เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 3
เช้าวันถัดมา...
สายชลเอากองผ้าโยนลงในกะละมัง ระหว่างนั้นฟ้าลดาตามออกมา
“สายชลทำอะไร”
“ซักผ้า”
สายชลตักน้ำในตุ่มใส่ในกะละมัง ฟ้าลดาตื่นเต้นเหมือนเห็นของแปลกใหม่...รีบเดินออกมา
“นางฟ้าช่วย”
สายชลหันไปมองดูถูก
“ทำได้เร้อ”
“สายชลก็สอนซิ”
สายชลยิ้ม
“นางฟ้าเอาผงซักฟอกเทลงในนี้” สายชลทำท่าทางประกอบคำพูด “แล้วก็ขยี้ๆผ้าแบบนี้ เข้าใจ”
“เข้าใจ” ฟ้าลดาตอบอย่างมั่นใจมาก
“ถ้างั้นนางฟ้าซักผ้า สายชลจะไปซ่อมชิงช้า”
ฟ้าลดาพยักหน้าหงึกๆ นั่งลงบนเก้าอี้เตี้ยๆ ข้างกะละมัง เขาหันไปมองเธอแล้วยิ้มพึมพำ
“ทำดีกับเขาก็เป็นเหมือนกัน”
สายชลเดินออกไปอย่างสบายใจ ฟ้าลดามองผ้าในกะละมังอย่างครุ่นคิด แล้วก็นึกอะไรออก...ยิ้มออกมา รีบลุกเดินเข้าไปในบ้าน
ฟ้าลดาเข้ามาในบ้านมองไปรอบๆ
“ซักผ้า...ผ้า”
ฟ้าลดาเข้าไปหยิบเสื้อสายชลที่พับอยู่ในชั้นทุกตัว
“ผ้า...ผ้า...ผ้า...” เธอหันไปถอดผ้าคลุมเตียง “นี่ก็ผ้า...” หันไปหยิบผ้าห่ม “นี่ก็ผ้า...” หยิบหมอนขึ้นมาแล้วคิด “นี่ก็ผ้าเหมือนกัน”
ฟ้าลดาหยิบๆๆของจนเต็มมือ หอบเดินออกไป ยิ้มมีความสุข เธอโยนทุกอย่างลงในกะละมังรวมทั้งหมอน หยิบผงซักฟอกขึ้นมาเทลงไป
“ไม่พอ”
ฟ้าลดาเทผงซักฟอกจนหมดทั้งกล่อง แล้วก็นั่งยองๆข้างกะละมังก่อนใช้มือขยี้ผ้า
“ขยี้ๆๆ”
ฟ้าลดาขยี้ผ้าจนเกิดฟองเต็มไปหมด เธอตื่นตาตื่นใจมาก ลุกขึ้นยืน...ก้าวเข้าไปในกะละมัง แล้วก็ใช้เท้าเหยียบๆๆไม่หยุดจนฟองล้นออกมานอกกะละมังด้วยความสนุกสนาน
สายชลกำลังซ่อมชิงช้า ทันใดนั้นมีฟองอากาศลอยมา เขาชะงักแปลกใจ หันไปมองฟองอากาศ แล้วจิ้มแตก
“มาจากไหน”
สายชลเอะใจ หันขวับไปมองที่บ้าน เห็นฟองอากาศลอยมาจากหลังบ้านก็ตกใจ
“เฮ้ย!”
สายชลรีบวิ่งเข้ามา เห็นฟองอากาศลอยละล่อง เต็มไปหมด แล้วก็เห็นฟองเต็มตัวฟ้าลดาที่ยืนอยู่ในกะละมัง ฟองล้นออกมานอกกะละมังเต็มพื้นไปหมดก็ตกใจ
“นางฟ้า!”
ฟ้าลดายิ้มแฉ่ง หันไปโบกมือให้เห็นเป็นเรื่องสนุก
“สายชล”
สายชลวิ่งเข้ามาดู หยิบผงซักฟอกขึ้นมาเห็นว่าหมดกล่อง แล้วก็เห็นหมอนที่ถูกยัดอยู่ในกะละมัง เขาหยิบหมอนเปียกๆขึ้นมาด้วยความอึ้ง
“นางฟ้าเอาหมอนมาซักทำไมเนี่ย”
“ก็ซักผ้าไง หมอนก็เป็นผ้า”
สายชลเซ็งเลย
“โธ่...นางฟ้า”
ทันใดนั้นฟ้าลดาเอาฟองป้ายปากเขาแล้วหัวเราะ สายชลสะดุ้ง
“ทำผิด แล้วยังมาแกล้งอีกเหรอ”
สายชลกวักฟองจากในกะละมังมาขยี้หัวของเธอ ฟ้าลดานึกว่าเขาเล่นด้วยก็เลยเอาฟองละเลงหน้าของเขา สายชลโมโหเอาฟองป้ายไม่หยุด ฟ้าลดาหัวเราะสนุกสนาน สองคนป้ายฟองกันไปมา
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพรเดินคุยโทรศัพท์มือถือ ระหว่างที่เดินไปหาหมอวัฒนา...
“ช่วงนี้ฉันขอลางานตามหาน้องสาวก่อนนะหญิง แต่ถ้าเธอมีอะไรโทรหาฉันได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
หญิงเดินคุยโทรศัพท์กับชมพูแพรอยู่ที่โรงแรม
“ตามหาน้องสาวให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง”
“ขอบใจมาก”
หญิงวางสายเดินไปถึงหน้าห้องชมพูแพร มีป้ายหน้าห้องเขียนว่า “ชมพูแพร พิมุขมนตรา กรรมการผู้จัดการ” หญิงเปิดประตูเดินเข้าไปในห้อง หยิบรูปถ่ายชมพูแพรบนโต๊ะขึ้นมามองหน้าร้ายกาจ
“พอแกกลับมา โรงแรมนี้ก็เป็นของฉันแล้วนังชมพูแพร”
หญิงยิ้มอย่างมีแผนร้าย แล้วก็โยนรูปชมพูแพรลงถังขยะ แล้วไปนั่งที่เก้าอี้อย่างสะใจ
+ + + + + + + + + + + +
หมอวัฒนากับชมพูแพร เดินทางมาที่สถานีตำรวจจังหวัดกระบี่ สารวัตรชี้แผนที่ตามจุดต่างๆหลายจุดที่จะไปตามหาให้ทั้งคู่ พลางอธิบายไปด้วย ชมพูแพรตั้งใจฟังมาก
วันรุ่งขึ้น...
เรือ speed boat แล่นไปในท้องทะเล สารวัตรชี้ไปรอบๆ ให้ชมพูแพรกับหมอวัฒนาดู พร้อมกับอธิบายไปด้วย เรือวนรอบเกาะแก่งต่างๆช้าๆ เพื่อหาฟ้าลดาตามเกาะ เรือแล่นมาใกล้หาดแล้วจอด
“คุณชมพูแพรรอในเรือได้นะครับ แถวนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะเป็นเกาะร้าง” สารวัตรบอก
“ไม่เป็นไร ฉันจะไปด้วย”
สารวัตรกับหมอวัฒนา กระโดดลงจากเรือ หมอวัฒนาหันไปช่วยชมพูแพรลงจากเรือ ทั้งหมดเดินเข้าไปในเกาะพร้อมกัน การเดินทางบนเกาะค่อนข้างลำบากต้องบุกป่าฝ่าดง ขึ้นเขา ชมพูแพรเหน็ดเหนื่อยมาก แต่ก็อดทน
วันต่อมา... คนท้องถิ่นได้พาสารวัตร ชมพูแพและหมอวัฒนา ขึ้นรถสองแถว รถแล่นไปตามทางทั้งหมดช่วยกันมองหาฟ้าลดา ขณะเดียวกันนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูคล้ายฟ้าลดาแต่ก็ไม่ใช่ หมอวัฒนาจับมือชมพูแพรให้กำลังใจ
หลังจากหาจนทั่วแต่ก็ไม่พบตัวฟ้าลดา ทั้งหมดจึงเข้าไปหาในตลาด ชมพูแพรเดินเอารูปฟ้าลดาให้ชาวบ้านดูกลางแดดจัด ชมพูแพรปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อยล้า เวลาผ่านไปทั้งหมดตามหากันอย่างเหนื่อยอ่อนไปทุกที่ที่คิดว่าจะเจอ ชมพูแพรอิดโรย เหนื่อยมาก และเริ่มหงุดหงิดที่ไม่เจอฟ้าลดาซักที
+ + + + + + + + + + + +
วันถัดมา ชมพูแพรแต่งตัวออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าซีดเซียว ดูป่วยๆ ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ชมพูแพรเปิดประตู เห็นหมอวัฒนายืนอยู่หน้าห้อง
“สารวัตรมารอที่หน้าโรงแรมแล้วครับ”
“ค่ะ”
ชมพูแพรจะเดินออกไป แต่กลับมึน...เซจะเป็นลม หมอวัฒนาตกใจรีบประคอง
“แพร...” เขาจับแขนของเธอสะดุ้ง “แพรเป็นไข้นี่ ผมว่าวันนี้แพรไม่ต้องออกไปตามหาน้องฟ้าหรอกนะครับ”
ชมพูแพรมุ่งมั่นตั้งใจ
“ไม่ได้ค่ะ แพรต้องไป”
ชมพูแพรพยายามจะไป แต่หน้ามืด หมอวัฒนารีบประคองเอาไว้
“ขนาดนี้แล้วแพรจะไปไหวได้ยังไง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเถอะนะครับ”
ชมพูแพรหมดเรี่ยว หมดแรง หมอวัฒนาจึงให้ชมพูแพรนอนพักผ่อรรักษาตัวอยู่ในห้องพัก โดยให้สารวัตรกับคนของเขาตามหาต่อ
สารวัตรกับลูกน้องตามหาฟ้าลดาจนทั่วแต่ก็ยังไม่เจอตัวสักที
สามวันผ่านไป...
หมอวัฒนากับชมพูแพรกลัดกลุ้ม เริ่มวิตกมากขึ้น ทั้งสองคนพากันที่โรงพัก เมื่อชมพูแพรอาการดีขึ้น เมื่อเข้าไปในโรงพัก เธอเปิดประตูพรวดเข้ามาในห้อง ขณะที่สารวัตรกำลังคุยกับลูกน้อง ทั้งหมดผงะ หมอวัฒนาตามมาติดๆ
“นี่มันผ่านมาหลายวันแล้ว ทำไมถึงยังไม่ได้เบาะแสยัยฟ้า พวกคุณทำงานกันยังไง”
สารวัตรหันไปมองลูกน้อง ลูกน้องลุกขึ้น โค้งให้เจ้านายแล้วเดินออกไป สารวัตรลุกขึ้นยืน
“คุณชมพูแพรใจเย็นก่อนนะครับ”
“อย่ามาบอกให้ฉันใจเย็น“ ชมพูแพรคิดอะไรขึ้นมาได้ “หรือพอฉันไม่ไปด้วย พวกคุณก็เลยไม่สนใจ”
สารวัตร พยายามสะกดกลั้นอารมณ์
“ผมกับลูกน้องออกตามหาคุณฟ้าลดาทุกที่ที่มีความน่าจะเป็นไปได้แล้ว แต่เราไม่พบจริงๆ”
ชมพูแพรมองสารวัตรไม่พอใจ
“แพรครับ ผมว่าสารวัตรคงพยายามเต็มที่แล้ว” หมอวัฒนาปราม
“ถ้าพยายามจริงมันก็ต้องได้อะไรมาบ้าง ไม่ใช่คว้าน้ำเหลวทุกครั้ง” ชมพูแพรเสียงแข็งไม่พอใจ
สารวัตรเหนื่อยใจ
“เมื่อซักครู่ก่อนที่คุณจะพรวดพรวดเข้ามา ผมกับลูกน้องกำลังช่วยกันคิดว่าเราจะไปตามหาคุณฟ้าลดาที่ไหน แล้วเราก็นึกได้ว่าวันที่คุณฟ้าลดาหายตัวไปมีพายุ...ทิศทางของกระแสน้ำอาจจะพาคุณฟ้าลดาไปที่ที่หนึ่ง”
ชมพูแพรชะงักกับคำพูดที่หนักแน่นของสารวัตร
+ + + + + + + + + + + +
คนท้องถิ่นพาสารวัตรกับลูกน้อง ชมพูแพร และหมอวัฒนามาหาผู้ใหญ่บ้าน ของหมู่บ้านชาวประมง บนเกาะแห่งหนึ่งแล้วเอารูปฟ้าลดาให้ดู ผู้ใหญ่บ้านส่ายหน้าไม่เคยพบเห็น คนท้องถิ่นจึงพาทุกคนไปตามหาฟ้าลดาตามที่ต่างๆในหมู่บ้านชาวประมง แต่ก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนเห็นฟ้าลดา
เย็นนั้นทุกคนพากันขึ้นมาจากเรือ ชมพูแพรหัวเสียสุดๆ
“ทำไมถึงไม่มีใครเห็นยัยฟ้าซักคน”เธอหันขวับไปทางสารวัตร “ ไหนคุณว่ายัยฟ้าถูกคลื่นซัดไปที่นั่นไง”
สารวัตรชักหงุดหงิด
“ผมบอกว่าอาจจะ...ซึ่งแปลว่าอาจจะเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้ ที่คุณฟ้าลดาจะถูกกระแสน้ำพาไปที่นั่น”
ชมพูแพรนิ่งพูดไม่ออก สารวัตรจ้องหน้า
“นี่เราก็ตามหาคุณฟ้าลดามาหลายวันแล้ว ผมอยากให้คุณทำใจไว้บ้างนะครับคุณชมพูแพร”
ชมพูแพรสวนกลับทันทีด้วยความโมโห
“คุณพูดงี้หมายความว่าไง...ถ้ายังไม่พบศพ แสดงว่ายัยฟ้ายังมีชีวิตอยู่ พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาตัดสินว่าน้องสาวฉันตายไปแล้ว"
หมอวัฒนาตกใจกับท่าทาง ที่แสดงออกของชมพูแพร รีบจับแขนของเธอ
“แพร...”
ตำรวจพยายามพูดอย่างใจเย็น
“ผมเข้าใจว่าคุณเป็นห่วงน้องสาวคุณมาก แต่จากประสบการณ์ของผม คนที่ประสบอุบัติเหตุเรือล่มจากพายุ โอกาสรอดมีน้อยมาก ยิ่งกรณีอย่างคุณฟ้าลดา ที่หายตัวไปร่วมอาทิตย์ โอกาส...เหลือแค่ 1%”
“ถ้าคนที่หาย เป็นน้องสาวพวกคุณ พวกคุณก็ต้องทำแบบฉันเหมือนกัน”
สารวัตรอึ้งไปกับความไม่ยอมแพ้ของชมพูแพร หมอวัฒนาได้แต่ถอนหายใจ
+ + + + + + + + + + + +
วันต่อมา...สายชลกำลังเย็บแห ฟ้าลดาเดินมายืนข้างๆ
“นางฟ้าช่วย”
สายชลหันไปมองไม่ไว้ใจ
“ไม่ต้อง”
สายชลหันมาเย็บแหต่อ ฟ้าลดาเดินมาตรงหน้าสายชล มีแหกั้นระหว่างคนสองคน
“ฟ้าลดา ให้นางฟ้าช่วยเหอะนะ นางฟ้าอยากช่วยสายชล”
สายชลมองอย่างลังเล
“นางฟ้าสัญญาว่าคราวนี้นางฟ้าจะไม่ทำยุ่ง” เธอเอามือเกาะแหแล้วอ้อนวอน “นะสายชลนะ ให้นางฟ้าช่วยนะ”
สายชลใจอ่อน
“ก็ได้”
ฟ้าลดายิ้มดีใจ
“สายชลจะอธิบายให้นางฟ้าฟังว่าทำยังไง แล้วก็จำให้แม่นๆล่ะ”
“จ๊ะ”
ฟ้าลดารับคำหนักแน่น สายชลสอนฟ้าลดาเย็บแห ลองให้ทำ แต่เธอทำผิดทำถูก เขาจึงสอนอีกครั้ง แล้วเธอก็ทำได้ สายชลยิ้มพอใจ ฟ้าลดาปรบมือให้ตัวเอง...สองคนช่วยกันเย็บแห หันมายิ้มให้กัน
“หิวน้ำมั๊ย” สายชลถามอย่างเป็นห่วง
“หิว”
“สายชลไปเอาน้ำมาให้”
“จ๊ะ”
สายชลเดินออกไป ฟ้าลดาหันไปเย็บแหต่อ แต่ดันทำเส้นเอ็นเป็นปมก็หน้าเสีย พยายามจะแกะปม แต่ยิ่งแกะ ปมก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นจนแกะไม่ออก ฟ้าลดากลุ้มใจมาก
“ถ้าสายชลมาเห็นเข้า โดนดุแน่ๆเลย”
เธอออกแรงดึง...ดึงแรงขึ้น แรงขึ้น...ทำให้แหล้มทับตัว โครม!
สายชลถือน้ำมะพร้าวเดินกลับมา แล้วก็ตกใจที่เห็นแหพันตัวฟ้าลดาอยู่
“เฮ้ย!”
“สายชล...ช่วยด้วย”
สายชลถอนหายใจอยากจะบ้าตาย ตรงเข้าไปตัดแหช่วยให้ออกมา ฟ้าลดายืนหน้าจ๋อย ใบหน้าเป็นรอยตาข่าย เขามองแหที่ถูกตัดขาดก็ได้แต่เซ็ง หันไปมองเธอสายตาดุดัน ทำเอาฟ้าลดาสะดุ้งโหยง
“ไหนบอกจะไม่ทำยุ่งไง”
ฟ้าลดาไหว้
“นางฟ้าขอโทษ”
“แล้วจะเอาแหที่ไหนไปจับปลาล่ะเนี่ย...โธ่เว๊ย”
สายชลหัวฟาดหัวเหวี่ยง ฟ้าลดาก้มหน้างุด รู้สึกผิด
+ + + + + + + + + + + +
วันต่อมา สายชลกำลังตากปลาหมึก ฟ้าลดาวิ่งออกมาเห็นก็รีบเข้ามาหา
“สายชล...”
สายชลสะดุ้งหันไปเห็นฟ้าลดา มองด้วยความระแวง
“นางฟ้าช่วย”
สายชลชี้หน้า
“ไม่ต้อง”
ฟ้าลดากำลังจะทำหน้าอ้อนวอนขอร้อง
“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนี้ เพราะหน้าแบบนี้ทำฉันซวยมากี่ครั้งแล้ว”
ฟ้าลดาแบะปาก
“ยิ่งช่วยก็ยิ่งยุ่ง”
ฟ้าลดาจ๋อยไป ไม่กล้าพูด เขาหันกลับไปตากปลาหมึกต่อ เธอได้แต่ยืนเฉยๆอยู่กับที่ คอยมองเขาตลอดเวลา พอเขาหันมา เธอก็ทำมองไปทางอื่น
สายชลหันไปทำงานต่อ ฟ้าลดาก็หันมามองเขา ขณะเดียวกันนั้นมีแมลงวันบินมาตอม ฟ้าลดาเอามือปัด แมลงวันก็ยังมาตอม เธอรำคาญมาก...ตบไม่โดน เธอเดินตบแมลงวัน...ตบ...ตบ...และตบ...แมลงวันเกาะบินไปเกาะหัวสายชล เธอหันไปเห็นถาดเหล็กวางอยู่ หยิบขึ้นมา ค่อยๆย่องเข้าไปทางด้านหลังแล้วตีแมลงวันที่เกาะหัวของเขาเต็มแรงดังโป๊ก! สายชลสะดุ้งเฮือก
“โอ๊ย!...ตีหัวฉันทำไม”
ฟ้าลดาไม่ตอบ มองแมลงวันเกาะที่จมูกสายชล
“สายชลอยู่เฉยๆ”
สายชลเอะใจ มองแมลงวันที่เกาะจมูกตัวเองจนตาเหล่ ฟ้าลดาเงื้อถาดขึ้นมา สายชลตาเหลือก
“นางฟ้า...อย่า...”
ขาดคำ เธอก็เอาถาดเหล็กตีจมูกเขาเต็มแรง
“อ๊ากกกกก!”
เสียงสายชลดังลั่นไปทั่วทั้งเกาะ
(อ่านต่อ หน้า 2 )
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 3 (ต่อ)
เย็นวันนั้น...
สายชลจมูกแดงเถือกเอาอาหารมาวางบนโต๊ะ ฟ้าลดายืนตัวลีบ ไม่กล้า เขามองเธออย่างเคืองๆก่อนจะนั่งลง ฟ้าลดาจะเข้ามานั่งกินข้าวด้วย สายชลตวาด
“ถอยไป”
ฟ้าลดาชะงัก
“นางฟ้าหิว”
“หิวก็ไปทำกินเอง นี่มันของฉัน”
สายชลรวบจานข้าวเข้ามาใกล้ แล้วก็กินข้าวคำโตเย้ย ฟ้าลดากลืนน้ำลายอยากกิน ทำเป็นจะเดินออกไป สายชลวางใจ แต่ทันใดนั้นเธอกลับพุ่งเข้ามาจะหยิบปลา สายชลรีบดึงจานปลาหลบ ฟ้าลดาไม่ยอม จะหยิบปลาให้ได้ แต่เขาก็ดึงจานหลบได้ทุกครั้ง สองคนจ้องหน้ากัน อย่างไม่มีใครยอมใคร
ทันใดนั้น...สายชลเผลอกะพริบตา จังหวะนั้นฟ้าลดาฉวยปลาไปได้ สายชลตกใจ
“เฮ้ย!”
ฟ้าลดารีบวิ่งปรู๊ดดดออกไปทันที สายชลหัวเสียสุดๆ
“ยัยตัวแสบ”
+ + + + + + + + + + + +
ค่ำคืนนั้น...
สายชลล้มตัวลงนอน ไม่พูด ไม่มอง ฟ้าลดามองเขาอย่างรู้สึกผิด แต่พอสายชลเห็นเธอมองก็รีบพลิกตัวนอนหันหลังให้ แล้วก็หลับตา ทำเป็นไม่สนใจ ครู่หนึ่งสายชลชักแปลก ลืมตาขึ้น
“ทำไมเงียบแบบนี้”
สายชลชักเป็นห่วง หันไปก็สะดุ้งสุดตัวที่เห็นฟ้าลดานั่งยองๆอยู่ข้างๆ
“เว๊ยยย!”
เขาถอยกรูด...ทำให้หัวโขกกำแพงดังโป๊ก!
“อุ๊ยยย”
ฟ้าลดาตกใจรีบเข้ามาดู
“สายชลเจ็บมั๊ย”
“ไปไกลๆ อยู่ใกล้เธอทีไร ฉันซวยทุกที”
ฟ้าลดาขยับเข้ามาใกล้
“ให้นางฟ้าดูหน่อยนะ”
“ไม่ต้อง...”
“ให้นางฟ้าดูหน่อยเถอะ”
“บอกว่าไม่ต้องไง”
ฟ้าลดาไม่ฟัง เดินเข้ามาแต่สะดุดล้ม...เข่าเข้าเป้าเต็มแรง สายชลเจ็บปวดจนพูดไม่ออก หน้าเขียว ฟ้าลดาตกใจ
“สายชลเป็นอะไร”
สายชลพูดไม่ออก ชี้นิ้วให้เธอกลับไปที่เตียงตัวเอง ฟ้าลดาจำยอมเดินคอตกกลับไป สายชลเจ็บปวดสุดๆร้องไม่ออก จำต้องกำหมัดแล้วยกขึ้นมากัดเอาไว้
+ + + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่...
สายชลค่อยๆเอาย่ามสะพาย หันไปมองฟ้าลดาที่ยังนอนหลับแล้วบ่นเสียงเบา
“ถ้ายัยนั่นตื่น ต้องร้องขอตามไปด้วยแน่ๆ รีบไปก่อนดีกว่า”
สายชลค่อยๆย่องออกไป แต่ดันชนโต๊ะ ทำให้ของบนโต๊ะจะหล่น เขาตกใจ รีบรับเอาไว้ได้ทัน ถอนหายใจโล่งอก เอาของวางที่เดิม แล้วรีบเดินออกไป ฟ้าลดาตื่นขึ้นมาเห็นสายชลออกไป ก็มองตาม
“สายชล...”
เธอนิ่วหน้าสงสัยว่าเขาไปไหน
สายชลรีบจ้ำเดินมาตามหาด ฟ้าลดาแอบเดินตามมา สายชลรู้สึกเหมือนมีคนตามมาก็หยุดเดินครุ่นคิด
“ทำไมรู้สึกเหมือนมีคนตามมา”
เขาหันขวับ ด้านหลัง ฟ้าลดารีบหลบ สายชลหันไปมองรอบๆ ไม่เห็นใคร หันไปเดินต่อ ฟ้าลดารีบออกมา แล้วเดินตามไป...สายชลหยุดอีก ฟ้าลดารีบหลบผลุบเข้าข้างทาง สายชลหันไปเห็นคนแว๊บๆก็สงสัยแต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ แล้วก็รีบหลบเข้าไปข้างทาง ฟ้าลดาออกมาตกใจ
“สายชลหายไปไหนแล้ว”
เธอมองหาเขาไปรอบๆ ทันใดนั้นสายชลก็เดินออกมา เธอหันไปเห็นเขาก็ผงะหน้าถอดสี
“ตามมาทำไม”
ฟ้าลดาอึกอัก
“เออ...นางฟ้าไม่ได้ตามสายชล นางฟ้า...นางฟ้าเดินเล่น”
ฟ้าลดาแกล้งลอยหน้าลอยตาทำเป็นเดินเล่น สายชลหรี่ตามอง
“โกหกไม่เนียนเลยนางฟ้า”
ฟ้าลดาชะงักหันไปมองสายชลทำหน้าตาย
“โกหกอาไร้”
“ก็โกหกว่าเดินเล่นยังไงล่ะ ดูก็รู้ว่านางฟ้าตามสายชลมา”
ฟ้าลดาจนหนทาง แกล้งทำร่าเริงกลบเกลื่อน
“ว้าโดนจับได้ซะแล้ว” เธอหยิกแก้มเขา “สายชลเก่งจัง”
สายชลปัดมือฟ้าลดาออก
“รู้ได้ไงว่านางฟ้าตามมา งั้นเราไปด้วยกันเถอะนะ”
ฟ้าลดาจับมือเขาจะพาเดินออกไป แต่สายชลทำหน้าโหดใส่ ฟ้าลดาเจื่อน
“กลับบ้านไปซะ”
“ไม่ สายชลโกรธนางฟ้า นางฟ้าเสียใจ”
“ถ้าไม่อยากให้สายชลโกรธ นางฟ้าไปมากกว่านี้ ก็กลับบ้าน”
สายชลเดินต่อ เธอรีบวิ่งมาขวาง เขาหยุดกึก
“นางฟ้าไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว สายชลให้นางฟ้าไปด้วยนะ สายชลไม่ต้องสนใจนางฟ้าหรอก”
สายชลสุดทน
“ขืนให้นางฟ้าไปด้วย ก็ทำเรื่องยุ่งอีกน่ะซิ สายชลไม่อยากเจ็บตัวเพราะนางฟ้าอีกแล้ว”
“นางฟ้าสัญญาว่า นางฟ้าจะเชื่อฟังสายชลทุกอย่าง”
“งั้นก็เชื่อฟังซะตั้งแต่ตอนนี้ กลับ-บ้าน”
“ไม่เอา”
“ไหนบอกจะเชื่อฟังทุกอย่างไง ทำไมถึงดื้อแบบนี้ห๊ะ”
ฟ้าลดาสะดุ้งที่สายชลตวาดก็เริ่มไม่พอใจ
“ทำไมสายชลต้องเสียงดังด้วย นางฟ้าขอโทษสายชลไปแล้ว สายชลจะเอาไงอีก”
สายชลฉุนกึก
“เดี๋ยวนี้กล้าขึ้นเสียงกับสายชลเหรอ”
“เออ!”
สายชลสะดุ้งถึงกับไปไม่ถูก
“นี่เธอ...เธอ...”
ฟ้าลดาชูนิ้วโป้งมาตรงหน้าสายชล
“นางฟ้าโป้งสายชลแล้ว”
ฟ้าลดาสะบัดหน้าเต็มที่ ทำให้ผมโดนหน้าของเขา สายชลจามเสียงดัง
“ฮัดเช้ย!”
สายชลหันไปเห็นฟ้าลดาจ้ำเดินกลับไป ก็ไม่พอใจ ตะโกนไล่หลัง
“อยากโป้งก็โป้งเลย สายชลไม่สนนางฟ้าหรอก”
เขาหันหลังเดินไปอีกทาง ทั้งสองเดินกันไปกันคนละทาง
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดาจ้ำเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยความโมโห
“สายชลใจร้าย ใจดำ”
ทันใดนั้นเสียงยาซะดังขึ้น
“นางฟ้า”
ฟ้าลดาหันไปเห็นยาซะถือถุงกระดาษมาสองถุง ยืนอยู่ตรงประตูบ้านก็สะดุ้งตกใจ
“มาทำไม”
ฟ้าลดากลัวตัวสั่น ไม่กล้าสบตา ยาซะขยับเข้ามา
“ยังกลัวฉันอยู่อีกเหรอ”
ฟ้าลดาไม่ตอบ ถอยออกห่าง
“ฉันเอาของมาให้นางฟ้า”
ยาซะวางถุงกระดาษบนโต๊ะ ฟ้าลดาหันไปมอง ยาซะหยิบของในถุงออกมาล่อฟ้าลดา
“ขนม แล้วก็เครื่องสำอาง”
ฟ้าลดาเริ่มสนใจ
“รู้จักมั๊ย” ยาซะหยิบออกมาทีล่ะอัน “นี่ลิปสติกเอาไว้ทาปาก นี่ที่ทาแก้ม แล้วนี่ก็ที่ทาตา”
ยาซะวางทุกอย่างบนโต๊ะ ฟ้าลดาดูๆ แต่ยังไม่กล้าหยิบ
“ให้นางฟ้าหมดเลยจริงเหรอ”
“จริง ให้หมดเลย”
ฟ้าลดายิ้มดีใจ หยิบของขึ้นมาดู แววตาชื่นชอบสุดๆ ยาซะยิ้มพอใจ
“ถ้านางฟ้าอยากได้อะไร บอกพี่ยาซะนะจ๊ะ พี่ยาซะจะหามาให้นางฟ้าทุกอย่าง”
ฟ้าลดาหันไปทางยาซะแล้วพยักหน้า
“ขอบใจจ๊ะ”
ฟ้าลดายิ้มให้เต็มที่ไม่มีความกลัวอีก ยาซะยิ้มด้วยความพึงพอใจ
+ + + + + + + + + + + +
สวยหมุนลิปสติกสีแดงขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้น เพราะชอบมาก แต่ทำเก๊กว่าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลย สวยหันไปทางฟ้าลดา กอยา และซาตินที่ยืนมองอยู่...
“เนี่ยเขาเรียกว่าลิปกระติก...เอาไว้ทาปาก” สวยหยิบขึ้นมาอีกอัน “ส่วนไอ้สีฟ้าๆเขียวๆเนี่ยเอาไว้ทาตา และสีชมพูกล่องนี้ไว้ทาแก้ม”
“ทำไมแกรู้ดีจังอ่ะสวย” กอยาถามอย่างแปลกใจ
“เอ้า...ถามอะไรไม่รู้จักคิด ของพวกนี้ฉันใช้เป็น” สวยขึ้นเสียงสูง “ประจำ”
“แล้วทำไมนางฟ้าไม่เคยเห็นสวยแต่งหน้า” ฟ้าลดาถามอย่างสงสัย
สวยทำฟอร์ม
“ฉันแต่งเวลาอยู่บ้าน ฉันไม่อยากแต่งออกมาข้างนอกหรอก เพราะพวกผู้ชายชอบชมฉัน ฉันรำคาญ”
กอยากับซาตินเบ้หน้าไม่เชื่อหรอก ฟ้าลดานึกอะไรออกเลยยิ้มแฉ่ง
“ถ้างั้นสวยแต่งหน้าให้นางฟ้านะ”
สวยยิ้มรับ
“ได้ซิ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พวกเรามาแต่งหน้ากันทุกคนเลยดีมั๊ย”
ฟ้าลดา กอยา ซาตินพยักหน้า สวยชูลิปสติคในมือขึ้นมายิ้มเชิดราวกับเป็นมืออาชีพด้านเมคอัพ
+ + + + + + + + + + + +
ไม่นานนัก...ฟ้าลดา สวย กอยา ซาติน แต่งหน้าจัด ปากแดง แก้มชมพู ตาสีฟ้า คิ้วเข้ม ทั้ง 4 คนเดินไปตามทางด้วยความมั่นใจ ราวกับนางแบบเดินบนแคตวอล์ก
ชาวบ้านที่ทำกิจกรรมอยู่แถวนั้น หันไปมองด้วยความตื่นตะลึง อ้าปากค้าง บางคนที่กำลังถือของก็ทำของหล่น บางคนที่หิ้วถังน้ำมาก็สะดุดหกล้ม สวยกระหยิ่มยิ้มได้ใจ หันไปกระซิบฟ้าลดา
“เห็นยังนางฟ้าว่าใครๆก็ตะลึงในความสวยของพวกเรา”
ฟ้าลดายิ้ม สวยสะบัดผม ฟ้าลดาสะบัดผมตาม
“พร้อมนะทุกคน”สวยถาม
“พร้อม"สามคนพูดพร้อมกัน
ฟ้าลดา สวย กอยา ซาติน หยุด แล้วโพสท่านางแบบ ฟ้าลดาทำตามสวย แตลอยเดินดื่มน้ำมะพร้าวออกมาจากบ้าน...มายืนข้างซะละ กับแสงดาว เห็นพ่อกับแม่หน้าเหวอก็แปลกใจ
“พ่อ แม่ ดูไร”
ซะละกับแสงดาวไม่ตอบเพราะมัวแต่อึ้ง แตลอยหันไปเห็น 4 สาวถึงกับหันมาพ่นน้ำมะพร้าวใส่หน้าซะละ
“ไอ้ลอย เอาน้ำมะพร้าวล้างหน้ากูซะแล้ว”
ซะละโวย แตลอยหน้าแหย หันไปมองฟ้าลดา สวย กอยา ซาติน ที่กำลังเดินผ่านหน้าบ้าน สวยหันมาส่งจูบให้ แตลอยสะดุ้งโหยง แล้วทั้ง 4 สาวก็เดินจากไป
+ + + + + + + + + + + +
ปีร์กะหัวเราะชอบใจ หันไปมองสายชลที่กำลังช่วยเก็บสมุนไพร
“ป้าหัวเราะอะไร ฉันไม่ขำ”
“เอ็งจะถือสาอะไรกับนางฟ้าวะไอ้สายชล นางฟ้าคิดว่าตัวเองเป็นเด็ก เขาถึงเห็นอะไรเป็นเรื่องสนุกไปหมด”
“สนุกคนเดียวน่ะซิป้า วันก่อนทำไฟไหม้ห้องครัว แถมยังทำฉันเจ็บตัวไม่เว้นแต่ละวัน มันจะมีอะไรมากกว่านี้อีกมั๊ย”
“สายชล เอ็งต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดดูซิคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มันน่าสงสารมากแค่ไหน เอ็งต้องเห็นใจนางฟ้าให้มากๆ”
ปีร์กะตบบ่าสายชลแล้วเดินออกไป สายชลคิดตามที่ปีร์กะพูด
+ + + + + + + + + + + +
ค่ำคืนนั้น...
สายชลเดินมาหยุดหน้าบ้าน...เห็นบ้านทั้งหลังมืดสนิท
“ทำไมบ้านมืดแบบนี้” สายชลใจไม่ดี “หรือนางฟ้าจะโกรธเรามากจนหนีไปแล้ว”
สายชลคิดแล้วก็เป็นกังวลขึ้นมาทันที รีบจุดตะเกียงที่แขวนตรงเสาหน้าบ้าน เอามาถือแล้วรีบเดินเข้าไป สายชลถือตะเกียงเข้ามาในบ้านที่มืดมิด
“นางฟ้า...”
ทันใดนั้นมีเสียงกุกกักๆดังขึ้น สายชลชะงักหันไปมองหา
“เสียงอะไร”
สายชลส่องตะเกียงไปรอบๆเจอหน้าฟ้าลดาแต่งหน้าขาว ปากแดงโผล่ออกมาในความมืด
“แฮ่!”
“เว๊ยยย!”
สายชลสะดุ้งตกใจร้องลั่นล้มหงายหลัง หมดสภาพ ฟ้าลดาหัวเราะเสียงดังลั่น
“ฮ่าๆๆ”
“นางฟ้า”
“สายชลตลก ฮ่าๆ”
สายชลโมโห ลุกขึ้นมายืน
“ไม่ตลก...ทำอะไรกับหน้ามา
“สวยแต่งหน้าให้ สวยใช่มั๊ย”
ฟ้าลดาโพสต์ท่าแบบสวย
“สวย...หยั่งกับ ผี น่ะซิ”
ฟ้าลดาหน้างอไม่พอใจ
“ลบออกให้หมดเดี๋ยวนี้เลย”
สายชลเดินเข้าไปในบ้านด้วยความหงุดหงิด ฟ้าลดาหันไปมองตามด้วยความโมโหที่เขาว่าเธอ แต่ก็ยอมลบหน้าออกจนหมด ฟ้าลดาหันไปเห็นสายชลนอนหลับสนิทอยู่ จึงหยิบลิปสติกขึ้นมาแล้วยิ้ม....
(อ่านต่อ หน้า 3 )
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 3 (ต่อ)
เช้าวันใหม่...
สายชลนอนหันหลังหลับอยู่ เสียงแตลอยดังขึ้น
“สายชล สายชล”
แตลอยยืนอยู่หน้าบ้านพลางร้องเรียก สายชลสะดุ้งเฮือก หน้าถูกแต่งเอาไว้ ปากแดง ตาสีฟ้า แก้มชมพู โดยที่เขาไม่รู้ตัว หันไปมองฟ้าลดาที่ยังหลับสนิท สายชลรีบไปโผล่หน้าออกไปทางหน้าต่าง แตลอยเห็นหน้าสายชลก็สะดุ้งตกใจ
“เดี๋ยวออกไป”
สายชลผลุบกลับเข้าไปในบ้าน แตลอยผงะ ขยี้ตาตัวเอง
“นี่กูตาฝาดป่าววะ”
สายชลบ้วนปาก ล้างหน้าลวกๆ ทำให้ปากเลอะ ขอบตาเละ สภาพหน้าแย่มาก แต่สายชลไม่รู้ รีบเดินออกไปหา แตลอยสะดุ้งโหยง อ้าปากค้าง
“ไปได้แล้ว”
“แน่ใจนะว่าจะไปทั้งอย่างนี้”
“เออ”
แตลอยยังยืนนิ่งไม่รู้จะพูดยังไง สายชลหันมา
“เอ้า เร็วดิ”
สายชลจ้ำเดินออกไปก่อน แตลอยไม่รู้จะทำยังไง รีบตามออกไป ขณะที่เดินไปด้วยกัน สาวๆหันไปมองสายชลตะลึงอึ้ง สายชลแปลกใจ
“เขามองอะไรกัน”
“มองแกนั่นแหละ”
“มองฉัน...มองฉันทำไม”
แตลอยยังไม่ทันบอก อารีฟะที่อุ้มหนูแดงเดินมาเห็นสายชลก็ตกใจ
“คุณพระช่วย ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้สายชล...อย่าบอกนะว่าแกเป็นตุ๊ด”
สายชลเหวอ นิ่วหน้าไม่เข้าใจ อารีฟะหยิบกระจกมาให้ดู สายชลเห็นหน้าตัวเองในกระจก ก็ตกใจปนโมโห หันไปทางแตลอย
“ทำไมแกไม่บอกฉันไอ้ลอย”
แตลอยยิ้มแหยๆ
“ก็ว่าจะบอก แต่ไม่รู้จะบอกยังไง”
“โธ่เว๊ย!”
“แล้วใครทำกับสายชลแบบนี้” อารีฟะถามอย่างสงสัย
สายชลกำมือแน่นรู้เลยว่าเป็นฝีมือใคร
“จะใครซะอีกล่ะ”
+ + + + + + + + + + +
ที่บ้าน...
ฟ้าลดาหัวเราะเสียงดัง สวย ซาติน กอยา มองแปลกใจ
“นางฟ้าหัวเราะอะไร”
“ไม่รู้ “ฟ้าลดาตอบหน้าตาย
สามคนหน้าเหวอ
“เอ้า”
“มันรู้สึกมีความสุขก็เลยอยากหัวเราะ”
สวยมองหน้าฟ้าลดา
“เธอนี่แปลกจริงๆนะนางฟ้า”
ทันใดนั้นเสียงสายชลดังขึ้น
“นางฟ้า!”
สวย กอยา ซาตินหันไปเห็นสายชลที่ล้างหน้าหมดแล้ว ฟ้าลดาเห็นสายชลก็ตกใจ รีบวิ่งหนีไปทันที
“จะไปไหนตัวแสบ”
สายชลรีบไล่ตามฟ้าลดาไปติดๆ สวย กอยา ซาติน มองตามงงๆ
“พี่สายชลกับนางฟ้าเล่นอะไรกัน” กอยาถามอย่างไม่เข้าใจ
สวยตาวาวอยากรู้
“รีบตามไปดูเหอะ”
สวย กอยา ซาติน รีบลุกวิ่งตามฟ้าลดากับสายชลออกไป
ซะละกับนาราแบกท่อนไม้เดินมาบนทางเดินไม้ริมผา ฟ้าลดาวิ่งหนีสายชลมาตามทาง
“หยุดนะนางฟ้า ฉันบอกให้หยุด...หยุดสิ”
ซะละกับนาราเดินมาถึงกลางทาง เห็นฟ้าลดาวิ่งเข้ามาก็ตกใจ
“นางฟ้า...ระวัง”
ฟ้าลดาไม่หยุดวิ่ง ซะละกับนาราตกใจ หันซ้ายหันขวาไม่รู้จะหลบไปทางไหน ฟ้าลดาก้มหัวลอดผ่านท่อนไม้ไปได้ แต่สายชลที่ตามมาเบรกไม่ทัน ซะละกับนาราหันไปเห็นก็ร้องลั่น
“เว๊ยยย!”
สายชลตาเหลือก
“เฮ้ย!”
สายชลโดนไม้ฟาดเข้าหน้าเต็มๆ ถึงกับมึนล้มหงายหลัง ซะละกับนาราตกใจ
“สายชล!”
มามิโผล่หน้าออกมาจากในบ้านเห็นสายชลก็ตกใจ
“สายชล!”
ฟ้าลดาได้ยินเสียงคนเรียกสายชล...เบรกเอี๊ยด หันมาดูก็หน้าเสีย ซะละรีบปล่อยท่อนไม้เข้ามาดูสายชล ทำให้นาราเสียหลัก เซถอยแท่ดๆๆ ไป
“เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย”
แสงดาวกับปีร์กะที่ถือตะกร้าใส่ผักเดินมา...เห็นนาราก็ตกใจ
“ไอ้นารา! ระวังเว๊ย!” ปีร์กะตะโกนลั่น
“ระวังไม่ได้แล้วป้า...หลีกไป หลีก หลีก”
นาราเซตามน้ำหนักของท่อนไม้ ตัวเอียง ไม้หมุนตาม แสงดาวกับปีร์กะหดหัวหลบหวืด นาราพยายามประคองไม้ ท่อนไม้หมุนไปอีกทาง ปีร์กะกับแสงดาวหดหัวหลบหวืด แตลอยวิ่งมา
“ลอยมาช่วยแล้ว”
แตลอยเข้าไปจะช่วยนารา แต่สะดุด...ถลาพุ่งชนปีร์กะ ปีร์กะร้องลั่น
“เว๊ยยย!”
ปีร์กะเซล้มทับแสงดาว ตะกร้าใส่ผักร่วงพื้นกระจุยกระจาย แสงดาวตกใจ
“ว๊าย!”
นาราแบกท่อนไม้ไม่ไหว ท่อนไม้หล่นพื้นทับเท้า นาราร้องลั่น
“อ๊าก!”
สวยกับเพื่อนวิ่งมาเห็น นาราเรียก
“นังสวย...ช่วยพ่อที”
สวยไม่สนพ่อ รีบเข้าไปหาสายชล
“พี่สายชล”
นาราหน้าเหวอ
“นังลูกเวร เห็นผู้ชายดีกว่าพ่อ”
สวยพุ่งเข้ามาหาสายชลพร้อมกับมามิ สองคนผงะ แย่งกันดูสายชล
“นังสวยสยอง...เอามือสกปรกๆของแก ออกจากพี่สายชลของฉันเดี๋ยวนี้”
“พี่นั่นแหละ เอามือสกปรกๆ ออกไปจากพี่สายชลของฉันเดี๋ยวนี้”
“ฉันไม่ปล่อย”
“ฉันก็ไม่ปล่อย”
สายชลรำคราญจนสุดทน ตะโกนลั่น
“โว๊ยหยุด!”
มามิกับสวยเงียบ ฟ้าลดาเห็นท่าไม่ดี รีบย่องหนีออกไป สายชลลุกขึ้นยืน สวยกับมามิช่วยประคอง เขาสะบัดตัวออก จับหน้าผากที่โดนท่อนไม้กระแทกด้วยความเจ็บและมึน
“ตัวต้นเหตุหายไปไหนแล้ว”
สายชลโมโหสุดๆ
+ + + + + + + + + + + +
สายชลเปิดประตูเข้ามาในบ้าน มองไปรอบๆ มองหา ฟ้าลดาแอบอยู่ตรงมุมหนึ่งหนึ่ง
“นางฟ้า”
ฟ้าลดาตื่นเต้น กลัวเขาเห็น สายชลเดินเข้ามา
“ไม่อยู่ งั้นออกไปหาข้างนอกดีกว่า”
สายชลแกล้งพูด แล้วก็แกล้งเปิดประตูเสียงดังปัง!
ฟ้าลดาโล่งใจ คิดว่าเขาออกไปแล้ว เลยคลานออกมา สายชลเดินออกมาจากด้านหลังสะกิดไหล่ ฟ้าลดาหันไปเห็นก็สะดุ้งโหยง หันหลังจะหนี สายชลคว้าแขนดึงเข้ามา แต่ดึงแรงไปหน่อย ทำให้เธอเด้งเข้ามาจนตัวติดกับเขา สายชลเป็นฝ่ายอึ้งเอง รีบผละออกห่าง
“หนีสายชลไม่พ้นหรอก”
สายชลยิ้มยักคิ้ว ฟ้าลดาหน้าแหย...ซวยแล้ว
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดายืนอยู่ตรงหน้าทุกคน หน้าจ๋อยสนิท ยกมือไหว้
“นางฟ้าขอโทษ”
ทุกคนมองเธออย่างไม่โกรธ ซะละยิ้มให้
“ไม่เป็นไรหรอกนางฟ้า”
ฟ้าลดาเงยหน้า
“ทุกคนไม่โกรธนางฟ้าเหรอจ๊ะ”
ทุกคนพยักหน้า ยิ้มให้อย่างเอ็นดู ฟ้าลดาสบายใจ สายชลเหล่มอง
“ถึงทุกคนจะให้อภัย แต่นางฟ้าก็ต้องโดนทำโทษอยู่ดี...โทษฐานที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย”
ฟ้าลดาหันไปมองสายชล ด้วยความหวาดกลัวว่าจะโดนอะไร
“เบาะๆก็พอนะสายชล นางฟ้าคงไม่ได้ตั้งใจ” แสงดาวบอกอย่างห่วงใยฟ้าลดา
สายชลส่ายหน้า
“ไม่ได้หรอกป้าแสงดาว นางฟ้าน่ะดื้อ ต้องลงโทษจะได้จำ และไม่ทำแบบนี้อีก”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันกลับล่ะนะ” นาราเจ็บเท้า “ไม่ไหว”
อารีฟะกับสวยประคองนาราพาเดินออกไป ซะละหันไปบอกทุกคน
“งั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ”
ซะละ แสงดาว แตลอยเดินออกไป มามิเข้ามาเกาะแขนสายชล
“มามิจะอยู่เป็นเพื่อนสายชลนะ”
“นังมามิ...กลับบ้าน” ปีร์กะสั่งเสียงเข้ม
มามิหน้างอ จำต้องเดินกลับไปกับปีร์กะ สายชลหันไปมองฟ้าลดาหน้าโหด ฟ้าลดากลืนน้ำลายเอื๊อก
+ + + + + + + + + + +
ฟ้าลดาเก็บผักไป ปาดเหงื่อไปด้วยความเหนื่อย หันไปเห็นสายชลนอนเปลยวนอยู่ใต้ต้นไม้ท่าทางสบายสุดๆ ฟ้าลดาค้อนด้วยความโมโห สายชลหันมามอง
“เอ้า...เอ้า ค้อนอยู่นั่นแหละ ตาเหล่ไม่รู้ด้วยนะ”
ฟ้าลดาตกใจกลัวตาเหล่ รีบก้มหน้าก้มตาเก็บผัก สายชลยิ้มชอบใจแล้วก็หลับตาต่อ
หลังจากเก็บผักเสร็จ สายชลยื่นไม้กวาดทางมะพร้าวให้ ฟ้าลดารับไม้กวาดมา แล้วท้องก็ร้องเสียงดัง เธอตกใจ สายชลอมยิ้มจะขำ พอฟ้าลดาหันไปมอง เขาก็รีบเก็กหน้าโหด
“กวาดใบไม้พวกนั้นออกให้หมด แล้วสายชลจะให้นางฟ้ากินข้าว”
ฟ้าลดาดีใจมาก
“ตกลง”
ฟ้าลดาขยันขันแข็ง รีบกวาดใบไม้ทันที สายชลเดินออกไปนั่งมอง ฟ้าลดากวาดไปจนถึงใต้ต้นไม้แล้วก็เห็นขี้แพะก้อนเล็กๆบนพื้น เธอแปลกใจว่าอะไร หยิบขึ้นมาดมๆ สายชลมองอย่างสงสัย
“ทำอะไรของเขา”
ฟ้าลดาเงยหน้ามองขึ้นไปบนต้นไม้ เห็นมีผลเล็กๆคล้ายๆกับที่เธอถืออยู่ เข้าใจว่าเป็นผลของต้นไม้ ฟ้าลดายิ้ม สายชลมองอย่างสงสัย แล้วก็เอะใจ...เห็นแพะ มองไปที่ขี้แพะบนพื้น หันไปมองฟ้าลดาที่กำลังจะเอาขี้แพะเข้าปาก สายชลรีบลุกขึ้นพุ่งไปหาทันที
“นางฟ้า...อย่า...กิ...”
ไม่ทันเสียแล้ว ฟ้าลดากินเข้าไปแล้ว สายชลอ้าปากค้างด้วยความตกใจอยากจะอ้วกออกมา ฟ้าลดาทำหน้าปุเลี่ยนๆ หันมาทางสายชล
“รสมันแปลกๆอ่ะสายชล”
สายชลขำก๊ากออกมาเก็กอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว
“จะไม่ให้รสแปลกได้ไง ไอ้ที่เธอกินมันคือขี้แพะ ฮ่าๆๆๆ”
ฟ้าลดาผงะ ตกใจ รีบคายออกมาแทบไม่ทัน หน้าแหยสุดๆ
“อ้าว...มันไม่ใช่ผลของต้นนี้เหรอ”
สายชลหยิบผลของต้นไม้บนพื้นขึ้นมา
“นี่ต่างหาก ผลของต้นไม้” เขาหยิบขี้แพะบนพื้นขึ้นมา “ส่วนนี่ขี้แพะ...ฮ่าๆๆ”
ฟ้าลดาหัวเสีย
“สายชลรู้แล้วทำไมไม่บอกนางฟ้า”
“ก็กำลังจะบอก แต่บอกไม่ทัน คนอะไร กินขี้” สายชลหัวเราะลั่น “ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ”
ฟ้าลดาโมโห หยิบขี้แพะขึ้นมา ปาใส่สายชล ขี้แพะเข้าปากพอดี๊พอดี สายชลชะงัก รู้สึกว่ามีบางอย่างเข้าไปในคอ
“เธอปาอะไรมา”
ฟ้าลดายิ้มพร้อมหยิบขี้แพะขึ้นมา
“ขี้แพะไง”
สายชลตาเหลือก วิ่งไปอ้วกแตกอ้วกแตน ฟ้าลดาหัวเราะลั่นสะใจ
+ + + + + + + + + + + +
สายชลพาฟ้าลดาไปยืนอยู่ตรงริมผา สายชลชี้ลงไปในทะเล
“เห็นสีดำๆใต้ทะเลนั่นมั๊ย”
ฟ้าลดาพยักหน้า
“เห็น”
“มันคือหอยเม่น”
ฟ้าลดาหันไปมองหน้าสายชลงงๆ
“หอยเม่น คืออะไร”
“มันเป็นหอยสีดำ ที่มีหนามแหลมๆรอบตัว” เขายื่นถุงมือให้ “ใส่ถุงมือนี่ซะ เราจะลงไปเก็บหอยเม่นกัน แล้วก็ระวังอย่าโดนหนามเข้าล่ะ เพราะว่ามันมีพิษ”
ฟ้าลดาพยักหน้า ทั้งสองสวมถุงมือ จากนั้นทั้งคู่โดดลงไปในน้ำพร้อมกัน
“ถ้านางฟ้าเก็บหอยเม่นได้มากกว่าสายชล สายชลจะหยุดลงโทษนางฟ้า “
ฟ้าลดาหน้าบาน
“ตกลง” แล้วเธอก็แกล้งหันไปชี้ “อุ๊ย นั่นอะไรอ่ะ”
สายชลหลงกลหันไป ฟ้าลดารีบดำน้ำลงไป
“ไม่เห็นมีอะไรเลย”
เขาหันมา ฟ้าลดาดำน้ำลงไปแล้ว สายชลหัวเสียที่โดนหลอก
“แสบจริงๆเลย”
สายชลดำน้ำตามฟ้าลดาลงไป ต่างคนต่างเก็บหอยเม่นใส่ถุงตะข่าย เธอหันไปมองเขา ไม่ยอมแพ้ สองคนแข่งกันเก็บหอยเม่น อย่างไม่มีใครยอมใคร
(อ่านต่อหน้า 4 )
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 3 (ต่อ)
เย็นวันนั้น...
สายชลกับฟ้าลดา ช่วยกันนับหอยเม่นที่เก็บขึ้นมาได้ โดยผลัดกันนับไปเรื่อยๆ
“ห้า...” สายชลนับ
ฟ้าลดาหยิบหอยมานับตาม
“ห้า...”
“หก...”
“หก...”
สายชลมองฟ้าลดาเริ่มใจเสียกลัวเธอชนะ ฟ้าลดายักคิ้วให้กวนๆ สายชลหยิบหอยเม่นออกมาวาง
“เจ็ด”
ฟ้าลดาจะหยิบ แต่ไม่มี ตกใจ มองในถุงตาข่าย...หอยเม่นหมดแล้ว สายชลดีใจ
“วู้...สายชลชนะ ฮ่าๆๆ”
สายชลหันไปมองยักคิ้วกวนให้ ฟ้าลดาหน้างอ หงุดหงิดที่แพ้สายชล ถอดถุงมือ แล้วก็ทิ้งถุงตาข่ายปาลงพื้น สายชลตกใจ
“ไม่ยุติธรรม! สายชลเป็นผู้ชาย สายชลแข็งแรงกว่านางฟ้า สายชลก็ต้องชนะอยู่แล้ว”
สายชลชะงัก
“อย่ามาขี้แพ้ชวนตี ยอมรับมาเหอะว่าตัวเองน่ะอ่อน”
ฟ้าลดาหงุดหงิดหยิบหอยเม่นจะปาใส่เขา แต่ลืมไปว่าไม่ได้ใส่ถุงมือ เลยถูกหนามหอยเม่นตำ
“โอ๊ย!”
สายชลตกใจ รีบเข้ามาจับมือเธอขึ้นมาดู ฟ้าลดาสะบัด
“ไม่ต้องมายุ่ง”
สายชลจับมือไว้
“อยู่เฉยๆ”
ฟ้าลดาตกใจกับเสียงสายชล
“บอกแล้วให้ระวัง โดนจนได้ สมน้ำหน้าดีมั๊ยเนี่ย”
ฟ้าลดาเงียบ แล้วก็แบะปาก ร้องไห้
“นางฟ้าเจ็บ...”
สายชลหันไปมองฟ้าลดาแล้วก็ส่ายหัว
สายชลทำแผลที่นิ้วข้างขวาให้ฟ้าลดา เงยหน้าเห็นเธอหน้าแหยๆ
“ยังเจ็บอีกเหรอ”
ฟ้าลดาพยักหน้า
“ทนหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงดีขึ้น”
ทันใดนั้นเสียงท้องของฟ้าลดา ร้องโครกครากออกมา สายชลชะงัก แล้วก็นึกขึ้นได้
“จริงซิ นางฟ้ายังไม่ได้กินอะไร ตั้งแต่กลางวันเลยนี่”
ฟ้าลดาพยักหน้าหงอยๆ
“หิวมากใช่มั๊ยเนี่ย”
ฟ้าลดาพยักหน้า
“รอแป๊บ สายชลจะไปทำอะไรมาให้กิน”
“นางฟ้าช่วย”
สายชลรีบห้าม
“ไม่ต้องเลย เดี๋ยวทำครัวไหม้อีก อยู่เฉยๆดีที่สุด”
ฟ้าลดายิ้มแหย สายชลลุกเดินออกไป ฟ้าลดามองนิ้วตัวเองหน้าตาเจ็บปวด
+ + + + + + + + + + + +
สายชลทำอาหารอยู่ครู่หนึ่ง ก็นำอาหารสอง สามอย่างวางบนโต๊ะ สายชลกินข้าว แต่ฟ้าลดากินไม่ค่อยสะดวกเพราะเจ็บนิ้ว สายชลหันไปมอง เห็นฟ้าลดากินข้าวหกเลอะเทอะ เขาดึงช้อนมาจากมือ แล้วตักข้าว ก่อนยื่นออกไปตรงปากของเธอ
“อ่ะ...”
ฟ้าลดากินข้าว สายชลกินของตัวเองคำหนึ่ง ป้อนฟ้าลดาคำหนึ่ง สลับๆกันไป
“รีบๆกินเข้า กินเสร็จ สายชลจะพานางฟ้าไปดูบางอย่าง”
สายชลยิ้มมีเลศนัย ฟ้าลดามองอย่างสงสัย พลางเคี้ยวข้าวไปด้วย…
ค่ำคืนนั้น...
พระจันทร์เต็มดวง สายชลเอาผ้าผูกตาฟ้าลดา จูงมือเดินมา
“สายชลพานางฟ้ามาดูอะไร นางฟ้าตื่นเต้น”
“ใจเย็นๆ ใกล้ถึงแหละ”
สายชลจับฟ้าลดาให้หยุดเดิน แล้วก็เดินมาตรงหน้า
“เอาผ้าผูกตาออกได้แล้ว”
ฟ้าลดาตื่นเต้นมาก รีบเอาผ้าผูกตาออก สายชลผายมือออกไป
“แต่น แต้น แต๊นนนนน!”
ฟ้าลดาเห็นชิงช้าที่ทำเสร็จแล้วก็ดีใจสุดๆ
“ชิงช้า!”
ฟ้าลดาหันไปกระโดดกอดเขาด้วยความลืมตัว สายชลตกใจ ชะงักไปเล็กๆ
“ขอบคุณนะสายชล”
หญิงสาวผละออกมา ยิ้มปลื้ม ยื่นมือไปหยิกแก้มเขา
“สายชลรู้มั๊ยว่า สายชลเป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลก”
ฟ้าลดาหัวเราะมีความสุข แล้ววิ่งไปนั่งชิงช้า สายชลมองแล้วก็ยิ้มเขินแล้วพึมพำออกมา
“น่ารักที่สุดในโลก”
สายชลเกาหัวขำๆเขินๆ ฟ้าลดาหันมาแล้วบอกเสียงหวาน
“แกว่งชิงช้าให้นางฟ้าหน่อยซิจ๊ะ”
“ได้เลยจ๊ะ”
สายชลเดินเข้ามาแกว่งชิงช้าให้ ฟ้าลดายิ้มมีความสุข หันไปมอง สองคนยิ้มให้กัน
เวลาผ่านไปนาน...สายชลยังคงแกว่งชิงช้าให้ แล้วก็หาวไปด้วย
“จะเลิกเล่นได้ยังนางฟ้า สายชลง่วงแล้ว”
“ขออีกแป๊บนะสายชล”
สายชลหาวปากกว้าง ฟ้าลดามองไปบนท้องฟ้าเห็นดาวเต็มท้องฟ้า
“โอ้โฮ...”
สายชลเงยหน้าขึ้นไปมองตาม ฟ้าลดากระโดดลงจากชิงช้า รีบไปยืนตรงชายหาด แหงนหน้ามองดาวที่มีอยู่เต็มฟ้าตื่นเต้นมากๆ สายชลเดินมายืนข้างฟ้าลดา
“ดาวเต็มเลย” เธอหันมาจับแขนเขา “สายชลดูซิ...สวยจัง นางฟ้าอยากได้...สายชลเอาดาวมาให้นางฟ้าได้รึเปล่า”
“ไม่ได้...ดาวที่เราเห็น มันอยู่ในจักรวาล ไกลมากมาก”
ฟ้าลดานิ่วหน้า
“จักรวาล...สายชลพานางฟ้าไปที่นั่นได้มั๊ย นางฟ้าอยากเห็นดาวใกล้ๆ”
“ไม่ได้...สายชลเคยอ่านหนังสือ เขาบอกว่าเราต้องนั่งจรวด ถึงจะไปจักรวาลได้ แต่สายชลไม่อยากไปหรอก”
“ทำไม”
“เราไม่รู้ว่าโลกภายนอกมีอะไร สายชลถึงไม่ชอบไปไหนยังไงล่ะ”
“เพราะอะไร”
สายชลหันมาทางฟ้าลดา
“เพราะที่นี่เป็นบ้านของสายชล พ่อแม่ของสายชลอยู่ที่นี่ แล้วก็...ตายที่นี่”สายชลหน้าเศร้า
ฟ้าลดามองอย่างเห็นใจ
“พ่อกับแม่สายชลตายแล้วเหรอ”
สายชลพยักหน้า
“อื้อ พายุพังบ้านสายชล แล้วมันก็เอาพ่อกับแม่ของสายชลไปด้วย สายชลพยายามจะช่วยพ่อกับแม่ แต่ตอนนั้นสายชลเด็กมาก สายชลได้แต่มองพ่อกับแม่ตายไปตรงหน้า”
สายชลกำมือแน่น น้ำตารื้อขึ้นมา ฟ้าลดาซึมๆ
“สายชลยังดีที่ได้เห็นหน้าพ่อแม่ แต่นางฟ้าซิ...นางฟ้าจำไม่ได้เลยว่าตัวเองมีพ่อกับแม่รึเปล่า พ่อแม่นางฟ้าหน้าตาเป็นยังไง แล้วตอนนี้พ่อกับแม่ของนางฟ้าอยู่ที่ไหน”
ฟ้าลดาน้ำตาไหล สายชลจับไหล่ของเธอให้หันมา แล้วเช็ดน้ำตาให้
“ถึงนางฟ้าจะจำพ่อกับแม่ตัวเองไม่ได้ แต่นางฟ้าก็ยังมีสายชล ครอบครัวของสายชล ก็คือ นางฟ้า”
ฟ้าลดายิ้มออกมาทั้งน้ำตา
“ครอบครัวของนางฟ้าก็คือสายชล”
สายชลยิ้ม
“เราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ตลอดไป”
“สัญญา”
สายชลจับหัวฟ้าลดาให้หน้าผากมาชนกับตัวเอง
“สัญญา สายชลกับนางฟ้าจะอยู่ที่นี่ด้วยกันตลอดไป”
“ตลอดไป”
ฟ้าลดากับสายชลยิ้มให้กัน เขาจับหัวเธอมาซบที่ไหล่ตัวเอง ทำให้ฟ้าลดารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด เหลือบตามองเขาแล้วก็ยิ้มอย่างรู้สึกดีสุดๆ
+ + + + + + + + + + + + +
เช้าวันใหม่...
หมอวัฒนากับชมพูแพรไปที่วัดด้วยกัน ชมพูแพรไหว้ขอพรให้พบน้องสาว เมื่อเดินออกมาจากโบสถ์
ทั้งสองเดินมาตามทางเดินในวัด...ชมพูแพรหน้าเครียด หมอวัฒนาเป็นห่วง จับมือของเธอมาปลอบ
“แพรครับ”
ชมพูแพรหยุดเดิน หันไปทางหมอวัฒนา
“แพรไม่สบายอีกรึเปล่า ทำไมหน้าซีดๆ”
“แพรไม่เป็นไรค่ะ แพรแค่...” เธอจะร้องไห้แต่พยายามกลั้น “แพรไม่อยากรู้สึกหมดหวัง ทุกวันที่แพรตามหาน้อง แพรมีความหวังว่าจะต้องได้เจอยัยฟ้า แต่พอมาวันนี้...แพรกลับ...” ชมพูแพรร้องไห้ออกมา “กลับรู้สึกอย่างที่ตำรวจเขาบอก ยัยฟ้า...อาจจะตายไปแล้ว แพรรู้สึกผิดกับน้องค่ะพี่หมอ”
ชมพูแพรร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้นเครียด หมอวัฒนาพาชมพูแพรมานั่งที่ใต้ต้นไม้แล้วกอดปลอบใจ
“มันไม่ผิดหรอกครับที่แพรจะคิดแบบนี้”
“แพรไม่อยากอ่อนแอ”
“แพรจะอ่อนแอ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก มนุษย์เราเข้มแข็งไม่ได้ตลอดหรอกนะครับ แพรร้องไห้ออกมาน่ะดีแล้ว ดีกว่าที่แพรจะทำหน้าเฉยๆ เหมือนไม่รู้สึกอะไร เราร้องไห้ได้แต่เราห้ามท้อครับ”
ชมพูแพรฟังที่เขาพูดแล้วก็คิดได้ รีบปาดน้ำตา หมอวัฒนาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยเช็ดน้ำตาให้
“ถ้าไม่มีพี่หมออยู่ข้างๆ แพรต้องแย่แน่ๆเลยค่ะ ขอบคุณพี่หมอมากนะคะที่ไม่ทิ้งแพรไปไหน”
“ขอให้แพรรู้ไว้นะครับว่าผมรักแพร ผมทำเพื่อแพรได้ทุกอย่าง”
หมอวัฒนายิ้ม พร้อมลูบหัว ชมพูแพรสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
“เอาล่ะค่ะ แพรจะไม่ท้อ เราไปตามหายัยฟ้ากันต่อเถอะค่ะ”
“ครับ”
ชมพูแพรกับหมอวัฒนาจับมือกันเดินออกไป
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพร หมอวัฒนา และตำรวจช่วยกันเอารูปฟ้าลดา ให้ชาวบ้านแถวๆท่าเรือดู ทุกคนต่างส่ายหน้า ชมพูแพรกับหมอวัฒนามองหน้ากันเครียด หมอวัฒนาตบบ่าชมพูแพรให้กำลังใจ แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป
อีกด้าน...ยาซะกำลังยืนคุม หมึกกับฉลามขนของขึ้นเรือ
“เร็วหน่อยเว๊ย สายแล้ว เดี๋ยวจะไปส่งของไม่ทัน”
ชมพูแพรกับหมอวัฒนากำลังตามหาฟ้าลดา อยู่ด้านหลังยาซะห่างๆ หมอวัฒนาหันไปทางชมพูแพร
“เราไปถามคนแถวๆท่าเรือตรงนั้นดีกว่าครับ”
ชมพูแพรพยักหน้า เดินไปกับเขาไล่ถามคนที่อยู่เรือลำแรก ไม่มีใครเห็นฟ้าลดา ชมพูแพรกับหมอวัฒนามาที่เรือลำที่สอง มาที่เรือลำที่สาม เข้ามาใกล้ยาซะเรื่อยๆ เจ้าของเรือลำที่สาม มองรูปฟ้าลดาแล้วก็ส่ายหัว
“ขอบคุณค่ะ”
ชมพูแพรกับหมอวัฒนาหันไปมองยาซะ และเดินตรงไปหา...
(อ่านต่อ ตอนที่ 4 วันพรุ่งนี้)