ไม่รู้เป็นเพราะว่ากลัวความสวยของตัวเองจะดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชนและชาวบ้านไม่พอหรืออย่างไร ในการลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จึงต้องดึงดาราสาว “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” มาประกบติดชนิดที่เรียกว่า “น้าปูไปไหน หนูแพนไปด้วย” นายกฯ หญิงบอกว่าแพนเค้กอาสามาช่วยโดยไม่รับค่าตัวเพราะว่าเธอใจบุญ อีกทั้งยังสนิทสนมกับคุณแม่ของนางเอกสาวเป็นการส่วนตัว ถึงขนาดที่แพนเค้กเอ่ยเรียกนายกฯ หญิงคนนี้ด้วยความคุ้นปากว่า “น้าปู” เลยทีเดียว
ภาพนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมอาจจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ไม่ว่าใครที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสำคัญนี้ก็ต้องปฏิบัติด้วยกันทั้งนั้น แต่ภาพของนายกฯ คนปัจจุบัน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ตระเวนลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกลายเป็นเรื่องที่ใครต่อใครนำไปพูดกันต่อในวงกว้าง เพราะนอกจากเธอจะหันมาจับมือปรองดองกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เพื่อปฏิบัติภารกิจเพื่อประชาชนคนไทยแล้ว เบื้องหลังของนายกฯ ปูยังปรากฏร่างของนางเอกสาวชื่อดัง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” อยู่เคียงคู่ไม่ห่างกาย ที่สำคัญมีหลายช็อตหลายฉากที่สาวต่างวัยหัวร่อต่อกระซิกพูดคุยกันด้วยความสนิทสนม จนใครหลายคนที่ไดเห็นต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าทั้งสองไปซี้ย่ำปึ้กกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน
จะว่าไปแล้วถ้าสืบสาวย้อนกลับไปก็คงจะต้องบอกว่าสายสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่หน่อย นวลนง จามิกรณ์ ของหนูแพนเค้ก กับนายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นแข็งแรงแนบแน่นไม่แพ้ใคร เพราะต่างก็เป็นทายาทนักการเมืองด้วยกันทั้งคู่ ฝั่งแม่หน่อยนั้นนามสกุลเดิมคือ “รอดโพธิ์ทอง” ซึ่งเป็นตระกูลนักการเมืองที่มีสายสัมพันธ์กับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในอดีตเป็นอย่างดี ส่วนพ่อเลิศ ชินวัตร ของยิ่งลักษณ์ก็เป็นนักการเมืองที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเมืองมาช้านาน จึงไม่แปลกอะไรที่ลูกหลานของครอบครัวนักการเมืองทั้งสองจะรู้จักมักจี่ถึงขั้นสนิทสนมกัน
ความสนิทดังกล่าวส่งผลมาถึงสายสัมพันธ์แบบน้า-หลาน ของแพนเค้กกับยิ่งลักษณ์ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยหวานแหววจูบมือกันขนาดไหนไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่สายสัมพันธ์ดังกล่าวเริ่มปรากฏอยู่บนหน้าสื่อตั้งแต่เมื่อครั้งที่รัฐบาลจัดงาน “รวมพลังไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ที่มีการจัดรายการพิเศษเพื่อขอรับบริจาคช่วยผู้ประสบภัย ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยวันนั้นแพนเค้กคนนี้นี่เองที่ได้รับสิทธิให้นั่งรับโทรศัพท์เคียงข้างนายกฯ ปู โดยในช่วงที่ยังไม่มีสายเข้า ทั้งคู่ก็ยิ้มแย้มพูดคุยกันแบบคนสนิทที่เด็กประถมดูก็รู้ว่าสายสัมพันธ์นี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“คุณแม่กับท่านเหมือนกับเป็นนักเรียนด้วยกันสมัยหนึ่ง อาจจะได้รู้ในหนังสือของแม่ (หัวเราะ) แต่ว่าแม่จะไม่ได้ระบุว่าเป็นท่านไง ถ้าคนรู้แบบนี้ก็จะรู้ว่าช่วงชีวิตไหนที่แม่ควรจะอยู่ ซึ่งน้องแพนเองก็ได้เจอะเจอกับท่านมาตั้งแต่น้องแพนยังเด็ก ตั้งแต่น้องแพนยังไม่ถึงสองขวบ” นี่คือถ้อยคำจากปากชอง “แม่หน่อย” นวลนง จามิกรณ์ ที่เปิดเผยต่อ นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
เสร็จจากงานวันนั้นแม่หน่อยก็จูงมือแพนเค้กไปขอแชะภาพร่วมกับยิ่งลักษณ์ ซึ่งนายกฯ คนสวยก็มีการโอบเอวแนบชิดแสดงความสนิทสนมอยู่ตรงกลางระหว่างสองแม่ลูก ได้ภาพพิเศษที่แม่หน่อยนำไปอัดขยายติดฝาบ้านเพิ่มมาอีกหนึ่งรูป
หลังจากนั้นนายกฯ ปูก็ลงพื้นที่ไปจังหวัดอุทัยธานี กระโดดขึ้นรถโฟร์วีลตระเวนไปให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยที่แพนเค้กก็ร่วมโดยสารอยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย ภารกิจต่อไปของนายกฯเ กิดขึ้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่นี่นายกฯ หญิงไม่เพียงแต่ให้กำลังใจผู้ประสบภัย แต่ยังทำอาหารให้ชาวบ้านด้วยการทอดไข่เจียวและทอดน่องไก่ปีกบนเพื่อแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน และแน่นอนว่านางเอกสาวก็เป็นลูกมือประกบติดคอยช่วยเหลือแม่ครัวปูอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งช่วยหยิบโน่นนี่และนำอาหารบรรจุลงกล่องเตรียมแจกจ่ายด้วยท่าทีขมีขมัน
เมื่อถึงเวลาต้องสวมบูตเดินลุยน้ำ แพนเค้กก็ไม่ยั่นเดินตามนายกฯ ปูต้อยๆ เรียกว่าตลอดสองวันของการปฏิบัติภารกิจของยิ่งลักษณ์มีแพนเค้กประกบติดเหมือนเป็นวอลเปเปอร์ผืนใหม่เลยทีเดียว
ที่มาที่ไปของแพกเกจคู่ “ปู-แพนเค้ก” ครั้งนี้ไม่สอดคล้องกัน ฝ่ายนายกฯ คนสวยให้สัมภาษณ์สั้นๆ แก่นักข่าวในคอลัมน์ลับพอสมควร ของ สุมณฑา บุญคุ้ม ในหนังสือพิมพ์ข่าวสดว่าเธอรู้จักกับแพนเค้กมาตั้งแต่นางเอกสาวยังเป็นเด็ก เพราะสนิทสนมกับแม่หน่อย แต่ว่าเธอเป็นเพื่อนรุ่นน้องทำให้นางเอกสาวเรียกเธอว่า “น้า” ส่วนการไปปฏิบัติภารกิจร่วมกันในครั้งนี้นายกฯ ปูบอกว่าไม่ได้เสียเงินจ้างสักกะบาทแต่นางเอกสาวอยากไปร่วมทำบุญกับเธอ ในฐานะคนรู้จักกันจึงไม่ขัดศรัทธาจับมาประกบติดแบบไปไหนไปด้วยเสียเลย
ส่วนนางเอกสาวบอกว่าเธอเต็มใจไปช่วยเหลือนายกฯ ด้วยตัวเอง เพราะรู้จักกับนายกฯ ปูมาช้านาน โดยเธอจะเรียกยิ่งลักษณ์ว่า “อา” และที่ไปก็ไม่ได้เงินค่าจ้างแม้แต่น้อย และไม่อยากให้คนมองว่าเป็นการเลือกข้าง พร้อมกับย้ำว่าถ้ามัวแต่คิดเรื่องการเลือกข้างก็คงไม่ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังจากนั้นแพนเค้กก็ยังตระเวนไปถือกล่องรับบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอีกด้วย
แหม... แม่มณีน่ะช่วยชาติมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาเสนอหน้าในวันนี้ซะเมื่อไหร่
อยากรู้สัมพันธ์นายกฯ “ปู” ต้องอ่านพ็อตเกตบุ๊ก “แม่หน่อย”
ซูเปอร์บันเทิง นิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ เปิดใจ คุณแม่คนเก่ง นวลนง จามิกรณ์ของ “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์ นางเอกสาวจากละคร “ทวิภพ” ทางช่อง 7 สีแบบคำต่อคำกับผลงานพ็อตเกตบุ๊กที่กำลังจะวางแผงในเร็ววันนี้ …
ตอนนี้พ็อกเกตบุ๊กไปถึงไหนแล้ว
“ ก็กำลังเร่งรีบกับการตรวจต้นฉบับกันอยู่ค่ะ ก็คงจะกระชั้นชิดกันนิดหนึ่ง เพราะว่าเราตัดสินใจที่จะออกพ็อกเกตบุ๊กเล่มนี้ก่อนที่จะออกของน้องแพน”
ไม่ทัน “สัปดาห์หนังสือ” น่ะสิ
“จริงๆ แม่ล็อกวันไว้แล้ว แต่นี่เดี๋ยวคุยกันเสร็จแล้วแม่จะต้องไปคุยเรื่องหนังสือต่อ จะได้รู้ว่ายังไง เดี๋ยวจะส่งข่าวกันอีกที ก็พยายามจะให้ออกทันตามที่เราวางไว้น่ะค่ะ”
เกริ่นเป็นน้ำจิ้มเกี่ยวกับเนื้อหาในหนังสือได้ไหม
“แม่คิดว่าคงจะเป็นเรื่องราวดีๆ เรื่องราวที่เป็นประโยชน์กับคนที่มีลูกหรือว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่โตขึ้นมา นั่นคือตัวแม่ไง หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือของแม่ เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนหนึ่งที่โตขึ้นมาแล้วเจอะเจออะไรบ้าง จนกว่าที่เราจะต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับลูกทุกวันๆ นี้ เรามีมุมมองอะไรดีๆ ในสังคมบ้างน่ะค่ะ”
กลุ่มเป้าหมายผู้อ่านคือกลุ่มคนที่เป็นแม่เหรอ
“จริงๆ กลุ่มเป้าหมายน่ะ ด้วยความที่เราไม่ใช่นักเขียนหรือไม่คิดจะเขียนหนังสือมาก่อน แต่พอวันหนึ่งพอเรามีประสบการณ์กับการเดินชีวิตในเส้นทางนี้ แม่ก็คิดว่าหลายมุมมองที่เรารู้ การตัดสินใจในตัวลูกเนี่ย บางอย่างแม่คิดว่ามันอาจจะมีประโยชน์ต่อพ่อแม่คนอื่นๆ ด้วยใช่ไหมคะ มันมีทั้งสมหวังและไม่สมหวัง เราก็เหมือนมาแชร์กันในมุมมองที่ไม่ใช่ว่าอ่านแล้วสลดใจอะไรอย่างนั้นก็ไม่ใช่ แต่เป็นแง่คิดต่างๆ ดีกว่า เด็กๆ แม่ก็คิดว่าอยากให้เด็กที่ชื่นชมในความเป็นแม่ลูกนะ ก็คิดว่าน่าจะได้มุมมองหรือเรื่องราวของชีวิตในตัวแม่มากกว่าน่ะค่ะ”
หลายคนคิดว่าจะมีเรื่องพาดพิงดาราคนอื่นๆ ไหม
“แม่ว่ามันเป็นหนังสือดีๆ ไม่ใช่หนังสือที่จะพูดถึงเรื่องราวของคนอื่น ตัวแม่เองเป็นคนรักลูก เพราะฉะนั้นเราก็อยากให้ทุกคนมีความรู้สึกเหมือนเรา หรือเราเองก็เข้าถึงใจคนอื่นได้ ลักษณะนั้นนะ แม่เองก็ผ่านเรื่องทั้งสมหวังไม่สมหวังในเรื่องครอบครัวมา แม่เองก็รู้สึกว่ามุมมองต่างๆ แล้วแม่เองก็ชอบทำการกุศลอยู่แล้วน่ะ หนังสือที่ออกมาแม่ก็จะนำไปช่วยมอบทุนเด็กๆ ต่อไปด้วยค่ะ เป็นเรื่องราวดีๆ อย่ากังวลอะไร ทุกอย่างแม่จดจำแต่สิ่งดีๆ สิ่งไม่ดีนั่นหมายถึงว่าตั้งแต่เด็กแม่เจอะเจออะไรมาบ้างอย่างนั้นมากกว่า เราอยู่ในครอบครัวยังไง เรามุ่งหวังที่จะสร้างครอบครัวแบบไหน ความคาดหวังในตัวลูกเป็นอย่างไรบ้าง แต่ว่าเราก็ยังคงอยู่ตรงนี้อยู่ ทุกอย่างเป็นเรื่องราวจริงๆ ของแม่ ซึ่งหลายคนก็คงไม่รู้ว่าแม่เจออะไรมาบ้าง หลายคนอาจจะเห็นแต่ในพาร์ตที่สวยหรูของแม่ โอ้ย เราดูสวยงามแต่หารู้ไม่ว่าเราเดินทางอย่างไร เรื่องมันตั้งแต่แม่เด็กๆ ไง เล่ามาจนถึงแม่มีลูก เรื่องการเรียนของแม่อะไรต่างๆ ก็มีหมด จบลงด้วยเรื่องการเดินทางกับลูก แต่ว่าในพาร์ตการเดินทางก็คงไปลึกๆ อีกทีในหนังสือของแพนมากกว่า”
ที่ผ่านมามีข่าวเรื่องแพนเค้กไปช่วยน้ำท่วมกับนายกฯ มีความรู้สึกอย่างไร
“ส่วนนี้แม่คิดว่าเป็นเรื่องราวปกติ เป็นเส้นทางที่เราเดินในชีวิตประจำวันปกติ เราต้องเจอะเจอเหตุการณ์อะไรเข้ามาตลอดเวลา เราอย่าถือว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี หรือว่าน่าตื่นเต้นหรือไม่น่าตื่นเต้น แม่กับแพนเดินทางกันด้วยความรู้สึกแบบนี้ตลอด ฉะนั้นในหมู่คนทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าทำไมเราไปอยู่ตรงนั้น แต่แม่คิดว่านั่นเพราะเราตั้งใจที่จะทำเรื่องดีๆมากกว่า แม่ทำเรื่องราวต่างๆ ที่ช่วยเหลือคนอื่นอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว มันก็อาจจะมีเหตุการณ์ให้เราได้ไปเจอะเจอหรือได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่านขึ้นมามากกว่า”
ไปรู้จักนายกฯ ได้ยังไง
“คุณแม่กับท่านเหมือนกับเป็นนักเรียนด้วยกันสมัยหนึ่ง อาจจะได้รู้ในหนังสือของแม่ (หัวเราะ) แต่ว่าแม่จะไม่ได้ระบุว่าเป็นท่านไง ถ้าคนรู้แบบนี้ก็จะรู้ว่าช่วงชีวิตไหนที่แม่ควรจะอยู่ ซึ่งน้องแพนเองก็ได้เจอะเจอกับท่านมาตั้งแต่น้องแพนยังเด็ก ตั้งแต่น้องแพนยังไม่ถึงสองขวบ”
สนิทกันขนาดไหน
“ความสนิทนี่เรียกว่า ท่านนายกฯ นี่ ต้องเรียกว่าท่านนายกฯ นะ จะสนิทกันในแง่มุมที่เป็นผู้หญิงทำงานเหมือนกัน เป็นแม่ที่ต้องดูแลลูกเหมือนกัน จะเป็นลักษณะแบบนั้นมากกว่า”
แอบถามนิดหนึ่งว่าก่อนที่คุณยิ่งลักษณ์จะมาเป็นนายกฯ แม่หน่อยเรียกท่านว่าอะไร
“(หัวเราะ) ขอไม่บอกดีกว่า ต้องไปถามท่านนายกฯ เอง เพราะในเรื่องแบบนี้ตอนนี้ก็เหมือนว่าท่านก็เป็นผู้ใหญ่น่ะค่ะ แม่กับน้องเองก็ต้องอยู่ในมุมที่เหมือนว่าเราเคารพท่านมากกว่า”
พูดถึงหนังสือเล่มนี้ปิดท้าย
“แม่คิดว่าคนคงจะรอ อยากจะเห็นบางมุมที่ไม่ดีของแม่ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งการให้ของแม่ เพราะมุมมองแม่จะเยอะมาก พอแม่คุยกับผู้เขียนปั๊บ ผู้เขียนก็บอกว่าขอออกของคุณแม่ดีกว่า แม่จะเล่ามุมการเดินทางของแม่ กว่าจะมีลูกคนนี้ก็เป็นเรื่องที่เราถูกสบประมาทมาเยอะ มันคืออะไรบ้าง หลายคนอาจจะอยากรู้ว่าผู้หญิงสองคนนี้ทำไมเขาถึงต้องเดินติดกันตลอดเวลา แล้วแม่ต้องถูกมองว่าแม่ไม่ปล่อยแพนสักที ในมุมต่างๆ เหล่านี้จะมีการเล่า แต่อ่านง่าย หนังสือของแม่อ่านง่ายๆ น่ะค่ะ”
........................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 103 วันที่ 24-30 กันยายน 2554