทคอม

เสียงสะท้อนหลังละครออกอากาศ
ตอนแรกออกอากาศไปก็มีฟีดแบ็กกลับมาในทางบวกซะส่วนใหญ่ มีหลายคนมาให้กำลังใจ คอยเชียร์ มีบ้างที่ส่งคำวิจารณ์ คำติ คำชมมาให้ ผ่านทางเฟสบุ๊คบ้าง ทางเว็บละครบ้าง ต้องขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย สัญญาว่าจะนำคำแนะนำต่างๆ ไปปรับปรุง ให้งานออกมาดีขึ้นเรื่อยๆ ให้ถูกใจผู้ชมให้มากที่สุด ส่วนช่องก็มี คอมเม้นท์มาบ้าง แต่ก็จะเป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ เพราะตามระบบ การทำงาน ทุกขั้นตอนจะมีการดูแลใกล้ชิดกันอยู่แล้ว เลยค่อนข้างจะไม่มีส่วนต้องแก้ไข

ผู้จัด-ผู้กำกับ น้องใหม่ใจเกินร้อย
ส่วนตัวพอใจกับงานที่ออกไป เพราะเราพิถีพิถันในทุกขั้นตอน แต่ต้องยอมรับว่าเราเป็นน้องใหม่ บางอย่างเราต้องเรียนรู้จาก ความผิดพลาดก่อน เริ่มจากความไม่รู้ แต่เราก็บอกตัวเองเสมอว่าจะต้องไม่พลาดซ้ำสอง และทุกก้าวจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะการ เรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น เราไม่กลัวที่จะพลาด เพราะเราถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นครู ยังไงก็ต้องขอบคุณทั้งนักแสดง ทั้งทีมงานทุกคนทุกฝ่าย ที่ทำให้ละครของเราออกมา สู่สายตาผู้ชมได้อย่างสมบูรณ์ ที่สุด และเราเชื่อว่าคนดูจะชอบ

แผนงานในอนาคตของ “ดูมันดี”
เรื่องละครที่มีอยู่นอกจากนี้ยังมีอีกเพียบ เป็น 10 เรื่องทั้งที่เป็นบทประพันธ์ ทั้งที่พล๊อตเอง มีหลากแนวทั้งคอมมาดี้ ทั้งดราม่า แอคชั่น หรือแนวลึกลับ แต่คงต้องดูจังหวะที่เหมาะสม ว่าจะหยิบเรื่องไหนขึ้นมาทำในช่วงไหน ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ที่ช่องจะเห็นสมควรด้วย
นอกจากนี้มีรายการทีวีสั้นๆ กำลังคุยกันอยู่ จะเป็นรายการที่เน้นไปที่กลุ่มเด็กและเยาวชน ในฐานะที่จบครุศาสตร์ ศิลปศึกษา จุฬาฯ มาโดยตรง เลยอยากจะเริ่มกับรายการประเภทนี้ก่อน ส่วนรายการรูปแบบอื่นก็มีเตรียมๆ ไว้บ้าง ส่วนละครช่วงเวลาอื่นๆ อย่างละคร เย็นหรือหลังข่าว คงต้องรอทางช่องพิจารณาอีกที ถ้าช่องให้โอกาสมาเมื่อไหร่เราก็พร้อมเสมอครับ

แนวทางการทำงานของบริษัทฯ
เราเองเป็นบริษัทน้องใหม่ไม่เคยคิดจะแข่งขันกับใคร แค่แข่งกับตัวเองก็จะพออย่างแรกที่เราตั้งใจ จะทำให้ได้คือ ผลงานที่เราทำออกมาวันนี้ ต้องดีกว่าเมื่อวาน พรุ่งนี้ต้องดีให้เท่าวันนี้ ต้องมีเป้าหมายให้กับ ตัวเองที่ชัดเจน และต้องพยายามทำให้ ได้ตามเป้าที่วางไว้ในเวลาที่กำหนดแค่นั้นเราก็พอใจแล้ว ส่วนคุณภาพงาน ทางเรามีฝ่ายประเมินผลงาน และให้คะแนน เป็นการสำรวจ เพื่อนำไปปรับปรุงมาตรฐานของตัวเองอยู่แล้ว

นักแสดงชื่อ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ก็ยังมีละครอีก 2 เรื่อง เรื่องนึงกำลังถ่าย “ปางเสน่หา” ของดีด้าฯ กับอีกเรื่อง “ทองประกายแสด” เป็นนักแสดงรับเชิญให้บริษัทพี่ก้อง-ปิยะ ประมาณปลายปีจะมีอีก 2เรื่องที่คุยๆ กันอยู่ ส่วนรายการก็มี พิธีกรเวทีไท ช่อง5 กับละครเวทีสำหรับเด็กปีละครั้ง 2 ครั้ง เวลาว่างๆ ก็วาดรูป ทำงานศิลปะที่เราชอบ กับโครงการ GIVE โครงการทำเสื้อขาย แล้วเอาเงินไปมอบให้หน่วยงานที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นโครงการส่วนตัวที่ทำมาทุกปี ปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้ว ปลายปีนี้ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนก็จะทำอีก

ฝากผลงานเรื่องแรก
อย่างที่บอกว่าเราทำเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามเงื่อนไขของเวลาและความสามารถ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรเราพร้อมที่จะรับ เพื่อนำไปปรับปรุงตัวเองในงานชิ้นต่อๆ ไป ยังไงก็ฝากละคร “วิวาห์…ฮาเฮ” เอาไว้ด้วย หากมีคำแนะนำก็สามารถเข้าไปเขียนบอก ทั้งติทั้งชมได้ที่ เฟสบุ๊ค ASADAWUT LUANGSUNTORN หรือ บริษัท ดูมันดี จำกัด ตลอดเวลาครับ

เกร็ดละคร : อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ก้าวสู่วงการบันเทิง เริ่มต้นการคว้าตำแหน่งหนุ่มแพรว 1982 (พ.ศ. 2525) ของนิตยสาร “แพรวสุดสัปดาห์” (สุดสัปดาห์ ในปัจจุบัน) เริ่มเล่นละครทางช่อง 5 เรื่อง “บัลลังเมฆ” ในปี 2536 กับค่ายเอ็กแซ็กท์ มีผลงานทางช่อง 5 อีกเรื่องคือ “เจ้านาง” (2537) ก่อนจะก้าวไปเล่นละครทางช่อง 3 เรื่อง “พลอยพราวแสง” ปี 2538 และมาหยุดตัวเองเป็นพระเอกช่อง 7 สี มีผลงานมากมาย ทั้งก่อนข่าวและหลังข่าว แต่กลายเป็นโลโก้พระเอกละครเย็นที่ประสบความสำเร็จสูงสุด นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับในผลงานด้านการแสดงละเวทีมากมาย

ละครซิทคอม “วิวาห์...ฮาเฮ” : ออกอากาศ วันเสาร์ เวลา 13.00-13.45 ทางช่อง 7 สี (เริ่ม 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554)
สั่งสมประสบการณ์จริง และเรียนรู้จาก ครูเล็ก-ภัทราวดี วันนี้ อุัษฎาวุธ พร้อมแล้วในทำงานเบื้องหลังเต็มตัว
เลือก ไผ่-พาทิศ กับ เจี๊ยบ-ลลนา มาเป็นพระนางคู่กัน




ปางเสน่หา 1 ใน 2 ผลงานละครที่แฟนๆ จะได้ชมในบทบาทนักแสดง
กำลังโหลดความคิดเห็น