• อยากให้แม่ได้บุญ
ปุจฉา : กราบเท้าหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันพาแม่เข้าวัดฟังธรรม แต่แม่เป็นคนจีน มาจากเมืองจีน ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง ไม่รู้ว่าจะฟังรู้เรื่องแค่ไหน ดิฉันเลยอยากจะขอคำแนะนำจากหลวงปู่เรื่องวิธีการฟังธรรม และดำเนินชีวิตอย่างง่ายๆ ที่เป็นบุญเป็นกุศล ให้กับคุณแม่ที่เหลือเวลาอีกไม่มาก เพราะปัจจุบันท่านอายุ 77 ปีแล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ
วิสัชนา : ถ้าแม่ไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย การพาแม่ไปฟังธรรมอาจจะไม่รู้เรื่อง และการฟังธรรมก็ไม่ได้มีความหมายว่าจะเป็นหนทางบุญอย่างเดียว
วิธีที่จะทำให้เกิดบุญกุศลกับแม่มีเยอะแยะ สิ่งที่แม่ของคุณทำได้ก็คือ ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา คุณก็สอนให้แม่บริจาคทาน ปล่อยนก ปล่อยปลา ใส่บาตรทุกเช้า ถวายสังฆทาน หรือมีนำใจกับคนรอบข้าง อย่าหงุดหงิด อย่าฉุนเฉียว ทำใจให้ผ่อนคลาย รู้จักแผ่เมตตาบ่อยๆ รู้จักให้อภัย ไม่เห็นแก่ตัว แนะนำให้แม่มีองค์ประกอบกุศลอย่างนี้
ถ้าท่องมนต์ไม่ได้ก็พูดสั้นๆว่า “ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข” แค่นี้แม่ก็ได้บุญแล้ว เพราะคำว่า “บุญ” มีความหมายว่า อิ่มและเต็ม ผ่อนคลาย โปร่งเบาสบาย ซึ่งมีวิธีทำเยอะแยะที่ไม่ต้องฟังธรรมอย่างเดียว
• ทุกข์ของแม่ ลูกชายเอาบ้านไปจำนอง
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ค่ะ ดิฉันมีลูก 2 คน ผู้ชายกับผู้หญิง สามีเสียไปแล้ว เลยต้องทำงานหาเลี้ยงลูกคนเดียว ที่บ้านขายของชำเล็กๆน้อยๆ แต่ตอนหลังลูกชายอยากค้าขายให้ใหญ่ขึ้น เลยนำบ้านไปจำนองกับธนาคาร แต่ก็ค้าขายไม่ดีอย่างที่คิดไว้ เลยไม่รู้ว่าจะหาเงินมาไถ่บ้านคืนได้มั้ย เสียดายบ้านนี้ กลุ้มใจมากๆ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดจากเวรกรรมหรือเปล่าคะ
วิสัชนา : มันน่าจะเป็นเวรกรรมใหม่ๆ จงคิดว่าตอนเราออกจากท้องแม่มา เราไม่ได้มีบ้านติดตัวมาด้วย และเมื่อเราตายเราก็ไม่ได้แบกกลับไป ในที่สุดแล้วเราอาศัยมันเพียงแค่นอนรอวันตายเท่านั้น คิดอย่างนี้จะทำให้คุณสบายใจขึ้น
แต่ถ้าไปคิดว่าบ้านนี้เป็นของเรา ทำไมเราโดนแย่งบ้านไป บ้านไปจำนองอยู่ในธนาคาร ถ้าคิดอย่างนี้จะเป็นทุกข์มากเลย เพราะไหนๆ เราก็แก้ไขมันไม่ได้แล้ว เราไม่มีกำลังพอไปหาเงินมาไถ่ถอน แล้วเราจะอยู่อย่างไรที่จะเป็นสุขล่ะ มันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
ความจริงนี้ไม่ได้มาปลอบใจว่า บ้านนี้ไม่ใช่ของเรา มันเป็นของเขาที่เราอยู่ไปวันๆ เมื่อไรหมดเงินเขาก็ไล่เราออก เวลาที่เราตายแล้วก็ไม่ได้อาศัยบ้านนี้อยู่ดี หรือบ้านหลังนี้ที่เรารักนักรักหนา ก็ไม่ได้ตามเราไปถึงโลกภพหน้าอยู่ดี ถ้าคิดอย่างนี้เสียบ้างก็จะทำให้ใจเราผ่อนคลายมากขึ้น
เพราะฉะนั้น จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คือ ขวนขวายทำบุญทำกุศล รักษาศีล เจริญภาวนา แผ่เมตตา ให้อภัย มีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว และเพียรพยายามทำสิ่งดีงามให้แก่ชีวิตตัวเองมากๆ และคิดว่าบ้านหลังนี้เรามาอาศัยอยู่เพื่อทำความดีเท่านั้น มันไม่ใช่ของเรา แล้วคุณจะสบายใจมากขึ้น
• ใส่บาตรพระ-เณร ได้บุญต่างกันมั้ย
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ ผมสงสัยว่าการใส่บาตรกับพระและเณร ได้บุญต่างกันไหมครับ เพราะถามคนอื่นก็บอกว่าเหมือนๆกัน แต่บางคนก็บอกว่าไม่เหมือนกัน
วิสัชนา : การปลูกข้าวในนาดอนกับพื้นปูน ก็ย่อมได้ผลต่างกันเป็นธรรมดา พระมีศีลมากกว่าเณร ย่อมได้บุญมากกว่า แต่พระองค์นั้นต้องมีศีลบริสุทธิ์นะ เพราะถ้าเณรมีศีลบริสุทธิ์กว่าพระ เช่น สามเณรเรวัต น้องชายพระสารีบุตร ท่านอายุ 7 ขวบ แต่บรรลุอรหันต์ มีคุณธรรมชั้นสูง ใส่บาตรกับผู้มีบุญอย่างนี้ จะมีบุญมหาศาล
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 188 สิงหาคม 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : กราบเท้าหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันพาแม่เข้าวัดฟังธรรม แต่แม่เป็นคนจีน มาจากเมืองจีน ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง ไม่รู้ว่าจะฟังรู้เรื่องแค่ไหน ดิฉันเลยอยากจะขอคำแนะนำจากหลวงปู่เรื่องวิธีการฟังธรรม และดำเนินชีวิตอย่างง่ายๆ ที่เป็นบุญเป็นกุศล ให้กับคุณแม่ที่เหลือเวลาอีกไม่มาก เพราะปัจจุบันท่านอายุ 77 ปีแล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ
วิสัชนา : ถ้าแม่ไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย การพาแม่ไปฟังธรรมอาจจะไม่รู้เรื่อง และการฟังธรรมก็ไม่ได้มีความหมายว่าจะเป็นหนทางบุญอย่างเดียว
วิธีที่จะทำให้เกิดบุญกุศลกับแม่มีเยอะแยะ สิ่งที่แม่ของคุณทำได้ก็คือ ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา คุณก็สอนให้แม่บริจาคทาน ปล่อยนก ปล่อยปลา ใส่บาตรทุกเช้า ถวายสังฆทาน หรือมีนำใจกับคนรอบข้าง อย่าหงุดหงิด อย่าฉุนเฉียว ทำใจให้ผ่อนคลาย รู้จักแผ่เมตตาบ่อยๆ รู้จักให้อภัย ไม่เห็นแก่ตัว แนะนำให้แม่มีองค์ประกอบกุศลอย่างนี้
ถ้าท่องมนต์ไม่ได้ก็พูดสั้นๆว่า “ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข” แค่นี้แม่ก็ได้บุญแล้ว เพราะคำว่า “บุญ” มีความหมายว่า อิ่มและเต็ม ผ่อนคลาย โปร่งเบาสบาย ซึ่งมีวิธีทำเยอะแยะที่ไม่ต้องฟังธรรมอย่างเดียว
• ทุกข์ของแม่ ลูกชายเอาบ้านไปจำนอง
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ค่ะ ดิฉันมีลูก 2 คน ผู้ชายกับผู้หญิง สามีเสียไปแล้ว เลยต้องทำงานหาเลี้ยงลูกคนเดียว ที่บ้านขายของชำเล็กๆน้อยๆ แต่ตอนหลังลูกชายอยากค้าขายให้ใหญ่ขึ้น เลยนำบ้านไปจำนองกับธนาคาร แต่ก็ค้าขายไม่ดีอย่างที่คิดไว้ เลยไม่รู้ว่าจะหาเงินมาไถ่บ้านคืนได้มั้ย เสียดายบ้านนี้ กลุ้มใจมากๆ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดจากเวรกรรมหรือเปล่าคะ
วิสัชนา : มันน่าจะเป็นเวรกรรมใหม่ๆ จงคิดว่าตอนเราออกจากท้องแม่มา เราไม่ได้มีบ้านติดตัวมาด้วย และเมื่อเราตายเราก็ไม่ได้แบกกลับไป ในที่สุดแล้วเราอาศัยมันเพียงแค่นอนรอวันตายเท่านั้น คิดอย่างนี้จะทำให้คุณสบายใจขึ้น
แต่ถ้าไปคิดว่าบ้านนี้เป็นของเรา ทำไมเราโดนแย่งบ้านไป บ้านไปจำนองอยู่ในธนาคาร ถ้าคิดอย่างนี้จะเป็นทุกข์มากเลย เพราะไหนๆ เราก็แก้ไขมันไม่ได้แล้ว เราไม่มีกำลังพอไปหาเงินมาไถ่ถอน แล้วเราจะอยู่อย่างไรที่จะเป็นสุขล่ะ มันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
ความจริงนี้ไม่ได้มาปลอบใจว่า บ้านนี้ไม่ใช่ของเรา มันเป็นของเขาที่เราอยู่ไปวันๆ เมื่อไรหมดเงินเขาก็ไล่เราออก เวลาที่เราตายแล้วก็ไม่ได้อาศัยบ้านนี้อยู่ดี หรือบ้านหลังนี้ที่เรารักนักรักหนา ก็ไม่ได้ตามเราไปถึงโลกภพหน้าอยู่ดี ถ้าคิดอย่างนี้เสียบ้างก็จะทำให้ใจเราผ่อนคลายมากขึ้น
เพราะฉะนั้น จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คือ ขวนขวายทำบุญทำกุศล รักษาศีล เจริญภาวนา แผ่เมตตา ให้อภัย มีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว และเพียรพยายามทำสิ่งดีงามให้แก่ชีวิตตัวเองมากๆ และคิดว่าบ้านหลังนี้เรามาอาศัยอยู่เพื่อทำความดีเท่านั้น มันไม่ใช่ของเรา แล้วคุณจะสบายใจมากขึ้น
• ใส่บาตรพระ-เณร ได้บุญต่างกันมั้ย
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ ผมสงสัยว่าการใส่บาตรกับพระและเณร ได้บุญต่างกันไหมครับ เพราะถามคนอื่นก็บอกว่าเหมือนๆกัน แต่บางคนก็บอกว่าไม่เหมือนกัน
วิสัชนา : การปลูกข้าวในนาดอนกับพื้นปูน ก็ย่อมได้ผลต่างกันเป็นธรรมดา พระมีศีลมากกว่าเณร ย่อมได้บุญมากกว่า แต่พระองค์นั้นต้องมีศีลบริสุทธิ์นะ เพราะถ้าเณรมีศีลบริสุทธิ์กว่าพระ เช่น สามเณรเรวัต น้องชายพระสารีบุตร ท่านอายุ 7 ขวบ แต่บรรลุอรหันต์ มีคุณธรรมชั้นสูง ใส่บาตรกับผู้มีบุญอย่างนี้ จะมีบุญมหาศาล
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 188 สิงหาคม 2559 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)