รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 13
ณ วิทยาลัยพลพิทักษ์ ดาวเรืองมองพิมพ์นฤมลที่ดูไม่สบายใจและเป็นกังวลมาก รวิภาสก็นั่งมองพิมพ์นฤมลอยู่ห่างๆ ด้วยโดยที่เขายังมีทีท่าตำหนิเธออยู่
“ไม่ต้องกังวลเรื่องประนอมไปหรอกนะ นมล ประนอมก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าไม่ผ่านการทดลองงานในช่วงสามเดือนแรก นายจ้างก็มีสิทธิ์ไม่จ้างต่อ” ดาวเรืองปลอบ
“แต่ประนอมยังทำงานไม่ถึงสามเดือนไม่ใช่เหรอครับ ขอถามหน่อยเถอะประนอมทำผิดอะไรร้ายแรงงั้นเหรอ ถึงได้ถูกไล่ออกโดยไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้” รวิภาสไม่พอใจ
“เรื่องนี้เป็นความผิดของนมลเองค่ะ”
“ยอมรับว่าผิด แค่นี้ก็จบงั้นเหรอ”
“นมลรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่นอมแน่ นมลถึงได้มาตามพี่นอมไงล่ะอาจารย์คะ แล้วนี่นมลจะไปตามหาพี่นอมได้ที่ไหนคะ”
“ถ้าประนอมไม่กลับมาที่นี่ ก็คงจะกลับไปอยู่บ้านแม่ล่ะมั้ง เดี๋ยวนะ รู้สึกว่า ครูจะจดที่อยู่ประนอมไว้ อยู่นี่ไง”
ดาวเรืองหยิบสมุดโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูแล้วส่งต่อให้พิมพ์นฤมลดู
“แล้วคุณพรพรรณเห็นด้วยแล้วเหรอที่จะให้ประนอมกลับไปทำงานน่ะ
“เรื่องนี้นมลคุยกับน้าพรได้ค่ะ ตอนนี้ขอนมลตามหาพี่นอมเจอก่อนแล้วกันค่ะ”
รวิภาสมองพิมพ์นฤมลที่เอาจริง เขาเริ่มห่วงแทนณิชมนกลัวความลับของเธอจะแตก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พิมพ์นฤมลเดินมาที่รถ รวิภาสรีบเดินตามมาขวางทางไว้
“นี่เธอตั้งใจไปตามประนอมกลับมาจริงๆ เหรอ”
“ก็จริงน่ะซิคะ นี่พี่ภาสกำลังคิดอะไรอยู่”
“ก็คิดว่า เธอไม่ได้อยากให้ประนอมกลับมาหรอก ที่เธอมาตามประนอมก็เพื่อให้ตัวเองสบายใจเท่านั้น อย่างน้อยก็ได้ทำอะไรลบล้างความผิดบ้าง”
“ก็แล้วแต่จะคิดแล้วกัน พี่ภาสไม่เคยเห็นนมลดีอยู่แล้วนี่”
“แล้วแน่ใจเหรอว่า ถ้าประนอมยอมกลับไปกับเธอ แล้วเธอจะไม่หาเรื่องไล่ออกอีก”
“นมลไม่ได้หาเรื่องไล่พี่นอมออก”
“แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงต้องไล่ประนอมออก”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ เพราะพี่ภาสไงคะ ที่ทำให้พี่นอมต้องถูกไล่ออก ไม่ต้องห่วง นมลจะไม่ทำผิดซ้ำสอง นมลรู้แล้วว่า พี่ภาสไม่มีค่าเท่าเพื่อนดีๆอย่างพี่นอม !”
พิมพ์นฤมลรีบขึ้นรถแล้วขับออกไป รวิภาสยืนนิ่งอึ้งก่อนจะได้สติ เขารีบไปที่รถตัวเองทันที
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รถบุรธัชแล่นมาจอดที่หน้าตัวบ้านบุริศราวัณ บุรธัชลงจากรถ ณิชมนยังคงนั่งอยู่ในรถอย่างไม่แน่ใจบุรธัชเข้ามาเปิดประตูดึงตัวณิชมนออกจากรถ
“คุณชายคะ ฉัน..ฉันเปลี่ยนใจแล้วล่ะค่ะ ฉันทำงานที่นี่ไม่ได้”
“เปลี่ยนใจตอนนี้คงไม่ทันแล้วล่ะ”
บุรธัชดึงณิชมนออกจากรถมาจนได้
“ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ นะคะ เดี๋ยวคุณนมลได้เข้าใจฉันผิดไปใหญ่”
“เธอก็ไม่ใช่เป็นลูกจ้างบ้านสรณาลัยแล้ว เธอจะไปสนใจทำไมว่า ใครจะเข้าใจเธอยังไง”
“ฉันต้องสนใจ ฉันไม่อยากให้คุณนมลเกลียดฉันมากไปกว่านี้ เออ..ฉันหมายถึงไม่อยากให้คุณนมลหรือใครก็ตามไม่สบายใจน่ะค่ะ”
“ถ้าเธออยู่ที่นี่ไม่ได้ เธอจะไปอยู่ที่ไหน”
“ฉันจะ..จะกลับบ้าน”
“บ้านเธออยู่ที่ไหน ฉันไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเสียเวลากับฉันมามากแล้ว ฉันไปเองได้”
“ฉันไปส่งเธอเอง ฉันจะต้องส่งเธอให้ถึงบ้าน ให้แน่ใจว่า เธอมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีปัญหาอะไรจะได้ตามตัวง่ายๆหน่อย ตกลงบ้านเธออยู่ที่ไหน”
ณิชมนยืนนิ่งหาทางออก
“นี่เธอจำไม่ได้เหรอว่า บ้านอยู่ที่ไหน”
“ฉัน..ฉันไม่มีบ้าน..ฉันไม่มีบ้านที่นี่”
“สรุปก็คือ เธอไม่มีที่ไป แล้วเธอยังจะมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ ประนอม”
ณิชมนนิ่งอึ้งอย่างจำยอม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชเปิดประตูห้องเดินเข้ามาในห้องนอน ณิชมนกอดกระเป่าเป้เดินตามมายังไม่วางใจบุรธัช
“นี่ห้องของเธอ”
“คุณจะให้ฉันเริ่มงานวันนี้เลยหรือเปล่า แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง”
“วันนี้เธอพักผ่อนไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
“คุณอย่าลืมนะคะว่า ฉันจะทำงานให้คุณแค่สองอาทิตย์เท่านั้น”
“ไม่แน่นะ อยู่ไปซักพัก เธออาจจะเปลี่ยนใจอยากทำงานที่นี่ต่อก็ได้”
“ไม่มีทาง”
“เธอกลัวที่จะอยู่ใกล้ๆ ฉันงั้นเหรอ กลัวทำไม”
บุรธัชขยับเข้าไปใกล้ ณิชมนถอยห่างออกมา
“ฉันไม่ได้กลัวซักหน่อย”
“เธอกลัวว่า ถ้าอยู่กับฉันไปนานๆ แล้วฉันจะจับผิดเธอได้หรือไง”
“ฉันไม่เคยทำผิดอะไร จะต้องกลัวทำไม”
“แน่ใจนะว่า ไม่เคยทำผิดอะไร เธอไม่เคยโกหก ไม่เคยใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงใครเลย”
“ฉันไม่.ไม่เคยโกหก..” ณิชมนพูดไม่เต็มปาก
อาจเดินเข้ามาขัดจังหวะพอดี
“ถ้าไม่จำเป็น..” ณิชมนพึมพำ
“คุณชายธัชครับ ใกล้เวลาที่นัดกับคุณบัญชาแล้วนะครับ ถ้าไม่ออกไปตอนนี้ เดี๋ยวจะไม่ทัน”
บุรธัชเดินออกไปพร้อมกับอาจ ณิชมนค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชกับอาจเดินมาด้วยกัน
“คุณชายแน่ใจแล้วหรือครับที่ให้คุณประนอมมาทำงานที่นี่”
“ลุงอาจมีปัญหาอะไรเหรอ”
“ผมแค่กลัวว่า ทางบ้านสรณาลัยจะเข้าใจผิดได้”
“ใครจะเข้าใจยังไงก็ช่าง ฉันไม่สนใจ”
“ผมถามจริงๆ เถอะครับ คุณชายมีแผนการอะไรอยู่หรือเปล่า”
“คิดมากเกินไปแล้ว ลุงอาจ ฉันเห็นประนอมกำลังลำบาก ฉันก็เลยช่วยมันก็แค่นั้น”
“คุณชายอย่าลืมบอกคุณณิชาเรื่องคุณประนอมแล้วกันนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันได้”
“ฉันรับประนอมมาทำงานเป็นแม่บ้านที่นี่ จะทำให้ณิชาเข้าใจผิดยังไง ประนอมก็เป็นแค่ลูกจ้างอีกคน ไม่ได้มีอะไรพิเศษ..แล้วฉันกับณิชาก็เป็นแค่เพื่อนกัน..” บุรธัชร้อนตัว
“ผมแค่ห่วงว่า คุณณิชาจะเข้าใจผิดคิดว่า คุณชายตั้งใจรับคุณประนอมมาทำงานที่นี่เพื่อหาเรื่องกับทางบ้านสรณาลัยเท่านั้น คุณชายคิดไปถึงไหนครับเนี่ย”
อาจเดินหน้าตายออกไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พิมพ์นฤมลเดินมาตามทางในซอยพลางมองกระดาษจดที่อยู่ในมือ รวิภาสเดินตามมาจนทันดึงกระดาษจดที่อยู่ไปจากมือเธอ
“ฉันไปตามประนอมให้เอง เธอกลับบ้านไปก่อน ไป”
“นมลดึงกระดาษจดที่อยู่กลับมา”
“พี่ภาสนั่นแหละกลับบ้านไป”
พิมพ์นฤมลเดินตามหาบ้านประนอมต่อไป รวิภาสเดินตามพยายามขัดขวาง
“ถึงเธอจะตามหาประนอมเจอ ประนอมก็คงไม่กลับไปกับเธอหรอกให้ฉันพูดกับประนอมเองดีกว่า”
“พี่นอมเป็นคนมีเหตุผล พี่นอมจะต้องยอมฟังนมลแน่”
“ตอนนี้ประนอมคงจะเสียความรู้สึกกับเธอไปแล้ว คงจะไม่อยากเห็นหน้าเธออีก เธอให้เวลาประนอมทำใจอีกซักพักเถอะ”
“นี่พี่ภาสเป็นอะไร ทำไมถึงไม่อยากให้นมลเจอพี่นอม”
“ฉันคิดว่าตอนนี้ประนอมยังไม่พร้อมที่จะเจอเธอ..”
“นี่ไง เจอแล้ว บ้านพี่นอม”
พิมพ์นฤมลชะเง้อมองเข้าไปในบ้านเช่าเล็กๆ
“มีใครอยู่มั้ยคะ”
รวิภาสยืนลุ้นรอดูประนอมตัวจริงออกมา หญิงข้างบ้านโผล่หน้าออกมา
“มาหาใคร”
“หนูมาหาพี่นอมค่ะ พี่นอมอยู่มั้ยคะ”
“หานังหนอมเหรอ นังหนอมๆๆ มีคนมาหา”
หญิงวัยสามสิบคนหนึ่งเดินออกมา รวิภาสยืนอึ้งนึกว่าประนอมตัวจริง พิมพ์นฤมลยืนมองอย่างงุนงง
“มาหาใคร มีธุระอะไร”
“หนูมาหาพี่นอม..”
“ก็นี่แหละนังหนอม”
“หนูมาหาพี่นอมค่ะ พี่ประนอมน่ะค่ะ”
“อ้าว มาหานังประนอมหรอกเหรอ งั้นก็มาผิดบ้านแล้ว นี่บ้านนังถนอมบ้านนังประนอมอยู่ถัดไปโน้น”
“ขอบคุณนะคะ”
“แต่นังประนอมย้ายออกไปแล้วนะ”
“พี่ประนอมย้ายไปอยู่ไหน รู้มั้ยคะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เคยบอกว่าจะย้ายไปทำงานโรงงานที่...”
“ขอบคุณนะครับ เรากลับกันได้แล้ว ไป” รวิภาสรีบตัดบทแล้วลากพิมพ์นฤมลออกมาทันที
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รวิภาสลากตัวพิมพ์นฤมลกลับมาที่รถ เธอสะบัดแขนหลุดจากรวิภาส
“พี่ภาสลากนมลออกมาทำไม นมลกำลังจะได้เรื่องอยู่แล้วเชียว นี่เลยไม่รู้เลยว่า พี่นอมย้ายไปอยู่ไหน”
“ก็นี่มันจะมืดแล้ว เราไม่ควรอยู่แถวนี้นาน”
พิมพ์นฤมลจะเดินกลับไปใหม่ แต่รวิภาสดึงตัวเธอไว้
“เธอจะไปไหน”
“นมลจะกลับไปถามให้รู้เรื่อง นมลต้องรู้ให้ได้ว่า พี่นอมย้ายไปอยู่ไหน”
“ป้าคนนั้นก็บอกแล้วว่า ประนอมไปทำงานที่โรงงานแล้ว คงไม่กลับไปทำงานที่บ้านเธออีกหรอก”
“พี่นอมเพิ่งออกจากบ้านนมลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงเอง จะหางานใหม่ได้เร็วอะไรขนาดนั้น ป้าคนนั้นต้องเข้าใจอะไรผิดแน่”
“นั่นซิ ท่าทางป้าแกจะต๊องๆอยู่นะ ไปถามก็คงไม่รู้อะไรมากขึ้นหรอกน่าไป วันนี้กลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยตามหาประนอมใหม่”
“แล้วนี่นมลจะไปตามหาพี่นอมได้ที่ไหนอีกล่ะ”
“เธอพร้อมที่จะให้ประนอมกลับไปทำงานให้เธอแล้วเหรอ นมล”
“ทำไมนมลจะไม่พร้อม”
“เธอบอกว่า ฉันทำให้ประนอมถูกไล่ออกใช่มั้ย เพราะเธอหึงฉันกับประนอมล่ะซิ”
“นมลไม่ได้หึงนะ”
“เธอควรตัดใจจากฉันให้ได้จริงๆ ก่อน แล้วค่อยไปตามประนอมกลับมาไม่งั้นเดี๋ยวก็ได้เป็นปัญหาอีก อ๊ะ อย่าบอกว่า ตัดใจได้แล้ว ใครหลงรักฉันแล้ว ไม่มีใครตัดใจได้ง่ายๆหรอก”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”
พิมพ์นฤมลเดินออกไปอย่างโมโห รวิภาสโล่งใจที่เบี่ยงเบนความสนใจของพิมพ์นฤมลได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พันธ์นฤสรณ์กำลังวาดรูปเล่นอยู่ในบ้านสรณาลัย พรรณอรเดินเข้ามานั่งด้วย
“ไหนวาดอะไรอยู่ ขอแม่วาดด้วยคนได้มั้ย”
พันธ์นฤสรณ์ส่งดินสอกับกระดาษให้พรรณอรอย่างเงียบๆ พรรณอรมองรูปที่ลูกชายวาดเป็นรูปผู้หญิงใส่ผ้ากันเปื้อน
“นี่วาดรูปแม่อยู่เหรอ พันสร”
“รูปพี่นอม”
“วันก่อนลูกจะให้แม่ดูอะไรนะ ผลสอบวิชาอะไรนะ ที่ลูกทำได้เกือบเต็มน่ะ วิชาเลขใช่หรือเปล่า”
“จำไม่ได้แล้ว”
“พันสร..ลูกโกรธแม่เหรอ”
“ไม่ได้โกรธ”
“ลูกจะโกรธก็โกรธเถอะนะ แม่ไม่ว่าหรอก เพราะแม่ก็สมควรจะให้ลูกโกรธจริงๆ แม่มัวแต่ยุ่งกับงานตัวเองจนลืมคิดถึงลูกไป ต่อไปนี้แม่จะให้เวลาลูกมากขึ้น เอาอย่างนี้มั้ย แม่จะช่วยครูชัยสอนหนังสือลูกอีกคน”
“จริงหรือครับ” พันธ์นฤสรณ์ดีใจ
“แล้วปิดเทอมเมื่อไหร่ เราจะไปเที่ยวด้วยกัน ไปกันหมดบ้านเลย ลูกอยากไปเที่ยวไหน บอกแม่มาได้เลย แต่มีข้อแม้ว่า ต่อไปห้ามลูกหนีออกไปจากบ้านอีก ถ้ามีอะไร ต้องมาคุยกับแม่ จะทำได้มั้ย พันสร”
“ได้ครับ”
“สัญญานะ”
พรรณอรยื่นนิ้วก้อยให้
“ลูกผู้ชายต้องรักษาสัญญาอยู่แล้วครับ”
พันธ์นฤสรณ์เกี่ยวก้อยกับพรรณอร พรรณอรดึงลูกชายมากอดไว้แน่น
“อย่าหนีแม่ไปไหนอีกนะ ลูก..แม่รักลูกนะ พันสร”
พรรณอรกอดพันธ์นฤสรณ์แล้วหอมแก้มฟอดใหญ่
“ผมโตแล้วนะ คุณแม่” พันธ์นฤสรณ์โวยวาย
“ทำไม โตแล้วหอมไม่ได้เหรอ นี่แน่ะๆ”
พรรณอรแกล้งหอมแก้มพันธ์นฤสรณ์อีกหลายฟอด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พิมพ์นฤมลเดินเข้ามาในห้องของณิชมน นั่งที่เตียงมองไปรอบๆห้องคิดถึงณิชมน เธอนึกถึงคำพูดของณิชมนขึ้นมา
“นอมคงเป็นคนที่ไม่มีใครเอาใจใส่เหมือนกัน ก็เลยเข้าใจคุณพันสร เพียงแต่นอมไม่รู้จะไปเรียกร้องความสนใจกับใคร นอมไม่เหลือใครในชีวิตแล้วนี่คะ..”
พิมพ์นฤมลยิ่งรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณ บ้านบุริศราวัณ ณิชมนย่องมายืนแอบชะเง้อรอรวิภาสอยู่ รวิภาสเดินเข้ามา เธอโผล่เข้ามาหารวิภาสทันที
“คุณภาส !”
“อ้าว ! คุณ มาอยู่ที่นี่ได้ไง ผมตามหาตัวคุณแทบแย่ นึกว่าคุณจะหนีกลับซิดนีย์ไปซะแล้ว”
“พี่ชายคุณน่ะซิบังคับฉันมาทำงานใช้หนี้บุญคุณ”
“พี่ธัชบังคับคุณมาหรือว่าคุณเต็มใจมาเอง”
“ฉันถูกบังคับมาจริงๆ ฉันอยู่ที่นี่นานไม่ได้ ขืนอยู่ที่นี่ไปนานๆ พี่ชายคุณต้องจับได้แน่ว่า ฉันไม่ใช่ประนอม”
“ไม่ต้องกลัวไปหรอก ไม่มีทางที่พี่ธัชจะจับผิดคุณได้ นอกจากซะว่าคุณจะใจอ่อนบอกความจริงพี่ธัชซะเอง ที่ว่าไม่อยากอยู่ที่นี่นานๆ ก็เพราะกลัวใจตัวเอง..กลัวจะหลงรักพี่ธัชใช่มั้ยล่ะ”
“นี่คุณภาส ! เลิกพูดเล่นได้แล้ว นี่ฉันกลัวว่าพี่ชายคุณจะสงสัยว่า ในเมื่อฉันมีแม่อยู่ ทำไมฉันไม่กลับไปหาแม่”
“วันนี้ผมเพิ่งไปบ้านประนอมมา นี่เป็นข่าวดีสำหรับคุณเลยล่ะ ประนอมตัวจริงกับแม่ย้ายบ้านไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้..เราไปคุยกันที่อื่นดีกว่า”
รวิภาสคว้ามือณิชมนจะพาเดินออกไป บุรธัชกลับมาจากข้างนอกเดินเข้ามาชะงักมองรวิภาสที่จับมือณิชมนอยู่ ณิชมนรีบดึงมือจากรวิภาส
“ทำอะไรกันอยู่ รู้มั้ยว่า นี่มันดึกมากแล้ว !” บุรธัชดุ
“ผมกำลังสัมภาษณ์แม่บ้านคนใหม่น่ะครับ คราวนี้พี่ธัชหาแม่บ้านได้ถูกใจผมจริงๆ ขอบคุณนะครับ พี่ธัช”
“แกจะไปไหนก็ไป ขอฉันคุยกับประนอมหน่อย”
“เออ..ฉันง่วงแล้วล่ะค่ะ ฉันขอตัวไปนอนก่อน มีอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้นะคะ”
“เดี๋ยว ! อย่าเพิ่งไป !”
ณิชมนไม่ฟังรีบชิ่งหนีออกไปทันที
“กู๊ดไนท์นะ ประนอม ฝันดีนะครับ อย่าลืมฝันถึงผมล่ะ !”รวิภาสพูดเย้า
บุรธัชมองรวิภาสตาขวาง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนรีบเข้ามาในห้องนอนของเธอแล้วล็อคประตู เธอกระโจนขึ้นไปนอนบนเตียงรีบห่มผ้าห่มทันที เสียงฝีเท้าดังอยู่ที่หน้าประตูห้อง เธอโผล่หน้าจากผ้าห่มลูกบิดประตูขยับไปตามแรงเหมือนมีคนพยายามเปิดประตูเข้ามา
ณิชมนมองไปที่ประตูอย่างหวั่นใจ บุรธัชเปิดประตูเข้ามาตรงดิ่งมาที่เตียง
“คุณชายธัช !”
“เมื่อกี้เธอกับนายภาสทำอะไรกัน”
“เราก็แค่คุยกัน”
“แต่ที่ฉันเห็น มันไม่ใช่แค่คุยกัน นี่เธอเข้ามาทำงานที่บ้านนี้ก็เพื่อจะจับนายภาสใช่มั้ย”
“คุณดูถูกฉันอีกแล้วนะ คุณชายธัช อย่างนี้ฉันคงทำงานที่นี่ไม่ได้แล้วฉันจะไปจากที่นี่”
ณิชมนลุกหนีออกไปหยิบกระเป๋าเป้ บุรธัชจับตัวณิชมนเหวี่ยงไปที่เตียง
“เธอไปไหนไม่ได้”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน”
“ฉันเป็นเจ้านายเธอ ฉันสั่งให้เธออยู่ที่นี่ เธอก็ต้องอยู่ เธอจะไปไหนไม่ได้จนกว่า..”
“จนกว่าอะไร”
“จนกว่าฉันจะได้เป็นเจ้าของตัวเธอน่ะซิ !”
“อย่านะ !”
ณิชมนถอยไปจนหลังชนพนักเตียง บุรธัชเข้าไปใกล้ณิชมนทุกทีๆ
“อย่านะ ! อย่า !”
“ณิชมนหลับตาปี๋”
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนลืมตาขึ้น สะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงเคาะประตู เธอลูบหน้าตัวเองเพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อกี้คิดกลัวไปเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก ณิชมนมองซ้ายมองขวารีบไปหยิบสเปรย์พริกไทยจากกระเป๋า
ณิชมนค่อยๆ เปิดประตูออก บุรธัชยืนอยู่หน้าห้องเตรียมตัวป้องกันตัวเต็มที่
“มีอะไรเหรอคะ”
“พรุ่งนี้เธอต้องไปไร่กับฉัน เตรียมตัวให้พร้อม เราจะออกจากบ้านตอนแปดโมงเช้า”
บุรธัชเดินออก
“แค่นี้เหรอคะ”
บุรธัชหันกลับมามอง
“แล้วเธอคิดว่า ฉันจะมีธุระอะไรกับเธออีก”
“เปล่าๆ ค่ะ ไม่มีอะไร”
บุรธัชเดินออกไป ณิชมนรีบปิดประตูทันที
“คิดอะไรบ้าๆ ไปได้ !”
ณิชมนตบหน้าตัวเองเบาๆเรียกสติกลับคืนมา
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ในครัวบ้านสรณาลัย ชัยวัฒน์กับดำเกิงจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ไม่สนใจความวุ่นวายในครัว รำไพวุ่นทำอาหารอยู่หน้าเตาทอดไข่ดาวเบคอนตักใส่จาน
กันยาจัดเตรียมน้ำดื่มชุดกาแฟอยู่ สายใจเดินเข้ามายกจานอาหารวางลงบนถาด
“ข้าวต้มกุ้งล่ะ ป้ารำไพ”
“ข้าวต้มอะไร”
“คุณพรพรรณสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่า วันนี้จะกินข้าวต้มกุ้ง แล้วอาหารเช้าของคุณผู้หญิงล่ะ วันนี้วันพระนะ ป้า คุณผู้หญิงกินมังไม่กินเนื้อสัตว์”
“โว้ย แล้วทำไมไม่มีใครเตือนกันบ้างเลย นังกันยา แกอยากเป็นคุณแม่บ้านนักไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ทำหน้าที่ล่ะวะ”
“ก็ฉันยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งนี่ ป้า ตอนนี้งานใครงานมัน รับผิดชอบกันเอาเอง”
“อ้าว แก๊สหมดอีก จะต้มข้าวต้มยังไงล่ะเนี่ย”
“เย็นนี้คุณพรพรรณเชิญแขกมากินข้าวเย็นไม่ใช่เหรอ แล้วทำไงล่ะ ใครจะคิดเมนูอาหาร แล้วมีใครไปรับดอกไม้หรือยัง”
“รีบไปสั่งแก๊สมาก่อน ไป เดี๋ยวตั้งโต๊ะไม่ทัน โดนด่าเปิงแน่”
“พี่ดำเกิงโทรสั่งแก๊สให้หน่อย”
“ไม่ใช่หน้าที่ฉัน งานใครงานมัน รับผิดชอบกันเอาเอง”
“งั้นไม่รู้แล้วโว้ย ฉันทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ใครจะกินมังกินข้าวต้ม ฉันไม่รับรู้แล้ว ไปรับหน้าเจ้านายกันเอาเอง”
รำไพเดินหนีออกไป
“หนีกันดื้อๆอย่างนี้เลยเหรอ ป้า”
“แกไปรับหน้าคุณพรพรรณก่อน ไป”
“เรื่องอะไร ครูชัย..ทำยังไงดีล่ะทีนี้”
“มาถามอะไรฉัน ไม่ใช่เรื่องของฉันซักหน่อย
ชัยวัฒน์รีบหนีออกไปอีกคน
“รู้แล้วใช่มั้ยว่า ขาดคุณแม่บ้านไปคน แล้วเป็นไง คราวนี้ล่ะบ้านนี้ได้เละเทะยิ่งกว่าเก่า ดูซิว่า ใครจะถูกไล่ออกเป็นรายต่อไป”
ดำเกิงเดินออกไป กันยากับสายใจมองหน้ากันอย่างหวั่นๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พรพรรณมองโต๊ะอาหารเช้าอย่างไม่พอใจ กันยากับสายใจก้มหน้างุดๆ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่เป็นไปตามที่ฉันสั่ง”
พรรณอรนั่งกินขนมปังปิ้งไปอย่างใจเย็น
“อย่าซีเรียสนักเลยน่า ยัยพร แค่เรื่องอาหารเช้าแค่นี้เอง”
“แค่เรื่องอาหารเช้ายังทำผิดพลาดได้ แล้วที่เชิญแขกมาทานข้าวเย็นนี้พรจะไว้ใจให้พวกนี้จัดการได้หรือเปล่า ว่าไง เตรียมการไปถึงไหนแล้วเมนูอาหารมีอะไรบ้าง”
“เออ..คือว่า..คือ” กันยาอ้ำอึ้ง
“ยังไม่ได้ทำอะไรเลยใช่มั้ย”
“ก็..ก็ตอนแรกพี่นอมเป็นคนรับผิดชอบงานวันนี้นี่คะ คุณพรพรรณ ทีนี้พี่นอมออกไปกะทันหัน พวกเราก็เลยทำอะไรต่อไม่ถูก”
“เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่นอมคนเดียวนะคะ พี่นอมไปโดยไม่ได้สั่งงานอะไรไว้เลย ตอนนี้งานทุกอย่างมาสุมอยู่ที่เราหมด”
“พี่นอมตั้งใจวางยาพวกเราแน่ๆ เลยค่ะ แสบได้จนนาทีสุดท้ายจริงๆ”
"ใครบอกว่าประนอมไม่ได้สั่งงานไว้” พรรณอรกล่าว
พรรณอรหยิบสมุดเล่มโตให้ดู
“ประนอมฝากนี่มาให้ ประนอมจดรายละเอียดทุกอย่างไว้ในนี้หมดแล้วทั้งเรื่องอาหารเย็นเลี้ยงแขกวันนี้ แล้วยังแจกแจงงานทุกอย่างที่พวกเธอต้องสานต่อ ไม่มีอะไรขาดตกหล่นเลยแม้แต่เรื่องเดียว”
“แล้วทำไมพี่อรไม่ให้สมุดเล่มนี้ตั้งแต่เมื่อวานล่ะคะ”
“พี่ลืม ! ที่จริงกันยากับสายใจก็ทำงานเก่งอยู่แล้ว ไม่น่าจะต้องพึ่งสมุดของประนอมหรอกมั้ง”
พรรณอรทำท่าจะเอาสมุดเก็บ กันยากับสายใจรีบตะครุบสมุดไว้
“อย่าค่ะ คุณผู้หญิง” กันยากับสายใจบอก
“ขอเก็บก่อนไว้นะคะ เผื่อจะมีประโยชน์อะไรบ้าง”
พันธ์นฤสรร์วิ่งเข้ามา
“คุณแม่ครับ น้าพรครับ มีแขกมาหา”
พรรณอรกับพรพรรณมองหน้ากันสงสัยว่าใครมา
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พงษ์เทพมาที่บ้านสรณาลัย ดูจริงจังมุ่งมั่นหาคำตอบ
“ผมอยากทราบว่า คุณประนอมย้ายไปทำงานที่ไหนครับ”
พรรณอรกับพรพรรณมองหน้ากันไม่คิดว่าพงษ์เทพจะมาเรื่องประนอม
“นี่คุณพงษ์เทพมาหาน้าแต่เช้าตรู่นี่ แค่มาถามเรื่องประนอมเหรอคะ”
“ประนอมน่าจะกลับไปทำงานกับอาจารย์ดาวเรืองนะคะ”
“ผมไปหาอาจารย์ดาวเรืองมาแล้วครับ คุณประนอมไม่ได้อยู่ที่นั่นเป็นไปได้มั้ยครับว่า คุณประนอมจะไปทำงานที่บ้านบุริศราวัณ”
“เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ คุณชายธัชไม่รับใครทำงานง่ายๆ แล้วนี่คุณพงษ์เทพถามถึงประนอมทำไมคะ”
“ผมอยากให้ประนอมไปทำงานกับผมที่รีสอร์ตน่ะครับ”
“คุณพงษ์เทพคงยังไม่รู้ว่า ประนอมถูกไล่ออกนะคะ แม่คนนี้มีปัญหาตั้งแต่ที่ทำงานเก่าแล้ว..”
“เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาครับ ยังไงผมก็อยากให้คุณประนอมมาทำงานด้วยแล้วนี่ผมจะไปติดต่อเค้าได้ที่ไหนครับ”
“ตอนนี้นมลกำลังตามหาประนอมอยู่เหมือนกัน ลองโทรคุยกับนมลดูนะคะ เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม” พรรณอรบอก
“ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
พงษ์เทพยกมือไหว้ลาแล้วรีบออกไปทันที
“ประนอมยังโชคดีนะที่ยังมีคนเห็นคุณค่าอยู่ แต่เราซิโชคร้ายที่ปล่อยให้คนทำงานดีๆหลุดมือไป”
พรรณอรเดินออกไป พรพรรณหงุดหงิดใจเล็กๆ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งของบ้านบุริศราวัณ บุรธัชนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รออยู่ ณิชมนเดินเข้ามา บุรธัชพับหนังสือพิมพ์วางบนโต๊ะ
“พร้อมแล้วใช่มั้ย งั้นก็ไปกันเลย”
“ทำไมฉันต้องไปไร่กับคุณด้วยล่ะคะ ฉันเป็นแม่บ้านก็ควรจะทำงานที่บ้านไม่ใช่เหรอคะ”
“เธอไม่ใช่แม่บ้านธรรมดา เก่งรอบด้าน งานอะไรก็ทำได้ ถ้าฉันให้เธอเป็นแม่บ้านอย่างเดียว ก็เสียดายความสามารถแย่ซิ”
“นี่คุณกะจะใช้งานฉันให้คุ้มเลยใช่มั้ยเนี่ย”
“จะว่างั้นก็ได้ ฉันจะให้เธอเป็นผู้ช่วยฉันด้วย ฉันไปไหน เธอก็จะต้องไปกับฉันด้วย จะได้รู้ว่างานฉันมีอะไรบ้าง จะได้ช่วยงานฉันถูกไงล่ะ”
“คุณไม่ไว้ใจฉันล่ะซิ ถึงต้องให้ฉันอยู่ในสายตาคุณตลอดเวลา”
“ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจ แค่ป้องกันไว้ก่อน ไปได้ ไป”
รวิภาสเข้ามาแทรกกลาง
“ขอโทษนะครับ วันนี้ผมจองตัวประนอมไว้แล้ว”
“นายภาส !”
อาจถือกระเป๋าเอกสารจะเอามาให้บุรธัชถึงกับชะงักมอง
“วันนี้ประนอมต้องไปกับผมครับ พี่ธัช ไม่ต้องห่วงครับ ลุงอาจว่างอยู่ ถ้ามีงานอะไรก็ให้ลุงอาจทำแทนไปก่อนก็แล้วกัน ไป ประนอม”
รวิภาสดึงณิชมนไปทันที บุรธัชรีบตามไป
“คุณภาสนี่หาเรื่องจริงๆ”
อาจเหนื่อยใจกับสองพี่น้อง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รวิภาสดึงตัวณิชมนมาจากในบ้านบุริศราวัณ
“นี่คุณจะพาฉันไปไหน คุณภาส"
“ก็ไปให้ไกลๆจากพี่ธัชไงล่ะ คุณกลัวพี่ธัชจะจับผิดคุณได้ไม่ใช่เหรอ”
“ฉันจะหลบหน้าพี่ชายคุณไปได้กี่วันล่ะเนี่ย”
“ที่จริงตอนนี้คุณก็ออกจากบ้านสรณาลัยแล้ว คุณบอกความจริงกับพี่ธัชไปก็ได้นี่ เรื่องที่คุณหลวมตัวไปเป็นประนอมน่ะ นอกจากว่าคุณยังมีความลับอื่นที่ปิดบังอยู่”
ณิชมนอึกอักตอบไม่ถูก บุรธัชตามมาถึง
“นายภาส แกจะพาประนอมไหน”
“ผมว่าจะไปช่วยสร้างฝายหน่อยน่ะครับ ก็เลยจะพาประนอมไปด้วย ประนอมจะได้ไปทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จๆไป”
“ประนอมไม่จำเป็นต้องไปทำงานให้บ้านสรณาลัยแล้ว ตอนนี้ประนอมเป็นคนของฉัน จะต้องทำงานตามที่ฉันสั่งเท่านั้น”
ณิชาภัทรเดินมาหยุดฟังอยู่ด้านหลังบุรธัช
“คุณนอมเป็นคนของธัชตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ทำไมณิชาถึงไม่รู้เรื่องเลย” ณิชาภัทรถาม
“เรื่องนี้คงต้องเคลียร์กันยาว เราขอตัวไปก่อนล่ะครับ”
รวิภาสพูดแล้วฉวยโอกาสดึงณิชมนเดินออกไปทันที บุรธัชหันมามองณิชาภัทรอย่างอึดอัดใจ
อ่านต่อหน้าที่ 2
รักปาฏิหาริย์ ตอนที่ 13(ต่อ)
บุรธัชเดินกลับเข้ามาในบ้านณิชาภัทรเดินตามเข้ามา
“ที่เมื่อวานธัชรีบร้อนออกจากบ้านณิชาก็เพื่อไปรับคุณนอมหรอกเหรอคะ”
“ผมไม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอะไรเลย”
“ธัชตอบไม่ตรงคำถามนะคะ”
“คุณจะซักผมให้ได้อะไรขึ้นมา สรุปก็คือตอนนี้ประนอมมาทำงานกับผมแต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น เค้าหางานใหม่ได้เมื่อไหร่ เค้าก็จะไป”
“แปลกจริงๆเลยนะคะ ก่อนหน้านี้ธัชไม่เคยไว้ใจคุณนอมเลย แต่ตอนนี้ธัชกลับกล้าให้เค้าเข้ามาทำงานที่บ้านนี้ได้”
“ผมกับประนอมเคยมีข้อตกลงกันเอาไว้ ผมก็เลยต้องรับประนอมเข้ามาทำงานที่นี่”
“งั้นเหรอคะ แล้วยังมีเรื่องอะไรที่ณิชาไม่รู้อีกมั้ยคะ บอกกันตรงนี้เลย อย่าให้มีเรื่องเซอร์ไพรส์กันทีหลัง มีมั้ยคะ ธัช”
“ไม่มี..ผมจะมีเรื่องอะไรได้อีก”
“ไม่รู้ซิคะ ณิชาแค่สังหรณ์ใจว่า การที่คุณนอมมาทำงานที่นี่ เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น แต่เป็นการเริ่มต้นของอะไร คนที่รู้ก็คงจะมีแต่ธัชคนเดียว”
บุรธัชนิ่งอึ้งไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ที่จุดสร้างฝายในป่า พิมพ์นฤมลกับมีนขนไม้เดินเข้ามาด้วยกัน
“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมฉันถึงพูดออกไปอย่างนั้น ฉันไม่น่าเลยนะ ถ้าฉันไม่โยนความผิดไปให้พี่นอม พี่นอมก็คงไม่ถูกไล่ออก”
“แกโทษตัวเองไป ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร คนเรามันก็ทำผิดพลาดกันได้ไม่มีใครหรอกที่จะเป็นนางเอกได้ตลอดเวลา ฉันว่าแกทำอย่างนี้ดีซะอีกพี่นอมจะได้รู้ว่า ใครเป็นใคร จะได้ไม่กล้ามายุ่งกับพี่ภาสอีก”มีนปลอบใจ
“แต่ตอนนี้พี่ภาสเกลียดฉันยิ่งขึ้นไปอีก”
“ฉันว่าพี่ภาสไม่ได้เกลียดแกหรอก ไม่งั้นคงไม่มาตอแยหาเรื่องแกบ่อยๆ อย่างนี้หรอก รอไปอีกซักพัก ให้เรื่องพี่นอมเงียบไปก่อน แล้วแกค่อยไปตีสนิทกับพี่ภาสใหม่”
ณิชมนกับรวิภาสเดินเข้ามา
“ไง ทำงานไปถึงไหนแล้ว”
พิมพ์นฤมลมองณิชมนที่มากับรวิภาสอย่างอึ้งๆ
“มาด้วยกันได้ยังไงคะ” พิมพ์นฤมลสงสัย
“คนอยู่บ้านเดียวกัน ก็ต้องมาด้วยกันซิ ไม่เห็นแปลกเลย” รวิภาสตอบ
“หมายความว่าไงคะ พี่นอมไปอยู่บ้านพี่ภาสเหรอคะ เป็นไปได้ไง”
พิมพ์นฤมลเดินหนีไปทันที
“คุณนมล !”
ณิชมนรีบเดินตามไป รวิภาสทำไม่สนใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พิมพ์นฤมลเดินหนีมาสงบสติอารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิง ณิชมนเดินตามมาจนทัน
“คุณนมลคะ นอมไปอยู่บ้านคุณภาสในฐานะลูกจ้างเท่านั้นนะคะแล้วที่จริงคุณชายธัชเป็นคนรับนอมเข้าทำงาน ไม่ใช่คุณภาส..”
“ไม่ต้องอธิบายหรอกค่ะ นมลดีใจด้วยนะคะที่พี่นอมหางานใหม่ได้แล้ว นมลก็โง่จริงๆที่หลงเป็นห่วงว่าพี่นอมจะไปลำบาก ลืมนึกไปว่าพี่นอมมีพี่ภาสอยู่ทั้งคน !”
“นอมทำงานที่บ้านบุริศราวัณแค่ชั่วคราวเท่านั้นนะคะ”
“ค่ะ นมลก็คิดว่าอย่างนั้น อีกไม่นานพี่นอมคงจะได้เลื่อนฐานะจากลูกจ้างมาเป็นเจ้าของบ้าน”
“นอมขอยืนยันอีกครั้งนะคะ นอมกับคุณภาสเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น”
“แต่พี่ภาสไม่ได้บอกนมลอย่างนั้นนี่คะ พี่นอมจะโกหกให้ได้อะไรขึ้นมาพี่นอมก็ไม่ได้เป็นแม่บ้านบ้านสรณาลัยแล้วอยากทำอะไรก็ทำไปเลยค่ะไม่ต้องสนใจนมลหรอกค่ะ นมลไม่ได้เป็นอะไรกับพี่นอมแล้ว ไม่ได้เป็นนายจ้าง ไม่ได้เป็นเพื่อน ตอนนี้เราเป็นแค่คนเคยรู้จักกันเท่านั้น !”
พิมพ์นฤมลเดินหนีไป ณิชมนนิ่งคิดแล้วรู้สึกเสียใจมากขึ้น
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พนักงาน 3-4 คนกำลังทำความสะอาดอยู่ในรีสอร์ตเทพสุธา พรพรรณกับนวลแขเดินเข้ามาที่ล็อบบี้มองกวาดดูรอบๆอย่างพอใจ
“ตอนนี้เรียกได้ว่า รีสอร์ตของเราเสร็จสมบูรณ์แล้วนะคะ ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีให้คุณณิชาคนเดียวเลยนะคะ”
“แล้วเราจะพร้อมเปิดให้บริการเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็คงต้องแล้วแต่คุณณิชาล่ะค่ะ”
ณิชาภัทรเดินตามมา เธอคิดใจลอยถึงเรื่องประนอมกับบุรธัช
“ว่าไง ณิชา ประชุมครั้งล่าสุดนี่สรุปว่ายังไง” นวลแขถาม
ณิชาภัทรยังคงใจลอยอยู่
“ณิชา !”
“คะ? คุณย่าถามว่าอะไรนะคะ”
“ใจลอยไปถึงไหนน่ะ เรา รีสอร์ตของเราจะเปิดให้บริการเมื่อไหร่ กำหนดวันไว้แล้วหรือยัง”
“ณิชาคงต้องดูผลตอบรับจาก Pre-opening ก่อนค่ะ เผื่อว่าจะต้องมีอะไรปรับปรุงเพิ่มเติม แล้วค่อยกำหนดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอีกที”
“อย่างนี้เราน่าจะเรียกประชุมกันอีกครั้งนะคะ จะได้คุยกันเรื่องงานแถลงข่าวเปิดตัวรีสอร์ตของเราด้วยน่ะค่ะ แล้วนี่คุณชายธัชจะตามมามั้ยคะ จะได้คุยกันซะวันนี้เลย”
“คงไม่ตามมาแล้วล่ะค่ะ ธัชไปตามตัวผู้ช่วยคนใหม่อยู่”
“คุณชายมีผู้ช่วยตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ชักอยากเห็นหน้าผู้ช่วยของคุณชายแล้วล่ะซิคะ จะต้องเก่งมากเลยนะคะ ถึงได้ทำงานกับคุณชายได้น่ะ” พรพรรณกล่าว
“คุณพรพรรณรู้จักผู้ช่วยคนนี้อยู่แล้วล่ะค่ะ คุณประนอมไงคะ แม่บ้านคนเก่าของคุณไงคะ ผู้ช่วยคนใหม่ของคุณชายธัช”
พรพรรณหน้าเหวอไปเพราะนึกไม่ถึง
นวลแขมองหน้าณิชาภัทรที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
นวลแขมองณิชาภัทรที่คนกาแฟในแก้วอย่างครุ่นคิด
“วันนี้เป็นอะไร ทำไมใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย เรื่องประนอมนี่กวนใจเรามากเลยหรือไง”
“ธัชเคยบอกว่า คุณนอมไม่ใช่แม่บ้านธรรมดา ตอนนี้ณิชาเชื่อแล้วว่าเธอไม่ใช่แม่บ้านธรรมดาสำหรับธัชจริงๆ”
“นี่เราอย่าบอกนะว่า คุณชายคิดอะไรกับประนอม เป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณชายช่วยเหลือประนอมก็คงเป็นเพราะความสงสารเท่านั้นแหละมั้ง”
“คนอย่างธัชเคยสนใจเรื่องคนอื่นที่ไหนล่ะคะ คุณย่า แล้วธัชเคยไล่ตามผู้หญิงคนไหนบ้าง แค่นี้ณิชาก็รู้แล้วว่าธัชรู้สึกยังไงกับคุณนอม”
“ตอนนี้เราก็ไม่ได้คบหากับคุณชายแล้ว เราไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคุณชายเค้านะ ณิชา”
“ถึงณิชาจะไม่ได้เป็นแฟนธัชแล้ว แต่ในฐานะเพื่อน ณิชามีสิทธิ์ห่วงธัชไม่ใช่เหรอคะ ธัชกับคุณนอมไม่น่าจะไปด้วยกันได้ ทั้งสองแตกต่างกันเกินไป ถ้าหากธัชไม่หยุดซะตั้งแต่ตอนนี้ คงจะต้องมีใครได้เจ็บกันแน่”
“เราจะทำอะไรก็คิดดูให้ดีก่อนนะ ณิชา อย่าทำอะไรที่ต้องมาเสียใจทีหลังไม่งั้นคนที่จะเจ็บไม่ใช่คุณชายหรือประนอม แต่เป็นตัวเราเองนั่นแหละ”
ณิชาภัทรนิ่งอึ้งไปแต่ยังดื้อดึงกับความคิดตัวเองอยู่
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รวิภาสกับกลุ่มนักศึกษากำลังช่วยกันผูกไม้สร้างฝายกันอยู่ ณิชมนเดินดุ่มๆ เข้ามาอารมณ์เริ่มกรุ่นๆมาเต็มที่ เธอเดินลุยเข้าไปหารวิภาส
“เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยแล้ว คุณภาส !”
“รอแป๊บนึงนะ กำลังจะเสร็จแล้ว”
“ฉันรอไม่ได้ ไปกับฉัน เราต้องคุยกันเดี๋ยวนี้ !”
ณิชมนดึงตัวรวิภาสไป
“ทำไมทำหน้าซีเรียสจัง ประนอม มีเรื่องอะไรเหรอ”
“ยังมีหน้ามาถามอีก มาคุยกันให้รู้เรื่องเลย มา”
บุรธัชเดินเข้ามาหยุดมองณิชมนลากรวิภาสออกไป
“ช่วยด้วยคร้าบ ผมถูกลักพาตัวคร้าบ”
ณิชมนทุบรวิภาสอย่างอดไม่ได้
“ยังมาทำเล่นอีก เรื่องคุณกับฉันต้องเคลียร์ให้จบในวันนี้ !”
บุรธัชยืนมองณิชมนลากตัวรวิภาสไป
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนลากรวิภาสมาที่มุมเงียบของป่า
“คุณภาส คุณเลิกใช้ฉันเป็นเครื่องมือได้แล้ว”
“คุณพูดอะไรของคุณ”
“ฉันรู้ว่า คุณเข้าใจว่า ฉันหมายความว่าอะไร คุณใช้ฉันเป็นเกราะป้องกันตัว คุณหลอกคุณนมลว่า คุณเป็นแฟนฉัน ก็เพื่อจะผลักไสให้คุณนมลออกจากชีวิตคุณ คุณกลัวอะไรคะ”
“ไร้สาระน่า คุณ ผมไม่ใช่คนคิดอะไรซับซ้อนขนาดนั้น”
“คุณกลัวใจตัวเอง คุณกลัวจะหลงรักคุณนมลใช่มั้ยล่ะคะ”
รวิภาสนิ่งอึ้งไป
“ทำไมคุณจะรักคุณนมลไม่ได้ล่ะคะ คุณไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากคุณนมลเพียงเพราะความไม่เข้าใจกันของผู้ใหญ่”
“มันไม่ใช่แค่ความไม่เข้าใจกัน แต่มันเป็นความโกรธความเกลียดที่ไม่มีวันจะสิ้นสุด แล้วมันจะเป็นปัญหาหนักขึ้นไปอีก ถ้าผมกับนมลคบกัน ไม่ว่าจะคบกันแบบไหนก็ตาม”
“แล้วคุณจะหนีความรู้สึกของตัวเองอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่ คุณไม่คิดจะสู้เพื่อความรักของตัวเองบ้างหรือไง คุณหาทางออกง่ายๆ ด้วยการวิ่งหนีปัญหา คุณมันขี้ขลาด !”
ณิชมนเดินออกมา พงษ์เทพเดินสวนเข้ามาไม่ทันได้ดูว่าบรรยากาศกำลังอึมครึม
“คุณนอม ผมดีใจจริงๆ ที่ได้เจอคุณ”
ณิชมนเดินไปเสียเฉยๆ เพราะไม่มีอารมณ์คุยด้วย
“อ้าว คุณนอม ! จะไปไหนล่ะ”
พงษ์เทพทักแล้วรีบตามณิชมนไป รวิภาสนิ่งคิดเพราะคำพูดของณิชมนกระแทกใจเขาไม่ใช่น้อย
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมนเดินออกมา พงษ์เทพยังเดินตามตื๊อเธออยู่
“คุณนอม คุณรู้มั้ยว่า ผมไปตามหาคุณจนทั่ว ผมไปตามหาคุณถึงบ้านเลยนะ แต่ข้างบ้านคุณบอกว่า คุณย้ายไปนานแล้ว นี่ผมกะจะมาถามกับนมล แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคุณ คุณไม่ได้ทำงานให้น้าพรแล้ว ทำไมยังมาที่นี่อีกล่ะครับ”
“เรื่องมันยาวน่ะค่ะ”
“สำหรับคุณ ผมมีเวลาให้เสมอ เล่ามาเลยครับ ผมพร้อมที่จะฟัง ตกลงตอนนี้คุณไปอยู่ที่ไหน ได้งานใหม่แล้วหรือยัง”
“แล้วคุณล่ะคะ เมื่อไหร่จะเริ่มงานที่รีสอร์ต”
“ผมก็รอคุณอยู่น่ะซิครับ ไปทำงานกับผมมั้ย คุณนอม ผมกำลังอยากได้เลขาฯส่วนตัว รับรองงานไม่หนัก เงินเดือนดี สวัสดิการเพียบ”
บุรธัชเดินเข้ามาขัดจังหวะ
“เสียใจด้วยนะครับ ประนอมได้งานใหม่แล้ว”
“งานอะไรหรือครับ งานอะไรก็ช่าง ลาออกมาทำงานกับผมเถอะครับ”
“ตอนนี้ประนอมเป็นผู้ช่วยของผม งานหนัก ไม่มีเงินเดือน ไม่มีสวัสดิการแล้วก็ลาออกไม่ได้ด้วย ขอโทษนะครับ ผมขอพาคนของผมไปก่อน แล้วเจอกันนะครับ”
บุรธัชดึงตัวณิชมนปลิวติดมือไป พงษ์เทพยืนเหวอ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พิมพ์นฤมลกำลังล้างหน้าล้างมืออยู่ที่ลำธาร รวิภาสเดินตามหาเธอจนเจอ
“นมล..”
พิมพ์นฤมลเดินหนีรวิภาสเพราะไม่อยากคุยด้วย
“มีอะไรไว้คุยกันวันหลัง นมลต้องไปทำงานต่อค่ะ”
“เรื่องประนอมน่ะ...”
พิมพ์นฤมลหันมามองแล้วหยุดฟัง
“ประนอมไม่มีที่ไปจริงๆ ถึงต้องไปทำงานที่บ้านฉัน หวังว่าเธอคงจะเข้าใจ ตอนนี้ประนอมอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก...”
“พี่นอมมีพี่ภาสคอยช่วยเหลืออย่างนี้ คงไม่ลำบากซักเท่าไหร่หรอกมั้งคะอย่างนี้นมลคงไม่มีความผิดแล้วใช่มั้ยคะที่ไล่พี่นอมออก เพราะพี่นอมได้ไปอยู่กับพี่ภาส ชีวิตคงดีกว่าอยู่บ้านนมลเยอะ เป็นอันว่า เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะคะ”
พิมพ์นฤมลตั้งท่าจะเดินไป
“นมล..เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป”
พิมพ์นฤมลหันกลับมาอีกครั้ง
“อ้อ หลังจากโครงการสร้างฝายเสร็จสิ้นแล้ว นมลขอลาออกจากชมรมของพี่ภาสนะคะ นมลเข้าใจพี่ภาสแล้ว คนเราเวลาเกลียดใครมากๆ ก็ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากเข้าใกล้ พี่ภาสสบายใจได้แล้ว นมลจะไม่มาให้พี่ภาสเห็นหน้าอีก !”
พิมพ์นฤมลเดินออกไป รวิภาสรีบเดินตาม
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
พิมพ์นฤมลเดินห่างออกมาจากรวิภาส รวิภาสเดินตามหลังมา
“นมล ฉันไม่เคยเกลียดเธอ”
พิมพ์นฤมลไม่ฟังเดินหนีไป รวิภาสรีบตามไปดึงเธอให้หันมาประจันหน้ากัน
“ฉันไม่เคยเกลียดเธอเลยนะ นมล”
“ถ้าพี่ภาสไม่เกลียดนมล ทำไมถึงเห็นนมลเป็นศัตรู แม้แต่ความเป็นเพื่อนพี่ภาสก็ให้นมลไม่ได้ นมลทำผิดอะไร เพราะนมลเป็นลูกของคุณพ่อเหรอคะ ท่านลุงตายเพราะคุณพ่อจริงหรือเปล่า ก็ไม่มีใครรู้”
“แต่พี่ธัชก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่าท่านพ่อตายเพราะคุณพ่อของเธอ เราสองครอบครัวคงต้องเป็นศัตรูกันจนวันตาย”
“แล้วก่อนหน้านี้ทำไมเราถึงเป็นเพื่อนกันได้ล่ะคะ อยู่ๆ พี่ภาสก็เปลี่ยนไปไม่มองหน้าไม่คุยด้วย เกิดอะไรขึ้นคะ พี่ภาส”
“เพราะความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปแล้วน่ะซิ”
“ไม่มีวันที่เราจะกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิมใช่มั้ยคะ ความรู้สึกดีๆที่เราเคยมีให้กัน มันจบไปแล้วใช่มั้ยคะ นมลไม่เคยมีความหมายอะไรสำหรับพี่ภาสเลย…”
พิมพ์นฤมลมองรวิภาสแล้วน้ำตาไหล รวิภาสยังยืนนิ่งอึ้งอยู่ เธอตัดสินใจเดินออกไป แต่เขาจับมือเธอไว้โดยยังไม่ได้หันหน้าไปมอง
“เธอมีความหมายกับฉันเสมอ..นมล เธอรู้มั้ยว่า ทำไมฉันเป็นเพื่อนกับเธอไม่ได้..เพราะฉันรู้ว่า ถ้าเราคบกันต่อไป ฉันคงไม่หยุดอยู่ตรงแค่เพื่อน..”
รวิภาสมองพิมพ์นฤมลนิ่ง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชจับแขนณิชมนให้เดินไปด้วยกัน
“ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันไม่หนีคุณไปไหนหรอกน่า”
“ฉันไม่ไว้ใจเธอ เธอออกไปกับนายภาสแต่กลับมากับนายพงษ์เทพ มันหมายความว่าไง ยังตัดสินใจไม่ถูกหรือไงว่า จะจับคนไหนดี”
ณิชมนสะบัดตัวหลุดจากบุรธัช
“คุณชายธัช ! ความอดทนของฉันมีจำกัดนะ ถ้าคุณพูดจาดูถูกฉันอีกคำเดียว ฉันจะไม่อยู่ทำงานให้คุณ !”
“แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน จะไปอยู่กับนายพงษ์เทพงั้นซิ แล้วเธอจะเอานายภาสไปไว้ที่ไหน”
“ฉันไม่อยากจะพูดกับคุณแล้ว คุณไม่เคยฟังใคร ยึดมั่นกับความคิดตัวเอง คิดว่าตัวเองถูกที่สุด เพราะอย่างนี้คุณกับคุณภาสก็เลยมีปัญหากัน ไม่เข้าใจกันอย่างนี้”
“เธออย่ามาทำเป็นเข้าใจเรื่องในครอบครัวของฉัน”
“ฉันรู้มากกว่าที่คุณคิด คุณเองเถอะ เข้าใจครอบครัวตัวเองแค่ไหน คุณคิดว่า คุณรู้จักคุณภาสใช่มั้ย แต่จะบอกให้นะ คุณน่ะ ไม่รู้จักน้องชายของคุณเลย !”
บุรธัชงงไม่เข้าใจที่ณิชมนพูด
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
อีกด้านหนึ่งที่บ้านสรณาลัย พรรณอรนั่งอ่านหนังสืออย่างสงบสุข พรพรรณเดินไปเดินมาคิดเรื่องประนอมแล้วมาทิ้งตัวนั่งข้างพรรณอร
“คุณชายธัชต้องมีแผนการอะไรอยู่แน่ๆ เลยล่ะค่ะ พี่อร”
“เธอคิดมากไปแล้วล่ะ”
“จะไม่ให้พรคิดมากได้ยังไง พอเราไล่ประนอมออกไปปุ๊บ คุณชายธัชก็รับประนอมไปทำงานปั๊บ ป่านนี้ไม่รู้รีดข้อมูลจากประนอมไปได้แค่ไหนแล้ว”
“ประนอมเป็นแค่แม่บ้าน วันๆ ก็ทำแต่งานบ้าน เคยไปประชุมกับเธอแค่ครั้งเดียว ประนอมจะรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจของเรา นอกจากรู้ว่าบ้านเราจ่ายค่าน้ำค่าไฟเดือนล่ะเท่าไหร่”
“ถ้าไม่ได้ต้องการข้อมูลจากประนอม แล้วคุณชายธัชจะรับประนอมไปทำงานด้วยทำไม เอ๊ะ หรือว่าเรื่องที่เด็กในบ้านเมาธ์กันจะเป็นเรื่องจริง ที่ว่าประนอมชอบไปหว่านเสน่ห์คุณชายบ้านโน้น ป่านนี้คุณชายพี่คุณชายน้องไม่ตีกันตายแล้วเหรอ”
“เธอนี่มองโลกในแง่ร้ายจริงๆ เธอไม่คิดบ้างล่ะว่า คุณชายธัชรับประนอมทำงานเพราะประนอมทำงานเก่งมีความสามารถ”
“พรต้องรีบไปเรียนให้อาจารย์ดาวเรืองรับทราบเรื่องนี้ไว้ เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นคนยุยงส่งเสริมให้ประนอมไปทำให้พี่น้องเค้าแตกกัน ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณชายธัชจะได้ไม่มาโทษเรา”
“เอ้า ไปกันใหญ่แล้ว ยัยพร”
พรพรรณไม่ฟังรีบออกไปทันที พรรณอรอ่อนใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ในครัว ดำเกิงยิ้มกริ่มอย่างพอใจที่รู้ข่าวณิชมน
“คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้จริงๆ คนเราเนี่ยนะ ต้องหมั่นทำความดีไว้ก็จะได้ดีเอง ไปที่ไหนก็มีแต่คนเมตตา เหมือนอย่างคุณนอมนี่ไง”
กันยา สายใจและรำไพมองไปที่ดำเกิงอย่างหมั่นไส้
“นี่สงสัยยัยนอมคงจะไปออดอ้อนของานทำแน่ๆ ไม่ใช่ว่าอยู่เฉยๆ แล้วคุณชายธัชมาเสนองานให้ซะเมื่อไหร่ล่ะ”
“ยัยนอมเพิ่งถูกไล่ออก ประวัติเสียไปแล้ว คุณชายธัชรับทำงานได้ไง”
“นี่กลายเป็นว่าพวกแกช่วยให้ประนอมไปได้ดีนะเนี่ย” รำไพพูด
“นั่นน่ะซิ คุณนอมต้องได้เงินเดือนเยอะกว่าเก่า งานก็คงสบายขึ้น แล้วยังไม่ต้องผจญเวรผจญกรรมกับพวกนางอิจฉาอีก”
ชัยวัฒน์เดินเข้ามา
“แต่ประนอมคงทำงานที่บ้านคุณชายธัชได้ไม่นานหรอก”
“ทำไมล่ะ ครูชัย”
“ฉันคิดว่า คุณชายธัชไม่ได้จ้างประนอมไปเป็นแม่บ้านหรอก น่าจะให้ไปช่วยงานอย่างอื่นมากกว่า งานถนัดของผู้หญิงที่มีประวัติโชกโชนอย่างประนอมไง”
“พูดให้ดีๆ นะครับ” ดำเกิงไม่พอใจ
“หรือว่าไม่จริง บ้านคุณชายมีคนใช้เต็มบ้าน จะจ้างประนอมไปทำไมอีกคุณชายจ้องประนอมไว้นานแล้วนี่ ทีนี้ก็ได้สมหวังล่ะ แต่พวกไฮโซมักจะขี้เบื่อ ยิ่งผู้หญิงที่ได้มาง่ายก็ทิ้งง่าย !”
ชัยวัฒน์ยิ้มเยาะสะใจกับความคิดของตัวเอง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รวิภาสมองพิมพ์นฤมลที่ดูเงียบนิ่งไป
“พูดอะไรบ้างซิ.. นมล”
“ที่พี่ภาสพูดมาทั้งหมด หมายความว่าไง พี่ภาสชอบนมลเหรอ พี่ภาสชอบนมลจริงๆ เหรอ แล้วพี่นอมล่ะ...”
“ฉันชอบประนอมแบบเพื่อน..แต่กับเธอ..ฉันชอบมากกว่าเพื่อน อย่าถามว่าชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะฉันไม่รู้ รู้แต่ว่า พอรู้ตัวว่าความรู้สึกที่มีต่อเธอเปลี่ยนไป ฉันก็ต้องรีบถอยห่างออกมา”
“ทำไมล่ะคะ”
“เพราะฉันรู้ว่า เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้น่ะซิ พี่ธัชไม่มีวันยอมให้เราคบกันแน่ ฉันรู้ว่าเรื่องเราจะไปจบอยู่ตรงไหน ก็เลยคิดว่า อย่าเริ่มมันซะดีกว่า อย่างน้อยเราก็จะไม่เจ็บมากไปกว่านี้”
“เรื่องของเราก็เลยจบโดยที่ยังไม่ได้เริ่ม”
“แต่เรายังเริ่มต้นกันใหม่ได้นะ...”
“พี่ภาสมาบอกอะไรตอนนี้คะ สายไปแล้วล่ะค่ะ นมลไม่สนใจแล้วว่า พี่ภาสจะชอบหรือจะเกลียดนมล นมลตัดพี่ภาสไปจากชีวิตนมลได้แล้ว”
พิมพ์นฤมลสับสนใจจึงพยายามเดินหนีไป แต่รวิภาสดึงพิมพ์นฤมลไว้
“เธอไม่มีวันตัดฉันไปได้หรอก”
รวิภาสรวบตัวพิมพ์นฤมลเข้ามากอด พิมพ์นฤมลทุบรวิภาสไม่ยั้งมือ
“นมลเกลียดพี่ภาส พี่ภาสทำให้นมลเจ็บแค่ไหน นมลเกลียดพี่ภาส”
รวิภาสยังคงกอดพิมพ์นฤมลไว้ปล่อยให้เธอหยุดมือไปเอง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ณิชมกับบุรธัชเดินมาตามทางในป่า
“เมื่อกี้นี้ที่เธอพูด เธอหมายความว่าไง”
“ฉันก็หมายความอย่างที่พูดน่ะซิ คุณไม่ได้รู้จักน้องชายคุณเลย คุณไม่รู้ว่า คุณภาสเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่เด็กเกเรไม่เอาไหนอย่างที่คุณคิด”
“ฉันก็ไม่เห็นว่า มันจะเปลี่ยนไปเลย”
“คุณภาสอาจจะเคยหนีโรงเรียนสอบตกทุกวิชา แต่ตอนนี้คุณภาสเรียนเก่งได้เอแทบทุกวิชา ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คงได้เกียรตินิยมแน่”
บุรธัชนิ่งอึ้งไป
“คุณภาสเป็นหัวหน้าชมรมค่ายอาสาตั้งแต่อยู่ปีสอง ที่ออกจากบ้านแต่เช้ากลับดึกๆ ก็เพราะไปทำกิจกรรม โครงการสร้างฝายครั้งนี้ คุณภาสก็มาช่วยคุมงานทั้งหมด”
“ทำไมมันไม่เคยบอกอะไรฉันเลย”
“แล้วคุณเคยถามคุณภาสมั้ยล่ะคะ ถามดีๆแบบพี่ถามน้องนะคะ ไม่ใช่แบบเจ้านายถามลูกน้อง ฉันเพิ่งรู้จักคุณภาสไม่นาน แต่ฉันเข้าใจคุณภาสยิ่งกว่าคนที่อยู่กับคุณภาสมาตลอดชีวิตอย่างคุณ”
“ฉันยังไม่อยากเชื่อ”
“ถ้าไม่เชื่อ คุณก็ตามฉันมา ตอนนี้คุณภาสคงกำลังช่วยสร้างฝายอยู่”
ณิชมนเดินนำบุรธัชไปอย่างมั่นใจ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
รวิภาสจับมือพิมพ์นฤมลเดินมาด้วยกัน แต่เธอดึงมือออก
“ปล่อย ไม่ต้องมาจับ !”
“ฉันก็สารภาพความจริงหมดแล้ว ยังจะโกรธอีกเหรอ”
“โกรธ แล้วจะไม่มีวันหายโกรธด้วย พี่ภาสทำให้นมลเข้าใจพี่นอมผิด ทำให้นมลต้องเสียเพื่อนดีๆ ไป”
“เธอเสียประนอมไปที่ไหนล่ะ ประนอมไม่เคยโกรธเธอเลย”
“พี่ภาสคิดเองตัดสินใจเอง ไม่ถามนมลซักคำ ไม่เคยสนใจความรู้สึกของนมล ไม่รู้หรอกว่า นมลทรมานใจแค่ไหน นมลถามตัวเองอยู่ทุกวัน ทำไมคนที่เราแคร์ถึงได้เกลียดเรา เห็นเราเป็นศัตรูได้” พิมพ์นฤมลน้อยใจ
“พี่ภาสขอโทษ...”
พิมพ์นฤมลนิ่งอึ้ง
“พี่จะไม่ทำให้นมลเสียใจอีก ต่อไปนี้พี่จะไม่กลัวอะไรแล้ว พี่จะทำตามหัวใจของตัวเอง แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะปกป้องเธอเอง เรากลับมาเหมือนเดิมนะ”
“ก็ได้ เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
“ไม่ใช่ซิ..”
“แค่เพื่อนเท่านั้น ถ้ามากกว่านี้ ขอนมลคิดดูก่อนนะ”
รวิภาสคว้ามือพิมพ์นฤมลแล้วจับไว้แน่น
“ไม่อ่ะ แค่เพื่อนไม่ได้ เรามาไกลเกินกว่าคำว่าเพื่อนนานแล้ว..”
“ณิชมนกับบุรธัชเดินมาอีกด้านหนึ่ง เธอชะงักเห็นรวิภาสจับมือกับนมลอยู่ละล้าละลังมองซ้ายมองขวาหาทางออก ไม่รู้ทำยังไงกระโดดกอดบุรธัช”
“งูค่ะ งู !” ณิชมนเสียงดัง
รวิภาสกับพิมพ์นฤมลตกใจหันไปตามเสียง ณิชมนยืนบังบุรธัชอยู่ ทำบุ้ยใบ้ให้รวิภาสกับพิมพ์นฤมลหลบไป รวิภาสดึงพิมพ์นฤมลหลบออกไปอย่างหวุดหวิด
ณิชมนเต้นๆอยู่หยุดชะงักไปเสียเฉยๆ เธอรีบปล่อยมือจากบุรธัชทันทีทันควัน แต่เขาคว้าตัวเธอไว้ไม่ให้ไปง่ายๆ
“ฉันไม่เห็นมีงูที่ไหนเลย”
“ฉันเห็นจริงๆ นะคะ”
“วิธีนี้อาจจะใช้ได้ผลกับผู้ชายคนอื่น แต่สำหรับฉัน ไม่ได้ผลหรอกนะฉันชอบเป็นฝ่ายเริ่มก่อนมากกว่า..”
บุรธัชดึงตัวณิชมนมาใกล้ เธอปัดป้องดิ้นรนถอยหลังหนี
“อย่านะ ปล่อยฉัน อย่า !”
ณิชมนเสียหลักลื่นหงายหลังพร้อมกับฉุดบุรธัชตกลงไปในลำธารด้วยกัน เธอหลุดไปตามกระแสน้ำ บุรธัชว่ายน้ำตามไปช่วยพยุงตัวเธอไว้ แต่เธอหลุดจากเขาจมน้ำหายไปอีก เขาดำน้ำจนเจอเธอ และพยุงพาเธอว่ายเข้าฝั่ง
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
บุรธัชพยุงพาณิชมนมานั่งริมลำธาร ณิชมนมองบุรธัชที่นั่งพักอย่างหมดแรง
“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้ ถ้าไม่ได้คุณ ฉันคงจะจมน้ำตายไปแล้ว ขอบคุณจริงๆนะคะ”
บุรธัชมองณิชมนอย่างไม่เชื่อนัก
“ฉันขอบคุณจากใจจริงนะ”
“ฉันก็..ก็ขอโทษนะ..”
“คะ? คุณพูดว่าอะไรนะคะ”
“ฉันขอโทษ..”
ณิชมนลูบหน้าตัวเองไม่แน่ใจว่าคิดไปเองฝันไปเองหรือเปล่า
“ฉันฝันไปหรือเปล่า” ณิชมนพึมพำ
“ไม่ได้ฝัน ฉันขอโทษ เป็นความผิดของฉันด้วย ฉันก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมเวลาอยู่ใกล้เธอ ฉันถึงไม่ค่อยเป็นตัวเอง บางครั้งก็ทำอะไรไม่ทันคิด”
“งั้นฉันก็ควรอยู่ห่างๆ คุณไว้”
ณิชมนลุกขึ้นถอยหนีออกมา
“เธอต้องอยู่ใกล้ๆ ฉันไว้ต่างหาก จะได้ไม่ไปทำให้คนอื่นต้องวุ่นวายใจเหมือนฉัน...”
“วุ่นวายใจ..หมายความว่าไง”
“ก็ไม่ได้หมายความว่าไง ไป กลับกันได้แล้ว ไป !” บุรธัชอึกอัก
บุรธัชรีบดึงตัวณิชมนเดินไปด้วยกันโดยเร็ว
จบตอนที่ 13
ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น.