เรื่องย่อ "หน่วยกู้ภัย หัวใจแหวว"

เรื่องย่อ
 
“กู้ภัยหัวใจแหวว”

บทประพันธ์ :บทโทรทัศน์ : ดรีมทีม
กำกับการแสดง : อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ผลิต : บริษัท ดูมันดี จำกัด
ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.45-19.45 น. สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

ติ่ง สัปเหร่อประจำหมู่บ้าน อยู่กินกับ นวลสวาท มาหลายปีดีดัก ก็ไม่ยักจะมีลูกไว้คล้องใจซักที จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างที่ติ่งไปเก็บบัวริมบึงเพื่อนำมาถวายพระ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน ติ่งได้เจอผู้หญิงคนหนึ่งกำลังหลบหนีการไล่ล่ามา เธอยื่นเด็กน้อยในอ้อมกอดให้ติ่ง แล้วหนีไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรซักคำติ่งร้อนใจ หวังว่าแม่ของเด็กจะกลับมารับลูกคืน แต่ก็ไม่เห็นเงา ติ่งจึงย้ายบ้านไปโดยต้องพาเด็กน้อยไปด้วย

หลังจากที่ติ่ง กับ นวล อุปการะเลี้ยงดู “บัวบูชา” เหมือนลูกแท้ๆ ไม่นาน “สไบนาง” ที่ใครๆ ก็บอกว่าเป็นลูกอิจฉาก็ตามมาเกิด 20 ปีผ่านไป บัวได้เติบใหญ่เป็นสาวสวยหน้าตาดี จิตใจโอบอ้อมอารีย์ หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย บัวได้ไปทิ้งใบสมัครงานไว้หลายที่ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ จึงใช้เวลาว่าง ช่วย นวล ขายอาหารตามสั่งในวัด และไปเป็นสตั๊นท์แมน ในหนังและละครบู๊ เพื่อเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว

แม้ว่าติ่งจะเป็นเพียงสัปเหร่อ แต่ในความเป็นจริง ติ่งเหมือนเป็นทุกอย่าง ใครเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือก็จะนึกถึงติ่งเป็นคนแรก จนได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของ เฮียเพ้ง บัวได้นิสัยความมีน้ำใจจากติ่งไปอย่างไม่ผิดเพี้ยน บัวมักจะติดสอยห้อยตามติ่งไปช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่ว่าจะจับงู จับจระเข้ ลอกท่อ ก่ออิฐ เก็บศพ ทำคลอด ฯลฯ ผิดกับ สไบ ที่ยังห่วงสวย กลัวลำบาก และรักสนุกเหมือนวัยรุ่นทั่วไป

บัว เกิดไอเดีย จึงชักชวนเพื่อนๆ อย่าง ก้อย จ๋า มาทำความดี ด้วยการขอเป็นหน่วยกู้ภัยหญิงล้วน ใส่ Uniform สีชมพูหวานแหวว ออกตะเวนช่วยเหลือคนที่กำลังประสบปัญหา ทุกคนเต็มใจที่จะทำ แต่คนที่หนักใจที่สุดกลับเป็น ติ่ง ที่แม้ว่าจะเป็นคนคอยขับรถให้ แต่หัวใจและเสื้อผ้าก็ต้องแหววตาม กรณ์ นักข่าวท้องถิ่น ประทับใจในความแปลกของคนกลุ่มนี้ จึงทำข่าว กระแสกู้ภัยหัวใจแหววจึงเริ่มดัง และ มีคนรู้จัก กรณ์ รู้สึกดีกับบัว จึงยอมที่จะแต่งชุดชมพู ขึ้นกะบะเป็น 1 ในทีมด้วย

เมื่อทำนานๆ ไป บัวเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเอง ที่เหมือนจะมีจิตสื่อสารกับคนตายได้ หลายๆ เหตุการณ์ทำให้เธอเริ่มมั่นใจว่าเธอมีจิตสัมผัสกับวิญญาณได้จริง การสืบหาสาเหตุการตายแต่ละครั้งจึงเป็นไปตามความเป็นจริง เหมือนว่าจะทำงานง่าย แต่แท้จริงแล้วไม่เลย...!! บัวยังต้องมาคอยสู้รบปรบมือ กับ สารวัตร สวัสดี นายตำรวจหน่วยสืบสวน ไม่เชื่อเรื่องผี ข้อโต้แย้งจึงเกิดขึ้นแทบจะทุกครั้ง ระหว่าง ไสยศาสตร์ กับ วิทยาศาสตร์
กลางดึกวันหนึ่ง ระหว่างที่ไปเก็บศพสาวต่างด้าว เธอได้พบกับ น้องพี เด็กผู้ชายวัย 9 ขวบ หน้าตาน่ารัก แต่แววตากลับเศร้าสร้อย นั่งอยู่คนเดียว บัวจึงเข้าไปสอบถาม ได้ความว่า พลัดหลงกับแม่มาหลายวันแล้ว ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนดี เลยขอไปกับบัวด้วย บัวบ่ายเบี่ยงเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นโจรขโมยเด็ก แต่เมื่อเห็นว่าเด็กไม่ได้โกหก จึงต้องยอมพาเด็กไปด้วย และจะรีบพาเด็กส่งคืนครอบครัวให้เร็วที่สุด บัวถึงกับช๊อคที่รู้ว่า มีแต่เธอเท่านั้นที่เห็นหรือสื่อสารพูดคุยกับน้องพีได้ เมื่อรับปากว่าจะช่วยพากลับบ้าน บัวจึงต้องสานต่อเรื่องนี้ให้สำเร็จ โดยที่ไม่สามารถบอกใครได้

“แก๊งค์บอยแบรนด์” หน่วยกู้ภัยหัวใจเกาหลี นำทีมโดย ชูชัย เพื่อนวัยเดียวกันกับ ติ่ง ชูชัยสร้างสีสันด้วยการขนเอาวัยรุ่นหน้าตาดี อย่าง น้ำมนต์ แบงค์ อิ๊ก แม้ กระทั่งด๊วด ก็จัดเต็ม ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม มาเป็นทีมอาสา สร้างความปั่นป่วนในการทำงานมาก เพราะหนุ่มๆ สาวๆ จะถกเถียงกันในเรื่องไม่เป็นเรื่องทุกครั้ง
นันทาเริ่มปักใจเชื่อว่าบัวคือลูกของเธอที่พรากจากกันไป แต่เธอยังอยากได้รับการยืนยันจากติ่ง แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะมีเหตุให้คลาดกันตลอด จนวันหนึ่ง ติ่งได้รู้แน่ชัดว่านันทา คือหญิงสาวที่ส่งบัวให้กับเขาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ...ติ่งกลับเกิดอาการหวงบัวขึ้นมา และหาวิธีหลบเลี่ยงที่จะไม่ให้เจอกับนันทา อีกทั้งยังพยายามจะย้ายบ้านหนี...
สาเหตุการตายของสาวต่างด้าวหลายต่อหลายครั้งทำให้สวัสดีเริ่มปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของ องศา อีกทั้งบัวยังช่วยเหลือในการสื่อกับวิญญาณ ทำให้มีเรื่องราวต่างๆ นำพาไปสู่ตัวคนทำผิดได้อย่างไม่ยาก
แต่เหตุการณ์กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะ กะรัต เลขาสาวของ ธำรง ที่ดูภายนอกเป็นสาวเชย นิ่งๆ แต่แท้จริงเธออยู่เบื้องหลังความวุ่นวายต่างๆ อีกทั้งยังเป็นตัวการที่คอยขัดขวางการทำงานของตำรวจ
แต่ภายหลัง กะรัต เริ่มมีสัมพันธ์ลึกๆ กับ องศา ทำให้การทำงานเริ่มผิดพลาด และมีเหตุให้มีคดีที่โยงใยไปถึง ธำรง ซึ่ง เป็นบุคคลที่ทางตำรวจติดตามสืบหาข้อมูลอยู่ เมื่อสืบสาวราวเรื่องจากการตายของลูกน้อง ทำให้มีเหตุต้องเข้าไปหาหลักฐานที่บ้านของ “นันทา” บ้านที่มีทั้งแม่ที่แท้จริง และ ร่างของน้องพีนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่....

ความรักความผูกพันระหว่าง แม่ลูก จะลงเอยอย่างไร
บัวบูชา จะใช้จิตสัมผัสของเธอช่วยเหลือแม่แท้ๆ ให้หลุดพ้นจากการอาฆาตของ ธำรงได้หรือไม่
ความรักแบบยียวนกวนอารมณ์ของ นายตำรวจนักบู๊ กับ หน่วยกู้ภัยสาว
เรื่องราวความเชื่อทางไสยศาตร์ กับ วิทยาศาสตร์ จะได้บทสรุปตรงไหน

“กู้ภัย หัวใจแหวว” มีคำตอบให้คุณ

คาแรกเตอร์ตัวละคร “กู้ภัยหัวใจแหวว”
“บัวบูชา”   รับบทโดย เบนซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์
เด็กสาววัย 22 หน้าตาสวยแบบสาวไทย มีความรับผิดชอบสูง  จิตใจดี อ่อนโยน สงสาร เป็นเด็กกำพร้าที่ติ่งเอามาเลี้ยงตั้งแต่ยังแบเบาะ  ด้วยฐานะที่หาเช้ากินค่ำของติ่ง บัวจึงเติบโตมาเป็นผู้หญิงสู้ชีวิต ติดสอยห้อยตามติ่งไปทำงาน ตั้งแต่จำความได้ หลังจากเรียนจบ บัวมุ่งมั่นที่จะเป็นหน่วยอาสากู้ภัย ทีมหญิงล้วน ที่จะใช้ความเป็นผู้หญิงให้เป็นประโยชน์ เปลี่ยนภาพลักษณ์ของหน่วยกู้ภัย ให้มีความสดใส และอ่อนโยน
“สวัสดี”   รับบทโดย ไผ่-พาทิศ พิสิฐกุล
สารวัตรหนุ่มรูปหล่อ  ไฟแรง  อายุ  28-30 ปี ทำงานด้านการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ เป็นคนตรง ไปตรงมา จริงจังกับชีวิต ไม่เชื่อเรื่องผีสาง ทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ สวัสดีมักจะถกเถียงกับ บัวบูชาบ่อยๆ ใน เรื่องของดคี และ บ่อยครั้งที่บัวบูชาจะสันนิษฐานได้ถูกต้อง แม้จะดูเป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมา แต่ลึกๆ แล้ว  สวัสดีรู้สึกชื่นชมในความดีของบัว เพียงแต่ปากแข็งไม่กล้าบอกเท่านั้นเอง
 “สไบนาง”   รับบทโดย มะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ์
อายุ 19 ปี  ลูกสาวคนเดียวของติ่ง กับ นวล  อายุห่างจากบัวเพียงไม่กี่ปี  นิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สไบเป็นคนเหลาะแหละ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ  รักสบาย  รักสวยรักงาม ตามแบบเด็กแนวสมัยใหม่ สไบไม่เคยคิดที่จะเป็น หน่วยกู้ภัย  จนกระทั่งได้เจอกับสวัสดี  เธอจึงขอตามไปลงพื้นที่ด้วย
“กรณ์”   รับบทโดย นิว-เชื้อชาติ วงศ์สวัสดิ์
อายุ  25-30 ปี นักข่าวท้องถิ่น ผู้ที่สร้างกระแส “กู้ภัยหัวใจแหวว” ให้โด่งดังทั่วบ้านทั่วเมือง  เป็นหนุ่มอารมณ์ดี ยังไงก็ได้  ถูกตาต้องใจความน่ารัก และ ถึกของ บัวบูชา จนต้องขอเป็นแฟนคลับติดตามไปถ่ายทำข่าวทุกที่ที่ บัวไป... กรณ์อาสาจะขอเป็นหนึ่งในทีมของบัว  บัวยินดี  แต่ขอให้คงคอนเซ็ปท์แหวว  ถ้ารับได้ เธอก็ยินดี กรณ์ตกปากรับคำ ยอมใส่ชุดแหววๆ สีชมพูหวาน ติดรถไปกับบัวทุกที่
“จ๋า”    รับบทโดย ปลา-ปาลิตา โกศลศักดิ์
วัย 20-25 ปี เพื่อนสนิทสมัยเรียนของบัว ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ เป็นคนกลัวผีอย่างหนัก  แต่จำต้องมาเป็นอาสากู้ภัย เพราะไปบนบานเรื่องความรักไว้  จ๋าเป็นคนขี้ระแวง  จอมโวยวาย  แต่ถึงเวลาซีเรียส เธอก็จะควบคุมสติอารมณ์ได้เป็นอย่างดี  ถึงจะกลัวผี แต่จ๋ากลับมีข้อดี ตรงที่ไม่กลัว สัตว์เลื้อยคลานใดๆ
 “ก้อย”   รับบทโดย นินิว-กัญญารัตน์ พงษ์กัมปนาท
อายุ 20-25 ปี สาวห้าว เพื่อนสนิทตัวติดกับจ๋า  ก้อยเป็นคนหนักเอาเบาสู้  ลุยเหมือนผู้ชาย  มีความคล่องตัวใน การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ขี้น้อยใจ ไม่ชอบให้ใครเสียงดังด้วย
“แบงค์”   รับบทโดย เขต-ธาราเขต เพ็ชรสุกใส
อายุ 23-25 ปี หนุ่มหล่อ  นิสัยเจ้าชู้  เป็นตัวก่อเรื่องให้ทีมเสมอ
“อิค”   รับบทโดย โบกัส-ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์
อายุ 18 ปี น้องเล็กของทีม หล่อจัด ไม่ค่อยยอมออกแรง เป็นหน่วยใช้สมองของทีม สมชื่อ อิคคิว
“ด๊วด”    รับบทโดย ไทธนา  อ่อนศรี
อายุ 23-25 ปี หน้าตาไม่ผ่าน  รูปร่างก็ไม่ได้ หน่วยใช้แรงงานของกลุ่ม  เป็นคนอารมณ์ดีเหลือเฟือ จิตใจดี แต่ ซุ่มซ่าม ป้ำๆ เป๋อๆ  ด๊วดเป็นมือขวาคอยช่วยงานชูชัย อ๊อดชอบก้อยมาก จึงถูกเพื่อนๆ หาว่าโรคจิต เพราะก้อย ห้าวอย่างกับผู้ชาย แต่ด๊วดก็ยังไม่ละความพยายาม
“น้ำมนต์”   รับบทโดย อั๋น-พีรวิชญ์  บุนนาค
วัย 20-25 ปี  หล่อล่ำ  ลูกชายคนเดียวของ ชูชัย   แอบชอบบัว มาตั้งแต่เด็กๆ แต่ด้วยความที่พ่อไม่ถูกกัน เลยแสดงออก ด้วยการกลั่นแกล้งและกวนใจบัวเสมอ แต่เมื่อถึงคราวคับขัน    น้ำมนต์จะมีส่วนช่วยเหลือบัวเสมอ  ชูชัยอิจฉาที่ทีมกู้ภัยใจแหววของบัวได้รับความสนใจ  จึงให้น้ำมนต์เกณฑ์เพื่อนๆ หน้าตาดีๆ มารวมกลุ่มเป็น ทีมกู้ภัยที่หล่อเทห์ เหมือน boy band เกาหลี
“ติ่ง”   รับบทโดย ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์
อายุ 50 ปีกว่าๆ สัปเหร่อผู้แสนดี  มีน้ำใจใครๆ ก็จะเรียกใช้บริการ   ติ่งเป็นคนใจดี ไม่คิดเล็กคิดน้อยขยัน ทำมาหา กิน  รักลูกรักเมีย  ใครขอให้ทำอะไรช่วยเหลืออะไร ติ่งก็ไม่เคยขัด แม้กระทั่ง การแต่งตัวแหววๆ  ขับรถกู้ภัย  เพื่อเอาใจลูกสาว ติ่งก็ยอม
 “นวล”   รับบทโดย ไปรมา รัชตะ
อายุ  45 - 50 ปี ภรรยาขี้บ่นของติ่ง  ปากร้ายใจดี  มีอาชีพขายอาหารตามสั่งในวัด  ชอบเล่นหวย  วันๆ จะอยู่กับเฝ้าสังเกตนู่นนี่ เพื่อเอามาตีเป็นหวย  ในบทบาทของการเป็นแม่  นวลถือว่าเป็นแม่ที่ดี  แม้บัวจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ  แต่นวลก็ให้ความรัก เลี้ยงดู เหมือนลูกของตัวเอง
 “นันทา”   รับบทโดย นุ่น-ดารัณ ฐิตะกวิน
อายุ เกือบ 50 ปี แม่แท้ๆ ของบัว  ที่มีเหตุต้องเอาลูกวัยแบเบาะมาฝากกับติ่งไว้เพื่อความปลอดภัย  แต่ก็มีเหตุต้องพรากจากกันถึง 20 ปี  นันทาเฝ้าตามหา และ กลับมาที่วัดเดิมบ่อยๆ แต่ก็ไม่เจอ เพราะติ่งพาครอบครัว ย้ายไปอยู่ที่อื่น  นันทาเป็นคนสวย แต่ไม่สดใส เหมือนมีปมในใจ นันทาแต่งงานใหม่ และมีลูกชายวัย 9 ขวบ แต่ด้วยเรื่องของยาเสพติดที่สามีใหม่พัวพัน ทำให้ผลกรรมต้องมาตกอยู่ที่ตัวเอง และ ลูก
 “ธำรง”   รับบทโดย ศักราช ฤกษ์ธำรง
อายุเกือบ 60 ปีมีบุคลิกนิ่งๆ  พูดน้อย แต่เด็ดขาด ผู้มีอิทธิพล เจ้าของโรงสีชานเมือง แต่งงานกับนันทา เบื้องหน้าเป็นคนดี แต่เบื้องหลัง พัวพันกับคดียาเสพติดและมักจะจ้างวานฆ่าปิดปากลูกน้องที่คิดจะลงจากหลังเสือ
การตายของพ่อบัวบูชา และการเป็นเจ้าชายนิทราของน้องพี แท้จริงแล้วธำรงอยู่เบื้องหลัง
 “ชูชัย”   รับบทโดย ติ๊ก-ชาญณรงค์ ขันทีท้าว
วัย 50  กว่าๆ เพื่อนเก่าวัยเดียวกันกับติ่ง ไม่กินเส้นกันมาตั้งแต่ยังหนุ่มๆ ชูชัยขับรถให้มูลนิธิ มักจะพูดจาแขวะ ติ่งเรื่อง ชุดสีชมพูทุกครั้งที่มีโอกาส และเพื่อเรียกร้องความสนใจบ้าง ชูชัยจึงจับเด็กในมูลนิธิของตนเอง มาจัดเต็มแบบเด็กแนวเกาหลี  แต่งแบบนี้เก็บศพเท่ห์ซะไม่มี...!!
 “เจ๊ฝ้าย”   รับบทโดย ดีใจ ดีดีดี
อายุ  40-45 ปี ภรรยาของชูชัย  หวงลูกชาย  ดุและขี้เหนียว  ชูชัยจึงกลัวเมียมากเป็นพิเศษ
“มะลิ”   รับบทโดย ติ๊กตั๊ก-ภัทรนิษฐ์  แก้วมณี
อายุ  20-25 ปีสาวน้อยร่างเล็ก น้องสาวของกะทิ ชอบน้ำมนต์คอยเอาอกเอาใจ แม้น้ำมนต์จะรำคาญก็ตาม
“ดีดี้”  รับบทโดย เมเปิ้ล-พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์
อายุ 25-28 ปี เป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของแม่สวัสดี  นิสัยดี น่ารัก บางครั้งทำให้ สวัสดีอึดอัด เพราะสวัสดีไม่ได้ชอบหมิวหมิว
 “กะรัต”    รับบทโดย อนิสา นูกราฮา
อายุ  30 ปี เลขา สวยเปรี้ยวของ ธำรงค์   เบื้องหน้าทำงานเลขา เบื้องหลังเป็นมือปืน ฝีมือดี เป็นศิลปะป้องกันตัวทุกชนิด  ธำรงค์มักให้กะรัตตามประกบและคอยควบคุม ไม่ให้นันทา นอกลู่นอกทาง
“องศา”   รับบทโดย อั๋น-ศราวุธ นวแสงอรุณ
อายุ  35 ปี ลูกชายไฮโซของธำรงค์กับภรรยาเก่า เกเร ชอบก่อเรื่องเสมอๆ จะรวบหัวรวบหางบัวให้ได้
 “กะทิ”   รับบทโดย ดนยา รัตนธาดา
อายุ 30 ปีแม่ค้าขนมจีนร่างตุ้ยนุ้ย อารมณ์ดี รักสวยรักงาม ไม่ค่อยแคร์เรื่องความอ้วน ของตัวเองเท่าไหร่  ปากจัดกัดเก่ง  แต่จิตใจดี
“ป้าทิพย์”   รับบทโดย นันทนา  บุญบันเทิง
อายุ  60 กว่าๆ คนสนิทของนันทา คอยดูแลร่างของน้องพี  ดูแลนันทา  จะขัดขวางความจุ้นจ้าน ของกะรัตตลอดเวลา
“จ่าแย้ม” รับบทโดย ค่อม ชวนชื่น 
พ่อของก้อย เป็นจ่าที่คอยติดตามพระเอก จ่าแก่ๆ รอเกษียน หวงลูกสาวมาก
“พี่โชค”  รับบทโดย ยิ่งยง ยอดบัวงาม
ผู้กำกับละครชื่อดัง ลูกอีสานแท้ๆ รูปลักษณ์ขัดกับฝีมือ เอ็นดูบัวเป็นพิเศษ  ปากไว ใจร้อน แต่นิสัยดีมีคุณธรรม
“เฮียเพ้ง”  รับบทโดย สุเทพ ประยูรพิทักษ์
หัวหน้าสมาคม  ใจดี  ขี้โวยวาย
“อ้อยหวาน” รับบทโดย ท๊อป ดอกกระโดน
ลูกสมุนองศา รูปร่างเล็ก แต่ใจใหญ่ ดูไม่น่าจะมีพิษสง  แต่เหี้ยมใช้ได้
“พี”    รับบทโดย น้องภู-อินทัช เสริมสุขเจริญชัย
เด็กชายวัย 9 ขวบ น้องพี  เด็กชายวัย 9 ขวบ เป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส  แต่มีเหตุให้ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา นันทา ดูแลร่างกายของพีอย่างดีที่สุด ด้วยความหวังว่าวันหนึ่งลูกชายจะฟื้นขึ้นมา วิญญาณของพีล่องลอย หลงทางอยู่ในโรงพยาบาล  โชคดีที่จิตสื่อสารกับ บัวได้  บัวจึงรับอาสาพาไปหาร่าง และได้รู้ว่าแท้จริง พีคือน้องชาย แม่เดียวกันกับเธอ
 “ไจแอ้นท์” รับบทโดย แฮมเมอร์-จำเริญ สมบูรณ์
ลูกสมุน ตัวใหญ่ ก้ามปู  แต่เสียงเล็ก และปอดแหก
“ยามฉลู” รับบทโดย แดง เถื่อนมิ่งมาก
ยามจากที่ราบสูง  ประจำบ้านของธำรง  ชอบมากินข้าวที่ร้านนวลบ่อยๆ และมักจะทะเลาะกับแม่ค้า เพราะชาวบ้านไม่ชอบ ธำรง และ องศา
 “กระโอบ” รับบทโดย เมเม่-ปมณฑ์ชนัส จรัสโชติพัฒน์
วิญญาณสาวต่างด้าว เหยื่อแก๊งค์ค้ามนุษย์ กุญแจสำคัญอีกดอกที่จะไขคดี
พร้อมด้วยนักแสดงสมทบอีกคับคั่ง ฯลฯ