ท่านผู้อ่านครับ ฉบับที่แล้วได้กล่าวถึงว่าเราถูกสอนให้กลัวไขมัน ดังนั้น ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา เราจึงบริโภคไขมันและเนื้อสัตว์น้อยลง แต่บริโภคแป้งและน้ำตาลมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์สุขภาพสังเกตเห็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง คือ คนฝรั่งเศสเป็นชาติที่กินไขมันอิ่มตัวมาก แต่เป็นโรคหัวใจน้อย คนอเมริกันกินไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า แต่เป็นโรคหัวใจมากกว่าคนฝรั่งเศส มันกลับกันกับความเชื่อที่ว่า กินไขมันอิ่มตัวมาก จะทำให้เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบมากไปด้วย
ในปี 2002 คนฝรั่งเศสกินไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ วันละ 108 กรัมต่อคน ในขณะที่คนอเมริกันกินไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ วันละ 72 กรัมต่อคน คนฝรั่งเศสกินเนยสด(Butter) มากกว่าคนอเมริกัน 4 เท่า กินเนยแข็ง(Cheese) มากกว่าคนอเมริกันร้อยละ 60 คนฝรั่งเศสกินเนื้อหมูมากกว่าคนอเมริกัน 3 เท่า แต่คนอเมริกันกินน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง มากกว่าฝรั่งเศส
ในปี 1999 มูลนิธิโรคหัวใจของอังกฤษ มีสถิติพบว่า อัตราตายจากโรคหัวใจของคนอเมริกันอยู่ที่ 115 คนต่อประชากรแสนคน ในขณะที่ฝรั่งเศสอัตราตายจากโรคหัวใจอยู่ที่ 83 คนต่อแสนคน นี่เป็นการศึกษาของศาสตราจารย์เซิร์จ เรโนลด์ (Serge Renaud) แห่งมหาวิทยาลัยบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส ท่านเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า The French Paradox (ปรากฏการณ์กลับกันของคนฝรั่งเศส) ในปี 1991 (www.wikipedia.org/wiki/french Paradox)
เรื่องนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์สุขภาพ ให้ความสนใจมาก และเริ่มกลับมาทบทวนว่า การกินไขมันอิ่มตัว ( จากเนื้อสัตว์ ไขมันสัตว์ น้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม) ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบจริงหรือไม่
มีการทบทวนงานวิจัยเดิมๆ เช่น งานของ เดวิด คริสเชฟสกี้ ที่ให้กระต่ายกินอาหารไขมันอิ่มตัวสูง แล้วพบว่า เส้นเลือดของมันมีไขมันมาจับอุดตัน นักวิทยาศาสตร์สุขภาพพบว่า โดยธรรมชาติกระต่ายเป็นสัตว์กินหญ้าเป็นอาหาร ดังนั้น เมื่อให้มันกินอาหารไขมันอิ่มตัวสูง ร่างกายของมันจึงปรับตัวไม่ได้ ไขมันจึงไปเกาะเส้นเลือด ทำให้ตีบตันไป แต่ถ้าเอาอาหารไขมันอิ่มตัวสูงไปให้หนูและสุนัข ซึ่งเป็นสัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์อยู่แล้ว กลับไม่พบว่าเส้นเลือดของมันตีบตันเหมือนกระต่าย
ดังนั้น จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การกินอาหารไขมันอิ่มตัวสูง เป็นเหตุให้เส้นเลือดหัวใจตีบ
หรือในกรณีของการศึกษา 6 ประเทศ (Six Countrys Study ของ ศ.แอนเซล คีส์) ซึ่งได้กล่าวไว้ในตอนที่แล้ว ว่าในประเทศทั้ง 6 คือ ญี่ปุ่น อเมริกา แคนาดา อังกฤษและเวลส์ อิตาลี ออสเตรเลีย ผู้คนในชาติที่กินไขมันอิ่มตัวมาก มีโคเลสเตอรอลมาก ก็มีอัตราการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบมากตามไปด้วย
เขาได้เสนอทฤษฎีนี้ในการประชุมผู้เชี่ยวชาญอาหาร ในการประชุมองค์การอนามัยโลกในปี 1955 ที่นครเจนีวา ทฤษฎีของเขาได้รับความเชื่อถือมาก ในปีต่อมาสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา ก็ประกาศว่า อาหารพวกเนื้อวัว(Beef) ไขมันจากวัว(lard) ไข่ เนย(butter) ควรกินให้น้อย เพื่อป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ตั้งแต่นั้นมารัฐบาลอเมริกันก็ออกคำแนะนำให้กินเนื้อสัตว์และไขมันสัตว์น้อยลง (www.youtube.com/Enjoy eating saturated fat;They are good for you.Donald M. Miller Jr. MD.)
ท่านผู้อ่านครับ ในปี 2005 ตัวเลขสถิติของสหภาพยุโรป เกี่ยวกับโรคหัวใจ (European Cardiovascular Disease Statistics 2005 Edition) พบว่า กลุ่มประเทศที่กินไขมันอิ่มตัวน้อย แต่เป็นโรคหัวใจมาก ได้แก่ ประเทศจอร์เจีย ทาจิกิสถาน โครเอเชีย มอลโดวา มาซิโดเนีย และยูเครน กลับกันอีกกลุ่มหนึ่งที่กินไขมันอิ่มตัวมาก แต่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบน้อย ได้แก่ ออสเตรีย ฟินแลนด์ เบลเยี่ยม ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส
ดังนั้น ถ้าเราพิจารณาประเทศจำนวนมากขึ้น ในแหล่งต่างๆของโลก ก็จะพบว่า ไม่ได้เป็นแบบที่ ศ.แอนเซล คีส์ กล่าวไว้ คือกินไขมันอิ่มตัวมาก จะเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบมากด้วย ซึ่งยังสรุปแบบนี้ไม่ได้
ท่านผู้อ่านครับ เรื่องไขมันอิ่มตัว จากเนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย เป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ ที่เราเข้าใจผิดมานาน ว่ามันเป็นตัวก่อให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ จนเราเป็นโรคกลัวไขมันมาถึงทุกวันนี้
แต่ปัจจุบันได้มีการทบทวนรายงานที่ผ่านมา 30 กว่าปี โดยมีผลสรุปที่น่าสนใจดังนี้
งานวิจัยของ นพ.สคีฟฟ์ และ นพ.มิลเลอร์ ในปี 2009 ทบทวนงานวิจัย 28 ชิ้น ในคนไข้ 280,000 ราย โดยติดตามไป 4-25 ปี พบว่า การกินไขมันอิ่มตัวสูง ไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการเกิดหรืออัตราตายของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (Skeaff, Miller. Ann Nutr Metab2009;51(1-3):173-201)
งานวิจัยของ สิริ ทาริโน และคณะ ในปี 2010 ทบทวนรายงาน 21 ชิ้นในคนไข้จำนวน 347,747 ราย ติดตามไป 5-23 ปี พบว่า การกินอาหารไขมันสูง ไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบ (SiriTarino. Am J ClinNutr 2010;91(3):535-46)
ท่านผู้อ่านครับ อาหารไขมันอิ่มตัวสูง คือ เนื้อสัตว์ ไขมันจากสัตว์ ไข่ นม เนย รับประทานได้ มีประโยชน์มาก ปัจจุบันนี้ อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ ไขมันสูง (Low carb High fat Diet) จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอาฟริกาใต้ มีการจัดประชุมวิชาการทุกปี
สวีเดนเป็นประเทศแรกที่สนับสนุนให้ประชาชนบริโภคอาหารไขมันอิ่มตัวสูง ในการป้องกันและบำบัดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หลังจากได้ตั้งกรรมการขึ้นมาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วพบว่าได้ผลดีโดยไม่ต้องกินยา (www.youtube.com/Jeff Volex; Many facets of Keto-Adaptation:HealthPerformancement and beyond)
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 198 มิถุนายน 2560 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)
ในปี 2002 คนฝรั่งเศสกินไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ วันละ 108 กรัมต่อคน ในขณะที่คนอเมริกันกินไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ วันละ 72 กรัมต่อคน คนฝรั่งเศสกินเนยสด(Butter) มากกว่าคนอเมริกัน 4 เท่า กินเนยแข็ง(Cheese) มากกว่าคนอเมริกันร้อยละ 60 คนฝรั่งเศสกินเนื้อหมูมากกว่าคนอเมริกัน 3 เท่า แต่คนอเมริกันกินน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง มากกว่าฝรั่งเศส
ในปี 1999 มูลนิธิโรคหัวใจของอังกฤษ มีสถิติพบว่า อัตราตายจากโรคหัวใจของคนอเมริกันอยู่ที่ 115 คนต่อประชากรแสนคน ในขณะที่ฝรั่งเศสอัตราตายจากโรคหัวใจอยู่ที่ 83 คนต่อแสนคน นี่เป็นการศึกษาของศาสตราจารย์เซิร์จ เรโนลด์ (Serge Renaud) แห่งมหาวิทยาลัยบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส ท่านเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า The French Paradox (ปรากฏการณ์กลับกันของคนฝรั่งเศส) ในปี 1991 (www.wikipedia.org/wiki/french Paradox)
เรื่องนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์สุขภาพ ให้ความสนใจมาก และเริ่มกลับมาทบทวนว่า การกินไขมันอิ่มตัว ( จากเนื้อสัตว์ ไขมันสัตว์ น้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม) ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบจริงหรือไม่
มีการทบทวนงานวิจัยเดิมๆ เช่น งานของ เดวิด คริสเชฟสกี้ ที่ให้กระต่ายกินอาหารไขมันอิ่มตัวสูง แล้วพบว่า เส้นเลือดของมันมีไขมันมาจับอุดตัน นักวิทยาศาสตร์สุขภาพพบว่า โดยธรรมชาติกระต่ายเป็นสัตว์กินหญ้าเป็นอาหาร ดังนั้น เมื่อให้มันกินอาหารไขมันอิ่มตัวสูง ร่างกายของมันจึงปรับตัวไม่ได้ ไขมันจึงไปเกาะเส้นเลือด ทำให้ตีบตันไป แต่ถ้าเอาอาหารไขมันอิ่มตัวสูงไปให้หนูและสุนัข ซึ่งเป็นสัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์อยู่แล้ว กลับไม่พบว่าเส้นเลือดของมันตีบตันเหมือนกระต่าย
ดังนั้น จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การกินอาหารไขมันอิ่มตัวสูง เป็นเหตุให้เส้นเลือดหัวใจตีบ
หรือในกรณีของการศึกษา 6 ประเทศ (Six Countrys Study ของ ศ.แอนเซล คีส์) ซึ่งได้กล่าวไว้ในตอนที่แล้ว ว่าในประเทศทั้ง 6 คือ ญี่ปุ่น อเมริกา แคนาดา อังกฤษและเวลส์ อิตาลี ออสเตรเลีย ผู้คนในชาติที่กินไขมันอิ่มตัวมาก มีโคเลสเตอรอลมาก ก็มีอัตราการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบมากตามไปด้วย
เขาได้เสนอทฤษฎีนี้ในการประชุมผู้เชี่ยวชาญอาหาร ในการประชุมองค์การอนามัยโลกในปี 1955 ที่นครเจนีวา ทฤษฎีของเขาได้รับความเชื่อถือมาก ในปีต่อมาสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา ก็ประกาศว่า อาหารพวกเนื้อวัว(Beef) ไขมันจากวัว(lard) ไข่ เนย(butter) ควรกินให้น้อย เพื่อป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ตั้งแต่นั้นมารัฐบาลอเมริกันก็ออกคำแนะนำให้กินเนื้อสัตว์และไขมันสัตว์น้อยลง (www.youtube.com/Enjoy eating saturated fat;They are good for you.Donald M. Miller Jr. MD.)
ท่านผู้อ่านครับ ในปี 2005 ตัวเลขสถิติของสหภาพยุโรป เกี่ยวกับโรคหัวใจ (European Cardiovascular Disease Statistics 2005 Edition) พบว่า กลุ่มประเทศที่กินไขมันอิ่มตัวน้อย แต่เป็นโรคหัวใจมาก ได้แก่ ประเทศจอร์เจีย ทาจิกิสถาน โครเอเชีย มอลโดวา มาซิโดเนีย และยูเครน กลับกันอีกกลุ่มหนึ่งที่กินไขมันอิ่มตัวมาก แต่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบน้อย ได้แก่ ออสเตรีย ฟินแลนด์ เบลเยี่ยม ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส
ดังนั้น ถ้าเราพิจารณาประเทศจำนวนมากขึ้น ในแหล่งต่างๆของโลก ก็จะพบว่า ไม่ได้เป็นแบบที่ ศ.แอนเซล คีส์ กล่าวไว้ คือกินไขมันอิ่มตัวมาก จะเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบมากด้วย ซึ่งยังสรุปแบบนี้ไม่ได้
ท่านผู้อ่านครับ เรื่องไขมันอิ่มตัว จากเนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย เป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ ที่เราเข้าใจผิดมานาน ว่ามันเป็นตัวก่อให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ จนเราเป็นโรคกลัวไขมันมาถึงทุกวันนี้
แต่ปัจจุบันได้มีการทบทวนรายงานที่ผ่านมา 30 กว่าปี โดยมีผลสรุปที่น่าสนใจดังนี้
งานวิจัยของ นพ.สคีฟฟ์ และ นพ.มิลเลอร์ ในปี 2009 ทบทวนงานวิจัย 28 ชิ้น ในคนไข้ 280,000 ราย โดยติดตามไป 4-25 ปี พบว่า การกินไขมันอิ่มตัวสูง ไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการเกิดหรืออัตราตายของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (Skeaff, Miller. Ann Nutr Metab2009;51(1-3):173-201)
งานวิจัยของ สิริ ทาริโน และคณะ ในปี 2010 ทบทวนรายงาน 21 ชิ้นในคนไข้จำนวน 347,747 ราย ติดตามไป 5-23 ปี พบว่า การกินอาหารไขมันสูง ไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบ (SiriTarino. Am J ClinNutr 2010;91(3):535-46)
ท่านผู้อ่านครับ อาหารไขมันอิ่มตัวสูง คือ เนื้อสัตว์ ไขมันจากสัตว์ ไข่ นม เนย รับประทานได้ มีประโยชน์มาก ปัจจุบันนี้ อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ ไขมันสูง (Low carb High fat Diet) จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอาฟริกาใต้ มีการจัดประชุมวิชาการทุกปี
สวีเดนเป็นประเทศแรกที่สนับสนุนให้ประชาชนบริโภคอาหารไขมันอิ่มตัวสูง ในการป้องกันและบำบัดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หลังจากได้ตั้งกรรมการขึ้นมาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วพบว่าได้ผลดีโดยไม่ต้องกินยา (www.youtube.com/Jeff Volex; Many facets of Keto-Adaptation:HealthPerformancement and beyond)
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 198 มิถุนายน 2560 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)